บทที่ 9.2 : ฉันไม่มีค่าเลยหรือฉันไม่เคยมีค่าใด ๆ ช่วยบอกกับฉันให้ตาสว่างซักทีได้ไหม
ตื่นกันจริงจังก็ตอนสิบโมง เรื่องราวเมื่อคืนมันเหมือนกันความฝัน ยิ่งเขาอยู่ใกล้เรา ยิ่งเขาดีกับเรา ยิ่งทำให้ผมรู้สึกกลัว กลัวว่าในวันหนึ่งเร็วๆ นี้ความสุขแบบนี้จะหายไป.... พี่เอออกไปข้างนอก ไม่ได้บอกว่าไปไหน ผมเองก็ไม่คิดถาม ผมทำนู่นทำนี่จนสุดท้ายก็มานั่งออกแบบเฟอร์นิเจอร์ต่อ
กิ้งก่อง กิ้งก่อง... เสียงกริ่งนี่นา ใครมากันนะ
ผมเดินไปที่ประตูรั้วก่อนจะพบบุรุษไปรษณีย์พร้อมซองเอกสารบางอย่าง ส่งแบบด่วนอีเอ็มเอสด้วยนะ ของใครกัน
“พัสดุของคุณอติวัณณ์ครับ” ของพี่เอหรอ
“ครับเขาอยู่ที่นี่ ผมเป็นน้องชายเขา” ผมตอบพร้อมกับรับของ
“เซ็นรับของด้วยนะครับ” บุรุษไปรษณีย์ยื่นเครื่องบันทึกรายการมาให้ผมเซ็น ผมก็เซ็นรับของไป
“แล้วช่วยบอกให้คุณอติวัณณ์คอมเฟิร์มว่าได้รับตั๋วเครื่องบินกับทางสายการบินด้วยนะครับ ขอบคุณครับ” เขาบอกต่อ ผมพยักหน้ารับ เอ่ยคำว่าขอบคุณแล้วก็เดินเข้าบ้าน... ตั๋วเครื่องบินหรอ หัวใจผมสั่นวูบไหว หรือว่าเขาจะกลับกรุงเทพฯ ถึงแม้ว่าผมอยากจะรู้ว่าตั๋วเครื่องบินจะมีปลายทางเป็นที่ไหน แต่ผมก็ไม่คิดละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวของใคร ถ้าเขาจะไป แล้วเขาจะกลับมาไหมนะ หรือว่าเวลาแห่งความสุขได้หมดลงแล้ว ผมหมดสิทธิ์ตักตวงความอบอุ่นจากคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อของลูก... นั่นสินะ แค่มีความสัมพันธ์กันที่สถานะ พ่อของลูก ไม่ใข่คนรักของผม ทำไมนะทำไม ทั้งที่พยายามตั้งสติ ทำใจไม่คาดหวังอะไร แล้วทำไมหัวใจผมยังเจ็บขนาดนี้ ผมทรุดนั่งลงที่โซฟาตรงห้องรับแขก
กริ้ง กริ้ง กริ้ง
นั่งคิดเรื่องพี่เอได้ไม่เท่าไหร่ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นปลุกผมออกจากภวังค์ ผมเดินตามหาเสียง เพราะนี่ไม่ใช่เสียงริงโทนของผม ผมเดินตามหาจนเสียงนั่นหยุดไป และดังขึ้นไปเป็นรอบที่สามผมถึงหาเจอ โทรศัพท์พี่เอนี่นา สงสัยคงลืมเอาไว้บนห้องนอน เสียงดับไปแล้ว คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง ขณะที่ผมกำลังจะหันหลังกลับ โทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง
แปล๊บ!
เจ็บแปลบขึ้นมาทันทีที่เห็นเบอร์พร้อมรูปภาพของสายเรียกเข้าของพี่เอ ผมไม่ได้ละลาบละล้วงนะ แต่ภาพโชว์เด่นขนาดนี้.... พี่ฝ้าย... ภาพที่หน้าจอยังเป็นรูปคู่ของทั้งสองคนเหมือนที่ผมเคยเห็น ผมยืนมองโทรศัพท์นิ่งๆ
น้ำตาเจ้ากรรมก็เริ่มไหลลงมาช้า ๆ ... เขายังติดต่อกันอยู่ ไม่สิ ต้องเรียกว่ายังคบกันอยู่สินะ ทำไมพี่เอถึงทำกับผมเหมือนผมเป็นคนโง่แบบนี้ มีเขาอยู่แล้ว ยังมาหาผมทำไม เพียงแต่ต้องการรับผิดชอบลูก ไม่เห็นต้องทำเป็นเงียบเรื่องพี่ฝ้ายแล้วทำเหมือนไม่ได้ติดต่อกันแล้วด้วยล่ะ ผมเคยถามเรื่องนี้ พี่เอบอกว่าไม่ได้คุยกันนานแล้ว... โกหกทั้งเพ เสียงโทรศัพท์ยังดังติดกันถี่ ๆ ผมตัดสินใจเอื้อมมือไปกดรับสาย
“ครับ” ผมกรอกเสียงลงไป
“เอคะทางสายการบินส่งตั๋วไปให้แล้วหรือยังคะ เห็นเขาว่าของจะถึงวันนี้” เสียงหวานๆ ของผู้หญิงดังมาตามสาย
“ครับ” ผมตอบแทน พี่ฝ้ายยังคงไม่รู้ว่าเป็นเสียงผม
“ทำไมรับช้าจังคะเอ แล้วไหนบอกว่าจะโทรหาฝ้าย นี่รอตั้งแต่เมื่อคืนก็ยังไม่โทรมา งานหนักหรอคะ หรือว่าติดประชุม” ผมรับฟังเงียบ ๆ
“เอคะ เอฟังฝ้ายอยู่รึเปล่าคะ” ฝ่ายนั้นถามย้ำ น้ำตาผมไหลลงมาเรื่อย ๆ
“ครับ” ผมกลั้นสะอื้นสุดฤทธิ์ ก่อนจะตอบไป
“เอเหนื่อยสินะคะ ไปพักผ่อนเถอะค่ะ ฝ้ายไม่โกรธคุณหรอก ฝ้ายเข้าใจว่าคุณไปติดต่องานที่เชียงราย เดี๋ยววันพรุ่งนี้ก็เจอกันแล้ว รักเอนะคะ” พี่ฝ้ายพูดก่อนวางสายไป ผมนั่งกำโทรศัพท์แน่น นั่งร้องไห้เงียบๆ ...
กี่ครั้งแล้วมีน กี่ครั้งแล้วที่นายวาดฝันลม ๆ แล้ง ๆ ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าไม่มีวันเป็นไปได้ คนที่นายคิดว่าดีหนักหนาไง... คนที่นายรักหนักหนา... เขาทำนายเจ็บขนาดนี้มากี่ครั้งแล้ว รักเขาแทบตาย แล้วเขาเคยเห็นค่านายไหม! พอสักทีไหม!
ผมได้แต่ถามตัวเองซ้ำ ๆ ทำไมเขาต้องโกหกผม สวมเขาให้ผมอีก ต่อหน้าผมเหมือนเขาจะเป็นคนเดิมของผม แต่แท้จริงแล้วมันไม่ใช่ นี่คือเหตุผลของการแอบไปคุยโทรศัพท์บ่อย ๆ ใช่ไหม นี่ทำไมผมโง่ขนาดนี้นะ
เปล่าประโยชน์ สิ้นหวัง และเสียเวลาเหลือเกินกับคนๆนี้.... ลูกจ๋า แม่ขอโทษนะลูก พ่อเขาอยู่กับเราสองคนไม่ได้ พ่อเขามีคนใหม่ไปแล้ว พ่อเขาโกหกเรา.... ทุกสิ่งที่ผ่านมาสามสี่อาทิตย์นี้เป็นเหมือนภาพฝันที่ไม่มีวันเป็นจริง
.
.
.
ไม่รักผม ผมไม่ว่า แต่ทำไมต้องทำร้ายกันซ้ำ ๆ ซาก ๆ ผมจะใช้ชีวิตต่อไปยังไง ผมจะก้าวเดินต่อไปยังไงดี...แต่ผมคงต้องก้าวต่อเพื่อลูก ถึงแม้ว่าต้องก้าวเดินต่อไปด้วยหัวใจที่เจ็บเจียนตายก็เถอะไม่มีพ่อเราก็อยู่กันเองได้ครับ ลูกจ๋า....ผมหลับตา ก่อนจะลืมตา กำมือแน่นอย่างคนที่ตัดสินใจได้อย่างเด็ดขาด ผมคงต้องให้เขาออกไปจากที่นี่!
***************************************40 %*************************************************
จริงๆ ตอนนี้ก็ยังไม่ว่างเลยนะคะ แต่คิดถึงคนอ่าน คิดถึงน้องมีน เลยรีบมาต่อให้ 40% ก่อนนะฮ้าบบบบ
ขอโทษด้วยจริงๆ มิยูกิยุ่งมากถึงมากที่สุด เจอกันอีกครึ่งหลังที่เหลือนะคะ สัญญาค่ะจะมาให้ไวที่ซู้ดดดดดดดด