จะขอเก็บไว้ในความทรงจำ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: จะขอเก็บไว้ในความทรงจำ  (อ่าน 136483 ครั้ง)

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
ว้ายๆๆๆๆ  ถามด่วน  มีรูปตอนนั้นป่าวคะ  ขอดูๆๆๆ

 :o8:  :o8:
จะดูรูป ตั้ม หรือรูปสามหนุ่มกันแน่...รู้ทันนะ  :o9:
:m16: :m16: ปอเอ๋ยเพิ่งคิดได้แงะ
เดี๋ยวปอจะมาบอกครับว่า ทำไมถึงได้ไม่ยอมบอกซะที  :-[

:m16: :serius2: :serius2: ตั้มทำไมทำงี้ล่ะ  ไม่ดีเลยน้า 55
หง่ะ ตั้ม ทำอะไรเหรอ  :sad3:

:serius2: :serius2:อ๊า!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!ตั้มอย่าเป็นอะไรน้า!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
ไอ้ไมค์ แกนะแก :angry2: :angry2:
ย๊ากกกกกกกกกกกกก :เตะ1: :เตะ1: :เตะ1:
:serius2:
 :m31:
ทำไมไอ้พวกขี้แกล้งมันไม่สูญพันธ์ไปซักทีวะเนี่ย   o12
ไอ้ไมค์   :angry2: ไอ้สาดดดดดด
เอ้อ...ไม่มีใครว่าอะไร ปอ  มั่้งเหรอครับ  :confuse:

YO DEA

  • บุคคลทั่วไป

 :oni2:
:m4:

ขอผมจิ้มๆๆๆ


อิอิ

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
๔๗ ตัวซวย

“ตั้ม เป็นไงมั่งวะ” เสียง ปอ ดังขึ้นข้างหูเมื่อ ตั้ม ค่อยลืมตาขึ้น แล้วพยายามยันตัวลุกขึ้นนั่ง
“................” ตั้ม ไม่ตอบอะไร แต่เอามือกุมขมับในขณะที่ ปอ ช่วยพยุงตัวให้ลุกขึ้นนั่ง มีอีกคนเอื้อมมือมาช่วยพยุงไว้อีกข้างหนึ่ง
“เป็นไงมั่งวะ” ตั้ม มองไปตามเสียงก็เป็น ปอ มองด้วยสายตาเป็นห่วง ก็เลยยิ้มน้อยๆให้ โดยที่ไม่ได้สังเกตว่า ปอ เหลือบสายตามองไปอีกด้านหนึ่งของเตียง แล้วกลับมามองที่ ตั้ม อีกครั้ง
“ปวดหัวอะ แล้วนี่ที่ไหน” ตั้ม ถามไปเพราะรู้สึกว่า ตัวเองนั่งอยู่บนเตียงในห้องที่ไม่ใช่ห้องเรียน
“ห้องพยาบาล ปวดหัวมากมั๊ยวะ” ปอ ตอบ แล้วถามอาการด้วยความเป็นห่วง
“แล้วทำไม ปอ มาอยู่นี่ ไม่ไปเรียน” ตั้ม ถามด้วยความสงสัย หลังจากที่เงียบไปซักพัก
“หมดคาบสุดท้ายไปแล้ว เอ็งสลบไปนานเลยนะเว๊ย ไม่เป็นไรนะ” ปอ บอก
“แล้วทำไม ปอ ไม่รีบกลับบ้าน ต้องไปช่วยงานที่บ้านไม่ใช่เหรอ” ตั้ม ถามอีก
“ไม่เป็นไร กลับช้าหน่อย ดูเอ็งก่อนดีกว่าว่าเป็นอะไรมากรึเปล่า” ปอ ตอบไป ....ดูมัน ยังมีหน้ามาห่วงกูอีก
“แล้ว ไมค์ ล่ะ ปอ อย่าทะเลาะกับ ไมค์ เลยนะ ไงก็เพื่อนกันอะ” ตั้ม บอก ปอ ด้วยสายตาอ้อนวอน
“เออ ไม่ทะเลาะกันแล้ว แล้วนี่เจ็บรึเปล่า โดนชกไปน่ะ” ปอ จับหน้า ตั้ม  เอียงไปมา “แล้วนี่ดูแขนขาเอ็งดิ๊ เป็นตุ่มเล็กๆต็มไปหมด คันรึเปล่าวะ” ปอ พูดแล้วลูบแขน ตั้ม เบาๆ
“ว๊า....พูดขึ้นมาแล้วคันเลยอะ” ตั้ม ขมวดคิ้ว “แต่ ครูอร บอกว่า อย่าเกา เดี๋ยวยิ่งเป็นมาก”
“ตั้ม ไม่โกรธเหรอวะ โดนหมามุ่ยเนี่ย” ปอ ถามเบาๆ
“ช่างเหอะ” ตั้มยิ้มบางๆ “เพื่อนคงล้อเล่นน่ะ คันแค่นี้เอง ทายาอีก เดี๋ยวก็หาย”
“ตั้ม..เอ้อ เรา...เราขอโทษ” เสียงดังมาจากอีกด้านหนึ่งของเตียง ตั้มหันไปก็เห็น ไมค์ นั่งมองมาด้วยความเสียใจ
“อ้าว ไมค์ เราขอโทษนะ ปอ มีเรื่องกับนายเพราะเราแท้ๆเลย” ตั้ม พูดด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความเสียใจ ไมค์ เห็นแล้วก็ยิ่งละอายใจในสิ่งที่เขาทำลงไป

“ฟื้นแล้วเหรอจ๊ะ ศิลปี เป็นไงมั่ง” ครูอร เดินเข้ามาในห้องพักครู พร้อมกับ วัฒน์ และ หมู
“ปวดหัวนิดหน่อยค๊าบ ครู” ตั้ม ตอบเบาๆ
“งั้นนอนพักต่อก่อนก็ได้จ๊ะ หรือไม่ก็นั่งพักไปก่อน เดี๋ยวซักพักพี่ชายจะมารับนะ ครูโทรฯติดต่อไปแล้วเมื่อตอนบ่าย” ครูอร พูดด้วยสายตาห่วงใย “เดี๋ยวครูไปรอพี่เธอที่ห้องพักครูก่อนนะ อีกซักพักคงมาแล้ว” แล้วครูอรก็เดินออกจากห้องพยาบาลไป ตั้มเหลือบมองนาฬิกา แต่ก็มองไม่ค่อยชัดว่ากี่โมงกันแน่
“กี่โมงแล้วอะ” ตั้ม ถามออกไป
“จะสี่โมงแล้ว ศิลปี นอนพักอีกหน่อยมั๊ย” วัฒน์บอกพลางเดินมานั่งลงบริเวณหัวเตียง ส่วนหมูนั่งลงไปตรงปลายเตียง
“ไม่อะ” ตั้ม ตอบแล้วหันไปทาง ปอ “ปอ กลับก่อนดีกว่ามังอะ เราไม่เป็นไรแล้ว”
“อยากให้กูกลับมากนักเหรอวะ” ปอ พูดด้วยความน้อยใจ
“ก็ ปอ ไม่เคยกลับบ้านผิดเวลา นี่จะสี่โมงอยู่แล้ว ที่บ้านจะว่าไงอะ” ตั้ม บอกด้วยสีหน้าเป็นห่วง
“งั้นกูกลับก่อนก็ได้” ปอ พูดน้ำเสียงดีขึ้น พร้อมกับยิ้มแป้น พลางหยิบเป้ที่วางอยู่บนพื้นมาสะพาย .... ที่แท้มึงห่วงกู ชื่นใจฉิบหายเลย
“พรุ่งนี้เจอกันนะ ลูกหมาน้อยของกู” ปอ พูดแล้วก็เอามือขยี้ปอยผมด้านหน้าของ ตั้ม เบาๆด้วยความรักและเอ็นดู ตั้ม ก็ได้แต่ยิ้มให้
“เรากลับด้วยนะ เอ้อ....หายไวไวนะ ตั้ม” ไมค์พูด ตั้ม หันไปยิ้มให้ แล้ว ไมค์ก็เดินออกไปพร้อมกับปอ

“ตั้ม เป็นอะไรอะ” หมู ถามเสียงตื่นๆเมื่อเห็น ตั้ม มีน้ำตาไหลออกมา
“ศิลปี เป็นอะไร ร้องไห้ทำไม เจ็บตรงไหน” วัฒน์ ถามด้วยความตกใจไม่แพ้กัน และยิ่งตกใจยิ่งขึ้น เมื่อเห็น ตั้มก้มหน้าปิดตา เม้มฝีปากแน่น ไหล่สะท้านไม่หยุด เพราะพยายามกลั้นน้ำตาและเสียงสะอื้นเอาไว้

...เอาอีกแล้ว ทำไมเป็นแบบนี้ สงสัย ตั้ม เป็นตัวซวยจริงๆ อยู่บ้าน ก็เป็นต้นเหตุให้พ่อกับแม่ทะเลาะกันจนแยกกันอยู่ พอมาโรงเรียน ก็เป็นต้นเหตุให้เพื่อนทะเลาะกันอีก ตั้ม มันตัวซวย...

YO DEA

  • บุคคลทั่วไป
^
|
|
|
|

จิ้มอีกๆๆ


อิอิ

 :m1:

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
อึ้งไปกับความคิดของตั้ม....เฮ้อ

ออฟไลน์ AidinEiEi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 776
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1
อึ้ง เหมือนกับรีบนเลยอ่ะ

เอ้อ...ไม่มีใครว่าอะไร ปอ  มั่้งเหรอครับ  :confuse:
[/quote]
ก็ปอไม่ใช่ต้นเหตุของเรื่องนี่คะ
ทีทำไปก็เพราะ รัก ตั้ม นิ :o8:

salapaw

  • บุคคลทั่วไป
  น้องตั้มถ้ายังคิดอย่างงี้อีก พี่ว่านะ ต้องเป็นบ้าสักวันแน่ๆๆ55555555 :เฮ้อ:

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
ความคิด มันต้องมีสาเหตุ มีที่มา กำลังคิดอยู่ครับ ว่าจะเขียนถึงที่มาของคำว่า "ตัวซวย" นี้ดีหรือไม่ เพราะมันเกี่ยวพันกับอะไรที่วุ่นวายพอควร เอาเป็นว่า อ่านเรืองของ ปอ กันบ้างดีกว่านะครับ  :amen:

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
๔๘ ไม่กล้าบอก

“มึงเป็นอะไรของมึงวะ ขึ้นมาหาพวกกูถึงห้องแล้ว เสือกเอาแต่นั่งเงียบ” สิทธิ์ ถามพลางสงสัยในท่าทางของ ปอ ว่าทำไมเอาแต่นั่งขมวดคิ้ว ไม่ยอมพูดจา
“ไปทำอะไรไอ้ลูกหมามันอีกแล้วเหรอไงวะ” ชัย ถามยิ้มๆ ปอ เงยหน้าขึ้นมามองด้วยความตกใจ
“มึงรู้ได้ไงวะ” ปอ ถามด้วยความสงสัย
“ฮ่าๆๆ ที่แท้ไปมีเรื่องกับไอ้ลูกหมานี่เอง มิน่าเป็นหมาหงอยเลยนะมึง” สิทธิ์ พูดแล้วก็หัวเราะใหญ่
“กูกลุ้มจะตายห่าอยู่แล้ว มึงยังหัวเราะอีก” ปอ พูดอย่างอารมณ์เสีย
“ตกลงคราวนี้มึงไปทำอะไรเข้าอีกวะ หรือมีหมาตัวไหนจะมาคาบลูกหมามึงไปแดก” ชัย พูดกลั้วหัวเราะ

แล้วปอก็เล่าเรื่องที่เกิดขี้นเมื่อวานนี้ให้ทั้งสองคนฟังอย่างละเอียด ไม่เว้นแม้แต่เรื่องที่ ไมค์ พูดขอโทษก่อนที่จะแยกกันกลับบ้าน
“วันนี้มันไม่มาโรงเรียน กูเป็นห่วงหว่ะ”
“ไอ้เชี่ย ปอ มึงก่อเรื่องกับน้องกูไม่หยุดเลยนะมึง” ชัย เผลอพูดด้วยความโมโห
“อ้าว มันเป็นน้องมึงตั้งแต่เมื่อไหร่วะ” สิทธิ์ ถาม งงๆ
“พอแล้วมึง เลิกเก๊กกันได้แล้ว หรือมึงไม่ได้คิดว่าไอ้ตั้ม เป็นน้อง” ชัย พูดเลี่ยงไป “ไหนๆกูก็พูดแล้ว มาเปิดอกพูดกันเลยดีกว่าหว่ะ ว่าอะไรเป็นอะไร” ชัยพูดเป็นงานเป็นการ “กูน่ะทั้งรักทั้งห่วงมันนะเว๊ย มันน่ะน้องคนเล็กของกู กูคิดของกูแบบนี้ มึงว่ามา” ชัย หันไปถาม สิทธิ์
“กูเหรอ บอกไม่ถูกหว่ะ ว่าไปมันก็น่ารักดี แต่กูไม่ได้คิดมากขนาดมึง แค่เพื่อนที่อายุน้อยกว่า แล้วก็ไม่ค่อยสนิทกันมั๊ง” สิทธิ์ พูดห้วนๆ
“แล้วมึงอย่ามาเปลี่ยนที่หลังนะ กูจะหัวเราะให้ฟันหักเลย” ชัย ว่า แล้วก็หันหน้าไปทาง ปอ “มึงก็อีกคน รู้สึกยังไงทำไมไม่บอกมันไปซะทีวะ เดี๋ยวก็โดนคาบไปแดกหรอก”
“กู...กูไม่กล้าหว่ะ” ปอ พูดขลาดๆ “เมื่อก่อนกูไม่กล้า เพราะกูรู้สึกว่าด้อยกว่ามัน กูรู้สึกว่า กูควรจะเก่งกว่ามัน ควรจะเข้มแข็งกว่ามัน และควรเป็นกูที่ปกป้องมัน” ปอ หยุดพูดนิดหนึ่ง แล้วถอนหายใจยาว “แต่ที่ผ่านมา มันเรียนเก่งกว่ากู ท่าทางมันเหมือนไร้เดียงสา แต่กูกลับรู้สึกว่ามันเข้มแข็งกว่ากูซะอีก ที่สำคัญ มันปกป้องกูตั้งหลายครั้ง กูละอายหว่ะที่จะไปบอกมัน ว่ากูรักมัน แต่กูทำอะไรให้มันไม่ได้ซักอย่าง มีแต่ทำให้มันเจ็บตัว”
“มึงคิดมากหว่ะ” ชัย พูดแล้วเอามือวางบนไหล่ ปอ พลางบีบเบาๆเป็นการปลอบใจ และให้กำลังใจไปด้วยในตัว
“ตอนนี้กูยิ่งไม่กล้า เพราะกูรู้ มันชอบคนอื่นอยู่ มันอาจจะยังไม่รู้ตัว แต่กูรู้”  ปอ พูดด้วยสีหน้าเศร้าๆ
“แล้วมึงจะยอมแพ้เหรอวะ” สิทธิ์ ถาม “มึงพยายามมาจนขนาดนี้แล้วนะเว๊ย ตอนนี้มันไม่รู้ตัว ทำไมมึงไม่พยายามทำให้มันชอบมึงแทนก่อนที่มันจะรู้ตัวล่ะวะ”
“นั่นดิวะ ตั้ม มันไม่ได้ต้องการคนที่เก่งกว่ามันหรอก มันต้องการคนที่ให้ความอบอุ่นมันได้ตะหาก มึงอาจจะรู้สึกว่ามันเข้มแข็ง แต่จริงๆน่ะ มันบอบบางกว่าที่มึงคิดเยอะ” ชัย พูดแล้วก็คิดถึงร่างของเด็กชายตัวบางๆ ที่นั่งร้องไห้อยู่หน้าโลงศพในคราวนั้น
“มึงพูดเหมือนมึงรู้ดี” ปอ หันมามอง ชัย ด้วยสีหน้าสงสัย “แต่ตอนนี้กูห่วงมันหว่ะ หยุดเรียนไปเป็นอะไรมากรึเปล่าก็ไม่รู้”
“ไม่เป็นไรมั๊งวะ คราวก่อนที่มันหยุดเรียน ก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก มันแค่ต้องการเวลาพักฟื้นมากกว่าคนอื่นเท่านั้นเอง” สิทธิ์ พูดให้กำลังใจ “คราวนี้คงเหมือนกันแหละวะ โดนไปหลายอย่างนี่ คงต้องพักผ่อนมากหน่อย กูว่า มึงลองถาม ครูอร ดูสิวะ ว่าทางบ้านมันติดต่อมาทางโรงเรียนบ้างหรือเปล่า” สิทธิ์ เสนอความเห็น
“เออ จริงสิ มึงบอกว่าคนที่ชื่อ วัฒน์ กับ หมู อยู่กับมันเมื่อวานไม่ใช่เหรอ ทำไมไม่ลองถามสองคนนั้นด้วยล่ะวะ” ชัย พูดอย่างนึกขึ้นได้
“เออ จริงด้วยหว่ะ ทำไมกูไม่ทันคิดว่ะ งั้นกูรีบไปถามพวกนั้นดูก่อน” ปอ พูดจบก็วิ่งออกไปจากห้องของ ชัย กับ สิทธิ์ ทั้งสองคนหันมามองหน้ากันพลางส่ายหน้าด้วยความระอาใจ
..........................................................................................
................................................

“วัฒน์.....วัฒน์” ปอ เดินเข้าไปในกลุ่มที่กำลังคุยกันอยู่ แล้วเรียก
“มีอะไรเหรอ ปอ” วัฒน์ หันมายิ้มให้
“เอ้อ” ปอ รู้สึกไม่ค่อยดีกับสายตา นึก และ โอ ที่มองมาอย่างโกรธๆ “นายรู้รึเปล่า ทำไม ตั้ม ไม่มาโรงเรียน” ปอ ตัดสินใจถาม
“อ้าว” วัฒน์ ทำหน้า งงๆ พลางหันไปมองหน้า หมู โอ โย่ง ดมและนึก ทีละคน แต่ละคนทำหน้าแหมือนไม่รู้ไม่ชี้  “นี่ไม่มีใครบอก ปอ เหรอ” วัฒน์ ถามเพื่อนๆ
“บอกทำไม” นึก พูดห้วนๆ ปอ ได้ยินก็ทำหน้า งงๆ
“ปอ วันนี้ ศิลปี ไปหาหมอ แล้วก็ต้องไปตัดแว่นใหม่ที่โรงพยาบาล” วัฒน์ บอกพลาง ยิ้มให้ “พี่ชาย ศิลปี บอก ครูอร ไว้ตั้งแต่เมื่อวาน มีจดหมายลาล่วงหน้า แนบอยู่ในสมุดประจำชั้นแน่ะ”
“อ้าว เหรอวะ”...มิน่า ไม่มีครูถามถึงมันซักคน.. ปอ คิดแล้วถามไปอีก “แล้วเมื่อวานมันเป็นอะไรมากรึเปล่าวะ”
“ยังมีหน้ามาถามอีกเหรอวะ นายเป็นคนชกมันเองนะ” นึก ตะคอกใส่
“กูไม่ได้ตั้งใจเว๊ย พวกมึงก็เห็น” ปอ ตะคอกกลับ
“ไม่เอาน่า นึก เมื่อวานมันอุบัติเหตุ ปอ ด้วยอย่ามีเรื่องกันเลย เดี๋ยว ตั้ม รู้เข้ามันจะคิดมาก” วัฒน์ ไกล่เกลี่ย

นั่นสิ เดี๋ยว ตั้ม มันจะคิดมาก เดี๋ยวมันจะเสียใจ เขานึกถึงที่ ราญ เคยเล่าให้เขาฟัง ว่า ตั้ม บอก ราญ ว่า...พี่ชายอย่าไปมีเรื่องกับใครเพราะ ตั้ม นะไม่ว่าใครเจ็บตัว ตั้ม ก็เจ็บด้วยนะ... แล้วยังเมื่อวานนี้อีก ที่ ตั้ม ห้ามเขาไว้ไม่ให้มีเรื่องกับ ไมค์ เขาจึงคิดว่า อย่ามีเรื่องกับ นึก เลยจะดีกว่า แต่ นึก ยังไม่ยอมหยุด

“นายน่ะมีแต่ทำให้ ตั้ม มันเจ็บตัวมาตั้งแต่สมัยเรียน ม.ต้น แล้ว” นึก พูดขึ้น ปอ หันมามองด้วยสีหน้าโกรธๆ สุดท้าย เหมือน ปอ จะพยายามระงับความโกรธไว้ แล้วก็เดินกลับไปนั่งที่โต๊ะของตัวเอง
“นึก เราว่านายพูดเกินไปนะ” หมู พูดอย่างไม่ค่อยพอใจ
“นั่นดิเราว่า ปอ มันยังจริงใจกับ ตั้ม อย่างน้อยเมื่อวานเราก็เห็นว่ามันห่วง ตั้ม มันจริงๆ มันไม่ได้คิดจะทำอะไรเพราะความสนุก มันยอมขาดเรียนไปนั่งเฝ้า ตั้งแต่คาบบ่ายจน ตั้ม มันฟื้น” โย่ง สนับสนุน
“พวกนายว่าเราเหรอไง” นึก ยิ่งโกรธมากขึ้น
“พอเหอะ เดี๋ยวจะทะเลาะกันเปล่าๆ มึงก็หึงจนหน้ามืดนะ ไอ้นึก” โอ พูดบ้าง
“กูหึงใคร” นึก หันมาตะคอกใส่ โอ
“เอ๊ะ มึงนี่ มาตะคอกกูทำไมวะ มึงจะหึงใคร ถ้าไม่ใช่หึงที่ ไอ้ปอ มันไป นั่งเฝ้า ไอ้ตั้ม อยู่เมื่อวานน่ะ”โอ พูดสีหน้าดุๆ
“กูไม่ได้หึงเว๊ย ไอ้ตั้ม มันไม่ได้เป็นอะไรกับกูซะหน่อย กูโกรธตะหากเว๊ยที่ ไอ้ตั้ม มันโดนชก” นึก เสียงอ่อนลง เมื่อรู้สึกตัวว่าเพื่อนๆเริ่มไม่พอใจ
“โกรธ ปอ มันก็ไม่ถูกนะ นึก เมื่อวานก็เห็นกันทุกคน ว่า ศิลปี เอาตัวไปบัง ไมค์ ไว้ ก็เลยโดนชกแทน” วัฒน์ พูดพลางยิ้มน้อยๆ เขาไม่สงสัยเลยว่าทำไม ตั้ม ถึงได้ทำแบบนั้น “ตั้ม มันไม่อยากให้เพื่อนๆทะเลาะกัน นายเองก็อย่าไปหาเรื่อง ปอ มันนัก เดี๋ยว ตั้ม มันจะลำบากใจ”
“ทำไมมันต้องลำบากใจวะ” นึก ถาม
“อ้าว ก็คนนึงเพื่อน อีกคนนึงแฟน เป็นมึง มึงจะเข้าข้างใครวะ” โอ พูดกลั้วหัวเราะ
“กูไม่ใชแฟนมันนะเว๊ย มึงพูดแบบนี้กูเสียหาย” นึก พูดเคืองๆ
“อ้าว นายจะเอายังไงแน่อะ นึก วันก่อนยังเห็นพูดอยู่ว่าถ้าได้ ตั้ม เป็นแฟนก็ดีไม่ใช่เหรอ” หมู ทำหน้าสงสัย
“นั่นเราพูดเล่น เราผู้ชายนะ จะไปเอาไอ้ตั้ม มันเป็นแฟนได้ยังไงวะ แค่คิดก็สยองแล้ว” นึก พูดพลางทำท่าเหมือนหวาดกลัวนักหนา



ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ AidinEiEi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 776
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1
 :serius2:ง่ามาต่อเลยนัชะ มาต่อเลย....

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
๔๙ โกหก

...นี่ก็วันที่ ๓ แล้วสิวะที่มันไม่มาเรียน... ปอ คิด ขณะที่กำลังเรียนอยู่ในคาบวิชาหลังพักเที่ยง
...ทำไมกูรู้สึกว่าห้องเรียนมันเงียบเหงาอย่างนี้วะ...ปอ มองโต๊ะที่ว่างเปล่าข้างๆ แล้วถอนหายใจยาว

“คุณครูค๊าบ ขออนุญาตเข้าห้องเรียนค๊าบ” เสียงใสๆดังขึ้นมาจากประตูหน้าของห้องเรียน ตั้ม กำลังยกมือไหว้ทำความเคารพครูอยู่หน้าประตู
“อ้าว ศิลปี เข้ามาสิจ๊ะ ทำไมมาเอาป่านนี้ล่ะ” ครูหันไปทักอย่างใจดี
“ไปรอรับแว่นที่โรงพยาบาลมาค๊าบ ขอโทษที่มาสายค๊าบครู” พูดจบ ตั้ม ก็ค่อยๆเดินมานั่งที่โต๊ะ
“ตั้ม เป็นไงมั่งวะ” ปอ มองตั้มอยู่ตลอดตั้งแต่ตรงประตูมาจนถึงโต๊ะ
“เดี๋ยวเล่าให้ฟังนะ ปอ ตอนนี้เรียนก่อน” ตั้ม หันไปยิ้มบางๆให้ ปอ แล้วหันหน้าไปสนใจกับการสอนของครู
... ทำไมมันยิ้มแปลกๆวะวันนี้ หรือกูคิดมากไปเอง ... ปอคิด แล้วก็พยายามตั้งใจฟังสิ่งที่ครูอธิบายอยู่หน้าชั้นต่อไป
.......................................................................................
............................................
“ตั้ม เป็นไงบ้าง หยุดไปตั้งหลายวัน” นัส ชะโงกหน้ามาถาม พล มองด้วยสายตาประหลาดใจที่ นัส พูดประโยคยาวๆได้
“ไม่เป็นอะไรหรอก หยุดไปเพราะต้องรอแว่นนี่แหละ” ตั้ม ตอบ พลางยิ้มบางๆให้ นัส กับ พล
“แค่รอแว่นเนี่ยนะ หยุดไปแบบนี้พวกกูเป็นห่วงนะเว๊ย” ปอ พูดบ้าง ไม่ว่าใครเห็นสีหน้าของ ปอ ตอนนี้ก็รู้ว่า ปอ ห่วง ตั้ม ขนาดไหน
“ขอบใจนะ ปอ” ตั้ม ยังคงยิ้มบางๆเหมือนเดิม ...ยิ้มแบบนี้ของมึงนี่กูไม่ชอบเลยหว่ะ มันดูอ่อนโยนก็จริง แต่ทำไมมึงไม่ยิ้มกว้างๆแบบที่เคยล่ะวะ... ปอ อุธรณ์ในใจ
“ที่บ้านอยากให้หยุดน่ะ เพราะวันแรกๆเรายังมึนหัวอยู่” ตั้ม บอกกับเพื่อนๆ
“แล้วนี่หายดีรึยัง” ไมค์ที่เดินเข้ามาตั้งแต่ตอนที่ นัส ถาม เอ่ยปากถามบ้าง
“อื้อ ดีขึ้นเยอะแล้วหล่ะ แต่ถ้าสะเทือนมากๆก็จะมึนหัวอยู่นิดหน่อย หมอบอกว่าจะเป็นแบบนี้ไปสักพักน่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก” ตั้ม แจกแจงอาการ ...หรือว่ามึงมึนหัวอีกแล้ววะ ถึงได้ยิ้มแห้งๆแบบนี้... ปอคิด
...แล้วนั้นมันรอยอะไรวะ เขียวๆจางๆตรงโหนกแก้มซ้าย... ปอ สังเกตุคิดแล้วก็อดไม่ได้ ที่จะเอามือไปลูบเบาๆที่รอยนั้น
“รอยช้ำน่ะ ปอ เป็นอะไรมากหรอก ทายาไม่กี่วันเดี๋ยวก็หาย” ตั้ม พูดเบาๆ “แผลที่ตัวน่ะอาจจะหายช้าหน่อย แต่ยังไงมันก็หาย รอยแผลเป็นอีกหน่อยมันก็จาง แต่แผลใจบางทีมันติดตัวไปไม่มีทางหายนะ ปอ”
... ผมฟังแล้วถึงกับสะดุ้งในใจ นี่มันจะบอกอะไรผมกันแน่ ...
“ปอ ต้องใจเย็นลงบ้างนะ มีอะไรอย่าคิดแต่จะมีเรื่อง โดยเฉพาะกับเพื่อนๆด้วยกัน ปอต้องใจเย็นให้มากๆนะ” ตั้ม พูดด้วยแววตาที่แสดงออกถึงความห่วงใย ทำให้ผมหันไปมอง ไมค์ โดยไม่รู้ตัว ตอนนั้น ไมค์ เองก็หันมามองผมเหมือนกัน
.......................................................................................
............................................
ปรกติ ตั้ม จะมาถึงโรงเรียนประมาณ ๖.๔๐ น. โดยประมาณ แต่หลังจากวันนั้น ตั้มจะมาถึงโรงเรียนทันเวลาเข้าแถวเคารพธงชาติพอดี บางวันก็มาถึงตอนเกือบหมดชั่วโมงโฮมรูม เป็นแบบนี้ไปจนวันสุดท้ายของการสอบปลายภาค คำตอบที่เพื่อนๆได้รับ เมื่อถามถึงเรื่องนี้ในช่วงแรกๆก็คือ
“พ่อสั่งให้ติดรถพ่อออกมาอะ ก็เลยมาสาย”
แต่ ปอ ดูออกว่าไม่จริง เพราะ สีหน้าและดวงตาของ ตั้ม ทอแววเสียใจออกมาอย่างปิดไม่มิด แม้แต่เพื่อนสนิทอย่าง ตุ่ม กับ เต่า ก็ได้รับคำตอบเช่นเดียวกัน ทำยังไงเขาถึงจะได้รู้ความจริง แล้วเขาก็นึกออก มีอยู่คนหนึ่งและอาจจะเป็นคนเดียวเท่านั้น ที่ ตั้ม จะยอมบอกความจริง
.......................................................................................
............................................
“เอ็งจะให้กูไปถามมันเหรอ แล้วทำไมมึงไม่ไปเองวะ” ชัย พูดอย่างใช้ความคิด
“เราไม่มีเวลา นายก็รู้ว่าเราเรียนหนักแค่ไหน นี่ถ้าบ้าน ตั้ม มีโทรศัพท์เราก็จัดการเองเรียบร้อยไปแล้ว” ราญ บอกไป สีหน้าแสดงออกถึงความกังวล “ไอ้ปอ นี่ก็เหลือเกิน ก่อเรื่องไม่หยุด แต่ก็น่าเห็นใจมัน”
“แล้วเอ็งว่ามันจะบอกความจริงกูเหรอวะ” ชัย ถาม
“นายไม่มั่นใจในความเป็นพี่ชายเหรอไงวะ ถ้าแค่นี้ทำไม่ได้ เลิกเป็นพี่ชายมันไปเลย” ราญ ท้าทาย
“อ้าว พูดแบบนี้ก็สวยดิวะ ถ้ากูทำได้มึงต้องให้กูเป็นพี่ใหญ่นะเว๊ย” ชัย พูดหัวเราะๆ
“ฮ่าๆๆ ไม่มีทาง ยังไงๆ เราก็เป็นพี่ใหญ่อยู่ดี ขนาดจะทำใจไปถามมันยังไม่มี ต้องให้เรายุ ยังคิดจะเป็นพี่ใหญ่อีกเหรอวะ” ราญ พูดยิ้มๆ
“เออๆๆ ยอมมึงก็ได้วะ ไอ้จอมวางแผน” แล้วทั้งสองคนก็หัวเราะให้กัน
.......................................................................................
...........................................

“กลัว พี่ชัย ไปบอกคนอื่นเหรอไง ถึงไม่ยอมบอกความจริง” ผมเริ่มคาดคั้นดุๆ
“ก็ ตั้ม บอกความจริงแล้วไง” ตั้มหลบสายตาผม
“ตั้ม” ผมพูดเบาๆ พลางเอามือลูบหัว ตั้ม เบาๆ “พี่ชัย ถามเพราะเป็นห่วงนะ แล้วเรื่องแค่นี้ทำไม พี่ชัย จะไม่รู้ว่า ตั้ม พูดจริงหรือไม่จริง พี่ชัย รู้ว่าตั้มทำแบบนี้ ตั้ม คงมีเหตุผล ถ้า ตั้ม ไม่บอกความจริงแล้ว พี่ชัย จะไปบอก ราญ มันว่ายังไง ราญ มันจะว่าเอาได้ว่า พี่ชัย ไม่ดูแลน้อง” ตั้ม ก้มหน้าเงีบบไป แต่จากสีหน้า ผมรู้ว่า ตั้ม กำลังคิดหนัก
“พี่ชัย อย่าไปบอกใครนะ” ตั้ม เงยหน้าขี้นมาพูด ... ต้องเอาชื่อมันมาอ้างจนได้ ถึงจะยอมพูด น่าโมโหหว่ะ แต่จะโมโหใครดีวะ ...
“ไม่ได้หรอก อย่างน้อย พี่ชัย ต้องไปบอก ราญ” ผมยิ้ม
“อื้อ ถ้าเป็น พี่ราญ ก็ไม่เป็นไร” ตั้ม หยุดพูดไปครู่หนึ่ง “ตั้ม ไปต้องหาหมอทุกวัน จนกว่าหมอจะบอกว่าไม่ต้องไปแล้ว”
“หาหมอทุกวันเนี่ยนะ ทำไม ตั้ม เป็นอะไร” ผมตกใจ
“หมอบอกว่า ตั้ม ยังมึนหัวอยู่เวลาที่กระเทือนมากๆ แล้วช่วงนี้ตาตั้มเบลอบ่อยๆ หมอก็เลยให้ให้ไปตรวจเพื่อดูอาการ” ตั้ม บอกด้วยสีหน้ากังวล “พี่ชัย อย่าบอกใครนะโดยเฉพาะ ปอ” ตั้ม ย้ำอีกครั้ง
“ทำไมล่ะ แต่เท่าที่ฟัง ตั้ม เป็นเยอะนะ” ผมเริ่มเป็นห่วง
“แต่หมอบอกว่า จะเป็นแบบนี้สักพักอะ เพราะตอนล้มคงกระทบกระเทือนมากไป คงนานเป็นเดือนกว่าจะหาย” ตั้ม พูดอย่างมั่นใจ
“ถ้าอย่างนั้นก็ควรบอกเพื่อนๆไป ทุกคนจะได้หายกังวล” ผมเสนอความเห็น
“จะดีเหรอ ถ้าบอกไปแล้ว ปอ กับ ไมค์ จะไม่คิดมากเหรอที่ ตั้ม ต้องไปหาหมอทุกวันแบบนี้” ...ที่แท้มันห่วงเรื่องนี้นี่เอง...ผมคิดแล้วยิ้มออกมาได้
“ดีสิ ตั้ม รู้มั๊ยทำแบบนี้ยิ่งทำให้ทุกคนเป็นห่วง” ตั้ม ฟังแล้วขมวดคิ้ว
“แล้วเพื่อนๆจะไม่โกรธเหรอ ที่ ตั้ม โกหก” ตั้ม พูดด้วยสีหน้าเหมือนตัวเองทำความผิด
“งั้นให้ พี่ชัย จัดการให้นะ แล้วที่หลังมีอะไรต้องมาปรึกษา พี่ชัย ห้ามลืมเด็ดขาดนะว่านอกจาก พี่ราญ ยังมีพี่ชายคนนี้อยู่อีกคน” ผมพูดแล้วบีบแก้ม ตั้ม เบาๆด้วยความเอ็นดู
.......................................................................................
...........................................
“ไอ้ตั้ม ทำไมมึงโกหกพวกกู” ปอ ถามขณะที่ชวนพรรคพวกล้อม ตั้ม เอาไว้ตรงกลาง
“เรื่องอะไรอะ ปอ” ตั้ม ตกใจ เพราะถูกเพื่อนๆ ๑๐ กว่าคนล้อมเอาไว้
“คราวหลังมีอะไรมึงต้องบอกพวกกูตรงๆ อย่าโกหกแบบนี้ ชัย มันบอกกูหมดแล้ว แล้วกูก็บอกพวกนี้ไปทั้งห้องแล้วด้วย” ปอ ยังทำเสียงดุไม่เลิก ... หนอยมาทำให้พวกกูเป็นห่วงซะขนาดนี้ พวกกูขอแกล้งมึงหน่อยเถอะ... เหมือนทุกคนจะคิดแบบเดียวกับ ปอ -*-
“เรา...เรา เอ้อ เราขอโทษนะ เรา...” ตั้ม ตะกุกตะกัก หน้าซีดด้วยความตกใจ
“ปอ พอเหอะ” นัสพูดยิ้มๆ “ไม่ได้โกรธนะ” นัส หันมาพูดกับ ตั้ม
“ไม่ได้ แบบนี้ต้องลงโทษ มาโกหกเพื่อนแบบนี้ได้ไง” ปอ ทำท่าเหมือนไม่ยอม
“เราเสนอได้มั๊ย” วัฒน์ เดินเข้ามา “หอมแก้ม ศิลปี มันคนละทีเป็นการลงโทษ”
“ฮ่าๆๆ”เพื่อนๆหัวเราะกันใหญ่ ทำให้ ตั้ม หายอึดอัดไปเยอะ
“เราก่อน” นัสยกมือ
“เฮ๊ย ไม่ต้อง พอแล้ว พอๆๆ” ปอ พูดเสียงดัง ... หนอย ไอ้วัฒน์ คิดอะไรเชี่ยๆวะ เรื่องอะไรกูจะยอม ...
“อ้าว ทำไมล่ะ ไหนว่าจะลงโทษไง” เชียร พูดยิ้มๆ “เราเห็นด้วยกับ วัฒน์ นะ”
“ไม่ต้องเลย ตั้ม มันต้องติวให้พวกกูเป็นการลงโทษ มาเลยเร็ว พวกกูอ่านหนังสือนอกเวลาไม่ทัน มึงมาเล่าให้พวกกูฟังเดี๋ยวนี้เลย” ปอ พูดแล้วก็จูงมือ ตั้ม ให้เดินไปที่โต๊ะ
“ปอ เราขอโทษนะ” ตั้ม พูดเบาๆหลังจากที่นั่งลงบนเก้าอี้
“คราวหลังจำไว้นะ อย่าทำแบบนี้ รู้มั๊ยพวกกูเป็นห่วง” ปอ พูดหน้าเครียดๆ
“อื้อ เราขอโทษ”ตั้ม ยังคงรู้สึกผิด
“อื้อ หายไวไวแล้วกันนะ แล้วนี่ไหวมั๊ย ถ้าไม่ไหวยังไม่ต้องติวพวกกูก็ได้ เดี๋ยวพวกกูอ่านเอง” ปอ ถามด้วยสีหน้าเป็นห่วง
“อื้อ พอไหว เดี๋ยวถ้าไม่ไหวแล้วจะบอก ไหนตรงไหนมั่ง” ตั้ม พูดแล้วก็หยิบหนังสือออกมา พล นัส และไมค์ ก็ลากเก้าอี้มานั่งใกล้ๆ แล้ว ตั้ม ก็เริ่มอธิบายเนื้อหาในหนังสือให้เพื่อนๆฟัง พร้อมกับรอยยิ้มกว้างที่เพื่อนๆไม่ค่อยได้เห็นนักในช่วงนี้


ออฟไลน์ AidinEiEi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 776
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1
ตั๊มมมมมมม!!!
ตั้มมมมมม!!!
มามะมาให้กอดทีดิ๊ :กอด1:

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
กำลังกลุ้มใจว่า ไม่มีใครตอบวิธีการลงเพลงจากเวป imeem เลย เพราะในช่วงท้ายๆจะมีเรื่องของเพลงเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
ก็เผอิญไปอ่านเจอทึ่คุณ TM*LS โพสไว้ในกระทู้ของเวปรักแห่งสยาม
พอกลับไปลองทำดูก็ใช้ได้จริงๆ ขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้นะครับ
และขอขอบคุณทุกกำลังใจเช่นเคยครับ  o1

salapaw

  • บุคคลทั่วไป
ยินดีด้วยนะคะ ที่ทำได้แล้ว  เผอิญไม่รู้เรื่องนี้เลย เลยไม่บอก

 :o8:

ว่าแต่  คนเขียน เป็นโรคคิดมากปะคะ

kongkilmania

  • บุคคลทั่วไป
ขอ  :กอด1: น้องตั้มด้วยคน....
 :L1:    :L1:     :L1:
น้องตั้มน่าร๊ากกกก ที่ซู๊ดดดดด   :m1:


อ้อ !  :m23:  เกือบลืม 
ไอ้นึกกกก  :angry2: หนอยแน่ๆๆ  ทำเป็นพูดดี
ทำเป็นกลัวว่าจะต้องมาเป็นแฟนน้องตั้มของเรา  ชิๆๆ
 o12 ชั้นจะคอยดูนะยะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-05-2008 12:33:46 โดย kongkilmania »

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
๕๐

“ศิลปี ทำอะไรน่ะ” วัฒน์ ค่อนข้างตกใจ ที่เห็น ตั้ม เอาฉลากที่จับได้ยัดใส่มือ หมู แล้วเอาฉลากของ หมู ไปถือไว้ พลางวิ่งไปหาครูที่โต๊ะ
“ครูค๊าบ ผมม่ายได้อะค๊าบ” ตั้ม ยื่นฉลากที่เปิดออกมาแล้วมีรูปกากะบาด ส่งให้ครู
“เสียใจด้วยนะครับ เดี๋ยวเธอไปเลือกวิชาอื่นแล้วกันนะ” ครูพูดยิ้มๆ “แล้วอย่าไปเลือกยูโดล่ะ ครูว่ามันอันตรายไปหน่อยสำหรับเธอนะ ศิลปี” ครูพูดกลั้วหัวเราะ เพราะคุ้นเคยกับนักเรียนที่เรียนมาตั้งแต่ชั้น ม.๑ คนนี้ดี
“ค๊าบบบ เดี๋ยวผมไปนั่งคิดแป๊บนึงก่อน ขอบคุณค๊าบคุณครู” ตั้ม ยกมือไหว้ครูแล้ววิ่งมาหาพวกผม
“ไปเซนต์ชื่อเร็วเข้า เดี๋ยวเราไปลงชื่อที่วิชาศิลปะตรงโน้นก่อน” ตั้ม พูดแล้วก็วิ่งไปยังโต๊ะที่รับนักเรียนที่ต้องการเรียนวิชาศิลปะ

วันนี้ เป็นวันที่ทางโรงเรียนนัดหมายนักเรียนที่จะขึ้นชั้น ม.๕ มาลงทะเบียนเลือกเรียนวิชาเลือกเสรี ซึ่งเป็นวิชาที่แยกย่อยออกมาวิชาหลักต่างๆ เหมือนกับจะให้นักเรียนได้เลือกเรียนในรายละเอียดของบางวิชา ได้ละเอียดมากยิ่งขึ้น ตามแต่ความถนัด และความสนใจของนักเรียนแต่ละคน  บางวิชามีนักเรียนต้องการเรียนกันเป็นจำนวยมาก จนต้องมีการจับฉลากกัน เหมือนอย่างวิชาเทนนิสที่พวกผมต้องการเรียน

“ตั้ม เอ้อ” หมู รู้สึกกระดากเล็กน้อย  “เอ้อ ขอบใจนะที่แลกฉลากกับเรา”
“ไม่เป็นไรหรอก” ตั้ม ยิ้มให้ “ก็หมูอยากเรียนจริงๆนี่นา แล้วเรามาคิดๆดู สายตาเราดีขนาดนี้ คงหวดลมมากว่าหวดลูกเทนนิส”
“แต่เมื่อกี้เรากลัวแทบแย่นะ ถ้าครูเห็นขึ้นมาจะทำยังไง” หมู พูดหน้าแดง
“นั่นสิ ตั้ม นี่กล้าน่าดูเลย” โย่งพูดหัวเราะๆ
“หูย... ความจริงเราก็กลัวนะ แต่เราว่าคงไม่เป็นไรอะ ก็เราแค่แลกฉลากกันนี่นา ไม่ได้โกงเปลี่ยนแปลงฉลากซะหน่อย” ตั้มพูดเบาๆ
“เราไม่รู้จะขอบใจนายยังไงดีนะนี่ ที่แลกฉลากกับเรา สิทธิ์ของนายแท้ๆเลย” หมู ยังพูดอย่างเกรงใจ
“งั้นเลี้ยงไอติมเราถ้วยนึงแล้วกัน” ตั้ม พูดหลังจากคิดอยู่สักครู่
“ได้เลย ๑๐ ถ้วยก็ยังได้” หมู หัวเราะ
“งั้นเรากิน ๑๐ ถ้วยเลยนะ” ตั้ม ตาโต
“อ่า...เอาจริงเหรอ แหะๆ ถ้วยเดียวก่อนแล้วกันนะ เดี๋ยวเราไม่มีค่ารถกลับบ้าน” หมู พูดหน้าแดงๆ
“ขืนกินขนาดนั้นเดี๋ยวก็ท้องเสียหรอก ศิลปี” วัฒน์ พูดยิ้มๆ
“กินยาเดี๋ยวก็หายแล้ว แค่ท้องเสีย เล็กน้อยจาตาย” แล้วทั้งสี่คนก็พากันหัวเราะ แล้วพากันชวนกันไปยังร้านขายไอศครีม ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆโรงเรียน โดยมี นึก โอ และดม เดินตามมาสมทบ
..................................................................................
....................................
ชั่วโมงโฮมรูมครั้งแรกในวันเปิดภาคเรียน ในห้อง ม.๕/๘ ก็วุ่นวายกันขนานใหญ่ นอกจากจะย้ายมาอยู่ในห้องเรียนบนชั้น ๔ ของตึก ๗ ชั้นแล้ว ครูอร ยังจัดให้นักเรียนนั่งตามแผนผังที่ครูจัดให้ ทุกคนจึงต้องทำการย้ายที่นั่งกันวุ่นวาย ผมถูกย้ายมานั่งริมขวาสุดของห้องติดกับหน้าต่าง โต๊ะที่ ๓ จากข้างหน้า คนที่นั่งโต๊ะคู่กับผม ชื่อ ญัฐ ซึ่งเป็นคนไม่ค่อยพูด แต่มักยิ้มแย้มแจ่มใสอยู่เสมอ

การย้ายห้องเรียนมายังตึก ๗ ชั้น ทำให้ผมเจอเพื่อนเก่าๆที่เรียนในสายวิทย์บ่อยขึ้น เพราะได้เรียนอยู่ตึกเดียวกัน แต่ห้องของสายวิทย์จะอยู่บนชั้น ๖ ชั้น ส่วนชั้น ๗  พวกเรากลับเรียกว่า ชั้นห้องทดลอง เพราะเป็นชั้นที่มีห้องปฏิบัติการสำหรับวิชาวิทยาศาสตร์ อยู่ถึง ๕ ห้องบนชั้นนี้ และเพราะห้องเรียนอยู่ใกล้กันมากขึ้น ผมจึงมักแวะเวียนไปยังห้องของ เต่า และ ชัย อยู่เสมอๆ ทำให้ความคุ้นเคยกับเพื่อนๆในห้อง ม.๕/๒ ที่ค่อนข้างคุ้นเคยกันมาตั้งแต่ตอนอยู่ ม.๓ สนิทกันมากขึ้น รวมทั้งเพื่อนๆในห้องอื่นที่เข้ามาทักทายทำความรู้จักกันมากขึ้น ทำให้ผมไม่ค่อยอยู่ที่ห้องของตัวเองนัก

“ตั้ม มานั่งกับ พี่ชัย นี่” ชัย กวักมือเรียกผมกับ ปอ ให้ไปนั่งด้วยกันที่โต๊ะยาว ในห้องเรียนวิชาศิลปะ ซึ่งเป็นวิชาเลือกเสรี
“พี่ชัย เรียนวิชานี้ด้วยเหรอ” ผมถามอย่างดีใจ เมื่อเห็นชัย ส่วน เชียร นึง โอ และดม ก็เริ่มหาที่นั่งให้กับตัวเอง
“ไอ้ตั้ม มึงเรียก ไอ้ชัยว่าไงนะ” ปอ หันมาถามผม
“พี่ชัย ไงวะ มึงไม่ได้ยินเหรอ” ชัย ตอบยิ้มๆให้ปอ “มึงก็เรียกกู พี่ชัย อีกคนได้รึยังวะ”
“ปอ ก็จะเป็นน้อง พี่ชัยเหรอ แล้ว ตั้ม ต้องเรียก ปอ ว่าไรอะ พี่ปอ หรือ น้องปอ” พูดจบผมก็หัวเราะคิกคักด้วยความชอบใจ
“ไม่ต้องเลยมึง แต่ถ้าอยากเรียกกู พี่ปอ กูก็ไม่ว่านะ” พูดแล้ว ปอ ก็ยักคิ้วใหผม  ...เรียกกูว่า พี่ปอที่รัก ยิ่งดี ฮ่าๆๆ... ปอคิดอยู่ในใจ
“แบร่ เรื่องไร” ผมแลบลิ้นใส่ ปอ ที่กำลังยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
ก่อนที่เราจะคุยอะไรกันต่อ ครูก็เดินเข้ามาในห้องพอดี
“เอ้าเงียบๆกันได้แล้ว ลิงๆทั้งหลาย” ครูพูดอย่างอารมณ์ดี “ชั่วโมงแรกครูอยากรู้ระดับฝีมือพวกเธอกันก่อน เดี๋ยวครูจะแจกกระดาษวาดเขียนคนละแผ่นนะ วาดรูปอะไรก็ได้ ให้เวลา ๑๕ นาที เสร็จแล้วเราจะเรียนทฤษฎีกันต่อ”

ครูพูดจบก็ส่งกระดาษวาดเขียนปึกหนึ่งให้คนที่อยู่หน้าสุด แล้วก็ส่งต่อๆกันมา พวกเราใช้เวลา ๑๕ นาทีวาดรูปที่ตนพอใจส่งครู ผมวาดรูปอะไรน่ะเหรอครับ ผมวาดรูปต้นไม้ครับ รูปที่ผมคุ้นเคยเพราะใช้ฝึกฝีมือบ่อยๆ ตอนที่ วินท์ สอนผมวาดภาพเมื่อตอน ม.๓
..................................................................................
....................................
ชีวิตนักเรียนชั้น ม.๕/๘ ก็ไม่ค่อยมีอะไรเปลี่ยนแปลง การย้ายที่นั่ง ที่ ครูอร จัดให้ มีผลเฉพาะในคาบเรียนเท่านั้น นอกนั้น ต่างคนก็พากันเดินไปจับกลุ่มพูดคุย หยอกล้อ กับกลุ่มที่ตนสนิทสนม ส่วนคนที่ผมต้องมานั่งติว ให้ยืมหนังสือ หรือสมุดจดงานวิชาต่างๆ กลายมาเป็น ณัฐ แทน ส่วน พล กับ นัส ยังเหมือนเดิม เพรานั่งอยู่โต๊ะข้างหลังผมเอง -*-

ส่วน นึก ยังคงเข้ามาหยอกล้อกับผมเสมอ ถึงจะน้อยลงบ้าง เพราะที่โต๊ะที่ผมนั่ง เหมือนเป็นจุดอับ ทำให้เข้าถึงตัวได้ยาก แต่ด้วยความที่ยังคงนั่งอยู่ ถัดไปจาก ญัฐ เพียงสองตัวทางด้านหน้า นึก จึงมักหันมายิ้มให้ผม ด้วยแววตาประหลาดๆ ที่ทำให้ผมรู้สึกไม่ค่อยสบายใจได้บ่อยครั้ง

การสอบกลางภาคผ่านไป พร้อมกับความตื่นเต้น เพราะทางโรงเรียนจะจัดให้มีการเข้าค่ายวิชาศิลปะที่ชะอำ เป็นเวลา ๓ วัน ๒ คืน และต้องทำงานส่งสำหรับวิชาศิลปะด้วย นั่นคือการวาดภาพตามที่ตนถนัด ผมตื่นเต้นมากเพราะตามปรกติการเข้าค่ายจะจัดขึ้นภายในโรงเรียน คราวนี้จะได้ไปถึงชะอำ ผมคิดว่าคงจะสนุกน่าดู

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-08-2008 17:44:27 โดย บุหรง »

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
๕๑ ชะอำ

“พี่ชัย เป็ดอะ ฝูงเบ้อเร่อเลย” ตั้ม ส่งเสียงเรียกเมื่อมองเห็นฝูงเป็ดที่ว่ายน้ำอยู่ในบึงข้างทางรถไฟ
“ปอ ปอ ควาย” ตั้ม ร้องอีก
“มึงสิควาย หนอยอยู่ๆมาว่ากู” ปอ ที่นั่งอยู่ตรงข้ามตวาด ท่ามกลางเสียงหัวเราะของเพื่อนๆ
“ม่ายช่ายอะ ปอ โน่น” ตั้ม ชี้ออกไปนอกหน้าต่างรถไฟ “โน่นตะหากอะ ควายตั้งหลายตัว ว้า ไม่เห็นแล้ว”
“ฮ่าๆๆ ตั้ม เอ็งทำยังกะเด็กบ้านนอกนั่งรถไฟเข้ากรุง” เชียรว่า
“นั่งรถไฟไปชะอำตะหากอะ” ตั้ม หันมาเถียง พลางหันหน้ากลับไปสนใจกับทิวทัศน์ต่างๆ ผ่านทางหน้าต่างรถไฟต่อไป
ชัย มองดู ตั้ม ที่นั่งอยู่ข้างๆด้วยความเอ็นดู หยิบถุงถั่วตัดแล้วเอนตัวเข้าไปโอบไหล่ ตั้ม ชวนกันดูวิวไปกับ ตั้ม แล้วก็หยิบถั่วตัดกินเองบ้าง ส่งให้ ตั้ม บ้าง ด้วยความเพลิดเพลิน บางทีก็หันมามอง ปอ แล้วยักคิ้วให้
... เออใช่ กูอิจฉามึง ไม่ต้องมาเยาะเย้ยกู ... ปอส่งสายตาดุๆกับไปให้ ชัย
...........................................................................
.................................
ขบวนรถหวานเย็นที่ออกจากสถานีหัวลำโพงตั้งแต่เวลา ๗ โมงเช้า มาถึงชะอำเวลาเที่ยงพอดี นักเรียนทั้ง ๔๐ ขึ้นรถสองแถวที่มารอรับ ไปยังที่พักริมหาด เมื่อไปถึงก็พากันเอาสัมภาระไปเก็บยังห้องพัก ที่มีลักษณะเป็นห้องพักรวม พักได้ห้องละ ๑๐ คน แล้วเปลี่ยนจากชุดนักเรียนเป็นชุดลำลอง จากนั้นก็พากันไปรับข้าวกล่องที่ครูแจกมารับประทานกัน
“เอ้าเดี๋ยวกินข้าวกลางวันกันเสร็จแล้ว พักพ่อนตามสบายไปก่อนนะ เดี๋ยว บ่าย ๒ ก็เตรียมอุปกรณ์มารวมกันที่นี่นะจ๊ะ” ครูท่านหนึ่งตะโกนบอก

ดูๆไปแล้วการเข้าค่ายครั้งนี้เหมือนเป็นการพานักเรียนมาเที่ยวกันมากกว่า หลังจากที่วาดรูปกันเสร็จแล้ว นักเรียนก็พากันเดินเล่นบ้าง เล่นน้ำทะเลกันบ้าง หลายๆคนจับกลุ่มเตะบอลกันที่ชายหาดนั้นเอง หลังจากอาหารเย็นผ่านไป นักเรียนบางส่วนที่เอากีตาร์มาด้วย ก็ตั้งวงกันร้องเพลง ตั้ม ก็เข้าไปร้องเล่นกับเขาด้วย เสียงใสๆคล้ายเสียงของเด็ก ทำเอาครูหลายท่านชอบอกชอบใจ ยิ่ง ตั้ม ร้องเพลงสากลที่พวกครูชอบได้ ก็ยิ่งสนุกกันใหญ่ เพราะเพลงเหล่านั้นไม่ใช่เพลงที่เป็นที่ชื่นชอบกันของเด็กในวัยขนาดนี้
“ตั้ม เล่นกีตาร์ได้บ้างมั๊ยเนี่ย” เจ้าของกีตาร์ถามขี้นพลางยื่นให้ผม “ไหนมาลองซักเพลงดิ๊”
“ง่า.....เล่นได้นิดหน่อยเองอะ อย่าเลย” ตั้ม ส่ายหน้า
“เอาหน่อยน่า หนุกๆ โชว์พี่ชายหน่อยเร็ว” ชัย เชียร์
“เอาหน่อยเว๊ย ตั้ม อย่าให้เสียชื่อห้อง ๘” เชียร พูด แล้วพวก โอ นึง ดม ก็เชียร์กันใหญ่
ตั้ม จึงได้รับกีตาร์มาอย่างเสียไม่ได้ แล้วก็ลองเกาสายกีตาร์ดูเพื่อลองเสียง

... เล่นเพลงอะไรดีล่ะ ... ตั้มคิด แล้วเสียงเพลงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นมาในหัว ... เพลงที่ ป๊ะป๋า ชอบเล่นกีตาร์แล้วร้องให้ฟัง เมื่อ ตั้ม โตพอจะจับคอร์ดกีตาร์ได้ถนัดมือ ป๊ะป๋า ก็ซื้อกีตาร์ตัวเล็กๆให้ ตั้ม เอาไว้หัดเล่น ... มือของตั้มจีงเริ่มเกาสายกีตาร์เป็นทำนองขี้นต้นของเพลงนั้นออกมาโดยไม่รู้ตัว ครู ๒-๓ ท่านปรบมือขึ้นมาเมื่อจำได้ว่าเป็นเพลงอะไร

http://media.imeem.com/m/7dv70mfbXN/aus=false/

Puff, the magic dragon lived by the sea
And frolicked in the autumn mist in a land called honah lee,
Little jackie paper loved that rascal puff,
And brought him strings and sealing wax and other fancy stuff. oh

Puff, the magic dragon lived by the sea
And frolicked in the autumn mist in a land called honah lee,
Puff, the magic dragon lived by the sea
And frolicked in the autumn mist in a land called honah lee.

Together they would travel on a boat with billowed sail
Jackie kept a lookout perched on puffs gigantic tail,
Noble kings and princes would bow wheneer they came,
Pirate ships would lower their flag when puff roared out his name. oh!

Puff, the magic dragon lived by the sea
And frolicked in the autumn mist in a land called honah lee,
Puff, the magic dragon lived by the sea
And frolicked in the autumn mist in a land called honah lee.

A dragon lives forever but not so little boys
Painted wings and giant rings make way for other toys.
One grey night it happened, jackie paper came no more
And puff that mighty dragon, he ceased his fearless roar.

His head was bent in sorrow, green scales fell like rain,
Puff no longer went to play along the cherry lane.
Without his life-long friend, puff could not be brave,
So puff that mighty dragon sadly slipped into his cave. oh!

Puff, the magic dragon lived by the sea
And frolicked in the autumn mist in a land called honah lee,
Puff, the magic dragon lived by the sea
And frolicked in the autumn mist in a land called honah lee.


... ทำไมทำนองมันคุ้นๆวะ อ้อ เพลงที่เคยได้ยินจากกล่องเพลงบนโต๊ะ ในห้องของ ตั้ม นี่เอง ... ปอ คิดแล้วตั้งอกตั้งใจฟัง ตั้มร้องเพลงนั้นได้ไพเราะ ดวงตาของตั้มที่ทอแววมีความสุขอย่างประหลาด เหมือนกับมีความสุขไปด้วยกับเจ้ามังกรในเพลง แต่เมื่อถึงท่อนท้ายๆของเพลง ดวงตาคู่นั้นค่อยๆเปลี่ยนเป็นหงอยเหงาลงทีละนิด ทีละนิด เสียงเริ่มแตกพร่า ราวกับเป็นเสียงร่ำร้องด้วยความเศร้าสร้อยของเจ้ามังกร ปอ ฟังอย่างตั้งใจไปจนจบเพลง
“ขอโทษค๊าบ ขอตัวเดี๋ยวนะค๊าบ” แล้ว ตั้ม ก็ยื่นกีตาร์คืนให้เจ้าของ แล้ววิ่งออกจากตรงนั้นไป
“เฮ๊ย กูว่ามันต้องมีอะไรหว่ะ กูตามไปดูหน่อยดีกว่า” ปอ พูดแล้วก็ลุกขึ้นวิ่งตาม ตั้ม ไปโดยที่มี ชัย ตามไปอีกคนหนึ่ง

ปอ และ ชัย มองดู ตั้ม เอามือเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาไม่ยอมหยุด พลางสั่งน้ำมูกแล้วเปิดก๊อกน้ำที่อ่างล้างหน้า เพื่อล้างสิ่งต่างๆในมือ และล้างคราบน้ำตาบนใบหน้า แต่มันก็ไม่หมดไปง่ายๆ
“มึงเข้าไปดูหน่อยสิวะ” ชัย กระซิบบอก
“มึงดีกว่า มันไว้ใจมึงมากกว่ากู” ปอ กระซิบกลับ
“เข้าไปด้วยกันแหละวะ” ชัย ตัดสินใจแล้วเดินนำ ปอ เข้าไปหา ตั้ม
“ตั้ม เป็นอะไรรึเปล่า” ชัย ถามด้วยความเป็นห่วง
“พี่ชัย ปอ” เสียงตกใจนิดๆ “ไม่มีอะไรอะ ตั้ม สงสารมังกร” ตั้ม ก้มหน้า
“อย่าโกหกพี่ชาย นั่นมันแค่เพลง มันจะทำให้ ตั้ม ร้องไห้ขนาดนี้ได้ยังไง”ชัย พูดแล้วเอามือจับคาง ตั้ม ให้เงยหน้าขึ้น ดวงตาแดงกล่ำทำให้รู้ว่าเพิ่งจะผ่านการร้องไห้มา
“นั่นดิ กูเคยบอกแล้วไง มีอะไรห้ามโกหกพวกกู” ปอ ทำเสียงดุๆ
“ตั้ม...ตั้ม คิดถึง...” ตั้ม อ้ำอึ้ง “คิดถึงคนที่ชอบร้องเพลงนี้ให้ ตั้ม ฟังน่ะ”
“คิดถึงใครวะ ถึงขนาดร้องไห้แบบนี้” ปอ ถามด้วยความสงสัย
“ตั้ม” ชัย พูดแล้วดึงตัว ตั้ม เข้ามากอดไว้ ...กูรู้ว่ามึงคิดถึงใคร กูรู้ ...
“กลั้นไม่ไหวก็ร้องซะนะ พี่ชัย กับ ปอ จะอยู่เป็นเพื่อน พี่ชัย ว่าคนคนนั้นต้องคิดถึง ตั้ม มากๆเหมือนกัน” แล้วชัยก็เอามือลูบหัว ตั้ม ที่ซบอยู่กับไหล่เบาๆ ตั้มเอามือกอดเอว ชัย ไว้แล้วเริ่มร้องไห้ออกมาอีก โดยที่ ปอ ได้แต่ยืนมองด้วยความงุนงงอยู่สักพัก จึงเข้าไปจับไหล่ ตั้ม ลูบเบาๆด้วยความสงสารปนไปด้วยความห่วงใย
...........................................................................
.................................

“เฮ๊ย ตกลงมันคิดถึงใครวะ” ปอ ถามขึ้นขณะที่ทำธุระส่วนตัวอยู่ในห้องน้ำก่อนที่จะเข้านอน
“บอกไม่ได้หว่ะ” ชัย ตอบ
“ทำไมวะ” ปอ สงสัยมากขึ้น
“เอาเป็นว่า เป็นญาติผู้ใหญ่ที่รักมันมากที่สุดในโลก แล้วญาติมันคนนี้เสียไปได้สัก ๒ ปีแล้ว” ชัยบอกยิ้มๆ
“งั้นเหรอวะ แล้วมึงเสือกรู้ได้ยังไงว่าเป็นใคร” ปอ ซักอีก
“อันนี้กูไม่บอก ฮ่าๆๆ ไว้มึงเรียกกูพี่เมื่อไหร่ กูอาจจะเปลี่ยนใจ” ชัย ยักคิ้วให้
“เชี่ย ไม่มีทางหรอกมึง” ปอ โต้กลับ
“งั้นกูไม่ยกน้องกูให้มึงดีกว่า เก็บไว้ยกให้คนอื่นที่ยอมเรียกกูพี่” พูดจบ ชัย ก็ต้องวิ่งหนี เพราะ ปอ ยกขาขึ้นทำท่าจะเตะใส่
“สาดนี่ ไอ้ราญ ยกให้กูแล้วเว๊ย ยังไงก็ของกู” ปอ ตะโกนบอกไป แต่ชัยก็เดินเข้าห้องพักไปซะแล้ว

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01-07-2008 10:05:13 โดย บุหรง »

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
 :serius2: ทำไมคราวนี้เพลงไม่มา ฝากเพื่อนๆช่วยฟังหน่อยนะครับ ว่าเพลงมาตั้งแต่ต้นจนจบหรือเปล่า ทำไมผมฟังได้แค่ ๓๐ วินาทีเอง
 :sad2:

salapaw

  • บุคคลทั่วไป
ฟังไม่จบอ่ะ แต่เพราะมากๆๆเลยนะ


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
เพลงที่ตั้มร้องเคยเป็นเพลงโปรดของเราเหมือนกัน


 :a10: :a10: :a10:

ออฟไลน์ nana

  • 아주마 애기 두명 ㅋㅋ
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
ฟังไม่จบอ่ะ แต่เพราะมากๆๆเลยนะ


ทำการแก้ไขเรียบร้อยแล้วครับ สงสัยเป็นเพราะไฟล์ที่อัฟไว้เป็น wma ก็เลยแสดงผลผิดพลาด  :try2:

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
๕๒ ของฝาก

ปอ ตื่นขึ้นมาแต่เช้า ไม่ใช่เพียงเพราะอากาศเย็นๆในบ้านพักริมทะเล แต่เพราะความเคยชิน ที่ต้องตื่นขึ้นมาเตรียมอาหารเช้า ให้กับพ่อแม่ที่ออกไปส่งผักในตลาดแต่เช้ามืด ทำให้ปอตื่นตั้งแต่ ๖ โมงเช้าทุกวัน
“ทำไมมันเย็นอย่างนี้วะ” ปอ พึมพำ ... ฮ่าๆๆ กูหาเรื่องกอด ไอ้ตั้ม มันดีกว่าเว๊ย ... คิดแล้ว ปอ ก็พลิกตัวหันไปทาง ตั้ม
“เฮ๊ย” ปอ อุทาน แล้วทะลึ่งตัวลุกขึ้นนั่งด้วยความตกใจ ... อะไรกันวะ แม่งขนาดนี้เลยเหรอ ...

ภาพที่เขาเห็นลางๆ จากแสงสลัวๆของดวงไฟหน้าห้องที่ลอดเข้ามา ตั้ม ที่อยู่ในชุดนอนแขน-ขายาว ผ้าสำลีลายตุ๊กตาหมี นอนหนุนอกของ ชัย โดยที่แขนซ้ายของชัย โอบเอว ตั้ม ไว้ มือซ้ายก็กุมกันอยู่ มีผ้าแพรบางๆห่มอยู่ครึ่งตัว เขารู้สึกตกใจมากที่เห็นภาพนั้น แต่เมื่อมองไปซักพัก เขาอดยิ้มไม่ได้ เพราะภาพที่เห็นทำให้เขานึกถึงภาพเขาตอนเด็กๆ ที่นอนหลับไปกับ อก ของ พ่อ มันเหมือนภาพที่เขาเห็นขณะนี้ไม่มีผิด คิดแล้วเขาก็โน้มตัวเข้าไปหา ตั้ม
... น่ารักฉิบหาย ที่รักของกู ขอกูหอมซักฟอดนึงเหอะวะ ...

ป๊อก

... อูย ใครเขกหัวกูวะ ... ปอเงยหน้าขึ้นมองก็เห็น ชัย มองมาสีหน้าดุๆ แถมยังเอานิ้วชี้มือขวาแตะไว้ที่ปาก เหมือนจะห้ามไม่ให้ส่งเสียง
ปอ ก็เลยจำเป็นต้องถอยกลับไปยังที่เดิมพลางล้มตัวลงนอน แต่ยังหันหน้าไปทาง ตั้ม
... หวงเป็นจงอางหวงไข่เลยนะมึง กูมองเฉยๆก็ได้วะ แค่นี้กูก็มีความสุขแล้ว... ปอ มองท่านอนของ ตั้ม แล้วก็อมยิ้ม ไม่สนใจกับสายตาที่มองมาอย่างเอือมระอาของ ชัย
..................................................................................
.....................................
“ทำไมยังไม่เสร็จวะ บ่ายขนาดนี้แล้ว” ปอ ถามเมื่อเห็นว่า ตั้ม ยังคงวาดรูปอยู่ ในขณะที่คนอื่นๆเก็บอุปกรณ์เข้าที่พักกันหมดแล้ว
“เสร็จนานแล้วอะ อยู่นั่นไง” ตั้ม พูดแล้วชี้ไปที่แผ่นไม้รองภาพอีกแผ่นหนึ่งที่วางอยู่ใกล้ๆตัว ปอหยิบขึ้นมาเปิดกระดาษที่ปิดรูปอยู่ เพื่อดูรูปวาดภายใน
“เฮ๊ย มึงทำได้ยังไงวะสีแบบนี้” ปอ อุทาน แปลกใจกับภาพท้องทะเลสีฟ้า ที่เป็นสีฟ้าอมเขียวในบางจุด  และท้องฟ้าที่มีสีขาวจางๆคล้ายเมฆกระจายอยู่เป็นหย่อมๆ
“เทคนิคพิเศษ” ตั้ม หัวเราะ “สวยมั๊ยอะ วินท์สอนมาเชียวนะเนี่ย” ตั้ม ยิ้มอย่างภูมิใจ
“สวยหว่ะ ว่าแต่ วินท์ นี่เป็นใครวะ” ปอ ถามดุๆ
“ปอ อะ ทำลืม เพื่อนเราตอนเรียน ๓/๖ ไง วินท์ วาดรูปเก่งมากเลย สอนเราตั้งเยอะ” ตั้ม ยิ้มไม่หุบ
 “ตั้ม ทานน้ำก่อน” ชัย เดินมาหาพร้อมกับแก้วน้ำแดงที่ครูชงไว้ให้นักเรียน แล้วก็นั่งลงอีกข้างหนึ่ง พร้อมกับยื่นแก้วน้ำหวานให้
“ขอบคุณฮับ พี่ชาย” ตั้ม รับแล้วดื่มไปอีกใหญ่ๆ
“แล้วรูปนี้ วาดอีกทำไมวะ” ปอ สงสัย
“ให้ พี่ราญ เดี๋ยวฝาก พี่ชัย ไปนะ” ตั้ม หันไปบอก ชัย
“อ้าว แล้วไม่มีของ พี่ชัย เหรอ แบบนี้ไม่ยอมนะ” ชัย พูดแล้วทำสีหน้าเหมือนไม่ยอมจริงๆ
“โห ก็ พี่ราญ ไม่ได้มาด้วยนี่นา ตั้ม เลยอยากหาของกลับไปฝาก พี่ราญ” ตั้ม ทำสีหน้าลำบากใจ “งั้นเดี๋ยว ตั้ม วาดให้ พี่ชัย อีกใบแล้วกัน”
“ไม่ต้องก็ได้ กว่าจะเสร็จคงค่ำพอดี เอาเป็นว่าก่อนกลับ ตั้ม ซื้อของสวยๆให้ พี่ชัย ชิ้นนึงแล้วกันนะ” ชัย พูดพลางยิ้มให้
“ได้เลย” ตั้ม ยิ้มกว้างแล้วก้มหน้าลงไประบายสีภาพต่อ
“ตั้ม นี่อะไรวะ” ปอ ถามขึ้นมา
ตั้ม เงยหน้าขึ้นมามองตามมือของ ปอ ที่ชี้อยู่บนภาพที่เสร็จแล้ว ชัย ก็ชะโงกหน้ามองตามไป ที่ ปอ ชี้อยู่เป็นรูปเล็กๆในมุมหนึ่งของภาพ เป็นรูปเด็กชายคนหนึ่ง มีผู้ชาย ๒ คนจูงมืออยู่คนละข้าง มีผู้หญิงอีกคนหนึ่งถือร่มตามหลังมา
“เด็กนั่น ตั้ม เอง ผู้หญิงที่ถือร่มนั่นแม่” ตั้ม ตอบแค่นั้น แล้วก็เงียบไป
“แล้ว ๒ คนที่จูงมือเอ็งอยู่นี่ล่ะ” ปอ ถามโดยที่ไม่ได้หันมามอง
“คนนึงพ่อ” ตั้ม ตอบเบาๆหลังจากที่เงียบไปพักหนึ่ง ปอ หันมามองหน้าแล้วทำท่าจะถามต่อ
“อีกคนนึงคนสำคัญของ ตั้ม มัน” ชัย ตอบแทน ทำให้ทั้ง ตั้ม และ ปอ หันมามอง
“เอ็งรู้ได้ไงวะ” ปอ ถาม
“ลองเดาเอา” ชัย พูดแล้วหันไปยิ้มให้ ตั้ม “ใช่รึเปล่า พี่ชายว่าอีกคนต้องเป็นคนที่สำคัญมากๆของ ตั้ม แน่นอนเลย”
“อื้อ” แล้วตั้มก็หันกลับมามองที่รูปเล็กๆนั้นอีกครั้ง ดวงตาทอประกายที่เปี่ยมไปด้วยความรักแบบที่ ปอ ไม่เคยเห็นมาก่อน
“แล้วตอนนี้คนคนนี้อยู่ไหนเหรอวะ” ปอถามด้วยความสงสัย
“เสียไปหลายปีแล้วหล่ะ แต่ไม่ว่ายังไง ก็ยังอยู่ในใจเราตลอดไป เราจะขอเก็บไว้ในความทรงจำไม่ลืมเด็ดขาด” ตั้ม ยิ้มเศร้าๆ แล้วน้ำตาก็เริ่มไหล
... นี่รึเปล่าวะ ญาติผู้ใหญ่คนที่ ตั้ม มันรักมากที่ ชัย บอกเมื่อคืนนี้ ...
“ตั้ม เราขอโทษ เรา...” ปอ ตกใจพูดพลางเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาให้ ตั้ม
“เราต่างหากต้องขอโทษอะ ปอ แย่จังนิ แค่นี้ก็ร้องไห้ซะแล้ว ไม่ไหวเลย” ตั้ม พูดแล้วยิ้มทั้งน้ำตา
เพี๊ยะ.... ชัย ตีมือของ ปอ ที่กำลังเช็ดน้ำตา ตั้ม อยู่
“ตีกูทำไมวะ” ปอ มองตาขวางๆ
“มือมึงสกปรก อย่าเอามาแตะน้องกู” ชัย พูดยิ้มๆ พลางเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาให้ ตั้ม
“มือมึงสะอาดตายหล่ะ เอาออกไป” ปอ พูดแล้วก็ตีมือ ชัย บ้าง
“ฮ่าๆๆ พอกันแหละ เดี๋ยว ตั้ม ไปล้างหน้าก่อนนะ”
พูดจบ ตั้ม ก็ลุกขึ้นวิ่งเข้าไปในบ้านพัก ปล่อยให้ ชัย ยิ้มล้อเลียน ปอ ซึ่งกำลังทำหน้าเหมือนแค้นเสียเหลือเกิน
..................................................................................
.....................................
“นับก่อนนะว่าครบรึเปล่า วัฒน์ หมู โย่ง นึก พล นัส ไมค์ ณัฐ ปุง .... ” ตั้ม พูดชื่อเพื่อนทีละคน ต่อไปอีกประมาณ ๖ คน พลางนับพวงกุญแจเรซิ่นทรงกลมที่มีเปลือกหอยเล็กๆอยู่ข้างในทีละอัน
“ไม่ซื้อไปฝากทั้งห้องเลยล่ะวะ” ปอ พูดประชด ...ไอ้โอ คู่หู ไอ้นึก มันก็มาจะซื้อไปฝากมันทำไมวะ..คิดแล้ว ปอ ยิ่งอารมณ์เสีย
“ไม่ต้องหรอก คนอื่นเดี๋ยวพวก เชียร ก็ซื้อไปฝาก ครบแล้ว” ตั้ม ตอบยิ้มๆไม่ทันคิดว่าโดนประชด
“ขาดไปอันนึงโว๊ย” ปอ พูดแล้วหยิบพวงกุญแจเพิ่มอีกอันนึง วางลงไปในกองพวกกุญแจที่ ตั้ม ถืออยู่
“ของใครอะ” ตั้ม งง เพราะคิดว่าตัวเองไม่น่าจะนับผิด
“ของกูไง” ปอ ตอบ
“หง่ะ ได้ไงอะ ก็มาด้วยกันแล้วจะเอาของฝากอีกเหรอ” ตั้ม ตาโต
“น่าๆ ซื้อให้กูอันนึงนะ กูอยากได้” ปอ ทำเสียงออดอ้อน ตั้ม ก็เลยคิดอะไรได้... ปอ มีตังส์แค่พอใช้...
“งั้นก็ได้อะ ว่าแต่ ปอ จะเลือกแบบอื่นมั๊ยอะ” ตั้ม พูดกลั้วหัวเราะ
“เลือกได้เหรอ งั้นกูเปลี่ยนนะ”  ปอ มีสีหน้าดีใจหยิบพวงกุญแจเรซิ่นออกจากมือ ตั้ม ไปอันนึง แล้วหยิบพวงกุญแจที่ทำจากเปลือกไม้ ลงแลคเกอร์เคลือบไว้เงาวับ มีรูปหัวใจสีแดงวาดอยู่ด้วย “กูเอาอันนี้” ปอ ยิ้ม
“อื้อๆ ป้าค๊าบ ทั้งหมดเท่าไหร่ค๊าบ” ตั้ม หันไปถามคนขาย
“น่ารักอย่างนี้ เดี๋ยวป้าลดให้พิเศษนะ” แล้วป้าคนขายก็บอกราคามา
“ขอบคุณที่ลดให้ค๊าบ ไปนะค๊าบป้า” ตั้ม พูดหลังจากที่รับเงินทอนมา แล้วก็ชวน ปอ กลับไปยังรถไฟที่จวนได้เวลาออกจากสถานี
..................................................................................
.....................................
“เฮ๊ย พวงกุญแจขาดไปอันนึงหว่ะ ไปซื้อไม่ทันแล้วทำไงดีวะ” เชียร บ่น ขณะที่รถไฟกำลังจะออกจากสถานี
“อ้าว ขาดได้ไงวะ ไหนว่านับดีแล้วไง” นึง พูดอย่างหัวเสีย
“ลืมนับ ไอ้นึก หว่ะ” เชียร บอก
“โหย...ถ้าเป็น ไอ้นึก ละก็ไม่ต้องกลัว กูว่ามีคนซื้อให้มันแล้วหล่ะ ไม่ต้องห่วง”โอ พูดแล้วหัวเราะ แล้วทุกคนก็พากันหันไปมอง ที่ ตั้ม
“ตั้ม ตั้ม”  โอ ตะโกนถาม ตั้ม ที่อยู่ห่างไป “ซื้อของฝากให้ ไอ้นึก มันรึเปล่าวะ”
 “หือ โอ ว่าอะไรนะ ” ตั้ม หันไปถาม เพราะฟังไม่ถนัดว่า โอ ถามอะไร
“เอ็งซื้อของฝาก ไอ้นึก มันรึเปล่าวะ” โอ ถามอีกครั้ง
“ อื้อ ซื้อมาแล้ว ทำไมเหรอ” ตั้ม ตะโกนตอบไป
“เปล่าๆ ถามดูเฉยๆ” โอ บอก แล้วหันมาพูดกับกลุ่มเพื่อน “เห็นมะ กูว่าแล้ว” แล้วทุกคนก็พากันหัวเราะเสียงดัง


ออฟไลน์ nana

  • 아주마 애기 두명 ㅋㅋ
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
๔๓ ป่วย

“มึงเห่อเกินไปรึเปล่าวะ ถึงกับใส่กรอบซะหรูเชียว” ชัย พูด พลางยืนมองรูปวาดที่อยู่ในกรอบไม้สีทอง ที่แขวนไว้ตรงหัวเตียงของ ราญ
“ว่าแต่เรา นายเองก็พอกันแหละวะ เอาจี้ไปใส่กับสร้อยเงินซะหรูเชียว” ราญ ที่นั่งอยู่ที่โต๊ะเขียนหนังสือพูด พลางมองไปยังจี้รูปใบไม้ที่ทำจากเปลือกหอย ที่ห้อยอยู่บนลำคอของ ชัย
“กูว่าจะใส่กับสร้อยทองแล้วเว๊ย แต่มีแต่เส้นใหญ่ๆ ใส่แล้วไม่สวย” ชัย พูดยิ้มๆ พลางลูบคลำจี้บนลำคอ “เส้นนี้กำลังดี”
“แล้วน้องเราเป็นไงมั่ง” ราญ ถามถึง ตั้ม
“เออ กูว่าจะมาบอกมึงเนี่ย ไอ้ปอ มันมารายงานว่าไม่มาเรียน ๒ วันแล้วเว๊ย” ชัย พูดด้วยสีหน้าเป็นกังวล
“อ้าว เป็นอะไรไปล่ะ” ราญ เลิกคิ้วถาม
“กูก็ไม่รู้หว่ะ ตอนกลับจากชะอำก็เห็นดีๆอยู่ เห็น ปอ มันบอกว่า วันจันทร์มันบ่นๆว่าปวดท้อง แล้ววันรุ่งขึ้นก็ไม่มาโรงเรียน” ชัย เล่า
“ปวดท้องเหรอ” ราญ ทำท่าคิด “เมนส์แรกมาหรือเปล่าวะ สงสัยต้องหุงข้าวแดงฉลอง” ราญ พูดยิ้มๆ
“เมนส์เตี่ยมึงสิ” ชัย อารมณ์เสีย “มึงพูดแบบนี้ไม่ห่วงมันเหรอไงวะ”
“ห่วงสิ แต่จะให้ทำยังไงล่ะ เป็นทุกข์ไปตอนนี้ก็ไม่รู้เรื่องอยู่ดี บ้านมันน่ะ ไกลก็ไกล โทรศัพท์ก็ไม่มี” ราญ พูดแล้วถอนหายใจ หยุดคิดไปครู่หนึ่ง แล้วก็พูดกับชัย  “เดี๋ยวถ้าถึงวันศุกร์แล้วยังไม่มาเรียน ก็ให้ ตุ่ม มันพาไปดูที่บ้านก็แล้วกัน”
“เออ เอางั้นก็ได้วะ” ชัย พูดแล้วก็ถอนใจอีกคน
.........................................................................................
..............................................

... นั่นมันมาเรียนแล้วเหรอวะ แล้วไหงมันนอนฟุบอยู่แบบนั้น ... ชุดนักเรียนสีขาวสะอาดของ ตั้ม ดูเด่นสะดุดตา ท่ามกลางเพื่อนๆที่ใส่ชุดนักศึกษาวิชาทหาร ที่ต้องใส่ในวันพฤหัสบดี ทำให้ ปอ รู้ว่าร่างที่นอนฟุบอยู่ที่โต๊ะข้างๆ ญัฐ นั้นคือ ตั้ม
“ตั้ม เป็นอะไรวะ” ปอ เดินไปหาแล้วเรียกเบาๆ
“เบาๆ ปอ มันหลับอยู่” ณัฐ ที่นั่งอยู่ข้างๆบอกเบาๆ
“มันเป็นอะไรวะ” ปอ หันไปถาม ณัฐ
“ไม่รู้อะ เรามาถึงก็เห็นนอนอยู่แบบนี้แล้ว สงสัยไม่ค่อยสบาย” ณัฐ ตอบพลางขยับตัวลุกออกจากเก้าอี้ ไปนั่งที่โต๊ะข้างหน้า เพราะ ปอ ทำสัญญาณมือ เหมือนจะขอนั่งแทนที่เขา
... อืม ตัวอุ่นๆหว่ะ สงสัยยังไม่สบายอยู่ ... ปอ คิดเมื่อเอามือแตะไปที่หน้าผาก ตั้ม
“ตั้ม ตั้ม เป็นอะไรรึเปล่า” ปอ ตัดสินใจปลุก ตั้ม
“หือ ... ปอ เองเหรอ” ตั้ม งัวเงียเงยหน้าขึ้นมา แล้วพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าเป็นใคร
“เป็นไงมั่งวะ” ปอ ถามด้วยความเป็นห่วง
“ไม่เป็นไรอะ แล้วนี่กี่โมงแล้ว” ตั้ม ยิ้มบางๆ
“๗ โมงครึ่งแล้ว” ปอ ตอบ
“อ้าว เหรอ งั้นเราไปกินข้าวก่อนนะ ยังไม่ได้กินเลย ปอ ล่ะ กินข้าวรึยัง” ตั้ม ตอบพลางหันไปเปิดเป้ หยิบถุงสีขาวใบย่อมขึ้นมา ปอ มองเห็นตราและตัวหนังสือบนถุง เป็นชื่อของโรงพยาบาลเฉพาะหน่วยงานหนึ่งของรัฐ ปอ จำได้ว่าหน่วยงานนั้นเป็นที่ทำงานของพ่อและแม่ ตั้ม
“เรากินแล้ว เอ็งรีบไปเหอะ ยิ่งกินข้าวช้าอยู่ เดี๋ยวไม่ทันเข้าแถว” ปอ บอก
“อื้อ งั้นเดี๋ยวเจอกันตอนเข้าแถวนะ เราคงไม่ขึ้นมาแล้ว”แล้ว ตั้ม ก็เดินช้าๆออกจากห้องไป
ปอ เดินกลับมาที่โต๊ะของตัวเอง หยิบสมุดขึ้นมาทำงานที่ยังไม่เสร็จ พลางมองไปยังกลุ่มเพื่อนๆ หลายกลุ่มที่คุยกันอยู่ในห้อง ติดแปลกใจว่า ทำไมไม่มีใครสนใจถามอะไร ตั้ม มันเลย นี่ถ้าเขาไม่ตัดสินใจปลุก ตั้ม มันคงไม่ได้กินข้าวเช้าแน่นอน ขณะที่เขากำลังคิดอยู่ วัฒน์ กับ หมู ก็เดินมาหาเขา

“ปอ ตกลง ศิลปี เป็นอะไรน่ะ” วัฒน์ ถาม
“อ้าว แล้วทำไมไม่ถามเองล่ะ” ปอ ตอบ
“เราเห็นหลับอยู่อะ เลยไม่กล้าไปปลุก” หมู ตอบเบาๆ
“เออ ดีนะ นี่ถ้ากูไม่ปลุกมันได้อดข้าวแล้ว” ปอ พูดอย่างมีโมโห
“อ้าว” วัฒน์ ตกใจ “ทุกทีมาถึงก็กินข้าวเลยนี่ แล้วทำไมวันนี้เป็นอย่างนี้ล่ะ”
“เออกูก็ไม่รู้หว่ะ” ปอ เสียงอ่อนลงเมื่อมองเห็นท่าทางของ วัฒน์
“งั้นพวกเราไปดูกันหน่อยดีมั๊ยอะ” หมู หันไปพูดกับ วัฒน์
“อื้อ ดีเหมือนกัน” วัฒน์ หันมาตอบ หมู แล้วก็หันไปพูดกับ ปอ “งั้นเดี๋ยวพวกเราไปดู ตั้ม ก่อนนะ” แล้ว วัฒน์ กับ หมู ก็ชวนกันเดินออกไปจากห้อง
.........................................................................................
..............................................

วัฒน์ กับ หมู มองดูชามเกาเหลา ที่ ตั้ม เอาข้าวสวยใส่ลงไปจนกลายเป็นข้าวต้ม ที่กินไปได้เพียงไม่กี่คำ แล้วหันมามอง ตั้ม ที่กำลังนับยาเม็ดสารพัดสีประมาณ ๗-๘ เม็ด ก่อนที่จะเอายาทั้งหมดเข้าปาก แล้วกินน้ำตามลงไป เสร็จแล้วก็ทำหน้าเบื่อหน่าย
“กินแค่นี้เองเหรอ แล้วนั่นยาอะไรเยอะแยะ” วัฒน์ ถามพลางขมวดคิ้ว
“นั่นดิ ตั้ม กินแค่นี้อิ่มแล้วเหรอ” หมู ถามขึ้นอีกคน
“ไม่เอาแล้วอะ กินแค่พอให้กินยาได้ก็พอแล้ว ไม่แน่ เดี๋ยวก็ออกมาหมดอยู่ดี” ตั้ม ตอบ ทั้ง ๒ คนทำหน้า งงๆ เพราะไม่ค่อยเข้าใจ
“ตั้ม กินยาเก่งจัง เป็นเรานะ คงทีละเม็ดกว่าจะหมดคงอิ่มน้ำพอดี” หมู พูดพลางหัวเราะเบาๆ
“ก็เราชินแล้วอะ ตอนเด็กๆนะ บางทีกินยามื้อละ ๑๐ กว่าเม็ด เลยเก่งไง”  ตั้ม ยิ้มราวกับมันเป็นเรื่องตลก ...เราโตมากับยานี่แหละ แค่นี้ยังน้อย ...
“เดี๋ยวเราไปนั่งแถวๆริมสนามดีกว่าอะ จะได้ไม่ต้องเดินมากตอนเข้าแถว” พูดจบ ตั้ม ก็ลุกขึ้นเดินช้าๆออกจากโรงอาหาร มี วัฒน์ และ หมู เดินไปนั่งด้วยกันที่โต๊ะใต้ต้นไม้ริมสนามใหญ่ แล้ว ตั้ม ก็ถามถึงงานของวิชาต่างๆในระหว่างที่หยุดเรียนไป
.........................................................................................
..............................................

“ครูครับ ขออนุญาตไปห้องน้ำครับ” ตั้ม ยกมือขึ้นหลังจากที่เรียนคาบวิชาแรกไปได้เพียง ๑๐ นาที
“อะไรกัน เพิ่งเรียนก็จะไปห้องน้ำแล้ว” ครู พูดเสียงดุๆ “หมดชั่วโมงก่อนค่อยไป”
ตั้ม นั่งเงียบสักพัก หน้าเริ่มแดง
... ไม่ไหวแล้ว ... ตั้ม คิดแล้วก็ลุกขึ้น ผลัก ญัฐ ให้ถอยหลัง แล้ววิ่งออกจากโต๊ะ ผ่านครู แล้วออกจากห้องไป ไม่สนใจกับเสียงดุที่ตามหลังมา
“ครูครับ ผมไปดูให้นะครับ” วัฒน์ ลุกขึ้นยืนหันไปบอกครูแล้ววิ่งตามออกมา

ตั้ม วิ่งไปที่ห้องน้ำ ที่อยู่อีกด้านหนึ่งของห้องเรียน เมื่อเปิดประตูเข้าไปในห้องส้วม ก็โก่งคอ อาเจียรอาหารเช้าที่กินเข้าไปออกมา พร้อมกับน้ำสีเขียวๆที่ส่งกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ น้ำมูกและน้ำตาก็ไหลออกมาด้วย แล้วก็รู้สึกว่ามีมือใครมาลูบหลังเบาๆ
“เป็นไงมั่ง แบบนี้สินะถึงได้ไม่ยอมกินข้าว” ตั้ม ได้ยินเสียง ก็เงยหน้าขึ้นมอง วัฒน์ นั่นเอง
 แล้วคลื่นอะไรบางอย่างก็เหมือนจะพุ่งขึ้นมาที่ลำคอ ตั้ม จึงหันไปอาเจียรอีกครั้ง คราวนี้มีแต่น้ำใสๆออกมาเล็กน้อย
“หมดรึยัง หมดแล้วก็ไปบ้วนปาก ล้างหน้าซะ” ตั้ม พยักหน้า แล้ว วัฒน์ ก็เดินตามหลัง ตั้ม ไปที่อ่างล้างหน้า
“ศิลปี เป็นอะไร ทำไมไม่ยอมบอก ทำเหมือนพวกเราไม่ใช่เพื่อน” วัฒน์ พูดน้ำเสียงน้อยใจ
“เปล่านะ” ตั้ม หันมาพูดเสียงตกใจ “เราแค่ไม่อยากให้เป็นห่วงกันเท่านั้นเอง”
“แล้วนี่จะบอกได้รึยังว่าเป็นอะไร” วัฒน์ คาดคั้น
“หมอบอกว่าลำไส้ทำงานผิดปรกติอะ แล้วมีโรคกะเพาะแทรก มันเลยยิ่งไปกันใหญ่ ” ตั้ม ตอบเบาๆ
“ก็แค่นั้นแหละ ไปเร็ว รีบกลับห้องเรียนก่อน ครูโกรธใหญ่เลย แล้วเดี๋ยวมีเวลาค่อยมาเล่าให้เราฟังนะ ”
“อื้อ”
แล้วทั้ง ๒ คนก็เดินกลับไปยังห้องประจำชั้น หลังจากหมดชั่วโมง ครูก็เรียก ตั้ม ออกมาถามที่หน้าห้อง เมื่อครูรู้ว่า ตั้ม วิ่งออกจากห้องเพื่อไปทำอะไร ครูก็หายโกรธ แต่ยังไม่วายดุ
“แล้วทำไมเธอไม่บอกล่ะว่าไม่สบายแล้วจะไปอาเจียร”
“ขอโทษค๊าบ” ตั้ม หน้าสลดยกมือขึ้นไหว้ครู ... ก็ครูดุออกขนาดนี้ ใครจะพูดออกอะ ...
.........................................................................................
..............................................

“ไอ้นึก มึงต้องรับผิดชอบนะเว๊ย” โอพูดเสียงแข็ง ขณะที่อยู่บนรถประจำทางปรับอากาศ ระหว่างที่เดินทางไปเรียนวิชาทหาร ที่ศูนย์ฯแถวรังสิต
“เรื่องไรวะ” นึก หันไปมองอย่างสงสัย
“ก็เรื่องที่มึง ทำ ไอ้ตั้ม มันท้องไง มึงต้องรับผิดชอบ” โอ พูดยิ้มๆ
“เชี่ย ท้องกับมึงน่ะสิ กูไม่ได้ทำอะไรเลยนะเว๊ย” นึกโวยวาย
“ก็มึงน่ะ วันๆเอาแต่จ้องมันจนแทบจะแดกมันเข้าไปแล้ว แล้วชอบคลุกวงในมันอยู่เรื่อย แบบนี้มันจะท้องกับกูได้ไง ท้องกับมึงนั่นแหละ” โอ พูดขำๆ
“กูไม่ใช่ปลากัดนะเว๊ย แค่จ้องตาจะได้ท้องได้” นึก พูดแล้วหัวเราะ “มันไปชะอำกับคนทั้งเยอะ ไปเสียท่าใครเข้าล่ะไม่ว่า” เพื่อนๆพากันหัวเราะเมื่อได้ยินประโยคนั้น
“หรือท้องกับ ไอ้วัฒน์ วะ เห็นมันดูแลกันเหลือเกิน” โอ พูดแล้วมองไปทาง วัฒน์
“อ้าว ไหงเป็นงั้นล่ะ ก็เราเป็นห่วง ศิลปี นี่ พวกนายไม่ห่วงเหรอ นี่ไม่รู้กลับบ้านคนเดียวจะเป็นยังไงมั่ง เห็นอาการไม่ค่อยดีเลย” วัฒน์ พูดอย่างกังวล
“ห่วงสิ ไม่ห่วงได้ไง ที่รักของพวกกู จริงมะ ไอ้นึก” โอ พูดพลางหันไปทาง นึก
“ที่รักของมึงคนเดียวเหอะ” นึก พูดแล้วก็หันหน้าออกนอกหน้าต่าง ไม่สนใจที่เพื่อนๆคุยกันต่อ

... มันก็ที่รักของทุกคนในห้องแหละวะ กูน่ะห่วงสิวะ ทำไมไม่ห่วงล่ะ ห่วงมันตั้งแต่ตอนที่เห็นมันมีเรื่องกับ ไอ้ปอ ตอน ม.๓ แล้วยังตอนที่มันโดนชกเมื่อปีที่แล้วอีก พวกมึงไม่รู้หรอกว่ากูห่วงมันขนาดไหน  แต่พวกมึงน่ะแหละ จ้องหาเรื่องกูจัง กูเลยไม่รู้จะทำยังไงดี เสียดายหว่ะ ตั้ม มันเป็นผู้ชาย เสียดายฉิบหาย ถ้ามันเป็นผู้หญิงคงไม่ลำบากใจขนาดนี้ ไม่สิ ถ้ามันเป็นผู้หญิงมันคงเรียนที่อื่น แล้วกูคงไม่ได้เจอกับมัน ไม่ได้ใกล้ชิดมันแบบนี้ ...  นึกคิดพลางถอนหายใจยาว


salapaw

  • บุคคลทั่วไป
 ตั้มเป็นไรไปอ่ะ กินยาแต่เด็กเลย :เฮ้อ:


ว่าแต่ตัวละคนมันเยอะอ่ะ เริ่มงงชื่อเพื่อนๆๆและ

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
ตั้มเป็นไรไปอ่ะ กินยาแต่เด็กเลย :เฮ้อ:


ว่าแต่ตัวละคนมันเยอะอ่ะ เริ่มงงชื่อเพื่อนๆๆและ
เอ้อ...ถ้าอ่านในตอน ๓๙ ลูกรัก คงทราบแล้วว่า ตั้ม เข้าออกโรงพยาบาลบ่อยมากในตอนเด็ก ก็เริ่มกินยามาตั้งแต่ตอนนั้นแล้วครับ แล้วถ้ายังพอจำได้ ตอนแรกๆจะเห็นว่า ตั้ม พกกระดาษชำระติดกระเป๋าไว้ตลอด เพราะเป็นโรคภูมิแพ้อากาศ ซึ่งแน่นอนว่าเวลาที่เป็นก็ต้องกินยาอย่างน้อย ๒ เม็ด คือยาแก้แพ้ กับยาแก้ไข้ ถ้าเป็นมากต้องเพิ่มยาขยายหลอดลมอีกตัวหนึ่งด้วยครับ  :undecided:
ส่วนตัวละคร เดี๋ยวจะเยอะกว่านี้อีก  :laugh:
แหมจะให้เขียนว่า เพื่อนคนหนึ่ง หรือหนุ่มคนหนึ่ง มันก็กระไรอยู่  :o8:
แต่ตัวละครหลักยังคงเหมือนเดิมครับ
ตั้ม พี่ราญ
ปอ ชัย ศักดิ์ สิทธิ์ สมชาย
พอมาชั้นมัธยมปลาย ก็มี โอ นึก วัฒน์ ที่จะเป็นตัวสำคัญเพิ่มขึ้นมา
โอ นี่ทางวิทยาศาตร์คงเรียกว่าตัวคะตะไลท์ หรือตัวเร่งปฎิกิริยา เรียกได้ว่าทำให้เกิดเรื่องต่างๆขึ้นก็ว่าได้ ส่วน วัฒน์ ไว้คอยดูดีกว่าครับว่าสำคัญอย่างไร
ส่วนตัวละครอื่นๆ จะว่าไม่สำคัญก็ไม่เชิง เอาเป็นว่า จำเป็นต้องมีแล้วกันนะครับ  :o11:


ออฟไลน์ RN

  • Global Moderator
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3649
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1650/-14
เย่ๆๆๆๆ ในที่สุดก้ตามอ่านทันแล้ว

ยิ่งอ่านก็ยิ่งเห็นว่าตั้มน่ารัก

ปล.เรืองนี้ตัวละครเยอะได้ใจจริงๆๆ


 o2 o2

ปล.ตั้มน่ารักกกกกก o13

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
ทำไมตั้มน่าสงสารจัง

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด