อ่านต่อได้เลยคะผมตื่นมาก็พบหน้าไอ้พี่วุฒิที่กำลังจ้องหน้าผมอยู่เช่นกันในระยะประชิด พร้อมส่งรอยยิ้มสดใสมาให้ผม
จนผมอดหมั่นไส้ไม่ได้ ผมจะโยนทิ้งความกังวลและสงสัยทิ้งไป เมื่อการกระทำของคนตรงหน้ายังแสดงให้ผมเห็นว่า
ผมยังสำคัญอยู่
“จ้องอยู่ได้ บอลบอกเลขสองตัวสามตัวให้พี่ไม่ได้หรอกนะ”ผมรู้สึกเขินกับสายตาที่ถูกส่งตรงมาให้ผม
“บอลบอกพี่ไม่ได้ แต่พี่บอกบอลได้นะ”ไอ้พี่วุฒิมันบอกผมด้วยสีหน้าจริงจัง เฮ้ยอย่าบอกนะ
ว่าไอ้พี่วุฒิมันมีองค์จนบอกเลขได้ รึว่ามันอยู่เบื้องหลังการล็อกเลขนะไอ้พี่วุฒิมันเลยรวยขนาดนี้
“คิดอะไรนะเรา ที่พี่บอกว่าพี่บอกบอลได้นะมันเรื่องจริง พี่จะบอกว่า พี่รักบอลนะครับ”ไอ้พี่วุฒิมันพูด
พร้อมกับอมยิ้ม
“วู้...น้ำเน่าแต่เช้าเลย รีบไปแปรงฟันเลยกลิ่นเหม็นเน่ามาแล้ว”ผมเขินเลยไล่ไอ้พี่วุฒิไปแปรงฟัน
“จริงเหรอ แล้วบอลละเหม็นไหม ต้องพิสูจน์”พอพูดจบก็จัดการปิดปากผมด้วยปากของไอ้พี่วุฒิ
ลิ้นร้อนชื้นเข้ามากวาดต้อนลิ้นผมจนต้องยอมตามเกม ก่อนจะยอมปล่อยผมให้หายใจ
“ฮ่า..........ฮา”ผมรีบกอบโกยเอาอากาศเข้าปอด
“อืม ไม่เหม็นนะแถมหวานด้วย”ยังจะพูดอีก
“หื่น”ผมว่าจบก็รีบลงจากเตียงทันที
“หื่นกับเมียคนเดียวครับ”ยังจะต่ออีกนะคนเรา
“ไปอาบน้ำได้แล้ว บอลรีบนะวันนี้มีกิจกรรมแต่เช้าเลย รึจะให้ทศไปส่งบอลก็ได้”ผมรีบเร่งอีกคน
“อืม..........ก็ได้ครับ”มันคิดก่อนจะตอบตกลงให้ทศไปส่งผมแทน
เดินออกมาก็จัดการหอมแก้มน้ำฟ้าพร้อมบอกเหตุผลว่าทำไมวันนี้ผมทานมื้อเช้ากับน้ำฟ้าไม่ได้ ซึ่
งน้ำฟ้าพยักหน้าเข้าใจ พร้อมบอกว่าให้ผมตั้งใจทำงานอีกด้วย ลูกสาวใครเนี้ยน่ารักจริง ๆ
ผมลงจากรถเดินเข้ามาก็เจอเข้ากับพี่สุน้อง พี่ปลา น้องนุกก็ตามเข้ามาที่ห้องฝ่ายผม ผมเดินไปเปิดทีวี
เพื่อรับรู้ข่าวสารยามเช้า และเพื่อให้ไม่เงียบจนเกินไป
“บอลลลลลลลลลลลลล”เสียงพี่ปลาดังมาก่อนเพื่อน
“ว่าไงครับพี่ปลา แล้วนี้มากันทำไมเยอะแยะเลยครับเนี้ย”ผมเอ่ยถามออกไป
“ก็พี่อยากจะถามบอลหน่อยนะสิ บอลสนิทกับคุณวุฒิใช่ไหมละ”พี่ปลาถามขึ้น ถ้าผมบอกว่าไม่สนิท
ก็คงจะไม่ได้เพราะไอ้พี่วุฒิเล่นมารับส่งผมบ่อยซะเหลือเกิน
“ทำไมครับ”ผมเลยไม่ตอบ แต่เปลี่ยนเป็นส่งคำถามกลับไปแทน
“บอลได้อ่านหนังสือนิตยสารรึยังมีข่าวคุณวุฒิด้วยนะ”พี่สุบอก แต่เรื่องนิตยสารที่มีข่าวไอ้พี่วุฒิ
ก็เป็นเรื่องปรกติอยู่แล้ว ด้วยไอ้พี่วุฒิเป็นที่สนใจของสังคม
“ก็ไม่เห็นแปลกเลยนิครับ”ผมถามออกไปด้วยความสงสัย
“จะไม่ให้แปลกใจได้ยังไง ก็ดูสิข่าวกับยัยสุชาดาลูกสาวรัฐมนตรีกำพลกับยัยคุณนายปราณี”
น้องนุกพูดพร้อมกับส่งหนังสือนิตยสารให้ผมดู
หน้าปกแปดสิบเปอร์เซ็นเป็นรูปของหนุ่มสาวที่เอนซบกันตรงหน้าร้านอาหาร พร้อมข้อความว่า
‘ศาสตราเทพมีเทพธิดาครอบครองซะแล้ว’ผมแทบจะหัวใจหยุดเต้น เพราะรูปของผู้ชายคนนั้นคือไอ้พี่วุฒิ
ส่วนผู้หญิงที่อิงแอบกันก็คือผู้หญิงที่ผมเจอเมื่อวานตอนเย็นคนนั้นไม่ผิดแน่ ๆ
“บอล บอล เป็นไรรึเปล่า บอล”เสียงพี่สุที่พยายามจะเรียกผม
“อ้าวอยู่นี้กันนิเอง พวกคุณอยู่จุดต้อนรับและลงทะเบียนไม่ใช่รึไง”เสียงผอ.ดังขึ้นมา
“ค่าท่านผอ. ไปเร็ว ๆ บอลไหวไหมถ้าไม่ไหวก็พักที่นี้ก่อนนะไม่ต้องออกไปหรอก”เสียงพี่สุตอบผอ.ดังขึ้น
ก่อนจะหันมาพูดกับผม
“..............”ผมยังคงหาเสียงของตัวเองไม่เจอ
“บอล คุณไม่สบายเหรอดูหน้าตาซีดเซียวเชียว คงจะเหนื่อยจากงานแล้วก็การเดินทางในแต่ละวันสินะ
คุณพักที่นี้แล้วกันกิจกรรมช่วงเช้าไม่ต้องลงไปหรอก”เสียงผอ.เอ่ยถามผมด้วยเสียงเป็นห่วง ก่อนจะบอกให้ผมพัก
“ผมขอพักซักครู่แล้วจะรีบลงไปช่วยครับ”ผมพยายามเอ่ยออกไป
“อืม”ผอ.เดินออกไปแล้ว
ผมหยิบนิตยสารเล่มนั้นมาอ่านก่อนจะเปิดอ่าน รูปที่ถ่ายเป็นลักษณะการแอบถ่าย และยังคงมีอีกหลายรูป
ข้างในมีเนื้อหาว่า ‘คุณศาสตรา รัตนไพบูรณ์สาร ดูเหมือนจะมีข่าวดีเร็วนี้ ระหว่างคุณสุชาดา เก้ากิตจา
เพราะด้วยสองตระกูล นั้นคือระหว่าง ตระกูลรัตนไพบูรณ์สาร ผู้มีอิทธิพลด้านธุรกิจ และตระกูลเก้ากิตจา
ของท่านรัฐมนตรีกำพล รัฐมนตรีกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ได้นัดทานข้าวกัน รึว่าจะมีการตกลงกัน
ระหว่างสองตระกูลเพื่อเชื่อมสัมพันธ์กันนะ น่าสงสารสาว ๆ ค่อนประเทศที่ตอนนี้ เหมือนว่า
ศาสตราเทพจะมีเจ้าของเสียแล้ว ’ผมถึงกับนิ่งอึ้งกับสิ่งที่ได้อ่าน แล้วก็มีเสียงแว่วออกมาเรียกสติของผม
ออกจากหนังสือ ด้วยเสียงผู้หญิงดังขึ้น
“ค่ะ ก็เป็นเรื่องของผู้ใหญ่คะ พี่ศาสตราก็น่ารักมาก ๆ คิดว่าถ้าถึงตอนนั้นทุกคนก็คงต้องอิจฉา”
เสียงที่ดังออกมาจากทีวีที่เปิดทิ้งไว้ตอบกลับด้วยด้านหน้ามีไมโครโฟนไม่ต่ำกว่าสิบอันรอฟังคำของเธอ
“แล้วเมื่อไหร่คุณศาสตราจะมาขอซะทีละคะ ขนาดทานข้าวพร้อมกันทั้งสองครอบครัวแล้ว”
เสียงนักข่าวที่ยิงคำถามส่งกลับไป
“ก็ ไม่รู้สิคะ คืออุ๊ก็รออยู่ค่ะ เรื่องนี้ต้องไปถามกับพี่ศาสตราเค้าแล้วคะ อุ๊เป็นผู้หญิงนะ”เธอทำหน้าเขินอาย
ผมเดินไปปิดทีวีเพราะผมไม่อยากรับรู้อะไรอีกแล้วทั้งสิ้น ทำไม ทำไม ในหัวของผมมีแต่คำว่าทำไมเต็มไปหมด
“ทำไมถึงโกหกกันว่าไปจัดการปัญหาของครอบครัว รึว่านี้คือปัญหาของครอบครัวจริง ๆ ไม่ได้โกหกผมกันนะ”
“ทำไมต้องปิดบังกัน”
“ทำไมต้องทำเหมือนว่าผมเป็นคนสำคัญ”
“ทำไมต้องมายุ่งวุ่นวายกับชีวิตของผม”
“ทำไมต้องมาทำให้ผมหวั่นไหว”
“ทำไมถึงดึงผมออกจากความทุกข์แล้วโยนผมไปหาความทุกข์ใหม่ที่ทรมาน”
“ทำไมต้องผิดคำสัญญาว่าจะอยู่เคียงข้างผม ทั้ง ๆ ที่ ที่ข้าง ๆ มีเจ้าของอยู่แล้ว”
“ทำไมต้องบอกรักผม”
และ “ทำไมต้องบอกรักผม”
เสียงดังของโทรศัพท์ดังขึ้น เมื่อมองแล้วก็เห็นว่าเป็นใคร ผมไม่พร้อมที่รับสาย ได้แต่ปล่อยให้เสียงดับไป
ก่อนจะปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง และดับไปผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อปิดเสียงและสั่นแทน ผมเดินออกไปจากห้อง
เพื่อไปเข้าร่วมกิจกรรม และเลือกที่จะเอาโทรศัพท์ใส่ลิ้นชักโต๊ะแทน
ผมเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ สนุกกับมันให้เต็มที่ จนจบกิจกรรม ผมไม่รู้ว่าสายเรียกเข้าจะมีกี่สาย
ผมเดินไปหาผอ.เพื่อขอเสนออะไรกับผอ.
“อ้าวครูบอลดีขึ้นแล้วเหรอ หน้ายังซีด ๆ อยู่เลยนะ”ผอ.เอ่ยขึ้น
“ดีขึ้นแล้วครับ ผมคงจะเหนื่อยไปนะครับ ผอ.ครับผมจะกลับมาพักที่หอพักครูนะครับ ผมต้องการดูแล
และควบคุมเรื่องการสร้างอาคารนะครับ”ผมเอ่ยออกไป
“อืม....นั้นนะสินะ ถ้าให้ดูแลแล้วยังต้องไปพักที่ไกล ๆ ก็จะทำให้ครูบอลเหนื่อยเพิ่มขึ้นอีก
ได้....พักที่หอพักครูได้เลย”ผอ.ตอบตกลงทันที
ผมเดินเข้ามาในห้องพักฝ่ายพยายามทำงานทุกอย่าง เดินไปสอนหนังสือ แต่แล้วผอ.ก็เดินเข้ามาหาผม
ที่กำลังสอนนักเรียนอยู่
“คือครูบอลขอโทษทีนะ พอดีคุณวุฒิติดต่อผมมาว่าติดต่อครูบอลไม่ได้ มีเรื่องที่ต้องการปรึกษาด่วน
ช่วยรับโทรศัพท์คุณวุฒิหน่อยนะ”ผอ.พูดขึ้นมา ไอ้พี่วุฒิมันกล้าใช้ผอ.มาบอกผมเลยเหรอ
“ครับ พอดีผมวางไว้ที่ห้องทำงานฝ่ายนะครับ เลิกเรียนแล้วผมจะโทรกลับแล้วกันครับ ผมยังติดสอนอยู่”
ผมบอกไป
“ไม่ต้องรอหรอกครูบอล โทรหาคุณวุฒิเลยแล้วกัน ส่วนนักเรียนก็ให้เรียนกันเองในชั่วโมงนี้แล้วกัน”
ผอ.สั่งผม ซึ่งดูเด็ก ๆ จะอยากเรียนเองกันเหลือเกิน พอผอ.บอกให้เรียนกันเองก็ดีใจกันยกใหญ่
“ครับ นักเรียนทุกคนอย่าเสียงดังนะ หมดชั่วโมงแล้วจัดการปิดเครื่องให้เรียบร้อยนะครับ”ผมตอบรับคำผอ.
ก่อนจะสั่งเด็กนักเรียน
“ครับ ครูบอล”เสียงเด็กตอบเสียงดัง
ผมเดินลงมายังห้องฝ่ายผมหยิบเอาโทรศัพท์ที่โชว์สายที่ไม่ได้รับนับร้อยสาย และข้อความอีกเป็นร้อย
ผมถอนหายใจเพื่อเตรียมพร้อมที่จะติดต่อไปหาไอ้พี่วุฒิมัน แต่ไอ้พี่วุฒิก็โทรเข้ามาก่อนที่ผมจะทันได้กดโทรออกไป
“ครับ”ผมสูดลมหายใจเข้าก่อนจะกดรับ
“บอลครับ ทำไมไม่รับโทรศัพท์พี่ละพี่เป็นห่วงนะ”ผมรู้สึกตื้อกับถ้อยคำของอีกคน
“ไม่ทราบว่าคุณวุฒิมีอะไรรึเปล่าครับ เดี๋ยวผมจะได้รายงานให้ท่านผอ.ทราบ”ผมตอบโต้อีกคน
โดยพยายามควบคุมน้ำเสียงให้เรียบนิ่งให้ถึงที่สุด
“บอล...............ทำไมพูดกับพี่อย่างนี้ เรื่องข่าว”เสียงไอ้พี่วุฒิดังออกมา
“ถ้าไม่มีอะไรผมจะวางสายแล้วนะครับ”ผมตัดบทเมื่ออีกฝ่ายพูดเรื่องข่าวออกมา
“บอล เราต้องคุยกัน พี่อยากจะอธิบายเรื่องข่าวมันไม่จริง”เสียงไอ้พี่วุฒิที่ร้อนรนพยายามที่จะอธิบาย
“ไม่ต้องพึ่งข่าวหรอกครับ เพราะว่าผมเห็นกับตามาแล้ว เหมาะสมกันดีนะครับ ผมขอให้คุณวุฒิมีความสุข
และขอให้เรื่องระหว่างผมและคุณมันจบลง”ผมพยายามพี่จะควบคุมเสียงให้นิ่งแต่ช่วงท้ายก็ยังคงสั่นไหวอยู่ดี
“บอลพูดอะไร พี่ไม่เคยรักเคยชอบกับคุณสุชาดาอะไรนั้น พี่มีเหตุผล พี่รักบอลนะ”
“หึหึ ผมจะเชื่อคุณดีไหมครับ คุณวุฒิ”ผมหัวเราะพร้อมใช้น้ำเสียงสมเพชตัวเอง
“อย่าทำน้ำเสียงอย่างนั้นบอล และเลิกพูดคุณผมได้แล้ว”เสียงอ้อนวอนปลายสายดังขึ้น
“หึหึ ผมจะบอกคุณอีกอย่างว่าผมจะกลับมาอยู่หอพักครูและผมจะรับส่งน้ำฟ้าเองเหมือนเดิม”
ผมบอกปลายสายออกไป
“ไม่”เสียงตะโกนสวนออกมา
“คุณไม่มีสิทธิอะไรทั้งนั้น”ผมบอกอีกฝ่ายออกไป
“ทำไมจะไม่มี พี่เป็นผัวบอลนะ พี่รักบอล”
“ผมอยากจะหัวเราะ ถ้าคุณรักผมจริง คุณคงไม่ทำกับผมแบบนี้หรอกครับ”ผมพูดออกไปช้า ๆ
“บอลเชื่อพี่เถอะ พี่ยอมทำทุกอย่างกลับมาเถอะนะ”เสียงอีกคนยังคงอ้อนวอนผม
“ถ้าอยากให้เชื่อ คุณก็ไปจัดการกับปัญหาของคุณให้เรียบร้อย ผมไม่ต้องการคนที่มีเจ้าของ
คุณก็รู้ว่าผมไม่ต้องการเลย ทำไมคุณต้องทำแบบนี้ ไม่ต้องติดต่อผมถ้าคุณยังไม่ตัดสินใจและจัดการให้เรียบร้อย”
ผมเอ่ยออกไปแล้วตัดสายไป
ผมบอกออกไปทั้ง ๆ ที่ผมมีคำตอบอยู่แล้วว่าไอ้พี่วุฒิจะเลือกใคร ระหว่างครอบครัว หน้าที่การงาน สังคม
กับผู้ชายที่มีลูกติด เป็นข้าราชครูไม่มีหน้าตาในสังคมไฮโซ ผมคงต้องยอมรับความจริง ที่ไอ้พี่วุฒิจะไม่เลือกผม
สวัสดีคะ ตุ๊กตากลับมาแล้ว มีเหตุการณ์เกิดขึ้นมากมาย จนรู้สึก ๆ เหนื่อย ๆ กับชีวิต

ขอขอบคุณทุกคนที่ยังติดตามครูบอลกับพี่วุฒินะคะ หวังว่าตอนนี้ทุกคนจะยังชอบกันอยู่นะ

ห้ามหนีหายเป็นอันขาดไม่งั้นเค้าจะหนีไปบ้างนะ

สำหรับเรื่องมาม่าส่วนตัวของตุ๊กตาเองก็ต้องบอกว่าปรับอารมณ์ตัวเองได้แล้ว อาจจะเพราะเป็นช่วงแดงเดือด 555+
เลยทำให้อารมณ์พุ่งพล่าน ขอบคุณทุกคนที่เข้าใจนะคะ ตุ๊กตารักตัวละครทุกตัวนะ ยังไงเรื่องนี้ก็จบกันไปแล้วเนอะ
พบกันอีกทีก็วันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม 2557 คะ

คนอ่านและคนเม้นทุกคนนะคะ