
ทันทีที่เครื่องลงจอดรู้สึกว่าจะมีสองคนที่ตื่นเต้นจนแสดงออกทางสีหน้า คือ น้องบี..และวาโย..รายหลังถึงกับต้องสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วค่อย ๆ ปล่อยออกมา..ทั้งสามคนเดินเข้าเกทก่อนจะเดินออกมารอโหลดกระเป๋า...ปันณธรสังเกตดูสีหน้าวาโยไม่ค่อยดีเท่าไหร่..ผิดกับอีกคนที่ร่าเริงจนน่าหยิก...
“พี่ปันปันจ๋า..น้องบีถือเอง”
“มันหนัก...ไปช่วยคุณวาโยสิ...”
“พี่โยจ๋า...น้องบีช่วยถือ..”
“งั้นถือนี่ครับ มันไม่หนัก” วาโยส่งกระเป๋าใบเล็กที่ใส่ของเล็ก ๆ น้อยๆ ให้คนตัวเล็กที่เข้ามากอดแขนเขาอ้อนถือของช่วย...น่ารักจริงเชียว...ไม่แปลกหรอกที่คนบ้านนั้นจะรักจะหลงกันขนาดนี้...
“...คุณวาโยขึ้นรถคันนั้นครับ เอาสัมภาระมาคันนี้..”
“ครับ ฝากด้วยครับ”
“.....................” ปันณธรส่งยิ้มก่อนจะช่วยคนขับรถคันที่เขากับน้องบีจะนั่งจัดวางกระเป๋า...ส่วนมากเป็นของวาโย...เพราะของเขาเองก็มีไม่มาก... น้องบีไม่มีเลย..มีเพียงกระเป๋าเป้ใบเดียวที่ติดตัวไปด้วยตอนโดนจับ...
“...ขึ้นรถครับ...”
“ น้องบีตื่นเต้นจังจะได้เจอคนที่น้องบีคิดถึง”
“ แน่นอนครับ ทุกคนก็รอน้องบีอยู่” ยกมือขึ้นขยี้กลุ่มผมนุ่มแล้วเลื่อนลงมาโอบเอวให้คนในอ้อมกอดขึ้นไปนั่งบนรถ ...ก่อนที่ปันณธรจะเดินไปส่งวาโยขึ้นรถอีกคันที่จอดอยู่ข้างกัน แล้วรีบกลับมาขึ้นรถคันเดียวกับน้องบี...
“รบกวนด้วยครับ”
“......................” วาโยกล่าวกับคนขับที่ตอนนี้กำลังเคลื่อนรถออกจากลานจอด...กำลังคาดเข็มขัดเลยไม่ทันมองว่าคนขับรถหน้าตาเป็นยังไง...พอนั่งได้ที่ก็เอาแต่มองสองข้างทางที่รถวิ่งผ่าน..
“ยังไงประเทศไทยก็เป็นประเทศที่น่าอยู่ที่สุดจริง ๆ ด้วย”
“จริงครับ...ผมเห็นด้วย...แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีคนที่หนีจากเมืองไทยไปอยู่ที่อื่น”
“........................” วาโยหันมองคนที่พูดขึ้นมา..หลังจากที่เขาพึมพำคนเดียวไม่คิดว่าคนขับรถจะโต้ตอบด้วย...แต่ว่าน้ำเสียงและจังหวะการพูดมันคุ้นหู จนต้องหันมองให้ชัดทั้งที่ตอนแรกไม่ได้สนใจ...
“ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะ วาโย”
“..คะ..คุณ ท่าน...”
“ใช่ฉันเอง..ฉันแก่ลงจนเธอจำไม่ได้เลยหรอ..” ปัฐพีมองคนที่นั่งข้าง ๆ หน้าสวยนั่นถึงจะไม่สวยสดใสเหมือนก่อนหน้านี้แต่ก็ยังดูสะดุดตาไม่น้อย...ตาคมเฉี่ยวจ้องมองเขาอย่างไม่กระพริบ..ได้เจอซักที...ทั้งที่คิดว่าจะไม่ได้เจอกันแล้ว...แต่อย่างนั้นเขาก็ไม่เคยลืมและรอคอยเสมอ...ไม่คิดว่าอยู่ ๆ ปันณธรจะบอกข่าวดีกับเขาว่าวาโยติดต่อมาจะช่วยในเรื่องที่จะเข้าไปพาตัวน้องบีกลับมา...จุดใต้ตำตอแท้ ๆ...
“ มะ...ไม่ครับ..ท่านไม่แก่...ผมแค่...”
“ ฮ่าๆๆ..เธอก็ยังดูเหมือนเด็กอายุ 20 กว่า ๆ อยู่เลย...” มันน่าลงโทษนัก...มาหนีจากในตอนที่เขารู้ถึงความรู้สึกตัวเอง...ทิ้งเขาในวันที่หัวใจเปิดรับใครซักคนเพื่อเข้ามาในชีวิต...ถึงจะรู้เหตุผลแต่ก็ยังรู้สึกโกรธคน ๆ นี้ที่ไม่บอกเขาซักคำว่าจะไปไหน หรืออยู่ที่ไหน...ตาคมจ้องมองหน้าคนที่ยังจ้องหน้าเขาอยู่ แล้วพูดอะไรอึกอักไปหมด...จะรู้ไหมนะ...ว่าเขาคิดถึงแค่ไหน...และเมื่อคืนก็ตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ ดีใจที่น้องบีปลอดภัย แล้วก็ดีใจที่รู้ว่าใครบางคนยอมที่จะกลับมา....
“...ฮึก..คือ...ผม ขอโทษ...”
“ ผมไม่เคยโกรธ ไม่ต้องขอโทษ...ยินดีต้อนรับกลับ..”
“ฮึก ฮืออ ขอบ คุณ...ฮึก..” แขนที่ยังแข็งแรงไม่แพ้หนุ่ม ๆ เอื้อมไปรั้งคนที่นั่งอยู่เข้ามากอดหลังจากที่หยุดรถข้างทาง...ทนไม่ไหวแล้ว..ร่างกายผมบางนี่ผ่านอะไรมาบ้าง เจอความทุกข์ยากมายังไง....
“ ฉันรอเธอมาตลอดโย...เธอใจดำมากที่ทิ้งฉันไป..ในวันที่ฉันรู้...ว่ารักเธอ..”
“ คุณ..ท่าน...ฮึก ฮือ..ผมขอ โทษ!..ผมละ อาย เกิน ไป ฮึก!” คำว่ารักที่ได้ยินมันเพิ่มความละอายกับสิ่งที่เกิดขึ้น...ทั้งที่คุณท่านมีบุญคุณกับครอบครัวเขา แต่พ่อกลับทำงานให้พวกนอกรีดหากินบนธุรกิจของคุณท่านก่อนจะพาเขาหนีไปอยู่กับองค์ชายพารัน...แต่ไม่นานความมักใหญ่ใฝ่สูงก็รับทำงานให้คนอื่นหักหลังองค์ชายพารัน จนสุดท้ายก็จบชีวิตลงเพราะมือปืน..ทิ้งให้เขาเดียวดายอยู่ที่นั่น....ดีแค่ไหนแล้วที่องค์ชายพารันไม่ฆ่าเขาด้วยอีกคน...
“...เรื่องมันผ่านมาแล้ว..และคนที่ทำก็ไม่ใช่เธอ...ทิ้งอดีตไปซะ..แล้วเราจะเริ่มต้นกันใหม่ ถ้าเธอยังอยากอยู่กับคนแก่ ๆอย่างฉัน แต่ตราบใดที่ฉันยังอยู่ ฉันสัญญาว่าจะดูแลเธอ จะเป็นทุกอย่าง แม้กระทั่งพ่อที่เธอต้องการ..”
“ฮึก ฮืออ คิดถึง...คิดถึง..ฮึก เหลือ...เกิน..” เอนเข้าหาอ้อมกอดของสารถี ..อบอุ่น และอุ่นใจ...ไม่คิดเลยว่าการตัดสินใจกลับมาครั้งนี้จะทำให้รู้สึกว่าชีวิตเขามีค่าถึงเพียงนี้...ร่างกายสูงใหญ่นี่ไม่แก่ซักนิด ถึงอายุจะมากขึ้นแต่สิ่งที่เขาเห็นก็คือความภูมิฐานและผู้ชายที่เขารักจนหมดหัวใจ...
“คุณป๊า!! ไปไหนมา!”
“ป๊าไปรับน้องบีไง แต่ไม่เจอ..ฟอด! คิดถึงจังเลยคนดี..เป็นยังไงบ้าง มันทำอะไรน้องบีไหม..ไหนบอกป๊าสิลูก”
“คิก ๆ คุณป๊าถามเยอะ” มองหน้าคุณป๊าแล้วหัวเราะคิกคัก เมื่อมาถึงคุณป๊าก็จับนั่งตักแล้วถามเยอะแยะจนน้องบีไม่รู้จะตอบอันไหนก่อน...มาถึงก่อนคุณป๊า ก็อ้อนพี่เอกับพี่นิชาจนร้องไห้เพราะความดีใจกันไปยกใหญ่แล้ว แล้วมาถึงคุณป๊าที่จู่ๆ ก็โผล่มาพร้อมพี่วาโย....
“งั้นตอบทีละคำถามสิ ป๊าคิดถึงนี่นา”
“น้องบีไม่เป็นไร ปลอดภัยดี...น้องบีมีพี่วาโยคอยดูแล...พี่วาโยดีกับน้องบีมาก ๆ เจ้าคนหน้าร้ายนั่นทำอะไรน้องบีไม่ได้หรอก”
“แต่ก็เกือบครับคุณพ่อ ดีที่คุณวาโยเข้าไปขัดขวางได้ทัน” พูดแล้วหน้าก็เข้มขึ้นเมื่อนึกถึงเหตุการณ์วันนั้น...ยิ่งคิดก็ยิ่งอยากจะเอาปืนกรอกปากไอ้ชั่วนั่นซักที
“เลวไม่สมบรรดาศักดิ์เลยจริงๆ เย็นนี้พร้อมรึเปล่าปัน ท่านนายกไม่อยากจะรอช้า..เห็นว่าได้รับการติดต่อจากประเทศนาเธียร์แล้วเรื่องจะเข้าจัดการกับองค์ชายพารัน..”
“พร้อมครับ พร้อมเสมอ..”
“ขอบคุณนะ...ถ้าไม่ได้เธอ น้องบีคงแย่”
“เอ่อ...ไม่เป็น ไรครับ..” วาโยเงยหน้ามองคนอื่น ๆ ที่มากันทำหน้าสงสัย มีเพียงปันณธรที่ส่งยิ้มให้ ก็คุณท่านเล่นยื่นมือมาจับมือเขาที่ยืนอยู่พร้อมกับดึงให้มานั่งแล้วโอบกอดที่เอวให้เข้าไปนั่งใกล้ๆ กัน...
“ขอบคุณคุณมาก ที่ดูแลน้องผม”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ น้องบีเป็นเด็กดี น่ารัก อยู่ที่ไหนก็มีคนรักแน่ ๆครับ”
“....................” ต่างส่งยิ้มให้กันเพราะเห็นด้วย...มีเพียงเจ้าตัวที่ออกจากอ้อมกอดคุณป๊าได้ก็เข้าไปนั่งกอดพี่นิชาให้หายคิดถึง...เรื่องหมอเอกับนิชาปันณธรปัฐพีแจ้งให้ทางรัฐบาลรู้ เลยมีมาตรการเพิ่มทหารรักษาความปลอดภัยให้หมอกับพยาบาล และปัฐพีก็จะส่งคนไปดูแลทั้งสองคนด้วย...แต่ล่าสุดเห็นว่ามีหมอกับพยาบาลไปแทนแล้ว คงต้องรอคำสั่งอีกที
**********************************************
“เอาเป็นว่าผมจะสรุปแผนเชื่อมความสัมพันธ์ครั้งนี้ดังต่อไปนี้” เสียงท่านนายกกล่าวขึ้นเสียงดังด้วยไมค์ที่ตั้งตรงหน้ากับบรรดารัฐมนตรีกว่า 50 ชีวิตที่นั่งอยู่ในห้องประชุมที่มีโต๊ะประชุมจัดเป็นวงกลมตีวงสองชั้น และมีรัฐมนตรีและแขกสำคัญอย่างองค์ชายพารันนั่งอยู่...ตามรูปลักษณ์อย่างนี้ไม่แปลกที่รัฐมนตรีพวกนี้จะดีใจว่าแผนที่วางไว้จะสำเร็จ...
“ประเทศที่เราจะมีโครงการแผนงานกระชับความสัมพันธ์ครั้งนี้ก็คือ....”
“..........................” ดูเหมือนว่าทุกคนจะลุ้นจนลืมหายใจ องค์ชายพารันยังยกยิ้มเหมือนผู้มีชัยเมื่อนายกมองมาที่เขา...ผลของดอกไม้นำโชค ปรากฏแล้วสินะ...พวกรัฐมนตรีชั่วก็ต่างมองหน้ากันแล้วยิ้มย่องในใจ...
“ประเทศ...วิกโตเดียร์...”
“ว่ายังไงนะ!! แล้ว..”
“มีปัญหารึเปล่าครับท่านเอกชัย...ท่านควรจะฟังผมพูดให้จบก่อน” ผู้นำประเทศหันมองด้วยสายตาตำหนิ ก่อนจะพูดขึ้นด้วยเสียงมีอำนาจทำให้หนึ่งในรัฐมนตรีต้องนั่งลง..
“ประเทศวิกโตเดียร์เป็นประเทศที่มีเศรฐกิจเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก คือ ระ..”
ปัง!
“...................” เสียงตบโต๊ะเสียงดัง ทำให้ทุกคนในห้องประชุมเงียบไป...องค์ชายพารันลุกขึ้นก่อนจะทำสีหน้าไม่พอใจ...ทำอย่างนี้มันหยามกันชัด ๆ
“พวกคุณทำอย่างนี้ได้ยังไง!! แล้วพวกคุณเชิญผมมาเพื่อฟังเรื่องไร้สาระพวกนี้! กล้ามาก! เท่ากับตอนนี้คุณกำลังทำลายความสัมพันธ์ของสองประเทศ ไทยกับนาเธียร์จะต้องขาดต่อกัน!!”
“ฟังก่อนครับองค์ชาย ที่ท่านมานั่งในห้องนี้....เพราะเหล่ารัฐมนตรีพวกนี้เชิญท่านมาใช่หรือไม่...ผมและคณะรัฐบาลไม่เคยที่ระบุว่าประเทศที่จะเชื่อมสัมพันธ์คือประเทศนาเธียร์”
“แต่คุณทำอย่างนี้ ผมจะให้ทางประเทศระงับการส่งออกกับพวกคุณให้หมด!!”
“แน่ใจเหรอครับองค์ชาย...ว่าประเทศของคุณจะรับฟังคุณ..”
“ปันณธร!!...”
“ครับผมเอง...พอดีผมพึ่งกลับจากไปเที่ยวประเทศคุณมาก็เลยมาเยี่ยมคุณแล้วก็คณะรัฐมนตรีที่นี่..” ปากหนายกยิ้ม ก่อนจะจ้องมองเหล่ารัฐมนตรีที่ทำสีหน้ากลืนไม่เข้าคลายไม่ออก..
“เชิญนั่งครับคุณปันณธร เสียดายที่เสียพีไม่พาด้วย ต้อนรับคุณปันณธร”
“พอดีคุณพ่อท่านไม่อยากจะยุ่งครับ...”
“หมายความว่าไงที่คุณบอกว่าไปเยี่ยมประเทศผมมา” พารันจ้องมองคนที่นั่งลงอย่างสบายใจ...เขามาเมืองไทยแค่สองวันคงไม่เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นหรอกนะ...มันไม่เก่งขนาดนั้นหรอกน่า...
“ขออนุญาตครับท่านนายก พอดีผมพาคนมาด้วย”
“เชิญครับ”
“..............................” ทุกอย่างตกอยู่ในความเงียบ เมื่อสายตาทุกคู่จับจ้องไปที่เด็กผู้ชายตัวบางที่เคยเห็นกันมาแล้วเดินเข้ามาพร้อมกับผู้ชายร่างสูงเพรียวอีกคน...คนที่ตกใจและนิ่งไปก็คงไม่พ้นองค์ชายพารัน...ปันณธรส่งยิ้มให้ด้วยความสะใจที่เห็นสีหน้าของคนทรยศชาติที่ตอนนี้เหมือนเห็นผีก็ไม่ปาน
“ ..น้องบี..วาโย...นี่มันอะไร!!..วาโย คุณหักหลังผม!!..”
“ ไม่มีใครหักหลังใครหลักพารัน...น้องนั่นแหละที่หักหลังประเทศชาติ”
“..ทะ..ท่านพี่!!..” สำนวนภาษาอังกฤษดังขึ้นเหมือนกับต้องการให้คนในห้องประชุมเข้าใจในสิ่งที่จะพูดด้วย..และบุคคลที่เดินตามน้องบีและวาโยเข้ามา รูปร่างหน้าตาไม่ต่างจากองค์ชายพารัน ทำให้ดูไม่ยากว่าบุคคลนั้นคือใคร...ตามด้วยผู้ชายชุดดำอีกนับสิบคนเข้ามาล้อมตัวองค์ชายพารันไว้…
“ กลับประเทศเถอะ....อย่ามาทำขายหน้าที่นี่เลย...ท่านพ่อและพวกพี่เสียใจที่น้องทำเช่นนี้”
“ผมทำอะไร...ทุกคนกำลังเข้าใจผิด...”
“จับไว้!! พาออกไปด้านนอก!!”
“อย่านะ!! ผมไม่ผิด !! จับเรื่องอะไร!!” ร่างสูงใหญ่ถูกลากออกไปนอกห้องประชุม...เสียงดังโหวกเหวกอยู่...ส่วนคนที่ก้นไม่ติดเก้าอี้คือเหล่ารัฐมนตรีที่อยากจะลุกออกไปกันเต็มที่แต่ตอนนี้ตำรวจของไทยมายืนซ้อนด้านหลังอยู่หมดแล้ว...แต่ยังไม่ลงมือทำอะไร...
“พวกเราต้องขอโทษทางประเทศไทยด้วย..ที่เกิดเรื่องอยากนี้...ขอบคุณที่พวกคุณให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี...ผมไม่ทราบว่าใครส่งหลักฐานไป แต่ฝากขอบคุณเขาด้วย...”
“ไม่เป็นไรครับองค์ชายไม่มีใครอยากให้มีกบฏอยู่ในประเทศ...เรามาดูวีดีโอพวกนั้นด้วยกันอีกซักรอบนะครับ”
“ยินดีครับ” ปันณธรนั่งนิ่งฟังองค์ชายจากนาเธียร์คุยกับท่านนายก....เขาก็แค่มาตามคำเชิญของท่านนายกและต้องการทำให้พารันรู้ว่าทุกอย่างที่ตั้งใจทำ...มันล้มเหลวหมดแล้ว....ไม่รู้ล่วงหน้าว่าทางประเทศนั้นจะส่งคนมาเร็วขนาดนี้....และเขาก็ขอร้องทางท่านนายกไม่ต้องบอกว่าใครเป็นคนส่งหลักฐานให้....เพราะเขากับคุณพ่อก็แค่..อยากได้น้องบีกับคุณวาโยคืนมา...ตอนแรกที่ตั้งใจจะจัดชุดใหญ่ให้สมกับที่ทำกับน้องบี แต่หมอเอบอกว่าให้กรรมตามสนองเองจะเจ็บกว่าอีก...เห็นหน้าก็อยากจะตะบันให้ยับไปซักที แต่คนของประเทศนาเธียร์ก็เข้ามาขัดความคิดเขาไว้ก่อน...ก็คงต้องเวรใครกรรมมันละกัน...
วีดีโอที่ฉายอยู่บนเครื่องสไลค์เป็นการประชุมเล็ก ๆ ที่นัดกันที่ต่างจังหวัด...มีครบองค์ประชุมทั้งองค์ชายต่างเมืองและคณะรัฐมนตรีที่วางแผนการทำการใหญ่ ทุกคำพูดบ่งบอกความต้องการทุกอย่างทั้งทางด้านเศรฐกิจ รวมถึงการล้มรัฐบาล...และต้องการขึ้นครองราชย์...เป็นวิดีโอที่ถ่ายไว้แบล็คเมล์กันเอง แต่สุดท้ายก็แพ้อำนาจเงินของสองพ่อลูก ที่ดูเหมือนจะซื้อได้ทุกอย่างจากรัฐมนตรีพวกนี้....ทำให้หนึ่งในนั้นยอมรับสารภาพและยอมที่จะเป็นพยานให้....แต่สุดท้ายคนชั่วก็คงต้องถูกลงโทษ..เหมือนกับคนอื่นๆ
“ คือ นายกครับ พวกผม!! แค่ถูกชักชวน!”
“เหรอครับ”
“พวกเราไม่ผิด นะครับ!!” ลุกพรวดพราดขึ้นกันทั้งหมด เหมือนกับตั้งใจจะวิ่งหนีออกจากห้องนี้ ทั้งที่รู้ว่าทำไม่ได้...
“งั้นเราก็ไปคุยกันในชั้นศาล จับไว้!!”
“พวกเราไม่ผิด!! ไม่ผิด!!”
***********************************
ตากลมจ้องมองพี่โยกับคุณป๊านั่งเล่นกันอยู่ในสวน ก่อนจะยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เอาตัวเข้าซ่อมกับพุ่มดอกพุดสีขาวในสวนเพื่อไม่ให้คุณป๊าเห็น น้องบีจะมาเล่นเหมือนกันแต่ไม่อยากขัดจังหวะคุณป๊ากับพี่วาโยนี่นา... พึ่งจะรู้เพราะพี่ปันปันพึ่งจะบอก ว่าคุณป๊ากับพี่โย มีอะไรลึกซึ้งกันเหมือนที่น้องบีกับพี่ปันปันรู้สึกดี ๆ ต่อกัน...มิน่าตอนนั้นที่ได้ยินชื่อครอบครัวบารบีอนันต์ถึงได้ดูตกใจเหมือนกับรู้จัก....ทีนี้น้องบีก็มีคนให้อ้อนมากขึ้นแล้ว..ส่วนพี่เอกับพี่นิชา...ทางโรงพยาบาลเปลี่ยนหมอไปประจำการแทนแล้วพร้อมกับรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา ..เพราะมีหมอบรรจุเพิ่มขึ้น....ทำให้พี่เอกับพี่นิชา ประจำที่โรงพยาบาลเดิม และกลับไปอยู่บ้านแล้ว....แต่คุณป๊ากับพี่ปันปันไม่ให้น้องบีกลับไปอยู่กับพี่เอ บอกว่าจะพาไปเยี่ยมอาทิตย์หน้าให้พี่ปันปันเสร็จงานก่อน....น้องบีจะไปก่อนก็บอกว่าเดี๋ยวคิดถึง....และต้องไปโรงเรียนด้วย...วันนี้วันเสาร์เลยได้อยู่บ้าน...ส่วนน้ำก็เข้ามาขอโทษและพี่เจ้านายก็หายไปจากโรงเรียนเลย...น้องบีไม่โกรธเพราะคนที่มาบอกพี่ปันปันคือน้ำ...แต่น้ำซึมเพราะพี่เจ้านายหายไป...น้องบีก็ได้แต่ปลอบเพราะไม่รู้จะช่วยยังไง...น้ำคงจะชอบพี่เจ้านายมากแน่ๆ …
“น้องบีไปแอบอะไรอยู่นั่นล่ะลูก มานี่สิ”
“...คุณป๊าเห็นจนได้ แหะ ๆ...”
“...แอบดูเหรอ...มานี่เลย ฟอด!..” อุตส่าห์แอบอยู่ตรงพุ่มไม้ คุณป๊าก็ยังเห็นอีก...ปากเล็กแยกยิ้มอย่างน่ารัก...ก่อนจะเข้าไปนั่งกอดคุณป๊าหลังจากที่ถูกคุณป๊าขโมยหอมแก้มไปฟอดใหญ่....
“พี่โย...น้องบีอยากกินเค้กชอคโกแลตอีก..”
“ได้สิครับ เดี๋ยวพี่ทำให้..” วาโยส่งยิ้มให้คนขี้อ้อนที่ตอนนี้เขาก็หลงรักความน่ารักนั่นไปเต็มเปา...อยากได้อยากกินอะไรก็ถวายหัวกันเลยทีเดียว...
“ อ้อนนัก...แล้ววันนี้ไม่อยากไปเที่ยวไหนเหรอ เดี๋ยวป๊ากับพี่วาโยพาไป”
“...ไม่อยาก..พี่ปันปันบอกให้รออยู่บ้านแล้วจะซื้อขนมมาให้...” พูดไปก็เอื้อมมือไปจับผมที่วาโยเล่นซะงั้น...น้องบีก็อยากไปเที่ยวแต่พี่ปันปันบอกให้รออยู่บ้าน...พี่ปันปันออกไปแต่เช้า น้องบีคิดถึงแล้วเนี่ย..
“ งั้นเหรอ งั้นก็รอก่อน..”
“คุณป๊าจ๋า น้องบีอยากไปสวนดอกไม้...น้องบีอยากเก็บดอกไม้..” น้องบีคิดถึง...คิดถึงดอกไม้และผีเสื้อที่สวนดอกไม้ คิดถึงพี่ไหมและคุณลุงคนเก็บดอกไม้ แล้วยังพี่ภูกับพี่โออีก....
“ได้ไปแน่นอน...แต่ไปในวันสำคัญของใครบางคน..”
“ วันสำคัญของใคร...ของน้องบีเปล่า..”
“ไม่บอกหรอก”
“พี่โยจ๋า ดูคุณป๊าสิ...”
“..งั้นก็รอสิครับเด็กดี ดูทำปากเข้า..” มือเรียวเอื้อมไปบิดแก้มคนที่หันมาฟ้องเขา พร้อมกับทำปากยู่อย่างน่ารัก...เขาก็ไม่รู้เหมือนกันเพราะคุณท่านก็ยังไม่ได้บอกอะไร...
“.. อีกแค่อาทิตย์เดียวเอง รอหน่อยตัวแสบ..”
“..คุณป๊าก็ไม่บอกพี่โย เหมือนน้องบีเหรอ..” วาโยยิ้มกับคำถาม...คงคิดว่าเขาจะรู้ไปซะหมดสินะ...ถ้าให้เดาก็คงเป็นวันเกิดหรือโอกาสสำคัญของใครซักคน..
“ไม่หรอกครับ เอาไว้ลุ้นกับน้องบีไง”
“...งั้นคืนนี้ ป๊าจะบอกพี่โยจ๋าของน้องบีทั้งคืนเลยดีไหมครับ..”
“ คุณป๊าเล่านานเหรอ...งั้นน้องบีไปฟังด้วยได้ไหม...ถ้าทั้งคืนพี่โยก็ไม่ได้นอนสิ” คนไม่เดียงสาถาม แต่อีกคนกลับนั่งหน้าแดงมองค้อนคนที่นั่งข้างกัน...ถนัดกันจริงๆ พูดสองแง่สามง่าม..
“ไม่ได้..น้องบีไปฟังไม่ได้ลูก แต่เรื่องพี่วาโยไม่ได้นอนน่ะ..ของจริง”
“คุณท่าน!”
“โอ๊ย! เจ็บนะเนี่ย...” พูดอ้อนคนที่หยิกที่สีข้างเขา...ดูก็รู้ว่เขิน..ได้อยู่ด้วยกันแล้วหัวใจ ร่างกายเขามันกระชุ่มกระชวยสุด ๆ
“ไม่ได้นะ คุณป๊าแก่แล้วต้องพักผ่อน อาจารย์บอกว่าคนอายุเยอะต้องพักผ่อนมาก ๆ”
“....................”
“ฮ่าๆๆ จริงครับน้องบี เก่งจัง ฮ่าๆๆ”
“...ไอ้ตัวแสบ!..”
“น้องบีพูดผิดเหรอครับ” น้องบีมองคุณป๊าที่ทำหน้าอึ้ง ๆ กับพี่วาโยที่ขำจนน้ำตาไหล...น้องบีก็พูดตามที่อาจารย์สอน...คุณป๊านอนดึกสุขภาพจะไม่แข็งแรง น้องบีเป็นห่วง...
“ไม่ผิด ๆ เสียงรถใครมา ไปรับได้แล้วไป!” ปัฐพีบอกคนบนตักเมื่อได้ยินเสียงรถปันณธรวิ่งเข้ามาในบ้าน... เวลาพูดเรื่องอื่นเข้าใจหมด แต่พูดเรื่องแบบนี้ทีไรไม่เคยเข้าใจ คงต้องให้เจ้าปันสอนคอร์ดใหญ่ละมั้ง...
“หัวเราะ..ตลกมากไหมโย...”
“ไม่ ฮ่าๆๆ..”
“ไม่ได้นอนจริงๆ แน่คอยดูสิ” จับมือเรียวนั่นขึ้นมาจูบเบา ๆ ที่หลังมือ หลังจากที่อีกคนหัวเราะจนเขาเริ่มจะอาย...เพราะเจ้าเด็กตัวแสบนั่นแหละ...
“ผมจะไปนอนกับป้าสร้อย”
“ผมไม่อนุญาต...ลองสิฉันจะไปปล้ำถึงห้องป้าสร้อยเลย..”
“บ้าน่ะสิ...” ถึงจะอย่างนั้นก็ยังหน้าแดงไม่หาย..หื่นไม่ดูสถานการณ์..และไม่ดูอายุด้วย...เงยหน้ามองคนตัวเล็กที่วิ่งฉิวออกไปก่อนจะหันมาค้อนให้คนที่ส่งสายตาเจ้าชู้ให้...ไม่ยอมแก่จริงๆ
*** ...ขอบคุณทุกคนที่รออ่านนะคะ....เรื่องนี้ก็เลยครึ่งทางมาพอสมควรแล้ว...ใกล้แล้วค่ะ.. ที่เหลือก็คงเป็นความน่ารักของน้องบีกับพี่ปันปันและคู่รักอื่นๆ อีกนิดหน่อย... ขอบคุณที่ติดตามและให้กำลังใจกันมาตลอดนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...