DOUBLE-FACED: เสแสร้งแกล้งรัก
Chapter 23: Romantic dreams will stopHIM: Thunder
กะไว้แล้วว่าเรื่องมันต้องเป็นแบบนี้ ยังไงความลับก็ไม่มีในโลก ยิ่งถ้ามีไอ้ดีนเข้ามาเกี่ยวกับด้วยแล้ว ผมไม่เคยเชื่อว่าเรื่องพนันที่ไอ้ดีนและมาโคทำร่วมกันไว้มันจะเป็นความลับ แล้วยังไง สุดท้ายคนที่เจ็บก็คือคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อย่างพริก
“หนาวไหม” ผมไม่รอคำตอบ หรี่แอร์ลงให้อีกคนที่นั่งเหม่อลอยมองออกไปนอกหน้าต่างรถ และดูเหมือนว่าคำพูดของผมไม่สามารถแทรกซึมเข้าไปในความคิดของพริกได้ ผมได้แต่ถอนหายใจแล้วมองเสี้ยวหน้าด้านข้างพริกอย่างเจ็บปวด
เจ็บที่ต้องปล่อยให้คนที่แอบรักเป็นทุกข์เพราะฝีมือเพื่อนตัวเอง โดยที่ผมไม่สามารถช่วยอะไรได้เลยสัดนิด
ผมมันก็แค่คนโง่เขลา โง่ที่ปล่อยให้เรื่องราวมันดำเนินมาในรูปแบบนี้ ถ้าผมเพียงแต่จะมีความกล้าที่จะขัดขวางการพนันบ้าบอนั้นในวันนั้น วันนี้พริกก็คงไม่ต้องเจ็บปวดหรอก
นี่ขนาดพริกยังไม่รู้เรื่องที่มาโคมันเข้ามาจีบพริกเพราะสาเหตุอะไร ยังเป็นแบบนี้ แสดงว่าพริกคงรักมันเข้าแล้วจริงๆ ยิ่งนึกถึงจุดนี้ความเจ็บปวดก็เกาะกุมหัวใจผมจนแทบทานทนไม่ไหว
พริกเคยเป็นรุ่นน้องผมตอนเรียนมัธยม ตอนนั้นผมอยู่มอหกแล้ว ส่วนพริกอยู่มอหนึ่ง เพิ่งเข้าเรียนมาใหม่ ความน่ารักสดใสต้องตาต้องใจผมมาก แต่อาคารเรียนของเด็กมอต้นและมอปลายมันแยกโซนกัน ไม่บ่อยนักที่ผมจะได้เห็นน่าพริก เดือนหนึ่งแค่สองสามครั้งเห็นจะได้ ถึงเห็นก็แค่แวบๆผ่านตา แต่สำหรับผมเขาก็สะดุดสายตาทุกครั้งที่มองหา
แล้วยิ่งผมต้องเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย ทำให้ไม่ได้ค่อยมีเวลาไปเที่ยวเล่นมากนัก เพราะผมเองก็มีภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบเหมือนกัน เรื่องที่ผมชอบพริกก็เลยต้องพับเก็บไว้ในซอกลึกของหัวใจ จนภาพของเด็กหนุ่มตัวเล็กๆค่อยๆจางลงเมื่อผมเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย พอได้เจอคนมากขึ้น เรื่องราวในชีวิตมากขึ้น ทำให้อารมณ์รักชอบไม่รุนแรงนัก แต่ผมก็ไม้เคยลืมเด็กน่ารักคนนั้นเลย
แต่เมื่อมาได้เจอกันอีกครั้ง กลับต้องมาเจอกันในสถานการณ์แย่ๆแบบนี้ ผมบอกไม่ถูกเลยว่าตอนที่เห็นหน้าพริกอีกครั้งผมรู้สึกยังไง ทั้งตื่นเต้นตกใจและดีใจ แต่พอรู้ว่าไอ้มาโคต้องเข้าไปจีบพริกเพื่อการเดิมพันระหว่างมันกับไอ้ดีน ผมยิ่งรู้สึกสับสน ไม่รู้ว่าควรจะเห็นดีเห็นงามกับเพื่อนหรือจะช่วยเหลือพริกดี แต่ผมได้ห้ามปรามไอ้มาโคไปแล้ว แต่คนอย่างมันนะเหรอ ถ้าผมพูดไปมันก็เสียเวลาเปล่า มันไม่เคยฟังใคร จะผิดจะถูกยังไงก็ขอให้มันต้องลองด้วยตัวเอง ผมรู้จักนิสัยมันดี และดีเกินไปจนผมไม่อาจทักท้วงได้
สุดท้ายผมก็ทำร้ายคนที่ผมแอบชอบได้ลงคอ ถ้าเรื่องนี้ใครจะผิด ก็คงเป็นผมคนหนึ่งนั่นแหละที่ผิด
“พริก ถึงแล้ว” ผมแตะที่เขนพริกเบาๆ เรียกสติอีกคนให้รู้สึกตัว พริกค่อยๆหันหน้ามามองผม น้ำตายังไม่หายไปจากใบหน้าเพราะร้องไห้มาตลอดทาง ดวงตาคู่สวยบวมแดงไปหมด
“ขอบคุณครับพี่ธัน”
“ไม่เป็นไร ให้พี่อยู่เป็นเพื่อนไหม”
“...ผมเกรงใจ”
“เกรงใจทำไม แค่นี้เอง” ผมยิ้มอ่อนโยนแล้ว พริกจึงพยักหน้าตกลง
มาถึงผมก็ไล่ให้พริกไปอาบน้ำ เพราะเพิ่งต่างฝนมาผมกลัวว่าพริกจะไม่สบาย ไม่รู้ป่านนี้ไอ้มาโคจะรู้หรือยังว่าพริกรู้เรื่องที่มันไปนอนกับนางแบบสาวสุดเซ็กซี่นั่นมาแล้ว ผมเคยเตือนมันแล้วนะ แต่มันไม่ฟังผมเอง ช่วยไม่ได้
“พี่ธัน...กินอะไรมาหรือยังครับ” พริกในชุดลำลองง่ายๆสบายๆอย่างเสื้อยืดคอกลมสีฟ้าอ่อนและกางเกงขาสั้นสีขาว ขับให้อีกฝ่ายดูเด็กลงและน่ารักมากขึ้น
“พี่ไม่ค่อยหิวน่ะ”
พริกพยักหน้าน้อยๆแล้วเดินมานั่งที่โซฟาข้างๆผม เจ้าตัวใช้ผ้าเช็ดผมตัวเองไปเรื่อยๆอย่างเชื่องช้า ผมไม่ได้ปริปากพูดหรือถามออะไรออกไป เพียงแค่นั่งอยู่เป็นเพื่อนเงียบๆ เพราะปกติผมก็ไม่ใช่คนพูดมากเท่าไหร่ เพราะบางทีพูดไปก็ไม่ได้อะไร ไม่รู้จะพูดทำไมให้เปลืองน้ำลายเปลืองเวลา
ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง พริกเริ่มจามและหน้าเริ่มแดง คงจะไม่สบายเข้าแล้วจริงๆ
“ที่ห้องงมียาไหม” ผมถาม แต่พริกยังไงนั่งเหม่อ ผมเลยเปลี่ยนมาช่วยตัวเองแทนด้วยการกวาดสายตามองไปรอบๆห้อง แล้วก็เจอกล่องยา เพราะอยู่ใกล้ๆกับโทรทัศน์เลย ผมลุกขึ้นไปหยิบมาดู มียาแก้ไข้เหลืออยู่และยังไม่หมดอายุ จึงเดินไปหยิบน้ำมาให้คนใกล้จะป่วยกินยา
“กินยาซะ” ผมส่งแก้วน้ำและยาให้พริก แต่พริกส่ายหน้าไม่ยอมกิน
“ผมไม่เป็นไรหรอก” พริกพูดเสียงแหบนิดๆแถมยังขึ้นจมูก นี่นะที่บอกว่าไม่เป็นอะไร ผมใช้มือแตะที่หน้าผากพริก ตัวเริ่มร้อนแล้ว
“ไม่เป้นไรที่ไหน ตัวร้อนแล้วเนี่ย กินซะ”
“แต่...”
ดื้อเหมือนกันนี่ว่า ผมไม่ค่อยชอบเด็กดื้อเท่าไหร่ด้วยแหะ...แต่กับพริกนี่...เว้นไว้คนล่ะกัน
“จะกินหรือจะให้พี่จับกรอกปาก” ผมดุเสียงดุ พริกย่นคิ้วเข้าหาก่อนก่อนจะรับยาและน้ำไปกิน แบบนี้สิค่อยน่ารักหน่อย
ผมเดินเอาแก้วไปเก็บแล้วกลับมานั่งที่เดิม พริกเอนตัวพริกโซฟา ดวงตาปิดสนิท
“พี่ธัน...พี่มาร์คเขาจะทิ้งผมเหรอ”
“ทำไมคิดแบบนั้นล่ะ” ผมย้อนถาม ทั้งที่ความจริงก็รู้ดีอยุ่แล้วว่าวันใดวันหนึ่งในไม่ช้านี้ไอ้มาโคมันต้องขอเลิกพริกแน่ๆ อาการน้ำท่วมปากที่อยากพูดออกไปแต่ทำไม่ได้ มันโคตรจะทรมานเลย
“ก็พี่เขา ไปนอนกับคนอื่น” ยิ่งพูดเสียงยิ่งเบาลง น้ำตาพริกไหลลงมาอีกแล้ว ผมเอื้อมมือไปเช็ดให้ เขาจะรู้บ้างไหมว่าตอนนี้ไม่ได้มีแค่เขาคนเดียวหรอกที่เจ็บ ผมเองก็เจ็บเหมือนกัน
“ไม่หรอก กับผู้หญิงคนนั้นมันก็แค่...ขำๆ ไม่จริงจังน่ะ”
“แต่ผมไม่ชอบ ทำไมต้องทำแบบนั้น ฮือ!” พริกโพลงลืมตาโวยวายใส่ผม แล้วก็ร้องไห้ออกมา ผมอยากจะดึงอีกฝ่ายเข้ามากอด แต่บางอย่างบอกผมว่าผมไม่ควรทำแบบนั้น ถึงจะชอบพริกมากยังไง ผมไม่ควรฉวยโอกาส เพราะเขาไม่ใช่ของผม เขาเป็นคนของเพื่อนผม
ผมจะไม่พูดว่ามันไม่รักพริก ว่ามันไม่เห็นค่าของพริก เพราะผมรู้ว่ามันรักและเห็นค่าพริกมากกว่าใคร แต่ไม่รู้ว่าเจ้าตัวจะรู้หรือเปล่า ว่าตอนนี้มันได้ตกหลุมรักเหยื่อเคราะห์ร้ายเข้าให้แล้ว การแระทำและแววตาของไอ้มาโค แม้แต่คนโง่ยังดูออกเลย คนที่ไม่เคยยอมให้ใคร ไม่เคยต้องวิ่งตาม ต้องดูแลคนอื่น แต่มันกลับทำให้พริกอย่างไม่อิดออด ยอมถูกพริกใช้เป็นเครื่องมือในการแก้แค้นแฟน แม้ว่ามันจะได้ผลประโยชน์ไปด้วย แต่ถ้าใครได้รู้จักนิสัยของมาโคก่อนหน้าที่จะเจอพริกอย่างพวกผม ก็จะรู้เลยว่า มันเปลี่ยนไปเยอะ แต่มันเปลี่ยนแค่ตอนอยู่กับพริก นอกนั้นมันก็ยังเหมือนเดิม
“พี่ก็ไม่ได้อยากจะแก้ตัวแทนมันหรอกนะ แต่ว่า...มันกับผู้หญิงคนนั้นไม่ได้เป็นอะไรกัน มันก็แค่ข้ามคืน พี่อยากให้พริกมันใจในตัวเองว่าพริกเป็นคนที่มันรัก”
อย่าได้ถามว่าผมพูดแบบนั้นไปเพื่ออะไร หรือว่าผมอยากทำตัวเป็นพระเอก เปล่าเลย ผมแค่ไม่อยากให้พริกต้องคิดมากเท่านั้นเอง
“พี่เขาไม่เคยบอกผมด้วยซ้ำ”
ผมอยากจะเบือนหน้าหนี ไม่มองว่าพริกต้องร้องไห้มากขนาดไหน ต้องเสียใจเท่าไหร่ ผมเอื้อมมือไปลูบศีรษะพริกเบาๆ อยากปลอบโยนให้มากกว่านี้ อยากจะดึงมากอด อยากทำให้เขามีความสุข คนอย่างผมจะทำอะไรได้บ้างนะ
ผมอยู่เป็นเพื่อนพริกจนกระทั่งพริกเริ่มง่วงเพราะฤทธิ์ยาที่กินเข้าไป ผมพาเขาเข้านอน นั่งดูอยู่สักพันจนเมื่อวางใจแล้วว่าพริกจะไม่เป็นอะไรผมก็ออกมาจากคอนโดเขากลับคอนโดตัวเอง
พอมาถึงห้องไอ้มาโคก็โทรมาหาผม ผมโกรธมันมากจนไม่อยากจะรับสาย แต่ผมจำต้องรับเพราะต้องบอกมันเรื่องพริก
“...” ผมรับสายแล้วไม่พูด
[ไอ้ธัน กูมึงอยู่ไหนวะ] มันถาม
“อยู่คอนโด” ผมตอบกลับสั้นๆ หยิบเบียร์ในตู้เย็นมาได้ก็ยกกระดกเข้าปากทันที
[เออ เดี๋ยวกูเข้าไปหา]
“ไม่ต้องมา!” ผมสั่งห้ามมัน หนึ่งเลยคือผมไม่อยากเห็นหน้ามัน สองคือ... “ไม่ต้องมาหากู คนที่มึงควรจะไปหาคือพริก”
[พริก? พริกทำไม]
“พริกรู้เรื่องที่มึงไปนอนกับนาเดียแล้ว มึงไม่ระวังเองปล่อยให้ศัตรูถ่ายวีดีโอไว้ได้” ผมหัวเราะเยาะมันที่โง่ กระโดดเข้าไปในหลุมพลางของศัตรู
[มึงอย่ามาล้อเล่น! กูไม่ขำ!!!] มันโวยวายเสียงตื่นกลับมา ถ้าเลือกได้ผมก็อยากให้เรื่องทั้งหมดนี่แม่งเป็นเรื่องล้อเล่นวะ แต่มันไม่ใช่ ความจริงก็คือความจริงอยู่วันยังค่ำ
“กูไม่ได้ล้อเล่น กูเจอตอนที่พริกรู้เรื่อง พริกเสียใจมาก และมึงควรจะต้องทำอะไรสักอย่างก่อนที่กูจะดมโหมึงไปมากกว่านี้” ผมขบกรามพูดเสียงเหี้ยม ยิ่งคุยมันจะยิ่งทำให้ผมโมโหผมเลยกดตัดสายมันซะ แล้วก็โยนมือถือลงพื้นอย่างไม่ใยดี
ในหัวมันร้อนรุ่มไปหมด ผมคว้ากุญแจรถได้ก็ออกจากห้องอีกรอบ ผมต้องไปหาที่สงบสติอารมณ์หน่อย ถ้าไม่ได้ระบายผมจะยิ่งหงุดหงิดไปมากกว่านี้ และดีไม่ดีข้าวของในห้องได้เลเป็นจุณแน่ๆ เพราะความจริงผมไม่ใช่คนอารมณ์เย็น ผมนิ่งก็จริง แต่เวลาผมหงุดหงิดมันร้อนยิ่งกว่าไอ้มาโคหลายเท่า เพราะฉะนั้นผมถึงได้คอนสะกดอารมณ์ตัวเอง แต่ครั้งนี้มันเหลืออดจริงๆ
ผมเลือกที่จะไปสนามแข่งรถ ไม่สนใจว่าใครคือคู่แข่ง ของรางวัลคืออะไร เกมส์ที่แข่งเป็นแบบไหน ความเร็วช่วยระบายความตึงเครียดของผมได้เป็นอย่างดี ผมปลดปล่อยอารมณ์ตัวเองทุกครั้งที่เร่งเครื่อง จนหัวผมสงบลง
เอ๊ยดดด!!!
แล้วผมก็เป็นผู้ชนะ
ผมลงจากรถเดินไปหาอีกฝ่ายซึ่งผมไม่รู้ว่ามันเป็นใคร ผู้ชายที่แข่งกับผมเดินหัวเสียออกมาจากรถ ผมแบมือเพื่อขอกุญแจรถมัน เกมส์นี้ผมไม่ได้เป็นคนตั้งกติกา ไอ้นี่มันเป็นคนตั้งว่าใครชนะได้รถ ผมมองปราดเดียวก็รู้แล้วว่ามันร้อนเงิน นี่คงอยากชนะแล้วได้รถผมไปขายงั้นสิ แต่เสียใจที่ผมชนะ
“เอ่อคือ...มึงเอาอย่างอื่นแทนได้ไหม” มันต่อรอง ผมเลิกคิ้วสูง
“ไม่” ผมปฏิเสธ มันหน้าเสีย
“มึงรอแปบ ของแลกเปลี่ยนเด็ดมากกูรับรองได้” มันรีบเดินไปที่เต๊นๆหนึ่ง ก่อนจะลากใครบางคนให้เดินตามมาด้วย ผมมองมันที่ถูลู่ถูกังเด็กตัวเล็กกว่ามายังผม
“พี่ปัง จะพาทาร์ตไปไหน”
“เงียบได้ไหมไอ้ทาร์ต!”
มันคงไม่ได้จะเอาเด็กที่ดูยังไงก็ไม่น่าจะเกินสิบห้ามาให้ผมเนี่ยนะ
“นี่ของแลกเปลี่ยน มันน่ารักนะ ซิงด้วย สนใจปล่าว” ไอ้คนแพ้รีบเสนอให้ผม เด็กน้อยถึงเบิกตาโตอย่างตกใจ ดวงตากลมโตใสแจ๋วมองผมอย่างหวาดกลัว ใบหน้าที่ละหม้ายคล้างคลึงกัน คงจะเป็นพี่น้องกันอย่างไม่ต้องสงสัย แต่มันเลวมากที่เอาน้องมาโยนให้คนอื่นแบบนี้
“ทาร์ตไม่ไปนะพี่ปัง ไม่เอา ทาร์ตจะกลับบ้าน!”
“ว่าไงมึง เอามันไปแทนรถ สนใจไหม”
“ไม่เอานะพี่ปัง! ฮือออ”
“เงียบ!”
“ฮึกก”
ไอ้คนชื่องปังมันก้มลงไปกระซิบกับเด็กน้อย ไม่รู้มันพูดอะไรบ้าง แต่เด็กน้อยที่ร้องไห้งอแงมีทีท่าไม่ย้อม ส่ายหน้าไปมา ไอ้ปังเลยบีบเข้าที่คางเล็กแรงๆจนทร์ตร้องเพราะเจ็บ
ถ้าผมไม่รับเด็กคคนนี้มา มันจะเอาไปเร่ให้คนอื่นไหม เพราะฝีมือการขับรถของมัน บอกได้เลยว่าห่วยแตกสิ้นดี
“ก็ได้ ฉันจะเอาเด็กคนนี้”
“ไม่ไป!”
…………………………….
มาแค่นี้ก่อนนะคะ ยุ่งมากจริงๆ แทบไม่ได้หลับไม่ได้นอนอยู่แล้ว
