ตอนที่ 9 (ชี้แจงและหาแนวร่วม)
(ศาสตรา)
หลังจากที่ผมพาบอลไปซื้อของกับทานข้าวเย็นโดยมีแขกไม่ได้รับเชิญคือไอ้นพ ซึ่งเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่รุ่นของคุณพ่อคุณแม่
มันคอยแต่จะกวนอารมณ์ของผมทำให้ผมหงุดหงิดมัน เลยต้องแสดงความเป็นเจ้าของครูผิวแทนกับคอยกำหลาบครูหนุ่ม
กลับมาผมยังต้องมาปวดหัวกับการนอนของอีกคน ก็เลยทั้งอ้างสิทธิ์และข่มขู่เล็กๆน้อย ซึ่งผมบอกบอลแล้วว่าถ้าให้ผมแสดง
ผมนะเติมใจสุดๆไม่มีเกี่ยง บอลเลยชิ่งเข้าห้องอาบน้ำไป ระหว่างนั้นผมได้มานั่งคิดว่าหากผมทำอย่างนี้คงจะจัดการกับบอล
ได้คงต้องใช้เวลานาน เพราะฉะนั้นผมต้องหากำลังเสริม จากแฟ้มประวัติของคนรอบข้างบอลก็มีอยู่สามคนที่ผมจะลองเดิมพันที่จะเข้าหา
และแสดงให้เห็นถึงความจริงใจของผมต่อครูหนุ่ม และถ้าผมทำสำเร็จผมจะได้แนวร่วมที่เข้มแข็ง คงต้องลองดู สามสาวที่ผมเห็นในร้านอาหารวันนั้นคือตัวเลือกที่ดี
เมื่อตัดสินใจได้แล้วจึงโทรหาลูกน้องคนสนิท
‘ครับนาย’เสียงลูกน้องแสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการรับคำสั่งของเจ้านายหนุ่ม
“ต้นนายช่วยหาเบอร์โทรของแพทย์หญิงจิตติมา ปราชญ์ภูวดล คุณโสภิตา จันทร์กระจ่าง และคุณเจติยา ศิริพัฒนา
เอามาให้ชั้นพรุ่งนี้เช้าด้วย”ผมสั่งลูกน้องให้หาเบอร์ของสามสาวให้ตน เพราะผมจะติดต่อทั้งสามเองโดยไม่ผ่านลูกน้องเพื่อแสดงให้สาวๆเห็นว่า
เค้าให้ความสำคัญกับการขอนัดพูดคุย ถือเป็นการแสดงความจริงใจอย่างหนึ่ง
‘ครับนาย’ลูกน้องหนุ่มรับคำด้วยความหนักแน่นเป็นการยืนยันกับเจ้านายตน
“จัดการหามาให้เรียบร้อย อ้าวออกมาแล้วเหรอครับบอล ฟอด..หอมจริงด้วย พี่ไปอาบน้ำบ้างดีกว่า”หลังจากกำชับลูกน้องอีกครั้ง
ก็หันมาเจอบอลที่พึ่งออกมาจากห้องน้ำโดยใส่ชุดนอนเรียบร้อยแล้ว จึงทักขึ้นพร้อมทั้งเดินเข้าไปหอมแก้มครูหนุ่ม
ก่อนจะเอ่ยประโยคที่ทำให้ครูหนุ่มแยกเขี้ยวใส่ตนเองพร้อมกับแก้มที่สีเข้มขึ้นริมฝีปากที่อ้าพะงาบๆ ผมจึงหยิบผ้าขนหนูแล้วเดินเข้าห้องน้ำด้วยรอยยิ้มมีความสุข
ผมอาบน้ำพร้อมทั้งเริ่มวางแผนต่างๆเพื่อให้แผนการลุล่วงไปด้วยดีและผลสำเร็จออกมาตามที่ผมต้องการ ผมจะต้องทำให้สาวทั้งสามคนเป็นพวกให้ได้
เพราะสามคนนี้บอลให้ความรักและคอยปรับทุกข์รวมทั้งรู้สนิทใจมากในฐานะน้องสาวหรืออาจจะในฐานะเพื่อนเลยก็ได้
หากผมได้พวกเธอช่วยผมคงเลื่อนเวลาที่จะทำให้บอลเป็นของผมโดยที่บอลเติมใจเร็วยิ่งขึ้น ทุกคนอย่าคิดว่าผมเจ้าแผนการเผด็จการนะครับ
ก็ในเมื่อมันรักแล้วจะปล่อยให้หัวใจตัวเองลอยหายไปต่อหน้าเหรอครับ คนอื่นเป็นยังไงผมไม่รู้แต่สำหรับผมนายศาสตรา รัตนไพบูรณ์สารแล้วละก็ไม่มีวันครับ
ผมทำธุระภายในห้องน้ำจนเรียบร้อยจึงออกมาจากห้องน้ำก็ได้ยินบทสนทนาของบอลกับอีกคน จากที่ฟังบทสนทนาแล้วคงจะเป็นน้องน้ำฟ้าลูกสาวของบอลนะเอง
“ค่ะเดี๋ยวพ่อไปเยี่ยมน้ำฟ้าพ่อจะซื้อขนมดอกไม้สีชมพูไปฝากกับของเล่นของแม่อ้อที่ฝากให้น้องน้ำฟ้าด้วยนะค่ะลูก”
ผมรับรู้ได้จากน้ำเสียงของบอลว่าเค้าคิดถึงลูกสาวและมีความสุขที่ได้คุยกับน้องน้ำฟ้า
“ครับคนเก่งนอนได้แล้วนะครับลูกสามทุ่มกว่าแล้วนะครับ ฝันดีนางฟ้าตัวน้อยๆของพ่อ”น้ำเสียงที่แสดงถึงความรักของคนเป็นพ่อที่มีต่อลูกสาว
“ครับ พ่อก็รักน้องน้ำฟ้าลูก จุ๊บ”ผมถึงกับหัวเราะเมื่อครูหนุ่มทำตอบรับลูกสาวแล้วยังทำปากจู๋ซึ่งมาพร้อมเสียงดังจุ๊บ
หลังจากที่ผมเห็นบอลวางโทรศัพท์พร้อมกับมองมาทางห้องน้ำซึ่งบอลคงไม่เห็นว่าผมนะแอบดูเค้ามาซักพักแล้ว
เนื่องจากมีต้นไม้ขาดสองเมตรบังไว้ บอลมองมาแล้วก็ยิ้มออกมาก่อนจะรีบกระโดดขึ้นเตียง
“ทำอะไรของเค้านะนั้นนะ หึหึหึ”ผมถึงกับหลุดคำถามกับตัวเอง เมื่อภาพที่เห็นคือคนผิวแทนขนผ้านวมและหมอนเพื่อลงมานอนด้านล่าง
เอาผ้านวมห่อตัวเองก่อนจะพันตัวเองกับผ้านวมจนกลายเป็นลักษณะขนมแยมโรลแล้วนอนทำเป็นหลับไปแล้ว ผมปล่อยให้บอลนอนไปซักพัก
ผมจึงเปิดปิดประตูให้อีกคนได้เสียงประตูห้องน้ำเปิดปิดเพื่อให้เค้าเข้าใจว่าผมพึ่งจะออกมาจากห้องน้ำ ทั้งที่จริงผมนะแอบมอง
การกระทำของบอลมาพักใหญ่แล้ว
“บอลมานอนอะไรข้างล่างครับแล้วทำไมเอาผ้านวมมาห่ออย่างนั้นครับ ขึ้นมานอนบนเตียงดีๆครับ”ผมส่งคำถามออกไปจนขนมแยมโรลสะดุ้ง
“ก็นอนห่มผ้าไง จะให้ขึ้นไปนอนกับพี่ บอลไม่เอาหรอก”ผมเห็นสายตาวาวที่พร้อมจะสู้กับผมทั้งๆที่มีแววให้เห็นว่าเค้าเริ่มกลัวผมบ้างแล้ว
คงจะกลัวว่าผมจะจับกินแน่ๆ ก็ดูได้จากไอ้ผ้านวมที่เอามาม้วนตัวเองแล้ว ถ้าผมจะจับกินละก็แค่นี้ไม่คณามือผมหรอกครับ
ดูแล้วบอลคงจะไม่ยอมขึ้นมานอนบนเตียงกับผมแน่ๆ ต้องปราบพยศกันตลอดเลยจริงๆ
“จะขึ้นมานอนกับพี่โดยที่พี่กอดบอลโดยที่ยังมีเสื้อผ้าอยู่ครบแล้วมีผ้านวมห่มอีกที รึว่าจะเป็นเนื้อพี่ห่มเนื้อบอลแล้วค่อยมีผ้านวมห่มอีกทีดี”
ดูท่าคำขู่และการแสดงออกของผมเล็กๆน้อยๆคงจะได้ผลดี เมื่อบอลรีบขึ้นมานอนกับผมบนเตียง
“มีเสื้อผ้าดิครับ”ผมถึงกับอยากจะหัวเราะออกมาดังๆเมื่อบอลพูดออกมา คงกลัวผมจะใช้เนื้อของผมเองห่มให้แทนเสื้อผ้า
“ก็เท่านั้น ฟอด ฟอด จุ๊บ จุ๊บ”ผมพูดพร้อมกับสอดตัวเข้าผ้านวมแล้วใช้แขนดึงครูดื้อให้เข้ามาอยู่ในอ้อมอกของผมแล้วจัดการ
หอมแก้มซ้ายขวา จูบหน้าผาก จูบปากบอลเบาๆเป็นที่สุดท้าย
“นอนครับบอลเพราะถ้าไม่ยอมนอนจะไม่ได้นอนยันเช้าแน่”ผมต้องขู่บอลอีกเล็กน้อยเมื่อเค้าหยุกหยิก มันได้ผลเสมอครับเค้าเริ่มจะเคลิ้มหลับ
ผมไม่อยากจะใช้วิธีการขู่บอลเท่าไหร่ผมอยากให้เค้าเติมใจไม่ต่อต้านผม ผมเริ่มรับรู้ว่าผมเริ่มมีอิทธิพลกับใจของเค้าบ้างแล้วเล็กน้อย
ผมมีความสุขและอบอุ่นหัวใจเมื่อมีเค้าอยู่ในอ้อมกอดของผม
“ฝันดีครับครูบอลของพี่วุฒิ จุ๊บ”ผมอวยพรก่อนจะแตะจูบริมฝีปากของบอลเพียงแผ่วเบา
ในช่วงเช้าผมตื่นขึ้นมาโดยยังมีบอลอยู่ในอ้อมกอดผมก้มลงไปกดจูบกับหน้าผากของเค้า ก่อนที่เค้าเริ่มจะขยับตัว ผมจึงแกล้งหลับต่อ
“อืม....โอ๊ยงูเหลือมรัดรึไงขยับไม่ได้เลย อ้าวไม่ใช่งูเหลือมแต่เป็นปีศาจหมอนข้างมาเฟียนี้เอง”ผมได้แต่ขำในใจกับคำพูดของบอล
จะไม่ให้ขำได้ไงฉายาของผมที่คนอื่นตั้งให้คือ “ศาสตราเทพ” แต่สำหรับบอลกลายเป็น “ปีศาจหมอนข้างมาเฟีย”ไปซะได้
“วู้ แกะยากจริงตัวผสมกาวตาช้างรึไง อึบ...แขนรึว่าท่อนซุงว่ะเนี้ยหนักจริงกว่าจะเอาออกได้”ผมรู้สึกเลยครับว่าริมฝีปากของผมกระตุก
แต่งแต่ผมยัดเยียดตัวเองเข้ามาในชีวิตของบอล ผมมีความสุข ยิ้มง่ายขึ้นมาก
บอลลุกออกจากเตียงเข้าห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัว ผมเลยลุกบ้างเพื่อเดินไปเปิดรับแฟ้มจากลูกน้องคนสนิทที่ยืนรออยู่หน้าประตู
“นี่ครับนาย”ต้นยื่นแฟ้มมาให้ผมที่มีเบอร์โทรติดต่อส่วนตัวของทั้งสามสาวเรียบร้อยแล้ว
“ดีมาก เดี๋ยววันนี้นายตามดูแลความเรียบร้อยของบอลด้วยนะ”ผมสั่งให้ต้นดูแลความเรียบร้อยของบอลซึ่งรวมทั้งความปลอดภัยด้วย
ผมอยู่วงการธุรกิจใช่ว่าผมจะไม่มีศัตรูเสียเมื่อไหร่เพียงแต่พวกมันไม่กล้าเล่นงานผมตรงๆ รวมทั้งกลัวว่าหากผมจะกำจัดพวกมัน
คงจะไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดก็เท่านั้นเอง
“ครับนาย”ต้นก้มศีรษะรับคำสั่งของผม
ผมปิดประตูเข้ามาก็เห็นบอลนั่งอยู่บนโซฟาสีดำภายห้องรับแขกเปิดโทรทัศน์ดูข่าวยามเช้าพร้อมทั้งจิบกาแฟอีกมือถือขนมปัง
“บอลครับอย่าทานกาแฟมากครับมาทานข้าวต้มดีกว่าครับจะได้อยู่ท้องนะ”ผมบอกบอลซึ่งอีกคนก็ไม่อิดออดที่จะเดินตามเข้ามาภายในโซนของห้องครัว
บนโต๊ะมีชามข้าวต้มทะเลสองชามวางรออยู่ คงจะเป็นแม่บ้านที่เตรียมเอาไว้ให้
“ก็รอคนบางคนอยู่ ถ้ากินก่อนเดี๋ยวจะหาว่าไม่มีมารยาท”ดูครับ คำพูดน่ารักๆของครูบอลของเค้านะ น่าจับฟัดซักรอบซะจริงๆ
“หึหึหึ...ครับ แล้วไอ้กาแฟกับขนมปังเค้าเรียกอะไรครับ”ผมถึงกับหัวเราะแล้วถามถึงกาแฟกับขนมปังที่บอลกินก่อน
ทั้งๆทีข้าวต้มกลับบอกว่าถ้ากินก่อนจะถูกหาว่าไม่มีมารยาท
“ไม่เกี่ยวกันอันนั้นเค้าเรียกว่าของรองท้องคอยเจ้าภาพต่างหาก ถ้ามาเร็วก็ไม่จำเป็นต้องมีของรองท้องหรอก”
โห...แถซะสีข้างเปิดเป็นแผลแล้วแน่ๆ แถมยังโทษผมในฐานะเจ้าภาพอีก
“ครับๆ ทานกันดีกว่า”ผมตัดบทก่อนที่จะมีการสู้รบกันบนโต๊ะอาหาร
ผมทานไปมองหน้าบอลไปยิ้มไป ผมอยากให้ชีวิตของผมมีเค้าร่วมอยู่ในทุกช่วงเวลา ตอนนอนมีเค้าอยู่ในอ้อมกอดของผม
ยามเช้าทานข้าวพร้อมกัน ตอนทำงานขอแค่ให้ได้โทรคุยได้ยินเสียงกัน ตอนเย็นกลับมาเจอเค้าอยู่รอคอยผมเพื่อทานข้าวด้วยกัน
“บ้าป่ะเนี้ย กินข้าวมองหน้าคนอื่นแล้วก็ยิ้ม ว่างๆไปเช็คสมองบ้างนะพี่วุฒิ เอาป่ะเดี๋ยวบอลแนะนำจิตแพทย์เก่งให้”
ผมอยากจะตีความเข้าข้างตัวเองว่าบอลเป็นห่วงผมได้ไหม
“ใครบอกว่ามองคนอื่น มองเมียตัวเองต่างหาก หึหึหึ”พอผมพูดจบเท่านั้นบอลก็ถึงกับอ้าปากพะงาบๆก่อนจะหน้าแดงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ไม่รู้ว่าที่แดงเพราะโมโหหรือว่าเขินกันแน่ บอลหน้ามุ้ยบ่นกับตัวเองเบาๆแต่ผมก็ได้ยิน
“อะไรวะ เดี๋ยวก็เมียเดี๋ยวก็เมีย เดี๋ยวพ่อก็จับทำเมียบ้างเลย”ผมละอยากหัวเราะให้ดังๆเลย คิดจะจับผมทำเมีย ผมกลัวว่าผมต่างหาก
ที่จะได้ย้ำว่าใครผัวใครเมีย
“ทำได้ก็ลองดู”คนฝั่งตรงข้ามผมถึงกับสะดุ้งตัว
“ชิชิ”ก่อนจะก้มหน้าก้มตากินข้าวต้มจนหมดชาม
ตอนนี้ผมเข้าบริษัทเพื่อเซ็นเอกสารทุกอย่างที่ผมบริหาร ส่วนบอลก็ออกไปสำรวจตลาดราคาของอุปกรณ์สำนักงานที่ผมจะบริจาค
ทั้งๆที่ผมบอกเค้าแล้วว่าไม่ต้องผมจะให้ลูกน้องจัดการเอกง แต่เค้าก็ต่อว่ามันเป็นหน้าที่ของเค้าถ้าผมไม่ทำเค้าก็จะกลับไปอยู่ที่หอพักครู
ผมเลยต้องยอมบอลโดยสั่งกำชับต้นลูกน้องของผมให้ติดตามดูแลบอลทุกอย่าง เมื่อผมตรวจสอบเอกสารเสร็จทั้งหมดก็ได้เวลา
การหาแนวร่วมของผมแล้วผมหยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อโทรหาสามสาว
‘ตืด..ตืด....สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าใครค่ะ’รอสายเพียงครู่ก็มีเสียงผู้หญิงหวานสดใสตอบกลับมาพร้อมถามว่าใครที่โทรเข้ามายังเบอร์ส่วนตัวของเธอได้
“สวัสดีครับคุณหมอจิตติมา ผมศาสตรา รัตนไพบูรณ์สารครับ”ผมแนะนำตัวเองกับสาวคนแรก
‘ค่ะ?
