[Fantasy]// Enamorado de Ti:: ความงามและตะแลงแกง :: ถามหน่อยค่ะ (11/12/56)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

คุณอยากให้เรื่องนี้จบอย่างไร

Happy  ending  ตายกันเกลื่อน  ขอพระเอกนายเอกรอดเป็นพอ  ตัวโกงกับคนอื่นช่างมัน
17 (23.6%)
Sad story   ตายกันเกลื่อน  พระเอกตายแน่  นายเอกไม่รู้  ตัวโกงตาย
3 (4.2%)
Sad story   ตายกันหลายศพ  พระเอกนายเอกตาย  ตัวโกงรอด  รอลูกพระเอกมาแก้แค้น  (ต่อเป็นภาคสอง)
3 (4.2%)
Happy engind  ตายพอประมาณ  พระเอกนายเอกรอดแน่  ตัวโกงไม่รู้ชะตาอาจเป็นคนดีหรือตายไปเลย
49 (68.1%)
อื่นๆ  ลองแนะนำกันมาในเม้นท์นะคะ
0 (0%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 68

ผู้เขียน หัวข้อ: [Fantasy]// Enamorado de Ti:: ความงามและตะแลงแกง :: ถามหน่อยค่ะ (11/12/56)  (อ่าน 59848 ครั้ง)

ออฟไลน์ teatimes

  • ไม่อยากให้เปลี่ยน...... เพราะแค่นี้ก็ดีพอแล้ว
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-1
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.เมื่อนิยายจบแล้วให้แก้ไขหัวกระทู้ต่อท้ายว่าจบแล้ว


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
 



เปิดเรื่องใหม่จ้า(มันช่างกล้าเปิดใหม่เนอะ)  เรื่องนี้เป็นแนวแฟนตาซีค่ะ  ได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่อง  Snow White  and  huntsman ค่ะ  อิมเมจพระเอกมาจากเรื่องนี้เลยค่ะ(พระเอกเซ็กซี่ที่สุด) ส่วนตัวโกงคือเพื่อนนางเอกตอนเด็กค่ะ


Enamorado   de Ti  ::  ความงามและตะแลงแกง


Enamorado  แปลว่าความลุ่มหลงค่ะ  ส่วน Enamorado   de Ti หมายถึง In love with you 

แต่ถ้าใช้ชื่อนี้ก็กลัวจะคิดว่าเป็นแนวโรแมนซ์ไปหน่อย  ไม่ใช่แนวของ teatimes ที่ต้องมี SM บ้าง โฉดบ้าง จิตบ้าง  NC กระจายบ้าง  เลยตั้งชื่อภาษาไทยว่า  ความงาม และ  ตะแลงแกง  อันหมายถึงความลุ่มหลงอย่างมัวเมาของผู้ชายต่อสาวงาม  และความเคียดแค้นอิจฉาของหญิงสาวอีกคนที่ชิงชังสาวงานคนนั้นจนสามารถฆ่าคนได้


ชื่อตัวละครจะมาจากเทพของกรีกซะส่วนใหญ่  อันนี้ต้องขอขอบคุณคุณ zynestras มากๆเลยค่ะที่ทำให้  teatimes เกิดนึกอยากศึกษาเรื่องตำนานกรีกขึ้นมา (จากเรื่อง[Historical Fantasy] Demon Madden เสน่หาอสูรร้าย :; สนุกมาก)  คนแต่งพยายามศึกษา(ผ่านๆ) เอาชื่อที่คิดว่าเกี่ยวกับนิสัยของตัวละครมาลงไว้  ดังนั้นถ้ามีคนมาอ่านแล้วคิดว่าไม่ตรงต้องขอโทษด้วยนะคะ

เนื้อหาจะเป็นคล้ายๆยำใหญ่ของเทพนิยายกับหนังแฟนตาซีหลายๆเรื่องค่ะ หลักๆคือเรื่องสโนไวท์

ที่มีแม่มดใจร้ายอิจฉาความงามของนายเอก  มีการลงคำสาปแช่ง(จากเรื่องเจ้าหญิงนิทรา  แต่นายเอกไม่หลับแต่ต้องตายโดยการถูกเผาแทนแต่ลุงนายเอกลงพรซ้ำให้ใหม่)  นายเอกหนีไปอยู่ในหุบเขากับสัตว์ป่าและพระเอกเดินไปเจอที่ซ่อนขณะไปล่าสิงโตหิมะ(แบบในเรื่องราพันเซลกับนาเนีย)  แน่นอนเรื่องนี้พระเอกกินนายเอกบ่อยมาก(ตามกระแสนิยม)  หลังจากที่แม่มดตายจากการถูกเผาไฟ  พี่ชายนายเอกที่รักนายเอกมาตั้งแต่เด็ก(เริ่มน้ำเน่า)ได้ไล่ให้นายเอกออกจากปราสาทเพื่อรอวันที่นายเอกโตเป็นสาวงาม(?)  และรอการแก้แค้น  แน่นอนว่าพี่ชายต้องไปชิงตัวนายเอกกลับมาแล้วก่อสงคราม(ประมาณชิงนางเฮเลนแห่งทรอย)  แล้วทรมานนายเอก(น้ำเน่ามากกก)  สุดท้ายพระเอกไปช่วย  ส่วนช่วยได้หรือตายไปพร้อมนายเอกต้องดูอีกที(แล้วแต่เสียงเชียร์ของคนอ่าน)  จบ



พล๊อตเรื่องมันอาจจะซ้ำไปบ้างต้องขอโทษด้วยนะคะ  แต่คนแต่งอยากแต่งสนองนี้ดตนเองและความหื่นในใจ  เพราะหลังจากแต่งไปสองเรื่อง   เรื่องแรกพระเอกไม่กินนายเอกซักที(ไม่รู้จะอดทนถนอมนายเอกไปไหน)  ส่วนเรื่องที่สองสงสัยแต่งไม่มีคนอ่านน้อย(แต่จะแต่งต่อไปเวลาดาร์กและเห็นข่าวทารุณกรรมต่างๆ)   

ดังนั้นเรื่องนี้แต่งตามกระแส  พระเอกเป็นกษัตริย์เอาแต่ใจ  รักนายเอกมากก  หื่นมากกก  กินกันตั้งแต่ต้นเรื่อง(ประมาณตอนที่สามก็เริ่มกินกันแล้ว) :z1:  ส่วนนายเอกก็แสนสวยและมีชะตาชีวิตที่แสนเศร้าแต่ก็มีช่วงที่มีความสุขบ้างก่อนกินมาม่ากันไป 


ส่วนเรื่องการอัพนิยายจะมาช้ากว่าเรื่องแรก :: รักนี้... ไม่ปล่อยให้หลุดมือ :: (โฆษณา) เพราะจะแต่งเวลาแอบหื่น  แต่จะพยายามแต่งจนจบแน่นอน(แม้ว่าจะมีคนอ่านมากหรือน้อยก็ตาม) :hao5: 

ยังไงก็ขอฝากงานชิ้นใหม่ด้วยนะคะ  เพราะ teatimes  พยายามจะพัฒนาฝีมือการแต่งนิยายอยู่ค่ะ  ฝากติชมด้วยนะคะจะได้เอาไปปรับปรุงค่ะ

สุดท้ายขอมอบเครดิตให้คุณ zynestras จริงๆค่ะที่ทำให้เรามีแรงบันดาลใจแต่งนิยายแฟนตาซี (อันนี้ต้องขออนุญาติเจ้าของนามปากกาก่อนรึเปล่าไม่แน่ใจ  ถ้าต้องขออนุญาติก่อนต้องขอโทษด้วยนะคะ)
 :pig4:


เวิ่นมาพอแล้ว  เชิญติดตามอ่านได้เลยค่า~  :mc4: :mc4: :mc4:



นิยายเรื่องอื่นๆจาก  Teatimes (มันยังแต่งไม่จบซักเรื่อง :z3: )


[sweety]//~รักนี้...ไม่ปล่อยให้หลุดมือ~  
[Romance]// 平安 :: ผิงอัน หนุ่มเอ๋อกับเด็กข้างบ้าน
 

[เรื่องสั้น]// ถ้าไม่ฮาก็คงเครียดแทน:: คุณเพื่อน คุณแม่ และคุณภรรยา   จบแล้ว

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-07-2014 17:12:21 โดย teatimes »

ออฟไลน์ teatimes

  • ไม่อยากให้เปลี่ยน...... เพราะแค่นี้ก็ดีพอแล้ว
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-1
Enamorado   de Ti 
ความงาม  และ  ตะแลงแกง



"ความงามของเจ้าจะเป็นภัยต่อตัวเจ้าเอง  แม้จะมีผู้คนมาหลงรักเจ้าแต่เจ้าจะได้รู้ว่าความทรมานจากการลุ่มหลงนั้นเป็นเช่นไร  เจ้าจะต้องตายทั้งเป็นไอร่า  และเมื่อวันใดที่เจ้าคิดปลิดชีพตนเอง  เจ้าจะพบจุดจบในตะแลงแกงเผาไฟเช่นเดียวกับแม่ของเจ้าและของข้า!"


เสียงสาปแช่งของพระมารดาฮีราที่ตะโกนออกมาพร้อมเลือดสีแดงฉานที่สาดกระเซ็นรดตัวเขาดังขึ้น  ก่อนที่พระองค์จะกระโดดเข้าเปลวไฟอันเป็นโทษทัณฑ์ที่พระบิดาของพระองค์ได้กำหนดไว้  เสียงร้องโหยหวนของฮีราดังก้องไปทั่วห้องลงทัณฑ์  ท่ามกลางสักขีพยานมากมายรวมถึงพระเชษฐาองค์โตของพระองค์ที่เพิ่งกลับมาจากการออกรบป้องกันเมือง  การที่ต้องทนเห็นภาพพระศพของพระมารดาทำให้เสด็จพี่ของเขาตรอมตรมและจ้องมองพระบิดาอย่างโกรธแค้น  หลังจากนั้นไม่นานองค์รัชทายาทก็ก่อกฎบถือดาบปลิดชีพพระบิดาตนเองให้ตกตายตามพระมารดา

" ไอร่าน้องรัก  เจ้าจงหนีไปซะ  จงหนีไปให้ไกลเพราะเมื่อวันใดที่เจ้าถูกจับกลับมาเจ้าจะพบจุดจบไม่ต่างจากพระมารดาข้า  จงจำคำข้าไว้  ข้าไอเรส  มาร์ส  ไซธีรา ผู้ครอบครองบัลลังแห่งไซธีเรียขอสาบานว่า  เมื่อวันใดที่ข้าจับเจ้ากลับมาได้เจ้าจะได้รู้ซึ้งถึงคำว่าตายทั้งเป็นก่อนจะได้พบจุดจบบนตะแลงแกง"

ไอร่า  ไดแอน  ไซธีรา  โอรสองค์เล็กแห่งไซธีเรียสะดุ้งตื่นจากฝันร้ายที่ตามหลอกหลอนเขามาตลอดสิบปี  พี่ชายใจดีที่ไอร่าเคยรักหมดใจ และหวังจะเป็นกำลังสำคัญ  เป็นแขนขาในยามที่ไอเรสขึ้นเป็นกษัตริย์แห่งแดนเหนือ  ดินแดนแห่งเวทย์มนต์ที่มีหิมะสีขาวปกคลุมตลอดทั้งปี แต่ก็ก็เป็นดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยแร่ธาตุและสัตว์ป่าหายากที่ผู้คนต้องการ  ไอร่าย้อนคิดถึงวันที่เขาต้องหนีออกมาจากปราสาทที่อาศัยมาตลอดแปดปีด้วยความเศร้าหมอง 

คำขับไล่ของไอเรสเป็นผลให้ไอร่ารวมทั้งเฮสเทียและรีอา  พระปิตุลา(ลุง)และพระเชญฐาภคิณี(พี่สะใภ้)ต้องหลบหนีเข้าไปในฝั่งตะวันออกของป่ามนตราโซลซีสท์  ป่าแห่งต้นกำเนิดที่กั้นกลางระหว่างแคว้นทั้งสี่  เฮสเทียเป็นพ่อมดผู้ทรงฤทธิ์แห่งไซธีเรีย  ท่านได้ร่ายมนต์ครอบคลุมที่ซ่อนของไอร่าไว้ก่อนที่จะหลั่งเลือดตนเองเพื่อเป็นการล้างคำสาปที่พระนางฮีราได้สาปด้วยชีวิตของตนเองที่ตัวเขา  แต่ไม่มีใครแน่ใจได้ว่าการร่ายมนต์ครั้งนี้ประสบผลหรือไม่เพราะแม้ท่านลุงจะสละชีพตนเองแต่ท่านก็สูญเสียพลังเวทย์จากการลงมนตราในป่าแห่งนี้ไปแล้ว 

ไอร่าใช้ชีวิตอยู่กับรีอาป้าสะใภ้กลางป่าใหญ่แห่งนี้ตลอดเจ็ดปีก่อนที่ป้าของเขาจะสิ้นลงด้วยอาการป่วยไข้  ไอร่าเติบโตภายใต้การอบรมสั่งสอนของรีอา  โดยปกติแล้วรีอาจะเป็นคนที่นำของจากป่าออกไปขายที่เมืองชายป่า  แต่เมื่อไอร่าเติบใหญ่ขิึ้นรีอาก็อนุญาติให้ไอร่าออกไปนอกป่าด้วยได้

" เจ้าสามรถออกไปนอกป่าแห่งนี้ได้  แต่จงจำไว้ว่าอย่าค้างแรมนอกป่าและจงปิดบังใบหน้าของเจ้าไว้  เจ้างามขึ้นทุกวันไอร่า  ช่างเหมือนกับแม่ของเจ้ายิ่งนัก  ไม่ว่าใครที่เห็นหน้าเจ้าคงต้องลุ่มหลง  ถ้าไม่อยากให้คำสาปขององค์ราชินีเป็นจริงและทำให้ชีวิตของเฮสเทียต้องเสียเปล่า  เจ้าจงอย่าเปิดเผยหน้าให้ใครเห็นเด็ดขาด"

คำสั่งของรีอา  ไอร่าจำได้ขึ้นใจ  แม้รีอาจะบอกว่าเขาช่างเหมือนเสร็จแม่ที่มีรูปโฉมงดงามจนเป็นที่ต้องตาของบุรุษทั่วแผ่นดิน  แต่ไอร่าเองกลับไม่เคยส่องกระจกหรือมองเงาของตนผ่านลำน้ำอีกเลยนับแต่วันที่ได้รับคำสาป  พระมารดาของเขาราชินีฮีร่าแห่งไซธีเรียองค์ก่อน  เคียดแค้นชิงชังเสด็จแม่มาก  ท่านกล่าวว่าเพราะเสด็จแม่ของเขาทำให้องค์ราชาตีตัวออกห่างจากพระองค์  สุดท้ายฮีราได้สร้างอุบายใส่ความป้ายสีว่าแม่เขามีชู้และจับเผาทั้งเป็นที่ลานกลางเมือง  เมื่อเสด็จพ่อทราบข่าวก็รีบรุดกลับมาจากการออกทัพกับแดนตะวันออกทิ้งให้องค์รัชทายาทตามกลับมาที่หลัง  องค์ราชาสืบสาวราวเรื่องจนพบความจริงที่ว่าสเด็จแม่ของเขาถูกใส่ร้าย  ท่านจึงลงโทษองค์ราชินีเฉกเช่นเดียวกัน

" หม่อมฉันกระทำสิ่งใดผิดไปเพคะ  ผู้ที่ผิดคือพระองค์ต่างหาก  ถ้าพระองค์ไม่เจ้าชู้หลายใจหม่อมฉันคงไม่ต้องทนทุกข์  โดยเฉพาะนางไดโอนี  นางเป็นแค่หญิงชาวบ้านที่ท่านพบกลางป่าแดนเหนือเท่านั้น  ใยพระองค์จึงเชิดชูนางให้เท่าเทียมหม่อมฉัน"

เสียงร้องร่ำไห้ของพระราชินีฮีร่าดังก้องไปทั้งห้องสอบสวน  แต่องค์แอติรอสกลับไม่สนใจคำกล่าวนั้นความโศกเศร้าจากการเสียชายาอันเป็นที่รักทำให้พระองค์คุมขังองค์ราชินีไว้ในคุกหลวงก่อนกำหนดวันสำเร็จโทษในวันเกิดของฮีร่าเอง  ยามนั้นไอเรสเองที่เพิ่งได้ทำสัญญาสงบศึกกับแดนตะวันออกก็ได้รีบกลับมาเพื่อขออภัยโทษให้พระมารดา  แต่ไอเรสกลับมาไม่ทัน  สิ่งที่ไอเรสเห็นคือภาพที่มารดาตนเองปักมีดประจำตัวลงที่หน้าอก  เพื่อลงคำสาปแช่งแก่ไอร่าบุตรเพียงคนเดียวของพระนางไดโอนีก่อนทีจะกระโดดลงเปลวเพลิง  ไอรอสที่เจ็บแค้นทำการปิตุฆาตบิดาตนเองและเหล่านางสนมชายาทั้งหลาย  ยกเว้นแต่ไอร่าเท่านั้นที่ไอเรสยอมปล่อยไปด้วยความรักและความแค้น 

คิดถึงตรงนี้ไอร่าก็อดหดหู่ใจไม่ได้ว่า  การที่เขามีชีวิตรอดอยู่คนเดียวจะเป็นการดีหรือไม่  การตายไปพร้อมกับคนอื่นเลยจะเป็นการดีกว่าที่ต้องทนอยู่อย่างหวาดกลัวในคำสาปและการแก้แค้นหรือเปล่า  แต่เขาก็ไม่คิดที่จะฆ่าตัวตายเขาใช้ชีวิตกลางป่าแห่งนี้มาคนเดียวตลอดสามปีที่ผ่านมา  และหวังว่าเขาคงได้แก่ตายไปอย่างไม่เจ็บปวดมากนักแม้ว่าต้องตายอย่างเดียวดายก็ตาม

โฮ่ง!  โฮ่ง!

" เจ้าเคนนิสคงกลับมาจากการล่าสัตว์แล้ว"  ไอร่าบิดตัวแล้วลุกออกมาจากเตียง  เคนนิสเป็นลูกหมาป่าที่เขารับมาเลี้ยงได้เมื่อสามปีก่อนระหว่างช่วงที่เขากำลังเสียใจจากการจากไปของรีอา  แม่ของเจ้าเคนนิสถูกสัตว์ป่าตัวอื่นทำร้ายระหว่างหาอาหาร  ไอร่าจึงนำมันมาเลี้ยงแทน  ไอร่าเป็นคนธรรมาที่ไร้ซึ่งมนตรา  พรสวรรค์เดียวที่เขาได้รับจากมารดาคือการสื่อสารกับสัตว์ต่างๆได้  พวกมันจะเชื่อฟังเขา  แม้ไม่สามารถตอบโต้กันได้แต่พวกมันก็เชื่อฟังเขาทุกอย่างและไม่มีสัตว์ตัวใดกล้ามาทำร้ายเขา 

" วันนี้ได้ตัวอะไรมาเด็กดี" 

ไอร่าลูบหัวสุนัขป่าตัวใหญ่ที่สูงกว่าเอวเขา  มันลากกวางตัวผู้เต็มวัยมาอวดเพื่อให้เขาชมเชยก่อนแบ่งส่วนแบ่งให้มัน  ไอร่าสั่งให้มันลากกวางไปที่หลังบ้านแล้วเริ่มแล่หนังออกเพื่อเอาไปขาย  ใกล้หน้าหนาวแล้วเขาคงต้องเตรียมทำเนื้อแห้งเพิ่ม  ส่วนหนังก็เอาไปขายให้ตลาดชายป่า  ความจริงการขายกวางทั้งตัวจะได้เงินมากกว่าแต่ไอร่าไม่มีรถลาก  เขามีแต่ม้าแคระที่หลงเข้ามาในบ้านเท่านั้นเป็นพาหะนะ  และการที่จะให้ม้าแคระลากกวางที่ตัวโตกว่ามันสองเท่าคงเป็นเรื่องที่ทารุณมากไปหน่อย

" ขายหนังผืนนี้กับเนื้อแห้งและสมุนไพรอีกหน่อยก็หาซื้อลูกวัวมาได้แล้ว  คราวนี้เราจะได้มีนมกินไม่ต้องออกรอไปซื้อนอกเมือง" 

ไอร่าวางแผนที่เขาจะจัดการกับการใช้ชีวิตกลางป่าในอนาคตโดยไม่ต้องออกจากป่ามากนัก  มนตราที่ท่านลุงของเขาปกป้องไว้อยู่แค่เพียงผืนป่าฝั่งตะวันออกทั้งหมด  ดินแดนแห่งอรุณรุ่งที่มีความอบอุ่นยาวนานและมีช่วงหนาวเย็นช่วงสั้นๆ  ไอร่าสามารถออกไปนอกเขตป่าได้ไม่ไกลแต่โชคดีที่มันมีตลาดอยู่ชายป่าเพราะมันมักจะมีคนเดินป่าที่เข้ามาหาของในป่ามนตราแห่งนี้  ของที่ได้จากป่าลึกยิ่งมีค่าแต่มันเต็มไปด้วยสัตว์ร้าย  ซึ่งนั่นไม่เป็นปัญหาสำหรับไอร่า  เขามักเก็บสมุนไพรหายากได้เป็นประจำ  แต่เขาก็ไม่ติดที่จะใช้อำนาจของตนเองในการล่าสัตว์ออกไปขายนอกเหนือจากที่ต้องกินประทังชีวิตเท่านั้น 

" งั้นพรุ่งนี้เราเอาของไปขายกันนะเคนนิส"

โฮ่ง!  โฮ่ง!

ไอร่าหัวเราะให้สหายเพียวตัวเดียวของตนก่อนนะโยนเนื้อกวางชิ้นใหญ่ไปให้  และล้างมือเพื่อเริ่มลงมือทำอาหารเช้า  กิจวัตรของไอร่าเรียง่าย  ตื่นเช้ามารอเอาสัตว์ป่าที่เคนนิสล่ามาได้มาทำอาหารกับผักสวนครัวหลังบ้าน  หลังมือเช้าเขาก็ลากเจ้าม้าแคระเจ้าไปในป่าเพื่อหาของป่า  ถ้าโชคดีเขาอาจเจอไข่ของสัตว์ปีกมาทำอาหารค่ำ  ไอร่ามีมีดพกเล่มเล็กและอุปกรณ์ขุดดินสำหรับการหาสมุนไพร  รีอาเป็นคนสอนเขาทั้งหมด  ท่านป้าเป็นหมอสมุนไพรประจำพระองค์ดังนั้นไอร่าจึงได้รับความรู้ในส่วนนี้มา  ร่างเล็กดินเข้าไปในป่าอย่างคุ้นเคยแต่วันนี้เขาคงไปไม่ไกลนักเพราะพรุ่งนี้ต้องเดินทางไปขายของอีก  ไอร่าเก็บสมุนไพรจนคล้อยบ่ายก็กลับเขาบ้าน  เจ้าเคนนิสสุนัขป่าวิ่งโร่นำเข้าไปเพื่อสำรวจตัวบ้านก่อนทุกครั้ง  และวันนี้มันยังคงสงบสุขอย่างเช่นทุกวัน 

ไอร่าถอดผ้าคลุมออกแล้วแขวนไว้ที่ผนังบ้าน  เขาสวมเสื้อคลุมทุกครั้งที่ออกจากบ้านเพราะกลัวจะเจอคนที่หาของในป่า  แม้ว่ามันจะมีโอกาสน้อยเต็มทีที่จะมีคนเข้ามาลึกขนาดนี้  ตอนนี้ไอร่าง่วนอยู่กับการคัดแยกสมุนไพรออกมาแตกแห้ง  และเก็บบางส่วนไปกองรวมกันเพื่อเอาไปขาย  หลังจากเสร็จงานที่ต้องเสียเหงื่อ  เขาไปล้างตัวที่ริมธาร  โชคดีจริงๆที่ท่านลุงของเขาหาสถานที่แห่งนี้พบ  มันเป็นช่องว่างในหุบเขาที่มีแดดส่องถึงเห็นฟ้ากว้าง  มีน้ำตกสายเล็กไหลลงมาจากภูเขาด้านบน  ถ้าช่วงหน้าฝนน้ำจะไหลมาเยอะถ้าโชคดีเขาจะเห็นรุ้งกินน้ำที่หลังบ้านตัวเอง  บ้านหลังนี้และคอกม้าด้านข้างท่านลุงใช้เวทย์มนต์สร้างขึ้นจากวัสดุที่หาได้จากในป่า  บ้านเขาเดิมมันมีสองห้องนอนแต่เมื่อรีอาเสียไป  ไอร่าจึงเปลี่ยนอีกห้องเป็นห้องอาบน้ำที่เปิดโล่งเพื่อสะดวกในการต้มน้ำโดยใช้หินร้อน 

แต่เดิมท่านลุงพาม้ามาด้วยสองตัวจากการหลบหนีแต่ท่านก็เอาไปขายเพื่อแลกเงินมาซื้อของใช้ในครัวและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆตามความเหมาะสม  และในวันเกิดของท่านวันที่มนตราทรงพลังที่สุดเมื่อท่านเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยก็ได้ร่ายมนต์คุ้มครองเขาป้องกันตัวเขาจากการตามล่าของพี่ชาย  และร่ายพรเพื่อลบล้างคำสาปเดิม  แม้คำสาปที่ลงไว้ด้วยชีวิตจะลบเลือนไม่ได้  แต่เราสามารถสร้างเงื่อนไขใหม่ขึ้นมาแทนได้เพื่อเปลี่ยนเรื่องร้ายให้กลายเป็นดี

" ยามเมื่อเจ้าต้องขึ้นตะแลงแกง  หากมีคนที่รักเจ้าสุดหัวใจจนยอมตายแทนได้  เมื่อนั้นเจ้าจะพ้นจากความเจ็บปวดและสิ่งที่ต้องทนทุกข์"

แต่ท่านลุงก็ได้สิ้นใจโดยที่ท่องมนต์บทสุดท้ายไม่จบ  เพราะการร่ายมนต์ในป่าแห่งนี้ทำให้ผู้ร่ายมนต์ต้องสิ้นเปลืองพลังชีวิตมากกว่าปกติและหลังจากที่ท่านทุ่มเทพลังในการร่ายเวทย์คลุมพื้นที่แห่งนี้ท่านก็แทบไม่เหลือพลังชีวิตแล้ว  ดังนั้นจึงบอกไม่ได้ว่าการที่ท่านร่ายมนต์ไม่จบจะทำให้พรนั้นสำฤทธิ์ผลหรือไม่  และแม้การที่ได้เจอคนที่รักเขาหมดใจจะช่วยแก้คำสาปได้แต่การที่เขาต้องพบเจอความทุกข์ก่อนจะไปถึงตะแลงแกงคงไม่ใช่เรื่องที่น่าสนุกนัก  ดังนั้นไอร่าจึงตัดสินใจที่จะอยู่อย่างเดียวดายในป่านี้แค่มีสัตว์ป่าเป็นเพื่อนเขาก็พอแล้ว

หลังจากล้างตัวไอร่าไปแปรงขนให้เคนนิสก่อนจะไปดูแลม้าแคระแล้วปล่อยให้มันเดินเล่นจนพอใจ  ก่อนจะไปรดน้ำผักและเก็บวัชพืชออก  ไอร่ามองมือตนเอง  แม้ว่าเขาจะทำงานกลางแสงแดดแต่ผิวของเขากลับไม่คล้ำขึ้นเลยแม้แต่น้อย  มันยังคงขาวผ่องอย่างคนเหนือและมันช่างดูเหมือนผิวพรรณของแม่ของเขาจนน่าหวั่นใจ  และถึงเขาจะทำงานหนักแค่ไหนเนื้อตัวเขาก็ไม่หยาบกร้าน  กลับกันมันยิ่งดูนิ่มนวลเหมือนสตรีไปเข้าไปทุกวัน  คำสาปของฮีร่าคงทำให้เขาเป็นแบบนี้  เมื่อตะวันใกล้ตกดิน  ไอร่าจุดคบไฟทั่วบ้านก่อนลงมือทำอาหารค่ำ  เขาทำอาหารเผื่อเจ้าเคนนิสด้วยก่อนจะก่อฟืนอุ่นหินร้อนเพื่อแช่น้ำผสมสมุนไพรเพื่อผ่อนคลายตนเองจากการทำงานมาทั้งวัน  หลังเสร็จสิ้นจากทุกสิ่งไอร่าล้มตัวนอนและสั่งให้เคนนิสเฝ้าหน้าห้อง

" พรุ่งนี้ถ้าขายของได้ราคาก็คงดี  อยากได้หนังสือเล่มใหม่มาอ่านแก้เบื่อแล้ว"

ร่างเล็กนึกอะไรไปเรื่อยเปื่อยก่อนผลอยหลับในที่สุด  เขาได้แต่ขอให้คืนนี้ไม่ต้องฝันถึงอดีตที่ผ่านมา

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-08-2013 17:15:12 โดย teatimes »

ออฟไลน์ teatimes

  • ไม่อยากให้เปลี่ยน...... เพราะแค่นี้ก็ดีพอแล้ว
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-1
ดวงตะวันฉายแสงกระทบยอดปราสาทงาช้างแห่งแฮริออส  แสงอรุณสีส้มสาดส่องไปทั่วแผ่นดินอันเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นวันใหม่

โครอส  อาเบล  ไฮพีเรีย  กษัตริย์หนุ่มแห่งแฮริออส  ยืนทอดมองประชาชนของตนที่เริ่มต้นวันใหม่ด้วยความคึกคักแจ่มใส  หลังจากผ่านศึกกับแดนใต้ที่รบรากันมานานถึงสามปีในที่สุดเขาก็สามารถพิชิตแดนใต้ได้  และถ้าไม่ติดสัญญาสงบศึกกับแดนเหนือเขาก็อยากยกทัพไปตีแดนเหนือซักครั้ง  เขาต้องการรวมแผ่นดินให้เป็นหนึ่งเดียว

" ม้าเตรียมพร้อมแล้วฝ่าบาท"

เสียงของอลัน  นายทหารที่สาบานตนว่าปกป้องเขาด้วยชีวิตและเป็นสหายสนิทของเขา  ดึงเขาออกมาจากห้วงความคิด

" ดี  ข้าเบื่องานราชกิจเต็มทนอยากไปหาอะไรทำแก้เบื่อบ้าง"

" ถ้าอยากล่าสัตว์ก็น่าจะไปที่ป่าเฮสเทีย  ไม่เห็นต้องเข้าไปในป่ามนตราโซลซีสท์เลยนะพะยะค่ะ"

" ข้าอยากออกล่าสัตว์ป่าที่คนแดนเหนือพูดถึงซักครั้ง  ได้ยินมาว่าเป็นสัตว์ศักสิทธิ์ที่จะนำความรุ่งเรืองมาสู่ผู้ที่เป็นเจ้าของ"

" พระองค์ทรงเชื่อคำจากคนแดนเหนือด้วยหรือพะยะค่ะ"

" ข้าย่อมไม่เชื่อคำเพียงลมปาก  แต่คิดว่ามันน่าสนุกดีที่จะมองหาเป้าหมายในการออกล่าครั้งนี้  ไม่ว่าจะได้ตัวอะไรมาจากป่าโซลซีสท์  มันก็มีค่าทั้งนั้น"

" แล้วมนตราในป่าละพะยะค่ะ  ถึงยังไงที่นั่นก็เป็นป่าโบราณ  สัตว์ป่าที่นั่นก็ดุร้ายทั้งยังเต็มไปด้วยเวทย์มนต์  ถ้ายังไงให้กระหม่อมเกณฑ์นายทหารไปด้วยอีกซักสิบนายดีหรือไม่"

" เอาเจ้าพวกนั้นไปก็ดีแต่เป็นตัวถ่วงข้ามากกว่าแทนที่จะช่วยข้า  ข้าคงต้องเป็นฝ่ายปกป้องพวกนั้นจากสัตว์ร้าย  เลิกเกลี่ยกล่อมข้าได้แล้ว  ข้าอยากเข้าป่าก่อนเย็น"  โครอสตัดบทคนสนิทที่ทำท่าจะพูดมากไม่เลิก  ถ้าไม่ติดว่าอลันเป็นเพื่อนสนิทและนายทหารฝีมือดีเขาคงสั่งตัดหัวตัดความรำคาญไปแล้ว

" พะยะค่ะ  ตามแต่พระประสงค์เลยฝ่าพระบาท" 

อลันอดที่จะประชดนายเหนือหัวของตนเองไม่ได้  นายของเขาน่ะทั้งหัวรั้นและเอาแต่ใจ  ยิ่งรวมกับฝีมือในการปกครองและการศึกยิ่งทำให้ผู้คนเกรงกลัวจนไม่มีใครกล้าแย้งหรือขัดใจ  คงจะมีแต่เขาและพระอัยยิกา(ย่า) เท่านั้นที่พอปรามอีกฝ่ายได้  แต่เมื่อพระอัยยิกาสิ้นไปแล้วตอนนี้แม้แต่พระชนนีเองก็ยังปรามไม่อยู่ 

อลันเป็นลูกของญาติห่างๆของพระชนนี  ที่เกิดในเวลาไล่เรี่ยกับการประสูตรของโครอส  ดังนั้นตอนที่กษัตริย์องค์ก่อนประกาศหาแม่นม  แม่ของเขาจึงได้รับเลือกให้เขาวังมาให้เป็นพระนม(แม่นม)  และเขาเองที่เติบโตมาพร้อมกันจึงเหมือนเป็นเพื่อนสนิทที่สามรถต่อล้อต่อเถียงกับอีกฝ่ายได้โดยไม่ต้องเสียหัวไปซะก่อน

" ถึงยังไงก็น่าจะเข้าป่าแค่ห้าวันก็พอ  ไม่น่าจะต้องไปนานถึงสิบวันแล้วกลับมาใครกันที่ต้องช่วยสะสางงานน่ะ  ถ้าไม่ใช่กระหม่อม" 

" ถ้าเจ้ายังพูดมาก  ข้าจะเข้าป่าคนเดียวแล้วทิ้งให้เจ้าทำงานเอกสารแทนทั้งหมด"

โครอสว่าแล้วกระโดดขึ้นม้าตัวโปรดก่อนควบออกไปอย่างรวดเร็ว  โดยไม่รออลันที่ยังบ่นไม่เลิก  ฝ่ายอลันก็ได้แต่กรอกตาเหนื่อยหน่ายกับความเอาแต่ใจของผู้เป็นนายแล้วขึ้นม้าตามฝ่าบาทที่น่าเคารพยิ่งของเขาออกไป  ทั้งคู่ควบม้ายาวทีเดียวจนถึงชายป่าด้านตะวันออกของป่าโซลซีสท์  ทั้งที่เป็นชายป่าโบราณแต่มันกลับคึกคักและเต็มไปด้วยผู้คนที่มาจับจ่ายหาของซื้อของขายที่ได้มาจากป่ามนตราแห่งนี้ 

" สมกับเป็นป่าโบราณจริงๆ  แค่อยู่ชายป่าก็รับรู้ได้ถึงอำนาจเก่าแก่ยิ่งกว่ากลางป่าเฮสเทียซะอีก"  อลันเปรยขณะบังคับม้าฝ่าฝูงชนที่จับจ่ายใช้สอยอย่างคับคั่งแม้ว่าจะเลยเที่ยงวันไปแล้วก็ตาม

" คุณชายคิดจะเข้าป่าลึกแค่ไหนกันขอรับ"

" ไปทางกลางป่าแถบเหนือแล้วกัน  ได้ยินว่าสัตว์ดุร้ายและสัตว์ศักสิทธิ์อยู่แถวนั้น" 

โครอสบอกแล้วเริ่มมุ่งหน้าฝ่าฝูงชนเข้าป่า  เขามองดูผู้คนสัญจรไปมาตลาดชายป่ามีสินค้าหายากหลายชนิด  จึงมีพ่อค้าและเศรฐฐีกระเป๋าหนักมาหาซื้อของเพื่อนำไปใช้หรือไปอวดเบ่งบารมี

" คุณชาย  ท่านสนใจแมวแสงจันทร์ตัวนี้ไหม  ข้าจับได้ในป่าลึกและยังไม่ได้ลงมนต์ตีตรา  มันคงเหมาะกับท่านที่จะเลี้ยงไว้ให้นำความโชคดีมาให้"  นักผจญภัยตัวใหญ่เสนอขายลูกแมวสีขาวทั่วตัว  ท่าทางเจ้าตัวก็เหมือนคนผจญภัยอยู่หรอกถ้าไม่ติดที่พุงอ้วนๆนั่น

โครอสขี่ม้าผ่านอย่างไม่สนใจ  ผิดกับเศรฐฐีหน้าโง่บางคนที่ไม่รู้ตัวว่าถูกหลอกขาย  แมวแสงจัทร์เป็นสัตว์ป่าที่มีเวทย์มนต์ในตัวเอง  มันขึ้นชื่อเรื่องการนำพาโชคดีมาให้  ตอนเล็กๆมันไม่ต่างอะไรจากลูกแมวบ้าน  แต่เมื่อมันโตขึ้นมันจะเรืองแสงสีขาวนวลใต้แสงจันทร์ดวงตาสีเหลืองกระจ่างสามารถมองเห็นได้ในความมืดมิด 

" ถ้าลิงซ์มาเห็นคงตะปบตัวอ้วนนั่นที่กล้าเอาสายพันธ์ุของมันมาเทียบกับแมวบ้านแบบนี้"  อลันส่ายหัวให้กับเจ้ามิจฉาชีพที่กำลังบรรยายสรรพคุณให้คนที่สนใจฟัง 

" ลิงซ์คงไม่มาสนใจเจ้าหมูอ้วนสกปรกแบบนั้นหรอก" 

" ก็จริงขอรับ"

ลิงซ์เป็นแมวแสงจันท์ที่นายของเขาจับมาได้กลางป่าตะวันออกมันเป็นแมวแสงจันทร์สีดำหายาก  อำนาจมนตราของมันมีมากยิ่งกว่าแมวแสงจันท์ปกติ  แมวแสงจันทร์สีขาวนำความโชคดีมาให้  และแมวแสงจันท์สีดำจะมอบอำนาจมนตราที่ทำให้ผู้เป็นเจ้าของพบชัยชนะในการออกศึก  ลิงซ์เป็นแมวที่หยิ่งทะนงเพราะนอกจากโครอสแล้ว  อลันก็ไม่เห็นว่ามันจะญาติดีกับใครอีกแถมนิสัยก็ช่างเหมือนกับผู้เป็นนาย  ทั้งเอาแต่ใจและชอบของสวยงาม  เพราะนอกจากสาวงามแล้วเขาก็ไม่เคยเห็นว่ามันจะชายตามองใครแม้แต่เขาที่คอยหาอาหารอย่างดีมาให้มัน

" เราจะมุ่งไปทางป่าทิศเหนือแล้วค่อยพักแรมก่อนเข้าไปกลางป่า"  โครอสกล่าวแล้วกระตุ้นม้าให้ไปตามทิศที่ตนกำหนด 

อลันตามติดผู้เป็นนายไม่ใช่เขาไม่กังวลกับมนตราในป่า  แต่การที่เขาสาบานตนว่าจะมอบชีวิตและวิญญาณให้ผู้เป็ยนายทำให้อำนาจมนต์ของผู้เป็นนายคุ้มครองเขาไว้ด้วย  ดังนั้นไม่ว่านายของเขาจะไปที่ไหนเขาสามารถตามติดได้ทุกที่แม้ว่าที่แห่งนั้นจะลงมนตราห้ามเข้า  ถ้านายของเขาเข้าไปได้เขาเองก็ตามเข้าไปได้เหมือนกัน 

โครอสควบม้าเข้าป่าอย่างไม่กลัวเกรง  ตัวเขาเองแม้จะไม่ใช่พ่อมดแต่ก็มีอำนาจมนตราที่แกร่งกล้าไม่แพ้ฝีมือรบ  เสด็จย่าของเขาเป็นแม่มดจากป่าเฮสเทีย  ท่านเป็นหัวหน้านักบวชที่บูชาเทพไฮพีเรีย  เทพแห่งไฟและความอุดมสมบูรณ์  เขาที่เป็นหลานชายคนแรกและคนเดียวจึงได้รับมนตราทั้งหมดมาแทนที่พระบิดาที่ได้พรสวรรค์ทางด้านการรบมาจากเสด็จปู่เท่านั้น  เมื่อเข้าใกล้กลางป่าโครอสหยุดพักม้าแล้วให้อลันก่อไฟ  แดนเหนือช่างหนาวเย็นแม้จะยังไม่ได้เช้าใกล้อาณาเขตของอีกฝ่ายแต่ลมเย็นที่พัดมาก็ยังพัดพากลิ่นหิมะมาให้ได้กลิ่น

" ฝ่าบาทคิดไว้หรือยังว่าจะล่าอะไรนอกจากสัตว์ที่เขาล่ำลือ"  อลันถามพลางส่งมอบผ้าคลุมขนสัตว์สีน้ำเงินเข้มให้ผู้เป็นนาย

" คงเป็นสิงโตหิมะ  ข้าอยากได้ให้มันไปอยู่เป็นเพื่อนลิงซ์"

" ไม่ใช่ว่าลิงซ์จะตบไล่หรือไม่ก็งอนจนอดอาหารอีกนะ"  อลันบ่น

เขาจำได้ว่าคราวก่อนที่โครอสมัวแต่หลงนกเหนี่ยวทะเลทรายของบรรณาการจากต่างแดน  เจ้าลิงซ์ก็งอนโดยการอดอาหารประท้วง  สุดท้ายมันคงทนหิวไม่ไหว  จึงรอตอนที่โครอสเผลอเข้าไปไล่งับเหยี่ยวตัวนั้นลงท้อง  แถมคายขนติดคราบเลือดกองใหญ่ทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้าอีก  ยังดีที่โครอสรักแมวมากกว่านกไม่งั้นเจ้าลิงซ์คงถูกฆ่าไม่ต่างจากทหารยามที่เฝ้านกเหยี่ยวไว้ไม่ได้

" เสือกับสิงห์เป็นคู่ปรับกันอยู่แล้ว  และสิงโตหิมะก็คงเป็นคู่ปรับที่ดี  ลิงซ์จะได้ไม่เอาแต่นอนขดเป็นแมวหง่าว" 

โครอสว่าแล้วตรวจตราดูดาบและธนูให้พร้อมกับการออกล่า  ธนูเป็นอาวุธที่โครอสถนัดที่สุดแต่เขาก็ใช้ดาบได้ดีพอกัน  และการล่าสัตว์การควรใช้ธนูถึงจะเหมาะกว่า  หลังจากตรวจตราอาวุธเสร็จแล้วเขาก็นอนพักโดยให้อลันเฝ้ายามกะแรก  แม้เขาจะไม่กลัวมนตราแต่กับสัตว์ป่าเขาก็ไม่ควรประมาท 

รุ่งสางหลังมื้อเช้าโครอสก็เริ่มเข้าไปกลางป่าด้านเหนือ  เขายิงธนูล่าสัตว์ทุกอย่างที่ขวางหน้าถ้าตัวใดมีมนตราเขาก็ใช้มนตราโต้กลับ  ยิ่งเข้าป่าลึกเขายิ่งสนุกเพราะสัตว์ป่ายิ่งดุร้ายมากขึ้น  ลำบากอลันที่ต้องคอยเก็บซากสัตว์บางส่วนที่ใช้การได้ไว้  ในขณะที่นายของเขาเอาแต่ลงมือสังหารอย่างไม่เห็นคุณค่าของสิ่งที่ตนปลิดชีวิตไป

" ถ้าฝ่าบาทเป็นนักผจญภัย  คงเป็นนักผจญภัยที่จนที่สุดในโลก  ทำไมไม่มาช่วยกระหม่อมเก็บชิ้นส่วนพวกนี้บ้าง!  นี่ฟังข้าบ้างไหม  หยุดลงมือแล้วมาช่วยข้าเก็บเขากวางเผือกได้แล้ว!"  อลันตะโกนอย่างหัวเสีย  เมื่อเห็นผู้เป็นนายเอาแต่เดินเข้าป่าไปล่าสัตว์  ทิ้งให้เขาจัดการแยกชิ้นส่วนสัตว์ที่น่าสงสารเหล่านี้เอง  นี่ถ้าเขาเอาสัตว์ป่าพวกนี้ไปขายเขาคงรวยเป็นเศรฐฐีไปแล้ว  อย่างกวางเผือกตัวนี้  เขาของมันเป็นยาแก้พิษและรักษาบาดแผลได้อย่างดี  หนังของมันนำมาทำผืนผ้าสามารถให้ความอบอุ่นได้ยามหนาวหรือให้ความร่มเย็นได้ยามออกแดด

ยังไม่รวมหมีขาว  หมาป่า  เก้ง  กวาง  แม้แต่กระต่ายตัวเล็กที่เขามาขวางทางอีก  เฮ้อ..  กว่าเขาจะจัดการหมดคงหมดเวลาไปเกือบวัน

" อลันเจ้าอย่าเพิ่งถลกหนังกวางเผือก  ข้าจะเอามันไปล่อสิงโตหิมะ"  โครอสว่าแล้วนั่งลงข้างกองไฟ

" ถ้าท่านว่างแล้วก็ช่วยข้าแล่เนื้อกระต่ายมาย่างหน่อยละกัน  คงไม่เปลืองแรงท่านมากนักหรอกใช่ไหม"

อลันประชดก่อนละจากกวางเผือกที่เขากำลังจะถลกหนังไปที่ขนเจ้าหมีป่าแทน  เขาต้องรีบฉวยโอกาสตอนที่โครอสหยุดพักจัดการให้เสร็จไม่งั้นเขาต้องทิ้งสัตว์เหล่านี้ไปอย่างสูญค่า

" เงินเดือนทหารหลวงกับตำแหน่งต้นห้องมันน้อยมากรึไง  ข้าให้กองคลังเพิ่มเงินเดือนให้เจ้าดีไหม"  โครอสว่าพลางมองดูคนสนิทที่กำลังถลกหนังหมีอย่างชำนาญ

" หรือว่าเจ้าเบื่อที่จะต้องติดตามข้าแล้วอยากไปเป็นคนแล่เนื้อ" 

" ถ้าได้เป็นคนแล่เนื้อคงมีความสุขมากกว่านี้  ท่านแล่เจ้ากระต่ายนั่นได้แล้ว  ถ้าข้าถลกหนังเจ้าหมีนี่เสร็จข้าจะเอามาทำซุปต่อ"

โครอสหัวเราะขำกับอาการหัวเสียของอลัน  การที่เขาเก็บอลันไว้ไม่ใช่เพราะอีกฝ่ายสาบานว่าจะมอบชีวิตให้เท่านั้น  แต่เพราะอีกฝ่ายยุง่ายและขี้หงุดหงิด  ทำให้เขามีอะไรทำแก่เบื่อยามที่ต้องทนเจอหน้ากับพวกขุนนางน่าเบื่อ

" เจ้าจะใช้กษัตรย์ของตนเองให้แล่เนื้อรึไง"

" ข้าไม่เห็นมีราชาที่ไหนในป่าแห่งนี้  นอกจากตัวทำลายล้างกวนโทสะ"

" ข้าไม่เห็นว่าจะมีตัวที่ว่าซักตัว  ถ้ามีข้าคงยิงธนูฆ่ามันไปแล้วที่บังอาจมากวนโมโหเจ้า"

อลันได้เข่นเขียวที่โดนกวนไม่เลิก  สุดท้ายเขาได้แต่หัวฟัดหัวเหวี่ยงทำงานต่อ  ในขณะที่โครอสเอาแต่ขำที่แกล้งเขาได้ก่อนที่ลงมือจัดการย่างกระต่ายป่า 

" พรุ่งนี้เราจะวางกับดักล่าสิงโตหิมะ  ข้าจะวางกวางเผือกล่อมันไว้  แล้วจะไปดักรอบนต้นไม้"

" สิงโตหิมะมันออกจะฉลาด  คงไม่หลงกลท่านง่ายๆหรอก"  อลันประชด

" ถึงฉลาดแค่ไหนก็เป็นแค่สัตว์ป่า  ยิ่งเป็นสิงโตที่หยิ่งทะนงมันยิ่งไม่กลัวเกรงสิ่งใด  มันต้องมาแน่นอน"

" หยิ่งทะนงเหมือนท่านไง"

" ถึงข้าจะหยิ่งทะนงแต่ไม่ใช่ว่าจะไม่ฟังคำใครซักหน่อย"

" พะยะค่ะ  งั้นหัวของเจ้ากรมการปกครองที่โดนตัดไปเพราะแย้งเรื่องการบริหารงานก็เพราะเขาเอาหัวไปขวางทางขวานเองสินะ"

" เพราะเจ้านั่นเอาแต่คิดหาประโยชน์ใส่ตนต่างหาก"

ถึงแม้ว่ามันจะจริงแต่อลันคิดว่าเพราะโครอสหมั่นไส้เป็นการส่วนตัวมากกว่าเพราะเสนากรมการปกครองเอาแต่ยัดเยียดลูกสาวตนเองที่แม้จะรูปงามแต่ก็ไม่มีอะไรดีไปกว่าหน้าตาให้ขึ้นมาเป็นชายาอันดับหนึ่งที่เป็นรองแค่องค์ราชินี  สำหรับโครอสการแต่งตั้งราชินีก็เป็นแค่การหามารดาเพื่อให้กำเนิดองค์รัชทายาทเท่านั้น  ปราสาทฝั่งตะวันตกของโครอสไม่ต่างอะไรกับสวนสวรรค์ที่มีหญิงงามมากมาย  จนผู้ชายทั่วแดนอิจฉา  จะมีก็แต่โครอสนี่แหละที่มองเป็นเพียงหอสราญรมณ์ที่ใช้ระบายความต้องการเพียงอย่างเดียวและไม่คิดจะแต่งตั้งใครให้เป็นที่ปวดหัวเพิ่มเติม

หลังจากมือค่ำ  โครอสล้างตัวกลางสายธารเย็นเยือกอย่างสบายใจ  เขาแช่น้ำมองดูดวงจัทร์ที่ลอยกลางฟ้าราวกับเป็นมันเป็นน้ำอุ่น  โครอสเป็นนักรบที่ไม่อนาทรไปกับเรื่องหยุมหยิมเล็กน้อย  เขาสามารถอยู่อย่างสุขสบายได้พอๆกับทนอยู่อย่างลำบากภายใต้ความแล้งแค้นของสงคราม  สงคราวของแดนใต้ที่กินเวลานานสามปีทำให้โครอสสามรถทนต่อสภาพอากาศได้ทุกประเภท  ตั้งแต่แดดร้อนกลางทะเลทราย  หรือพายุลูกเห็บที่มาในหน้าหนาว  หรือการอยู่อย่างชื้นแฉะขณะซุ่มซ่อนตัวกลางลำคลอง 

แม้โครอสจะไม่รังเกียจอากาศหนาว  แต่เขาก็คิดว่าถ้ามีสตรีมากอดข้างกายกลางสายน้ำเย็นคงดีกว่านี้  ได้ยินมาว่าสตรีแดนเหนือนั้นงดงาม  มีผิวขาวผ่องราวหิมะ  พระบิดาของเขาเอาแต่เฝ้ารำพึงถึงพระชายาแห่งแดนเหนือที่มีคำร่ำลือว่างามยิ่งนัก  ถึงขนาดแอบเข้าไปในปราสาทแดนเหนือเพื่อยลโฉม  และเมื่อได้พบบิดาของเขาตั้งมั่นที่จะรุกรานแดนเหนือเพื่อช่วงชิงนางมา  แต่สุดท้ายกลายเป็นฝ่ายบิดาที่ฝ่ายแพ้  เพราะมนตราที่กล้าแกร่งของแดนเหนือทำให้บิดาเขาที่มีดีเพียงแค่ฝีมือดาบต้องพ่ายไป  ศึกครั้งนั้นทำให้แดนตะวันออกต้องยอมลงสนธิสัญญาสงบศึก  100  ปี  เพื่อแลกกับชีวิตของบิดาและนายทหารทั้งหลาย  รวมทั้งสั่งห้ามชาวตะวันออกเข้าเขตแดนทางตอนเหนืออีก  หลังจากศึกสงครามบิดาเข้าที่ตรอมใจจากการพ่ายแพ้เอาแต่พร่ำเพ้อถึงพระนางไดโอนีจนล้มป่วยและสิ้นพระชนไปโดยที่กำสร้อยพระหัตย์ที่ฉกฉวยมาได้จากห้องนอนของพระนางไว้แน่น 

แม้จะมีคำสั่งห้ามไม่ให้คนแดนตะวันออกเข้าไปที่แดนเหนือแต่สงครามล้มบัลลังค์เมื่อสิบปีก่อนก็ทำให้คนแดนเหนือย้ายมาที่แดนตะวันออกกันมากขึ้น  เนื่องจากทุกคนกลัวเกรงในอารมณ์เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายของกษัตริย์ไอเรส  ผู้ที่ลงมือสังหารบิดาของตนเองหลังจากที่คลุ้มคลั่งจากการเห็นมารดาตัวเองถูกเผาทั้งเป็น  โครอสมองเหล่าขุนนางแดนเหนือที่หนีมาอาศัยยังดินแดนของเขาอย่างใจกว้างเขาคิดว่าอย่างน้อยสร้างมิตรก็ดีกว่าสร้างศัตรูและการมีคนในคงทำให้เขาสามารถรู้ได้ถึงที่ทางของแดนเหนือมากขึ้น  ดังนั้นเขาจึงให้โอกาสคนที่มีความสามรถเขามาทำงานในวังและบางคนก็ส่งตัวลูกสาวมาให้  แต่เขาก็ไม่เห็นว่าจะมีสตรีไหนที่ขาวราวหิมะซักคนจะมีก็แต่คนที่ขาวกว่าปกติเท่านั้น

" สตรีที่ท่านพ่อเห็นคงเป็นคนที่ตากหิมะจนตัวขาวซีดมากกว่า  บวกกับช่วงหิมะโปรยปรายคงทำให้ท่านเห็นภาพหลอนและคิดไปเองว่าสตรีนั้นงามนัก"

โครอสคิดแล้วพาตัวเองขึ้นจากลำธารแล้วนั่งเฝ้ากองไฟ  แทนที่อลันที่ออกไปล้างตัวบ้าง  หวังว่าเขาคงไม่ต้องรอเจ้าสิงโตหิมะนานนัก  และหวังว่ามันจะแข็งแกร่งและงดงามพอที่จะเป็นสัตว์เลี้ยงข้างกายตัวใหม่ของเขา


>> To Be ConTinue <<

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-08-2013 21:52:25 โดย teatimes »

ออฟไลน์ RoseBullet

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1027
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
ดีจังมีแนวแฟนตาซีเจ้าหญิงเจ้าชายให้อ่านบ้างแล้ว อิอิ
อ่านชื่อเรื่องแล้วต้องแอบไปเปิดหาข้อมูลหารูปดูในกูเกิ้ล ถึงเพิ่งได้รู้ว่าตะแลงแกงนี่มันคืออะไร
เคยได้ยินศัพท์นี้มาผ่านๆ แต่ไม่รู้ว่าแปลว่าอะไร ตอนแรกเรานึกไปถึงตะแกรงย่างกุ้งปูปลาอะไรแบบนั้นผสมตะลิงปลิง
ฮ่าๆๆ แต่ก็คิดว่าแล้วไอ่ตะแกรงย่างมันจะมาเป็นชื่อเรื่องได้ยังไงกันฟระ ขำตัวเอง คิดไปได้นะฉัน

คุณพระเอกแกดูโหดเหี้ยมอารมณ์ร้อนเหมือนกันเนอะ ฆ่าคนโน้นคนนี้เป็นว่าเล่น(หมายถึงฟังเหตุผลแล้วดูไม่น่าจะถึงฆ่าแกง)
แถมยังมีฮาเร็มส่วนตัวเต็มไปด้วยสาวงามอีกประมาณหนึ่งหมู่บ้าน ตายละ แล้วนายเอกฉันจะเป็นยังไงบ้างนี่
ตอนหน้าเค้าจะได้เจอกันแล้วใช่มั้ยคะ ลุ้นๆๆ ไม่ใช่ว่าน้องเคนนิสจะไปติดกับดักโครอสแทนหรอกนะ

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
ชอบจังเลย ชอบอ่านแนวแฟนตาซีอยู่แล้ว
มาเจอเรื่องนี้ รักเลย :m1: :m1:

ออฟไลน์ ★KVH™★

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 516
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
เข้ามาเชียร์ฮะ  :L2:

อยากอ่านแนวนี้อยู่พอดีเลยยย  :katai4:

ติดตามต่อนะ  :katai2-1:  :กอด1:

ออฟไลน์ Minerva

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 269
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-2
มานั่งรอชม

ออฟไลน์ teatimes

  • ไม่อยากให้เปลี่ยน...... เพราะแค่นี้ก็ดีพอแล้ว
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-1
มีคนมาเม้นท์แล้วเย้ๆ :mc4:

ขอบคุณมากเลยจ้า  กดบวกให้ทุกคนแล้วนะคะ :กอด1:

พออ่านที่คุณ  RoseBullet เขียน  คนแต่งก็กลุ้มไปเลยสงสัยตัวเองจะแก่ไปหน่อยเลยใช้ศัพท์เก่ากึ้ก  แต่ถึงขั้นเป็นตะลิงปลิงเลยเหรอคะ  เนื้อเรื่องมันไม่เปรี้ยวแบบน้านน  เฮ่อๆ 

ขอบคุณคุณ  cher7343  คุณ KVH tm  คุณ  Minreva00  ที่รอตามชมด้วยนะคะ

จะพยายามแต่งให้ดีเลยจ้า

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Alone Alone

  • ขอตายในอ้อมกอดฮยอกแจ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-0
เนื้อหาน่าติดตาม แถมภาษาสวยเข้าใจง่ายอีกต่างหาก

เก๊าชอบพระเอกแนวนี้ อิอิ

ออฟไลน์ teatimes

  • ไม่อยากให้เปลี่ยน...... เพราะแค่นี้ก็ดีพอแล้ว
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-1
CHAPTER  2



ไอร่าต้องเสียเวลาไปหนึ่งวันเต็มๆ  เพราะเจ้าเคนนิสดันจับกลิ่นได้ว่ามีคนเดินป่าเพิ่งผ่านไปไม่ไกลจากทางเข้า  ไอร่าจึงซ่อนตัวหลบอยู่แต่ในบ้านและให้เจ้าเคนนิสเฝ้าหน้าถ้ำ  อย่างที่บอกแม้บ้านของไอร่าจะอยู่ในหุบเขาที่มีเถาวัลย์ป่าปกคลุมไว้ทำให้เหมือนเป็นทางตัน  แต่ก็มีบ้างที่สัตว์ตัวเล็กตัวน้อยวิ่งผ่านเข้ามา  อย่างเจ้าม้าแคระของเขาไง  ไอร่ากลัวว่าถ้ามีสัตว์ป่าวิ่งหนีเข้ามาคนที่ตามล่าสัตว์ป่านั้นก็คงรู้ที่ซ่อนของเขาแน่  ดังนั้นเขาจึงสั่งให้เคนนิสเฝ้าปากทางไว้ห่างๆเพื่อไม่ให้สัตว์ที่ถูกล่าหนีเข้ามาทางนี้ 

หนึ่งวันที่หมดไปกับการที่ไอร่าจัดการตรวจสอบข้าวของที่จะเอาไปขาย  คัดสมุนไพรที่แห้งดีแล้วใส่ตะกร้า  ก่อนจะวางเนื้อแห้งและขนสัตว์ไว้ด้านบน  การเดินทางไปกลับชายป่าต้องใช้เวลาถึงสี่วันในวันที่อากาศดี  และอาจนานถึงห้าวันถ้ามีฝน  ไอร่าเริ่มคิดว่าหรือเขาควรซื้อม้าตัวใหญ่ก่อนซื้อวัวดีหรือไม่  เพราะการมีม้าตัวใหญ่หมายถึงการเดินทางที่สะดวกรวดเร็วและบรรทุกของได้มากขึ้น  ขนสัตว์เป็นสินค้าที่ขายดีแต่ถึงมันจะเบาแต่ก็กินพื้นที่มาก  ไอร่ามีขนสัตว์และหนังสัตว์มากพอที่จะเอาไปขายได้เงินจำนวนมาก  แต่ติดที่การขนส่งมากกว่า  ถ้าเขาเอาเงินไปซื้อม้าก่อนแล้วค่อยขนหนังสัตว์กับสัตว์ใหญ่ที่เคนนิสล่าได้ไปขายก็คงใช้เวลาไม่นานที่เขาจะมีวัวเป็นของตัวเอง 

ไอร่าเริ่มวางแผนใหม่ในขณะที่ผสมดินเหนียวกับยางไม้เพื่อทำที่ทามือ  เขาทำผิวหนังปลอมไม่มากเหมือนเมื่อก่อนเพราะเขาออกไปขายของบ่อยจนชาวบ้านรู้แล้วว่าเขาหน้าตาอัปลักษณ์แค่ไหน  ตอนที่ออกไปกับรีอาใหม่ๆ  ไอร่าต้องทำผิวทั้งตัวให้ดูน่าเกลียดและเมื่อมีคนถามหรือซักไซ้สงสัยมากๆ  ไอร่าก็จะถอดถ้าคลุมออกแล้วเผยผิวที่เป็นตะปุ่มตะป่ำราวกับคนเป็นโรคเรื้อน  แต่โรคเรื้อนเป็นโรคที่น่ารังเกียจจนไม่มีใครเข้าใกล้  ดังนั้นรีอาจึงโกหกว่าเขาโดนน้ำมันลวกหรือไม่ก็โดนไฟคลอกแทน  ไอร่าคิดว่าการบอกว่าเขาโดนไฟไหม้คงเป็นกุศโลบายที่รีอาย้ำให้เขาระวังตัวมากกว่าว่าถ้ามีคนเห็นหน้าที่แท้จริง  เขาคงพบจุดจบบนตะแลงแกง 

การทำผิวปลอมมีทั้งข้อดีและข้อเสีย  ข้อดีคือมันช่วยบำรุงผิว  แต่ข้อเสียคือมันหนักและเมื่อมันแห้งก็จะล้างออกยาก  ไอร่าเป็นผู้ชายจึงไม่ต้องการบำรุงผิวมากนักข้อดีจึงกลายเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น  เหลือแต่ข้อเสียนี่สิ  ดังนั้นเมื่อไม่มีคนถามถึงหน้าตาเขามากเหมือนเมื่อก่อนเขาก็แค่ทำผิวปลอมที่มือทั้งสองข้างยาวไปถึงข้อศอกก็พอ  เผื่อไว้สำหรับคนขี้สงสัยเพราะแม้ว่าเขาจะใส่ถุงมือแต่บางครั้งก็มีลูกค้าบางคนที่อยากเห็นคนอัปลักษณ์แห่งตลาดชายป่า  ดังนั้นไอร่าจึงตัดปัญหาโดยการขายสินค้าให้กับพ่อค้าคนกลางแทนเพื่อขายของทั้งหมดในทีเดียว  แม้จะได้ราคาน้อยกว่าแต่เขาก็ไม่ต้องเสียเวลารอลูกค้าทั้งวันและเดินกลับไปนอนในป่าจนกว่าของจะหมด

โชคดีที่สินค้าของไอร่าเป็นสินค้าหายากและเป็นที่ต้องการเขาจึงไม่ถูกโก่งราคามากนักเพราะจะมีคนแย่งกันซื้อหลายคน  ไอร่าเลือกใช้การประมูลให้แก่พ่อค้าที่ให้ราคาของทั้งหมดในราคาสูงสุด  โดยมีข้อแม้ว่าจะต้องรับสินค้าทุกอย่างไปรวมถึงสินค้าธรรมดาอย่างเนื้อแห้งด้วย  ซึ่งเหล่าพ่อค้าก็คิดว่ามันคุ้มค่าที่จะเอาเนื้อแห้งไปขายให้กับนักผจญภัยกลางป่า  และสินค้าบางอย่างเช่นเขาสัตว์บางชนิดก็มีค่ามากพอที่จะเห็นเนื้อแห้งนั้นเป็นของแถม 

ไอร่าอดหนักใจในความอยากรู้อยากเห็นของตนเองไม่ได้  ความจริงถ้าเขาอดทนหน่อยเขาคงมีเงินเก็บพอซื้อม้าหรือวัวได้นานแล้ว  แต่ทุกครั้งที่ออกไปเขาจะต้องเสียเงินไปกับหนังสือ  ถ้าเป็นหนังสือทั่วไปก็ไม่แพงหรอก  แต่หนังสือที่เขาต้องการเป็นหนังสือที่สงวนไว้ให้เหล่าขุนนางเท่านั้น  ดังนั้นการหาซื้อจึงเป็นเรื่องยากและราคาแพง  ไอร่าต้องยอมจ่ายเงินเป็นสองถึงสามเท่าของราคาปกติเพื่อให้ได้หนังสือการปกครองเล่มเล็กๆมาอ่าน  และการออกจากป่าครั้งนี้เขาก็คงต้องจ่ายเงินเกินครึ่งของราคาสินค้าเพื่อซื้อหนังสือหลักการบริหารสามเล่มมาอ่านยามว่างแก้เหงา

จะเรียกว่าไอร่าเป็นหนอนหนังสือก็ได้  เพราะตั้งแต่เด็กเขาไม่ค่อยได้ฝึกจับดาบเหมือนพี่ชายคนอื่นๆ  ทุกคนโดยเฉพาะพระบิดาและไอเรสจะคอยถนอมเขายิ่งกว่าไข่ในหิน

" มือเจ้าไม่เหมาะกับการจับดาบหรอกน้องรัก  เจ้าควรเอาเวลาไปปักผ้าดีกว่า"

" ปักผ้ามันเป็นงานของสตรี  ข้าอยากฝึกดาบพอโตขึ้นข้าจะได้ไปออกรบเหมือนอย่างที่เสด็จอาต่อสู่เคียงข้างเสด็จพ่อ"

" ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าไปอยู่ในสนามรบหรอกนะไอร่า"

" แต่ข้าจะไปและจะไม่ยอมให้ท่านห้ามด้วย  ถ้าท่านห้ามหรือกักบริเวณข้าอีก  ข้าจะปีนหน้าต่างหนีแล้วไปอยู่กับเสด็จอาที่ค่ายทหาร"

" ทำไมเจ้าถึงอยากออกไปรบนัก  สงครามเป็นเรื่องน่ากลัวมีแต่การสูญเสีย  เจ้าที่เป็นนกน้อยในกรงทองจะทนเห็นภาพโหดร้ายพวกนั้นได้ยังไง"

" ข้าไม่ใช่นกน้อย  ไม่ได้เอาแต่ร้องเพลงหรือเป็นเครื่องประดับ  แต่ข้าเป็นหมาป่าต่างหาก  หมาป่าที่ดุร้ายที่สุดในไซธีเรีย"

" อย่างเจ้าคงเป็นได้แค่ลูกหมาให้คนอื่นแหย่เล่นมากกว่า  ถ้าเจ้าอยากออกไปจริงๆก็จงอ่านหนังสือให้มากแทนการฝึกดาบ"

" ข้าเกลียดการอ่านหนังสือ  มีแต่พวกขุนนางขี้ขลาดที่เอาแต่อ่านหนังสือหลบตัวอยู่ในปราสาท"

" ไม่เฉพาะคนขี้ขลาดหรอกนะ  เจ้าคงไม่รู้แม้แต่เสด็จอาที่เก่งกาจด้านการรบยามว่างก็อ่านตำราเช่นกัน  ไอร่าการรบไม่จำเป็นต้องใช้กำลังเพียงอย่างเดียวหรอกนะแต่ต้องใช้สมองด้วย  การวางแผนที่ดีก็เหมือนช่วยให้กองทัพมีชัยไปกว่าครึ่งโดยไม่ต้องสูญเสียและผู้ที่เชี่ยวชาญด้านการวางแผนก็มีน้อย  อย่างเช่นเสด็จอาไง  เพราะงั้นเสด็จพ่อจึงมักให้เสด็จอาติมตามในการออกรบเสมอเพื่อเป็นกำลังสมองไงล่ะ"

" หมายถึงต่อให้ข้าฟันดาบไม่เก่งแต่ถ้าฉลาดก็ออกไปอยู่เคียงข้างท่านในสนามรบได้ใช่ไหม"

" ไม่ใช่เฉพาะในสนามรบหรอกไอร่าน้องรัก  ต่อไปเมื่อเจ้าโตขึ้นข้าจะให้เจ้าอยู่เคียงข้างกายข้าตลอดไป"

" งั้นข้าไปอ่านหนังสือก็ได้  แต่ท่านต้องสัญญานะว่าจะให้ข้าอยู่เคียงข้างในทุกที่ไม่เว้นแม้แต่ในสนามรบ"

" แน่นอน  ทีนี้ก็ไปเริ่มอ่านหนังสือได้แล้ว  เพราะข้าไม่อยากเห็นคนที่จะอยู่ข้างกายในอนาคตเป็นแค่ไม้ประดับที่สวยงามอย่างเดียวหรอกนะ"

หลังจากนั้นเป็นต้นมาเขาก็เอาแต่อ่านหนังสือจนติดเป็นนิสัย  มีออกไปซ้อมดาบบ้างเพื่อเป็นการป้องกันตัว  ไม่ใช่เพื่อไปประหัตประหารชีวิตผู้อื่น  จะว่าไปเขาก็ลงมือฆ่าใครไม่ได้จริงๆนั่นแหละ  ขนาดแค่ล่าสัตว์เขายังต้องทำใจแล้วทำใจอีกก่อนลงมือ  ดีหน่อยก็ตอนที่มีเคนนิสเพราะมันจัดการให้เสร็จสรรพโดยที่สัตว์เหล่านั้นไม่ต้องทรมานมาก  และเขาก็ไม่ต้องทนเห็นมันดิ้นทุรนทุรายก่อนตาย

ไอร่าตั้งดินเหนียวให้อยู่ตัวแล้วคลุมด้วยผ้าชื้นเพื่อป้องกันดินแห้ง  แล้วเริ่มลงมือทำอาหารค่ำรวมถึงเสบียงสำหรับพรุ่งนี้เช้าและการค้างคืนกลางป่า  มีสิ่งที่ต้องเตรียมมากมายก่อนเดินทาง  ร่างเล็กเดินง่วนไปมาในบ้านจนค่ำก่อนที่อาบน้ำและเข้านอน




วันต่อมาไอร่าตื่นตั้งแต่เช้ามืดเพื่อขนของใส่เจ้าม้าแคระ  แล้วสั่งให้เคนนิสออกไปดูลาดเลาก่อนออกจากโพรงเขา  เมื่อเสร็จสิ้นไอร่าทาดินที่ผสมไว้ที่มือทั้งของข้างรอจนมันแห้งติดผิวก็สวมถุงมือและผ้าคลุม  เมื่อเคนนิสกลับมาพร้อมส่งสัญญาณว่าทางสะดวกเขาก็จูงม้าแคระให้ออกเดิน  โดยมีเคนนิสคอยวิ่งนำและวิ่งวนรอบๆเพื่อระวังภัยและเตือนเมื่อคิดว่ามีคนเข้ามาใกล้  ไอร่าเดินไปตามทางลัดที่รกทึบและมีสัตว์ร้ายอันเป็นเส้นทางที่ไม่ค่อยมีคนผ่าน  แต่ขนาดเป็นทางลัดเขาก็ต้องเสียเวลาจนค่ำเพราะเจ้าม้าแคระเดินได้ช้าและทางมีสิ่งกีดขวางตามธรรมชาติ  หลังตะวันตกไอร่านอนพักกลางป่าและทานเสบียงที่เตรียมไว้โดยไม่จุดไฟ  เพราะไฟจะเรียกสิ่งมีชีวิตเข้ามารวมถึงมนุษย์  ไอร่าไม่กลัวความหนาว  ร่างกายเขาทนต่อความหนาวเย็นได้ดีอย่างคนเหนือทั่วไปออกจะทนได้มากกว่าด้วยซ้ำ  ส่วนเจ้าม้าแคระก็ไม่ต้องเป็นห่วงมันไม่เดินไปไหนตัวเดียวในความมืดอยู่แล้ว

ไอร่าตื่นแต่เช้าแล้วเดินทางต่อ  เขามักจะทานมื้อเช้าในเมืองเพราะเขาเองก็เบื่อเหมือนกันที่ต้องทานแต่เนื้อและผัก  ตลาดชายป่ามีนมอุ่นร้อนทานคู่กับขนมปังอบใหม่  ไอร่าชอบทานขนมปังนุ่มๆที่สุด  แม้เขาจะซื้อมาเก็บไว้ได้บ้างแต่มันก็จะแข็งไม่อร่อยเหมือนที่เพิ่งออกจากเตา

" ป้าเอานมกับขนมปังสองก้อน"

" ออกจากป่าได้แล้วเหรอ  ไอเรส"

เขาคุ้นเคยกับป้าที่ขายขนมปังเป็นอย่างดีเพราะป้ามักสงสารที่เขาต้องมีรูปร่างอัปลักษณ์  เขาจึงตอบแทนด้วยเนื้อแห้งและสมุนไพรบางส่วนเป็นการตอบแทน  ส่วนชื่อเขาใช้ชื่อไอเรสเพราะคิดว่าไอร่ามันเหมือนชื่อผู้หญิงไปหน่อย

" ข้าต้องรีบแลกของก่อนเข้าหน้าหนาว  ช่วงนี้ขนสัตว์กำลังได้ราคาข้าต้องรีบเอามาขาย"

ไอร่ากล่าวแล้วรับนมอุ่นกับขนมปังหอมกรุ่นที่เมื่อบิออกก็มีควันอุ่นๆลอยออกมา  ไอร่าทานอย่างเอร็ดอร่อย  เขารีบทานจนหมดแล้วจ่ายเงินพร้อมกับยื่นถุงมือขนกระต่ายที่ทำเตรียมไว้ให้คนขาย  ป้าขายขนมปังรับไว้ด้วยความเคยชินแล้วมอบแซนวิชสำหรับมื้อเที่ยงให้เขารวมถึงขนมปังหลายชิ้นที่ทั้งต้องทานเลยและที่เก็บได้นานเป็นการตอบแทน 

เมื่อเข้าไปในตัวตลาด  แค่เขาเดินเข้าไปเคนนิสก็ต้องเห่าเสียงดังเพื่อป้องกันเหล่าพ่อค้าที่จะมายื้อแย่งเพื่อขอซื้อสินค้าของเขา ไอร่าต้องเรียกเด็กๆแถวนั้นมาช่วยจัดเรียงสินค้าโดยให้ค่าจ้างเป็นเงินและของเล่นชิ้นเล็กๆที่ทำเวลาว่าง  เมื่อเรียงสินค้าหมดการประมูลก็เริ่มต้นอย่างรวดเร็ว  แต่มันจบลงช้ามาก

" สองร้อยด๊าซ"

" สองร้อยห้าสิบด๊าซ"

" สามร้อยด๊าซ"

" สี่ร้อยด๊าซ  ไอเรส ข้าว่าเจ้าขายให้ข้าคนเดียวดีกว่า  แค่เขากวางอย่างเดียวก็สองร้อยด๊าซแล้วไม่รวมขนสัตว์อีก"

" ห้าร้อยด๊าซ"

" แปดร้อย  รวมทั้งที่เจ้ายอมพาคนของข้าเดินเข้าป่าและอีกสิบเปอร์เซ็นต์กับของที่หาได้"

" ข้าให้สิบห้า"

" ยี่สิบ!"

" พอแล้ว!  แปดร้อยห้าสิบด๊าซให้ฟร็อตโดและข้าไม่พาใครเดินป่า  ถ้าพูดมากข้าจะให้เคนนิสกัดของพวกนี้ให้เละไปเลย"

ไอร่าตะโกนแข่งอย่างปวดหัว  มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นประจำคนพวกนี้หวังให้เขาพาเดินป่าเพราะคิดว่าเขาเป็นนักเดินป่าที่รู้ที่ทางในป่าดี  เพราะเขาสามารถอยู่ในป่าแล้วรอดออกมาขายของได้ทุกครั้ง

" ไอเรส  เจ้าไม่สนใจข้อเสนอของข้าหน่อยเหรอ  ข้ายินดีจ่ายให้เจ้ายี่สิบเปอร์เซ็นต์เลยนะ  แค่พาคนของข้าเขาป่าเองเจ้าไม่ลงแรงอะไรเลยด้วยซ้ำ"

โฮ่ง!  โฮ่ง!  แฮ่...  แฮ่...

" ไอ้เจ้าหมาโง่  ไปกินเนื้อไปชิ่วๆๆ"

แฮ่...  โฮ่งๆๆๆๆ

" ฟร็อตโด  เอาหนังสือมารึเปล่า"  ไอร่าไม่ได้สั่งให้เคนนิสหยุดเห่า  แต่ถามหาหนังสือที่สั่งไว้แทน

" ข้าให้เจ้าฟรีก็ได้  แล้วถ้าเจ้าชอบอ่านหนังสือข้าไปขอให้เจ้าเมืองออกหนังสือพิเศษให้เจ้าเข้าไปใช้ห้องสมุดก็ได้  แค่เจ้ายอมพาคนเข้าป่าก็พอ"

" สามร้อยด๊าซสำหรับหนังสือสามเล่ม  และช่วยหาม้าพันธ์ุดีเตรียมไว้ให้ด้วยพ้นหน้าหนาวข้าจะมาเอา"

ไอร่ารีบยัดเงินใส่มือพ่อค้าหน้าเงินที่คิดแต่จะฉกฉวยชีวิตสัตว์ป่าอย่างไร้ปราณีเพื่อหาเงินเข้ากระเป๋า  ความจริงไอร่าไม่ค่อยชอบฟร็อตโดเท่าไหร่  แต่ฟร็อตโดก็เป็นพ่อค้าที่มีกำลังซื้อและมีเส้นสายมากมาย  อย่างหนังสือสามเล่มนี้ไอร่าคิดว่าฟร็อตโดคงได้มาฟรีๆด้วยซ้ำ  แต่ไอร่าก็ยอมจ่ายเงินเพื่อตัดรำคาญ  แม้การได้เข้าไปในห้องสมุดจะข้อเสนอที่เย้ายวนใจแต่ถ้าต้องไปอยู่ในที่คนเยอะๆเขาก็ขอลาดีกว่า  ไอร่าเก็บของแล้วเรียกเคนนิสที่เห่าไล่ฟร๊อตโด  ความจริงเคนนิสเป็นหมาป่าธรรมดาเท่านั้นแต่ที่มันล่าสัตว์อันตรายได้เพราะมันมีปลอกคอที่ไอร่าทำให้  ทำให้สัตว์ป่าไม่กล้าทำร้ายถ้ามันต้องสู้จริงๆก็คงแพ้ตั้งแต่ในมุ้ง

" ถ้าเจ้ากล้าแตะต้องเคนนิส  ข้าจะไม่ขายของให้เจ้าอีก!"  ไอร่าตะโกนเมื่อเห็นว่าฟร็อตโดเริ่มเรียกคนของตนมาจัดการเคนนิส

ความจริงฟร็อตโดเองก็อยากบังคับให้ไอเรสมาทำงานให้  แต่ติดที่ว่าเขาไม่อยากทนเห็นหน้าที่แสนหน้าเกลียดของไอเรสเท่าไหร่  น่าเสียดายทั้งที่รีอาป้าของไอเรสงดงามยิ่งนักแต่กลับแต่งงานไปแล้ว  ฟร็อตโดเคยขอดูหน้าไอเรสแล้วเพราะคิดว่าไอเรสน่าจะเป็นสตรีมากกว่าแต่ที่ต้องปกปิดใบหน้าไว้เพราะกลัวคนตามติด  แต่เมื่อเห็นหน้าตาเจ้าตัวเมื่อห้าปีก่อนเขาก็เข็ดขยาดกับหน้าตาน่าเกลียดสุดจะทนนั้น  การที่คนหน้าตาน่าเกลียดจะอยู่ในป่าก็สมควรแล้ว  แต่ถ้าจะเรียกมาใช้งานนิดๆหน่อยบางครั้งก็ไม่เป็นไร  แต่เจ้าตัวกลับเอาแต่เล่นตัวพอให้คนแอบตามเจ้าตัวก็เลือกเดินไปตามทางที่อันตราย  จนคนของเขาโดนสัตว์ป่าทำร้ายต้องหนีหัวซุกหัวซุนออกมา

ไอร่าเดินเลือกซื้อของจำเป็นอย่างน้ำมันตะเกียง  เกลือสินเธา  น้ำตาล  ชีส  เครื่องเทศและเครื่องปรุงบางอย่างที่หาไม่ได้ในป่า  รวมถึงชุดใหม่แทนเสื้อตัวเก่าที่ขาดจนปะไม่ไหว  ซื้อเชือกและผ้าพันแผล  ด้ายไจใหญ่  เขาต้องซื้ออุปกรณ์ทำแผลไว้เพราะบางทีเขาก็พบสัตว์บาดเจ็บที่รอดมาจากการถูกจับ  หรือถูกทำร้ายโดยสัตว์ด้วยกันเอง  ไอร่าคิดว่ามันเป็นค่าตอบแทนที่ผืนป่าแห่งโซลซีสท์ได้ปกป้องคุ้มครองไว้  เมื่อได้ของทุกอย่างที่ต้องการ  ไอร่าก็รีบกลับเข้าป่าก่อนตะวันตกดิน  คืนนี้เขาต้องค้างในป่าอีกคืนก่อนเดินทางกลับบ้าน  แล้วอ่านหนังสือเล่มใหม่ที่เพิ่งได้มา


>>  ต่อข้างล่างค่ะ  <<
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-08-2013 00:07:11 โดย teatimes »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ teatimes

  • ไม่อยากให้เปลี่ยน...... เพราะแค่นี้ก็ดีพอแล้ว
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-1
>>  ต่อ  <<


โครอสกำลังซุ่มอยู่ที่ต้นไม้ฝั่งใต้ลม  เขารอเจ้าสิงโตหิมะมาสองวันแล้วจนเขาเองก็คิดว่าจะไปออกล่าสัตว์อื่นไปพลางๆเพื่อหาเหยื่อชิ้นใหม่  เพราะเจ้ากวางเผือกตัวนี้เริ่มส่งกลิ่นที่ไม่ดีแล้ว  สิงโตหิมะเป็นสัตว์ช่างเลือกมันจะไม่กินซากที่เน่าเสีย  แม้ว่าอากาศที่เย็นจะช่วยถนอมเนื้อได้แต่มันก็ไม่ได้เย็นมากพอ  โครอสรอบนต้นไม้อย่างใจเย็นและในที่สุดการรอคอยก็สิ้นสุดเมื่อถึงเวลาค่ำอันที่เป็นเวลาออกล่าของเหล่านางสิงห์  สิงโตหิมะตัวเมียตัวใหญ่เดินเข้ามาพร้อมลูกน้อยของมัน  เจ้าสิงโตดมกลิ่นแล้วปล่อยให้ลูกน้อยกินเนื้อกวางเผือกส่วนตัวมันก็เดินระวังภัยเมื่อเห็นว่าไม่มีสัตว์อื่นใดก็เริ่มกินบ้างแต่ก็ยังคงความระวังตัวไว้

โครอสรอจนกระทั่งสิงโตกินเสร็จและเหลือเนื้อชิ้นใหญ่ก่อนจะลากไปให้ตัวผู้  เขากระโดดลงมาจากต้นไม้แล้วเริ่มลงดาบใส่สิงโตตัวเมีย  ด้านอลันเมื่อเห็นโครอสเริ่มลงมือเขาก็พุ่งไปจับลูกสิงโตไว้แล้วลงมนตรากักขังเจ้าสิงโตน้อยไว้และจุดไฟรอบๆเพื่อเพิ่มแสงสว่าง  แม่สิงโตพะว้าพะวังห่วงลูกน้อยมันโจมตีโครอสและขู่กรรโชกเสียงดังก้องป่า  โครอสหยอกล้อกับสิงโตสาวอย่างสนุกมือ  เขาต้องการให้สิงโตตัวนี้เรียกจ่าฝูงของมันมา  จนเมื่อสิงโตหิมะเริ่มใช้มนตราเรียกสายลมคมกริบเข้าใส่  เขาก็เองก็เรียกลมออกมาเช่นกัน  เสียงลมสองลูกปะทะกันดังก้อง  สุดท้ายสิ่งที่เขารอก็มาถึงสิงโตหิมะตัวผู้สีขาวปรอท  นัยตาสีฟ้าเข้มเหมือนท้องฟ้า  มีแผงคอสีขาวแน่นขนาดใหญ่น่าเกรงขาม  สมแล้วที่จะมาเป็นสัตว์เลี้ยงของเขา  มันตัวสูงใหญ่พอๆกับเอวเขา  รูปร่างสมส่วน  ขาหน้าและขาหลังก็กำยำ 

โครอสคว้าธนูออกมาแล้วยิงเข้าที่ตาของนางสิงห์และยิงซ้ำเข้าไปในปาก  มันแน่นิ่งในการลงธนูเพียงสองครั้ง  สิงโตหิมะตัวผู้กระโจนใส่เขาทันทีด้วยความโกรธ  เขาเบี่ยงตัวหลบ  สิงโตกระโจนกลับด้วยความรวดเร็วมันกางเล็บสีขาวแหลมหวังตะปปเขาให้ฉีกเป็นชิ้นๆ  แต่เขาไม่อยากให้ของสวยงามแบบนี้เป็นแผลเท่าไหร่แม้ว่าผิวหนังมันจะหนาจนแทงดาบไม่เข้าก็ตาม  เขาเก็บดาบแล้วเริ่มหลบหลีกรอคอยจังหวะพุ่งเข้าหาตัวมัน 

อลันกรอกตาอย่างเหนื่อยหน่ายใจกับนิสัยของโครอส  นายของเขาชอบสิ่งสวยงามจับใจ  โครอสจะไม่ยอมให้สิ่งสวยงามของตนมีตำหนิแม้แต่น้อย  ถ้าสิ่งใดที่มีตำหนิแม้มันจะสูงค่าโครอสก็สามารถทำลายทิ้งอย่างไม่ใยดี  แต่การคิดจับสิงโตหิมะด้วยมือเปล่ามันออกจะเกินไปรึเปล่า  ตอนนี้อลันต้องคอยมองอย่างใกล้ชิดเผื่อว่าถ้านายของเขาพลาดไปเขาจะได้ช่วยได้  แม้ว่ามันจะเป็นไปได้ยากก็เถอะ

สิงโตหิมะพุ่งเข้าใส่โครอสไม่หยุดหย่อน  มันที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าแห่งป่าโซลซีสท์ย่อมมีความหยิ่งทะนงในตัวเองเช่นกัน  เมื่อมีผู้ใดกล้ามาท้าทาย  มันก็ย่อมตอบโต้ให้ผู้ที่กล้าหยามมันให้จบสิ้นที่ดินแดนแห่งนี้  มันกระโจนเข้าใส่ครั้งแล้วครั้งเล่าเมื่อเห็นว่าเหยื่อของมันต่างจากสัตว์ธรรมาดาที่มักกลัวและยอมแพ้มันโดยง่าย  มันก็สนุกเช่นกันกับเกมส์แมวหยอกหนูแบบนี้ 

โครอสมองเจ้าสิงโตหิมะด้วยความพอใจ  มันหยิ่งทะนงหวังอยากล้มเขามันคงคิดว่าเขาเป็นเหยื่อที่ล่าง่ายๆ  โครอสผ่อนแรงให้ช้าลงเพื่อให้สิงโตคิดว่าเขาอ่อนแรง  เขาเดินวนรอบๆเป็นวงกลมวงใหญ่รอเวลาที่มันจะกระโจนเข้ามาอีกครั้ง  และเมื่อมันกระโจนเข้าใส่เขาล้มตัวถีบมันกางหน้าท้องและพุ่งตัวไปล็อคคอมันไว้แน่น

" ถ้าเจ้าไม่อยากคอหักตายก็จงยินยอมรับมนต์ตีตราของข้าซะ"

โครอสกอดรัดเจ้าสิงโตใหญ่จากด้านัง  สิงโตหิมะขู่คำรามอย่างไม่ยอมแพ้  มันกางเล็บข่วนแขนโครอสจนเลือดออกแม้ว่าเขาจะมีปลอกแขนที่ลงมนต์ไว้แล้วก็ตามที  แต่โครอสก็ไม่ยอมปล่อยมือ  เขารัดคอมันแน่นขึ้นจนมันแทบจะหมดลมหายใจ

" หรือไม่ข้าก็จะฆ่าลูกน้อยของเจ้าซะ"

โครอสกล่าวเพิ่มเมื่อเห็นว่าเจ้าสิงโตตัวนี้คงยอมตายมากกว่าจะยอมเป็นของเขา  สิงโตหิมะเป็นสัตว์ที่มีสติปัญญาแม้มันจะพูดภาษามนุษย์ไม่ได้แต่ก็ฟังเข้าใจ  และมันก็เหมือนสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มักห่วงชีวิตลูกตนเองมากกว่า  ในที่สุดสิงโตหิมะก็ยอมจำนนเพราะความห่วงลูกน้อยของมัน  มันยอมรับคำตีตราเมื่อเขาท่องมนต์

" ข้าขอตีตราเจ้าสิงโตหิมะ  นับแต่นี้เจ้าคือไลนีเมีย  สมบัติของข้า โครอส  อาเบล  ไฮพีเรีย"

ตราลัญจกรรูปเสือดำคำรามฉายแสงและตีตราลงบนไหล่ขวาของสิงโตหิมะ  เขาเรียกมันเก็บไว้อัญมณีก่อนลุกขึ้นเพื่อดูแผลที่มือมันลึกมากแต่แผลไม่ฉีกขาดแหวะหวะ  อลันเดินมาดูแผลผู้เป็นนายก่อนลงมือทำแผลให้

" ถ้าใช้ดาบก็ล้มมันได้อย่างง่ายดายแท้ๆ  ฝ่าบาทไม่น่าจะต้องหาเรื่องเจ็บตัว"  อลันอดบ่นไม่ได้

" สิงโตหิมะเป็นสัตว์ที่ไม่มีดาบใดสามรถแทงเข้าไปได้  สิ่งเดียวที่แทงเข้าผิวหนังมันได้คือเขี้ยวของสิงโตหิมะด้วยกันเอง"

โครอสกล่าวแล้วดูแขนที่ลงยาด้วยเขากวางเผือกเพื่อห้ามเลือดและพันผ้าเรียบร้อยแล้ว  เขาลุกไปจับเจ้าลูกสิงโตตัวเล็กให้อ้าปากแล้วบังคับให้มันงับเขี้ยวแม่ของมันจนหักออกมาทั้งสองข้างก่อนปล่อยมันไป  โครอสโยนเขี้ยวสัตว์ให้อลันแล่หนังนางสิงห์ด้วยเขี้ยวของมันเอง  ส่วนอีกอันเขาพันมันไว้ด้วยเชือกก่อนคล้องที่คอ

" น่าจะจับลูกสิงโตหิมะไปขาย  คงได้ราคาทีเดียว" อลันมองตามลูกสิงโตวิ่งหายเข้าไปในป่าบ่นอย่างเสียดาย 

" แค่หนังและเล็บของมันก็ได้ราคามากกว่าสัตว์ที่เจ้าแล่ออกมาทั้งหมดแล้ว  รีบทำซะข้าจะได้รีบกลับไปเล่นกับสัตว์เลี้ยงตัวใหม่"

โครอสบอกกับอลันที่ทำท่าเสียดายอย่างเหลือแสน  สงสัยกลับไปเขาคงต้องขึ้นเงินเดือนให้จริงๆจะได้ลดนิสัยตระหนี่ถี่เหนียวของอีกฝ่ายลงบ้าง  โครอสนั่งรอพลางพินิจอัญมณีที่บรรจุสิงโตหิมะไว้อย่างพอใจ  เมื่ออลันจัดการเสร็จ  ทั้งคู่นอนพักเอาแรงก่อนตื่นตั้งแต่เช้าเพื่อกลับปราสาท  รุ่งเช้าทั้งคู่ควบม้าตัดป่าไปยังทิศตะวันออก  ซึ่งเป็นทางลัดไปยังชายป่าตะวันออก  จนตกเย็นโครอสหยุดพักม้าที่ริมธารสายเล็กที่ลอดผ่านภูเขาออกมา  หน้าผาตรงนี้สูงชันและมีเถาวัลย์ปกคลุมไปทั่ว 

โครอสปล่อยให้ม้าพักผ่อนแล้วเดินสำรวจหน้าผาก่อนทิ้งตัวลงนั่งในขณะที่อลันออกไปหาฟืนสำหรับก่อไฟ  แล้วเขาก็ต้องแปลกใจที่เห็นกระต่ายป่าผลุบออกมาจากเถาวัลย์พร้อมแครอทสีส้มในปาก  ก่อนวิ่งหายไปในโพรงกระต่ายที่อยู่ไม่ไกล  โครอสลุกไปสำรวจดูในจุดที่กระต่ายป่าออกมา  ก็พบว่าหลังเถาไม้หนาทึบมันเป็นโพรงขนาดใหญ่ไม่มากแต่ก็พอให้คนหรือม้าเทียมเกวียนเล็กๆผ่านไปได้ 

" ที่ตรงนี้เป็นทางเข้า  ที่มองไม่เห็นเพราะเถาต้นไม้บังไว้อยู่สินะ"

โครอสว่าแล้วจูงม้าของตัวเองเข้าไปสำรวจด้านใน  เข้าไปไม่ลึกมากก็เจอทางออก  เขาอดแปลกใจกับมนตราบางๆที่กางกั้นไม่ได้  มันละเอียดและถี่แน่นจนเหมือนหมอกควัน  เขตแดนนี้ป้องกันคนแต่ไม่ป้องกันสัตว์  โครอสลงดาบผ่าค่ายมนต์แล้วเดินผ่าน  มันผสานตัวเองทันทีที่เขาเดินผ่านพ้น  สิ่งที่เห็นทำให้เขาแปลกใจ  บ้านคน... บ้านคนหลังไม่ใหญ่มากตั้งอยู่กลางหุบเขาที่ล้อมรอบ  มีน้ำตกสายเล็กไหลลงมาจากเขาสูงเขาเห็นแอ่งน้ำพ้นออกมาจากตัวบ้าน  ก่อนที่สายน้ำสายเล็กๆจะทอดสายยาวไปจนถึงภูเจาอีกฝั่งซึ่งคงเป็นสายน้ำเดียวกันกับเส้นเดียวเมื่อครู่  ทุ่งหญ้าสีเขียวสดมีดอกหญ้าสีสันสดใสประปราย  ถ้าไม่ติดว่าเขายังตื่นอยู่นี่ก็คงเป็นภาพฝันที่สวยงามทีเดียว  โครอสเดินเข้าไปใกล้ตัวบ้านพร้อมชักจูงม้าเข้าไปที่ผูกที่ระเบียงหน้าบ้าน  เขาเปิดเข้าไปได้อย่างง่ายดาย  มันไม่ได้ลงมนต์ป้องกันอย่างทางเข้าที่เดินผ่านมา

บ้านว่างเปล่า..  แต่ก็รู้ว่ามีคนอาศัยอยู่  ทุกอย่างดูสะอาดสะอ้านเป็นระเบียบ  เครื่องใช้อำนวยความสะดวกมีอย่างครบครันจนไม่น่าเชื่อว่าบ้านหลังนี้อยู่กลางป่าทึบ  โครอสเดินสำรวจตัวบ้าน  มีห้องนอนเพียงหนึ่งห้อง  ที่ชั้นวางหนังสือมีหนังสือหลายเล่มซ้อนกันเมื่อเปิดอ่านก็พบว่ามันเป็นหนังสือการปกครองซะส่วนใหญ่  ถัดจากห้องนอนเป็นห้องอาบน้ำที่ดูแปลกตา  มันเปิดโล่งให้เห็นน้ำตกใส  เมื่อชะโงกหน้าไปดูก็พบฟืนและหินร้อนหลายก้อน..คงไว้ทำน้ำอุ่น  โครอสเดินต่อไปที่ห้องครัว  มีสมุนไพรกลิ่นแปลกๆแขวนไว้ตามผนัง  บางส่วนเป็นแป้ง  ข้าวสาร  และเครื่องปรุงบางอย่าง  โครอสค้นเจอของแห้งที่ถูกเก็บอย่างดี  ใครกันที่มาอยู่กลางป่าแบบนี้..

โฮ่ง!!  โฮ่ง!!  แฮ่...  แฮ่..

เสียงสุนัขป่าแว่วมาแต่ไกล..  โครอสวิ่งออกไปที่หน้าบ้านด้วยนึกว่าคงมีสุนัขป่าเข้ามาทำร้ายม้าของตน  โครอสถือดาบแล้วพุ่งไปที่ประตูเมื่อออกมาก็พบสุนัขป่าตัวใหญ่กำลังขู่เสียงดังแล้วพุ่งกระโจนเข้าหา  เขาก้าวหลบอย่างรวดเร็ว  ก่อนจะสวนดาบพุ่งแทงที่หน้าท้องเจ้าหมาป่า  แต่กลับมีดาบอีกเล่มเข้ามาขวางไว้จากคนที่เขาเห็นทางหางตาว่าวิ่งเข้ามาจากปากถ้ำ




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-08-2013 21:11:00 โดย teatimes »

ออฟไลน์ teatimes

  • ไม่อยากให้เปลี่ยน...... เพราะแค่นี้ก็ดีพอแล้ว
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-1
>>  ต่อ  <<


ไอร่าที่เพิ่งกลับมาจากการขายของเดินลัดเลาะไปตามแนวภูเขา  เขามาถึงบ้านเย็นกว่าที่คาดเพราะมัวแต่คอยหลบคนของฟร็อตโดที่พยายามตามมาอีกครั้ง  คราวนี้ฟร็อตโดเตรียมคนมาดีกว่าทุกครั้ง  กว่าเขาจะสลัดหลุดก็ต้องเดินวนอยู่นานสุดท้ายได้หมาป่าไฟที่เขาเคยช่วยไว้ออกมาขวาง  ทำให้กว่าไอร่าหลุดออกมาได้ก็เกือบตะวันตกดินแล้ว  ขณะที่เดินถึงปากทางเข้า  เคนนิสเห่าเสียงดังเป็นสัญญาณเตือนก่อนวิ่งเข้าไปในโพรง  ไอร่ากระชับเสื้อคลุมแล้ววิ่งตามเข้าไปทันที  ใครกันที่เข้าไปในที่ซ่อนของเขาและเข้าไปได้ยังไง  ในเมื่อมันมีมนตราล้อมรอบอยู่  ปกตินอกจากเขาและรีอาที่มีเหรียญตราของท่านลุงแล้วก็ไม่น่าจะมีใครผ่านเข้าไปได้อีก  นอกจากคนผู้นั้นจะมีมนตรากล้าแกร่งกว่าท่านลุงของเขา

เมื่อผ่านพ้นปากถ้ำ  ไอร่าเห็นบุรุษร่างสูงใหญ่กำลังวิ่งออกมาจากประตูบ้านและกำลังวิ่งลงไปดูม้าที่ผูกไว้  คนตรงหน้าตัวสูงและล่ำสัน  ผิวสีน้ำตาลแทนอย่างบุรุษแห่งแดนอรุณรุ่ง  เรือนผมสีน้ำตาลดำ  เมื่ออีกฝ่ายเงยหน้าไอร่าเห็นดวงตาสีฟ้าอมเทาดูดุร้าย  เคนนิสพุ่งตัวใส่คนแปลกหน้าทันทีที่เข้าใกล้คนแปลกหน้า  อีกฝ่ายเบี่ยงตัวหลบไอร่าต้องรีบวิ่งเข้าไปแล้วชักดาบสั้นออกมาเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายคิดจะฆ่าเคนนิสให้ตาย

แกร๊ง! 

เสียงดาบกระทบกันดังลั่น  มือของไอร่าสั่น..อีกฝ่ายมือหนักมากทีเดียว

" เจ้าเป็นใคร!  เข้ามาทำอะไรในบ้านของข้า!"  เสียงเล็กๆกล่าวพลางปัดดาบโครอสทิ้งให้ไกลพ้นสุนัขป่าที่ตอนนี้เดินเข้าไปยืนขวางร่างที่คลุมเสื้อคลุมมิดชิดแม้แต่มือก็ใส่ถุงมือไว้

" ข้าแค่คนเดินป่า  ไม่ได้คิดขโมยสิ่งใด" 

" ไม่ได้คิดขโมยแล้วเข้าไปในบ้านคนอื่นโดยพลการได้ยังไง!"  ไอร่ากล่าวแล้วตวัดมีดสั้นใส่หวังไล่คนแปลกหน้าให้ออกไปจากที่ของตน

ไอร่าตวัดมีดสั้นอย่างรวดเร็วตามที่เคยฝึกซ้อมมา  แต่การซ้อมย่อมแตกต่างจากการสู้ของจริงเพียงไม่นานโครอสก็ปัดมีดของอีกฝ่ายให้หลุดออกไปได้  แล้วจ่อปลายดาบไว้ที่คางของไอร่า

" คนป่า  ข้าแค่ขอพักซักคืนได้หรือไม่  รุ่งสางข้าจะจากไปแต่โดยดี"  โครอสกล่าวพลางพิจารณาร่างเล็กตรงหน้า

ไอร่านิ่งคิด  เขาย่อมไม่อยากให้มนุษย์หน้าไหนเข้ามายุ่งย่าม  แต่คนตรงหน้ามีฝีมือดีกว่าเขามากการปฏิเสธคงไม่ใช่หนทางเลือกที่ฉลาดนัก

" บ้านข้ามีห้องนอนห้องเดียว  ถ้าเจ้าอยากค้างแรมก็จงไปนอนในคอกม้าข้างนอก" 

" ข้ามีผู้ติดตามมาด้วย  เจ้าควรบอกสุนัขของเจ้าให้อยู่นิ่งๆก่อนที่มันจะกระโจนให้ผู้ติดตามของข้าฆ่าทิ้ง"

" เจ้าคงต้องออกไปรับเขาเอง  เจ้าเข้ามาได้ยังไงทั้งที่ที่แห่งนี้วางข่ายมนต์ไว้"

" แค่มนต์กระจอกขวางข้าไม่ได้หรอก  และคนของข้าสามารถตามข้ามาไปได้ในทุกๆที่"

ไอร่าขบฟันแน่นกับคำสบประมาทนั้น  ถ้ามนต์มันกระจอกจริงท่านลุงของเขาที่เป็นหนึ่งในพ่อมดทั้งห้าของแดนเหนือก็คงเป็นแค่คำคุย  แต่แม้อยากจะก่นด่าอีกฝ่ายซักแค่ไหน  ในเมื่อตนเองเป็นฝ่ายเสียเปรียบจึงได้แต่สั่งให้เจ้าหมาป่านั่งรอในบ้านอย่างสงบ  ส่วนตนเองก็ออกไปขนย้ายข้าวของที่ไปแลกมาเข้าบ้าน  แล้วลากเจ้ามาแคระไปที่คอกม้า  ในขณะที่คนแปลกหน้าก็จูงม้าตามมาเช่นกัน

" คอกม้าใหญ่เกินไปสำหรับม้าแคระตัวเดียว  เจ้าอาศัยอยู่กับใคร"

" แล้วเจ้าเห็นข้าอยู่กับใครล่ะ  ถ้าไม่เห็นก็แปลว่าข้าอยู่คนเดียว"  ไอร่าพูดจบก็เม้มปาก  เขาไม่น่าหลุดปากออกไป  น่าจะโกหกว่ามีคนอื่นอยู่ด้วยมากกว่าอย่างน้อยอีกฝ่ายจะได้ระวังตัวไม่เข้าใกล้เขามาก

" ทำไมเจ้าถึงต้องคลุมตัวเสียมิดชิด  ไม่ร้อนรึไง"

" ร้อนก็เรื่องของข้า!  เจ้าไม่ต้องมายุ่งคนเดินป่า!"

โครอสมองคนตรงหน้าด้วยความขบขัน  แม้จะไม่เห็นหน้าหรือท่าทางแต่เขาก็รู้สึกสนุกที่ได้แกล้งคนตรงหน้าให้หงุดหงิดเล่น  มันให้ความรู้สึกเหมือนกำลังแหย่แมวที่คิดว่าตัวเองเป็นเสือ  คนตรงหน้ารูปร่างเล็กอย่างกับผู้หญิงแต่สูงกว่าสตรีทั่วไป  เสียงก็หวานไม่ได้ออกทุ้มมากเหมือนอย่างที่เจ้าตัวพยายามกดเสียงต่ำ  ถ้าถอดผ้าคลุมนั่นออกเขาจะเห็นสตรีหรือบุรุษกันนะ  โครอสมองร่างที่เดินผ่านเขาไปอย่างไม่ใยดี  ก่อนจะคว้าผ้าคลุมไว้แล้วกระตุกดึง  แต่ไม่คิดว่าถ้าคลุมจะผูกแน่นขนาดนั้น  กลายเป็นว่าทั้งคนทั้งผ้าคลุมกลับกระแทกตัวเขาเต็มๆ

กลิ่นกายที่ได้รับทำให้โครอสนิ่วหน้า  มันเป็นกลิ่นกายที่หอมเย้ายวนจนชวนให้สูดดมซ้ำ  ไม่น่าเชื่อว่าคนกลางป่าจะมีกลิ่นกายเช่นนี้

" เจ้าเป็นสตรีหรืออย่างไรกัน  ถึงได้มีกลิ่นกายหอมหวานเช่นนี้"

" ข้าเป็นบุรุษ!  ปล่อยข้าได้แล้วเจ้าคนไร้มารยาท!"

ไอร่าพยายามดึงตัวออกแต่อีกฝ่ายกลับไม่ยอมปล่อย  หนำซ้ำยังโน้มจมูกมาใกล้ๆเพื่อสูดดมกลิ่นที่ต้นคอ  อีกมือก็พยายามดึงรั้งหมวกคลุมลงจนไอร่าต้องยึดไว้แน่น

" เดี๋ยวๆๆๆ  อย่าดึงนะ!"

" ข้าแค่อยากเห็นหน้าเจ้าว่าจะเป็นอย่างไร  จะน่าเชยชมเหมือนกลิ่นกายของเจ้าหรือไม่"

ไอร่าหวั่นใจทันทีกับคำเกี้ยวข้างหู  เขาไม่ต้องการให้ใครมาเห็นใบหน้านี้  ใบหน้าที่แม้แต่ตัวเองก็หวาดกลัวจนไม่กล้ามองหน้าตนเองแม้ผ่านลำน้ำก็ตามที

" ได้โปรดปล่อยข้าเถอะ  ใบหน้าข้าอัปลักษณ์  ข้าโดนไฟคลอกตั้งแต่เด็กจนทุกคนในหมู่บ้านขับไล่ข้าออกมา  ข้าไม่อยากให้ใครมาเห็นใบหน้าและไล่ข้าอีก"  ไอร่ารีบกล่าวพยายามเล่าเรื่องที่กุขึ้นอีกครั้ง

" ถ้าท่านไม่เชื่อดูมือข้าก็ได้"  ไอร่ากล่าวแล้วรีบสะบัดถุงมือข้างซ้ายทิ้ง  เผยให้เห็นผิวเหี่ยวย่นสีน้ำตาลคล้ำตะปุ่มตะป่ำหน้าเกลียด

โครอสที่เห็นมือข้างนั้นยังไม่ทันได้ทักท้วงอะไรก็ได้ยินเสียงฝีเท้าม้าดังขึ้นมาก่อน  คงเป็นอลันที่ตามมาจนได้  เขายอมปล่อยร่างข้างหน้าแต่ไม่วายแอบหอมแก้มเบาๆ  ใบหน้านั้นให้ความรู้สึกเรียบเนียนไม่เหมือนมือข้างที่เห็นซักนิด

" คุณชาย  ท่านไม่น่าเข้ามาคนเดียวเกิดเจอรังโจรป่าเข้าจะทำยังไงขอรับ"

อลันเอ่ยปากกับผู้เป็นนายเมื่อเดินมาถึงคอกม้าตามเสียงที่ได้ยินเสียงคนพูดคุยกัน  ตอนนี้นายของเขากำลังยกยิ้มอย่างกับเจอของถูกใจ  คงเป็นคนแปลกที่แต่งตัวมิดชิดตรงหน้า  เพราะกว่านายของเขาจะยอมปล่อยอีกฝ่ายแต่โดยดีก็เห็นแกล้งกอดตั้งหลายครั้ง

" อลัน  คืนนี้เราจะพักที่โรงม้าข้างนอกนี่  เจ้า..  ชื่ออะไรนะ"

" ไม่จำเป็นต้องรู้ชื่อข้า  พรุ่งนี้ถ้าฟ้าสางแล้วก็รีบออกไปซะ!"

" เจ้าไม่คิดที่จะหาอาหารมาเลี้ยงอาคันตุกะหรือไง"

" ข้ามันคนป่าไม่มีการศึกษา  ไม่รู้จักคำว่ามารยาท  ถ้าอยากได้ของกินก็ก่อไฟเอาเอง  ข้าจะใจดีทำทานเอาเนื้อแห้งมาวางให้!"

โครอสมองตามร่างเล็กอย่างขบขัน   ถึงแม้เจ้าตัวจะพยายามพูดให้ฟังดูหยาบห้วนยังไง  ก็ฟังจากคำพูดจาอีกฝ่ายคงไม่ได้ไร้การศึกษาอย่างที่เจ้าตัวบอก  หนำซ้ำยังมีหนังสือที่พบในบ้านของอีกฝ่ายอีก

" เป็นคนป่าที่แปลกดีนะพะยะค่ะ"  อลันเอ่ยพลางมองคนที่เดินจากไป  ฝีเท้าไม่เหมือนคนป่า  แม้จะไม่เหมือนพวกผู้ดีแต่ก็เบาและดูจากรองเท้าเจ้าตัวเท้าเล็กมากทีเดียว

" ก็ดูน่าสนใจดี  ถือซะว่าเข้าป่ามาคราวนี้ไม่เสียเที่ยวจริงๆ"

โครอสกล่าวแล้วหยิบถุงมือที่ตกพื้น  พอสูดดมมันกลับไม่มีกลิ่นอับแม้แต่น้อย  มีแต่กลิ่นหอมจางๆลอยออกมา..น่าสนุกดี  เจ้าจะซ่อนหน้าตาแบบไหนภายใต้ผ้าคลุมนั่นนะ  โครอสคิดพลางมองไปตามต้นเสียงที่ป่านนี้เจ้าตัวคงกำลังหาของในครัวเอามาให้พวกเขา

" นี่เนื้อแห้งของพวกเจ้า  ถ้าหิวน้ำก็ไปตักเอาที่ต้นน้ำตก  ถ้าอยากอาบน้ำก็ไปอาบที่ปลายน้ำฝั่งโน้น  ตกค่ำที่นี่จะอากาศเย็นถ้าพวกเจ้าหนาวข้ามีหินร้อนกับฟืนวางอยู่หลังบ้าน  เผาไฟเอาเอง  ข้าไม่อนุญาติให้พวกเจ้าผิงไฟในบ้าน" 

คนป่าบอกเสียงห้วนแต่แม้มันจะห้วนยังไงก็รับรู้ได้ถึงความห่วงใยที่อีกฝ่ายส่งมา  คงเป็นนิสัยของเจ้าตัวที่มีน้ำใจเพราะถ้าไม่สนใจจริงใครเขาจะบอกกันว่าน้ำตรงไหนดื่มได้หรือหินร้อนวางที่ไหน  เป็นคนอื่นคงปล่อยให้หนาวตายกันไปข้างโดยไม่ให้แม้แต่ฟืนด้วยซ้ำ

" ขอบใจเจ้ามาก"

" ข้าแค่ไม่อยากเห็นคนหนาวตายที่บ้านข้า!  รุ่งสางแล้วรีบจากไปซะ!"  ไอร่ากล่าวอย่างฉุนเฉียวแล้วเดินเข้าบ้าน

" เหมือนแมวป่านะพะยะค่ะ  ดุจริงเชียว"  อลันกล่าวด้วยท่าทีขบขันเช่นกัน  มิน่านายของเขาถึงถูกใจก็นายของเขาชอบแมวนี่นะ  เจอแมวป่าแบบนี้คงถูกใจไม่น้อย

" ดุแค่ไหนก็ทำให้เชื่องได้  อยากเห็นจริงว่าใต้ผืนผ้าจะเป็นแมวป่าที่สวยแค่ไหน"  โครอสกล่าวอย่างหมายมั่น  เจ้าแมวป่าคงไม่รู้ตัวว่าหลุดคำโกหกคำใหญ่ออกมา  แผลเป็นจากการโดนไฟไหม้จะไม่ทิ้งรอยตะปุ่มตะป่ำแบบน้ำมันลวก  แต่จะทิ้งรอยสีด่างๆขาวๆดำๆต่างหาก

อลันทำหน้าที่ก่อไฟสำหรับสร้างความอบอุ่นและทำอาหาร  ชายหนุ่มตักน้ำใสที่ต้นน้ำมาอุ่น  เขาลองชิมน้ำดูแล้วมันสะอาดใสและหอมหวานไม่ผิดจากที่คาด  ที่นี่ราวกับภาพฝันจริงๆ  งดงามและเรียบง่าย  คงไม่แปลกที่คนป่าจะหวงที่แห่งนี้  อลันหยิบหินร้อนก้อนเล็กมาสี่ห้าก้อนเพื่อเผาไฟมอบความอบอุ่นในเสื้อผ้า  หูเขาได้ยินเสียงหม้อในครัวกระทบกัน  เจ้าของบ้านคงกำลังเตรียมอาหารเย็น

ไอร่าหงุดหงิดแกมกังวลที่มีคนอื่นเข้ามาอยู่ใกล้เช่นนี้  เขาไม่เคยอยู่ร่วมกับใครมาก่อนตลอดสิบปีที่ผ่านมานอกจากรีอา  และอีกสามปีสุดท้ายที่อยู่เขาต้องอยู่อย่างเดียวดาย  ไอร่าล้างคราบดินออกเพื่อทำอาหาร  การไม่อยู่เฉยช่วยให้เขาสงบใจได้บ้าง  ไอร่าลงมือทำซุปข้นจากชีสที่ซื้อมา  แล้วใส่สมุนไพรคลายหนาวลงไป  ไอร่าคิดว่าเขาควรแสดงน้ำใจซักหน่อยเพื่อป้องกันคนข้างนอกเข้ามาวุ่ยวาย  จากนั้นก็เลือกของแห้งมาส่วนหนึ่งสำหรับเป็นเสบียงให้คนพวกนั้นรีบๆจากไปในวันพรุ่งนี้

" ฝ่าบาทว่าเขาจะใจดีนำอาหารมาแบ่งให้หรือไม่"  อลันถามขณะย่างเนื้อแห้ง  กลิ่นหอมของสมุนไพรถนอมอาหารลอยออกมาชวนน้ำลายสอ

โครอสไม่กล่าวอะไรแค่นั่งยิ้มและเขี่ยกองไฟ  เขาเชื่อว่าเจ้าแมวป่าต้องเอาอาหารมาให้แน่แต่จะมาด้วยท่าทีแบบไหนนี่สิ  รอไม่นานเขาก็ได้ยินเสียงเปิดประตูดังขึ้น  เจ้าของบ้านเดินเข้ามาใกล้ทำให้ผู้มาเยือนทั้งสองมองตากันแล้วก้มหน้าทานเนื้อแห้งของตนเอง

" นี่ซุปสมุนไพรช่วยคลายหนาว  ส่วนนี่เนื้อแห้งสำหรับเป็นเสบียงของในวันพรุ่ง  ตะวันขึ้นแล้วก็รีบออกไปอย่าได้มารบกวนปลุกข้าแต่เช้ามืด"

โครอสฟังถอยคำห้วนกระด้างพลางรับหม้อซุปหม้อเล็กมาถือ  จริงเสียด้วย..  เจ้าตัวคงลืมตัวไปว่าต้องใส่ถุงมือ  ตอนนี้มือของคนป่าดูเรียบเนียนทั้งสองข้าง  ไม่มีรอยหยาบเหมือนก่อนหน้าที่เจ้าตัวคงหาอะไรมาทามือป้องกันคนจับผิด

" ขอบใจ"

ไอร่ามองคนพูดด้วยอย่างหมั่นไส้  คนอะไรยิ้มขันได้ตลอดเวลา  มารบกวนคนอื่นทำให้เขาลำบากใจแล้วยังไม่รู้จักสำนึกอีก  ถ้าไม่ติดที่ว่าอีกฝ่ายจัดการเคนนิสได้เขาคงให้เจ้าหมาป่าขย้ำทั้งสองคนไปแล้ว

" เคนนิส  ไปตักน้ำกันเถอะ"

ไอร่าเรียกเจ้าขนฟูไปช่วยตักน้ำ  มันคาบถังน้ำอย่างรู้งานและเดินตามเข้าไปที่หลังบ้าน  ไอร่าตักน้ำใส่ถังสองถัง  ถังหนึ่งให้เคนนิสถืออีกถังหนึ่งเขาถือเอง  สองแรงช่วยกันจะได้ตักน้ำได้เร็วขึ้น

" ให้ข้าช่วยเจ้านะ"  เสียงทุ้มดังขึ้นแล้วคว้าถังน้ำไปถือไว้  ไอร่ามองอย่างไม่พอใจแต่ก็ไม่ว่าอะไร  ก็ดีทำตัวให้เป็นประโยชน์เสียบ้าง  ไอร่ากำชับอีกฝ่ายว่าห้ามทำน้ำหกเลอะเทอะ  ให้ขณะที่ตัวเองเดินไปเตรียมก่อไฟเพื่ออุ่นหินร้อนสำหรับอาบน้ำ 

" ข้าอุ่นหินร้อนให้แล้วเจ้าไปรอในห้องน้ำเถอะ  ถ้าได้แล้วข้าจะส่งหินลงไปแช่น้ำให้" 

ไอร่ามองสองนายบ่าวสลับกันอย่างอ่อนใจ  แม้การที่มีคนช่วยจะเป็นเรื่องดีแต่เขากลับรู้สึกรำคาญมากกว่ากับการที่มีคนอื่นมาวุ่นวายแบบนี้ ร่างบางเดินกลับเข้าบ้านอย่างไม่คิดเอ่ยคำขอบคุณ  เขายืมรอจนอีกคนเติมน้ำในอ่างจนเต็ม  เมื่อคนด้านนอกส่งหินร้อนมาใส่ในน้ำ  ไอร่าก็จุ่มมือวัดอุณหภูมิ  เมื่อคิดว่าอุ่นพอเขาก็เอ่ยไล่เสียงห้วน

" ข้าจะอาบน้ำเจ้าออกไปได้แล้ว "

โครอสไม่ถือสากับคำพูดอีกฝ่ายกลับกันเขากลับพอใจมากที่เห็นมือเนียนนั้นชัดเจน  แม้มันจะสะท้อนเปลวไฟสีส้มแต่ก็เห็นได้ชัดว่ามืออีกฝ่ายขาวเนียนมาก  มากจนเขาอยากที่จะลองสัมผัสแต่คงต้องอดใจไว้  เขาไม่อยากให้แมวป่าตื่นกลัวไปซะก่อน  โครอสย้ายร่างของตัวเองออกมา  หน้าประตูห้องน้ำมีเจ้าสุนัขป่านั่งจ้องเขาอย่างไม่เป็นมิตร  สายตาคอยระวังภัยให้ผู้เป็นนายแม้มันจะเป็นสัตว์ที่ไม่ได้ลงมนตราแต่กลับเชื่อฟังอีกฝ่ายเป็นอย่างดี

" ถ้าไม่ติดว่าอยู่กลางป่ากระหม่อมคงคิดว่าตัวเองอยู่ที่บ้านสาวชาวนา  จะมีคนป่ากี่คนกันที่จะอาบน้ำผสมสมุนไพรหอมขนาดนี้"

อลันเอ่ยลอยๆตามกระแสลมที่พัดพากลิ่นหอมหวานลอยออกมาจากให้ห้องอาบน้ำ  ความจริงไอร่าเองก็ไม่คิดที่จะแช่น้ำนานแต่ติดที่ว่าหลายวันมานี้เขาต้องเดินทางออกจากป่าเพื่อแลกเปลี่ยนสินค้า  การเดินทางทำให้เขาเมื่อยล้าจนอดที่จะผสมสมุนไพรแก้ปวดเมื่อยลงในน้ำไม่ได้  ไอร่ามองผิวของตนเองอย่างกังวลใจ  ทำไมผิวของเขาถึงแตกต่างจากคนแปลกหน้าขนาดนี้  ผิวของอีกฝ่ายเป็นสีน้ำตาลอย่างที่บุรุษแดนตะวันออกพึงมี  ไอร่าอยากมีสีผิวแบบนั้นบ้างมันคงทำให้เขาดูเป็นบุรุษมากขึ้น  ไอร่าถอนหายใจแล้วทิ้งตัวดำน้ำอยู่ในอ่าง  ผมสีน้ำตาลเข้มกระจายไปทั่ว  ไอร่าดำน้ำซักพักก็ลุกขึ้นจากอ่างซับผมและเนื้อตัวก่อนใส่เสื้อผ้าแล้วสวมผ้าคลุม  มือข้างหนึ่งถือตะเกียงเข้าไปในห้องนอน  เขาแอบมองคนแปลกหน้าที่อยู่ในคอกม้า  อากาศข้างนอกเย็นจัดแต่คนทั้งสองดูไม่สะทกสะท้านเท่าไหร่  ดูจากท่าทางคงเป็นพวกนักรบ  ไอร่าคิดอยู่ว่าเขาควรเอาผ้าไปให้อีกฝ่ายดีหรือไม่  แต่เมื่อเห็นคนตัวใหญ่มองสบตามาแล้วยิ้มให้  ไอร่าก็ปิดหน้าต่างหนีแล้วดับไฟ  ท่าทางน่าหมั่นไส้แบบนั้นเชิญทนหนาวไปเถอะ

" ถ้าถูกใจนักทำไมฝ่าบาทไม่เข้าไปเสียล่ะ  หรือจะให้กระหม่อมไปเฝ้าหน้าถ้ำก็ได้"  อลันกล่าวอย่างรู้ใจ

" คืนนี้คงไม่เพราะเจ้าแมวป่าเองก็คงระวังภัยเช่นกัน  ไว้รอพรุ่งนี้ดีกว่า  ข้าอยากเห็นผิวเจ้าแมวป่าชัดๆว่าจะขาวนวลเพียงใดภายใต้แสงอาทิตย์" โครอสกล่าวแล้วล้มตัวนอนแล้วฟังเสียงรอบด้าน  เจ้าของบ้านคงยังไม่หลับ  เขาได้ยินเสียงกุกกักกระสับกระส่ายดังมาจากในห้อง  ห้องนอนที่เขาคิดว่าพรุ่งนี้คงได้ใช้



ฟ้าสางแล้วไอร่านอนรอเสียงม้าข้างนอกเดินห่างออกไปโดยไม่ลุกออกจากห้อง  เมื่อทุกอย่างเงียบสงัดอย่างที่เคยเป็นมา  ไอร่าสั่งเคนนิสให้ออกไปดูเชิงว่าคนแปลกหน้าได้ออกไปจริงแล้วหรือยัง  รออยู่สองชั่วโมงเคนนิสก็วิ่งกลับมาพร้อมกระต่ายป่าตัวอ้วน  มันวางไว้ที่หน้าบ้านแล้วเห่าเรียกเขา

" ดีมาก  เด็กดี  ข้าจะแบ่งเนื้อส่วนของเจ้าให้นะ  คนพวกนั้นไปแล้วใช่ไหม"

โฮ่ง!!  โฮ่ง!!

เคนนิสเห่าแล้วเดินวนรอบตัวผู้เป็นนาย  ไอร่าหัวเราะร่วนแล้วลูบหัวมันอย่างรักใคร่  แม้คนแปลกหน้าจะไม่อยู่แต่เขาไม่อยากประมาทยังคงสวมเสื้อคลุมไว้แล้วเริ่มกิจวัตรยามเช้าเช่นปกติทุกวันที่ผ่านมา  หลังคล้อยบ่ายไอร่าที่ปล่อยม้าแคระให้เดินเล่นในหุบแล้ว  ก็กลับเข้าห้องนอน  เมื่อคืนเขาต้องฟังเสียงว่ามีใครคิดจะเข้ามาหรือไม่  แม้เคนนิสจะเฝ้าอยู่แต่เขาก็ไม่วางใจ  สรุปคือเขาหลับๆตื่นๆตลอดคืนตอนนี้แค่หัวถึงหมอนเขาก็สามารถหลับสนิทได้แล้ว

" ไปเฝ้าหน้าบ้านนะเคนนิส"  ไอร่ากล่าวด้วยเสียงง่วงงุน  เจ้าขนฟูรับคำสั่งแล้วเดินไปนอนหมอบที่หน้าประตูทำหน้าที่ของมันตามที่ได้รับมอบหมาย





" ฝ่าบาทจะกลับไปอีกทีเมื่อไหร่"  อลันถามขณะที่เขากำลังให้อาหารม้าที่ผูกไว้ริมธารใสไกลออกมาจากโพรงถ้ำประมาณหนึ่ง  แล้วมองโครอสที่กำลังนั่งพิจราณามีดสั้นในมือ

" คงเป็นช่วงเย็น  เพื่อว่าต้องค้างแรมจะได้มีข้ออ้าง"  โครอสกล่าวแล้วกวัดแกว่งมีดสั้นที่ฉกฉวยมาได้จากห้องนอนของเจ้าของบ้านตอนที่เจ้าตัวอาบน้ำเมื่อคืน

มีดสั้นเล่มนี้ทำจากแร่หายากจากแดนเหนือ  แม้มันจะไม่ได้ลงลายวิจิตรแต่มูลค่ามันก็มหาศาล  แร่ชนิดนี้สามารถป้องกันมนตราได้  อีกทั้งเขายังรู้สึกถึงมนตราที่เข้มข้นลอยออกมาจากตัวมีด  คนป่านี่เป็นใครกัน  การจะมีของแบบนี้ได้ไม่ใช่แค่ต้องรวยเท่านั้นแต่ต้องเป็นขุนนางในตำแหน่งสำคัญที่เดียว  ดีไม่ดีคงเป็นเชื้อพระวงศ์  เพราะขนาดเขาที่เป็นกษัตริย์ยังได้ดาบที่ทำจากแร่นี้เป็นของขวัญขึ้นครองราชเท่านั้น  โครอสเก็บมีดเข้าฝักที่ดูซอมซ่อไม่สมมูลค่าดาบ  ก่อนยืดเส้นยืดสายด้วยการดูแลม้าตัวโปรดและอาบน้ำในลำธาร  รอจนตะวันเริ่มคล้อยเขาก็ขึ้นม้าตรงกลับไปยังปากถ้ำที่อาศัยค้างแรมเมื่อคืน  ถ้าไม่ติดว่ามีหมาป่าคอยเฝ้าเขาก็อยากไปเห็นแมวป่าตอนหลับซักครั้ง

เสียงเห่าขรมของเคนนิสปลุกไอร่าให้ตื่นขึ้นมา  เขารีบคว้าเสื้อคลุมมาสวมไว้ลวกๆก่อนวิ่งไปที่หน้าบ้านเมื่อเจ้าเคนนิสเห่าไม่หยุด

" เจ้ากลับมาอีกทำไม  คนแปลกหน้า"  ไอร่าถามพลางเดินไปดึงรั้งเจ้าเคนนิสที่ทำท่าจะกระโจนใส่คนแปลกหน้าที่อยู่ลานบ้าน

" ข้าลืมของจะมาเอาคืน"

" ลืมอะไร?  เมื่อเช้าข้าเก็บของทุกอย่างแล้วไม่มีสิ่งใดที่เป็นของเจ้าซักอย่าง"

" ข้าลืมแมวไว้น่ะ"

" แมว?" ยังไม่ทันที่ไอร่าจะถามอะไรเพิ่ม  เขากลับถูกมือใหญ่กระชากมือทั้งสองข้างแล้วแนบจุมพิตทันที

" จะทำอะไรน่ะ!"

" มือเจ้าขาวเนียนจริง  ข้าอยากเห็นว่าใบหน้าของคนที่ถูกไฟไหม้จะขาวเนียนเช่นนี้ด้วยหรือไม่"

ไอร่าไม่ทันได้ดึงมือกลับ  อีกฝ่ายก็รวบมือทั้งสองข้างด้วยมือข้างเดียวแล้วถือวิสาสะเปิดหมวกคลุมออก  ไอร่าก้มหน้าหลบทันที  ปกติเขาจะมัดชายหมวกไว้ที่ปอยผม  เพื่อป้องกันการเลื่อนหลุดแต่เมื่อกี้เขารีบวิ่งออกมาทำให้อีกฝ่ายดึงผ้าออกไปได้อย่างง่ายดาย  ฝ่ายโครอสที่ถอดเสื้อคลุมออกได้ก็อดชื่นชมในผมสีน้ำตาลทองดุจน้ำผึ้งไม่ได้  เขาก้มลงสูดดม  มันส่งกลิ่นหอมหวานเหมือนที่ได้กลิ่นเมื่อวาน  เมื่อเขาคิดที่จะเชยคางอีกฝ่ายให้มองหน้า  กลับรู้สึกถึงแรงต้านและเสียงตะโกนสั่งดังลั่น

" เคนนิส!"  เจ้าหมาป่ากระโจนใส่เขาทันทีจนต้องปล่อยคนตรงหน้า  ไอร่าได้โอกาสฉวยผ้าคลุมมาคลุมดังเดิมก่อนวิ่งเข้าบ้านหมายจะไปหยิบมีดมาไล่เจ้าคนที่คิดทำการอุกอาจนี้

" อลัน! "  โครอสเองก็เรียกคนสนิทของตนเช่นกัน  อลันรีบวิ่งเข้ามาจากปากถ้ำที่เฝ้าอยู่  เมื่อเห็นสุนัขป่ากระโจนใส่ผู้เป็นนายเขาลงดาบทันทีอย่างไม่ลังเล

เอ๋ง!

เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของสัตว์เลี้ยงทำให้ไอร่าหันกลับไปมอง  เมื่อเห็นคนที่เป็นบ่าวกำลังลงมือซ้ำหมายจะฆ่าเคนนิสให้ตาย  เจ้าตัวก็วิ่งกลับไปแล้วตะโกนห้าม

" อย่า!!!" ไอร่าพยายามจะวิ่งไปแต่กลับถูกใครอีกคนฉุดรั้งไว้  ไอร่าเห็นดาบยาวสะท้อนแสงอาทิตย์ยามเย็นปักเข้ากลางหัวใจของสุนัขตัวโปรด

" ไม่นะ!!!" 

ไอร่าร้องลั่นพยายามดิ้นรนเพื่อไปดูเคนนิสสหายเพียงตัวเดียวของตน  โครอสจับแขนเล็กไว้มั่นเขาจัดการปลดเสื้อคลุมของอีกฝ่ายออก  แล้วดึงรั้งร่างบางให้สบตา  เพียงแค่เห็นก็ดั่งมีมนต์สะกด  คนตรงหน้างดงามยิ่งนัก  ผิวขาวผ่องราวหิมะ  รูปหน้าดูอ่อนหวานคล้ายสตรี  นัยตาสีน้ำตาลเข้มราวเปลือกไม้  ริมฝีปากแดงอิ่มไร้การแต่งแต้มช่างดูเย้ายวน  คนตรงหน้าเขาไม่มีรอยตำหนิใดๆบนใบหน้าเลยซักนิด

" ถ้าถูกไฟคลอกแล้วมีใบหน้าเช่นเจ้า  ข้าคงต้องให้สตรีทั้งเมืองกระโดดเข้ากองไฟ"

ตอนนั้นเองที่ไอร่ารู้ตัวว่าผ้าคลุมหลุดออกไป  ร่างบางพยายามก้มหน้าหลบแล้วหันตัวหนี  แต่ติดที่สะดุดกองผ้าคลุมที่อยู่ตรงเท้าเสียก่อน  โครอสจึงถือโอกาสนี้ดันร่างตรงหน้าให้ล้มลงนอนราบไปกับพื้น

ฝ่ายอลันที่เห็นผู้เป็นนายกำลังสนุกกับเจ้าแมวตัวใหม่  ที่แม้เขาจะไม่เห็นหน้าอีกฝ่ายแต่นายของเขาคงถูกใจมากทีเดียวเพราะเห็นเอาแต่จ้องมองอีกฝ่ายไม่วางตา  สงสัยคืนนี้คงได้ค้างแรมอีกคืนจริงๆ  อลันลากซากของเจ้าสุนัขป่าไปที่ปากถ้ำ  ถ้าเป็นปกติเขาคงจัดการถลกหนังไปแล้วเพราะมันขนสวยและอ่อนนุ่มมาก  แต่คงเป็นการทำร้ายใจเจ้าของไปหน่อย..เขาจะขุดหลุมฝังให้แล้วกัน  แต่พอได้ยินเสียงก่นด่าของเจ้าแมวป่าก็อดถอนหายใจไม่ได้  ยิ่งพยศนายเขายิ่งอยากแกล้ง  ไม่รู้รึไงนะเจ้าแมวป่า


>>  To  Be  ConTinue  <<

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-08-2013 21:48:49 โดย teatimes »

ออฟไลน์ pannixz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 373
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
ชื่อเรื่องสะดุดหู
เข้ามาอ่านแล้วสะดุดใจ
สนุกค่ะ น่าติดตาม อ่านแล้วหยุดไม่ได้
พอจบรู้สึกเลยว่า "ทำไมมีแค่นี้อ่า กำลังได้ฟิว"

มาต่อไวๆนะค่ะ อย่าปล่อยค้าให้คอยน่า เดียวมี  :z6:


ออฟไลน์ RoseBullet

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1027
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
แว๊ก เก๊าขอโทษน้าที่ทำคุณคนแต่งแอบกลุ้มไปเลย
จริงๆมันเป็นความติงต๊องของเราเองแหละ เห็นโน่นนี่ก็ชอบเดาไปก่อนตลอด
แถมเดาได้ไกลจากความเป็นจริงสุดกู่ด้วย มั่วมาก ฮ่าาา

แงงงงง เคนนิสสสสสสสสส
น้องเคนนิสเดี้ยงแล้วจริงๆเหรอเนี่ย เสียใจอ่า
ขณะกำลังลุ้นสุดตัวว่าโครอสจะได้เห็นหน้าไอร่าหรือยัง เคนนิสมาตายดับฟินเลย
แบบนี้ไม่ทำไอร่าทั้งโกรธทั้งแค้นเหรอเนี่ย
อุกอาจมาบุกบ้าน ถึงเนื้อถึงตัว แถมยังมาฆ่าน้องหมาเพื่อนรักที่อยู่ด้วยกันมาหลายปีไปอีก
โอ๊ย บอกไม่ถูก แต่รู้สึกอยากเข้าไปขาคู่ใส่โครอสซักที สงสารไอร่าจัง

 :mew2:

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
พระเอกไรฟระ เลวยิ่งกว่าโจรป่าอีก
มันน่าสาปให้ค่อยๆ เน่า แต่ไม่ตายยิ่งนัก


ลูกน้องก็รู้ดีเหลือเกิน -*- ไม่คิดจะชักพาไปทางที่ดีบ้างเหรอ

สงสารไอร่า T^T

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
สงสารเคนนิส ทำไมต้องฆ่ามันด้วย อิเจ้าชายบ้าๆ :beat:
ไอร่าอย่าไปยอมเจ้าชายหื่นกามนะ นิสัยไม่ดี ชิๆ :m16:
แต่สนุกจังเลย อยากอ่านต่อจังค่ะ :impress2:

ออฟไลน์ teatimes

  • ไม่อยากให้เปลี่ยน...... เพราะแค่นี้ก็ดีพอแล้ว
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-1
TALK::  มาแค่สองตอนพระเอกโดนด่ากระจาย :a5:  แต่สะใจคนแต่งมาก :pigha2:


 pannixz  ::  นึกว่าจะไม่มีคนชอบชื่อเรื่องแล้วนะคะเนี่ย   :mew2:  ตอนต่อไปรอไม่นานนะคะว่าวันแม่พอดี  เฮ่อๆ  แต่หนังจากนี้คงหายไปซักเกือบวีคอ่ะค่อยมาต่อใหม่


 RoseBullet  ::  ขาคู่ใส่ไปเลยค่ะ  ฆ่ามานนนน(ไม่ใช่แล้ว!!)  ส่วนเคนนิสบทมาน้อย  เพราะไม่รู้จะให้วิ่งตามนายเอกออกนอกป่าได้ไง  เค้าขอโทษนะเคนนิส


 fuku  ::  พระเอกมันเลวค่ะ  ดิบเถื่อนสุดๆ   :z6:  แต่อย่าเกลียดอลันเลยนะคะ  คนแต่งชอบอลันมากเลยนะ :mew1:


 BeeRY  ::  ไอร่าไม่ยอมง่ายๆหรอกค่ะแต่แค่ไม่รอดมือโครอสแค่นั้นเอง :o12:  ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะคะ :pig4:


กดบวกเป็ดให้ทุกคนเลยจ้า

เจอกันวันพรุ่งนี้นะคะ

อย่าลืมบอกรักแม่กันด้วยนะคะ :mew1: :L1:




Mio

  • บุคคลทั่วไป
สนุกกกกกก ต่อด่วนนนนน  :katai5:

ออฟไลน์ parn11

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-2
สนุกมากค่ะ
สงสารไอร่าาา
ติดตามนะคะ

shockoBB

  • บุคคลทั่วไป
เรื่องน่าสนุก  น่าติดตามมากค่าา
 :z13: :z13: :z13:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Lily teddy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-2
ปกติไม่อ่านนิยายแนวนี้ นี่ก็จดๆจ้องๆอยู่นานกว่าจะลองอ่าน (ตามมาจากน้องพี) เพราะต้องอ่านเน้น ๆ ทุกประโยคกลัวงง
แต่คนเขียนก็เขียนได้ดีจัง ไม่งง สนุก แล้วก็น่าติดตามมากเลย
แต่ติดแค่จบตอนนี้ แง :monkeysad: ทำไมต้องให้เคนนิสตายด้วย จะให้ตายจริง ๆ เหรอ
แล้วโครอสก็โหดร้ายเกินไปรึเปล่า ฆ่าสัตว์เป็นว่าเล่น สงสารลูกสิงโตที่เสียแม่ด้วย
อย่างตอนนี้โครอสก็แค่หลงกับความงามของไอร่า แล้วก็อยากเอาชนะเห็นไอร่าเป็นแมวป่าที่ต้องปราบพยศ
แล้วในเมื่อฆ่าเคนนิสตายแบบนี้ ไอร่าจะรักคนแบบนี้ได้ยังไงเป็นเราคงเกลียดเลยแหละ
แต่ก็รอติดตามนะคะ อย่าเศร้าไปกว่านี้เลย แค่เรื่องของไอร่าก็คงต้องเศร้าอีกเยอะอยู่แล้ว :hao5:  :pig4:
 

ออฟไลน์ ★KVH™★

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 516
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-3
อยากให้เคนนิสแปลงร่างเป็นคนได้จัง
แล้วตามมาหักอกอลัน  :hao5:
สาวนพ่อรูปงามนั้นอย่ามายุ่งกับไอร่าแล้วนะ
ชิส์ๆๆ ตัวเองแค่หลงรูปอ่ะ
เข้ามาจิ้มๆ ถูๆ
ปล.ชอบจังยาวแท้ มายาวๆทุกตอนนะฮะ
 :L2:  :กอด1:

ออฟไลน์ jilantern

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 465
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-1
ฆ่าเคนนิสทำไมมมมมมม
นิสัยไม่ดี
ไอ้บ้าาาโครอส!!

ออฟไลน์ sang som

  • เจ็บจิต!!
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-6
ตกลงพระเอกมันเป็นราชา หรือว่าเป็นโจรเนี่ย

ออฟไลน์ teatimes

  • ไม่อยากให้เปลี่ยน...... เพราะแค่นี้ก็ดีพอแล้ว
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-1
CHAPTER 3



" ปล่อยข้านะเจ้าคนชั่ว!"

" กลิ่นเจ้าช่างหอมหวานจริง"

โครอสว่าแล้วเกี่ยวพันเส้นผมนุ่มลื่นเข้ากับปลายนิ้วแล้วประทับจูบ  เขามองเจ้าแมวป่าแสนสวยที่บัดนี้หน้าแดงก่ำชวนพิศ  แววตาจ้องมองอย่างระวังภัย  เห็นทีคำกล่าวของเสด็จพ่อจะเป็นความจริง  คนตรงหน้าเขาผิวขาวผุดผาดราวหิมะ  มันไม่ได้ดูซีดเซียวอย่างคนไม่เคยเจอแดด  ผิวของเจ้าแมวป่าขาวจัดและออกชมพูเรื่อเมื่อเจ้าตัวออกแรง  เมื่อก้มดูที่หน้าอกเขาถึงรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นผู้ชายเพราะหน้าอกนั้นราบเรียบไม่รอยนูนของเต้านม  คนตรงหน้าช่างงดงามยิ่งกว่าหญิงใดๆที่เขาเคยเจอ

โครอสยิ้มให้เจ้าแมวป่าในอ้อมแขนอย่างพอใจ  ไม่เสียเที่ยวจริงๆแมวป่าตัวนี้คุ้มค่ากับการเข้าป่ามาในครั้งนี้พอๆกับการจับสิงโตหิมะได้  โครอสมองริมฝีปากแดงที่คอยตะโกนด่าทอให้เขาปล่อยตัว  ดูท่าปากดีๆอย่างนี้คงใช้ผิดวัตถุประสงค์ไปหน่อย  ร่างสูงกดจูบที่ริมฝีปากอ่ิมที่กำลังด่าทอเขาเป็นการปิดปาก

ช่างหอมหวานไปทั่วร่างกาย...

ปลายลิ้นชื้นพยายามกวาดต้อนเรียวลิ้นที่หลบหลีก  คนข้างใต้เขาคงไม่เคยถูกจูบมาก่อนเพราะตอนนี้เจ้าตัวเริ่มหอบหายใจถี่  ไม่ใช่เพราะรสรักแต่เพราะเจ้าตัวพยายามหายใจทางปากที่ถูกปิดไว้ 

ด้านไอร่าที่ตกใจจนทำอะไรไม่ถูกได้แต่ทุบทีให้คนชั่วปล่อยตัว  เขาจะขาดอากาศหายใจอยู่แล้วคนๆนี้จะฆ่าเขาด้วยจูบรึไง  ไอร่าคิดพลางหอบหายใจหนัก  เพราะปากที่ถูกประกบอ้าทำให้เจ้าตัวลืมหายใจทางจมูกอันเป็นกลไกตามปกติของร่างกาย  จนสุดท้ายเขาทนไม่ไหวต้องเกาะไหล่อีกฝ่ายแน่นแล้วขโมยลมหายใจจากอีกฝ่ายเข้าปอด  โครอสปล่อยให้คนด้านล่างขโมยลมหายใจอย่างขบขัน  เขาหยุดจูบไปแล้วแต่เจ้าตัวคงยังไม่รู้ถึงได้สูดอากาศจากปากเขาไม่เลิก  โครอสยอมให้คนด้านล่างสูดอากาสจนพอใจถึงได้ถอนริมฝีปากออก  อีกฝ่ายสูดอากาศหายใจเข้าไปอีกเฮือกใหญ่

" จูบแรกรึไง" 

เมื่อได้ยินคำกระเซ้าไอร่าปล่อยมือจากไหล่แล้วหวดฝ่ามือเต็มแรงหมายจะฟาดปากเสียๆนั่นให้หุบลงเสียบ้าง  แต่ยังไม่ทันถึงใบหน้าคมเข้มนั่น  เขาก็ถูกกดข้อมือตรึงไว้ที่เหนือหัวแทน

" ปล่อยนะ!"  ไอร่าขู่ฟ่อแล้วยกอีกมือขึ้นแต่กลายเป็นว่าเขาถูกตรึงข้อมือไว้ทั้งสองข้างด้วยมือเพียงข้างเดียว  ไอร่าเริ่มใจไม่ดี  คนตรงหน้าจับจ้องใบหน้าเขาไม่วางตาจนเขานึกกลัว  คำสาปที่เสด็จแม่มอบไว้ดังก้องอยู่ในหู

" ความงามของเจ้าจะเป็นภัยต่อตัวเจ้าเอง  แม้จะมีผู้คนมาหลงรักเจ้าแต่เจ้าจะได้รู้ว่าความทรมานจากการลุ่มหลงนั้นเป็นเช่นไร  เจ้าจะต้องตายทั้งเป็นไอร่า  และเมื่อวันใดที่เจ้าคิดปลิดชีพตนเอง  เจ้าจะพบจุดจบในตะแลงแกงเผาไฟเช่นเดียวกับแม่ของเจ้าและของข้า!"

ความหวาดหวั่นเริ่มฉายออกมาทางดวงตาสีน้ำตาลเข้ม  ไอร่าพยายามเบือนหน้าหนี  แต่อีกคนกลับไม่ยอมมือหยาบจับคางเขาไว้แล้วสูดดมที่แก้วนวลสองข้างก่อนจะย้ายไปที่ลำคอ  ไอร่าตัวสั่น  เขากลัวกับความหลงไหลที่คนชั่วนี้แสดงออกมา

" ปล่อย..  ปล่อยข้าเถอะนะ  ถ้าเจ้าอยากได้อะไรก็เอาไป  ข้ามีเงินเก็บอยู่ในบ้านไม่มากแต่ถ้าเจ้าอยากได้้เงินก็เอาของไปขาย  ข้ามีเนื้อแห้งกับขนสัตว์  ข้าจะไปหยิบมาให้"   

" เงินทองไม่ใช่เป้าหมายของข้า"  โครอสว่าแล้วจูบปากอิ่มอีกครั้ง  แต่อีกคนกลับสะบัดหน้าหลบ

" รึเจ้าอยากให้ข้าขอโทษที่่ให้เจ้านอนหนาว  ข้าขอโทษเจ้าก็ได้"  ไอร่าเอ่ยอีก  แต่ดูท่าทางข้อเสนอนี้จะเรียกรอยยิ้มของอีกฝ่ายแทน

" ข้าไม่อยากได้คำขอโทษแต่ขอเป็นอย่างอื่นได้หรือไม่"

" เจ้าจะเอาอะไร"  ไอร่าถามอย่างมีหวัง

" เป็นตัวเจ้าที่ให้ข้ากอดคลายหนาวในคืนนี้ได้หรือไม่"

ไอร่ามองคนด้านบนอย่างไม่เชื่อหูตนเองแต่คนตรงหน้ากลับทิ้งตัวมากกกอดเขาไว้แน่นอย่างแสดงเจตจำนง  นิ้วหยาบเริ่มลูบไล้ไปบนผืนผ้าเมื่อมันเจอยอดอกก็เขี่ยไปมาราวอย่างหยอกเย้า  ใบหน้าคมที่มีหนวดเคราก้มลงซุดไซร้ไปทั่วใบหน้าเขา  จมูกโด่งก็เอาแต่สูดกลิ่นผิวกายเขาเข้าไปราวกับมันเป็นอากาศสำหรับการหายใจ

" อย่านะ!  เจ้าตาบอดรึไง  ข้าเป็นบุรุษเช่นเดียวกับเจ้านะ!"

" ถ้าเป็นบุรุษที่งามยิ่งกว่าสตรีข้าก็ไม่ถือหรอกนะ"

" หยุดนะ!   ถ้าเจ้าต้องการอะไรข้าจะให้ทุกอย่าง"

" ข้าบอกแล้วว่าสิ่งที่ข้าต้องการคือเจ้า"

" เจ้ามันขี้ขลาดที่รังแกคนที่อ่อนแอกว่าแบบนี้!"

คราวนี้โครอสยอมละจากร่างบาง  แล้วมองคนที่กล้าตราหน้าหาว่าเขาขี้ขลาด  ถ้าเป็นคนอื่นเขาคงตัดลิ้นมันแล้วเอาไปโยนทิ้ง  แต่กับแมวป่าตรงหน้า  เขากลับคิดว่ามันเป็นเสียงชวนฟังมากกว่า  ตอนนี้เขาปล่อยมือที่กดอีกฝ่ายแล้ว  แม้เขาจะออกแรงไม่มากแต่มันก็แดงช้ำเป็นรอยนิ้ว  คนตรงหน้าอยู่คนเดียวมาได้ยังไงกลางป่าแบบนี้โดยที่เนื้อตัวสะอาดสะอ้าน  ผิวกายนุ่มนิ่มไม่ต่างจากสตรีที่ประทินผิวมาอย่างดี   เมื่อไอร่าเห็นอีกฝ่ายยอมปล่อยตัวก็ชันตัวลุกพลางดูข้อมือตนเองที่แดงไปหมด  แต่ยังไม่ทันได้ลุกก็ถูกทาบทับลงมาอีก

" ไหนว่าจะปล่อยข้าไป"  ไอร่ากล่าวเสียงขุ่น

" ข้ายังไม่ได้พูกซักคำ"  โครอสว่าแล้วดึงคอเสื้ออีกฝ่ายจนมันแยกออกจากกัน  เผยให้เห็นไหล่มนนวลเนียนตา  แต่ยังไม่ทันได้ก้มลงชิมรสก็ถูกมือนุ่มนิ่มดันหน้าออกห่าง

" ได้โปรด  ถ้าท่านเป็นบุรุษจริงก็จงอย่าข่มแหงคนที่อ่อนแอกว่า"  ไอร่าขอร้อง  คนตรงหน้าต้องการอะไรทำไมเขาจะไม่รู้  เขาเองก็เป็นผู้ชายเช่นเดียวกัน  แม้จะไม่เคยผ่านการเสพสังวาสแต่ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่รู้จัก  เขาเคยเดินผ่านหอนางโลมมาแล้วและมันเป็นสัญชาติญาณที่เขารับรู้ได้ว่าต้องทำยังไง  มันให้ความรู้สึกเหมือนสิ่งที่คนตรงหน้าเขากำลังจะกระทำกับเขา  คนตรงหน้ามองเขาอย่างลุ่มหลงพิจารณาเขาไปทั่วตัวก่อนก้มลงกระซิบถอยคำที่ข้างหู

" ถ้าข้าปล่อยเจ้าไป  ผู้คนคงตราหน้าว่าข้าไม่ใช่บุรุษ"

" อย่า..  ได้โปรดเถอะ  ปล่อยข้าไป  ขอร้อง..."

โครอสหัวเราะในลำคอมองแมวป่าตัวน้อยที่บัดนี้นอนตัวสั่น  นัยตาสีน้ำตาลเข้มแวววาวสั่นไหวเอ่อคลอไปด้วยความหวาดหวั่น  เจ้าไม่รู้รึไงว่าท่าทีอย่างนี้ยิ่งทำให้บุรุษเกิดความต้องการ  เขาอยากทำให้ร่างเล็กๆนี่สั่นคลอนไปตามแรงอารมณ์ของเขา  อยากเห็นผิวขาวที่เปลี่ยนเป็นสีแดงเรื่อ  และอยากได้ยินเสียงครางหวานที่ดังลอดออกมาจากลำคอขาวนี้  เร็วเท่าทันความคิดร่างสูงกดจูบที่ริมฝีปากอิ่มทันที  เขาสอดแทรกปลายลิ้นควานหาความหวานและก่อนที่จะได้ย้ายไปที่ลำคอขาวอีกฝ่ายก็ดิ้นหนีขลุกขลักพยายามทุบทีเขาให้ออกห่าง  แต่แรงที่ส่งมามันช่างน้อยนิดจนน่าขัน

" ถ้าเจ้าหนีไปได้ข้าจะปล่อยเจ้าไปนะคนงาม  แต่ถ้าไม่..ค่ำคืนนี้เจ้าคงไม่ได้นอนทั้งคืน" 

เมื่อได้ยินเสียงทุ้มกระซิบเจือความขบขัน  ไอร่ายิ่งดิ้นรนหมายหลบหนีจากคนชั่วด้านบนให้ได้  แต่ไม่ว่าจะทุบตีเท่าไหร่คนด้านบนก็ไม่เขยื้อนแม้แต่น้อยและมันกลับยิ่งเรียกเสียงหัวเราะขันให้ดังขึ้น  ไอร่าเจ็บแค้นในกำลังของน้อยนิดของตนเอง  พอหมายจะตบหน้าคนด้านบนให้หยุดหัวเราะ  มือหนากลับยึดมือเขาไว้แล้วประทับจูบกลางฝ่ามือ 

" ข้าว่าเราเล่นสนุกกันพอแล้ว  เจ้าเก็บแรงไว้รับแรงข้าดีกว่านะ  คนงาม"

โครอสฉุดร่างเล็กขึ้นมาพาดบ่าแล้วก้าวเดินไปยังตัวบ้านหันหลังให้กับแสงสุดท้ายที่กำลังลับขอบฟ้า  เสียงโวยวายดังลั่นตลอดทาง  เมื่อเข้ามาถึงห้องนอนเขาวางร่างบางลงบนที่นอนแล้วตามขึ้นทาบทับ

" ขอดูหน่อยแล้วกันว่าใต้ร่มผ้าเจ้าจะขาวเนียนเหมืิอนมือเจ้าหรือไม่"

พูดจบร่างแกร่งก็กระชากเสื้อที่ขวางตาออกทันที  ร่างขาวเนียนปรากฎให้เห็นแกสายตา  เขาไม่เคยเห็นบุรุษหรือแม้แต่สตรีใดจะมีเรือนร่างขาวเนียนถึงเพียงนี้  ทั่วร่างดูขาวราวหิมะ  เมื่อเลื่อนดูยอดอกสีชมพูอมแดง  มันยิ่งทำให้เขากระหายอยากทำรอยแดงให้ทั่วผิวขาวๆนี้  มันจะน่าดูซักเพียงใดนะถ้าเขาประทับรอยแสดงความเป็นเจ้าของเอาไว้

ริมฝีปากหนาก้มลงแนบประทับรอยที่ซอกคอ  แค่ขบเม้มเบาๆมันก็ขึ้นสีชมพูอ่อนจาง  ถ้าเขาลงแรงมากว่านี้ร่างข้างใต้คงแหลกสลาย  เขาถูกใจคนตรงหน้ามาก  สัตว์ป่าตามคำร่ำลือคือร่างตรงหน้านี้ใช่หรือไม่  ถ้าเขาได้ครอบครองมันจะนำพาความรุ่งเรืองมายังอาณาจักรของเขาสินะ  หรือถ้าไม่ใช่.. อย่างน้อยเขาก็ยังได้ของเล่นชิ้นใหม่มาวางไว้ในห้องนอน  ของสวยงามเช่นนี้หากปล่อยไว้โดยไม่แตะต้อง  เขาคงกลายเป็นไอ้โง่ที่ปล่อยให้ผู้อื่นมาฉกฉวยไป

" อย่า..  ได้โปรด..เมตตาข้าเถอะ"  ร่างบางเอ่ยเสียงสั่น  ดวงตาเว้าวอนขอความเห็นใจ 

" ข้าจะเมตตาเจ้าแน่นอน..คนงาม" ข้าจะมอบความเมตตาให้เจ้าได้จดจำไปจนชั่วชีวิต  ว่าคืนนี้เจ้าเป็นของข้าโครอส  อาเบล  ไฮพีเรีย  กษัตริย์แห่งแฮริออส

ร่างแกร่งปลดอาภรณ์ตนเองเผยร่างกำยำที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดี  เขาทาบทับร่างบางแล้วบรรจงจูบและลูบโลมร่างตรงหน้าอย่างแผ่วเบานุ่มนวล  แต่สำหรับคนที่มือจับดาบและต่อสู้มาตลอดชีวิต  ความอ่อนโยนที่ว่ากลับกลายเป็นความรุนแรงของใครอีกคน  ไอร่าดิ้นหนีมือหยาบที่ลูบไปทั่วตัวเขาอย่างนึกรังเกียจ  น่าขยะแขยง  ทั้งที่เป็นบุรุษเหมือนกันแต่คนตรงหน้ากลับกระทำอย่างกับเขาเป็นหญิงงามเมือง  ใช้กำลังข่มแหงรังแกเขาอย่างหน้าไม่อาย

" ท่านมันไม่ใช่นักรบ  ท่านรังแกคนที่อ่อนแอกว่าได้ยังไง"  ไอร่าเริ่มสะอื้นไห้เมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่คิดจะปล่อยตนไปจริงๆ

" กับเจ้า..ข้าอาจไม่ใช่นักรบแต่คงเป็นนักรัก"

โครอสคิดว่าเสียงหวานๆอย่างนี้มันน่าจะเปล่งเสียงครางมากกว่าคำพูดกล่าวหาแบบนี้  เขาก้มขบกัดหน้าอกอีกฝ่าย  ดูดดึงจนมันแดงช้ำหวังเรียกเสียงครางให้ดังขึ้น  แม้มันจะเป็นเสียงครางปนสะอื้นแต่ก็ยังน่าฟัง  ริมฝีปากหนาย้ายไปที่หน้าอกอีกข้างดูดดึงและลงปลายลิ้นขยี้แรงๆ  จนคนข้างใต้สะดุ้งเฮือก  มือเล็กสองข้างพยายามผลักหัวเขาออกอย่างไม่ยอมแพ้  เสียงสะอื้นดังไม่ขาดสาย  ปากพร่ำขอร้องให้เขาปล่อยตัว  โครอสลากลิ้นยาวไปถึงหน้าท้อง  ยิ่งเรียกเสียงกรีดร้องจากอีกฝ่าย..มันช่างหวานลิ้นนัก  ไอร่ารู้สึกหวาดกลัวจับใจเมื่อมือหยาบดึงกางเกงเขาออกแล้วจับขาเขาแยกจากกันก่อนจะบดเบียดส่วนล่างลงมาอย่างกระหาย  ยิ่งเมื่อรู้สึกถึงปลายนิ้วที่วนเวียนที่ช่องทางด้านหลัง  เขายิ่งหวาดกลัว  ไม่.. 

" อย่า..  อย่า.. โอ๊ยย!!!"

ไอร่ากรีดร้องทันทีเมื่อนิ้วกร้านกดเข้าไปที่ช่องทางด้านล่าง  นิ้วนั้นหมุนวนไปทั่วช่องทางคับแคบเพื่อขยับขยาย  จนเมื่ออีกฝ่ายพอใจก็กดแทรกนิ้วเพิ่ม  ปลายนิ้วนั้นขยับเข้าออกช้าเร็วสลับกัน  ไอร่าขาสั่นเรี่ยวแรงเหมือนถูกสูบหาย  เขาได้แต่นอนนิ่งหวังว่ามันจะจบลงซักที  ความหวังของไอร่าเป็นจริงในเวลาไม่นานเมื่ออีกฝ่ายยอมถอนนิ้วออก  แล้วยกตัวขึ้นมาจูบเขา

" ผ่อนคลายหน่อยนะคนงาม  ข้าไม่อยากให้เจ้าเจ็บตัวมากนัก"

โครอสว่าแล้วกดแทรกกายเข้าไป  ร่างเล็กกระตุกด้วยความเจ็บปวดน้ำตาใสไหลรินออกมาไม่หยุด  แม้โครอสจะพยายามห้ามใจแล้วว่าจะถนอมคนตรงหน้า  แต่ความคับแน่นที่ได้รับทำให้เขาห้ามใจไม่ได้จนต้องกระแทกกายเข้าไปสุดตัว  โครอสรู้สึกได้ถึงของเหลวหนืดที่ไหลออกมา  อีกฝ่ายคงเลือดออกแต่เขาทนอดใจไม่ไหวแล้ว  ความร้อนรุ่มที่ห่อหุ้มเขาไว้กระตุ้นให้เขาขยับตัวเพื่อผลักดันความต้องการตามสัญชาตญาณให้ไปถึงปลายทาง  โครอสกระแทกกายเข้าไปอย่างรุนแรงหวังอยากได้รับความลึกล้ำที่มากขึ้น  เขาอยากได้อีก..  เขาต้องการมากกว่านี้..  และเขาต้องได้ทุกอย่างที่เขาต้องการ  โครอสขยับกายไม่ยั้งพลางขบเม้มสร้างรอยไปทั่วผิวขาวๆโดยไม่สนใจเสียงครวญครางด้วยเจ็บปวดของอีกฝ่าย  เขาขยับกายอยู่นานและปลดปล่อยออกมาในที่สุด  ช่องทางคับแคบขับดันน้ำขาวขุ่นปนเลือดสีแดงสดออกมา 

โครอสถอนกายออกแล้วกดตัวลงไปจนสุดอีกครั้ง  ไอร่าสะดุ้งเฮือกทุกครั้งที่อีกฝ่ายขยับตัว  ความเจ็บปวดที่ได้รับมันมากมายจนชา  เขาไม่เคยเจ็บปวดขนาดนี้มาก่อน  แม้แต่ตอนที่โดนขับไล่อย่างโหดร้ายก็ไม่เคยได้แผลอะไรเลย  ไอร่ากรีดร้องเสียงหนัก  พยายามอ้อนวอนให้คนด้านบนหยุดเสียที  แต่อีกฝ่ายกลับไม่ยอมหยุด  ซ้ำยังพลิกตัวเขาขึ้นด้านบนประคองสะโพกของเขาแน่นไว้แล้วดันมันให้เข้าไปแนบชิดสะโพกอีกฝ่าย  ก่อนที่ด้านล่างเองก็สวนกระแทกเข้ามาเช่นกัน

" ดีมากคนงาม  เจ้าทำให้ข้าสุขสมใจทีเดียว"

โครอสพูดเสียงพร่าแล้วจูบซับน้ำตาที่ไหลริน  คนตรงหน้าช่างมอบความสุขให้เขาได้อย่างคาดไม่ถึง  ช่องทางอุ่นแคบรัดรึงรอบเขาไว้แนบแน่น  มันตอบรับเขาในทุกสัมผัสที่เขาขยับกาย  ยิ่งเขากระแทกกายแรงเท่าไหร่อีกฝ่ายก็ยิ่งตอดรัดเขาแรงขึ้นเท่านั้น  โครอสขยับกายท่านั้นอยู่พักใหญ่  เมื่อใกล้ถึงปลายทางเขาพลิกตัวอีกฝ่ายลงแล้วกดสะโพกแรงๆซ้ำๆ  เรียกเสียงครางพร่าด้วยความเจ็บปวดปนเสียวกระสันออกมาจากลำคอขาวได้  โครอสกระแทกกายอย่างรุนแรงอีกไม่นานก็ปลดปล่อยออกมา  คนข้างใต้ครางสะอื้นผะแผ่วราวกับใกล้หมดลม  เขาถอนตัวออกจับร่างคนงามพลิกคว่ำแล้วกดแนบสะโพกเข้าไปอีกครั้ง  แมวป่าของเขาครางพร่าตัวสั่น  มือกำผ้าปูเตียงแน่นพลางขยับกายหมายหลบหนี  เขากดไหล่ขาวที่บัดนี้มีรอยสีแดงเต็มไปหมดและกักขังคนตรงหน้าให้อยู่ใต้ร่าง  เขาถอนสะโพกออกมาจนเกือบหลุด  ก่อนกดเข้าไปแรงๆอีกครั้ง

" อ๊าาา!!!  ได้โปรด  พอทีเถอะ.."

เสียงครางรัญจวนน่าฟังทำให้โครอสอดที่จะขยับกายเข้าไปอีกแรงๆไม่ได้  เขาอยากได้ยินเสียงนี้อีก

" ร้องให้ข้าฟังอีกสิคนงาม  ข้าชอบฟังเสียงครวญครางของเจ้า"

โครอสว่าแล้วกระแทกกายเข้าไปอีกครั้ง..  อีกครั้ง..  และอีกครั้ง  แม้ว่าร่างข้างใต้จะร้องครางจนเสียงแหบและสลบไปแล้วแต่เขายังต้องการอีกเขาขยับกายไม่หยุดและปลดปล่อยนับครั้งไม่ถ้วน  จวบจนใกล้เช้าเขาถึงได้ยอมถอนตัวออกแล้วประคองกอดร่างบางไว้อย่างหวงแหน

" เจ้าเป็นสมบัติของข้าแล้ว  เจ้าแมวป่า"
.
.
.

ไอร่าตื่นขึ้นมาอีกทีในตอนสาย  แสงยามสายตกกระทบเปลือกตาทำให้เขาต้องฝืนลืมตา  ร่างกายปวดร้าวไปหมดแถมรู้สึกร้อนรุ่มราวกับจับไข้  ไอร่าคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวาน  เขาอดที่จะหลั่งน้ำตาออกมาไม่ได้และเมื่อกวาดตามองรอบห้องก็ไม่พบผู้ใดอีก  ดีแล้ว..  เขาจะคิดว่ามันเป็นฝันร้ายช่วงตื่นหนึ่ง  ไอร่าขยับกายหวังจะไปล้างตัว  ความเหนียวเหนอะที่ด้านล่างทำให้เขารู้สึกอยากอาเจียน  แต่กลับขยับตัวไม่ได้ดั่งใจแค่เขาจะลุกยืนก็ต้องทรุดฮวบลงที่พื้น  ปากบางเม้มอย่างอดสูในร่างกายของตนเองพยายามจะลุกขึ้นมาแต่ก็ต้องล้มไปอีก

" ข้ากำลังจะเข้ามาปลุก  เราคงต้องรีบเดินทางข้าไม่อยากให้เจ้าค้างกลางป่า"

โครอสเดินเข้ามาอุ้มร่างบางที่นั่งอยู่ที่พื้น  เขาอุ้มอีกฝ่ายเข้าไปในห้องอาบน้ำตักวักน้ำรดตัวโดยไม่สนใจเสียงร้องท้วง  มือหยาบกวาดล้างคราบต่างๆจนหมดอย่างรวดเร็ว  เมื่อเสร็จสิ้นก็อุ้มร่างที่สั่นเทาเข้าห้อง

" เจ้าจะแต่งตัวเองหรือให้ข้าจัดการให้"

" ออกไป..  ไปให้พ้น!  เจ้าจะกลับมาทำไม  ในเมื่อได้สิ่งที่ต้องการแล้วก็ไปซะ! " ไอร่าสะอื้นฮักตะโกนเสียงแหบ  คนผู้นี้จะกลับมาทำไม  ในเมื่อได้ทุกอย่างที่ต้องการแล้วก็ควรไปซะ  ทิ้งเขาให้อยู่กับความเจ็บปวดอย่างเดียวดายก็พอ 

" ข้าจะทำตามที่เจ้าบอกทุกอย่าง  ยกเว้นแต่เพียงการอยู่ห่างจากเจ้าเท่านั้น  ข้าจะพาเจ้าไปยังปราสาทของข้าที่นั่นเจ้าจะไม่ลำบากเหมือนอย่างที่นี่"

คำว่าพาออกไป  ทำให้ไอร่าหวาดหวั่น  ที่เขาต้องหนีมาอยู่ในป่าก็เพื่อหลบหลีกชะตากรรมที่ถูกสาปไว้  ถ้าเขาออกไปความทรมานที่เขาจะได้รับคงมากกว่านี้ร้อยพันเท่า

" ได้โปรด  เจ้าจงไปซะแล้วอย่าได้กลับมาอีก  ข้าจะไม่ไปไหนทั้งนั้น"

โครอสมองภาพตรงหน้าอย่างอดสงสัยไม่ได้  เขาจะไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายจะร่ำไห้ทำไม  ในเมื่อเขาสามรถมอบทุกอย่างที่อีกฝ่ายต้องการได้หรืออีกฝ่ายไม่มั่นใจว่าเขาจะมอบทุกอย่างไม่ได้อย่างที่ปากพูด

" ข้าคือโครอส  อาเบล  ไฮพีเรีย  กษัตริย์แห่งแฮริออส  ผู้ครอบครองดินแดนทางทิศตะวันออกและทิศใต้  เจ้าไม่ต้องกังวลว่าข้าจะทำอย่างที่พูดไม่ได้"

" ได้โปรด..  อย่าพาข้าออกไปจากที่นี่  ให้ข้าได้อยู่ที่นี่เถอะ  ได้โปรดปล่อยให้ข้าอยู่ที่นี่จนตายเถอะนะ"  ไอร่าร่ำไห้ปานจะขาดใจไม่สนใจคำพูดของอีกคน  เขาหวาดกลัวการออกนอกป่าผืนนี้  ผืนป่าที่ท่านลุงลงมนตราปกป้องคุ้มครองเขาไว้ด้วยชีวิต 

" ยกโทษให้ข้าที่ต้องปฏิเสธเจ้านะคนงาม  แต่งตัวซะข้าจะไปเตรียมม้า"  โครอสตอบแล้วมอบจูบลึกล้ำให้อีกฝ่าย  แต่คนตรงหน้ากลับสะบัดหนีทิ้งแล้วเกาะกุมมือเขาอ้อนวอนให้ปล่อยตนไว้กลางป่าด้วยความหวาดกลัวจนเขารู้สึกได้

" ไม่ว่าเจ้าหวาดหวั่นสิ่งใด  ข้าสาบานว่าจะปกป้องเจ้า"

" เจ้าไม่เข้าใจ..  ได้โปรดเถอะ  ปล่อยข้าทิ้งไว้ที่นี่"

เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ยอมไปแต่โดยดี  โครอสจึงจัดแจงหยิบฉวยเสื้อผ้าในหีบของเจ้าของห้องอย่างถือวิสาสะแล้วบังคับใส่จนเสร็จจากนั้นจึงปลดผ้าคลุมของตนเองออกมาคลุมร่างบางไว้แล้วอุ้มอีกฝ่ายออกมาจากห้อง  ปากสั่งการลูกน้องคนสนิทให้ตระเตรียมม้าและเสบียงอาหารที่หาได้จากในบ้าน  ร่างเล็กบนตักเขาดิ้นหนีและทุบตีอยากหนีกลับเข้าบ้านจนเขาอ่อนใจ  จนจำเป็นต้องใช้ไม้แข็งกดต้นคออีกฝ่ายให้สลบไป  ไม่งั้นแมวป่าของเขาคงได้ร้องไห้จนน้ำตาเหือดแห้งแน่

" กระหม่อมว่าที่เขาไม่อยากออกจากป่าคงมีเหตุผล  ท่านน่าจะถามให้กระจ่างก่อนพาเขากลับไป  ที่ตรงนี้มีมนตราปกป้องแม้จะทำอะไรท่านไม่ได้แต่มันต้องมีเหตุที่ทำให้เขาจำต้องอยู่ที่นี่เป็นแน่"

" ข้าตัดสินใจแล้วอลัน  ไม่ว่าอย่างไรข้าก็จะพาเขาไป  ข้าไม่เชื่อว่าจะมีสิ่งใดใดที่ไม่อาจแก้ได้ต่อให้เป็นมนตราที่แข็งแกร่งที่สุดเราก็ยังมีพ่อมดทั้งเจ็ดคอยช่วยเหลือ"

เมื่อได้ยินผู้เป็นนายตัดสินใจแล้ว  เขาที่เป็นบ่าวจะขัดอะไรได้  จำต้องเก็บงำความกังวลเอาไว้แล้วรีบทำงานตามที่ได้รับมอบหมายจนเสร็จ  แล้วจูงม้ามาให้ผู้เป็นนายขึ้นขี่  นายของเขาคงถูกใจคนผู้นี้มากทีเดียวแม้ตอนขึ้นม้ายังไม่ยอมปล่อยตัวให้เขาช่วยอุ้ม  หวังว่าคนผู้นี้คงไม่นำความยุ่งยากมาให้นายเหนือหัวเขาหรอกนะ

เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย  ทั้งคู่ก็ควบม้าออกจากโพรงเขา  และต้องแวะพักให้น้ำแก่ม้าบ้าง  แต่ต่อให้รีบเร่งเพียงใดก็ไม่สามารถออกจากป่าได้ก่อนพลบค่ำเพราะมีสัตว์ป่ามากมายขวางทางเอาไว้  จนใกล้ค่ำเหล่าสัตว์ป่าจึงยอมล่าถอยออกไปบ้าง  ฝ่ายทหารคนสนิทจึงเอ่ยปากแนะนำให้พักข้างริมธารก่อน  โครอสเองก็เห็นว่าเย็นมากแล้วจึงตัดสินใจพักก่อนเพราะร่างบางที่เขาอุ้มมายังหลับไม่ฟื้นแม้ว่าเขาจะลงแรงฟาดฟันสัตว์ป่าเสียงดังแค่ไหนก็ตาม  คงเพราะเจ้าตัวจับไข้...เขาคงต้องปลุกมาหาอะไรรองท้องหน่อย  เมื่ออลันก่อไฟและเตรียมอาหารเสร็จโครอสก็ปลุกร่างบางที่นอนอยู่  ไอร่าลืมตาช้าๆกระพริบตาขับไล่ความง่วงงุน  เมื่อเห็นว่าใครอยู่ตรงหน้าก็ดิ้นหนีทันที

" อย่าดิ้นสิ  เกิดตกไปจะเจ็บตัวเปล่าๆ"

โครอสว่าแล้วกระชับอ้อมกอดแน่นก่อนจะฉวยโอกาสท่่ีแก้มนวลข้างหนึ่ง  เขารอจนอีกฝ่ายดิ้นจนพอใจก็ชักชวนอีกฝ่ายให้ทานอาหาร  แต่คนตรงหน้าช่างดื้อดึงเอาแต่เม้มปากแล้วทานเพียงแค่น้ำเปล่าและซุปร้อนนิดหน่อยก็หลับไปอีก  เมื่อเห็นอีกฝ่ายหลับไปแล้วโครอสจึงจัดแจงให้อีกฝ่ายนอนดีๆ  ส่วนตัวเองก็นอนกอดเคียงข้างกัน

กลางดึกเมื่อดวงจันทร์ลอยสู่กลางฟ้า  ไอร่าลืมตาเหลือบมองรอบๆ  คนข้างตัวเขาหลับไปแล้ว  ส่วนอีกคนไม่รู้ไปไหน  ไอร่าขยับตัวช้าๆลุกเดินไปที่ม้าที่ผูกเอาไว้ใกล้ริมน้ำ  ไอร่าเดินเสียงเบาปลอบขวัญม้าทั้งสองแล้วปลดเชือกล่ามออกก่อนขึ้นม้ากระตุ้นให้ม้าวิ่งกลับไปทางเดิม  ม้าสองตัววิ่งคู่กันไปตามที่ถูกฝึก  เมื่อวิ่งไปซักระยะไอร่าทิ้งม้าและเดินไปอีกทางตามทิศตะวันออกเฉียงเหนือดินแดนของอีกฝ่ายและพี่ชายที่ออกตามล่าเขา  ไอร่าไม่คิดจะกลับบ้านเพราะอีกฝ่ายรู้จักบ้านเขาแล้ว  ถ้าฝ่ายนั้นอยากตามตื้อก็คงกลับไปที่นั่น  ไอร่าคงต้องหาถ้ำอยู่ไปก่อนแล้วหาที่ซ่อนตัวใหม่ให้ไกลห่างจากผู้คนและอยู่คนเดียวอีกครั้ง 

ร่างบางเดินตามดวงดาวและแสงจันทร์  พยายามเดินเลียบลำธารแต่ไม่ใกล้มากนัก  เขาเดินไปทางตะวันออกเฉียงเหนือเรื่อยๆอย่างอ่อนแรงและเหนื่อยล้า  ในที่สุดเขาก็ถึงถ้ำเล็กๆจนได้  ไอร่าไม่กลัวสัตว์ป่าหรืองูพิษไม่เคยมีสัตว์ตัวใดทำร้ายเขา  สิ่งที่จะทำร้ายเขาได้มีเพียงมนุษย์เท่านั้น  ไอร่าซุกตัวกับผนังถ้ำด้วยความอ่อนเพลีย  ตื่นมาเขาคงต้องหาที่หลบซ่อนที่ใหม่
.
.
.

ด้านโครอส  เขาตื่นมาตั้งแต่ที่คนข้างๆขยับตัวแล้ว  แต่อยากรู้ว่าคนๆนี้จะหลบหนีเขาไปอย่างไรมากกว่า  น่าแปลกที่ม้าสองตัวของเขากลับเชื่อฟังร่างบางอย่างว่าง่าย  มันไม่ส่งเสียงร้องเลยซักนิด  แถมยอมให้อีกฝ่ายขึ้นขี่แต่โดยดีก่อนจะเดินไปตามทางเดินเก่าที่จากมา..คงตรงกลับบ้าน  โครอสคิด  ถ้าอีกฝ่ายคิดง่ายๆแบบนั้นคงน่าเบื่อแย่แต่ก็ดีจะได้จับกลับมาง่ายหน่อย  โครอสนั่งรอพลางสุมไฟ  ไม่นานอลันก็เดินกลับมาพร้อมม้าทั้งสองตัว

" เขาทิ้งม้าไว้กลางทางเดิมที่กลับบ้าน  แล้วเดินเลียบลำธารไปทางตะวันออกเฉียงเหนือแทน"

โครอสรับฟังแล้วยกยิ้มเล็กน้อย  ถ้าเป็นคนอื่นคงวิ่งไปทางทิศเหนือไม่ก็ตะวันตกให้ไกลจากอีกฝ่าย  แต่คิดจะอยู่ใกล้ถิ่นศัตรูสินะ  ที่ๆปลอดภัยที่สุดคือที่ๆอันตรายที่สุด

โครอสหัวเราะอย่างพอใจไม่น่าเชื่อว่าคนที่อยู่กลางป่าจะคิดได้แบบนี้  คนงามของเขาคงต้องมีคนคอยสั่งสอนมาก่อนแน่  และลักษณะเจ้าตัวเองก็รู้ได้ว่าคงไม่ใช่ชาวบ้านทั่วไป  อาจเป็นลูกกษัตริย์แดนเหนือที่หลบหนีมาจากสงครามล้มบัลลังค์ครั้งก่อนหรืออาจจะเป็นเชลยข้ามแดนก็ได้  เอาเถอะไม่ว่าอีกฝ่ายจะมีที่มาอย่างไร  แต่ต่อไปนี้แมวป่าของเขาจะอยู่ในฐานะคู่นอนที่จะอยู่บนเตียงรอเขาตลอดไป

โครอสลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว  เขากระตุ้นม้าให้ออกเดินไปตามลำธารทางทิศตะวันออก  เขาปล่อยม้าให้เดินไปเรื่อยๆไม่เร่งรีบ  จนตะวันใกล้ขึ้นเหนือยอดเขา  เขาเจอถ้ำเล็กๆไม่ไกลจากลำธารมาก  เห็นแมวป่าของตนขดตัวซุกอยู่กับผ้าคลุมของเขา  ผ้าคลุมสีน้ำเงินเข้มดูตัดกับผิวขาวจนยิ่งขับให้ใบหน้าหวานชวนมองยิ่งขึ้น..แต่มันคงน่ามองกว่านี้ถ้าเป็นสีแดง  โครอสลงจากม้าอย่างเงียบเชียบ  ก่อนเข้าไปกอดแมวป่า  เวลานอนช่างไม่ต่างจากแมวน้อย..ช่างว่าง่ายนัก 

อลันเห็นคนเป็นนายกอดร่างเล็กก็ถอนหายใจ  เจ้านายของเขาคงหลงคนตรงหน้ามากแล้วละมั้ง  เล่นกอดไม่ปล่อยขนาดนี้  เขาเลยได้แต่เดินตรวจตรารอบๆป้องกันระวังภัยให้เจ้านายยามพักผ่อนกับแมวป่าตัวโปรดตัวใหม่  กลับเข้าปราสาทคราวนี้เขาคงได้ยินเสียงโวยวายจากปราสาทฝั่งตะวันตกเป็นแน่  คิดแล้วปวดหัวแต่นายของเขาคงจัดการได้ล่ะนะ



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-09-2013 19:01:53 โดย teatimes »

ออฟไลน์ teatimes

  • ไม่อยากให้เปลี่ยน...... เพราะแค่นี้ก็ดีพอแล้ว
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-1
 >>  ต่อ  <<



ความร้อนจากพิษไข้ทำให้ไอร่ารู้สึกกระสับกระส่ายจนต้องขยับตัวตื่น

" ...อยู่นิ่งๆสิเจ้าแมวป่า"  เสียงทุ้มกึ่งง่วงงุงดังขึ้นที่ข้างหู  ไอร่ารีบผลักคนที่กอดตนออก  แต่ยังไม่ทันได้ร้องบอกให้คนชั่วปล่อยตัว  ไอร่าก็ไอเสียงแห้งออกมาก่อน

ตอนนี้คอของไอร่าเจ็บไปหมด  มันทั้งเจ็บและแห้งผาก  และยิ่งเขาไอมากเท่าไหร่อาการเจ็บคอก็ยิ่งมากขึ้น  ร่างบางไอจนตัวโยนทำให้โครอสที่กอดอีกฝ่ายอยู่ต้องยื่นน้ำส่งไปให้  แต่ไอร่ากลับปัดมันทิ้งแล้วไอจนตัวโยนอยู่พักใหญ่กว่าจะหยุดลงได้

" ตัวเจ้าร้อนอย่างกับไฟ  ข้าจะพาเจ้ากลับปราสาทแล้วตามแพทย์หลวงมารักษาให้"  โครอสกล่าวแล้วทาบฝ่ามือบนใบหน้างาม  ที่บัดนี้แดงก่ำด้วยพิษไข้

" ข้า.. ไม่ไป.. " 

" อลันเจ้ากลับปราสาทไปก่อน  แล้วสั่งให้แพทย์หลวงรอข้าที่ห้องนอนใหญ่"  โครอสสั่งการทหารคนสนิทที่พอได้รับคำสั่งก็ขึ้นม้าแล้วตรงกลับปราสาททันที

" ข้าไม่ไป..  เจ้าจะกลับปราสาทก็กลับไปคนเดียว"  เสียงของไอร่าแหบแห้ง  แค่พูดไม่กี่คำเขาก็เจ็บคอจนไม่อยากพูดอะไรอีก

โครอสไม่สนใจอาการดื้อเพ่งของเจ้าแมวป่า  เขาชินแล้วกับนิสัยของสัตว์จำพวกแมวที่หยิ่งทะนงและดื้อรั้น  โครอสรวบเอวผอมบางของอีกฝ่ายเข้ามาแล้วประกบจูบ  เขาจูบอย่างละเมียดละไมเพื่อลิ้มชิมรส  ริมฝีปากหนาขบเม้มริมฝีปากที่แห้งผากทั้งบนและล่างจนชุ่มช่ำ  เจ้าแมวป่วยที่บัดนี้แรงน้อยเสียยิ่งกว่าน้อย  พยายามร้องท้วงแต่เสียงที่ออกมามีเพียงเสียงลมเท่านั้น

" ถ้าเจ้ายังดื้อดึง  ข้าจะทำให้เจ้าได้เห็นว่าข้าปราบพยศแมวป่าอย่างไร  เจ้าคงจำค่ำคืนที่ผ่านมาของเราได้ใช่หรือไม่"  โครอสกระซิบข้างหูเมื่อถอนริมฝีปากออก 

ไอร่าเม้มปากแน่น  ถ้าเขาต้องออกไปอยู่กับคนชั่วผู้นี้  สู้เขาจบชีวิตลงที่ป่าแห่งนี้เสียยังจะดีกว่า  มันคงดีกว่าการที่เขาต้องไปเผชิญหน้ากับผู้คนที่อยู่นอกป่าและเสี่ยงต่อการตามล่าของไอเรสที่มันคงนำความทรมานมาให้เขายิ่งกว่า

" ..ข้าอยากกลับไปเอาของที่บ้าน  มันเป็นของดูต่างหน้าของมารดาข้า" 

" ถ้าเป็นดาบสั้นของเจ้า  ข้านำมันมาแล้ว  ข้าจะพาเจ้าขึ้นม้านะคนงาม"

โครอสยื่นดาบสั้นหมายจะส่งดาบคืนสู่เจ้าของ  แต่ดาบสั้นยังไม่ทันยื่นถึงมือผู้เป็นนาย  เขากลับเห็นประกายตาสีน้ำตาลคู่งามสั่นไหวและฉายแววมุ่งมั่นบางอย่าง  โครอสเก็บดาบเข้าเอวและบดขยี้จูบจูบอย่างรุนแรงจนไอร่าตั้งตัวไม่ทัน

" อื้อ!!!"

โครอสจูบอย่างหนักหน่วงและรุนแรง  จนปากเล็กๆนั้นเลือดออกซิบ  เขาจูบอย่างรุนแรงดิบเถื่อน  มันไม่ได้เป็นจุมพิตที่เต็มไปด้วยเสน่หาอย่างเมื่อครู่  แต่จูบนี้เป็นการสั่งสอนคนตรงหน้าว่าอย่าได้คิดหนีจากเขาเป็นอันขาด

" เจ้าจงอย่าได้คิดว่าความตายเป็นการแก้ปัญหาของเจ้า  หากเจ้าคิดทำสิ่งใดกับร่างกายนี้  ข้าจะทำให้เจ้ารู้ว่าการตายทั้งเป็นนั้นทรมานมากเพียงใด"

ดวงตาสีเทาฉายกระกายวาวโรจน์ด้วยความโกรธ  ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าเจ้าแมวป่าคิดอะไร  มีสตรีหลายคนที่ถูกบังคับส่งตัวมา  บางคนเป็นเจ้าหญิงที่ส่งมาเพื่อเป็นเครื่องมือทางการเมือง  บางคนเป็นของบรรณาการที่ถูกส่งมาบำเรอเขา  คนที่ทนอยู่อย่างทนทุกข์ไม่ได้ก็จบชีวิตตัวเองลงด้วยการฆ่าตัวตาย  ซึ่งโครอสไม่ใส่ใจสตรีเหล่านั้น  เขายังมีสตรีอีกมากมายที่เต็มใจรอคอยอยู่ที่ปราสาทฝั่งตะวันตก  และมีสตรีอีกมากมายที่พร้อมจะเข้ามาหาเขาเสมอ  แต่กับคนตรงหน้าเขาจะไม่ยอมให้ความตายมาพรากอีกฝ่ายไปเด็ดขาด  ต่อให้เป็นเจ้าเองก็ไม่มีสิทธิที่จะทำร้ายสมบัติของเขา 

โครอสดึงกระชากเสื้อของอีกฝ่ายออก  ผิวกายขาวเนียนบัดนี้มีรอยแดงมากมายจากการทำรักเมื่อคืนวานเผยให้เห็นออกมา  โครอสขบกัดต้นคอขาวเต็มแรงจนเลือดออก

" ร่างกายนี้เป็นของข้าและมีเพียงข้าเท่านั้นที่จะสามารถทำให้มันเป็นรอยได้"  โครอสกระชากเสียงใส่ก่อนจะย้ายไปขบกัดที่อื่นต่อจนผิวขาวบอบบางห้อเลือด 

ในที่สุดมือหนาก็ดึงรั้งกางเกงของอีกฝ่ายออกตามด้วยเสื้อผ้าของตนเองก่อนสวนกายเข้าไปในช่องทางคับแคบอย่างรุนแรงโดยไม่มีการเตรียมการทั้งๆที่นั่งอยู่  โครอสพักหลังกับผนังถ้ำแล้วยกสะโพกกลมให้ขยับขึ้นลงตามแรงกระแทกจากตัวเขา  ไอร่าเริ่มร้องไห้อีกครั้ง  ปากบางเม้มแน่นอย่างข่มกลั้นเสียงจากความเจ็บปวดที่กำลังได้รับ  คนผู้นี้เห็นเขาเป็นอะไรกัน  เป็นเพียงสมบัติไร้ชีวิตที่จะใช้กระทำสิ่งใดก็ได้หรืออย่างไร  ร่างบางพยายามสะกดกลั้นน้ำตาเขาจะไม่ร่ำไห้ให้กับคนชั่วช้าแบบนี้  แต่ยิ่งเขาอดกลั้นอีกฝ่ายกลับยิ่งรุนแรงจนเขาต้องร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

" จำไว้ให้ดีนะคนงาม  ถ้าเจ้าคิดทำร้ายตนเอง  ข้าจะทำให้เจ้าเจ็บปวดมากกว่านี้!"

โครอสขู่คำรามแล้วผลักร่างบางให้นอนลงก่อนขยับกายอย่างรุนแรงหมายจะทำให้คนตรงหน้าจดจำความเจ็บปวดนี้ไว้  ร่างแกร่งขยับกายอยู่นานจนเมื่อถึงจุดสิ้นสุด  เขาสวนกายอย่างรุนแรงจนร่างบางต้องร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด  เขาปิดปากได้รูปนั่นด้วยปากตนเองก่อนปลดปล่อยออกมาในที่สุดท่ามกลางเสียงครางกรีดร้องในลำคอ  โครอสถอนกายออกก่อนนำเสื้อของอีกฝ่ายเช็ดคราบขาวขุ่นปนเลือดสดที่ไหลออกมาไม่หยุดอย่างลวกๆ  ก่อนจัดแจงสวมสวมผ้าของตนเองแล้วคลุมผ้าให้ร่างบางที่บัดนี้นอนร้องไห้ออกมาอย่างไม่มีเสียง

โครอสช้อนร่างเจ้าแมวป่าขึ้นม้าแล้วควบม้ากลับปราสาท  ด้วยความโมโหที่บังตาทำให้เขาไม่ใส่ใจความเจ็บปวดของอีกฝ่าย  ไอร่าที่ตอนนี้เจ็บปวดร่างกายไปทั่วราวกับร่างกายจะแตกสลาย  แผลที่คอเขาเลือดหยุดไหลไปแล้วแต่มันก็ยังปวดหนึบ  ร่างกายทั่วทั้งตัวร้อนรุ่มด้วยด้วยพิษไข้  หนำซ้ำด้านล่างก็ยิ่งเจ็บปวดมากขึ้นจากแผลเก่าที่ยังไม่หายดีแต่กลับเป็นแผลฉีกขาดมากขึ้นไปอีก 

ไอร่าพยายามฝืนลืมตาตื่นทั้งที่ร่างกายกำลังประท้วงให้สลบไปเพื่อหนีจากความเจ็บปวด  แต่ตอนนี้เขาออกมานอกชายป่าแล้ว  ทั้งท่านลุงและท่านป้ากำชับหนักหนาว่าอย่าค้างแรมนอกป่า  เพราะมนตราของไอเรสจะสูงขึ้นยามอาทิตย์ตกดิน  การค้างแรมนอกป่าอาจสุ่มเสี่ยงต่อการถูกตามหาจนพบ  ไอร่าพยายามจิกแขนตนเองแต่เขาก็เริ่มล้าจนแทบจะฝืนร่างกายต่อไปไม่ไหว  ทำให้ภาพตรงหน้าเริ่มพล่าเลือนสติเขากำลังจะหลุด...

โครอสควบมาออกจากป่าโดยไม่มีการหยุดพักและขี่ผ่าฝูงชนจนแตกกระเจิง  บางคนที่เก็บข้าวของหลบไม่ทันก็ได้แต่ทิ้งของไว้แล้วกระโจนหลบเข้าข้างทาง  แต่ก็ไม่มีใครกล้าก่นด่าเพราะเพียงแค่เห็นผ้าคลุมสีน้ำเงิมเข้มอันเป็นสัญลักษณ์ของกษัตริย์แดนตะวันออกที่ดุร้ายเอาแต่ใจ  แต่ละคนก็หุบปากเงียบ  แต่แม้ว่ากษัตริย์ของพวกตนจะเอาแต่ใจไปบ้างแต่การบริหารประเทศก็เป็นไปด้วยดี  และถึงแม้พระองค์จะปกครองประชาชนด้วยความเฉียบขาด  แต่ก็เป็นองค์กษัตริย์ที่เอาใจใส่ประชาชนมากกว่าจะเห็นแก่เหล่าขุนนางที่เอาแต่ฉ้อราษฎร์บังหลวงไปวันๆ  ดังนั้นการที่พระองค์มีนิสัยเยี่ยงนี้ประชาชนก็ยอมที่จะเอาหูไปนาเอาตาไปไร่บ้างก็ย่อมได้

ฝ่ายโครอสที่ควบตะบึงม้าจนมาถึงปราสาทก็ลงจากหลังม้า  พร้อมอุ้มคนในอ้อมกอดเดินผ่านสายตาสอดรู้สอดเห็นของเหล่าข้าราชบริพารอย่างไม่สนใจ  แม้แต่องค์ราชินีเองที่รอรับเสด็จพระองค์ที่เพิ่งกลับมาจากการประพาสป่ามนตรา 

พระนางนิมมาซินี  มองพระสวามีพระองค์อุ้มคนในอ้อมพระกรเดินผ่านพระองค์อย่างไม่ใยดีก็ได้แต่ปลอบพระทัยตนเองได้ว่า  ฝ่าบาทคงแค่ได้ของเล่นชิ้นใหม่กลับมาเท่านั้น  ไม่ว่าอย่างไรสุดท้ายฝ่าบาทก็จะกลับมาหาพระองค์อยู่ดี

" ให้หม่อนฉันไปตามดูดีหรือไม่เพคะว่าฝ่าบาทพาผู้ใดกลับมาด้วย"  เสียงนางสนองพระโอษฐ์ผู้ใกล้ชิดเอ่ยทูลถาม

" ไม่ต้อง  ฝ่าบาทคงแค่เห่อของเล่นเท่านั้น  ไม่ต้องไปใส่ใจ  กลับเข้าห้องกันเถอะ"

องค์ราชินีว่าแล้วออกเดินกลับไปยังปราสาทฝั่งตะวันตก  ปราสาทฝ่ายในที่เต็มไปด้วยนางกำนันและเหล่านางสนมมากมาย  บางคนเป็นลูกขุนนางผู้ใหญ่  บางคนเป็นหญิงชาวบ้าน  และบางคนเป็นเชลยต่างแดน  ผู้คนในปราสาทฝั่งตะวันตกแบ่งได้เป็นสองพวก  คือพวกที่ดิ้นรนที่จะอยู่เหนือพระองค์  และพวกที่อยู่อย่างเจียมตัวคอยหลบตัวเองอยู่อย่างเงียบๆไม่สนใจและไม่ช่วยเหลือในการต่อสู้แย่งชิงอำนาจ

พระองค์เดินผ่านเหล่าพระชายาและพระสนมที่มองพระองค์อย่างสนใจบ้าง  และมองด้วยสายตาทิ่มแทงบ้างที่พระองค์กลับมาอย่างรวดเร็วโดยไม่ได้รับการรับใช้ฝ่าบาทซึ่งเป็นสิ่งที่พระองค์เห็นจนเคยชิน  เหล่านางกำนันคนสนิทของบรรดาพระชายาบ้างหัวเราะปิดปากตามนายของตนที่คงกำลังเยาะเย้ยพระองค์อยู่เป็นแน่

" ฝ่าบาทเป็นอย่างไนบ้างเพคะ  องค์ราชินี  อุ๊ย..  แต่พระองค์คงไม่รู้กระมังเพคะเพราะเห็นว่าไม่ได้เอ่ยปากคุยแม้แต่ซักประโยค"  พระนางเนโอบี  พระชายาคนงามซึ่งเป็นธิดาของเสนากรมการคลังเอ่ย 

พระนางมองพระชายาที่ดีแต่รูปแต่ปากร้ายกาจผู้นี้ด้วยหางตาก่อนเดินผ่าน  ไม่จำเป็นที่จะต้องลดตัวไปเสวนาด้วย  ไม่ว่าอย่างไรพระองค์ก็เป็นพระมารดาขององค์รัชทายาท  ในเมื่ออีกฝ่ายมีแค่บุตรธิดาก็ไม่มีทางที่จะเทียบกับพระองค์ได้เด็ดขาด

" จงหยิ่งยะโสต่อไปเถอะองค์ราชินี  วันใดที่ข้าได้ให้กำเนิดพระโอรส  วันนั้นตำแหน่งราชินีที่เจ้าถือครองจะเป็นของข้า"  พระนางเนโอบีกล่าวตามหลัง

" ไมอา  เจ้าจงไปดูสิว่าฝ่าบาททรงได้ตัวอะไรมาจากป่ามนตรา  ถ้าเป็นมนุษย์จงรีบมาแจ้งแก่ข้า  ข้าจะได้ทำการตัดไฟเสียแต่ต้นลม"

" เพคะ" ไมอากล่าวรับแล้วเดินออกไปยังปราสาทส่วนกลางตามที่ได้รับมอบหมายงาน

พระนางเนโอบีมองนางกำนัลสาวใช้คนสนิทแล้วเดินกลับเขาที่พำนัก  พระองค์ต้องเคยกำจัดขวากหนามของพระองค์มาแล้วมากมาย  ไม่ว่าจะเป็นคนเก่าที่อยู่มาก่อนหรือคนใหม่ที่เพิ่งเข้ามา  ยิ่งผู้ใดที่มีสิทธิ์ที่จะตั้งครรภ์พระองค์ยิ่งต้องรีบกำจัด  เพราะนอกจากพระองค์แล้วยังมีพระชายาและพระสนมที่ให้กำเนิดพระโอรสมาแล้วห้าพระองค์  ไม่นับที่มีพระธิดาอีกแปดพระองค์รวมถึงพระองค์เอง  แต่แค่นี้พระองค์ก็ปวดหัวมากพอแล้วที่ต้องแก่งแย่งชิงดีตำแหน่งพระชายาอันดับหนึ่ง  ยังดีที่บุตรสาวของเสนากรมการปกครองสงบเสงี่ยมเจียมตัวไปบ้างเพราะบิดาของนางถูกสั่งประหาร  และถือเป็นโอกาสดีที่จะกำจัดอีกฝ่ายซะ  เพราะนางเพิ่งให้กำเนิดพระโอรสอายุเพียงสี่ชันษาเท่านั้น  เมื่อไม่มีคนคอยสนับสนุนทั้งตัวนางและพระโอรสที่ไม่มีคนปกป้องจึงเป็นเรื่องง่ายที่จะกำจัด  พระนางเนโอบีเริ่มวางแผนการในการกำจัดบุตรีของเสนากรมการปกครองและโอรสขององค์กษัตริย์อยู่ภายในห้อง  ขณะกำลังรอฟังข่าวจากสาวใช้ที่กำลังไปสืบจากปราสาทกลาง

โครอสอุ้มพาร่างบางไปจนถึงห้องบรรทมใหญ่  ที่ซึ่งอลันและแพทย์หลวงกำลังรออยู่หน้าห้องบรรทม  เมื่อเห็นองค์ราชาเสด็จทุกคนต่างก้มถวายความเคารพและรอให้อลันเป็นฝ่ายเปิดประตูห้อง  รอจนโครอสวางคนไข้ลงบนที่นอน  แพทย์หลวงก็ขยับตัวเข้าใกล้เพื่อทำการตรวจ

" อย่า..  ไม่เอา.."

ไอร่าที่รู้สึกได้ว่ามีผู้คนมากมายมารุมล้อม  คว้าผ้าคลุมที่ห่อตัวมาปิดบังใบหน้าของตนไว้  แล้วก้มหน้าลงซ่อนตัวกับโครอสที่นั่งอยู่ข้างๆ

" ข้าแค่จะให้แพทย์หลวงตรวจอาการให้เท่านั้น  เจ้าไม่ต้องกลัว"  โครอสกล่าวปลอบใจเจ้าแมวป่าที่บัดนี้ดูเหมือนจะว่าง่ายจนยอมขดตัวเข้ามาใกล้  ทำให้ความโกรธเคืองเมื่อครู่บรรเทาลงไปมาก

" ไม่ต้อง..  ข้าไม่อยาก..ให้ใครเห็นใบหน้านี้" 

โครอสมองคนที่พูดเสียงแหบแผ่วจนเหมือนเสียงกระซิบ  ปกติไม่ว่าสตรีหรือบุรุษใดที่มีใบหน้างดงาม  มักอยากอวดโฉมรูปลักษณ์ตนเองให้เป็นที่กล่าวขวัญ  แต่คนงามตรงหน้าเอาแต่ปิดบังใบหน้าตนเองจนยอมอยู่แต่ในป่าลึก  ทำไมกัน

" ถ้าแค่ยื่นมือออกไปคงไม่เป็นไรกระมัง"  โครอสกล่าวแล้วพยายามดึงมือของอีกฝ่ายออกจากผ้าคลุม

" อย่า..  ได้โปรดเถอะ  ปล่อยข้าไว้  แบบนี้..ก็ได้.. " ไอร่าพยายามเค้นเสียงบอกแล้วใช้แรงอันน้อยของตนเองดึงมือกลับเข้าใต้ผ้าคลุม  ก่อนขดตัวเข้าหาอีกฝ่ายมากขึ้น

" หมอหลวงเจ้ามีอะไรจะถามก็ว่ามา  ข้าจะเป็นคนบอกอาการของเขาเอง"

แพทย์หลวงและเหล่าผู้ช่วยลอบมองตากัน  ก่อนเป็นแพทย์หลวงที่ต้องจำใจซักคำถามจากพระโอษฐ์ของกษัตริย์หนุ่ม  แพทย์หลวงต้องลอบกลืนน้ำลายหลายครั้งเมื่อสุ่มถามอาการซ้ำบางคำถาม  มีอย่างที่ไหนให้คนไม่ป่วยเป็นฝ่ายบอกอาการ  ส่วนคนที่นอนป่วยก็เอาแต่หันหลังให้คนเป็นหมอ  แต่ยังดีที่คราวนี้ฝ่าบาทของเขาดูจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษจนยอมตอบคำถามซ้ำซากบางข้อ  คงเป็นเพราะพระองค์เอาแต่มองและลูบกายคนที่อยู่ภายใต้ผ้าคลุมจนไม่สนใจหมอหลวงเท่าไหร่

" กระหม่อมจะจัดโอสถกับยาทาแผลมาให้พะยะค่ะ  ถ้าคนป่วยมีไข้ก็คอยหาผ้ามาซับเช็ดตัวก็พอ"  แพทย์หลวงกล่าวต่อโครอส  ที่ตอนนี้โบกมือไล่หมอหลวงให้ไปเตรียมยาได้

" อลัน  เจ้าไปตามลีเดียและนางกำนันมาคอยดูแลเจ้าแมวป่าตัวนี้  ส่วนเลนีเมียที่อยู่ในอัญมณีก็พาไปเล่นกับลิงซ์ก่อน"

" พาไปเล่นหรือพาไปตบตีกันแน่  กระหม่อมว่าพาเลนีเมียไปพักไว้ที่ห้องสัตว์ทรงเลี้ยงก่อนดีหรือไม่พะยะค่ะ"

" ตามใจเจ้าแล้วกัน"  อลันกรอกตาแล้วเดินออกมาจากห้อง  นายของเขามัวแต่สนใจแมวป่าจนไม่เป็นอันทำอะไรอีกแล้ว

อลันเดินไปตามลีเดียแม่ของตนหรือก็คือพระนมของฝ่าบาทก่อนแจกแจงรายละเอียดงานให้ฟัง  แล้วเดินไปปล่อยเลนีเมียสิงโตหิมะเข้าห้องขังก่อนสั่งให้คนหาอาหารและน้ำมาให้

เมี๊ยว  เมี๊ยว 

เสียงของลิงซ์  แมวแสงจัทร์สีดำตัวเท่าเสือดังขึ้นจากด้านหลัง  มันมองตามเลนีเมียที่อยู่ในกรงด้วยแววตาหยิ่งยะโสก่อนสะบัดหน้าเดินจากไป

" ฝ่าบาททรงประทับกับของเล่นชิ้นใหม่เจ้าอย่าเพิ่งเข้าไปกวนดีกว่า"  อลันบอกลิงซ์ที่พอได้ยินว่าเจ้านายของตนมีของเล่นใหม่ก็ขู่ฟ่อใส่เขาก่อนเดินกลับเขาห้องของมัน

" ช่างเอาแต่ใจทั้งนายและสัตว์เลี้ยงจริงๆ"  อลันหวังว่าคราวนี้มันคงไม่อดอาหารประท้วงอีกนะ  แต่ดูแล้วคงเป็นไปได้ที่มันจะยอมอดข้าวมากกว่า

โครอสที่ตอนนี้ยังคงอยู่กับเจ้าแมวป่าที่ขี้อ้อนมากกว่าปกติ  เพราะเจ้าตัวไม่ยอมออกมาจากผ้าคลุมเลยแม้แต่น้อย  สิ่งพอมีเสียงคนเข้ามาใกล้ก็ยิ่งเบียดกายเข้าหาตัวเขา  ถ้าไม่ติดว่าอีกฝ่ายป่วยหนักเขาคงห้ามใจตนเองไม่ไหว  โครอสรับยามาจากแพทย์หลวงก่อนยื่นส่งต่อไปให้คนที่นอนอยู่  ไอร่าจิบยาอย่างว่าง่ายเมื่อตอนที่อีกฝ่ายประคองเขาขึ้นแล้วจ่อชามยาไว้ที่ริมปาก  ไอร่าไม่รู้รสเลยว่าสิ่งที่ตนดื่มอยู่คืออะไรและมีรสชาติอย่างไร  คอเขาขมไปหมด  จมูกก็เริ่มไม่รับรู้กลิ่นใด  ยิ่งรวมกับการฝืนทนตื่นอยู่เขาก็แทบไม่รับรู้สิ่งใดอีก

" จะให้ข้าเรียกเจ้าว่าอะไรดี  คนงาม"  โครอสกล่าวถามเมื่อเห็นคนที่ตอนนี้ดูง่วงงุนอย่างหนัก  แต่ยังพยายามฝืนลืมตาตื่น

" ไอร่า  ...ไอร่า  ไดแอน..  ไซธีรา..." 

ร่างบางเอ่ยพึมพัมก่อนที่ดวงตาคู่งามจะปิดลงในที่สุดด้วยทนฤทธิ์ยาไม่ไหว  เขาตอบออกไปอย่างไม่รู้ตัว  ตอนนี้สติของเขาล่องลอยจนไม่อาจแบ่งแยกความฝันและความจริงได้อีกต่อไป

ฝ่ายโครอสที่ได้ยินชื่อของอีกฝ่ายก็ยกยิ้มอย่างพอใจ  เจ้าตัวเป็นเชื้อพระวงศ์จริงเสียด้วย  น่าเสียดายที่พระองค์ติดสัญญาสงบศึกกับแดนเหนือไม่เช่นนั้นเขาคงได้ใช้ประโยชน์จากคนงามในการทำศึก  เพราะไม่ว่าอย่างไรเสียการที่เจ้าชายของกษัตริย์องค์ก่อนต้องหนีหัวซุกหัวซุนเข้าป่าก็ย่อมมีความแค้นต่อกษัตริย์ไอเรสอยู่บ้าง  แต่ไม่เป็นไร..เขายังมีเวลาอยู่กับเจ้าแมวป่าอีกนาน  ในเมื่อใช้อีกฝ่ายในการทำศึกไม่ได้  ถ้าอย่างนั้นก็มาเป็นของเล่นอยู่บนเตียงเขาไปก่อนก็แล้วกัน  โครอสมองคนป่าที่เป็นถึงเจ้าชายแห่งแดนเหนืออย่างหมายมั่น  ก่อนก้มลงจูบหน้าผากมน

เสียงเคาะประตูดังขึ้นทำให้โครอสยอมละออกมาก่อนที่จะได้สัมผัสกับริมฝีปากบาง  เมื่อเขาอนุญาติให้คนข้างนอกเข้ามาก็พบว่าเป็นลีเดียกับนางกำนัลสามสี่คน  โครอสลุกออกมาจากที่นอนแล้วปล่อยให้เหล่านางกำนัลทำความสะอาดร่างกายให้ไอร่า  ส่วนตัวเองก็ออกไปชำระกายที่ห้องสรงใหญ่บ้าง  วันนี้โครอสชำระกายโดยไม่ร่วมรักกับใครในห้องสรง  ก่อนจะนอนข้างไอร่าที่ตอนนี้เนื้อตัวสะอาดส่งกลิ่นหอมจากน้ำอบที่ลีเดียคงใส่มาตอนเช็ดตัว  คราวหน้าเขาคงต้องถามเจ้าแมวป่าว่าใช้สมุนไพรชนิดใดตอนอาบน้ำเพราะเขาชอบกลิ่นเดิมของเจ้าตัวมากกว่า  โครอสกอดคนที่กำลังหลับสนิทแล้วเริ่มนิทราตามไปบ้าง


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-09-2013 18:42:20 โดย teatimes »

ออฟไลน์ teatimes

  • ไม่อยากให้เปลี่ยน...... เพราะแค่นี้ก็ดีพอแล้ว
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 682
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-1
>>  ต่อ  <<



ไอร่ากำลังฝันร้าย  ความฝันนั้นเหมือนจริงจนชวนให้หดหู่เศร้าหมองใจ  เขาฝันเห็นเคนนิสที่สิ้นใจด้วยการลงดาบของอลันบ่าวผู้ใจร้าย  ไม่ผิดไปจากความโหดเหี้ยมของคนที่เป็นนายเลยแม้แต่น้อย  ไอร่ากอดเคนนิสแล้วร้องไห้  ขอโทษต่อเคนนิสที่ตนเองไม่อาจปกป้องสหายรักไว้ได้  แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้พาร่างไร้วิญญาณของเคนนิสไปฝัง  ร่างของเคนนิสก็เปลี่ยนเป็นสีดำไหม้  รูปร่างจากหมาป่าขนสีน้ำตาลแปรเปลี่ยนเป็นคน  ร่างดำไหม้นั้นชี้นิ้วมาทางเขา

" นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้นไอร่า  เจ้าจะต้องพบความสูญเสียที่มากกว่านี้  เจ้าต้องเจอกับความทรมานที่สาหัสและเจ้าจะได้รับความเจ็บปวดและต้องอยู่อย่างทนทุกข์ยิ่งกว่าที่ข้าเคยเจอ!"

เสียงของพระราชีนีฮีร่าดังก้องเช่นเดียวกับตอนที่พระนางสาปแช่งพระองค์  ร่างการเปื่อยเน่าสีดำเริ่มมีบางส่วนหลุดลอกออกมาจนเห็นเนื้อด้านในที่เน่าเฟะ  ไอร่าหันหลังหนีให้กับร่างของราชินีฮีร่าเข้าบ้าน  แต่พอเมื่อเข้าไปเขาก็พบบุรุษที่ข่มแหงทำร้ายร่างกายเขา

" เจ้าหนีอะไรมาคนงาม  ไม่ต้องกลัวข้าจะปกป้องเจ้าเอง"

เสียงของผู้ที่บอกว่าตนคือกษัตริย์แห่งไฮพีเรียกล่าวขึ้นแล้วกอดเขาอย่างปลอบขวัญ  แต่ไม่นานคนตรงหน้าก็โน้มตัวลงมาจูบเขาอย่างรุนแรงแล้วผลักเขาลงบนที่นอน 

" เจ้าเป็นสมบัติของข้า..คนงาม  ข้าจะไม่ยอมให้ใครมาแตะต้องเจ้าและถ้าเจ้าต้องตกเป็นของผู้อื่นข้าจะทรมานเจ้าให้ตายทั้งเป็น!"

สิ้นเสียงขู่คำราม  คนตรงหน้าก็สวนกายเข้ามาในตัวเขาอย่างรุนแรง  ไอร่ากรีดร้องเสียงดังเมื่อความเจ็บปวดแล่นริ้วขึ้นมา  อีกฝ่ายกระแทกกายเข้ามาไม่ยั้ง  มือหยาบบีบคอเขาแน่นจนหงายแหงนแทบหายใจไม่ออก  เขาต้องพยายามสูดอากาศหายใจ  ไม่นานอีกฝ่ายก็ปล่อยมือออกจากลำคอ  สัมผัสที่ได้รับเริ่มเปลี่ยนเป็นนุ่มนวลเอาใจเขามากขึ้น  ไอร่าก้มมองหมายจะมองหน้าผู้ที่ขยับตัวอยู่ภายในกายเขา  แต่เขาก็ต้องตกใจจนหลั่งน้ำตาออกมาเมื่อคนที่อยู่เหนือกายเขาคือ  เสด็จพี่ของเขาเอง

" เสด็จพี่ไอเรส..."

ไอร่าเรียกขานชื่อของอีกฝ่ายราวกับว่าเขาคงแค่เรียกคนผิดไปเท่านั้น  แต่คนด้านบนกลับส่งรอยยิ้มใจดีอบอุ่นมาให้อย่างที่เคยเป็นมาในอดีต

" ไอร่าน้องรัก  ข้ารักเจ้า"

" ไม่!!!"  ไม่จริง!  นี่เป็นเพียงความฝัน  ฝันร้ายที่เหมือนจริงเท่านั้น  ไม่มีทางที่เสด็จพี่ของเขาจะคิดแบบนี้กับเขาเด็ดขาด

" ทำไม!  เจ้ารับไม่ได้หรือไรที่เป็นข้า  จงจำไว้ไอร่าต่อแต่นี้เจ้าจะต้องอยู่ข้างกายข้า  อยู่อย่างทุกข์ทรมานตามที่ข้าได้สาบานไว้!"  พระพักตร์ของเสด็จพี่ผู้ใจดีบัดนี้แปรเปลี่ยนเป็นบ้าคลั่งเหมือนจิตใจขององค์กษัตริย์ที่บิดเบี้ยว 

" และข้าจะทำลายทุกคนที่สัมผัสเจ้า  ดูสิไอร่าน้องรัก  จงเฝ้าดูคนที่เจ้ารักตายอย่างทรมานในเปลวเพลิง"  ไอเรสที่ตอนนี้ถอนตัวออกจากร่างของไอร่าดึงเขาให้ออกไปที่หน้าต่างห้องบรรทมที่เปิดให้เห็นร่างของโครอสที่ถูกทรมานจนแทบจำหน้าตาไม่ได้

" ดูให้ดีไอร่า  เพราะนั่นจะเป็นจุดจบของเจ้าเช่นกัน"  กษัตริย์ไอเรสเชยหน้าเขาขึ้นและล็อคคางไว้  เพื่อให้ตนมองกษัตริย์แห่งแดนตะวันออกถูกจุดไฟเผาที่ตะแลงแกงหลวง

" ไอร่า  คนงาม...  ข้ารักเจ้า"  เสียงของโครอสแผ่วเบาแต่เขากลับได้ยินชัดเจนก่อนที่เสียงนั้นจะเปลี่ยนเสียงโหยหวนของคนที่โดนไฟเผาให้ตายทั้งเป็น

" ไม่!!!"  ไอร่าตะโกนลั่น  ไอเรสปล่อยร่างของเขาลงให้ร่ำไห้อยู่ที่แทบเท้า  ทั้งที่เขาเกลียดคนผู้นั้นแต่ทำไมถึงต้องร่ำไห้ปานจะขาดใจ

ไอร่าร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดอยู่นานท่ามกลางเสียงร้องโหยหวนของโครอส  จนกระทั่งทุกอย่างเงียบสงัดไร้ซึ่งแม้แต่เสียงของเขาเองที่ยังคงหลั่งน้ำตาแม้จะไม่มีเสียงออกมาแล้ว  เขาเงยหน้ามองพี่ชายของเขาที่ยิ้มหยัน  ความเศร้าแปรเปลี่ยนเป็นความแค้น  ไอร่ากำดาบของพระมารดาไว้แน่นแล้วยกมันขึ้นแทงที่หน้าอกของพี่ชายตนเอง  กษัตริย์ไอเรสที่มองดูเขาอย่างดูถูกในฝีมือดาบอันอ่อนด้อยยอมปล่อยให้เขาหันปลายดาบใส่อยู่นาน  ในที่สุดไอเรสก็คว้ามือของไอร่าแล้วกระซิบที่ข้างหู

" เราไปสนุกกันต่อที่ห้องนอนดีหรือไม่  ไอร่าน้องรัก"

ไอเรสฉุดกระชากเขากลับห้องนอน  ถ้าเขาต้องร่วมรักกับพี่ชายตนเองเขาขอยอมตายดีกว่า  สิ้นสุดความคิดไอร่าสะบัดมือออกแล้วยกดาบหมายแทงที่หัวใจตนเอง  หัวใจที่บัดนี้ปวดร้าวและแตกสลายจากการจากไปของกษัตริย์แดนตะวันออก  แต่ไม่ทันที่ดาบจะถึงตัว  ไอเรสก็ยึดมือเขาไว้ก่อนลากเขาไปยังตะแลงแกงเผาไฟที่ยังคงมีร่างของคนที่เพิ่งถูกเผาติดอยู่  ไอร่าถูกจับมัดให้หันหน้าเขาหาศพของคนที่เขาร่ำไห้อย่างเจ็บปวด  กลิ่นเนื้อไหม้ลอยอวลไปทั่วแต่เขาไม่รังเกียจร่างตรงหน้าแม้แต่น้อย  เขาแนบริมฝีปากกับร่างตรงหน้าอย่างโหยหา

...อีกไม่นานเราจะได้อยู่ด้วยกัน

...จบสิ้นความทรมานนี้แล้ว  เราจะได้อยู่ด้วยกันตลอดไป

ไอร่าจะถูกมัดอยู่กับศพของโครอสอยู่สามวันท่ามกลางลมหนาวแห่งแดนเหนือ  และเหล่าผู้คนที่ต่างพากันปาหินรวมทั้งสิ่งของต่างๆใส่เขาจนเลือดออก  ตัวเขาเองก็พยายามปกป้องร่างกายของอีกฝ่ายไว้แม้คนตรงหน้าจะไร้ซึ่งความรู้สึกไปแล้ว  แต่เขาจะไม่ยอมให้ใครมาหยามเกียรติคนตรงหน้าอีก 

ในที่สุดวันที่แสนทรมานก็ผ่านพ้นไปกษัตริย์ไอเรสเดินเข้ามาหาและปลดเขาลงจากขื่อแขวน  ไอร่าที่ไร้ซึ่งเรี่ยวแรงได้แต่ทิ้งตัวลงที่เท้าของไอเรส

" ถ้าเจ้าร้องขอ  ข้าอาจปล่อยเจ้าไปนะไอร่าน้องรัก"

ไอร่าไม่ตอบสิ่งใดออกไป  เขาไม่เหลือแรงพอที่จะทำอะไรได้อีกแล้ว  เขาได้แต่มองหน้าไอเรสด้วยวาวตาว่างเปล่า  กษัตริย์ไอเรสก้มลงจุมพิตเขาเป็นครั้งสุดท้าย  ก่อนเดินลงไปสั่งทหารให้ราดน้ำมันจุดไฟเผา 

ไอร่ามองเปลวเพลิงที่ค่อยๆลามเลียเข้ามาจนถึงตัวเขา  ใช้เวลาไม่นาน..เมื่อลมหนาวพัดมากองไฟก็โหมแรงขึ้น  เปลวไฟเริ่มเผาไหม้ร่างกายเขามันแสบร้อนจนเขาต้องกรีดร้องออกมา  แม้เสียงที่ออกมาจะมีเพียงเสียงลมแต่ความเจ็บปวดมันกลับทรมาน..ทรมานมากจนเขาแทบรับไม่ไหวแต่เขาก็ยังไม่ตาย  เขาได้แต่มองร่างของคนที่ถูกแขวน  รอเวลาที่ชีวิตเขาจะจบลงและได้อยู่กับคนที่ตนรักเสียที...



ไอร่าสะดุ้งตื่นจากฝันร้าย  ร่างบางเหงื่อโทรมกายเขารู้สึกว่าความเจ็บปวดนั้นสมจริงมากเกินกว่าจะเป็นความฝัน  กลิ่นเนื้อไหม้ของตนเองยังคงลอยอยู่ที่ผิวหนังของเขา  มันติดจมูกจนเขาต้องรีบก้าวลงจากเตียงแล้วสำรอกอาเจียนออกมา

โครอสที่ตื่นตามคนข้างตัวต้องเข้าไปช่วยลูบหลังในอีกฝ่ายที่อาเจียนออกมาไม่หยุด  ปากตะโกนสั่งคนข้างนอกให้ไปตามแพทย์หลวงเข้ามา  เขามองร่างคนงามที่ตอนนี้ยังคงอาเจียนอยู่แม้จะไม่มีอะไรออกมาแล้วก็ตามที

" ดื่มน้ำล้างคอหน่อยนะ"  โครอสรั้งคนงามของตนเขามากอดปลอบขวัญ  ไอร่าที่ตอนนี้ตัวสั่นด้วยความกลัวเริ่มสะอึกสะอื้นกอดคนตรงหน้าไว้แน่น

" เจ้าแค่ฝันร้ายเท่านั้น  มันไม่ใช่เรื่องจริง  เจ้าไม่ต้องกลัว"  โครอสกล่าวแล้วเชยหน้าเจ้าแมวป่าที่ตอนนี้ตาแดงก่ำและมีหยดน้ำตาไหลออกมาไม่ขาดสาย

" มัน..เหมือนจริงมาก..  มันไม่ใช่ฝันร้าย  มันเป็นลางบอกเหตุ"  ไอร่าสะอื้นฮัก  เขาพูดเสียงแหบแห้ง  ความหวาดกลัวจากความฝันทำให้ไอร่าอยากหาที่พึ่งจนต้องกอดคนตรงหน้าไม่ปล่อย

" เจ้าฝันว่าอะไรกัน"  โครอสเอ่ยถาม  มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่คนแดนเหนือจะมีพรสวรรค์บางอย่างติดตัว  ยิ่งเจ้าตัวเป็นถึงเชื้อพระวงศ์ย่อมต้องต่างจากผู้คนธรรมดา

" ข้า..."

เสียงเคาะประตูดังขึ้นขัดจังหวะการพูด  ไอร่ารีบก้มหน้าแล้วดึงผ้าห่มมามาคลุมไว้  แต่ติดที่อีกฝ่ายนั่งทับอยู่ทำให้ไม่ว่าจะดึงยังไงผ้าห่มก็ไม่ขยับ

" ใจเย็นๆสิ" โครอสบอกต่อคนที่ตอนนี้ลุกลนดึงผ้าห่มขึ้นมา

แต่ไอร่าไม่ฟังเสียงใคร  ตอนนี้เขาพยายามดึงผ้าห่มด้วยแรงทั้งหมดจนเมื่อมันหลุดมือเขาถึงกลับหงายหลังเลยทีเดียว

" ใจเย็นหน่อยไอร่า"  เสียงทุ้มดังขึ้นหลังจากที่เจ้าของเสียงฉุดตัวเขาไว้ไม่ให้กลิ้งตกเตียง

" เจ้ารู้ชื่อข้าได้ยังไง!"  ไอร่าเริ่มจ้องตาอีกฝ่ายอย่างเอาเรื่องเมื่อถูกกอด  ในขณะที่โครอสอดขำกับอาการขึ้นๆลงของอีกฝ่ายไม่ได้

" ข้ารู้ก็แล้วกัน  ที่นี้ก็เลิกดิ้นได้แล้ว  ข้าจะหยิบผ้าคลุมมาให้"  โครอสว่าแล้วหอมแก้มของอีกฝ่ายที่ตอนนี้ไข้เริ่มลดลงแล้ว

" เจ้า..!" 

โครอสลุกไปหยิบผ้าคลุมของตนเองที่ข้างเตียงก่อนนำมาคลุมให้อีกฝ่ายที่จ้องเขาด้วยแววตาวาววับเหมือนตาแมวยามขู่ฟ่อ 

" ไม่คิดจะขอบคุณกันหรือไงเจ้าแมวป่า"

" ใครเป็นแมวกัน!" 

โครอสขำคนที่ขู่ใส่เขา  เจ้าตัวคงลืมไปแล้วว่าฝันร้ายแค่ไหน  เขาจะอุ้มเจ้าแมวป่าเดินออกไปข้างนอกแล้วเข้าไปยังห้องนอนห้องใหม่  ฝ่ายไอร่าที่ต้องออกมาก็ได้แต่เข่นเขี้ยวเจ้าคนตัวใหญ่เอาแต่ใจ..ทำอะไรไม่บอกกล่าวกันซักคำ  ทำให้เขาต้องก้มหน้างุดเพื่อหลบสายตาจากคนข้างนอกที่คงมองมาอย่างอยากรู้อยากเห็น  ในที่สุดอีกฝ่ายก็วางเขาไว้บนที่นอนหลังใหญ่แต่ก็ไม่ยอมปล่อยตัวเขา

" ฝ่าบาทมีอะไรให้กระหม่อมรับใช้หรือพะยะค่ะ"  แพทย์หลวงที่ถูกปลุกมากลางดึกเอ่ยถามในที่สุด

" แมวป่าของข้าป่วย  มันเพิ่งสำรอกออกมาเจ้าช่วยมาดูอาการหน่อย"  โครอสพูดกับหมอหลวงแต่กลับได้รับแรงชกอันน้อยนิดของคนป่วยเข้าที่หน้าท้องแทน

" โอ๊ย!"  ไอร่าร้อง  คนอะไรตัวแข็งจริงเพราะกลายเป็นเขาเองที่ต้องเจ็บตัว

" ไม่ทราบว่าคนป่วยมีอาการอย่างไรบ้างขอรับ"  หมอหลวงถามไอร่าบ้าง

ไอร่าที่ตอนแรกไม่ยอมตอบ  แต่ถูกโครอสขู่ว่าถ้าไม่ยอมพูดจะถูกจูบและเอาผ้าคลุมออก  ทำให้ไอร่่าต้องยอมบอกอาการหมอหลวงออกไป

" ข้ามีไข้  ปวดหัว  เจ็บคอ  อยากอาเจียนและไม่อยากเห็นหน้าใครบางคน" ไอร่าตอบเสียงห้วน  ทั้งที่เจ้าตัวพยายามพูดเสียงดังแล้วแต่มันก็ฟังดูแผ่วเบาอยู่ดี 

ฝ่ายหมอหลวงที่คิดว่าตนเองคงไม่ต้องเสียเวลารักษาคนป่วยแล้ว  เพราะคนป่วยคงไม่มีโอกาสได้พูดอีกเป็นแน่แท้  ก็ใครกันล่ะที่จะมีชีวิตอยู่หลังไล่องค์ราชาออกไป  แต่เขาก็ต้องอ้าปากค้างเมื่อได้เสียงสรวญของฝ่าบาทก่อนที่พระองค์จะทรงไล่เขาออกไปจากห้อง

" อาการก็รู้แล้ว  เจ้าออกไปเตรียมยาได้แล้ว  ข้าจะได้เล่นกับแมวของข้าต่อ"

" อ่า..  พะยะค่ะ  แล้วกระหม่อมจะไปเตรียมโอสถมาถวายพะยะค่ะ"

หมอหลวงที่ยังงุนงงกับอาการของโครอสก็เดินออกมาจากห้องบรรทมแล้วออกไปจัดเตรียมยา 

" ท่านหมอ  ค่ำมืดดึกดื่นแล้วเตรียมยาไปให้ใครกัน  ใช่คนเมื่อตอนกลางวันหรือไม่"

" ใช่  คนเดียวกัน" หมอหลวงตอบแล้วชั่งยาสมุนไพร

" แล้วท่านได้เห็นหน้าค่าตาบ้างหรือยัง  ได้ยินจากนางกำนัลของฝ่าบาทกล่าวว่าเป็นสตรีที่งามนัก"

" ข้ายังไม่เห็นหรอกไมอา  เจ้าตัวเอาแต่คลุมผ้าคลุมมิดชิด  ฝ่าบาทเองก็ทรงหลงน่าดู  ขนาดตอนตรวจยังไม่ยอมให้ถูกตัวเลย"  หมอหลวงบ่นแล้วเตรียมต้มยา

ฝ่ายไมอาที่รอจนหมอหลวงต้มยาเสร็จก็อาสานำยาไปให้  ซึ่งหมอหลวงเองก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะเขาชินแล้วที่มีไมอามาคอยช่วยเหลืองานในห้องยา  เจ้าตัวเองก็เป็นบุตรสาวของหมอชาวบ้านเช่นกันจึงมีความรู้เรื่องสมุนไพรอยู่บ้าง  ไมอาเดินถือยาเข้าไปยังห้องบรรทมที่มีทหารยามยืนเฝ้า  ก่อนให้ทหารยามตรวจอาวุธและทดสอบยาพิษอันเป็นมาตรการปกติของผู้ที่จะเข้าห้องบรรทม  เมื่อเข้าไปไมอาได้ยินเสียงพูดคุยของคนสองคน  แน่นอนว่าเสียงหนึ่งเป็นเสียงของฝ่าบาท  ส่วนอีกเสียง..

" เอามือของเจ้าออกไปซะ!"

" อะไรกันแค่สัมผัสนิดหน่อยเท่านั้น  มากกว่านี้ก็เคยมาแล้วนี่"

" เจ้ามันคนชั่วที่คอยฉวยโอกาส!  อื้อ!!!"

" ฝ่าบาท  หม่อมฉันเอายามาถวายเพคะ"  ไมอากล่าวขึ้นหลังจากที่มองดูสองร่างที่กำลังจูบกันอยู่

" เอามาสิ"  เสียงโครอสดังห้วนที่ถูกขัดจังหวะ  เขารับยามาก่อนยื่นให้ไอร่าที่รีบดึงผ้ามาคลุมหน้า

" ถ้าเจ้าไม่ยอมดื่มข้าจะป้อนให้ดีหรือไม่"

" ข้าดื่มเองได้!"  ไอร่าพูดเสียงห้วนแต่พอได้กลิ่นยาก็ชะงักไป

" เป็นอะไรไป  ทำไมไม่รีบดื่ม"

" มัน..  มียาที่ทำให้นอนหลับ  ข้าไม่อยากนอนหลับ  ข้ากลัว..ฝันร้าย"

ไอร่าตอบเสียงเบาแล้วส่งยาคืน  ไอร่ายังจำความฝันได้ดี  เขาจดจำได้ทุกรายละเอียด  ยิ่งความรู้สึกยามถูกเผามันยิ่งเหมือนจริงจนเขาอดมือสั่นไม่ได้

" เจ้าฝันว่าอะไรกัน"

" ไม่ใช่เรื่องของเจ้าก็แล้วกัน!"

โครอสลอบมองคนปากดีที่ตอนนี้มือสั่นเทาจนยาในชามเป็นระลอกคลื่น  เขาคิดว่าคนงามของเขาคงมีเรื่องฝังใจบางอย่างจากในอดีต  เพราะการที่เจ้าตัวไม่ยอมออกจากป่าและไม่อยากนอนค้างแรมนอกป่ามันคงมีเหตุผลมากกว่าการหลบหนีจากการสงครามล่มบัลลังก์ครั้งก่อน  โครอสปลดสร้อยคอประจำพระองค์ออกแล้วสวมใส่ให้คนตรงหน้า

" นี่เป็นเครื่องรางประจำตัวข้า  มันจะปกป้องเจ้าจากฝันร้าย" 

" ข้าไม่ต้องการของสิ่งใดจากเจ้าทั้งนั้นเจ้าคนชั่ว" 

" นั่นไม่ใช่สิ่งที่เจ้าเลือกได้หรอกนะไอร่า  ทีีนี้ดื่มยาแล้วนอนซะก่อนที่ข้าจะทำอย่างอื่นจนเจ้าต้องหลับไปแทน"

ไอร่าเม้มปากแล้วดื่มยาจนหมดก่อนจะส่งชามคืน  แม้เขาจะไม่อยากยอมรับแต่ก็อดพอใจไม่ได้กับเครื่องรางชิ้นนี้  เพียงแค่สวมใส่สมองเขาก็ปลอดโปร่งมากขึ้น  มนตราจากเครื่องรางครอบคลุมเขาไว้อย่างปกป้องคุ้มครองมันกล้าแกร่งดั่งผู้เป็นนาย  เมื่อความสบายใจเกิดขึ้นไอร่าก็เริ่มง่วงนอนอีกครั้งแต่เขาก็พยายามฝืนลืมตาอยู่

โครอสมองเจ้าแมวป่าแสนดื้อรั้นที่ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ  พยายามฝืนความง่วงเอาไว้ไม่ยอมหลับ  ทั้งที่แค่เขาเอนตัวอีกฝ่ายลงจนหัวถึงหมอนเจ้าตัวก็หลับทันทีแท้ๆ  โครอสยื่นชามไปให้นางกำนัลก่อนนั่งเฝ้าเจ้าแมวป่าแสนสวยที่ตอนนี้หลับสบายก่อนจะล้มตัวนอนอีกคน

ด้านไมอาที่มองเห็นทุกอย่างรีบออกจากห้องบรรทม  ต้องรีบไปแจ้งเรื่องทั้งหมดให้พระนางเนโอบีทราบ  คราวนี้ฝ่าบาททรงโปรดคนใหม่มากจริงๆ  ทั้งที่นางคนนั้น...ไอร่าสินะ  ทั้งที่นางไอร่าด่าฝ่าบาทไปตั้งหลายครั้ง  ทั้งคำพูดก็ไม่ได้มีความเคารพยำเกรงแต่กลับไม่ถูกตัดลิ้นแถมยังมอบเครื่องรางประจำพระองค์ให้อีก  แม้ว่าฝ่าบาทอาจจะแค่เห่อของใหม่แต่จะประมาทไม่ได้  นางต้องรีบไปบอกพระนางเนโอบีให้รีบตัดไฟเสียตั้งแต่ตอนนี้  จะปล่อยให้นางไอร่าอยู่กับฝ่าบาทจนตั้งครรภ์ไม่ได้เด็ดขาด!


>>  To  Be  ConTinue  <<


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-08-2013 15:06:54 โดย teatimes »

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
โครอส.... เลวได้ใจมาก เกือบไม่ใช่พระเอกแล้วนะเนี่ย

เป็นเรื่องที่เมนท์ยากมากเลยค่ะคนแต่ง
อยากลุ้นอย่างเดียวมากกว่า เพราะเนื้อเรื่องกับภาษาสมบูรณ์เลย
รออ่านนะคะ
กดบวกให้เป็นกำลังใจ ^^

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
โหดร้ายมากเลย ฆ่าหมาของของไอร่าได้ยังไง :m16:

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
โครอสหวานเชียว ไอร่าก็เหมือนแมวจริงๆน่าร้ากกกกกก :man1:
แต่ความฝันน่ากลัวมาก ด่านแรกก็คงเป็นบรรดาเมียๆของคนเจ้าชู้นี่แหละ
ปกป้องไอร่าให้ได้อย่างที่ปากพูดนะยะเจ้าชายหื่นกาม :m16:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด