## บันทึกรักสีม่วง ## ตอนพิเศษสุดท้าย [ ๒๑ / ๐๑ / ๒๕๖๐ ]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ## บันทึกรักสีม่วง ## ตอนพิเศษสุดท้าย [ ๒๑ / ๐๑ / ๒๕๖๐ ]  (อ่าน 267753 ครั้ง)

ออฟไลน์ yisren.

  • #คนที่ฉันไม่เคยลืม
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 830
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-4
ขอบคุณนะคะ อ่านตอนนี้แล้วยิ้มปากแทบฉีกเหมือนตะวันเลย 5555

ออฟไลน์ Ipatza

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 932
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-7
ใกล้แล้วๆ
อีกแค่นิดเดียว เวลาของคำว่าครอบครัวก็จะมาแล้ว
แต่พอถึงเวลานั้นกลัวปิงปองจะคิดว่าตัวเองคงไม่จำเป้นจนต้องเป้นฝ่ายไปแน่ๆ(แต่รพีคงไม่อยมหลอก 555+)
ยิ่งตะวันเรียกว่าพ่อซันด้วยแล้ว ปิงปองต้องดีใจปนเศร้าใจแน่ๆที่เวลาของตัวเองใกล้จะหมด
แต่ก็ดีนะ ยิ่งทำให้รพีรู้ตัวเร็วขึ้น
รีบๆเก็บของกลับบ้านเก่าเลย ปิงปอง อิอิ

ออฟไลน์ Roman chibi

  • Death is not the end. Death can never be the end. Death is the road. Life is the traveller. The soul is the guide.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-3
ขอบคุณครับ พ่อซัน :hao7: o13

ออฟไลน์ valenna yy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2

saymillo

  • บุคคลทั่วไป
พ่อซัน... :hao5: ...เขินแทนง่าาาา

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
ลูกเรียกพ่อแล้ว......พ่อซัน

ฟินเลยสิ555

แอบฮาตอนเรียกพ่อแล้วหันมาทั้งสองคน

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
แน๊คนเขียนอวยตัวเองอ่ะ คุณแม่ยังสาว สาววัยใหนน๊อ. อิอิ  กำลังจะอบอุ่น เป็นครอบครัวสมบูรณ์. แล้วจะให้พ่อปิงปองอยู่ในฐานะอะไรล่ะพ่อซัน

ออฟไลน์ panari

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 534
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
ตอนนี้แลดูเป็นครอบครัวดีแท้

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
 :katai2-1: คำว่า "ครอบครัว" ใช่ว่าสร้างกันได้ง่ายๆ ค่อยๆเป็นค่อยๆไป
ค่อยๆกำจัดพวกโรคจิตออกไปด้วย ^^

ออฟไลน์ Pa'veaw

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1305
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-1
เพิ่งได้เข้ามาอ่านเรื่องนี้

ชอบมากเลยค่ะ

ปิงปองเลี้ยงตะวันได้ดีมากเลย

แต่ตะวันก็แอบใจร้อนเหมือนรพีนะเนี่ย

รอตอนต่อไปค่ะ  :katai2-1: :katai2-1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Pz_ready

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 53
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +107/-1
หลายวันผ่านไปจนกระทั่งตะวันได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลได้แล้วแต่รพีก็ยังติดต่ออดีตภรรยาไม่ได้ ด้านตำรวจเองก็สรุปคดีความว่าเป็นเรื่องทำร้ายร่างกายธรรมดา แต่รพีเองไม่อยากจะขัดเพราะเขาเองก็ไม่รู้จะอธิบายอะไรออกไปเช่นกัน

ในใจเชื่อมั่นว่านลินเป็นคนที่มีส่วนทำให้...ลูกชาย...ได้รับบาดเจ็บแน่ๆ

ลูกชาย...เป็นคำที่แม้แค่คิดก็รู้สึกเต็มตื้นไปหมดในหัวใจ เหมือนเช้าวันนั้นที่ร่างสูงได้รับรอยยิ้มของเด็กที่ใบหน้าบวมช้ำน่าเกลียดพร้อมๆกับคำเรียกว่าพ่อ ในใจเต้นรั่วเร็วจนตัวเองหวาดหวั่น ทำตัวไม่ถูกและก็ไม่ได้ตอบสนองอะไรออกไป เพียงแค่รับคำอืมในลำคอ

ความต้องการที่เคยอยากได้มาตั้งแต่เด็กๆ อยากได้จากศูรมาตลอดคือความผูกพันของพ่อและลูก แต่รพีเองไม่เคยได้รับจนคิดมาตลอดว่ามันไม่ใช่เรื่องที่จำเป็นต้องมี เขาจึงไม่เคยหยุดที่จะพูดคุยกับลูกชายแม้แต่น้อย

แต่เหตุการณ์ที่ผ่านมามันทำให้รู้สึกอะไรหลายๆอย่าง เป็นเหมือนสิ่งจุดประกายเล็กๆในจิตใจ

ตอนที่ถูกเรียกว่าพ่อ...รู้สึกว่าตัวเองกำลังมีความสุขแบบตอนเด็กๆที่นานๆครั้งศูรจะออกจากห้องทำงานมานั่งเล่นของเล่นกับเขาและพี่สาว เหมือนตอนที่สมัยประถมที่ศูรเคยไปดูเขาเตะบอล...ถึงแม้จะแค่ครั้งเดียวและครั้งนั้นเขาก็แพ้กลับมาด้วย

รพีฉุกใจคิดถึงวันวาน เขาคอยแต่จะเรียกร้องหาความสนใจจากผู้เป็นพ่อ คอยแต่จะเอาแต่ความสุขสบายใจของตัวเอง คิดเพียงแต่ว่าศูรไม่เคยใส่ใจพวกตน กระทั้งพี่สาวแท้ๆของรพีหนีหายไปยังไม่มีท่าทีจะสนใจ

แต่จริงๆแล้ว...คนเป็นพ่อ...คนที่ถูกเรียกว่าพ่อจะเป็นแบบนั้นจริงๆหรือ จะไม่สนใจลูกตัวเองจริงๆหรือ ขนาดอดุลย์...ไม่ใช่ลูกแท้ๆเพียงแค่เลี้ยงดูมาแต่เกิดยังรักและห่วงใยตะวันได้ขนาดนั้น

แล้ว...ศูรล่ะ ทั้งเลี้ยงพวกเขาเองมากับมือ ทั้งยังเป็นสายเลือดเดียวกัน...แล้วศูร...พ่อจะไม่ต้องการเขาอย่างที่เขาคิดมาตลอดจริงน่ะเหรอ?

การได้ฉุกใจคิดทำให้รพีค่อยๆเปลี่ยนมุมมองทีละนิด แม้จะนิดเดียวจนคนรอบข้างไม่ทันสังเกตก็ตาม นับแต่วันนั้นรพีเองมาเยี่ยมตะวันที่โรงพยาบาลทุกวัน มีวันหนึ่งเป็นคนขับรถพาศูรมา ถึงมันจะเป็นเรื่องปรกติ แต่สำหรับคนที่รู้จักรพีมาทั้งชีวิตบอกได้เลยว่าแปลกใจ

ศูรแปลกใจที่เห็นท่าทีที่โอนอ่อนของลูกชายคนเดียว ตลอดมาเขาเลี้ยงรพีมาแบบกดดัน ซึ่งเขาคิดว่าแบบนั้นมันถูก การที่ไม่ใส่ใจเพราะมีภาระมากมายต้องทำ สิ่งเดียวที่พอทดแทนกันได้คือเงินทองที่เพียรหามา

แต่ศูรเองก็ไม่รู้ว่าเมื่อไรเหมือนกัน เมื่อไรกัน...ที่ได้ยินคำพูดอ่อนหวานเรียกตัวเองว่าคุณพ่อ รู้ตัวอีกทีก็มีแต่น้ำเสียงที่ไม่บ่งบอกอารมณ์ จะกลับตัวก็ไม่ทันเสียแล้ว

เพราะแบบนั้นศูรเลยแปลกใจระคนยินดีที่เห็นรพีเอาใจใส่ลูกชายของตัวเองไม่เหมือนกันที่เขาเคยทำ ไม่ถึงขนาดคุยจ้ออย่างอดุลย์แต่ก็ไม่ได้เงียบเฉยแบบที่ผ่านมา

คิดไม่ผิดจริงๆที่ขอร้องให้อดุลย์เขามาอยู่ด้วย

เคยได้ยินว่าการอยู่ใกล้ๆคนจิตใจดีจะถูกความดีนั้นขัดเกลาจิตใจตนเช่นกัน ศูรเชื่อเหลือเกินว่าอดุลย์เป็นคนดีแบบที่ตนต้องการ การได้อดุลย์และตะวันเข้ามาอยู่ในบ้านทำให้บ้านที่เคยสงบราบเรียบเกินไปกลับมีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง

ที่สำคัญ...ชีวิตของรพีเองก็กลับมามีชีวิตอีกครั้งเช่นกันหลังจากที่ถูกเขา...ฆ่าไปเองกับมือ

“หมดเคราะห์หมดโศกนะตะวัน”ศูรลูบหัวกลมของหลานชาย อวยพรอวยชัยหลังจากที่รออยู่หน้าบ้านหลังใหญ่มานาน อยากจะไปรับหลานชายที่โรงพยาบาลแต่เขาแกแล้วจะเดินเหินก็ลำบากกลัวจะไปเป็นภาระคนอื่นเปล่าๆ

“ขอบคุณครับปู่”ตะวันพนมมือรับพร ใบหน้าของเขาตอนนี้หายแทบหมดมีแค่รอยช้ำใต้ตาหน่อยๆเท่านั้น ที่หนักสุดคงจะเป็นแผลที่ลำตัว เวลาจะลุกจะเดินเจ็บเสียดไปหมด

“เข้าบ้านเถอะ”คำพูดของรพีที่ถือข้าวของจากโรงพยาบาลเต็มสองมือทำให้ศูรยิ้ม แต่ก่อนถ้าลูกชายนึกจะเข้าบ้านก็ไม่มาเสียเวลาพูดแบบนี้หรอก

“ครับ”ตะวันรับคำก่อนจะเดินเคียงคู่ไปกับปู่ของตัว เข้าไปในบ้านหลังใหญ่ที่มีดาวและป่านยืนรออยู่ในตัวบ้าน รพีเองกระชับของในมือตัวเองก่อนจะเดินตามเข้าไปบ้าง

“กลับมาแล้วเหรอตะวัน”อดุลย์ทักเสียงใส เขาไม่ได้ออกไปรับตะวันด้วยตัวเองเพราะเตรียมกับข้าวไว้ให้ลูกชายทานฉลองออกจากโรงพยาบาล ตะวันยิ้มกว้างรับ ก่อนจะเดินขัดๆเข้าไปกอดอ้อนพ่อปิงปองของตัวเองอย่างที่เคยทำ

“ตะวันหิวอ่ะพ่อ พ่อซันบอกว่าให้รอกลับมากินที่บ้าน บอกว่าพ่อทำอาหารไว้รอแล้ว”ตะวันบอกเล่าร่าเริง อดุลย์พลางมองไปที่คนที่ลูกชายเรียกว่าพ่อซัน เห็นเดินหิ้วข้าวของเต็มไม้เต็มมือ ส่วนหนึ่งเป็นของที่โรงพยาบาลให้มา อีกส่วนเป็นของที่เขาหาซื้อไปไว้ให้ลูกกินทั้งนั้น

“ฮ่าฮ่า กลับมาก็ถามหาแต่ของกิน เดี๋ยวเถอะอ้วนเป็นหมูแน่ๆ หมูตะวัน”อดุลย์หยิกเข้าที่แก้มนิ่มของตะวันอย่างหมั่นไส้ ขนาดว่าพอโตแล้วแก้มที่เคยมีเป็นพ่วงหายไปเยอะแล้วแต่นี่ก็ยังเต็มไม้เต็มมืออยู่

“หู้ยพ่ออ่ะ พูดเหมือนไอ้ดำเลย ดูนะมันซื้อของมาเยี่ยมไข้แต่ดันซื้อทองม้วนมาให้ มันก็รู้ว่าตะวันเกลียดทองม้วนมันบอกดีแล้วกินของเกลียดๆจะได้ไม่อ้วน”อดุลย์หัวเราะกิ๊ก เขาเองก็อยู่ในวันที่น้องทานเพื่อนสนิทของลูกชายมาเยี่ยม ไม่รู้เพราะอะไรแต่ทานตะวันซื้อของมาแกล้งให้ตัวเองโดนโวยวาย แถมยังงอนใส่อดุลย์ด้วยบอกว่าไม่โทรบอกว่าตะวันเข้าโรงพยาบาลซะตอนออกเลยล่ะครับ...จะว่าไปเขาก็ลืม วันแรกยังตกใจส่วนวันที่สองก็นั่งฟังตำรวจมาสอบสวนตะวัน บอกข้อสงสัย จนพอเห็นมิสคอลของทานตะวันเลยโทรกลับ

“แล้วนี่โทรบอกน้องทานหรือยังว่าออกวันนี้ เดี๋ยวจะพาลโกรธพ่ออีก”

“บอกแล้ว โดนบ่นมาด้วยว่าหายดีแล้วหรือยังไง ทำไมไม่นอนให้นานกว่านี้ ขี้บ่นเหมือนพ่อเดี๊ยะเลย...โอ๊ย”ตะวันทำเสียงใหญ่เลียนพูดให้เหมือนที่เพื่อนสนิททำ ไม่วายแกล้งพูดหยอกล้อพ่อปิงปองเลยโดนบิดแก้มยุ้ยมากกว่าเดิม

ภาพตรงหน้าทำให้คนในบ้านยิ้มออกมาทุกคนไม่ยกเว้นคนที่เคยหน้านิ่ง รพีมองทั้งสองคนด้วยความรู้สึกแปลกใหม่ แต่ก่อนเขาอาจมองด้วยอคติว่าอดุลย์ไม่จริงใจกับใคร ด้วยเพราะปิดบังเรื่องในอดีตและอีกหลายๆอย่างที่น่าสงสัย แต่พอเปลี่ยนวิธีคิดเปลี่ยนวิธีมองก็เห็นว่าอดุลย์ก็เหมือนพ่อคนอื่นทั่วไป ที่รักลูกห่วงใยลูกไม่มีผิดแผกจากใคร

มีแต่เขาเองที่ไม่เคยเห็นหรือได้รับสิ่งแบบนั้นมาก่อน

“ทานข้าวกันเถอะ ปู่หิวมากแล้ว”ศูรเอ่ยขัดความสุขตรงหน้ายิ้มๆ เดินนำไปที่โต๊ะทานข้าวโต๊ะใหญ่ที่ปรกติไม่เคยใช้ แต่เพราะวันนี้มีกับข้าวเยอะมากไปหน่อยเจ้าของบ้านเลยสั่งให้ใช้ห้องอาหารที่นี่แทน