มีอะไรรึเปล่าค่ะ คงจะเกี่ยวกับพี่บอลแน่ๆ ดิฉันไม่คิดว่าคุณศาสตราจะโทรหาดิฉันเร็วขนาดนี้’น้ำเสียงแรกบ่งบอกว่าเธองุนงง
แต่เพียงครู่เดียวเธอก็แสดงความฉลาดออกมา
“ครับ ผมอยากเชิญคุณหมอออกมาทานอาหารกลางวันนะครับ เพื่อคุยเรื่องของบอล”ผมเข้าประเด็นโดยไม่อ้อมค้อม
“สองต่อสองเหรอค่ะ...คุณศาสตราคงทราบนะค่ะว่าคุยกับดิฉันคนเดียวไม่ได้”เธอถามผมเพื่อลองเชิง
“ครับ ผมเชิญทั้งสามคนครับ ทั้งคุณหมอ คุณโสภิตา คุณเจติยาครับ คุณจะว่ายังไงครับ”ผมรู้ครับว่าถ้าคุยกับหมอจิตแพทย์จะต้องคุยกันตรงๆ
“คุณฉลาดมากนะค่ะ ตกลงค่ะเดี๋ยวดิชั้นจะติดต่ออีกสองคนเองแล้วจะติดต่อกลับไปอีกครั้งนะค่ะ”ผมว่าแล้วครับว่าเธอฉลาดมาก
เมื่อเธอกล่าวจบเธอก็วางสายทันที
ผมสั่งให้ทศหาร้านอาหารเกาหลีที่เป็นส่วนตัวแล้วจองห้อง V.I.P. ให้เรียบร้อย แล้วจึงโทรหาต้นเพื่อถามถึงบอลว่าเป็นอย่างไรบ้าง
ซึ่งผลก็ออกมาว่าบอลเดินดูคอมพิวเตอร์ออกร้านนั้นเข้าร้านนี้ แถมยังมีคำบ่นเล็กน้อยว่าคุยกับบอลไม่รู้เรื่อง
‘นายครับ คุณบอลแกล้งลูกน้องผมครับนาย เล่นคุยภาษาคอมกับลูกน้องผมจนปวดหัวกันหมดแล้วครับ
คุณบอลนะคอมพิวเตอร์เดินได้ครับนาย’ผมถึงกับหัวเราะออกมาเมื่อลูกน้องคนสนิทของผมบ่นออกมา
“เอาเถอะเดี๋ยวฉันจะส่งให้ลูกน้องของนายไปเรียนพิเศษคอมพิวเตอร์ดีไหมเอาแบบเจาะลึกเลยจะได้คุยกับบอลรู้เรื่อง”พอผมพูดออกไป ลูกน้องผมถึงกับหัวเราะออกมาบ้าง
แสบจริงเชียวบอลคงจะแกล้งต้นแล้วไม่สำเร็จเลยเปลี่ยนเป้าหมายเป็นลูกน้องของต้นอีกทีนึง หลังจากผมวางโทรศัพท์จากลูกน้องคนสนิทแล้ว ก็ก้มหน้าทำงานต่อเมื่อฟางเลขาสาวสวยเปรี้ยวที่แต่งงานมีลูกชายวัยน่ารักถึงสองคนนำงานมาเพิ่มให้กับผม
ทำงานไปได้ซักพักโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้น
“สวัสดีครับ”ผมกรอกเสียงลงไป
‘ค่ะ ดิชั้นหมอจิตติมานะค่ะ’เสียงฝ่ายตรงข้ามโต้ตอบกลับมา
“ครับคุณหมอ”ชายหนุ่มส่งเสียงเพื่อให้อีกฝ่ายว่าตนจำได้
‘ค่ะดิชั้นติดต่อตุ้ยกับเจย์แล้ว เลยอยากจะทราบร้านอาหารค่ะ’น้ำเสียงของหมอสาวเรียบนิ่ง
“ร้าน.....ครับ ส่วนเวลาผมให้คุณหมอกำหนดเลยครับ”ผมบอกร้านอาหารที่ทศทำการจองไว้แล้วให้กับหมอสาว
‘ค่ะ ถ้าอย่างนั้นก็เวลาซักเที่ยงตรงแล้วกันนะค่ะ’หมอสาวบอกเวลาที่สะดวกจะรับคำเชิญของเค้า
“ครับ แล้วเจอกันครับคุณหมอ”ผมตอบรับหมอสาว
‘ค่ะ หวังว่าจะเตรียมตัวมาให้ดีนะค่ะ’น้ำเสียงของเธอยังคงนิ่งแต่มีความเด็ดขาดออกมา
“ครับ แน่นอน”ผมตอบกับด้วยเสียงที่หนักแน่น
เมื่อมองนาฬิกายังเหลือเวลาอีกสองชั่วโมงผมจึงจัดการแฟ้มงานจนเรียบร้อยแล้วเดินทางไปยังร้านอาหารดังกล่าวก่อนเวลา
ประมาณสิบห้านาที ผมนั่งรอสามสาวภายในห้อง V.I.P. ที่จองไว้ เพียงไม่นานสาวสวยสามคนก็เดินทางมาถึงที่หมาย
“สวัสดีค่ะคุณศาสตรา รอนานไหมค่ะ”สาวที่ดูอ่อนหวานแต่สดใสกล่าว เธอคือหมออ้อ
“ครับสวัสดีครับ ผมพึ่งมาถึงเมื่อไม่นานนี่เอง คุณหมอ คุณโสภิตา คุณเจติยา เชิญสั่งอาหารก่อนครับแล้วเราค่อยคุยกัน”ผมทักทายพวกเธอ
พร้อมทั้งให้เธอสั่งอาหารเมื่อพนักงานนำเมนูอาหารมาให้ดู
พวกเธอเปิดเมนูดูพร้อมทั้งสั่งอาหารและเครื่องดื่มด้วยท่าทางสงบนิ่ง พวกเธอดูระมัดระวังการแสดงอารมณ์ต่อหน้าของผม
เมื่อพนักงานออกจากห้อง พวกเธอต่างก็จ้องมายังผมเพื่อให้ผมเปิดการพูดคุยครั้งนี้
“ผมคิดว่าพวกคุณคงจะรู้เรื่องระหว่างผมกับบอลแล้ว”ผมเริ่มเปิดประเด็นอย่างไม้อ้อมค้อม
“ใช่ค่ะ พวกเรารู้แล้ว และรู้สึกไม่พอใจในการกระทำของคุณ คุณฉวยโอกาสตอนที่พี่บอลอ่อนแอจากเรื่องของภรรยาเธอ
คุณขื่นใจพี่บอล แล้วคุณก็กำลังเห็นพี่บอลเป็นของแปลกใหม่สำหรับคุณ”หมออ้อกล่าวออกมา ไม่ต่างจากการคราดการของผม
พวกเธอรู้เรื่องในคืนนั้นแต่พวกเธอรู้ไม่หมดเท่านั้น
“ใช่ผมยอมรับว่าเรื่องระหว่างผมกับบอลเป็นเรื่องจริง บอลเป็นของผมแล้วและจะไม่ยอมให้เป็นของคนอื่น
ผมไม่เคยเห็นบอลเป็นของแปลกที่ถูกใจเพียงชั่วครั้งชั่วคราวไม่เคยเป็นเป็นของเล่นหรือของฆ่าเวลา บอลเป็นมากกว่านั้น
มากกว่าที่พวกคุณจะคิด ส่วนเรื่องคืนนั้นมันมีเหตุการณ์ที่เร่งให้บอลกลายเป็นของผมเร็วขึ้นเท่านั้น”ผมชี้แจงเพื่อทำการแก้ไข
ความเข้าใจของพวกเธอ อยากให้เธอรับรู้ว่าผมพูดความจริงผมจึงสบตาขณะพูดไม่หลบสายตาของพวกเธอรวมทั้งใช้น้ำเสียงที่หนักแน่น
“.......แล้วยังไงอีกค่ะคุณศาสตรา”คุณโสภิตาสาวเปรี้ยวและดูเหมือนจะถือตัวกล่าวหลังจากฟังผมและคุณหมอพูดกันมาพอสมควร
“ผมไม่คิดจะปล่อยมือจากบอลแน่ๆ ผมต้องการให้พวกคุณรับรู้ถึงความจริงข้อนี่”ผมบอกทั้งสามสาว
“สมกับนักธุรกิจมาเฟียที่ได้ฉายาว่า ศาสตราเทพจริงๆนะค่ะ”เจติยาสาวสวยที่ดูจะนิ่งเงียบกว่าเพื่อนพูดขึ้น
“ครับ ผมไม่ต้องการเสแสร้งตบตาพวกคุณทุกคน”ผมยังยืนยัน เราต่างหยุดการสนทนาเนื่องจากพนักงานนำอาหารและเครื่องดื่มมาเสริฟ
เมื่อพวกเธอออกจากห้องไปบทสนทนาจึงเริ่มต้นอีกครั้งนึง
“แล้วคุณจะทำยังไงกับพี่บอลค่ะ ดิฉันพอที่จะเดาได้ที่พี่บอลรู้เรื่องของอ้อมส่วนนึงคงมากจากคุณ”โสภิตาเธอต้องการให้ผมพูดทุกอย่างออกมา
คงมีคนไม่กี่คนที่กล้าจะพูดกับผมแบบนี้ แต่ผมไม่รู้สึกที่จะโกรธรึโมโหพวกเธอ ที่พวกเธอทำแบบนี้เพราะบอล เพราะพวกเธอเป็นห่วงบอล
“สำหรับบอลผมพูดได้ว่าผมชอบเค้า และเรื่องของอดีตภรรยาของบอลนั้นผมยอมรับว่าผมอยู่เบื้องหลังที่ทำให้บอลรับรู้พฤติกรรมของเธอ
ที่เธอไม่ซื่อสัตย์สวมเขาให้ และอีกอย่างอย่ากล่าวหาว่าผมคนเดี๋ยว พวกคุณก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้บอลรู้เหมือนกัน รึว่าไม่จริง”
ผมยอมที่จะยอมรับข้อหาของตัวเอง
“หึหึ...”เจติยาเธอเพียงแค่มองผมพร้อมทั้งหัวเราะ
“คริคริ...สรุปคุณจะดูแลพี่บอลใช่ไหมค่ะ ดิชั้นอยากได้ความมั่นใจจากคุณค่ะคุณศาสตรา”คุณหมอหันไปหัวเราะกับโสภิตา
ก่อนจะถามคำถามที่ดูก็รู้ว่าพวกเธออยากได้คำตอบ และคงจะสำคัญมาก
“ครับ ผมจะดูแลบอล”ผมรับคำ และพูดถึงความตั้งใจที่ผมจะดูแลบอลให้พวกเธอรับฟัง
“ดีมากค่ะ คริคริสำเร็จแล้วนะหมออ้อ”โสภิตากล่าวกับผมก่อนที่จะไปคุยอะไรสักอย่างที่ผมก็ยังไม่แน่ใจ
“นั้นสิ เหมือนแม่คุยกับว่าที่ลูกเขยเลยเนอะเจย์”หมออ้อพูดไปยิ้มไปก่อนจะหันไปถามเพื่อนที่ยังคงยิ้มรับอย่างเดียว
“คุณหมอ คุณโสภิตา คุณเจติยาคือว่า”ผมกำลังจะสอบถามแต่ก็ต้องหยุดคำพูดเมื่อคุณโสภิตาขัดขึ้น
“คุณศาสตราค่ะ ไม่ต้องเรียกพวกเราเต็มยศขนาดนั้นก็ได้ค่ะ เรียกว่าตุ้ย แล้วก็เจย์ และยังหมออ้อก็พอค่ะ”
พวกเธอให้ความไว้วางใจผมในระดับที่ดีขึ้นกว่าครั้งแรกมาก พวกเธอแนะนำตัวเองด้วยชื่อเล่นนั้นแสดงว่าพวกเธอยอมรับผมแล้ว
“ถ้าอย่างนั้นหมออ้อ ตุ้ย แล้วก็เจย์ เรียกผมว่าวุฒิเถอะครับ”ผมบอกพร้อมรอยยิ้ม
“แต่อย่าพึ่งดีใจไปค่ะคุณวุฒิ เรายังต้องดูกันอีกที ถ้าคุณทำให้พี่บอลของพวกเราเสียใจพวกเราจะทำให้คุณรู้ว่าไม่ควรทำ
ถึงแม้พวกเราจะทำอะไรคุณแทบจะไม่ได้ก็ตามแต่พวกเราจะทำแน่ๆพวกเราจะถือว่าคำพูดที่ว่าคุณจะดูแลพี่บอลเป็นคำสัญญา
และถ้าคุณไม่รักษาคำสัญญานั้นเราจะสู้
“ครับ ผมยินดี”ผมรู้สึกว่าเป็นสัญญาณที่ดีทีเดียว
“คุณคงไม่ได้นัดเรามาเพียงแค่นี้ใช่ไหมค่ะ ถ้าอ้อเดาไม่ผิดคงจะให้เราเป็นแนวร่วม”หมออ้อเธอฉลาดที่จะให้ผมพูดในสิ่งที่เธอต้องการ
สำหรับพวกเธอผมพร้อมที่จะพูดเพื่อให้เห็นว่าผมจริงใจทั้งกับพวกเธอและครูหนุ่ม
“ใช่ครับถูกต้องเลย แล้วพวกคุณจะว่ายังไงครับ”เมื่อเธอมาตรงๆผมก็ต้องตรงไปตรงมาเช่นกัน
“พวกเราคงจะไม่ขัดขวางแต่เรื่องจะให้เป็นแนวร่วมคงต้องขอดูก่อนนะค่ะ หวังว่าคุณวุฒิคงจะเข้าใจพวกเรา”
เจย์กล่าวออกมาหลังจากที่เธอแทบจะไม่พูดอะไรก่อนหน้านี้
“ครับผมเค้าใจ”ผมรู้สึกว่ามันคุ้มค่าที่ทำในวันนี้
“มีอีกเรื่องค่ะ เรื่องที่พี่บอลบอกว่าคุณข่มขืน ตุ้ยคิดว่าคุณคงไม่ทำอย่างนั้นรึว่ายังไง”เธอทำหน้าเจ้าเล่ห์พร้อมกับถามคำถามผม
เลยต้องเล่าสาเหตุที่ทำให้บอลตกเป็นของผมในคืนนั้นให้พวกเธอรู้ พวกเธอทำหน้าหลากหลายอารมณ์ ทั้งสงสาร ตกใจ ตลก
และโมโห
“มันน่านักอย่าให้เจอนะแม่จะถวายแหวนให้”ตุ้ยถึงกับขับเขี้ยวเคี้ยวฟัน
“อ้าว...จะให้แหวนไอ้ฝรั่งนั้นทำไมมันวางยาพี่บอลนะบ้าป่าว ถ้าจะให้คงต้องเป็นคุณวุฒิโน้นเพราะมันทำให้พี่บอลเสร็จเค้า คริคริ”
ใครจะไปเชื่อว่ามาจากริมฝีปากหมอคนสวยได้
“เออ...จริงด้วย คุณวุฒิได้ให้รางวัลฝรั่งนั้นไปยังคะ”ตุ้ยเออออกับหมอสาว แล้วหันมาถามผม
“ไม่ต้องถามหรอกตุ้ย คุณวุฒิจัดห้องนอนรวมในโรงพยาบาลของฉันแล้วยะ ก็วันนั้นคุณของคุณวุฒิหิ้วปีกเข้ามาที่โรงพยาบาลฉัน
ในอาการที่แบบว่ามีแต่เลือดทั้งตัว ต้องรักษาเป็นเดือนๆ”หมออ้อพูดออกมาโดยที่ผมได้แต่อมยิ้ม
“โดนใจมากค่ะ”ตุ้ยบอกก่อนจะยกนิ้วโป้งให้ผม
“เจย์ว่าเราทานอาหารกันดีกว่าค่ะ”เจย์บอก ซึ่งผมก็ไม่ขัดข้อง
การทานอาหารเป็นไปด้วยดี เริ่มจากแรกเปลี่ยนข้อมูลของบอล เรื่องต่างๆ ดูก็รู้แล้วครับว่าพวกเธอนะชอบแกล้งครูหนุ่มของผมแน่ๆ
แต่พวกเธอก็เป็นห่วงความรู้สึกของบอลมาก เมื่อทานเสร็จผมจ่ายเงินค่าอาหารก่อนจะเดินมายังลานจอดรถของร้านอาหารเพื่อส่งพวกเธอขึ้นรถ
ส่วนผมก็อารมณ์ดีขับรถกับคอนโดตัวเอง เพื่อคอยการกลับมาของครูหนุ่มผิวเนียน วันนี้ผมรู้สึกว่าอารมณ์ดีมากจนอยากจับกดบอล
ซักรอบสองรอบ พวกคุณคิดว่าความคิดนี้ของผมดีไหม หึหึหึ....
ขอขอบคุณทุกคนสำหรับกำลังใจนะค่ะ

ตอนนี้เป็นตอนที่อิตาพี่วุฒิหากำลังเสริมเพื่อจับบอลให้อยู่หมัดเร็วขึ้น อิอิ..
ซึ่งตุ๊กตาหวังว่าจะไม่ทอดทิ้งกันนะค่ะ และเพื่อเป็นการขอบคุณทุกคนตอนหน้ามีให้

เล็กๆน้อยๆ
และขอ + เป็ดให้ทุกคนสำหรับกำลังใจค่ะ

เจอกันอีกทีวันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน

คนอ่าน
