## บันทึกรักสีม่วง ## ตอนพิเศษสุดท้าย [ ๒๑ / ๐๑ / ๒๕๖๐ ]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ## บันทึกรักสีม่วง ## ตอนพิเศษสุดท้าย [ ๒๑ / ๐๑ / ๒๕๖๐ ]  (อ่าน 267961 ครั้ง)

ออฟไลน์ korinasai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 305
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
สนุกมาก อ่านรวดเดียวแบบ non-stop
รพีอย่าใจร้ายนักสิ สงสารปิงปองบ้าง

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
ที่ตะวันมองรพีดีขึ้นก็ไม่ใช่อะไรหรอก ก็แค่เห็นมาดีกับอดุลย์นะแหละ ^^

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
คำที่พิมพ์ผิดจ๊ะ
"เป่า" ลมออกจากปาก
ห่วงคน"ล้ม" ไม่ใช่เล่น (บรรทัดที่ 7 นับจากข้างล่าง)

เป็นกำลังใจให้คนเขียน  :mew1:

ออฟไลน์ panari

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 534
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
ถ้าตะวันรู้เรื่องในอดีตไม่อยากให้ตะวันโกธรพ่อปิงปองเลย สงสารพอปิงปอง T^T

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
มีห่วงใย ปิงปองด้วย เท่านี้ก็ดี เริ่มทีละนิด เดี๋ยวก็เต็มหัวใจ

ออฟไลน์ Veesi3

  • coHon3 {ต้นฝ้าย}
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 715
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
รู้สึกเหมือนรพีหึงพ่อปิงปองเลยอ่ะ อิอิ แต่สงสารพ่อปิงปอง ไม่อยากให้ทิ้งตะวันไปเลยค่ะ

ออฟไลน์ Veesi3

  • coHon3 {ต้นฝ้าย}
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 715
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
แหะๆ วันนี้คิดว่าจะมาโพสดึกๆ อีกค่ะ  :katai2-1: รีเฟรชบ่อยมากอ่ะบอกตรง 5555
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-10-2014 00:34:29 โดย Veesi3 »

ออฟไลน์ Pz_ready

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 53
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +107/-1
ทริปตั้งแคมป์ที่เขาใหญ่ผ่านพ้นไปเรียบร้อย แม้จุดประสงค์ของคนที่เป็นตัวตั้งตัวตีจะพลาดไปซักหน่อยเพราะสองวันที่ในป่ารพีไม่ได้วาดรูปเลยแม้ซักรูปแต่กลับใช้เวลาไปกับการเที่ยวชมผืนป่าใหญ่ที่เขาเองก็มาจนนับครั้งไม่ถ้วนแล้ว

คนที่ดูจะได้ผลประโยชน์สุดคงไม่พ้นเด็กชายวัยอยากรู้อยากเห็น ตะวันได้มาเห็นอะไรมากมายที่ไม่เคยได้เห็นมาก่อนในชีวิต บ้างอย่างเห็นแคในรายการที่แนะนำที่ท่องเที่ยว แค่ดูในโทรทัศน์ก็รู้สึกอยากไปบ้างดูซักครั้ง ยังมีอีกหลายที่ที่เคยเห็นแล้วอยากไป ไว้มีโอกาสจะลองไปขอให้...พ่อพาไป

พ่อรพี...

ตะวันเรียกรพีว่าพ่อในใจ นึกรู้สึกดีขึ้นเมื่อได้ใช้เวลาร่วมกัน ก่อนหน้าด้วยอคติมากมายทำให้เขาไม่ค่อยอยากจะเรียกรพีว่าพ่อเท่าไร ยิ่งรพีเองไม่ได้เรียกร้องหนำซ้ำยังมีท่าทีไม่สนใจเขาเลยคิดว่าอีกฝ่ายก็ไม่ได้ต้องการเขาเป็นลูกเท่าไร

แต่สองวันหนึ่งคืนที่ผ่านมาทำให้ความรู้สึกเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว รู้สึกขอบคุณที่อีกฝ่ายยอมให้มาเที่ยวด้วยจนทำให้ตัวเองผิดวัตถุประสงค์ของตัวเองแต่ก็ไม่บ่นอะไรออกมาซักคำ ขอบคุณที่พาตนมาเปิดหนูเปิดตา

และขอบคุณที่...ดีกับพ่อปิงปอง

“งั้นกูกลับเลยนะซัน กลับก่อนนะครับคุณอดุลย์ บายๆนะตะวัน”ไตรเทพโบกมือไปๆมาๆให้สามคนตรงหน้าอยู่ในโรงรถของบ้านหลังใหญ่ คนตัวสูงยืนหน้านิ่งมือถือข้าวของสัมภาระทั้งของตัวเองและอีกสองคน คนตัวเล็กที่ยืนข้างๆกันยิ้มให้เขาพร้อมกับโบกมือกลับข้างหนึ่งส่วนอีกข้างก็ถือเฟรมวาดรูปอันใหญ่ไว้ ส่วนคนที่เด็กสุดที่ยืนยิ้มหน้าแป้นก็อ้อนบอกให้พาไปเที่ยวอีก

ภาพตรงหน้า...ทำให้รู้สึกว่ามีความสุขลอยอบอวลอยู่เต็มไปหมด

“ขับรถกลับดีๆนะครับคุณเทพ”อดุลย์บอกพร้อมกับขอบคุณที่อีกฝ่ายพาไปเที่ยว อีกฝ่ายดูอ่อนล้าสุดๆเพราะเป็นคนขับรถทั้งขาไปและขากลับ แถมยังคอยดูแลดูอธิบายและพาเที่ยวตลอดแถมยังต้องขับรถกลับบ้านตอนดึกๆแบบนี้หลังจากมาส่งพวกเขาอีก

“ลุงเทพอย่าลืมที่สัญญากับตะวันไว้นะ”เด็กชายพูดเสียงร่าเริง ยิ้มแย้มลืมเวลาง่วงทั้งๆที่เวลามันเกือบจะเที่ยงคืนพรุ่งนี้ต้องตื่นฝ่ารถติดไปเรียนแต่เช้าอีกต่างหาก

“หือ สัญญาอะไรกัน ตะวันไปกวนอะไรลุงเขาหรือเปล่าฮึ”พ่อปิงปองถามใบหน้าขาวอมยิ้มน้อยๆรู้สึกดีที่เห็นตะวันเข้ากับคนบ้านนี้รวมถึงคนสนิทของครอบครัวนี้ได้โดยไว

“ความลับ!!”ลูกชายตัวดีบอกทะเล้นก่อนจะวิ่งหนีไปหัวเราะไป ทิ้งให้ความข้างหลังหัวเราะตามกับความร่าเริงของวัยรุ่น

“งั้นขอตัวจริงๆล่ะ ฝันดีนะครับ ฝันดีเว้ยซัน”

“เออ รีบกลับไปหาลูกหาเมียได้ล่ะ”คนที่เงียบมาตลอดพูดขึ้นมา เริ่มรู้สึกหนักขึ้นมาเรื่อยๆคิ้วเข้มขมวดขัดใจเด็กในบ้านที่ไม่ยอมออกมาดูพวกเขาเสียทีครั้นจะให้คนอื่นช่วยถือก็ดู...ไม่ดี

“ฝันดีครับคุณเทพ”ร่างบางข้างๆบอก รพีหันมามองคนพูดเห็นสีหน้ายิ้มๆแล้วหงุดหงิด ไม่ค่อยเข้าใจพวกที่ชีวิตเต็มไปด้วยความสุขเท่าไรนัก คนที่ยิ้มให้กับเรื่องทุกเรื่องที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเป็นคนแบบไหน ใช้ชีวิตมาแบบไหน มองโลกอย่างไร

แล้วทำยังไงถึงได้เป็นแบบนั้น

ไม่ทันได้รู้ตัวในหัวของร่างสูงก็คิดแต่เรื่องของอดุลย์เต็มไปหมด ขนาดที่เขาเองก็ไม่ได้ฉุกใจหยุดคิดว่าทำไมต้องคิดเรื่องอีกฝ่ายได้มากขนาดนั้น แค่เห็นอดุลย์ยิ้มให้คนอื่นที่เพียงแค่เดินผ่านก็สงสัยว่ายิ้มทำไม แล้วขนาดเขาเองที่เคยทะเลาะกันมาอีกฝ่ายยังดูแลเขาใส่ใจเขา ทำไมถึงไม่โกรธแล้วแสดงธาตุแท้ของมนุษย์ออกมา

“ให้ผมช่วยถือมั้ยครับ”ร่างสูงสะดุ้งตัวเล็กน้อย เผลอคิดเรื่องคนข้างๆมากไปจนไม่รู้ตัวว่าเพื่อนขับรถออกไปตอนไหน ตรงหน้าคือรอยยิ้มที่นึกสงสัย

“ไม่เป็นไร”บอกแค่นั้นก่อนจะหันตัวเดินเข้าไปในบ้าน แต่ไม่ทันจะเข้าถึงตัวบ้าน ดาวก็รีบกุลีกุจ่อออกมาช่วยถือเป็นการใหญ่ หญิงสาวเอ่ยขอโทษที่ออกมาช้าเพราะตัวเองทำธุระส่วนตัวอยู่

รพีพยักหน้ารักคำไม่ได้พูดอะไรต่อ วางของทั้งหมดให้สาวใช้ก่อนจะเดินขึ้นไปบนห้องหมายที่จะพักผ่อน

“เดี๋ยวค่ะคุณผู้ชาย!!”เสียงตะโกนเรียกของสาวใช้ที่ตอนนี้แบกช่วยกันแบ่งกันถือของกับอดุลย์เรียกไว้ มองชายหนุ่มอีกคนที่รื้อดูข้าวของว่าเป็นของใครก็นึกขัดใจ ทั้งๆที่ตนถือของมาทั้งหมดปฏิเสธให้อีกฝ่ายช่วยแต่สุดท้ายก็ไปแย่งหน้าที่ที่ดาวอีก

วุ่นวายซะจริงผู้ชายคนนี้

“...??”

“คุณวัชรมาฝากจดหมายไว้ให้คุณผู้ชายค่ะ”ดาวยื่นสิ่งที่เรียกว่าจดหมายแต่ที่จริงเป็นแค่กระดาษเอสี่พับซ่อนข้อความไว้ข้างในเท่านั้น

“เมื่อไร?”เสียงนิ่งเอ่ยถาม คิ้วขมวดอย่างเคยตัว เรื่องด่วนอะไรที่ที่ให้เลขาฯของเขาต้องฝากเรื่องไว้ในเมื่อพรุ่งนี้ก็ต้องทำงานต้องเจอกันอยู่แล้ว

“วันนี้ตอนเที่ยงๆค่ะ”รพีพยักหน้าหยิบกระดาษในมือของสาวใช้แล้วหมุนตัวกลับเดินขึ้นบันไดขึ้นไปอย่างรวดเร็ว ทันทีที่ถึงห้องนอนรพีจัดการเปิดโทรศัพท์มือถือทันที เป็นที่รู้กันว่าถ้าเขาใช้เวลาพักผ่อนในวันหยุดเขาจะปิดรับการสื่อสารจากทุกๆทาง

มือหนากดเบอร์หาวัชรทันทีที่เปิดเครื่องติด ไม่ได้นึกถึงเวลาเท่าไรเพราะวัชรทำงานให้เขาได้มากยิ่งกว่าเวลาเปิดของร้านสะดวกซื้อเสียอีก

“ครับท่านประธาน”เสียงปลายสายออกจะแหบนิดหน่อยจากการตื่นนอนกลางดึก แต่น้ำเสียงก็ไม่ได้นึกรำคาญคนที่เข้ามาแม้แต่นอน อีกฝ่ายยินดีทำงานให้รพีแม้เนื้องานจะไม่เกี่ยวกับงานเลขาฯหรือล่วงเวลามากแค่ไหน เพราะเงินที่ได้รับตอบแทนมันสูงสมค่าเหนื่อย

“พรุ่งนี้เตรียมทีมบัญชีใหม่มาให้ผมด้วย ขอทีมไม่มีส่วนข้องเกี่ยวกับแผนกของนายการิน”เสียงเข้มเอ่ยบอกทันทีไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรให้มากความ คนปลายสายก็รู้ใจท่านประธานพอที่ไม่ถามไถ่อะไรเพราะวัชรเองเป็นคนเขียนบอกไปเอง

แต่สงสัยว่าท่านประธานเองก็คงจะรู้อะไรมาก่อนเขาอยู่แล้วบ้าง เพราะในข้อความที่ให้ไปเขาแค่เขียนไปว่า

...ฝ่ายจัดเลี้ยงมีปัญหา...



••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••




ตึกเล็กๆเบื้องหลังโรงแรมที่ตั้งอยู่ข้างๆห้างสรรพสินค้าชื่อดังในเครือเรืองรัตนโยดมเป็นตึกที่ทำงานที่แยกส่วนออกมา แผนกต่างๆที่ไม่เกี่ยวข้องกับห้างสรรพสินค้าจะถูกรวมเอาไว้ที่นี่ทั้งหมด

รายได้ส่วนใหญ่ของโรงแรมแห่งนี้มาจากห้องจัดเลี้ยงที่ว่ากันว่าทั้งไฮเทคฯและกว้างขวางหรูหราที่สุดในประเทศ ไม่แปลกที่เหล่างานสังสรรค์ต่างๆถึงอยากจะเข้ามาจัดงานในห้องใดห้องหนึ่งในโรงแรมนี้ เพราะแค่ชื่อที่จัดงานก็สามารถเรียกให้ผู้คนสนใจได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

ภายในห้องทำงานส่วนตัวขนาดใหญ่ของประธานกรรมการฯ รพีและวัชรกำลังนั่งจ้องตัวเลขที่ปรากฏในแฟ้มสีน้ำเงินเข้มขนาดใหญ่ ทว่าจนแล้วจนรอดเขาก็ไม่สามารถหาจุดผิดปรกอะไรเจอในแฟ้มนี่เลย

“เย็นแล้วนะครับท่านประธาน”วัชรที่ก็ทำงานจนลืมเวลาเอ่ยเตือนเจ้านาย ที่ช่วงนี้งดรับใบเชิญไปงานสังคมเพราะต้องกลับไปทานข้าวเย็นที่บ้าน เว้นแต่งานไหนที่เลี่ยงไม่ได้จริงๆรพีจึงต้องตกลงไป

“นายแน่ใจนะว่าทีมบัญชีทีมนี้ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับนายการิน”ร่างสูงเงยหน้าตรง ถอดแว่นสายตายาวออกก่อนจะบีบนวดที่ดั้งโด่งเบาๆเป็นการคลายความเมื่อยล้าทางสายตา

“แน่ใจครับ ทีมนี้ไว้ใจได้แน่นอนเป็นทีมของคุณนิลครับ”วัชรเอ่ยชื่อบุคคลที่เป็นหนึ่งในคนที่เจ้านายของเขาไว้ใจในที่ทำงาน นิลเป็นนักบัญชีที่ทำงานในส่วนของโรงแรมโดยตรง ดูบัญชีในส่วนของแขกที่เข้าพักเป็นส่วนใหญ่ ส่วนบัญชีในส่วนห้องจัดเลี้ยงจะเป็นอีกกลุ่มหนึ่งเป็นคนจัดการ

เมื่อเช้าหลังจากที่รพีก้าวเข้ามาในห้องทำงานที่วัชรมานั่งรออยู่ก่อนแล้ว เลขาหนุ่มชีแจ้งเรื่องที่ตนเขียนข้อความบอกเจ้านายไว้เมื่อวาน ด้วยเพราะคุณแทนไทหัวหน้าฝ่ายบุคคลเอาเรื่องปรึกษาว่าในหมู่พนักงานมีข่าวลือมาว่าการิน ผู้จัดการแผนกจัดเลี้ยงรวยขึ้นผิดหูผิดตา เงินเดือนครึ่งแสนที่ได้ในแต่ละเดือนไม่น่าจะมีเงินพอให้ออกรถสปอตสัญชาติยุโรปป้ายแดงได้

คุณแทนไทไม่เอาเรื่องนี้มาคุยแม้จะเป็นวันหยุดเพราะเขาต้องจัดการเรื่องข่าวลือ เพราะแม้แต่พนักงานเพียงคนเดียวก็สามารถสร้างผลกระทบมากมายมหาศาลได้ต่อบริษัท ถ้ามีข่าวออกไปว่าหัวหน้าระดับสูงคดโกงบริษัทคงไม่เป็นผลดีเท่าไรนัก

วัชรเองรับฟังแล้วจัดการขับรถไปแอบดูบ้านของคนที่ถูกกล่าวหา หมู่บ้านจัดสรรขนาดกลางข้างนอกมีรถเก๋งเก่าๆที่วัชรจำได้ว่าเป็นของเจ้าของบ้าน ส่วนพื้นที่จอดรถในบ้านถูกจับจองด้วยรถสปอตตามที่ข่าวลือว่าไว้

แบบนี้มันผิดปรกติ...จนน่าจะเป็นไปได้ว่าการินโกงเงินของบริษัท?

“แต่ตัวเลขพวกนี้มันไม่ผิดปรกติเท่าไร”ถอนหายใจก่อนจะโยนแฟ้มหนาลงพื้นอย่างอารมณ์เสีย วันนี้ทั้งวันเขายังไม่ได้พักกายพักสมองเลยแม้ซักนิด ช่วงเช้าพอรู้เรื่องก็สั่งให้วัชรสั่งให้ฝ่ายบัญชีตรวจสอบย้อนหลังแบบเร่งด่วนแล้วสรุปตัวเลขส่งให้เขาก่อนตัวเองจะไปประชุมต่อในตอนเช้า ตกบ่ายก็นั่งอ่านตัวเลขที่ถูกสรุปมาอย่างถี่ถ้วน

ตัวเลขที่สรุปมาก็มีเงินที่ถูกยักยอกไปบ้างนิดหน่อย แต่เป็นหน่วยระดับไม่กี่พันบาทเป็นความคลาดเคลื่อนของตัวราคาประเมินที่รพีเองไม่ได้ซีเรียสตรงนั้นเท่าไรนัก แต่ถ้าโกงกันแค่นี้ไม่มีทางที่จะออกรถหรูได้แน่ๆ

หรือ...กำลังมองข้ามอะไรไป?

“วัชร...ไปเอาแฟ้มข้อมูลลูกค้าย้อนหลังมา ไปใส่ไว้หลังรถชั้น”คนถูกสั่งทำตาตี๋ๆโตอย่างตกใจ

“เอ่อ...ผมว่าเดี๋ยวผมช่วยท่านประธานดูดีกว่ามั้ยครับ”รพีส่ายหน้า

“นายดูบัญชีต่อไป ไปถามแทนไทว่าการินสนิทกับใครในบริษัทบ้างแล้วตรวจสอบการเงินพวกนั้นให้หมด”คำสั่งเสียงเข้มบอกถึงความเด็ดขาดในคำพูด วัชรรับคำก่อนจะเดินออกไปจากห้องเจ้านายพลางยิ้มอย่างอ่อนอกอ่อนใจ

เจ้านายของเขาคนนี้ถึงไม่ใช่คนที่ที่เก่ง ไม่ได้ถูกจับตามองด้วยความสามารถ แต่ใครจะรู้ว่าท่านประธานทุ่มเทมากขนาดไหนความมานะของรพีไม่มีใครเกิน ถึงไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นผู้บริหารโดยสัญชาติญาณแต่รพีเป็นผู้บริหารได้เพราะสามัญสำนึกโดยแท้จริง

ลับหลังเลขาหนุ่มร่างสูงปล่อยตัวลื่นไหลไปตามพนักเก้าอี้ ถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างกังวลในใจ ด้วยความที่ต้องอยู่ในโลกที่ต้องระแวงทุกคนมานาน ความรู้สึกบางอย่างว่ามันไม่ใช่แค่เรื่องโกงเงินธรรมดาผุดขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

ถ้าไม่ใช่ว่านายการินเป็นน้องชายของนลินภรรยาเก่าที่ไม่กี่วันก่อนเขาด่าว่าอย่างแรงไปคงไม่ต้องกังวลขนาดนี้ ร่างสูงไม่ได้กลัวว่าฝ่ายนั้นจะมาร้าย ถึงร้ายมาก็ทำอะไรคนอย่างเขาไม่ได้เขามั่นใจ

แต่กังวลเรื่องถ้ามีข่าวที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของบริษัทในช่วงนี้คงจะไม่ดีเท่าไรนัก ยังไม่ผ่านเรื่องข่าวหย่าร้างถ้ามีเรื่องที่มีเรื่องโกงกันเกิดขึ้นอีกคงแย่ขึ้นอีกเท่าตัว

ถึงรพีไม่ได้รักการเป็นประธานฯ...แต่เขารักบริษัทแห่งนี้

เพราะมันเป็นสมบัติที่ศูรมอบให้...



••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••




เวลาหกโมงครึ่งทุกคนพร้อมหน้าพร้อมตากันที่โต๊ะอาหารในบ้านหลังใหญ่ ศูรนั่งอยู่หัวโต๊ะขนาบข้างด้วยรพีและตะวันและอดุลย์ที่นั่งอยู่ข้างๆตะวันอีกทีหนึ่ง บนโต๊ะอาหารมีกับข้าวน่าตาน่าทาน วันนี้อดุลย์ลงมาดาวกับป่านทำกับข้าวตอนเย็นเพราะตะวันโทรมาอ้อนเขาว่าอยากกินทับทิมกรอบเป็นของหวาน ครั้นจะมาทำแค่ของหวานให้ลูกอย่างเดียวก็ดูไม่ดีเท่าไรร่างบางจึงอาสาช่วยทำกับข้าวอีกแรง กับข้าววันนี้เลยดูน่าทานขึ้นมาเป็นพิเศษ

“วันนี้นึกครึ้มอะไรยัยดาว ทำหล่นปูซะด้วย ทำเป็นด้วยรึไม่เคยเห็นทำซักที”ศูรถามพลางมองถ้วยแก้วที่บรรจุหล่นปูสีขาวน่าทานวางพร้อมกับผักเคียงหลากชนิด

“หล่นปูคุณปิงปองทำค่ะคุณท่าน วันนี้มีทับทิมกรอบเป็นของหวานฝีมือคุณปิงปองเหมือนกันค่ะ”ถามหนึ่งตอบหลายอย่างนี่แหละนิสัยของดาว

“ฮือ อร่อยด้วย หัดทำมาจากไหนหรือดุลย์”ตักชิมแล้วร้องออกมาด้วยความพึงใจ

“ขอบคุณนะครับคุณท่าน สมัยก่อนผมอยู่คนเดียวก็ทำอาหารกินเองตลอดน่ะครับ ทำเป็นบ้างแต่ไม่อร่อยหรอกครับ”อดุลย์ตอบยิ้ม ภูมิใจในอกที่มีคนนึกชมอาหารที่เขาทำ

“อย่าทานเยอะครับ กะทิทั้งนั้น”เสียงเรียบเอ่ยขัด แต่เหมือนคนพูดไม่ได้สนใจอะไร ตักกับข้าวอย่างอื่นมาทานท่ามกลางรอยยิ้มเล็กๆที่บอกถึงความดีใจของคนเป็นพ่อ

“คุณทะ...คุณปู่กินกะทิไม่ได้เหรอครับ”ด้วยเพราะไม่ชินตะวันเลยลืมว่าพ่อปิงปองสอนให้เรียกศูรว่าคุณปู่ แต่บ่อยครั้งเขาก็หลงๆลืมๆ แต่ศูรดีกับพ่อปิงปองมากกว่าอีกคนเลยไม่ตะขิดตะขวงที่จะเรียกว่าปู่เท่าไรนัก

“อืม เป็นไขมันกับความดันน่ะโรคคนแก่”ศูรตอบยิ้มกว้างกว่าเดิม รู้สึกอิ่มอกอิ่มใจจากครอบครัวมันเป็นแบบนี้...นานแล้วนะที่ไม่ได้รับความรู้สึกอย่างนี้มาให้หัวใจมีแรงมีกำลังจะเต้นต่อไป

“แย่จังเลยครับ ผมเองก็ไม่ทันสังเกตว่าดาวไม่เคยทำของมันๆทอดๆเท่าไร ถ้าคุณท่านชอบไว้เดี๋ยวคราวหน้าผมจะใช้นมแบบไร้ไขมันแทนกะทิสดนะครับ”อดุลย์ตำหนิตัวเองพูดยืดยาว ศูรรับคำด้วยรอยยิ้มที่ยังปรากฏไม่จางหายไป

บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเป็นไปอย่างแช่มชื่น ส่วนใหญ่เป็นบทพูดคุยของพ่อปิงปองและตะวัน ที่ลูกชายเล่าเรื่องนู้นนี่ในวิทยาลัยให้ฟัง พลอยให้คนอื่นๆบนโต๊ะอาหารได้ยินตามไปด้วย

และก็เหมือนได้เริ่มเป็นส่วนหนึ่งในช่วงการเติบโตของ...ลูก...

“แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้ตะวันจะขอตัวไปดูหนังสือพวกโปรแกรมคอมฯกับไอ้ดำนะครับพ่อ”เสียงเจื้อยแจ้วของคนที่อายุน้อยที่สุดบอกเสียงใส

“หืม คิดยังไง ไหนว่าตะวันจะเรียนโปรแกรมเทอมหน้าไงครับ ที่มาขอพ่อซื้อคอมฯ?”คิ้วเข้มลืมตัวขมวดเข้าหากันเหมือนทุกที สะดุดคำพูดที่ว่าตะวันมาขอให้อดุลย์ซื้อคอมฯให้ ทั้งๆที่เงินในบัตรที่ตะวันถือไว้จะซื้อมากี่เครื่องก็ไม่มีปัญหา

“ก็พอดีไอ้หนึ่งสองมันเรียนคอมฯกันเทอมฯนี้ แล้วเขาให้เขียนโปรแกรมส่งเป็นงานไฟนอลครับ ที่นี่พวกที่ทำเองไม่ได้ก็ไปจ้างให้คนนอกทำให้แล้วมีเพื่อนในห้องคนหนึ่งมันโคตรฉลาดเลยครับแต่แกมโกงไปเยอะ!!”เล่าเสียงตื่นเต้นจนคนที่นั่งฟังเงียบๆยังแอบสนใจไปด้วย

“แล้วยังไงต่อครับ?”

“ก็มันแกล้งทำเป็นว่ารับงานจากเพื่อนคนหนึ่งที่ฉลาดคิดแต่เขียนโปรแกรมไม่เป็นครับ ก็คุยรายละเอียดเกี่ยวกับตัวโปรแกรมที่ไอ้เพื่อนคนนั้นอยากทำเรียบร้อย สุดท้ายมันก็ขโมยไอเดียไปทำเองเฉยเลย มีเรื่องกันยกใหญ่เลยครับ”

“...หือ นิสัยไม่ดีเลยนะ ตะวันอย่าทำแบบนี้นะ”อดุลย์สั่งสอนลูกชายที่รับคับยิ้มแย้มก่อนจะเรียกร้องหาของหวานยกใหญ่ แต่ร่างสูงที่นั่งตรงข้ามนิ่งเงียบอย่างใช้สมาธิ

ในหัวกำลังครุ่นคิดเรื่องที่ตะวันพึ่งเล่าไปเมื่อครู่

...มันแกล้งทำเป็นว่ารับงานจากเพื่อนคนหนึ่ง...

...ก็คุยรายละเอียดเกี่ยวกับตัวโปรแกรมที่ไอ้เพื่อนคนนั้นอยากทำเรียบร้อย...

...ขโมยไอเดียไปทำเองเฉยเลย...





ไอ้การิน!!!!!!!!!






ขอบคุณที่ให้ทุกกำลังใจค่ะ หลายคนพิมมาว่าให้กำลังใจคนเขียน จะพยายามไม่หายไปนานอีกนะคะ
จะพยายามมาต่อให้ได้ทุกวัน แต่บางทีก็ไม่ได้อย่างเมื่อวาน
พอดีลูกสาวป่วยค่ะเป็นมือเท้าปาก เห็นคนอื่นเขาฮิตกันเลยเป็นซักหน่อย ฮ่าาา
ใครมีลูกมีหลานระวังกันนะค่ะช่วงนี้เป็นกันเยอะมากจริงๆ

ออฟไลน์ beautjang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 53
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ชอบเรื่องนี้มากกกกกก(ลากยาวๆ)55
สู้ๆนะค้าาา

ออฟไลน์ liza sarin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-14
รออ่านทุกวันอ่ะค่ะ ชอบมาก ขอให้น้องหายป่วยไวๆนะค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ korinasai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 305
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
เริ่มเป็นครอบครัวอบอุ่น
 :o8: :o8:

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
ครอบครัวอบอุ่นจัง :)

รพีไปรบรากับเรื่องบริษัทก่อนนะ

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
คนเขียนมีลูกแล้วอ่ะ ขอให้ครอบครัวอบอุ่น   ถ่ายทอดความอบอุ่นผ่านในเนื้อเรื่องนี้นะคร้าบ

ออฟไลน์ Veesi3

  • coHon3 {ต้นฝ้าย}
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 715
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
อ๋าาา  :กอด1: :กอด1: ขอบคุณคนเขียนที่มาอัพให้นะคะ ให้ลูกสาวหายไวๆ นะคะ อ่านตั้งแต่แรกคิดว่ายังเรียนอยู่ค่ะ พอบอกไปดูงาน เอ้าทำงานแล้ว =w= คราวนี้เซอร์ไพรสมีลูกสาวแล้วอ่ะ สู้ๆ นะคะ ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ นะคะ  o13

ออฟไลน์ Ipatza

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 932
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-7
โอ้ มีลูกสาวแล้ว
ขอให้น้องเขาหายไวๆนะครับ
แอบฮาเล็กน้อย ตรงเห้นเขาฮิตกันเนี้ย555+
แล้วก็ขอบคุณมากครับที่กลับมาต่อ รู้สึกมีความสุขที่ได้อ่าน
สู้ๆครับ

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
และแล้วรพีก็นึกออก  o13
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ
ปล.ขอให้คุณคนเขียนสุขภาพแข็งแรงแล้วก็คุณลูกสาวหายป่วยเร็วๆจ้า...

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
เฮ้อกลัวจังเลย เรื่องของทั้งสองคนจะโดนเปิดเผย
ทำให้บริษัทอยู่ในคราวลำบากไปด้วย มีมาแอบถ่งแอบถ่าย
แล้วจะรออ่านต่อน๊า

ออฟไลน์ Pz_ready

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 53
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +107/-1
“นี่พี่ชั้นไม่อยากจะทำแล้วนะ ไม่เห็นจำเป็นต้องทำแบบนี้เลยชั้นกลัวนะพี่”

“แกมากลัวอะไรเอาตอนนี้ เงินจากแผนชั้นชั้นก็ไม่เคยเอาจากแกจนแกเอาไปดาวน์ไอ้รถคันใหม่ของแกได้ แกได้เงินแล้วคิดจะพอ แล้วชั้นล่ะ ของที่ชั้นต้องการ ชั้นก็มีสิ่งที่ชั้นอยากได้เหมือนกัน”

“แล้วพี่ต้องการอะไร เงินที่พี่ควรได้มันก็เยอะ ชั้นว่าพี่อย่าไปอยากได้อะไรเกินตัวเลย”

“แกไม่เข้าใจชั้นกาน...ไม่เข้าใจ”

“แล้วพี่เนยอยากได้อะไรจากเขา เขาน่ากลัวนะพี่ พี่อยู่กับเขามาตั้งหลายปีน่าจะรู้ว่าเขาน่ากลัวขนาดไหน ชั้นทำงานให้เขามาชั้นรู้ดี”

“ชั้นไม่สน!!!”

“แล้วพี่ต้องการอะไร ชั้นไม่เอานะ ชั้นกลัว ถ้าถูกไล่ออกจากที่นั่นชั้นจะไปหางานที่ไหนทำได้อีกเล่า!!”

“เฮอะ!! งานที่นั่นก็เพราะชั้นแกถึงได้มีงานมีเงิน นี่คิดจะเนรคุณกันรึไงห่ะ!!”

“ชั้นไม่คิดแบบนั้นนะพี่ ชั้นรักพี่แต่ชั้นก็กลัว ผู้ชายคนนั้นน่ากลัวเขาไม่เคยรักใครหรอกพี่”

“ไม่หรอก...เขามีของที่เขารัก”

“....??”

“เขามี เขาไม่ใช่คนที่ไม่รักใคร ชั้นรู้ดี ชั้นรักเขาชั้นรู้ดี ชั้นมองเขามาตลอด ชั้นเห็นว่าอะไรที่เขารัก”

“...อะไรเหรอพี่?”

“บริษัทนั้นไง ชั้นต้องเอามาให้ได้ ชั้นต้องได้ของที่เขารัก!!”

กริ๊งงงง กริ๊งงงงง

“ฮัลโหล”

“คุณนลินครับ ผมครเอง”

“ว่าไง”

“คุณนลินเปิดดูภาพที่ผมส่งไปให้หรือยังครับ”

“ยัง เดี๋ยวจะเปิดดูเดี๋ยวนี้”

“....”

“...นี่อะไร?”

“...ลูกชายของคุณรพีครับ”

“ม...ไม่มีทาง!!!”

“ที่จริงแค่หน้าตาก็น่าจะตอบได้อยู่แล้วครับ แล้วผมตามไปตอนที่เด็กคนนี้ไปเจอกับนายวัชร”

“ไหนรูป!!”

“ไม่มีครับ ผมนั่งติดพวกเขา...นายวัชรเรียกเด็กคนนี้ว่าคุณหนู”

“.....มันชื่ออะไร”

“ตะวันครับ”

“...”

“จะให้ผมตามเด็กคนนี้หรือตามนายรพีครับ”

“...หันไปตามรพี คอยดูว่าตอนนี้เขาทำอะไร แล้วให้คนอื่นตามเด็กคนนี้ ชั้นต้องการรู้ความสัมพันธ์จริงๆของพวกเขา!!”

“ครับ”

ปึก!!!!

“มีอะไรพี่เนย?”

“...ชั้นไม่ยอม!!”

“ไม่ยอมอะไรพี่?”

“...เขาจะรักอย่างอื่น...ชั้นไม่ยอม...ไม่ยอม...ชั้นจะทำให้เขาไม่เหลือสิ่งที่รัก...ในเมื่อรักชั้นไม่ได้...”





“ก็ห้ามรักอะไรทั้งนั้น!!!!!”



••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••




สันนิษฐานของรพีมีความเป็นไปได้ที่นาจะเป็นเรื่องจริง หลังจากข้าวมื้อเย็นรพีก็เข้ามาอ่านเอกสารที่สั่งให้วัชรไปหามาอย่างเร่งด่วน และนั่งอ่านภายในห้องนอนจนเวลาล่วงเลยมาจนขึ้นวันใหม่ไปเกือบหนึ่งชั่วโมงแล้ว

ข้อมูลตรงหน้าเป็นข้อมูลที่ในระยะครึ่งปีที่ผ่านมา ลูกค้าที่ใช้บริการส่วนมากเป็นคอนเนกชั่นกับโรงแรมเท่านั้น ส่วนลูกค้ารายย่อยอื่นๆปรากฏน้อยจนผิดปรกติ

ถึงรายได้จะไม่ได้ลดลงไปแต่ในระยะยาวก็พูดได้ไม่เต็มปากว่าจะไม่สูญเสียลูกค้าไปให้ที่อื่น ร่างสูงต่อสายเข้าหาเลขาฯทันทีที่แน่ใจในคำตอบของตัวเอง

“ครับท่านประธานฯ”ปลายสายตอบเสียงแข็งขันเพราะวัชรเองก็ยังไม่ได้นอนเช่นเดียวกัน เขากำลังนั่งเช็คดูการเงินของการินและคนรอบข้าง แต่ก็ยังหาจุดน่าสงสัยไม่เจอ

“ชั้นว่าชั้นพอจะรู้สาเหตุแล้ว”คำพูดเริ่มเรื่องของเจ้านายทำเอาหนุ่มตาตี๋เบิกตาลืมความง่วง หันมาสนใจเต็มทีกับเรื่องที่คนที่โทรมากำลังจะพูดต่อ

“สงสัยว่านายการินจะขายงานต่อให้โรงแรมอื่น”

“หา...แล้วทำแบบนั้นมันจะไม่เสี่ยงที่จะดิสเครดิตตัวเองเกินไปหรือครับ ถ้ารับงานที่โรงแรมเราแต่ขายงานให้ไปจัดที่อื่น...ผมว่ามันไม่น่าจะเป็นไปได้นะครับ”วัชรแจ้งข้อขัดแย้ง ไม่น่าเชื่อว่าการินจะสิ้นคิดทำอะไรแบบนั้น คนที่รู้จักของท่านประธานมีเยอะแยะ แล้วคนที่อยากมาจัดงานที่โรงแรมในเครือเรืองรัตนโยดมก็เพราะอยากได้ความสนใจจากสื่อ...สื่อ?

“หรือว่า??”

“ชั้นไม่แน่ใจ นายให้เพื่อนนายที่เป็นนักข่าวไปสืบให้ชั้นที”รพีสั่ง ไม่เสียแรงที่ชื่นชมมันสมองของเลขาคนนี้ เขาไม่ต้องบอกอะไรก็พอจะเดาเรื่องราวได้เอง

ถ้าเป็นอย่างที่คิด คนที่อยู่เบื้องหลังคงหนีไม่พ้นอดีตภรรยาที่กำลังฟ้องร้องเรื่องหย่ากันอยู่ นลินคงจะใช้อำนาจสื่อที่มีอยู่ในมือการันตีงานทุกงานที่การินเสนอ ติดอยู่ตรงที่โรงแรมไหนกันที่เป็นเบื้องหลังของคนทั้งคู่อีกหนึ่งต่อ

“ได้ครับ ผมจะจัดการให้ครับ เอ่อ..แล้วท่านประธานจะจัดการอย่างไรครับ”

“ที่จริงการินมันไม่ได้ทำความผิดอะไร ไม่ได้โกงอะไรเรามันก็แค่ไม่มีจรรยาบรรณในการทำงาน ถ้าอยากเอาผิดต้องหาหลักฐานการรับเงินจากที่ที่มันขายงานไปให้ ซึ่งชั้นว่ามันคงไม่ใช้ชื่อมันแน่ๆ”รพีคิดเป็นฉากๆ ร่างสูงถอนหายใจนึกเบื่อความยุ่งยากที่พากันทยอยเข้ามาในชีวิต

“ก่อนอื่นไปหาโรงแรมที่ว่าก่อน ไม่น่าจะเป็นโรงแรมกิ๊กก๊อก บางทีเจ้าของอาจไม่รู้ ถ้าอย่างนั้นก็เล่นง่าย”เสียงเข้มบอกเลขาฯยิ้มเหยียดชั่วร้ายขึ้นมาในพริบตา ไม่มีเจ้าของธุรกิจที่ไหนจะอยากเข้ามาเสี่ยงกับตระกูลของเขามากนัก

“ครับ ผมจะหามาให้ได้ไวที่สุดครับ”

“อืม...แล้วช่วงนี้เด็กตะวันเป็นไงบ้าง”คนฟังสะดุดตัวกึก จู่ๆเจ้านายก็เปลี่ยนเรื่องคุย ถ้าไม่ติดว่าอีกฝ่ายเป็นคนที่ให้เงินเดือนคงแซวกลับไปว่าอยู่บ้านเดียวกันไม่ใช่หรือ?

“ก็ดีนี่ครับ อาทิตย์ก่อนผมพึ่งเอาหนังสือที่ตะวันอยากได้ไปให้ แล้วก็คุยกันเรื่องจะให้เรียนภาษาเพิ่ม ตะวันก็ดูเป็นเด็กที่เข้าใจง่ายดีครับ ผมบอกอะไรก็รับฟังแต่ยังไม่ได้ตอบรับไปซะทุกอย่าง”วัชรแจ้งแก่คนถาม ที่จริงทุกครั้งที่เจอกับลูกชายของเจ้านายเขาก็แจ้งแก่รพีทุกครั้ง

“แล้วเรื่องเงินเขามีปัญหาอะไรมั้ย”

“อ้อ ไม่นะครับ ตะวันมีบัตรเอทีเอ็มที่คุณศูรให้ไป แต่เท่าที่ดูตะวันค่อนข้างประหยัดครับ มีอะไรหรือเปล่าครับ”อดที่จะถามไม่ได้ ไม่คิดว่าเรื่องเงินจะเป็นเรื่องที่รพีสนใจจริงๆ

“...แน่ใจนะว่าบัตรที่พ่อชั้นให้...อยู่กับตะวัน”รพีอึกอัก ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรออกไป ไม่อยากพูดกล่าวหาอดุลย์แต่ก็อดอคติไม่ได้ว่าบัตรเงินนั่นจะอยู่กับอีกฝ่าย ก็เมื่อตอนทานข้าวเขาได้ยินอดุลย์บอกว่าตะวันร้องขอคอมฯจากตน เขาไม่เข้าใจว่าทำไมต้องไปขอ

“อยู่ครับ ผมถามตะวันเรื่องค่าใช้จ่ายเขาก็โชว์บัตรให้ผมดูแล้วบอกว่า ผมรวยแล้วครับพี่”วัชรหัวเราะเบาๆ ตะวันเป็นเด็กร่าเริง หน้าตาที่ละม้ายกับรพียิ้มแย้มแจ่มใสแถมยังไม่ถือตัวบอกให้วัชรที่เรียกตะวันว่าคุณหนูให้เรียกชื่อเฉยๆ อดคิดไม่ได้ว่าถ้าเจ้านายของตนยิ้มและแสดงความใจดีแบบนี้ก็คงดีไม่น้อย

“ช่างเถอะ พรุ่งนี้ชั้นเข้าบริษัทสายๆ แค่นี้แหละ”มือหนากดวางสายโยนโทรศัพท์มือถือบนโต๊ะไม้สีโอ๊คอย่างไม่นึกใส่ใจ ก่อนจะหลับตาบิดคอไปมาคลายความเหนื่อยล้า เลิกคิดเรื่องเล็กๆน้อยๆพวกนี้ไปก่อน ยังมีเรื่องใหญ่กว่าให้จัดการ...

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

คิ้วเข้มขมวดลืมตามองไปที่บานประตูใหญ่ เวลาตีหนึ่งทำไมถึงยังมีคนมาเคาะประตูห้องนอนของเขาอีก

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

“คุณรพีครับ”เสียงติดแหบที่เป็นเอกลักษณ์ของคนที่เผลอนึกถึงดังมาจากหน้าประตูทำให้ต้องสงสัยมากขึ้นไปกว่าเดิม ไม่รอให้ตัวเองต้องคิดไปมากกว่านั้นขายาวของพาตัวเองมาเปิดประตูประชันหน้าคนร่างบางที่ถือถาดอลูมิเนียมที่มีแก้วนมสีขาวข้นวางอยู่

“มีอะไร?”เสียงเข้มเอ่ยถาม ทั้งๆที่เป็นคนมาเคาะประตูห้องเขาเองแท้ๆ พอเปิดประตูออกมาเหมือนกับเป็นปฏิกิริยาตอบสนองอัตโนมัติ ขาที่สั้นกว่าก็ก้าวเขยิบหนีไปด้านหลังครึ่งก้าวทันที

“ผมเห็นไฟเปิดไว้ คิดว่าคุณรพีน่าจะยังทำงานอยู่เลยอุ่นนมมาให้ครับ”ร่างบางบอกเจตนาของตนออกไป ปรกติอดุลย์มักจะคอแห้งกลางดึกบ่อยครั้ง เพราะคืนนี้ลืมเตรียมน้ำมาไว้ดื่มกลางดึกเลยต้องเดินลงไปที่ห้องครัว และเพราะแสงไฟห้องตรงกันข้ามยังมีแสงลอดออกมาบอกว่าเจ้าของห้องยังไม่นอนหลับเลยตัดสินใจชงนมผงขึ้นมาให้ เคยได้ยินว่าทำงานเครียดจะมีผลกระทบต่อกระเพาะอาหาร ยิ่งทำงานแล้วท้องว่างก็อาจเป็นโรคกระเพาะได้

“หึ...ชั้นก็นึกว่านายอยากกลับคำมาใช้บริการชั้นซะอีก”ริมฝีปากหนายิ้มถูกใจ ไม่เข้าใจหรอกว่าทำไมอดุลย์ต้องมาทำดีกับตัวเขาเอง และเขาก็ไม่ได้อยากให้อดุลย์มาทำดีด้วยซักเท่าไร

แต่...การได้มีคนห่วงใยก็ทำให้คลายความเมื่อยล้าลงไปได้บ้าง ถึงจะไม่แน่ใจว่าจะเป็นความห่วงใยจากใจจริงหรือเปล่า

“ป..เปล่านะครับ!!”ปฏิเสธเสียงสั่นพร้อมถอยหลังอีกครึ่งก้าว จนรพีหลุดหัวเราะในลำคอมาจนได้

“ปฏิเสธแต่ที่ทำนี่มันตรงข้ามนะ แบบนี้มันทอดสะพาน ร้ายเหมือนกันนะนายเนี่ย”ใบหน้าแดงขึ้นด้วยคำหยอกล้อ ทั้งๆที่คิดเจตนาดีแต่อีกฝ่ายดันมาบอกว่าเขาคิดยั่วยวนอีกฝ่าย อยากจะนึกโกรธแต่เขาก็ทำให้อีกฝ่ายเข้าใจผิดแบบนั้นจริงๆ

“...งั้นผมขอตัวล่ะครับ”ร่างบางถอยหนีไม่ลืมจะวางถาดนมร้อนๆไว้ที่หน้าประตู แต่ไม่ทันเจ้าของห้องที่คว้าเข้าที่แขนเล็กๆแล้วลากเข้าห้องไม่ได้สนใจแก้วที่วางไว้แม้แต่น้อย

“ป..ปล่อย..ปล่อยครับ..คุณจะทำอะไร!!”อดุลย์โวยวายเสียงดังพยายามสะบัดมือให้หลุดจากการกอบกุมของเจ้าของห้องตัวโตแต่ดูเหมือนไม่เป็นผลอย่างที่ต้องการหนำซ้ำแรงบีบรัดดูจะแน่นขึ้นอีก


“จะโวยวายทำไม เป็นคนมาเสนอตัวเองแท้ๆ”รพีลากคนขัดขืนตรงไปที่เตียงกว้าง ออกแรงเหวี่ยงแค่นิดหน่อยร่างเล็กๆก็ปลิ้วไปกองอยู่ที่บนที่นอนเรียบร้อย ดวงตาคลอด้วยน้ำตาตัวสั่นอย่างห้ามไม่อยู่ อดุลย์กลัวไปหมดทั้งหัวใจแค่คิดว่าจะถูกทำร้ายเหมือนสองครั้งที่ผ่านก็กลัวจนทำอะไรไม่ถูก

คนที่เห็นอาการยิ้มพอใจ สนุกกับที่เห็นคนตรงหน้าสั่นเพราะตัวเอง เขาไม่ได้คิดจะรังแกอดุลย์จริงๆก็แค่แกล้งเล่นเท่านั้น ปรกติทำตัวเงียบขรึมไม่แสดงท่าทีอะไรมากในชีวิตจริง แต่ในอดีตรพีก็เหมือนคนทั่วไป มีช่วงเวลาที่เล่นสนุกไปวันๆ ช่วงเวลาที่ไม่ต้องคิดอะไร แค่เก็บเกี่ยวความสุขตรงหน้าก็พอ

“ผม...ม..ไม่...คุณรพีอย่าทำอะไรผมเลย..นะ...นะครับ”น้ำตาที่คลอร่วงไหลตามแก้มขาวที่เริ่มใสขึ้นทุกวันทุกวันตั้งแต่ร่างบางเริ่มอยู่สบายในบ้านหลังใหญ่ มือสองข้างยกขึ้นมาไหวขอร้องยักษ์มารตรงหน้า แต่ไม่มีอะไรตอบสนองมามีเพียงแค่รอยยิ้มที่อ่านไม่ออก แต่ไม่ใช่รอยยิ้มที่มองแล้วทำให้โล่งใจเลย

“หึหึ...ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า”จู่ๆคนตัวสูงก็ระเบิดหัวเราะออกมาเสียงดังกลบเสียงร้องไห้อ้อนวอนไปหมด ตาคมหรี่ลงด้วยเพราะปากที่เปิดกว้างเพื่อเบ่งเสียงให้เข้ากับอารมณ์ภายในที่รู้สึกสนุกกับคนตรงหน้า

กลัวไปซิ...มันทำให้เขารู้สึกดีสุดๆไปเลย

“...”อดุลย์มองคนที่หัวเราะไม่มีท่าทีว่าจะหยุด น้ำตาที่ไหลลงมายังคงหลั่งไหลอยู่ ดวงตาโตมองรพีอย่างไม่เข้าใจ นึกงงงันกับบรรยากาศที่จู่ๆก็เปลี่ยนไป...หรือว่าเมื่อกี้เขาโดนแกล้ง?...

...แกล้งกันแรงไปแล้วนะ...กลัว...กลัวจริงๆนะ...

“เซ็กส์ชั้นมันไม่ดีขนาดนั้นเลยเหรอ หึหึ”ยิ่งพูดยิ่งเป็นเรื่องที่อดุลย์ไม่ได้นึกอยากฟัง ตัดสินใจลุกจากเตียงกว้างแต่ก็ถูกคนที่ยืนดักหน้าผลักให้ล้มลงไปกองกับที่นอนอีกครั้ง

“ว่าไงเซ็กส์กับชั้นไม่ดีเหรอ?”

“ม..ไม่...”

“หึหึ แน่ใจนะ ลองพิสูจน์มั้ยชั้นว่าชั้นทำได้ดีนะ หึหึ ในเรื่องนั้นน่ะ”

“...”ไม่ใช่ไม่รู้ว่าจะตอบอะไร แต่ไม่กล้าตอบอะไร

“ไม่ตอบอะไรแปลว่าตกลงซินะ...แน่ล่ะชั้นมั่นใจพอตัวล่ะนะไม่แปลกที่นายจะติดใจ ทั้งผู้หญิงและเพศที่สามอย่างนายก็อยากได้ชั้น...ไม่แปลกอะไรเลย หึหึ”ยิ้มเยาะอย่างร้ายกาจ หน้าตาล้อเลียนอย่างสนุกสนานเพียงแค่คนเดียว

“...แกล้งผมมันทำให้คุณมีความสุขขนาดนั้นเลยเหรอครับ”อดุลย์ถามเสียงสั่น น้ำตาหยุดไหลตั้งแต่มั่นใจว่ารพีแค่ไม่ตั้งใจจะทำร้ายตนจริงๆ รพีสะดุดลมหายใจ หุบยิ้มลงทันทีที่ได้ยินอดุลย์พูดประชดประชัน

...นี่...เรา...กำลังมีความสุข...เหรอ?

“นายกลับไปได้แล้ว ชั้นอยากพักผ่อนเต็มที”ท่าทีเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วแต่อดุลย์ไม่ได้มีเวลามาสนใจเท่าไร พอได้ยินคำไล่ออกจากปากของเจ้าของห้อง คนตัวเล็กก็ลุกขึ้นเร็วๆแล้วก้าวเท้าให้ยาวที่สุด อยากออกจากห้องนี้ไวๆ

รพีมองตามคนที่แทบจะวิ่งออกจากห้องแถมยังลืมปิดประตูห้องนอนทำให้เขาต้องเดินตามมาปิดเอง ตาคอมมองไปที่ประตูห้องนอนฝั่งตรงข้ามนิ่งๆ ในหัวกำลังคิดแต่เรื่องคนที่อยู่ในห้องนั้น

...คุณรพีมีความสุขมั้ยค่ะ...เสียงของผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาเก่าที่เคยถามเขาตอนที่เคยกินอยู่ด้วยกัน รพีก็แค่พยักหน้าตอบไปนิ่งๆทั้งๆที่ในใจว่างเปล่า

...ซัน แกมีความสุขดีนะ?...คำถามที่ไตรเทพมักจะถามบ่อยๆอย่างเป็นห่วง ก็ได้รับคำตอบแค่คำว่าอืม...ไม่เคยตอบว่ามีความสุขออกจากปากเขาซักครั้ง

...เมื่อไรแกจะปล่อยวาง แล้วมีความสุขเหมือนคนอื่นซักที...คำพูดของศูรผู้เป็นพ่อที่พูดมาเมื่อไม่นานมานี้ รพีเองก็เลี่ยงไม่ตอบทั้งๆที่อยากจะตอกกลับให้ช้ำใจว่าคนที่ริบความสุขของรพีไปก็คือศูรทั้งนั้น

“ความสุข...คนอย่างชั้นเนี่ยนะมีความสุข?”คำพูดลอยๆของร่างสูงพูดเบาๆ ก่อนจะละสายตาจากบานประตูแล้วเดินเข้าห้องตัวเองทิ้งตัวลงบนที่นอนกว้าง นอนหลับตาทั้งๆที่ในหัวยังมีคำพูดของคนเมื่อครู่อยู่เต็มไปหมด

...ไร้สาระ...

...นายไม่มีทางที่จะเป็นความสุขของชั้นได้หรอก...อดุลย์...

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
อย่าหลอกตัวเองจนความสุขหายไปนะเออ

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
รพี นายจงทุกข์ จนหมดลมหายใจ เชอะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ beautjang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 53
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
แหม่เหมือนรพีจะน่ารักขึ้นมานิดนึง
นิดเดียวจริงๆนะ555 เอาอีกๆๆ ดีดดิ้น:ling1:

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
 :เฮ้อ: รพี ความสุขมันก็อยู่รอบๆตัวนะแหละจะไปปิดกั้นมันทำไม
เปิดใจให้กว้าง หัดไว้ใจคนที่ไว้ใจได้ เชื่อใจคนอื่นบ้างนะ
บางครั้งความหวาดระแวงมีแต่จะทำให้ตัวเองทุขเองไปเรื่อยๆ

ออฟไลน์ panari

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 534
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
รพี เปิดใจให้กว้างกว่านี้หน่อยได้มั้ย เครียดแทนพ่อปิงปอง

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
หวังว่ารพีจะรู้ใจตัวเองก่อนจะสายไปนะ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ

ออฟไลน์ liza sarin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-14
มีความสุขก็ยอมรับซะเถอะ

ออฟไลน์ Veesi3

  • coHon3 {ต้นฝ้าย}
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 715
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
สงสารรพีแล้วอ่ะ เข้าใจแล้วว่าทำไมเป็นแบบนี้ หวาดระแวงตลอดเวลาเหมือนเป็นเกราะป้องกันเลยทำให้ไม่เปิดใจกับใครซักคน พอรู้สึกพอใจ มีความสุขก็ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังมีความสุข แถมไม่ยอมรับด้วย  :เฮ้อ:

แต่ชอบโมเม้นตอนที่แกล้งพ่อปิงปองอ่ะ ทำให้รู้สึกว่าจริงๆ รพีเป็นพวกชอบใครแล้วจะแกล้งให้ร้องไห้ แล้วทำให้คนนั้นฟังแค่ชั้นคนเดียวอะไรแบบนี้ =w= นางก็มีมุมน่าเอ็นดูนะ ความจริงชอบตั้งแต่ตอนก่อนที่ไม่ยอมให้ช่วยถือกระเป๋าให้จนคนรับใช้มาเห็นปิงปองมาช่วยถืออีกก็หงุดหงิด น่าร๊ากกกกกก ก ก กก  :impress2:

ออฟไลน์ Ipatza

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 932
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-7
แล้วปิงปองจะเสนอเข้าไปยุ่งกับเขาทำไมละ -*-
เอ้อ ถ้าจะโดนดูถูกจากคนนิสัยยังนี้ก็ไม่แปลก างทีก็มองโลกในแง่ร้ายบ้างก็ได้
ปากบอกกลัวๆแต่การกระทำกับตรงข้ามสะงั้น
ไม่แปลกที่รพีจะมองว่า เสนอตัวยั่ว
จะว่ารพีเรื่องนี้ไม่ได้ เพราะปิงปองทำแบบนั้นจริง

ออฟไลน์ Pz_ready

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 53
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +107/-1
วันหยุดสุดสัปดาห์นี้เป็นวันหยุดธรรมดาจนตะวันนึกเบื่อหน่าย เพราะถ้าเทียบกับวันหยุดเมื่ออาทิตย์ก่อนที่เขาได้ไปเที่ยวที่เขาใหญ่แล้ววันนี้มันแทบจะไม่มีอะไรทำ จนต้องชวนเพื่อนสนิทตัวสูงผิวเข้มออกมาเดินเล่นทั้งๆที่ทานตะวันโอดครวญว่าใกล้สอบเต็มทีแต่ก็ยอมตามใจเพื่อนสนิทคนนี้ตลอด

ที่ที่พวกเขามาเดินเที่ยวก็เป็นแหล่งรวมของวัยรุ่นทั่วไป ถึงจะมาบ่อยๆจนรู้ทุกตรอยซอกซอยแล้วก็ตามแต่ก็นึกไม่ออกว่าจะไปที่ไหนกันดี ให้ไปเดินตลาดนัดยอดฮิตคนก็เยอะจนน่าเวียนหัวแถมพวกเขาสองคนก็ไม่ได้มีอะไรที่อยากซื้อ แค่ออกมาหาอะไรทำเท่านั้น

“แล้วมึงสอบเสร็จเมื่อไร”ตะวันถามเพื่อนที่นั่งอยู่ตรงกันข้ามในร้านเบเกอรี่ในขณะรอออเดอร์ที่สั่งไป

“อีกสองอาทิตย์ แต่ตอนโรงเรียนปิดต้องไปเข้าค่ายเก็บตัว”คนสูงกว่าตอบเรียบๆ ตายังมองหาเมนูน่าทานต่างๆในสารบัญเมนู พอมองรูปขนมก็พาลนึกอยากอาหาร อดคิดไม่ได้ว่าถ้ากินไปคงน้ำหนักขึ้นแล้วต้องเหนื่อยไปลดอีก ยิ่งช่วงนี้ไม่ได้ซ้อมมวยอย่างเคยเพราะโค้ชให้หยุดสอบ

“โห...อย่างเซ็ง อยากเป็นหมอหรือจะเป็นนักมวยกันแน่”ทิ้งตัวแรงๆลงพนักพิงถอนหายใจเฮือกใหญ่ เห็นเพื่อนซ้อมมวยมาตั้งแต่ขึ้นม.ต้น ทำให้มันทั้งสูงทั้งถึกแถมผิวเข้มๆนั่นอีกนี่ขนาดอายุสิบหกแต่สูงเกือบๆร้อยแปดสิบเซ็นฯแล้ว

“ทำไมว่ะ เป็นทั้งสองอย่างไม่ได้หรือไง?”ว่าขำๆ หัวเราะก่อนจะเรียกพนักงานมาสั่งขนมที่ตัดใจกินซักมื้อ เรื่องน้ำหนักสำหรับทานตะวันค่อนข้างเป็นปัญหาสำหรับการแข่งขัน เพราะน้ำหนักเขาแทบจะหายากในอายุรุ่นๆเดียวกัน ส่วนใหญ่ขึ้นชกแต่กับพวกแก่กว่าทั้งนั้น ประสบการณ์ที่สูงไม่ได้ทำให้แพ้กลับมาบ่อยๆ

“ก็รู้หรอกว่ามึงเก่งไปหมด อิจฉาว่ะ กูหัวขี้เรื่อยฉิบหายอ่ะ เมื่อวันศุกร์เลขาฯพ่อกูเขาพาไปสมัครเรียนภาษาอังกฤษแล้วให้กูเทส แมร่ง รู้สึกตัวเองโง่ขึ้นมาทันตาเวลาไม่มีมึงให้หลอก”เสียงใสพูดเล่าเรื่องของตัวเองให้ทานตะวันฟังยิ้มๆ ทั้งคู่รู้จักกันมานาน คุยเรื่องราวในชีวิตของตัวเองให้อีกฝ่ายฟังจนเหมือนได้อยู่ด้วยกันตลอดเวลา

“กูมากกว่ามั้ยต้องอิจฉามึง อยู่ๆก็รวยอย่างกับถูกลอตเตอรี่ซักหมื่นชุด”ถึงปากจะบอกเชิงล้อเลียนแต่ดวงตาโตนั่นไม่ใช่ ในแววตาที่ไม่เคยมีใครสังเกตแอบแฝงความรู้สึกบางอย่างเอาไว้...เพราะทานตะวันรู้สึก...เกินเอื้อม

“เออ แล้วไม่ดีเหรอกูรวยเนี่ย มีตังมาเลี้ยงพ่อปิงปองเลี้ยงมึงนะ”

“ทั้งชีวิตเลยป่ะล่ะ”ยักคิ้วกวนกลับให้จนแข้งแข็งๆโดนเท้าอีกคนถีบเบาๆ

“กวนตีน อยากให้เลี้ยงทั้งชีวิตก็มาเป็นเมียกูเถอะ”

“โธ่น้องตะวัน ตัวเท่าลูกหมา ริอยากเป็นผัวพี่เหรอน้อง”ไม่รอให้พูดจบตะวันก็ร้องฮึ่ยๆอย่างขัดอารมณ์ก่อนจะลุกจากเก้าอี้หมายจะวิ่งไปเตะซักทีที่คนกวนอารมณ์สุดๆ แต่ใช่ว่าทานตะวันจะยอม ตอนนี้เลยเหมือนเด็กๆมาวิ่งไล่กันรอบโต๊ะกลมเล็กๆ ไม่ได้สนใจสายรอบๆแม้แต่น้อย

จนขนมที่สั่งไปมาเสิร์ฟตะวันก็ยังแก้แค้นอีกคนไม่ได้ ชี้หน้าคาดโทษแล้วทิ้งตัวลงแรงๆที่เก้าอี้นวมของตัวเอง อาการหอบปนกับรอยยิ้มบ่งบอกว่าไม่ได้โกรธอะไรจริงจัง ทานตะวันยิ้มแล้วนั่งลงตามแต่ไม่วายมีแรงกระแทกเล็กๆจากใต้โต๊ะตามมาทันที

“อร่อยว่ะ”คนชื่นชอบอะไรง่ายๆโดยเฉพาะของกินเอ่ยบอก ทานตะวันไม่ได้นึกเชื่อ เพราะตะวันกินเก่งอะไรอะไรก็บอกอร่อย และอร่อยมากขึ้นเมื่อเป็นของที่พ่อปิงปองทำให้ อายุสิบห้าจะสิบหกยังติดนิสัยอ้อนพ่ออยู่เลย

“แล้วเป็นไงบ้างช่วงนี้”ทานตะวันชวนคุยพลางตักครีมเนื้อสีขาวเข้าปาก

“ก็เรื่อยๆว่ะ”

“แล้วเรื่องเปลี่ยนนามสกุล?”

“ก็คงตามนั้น พ่อปิงปองก็เห็นด้วยนะ เขามีเหตุผลว่าทำไมกูต้องเปลี่ยน พี่วัชเขากำลังเตรียมเอกสารเห็นว่าจะให้คุณ...พ่อรพีรับกูเป็นลูกบุญธรรมพร้อมกันเลย แต่พี่วัชเขาบอกช่วงนี้เขายุ่งๆ”ทานตะวันพยักหน้า เขาชอบที่จะคอยถามคอยให้อีกฝ่ายเล่าเรื่องหนักใจ ชอบที่จะเป็นคนที่รับฟังเรื่องราวของตะวัน

ไม่นานนักของกินของทั้งคู่ก็หมดลง ตะวันร้องอยากไปเดินเที่ยวต่อเพราะกลับไปตอนนี้คงไม่มีอะไรทำ พึ่งจะช่วงเที่ยงๆพ่อปิงปองคงกำลังออกไปช่วยพี่ดาวพี่ป่านซื้อของเตรียมกับข้าวตอนเย็น ถ้าโชคดีพ่อปิงปองก็จะลงมือทำกับข้าวเอง

ช่วงแรกๆพ่อมักบ่นเบื่อๆให้เขาฟังบ่อยๆ เคยบ่นว่าคิดถึงบ้านให้เขาได้ยินก็หลายครั้ง เขารู้ว่าจริงๆพ่อไม่ได้อยากมาอยู่ที่บ้านหลังนั้นแต่พ่อหวังดีกับตนจึงอยากให้ตนมาอยู่อย่างสุขสบาย

แต่ช่วงหลังมานี่พ่อไม่แสดงความเบื่อหน่ายเพราะไม่มีอะไรทำมาอีกแล้ว บางวันพ่อก็เล่าว่าไปช่วยปู่ลงต้นไม้ที่บ้านสวน ทั้งยังแอบนินทาเจ้าของบ้านสวนด้วยว่าเป็นคนแก่ที่หวงบ้านสุดๆ เพราะขนาดพวกเขาทำสวนกันอยู่นอกบ้าน ศูรยังไม่วายคล้องกุญแจดอกใหญ่ที่ประตู บางวันพ่อก็ออกไปซื้อของกินของใช้กับพวกพี่ดาว เมื่อไม่กี่วันก่อนมานี่เห็นพ่อเล่าว่าพ่อทำบล็อกให้ความรู้เกี่ยวกับเครื่องสำอางต่างๆ

พ่อปิงปองเก่งสุดๆ เก่งมากๆสำหรับตะวัน ไม่ว่างานอะไรพ่อก็ทำได้ไปหมดทุกอย่าง พ่อเคยเป็นพนักงานขายเครื่องสำอางค์เลยรอบรู้เกี่ยวกับมัน

...ขนาดพ่อเป็นผู้ชาย...

...เป็นผู้ชายที่หน้ากระจกมีแค่กระปุกแป้งฝุ่นที่มีขายทั่วไปแค่กระปุกเดียวเท่านั้น แต่พ่อก็รู้ในสิ่งที่พ่อไม่เคยใช้...

...พ่อปิงปองสำหรับเขาเก่งที่สุด...

“....?”เดินเล่นไปพลางคิดอะไรเพลินๆไปพลาง จู่ๆคนตัวสูงกว่าข้างตัวก็หยุดเดินกะทันหัน ก่อนจะดึงตัวตะวันเดินกลับไปทางที่พึ่งเดินมาอย่างรวดเร็ว คิ้วเข้มขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจในการกระทำของเพื่อนสนิท

“อะไรว่ะ? ลืมซื้อไรเหรอ?”ตะวันเอ่ยถาม มองหน้าไอ้ดำของตัวเองแล้วก็งงงัน สีหน้าของทานตะวันดูเคร่งเครียดและจริงจังแปลกๆ หันซ้ายขวาตลอดทาง แต่เหมือนไม่ได้มองเข้าไปในรวงร้านเลยซักนิด เหมือนมองหาคนมากกว่า

“...กูว่า มีคนตามเราว่ะ”เสียงที่ปรกติจะนุ่มนวลเอ่ยเครียด

“...!!??”เหมือนปฏิกิริยาอัตโนมัติตะวันหันซ้ายขวารวมทั้งหันหลังแทบจะทันทีที่เพื่อนบอก

“มึงแน่ใจเหรอว่ะแล้วตามทำไมว่ะ”

“แน่ใจดิ กูเห็นเสื้อกันหนาวสีเหลืองๆตั้งแต่ตอนอยู่ร้านขนมล่ะ แต่ไม่สังเกตหน้าตา แต่กุเห็นแม่งอยู่หางตาเดินเล่นมาจะครึ่งชั่วโมงล่ะกุก็เห็นตลอด...แม่งตามใครว่ะ”ทานตะวันหันมองทาง ดูทางหนีทีรอดไม่รู้ว่าตัวเองคิดมากไปหรือเปล่าแต่หางตาของเขาเห็นชุดเหลืองๆมาตลอดทาง แต่พอพยายามมองก็ไม่เห็นแม้แต่อะไรที่ใกล้เคียง

“มึงไปมีศัตรูอะไรที่วิทยาลัยป่ะเนี่ย”ถามคนที่อยู่สถาบันที่ที่มีชื่อเสียงในด้านไม่ดี ตะวันส่ายหัวรัวๆ จะเอาเวลาไหนไปมีเรื่องกับใครได้วันๆเรียนเสร็จก็เข้าช็อปช่วยอาจารย์ดูนู้นดูนี่ฝึกทักษะไปกลายเป็นคนที่เพื่อนๆเรียกว่าบ้าเรียนคนหนึ่ง

คนนอกชอบคิดว่าทุกคนที่อยู่วิทยาลัยเขามักจะมีศัตรูมักจะยกพวกตีกัน แต่มันอยู่ที่แต่ละคน ซึ่งคนอย่างตะวันไม่มีทางทำแบบนั้นแน่นอน

“ม..มึงคิดมากไปป่ะเนี่ย”แม้จะนึกหวาดๆเพราะสีหน้าจริงจังพวกเพื่อนแต่ก็ไม่อยากจะคิดมาก

“มึงซิคิดน้อย”ว่าแค่นั้น มือใหญ่ก็ลากอีกคนที่ตัวปลิวตามแรง ขาของตะวันแทบจะขัดกันเองเพราะตามคนเร็วของคนลากไม่ทัน

“อ๊ะ..แกๆนี่ไง...เดี๋ยวค่ะ!!”จู่ๆเสียงของผู้หญิงก็ตะโกนเรียกแล้วยังวิ่งมาตัดหน้าพวกเขา ทั้งสองหนุ่มมองกลายเป็นกลุ่มของหญิงสาวสี่คน รูปร่างคลายกันทั้งกลุ่มคือสูงได้แค่ครึ่งหนึ่งของเพื่อนตัวดำ แล้วหนึ่งในกลุ่มนั้นก็ใส่ชุดกันหนาวดีไซน์สวยสีเหลืองสดมีเลขสิบสามตัวใหญ่ติดอยู่หลังเสื้อ

“ครับ...?”เพราะโดนยืนขวางตะวันเลยถามไปงงๆ

“เอ่อ...ขอโทษนะคะ พอดีว่าอยากรู้จัก แลกไลน์กันได้มั้ยคะ”คิ้วเรียวยาวของทานตะวันเลิกขึ้น ตากลมโตกลายเป็นขวางขึ้นมาอย่างขัดใจ

“คนไหนครับ?”เป็นตะวันที่ถามกลับ น้ำเสียงดูดีขึ้นมานิดหน่อยไหล่ที่เมื่อครู่เกร็งแน่นคลายลงเมื่อเรื่องตรงหน้าไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรอย่างที่ทานตะวันคิดไปเอง

เสื้อสีเหลือง...ก็แค่เด็กผู้หญิงธรรมดา

“คือเราอยากได้ไลน์เธอแหละ เราชื่อส้ม ส่วนนี่ตอง ใหม่ และก็จิ๊ด”หญิงสามเสื้อเหลืองตรงหน้าพูดยิ้มๆ อย่างมั่นใจ

“ตะวันครับ นี่ทานตะวัน”ตะวันตอบกลับสุภาพ

“เป็นพี่น้องกันหรือค่ะ ชื่อคล้ายกันเลย”คนชื่อส้มเป็นคนถาม

“เปล่าๆครับ เป็นเพื่อนน่ะ”คนหน้าคมตาคมพูดปฏิเสธอย่างรวดเร็ว ทานตะวันหันมองคนข้างๆด้วยสายตาเรียบๆก่อนจะหันมองพิจารณากลุ่มตรงหน้าอีกครั้งแล้วถอนหายใจเงียบๆ

“อ้อ แล้วได้มั้ย ไว้คุยกัน”

“เอ่อ...ได้ๆ”ที่จริงตะวันไม่อยากจะให้เท่าไร เพราะเขาไม่ได้เป็นคนติดโทรศัพท์โปรแกรมแชทนี่ก็พึ่งจะใช้ได้ไม่กี่เดือนก่อนตอนที่พ่อปิงปองบังคับให้ซื้อโทรศัพท์ให้นั้นแหละ

หญิงสาวตรงหน้าออกอาการดีใจแล้วเอามือถือออกมาแลกไลน์ไอดีเป้าหมายอย่างรวดเร็ว ก่อนจะขอตัวไปกันทั้งกลุ่มเพราะเวลาหนังที่จองไว้จะฉายแล้ว แต่ไม่วายหันมาบอกว่าแล้วจะทักไป

พอแยกย้ายจากกลุ่มคนที่พึ่งรู้จัก ตะวันก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่มองค้อนๆไปที่คนที่ยืนมองตะวันนิ่งๆดูเหมือนจะอารมณ์ไม่ดี ไอ้ดำของตะวันดูออกง่าย คนอื่นชอบบอกว่าเป็นคนขรึมแต่ที่จริงไม่ใช่ ไอ้ดำมันจะนิ่งตอนที่มันไม่มีอารมณ์บูดเท่านั้น

“ไงพ่อนักสืบ ทำกูตกใจหมด กูหัวใจแทบวาย”ตะวันพูดยิ้มๆ ไม่รู้ว่าเพื่อนอารมณ์บูดเฉยๆขึ้นมาเพราะอะไร อาจจะเหนื่อยที่ต้องวิ่งเข้าตรอกนู้นซอยนี้

“...”

“...ไรว้า อย่างอนดิ หรือโกรธที่เขาขอแค่ไลน์กูไม่ได้ขอของมึงด้วย โอ๋ๆ นิ่งนะๆเดี๋ยวเลี้ยงหนม”มือของตะวันโบกไปมาที่หน้าองอีกฝ่ายอย่างเอาใจ แต่กลับโดนอีกคนตบเบาๆที่หัวกลมอย่างรำคาญแล้วลุกเดินหนีไปแน่นอนว่าตะวันยังเดินตามต้อยๆพันขาพันขาง้อเพื่อนที่ยังหน้าเครียดอยู่

...ไม่ใช่...

...ความรู้สึกมันบอกว่าเสื้อเหลืองที่ทานตะวันสงสัยไม่ใช่คนเมื่อครู่ที่มาจีบเพื่อนสนิท...



••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••




“คุณปิงปองเก่งจังเลยค่ะ”เสียงของดาวเอ่ยชมเมื่อมองดูตัวเองในกระจกแล้วเห็นว่าหน้าตาของตัวเองสวยขึ้นจนแทบเป็นคนละคน คิ้วที่ถูกกันจนเป็นเรียวสวย ริมฝีปากอวบอิ่มและผิวสีน้ำผึ้งเรียบเนียนที่ถูกเนรมิตจากเครื่องสำอางธรรมดาที่ปรกติดาวก็ใช้ของพวกนี้อยู่ทุกวันแท้ๆ

“หน้าดาวสวยแล้วผิวก็เนียนอยู่แล้ว”คำพูดชมคืนจากร่างบางที่ยิ้มพอใจกับสาวสวยคนใหม่ตรงหน้า ข้างๆมีป่านที่ร้องให้อดุลย์แต่งหน้าให้เธอพร้อมกับสอนเธอบ้าง

วันก่อนนู้นเขาได้รับการติดต่อจากเพื่อนสาวประเพศสองที่ตอนนี้ทำเว็บไซด์ขายของออนไลน์ในอินเตอร์เน็ต มาขอร้องให้เขาเขียนบทความเกี่ยวกับเครื่องสำอางให้ ถึงเป็นเพื่อนที่ไม่ได้ติดต่อกันมานานแต่อดุลย์ก็ยินดีทำให้โดยไม่ได้เรียกร้องอะไร

เรื่องการเขียนก็เป็นเรื่องที่อดุลย์ห่างหายไปนาน แต่ก็ไม่ถึงขั้นลืมวิธีการ เขาเรียนจบคณะมนุษย์ฯจากมหาวิทยาลัยเปิด มีประสบการณ์เรื่องเขียนบทความมาบ้าง ช่วงนั้นต้องเลี้ยงตะวันไปเรียนไป ต้องหางานพิเศษทำหลายอย่างสุดท้ายก็ลงเอ่ยที่งานขายเครื่องสำอาง พอมีโอกาสทำอะไรแบบเก่าๆก็เกิดคันไม้คันมือไม่ได้

แล้วพอตกลงทำงานให้เลยขอยืมใบหน้าของดาวมาเป็นตัวอย่างในบทความที่เขียน ดาวเองก็ยินดีถึงจะแปลกใจในตอนแรกแต่พอเห็นฝีมือการแต่งหน้าของผู้ชายร่างเล็กคนนี้ก็อดตะลึงไม่ได้

“คุณปิงปองน่าจะเปิดร้านเสริมสวยนะคะ”อดุลย์ยิ้มจางๆไปให้คนบอก เคยคิดเหมือนกันตอนที่พอเก็บเงินได้ก้อนหนึ่งหลังจากทำงานในห้าง แต่แค่พนักงานขายยังเป็นขี้ปากให้ชาวบ้านแถวนั้นที่ไม่รู้เรื่องราวพูดกันอยู่แล้ว ถ้าขืนเปิดร้านเสริมสวยเขาก็ไม่อยากจะคิดเลยว่าตะวันต้องทนฟังคำพูดคำนินทาขนาดไหน

“ขายเครื่องสำอางมาตั้งหลายปีนี่หน่า ใช้ไม่เป็นลูกค้าก็ไม่ซื้อซิดาวป่าน”คำตอบเลี่ยงๆของอดุลย์ไม่ได้ทำให้หญิงสาวทั้งสองคนสงสัย เอาความสนใจทั้งหมดไปยังใบหน้าสวยๆราวกับไม่ใช่ตัวเองต่อ

“อ๊ะ เสียงรถ?”เสียงร้องของป่านดังเมื่อได้ยินเสียงหึ่มๆดังอยู่หน้าบ้าน ไม่มีเสียงกริ่งแสดงว่าคนที่มาคงเป็นเจ้าของบ้านหรือไม่ก็เป็นศูรที่มักจะขับรถมาชวนอดุลย์ไปดูต้นไม้ที่อยู่แถวๆบ้านของอดุลย์บ่อยๆ

“คุณผู้ชายกลับบ้านตอนกลางวันค่ะพี่ดาว บอกว่าให้ทำอะไรง่ายๆให้ทานค่ะ”เสียงป่านบอกหลังจากออกจากครัวไปดูว่าใครเป็นคนเข้ามา

“อ๊าย...ป่านทำให้พี่หน่อยสิ พี่พึ่งแต่งหน้าไม่อยากให้หน้าเยิ้มเลย อยากเอาหน้าสวยๆไปเดินซื้อของที่ตลาดซักหน่อย”ดาวร้องโวยวาย ปล่อยแขนสองข้างลงข้างตัวอย่างขัดใจ

“โอ้ย มีหวังคุณผู้ชายเอาจานข้าวปาหัวหนูซิพี่ กับข้าวฝีมือหนูแย่มากๆนะ”ปากบอกแล้วหัวเราะดาวยกใหญ่ อดุลย์เองก็พลอยหัวเราะตามไปด้วย

“คุณปิงปองค๊า”เรียกเสียงหวานทำให้ตากลมโตหันไปมอง หญิงสาวกระพริบตาปริบๆยกมือบางพอๆกับตัวเองขึ้นมากุมอย่างออดอ้อน

“ทำกับข้าวให้คุณผู้ชายหน่อยได้มั้ยค่ะ ดาวขอร้องล่ะ”

“ไม่ไหวหรอกดาว คุณผู้ชายของดาวเคยกินอาหารที่ผมทำที่ไหน”หลักฐานคือข้าวเช้าทุกวันที่ถูกเมินเฉยให้เย็นชืดจนนึกเสียดายที่มีคนมองไม่เห็นคุณค่าของมัน

“ใช่ที่ไหนค่ะ คราวก่อนที่คุณปิงปองทำหล่นปู คุณผู้ชายยังยอมกินเลย แถมยังกินข้าวตั้งสองจาน”เหรอ...? นึกคอดข่อนคำพูดของดาวในใจ

“นะคะนะนะนะ”

“มีเรื่องขึ้นมาผมไม่รู้นะดาว”สุดท้ายอดุลย์ก็ยอมทำให้ผู้อื่นเหมือนทุกครั้ง หญิงสาวร้องเย้ลั่นในครัวแล้วถามเมนูที่อดุลย์จะทำจะได้ช่วยเตรียมวัตถุดิบ

“แล้วคุณผู้ชายดาวเขารีบมั้ย?”

“ไม่ค่ะ คุณผู้ชายบอกจะลงมาทานตอนบ่ายๆ”ป่านที่รับคำสั่งมาเป็นคนตอบ อดุลย์พยักหน้ารับยกข้อมือดูเวลาในนาฬิกาเห็นว่ายังเหลือเวลาอยู่อีกชั่วโมงกว่าๆ

“ทำต้มยำกระดูกหมูกับผัดคะน้ามั้ยดาว”ถามความคิดเห็นจากแม่ครัวประจำก็ได้รับการพยักหน้ามาอย่างง่ายดาย ที่จริงอดุลย์เคยสังเกตว่าสองเมนูนี้ถูกตั้งบนโต๊ะอาหารบ่อยๆ

กว่าชั่วโมงที่ในครัวเต็มไปด้วยความสนุกสนาน อดุลย์ทำกับข้าวไปยิ้มไปกับเรื่องที่ดาวและป่านเล่าให้ฟัง เล่าไปเรื่อยจนบางทีก็เผลอเล่าเรื่องซ้ำๆออกมาเพราะจำไม่ได้ว่าตัวเองพูดเรื่องนี้ไปแล้ว

“เดี๋ยวหนูไปเรียกคุณผู้ชายเลยนะคะ”

“อืม เดี๋ยวพี่ตั้งโต๊ะเอง เสร็จแล้วจะได้ไปซื้อของวันนี้ป่านอยู่บ้านนะ เผื่อคุณผู้ชายเธอเรียกใช้”ดาวบอกป่านที่เบะปากล้อเลียน

“พี่จะเอาหน้าสวยๆไปเดินอวดก็บอกหนูมาเถอะ เชอะ คุณปิงปองอย่าลืมสัญญาที่จะแต่งหน้าหนูบ้างนะคะ”กระงอดกระงอดนิดหน่อยก่อนจะโดนไล่ให้ไปตามเจ้านายลงมาทานข้าว หญิงสาวจึงเดินทำหน้างอนๆออกไปท่ากลางเสียงหัวเราะของสองคนที่อยู่ในห้องครัว

โต๊ะอาหารที่มีถ้วยต้มที่ยังมีควันลอยเป็นไอจากๆเหนือผิวน้ำกับผัดผัดคะน้าสีสดรอให้คนลงมาทาน ไม่นานร่างสูงก็เดินลงมาตาคมมองไปที่อาหารสองจานก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้ตัวประจำ หางตาเห็นสิ่งผิดปรกติที่ไม่เหมือนในทุกวันเลยหันไปดู

“...?”

“เอ่อ แหะๆ พอดีคุณปิงปองแต่งหน้าให้ดาวน่ะค่ะ”ดาวตอบยิ้มแห้งๆให้เจ้านายที่ทำหน้าตาสงสัยพลางจ้องเขม็งมาที่หน้าของตน คิ้วเข้มเลิกขึ้นอย่างแปลกใจ แต่พอในใจนึกได้ว่าเมื่อก่อนคนตัวบางเคยเป็นอะไรมาก่อนริมฝีปากก็ยกยิ้มเหยียดๆ

“...หึ ก็สวยดี”ถึงในใจค่อนแขะใส่อคติกับอีกฝ่ายแต่ก็อดชมฝีมือแต่งหน้าไม่ได้จริงๆ หญิงสาวใช้ที่เห็นหน้าตากันทุกวันดูเปล่งปลั่งและสวยขึ้นผิดหูผิดตา

“ขอบคุณค่ะ”

“แล้วเขาอยู่ไหนล่ะ? ไม่มาทานด้วยกันรึไง”ปากเอ่ยถามพลางสนใจอาหารตรงหน้า น้ำย่อยในท้องเรียกร้องตั้งแต่ได้กลิ่นหอมๆลอยเข้ามาในจมูก

“อ้อ คุณปิงปองทำกับข้าวเสร็จก็ไปเปลี่ยนชุดค่ะ เดี๋ยวคุณเขาจะออกไปจ่ายตลาดกับดาวด้วยคุณผู้ชายอยากได้อะไรหรือเปล่าคะ”คนที่พึ่งตักข้าวเข้าปากไปไม่กี่คำชะงักนิดหน่อย

อาหารตรงหน้าเป็นฝีมือของร่างบางคนนั้น นึกแปลกใจในตอนแรกอยู่แล้วที่รสมือของดาวเปลี่ยนไป ปรกติดาวจะปรุงติดหวานไปเสียหน่อย แต่นี่ออกรสเค็มกับเปรี้ยวจะว่าถูกปากมากกว่า...ก็ไม่ได้เกินไปนัก

“ไม่ล่ะ...”ว่าแค่นั้นก่อนจะลงมือทานข้าวต่อ แต่ไม่รู้ว่ารสชาติที่ถูกใจกว่าครั้งก่อนหรือเป็นอาหารโปรดกันแน่ที่ทำให้ตลอดทั้งมื้อมีรอยยิ้มเล็กๆจุดอยู่ที่มุมปากหนาตลอดเวลา

หรือบางทีอาจไม่ใช่ทั้งสอง....


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-10-2014 20:40:23 โดย Pz_ready »

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
น้องทาน รักตะวัน สูงเกินเอื้อม ตะวันจะโน้มลงมารักน้องทานเองนะจ๊ะ

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ตะวันยังไม่รู้สินะว่าทานชอบตัวเอง ทานก็ทนเจ็บไปก่อนแล้วกันนะจ๊ะ
พ่อรพีเริ่มชอบพ่อปิงปองทีละนิดแล้วอ่ะดิ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด