CHAPTER 8
" ฝ่าบาท"
เสียงเรียกของอลัน ทำให้โครอสละสายตาออกมาจากเลพป์ที่กำลังกลบฝังอัญมณีสีเขียวเม็ดเล็ก อลันกลับมาจากการหาจุดกึ่งกลางของวงเวทย์แล้ว จุดกึ่งกลางของวงเวทย์ที่โครอสสั่งให้อลันตามหานี้ ไม่ได้หมายถึงจุดที่อยู่ตรงกลางของวงเวทย์ แต่มันหมายถึงจุดที่พ่อมดใช้ร่ายเวทมนต์เพื่อสร้างวงเวทย์ต่างหาก
จุดกึ่งกลางของวงเวทย์ที่อลันหาพบอยู่เหนือขึ้นไปใตำแหน่งหน้าผาที่เยื้องกับตำแหน่งที่โครอสยืนอยู่ อลันกล่าวรายงานว่า ตอนนี้ลิงซ์กำลังเฝ้าอยู่ที่จุดกึ่งกลางของวงเวทย์ หากโครอสต้องการที่จะเห็นภาพจากมุมสูง อลันจะตามเลนีเมียมาให้ ตอนนี้ภาพทุกอย่างที่ลิงซ์มองเห็นจะปรากฎในสายตาของเลนีเมียด้วยเช่นกัน เนื่องจากพวกมันเป็นสัตว์ในพันธสัญญาตีตราโดยเจ้านายคนเดียวกัน และเลนีเมียได้ยอมรับลิงซ์เป็นคู่ชีวิตแล้ว แม้ลิงซ์จะไม่รู้ตัวก็ตามที
" เลนีเมียขอตัวไปดูท่านไอร่าพะยะค่ะ เห็นว่าตั้งแต่กลับมามันยังไม่ได้เข้าไปทักทายท่านไอร่า แม้ท่านไอร่าจะหลับอยู่ แต่มันก็ขอไปดูท่านไอร่าสักหน่อยน่ะพะยะค่ะ" อลันกล่าวอย่างรู้ใจเลนีเมีย
นับตั้งแต่ที่เขาไปส่งโครอสที่ปราสาท เลนีเมียก็อยู่เคียงข้างเขามาโดยตลอด แม้มันจะไม่สามารถทำสัญญาซ้ำซ้อนกับอลันได้ แต่มันก็ได้เปิดใจรับอลันแล้ว ในฐานะที่มันเป็นสัตว์รับใช้ที่ซื่อสัตย์ต่อโครอสเช่นเดียวกับอลัน
" กระหม่อมไม่เข้าใจเลยว่า เลนีเมียทำสัญญากับลิงซ์ไปได้ยังไง เจ้าแมวดำเอาแต่ใจตัวนั้นน่ะ เป็นข้า ข้าคงลงดาบฟันมัน ไม่ปล่อยให้มันลอยนวลและตามปกป้องถึงขนาดนี้"
นั่นคือคำบ่นของอลันกับโครอสในตอนที่อลันรู้ว่า เลนีเมียตัดสินใจให้ลิงซ์มาเป็นคู่ชิวิต
เลนีเมียนั้นเป็นสัตว์ที่มีมนตราและมีสติปัญญา หากเทียบกับลิงซ์แล้ว มันออกจะเป็นสัตว์ที่ฉลาดกว่าลิงซ์ด้วยซ้ำ อลันไม่เข้าใจเลยว่า ลิงซ์มีดีอะไร นอกจากดีแต่หาเรื่องวุ่นวายมาให้ จะมีดีบ้างก็ตรงที่ว่าลิงซ์เป็นสัตว์นำโชคเท่านั้น
" เลนีเมียคงเห็นข้อดีในตัวของลิงซ์ หรือไม่ ความรักก็ทำให้คนตาบอด แต่การที่มันเป็นเพียแค่สัตว์ มันจึงทำตามสัญชาตญาณของหัวใจตนเอง ไม่ปล่อยให้สายเกินไปเหมือนกับข้า"
คำกล่าวของโครอสในตอนนั้นทำให้อลันถอนหายใจ นายของเขาไม่ได้จมอยู่ในห้วงความรักอีกแล้ว แต่ความรักนั้นช่างเป็นเหมือนดาบสองคม ทางหนึ่งคือทำให้นายของเขาสงบและแข็งแกร่งมากขึ้น และทางที่สองคือ มันอาจทำให้นายของเขาอ่อนแอลง ถ้ามีการสูญเสียเจ้าแมวป่าไปอีกครั้ง
อลันลอบมองโครอสที่ตอนนี้กำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง นายของเขาดูสงบขึ้นมาก ไม่ได้ใจร้อนหรือดูวู่วาม ดูท่าบทเรียนครั้งนี้ คงเป็นบทเรียนที่ดีจริงๆ
" ข้าจะขึ้นไปดูจุดร่ายเวทย์ด้วยตนเอง" โครอสกล่าวในที่สุด
เมื่อครู่เขาพิจารณาดูแล้ว หากนับตามจุดและตำแหน่งต่างๆของสิ่งก่อสร้าง วงเวทย์แห่งนี้คงมีพื้นฐานมาจากวงเวทย์ห้าแฉก วงเวทย์พื้นฐานที่มีประสิทธิภาพดีที่สุด เก่าแก่ที่สุด และมีมนต์ขลังมากที่สุด
อลันที่ได้รับคำสั่งก็จัดการร่ายเวทย์เรียกสายลม เพื่อยกตัวเขากับโครอสขึ้นไปยังจุดที่ลิงซ์คอยอยู่ อลันแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นกระต่ายอ้วนลอยขึ้นไปกับเขาด้วย แต่เมื่อเห็นตราลัญจกรที่หูของเลพป์ อลันก็เข้าใจได้ทันที
" เมื่อครู่ข้าเห็นลิงซ์จ้องเลพป์ไม่วางตาแต่ไม่ยอมจับกิน แต่ถ้าท่านลงมนต์ตีตราแบบนี้ เลพป์คงชะตาขาดแน่" อลันเปรย
เมื่อตอนที่เขาเข้ามายังบ้านโพรงเขา เขาเห็นลิงซ์จ้องมองเลพป์ไม่วางตาราวกับจะกลืนกิน ไม่ใช่การกลืนกินด้วยความรักใคร่ แต่เป็นกลืนกิน ที่หมายถึงกินลงท้องต่างหาก
" เช่นนั้นเลนีเมียคงปกป้องเลพป์ได้ และถ้ามันเห็นหน้าลิงซ์อีกครั้งในตอนนี้ ลิงซ์คงเป็นเหมือนแม่ของมัน และเลนีเมียคงเป็นพ่อ" โครอสกล่าวอย่างขำขัน
เมื่อครู่ตอนที่เลพป์จ้องตาเขา เลพป์ฉายภาพเรื่องราวผ่านดวงตา มันเล่าว่าลิงซ์ไปขุดมันขึ้นมาจากโพรง มันแกล้งตาย และฟื้นขึ้นมาอีกครั้งเมื่อถูกไอร่าปลุก มันถวายชีวิต ตัวและหัวใจให้ไอร่าทันที แต่สำหรับลิงซ์ เลพป์จะมองเห็นมันเหมือนแม่ เนื่องจากลิงซ์เป็นคนขุดมันขึ้นมาจากดิน จนเจอแสงสว่างในชีวิต และแสงสว่างนั้นคือไอร่า
ตอนนี้โครอสเริ่มเชื่อแล้วว่าไอร่าเป็นสัตว์ศักดิ์ศิทธิ์จริงๆ สัตว์ในการตีตราของเขาหลงรักไอร่าทุกตัว มันไม่ใช่เพราะมนตราหรือความใจดี แต่เป็นเพราะพวกมันสัมผัสได้ว่า ไอร่าจะเป็นคนนำฤดูใบไม้ผลิมาให้ ฤดูใบได้ผลิที่จะนำพาความรักและการถือกำเนิด ความสงบสุขและความร่มเย็นมาให้ และที่สำคัญที่สุดคือ รอยยิ้มและหัวใจของไอร่า มีค่ามากพอที่จะทำให้ทุกคน ยอมถวายชีวิตเพื่อปกป้อง
แต่แน่นอนว่ามีผู้ปกป้อง ย่อมต้องมีคนที่คิดจะทำลาย และคนๆนั้นคือกษัตริย์ไอเรส..
ตอนนี้โครอสยังไม่รู้ว่าเหตุใดกษัตริย์ไอเรสถึงได้จงเกลียดจงชังไอร่านัก แต่อย่างหนึ่งที่เขารู้แน่ชัดคือ ไอเรสรักไอร่า รักมากจนถึงขั้นที่ว่า ถ้าไม่ได้ครอบครอง ก็จะขอเป็นทำลายด้วยมือของตนเอง
โครอสถอยหายใจ เขาคงต้องถามความจากปากของไอร่าเอง และครั้งนี้เขาหวังว่า คนงามจะเชื่อใจเขามากพอ จนยอมบอกเล่าความจริงแก่เขาทั้งหมด
ตอนนี้โครอสและอลันแตะเท้าลงที่ยอดหน้าผาแล้ว ลิงซ์ขู่ฟ่อทันทีที่เห็นเลพป์ มันขู่จนเลพป์หูตก แต่เลพป์ก็ทำใจกล้า มันค่อยๆกระโดดเข้าไปหาลิงซ์ และกระพริบตาใส่หวังให้ลิงซ์ใจอ่อน ลิงซ์ขู่คำรามใส่หน้าจนเลพป์ขนปลิว แต่เลพป์ก็ยังไม่กลัว มันกระโดดขึ้นไปบนตัวของลิงซ์ ก่อนที่จะกระโดดไปที่หัว และนั่งลงราวกับนี่ตรงนั้นเป็นที่ๆดีที่สุด
อลันหัวเราะลั่น ในขณะที่โครอสยกยิ้ม เขาไม่เคยเห็นลิงซ์หมดท่าแบบนี้มาก่อน มันพยายามสะบัดเลพป์ออก แต่เลพป์ก็ยังอยู่นิ่ง มันทำราวกับว่าจะขอเกาะอยู่บนหัวลิงซ์ไปชั่วชีวิต และต่อให้ลิงซ์สะบัด มันก็จะหายางไม้มายึดไว้
" เจ้าจงดูแลเลพป์ให้ดีลิงซ์ นี่ถือเป็นค่าตอบแทนของเจ้าที่ทำให้ข้าเจ็บตัว แล้วข้าจะอภัยโทษให้เจ้า และสั่งให้อลันหาของโปรดมาให้"
ลิงซ์หยุดสะบัดหัวทันที มันมองโครอสด้วยสายตาตัดพ้อ ทั้งที่มันทำเพื่อเจ้านายกับคนงาม แต่ทำไมมันต้องรับโทษด้วย
" และข้าผูกสัมพันธ์ให้เจ้ากับเลนีเมียแล้ว ต่อไปเลนีเมียคือคู่ชีวิตของเจ้า ข้าจะไม่ได้บังคับให้เจ้าตอบรับเลนีเมีย แต่จงไปพิจารณาให้ดีว่า เลนีเมียมีค่าพอที่เจ้าจะยอมมอบชีวิตให้หรือไม่ อย่าให้ทิฐิมาบังตาเจ้าเหมือนข้า ถ้าเจ้าไม่อยากเสียใจเหมือกับข้า"
ลิงซ์ที่ตอนแรกจะขู่คำรามใส่โครอสก็นิ่งเงียบ มันเข้าใจสิ่งที่เจ้านายของมันสื่อ เลนีเมียอาจจะยังไม่รู้ตัวว่ารักมันในตอนนี้ และการที่เลนีเมียคิดปกป้องมันเป็นเพราะเลนีเมียคิดอยากปกป้องเจ้านาย ตัวมันเองเป็นสัตว์นำโชค ถ้ามันตาย นายของมันก็จะแย่ ลิงซ์ถอนหายใจ ทำไมมันจะไม่รู้ว่าเลนีเมียรักมัน แม้เลนีเมียจะยังไม่รู้ใจตัวเอง แต่นายของมันกับคนงามรู้ นายของมันผ่านความรักที่ไม่เคยรู้ตัวมาก่อน และตอนนี้เมื่อสัตว์เลี้ยงของตนตกอยู่ในสภาวะเดียวกัน นายของมันจึงเสนอแนะแนวทางให้
ลิงซ์ถอนหายใจ มันก้มหัวน้อมรับการผูกสัมพันธ์ มันไม่อยากเสียใจเหมือนผู้เป็นนาย แม้ตอนนี้มันจะยังไม่ได้รักเลนีเมีย แต่ถ้านายของมันต้องการ มันจะขอน้อมรับความหวังดีไว้ และถือซะว่าเป็นการไถ่โทษความผิดต่อผู้เป็นนาย แม้มันจะยังหมั่นไส้เจ้าสิงโตหิมะอยู่ก็ตามที
หลังจากที่ลิงซ์ยอมรับการผูกสัมพันธ์ ลิงซ์กระโจนลงจากหน้าผาทันทีทั้งที่มีเลพป์เกาะหัว ลิงซ์กระโจนและกระโดดลงจากหน้าผาเพื่อไปหาเลนีเมีย แม้มันจะยอมรับเลนีเมียเป็นคู่ชีวิต แต่มันขอแก้แค้นเจ้าสิงโตหิมะหน่อยแล้วกัน
" เลนีเมียคงแย่แน่ มันคงไม่ทำให้ท่านไอร่าตื่นหรอนะ"
อลันบ่นพึมพัม แค่เขาเห็นลิงซ์กระโจนออกไปเขาก็รู้แล้ว เจ้าแมวจอมก่อปัญหานี่น่ะ ไม่มีทางยอมรับพันธสัญญาง่ายๆแน่ และถึงเลนีเมียจะเป็นสิงโตหิมะที่ฟันแทงไม่เข้า แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันไม่เจ็บ
โครอสยิ้มขันให้กับอลัน นับตั้งแต่เขาฟื้นมา เขาก็เห็นเลนีเมียตามติดอลันไม่ห่าง ดูท่ากลับไปคราวนี้ คงมีเรื่องปวดหัวเกิดขึ้นอีกแน่ เซอร์คีคงไม่ยอมปล่อยให้อลันอยู่กับใครนาน แม้ว่าคนๆนั้นจะเป็นสัตว์ในการตีตราของเขาก็ตามที
โครอสละสายตาจากอลันและลิงซ์ เขามองไปที่ภาพเบื้องหน้า ตรงหน้าเขาเป็นภาพป่าทึบเต็มพื้นที่โพรงเขา ภาพมายา.. โครอสร่ายเวทย์ออกไป เขาร่ายมนต์เพื่อตามหาหัวใจของเขา ภาพมายาเริ่มเลือนลาง เขามองเห็นหัวใจของตนเต้นอยู่ในบ้านหลังเล็ก เขาเห็นไอร่าหลับสนิท ข้างตัวไอร่ามีเลนีเมียอยู่เคียงข้าง ดูท่าเลนีเมียจะรู้ตัวว่าตัวเองจะโดนเล่นงาน มันถึงได้อยู่ติดไอร่าไม่ห่าง
" ช่างเป็นวงเวทย์ที่สมบูรณ์จริงๆเลยนะพะย่ะค่ะ ทั้งตำแหน่งที่ตั้งและตัวสิ่งก่อสร้าง หากฝ่าบาทไม่บังเอิญพบที่แห่งนี้เข้า จนป่านนี้คงไม่มีใครได้พบตัวท่านไอร่า" อลันกล่าวอย่างชื่นชม เขาไม่เคยเห็นวงเวทย์ตามธรรมชาติที่ใหญ่โตและสมบูรณ์แบบขนาดนี้มาก่อน อีกทั้งตำแหน่งที่ตั้งของจุดก่อสร้างต่างๆก็ยิ่งทำให้มนตราแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
โครอสพยักหน้าเห็นด้วยกับอลัน จากจุดที่เขายืนอยู่ตรงนี้ เขาสามารถเห็นบ้านของไอร่าได้ชัดเจน บ้านของไอร่าอยู่ตรงจุดกลางของวงเวทย์ทิศตะวันตกเป็นธารน้ำตกใสเส้นเล็กที่ขดตัวและทอดยาวเหมือนงูตัวเล็กไปจนถึงหน้าผาฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ ทิศเหนือเป็นตำแหน่งของสวนผัก ทิศตะวันออกเป็นตำแหน่งของคอกม้า ทิศใต้เป็นทางออก และหากนับรวมจุดฝั่งศพของเฮสเทีย มันจะอยู่ตรงตำแหน่งทิศตะวันตกเฉียงใต้พอดี วงเวทย์แห่งดวงดาวห้าแฉก.. ช่าแข็งแกร่งและสมบูรณ์แบบจริงๆ
" เป็นการวางวงเวทย์ที่ฉลาดดี หากร่ายเวทย์จากจุดนี้ มันจะสามารถแผ่ขยายอาณาเขตและครอบคลุมไปทั่วผืนป่าฝั่งตะวันออก แต่พ่อมดผู้ร่ายมนต์คงสิ้นชีวิตไปแล้ว การร่ายวงเวทย์ขนาดใหญ่ในป่ามนตราแห่งนี้ คงกินพลังชีวิตมากทีเดียว"
โครอสกล่าวอย่างคาดเดา เมื่อครู่ที่เขาเดินสำรวจรอบบ้าน เขาเห็นสุสานฝังศพอยู่ที่ทิศตะวันตกเฉียงใต้ของวงเวทย์ ชื่อที่อยู่บนสุสาน คือเฮสเทีย และสุสานที่อยู่เคียงข้างคือรีอา มันไม่ได้ลงนามสกุล แต่โครอสเชื่อว่ามันต้องเป็นนามของเฮสเทีย อัลเดล ไซธีรา หนึ่งในพ่อมดทั้งห้าของไซธีเรียแน่นอน
โดยส่วนตัวนั้นโครอสนั้นไม่ได้รู้จักเฮสเทียมากนัก แต่ท่านอาจารย์ของเขา ท่านเคยกล่าวถึงเฮสเทียบ่อยๆ ท่านบอกว่าเฮสเทียเป็นพ่อมดที่น่าสงสาร แม้จะมีพลังเวทย์มาก แต่ก็ไม่อาจขึ้นไปถึงจุดสูงสุดของการเป็นหัวหน้าพ่อมดได้ เฮสเทียมีความรัก มันเป็นความรักที่เกิดหลังจากได้ผูกพันธสัญญาจากการแต่งงาน และค่าตอบแทนของการผิดสัญญาต่อคู่ชีวิต คือเขาจะไม่สามารถเรียกพลังเวทย์ทั้งหมดออกมาใช้ได้ นอกจากพ่อมดผู้ร่ายเวทย์จะยอมสละชีวิตของตนเองเพื่อเป็นการสังเวยความผิด
โครอสมองภาพตรงหน้าด้วยความชื่นชม ที่เขาเคยปรามาสวงเวทย์ของเฮสเทียว่าเป็นมนต์กระจอกนั้นคงผิดไป วงเวทย์นี้ถูกออกแบบมาอย่างดี มันป้องกันคน แต่ไม่ได้ป้องกันคนทั้งหมด หากเป็นคนที่มีความสามารถมากพอจะสามารถเข้ามายังวงเวทย์แห่งนี้ได้ เฮทเทียเป็นพ่อมดที่มีความสามารถในการทำนายอนาคต แม้จะไม่ใช่ผู้พยากรณ์ แต่คงมีญาณหยั่งรู้บ้าง
โครอสกวาดตามองตำแหน่งรอบๆ เหลือเพียงอีกจุดเดียวเท่านั้นไม่เขาไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่ที่ขาของดวงดาวด้านตะวันออกเฉียงใต้ โครอสร่ายเวทย์เพื่อพาเขาและอลันลงสู่โพรงเขา เวทย์สายลมพาโครอสและอลันมาถึงพื้นดินอย่างรวดเร็ว โครอสสามารถใช้เวทย์ทุกสาขาได้ ในขณะที่อลันใช้เวทย์สายลมเป็นหลัก แต่ที่เมื่อครู่อลันร่ายเวทย์ได้ช้าคงเป็นเพราะอลันยังไม่หายดีจากอาการบาดเจ็บ
" แผลของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง พลังเวทย์ของเจ้าอ่อนลงไปมาก เกิดอะไรขึ้นกัน"
อลันไม่ได้กล่าวสิ่งใดออกไป เขาไม่สามารถโกหกผู้เป็นนายได้ พลังเวทย์ของเขาอ่อนลงเพราะเขาต้องแบ่งพลังไปปกปิดหัวใจตนเอง สายลมช่วยปิดปังความรู้สึกของเขาไว้ การที่เขายังคงเป็นปกติได้ เพราะเขากำลังฝืนใจตนเอง โดยใช้สายลมเป็นเครื่องกำบัง
" แผลของข้าหายดีแล้ว และจะดีกว่านี้ถ้าไม่ต้องลงแรกถลกหนังหมี ถึงมันจะเป็นหมีหนุ่ม แต่มันก็หนักและหนังเหนียวมาก ข้าต้องลงแรงอยู่นานกว่าจะถลกหนังหมีได้ และถ้าไม่ได้เลนีเมียช่วยกิน ป่านนี้ข้าคงยังแล่เนื้อหมีไม่เสร็จ"
อลันพูดประชด เขาเลือกที่จะพูดเปลี่ยนเรื่องแทนการโกหก แต่มันก็เป็นการเปลี่ยนเรื่องที่เขาอยากจะประชดนายของเขาจริงๆ เขาก็บอกแล้วว่าให้ล่าแค่กวาง แต่นายของเขานี่สิ ดันนึกอยากทำให้เจ้าแมวป่าแปลกใจเล่น และมันก็ได้ผล เจ้าแมวป่าไม่ทันได้ระวังตัว เพราะมัวแต่จ้องมองหมีตัวใหญ่ ในขณะที่นายของเขาย่องไปทางด้านหลัง และจัดการงอนง้อเจ้าแมวป่าได้สำเร็จ
ไม่ต้องบอกอลันก็รู้ดีว่านายของเขากับเจ้าแมวป่าหายไปทำอะไรกันในห้อง คงไม่แพ้การงอนง้อบนที่นอน และการที่เขาไม่ได้ยินเสียงโวยวาย นั่นแสดงว่าคราวนี้ท่านไอร่าคงเต็มใจ แต่การหายไปตั้งแต่เช้าและออกมาตอนบ่ายจะเกินไปไหม แม้เขาจะไม่รู้สึกอะไร แต่เขาก็อดสงสารเจ้าแมวป่าไม่ได้ ไม่รู้ว่าป่านนี้จะช้ำไปซักกี่มากน้อย
" ต้องให้กระหม่อมเตรียมยาลดไข้ไว้ให้ท่านไอร่าหรือไม่พะยะค่ะ ถึงกระหม่อมจะไม่ได้เป็นหมอยาเหมือนเซอร์คี แต่ก็พอมีฝีมืออยู่บ้าง อีกทั้งในบ้านก็มีสมุนไพรมากมาย ข้าคงพอปรุงยาได้ซักถ้วยสองถ้วย"
อลันกล่าวถามโครอสในขณะที่เดินผ่านบ้าน โครอสเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ แม้เขาจะเห็นเรื่องราวผ่านเครื่องรางว่าอลันสาบานแล้วว่าจะปกป้องไอร่าด้วยชีวิต แต่การที่ขอปรุงยาเองมันเป็นเรื่องที่แปลกไปหน่อย ก็ในเมื่อฝีมือการปรุงยาของอลันน่ะ..
" เจ้าเคียดแค้นหรือรังเกียจไอร่ามากหรือไง ไหนว่าจะปกป้องไอร่า แต่นี่เจ้ากลับคิดฆ่าไอร่า คิดจะวางยาพิษไอร่าหรือไง"
อลันหน้านิ่งทันที เรื่องที่เขาปรุงยาไม่เก่งเป็นเรื่องที่รู้กันโดยทั่ว เซอร์คีแทบไม่ยอมให้เขาเข้าใกล้ห้องยา เมลเลนท์ก็ไม่ยอมกินยาที่เขาปรุง มีแต่โครอสที่.. ที่เคยหลวมตัวมาชิมยาของเขาครั้งหนึ่ง และไม่เคยแตะต้องยาของเขาอีกเลยนับจากนั้น
" ข้าปรุงยาได้ และยาแก้ไข้เป็นเพียงยาพื้นฐาน ต่อให้เป็นคนโง่ ก็สามารถปรุงยาตำรับนี้ได้"
อลันกล่าวอย่างหัวเสียเมื่อถูกหัวเราะขัน เขามองเจ้านายที่หัวเราะอย่างอารมณ์ดี ทีตอนนี้ล่ะอารมณ์ดีเชียว ก่อนหน้านี้ใครกันที่มาบ่นกับเขาว่าคนทำผิดพลาดไป อลันถอนหายใจ เอาเถอะ ถือซะว่านี่เป็นลางดีที่นายของเขาอารมณ์ดีขึ้นมาได้ หลังจากที่เศร้าหมองมานาน
ฝ่ายโครอสที่หัวเราะขำออกมาได้ก็รู้สึกได้ว่ามันช่างนานมากแล้วที่เขาไม่ได้หัวเราะอย่างสบายใจ พรจากทวยเทพที่กักขังเขาไว้ในความฝันช่างยาวนาน แม้จะนับรวมเวลาในโลกแห่งความเป็นจริงได้เพียงสิบแปดวัน แต่สำหรับเขามันยาวนานจนเหมือนหลับฝันไปชั่วชีวิต
" ข้าคงไม่รบกวนเจ้าให้ช่วยปรุงยา เมื่อครู่ไอร่าตื่นขึ้นมารอบหนึ่งแล้วและเขาไม่มีไข้ แต่ถ้าให้ดีคงต้องรบกวนเจ้าให้ช่วยต้มน้ำอาบ มีสมุนไพรที่ไอร่าเตรียมไว้อยู่แล้วในห้องอาบน้ำ แค่ใส่มันลงไปในน้ำคงไม่เปลืองแรงและความฝีมือเจ้ามากเกินไปกระมัง"
อลันกรอกตากับคำยียวนของโครอส แค่ใส่ผงสมุนไพรลงในน้ำคงไม่เป็นไร และถึงท่านไอร่าจะไม่มีไข้แต่ก็คงไม่พ้นที่จะเจ็บตัวสินะ อลันรับคำของโครอสและเดินไปที่หลังบ้านเพื่อเตรียมน้ำอาบ เขาเติมน้ำจนเต็มอ่างและอุ่นหินร้อน แค่ใส่ผงสมุนไพรมันคงไม่กลายเป็นยาพิษหรอกน่า
โครอสมองอลันที่เดินอย่างหัวเสียไปที่หลังบ้าน เขามองตามอลันที่คงไม่รู้ตัวว่าได้ปล่อยลมหวนออกมาห่อหุ้มตัวเองไว้ โครอสมองสายลมที่พัดรอบตัวของอลันก่อนที่มันจะหายไป อลันมีบางอย่างอยู่ในใจ การที่เขาสอบถามเรื่องแผลเป็นเพียงการโยนหินเพื่อถามทาง อลันกำลังมีความลับ แต่เขาก็มีความเคารพมากพอที่จะไม่ส่งมนตราออกไปเพื่อตรวจสอบจิตใจของอลัน อลันเป็นลูกน้องที่ดีและบางครั้งก็เป็นเหมือนพี่ชาย โครอสไม่คิดที่จะใช้สิทธิ์ในฐานะผู้เป็นนายแห่งการผูกพันธสัญญาด้ยชีวิตและวิญญารตรวจสอบความคิดของอลัน
ถ้าอลันพร้อม อลันคงบอกเขาเอง และถ้ามันเป็นสิ่งที่ผิดต่อตัวเขา อลันคงยอมจบชีวิตลงด้วยมือของตนเองเอง
โครอสละสายตาจากอลันและมองไปรอบตัวบ้าน ความจริงเขาอยากจะสำรวจรอบๆอีกสักซัก แต่ตอนนี้แมวป่าของเขากำลังจะตื่นแล้ว โครอสรู้สึกได้ถึงอารมณ์ที่แจ่มใส มันให้ความรู้สึกเหมือนกับเป็นเช้าวันใหม่ หลังจากผ่านสายฝนโหมกระหน่ำมานานนับปี
โครอสเร่งฝีเท้าเข้าบ้านเมื่อรู้สึกได้ว่าไอร่ากำลังจะตื่น เขาเดินเข้าไปในห้องนอนและพบว่าคนงามของเขากำลังลืมตาขึ้นมาพอดี
" ข้านึกว่าเจ้าจะหายไป ข้ารู้สึกได้ถึงสายลม ข้านึกว่าเจ้าจะลอยหายไปเสียอีก"
โครอสยิ้มรับคำกล่าว คนงามของเขาปิดตารับจุมพิตจากปากของเขาอย่างว่าง่าย ช่างอ่อนหวานและสดใสเหมือนกับเช้าวันใหม่จริงๆ
" ข้าเพียงแค่ออกไปดูรอบๆตัวบ้าน อลันเตรียมน้ำอาบไว้ให้เจ้าแล้ว ข้าจะพาเจ้าไปอาบน้ำ"
ไอร่าหน้าแดงกับคำกล่าวของโครอส อลันเข้ามาแล้ว แม้เขาจะยังไม่เห็นหน้า แต่เขารู้สึกได้ว่าอลันมายืนอยู่ข้างเตียง เขาไม่ได้ลืมตาตื่น แต่รู้สึกว่ามันเหมือนเป็นความฝันที่แสนเลือนลาง
" นับแต่นี้ต่อไปข้าจะปกป้องท่าน แม้ข้าจะมีชีวิตเพื่อฝ่าบาท แต่ก็จะขอปกป้องท่านด้วยชีวิตเช่นกัน"
ความจริงแล้วสิ่งที่ไอร่าได้ยินเป็นเพียงถ้อยคำผ่านความคิดของเลนีเมีย เลนีเมียนั้นรู้ดีว่าอลันกำลังปกปิดบางอย่าง และมันก็เคารพการตัดสินใจของอลัน และมีเพียงสิ่งนี้เท่านั้นที่มันทำเพื่ออลันได้ มันบอกความรู้สึกของอลันออกไป ให้คนงามที่มันปกป้องได้รับรู้ว่า คนงามจะปลอดภัยภายใต้การคุ้มครองของใครหลายคน
ฝ่ายโครอสที่รู้สึกได้ว่าไอร่าหน้าแดงก็ไม่ได้พูดอะไร เขามองดูใบหน้าแดงก่ำที่ดูชวนพิส เขารู้ใจของคนงามได้ แม้ไม่อาจอ่านความคิดได้ทั้งหมด แต่เขาก็มองเห็นภาพว่าคนงามกำลังคิดอะไร โครอสมองดวงหน้าของไอร่าที่กำลังครุ่นคิดเรื่องอลัน ดูท่าสิ่งที่อลันปกปิดไว้คงเกี่ยวข้องกับไอร่าแน่
" รีบอาบน้ำเถอะไอร่า อลันกำลังเตรียมอาหารให้เจ้า รีบออกมา ข้าจะไปรอที่โต๊ะอาหาร"
ไอร่าพยักหน้ารับอย่างงงๆ เมื่อครู่เหมือนเขาจะรู้สึกได้ว่าคนข้างหน้ากำลังกรุ่นโกรธ แต่มันเป็นแค่ความรู้สึกชั่ววูบก่อนที่มันจะหายไป ไอร่ามองใบหน้าคมเข้มที่ตอนนี้มีรอยยิ้มน้อยๆ เขาหลับตาลงอย่างว่าง่ายเมื่อโครอสจูบลงมา ก่อนจะมองตามโครอสที่เดินออกจากห้องน้ำไป
โครอสเดินออกมาจากห้องน้ำและปล่อยให้ไอร่าอาบน้ำคนเดียว เขาเดินตรงไปที่ห้องครัว เขาไม่ได้เดินเสียงดังแต่ก็ไม่ได้เดินเสียงเบาจนเกินไป เขาเดินไปและหยุดยืนอยู่ที่ช่องประตูที่กั้นระหว่างห้องครัวกับห้องนั่งเล่น อลันกำลังเตรียมอาหารโดยมีเลพป์ยืนอยู่ข้างๆ โครอสยืนนิ่งและมองอลันจากทางด้านหลัง อลันยังคงทำอาหารต่อไป แต่การที่อลันไม่หันมาเช่นนี้ แสดงว่าอลันคงกำลังคิดอะไรอยู่ในใจ และนั่นคงกวนใจอลันมาก เพราะมันทำให้อลันละเลยสัญชาตญาณการระวังภัย และการรับรู้ถึงตัวตนของเขาไป
เป็นเลพป์ที่รู้สึกได้ก่อนถึงการปรากฎตัวของโครอส มันกระโดดเข้ามาหาโครอสจนเกิดเสียงดัง เจ้ากระต่ายอ้วนกระดิกหูและกระโจนเข้าใส่โครอส มันส่งสายตากลับไปทางอลัน มันรู้ได้เช่นกันว่าคนผู้นี้กำลังคิดอะไรบางอย่าง แต่มันไม่ได้เป็นสัตว์ที่ฉลากมากนัก มันเลยเลือกที่จะปรึกษาเจ้านายของมันแทน
" ฝ่าบาท..."
อลันเรียกโครอสเสียงแผ่ว เขามัวแต่คิดถึงเรื่องอื่นจนไม่รู้สึกว่านายของเขาเข้ามาอยู่ทางด้านหลัง อลันไม่ได้หลบสายตาของโครอส เขารู้ดีว่า สิ่งที่เขาปกปิดไว้คงถูกเปิดเผยออกมาแล้ว
" ดูท่าแผลของเจ้าคงยังไม่หายดี นอกจากพลังเวทย์ที่ลดลง สัญชาตญาณระวังภัยของเจ้ายังน้อยลงกว่าของเลพป์ เจ้ามีอะไรจะบอกข้าหรือไม่"
อลันนิ่งเงียบและหลบสายตา เขาไม่อยากโกหกโครอส แต่ก็ไม่อยากบอกความจริงไปเช่นกัน อลันกลั้นหายใจ นายของเขาคงรู้เรื่องแล้ว เขาไม่คิดว่าโครอสจะรู้เรื่องเร็วขนาดนี้ ทั้งที่เขาเลือกแล้วว่าจะตัดใจ แต่ดูท่าเขาคงทำมันได้ไม่ดีนัก
" เจ้าเป็นเหมือนพี่ชายข้า อลัน แต่เรื่องของไอร่า ไม่ใช่สิ่งที่ข้าจะอภัยให้ได้ เจ้าไม่ได้ลุ่มหลง แต่เจ้ากำลังมีความรัก เป็นไอร่าใช่หรือไม่ที่กวนใจเจ้า ข้าเห็นสายลมห้อมล้อมหัวใจเจ้า เจ้าจะลืมคำสาบานของตนเองหรือไง"
โครอสเลือกที่จะกล่าวกับอลันตรงๆ เขาไม่ได้ต้องการจะต้อนอลันให้จนมุม แต่เขาต้องการเตือนอลันให้มีสติ ไอร่าเป็นของเขา และตอนนี้ใจของไอร่าก็เป็นของเขาเช่นกัน เขาไม่อยากให้อลันผิดหวัง และจมอยู่ในความรักที่ไม่มีทางเป็นไปได้
อลันคุกเข่าลงต่อหน้าโครอส เขาละอายใจและรู้สึกผิด เขาได้ให้คำสัตย์สาบานแล้วว่าจะปกป้องโครอสด้วยชีวิต แต่ตอนนี้เขากลับลังเล เขาเชื่อว่าถ้าถึงคราวคับขัน ตนเองจะสามารถปกป้องโครอสได้ และเขาจะยอมตายแทนได้เหมือนเช่นทุกครั้งที่เกิดวิกฤต แต่ตอนนี้เขากลับลังเล เพราะหากมีอะไรเกิดขึ้นกับไอร่า เขาคิดว่าตนเองจะตายแทนไอร่าได้ด้วยเช่นกัน ทั้งที่ความจริงแล้ว เขาควรเก็บชีวิตเอาไว้ให้โครอสเพียงผู้เดียว
โครอสมองอลันที่คุกเข่าโดยไม่พูดอะไร เขารู้จักอลันดี อลันเป็นเหมือนพี่ชาย เป็นลูกน้องที่มีความภักดี และเป็นบ่าวที่ซื่อสัตย์ และต่อให้เขาไม่สามารถสื่อใจกับอลันได้เหมือนอย่างไอร่า แต่เขาก็รู้จักอลันมานาน นานเท่าชีวิตของเขาเอง
" ต่อไปนี้เจ้าไม่ต้องมาอยู่ข้างข้าอีกแล้ว ข้าจะให้เมลเลนท์มาทำงานแทนเจ้า ส่วนเจ้า จงไปทำงานดูแลรับใช้ไอร่า ข้าจะให้เจ้าเป็นต้นห้องของไอร่า เจ้ารู้ดีใช่หรือไม่ว่า เหตุใดข้าถึงสั่งเช่นนี้"
อลันกลั้นน้ำตา เขาก้มหน้ารับคำสั่งด้วยใจทั้งหมด เขาเข้าใจสิ่งที่โครอสกล่าวดี โครอสไม่ได้สั่งให้เขาตัดใจ แต่ให้โอกาสเขาที่จะเปลี่ยนความรักแบบชู้สาวเป็นความรักแบบนายบ่าว อลันไม่เคยรักใคร เพราะชีวิตทั้งหมดของเขาได้สาบานแล้วว่าจะมอบให้โครอส เขาไม่เคยชายตาแลใคร และไม่เคยตกหลุมรัก แต่เมื่อเขาตกหลุมรัก เขากลับพบกับความเจ็บปวด เขากำลัง..ผิดหวังกับรักครั้งแรก ในขณะที่เขาจมอยู่กับความเจ็ดปวด โครอสกลับให้ความหวังเขา ให้โอกาสและชี้ทางเขาให้ไม่ต้องทนทุกข์กับรักครั้งแรก โครอสเลือกให้เขาอยู่เคียงข้างไอร่า เพื่อที่ว่าเมื่อถึงเวลา เขาจะได้ตายแทนไอร่าได้ และตอนนี้ชีวิตของโครอสและไอร่าถือเป็นชีวิตเดียวกันแล้ว การที่เขาตายแทนไอร่า ย่อมหมายถึงการที่เขายอมตายแทนนายของตน
" กระหม่อมจะดูแลและปกป้องท่านไอร่าเป็นอย่างดี จะไม่ทำให้ฝ่าบาทผิดหวังอีกแล้วพะยะค่ะ"