Beautiful hangover เมารัก [ตอนพิเศษ ช้าง : พิกเล็ต] หน้า ๕๐
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Beautiful hangover เมารัก [ตอนพิเศษ ช้าง : พิกเล็ต] หน้า ๕๐  (อ่าน 580833 ครั้ง)

ออฟไลน์ moodyfairy

  • สวย อร่อย ย่อยง่าย :)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 693
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
กรี๊ดดดดดดดดดดดดด :-[ :-[ :-[

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
พี่เสือสู้ๆ รีบเคลียตัวเองให้ว่าง แล้วเอาผู้หญิงคนนี้ไปไกลๆซะทีเห็นแต่ตัว ชิ  ว่าแต่คู่อื่นยังเดาไม่ได้เลยค่ะว่าใครคู่ใครกันนะ

ออฟไลน์ soul love

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 197
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-1
นายเสือต้องเด็ดขาดนะ ไม่งั้นไม่ยกหมอให้หรอก

อาออยของเรา!!!!!!

ออฟไลน์ katekate

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ได้เขาแล้วต้องดูแลเขาดีๆห้ามทำให้หมอเสียใจนะยะ

ออฟไลน์ no.fourth

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 888
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
พี่เสือรีบเคลียเลยค่ะ น้องมะรุมจะได้สบายใจ

ออฟไลน์ April❤

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
ต้องอย่างงี้สิพี่เสือ
ดีอย่างนี้ให้ได้ตลอดนะ

ออฟไลน์ Eliz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 62
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
ฉากนี้ที่รอคอย ในที่สุดนายเสือก็ได้กินมะรุมเสียที  :heaven

ว่าแต่นายเสือนี่ก็ฉลาดอยู่นะ ยกไร่ให้น้องชายตัดปัญหา  o13 ดูสิว่ายัยคุณแพรวว่ามาไม้ไหนอีก  สงสารก็แต่พิกเล็กนี่แหละ  มีแม่ก็มาเป็นเสียแบบนี้ แต่ไม่เป็นไรนะ พิกเล็ตยังมีพ่อเสือ พี่มะรุม และอาออยที่รักพิกเล็กอยู่  :mew1:

ตอนต่อไปนี่คู่อาออยกับหมอคิมหันต์หรือเปล่าน้า  อยากอ่านต่อแล้วค่า  เป็นกำลังใจให้คนแต่งจ้า

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
มะรุมของพี่เสือ หวาน หวาน หวาน ขอบใจจร้า

ออฟไลน์ hongzaa

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-2
พี่เสือจ๋า หมอมะรุมจ๋า
คืนนี้มามั้ยจ๊ะ น้องปูเสื่อรอนะจ๊ะพี่จ๋า

ออฟไลน์ aukuzt

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 107
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
มาปูเสื่อรอด้วยคน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ narunarutoboyz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 595
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
จิ้มไว้ก่อนเด๋วกลับมาเม้นนะคะ >3<

ออฟไลน์ RELAXED

  • ทำไงได้ก็ Y มันเรียกร้อง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 449
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
ไปต่างจ.มาไม่ได้เข้ามาเม้นซะหลายวันคิดถึงจัง :hao5:

ออฟไลน์ hongzaa

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-2

ออฟไลน์ saotome

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
อั้ยย่ะ มะรุมนี่ก็เต็มที่
สงสารที่สุดคงเป็นออย

ออฟไลน์ Paii

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
อยากอ่านคู่หมอกับออยจังเลยค่ะ   

 :mew1:

ออฟไลน์ SoN

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2965
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +123/-15

ออฟไลน์ aukuzt

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 107
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
ไม่ได้กดดันนะ แต่ว่าวันนี้จะมาไหม เขาจะขาดใจแล้วนะ

ออฟไลน์ DraCo_SLa13

  • I swear that, will love Super Junior forever..........
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2123
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +314/-3
อ่านทันแล้วค่า  แต่ตอนนี้ค้างมากมาย อยากอ่านต่อมากๆ

ออฟไลน์ RELAXED

  • ทำไงได้ก็ Y มันเรียกร้อง
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 449
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
 :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: ฮึกๆ  คิดถึงมากนะ :mew6: :mew6:

Anyann

  • บุคคลทั่วไป
 นั่นแหละพี่เสือ จัดการให้เด็ดขาดซะ ถึงจะเหลือแต่ตัวก็ไม่เป็นไร เป็นหมอมันรวย เดี๋ยวมะรุมเลี้ยงเอง  :hao7:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ~l3aml3ery~

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 679
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-0

ออฟไลน์ Biwty...

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 985
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
ลู่เหมาะจะเป็นมะรุมมากกว่า อย่างออยต้องแบคฮยอน :really2:

ออฟไลน์ libra82

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +236/-5
ตอนที่  ๑๙  คนฉวยโอกาส



    “ตัดสินใจอะไรอีก”

    หญิงสาวตะเบ็งเสียง มองหน้าผู้ชายที่ยังโง่อยู่วันยังค่ำ แต่ตอนนี้โง่ยิ่งกว่าเดิมเสียอีก เธอไม่เข้าใจระบบความคิดของพศินเลย ที่ทางนับร้อยไร่สู้อุตส่าห์ดูแลมันอย่างรักใคร่หวงแหนใครมาขอซื้อให้ราคาแพงแค่ไหนก็ไม่สนใจ แต่กลับยกให้คนอื่นหน้าตาเฉย ถึงจะแม้คนอื่นที่ว่าจะเป็นน้องชายแท้ๆ แต่ภาคภูมิแทบจะไม่เคยกลับมาเหยียบที่ไร่นี้เลย ตั้งแต่เธอเข้ามาอยู่ที่ไร่นี้เคยเห็นหน้าเขานับครั้งได้รวมกันไม่ถึงห้าครั้งด้วยซ้ำ แล้วจู่ๆ ที่ดินผืนใหญ่นี้กลับกลายเป็นของมัน ยิ่งกว่าหนูตกถังข้าวสารเสียอีก เธอไม่มีวันยอม ไร่นี้คือความหวังที่จะทำให้เธอได้ไปใช้ชีวิตอันหรูหราที่ต่างประเทศดังที่ฝันมาตลอดทั้งชีวิต

   ปารินสูดลมหายใจเฮือกใหญ่ติดๆ กัน ตั้งสติให้แน่วแน่ เจ็ดปีที่ผ่านมาทำให้เธอพอรู้ว่าถ้าหากต้องการจะเข้าหาเขาเธอต้องใจเย็นและอ้อนเข้าไว้ หญิงสาวรีบปรับสีหน้ากระพริบตาไล่ความขุ่นมัวออกไปแล้วกลับเข้าไปหาร่างของสามีอีกครั้ง มือเรียวจับที่มือกร้านสีเข้มไว้แน่น

   “ทำไมล่ะจ๊ะพี่เสือ พี่รักไร่เคียงฟ้าไม่ใช่หรือจ๊ะ ทำไมพี่ถึงยอมยกให้คุณภูมิล่ะ”

   ตาคมปรายมองที่มือก่อนจะวกกลับมาที่ใบหน้า เขายิ้มบางเบาที่มุมปากมันจางมากจนแทบจะมองไม่เห็น “เพราะพี่ไม่เคยทำหน้าที่พี่ชายที่ดีเลยน่ะซิ พ่อฝากมันไว้กับพี่ พี่อยากให้มันมีสมบัติติดตัวไว้”

   “เขาเป็นหมอนะพี่เสือ เผลอๆ อาจจะรวยกว่าพี่ด้วยซ้ำ” เธอพยายามเกลี่ยกล่อม นึกเกลียดนิสัยพระเอกที่โผล่ออกมาไม่รู้จักเวล่ำเวลาของสามีนัก

   “ของพวกนั้นมันไม่ใช่สิ่งที่พ่อหามาไว้ให้ พี่อยากยกให้มันมันจะได้รู้ว่าพ่อรักมันแค่ไหน”

   “แต่พี่เสือเป็นคนดูแลไร่นี้มาตั้งแต่แรกเลยนะ” ปารินยังไม่หมดความตั้งใจ เธอเชื่อว่าพศินจะยอมใจอ่อนเพราะคำเกลี่ยกล่อมของตัวเอง มือขาวบีบแน่นกว่าเดิมพลางเบียดร่างเข้าหาเรือนกายแข็งแกร่งแม้ว่าเขาจะผ่ายผอมลงไป และคล้ำขึ้นกว่าเดิมแต่ความหล่อเหลาและเสน่ห์เฉพาะตัวยังมีให้เห็นและสัมผัสได้ อกอิ่มที่ยังคงสวยได้รูปถึงมีลูกชายวัยห้าขวบแล้วแนบไปกับท่อนแขนแข็งแรง “พี่เสือไม่เสียดายหรือจ๊ะถ้ามันต้องไปอยู่ในมือของคนที่ไม่รู้จักอะไรเลยแม้แต่ต้นไม้ที่พี่ปลูก”

   พศินก้มลงมองศีรษะเล็กที่ซุกออดอ้อนที่หัวไหล่ เขารับรู้ถึงความนุ่มหยุ่นของทรวงอกอวบ หากเป็นเมื่อก่อนเขาคงร้อนเป็นไฟด้วยราคะที่โหมใส่ ทว่าตอนนี้เลือดในกายมันยังหมุนเวียนเป็นปกติไม่ได้ร้อนขึ้นแม้สักองศาเดียว เขายอมรับว่ายังลืมเธอไม่ได้เพราะเวลาเจ็ดปีและพิกเล็ตมันเชื่อมโยงไว้อย่างนั้น แต่ความรักที่เคยมีให้เธอมันเหลือไม่เท่าเก่า มันหายไปกับเวลาที่เธอทิ้งเขาไปอย่างไม่ใยดี แต่ละวันที่ผ่านไปมันบั่นทอนความรักพวกนั้นให้ลดลงไปด้วย และยิ่งตอนนี้เขามีใครบางคนเข้ามาอีกด้วยมันเลยเป็นเรื่องยากที่เขาจะกลับไปรักเธอเหมือนเดิมอีก

   ชายหนุ่มถอนหายใจแผ่วช้า เขารักไร่เคียงฟ้าอย่างที่เธอว่าจริงๆ แต่เขาก็ยังอยากจะทำหน้าที่ของพี่ชายบ้างหลังจากที่ถือทิฐิอยู่นานเป็นสิบปี

   “เสียดายซิ พี่ถึงยังเก็บบ้านหลังนี้ไว้ไงล่ะ”

   “แค่บ้านหลังเดียว แถมยังตั้งอยู่บนไร่เคียงฟ้าอีก ถ้าวันไหนคุณภูมิเกิดไม่พอใจพี่ขึ้นมาเขาไม่ไล่พี่ออกจากบ้านไปหรือจ๊ะ”

   “พี่เชื่อไอ้ภูมิไม่ใช่คนอย่างนั้น แล้วแพรวล่ะยังรักพี่อยู่หรือเปล่า”

   ดวงตากลมสวยช้อนมอง เขาเห็นแววหวั่นไหวผิดหวังอยู่ในนั้นซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจเพราะเขาไว้อยู่แล้วว่าปารินต้องมีอากัปกิริยาเช่นนี้ ทั้งตกใจกับการตัดสินใจเหมือนคนเสียสติของเขาแต่ชั่วประเดี๋ยวก็กลับมาอ้อนเอาใจเพื่อให้เขาใจอ่อน แต่คนอย่างเขาลองได้ติดสินใจอะไรลงไปแล้วไม่มีทางกลับลำ ทั้งเรื่องไร่เคียงฟ้าและเรื่องของหัวใจ เขาเห็นแก่ตัวที่เอาวรทย์มาช่วยทำให้ลืมปาริน แต่ขณะเดียวกันเขาก็ต้องจัดการตัวเองให้เรียบร้อยอดีตคืออดีตอะไรที่ผ่านมามันอาจย้อนกลับมาได้อีก ปารินได้เลือกที่จะจากเขาไปกับไอ้เพื่อนทรยศคนนั้นแล้ว เขาเองก็เช่นกัน...เขารู้แล้วว่าใครคือคนที่จะดูแลเขาได้ทั้งกายและใจ

   ปารินใช้เวลาคิดอยู่พักใหญ่ หล่อนก้มหน้ามองพื้นแต่ชั่วอึดใจก็เงยขึ้นมาในดวงตามีความหวังบางอย่างเรืองรองอยู่ด้วย “แพรวรักพี่เสือเหมือนเดิมจ้ะ แต่แพรวไม่อยากให้ลูกลำบากเราขายบ้านหลังนี้กับที่ปากช่องแล้วไปอยู่เมืองนอกกันดีไหม”

   “แล้วพี่จะขายให้ใคร”

   หญิงสาวยิ้มกว้างจนเห็นไรฟันขาว “แพรวมีคนที่รู้จักอยู่คนหนึ่งค่ะ พี่เสือจะลองคุยกับเขาไหม”


……………………..


   ริมฝีปากบางสวยราวสตรีคลี่ยิ้มเหยียด ทุกถ้อยคำที่ผู้หญิงคนนั้นพูดเขาได้ยินหมดทุกประโยค หล่อนโกหกตั้งแต่บอกรักกับพศินแล้ว ปารินยังเป็นผู้หญิงจอมลวงโลกคนเดิมเมื่อเจ็ดปีก่อนเป็นอย่างไรวันนี้ก็ยังเป็นเช่นนั้น คำพูดออดอ้อนเอาใจมันไร้ความจริงใจเขารู้ดีว่าภายใต้คำพูดและรอยยิ้มที่แสนไร้เดียงสานั้นมันซ่อนอะไรไว้บ้าง และก็เชื่อคนที่ปิดหูปิดตามาหลายปีก็คงจะมองเห็นเช่นเดียวกับเขา ร่างเล็กยังคงซ่อนกายหลังอยู่หลังกำแพงห้องเขายอมเป็นคนเสียมารยาทแอบฟังสองสามีภรรยาพูดกัน ได้ยินตั้งแต่ที่พศินบอกว่าจะยกไร่นี้ให้กับภาคภูมิจนถึงตอนที่ปารินเสนอให้พี่ชายต่างสายเลือดของเขาไปคุยเรื่องขายที่ดินกับผู้ชายคนหนึ่งที่หล่อนรู้จัก

   เขาไม่กลัวสักนิดว่าพศินจะขายบ้านหลังนี้ แต่ที่ไม่คัดค้านปารินคงเพราะต้องการเห็นธาตุแท้ของหล่อนให้มากกว่านี้ แต่สำหรับเขาแล้วแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว หล่อนเลวร้ายและน่ารังเกียจไม่น่าจะเป็นแม่ของเด็กที่น่ารักอย่างพิกเล็ตได้เลย อาณกรขยับจากที่ซ่อนกายพลางส่งสายตาไปยังอีกร่างที่ยืนอยู่ติดกัน ปืนเองก็คงรู้สึกไม่ต่างกันกับเขาสังเกตจากแววตาคมที่ดุดันขึ้น

   อาณกรเป็นฝ่ายเดินนำออกมาก่อน ทั้งคู่เลือกที่จะใช้เส้นทางหลังบ้านเพราะยังไม่อยากถูกจับได้ว่าแอบฟังเรื่องสำคัญ ปืนยังคงขุ่นเคืองไม่หายถึงไม่พูดแต่ก็มองออก

   “คุณออยว่าพี่เสือจะขายบ้านหลังนี้ไหมครับ”

   ผู้ชายตัวเล็กสั่นหัว “ไม่หรอกพี่เสือรักบ้านนี้มากกว่าผู้หญิงคนนั้นด้วยซ้ำ”

   “แล้วทำไมถึงไม่พูดอะไรเลยล่ะครับตอนที่คุณแพรวชวนให้ขายบ้าน”

   “รอดูกันไปก่อน” อาณกรบอกสั้นๆ

   แต่ปืนยังไม่หายสงสัย ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อใจในตัวของลูกพี่ใหญ่ทว่าปารินมารยานักเขากลัวว่าพศินอาจจะไขว้เขวเพราะลูกไม้ของหล่อนก็ได้

   “ว่าแต่คุณแพรวจะพาพี่เสือไปพบกับใครหรือครับ”

   “คิดว่าน่าจะเป็นของพี่โย”

   “โย? ใช่คนที่คุณแพรวหนีตามไปหรือเปล่า”

   “ใช่” ศีรษะเล็กผงกรับ ปารินคงไม่พาพศินไปหาสามีใหม่ของหล่อนแน่แต่น่าจะเป็นคนของโยธินอดีตเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดของพศินมากกว่า

   “นี่หมายความว่าคุณแพรว”

   “ใช่ หล่อนทำเพื่อผู้ชายคนนั้น ปารินไม่ได้รักพี่เสือมาตั้งแต่แรกแล้วที่ทนอยู่จนมีพิกเล็ตก็เพราะอยากจะขายไร่เคียงฟ้า แต่พอพี่เสือไม่ใจอ่อนก็หนีไปกับผู้ชายคนอื่น” อาณกรย้อนกลับไปเมื่อเจ็ดปีก่อน เขาเรียนปีเดียวกับปารินหล่อนเป็นดาวคณะนิเทศศาสตร์ที่หนุ่มๆ ต่างใฝ่ฝันจะได้เป็นคู่ควง ทว่ามีแต่สองหนุ่มหล่อเดือนคณะเกษตรศาสตร์และบริหารเท่านั้นที่หล่อนหมายตา และเดือนคณะเกษตรศาสตร์อย่างพศินก็เข้ารอบ ส่วนอีกคนเป็นได้แค่ตัวสำรองทว่าไม่มีใครรู้ว่าหลังจากนั้นไม่นานตัวสำรองก็กลับมามีบทบาทสำคัญ มากถึงขนาดทำให้ผู้ชนะเลิศต้องบอบช้ำเจียนตายได้

   ปืนเองก็คิดเช่นนั้นถึงเขาจะไม่ใช่คนชอบสอดเรื่องของเจ้านายนักแต่เพราะอาศัยอยู่ไร่นี้มาตั้งแต่วัยหนุ่มเลยพอจะรู้เรื่องพวกนี้มาบ้าง เมื่อก่อนเขามองไม่เห็นความเลวร้ายของปารินคิดแค่ว่าหล่อนเป็นผู้หญิงที่น่ารักมากคนหนึ่งและก็ดูเหมาะสมกับเจ้านายของเขา ถึงหล่อนจะไม่เก่งทั้งงานบ้านหรืองานอื่นๆ แต่เพราะมีสามีที่พร้อมอย่างพศินอยู่แล้วเรื่องพวกนั้นจึงไม่จำเป็น ทว่าตอนนี้เขาเห็นด้วยตาแล้วว่าผู้หญิงอย่างปารินร้ายกาจแค่ไหนหล่อนทำได้เพื่อความสุขของตัวเองโดยใช้ความรักที่พศินมีให้เป็นข้ออ้าง ชายหนุ่มถอนหายใจแรงภาวนาให้พระท่านเบิกตาให้พี่เสือของเขาเห็นไปถึงแก่นแท้ของปารินอย่างที่อาณกรเห็นตั้งแต่แรก

   กลีบดอกกระทุ่มนาปลิวหล่นลงมาติดที่เส้นผมสีน้ำตาลเข้มของคนตัวเล็ก มันช่วยดึงให้เขาหลุดจากความตึงเครียดได้บ้าง นิ้วใหญ่เอื้อมหยิบกลีบดอกไม้สีเหลืองเล็กเรียวจากเส้นผมนุ่ม อาณกรเหลือบมองตาหวานฉายแววสงสัยเขากำลังจะขยับปากตอบทว่าโทรศัพท์ของคนตัวเล็กดังขึ้นเสียก่อน

   ปืนยังไม่ได้ถอยหนีเขามองมือเล็กยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหู ฟังเสียงใสสนทนากับใครสักคนที่ปลายสายตาคมมองกิริยานั้นเพลินตา อาณกรดูออกว่าปารินร้ายกาจแต่จะรู้ไหมว่าเขาคิดอย่างไรกับตัวเอง

   “อะไรนะ! คุณพูดไหมซิผมได้ยินไม่ชัด”

   ร่างสูงใหญ่สะดุ้งน้อยๆ เมื่ออีกฝ่ายเสียงดัง ตาหวานมองมาทางเขาก่อนจะเดินเลี่ยงห่างออกไป ปืนกำกลีบดอกกระทุ่มนาไว้ในมือขณะที่กลิ่นกายหอมๆ จางหายไปกับระยะห่างที่มากขึ้น

   หนุ่มบ้านไร่ทอดถอนหายใจ จนกระทั่งตอนนี้เขาก็ยังเป็นได้แค่ไอ้หมาวัดเฝ้ามองเครื่องบินที่เริ่มจะบินสูงขึ้นไปทุกที เขาได้ทำแค่เฝ้ามองอีกฝ่าย เป็นห่วงห่างๆ ปืนยิ้มเหยียดความต่ำต้อยของตัวเอง เกิดมาเป็นหนุ่มทั้งแท่งผ่านผู้หญิงมาก็มากแต่ไม่เคยคิดจะหลงหลักปักฐานกับใคร ทว่าวันหนึ่งกลับมาหยุดกับผู้ชายตัวเล็กๆ ที่ไม่เคยชายตามาแลตัวเอง รักที่เป็นไปไม่ได้มันก็เจ็บปวดๆ กับรักที่ถูกทอดทิ้ง ตาคมมองตามแผ่นหลังเล็กที่อยู่ห่างไปหลายเมตรอาณกรไม่รู้หรอกว่าเขามองอยู่ข้างหลังตลอดเวลา...

………………………..


   “เอาอะไรมาพูดผมไม่เชื่อคุณหรอก”

   “ก็ตามใจ ผมแค่จะโทรมาบอกว่าเราสองคนกินแห้วด้วยกันทั้งคู่ก็เท่านั้น”

   มือเรียกกำโทรศัพท์แน่นกว่าเดิม รู้สึกถึงความเย็นที่ปลายนิ้ว เขาหายใจไม่ทั่วท้องกับคำพูดที่ได้ยินเมื่อครู่ “คะ.. ใครบอกคุณ”

   “นายเสือ” ปลายสายตอบเร็ว ไม่มีวี่แววของความตกใจคาดว่าคงจะทำใจได้พอสมควรแล้ว “เขาบอกกับผมเองว่าเมื่อคืนเขานอนกับมะรุม”

   กระบอกตาปวดตุบขณะที่ขอบตาร้อนผ่าว หยาดน้ำที่น้อยคนนักจะได้เห็นกลั่นเป็นเม็ดแล้วพากันไหลผ่านแก้ม ก้อนสะอื้นที่มีแต่ความเจ็บปวดตีตื้นมาถึงคอหอย ทั่วทั้งร่างกายปวดร้าวไปหมดแม้แต่หายใจยังทำได้ลำบาก

   “ผมว่าเราทำใจเถอะ นายเสือเองก็รับปากกับผมแล้วว่าจะจัดการเรื่องเมียเก่าให้เรียบร้อย คุณเองก็ควรทำใจได้แล้วเหมือนกัน แล้วนายเสือกลับไปถึงบ้านหรือยัง เขาไปตั้งนานแล้วนะคุณ ได้ยินผมไหม คุณ คุณออย”

   เขาปล่อยให้คิมหันต์พูดอยู่อย่างนั้นเพราะไร้กำลังจะตอบโต้ หูได้ยินแต่ไม่อาจเข้าใจในคำพูดพวกนั้นสักนิด หัวมันชาไปหมดสมองหยุดทำงานเช่นเดียวกับร่างกายคงมีแต่น้ำตาเท่านั้นที่รินไหลอย่างน่าสมเพช มืออ่อนกำลังจนไม่อาจถือโทรศัพท์ไว้ได้ เขาทิ้งมือลงข้างกายปลายนิ้วปล่อยจากโทรศัพท์ทิ้งมันลงไปนอนบนพื้นหญ้าสีเขียว ภาพเบื้องหน้าพร่ามัวด้วยหยาดน้ำตาขณะที่จินตนาการไปกับคำพูดที่ได้ยินซ้ำไปซ้ำมา

   ‘เขาบอกกับผมเองว่าเมื่อคืนเขานอนกับมะรุม’

   คำว่านอนมันไม่ได้หมายความว่าแค่นอนเฉยๆ แต่มันหมายถึงการมีสัมพันธ์ทางกาย คิมหันต์ต้องการบอกกับเขาว่าวรทย์และพศินมีสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกันแล้ว หัวใจเขาบีบตัวแน่นจนเจ็บไปหมดทั้งอก เนื้อตัวสั่นเทาด้วยความเสียใจเลือดในกายเย็นเหมือนโดนแช่แข็งจนต้องยกมือขึ้นโอบกอดตัวเอง แต่ไม่ว่าจะกอดแน่นเท่าไรมันก็ไม่ขึ้นสักนิดเดียว อาณกรปล่อยเสียงสะอื้นออกมาอย่างสุดกลั้น รักที่ไม่สมหวังมันเจ็บปวดสิ้นดี

   และก่อนที่สองขาที่หมดแรงจะทรุดลงไปกับพื้นทั้งร่างก็ถูกโอบกอดเอาไว้ อ้อมแขนอบอุ่นรั้งตัวเขาไปแนบกับอกกว้าง กลิ่นเหงื่อคุ้นจมูกมันไม่ได้ฉุดความเจ็บปวดให้หลุดไปจากหัวใจได้ เขาซุกหน้าร้องไห้กับแผ่นอกนั้นอย่างไม่สนใจว่าใครจะเป็นเจ้าของ...

(มีต่อ)

ออฟไลน์ libra82

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +236/-5
รอยน้ำตาบนแก้มเนียนถูกซับด้วยริมฝีปากกระด้าง รสเค็มปร่ามันชวนให้หม่นหมองยิ่งนัก มือหนาหยาบปัดป่ายเส้นผมนุ่มให้พ้นจากดวงหน้าอ่อนเยาว์ แพขนตาเปียกชุ่มด้วยหยดน้ำตา ร่างเล็กพลิกตะแคงเข้าหาไออุ่นมือเล็กกำเนื้อผ้าหยาบแน่นไหล่เล็กไหวน้อยๆ ตลอดเวลา เกือบสองชั่วโมงแล้วที่คนตัวเล็กร้องไห้ไม่ยอมหยุด แม้จะหลับไปแล้วแต่น้ำตาก็ยังไหลอยู่ เขาขยับแขนรั้งเอวบางเข้ามาชิดลำตัวมากขึ้น กดหัวเล็กๆ ไว้กับอกเกยคางบนเส้นผมนุ่ม ใครจะว่าเขาเป็นพวกฉวยโอกาสก็ไม่สนใจ

   เขาเดาไม่ออกว่าอาณกรเสียใจเรื่องอะไรถึงได้ร้องไห้หนักถึงเพียงนี้ แต่คนที่พูดไม่เก่งปลอบใครไม่เป็นทำได้แค่ใช้อกของตัวเองเป็นที่ซับน้ำตาของอีกคน ปืนถือวิสาสะกดริมฝีปากที่เส้นผมนุ่มหอมนั่นแล้วเคลื่อนไปที่หน้าผากนูน ไล่ไปถึงปลายจมูกโด่งแล้วหยุดตัวเองไว้แค่นั้น ถึงจะรักจนอยากจะกลืนกินลงไปทั้งตัวแต่เขาไม่อยากถูกเกลียดทำได้แค่ฉกฉวยโอกาสเล็กๆ น้อยๆ ในยามที่อาณกรเสียใจ ชายหนุ่มเก็บภาคภูมิใจเอาไว้ในอกบนเตียงเล็กเก่าๆ ของตัวเองมันมีโอกาสได้ต้อนรับคนที่เฝ้ามอง ต่อให้ต้องเจ็บปวดเพราะรักข้างเดียวไปตลอดชีวิตเขาก็จะไม่เสียใจอีกแล้ว

   เปลือกตาหนักอึ้งค่อยๆ ขยับขึ้นอย่างลำบาก ความมืดดำเป็นสิ่งแรกที่ได้เห็น เขาปิดเปลือกตาลงอีกครั้งแล้วเปิดขึ้นใหม่ ทว่าความมืดมิดนั้นก็ยังเหมือนเดิมแต่ที่เพิ่มเข้ามาคือเสียงลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอของใครอีกคนที่ไม่ใช่ของเขา อาณกรผงกหัวขึ้นจากอะไรบางอย่างที่ไม่ได้อ่อนนุ่มเท่ากับหมอนแต่ก็ไม่แข็งเท่ากับท่อนไม้ กลิ่นกายของบุรุษเพศแท้ๆ ไร้น้ำหอมปะพรมชวนให้สงสัย พอคุ้นชินกับความมืดถึงได้รู้ว่าเบื้องหน้าที่สายตาปะทะอยู่มันคือแผ่นอกของใครบางคน...และคงเป็นเจ้าของเตียงแข็งๆ นี่ด้วยเช่นกัน ร่างเล็กขยับตัวออกห่างทว่ามือที่ตวัดรอบเอวรัดแน่นซ้ำยังตวัดตัวเข้าไปติดมากกว่าเดิมเสียอีก

   “อือ นายปืน ปล่อยก่อน”

   เขาเตือนเบาๆ พลางผลักอกแกร่งหนาด้วยมัดกล้ามให้ออกห่าง ดูเหมือนอีกคนจะรู้สึกตัวแล้วตาคมปรือขึ้น กระพริบอยู่สองสามครั้งแล้วเปิดขึ้น แสงแวววาวสะท้อนกับความแสงจันทร์จ้องมาที่เขา

   “ตื่นแล้วหรือครับ”

   “อืม นายช่วยปล่อยฉันก่อนได้ไหม ฉันหายใจไม่ออก”

   ปืนเพิ่งรู้ตัวว่าเผลอกอดคนตัวเล็กไว้แน่นแค่ไหน มือใหญ่ปล่อยเอวบางอดเสียดายไม่ได้ที่จะเนื้อนิ่มหลุดมือไป เขาลุกขึ้นจากเตียงเล็กพร้อมกับอาณกร ตาคมมองฝ่าความมืดไปยังร่างเล็กๆ ที่เคลื่อนกายเชื่องช้า

   “โอ๊ะ!”

   เขาคว้าแขนเรียวไว้ได้ทันท่วงทีก่อนที่ร่างของอาณกรจะหล่นจากเตียงที่แสนคับแคบของตัวเอง สะท้อนใจกับความยากจนของตัวเองนัก อาณกรคงไม่ชินกับเตียงเล็กๆ และพื้นที่บ้านที่เล็กยิ่งกว่าครัวของบ้านเคียงฟ้า

   “ไม่เป็นไรนะครับ” ปืนถามอ่อนโยน ลมหายใจเป่ารดศีรษะเล็ก อีกฝ่ายผงกหัวเบาๆ

   “ไม่เป็นไร นอนนานไปหน่อยขามันเลยอ่อน”

   “เตียงผมมันแคบ ขอโทษด้วยนะครับ” เจ้าของห้องบ้านบอกเสียงแห้ง ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ จากคนที่ฐานะสูงกว่า

   “ขอโทษทำไม ก็นายนอนคนเดียวเตียงก็ต้องเท่านี้ซิไม่ได้มีเมียสักหน่อยเตียงจะได้ใหญ่”

   เขามองโครงหน้าหวานที่แม้ความมืดก็อาจบดบังความน่ารักได้ ปืนถอนหายใจเบาๆ ปล่อยมือจากลำแขนเรียว มองร่างเล็กที่ไปยืนบนพื้นได้สำเร็จ

   “เอาไว้ถ้านายแต่งงานฉันจะซื้อเตียงใหญ่ๆ ให้เป็นของขวัญ” อารณกรบอก แม้เสียงจะแหบไปหน่อยแต่ก็สดใสขึ้นจนเกือบจะเป็นปกติ

   “แต่งงานหรือครับ” ปืนแค่นยิ้ม “ชาตินี้ผมคงไม่แต่งงานหรอกครับ”

   “ทำไมล่ะ” ถึงจะมืดแต่เขาก็ยังรู้ว่าอาณกรสงสัยในคำพูดของเขา

   หนุ่มบ้านไร่ยิ้มเหยียดสมเพชในวาสนาอันน้อยนิดของตัวเอง “ผมจนขนาดนี้ใครจะมามองล่ะครับ”

   “ไม่จริงหรอก” คนตัวเล็กแย้งทันที “นายน่ะหน้าตาดีจะตาย สาวๆ ในไร่มองกันตาปรอย นายเองต่างหากที่ไม่มองใครเลย”

   “อย่างนั้นหรือครับ” ไม่ใช่ไม่รู้ในสิ่งที่อาณกรพูด เขารู้ตัวว่ามีสาวๆ ให้ความสนใจไม่น้อย แต่เขากลับไม่ได้สนใจพวกหล่อนเลยสักนิด มีเพียงแค่คนเดียวที่เขาทุ่มใจให้ทว่าใครคนนั้นไม่เคยรู้

   “ถ้านายสนใจใครเป็นพิเศษบอกฉันได้เลย เดี๋ยวฉันจัดการให้ยอมเป็นเถ้าแก่ให้เลย” อาณกรพูดอย่างอารมณ์ดี โดยไม่รู้ว่าหัวใจเขาปวดแปลบแค่ไหน มือหนายื่นไปข้างหน้ารวบร่างเล็กเข้ามากอดโดยไม่รู้ตัวสูดเอากลิ่นหอมเหมือนดอกไม้ไว้ในอกเนิ่นนาน “นะ นายปืน ทำอะไรน่ะ”

   “ถ้าเป็นคุณล่ะ ถ้าเป็นคุณจะได้ไหม” ปลายเสียงแผ่วลง จนแทบไม่ได้ยินริมฝีปากกระด้างกดบนกลุ่มผมนุ่ม

   “อะ..อะไรนะ ปืนนายเป็นอะไร”

   มือกร้านปล่อยร่างนุ่มเป็นอิสระ แล้วหันหน้าเข้ากำแพงมือสองข้างกำแน่นระงับความต้องการที่พุ่งพล่านของตัวเองไว้เต็มกำลังก่อนจะเอ่ยปากไล่อีกคน

   “คุณออยกลับไปเถอะครับ ผมรู้สึกไม่ดีเท่าไร”

   ริมฝีปากนุ่มเม้มแน่น ยังสับสนไม่หายเมื่อครู่นี้เขาเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของปืนอย่างไม่มีไม่มีขลุ่ยแต่ตอนนี้กลับโดนไล่ มือเรียวยื่นไปจนเกือบจะถึงบ่าแข็งแรงแต่ก็ชะงักแล้วชักกลับ อาณกรยืนอยู่ที่เดิมอยู่ชั่วอึดใจก่อนจะตัดสินใจออกมาตามที่เจ้าของห้องต้องการ พร้อมกับคำพูดที่ยังลอยวนอยู่ในหู

    ‘ถ้าเป็นคุณล่ะ ถ้าเป็นคุณจะได้ไหม’

…………………..


    คนหลับขยับตัวพลอยทำให้อีกคนที่นั่งเฝ้าอยู่เป็นครึ่งค่อนวันตื่นไปด้วย ตากลมกระพริบรัวๆ ก่อนจะเปิดขึ้นเต็มที่ แก้วสีน้ำตาลมองมาไปยังร่างสูงที่อยู่ไม่ห่างนัก ถึงจะภาพที่เห็นจะพร่ามัวเพราะยังปรับสภาพร่างกายไม่ได้แต่ก็จำได้ว่าคนที่มองด้วยความเป็นห่วงอยู่นี่เป็นใคร

   “ตื่นแล้วหรือ หิวน้ำไหม”

   เขาพยักหน้าตอบรับคำชวนทันที เพราะลำคอแห้งผากแถมลิ้นยังขมไปหมดแก้วน้ำจ่อที่ริมฝีปาก เขารีบกลืนมันลงคอด้วยความกระหายจนเกือบหมดแก้วถึงได้เบือนหน้าหนี วรทย์ผ่อนกายลงกลับไปนอนตามเดิมอีกครั้ง เขารู้สึกปวดร้าวไปทั่วร่างกายโดยเฉพาะที่สะโพกไม่ได้ปวดหัวแต่เวียนพิกลคงเพราะว่าเขานอนนานเกินไป แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังรู้ถึงสาเหตุที่ทำให้เขาต้องนอนซมเป็นวันๆ คิดแล้วก็น่าโมโหไอ้คนบ้าตัวต้นเหตุดันไม่โผล่มาให้เห็นหน้า ทั้งที่เขาหวังว่าเมื่อลืมตาขึ้นมาจะได้เห็นหน้ามันเป็นคนแรก

   “เขาไปจัดการธุระน่ะ ฝากหมอไว้กับผม”

   ดูเหมือนคุณหมออีกคนจะอ่านความคิดบนหน้าซีดๆ ของเขาได้ พลันความสงสัยก็บังเกิดคิมหันต์ได้พบกับพศินนั่นหมายความว่าอาจจะรู้ว่าทำไมเขาถึงเป็นไข้เสียได้ เขาอยากจะเอาตัวลงไปแทรกแผ่นดินหนีมันยิ่งกว่าอาย อายจนไม่กล้ามองหน้าอยากจะตวัดเอาผ้าขึ้นมาคลุมตัวด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่านอกจากจะฝากฝังไว้ไอ้เสือบ้ากามยังฝากอะไรไว้อีกหรือเปล่า

   “ไม่ต้องอายไปหรอก เขาบอกผมแล้ว”

   “บะ..บอกอะไร”

   เพราะเอียงหน้าหลบไปอีกด้านหนึ่งเขาเลยไม่มีโอกาสเห็นดวงตาปวดร้าวของอีกคน ได้ยินแค่เสียงถอนหายใจกับคำพูดที่แต่ความอ่อนโยนเท่านั้น

   “บอกหมดนั่นแหละ ไอ้หมอนั่นคงแข็งแรงน่าดูหมอถึงได้ป่วย”

   “ไม่ใช่นะ!” คนขี้อายเถียงทั้งที่มีหลักฐานฟ้องอยู่เต็มตัว

   วรทย์ไม่รู้หรอกว่าตลอดทั้งวันที่เขาวนเวียนเช็ดตัวให้ เขาต้อนทนเห็นรอยแดงจ้ำตามลำตัวขาวผ่องนั่นอยากจะเอาผ้าก็อซหรือพลาสเตอร์ยามาปิดเสียให้รู้แล้วรู้รอดแต่ก็เกรงว่าคนไข้จะไม่มีอุปกรณ์ทำแผลเพราะรอยพวกนั้นมันมีนับสิบรอยเลยทีเดียว

   “เอาเถอะๆ เรื่องอย่างนี้ผมพอจะเข้าใจ ว่าแต่หมอไม่เป็นอะไรแล้วนะยังปวดหัวอยู่หรือเปล่า”

   ศีรษะกลมที่ปกคลุมด้วยเส้นผมยุ่งเหยิงสั่นไปมาบนหมอนนุ่ม นอกจากเนื้อตัวที่ปวดเมื่อยราวกับคนทำงานหนักและอาการปวดหนึบที่ช่วงสะโพกเขาก็ไม่รู้จักเจ็บป่วยตรงไหนอีก คงเป็นเพราะคิมหันต์ที่ช่วยปฐมพยาบาลและเฝ้าไข้ให้ แม้จะอายแค่ไหนแต่คุณหมอตัวสูงคนนี้คือผู้มีพระคุณไม่รู้จักจบสิ้นของเขา นับนิ้วไม่ได้แล้วว่ากี่ครั้งกันที่คิมหันต์ยื่นมือเข้าในช่วยในยามที่เขาเดือดร้อนหรือเจ็บป่วย

   “ขอบคุณนะครับหมอ หมอมีน้ำใจกับผมมาก” เขายอมเอี้ยวหน้ากลับมาข่มความอายเอาไว้เต็มที่

   “ไม่เป็นไรหรอกครับ เพื่อนกันแค่นี้ไม่มีปัญหา”

   เขาสะดุดใจกับคำว่าเพื่อน มันฟังดูแล้วขมขื่นเหลือเกิน วรทย์ไม่กล้ามองสบกับดวงตาเรียวแต่คมนั่นเขารู้สึกผิดที่ทำให้คนที่แสนดีต้องผิดหวังเพราะไม่อาจตอบรับความรู้สึกดีๆ ที่อีกคนหยิบยื่นให้ แต่เขาไม่อาจบังคับหัวใจได้จริงๆ ไอ้ก้อนเนื้ออ่อนๆ มันไม่รักดีคนดีมีอยู่ตรงหน้าแต่เขาดันไปชอบไอ้บ้าห้าร้อยที่จ้องแต่จะปล้ำเขาแทน ช่วงนี้ชะตาชีวิตเขาอาจจะดวงตกเลยหน้ามืดตามัวไปชอบไอ้เสือบ้ากามซะได้

   “ผมขอโทษนะ” คนป่วยกล่าวด้วยเสียงแผ่วเบาและแหบแห้งจนต้องกระแอม สะดุ้งเล็กน้อยกับมืออุ่นที่ยื่นมาแตะที่หน้าผาก

   “ไม่เป็นไร ผมเต็มใจ” คิมหันต์ยิ้มอ่อนโยนแต่ดวงตาเศร้านัก คนตัวเล็กหลุบตาต่ำอยากจะเอ่ยขอโทษอีกสักรอบทว่าโดนปรามด้วยคำพูดตามประสาคุณหมอ “นอนพักผ่อนเถอะครับ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงพรุ่งนี้ก็หายแล้ว”

   วรทย์อยากจะค้านว่าเขาไม่ใช่เด็กห้าขวบไม่จำเป็นต้องปลอบประโลมอย่างนี้ก็ได้ แต่ความอบอุ่นห่วงใยที่ถ่ายทอดมานั้นทำให้ปฏิเสธไม่ลง คุณหมอตัวเล็กพยักหน้าเบาๆ หลับตาลงขณะที่ผ้าห่มเคลื่อนมาที่หน้าอกและมืออุ่นที่จากไปหน้าผาก

   “ฝันดีนะครับ”

   ประตูห้องงับปิดอย่างแผ่วเบา ท้องฟ้าด้านนอกมืดสนิทแต่เพราะความมืดมิดมันทำให้มองเห็นดาวชัดเจนขึ้น ใบหน้าขาวสะอาดเงยขึ้นมองบนท้องฟ้าที่พราวระงับด้วยหมู่ดาว เขาหมดห่วงวรทย์แล้วเพราะไข้ที่รุมเร้ามันจางลงจนแทบจะไม่มีเหลือนอนพักอีกสักคืนพรุ่งนี้ก็น่าจะหายเป็นปกติ ทว่าจิตของเขากระหวัดไปถึงใครอีกคนหนึ่งมากกว่าตั้งแต่เมื่อช่วงบ่ายที่เขาโทรไปเล่าถึงความล้มเหลวในความพยายามทั้งของตัวเองและอีกคน เขาก็ติดต่อกลับไปไม่ได้อีกยังไม่ทันได้สอบถามความรู้สึกเลยอีกฝ่ายก็เงียบหายไปเฉยๆ และไม่ว่าจะพยายามอีกสักกี่ครั้งก็ไร้ผล สัญญาณโทรศัพท์ดังและตัดไปเองจนครั้งสุดท้ายที่โทรมันกลายเป็นการปิดเครื่องไปเสียแล้ว เลยอดห่วงไม่ได้ว่าคู่แข่งตัวเล็กของเขาคนนี้อาจกำลังทุกข์หนักกว่าเขาก็เป็นได้

   มิหนำซ้ำท่าทางของอาณกรจะชอบวรทย์มากกว่าเขาเสียอีก เป็นไปได้ว่าอาจจะได้รับผลกระทบมากกว่าที่เขาเป็น ชายหนุ่มถอนหายใจแผ่วเบา มันหายไปกลับอากาศที่เย็นลง มือขาวสอดเข้าไปในกระเป๋ากางเกงดึงเอาโทรศัพท์ออกมาเพื่อกดหาอาณกรอีกครั้ง เขาไม่ได้หวังว่าอีกฝ่ายจะรับสายแค่อยากลองดูเท่านั้น คราวนี้ไม่ใช่การปิดเครื่องสัญญาณดังเตือนอยู่นานเกือบนาทีในที่สุดก็มีการตอบรับ

(มีต่อ)

ออฟไลน์ saotome

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
อ่าส์ หวังว่าไม่ได้ปาดนะ

ออฟไลน์ libra82

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +236/-5
“ฮัลโหล คุณออย คุณเป็นอะไรทำไมผมติดต่อคุณไม่ได้เลย”

   “อาออยไม่อยู่หรอกฮะ ไม่รู้ไปอยู่ที่ไหน ฮ้าว”

   คิมหันต์ดึงโทรศัพท์ห่างจากหู ตาเรียวมองไปที่หน้าจอที่ยังคงแสดงเบอร์โทรของอาณกรทว่าเสียงที่รับสายกลับเป็นเสียงของเด็ก วินาทีแรกเขาคิดว่ามีการผิดพลาดทางสัญญาณเสียอีก เขาลองแนบหูกลับไปอีกครั้งตั้งสติให้มากกว่าเดิมแล้วถามกลับไป

   “หนูเป็นใคร”

   “พิกเล็ตฮะ พี่เป็นใครหรือฮะ”

   “พี่เอง หมอคีย์ไง”

   “อ้อ! พี่เองหรือฮะ” พิกเล็ตดูเหมือนจะตื่นเต็มตา น้ำเสียงไม่งัวเงียดังเช่นตอนแรก เขาได้ยินเสียงเสียดสีของผ้าคาดว่าเจ้าตัวน้อยคงจะลุกขึ้นจากที่นอน

   “ทำไมพิกเล็ตถึงรับโทรศัพท์ของอาออยได้ล่ะ แล้วอาของหนูไปไหน”

   “ไม่รู้ฮะ” เด็กชายตอบเสียงใสขึ้นกว่าเดิม “พี่เมี่ยงบอกว่าเจอโทรศัพท์ที่สนามหญ้าก็เลยเอามาให้หนูไว้”

   “แล้วพี่เมี่ยงเอาโทรศัพท์มาให้พิกเล็ตตอนไหน” คิ้วเข้มขมวดเข้าหากัน ความสงสัยทวีคูณ

   “ตอนเย็นฮะ พี่คีย์มีอะไรหรือเปล่าฮะถ้าหนูเจออาออยแล้วจะบอกให้”

   “มะ ไม่มี พิกเล็ตนอนต่อเถอะครับ พี่กวนแล้ว”

   “ได้ฮะ ราตรีสวัสดิ์นะฮะ”

   “ครับ ฝันดีเจ้าตัวน้อย”

   เขารอให้ปลายสายวางหูไปก่อนแล้วค่อยกดยุติการสนทนา เขาเชื่อว่าอาณกรไม่ใช่คนเผลอเรอจนทำโทรศัพท์หล่นแล้วไม่รู้ตัว ซ้ำช่วงเวลาที่เขาติดต่อไม่ได้ยังใกล้เคียงกับที่เมี่ยงเจอโทรศัพท์อีกด้วยเป็นไปได้ว่าอาณกรอาจจะหายตัวไปในช่วงเวลานั้นพอดี อีกความสงสัยที่ตามมาคืออาณกรหายไปไหน เป็นไปไม่ได้ที่จะถูกลักพาตัวไปเรียกค่าไถ่เพราะนอกจากเขาที่ไม่ค่อยจะลงรอยกันเท่าไรนักพ่อหนุ่มตัวเล็กก็ไม่น่าจะมีศัตรูที่ไหนอีก

   ใจเขาหายวาบสิ่งที่กังวลอาจจะเป็นจริงก็ได้ อาณกรคงจะเสียใจมากจนเผลอทำเรื่องโง่ๆ ลงไป ความเป็นห่วงท้นในอก ร่างสูงตรงรี่ไปยังรถยนต์คู่ใจทันทีโดยมีเป้าหมายอยู่ที่ไร่เคียงฟ้า...

…………………….


    อากาศตอนตีสองมันเย็นจนต้องห่อตัวเข้าหากันแม้จะใช้สองแขนโอบกอดตัวเองแล้วแต่ความหนาวเย็นก็ไม่ได้ทุเลาลงแม้แต่น้อยพอได้อยู่คนเดียวเขาก็กลับไปคิดเรื่องเดิมๆ อีกครั้ง แม้ว่าจะพอรู้อยู่บ้างว่าผู้ชายที่เขาแอบแรกมาเกือบสิบปีจะไม่เคยชายตามาแลกันมันเอาเข้าจริงๆ ไม่ว่าผู้ชายคนนั้นจะรักใครการทำใจให้ยอมรับมันก็ยังเป็นเรื่องยากอยู่ดี น้ำตาไม่ได้ไหลลงมาอีกแต่ความชอกช้ำในหัวใจก็ยังคงมีอยู่ เขารู้สึกถึงความปวดหนึบที่รอบกระบอกตาและลำคอที่แห้งผากก่อนหน้านี้คงจะร้องไห้หนักจนหลับไป ไม่ใช่แค่หลับไปเขายังไม่รู้ตัวอีกด้วยไม่รู้กระทั่งว่าปืนพาเขาไปที่บ้าน แถมยังนอนบนเตียงเดียวกันที่ร้ายไปกว่านั้นเขายังใช้อกของปืนเป็นที่ซับน้ำตาอีกด้วย ลมหายใจที่มีแต่ความเจ็บปวดถูกระบายออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า

   ความรู้สึกที่มีต่อปืนแน่นอนว่ามันไม่มีอะไรเกินเลยนอกจากเพื่อนร่วมงาน เขาไม่เคยคิดว่าคนในไร่มีศักดิ์ต่ำกว่าตัวเองเพราะเขาก็กินเงินเดือนของพศินเช่นกัน แต่คำพูดของปืนมันทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่าอีกฝ่ายอาจจะคิดอย่างอื่นก็เป็นได้ เรื่องหัวใจของคนอื่นเขาไม่รู้ลำพังแค่หัวใจตัวเองก็เจ็บมากพอแล้ว ตอนนี้เขาไม่อยากคิดถึงเรื่องใดอีกอยากทำใจให้ชาชินได้เร็วในวันเท่านั้น ถึงอยากจะเป็นคนที่พศินเลือกแค่ไหนแต่ขณะเดียวกันเขาก็ไม่อยากถูกเกลียด

   ร่างเล็กทรุดลงนั่งบนขอนไม้ใต้ต้นอินทนิลน้ำ ดอกสีชมพูดูสดใสแม้จะอยู่ในความมืดกลิ่นหอมอ่อนๆ ส่งกลิ่นไปทั่วบริเวณ น้ำค้างเริ่มเกาะตามใบเรียวและหยดใส่พื้นดิน บรรยากาศที่เขาคุ้นชินมาหลายปีแต่ไม่รู้ว่าจะได้อยู่ชื่นชมมันไปอีกนานแค่ไหน ยอมรับว่าเหนื่อยไม่น้อยกับการรักข้างเดียว เหนื่อยที่ต้องหลอกตัวเองซ้ำซากว่าตัวเองยังสำคัญทั้งที่หากไม่มีเขาแล้วอีกคนคงอยู่ได้ ดวงตาหวานเหม่อมองไปยังความมืดที่เวิ้งว้าง รอบกายมีแค่เสียงแมลงกลางคืนที่เป็นเพื่อนเท่านั้น บ้านเคียงฟ้าอยู่ห่างออกไปเกือบสามร้อยเมตรแต่ก็ยังมองเห็นได้ในระยะสายตา ไฟในบ้านปิดหมดมีแต่เพียงไฟดวงยาวที่หน้าบ้านเท่านั้นที่ให้แสงสว่าง พศินคงไม่มีเวลามาสนใจว่าเขาหายไปยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัวใจ แต่จะห้ามไม่ให้คิดก็ทำไม่ได้...จะรักมันไม่ยากแต่จะให้เลิกรักมันไม่ง่ายเลย ไม่เช่นนั้นเขาคงไปอยู่ที่อื่นนานแล้วไม่ปักหลักดักดานอยู่ที่นี่นานเกือบสิบปีอย่างนี้หรอก

   เปลือกตาบวมปิดลงพลางลมหายใจที่ผ่อนออกเบาๆ ก่อนจะลุกขึ้นจากที่นั่งแต่ยังไม่ทันได้ยืดกายหูก็ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ที่ดังใกล้เข้ามา ความสงสัยมาพร้อมกับความหวาดระแวง ไร่เคียงฟ้าไม่เคยมีใครมาเยือนยามวิกาลเว้นเสียแต่ผู้ไม่ประสงค์ดี ร่างเล็กเคลื่อนกายซ่อนหลังต้นอินทนิลใช้ความมืดพรางกายรอคอยเจ้าเครื่องยนต์ที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ใจเต้นลุ้นระทึกคิดไปต่างๆ นานา ตั้งคนที่อาจรู้จักจนไปถึงโจรผู้ร้าย ไม่นานหลังจากการได้ยินรถยนต์ที่เป็นต้นตอของเสียงก็หยุดลงแถวหน้าบ้านเคียงฟ้า เขาเห็นเงาตะคุ่มที่ส่วนสูงและท่าทางการเดินคุ้นตาเดินตรงรี่เข้าไปที่ตัวบ้าน เจ้าของเงาดูคล้ายกระสับกระส่ายและละล้าละลัง เขาประเมินจากการมองเห็นและความจำของตัวเอง เพ่งมองเงาร่างสูงนั่นอีกครั้งแล้วพยายามคิดว่ารูปร่างและลักษณะเช่นนั้นเขาเคยเห็นที่ไหนมาก่อนหรือเปล่า เพียงไม่นานหลังจากใช้ความคิดเขาก็นึกขึ้นได้ว่าร่างที่เห็นนั้นมันคล้ายกับใครคนหนึ่ง...ใครคนที่โทรมาบอกเรื่องเจ็บปวดกับเขาเมื่อช่วงบ่าย

   ถ้าเดาไม่ผิดผู้มาเยือนอย่างผิดเวลาน่าจะเป็นคิมหันต์ แต่นั่นไม่น่าแปลกใจเท่ากับว่าคิมหันต์มาทำอะไรที่นี่ตอนตีสอง ร่างบางสืบเท้าจากที่หลบซ่อนเขาเดินอย่างเงียบเชียบไปหาเจ้าของร่างสูง   

   “คุณมาทำอะไร”

   “อ้าวเฮ้ย!” คุณหมอตัวสูงสะดุ้งโหยงพลิกตัวหมุนเร็ว ตาเรียวเบิกกว้างสะท้อนความตกใจมาช่วยประเดี๋ยว แต่แค่กระพริบตามันก็ฉายอีกแววออกมา “คุณไปไหนมา!”

   “คุณต่างหากที่ต้องตอบคำถามผม” ร่างเล็กกอดอกเอียงคอมองอีกฝ่าย ไม่รู้ว่าเพราะตาที่บวมช้ำของตัวเองหรือความมืดกันแน่ที่ทำให้เขาเห็นความห่วงใยใจดวงตาคู่นั้น

   “ก็คุณเล่นหายไปเลย ผมโทรเท่าไรก็ไม่รับ”

   คิ้วเรียวแต่ไม่เล็กยกขึ้นก่อนจะคลำหาเจ้าเครื่องมือสื่อสาร แล้วก็ตกใจเมื่อค้นหามันไม่พบ “ตายแล้วโทรศัพท์ผม”

   “อยู่กับพิกเล็ต” ผู้มาเยือนบอก “ผมโทรไปตอนตีหนึ่งกว่าๆ พิกเล็ตเป็นคนรับบอกว่าเมี่ยงเก็บโทรศัพท์ได้ แตไม่พบคุณผมก็เลยเป็นห่วง”

   “เป็นห่วง?” แสงไฟจากหลอดนีออนหลอดยาวส่องสว่างมากพอที่จะเห็นความประหลาดใจบนใบหน้าสวยเกินชาย

   “จะไม่ให้ห่วงได้ยังไง ก็เล่นหายไปเลย” คิมหันต์ตอบกลับ หันหน้าเข้าหามุมมืดเพื่อซ่อนใบหน้าที่อาจจะแดงขึ้นของตัวเอง แต่ตายังเหลือบมองไปยังคนตัวเล็ก ยอมรับว่าโล่งใจที่เห็นว่าอาณกรยังอยู่ครบสามสิบสองแม้ว่ารอบดวงตาหวานจะดูช้ำกว่าปกติ
   “ผมไม่เป็นไร เจ็บจนชินแล้ว” อาณกรบอก ยิ้มขมขื่นให้กับตัวเอง เจ็บบ่อยๆ มันก็ค่อยๆ ชินไปเองอย่างที่เพลงว่านั่นแหละ

   “แล้วคุณล่ะเป็นอย่างไรบ้าง เจ็บมากหรือเปล่า”

   “ก็เจ็บอยู่นะ แต่คิดว่าอาจจะไม่เท่าคุณ” คิมหันต์รับสารภาพ จนถึงตอนนี้ก็ยังเจ็บที่หัวใจอยู่ใครจะไปทำใจได้ง่ายๆ คนที่ชอบไปนอนกับคนอื่น แถมยังทิ้งรอยไว้ให้ช้ำใจเล่นอีก ไอ้บ้าเสือมันร้ายกว่าที่คิดมากนัก

   “ไม่หรอก จะเจ็บมากหรือเจ็บน้อยก็เจ็บมันก็เจ็บเหมือนกัน”

   คุณหมอตัวสูงหันมองหน้าหวาน อาณกรเข้มแข็งกว่าที่คิดแม้ดวงตาจะเศร้าสร้อยกว่าปกติแต่เขาก็ยังเห็นความแข็งแกร่งซ่อนอยู่ หัวอกเดียวกันระดับความเจ็บปวดแตกต่างกันอยู่บ้างทว่าต่างฝ่ายต่างก็รู้ว่าควรจะทำให้อย่างไรเพื่อให้หลุดพ้นจากความรู้สึกนี้ คิมหันต์ถอนหายใจเป็นเชิงโล่งอกก่อนจะหัวเราะในความบ้าบิ่นของตัวเอง อุตส่าห์ขับรถฝ่าความมืดออกมาเพราะห่วงว่าคู่แข่งตัวเล็กจะเผลอทำเรื่องโง่ๆ เข้า ถ้าหากเขามีสติมากกว่าจะรู้ว่าคนที่โง่คือตัวเขาเองต่างหาก มือขาวยกขึ้นลูบท้ายทอยตัวเองเบาๆ พอทบทวนพฤติกรรมของตัวเองแล้วมันก็อดอายขึ้นมาไม่ได้

   “คะ คุณยังไม่ได้ตอบคำถามผมเลยว่าหายไปไหนมา”

   ตาหวานมองไปที่มือของคนตัวสูงที่ลูบอยู่แถวท้ายทอยก่อนจะหลุบต่ำมองยอดหญ้า อากาศเย็นถูกดึงเข้าปอด “บ้านปืน”

   “บ้านนายปืน! คุณไปทำอะไรที่นั่น”

   “ไม่รู้เหมือนกัน ตื่นมาก็อยู่ที่บ้านของปืนแล้ว”
   “อย่าบอกว่านะว่าเสียใจจนสลบไป”

   “จะบ้าหรือไง ผมคงเพลียมากจนไม่รู้เรื่องอะไร ปืนเขาเป็นห่วงก็เลยพาไปไว้...ที่บ้านตัวเอง” ท้ายประโยคแผ่วลง เพราะคนพูดก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทำไมปืนถึงพาไปที่บ้านพักส่วนตัวแทนที่จะพากลับไปที่บ้านเคียงฟ้า พูดแปลกๆ ใส่ ซ้ำยังไล่ออกมาอีก

   “บ้านตัวเองเนี่ยนะ มันไม่แปลกไปหน่อยหรือไง”

   “ช่างเถอะน่า ถึงอย่างไรเขาก็เป็นห่วงผม”

   หนุ่มตัวสูงยักไหล่อย่างที่ชอบทำเป็นประจำ “มีคนเป็นห่วงแล้วก็ดี ผมจะได้กลับ”

   อาณกรมองผู้ชายตัวสูงที่ยังอยู่ในชุดลำลองไม่ใช่ชุดนอน ซึ่งก็ไม่ต่างกันกับเขา คิมหันต์หมุนกายทำท่าจะกลับไปที่รถยนต์ของตัวเอง โดยไม่รู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่เขาเผลอยื่นมือไปคว้าท่อนแขนยาวไว้ ใบหน้าขาวสะอาดผินกลับมาคิ้วหนายกสูงเป็นเชิงสงสัย   

   “มีอะไรหรือ?”

   “เอ่อ...” อาณกรมองมือตัวเองบนแขนของอีกฝ่าย ปากเม้มเข้าหากันเพราะทำไปโดยไม่คิดเลยหาคำพูดมาตอบคำถามไม่ได้ นานชั่วอึดใจจนที่สุดก็เอ่ยคำที่อยู่ในใจออกมาได้ “อย่าเพิ่งกลับได้ไหม”

   คิ้วหนาเปลี่ยนมาขมวดเข้าหากันแทน ตาคมมองศีรษะกลมที่ก้มต่ำ เขาชั่งใจกับคำชวนนั้นแล้วพยักหน้าตอบรับ บางทีการที่ได้อยู่กับคนเจ็บเหมือนกันมันอาจจะแชร์ความเจ็บให้ทุเลาลงได้บ้าง
   “แต่ผมไม่อยากอยู่ที่นี่ ไปที่อื่นได้หรือเปล่า”

   อารณกรไม่รู้ว่าอะไรเข้าสิงเขาถึงได้ตอบตกลงไปโดยไม่มีแม้แต่คำถามว่าหากไม่ใช่ที่ไร่เคียงฟ้าคิมหันต์จะพาเขาไปที่แห่งใดกัน กว่าจะรู้ตัวรถเก๋งกลางเก่ากลางใหม่ก็เคลื่อนห่างจากไร่เคียงฟ้าหลายกิโลเมตรเสียแล้ว...

……………………….


   “อาภูมิง่วงหรือฮะ”

   อยากจะปฏิเสธข้อสงสัยของเจ้าตัวเล็กนักแต่ปากมันดันหาวไม่ยอมหยุด แถมน้ำตายังซึมที่ขอบตาอีกต่างหากฟ้องด้วยภาพให้เด็กจับได้ว่าเขากำลังง่วงจริงๆ จักษุแพทย์พยายามยิ้มที่ปากยังอ้าอยู่ให้หลานชายตัวน้อย ปล่อยมือจากพวงมาลัยข้างหนึ่งแล้วยกมือลูบที่หัวทุยเบาๆ

   “อาเพิ่งออกเวรน่ะ ยังไม่ได้นอนเลย”

   “ขอโทษนะฮะ เพราะพิกเล็ตอาภูมิเลยอดนอนเลย” เจ้าตัวเล็กหน้าจ๋อยลงไปจนเขารู้สึกผิดต้องรีบแก้ตัว

   “ไม่ใช่เพราะพิกเล็ตหรอกครับ มันเป็นหน้าที่ของอาอยู่แล้ว”

   แต่หลานชายยังไม่กลับมาสดใสเหมือนเดิม ใบหน้าขาวก้มต่ำไรผมทิ่มอยู่ตามเปลือกตาบาง “รู้อย่างนี้หนูหยุดเรียนดีกว่า”

   “ไมได้นะครับ เป็นเด็กก็ต้องไปเรียนหนังสือ อาแค่ง่วงนอนเองครับพอส่งหนูเสร็จอาก็ได้นอนแล้ว ใช่ไหมกิ่งแก้ว”

   เด็กหญิงกิ่งแก้วเงยหน้าจากเกมกดที่เพิ่งได้คิวมาจากเพื่อนในห้องทำหน้าเหรอหรามองผู้ใหญ่ แต่ก็พยักหน้าหงึกหงักไปตามเรื่องตามราวทั้งที่ไม่รู้สึกนิดว่าคุณอาหมอสุดหล่อคนนี้ถามว่าอะไร

   “ว่าแต่วันนี้ห่ออะไรไปกินครับ อาออยไม่อยู่อย่างนี้ไม่ลำบากหรือครับ” หมอหนุ่มเปลี่ยนประเด็น ยอมรับว่ารู้สึกไม่ดีเอาเสียเลยเมื่อเห็นหน้าหงอยๆ ของหลานชาย พิกเล็ตยอมเงยหน้าจากตัก ตากลมกลิ้งไปมาอย่างใช้ความคิด

   “พี่เมี่ยงทำฮะ วันนี้หนูเอาไข่ตุ๋นใส่ปูอัด แฮมแล้วก็แครอทไป เมื่อเช้าหนูก็กินข้าวเองพี่เมี่ยงบอกว่าหนูเก่งแล้วกินข้าวเองได้”

   เขาแทบจะหายง่วงกับคำบอกเล่าที่แสนไร้เดียงสาของหลานชาย ตลอดห้าปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยได้ทำหน้าที่ของอาแท้ๆ เลยสักครั้ง เจอกันอีกทีพิกเล็ตก็โตจนช่วยเหลือตัวเองได้แล้วซ้ำยังเก่งกว่าที่เขาคิดไว้ เจ้าตัวน้อยไม่งี่เง่าเหมือนเด็กในวัยเดียวกัน น้ากลอยแม่ของกิ่งแก้วบอกว่าตอนที่ปารินทิ้งไปพิกเล็ตไม่เคยร้องหาด้วยซ้ำแถมยังดูแลพ่อที่ขี้เทาอีกด้วย พอจะรู้มาว่าอารณกรทำหน้าที่ทั้งแม่และพี่เลี้ยง เจ้าตัวเล็กเลยติดอาออยแจ เลยอดสงสารไม่ได้ว่าในยามที่อาออยหายตัวไปอย่างไร้สาเหตุเช่นนี้พิตเล็ตจะพึ่งตัวเองได้หรือไม่ แต่จากการประโยคเมื่อครู่หลานชายตัวน้อยของเขาพิสูจน์แล้วว่าแม้จะไม่มีผู้ใหญ่พิกเล็ตก็สามารถดูแลตัวเองได้

   คิดแล้วก็อดโมโหไม่ได้ ไม่รู้ว่าทั้งพี่ชาย ปารินและอาณกรหายไปไหนกันหมดทิ้งให้เจ้าตัวน้อยอยู่บ้านกับเมี่ยงกันแค่สองคนเท่านั้น นี่ถ้าหากเมี่ยงไม่โทรไปบอกกับเขาว่าไม่มีใครไปส่งทั้งพิกเล็ตและกิ่งแก้วคงไม่ได้ไปโรงเรียน เขาเลยต้องออกจากเวรก่อนเวลา หูชาไปหมดเพราะโดนผู้อำนวยการใหญ่โทรมาเล่นงานข้อหาที่กลับก่อนเวลามาสองครั้งแล้ว ครั้งแรกเมื่อวันที่หนึ่งพฤศจิกายนวันเกิดของคุณพี่ชาย และวันนี้วันที่เขาได้ทำหน้าอาเป็นครั้งแรก ส่วนตอนเย็นถ้าอาณกรยังไม่กลับมาเขาก็จะมารับพิกเล็ตด้วยตัวเอง

   เขาชวนเด็กทั้งสองคุยไปเรื่อยๆ ทั้งเรื่องอาหาร ขนม การเรียนรวมไปถึงการ์ตูนเรื่องโปรด นึกละอายใจเหลือเกินที่หลานอายุห้าขวบแล้วแต่เขาเพิ่งรู้ว่าพิกเล็ตชอบกินช็อกโกแล็ค

   “พิกเล็ตรักอาไหมครับ” ชายหนุ่มถามเสียงนุ่ม ยกมือขึ้นลูบศีรษะเล็กเบาๆ เจ้าตัวน้อยพยักหน้าหงึก แต่ดวงตายังมีแววลังเล ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจนักเพราะพิกเล็ตเพิ่งจะรู้ว่ามีอาแท้ๆ เมื่อไม่กี่วันนี่เอง ภาคภูมิยิ้มอ่อนโยนในอกเต็มตื้นรู้สึกถึงคำว่าครอบครัวขึ้นมา “จากนี้ไปอาจะทำหน้าที่ของอาอย่างเต็มที่เสียที”

   พิกเล็ตทำหน้างง คงไม่เข้าใจในคำพูดของผู้ใหญ่นัก เขาไม่พูดอะไรต่อเบนสายตากลับไปที่ถนนใหญ่หลายปีที่ผ่านมาเขาอยู่คนเดียวมาตลอดห่างเหินสิ่งที่เรียกว่าครอบครัวมานาน...นานจนเกือบลืมไปว่าบนโลกที่บูดเบี้ยวใบนี้ยังมีคนที่มีสายเลือดเดียวกันอยู่อีกสองคน...
…………………..
 :mew6:
ต้องขอโทษด้วยนะคะที่หายไปนานเลย พอดีว่าข้าพเจ้าป่วยค่ะ นอนซมอยู่หลายวันเลย พอฟื้นตัวแม่ก็ป่วยอีกคน แถมอาการหนักกว่าเลยต้องปฐมพยาบาลแม่ (ให้ไปหาหมอก็ไม่ไป) ตอนนี้ค่อนข้างหลายฉากหน่อยนะคะอยากให้เห็นความหลากหลายของตัวละครค่ะ ส่วนหมอคีย์กับอาออยจะหายไปไหนด้วยกันนั้น มีอยู่ในตอนพิเศษค่ะ ^^


เอารูปน้องมะรุม มาฝากค่า ขอตัวไปตายแปบนึง น่ารักสุดๆ ไปเลย



[attachment deleted by admin]

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
หวังว่านายเสือคงไปจัดการปารินให้สิ้นซากนะ

ออฟไลน์ mahaki

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-0
ไม่อยากให้กรคู่กับหมอคีย์เลยค่ะ อยากให้คู่กับปืนมากกว่าแต่ดูท่าแล้วคงจะไม่สมหวังแล้วล่ะ :o12:

ออฟไลน์ nanami253

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 30
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
สงสารนายปืน    'ขอเสนอตัวเองเป็นคู่นายปืนค่ะ'  555 :-[ :mew2: :o8:

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
รักปืนอ่ะ ปืนแมนโคตรๆ
เราโคตรจะรักเลย
อย่าหาคู่ให้ปืนเลยนะ
เราเสนอตัวเองได้มั้ย :mew5: :hao5:

เราเบื่อออยกะคีย์แล้ว ชิๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด