หากท้องฟ้าไม่ได้เป็นสีเดิม
_______________________________________________________________________________________________
INTRO
#ทำไม
“พี่ฟ้าครับ”
“หือ?”
“ทำไมพี่ฟ้าไม่กินผักชี”
เด็กฝรั่งหัวทองถามชายหนุ่มอีกคนที่กำลังนั่งตั้งใจโซ้ยข้าวมันไก่ที่ซื้อมาในตอนเช้าของวันที่เร่งรีบ พี่ฟ้าที่อายุห่างจากมันห้าถึงหกปีต้องรีบไปทำงานที่สตูดิโอพอๆกับมันที่ต้องรีบไปโรงเรียนแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจกับการกินข้าวเช้าเท่าที่ควร
“มันไม่อร่อย”
อีกคนตอบพลางหยิบมือถือขึ้นมาสไลด์หน้าจอเป็นปกติ นัยน์ตาสีฟ้าสว่างของ 'พี่ฟ้า' มองหน้าจอที่เลื่อนขึ้นลงทั้งๆที่ป้อนข้าวคำใหญ่เข้าปากตัวเอง ทุกอากัปกิริยานั้นอยู่ในสายตาของเด็กฝรั่งตลอดเวลา หรืออาจจะเรียกอีกอย่างได้ว่าจ้องอย่าให้คลาดสายตา!
“ทำไมพี่ฟ้าถึงให้เขาใส่มันมาด้วยล่ะ”
คนโดนถามละสายตาออกหน้าหน้าจอโทรศัพท์มือถือ เปลี่ยนเป็นจ้องหน้ามันด้วยตาสีฟ้านั่นก่อนจะตอบทำถามของเจ้าหนูจำไมที่ตอนนี้ตัวโตเป็นตึกแล้ว
“ก็ใส่ให้เห็นว่าใส่ไง”
คนเด็กกว่ามุ่ยหน้าที่ไร้ซึ่งความน่ารักในวัยแตกหนุ่มแล้วบ่นอุบพลางยักไหล่
“พี่ฟ้าขาดมันไม่ได้แต่พี่ฟ้าก็ไม่ได้กินมัน”
ฟ้าเคี้ยวข้าวคำใหญ่แล้วพยักหน้าหงึกหงักเพราะเบื่อที่จะต้องตอบคำถาม เด็กฝรั่งหัวทองที่จะมีอายุเต็มสิบแปดปีในวันนี้ตัดพ้อด้วยคำที่ฟังอย่างไรก็ไม่น่าจะเข้ากับ ‘ผักชี’ เสียเท่าไหร่
“ทำไมโหดร้ายจังนะ”
เอเดนจ้องตาสีฟ้าอีกคนที่มันเกลียดนักหนาแล้วถามใหม่อีกรอบ
“แล้วทำไมไม่ตัดขาดมันไปล่ะ”
“ตัดขาด?”
ฟ้าขมวดคิ้วแล้วถามซ้ำ ทุกวันเด็กฝรั่งจะต้องถามคำถาม
‘ทำไม’ อยู่บ่อยครั้ง ยิ่งพอเริ่มแตกฉานภาษาไทยคำถามก็เริ่มพิลึกขึ้นทุกวัน ยิ่งรวมกับหน้าตาคมอย่างชาวตะวันตกร้อยเปอร์เซ็นต์คำถามแต่ละคำถามยิ่งฟังดูตลกกันเข้าไปใหญ่
“ใช่ๆ ทำไมพี่ฟ้าไม่บอกตัดขาดมันไปเลย”
ฟ้าหัวเราะกับคำศัพท์บ้าบอของเด็กบ้าตรงหน้าก่อนจะถามกลับ
“หรือนายหมายถึง...เขี่ยทิ้ง?”
เอเดนที่กระตือรือร้นถามมาตั้งแต่ต้นสลดลงทันทีที่ได้ยินคำศัพท์ใหม่ จนฟ้าต้องถามคำถาม
‘ทำไม’ บ้าง
“แล้วทำไมนายไม่กินข้าวสักที”
“แล้วทำไมพี่ฟ้าต้องโหดร้ายถึงขนาดต้องเขี่ยมันทิ้งล่ะ!!!”
ฟ้ากรอกตาแล้วถอนหายใจเฮือกกับการเถียงคำไม่ตกฟากทั้งไม่ยอมกินข้าวของคนเด็กกว่า งานก็เยอะ ตื่นมายังจะต้องมาเจอเด็กคำถามเยอะแบบนี้อีก จนถึงตอนนี้แล้วฟ้ายังไม่เข้าใจเลยว่าตัวมันเองโหดร้ายกับผักชีตรงไหน…เพลียจริงๆ...
“แล้วพี่ควรทำยังไงดี”
เพื่อให้จบบทสนทนาที่เริ่มไร้สาระ ฟ้าจึงเสนอทางเลือกให้คุณนักร้องที่หน้าตาเหมือนจะหล่อ แต่จริงๆแล้วนิสัยเด็กแบบกู่ไม่กลับ
“กินมันสิ...นะครับ...นะ”
ฟ้าจ้องกลับไปที่อีกคนที่มีนัยน์ตาสีฟ้าใสเช่นเดียวกันกับตน ก่อนจะจิ้มใบผักชีข้างจานเข้าปาก ก็แค่ไม่อยากกิน ...แต่ก็ไม่ใช่กินไม่ได้...
ฟ้ามองหน้าไอ้เด็กจอมเรื่องมากเป็นทำนองว่า ‘กูกินแล้วนะ’ แล้วชี้ไปอีกจานที่เม็ดข้าวยังไม่พร่องไปสักนิด
“yes!”
ไอ้เด็กตรงข้ามยิ้มตาหยีแล้วยอมก้มหน้าก้มตากินข้าวพลางอมยิ้มไปด้วย แต่ก็มิวายเงยหน้ามาถามอีกครั้ง
“แล้วทำไมพี่ฟ้าไม่กินผมซะที”
คนถูกถามเลิกคิ้ว แต่ก็ไม่ได้แปลกใจกับคำถามสองแง่สองง่ามที่ได้ฟังทุกวันสักเท่าไหร่ เลยไม่ได้ใส่ใจที่จะละสายตาจากจอโทรทัศน์ที่กำลังฉายข่าวกีฬายามเช้ากลับไปมองคนถาม
“หรือพี่ฟ้าจะเขี่ยผมทิ้ง”
เด็กฝรั่งถามอีกรอบแล้วทำหน้าตาน่าสงสาร ...มารยาเสียไม่มี... แต่จะมีประโยชน์อะไรเมื่ออีกคนเขาไม่ได้มอง ได้แต่โบกไม้โบกมือแล้วดูข่าวต่อ
“รีบกินข้าวเถอะ”
เอเดนแอบส่งเสียง ‘จิ๊’ ในลำคออย่างช่วยไม่ได้ เพราะเซ็งที่พี่ฟ้าลืมสัญญา ...สัญญาว่าเมื่อไหร่ที่มันโตเป็นผู้ใหญ่พี่ฟ้าจะยอมตอบรับความรู้สึกของมันเสียที…
เอเดนหัวทองจำไม่ได้ว่ารักพี่ฟ้าตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่จำได้ว่าพอมันรวบรวมความกล้าสารภาพรักเมื่อหลายปีก่อน พี่ฟ้าก็แค่หัวเราะเสียงนุ่มทำหน้าตาหล่อๆแล้วบอกว่า ...รอโตก่อนแล้วกันเนอะ ... ถ้าฟ้าจะคิดสักนิดทฤษฎีผักชีตอนต้นก็คงไม่ต่างจากชีวิตเด็กฝรั่งหัวทองที่นั่งหน้ามุ่ยอยู่นัก เข้าทำนองว่าวางไว้ให้เห็นเฉยๆก็พอ …แต่ก็ไม่ได้อยากจะกิน… นั่นหนะเจ็บปวดชะมัด!!!
“ทำไมพี่ฟ้าไม่ตัดขาดผมไปเลยล่ะ”
คราวนี้มันถามด้วยเสียงที่เบากว่าเดิมเยอะ อีกคนที่ตายังมองหน้าจอสี่เหลี่ยมอยู่พ่นลมออกจากจมูกพร้อมยิ้มขำก่อนจะตอบด้วยท่าทีที่ไม่ได้ตกใจกับคำถามน้อยใจนัก
“ก็นายเป็นน้องพี่ไง ตัดทิ้งได้ที่ไหนล่ะ”
เด็กฝรั่งนั่งมองเสี้ยวหน้าของ
‘พี่ชาย’ ที่จริงต้องเรียกว่า
‘ลูกพี่ลูกน้อง’ ถึงจะถูก ด้วยความรู้สึกไม่สบอารมณ์ เพราะมันเองไม่ได้ชอบการเป็นน้องชายของคนตรงหน้าหรอก ถ้าเลือกได้ขอไม่เป็นญาติกันเลยดีกว่าเลยดีกว่า อยากจะเป็นอย่างอื่นมากกว่า!!!
“ทำไมพี่ฟ้า....”
“จะสายแล้วเอเดน รีบกินข้าวซะ”
ยังพูดไม่ทันจะจบคนเป็นพี่ก็ส่งเสียงปรามมาก่อน ไอ้เด็กตัวโตเบ้หน้าแล้วเปลี่ยนสิ่งที่จะพูดแทน
“Fah, I love you”
ผลลัพท์ของการสารภาพรักอันเป็นกิจวัตรประจำวันคือเป้าหมายยังนิ่งและจดจ่อกับข่าวฟุตบอลลาลีก้าเช่นเดิม มันเลยเอาส้อมจิ้มเนื้อไก่เข้าปากแล้วเคี้ยวอย่างสุดเซ็ง แต่ก็ไม่ได้หมดกำลังใจในการบอกรักที่ทำอยู่เป็นนิจ
“Fah, Tiamo”
แม้เด็กฝรั่งจะเปลี่ยนภาษาแล้วคนตรงหน้าก็ไม่มีวี่แววที่จะสนใจเพียงนิด ...น่าสงสารจริงๆ...
“Fah , koi wo suru”
คราวนี้ได้ผล!!! พี่ฟ้าหันกลับมามองหน้าระรื่นของเอเดนหัวทองแล้วคุยด้วยโดยไม่ได้เปลี่ยนเรื่องในรอบหลายเดือนทีเดียว
“นั่นภาษาอะไร?”
ดะ....เดี๋ยวนะ!!! เอเดนว่าพี่ฟ้าคงจะไม่เข้าใจไอ้ที่มันอยากจะสื่อสักเท่าไหร่ ฝรั่งตัวบักควายยิ้มได้ไม่เต็มปากก่อนจะกัดฟันตอบพร้อมค้อนประหลับประเหลือก
“ก็ภาษาญี่ปุ่นไง”
“เห็นวันก่อนไม่ใช่คำนี้”
มันอาจจะดีใจที่พี่ฟ้าจำได้ จนต้องรีบตอบด้วยท่าทางดีอกดีใจ อย่างกับหมาแลบลิ้นแล้ววิ่งวนรอบขาเจ้าของด้วยสายตาพราวระยับ
“วันก่อนแบบชอบมาก นี่แบบให้หัวใจไปเลยไง”
มันตอบอย่างกระตือรือร้น ถ้ากระโดดกอดได้ทำไปแล้วนะนั่น
“อ่อ....”
คนพี่ตอบรับราวกับช่วงบอกรักประจำวันเป็นช่วงฝึกภาษาประจำวัน ก่อนจะหันหน้าไปดูข่าวต่อ ฝรั่งที่พึ่งจะได้ใจไปกลับมาสลดอีกรอบเมื่อพี่ฟ้าที่รักก็แค่สงสัยเท่านั้น...น่าน้อยใจสุดๆ... ว่าแล้วก็จัดไปอีกสักรอบ
“Fah,Saranghae”
“อยู่เมืองไทยก็ต้องพูดภาษาไทย”
ฝรั่งขมวดคิ้วแน่น เป็นอีกรอบที่เอเดนมันรู้สึกว่าพี่ฟ้าไม่เคยจะตอบตรงคำถาม มันจิ้มผักชีในจานตัวเองเข้าปากบ้างแล้วว่าใหม่ คราวนี้ภาษาไทยล้วนๆ
“เอเดนรักฟ้า...”
ให้ตายเถอะ พูดเองก็เขินหน้าแดงเอง แต่พี่ฟ้าก็ไม่เคยพอใจเสียที
“พี่เป็นพี่นาย จะมาเรียกชื่อเฉยๆได้ไง”
เอาเข้าไป...คนละเรื่องตลอด มันเบ้หน้าอีกครั้ง ระดับเอเดนที่ยอมให้พี่ฟ้าทุกอย่างว่าอะไรมันว่าตามหมดแหละ
“เอาใหม่ก็ได้...ผมรักพี่ฟ้านะ”
เด็กฝรั่งจัดประโยคตามคำขอให้อย่างไร้ที่ติ พร้อมกับเอื้อมมือหนาไปแตะมืออีกคนที่วางอยู่ด้วยเบาๆพลางทำหน้าตากะลิ้มกะเหลี่ยอย่างปิดไม่มิด
“เอเดน...พี่บอกให้รีบกินข้าว”
คนที่ถูกบอกรักเป็นรอบที่ห้าของวัน หรือรอบที่พันของปีชักมือออก ทั้งหงุดหงิดเล็กๆอย่างเริ่มรำคาญ เอเดนยิ้มแหยเมื่อเห็นว่าดีไม่ดีรีโมทในมือของฟี่ฟ้าอาจจะลอยใส่กบาลตัวเองก็เป็นได้ แต่มันก็ยังมิวายหยอดต่อ แค่ขอให้ได้หยอดชีวิตฝรั่งก็มีความสุขแล้ว...
“ผมรักพี่ฟ้าไง...”
“กูบอกให้กินข้าว!!!”
โอเค....พอแล้ว.....แพ้ก็ได้ มันยกมือขึ้นขอสงบศึกเพราะถ้าเมื่อใดที่พี่ฟ้าที่รักของมันเริ่มขึ้นคำหยาบนั่นแสดงว่าชีวิตฝรั่งตัวใหญ่บิ๊กเริ่มจะไม่ปลอดภัยแล้ว มันบ่นอุบอิบเป็นภาษาที่หกหรือเจ็ดที่ฟ้าไม่เข้าใจ แล้วเริ่มกินข้าวแบบตั้งใจเสียที ฟ้านั่งมองคิ้วหนาที่ชนกันเป็นเขื่อนแล้วยิ้มขำ พึ่งเข้าใจคำว่าโตแต่ตัวจริงๆเพราะไอ้เด็กตรงหน้าแท้ๆเชียว
“วันนี้วันเกิดผม”
น้องหมา ...ที่จริงต้องเรียกว่าน้องชายที่รู้ว่ามีคนจ้องอยู่พูดแล้วส่งสายตาน่าสงสารมาให้ มิน่าล่ะ...วันนี้ฟ้าถึงรู้สึกว่ามันพิรี้พิไรอ้อนน่ารำคาญมากกว่าปกติ
“ตอนเย็นจะกินอะไรล่ะ... พี่เลี้ยงเอง”
“อะไรก็ได้เหรอ”
หงอยได้ไม่เท่าไหร่ก็กลับมาระริกระรี้เหมือนเดิม อย่างกับลืมไปแล้วว่าเคยงอลเรื่องอะไรมาก่อน ถือว่าเป็นข้อดีของเอเดนเลยทีเดียว ถ้ามันมีหางฟ้าว่าคงสะบัดจนพื้นสะอาดแล้วนะนั่น
“อืม”
คนเป็นพี่ตอบรับ ฝรั่งยิ้มกว้างแล้วแอบเนียนจับมือเขา
“กินพี่ฟ้า”
ฟ้าขมวดคิ้วแน่นกับคำพูดสองแง่สองง่ามที่ปกติพอรับได้ แต่ถ้ามาพร้อมการแตะนู่นนี่เป็นอีกเรื่อง ฟ้าถามกลับด้วยน้ำเสียงปกติแต่มวลความเหี้ยมมีมากยิ่งกว่าตอนบัวขาวเตะก้านคอน็อคคู่ต่อสู้เสียอีก
“พูดอะไรนะ.....”
เอเดนผู้ทนความกดดันไม่ค่อยได้รีบชักมือกลับแต่ไม่ทันอีกคนที่คว้าข้อมือมันไว้แน่นเมื่อไม่ได้คำตอบ
“กูถามว่าพูดว่าอะไร!!!”
“ผะ...ผมหมายถึงกินอะไรก็ได้ที่พี่ฟ้าอยากกิน”
ฝรั่งหัวทองแอบใช้อีกมือปาดเหงื่อตรงไรผมสีอ่อน ก่อนจะรีบลุกขึ้นจากโต๊ะเก็บจานของตัวเองแล้วปรี่เข้าไปห้องน้ำเพื่อทำภารกิจส่วนตัวในยามเช้าให้เสร็จสรรพด้วยท่าทางเหมือนหมาหงอย หรืออาจจะเรียกอีกอย่างว่าท่าทางประจำก็ได้
แต่เชื่อเถอะอีกเดี๋ยวก็ลืม...
.
.
.
“ทำไมเราไม่กอดลากันก่อนออกจากบ้านนะ”
เห็นไหมล่ะ.... ขนาดก้มหน้าก้มตาผูกเชือกรองเท้าแล้วก็ยังปากดี ฟ้าแอบเตะขามันไปหน และก็ตามสเต็ป ฝรั่งตัวใหญ่ใจเด็กหันมาค้อนทำหน้าตาน้อยใจอย่างกับผู้หญิง
“รีบไปเรียน เดี๋ยวก็สายหรอก”
เมื่อไม่ได้กอดเด็กฝรั่งเลยจะส่งจูบไปให้แทน แต่จูบของมันไม่ใช่แปะมือแล้วส่งเหมือนของเล่นแบบนั้นแน่นอน มันต้องปากชนปาก!! มันอาศัยจังหวะที่เขามัวแต่ก้มหารองเท้าและเผลอ ยื่นหน้าเข้าไปใกล้
.
.
.
.
แต่แค่เฉียดแก้มเขาไป พี่ฟ้าก็หันมาถลึงตาใส่แล้วฟาดมือผลัวะลงบนกบาลทองๆของมันอย่างแรงจนกลัวว่าจะบุบลงไป
“ไอ้เด็กเหี้ยนี่!!! กูบอกให้รีบไปเรียน!!!”
“คะ...ครับ”
ฝรั่งเดินคอตกแล้วออกจากบ้านไปอย่างน่าสงสาร พร้อมกับคำถาม ‘ทำไม’ อีกครั้ง
ทำไมมันต้องแพ้พี่ฟ้าอยู่เรื่อยเลยวะ!!!
TBC<3
___________________________________________________________________
ทำไมต้องทำไม ทำไม ทำไม พอเถอะ

กราบสวัสดีมิตรรักแฟนเพลงทุกคนจ้า กลับมาแล้ว!!!!
หนีงานกลับมาด้วยนะเออ 555
คิดถึงคนอ่านมากกกกกกกกกก
หายไปจมกองปลายภาคเดือนเดียวเหมือนหายไปเป็นชาติ ="=
กราบขอประทานอภัยมาด้วยครับTT
พอกลับมาลงใหม่แล้วตื่นเต้นเหมือนลงตอนแรกใหม่เลย
(กลัวไม่มีคนอ่านTT)
สุดท้ายแล้ว ฝากเนื้อฝากตัวกับนิยายรอบใหม่ด้วยครับ
(มาเป็นรอบๆ ฮาาาาา)
กอดคนอ่านแน่นที่สุด
#ไหนว่าจะลงพายโจ้ก่อน

#เรื่องนั่นแม่มเครียดพอๆกับสอบเลยจ้ะ
