ตอนที่ 20 ที่ปรึกษา – ความรักของแม่ – แม่ยายซ่า + ลูกเขยแสบ
แสงแดดส่องผ่านผ้าม่านเข้ามากระทบกับตาผมทำให้ผมเริ่มรู้สึกตัวว่าตอนนี้เป็นเวลาเช้าแล้ว
แต่ยังขี้เกียจตื่นอยู่เลยอ่ะ กว่าจะได้นอนเมื่อคืนก็จะตีสี่อยู่แล้ว
ผมเลยเอาหน้าซุกลงบนหมอพร้อมกับหลับตาเพื่อจะนอนต่อแต่ทันทีที่สมองผมนึกขึ้นมาได้ว่าวันนี้ผมต้องกลับบ้าน
" เฮ้ยยย…วันนี้กูต้องกลับบ้านนี่หว่า กี่โมงแล้ววะเนี่ยะ " ผมตกใจรีบหานาฬิกาเพื่อดูเวลา
" ตายห่า!!!!!.....11 โมงแล้วอ่ะ …." นี่ผมหลับเกือบจะตื่นเอาเที่ยงแนะ
ผมเลยรีบเก็บข้าวของยัดใส่กระเป๋าแล้วรีบจรลีไปอาบน้ำโดยด่วยเลยเพราะผมไม่อยากกลับบ้านช้า
ผมใช้เวลาอาบน้ำแต่งตัวประมาณครึ่งชั่วโมงคับ ผมก็ออกจากห้องมาก็เห็นพี่เต้นั่งดูทีวีอยู่
" อ้าว…สวัดดียามเที่ยงคับ…ตื่นแล้วหรอคับ..พี่นึกว่าจะหลับข้ามวันสะแล้ว. " พี่แกทักทายผมคับ
" คับพี่…พี่ทำไมไม่ปลุกผมละคับ…" ผมตอบพี่แกไปก็ปล่อยให้เรานอนอยู่ได้
" ก็กะว่าจะปลุกอยู่หรอกแต่พี่เห็นว่าเมื่อคืนเรานอนดึกน่าจะพักผ่อนเยอะๆ บ้านอยู่แค่นี้เองนั่งรถสองสามชั่วโมงก็ถึงแล้ว "
" คับ..แต่ผมเกรงใจพี่นี่นอนอยู่ห้องพี่ตั้งนาน"
" โอ๊ย..ไม่ต้องมาเกรงใจหรอก..คิดสะว่าพี่เป็นพี่ชายอีกคนแล้วกันนะ" พี่แกตอบพรางยิ้มมาให้ผม
" คับ…" ผมยิ้มตอบพี่แกไปในความมีน้ำใจของพี่แกคับ
" แล้ววันนี้พี่ไม่ไปไหนหรอคับ.." ผมถามพี่เค้าคับ
" อืม..ไปดิ…ก็รอเราอยู่นี่แหละ " พี่แกตอบผมมา เอาสะผมงงเลย กรูไปเกี่ยวอะไรด้วยเนี่ย
อ๋อ พี่แกคงรอให้เราตื่นก่อนไงและพี่แกก็จะได้ไปข้างนอก ตายห่ากรูเกรงใจพี่แกจัง
" เอ่อ…ผมขอโทษพี่ ผมทำให้พีต้องรออ่ะ…งั้นผมขอตัวกลับเลยนะคับ " ผมรีบบอกพี่แกคับเพราะเกรงใจที่พี่แกรอผมนานแล้ว
" เฮ้ย…ที่รอนะ รอให้เราไปกับพี่…" ผมงงสิคับ ไปไหนกับมึงอีกเนี่ย
" ไปไหนพี่…วันนี้ผมจะกลับบ้าน " ผมตอบพี่แกไปคับ เพราะคิดว่าพี่แกจะพาผมไปเที่ยว
" ก็กลับบ้านไง..ไปกับพี่นี่แหละประหยัดดี ทางเดียวกันไปด้วยกันสิคับ …" พี่แกตอบผมมา
" อ้าว…พี่จะกลับบ้านที่นครสวรรค์หรอคับ " ผมถามพี่แกไปคับ
" อืม..คับ พี่ลาหยุดพักร้อนสองอาทิตย์อ่ะ..กะว่าจะกลับไปบ้านก่อนค่อยไปเที่ยว "
" แต่ผมกลับรถตู้เองได้คับพี่ ..แค่ผมมานอนห้องพี่ผมก็เกรงใจจะแย่อยู่แล้ว " ผมตอบพี่แกไปเพราะเกรงใจจริงๆอ่ะ
" ไม่เป็นไร…ก็บอกแล้วไงคิดสะว่าพี่เป็นพี่ชายละกันนะ.."
" เอ่อ..กะ…ก็ได้คับ "
และผมก็ช่วยพี่แกขนกระเป๋าเสื้อผ้าสองใบของพี่เต้ไปที่รถพี่เต้คับ
ระหว่างทางผมกับพี่เต้คุยกันอย่างสนุกสนาน จนทำให้ตอนนี้ผมค่อนข้างสนิทกับพี่เต้แล้วแหละ
พี่เต้เป็นคนตลกชอบหามุกเสี่ยวเอามาพูดให้ผมขำเรื่อยๆ แต่ผมดูแล้วพี่แกไม่ได้คิดกะผมเกินเลยกว่าพี่น้องหรอกคับ
เพราะผมดูท่าทางพี่แกน่าจะมีแฟนแล้วด้วยแหละ ผมเลยถามพี่แกไปคับ
" พี่เต้…พี่ไม่มีแฟนหรอ…"
" มีแล้ว…แต่ตอนนี้แฟนไม่อยู่…แฟนพี่ไปเรียนต่อที่เยอรมันนะ อีกสองปีก็น่าจะจบแล้ว"
" หรอ…แฟนพี่น่ารักมั้ยอ่ะ…." ผมถามด้วยความอยากรู้คับ
" น่ารักดิ…หน้าเหมือนเราแหละ…แต่สูงกว่าเราหน่อยอ่ะ"
" อืม…พี่เต้ผมถามไรพี่อย่าโกรธผมนะ "
" อืม...ถามมาเถอะคับ "
" คือ…ทำไมพี่ถึงไปหาออฟเด็กแบบเมื่อคืนด้วยอ่ะคับ…."
" นี่…อยู่คนเดียวนานๆพี่ก็เหงาเป็นเหมือนกันนะ …ปกติพี่ไม่ได้หาออฟแบบนั้นหรอก ส่วนมากพี่ก็มีตามที่เที่ยวบ้างแต่ก็ไม่ได้บ่อยอะไรนัก
และที่เมื่อคืนอ่ะ ที่พี่จะซื้อเราก็เพราะเห็นน่ารัก น่าเหมือนแฟนพี่ประมาณว่าตรงสเป๊กอ่ะ เลยตัดสินใจไปซื้อ "
" แล้วพี่ไม่กลัวแฟนพี่รู้หรอคับ.." ผมถามเพราะความอยากรู้อีก
" แฟนพี่ก็รู้นะ..พี่เล่าทุกเรื่องให้เค้าฟังหมด เราสองคนไม่มีอะไรปิดบังกันและเรื่องแบบนี้พวกพี่สองคนเข้าใจคับว่ามันก็ต้องเหงาเมื่อเราห่างกันอ่ะ
แต่ถึงจะมีอย่างไงพวกพี่ก็ต้องป้องกันทุกครั้งคับ ไม่ได้ว่าสักแต่จะเอาอย่างเดียว "
" แฟนพี่ก็ใจดีเนาะ…" ผมฟังแล้วผมก็รู้สึกแปลกๆดีที่แฟนตัวเองยอมให้แฟนตัวเองมีอะไรกับคนอื่นด้วย
" พี่สองคนคบกันมานานแล้วคับ ..ถ้านับเวลาจริงตอนนี้พี่ก็คบกันมาก็8 ปีแล้วคับ พี่คบกันตั้งแต่พี่อยู่ ม.3 อ่ะคับ แฟนพี่เค้าเรียนโรงเรียน XXX
ตอนที่เรายังเด็กกันอยู่ไอ้ความหึงหวงมันก็มีเป็นธรรมดาคับ ความคิดแบบเด็กๆ แต่ตอนนี้พวกพี่คบกันมานาน ประมาณว่ารู้ใจกันมากอ่ะ
เดี๋ยวนี้เราก็ไม่ได้มาหึงมาหวงอะไรกันมากมายแต่ไม่ใช่ว่าเราไม่ได้รักกันนะ ความรู้สึกตอนนี้เราเป็นห่วงกันมากกว่า ถึงพวกพี่จะไปมีอะไรกับคนอื่นแต่มันก็แค่ชั่วคราวเพราะถึงยังไงพวกพี่สองคนก็รักกันคับ "
ผมฟังความรักของพี่เต้ก็รู้สึกดีนะคับแล้วทำให้ผมกลับมาคิดถึงความรักของผมบ้างว่าตอนนี้ผมกับไอ้ภีมมันเป็นเหมือนของพี่เต้ตอนแรกๆมั้ย
ผมนั่งคิดหน้าเครียด และเงียบไปเลยจนทำให้พี่เต้สงสัย
" ต้น..เป็นอะไรล่ะคับเงียบเลย …คิดอะไรอยู่หรอ "
" เอ่อ…ไม่มีอะไรคับพี่ คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยนะ.." ผมไม่กล้าบอกพี่เค้าว่าผมมีแฟนแล้ว
" คิดเรื่องแฟนอยู่ละซิ….พี่เดาถูกใช่มั้ยล่ะ…" เออ แม่นว่ะพี่
" และไอ้ที่เมื่อคืนมาเดินแบบนั้นก็ทะเลาะกับแฟนใช่มั้ย …เพราะคนดีๆที่ไหนเค้ามาเดินคนเดียวแบบนั้นกันทั้งคืน " โห…โคตรแม่นเลยพี่…
ผมได้แต่กมหน้าเหมือนยอมรับคับ…
" เรื่องความรักมันเป็นเรื่องของคนสองคนนะต้น..มีอะก็พูดจากัน..อย่าเก็บมาคิดคนเดียวบางทีสิ่งที่เราคิดอาจจะไม่ได้หมายความว่าเป็นแบบนั้นเสมอไปนะต้น " ผมฟังพี่แกพูดก็ทำให้ผมเริ่มคิดได้ขึ้นมาแต่ก็นะ มันเห็นคาตาขนาดนั้นอ่ะ ใครจะไปคิดแบบอื่นได้ล่ะ
ผมเลยเล่าเรื่องทั้งหมดให้พี่เต้ฟังคับ เมื่อพี่เต้ฟังแล้วก็ให้คำแนะนำผมคับ
" พี่ว่านะต้น ตอนนี้เราอย่าเพิ่งไปคิดแบบนั้นจริงอยู่ที่เราไปเห็นมาขนาดนั้นแต่เราก็ไม่ได้เข้าไปถามเค้านี่ว่าเค้าเป็นแบบนั้นกันรึเปล่า ? " เออ ก็ใช่อ่ะ
" อย่าเพิ่งสรุปอะไรไปก่อนที่เราจะรู้เรื่องราวทั้งหมดร้อยเปอร์เซ็นต์นะคับ "
" แล้วตอนนี้เราว่าเราเชื่อใจนายภีมรึเปล่าล่ะ …" พี่เต้ถามผมมา
ผมก็ไม่รู้จะตอบไง จะไว้ใจมันก็ไว้ใจนะแต่มันก็ไม่แน่
" เอ่อ..คือผมไม่แน่ใจนะคับ ผมคิดว่าผมกับภีมยังคบกันได้ไม่นาน ผมยังรู้ใจเค้าทั้งหมดหรอกคับ "
" อืม..มันก็จริงอย่างที่เราพูดนะ…ตอนช่วงปีแรกๆพี่กับแฟนก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน "
" แล้วเรารักนายภีมรึเปล่าล่ะ …" พี่เต้ถามผมอีก
" ผมคิดว่ารักนะคับ…" ผมตอบไปแบบไม่แน่ใจ
" เห็นมั้ย..เรายังไม่แน่ใจตัวเองเลยว่าเรารักเค้ารึเปล่า แต่พี่บอกได้นะว่าเรานะคงรักภีมจริงๆแต่เรายังไม่แน่ใจในตัวนายภีมก็เท่านั้น
ส่วนนายภีมเองพี่คิดว่าเค้าเองก็รักเรามากเหมือนกัน เรื่องแบบนี้มันต้องใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์คับน้องต้น
ตอนนี้เอาเป็นว่าเราทำใจสบายๆอย่าไปคิดมากเลย แล้วถ้ามีโอกาสได้คุยกันก็คุยกันสะให้รู้เรื่องอย่าเอาเรื่องแบบนี้มาเก็บคนเดียวเพราะเรื่องแบบนี้หรือเรื่องที่เล็กๆกว่านี้ก็ตามมันสามารถทำให้ความรักที่กำลังก่อตัวขึ้นพังทลายลงมาอย่างไม่เป็นท่านะคับ ให้เรื่องพวกนี้ให้เป็นแค่อุปสรรคก็พอและตัวต้นกับแฟนต้นเองก็ต้องเอาชนะอุปสรรคเหล่านี้ให้ได้นะคับ "
สิ่งที่พี่เต้พูดมาทั้งหมดนั้นมันทำให้ผมคิดได้คับว่าความรักไม่ใช่ความเป็นเจ้าของแต่ความรักคือความเข้าใจกัน
ความห่วงใยที่คนสองคนมีให้กันต่างหาก สิ่งนี้แหละถึงจะเรียกว่าความรัก
ตอนนี้ผมเลยไม่คิดมากเรื่องไอ้ภีมแล้วคับผมจะทำตามที่พี่เต้บอกคับ คือต้องคุยกันให้รู้เรื่องไม่ปล่อยให้ปัญหามาค้างๆคาๆแบบนี้
แต่ตอนนี้ผมคิดว่าผมจะโทรบอกแม่สะหน่อยว่าผมกำลังจะกลับบ้านเพราะแม่ผมยังไม่รู้เลยว่าจะกลับบ้าน
ผมเลยหามือถือในกระเป๋าของผม ปรากฏว่ามันแบตหมดตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็นแล้วนี่หว่า
ผมเลยกะว่าไปเซอร์ไพร์แม่ก็ได้
พี่เต้ใช้เวลาประมาณสองชั่วโมงกว่าในการขับรถจากกรุงเทพมานครสวรรค์ซึ่งค่อนข้างเร็วกว่ารถตู้เยอะเลย รถตู้ช้เวลาสามถึงสี่ชั่วโมงเลยอ่ะ
ผมกะให้พี่เต้ส่งผมแถวๆห้างXXX เดี๋ยวผมจะต่อรถสองแถวเข้าบ้านเองแต่พี่เต้ไม่ยอมคับบอกว่าจะส่งให้ถึงบ้านเดี๋ยวลุกเค้าไม่ปลอดภัยไม่มีปัญญาทำใช้ ผมก็เลยต้องยอมคับ และพี่เต้ก็มาส่งผมถึงหน้าบ้านเลยผมเลยกะว่าจะชวนพี่เต้ไปไหว้แม่สะหน่อยๆ แต่พี่เต้บอกไว้โอกาสหน้าดีกว่าเพราะตอนนี้พ่อกับแม่พี่เต้นัดทานข้าวไว้คับและตอนนี้ก็ไกล้เวลาแล้วด้วย พี่เต้จึงขับรถออกไปคับ
ผมกำลังจะไขประตูเข้าบ้านก็พบว่ามีรถของใครไม่รู้มาจอดที่บ้านผม ผมก็เลยมองว่าใช่บ้านเลขที่ตัวเองรึเปล่า เพราะกลัวเข้าผิดบ้านคับ
แต่มันก็ตรงนี่หว่ารึว่าเป็นรถเพื่อนแม่มั้ง ผมก็เลยไม่ได้สนใจคับ ก็เลยไขประตูเดินเข้าบ้านไปคับ
ทันทีที่ผมเข้าไปในบ้านก็เห็นแม่ผมนั่งอยู่ที่โซฟาหน้าทีวี โดยมีโทรศัพท์วางอยู่ตรงหน้าและแม่ก็จ้องแต่โทรศัพท์ตลอดเลย ทำแม่ไม่ทันได้สังเกตว่าผมเข้ามาในบ้าน แต่เท่าที่ผมเห็นแม่ก็อดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมแม่ตาบวมๆเหมือนร้องไห้แบบนั้นอ่ะ..หรือว่ามีใครเป็นอะไรรึเปล่าว่ะ
ผมชักเริ่มใจไม่ดีแล้วคับ ผมกะว่าจะเดินไปหาแม่ที่โซฟาแต่ก่อนที่ผมจะก้าวขาเดินออกไปนั้นก็ได้ยินเสียงของ
คนคนนึงที่มันไม่น่าจะมาอยู่ที่นี่เรียกผมลั่นบ้านเลย
" ต้น……..!!!!!!!!!!!!"
.ใช่คับเสียงของไอ้ภีมนั่นเอง มันไม่เรียกเปล่าคับมันวิ่งเข้ามากอดผมแล้วร้องไห้ใหญ่เลย
ทำเอาผมยืนเอ๋อตัวแข็งไปเลย ก็มันงงนี่คับคิดอะไรไม่ทันขอเอ๋อก่อนแล้วค่อยคิด
" ฮือๆๆ….ต้นไปไหนมาอ่ะคับ..ฮือๆๆ…ไหนบอกว่าจะกลับบ้านตั้งแต่เมื่อวานไง "
" ต้นหายไปไหนมาคัยรู้มั้ยภีมเป็นห่วงต้นมากขนาดไหน..ฮือๆๆ…" ไอ้ภีมพูดไปร้องไปคับ
" เอ่อ..คือ..เมื่อคืนเราตกรถนะ…มัวเที่ยวเพลินไปหน่อย…ก็เลยไปนอนกับเพื่อนก่อน "
" แล้วทำไมปิดมือถือละคับเมื่อคืนภีมกับแม่โทรติดต่อต้นตลอดเลย "
" แบตมันหมดนะคับ…" ผมตอบไปอย่าง งงๆ
แล้วแม่ผมก็เดินมาหาผม ผมเลยผละออกจากไอ้ภีมคับ
แล้วแม่ผมก้เข้ามากอดผมแทนแล้วก็ร้องไห้เหมือนไอ้ภีมเลย ทำเอาผมใจหายเลยเพราะแม่ผมไม่ร้องไห้ง่ายๆหรอกคับ แม่เข็มแข็งมาตลอด
" ไปไหนมาลูก…แม่เป็นห่วงลูกมากรู้มั้ย…ถ้าลุกเป็นอะไรไปแล้วแม่จะอยู่อย่างไงลูก…"
คำพูดของแม่ทำเอาผมรู้สึกผิดอย่างมากเลยคับ นี่ผมทำให้แม่ร้องไห้หรอเนี่ย ผมเลยต่อมน้ำตาแตกเลยคับ
" ฮือๆๆ…แม่คับต้นขอโทษ…ฮือๆๆ…" ผมร้องไห้อย่างหนักเลยคับตอนนี้ทำเอาแม่ปลอบผมใหญ่เลย
" ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วลูก…อย่าร้องนะ…" แม่ปลอบผมสักพักผมก็หยุดร้องไห้คับ
" แม่คับ..ต้นขอโทษคับที่ต้นไม่ได้โทรบอกแม่ ทำให้แม่เป็นห่วง "
" ไม่เป็นไรก็ดีแล้วลูกแต่ทีหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะลุกแม่ใจไม่ดีเลย ถ้าลูกเป็นอะไรไปแม่จะอยู่ยังไงลูก ลูกเป็นทุกอย่างของแม่นะ "
ผมก็เลยโผเข้ากอดแม่อีกครั้ง..ผมรู้สึกถึงความรักที่ยิ่งใหญ่ของผู้หญิงคนนี้ที่มีให้ผมสะเหลือเกิน
ผมภูมิใจอย่างที่สุดที่ครั้งนึงได้เกิดมาเป็นลูกของแม่นะคับ ผมกอดกับแม่สักพักผมก็ผละออกจากแม่ทำให้ผมเห็นไอ้ตัวดีของผม ยืนยิ้มน้ำตาคลออยู่คับ
ผมเลยถามมันเลยคับ
" ภีมมาที่นี่ได้ไงอ่ะ "
ภีมมันก็เลยเล่ให้ผมฟังว่าเมื่อวานประมาณสามทุ่มมันโทรหาผมว่าผมกลับถึงบ้านรึยังแต่โทรศัพท์ผมโทรไม่ติดแต่ภีมคิดว่าผมอาจจะงอนภีมอยู่เลยไม่รับสายเลยโทรเข้าเบอร์บ้านผมเพื่อที่จะถามแม่ผมดูว่าผมกลับมาถึงบ้านรึยัง ซึ่งมันก็บอกว่าแม่บอกว่ายังไม่กลับและแม่ไม่รู้ด้วยว่าวันนี้ต้นจะกลับบ้านแต่ตอนนั้นภีมก็ยังคิดว่าผมอาจจะขึ้นรถเลทและมันก็โทรเชคทุกครึ่งชั่วโมงซึ่งจนถึงเที่ยงคืนซึ่งรถตู้เที่ยวสุดท้ายที่ออกจากกรุงเทพน่าจะถึงนครสวรรค์แล้วแต่ผมก็ยังไม่ถึงบ้าน มันบอกว่าตอนนั้นมันเริ่มใจไม่ดีแล้วแล้วแม่ผมก็เริ่มใจไม่ดีแล้วเหมือนกัน
ภีมมันติดต่อเพื่อนทั้งหมดของผมที่มันรู้จักว่าผมไปไหนกับใครรึเปล่า แต่ก็ไร้วี่แววของผมส่วนแม่ผมเองก็บอกมันว่าต้นไม่มีเพื่อนเก่าที่สนิทๆกันอยู่กรุงเทพเลย และเพื่อนที่ต้นพอจมีอยู่ในกรุงเทพแม่ก็ติดต่อหมดแล้วก้ไม่มีใครรู้ว่าต้นอยู่ที่ไหน มันบอกว่าตอนนั้นแม่ผมร้องไห้โฮเลยมันเลยใจไม่ดี และมันก็คิดว่าผมอาจจะทำอะไรบ้าๆประชดมันจนทำให้ผมเกิดอันตรายขึ้น มันเลยบึ่งรถจากกรุงเทพมานครสวรรค์เพื่อมาหาแม่ผมที่บ้านโดยมันโทรถามทางจากแม่ผมทั้งคืน มันมาถึงบ้านผมประมาณตีสาม มันก็เล่าเรื่องทั้งหมดของผมและมันให้แม่ฟัง
ผมตกใจสุดขีดเลย เมื่อมันบอกว่ามันเล่าเรื่องทั้งหมดของผมและมันให้แม่ผมฟัง
ผมหน้าซีด ตัวสั่นน้ำตาคลอจะร้องไห้อีกแล้ว ผมกลัวแม่ผมรับไม่ได้และเสียใจที่ผมเป็นแบบนี้
ผมเงยหน้ามองแม่น้ำตาไหลพราก..ผมกำลังจะขอโทษแม่ที่ผมทำให้แม่ผิดหวัง
แต่จู่แม่ก็เดินเข้ามาและกอดผมไว้และลูบหัวผมเบาๆ
" แม่ไม่ได้ว่าอะไรต้นสักหน่อย..ร้องทำไมอีกล่ะลูก ..ลูกโตแล้วนะ …แม่เลี้ยงลูกมาทำไมแม่จะไม่รู้ว่าลุกแม่เป็นแบบไหนแต่แม่ไม่ได้สนใจตรงนั้นแม่สนใจที่ว่าลูกของแม่ต้องเป็นคนดีของแม่และของสังคมซึ่งลุกแม่คนนี้ก็ไม่ได้ทำให้แม่ผิดหวังเลย…ต้นไม่ต้องเสียใจนะลูก ลุกจะรักจะชอบใครแม่ไม่ว่าต้นโตพอที่จะมีความรักและแม่ก็เชื่อว่าต้นจะไม่ทำให้ใครเดือดร้อนด้วย "
ทันทีที่แม่พูดจบผมเงยหน้ามองแม่ด้วยความซาบซึ้งในความรักของแม่ผม ผมเลยกอดแม่แน่นเลย
" ตายแล้วไอ้ลูกคนนี้..กอดแม่สะแน่นเลยทำเป็นเด็กๆไปได้ไม่อายแฟนเราหรอนะ…" แม่ผมพูดออกมาทำเอาผมตกใจเลยที่แม่เรียกไอ้ภีมว่าเป็นแฟนของผม
" แม่……..ไปเรียกอย่างนั้นได้ไงเล่า…." ผมบอกแม่ไป
" ทำไมล่ะ…ภีมเค้าเล่าให้แม่ฟังหมดแล้ว…แม่ก็ว่าแล้วเชียวทำไมลูกแม่ถึงผอมลงได้ก็เพราะนายภีมนี่เอง "
" เก่งจริงนะ…พ่อลูกเขยทำเอาลูกแม่หุ่นดีไปเลย.." แม่ผมพูดแล้วหันไปยิ้มให้ไอ้ภีมคับ
ทำเอาผมทำหน้างอนทั้งแม่และไอ้ภีมเลย
หลังจากนั้นผม แม่ และไอ้ภีมก็จะไปกินข้าวนอกบ้านกัน ซึงแม่ผมก็พาไปร้านประจำคับ โดยระหว่างกินแม่ผมจะเข้าขาได้ดีกับไอ้ภีมมากเลยทีเดียว
ทำเอาผมเป็นหมาหัวเน่าไปเลย และระหว่างกินแม่ผมก็ขอตัวไปห้องน้ำทำให้ผมได้อยู่กับไอ้ภีมสองคน
" ตะเอง..เป็นอะไรอ่ะหน้างอเชียว …" ไอ้ภีมมันบอกผม
" หมั่นไส้คน…เข้าขากะแม่เค้าดีเลยนะ..และเป็นบ้าอะไรถึงใจกล้าทำแบบนี้เนี่ยะ " ผมว่ามันไปคับ
" ก็บ้ารักตะเองไงคับ…เห็นมั้ยแม่ไม่ว่าด้วยแถมยังหลงลูกเขยคนนี้อีกนะ" มันตอบออกมาอย่างภูมิใจคับ
" หึหึ…อย่าเพิ่งดีใจไปภีมเรายังมีเรื่องต้องเคลียร์กันอีกนะ " และผมก็ทำหน้าโหดใส่มันทำเอามันหน้าจ๋อยไปเลย
และแม่ผมก็มาพอดี และผมก็รับประทานอาหารกันอย่างสนุกสนานทั้งแม่ยายลูกเขยต่างรุมเผาผมต่างๆนาๆ ทำเอาผมเซงเลย เฮ้อออออแม่กรูเนี่ยรู้จักมันวันเดียวเป็นแบบนี้สะแร้ววอ่ะ
วันนี้ไม่ได้ไปไหนอยู่บ้านกะแม่และไอ้ภีม นั่งๆนอนๆแต่เน้นหลับมากกว่า เฮ้อออ...วันนี้ง่วงเร็วจังไปนอนแระ อิอิ