ดาวขอโทษนะคะ พอดีดาวลืมกดตั้งกระทู้ (ถ้ากูจะโง่ขนาดนี้
)
-------------
KICK 2 l น้ำเซาะทราย... เอาเลย เซาะกูให้ตาย(2/4/2554)
ผมยืนหน้างอง้ำค้ำหัวเหล่าผู้อาวุโสที่นั่งเมาสุรายาดองกันอยู่เบื้องหน้า ปู่รหัสผมที่กำลังกรึ่มได้ที่ หันมาฉีกยิ้มหวานให้ และฉุดผมลงไปนั่งข้างๆ
“นี่คร้าบบ นี่คร้าบบบ หลานรหัสกู ไหว้หลานกูสะสิพวกมึง”แล้วพวกเพื่อนปู่รหัสผมก็ยกมือไหว้ผมเกรียวกราว... กูว่ามันจะผิดๆไงก็ไม่รู้
“หลานมึงน่ารักจังวุ้ย ชื่อไรคร้าบบ”ผมยิ้มแห้งๆไปให้รุ่นพี่รูปหล่อที่ยิ้มตาหยีหน้าแดงเถือก
“บลูครับ”ผมยิ้มคืน แต่พี่เขาก็เอื้อมมือมาจับมือผมเขย่าอย่างเมาๆ
“มากไปแล้วไอ้สาดดด”โก๊โฟมฟาดมือไปตัดสัมพันธ์ระหว่างฝ่ามือออก
“แหม... เมียหึงผัวหรอครับ”ผมเหวอเล็กน้อย ก่อนกลับมาตีหน้าเป็นปกติแล้วกระดกเหล้าฟรีในแก้วให้หมดในคราเดียว...ปู่รหัสผมมีปั๊ว
“ส้นตีนเหอะ... แล้วมึงมาหากูไมคร้าบบบ หลานรัก”ปู่รหัสกอดคอผมโยกไปโยกมาด้วยอาการเมามาย
“ไอ้เฮียปั้นอ่ะโก๊ มันเตะบลูจนตัวช้ำไปหมดแล้ว”แต่ว่าผมมาฟ้องคนเมานี่มันจะได้เรื่องไหมครับ
“อาฮะ แล้วไงต่อ”คือมึงก็ช่วยจัดการอะไรให้กูหน่อยดิโก๊
“โก๊บอกเฮียปั้นให้เลิกเก๊บลูดิ”ผมพยายามปั้นสีหน้าเศร้าสร้อยสุดใจไปให้โก๊โฟมผู้เมา ไม่รู้เรื่องรู้ราว
“อาฮะ ไมมึงไม่บอกเอง”มึงคิดได้ไงฟะ ถ้ากูบอกได้ กูบอกไปแล้วครับ
“บอกทีไรแทบกระอักเลือดคาตีน”ผมเอนตัวพิงกับเก้าอี้ โดนมีปู่รหัสลูบหัวอย่างอ่อนโยน
จากมาฟ้อง กลายเป็นร่วมวงตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ผมยังไม่เมา กินพอหอมปากหอมคอ ไม่ได้กะกินเอาตายอย่างพวกโก๊โฟม ตอนนี้แฟนปู่ผม พี่รูปหล่อ ขึ้นไปยึดเวทีของร้านหมูกระทะ ร้องเพลงเมียพี่มีชู้ ซึ่งผมดูอาการแล้ว ไอ้ปู่คนเมาของผมแลไม่ค่อยรู้เรื่องว่าโดนด่าว่ามีชู้ ยังคงยิ้มร่าตบมือสบายใจเฉิบ... นี่มึงแดกเหล้า หรือว่าพี้ยา
“เมียพี่มีชู้ ~~ คนรู้กันแซด แซด แซด แซด เพิ่งคบกัน4-5วัน ลูกยังไม่มี หน้ามนก็หนี แม่ยอดยาหยี แม่ผู้ดีตีนตะแคง…”ร้องไปก็เต้นเด้าลมอย่างเมามันส์
ใครบอกคนหล่อทำอะไรไม่น้าเกลียด เห็นภาพนี้เข้าไป ขอบอกเลย...กูไม่เชื่อ!!!
“ไอ้เวร กูบอกมึงว่าไง ให้เก็บเป็นความลาบบบ เรื่องกูกับมึงเป็นแฟนกัน”โก๊โฟมยืนเอียงๆชี้หน้าพี่หน้าหล่อ(ที่ผมจำชื่อไม่ได้)ที่ยังคงร้องเพลงแบบเมาๆ
“กูก็เก็บเป็นความลับแล้วงายย เรื่องเป็นแฟน”แล้วพี่เขาก็ตะโกนผ่านไมค์ “แต่เรื่องเป็นผัวเมีย มึงไม่ได้บอกให้กูเก็บเป็นความลับนี่ไอ้ฟาย”ไม่ต้องเก็บเป็นความลับแล้วล่ะครับ ผมว่าเขาน่าจะรู้กันทั้งม.แล้ว
“ต่อปากต่อคำ สักวัน สักวัน...”โก๊โฟมยืนเซไปเซมาก่อนจะชี้หน้าคนที่อยู่บนเวที
“สักวันทำไม”
“กูจะมีชู้”ได้ฟังดังนั้น คนที่ปากดีอยู่บนเวทีก็แทบทิ้งไมค์มากราบขอขมาเมียทันที
ผมนั่งจิบเหล้าในแก้วอย่างเหนื่อยหน่าย สรุปวันนี้ ถ่อลงมาจากหอทั้งที สรุปได้มานั่งแดกเหล้าแทนที่จะได้ตัดปัญหาเรื่องโดนไอ้พี่ปั้นแกล้ง แต่แดกเหล้าก็ดี กูไม่ได้จ่าย ของฟรีแดกๆไปไอ้บลู
“ไอ้น้องบลู ไอ้ปั้นวิดวะปล่าววะ ที่แกล้งมึง”ผมพยักหน้าทั้งที่แก้วเหล้ายังคาปาก “พี่ดิวมีแผนเด็ดที่ได้แก้เผ็ดมันด้วย ไอ้น้องบลูสนใจไหมครับ”ประมาณแก้แค้นไอ้พี่ปั้นน่ะนะ ก็น่าสนอยู่ แต่ถ้าโดนมันจับได้ว่าเป็นฝีมือผม มีหวังกูตายคาตีน
“โดนจับได้ ผมตายอย่างเดียว”พี่ดิวจิ๊ปาก แล้วก็หันไปกระซิบกระซาบกับพวกโก๊โฟม แล้วหันกลับมามองผม
“ไอ้หลานรัก มึงทำตามแผนพวกกูเหอะ พวกกูหมันไส้ไอ้ปั้นกันมานานแล้ว ฮ่าๆๆ”คือจริงๆอีแผนนี้พวกมึงคิดมานานแล้วใช่ไหม แค่รอให้กูมาเป็นตัวดำเนินการ... เลว
“อะไรอ่ะโก๊ ถ้าบลูโดนกระทืบมาจะทำไง”ไอ้พวกรุ่นพี่คณะผมยิ้มกริ่ม
“แผนนี้ไม่มีโดนกระทืบเว้ย... มีแต่โดนอย่างอื่น”พี่ดิวยิ้มเจ้าเล่ห์...กูขนลุก
“ถ้ามึงทำสำเร็จ มึงเลิกเป็นเบ๊ชมรม โอเค๊”ไม่โอเคเว้ย กว่ากูจะได้อิสรภาพ กูคงตายคาแข้งก่อน “งั้นเอางี้ ถ้ามึงเริ่มแผนนี้ แล้วไอ้ปั้นยังไม่เลิกเก๊มึงภายในเดือนครึ่ง กูให้ถีบหน้าเหี้ยนี่”แล้วโก๊ผมก็ลากหัวแฟนเข้ามา...กี่ที “จนกว่ามึงจะพอใจ”น่าสน ได้ถีบหน้าคนหล่อ แม่งสะใจดี... ว่าแต่กูจะรอดไปถึงเดือนครึ่งไหม
อันนี้สิประเด็น
“แผนอะไรอ่ะโก๊ ผมไม่ตายแน่นะ”เหล่ารุ่นพี่4คนพยักหน้ารับอย่างหนักแน่น
“ไอ้น้องบลูที่รัก พี่ดิวรับรองเลยครับ ถ้าเริ่มดำเนินการแผนนี้ ไม่นานไอ้ปั้น มันต้องยอมสยบแทบง้ามนิ้วตีนมึงแน่นอน”ไม่ก็กูนี่แหละที่สลบอยู่แทบฝ่าตีนมัน
“แล้วแผนมันเป็นยังไงอ่ะครับ”ผมเริ่มขนลุก ตาขวาเริ่มเขม่นยิกๆ บ่งบอกถึงลางร้ายที่กำลังคืบคลานเข้ามา
“ถ้ามึงสัญญาว่ารู้แล้วจะทำ พวกกูก็จะบอก”ผมกลืนน้ำลายอย่างฝืดคอ...เอาไงดีวะกู “ตอบช้า... กูถือว่ามึงสัญญา”อ้าววว เวร... กูไปสัญญิงสัญญาตอนหนายยย
“แต่ไม่ต้องห่วง พวกพี่จะช่วยเต็มที่ครับ”พี่หน้าหล่อที่เป็นสามีลับๆ(ซึ่งตอนนี้ไม่ลับแล้ว)ของโก๊โฟม เอื้อมมือมากุมมือผมไว้ จนเมื่อโดนเมียตบหัวทิ่ม จึงยอมปล่อยมือผมได้
“งั้นพวกพี่ก็อธิบายแผนให้ผมฟังก่อนเถอะครับ”ผมถอนหายใจ อย่างน้อยลองทำอะไรบ้าง ก็ดีกว่าอยู่เฉยๆรองมือรองตีนมัน
ผมโดนดึงเข้าไปสุมหัว อยากบอกว่า... เหม็นเหล้าชิบหาย แล้วนี่ใครแดกผัดสะตอมาวะ มีกลิ่นกระเทียมด้วย โอ้ยยย กูจะอ้วก แต่นั่นแหละครับ ฟ้าหลังฝนมักสวยงาม อากาศหลังจากการดมกลิ่นปากคนอื่น ย่อมสดชื่นเป็นธรรมดา แต่ถึงอากาศจะดียังไง แต่ภายในจิตใจกูไม่ได้ขึ้นเลย... แย่ลงสุดขีด
“ไม่เอาอ่ะ แผนอะไร เปลืองตัวชิบหาย”ผมบ่นกระปอดกระแปด
แผนบ้าบออะไรก็ไม่รู้ อยู่ดีไม่ว่าดี จะให้ผมไปยั่วสวาทไอ้เฮียปั้น แล้วเด็กหนุ่มธรรมดาวัย18ปีอย่างผม ที่เฝ้าใฝ่หาสตรีเพศมาตลอด มีหรือที่จะมีกระจิตกระใจไปยั่วยวนยุแหย่บุรุษเพศตีนหนักมือหนักอย่างเหี้ยพี่ปั้น... แทนที่จะยั่วยวน กลัวจะกลายเป็นยั่วตีนสิไม่ว่า
“ถ้ามึงทำตามแผน ไอ้ปั้นมันเสร็จแน่”ผมนะสิที่จะเสร็จตีนไอ้พี่ปั้น… ไม่ตายงานนี้ กูก็ไม่รู้จะไปตายงานไหน
“พี่ว่าแผนมันไม่ประหลาดไปหน่อยหรอ ผมผู้ชายนะครับ จะให้ไปยั่วผู้ชาย ฟังยังไงมันก็แปลกๆล่ะ”แค่คิดถึงหน้าไอ้เฮียผมก็ยิ้มไม่ออกแล้วครับ นี่ขนาดจะให้ยั่ว... ผมคงสามารถทำได้ตายห่าเลย
“ง่ายๆน่า มึงก็แค่ทำให้มันหลงมึง แล้วก็หักอกดังเป๊าะ สะใจจะตาย”กว่าจะถึงวันนั้น กูก็คงตายก่อน “แต่กูก็กลัวเวรกรรมว่ะ ไม่ใช่ในอนาคตกูไปหลงรักใคร แล้วเจอใครทำแบบนี้ กูช้ำตายห่า”แล้วพี่ดิวก็เริ่มเข้าเรื่องเวรกรรมแล้ว
“ขืนผมทำสำเร็จจริง พอไปหักอกเฮียปั้น มันไม่ฆ่าผมตายหรอ”นี่แหละปัญหาหลัก ถ้าเริ่มอีแผนนี้เมื่อไหร่ ไม่ว่าจะตอนไหนก็ตายเหมือนกัน... สรุปแล้ว กูตาย
“โอ้ยยย วินาทีนั้นช้ำแทบตายอ่ะมึง ไม่มีแรงมาหาเรื่องมึงหรอก”โก๊โฟมดูเริ่มจะรำคาญกับความหัวรั้นของผมสะแล้ว... ดี ถอดใจกันไป กูได้ไม่ต้องทำ “ว่าแต่มึงเหอะ ถ้าวันหนึ่ง ไม่มีมีมันมาจิกหัวใช้ จะทำใจได้หรอ”นี่กูดูเป็นพวกว๊อนท์ความเจ็บปวดขนาดนั้นเลยหรอครับ
“เสี่ยงว่ะ บลูไม่เอาหรอก กลับแล้ว”ผมยกมือไหว้รุ่นพี่ปี4ที่นั่งหน้าแดงเถือกเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์
“มึงไม่ทำกูตัดออกจากสาย”ผมมองปู่รหัสที่ขู่กันดื๊อๆด้วยสีหน้าตกใจเล็กน้อย “เลิกเรียกกูว่าปู่ เลิกเรียกไอ้แซมว่าลุง เลิกเรียกไอ้คิวว่าพี่”โอเคนี่มันขู่บังคับกันโคตรๆเลยนี่หว่า... เผด็จการ
“โก๊โฟมอ่า... แล้วไอ้แผนนี้มันต้องทำไงบ้างล่ะ”ผมนั่งหน้าบึงตึง ในคณะที่รุ่นพี่ที่กำลังเมาได้พี่ยิ้มเหี้ยมอย่างผู้มีชัย... นี่กูคิดผิดใช่ไหม ที่มาฟ้องมัน
***
‘ขั้นแรก สำออย ออดอ้อน อ่อนหวาน’ผมคิดวนไปเวียนมา ให้ตายเหอะ ไอ้อออดอ้อน กับอ่อนหวานนี่ก็พอจะเข้าใจ แต่ไอ้สำออยนี่กูจะทำยังไง... หลังจากเสก็ตภาพเก้าอี้จนจบคาบ ผมก็ไปหาข้าวกินกับพวกเพื่อน แต่ให้ผมตายไปเหอะ ตื่นก็แล้ว แปรงฟันก็แล้ว ขี้ก็แล้ว เรียนก็แล้ว แดกข้าวก็แล้ว ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี ว่าสำออยเขาทำกันแบบไหน
“ไอ้เอม สำออยนี่ทำไงวะ”ในเมื่อคิดเองไม่ได้ ก็ต้องหาคนมาช่วยคิด
“สำออยหรอวะ”ไอ้ตี๋ตาตี่มีท่าทางครุ่นคิด ก่อนจะยิ้มเจ้าเล่ห์ขึ้นมาเมื่อเห็นหัวไอ้เฟา “ก็แบบนี้ไง”แล้วไอ้ชั่วเอมก็ง้างมือตบหัวไอ้หน้าตี๋ตาโตที่กำลังหัวเราะไม่รู้อิโหน่อิเหน่
“โอ้ย! ไอ้เหี้ยเอม กูเจ็บนะไอ้สัตว์”ไอ้เฟาคลำหัวป่อยๆแล้วก็หันมาแว้ดใส่
“สำออย”แล้วไอ้เอมก็พูดใส่หน้าไอ้เฟาผู้หน้าสงสาร “ทำท่าทางเจ็บเกินจริง... ก็ประมาณนี้แหละไอ้บลู”เออ กูเก็ทเลย
“กูเข้าใจแล้ว”แล้วผมก็ก้มกินผัดกระเพราในจานต่อ
“แล้วมึงถามไปทำไม... จะเอาไปสำออยกับใคร”ไอ้เอมถามผมยิ้มๆ
“พี่ปั้น”ผมพูดเอือมๆ อยากถามกูก็ตอบ ไม่มีความลับอยู่แล้ว
“ห๋า”ไอ้ห่า ทีงี้ล่ะหูผึ่งเสนอหน้ากันมาครบตัวเชียว
ผมมองไอ้เฟาที่ลืมอาการเจ็บหัวไปชั่วขณะ ไอ้ปินที่เส้นมาม่าคาปาก และไอ้เอมที่ทำหน้าสอดรู้เสียเต็มประดา... ไม่ค่อยเสือกเลยเพื่อนกู ผมเล่าเรื่องตั้งแต่ไปฟ้องโก๊โฟม เจอล่อลวงเข้าแผน จนเกือบโดนตัดจากสายทั้งที่ยังเปิดเรียนมาได้แค่เดือนกว่า
ไอ้เพื่อนเวรขำกันใหญ่ มันบอกว่าน่าหนุก แผนบ้าๆ ไร้สติสตังแบบนี้มันจะมีใครทำ ถ้าทำสำเร็จคงมีเฮ มีฮากันยกใหญ่ ดีไม่ดี แทนที่ผมจะทำให้พี่ปั้นหลงอาจะไปหลงไอ้เฮียมันก่อนได้ซ้ำ เพราะรายนั้นเขามีเสน่ห์ล้นเหลือ ไม่ว่าเพศไหนก็พาหลงกันไปหมด
“นี่ถ้ากูไม่ติดว่าเป็นลูกชายคนเดียว กูบุกปล้ำพี่ปั้นไปแล้ว”ไอ้เอมพูดออกรส จนผมงี้แทบอยากออกตีน(ถีบมัน)ช่วยประสาน
“บลู กูว่าฮาดีว่ะ มึงทำไปเหอะ หนุกๆ”หนุกห่า หนุกเหวอะไรล่ะไอ้ปิน... กูผู้ชายเว้ย
“พวกพี่โฟมแม่งแนว”แล้วไอ้เฟาก็หัวเราะท้องคัดท้องแข็ง
กินข้าวเสร็จก็ขึ้นเรียน เรียนเสร็จผมก็ไปซ้อม ไอ้พวกพี่พวกเพื่อนพากันกำชับย้ำนักย้ำหนา ต้องดำเนินการในช่วงซ้อมให้สำเร็จ... แต่เดี๋ยวก่อน กูจะเอาอะไรไปดำเนินการรร
ผมแฉล้มหน้าเขามาในโรงยิม วันนี้รีบมาก่อนเวลาซ้อม เพราะกะว่าจะมานั่งคิดแผนจัดการเป้าหมาย แต่ดั่งนรกชังหรือสวรรค์แกล้งหรืออย่างไรก็ไม่รู้ ไอ้เป้าหมายที่ว่านี่ เสือกมาก่อน
ไอ้เหี้ยเอมบอกพี่ปั้นหล่อ... ผมเพ่งพินิจไตร่ตรองใบหน้าคมที่กำลังง้วนกับการปูเบาะ จมูกโด่งเป็นสัน(ยังกะสั้นเขื่อน กูอิจฉา) ปากสีส้มระเรื่อที่เม้มเป็นเส้นตรง หน้าใสไร้สิว นัยน์ตาวาววับสีอ่อนที่ทอดแววจริงจังเสมอ หลังจากสังเกตมันแล้ว ผมสรุปได้เลยว่า ไม่หล่อ... แต่ หล่อชิบหาย
หยุดความอิจฉาของผมไว้ตรงนั้นเถอะ ผมที่ยังคิดแผนการเปลี่ยนวายร้ายเป็นวายรัก (แผนบ้าห่าเหวอะไรวะ ชื่อมั่วสิ้นดี )ไม่ได้ เดินชดช้อยอ้อยอิ่งเข้ามาประชิดตัวเป้าหมาย
“หวัดดีครับเฮียปั้น”ผมทักทายอย่างร่าเริงเช่นทุกวัน
“เออ...หวัดดี”มันหันมามองผมแวบหนึ่ง แล้วก็หันกลับไปปูเบาะต่อ... สนใจกูมาก
“ช่วยไหมเฮีย”ผมวิ่งเข้าไปช่วยไอ้เฮียจัดเบาะที่เบี้ยวไปเบี้ยวมาไม่ชิดกัน
“มึงไปเปลี่ยนชุดเหอะ”ผมลุกขึ้นไปเปลี่ยนชุดอย่างว่าง่าย... นี่มันมาก่อนนัดซ้อมเกือบครึ่งชั่วโมงเลยหรอวะ
ผมเปิดล็อคเกอร์ หยิบชุดฝึกสุดโสโครกที่ไม่ได้ซักมาเป็นอาทิตย์... เหม็นเหงื่อชิบหาย ผมถอดเสื้อนักศึกษาออกแล้วยัดเข้าไปในล็อคเกอร์พร้อมกับกางเกงยีนส์ที่ยาวแค่เข่าตัวโปรด พอเปลี่ยนชุดเสร็จ ก็นั่งคิดแผน... แผนบ้าบออะไรกัน สำออย ออดอ้อน ออเซาะ พูดตรงๆเลยนะครับ ผมเป็นคนหน้าบาง... คงทำไม่ได้หรอก
“ไอ้บลูเปลี่ยนชุดเสร็จ ก็เอาถังน้ำออกมาด้วย”แม่ง! สั่งกูอีกแล้ว หมันไส้วะ
“ได้ๆเฮีย”ผมเถน้ำใส่กระติกใหญ่.... หนักชิบหาย กูแบกมาได้ยังไงทุกวัน
อยากจะถีบถังน้ำแม่งให้ล้ม หนักนะเว้ยมึงเคยเข้าใจกูไหม นี่ถ้ากูแบกไปแล้วเซล้มหน้าแหกขึ้นมา ให้จะรับผิดชอบ... แต่เดี๋ยวก่อน ล้มหน้าแหกหรอ
ผมมองกระติกน้ำเจ้ากรรมที่ตอนนี้มีน้ำอยู่ครึ่งค่อนกระติก... กูขอโทษนะไอ้กระติกเขียว อโหสิให้กูด้วย ผมขอขมากระติกพอเป็นพิธี เอาตีนเหยียบกระติก นับ1ถึง3 ก็เป็นอันจบ
1 ผมมองกระติก 2 ผมถีบกระติกสุดแรง หมายมั่นให้มันกระเด็นไปชนล็อคเกอร์ จะได้เกิดเสียงดังๆ และ3 ผมวิ่งชนล็อคเกอร์ และล้มตัวกึ่งนั่งกึ่งนอน
“โอ้ยยยยยยยยยยยย”ผมแหกปากลั่น ถ้าไอ้เฮียมันไม่ได้ยินมันก็ หูหนวกอ่ะครับ
“ไอ้บลู!”ชั่วอึดใจเดียว ร่างสูงโปร่งของไอ้รุ่นพี่ที่เป็นเป้าหมายก็พรวดพลาดเข้ามา “เป็นไร”มันหน้าตาตื่น รีบวิ่งมาประครองผมที่กุมแขนขวาพิงล็อคเกอร์เหล็ก... เจ็บแขนชิบหาย ไม่น่าวิ่งชนเลยกู
“เจ็บแขน”ผมแสร้งตีหน้าเศร้าเคล้าน้ำตา... ผมยืนยันนะครับ ว่าผมเป็นคนขี้อาย
“ไหน... ตรงนี้หรอ”มันถลกแขนเสื้อผมขึ้นเพื่อดูร่องรอยการบาดเจ็บช่วงต้นแขน... เจ็บๆจริงครับ ไม่ได้เสแสร้ง “รู้สึกตึงๆไหม... จับแบบนี้เจ็บรึเปล่า”ไอ้เฮียมันถามแล้วจับช่วงไหล่ผม
“ตึง แล้วก็เจ็บจี๊ดๆอ่ะเฮีย”เหมือนข้อต่อจะเคลื่อนว่ะ... นี่กูชนท่าไหนของกูแวะแสส
“หายใจลึกๆ”ยังไม่ทันที่ผมจะได้หายใจเข้าเลยด้วยซ้ำ ไอ้เฮียปั้นมันก็กระตุกแขนผมดังกึก... เจ็บชิบหาย แต่ร้องไม่ทัน “ดีขึ้นไหมมึง”ผมพยักหน้า ยกมือไหว้ขอบคุณ
นี่กูก็ดำเนินการสำออยมาเรียบร้อยแล้ว ไหนๆเริ่มแล้วก็ทำให้จบ(แบบว่าผมไม่ชอบทำอะไร ครึ่งๆกลางๆ) ผมเกาะไหล่ไอ้เฮีย มันช่วยประคองผมขึ้นยืน แต่ผมก็แสร้งแกล้งยืนไม่ไหวอีก
“เจ็บขาอะเฮีย”ผมพูดเสียงเศร้า บีบน้ำตาเต็มที่ ไอ้เฮียงี้หน้าเสีย... สำนึกเยอะๆ แล้วก็เลิกใช้กูซะที
“หรอ”อยู่ๆมันก็กลับมาโหมดหน้านิ่งอย่างกะทันหันซะอย่างงั้น...แต่ผมก็ยังพยักหน้ารัวเป็นคำตอบโดยที่จะไม่ลืมบีบน้ำตาอีกนิดใส่อารมณ์อีกหน่อย “สำออย”มันว่าพลางผลักกบาลผมไปที...อ้าวไอ้เชี่ยนี่ ว่ากูไม่พอ ยังจะทำร้ายร่างกายกูอีก
เดี๋ยวไม่รักเลยนะ เชอะ
ได้แต่คิดในใจ เพราะถ้าขืนทำออกไปจริงๆไอ้เฮียคงได้กระโดดถีบผมด้วยความขยะแขยงแหงมๆ
“เฮ้ย!!”ผมร้อง เมื่ออยู่ดีๆร่างทั้งร่างของผมนั้นโดนจับพาดกับไหล่หนา ก่อนจะลอยหวือขึ้นจากพื้น เมื่อคนที่จับผมพาดไหล่นั้นยืนขึ้น “ทำไรวะ ปล่อย!!”ผมดิ้นขลุกขลักพอให้รู้ว่ากูไม่สมยอม... ดิ้นมาก เดี๋ยวตกลงมาหน้าแหก แล้วจิไม่คุ้ม
“เงียบๆได้ปะวะ หนวกหู”มันว่าเสียงหงุดหงิด
“หนวกหู ก็ปล่อยดิวะ อึ๊ก”ยังไม่ทันจะได้โวยวายได้หนำใจ ไอ้คนที่จับผมพาดบ่าก็ออกวิ่ง... ไอ้เชี่ย ไหล่มึงกระแทกปิกาจู้กูจนจะเป็นหมันแล้วโว้ยยย “เฮีย ถ้ากูตาย บอก แม่กูด้วย...กูจุกมาก”ผมละล่ำละลักบอก
“เฮ้ยๆ พวกมึงจะไปไหน”เสียงหนึ่งเรียกให้ไอ้เฮียมันหยุดวิ่งสักที...ฮ่วย ถ้ากูมีหลานให้หม่าหม้าไม่ได้ใครจะรับผิดชอบวะ
“พี่โฟมหวัดดี ไอ้บลูมันเจ็บขา ผมว่าจะพามันกลับหอ”เฮียปั้นมันว่างั้นว่ะ ส่วนผมอ่ะเรอะ จุกจนพูดไม่ออกแล้ว แน่นไปยันลิ้นปี่ ผมส่งสายตาไปหาปู่รหัสเป็นทำนองว่าช่วยกูที แต่ไอ้ปู่ตัวดีท่าจะไม่เก็ท แม่งเสือกยิ้มเหี้ยมแล้วชูนิ้วโป้งให้กูอีกนั่น
ตอนแรกว่ากะจะแกล้งๆทำไปงั้นๆ แต่ตอนนี้ขอบอกว่าไฟแค้นมันลุกโชติช่วงเต็มหัวใจผมไปหมดแล้ว... ตามปกติของมนุษย์โลกสามัญธรรมดา เวลาเจอคนเจ็บขามันก็ต้องพยุงใช่ไหมครับ แต่ไอ้เชี่ยนี่แบกกูทำไม แถมเหมือนจะแอบยิ้มด้วยนั่น แกล้งกูสินะสัตว์! แกล้งกูใช่ไหม
สาบานด้วยเกรียติ์ของประธานสมาคมการแก้แค้นแห่งประเทศไทยเลยนะครับ ว่าไอ้เชี่ยที่แบกผมอยู่เนี่ย...มันต้องตาย!!!
------------------
KICK 03 : ดั่งนรกชังหรือสวรรค์แกล้ง...แกล้งกูจริง แม่ง!! มาจิ้ม อิบูลอิเฮีย
จ้ิ้มตรูดเค้าแล้ว มารับผิดชอบเลย
:pig2:คลานเข่ามาต้อนรับอิบลูกับอิเฮีย
มาลงที่เล้าแล้ววววววววววววววววววววววววววว ไอ้บลู 555+
น้องบลูได้ที่สิงใหม่แล้วค่ะ
ไอ้พี่ปั้นมันเด็กอนุบาลป่ะเนี่ย แกล้งคนที่ตัวเองชอบ
แกล้งแรงด้วยนะ เตะไม่นับขนาดนี้ หาการ์ดมาสวนแทนน้องบลูดีกว่ามั้ย
อิเฮียมันขาดแคลเซียมค่ะ อารมณ์แม่งแปรปรวน
น่ารักน่าหยิกจริงๆ...
หมายถึงคนเขียนสินะคะ
กรี้ดข่าาาา คุณเขียดมาลงที่นี่แล้ว
อิชั้นจะได้ไม่ต้องไปงมเด็กดีอีกต่อไป *จุดพลุ*
รออิน้องบลูกับเฮี้ยปั้นค่ะ5555555555555
อยากย้ายมาทุกเรื่องเลยง่ะ ขี้เกียจลง2ที...เบื่อเด็กดี
รักนะจ๊ะ
เข้ามารอเรื่องใหม่อีกเรื่องจ้า
รู้สึกเรื่องนี้ก็น่าจะซาดิสท์ไม่แพ้เรื่องก่อนหน้านะเนี่ย
น้องบูลน่าสงสารมากอะ ไอ้พี่ปั้นก็โรคจิต ทำร้ายคนที่ชอบได้ขนาดนี้
อยากให้บูลลุกขึ้นมาเตะกลับซะเลยนี่ 555
รอติดตามและเป็นกำลังใจจ้า
เรื่องนี้ใสๆแบ๊วๆ(ตรงไหนฟะ)ค่ะ
อีคิวมันเทียบเท่าเด็กอนุบาลสามขวบค่ะ
ไปสู้อิเฮียมันตรงๆ น้องบลูของคุณเขียดได้ไปเฝ้ายมบาลแน่แง่ะ
ขอบคุณคร่า
ต้อนรับจ้า มาเลยดีใจนะนี่
ขอบคุณคร่า
โหย เฮียปั้นอ่ะ
ใช้ลำแข้งสื่อรักอ่ะ
สงสารสุดหล่ออย่างน้องบูล
ฆ่ากันแทบตายแต่เดี๋ยวสุดท้าย
ย๊ะ ฮู๊...เรื่องนี้ติดตามตั้งแต่ dek-d แล้ว ติดมากเลย ฮา เกรียนดี บทเศร้ายังจะฮาได้อีก ชอบจริงๆนังบลูเนี่ย
คือสารภาพเลยนะคะ คุณเขียดกะเขียนให้มันดราม่าอ่ะแหละ แต่แม่มออกมาฮาตลอดเลย
เลี้ยงว่าที่เมียด้วยลำแข้ง เจ๋งจริงๆ
ว่าที่เมียได้แข็งแรง พี่ปั้นแกแจกโปรตีนทุกวัน
เลี้ยงด้วยลำแข้ง แบบนี้ก็ไม่ไหวแฮะ
จริงๆแล้วอิบลูมันแอบนิยมความรุนแรงค่ะ
ปั้นลากบลูไป .... หรอ
:hao7:ไปไหนกันแง่ะ
ในที่สุดก็มาอันนี้แล้ว จุดดพลุ ทีนู้นโดนแบนไปเฉยเลยค่ะ อย่าลืมไปปลดแบนนะค่ะ
ปลดไม่ได้แล้วค่ะ คุณเขียนโดนแบนแบบถาวร
โดนคนละตีนขนาดนั้นบลูไม่พิการเหรอ
อ่อ ไม่ต้องห่วงค่ะ อิบลูมันแข็งแกร่งยิ่งกว่าควายไบซัน
ทำไมบลูมันน่ารักอย่างงี้ ติดตามๆ
น่ารักเหมือนคุณเขียดเลย
คนอ่าน:
ปั้นรุนแรงไปไหม สงสารบลู
น่าให้น้องบลูตบมันให้หายซึน
ให้คำนิยมเรื่องนี้ว่า เลี้ยงด้วยลำแข้ง !!!
เป็นกำลังใจให้น้า รอตอนต่อไป (จริงๆ อ่านในเด็กดีเเล้ว T^T แต่อยากอ่านใหม่)
+1 กับเป็ดให้นะ
ฮ่าๆๆๆ แจกโปรตีนกันตั้งแต่ตอนแรกเลยทีเดียว
:กอด1:ขอบคุณคร่า
----------------
ขอบคุณทุกกำลังใจนะคะ ตอนแรกก็เคว้งๆ มาลงกลัวไม่มีคนอ่านแง่ะ
ขอบคุณนะคะ
ปล.เพิ่งผ่านมรสุมการแบนมาอย่างหรรษา
[/color]