“ กูไม่อยากจะคิดนะ " ไอ้เหมือนว่ายิ้มๆ ก็ลองเอาสถานการณ์ทั้งหมดมารวมกัน มันก็น่าสงสัยครับ หลังงานวันเกิดเหมือนฝันมันก็ตกบันไดแล้วก็ปวดตูด ลืมรถทิ้งไว้ที่งาน ตอนนี้ก็ลืมนาฬิกาไว้ที่พี่เทม ที่ออกจากงานไปก่อนแต่รถยังจอดอยู่.. ไม่ครับ ผมก็ไม่อยากจะคิดเหมือนกัน
“ มึงจะบ้าเหรอ ไอ้ไฟมันอาจจะ ลืม ไว้ในห้องน้ำ ก็ได้ "
“ แต่ตอนที่มันไปห้องน้ำ พี่เทมกลับไปแล้วนะเว้ย " คำถามโลกแตก ผมก็ไม่ใช่มันครับ ที่จะให้ไอ้สองสาวมันซักฟอกได้ พอดีที่เสียงไลน์โทรศัพท์ของผมดังขึ้น ทุกคนก็เลยหันไปสนใจเค้กต่อ ทั้งๆที่ในสมองคงมีแต่เรื่องของไอ้ไฟครับ ผมเองก็เช่นกัน
“ อยู่ไหนว่ะ "
“ สยาม กับไอ้เนียไอ้เหมือนกินเค้กอยู่ มึงกินไรยัง "
“ ยัง กูรอมึง " มันส่งภาพไอ้หัวเหลืองมีหนวดที่กำลังนั่งรอมาให้ผมครับ ยิ้มกับอีโมก่อนจะส่งตัวหัวเหลืองยกนิ้วเยี่ยมส่งไปให้มัน " ให้ไปรับเปล่า "
“ มาดิ กินข้าวกันก่อนกลับบ้าน น้องเฮอร์ละว่ะ "
“ กลับไปแล้ว " ส่งภาพอีหัวกลมวิญญาณออกจากร่างมาให้กูอีก " ถึงแล้วกูโทรบอก "
“ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อะไรค่ะ ผัวไลน์มาแล้วละสิ " ผมพยักหน้าให้มันสองคนที่ก็ยิ้มออก " ดีแล้ว เดี๋ยวพี่ฮิมมารับมึงกูสองคนค่อยกลับ "
“ ไปกินข้าวกับกูก่อนเปล่า ไอ้ฮิมมันยังไม่กินอะไร "
“ ไม่ค่ะ กูอิ่มมากแล้ว เค้กนี่ มื้อเย็นก็อ้วนกระโปรงปริละ " มันบ่นแต่ก็ฟาดเค้กไม่หยุดครับ ช่างเป็นการกระทำที่สวนทางกับปากยิ่งนัก
ไม่นานมันก็มาถึงครับ หน้าตามันดูอ่อนแรงเหมือนไปสู้รบกับใครมานั่นละครับ ยิ้มทักทายสองสาวก่อนจะเดินเข้ามากอดคอผม แต่ไอ้เนียก็ดึงให้ออกห่างจากมือมันนิดนึง
“ รีบเคลียร์ซะละ อย่าให้ค้างคานาน "
“ เออน่า " ปัดความรำคาญ ก่อนสองสาวจะเข้ามากอดผมครับทั้งๆที่ไอ้เชี้ยฮิมมันก็กอดคอผมอยู่ ท่าทางมันดูเหนื่อยๆจนผมไม่อยากจะขัดขืนอะไรมันเลย
“ เจอกันวันพุธมึง "
“ เออ เจอกัน "
“ ฝากหยุ่นด้วยนะค่ะ พี่ฮิม วันนี้มีคนน้อยใจพี่ฮิมละ " ทิ้งระเบิดลูกย่อมๆเอาไว้แล้วจากไปอย่างไร้ร่องรอย
ไอ้ฮิมเอียงหน้ามองผมที่เหล่มองมัน เห็นกลุ่มนักเรียนม.ต้น ที่เดินผ่านตัวของพวกเราไปหันมายิ้มให้ท่าทางเขินๆ ผมเบนหน้าไปทางอื่นก่อนจะมองซ้ายดูขวา
“ กินเหี้ยไรดีว่ะ "
“ อยากกินไก่ร้านที่มึงชอบ หรืออยากกินอาหารจานหลัก ส้มตำมั๊ย "
“ อยากกินซิสเลอร์ " ผมตอบออกไปแบบนั้นแต่ก็ส่ายหน้าทันทีเลยครับ
“ คนเยอะ กูรอคิวไม่ไหว " เห็นแล้วก็สงสารครับมันคงเหนื่อยและหิวมาก
“ มึงจะมาทำไมว่ะ ถ้ามึงเหนื่อยขนาดนี้กูไปหาที่คอนโดก็ได้ "
“ ไม่อยากให้มึงกลับคนเดียว มึงไม่ชอบไม่ใช่เหรอ " รอยยิ้มของผมเปิดกว้าง ถ้าตรงนี้ไม่มีใครอยากจะเข้าไปกอดมันไว้แน่นๆเลยครับ ตอนนี้เลยทำได้แค่ยิ้มให้ มันขยี้หัวผมเบาๆ ยกยิ้มแบบเหนื่อยๆ เห็นแบบนี้แล้ว ผมถึงได้รู้ ว่าทำไมหัวใจของผม ถึงบอกว่า ยังไงก็ต้องเป็นมัน
ก็ถ้ามึงจะใส่ใจกูขนาดนี้ จะให้กูไปเลือกคนอื่นได้ยังไงว่ะ ในจังหวะที่ผมหันซ้ายดูขวา ไม่มีใครเดินมาแถวนี้ แค่วินาทีเดียวก็ยังดี ผมกอดคอมันไว้ เพราะความสูงผมเลยต้องเขย่ง มันหัวเราะเบาๆก่อนจะกอดคอพาผมเดินออกมาจากตรงนั้น
“ มึงทำตัวน่ารัก คืนนี้กูจัดแล้วไม่ต้องร้องเลยนะ "
“ ไอ้สัด " สถบไปแบบนั้นละครับ แต่ถ้ามันจะทำกูจะไปทำอะไรได้ ผมไม่ได้ตามใจมันนะครับ แต่พออยู่ด้วยกันแล้วต้องโอนอ่อนตลอดก็เพราะมันจูบผมทีไร ชอบเอามือมาคลึงไข่ผม ไม่ขึ้นก็ไม่ใช่คนแล้วครับ ทั้งตัวกูมีความรู้สึกนะเว้ย อ่อนไหวเหมือนกัน
ขึ้นมาบนชั้นโซนอาหาร ทุกร้านเต็มไปหมดเลยครับ ต้องรอคิว เพราะมันเป็นวันอาทิตย์ด้วยมั้งครับ ตอนนี้ก็เลยทำใจเลือกร้านที่คนคิวน้อยๆ ชวนไปกินที่อื่นมันก็ไม่ไปครับ บอกว่าเดินไม่ไหว ผมเลยอยากจะเดินไปซื้ออะไรมาให้มันกินรองท้องสักหน่อย
“ มึงอยากกินอะไรเปล่า เดี๋ยวกูไปซื้อให้ รองท้องไปก่อน " เหล่สายตามองกู ก่อนจะยกยิ้มขึ้น
“ แน่ใจว่ามึงไป ถูก " ส่ายหัวดิ๊กเลยกู ลืมไปเลยครับว่าไม่รู้เส้นทาง หันซ้ายดูขวา ห้างมันก็พื้นที่สี่เหลี่ยมนะครับ เดินไปเดินมาก็วนอยู่ตรงนั้น แต่มันยากนะครับ ว่าถ้าเกิดกูหลง มันก็ต้องไปตาม สร้างภาระขั้นสุด " ไม่ต้องหรอก อีกสองคิว "
ยืนรอจนขาแข็งในที่สุดก็ได้แดกครับ คุณหยุ่น 2 คน ใครบอกให้มึงใช้ชื่อกูครับ เดินเข้าไปนั่งในร้าน ดีที่สุดเพราะได้นั่งด้านในครับ เป็นร้านอาหารดังที่มีสาขาอยู่ตรงสยามสแคร์ครับตอนนี้มาเปิดสาขาที่สยามเซ็น เป็นชื่อร้านธรรมดาภาษาไทยที่สะกดโคตรจะง่าย มันบอกผมว่าสมัยมัธยมตอนเย็นมาจะชอบพาน้องเฮอร์มากินครับ เพราะมันกับน้องเฮอร์ก็เรียนแถวๆนี้
“ อร่อยว่ะ " รออาหารนานมากกว่าจะได้แดก แต่พอได้แดกก็ลืมไปเลยว่าเพิ่งแดกเค้ก อร่อยดีครับ ไอ้ฮิมสั่งมาล้นโต๊ะ เพราะมันหิวจริงๆ
“ กินเข้าไป อร่อย " มันยื่นปอเปี๊ยะแฮมชีสให้ผม ผมก็เลยตักกับข้าวให้มันสองสามอย่าง ดูแลมันหน่อยครับ ท่าทางวันนี้จะเพลีย
“ มึงไปไหนมาว่ะ ทำไมดูเพลียๆ "
“ พาเฮอร์ไปชอปปิ้งจตุจักร ตั้งแต่ตอนที่มึงออกไปกูก็ออกมากับมันเลย พามันไปส่งบ้านขึ้นบีทีเอสก็ตอนกูโทรหามึง " จากบ่ายถึงหกโมงเย็นนะเหรอว่ะ โหดสัดอะ น้องมึง จะอึดไปไหน
“ อย่าบอกกูนะ ว่ามึงกับน้องก็ไม่ได้แวะกินอะไร "
“ สตอเบอรี่ปั่นคนละแก้วว่ะ " ท่าทางเหนื่อยๆกินเข้าไปแบบไปสนใจใครแล้วครับ ไม่ว่าอะไรจะติดปากฮิม ไม่ว่าใครจะมองฮิม นาทีนี้ ใครจะหาว่าฮิมไม่หล่อ ฮิมไม่สนแล้วครับ ฮิมแดกอย่างเดียวเลย
“ คือยังไม่ได้กินข้าวมาทั้งวัน " มันพยักหน้า กูอยากจะล้มพับ อีเหี้ยมึงทำได้ไงว่ะ มึงมีแรงหอบสังขารมาหากูได้ไง " น้องเฮอร์ไม่หิวรึไงว่ะ "
“ มันแดกมาแล้วไง แต่กูยัง " เสียงหงุดหงิดกินต่อไปไม่สนใจโลก เผลอเห็นเศษแป้งป๋อเปี๊ยะติดอยู่ที่ปากมันก็เลยยื่นมือไปเขี่ยออกไปออกให้ เผลอทำเพราะความเป็นห่วง แต่มันดันวกกลับมากัดนิ้วเข้าให้
“ ไอ้สัด ! คนเยอะ ”
“ แล้วกูแคร์เหรอ " มันมองซ้ายมองขวา ทำหน้ากวนตีน จริงๆ ในมุมนี้คงไม่มีใครมาสนใจหรอกครับ แต่คือ ข้างนอกไงครับสัด เกรงใจสถานที่นิดนึงก็ได้มั้งกูว่า
มันนั่งกินของมันไปเรื่อยๆครับ สั่งเพิ่มนู้นเพิ่มนี่ จนผมรู้สึกว่าตั้งแต่รู้จักกับมันมาดูเหมือนหนนี้ละครับที่มันกินเยอะมากๆ ส่วนผมก็หันมาเล่นโทรศัพท์ครับ อัพเดทสถานการณ์รอบตัวสักเล็กน้อย เห็นอาเนียอัพขึ้น fb ด้วยคำสั้นๆว่า ' สงสัยจัง ' มีอีโมห้อยท้ายเป็นภาพนาฬิกาครับ เลยเข้าไปกดไลท์สักหน่อย
แวะเข้าทวิตเตอร์ ไม่ค่อยมีอะไรครับ ผมเล่นทวิตเตอร์เพราะ อ่านข่าวมากกว่าเพราะมันเร็วมาก นอกจากข่าวกับเพื่อนแล้วก็ไม่มีอะไรครับ เห็นเหมือนฝันรีทวิตนึงมา ผมเองก็ขมวดคิ้วครับ
' วันนี้เจอเกย์คู่นึงที่สยามเซ็นน่ารักมาก
เคะ: มึงมาทำไมว่ะ
เมะ: มึงไม่ชอบกลับคนเดียวนิ กูเลยมารับ
เคะยู้หน้าเมะเลยก้มลงหยิกแก้ม คืออัลไลลล '
มันเมนชั่นมาหาผม แล้วบอกกับผมว่า ' รีล่าสุดมึงคุ้นมั๊ย ฮ่าๆๆๆ ' ใช่กูเหรอ ? แต่กูไม่ได้พูดมุ้งมิ้งอะไรกับมันขนาดนั้นนะครับ แล้วกูต้องถามมึงมากกว่าว่า อัลไลคือยู้หน้าและหยิกแก้มครับ กูไปทำตอนไหน .. หรืออาจจะไม่ใช่กู โลกจะกลมขนาดนี้เลยเหรอว่ะ ฮ่าๆ
“ เป็นเหี้ยอะไร หัวเราะคนเดียว " มันถามผมทั้งๆที่ข้าวเต็มปาก ก้มลงแปปเดียวอาหารหายเกลี้ยงตอนนี้มันเลยนั่งกินสปาเก็ตตี้คาโบนาร่า ที่มาได้ไงว่ะ กับเค้กอีกก้อนก็สั่งมาวางไว้ครับ
“ ดูดิ " ผมยื่นหน้าจอมือไปให้มัน เห็นมันขมวดคิ้วแล้วฮาครับ ผมว่ามันต้องคิดเหมือนผม
“ กูทำแบบนั้นเหรอ หยิกแก้มมึง หึ กูหยิกตูดดีกว่าว่ะ " พูดทั้งๆที่เส้นเต็มปาก กูคอให้มึงสำลักตาย ไอ้สัด! “ แค่กๆ " จนได้ ลำบากกูต้องยื่นน้ำให้แดกอีก ใช้เช็ดชู่เช็ดปากให้ มันร้องโอยเลยครับ ก็แน่ละกูเช็ดซะเต็มแรง ปาดปากให้หมาติดออกมาบ้าง ชำระล้าง
“ มึงแช่งกู " ยักคิ้วก้มหน้าลงเล่นมือถือต่อ ทำเป็นไม่สนใจ สุดท้ายมันก็กินเสร็จเช็คบิลเรียบร้อย ผมอัพภาพจานอาหารที่ว่างเปล่ากับคนกินที่ทำหน้าเข้ม ลง อตกของตัวเอง ' แร้งลงเรียบ ' แท็กมันเรียบร้อยเป็นอันเสร็จพิธี
กดเช็คทุกอย่างเป็นครั้งสุดท้าย ตามองจอมือถือ ไอ้เนียไลน์เข้ามาหาคุยเรื่องไอ้ไฟพอดี ขาก้าวเดิน แต่ให้ไอ้ฮิมมันกอดคอนำทางจนสุดท้ายจอสี่เหลี่ยมตรงหน้าก็ลอยผ่านหน้าไป
“ มึงเลือกเอาว่าจะกลิ้งลงบันได้เลื่อน หรือเดินลงบันไดเลื่อน " เมื่อกี้น้องคนไหนมันเห็นกูกับมันกันว่ะ มึงมาดูดิว่ะ ไอ้เหี้ย หยิกแก้มเชี้ยไร มุ้งมิ้งแบบนั้นคู่กูไม่มีครับ ฮาร์ดคอยิ่งกว่าเพลงร๊อค สักวันมันคงเลี้ยงกูด้วยฝ่าตีน เดินลงบันไดเลื่อนแบบตั้งใจแต่มันก็ยังไม่ยอมปล่อยมือจากคอผม คนมองเราเยอะครับ เพราะไอ้ฮิมมันหน้าตาดี แต่ผมว่าสาวๆที่มองแล้วยิ้มเขินๆนี่ ผมแปลความหมายจากความคิดของพวกคุณไม่ออกเลยครับ
มันพาผมเดินไปตามทางที่ต้องผ่านหน้าพารากอน ทางเดินยาวๆ มันบอกว่าจะพาไปขึ้นบีทีเอสที่ชิดลมครับ เป็นการเดินย่อยอาหาร .. เหอะ.. เดินกลับเอกมัยเลยไหมครับ แต่ไม่อยากจะขัดมันครับ วันนี้อากาศดีคนก็เริ่มบางตาแล้ว แต่มันก็ยังคงเดินกอดคอผม เราเดินกันบนถนนชั้นล่างไม่ได้เดินสกายวอล์คเหมือนทุกที แต่ มีความสุขว่ะ ..อยากจะบอกมันแบบนี้
วันนี้มันแต่งตัวดูดี อดใจไม่ไหวกดถ่ายรูปมันกับแสงไฟหน้าพารากอนไปสองสามภาพ กำลังจะอัพเลื่อนลงมาก็เห็นมีคนอัพก่อนครับ ไอ้ฮิมอัพภาพผมที่กำลังก้มหน้าเดินอยู่ข้างๆมัน ดูก็รู้ว่าเรากำลังกอดคอกันเดิน มันแท็กชื่อผม ก่อนจะเขียนว่า ' ของขวัญ – Musketeers ' ไม่เข้าใจหรอกครับ แต่กดไลท์ลงไป เป็นอันว่า กูรับรู้แล้วนะจ๊ะ
อากาศเย็นๆ แต่ไม่เคยรู้สึกอุ่นเท่านี้เลยครับ เรามองมือถือของตัวเองสักพักก่อนจะเก็บลงไปกระเป๋า มันกอดผมแน่นขึ้นในตอนที่ข้างทางนั้นไม่มีใคร ก่อนเสียงฮัมเพลงจะดังขึ้นจากมัน " มีเรื่องราวมากมาย ที่ไม่มีใครได้ฟัง คำพูดนับร้อยพัน ที่ต้องการเอื้อนเอ่ยไม่ว่าจะนานสักเท่าไหร่ ยังยืนยันคำเดิมสมอไม่เคยเปลี่ยน "
“ นี่มึง ร้องเพลง " ผมเอียงหน้าถามในจังหวะที่มันจะอ้าปากขึ้นคีย์สูง มันเงียบปากลง " กูปวดขี้ว่ะ เลิกหอนเถอะนะสัด เห็นใจขี้หูกูบ้าง "
“ มึงเข้าใจคำว่าโรแมนติกมั๊ย " ส่ายหน้าให้ มันก็รัดคอผมแน่น อบอุ่นได้ไม่นานมึงจะฆ่ากูแล้วเหรอ Kเอ้ยยย
ผมยิ้มกับทางเดินข้างหน้าแบบเงียบๆ ในใจกำลังร้องเพลง เพลงที่ได้ชื่อว่า ของขวัญ เป็นทำนองที่ร้องอยู่ซ้ำๆ รอยยิ้มกว้างที่เคยมีก็กว้างขึ้นจนสุดท้ายเพลงที่ฮัมอยู่ในใจก็ต้องเผลอร้องออกมา " เธอและฉัน จับมือเคียงกันนับจากนี้ "
แต่น่าแปลกครับ ที่เราร้องออกมาพร้อมกัน ผมมองหน้ามัน มันมองหน้าผม เรามีแต่รอยยิ้ม ไม่มีคำพูดอะไรต่อจากนี้ ถนนสายกว้าง เสียงรถไฟฟ้า หรือแม้แต่รถติด คนรอบข้างที่อยู่รอบตัวผมตอนนี้
เห็นทีว่า ตอนนี้ รอบตัวผม คงต้องอิจฉาผมอยู่แน่เลยครับ ...
............................................
ถึงคอนโดก็พาตัวเองมานอนบนโซฟา ทำไมมันรู้สึกเหนื่อยแบบนี้ว่ะ ไอ้ฮิมจัดการเปิดทีวี ดึกแล้วครับหนังจบไปแล้ว เลยเปิดช่องเคเบิ้ลดูกัน หนังเพียบสารคดีอื้อครับ มันนั่งดูสัตว์โลกน่ารักสักพักเป็นเรื่องเกี่ยวกับหมีขั๋วโลกครับ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไม่เข้ากับหน้าตา
“ ปัญญาอ่อน " ผมลุกขึ้นจากโซฟาอยากอาบน้ำมากครับ เหม็นตัวเอง " มึงกูอาบน้ำก่อนนะ "
“ เออ "
ชำระตัวเองเสร็จก็ออกมาดู คนที่นอนดูทีวี สลบไปแล้วครับ วันนี้มันคงเหนื่อยมาก ผมสระผมเลยอาบน้ำนานไปหน่อย เดินเข้าไปใกล้ มันหายใจสม่ำเสมอแบบนี้คงจะหลับลึก นั่งลงตรงที่นั่งบนหัวมัน ตบแก้มเบาๆ เรียกให้ตื่น จริงก็อยากจะต่อยมันเลยครับ กูหมั่นใส้มานาน
“ เชี้ยฮิม ตื่น อาบน้ำ "
“ อือออ " มีเสียงตอบกลับแต่ทุกอย่างที่ควรเคลื่อนไหวกับไม่เคลื่อนไหว ยกเว้นมือที่ยกมาโอบเอวผมไว้ มันเลื่อนหน้าที่นอนคว่ำกับหมอนยืดตัวมาหนุนตักผม หันหน้ามันซุกที่พุงผมได้ก็สูดลมหายใจเข้าเต็มปอด
“ ง่วงก็อาบน้ำดิว่ะ เชี้ยฮิมม "
“ อีกสิบนาที " ตอแหล ไอ้สัด ผมมองนาฬิกา รอเวลาให้มันผ่านสิบนาทีของมัน แปลกนะ..เวลาถ้าเราจ้องมองมันจะช้า แต่ถ้าเผลอเมื่อไหร่หันกลับมาอีกทีก็หมดเวลาแล้ว
ผมใช้เวลาสิบนาทีนี้มองหน้าคนที่เอาแต่หลับ มันเป็นคนหล่อที่ดึงดูดทุกสายตาเลยครับ ผมเคยมีความคิดว่าตัวเองจะไม่ไว้หนวดครับ เพราะโคตรซกมก และผมก็ไม่ชอบคนไว้หนวด แต่ผมเปลี่ยนไปเมื่อเจอมัน มันเป็นคนที่ไว้หนวดแล้วโคตรจะเท่ห์เลยครับ มันหล่อขึ้นก็เพราะมีไอ้หญ้าสองสามหย่อมของมันนี่เหละ หลายครั้งที่ผมอยากถามว่า ทำไมมึงถึงเลือกกูที่มีเหมือนมึงทุกอย่าง มากกว่าผู้หญิงสวยๆที่มีเป็นล้านกันว่ะ
“ ฮิม หมดเวลาแล้วมึง รีบๆไปอาบน้ำจะได้นอน พรุ่งนี้มึงมีเรียน สัด ขี้เกียจอยู่ได้ "
“ มึงมีอะไรจะพูดกับกูก็พูดมา "
“ พูดอะไรว่ะ " ผมก้มหน้าลงถามมันในจังหวะที่มันลุกขึ้นมานั่งมองหน้าผม มันลูบหน้าตัวเองเหมือนจะให้หายง่วง
“ น้อยใจกูเรื่องอะไร " เหี้ยยย กูลืมไปแล้วนะเนี้ย ไม่คิดว่าไอ้เชี้ยตรงหน้ามันจะจำได้ เอาตาง่วงๆจ้องผมไม่กระพริบ ไม่ได้กลัวอะไรหรอกครับ แค่ไม่รู้จะตอบคำถามมันยังไง
“ เชี้ยเนียก็พูดไป มึงสนใจอะไรว่ะ "
“ กูให้มึงตอบอีกทีนะ.. “ เอียงคอเสียงดังอั๊ก มึงจะต่อยกูรึไงว่ะ มันยื่นหน้ามาใกล้ผม ลมหายใจของเราใกล้กัน " ให้กูทำก่อนตอบ หรือจะตอบก่อนที่กูจะทำ " ไม่พูดเปล่ามาเลื้อยมือมาบีบก้นผมสองสามครั้ง ไอ้หื่นเอ้ยยยย
“ เอ่อ...”
“ ว่าไง " ทำเสียงเข้มคิดว่ากูจะกลัวรึไงว่ะ
“ วันนี้มึงหายไปทั้งวัน ไม่เห็นโทรมาหากูเลย " ประโยคหลังผมพูดเสียงเบาจนแทบจะไม่ได้ยินเลยครับ แต่คิดว่ามันคงจะได้ยิน เห็นมุมปากของมันยกยิ้มขึ้นก่อนจะก้มลงมาหอมแก้มผม เหมือนโดนไฟช๊อคผมเงียบไปสักพักก่อนที่มันจะถามขึ้นอีก
“ แค่นั้นเหรอว่ะ ? “
“ มึงออกห่างจากตัวกูได้มั๊ยว่ะ สัด กอดอยู่ได้เชี้ย " ผมพยายามผลักมัน มึงเล่นกอดกูขนาดนี้เข้ามาสิงในตัวกูเลยมั๊ย มันคลายแขนที่กำลังกอดผม ตอนนี้เรานั่งจ้องหน้ากัน " เราเป็นอะไรกันว่ะมึง "
“ ห๊ะ " มันขมวดคิ้วมองผมที่ตอนนี้หันหน้าไปทางอื่น ไม่อยากจะหันไปมองมันเลยครับ ผมอาย อายที่ต้องพูดในสิ่งที่ตัวเองคิด มันฟังแล้วอาจดูปัญญาอ่อน แต่ต้องพูด จะได้เคลียร์
“ กูเหงาว่ะ ทั้งๆที่มีคนเยอะแยะข้างๆกูแต่กูก็เหงา เอาแต่คิดถึงมึง " ผมตั้งคางไว้กับขอบโซฟาคำพูดที่ผมอยากจะแค่พูดแต่ไม่ต้องการมองหน้าคนตรงหน้า ไม่ว่ามันจะกอดหรือหอมแก้มก็ไม่อยากใส่ใจครับ อยากพูดให้จบก่อน " ก่อนออกจากบ้านเมื่อเช้า ทำไมมึงถึงพูดกับน้องเฮอร์ว่ากูเป็นแค่เพื่อนว่ะ "
“ อยากให้กูบอกน้องกูว่ามึงเป็นเมียกูเหรอ "
“ กูว่าถ้ามึงพูดออกไปจริงๆ กูอาจจะโกรธว่ะ แต่กูคงดีใจ " พูดออกไปแล้ว ผมถอนหายใจก่อนจะยิ้ม ผมอยากจะพูดแค่นี้ ได้พูดมันออกไปแล้ว ได้บอกความรู้สึกของตัวเองออกไปจนได้ " วันนี้ทั้งวันกูเอาแต่คิดแต่เรื่องนี้ เราเป็นอะไรกันว่ะฮิม เราอยู่ด้วยกันแบบนี้ กูเองยังไม่เคยบอก มึงเองยังไม่เคยพูดเลยว่าเราเป็นอะไรกัน มึงเอากู กูให้มึงเอา สรุปยังไงกันแน่ว่ะกูกับมึง "
“ ไหนมึงบอกว่ากูเป็นความสุขของมึง " มันลูบหัวผมอุ่นจนต้องหันไปมอง รอยยิ้มของมันตอนนี้อบอุ่นจนทำให้ผมต้องยิ้มตาม " ถึงกูจะไม่ได้ขอมึงเป็นแฟน แต่มึงแน่ใจได้เลยนะว่ากูจะมีแต่มึงคนเดียวเท่านั้น "
“ ถ้าวันนึงกูหึงมึงมากๆ แล้วมึงถามกูว่า เราเป็นอะไรกันว่ะกูถึงไปหึงมึง กูจะตอบมึงว่าเชี้ยไรดีว่ะ "
“ มึงรู้สึกไงกับกูว่ะ หยุ่น " มือเอื้อมมือมาถูแก้มผม ก่อนจะพิงตัวเองกับโซฟา เราไม่แม้จะมองหน้ากันแต่กลับพูดทุกอย่างที่ใจอยากจะพูด
“ วันนี้เค้กที่กูกินไม่อร่อยเลยว่ะ เพราะกูมัวแต่คิดถึงมึง ข้างๆกูมีคนนั่งกันเยอะแยะแต่กูอยากจะเจอมึง กูอยากจะให้มึงมาหา อธิบายกูว่าทำไมว่ะ ทำไมมึงถึงบอกน้องมึงแบบนั้น กูหงุดหงิด เบื่อตัวเอง แต่พอมึงมาหา มันก็หายไป จากที่กูเครียด กูก็ยิ้ม กูงงตัวเองว่ากูจะขึ้นๆลงๆไปไหน " ผมเว้นเสียงไปสักพัก หัวใจของผมเต้นแรงมันหยุดลูบแก้มผมไปนานแล้ว " เออ ฮิม ถ้าวันไหนมึงว่างๆ พากูเดินจากสยามไปชิดลมอีกนะ เราไปเดินแบบวันนี้อีกนะ เวลามีมึงอยู่ใกล้ๆ กูโคตรมีความสุข อะไรพวกนี้ เค้าเรียกว่าอะไรว่ะ กูควรคิดว่าตัวเอง รักมึงมั๊ยว่ะ ถ้ากูเป็นถึงขนาดนี้แล้วนะ "
“ เหมือนกันเลยว่ะ วันนี้กูก็คิดถึงมึง แต่เพราะเฮอร์อยู่กูเลยไม่อยากจะโทรหา กูยังไม่ได้บอกเฮอร์เรื่องมึง ไม่รู้จะเริ่มบอกยังไง " ผมเข้าใจมันดีครับ มันมีกันอยู่แค่สองพี่น้อง พี่ชายมีแฟนเป็นผู้ชายถ้าน้องมันรับได้ ผมว่ามันก็คงดี แต่อย่าเลยครับ เรื่องราวดีๆไม่ได้เกิดขึ้นกับเราเสมอไปหรอก
“ เราไม่ได้เป็นอะไรกัน มึงจะบอกน้องมึงว่าไงว่ะ กูเป็นเพื่อนมึง ก็ถูกแล้ว "
“ ทำไมกูถึงรู้สึกมีความสุขขนาดนี้เวลาที่อยู่กับมึงว่ะ .. จากคนโง่ๆคนนึงบนบีทีเอสนะเหรอว่ะ ฮ่าๆ “ มันหัวเราะเสียงดังแต่กลับเป็นผมที่เงียบลงไปแล้ว 'คนโง่ๆคนนึงบนบีทีเอส ' “ รู้ตัวไหม วันนั้นมึงน่ารักมาก มันเป็นภาพที่กูไม่เคยลืมเลย "
“ ก็แค่คนโง่ๆคนนึง "
“ คนน่ารักคนนึงตังหาก " มันหันมายิ้มให้ผม มีเหรอครับที่ผมจะยอมน้อยหน้า ยิ้มว้างตอบมันไป " กูรักมึงนะหยุ่น สักวันกูจะบอกเฮอร์นะ กูจะบอก ตอนที่เฮอร์มันพร้อม "
“ กูเข้าใจ "
" เป็นแฟนกับกูนะ.. “
“ ถ้ากูว่าไม่ "
“ แล้วมึงจะเป็นอะไร " ผมยกตัวเองขึ้นมองหน้ามันแบบพิจารณา ถ้าถามว่าอยากจะเป็นอะไรกับคนตรงหน้านี้เหรอ " กูมีให้เลือกสามทาง "
“ อะไร "
“ อยากเป็นแฟนกู จูบจมูกกู อยากเป็นเมียให้จูบปาก แต่ถ้าอยากจะเป็นเพื่อนก็ดูดKกู "
“ สัด! ” กูสถบเพราะไอ้ทางเลือกที่สามของมึงนั่นละ มันจ้องหน้าผม ยักคิ้วให้ คิดว่าเหนือกว่ากูรึไงว่ะ ผมกลืนน้ำลายสูดน้ำมูก ก่อนจะก้มหน้าลงต่ำ ก็เคยมาแล้วจะทำอีกทีมันจะเป็นอะไรไปว่ะ ผมไม่ได้อยากเป็นเพื่อนกับมันหรอกแต่เพราะรู้ว่า มันคงคิดว่าผมคงไม่เลือกทางสุดท้ายเพราะผมไม่กล้า แต่โทษครับ มึงคิดผิดแล้วละ
ผมปลดซิบกางเกงของมัน ดึงลงมาช้าๆ มันตาโตตอนที่ผมดึงน้องชายของมันที่กำลังสงบออกมา มือหนาของมันคว้าใบหน้าผมที่ก้มลงต่ำขึ้นไปจูบปากความเร็วที่มันสอดลิ้นเข้ามา ผมยิ้มกว้างก่อนจะจูบปากมันเบาๆ แล้วเลื่อนมาจูบจมูกของมันอีกที
“ ไหนบอกจะให้กูเลือก "
“ เล่นห่าอะไร กูตกใจหมด เหี้ยย นี่มึงจะดูดKกูจริงๆเหรอว่ะ " มันดึงผมให้เข้าไปคร่อมทับมันกลางหว่างขา รอยยิ้มของมัน ก้มจูบจมูกรั้นๆของผม จูบเบาๆก่อนจะเอียงหน้ามายิ้มให้ คิดว่ากูจะไม่เขินรึไงครับ หน้าผมแดงขึ้นเรื่อยๆ รู้สึกร้อนแต่ก็ละสายตาจากมันไม่ได้ " เป็นแฟนกูแล้วนะ "
“ เอากันถึงขั้นนี้แล้ว ถ้ายังให้กูเป็นแค่เพื่อน มึงก็เลวไปละสัด "
“ จริงๆถึงขั้นนี้เป็นแฟนมันยังน้อยไป " รู้สึกถึงมือที่ลูบอยู่ที่ก้น เสื้อของผมถูกร่อนขึ้นพร้อมส่วนกลางที่ผมเปิดประตูให้จนดันตัวอยู่ตรงอกของผม ทุกอย่างของมันกำลังตื่นตัว " เห็นมั๊ย... มันเรียกร้องมึงจะตาย "
“ หื่นว่ะไอ้สัด "
“ เพราะมีมึงเป็นเมียกูไง ไอ้เหี้ย "
สรุปคืนนั้นผมก็ตระหนักได้ว่า..กูไม่น่าเปิดประตูให้มันออกมาเลย จริงๆครับ
......................................................
หลากหลายอารมณ์ เลยตัดไม่ถูก ลงแม่งหมดเลย กร๊ากกกกกกก

อ่านแล้วฝากแท็ก #BTS #สถานีรัก
แท็กๆกันหน่อยนะคร่าาา ฝากด้วย จ้าาา เจอกัน ตอนหน้า