ตอนที่ 43หวางหลี่ผิง “เอาล่ะ เมื่อทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาแล้ว ก็เริ่มกันเลยนะ”
น้ำเสียงแหบแต่ทรงอำนาจดังขึ้น ท่ามกลางกลุ่มคนรอบตัวผมที่มารวมตัวจากการนัดหมาย เพื่อเป็นสักขีพยานในช่วงเวลาสำคัญที่กำลังจะเกิดขึ้น ทำให้ขณะนี้สายตายี่สิบกว่าคู่ ได้พุ่งความสนใจไปยังเจ้าของประโยคอย่างอากงไป๋หลง ที่นั่งเด่นเป็นสง่าบนโซฟาตัวใหญ่กลางห้อง แต่ผมเองกลับไม่อาจละสายตาไปจากดวงตาสุกใสของคนรักตัวน้อยได้เลย เมื่อดวงตาคู่นั้นสะท้อนเพียงภาพของผมอยู่เต็มหน่วยตา
“วันนี้ถือเป็นฤกษ์งามยามดี ที่ทางหยางหลงเหยียนและหวางหย่งกัง จะมาขอดวงใจแห่งธนอรรถย์อีกสักดวง เพื่อให้มังกรตระกูลหวางได้มีคู่ชีวิตอยู่เคียงข้าง และกลายเป็นพญามังกรแห่งหวางหย่งกังได้อย่างเต็มภาคภูมิ...อาเจียงหรง อาเหมยฮัว อั๊วขอหลานธันว์ให้อาหลี่ผิงได้ดูแลแทนทางธนอรรถย์ได้มั้ย”
สิ้นคำของอากงไป๋หลงนั้น อากงเจียงหรงและอาม่าเหมยฮัวสบตากันยิ้มๆ ก่อนท่านทั้งคู่จะไล่สายตามาทางปาป๊าธนิตและหม่าม้านิรชา
“ผมไม่ขัดข้อง แล้วแต่อาเตี่ยและหม่าม้าเลยครับ” ว่าที่พ่อตาผมพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ก่อนท่านจะหันไปมองคู่ชีวิตที่ก็พยักหน้าเห็นด้วย
ทำเอาว่าที่ลูกเขยอย่างผมต้องลอบถอนใจเบาๆออกมา แม้จะรู้แก่ใจดีว่าอย่างไรซะ วันนี้หวางหย่งกังก็จะมีว่าที่นายหญิงรุ่นที่สี่อย่างเป็นทางการแน่นอน ผมที่ปกติไม่ตื่นเต้นหรือหวั่นไหวอะไรง่ายๆ แต่วันนี้มันอดลุ้นและตื่นเต้นไม่ได้จริงๆ
ในเมื่อพิธีสู่ขอขณะนี้ดูขลังและเป็นทางการกว่าที่ผมคิด บวกกับการรวมตัวของสามตระกูล ที่มีญาติผู้ใหญ่ที่ผมและน้องธันว์เคารพรัก ให้เกียรติมาร่วมเป็นสักขีพยานอย่างคับคั่ง ไล่มาตั้งแต่บรรดาอาเจ็กอาโกวของน้องพร้อมคู่ชีวิต รวมถึงบุพการีของเราทั้งคู่ และอากงอาม่าที่เป็นผู้ใหญ่ในการเจรจาครั้งนี้ ซึ่งยังไม่นับรวมน้องๆกับบรรดาหลานๆ และเพื่อนฝูงที่สนิทของเรา ที่รออยู่นอกห้องอีกกลุ่มใหญ่ด้วย
ส่วนน้องธันว์นั้น เรื่องตื่นเต้นไม่ต้องพูดถึง ไม่ใช่ว่าคนเก่งของผมจะไม่มีอาการดังกล่าว แต่เรียกได้ว่าตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง เพราะน้องนั้นตื่นเต้นถึงขั้นนอนไม่หลับเลยทีเดียว เมื่อคืนผมจึงต้องกล่อมเด็กน่ารักนอนในแบบฉบับของผม ทำให้เช้านี้น้องธันว์เปล่งปลั่งดูสดใสน่ารักเป็นพิเศษ
ยิ่งแก้มแดงๆพร้อมอาการเขินอายและหลบตาผมตอนนี้ ยิ่งน่ามองจนผมไม่อาจละสายตา แต่ติดอยู่นิดเดียวที่ผมไม่อาจแตะต้องคนน่ารักได้ เพราะเรานั่งกันคนละฝั่งของห้อง
“ฮึๆ ในเมื่อพ่อแม่ของอาธันว์ไม่ขัดข้อง อั๊วที่เป็นแค่อากงก็ไม่คิดขัดขวางอยู่แล้ว อั๊วเองก็รักตาหลี่ผิงเหมือนหลานคนหนึ่ง และอาหลี่ผิงเองก็ไม่ทำให้อั๊วผิดหวัง เพราะดูแลตาธันว์ได้ดีมาตลอด...อากงฝากตาธันว์ด้วยนะหลี่ผิง”
ผมกระพุ่มมือไหว้อากงเจียงหรงตามธรรมเนียมไทย พร้อมรับคำท่านอย่างแข็งขันด้วยความเต็มใจอย่างยิ่ง และหันมาส่งยิ้มใส่ตาหลานชายอากง ที่เหลือบตามองผมอย่างกล้าๆกลัวๆ ทั้งๆที่แก้มน้องแดงปลั่งจนแทบระเบิด พร้อมแววตาไหวระริกตื่นเต้นอย่างน่ามอง แต่ผมต้องละสายตาจากคนน่ารัก มาทางเจ้าของน้ำเสียงอบอุ่นที่เรียกชื่อผม ด้วยกระแสแห่งความเอ็นดู
“อาหลี่ผิง...อาม่าเชื่อคำสัญญาของลื้อเมื่อสิบกว่าปีก่อน ที่ให้ไว้กับเราทุกคนในห้องนี้มาตลอด ว่าอาหลี่ผิงจะฝึกฝนตัวเองให้เพียบพร้อมและแข็งแกร่ง เพียงเพื่อได้ดูแลหลานชายของอาม่าคนนี้ อาม่ารู้ว่าลื้อต้องลำบากและผ่านอะไรมามากมาย กว่าจะเป็นชายหนุ่มที่สมบูรณ์แบบได้อย่างเต็มภาคภูมิ เพื่อให้ผู้ใหญ่ทุกคนยอมรับ และไว้ใจให้อาหลี่ผิงได้ดูแลอาธันว์ ที่ผ่านมาพิสูจน์ได้แล้วว่า อาหลี่ผิงสามารถดูแลหลานรักของอาม่าได้ดี ไม่อย่างนั้นอาธันว์คงไม่ยิ้มอย่างมีความสุขได้ขนาดนี้หรอกหน่า จริงมั้ยอาธันว์...อาธันว์ ลื้อมีความสุขมั้ย ที่ได้อยู่กับอาหลี่ผิงของลื้อ”
ทุกสายตาจ้องไปยังน้องธันว์เป็นตาเดียว เพราะคำถามของอาม่าเหมยฮัวนั้น ไม่ต่างจากการขอคำตอบจากน้องว่าพร้อมจะแต่งงานกับผมมั้ยสักนิด ผมเองก็จ้องลุ้นรอคำตอบจากคนน่ารักไม่วางตา ไม่ต่างจากผู้ใหญ่รอบตัวเรานัก แต่ที่ต่างคือตอนนี้ผมลุ้นจนยิ้มไม่ออก แถมเผลอกลั้นใจรออย่างอัดอั้น ซึ่งน้องธันว์เองก็จ้องตาผมกลับเช่นกัน ก่อนดวงตาสุกใสเมื่อครู่จะเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำใส เล่นเอาผมใจหายและชาวาบไปตลอดร่าง
แต่ก่อนที่ผมจะตื่นตระหนกไปมากกว่านั้น ริมฝีปากสีสดตรงหน้าก็ค่อยๆคลี่ยิ้ม จนกระทั่งกลายเป็นรอยยิ้มที่แสนอ่อนหวาน ประกอบกับดวงตาวาวรื้นที่ฉายรอยแห่งความสุข ทำให้หัวใจในอกของผมค่อยๆฟูฟ่อง ก่อนจะปรากฏรอยยิ้มบนหน้าผมไม่ต่างจากน้อง เมื่อรู้แน่ชัดว่าคำตอบของน้องธันว์คืออะไร
“ครับ ธันว์มีความสุขที่ได้อยู่กับเฮียหลี่ผิง”
“น้องธันว์~”
ความสนใจของผมตอนนี้ มีแต่ใบหน้าของเด็กน่ารักที่กำลังส่งยิ้มหวานๆให้กันทั้งปากและตา แม้รอบตัวจะดังอื้ออึงไปด้วยเสียงหัวเราะถูกใจ หรือแม้กระทั่งคำแซวจากผู้ใหญ่อารมณ์ดีบางท่านก็ตาม
“ฮึๆ ในเมื่ออาธันว์มีความสุข อาม่าก็คงต้องยกหน้าที่ดูแลน้องหลังจากนี้ให้อาหลี่ผิงล่ะนะ ฝากตาธันว์ด้วยหน่าอาหลี่ผิง”
“ครับ ผมจะดูแลน้องธันว์อย่างดีที่สุด ให้สมกับที่ผู้ใหญ่ของธนอรรถย์ทุกคนไว้ใจ และผมจะดูแลดวงใจดวงนี้ด้วยความรักทั้งหมดที่ผมมีให้น้องครับ” สิ้นคำผมเท่านั้นครับ เสียงหัวเราะด้วยความถูกใจก็ดังขึ้นอีกรอบ
คราวนี้คนน่ารักที่กำลังยิ้มหวานกลับหลบตาผมให้วุ่น ก่อนจะนั่งตัวแดงเป็นกุ้งให้ยิ่งเป็นที่จับตา ถ้าไม่ติดว่ามีผู้ใหญ่อยู่เต็มห้อง ผมคงไปฉุดน้องมาฟัดแก้มให้หนำใจไปแล้ว
“แล้วทางธนอรรถย์จะเรียกสินสอดเท่าไหร่ บอกไว้ก่อนครั้งนี้ต้องเรียกนะ คราวอาธัชก็ทีหนึ่งแล้ว ทางธนอรรถย์ไม่เรียกเลย อั๊วยังขัดใจไม่หาย ถ้าไม่อยากให้อั๊วโกรธ อาเจียงหรงอาเหมยฮัวว่ามา ว่าจะเรียกเท่าไหร่”
ผมเหลือบตาไปมองอาธัชที่โดนอ้างถึง และต้องฉีกยิ้มอย่างกลั้นไม่อยู่
เมื่อคุณอานั่งตาค้างจ้องอากงไป๋หลงไม่กระพริบ ทั้งๆที่แก้มแดงปลั่งไม่ต่างจากหลานชายคนโต ที่เริ่มกลับมาอมยิ้มมองอาธัชตาระยับ ส่วนอาตี้หลงที่นั่งเคียงข้างก็จ้องอาธัชไม่วางตา แววตาที่ผมเห็นแสดงออกถึงความหลงใหลอย่างปิดไม่มิด
ส่วนบรรดาน้องชายน้องสาวของอาธัช แม้ไม่มีเสียงแซวพี่ชายคนรองออกมา แต่กลับส่งยิ้มล้อเลียนให้พี่ชายได้ยิ่งทำตัวไม่ถูก ก่อนอาธัชจะแก้เขินด้วยการหันมาเข่นเขี้ยวใส่คนของตัวเองอีกทอด แต่อาตี้หลงก็ไม่นึกเกรง กลับคว้ามืออาธัชมากุมต่อหน้าพวกเราทุกคน ซึ่งมามาเฟิงหวงที่กำลังนั่งส่งยิ้มให้ปาปาหลี่จวินด้วยความถูกใจนั้น ท่านคงนึกเห็นใจพี่สะใภ้ จึงเอ่ยประโยคต่อมาเพื่อเรียกร้องความสนใจมาที่ตัวท่านเอง
“อาเตี่ยเจียงหรง หม่าม้าเหมยฮัว ผมรู้ว่าท่านลำบากใจ และอย่าว่าทางเราดูถูกเลยนะครับ ผมกับเฮียหลี่จวินเตรียมรายการสินสอดไว้แล้ว เพราะตั้งใจมาขอน้องธันว์ให้ลูกชายของเรา และรู้ว่าอย่างไรซะ อาเตี่ยกับหม่าม้าต้องไม่เรียกสินสอดจากทางเราแน่ๆ นี่ครับ....ผมว่ามันยังน้อยไปด้วยซ้ำ สำหรับการที่หวางหย่งกังได้รับเกียรติให้ดูแลน้องธันว์ เพราะน้องธันว์มีค่าเกินกว่าทรัพย์สินเหล่านั้น อาเตี่ย หม่าม้า ช่วยรับไว้ให้ทางหวางหย่งกังได้สบายใจด้วยเถอะครับ”
กระดาษขนาดเอสี่หลายใบถูกยื่นให้อากงเจียงหรงเป็นคนแรก ก่อนจะถูกส่งเป็นทอดๆไปยังอาม่าและปาป๊าธนิตกับหม่าม้านิรชา ซึ่งแต่ละท่านต่างทำสีหน้าลำบากใจ พร้อมลอบสบตากันเงียบๆ จนกระทั่งมามาเฟิงหวงพูดประโยคสุดท้ายออกมาตามที่เราได้ยินไปนั่นแหละครับ
พวกท่านถึงถอนใจออกมาและหันมาส่งยิ้มให้ผู้ใหญ่ฝ่ายผมได้ชื่นใจ ด้วยเป็นสัญญาณอันดีว่าทางธนอรรถย์จะยอมรับสินสอดเหล่านั้น เพราะตามที่มามาบอกไปว่าทรัพย์สินพวกนั้น ไม่ได้มีค่าเท่ากับคนรักตัวเล็กที่นั่งหลบตาผมตอนนี้ได้เลย
“เอาเถอะ อาเฟิงหวง อาไป๋หลง ในเมื่อพวกลื้อเตรียมพร้อมกันมาขนาดนี้ ทางเราก็จะรับไว้ แต่ไม่คิดจะเก็บไว้เองหรอกนะ เพราะอั๊วก็แก่แล้ว ส่วนพ่อแม่อาธันว์เอง คงไม่สามารถดูแลทรัพย์สินเหล่านั้นได้หรอก เอาเป็นว่ายกให้เด็กๆที่กำลังจะร่วมใช้ชีวิตคู่ด้วยกันก็แล้วกันนะ...วันนี้วันดี เราจะไม่เถียงกันหน่าอาไป๋หลง เพราะอั๊วถือว่าไม่ได้ปฏิเสธสินสอดเหล่านั้นหน่า ฮ่าๆ” สุดท้ายสิงห์เฒ่าอย่างอากงเจียงหรงก็แก้เกมพญามังกรขาวได้สำเร็จ
รายการทรัพย์สินไม่ว่าจะเป็นที่ดินในฮ่องกงหลายเมือง หุ้นส่วนโรงแรมในเครือหวางหย่งกังจำนวนสามสิบเปอร์เซ็น หุ้นในตลาดหลักทรัพย์นับไม่ถ้วนที่ผมถือครองอยู่ หรือแม้แต่กรรมสิทธิ์โรงแรมในกงอิน ที่ทางหวางหย่งกังเตรียมถ่ายโอนให้ทางธนอรรถย์ กลับถูกอากงเจียงหรงปฏิเสธแบบเหนือชั้น ด้วยการยกทรัพย์สินเหล่านั้นกลับมายังเราทั้งคู่ แถมคำเตือนปิดท้ายถึงวันสำคัญอย่างอารมณ์ดี ทำให้อากงไป๋หลงถึงกลับถอนใจ เปลี่ยนมานั่งกอดอกรักษามาดมาเฟียรุ่นดึกอย่างยอมจำนน แต่หลังจากนั้นไม่นานบรรดาผู้ใหญ่ต่างพากันส่งยิ้มให้แก่กัน ด้วยความเข้าอกเข้าใจ
ผมและน้องธันว์ถูกเรียกให้มานั่งบนพื้นต่อหน้าผู้อาวุโสทั้งสามท่าน เมื่อมีโอกาสเผชิญหน้ากับน้องใกล้ๆ ผมถึงกลับเผลอจ้องคนน่ารักไม่วางตา ทำเอาน้องที่ไม่กล้าสบตาผมแต่แรกแล้วนั้น ถึงกลับก้มหน้างุดแก้มแดงหูแดงเข้าไปใหญ่ จนอาเจ็กธีถึงกลับเอ่ยแซว โดยมีอาหมอนัชเป็นลูกคู่ขึ้นมาทีเดียว ซึ่งผมก็ทำเพียงส่งยิ้มให้คุณอาของน้อง ก่อนหันมาสนใจเด็กแก้มแดงของผมต่อ แต่ก่อนที่ผมจะเพลินไปกับเจ้าของแก้มแดงๆเรือนกายหอมๆนั้น
ปาปาหลี่จวินก็เร่งให้ผมสวมแหวนหมั้น ผมจึงจับมือน้อยที่เย็นเฉียบบนหน้าตักขึ้นมา ก่อนบรรจงสวมแหวนทองคำเกลี้ยงบนนิ้วนางข้างซ้ายของน้อง และค่อยๆเงยหน้าขึ้นสบตากับแววตาเขินอาย พร้อมคลี่ยิ้มหวานหยดใส่ดวงตาคู่นั้น แต่ก็ทำเอาน้องธันว์ถึงกับอมยิ้มแก้มตุ่ย และกระชับมือเข้ากับฝ่ามือผมจนแน่น ก่อนน้องจะสวมแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายให้ผมเช่นกัน
แสงสะท้อนแวววาวบนผิวเรียบเกลี้ยงของแหวนทองคำบริสุทธิ์ทั้งสองวง เปรียบเป็นดังสัญลักษณ์แห่งการครองคู่ของผมกับน้องธันว์นับจากนี้
“น้องธันว์เป็นคนของตระกูลหวางอย่างสมบูรณ์แล้วนะครับ” เพียงแค่คำกระซิบเบาๆของผมข้างหู น้องธันว์ถึงกลับสะท้าน ก่อนจะช้อนตามองผมด้วยสายตาอ่อนหวาน แม้ไม่มีคำตอบรับจากริมฝีปากที่กำลังคลี่ยิ้ม แต่ผมก็อ่านแววตาระยิบระยับคู่นี้ออก ว่าเจ้าของนั้นยอมรับคำพูดผมอย่างไม่มีข้อแม้
“พิธีการสู่ขอและหมั้นหมายก็ผ่านไปแล้ว ส่วนเรื่องพิธีและงานแต่งในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า ทางเราจะจัดให้สมเกียรติ เพื่อต้อนรับหลานสะใภ้คนแรกเลยทีเดียว ฮึๆ” ผมกุมกระชับมือน้อยไว้แน่น ด้วยใจฟูฟ่องยามนึกถึงงานแต่งงานที่จะเกิดขึ้น ตามอย่างที่อากงไป๋หลงว่าไว้
ผมและปาปาหลี่จวินวางแผนไว้ว่าจะใช้โรงแรมในกงอินเป็นสถานที่จัดงานครั้งนี้ ตั้งใจว่าจะจัดให้ยิ่งใหญ่ ด้วยการเชิญแขกคนสำคัญของฮ่องกงในทุกสาขามาร่วมงาน เพื่อประกาศให้รู้กันไปเลยว่าหวางหย่งกังมีว่าที่นายหญิงคนใหม่แล้ว พร้อมทำการเปิดตัวโรงแรมไปด้วยเลย
อย่างตอนนี้ข่าวงานแต่งของผมกับน้อง ได้เล็ดลอดเข้าหูนักข่าวบางสำนักบ้างแล้ว และมีติดต่อขอทำข่าวกันให้วุ่น แต่ผมบอกปฏิเสธและเชิญให้ทำข่าวในงานทีเดียว ด้วยต่างอยากรู้ว่าเจ้าสาวของผมเป็นใคร และมีความเป็นมาอย่างไร ถึงทำให้นายน้อยตระกูลหวางอย่างผม ยึดมั่นในความรักที่มีต่อน้อง ถึงขั้นมีงานแต่งครั้งนี้ขึ้นมาได้
ตลอดมาเป็นที่รู้กันแบบไม่เปิดเผยนัก ว่าผมมีคนรักเป็นผู้ชาย ร่วมกับผมพยายามปกปิดประวัติของน้องธันว์ไว้ ด้วยไม่อยากให้ใครก็ตามมาลุกล้ำความเป็นส่วนตัวของน้อง ที่สำคัญคือเพื่อป้องกันอันตรายที่จะตามมา หากศัตรูล่วงรู้ว่าน้องธันว์คือคนที่ผมรัก แต่ ณ เวลานี้ผมแข็งแกร่งพอที่จะปกป้องคนที่ผมรักได้แล้ว
“ยินดีด้วยหลี่ผิง...ยินดีด้วยว่ะ ว่าที่เจ้าบ่าว ฮึๆ...ยินดีด้วยเพื่อน” เสียงแสดงความยินดีของเพื่อนสนิททั้งสาม อย่างไอ้โจเซฟ ไอ้พอล ไอ้ไรอันดังขึ้นทันทีที่ผมก้าวเข้าไปร่วมกลุ่มด้วย
ผมเอ่ยขอบใจพร้อมจับมือพวกมันรายคน และอดซึ้งใจไม่ได้จริงๆ ทั้งๆที่เป็นเพียงงานหมั้น แต่พวกมันก็ยังสละเวลามาร่วมแสดงความยินดีกับผมถึงเมืองไทย แม้หนึ่งในนั้นจะถือโอกาสมาเจอน้องสาวคนสวยของผมก็ตาม แต่ครั้งนี้ผมจะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นไปก่อน ด้วยเห็นแก่ความเป็นเพื่อน และเห็นแก่ความอดทนที่แสดงถึงความจริงใจของไอ้ไรอันที่มีต่อเหมยอิง
“หลี่ผิง วันนี้น้องธันว์น่ารักเป็นพิเศษเลยว่ะ สงสัยจะมีความสุขที่จะเป็นเจ้าสาวของนายในเร็ววันนี้ ฮึๆ” ผมหัวเราะคลอเบาๆไปพร้อมไอ้ลูกครึ่งหน้าเป็นอย่างไอ้พอล เพราะเห็นด้วยอย่างยิ่งกับความเห็นของมัน
ปลายสายตาผมขณะนี้ น้องธันว์ถูกห้อมล้อมไปด้วยบรรดาเพื่อนสนิท และน้องชายน้องสาวของเราร่วมสิบชีวิต ซึ่งคนเก่งของผมกำลังระบายยิ้มเต็มหน้าจนตายิบหยี พร้อมแก้มทั้งสองข้างที่สุกปลั่ง เท่าที่ผมสังเกตน้องกลายเป็นผู้ฟังมากกว่าผู้พูดอย่างเคยไปซะแล้ว ด้วยโดนน้องชายน้องสาวตัวน้อยแย่งซีนพูดเจื้อยแจ้วไม่หยุด เพราะน้องๆคงต่างอยากแสดงความยินดีกับอาเฮียตัวน้อยกันถ้วนหน้า
โดยเฉพาะน้องภูมิลูกชายอาณิชกับอาภานุ และน้องนีซกับน้องนอร์ทลูกสาวลูกชายของอาหมอนัชกับอาอนณนั้น ต่างแย่งกันดึงความสนใจจากน้องธันว์กันใหญ่ ด้วยน้องๆไม่ได้เจออาเฮียตัวน้อยมาหลายเดือนแล้ว ส่วนเทียนหลงและเหม่ยเทียนก็ยืนอยู่ในกลุ่มนั้นด้วย ฝาแฝดของเรายืนมองบรรดาพี่ๆน้องๆด้วยสีหน้ามีความสุขไม่ต่างจากคนอื่น
ผมที่ยืนมองเหตุการณ์ตรงหน้า ที่มีน้องธันว์เป็นจุดรวมความสนใจของทุกคน พร้อมเพื่อนสนิททั้งสามอยู่นั้น ได้แต่ฉีกยิ้มกว้างอย่างไม่รู้ตัว จนไอ้ไรอันกระแทกไหล่เข้าใส่นั่นแหละ ผมจึงได้รู้สึกตัวว่ายืนมองเด็กน่ารักของตัวเองแบบไม่สนโลกอยู่นานแล้ว
“ฮึๆ หลี่ผิง นายรู้ตัวมั้ยว่ากำลังจ้องน้องธันว์ เหมือนว่านายอยากจะจับน้องกินซะตรงนี้” ไม่ผิดไปจากไอ้โจเซฟมันว่าหรอกครับ
ผมอยากฉุดเด็กน่ารักของผมเข้าห้อง ตั้งแต่เสร็จพิธีหมั้นหมายเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนแล้ว หากแต่เป็นไปไม่ได้ ด้วยยังมีญาติสนิทมิตรสหายมากมายรอแสดงความยินดีกับเราทั้งคู่อยู่ ผมกับน้องธันว์จึงต้องมาอยู่ตรงนี้ เพื่อให้ทุกคนได้ร่วมแสดงความยินดีกับเรา ซึ่งบรรยากาศขณะนี้เหมือนเป็นการรวมญาติครั้งใหญ่มากกว่า เพราะมีคนที่เรารักและรักเราตั้งสามรุ่น
ตั้งแต่รุ่นใหญ่อย่างบรรดาอากงอาม่าของเราสามตระกูล รวมทั้งพ่อแม่ทางฝั่งของอาหมอภีมและอาภานุวัฒน์ก็มา ตามมาด้วยรุ่นกลางอย่างปาปามามา และบรรดาอาเจ็กอาโกวของน้องพร้อมคู่ชีวิต สุดท้ายรุ่นเล็กอย่างบรรดาน้องๆที่เป็นรุ่นหลานอย่างผมกับน้องธันว์ พอได้รวมตัวกันในวันนี้แล้ว เรียกได้ว่าก่อเกิดเป็นบรรยากาศที่ครื้นเครง อบอวลไปด้วยความสุขและเต็มไปด้วยรอยยิ้มทั่วทั้งงาน
“หลี่ผิง น้องธันว์มองมาทางนี้แล้ว เด็กอะไรวะ ยิ้มหวานเป็นบ้า เห็นครั้งแรกเป็นยังไงวันนี้ก็ไม่เคยเปลี่ยน”
วันนี้ผมจะยกให้ไอ้พอลมันสักวัน ที่บังอาจมาชื่นชมรอยยิ้มของเด็กน่ารักให้ผมได้ยิน เพราะผมอารมณ์ดีเกินกว่าจะเอาเรื่องมัน ด้วยตอนนี้เจ้าของรอยยิ้มหวานๆ กำลังเดินช้าๆมาตรงหน้าผม พร้อมบรรดาน้องชายน้องสาวของเราทั้งคู่ ยกเว้นก็แต่ฝาแฝดคนสวยอย่างเหมยอิง ที่ยังยืนยิ้มรวมกลุ่มคุยอยู่กับนายนนนายเบสน้องนลินและนายอเล็กซ์อยู่ที่เดิม
“เฮียหลี่ผิงรูปหล่อคะ” ผมละสายตาจากดวงตาคู่หวานของคนรัก มายังเจ้าของเสียงน่ารักสมตัวอย่างน้องนีซ น้องสาวตัวน้อยที่อายุเจ็ดขวบของเรา และอดไม่ได้จริงๆที่จะยิ้มหวานใส่ตาเด็กน้อยช่างพูด ที่ยังกุมมือเฮียธันว์ของตัวเองไม่ปล่อย ก่อนผมจะรับคำน้องสาวด้วยเสียงนุ่มๆ เสียงที่ผมเคยใช้แต่กับอาเฮียตัวเล็กของน้องนีซ
“ว่าไงครับ น้องนีซคนสวย” เด็กน้อยในชุดกระโปร่งสีชมพูหวานส่งยิ้มเอียงอายให้ผมทันที ก่อนจะเอาใบหน้าน่ารักๆซุกเข้ากับท่อนแขนของคนที่น้องกุมมืออยู่ ซึ่งอาการของน้องนีซพาให้พี่ๆคนอื่นหัวเราะคิกคักด้วยความเอ็นดู
จังหวะที่ผมเงยหน้าจากร่างน้อยของน้องสาวตัวเล็กนั้น ผมได้สบตาสุกใสของน้องธันว์เข้า พลันให้ทุกสรรพเสียงรอบตัวจางหาย เหลือเพียงใบหน้าของคนรักที่กำลังส่งยิ้มให้กันเท่านั้น
ผมไม่รู้ตัวเลยว่าได้ยื่นมือเข้าหาแก้มใสๆของน้องธันว์ และไล้ผิวแก้มเนียนด้วยปลายนิ้วตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมมารู้ตัวก็ต่อเมื่อ ร่างนุ่มนิ่มของน้องธันว์ถูกผลักเข้าหาอก จากฝีมือน้องสาวอย่างน้องเหม่ยเทียนและน้องนีซ พร้อมเสียงสดใสของน้องธารณ์ที่ดังตามมา
“พวกเราฝากเฮียธันว์ไว้ในความดูแลของเฮียหลี่ผิงด้วยนะคะ”
“ตลอดชีวิตครับ...เฮียสัญญาจะดูแลเฮียธันว์ของน้องธารณ์ตลอดชีวิตนับจากนี้” ผมไม่เพียงแต่จะให้สัญญาต่อน้องๆของเราเท่านั้น เพราะผมตั้งใจยื่นสัญญารักให้คนน่ารักแก้มแดงของผมได้รับรู้ด้วย
“วี้ดวิ้ววว...คิกๆ แปะๆๆ...เฮียหลี่ผิงสุดยอด ฮ่าๆๆ...ยินดีด้วยนะครับเฮียธันว์เฮียหลี่ผิง...หอมเลยๆ...เฮียหลี่ผิงหอมแก้มเฮียธันว์หน่อยสิคะ”
เสียงรอบตัวอื้ออึงขึ้นทันที จนไม่รู้ว่าเสียงใครเป็นเสียงใคร ทั้งเสียงเป่าปาก เสียงหัวเราะกังวานด้วยความสุข เสียงเยินยอ หรือแม้แต่เสียงแสดงความยินดี ตีกันให้วุ่นอยู่รอบตัวเราทั้งคู่ แต่เสียงเชียร์ที่ดังขึ้นท้ายๆนี่สิครับ ทำเอาคนในอ้อมกอดผม ถึงกลับยอมเงยหน้าแดงๆขึ้นจากอกมาทำตาโตใส่กัน ก่อนจะเหลียวมองรอบตัวด้วยใบหน้าเลิ่กลั่ก และส่ายหน้าปฏิเสธจนผมกระจาย เมื่อเสียงเชียร์ให้ผมหอมแก้มน้องดังขึ้นซ้ำๆ จากใครหลายๆคน
เสียงที่ผมได้ยินชัด ผมจำได้ดีว่าเป็นของไอ้พอล แบบนี้ค่อยน่ายกเลขาคู่กายให้หน่อย งานสำคัญอย่างวันนี้ฝูหรงก็มาด้วย แต่กำลังง่วนอยู่กับการคอยดูแลผู้ใหญ่อยู่อีกด้าน ซึ่งผมแอบเห็นอยู่หรอกว่าไอ้พอลคอยมองคนของมันตลอดเวลา
“หลี่ผิงหอมน้องโชว์หน่อยสิวะ หอมเลยๆ...เฮียหลี่ผิงหอมเลยค่ะ...ตาหลี่ผิงหอมเลย เจ็กอนุญาต ฮ่าๆ...หอมเลยๆๆๆ” ผมยักคิ้วใส่ไอ้พอลพร้อมกระตุกยิ้ม แทนคำขอบคุณให้ไอ้เพื่อนที่แสนรู้ใจ เพราะมันแท้ๆครับ ที่เป็นต้นเสียงปลุกระดมให้บรรดาน้องๆ หรือแม้แต่แขกผู้ใหญ่บางท่าน ตะโกนเชียร์ให้ผมได้มีโอกาสหอมแก้มแดงๆตรงหน้า
ผมจึงเชยคางคนน่ารักขึ้นอย่างช้าๆ และไม่ต้องบอกเลยว่าตอนนี้น้องธันว์จะมีสีหน้าแบบไหน ถ้าไม่ใช่เขินจัดจนพูดไม่ออก แถมแก้มยังสุกปลั่งแทบแตกอยู่แล้ว ผมจึงก้มหน้าเข้าหาแก้มใสอย่างช้าๆ จนรู้สึกได้ว่าคนที่กำลังหลบตากันกำลังกลั้นลมหายใจไว้ ด้วยน้องคงลุ้นจัดว่าเมื่อไหร่ปลายจมูกผมจะชนแก้มน้องสักที ผมจึงแกล้งหยุดใบหน้าไว้ ทั้งๆที่อีกเพียงคืบเท่านั้น ปลายจมูกผมก็จะได้สูดกลิ่นหอมๆของแก้มน้องแล้ว
ส่วนเสียงที่เคยเชียร์อยู่รอบตัวกลับเงียบกริบ เหมือนว่าทุกคนกำลังลุ้นไม่ต่างจากเจ้าของร่างน้อยในอ้อมกอดของผมนัก และที่ผมหยุดรักษาระยะห่างไว้เท่านี้ เพราะผมก็กำลังลุ้นไม่ต่างจากทุกคน ส่วนลุ้นเรื่องอะไรน่ะเหรอครับ ฮึๆ ก็ลุ้นให้เป็นแบบนี้นี่ไง...
“อ๊ะ!...จุ๊บ!...เฮีย! มาเฟียเจ้าเล่ห์...จุ๊บ!” จัดไปอีกสักจุ๊บที่ปากแดงๆช่างต่อว่าคู่นี้ครับ เด็กน้อยกล้าต่อว่าสามีที่รักดีนัก แบบนี้ต้องโดนลงโทษ
คุณคงไม่สงสัยแล้วใช่มั้ยว่าผมรออะไร ผมรอแค่ให้น้องธันว์หันมาหาเท่านั้น เพราะริมฝีปากนิ่มๆน่าลิ้มลองกว่าเป็นไหนๆ และไม่เสียเวลาเดาว่ารอบกายที่เคยเงียบ จะกระหึ่มไปด้วยเสียงกรีดร้องและเสียงชื่นชมเพียงใด เรียกได้ว่าคนโดนขโมยจูบต่อหน้าเพื่อนๆและญาติๆ ต้องยกมือปิดหูและซุกหน้าเข้าหาอกผมแก้เขินเลยทีเดียว ผมจึงได้โอกาสรวบตัวคู่หมั้นหมาดๆเข้าหาอก ก่อนเป็นฝ่ายแจกจ่ายรอยยิ้มรับคำชมเชยแต่เพียงผู้เดียว ปล่อยให้น้องธันว์ได้ซ่อนหน้าหนีอายไปครับ
ผมสอดส่ายสายตาไปรอบตัว เพื่อเก็บภาพความทรงจำของวันแห่งความสุขนี้ไว้ วันที่เปรียบเป็นจุดเริ่มต้นชีวิตคู่ของผมกับคนที่ผมรักอย่างแท้จริง และเป็นวันที่มีคนที่เรารักและรักเรามาร่วมแสดงความยินดีกับเราอย่างมากมาย หากวันใดเจออุปสรรคระหว่างเส้นทางรัก ผมจะได้นึกถึงวันนี้และใช้มันเป็นกำลังใจ ร่วมกับใช้ความรักของเราฝ่าฟันทุกอุปสรรค เพื่อให้ผมกับน้องธันว์ได้ก้าวต่อไปบนเส้นทางรักสายนี้ด้วยกันตราบนานเท่านาน
‘ผมสัญญาว่าจะรักและดูแลคนเก่งของผมคนนี้ตลอดไป’
.
.
.
.
THE END
ในที่สุดเราก็พาน้องธันว์และหลี่ผิงถึงฝั่งไปอีกคู่แล้ว
ดีใจจัง...แต่แอบใจหายเล็กๆ เป็นแบบนี้ทุกครั้งที่ถึง
ตอนสุดท้ายของเรื่อง

แต่ค่ะแต่...ตามที่สัญญาไว้ว่าจะมีอีก 2 ตอนพิเศษ
เพื่อคุณผู้อ่านที่น่ารัก ก่อนจะลาจอไปจริงๆ
สามารถติดตามตอนพิเศษตอนแรกได้ในวันศุกร์หน้าน้า
บอกเลยว่าฟิน ฮุๆ

+1และเป็ดสำหรับทุกเม้นท์ ขอบคุณทุกการติดตามนะคะ
ปล.เรื่องต่อไปจะเป็นคู่ของนนและเบสค่ะ อดใจรอกันนิดนะคะ
ไม่เกินกลางเดือนหน้ามาให้ได้อ่านแน่นอนจ้า
