จากการคาดคะเนและมองเท่าที่เห็น น่าจะมีแค่สามคน…เพราะสองคนด้านนอกเขาก็จัดการไปแล้ว...คงต้องหลอกล่อให้พวกมันเปิดประตูก่อน ไม่งั้นเขาก็คงจะไม่สามารถที่จะทำอะไรได้....มองทะลุไปด้านหลังเป็นหน้าต่างบานเลื่อนที่เป็นกระจก ลูกน้องเขาน่าจะเข้าฝั่งนั้น..
“เฮ๊ย!!!!!”
“เฮ๊ย..เสียงใครวะ.พวกนั้นรึเปล่า...ไปดูดิ!” ปันณธรหลบฉากมาอยู่ข้าง ประตูรางเลื่อนหลังจากส่งเสียงดังล่อให้มีคนออกมา...หนึ่งในสามคนควักปืนออกมาก่อนจะค่อย ๆ เดินออกมาแล้วเปิดประตูเลื่อน...
ครืด!!
“ เฮ๊ย! อ๊ากก อ๊อกก!!” ยืนเผชิญหน้าก่อนจะใช้มือจับลูกกระเดือกและใช้มือข้างที่ถือปืนทุบที่ท้ายทอยอย่างแรง ถ้าเป็นคนธรรมดาคงทุบแล้วไม่รู้สึกอะไร แต่คนที่เคยฝึกอย่างเขามันไม่ใช่เรื่องยากอะไร....จัดการเหวี่ยงร่างไร้สติออกไป...แล้วก็รอ...
“เป็นอะไรวะ!!”
“อ๊อก!!” รออีกคนที่วิ่งตามออกมาหลังจากได้ยินเพื่อน...ความไวและสายตาของปันณธรต่อให้ขับมอเตอร์ไซค์มาเขาก็สามารถที่จะคว้าได้ตรงจุดที่ต้องการอย่างแม่นยำ ไม่ยากที่จะจัดการรายที่สองที่ถึงแม้จะระแวดระวังเพียงใด แต่เพียงแค่เคลื่อนตัวออกมานอกโกดัง ก็เข้าทางเขาหมด...
“เกิดอะไรขึ้น!”
ปั๊บ!!!
“หยุดอยู่นิ่ง ๆ!!ไม่งั้นแกพรุนแน่!!” ยกปืนขึ้นจ่อหัวสมองของคนที่วิ่งตามออกมาหลังจากจัดการสะบัดขาเตะปืนในมือศัตรูจนล่วงกระเด็นไปไกล.... พวกนี้เป็นมือสมัครเล่นแน่ๆ มืออาชีพจริงๆ ไม่วิ่งพรวดพราดอะไรกันขนาดนี้....มันน่าแค้นเข้าไปอีกที่บังอาจดูถูกฝีมือของเขาจนเกินไป...
“คุณปันครับ!!”
“โทรแจ้งตำรวจ! คุมตัวไอ้นี่ไว้ ที่เหลือไปลากซากพวกมันมามัดรวมกันไว้ ” คนของเขาปีนเข้าหน้าต่างมาพอดี...ก่อนจะสั่งการให้ควบคุมตัวพวกนี้ไว้ สาเหตุที่ไม่ทำให้ไอ้คนสุดท้ายหลับ ก็แค่...อยากคุยด้วย..
“น้องบี”
“อื้อ อื้อ!”
“ไม่ต้องกลัว คนดี ไม่ต้องกลัว” วิ่งเข้าไปหาคนที่นั่งอยู่บนโซฟาเก่า ๆ ขาด ๆ เท้าเล็กเปลือยเปล่าไม่ได้ใส่รองเท้า
“ไอ้พวกชั่ว!” หันมองพวกที่ถูกมัดติดกันไว้อย่างแค้นเคือง เมื่อเหลือบเห็นรอยแดงรอบ ๆ แขนขาวนั่น คงจะฉุดดึงกันมาอย่างเต็มที่...แต่ก็ยับยั้งใจไว้ เพื่อที่น้องบีจะได้ไม่พาลกลัวเขาไปด้วย
“อื้อ อื้ออ ฮึก ฮือออ!! พี่ ปัน ฮืออ ปัน จ๋า ฮืออ!!”
“อย่าร้อง...พี่อยู่นี่ คนดี พี่อยู่นี่!” เสียงร้องสะอื้นและแรงโผกอดทำให้เขารู้สึกสงสารจนจับใจ หลังจากที่แก้มัดให้แล้วก็โอบกอดร่างเล็กที่สั่นเทาเพราะร้องไห้ และความกลัวที่มีอยู่....
“น้อง ฮืออ บี กลับ ฮึก ฮืออ บ้าน ฮืออ!”
“ครับกลับ พี่จะพากลับ...” ทั้งโอบกอดและลูบหลังไปมาเบาๆ เพื่อให้คลายความหวาดกลัว...แต่ดูเหมือนว่าจะยิ่งกอดเขาแน่นและร้องหนักขึ้น....
“ฮึก ฮือออ กะ กลัว ฮือออ กลัว!!”
“ไม่กลัว ๆ พี่อยู่นี่เด็กดี...มองพี่สิ พี่อยู่นี่...”
“ฮึก ฮืออ พี่ ปัน ปัน จ๋า...ฮืออ” ทำเอาเขาน้ำตาคลอ เมื่อเขาดันร่างเล็กนั่นออกจากอ้อมกอดเพื่อให้มองหน้าเขา ว่าอยู่ตรงนี้ อยู่ใกล้ๆ น้องบี...ใบหน้าน่ารักเต็มไปด้วยคราบน้ำตา ....มือเล็กยื่นขึ้นมาจับที่แก้มเขาเบาๆ ก่อนจะสะอื้นหนัก....กลัวมากสินะ...
“กลับบ้านครับ ตกลงไหม”
“ อื้อ...” น้องบีพยักหน้าก่อนจะโอบกอดเขาไว้ อุ้มขึ้นทั้งอย่างนั้นช้อนขาเรียวไว้ทั้งสองข้าง.... แขนขาวทั้งสองข้างก็กอดคอเขาแน่น...
“จัดการให้ผมด้วยนที เค้นเอาความจริง...และจัดการแค่เบา ๆ แลกกับน้ำตาน้องบี ก่อนที่ตำรวจจะมา! แล้วกลับไปรายงานผมด้วย”
“ได้ครับคุณปัน แค่ทำให้น้องบีเสียน้ำตา...แค่นี้มันก็มากเกินแล้ว”
พลั๊ก!!
“โอ๊ย!!”
“กลับบ้านเราครับ” รีบพาน้องบีเดินออกมาจากโกดัง เมื่อลูกน้องเริ่มทำตามที่เขาสั่ง....และน้องบีก็สะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงร้องเจ็บปวดของพวกนั้น...อยากปกป้อง อยากทนุถนอม...ไม่อยากให้เสียใจและเสียน้ำตา....หวงไม่อยากให้ใครได้เห็นได้สัมผัส....อยากเป็นคนสำคัญของคน ๆ นี้...อยากจะครอบครองไว้คนเดียว
....ไม่แน่ใจ...แต่ก็กลัวใจตัวเองที่คิดอย่างนี้....กลัวว่าซักวันที่เขาไม่มีน้องบี...แล้วจะอยู่ยังไง...
*******************************************************
มองคนที่นอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียง...มือหนาลูบผมนุ่มเบาๆ ก่อนจะก้มลงจุมพิตอย่างอ่อนโยนที่หน้าผากเนียน...ถ้าคนงานตามไปไม่ทัน แล้วถ้าเขาหาน้องบีไม่เจอล่ะ....แค่คิดก็อยากจะย้อนกลับไปฆ่าพวกนั้นให้ตาย...
“หลับแล้วเหรอคะ”
“ครับป้าสร้อย รบกวนอยู่เป็นเพื่อนแกก่อน..ผมมีเรื่องจะคุยกับคนงาน”
“ค่ะคุณปัน ไม่ต้องห่วงค่ะ เดี๋ยวป้าดูแลเอง” แววตาของคนสูงวัยมองเจ้านายน้อยที่เดินออกไป ก่อนจะจ้องคนบนเตียง...น่าสงสาร...เป็นอย่างนี้ก็เคราะห์ร้ายแล้ว แล้วยังจะเจอเรื่องร้ายๆ อีก....ดีแล้วที่เจอคนดีอย่างคุณปัน ถึงแม้เรื่องจะเกิดเพราะเจอกัน แต่เธอก็มั่นใจว่าเจ้านายขอ’เธอ จะดูแลและปกป้องน้องบีได้....มองแค่นี้...คนที่ผ่านอะไรมามากมาย ก็พอจะรู้ว่าคุณปันรู้สึกยังไง...คงรอแค่เจ้าตัวจะรู้ใจตัวเองเท่านั้น ส่วนน้องบี....ไม่มีใครดูออกหรอก....นอกจากเจ้าตัวจะรู้สึกภายในหัวใจแล้วแสดงออกมาเอง...
“เป็นฝีมือของนายปรีชารัตน์นั่นแหละครับคุณปัน”
“มันทำงานให้ใคร” เพราะนายปรีชารัตน์อะไรนั่นมันก็แค่พ่อค้าส่งรถออกไปขายให้เพื่อนบ้านใกล้เคียง ไม่ใช่คนใหญ่โตพอที่จะต้องการบารมี หรือรู้ข่าวเรื่องน้องบีได้เร็วขนาดนี้....
“ทำงานให้พ่อเลี้ยงรฐาครับ”
“พ่อเลี้ยงรฐา?” ปันณธรย่นคิ้วเพราะไม่เคยได้ยินชื่อนี้ในแวดวงของคุณพ่อเลย....
“ครับ หรือที่เรารู้จักในนามของ เจ้าของราเทโร่ผับนั่นและครับ”
“.................” พอพูดถึงผับคู่แข่งของคุณพ่อก็นึกหน้าได้ทันที....ผับราเทโร่ที่กำลังขยายสาขาแข่งกับผับโกลไทเกอร์ของเสี่ยปัฐพีที่ขึ้นชื่อและติดลมบนไปแล้วทุกสาขา....
“งั้นคุณพ่อก็คงจะได้เรื่องแล้วแน่ ๆ…ไปพักผ่อนกันเถอะ ไม่มีอะไรแล้ว”
“ครับ คุณปัน”
“.....................” ยกมือขึ้นกดโทรศัพท์หาคนที่คุยกันก่อนหน้า....งานนี้คงต้องอาศัยพ่อ เชือดไก่ให้ลิงได้กลิ่นเลือดกันบ้าง ไม่งั้นก็คงจะมีอีกหลายก๊กแน่ๆ
ลมเย็น ๆ พัดผ่านต้นไม้เกิดเสียงหวิวไหวตามแรงลม....ผีเสื้อน้อยใหญ่บินตอมช่อดอกไม้ที่ชูกิ่งก้านดอกใบแข่งกันในช่วงฤดูกาลที่ดอกไม้จะสวยที่สุดอย่างนี้....ปันณธรจ้องมองหน้าหนังสือพิมพ์ ที่เป็นรูปผับชื่อดังถูกวางระเบิด...ทุกสาขา...และหาคนกระทำผิดไม่ได้...ปากหนายกยิ้มอย่างสะใจ...ส่วนเจ้าของผับยังนอนอยู่โรงพยาบาลไม่รู้สึกตัว...ตามรถของผู้เสียหาย... มีสีสเปรย์พ่นที่กระจกรถว่า
...พิษของดอกไม้นำโชค...
ทุกคนที่รู้เรื่องดอกไม้นำโชค และกำลังพยายามจะทำอย่างนี้...รวมถึงเจ้าของผับชื่อดัง...คงจะรู้อยู่แก่ใจแน่ ว่าเป็นฝีมือใคร...ในเมื่อกล้าที่จะล้วงหัวใจงูเห่า...คุณก็ต้องถูกพิษที่ร้ายแรงที่สุดไปเต็มแมกซ์เช่นกัน...
“พี่ปันปันจ๋า พี่เอคุย”
“อ้าวเหรอ มาครับ” หมอเอจะรู้เรื่องรึเปล่านะ…หันไปรับโทรศัพท์จากคนที่วิ่งมาจากไหนไม่รู้ ไม่ป้าสร้อยก็คงเป็นมะปรางที่กดโทรให้
“ว่าไหงหมอเอ”
/ เป็นไงบ้างเพื่อน ลำบากอะไรรึเปล่า /
“ถ้าหมายถึงน้องบี บอกเลยว่าไม่...แล้วแกเป็นยังไงบ้าง”
/ ก็สบายดี เหตุการณ์สงบ แต่ก็ยังไม่มีหมายให้กลับ...ยังไงก็ฝากแกด้วยนะ /
“ยินดี ไม่ต้องห่วง น้องบีก็บ่นคิดถึงแก คิดถึงพี่นิชา ยายพิมพ์ตลอด....ไม่มีวันหยุดมาเลยเหรอ..จะได้ไปเที่ยวกัน สัญญากับน้องบีไว้แล้ว”
/ ยังว่ะ เอาไว้หาหนทางได้แล้วจะโทรหา เพราะตอนนี้หมอ พยาบาลก็ขาด....บอกน้องบีด้วยนะ ว่าฉันคิดถึงมาก /
“ทำไมไม่บอกน้องเองล่ะ”
/ บอกไปแล้วล่ะ แต่มันก็คิดถึง /
“ได้เดี๋ยวฉันบอกให้ ไม่ต้องห่วงนะ ฉันจะดูแลน้องบีให้เหมือนน้องฉันเลย”
/ ขอบใจมาก แค่นี้ก่อนแล้วค่อยคุยกัน /
“ได้ โชคดีนะ”
กดวางสายเพื่อนรัก ก่อนจะถอนหายใจออกมา...มีความคิดว่าไม่อยากให้หมอเอกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ทั้งที่รู้ว่าหมอเออยู่อย่างนั้นก็ต้องลำบากแน่ๆ แต่หมอเอกลับ นั่นหมายความว่า...เขากับน้องบีก็ต้องแยกกัน...แล้วความคิดถึงที่หมอเอบอก เขาก็รับรู้และรู้สึกได้เพียงแค่คิดว่าจะห่างกัน....
“พี่ปันปันจ๋า พี่เอคิดถึงน้องบีใช่ไหม”
“ครับ พี่เอคิดถึงน้องบีมาก ๆ เลย” เห็นน้องบีทำหน้าเศร้าแล้วก็สงสาร คงจะคิดถึงพี่ชายเหมือนกัน....สับสนกับความคิดตัวเอง...ว่ากำลังคิดอะไรกันอยู่แน่..
“คุณปันคะ...มีแขกมาค่ะ”
“ใครอีก” ช่วงนี้รู้สึกระแวง ถามมะปรางออกไปทั้งที่มือยังจับแก้มคนที่ล้มตัวนอนหนุนตักเขาอยู่บนโซฟา...
“บอกว่าชื่อคุณเดชัยค่ะ”
“เดชัย...พาถึงนี่เลยเหรอ”
“อืม เชิญเข้ามา”
“ใครเหรอพี่ปันปัน ใครมาหา ใช่คุณป๊ารึเปล่า”
“ไม่ใช่ครับ คุณป๊ามาพรุ่งนี้ จำไม่ได้เหรอ”
“ก็อยากให้มาวันนี้นี่” คนน่ารักทำหน้ามุ่ย คุณป๊าว่าจะมาพรุ่งนี้พร้อมของฝากเยอะแยะ...แต่น้องบีคิดถึงแล้วอยากให้มาวันนี้นี่นา...ถ้าคุณป๊ามาพรุ่งนี้ จะชวนคุณป๊าจับผีเสื้อด้วยซะเลย...
“สวัสดีครับคุณปันณธร”
“เชิญครับคุณเดชัย”
“....................”
“สวัสดีครับน้องบี”
“จำได้ไหมน้องบี”
“......................” หัวกลมส่ายไปมา สีหน้าเริ่มบูดบึ้งไม่รับแขก ถึงจะส่ายหัวบอกว่าจำไม่ได้ แต่การที่ลุกขึ้นแล้วซุกตัวเข้าหาอ้อมกอดคนที่นั่งข้างกันก็พอจะดูออกว่าน้องบีจำได้....
“พอดีคุณพ่อมาดูงานที่จังหวัดใกล้ๆ ผมก็เลยมาเยี่ยมน้องบี หวังว่าคุณจะไม่ว่านะครับ..”
“ไม่หรอกครับ แต่คุณคงลืมว่าไร่ผมปลูกดอกไม้” พูดแล้วมองดอกไม้ช่อใหญ่ในมือของอีกคนที่อุตส่าห์หอบหิ้วมาด้วย แถมผีเสื้อเยอะกว่าวันนั้นอีก...
“ครับ ผมลืม..แต่ก็ตั้งใจเอามาให้น้องบี”
“ไม่เอาหรอก! ของพี่ปันปันเยอะกว่า!”
“น้องบี! ไม่น่ารักเลย” ถึงจะแอบสะใจ แต่ก็คงต้องดุเป็นมารยาท…
“งั้นผมฝากคนปักแจกันไปไว้ในห้องน้องบีได้ไหมครับ”
“ไม่เป็นไรครับ วางไว้ก่อนก็ได้ ที่ห้องน้องบีมีเยอะแล้ว” มีดอกไม้ที่เขาให้จัดไปใส่แล้ว ไม่ต้องการให้ของใครเข้าไปแทรกแซงอีก...คิดว่ามาอยู่ไร่จะสงบสุข แต่ดูเหมือนว่าเรื่องวุ่นวาย แม้แต่คนวุ่นวายก็เข้ามากันยกใหญ่....
“นั่งดี ๆ สิครับ..กลัวอะไรฮื๊อ”
“................” บอกคนที่ปีนมานั่งตักเขาจนได้...แขนกอดรอบคอ หน้าซบลงที่บ่า...อ้อนอย่างนี้ทุกครั้งที่ไม่อยากจะเผชิญหน้ากับอะไร หรือสิ่งไหน...แต่นั่นมันก็ทำให้เขารู้สึกดี....
“จะว่าอะไรไหม ถ้าผมอยากจะแวะมาเยี่ยมน้องบีบ้าง”
“ไม่ว่าอะไรหรอกครับ เชิญตามสบาย..”
“น้องบีไปเดินเล่นกับพี่บ้างได้รึเปล่า”
“ไม่! น้องบีจะอยู่กับพี่ปันปันสองคน!”
“...................” ยิ่งพูดก็ยิ่งกอดเขาแน่น...ชื่นใจจัง...หัวใจพองโต แต่แสดงออกไปคงจะเสียมารยาท...เลยได้แต่ส่งยิ้มบางๆ ให้คนที่นั่งเหมือนส่วนเกินอยู่ตรงหน้า...
เอาเป็นว่าอีกฝ่ายยอมที่จะล่าถอยกลับไปพร้อมกับสัญญาว่าจะกลับมาใหม่....ตอนนี้ปันณธรกำลังนั่งเฝ้าคนที่ลงไปเล่นน้ำในคลองหลังบ้านที่ลอกไว้จะปลูกดอกบัว แต่ก็ยังไม่ได้ปลูกเพราะรอพันธุ์บัวอยู่....น้ำเต็มบ่อ แต่ไม่ลึกมากแค่ระดับช่วงเอวเขาแต่มันก็ปริ่มอกคนที่เล่นอยู่...ดีที่น้ำสะอาดเพราะเป็นน้ำที่ผุดจากดินที่ขุดตาน้ำเยอะน้ำเลยเต็มบ่อเร็วและใสด้วย...
“พี่ปันปันจ๋า มา!”
“ไม่เล่น เล่นไปเถอะ ลงไปหลายคนน้ำมันจะขุ่น” คนที่ดำผุดดำว่ายผสมน้ำขุ่นนิด ๆ โผล่ขึ้นมาใกล้ ๆ ตลิ่งที่เขานั่งอยู่ ก่อนจะเรียกให้ลงไปเล่นด้วยกัน...
“งั้นน้องบีจะขึ้นแล้ว ดึงน้องบีหน่อย”
“มาสิ”
“อึ๊บ!!”
ตู้ม!!
“น้องบี!!”
“คิกๆโดนหลอก!! ฮ่าๆ มาเล่นกับน้องบีหน่อย!”
“เด็กดื้อ มันน่าตีให้!” รีบชูโทรศัพท์ขึ้นหลังจากที่พามันมุดน้ำ มือเล็กยื่นให้จับแต่สุดท้ายก็ใช้เท้ายันข้างตลิ่งแล้วออกแรงโหนเขาที่ยื่นมือก้มตัวให้ลงมาในน้ำ...เลยล่วงลงมาอย่างง่าย ๆ แล้วก็โดนพรายน้ำผู้น่ารักกระโดดเกาะคอไว้ทันที
“อย่าไปนะ!”
“เอาโทรศัพท์มาไว้” บอกคนที่เกาะเอวเขาไว้เหมือนลิงเกาะแม่ไม่มีผิด....พร้อมกับตีเท้าตามเขาที่เดินมาโทรศัพท์เปียก ๆ มาวางไว้บนฝั่ง
“มะปรางมาเอาโทรศัพท์ไปให้คุณชาติดูให้หน่อย”
“ค่ะคุณปัน” ซี้แหงแก๋โทรศัพท์เขาเบียกโชกเชียว เรียกมะปรางที่เดินมาเก็บพริกในสวนพอดีเผื่อมันจะไม่เป็นอะไร ดีที่ไม่ใช่เบอร์สำคัญเรื่องงาน...คุณชาติคือคนที่อ๊อฟฟิศ ค่อนข้างจะไฮเทคโนอยู่เลยอาศัยให้ช่วยเรื่องพวกนี้ได้....
“ถ้าโทรศัพท์พี่พังใครรับผิดชอบ”
“น้องบีซื้อให้ใหม่”
“ไหนเงิน”
“จ้างน้องบีเก็บดอกไม้สิ..น้องบีเก็บเก่ง” น่าจ้างอยู่หรอก...
“โกรธแล้ว”
“ไม่โกรธน้า น้องบีอยากให้พี่ปันปันเล่นด้วย....น้องบีน่ารัก ไม่รักน้องบีเหรอ..” ชมตัวเองก็เป็นด้วยคนเรา...อดยิ้มกับท่าทีออดอ้อนไม่ได้ รู้สึกว่าตอนนี้จะชินกับการที่มีอีกคนคอยนัวเนียอยู่ใกล้ ๆ อย่างนี้....
“รักสิ...แล้วน้องบีล่ะรักพี่รึเปล่า” ย่อตัวลงให้เท่ากับน้องบี...เพราะแรงดันในน้ำทำให้อีกคนยกขาขึ้นกอดเอวเขาไว้ได้อย่างง่าย ๆ มือก็เกาะคอ เป็นลูกลิงสมบูรณ์ไปแล้ว....ใบหน้าน่ารักห่างจากเขาไม่มาก จนหายได้ยินเสียงลมหายใจ และรอยยิ้มหวาน ๆ ดวงตาซุกซนเป็นประกายได้ชัดเจน
“รักสิ น้องบีรักพี่ปันปัน”
“.......................” เป็นครั้งแรกที่สังเกตและมองเงาตัวเองที่สะท้อนในแววตาน้องบี...มันรู้สึกดีและมีความสุขที่สุด...ดวงตากลมโตนั่นมันทำให้เขาไม่อยากละสายตา....
“รักแบบนี้..อยากทำอย่างนี้..”
“.....................” ปันณธรนิ่งสนิท....ผิดกับอีกคนที่ยังยิ้มหวานให้เขาหลังจากที่เมื่อครู่รู้ตัวรึเปล่วว่าทำอะไรลงไป....ริมฝีปากเขายังร้อนผ่าวเพราะสัมผัสจากริมฝีปากเล็กที่ยื่นมาแตะเมื่อครู่...
“น้องบีทำอะไร”
“ทำอย่างนี้ไง”
“..อืม....”
“..อึก...อืมม...” เหมือนคนขาดสติ เมื่อคนตัวเล็กนั่นทำซ้ำหลังจากที่ถูกถาม.....ทันทีที่ความนุ่มนิ่มนั่นสัมผัสอีกครั้ง...ความต้องการก็โถมเข้ามาอย่างไม่ตั้งตัว....ไม่เคยคิด...ว่าตัวเองก็ต้องการอย่างนี้....มือหนากดหัวกลมไว้ก่อนจะโต้ตอบคนที่ทำเหมือนเล่นๆ แต่เป็นปันณธรเองที่ไม่ยอมให้ผละออก...มอบจุมพิตแสนหวานที่เริ่มจะเร่าร้อนเพราะแรงอารมณ์ที่ก่อเกิด...ไล่ลิ้นต้อนคนที่ไม่ประสาอย่างลืมตัว...ความหวานนุ่มจากโพรงปากเล็กทำเขาแทบละลาย....และเหมือนจะหยุดไม่ได้....
“ อึก! อื้อ..! พี่..ปัน..”
“...................” ยอมที่จะถอนจูบในที่สุด เมื่อน้องบีใช้มือดันอกเขาออก....หน้าเล็กซบลงที่ไหล่เขาพร้อมกับหายใจหอบ โกยอากาศเข้าปอดอย่างเต็มที่....
“..อึก..พี่ปัน ปันก็อยาก ทำ..”
“ใช่ พี่อยากทำ...” แผ่นหลังกว้างพิงขอบสระ พร้อมกับโอบกอดคนที่ยังเกาะเขาอยู่...จมูกโด่งกดลงที่ขมับสูดกลิ่นน้ำและกลิ่นแป้งอ่อน ๆ ที่หลงเหลืออยู่...
...ตกใจความรู้สึกต่างๆ ที่วิ่งพล่านเข้ามาในหัวใจ..แต่...ดีแล้วใช่ไหม...ที่รู้ใจตัวเอง...แล้วจะคิดได้ไหมว่าน้องบี..ก็อาจจะคิด...เหมือนกัน..
*** ขอบคุณทุกคนที่ชอบและติดตามค่ะ หวังว่าจะชอบและติดตามกันไปเรื่อย ๆ เน้อ ^^