ถ้าเธอเป็นท้องฟ้า (ส่งท้าย : ถ้าเรายังคิดถึงกัน) 28-12-2558 หน้า 22
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ถ้าเธอเป็นท้องฟ้า (ส่งท้าย : ถ้าเรายังคิดถึงกัน) 28-12-2558 หน้า 22  (อ่าน 331188 ครั้ง)

ออฟไลน์ Peung002

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 870
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
หลงรักเรื่องนี้ค่ะบอกเลย
อ่านไปอมยิ้มไป พี่ตังน่ารักมากกกกกก เป็นคนชัดเจนและแสนโรแมนติก
ส่วนพี่จ้าก็น่ารัก สมฉายาเสือน้อยเลย
หลงรักจริงๆนะคะ คนเขียน เขียนเก่งมากๆเลยค่ะ ทำเอาเราอ่านแล้วเคลิ้ม  :hao3:

ออฟไลน์ mymicky

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ยังอ่านไม่จบนะคะ แต่อุ่นจังเลยค่ะ อุ่นที่สุด   :-[ ไม่ได้อ่านเรื่องราวที่เบาๆแต่อบอุ่นหนักมากแบบนี้มานานแค่ไหนแล้ว .... เป็นอีกเรื่องที่อยู่ในเรื่องที่ชอบเลยค่ะ ขอบคุณจริงๆที่แบ่งปัน เรื่องนี้ไม่เหมือนนิยาย เหมือนเรื่องที่มีคนมาตั้งกระทู้เล่าให้ฟัง ... ขอบคุณจริงๆนะคะ   :pig4:

ออฟไลน์ mymicky

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

จ้า มันคนไม่โรแมนติกที่ น่ารักเป็นบ้าเลยยยยยยย~  :L1:

ออฟไลน์ michiko_love

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-3
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ

อ่านแล้วมีความสุขมาก หลงรักเลยเรื่องนี้

จะติดตามและเป็นกำลังใจกับเรื่องต่อๆไปคะ


ออฟไลน์ noopukna

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 21
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ระหว่างอ่านนี รู้สึกถึงความโรแมนติกอบอวลไปด้วยตลอดเลยค่ะ เรื่องนี้ทำให้อมยิ้มตลอด น่ารักมากทั้งพระเอก และ นายเอก เลย ชอบมากๆ ขึ้นลีสนิยายในดวงใจไปเลย  (ปรบมือรัวๆให้ไรท์เลยค่ะ) :mew1:

ออฟไลน์ ถ้าเธอเป็นท้องฟ้า

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +466/-3
    • ถ้าเธอเป็นท้องฟ้า
สวัสดีค่ะ แวะมาแจ้งข่าวว่าตอนนี้ reprint นิยายแล้วค่ะ

หากใครกำลังรออยู่ สามารถติดตามรายละเอียดกันได้ที่เพจ Hermit Books นะคะ


https://www.facebook.com/media/set/?set=a.920615067986697.1073741859.349141615134048&type=3

ออฟไลน์ karashi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 429
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
    • นิยาย นิยายแจ่มใส นิยายมือสอง
เพิ่งมาเจอเรื่องนี้อ่านแล้วแบบเขียนดีมากๆเลยค่ะ  ชอบมากๆ เขียนได้น่ารักมาก อ่านได้ลื่นไหล ไม่รู้สึกขัดเลยค่ะ ขอบคุณที่นำมาลงให้อ่านนะคะ

ออฟไลน์ ai_pat

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สั่งรีพริ๊นต์แล้วค่า
รอส่งถึงบ้าน o18

ออฟไลน์ packy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
อ่านไปยิ้มไป น่ารักมาก

ออฟไลน์ ถ้าเธอเป็นท้องฟ้า

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +466/-3
    • ถ้าเธอเป็นท้องฟ้า
ตอนพิเศษ : ถ้าเรายังคิดถึงกัน
   

แสงสุดท้ายเปลี่ยนท้องฟ้าให้กลายเป็นสีม่วงแต้มด้วยริ้วสีส้ม สวยงามเสียจนหลายคนอดไม่ได้ที่จะหยิบกล้องโทรศัพท์มือถือหรือกล้องดิจิทัลขึ้นมาบันทึกภาพเก็บไว้ ไม่เว้นแม้แต่ชายหนุ่มที่เพิ่งก้าวลงจากรถสองแถว เขายืนรอกระทั่งคนที่มาด้วยกันจ่ายเงินค่ารถเรียบร้อย จึงพากันเดินข้ามไปอีกฟากถนน หยิบกล้อง DSLR ตัวใหญ่ในกระเป๋าขึ้นมาเก็บภาพแนวกำแพงอิฐที่ยังคงตั้งตระหง่านอ้าแขนต้อนรับผู้มาเยือน และเมื่อดวงอาทิตย์เคลื่อนลับขอบฟ้า ความมืดก็โรยตัวปกคลุมไปทั่วบริเวณ ไฟสีเหลืองนวลถูกเปิดขึ้นเพื่อให้แสงสว่างและคงความสง่างามของกำแพงเวียงเอาไว้


สองคนเดินผ่านช่องประตูขนาดใหญ่ รอจังหวะรถว่างจึงเดินปะปนไปกับผู้คนข้ามฝั่งมุ่งหน้าสู่ถนนที่ขนาบข้างด้วยร้านรวงต่าง ๆ ทั้งสินค้าพื้นเมืองที่บอกเล่าถึงศิลปวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมายาวนาน และสิ้นค้าที่ผ่านกระบวนการคิดประดิดประดอยซึ่งชี้ให้เห็นว่าคนเชียงใหม่มีความรักในศิลปะและเปิดใจยอมรับความเป็นสมัยใหม่  ไม่ว่าเวลาจะล่วงเลยไปนานเพียงใด เชียงใหม่ก็ยังคงเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีมนต์เสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนมิได้ขาดสาย


“ผมถือให้” ตฤณกรกล่าวพลางรั้งกระเป๋ากล้องจากบ่าของอีกฝ่ายมาสะพายไว้เสียเอง


“คนเยอะจัง” อาทิตย์ทัศน์เปรยขึ้นขณะที่ตายังไม่ละจากช่องมองภาพ ไม่นานเสียงชัตเตอร์ก็ดังรัวแข่งกับเสียงประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงจากกองอำนวยการ


“ก็นี่ถนนคนเดินนะคุณ ไม่ใช่ในใจผม”


“ในใจคุณแล้วทำไม” ลดกล้องลงมุ่นคิ้วมองคนพูดด้วยความสงสัย


“ในใจผมก็มีคุณอยู่คนเดียวไง”


“เสี่ยวฆ่าไม่ตายจริง ๆ” อาทิตย์ทัศน์โคลงศีรษะหน่าย ๆ ก่อนจะเดินหนี ล้วงเอาโทรศัพท์มือถือจากกระเป๋ากางเกงขึ้นมาเปิดหาข้อความพร้อมกับกวาดตามองหาบางสิ่งบางอย่าง


“หาอะไรน่ะคุณ”


“ขวัญฝากซื้อของน่ะ ตั้งแต่เดินเข้ามาผมยังไม่เห็นเลยว่าจะมีร้านไหนขาย”


“อะไรเหรอ”


“กำไลเงินน่ะ เห็นว่าจะให้ป้าดาเป็นของขวัญ”


“อืม...ถ้าร้านขายเครื่องเงินละก็ต้องไปที่ถนนวัวลาย แต่ก็ไม่แน่วันนี้เขาอาจจะมีมาตั้งร้านที่นี่ก็ได้ ผมจำได้ว่ามีอยู่ร้านหนึ่ง เราเดินไปข้างหน้าอีกหน่อยนะเผื่อจะเจอ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะอยู่แถวนี้แหละ” ว่าแล้วตฤณกรก็เดินนำพร้อมกับชะเง้อคอมองหาร้านที่ว่าไปด้วย กระทั่งมาถึงทางแยกชายหนุ่มจึงหันไปรั้งข้อมือคนเดินตาม


“จ้า ร้านนี้ไง” เจ้าของร่างสูงกล่าวเมื่อพากันมาหยุดยังแผงขายเครื่องเงินซึ่งเจ้าของร้านเป็นคุณยายผมสีดอกเลาเกล้ามวยต่ำ สวมชุดเสื้อผ้าฝ้ายพื้นเมืองกับผ้าฝ้ายกับซิ่นทอมือดูเข้ากัน


อาทิตย์ทัศน์มองในตู้กระจกพลางลากสายตาไปบนผืนกำมะหยี่สีแดงที่มีเครื่องประดับที่ทำจากโลหะสีเงินเรียงรายอยู่เต็มไปหมด ในที่สุดก็สะดุดเข้ากับกำไลวงหนึ่ง ปลายนิ้วแตะลงที่ระนาบใสตรงตำแหน่งเดียวกับที่ตามองแล้วเอ่ยขึ้น


“วงนี้สวยไหม”


“อื้อ เรียบ ๆ เหมาะกับป้าดาดีนะ แต่ผมว่าวงมันใหญ่ไปหน่อย ป้าดาสวมแล้วต้องดูเทอะทะแน่ ๆ” ว่าแล้วก็ลากปลายนิ้วชี้ที่อีกวงหนึ่ง “วงนี้ลายเดียวกันแต่เล็กกว่า”


“ผมขอดูวงนี้ครับคุณยาย” อาทิตย์ทัศน์รอครู่หนึ่งจึงรับกำไลจากมือเหี่ยวย่น มองอย่างพิจารณา กำลังจะถามราคาก็ต้องหยุดเมื่อเสียงของใครคนหนึ่งที่ดังขึ้นจากด้านหลัง


“ตัง! ตังใช่ไหม”


เจ้าของชื่อเหลียวกลับไปตามเสียงแล้วพบว่าคนเรียกนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน เธอคือเพื่อนสมัยเรียนมัธยมที่ไม่ได้พบกันนานนั่นเอง


“ปิ่น”


“ตังจริง ๆ ด้วย ไม่ได้เจอกันนานเลย”


อาทิตย์ทัศน์เหลียวกลับไปมองหญิงสาวร่างเล็กซึ่งเดินรี่เข้ามาจับไม้จับมือของคนตัวสูงที่ยืนข้าง ๆ นิดหนึ่งก่อนจะหันไปสนใจเครื่องประดับเงินตรงหน้าเหมือนเดิม


“ปิ่นสบายดีเหรอ”


“สบายดีจ้ะ”


“แล้วตอนนี้ทำอะไรอยู่”


 “พอเรียนจบปิ่นก็ทำงานโรงแรมที่เชียงรายอยู่ 3-4 ปีน่ะ เบื่อ ๆ ก็เลยลาออกมาช่วยแม่ทำร้านขนมอยู่บ้านเราดีกว่า วันอาทิตย์ก็เอามาขายที่ถนนคนเดินนี่แหละ แล้วตังล่ะเป็นยังไงบ้าง ตั้งแต่จบม.หกก็ได้เจอกันเลย”


“เราไม่ค่อยได้กลับบ้านน่ะ ตอนนี้ก็ทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ”


“ถึงว่าปิ่นกลับมาอยู่เชียงใหม่ตั้งหลายปีไม่เคยเจอตังเลย”


ตฤณกรได้แต่ยิ้ม ยกมือขึ้นกระชับสายกระเป๋ากล้องบนบ่า


“นี่มาซื้อของฝากเหรอ”


“ใช่ ว่าจะดูกำไลสักวงน่ะ”


“ดูให้เจ้าของแหวนที่นิ้วนางนั่นหรือเปล่า”


“ม...ไม่ใช่ มีคนเขาฝากซื้อน่ะ” ตฤณกรรีบปฏิเสธ แต่ดูเหมือนว่านั่นไม่ใช่สิ่งที่อีกฝ่ายอยากรู้


“อยากรู้จังว่าใครกันนะเป็นคนที่โชคดีคนนั้น” หญิงสาวเลิกคิ้วพลางยื่นหน้าเข้ามาใกล้ สายตาบ่งบอกว่าจะเอาคำตอบให้ได้


“เราต่างหากโชคดีที่ได้เขามาอยู่ข้าง ๆ” พูดแล้วกับเหลือบมองอีกคนที่กำลังหันหลังให้ ไม่รู้ว่าเขาจะได้ยินหรือไม่ แต่ที่เห็นก็คืออาทิตย์ทัศน์กำลังยกมือข้างที่สวมแหวนแบบเดียวกันขึ้นเกาแก้มที่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อในขณะที่มืออีกข้างยังคงถือโทรศัพท์แนบหูก่อน


“พูดแบบนี้ปิ่นชักอยากรู้จักแล้วสิ”


“เอาไว้คราวหน้าจะพามาแนะนำนะ”


 “ได้จ้ะ คราวหน้าแวะไปกินขนมร้านปิ่นนะ”


ตฤณกรพยักหน้ายิ้ม ๆ


“ถ้าอย่างนั้นปิ่นไปก่อนนะตัง ปล่อยให้แม่ขายของคนเดียวนานแล้ว ดีใจที่ได้เจอนะ”


“อื้อ เราก็ดีใจ”


นัยน์ตาสีเข้มทอดตามองหญิงสาวที่เดินหายเข้าไปในฝูงชนจำนวนมาก ชายหนุ่มกดยิ้มที่มุมปากจากนั้นก็หมุนตัวกลับพร้อมกับยกแขนขึ้นโอบไหล่เจ้าของกลิ่นหอมอ่อน ๆ เอาไว้


“ตัดสินใจได้หรือยังว่าเอาวงไหน”


“เอาอันนี้แหละ ผมคุยกับขวัญแล้ว ขวัญชอบวงนี้เหมือนกัน” อาทิตย์ทัศน์กล่าวพร้อมกับส่งกำไลเงินให้คุณยายเจ้าของร้านพร้อมกับธนบัตรใบหนึ่ง “เมื่อกี้ใครเหรอ”


“ปิ่น เป็นเพื่อนกันตั้งแต่เรียนมัธยมน่ะ”


เจ้าของคำถามรับเงินทอนกับถุงกระดาษประทับตราชื่อร้านจากนั้นจึงพากันเดินออกมา


“นึกว่าแฟนเก่าเสียอีก”


ตฤณกรฟังแล้วหัวเราะพรืด “อะไรทำให้คุณคิดแบบนั้น”


“ใช่หรือเปล่าล่ะ”


“ไม่ใช่สักหน่อย” คนตัวสูงกล่าวอย่างไม่ลังเล ดึงตัวอีกฝ่ายเข้ามาใกล้ก่อนจะกระซิบ “อย่าบอกนะว่าคุณหึงผม”


“สำคัญขนาดนั้น”


ได้ฟังประโยคแห้งห้วนไม่มีเยื่อใยนั้นแล้ว ตฤณกรก็ได้แต่ทำหน้ามุ่ย กระนั้นจนแขนก็ยังคงโอบไหล่คนพูดไม่ยอมปล่อย 
อาทิตย์ทัศน์ยิ้มน้อย ๆ ในขณะที่ดวงตายังคงมองไปข้างหน้า “ผมจะหึงทำไมกัน เมื่อคุณยังบอกอยู่หยก ๆ”


“บอก? ผมบอกว่าอะไร”


“ก็บอกว่าข้างในใจของคุณมีผมอยู่แค่คนเดียว หรือไม่จริง”


“จริงที่สุด” ร่างสูงกระชับแขนแกร่งรั้งคนพูดเข้ามาชิดจนแทบไม่มีระยะห่างระหว่างกัน เห็นรอยบุ๋มที่แก้มเนียนแล้วอยากจะฝังจมูกลงไปให้เต็มรัก...


เมื่อเดินมาได้เกือบครึ่งทาง ต่างคนก็ต่างพร้อมใจกันชะลอฝีเท้า เมื่อมองไปยังฝั่งหนึ่งตฤณกรก็พบว่าบริเวณที่เคยเป็นร้านขายโปสการ์ดและรับวาดภาพเหมือนของคุณลุงที่เคยฝากตัวเป็นศิษย์ ร่ำเรียนวิชาจนสามารถสอบเข้าเรียนมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ ได้ ขณะนี้ได้กลายเป็นที่ตั้งของร้านขายผ้าพื้นเมืองไปเสียแล้ว   


“เฮีย! น้ำแข็งหมด ไปซื้อน้ำแข็งให้หน่อย”


เสียงแหลมเล็กที่ดังขึ้นจากริมบาทวิถีฟากตรงข้ามเรียกสายตาสองคู่ที่กำลังมองไปยังจุดเดียวกันให้ย้ายไปยังสาวน้อยเอวบางหน้าตาจิ้มลิ้มในชุดนักศึกษาที่กำลังช่วยแม่ทอนเงินให้ลูกค้าร้านน้ำปั่นที่อยู่ถัดขึ้นไปในฝั่งตรงข้าม หลังจากร้องบอกพี่ชายแล้วเธอก็สารวนหยิบนู่นนิดนี่หน่อยใส่ในถ้วยตวงก่อนจะเทส่วนผสมต่าง ๆ ลงโถพลาสติกติดใบมีดสำหรับปั่นอาหาร กดปุ่มให้เครื่องทำงานแล้วจึงเงยหน้าขึ้นมองหนุ่มผมยาวที่ยังคงนั่งนิ่งทำเป็นทองไม่รู้ร้อนอยู่ที่นั่งวาดรูปอยู่กลางถนน พลันหัวคิ้วก็เคลื่อนเข้าหากันทันทีในขณะที่ปากก็ตะโกนเสียงดังฟังชัด


“เฮีย! ได้ยินที่หมวยพูดไหมเนี่ย”


เสียงนั้นไม่อาจทำลายสมาธิของคนที่กำลังจดจ่ออยู่กับภาพเขียนตรงหน้าได้ ชายหนุ่มวางดินสอดำหัวทู่ลงในกล่องเครื่องเขียน เปลี่ยนหยิบด้ามที่แหลมกว่า เงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงหน้าจากนั้นจึงจรดปลายกราไฟต์ลงบนกระดาษ บรรจงสานเป็นเส้นขัดกันไปมาลงน้ำหนักจนเกิดเป็นแสงและเงา     


“เฮีย! เดี๋ยวจะบอกให้แม่หักค่าขนม!” น้องสาวใช้ความพยายามเป็นครั้งที่สามและเกือบจะสี่หากพี่ชายของเธอไม่ขัดขึ้นเสียก่อน
“โอ๊ย! ได้ยินแล้วๆๆ แต่วาดรูปให้ลูกค้ายังไม่เสร็จเห็นบ้างไหมเนี่ย”


คนฟังทำหน้ามุ่ย “ก็น้ำแข็งมันใกล้จะหมดแล้วนี่นา”


“อีกห้านาที เดี๋ยวไปซื้อให้”


อาทิตย์ทัศน์มองสองพี่น้องที่โก่งคอเถียงกันผ่านช่องมองภาพของกล้องในมือ พลันรอยบุ๋มที่ข้างแก้มก็ปรากฏขึ้นพร้อมด้วยรอยยิ้มที่ผุดพรายขึ้นบนใบหน้า ปลายนิ้วกดชัตเตอร์เก็บภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ไว้ก่อนจะลดกล้องลงแล้วตรวจดูภาพจากจอ LCD แม้จะทุกสิ่งในจะหยุดนิ่งหากแต่ภาพที่ได้กลับดูมีชีวิตชีวาตามที่ตาเห็น อีกสักสิบปีหรือยี่สิบปีก็คงเป็นภาพถนนคนเดินท่าแพในความทรงจำที่หยิบขึ้นมาดูครั้งใดก็ให้ความรู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลากลับมา ณ วันที่ภาพถูกบันทึกไว้ 


“ตี๋น้อยของคุณทำได้แล้วนะ”


คนฟังพยักหน้ายิ้มจาง ๆ พลางยกกล้องขึ้นเล็งไปยังหนุ่มผมยาวที่กำลังจับดินสอลากไปมาบนกระดาษ “โตเป็นหนุ่มแล้วเนอะ” พูดพร้อมกับหมุนเลนส์ซูมภาพแล้วกดชัตเตอร์ 


“สิบกว่าปีแล้วนี่นา” เจ้าของร่างสูงที่ยืนสะพายกระเป๋ากล้องอยู่ข้างกันเอ่ยขึ้นขณะยื่นหน้าเข้ามาดูผลงาน


“จริงด้วย ผ่านมาสิบกว่าปีแล้ว” อาทิตย์ทัศน์กล่าว ในใจนึกย้อนไปเมื่อตอนที่มาเชียงใหม่เป็นครั้งแรกกับเพื่อน ๆ พี่ ๆ ร่วมสาขาวิชา เป็นครั้งที่รวมกิจกรรมรับน้องและการถ่ายภาพภาคสนามเอาไว้ในคราวเดียวกัน และยังเป็นครั้งแรกที่ได้พบกับ...


“ดื่มอะไรหน่อยไหม เดี๋ยวผมไปซื้อให้”


เสียงที่ดังขึ้นใกล้หูดึงความคิดที่กำลังจมดิ่งลงในห้วงอดีตให้หวนกลับคืนสู่ปัจจุบันอีกครั้ง ยังไม่ทันได้ตอบก็พบว่าคนพูดเดินดิ่งไปยังร้านน้ำปั่นเสียแล้ว เมื่อเห็นดังนั้นอาทิตย์ทัศน์จึงรีบสาวเท้าก้าวตามไปยืนข้างกัน


“รับอะไรดีคะ”


สองคนสบตาก่อนจะพร้อมใจตอบ “เอานมวานิลลาครับ”/ “เอาน้ำแดงโซดาครับ” แต่แทนที่ต่างฝ่ายจะสั่งน้ำตามที่ตนเองชอบ กลับแย่งกันสั่งแบบที่อีกฝ่ายชอบจนเจ้าของร้านทำหน้างง


สาวน้อยที่กำลังยืนอ้าปากหวอทำให้อาทิตย์ทัศน์ต้องเป็นคนสรุป “ถ้าอย่างนั้นเอาอย่างละแก้วครับ”


“ไม่ชอบนมวานิลลาแล้วเหรอ” ตฤณกรกระซิบถาม


“ไม่ได้สั่งกินเองนี่”


“แล้วสั่งให้ใคร ให้ผมเหรอ”


“ถามมากจริง”


“ก็อยากรู้ ตอบให้ชื่นใจหน่อยไม่ได้หรือไง”


อาทิตย์ทัศน์เบือนหน้าหนี ไม่ใช่แค่สายตาที่เอาแต่จ้องจะหาความจริงเท่านั้น ยังรวมถึงรอยยิ้มของคนพูดอีกด้วย กระนั้นปากบางก็ยังไม่วายบ่นขมุบขมิบ “รู้แล้วยังจะแกล้งถาม”


“มาแล้ว ๆ” เสียงห้าวดังขึ้นขัดจังหวะพร้อมกับร่างสูงใหญ่ที่เดินแหวกผู้คนเข้ามาพร้อมกับถุงใส่น้ำแข็งใบโต


“ใส่ไว้ในลังเลยเฮีย หมดพอดี โชคดีนะที่ยังพอให้พี่สองคนนี้” พูดจบสาวน้อยก็เทน้ำแดงกับโซดาที่ผสมกันแล้วลงในแก้วที่มีน้ำแข็งอยู่เต็ม จัดการปิดฝาแล้วส่งให้ “ได้แล้วค่ะ น้ำแดงโซดา”


อาทิตย์ทัศน์รับมาก่อนจะเสียบหลอดแล้วส่งให้อีกคน “นี่ของคุณ”


“ขอบคุณครับ” ตฤณกรยิ้มหวานรับแก้วนั้นมาถือเอาไว้ ในที่สุดก็ได้รู้คำตอบแม้คนปากแข็งจะไม่ได้พูดมันออกมาก็ตาม จากนั้นร่างสูงหันไปรับนมวานิลลาที่เจ้าของร้านเพิ่งทำเสร็จแล้วส่งให้แลกกัน     


“อันนี้ของคุณ”


คนตัวเล็กกว่าส่ายหัวน้อย ๆ เสียบหลอดลงในแก้วก่อนจะรับมาดูดแก้เขิน ไม่รู้ว่ารสของนมวานิลลาแก้วนี้กับสายตาที่มองมาอะไรจะหวานกว่ากัน


“ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกหน่อยดีกว่า” ตฤณกรกล่าวพร้อมกับล้วงหยิบโทรศัพท์มือถือจากกระเป๋ากางเกงขึ้นมา ท่าทางเก้ ๆ กัง ๆ ทำให้คนที่กำลังจะเดินผ่านไปอดช่วยไม่ได้


“ผมถ่ายให้ไหมพี่”


“ดีเลย ถ้าอย่างนั้นรบกวนหน่อยนะครับ” ส่งโทรศัพท์ให้หนุ่มหน้าตี๋ก่อนจะหันไปกล่าวกับคนรัก “ต้องสวมหมวกด้วย” ว่าแล้วก็ก้มลงหยิบหมวกแก็ปในกระเป๋ากล้องสวมให้


“พร้อมนะพี่”


ก่อนที่คนถ่ายจะนับ หนึ่ง สอง สาม ตฤณกรก็ยกแขนขึ้นโอบไหล่ของคนข้าง ๆ เอาไว้ ทั้งสถานที่ ทั้งผู้คน ทุกอย่างมันเหมือนกับวันนั้นไม่มีผิด ยกเว้นก็แต่...ความรู้สึกของคนสองคน...



ส่งท้าย...


ม่านบางพลิ้วไหวไปตามสายลมเย็นที่พัดผ่านช่องประตูที่ถูกเปิดแง้มเอาไว้ หลังม่านสีขาวปรากฏเงาของใครคนหนึ่งกำลังยืนปล่อยอารมณ์เงยหน้าขึ้นมองท้างฟ้าที่ประดับประดาด้วยดวงดาว อาทิตย์ทัศน์ดึงสายตากลับมามองที่หน้าจอโทรศัพท์มือถือในมือก่อนจะใช้ปลายนิ้วเขี่ยเลื่อนภาพ เป็นภาพที่ถูกถ่ายไว้เมื่อตอนที่ไปเชียงใหม่คราวก่อน เป็นภาพของตัวเขากับตฤณกรซึ่งกำลังยืนอยู่หน้าร้านขายน้ำ พยายามย้อนนึกถึงความรู้สึกนึกคิด ณ เวลานั้น แต่มันก็เลือนรางเต็มที


เสียงปิดประตูดังขึ้นก่อนที่ร่างสูงจะเดินมาที่เตียงแล้วล้มตัวลงนอนหนุนตัก อาทิตย์ทัศน์ส่ายหน้าน้อย ๆ ทอดตามองคนที่รั้งทั้งมือของเขาและโทรศัพท์ไปเป็นของตัวเอง


“เหมือนวันนั้นเลยเนอะ” ตฤณกรกล่าวพร้อมกับลากปลายนิ้วบนหน้าจอสัมผัสกระทั่งมาหยุดที่ภาพสุดท้าย ภาพที่เห็นแต่เพียงด้านหลังของชายหนุ่มสองคน หนึ่งในนั้นกำลังเหลียวมองอีกคนที่สวมหมวกแก็ปซึ่งยื่นห่างออกไป


“วันนั้นคุณคิดอะไร” อาทิตย์ทัศน์ถามพลางเลื่อนมือข้างที่เหลือขึ้นวางบนศีรษะ แทรกเรียวนิ้วลงกับเส้นผมหนานุ่มมือ


“อืม...หลายอย่างเลยละ คิดว่า...คุณเป็นใครกันนะ หลังจากนั้นก็คิดว่าจะได้เจอกันอีกไหม สุดท้ายก็...คิดถึงคุณอยู่ข้างเดียว”


“แล้วหลังจากนั้นล่ะ”


“หลังจากนั้น...ที่เราได้พบกัน ผมคิดว่าจะเป็นไปได้ไหมถ้าผมจะทำให้คุณกับผม ไม่เดินจากกันไปไหนอีก แล้วในที่สุดผมก็รู้ว่าไม่ได้มีแค่ผมที่คิดถึงคุณ เพราะคุณเองก็จะคิดถึงผมเหมือนกัน”


“รู้ได้ยังไง” ถามพร้อมกับบีบจมูกคนพูดเบา ๆ


“รู้สิ คุณต้องคิดถึงผมแน่ ๆ เวลาที่มองรูปที่ผมวาดหรืออ่านโปสการ์ดที่ผมเขียน เพราะผมเองก็เป็นแบบนั้น ผมคิดถึงคุณทุกครั้งเวลาที่เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า”


“ตอนนี้ล่ะ คุณคิดอะไร”


เมื่อได้ฟัง ตฤณกรก็ดึงโทรศัพท์มือถือออกจากมือคนถามวางไว้ที่ข้างตัว แล้วรั้งสองมือขาวมาวางแนบอก “คิดว่าโชคดีจังที่ได้อยู่ด้วยกันแบบนี้ อีกหน่อยถ้าเราแก่ตัว หลง ๆ ลืม ๆ เราก็หยิบภาพที่เคยถ่ายด้วยกันขึ้นมาดู ดึงเอาโปสการ์ดจากลิ้นชักออกมาอ่าน คุณอยากไปที่ไหนผมจะพาไป เราจะผลัดกันเล่าเรื่องเก่า ๆ ให้กันฟัง นอนบนหญ้านุ่ม ๆ แล้วมองไปบนท้องฟ้าด้วยกัน” พูดจบก็ยันกายลุกขึ้นนั่ง


“หรือถ้าหากคุณลืมจูบแรกของเรา ผมก็จะจูบคุณ เผื่อว่าคุณจะจำได้”


คนฟังนั่งนิ่งแต่หัวใจกลับเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อหน้าคมโน้มเข้ามาใกล้ก่อนจะมอบจูบแสนหวาน ชั่วอึดใจตฤณกรก็ถอนริมฝีปากออกแล้วกระซิบ     


“หรือถ้าคุณจำไม่ได้ ผมก็จะบอกคุณว่านี่คือจูบแรกของเรา”


อาทิตย์ทัศน์ยิ้มบางพลางยกมือขึ้นประคองสองแก้มสาก “ถ้าวันทั้งวันคุณมัวแต่ทำอะไรเยอะแยะจนลืมบอกรักผม ผมก็จะเป็นคนบอกรักคุณก่อนดีไหม”

...ไม่มีถ้อยคำตอบรับหรือปฏิเสธ หากแต่คำตอบนั้นปรากฏอยู่ในดวงตาสองคู่ที่ยังคงสบกันหวานซึ้ง...


...จบ...




สวัสดีค่ะ สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์สุดท้ายของปีแล้ว ปีที่ผ่านมา ในเพจมีหลายคนถามหาเรื่องนี้
อ่านหน้ากากดอกไม้ขอตอนพิเศษ ถธปธฟ. อ่านเรื่องสั้น ขอ nc ถธปทฟ. โพสต์เฉย ๆ ขอตอนต่อไป ฯลฯ 555
เราก็เลยรื้อไฟล์เก่า ๆ ที่เขียนค้างไว้ตั้งแต่ตอนทำหนังสือแล้วก็เลิกไปมาต่อให้จบ ได้เป็นตอนสั้น ๆ มาฝากกันค่ะ
คล้าย ๆ เป็นการมาอัพเดตชีวิตญาติผู้ใหญ่ เรื่องราวยังคงต่อเนื่องกับที่เขียนเพิ่มเติมในหนังสือ
ตั้งใจจะเขียนเป็นตอนสุดท้ายสำหรับนิยายเรื่องถ้าเธอเป็นท้องฟ้า
(เพราะเรื่องนี้ก็จบแบบสมบูรณ์ไปแล้วเนอะ)
ให้ทุกคนที่ติดตามได้เก็บเอาไว้เป็นความทรงจำดี ๆ ถ้าหากคิดถึงกันเมื่อไรก็หยิบขึ้นมาเปิดอ่านนะคะ
ขอบคุณทุกคนมาก ๆ ที่ทุกคนยังถามถึง ยังคิดถึง และชอบนิยายเรื่องนี้ค่ะ 

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-03-2016 08:41:48 โดย ถ้าเธอเป็นท้องฟ้า »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
ตังจ้าหวานส่งท้าย

ออฟไลน์ jannie

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 782
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-0
เพิ่งมาได้อ่าน ชอบเรื่องแนวนี้นะคะ แบบไปเรื่อยๆ มันได้ซึมซับบรรยากาศดี ดูเป็นชีวิตจริงๆ ค่ะ ^^

ออฟไลน์ skyokiller

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
หวานกันมากเลยคะคู่นี้ น่าร้ากกกกกก >O<!

ออฟไลน์ แมลงมีพิษชนิดหนึ่ง

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-14
หวานกันจริงๆคู่นี้  :impress2: :impress2:

ออฟไลน์ care_me

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 162
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
หวานละมุนมากเลยค่ะ

ขอบคุณ​สำหรับตอนพิเศษหวานๆอย่างนี้นะคะ :L2:

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6

“หรือถ้าหากคุณลืมจูบแรกของเรา ผมก็จะจูบคุณ เผื่อว่าคุณจะจำได้”


คนฟังนั่งนิ่งแต่หัวใจกลับเต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อหน้าคมโน้มเข้ามาใกล้ก่อนจะมอบจูบแสนหวาน ชั่วอึดใจตฤณกรก็ถอนริมฝีปากออกก่อนจะกระซิบ     


“หรือถ้าคุณจำไม่ได้ ผมก็จะบอกคุณว่านี่คือจูบแรกของเรา"



ชอบตอนนี้ที่สุด น้ำตาร่วงเลย ไม่จำเป็นต้องมี nc แค่มีความละมุนแบบนี้ก็พอแล้ว
คุณถ้าเธอเป็นทองฟ้า คุณให้มุมมองใหม่ๆกับเรามากมาย ให้แรงบันดาลใจมากมาย นิยายของคุณอ่านซ้ำได้ไม่เบื่อจริงๆ

ออฟไลน์ loyal_mook

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 136
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
อบอุ่นจัง ไม่อยากให้จบเลย อ่านไปเรื่อยๆ เขินน  :กอด1:

ออฟไลน์ packy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
หวานละมุนละไมมากเจ้าาาา

ออฟไลน์ alternative

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +285/-3
จูบครั้งที่เท่าไรก็ยังมั่นคง
ตกหลุมรักซ้ำ ๆ กับคนเดิมเสมอ
ความรักละมุนละไมไม่เปลี่ยนแปลง

ขอบคุณ 'ถ้าเธอเป็นท้องฟ้า'






ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
รักเรื่องนี้จังงงง

ออฟไลน์ Fragrant

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 859
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
มันเป็น.....ตอนพิเศษที่หวานมาก โอ๊ย ฟินกระจาย
ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษนะค่ะ  :กอด1:

ออฟไลน์ Lovetree

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
เราเชื่อเลยว่าจ้าโชคดีที่สุดเลยที่มีคนที่รักจ้าสุดหัวใจและจ้าก็เป็นคนรักคนเดียวในหัวใจของตังจริงๆ
การมาของปิ่นก็ได้ช่วยยืนยันแล้วด้วย  และรู้เลยว่าตอนมัธยมตังก็คงไม่ได้จีบใคร  ไม่ได้คบกับใครเป็นแฟนเลย
ทั้งที่ตังคนดีต้องมีสาวๆมาชื่นชอบมากมายแน่ๆ(อาจมีปิ่นอยู่ในกลุ่มสาวๆด้วย)  ปิ่นก็เลยอยากรู้ว่าใครคือผู้โชคดีคนนั้นเนอะ

จ้าเป็นรักแรกพบและก็เป็นคนเดียวของตังจริงๆ   กรี๊ดดดดดดดด  คู่นี้น่ารักมากๆค่ะ
เป็นทั้งเพื่อนคู่คิด  ช่วยเหลือกัน  และนึกถึงกันตลอดแม้กระทั่งเรื่องเล็กๆเช่นการสั่งนำ้ดื่ม  ทำเรากรี๊ดอีกแล้ว555

เราเห็นภาพตังกับจ้าอยู่เคียงข้างกันไปจนแก่  หลงๆลืมๆอะไรไปบ้างแต่ความรักของทั้งคู่จะยังคงมีอยู่เสมอ
จูบที่ตังมอบให้จ้าเป็นจูบที่ประทับใจสำหรับตังทุกครั้งเหมือนกับเป็นจูบแรกของทั้งคู่เสมอ
นักเขียนทำให้เราเห็นภาพนั้น  ซาบซึ้งกับความรักของตังที่มีให้จ้ามากๆ  นำ้ตาเรามันก็ไหลจริงๆ
และเรากรี๊ดดังๆให้กับจ้าที่แอบหวานแอบบอกรักตัง  หวานที่สุดเลยคู่นี้  ชอบๆ

ตอนส่งท้ายแม้จะเป็นตอนสั้นๆแต่สมบูรณ์แบบมากๆค่ะ ยังคงสร้างความประทับใจเสมอ จะคิดถึงอยู่ในความทรงจำตลอดไปค่ะ

และอยากบอกว่านักเขียนเป็นคนใจดี  แฟนๆนิยายก็เลยกล้าแซว  กล้าแกล้งนักเขียนบ้าง
โดยการขอncบ้าง  ขอตอนพิเศษบ้าง  ขอเรื่องใหม่บ้าง  ทั้งๆที่รู้ว่านักเขียนยังไม่ว่างจริงๆ 
และวันนี้ก็ได้เห็นความใจดีของนักเขียนจริงๆ  เรายังคงรอผลงานของนักเขียนเสมอนะคะ
ขอบคุณมากๆค่ะสำหรับของขวัญส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่มอบความสุขให้กันเสมอ :L2: :กอด1:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8896
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ milkteabeige

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 336
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
รักเรื่องนี้มากจริงๆ ค่ะ

พี่ตังนี่ก็หวานตลอดๆ ส่วนพี่จ้าเขาจะมีมาดของเขา แต่น่ารัก เราอ่ะ #ทีมพี่จ้า มาตั้งแต่ต้นเลย

ขอบคุณมากๆ ค่ะ สำหรับความรู้สึกดีๆ ที่ได้รับทุกครั้งที่อ่านเรื่องนี้
รอยยิ้มกรุ่นๆ และใจฟูๆ เกิดขึ้นทุกครั้งเลยเวลาที่สายตาลากผ่านเรื่องราวของพี่ตังและพี่จ้า

ออฟไลน์ Monkey D lufy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1349
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +245/-4
อ่านแล้วทราบซึ่งกินใจมากเลยอ่ะ

ความรักจะคงอยู่ตลอดไป

ออฟไลน์ veeveevivien

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
นี่ถามให้เลือกได้ว่าอยากให้นิยายเรื่องไหนไม่มีวันจบ

แบบเขียนเรื่อย ๆ ให้ได้อ่านกันตลอดไป ก็คงตอบว่า

"ถ้าเธอเป็นท้องฟ้า"

คำตอบสุดท้ายค่ะ

ชอบภาษาเขียนที่ละมุนมาก อ่านแล้วไม่เครียดดี

ขอบคุณสำหรับนิยายดี ๆ นะคะ

ขอให้มีความสุขมากกกกกกกนะคะ

แวะมาเขียนตอนพิเศษของพิเศษ บ่อยนะคะ

รออ่านค่ะ

 :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ Bear Company

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 776
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
สวัสดีปีใหม่จ้า

ดีจังมีหนุ่ม ๆ มาแจกความหวาน

ออฟไลน์ mickeyz.min

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด