ขายาวก้าวเร็ว ๆ ปากก็เรียกหาคนที่จู่ ๆ ก็หายไปจากหน้าห้องน้ำ....ใจเต้นรัวและเร็ว หายไปไหนนะ ทั้งที่บอกไว้แล้วแท้ ๆ ว่าอย่าไปไหน...เขาใช้เวลาไม่ถึง 2 นาทีด้วยซ้ำไป...ปันณธรเดินหาไปทั่วบริเวณนั้นก่อนจะกลับมายืนอยู่ที่เดิม...เพราะกลัวว่าน้องบีจะวนกลับมาที่นี่ แต่ก็ไม่มีวี่แวว...ความกลัวและความเป็นห่วงวิ่งวนเข้ามา....ถ้าเป็นผู้หญิงเขาคงอยากจะร้องไห้ไปแล้ว...ควบคุมสติและจิตใจให้อยู่กับที่ ก่อนจะค่อย ๆ คิดว่าจะทำยังไงต่อ...
“จริงสิ...โทรศัพท์”
“...................” คิดได้อย่างนั้นก็ควักโทรศัพท์ตัวเองออกมา...ก่อนออกจากบ้านเขาเอาโทรศัพท์เจ้าตัวหย่อนใส่กระเป๋าเสื้อ หวังว่าจะไม่ซนเอาทิ้งที่ไหน และภาวนาให้รับโทรศัพท์
ตื้ดด ตื้ดดด ตื้ดดด ตื้ดดด
“รับสิน้องบี...รับสิ”
ตื้ดด ตื้ดดด ตื้ดดด ตืด..
/....พี่ปัน..จ๋า.../
“น้องบี! น้องบีอยู่ไหน “ รัวคำถามใส่.. เมื่ออีกคนกดรับ ....
/ น้องบี จะกลับ บ้าน /
“พี่ถามว่าน้องบีอยู่ไหน!” ปันณธรรีบวิ่งออกจากโรงแรม เมื่อเสียงรอบตัวน้องบีเป็นเสียงรถที่วิ่งขวักไขว่ไปมา คงจะอยู่แถว ๆ นี้แน่ ทำไมถึงรั้นอย่างนี้นะ....
/ ไม่รู้...พี่ปันปันจ๋า...ฮึก มารับร้องบีหน่อย./
“น้องบีหยุดเดินแล้วยืนอยู่ตรงนั้น!...ไหนบอกพี่สิ ว่าน้องบีเห็นอะไรบ้าง” มาหยุดยืนอยู่หน้าโรงแรม ก่อนจะมองซ้ายขวา...ยิ่งได้ยินเสียงอีกคนเหมือนจะร้องไห้ยิ่งใจไม่ดี....
/ น้องบี ฮึก เห็นชิงช้า..../
“ไม่ต้องร้องนะ แล้วมีอะไรอีก”
/ มีกระดานลื่น...มีดอกไม้ด้วย.../
“งั้นน้องบีรอพี่ตรงนั้น ห้ามไปไหนรู้ไหม...รับปากพี่สิ”
/ น้องบีจะเก็บดอกไม้รอ /
“ได้ แต่ไม่ต้องกดวาง เอาโทรศัพท์แนบหูไว้!..”
/ จ้า มารับ น้องบี/
“นี่ไงพี่กำลังไป.....พี่ครับแถวนี้มีสวนสาธารณะตรงไหนไหมครับ ไปอีกไกลไหม“ มั่นใจว่าไม่ได้อยู่ภายในโรงแรมเพราะเสียงรถดังจนเกือบจะกลบเสียงน้องบี...เดินเข้าไปถามคนที่เดินอยู่หน้าโรงแรมทั้งที่โทรศัพท์ยังแนบหูอยู่ แถวนี้เขาก็ไม่สัดทัดอะไรด้วย...
“ไปทางนี้น่ะครับ มีสวนสุขภาพอยู่ แต่เขาปิดห้าทุ่มนะครับ..ไปอีกประมาณ 500 เมตรครับ”
“ขอบคุณครับ” เดินเร็วชะมัด แต่แป๊บเดียวไปได้ไกลขนาดนั้นได้ยังไง....ออกตัววิ่งโดยไม่ได้ห่วงภาพพจน์หรืออะไรทั้งนั้น ความสว่างตลอดทางทำให้เบาใจได้ แต่นี่มันก็เกือบ 5 ทุ่มแล้วเหลืออีกไม่ถึง ครึ่งชั่วโมง
/ พี่ปัน ปันจ๋า มาหาน้องบี เร็วๆ.../
“น้องบีอยู่ที่เดิมรึเปล่า!”
/ ที่มีดอกไม้เหมือนเดิม /
“อีกนิดเดียว จะถึงแล้ว” วิ่งเร็วขึ้นอีก ตาคมมองทางไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งเห็นด้านนี้มีทางแยกและป้ายเขียนแขวนเล็ก ๆ ว่าสวนสุขภาพ. Xxx
“พี่ปันปันจ๋า!!”
“น้องบี!!” วางโทรศัพท์ก่อนจะวิ่งเข้าไปหาคนที่นั่งริมฟุตบาทอย่างน่าสงสาร ในมือมีดอกเข็มช่อเล็กถือไว้...พอเห็นเขาก็ลุกขึ้นก่อนจะวิ่งเข้ามาหา คงจะกลัวอยู่ไม่น้อย...
“โอ๊ย!!”
“น้องบี!!” วิ่งเข้าหาคนที่หกล้มลงจนตัวไถลกับพื้น....ฝาท่อระบายน้ำที่ปิดลงไม่มิด ทำให้คนที่ตั้งใจจะวิ่งมารับสะดุดและล้มลง....ปันณธรใจตกวูบเมื่อเห็นอย่างนั้น...รู้สึกผิดที่ไม่ได้บอกให้น้องบีอยู่ตรงนั้นไม่ต้องวิ่งเข้ามา....
“พี่ปันปันจ๋า คิดถึง!”
“โธ่...น้องบี..” พยุงคนที่ล้มลงขึ้นก่อนจะกอดตอบอ้อมกอดเล็กที่สวมกอดเขา...กลัวสินะถึงได้ซุกตัวเข้ามาเหมือนโหยหาเขา
ขนาดนี้...กลัวแล้วออกมาทำไม...ทำไมไม่รอ....
“น้องบีจะกลับบ้าน”
“รู้แล้ว...แต่ทำไมต้องออกมาก่อน ไม่เชื่อเหรอว่าพี่จะพากลับบ้าน..” ดันร่างบางออกก่อนจะมองตากลมแล้วเริ่มสอบสวนกัน...ถ้าไม่พูดครั้งต่อไปน้องบีก็ต้องทำอย่างนี้อีก แล้วอาจจะไม่โชคดีอย่างนี้...
“น้องบีวิ่งหนี คนมา....คนที่บอกว่าจะพาน้องบีกลับบ้าน..”
“ใคร!!”
“ไม่รู้ พาน้องบีมาจากพี่ปันปัน น่ากลัวทำน้องบีเจ็บด้วย”
“............” ความรู้สึกบางอย่างทำให้ปันณธรพาลรู้สึกโกรธคนตัวเล็กนี่ด้วย แต่จะโกรธก็คงไม่ได้ เพราะตอนนี้น้องบีรับโทรศัพท์เขาแล้วคุยกันรู้เรื่องจนมาเจอตัวก็ถือว่าดีมากแล้ว...
“...เขาแต่งตัวยังไง...” ลูบข้อมือเล็กไปมาเบา ๆ หลังจากที่เจ้าตัวฟ้อง...ข้อมือขาวเล็กเป็นรอยนิ้วมือชัดเจน แสดงให้เห็นว่าถูกฉุดกระชาก เวลาเพียงไม่ถึงสองนาทีที่เขาเข้าห้องน้ำ น้องบีเจออะไรบ้าง....
“แต่งตัวเหมือนน้องบี”
“แล้วทำไมไม่ร้องให้พี่ช่วย!”
“เขาบอกว่าพี่ปันปันจะตามออกมา” กำมือตัวเองแน่น ฟันขบกันจนสันกรามขยับไปมา....แต่งตัวเหมือนน้องบี ก็แสดงว่าต้องเป็นหนึ่งในคนที่ร่วมงานวันเกิด ถ้าหวังดีจริงๆ คงไม่ต้องฉุดกระชากกันขนาดนี้...พาลรู้สึกโกรธพ่อตัวเองขึ้นมาด้วย อยากรู้นัก ว่าถ้ารู้ว่าน้องบีถูกทำอย่างนี้จะทำยังไง...แล้วถ้าน้องบีหนีไม่พ้น หรือไม่หนี มันจะเป็นยังไง แล้วเขาจะเอาหน้าที่ไหนไปรับผิดกับหมอเอ และคงจะผิดกับความรู้สึกตัวเองไปตลอดชีวิตแน่
“กลับเถอะ”
“โอ๊ย!”
“เจ็บเหรอ...ไหนพี่ดูซิ” กำลังจะพาออกเดิน แต่คนที่ล้มลงเมื่อครู่เพียงแค่ก้าวเท้าก็ทรุดลงพร้อมกับร้องเสียงดัง จนเขาต้องพยุงไว้เหมือนเดิม...ข้อเท้าพลิกแน่ๆ ก็เล่นเตะฝาท่อจนล้มกลิ้งขนาดนั้น
“น้องบีเจ็บ”
“...........” ตอนนี้ปันณธรรู้สึกโกรธไปหมด โกรธตัวเอง โกรธคุณพ่อ โกรธไอ้ชั่วนั่น เมื่อถอดรองเท้าแล้วเห็นข้อเท้าเล็กตึงๆ เหมือนจะบวม...พยายามสูดลมหายใจให้ระงับอารมณ์ตัวเอง แล้วพ่นออกมาช้า ๆ
“...น้องบี...ขอ..โทษ พี่ปัน ปัน...”
“.............”
“ อย่า โกรธ น้องบี”
“ไม่โกรธหรอก พี่แค่เป็นห่วง” ความรู้สึกร้อนรนในจิตใจ ถูกคำพูดและใบหน้าน่าสงสารนั่นลบออกไปได้เกือบครึ่ง....ทำผิดแล้วขอโทษเป็นนิสัยของหมอเอที่เขารู้จัก แต่ไม่คิดว่าความรู้สึกเด็กอายุ 5 ขวบอย่างน้องบีก็จะปลูกฝังแล้วแสดงออกได้....
“...อยาก หา พี่เอ....”
“ เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยโทรหา มาขี่ม้ากลับโรงแรมดีกว่า...แล้วพี่จะพากลับบ้าน..”
“ ขี่ม้า...”
“มาสิ”
“คิก ๆ ขี้ม้ากุบๆๆ” ชอบใจอีก ปันณธรย่อตัวลงนั่งให้คนขาเจ็บขึ้นหลัง ลุกขึ้นพร้อมร่างเล็กที่ห้อยติดเป็นลูกลิงอยู่บนบนหลัง ใช้แขนทั้งสองข้างรั้งขาเรียวไว้ พร้อมกับที่มือก็ถือรองเท้าหนังสีดำคู่เล็กไว้ด้วย ก่อนจะออกเดิน....
“ต่อไป จำได้ด้วยว่าอย่าไปกับใครเด็ดขาด จนกว่าพี่จะบอกว่าให้ไปได้ เข้าใจไหม ไม่งั้นน้องบีก็จะถูกทำให้เจ็บอย่างนี้”
“รู้แล้ว...น้องบีจะไปกับพี่ปันปันคนเดียว”
“ดีมาก...”
“ม้ากุบ ๆ ๆ”
“..............”
“ขับรถ แบ้นน ๆๆๆ”
“.............”
“ขี่วัว...กึก กึก กึก..”
“..............” ขี่วัวกันเลยทีเดียว....ปากหนาอมยิ้มขณะที่ทอดน่องเดินกลับโรงแรม บนหลังก็มีคนช่างจินตนาการทำท่าและทำเสียงแปลก ๆ ไปเรื่อย ๆ
“ขี่ควา...”
“ไม่ใช่แระ....ถ้าขี่อย่างหลัง ก็ลงเดินเองเลย” ชักนะเยอะ....ขี่วัวก็ว่าตงิด ๆ แล้ว สุดท้ายก็จะขี่ควายจนได้สิน่า.....
“ คิก คิก ไม่ลง...อย่างนี้สบายจะตาย...รักพี่ปันปันจัง รักเหมือนพี่เอ รักเหมือนพี่นิชา รักเหมือนยายพิมพ์ รักเหมือนยายสร้อย...รักคุณป๊าด้วย รักมะปรางด้วย...”
“...รักเยอะจัง...”
“ แต่รักพี่ปันปัน ที่สุดเลย”
“..............” น่าชื่นใจใช่ไหม เพราะเพียงแค่ได้ยินอย่างนี้ก็ยิ้มกว้างออกมาเหมือนคนบ้า...ดีใจกับคำว่ารักที่สุด....
เดินมาถึงหน้าโรงแรมโทรศัพท์คุณพ่อก็เข้า รับโทรศัพท์และไม่รอช้าที่จะเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง คุณพ่อเดินออกจากงานมารับอยู่หน้าโรงแรมแบบติดจรวด...พร้อมกับการ์ดทีหายไปสองคน...ไม่นานก็คงรู้ว่าเรื่องราวทั้งหมดมาจากใคร....
“เจ็บมากไหมลูก”
“ไม่เจ็บ โอ๊ย!”
“ป๊าขอโทษ” ปัฐพีลูบข้อเท้าเล็กของลูกชายคนใหม่ ที่ตอนนี้ยอมรับว่ากำลังหลงกับความน่ารักของน้องบี...ชีวิตเขาอยู่กับความเครียดและทะมึนมาตลอดและตัวเขาเองก็ไม่ได้สรรหาอะไรมาจรรโลงจิตใจ...พอเจอความสดใสของเด็กคนนี้ มันทำให้รู้สึกว่าชีวิตดูมีชีวิตชีวามากขึ้น....และน้องบีนี่แหละที่จำทำให้ปันณธรยอมที่จะรับช่วงต่อจากเขาโดยไม่มีข้อแม้....
“พากลับเถอะครับคุณพ่อ”
“ไปสิ พ่อลาท่านรัฐมนตรีแล้ว ส่วนเรื่องของแกเอาไว้วันหลังละกัน”
“................” ปันณธรแอบยิ้มในใจ นาน ๆ ทีจะเห็นพ่อเป็นอย่างนี้ซักที รักคนอื่นบ้างนอกเหนือจากเขาและอำนาจที่มี....คิดจะเอาน้องบีเข้ามาเพื่อผูกโยงเขากับเส้นทางที่ขีดไว้ แต่จะรู้ตัวไหมว่าน้องบีนี่แหละจำทำให้เจ้าตัวค่อย ๆ เลิกล้มเจตนารมณ์พวกนั้นไปทีละเล็กละน้อย....จนในที่สุดก็อยากจะจมปรักอยู่กับความน่ารัก สดใส มากกว่าเส้นทางที่มีเปลวไฟลุกพรืออยู่ตลอดเวลา...
อากาศเย็น ๆ บนรถทำให้คนที่นั่งข้าง ๆ ปันณธรที่ขับรถค่อย ๆ สัปหงกจนต้องจอดข้างทางแล้วปรับเบาะจัดที่นอนให้...เสียงครางเบา ๆ ทันทีที่ขยับตัวพร้อมกับย่นคิ้วเพราะความเจ็บแปลบที่ข้อเท้า....กลับไปกินยาพรุ่งนี้พาไปหาหมอแต่เช้าแล้วกัน...
“...หลับครับ...” บอกป้าสร้อยที่วิ่งออกมารับ ก่อนจะเร่งเท้าอุ้มคนที่นอนหลับขึ้นห้อง....
“...เป็นยังไงบ้าง...”
“ คงต้องปลุกขึ้นมากินยาครับคุณพ่อ..” ลุกขึ้นมายืนมองร่างบางที่หลับสนิทอยู่บนเตียง หลังจากที่บอกพ่อตัวเองที่เดินตามเข้ามา....
“ลูกชายรัฐมนตรีเดโช...คนที่ติดคุกเพราะเรื่องค้ายา”
“เดชัย!” อุทานชื่อคนที่เป็นผู้ต้องหาของเรื่องนี้...ติดคุกได้ไม่ถึงเดิอนก็ออกมาได้ด้วยอำนาจของพ่อ พร้อมกับโยนผิดให้คนอื่น ทั้งที่ใครต่อใครก็รู้ว่าความจริงเป็นยังไง
“ใช่...พรุ่งนี้พ่อจะไปคุยกับคุณเดโช.”
“แต่เราไม่มีหลักฐานนะครับคุณพ่อ”
“พ่อขอภาพจากกล้องวงจรปิด ท่านรัฐมนตรีเอกชัยไปแล้ว พรุ่งนี้จะให้คนเอามาให้ที่บ้าน” เอาจริงสินะคุณพ่องานนี้....ท่านรัฐมนตรีเอกชัยคือเจ้าของโรงแรมและเจ้าของวันเกิดวันนี้...
“คุณพ่อครับ...อย่าพาน้องบีไปงานอย่างนั้นอีกเลยนะครับ...ถ้าเกิดอะไรขึ้นอีก..ผมไม่มีหน้าไปบอกหมอเอแน่ๆ ว่าดูแลน้องไม่ดี”
“...อืม...พ่อขอโทษละกัน...แต่ยังไงพรุ่งนี้พ่อนัดคุณนภัทรไว้แล้ว เชิญมาทานอาหารเย็นกับเราแกอย่าพึ่งกลับนะ ให้น้องบีอยู่กับพ่ออีกสักสองสามวัน...”
“เอ่อ ครับ” จนได้....คุณนภัทรคนนี้ เป็นคนใหญ่คนโตแถบทางเหนือ เป็นเพื่อนสนิทกับคุณพ่อ...ซึ่ง...มีลูกสาวรุ่นราวคราวเดียวกับเขา ที่รู้สึกว่าสองฝ่ายจะนัดเจอกันหลายรอบ แต่เขาเองที่เลี่ยงหนีตลอด แต่งานนี้คงจะไม่รอด....
“หนูเอมม่า เป็นผู้หญิงที่ฉลาดและเก่งมาก....พ่อว่าเขาเหมาะกับแกนะปัน”
“................” ไม่ตอบอะไรนอกจากนิ่ง....ก่อนจะทอดมองคนที่นอนหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอบนเตียง....ไม่พร้อม ไม่อยากมี...และยังไม่ต้องการเรื่องพวกนั้นตอนนี้...
*************************************************
เช้านี้คงเป็นครั้งแรกที่เขาตื่นขึ้นมาก่อนคนที่ยังนอนหลับปุ๋ยอยู่...หลังจากเมื่อคืนปลุกให้ลุกขึ้นกินยาแก้ปวดแก้ไข้พร้อมกับนวดยาไปแล้ว...เช้านี้คุณพ่อนัดหมอมาดูถึงบ้าน...แต่คนที่จะถูกตรวจยังนอนนิ่งอยู่เลย...
“น้องบี...เข้าแล้ว..”
“อือ..” เขย่าให้ตื่น แต่ร่างเล็กนั่นกลับหันมากอดเขาไว้แน่น....
“เด็กขี้เซา...วันนี้จะโดนหมอฉีดยาอยู่แล้ว รีบตื่นเร็ว”
“..พี่ ปัน ปัน จ๋า...”
“คร๊าบบ” เสียงดังอู้อี้จากคนที่ซุกหน้าลงกับอกเขา ทำให้ต้องขานรับ..
“..ไม่ฉีด..ยา...”
“ถ้าไม่อยากฉีดก็ต้องรีบตื่น เดี๋ยวป้าสร้อยพาไปอาบน้ำจะได้ให้หมอตรวจ”
“ พี่ปัน ปัน ..พาอาบ..” พูดทั้งที่ยังอยู่ท่าเดิมและไม่ยอมเงยหน้าขึ้นจากอกเขาเลย....งอแงแต่เช้าเลย...
“..พี่มีนัด กับคุณพ่อ ตอนเช้า...”
“.................”
“เอาอย่างนี้ ถ้าพี่เสร็จธุระแล้วจะรีบขึ้นมาพาไปเก็บดอกไม้ แต่ตอนนี้ปล่อยก่อนคนเก่ง...พี่จะไปอาบน้ำ”
“.....ไม่ปล่อย คิก ๆ............” ยิ่งบอกให้ปล่อยแขนเล็กนั่นก็ยิ่งกอดแน่น...พร้อมกับหัวเราะคิกคักเหมือนแกล้ง....
“ไม่ปล่อยใช่ไหม งั้นจี๋นะ”
“ปล่อยแล้ว!” อ้อมแขนคลายออกพร้อมยอมนอนหงาน ก่อนจะส่งสายตามองเขาอย่างล้อ ๆ น่าตีแต่เช้าเชียว...ลืมไปหรือไงว่าตัวเองปวดข้อเท้าอยู่ คว้าผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำ จัดการตัวเอง...เล็บแดง...ยังไม่ได้ล้าง...เช้านี้เขาต้องลงไปดูวีดีโอกับคุณพ่อ ที่รัฐมนตรีเอกชัยจะให้คนเอามาให้แต่เช้า แค่อยากเห็นว่าไอ้บ้านั่นทำอะไรกับน้องบีบ้าง...
“...เสร็จแล้วเหรอ...”
“เสร็จแล้ว เดี๋ยวพี่จะเรียกป้าสร้อยให้...ไม่ต้องเดินเอง ปวดเท้าอยู่หรือเปล่า”
“ปวดนิดเดียว”
“รออยู่นี่แหละ อ่ะดูการ์ตูนไปก่อน” ยื่นรีโมทให้คนที่ลุกขึ้นนั่งทำตากลมมองเขาอยู่บนเตียงแล้วรีบแต่งตัวเพื่อลงไปด้านล่าง....ขายาวก้าวลงบันไดเจอป้าสร้อยพอดีเลยบอกให้ไปจัดการคนในห้องให้หน่อย...
“คุณพ่อครับ”
“ได้มาแล้ว...ดูนี่สิ” เดินเข้าไปในห้องนั่งเล่นก็เจอคุณพ่อนั่งจ้องโน้ตบุ๊คอยู่....ปันณธรรีบเดินเข้าไปนั่งลงข้างๆ ร่างสูงใหญ่ของพ่อตัวเอง...แล้วจ้องหน้าจอโน๊ตบุ๊คที่เป็นมุมของกล้องวงจรผิดหลาย ๆ มุมภายในโรงแรมที่เห็นตั้งแต่เขาพาน้องบีเดินไปหยุดยืนหน้าห้องน้ำ...
“ไอ้เลว!” ปันณธรสบถออกมาเมื่อเห็นเป้าหมายเดินมาหยุดยืนคุยกับน้องบีหน้าห้องน้ำ ซักพักก็จูงมือน้องบีเดินออกไป กับอีกกล้องที่จูงมือเดินมาเรื่อย ๆ จนถึงมุมกล้องหน้าโรงแรม ที่น้องบียื้อตัวเองไว้เหมือนเปลี่ยนใจ...แต่กลับถูกดึงข้อมือไว้แล้วพยายามฉุดกระชากออกไป...และมุมที่ลานจอดน้องบีกระชากมือตัวเองหลุดแล้ววิ่งหนี ผิดที่ไม่วิ่งเข้าโรงแรม แต่กลับวิ่งออกไปด้านนอก...
“แค่นี้ก็พอจะจัดการมันได้แล้ว...”
“คุณพ่อจะทำยังไงครับ”
“ดิสเครดิตปล่อยคลิป... ถ้าพ่อมันไม่ยอมให้ลูกชายมาขอโทษน้องบี”
“แต่ถ้าปล่อยคลิป น้องบีจะเสียหายด้วย”
“ระดับเสี่ยพีแล้ว แกคิดว่าจะทำให้เป็นอย่างนั้นเหรอ” ยกยิ้มมุมปากทั้งพ่อทั้งลูก เพื่อเรื่องอะไรที่เห็นพ้องต้องกันจะดูโหดร้ายทั้งคู่....เรื่องนี้ไม่น่ายากถ้าเสี่ยพีลงเล่นเอง....
“คุณป๊าจ๋า พี่ปันปันจ๋ามารับน้องบีหน่อย!!”
“...............” ปันณธรหันมาเลิกคิ้วให้พ่อตัวเองหลังจากได้ยินเสียงดังตะโกนลงมา....ป้าสร้อยคงจะไม่ไหว...แล้วไม่ทันใจเจ้าตัวแน่ ๆ ปัฐพีพยักเพยิดให้ลูกชายไปรับลงมา ก่อนจะปิดโน้ตบุ๊คส่งให้การ์ดที่ยืนอยู่ข้างๆ ไปเก็บ...
...รู้สึกดีที่กำลังจะทำให้ลูกชายคนโต มีครอบครัวที่สมบูรณ์ และมีลูกชายอีกคนเข้ามาทำให้รู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้น....
*** ต่อแล้วค่ะ ตอนต่อไปก็เร็ว ๆ นี้ ขอบคุณทุกวิว ทุกเมนท์ฺ ทุกบวกค่า ให้กำลังใจน้องบีบี กับพี่ปันปันด้วยจ้า..