Special: เต้ พิสุทธิ์ CH2.“ไอ้เท็นเป็นไงมั่ง มันหายบ้ารึยัง” ผมตัดสินใจถามเมื่อเจอหน้าไอ้ฟิวที่เดินเคียงคู่มากับไอ้กัส แต่เมื่อเห็นหน้าเหนื่อยใจของพวกมันแล้วก็คงไม่มีคำตอบอื่นนอกไปจาก
“ยัง”
“มันไม่มาเรียนเลยแบบนี้มีสิทธิ์รีไทร์ได้เลยนะเว้ย แล้วตอนนี้มันอยู่ไหนอ่ะ” คนที่นั่งข้างๆ ผมถามขึ้นอีกคน มีเป็นเท็น FC ตัวพ่อเลยครับ ไม่ว่าไอ้เท็นจะทำเหี้ยไรก็ดูดีไปซะหมด มันชอบเพ้อให้ผมฟังบ่อยๆ ว่าไอ้เท็นแม่งเทพ เหนือมนุษย์ สุดจะพรรณนาถึง -_-
“มันกำลังตามหาแรงบันดาลใจอยู่แถวภาคเหนือ แต่ต่อให้มันอยู่กรุงเทพก็ไม่เข้าเรียนอยู่ดี พวกมึงไม่ต้องไปกังวลอะไรมากหรอก เหี้ยนี่เอาตัวรอดได้ทุกครั้งแหละ เดี๋ยวมันพอใจมันก็กลับมาเอง” ไอ้ฟิวต่อให้จะบอกพวกผมอย่างนั้นแต่มันก็ยังทำหน้ากังวลไม่หาย
“มันบอกกูก่อนไปว่าอยู่ในช่วงจำศีล คล้ายๆ กับคอมพิวเตอร์ที่เข้าโหมด sleep เพื่อประหยัดพลังงานน่ะ มันบอกว่าถึงจะเป็นชีวิตมันมันก็ไม่ได้อยากเป็นตัวละครหลักหรอก มันอยากเป็นแค่คนที่นั่งมองเรื่องราวเฉยๆ ซึ่งเอาจริงๆ ตอนนั้นกูเมา กูเลยไม่เข้าใจ” ไอ้เต๋อคาบปลาเส้นไว้ในปากพร้อมกับสาธยาย
“ตอนนี้กูไม่เมานะ แต่กูก็ไม่เข้าใจ” ไอ้คิมทำหน้าละเหี่ยใจพร้อมกับแย่งปลาเส้นจากไอ้เต๋อมากิน
อึ๋ยยย ผมแอบเห็นไอ้เต๋อทำตกด้วยนะของที่มันกินอยู่น่ะ -_-
“ช่างมันเถอะ ปล่อยไอ้เท็นไปตามยถากรรมของมัน ส่วนพวกเรามาปรึกษาเรื่องรายงานกันต่อ คราวนี้อาจารย์ให้แบ่งสามคนก็ได้ สองคนก็ได้ เพราะฉะนั้น กูได้แบ่งกลุ่มตามอุปนิสัยของพวกมึงแล้ว เหี้ยเท็นยังไงก็ต้องเอาชื่อใส่กลุ่มกู กูเลยมีสาม พวกมึงก็แบ่งสองๆ ไปละกัน ไอ้คิมกับไอ้แม็ค ไอ้เต้กับไอ้เต๋อ”
ไอ้ฟิวเป็นคนที่จริงจังกับทุกเรื่องรอบตัวมัน มันมีคุณสมบัติความเป็นแม่อยู่ในตัว (เพราะแม่งชอบสั่ง) แต่ทุกครั้งเวลามันแบ่งกลุ่มมักจะไม่เคยได้ตรงตามความต้องการเลยสักครั้ง เพราะ...
“กูอยู่กับไอ้เต้เอง บ้านกูกับมันใกล้กัน สะดวกกว่าไอ้ห่าเต๋อที่อยู่ไกลกันประมาณกรุงเทพกับประเทศเพื่อนบ้าน”
“บ้านกูไม่ได้อยู่พม่าไอ้ห่าแม็ค”
“โหะ แต่หน้ามึงนี่ได้เลยนะ ฮ่าๆๆๆ”
“เชียะ! กูจะอยู่กับไอ้เต้ มึงอยู่กับไอ้คิมเลย!”
มีแต่ไอ้เท็นเท่านั้นที่สั่งไอ้เต๋อได้ กับมีนี่เป็นคู่กัดกันแย่งผมกันเลยทีเดียว ไอ้เต๋อมันก็รู้นะ แต่แม่งชอบแกล้งมีอยู่เรื่อย
“งั้นพวกมึงอยู่กันไปสามคน กูไปหาคนอื่นอยู่ก็ได้วะ” สุดท้ายเป็นไอ้คิมเองที่ออกอาการงอนให้เพื่อนๆ ได้ทำหน้าสยองกัน
“เพราะมึงเลยไอ้แม็ค ไอ้คิมมันถึงน้อยใจคิดว่าเพื่อนไม่รัก”
“มึงนี่ไม่ผิดเลยนะ ไอ้ประเสริฐ ไอ้เลิศเลอ”
“พอๆ ไม่ต้องเถียงกัน สรุปไอ้คิมอยู่กับไอ้เต๋อไปละกัน” ไอ้กัสตัดบทแล้วก็ลงมือเขียนรายชื่อเตรียมส่งอาจารย์ เลยไม่มีใครพูดขัดอะไรขึ้นมาอีก
พวกผมนั่งโม้นั่งมองสาวไปตามปกติโดยมีไอ้ฟิวนั่งอ่านหนังสือและไอ้กัสฟุบหลับ เหมือนเป็นภาพที่เคยชินไปแล้วสำหรับชีวิตผม ถ้ามีไอ้เท็นมานั่งวางท่าเป็นราชาของจักรวาลอีกคนนี่ภาพจะสมบูรณ์เลยทีเดียว
“แม็คๆ มึงว่าคนนั้นเป็นไงวะ แจ่มมะๆ” ไอ้คิมตาเป็นประกายขึ้นมาทันทีเมื่อมันจับเรดาร์ได้ ผมเลยหันไปดูตามสายตาของมันด้วย
อ๋อ...มินนี่ อักษร ก็ถือว่าแจ่มในระดับหนึ่ง ผมเคยควงอยู่สักพัก แต่พอมีรู้เข้าก็โบกมือลากันไป
“ก็ดี สวย ถามไอ้เต้สิว่าเป็นยังไง เด็กเก่ามัน” มีตอบเรียบๆ ในขณะที่ไอ้คิมทำหน้าเสียดายโดยไม่ปิดบัง
ได้ข่าวว่ามึงมีแฟนอยู่แล้วนะครับเพื่อน
“ไอ้ห่าเต้แม่งงงเจ้าชู้ว่ะ กูจะเคลมคนไหนก็เป็นเด็กเก่ามึงทั้งนั้น แย่ๆๆๆๆๆ”
ก็แย่อย่างที่มันว่า เพราะเด็กเก่าผมส่วนใหญ่ก็เคยควงกับไอ้เมลเดือนมหาลัยที่เดี๋ยวนี้เห็นไปไหนมาไหนกับไอ้เท็นบ่อยๆ เหมือนกัน ดีนะที่ไอ้หมอนั่นมันไม่คิดว่าผมไปทับเส้น ไม่งั้นล่ะก็ได้มีเรื่องกันเพราะผู้หญิงแน่
“มึงจะเคลมใครนี่ขออนุญาตพี่ต่ายมึงรึยัง”
“อย่าพูดชื่อนี้!! เล่นไม่ดีนะมึง ชื่อเมียเป็นชื่อต้องห้าม โฮะๆ ว่าแต่เด็กมึงมีใครบ้างเนี่ย คบแต่ละทีไม่เคยพามาเปิดตัวกับเพื่อนเลยนะ”
ผมไม่ใช่อยากปิดเพื่อน แต่เพราะเพื่อนบางคนในนี้มันไม่สมควรรู้ต่างหากถึงเลือกตัดปัญหาด้วยการไม่พามาดีกว่า เพราะยังไงก็คบไม่นานอยู่แล้ว
“ก็ไม่ได้จริงจัง พามาทำไมให้เสียเวลา ไปแดกข้าวกันเถอะว่ะ กูหิว” ผมบอกก่อนจะดึงแขนมีให้ลุกตาม มันสะบัดแขนออกจากมือผมเล็กน้อย แต่เพราะผมไม่ยอมปล่อย มันเลยทำได้แค่ทำหน้าไม่พอใจใส่
“อย่ากัดกันน่าพวกมึง มีไรไปเคลียร์กันที่บ้านนะจ้ะ” ไอ้เต๋อโผล่เข้ามาแทรกกลางก่อนจะปัดมือผมออกจากแขนมีและจากนั้นมันก็เดินกอดคอมีไปเนียนๆ
อย่าให้ถึงทีกูนะไอ้เหี้ยเต๋อ... -_-
.
.
.
“อาส์....มี...มี...”
เพราะน้ำขาวขุ่นที่เลอะใบหน้าใสและปากแดงๆ ที่ยังปิดสนิท ผมถึงได้รีบไปหาทิชชู่มาเช็ดให้คนที่กำลังนอนหลับไม่รู้เรื่องรู้ราวมากว่าชั่วโมงแล้ว
นี่...ผมกำลังทำอะไร...ทำเรื่องน่าอายอย่างนี้ลงไปได้ยังไง หรือเพราะมันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้...
ช่วยไม่ได้ที่ดันตื่นขึ้นมาแล้วเจอมีนอนอยู่ข้างๆ มือข้างหนึ่งพาดเอวผม ใบหน้าก็อยู่ใกล้มากจนผมอดใจไม่ไหว ...ไม่ได้ถือว่าเป็นการลักหลับใช่ไหม ก็ผมแค่...ช่วยตัวเองเท่านั้น
มีไม่ใช่ผู้ชายตัวเล็ก มันสูงกว่าไอ้เท็นนิดหน่อยเลยโดนไอ้เท็นว่าบ่อยๆ ว่าถึก (ไอ้เท็นเรียกทุกคนที่สูงกว่ามันแม้จะหนึ่งเซ็นว่าถึกหมดนั่นแหละ -_-) โครงหน้าไม่ได้สวยหวาน แต่ก็มองนานๆ ได้ไม่เคยเบื่อ เนื้อตัวไม่ได้นุ่มนิ่มเหมือนผู้หญิง ก็ปกติของผู้ชายทั่วๆ ไป แต่ไม่รู้ทำไม ผมถึงอยากสัมผัสมัน อยากรู้ว่าถ้าได้จูบกับริมฝีปากนี้จะเป็นยังไง อยากรู้ว่าถ้าได้สัมผัสไปทั่วทั้งตัว...จะรู้สึกดีแค่ไหน
ผมก็แค่...
“อืออออ เตเต้...ทำไม...ไม่ใส่เสื้อผ้า”
เพราะผมเช็ดแรงไปเหรอ มีถึงได้ตื่นมาทำหน้าแดงใส่ผมอย่างนี้ ทั้งๆ ที่ชั่วโมงกว่าๆ ที่ผ่านมา ผมทั้งจูบ ทั้งไซ้ไปทั่วตัวมัน มันยังไม่รู้สึก -_-
“ร้อน”
“อือ”
“แล้วมานอนอยู่นี่ได้ยังไง ใครอนุญาตให้ขึ้นมา”
“ก็มาชวนทำรายงาน คุณน้าบอกให้ขึ้นมาได้ เลยขึ้นมา แล้วก็ง่วง ก็แค่นอน...”
“คราวหน้าให้เตยมาเรียก มึงไม่ต้องขึ้นมา”
“ทำไมเดี๋ยวนี้ถึงมาไม่ได้ เมื่อก่อนยังมาได้เลย”
เพราะถ้ามึงมา กูก็จะทำอะไรบ้าๆ แบบที่ทำไปเมื่อกี้ไง
“ไม่ได้ก็คือไม่ได้ อย่าเซ้าซี้น่า มันน่ารำคาญ”
“ขอโทษ”
ผมไม่อยากมองหน้าเศร้าๆ ของมัน เลยลุกมาหากางเกงใส่ ก่อนจะหาผ้าขนหนูเอาไปชุบน้ำมาเช็ดหน้าให้มัน
หน้าไม่เลอะแล้วก็จริง แต่คงได้กลิ่นคาวอยู่ล่ะครับ -_-
แต่ไม่ง่ายเลยจริงๆ นะ กับการที่ต้องมาจ้องตากับมีในระยะประชิดอย่างนี้ มีที่อยู่บนตักผมหน้าแดงนิดๆ แต่ก็อยู่นิ่งๆ ปล่อยให้ผมเช็ดหน้าให้ มันไม่ได้แปลกใจอะไรเพราะเวลามันตื่นผมก็ทำอย่างนี้ให้อยู่แล้วเป็นเรื่องปกติ คงไม่รู้ถึงขนาดว่าผมตั้งใจเช็ดอะไรออกไปหรอก
“อื้ออออ เจ็บ” เพราะผมเผลอเช็ดปากมันแรงไป ถึงได้โดนทุบอกประท้วง แต่ถ้าไม่เช็ดแรงๆ ผมจะอดใจไม่ก้มลงจูบมันไหวได้ยังไง
“เตเต้ หน้ามีจะถลอกหมดแล้ว โกรธอะไรนักหนา”
“อยู่นิ่งๆ”
“ทำไมต้องดุตลอด มีน่ารำคาญมากเหรอ”
“เออ น่ารำคาญ”
“ขอโทษที่ทำให้รำคาญ”
“รู้ตัวแล้วทำไมยังมาวุ่นวายกับกู”
“ก็มีอยากอยู่กับเตเต้”
“ไม่...” ผมเห็นสายตาของมันแล้วก็หยุดพูดไปซะอย่างนั้น...
ทำไม...ถึงไม่เข้าใจว่าผมกำลังอดทนกับอะไร
พ่อแม่พวกเราจะคิดยังไง...ถ้าวันหนึ่งผมบอกพวกท่านว่าอยากคบกับมี
มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว...เพราะอย่างนั้นผมถึงต้องใจร้ายกับมัน
“เตเต้รักคนอื่นแล้วเหรอ ถึงได้ไม่อยากให้มีอยู่ข้างๆ”
“....”
“นาวใช่มั้ย”
“เลิกไปแล้ว...”
“งั้นใคร...”
“พอแล้ว! นี่มันเรื่องส่วนตัว”
“ขอโทษ”
ทำไมมีต้องเอาแต่ขอโทษผม คำขอโทษของมันทำให้ผมรู้สึกผิดทุกครั้ง ทั้งๆ ที่มันนั่นแหละผิด มันผิดที่ทำให้ผม...รักมันมากขนาดนี้
“มี อยู่นิ่งๆ”
ด้วยเพราะผมใส่แต่บ๊อกเซอร์ พอโดนเสียดสีจากคนบนตักเข้าหน่อยก็เริ่มรู้สึก แถมไอ้ตัวดีมันก็ไม่ยอมนั่งนิ่งเลย
“เตเต้บอกมาสิว่าไม่อยากให้มีอยู่ข้างๆ ไม่อยากเห็นหน้ากันอีก แล้วมีจะไม่มากวนเตเต้อีกเลย” เป็นครั้งแรกที่มีพูดกับผมอย่างนี้ มีเป็นคนพูดจริงทำจริงมาแต่ไหนแต่ไร แล้วแค่ผมพูดออกไป ทุกอย่างก็จะจบ
แค่ผมพูดออกไป...มีก็จะไม่มาหาผมอีก ก็แค่...
“รู้ตัวมั้ยว่ากำลังทำอะไร” ผมเลือกที่จะไม่ตอบ..
“รู้”
“ลุกออกไป”
“ไม่ จนกว่าเตเต้จะพูดอะไรให้มันชัดเจนซะที”
มีเอาขาเกี่ยวกับเอวผมไว้แน่น แขนก็โอบรัดตัวผมไว้ไม่ยอมห่าง ผมผลักมันออกแรงๆ ไม่ได้เพราะไม่อยากทำให้อีกฝ่ายเจ็บ แต่ผมก็จะแย่เหมือนกันถ้าขืนมันยังทำอย่างนี้
“มี อย่าดื้อกับเต้นะ ลุกออกไป”
“มีรู้นะว่าเตเต้ทำอะไร...มีตื่นตั้งนานแล้ว”
ผมนิ่งไปพักใหญ่ เลยเป็นโอกาสให้มีเริ่มทำบ้าๆ เหมือนเด็กที่ยังไม่ประสา แต่ไม่รู้ทำไมปลุกอารมณ์ผมได้ดีทีเดียว
“ให้มีทำให้นะ...”
“ไม่...พอแล้วมี...เราเป็นเพื่อนกัน จำไม่ได้...”
“จำได้ แต่ไม่อยากเป็น เตเต้ก็ไม่อยากเป็นไม่ใช่เหรอ ไม่งั้นคงไม่ทำอย่างนั้นกับมี”
“ก็แค่...”
“ไม่อยากฟังข้ออ้าง...มีรู้สึกยังไงเตเต้ก็รู้ ทำไมถึงไม่ยอมรับซะที”
แล้วทำไมถึงไม่ยอมเข้าใจว่าผมทำไปเพราะอะไร มันจะเป็นยังไงถ้าเราคบกัน พ่อกับแม่จะผิดหวังแค่ไหนที่เราสองคนลงเอยอย่างนี้ ผมไม่อยากเห็นมีต้องร้องไห้เพราะเรื่องของเรา ไม่อยากเห็นมีต้องเจ็บปวดกับความรักที่ไม่มีใครยอมรับ...
“เตเต้ มีรัก...อื้ออออออออออ”
ถ้าผมได้ยินคำว่ารักจากมัน ความอดทนของผมคงหมดลงแน่ แต่ผมคิดถูกมั้ยวะที่ปิดปากมันด้วยวิธีนี้
จินตนาการว่าได้จูบมีเป็นพันๆ ครั้ง ยังไม่รู้สึกดีเท่ากับการที่ผมได้จูบมีจริงๆ ....ความรู้สึกท่วมท้นในใจนี่มันคืออะไร...
“ตะ..เต้ อื้อออออออ หะ..หายใจไม่ทัน อื้ออออออ เตเต้ หยุดก่อน”
แค่เห็นแก้มแดงๆ ของมีผมก็อดใจแทบไม่ไหว น้ำใสๆ ที่ไหลออกจากมุมปากผมก็ก้มลงไปดูดซับจนหมด มีทุบอกผมประท้วงเบาๆ แต่ก็ไม่ได้ผลักออก
“ห่วย” ผมบอกเบาๆ ก่อนจะเริ่มจูบมีอีกครั้ง เนิ่นนาน ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ก็ยังรู้สึกว่ามันไม่พอ
“หึ แค่นี้ก็ไม่ไหว” ผมยกมือขึ้นลูบหัวมันคนที่ปากเจ่อแก้มแดงเบาๆ มันก็ถูจมูกลงกับหน้าอกผม ก่อนจะครางรับยังไม่พอใจ
“เด็กอย่างมึงเอาแค่นี้ไปก่อน คิดจะทำให้กูยังเร็วไป”
“ปากเจ่อเลย”
“สมน้ำหน้า แล้วมือน่ะอยู่นิ่งๆ รู้มั้ยว่ากำลังจับอะไร”
มีไม่ตอบ แต่แก้มแดงซะจนผมต้องก้มลงไปกัด
“มี อยากให้กูโกรธจริงๆ ใช่มั้ย”
“ก็อยากทำให้”
“ไม่ต้อง กูจัดการเองได้ ลงไปรอข้างล่างไป”
“แต่...”
“ไม่มีแต่ ลงไปรอข้างล่าง เดี๋ยวกูตามลงไป”
ผมจูบหน้าผากมันไปหนึ่งที มีถึงว่าง่าย ก่อนจะฉวยโอกาสหอมแก้มผมแล้ววิ่งออกจากห้องไป
เฮ้อ...เกือบไปแล้ว
กว่าผมจะจัดการธุระตัวเองเสร็จก็นานอยู่เหมือนกัน เพราะเพิ่งจูบกับมีมาหมาดๆ เลยทำให้จินตนาการของผมไม่หยุดสักที น้องชายก็เลยไม่ยอมหยุดตามไปด้วย ออกจากห้องน้ำได้ก็แขนแทบล้าแล้ว
“เตเต้ ทำไมนานจัง มีหิวข้าว”
ยังมาถาม เพราะมึงนั่นแหละ เพราะมึงงงง -_-
“เตยก็หิว รอพี่เต้คนเดียวเลยเนี่ยยยย พี่มีจ๋า เตยอยากกินราดหน้าอ่ะ เราทำกินกันมั้ย”
“ไอเดียดี งั้นไปตลาดกัน เตเต้ ขับรถให้ด้วย”
“ครับๆ ตามนั้นครับพวกคุณ”
ยังไงซะ สำหรับผมแล้ว...การไม่มีมันอยู่ในชีวิต ก็เป็นเรื่องที่เจ็บปวดใจมากกว่า...
................................................To be continue..........................................
ห้ามงงนะห้ามงง ไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่องหลัก เอามาคั่นเฉยๆ
มาช้ามากๆ ขอโทษนะคะ ยังอยากอ่านเมลเท็นอยู่มั้ยคะขาประจำทั้งหลาย แหะๆ ยังมีอีกหลายมุมของเท็นที่ท่านผู้อ่านยังไม่รู้จัก มีอีกหลายมุมของเมลที่จะทำให้ทุกคนหลงรักแบบโงหัวไม่ขึ้น (จริงเหรอ?)
วันนี้มาแค่นี้ วันอาจจะมานะคะ ถ้าปั่นทัน เดือนนี้วุ่นๆ ค่ะ ใกล้สิ้นปี แหะๆ
รักและคิดถึง

ขอบคุณสำหรับทุกๆ ความคิดเห็นนะคะ 
ยินดีต้อนรับนักอ่านหน้าใหม่ (หวังว่าจะมี 555) 