“โอ้ววว สวรรค์ของตะวันแท้ๆเลย”คำอุทานของเด็กชายผู้มีของโปรดหลายอย่างดังขึ้นก่อนจะมีเสียงหัวเราะของคนอื่นๆตามมา อดุลย์เหลือบมองไปที่คนตัวสูงที่อยู่ไม่ไกล รอยยิ้มของปากหนาเผยออกมาให้เห็นเล็กน้อย แต่เหมือนเจ้าของรอยยิ้มจะรู้ตัวว่าถูกมองเลยแกล้งเป็นไอกระแอมเบาๆเอามือป้องปาก

อดุลย์มองภาพนั้นด้วยความดีใจ ในอดีตแม้จะเคยหลงรักคนๆนี้แต่ความรู้สึกนั้นมันตกผลึกไปตามกาลเวลา ตอนนี้เขาไม่ได้รู้สึกอยากรักอยากใคร่รพี แต่ที่ดีใจเพราะเห็นว่าตั้งแต่ตะวันและรพีมีปฏิสัมพันธ์กันมากขึ้น ตะวันเองก็มีความสุขมากขึ้น บ้านนี้ก็จะเป็นที่ที่อบอวลด้วยความสุข

อดุลย์อยากให้ตะวันอยู่ในสถานที่แบบนั้น



••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••





สี่ทุ่มของวันเดียวกัน ในตอนที่ทุกคนแยกย้ายกันไปเข้าห้องนอนของใครของมันกันหมดแล้ว มีเพียงรพีเท่านั้นที่ยืนเก้ๆกังๆอยู่หน้าห้องนอนของตัวเอง

ใบหน้าคมสันกำลังดูเคร่งเครียดอย่างตัดสินใจ สายตามองไปยังบานประตูที่อยู่ตรงกันข้ามกับห้องนอนของตัวเอง มือที่ยกขึ้นแล้วเอาลงหลายรอบยังคงทำแบบนั้นอยู่ซ้ำไปซ้ำมา

ในตอนหัวค่ำที่ทุกคนนั่งเล่นพูดคุยอยู่ข้างล่างเพราะเพื่อนสนิทของลูกชายมาเยี่ยมที่บ้าน เขาที่ไม่คุ้นเคยปลีกตัวมาพักผ่อนในห้อง และเมื่อไม่กี่นาทีก่อนก็ได้ยินเสียงฝีเท้าพร้อมๆกับเสียเปิดปิดประตูของห้องตรงข้าม

พลันความคิดของรพีก็พาร่างของตัวเองมายืนอยู่ตรงนี้ เขาคิดกับตัวเองมาซักหลายวันแล้วเรื่องที่จะพูดกับอดุลย์ เขาอยากจะคุยเรื่องตะวัน อยากรู้เรื่องราวของลูก...เขาเคยแต่รับรู้ผ่านเอกสาร หรือคำบอกเล่าของเลขาฯแต่มีคนหนึ่งเคยบอกเขาไว้ว่า

ตะวันเป็นมากกว่ากระดาษพวกนั้น...

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

พอตัดสินใจได้ก็เคาะลงไปหนักๆ ไม่นานเกินรอเจ้าของห้องก็เดินมาเปิดประตูให้สีหน้างงๆ พอเห็นเขาก็เหมือนจะเป็นท่าทีที่เคยทำ อดุลย์ก้าวเท้าหนีไปข้างหลังครึ่งก้าว แม้ไม่ได้มีสีหน้าหวาดกลัวก็ตามที

“มีอะไรหรือเปล่าครับคุณรพี?”อดุลย์ถามสงสัย คนตัวสูงจ้องอดุลย์นิ่งๆ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกกดดันอะไร

“ขอชั้นเข้าไปหน่อยมีเรื่องจะคุยด้วย”

“ครับ?”แบบนั้นยิ่งเพิ่มความสงสัย ร่างบางคิดเสมอว่าตัวตนของเขาสำหรับรพีนั้นค่อยข้างติดลบ อีกฝ่ายอคติกับเขาในหลายๆเรื่อง เรื่องที่เขาเคยแต่งหญิงนั้นก็เป็นอีกเรื่องที่รพีคงไม่ชอบใจนัก

“เรื่องของตะวัน...ช่วยเล่าเรื่องของตะวันให้ชั้นฟังหน่อยได้มั้ย เรื่องที่เขาชอบ ของที่เขาชอบ อะไรบ้างที่เขาอยากได้ เขาอยากเป็นอะไร...”เหมือนคำพร่ำเพ้อของคนที่พึ่งตกหลุมรักอะไรซักอย่าง อดุลย์หัวเราะเล็กๆให้กับคนตรงหน้า

“ขำอะไร?”

“ข..ขอโทษครับ แค่ดีใจน่ะครับ”

“ดีใจ?”

“ครับ ดีใจที่คุณรพีใส่ใจตะวัน ผมกังวลมาตลอดเวลาว่าตะวันจะเข้ากับคุณไม่ได้ ตะวันเป็นเด็กใจร้อนครับ แต่ก็มีเหตุผล เขาพูดด้วยง่ายแต่ก็ไม่ชอบให้ใครมาบังคับ เพราะแบบนั้นผมเลยกลัวว่าเขาจะ...เอ่อขอพูดได้มั้ยครับ”รพีฟังสิ่งที่คนตรงหน้าพูดอย่างตั้งใจ แต่พอเหมือนอดุลย์รู้ตัวว่าพูดมากไปเลยขออนุญาต รพีพยักหน้าก่อนจะเดินเข้ามาในห้องอย่าถือวิสาสะ อดุลย์เดินตามเข้ามาโดยเปิดประตูค้างไว้แบบนั้น

“พูดได้ ชั้นมาขอให้นายพูดเอง”รพีบอกก่อนจะนั่งลงที่โซฟาสีฟ้า สายตามองไปรอบๆไม่ได้เข้ามาในห้องนี้เสียนาน ไม่มีเฟอร์นิเจอร์เดิมอยู่เลยแต่ชิ้นเดียว

“ผมกลัวเขาไม่ชอบคุณน่ะครับ...คือคุณรพีค่อนข้างจะ...เอ่อ”

“จะบอกว่าชั้นชอบบังคับซินะ”คนตาคมพูดขัด ตาจ้องไปที่คนที่อยู่ห่างส่งยิ้มแห้งๆมาให้

“ครับ...ก็ประมาณนั้น ในวันหนึ่งที่ผมไม่ได้อยู่กับตะวันที่บ้านหลังนี้แล้ว ผมอยากให้ตะวันเข้ากับทุกคนได้ อยากให้เขามีความสุขแบบที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ครับ พอเห็นคุณดีกับตะวัน...ผมเลยดีใจมาก”อดุลย์เล่าไปยิ้มไปไม่ได้ความนัยแฝง แต่คนฟังกลับรู้สึกลมหายใจสะดุดไปชั่วครู่

...ถ้าไม่อยู่บ้านหลังนี้...อย่างนั้นเหรอ

“นายคิดว่านายออกไปแล้วตะวันจะมีความสุขเหรอ ทุกวันนี้ชั้นเห็นตะวันยิ้มแต่กับนายคนเดียว”เป็นคนพูดแต่กับงงงันในคำพูดตัวเองคิ้วเข้มขมวดไม่เข้าใจว่าทำไมถึงพูดออกไปแบบนั้น

“ไม่หรอกครับ ผมไม่ได้ทิ้งตะวันไปไหน เพียงแค่ไม่ได้อยู่บ้านหลังนี้ต่อเท่านั้น”อดุลย์ยิ้มแล้วตอบ เขาคิดทุกอย่างอย่างถี่ถ้วนดีแล้ว ถ้าทุกอย่างเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆเขาคงได้กลับไปอยู่บ้านอย่างวางใจ

“คือ...ถ้าไม่เป็นการขอมากเกินไป ผมก็อยากมาหาตะวันบ้างบางวันที่ผมว่าง”

“หมายความว่ายังไง”

“ก็ถ้ากลับไปอยู่บ้านผมก็คงจะหางานทำครับ”รพีมองคนตรงหน้าอย่าพินิจดีๆอีกครั้ง รอยยิ้มจริงใจแบบนั้นมีอะไรมากมายซ่อนไว้ ที่จริงคนตรงหน้าไม่ใช่คนไม่มีความคิดอะไรเลย

“ชั้นไม่เห็นด้วย”เสียงขึ้นจมูก จู่ๆก็รู้สึกขัดใจกับคำพูดตรงหน้า ทั้งๆที่ก็เป็นคนที่ดูพูดจริงทำจริง ไม่ได้หยิบหย่งอะไรแถมยังคิดดีแต่ก็ไม่ชอบใจไม่รู้ทำไม

“...”

“ถ้าอยากทำงานก็กลับไปทำที่ห้าง ไม่เห็นมีความจำเป็นที่จะออกจากบ้านหลังนี้”

“คือ...”อดุลย์อยากจะบอกเหลือเกินว่าเขาเองก็มีที่ที่เขาควรอยู่และที่นี่ไม่ใช่ที่ของเขา แต่ปากบางเลือกจะเงียบเพราะสีหน้าที่เริ่มบูดบึ้งของคนตรงหน้าเริ่มไม่น่าไว้ใจ กลัวจะทำให้อีกฝ่ายโกรธจนทำร้ายตัวเองอีก

“บ้านชั้นไม่ใช่โรงแรม อยากมาอยู่ก็มาอยากจะไปก็ไป อย่าเรื่องมากไม่งั้นนายลำบากแน่ คงไม่ลืมนะว่าชั้นทำอะไรได้”อารมณ์ที่เริ่มพุ่งขึ้นจนเสียงนิ่งเริ่มกระชากอย่างน่ากลัว

“...”

“ชั้นจะแบล็คลิสนาย จะทำให้นายทำงานที่ไหนไม่ได้อีกเลย”ร่างสูงทิ้งคำขู่ที่เคยขู่อดุลย์เมื่อนานมาแล้วไว้ก่อนจะเดินออกจากห้องไปอย่างอารมณ์เสีย รพีรู้ดีว่ามันไม่ใช่แค่ขู่...เขาทำแน่ๆ เขาจะทำแน่ๆ

ยังไงรพีก็เป็นนักธุรกิจที่ทำได้ทุกอย่างเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาได้อย่างที่คาดหวัง

เพราะแบบนั้นถ้าอดุลย์ออกไปจากบ้านนี้จริงๆ ทิ้งลูกของเขาไปจริงๆ เขาจะลงโทษอดุลย์ทุกวิธีทาง ทำให้อดุลย์ไม่สามารถหางานได้ ไม่มีจุดยืนอยู่บนสังคม





และซมซานกลับมาอยู่ในบ้านหลังนี้...!!!!!!

ออฟไลน์ yisren.

  • #คนที่ฉันไม่เคยลืม
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 830
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-4
แหม ไม่อยากให้เขาออกก็บอกไปซิพ่อซัน ทำโหดโวยวายนะ แหม่ :z6:

ออฟไลน์ Veesi3

  • coHon3 {ต้นฝ้าย}
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 715
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
อยากให้เค้าอยู่ใกล้ๆ อิเดะ อิอิ  :hao3:

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
อินี่.....มันซึนแตกเกินไปแล้วนะ

ออฟไลน์ liza sarin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-14
ก็ขอร้องให้เค้าอยู่สิ

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1808
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
พ่อซันบอกดีๆก็ได้ ไม่เห็นต้องขู่เลยยยย
กลัวเขาจะหนีหรออออ :hao3: :impress3:

ออฟไลน์ Roman chibi

  • Death is not the end. Death can never be the end. Death is the road. Life is the traveller. The soul is the guide.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-3
ไม่อยากให้เค้าไป ก็บอกเค้าดีๆสิ  :angry2:
อย่ามาทำตัวซึนนะพ่อซัน  :m20: :z2:

ออฟไลน์ Pa'veaw

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1305
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-1
ซึนเข้าไปเถอะรพี

ถ้าเกิดปิงปองไม่อยู่ขึ้นมาเดี๋ยวจะซึนไม่ออก อิอิ

ออฟไลน์ valenna yy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
พ่อซัน.. ซึนจิงๆ :ling2:

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
ซึนตัวพ่อ

อารมณ์แปรปรวน

ยิ่งกว่าอาร์ตตัวแม่อีก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
 :katai2-1: น่าดูชมเสียทีเดียว นายรพี นายแน่มาก

ออฟไลน์ panari

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 534
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
อยากให้เค้าอยู่ต่อก็บอกดีๆ สินายรพี

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
โอ้ย คนบ้าแบบพ่อซัน ต้องโดนจระเข้ฟาดหาง

ออฟไลน์ Pz_ready

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 53
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +107/-1
39 ปีก่อน...

ในโรงพยาบาลเอกชนที่ขึ้นชื่อที่สุดในขณะนั้น เสียงของความวุ่นวายดังไปทั่วทั้งบริเวณ หน้าห้องกระจกที่กั้นไม่ให้คนที่ร้อนลุ่มจิตใจเข้าไปข้างใน ร่างสูงใหญ่ของชายที่เป็นเจ้าของศูนย์การค้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเดินไปเดินมาราวหนูที่ติดจั่น แม้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขามาเยือนสถานที่และสถานการณ์แบบนี้ก็ตาม แต่คราวนี้มันพิเศษกว่าครั้งไหนตรงที่คนที่กำลังจะเกิดมาเป็นลูกชายคนแรก

ครอบครัวของศูรเป็นครอบครัวคนจีน ถูกปลูกฝั่งในเรื่องของบุตรชายสืบสกุลมาตั้งแต่รุ่นก่อน และเขาเองก็ปรารถนาจะมีลูกชายมาตั้งแต่แรกแต่สวรรค์คงไม่เข้าข้าง ลูกคนแรกจึงกลายเป็นผู้หญิงหน้าตาจิ้มลิ่มที่อยู่เกาะขากางเกงพ่ออยู่ข้างๆ

“คุณพ่อขา...เมื่อไรน้องจะออกมา”เสียงเล็กของเด็กสาวข้างตัวร้องเรียก ผู้เป็นพ่อก้มลงมองแล้วยิ้มกว้างส่งให้พลางย่อตัวลงนั่งยองมือใหญ่ยกขึ้นลูบหัวเล็กอย่างเอ็นดู

“รออีกเดี๋ยวนะลูกจันทร์ เดี๋ยวน้องก็จะออกมาแล้วนะ”เสียงเข้มที่ยามทำงานดุดันแต่ยามนี้กลับอ่อนโยนราวคนละคน

“ค่ะ หนูอยากเจอน้องไวไว น้องจันทร์จะรักน้องให้มากๆ รักสุดๆไปเลยค่ะ”เด็กสาวพูดร่างเริงพลางกระโดดเกาะกระจกอย่างรอคอย ในดวงตากลมเล็กนั้นเปี่ยมไปด้วยความสุขที่รอคอย รอที่จะเจอเด็กที่จะมาเป็นน้องชายของเขา

“พ่อก็จะรักทั้งลูกจันทร์และน้องให้มากครับ”ชายหนุ่มยิ้มดีใจ ถึงจะตื่นเต้นกับการเกิดของลูกชายแต่เพราะมีลูกสาวตัวเล็กอยู่ด้วยเขาเลยไม่ได้เข้าไปให้กำลังใจภรรยาแบบครั้งก่อน

“แล้วคุณพ่อตั้งชื่อน้องไว้หรือยังค่ะ”

“เรียบร้อยแล้วครับผม”เด็กสาวตาแป๋วรอคำตอบของผู้เป็นพ่อจนคนที่หยุดรอจังหวะพูดแอบขำเล็กน้อย

“เด็กชายรพี...น้องของเด็กหญิงลูกจันทร์ ลูกของพ่อศูรและแม่ศรีนวล”

35 ปีก่อน...

เสียงร่ำไห้ในงานที่ทุกคนในงานร่วมกันพร้อมใจใส่เสื้อสีขาวดำมาทุกคน ใบหน้าโศกเศร้าในการจากไปของหญิงอันเป็นที่รักและเคารพ บุคคลสำคัญในแวววงธุรกิจมากล่าวคำอำลาเป็นครั้งสุดท้าย

ศรีนวล เรืองรัตนโยดม

ผู้หญิงที่เป็นทั้งแม่ของลูกทั้งสองอย่างดีที่สุด ผู้หญิงที่เป็นศรีภรรยาอย่างที่มีแต่คนอิจฉาคู่ครอง ผู้หญิงที่เป็นนักธุรกิจที่มีแต่คนนับหน้าถือตา ผู้หญิงที่แกร่งทั้งกายและใจ

ศูรยืนนิ่งหลับตาพยายามบังคับไม่ให้น้ำตาที่กำลังจะไหลรินออกจากดวงตามันรดออกมา การจากไปอย่างกะทันหันทำให้เขาทำตัวไม่ถูก อุบัติเหตุทางรถยนต์คราชีวิตของผู้เป็นที่รักไปอย่างไม่มีวันกลับ

และวันนี้เป็นวันที่จะส่งเธอผู้เป็นที่รักกลับสู่ที่ที่เธอจากมา

“พ่อ...พ่อ...”เสียงเด็กชายวัยสี่ขวบเรียกร้องหาชายที่ทำหน้าตาเศร้าสร้อย มือเล็กกางออกบ่งบอกว่าอยากให้ศูรอุ้มขึ้นมา ผู้เป็นพ่อยิ้มจางๆสะกดกลั้นน้ำตาก่อนจะยกตัวเล็กๆของลูกชายขึ้นมาแนบอก

“หิวจัง...น้องซันอยากกินวุ้นเส้น คุณแม่หายไปไหน...ไม่มาพาน้องซันไปกินซักที”ลูกชายตัวเล็กร้องเรียกหาสิ่งที่คนเป็นแม่สัญญาไว้เมื่อตอนยังมีชีวิตอยู่ รพียังเล็กเกินกว่าจะรับรู้ว่าแม่ของตนจากไปอย่างไม่มีวันกลับมา ต่างจากลูกสาวคนโตที่ร้องห่มร้องไห้ไม่หยุด

“เดี๋ยวพ่อพาไปกินนะ”ศูรพูดออกมาได้แค่นั้น เขาไม่รู้จะหาคำอะไรมาบอกลูก ทุกๆคำมันจุกอยู่ในอก

“พี่จันทร์ก็ไป น้องซันก็ไป คุณพ่อก็ไป คุณแม่ก็ไป”คำพูดเจื้อยแจ้วทำให้น้ำตาที่พยายามกลั้นไว้ทะลักทลายออกมาฉุดไม่อยู่ ร่างสูงที่เคยนิ่งขรึมมาตลอดแต่บัดนี้เข่าอ่อนหมดแรง ความอดทนที่ทนมาจนวันสุดท้ายของงานหมดไปเสียดื้อๆ

“ครับ...ไปกันทุกคน”โกหกคำโตที่พูดออกมาทำให้เล็กน้อยดีใจจนร้องเต้นไม่สนใจบรรยากาศ รอยยิ้มของชายที่น้ำตายังไหลอาบแก้มบังเกิดออกมา พลางสายตาคมหันมองไปที่รูปหน้าโรงศพสีทอง บอกถ้อยคำสัญญากับคนในรูป

...พี่จะดูแลลูกเอง นวลหลับให้สบายเถอะนะ แม้จะต้องลำบากขนาดไหนพี่ก็จะทำให้ลูกสบายที่สุด พี่จะพยายาม จะพยายามแทนส่วนของนวลด้วย...ที่ผ่านมา...ขอบคุณนะที่รัก พี่จะรักนวลคนเดียว...ตลอดไป

24 ปีก่อน...

ในบ้านหลังใหญ่ที่เป็นสมบัติตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น เป็นบ้านของตระกูลเรืองรัตนโยดมที่สิบปีที่ผ่านมานี้เงียบเหงาลงไปอย่างไม่เหมือนว่าเป็นบ้าน เจ้าของบ้านทำงานอย่างไม่ลืมหูลืมตา ยิ่งช่วงที่ผ่านมาเกิดวิกฤตธุรกิจของประเทศเริ่มมีการเปลี่ยนแปลก ศูนย์การค้าที่ทำอยู่เริ่มทำกำไรได้ลดลงในขณะที่รายจ่ายทุกๆด้านเพิ่มขึ้น

ความเครียดที่สั่งสมมาหลายปีบวกกับความคิดที่ว่าลูกๆจะมีความสุขถ้าพวกเขาอยู่สบายทำให้ศูรละเลยหน้าที่ที่ควรทำมากที่สุด ทั้งๆที่ลูกๆก็แค่อยากให้พ่อมีเวลาให้ตนเองบ้าง ศูรคิดแทนลูกทุกอย่างและตอนนี้ก็เช่นกัน

เบื้องหน้ารพีที่เริ่มโตเป็นหนุ่มในวัยสิบห้าปี คือเสียงเอะอะของพี่สาวกับพ่อของตัวเอง ทั้งคู่ทะเลาะกันจนบ้านแทบลุกเป็นไฟ เมื่อปีก่อนศูรส่งลูกจันทร์ไปเรียนต่อด้านบริหารที่ต่างประเทศ แต่เมื่อใบทรานสคริปของปีแรกที่ถูกส่งมาที่ประเทศไทยกลับเป็นไม่มีชื่อรายวิชาที่เกี่ยวข้องกับงานบริหารเลยซักอย่าง

“แกไปผลาญเงินชั้นเป็นล้านๆเพื่อไอ้ดนตรีบ้าบออะไรของแกเนี่ยนะ!!”เสียงตวาดโกรธเกรี้ยวของชายวัยกลางคนที่เริ่มมีรอยเหี่ยวย่นปรากฏบนใบหน้า ตาคมที่ดุเป็นปรกติยิ่งเวลาทำตาขึงโกรธยิ่งทำให้ไม่เคยมีใครกล้ามาขวางอารมณ์คนตรงหน้า

“ลูกจันทร์บอกคุณพ่อแล้วว่าลูกจันทร์อยากเรียนดนตรี”คำพูดยะโสที่ถ่ายทอดมาจากผู้เป็นพ่อออกมาจากลูกสาวคนโต ใบหน้าที่ละหม้ายคล้ายตัวเองยิ่งตาคมนั้นบอกถึงความเชื่อมั่นใจตัวเองอย่างถึงที่สุด

“ชั้นก็เคยบอกแกแล้วว่าชั้นไม่สนใจ แกต้องเรียนบริหาร!!”

“นี่ตัวลูกจันทร์ !!”

“แต่ชั้นเป็นพ่อแก!!”

สองเสียงทะเลาะอย่างไม่ยอมกันอยู่แบบนั้น ยิ่งเวลานานไปไฟยิ่งโหมแรงขึ้น ลูกจันทร์ที่ได้รับลักษณะภายในมาจากผู้เป็นพ่ออย่างเต็มเปี่ยม ยิ่งไปได้ใช้ชีวิตที่อยู่นอกกรอบมาหนึ่งปีเต็มๆที่ต่างเมืองยิ่งทำให้ความต้องการที่จะมีชีวิตของตัวเองเด่นชัดขึ้นมาจนเกินกว่าที่ศูรจะเข้าใจ

“พ่อเป็นพ่อทำไมไม่เข้าใจลูกจันทร์ ถ้าแม่ยังอยู่ แม่ไม่ทางที่จะบังคับลูกจันทร์แบบนี้ พ่อแย่ที่สุด ทำไมคนที่อยู่ตรงนี้ไม่เป็นแม่ทำไมต้องเป็นพ่อ!!!”

เพี้ยะ !!

ใบหน้าขาวหันไปตามแรงตบที่แรงชนิดที่ว่าดังสนั่นก้องไปทั้งบ้าน ทั้งคนที่ตบถูกตบและคนที่ยืนดูตกใจไม่ต่างกัน ลูกจันทร์ยกมือกุมแก้มตัวเองรู้สึกถึงไอร้อนจางๆ น้ำตาพาลไหลออกมาไม่รู้ตัวแต่ถึงอย่างนั้นก็นั้นมาส่งสายตาไม่ยอมแพ้กับพ่อของตัวเองจนศูรเกิดโทสะขึ้นมากกว่าเดิม

“ไป!! ถ้าอยากชั้นแย่นักก็ไป ไปเลย”คนพ่อตวาดก่อนจะหันหลังเดินหนีไปเพื่อดับโทสะ รู้ว่าตัวเองกำลังโกรธแบบสุดๆและไม่อยากทำร้ายลูกไปมากกว่านี้จึงเลือกเป็นคนเดินหนีไปก่อน

หญิงสาวทรุดกายลงกับพื้นหินอ่อนร้องไห้เสียงดัง เด็กชายรพีเดินขาสั่นๆเข้าไปหาพี่สาวหวังจะปลอบโยนพี่สาวให้เหมือนแต่ก่อนที่พี่สาวเคยปลอบตัวเอง

“พี่จันทร์...”ลูกจันทร์เงยหน้ามองคนเรียกก่อนโผร่างเข้าหาน้องชาย ปีหนึ่งที่ไม่ได้เจอกัน ถ้าเป็นเหตการณ์ปรกติคงมีเรื่องราวมากมายให้ได้คุย แต่ตอนนี้กลับมีแค่เสียงของความเสียใจ

“พี่จันทร์ไม่ร้องนะพี่ เดี๋ยวซันจะช่วยพูดกับพ่ออีกแรง”รพีพยายามปลอบแต่คนร้องไห้ส่ายหน้ารัว

“ไม่...พ่อไม่ยอมหรอก พวกเราต่างรู้จักพ่อดี...พี่...จะไป”น้ำเสียงแน่วแน่จนคนฟังหวาด

“...พี่จันทร์ล้อเล่นใช่มั้ย พี่จะไม่ทิ้งซันใช่มั้ย”รพีพูดเสียงสั่น แต่ก็ไม่ได้คำตอบอะไร มีเพียงรอยยิ้มสุดเศร้าที่ปนไปกับน้ำตาที่เปื้อนเต็มใบหน้า รอยยิ้มที่รพีจำติดตาเพราะ...มันเป็นรอยยิ้มครั้งสุดท้ายของพี่สาวที่เขาได้เห็นก่อนที่ลูกจันทร์จะหายไปจริงๆ

10 ปีก่อน...

งานแต่งงานที่เป็นที่โจษจันไปทั่วประเทศ เป็นงานแต่งงานของลูกชายทายาทห้างที่ใหญ่ที่สุดและตั้งอยู่กลางใจเมือง และเป็นที่รู้กันว่าเป็นทายาทเพียงคนเดียวของเรืองรัตนโยดม ตระกูลที่ร่ำรวยอันดับต้นๆของประเทศ

เจ้าบ่าวร่างสูงยืนทำหน้าตายอยู่บนเวที รพีในวัยสามสิบปีในชุดสูทสีขาวสะอาดเข้าพิธีแต่งงานกับลูกสาวบก.หนังสือชื่อดังในขณะนั้น แม้ฝ่ายสาวจะไม่เป็นที่รู้จักกันมากเท่าไรในวงสังคมชั้นสูง แต่รพีเห็นแนวทางในการใช้ประโยชน์จากสื่อที่กำลังเริ่มเติบโต จึงตัดสินใจยอมตกลงกับหญิงสาวที่ชื่อนลิน...แม้จะไม่ได้รักก็ตาม

ในงานที่มีแต่รอยยิ้มเว้นเพียงแต่เขาและศูรเท่านั้นที่ยืนนิ่งๆอยู่บนที่แห่งนี้ราวกับตัวประกอบเท่านั้น พิธีกรที่กำลังพูดคุยเรื่องราวความรักที่ถูกแต่งมาให้คนมางานได้รับฟังและซาบซึ้งกับเรื่องปลอม

ตั้งแต่สิบกว่าปีก่อนวันที่ศูรทะเลาะและไล่พี่สาวของรพีออกจากบ้าน พี่ลูกจันทร์ก็หายไปเลยจริงๆ ไม่เคยกลับมาบ้านแม้เพียงซักครั้งเดียว หลังจากนั้นบ้านก็เงียบเหงาไม่เหมือนบ้าน รอยยิ้มไม่เคยปรากฏขึ้นมาให้เห็นอีกเลย

ยิ่งรพีที่ถูกชะตากรรมเดียวกับพี่สาวยิ่งแล้วใหญ่ ต่างกันตรงที่เขาไม่ได้ขัดขืน แต่เขายอมรับมันง่ายๆ ก่อนหน้าเด็กหนุ่มเคยเรียกร้องความสนใจจากศูรทำตัวเสเพล ติดเหล้าเมายาหนักจนเกือบตายมาครั้งหนึ่งแล้ว แต่ก็ทำให้รพีพบว่าไม่ว่าจะทำอย่างไรก็เรียกร้องอะไรจากผู้ชายคนนี้ไม่ได้

“ต่อไปนี้ขอเชิญคุณศูร พ่อของคุณรพีออกมากล่าวคำอวยพรหน่อยนะครับ”พิธีกรหนุ่มกล่าว ผายมือเชิญนักธุรกิจใหญ่ตาดุออกมาพูดอวยพรในวันวิวาห์ของลูกชาย

ศูรเดินออกมาอย่างสง่า เวลาที่ผ่านไปยิ่งทำให้ความน่าเกรงขามของคนคนนี้มีมากขึ้นมากกว่าเดิม

“ผมยินดีที่ลูกชายของผมมีวันนี้ ขอบใจนลินที่จะเข้ามาดูแลรพี ผมหวังว่านลินจะทำให้ลูกชายของผมมีความสุข ขอให้เป็นแบบนั้น...วันนี้เป็นวันดี ผมไม่มีอะไรดีๆจะมอบให้ในวันที่ดีมากๆแบบนี้นอกจาก...”รอยยิ้มเล็กๆที่ไม่เคยเห็นมานานปรากฏออกมาให้ทุกคนได้เห็น

“...นอกจากสิ่งที่ผมรักมากที่สุด”

“...ผมขอมอบหุ้นในชื่อของผม บ้านและทุกอย่างที่เป็นของผมให้รพี”ศูรบอกก่อนจะเกิดเสียงฮือฮาดังทั้งห้องจัดเลี้ยง การที่ศูรพูดแบบนั้นหมายถึงการเปลี่ยนมือผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของเครือเรืองรัตนโยดม

แต่ในความหมายของชายชราที่ไม่เคยมีใครเข้าใจ...

เขาหมายถึง...เขามอบทุกอย่างในชีวิตของเขาให้กับรพี...ทุกอย่าง



••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••




35ปีก่อน...

เสียงร้องไห้ดังจ้าของเด็กทารกที่พึ่งเกิดมาใหม่ในบ้านไม้โทรมๆหลังเก่า เด็กตัวแดงถูกห่อด้วยผ้าถุงบางๆ ไม่ใช่ว่าไม่นึกคำนึงถึงความสะอาด แต่เพราะผ้าผืนนี้เป็นผ้าที่สะอาดที่สุดในบ้านหลังนี้แล้ว

หญิงสาวใบหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อกาฬเต็มไปทั้งหน้าหอบหายใจก่อนจะอุ้มเด็กทารกตัวเล็กขึ้นมาไว้ในอก หวังจะเด็กเงียบเสียงลงแต่ก็เปล่าประโยชน์

“พี่แดง...เสียงอะไรน่ะพี่”ผู้หญิงอีกคนที่โผล่เข้ามาในบ้านหลังเก่า เป็นผู้หญิงร่างอวบอายุยี่สิบต้นๆ ได้ยินเสียงร้องไห้งอแงของเด็กอยู่ข้างบ้านจึงเดินมาดู ก่อนตาจะโตเท่าไข่ห่านเมื่อเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า เด็กทารกที่ยังเปื้อนเลือดสีแดงเต็มตัว กับแม่ของเด็กที่เป็นพี่สาวข้างบ้านที่ไม่เคยรู้มาก่อนว่ากำลังมีครรภ์

“เฮ้ย อะไรว่ะพี่ อะ...อะไรเนี่ย...โรงบาล...”ร่างอวบทำอะไรไม่ถูก มองซ้ายมองขวาหาทางออกแต่ก็คิดไม่ออก พลันสายตาไปเจอโทรศัพท์บ้านจึงคิดได้ว่าต้องพาคนเจ็บพร้อมเด็กไปโรงพยาบาล

“อร...”เสียงของคนที่พึ่งเป็นแม่เรียกสาวร่างอวบอย่างระโหยโรยแรง

“ไรพี่ อย่างพึ่งพูดๆ เดี๋ยวชั้นไปหาพามาเช็ดลูกพี่ก่อน...พี่ไปท้องใครมาพี่ อะไรเนี่ยชั้นงงไปหมด”อรโวยวายตามนิสัย แต่แดงไม่นึกโกรธรู้จักกันมานานเพราะเป็นเพื่อนบ้านตั้งแต่สมัยรุ่นพ่อรุ่นแม่ อรเป็นคนขี้โวยวายแต่ก็จริงใจเป็นที่สุด

“ลูกพี่...ปลอดภัยใช่มั้ย”

“ร้องไห้จ้าขนาดนี้ ไม่เป็นไรแน่ๆพี่แดง สรุปมันลูกใครเนี่ยพี่ พ่อมันอยู่ไหนทำไมไม่พาพี่ไปคลอดโรงบาลว่ะ”อรยังไม่เลิกสงสัย แม้จะเดาเรื่องได้แต่ก็อดถามไม่ได้เพราะเธอไม่เคยเห็นผู้ชายเข้ามาบ้านนี้เลยซักคน

“ไม่มีหรอก...ลูกพี่คนเดียว...พี่ยังไม่ได้ตั้งชื่อเลยอร ลูกพี่ชื่อไรดี”พยายามเปลี่ยนเรื่องและได้ผล คนขี้โวยวายหันมาเพ่งพินิจเด็กทารกอย่างสนใจ

“ตัวมันกลมๆแดงๆอย่างกะลูกปิงปองเลยพี่ เอาชื่อปิงปองมั้ย”

“ฮ่าๆ พี่อยากได้ชื่อจริง แกนี่...”แดงหัวเราะเบาๆพร้อมๆกับอร

ปิงปอง...ลูกของแม่

25ปีก่อน...

อีตุ๊ด!!

อีกระเทย!!

อีผิดเพศ!!

สารพัดคำล้อเลียนของเพื่อนร่วมรุ่นต่างล้อเลียนเด็กชายอดุลย์หรือปิงปองของแม่แดง ปิงปองก้มหน้าฟังคำเหล่านั้น กัดปากเน้นจนกลายเป็นเส้นตรง โกรธแต่ก็ทำอะไรไม่ได้

ตั้งแต่รู้ความจำเรื่องราวได้ในจิตใจของเด็กชายกับรู้สึกแปลกในร่างกายของตัวเอง เวลาเห็นแม่แดงใส่เสื้อผ้ากระโปรง รองเท้าส้นสูงก็อยากจะหยิบเอามาใส่ พูดค่ะพูดขาก็รู้สึกดีกว่าครับ

แม่แดงไม่ได้ว่ากล่าวอะไรที่ปิงปองเป็นแบบนี้ แม่มักจะไล่ตะเพิดคนที่มาล้อเลียนปิงปองเสียทุกครั้ง แม่บอกว่าปิงปองไม่ได้เป็นอย่างที่คนอื่นเขาพูดกัน แต่ปิงปองเป็นลูกแม่...ไม่ใช่อะไรเลย

“อีตุ๊ดอย่ามาใกล้กู”เด็กผู้ชายตวาดใส่ปิงปองทันทีที่เดินเข้าไปต่อแถวรอซื้ออาหารในโรงอาหารของโรงเรียนรัฐบาลใกล้บ้าน

“...ข..ขอโทษ”เพราะท่าทางตุ๊งติ๊ง คบแต่เพื่อนผู้หญิงร่วมทั้งใบหน้ากลม ผิวขาวตาโตยิ่งเหมือนผู้หญิงเข้าไปกันใหญ่ ปิงปองชอบที่จะเป็นแบบนี้แต่ไม่ชอบตรงที่มีคนมาแต่คอยจะรังเกียจกัน

“ปิงปองๆ มาทางนี้จ้า”เพื่อนผู้หญิงเรียกเสียงใส ปิงปองเดินไปหาคนเรียกด้วยรอยยิ้ม

ถึงจะมีคนที่คอยรังเกียจ...แต่ปิงปองก็ยังมีคนที่คอยยอมรับเหมือนกัน

ปิงปองจะไม่เป็นอะไรก็ตามที่คนที่เกลียดยัดเยียดให้เขา

แต่ปิงปองจะเป็นปิงปองของแม่แดง...ของน้าอร...ของเพื่อนๆ...ของทุกคนที่เข้าใจปิงปอง

20ปีก่อน...

“น้าไปก่อนนะปิงปอง ดูแลตัวเองดีๆนะลูก ถ้ามีปัญหาอะไรโทรหาน้านะ ถึงน้าจะไม่ค่อยมีแต่น้าจะช่วยเต็มที่”อรที่ยังคงเป็นผู้หญิงร่างอวบพูดบอกกับหลานชายสุดที่รักของตัวเอง...ที่ตอนนี้คงเรียกหลานชายได้ไม่เต็มปาก เพราะมีวิกผมยาวดูขัดตากับเครื่องสำอางค์จางๆแต่งเติมใบหน้าให้ดูสวยสะพรั่ง

“หนูอยู่ได้ค่ะน้าอร พอมีเงินเหลืออยู่ หนูจะไปหาห้องเช่าแล้วค่อยหางานทำ”เพราะที่ดินที่บ้านตัวเองเคยอยู่ถูกเวนคืน แม้จะอยู่มานานหลายสิบปีแต่ก็ไม่ใช่ที่ของตัวเอง เมื่อเจ้าของต้องการคืนก็ไม่สามารถจะทำอะไรได้

“ที่จริงไปอยู่กับน้าก็ได้ บ้านเก่าของญาติน้าเอง เขาให้น้าไปอยู่ อยู่หลายคนแต่ก็คงพออยู่ได้ ไปอยู่กับน้าเถอะน้าเป็นห่วง แกเป็นอะไรขึ้นมาพี่แดงแกลุกจากหลุมมาบีบคอน้าแน่ๆ”อรพูดขำๆ ปิงปองยิ้มขำ แม่แดงของตนเสียไปได้สามปีแล้ว ตลอดมาก็น้าอรช่วยเหลือมาตลอด ดีตรงที่มีที่ซุกหัวนอน และก็ไปรับจ้างเข็นของในตลาดใกล้ๆหลังเลิกเรียน บางวันก็ไปช่วยน้าอรขายของได้ค่าแรงมาพอกินพออยู่

“ไม่เป็นไรค่ะน้าอร หนูอายุสิบห้าแล้วนะ แค่นี้สบายมาก”สุดท้ายก็ไม่ได้ย้ายตามน้าสาวไป ขอบคุณน้าอรมาตลอดจนนับถือว่าเป็นแม่อีกคนของตัวเอง

แต่ได้เวลาแล้วที่ปิงปองคนนี้จะได้ใช้ชีวิตแบบที่ไม่ต้องพึ่งพาใคร จะไม่มีคำว่าไม่รอด...ไม่มีทางที่จะทำให้ชีวิตที่แม่เลี้ยงดูมาต้องเสียเปล่า...

16ปีก่อน...

เสียงเพลงดังอึกทึกครึกโครมของผับดังในย่าน ร่างอรชรเดินเข้ามาอย่างกล้าๆกลัวเข้ามาในร้านตอนหัวค่ำที่พนักงานกำลังวุ่นวายในการเปิดร้าน

“เอ่อ...มาสมัครงานค่ะ”ปิงปองที่ตอนนี้ผมยาวจนถึงกลางหลัง และใบหน้าที่สวยหวานด้วยจากการแต่งหน้าจึงไม่ทำให้เขอะเขินที่จะพูดจาเหมือนหญิงสาว

หากแต่เสียงแหบๆของตัวเองทำให้รู้ว่าคนตรงหน้าไม่ใช่หญิงสาวแท้ๆ

“พี่เขียนไว้ว่ารับสมัครสาวเสิร์ฟนะน้อง”

“เอ่อ...”

“กลับไปๆ”โดนไล่แบบที่เคยโดนบ่อยๆ หายากเหลือเกินงานที่ยอมรับเขา งานก่อนหน้าก็เป็นเด็กเสิร์ฟที่เจ้าของร้านพอจะเข้าใจยอมรับ แต่ก็มีลูกค้าที่รังเกียจคนแบบเขา สุดท้ายเขาก็ต้องออกมาหางานใหม่เนื่องจากเพศที่ไม่ตรงตามกฏธรรมชาติ

“มีไรเฮีย เด็กเสิร์ฟใหม่เหรอ น่ารักนี่หว่า”เสียงของผู้ชายดังมาจากข้างหลัง

“อ่าวมาแล้วเหรอไอ้ไตร ไม่ได้รับหรอก กูอยากได้สาวเสิร์ฟเรียกลูกค้าผู้ชาย”

“อ่าว...แสดงว่า โห้ยยยย เสียดายว่ะ น่ารักมากเลยนะเนี่ย”คนทะเล้นพูดล้อ พลางมองหน้าของคนตัวเล็กสุด แต่ก็โดนหลบสายตาอายๆ

“ยังงั้นก็ต้องไล่วงผมออก ไอ้ต้ามือเบสมันเป็นเกย์”เสียงนิ่งๆพูดขึ้นมา เรียกสายตากลมโตให้หันไปมอง เป็นชายหนุ่มร่างสูงตาคมดุ คิ้วเข้มน่ามอง

“เห้ยต่างกันสิ”

“ต่างยังไง ไม่รับไอ้นี่ก็ต้องไม่ให้ไอ้ต้าทำงานด้วย”พูดแค่นั้นก่อนจะเดินหนีหายไปทิ้งให้ทุกคนมองตามแล้วคนทะเล้นก็หัวเราะเสียงดัง

และแบบนั้นปิงปองเลยได้งานทำแบบงงๆ แต่ในใจก็นึกชื่นชมคนๆนั้น คงเป็นคนที่ไม่รังเกียจคนแบบเขา

...รพี...








ออฟไลน์ Pa'veaw

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1305
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +98/-1
มาแล้ววว สงสารรพีจังที่ต้องโดนบังคับมาตลอด

โดยไม่รู้ว่าพ่อหวังดีเลยทำให้รพีเป็นแบบนี้สินะ

อยากให้พ่อลูกได้ปรับความเข้าใจกันซักทีนะ

รอตอนต่อไปจ้า

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
รพี!!!!นายเคยเป็นเด็กอ่ะ!!!!

นายเคยมีคำพูดดีๆอ่ะ!!!


//ตกใจแปบ

ออฟไลน์ liza sarin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-14

ออฟไลน์ Ipatza

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 932
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-7
มันเป็นยังงี๊นี้เอง
แต่การลำดับเหตุการณ์ แบบย้อนไปย้อนมาแลดูจะทำให้งงๆนะ 555+
ดูมันสลับไปสลับมา น่าจะให้เป้นปีๆตามลำดับ
แต่ก็พอเข้าใจนะ(ตกลงยังไง 555+)
ที่แท้ปิงปองก็รู้สึกชอบรพีเพราะเหตุนี้นี้เอง
แล้วตกลงลูกจันทร์ไปอยู่ที่ไหน
ตอนแรกๆตกใจนึกว่าปิงปองจะเกี่ยวอะไรด้วย 555+

ออฟไลน์ Roman chibi

  • Death is not the end. Death can never be the end. Death is the road. Life is the traveller. The soul is the guide.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-3
รู้แล้วว่าทำไมถึงรักคุณรพี เรื่องราวน่าสงสารทั้งคู่เลย  :sad4:

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
 :katai2-1: อ่านทั้งตอน ประทับใจที่สุดคือ "ซัน อยากกินวุ้นเส้น" 555+

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด