#Drama,SM |||||||||| A BOY |||||||||| Special ==When I was young [18/7/57] P.26
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

ชอบใครที่สุดใน A BOY

น้องต้า
79 (41.6%)
วิคเตอร์
21 (11.1%)
พี่จิม
64 (33.7%)
หมอเซม
22 (11.6%)
แซมแฝดน้องพี่หมอ
4 (2.1%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 163

ผู้เขียน หัวข้อ: #Drama,SM |||||||||| A BOY |||||||||| Special ==When I was young [18/7/57] P.26  (อ่าน 225469 ครั้ง)

ออฟไลน์ Minerva

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 269
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-2
ต๊ายยยยยย
 ดูเตอร์ยังไม่ชินกับต้าเวอรืชั่นนี้สะนะ
ตามอารมณ์ไม่ทัน จากที่ระแวงๆ นิ่งๆ กลายเป็นอ้อนขนาดนี้ น่ารั๊คอ่ะ//ทำเสียงแบบโก๋ตี๋
ระวังเหอะต้าจะโดนอีกที   :haun4:
หมอเมินต้าอ่ะ งอน!!

ออฟไลน์ Damon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-2
 :laugh: ทำไมอิชั้นรู้สึกเหมือนเตอร์ได้แล้วไม่แคร์วะ? ต้าก็เออเร่อนะ เล่นเอาเวียนหัว 55

รอค่ะ แต่งมันมาก แต่ไมเอาจิมนะ มันจิตมาก

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
ต้าดื้อมากกกก อยากตีสักเพี้ย พูดไม่รู้เรื่อง

ออฟไลน์ agava1313

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
มาทำโมเอะมาก เดี๋ยวเตอร์ก็จับกด(อีกรอบ)หรอก

ออฟไลน์ ~ณิมมานรฎี~

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1070
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-2
หมอเซมเพื่อนรัก รักเพื่อนอ๊ะป่าวววววว  :hao6:  รสนิยมนี่มาโซนะยะ  :hao7:



น้องต้าาาาาาาาา  มาสู่อ้อมอกอ้อมใจ๋แม่ยกทั้งหลายนะลูกนะ   :กอด1: :L2: :L1: :3123:

ออฟไลน์ KARMI

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-2
ถ้าความจำกลับมาจะกลายเป็นยังไงนะ

ออฟไลน์ Still_14OC

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2041
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-7
พี่หมอนี่ กุมความลับทุกคนหมดเลยนะ ว่าแต่ดิวเนี่ย มีปมอะไรกับพี่หมอป่ะ แบบว่าเค้าสะดุด ไอ้คำว่า

"ถ้าเป็นดิว ก็ไม่มีอะไรต้องกลัว เพราะยังไงซะ มันก็ไม่มีทางหวั่นไหว"

มันในที่นี้ คือ ดิว ?? เพราะถ้าเป็นจิม เค้าไม่สงสัยว่า ทำไมมันไม่หวั่นไหว

แต่ถ้าเป็นดิว ...  อิพี่หมอแกต้อง ซัมอะไะกับดิวมากกว่า รุ่นน้องคนสนิทแน่ๆ


แต่ยังไงเค้าก็รอคนแต่งนะ แบบว่า ถึงเนื้อเรื่องมันจะรันทดโหดร้าย S มันจะจูงมือมาพร้อม M เค้าก็รับได้เค้าไหว เค้าชอบบบบบบบ

ออฟไลน์ NNEW33

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 73
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
ตอนที่ 20 อาบน้ำ

นับตั้งแต่กลับจากโรงพยาบาลนี่ก็ผ่านมาสองวันแล้ว รู้สึกว่าชีวิตวนไปวนมาเวียนเป็นวัฎจักร ตื่นเช้ามาอาบน้ำแปรงฟัน กินข้าว เล่นกับเตอร์ เผลอแป๊บเดียวฟ้าก็มืดได้เวลาอาบน้ำอีกรอบ แล้วก็นอน

ก่อนนอนจะทะเลาะกับเตอร์ทุกวัน ก็เตอร์ชอบไล่ผมให้กลับไปนอนห้องตัวเอง แต่คนไม่ไปซะอย่าง อยากไล่ก็ไล่ไป ไม่สนหรอก

เหตุการณ์เป็นอย่างนี้ซ้ำๆ แต่ที่บ่นไม่ใช่ว่าผมไม่มีความสุขนะ มีความสุขสุดๆเลย  ถึงจะเบื่อไปบ้าง แต่ก็อยากให้เป็นอย่างนี้ทุกวัน ก่อนนอนเจอเตอร์ ตื่นเช้ามาก็เจอเตอร์เจอเป็ด ได้กินอาหารฝีมือพ่อกับแม่

พ่อผมก็ทำอาหารเก่งไม่แพ้แม่นะ อร่อยมากๆ เมื่อวานได้เข้าไปเล่นในสวนกับพ่อด้วย

วันนี้ผมก็ตามพ่อเข้าสวนอีก ไปตั้งแต่เช้าโดยไม่ลืมลากเตอร์กับแม่มาด้วย

ผมหยิบแซนวิสในกล่องที่แม่เตรียมมากัดกร้วม นั่งมองแม่กับพ่อกับเตอร์คุยกัน 

ทั้งสามคุยกันแต่เรื่องที่ผมไม่เข้าใจ ได้แต่มองคนนั้นทีคนนี้ที ปากก็แทะขนมปังไปด้วย  เมื่อไม่มีใครสนใจ ผมจึงแยกตัวออกมาแล้วตรงไปที่ชิงช้าที่พ่อทำให้

เล่นคนเดียวก็ได้

ทว่ายังเดินไม่ถึงดี สายตาก็สะดุดเข้ากับก้อนกลมๆที่นอนแผ่บนพื้นหญ้าเสียก่อน

รอยยิ้มจุดขึ้นที่มุมปาก ผมรีบรุดหน้าไปหามันแล้วนั่งยองๆมองใกล้ๆ 

มันเป็นหมาสีขาว หูสีน้ำตาล พุงพลุ้ยๆ

มันพลิกตัวนอนหมอบจ้องหน้าผมกลับพลางสะบัดหางไปมา ผมยื่นมือไปแตะหัวเล็กๆ มันก็แหงนหน้ามองตามแล้วกลิ้งตัวนอนหงายใช้ขาหน้าตะปบมือผม

ผมหัวเราะเบาๆรู้สึกจั๊กจี้มือข้างที่ถูกเลีย เสียงฝีเท้าหนักๆที่เดินมาข้างหลังทำให้ผมหันไปมอง

“นี่หมาใคร เลี้ยงได้มั้ย? มันน่ารัก”

เตอร์นั่งลงข้างๆผมแล้วยื่นมือไปลูบพุงพลุ้ยๆของหมาอ้วนกลม

“ลูกหมูปิ้ง”

คำตอบนั้นทำให้ผมหันไปมองหน้าเตอร์อย่างสงสัย

“ทำไมโตเร็ว”

ก็หมูปิ้งเพิ่งคลอดลูกวันก่อนๆๆเอง ทำไมวันนี้โตแล้ว หรือว่าเดี๋ยวนี้หมามีพัฒนาการก้าวกระโดด? 

“เมื่อไหร่เราจะเข้าใจอะไรสักทีหืม” มือหนาอีกข้างที่ไม่ได้จับหมายกขึ้นดีดหน้าผากผมดังเปรี้ยะ!

ผมยกมือลูบหน้าผากตัวเองป้อยๆ กำลังจะเอาคืน แต่ก็ต้องชะงักกับคำถามไม่มีปี่มีขลุ่ยที่คนตัวโตยิงมาเสียก่อน

“ตอนนี้พี่อายุเท่าไหร่?”

ผมใช้เวลานึกแป๊บนึงก่อนจะตอบ

“12 ..ใช่มั้ย”

เตอร์ยิ้มก่อนจะส่ายหน้า

“ตอนนี้พี่ 21 ครับ”

ผมเบ้ปากคิ้วขมวดชนกัน ทิ้งตัวนั่งขัดสมาธิบนพื้นหญ้าอย่างไม่กลัวเลอะ มือก็ลูบหัวหมาที่หลับตาพริ้ม ท่าทางจะเคลิ้ม

“ส่วนต้าก็ 18”

“9 ขวบ ไม่ใช่ 18”

เตอร์ถอนหายใจทันทีที่ผมเถียงกลับ  ใบหน้าคมคายดูกระอักกระอ่วน ทำท่าจะพูดอะไรสักอย่าง

 “ความจริงแล้วต้าอายุ 18 อยู่ม.6 ...ไม่ใช่ 9 ขวบอย่างที่คิด ต้ากำลังไม่สบาย” เตอร์หยุดพูดเพียงครู่ สูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วพูดต่อ “...พี่ขอโทษที่ทำให้ต้าเป็นอย่างนี้  ...แต่อีกไม่นาน เดี๋ยวน้องของพี่ก็หาย”

ท้ายประโยคเสียงทุ้มแผ่วเบา เตอร์หลุบตาต่ำไม่สบตาผม

ไม่ชอบเลยที่เตอร์เป็นแบบนี้

ผมยื่นสองมือประคองแก้มกร้านแล้วจับให้หันมามองหน้า

“ขอโทษทำไม เตอร์ไม่ได้ทำอะไรต้าสักหน่อย อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิ”

เมื่อผมพูดจบ สีหน้าเตอร์กลับดูแย่ยิ่งกว่าเดิม

ผมพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า?

“โอ๋ๆ ไม่ต้องเป็นห่วงนะ ก็เตอร์บอกเองว่าไม่นานเดี๋ยวก็หาย  ต้าจะยอมให้หมอน่ารักฉีดยาก็ได้ จะได้หายเร็วๆ” ผมเบ้หน้า แค่คิดว่าจะถูกฉีดยาก็เจ็บจี๊ดๆแล้ว ถึงหมอน่ารักจะเคยบอกว่าไม่ต้องฉีด แค่นอนเฉยๆให้หมอรักษา แต่ผมไม่เชื่อหรอก หมอชอบโกหก

แต่ถ้าฉีดยาแล้วทำให้หายเร็ว ..ถ้าหายแล้วเตอร์ไม่ทำหน้าแบบเมื่อกี้อีก ผมยอมเจ็บก็ได้

ผมคลี่ยิ้มกว้างเมื่อเห็นรอยยิ้มเล็กๆที่ริมฝีปากหยักลึก

ผมชอบยิ้มแบบนี้ของเตอร์มากกว่าที่เตอร์ทำหน้าจะร้องไห้แบบเมื่อกี้

เอ๊ะ..

อะไรเล่า!?

ผมขมวดคิ้วจิ๊ปากอย่างขัดใจก่อนจะละมือออกจากแก้มเตอร์แล้วหันมามองไอ้ตัวที่กำลังแทะรองเท้าผมอยู่

มือที่กำลังจะยื่นไปบี้หูสีน้ำตาลของมันชะงักค้างเมื่อความคิดดีๆผุดเข้ามาในหัว

“เตอร์”

“หืม”

“อาบน้ำกัน”

เตอร์ตีสีหน้ายุ่งยาก  แต่ผมไม่รอให้คนตัวโตปฏิเสธ รีบออกคำสั่งทันที

“เตอร์ไปหยิบแชมพูมา เดี๋ยวต้าจะอุ้มพุงพลุ้ยไปเอง”

รู้สึกขัดใจที่เห็นเตอร์ยังนั่งเฉย

“เร็วๆสิ” เร่งไปอีกหน่อยเผื่อจะมีปฏิกิริยาอะไรบ้าง คนตัวโตส่ายหัวไปมา คงจะเหนื่อยใจที่ผมหางานให้ทำ แต่ทำไงได้ ก็อยากอาบน้ำให้พุงพลุ้ย ดูสิ ตัวมอมแมมหมดแล้ว

ผมรู้ว่ามันก็คงรำคาญตัวไม่น้อยที่ขนขาวๆมีแต่คราบดิน คราบโคลน ขนาดผมแค่มอง ผมยังรำคาญเลย!

อยากกอดอยากฟัดนี่ อยากรู้ว่าหมาตัวเป็นๆจะนิ่มเท่าน้องเป็ดหรือเปล่า

ผมเบ้ปากก่อนจะยืนขึ้นแล้วฉุดมือหนาให้ลุกขึ้นตาม ผมออกแรงเย่อจนตัวโน้มไปด้านหลังโดยที่เท้ายังจิกพื้นแน่น เตอร์รีบดึงแขนผมไว้ด้วยกลัวผมจะล้มก้นจ้ำเบ้าก่อนจะยอมยืนขึ้นแต่โดยดี

“หาเรื่องซนได้ตลอด” มือหนาเขกหัวผมแรงๆหนึ่งทีก่อนจะเดินไปเตรียมอุปกรณ์

ผมยิ้มอย่างสมใจ แล้วนั่งยองๆจ้องตากับหมาตัวกลมที่มันก็นั่งมองผมแล้วแลบลิ้นแผล่บๆ

“อาบน้ำกันนะ” ยื่นนิ้วไปแตะจมูกมัน ซึ่งพุงพลุ้ยก็เงยหน้าขึ้นพยายามจะงับนิ้ว ผมรีบชักมือกลับ

ผมจะเรียกมันว่าพุงพลุ้ย ก็พุงมันใหญ่ พลุ้ยๆ เรียกอย่างนี้น่ารักดี

“อุ้มนะ” ผมบอกมัน ซึ่งเจ้าหมาตัวขาวหูน้ำตาลเอียงคอน้อยๆ ผมจะคิดว่านั่นคือคำตอบรับจากมันก็แล้วกัน

“อุ้มแล้วนะ ห้ามกัดด้วย!” ชี้นิ้วสั่งมันอีกครั้ง ซึ่งมันก็ยืนสองขาแล้วหมุนวนรอบตัว ผมหัวเราะอย่างถูกใจก่อนจะฉวยอุ้มลูกหมาขึ้นมา

หนักอ่ะ.. หนักพุงแน่เลย!

ผมอุ้มมันให้ไกลตัวเล็กน้อย ไม่ใช่ว่ารังเกียจนะ แค่ไม่ชอบ รอให้อาบน้ำตัวหอมฟุ้งก่อนเถอะ! จะกอดจะฟัดให้หนำใจเลย!! ตอนนี้ตัวมันเลอะ มีแต่คราบดิน ขนขาวๆก็ไม่น่าจับสักเท่าไหร่ แข็งกระด้างไปหมด  ไม่น่ารักเลย!

“โฮ่งง!”

หมาตัวกลมตะกายจะลงจากแขนผมเมื่อเดินผ่านโต๊ะที่พ่อกับแม่นั่งคุยกันอยู่  ผมรีบกระชับกอดมันแน่น ไม่กลัวเสื้อเลอะแล้ว ยังไงๆก็ไม่ปล่อยให้มันลงหรอก

ผมนิ่วหน้าเมื่อเริ่มรู้สึกเจ็บทั่วลำแขนเมื่อพุงพลุ้ยดิ้นไม่หยุด ตัวเล็กแค่นี้ทำไมแรงมันเยอะจัง!!

“อย่าดิ้นสิ!” เผลอพูดเสียงดังใส่อย่างอดไม่อยู่

สิ้นเสียงผม ก้อนกลมๆในอ้อมแขนก็ชะงักทันที มันก้มหน้าก้มตาเลียมือผมอย่างประจบ ผมยังหน้าบึ้งไม่หาย นี่ถ้าไม่เห็นว่าน่ารักจะตะกุยคืนให้เจ็บเลย!

“ไอ้แสบ นั่นจะทำอะไรน่ะ” เสียงพ่อดังขึ้น ทำให้ผมหันไปมอง นัยน์ตาหลังกรอบแว่นมองผมที มองพุงพลุ้ยที

ผมค่อยๆคลายคิ้วที่ขมวดเป็นปมกลางหน้าผากแล้วเดินไปหาพ่อกับแม่

“ต้ากับเตอร์จะอาบน้ำให้พลุ้ย ตัวมันเลอะ มันบอกว่าอยากอาบน้ำ ไม่สบายตัว” ผมพูดจ้อยๆ ทว่าตาก็มองไส้กรอกชิ้นพอดีคำที่วางบนโต๊ะ

ได้ยินเสียงแม่หัวเราะเบาๆแล้วก็มีไส้กรอกมาจ่อปาก

ผมอ้าปากงับไส้กรอกแล้วยิ้มตาหยีให้แม่แทนคำขอบคุณ

“โฮ่ง!”

พุงพลุ้ยเห่าเสียงดัง หันมามองผมที มองไส้กรอกทีตาละห้อย ลิ้นเล็กๆตวัดเลียรอบปากตัวเอง

“แม่ พลุ้ยหิว ป้อยพลุ้ยด้วยสิครับ” ผมพยักเพยิดไปยังไส้กรอกอันนั้น แม่ส่ายหัวไปมาก่อนจะใช้ส้อมจิ้มแล้วใช้มือหยิบออก บิเป็นสองส่วนแล้วป้อนพลุ้ยถึงปาก

มันแลดีใจรีบรับเข้าปากทันที

เห็นหมากินท่าทางเอร็ดอร่อยผมก็มีความสุข

นั่งไปนานๆก็ชักจะเมื่อย ขี้เกียจลุกแล้วแฮะ ผมลูบหัวพุงพลุ้ยไปพลางก็มองมันกินไปพลาง

น่ารักอ่ะ กินไม่หยุดเลย

ถ้าผมขอพ่อกับแม่ให้พลุ้ยไปนอนกับผมด้วย พ่อกับแม่จะว่าอะไรมั้ยนะ  ถ้าได้นอนกับพลุ้ย ผมจะไม่ไปนอนกับเตอร์อีกเลย จะปล่อยให้นอนคนเดียว เตอร์จะได้รู้ว่าการไม่มีผมนอนเป็นเพื่อนจะรู้สึกยังไง! ชอบไล่ผมดีนัก

“ห้ามเอาหมาเข้าบ้านเด็ดขาด เข้าใจมั้ย”

ง่ะ.. มือที่กำลังลูบหัวนิ่มๆอยู่ชะงักทันทีที่เสียงพ่อดังไล่ความคิดผมมาติดๆ  พ่อรู้ได้ไงว่าผมคิดจะทำอะไร

กำลังอ้าปากจะโต้ แต่ก็มีเสียงตะโกนขัดขึ้นเสียก่อน

“ต้า!”

ผมหันไปมองหน้ามุ่ย เห็นเตอร์ยืนเท้าเอวมองผมด้วยหน้าที่มุ่ยกว่าหลายเท่า ทำให้ผมยิ้มเหยๆ นึกขึ้นได้ทันทีว่าลืมอะไร นั่งเพลินไปหน่อย

“โฮ่งๆ” พุงพลุ้ยเห่าประท้วง มันรีบงับไส้กรอกจากมือแม่แล้วเคี้ยวกร้วมๆโชว์เตอร์  ผมหัวเราะที่เห็นเตอร์หน้าบูดเป็นตูดเป็ด! มือหนาข้างหนึ่งถือสายยาง จับไว้ให้น้ำตกลงสู่กะละมังใบใหญ่ มือหนาอีกข้างถือแชมพู ท่าทางเตรียมพร้อมมากอะ ฮ่าๆ

“เดี๋ยวต้ามานะ เหลือไส้กรอกไว้ให้ต้าด้วย”

พ่อหัวเราะเบาๆก่อนจะแกล้งจิ้มใส่กรอกเอาใส่ปากแล้วเคี้ยวยั่ว

“ห้ามหมดด้วยยยยย!!” ผมคาดโทษพ่อก่อนจะรีบลุกขึ้นโดยที่มือก็อุ้มก้อนกลมๆไปหาเตอร์

“วางมันลงในกะละมังสิ” เตอร์เร่งยิกๆ ผมก็ค่อยๆวางพุงพลุ้ยลงอย่างเก้ๆกังๆ

ทันทีที่ตัวมันอยู่ในน้ำก็สั่นงั่นงก ผมเบ้หน้านั่งยองๆใกล้ๆมัน มือก็จับมันไว้แล้วคอยลูบปลอบประโลม ได้ยินเสียงครางหงิงๆในลำคอด้วย ผมเงยหน้ามองเตอร์ก็เห็นเตอร์ตีหน้าเรียบเฉย

“มันหนาวมั้ย?”

ผมยิ่งเบ้ปากหนักกว่าเดิมเมื่อไม่มีคำตอบกลับมา เตอร์ยักไหล่ด้วยท่าทางกวนโอ๊ยก่อนจะฉีดน้ำลงบนตัวพุงพลุ้ยเต็มๆ

“โฮ่งๆๆๆๆ” มันเห่าเสียงดังไม่หยุด ตัวสั่นยิ่งกว่าเดิม

“เตอร์! มันหนาว!”

ผมทำท่าจะอุ้มพุงพลุ้ยออกจากกะละมัง แต่เตอร์กลับทำตาดุใส่จนไม่กล้าอุ้ม

“ก็รีบๆอาบสิ มันจะได้ไม่หนาว มัวแต่ชักช้าเดี๋ยวมันได้หนาวตายกันพอดี”

ผมสะอึก..

หนาวตาย...

ตายเลยเหรอ!?

แค่อาบน้ำนี่ถึงกับตายเลยเหรอ!!

น้ำตาเริ่มคลอหน่วย ไม่น่าให้พุงพลุ้ยอาบน้ำเลย! แต่ยังไม่ทันได้คิดอะไรต่อผมก็รู้สึกถึงความเปียกซ่กไปทั้งตัวเมื่อพุงพลุ้ยสะบัดน้ำกระเด็นเลอะหน้าผมเต็มๆ!!

ผมกัดฟันกรอดก่อนจะยกมือปาดน้ำออกจากหน้า หูได้ยินเสียงเตอร์หัวเราะเยาะอยู่เหนือหัว!

ผมตวัดสายตาส่งค้อนวงโตฟาดหน้าเตอร์ก่อนจะชี้นิ้วใส่หน้าพุงพลุ้ย เอื้อมหยิบแชมพูแล้วละเลงลงบนตัวมันทันที!

ไม่ต้องมาร้องหงิงๆเลย!! ตัวสั่นทำไม!! ไม่สน ไม่สงสารแล้ว!!

ผมขยี้ฟองลงบนขนขาวๆจนฟองฟ่อดเอาคืนที่มันทำผมเปียก! เหมือนพุงพลุ้ยก็ไม่ยอม  มันดิ้นพล่านสะบัดตัวจะหนีออกจากอ่าง

ผมตกใจรีบคว้าตัวมันกอดไว้แน่นก่อนจะยัดมันลงอ่างแล้วกดหลังมันไว้ ผมเงยมมองคนที่ถือสายยางคอยฉีดน้ำใส่หมาอย่างเคืองๆ

“ช่วยกันสิ!”

เตอร์ยิ้มกว้างแล้วส่ายหน้า

เจ็บใจอะ!

ทำไมผมต้องเปียกต้องเลอะอยู่คนเดียว!!!

“อย่าดิ้น!!!” ผมหันไปตะคอกพุงพลุ้ยเสียงดังเมื่อมันขยับตัวยุกยิกไม่อยู่สุข จะตะกายออกจากอ่างให้ได้!

ทันทีที่สิ้นเสียง หมาตัวกลมก็หยุดนิ่ง ยอมนั่งในอ่างดีๆ ไม่หือไม่อืออีก

เตอร์เห็นอย่างนั้นก็หัวเราะอีกระรอกใหญ่

ขำอะไรเล่า!?

ผมวักน้ำในอ่างที่มีพุงพลุ้ยนั่งอยู่สาดใส่เตอร์เต็มๆ ร่างสูงหยุดยืนแข็งค้างเหมือนรูปสลักก่อนจะใช้นิ้วขวางกลางรูของสายยางแล้วฉีดน้ำใส่ผมเต็มๆ!

“อ้ากกกก เตอร์!! หยุด!!!!” ผมหวีดร้องลั่นหันหลังให้ ไอ้พี่เตอร์นิสัยไม่ดีชอบแกล้ง!!

ผมได้แต่ดิ้น หน้ากดชิดหัวเข่า เบี่ยงหน้าหนีวิถีน้ำ ไม่ให้น้ำเข้าหู อยากจะลุกหนีก็ทำไม่ได้ มือต้องคอยจับไอ้ตัวอ้วน ไม่จับเดี๋ยวมันได้กระโจนออกมาแน่ๆ! ไอ้หมาตัวอ้วนก็รู้ดีเหลือเกิน ดิ้นไม่หยุดเลย!

“โฮ่งๆๆๆ” พุงพลุ้ยเห่าเสียงดัง พลันกระโดดไปมา

“ฮ่าๆๆๆ” เตอร์ก็หัวเราะดังลั่น ฉีดน้ำใส่หลังผมไม่หยุด

ไม่หยุดใช่มั้ย... ไม่หยุด...!!

“พ่ออออ!! เตอร์แกล้ง!!!!!!!!!!”  ผมงัดไม้ตายตะโกนร้องหาตัวช่วยพลางหันไปทางฝั่งที่พ่อกับแม่นั่งอยู่!

พ่อหันมาตามเสียงเรียก  ก่อนจะ...

“วิคเตอร์!!!” น้ำเสียงมีอำนาจ แม้จะพูดจากที่ไม่ใกล้นักแต่ก็ทำให้อดยำเกรงไม่ได้

ผมลอบยิ้มกับตัวเองแล้วหันไปทำท่าขึงขังกับเตอร์ ที่พอสิ้นเสียงพ่อมือหนาข้างนั้นก็ลดสายยางลงแทบไม่ทัน

สะใจ!! พ่อเข้าข้างผม!

เตอร์ทำปากบ่นขมุบขมิบแล้วหันไปฉีดน้ำใส่พุงพลุ้ยที่ครางหงิงเมื่อโดนน้ำเข้าไปอีกระลอก

แบบนี้เขาเรียกว่าแพ้แล้วพาลใช่มั้ย? ทำอะไรผมไม่ได้ก็ไปลงที่หมา!

“ไม่เห็นเหรอไงว่ามันหนาว รีบๆอาบเข้าสิ อย่ามัวแต่เล่น”

ผมอ้าปากค้างเงยหน้ามองเตอร์อย่างอับจนคำพูด

ใครกันที่มัวแต่เล่น ไม่ลงมาช่วยกันเลย!

“ก็ลงมาช่วยกันสิ!”

เตอร์ยักไหล่ ผมได้แต่ขบเคี้ยวเขี้ยวฟัน รู้สึกอยากกระทืบเท้าใหญ่ๆนั่นเสียหลายที เตอร์กวนอะ!

“ไอ้พี่เตอร์!!” ผมแหวลั่นเมื่อคนตัวโตยังยืนเฉย ยิ่งเห็นรอยยิ้มบนริมฝีปากก็ยิ่งเจ็บใจ!

“จะฟ้องพ่อ!!!” ผมเบะปาก งัดไม้ตายมาใช้อีกรอบ

“ดุจริง กินช็อกโกแลตบ่อยใช่มั้ย ถึงได้ดุขนาดนี้” เตอร์เดินไปปิดน้ำก่อนมือหนาสองข้างจะละเลงหัวผมจนยุ่งไปหมด!

มันว่าผมเป็นหมา!! ไอ้พี่นิสัยไม่ดี!

ผมละมือข้างหนึ่งจากพุงพลุ้ยแล้วเอื้อมจับมือหนาที่วางบนหัวผม กระชากลงมาอ้าปากจะกัด! แต่มือหนาของเตอร์อีกข้างก็ดันหน้าผมจนหงาย

“หยุดเลย มัวแต่เล่น หมาหนาวหมดแล้ว ไม่สงสารมันหรือไง” เตอร์พูดพลางใช้มือที่ดันหน้าผมบีบแก้มผมแรงๆแล้วยิ้มยียวน

ผมฮึดฮัดมองคนที่นั่งลงฝั่งตรงกันข้ามแล้วขยี้ขนหมาอย่างอารมณ์ดีด้วยความเจ็บใจ

“โอ๋ๆ เจ็บใช่มั้ย ต้ามันหนูขยี้แรงใช่มั้ย” เตอร์มันจับหมาให้หันหน้าเข้าหาตัวเองแล้วพูดกับหมางุ้งงิ้งอยู่สองคน

ผมเบะปาก เตอร์ใส่ร้ายผมให้หมาฟัง!

“ตัวเองนั่นล่ะ ทำหมาแรง นิสัยไม่ดี เนอะ” ผมก็ไม่ยอม ย้ายตัวเองไปอยู่ตรงหน้าหมาแล้วพยักพเยิดกันสองคนแล้วเขี่ยเตอร์ออกไปไกลๆ

“หึๆ” เสียงทุ้มหัวเราะต่ำในลำคอ ผมหันไปมองขวับ คนตัวโตก็ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้มองไปทางอื่นเสียอย่างนั้น

ผมเบะปากก้มหน้าก้มตาขยี้ขนขาวๆ ตัวอ้วนก็ครางหงิงในลำคอไม่หยุด แต่มันไม่ดิ้นแล้ว ยืนเฉยปล่อยให้อาบน้ำแต่โดยดี

“พอๆ แค่นี้ก็สะอาดแล้ว” เสียงทุ้มขัดขึ้นก่อนจะเปิดน้ำแล้วล้างฟองด้วยน้ำสะอาด

ผมยื่นมือไปล้างน้ำแล้วถอยออกมามองดูท่าทีแข็งขันของเตอร์ห่างๆ

“แป๊บนึงนะ เดี๋ยวก็เสร็จแล้ว” ผมพูดปลอบเมื่อเห็นหมาหน้าเศร้า(?) เสียงครางหงิงยิ่งดังมากกว่าเดิม

เตอร์ยกหมาขึ้นด้วยท่าทางทะมัดทะแมงแล้วปิดน้ำก่อนจะห่อตัวมันด้วยผ้าขนหนูผืนโต ผมรีบเข้าไปใกล้แล้วยื่นมือจะขออุ้ม

“ไม่ให้ ตัวเราเปียก ไปอาบน้ำก่อนเดี๋ยวไม่สบาย อาบเสร็จแล้วจะให้เล่น ตกลงมั้ยครับ?”

ผมหงอย ได้แต่ลูบหัวพุงพลุ้ยเบาๆ ลิ้นเล็กสีชมพูเลียมือผมกลับ

อยากเล่น...

“ห้ามดื้อ”

“อื้ม ไม่ดื้อ แต่เตอร์ต้องพาพุงพลุ้ยไปบ้านด้วยนะ เอามันไปเป่าตัวด้วย พอต้าอาบน้ำเสร็จจะได้เล่นกับมันเลย”  ผมพูดยาวยืด ซึ่งเตอร์ก็ตอบรับอย่างว่าง่าย

ผมยิ้ม ดึงชายเสื้อเตอร์แล้วลากให้กลับบ้านด้วยกัน

“อ้าว จะกลับกันแล้วเหรอ?” พ่อทักขึ้นตอนที่ผมเดินผ่าน ผมจึงเดินไปหาแล้วจิ้มไส้กรอกกินโดยแบ่งให้พลุ้ยกินด้วย

“น้องตัวเปียก เตอร์จะให้อาบน้ำ กลัวไม่สบาย” เป็นเตอร์ที่ตอบแทน พ่อก็พยักหน้าเออออทำท่าลุกขึ้นตาม

“นี่ก็เย็นแล้ว กลับกัน่ให้หมดนี่ล่ะ” พ่อพูดพร้อมกับจัดเก็บข้าวของ ผมรีบยึดจานไส้กรอกมาถือครองแล้วป้อนตัวเองบ้าง หมาบ้างอย่างอร่อย

เราสี่คน เตอร์ ผม พ่อกับแม่พากันเดินกลับบ้าน พร้อมหมาอีกหนึ่งตัว

แรกๆผมก็กินไส้กรอกด้วย แต่ไปๆมาๆมันเริ่มเหลือน้อย ไอ้อ้วนพุงกลมก็ประท้วง ส่งเสียงเห่าตอนที่ผมกำลังจะส่งไส้กรอกเข้าปากตัวเอง ไม่ให้ผมกินซะงั้น เตอร์หัวเราะร่วน ผมเลยต้องเปลี่ยนมาป้อนมันคนโดยปริยาย

พ่อกับแม่ที่เดินตามหลังก็คุยกันกระหนุงกระหนิงถึงเมนูอาหารเย็น

ผมคลี่ยิ้มกว้าง หัวใจพองฟูด้วยบรรยากาศอบอุ่นที่รายล้อมรอบตัว

.

.

ใช้เวลาอาบน้ำไม่นาน เพราะว่าอยากเล่นกับพุงพลุ้ยเร็วๆ ผมจึงรีบอาบแล้ววิ่งออกมา สลัดผ้าขนหนูลงตะกร้าหน้าห้องน้ำพลันวิ่งหาเสื้อผ้าชุดใหม่

เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ก็รีบวิ่งตึงตังลงมาข้างล่างอย่างรวดเร็ว

ทว่าขาที่กำลังจะลงบันไดกลับชะงักค้างเมื่อหูได้ยินเสียงพูดคุยที่ดังมาจากห้องนั่งเล่น

นั่นใครกำลังพูด

เสียงไม่คุ้นหู

ไม่ใช่เสียงพ่อ แม่ เตอร์…

ผมขมวดคิ้วก่อนจะก้าวลงมา ทว่าเมื่อลงมาถึงตีนบันไดผมกลับชะงักอยู่ตรงนั้น

ที่ห้องนั่งเล่น ไม่ได้มีแค่พ่อ แม่ เตอร์ แต่มีชายแปลกหน้าอีกคน...

ไม่ใช่แปลกหน้า คุ้นหน้าแต่ไม่คุ้นเคย

ผมลอบมองเขาเงียบๆอยู่ตรงนั้นก่อนจะสะอึกเผลอผงะถอยหลังเมื่อเขาหันมาประสานสายตากับผม!

ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่ากับนัยน์ตาคู่นั้น.. อยู่ๆก็รู้สึกขนลุกวาบไปทั้งตัวเมื่อเขากระตุกยิ้มมุมปาก

เขาเอาแต่จ้องผม!  จ้องจนผมประหม่าและรู้สึกเกร็งจนก้าวขาไม่ออก

เตอร์ที่นั่งหันหลังให้ผมคงจะสังเกตเห็นว่าแขกผู้มาเยือนมองนิ่งที่เดียวเป็นนานสองนานจึงหันหลังมา  ผมผละสายตาจากเขาและสบตากับเตอร์

สีหน้าเตอร์ ดูไม่ดีเลย..

ทำไม เกิดอะไรขึ้น..

 



_________________________________________________________

TALK:: ขอบคุณเม้นท์ค่าาาา
บางคนระแวงตัวละคร ฮา เด็กๆในเรื่องไม่ได้น่าระแวงขนาดนั้นหรอก (เหรอออ)
มีคนถามหาพี่จิม แต่ก็มีคนที่ไล่มัน กร้ากกกกกกกกก ฮา

พาร์ทนี้ได้กลิ่นอะไรแปลกๆมั้ย?? คึคึ (มาหย่อนระเบิดลูกเล็กๆ)
ไว้เจอกันใหม่พาร์ทหน้าค่าาา เปิดเทอมแล้วอาจจะลงช้าหน่อยนะคะ  :กอด1:

ออฟไลน์ Chichi Yuki

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1584
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-3
^
^
^
จิ้มก่อนอ่าน

........................

คนที่ต้าเห็นใช่จิมคนที่ข่มมขืนต้าหรือเปล่าหว่า
เพราะจำได้ลางๆ ว่าต้าเคยเปรียบเทียบพี่จิมกับจิมอีกคน

ปล.ฮุฮุ เดาแหลกเลยเรา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-06-2013 15:24:07 โดย Chichi Yuki »

ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6
กินมาม่าตอนท้ายยย  :katai1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: |||||||||| A BOY |||||||||| ---ตอนที่ 20 อาบน้ำ [8/6/56] P.8
« ตอบ #219 เมื่อ: 08-06-2013 16:08:03 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Lemon_Tea

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-2
ไม่ระแวงตัวละคร แต่หวั่นใจ (ต่างกันตรงไหน)
แล้วใครล่ะนั่น คนที่มาน่ะ
จิม?

ออฟไลน์ raviiib❁

  • คนเขียนนิยาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 367
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1
มาม่ายาวสินะค่ะ กินจนอืดค่าาาา!!

บอกตรงๆเปิดเรื่องมาถึงกับเงิบ สงสารน้องT0T
มันเริ่มทะแม่งตรงพี่เซมแกหงุดหงิดเวลาพี่จิมห่วงน้อง
สะดุดตรงที่พี่แกบอกว่าผมเป็นคนฉุดมันขึ้นมาจากนรก มันเป็นของผม อะไรสักอย่าง
อย่าบอกนะค่ะว่าเมะจะกดเมะด้วยกันเอง=_=
#เฮ้ยหรือพี่แกหมายถึงน้อง!?!?!?

มาถึงตอนปัจจุบัน เริ่มเกลียดนังเตอร์ขึ้นมาเรื่อยๆ...
แกมันเลวววววว กรี้ดดดดดดดดดดดดด :fire:
และแล้วระเบิดลูกใหม่ก็มา เดาว่า เป็นคนที่ยุให้นังเตอร์ข่มขืนน้องค่ะ
เดามั่วมากจ้ะแกร์555555555555

รอตอนหน้านะค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่า :กอด1:

ออฟไลน์ Damon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-2
บอกได้คำเดียวว่า ตื้บ ค่ะ 555
ไม่ใช่จิม? แซม? มั่วและ
เกลียดจิม หมั่นไส้เตอร์ ทำไมอ่านไปบางทีรู้สึกว่า เตอร์ไม่สำนึกเลยวะ? มันแกล้งน้องซะ
อิพี่จิมก็เดินเข้ามาสู่ขอต้าเถอะบอกไปเลยว่า 'ผมข่มขืนน้องเองครับ และความจำน้องสับสนก็เพราะผม' ให้เตอร์มันเงิบไปเลย  :laugh:

ออฟไลน์ august_may

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 998
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
ต้นตอนบรรยากาศครอบครัวสุขสันต์มาก แต่ทำไมพอจบตอนมันหักมุมเหมือนได้กลิ่นมาม่า? เฮ้ยย ดราม่า

ปล.ยังคงคิดถึงพี่จิมกับพี่เซมอยู่เสมอ ถึงร้ายก็รักนะคะ

ออฟไลน์ Still_14OC

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2041
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-7
ไอ้ พี่ จิม แน่ แน่

ออฟไลน์ Roman chibi

  • Death is not the end. Death can never be the end. Death is the road. Life is the traveller. The soul is the guide.
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-3
ได้กลิ่นมาม่ารสต้มยำกุ้งน้ำข้นอ่ะ 55  :hao7: :hao7:  :hao6:

ออฟไลน์ makilu

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 117
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
 :z3:เห็นแววอิ่มมาม่าอีกแล้ววววววววววว//โหยหวน

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
ใครอ่ะ  :ruready :m28:

ออฟไลน์ KARMI

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 920
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-2
 :katai1: ใครกัน

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3306
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
ใครงะ พี่จิมหรอ เอาแล้วไงละน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






koronekojung

  • บุคคลทั่วไป
 :katai5: :katai5:
อยากอ่านต่อ  คนคนนั้นคือผุ้ใด ~ 

ต่อเร็วๆน๊ะค๊ะ
เป็นกำลังใจให้น้อ~

ออฟไลน์ Chichi Yuki

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1584
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-3
เดินเข้ามาเงียบๆ ค่อยๆ ปูเสื่อ ตบปุๆ ให้เสื่อเข้าที่เข้าทาง นั่งลงบนเสื่อ เอามาม่ามาซด *** มาม่าหมด ยกมือหาว มองดูรอบๆ ไม่เห็นใครก่อนจะเอนตัวนอนหลับคาเสื่อ
มาปูเสื่อรอคนเขียนจนหลับแล้วคนเขียนก็ยังไม่มา T^T คิดถึงลูกต้า

ออฟไลน์ NNEW33

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 73
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
ตอนที่ 21 ข้อเสนอ


แม่กับพ่อที่นั่งบนโซฟาอีกตัวซึ่งหันข้างให้ผมค่อยๆหันมามอง แม่คลี่ยิ้มบางๆแล้วเอ่ยเรียก

“ต้า มานี่สิลูก”

ผมคลายคิ้วที่ขมวดเป็นปมแล้วเดินไปหาแม่อย่างว่าง่าย ใบหน้าก้มต่ำมองพื้นตลอดทุกย่างก้าว รู้สึกประหม่าจนทำตัวไม่ถูก ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเวลาเดินต้องกวัดแกว่งมืออย่างไรถึงจะเป็นธรรมชาติมากที่สุด  เรื่องง่ายๆเพียงแค่นี้ผมกลับลืม.. ลืมไปหมดเมื่อสายตาคู่นั้นของเขาจับจ้องผมตาไม่กระพริบ

ผมค่อยๆทรุดตัวนั่งข้างเตอร์บนโซฟาฝั่งตรงข้ามกับเขาแล้วกระเถิบเข้าไปเสียชิดราวหาที่กำบัง สองมือประสานวางบนหน้าตักอย่างประหม่า เหงื่อเย็นๆเริ่มไหลซึมออกมาตามขมับ

ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า ..แม้ผมจะก้มหน้าตลอดเวลา แต่ผมกลับยังรู้สึกได้ถึงสายตาคู่นั้น

อะไรกัน.. ทำไมบรรยากาศมันตึงเครียดขนาดนี้

“เมื่อกี้ที่เราคุยค้างไว้ คุณหมอหมายความว่ายังไงคะ” เป็นแม่ที่ถามขึ้นทำลายความเงียบ

หมอ?

ผมค่อยๆเงยหน้าขึ้นอย่างขลาดกลัว เมื่อเห็นว่านัยน์ตาคู่นั้นไม่ได้จับจ้องมาที่ผมก็ให้รู้สึกโล่งอกอย่างบอกไม่ถูก

หูผมคอยเงี่ยฟังบทสนทนา ทว่าสายตากลับลอบมองเขาเงียบๆ

ใบหน้าเขาคุ้นตาผมมาก เหมือน... เหมือนพี่หมอ เพียงแต่เขาผมยาวกว่า ผมสีดำสนิทถูกรวบไปด้านหลัง เผยให้เห็นโครงหน้าที่เหมือนกันไม่ผิดเพี้ยน

ใบหน้านั้นดูเคร่งเครียดระคนจริงจังยามที่หันไปคุยกับแม่ แตกต่างจากที่ผมเห็นเขาแวบแรกตอนที่กำลังลงบันได

ตอนนั้น หน้าตาเขาดูแฝงเลศนัยน์อะไรบางอย่าง ไม่น่าไว้ใจ

ถึงหน้าตาเขาจะเหมือนกับพี่หมอราวกับเป็นคนๆเดียวกัน แต่ความรู้สึกที่ได้อยู่ใกล้ชิดกลับต่างกันคนละขั้ว

คนๆนี้.. ไม่ใช่พี่หมอ

ยังไม่ทันที่ผมจะได้พินิจคนตรงหน้าไปมากกว่านี้ เสียงทุ้มก็ดึงความสนใจผมให้กลับมารับฟังสิ่งที่เขากำลังจะพูด

“ผมได้ลองกลับไปค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติม พบว่าเคยมีคนไข้ที่มีอาการเหมือนน้องต้า เราสามารถใช้คนไข้รายนี้เป็นกรณีศึกษาได้ครับ ถึงแม้ว่าความจำของน้องจะลับมาเป็นปกติได้เอง แต่หากทางครอบครัวอยากให้ความจำน้องกลับมาเร็วขึ้น ผมมีความเห็นว่า น้องควรได้รับการรักษาอย่างใกล้ชิด”

เขาพูดเนิบนาบอย่างใจเย็นพลางยิ้มละมุนตบท้าย

ผมจ้องมองรอยยิ้มนั้นพลางมุ่นคิ้วชนกัน ความจริงที่ผมเพิ่งได้ค้นพบอีกอย่าง รอยยิ้มเขาก็เหมือนพี่หมอ ทุกอย่างเหมือนพี่หมอหมด ยกเว้นทรงผมและกลิ่นอาย..

ผมผงะเบิกตาโตเมื่อเขาหันมามองผม!

!!!

ผมรีบเสตามองไปทางอื่น แสร้งให้ความสนใจกับกระถางต้นไม้ที่วางอยู่บนขอบหน้าต่าง เผลอบีบมือตัวเองแรงขึ้นเมื่อคล้ายหูแว่วได้ยินเสียงหัวเราะต่ำในลำคอที่ดังมาจากฝั่งตรงข้าม!

“หมายความว่าลูกชายผมต้องไปอยู่โรงพยาบาลเหรอครับ”

โรงพยาบาล!?

ใจผมเต้นรัวกับคำสี่พยางค์นั่น  ไม่อยากอยู่...

ผมที่กำลังจะปฏิเสธรีบกลืนเสียงตัวเองแทบไม่ทันเมื่อเขาพูดตัดหน้า

“ไม่ครับ ไม่ต้องอยู่โรงพยาบาล  ที่ผมมาวันนี้ ผมมาเพื่อขอความเห็นจากคุณพ่อคุณแม่ว่า จะสะดวกหรือเปล่าครับ หากน้องจะไปอยู่กับผมที่คอนโด” เขาหยุดพูดไปครู่ ก่อนจะพูดต่อ “อย่างที่ผมได้บอกไป หากอยากให้น้องความจำกลับมาเร็วๆ น้องต้องได้รับการรักษาอย่างใกล้ชิด ผมอยากบันทึกพฤติกรรมของน้องตลอดเวลาเพื่อความแน่ใจ”

“มันไม่ใช่เรื่องเลย ทำไมต้าต้องไปอยู่กับคุณที่นั่น” เตอร์พูดแทรกขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดไม่ต่างกัน สีหน้าจริงจังอย่างที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน

“คุณไม่อยากให้น้องคุณหายเร็วๆเหรอครับ?”

ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่าว่าน้ำเสียงของคู่สนทนาฟังดูห้วนคล้ายจับผิดในที  สีหน้ายิ้มแย้มนั่นก็ดูไร้ความจริงใจ

ผมกัดปากแรงๆอย่างอยากเรียกสติตัวเอง นึกไม่ชอบใจตัวเอง.. ผมกำลังมีความคิดอคติกับผู้ชายคนนี้ 

เตอร์สอนผมตั้งแต่เด็กว่า ไม่ควรตั้งแง่ และอย่าตัดสินคนเพียงแค่เจอกันครั้งแรก

เตอร์นิ่งเงียบ ไม่พูดอะไรทว่ามองเขาด้วยสายตาแข็งกร้าว

“คุณพ่อกับคุณแม่ล่ะครับ เห็นด้วยหรือเปล่า?” เขาหันไปถามพ่อกับแม่

พ่อหันมามองแม่ก่อนจะหยุดสายตาลงที่ผม

ไม่อยากไป.. อยากอยู่บ้าน

ผมส่ายหน้าให้พ่อ

“ใช้เวลานานเท่าไหร่”

ผมกัดปากตัวเองแรงกว่าเดิมจนเริ่มเจ็บช้ำทันทีที่แม่ถามจบ

...มันมีแนวโน้มว่า ผม..จะไม่ได้อยู่บ้านหลังนี้ต่อ

“ผมยังบอกไม่ได้ครับ” เขายิ้มตาปิด

ทำไม แค่เห็นรอยยิ้มเขา ผมถึงได้รู้สึกไม่สบายใจขนาดนี้

ไม่อยากไป...

ไม่ไปได้มั้ย...

เตอร์.. ช่วยด้วย

ผมได้แต่ร่ำร้องในใจ มองหาที่พึ่งเพียงหนึ่งเดียว เอื้อมมือไปจับแขนเตอร์แล้วบีบแน่น  พลันใจชื้นขึ้นเมื่อรู้สึกอบอุ่นที่หลังมือ เตอร์เองก็กำลังกุมมือผมไว้พลางบีบเบาๆ

“ทางหมอก็บอกเองว่า โอกาสที่ความจำของน้องจะกลับมามีโอกาสเป็นไปได้สูง เพราะงั้น.. ผมไม่เห็นความจำเป็นที่น้องต้องได้รับการรักษา”

ตลอดเวลาที่พูด เตอร์ยิ่งกระชับมือผมแน่น

บางครั้ง.. ก็แน่นจนผมเจ็บ แต่ผมก็ไม่ได้พูดออกไป

“คุณ กำลังกลัวอะไรอยู่หรือเปล่า?” เขาพูดพร้อมกับมองหน้าเตอร์ตรงๆ ผมรู้สึกได้ว่าตัวเตอร์เกร็งเครียด มือที่เคยอบอุ่นเริ่มมีเหงื่อไหลซึม

เตอร์นิ่ง คิ้วขมวดเป็นปม ขบสันกรามแน่น

...บรรยากาศในห้องเงียบกริบจนได้ยินเสียงเครื่องปรับอากาศดังชัดเจน

“เตอร์” ผมใช้มืออีกข้างเขย่าแขนหนา

ทำไมเงียบไป อย่าเพิ่งยอมแพ้เขาสิ

เตอร์สบตาผมเพียงครู่ก่อนจะเบือนไปทางอื่น

เตอร์เป็นอะไร...

ผมจับมือเตอร์แน่นยิ่งกว่าเดิม

“คุณพ่อกับคุณแม่ ว่ายังไงครับ”

เขาเลิกให้ความสนใจต่อปฏิกิริยาของเตอร์ หันไปเค้นขอคำตอบที่ต้องการ

สีหน้าพ่อตึงเครียดก่อนจะยกมือนวดคลึงข้างขมับ มือหนาวางลงบนหน้าขาแม่ก่อนจะตบเบาๆ

“ผมให้คุณตัดสินใจ ผมเชื่อว่าคุณจะต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูก” พ่อยิ้มให้แม่ เหลือบตามองผมอีกครั้งแล้วตัดสินใจลุกออกจากวงสนทนา

หมายความว่ายังไง..

.

.

หมายความว่ายังไง..!!?

ผมมองตามหลังพ่ออย่างตัดพ้อ กัดฟันแน่นอย่างน้อยใจ

“คุณพ่อยกหน้าที่ตัดสินใจให้คุณแม่แล้ว คุณแม่จะว่ายังไงครับ”

เขาไล่เบี้ยเอาคำตอบจากแม่โดยไม่ให้แม่ได้มีเวลาตั้งตัว

“แม่ครับ ถามน้องดีกว่ามั้ย ว่าอยากไปหรือเปล่า?”

“ต้าไม่ไป! จะอยู่บ้าน!!” ผมพูดสวนทันควัน

“ต้า!”

ผมบีบแขนเตอร์แน่นเมื่อแม่ปรามผมเสียงแข็ง ราวจะบอกให้ผมรู้ถึงการกระทำอันไม่สมควรที่จะแสดงความเอาแต่ใจต่อหน้าแขก

“ต้าไม่อยากไป..” แต่ถึงอย่างนั้น ผมก็ยังพูดเสียงเบาอย่างดื้อเพ่ง

“หมอเซมคะ ตกลงค่ะ แม่จะให้ต้าไปอยู่กับคุณ”

สิ้นเสียงแม่ราวกับมีฟ้าผ่ากลางแสกหน้า!

ขอบตาผมเริ่มร้อนผ่าว

“ขอบคุณมากครับ ผมจะดูแลน้องอย่างด...”  เขากล่าวขอบคุณพร้อมรอยยิ้มในสีหน้า ทว่ายังไม่ทันที่เขาจะพูดจบประโยคดี เตอร์กลับทะลุกลางป้องสวนทันควัน!

“แต่แม่! เมื่อกี้น้องบอกเองว่าไม่อยากไป แม่เองก็ได้ยินแล้ว! แล้วทำไมถึงยังบังคับน้องอย่างนี้!!”

ผมบีบแขนเตอร์แน่นเมื่อสัมผัสได้ว่าคนข้างตัวกำลังอารมณ์ผิดปกติ

“วิคเตอร์! แม่ตัดสินใจไปแล้ว”

“แม่ครับ...”

“ทำไม? ไม่อยากให้น้องหายเร็วๆหรือไง”

ผมบีบแขนเตอร์แน่นกว่าเดิม ก้มหน้างุดไม่เงยมองใคร ตายิ่งพร่ามัวจนแทบมองอะไรไม่เห็น รู้สึกว่าหูอื้ออึงจนแทบจะฟังอะไรไม่รู้เรื่อง

“ไม่ใช่ ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้น แต่น้องไม่อยากไป ทำไมแม่ต้องบังคับ”

“ฉันไม่ได้บังคับ ฉันเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับน้อง”

ผมไม่รู้ว่าแม่มีสีหน้าอย่างไรขณะที่พูด แต่น้ำเสียงแม่ฟังดูเย็นชาจนผมสะท้านในใจ

แม่เลือกสิ่งที่ดีให้ผม..

ทำไมไม่ฟังผมเลยว่าผมอยากรับมั้ย..

น้ำใสไร้สีหยดเผาะลงบนหน้าขาอย่างต้านไม่อยู่

น้อยใจ.. นี่คือความรู้สึกที่จุกอกจนร้อนไปหมด

“ถ้าแกอยากให้น้องหายเร็วๆ อย่าเถียงฉันอีก!”

เสียงแม่ไร้เยื่อใย เหมือนในคืนนั้นที่แม่ตีผม...

“แม่ครับ...”

“วิคเตอร์ หยุดพูด! แม่จะไม่เปลี่ยนใจ” แม่นิ่งเงียบไปครู่ ก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูนุ่มกว่าเมื่อครู่ “วิคเตอร์ ไปเก็บของให้น้อง”

ผมเงยหน้ามองแม่ทั้งใบหน้าเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา

“ไม่เอา ฮึก.. ไม่ไป!”

“วิคเตอร์ ไปเก็บของ”

แม่ใจร้าย..!

ผมรีบดึงชายเสื้อเตอร์ไว้เมื่อเห็นว่าคนตัวสูงทำท่าจะลุกขึ้น

“ต้า ปล่อยเสื้อพี่” แม่ว่าพลางย้ายตัวเองมานั่งข้างผมแล้วดึงมือผมให้ปล่อยจากชายเสื้อเตอร์

ผมกัดปากแน่นเมื่อแม่บีบมือผมแรงกว่าการจับปกติ

เจ็บ...

ผมปล่อยมือจากชายเสื้อเตอร์ มือหนาลูบหัวผมเบาๆก่อนจะผละขึ้นไปชั้นสอง ผมผุดลุกขึ้นจากโซฟาจะตามเตอร์ไปด้วย แต่กลับโดนมือเรียวบีบต้นแขนแล้วดึงรั้งให้หยุดอยู่กับที่

“ต้า นั่งลง!” 

แรงบีบที่แขนกับเสียงดุของแม่ทำให้ผมจำต้องทิ้งตัวลงนั่งที่เดิมอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง

“ขอโทษด้วยนะคะ ที่หมอเซมต้องมาเห็นอะไรน่าอายอย่างนี้”

ผมขมวดคิ้วหันไปมองแม่ที่พูดน้ำเสียงอ่อนลง ก่อนจะหันไปทางเขาคนนั้น ก็เห็นว่ากำลังมองผมอยู่ รอยยิ้มบนริมฝีปากยิ่งกระจ่างชัดมากกว่าเดิม ราวเขากำลังสนุก

“ไม่เป็นไรครับ ผมเข้าใจ”

“แต่แม่มีอะไรอยากจะขอคุณหมอข้อนึงได้มั้ยคะ”

ผมยกขาสองข้างขึ้นชันเข่าบนโซฟาก่อนสองแขนจะโอบกอดไว้แล้วกดหน้าซุกเข่า

ไม่อยากมอง ไม่อยากเห็นอะไรแล้ว

“ครับ ได้ครับ”

“แม่ขอให้ต้าไปอยู่กับหมอสองวัน แล้วกลับมาอยู่บ้านหนึ่งวัน สลับไปมาสองที่อย่างนี้จนกว่าน้องจะหาย ได้มั้ยคะ?”

ผมใจเต้นรัวที่รู้ว่าจะไม่ต้องห่างบ้านไปนาน

แค่สองวัน...

“ถ้าหมอไม่เห็นด้วย แม่คงต้องขอผิดคำพูดเมื่อก...”

“ครับ ผมตกลง”

สิ้นเสียงทุ้มผมก็เงยหน้าขึ้นจากเข่า แม่ยิ้มให้พร้อมกับลูบหัวผมไปมา ผมเบือนไปยังอีกคนในห้อง เขาเองก็ส่งยิ้มให้ผมเหมือนกัน

แต่ยิ้มของเขา กลับทำให้ลำคอผมแห้งผาก

.

.

หลังจากมื้ออาหารเย็นที่แม่เสนอให้รับประทานร่วมกันที่บ้านจบลง เขาก็พาผมขึ้นรถแล้วมุ่งสู่คอนโดของเขาทันที

ในรถเงียบกริบได้ยินเพียงเสียงเครื่องยนต์ที่ทำงานนิ่งๆ ผมกระชับกอดกระเป๋าเป้ใบย่อมที่ภายในมีเสื้อผ้าที่เตอร์จัดไว้ให้อย่างหวงแหน

ท้องฟ้ามืดลงทุกขณะ ตอนนี้..มันมืดสนิท บนถนนเห็นเพียงแสงสีแดงสีสมของไฟท้ายรถคันข้างหน้า

ผมเหลือบสายตามองไปยังคนที่นั่งหลังพวงมาลัย เขาดูอารมณ์ดีอย่างไม่น่าเชื่อ ปลายนิ้วเรียวเคาะพวงมาลัยเป็นจังหวะสอดคล้องไปกับเสียงฮัมเพลงที่ดังเล็ดจากริมฝีปาก

ทั้งๆที่มืดแล้ว ทั้งๆที่ผมบอกว่าพรุ่งนี้ค่อยไป

แต่เขาก็ประท้วงออกมาทันที ราวกับไม่อยากเสียเวลามากไปกว่านี้

ท่าทีร้อนรนของเขาทำให้ผมนึกสงสัยในใจ

เขายกเหตุผลเดิมขึ้นอ้างเกี่ยวกับอาการของผม แค่อยากให้หายเร็ว เวลาเพียงสามถึงสี่ชั่วโมงก็มีค่า เพียงเท่านั้น แม่ก็อวยพรแล้วเดินมาส่งผมถึงรถ

ทั้งๆที่คำพูดของเขาหวังดีต่อผม แต่ทำไมผมกลับไม่รู้สึกถึงความหวังดีนั้นเลย..

ยิ่งอยู่ตามลำพังในที่แคบๆอย่างนี้ ผมยิ่งหวาดวิตก

“ถึงแล้ว ลงมาสิครับเด็กน้อย”

ผมสะดุ้งหลุดออกจากห้วงความคิดเมื่อเสียงทุ้มดังใกล้ชิดริมหู 

ผมเลิ่กลั่กหันไปมองที่นั่งข้างตัวที่ตอนนี้ว่างเปล่าก่อนจะหันไปมองเขาอีกครั้ง ร่างสูงเปิดประตูรถค้างไว้ผละตัวออกแล้วยืนมองผมพลางยิ้มน้อยๆ

ลงไปตั้งแต่เมื่อไหร่?

มือหนาถือวิสาสะดึงกระเป๋าจากมือผมไปถือ แล้วใช้มืออีกข้างจูงมือผมลงจากรถ

ผมพยายามปลดมือออก ทว่าเขากลับกระชับมือแน่นยิ่งกว่าเดิม ผมเดินตามหลังเขาโดยที่คิ้วขมวดมุ่น มองมือที่เขาจับมือผมไว้แน่นก็รู้สึกแปลกๆ ตะขิดตะขวงในใจ ไม่ชอบ..

ผมพยายามดึงมือตัวเองออกอีกครั้ง ทว่าครั้งนี้เขาหันหน้ามาพลางยิ้มบางๆ

“อย่าดื้อ” พูดเพียงเท่านั้นก่อนจะก้าวเดินต่อ

ผมเดินตามหลังเขาเข้าไปในลิฟต์ มองตามมือหนาที่เลื่อนไปกดปุ่มหมายเลข 5

ใช้เวลาไม่นาน กล่องสี่เหลี่ยมก็เคลื่อนตัวมาถึงชั้นที่ต้องการ

ประตูเหล็กเลื่อนออกจากกันพร้อมกับแรงจูงที่ดึงให้ผมเดินออกมา ผมเลิกคิ้วสงสัยเมื่อเขาเดินไปกดลิฟต์สีดำสนิทตัดกับผนังสีขาวสว่าง

ผมนึกว่าเรามาถึงแล้ว

เมื่อเข้ามาด้านใน ผมหันมองรอบตัวด้วยใจที่เต้นตุ้บๆ ผนังลิฟต์ดำมืดไปทั้งสี่ด้าน เหมือนหลุมดำที่ดูดกลืนทุกอย่าง

มันค่อยๆเคลื่อนตัวขึ้นสูงไปยังชั้นหมายเลขเจ็ด

ระยะทางเพียงแค่สองชั้น.. แต่มันกลับทำให้ผมหายใจแทบไม่ออก

ติ๊ง!

ประตูลิฟต์เปิดออกอีกครั้ง แต่ผมขืนแรงดึงไว้ทำให้ร่างสูงหันมามอง เขาเลิกคิ้วเพียงนิดแทนคำถาม

“..อีกสองวัน ...คุณจะพาผมกลับบ้านใช่ไหม?”

เขาไม่ตอบอะไร ทำเพียงหัวเราะในลำคอ มือหนาออกแรงดึงผมอีกครั้ง แต่เมื่อเห็นว่าผมต่อต้าน เขาจึงปล่อยมือแล้วเดินตรงไปหยุดอยู่หน้าประตูห้อง

“มาเถอะ ถึงแล้ว”

ผมส่ายหน้าปฏิเสธ อยากได้รับคำยืนยันว่าเมื่อครบสองวัน เขาจะไปส่งผม

รอยยิ้มยังปรากฏบนริมฝีปาก มือหนายกขึ้นกดกริ่งโดยที่สายตามองผมไม่ละไปไหน

“สัญญากับผม”

สิ้นเสียงผมประตูบานนั้นก็เปิดออก เผยให้เห็นผู้ชายใบหน้าติดจะหวาน ผิวขาวจัดที่กำลังเดินออกมา

สัญญาที่ผมกำลังจะทวงขอเพื่อให้เขายืนยันกลับถูกลืมไปสนิท เมื่อผมได้เห็นนัยน์ตาว่างเปล่าระคนโศกสลดคู่นั้น ทำให้ผมก้าวขาออกจากลิฟต์โดยไม่รู้ตัว

เขาผินหน้ามามองผม คิ้วเรียวย่นเข้าหากันเล็กน้อย นัยนต์ตาคู่นั้นฉายประกายสับสนอย่างปิดไม่มิด

วินาทีที่ผมกับเขาสบตากัน ประตูลิฟต์ด้านหลังก็ปิดตัวลงช้าๆ

 

ประตูลิฟต์ที่ปิดลง ราวกับสื่อความนัยว่า หากผมเลือกเดินหน้า หนทางที่จะย้อนกลับไป  ..ความเป็นไปได้เท่ากับศูนย์

ผมยังไม่ละสายตาจากดวงตาคู่นั้น จากความสับสนกลับกลายเป็นว่างเปล่าอีกครั้ง




ทำไมผมรู้สึกอยากกอดเขา




แม้ใบหน้านั้นจะเรียบเฉยไม่เผยสิ่งใด แต่ทำไมนัยน์ตาคู่นั้นคล้ายกำลังร้องไห้

.................

......

 

___________________________________________

 

TALK :: เฮ เดาผิดกันหมดเลยย ไม่ใช่พี่จิม 555
ดีใจอ่ะ มีคนมาปูเสื่อรอด้วย กินขนมไปพลางๆระหว่างรออัพนะคะ
เนื้อเรื่องต่อจากนี้มันคงไม่ดราม่า(มากหรอก) เป็นห่วงคนอ่าน ไม่อยากให้ท้องอืดด  :laugh:
ต่อไปน่ารักๆทั้งนั้น (เชื่อมั้ย??) 555555555

ฝากน้องใหม่ค่ะ REVENGE >>>  http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38217.msg2405379#msg2405379

รีเว้นเป็นเรื่องที่มีเนื้อหาเกี่ยวเนื่องกับ A BOY เหตุการณ์ก็เนื่องๆกัน 55
ฝากด้วยนะคะะะะะ
ขอบคุณทุกกำลังใจมากๆเลยยยยยย  ชุ้บๆ <3
 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-06-2013 20:04:48 โดย NNEW33 »

ออฟไลน์ Lemon_Tea

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-2
หมอเซมเหรอ -o-?
คนหน้าหวานนั่น ใช่ที่คนน้องหิ้วกลับมาล่ามโซ่อะไรนั่นป่ะ
หวา งี้ต้าก็กลับบ้านไม่ได้อ่ะดิ
ดันเจอคนมีชะตากรรมเดียวกัน

ออฟไลน์ Still_14OC

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2041
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-7

ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6
รอตอนต่อไป  :ling3: :ling3:

ออฟไลน์ Chichi Yuki

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1584
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-3
หมอเซมหรือแซมน้องชายฝาแฝดของหมอกัน
แล้วก็ยังผู้ชายนัยตาโศกที่ต้าอยากกอดนั่นอีก
เดี๋ยวขอคนอ่านนับแป๊ปค่ะคนเขียน
พระเอกเรื่องนี้แทบจะเดาไม่ได้เลยว่าเป็นใคร พี่จิม หมอเซม แซม เตอร์ ผู้ชายนัยตาโศก (ที่ยังไม่รู้จักชื่อ)
โอ้! เยอะจนแทบจะเดาไม่ได้ เดายากนัก เอา 6P แบบ SM ไปเลยค่ะ จะได้ง่ายๆ (ยัยนี่โหด!)

ออฟไลน์ Mookkun

  • magKapleVE
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 637
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
    • Consensual free relationships
ติดตามๆ

-3-

ออฟไลน์ maru

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-7
คนที่อ้างว่าเป็นหมอน้องชายเซมสินะ แล้วแซมมีอะไรกับเตอร์กันแน่นะ แล้วจิมกับเซมก็แปลก ๆ โดยเฉพาะเซจิมก็เหมือนจะสนใจต้าร์เป็นพิเศษหรือเปล่านะนั่น แต่เซมทำเป็นใจดีที่จริงน่าจะร้ายน่าดู แ่ม่ต้าร์ก็แปลก ๆ นะนั่น

ออฟไลน์ Ipatza

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 932
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-7
อือ
อ่านจยจบรวดเดียว
กดดันจิตใจดีเหะ
เรื่องนี้
สงสาร และก็สมเพชกับการกระทำสิ้นคิดของต้าในตอนแรกด้วยอะ
ถ้าไม่ทำแบบนั้นคงไม่เจอแบบนี้
ไงก็ต้องรับผลของการกระทำตัวเองไห้ได้อะนะ
แล้วที่เตอร์ทำแบบนั้นกับต้า เพระาอะไรละ
รักหรอ หรือว่า ยังไง
อยากรุ้เหตุผล

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด