มนต์ลวงนาคราช By. Tea Café Team
ตอนที่ ๑๐ นางในนิมิต
เสียงกระดิ่งข้อเท้าดังเคล้าจังหวะแห่งเสียงพิณแลเสียงกลองที่ก้องทำนองเร่งเร้า..กลีบดอกปาริชาติเหลือเกินคณานับต่างร่วงหล่นลงทับพื้นที่กินบริเวณกว้างกลีบดอกนั้นแดงดั่งพรมผืนงามที่ปูซ้อนกันอย่างเลื่อมพลายคล้ายเป็นผ้าไหมเนื้อดี..หญิงงามที่คงเสียงหัวเราะและรอยยิ้มพร่างพราวเจ้าตนนั้นยังคงการร่ายรำที่ประดับไว้ด้วยรอยยิ้มละมุนของดรุณีแรกรุ่นอันงดงาม
สีผิวนางดั่งสีหม้อใหม่..
เส้นผมนางดำสลับวาวเหมือนดั่งสีเปลือกเจ้าแมลงทับยามต้องแสงตะวัน..
แลท่อนแขนน้อยๆที่โก่งรำนั้นก็อ่อนปาน..คันศรสีทองแห่งรามนารายณ์
.
.
.
“ภคินทร์เจ้าขา..”
เสียงนั้นคงชัดยามนางแย้มริมฝีปากเพรียกหา..แลหัวเราะเสียงใส..อ้อมแขนแกร่งแห่งราชานาคราชตนที่๒๓เปิดอ้าเมื่อนางรำอันคงรอยยิ้มงามนั้นก้าวเข้ามาใกล้..
ใกล้เพียงเอื้อมมือ..ใกล้เพียงท่อนแขนแห่งนาคราชจักสัมผัสผิวละมุนแห่งตัวนาง
ใกล้เพียงแค่นั้น..ก่อนรอยยิ้มพร่างพราวจักแปรเปลี่ยนเป็นเสียงกรีดร้องแห่งความทุกข์ทรมาน..ปลายด้ามหอกโลหะสีนิลกาฬอันหาที่มามิได้ปักคาอยู่บนทรวงอกนาง..กลิ่นเลือดข้นคาวฟุ้งตลบกลบกลิ่นหอมของผิวกายสาว..ยามน้ำแห่งชีวิตนั้นไหลทะลักอย่างมิอาจควบคุม..เลือดสีชาดที่แดงก่ำมิต่างจากกลีบดอกปาริชาติบนผืนพรม..
ภคินทร์ท่านมองภาพนางสลายและมอดไหม้
หลังจากนั้นเพลิงพระกาฬ..ก็ทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง..ทั้งสถานและชีพทุกตนในนิมิตให้กลายเป็นเถ้าธุรี!!!
.
.
.
“อรัญมา!!” สารวัตรภคินทร์ตะโกนก้อง..
ความร้อนจากเปลวไฟและความรู้สึกโศกตรมในจิตใจมันล้วนทำให้สิ่งที่เห็นคือฝันหากฝันนั้นมันช่างเหมือนจริง..เหมือนอย่างกับว่าสิ่งที่ตาเห็นคือภาพแห่งความทรงจำที่เพิ่งผิวผ่านไปเมื่อวันวาน..ทุกอย่างมันกดดันจิตใจกดดันให้พลังแฝงในร่างมันเกินควบคุมเมื่อหยดเหงื่อที่ไหลนองแผ่นหลังบัดนี้มันกลายเป็นไอจากฤทธิ์ไฟแห่งผิวกายที่เริ่มคล้ายจะแผดเผาทุกสิ่งในห้อง
นาคราชในร่างสารวัตรหนุ่มที่เพิ่งกลับมาจากภาพนิมิตแห่งความฝันถอนหายใจแล้วโบกมือผ่านเปลวไฟคล้ายดั่งร่ายเวทย์ให้ทุกสิ่งที่ลุกไหม้กลับคืนสู่สภาพเดิม..ทุกสิ่งยกเว้น..
นามแห่ง
’อรัญมา’ที่ยังคงดังก้องสะท้อนอยู่ในฤทัยอันลุกโชน..พร้อมคำถามแห่งความสงสัย
.
.
.
..นางคือ..ใคร?..อรัญมา?!
*****
“แว๊กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!”เสียงควายออกลูกที่ดังอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยมันกลบทับเสียงหวานที่สุวานนั่นได้ยินก่อนหน้านี้..น้ำเสียงที่แผดก้องไปทั่วทั้งห้องมันทำให้สุวานตะหนกจนแปรร่างที่กลายเป็นควันนั้นให้อันตธานหายไปในอากาศอย่างรวดเร็ว..หายไปท่ามกลางสายตาของภานุพงศ์เจ้าของห้องที่กำลังงงหลังเพิ่งออกมาจากห้องน้ำแล้วเจอไอ้กลุ่มควันรูปร่างคล้ายคนกำลังรื้อและค้นหาของบางอย่างและแทบจะในทันทีที่เสียงแปดหลอดของภานุพงศ์สงบลงสายฝนก็เทกระหน่ำ
อราลีที่หายไปตั้งแต่หัววันบัดนี้นางปรากฏตัวเยี่ยงนางพญาที่ยืนขวางมวลอากาศอันสายตามนุษย์ธรรมดามองไม่เห็น
“สุวัน!!”
เสียงเรียกจิกหัวนั้นเรียกมนุษย์กึ่งสุนัขให้ปรากฏตัวเพื่อต่อกรกันกับอีกร่างที่ภานุพงศ์นั้นแยกไม่ออก..เหมือนพวกอนูบิสในเทพนิยายก็ว่าเหมือนเหมือนกันจนแทบจะแยกไม่ออกว่าตนไหนคือสุวันของอราลีและตนไหนคือไอ้หมาที่เพิ่งปรากฏตัวหลังจากที่มันเป็นกลุ่มควัน
“แม่หญิง!ทุกสิ่งท่านภคินทร์สั่งการณ์ข้า!แม่หญิงโปรดเมตตา!!แม่หญิง!!”
เสียงขอโทษขอโพยนั้นดังออกมาจากการปะทะกันของเสียงคำรามและความเร็วอราลีได้แต่ยืนกอดอกมองสงครามย่อมๆก่อนจะยอมโบกมือให้ฝ่ายที่บุกรุกเข้ามาก่อนล่าถอยไป..จบลงด้วยความปรีดาเมื่อการจู่โจมในครั้งนี้อราลีและสุวันคือผู้กำชัย
..แลสุวานคือผู้พ่ายที่ไม่ได้อะไรกลับไปรายงานภคินทร์ท่าน..
.
.
.
..แม้เสียงหวานปานระฆังที่ถูกความตะหนกของภานุพงศ์กลบเสียสนิท
.
.
.
เจ้ากระจกต้นเหตุยังคงวางอยู่ข้างๆโต๊ะใกล้เตียงนอน..ถ้าหากแม้ภานุพงศ์จะลองยกมันขึ้นส่องอีกครั้ง..อีกครั้งนั้นภานุพงศ์ก็จะได้เห็นใบหน้านางอย่างที่ภคินทร์ท่านเห็นจางๆในความฝันกลางกองเพลิง..
.
.
.
.
‘อรัญมา..ร่ายรำได้งดงามยิ่งกว่านางในวิสัญหยาทุกตน..อรัญมา..นางจักจุติและตกตาย..ก็ด้วยพิษไฟแห่งนาคราชอันองอาจนามภคินทร์..’