## บันทึกรักสีม่วง ## ตอนพิเศษสุดท้าย [ ๒๑ / ๐๑ / ๒๕๖๐ ]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ## บันทึกรักสีม่วง ## ตอนพิเศษสุดท้าย [ ๒๑ / ๐๑ / ๒๕๖๐ ]  (อ่าน 268054 ครั้ง)

ออฟไลน์ Veesi3

  • coHon3 {ต้นฝ้าย}
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 715
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
ทุกคนต่างมีปมของตัวเอง แต่อยู่ที่ว่าใครคิดได้  :hao5:

ออฟไลน์ AGALIGO

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 310
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-4

ชอบตอนนี้จังเลย

มีมากมายหลากหลายอารมณ์

+ 1 + เป็ดจ้า

ออฟไลน์ Pz_ready

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 53
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +107/-1
นับตั้งแต่วันที่อดุลย์ถูกทิ้งไว้ให้งงงันพร้อมคำขู่แปลกๆจากเจ้าของบ้าน เหมือนว่าเวลาเขาทำอะไรก็มักจะขัดหูขัดตาอีกฝ่ายไปซะหมด ได้ยินเสียงจิ๊ปากรำคาญทุกครั้งที่เจอหน้ากันแต่ก็ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านั้น รพีแค่หงุดหงิดด้วยสาเหตุอะไรก็เกินกว่าเขาจะคาดเดาได้ คิดว่าคงเพราะเขาจะฝ่าฝืนคำสั่งเลยเกิดความไม่ชอบใจ

อดุลย์เลยคงได้พับแผนการที่จะใช้ชีวิตของตัวเองไปอีกซักระยะ เขาไม่อยากจะมีปัญหาอะไรยอมได้คงต้องยอมไปก่อน ในซักวันหนึ่งที่เขาคงจะหมดความสำคัญกับบ้านหลังนี้คงมาถึง

“วันนี้ทำอะไรกินครับพ่อ”เสียงทักทายยามเช้าตรู่ของตะวันส่งมา ทั้งดาวและป่านหันกลับไปยิ้มทักทายคุณหนูของบ้านที่เดินมากอดรัดฟัดเหวี่ยงพ่อปิงปองของตัวเองอย่างที่เคยทำประจำ

“ทำไมตื่นเช้าจัง”อดุลย์ถามกลับแปลกใจ ตอนนี้พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้นดีด้วยซ้ำ เขากับเด็กๆในบ้านกำลังทำอาหารเช้าง่ายๆแบบในทุกวัน ตอนนี้เหมือนเป็นหน้าที่ของอดุลย์รับผิดชอบไปเสียแล้ว

“ว่าจะไปไวหน่อยครับ อาทิตย์ที่แล้วไม่ได้ไปเรียนทั้งอาทิตย์เพื่อนบอกว่ามีงานเพียบ เลยว่าจะแวะหอพวกเพื่อนลอกงานก่อน”ตะวันยิ้มตอบ ซบหน้าลงคลอเคลียราวลูกแมวเมื่อถูกมือบางยกขึ้นลูบหัวอ่อนโยน

“แล้วจะไปยังไง ให้พ่อไปส่งมั้ยเดี๋ยวยืมรถลุงโชนไปส่งก็ได้”

“ไม่เป็นไรครับ พี่วัชจะไปส่ง”

“คุณวัชรอ่ะเหรอ?”

“ครับ เห็นว่าวันนี้จะเข้ามาคุยกับพ่อด้วย เลยอาสามารับตะวันเพราะยังไงก็ต้องมาบ้านนี้อยู่แล้ว”เมื่อคืนคนที่อาสาโทรมาหาตะวันแจ้งกำหนดว่าตัวเองจะเข้ามาให้ฝากบอกพ่อปิงปองของตะวันด้วย เพราะวัชรไม่มีเบอร์ของอดุลย์

“ไม่ลำบากพี่เขานะตะวัน”คนตัวเล็กส่งสีหน้ากังวลออกมา ว่าด้วยเนื้องานของวัชรเป็นเลขาฯของรพี จะให้มาไปส่งตะวันก็กลัวว่าเจ้านายฝ่ายนั้นรู้จะพลาดเขม่นเขาอีก

“ชิว พี่วัชเขาใจดีนะ”พูดพลางหัวเราะเสียงใสก่อนจะขอตัวออกไปไม่ขัดขวางการทำอาหารของพ่อต่อ เห็นแว่บๆว่าวันนี้พ่อทำพะโล้ให้ก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่

ของโปรดอีกแล้ว...

ไม่นานเท่าไรนักแขกของบ้านก็เข้ามาเยือน หนุ่มหน้าตี๋บอกเชื้อชาติยิ้มรับแสงสีส้มอ่อนๆในเช้าวันใหม่ เดินเข้ามาในครัวอย่างสนิทชิดเชื้อ

“สวัสดีครับคุณปิงปอง”คำเรียกแทนตัวที่ดูสนิทสนม อดุลย์ยิ้มพร้อมๆกับรับไหว้

“สวัสดีครับคุณวัชร”พร้อมๆกับดาวและป่านที่เอ่ยทักทายอย่างนอบน้อมแม้จะอายุมากกว่าอีกฝ่ายก็ตาม

“ตะวันตื่นหรือยังครับเนี่ย”

“อ้อ เดี๋ยวก็ลงมาครับ เมื่อกี้มาร้องตะแน่วๆหาของกินแล้ว ตอนนี้คงกำลังไปแต่งตัวอยู่ คุณวัชรทานข้าวเช้ามาหรือยังครับ”หนุ่มหน้าตี๋ส่ายหน้า มือขาวลูบที่ท้องตัวเองเพื่อยืนยันอีกทาง

“งั้นทานด้วยกันกับตะวันนะครับ ผมจะได้จัดให้เพิ่ม”

“งั้นรบกวนด้วยนะครับ”วัชรตอบอารมณ์ดี คนตรงหน้าอัธยาศัยดียิ้มแย้มตลอดเวลา ไม่เคยคิดว่าเขาเป็นลูกน้องแม้ตัวเองจะอยู่ในฐานะที่เป็นครอบครัวของเจ้านายเขาก็ตาม

ซักพักพอตะวันลงมาดาวก็จัดโต๊ะอาหารเสร็จเรียบร้อย วันนี้โต๊ะอาหารยามเช้าดูจะคึกคักเป็นพิเศษ ปรกติจะมีแค่ตะวันคนเดียวที่นั่งบนโต๊ะ บางทีก็กินจากในครัวเลยด้วยซ้ำเพราะเขาออกจากบ้านแต่เช้า

แต่วันนี้พอมีผู้ร่วมโต๊ะอาหารคนใหม่มา อดุลย์เลยมานั่งเป็นเพื่อนด้วยแม้ว่าจะไม่ได้ร่วมทานด้วยกัน เพราะมันเช้าเกินไปเขารอทานพร้อมๆกับพวกดาวและป่านเสมอ

“น่าทานทั้งนั้นเลยนะครับ”หนุ่มตาเล็กพูดชมเอาใจ แต่ก็ไม่ได้เกินความจริง คนที่ยกอกขึ้นภูมิใจไม่ใช่คนทำแต่เป็ลลูกชายตัวแสบ

“อยู่แล้วพี่วัช พ่อปิงปองทำอาหารเก่งที่สุด”ตะวันพูดโอ้อวด

“อืม อร่อยจริงๆ ทำไมถึงไม่ลองทำร้านอาหารล่ะครับ”อีกครั้งที่ได้ยินคำถามแบบนี้ ที่จริงกับข้าวที่ทำไม่ได้รสชาติดีเลิศขนาดนั้น แต่คงเป็นเพราะมันเป็นรสที่ถูกปากมากกว่า อดุลย์ใส่ใจคนรอบข้างเสมอ รู้ว่าใครชอบทานอะไรแบบไหน ที่วัชรชมคงเพราะรสปากเดียวกับลูกชายที่ชอบรสจืดนิดๆ ถ้าเป็นศูรฝ่ายนั้นชอบพวกอาหารพื้นเมืองพวกน้ำพริก ส่วนรพีก็ชอบพวกผัดผักกับต้มยำ

“ไม่มีทุนขนาดนั้นหรอกครับ ถ้าเป็นแต่ก่อนเคยทำอยู่นะครับ ทำใส่ถุงไปเดินขายในตลาด แต่กำไรน้อยแล้วก็ต้องมีเวลา”อดุลย์บอกกลับยิ้มๆ สมัยตอนเด็กๆเคยช่วยแม่ของตัวเองทำกับข้าวเดินขายตามตลาดตามโรงงานแถวบ้าน ตอนที่เลี้ยงตะวันก็เคยทำไปขายในตลาดเหมือนกัน

“นี่ไงครับ ทำให้ห้างของเรา ทุนไม่ต้องหา กำไรเน้นๆ”คำพูดเล่นเรียกเสียงหัวเราะร่า แต่วัชรพูดจริง วันนี้ที่เข้ามาหาอดุลย์ก็เพราะได้รับคำสั่งแปลกๆจากเจ้านายให้มาคุยเรื่องหาอะไรให้คนในบ้านตัวเองทำ ถึงไม่เข้าใจเหตุผลก็เถอะ แต่ก็ต้องทำตามอย่างเดียว

“พูดเป็นเล่นไป ค่าเช่าที่ห้องยูนิตหนึ่งแพงกว่าเงินเดือนรวมค่าคอมฯของผมอีกนะครับ”

“นั้นมันแต่ก่อนนี่ครับ ทำได้จริงๆนะครับ ท่านประธานไม่หวงที่หรอกครับ ไม่เชื่อลองไปถามท่านได้นะครับ”เพราะฝ่ายนู้นบอกมาเองว่าถ้าอดุลย์อยากทำอะไรก็ให้วัชรจัดหาให้ วัชรคิดให้ใจขำๆ

“เหอะๆ”ยิ้มแห้งๆกลับ ให้ตายก็ไม่กล้าพูดหรอก แต่โดนคำขู่คราวที่แล้วก็ไม่อยากทำอะไรขัดใจอีกฝ่าย ถ้ามาขอที่ขอทางมีหวังคิดว่าเขาจะกอบโกยอีกแน่ๆ

“ไม่เอาหรอก พ่ออยู่ทำกับข้าวให้ตะวันคนเดียวก็พอแล้วเนอะ พ่อไปเปิดร้านก็ไม่มีเวลาทำกับข้าวสิเนอะพี่ป่านพี่ดาว”ตะวันขัดกลางปล้อง ไม่เห็นด้วยที่จะให้ไปพ่อไปทำงาน อยากให้อยู่สบายๆมากกว่า สองสาวใช้ที่ยืนอยู่ใกล้ๆก็ร้องรับคำแข็งขัน ไม่ได้มีความคิดเห็นอะไร

“โห้ย อายุตั้งเท่าไรแล้วตะวันลูกแหง่นี่หน่า มีของอร่อยสมควรแบ่งปันนะ”

“พ่อปิงปองไม่ใช่ของกินนะพี่ เนอะพ่อเนอะ”เถียงตาใสแกล้งทำไม่รู้เรื่องทำเอาคนคนอื่นหัวเราะร่าไม่เว้นแม้แต่คนล้อเลียน

“....วัชร? มาทำอะไรแต่เช้า”เสียงเข้มดังขัดเสียงหัวเราะของคนในห้อง ดาวกับป่านพอเห็นว่าใครเป็นคนพูดก็เอ่ยขอตัวไปชงกาแฟให้เจ้าบ้าน รพีเดินเข้ามาให้ห้องอาหารห้องเล็กที่มีสามคนกำลังยิ้มแย้ม บนโต๊ะมีอาหารสามอย่างที่รู้ว่าฝีมือใครวางอยู่

ตื่นเช้าลงมาก็ได้ยินเสียงพูดคุยหัวเราะคิกคักเลยเดินเข้ามาดู เห็นรอยยิ้มของคนร่างบางที่เกิดจากลูกน้องของตัวเองก็รู้สึกขัดใจ ตั้งแต่วันนั้นที่ขู่อดุลย์ไปเขาก็พยายามเลี่ยงอีกฝ่ายมาตลอด ไม่เข้าใจตัวเองอยู่นานจนสุดท้ายก็สรุปได้

...ว่าคงเป็นเพราะตัวเองหวงของ ในเมื่ออดุลย์เป็นคนของเขา  ก็ไม่มีสิทธ์หนีหายไปไหนโดยพลการโดยที่เขาไม่อนุญาต...

“ผมจะมาคุยธุระกับคุณปิงปองครับ”

“ธุระมันต้องมาเช้าขนาดนั้นเลยหรือไง”เสียงเข้มถามอย่างขัดใจ เลขาหน้าตี๋มองเจ้านายงงๆ รู้สึกตัวเองกำลังทำอะไรให้ท่านประธานโกรธ แต่ก็ไม่รู้ว่าอะไรเหมือนกัน

“เอ่อ ก็ผมอาสาไปส่งตะวันน่ะครับ ผมยังไม่ได้จัดการเรื่องรถเลยอาสามาก่อน”

“แล้วเรื่องรถว่าไง ดูแล้วใช่มั้ยว่าจะเอารุ่นไหน”หันมาถามคนเป็นลูก ตะวันส่ายหน้าหวือ

“คือตะวันไม่อยากขับรถ ยังไม่มีใบขับขี่ไม่อยากให้วุ่นวาย”

“แล้วจะเอายังไง?”

“ก็ไปกลับแท็กซี่เอาได้มั้ยครับ?”ยื่นข้อเสนอไป ตะวันรู้ว่าทุกคนเป็นห่วง แต่เขาไม่อยากทำตัวราวกับคุณหนูมีคนคอยรับส่ง ทุกวันนี้เพื่อนที่รู้ว่าตะวันขยับฐานะก็มีแค่ทานตะวันกับเพื่อนที่วิทยาลัยอีกสองคนเท่านั้น

“มันไม่สะดวก”รพีขัดเสียงเข้ม เป็นนิสัยไปแล้วที่ไม่ชอบคนขัดใจ

“เอ่อ...งั้นเดี๋ยวผม”อดุลย์จะบอกความคิดเห็นแต่ถูกสายตาคมหันตวัดมาจ้องใส่จนสะดุ้งน้อยๆ

“นายไม่ต้องหาเรื่องลำบาก ถ้าไม่อยากขับเองกลัวผิดกฎหมายก็ให้เอาคนขับที่บริษัทไป มีลูกจ้างก็ต้องใช้ ชั้นจ่ายเงินเดือนไม่ได้ให้พวกนั้นทำงานฟรีๆ”รพีรู้ว่าอดุลย์จะพูดอะไรเลยพูดขัด ไม่พ้นว่าอีกฝ่ายเสนอตัวมาขับรถรับส่งให้ลูกชายแน่ๆ

วัชรมองบทสนทนาตรงหน้าเงียบๆ รู้สึกอึ้งปนขำอยู่ในใจ ก็รู้อยู่หรอกว่าท่านประธานเป็นคนที่มักจะบังคับอะไรๆให้ได้อย่างใจตัวเอง ไม่ชอบคนขัดใจ แต่ก็ไม่ได้บังคับทั้งๆที่มีบรรยากาศอ่อนหวานแบบนี้ เป็นการบังคับที่แสดงออกถึงความห่วงใยแบบสุดๆ

“หัวเราะอะไรวัชร?”หนุ่มหน้าตี๋สะดุ้งตัว ไม่รู้ตัวว่าเขาเผลอหัวเราะออกมาด้วยซ้ำ

“ปะ...เปล่าครับ”

รพีไม่ได้สนใจอะไรในคำตอบ พอดีกับที่ดาวและป่านยกถาดกาแฟเข้ามารพเลยเลือกนั่งลงที่หัวโต๊ะอีกฝั่งหนึ่ง แต่คิ้วเข้มก็ขมวดเข้าหากันเมื่อเห็นสิ่งที่สาวใช้ยกมา

...กาแฟดำกับนมสองแก้ว กับเลม่อนฝานหนึ่งซีก...

ที่จริงเขาก็ดื่มแบบนี้ปรกติทุกวัน แต่วันนี้มันไม่เหมือนเดิมตรงที่

ทำไม...กับข้าวที่เขาไม่เคยแตะต้องถึงไม่ถูกยกมาด้วย

“ท่านประธานไม่ทานข้าวด้วยกันเหรอครับ”วัชรถามเมื่อเห็นเจ้านายมีแค่แก้วกาแฟสองแก้วเล็กๆ กลับต้องสะดุ้งอีกครั้งเมื่อถูกสายตาดุตวัดมองมาที่ตัวเอง คิ้วเข้มขมวดแบบนั้น...อารมณ์เสียอยู่แน่ๆ

“เอ่อ...”

“กินเสร็จหรือยังชั้นมีเรื่องจะคุยกับนาย”รพีพูดโพล่งออกมาแล้วเดินฉับออกจากห้อง เป็นเชิงว่าให้คนที่ถูกถามตามไปทั้งๆที่ยังไม่รอฟังคำตอบ วัชรเดินตามออกไปงงๆ ช่วงนี้ถึงเป็นเขาก็ไม่ค่อยเข้าใจอารมณ์ของรพีซักเท่าไร

“มีอะไรหรือเปล่าครับท่านประธาน?”วัชรเอ่ยถามเมื่อเดินตามเข้ามาในห้องรับแขกที่อยู่ใกล้ๆ รพีนั่งอยู่ที่โซฟาสีครีมตัวใหญ่ แหงนหน้าขึ้นมองวัชรขัดใจ

“เรื่องนลิน”

“ที่ว่าคุณนลินมีส่วนเรื่องที่ตะวันถูกทำร้ายใช่มั้ยครับ”

“ใช่...แล้วเรื่องที่เพื่อนนายไปสืบมาว่าการินมันเอางานลูกค้าไปขายให้โรงแรมของคุณสมยศด้วย”

“ครับ”วัชรรับคำเสียงแข็งขัน ด้วยว่าเพราะเป็นเรื่องงานที่เขารับผิดชอบ แม้จะยังไม่เข้าใจว่าทำอะไรขัดใจเจ้านายก็ตาม

“ชั้นพยายามติดต่อนลินแล้ว แต่ติดต่อเธอไม่ได้ เพราะงั้นนายจัดการให้ทนายจัดการซะยื่นเงินให้เธอตามสมควร ชั้นอยากได้ใบหย่าเร็วที่สุด แต่รู้ใช่มั้ยว่าขอบเขตที่ฝ่ายนู้นสมควรได้อยู่ตรงไหน”วัชรพยักหน้าเข้าใจ เมื่ออาทิตย์ก่อนที่ตะวันถูกทำร้ายเขาก็ถูกใช้ให้ติดต่อภรรยาเก่าของเจ้านาย เขาก็พอเดาเรื่องราวได้ ที่รพีตัดสินใจเสียเงินคงอยากตัดปัญหาเรื่องนี้

“ส่วนเรื่องการิน ชั้นไปคุยกับคุณสมยศแล้ว คุณสมยศไม่ได้รู้เรื่องราวอะไร แต่เขารับปากแล้วว่าจะจัดการคนของเขาที่รับงานกับนายการินให้ ชั้นเองก็จะทำเป็นไม่รู้ แต่ถ้ามันไม่ยังไม่หยุดก็ไล่มันออกไปซะ”

“ท่านประธาน...จะปล่อยมันไปจริงเหรอครับ?”วัชรแปลกใจอีกครั้ง ที่เห็นรพีตัดสินใจแบบนี้ ตอนที่รู้เรื่องราวรพีดูโกรธเป็นฝืนเป็นไฟแสดงท่าทางว่าต้องจัดการคนที่มาคดโกงตนเสียงให้ได้

“ถ้ามันทำให้ทุกอย่างไม่ลามไปมากกว่านี้ ชั้นก็โอเค”เขาไม่รู้ว่านลินคิดจะทำอะไรตะวันอีกหรือเปล่า เท่าที่รู้มีข่าวว่าตะวันเป็นหัวโจกในวิทยาลัยที่ตัวเองเรียนอยู่ รูปใบหน้าตะวันถูกเผยแพร่ในวิทยาลัยช่างมากมายในกรุงเทพฯ แม้จะมีบางคนที่ไม่เชื่อข่าวพวกนี้ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่เชื่อ

“เรื่องเปิดตัวตะวันก็เลื่อนไปก่อน ให้ตะวันเรียนจบหรือพร้อมที่จะเข้ามาทำงานค่อยเปิดตัว”

“ครับ”วัชรยิ้มรับคำสั่ง ดีใจที่ท่านประธานของตัวเองแสดงท่าทีอ่อนโยนออกมาให้เห็น คิดไม่ยากว่าทุกอย่างที่ท่านประธานคิดและทำก็เพื่อลูกชายทั้งนั้น

ที่ปล่อยอีกฝ่ายเท่าที่จะปล่อยได้ก็เพื่อไม่อยากให้ความโกรธแค้นของอีกฝ่ายมาทำอะไรใครอีกอย่างที่ตะวันโดนมา

ที่ไม่เปิดตัวตะวันว่าเป็นทายาทเพราะไม่อยากให้ตะวันกลายเป็นจุดสนใจ

“ผมจะจัดการให้เร็วที่สุดนะครับ”รพีพยักหน้าบอกเป็นเชิงว่าหมดธุระจะคุยด้วย

“ครับ ท่านประธานจะเอาอะไรอีกมั้ยครับ เดี๋ยวผมจะกลับไปห้องอาหาร”

“งั้นฝากไปยกกาแฟมาให้ชั้นด้วย........เดี๋ยว!!!”รพีบอกเรียบๆ จนวัชรเกือบจะเดินออกไปจากห้องแล้วแต่ก็ถูกเสียงเข้มตะโกนเรียกเสียก่อน

“...ครับ?”คนเป็นเจ้านายเดินเข้ามาหาก่อนจะยื่นธนบัตรแบงค์สีเทาให้ลูกน้องที่ทำหน้าสงสัยใส่

“ค่าน้ำมันไปส่งตะวัน...แล้วก็ไปหาอะไรกินข้างนอกซะ”คำสั่งดุดันจนคนฟังเกรงไหล่

“แต่...”

“รีบไป แล้วหาอะไรกินมาเลย บ้านชั้นไม่ใช่ร้านอาหาร ถ้าหิวก็ไปหาอะไรกินซะ”เป็นอีกคำสั่งที่ฟังไม่เข้าใจ วัชรได้แต่ทำหน้างงพร้อมๆกับเงินที่ยัดเข้ามาในมือแบบแรงๆ มองแบงค์ที่ยับยู่ยี้แล้วเงยมองหน้าเจ้านายอีกรอบ

ถึงรพีจะเป็นคนที่ถือตัว แม้ไม่บ่อยครั้งแต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขามาทานข้าวที่บ้านหลังนี้ อาจจะเป็นครั้งที่สาม...ตั้งแต่ที่ทำงานด้วยกันมา

“ไปได้แล้ว”หนุ่มตาตี๋พยักหน้าแล้วกล่าวลาเจ้านาย เดินออกไปจากห้องเพื่อจะไปส่งลูกของเจ้านายไปเรียนในตอนเช้า พลางคิดไปตลอดทางว่าเขาทำอะไรให้ท่านประธานไม่พอใจหรือเปล่า

แต่...ตอนคุยเรื่องงานก็ปรกติดีทุกอย่าง...

ทั้งๆที่ตลอดห้าปีที่ผ่านมาเคยเข้าใจว่าเขาเป็นเลขาที่เข้าใจรพีมาตลอด...นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ไม่เข้าใจ

แล้วสรุป...เขาทำอะไรผิดกันเนี่ย 





ช่วงนี้เนื้อเรื่องเบาๆ ให้คนอ่านได้พออ่านแบบไม่ต้องเครียดบ้าง
เปรียบเหมือนฟ้าสงบก่อนพายุจะเข้า หือออออออ????

ออฟไลน์ liza sarin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-14
รพีหึงลูกน้องตัวเองใช่ไหม

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
รพี... โคตรงกเลยหวงของเกินเหตุมาก

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1808
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
รพีเนี่ยหวงจริงๆเลยนะ  :hao3:

ออฟไลน์ Veesi3

  • coHon3 {ต้นฝ้าย}
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 715
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
ขี้หวง ขี้หึง ขี้น้อยใจ นี่รพีเลยอ่ะ ขนาดยังไม่ลงเอยกันั่ข้าวที่ปิงปองทำยังหวง ถ้าตอนสวีทนี่จะขนาดไหนนะ :hao7:

ออฟไลน์ Roman chibi

  • Death is not the end. Death can never be the end. Death is the road. Life is the traveller. The soul is the guide.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-3
ไม่กินแต่หวงข้าว ขอโทษทีนะ พ่อซันน่ะหมาหวงก้างชัดๆ  :laugh:

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
คนแก่ขี้หึงงงงงงงงง :P

ออฟไลน์ Ipatza

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 932
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-7
อือหือ
อาการมาแล้วๆ
หึงแล้วสินะๆๆๆๆๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ matame

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 706
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-1
หึงเบาๆ

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
คุณคนเขียนกำลังจะบอกว่าหลังจากนี้เตรียมซดดราม่าหนักๆสินะ  :hao5:

ออฟไลน์ panari

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 534
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
พายุอะไรจะเข้าเนี่ย อย่าให้ลูกใหญ่มากก็พอ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
ไม่คิดว่าจะสนุกขนาดนี้ ข้ามไปข้ามมาไม่อ่านตั้งนาน

ออฟไลน์ valenna yy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
ก้พ่อซันหวงพ่อปิงปองอ่

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
วัชรเอ๋อแดรก อิอิ เดาใจเจ้านายไม่ถูกซะแล้ว

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
รพีหึง หวงรอยยิ้มกับเสียงหัวเราะของปิงปองไงคุณวัชร
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ

ออฟไลน์ Pz_ready

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 53
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +107/-1
ในวันที่แสนวุ่นวายของหลายๆคน แต่เหมือนเป็นวันสบายๆของชายร่างบางที่ติดรอยยิ้มติดใบหน้าขาวใสไปด้วยทุกทีที่ตัวเองไป แม้วัยจะล่วงเกือบจะถึงเลขสี่แต่ช่วงนี้เพราะมีความเป็นอยู่ดี อาหารการกินก็ดีไม่ต้องทำงานเหนื่อยอย่างแต่ก่อนทำให้ความเปล่งปลั่งกลับมาอีกครั้งเหมือนเมื่อคราวที่ยังดูแลตัวเองอย่างดี

อดุลย์เดินฉีกยิ้มช่วยดาวซื้อของจ่ายตลาดในบ่ายของวัน เขามาช่วยเดินซื้อของบ่อยๆในช่วงนี้ พอได้เริ่มสนิทกับคนในบ้านก็เริ่มอยากทำอะไรหลายๆอย่างเท่าที่พอจะทำได้

หลังๆศูรกับลุงโชนก็ไม่ค่อยได้ออกไปซื้อต้นไม้มาเพิ่มเนื่องจากคงเต็มบ้านเต็มเรือนไปหมด หลักๆคงได้แค่รดน้ำต้นไม้ซึ่งศูรก็ขอไว้ให้คนแก่ๆอย่างเขามีอะไรทำบ้างไม่ให้อดุลย์เข้าไปแย่งเขาเลยไม่ได้เข้าไปช่วยบ้านนู้นซักเท่าไร

ในตลาดสดแถวๆบ้านตอนนี้กำลังวุ่นวาย คนมาจับจ่ายซื้อของสดเลือกจะมาที่แห่งนี้เพราะจะได้ของที่สดเท่าที่ตัวเองต้องการ ได้พูดคุยกับพ่อค้าแม่ค้าเพิ่มอรรถรสในการซื้อ แถมยังมีวัตถุดิบแปลกๆที่น่านำไปทำเมนูอาหารได้อีกหลายอย่าง

อดุลย์กำลังยืนเลือกไก่บ้านตัวใหญ่ที่ดูน่ากินอยู่ เป็นไก่บ้านที่เป็นพ่อค้าแผงเล็กๆ แต่ดูสะอาดสะอ้านน่าซื้อ

“คุณปิงปองจะทำอะไรทานเหรอค่ะ”ดาวถามพลางมองไก่บ้านที่อยู่ในมือของอดุล ถึงไก่บ้านจะไม่ได้หาซื้อยากแต่เพราะว่ากลัวเนื้อที่ค่อนข้างเหนียวจะไม่ถูกปากของเจ้านายจึงไม่เคยคิดจะทำเมนูเกี่ยวกับสิ่งนี้เลย

“ทอดน้ำปลาน่ะ อร่อยนะ แต่ก่อนเคยทำไก่พันธุ์แต่เนื้อมันเยอะไปถ้าไก่บ้านน่าจะอร่อยเดี๋ยวผมจะเอาไปลองทำดู ตะวันน่าจะชอบ”อดุลย์ตอบซื่อๆ เขาเองก็ไม่เคยทำหรอกเพียงแต่คิดว่าลูกชายน่าจะชอบเลยอยากจะลองทำดูเท่านั้นเอง

“อ้อ ที่จริงจะว่าไปแล้วคุณผู้ชายเธอก็ชอบทานเนื้อไก่ที่สุดนะคะ คุณปิงปองลองเอาขึ้นโต๊ะวันนี้มั้ยคะเผื่อเธอชอบ”

“เหรอ...ถ้าไม่ถูกปากล่ะ เดี๋ยวมีโวยวายว่าใครทำอีก ผมนี่ขนลุกเลยนะเมื่อตอนที่ทำผัดแขนงขึ้นโต๊ะให้”อดุลย์กรอกตาพูด คิดในใจถึงตอนที่ตนเคยทำผัดแขนงน้ำมันหอยเห็นว่าเป็นเมนูง่ายเลยอาสาทำให้ ปรากฏว่าเย็นนั้นรพีถามดาวว่าใครทำ แต่พอได้คำตอบก็แค่หันมามองเขาที่ไหล่เกร็งตัวตรงแต่ก็เท่านั้น ก่อนที่รพีจะตอบรับแค่อืมในลำคอแล้วทานข้าวต่อ

“ฮ่าฮ่าฮ่า คุณปิงปองช่างนินทาคุณผู้ชายอ่ะ ดาวล่ะกลัวเธอมาได้ยินซะจริง มีหวังเงินเดือนดาวหายเกลี้ยงแน่”ดาวบอกขำๆ บ่อยครั้งที่อดุลย์นินทาแถมทำท่าว่าจะไม่ชอบอีกฝ่ายเอามากๆ แต่การกระทำกลับตรงข้ามเพราะอดุลย์ก็ใส่ใจเอามากๆเหมือนกัน รู้กระทั้งของชอบของรพี รู้ว่าวันนี้จะกลับช้าหรือเปล่า บางทีก็อาจจะรู้เยอะว่าเธอที่อยู่มาหลายปีด้วยซ้ำ

“คุณผู้ชายดาวไม่มาเดินตลาดนี้หรอกน่า สบายใจได้เงินเดือนยังครบเต็มหน่วยแน่ๆ”

“ฮ่าๆ ค๊าๆ คุณปิงปองขี้เม้า”คำล้อเลียนเรียกรอยยิ้มอ่อนของอดุลย์ ดาวถือเป็นคนที่เขาคุยด้วยมากที่สุดในบ้านหลังนั้นเนื่องจากดาวจะทำงานในส่วนที่ได้เจอกับเขามากกว่าต่างจากป่านที่ส่วนใหญ่รับหน้าที่พวกทำความสะอาด ซักผ้าหรืออะไรที่ไม่ค่อยได้ออกมาบริการคนในบ้านหรือแขกซักเท่าไร

ยิ่งคุยยิ่งรู้สึกได้เหมือนว่าคุยกับเพื่อน ดาวคุยค่อนข้างจะคุยเก่ง แต่ก็มีสัมมาคารวะ นิสัยส่วนใหญ่คล้ายๆกันเลยเข้ากันได้ง่าย

“นี่ถ้าคุณผู้หญิงของบ้านนี้เหมือนคุณปิงปองก็ดีนะคะ”ดาวรำพึงด้วยความลืมตัว ที่จริงก็ไม่ชอบจะพูดเรื่องเจ้านายมากเท่าไรถือเป็นเรื่องที่ไม่ควร

“ทำไมเหรอดาว”แต่พอถูกคนให้คามสนใจดาวก็ไม่ได้ยับยั้งชั่งใจจะไม่พูด หญิงสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเริ่มพูด

“ที่จริงดาวไม่รู้จักคุณผู้หญิงมากเท่าไรหรอกค่ะ เข้ามาทำงานได้ไม่กี่ปี เธอก็ถูกคุณผู้ชายไล่ออกจากบ้าน เห็นลุงโชนบอกว่าเธอชอบไปยุ่งวุ่นวายเรื่องในบริษัท”ดาวบอกไปตามที่เห็น จำได้ว่าเข้ามาก็ไม่ได้เห็นรพีจะรักอะไรคุณนลินเท่าไร ไม่เคยทานข้าวร่วมโต๊ะ ไม่เคยนอนห้องเดียวกัน

“แต่คนเป็นภรรยาก็แค่อยากจะช่วยแบ่งเบาภาระหรือเปล่าดาว?”

“ไม่รู้ค่ะ แต่ลุงโชนบอกว่าคุณนลินเธอเข้าไปยุ่งเกินไป เห็นว่าไปไล่คนของคุณผู้ชายออก แล้วก็มีเรื่องอะไรอีกดาวก็ไม่รู้สุดท้ายคุณผู้ชายก็ไล่เธอออกจากบ้านแล้วก็หาผู้หญิงเข้ามาแทน แต่ดาวว่าแย่กว่าเดิมอีกค่ะ”

“ยังไงเหรอ?”

“ก็ว่าคุณนลินเธอไม่เอางานบ้านงานครัวอะไรแล้ว ทำตัวไม่ดีกับพวกดาวเท่าไรแต่ก็ไม่ถึงขั้นดุด่า ก็แค่ไม่เคยทำดีด้วย แต่ผู้หญิงที่มาต่อจากคุณนลินสองคนทำตัวแย่ที่สุดเลยค่ะ ไม่เคยช่วยงานไม่ว่าแถมยังตัวสกปรกกินอะไรวางทิ้งเรี่ยราดสกปรกจนทับทิมคนงานเก่าน่ะค่ะลาออก แล้วป่านก็เข้ามาทำงานแทน”คิดไปถึงตอนนั้น ขนาดดาวเองยังมีความคิดอยากลาออกจากบ้านหลังนี้เลยด้วยซ้ำ ทำงานเป็นคนรับใช้แต่คนที่ถือเป็นเมียของเจ้านายกับทำเหมือนเธอเป็นขี้ข้ารองมือรองเท้า

“มันต่างกันนี่ดาว พวกเขาเป็นคนรักของคุณรพี ส่วนผมนี่แค่คนอาศัยนะ”อดุลย์บอกกลับยิ้มๆ ก้มลงไปสนใจผักปลาตรงหน้าแต่ในใจก็รู้สึกเจ็บแปลบๆในอกเมื่อได้ยินเรื่องที่ดาวเล่า

“ดาวว่าคุณผู้ชายไม่ได้รักหรอกค่ะ ลุงโชนเคยพูดว่าคุณผู้ชายแค่ต้องการจะประชดคุณท่าน เพราะตอนที่มีปัญหาเรื่องหย่ากับคุณนลินคุณท่านทะเลาะกับคุณผู้ชายใหญ่โตเลย หลังจากนั้นคุณผู้ชายก็เอาผู้หญิงเข้ามาให้บ้านส่วนคุณท่านก็ไม่ค่อยมาที่บ้านหลังใหญ่ค่ะ”คนฟังทำหน้าสงสัย เห็นท่าทีสองพ่อลูกก็รู้อยู่ว่าไม่ค่อยถูกกันแต่ไม่คิดว่าคนอย่างรพีจะทำประชดอะไรเป็นเด็กๆมากกว่า

“คุณผู้ชายดาวนี่ทำอย่างกับเด็กขาดความอบอุ่น”เผลอปากพูดไปจนอีกคนแสดงสีหน้าเคร่งเครียด ส่งเสียงอืมเบาๆดวงตาหญิงสาวสลดลงอย่างนึกสงสาร

“ดาวก็รู้สึกว่าคุณผู้ชายเธอขาดความอบอุ่นเหมือนกันค่ะ ที่จริงดาวไม่รู้เรื่องในบ้านหลังนั้นมาก แต่พอรู้ว่าคุณท่านมีลูกสาวอีกคนหนึ่งแต่ลูกเธอหนีออกจากบ้านไปเพราะทะเลาะกับคุณท่าน คุณผู้ชายเลยกลายเป็นคนเดียวที่ต้องแบกรับทุกอย่างค่ะ ทั้งๆที่เธอก็ไม่ได้ชอบไม่ได้รักอะไรเลย”ดาวว่าอย่างสงสาร หลายปีที่ทำงานมาเห็นแต่ความอึมครึ่มของบ้านหลังใหญ่หลังนี้มาตลอด

“ไม่หรอกดาว ผมว่าคงไม่มีใครที่จะทนอยู่กับของที่ตัวเองไม่ได้รักมาเป็นสิบปีแบบนี้หรอกนะ คุณรพีเองก็คงเหมือนกันนะ ทำอะไรที่ไม่ได้รักมันไม่มีทางที่ออกมาดีหรอก แต่บริษัทเองก็มีแต่ความก้าวหน้ามาตลอด”อดุลย์บอกอีกแง่มุมให้ดาวได้รู้ หญิงสาวคิดคล้อยตามเห็นถึงความเห็นด้วยกับสิ่งที่อดุลย์บอกก็ยิ้มแย้มอย่างดีใจ

ถ้าเป็นแบบที่คุณปิงปองเธอว่ามาก็ดีใจ...ที่ตลอดมาคุณผู้ชายไม่ต้องระทมทุกกับสิ่งที่ไม่ได้รัก

“คุณปิงปองดูเข้าใจคุณผู้ชายจัง ดาวดีใจค่ะที่คุณปิงปองเข้ามาอยู่ในบ้านในชีวิตของคุณผู้ชาย”เป็นคำที่ไม่ได้คิดก่อนพูดแต่ทำให้คนฟังถึงกับหน้าขึ้นสีเป็นริ้วที่แก้มขาวอย่างปิดไม่มิด

“รีบซื้อของกันเถอะดาว เดี๋ยวแดดแรงกว่านี้ตอนกลับบ้านจะร้อนนะ” ดาวเห็นว่าจะจริงอย่างที่คนพูดว่า เพราะผิวขาวกลายเป็นแดงร้อนเห่อ สงสัยเป็นเพราะอากาศร้อนของยามหลังเที่ยงของวันแน่ๆ

 กว่าจะได้ของที่ต้องการครบแดดที่อดุลย์กังวลกลับไม่มีมาเลยซักนิด มีแค่ลมแรงและเมฆฝนที่ดำทะมึนลอยอยู่บนหัว ทั้งสองคนเร่งตัวเองให้รีบเดินกลับแต่ก็ไม่ทัน

สายฝนตกลงมาอย่างแรงไม่ทันให้ตั้งตัว พวกเขาไม่ได้ใช้รถมาซื้อของเพราะตลาดอยู่ใกล้บ้านเดินมาใช้เวลาแค่ไม่ถึงสิบนาที และที่จอดรถก็หายาก และของที่ซื้อไม่ได้มากมายเพราะซื้อวันต่อวันเลยใช้แรงกายไม่พึ่งแรงยนต์มาตลอด

สองคนเจ้านายและสาวใช้ยืนหอบหายใจจากอาการเหนื่อยที่วิ่งหนีฝนมาหลบใต้กันสาดหน้าร้านของชำที่วันนี้ไม่ได้เปิดร้าน อดุลย์ตรวจเช็คข้าวของในมือว่ามีอะไรได้รับความเสียหายหรือเปล่าจนครบก็ยืนมองฟ้าสีมืดไม่มีท่าทีว่าจะหยุดตก

“ดาวโทรบอกลุงโชนให้เอารถออกมารับดีกว่า”หญิงสาวเสนอแนวทาง อดุลย์พยักหน้าเห็นด้วย ฝนตกตอนบ่ายแบบนี้แถมยังหนักขนาดนี้ถ้ารอจนหยุดมีหวังข้าวเย็นไม่ได้ทำกันพอดี

ดาวยกโทรศัพท์ขึ้นมากดแต่ไม่ทันจะโทรออกแสงไฟของรถเก๋งคันสวยที่แปลกตาก็สาดเข้ามาที่พวกเข้าทั้งคู่จนต้องยกมือบังแสงที่เข้าตา

บริ๊นนนนน

เสียงบีบแตรยาวของรถตรงหน้าทำเอาสะดุ้งตัวโยน อดุลย์หันหน้ามองคนข้างๆอย่างขอความคิดเห็นแต่ดาวก็แค่เพียงส่ายหน้าอย่างไม่รู้เหมือนกัน

“ขึ้นมาซิชั้นจะไปส่งที่บ้าน”เสียงหญิงสาวที่โผล่หน้าออกมาจากรถตะโกนบอก เป็นผู้หญิงที่ดูสวยสง่าและคุ้นตาของอดุลย์แต่กับดาวจำได้ขึ้นใจว่าผู้หญิงคนนี้คือใคร

“...คุณนลิน”

“ขึ้นมาซิ! เดี๋ยวไปส่ง!”เสียงเริ่มเปลี่ยนจากตอนแรกคล้ายว่าพูดธรรมดากลายเป็นตะคอกขึ้นมาหน่อยๆ ขัดใจที่เป็นแค่คนใช้แต่ก็สั่งแค่ครั้งเดียวไม่เข้าใจ ทำให้หัวตัวเองต้องเปียกละอองฝนอยู่แบบนี้

ดาวใช้เวลาคิดอยู่สักพักแต่ก็โดนสายตาที่ดูจะโกรธจากอีกฝ่ายจึงให้อดุลย์ตัดสินใจแทน

“คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง...ไปก็ได้จะได้ไม่ต้องรบกวนลุงโชน”อดุลย์ตัดสินใจให้ คิดว่าคงไม่มีอะไรอีกฝ่ายก็คงแค่ผ่านมาเจอและจำดาวได้จึงอยากจะช่วยเหลือเท่านั้น

บนรถเก๋งสัญชาติญี่ปุ่นมีแต่ความเงียบ ดาวขึ้นมานั่งหน้าเคียงคู่คนขับและอดุลย์ขึ้นไปเบาะหลัง แต่คนที่ชวนขึ้นมาก็ไม่ได้แตะคันเร่งเคลื่อนย้ายรถออกไปจากจุดๆเดิมเสียที

“ดาว...”เรียกเสียงหวานแต่ดูเป็นน้ำเชื่อมเคลือบยาพิษ ดาวสะดุ้งตัวที่โดนเรียกหันไปเจอเจ้านายเก่ายิ้มให้แล้วรู้สึกหวาดหวั่น เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่นลินมาทำแบบนี้ด้วย

“ค...ค่ะ?”

“ชั้นมีเรื่องจะถามเธอหน่อย”นลินมองคนที่ตัวเองไม่เคยคิดจะพูดดีด้วย แต่เพราะไม่มีทางที่จะหาข่าวของรพีได้อีกแล้ว อีกฝ่ายปิดกั้นทุกทางที่เธอสามารถทำได้ หลายวันก่อนการินติดต่อมาหาเธอที่พยายามเก็บตัวอยู่เงียบๆจากเรื่องราวที่ตัวเองก่อไว้

เรื่องของตะวัน...เธอไม่คิดว่าเด็กคนนั้นจะโดนหนักขนาดที่ถูกทำร้าย นลินแค่หวังไว้ว่าอยากให้ภาพลักษณ์ของตะวันติดลบ กลายเป็นเด็กเลวในสายตารพี

ให้เป็นสิ่งที่รพีไม่ควรรัก

แต่กลายเป็นว่าหลังจากเหตุการณ์นั้นรพีกลับยื่นเงินจำนวนมหาศาลมาให้ ดูก็รู้ว่าหวังให้ตัวเธอหยุดการกระทำทุกอย่างที่ยุ่งเกี่ยวกับเด็กคนนั้น แค่นั้นก็ทำให้หญิงสาวเกิดความริษยา

“ที่บ้านเป็นยังไงบ้าง...?”

“ก...ก็เรื่อยๆค่ะ”ดาวไม่ใช่คนที่ชอบพูดเรื่องเจ้านายอยู่แล้ว ยิ่งกับนลินดาวก็ไม่รู้จะพูดอะไรด้วย

“แล้ว...ไอ้เด็กที่ชื่อตะวัน...ลูกของรพีจริงๆหรือเปล่า?”ผู้ชายคนเดียวบนรถคิ้วกระตุกเมื่อชื่อลูกชายของตัวเองโผล่มาในบทสนทนา

“เอ้อ”ดาวไม่รู้จะใช้คำพูดแบบไหน หันมองหน้าอดุลย์อย่างขอความช่วยเหลือท่ามกลางสายตาคู่สวยแต่กดดันของอีกคน นลินเบี่ยงสายตามาหาอดุลย์เล็กน้อย ผู้ชายร่างบางผิวขาวหน้านวล...

หึ เสียงหัวเราะเบาๆในลำคอดังขึ้นอย่างเหยียดๆ ดูแค่แว่บแรกก็มองเห็นเพศแท้จริงของผู้ชายคนนี้ถึงจะใส่ชุดปอนๆดูเป็นผู้ชายก็ตามที

“คนสวนใหม่เหรอ? คงทำสวนได้สวยพิลึกดีนะ”ว่าขำๆแต่เพราะทั้งสองไม่เข้าใจเจตนาจึงไม่ได้นึกเคืองโกรธอะไร

“แล้วตกลงว่ายังไง เรื่องของเด็กตะวัน”

“....ค่ะ ลูกแท้ๆของคุณผู้ชาย”อดุลย์พยักหน้าให้กำลังใจสาวใช้ ตัวเองเลือกจะเงียบต่อไป ไม่รู้ว่าคนตรงหน้าต้องการอะไรแต่คงไม่ได้หวังดีกับลูกรักของเขาแน่ๆ ยิ่งเป็นอดีตคนรักของรพีกลิ่นของความไม่น่าไว้วางใจยิ่งโชย

ไม่น่าขึ้นมาเลย...

“เอ้อ...คือคุณจะกรุณาไปส่งพวกเราหน่อยได้มั้ยครับ?”อดุลย์แทรกกลาง

“ชั้นพูดกับเธอเหรอ!”เสียงแหลมกระชากใส่เล็กน้อย หันไปใช้สายตาจ้องอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ

“ดาว...ลงเถอะเดี๋ยวผมโทรให้ลุงโชนมารับดีกว่า...โอ้ย”ไม่ทันจะได้พูดจับผมสั้นๆของตัวเองก็โดนดึงอย่างแรง นลินทั้งดึงทั้งจิกลงหนังศรีษะของอดุลย์อย่างแรงพร้อมกระชากมาเข้าหาตัวอย่างอารมณ์เสีย

“อีนี่มึงแส่เหลือเกินนะ!! ชั้นไม่ได้คุยกับแก หุบปากแล้วอยู่เฉยๆ!!”เสียงตวาดดังจนกลบเสียงฝนกระทบรถอยู่ภายนอก ดาวตะโกนเรียกอดุลย์อย่างเป็นห่วง อ้อนวอนให้นลินปล่อยเจ้านายใหม่ของตนที่หน้าตาบิดเบี้ยวไปด้วยความเจ็บ ถึงจะเป็นผู้ชายแต่ดูแล้วคุณปิงปองสู้ผู้หญิงที่กำลังโกรธเกรี้ยวอย่างนลินไม่ได้แน่ๆ

“ไอ้เด็กห่านั้นมันเป็นใครดาว!!?? ทำไมจู่ๆซันถึงมีลูกโผล่มา แม่มันล่ะ...อีผู้หญิงร่านนั้นมันอยู่ไหน!!!”เสียงตวาดของคนที่เริ่มเกิดความไม่สวยบนใบหน้า ถึงรู้มาก่อนว่าเด็กคนนั้นเป็นลูกของคนที่รักแต่พอได้ยินทีไรก็ควบคุมอารมณ์ไม่ได้

“...ป..ปล่อยคุณปิงปองนะคะ”

“ชั้นถามก็ตอบ!!!”

“ม..ไม่!! คุณนลินต้องปล่อยคุณปิงปองเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นดาวจะแจ้งตำรวจ!!”ดาวพูดกล้าๆกลัวๆ มือของตัวเองถูกคว้ามาบีบแต่ก็คงดีกว่าอีกคนที่ถูกจิกหัวร้องโอดโอยน่าสงสาร

“แกขู่ชั้นเหรออีกขี้ข้า!! แกนึกว่าแกเป็นใครกล้ามาขู่คนอย่างชั้น!!”

เพี้ยะ!!! ปึก!!!

นลินเกิดโทสะขึ้นทันตา ปล่อยมือที่จิกหัวอดุลย์แล้วมาตบหน้าของสาวใช้ดังสนั่น อดุลย์ตาโตตกใจกับความโหดร้ายตรงหน้า ใบหน้าของดาวหันไปตามแรงตบของมือเรียวจนไปกระทบกับคอนโซลรถอย่างแรงจนถึงกับสลบ มุมปากมีเลือดไหลเล็กน้อยแต่ไม่น่าห่วงเท่าหน้าผากที่บวมแดงขึ้นมาทันที

“ดาว!!”อดุลย์ตะโกนเรียกสุดเสียงเมื่อเห็นว่าคนที่เปรียบเป็นเพื่อนโดนทำร้าย ร่างบางพยายามยืดตัวข้ามตัวไปที่ฝั่งด้านหน้ารถหวังจะไปดูอาการของดาว

“...ช...ชั้นเปล่า...ชั้น...ไม่ได้ตั้งใจนะ”

“คุณตั้งใจ!!!”อดุลย์หันไปตวาดคนที่ปากสั่นตัวสั่นอย่างลืมตัว ไม่ได้สนใจว่าคนตรงหน้าเป็นใครอีกต่อไป

“แก!! ชั้นเปล่า ชั้นบอกว่าชั้นเปล่า!!”นลินตวาดกลับ มือบางยกขึ้นหมายจะฟาดเข้าที่หน้าขาวที่บังอาจอวดดีมาเถียงตัวเอง แต่นิ้วของอีกฝ่ายที่ยกมาชี้หน้าพร้อมกับใบหน้าที่แสดงออกถึงความโกรธทำให้มือของเธอไปไม่ถึงที่หมายไว้

“คุณมันเลวร้ายที่สุด!! ทำไมถึงต้องทำร้ายดาว ดาวเขาไปทำอะไรให้คุณ เราขึ้นมาบนรถคุณเพราะนึกว่าคุณจะมีน้ำใจช่วยเหลือเราไปส่งที่บ้านแต่กลับกลายเป็นว่าเราขึ้นมาให้คุณทำร้ายเหรอ”อดุลย์ว่าหัวเสีย

“นี่คุณเห็นพวกเราเป็นตัวอะไร คิดว่าเราเป็นคนจนเลยจะทำอะไรก็ได้เหรอ แสดงว่าคุณคงยังไม่เคยเจอมือเจอตีนคนจนซินะถึงได้แต่คิดว่าพวกเราจะไม่ตอบโต้...ลองซักหน่อยมั้ยห่ะ!!!”

“กรี๊ดดดดดดด!! อย่านะ อีบ้า ลงไปจากรถชั้นเลยไป ไป๊ กรี๊ดด”นลินกรีดร้องเสียงหลงเมื่อเห็นผู้ชายตรงหน้ายกมือหมายจะทำร้ายตน ไล่ตวาดให้ลงจากรถของตัวเองอย่างไว อดุลย์เองก็ไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะมามีเรื่องตัดสินใจลงจากรถออกมายืนเปียกปอนนอกรถก่อนจะพาร่างของดาวที่สลบออกมาด้วยความทุลักทุเล

ดีตรงทีพอออกมาข้างนอกรถร่างกายของดาวโดนสายฝนความเปียกชื้นคงทำให้ดาวได้สติลืมตาตื่นมองอดุลย์งงๆ พร้อมๆกับเสียงรถที่รีบขับออกไป

“ไปเลย รีบไปตายซะอีบ้า อย่าได้พบได้เจออีกเลยคนประเภทนี้ รถคว่ำตายโค้งหน้าไปเลย”ดาวที่พึ่งตื่นเห็นอดุลย์สาปแช่งรถคันสวยที่หายไปพร้อมกับสายฝนก็ขำลืมเจ็บ อดุลย์พอรู้ว่าดาวขำตัวเองก็ส่งสายตาค้อนวงใหญ่ไปให้ แต่กลับทำให้ดาวขำหนักกว่าเดิม

...ตลอดมาอดุลย์ดูสุภาพอ่อนโยนกับทุกคนรอบตัว จนดาวลืมไปว่าพื้นฐานอดุลย์ก็มาจากพื้นเพคล้ายกับตัวเอง ไม่ได้รวยสบายจนได้ทุกอย่างที่ต้องการ ปากกัดตีนถีบมาตั้งแต่เล็ก...

บางทีที่คิดว่าคุณปิงปองบอบบาง...คงเป็นความคิดที่คิดไปเองซินะ

ดีแล้ว...ไม่อย่างนั้นคงได้ตกเป็นเหยื่อของผู้หญิงบ้าคนนั้นแน่ๆ





ออฟไลน์ panari

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 534
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
นังนลิน น่าจะโดนปิงปองตบสักฉาดสองฉาด   :beat:

ออฟไลน์ Paracetamol

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 660
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-2
ก็ว่างั้น โดนตบซักทีเผื่อจะคิดอะไรได้บ้าง
แต่ท่าทางจะยากว่ะ เหอๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
คุณผู้หญิงคะ

ไปพบหมอจิตเวชบ้างก็ดีนะ

ออฟไลน์ milkshake✰

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 817
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
 :z3:
เพิ่งเข้ามาอ่าน
รวดเดียวเลย

สนุกมากค่ะ ชอบตัวละครทุกตัวในเรื่องนี้เลย
ชอบรพีด้วย ซึนๆ น่ารักดี รอลุ้นว่าเมื่อไรจะยอมรัยใจตัวเองสักที
ลุ้นให้ตะวันรับอดีตของพ่อตัวเองได้ด้วยอีกคน

รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนด้วยน้าาาาา
 :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ sowza3366

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 120
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
จิตเวชแน่ๆ :katai4:

ออฟไลน์ Toon_TK

  • เ ด็ ก อ้ ว น
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
นลินเนี่ยโรคจิตป่ะ?? ขาดความรักหรอคะ?

ออฟไลน์ liza sarin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-14
นังนลินโรคจิตแน่ๆ

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
ต้องโดนหนักๆ นลินต้องสิ้นหนทางทุกสิ่ง

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1808
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
นลินเป็นบ้าไปแล้ววววว

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
อาการหนักแล้วผู้หญิงคนนี้

ออฟไลน์ Pawaree

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 432
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-2
    • FANPAGE
่อ่านรวดเดียวจนถึงตอนล่าสุด ชอบมาก พระเอกปากแข็ง :hao6: :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ pearl9845

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
นรินไปรพ.เถอะนะ เป็นโรคขาดความรักแน่ๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด