## บันทึกรักสีม่วง ## ตอนพิเศษสุดท้าย [ ๒๑ / ๐๑ / ๒๕๖๐ ]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ## บันทึกรักสีม่วง ## ตอนพิเศษสุดท้าย [ ๒๑ / ๐๑ / ๒๕๖๐ ]  (อ่าน 235647 ครั้ง)

ออฟไลน์ fongbeer37

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
คนเขียนหายไปไหนค๊าบบบบบ มาต่อเถอะ พลีสสสสสส

ออฟไลน์ Veesi3

  • coHon3 {ต้นฝ้าย}
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 715
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
คิดถึงพ่อปิงปองงงงงงงงง  :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ Veesi3

  • coHon3 {ต้นฝ้าย}
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 715
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
 :sad4: คนเขียนรออยู่น้าาา

ออฟไลน์ Ipatza

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 932
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-7
สงสารคนอ่านเถอะ
ขอร้องต่อหน่อยจ้า
เงียบหายเลยมาส่งข่าวก็ยังดี
ทุกคนให้อภัยแล้วครับ

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
ทิ้งกัน ไม่เหลือใย เชอะ

ออฟไลน์ liza sarin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-14
คนเขียนหายไหนอ่ะ มาต่อด่วน

ออฟไลน์ namngern

  • Flowers need to bloom
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1848
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-2

ออฟไลน์ patsakon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 235
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-2
คนแต่งหายไปนานมากแล้ว วานพี่ๆมาช่วยกันเขียนต่อให้จบทีครับเรื่องนี้ดีมาก :call:

ออฟไลน์ liza sarin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-14
คนเขียนไปไหนอยากให้มาต่อมากๆเลย
 :call: :call: :call:

ออฟไลน์ Ipatza

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 932
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-7
ดูทรงแล้วคงจะไม่ได้อ่านต่อแล้วละ เลิกหวังแล้ว อีก 2เดือนจะครบปีพอดี เหอะๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Inwoสูs

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
ชอบอะ ฮื้อ สงสารปิงปอง จับรพี นั่งยางเลย :z6:

ออฟไลน์ liza sarin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-14
อยากอ่านต่อ

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
คิดถึงกันบ้างมั๊ย อยากบอก ว่าคิดถึงมากที่สุด

ออฟไลน์ Pz_ready

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 53
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +107/-1
“ถึงแล้วครับ”เสียงบอกกล่าวของคนขับรถแท็กซี่หนุ่มบอกกับสองพ่อลูกว่าถึงปลายทางที่พวกเขาจ้างวานให้มาส่งแล้ว อดุลย์หยิบธนบัตรสีม่วงจ่ายก่อนจะรับเงินทอนคืนแค่ไม่กี่ร้อยบาทคืน ก่อนจะออกมายืนอยู่เคียงข้างลูกชายที่สูงนำหน้าไปเป็นคืบแล้ว

เบื้องหน้าของทั้งคู่คือคฤหาสน์องตระกูลเรืองรัตนโยดมอันโด่งดัง อดุลย์หายใจเข้าปอดอึกใหญ่เพื่อเรียกกำลังใจให้ตัวเองพร้อมกับกระชับมือของเด็กหนุ่มข้างตัวให้เดินเข้าไปข้างในประตูที่เปิดกว้างราวกับรอรับพวกเขาอยู่แล้ว

ตะวันเดินตามผู้เป็นพ่อเข้าไปอย่างว่าง่าย หลังจากเมื่ออาทิตย์ก่อนได้ปรับความเข้าใจกับพ่อปิงปอง พ่อก็ได้บอกว่าทางนี้อยากให้พวกเขาย้ายเข้ามาอยู่ด้วย...จะเพื่ออะไรก็แล้วแต่ตะวันไม่ได้สนใจแม้แต่น้อย เขาคิดแค่อย่างเดียว

อย่างเดียวที่มีประโยชน์ในการย้ายบ้านคือความสุขของพ่อปิงปองของเขา

ความคิดเด็กๆที่คิดว่าถ้าหากได้มาอยู่ในบ้านหลังใหญ่ๆ มีเงินใช้ มีข้าวอร่อยๆกินทุกมื้อพ่อคงจะมีความสุข...ตะวันคิดเพียงแค่นั้น

“คุณอดุลย์กับคุณหนูตะวันใช่มั้ยครับ?”ชายชรารูปร่างสูงหากแต่ผอมเพราะอายุเลยเข้าเลขเจ็ดเอ่ยทักทายพร้อมกับยิ้มแย้มให้คนคู่ที่พึ่งก้าวเข้ามาในตัวบ้าน

“ผมชื่อโชน เป็นคนดูแลสวนของบ้านคุณศูรครับ คุณท่านบอกให้ผมมารอพวกคุณเห็นว่าจะมากันสายๆ แต่เล่นสั่งกำชับให้ผมตื่นมาคอยตั้งแต่พระยังไม่เริ่มบิณฑบาตด้วยซ้ำ ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ”คนสูงวัยพูดอย่างอารมณ์ดีพาลทำให้ทั้งอดุลย์และปิงปองยิ้มและคิดตามเรื่องที่ตาโชนเล่าให้ฟัง

“พอดีรถติดน่ะครับ ขอโทษที่ทำให้รอนะครับ”อดุลย์กล่าวขอโทษอย่างสุภาพ พร้อมก้มหัวให้เล็กน้อยทำเอาคนที่ถูกขอโทษนึกแปลกใจระคนเอ็นดูไปพร้อมๆกัน

ท่าทางจะไม่เกินไปนักที่คุณศูรท่านบอก...พ่อของคุณหนูคนใหม่ที่บ้านเรืองรัตนโยดมจะทำให้กลายเป็นบ้านจริงๆ

“ไม่เป็นไรเลยครับ คนแก่ตื่นเช้าเป็นเรื่องปรกติอยู่แล้ว แล้วมีของอะไรมาบ้างครับจะได้เรียกให้เด็กในบ้านมาขนไป”

“ไม่รบกวนดีกว่าครับคุณลุงโชน เดี๋ยวผมกับลูกถือไปกันเองได้ มีแค่เสื้อผ้ากับหนังสือเรียนของตะวันเท่านั้นเอง”

“เอ๋...ทำไมถึงน้อยนักล่ะครับ”ที่คุณท่านโม้ไว้คือหลานชายที่พึ่งเจอจะมาอยู่เป็นการณ์ถาวร ทำไมถึงมีแค่กระเป๋าสามใบ?

“ของเราสองคนไม่มีอะไรมาก ค่อยๆเอามาก็ไม่ลำบากอะไร”อดุลย์ตอบอย่างเลี่ยงๆเพราะตะวันเองก็ยืนฟังอยู่จะให้ตอบตามความคิดจริงๆคงไม่ได้ ว่าตัวเองคิดจะอยู่ที่นี่แค่ชั่วคราวเท่านั้น

เมื่อใดที่ตะวันปรับตัวกับบ้านหลังนี้ได้เขาก็คงจะขอตัวลากลับไปอยู่บ้านของเขา

แต่ก็หวังไว้ว่าตะวันจะใช้เวลานานซักหน่อย...เพื่อที่จะได้อยู่กับลูกนานขึ้น...สักนิด

“งั้นเข้าไปข้างในกันเถอะครับ คุณท่านคงชะเง้อรออยู่นานแล้ว ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ”

“ชอบมั้ยครับ”กระซิบเสียงเบาของพ่อปิงปองเรียกให้เด็กชายที่กำลังตาวาวราวกับได้ของเล่นใหม่หันมาพยักหน้ารัวๆ ตะวันมองไปที่สวนกว้างที่เขียวมีต้นไม้ใหญ่เต็มไปหมด แถมยังมีน้ำตกตกแต่งอยู่ที่ริมด้านซ้ายของตัวบ้าน มันเป็นอะไรที่ตะวันไม่เคยคาดคิดว่าจะยกมาไว้ในบ้านคนจริงๆได้เลย

“แต่ตะวันชอบบ้านของเรามากกว่า”คำตอบเอาใจของลูกชายทำให้อดุลย์ยิ้มกว้างแล้วยกมือมาบิดแก้มแน่นอย่างหมั่นเขี้ยว ดูก็รู้ว่าเป็นคำประจบเพราะตะวันมองไปรอบตัวบ้านด้วยประกายตาวาววับ คนที่เลี้ยงมาอย่างเขาหรือจะไม่รู้ว่าตะวันชอบที่นี่มากแค่ไหน

ก็ดีแล้ว...

เดินเข้ามาไม่นานคฤหาสน์หลังใหญ่ก็มาตั้งอยู่หน้าของทั้งสามคน ตัวบ้านเป็นปูนทั้งหลัง มีลวดลายของโรมันขนาดใหญ่บ่งบอกฐานะรับกับประตูไม้สักสีน้ำตาลเข้มที่แกะสลักเป็นรูปเถาบัวเลื้อยไปมาอย่างสวยงาม  พอเดินเข้ามาในตัวบ้านที่ปูด้วยหินอ่อนทั้งหลังก็ยิ่งอดนึกขึ้นมาในใจไม่ได้ว่าเฉพาะแค่บ้านหลังนี้มูลค่ามันเท่าไรกัน

“อ้าว!! มากันแล้ว มาๆ รีบเข้ามาเถอะ นี่ทานข้าวกันมาหรือยัง..โชนไปบอกพวกในครัวให้เตรียมตั๊งโต๊ะอาหาร ทำกับข้าวเพิ่มสักสี่ห้าอย่าง เร็วๆด้วยล่ะ”เสียงกระตือรือร้นของเจ้าของบ้านดังขึ้นทันทีที่พวกเขาเล่นเข้ามาในส่วนของห้องที่คาดว่าเป็นห้องนั่งเล่น ดูจากโซฟาหนังสองชุดกลางห้องกับทีวีเครื่องใหญ่

“คุณศูร...สวัสดีครับ”

“...สวัสดี..ครับ”อดุลย์และตะวันยกมือขึ้นไหว้

“รอแปบนะตะวัน หิวรึเปล่าลูก?”ศูรรับไหว้ด้วยใบหน้าที่ยกยิ้มกว้าง ก่อนจะถามด้วยความห่วงใย ตะวันเพียงแค่ส่ายหัวตอบเล่าความเท็จ ทั้งๆที่หิวจนตาลาย ตั้งแต่เช้าพอตื่นก็ถูกพ่อปิงปองเร่งให้รีบมายังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย

“หืม...”เป็นพ่อปิงปองของเขาที่ทำหน้าล้อเลียน นึกแปลกใจที่ลูกชายตัวแสบทำตัวมีมารยาท...ไม่ใช่ไม่ชอบ ที่ตะวันดูเป็นเด็กเรียบร้อยแค่ยังไม่ชินเท่านั้นเอง

“งั้นเอาข้าวของไปเก็บก่อนนะ ดาวววว!!”เสียงทรงอำนาจตะโกนเสียงดัง เรียกสาวรับใช้ที่เป็นคนรับธุระจัดห้องนอนให้ผู้มาใหม่ทั้งสองคน

“พาหลานชั้นไปดูห้องเร็ว”คิ้วเข้มกระตุกหน่อยๆที่ศูรบอกแค่ให้พาหลานหรือก็คือตนไปดูห้อง นึกไม่ชอบใจเลยที่มองข้ามพ่อปิงปองเป็นครั้งที่สองตั้งแต่เข้ามา

ทั้งสามคนเดินขึ้นมาบนชั้นสองของตัวบ้านที่ยกขึ้นสูงจากชั้นแรกมามากพอตัว แค่นับบันไดก็คงจะเกือบสามสิบขั้นจนคนที่ชอบคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอย่างอดุลย์อดคิดไม่ได้ว่าถ้าหากแก่ตัวไปจะเดินขึ้นลงอย่างไรไหว ก่อนจะสะบัดหัวแล้วหัวเราะเบาๆ

...ไม่ได้อยู่จนแก่ซะหน่อย

“อันนี้ห้องคุณผู้ชายค่ะ ส่วนของคุณหนูอยู่บนชั้นสาม เดินขึ้นบันไดด้านนี้ค่ะ”ดาวคนที่ศูรใช้ให้นำทางบอกด้วยเสียงเรียบๆแต่แฝงด้วยความเจียมตัว

“ผมชื่อปิงปองครับเรียกพี่ปิงปองก็ได้ผมน่าจะแก่กว่าดาวไม่มากเท่าไรนัก”ดาวยิ้มรับไม่ตกลงหรือปฏิเสธอดุลย์จึงไม่ได้ต่อความยาวอะไร แค่รู้สึกแปลกๆที่มีคนมาเรียกว่าคุณผู้ชาย ปรกติมีแต่ตัวเขาเองนั้นแหละที่เรียกเวลาขายของให้กับลูกค้า

“งั้นไปดูห้องตะวันก่อนดีกว่า นอนชั้นสามเลยนะ”ตะวันเอ่ยบอกด้วยความตื่นเต้น

“ไปสิ”

ได้รับคำตอบตะวันเลยดันหลังพ่อปิงปองขึ้นบันไดด้วยความอยากรู้อยากเห็นทันที ทำให้ทั้งคู่คงลืมสังเกตสายตาที่แอบมองมาจากบานประตูห้องฝั่งตรงข้าม...พร้อมกับคำพูดแผ่วเบาที่ลอยออกมาจากปากหนา

...เสแสร้งเก่งจริงเชียว...



••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••




บนโต๊ะอาหารตัวยาวสุดหรูที่เคยมีโอกาสเห็นอยู่ในทีวีบ่อยๆทำให้อาหารที่วางเรียงรายอยู่บนโต๊ะดูน่าทานขึ้นไปอีกเท่าตัวที่สำคัญยังมีแต่ของชอบของคนที่เด็กสุดในบ้านทั้งนั้น เพราะศูรเตรียมตัวมาอย่างดี ให้คนไปถามอดุลย์ตั้งแต่ยังไม่ได้ย้ายมาว่าหลานชายชอบอะไรไม่ชอบอะไร

“พ่อๆ ยำตะไคร้ของโปรดพ่อล่ะ”ตะวันพูดพร้อมกับตักไปใส่ในจานของพ่อปิงปอง ก่อนจะตักใส่ปากของตัวเองคำโต เพราะก็เป็นของชอบของตัวเองเหมือนกัน จะว่าไปก็เป็นเพราะตะวันชอบเลยหาซื้อมาบ่อยจนลูกชายคิดว่าตัวเองชอบนั้นแหละ

“ทานกันเยอะๆนะ”ศูรบอกด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม นานแล้วที่โต๊ะอาหารตัวนี้ไม่ถูกใช้งาน ทั้งๆที่ซื้อมาด้วยเงินถึงแปดหลักแต่เป็นเหมือนเครื่องประดับในตัวบ้านมากกว่า จะมีก็แค่คราวนี้ที่ทำให้นักธุรกิจเก่ารู้สึกถึงความคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป

“เออ ใช่สิ...นี่อดุลย์บอกตะวันหรือยังเรื่องที่จะให้ตะวันย้ายโรงเรียน”

...เคร้ง...

ไม่ทันพูดจบเสียงช้อนที่ถูกปล่อยจากมือของเด็กชายก็ดังจนห้องทั้งห้องเงียบงัน ตะวันหันมามองศูรด้วยสีหน้านิ่งเรียบ

“เรื่องนั้นผมจะไม่ย้าย”

“แต่...”

“ผมอยากเรียนสายอาชีพ ผมคุยกับพ่อแล้วและจะไม่ย้ายที่เรียนหรืออะไรทั้งนั้นครับ แม้กระทั้งอนาคตผมก็จะไม่เรียนสายบริหารอย่างที่ ‘คุณ’ ต้องการแน่ๆ”ตะวันตอบอย่างใส่อารมณ์ทำเอาอดุลย์เหงื่อตก รู้อยู่ว่าลูกชายใจร้อนขนาดไหน และอีกฝ่ายก็เป็นผู้ใหญ่กว่ามาก ไม่อยากให้ตะวันต้องเสียมารยาทกับศูร

ฝ่ายศูรก็แค่ยิ้มมุมปากนิดๆ นึกค่อนขอดตัวเองในใจว่าทั้งนิสัยกับลักษณะท่าทางของตะวันแบบนี้ถอดแบบมาจากทั้งเขาและรพีมาทั้งนั้น

อันที่จริงศูรก็ไม่ได้จะบังคับให้หลานชายเรียนสายสามัญหรืออย่างไร ก็แค่เสนอแนวทางใหม่ให้เท่านั้นถ้าไม่เปลี่ยนศูรก็ยอมตามใจแต่ถ้าเปลี่ยนก็ดี เพราะอนาคตตะวันคือคนที่ก้าวขึ้นไปแทนในจุดๆเดียวกับที่รพีอยู่ตอนนี้

“คือตะวันชอบเรื่องซ่อมๆสร้างๆน่ะครับคุณศูร ให้โอกาสแกเรียนทางด้านนี้เถอะนะครับ”อดุลย์ออกตัวแทนเพราะกลัวลูกชายจะเสียมารยาทใส่คนเป็นปู่ ยิ่งทำให้ศูรต้องยิ้มกว้างมากขึ้น

“ชั้นก็ไม่ได้อะไรหรอก ไม่ย้ายก็ไม่ย้ายสิ ไม่เป็นไรหรอก ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ อย่าถือสาคนแก่เลยนะตะวัน”

“ทานกันต่อเถอะ”จบคำทั้งสามคนจึงเริ่มทานข้าวต่อ อดุลย์ลอบถอนหายใจทิ้งเบาๆที่ศูรไม่ได้เป็นคนอย่างที่เคยได้ยินมา สมัยก่อนตอนที่เขาเข้าไปทำงานที่ห้างใหม่ๆ ศูรยังคงนั่งแท่นผู้บริหารอยู่ ใครๆก็บอกว่านายใหญ่ของห้างทั้งหน้ากลัวทั้งน่าเกรง แต่มาเห็นวันนี้กลับเป็นแค่คุณปู่ที่เห่อหลานชายคนใหม่ อะไรก็ยอมไปเสียทุกอย่างมากกว่า

“มีความสุขกันจังนะ”เสียงเข้มของเจ้าของบ้านอีกคนเอ่ยขัดบรรยากาศขึ้น ดวงตาคมที่ขอบตาคล้ำช้ำเนื่องจากการอดนอนที่ใครหลายคนคงคิดว่าทำตัวเสเพล แต่แท้จริงแล้วเขาอดนอนเพราะเคลียร์เอกสารงานที่กองเป็นภูเขาจนแทบจะทับตัวเองตายอยู่แล้ว

“อ้าว ไม่ได้ออกไปข้างนอกหรือ เห็นรถไม่อยู่”ศูรพูดด้วยน้ำเสียงที่ปรับเป็นนิ่งเรียบจนคนฟังเองยังชะงัก แล้วไอ้น้ำเสียงระรื่นเมื่อครู่คืออะไร...

“หึ...ผมทิ้งไว้บริษัท”พูดพลางมองไปรอบๆ ข้างๆศูรคือเด็กหนุ่มที่หน้าตาละหม้ายตัวเองอย่างกับพิมพ์เดียวกัน แถมดวงตาคมที่จ้องมองมาไม่วางตานั้นที่มองมาราวกับไม่ไว้ใจและไม่ต้องการจะคนถูกมองให้เข้าใกล้ยิ่งทำให้ต้องหัวเราะเบาๆกับตัวเอง

แค่วันแรกก็ดูจะเข้ากันไม่ได้เสียแล้ว...

รพีมองกลับมาที่ตรงข้ามของเด็กชาย คนที่นั่งหันหลังให้เขากำลังไหล่สั่นด้วยความกลัว หึ...กลัวเข้าไป รพียิ้มถูกใจที่เห็นอาการคนตรงหน้า ถึงจะเห็นแค่ข้างหลังก็พอรู้ว่ากำลังทำสีหน้าแบบไหนอยู่ตอนนี้

“ดาวไปเอาจานมาให้ชั้นที หิว”พูดเรียบๆก่อนจะดึงโต๊ะข้างๆอดุลย์ออกมานั่ง ร่างเล็กข้างๆสะดุ้งเล็กน้อยแต่ก็จับสัมผัสได้ เป็นความสนุกอย่างไม่รู้สาเหตุของรพีที่เห็นอดุลย์กลัวเขามากมาย แต่ด้วยอคติที่มีร่างสูงก็คิดเพียงแค่ว่า ถ้าไม่มีเรื่องผิดทำไมต้องทำเป็นกลัวขนาดนี้

ยังไงเขาก็ไม่ไว้ใจ...ไม่ไว้ใจนายคนนี้แน่ๆ



••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••




ช่วงบ่ายของวันตะวันขอตัวออกไปสำรวจที่ทางใกล้ๆตัวบ้าน พอเห็นว่าลูกชายกำลังสนุกอดุลย์เลยปล่อยเลยตามเลย แต่ก็กำชับด้วยความห่วงใยว่าอย่าไปไกลเพราะไม่รู้ว่าแถวนี้มีอันตรายอะไรบ้าง

อดุลย์นั่งจัดข้าวของของตัวเองเข้าตู้เสื้อผ้าขนาดไหน ที่ขนาดเขาใส่เสื้อผ้าที่เอามาทั้งหมดเข้าไปยังไม่ได้เศษหนึ่งส่วนสิบของตู้เลยด้วยซ้ำ ยิ่งขนาดของห้องนอน เตียงนอน เฟอร์นิเจอร์ต่างๆยิ่งทำให้รู้สึกแปลกๆ แต่ก่อนอยู่บ้านถึงจะไม่เล็กแต่ด้วยข้าวของต่างๆนานาก็ทำให้ที่มีเหลือแค่พอใช้สอย ไม่ชินเสียเลยกับพื้นที่ที่กว้างจนขนาดเดินกางแขนกางขาก็ยังไม่ชนอะไร

ติ๊ดดดดดดด

เสียงสัญญาณโทรศัพท์ดังขึ้น หน้าจอเป็นสายจากเพื่อนสนิทของลูกชายตัวดี อดุลย์กดรับสายด้วยน้ำเสียงแจ่มใส

“ว่าไงครับน้องทาน ตะวันไม่อยู่นะออกไปเดินเล่นน่ะ”

“อ้อครับ ผมไม่ได้จะโทรหาตะวันหรอกครับ พอดีจะโทรหาน้าปิงปอง จะถามเรื่องบ้านใหม่ที่น้าย้ายเข้าไป”

“หืม มีอะไรหรือเปล่าครับ”

“ที่จริงแถวนั้นกับบ้านผมมันใกล้กัน มีซอยตัดตรงไปถึงแถวนั้นพอดี แล้วไอ้ตะวันรู้มันเลยบังคับให้ผมไปหามันพรุ่งนี้ที่นู้น”ปลายสายพูดด้วยเสียงออกจะติดเสียอารมณ์หน่อยๆจนคนฟังถึงกับหัวเราะเบาๆ นึกออกเลยเวลาที่ลูกชายชอบออกคำสั่งเพื่อนสนิทตัวโตผิวแทน

“แล้ว??”

“คือผมไปได้ใช่มั้ยครับ ถามตะวันมันก็บอกไปได้ แต่ผมไม่แน่ใจกลัวไปแล้วเขาจะไม่เปิดบ้านให้เข้าพิกล”

“ได้สิ เจ้าของบ้านเขาใจดีนะ แล้วน้องทานก็แค่มาหาตะวันเองนี่ครับ แต่ถ้ากังวลเดี๋ยวน้าจะให้ตะวันไปขออนุญาตเจ้าของบ้านเขาไว้ก่อนแล้วกันนะ”

“นี่ผมกลัวจริงๆนะครับน้าปิงปอง เคยผ่านไปแถวละแวกนั้นบ้านแต่ละหลังใหญ่จนทำเอาผมไม่กล้าผ่านเลย”

“น้าก็เหมือนกัน”ทานตะวันส่งเสียงหัวเราะมาตามสาย อดุลย์เองก็หัวเราะตาม คุยกันอีกสองสามประโยคอีกฝ่ายก็ขอตัววางสายพร้อมสัญญาว่าพรุ่งนี้จะเอาขนมที่แม่ตนทำไปฝากถึงที่บ้าน

อดุลย์วางสายแล้วยิ้มจางๆพร้อมกับพับผ้าที่เอาออกมาจากกระเป๋าต่อ ดีใจแทนลูกชายที่คงไม่ต้องทนบ่นถึงเพื่อนสนิทตัวโตบ่อยๆอีกแล้ว

“หึ หน้าระรื่นเชียว นี่ลูกมันรู้มั้ยว่าคนที่มันเรียกว่าพ่อเป็นสิบๆปีจะวิตปริตขนาดนี้”จู่เสียงเข้มที่ทำเอาหวาดหวั่นก็ดังขึ้นจากข้างหลัง อดุลย์หันไปมองพร้อมภาวนาว่าขอให้เป็นแค่หูแว่ว แต่ก็ไม่เป็นตามคำขอเพราะร่างสูงใหญ่ตรงหน้าคือรพีตัวจริงๆ

“...อะ..เอ่อ คุณ..รพีมีอะไรหรือเปล่า...ครับ”

“หึ มึงนี่มันทำหน้าใสซื่อเก่งจริงเชียว กูอยากรู้นักว่ามึงต้องการอะไรกันแน่”คำถากถางจากคนตรงหน้าไม่ได้ทำให้เจ็บเท่ากับแรงบีบจากมือใหญ่ที่กรามของอดุลย์ ใบหน้าเล็กบิดเบี้ยวด้วยความเจ็มแต่ก็ร้องออกมาไม่ออก

“ลูกกูรู้รึเปล่าว่ามึงเป็นตุ๊ด นี่ไม่ใช่ว่าเลี้ยงลูกกูหวังจะเอาลูกกูหรอกนะ!!”แรงบีบที่เพิ่มขึ้นขนาดที่ว่าปิดกั้นช่องทางหายใจทั้งหมด มือเล็กของคนที่ถูกกระทำเริ่มพยายามแกะมือของรพีออก แต่ก็ทำอะไรมือนั้นไม่ได้จนสุดท้ายรพีก็ปล่อยออกมาเองพร้อมกับยืนมองร่างเล็กที่หอบหายใจเข้าอย่างสุดความสามารถ

“ตอบกูมา!!”เสียงเข้มเร่งเอาคำตอบ

“ผม...เปล่า ผมแค่...”

“แค่อะไร”

“...”อดุลย์เลือกจะเงียบลงไป เขาไม่รู้จะตอบอะไรให้คนตรงหน้าฟัง ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาแค่รักรพีมากแต่ตั้งแต่เจอกับเด็กชายตะวันเหตุผลก็เปลี่ยนไป เพราะเขาอยากเป็นพ่อให้ตะวัน ถ้าตอบแบบนี้...

“ผมแค่อยากเป็นพ่อ...”

“เหอะ!! เป็นตุ๊ดยังเสือกอยากเป็นพ่อ!! มึงบอกความจริงมาเถอะว่ามึงหวังสมบัติของพวกกูถึงตั้งใจเอาไอ้เด็กนั่นไปเลี้ยงน่ะ!!”รพีตวาดเสียงดัง ใบหน้าขาวขึ้นสีด้วยความโกรธ ขัดใจที่ร่างบางตรงหน้าทำสำออย ร่างที่สั่นด้วยความกลัวกับหยดน้ำที่เอ่อรอเวลาจะไหลออกมายิ่งทำให้หงุดหงิด  เลยเลือกเดินหนีออกไปด้วยความเกรี้ยวโกรธ

ทำตัวเหมือนเขาเป็นยักษ์เป็นมาร...แล้วคนที่หวังจะปอกลอกคนอื่นมันจะเรียกว่าอะไร!!


ออฟไลน์ oilzaza001

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 619
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
อิ(ท)รพี  :z6: :beat: :z6:


ปาดเปล่าหว่า  :a5: 

ปล.ดีใจนะที่ตะเองกลับมาอัพ  :-[ :o8: :laugh:

ออฟไลน์ liza sarin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-14
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
ดีใจมากที่มาต่อ ส่วนรพีแกจะร้ายไปไหน ว่าเค้าไม่ดี
แต่แกก็เสียบเค้าแล้วนะ

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
ดีใจมาก คนเขียนจ๋า พี่จุ๊บทีนึง  โอ้ว โอ้ว พ่อปิงปองจะทนรพีได้รึเปล่าล่ะ

ออฟไลน์ Ipatza

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 932
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-7
นี้่ไม่ได้ฝันไปใช่ไหมว่ากลับมาต่อแล้ว จริงๆ
ตอนแรกถอดใจแล้วนะ เห้นมาต่อดีใจเป็นล้นพ้น
อย่าหายไปอีกนะ

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
ตบอี(ท)รพีรัวๆ

มโนเก่งจริงๆ

 :fire:

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
+1 ให้คนเขียน อ่านเพลินเลย
อยากรู้ว่าเรื่องราวจะดำเนินไปยังไงต่อ
อย่าหายไปนานๆอีกน๊า แล้วจะรออ่านต่อนะจ๊ะ  :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
จุดพลุดีใจที่ได้อ่าน

แล้วจุดธุปต่อว่าขอให้ได้อ่านต่อจนจบด้วยเถอะ

ออฟไลน์ Pz_ready

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 53
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +107/-1
กว่าสัปดาห์แล้วที่สองพ่อลูกอดุลย์และตะวันย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านใหม่ที่หลังกว่าเดิมหลายเท่าตัว แม้ตัวอดุลย์จะไม่ชินกับการที่มีคนมาคอยทำอะไรให้จนอยากจะลุกขึ้นมาทำเองบ้าง แต่ทุกคนในบ้านกลับไม่ยอมให้ได้ทำตามใจ ตะวันที่ไปเรียนเช้ากลับเย็นก็แซวทุกวันว่าอีกหน่อยพ่อตนคงจะกลายเป็นหมูตอน เพราะนอกจากช่วยลุงโชนดูแลสวนรดน้ำต้นไม้เล็กๆน้อยๆ อดุลย์ก็ไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน

มีบ้างบางวันที่แอบกลับไปที่บ้านหลังเดิมเพื่อทำความสะอาด แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้ความเบื่อหน่ายลดลง อดุลย์อยากทำงานบ้าง จะให้ไปคุยกับศูรที่อยู่คนละบ้านก็ไม่กล้าเพราะเกรงใจ แต่จะให้ขอช่วยงานของรพียิ่งไปกันใหญ่เพราะอีกฝ่ายน่ากลัวกว่าศูรร้อยเท่าพันเท่า อีกอย่าง...ตั้งแต่วันนั้นรพีก็ไม่ได้กลับมาบ้านอีกเลย

ที่จริงอดุลย์ก็อยากจะนึกโล่งใจกับที่คนที่ตั้งแง่กับตัวเองไม่อยู่คอยทำร้ายกันอีก แต่ด้วยจิตใจที่มักนึกถึงคนอื่นก่อนเสมอก็พร่ำบอกว่าเป็นเพราะตัวเองที่เข้ามาอยู่ที่นี่อาจทำให้เจ้าของที่รังเกียจ แต่จะไล่ก็ไม่ได้เพราะศูรเป็นคนพาเข้ามา

ตัวเขาหรือเปล่าที่สร้างความลำบากให้เจ้าของบ้าน?

เสียงเครื่องรถยุโรปเคลื่อนที่เข้ามาภายในตัวบ้าน ผ่านร่างบางที่ยืนรดน้ำต้นไม้ด้วยท่าทีเหม่อลอย ดวงตากลมโตที่มีริ้วรอยของกาลเวลามองไปที่ต้นไม้ที่ตัวเองกำลังให้น้ำหากแต่ไม่ได้มองว่าปริมาณน้ำที่ตัวเองให้ไปมันเยอะจนดินแถวนั้นกักเก็บไม่ทันเอ้อล้นนองเต็มพื้น

รพีที่นั่งรถเข้ามามองภาพนั้นอย่างนึกขำเผลอหลุดยิ้มจางๆที่ริมฝีปาก จนคนขับรถยังแปลกใจ หลายวันมานี่รพีอยู่ค้างที่ออฟฟิตให้แค่คนขับรถมาเอาเสื้อและชุดทำงานที่บ้านเท่านั้น ด้วยเพราะไม่พอใจกับคนที่เข้ามาอยู่ใหม่ประกอบช่วงนี้หุ้นของบริษัทกำลังตกเพราะเรื่องราวหย่าร้างของตน ทุกวันต้องประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อเพิ่มความมั่นใจจนรพีเองยังนึกหน่ายที่ต้องพูดอะไรซ้ำๆซากๆทุกวัน

“ตะวันล่ะ”ทันทีที่เดินเข้าบ้านมาได้ก็เอ่ยถามหาลูกชาย ไม่ได้นึกพิศวาสอยากจะเจอหลังจากกลับมาเหนื่อยๆจากที่ทำงานหรอก เพียงแต่มีธุระที่จะพูดด้วยเท่านั้น

“คุณหนูไปเรียนยังไม่กลับมาเลยค่ะคุณรพี ส่วนใหญ่คุณหนูกลับประมาณอาหารเย็นพอดีค่ะ”ดาวตอบกลับด้วยสิ่งที่ตัวเองรู้ รพีพยักหน้ารับคำตอบก่อนจะเดินขึ้นไปบนห้องนอนของตัวเอง

มือหนาค่อยๆปลดกระดุมเสื้อในขณะที่เดินไปยังห้องนอนของตัวเองพลันขายาวก็สะดุดเมื่อเห็นประตูห้องฝั่งตรงข้ามปิดไม่สนิท ที่จริงห้องฝั่งทางนี้ไม่ใช่ห้องใหญ่ที่สุดที่ควรจะเป็นของเจ้าของบ้านหากแต่เป็นห้องเก่าของรพีและพี่ของตัวเองในสมัยก่อน และตอนนี้เป็นห้องของอดุลย์ พ่อตามกฎหมายของลูกชายตามสายเลือดของเขา

จากเป้าหมายคือห้องของตัวเองรพีเปลี่ยนไปอีกห้องทันที พอก้าวขาเข้าไปก็บ่นเจ้าของห้องในใจ ทั้งๆที่เครื่องปรับอากาศก็มีทำไมไม่รู้จักเปิดทิ้งไว้...มันร้อน!!

บ่นคนเดียวเสร็จก็เดินไปกดรีโมทเปิดพร้อมๆกับกดเปิดผ้าม่านผืนใหญ่แล้วล้มตัวลงนอนบนเตียงกว้างที่ไม่ต่างกันกับห้องของตัวเอง พร้อมกับรอเหยื่ออันโอชะด้วยความใจเย็น ดวงตาคมหรี่มองในความมืดด้วยความนึกสนุก แค่ความคิดของตัวเองก็ทำให้หลุดเสียงหัวเราะในลำคอออกมาอย่างลืมตัว

หึหึ...ก็ไม่แย่นักหรอกนะที่จะมีนายบำเรออยู่ในบ้านแบบนี้



••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••




เวลาบ่ายอ่อนๆของวัน อดุลย์ทำงานที่ตัวเองยึดมารับผิดชอบไว้จนหมดสิ้นแล้วกำลังนั่งคุยเล่นกับลุงโชนอยู่ที่ชิงช้าไม้ขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในบริเวณสวน ลุงโชนเป็นคนคุยสนุกแถมยังชอบเล่าเรื่องความหลังสมัยแกยังหนุ่มๆให้ได้หัวเราะ อดุลย์นั่งฟังไปก็หัวเราะไป นึกในใจว่าเย็นนี้จะไปเล่าต่อให้ตะวันฟัง

“นั่งคุยอยู่นาน จนผมลืมเลย วันนี้ผมต้องไปช่วยคุณท่านลงต้นไม้ที่บ้านฝั่งนู้น ยังไงขอตัวก่อนนะครับคุณปิงปอง”อดุลย์พยักหน้ายิ้มรับคำ อยากจะไปช่วยผู้อาวุโสปลูกต้นไม้อยู่เหมือนกัน ติดอยู่แค่ตอนนี้เหนียวเนื้อเหนียวตัวอยากจะอาบน้ำมากกว่า ร่างบางลุกจากชิงช้าสะบัดเอาเศษฝุ่นออกก่อนจะตรงเข้าไปที่บ้านหมายจะชำระร่างกายให้สะอาดก่อนแล้วค่อยไปช่วยตามที่คิดเอาไว้

ระหว่างทางเดินตาโตเหลือบไปมองเห็นรถคุ้นตาที่เห็นทุกกลางวันจอดอยู่ในโรงรถ เผลอถอนหายใจเบาๆด้วยคิดว่าวันนี้รพีอาจจะไม่กลับมาอีกก็ได้ คนขับรถคงมาเอาเสื้อผ้าให้ตามเคย...คงรอดไปอีกวันที่ไม่ต้องเผชิญหน้ากับคนที่ทำให้กลัวไปทั้งตัว

 อดุลย์เดินทอดน่องเรื่อยๆไปตามทางก่อนจะหยุดอยู่หน้าประตูห้องของตัวเองก่อนจะเปิดเข้าไปโดยไม่นึกฉุกใจเลยสักนิดที่ประตูห้องปิดเรียบร้อยทั้งที่ปรกติจะเป็นคนชอบเปิดแง้มเอาไว้ตลอด เป็นนิสัยที่ติดมาช่วงที่เลี้ยงตะวันตอนยังตัวเล็กๆ สมัยก่อนที่ทำงานรับจ้างทั่วไปพวกงานพับถุงเย็บตุ๊กตาเขาต้องออกมานั่งทำที่ส่วนของกลางบ้านเลยต้องเปิดแง้มประตูฟังเสียงร้องของลูกชายตัวเล็กตลอดเวลา

ถึงจะไม่ฉุกใจเรื่องประตูแต่ทันทีที่เข้ามาในห้องนอนก็พบสิ่งผิดปรกติ ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศกับผ้าม่านที่ถูกปิดสนิทจนไม่มีแสงเล็ดลอดเข้ามาได้ ทำให้ต้องนิ่งคิด

จะว่าลืมปิดก็คงไม่ใช่เพราะตั้งแต่มาอยู่นี่อดุลย์ไม่เคยเปิดแอร์เลยซักครั้ง ยิ่งผ้าม่านยิ่งแล้วใหญ่เพราะมันเป็นระบบไฟฟ้าที่ใช้รีโมทเป็นตัวควบคุมเขาเลยไม่คิดอยากจะแตะต้องเลยด้วยกลัวจะทำของบ้านคนอื่นพัง

ในขณะที่นิ่งคิดพร้อมๆกับมือบางคว่ำหาสวิตไฟที่คล้ายว่าจะจำได้ว่ามันอยู่ด้านซ้ายของประตู ร่างบางทั้งร่างก็ถูกกระชากเข้าหากำแพงที่มีเนื้อหนัง ปากที่จะร้องตกใจก็ถูกปิดด้วยมือใหญ่ สัมผัสหยาบโลนจู่โจมทันทีไม่ทันให้ได้ตั้งตัวไล้มาตั้งแต่ลำคอยันกกหู

“...ปะ...ปล่อยย..ปล่อย!!!”พยายามตวาดเสียงเท่าที่จะทำได้แต่ก็ไม่ได้ต่างกับเสียงแมวขู่เท่าไรนัก รพีไม่ได้นึกสนใจ ยังคงซอกไซร้ร่างกายที่มีแต่กลิ่นของเหงื่ออย่างสนุกสนาน 

“คุณรพี!! ปล่อย!!”อดุลย์ยังทำตวาดใส่ จนคนโดนตวาดอดรำคาญขึ้นมาไม่ได้

เพี้ยะ!!!

“หุบปาก!! อย่าทำเหมือนไม่เคย มันไม่ได้ทำให้ตัวมึงดูมีราคาขึ้นมาหรอก!!”ทั้งแรงตบและคำด่าส่งให้น้ำตาไหลลงมาอย่างไม่ได้รู้ตัว กว่าจะรู้ตัวก็ตอนที่โดนผลักลงบนเตียงพร้อมกับจูบแรงๆที่หน้าอกที่ตามมาอย่างรวดเร็ว

“อยู่นิ่งๆแต่แรกก็สิ้นเรื่องสิ้นราว เสร็จธุระกูจะได้ไปนอนพัก”คำพูดที่เข้าหูกับสัมผัสที่เริ่มถึงเนื้อถึงตัวทำให้อดุลย์รู้สึกตัวอีกครั้ง แม้เสื้อจะหลุดหายไปแล้วและกางเกงเองก็แทบจะหลุดออกจากสะโพกกลมก็ตามที

“ปล่อยนะ!! ปล่อย บอกให้ปล่อย!! ช่วยด้วยใครก็ได้ อื้อออ!!!”เสียงเรียกให้ช่วยถูกกลืนหายไปกับปากหนาของร่างใหญ่ที่อยู่บนตัว ถึงรพีจะมั่นใจก็เถอะว่าเวลานี้ไม่มีคนมายุ่งย่ามบนชั้นสอง แต่ไอ้เสียงเล็กๆแหบๆมันน่ารำคาญน้อยเสียเมื่อไร

ตุ๊บ!!!

อั๊ก!!!

เสียงของคนตัวหลุดหลุดออกมาด้วยความเจ็บปวดทันทีเมื่อถูกต่อยอย่างแรงเข้าที่ท้อง ความรู้สึกตอนนี้เหมือนทั้งร่างไร้เรียวแรงได้แต่นอนตัวสั่นกลัวคนที่ยิ้มร้ายอย่างสะใจ

“ฮือ..ปะ..ปล่อย...อ...ไอ้เลว”ด่าทั้งๆที่ยังร้องไห้แบบนั้นยิ่งทำให้คนฟังยิ้มเยาะเย้ย...เลวแล้วยังไง ตลอดชีวิตที่ผ่านมาก็ไม่เคยมองว่าเขาเป็นคนดีซักครั้ง จะมีคนมองว่าเลวอีกซักคนก็ไม่ได้ลำบากอะไรไปมากกว่านี้อีก

“เลวก็เลว...เลวก็ผัวมึงได้เหมือนกัน”พูดไปก็เตรียมพร้อมส่วนกลางของตัวไป คราวก่อนที่บุกไปปลุกปล้ำอดุลย์ถึงที่บ้านแม้จะด้วยความเมาก็ยังพอรู้สึกตัวนิดหน่อย ยังจำได้ว่าร่างบางให้ความรู้สึกตอบสนองดีขนาดไหน

ดีขนาดที่ทำให้หนุ่มใหญ่วัยเกือบจะเข้าเลขสี่รู้สึกเลือดซูบฉีดไปทั่วทั้งร่าง คึกคะนองกว่าตอนที่ลองกินยาปลุกสูตรต่างๆที่เคยกินเพื่อเพิ่มสมรถภาพ ตื้นเต้นกว่าตอนที่ไปซื้อบริการจากพวกหญิงสาวเด็กๆด้วยซ้ำไป

“นี่...หยุดร้อง หยุดโวยวายแล้วกูจะทำเบาๆ”ปากที่พร่ำดูดดุนที่ลำคอขาวเลือนมากระซิบปากเบาๆที่ข้างหูและทิ้งรอบจูบไว้ก่อนจะลากกลับมาที่ปากเล็กๆจัดการมอบจูบที่รุนแรงเร้าร้อนพอที่จะทำให้อีกฝ่ายไม่ขัดขืน

ปฏิกิริยาของอดุลย์ดูโอนอ่อนตามแรงอารมณ์ที่ถูกคนตัวใหญ่สร้างให้ทำให้รพีถูกอกถูกใจแก่นกายที่พองตัวมากขึ้นกว่าเก่าเป็นตัวบ่งบอกความพอใจในร่างกายตรงหน้าอย่างไม่ต้องสงสัย ตั้งแต่เกิดมาเจ้าของความเป็นชายแท่งนี้รู้สึกว่าวันนี้เจ้าแท่งนี้ทั้งร้อนทั้งแข็งกว่าทุกวันและสั่นระริกต้องการปลดปล่อยกว่าทุกครั้ง

เมื่อเป็นอย่างนั้นคงไม่ใช่แค่รอบเดียวในวันนี้

และ...ไม่จบแค่ครั้งนี้...วันพรุ่งนี้...มะรืน...จนกว่าจะพอใจนั้นแหละ



••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••••



ตรู๊ดดดด ตรู๊ดดดด

เสียงรอสายที่ฟังรอบที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้หากแต่ไม่มีคนยอมรับสายซักทีทำเอาตะวันที่เฝ้าโทรหาพ่อปิงปองตั้งแต่เลิกเรียนเกิดอาการกังวลใจ วันนี้วันจันทร์เขาเรียนเสร็จตั้งแต่บ่ายแล้วเลยมานั่งรออยู่หน้าโรงเรียนของไอ้ดำเพื่อนสนิท และคงจะไม่ได้กลับไปกินข้าวเย็นเลยต้องโทรบอกก่อน

แต่โทรเท่าไรพ่อก็ไม่ยอมรับสายซักที ก็เข้าใจอยู่หรอกว่าพ่อปิงปองเป็นพวกไม่ชอบพกโทรศัพท์เท่าไร ยิ่งอยู่บ้านเฉยๆมีหวังวางทิ้งไว้ในห้องอีกตามเคย เขาเองก็ลืมเมมเบอร์โทรของที่บ้านใหม่เอาไว้ซะด้วย

จนแล้วจนรอดพ่อปิงปองก็ไม่ยอมรับสายซักทีตะวันเลยเลิกโทรไปเอง พลางคิดว่าพ่อคงคุยอยู่กับลุงโชน กลับไปวันนี้พ่อคงมีเรื่องของลุงโชนมาเล่าให้ฟังเยอะแยะ ที่จริงลุงโชนแก่กว่าคนที่ตะวันควรเรียกว่าปู่เสียอีกแต่ตะวันก็เรียกลุงโชนตามพ่อปิงปองดูถนัดปากมากกว่า ส่วนศูรที่เป็นปู่ถ้าเลี่ยงได้ตะวันก็จะเลี่ยงไม่พูดคุย เขาเองรู้สึกไม่สนิทใจกับสายแท้ๆ แม้จะไม่มีใครบอกเหตผลว่าทำไมเขาถึงได้เป็นลูกพ่อปิงปอง แต่ตะวันก็ไม่อยากจะถาม

ที่จริงไม่อยากให้มันเป็นอย่างนี้ด้วยซ้ำ

ตะวันไม่รู้ชอบใจศูรเพราะเหมือนอีกฝ่ายชอบเสนออะไรที่ตะวันไม่ชอบให้ทำอยู่เรื่อย ถึงไม่ได้บังคับแต่ก็ไม่ชอบใจอยู่ดี ส่วนอีกคนที่ตะวันรู้ว่าเป็นพ่อที่แท้จริงของตัวเองยิ่งแล้วใหญ่ หน้าตายังแทบจำไม่ได้ ถ้าไม่ติดว่าทุกครั้งที่เดินเข้าบ้านแล้วจะมีรูปของคนคนนั้นติดอยู่ก็คงลืมไปแล้ว

แต่ที่ตะวันไม่ชอบใจที่สุดคงเพราะเขาคนนั้นเคยทำให้พ่อปิงปองต้องร้องไห้ ถึงเป็นพ่อแท้ๆของตัวเองก็ไม่ยอมอภัยให้แน่ๆถ้ามีครั้งต่อไปอีก

“ไงไง เศรษฐีใหม่”คำเอ่ยแซวจากเพื่อนตัวสูงผิวแทนทำเอาตาคมหันขวับไปมองอย่างไม่พอใจ หากเป็นคนนอกคงนึกเกรงกับตาคมๆที่ดูดุแต่กับคนที่อยู่ด้วยกันมานานรองจากพ่อปิงปองอย่างทานตะวันไม่ออกอาการกลัวแม้ซักนิด กลับกันยังหัวเราะชอบใจคนยุง่ายอีกต่างหาก

“กวนตีน มาก็ช้า”คนรอบ่นออกมา ตะวันเห็นพวกเด็กในโรงเรียนทยอยกันเดินออกมาสักพักแล้วเจ้าเพื่อนตัวสูงดำนี่พึ่งจะโผล่มา แถมยังแซวเรื่องนี่อีก

ก็จริงที่ว่าเหมือนตอนนี้ตะวันจะสบายขึ้น ศูรเอาบัตรทั้งเครดิตและเดบิตที่มีเงินฝากในบัญชีอยู่มากโขมาให้เขาติดตัว และถึงจะไม่ใช่คนใช้เงินมือเติบแต่ก็ถือว่าใช้เงินคล่องกว่าแต่ก่อนเยอะ เวลาจะซื้อจะใช้ก็แค่คิดว่ามันคุ้มมั้ย ต่างจากแต่ก่อนที่นอกจะคิดว่าคุ้มมั้ยยังต้องคิดต่ออีกว่าถ้าซื้ออันนี้แล้วเงินจะพอใช้หรือเปล่า

“คุยเรื่องงานกลุ่มกับเพื่อนอยู่”ทานตะวันตอบกลับก่อนจะเดินไปสั่งน้ำผลไม้ปั่นที่หน้าเคาเตอร์ร้าน ตามทางเดินที่ก้าวไปมีแต่คนคอยจดจ้องมอง ว่าตามจริงทานตะวันไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหล่อะไร รูปร่างสูงใหญ่ราวกับคนยุโรปใหล่กว้างหน้าเรียวยาว แต่กลับมีผิวสีแทนบวกผมสีดำสนิทและใบหน้าตาหูจมูกปากเท่านั้นที่บ่งบอกว่าเป็นคนเอเชียขนานแท้

“ไง จะไปไหนนึกถ่อมาหาถึงที่นี่”ทานตะวันเริ่มเปิดบทสนทนาพลางดูดน้ำปั่นที่ซื้อ

“อยากได้หนังสือ พาเข้าศูนย์หนังสือจุฬาฯหน่อย”เพราะเพื่อนสนิทเรียนโรงเรียนในรั้วใกล้ๆแถวนั้น ทั้งอยากเจอเพื่อนและก็ไม่อยากเดินซื้อของคนเดียวด้วย

“เอาดิ จะหาดูหนังสือเหมือนกัน”คุยกันเสร็จสรรพทั้งคู่ก็ตัดสินใจเดินไปผ่านผู้คนและรวงร้านค้ามากมายตามรายทาง พลางนึกว่าก็ดีเหมือนกันที่มีเงินใช้แบบนี้ ตั้งแต่โตพอรู้เรื่องรู้ราวก็เหมือนว่าตะวันจะกดความรู้สึกอยากเที่ยวอยากเดินเล่นของตัวเองไว้ตลอด รู้ดีว่าถ้าขอพ่อก็จะได้แต่ก็ไม่อยากจะทำให้พ่อลำบาก

“แล้วมึงเป็นไงบ้าง สบายดีป่ะ เข้ากับบ้านนู้นได้หรือยัง?”ทานตะวันถามเรียบๆพวกเขาคุยกันทุกเรื่อง ขนาดว่าแต่ก่อนเรียนอยู่โรงเรียนเดียวกันยังคุยกันได้ทุกวันจนเหมือนกับว่าอยู่ด้วยกันตลอดเวลาอย่างไรอย่างนั้น

“ก็ดี พ่อก็ดูมีความสุขดี ไม่ต้องทำงานพ่อก็ไม่เหนื่อย แถมกูยังได้กินกับข้าวฝีมือพ่อทุกวันด้วย”...แต่ในใจก็ไม่ชอบ ตะวันบอกไม่ถูกเหมือนกันว่าทั้งๆที่ทุกอย่างมันดีขึ้น ความสุขก็มี...แต่แค่ไม่เท่าตอนอยู่กับพ่อสองคน

“ก็ดีแล้ว ว่าไปชีวิตมึงนี่อย่างกับนิยาย เคยเห็นแต่ในหนัง”

“หนังเรื่องไร?”ทำหน้าสงสัยใคร่รู้ความจริงพร้อมทำตาปริบๆใส่ จนโดนคนตัวใหญ่กว่าเขกหัวแรงๆไปหนึ่งที

“กวนตีน”และทั้งคู่ก็หัวเราะออกมาจนคนรอบข้างหันมองด้วยความสงสัย

สุดท้ายตะวันก็ได้หนังสือเกี่ยวกับวงจรไฟฟ้าที่อาจารย์ที่วิทยาลัยแนะนำให้ไปหาอ่านมาไว้ครอบครอง ตะวันชวนเพื่อนสนิทเดินเล่นกันต่อรอเวลาเย็นๆแล้วค่อยหาอะไรกินกันต่อ คนถูกชวนเลยโทรไปบอกที่บ้านโดนซักถามเพียงแค่ว่าไปกับใครพอบอกชื่อตะวันไปทุกอย่างก็ผ่านฉลุย สมัยก่อนตอนวันหยุดเสาร์อาทิตย์ไหนที่พ่อต้องไปทำงานตะวันก็จะไปคลุกอยู่บ้านเพื่อนตลอดสนิทกันจนเรียกได้เต็มปากว่าเป็นอีกคนในครอบครัวก็ว่าได้

ติ๊ดดด ติ๊ดดด

“ฮัลโหลพ่อ ทำไรอยู่ครับ ตะวันโทรหาตั้งแต่บ่ายไม่ยอมรับสาย”ชายหนุ่มหน้าขาวรับสายด้วยเสียงร่าเริงทันทีที่รู้ว่าพ่อโทรเข้ามา

“พ่อลืมโทรศัพท์ไว้บนห้องครับ”เสียงแหบตอบออกมาเบาๆ

“ตะวันอยู่ไหน”เสียงเข้มที่พูดแทรกเข้ามาในโทรศัพท์ทำเอาคนที่ถูกถามถึงนึกแปลกใจ จะว่าจำเสียงนั้นได้ติดหูก็ไม่แปลกทั้งๆที่พึ่งเคยคุยกันแค่สองครั้ง แถมแต่ละครั้งก็ไม่ได้คุยกันเป็นเรื่องเป็นราวเสียทีเดียว  แต่กลับเป็นเสียงที่ฟังแล้วจำได้ในทันที

...รพี...พ่อ

“ตะวันอยู่ไหนลูก คุณรพีเขามีเรื่องจะคุยกัน กลับมาทันข้าวเย็นมั้ย?”อดุลย์ถามอีกครั้ง

“อยู่ข้างนอกกับน้องทานของพ่อนั้นแหละครับ งั้นตะวันพาไอ้ดำไปกินข้าวที่บ้านนะ”

“..พ่อว่า..พาน้องทานมาวันหลังมั้ยครับ คุณรพีเขาจะคุยกับตะวันเรื่อง...ค่อนข้างส่วนตัว พ่อว่าน้องทานจะอึดอัดนะ”

“เรื่องสำคัญอะไรครับพ่อปิงปอง ก็ไว้ค่อยคุยหลังทานข้าวก็ได้นี่ ตะวันนัดกับไอ้ดำไว้แล้วด้วย”คนข้างๆทีถูกยกเข้ามาในหัวข้อสนทนาเริ่มเดาเรื่องราวออก พยายามจะบอกเพื่อนว่าไม่เป็นไรวันอื่นค่อยนัด แต่เจ้าเพื่อนตัวดีไม่ฟังความอะไร พยายามจะเอาชนะแบบเด็กๆ

“ว่าไงครับพ่อ...เขามีเรื่องอะไรจะคุยกับตะวัน?”

“...เอ่อ...”

“เรื่องไรอ่ะพ่อ ไม่งั้นตะวันไม่รีบกลับนะ นัดไอ้ดำไว้แล้วด้วย”

“...คุณรพีเขาจะคุยกับตะวันเรื่องจะให้ตะวัน...”





“................เปลี่ยนนามสกุล”




ออฟไลน์ AGALIGO

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 310
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-4

ดีใจที่ได้อ่านเรื่องนี้ต่อ
แล้วก็หวังว่าจะได้อ่านต่อจนจบเลยนะ

ไม่รู้ว่าคิดถูกหรือคิดผิดนะที่มาอยู่บ้านเดียวกัน
เพราะดูท่าทางความสัมพันธ์ของพ่อ---ลูก---หลาน
ไม่ได้ดีขึ้นมาซักเท่าไหร่เลยแถมยังจะแย่ลงกว่าเดิมซะอีก

+ 1 + เป็ดจ้า

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
 :hao5: ทำไมรพีต้องทำอยางนี้นะ
ข่มขืนเขาแล้วยังบังคับให้ลูกเปลี่ยนนามสกุลตามอีก
แล้วจะรออ่านต่อน๊า ^^
ขอให้คนเขียนขยันลงแบบนี้ไปเรื่อยนะจ๊ะ  :katai2-1:

ออฟไลน์ paojijank

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
ขอบคุณคนเขียนค่ะ ในที่สุดก็มาต่อจนได้
สงสารอดุลย์มาก เหมือนกำลังโดนบีบให้ต้องเสียสิ่งสำคัญไปหมดทุกอย่าง

ออฟไลน์ panari

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 534
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-1
ปิงปองน่าสงสารอ่ะ รพีนี่ก็เลวจริง โมโหแทน!!!

ออฟไลน์ Veesi3

  • coHon3 {ต้นฝ้าย}
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 715
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-2
 :impress3: :impress3: :monkeysad: :m15: ดีใจจจจจจจจจจจจจจจจจจจจจจจจจจจจจจ คิดว่าจะไม่มาอัพต่อแล้ว ขอบคุณมากนะคะ  :mew1: :mew1: :mew1: งือออออออ ในที่สุดก็ได้อ่านพ่อปิงปองต่อแล้วววว  :really2: :really2:

รพีก็เลวเห้ๆ เหมือนเดิม ทำไมไม่ดูตัวเองบ้างว่าทำอะไรเค้าไว้!!! แล้วมาบอกว่าทำไมต้องกลัว หนอยยยยยยยยยย....อิบ้า!!!!  :z6: :beat:  :angry2: ทำเค้าไว้ขนาดนั้นใครจะไม่กลัวฟร่ะ!!! แล้วนี่โมโหใส่เค้าจะไม่วายน่าเรื่องทำร้ายอย่างคราวที่แล้วอีกเรอะ!!  :m31:

ออฟไลน์ supermyrainbow

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 138
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ดีใจมาก  อยากจะร้องไห้ที่คนแต่งกลับมาแต่งต่อ

ดีใจที่ได้อ่านเรื่องสนุกๆแบบนี้ต่อ

อยากตะโกนว่าดีใจโว้ย  :hao5:

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
ฮูเล ฮาฮ๊า ดีใจฝุดๆ ต่อวันละตอน

ออฟไลน์ beautjang

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 53
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ไม่เห็นทางที่จะรักกันได้เลยอ่ะ ดราม่าๆ เต็มไปหมดเบยยยย

 :katai1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด