“ พี่หยุ่นค่ะ..” เสียงสั่นนั้นทำเอาผมถอนหายใจแต่ก็ต้องหันไปมอง น้องเฮอร์ที่ผมมองเห็น แตกต่างจากวันนั้น ขอบตาเธอดำและบวม คงร้องไห้มาเยอะจนเป็นแบบนี้ " หนูขอ "
รองเท้าคู่นั้นเดินเข้ามาใกล้ผม มันใกล้จนผมอยากจะถอยหลังแล้ววิ่งหนี ทำไมต้องมาขอร้องให้ผมทำให้สิ่งที่ไม่อยากทำ เพื่อคนอื่นทำไมต้องว่าผม ทำไมต้องว่าคนที่ผมรัก.. ทั้งที่ผมกับมันก็ไม่มีอะไร มันก็แค่รักผม แล้วผมก็แค่รักมัน เรื่องมันก็มีเท่านั้นเอง
“ อย่าเอาพี่ฮิมไปจากหนูเลย หนูทำใจไม่ได้ อึก ฮืออ หนูทำใจไม่ได้จริงๆ หนูเกลียดคนพวกนี้ แต่พี่ชายของหนูกลับเป็นเอง หนูรับไม่ได้ หนูรับไม่ได้จริงๆค่ะ พี่หยุ่น..” ยิ่งพูดน้ำตาของเธอก็ยิ่งไหล มาหยดลงบนพื้นตรงหน้าผม หยดลงเป็นวงกว้าง คำขอร้อง คำภาวนา " ให้พี่ชายคนเดิมของเฮอร์กลับมาหาเฮอร์เถอะนะค่ะ "
เหมือนการโดนรุมตบหน้าที่เจ็บที่สุดเท่าที่เคยรู้สึกมา ผมเดินออกห่างจากเธอได้ยินแต่เสียงวิ่งที่เข้ามาใกล้ เหมือนใครคนนั้นกำลังรีบเร่ง เสียงของรองเท้าส้นสูงกับรองเท้าผ้าใบสองสามคู่
“ ไอ้หยุ่น.. กู " มันเงียบลงในจังหวะที่ผมจะเอ่ยอะไร น้ำตาผมไหลลงทันทีที่เห็นหน้าของพวกมันปรากฏขึ้น ขาของผมเดินเข้าไปหาจับมือมันไว้แน่น มันอาจจะไม่ใช่คนที่อยากเจอที่สุด..แต่นั่นก็ดีแล้วอย่าให้คนที่ผมอยากเจอมาเห็นผมตอนนี้เลย ตอนนี้ฮิมกำลังสอบ มันไม่คอยมากังวล ถึงจะหาว่าผมนางเอกกับความคิดนี้ แต่ความพยายามที่มันนั่งอ่านหนังสืออยู่ทุกคืน ผมทำใจพูดออกไปไม่ได้หรอกครับ
" มึง.. ใครทำอะไรมึง "
“ น้องพี่ฮิมคนนี้เหรอ " เหมือนฝันหันไปถามอาเนียที่ก็แค่ส่ายหน้า ไอ้บอทไอ้ไฟเดินเข้ามากอดคอ " น้องพูดอะไรกับเพื่อนพี่ค่ะ " เดินเข้าไปหาเหมือนจะหาเรื่อง เสียงของมันเหวี่ยงแล้วถ้าเฮอร์พูดไม่ดี นาทีนี้คงลงไปล้มกอง น้องไม่ใช่คนที่ด่าผม น้องไม่รู้เรื่อง
“ มึง.. “
“ ว่าไงค่ะ ด่าอะไร ว่าอะไรมัน " อาเนียเดินเข้าไปใกล้แล้ว ในนาทีที่น้องเฮอร์เองก็กำลังเช็ดน้ำตา ผมเห็นคราบสีดำเปื้อนหน้า.. ขอบตาดำคล้ำ ไม่ใช่ของจริง
“ ร้องไห้ ? พี่หยุ่นร้องไห้ เป็นผู้ชายแล้วร้องไห้เหรอค่ะ ทุเรศว่ะ " ท้ายเสียงเบาๆนั้นทำเอามือที่จับผมอยู่ปล่อยมือลง ทุกคนหันไปที่น้องคนเดียว ขาทุกคนก้าวเข้าไปหา ผมหาแม่ของน้องไม่เจอ เลยต้องเดินให้เร็วกว่าทุกคนที่กำลังจะถึงตัวน้อง
“ มึงอย่า " ผมจับอาเนียเอาไว้ พยักหน้าให้มัน ผมรู้ว่ามันโมโหแทนผม ทุกคนก็คิดแบบนั้น แต่ปัญหาเกิดขึ้นเพราะผมก็ไม่อยากให้คนอื่นมันมารับแทนเหมือนกันว่ะ
“ มึงว่าใครทุเรศ ตัวเองเหรอ ตอแหลว่ะ "
“ เลิกยุ่งกับพี่ชายกู.. กูจะไม่พูดดีกับมึงอีกแล้ว อยากหาผัวข้างมึงมีอีกสองคน ถ้าไม่พอคนอื่นก็เยอะแยะ อย่ามายุ่งกับพี่กู มึงทำให้คนอื่นมองพี่ชายกูต่ำ อย่าเอาพี่กูไปต่ำด้วย "
“ ไอ้เด็กเหี้ยนี่แม่ง..” อาเนียยกมือขึ้นสูงในจังหวะเร็วที่ไม่มีใครมองทัน " เพี๊ยะ!! ” เสียงตบแรงๆก็โดนเข้าไปเต็มหน้า.. ของผม
“ เฮ้ย!! ” หน้าผมหันเพราะแรงตบ ชาไปเลยครึ่งหน้า อาเนียใส่มาเต็มแรง ปากมันเหวอๆ ตอนผมหันกลับไปมอง
“ หยุ่น มึง..”
“ ไปรับแทนไอ้เด็กเหี้ยนี่ทำไมว่ะ โธ่เว้ย!! " เหมือนฝันเสียงดังมันโกรธแทนผมไม่แพ้ใคร
“ เฮอร์ไม่รู้เรื่อง " ไม่ได้รู้เรื่องว่าทำไมผมถึงรักกับพี่ชายเขา ไม่ได้รู้เรื่องราวความสุขของผม ไม่ได้รู้ว่าทำไม สำหรับผมแล้วถึงต้องเป็นพี่ชายของเธอ เธอไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น
“ อย่าคิดว่าทำแบบนี้ แล้ว.. แล้ว จะคิดว่าตัวเองดีขึ้นมาละ " พูดจบแบบกลัวๆแล้วก็เดินจากผมไป ผมเห็นแม่ของเธอเดินออกมาจากฝั่งของทางห้องน้ำ ทุกอย่างรอบตัวดูเงียบงัน รู้สึกแค่มือคู่นึงดึงผมเข้าไปใกล้
“ เจ็บมั๊ย ไหนกูดูหน่อย " สายตาวิตกของอาเนียเพราะมันเป็นคนตบผม " มึงจะไปรับแทนมันทำไมว่ะ "
“ กูไม่เจ็บหรอก เหมือนมดไต่บนแก้ม " ตอแหล ความจริงกูคิดว่าโดนไม้หน้าสามฟาดหน้า เขย่าหัวมันจนยุ่งก่อนจะหันไปมองทุกคนที่ก็ต่างสงสัย
“ เกิดอะไรขึ้นว่ะ "
“ เขามาบอกให้กูเลิกกับฮิม " จบด้วยการยิ้มก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าตัวเองจากมือไอ้บอท " กูกลับดีกว่า ปวดหัวว่ะ สงสัยมดไต่หน้านี่ ลงหนักไปนิ๊ดด "
“ มึงโอเคนะ "
“ กูโอเคน่า พวกมึงเข้าเรียนแทนกูด้วยแล้วกัน " สายตาที่ยังคงกังวลส่งมามองทางผม " เอาน่า.. ถ้ากูไม่ไหวกูโทรเรียกพวกมึงมาก๊ง โอเค๊ แล้วเลิกกังวลได้แล้วพวกมึง แค่นี้ กูไม่ตายหรอก "
ไม่เคยมีใครตายเพราะ พลาดในสิ่งที่หวัง หรือจากกับของที่รัก .. มีแค่ความทรมาณระหว่างนั้นที่เราต้องฝืนกลับมาเคยชินกับความโดดเดี่ยวในสิ่งที่เราเคยทิ้งไป
' วันนี้กูออกไปติวหนังสือห้องไอ้เต๋อ กลับเมื่อไหร่เดี๋ยวกูเข้าห้องเอง อาจจะดึก ' ได้รับข้อความนี้ตอนนั่งอยู่บนบีทีเอสพอดี โชคดีแล้วละครับที่ไม่เจอ ไม่ได้อยากพูดอะไรให้มันต้องกังวลตอนที่มันกำลังจะสอบ ผมไม่ได้อยากจะเลิกกับมัน มันไม่ใช่ทางออกในเรื่องนี้สำหรับผม.. แต่ไม่ได้หมายความปัญหาจะถูกทิ้งขว้างไม่ดูดายเช่นกัน
“ น้องหยุ่น.. ค่าเช่าเดือนนี้ค่ะ " พี่บีพี่ดูแลหอยื่นกระดาษแผ่นเล็กมาให้ผม เป็นค่าเช่าหอที่บอกรายละเอียดทุกอย่าง ค่าน้ำค่าไฟ ซึ่งเดือนนี้ก็เยอะอยู่ครับ เพราะมีหมาบางตัวมาอยู่ด้วย
“ ขอบคุณครับ " รอยยิ้มสวยๆถูกมอบให้ " เอ่อ พี่บีครับ เพื่อนผมที่มาอยู่ด้วยกัน ออกไปนานยังครับ "
“ ออกไปแล้วค่ะ สักชั่วโมงที่แล้ว "
“ ขอบคุณครับ "
ห้องเงียบๆหลงเหลือแค่บางกลิ่นที่ผมคุ้นเคย วางกระเป๋าลงบนโต๊ะทุกอย่างดูเรียบร้อยจนเหมือนไม่ใช่ผู้ชายกับผู้ชายอยู่ด้วยกัน มีกรอบรูปนึงวางอยู่หัวเตียง เป็นกรอบรูปที่สามารถพับเข้าหากันได้ ด้านนึงเป็นผม ด้านนึงเป็นมัน ภาพที่ถ่ายในห้องนี้เป็นภาพธรรมดาที่ใช้พื้นหลังเดียวกัน คนสองคนที่กำลังหันมองหน้ากัน ดูน่ารักดี ผมเลยเอามาอัดใส่กรอบไว้ มองเลยไปที่ตู้เย็น โพสอิทสีส้มหลายแผ่นแปะอยู่บนนั้น
' คืนนี้กูอาจกลับดึก กูซื้อข้าวเอาไว้ให้แล้วในตู้เย็นเอาส้อมเจาะเป็นรูแล้วเอาไปใส่ไมโคเวฟกดตั้งเวลา 1.30 กดเริ่ม เอาออกมากินระวังร้อน ช้อนอยู่บนตู้เย็น น้ำก็อยู่ในตู้เย็น เลย์ของมึงอยู่ในห้องฟีส ถ้าพรุ่งนี้กูยังไม่กลับ เอาแซนวิชทูน่าใส่ไมโครเวฟตั้ง 20 วิ แล้วมึงก็กินก่อนไปเรียน แล้วเจอกัน '
“ ยังกับบ้านมึงเลยนะ " ผมเปิดตู้เย็นเช็คทุกอย่าง มีทุกอย่างอยู่ในนั้น วางไว้เรียบร้อย มันคงเป็นชายในฝันของสาวๆก็คงเพราะแบบนี้รึเปล่าว่ะ ดึงโพสอิทออกทีละแผ่น เก็บเอาไว้ ตอนนี้มีเป็นร้อยแผ่นแล้ว มันชอบเขียนเอาไว้ให้ผม เพราะตัวผมเป็นคนขี้ลืม แผ่นสุดท้ายที่ดึงออก มีซ้อนกันสองแผ่น อาจจะดึงติดกันมาตั้งแต่ต้น แต่ไม่น่าใช่ ในนั้นมีข้อความอยู่
มีรูปหัวใจถูกระบายลงจนเต็มหน้า หัวใจดวงใหญ่ๆ เหมือนจะมีอะไรซ่อนอยู่อีกที ยกขึ้นส่องดูกับไฟ ยิ้มกว้างทั้งๆที่ตอนนี้เจ็บแก้ม มี รอเรืออยู่ในหัวใจดวงนั้น ไม้หันอากาศ กอไก่ สะกดได้เป็นคำว่า รัก
“ กูก็รักมึง เชี่ยฮิม " ผมยิ้มก่อนจะดึงแผ่นสุดท้ายออก พับส่วนกาวนั้นก่อนจะเก็บใส่กระเป๋าตังเอาไว้ ไม่ได้หยิบอะไรออกมากิน ทำได้แค่หยิบขวดน้ำออกมาแล้วกินยาแก้ปวดซะ ไม่ไหวจริงๆรู้สึกร้อนหน้าบอกไม่ถูกมันปวดหัวตุบๆ
...................................
ครืนนน ครืนน ครืนนนน
ตื่นขึ้นมาเพราะเสียงโทรศัพท์ ข้างนอกมืดสนิทคงจะดึกมากแล้ว หลับไปนานเลยทีเดียว หน้าจอสว่างของมือถือเอื้อมตัวไปกดรับเบอร์ของคนที่ภาพโชว์ขึ้นบนหน้าจอเป็นคนเดียวกันกับวอลเปเปอร์มือถือ
“ อื้อออ "
“ หลับเหรอว่ะ "
“ อื้อออออ " ผมตอบรับก่อนที่มันจะหัวเราะ
“ ไม่แดกก็หลับ ไม่สองอย่างนี้ มึงก็เล่นคอม "
“ มึงอยู่ไหน " งัวเงียขึ้นถามมันก่อนจะลุกนั่งลงบนเตียง แก้มหน้าหายปวดแล้วรู้สึกค่อยดีขึ้นมาหน่อย
“ คอนโดไอ้เต๋อ " ได้ยินเสียงดังอยู่ก็พอรู้ ติวหนังสือด้วยกัน แต่รู้สึกว่าผมได้ยินเสียงคาราโอเกะนะ
“ ทำไมกูได้ยินเสียงเพลง "
“ เฮ้ยย พวกมึงเงียบๆ เมียกูหาว่ากูตอแหลอยู่คาราโอเกะ เงียบๆ ไอ้สัด " เดี๋ยวนะ คือกูไม่ได้พูดเหี้ยอะไรเลยไง กูแค่ถาม ไอ้สัด! ไอ้คนชอบคิดไปเองแต่ทุกอย่างก็เงียบกริบจริงๆครับ ไม่ได้ยินแม้เสียงอะไร
“ กูพูดแบบนั้น เหรอ ไอ้เหี้ยยยย กูเสียหายหมด ไอ้ห่าพี่เต๋อจะคิดยังไงว่ะ "
“ มันเคยมองมึงในแง่ดีเหรอว่ะ " ก็อาจจะจริงของมึงนะ วันนี้เมียมันตบกูมันรู้รึยังเถอะครับ " มึงนอนอะไรป่านี้ว่ะนี่มันเพิ่งทุ่ม "
“ เพิ่งทุ่มเองเหรอว่ะ "
“ วันนี้กูไม่กลับนะ จะอ่านหนังสือทีเดียวพรุ่งนี้สอบสองตัว "
“ เออ " ผมพยักหน้าให้เหมือนมันจะเห็น
“ หยุ่น กูคิดถึง "
“ กูรู้น่า ไม่งั้นมึงจะโทรมาทำไม " ถึงปากจะด่าแต่ปากก็ยิ้ม คิดถึงมึงจังเลยว่ะ อยากกอดอยากให้มันมาหา บอกมันว่าวันนี้ผมเจออะไร แล้วบอกให้มันจัดการให้ทุกอย่าง เจ็บแก้มด้วย อยากให้มันจูบคิดว่าคงหายถ้าโดนทำแบบนั้น
“ บอกคิดถึงกูบ้างมึงจะตายไหมว่ะ ถ้าทำให้กูยิ้มบ้าง แบบให้กำลังใจแฟนตอนสอบนี่มึงทำอะไรกับเค้าเป็นบ้างว่ะ "
“ งั้นมึงก็รีบสอบสิว่ะ แล้วมาเอารางวัลจากกู "
“ รางวัลอะไรว่ะ " เสียงมึงกรุ่มกริ่มไปนะครับ
“ ไม่รู้วว มึง อยากได้เชี้ยอะไรก็เอาๆไปเถอะ "
“ หึหึ " เสียงหัวเราะที่ไม่น่าไว้วางใจ " กูไปอ่านหนังสือดีกว่า ไว้รอรางวัลจากมึง "
“ ฮิม เดี๋ยวมึง "
“ อะไรครับ " รอยยิ้มของผมล้าลงเพราะเสียงนี้ หัวใจของผมเต้น ไม่บ่อยนักที่ผมจะพูด
“ คิดถึงมึงว่ะ ถ้ากอดมันผ่านสายโทรศัพท์ได้ก็คงดีว่ะ "
“ อ้อนกูอีกแล้ว "
“ หลงตัวเอง "
ผมพูดได้แค่นี้ ทั้งๆที่อยากจะพูดว่า กูรักมึงว่ะ กูต้องมีมึงนะ กลับมาหากูหน่อย กลับมาอยู่กับกู แก้ปัญหาไปพร้อมๆกู แต่ถ้าพูดไปแล้ว มันต้องมาหาผม ถามว่าเป็นอะไร.. แล้วผมก็ต้องพูดออกไป ทำให้ทุกอย่างมันจะแย่ และแย่ลงกว่าเดิม เรื่องบางเรื่อง เราเก็บไว้ มันคงจะดีที่สุด แค่รอให้ผ่านช่วงนี้ไปก่อนเท่านั้น แค่รอให้มันสอบเสร็จ
“ เรียกก๊งจริงๆด้วยเว้ย " ครบทีมขาดแค่คนเดียวครับ ไอ้ไฟ โทรไปก็ไม่รับเลยไม่รู้จะบอกมันยังไงให้มันมา คืนนี้ไม่เลี้ยง ไทยแชร์กันทุกคน เรานั่งกินเหล้ากันเรื่อยๆ คุยกันในเรื่องเรื่อยเปื่อย ส่วนมากจะถามเรื่องรักของสองสาวมากกว่าครับ ตอนนี้ก็พัฒนาไปแบบกู่ไม่กลับแล้ว อวดไปทั่วครับ ผัวเรียนวิศวะ กูมีก่อนยังไม่อวดเลยโธ่.. เดือนด้วยเถอะมึง กูยังเฉยอะ
“ กูถามหน่อยเถอะหยุ่น ทำไมมึงไม่บอกเรื่องนี้กับพี่ฮิมว่ะ " วกมาเรื่องกูได้ไงว่ะ ผมหันไปมองหน้ามันยกแก้วเหล้าขึ้นตรงหน้าแล้วกินเข้าไปจนหมดแล้ว ส่งให้ไอ้บอทชงต่อ
“ บอก บอกอะไรว่ะ " ผมเลิกคิ้วถามมันก่อนจะสูดลมหายใจเข้าปอด ก่อนจะผ่อนออกมาเบาๆ เหนื่อยจนบอกไม่ถูก ใจผมล้า
“ ก็บอกปัญหาที่เกิดขึ้นไง สิ่งที่มึงต้องเผชิญวันนี้ "
“ บอกแล้วได้อะไรว่ะ บอกแล้วมีข้อดีอะไรบ้างว่ะ "
“ ก็..” มันกำลังจะเถียงครับ
“ ถ้ากูบอกไป มีเหี้ยไรดีบ้าง ไอ้ฮิมรู้มันจะมาช่วยแก้ปัญหากูเหรอ แก้อะไรว่ะ มีอะไรให้มันแก้ ยกเว้น มันจะทะเลาะกับน้องมัน ทะเลาะกับแม่มัน แล้วถ้ามันยอม กูโดนทิ้ง แต่ถ้าไม่ มึงว่ามันเครียดมั๊ยว่ะ มันจะเป็นคนที่แยกแยะออกรึเปล่าว่ะ ว่า เฮ้ย สอบก่อน เรื่องอื่นไว้ทีหลัง มึงคิดว่าไง " ผมจ้องหน้าพวกมันสามคนที่จ้องมองมาทางผม สายตาที่ดูเหมือนไร้ทางแก้ " เพราะกูรู้จักมันดีกว่าใคร สิ่งที่กูทำมันอาจจะไม่ถูกที่ปิดมัน แต่เพื่อมันแล้วแค่กูยืดเวลาออกไปสักนิดให้ทุกอย่างมาเบาลง กูว่า คนอย่างกูก็ทำได้เท่านี้ละว่ะ "
“ มึงจะทำตัวห่างๆกับพี่ฮิมรึไง "
“ ถ้ากูจำเป็น กูก็ต้องทำ "
“ อย่างลังเลในสิ่งที่มึงเอง ก็มีคำตอบอยู่ในใจแล้วเลยว่ะ " ไอ้บอทยกยิ้ม น่าแปลกที่มันเดาใจผมถูกในวันนี้ " มึงไม่ใช่คนสู้ปัญหา .. กูไม่รู้ความคิดมึง แต่บอกไว้ก่อนว่า คนที่เจ็บไม่แพ้มึง คือ พี่ฮิม "
“ ความเจ็บปวดคืออะไรว่ะ "
“ มึงไม่จำเป็นที่จะต้องทำถึงขนาดนี้นะเว้ย สนใจทำไมว่ะ พี่ฮิมยังไม่สนใจเลย "
“ พ่อแม่พี่น้องเป็นคนที่มึงจะไม่สนใจหรอว่ะ " หันไปถามเหมือนฝันที่ก็แค่เงียบ ถอนหายใจใส่ผม " อย่าพยายามหาทางออกอื่น ที่นอกจากทำให้เค้ายอมรับให้ตัวกูเลยว่ะ กูว่ามันไม่ได้ผลหรอก "
“ มึงเปลี่ยนตัวเองไม่ได้หยุ่น "
“ กูรู้ กูมีไข่ กูเข้าใจตัวเองดี "
“ เข้าใจแต่มึง... มึงจะเลิกกับพี่ฮิมใช่มั๊ย กำลังคิดอยู่ใช่มั๊ย " อาเนียจับมือผม มันบีบแน่นจนรู้สึกว่า ขอบตาของผมร้อนผ่าว " มึงเกลียดการมีปัญหา นี่มึงจะหนีอีกแล้วใช่มั๊ย "
ส่วนตัว ผมเป็นคนที่มักไม่ตอบคำถาม ที่ผมไม่แน่ใจว่า จะทำได้แบบนั้นรึเปล่า... เรื่องนี้ก็เช่นกัน ผมไม่แน่ใจ
..................................................
อีเฮอร์... #แต่งเองก็อินเอง

หนมว่า บางทีคนเราก็ทำอะไร แบบที่คาดไม่ถึงได้เสมอนะ..
พาสหน้ามีเทมไฟในแบบยาววววววว หน่อยนึง

ใครมีทวิตหนมฝากแท็ก #BTS #สถานีรัก
ด้วยจ้า