จะขอเก็บไว้ในความทรงจำ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: จะขอเก็บไว้ในความทรงจำ  (อ่าน 136409 ครั้ง)

salapaw

  • บุคคลทั่วไป
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: พูดไม่ออก บอกไม่ถูก

รู้แต่ว่า กำลังรมณ์ดีอยู่เลย มาสะดุดซะงั้น


ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
๔๐ ซ้อมละคร

“ดีมากทุกคน เอ้าพัก ๑๕ นาที”

สิ้นเสียงครูจันทร์ ผมก็ลงจากเวทีในห้องประชุม ลงมานั่งหอบอยู่ที่เก้าอี้ด้วยความเหนื่อย ก็ซ้อมกันมาตั้งแต่ ๙ โมงเช้า นี่จะ ๒ ชั่วโมงอยู่แล้ว ทั้งร้องทั้งทำท่าจินตลีลา แถมฉากเมื่อกี้โดนซ่อมตั้ง ๓ รอบ มีหวังโดนว่าจากรุ่นพี่ ๒ คนที่เล่นเป็นพี่เลี้ยงผมอีกตามเคย ก็เค้าหวังจะได้เล่นบทนี้กันทั้งคู่

“ตั้ม” เสียงเรียกมาจากข้างหลัง ผมหันไปมองก็พบกับ...
“พี่ราญ พี่ราญ มาได้ไง เย้ๆๆ”
ผมตะโกนลั่น พลางลุกขึ้นวิ่งไปหา ราญ ที่ยืนอยู่ตรงประตูห้องประชุม พอไปถึงตัวก็กระโดดโอบคอ พลางกระโดดแหยงๆ ราญ ก็เอามือโอบเอวผมไว้ พลางหัวเราะเบาๆ
“เป็นไง เหนื่อยมั๊ย” ราญ ถามพร้อมกับเอามือข้างหนึ่งมาขยี้หัวผมเบาๆ
“เหนื่อยอะ เมื่อกี้โดนซ่อมตั้ง ๓ รอบแน่ะ” ผมรายงาน หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง
“นี่ๆ ไอ้ตั้ม ไม่คิดจะทักทายคนอื่นเลยรึไงวะ” เสียงคนพูดพร้อมกับหัวเราะเบาๆ มาจากด้านหลัง ผมหันไปตามเสียง
“อ้าว ชัย มาด้วยเหรอ” ผมถามด้วยความสงสัย
“ไม่เอาเว๊ย เรียก พี่ชัย สิ”ชัยมองผมตาดุๆ แต่ปากยังคงยิ้มเหมือนเดิม ท่าแบบนั้นตลกจนผมหัวเราะดัง
“ฮ่าๆๆ ม่ายเอาอะ ไม่เคยเรียกนี่นา”
“ลองเรียกหน่อยสิ จะได้เรียกได้ซะทีไง ไหนลองเรียกดิ๊ พี่ชัย” ชัยพูดยิ้มๆ ผมส่ายหน้าดิ๊กๆ ไม่ยอมทำตาม
“ไปนั่งคุยกันดีกว่า” ราญ พูดพลางจูงมือ ตั้ม ไปนั่งที่เก้าอี้ โดยที่ ราญ เข้าไปนั่งด้านใน แล้วให้ผมนั่งตรงกลาง ชัยนั่งถัดจากผม
“เดี่ยวเลิกซ้อมกี่โมงล่ะ” ชัย ถาม
“ก็คงพักตอนเที่ยงอะ แล้วซ้อมต่อตอนบ่ายโมง กว่าจะเสร็จก็ ๔-๕ โมงมังอะ” ผมตอบไป
“งั้นเดี่ยวไปกินข้าวมันไก่กันนะ แล้วพวกพี่ชายค่อยกลับ” ราญ เว้นระยะไปนิดหน่อย “แล้วนี่เล่นเป็นตัวอะไรล่ะ”
“ง่า....เดี๋ยวดูเองตอนซ้อมแล้วกันอะ” ผมบอกหน้ามุ่ยๆ
“เห็นว่าเล่นเรื่อง วิวาห์พระสมุทร เหรอ สงสัยเล่นเป็นก้อนหินริมทะเลหว่ะ” ชัย พูดแล้วก็หัวเราะ
“ได้อย่างนั้นก็ดีอะดิ ไม่ต้องทั้งร้องทั้งทำท่าแบบนี้ ยังจำบทได้ไม่หมดเลย” ผมบ่น

“เอ้าซ้อมกันต่อได้แล้ว ทุกคนมารวมหน้าเวที” เสียงครูจันทร์เรียกทุกคนให้ไปรวมกัน แล้วพวกเราก็ซ้อมกันต่อ
.....................................................................
....................................

“ครูเค้าคิดยังไงวะ ให้เอ็งเล่นบทนั้น” ชัย ถามขึ้นมาระหว่างที่กำลังกินข้าว
“ไม่รู้อะ  เนี่ย...โดนว่าทุกวันเลย” ผมหน้ามุ่ยลงทันที
“อ้าว ทำไมล่ะ เท่าที่เห็น ตั้ม ก็ทำได้ค่อนข้างดีนี่นา เพิ่งซ้อมกันมาไม่กี่วันเองไม่ใช่เหรอ ครูเค้าว่าอะไรล่ะ” ราญ พูดบ้าง
“ครูน่ะไม่ว่าหรอก ถึงว่า ตั้ม ก็ยอมรับ แต่คนที่เล่นบทพี่เลี้ยงอีก ๒ คนนั่นอะ ชอบว่า ตั้ม บ่อยๆ”
“ว่าอะไรวะ”ชัย สงสัย
“ก็ สารพัด ท่าแข็งมั่ง พูดบทผิดมั่ง เค้าบอกว่าถ้าเป็นพวกเค้า ไม่ผิดบ่อยๆแบบนี้หรอก”ผมบอกเบาๆ “ตั้ม ว่าถ้าให้พวกพี่เค้าเล่น คงซ้อมกันได้ดีกว่านี้”
“อ้อ อย่างนี้นี่เอง ตั้ม ไม่ต้องห่วงหรอก เรื่องอย่างนี้อยู่ที่การซ้อม แล้วก็ความตั้งใจ แล้วพี่ชายว่า บทนี้เหมาะกับ ตั้ม นะ เข้ากับนิสัยบางอย่างของ ตั้ม พี่ชายว่าครูเค้าคงมองจุดนี้แหละ แล้วอีกอย่าง ตั้มร้องเพลงได้ดีกว่าพวกนั้นด้วย เรื่องนี้ละครร้องไม่ใช่เหรอ พี่ชายว่าครูเลือกถูกแล้วหล่ะ” ราญ พูดให้กำลังใจ “ตั้งใจซ้อมให้ดีๆล่ะ วันแสดงพี่ชายจะมาดูด้วย”
“จริงเหรอ” ผม ตาโตด้วยความดีใจ
“เออดิ ราญ มันเคยโกหกเหรอวะ แล้วพี่ชัยก็จะไปดูด้วยอีกคนนะ” ชัย พูดแล้วก็ยักคิ้วให้ผม
“คิ๊กๆ จะให้เรียก พี่ชัย จริงๆอะเหรอ” ผมถามกลั้วหัวเราะ
“อื้อ ราญ มันอนุญาตแล้ว” ชัย บอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ถึงจะดีได้ไม่เท่า พี่ราญ ของ ตั้ม แต่สัญญาจะเป็นพี่ชายที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ พี่ชัย สัญญา” ชัยพูดแล้วก็เอานิ้วก้อยมาเกี่ยวกับนิ้วก้อยของผม ผมหันไปมอง ราญ ก็เห็น ราญ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
“ตอนนี้ พี่ชาย อยู่ไกลไม่ค่อยได้ดูแล เลยฝาก ชัย ไว้ก่อน มีอะไร ตั้ม ก็มาปรึกษา ชัย นะ แล้ว ชัย จะมาบอกกับพี่ชายเอง” พูดจบ ราญ ก็เอานิ้วก้อยมาเกี่ยวกับนิ้วก้อยของผมด้วยอีกคนหนึ่ง
.....................................................................
....................................

“ไง น้องตั้ม” พี่เอก นั่นเอง เดินมาทางผมกับพร้อมกับ พี่วิทย์ แล้วพากันนั่งที่เก้าอี้ข้างๆผม พี่เอกนั่งข้างขวา พี่วิทย์ นั่งข้างซ้าย “เพื่อนไปไหนแล้วล่ะ” พี่เอก ถามยิ้มๆ
“กลับไปแล้วค๊าบพี่” ผมตอบพลางยิ้มให้พี่เค้า
“ว่าแต่ คนไหนเป็นแฟน ตั้ม ล่ะ สงสัยคนที่ ตั้ม กระโดดกอดแน่เลย” พี่เอก ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
“คิ๊กๆ ไม่ใช่แฟนอะพี่เอก นั่นน่ะ พี่ราญ เป็นเหมือนพี่ชาย ตั้ม คนนึงเลย” ผมยิ้มกว้าง
“อ้าว เหรอ พี่นึกว่าแฟนซะอีก เห็นสนิทกันขนาดนั้น” พี่เอก พูดพลางเหลือบสายตาไปยิ้มให้ พี่วิทย์
“แหมพี่ ถ้าอย่างนั้น ตั้ม ก็เป็นแฟนกะพี่เอกแล้วอะสิ ก็ในบทมีตอนตั้มกระโดดกอดคอพี่แบบนั้นด้วยนี่” พูดจบ ผมก็หัวเราะซะตัว งอ
“เป็นไงล่ะ โดนซะแล้ว” พี่วิทย์พูดแล้วหัวเราะเบาๆ
“เดี๋ยว ตั้ม กระโดดกอดคอ พี่วิทย์ด้วย อีกคน ดีมะอะ พี่วิทย์” ผมหันไปพูดกับพี่วิทย์แบบตลกๆ แต่พี่วิทย์กลับหน้าแดง
“เอ้อ พี่ไปห้องน้ำก่อน เดี๋ยวมานะ” พูดแล้ว พี่วิทย์ ก็ลุกเดินออกจากห้องประชุมไป มีพี่เอกมองตามแล้วก็หัวเราะดังๆ


salapaw

  • บุคคลทั่วไป
มีตัวละครเยอะจัง

พระเอกออกมายังเนี่ย อิอิ


ว่าแต่ มันมีทั้งหมดกี่ตอนคะ

ออฟไลน์ Just let it be

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 979
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
อ่านไปก็สงสารในอดีตของตั้มเหมือนกันนะ

เฮ้ออออ  แต่ก็ยังดีที่สุดท้ายอะไรๆ ก็ดีขึ้น (หวังว่านะ)

แต่นึกนี่  ไม่น่าคบเลยอะ  เหอะๆๆๆ

ตั้มคงไมหลงไปกับนึกหรอกนะ  แง่มๆๆๆ

รอติดตามต่อไปคร้าบบบ

 :a2:   :กอด1:

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
มีตัวละครเยอะจัง

พระเอกออกมายังเนี่ย อิอิ


ว่าแต่ มันมีทั้งหมดกี่ตอนคะ
ที่เยอะๆก็พวกตัวประกอบทั้งนั้นแหละครับ  :o9:
ตัวหลักๆที่สำคัญมีอยู่ไม่กี่ตัว

ส่วนพระเอกน่ะ ออกมาตั้งแต่ตอนแรกแล้วคร๊าบบ  :sad3:

ส่วนที่ว่าทั้งหมดกี่ตอน กะว่าคงเขียนประมาณ ๖๐ ตอนอาจจะเกินบ้างนิดหน่อยครับ เยอะไปหรือเปล่า  o19
เดี๋ยวช่วง ม.๕-ม.๖ คงดำเนินเรื่องเร็วขึ้น เพราะมีพื้นฐานต่างๆที่เล่ามาตอนช่วง ม.๔ เยอะพอสมควรแล้ว  :laugh3:

ขอบคุณสำหรับกำลังใจและคำติชมของทุกคนนะครับ  o1

ออฟไลน์ nana

  • 아주마 애기 두명 ㅋㅋ
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
๔๑ เรื่องเก่า

“หัวเราะอะไรของเอ็งวะ” ชัย ถาม ราญ ด้วยความสงสัย เมื่อเห็น ราญ มองหน้าเขาแล้วหัวเราะเบาในลำคอ
“หัวเราะนายน่ะสิ พอรู้นะว่าเอ็นดู ไอ้ตั้ม มันเหมือนน้อง แต่ไม่นึกว่าจะขนาดนี้” ราญ พูดยิ้มๆ
“อ้าว ก็ ไอ้ตั้ม มันน้องกูนี่หว่า จริงสิกูลืมเล่าให้ฟัง ไอ้ตั้ม น่ะ เป็นญาติห่างๆกู เป็นลูกพี่ลูกน้องแท้ๆกับกูเลย” คราวนี้ ชัย หัวเราะเบาๆ เมื่อเห็นหน้าที่ตกใจของ ราญ
...............................................................

ช่วงปิดเทอมใหญ่ก่อนจะขึ้น ม.๓ ประมาณปลายเดือนเมษายน ตั้ม ต้องลงไปจังหวัดหนึ่งในภาคใต้กับแม่ เพื่อไปบ้านของคนที่ ตั้ม เรียกว่า ป๊ะป๋า ซึ่งตัว ตั้ม เองก็เข้าใจมาตลอดว่าหมายถึง พ่อบุญธรรม  ตั้ม ไม่ค่อยเข้าใจว่า ทำไมแม่จึงต้องห้ามพูดถึง ป๊ะป๋า เวลาอยู่ที่บ้าน แต่ ตั้ม ก็เชื่อฟังทำตามที่แม่บอกมาตลอด

บ้านของ ป๊ะป๋า นั้น ตั้ม ไปบ่อยๆตั้งแต่เด็ก ป๊ะป๋า รักและตามใจ ตั้ม มากจนบางครั้งแม่ไม่พอใจ
...ป๊ะป๋า ที่แสนจะใจดี มักจะให้ ตั้ม นอนแนบอยู่กับอกแล้วเอามือลูบหัวเบาๆจน ตั้ม หลับไปเสมอ
...ป๊ะป๋า ชอบพา ตั้ม ไปทานขนมอร่อยๆ หรือแม้แต่ไอศครีมยี่ห้อดังๆที่แสนแพงสำหรับคนทั่วไป ขนมตามโรงแรมชื่อดังในกรุงเทพฯ ไม่มีที่ไหนที่ ...ป๊ะป๋า ไม่เคยพา ตั้ม ไป
...เสื้อผ้าน่ารักๆแบบสีสันแปลกตาที่ ตั้ม ใส่เมื่อกลับจากใต้ส่วนใหญ่ ก็เป็น ป๊ะป๋า ซื้อให้ แต่แม่ให้บอกว่าเป็นแม่ซื้อให้ ตั้ม ตอนลงมาใต้
...ตุ๊กตาหมาขนปุกปุย ที่ ตั้ม รักนักหนาไม่ค่อยยอมให้ห่างตัวเมื่อตอนเด็กๆ ก็เป็น ป๊ะป๋า ซื้อให้
...ป๊ะป๋า มักอยู่เล่นเกมส์ต่างๆกับ ตั้ม เสมอเวลาที่ ตั้ม ลงไปใต้  ป๊ะป๋า นี่แหละที่เป็นคนสอนตั้มเล่นดีดลูกหิน ปั่นลูกข่าง หรือแม้กระทั่งหมากรุก
...ตั้ม ว่ายน้ำเป็น ก็เพราะ ป๊ะป๋า หัดให้ที่คลองหลังบ้านของ ป๊ะป๋า
...ป๊ะป๋า ชอบพาตั้มไปเที่ยวบ้านสวน ป๊ะป๋า สอนให้ยิงหนังสะติ๊ก แม้กระทั่งปืนลมที่เสียงมันดังทำให้ ตั้ม ตกใจจนร้องไห้ในครั้งแรก แต่ป๊ะป๋า บอกให้ยิงเฉพาะใบไม้แห้งๆเท่านั้น และอย่ายิงสัตว์ เพราะมันก็มีชีวิต มันเจ็บเป็นเหมือนกัน
... และอีกหลายสิ่งหลายอย่าง ที่ ป๊ะป๋า ทำให้ ตั้ม มาตั้งแต่จำความได้

พอ ตั้ม เรียนประมาณชั้นประถม ๕ ป๊ะป๋า ก็ป่วยเป็นโรคมะเร็งในหลอดลม ปรกติแล้วทุกๆช่วงหนึ่งของช่วงปิดเทอม แม่จะต้องพา ตั้ม ลงไปหา ป๊ะป๋า เสมอ แต่พอป๊ะป๋าป่วย แม่จะพา ตั้ม ลงไปบ่อยขึ้น แม้ว่าจะเป็นช่วงที่โรงเรียนเปิดเทอมก็ตาม ทุกครั้งที่ลงไป อาการของ ป๊ะป๋า ก็เหมือนจะแย่ลง ครั้งสุดท้ายที่ลงไป ป๊ะป๋า นอนอยู่บนเตียงในห้องพยาบาล มีสายระโยงระยางเต็มไปหมด ตั้ม ถึงกับร้องไห้เมื่อเห็นอาการสะอึกเพราะหายใจไม่ออกของป๊ะป๋า พลางกอดขา ป๊ะป๋าไว้แน่น มีมือของ ป๊ะป๋า ลูบหัวเบาๆอยู่ตลอดเวลาจนผล๋อยหลับไป

ตอนที่แม่บอกว่าจะลงไปใต้ ตั้ม เก็บเสื้อผ้าลงกระเป๋าด้วยความดีใจที่จะได้เจอ ป๊ะป๋า ที่ ตั้ม แสนรัก แต่เมื่อไปถึงบ้าน ป๊ะป๋า มองเห็นโลงศพ และรูปภาพ ซึ่งตั้งอยู่ที่ศาลาในบริเวณบ้าน ตั้ม ยืนมองด้วยความงุนงง พอป้าใหญ่ที่เป็นพี่สาวของ ป๊ะป๋า มาบอกว่า ป๊ะป๋า เสียแล้ว ตั้ม ถึงกับปล่อยโฮออกมา พลางวิ่งไปกอดโลงศพแล้วร้องไห้ ท่ามกลางสายตาของ ป้าๆ และ น้าๆ ญาติของ ป๊ะป๋า ที่มองแล้วน้ำตาคลอด้วยความสงสาร

งานศพของ ป๊ะป๋า แม่ให้ ตั้ม ใส่ชุดผ้าดิบสีขาว เวลามีพระมาสวด ตั้ม ก็จะเป็นคนไปเคาะโลงเรียกให้ ป๊ะป๋า ฟังสวด ๓ วันผ่านไป ก็ถึงวันนำศพไปยังวัดเพื่อทำการเผา ตั้ม เป็นคนถือรูป ป๊ะป๋า นั่งอยู่หน้าของรถบรรทุกโลงศพ พร้อมกับคอยบอกกับรูปว่าถึงไหนแล้ว บอกให้เลี้ยวไปทางไหนเมื่อถึงทางแยก บอกให้ข้ามสะพาน จนกระทั่งไปถึงวัด ก็นำโลงศพไปวางที่หน้าเมรุ รอเวลาทำพิธี ระหว่างนั้น ตั้ม ยังคงนั่งซึมอยู่ที่เก้าอี้หน้าโลงศพ บางทีก็เอามือป้ายน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว มีแม่และคนอื่นๆมองดูอยู่ห่างๆด้วยความสงสาร

“สวัสดี นึกว่าจะไม่เจอซะแล้ว นี่กว่าจะปลีกตัวมาได้แทบแย่” ชายวัยกลางคน คนหนึ่งเดินเข้ามาทักแม่
“สวัสดีค่ะคุณพี่ มองๆหาอยู่เหมือนกันว่าจะมาหรือเปล่า”แม่ตอบไป
“แล้วลูกชายล่ะ” ชายคนนั้นถามต่อ
“นั่งอยู่นั่นน่ะค่ะ” แม่ชี้ไปที่ ตั้ม พลางตะโกนเรียก “ตั้ม ตั้มเอ๊ย มานี่หน่อยลูก” ตั้ม ได้ยินก็ลุกขี้นจากเก้าอี้เดินซึมๆเข้าไปหาแม่
“สวัสดีลุงก่อนลูก ลุงเป็นลูกพี่ลูกน้องกับ ป๊ะป๋า” แม่บอกกับ ตั้ม
“สวัสดีค๊าบ” ตั้ม ยกมือขึ้นไหว้คนที่แม่บอกว่าเป็น ลุง
“หน้าตาน่ารักนี่ หล่อเหมือน ป๊ะป๋า นะ สงสัยจะอายุพอๆกับลูกลุง” ลุง เอามือลูบหัวผมด้วยความเอ็นดู
“เป็นน้องมังค่ะ เหมือน ตั้ม จะอ่อนกว่าปีนึง แล้วนี่ไม่ได้มาด้วยเหรอค่ะ”แม่ถามถึงลูกชายของลุง
“โน่นแน่ะ ยืนอยู่โน่น” ลุงชี้ไปทางเด็กผู้ชายรูปร่างสูงคนหนึ่ง ตั้ม มองตามไป มองเห็นด้านข้างแล้วก็รู้สึกคุ้นๆตา แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร หันกลับไปมองโลงศพของ ป๊ะป๋า อยากจะไปนั่งใกล้ๆมากว่าจะมายืนอยู่ตรงนี้

ลุงยืนคุยกับแม่สักพัก ก็แยกตัวออกไป คุยกับคนอื่นๆต่อ ตั้ม ก็เลยเดินกลับไปนั่งอยู่หน้าโลงศพ ป๊ะป๋า เหมือนเดิม

“ใครน่ะพ่อ เมื่อกี้นี้”ชัย ถามพ่อ เพราะเห็นพ่อชี้มาทางเขาตอนที่คุยอยู่กับผู้หญิงคนนั้น
“เมียอาแกน่ะ มากับลูก นั่งอยู่หน้าโลงศพนั่นไง หน้าตาน่ารักเชียว แต่ตอนนี้คงกำลังเสียใจ ดูแล้วก็น่าสงสาร” พ่อพูดพลางชี้ไปที่เด็กชายตัวบางๆในชุดผ้าดิบที่นั่งก้มหน้าอยู่ ชัยมองตามไปก็รู้สึกคุ้นกับรูปร่างท่าทางแบบนี้ ...ไม่ใช่มั๊ง คงไม่บังเอิญขนาดนี้หรอกน่า...
ชัยคอยเหลือบตามองดูเด็กชายคนนั้นบ่อยๆ จนมีโอกาสได้เห็นหน้าเด็กคนนั้นเต็มตา
“เฮ้ย ไอ้ตั้ม นี่หว่า ไอ้ตั้มจริงๆด้วย” ชัยอุทานเบาๆด้วยความตกใจ
“พ่อๆ ลูกอาเค้าชื่ออะไร แล้วเรียนที่ไหน” ชัยเดินเข้าไปถามพ่อ
“เหมือนจะชื่อ ตั้ม นะ ชื่อจริง ศิลปิน หรือ ศิลปี  นี่แหละ เรียนอยู่ที่กรุงเทพฯจะขึ้น ม.๓ แล้ว เหมือนจะโรงเรียน *****” พ่อตอบ
“พ่อ พ่อบอกว่าเป็นลูกอา แบบนี้ก็เท่ากับเป็นน้องชายผมน่ะสิ” ชัย ถามอย่างกระตือรือร้น
“เออ ว่าอย่างนั้นก็ได้” พ่อตอบอย่างไม่ได้ใส่ใจอะไร แล้วก็เดินไปคุยกับญาติคนอื่นต่อ
“ไอ้ตั้ม ไอ้ม๋าตั้ม น้องตั้ม” ชัย พึมพัมเบาๆ มองไปทาง ตั้ม แล้วก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ “มึงเป็นน้องกูแล้วนะ”
.........................................................................

“อ้าว แบบนี้ก็เท่ากับ ตั้ม มันเป็นน้องนายน่ะสิ” ราญ ถามอย่างตื่นเต้น
“ก็กูบอกเมื่อกี้แล้วไง สรุปแล้ว ตั้ม มันน้องกู”ชัย ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
“ฮ่าๆๆ ทำไมโลกมันกลมแบบนี้วะ แต่ยังไงเราก็ไม่ยอมนะ เราต้องเป็นพี่ใหญ่” ราญ หัวเราะ
“เออ เออ เสือกเกิดก่อนกูไม่กี่วัน ทำวางท่าซะ” ชัยหัวเราะบ้าง “ว่าแต่มึงอย่าเล่าให้ ตั้ม มันฟังนะเว๊ย ตอนนั้นมันไม่เห็นกู แล้วกูก็ไม่รู้ว่ามันรู้เรื่องอะไรแค่ไหน แต่ดูจากท่าทางแล้วก็ฟังจากที่พ่อกูเล่า เหมือนแม่มันจะปิดๆไว้”
“เออ พอจะเข้าใจเหมือนกัน ไม่นึกเหมือนกันว่าจะมีเรื่องแบบนี้กับ ตั้ม” ราญ พูดพลางขมวดคิ้ว
“เออ แล้ววันงานเอาไงวะ มึงต้องไปดูให้ได้นะเว๊ย ไม่งั้น ไอ้ตั้ม เสียใจแย่” ชัย วกกลับมาเรื่องละครของ ตั้ม
“พลาดได้ยังไงเล่า ไม่ว่างก็ต้องหาทางเจียดเวลาไปดูให้ได้ แต่นึกภาพไม่ออกเลยนะ ว่า ตั้ม มันละเล่นบทนั้นออกมาได้แบบไหน”
“นั่นดิวะ จะกลายเป็นเจ้าหญิงจอมแก่นไปรึเปล่าก็ไม่รู้หว่ะ”

แล้วทั้ง ชัย  และ ราญ ก็พากันหัวเราะอย่างขบขันเมื่อนึกถึงบทที่ ตั้ม จะต้องแสดงในละครครั้งนี้

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-08-2008 17:40:11 โดย บุหรง »

kongkilmania

  • บุคคลทั่วไป
 :laugh: ดีใจวุ้ย ขอจิ้มน้องตั้มคนเก่งซักที

ว่าแต่ยังไม่ค่อยเคลียร์นะ   o2   รู้สึกว่ายังมีความลับให้ต้องติดตามไขกันต่อไป

อ่านตอนที่แล้ว   :sad2:  ที่พ่อไม่ค่อยรักตั้ม
ตั้มน้อยน่าสงสารจริงๆ    :o12:
แต่ก็นะ เด็กดีอย่างนี้ ใครๆเค้ารักกันทั่วบ้านทั่วเมือง พ่อจะไม่เห็นความน่ารักของลูกชายได้ไง
อ่านแล้วซึ้งมาก    o7  น้ำตาคลอเลย

ว่าแต่ อยากไปดูตั้มเล่นละครด้วยอ่ะ
เล่นเป็นนางเอกชิมิเคอะ   :m12:
ทำเป็นอ้ำอึ้งไม่ยอมบอกนะ 
แต่เราก็รู้    :laugh:

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
ตั้มมีพี่ชายที่น่ารักถึง 2 คน อิจฉาจัง


ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
๔๒ ตั๋วฟรี

“ปอ จะลอกวิชาอะไรหยิบจากในเป้เราได้เลยนะ สงสัยตรงไหนอย่าลืมจดไว้ล่ะ แล้วเอามาถามเรา หรือถามใครก่อนก็ได้ ช่วงนี้เราซ้อมละครคงไม่ค่อยมีเวลามาช่วยอะ เราขอโทษนะ”

...ตั้ม มันบอกผมไว้ตั้งแต่วันแรกที่เปิดเทอม แล้วยังมีแก่ใจขอโทษผมอีก ตั้งแต่วันนั้น ช่วงกลางวันมันก็จะไปซ้อมกับวงดุริยางค์ของโรงเรียน บางทีก็ซ้อมบทกับรุ่นพี่ที่ต้องเล่นคู่กับมัน ถามเท่าไหร่ก็ไม่ยอมบอกว่าเล่นบทอะไร แต่ดีไปอย่าง ช่วงนี้มันก็ดูห่างๆจาก ไอ้นึก ไปบ้าง แต่ไม่ค่อยไว้ใจเท่าไหร่เลยหว่ะ ก็รุ่นพี่ ๓ คน ที่ต้องมีบทต้องซ้อมกับมันบ่อยๆ แต่ละคนนี่คัดมาจากสุดหล่อของสายศิลป์ทั้งนั้น เหมือนจะชื่อ เอก วิทย์ แล้วก็ ติ๊ก ๓ คนหล่อกันไปคนละแบบ

เอก คิ้วเข้ม ตาคม มีไรหนวดบางๆ หน้าใส ตัวสูง รูปร่างออกจะบางๆ ดูหล่อแบบหนุ่มเจ้าสำอางค์ แววตาเหมือนคนเจ้าชู้นิดๆ
วิทย์ หน้าออกจีนๆ ผิวขาว ดูสะอาดสะอ้าน คิ้วบาง ตาใสซื่อ ปากแดงระเรื่อ ดูเป็นคนซื่อๆ เงียบๆ รูปร่างสูงใหญ่ ตัวหนาแบบนักกีฬา
ติ๊ก หล่อแบบไทยๆ หน้าเกลี้ยงเกลา คิ้วหนา ตาสองชั้นหวานเชื่อม จมูกโด่ง รูปร่างสูง ดูแล้วมีกล้ามเล็กน้อย พูดเก่ง ยิ้มแย้มอยู่ตลอดเวลา

เมื่อหลายวันก่อนไปเห็นเข้าพอดี ตอน ตั้ม มันไปรอพวกนี้ รุ่นพี่คนที่ชื่อ วิทย์  จับตัว ตั้ม ให้ขึ้นไปนั่งตรงระเบียงหน้าห้อง แล้วตัวเองไปนั่งคู่ เอาแขนโอบเอว ตั้ม มันไว้ ไอ้ตั้ม มันก็หน้าแดง ไม่รู้เพราะมันเขินพี่เค้า หรือเพราะมันกลัวตกจากระเบียงกันแน่ คิดๆแล้วยิ่งหงุดหงิดเว๊ย...

“ปอ คนที่นั่งกับนายชื่อไร” ไมค์ เดินเข้ามาถามผม ไมค์ เป็นนักเรียนที่เพิ่งจะย้ายเข้ามาเรียนตอนเทอม ๒ พร้อมกับ ปุง ที่ย้ายมาจากห้อง ๑๐ ทั้งสองคนตัวสูงกว่าผมเยอะ โดยเฉพาะไมค์ ทั้งสูงทั้งหนา หน้าตาออกเหมือนพวกลูกครึ่งฝรั่ง
“ชื่อ ตั้ม ทำไมวะ” ผมถามอย่างหงุดหงิด
“เปล่า เห็นไม่ค่อยอยู่ที่ห้อง เลยสงสัย” ไมค์ยิ้มกวนๆ
“มันไปซ้อมละคร มึงจะทำไมมัน”
“เปล่า เห็นมันตลกดี ท่าทางยังกับเด็กๆ น่าแกล้งเล่นหว่ะ” ไมค์ พูดแล้วก็หัวเราะ
“อย่านะมึง ขืนทำอะไรมัน พวกกูเอามึงตายแน่” ผมขู่มัน
“เออๆๆ รู้แล้ว กูไปคุยกับพวกโน้นดีกว่าหว่ะ” พูดจบ ไมค์ ก็เดินไปคุยกับพวก ปุง ทางหลังห้อง

จะว่าไป ปอ ก็พอจะเข้าใจ ไอ้ไมค์ มันอยู่เรื่องที่อยากแกล้ง ตั้ม มันเล่น ตอนที่เขาเห็น ตั้ม ครั้งแรกเมื่อตอน ม.๑ เขาก็รู้สึกแบบนี้เหมือนกัน ตอนนั้น ตั้ม มันดูบอบบาง หน้าตายิ้มแย้มอยู่ตลอดเวลา เสื้อผ้าเนื้อตัวสะอาดสะอ้าน หน้าลายพร้อยด้วยแป้งมาโรงเรียนทุกวัน มันวิ่งไปวิ่งมา คุยกับคนโน้นคนนี้อย่างสนิทสนมตั้งแต่วันแรกที่เปิดเทอม เวลาเดินก็เดินแบบธรรมดาไม่ค่อยได้ เห็นมัน เดินได้ไม่กี่ก้าว ก็กระโดดไปกระโดดมา ไม่ก็วิ่งเหยาะๆอยู่ตลอดเวลา เวลามันกินข้าว กินขนม ก็เคี้ยวตุ้ยๆ อมยิ้มไม่หยุด เหมือนอะไรก็อร่อยไปหมด แล้วมันก็ซุ่มซ่ามซะขนาดนั้น เดี๋ยวชนโต๊ะ ชนเก้าอี้ บางทีเดินชนกระจกซะเฉยๆ

...เรื่องหนึ่งที่เขาแปลกใจ สำเนียงวิธีการพูดของตั้ม บางทีมันเหมือนเด็กเพิ่งหัดพูด พูดเหมือนลิ้นคับปากอยู่บ่อยๆ แล้วมันก็ซื่อซะเหลือเกิน เพื่อนจะหลอกอะไร มันเชื่อหมด อย่างหลอกว่าครูเรียกให้ไปพบ มันก็เชื่อจนโดนครูดุกลับมา หรือตอนที่มันวางชามก๋วยเตี๋ยวไว้ แล้วไปซื้อน้ำ เพื่อนบางคนแอบตักน้ำปลากับน้ำส้มสายชู ใส่ลงไปในชามมันหลายช้อน พอมันกลับมานั่งกินเข้าไปคำเดียว ก็ทำหน้าประหลาด ลุกขึ้นไปซื้อขนมปังมากินแทนหน้าตาเฉย มันบอกสงสัยเส้นก๋วยเตี๋ยวจะบูด แถมยังยิ้มให้เพื่อนๆอีก และอีกสารพัดเรื่อง แต่มันก็ไม่เคยโกรธ พอรู้ตัวว่าถูกหลอก มันกลับหัวเราะพูดให้เป็นเรื่องตลกไปทุกครั้ง
บางครั้งมันโดนแกล้งหนักๆ จนต้องเจ็บตัว มันก็ไม่เคยเอามาเป็นอารมณ์ แต่เวลาเพื่อนๆมีเรื่องอะไร ถ้ามันรู้มันจะเดือดร้อนไปด้วยทุกครั้ง เพื่อนยืมของอะไรมันไม่เคยปฏิเสธ ดูอย่างตอนที่เขาไม่มีเงินกินข้าวเมื่อเทอมที่แล้ว มันยังมาเรียกให้ไปกินข้าวกับมัน เวลาเพื่อนขอยืมการบ้านมาลอก แทนที่มันจะให้ลอกอย่างเดียว มันกลับมานั่งถามว่ามีตรงไหนไม่เข้าใจ แล้วก็อธิบายจนเพื่อนๆรู้เรื่องถึงจะยอมเลิกรา หนังสือนอกเวลา มันก็รีบอ่านตั้งแต่ต้นเทอม เพราะมันรู้ว่าเดี๋ยวต้องมีเพื่อนๆมายืมหนังสือมัน จะทำอะไรมันก็คิดถึงเพื่อนๆตลอด แบบนี้ทำไมเพื่อนๆในห้องจะไม่รักมันล่ะ...

แต่เพราะความเปิ่น กับความไร้เดียงสาไม่สมวัยของมันนี่แหละ ทำให้พวกผมชอบแกล้งมันบ่อยๆเมื่อตอนมัธยมต้น ด้วยความเอ็นดูปนไปด้วยความหมั่นไส้เล็กน้อย ไอ้ไมค์ตอนนี้มันก็คงรู้สึกแบบนี้เหมือนกัน
.......................................................................

“ปอ เอ้า...นี่ ตั๋วละครวันซ้อมใหญ่ ตอนบ่าย ๒ วันพฤหัสหน้านะ” ตั้ม ยื่นตั๋วให้ผม ๓ ใบ ก่อนที่ผมจะกลับบ้าน “เราคิดว่า ปอ คงชวน พล กับ นัส ไปดู เราเลยขอครูมา ๓ ใบ”
“ให้กูทำไมวะนี่” ผมแอบดีใจ แต่ก็พูดเหมือนไม่อยากดู กวนๆมันไป
“อ้าว เรานึกว่า ปอ อยากดู เห็นถามเราบ่อยๆ แบบนี้เราจะเอาไปให้ใครดีอะ” ตั้ม ทำสีหน้าคิดหนัก “ให้พวก นึก ๓ ใบคงไม่พอ”
“ใครว่ากูไม่เอาวะ” ผมพูดพลางคว้าตั๋วมาถือไว้ กลัวว่าเดี๋ยวมันเอาไปให้ ไอ้นึก จริงๆ “แล้วตกลงเอ็งเล่นเป็นตัวอะไร ไม่เห็นบอกกู”
“เดี๋ยวไปดูก็รู้เองแหละ เราไปซ้อมก่อนนะ สัปดาห์หน้าต้องเล่นแล้ว” พูดจบ ตั้ม ก็วิ่งตื๋อออกจากห้องไป

ผมมองไปทางหลังห้องก็มองเห็น ธง กับ ตี๋ นั่งคุยกันอยู่ยังไม่กลับ ก็เลยเดินเข้าไปหาพวกมันเพราะนึกขึ้นมาได้ว่า ๒ คนนี้อยู่วงดุริยางค์ของโรงเรียน และมันก็ต้องไปเล่นดนตรีให้ละครครั้งนี้ด้วย
“เฮ้ย ไอ้ตั้ม มันเล่นเป็นตัวอะไรวะ” ผมนั่งลงที่โต๊ะใกล้ๆพวกมันแล้วถาม
“อ้าว มันยังไม่บอกเหรอ” ตี๋ ทำหน้าสงสัย
“เออ ถามกี่ครั้งมันก็ไม่ยอมบอก บอกให้ไปดูเอง” ผมตอบไป
“ฮ่าๆๆ งั้นไปดูเองดีกว่า” ธง พูดพลางหันไปยิ้มให้ ตี๋
“นั่นดิ เอ็งต้องไปดูนะเว๊ย มันอุตส่าห์ขอตั๋วจากครูมาให้ตั้ง ๓ ใบ ปรกติครูเค้าให้คนละ ๒ ใบเอง มันขออยู่ตั้งนานนะเว๊ยกว่าครูเขาจะยอมให้” ตี๋ หันมาบอกผม
“เหรอวะ” ผมยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ รู้สึกดีใจจนตัวแทบลอย ที่ ตั้ม มันตั้งใจขอตั๋วมาให้ผมโดยเฉพาะ “เออ กูไม่พลาดหรอก กูกลับก่อนนะเว๊ย พรุ่งนี้เจอกัน” พูดจบ ผมก็ลุกจากเก้าอี้ เดินออกจากห้องไป



CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






salapaw

  • บุคคลทั่วไป
+1 ให้กับคนน่ารัก   รูปตอนเด็กน่ารักมากเลยค่า  รูปมันอยู่ตอนป.ไรคะ

ออฟไลน์ AidinEiEi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 776
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1
เห็นด้วยกับรีบนค่ะ น่ารักจัง :o8:

ตกลงตั้มลูกใครอ่ะดูเป็นความลับจังแฮะ :serius2:

ตามลุ้นต่อไป.... :oni1:

ออฟไลน์ Just let it be

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 979
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
ได้ตั้วมา 3 ใบเลยแหนะ

อิอิ

แต่ยังมะเข้าใจอะ  ว่าตั้มคิดไงกะปอกันแน่

แป่ว

 o2

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
ก่อนจะอัฟต่อ ตอบคำถามก่อนดีหว่านะครับ  :teach:
+1 ให้กับคนน่ารัก   รูปตอนเด็กน่ารักมากเลยค่า  รูปมันอยู่ตอนป.ไรคะ
แหะๆ จำไม่ได้แล้วครับ แต่รูปนี้ ป๊ะป๋า ถ่ายให้ตอนไปเที่ยวบ่อน้ำพุร้อน น่าจะซัก ๘ หรือ ๙ ขวบแล้วครับ  o22

เห็นด้วยกับรีบนค่ะ น่ารักจัง :o8:

ตกลงตั้มลูกใครอ่ะดูเป็นความลับจังแฮะ :serius2:

ตามลุ้นต่อไป.... :oni1:
อันนี้ เขียนเป็นตอนพิเศษดีไหมครับ  :laugh3:

ได้ตั้วมา 3 ใบเลยแหนะ

อิอิ

แต่ยังมะเข้าใจอะ  ว่าตั้มคิดไงกะปอกันแน่

แป่ว

 o2
เพื่อนไงครับ เพื่อนที่นั่งเรียนด้วยกัน มักจะสนิทกันเป็นพิเศษ แล้วหลังๆ ปอ ดีกับ ตั้ม มาก ตั้ม เลยยิ่งไว้ใจไงครับ แล้วอาจจะรำคาญก็ได้ที่ ปอ เอาแต่ถามอยู่ทุกวันว่าซ้อมละครเป็นยังไง  o3

ว่าแต่ อยากไปดูตั้มเล่นละครด้วยอ่ะ
เล่นเป็นนางเอกชิมิเคอะ   :m12:
ทำเป็นอ้ำอึ้งไม่ยอมบอกนะ 
แต่เราก็รู้    :laugh:

หง่ะ โดนดักคอ  :o211: แต่จะเป้นนางเอกจริงเร๊อออ....อาจจะเป็นเจ้าชายอังเดรก็ได้นะครับ แล้วรุ่นพี่ ๑ ใน ๓ คนเป็นนางเอก  :laugh3:


ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
http://media.imeem.com/m/u6G4PRo5P3/aus=false/

๔๓ ละครวันซ้อมใหญ

“ปอ มาแล้วเหรอ เอ้านี่สูจิบัตร รีบเข้าไปนั่งเลย ตั๋วพวกนายมีเลขที่นั่งด้วย แถวที่สามนะ” ตุ่ม บอกผมพลางยื่นสูจิบัตรละครเล่มบางๆให้พวกผมคนละเล่ม ครูจันทร์ เป็นครูที่ปรึกษาคนหนึ่งของห้อง ๔/๙ นักเรียนในห้องจึงต้องมาช่วยงานในห้องประชุม
“เฮ้ย แล้วไอ้ตั้ม มันเล่นเป็นตัวอะไรวะ” ผมถาม
“เข้าไปก่อน แล้วอ่านดูในสูจิบัตรแล้วกันหว่ะ” ตุ่ม มันตอบยิ้มๆ พลางยักคิ้วให้ผมอย่างมีเลศนัย “เข้าไปก่อน ยืนนี่เกะกะ ชิ่วๆ” ตุ่มพูดพลางโบกมือไล่ แล้วหัวเราะเบาๆ

พวกผม ๓ คนจึงได้เดินเข้าห้องประชุมไป พอเข้าไปก็มองไปที่ตั๋ว เห็นมีเลขที่นั่งเขียนอยู่บนมุมบนด้านขวา
“C-15 มันอยู่ตรงไหนวะ” ผมหันไปถาม พล กับ นัส
“หน้าๆ” นัส บอก ...เออ กูรู้แล้วไอ้ตุ่มเพิ่งบอกตะกี้... ปอ นึกในใจ
พวกเราก็เลยเดินขึ้นไปด้านหน้าของหอประชุม เห็นมีตัวอักษรพร้อมตัวเลขติดอยู่ที่เก้าอี้ ผมเจอแล้ว แถว C แถวที่สามจากด้านหน้าเหมือนที่ ตุ่ม บอก พวกผมกำลังจะเดินเข้าไปนั่ง ก็มีนักเรียนห้อง ๔/๙ คนหนึ่งเข้ามาขอดูตั๋ว พอผมยื่นให้ ก็บอกพวกเราให้ไปนั่งที่เก้าอี้ตรงกลางๆแถว ที่มีหมายเลขติดอยู่
“นายเพื่อน ตั้ม ใช่รึเปล่าวะ ได้ที่นั่งดีซะด้วย ดูละครให้สนุกนะ” มันยิ้มให้พวกเราก่อนจะเดินไปดูแลที่นั่งให้คนที่ทยอยเดินเข้ามาในห้องประชุม ผมก็เลยนึกออก คนนี้เหมือนจะชื่อ เป็ด เป็นเพื่อนในห้อง ๓/๖ ที่ ตั้ม เคยเรียนด้วย

“ตั๋วฟรี ที่นั่งก็ดี” นัสพูดยิ้มๆ
“นั่นดิ เห็นขายตั๋วกันด้วย แต่ก็ยังมีคนเข้ามาดูกันเยอะนะเว๊ย” พล พูด
“เออ กูเห็นแล้ว พวกกระเทยกลุ่มนั้นแม่งกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ พระเอก พระรอง หล่อๆทั้งนั้นนี่หว่า” ผมพูดอย่างหมั่นไส้
“นางเอกก็ใช่ย่อยนะเว๊ย เห็นเค้าว่าทั้งสวย ทั้งน่ารัก” พล พูดยิ้มๆ
“แต่กูยังสงสัยอยู่เลยหว่ะ ไอ้ตั้ม มันเล่นเป็นตัวอะไรวะ” ผมพูดพลางทำท่าจะเปิดสูจิบัตรดู
“เฮ๊ย” เสียง นัส อุทาน พอหันไปมองก็เห็นมันดูในสูจิบัตรด้วยสีหน้าตกใจ
“อะไรของเอ็งวะ” ผม หันไปเอ็ดมัน
“ตั้ม”มันทำหน้าตื่นๆ เอามือชี้ไปบนสูจิบัตร ผมเลยชะโงกไปดู
“เฮ๊ย อะไรวะ” พล อุทาน
“เชี๊ย ล้อเล่นน่า” ผม แปลกใจไม่แพ้กันเมื่อเห็นชื่อนักแสดงในสูจิบัตร

เจ้าหญิงอันโดรเมดา             นายศิลปี   ********* นักเรียนชั้นมัธยมปีที่ ๔/๘
.................................................................................
.......................................
( คลื่นกระทบฝั่ง )
... อันโดรเมดาสุดาวรรค์                   ยิ่งกว่าชีวันเสน่หา
ขอเชิญสาวสวรรค์ขวัญฟ้า                  เปิดวิมานมองมาให้ชื่นใจ
ถึงกลางวันสุริยันแจ่มประจักษ์             ไม่เห็นหน้านงลักษณ์ยิ่งมืดใหญ่
ถึงราตรีมีจันทร์อันอำไพ                    ไม่เห็นโฉมประโลมใจก็มืดมน
อ้าดวงสุริย์ศรีของพี่เอ๋ย                     ขอเชิญเผยหน้าต่างนางอีกหน
ขอเชิญจันทร์แจ่มกระจ่างกลางสกล       เยี่ยมให้พี่ยลเยือกอุรา...

( บังใบ )
...กามเทพหลอกลวงเสียบศรปักทรวงให้ห่วงหา
ให้รักแล้วใยมาริดรักลาแรมไกล
รักของข้าดั่งบัวบังใบบังมิให้ใครเห็น
คร่ำครวญหวนทุกเช้าเย็นตรอมตรม
สุดหักสุดหายหัวใจมิวายระทม                                 
สุดตรอมสุดตรมใจยิ่งคิดยิ่งให้โหยหา
ตัองบังรักไว้ไม่กล้าบอกใคร
เย็นย่ำสุริยาตะวันจากลาพามืดมิด
โอ้ช่างเหมือนดวงจิตมิดมืดยามรักไกล
น้ำตาตกตามตะวันนึกแล้วหวั่นพรั่นใจ
อกเอ๋ยทำฉันใดเล่าเอย
คู่ชื่นคู่เชยรักร้างเลยแรมลายิ่งพาให้หนาวไฉน
ปองรักอย่างบัวบังใบต้องช้ำหัวใจเรื่อยมา....

( แขกสาหร่าย )
... ถ้าแม้นเลือกเกิดได้ตามใจพี่    จะไปพ้นที่นี้นั้นหาไม่
จะยืนชมขวัญตาผู้ยาใจ             กว่าจะได้สวมกอดแม่ยอดรัก
ถ้าแม้นไม่เกรงใจบิดาเจ้า           จะลักองค์นงเยาว์จากตำหนัก
นี่หากเกรงโฉมฉายจะขายพักตร์    จึงจำหักใจคอยดูถ้อยที ...

ร่างบางบนเวที ที่มีใบหน้าหวานๆ ผมสีทองยาวไปถึงกลางหลัง ในชุดวิวาห์สีขาวบริสุทธิ์ ทำให้นักเรียนหลายคนถึงกับเป่าปาก วี๊ดวิ้ว ชอบอกชอบใจ และปรบมือให้ดังสนั่น เมื่อจบการแสดงลง ผมยังตกใจและประทับใจ ตั้ม มันไม่หายตั้งแต่มันออกมาในฉากแรก บทเจ้าหญิงแสนสวย ที่ทั้งสวยงาม อ่อนหวาน จะยกแขน จะเดินเหิน ก็ดูนุ่มนวลไปทุกย่างก้าว ท่าทางที่เหมือนจะไร้เดียงสา แต่เต็มไปด้วยความรับผิดชอบและความเสียสละ มันแสดงได้อย่างเป็นธรรมชาติ เพราะนั่นแทบจะเป็นบุคลิกแท้ๆของมันอยู่แล้ว ท่าทางเขินอายในฉากที่พระเอกร้องเพลงบอกรัก ยิ่งทำให้คนดูปรบมือด้วยความพออกพอใจ เมื่อถึงบทที่ตัวเอกทั้งสองโอบกอดกัน ก็มีเสียงปรบมือและเสียงเป่าปากดังเป็นระยะ โดยเฉพาะเสียงกรี๊ดจากกลุ่มกระเทยประจำโรงเรียนเวลาที่พระเอกและพระรองทั้ง ๓ ออกแสดง ยิ่งดังเป็นพิเศษ

เสียงปรบมือยังคงดังอยู่ลั่นห้องประชุม ละครครั้งนี้ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม
.................................................................................
.......................................

“เหนื่อยมั๊ย น้องตั้ม” พี่ติ๊ก ถามผมหลังจากที่เปลี่ยนชุดเสร็จ
“ก็นิดหน่อยอะค๊าบ แต่ตื่นเต้นมากว่าอะ พี่ๆล่ะค๊าบ เหนื่อยกันแย่เลย” ผมตอบยิ้มๆ
“ตั้ม ทำได้ดีมากเลยนะวันนี้” พี่เอก พูดพลางตบไหล่ผมเบาๆ ๒-๓ ที พี่วิทย์ก็เดินมามองผมยิ้มๆ
“ขอบคุณค๊าบบ” ผมยิ้มกว้าง
“นู๋ตั้ม ยังไงอีก ๓ วันที่เหลือก็ฝากด้วยนะ” พี่ไก่ กับ พี่วัน เดินเข้ามาบอกผมยิ้มๆ พี่ทั้ง ๒ คนปรกติจะว่าผมอยู่ตลอด วันนี้มายิ้มให้ผม ผมจึงยิ้มกว้างด้วยความดีใจ
“พี่ๆต้องคอยช่วย ตั้ม ด้วยนะค๊าบ มีอะไรก็ช่วยบอกช่วยสอน ตั้ม ด้วย ตั้ม กลัวจะทำอะไรพลาดไปเหมือนกัน”ผมพูดยิ้มๆ
“ตั้ม พยายามขนาดนี้ ต้องทำได้ดีแน่ครับ” พี่วิทย์ พูดเบาๆ
“งั้น ๓ วันที่เหลือพวกเรามาพยายามด้วยกัน เพื่อละครของเรา” พี่ติ๊ก ยื่นมือออกมา
“เพื่อโรงเรียนของเรา” พี่เอก เอามือไปจับมือพี่ติ๊ก
“เพื่อ ครูจันทร์ ของพวกเรา” พี่วันบอก
พวกเราก็เอามือไปจับไว้ด้วยกัน แล้วร้อง เย้ ออกมาดังๆ

ครูจันทร์ ยืนมองอยู่ไม่ห่างจากพวกเด็กๆนัก ยิ้มด้วยความเอ็นดูและภาคภูมิใจในตัวนักเรียนทุกคนของครู

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-05-2008 18:18:28 โดย tumty »

salapaw

  • บุคคลทั่วไป
ว้ายๆๆๆๆ  ถามด่วน  มีรูปตอนนั้นป่าวคะ  ขอดูๆๆๆ

 :o8:  :o8:

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
๔๔ การแสดงวันสุดท้าย

ก่อนการแสดงประมาณ ๑๐ นาที ผมก็เตรียมพร้อมอยู่ที่หลังเวที รอบนี้เป็นการแสดงรอบสุดท้ายแล้ว ผมตั้งใจไว้ว่า จะทำให้ดีที่สุดมากกว่าที่ผ่านๆมา แต่ใจผมอดกังวลไม่ได้ เพราะป่านนี้แล้ว ผมก็ยังไม่เห็นคนที่ผมรอคอยมาตลอด ๓ วัน

“ตั้มๆ ตั้ม ดูนี่เร็ว” เสียง ตุ่ม เรียก พอผมหันไปก็เห็น ตุ่ม เดินเข้ามาหาพร้อมช่อดอกลิลลี่ช่อใหญ่ “เอ้า เอาไป” ตุ่ม ส่งให้แล้วยิ้มให้ผม
“อะไรอะ” ผมยังไม่ได้รับไว้ เพราะไม่รู้ว่าเป็นดอกไม้จากใคร
“รับไป ของนาย มีคนฝากมา” ตุ่ม ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ พลางส่งช่อดอกไม้ให้ผม
“ใครให้มาอะ” ผมรับมาอย่าง งงๆ
“อ่านในการ์ดสิวะ” ตุ่ม บอกพลางหยิบการ์ดสีขาวใบเล็ก ที่เสียบอยู่ระหว่างก้านดอกไม้ออกมาให้ผมอ่าน

...แสดงให้เต็มที่นะ พี่ๆคอยดูอยู่...
จาก พี่ราญ และ พี่ชัย


“พี่ราญ อะ ตุ่ม พี่ราญ แล้วก็ พี่ชัย ด้วย” ผมพูดเกือบตะโกนด้วยความดีใจ เผลอตัวเรียก ชัย เป็น พี่ชัย ไปด้วย พลางรู้สึกว่าน้ำตาซึมออกมา
“อ้าว อย่าเพิ่งเป่าปี่ซิวะ” ตุ่ม พูดพลางหากระดาษชำระส่งให้ผม ผมรับมาแล้วซับๆน้ำตาที่รื้นอยู่ตรงหัวตาให้แห้ง
“ก็ดีใจอะ ที่บ้านเราไม่มีใครมาเลย มี พี่ราญ นี่แหละที่เราจะได้คิดว่ามีพี่ชายมาดู พวกนายก็ด้วยนะ เมื่อวานแห่กันมาซะเราตกใจ” ผมหัวเราะ พลางนึกถึง พวกกร จก ต่อ เต่า วา โชค แล้วยังพวก ศักดิ์ สิทธิ์ สมชาย ที่รวมกลุ่มมาดูกันเมื่อวานนี้ พร้อมกับกุหลาบสีชมพูช่อใหญ่ที่เอามาให้ผม
“เออ เอาดอกไม้มานี่ก่อน เดี๋ยวจะแขวนไว้ให้แถวนี้แล้วกันนะ แสดงให้ดีๆล่ะ รอบสุดท้ายแล้ว” ตุ่ม พูดแล้วก็คว้าเอาช่อดอกไม้จากมือผมไปหาที่แขวนไว้ตรงผนัง บริเวณที่ผมสามารถมองเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของหลังเวทีก็ตาม
“ไง ดอกไม้จากใครล่ะนั่น สวยเชียว” พี่เอก ในชุดทหารแบบฝรั่ง เสื้อสีแดง กางเกงสีกรมท่า เดินเข้ามาหาผม พร้อมกับพี่วิทย์ และพี่ติ๊ก ในชุดแบบเดียวกัน ทั้งสามคนมองดูเด็กชายที่กลายเป็นสาวน้อยผมทองด้วยสายตาชื่นชม
“จากพี่ชายค๊าบ” ผมตอบพลางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
“เหรอ งั้นวันนี้เต็มที่ล่ะสิ” พึ่ติ๊ก หัวเราะน้อยๆ
“เต็มที่ทุกวันแหละค๊าบพี่ รอบนี้รอบสุดท้าย ยังไงก็ต้องพยายามให้ดีที่สุดอะค๊าบ”ผมยังยิ้มหน้าบานไม่หุบ
“แล้วอย่าเผลอ ค๊าบๆ บนเวทีล่ะ เดี๋ยวคนดูเค้าจะนึกว่าเจ้าหญิงเป็นทอมไปซะ” พี่วิทย์ พูดแซวเบาๆ แล้วพวกเราก็หัวเราะขึ้นพร้อมกัน
“มาเติมตาก่อน ตั้ม จางหมดแล้ว” พี่วัน พูดพลางหยิบอายแชโดว์มาระบายเพิ่มเติมให้ผม
.........................................................................
................................

พอแสดงเสร็จ ครูก็เรียกให้พวกเราถ่ายรูปกันเยอะพอสมควร ทั้งรูปเดี่ยว รูปหมู่ เพื่อเป็นที่ระลึก และเพื่อใช้ทำหนังสือรุ่นของพวกพี่ติ๊ก พี่เอก และพี่วิทย์ ที่จะจบชั้น ม.๖ ในเทอมนี้ ถ่ายรูปกันเสร็จผมก็รีบเปลี่ยนเสื้อผ้า กลับมาเป็นกางเกงสามส่วนสีน้ำตาลโกโก้ เสื้อยืดโปโลแขนยาวสีเหลืองสด รองเท้าผ้าใบกับถุงเท้าสีขาว คว้ากระเป๋าสะพายมาสะพาย ใส่หมวกสีเหลืองเข้มหันปีกหมวกไปไว้ที่ท้ายทอย หยิบแว่นตาออกมาสวม ไม่ลืมช่อดอกลิลลี่ที่แขวนไว้ รีบวิ่งออกมาจากหอประชุม ไม่ได้สนใจกับเสียงเรียกของ พี่เอก ที่เรียกตามหลังมาแว่วๆ
พอมาถึงบริเวณประตูหน้าของห้องประชุม ผมก็มองหา พี่ราญ กับ พี่ชัย ก็ไม่เห็นใครเลยสักคน
“ตั้ม ไม่ต้องหาหรอก กลับไปแล้ว” เสียง ตุ่ม เรียกมาจากข้างหลัง ผมก็หันไปตามเสียงเรียก “เอ้า นี่ ราญ ฝากไว้ให้” ตุ่ม ยื่นการ์ดสีชมพูอ่อนให้ผม ผมกางออกอ่านในการ์ด

...ทำได้ดีมากเลยนะ เจ้าหญิงน้อยๆของพี่ชาย
ต้องขอโทษด้วยที่อยู่เจอไม่ได้ เพราะมีธุระที่ต้องไปทำ
แล้วจะพยายามหาเวลาว่างมาหาใหม่...
รักและเป็นห่วงน้องเสมอ
พี่ราญ


ผมอ่านจบก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ พลางบรรจงเก็บการ์ดนั้นไว้ รวมกับการ์ดใบแรกที่อยู่ในกระเป๋าสะพายของผม
“ขอบใจนะ ตุ่ม อุตส่าห์เก็บไว้ให้” ผมยิ้มให้ตุ่ม
“ไม่เป็นไรหรอก ไปหา เต่า กันมะ แล้วเดินเล่นกันหน่อย งานโรงเรียนตัวเองไม่ได้ดู ใครรู้เข้าอายเขาแย่”
ตุ่ม พูดจบก็เดินนำผมไปหาเต่า ซึ่งกำลังเดินดูของที่ขายอยู่บริเวณห้องประชุม แล้วพวกเรา ๓ คนก็เดินดูกิจกรรมต่างๆในงานของโรงเรียน จนถึงเวลางานปิด ก็แยกย้ายกันกลับบ้านไป

         
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-08-2008 17:41:20 โดย บุหรง »

ออฟไลน์ AidinEiEi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 776
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1
 :m1:งานนี้ตั้มคงเนื้อหอมน่าดูล่ะสิ   :m4:

อาจารย์..สีฟ้า

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามาติดตามและเป็นกำลังใจให้เหมือนเดิมครับ  :L2: :L2: :L2:

ออฟไลน์ สาวตัวกลม

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1295
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-2
ตามสีฟ้า มาให้กำลังใจคนเขียนจ้า :o8:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Just let it be

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 979
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
ฮิ้ววว

เจ้าหญิงมาแล้ว

แล้วเจ้าชายไปไหนหงะ

ยังมะมาหาเจ้าหญิงตัวน้อยอีกเหรอไงเนี่ย

เดวได้มีคนซิวตัวเจ้าหญิงไปก่อนหรอก  แง่มๆ

 :m32:

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
แง้ ...  :serius2:
เอาเพลงใส่แล้วมันไม่ขึ้นอะค๊าบบบ
ครายช่วยป๋มที  o2

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
รอเจ้าหญิงคนสวยนะจ๊ะ

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
๔๕ แบ่งครึ่ง

“ศิลปี เดี๋ยวทานข้าวเสร็จแล้วครูวานไปเรียกนายเอก กับนายวิทย์ ให้ไปพบครูที่ห้องพักครูหน่อยนะ” ครูจันทร์ บอกก่อนออกจากห้องเรียนเมื่อหมดคาบเรียนวิชาร้อยกรอง

“พี่ค๊าบ พี่เอก กับ พี่วิทย์ อยู่มั๊ยอะค๊าบ” ผมถามรุ่นพี่สองคนที่ยืนอยู่หน้าห้อง
“อยู่ เดี๋ยวพี่เรียกให้” พูดจบพี่คนนั้นก็ตะโกนเข้าไปในห้อง “ เอก วิทย์ มีคนมาหาโว๊ย”
“เออ เดี๋ยวนะบอกให้รอแป๊บนึง” เสียง พี่เอก ตะโกนบอกออกมา
“น้องมาคุยกับพี่ๆตรงนี้ดีกว่า” รุ่นพี่อีกคนพุดแล้วก็จูงแขนผมมาที่ระเบียง แล้วพากันหิ้วปีกผมยกตัวให้นั่งลงบนระเบียงแคบๆ พี่ๆเค้าตัวใหญ่กว่าผมเยอะก็เลยทำได้สบายๆ แล้วก็พากันปีนขึ้นมานั่งข้างๆผม คนละข้าง
“อ้าว เป็นอะไร หน้าซีดเชียว” รุ่นพี่ที่นั่งทางขวาก้มหน้ามาถาม
“ผมกลัวความสูงอะค๊าบ เมื่อกี้เลยตกใจ” ผมตอบไป
“ฮ่าๆๆ ไม่ต้องกลัวนะ เดี๋ยวพี่จับไว้ให้” รุ่นพี่ที่นั่งทางซ้ายพูดจบก็เอาแขนโอบเอวผมไว้ ในขณะที่รุ่นพี่ที่นั่งทางขวาเอาแขนโอบคอผม
“น้องรึเปล่าครับ ที่เล่นเป็น อันโดรเมดา ตอนงานโรงเรียนน่ะ” เสียงถามมาจากทางขวา
“ค๊าบ ตั้มเอง” ผมหันไปตอบยิ้มๆ แล้วก็ส่ายขาไปมา เพราะเริ่มหายกลัว
“เก่งนี่ บนเวทีสวยน่ารักเชียว”เสียงมาจากรุ่นพี่ที่อยู่ทางซ้าย
“ขอบคุณค๊าบบ”ผมหันไปยิ้มให้พี่เค้า แต่รู้สึกแปลกๆเหมือนมือของพี่เค้ามาลูบๆแถวตะโพก

“เฮ้ย ทำอะไรน้องเค้าวะ พวกนายออกมาเลย”
เสียง พี่วิทย์ มาจากทางประตูห้อง ผมมองไปก็เห็น พี่วิทย์ เดินมาด้วยสีหน้าตกใจ ข้างหลังมี พี่เอก เดินตามมา พอมาถึงตัวผม ก็ยกตัวผมให้ลงมาจากระเบียง พอเท้าผมถึงพื้นพี่เขาก็ปล่อยมือ แต่ผมยังยืนไม่มั่น ก็เลยเซทำท่าจะล้ม พี่วิทย์ ก็รวบตัวผมไปกอดไว้ หน้าผมซบอยู่กับไหล่พี่เค้า เพราะ พี่วิทย์ ตัวใหญ่กว่าผมมาก
“พี่วิทย์ ค๊าบ ตั้ม ยืนได้แล้ว” ผมบอกเบาๆ อึดอัดนิดๆ เพราะพี่เขากอดผมเสียแน่น “ตั้ม หายใจไม่ออกอะพี่”
“ขอบคุณค๊าบพี่” พอพี่วิทย์ปล่อยมือ ผมก็ขยับแว่นให้เข้าที่ แล้วเงยหน้าขี้นไปพูดกับพี่เขา เห็นพี่วิทย์หน้าแดง นิ่งเงียบไป
“มีอะไรครับ ตั้ม มาหาพวกพี่ถึงห้อง” พี่เอก เดินเข้ามาถาม ส่วนรุ่นพี่สองคนนั้นหายตัวไปแล้ว
“ครูจันทร์ บอกว่าให้พี่ไปพบที่ห้องพักครูหน่อยน่ะค๊าบ” ผมหันไปบอกพี่เอก
“อื้อ ขอบใจนะ ตั้ม เดี๋ยวพี่ไป” พี่เอก ตอบแล้วหันไปมอง พี่วิทย์ ยิ้มๆ
“งั้น ตั้ม ไปก่อนนะค๊าบ ไว้เจอกันค๊าบพี่”
พูดจบผมก็วิ่งปร๋อมาที่บันไดขึ้นตึก ๗ ที่อยู่ใกล้ๆ แล้วก็วิ่งขึ้นบันไดตรงกลับไปที่ห้อง
................................................................................
......................................

ปอ เองคิดว่าละครที่ผ่านมา คงทำให้ ตั้ม กลายเป็นคนเนื้อหอมไปทั้งโรงเรียนแน่ๆ แต่ ตั้ม ยังคงเป็นคนเดิม ใช้ชีวิตอยู่แค่ ห้องเรียน โรงอาหาร ห้องสมุด แต่พอมีใครมองมันแล้วหันมายิ้มให้ มันกลับตกใจแอบไปซ่อนตัวอยู่ในกลุ่มเพื่อนๆ ปอเคยถามว่า ทำไมต้องหลบขนาดนั้น
“สงสัยเราคงประหลาดอะ ปอ ดูดิ มีแต่คนมองเราแล้วหัวเราะ” ตั้ม พูดเศร้าๆ
“มึงเป็นถึงนางเอกละครเชียวนะเว๊ย ไมมึงคิดอย่างนี้วะ” ปอ ถาม
“นั่นมันบนเวทีอะปอ ทั้งซ้อมบทแล้วยังโดนจับแต่งหน้าแต่งตัวซะขนาดนั้น มันก็ต้องสวยอะสิ คนเค้าคงตกใจนิ ที่ตัวจริงทั้งดำ ทั้งอัปลักษณ์” ตั้ม พูดเบาๆแค่พอได้ยินกันสองคน

... นี่มันฝังใจขนาดนี้เชียวเหรอะวะ ... ปอ คิดแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่
................................................................................
......................................
สัปดาห์ถัดมา ในชั่วโมงเรียนวิชาร้อยกรองของ ครูจันทร์ ช่วง ๒๐ นาทีหลัง ครูก็ให้ทำงานส่งในชั่วโมงเพื่อเก็บคะแนนย่อย หลังจากที่ตั้มนำสมุดงานไปส่ง ครูจันทร์ก็ยื่นห่อของขวัญขนาดย่อม ที่ครูถือติดมาเข้ามาด้วยให้กับ ตั้ม
“เอ้านี่ ศิลปี ครูให้เป็นของที่ระลึกที่ช่วยเล่นละครให้ครู ไม่รู้จะชอบใจหรือเปล่านะ เพราะครูให้พวกสามทหารเสือเค้าไปซื้อให้”ครูจันทร์พูดยิ้มๆ แล้วก็หันไปตรวจงาน ตั้มก็เดินกลับมาที่โต๊ะ สามทหารเสือที่ครูจันทร์พูด หมายถึงพวก พี่เอก นั่นเอง
“ได้อะไรมาวะ ไอ้ตั้ม” ปอ กระซิบถาม เมื่อตั้มกลับไปนั่งที่เก้าอี้
“ม่ายรู้อะ” ตั้ม พูดพลางพลิกห่อของขวัญไปมา
“หารสองนะเว๊ย แบ่งกูครึ่งนึง” ปอ พูดยิ้มๆ
“อ้าว เรื่องไรอะ ทำไมต้องแบ่งนายด้วย” ตั้ม หันไปมอง ปอ  งงๆ
“เอาน่า กูบอกหารก็หารดิ แกะๆๆ จะได้แบ่งกัน”ปอ เชียร์ให้รีบแกะ
“นายทำงานให้เสร็จก่อนดิ แล้วเราค่อยแกะ” ตั้ม พูดต่อรอง
“ได้ๆ ตกลงมึงแบ่งให้กูครึ่งนึงใช่มะ”ปอ ถามอีก
“อื้อ แบ่งก็ได้อะ แต่นายรีบทำงานเร็วๆเหอะ เวลาจะหมดแล้ว” ตั้ม เร่งเพราะกลัวว่า ปอ จะทำงานส่งไม่ทัน
ปอ ก็ก้มหน้าก้มตาทำงานไปอีกพักหนึ่ง ก็ลุกขึ้นวิ่งเอาสมุดงานไปส่งครูที่หน้าชั้น แล้ววิ่งกลับมาที่โต๊ะ ครูจันทร์ มองตามยิ้มๆ เพราะได้ยินที่เด็กทั้งสองคุยกัน
“แกะเลย กูอยากรู้ว่าอะไร” ปอ เร่ง
“นั่นดิ ตั้ม อะไรวะ” พล ชะโงกหน้าเข้ามาถามจากข้างหลัง
“ดูด้วย” นัส เข้ามาร่วมวงอีกคน ทั้งสองคนเอางานไปส่ง ครูจันทร์ หลังปอหน่อยนึง

ตั้ม ก็เลยค่อยๆแกะกระดาษห่อของขวัญออก จนเห็นว่าข้างในเป็นกล่อง ๓ ใบ
“เฮ๊ย...”ปอ อุทาน
“ฮ่าๆๆ” พล หัวเราะใหญ่
“...........”คงมี นัส กับ ตั้ม ที่เงียบกันไปทั้งคู่ นัส เงียบเพราะกลั้นหัวเราะไว้ ส่วน ตั้ม เงียบเพราะ งง
กล่องทั้ง ๓ เป็นกล่องบรรจุกางเกงใน ยี่ห้อที่เพิ่งจะออกวางขายได้ไม่นานนัก ราคาก็ไม่ใช่ถูกๆเลยสำหรับนักเรียนมัธยมปลาย
“อ๊ะ ปอ เอาไปกล่องนึงแล้วกันนะ” ตั้ม ยิ้มพลางหยิบกล่องใบหนึ่งส่งให้ ปอ
“มึงจะแบ่งกูจริงๆเหรอวะ” ปอ ถามงงๆ
“มันสามกล่องอะ แบ่งไม่ลงตัว หรือ ปอ จะเอาไปสองดี” ตั้ม ถามพลางทำหน้ายุ่งเหมือนตัดสินใจไม่ถูก
“กล่องเดียวกูก็ดีใจตายแล้ว ที่เหลือมึงเก็บไว้เหอะ” ปอ ยิ้ม ...กูจะเอาไว้ใส่ให้มึงดู ฮ่าๆๆๆ... ปอ คิดพลางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่

...เฮ๊ย เดี๋ยวก่อน กูได้มาแล้วกูยังคิดแบบนี้ แล้วไอ้คนให้มันคิดยังไงวะ อย่าบอกนะเว๊ยว่ามันให้ของแบบนี้เพื่อให้ ตั้ม ใส่ให้มันดู... ปอ คิดได้ก็หันไปมอง ตั้ม หน้าตาตื่น
“ปอ เป็นไรอะ ทำไมทำหน้าแบบนั้น” ตั้ม ถามเมื่อหันมาเห็นสีหน้าของ ปอ
“เปล่าๆ กูคิดอะไรเหลวไหลไปเองหว่ะ” ปอ ตอบไม่ค่อยเต็มเสียงนัก

...สงสัยกูต้องทำอะไรบ้างแล้วหว่ะ แบบนี้ท่าจะไม่ไหว เดี๋ยวลูกหมาของกูถูกคาบไปแดก กูก็แย่สิวะ...

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-06-2008 12:44:15 โดย บุหรง »

ออฟไลน์ AidinEiEi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 776
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1

salapaw

  • บุคคลทั่วไป
 :m16: :m16: ปอเอ๋ยเพิ่งคิดได้แงะ

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
๔๖ หมามุ่ย

หลังปีใหม่ผ่านมาได้ไม่กี่วัน บรรยากาศของความครึกครื้นในช่วงเทศกาล ก็กลับเข้าสู่บรรยากาศเคร่งเครียดตามปรกติของห้องเรียน เช้าวันนี้ พวกไมค์จับกลุ่มคุยกันถึงของอย่างหนึ่ง ที่ไมค์เอามาจากบ้านที่ต่างจังหวัด

“พวกมึงไม่เคยเห็นกันเหรอวะ” ไมค์ ถามเพื่อนๆทีกำลังมองของในถุงพลาสติกใสด้วยความสนใจ
“เออหว่ะ ในเมืองแบบนี้คงไม่มีหรอก แล้วมันอันตรายด้วยนี่หว่า” ปุง พูด
“ไม่เท่าไหร่หรอก แค่คันๆ ลองมั๊ยวะ” ไมค์ถามพรรคพวก
“จะเอางั้นเหรอ ไม่ดีมังวะ เดี๋ยวครูรู้เข้าจะโดนเอ็ดรึเปล่า” พล อดห่วงไม่ได้
“เฮ้ย ไม่โดนหรอก เดี๋ยวพักกลางวันก่อน กูจัดการเอง” ไมค์ พูดพลางเหลือบมองไปยังเป้าหมายที่เขาเล็งไว้
.................................................................................
..................................

คาบเรียนหลังพักเที่ยงวันนี้ เป็นวิชาการอ่านภาษาอังกฤษ เมื่อครูผู้สอนเข้าห้องมา ตั้ม ก็หยิบหนังสือขึ้นมาบนโต๊ะ พลางเปิดไปยังหน้าที่ครูให้ไปอ่านมาล่วงหน้าตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว
...อะไรอะ เต็มหนังสือไปหมด... ตั้ม คิดในใจ พลางเอามือปัดสิ่งที่เป็นเหมือนขนแมว ซึ่งกระจากอยู่เต็มหน้าหนังสือให้ตกลงไปบนพื้น แต่ก็มีบางส่วน หล่นไปอยู่บริเวณขาเหนือเข่า และบางส่วนก็ติดอยู่ที่มือ ตั้ม จึงเอามือปัดไปตามขา และมือ  แต่เหมือนสิ่งที่ดูคล้ายขนแมวนั้นไม่ยอมหลุดออกไป มิหนำซ้ำ อาการคันก็เริ่มเกิดขึ้นตามมือ และขา ตั้มเริ่มเกาไปทั่ว ยิ่งเกาเหมือนมันยิ่งกระจายขึ้นมาตามแขน และลงไปยังขาใต้เข่า

“ตั้ม มึงเป็นอะไรวะ ยุกยิกๆอยู่นั่นแหละ” ปอ หันมาถามเบาๆ ครูที่สอนอยู่หน้าห้องก็เริ่มมองมา
“ไม่รู้อะ ปอ มันคันไปหมดเลย” ตั้ม บอก พลางหน้าเริ่มแดง ขอบตาก็เริ่มแดงเหมือนจะร้องไห้
“เฮ๊ย ทำไมแขนมึงเป็นแบบนั้น โดนอะไรวะ” ปอ พูดด้วยความตกใจ เพราะเห็นแขน ตั้ม แดงเป็นจ้ำๆ
 ...เฮ้ย หรือว่ามันโดนหมามุ่ย.. ปอคิดพลางหันหลังไปมอง ไมค์  ก็เห็น ไมค์ เหลือมสายตามามองพอดี สีหน้าเหมือนพอใจอย่างมาก และเขาก็เห็น พล กับ นัส มองมาที่ ตั้ม ด้วยสีหน้าตื่นๆ หันกลับมาที่ ตั้ม ก็เห็น ก้มหน้านิ่ง กัดริมฝีปากแน่น น้ำตาไหล ไหล่สั่นเล็กน้อย

“ศิลปี เป็นอะไร” ครูถามเสียงดุๆ พลางเดินมาที่โต๊ะ
“...ฮึก....ฮึก” ไม่มีเสียงตอบ มีแต่เสียงสะอื้น
“ตายแล้ว แขนเธอเป็นอะไร” ครูพูดเมื่อเห็นแขน ตั้ม รอยแดงเป็นจ้ำๆ เริ่มมีตุ่มเล็กๆขึ้นมาด้วย
“เธอไปทำอะไรมาน่ะ ศิลปี ถึงได้เป็นแบบนี้” ครูขวมดคิ้วถาม “แล้วนี่อะไร เอาแต่ร้องไห้”
“คันค๊าบ ครู”ตั้ม เค้นเสียงพูด
“ไป ไปทายาที่ห้องพยาบาล ใครไปเป็นเพื่อนด้วยคนนึงซิ” ครูพูดอย่างรำคาญ
“ผมไปเองครับ” วัฒน์ รีบอาสา พลางเดินมาที่โต๊ะ จับต้นแขน ตั้ม พาเดินช้าๆออกไปจากห้อง
.................................................................................
..................................
ปรกติห้องพยาบาลจะไม่มีครูอยู่ประจำ นักเรียนที่เข้ามาใช้ หรือขอยา ก็ต้องไปบอกครูที่อยู่ในห้องพักครูใกล้ๆ แล้วครูที่ว่างก็จะเข้ามาหยิบยาให้ และเซนต์ลงในสมุด โชคดีที่วันนั้น ครูอร ครูที่ปรึกษาของกลุ่มอยู่พอดี ครูอร จึงมาที่ห้องพยาบาลด้วย
“ไหน ศิลปี ครูดูหน่อยซิ ว่าเป็นอะไร” ครูอร นั่งลงบนเก้าอี้ แล้วบอกกับ ตั้ม ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้อีกตัวหนึ่ง
ตั้ม ยื่นแขนให้ ครูอร ก็จับแขนทั้งสองข้างพลิกไปพลิกมา พลางพิจารณาดูอย่างละเอียด
“สงสัยจะหมามุ่ยน่ะครับ ครู” วัฒน์ บอกครู
“ตายแล้ว หมามุ่ยเหรอ ไปโดนมาจากไหน แล้วโดนได้ยังไง” ครูอร พูดด้วยน้ำเสียงตกใจ
“ผมเห็นอะไรเป็นขนๆไม่ทราบอะค๊าบอยู่ในหนังสือ ผมเลยเอามือปัดออก แล้วมันก็คันอะค๊าบครู” ตั้ม บอกเสียงเบาๆ ส่วนวัฒน์ ยืนขมวดคิ้วอยู่ข้างๆ
“ในหนังสือเลยเหรอ แสดงว่ามีคนเอามาโรยไว้สินะ” ครูอร พูดหลังจากนิ่งคิดอยู่สักพัก
แล้ว ครูอร ก็เดินไปหาอะไรสักอย่างจากตู้หลังห้องพยาบาล สักครู่ก็กลับมาพร้อมกับเทียนไข ๓-๔ เล่มและไฟแชค ครูอรเริ่มจุดไฟแชคลนไปตามแท่งเทียน แล้วเอาเทียนไขมาลูบตามแขนขาของ ตั้ม มีสิ่งที่คล้ายขนแมวติดออกมาเต็มไปหมด ครูอรทำอยู่หลายครั้ง
“คงออกมาได้แค่นี้มั๊ง เพราะบางชิ้นมันฝังเข้าเนื้อไปแล้ว วัฒน์หยิบสำลีให้ครูหน่อย” ครูอร พูดพลางเดินไปหยิบ คารามาย มาจากตู้ยา แล้วก็เอาสำลีชุบยาทาไปตามแขนขาของ ตั้ม ความเย็นของยา ทำให้อาการคันเบาบางลง
“เอาละเสร็จแล้ว คงค่อยยังชั่วขึ้นนะจ๊ะ อย่าไปเกามันล่ะ เดี๋ยวจะยิ่งคันมาก” ครูอร ยิ้มให้ “เล่นอะไรกันหนักไปแล้วนะ ถึงกับเอาหมามุ่ยมาเล่นกันที่โรงเรียน เดี๋ยวคงต้องจัดการกันซะหน่อยแล้ว เอาหล่ะ รีบไปเรียนต่อได้แล้วจ๊ะ”
“ขอบคุณค๊าบ” ตั้ม ยกมือไหว้ขอบคุณ ครูอร
“ขอบคุณครับครู” วัฒน์ ยกมือไหว้ของคุณ ครูอรด้วย แล้วก็จูงแขน ตั้ม เดินกลับไปห้อง
.................................................................................
..................................
“อะไรกัน ไปทายาแค่นื้ ทำไมนานนัก” ครูทำเสียงดุ
“พอดี ครูอร เอาหมามุ่ยออกจากแขน ศิลปี ก่อนครับครู ก็เลยนานหน่อย” วัฒน์ ตอบเบาๆ
“อะไรนะ หมามุ่ย” ครูขมวดคิ้ว นิ่งเงียบไปสักพัก ก็พูดต่อ “เอ้าเรียนกันต่อก็แล้วกัน” แล้วครูก็สอนต่อไปจนหมดคาบ

“ไอ้ไมค์ มึงใช่มะ เอาหมามุ่ยมาแกล้ง ตั้ม มัน” ปอ ลุกเดินไปหา ไมค์ ทันทีที่ครูก้าวออกไปจากห้อง
“เออ ทำไมวะ แค่สนุกๆ”ไมค์ ยิ้มกวนๆ
“สนุกกะพ่อเมิงสิ ไอ้ตั้ม มันคันจนร้องไห้” ปอ พูดโกรธๆ
“สำออยมากกว่าหว่ะ เรื่องแค่นี้” ไมค์ ยิ้มแค่นๆ
“อ้าว พูดงี้ก็สวยดิวะ” ปอ คว้าคอเสื้อ ไมค์
“อ้าว ได้ดิวะ นึกว่ากูกลัวมึงเหรอไง” ไมค์ลุกขึ้นยืน ทำท่าจะมีเรื่องกับปอ
“ปอ ปอ พอเหอะ เราไม่เป็นไรแล้ว” ตั้ม เดินมาจับมือ ปอ ออกจากคอเสื้อไมค์
“มึงไม่ต้องยุ่ง ถอยไป ไอ้ตั้ม” ปอ เอามือผลักไหล่ ตั้ม เบาๆ
“ทำตัวเป็นพระเอกเหรอมึง จะมีเรื่องกับกูเพราะอีกะเทยนี่ มาดิกูไม่กลัวมึงหรอก”
“ได้เลยมึง” ปอ พูดจบก็เงื้อหมัดชกไปที่หน้าไมค์

.....ผลั๊ว....โครม....ปัง....ทึบบบบบบบบบ
“เฮ๊ย ไอ้ตั้ม พวกมึงหยุดเดี๋ยวนี้เลย ไอ้ตั้มไปกองโน่นแล้ว” ปุง พูดเสียงดังด้วยความตกใจ พลางวิ่งไปที่ ตั้ม ที่ลงไปนอนหงายนิ่งอยู่บนพี้น ส่วน ปอ ได้แต่ยืน งง กับสิ่งที่เกิดขึ้น

ผลั๊วแรก เป็นเสียงหมัดของเขากระทบจังๆเข้ากับหน้าของ ตั้ม ที่วิ่งเข้ามาบัง ไมค์ ไว้
เสียงโครมถัดมา คือเสียงที่ ตั้ม โดนชกเซไปโดนโต๊ะ
ปัง คือเสียงเก้าอี้ล้ม
ทึบบบบบบบบบ....เสียงสุดท้าย เป็นเสียงหัวของ ตั้ม กระแทกกับพื้นปูน แว่นหลุดออกจากใบหน้า เลนส์กระจกแตกเป็นรอยเล็กๆไปทั่วเลนส์ทั้งสองข้าง

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-09-2008 16:08:55 โดย บุหรง »

ออฟไลน์ AidinEiEi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 776
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1
 :serius2: :serius2:อ๊า!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!ตั้มอย่าเป็นอะไรน้า!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
ไอ้ไมค์ แกนะแก :angry2: :angry2:
ย๊ากกกกกกกกกกกกก :เตะ1: :เตะ1: :เตะ1:

salapaw

  • บุคคลทั่วไป
 :m16: :serius2: :serius2: ตั้มทำไมทำงี้ล่ะ  ไม่ดีเลยน้า 55

kongkilmania

  • บุคคลทั่วไป
 :serius2:
 :m31:
ทำไมไอ้พวกขี้แกล้งมันไม่สูญพันธ์ไปซักทีวะเนี่ย   o12
ไอ้ไมค์   :angry2: ไอ้สาดดดดดด

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด