▓▒░ อุบัติรักเร็วเกินเหตุ ░▒▓By TRomance ตอนพิเศษสั้นๆวาเลนไทน์ P.78 [15.02.58]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ▓▒░ อุบัติรักเร็วเกินเหตุ ░▒▓By TRomance ตอนพิเศษสั้นๆวาเลนไทน์ P.78 [15.02.58]  (อ่าน 787350 ครั้ง)

ออฟไลน์ Seiki

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 838
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2726/-64
▓▒░ อุบัติรักเร็วเกินเหตุ ░▒▓ ตอนที่ 21

ตอนแรกเราสองคนเหมือนจะคุยกันด้วยความเข้าใจ
แต่ตอนสุดท้าย...แค่ประโยคสุดท้าย
ทำไมเหมือนเรากำลังทะเลาะกันได้วะ

‘กูเคยบอกมึงแล้วนะว่าคนที่ไม่เคยเปลี่ยนใจคือกู’


ไม่เข้าใจเลย หรือว่าผมจะโง่เกินกว่าจะเข้าใจเรื่องอะไรพวกนี้จริงๆ
ถาโถมวิ่งเข้ามาทำลายโลกส่วนตัวด้วยการพันแข้งพันขาอยู่ใกล้ๆ มันเหมือนกับจะรู้ตัวว่าตลอดชีวิตผมที่ผ่านมานั้น แบ่งปันความรักให้สิ่งมีชีวิตน้อยมาก โดยเฉพาะสิ่งที่เรียกว่าสัตว์เลี้ยง มันเลยขยันเสนอหน้าเข้ามาออดอ้อนขอมีตัวตนกับผมบ้าง
ถาโถมตื้อผมด้วยการยัดเยียดกระดูกของเล่นที่ฉ่ำแฉะไปด้วยน้ำลายของมันลงบนมือผมแล้วมองหน้าส่งสายตาร่าเริงสุดชีวิตมาให้ ตาใสแจ๋วนั้นเป็นธรรมชาติและจริงใจควบคู่ไปกับหางที่ส่ายจนตูดบิด
“ไม่เอา มึงกินของมึงไปเถอะ กูไม่แย่ง”
ผมผลักหน้ามันออกไปให้ห่างตัว ถาโถมฝืนแรงผมเข้ามาใกล้อย่างไม่ลดละความพยายาม ยัดเยียดให้ผมรับน้ำใจของมันไปให้ได้ ผมรับกระดูกเหนียวเหนอะนั่นเอาไว้แล้วยัดใส่ปากมันดังเดิม
มันรับกระดูกชิ้นนั้นด้วยแววตาดีใจสุดชีวิต หางส่ายดิกเหมือนจะหลุดออกมาอีกครั้งก่อนจะวางกระดูกชิ้นเดิมลงบนหน้าตักผม
“จะแบ่งกูทำไมเนี่ยถาโถม ถามกูสักคำมั้ยว่ากูอยากได้น้ำใจจากมึงรึเปล่า มึงอร่อยมึงแดกไปเลยตัวเดียว เข้าใจ๋”
ถาโถมไม่เถียงอะไร นอกจากเอาจมูกดุนกระดูกชิ้นนั้นเข้าใกล้มือผมอีกครั้งแล้วมันก็ถอยหลังออกมาดูปฏิกริยาตอบรับจากผมด้วยอาการเป็นมิตรไมตรีอย่างเดิม
แต่ผมกลับสะดุดกับคำพูดของตัวเองจนได้คิด
ผมยัดเยียดน้ำใจของตัวเองให้แอนมากไปมั้ยนะ?
บางทีแอนอาจจะไม่ต้องการความช่วยเหลือจากผมก็ได้ แอนคงอยากให้หรรษาช่วยมากกว่า แต่ผมไม่ได้ทำไปเพราะสงสารอะไรในตัวแอนเลยสักนิด ผมช่วยเด็กที่กำลังถือกำเนิดอยู่ในท้องแอนต่างหาก ผมก็แค่สงสารเด็กคนนั้นที่อาจจะเกิดออกมาแล้วมีสภาพชีวิตแบบผมก็ได้ สภาพชีวิตที่มีพ่อแต่เหมือนไม่มีน่ะมันอ้างว้างมากเลยนะ อีกอย่างผมมั่นใจว่าตรรกะการใช้ชีวิตของแอนคงไม่เหมือนคุณนายกาญจนาแม่ผมหรอก การเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวของแอนอาจทำให้ชีวิตเด็กย่ำแย่ลงไปอีกก็ได้
การอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันพ่อแม่ลูกน่าจะดีกว่า แม้ผมจะไม่มั่นใจเลยว่าเพทายจะเป็นพ่อที่ดีได้ แต่ผมกลัวว่าถ้าแอนไม่มีใครเลยแอนอาจจะมาคว้าเอาหรรษาไปเป็นพ่อเด็กนี่นา
ผมห่วงก็ตรงนี้
ผมหวงหรรษานะ แต่ไม่กล้าแสดงออกมากกลัวมันจะรำคาญเอาน่ะสิ
เสียงงี๊ดๆของถาโถมที่เร่งเร้าให้ผมเล่นกับมัน ทำให้ต้องปล่อยวางความคิดเอาไว้แค่นั้น แล้วยอมแพ้กับลูกตื้อของมันจนต้องเล่นด้วย
“แกนี่มันเร้าหรือจริงๆนะถาโถม”
ผมว่าแต่มือก็ลูบหัวมันนะ และรู้สึกเล็กๆว่าผูกพันกับหมาดวงแข็งตัวนี้ขึ้นมา
บางครั้ง ความผูกพันก็ก่อกำเนิดขึ้นมาโดยไม่ต้องใช้เวลาอะไรมากมายเลยจริงๆ เวลาสั้นๆสามารถถักทอสายใยของความสัมพันธ์ให้หนาแน่นขึ้นมาก มากจนไม่อยากให้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากที่เป็นอยู่นี้เลย
ผมได้แต่คิด ยังไม่รู้ว่าจะทำยังไงเหมือนกัน
แต่ต้องยอมรับว่า การจมอยู่กับความรู้สึกนี้ ถาโถมช่วยผมได้มากจริงๆ เพราะมันชวนผมวิ่งจนรู้สึกเหนื่อย พอเหนื่อยก็ไม่มีแรงจะคิดต่อ มันชวนผมวิ่งรอบบ้านจนผ่านห้องรับแขกที่ยังคงเห็นแอนนั่งร้องไห้อยู่ที่เดิม
หรรษาเป็นคนพูดคำไหนก็คำนั้นจริงๆ คราวนี้มันตัดขาดว่าจะไม่ยุ่งเรื่องของแอนอีก ต่อให้แอนนั่งร้องไห้ให้เป็นสายเลือดยังไงหรรษาก็ไม่แม้จะชายตาแลจริงๆสินะ ผมสะใจระคนกับสงสาร แอนคงเคว้งที่ครั้งนี้ไม่เหมือนกับทุกๆครั้งที่ผ่านมา
ผมมองผ่านกระจกเข้าไปมองแอนจากตรงนี้ เธอดูเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆที่สวยและน่ารักดูไร้พิษไร้ภัย
ผมกำลังใจอ่อนใช่มั้ยวะ...ไม่นะ ลึกๆในใจก็อยากหัวเราะใส่หน้าแอนแหละ แต่สำนึกฝ่ายดีบอกวว่าเราไม่ควรซ้ำเติมคนที่ยังมีชีวิตนี่หว่า ผมเลยตัดปัญหามุ่งหน้าไปหาหรรษาที่โลกส่วนตัวของมันแทน
ถาโถมวิ่งนำหน้าพร้อมกับกระดูกที่คาบคาปากเอาไว้ราวกับสิ่งที่มันหวงแหนนักหนา แต่มันก็ยังมีน้ำใจแบ่งให้ผมก่อนหน้านี้
หรรษาอยู่ที่นี่จริงๆ
ผมเห็นผู้ชายตัวถึกๆแลดูบึกบึนและเก้งก้างเมื่อมันนั่งลงกับพื้นพิงหลังกับผนังบ้าน สีหน้าจริงจังกับของที่อยู่ในมือ มันดูตั้งใจจนไม่แม้แต่จะมองหาผู้มาเยือนอย่างผมและถาโถมที่รีบวิ่งเข้าไปดมรอบๆตัวของมัน มันเพิ่งจะยอมเงยหน้าขึ้นมาตอนที่ผมทรุดลงนั่งยองๆตรงหน้ามันแล้ว  ตัวผมคงบังแสงสว่างมันนั่นเอง
หรรษาเลิกคิ้วสูงแทนคำถามว่ามีอะไร
“มึงทำอะไรอะ”
ผมหยิบชายผ้าหลากสีที่อยู่ตรงหน้ามันขึ้นมาพลิกๆดู สิ่งที่อยู่ในมือมันเป็นรูปเป็นร่างคล้ายๆถุงผ้าหรือย่ามผมก็ไม่กล้าฟันธงมากนัก
เพราะกลัวผิด!!
“กระเป๋า”
ดีแล้วที่ผมไม่เดาออกไปว่ามันคืออะไร คอนเซปต์ความหัวถั่วของผมยังคงฝังแน่นอยู่ในตัวเองตลอดกาล
มันตอบแล้วก้มหน้าทำงานฝีมือของมันต่อ ผมพิจารณามองหรรษาอย่างไม่เชื่อสายตาว่าคนหยาบกระด้างและป่าเถื่อนอย่างมันจะทำอะไรอย่างนี้ได้ แม้มันจะไม่ปราณีตงดงามอะไรเหมือนที่เค้าขายในท้องตลาดมากนัก แต่มันก็ดูน่าทึ่งมากที่หรรษาทำได้
เพราะถ้าเป็นผม แค่เอาด้ายแหย่เข้ารูเข็มยังเป็นเรื่องยากเลย
แต่พอผมคิดเสียงดังขึ้นมาจนหรรษาได้ยินเท่านั้นแหละ
ความเป็นมันก็โผล่ออกมาเลยทันที
“จะแปลกอะไรที่มึงเอาด้ายเข้ารูเข็มไม่ได้ ในเมื่อหน้าที่แหย่เข้าไปคือหน้าที่กู”
มันพูดหน้าตาย ไม่มีแววตาเย้ายั่วอย่างที่เคยเป็น นั่นเล่นเอาผมใจหายวาบ นี่มันเป็นอะไรของมันนะ ผมไม่เข้าใจมันเลยจริงๆ ผมทำอะไรผิดไปทำไมมันไม่บอก ก็มันเองไม่ใช่เหรอที่บัญญัติผมว่าไอ้หัวถั่ว
“ทำให้ใครเหรอ”
ผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ ใช้นิสัยเดียวกับถาโถมที่ทำกับผมก่อนหน้านี้ ผมตื้อแล้วก็เซ้าซี้หรรษาอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน
“ทำให้อังซัง”
อ๋อ...ลูกสาวสเก็ตช์บอร์ดของมันนั่นเอง
“วันเกิดอังซังเหรอวะมึง”
“เปล่า วันวาเลนไทน์”
วันแห่งความรักสินะ อดตื่นเต้นและมีความหวังขึ้นมาไม่ได้เลยว่าแล้วผมล่ะ คนที่มันเรียกว่าคนรักล่ะ จะมีของขวัญพิเศษๆอะไรจากมันบ้างมั้ย
แต่มันก็ไม่ได้พูดอะไรขึ้นมานอกจากนี้ หรือไม่มีท่าทีใดๆให้ผมมีความหวังออกมา เหมือนมันไม่ได้อยากให้ผมอยู่ตรงนี้ด้วยซ้ำ ผมเสนอหน้าเข้ามาเองเลยต้องแก้เก้อด้วยการนั่งเกาท้องให้ถาโถมที่นอนอ้าซ่าร้องครางหงิ๋งๆ
“แอนยังนั่งร้องไห้อยู่เลยนะ”
ผมพูดทำลายความเงียบขึ้นมา สายตามองไปยังสีเขียวข้างหน้าเลยไม่รู้ว่าหรรษาทำอีท่าไหนเข็มอันเล็กกระจิ๊ดริดถึงได้ตำนิ้วมันจนเลือดเอ่อขึ้นมายังกะน้ำผุดหยดเล็กๆแบบนั้น แต่มันก็เพิ่มปริมาณจนรู้สึกว่าเข็มคงตำเข้าไปลึกมาก มันก็เอาผ้าที่กองอยู่บนพื้นนั้นแหละเช็ด
แม่ง...ไร้ซึ่งอนามัยที่ดีจริงๆ
“ให้กูช่วยมั้ย ทำอีท่าไหนอะ”
“ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวเลือดก็หยุดแล้ว”
ผมยื่นมือค้าง แล้วมันก็ร่วงลงข้างตัวดังเดิม
อึดอัดจังเลยบรรยากาศแบบนี้ ไม่ชอบเลย ไม่ชอบอะไรที่ค้างคาในความรู้สึกแบบนี้เลย
“ตกลงมึงโกรธกูหรือเปล่าที่กูบอกจะช่วยแอน”
ผมก็ไม่มั่นใจหรอกว่าจะเป็นเรื่องนี้หรือเปล่าที่ทำให้หรรษาดูแข็งๆกับผม ทั้งๆที่ตอนแรกก็เหมือนมันจะเห็นด้วยที่ผมตัดสินใจอย่างนี้
“ไม่โกรธ มึงจะช่วยแอนก็แล้วแต่มึงสิ มึงตัดสินใจแล้วนี่ กูก็บอกไปแล้วว่ามึงคิดดีทำดี”
“แล้วมึงโกรธอะไรอะ”
ผมถามซ้ำ
“ไม่ได้โกรธ บางทีมึงพูดไปมึงไม่ได้คิด กูรู้”
“แล้วกูพูดอะไร”
“ช่างมันเถอะ ไม่มีอะไรสำคัญนักหรอก เดี๋ยวมันก็ผ่านไป”
“แต่กูไม่สบายใจนี่ มึงเป็นเหี้ยอะไรก็ไม่รู้ กูไม่ชอบอารมณ์แบบนี้ของมึงเลย เดาใจไม่ถูก ไม่รู้มึงคิดอะไรอยู่ มึงดูห่างเหินกับกูเหมือนโกรธอะไร แต่พอถามมึงก็บอกว่าไม่โกรธ”
ไม่รู้อารมณ์ผมเดือดพล่านมาจากอะไร รู้สึกว่ามันปะทุขึ้นมาจนห้ามไม่ได้อีกแล้ว มันพร่างพรูจนเกินจะห้ามปากได้
“ต้องเป็นกูเสมอที่พยายามจะเข้าใจมึงเมต ตอนนี้กูก็กำลังทำอยู่ แม้มันจะไม่ใช่สิ่งที่กูเคยเป็นเลยตลอดชีวิตที่ผ่านมา”
“มึงเบื่อเหรอที่กูเป็นคนโง่ๆ เข้าใจอะไรยาก ไม่เคยเข้าใจมึง ชอบคิดชอบทำอะไรไม่เข้าท่าเสมอๆ มึงเบื่อกูใช่มะ”
ผมรู้ว่านี่คืออารมณ์งี่เง่าที่อยู่ๆมันก็ปะทุขึ้นมาโดยมีมูลเหตุมาจากความน้อยใจ แต่ผมก็อยากได้คำปลอบใจหรือคำพูดอะไรก็ได้ที่ทำให้ผมรู้สึกดีกว่าไอ้ตัวหน้ารำคาญแบบนี้ แต่พอมันไม่พูดอะไรก็ยิ่งทำให้อารมณ์น้อยใจที่ว่าดำดิ่งลึกลงไปมากขึ้น นี่ใช่มั้ยความต้องการที่ล้ำเส้นมากไปของผม นี่คือความต้องการที่มากเกินไปของคนที่ได้คำว่าแฟนมาจากการยัดเยียดใช่มั้ย
“กูขอโทษนะหรรษา ที่กูเป็นคนอย่างที่มึงต้องการไม่ได้ บางทีถ้าเป็นแฟนกันแล้วมันไม่ใช่ เรายังเป็นเพื่อนที่ดีกันได้นี่ใช่ปะ”
ผมมันก็แค่พลั้งปากพูดออกไป แต่สำหรับหรรษาที่ค่อยๆเงยหน้ามองผมนิ่งๆ ความนิ่งของมันเล่นเอาผมกลัวขึ้นมาจับใจ หรรษาเป็นคนพูดคำไหนคำนั้นเสมอ ผมเพิ่งประจักษ์ไปก่อนหน้านี้ไม่นานเองทำไมจำไม่ได้นะ
“ตามนั้น”
ตามที่ผมพูดออกไปโดยไม่คิดอีกแล้ว
สำหรับหรรษาแล้วมันกลับตอบรับตามนั้น
บางทีมันอาจจะรอเวลานี้อยู่แล้วก็ได้ คำว่าตลอดไปคือนามธรรม
มันจับต้องไม่ได้ กำหนดลงในปฏิทินไม่ได้ เราไม่มีวันรู้ว่าวันไหนคือนิรันดร์
ผมยอมรับความจริง...แต่ผมก็ร้องไห้
ในเวลาเดียวกันนั้นผมใช้หลังมือปาดน้ำตาทิ้งเพราะไม่อยากให้มันเข้าใจว่าผมกำลังเรียกร้องความเห็นใจในคำพูดของตัวเอง
ผมไม่กล้าถามมันต่อว่าแบบนี้คือการบอกเลิกกันแล้วใช่มั้ย ผมกลัวความคำตอบจากความชัดเจนของมัน ผมได้แต่ลุกขึ้นแล้วพูดว่า
“กูไปก่อนนะ”
จากที่เรียนรู้กันมา หรรษาไม่ถามอยู่แล้วว่าผมจะไปไหน มันคงได้แต่พยักหน้าอย่างเคย ผมเลยเลือกที่จะเดินจากมาโดยไม่ต้องลุ้นเลยว่าถาโถมจะวิ่งตามอย่างตอนมาหรือไม่ มันเลือกที่จะภักดีกับคนที่ให้ชีวิตมันอยู่แล้ว
ผมเดินออกจากบ้านหลังนั้นมา เดินผ่านหน้าพ่อหน้าแม่ตัวเองโดยไม่แม้แต่จะบอกอะไรพวกท่านสักคำ ผมนั่งรถเมล์กลับบ้านคนเดียวได้ ผมช่วยเหลือตัวเองได้แล้ว
ไม่ต้องมีหรรษาก็ได้ แต่ในใจนั้นแห้งผากรับวาเลนไทน์
เป็นวาเลนไทน์ที่ร้าวราน
แม่ตามกลับมาหลังจากนั้นนานแค่ไหนก็ไม่รู้ รู้แค่ว่าแม่ถามว่ามีปัญหาอะไรกันแล้วไม่ได้รับคำตอบจากผม แม่ก็ไม่พูดอะไรอีก
มหาลัยคือที่ที่ผมขยันไปแบบไม่เคยเป็นมาก่อนในชีวิต
“หัวถั่ว หน้าแล้งเหรอวะทำไมมึงดูเศร้าๆเหมือนถั่วขาดน้ำ”
โมเมลูบหัวผมแล้วถาม ผมส่ายหน้า
“ทะเลาะกับหรรษาเหรอ”
“เปล่า แค่มีปัญหากันนิดหน่อย”
แต่ผมไม่ได้บอกไปหรอกนะว่านิดหน่อยจากลมปากผมนั้นมันหนักหนาถึงขั้นว่าเลิกกันแล้วจริงๆ
ผมยังคงร้องไห้กับตัวเองเพียงคนเดียวทุกวัน พอรู้ว่ามันไม่มีน้ำตาจะไหลแล้วก็หยุด วนเวียนซ้ำไปซ้ำมาอยู่อย่างนั้นจนเป็นความเคยชิน จากที่เพื่อนๆผลัดกันเข้ามาสอบถามความเป็นไปของผมกับหรรษา ก็เหมือนจะละไว้ในฐานที่เข้าใจจนเลิกถามไปแล้ว
มัวแต่จมอยู่กับเรื่องของตัวเองจนลืมเรื่องแอนไปเลย ลืมไปแล้วว่าเคยทำตัวเป็นพระเอกออกปากช่วยเหลือแอนเอาไว้ ถ้าภูผาไม่ออกมาดักหน้าผมที่คณะซะก่อน ผมก็คงไม่รู้หรอกว่าแอนมาดักรอผมที่มหาลัยด้วยตัวเอง
“ไม่ใช่ว่าจะขอให้ช่วยฟรีๆหรอกนะ แต่ตอนนี้พ่อฉันกับพ่อของเพทายยังโกรธมากอยู่ ตำรวจเขาเรียกมาสามล้าน มีให้ฉันยืมก่อนมั้ย ถ้าตำรวจช่วยแล้วข่าวมันซาๆลงไปแล้วฉันจะขอเงินพ่อมาคืนให้”
“อืม สักสองสามวันนะ จะลองคุยกับแม่ให้ ยังไงก็จะรีบให้คำตอบก็แล้วกัน”
แอนตอบรับและขอบคุณผมแบบแกนๆ แต่ผมไม่ติดใจเรื่องนั้นหรอก ในเมื่อผมเป็นคนเสนอตัวเองว่าจะช่วย เป็นลูกผู้ชายถ้าพลั้งปากออกไปแล้วจะโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ต้องรับผิดชอบกับคำพูดของตัวเอง
“โห ที่แท้พ่อของไอ้เหี้ยเพทายกับพ่อของแอนจะลงสมัครนักการเมืองท้องถิ่นพรรคเดียวกันนี่หว่า ถึงว่าเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย นี่คงทำลายชื่อเสียงพ่ออะดิ พ่อสองคนนั่นถึงได้โกรธมาก แม่ง คนเป็นพ่อดาหน้าไปสวัสดีชาวบ้านพร้อมออกตัวขอรับใช้พี่น้องประชาชนแต่ลูกตัวเองยังเป็นอันธพาลอยู่เลย”
“มึงรู้ได้ไงวะนิว” เป๋งถาม
“กูซื้อกล้วยแขกที่สี่แยก แล้วกระดาษห่อกล้วยแขกมีข่าวของพ่อสองคนนี้ เฮ้ย เค้าเป็นคนมีอิทธิพลและชื่อเสียงในท้องที่ของตัวเองพอสมควรเลยนะเว้ย” นิวอธิบาย
“ถึงว่าสองคนนี้ถึงได้เป็นเนื้อคู่กัน เพราะพ่อก็เลี้ยงมาแบบเดียวกันเนอะ สงสัยที่พ่อแอนไม่ชอบหรรษาทั้งๆที่หรรษาไม่ต่างอะไรจากไอ้เพทายแถมนิสัยดีกว่าตั้งเยอะนี่เป็นเพราะพ่อของหรรษาไม่ได้เดินทางเดียวกับพ่อของเพทายสินะ เรียกว่าไม่ใช่คู่ขาที่จะเอื้อผลประโยชน์กันได้”
ภูผาเป็นคนวิเคราะห์ออกมา ผมไม่รู้หรอกว่าเพราะเหตุผลกลใดที่พ่อแอนสนับสนุนเพทายมากกว่าหรรษา ผมไม่ได้สนใจเรื่องอะไรพวกนี้แล้ว ผมเลยได้แค่ฟังๆไป แค่พอรับรู้
กุ้งนางเดินมาตบบ่าผมเบาๆ
“กุ้งนางว่าเมตไม่จำเป็นต้องช่วยแอนกับเพทายก็ได้นะ ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันแล้วนี่”
กุ้งนางคงอยากให้ผมหักดิบกับความเจ็บปวดในครั้งนี้โดยตัดขาดทุกๆเรื่องที่เกี่ยวข้อง
“เรื่องนั้นก็เรื่องนึงอย่าเอามาเกี่ยวกันเลย กูพูดไปแล้วอะกุ้งนางถือซะว่าทำบุญให้เด็กในท้อง บางทีที่แอนยอมลดตัวมาหากูถึงที่นี่เพราะแอนก็คงคิดถึงลูกในท้องก็ได้นะ”
“หรือว่าแอนไม่กล้าบอกพ่อเรื่องนี้วะ”โมเมถามขึ้นมา
“ไม่รู้สิ บางทีแอนเองก็คงสับสนแล้วก็ตั้งรับไม่ทันกับเรื่องนี้ก็ได้นะมึง ตอนที่ยังไม่ท้องแอนยังรักเพทายมากขนาดนั้น ตอนนี้มีลูกด้วยกันแล้วกุ้งนางว่ามันอาจจะเพิ่มมากขึ้นๆ”
“ถ้าช่วยได้แล้วจบเลยนะมึงไอ้เมต ห้ามสานต่อใดๆแล้ว พอกับคู่นี้สักที” ภูผาว่า
“กูรู้แล้วน่า คงไม่มีโอกาสให้ต้องเกี่ยวข้องกันอีกแล้วล่ะ”
ผมพูดเสียงเรียบแต่ในอกยังคงร้าวลึก ผมเข้ามาข้องเกี่ยวกับสองคนนี้เพราะหรรษา เมื่อเรื่องมันเป็นแบบนี้แล้วมันคงไม่มีทางไหนที่ผมจะต้องไปข้องเกี่ยวกันอีกแน่ๆ
“กูกลับแล้วนะ จะรีบไปปรึกษาเรื่องนี้กับแม่ เงินตั้งสามล้านกูไม่มีหรอก คงต้องขอแม่”
“ดูแลตัวเองด้วยนะมึง กูเห็นมึงไอๆมาวันสองวันแล้วจะไม่สบายรึเปล่า”
โมเมถามขึ้นมา ลืมไปเลยว่าตัวเองไอติดต่อกันมาวันสองวันแล้ว แค่รู้สึกคันคอเฉยๆยังไม่ถึงกับครั่นเนื้อครั่นตัวอะไร
“กูไม่เป็นไรหรอกเม แค่คันคอคงเจอฝุ่นละมั้ง”
“งั้นมึงก็นั่งแท็กซี่กลับบ้านซะสิเมต จะนั่งรถเมล์ทำบ้าอะไร”
“ไม่เป็นไรหรอกมึง กูเสียดายตังค์ นั่งรถเมล์ก็ได้ ไม่ได้ยากเย็นอะไรเลยมึง”
ผมพูดแค่นั้นแล้วเดินออกมา


มีต่อค่ะ
v
v
v


ออฟไลน์ Seiki

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 838
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2726/-64
ท่ารถเมล์ยามเลิกงานและเลิกเรียนคนแน่นมาก อากาศก็ร้อนอบอ้าวจนน่าบัดซบ ผมเขย่าเสื้อนักศึกษาที่ชุ่มเหงื่อจนมันเกือบแห้งรถเมล์สายที่ต้องขึ้นก็มา คนบนนั้นแน่นยังกะปลากระป๋องอยู่แล้วพอเพิ่มจากป้ายนี้เข้าไปนี่แทบจะกลายเป็นก้อนเดียวกันทั้งคันรถ
อดทนกับอากาศ ความอึดอัดและกลิ่นที่คละคลุ้งจนปวดหัวมาถึงห้างสรรพสินค้าชื่อดังคนก็บางลง และผมก็ได้นั่งหลังจากที่ยืนขาแข็งมานาน
รถสายที่ผมนั่งมันก็ผ่านวิทยาลัยสายช่างมาหลายวิทยาลัยก็ไม่เคยเกิดอะไรรุนแรงจนผมตายใจ แต่อยู่ๆกระเป๋ารถเมล์ก็ตะโกนขึ้นมาจากหน้ารถว่าให้รีบวิ่งลงทางประตูหลังเมื่อรถจอดป้าย พอมองไปยังป้ายที่กระเป๋ารถเมล์ว่า ผมก็เห็นเด็กช่างที่ไม่รู้ว่ามาจากสถาบันไหนยืนกันอยู่กลุ่มใหญ่และมีคนยิงปืนขึ้นฟ้าเมื่ออีกหลายๆคนที่ยืนอยู่หน้าป้ายโบกให้รถเมล์จอด
ผมลุกขึ้นยืนเตรียมพร้อม มีคนตะโกนให้กระเป๋าและคนขับรถเมล์ทิ้งรถหนีไปด้วยกัน แต่คนขับรถปฏิเสธ
“ดูแลตัวเองให้ปลอดภัยกันทุกคนนะครับ ผมชินแล้ว”
“เตรียมตัวลงประตูหลังนะคะ เดี๋ยวกระเป๋าจะบอกให้พวกมันขึ้นทางประตูหน้า ถ้ามันไม่เลวร้ายเกินไปมันคงไม่ทำอะไรผู้โดยสารหรอกค่ะ เป็นเรื่องระหว่างสถาบันเท่านั้นแหละ”
ทั้งๆที่กระเป๋ารถเมล์คือหนึ่งในคนที่เสียงอันตรายมากที่สุดแต่เขาก็ยังให้กำลังใจผู้โดยสาร สิ่งนั้นทำให้ผมลังเลแต่ก็ช่วยไม่ได้เมื่อในรถมีคุณยายแก่ๆที่ทำหน้าตื่นตระหนกเมื่อได้ยินกระเป๋ารถเมล์ประกาศแบบนั้น
“คุณยายอย่าคิดอะไรเลยนะครับ ต้องไม่คิดอะไร ทำตัวเบาๆเข้าไว้ ลืมไปเลยก็ได้ว่าคุณยายมีกระดูก นะครับ เดี๋ยวผมจัดการเอง”
คุณยายคนนั้นพยักหน้าแต่แววตายังคงหวาดกลัวปิดไม่มิด มือย่นเกาะกุมมือผมแน่น ครั้งแรกที่ผมกระตุกมือคุณยายให้ลุกตามขึ้นมาตัวคุณยายกลับเกร็งและต่อต้านตามสัญชาตญาณ แต่พอได้ยินเสียงเร่งมาจากคนขับด้านหน้า คุณยายก็ทำตัวไร้น้ำหนักอย่างที่ผมบอกไว้จริงๆ ผมกึ่งลากกึ่งจูงจนเกือบจะอุ้มแล้ววิ่งกันออกมาจากตรงนั้นอย่างลืมสังขารตัวเองกันทั้งคู่ ผมลืมความเพลียและลืมอาการไอของตัวเองเป็นปลิดทิ้ง พาคุณยายขึ้นรถเมล์อีกสายโดยที่ลืมดูว่ามันไปที่ไหน เรานั่งเหนื่อยหอบกันมาจนสุดทางรถวิ่ง กระเป๋ารถเมล์ที่พอรู้ว่าเราผ่านอะไรมาก็ยื่นหลอดยาดมเก่าๆให้คุณยายดมคลายอาการวิงเวียน
“คุณยายยังแข็งแรงอยู่เลยนะครับ”
ผมชม คุณยายอึดมากจริงๆที่วิ่งหนีมากับผมได้
“ใครว่าล่ะ เพราะพ่อหนุ่มลากยายมาต่างหากยายถึงรอดมาได้ พ่อหนุ่มชื่ออะไรล่ะยายยังไม่รู้เลย”
“ชื่อเมตตาครับ”
“สมชื่อจริงๆพ่อหนุ่ม ยายขอให้เจริญๆนะลูกนะ”
“ขอบคุณครับยาย บ้านของยายอยู่แถวไหนครับ”
“บ้านยายอยู่แถวสุทธิสาร”
“งั้นผมจะส่งยายขึ้นแท็กซี่ไปนะครับ บอกทางถูกใช่มั้ยครับยาย”
“ได้สิ ยายบอกแท็กซี่ได้สบายมาก”
แต่ผมสิ ผมไม่รู้เลยว่าถ้าออกนอกเส้นทางจากที่ตัวเองเคยเดินทางแล้วจะทำยังไง ผมคงต้องนั่งแท็กซี่เหมือนกัน แต่พอคิดอีกทางนึงแล้ว หากผมมัวแต่หาทางลัดให้ตัวเองแบบนี้ เมื่อไหร่ผมจะช่วยเหลือตัวเองได้โดยสมบูรณ์แบบเสียที ผมส่งยายขึ้นรถ ยัดธนาบัตรใบใหญ่ที่สุดที่ตัวเองมีใส่ในมือยาย ตอนแรกยายไม่อยากจะรับไว้และบอกว่าตัวเองมี แต่ผมก็ยืนยันว่าให้ยายรับไว้ จนรถคันที่ยายนั่งลับตาไปแล้วนั่นแหละถึงได้รู้ว่าตัวเองเหลือเพียงแบงค์ยี่สิบแค่ไม่กี่ใบเท่านั้นเอง
‘คราวนี้มึงได้ช่วยตัวเองสมใจมึงแน่ไอ้เมต’
ผมมองเงินที่เหลือในมือตัวเองแล้วมองสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยไปรอบๆ ที่นี่ที่ไหนยังไม่รู้เลย ทั้งๆที่เป็นกรุงเทพแท้ๆ แถมยังมีแต่ภาษาไทยเต็มไปหมดแต่ผมก็รู้สึกกลัว แต่ความกลัวไม่ได้ช่วยให้ผมกลับถึงบ้านได้มากเท่ากับการเดินตามคนส่วนใหญ่ไปข้างหน้า อย่างน้อยต้องเจอป้ายรถเมล์หรืออะไรที่ผมรู้จักบ้างละนะ
ผมเดินปะปนมากับฝูงคนเรื่อยๆแทนที่จะมองไปข้างหน้าผมกลับมัวแต่ครุ่นคิดอะไรบางอย่างเลยได้แต่เดินมองเท้าตัวเอง จนไปปะทะกับกำแพง
กำแพงของเนื้อคน!!
ผมดีดตัวออกมา ระล่ำระลั่กที่จะเอ่ยปากขอโทษคนๆนั้นก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมามองผู้เสียหายด้วยซ้ำ
กำแพงหนาตรงหน้าทำให้ผมแทบลืมหายใจ!!
พลกำลังทั้งหมดที่มีถูกรวบรวมเพื่อให้ชนะกับอาการช็อคไปชั่วขณะ
“หรรษา”
ผมเอ่ยชื่อคนตรงหน้าขึ้นมาราวกับมันฝังแน่นอยู่ในห้วงของจิตสำนึก ผมเผลอยกปากยิ้มจนอาการไอกลับมา เหมือนหรรษาจะยกมือขึ้นมาช่วยลูบหลังผม แต่พอผมเหลือบตามองเท่านั้น มันก็ลดมือลงมาไว้ข้างตัวเหมือนเดิม
ครั้งแรกที่เจอหลังจากที่เหมือนเราเลิกลาจากกันทำให้ผมยิ้มให้มันแทนการหลั่งน้ำตาได้ยังไงก็ไม่รู้
“บังเอิญเนอะ”
ผมพูดขึ้นมาทำลายความเงียบ มันยังคงยืนอยู่ขวางอยู่อย่างนั้นไม่ยอมหลบ ผมอยากวิ่งไปร้องไห้ การได้เจอหน้าทำให้ผมรู้สึกว่าอยากกระโดดกอดมันขึ้นมาจับใจ ขอบตาผมร้อนผ่าว ครั่นเนื้อครั่นตัวขึ้นมาอย่างประหลาด
แต่ผมกลับจำคำพูดของตัวเองได้ราวกับมันถูกรีเพลย์เพื่อฉายซ้ำ
‘บางทีถ้าเป็นแฟนกันแล้วมันไม่ใช่ เรายังเป็นเพื่อนที่ดีกันได้นี่ใช่ปะ’
ผมเลยต้องยืนเผชิญหน้ากับมันอย่างคนที่ไม่เป็นอะไร ยิ้มให้อย่างเพื่อนที่ไม่เจอกันนานด้วยความพยายามอย่างสุดชีวิต
“อือ บังเอิญ”
มันตอบผมแค่นั้น แล้วเราต่างเงียบใส่กันจนมีคนเดินผ่านมา
เราเลยต้องหลบเข้าข้างทางให้พ้นจากทางเดิน
“ผ่านมาแถวนี้เหรอหรรษา”
“อืมผ่านมา แล้วมึงล่ะจะไปไหนเหรอ”
“กูก็ผ่านมาเหมือนกัน กำลังจะกลับบ้าน”
“กลับยังไงล่ะ”
มันถามซะผมสะอึก จะตอบออกไปได้ยังไงล่ะว่ายังไม่รู้ แต่ผมก็กล้าโกหกมันหน้าด้านๆ ห่างกันไปตั้งนานมันไม่รู้หรอกว่าผมยังโง่ไม่ต่างอะไรไปจากเดิม
“กลับรถเมล์ดิ”
“เหรอ มึงจะกลับสายไหนล่ะ”
คราวนี้ผมเผลอมองหน้ามัน หรรษาสีหน้านิ่ง หน้ามันคล้ำลงกว่าเดิมมากเหมือนคนที่ตากแดดทั้งวันแล้วมันก็ผอม หัวจรดเท้าดูโทรมแต่ยังมีเค้าความหล่อและมีเสน่ห์ติดตัวอยู่อย่างเดิม
กำลังจะมั่วๆสายตอบมันผมดันไอขึ้นมาซะก่อน คราวนี้ไอจนต้องงอตัวลงนั่ง ไอจนตัวโยนและเหนื่อย พอรู้สึกว่าดีขึ้นและผมกำลังจะลุกขึ้นยืนก็หันหน้ามาปะทะกับหน้าแข้งของมันซะก่อน
ตอนที่ผมนั่งลงแล้วไออยู่ตั้งนานสองนานนั้น มันยังคงไม่ไปไหนสินะ
พอได้มองหรรษาอีกครั้ง เนื้อตัวมันดูมอมแมมเหมือนเพิ่งคลุกฝุ่นมา ผมยื่นผ้าเช็ดหน้าที่อยู่ในกระเป๋าหลังให้มัน
“เอาปิดปากมึงเหอะ เชื้อโรคทั้งนั้น”
ผมหดมือแล้วยัดผ้าเอาไว้อย่างเดิม ลุกขึ้นยืนเต็มตัวแล้วปัดฝุ่นออกจากตัว
บังเอิญเจอกันก็จริง แต่พอเจอหน้าแล้วความรู้สึกแม่งโคตรจะชัดเจนเลยว่าผมคิดถึงมัน คิดถึงมันมากจริงๆ อยากยืนมองมันอยู่อย่างนี้ เวลาที่เจอกันแค่นี้ไม่ทำให้หายคิดถึงเลยสักนิดเดียว
แต่มันคงเป็นไปไม่ได้
“กูกลับก่อนนะหรรษา กลับมืดมากๆแม่ด่าหูชาแน่”
ผมบอกลามันแล้วเดินออกมา
ผมถูกข้อมือหนารั้งไว้จากข้างหลังอีกแล้ว มันทำเหมือนเดิมอีกแล้ว นี่ผมต้องพยายามมากเลยนะกว่าจะบอกลามันจากตรงนี้ได้
“มึงจะกลับบ้านไหวรึเปล่าเหอะ”
“ไหวดิ ฝุ่นคงเยอะอะกูเลยไอ ไม่เป็นอะไรหรอก”
ผมยืนยันแต่หรรษาไม่คิดจะปล่อยมือผมเลย มันยังคงกุมแน่นอยู่อย่างนั้นไม่คลาย ผมเองก็ใจไม่แข็งพอที่จะสะบัดหนี
ฝ่ามือมันอุ่นมาก มากจนอยากเอาหน้าลงไปกลิ้งเลยด้วยซ้ำ
“แต่บ้านมึงอะ ต้องเดินกลับมาทางนี้ต่างหากเว้ย”
มันคว้ามือผมให้เดินตามมาอีกด้าน ผมเดินตามไปตามแรงดึงรั้งของมัน รู้สึกเลยว่าเดินง่ายขึ้นมาก แสดงว่าก่อนหน้านี้ผมไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองเพลียและอ่อนล้าแค่ไหน รู้แค่ว่าจะเดินแต่ละก้าวนี่ขาทั้งหนักและต้องใช้แรงมากเลยเดินช้าเหลือเกิน
“มึงนี่เหมือนเดิมเลยนะ”
มันพูดขึ้นมาตอนที่เรายืนอยู่ที่ป้ายรถเมล์แล้ว ป้ายนี้มีคนบางตาและเวลาก็ผ่านมานานจนมืดแล้ว แสงไฟถนนค่อนข้างสลัว หรรษาเลยไม่ปล่อยมือผมสักที แต่อย่างว่า หรรษาไม่ได้อายที่จะจับมือผู้ชายด้วยกันอยู่แล้ว เป็นผมเองที่เกรงใจและพยายามชักมือตัวเองกลับมา
คราวนี้หรรษายอมปล่อยมือแต่โดยดีแต่มันก็ไม่วายมองหน้าผม
“ถึงป้ายรถเมล์แล้ว กูคงไม่หลงไปในฝูงคนแล้วล่ะ บ้านมึงก็ต้องรอรถป้ายนี้เหมือนกันเหรอ”
“เปล่า”
“อ้าว”
ผมงง
“มึงเหมือนเดิมตรงไหนรู้มั้ยเมต”
“ไม่รู้สิ ตรงไหนเหรอ”
“ตรงที่มึงก็ยังไมรู้้เหมือนเดิมว่ารถเมล์ที่ผ่านบ้านมึงอะ ผ่านไปไม่รู้กี่คันแล้ว มึงไม่อยากกลับบ้านหรือไม่รู้กันแน่ว่าต้องกลับสายไหน”
ผมไม่ตอบอะไรมัน ได้แต่ก้มหน้ามองพื้นนถนนสีดำสนิทอยู่อย่างนั้น ผมก็ยังเป็นไอ้เมตที่โง่อย่างเดิมนั่นแหละ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาเลยสักอย่าง แม้กระทั่งความรู้สึกในใจก็ยังเหมือนเดิมจนน่ากลัว
หรรษาคว้ามือผมไว้อีกครั้ง คราวนี้มันรั้งข้อมือให้ผมก้าวขาตามขึ้นไปบนรถเมล์ปรับอากาศคันที่เพิ่งจอดตรงหน้า ผมก้าวขาตามมันขึ้นมา หรรษาดันให้ผมนั่งชิดหน้าต่างแล้วมันก็นั่งลงข้างๆผม
“แล้วมึงจะไปลงตรงไหนเหรอหรรษา”
“บ้านมึงไง”
“อะไรนะ”
ผมได้ยินชัด แต่ไม่เข้าใจแค่นั้นเอง มันจะไปทำไมบ้านผม ไปส่งเหรอ? ไปส่งผมทำไมกัน มันจะรู้มั้ยว่าแค่นี้ก็ตัดใจยากจะตายห่าอยู่แล้ว จะเพิ่มเวลาให้ผมทรมานจนดิ้นพล่านต่อหน้ามันเลยรึไงกัน มันใจร้ายได้ขนาดนั้นเลยเหรอ
“เดี๋ยวกูไปส่ง สภาพมึงไม่น่าจะไปถึงบ้านหรอก”
“อาฮะ ขอบใจนะ รบกวนมึงอีกแล้ว”
คราวนี้มันไม่พูดอะไรต่อ ผมเองก็ไม่รู้จะคุยอะไรกับมัน ได้แต่มองข้างทางแล้วก็กำมือทุบขาตัวเองเบาๆทำจังหวะแก้เก้อไปงั้น จนมันจับให้หยุดนั่นแหละ ผมถึงได้หันไปมองมันอีกครั้ง
“สั่นอยู่ได้ กูรำคาญ”
มันพูดแค่นั้นแต่ก็ยังกำมือผมเอาไว้ไม่ปล่อย
ตอนรอรถหน้าวิทยาลัยอากาศโคตรจะร้อน ตอนวิ่งหนีพวกตีกันก็ทั้งร้อนทั้งเหนื่อย แต่ตอนนี้แอร์ ขสมก.ของไทยกลับหนาวจับใจขึ้นมาซะงั้น
“ไม่สบายทำไมไม่ไปหาหมอวะ กลัวหายเหรอ”
นี่มันแสดงความห่วงใยหรือถามไปงั้นๆ หรือว่ามันตั้งใจจะกวนตีนผมกันแน่วะ
“ไม่ได้เป็นอะไร”
“ไม่ได้เป็นอะไรแล้วคนเหี้ยที่ไหนจะร้อนเหมือนอมไฟอยู่อย่างนี้วะ”
“หมายถึงกูเหรอ”
“เออ”
มันบ่นว่าร้อนแต่มันก็ยังกุมมือผมไว้ เวลามันขยับตัวทำอะไรก็คล้ายๆกับว่ามือมันนวดคลึงมือให้ผม จินตนาการของถั่วไร้สารอาหารอย่างผมก็คิดไปไกลได้เพียงแค่นี้ ได้เพียงแค่คิดเข้าข้างตัวเองใกล้ๆ
“กูหนาวจะตายร้อนอะไรของมึง”
ผมไม่ยอมแพ้
“หนาวก็หนาว”
มันปิดช่องทางหนีทีไล่ผมซะสนิทจนต้องหุบปากเลย
“เออ”
ผมพูดขึ้นมาแล้วก็เงียบไป มองมันอย่างสงสัย มันคงไม่ได้ตั้งใจจะพูดแค่นี้แน่
“มีอะไรอีกหรือเปล่า”
“มีอยู่อย่างนึงนะที่มึงเปลี่ยน”
อยู่ๆมันก็โพล่งขึ้นมา
“อะไรเหรอ”
“ใจมึงแข็งขึ้นเยอะเลยเมต”
“ก็ดีแล้วไง”
“เหรอวะ”
“แล้วไม่ดีเหรอ”
“สำหรับใครล่ะ”
“ทำไมต้องมีสำหรับใครด้วยล่ะ”
“ก็มันคงแสดงผลไม่เหมือนกันมั้ง กับคนอื่นก็อาจจะดี”
“อืม”
ผมไม่กล้าเลย ไม่กล้าที่จะถามว่ามีผลกับมันหรือเปล่า เหมือนผมแสดงความอาลัยอาวรณ์กับมันชัดเจนมากไป
“อีกนานมั้ยกว่าจะถึงบ้านกู”
“ก็นานอะ มึงข้ามมาคนละซีกเลย”
“เหรอ”
ผมมองไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมาย ที่นี่ประเทศไทยจริงๆเหรอวะ ทำไมอะไรก็แปลกหูแปลกตาไปหมด แล้วผมจะไปไหนได้ แค่กรุงเทพยังรู้จักไม่ทั่วเลย
“ง่วงก็หลับได้นะ เดี๋ยวถึงกูปลุกเอง”
“จริงๆมึงส่งกูแค่พอถึงที่ที่กูรู้จักก็ได้นะหรรษา กว่าจะถึงบ้านกูคงดึกมาก ไหนมึงจะกลับบ้านมึงอีกอะ เช้าพอดี”
ผมรู้เลยว่าผมคุยกับมันเสียงล้าเต็มทีแล้ว ผมใกล้จะล่องลอยอยู่รอมร่อ
“ก็ไม่เป็นไรเลยนี่ เดี๋ยวนี้กูไปบ้านมึงไม่ได้แล้วเหรอ”
สติผมกลับเข้าร่างนิดๆเมื่อมันออกแรงกำมือผมแน่นขึ้น
“อือ”
อยากพูดอะไรมากกว่านี้ แต่สติผมรางเลือนเต็มทีแล้ว
“มึงนอนเหอะ ฟังเพลงปะ โทรศัพท์กูมีเพลง”
“ก็ดีนะ มึงมีเพลงกล่อมเด็กด้วยเหรอวะ”
“เออ มี”
หรรษามีความสามารถมากจริงๆ มันสามารถค้นหาหูฟังในเป้ของมันด้วยมือข้างเดียวได้ เพราะมือข้างที่เกาะเกี่ยวผมเอาไว้ยังคงแผ่ซ่านความอบอุ่นมาให้ผมอย่างต่อเนื่องอยู่อย่างนั้น

ภาพยังติดตาวันคืนที่ฟ้านั้นพาเธอมาใกล้
เปลี่ยนเวลาเดือนปีให้มีความหมาย
อยากใช้ไปจนหมดลมหายใจ
จนวันที่ฉันพลาดไปอภัยได้หรือไม่
กับสิ่งที่ฉันนั้นนั้นทำให้เธอหายไป

เธออยู่ไหน อยู่แห่งไหน
อยากตะโกนข้างในจากใจออกไปให้เธอรับรู้

มากเกินคำว่าเหงา
ปวดร้าวเกินคำว่าเสียใจ
ปล่อยให้น้ำตารินไหล
จากใจที่มันเดียวดายสับสน
โลกมีคนกี่คน ไม่เคยสนมันเวียนวนหาเธอ
ทุกคืนนอนละเมอ หยดน้ำตาล้นเอ่อ
อยากเจอไม่รู้เธออยู่ที่ใด

บางครั้งฉันยังคิด
ยังติดกับฝันที่มันคอยลวงหลอก
บอกว่าเธอกำลังเดินเคียงข้างกาย
มือซ้ายเรายังเกาะเกี่ยวแขนกัน
และฉันต้องยอมรับความจริง มันไม่จริงเลยสักวัน
ยังติดกับฝันให้ฉันทำอย่างไร

เธออยู่ไหน อยู่แห่งไหน
อยากตะโกนข้างในจากใจออกไปให้เธอรับรู้

มากเกินคำว่าเหงา
ปวดร้าวเกินคำว่าเสียใจ
ปล่อยให้น้ำตารินไหล
จากใจที่มันเดียวดายสับสน
โลกมีคนกี่คน ไม่เคยสนมันเวียนวนหาเธอ
ทุกคืนนอนละเมอ หยดน้ำตาล้นเอ่อ
อยากเจอไม่รู้เธอ

ฉันไม่รู้ว่าเธอจะเป็นอย่างไร
ฉันไม่รู้ว่าเธออยู่ที่ไหน
แต่สิ่งที่ฉันรู้ว่าทุกๆ วันที่ฉันมี
คือใจที่มีให้เธอ ให้เธออยู่ตรงนี้
ถ้าย้อนเวลาหมุนมาได้ดั่งใจ
จะขอสักครั้งได้ไหมให้เรากลับมาเริ่มใหม่


เพลงนี้....เพลงนี้ที่หรรษาเปิดให้ฟัง

แม้สมองของผมจะขาวโพลนและพร่าเลือน แต่ผมก็ฟังมันจนจบเพลง มันแทบจะเป็นเพลงที่บอกความรู้สึกทั้งหมดของผมตอนนี้ด้วยซ้ำ เพียงแค่ผมไม่เคยคิดจะกล้าพูดมันออกมาเพราะผมที่พลาดไปเอง ผมทำให้เราต้องห่างกันเอง
พยายามต่อสู้กับหัวที่กำลังหนักอึ้งและตาที่ดูเหมือนจะปิดสนิทของตัวเองอีกครั้ง พยายามจะเอาหูฟังข้างหนึ่งยื่นให้หรรษา
ผมพยายามอยู่สักพัก หรรษาถึงรับรู้ในความพยายามของผม
“ไม่อยากฟังรึว่าเสียงดังเกินไปเหรอ”
ผมส่ายหน้า
“แล้วยื่นกลับมาทำไมอะ”
“ฟังด้วยกันดิ นะ เพลงนี้แหละ ฟังด้วยกัน”
ภาพสุดท้ายก่อนสติผมจะดับวูบไปจนกว่าจะถึงบ้าน ผมเห็นว่าหรรษาอมยิ้มและมันก็รับหูฟังอีกข้างที่ผมยื่นให้ยัดเข้าไปในหูของตัวเองแล้วเปิดแต่เพลงนี้อยู่ซ้ำๆ เหมือนทั้งอัลบั้มที่หรรษาเซฟไว้มีแค่เพลงนี้แค่เพลงเดียว


http://www.youtube-nocookie.com/v/4Hi8-7Dv1M4?version=3&amp &autoplay=1

โปรดติดตามตอนต่อไป

สวัสดีวันแห่งความรักค่ะทุกคน คนเขียนอยากรู้ว่ามีใครบ้างที่อ่านตอนนี้แล้วร้องไห้ เพราะตอนที่แต่งตอนนี้คนเขียนร้องไห้กับมันด้วยล่ะค่ะ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านและมีความสุขกับวาเลนไทน์ในทุกรูปแบบของความรักนะคะ//TRomance

ออฟไลน์ Ta_ii

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
^
^
^
^
^
จิ้มคุณตูน  :z13:

อ่านตอนนี้แล้วหน่วงมากเลย จิร้องงง :sad4:
แต่ยังรู้สึกอยู่ว่าทั้งหรรษาและเมตตายังมีใจให้กันอยู่นะ

ขอให้ผ่านอุปสรรคนี้ไปให้ได้ สู้ๆ

ขอบคุณคนเขียนที่มาอัพให้นะก๊าบบ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-02-2014 23:47:59 โดย Ta_ii »

ออฟไลน์ เจ้าหญิงขี้ลืม

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-4
 :sad11: ไมมันเศร้าจังเลยอ่ะ เค้าคนนึงแหละที่ร้องไห้ตาม หรรษากับเมตจะต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้จริงเหรอ

ออฟไลน์ Gaem

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 127
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-4
พวกหนูหลอกตัวเองกันอยู่ทั้งคู่นะลูก ดีๆกันไปเห๊อะะ

ออฟไลน์ minminmin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8891
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
ทำไมมันเศร้าจัง
นี่มัน 14 กุมภานะคะ
วันแห่งความรัก ไหง๋เป็นงี้

ออฟไลน์ ppoi

  • When nothing goes right... GO LEFT.
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 720
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-12
เอิ่ม... วันวาเลนไทน์มันต้องมุ้งมิ้งน่ารักหวานแหววไม่ใช่เร้ออออ  o22
ขนาดเรื่องแนวโฉดทั้งโหดทั้งเถื่อนเค้ายังมาใสๆ ล่อใจให้คนอ่านตามอ่านเรื่องหลักด้วยความหวังว่ามาม่ามันจิหมดไปในเร็ววันเง้เรยยยยย

แล้วนี่อัลร้ายยยยยยยยยยย เอามาม่าให้หัวถั่วมันกินทำม้ายยยยยยยย แค่นี้มันก็ถั่วแย่อยู่ล่ะ  :z3: :z3: :z3:

งืออออออออ สงสารหัวถั่วมากมาย  :serius2:

อ่านมาม่าเรื่องอื่น โหด โฉด เถื่อน อ่านได้นะ

แต่ทนให้หัวถั่วมันเสียใจไม่ไหวหรอก  :o12:  :o12: :o12: #สงสารหัวถั่วจนเสียสติ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-02-2014 09:48:07 โดย ppoi »

ออฟไลน์ mur@s@ki

  • อยากรัก..แต่ใจไม่กล้า
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1899
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-5
เพลงนี้มันอะไรกัน ใครช่างสรรสร้าง
เหมาะสมประหนึ่งเกิดมาเพื่อตอนนี้

 :hao5:

ออฟไลน์ pannixz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 373
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
 :o12:
เจ็บปวด หน่วงๆในใจ
เมตก็ยังคงเป็นเมตอยู่เหมือนเดิม
หรรษาก็ยังเหมือนเดิม
ทำไมมันมาลงล๊อกอย่างนี้ได้นะ
มาต่อไวๆเถอะค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ full69

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 647
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-2

ออฟไลน์ BaZkon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 319
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
แง ร้องจริงๆด้วย  :hao5:
เราว่า ห่างกันออกมาแบบนี้ อาจจะทำให้รู้ใจตัวเองมากขึ้น เข้าใจอีกฝ่ายมากขึ้น และอาจจะทำให้อะไรๆมันชัดเจนและมั่นคงขึ้นก็ได้นะคะ ถ้าเข้าใจกันและกลับมาคบกันอีก อาจจะรักกันมากกว่าเดิมก็เป็นได้

เราเข้าใจเมตนะ คนบางคนเค้าก็ต้องการทั้งการกระทำและคำพูดที่ชัดเจนและมั่นคงนะคะ แถมมันยังไม่ได้เริ่มมาจากความรักแต่แรกด้วยแล้ว เจอคนแบบหรรษาเข้าไปอีก มันก็คงอดไม่ได้ที่จะนึกน้อยใจ แถมหรรษายังตอบรับมาง่ายๆอีก ยิ่งคิดไปไกล อารมณ์นั้นมันไม่นึกถึงอีกฝ่ายว่าจะน้อยใจคำพูดเรามั้ยหรอกค่ะ อารมณ์ล้วนๆ

ถึงคนเขียน
อย่าให้สองคนนี้เลิกกันนานนักสิ สงสารอ่ะ  :sad4: เอาแค่ตอนนี้พอนะคะ แล้วแอนจะกลับมาร้ายอีกมั้ยอ่ะ

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
 :เฮ้อ: ทำตัวเองแท้ๆเลยเมต ไม่แปลกใจเลยที่เมตจะต้องร้องไห้เพราะความงี่เง่าของตัวเอง แอบสงสารหรรษา ถ้ายังไงก็กลับมารักกันเหมือนเดิมเร็วๆ นะ  :กอด1:

atblueann

  • บุคคลทั่วไป
วันแห่งความรักทำไมมันเศร้างี้อ่ะ สงสารหัวถั่วจับใจเลย ร้องให้ตามหัวถั่ว เศร้าจับใจเลย
อยากอ่านต่ออ่ะ สงสารถั่วมากจริงๆ

ออฟไลน์ urmein

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 871
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-2
น้ำตาไหลรับวันแห่งความรักเลยยยย ㅠ_ㅠ
หวังว่าหรรษาจะเข้าใจน้องเมตนะ

รอรอยยิ้มในตอนหน้านะคะ

ออฟไลน์ jimmyFG

  • Ich Liebe dich.
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-4
    • @Facebook
ไม่ได้ร้องไห้หรอก แต่อยากให้กลับมาหวานกันเหมือนเดิม

ออฟไลน์ ninghyuk

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
ร้องไห้พรากเลยค่ะ T_____T
หัวถั่วยังไงก็เหมือนเดิมเลย หรรษาเข้าใจมันเถอะนะ
ถ้ารักกันก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมเถอะ

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
ไม่ถึงกับร้อง แต่ซึ้งมากค่ะ เพราะทั้งเมตตาและหรรษา จริงไ แล้วทั้งคู่กก็รักกันมาก แต่แค่ทิถิทำให้ต้องห่างกัน แต่ก็เป็นหรรษาอีกนั่นแหละที่มาง้อก่อน ทำให้รู้สึกว่า อยากเจอคนแบบนี้ในชีวิตจริงบ้างอ่ะ

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1808
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ skipkiss

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
ทำไม ทำไม ทำไม ง่ายไปอ่า ไม่ยอม  :m15: :m15:

ออฟไลน์ Moose

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
เมตก็ยังคงเป็นเมต หรรษาก็ยังคงเป็นหรรษา

ออฟไลน์ P.PAN

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
อะร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
จู่ๆจะเลิกก็เลิกมมันง่ายไปปะค้าาาา
โอ้ยยยยคนนึงก็หัวถั่ว คนนึงก็พูดน้อยไปกลัวถั่ว(?)จะร่วงจากปากเหรอค๊าาา
อ่านตตอนนี้ละอยากจะฟาดเมตแรงๆซักที 5555

ออฟไลน์ BaII

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-1

ออฟไลน์ cowinsend

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 463
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
ตั้งแต่อ่านมาเราก็คิดนะว่าหรรษาค่อนข้างสมบูรณ์แบบในแง่หนึ่ง ความมีเหตุผลและอะไรหลายๆอย่าง แต่พออ่านตอนนี้เราก็รู้สึกว่าหรรษาแอบใจร้ายนะ รู้สึกตั้งแต่เพอชี่และ แบบว่าบางสถานการณ์ก็ทำให้คนเราพูดหรือทำอะไรๆได้ สิ่งที่หรรษาทำไร้ใจไปนิด เหมือนบังคับทางอ้อมให้เลิก นี่เห็นแก่ว่าดูความรู้สึกที่หรรษามีให้เมตตามันมากจนทำให้ดูมีหัวใจขึ้นนะ โกรธไปแล้วววว

รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
อยู่ ๆ ก็ดราม่าเลิกกันได้ไงอ่ะงงมาก

ออฟไลน์ AMINOKOONG

  • mgAmuptUF
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 863
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-12
    • meet sexy women near you
ทำไมมีแต่คนบอกว่าตอนนี้มันเศร้า
แต่ทำไมเราว่ามันซึงกินใจดีอ่ะ
และเราว่ามันเหมือนเป็นการเริ่มต้นใหม่
ของทั้งสองคนในทางที่ดีขึ้นด้วย
อีกอย่างเราว่าหรรษาก็ควรปรับปรุ่งตัวเอง
ด้านการแสดงออก เอาใจใส่คนรักบ้างก็ดีนะ

ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26

"งง"


คำเดียวเลย
ตอนที่แล้วยังดีๆอยู่เลย  แล้วมาตอนนี้ อยู่ดีๆก็เลิกกัน
ปรับอารมณ์ไม่ถูก  ตามเนื้อเรื่องไม่ทันเลยทีเดียว
โคตรงงค่ะ
 o2

ออฟไลน์ ▲TEACHCHY▼

  • ★ U can call me TEACH ★
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 166
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ตอนแรกอ่านแล้วอึดอัดมาก ตอนที่แล้วยังดีดีกันอยู่ตอนนี้ทำไมถึงเป็นเยี่ยงนี้ไปได้ล่ะคะ :katai1:
แต่หลังๆก็เหมือนจะยิ้มได้นะ แต่ก็แบบยิ้มไม่เต็มปาก มันตึงๆที่มุมปากเรียบๆที่แก้ม กระบอกตาก็รู้สึกบวมๆ(อาการอัลไล)
แต่รู้สึกชอบอารมณ์นี้จัง อ่านแล้วหน่วงแปลกๆ :hao5:

สุขสันต์วันแห่งความรักค่ะ อิอิ

ออฟไลน์ wiwari

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 420
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-1

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด