
ร่างสูงนอนเหยียดบนเปลเรือไม้ไผ่ที่นำมาผูกใต้ต้นไม้ใหญ่ในสวนหลังบ้านหลังจากที่กลับมาจากไปดูงาน... ตาคมก็จ้องคนที่นั่งปากชิดจมูกอยู่ที่พื้นหญ้า อยากจะขำแต่ก็กลัวอีกคนจะโกรธ เวรกรรมตกอยู่กับเจ้าหมาตัวโตกว่าอายุที่ถูกทึ้งขนอยู่เพื่อระบายอารมณ์...ถึงจะทึ้งไม่แรงแต่ขนก็ร่วงไปหลายเส้นเหมือนกัน...
“ไม่ง่วงเหรอครับ เมื่อกี้ยังบ่นว่าง่วงอยู่เลย”
“ไม่...ไม่ต้องมาพูดด้วย..”
“...................” ยิ่งพูดด้วยปากก็ยิ่งชิดจมูกเข้าไปใหญ่...ย่นหน้าจนจะเป็นไอ้ปลั๊กอยู่แล้ว...ต้นเหตุก็เพียงเพราะวันนี้สัญญาว่าจะพาไปเที่ยวแต่เขากลับขอเลื่อนเป็นพรุ่งนี้...ยังเหลือวันหยุดอีกตั้งหลายวัน เพราะจันทร์- อังคาร ก็เป็นวันนขัตฤกษ์ โรงเรียนก็ปิด..
“งั้นก็ไม่เป็นไร ถ้าไปวันนี้ วันจันทร์ไม่ต้องไปบ้านสวน”
“....................”
“ตามใจพี่ไม่บังคับใครอยู่แล้ว”
“...ไปตอน ไหน..” ปากก็ยังชิดจมูกอยู่...คางก็ชิดอก แต่ก็ยอมที่จะพูดอ้อมแอ้มออกมา..
“ก็วันจันทร์ไง...จะไปรึเปล่า..มาหาพี่สิครับ..”
“..ไม่ไปเที่ยวแล้วก็ได้...น้องบีอยากไปบ้านสวน..” ถึงจะลุกขึ้นอย่างเอื่อยเฉื่อยเหมือนยังเสียดายการไปเที่ยว แต่การได้ไปบ้านสวนเป็นสิ่งที่น้องบีต้องการมากกว่าแน่นอน..
“อย่าทำหน้าอย่างนี้สิ ไม่น่ารักเลย”
“ ไม่น่ารัก ก็ไม่ต้องรัก” ถึงจะยอมเดินมานั่งเปลกับพี่ปันปัน แต่ก็ยังทำหน้าบูดอยู่...พอถูกว่าไม่น่ารักก็เลยโกรธนิด ๆ
“ไม่น่ารัก ไม่ได้หมายถึงไม่รักหนิครับ...ไม่เอาน่าอย่าโกรธ..คนที่บ้านสวนรอเจอน้องบีอยู่เพียบเลย..ฟอด”
“...อือ...น้องบีนอนนะ..”
“ครับ ง่วงก็นอน...” นี่คือประเด็นที่ทำให้หงุดหงิด...เพราะง่วงนอน...ลมเย็นๆ ใต้ต้นไม้ใหญ่ในสวนทำให้คนในอ้อมกอดที่ตอนนี้เอนตัวทับอยู่บนตัวเขา ใบหน้าน่ารักซบอยู่ที่หน้าอก...ตากลมเริ่มจะปิดลงเรื่อย ๆ จนกระทั่งปิดสนิท...
“..ฟอด!..ฝันดีครับ ตัวดื้อ..”
“.............” โอบกอดคนที่หายใจเข้าออกสม่ำเสมอ...หัวใจก็เต้นแรงตามจังหวะหายใจของน้องบี...ความรู้สึกมันมากล้นขึ้นทุกวัน....แต่ค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไปอย่างนี้ดีแล้วใช่ไหม...แล้วถ้าวันนึงน้องบีเจอคนที่ดีกว่าเขา...จะต้องสูญเสียไหม...เป็นเรื่องที่คิดอยู่ในใจ....
***********************************
“อึก! คุณ..อืมม...”
“ฉัน รัก เธอ...” เสียงกระซิบหวานหูมาพร้อมกับบางสิ่งที่กำลังดึงดันเข้ามาในช่องทางด้านหลัง...ไม่ใช่ครั้งแรกแต่มันก็ตื่นเต้นทุกครั้ง...มือหนาบีบคลึงสะโพกเขา..พร่ำบอกคำที่เขาต้องการได้ยินมาตลอดตั้งแต่ได้พบกัน...ความเจ็บวิ่งซึมเข้ามาอย่างช้า ๆ แต่ด้วยหัวใจที่ยินยอมและพร้อมทุกอย่างทำให้เลือกที่จะปล่อยผ่านความเจ็บปวด ซึมซับความสุขที่มีร่วมกัน...
“..อืมม..อืออ...”
“..อืม...อ่า...จุ๊บ..” ปัฐพีกัดฟันเพราะอดทนต่อความต้องการที่ก่อเกิด...หลังจากที่ดันแก่นกายตัวเองเข้าไปจนสุด...ต้องหยุดเพื่อให้อีกคนได้ผ่อนคลาย ทั้งที่ปวดหนึบไปหมด...ก้มลงจุมพิตเรียวปากสวยที่ตอนนี้เผยอยั่วยวนโดยที่เจ้าตัวไม่ตั้งใจ....ผมยาวสลวยแผ่เต็มหมอนสีขาว..กับร่างกายขาวนาลเมื่อต้องแสงโคมไฟสีเหลือง..มันดูน่าหลงใหลอย่างที่สุด...ไม่เคยคิดว่าจะได้กลับมา..
“..ขยับ สิครับ..อึก..”
“...รัก..วาโย..รัก..”
“ อึก อืมม” มือเรียวกำผ้าปูที่นอนแน่น ร่างกายเสือกไถตามแรงขยับของอีกคนที่เริ่มขยับและแรงขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเขาเอ่ยปากอนุญาต ดูก็รู้ว่าอีกคนก็ทรมานที่ต้องหยุด...ร่างกายกำยำและแข็งแรงเกินอายุทำให้เขาแทบจะหลอมละลายไปกับรสรักที่อีกคนปรนเปรอให้....เพราะรัก..ถึงได้สุขถึงเพียงนี้....การเสพสมที่เกิดจากความต้องการที่แฝงเร้นด้วยความเสน่ห์หา ทำให้ไม่นานก็ถึงจุดที่ต่างฝ่ายต่างต้องการ...
“ผมจะไปเอาผ้ามาเช็ดตัวให้”
“ไม่ต้องนอนเถอะ ฉันไม่เป็นไร...ฉันอยากนอนกอดเธออย่างนี้มากกว่า..”
“...........” ตาคมเฉี่ยวมองคนที่กระชับเอวเขาไว้ไม่ให้ลุกจากเตียง...ก่อนจะอมยิ้มเมื่อได้ฟังคำพูดหวาน ๆ พวกนี้...
“..อยากจะกอดไว้อย่างนี้ตลอด..ไม่ให้หนีไปไหนอีก..”
“..ไม่หนีหรอกครับ...ไม่รู้ว่จะหนีไปที่ไหน ที่ผมจะมีความสุขเท่ากับการได้อยู่กับท่าน..” สื่อความรู้สึกทางสายตาท่ามกลางแสงสลัวจากโคมไฟ...
“ ฉันขอโทษ ที่ไม่ตามหาเธอให้เร็วกว่านี้...เพราะฉันไม่คิด ว่าเธอ..ก็รักฉัน..”
“..ไม่หรอกครับ..เพราะตอนนี้คือสิ่งที่เกินจริงสำหรับผม...” สอดประสานกับมือที่กอดเอวเขาไว้....พร้อมกับขยับตัวเข้าหาอ้อมกอดอบอุ่นให้มากขึ้น
“....ไม่เกินจริงหรอก...มันเป็นสิ่งที่ฉันเฝ้ารอมาตลอดต่างหาก...”
“ขอบคุณครับ...แต่มันเหนอะ ให้ผมไปเข้าห้องน้ำได้ไหม”
“แน่นอนได้...ทำใจหน่อยนะผมยังแข็งแรงอยู่ก็ต้องเหนอะ น้ำเยอะเป็นธรรมดา...โอ๊ย!..เธอนี่ชอบหยิกจริงๆ “
“พูดทะลึ่งอีก ผมก็หยิกอีก...ไม่เอาละ ผมไปเข้าห้องน้ำดีกว่า...แล้วอย่าไปพูดให้น้องบีได้ยินเชียว แกยังเด็ก...”
“..จุ๊บ!..ไปได้..เรื่องน้องบีไม่ต้องห่วง ฉันจะให้ปันมันจัดสอนพิเศษให้”
“บ้า..หื่นทั้งพ่อทั้งลูก..”
“จะถือว่าเป็นคำชม”
“...................” วาโยก้มหน้างุด เมื่อกำลังจะลุก แต่ถูกดึงให้นั่งลงก่อนอีกคนจะยกตัวขึ้นมาจูบปากเขาอีกครั้งแล้วอนุญาตให้ไปล้างตัวได้...รีบลุกขึ้นก่อนจะหันไปค้อนให้คนที่นอนมองเขาอยู่วงใหญ่...คนอะไรไม่อายเด็ก...
เสียงรถจอดเทียบหน้าบ้านก่อนคนตัวเล็กจะก้าวลงจากรถแล้วรีบวิ่งไปหลังรถที่บรรจุของฝากมากมายที่น้องบีไปเดินห้างกับพี่ปันปันแล้วซื้อเพื่อที่จะไปฝากคนบ้านสวน...น้องบีตื่นเต้นจัง พรุ่งนี้ก็จะได้ไปแล้ว...แล้วที่สำคัญพี่เอกับพี่นิชาก็จะไปด้วย.....
“พี่ช่วยถือครับน้องบี”
“ครับ นี่ครับ.” ยื่นถุงกระดาษให้พี่วาโยช่วยถือ...สรรพนามเปลี่ยนไปตามความสนิทสนม...
“..................”
“คุณม๊าจ๋า ขนมน้องบีอยู่ถุงนี้นะ”
“..ว่าไง นะครับ..” คนที่กำลังช่วยยกของออกจากท้ายรถ ถึงกับทำถึงกระดาษหลุดมือ เมื่อสรรพนามไม่คุ้นหูทำให้เขาอึ้งไป....ดูเหมือนว่าปันณธรจะเข้าใจเลยส่งยิ้มให้ก่อนจะยกมือขึ้นขยี้กลุ่มผมนุ่มของคนช่างจำ
“คุณพ่อสอนครับ”
“คุณท่าน...จิส์!..จริง ๆ เลย บอกแล้วว่าไม่ให้สอนอะไรน้องบีแปลก ๆ”
“ ไม่แปลก...ก็คุณม๊าเป็นภรรยะ อุ๊บ!”
“เราเข้าบ้านกันนะครับเด็กดี..เนอะ”
“อึก อือ” คนที่โดนตะปบปากเหลือกตามองพี่วาโยก่อนจะพยักหน้าอย่างงงๆ ปันณธรถึงกับกลั้นหัวเราะกับท่าทางมีพิรุธของวาโย...คุณพ่อก็ช่างสอนเด็กช่างจำ...ปิดท้ายรถก่อนจะยื่นของให้ดาวที่วิ่งมาช่วยถือ...
“ก็แค่คุณม๊าโยเป็นภรรยาของคุณป๊า...ไม่เห็นจะแปลกเลย”
“ปล่อยเถอะครับคุณโย...ฮ่าๆๆ”
“.....................” วาโยได้ตามมองหน้าดาวที่ยิ้ม ๆ ก่อนจะเดินตามคนตัวเล็กและปันณธรเข้าบ้าน อุตส่าห์ดักไว้แล้วเชียว...แต่พอเดินนำหน้าเขาได้ก็บ่นเสียงดังพร้อกับทำหน้าไม่เข้าใจ...จนใครก็ได้ยินกันหมด...มันไม่ใช่เรื่องแปลกหรือไงนะน้องบี!..
“คุณป๊าจ๋า น้องบีกลับมาแล้ว..มารับหน่อยยย”
“มาแล้วเหรอเจ้าตัวแสบ ไปถึงไหนมา เอาของมาเยอะแยะเลย”
“นี่ของน้องบี...นี่ของมะปราง นี่ของพี่ไหม และคุณลุงเก็บดอกไม้..มาครับคุณม๊าน้องบีถือเอง”
“...................” วาโยยอมที่จะปล่อยถุงให้น้องบีที่วิ่งมารับพร้อมใบหน้ายิ้มแฉ่งอย่างประจบ อดที่ค้อนให้คนที่ยืนอมยิ้มอยู่หน้าบันไดไม่ได้....คงจะชอบใจล่ะสิที่ลูกชายคนเล็กได้ดั่งใจ
“อย่าให้คุณม๊าถือเยอะนะลูก”
“คุณม๊าไม่แข็งแรงเหรอครับคุณป๊า...” น้องบีทำตาโตเมื่อคุณป๊าบอก...หรือว่าคุณม๊าจะไม่สบาย...
“ก็คุณม๊าจะปวดเอวน่ะสิ...”
“คุณท่าน!”
“ฮ่าๆๆ..ล้อเล่นน่า มา ๆ น้องบีมานั่งกับป๊าลูก...แล้วงานเคลียร์แล้วเหรอปัน” เดินไปโอบเอวคนรักให้เดินมานั่งบนโซฟาด้วยกัน ก่อนจะกวักมือเรียกน้องบีที่กำลังก้ม ๆ เงย ดูของในห่อ..คงจะเช็คว่าของตัวเองครับหรือเปล่า...
“เรียบร้อยแล้วครับพ่อ ผมลาโรงเรียนให้น้องบีจนถึงวันจันทร์หน้า...เดี๋ยวให้อาจารย์มาสอนพิเศษบทที่ไม่ทันเพื่อน..”
“ดี ๆ”
“คุณป๊าจ๋า”
“ว่าไงลูก” หันมองคนที่ลากถุงของฝากมาด้วย ก่อนจะนั่งลงข้างพี่ปันปันที่อยู่ตรงข้ามกับคุณป๊า...
“คุณม๊าเป็นอะไรปวดเอวครับ ให้น้องบีนวดให้ไหม..นะ..น้องบีนวดเก่ง”
“ฮ่าๆๆ ไปถามคุณม๊าเองสิ..โอ๊ย..หยิกอีกละ..”
“................” อยากจะหยิกให้เนื้อขาดออกมาซะ...มันน่าจริงๆ แล้วน้องบีก็รู้เรื่องที่ไหนพอคุณป๊าบอกให้ถามก็เดินเข้ามานั่งข้างเขา ก่อนจะจ้องเขาเหมือนจะถามจะยกมือขึ้นเหมือนขออนุญาตจะนวดให้...
“ไม่เป็นไรหรอกครับน้องบี พี่ไม่เป็นไร..ไหนมีขนมอะไรมาฝากพี่รึเปล่า” มือเรียวยกขึ้นจับแก้มใส ก่อนจะพูดหันเหความสนใจไปเรื่องอื่น
“มีครับ....น้องบีจะเอามาให้..คุณม๊าไม่ต้องลุกเดี๋ยวปวดเอว พรุ่งนี้จะไปเก็บดอกไม้กับน้องบีไม่ได้”
“หึ ๆ” ค้อนให้รอบที่ร้อยสำหรับคนที่หัวเราะในลำคอ...
“ถึงจะหายแล้วแต่ก็ไม่หายซักทีนะคะ...โรคชอบเก็บดอกไม้เนี่ย”
“นั่นสิครับ ตอนนั้นไม่ค่อยรู้เรื่องก็เก็บตลอด...งานนี้มีหมดสวนแน่ ๆ”
“นินทาน้องบี”
“เปล๊า!” ทั้งป้าสร้อยที่ถามและปันณธรที่ตอบพูดปฏิเสธขึ้นมาพร้อมกัน...ทำเอาคนน่ารักมองค้อน...ทำไมล่ะ ก็น้องบีชอบดอกไม้ ชอบธรรมชาติ ต่อให้น้องบีสติไม่ดีก็ยังชอบ หายแล้วก็ยังชอบ...พี่ปันปันมาว่าน้องบีเดี๋ยวก็โกรธเลย...
“คุณปันคะ มีคนมาพบค่ะ”
“ใครครับ”
“ชื่อเอมอรค่ะ บอกว่ามาตามที่นัดไว้”
“ คุณเอม...ครับเดี๋ยวผมออกไป...เดี๋ยวมาครับ”
“..................” น้องบีมองคนที่รีบกุลีกุจอออกไปจากห้องนั่งเล่น....ตากลมก็จับจ้องจนปันณธรจนลับสายตา...ก่อนจะเลื่อนมองที่กระจกใสที่เปิดม่านออกจะเห็นบริเวณด้านหน้าบ้าน...ที่ตอนนี้มีรถสีดำจอดอยู่ ข้างๆ รถมีผู้หญิงหน้าตาสวยมากยืนรออยู่...
“น้องบีมาหาป๊าสิลูก”
“คุณป๊าจ๋า..ใครมาหาพี่ปันปันครับ..”
“ไม่รู้สิ เพื่อนเขามั้ง....ไหนขนมล่ะ คุณป๊ากับคุณม๊าอยากกินแล้ว”
“.........................”
“........................” ปัฐพีกับวาโยมองหน้ากัน เมื่อคนที่ยอมที่หยิบขนมออกจากถุง ใช้มือหยิบขนมอัลลัวร์สีขาวออกจากถุงแล้วจะป้อนคุณป๊า แต่ตอนนี้อัลลัวร์จะเข้าจมูกคุณป๊า เพราะตากลมนั่นไม่ได้มอง...มัวแต่จับจ้องอยู่กับสองคนที่ยืนสนทนากันอยู่ด้านนอก...
“..สนิทกันจัง...”
“ไม่มีอะไรหรอกลูก คงเป็นเพื่อนเจ้าปันนั่นแหละ..”
“ครับ..” ถึงจะรับปากเข้าใจ แต่ท่าทางสนิทสนมนั่นทำให้น้องบีรู้สึกไม่ดี...อาจจะเพราะน้องบีไม่เคยเห็นปันณธรอยู่กับคนอื่นนอกจากน้องบี และยังหัวเราะมีความสุขอีก...
*********************************
ในที่สุดสัมภาระก็ขนขึ้นรถ ตอนแรกว่าจะขึ้นเครื่องไป แต่ไปกันหลายคนเพราะนิชาและหมอเอก็มาหาที่บ้านก่อน เลยตัดสินใจเอารถตู้ไปกัน...ช้าหน่อยแต่ก็ไม่เร่งรีบอะไรอยู่แล้ว...
“ครับคุณอร...อ๋อ แน่นอนครับ..ขอบคุณมาก...ครับแน่นอนคุณจะเป็นคนแรกเลยที่ผมจะนึกถึง..ครับ ไว้เจอกันครับ..”
“...................” คนที่แกล้งนอนหลับอยู่ได้ยินทุกคำพูดของพี่ปันปัน ที่คุยโทรศัพท์กับผู้หญิงคนนั้นแน่ ๆ เพราะน้องบีจำชื่อได้...หัวกลมหนุนตักพี่นิชาที่เบาะด้านหลังคนขับ...คุณป๊านั่งกับคุณม๊าถัดไป...แล้วก็เป็นพี่เอนั่งกับพี่ปันปัน เพราะน้องบีไม่อยากนั่งกับพี่ปันปัน...ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว น้องบีอุตส่าห์ถามว่าเพื่อนพี่ปันปันรึเปล่า แต่พี่ปันปันกลับไม่บอก แค่อมยิ้มเฉย ๆ น้องบีไม่อยากคิดเยอะ...เลยปล่อยๆ ผ่านไปดีกว่า...แต่ยังไงก็อดคิดไม่ได้...
“หลับเหรอนิชา”
“ค่ะหมอ...สงสัยเมื่อคืนจะตื่นเต้นนอนไม่หลับอีกแน่..”
“...............” ใครบอกล่ะ น้องบีไม่ได้หลับซักหน่อย...ทำไมคนที่ถามถึงเป็นพี่เอ...พี่ปันปันทำไมไม่สนใจน้องบีเลย...
“ เป็นไงบ้างปันที่ติดต่อคุณเอมอร “
“โอเคเลยล่ะ สวยกว่าที่ฉันคิดไว้เยอะเลย”
“....ท่าทางน้องบีแกจะคิดนะครับ คุณปัน..” วาโยพูดตามที่เห็นเมื่อวาน...
“ผมยังไม่อยากให้น้องบีรู้ครับ เอาไว้ให้ถึงเวลาแล้วจะดีเอง”
“.................”… มือเล็กกำแน่น...คิดไปไกลถึงไหนต่อไหน...มิน่าล่ะีตอนนั้นพี่ปันปันบอกว่าน้องบีไ่ม่น่ารัก ที่แท้ก็ไปเจอคุณเอมอรคนสวยนี่เอง...ทำไมพี่ปันปันไม่บอกอะไรน้องบีเลยล่ะ ว่าเกิดอะไรขึ้น...ทำไมต้องปิดแค่น้องบีคนเดียวด้วย...ดูท่าแล้วทุกคนรู้กันหมด....
...อาจจะไม่ใช่อย่างที่น้องบีคิดก็ได้...
Talk by Blue...ขอบคุณทุกเมนท์ ทุกบวก ทุกเป็ดนะคะ...ใกล้แว้วว ใครรอเอ็นซีคู่หลัก.. ก็....รอต่อไป 555 ล้อเล่นน่า..
..อยากจะสอบถามค่ะ ว่าถ้าบลูจะรวมเล่ม นิยายเรื่องนี้
จะมีคนสนใจไหมคะ...ขอบคุณทุกกำลังใจค่ะ....
