เสียงจานช้อนกระทบกันในยามเช้า... เสียงเจื้อยแจ้วของคนตื่นเช้าสร้างบรรกาศให้ดูสนุกสนาน เพราะคำพูดแต่ละคำทำเอาคนแก่คนหนุ่มหัวเราะกับความน่ารัก...
“แล้วเสือมันตายไหม”
“ตายสิ น้องบีกระทืบมันตาย”
“เก่งจริง”
“คิก ๆ น้องบีเก่ง” เสียงยังเจื้อยแจ้วเล่าความฝันตัวเองหลังจากกินข้าวเสร็จแล้วทุกคนมารวมตัวกันที่ห้องนั่งเล่น เที่ยงนี้รัฐมนตรีเดโชและลูกชายจะมาที่บ้านหลังจากส่งคลิปวิดีโอนั่นไป....ให้มาขอโทษน้องบีก่อนที่ทั้งน้องบีและปันณธรจะหลับไปที่ไร่...
“เก่งในความฝันนี่นะ อยากเก่งจริงๆ รึเปล่า ป๊าจะส่งเรียนชกมวย”
“จะไหวเหรอครับคุณพ่อ”
“น้องบีจะชกมวย”
“ไหนยกแขนซิ”
“ฮ่าๆๆ ตั๊กแตนชัด”
“..........................”
“โอ๋ ใครว่าน้องบี...ตั้งการ์ดอย่างนี้..ฮ่าๆๆ” งอนแล้วงอนอีก น้องบีเอาแขนลงก่อนจะทำหน้ามุ่ยใส่สองพ่อลูกที่หัวเราะน้องบีเวลายกแขนทำท่าเหมือนที่คุณป๊าสอน....
“อย่างนี้ไปเรียนพวกเทควันโด้ดีกว่า”
“ถ้าเทควันโด้แกสอนเองก็ได้หนิ”
“ครับคุณพ่อ” ผมเทควันโด้สายดำตั้งแต่ 12 ขวบ แต่ตอนนี้ก็ลืม ๆ ไป เพราะไม่ได้ไปใช้อะไรก็ไปไหนมาไหนพ่อให้การ์ดตามประกบขนาดนี้จะไปใช้อะไรกับใครได้
“คุณท่านคะ รัฐมนตรีเดโชมาแล้วค่ะ”
“งั้นเหรอ เชิญเข้ามาเลย” สองพ่อลูกนิ่งไปทันที ปล่อยให้น้องบีหันซ้ายขวา ว่าเกิดอะไรขึ้น ใจดวงน้อยเริ่มกลัวนิด ๆ เมื่อทั้งสองคนนิ่งไป
“พี่ปันปันจ๋า”
“ไม่มีอะไรหรอก..มานั่งนี่มา” แขนเล็กกอดคอพี่ชายไว้หลังจากที่ไปนั่งบนตักของคนที่เรียก หน้าน่ารักซบลงที่บ่ากว้าง...เกิดอะไรขึ้นทำไมอยู่ดีๆ ถึงทำท่าน่ากลัวกันอย่างนี้...น้องบีไม่ชอบเลย...
“เชิญครับท่านรัฐมนตรี เชิญนั่ง”
“..คนนั้น...”
“ไม่มีอะไร ไม่ต้องกลัว” ปัฐพีลุกขึ้นต้อนรับผู้มาเยือน...มือของปันณธรลูบแผ่นหลังบางของคนที่นั่งบนตัก เมื่อคนตัวเล็กนั่นมองเห็นคนที่ฉุดกระชากตัวเองคืนนั้น ร่างบางกอดคอปันณธรแน่นพร้อมกับเกร็งตัวเหมือนกับไม่อยากให้คน ๆ นั้นเดินเข้ามาใกล้....
“...ไม่ต้องพิธีรีตองเลยนะ คือผมยอมที่จะให้ลูกชายผมขอโทษลูกชายคุณ..”
“ก็ดีครับ เชิญครับ...ผมก็ไม่อยากให้อะไรยุ่งยากไปกว่านี้ เพราะทางคุณก็ทำเกินไป” ปัฐพีจ้องชายหนุ่มที่ตอนนี้กำลังมองน้องบีที่อยู่ในอ้อมกอดของปันณธร....หน้าตาก็ดี พ่อก็มีหน้ามีตา ไม่น่าจะทำตัวให้ตัวเองต่ำได้ขนาดนี้....
“น้องบี หันออกมาสิลูก”
“ไม่!! น้องบี ไม่เอา...ฮึก..น้องบี ไม่เอา...”
“ไม่ร้องสิคนดี...เขาไม่ทำอะไรน้องบีหรอก หันไปสินะเชื่อพี่ อยู่กับพี่ไม่ต้องกลัว”
“...ฮึก..กลัว...ฮืออ กลัว!!...”
“..................” ปันณธรส่ายหัวจนปัญญากับพ่อตัวเอง กลัวมากขนาดนี้แท้ ๆ แต่คืนนั้นกลับทำตัวเข้มแข็งเหมือนไม่รู้สึกอะไร แค่นี้ก็รู้แล้วว่าความรู้สึกพวกนั้นมันฝังใจเด็กคนนี้อยู่....กอดเขาซะแน่นเกร็งไปหมด....
“น้องบี...ผมขอโทษ...ตอนนั้นผมเมา...”
“ไม่!! อย่า เรียก ฮึก น้องบี ฮือ”
“ไม่เอา อย่าร้องไม่เรียกแล้ว ไม่ให้เรียกแล้ว” ท่าทางจะไม่ยอมฟังอะไรง่ายๆ อย่างที่พวกเขาคิดซะแล้ว เมื่อคนที่อยู่ในอ้อมกอดยกมือขึ้นปิดหูตัวเองแน่น พร้อมกับเริ่มห้องไห้ดังขึ้น....
“แค่นี้ก็คงพอ....อย่างน้อย ๆ ก็ทำให้รู้ว่าคุณเป็นลูกผู้ชายพอ...ถึงน้องบีจะเป็นอย่างนี้ แต่ทุกคนที่บ้านนี้และก็ครอบครัวเขาเองก็รักเหมือนแก้วตาดวงใจ...เป็นธรรมดาที่พวกผมจะไม่พอใจ หวังว่าคุณจะเข้าใจ”
“ผมเข้าใจ” เดชัยรับคำแล้วมองคนตัวเล็กที่ปิดหูแล้วยังร้องไม่หยุด...วันนั้นเขาเมาจริงๆ และน้องบี...ก็หน้าเหมือนแฟนเก่าเขาที่ทิ้งเขาไปเมื่อตอนที่เขาถูกฝากขัง....ทั้งที่ต้นเหตุก็เกิดจากเธอ....
“เอาล่ะเอาเป็นว่าขอบคุณท่านรัฐมนตรีมาก...ถือซะว่าไม่เคยเกิดเรื่องพวกนี้ขึ้น...ให้เราเข้าใจกันเหมือนเดิม”
“แน่นอนครับเสี่ยพี” เดโชพูดไปแต่ก็รู้สึกเสียหน้าไม่น้อยที่ลูกชายเขาไปทำอย่างนั้น...แต่ใครกันล่ะจะอยากมีปัญหากับเสี่ยปัฐพี...เด็กคนนี้สินะที่เซียนสมภพบอกว่าเป็นดอกไม้นำโชค...
หลังจากที่คุยกับซักพักก็ต้องส่งแขกเพราะน้องบีร้องสะอื้นอยู่ตลอด...จนปันณธรต้องพาออกจากตรงนั้น มานั่งเล่นสวนหลังบ้านถึงได้หยุดร้องไห้...
“หยุดร้องรึยัง”
“หยุดแล้วล่ะ...แต่อย่าพึ่งเข้าไปใกล้เลย...”
“น้องบีเป็นอะไร”
“แกความจำเสื่อม..” ปันณธรตอบคำถามเดชัยที่เดินมาหา ในขณะที่ท่านรัฐมนตรีกับคุณพ่อยืนคุยอยู่หน้าบ้าน เตรียมตัวจะกลับ เขาเดินเข้ามาเอาโทรศัพท์เพราะเจ้าตัวเล็กอยากคุยกับพี่ชายเขา...
“ผมเมาจริงๆ “
“ผมเชื่อคุณ แต่ต้องซักพักน้องบีน่าจะลืม” ความจริงต้องยอมรับว่าโกรธเดชัยไม่น้อยที่ทำกับน้องบีอย่างนั้น ตอนนี้ก็ยังเคืองอยู่แต่น้อยลงแล้ว ผู้ชายตรงหน้าเขาพอดูออกว่าไม่ได้เลวร้ายอะไรมาก ก็แค่ผู้ชายเกเรตามประสาคนถูกพ่อเอาใจ....เห็นสีหน้าก็รู้ว่ากำลังห่วงความรู้สึกน้องบีอยู่เหมือนกัน....ยิ่งน้องบีไม่ยกโทษให้อย่างนี้เป็นเขาก็คงจะรู้สึกผิดอยู่ไม่น้อย....
“ทำไงล่ะ...ผมไม่อยากรู้สึกมีความผิดติดตัวอยู่อย่างนี้ มันไม่สบายใจ”
“...................”
“ช่วยผมหน่อยเถอะ...ผมแค่อยากจะคุยกับน้องบีให้เขาหายโกรธผมบ้าง...”
“ แต่ผม...”
“..ผมสัญญาจะไม่ทำอะไรน้องบีเด็ดขาด และจะไม่เซ้าซี้ด้วยถ้าน้องบีไม่เต็มใจจะเจอผม..” แววตาและสีหน้าที่แสดงออกมา ทำให้ปันณธรหนักใจไม่น้อย จริงจังและจริงใจ จนไม่น่าเชื่อว่านี่คือคนที่เห็นในคลิปนั้น
....อยากจะช่วย...แต่ก็มีบางอย่างบอกว่า...ไม่อยากให้เข้าไปใกล้และพูดคุยกับร่างบางนั่น...ไม่ใช่แค่เดชัย แต่ไม่อยากให้ใครเข้าใกล้ได้ซักคน...แม้กระทั่งน้องบีอยากโทรหาหมอเอ เขายังรู้สึกหงุดหงิดโดยที่ไม่เข้าใจตัวเอง....
“คุณลองซื้อดอกไม้มาให้เขาสิ เอาช่อใหญ่ซักหน่อย มีผีเสื้อเกาะด้วย...ผมไม่แน่ใจนะ แต่เขาชอบ..”
“งั้นเหรอ งั้นเดี๋ยวผมมานะ!”
“....................” เดี่ยวนี้เลยเหรอ...ปันณธรมองคนที่วิ่งออกไปหน้าบ้าน ส่องดูก็เห็นขับรถตัวเองออกไปท่ามกลางความงงของคนมีอายุสองคนที่ยืนคุยกันหน้าบ้าน...เอาจริงเหรอนี่...
“พี่ปันปันจ๋า...นี่เสร็จแล้ว”
“สวยรึเปล่า”
“สวยสิ หล่อจัง หล่อเหมือนพี่เอเลย” เถาวัลย์ประดับพันเป็นวงกลมบูด ๆ เบี้ยวๆ ถูกนำมาสวมบนหัวคนที่นอนอยู่ข้างๆ
“จริงเหรอ งั้นพี่กับพี่เอใครหล่อกว่ากัน”
“อืม..ไม่รู้อ่ะ หล่อเท่ากัน”
“งั้นรักใครมากกว่ากัน”
“เท่ากันสิ..รักพี่เอ รักพี่นิชา รักยายพิมพ์ รักยายสร้อย รักคุณป๊า รักพี่ดาว รักพี่มะปราง รัก...พี่ปันปัน..” พอพูดรักคำสุดท้ายแขนเล็กก็โอบกอดเขาที่นอนอยู่บนเสื่อที่ปูบนสนามหญ้าในสวน...หัวเล็กซบลงที่ซอกคอ...ถึงตอนแรกจะแอบรู้สึกไม่ดีที่รักใครต่อใครไปหมด แต่ก็รู้สึกเล็ก ๆ ว่าน้องบีต้องรักเขามากกว่าคนอื่นบ้าง...รู้สึกอยากเปรียบเทียบความสำคัญต่อน้องบีตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้....แต่ทุกครั้งที่น้องบีแสดงออกว่าต้องการและอยากอยู่กับเขา หัวใจมันพองโตขึ้นมา....
“น้องบีครับ”
“................”
“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร พี่เขาเอาดอกไม้มาให้น้องบี” โอบกอดคนที่เด้งตัวเข้ามาหาเขาทันทีที่เห็นว่าใครเรียก ผู้ชายร่างสูงกับช่อดอกไม้ช่อใหญ่ มีตุ๊กตาผีเสื้อเกาะอยู่เต็มไปหมด ทุ่มทุนสร้างไปนะ...
“ไม่เอา !”
“คนดี...พี่เขาขอโทษน้องบีแล้วนะ...ตอนนี้พี่เขาเป็นคนดีแล้ว...ดูสิดอกไม้ช่อนั้นมีผีเสื้อเต็มเลย” พูดกับคนที่กอดเขาแน่นไม่ยอมแม้แต่จะหันไปมองอีก แต่พอบอกว่ามีดอกไม้มีผีเสื้อ ก็แหงะหน้าออก น้อย ๆ มองผ่าน ๆ แล้วหันกลับมาคืน....แต่สุดท้ายก็ยอมที่จะหันไปมองตรงๆ ตากลมจ้องดอกไม้กับผีเสื้อ อาการกอดเกร็งก็เริ่มหายไป....
“พี่ขอโทษนะ...รับรองว่าต่อจากนี้พี่จะไม่ทำอย่างนั้นอีก”
“รับดอกไม้สิครับ สวยนะ” ถึงจะบอกให้รับ แต่ในใจปันณธรกลับคิดว่า เดชัยไม่มีโอกาสที่จะทำอย่างนั้นอีกแน่ เพราะเขาคงไม่พาน้องบีไปไหนมาไหนให้เจอใครอีกแล้ว มีเรื่องอีกหมอเอเอาเขาตายแน่ แล้วไหนจะข่าวเซียนมั่วนั่นอีก
“พี่ปันปันเอาให้น้องบี”
“ไม่ได้ต้องหันไปรับเอง”
“...................”
“รับสิครับ”
“...................” เดชัยมองลุ้นคนที่ยอมที่จะลุกขึ้นพร้อมกับปันณธร....หน้าน่ารักหันมองคนที่ยืนข้างกันเหมือนขอความมั่นใจ มือเล็กก็ยังจับชายเสื้อของพี่ชายใกล้ตัว....ก่อนที่จะค่อย ๆ ยื่นมารับช่อดอกไม้จากมือเขา....
“สวยไหมครับ”
“สวย” พูดแค่นั้น แต่แค่นี้เดชัยก็รู้สึกว่าชนะทุกอย่างแล้ว....พอได้ช่อดอกไม้ก็นั่งลงพร้อมกับดึงปันณธรให้นั่งลงด้วย....
“เด็ดไม่ได้ครับเอาไว้อย่างนี้แหละ พรุ่งนี้ค่อยไปเด็ดที่ไร่” ปันณธรบอกคนที่กำลังใช้มือหักกิ่งดอกไม้ออกมาจากช่อ เริ่มจะรู้สึกว่าเป็นคนชอบทำลายธรรมชาติมากกว่ารัก....แต่ถึงยังไงก็เป็นเด็กที่มีจิตใจอ่อนโยนอยู่ดี
“น้องบีพี่กลับก่อนนะ”
“..................” ดูทำท่าเข้า หันไปตีคิ้วให้เป็นการบอกว่า...ไปเหอะ....ทำเอาปันณธรแอบยิ้ม แสบจริงๆ หลอกเอาดอกไม้เขารึเปล่า...แต่อย่างน้อยก็ไม่กลัวแล้ว....เดชัยส่งยิ้มให้เขาก่อนจะเดินออกไป....จบแบบนี้คงดีกว่าจะจากกันด้วยน้ำตาล่ะมั้ง....
********************************************************
รถวิ่งเข้าไร่ปันณธรในตอนบ่าย ๆ ของอีกวันโดยคนตัวเล็กนอนหลับตั้งแต่บนเครื่องขึ้นรถมาก็หลับต่อ ก็เล่นตื่นแต่เช้าไปขลุกอยู่กลับคุณป๊าล่ำลากันซะเต็มปอดเลย....ให้ป้าสร้อยกลับมาดูแลที่ไร่เหมือนเดิม...
“น้องบีขา คิดถึงจังค่ะ”
“น้องบีก็คิดถึงมะปราง...น้องบีมีของฝากด้วย..” ลงไปคนในบ้านก็พากันเข้ามาหาคนตัวเล็กที่เดินสะลึมสะลือลงจากรถ พอมะปรางบอกว่าคิดถึงก็ทำตาโตทำเสียงอ้อน ๆ ว่าคิดถึงเหมือนกัน แต่ว่าของฝากได้ข่าวว่าปันณธรเป็นคนซื้อ....
พากันสาระวนอยู่พักใหญ่ก็พากันเข้าบ้าน...ส่วนปันณธรต้องไปดูงานที่อ๊อฟฟิศก่อนเพราะทิ้งไปหลายวัน คุณไหมโทรไปบอกว่าออร์เดอร์มาไม่ขาด แต่ทีมงานของเขาทุกคนก็เก่งๆ ทั้งนั้น....
“คุณปันคะ...ป้าสร้อยโทรมาบอกว่ามีแขกมาดูดอกไม้ค่ะ แล้วก็อยากพบคุณปันด้วย” ใยไหมที่รับโทรศัพท์เบอร์ส่วนกลางของอ๊อฟฟิศบอกเจ้านายตัวเองที่นั่งดูงานอยู่...ทั้งที่หูยังแนบโทรศัพท์จะได้บอกป้าสร้อยบอกว่าจะเอายังไง...
“ ป้าสร้อย! มีอะไรคะ! ป้าสร้อย...”
“อะไรใยไหม!!”
“คุณปันคะ น้องบี! น้องบีถูกจับตัวไปค่ะ!”
“....น้องบี!!...” ไม่ต้องรอถามอะไร ปันณธรวิ่งออกจากอ๊อฟฟิศ...ร้อนใจอย่างที่สุด เกิดอะไรขึ้นกับน้องบี...
“คุณปันคะ ฮึก คุณปัน!!”
“น้องบีอยู่ไหน!!”
“ไปแล้วค่ะ ไปแล้ว!!! ตอนนี้คนงานขับรถตามไปแล้ว ฮึก!!”
เอี๊ยดดด!!
“นทีบอกหมายเลขทะเบียนรถมา!!.. แล้วก็ระวังพวกมันรู้ตัวด้วย!!..” ใจร้อนเหมือนไฟเผา โกรธจนสั่นไปหมด พวกมันเป็นใครกัน ต้องอาศัยช่วงที่พวกเขากลับมา... ตามมาที่ไร่....หรือไม่ต้องเป็นพวกบ้าลัทธิเซียนปัญญาอ่อนนั่น...รถที่เหยียบจนมิดตั้งแต่ขับออกมาวิ่งตามถนนอย่างไม่ลดความเร็ว....
“คุณปันครับ!!”
“พวกมันไปไหน!” ถามหลังจากที่โทรติดต่อนที คนงานในไร่ว่ารถวิ่งมาทางไหน ก่อนจะมาจอดอยู่หน้าโกดังในเขตนอกเมือง...กำแพงสูงที่ล้อมตัวโกดังไว้...
“พาตัวน้องบีเข้าไปในโกดังนี้ครับ...”
แกร๊ก!!
“ใจเย็น ๆ ครับคุณปัน ดูท่าทีมันก่อน ผมว่ามันคงไม่ทำร้ายน้องบีหรอก เพราะถ้ามันจะทำคงทำตั้งแต่อยู่บ้านแล้ว” นทีเตือนเจ้านายทันทีที่อีกคนชักปืนออกมาเตรียมพร้อม...
“ผมรู้ แยกกันเข้าไป!” จบคำสั่งคนงาน 3 คนที่มีปืนพกทุกคนเพราะเป็นคนงานแล้วก็คอยรักษาความปลอดภัยในไร่ด้วย....กระจายตัวกันออกไปรอบ ๆ โกดังกลางเก่ากลางใหม่ ที่ด้านในมีรถไถฟร์อดจอดเต็มไปหมด...ถ้าไม่ผิดเขาพอจะรู้ว่าเป็นใคร....มันโง่เกินไปที่พาน้องบีมาซ่อนในที่ของตัวเอง
“คุณพ่อครับ ช่วยผมตรวจสอบหน่อย..ที่โกดังส่งออกปรีชารัตน์ครับ” วางโทรศัพท์จากพ่อตัวเอง... ที่ร้อนใจจนบอกว่าจะมาที่นี่เดี๋ยวนี้....แต่บอกไปแล้วว่าเชื่อฝีมือเขาได้...และให้ตรวจสอบและจัดการกับเจ้าของทางนั้นจะดีกว่า...
“แมร่งน่ารักว่ะ สมกับเป็นดอกไม้นำโชค”
“แกว่าพวกมันจะตามมาถูกไหม”
“ไม่น่าว่ะ เพราะตอนที่เข้าไปจับตัวไอ้เด็กนั่นมีแต่ผู้หญิงกับคนแก่...” ปันณธรหลบอยู่ข้างพุ่มไม้ใหญ่เมื่อได้ยินพวกมันคุยกันเดินออกมาประจำอยู่หน้าประตูใหญ่ของโกดัง....คงต้องจัดการให้เงียบที่สุด....
แซ็ก!!
“อะไรวะ มึงไปดูดิ” ก้อนหินก้อนใหญ่ถูกโยนไปอีกฟากเสียงหินกระทบกิ่งไม้ ทำให้สองคนนั้นสนใจและหนึ่งในนั้นก็เดินออกไป
“อ๊อก!! อือ!!”
“..................” ดึงร่างของไอ้ตัวช้างที่ตอนนี้สลบไปแล้ว....วิชาเทควันโด้ผสมศาสตร์ต่อสูแบบดิบๆ ในแบบเขา รวดเร็วและจู่โจมจุดตาย...แต่ก็เอาแค่สลบก็พอ...
“ไม่มีอะไรว่ะ ...เฮ๊ยมึงเป็นใครวะ!! อ๊อก!!”
“.................” จัดการลากอีกคนไปไว้ในพุ่มไม้ค่อย ๆ วิ่งเข้าไปอย่างระวังตัว....มองหาจุดพอที่จะซ่อนตัวได้ข้างโกดังนั่น... มองประตูเลื่อนขนาดใหญ่ก่อนจะมองซ้ายขวา...
“.......................” ยกมือให้สัญญาณ คนที่หาทางเข้ามาจนถึงตัวโกดังได้ให้กระจายไปรอบ ๆ ถ้ารวมตัวจะเป็นเป้าหมู่เกินไป...อย่างน้อย ๆ ทุกคนที่มาก็มีฝีมือกันพอดี...ก็คนเก่งอยากปลีกวิเวกเหมือนเขาที่แหละ....
“...น้องบี...” พูดกับตัวเองเบา ๆ มือหนากำแน่น เมื่อส่องตามรูที่เป็นรอยผุเล็ก ๆ ....ภาพที่เห็นคือน้องบีถูกมัดมือ และมีผ้าสีขาวมัดปากอยู่นั่งอยู่บนโซฟาขาด ๆ ที่ตั้งอยู่ด้านใน เห็นคนใส่สูท 3 คนยืนล้อมอยู่....มองจากตรงนี้ยังเห็นเลยว่าน้องบีกำลังร้องไห้....ยิ่งคิดว่าคนตัวเล็กนั่นจะกลัวและตกใจแค่ไหน ก็อยากจะพังประตูเข้าไปซะตอนนี้เลย....คงต้องเชือดไก่ให้ลิงดู สำหรับพวกลัทธิบ้า ๆ นั่น...ถึงจะเป็นเรื่องจริง แต่ให้รู้ไว้ อย่าบังอาจมาแตะ....
*** ต่อแล้วค่ะ ^^ ฝากอีกเรื่องด้วยนะคะ หวังจะชอบกัน หายไป วันสองวันไม่ต้องตกใจนะคะ ต่อจนจบแน่ ๆ ค่า <a href="
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38195.0"> ~ WARN ถ้าไม่รัก...จะร้าย!~ </a>