ตอนที่ 8หวางหลี่ผิง “ฟอดดด หลับซะคนเก่ง”
“เฮียหลี่ผิงกลับโรงแรมอีกมั้ย ฮ้าววว”
“ไม่แล้ว น้องธันว์นอนนะครับ”
“อื้อ” สิ้นคำตอบรับบางเบา เจ้าของเสียงก็หลับตาพริ้มในท่านอนตะแคง พร้อมประกบมือทับมือผมไว้ที่แก้มตัวเอง และมีซุนหัวเข้ากับหมอนหนุนหาตำแหน่งสบาย ท่วงท่าออดอ้อนที่แสดงได้อย่างเป็นธรรมชาติของแฟนตัวเล็ก ทำให้ผมอดใจไม่ไหวมอบจุมพิตที่หน้าผากมนอีกครั้ง หลังจากได้ขโมยกลิ่นแก้มใสของหนุ่มน้อยมาแล้ว
ผมนั่งมองน้องธันว์จนหลับสนิท ก่อนจะค่อยๆดึงมือออกจากมือน้อย และยกมันขึ้นรับจุมพิตบางเบาอีกครั้งเป็นการปิดท้ายส่งเจ้าชายตัวน้อยเข้านอน ตอนนี้ผมทั้งสงสารและรู้สึกผิดต่อน้องธันว์มากเลยล่ะครับ แต่เมื่อคืนใครใช้ให้แฟนตัวน้อยของผมน่ารักช่างยั่วได้ขนาดนั้นกัน ผมผู้เป็นเจ้าของจึงอดใจไม่ไหวกดน้องไปซะสามรอบ แต่จะว่าผมกดน้องซะทีเดียวก็ไม่ใช่นะ เพราะมีบางจังหวะที่ผมโดนน้องกดเหมือนกัน
ผิวแก้มที่สุกปลั่งและตัวแดงๆที่ขยับโยกบนตัว จนรู้สึกถึงน้ำหนักและความลึกล้ำ บวกปากฉ่ำน้ำที่เผยอเรียกผมไม่ขาด อ่าๆๆ อย่าไปคิดถึงมันดีกว่าครับ เพราะขืนปล่อยให้ผมจินตนาการถึงเหตุการณ์เมื่อคืนต่อ มีหวังน้องธันว์อาจจะต้องรับศึกหนักต่อในคืนนี้ก็ได้
ผมตัดใจจากร่างบางบนเตียงเพื่อเดินออกนอกห้อง และปล่อยให้คนที่อ่อนเพลียจากกิจกรรมรักได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ให้สมกับที่เด็กจอมขยันยอมขาดงานช่วงบ่าย แต่ผมอดยิ้มภูมิใจกับพฤติกรรมของน้องธันว์ช่วงเที่ยงไม่ได้จริงๆครับ ‘น้องธันว์หึงผมกับฝูหรง’
จริงๆผมรู้ตั้งแต่เมื่อวานแล้วครับ จากสายตาที่น้องใช้จับผิดผมตั้งแต่กลับมาจากห้องน้ำ บวกสายตาที่น้องใช้มองฝูหรงอย่างไม่ไว้ใจเข้าไปอีก ทำให้ผมแปลได้อย่างเดียวว่าโดนคนน่ารักเค้าหึงเงียบเข้าแล้ว แต่ที่ผมไม่กระโตกกระตากทันทีที่ได้รู้ และแอบสำรวจน้องแบบไม่ให้รู้ตัว เพราะอยากดูว่าน้องธันว์จะแสดงพฤติกรรมอะไรออกมาให้ผมได้ดีใจบ้าง
อย่างเช่นอาการแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของแบบออกหน้า เพื่อประกาศให้คนทั้งโลกได้รู้ว่าผมเป็นของน้อง เหมือนที่ผมตั้งใจทำกับน้องบ่อยๆ แต่ก็ไม่มีซะล่ะที่คนน่ารักจะทำให้ได้ชื่นใจ มีแต่นั่งเงียบคิ้วขมวดเหมือนคนคิดหนักแบกโลกทั้งใบซะมากกว่า ทำเอาผมเริ่มใจไม่ดีกลัวน้องคิดไปไกล
แต่สุดท้ายคนน่ารักก็ทำตัวได้สมกับเป็นผู้ครอบครองหัวใจพญามังกร เพราะน้องหันมาอ้อนกันทั้งสีหน้าและแววตา แถมด้วยการบอกรักหวานๆที่ทำผมใจสั่น จนอดใจไม่ไหวปล้นจูบน้องตั้งแต่อยู่บนรถ หลังจากนั้นก็ตามที่คุณรู้ว่าผมสูบพลังจากคนเก่งของผมซะเจ้าตัวหมดแรง จนได้กลับมานอนที่บ้านในบ่ายนี้นั่นเอง
ส่วนฝูหรงสำหรับผมนั้นเขาคือเลขาคนสนิทเท่านั้น ไม่มีทางเปลี่ยนสถานะเป็นอื่นอย่างแน่นอน และไม่ว่าข้างตัวผมจะมีน้องธันว์หรือไม่ก็ตาม ฝูหรงก็ยังคงเป็นเพียงลูกน้องในปกครอง ถ้าจะถามหาเหตุผลผมก็คงคิดหนัก แม้ฝูหรงเองก็ดูดีไม่มีอะไรด้อยไปกว่าน้องธันว์ก็ตาม ดังนั้นคงมีเพียงเหตุผลเดียวที่ผมมีให้ คือผมไม่ได้มีจิตผูกพันด้วยนั่นเอง
ถ้าจะเปรียบให้คุณเห็นภาพ ฝูหรงคงเปรียบได้กับรูปภาพของจิตรกรฝีมือเยี่ยม ที่มีเทคนิคแพรวพราวในการวาดและใช้สีคุณภาพสูง ทำให้ภาพที่วาดเสร็จนั้นดูสวยงาม แต่ไม่ได้หมายความว่าภาพนั้นจะถูกกล่าวขวัญและโด่งดังขึ้นมาได้ ผิดจากภาพจิตรกรข้างถนนที่รังสรรค์ภาพจากประสบการณ์แห่งชีวิต ไม่ได้มีเทคนิคมากมายและสีที่ใช้ก็หาได้ทั่วๆไป แต่พอได้ชื่นชมกลับเห็นถึงเรื่องราวและกลิ่นไอของความมีชีวิต สามารถดึงดูดความสนใจของผู้คนที่พบเห็น จนไม่อาจถอนสายตาได้ ซึ่งกรณีนี้คงเปรียบได้กับน้องธันว์ในสายตาของผมล่ะครับ
เพราะสำหรับน้องธันว์ผมกลับหาเหตุผลมาตอบคุณได้ร้อยแปดว่าทำไมผมถึงรักน้อง ด้วยลิงน้อยในสายตาของผมนั้น มองไปทางไหนก็ดูดีและน่ารักไปซะหมด แม้ยามน้องขัดใจไม่เชื่อฟังเรื่องฝึกงาน ผมยังหาเหตุผลมารองรับได้ ทำเอาหน้าบู้ๆตาแข็งๆของเด็กดื้อน่าเอ็นดูขึ้นมาทันตา ด้วยรู้ว่าน้องน้อยที่ผมเฝ้ามองเค้าเริ่มโตเป็นผู้ใหญ่มีความรับผิดชอบขึ้นแล้วนั่นเอง บวกเข้ากับความผูกพันที่ยาวนานของเราด้วย จึงไม่มีเหตุผลอะไรที่ผมจะไม่รักลิงน้อยจอมซนคนนี้
ผมหวังว่าหลังจากนี้คนเก่งของผมคงมั่นใจเต็มร้อยได้สักทีว่า ตลอดชีวิตนี้ผมคงไม่สามารถรักใครได้นอกจากน้องธันว์อีกแล้ว แต่การหาเหตุมาสร้างสถานการณ์ตอกย้ำความสัมพันธ์ของเราที่น้องทำเมื่อกลางวันผมกลับชอบ และเต็มใจร่วมมือเต็มที่แบบที่น้องไม่รู้ตัวว่าถูกผมล่วงรู้ความในใจเข้าแล้ว ผมรู้ว่าที่น้องทำเพราะรักและหวงแหนในตัวผม และผมยังเป็นที่รักและเป็นที่ต้องการของน้องด้วย คิดแบบนี้ทีไรทำเอาหุบยิ้มไม่ลงสักทีสิน่า
“หลี่ผิงยิ้มไม่หุบขนาดนี้ มีอะไรดีแน่ๆ บอกมามาได้มั้ย” น้ำเสียงอบอุ่นเอื้ออาทรของมามาคนสวยที่ดังขึ้น สามารถดึงความสนใจของผมออกจากใบหน้าสดใสในจินตนาการได้ ก่อนผมจะส่งยิ้มตอบและตรงเข้าไปหอมแก้มใสของมามา ทำเอาเจ้าของตัวจริงอย่างปาปาถลึงตาเข้าใส่ พร้อมเสียงกระแอมเบาๆเป็นการตักเตือน
ผมก็ได้แต่ทำหน้าเฉยแกล้งไม่สนใจปาปา และเดินไปนั่งโซฟาตัวข้างๆท่านทั้งคู่ คนที่ผมหอมแก้มนั้นคือมามาของผมนี่ครับ
แถมผมก็หอมของผมมาแต่เด็กแล้วด้วย ปาปาก็ยังหวงมามาได้แม้กระทั่งคนเป็นลูกอย่างผม แต่ที่ทำไปผมก็แค่แหย่ปาปาเล่นเท่านั้น ด้วยรู้และเข้าใจปาปาขี้หึงเป็นอย่างดี เพราะเรานั้นหัวอกเดียวกัน ส่วนมามาเฟิงหวงเองก็แค่ส่ายหัวยิ้มๆให้เราพ่อลูก ก่อนท่านจะโดนปาปาแกล้งรวบเอวเข้าหาตัว
“อะแฮ่ม! โตแล้วนะหลี่ผิง...สีหน้าแบบนี้ไม่ต้องเดาเลยว่าทำไมถึงยิ้มไม่หุบ ฮึๆ” เสียงหัวเราะและสายตารู้เท่าทันของปาปา ทำให้ผมแค่ส่งยิ้มและยักคิ้วเล็กๆส่งให้ท่านอย่างรู้กัน แต่คงไม่ถูกใจคนสวยของพวกเราเข้าแล้วครับ
“พ่อลูกนี่ยังไงกันครับ คิดจะมีความลับรึไงกัน” คนสวยทำหน้าบึ้งตาดุนี่ก็น่ากลัวใช่เล่นนะครับ และคนที่กลัวจริงจังอย่างปาปาก็รีบเอาใจมามาเฟิงหวง ด้วยการลูบเอวและส่งยิ้มเอาใจให้ท่านทันที ก่อนจะง้อด้วยเสียงหวานๆ จนผมต้องเบือนหน้าหลบมาอมยิ้ม ให้กับภาพงอนง้อหวานๆของบุพการี ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าไหร่ก็ไม่สามารถทำให้ปาปาหลี่จวินเปลี่ยนท่าทีต่อมามาเฟิงหวงได้เลย
“หลี่ผิงครับ ลูกคงไม่ได้เอาเปรียบน้องธันว์ จนน้องไม่สบายใช่มั้ย...อย่าคิดโกหกมามานะครับ” เอาล่ะสิครับงานนี้ขืนโกหกและถูกจับได้ มังกรเยี่ยงผมคงถูกขอดเกล็ดไม่ต่างจากงูเขียวแน่ๆ บวกสายตากดดันของปาปาที่ส่งมาให้ผมคายความจริง เพราะท่านต้องการเอาใจคู่ชีวิตเข้าไปอีก ผมจึงได้แต่อ้อมแอ้มยอมรับความจริงออกไป
“มามาจะทำยังไงกับลูกดีหึ! หลี่ผิงลูกโตแล้วนะครับ ทางธนอรรถย์ไว้ใจเราให้ดูแลน้องธันว์ แต่ลูกกลับหักโหมเอากับน้อง...เฮ้อออ มามาเข้าใจนะครับ แต่ลูกต้องหักห้ามใจไว้บ้าง ขืนเป็นแบบนี้บ่อยๆน้องจะแย่นะครับ”
“ครับ” ผมรีบรับคำพร้อมก้มหน้าทันที ไม่ใช่ว่าผมรู้สึกผิดจนไม่อาจสู้ตามามาได้ แต่เพราะผมกลั้นยิ้มต่อไปไม่ไหวแล้วต่างหาก จึงต้องรีบซ่อนยิ้มไว้กับอก
อย่าหาว่าผมทะลึ่งทะเล้นทั้งๆที่มามากำลังสั่งสอนเลยครับ เพราะเรื่องที่ท่านพูดมานั้น ผมรับฟังและสำนึกแล้วว่าตัวเองผิดจริง แต่หน้าสวยๆที่กำลังมีสีหน้าจริงจัง กลับมีผิวแก้มแดงซ่านได้อย่างน่าดูนี่ต่างหากล่ะ ที่ทำให้ผมถึงกลับกลั้นยิ้มแทบไม่อยู่ คนอายุสี่สิบเอ็ดที่ยังสวยพริ้งอย่างมามาเฟิงหวงตอนเขินอายนี่น่าเอ็นดูชะมัด ซึ่งมีคนที่คิดไม่ต่างไปจากผมอยู่คนหนึ่งในที่นี้ และดูท่าคนๆนั้นจะอาการหนักกว่าผมซะอีกแน่ะ ด้วยปาปาคงอดใจไม่ไหวกับภาพน่าเอ็นดูของคู่ชีวิต เพราะผมได้ยินเสียงหอมแก้มฟอดใหญ่ดังขึ้นในเวลาต่อมา เมื่อผมเงยหน้าขึ้นจึงได้เห็นมามาถลึงตาใส่ปาปาด้วยแก้มแดงปลั่งอย่างน่าดู ก่อนปาปาจะเลี่ยงสายตาเอาเรื่องของมามา ด้วยการหันมาตักเตือนผมด้วยน้ำเสียงจริงจังไม่แพ้ใบหน้า แต่แววตากลับแพรวพราวบ่งบอกถึงความสุข ที่ได้จากการแสดงความรักต่อคู่ชีวิต
“หลี่ผิง ลูกต้องเชื่อฟังมามา และดูแลน้องธันว์ให้ดีกว่านี้ เพราะหากน้องไม่สบายขึ้นมาจริงๆ ลูกเองนั่นแหละที่จะรู้สึกผิดและเสียใจซะเอง....ปาปาเข้าใจคนหนุ่มอย่างลูกดี ว่าการมีคนที่รักมากอยู่ข้างกาย มันอดไม่ได้จริงๆที่จะแสดงความรักให้อีกฝ่ายรับรู้ ว่ารักที่เรามีนั้นมันมากมายซะเหลือเกิน”
ผมอมยิ้มให้กับคำสั่งสอนของปาปา ด้วยเห็นจริงตามที่ท่านพูด แต่ผมกลับฉีกยิ้มได้เต็มหน้ากับประโยคบอกเล่าในตอนท้ายของท่าน ที่เหมือนจะเข้าข้างผมแต่กลับอาศัยมันบอกความในใจถึงคนในอ้อมกอดไปด้วย แถมหันไปส่งความนัยผ่านสายตาหวานๆให้มามาได้รับรู้
ประโยคของปาปาหลี่จวินทำเอามามาเฟิงหวงแก้มระเรื่อ แต่กลับคลี่ยิ้มสวยและมองตาคนพูดไม่กระพริบ ทำเอาห้องพักผ่อนที่พวกเรานั่งอยู่เหมือนปกคลุมด้วยหมอกสีชมพูจางๆ สร้างเสริมบรรยากาศหวานๆของคู่รักขึ้นในพริบตา จนผมเองยังอยากมีลิงน้อยอยู่ในอ้อมกอดซะเดี๋ยวนี้เชียวครับ แต่แล้วหมอกควันที่ว่าก็พลันจางหาย เมื่อมีเสียงใสๆดังแทรกขึ้น ก่อนเจ้าของเสียงจะเดินเข้ามา
“กลับมาแล้วค่ะ เหมยอิงแปลกใจจังเลย ที่วันนี้ทุกคนอยู่กันพร้อมหน้า....เอ๋ เหมยอิงเข้ามาขัดจังหวะปาปามามารึเปล่าคะ” คนสวยเบอร์สองของบ้านหน้าเสียทันที เมื่อเหมยอิงเพิ่งสังเกตถึงบรรยากาศหวานๆระหว่างปาปาและมามาได้ น้องสาวของผมถึงกลับยืนนิ่งหน้าเจื่อนคาตา แต่เหมยอิงก็เป็นอยู่ได้ไม่นาน เมื่อมามาเฟิงหวงส่งยิ้มให้พร้อมเปิดอ้อมแขนส่งสัญญาณให้น้องได้เข้าหา
เวลาต่อมาผมจึงได้เห็นน้องสาวคนสวยฉีกยิ้มเต็มหน้า และตกอยู่ในอ้อมกอดของทั้งปาปาและมามา ทำเอาผมที่ได้เห็นยังอดยิ้มตามน้องสาวไม่ได้ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าไหร่เหมยอิงจะโตขึ้นเพียงใด แต่น้องก็เปรียบดั่งตุ๊กตาน้อยที่ได้รับความรักและการเอาใจใส่จากทุกคน ไม่ต่างจากตอนที่เรายังเด็ก แม้แต่ผมที่เป็นฝาแฝดและมีอายุเท่ากัน ยังอดคิดและปฏิบัติตัวกับเหมยอิงเหมือนผู้ใหญ่ทุกคนรอบตัวไม่ได้เลยครับ เพราะน้องสาวผมคนนี้ทั้งอ่อนหวานและน่ารัก ในแบบที่หาได้ยากจากหญิงสาวในปัจจุบัน เหมยอิงจึงได้รับการปกป้องและดูแลจากผมไม่ต่างจากน้องธันว์สักนิด
สำหรับผมนั้นหากเปรียบน้องธันว์เป็นดั่งเจ้าชายน้อย เหมยอิงเองก็เป็นดั่งเจ้าหญิงน้อยเช่นกัน และใครที่คิดจะเข้ามาจีบเหมยอิงคงต้องคิดหนักหน่อย เพราะต้องผ่านด่านอรหันต์ทั้งสี่อย่างผม อาตี้หลง ปาปาหลี่จวิน และอากงไป๋หลงให้ได้ซะก่อน ถึงจะรับเจ้าหญิงน้อยของพวกเราไปดูแลได้ ส่วนน้องธันว์ไม่ว่าใครที่สนใจก็คงหมดสิทธิ์ เพราะน้องมีผมเป็นเจ้าของแล้ว และอย่าให้รู้ว่ามีใครคิดจะเข้าหาเด็กของผมเชียว ผมไม่เอามันผู้นั้นไว้อย่างแน่นอน
พอคิดถึงเด็กเด็กก็มา เพราะเจ้าชายน้อยของผมตื่นจากบรรทมแล้ว แถมมายืนส่งยิ้มให้และทำหน้าใสใส่กันอีกด้วย ผมจึงได้โอกาสรวบเอวน้องธันว์ให้ลงมานั่งข้างกัน และขโมยหอมแก้มใสไปฟอดใหญ่แก้ความมันเขี้ยว ทำเอากลิ่นแป้งเด็กติดจมูกจนอยากได้อีกหลายๆฟอด แต่โดนฝ่ามือเล็กๆยันหน้าผากสุดแรง จนเกือบหงายหลังเชียวล่ะ ดีที่ผมรวบกอดร่างนุ่มนิ่มไว้อยู่แล้วจึงอาศัยเป็นหลักยึด หลังจากที่ผมตั้งหลักได้ พวงแก้มแดงๆที่ผมได้เห็น ทำให้ความตั้งใจที่จะแกล้งงอนคนน่ารักที่รุนแรงใส่กันก็มีอันล้มเลิก ผมจึงหันมาฟัดแก้มแดงหนึ่งฟอดใหญ่เป็นการลงโทษแทนซะเลย
“ฟอดดดด ว่าไงคนเก่งทำไมรีบตื่น นอนพอแล้วเหรอครับ”
“อือ...จริงๆก็อยากนอนต่อ แต่ธันว์ตื่นมาแล้วไม่เจอ ‘ใคร’...เอ่อ ก็เลยรีบล้างหน้าและลงมา แล้วทำไมเฮียหลี่ผิงต้องมองธันว์แล้วยิ้มแปลกๆด้วยเล่า”
คำตอบของคำถามมันอยู่ตรงคำว่า ‘ใคร’ ที่คนน่ารักของผมเค้าพูดนี่แหละครับ ถ้างงขอให้คุณกลับไปทบทวนสิ่งที่น้องธันว์พูดไว้นะครับ เพราะไอ้ ‘ใคร’ ที่น้องหาน่ะคือ ‘ผม’ คนนี้นี่ไงล่ะ จะไม่ให้ผมดีใจได้อย่างไรที่ได้รู้ว่าคนรักนั้นต้องการผมทั้งยามหลับและยามตื่น ผมโคตรดีใจล่ะสิไม่ว่า ฮึๆ
“คู่นี้นี่น้า อยู่ด้วยกันทีไรลืมทุกอย่างและทุกคนรอบตัวไปซะหมด เหมยอิงนี่น่าสงสารชะมัด ได้อยู่ท่ามกลางคู่รักที่รักกันมากตั้งสองคู่ ชักอิจฉาธันว์และมามาแล้วสิ เหมยอิงอยากมีแฟนแบบปาปาและเฮียหลี่ผิงบ้างจัง”
“ไม่ได้ / เลิกคิดได้เลย” สองเสียงประสานขึ้นมาทันทีหลังเสียงกระเง้ากระงอดของเหมยอิง เสียงแรกน่ะไม่ใช่ของผมแต่เป็นของนายใหญ่แห่งหวางหย่งกัง ที่แปลงร่างจากมังกรเป็นงูจงอางหวงไข่ไปแล้วครับ ส่วนเสียงสองที่ดังไม่แพ้กันน่ะของผมเอง ผมไม่ได้ตั้งใจนะครับแต่มันเป็นสัญชาตญาณของพี่ชายแสนดีต่างหาก
หลังสิ้นเสียงเราพ่อลูกแล้วนั้น ห้องทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบ คนโดนตวาดอย่างเหมยอิงนั้นแสดงอาการตกใจหน้าเหวอชัดเจน แต่พักเดียวห้องพักผ่อนตระกูลหวางก็กึกก้องไปด้วยเสียงหัวเราะสดใสทั้งสามเสียง แต่เสียงที่ดังสุดนั้นมาจากคนใกล้ตัวผมนี่เอง พอผมหันไปมองก็พบกับสายตาล้อเลียนแกมรู้ทันเต็มหน่วยตาของน้องธันว์
“ฮ่าๆ เฮียหลี่ผิงขี้หวง ไม่อยากให้เจ๊เหมยอิงมีแฟนล่ะเซ่ ใช่ม้า~ คิกๆ” แหนะนอกจากหน้าจะกวนแล้ว แต่ทั้งเสียงหัวเราะและคำลงท้ายของตัวแสบก็กวนไม่แพ้กัน ผมจึงยื่นหน้าเข้าหาน้องเพื่อกระซิบ ทั้งๆที่เจ้าตัวยังหัวเราะร่าตายิบหยีได้อย่างน่ามอง
“สำหรับเหมยอิง เฮียหวงในฐานะที่เป็นน้องสาวเพียงคนเดียว และขอให้น้องธันว์รู้ตัวไว้นะครับ ว่าเฮียก็หวงเราไม่ต่างกัน เผลอๆอาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ เพราะน้องธันว์เป็นแฟนเฮีย แถมตอนนี้ธันว์ก็อยู่ในฐานะว่าที่นายหญิงคนต่อไปของตระกูลหวางแล้วด้วย และเฮียมีสิทธิ์เต็มที่ในตัวเรา”
เสียงหัวเราะที่เคยดังจากคนข้างตัวนั้นหยุดลง จนเหมือนผมได้ยินเสียง ‘วิ้ง~’ อยู่ในหูขึ้นมาเชียวล่ะ ส่วนใบหน้าน้องธันว์ไม่ต้องบอกครับว่าจะแสดงอาการตกตะลึงแค่ไหน จึงเป็นโอกาสให้ผมคว้าคอน้องเพื่อซ่อนใบหน้านั้นไว้ที่อก เพราะรู้ว่าในเวลาต่อมาแก้มใสๆที่ผมหวงแสนหวงนั้นต้องแดงก่ำ จนเหมือนผลเชอรี่สุกน่ากินอย่างแน่นอน ซึ่งทำให้ผมมีโอกาสสูดกลิ่นกลุ่มผมอ่อนๆอย่างเต็มที่ พร้อมไล้ท้ายทอยขาวเบาๆด้วยปลายนิ้ว เพื่อปลอบใจเด็กน้อยขี้อายไปในตัว
“พ่อลูกคู่นี้นี่น้า ไม่รู้จะขี้หวงไปถึงไหน เชื้อไม่ทิ้งแถวจริงๆ” ผมเหลือบตามองเจ้าของเสียงหวานที่ออกแนวประชดเล็กๆ ผ่านกลุ่มผมสั้นแถวปลายจมูก จึงได้พบว่ามามาเฟิงหวงนั่งกอดอกไขว้ขา และเหลือบมองไปทางปาปาด้วยแววตาหยอกล้อแกมหมั่นไส้ ซึ่งปาปาเองกำลังนั่งโอบไหล่เหมยอิงอยู่ แต่ผมแอบเห็นว่าสุดปลายนิ้วท่านนั้น กำลังหมุนพันปลายเส้นผมยาวๆของมามาเล่น
ส่วนปาปาเมื่อได้เห็นกิริยาของคู่ชีวิต ก็คลี่ยิ้มและเลิกคิ้วนิดๆให้อย่างหยอกเย้า ทำเอามามานั้นสะบัดหน้าใส่และเมินหน้าหนีมองไปอีกทาง ทำทีเหมือนว่าท่านกำลังงอนปาปาไม่มีผิด แต่คนสังเกตการณ์แบบผมกลับเห็นคนขี้งอนกระตุกยิ้มเล็กๆที่มุมปาก ซึ่งอ่านได้เพียงว่างานนี้เราคงได้ดูรุ่นใหญ่เค้าจีบกันซะแล้วล่ะครับ แต่คนในอ้อมกอดผมที่ดิ้นดุกดิกพยายามโผล่หัวมาจากต้นแขนของผมเพื่อดูเหตุการณ์ตรงหน้า คงจะไม่ทันสังเกตเห็นอย่างที่ผมเห็นซะแล้ว เพราะน้องธันว์กระตุกชายเสื้อผม พร้อมเงยหน้าขึ้นจากอกเพื่อสบตาด้วยสีหน้าติดกังวล ก่อนปล่อยเสียงกระซิบเบาๆให้พอได้ยินกันสองคน
“มามาโกรธปาปาแล้ว อ่า ทำไงดี...[จุ๊บ!]...อื้อ เฮียทำไรเนี่ย” เมื่อเด็กขี้กังวลถามมาผมก็มีหน้าที่ตอบไปสิครับ
“เฮียก็จุ๊บแก้มเด็กขี้สงสัยสิครับ ส่วนมามาน่ะไม่ได้โกรธปาปาหรอก ไม่เชื่อน้องธันว์คอยดูสิ” ผมเชยคางน้องให้หันไปมองเบื้องหน้าที่มีเหมยอิงนั่งคั่นระหว่างปาปาและมามาอยู่ ก่อนโอบรอบเอวบางเข้าหาตัวจนร่างน้อยแทบเกยอยู่บนตัก
“โธ่ เฟิงหวงก็พูดเกินไป เฮียกับหลี่ผิงไม่ได้หวงเกินเหตุสักหน่อย เรียกว่าหวงอย่างมีเหตุผลซะมากกว่า ก็คนของพญามังกรตระกูลหวางแต่ละคน ออกจะสวยและน่ารักมีเสน่ห์ล้นเหลือ จนใครต่อใครมองกันเหลียวหลัง หากเราพ่อลูกไม่ออกอาการให้ไอ้พวกนั้นรู้ มีหวังพวกมันคงคิดจะเข้าหาคนของเราสิครับ โดยเฉพาะคนนี้เลย ‘นายหญิงตระกูลหวาง’ เฟิงหวงรู้จักมั้ยครับ คนอะไรไม่รู้ยิ่งอายุเพิ่มขึ้นก็ยิ่งสวย ทำเอานายใหญ่ตระกูลหวางออกอาการหนักทุกครั้งที่พาออกงานเชียวล่ะ ทั้งหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่มองตาละห้อย ตกลงเฟิงหวงรู้จักมั้ยครับ”
“ฮึๆ” ผมหลุดขำให้กับประโยคจีบกันโต้งๆของปาปาที่มีต่อมามาไม่ได้ และเลิกสงสัยได้เลยว่านิสัยที่ชอบโปรยเสน่ห์ใส่เมียตัวเองของผมนั้นได้มาจากใคร ถ้าไม่ใช่นายใหญ่ตระกูลหวางอย่างปาปาหลี่จวินของผมคนนี้
ดูผลงานของปาปาซะก่อนครับ ทำเอา ‘คนของพญามังกร’ อายม้วน ไม่เฉพาะแต่มามานะครับที่ออกอาการเขินจนหน้าแดงไม่กล้าตอบคำถามปาปา และกลับเบือนหลบสายตาอ่อนเชื่อมที่ปาปาส่งให้อีกด้วย แต่รวมถึงเหมยอิงที่ร่วมเหตุการณ์อย่างใกล้ชิดเข้าไปอีกคน ซึ่งน้องสาวคนสวยถึงกลับออกอาการหน้าแดงยิ้มแก้มแตกทำตัวลีบ และแกล้งทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ได้อย่างน่าหยิก และที่ขาดไม่ได้ก็ต้องคนนี้เลยครับ เด็กในอ้อมกอดของผมที่กำลังเงยหน้าขึ้นมองกันอย่างตกตะลึง ด้วยตาโตๆและแก้มแดงก่ำน่าจูบ
“เฮียก็รู้สึกไม่ต่างจากปาปานะครับ คนอะไรไม่รู้ เด็กๆก็ว่าน่ารักแล้ว แต่ยิ่งโตก็ยิ่งน่ารัก จนเฮียไม่อาจละสายตาไปจากน้องธันว์ได้เลย” ผมจบประโยคหยอดเมียหวานๆพร้อมรอยยิ้มที่คิดว่าดูดีที่สุด
ผลก็คือโดนคนน่ารักที่อายจนถึงขั้นสุดถลึงตาเข้าใส่ ก่อนทุบกำปั้นไม่เบานักเข้ากับอก แต่ไม่เจ็บเท่าไหร่แค่พอคันๆ และเป็นโอกาสให้ผมได้รวบข้อมือข้างนั้นพร้อมยกเอวบางขึ้น ทำให้ร่างน้อยขึ้นมานั่งเกยกันบนตัก แค่นี้ผมก็สามารถล็อคตัวเด็กน่ารักได้แล้ว ซึ่งต่อจากนี้น้องธันว์ก็จะไม่มีวันหลุดรอดเงื้อมือพญามังกรอย่างผมไปได้
..............................................
โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ
ฮิ้วววว พญามังกรตระกูลหวางนี่ช่างหยอดให้คนของตัวเองได้อายจังเลย
แถมเชื้อไม่ถึงแถวเหมือนที่มามาเฟิงหวงว่าไว้ไอ้เรื่องขี้หึงขี้หวงเนี่ย
หวังว่าตอนสบายๆตอนนี้จะทำให้คนอ่านอมยิ้มไปกับผู้ชายขี้หวงคู่นี้นะคะ
ส่วนตอนหน้ามาติดตามชีวิตมาเฟียขี้หึงและเด็กน่ารักของมาเฟียได้
ซึ่งคุณอาจจะนึกอิจฉาหลี่ผิงก็ได้ เพราะได้ควงหนึ่งหนุ่มน่ารักและหนึ่งสาวสวยออกงาน
แต่จะงานอะไรติดตามในวันอังคารนะคะ
+1และเป็ดสำหรับทุกเม้นท์ค่ะ ขอบคุณทุกการติดตามน้า
อยากอ่านฟากเฮียหลี่บ้างจัง ไปเริ่มเพาะต้นรักกันตอนไหนนิ
คู่นี้เพาะเมล็ดพันธุ์แห่งรักตั้งแต่เด็กๆแล้วค่ะ จะถูกเกริ่นตั้งแต่ตอนที่1แล้วน้า ลองย้อนไปอ่านดู
แต่รายละเอียดจริงๆจะอยู่ในบ่วงรักรุ่นเล็กค่ะ ซึ่งคงไม่ได้เอามาลงในเล้า ด้วยอยากจัดพิเศษให้แก่
คนที่จับจองหนังสือชุดบ่วงรัก แต่คิดไว้ค่ะว่าจะมีตอนพิเศษช่วงคู่นี้ช่วงวัยเด็กมาให้อ่านกันสักตอน
โดยมีน้องธันว์มาเล่า รอก่อนนะคะ ช่วงนี้เราดูคู่นี้เค้าหวานใส่กันไปก่อนเนอะ^^