“ให้ช่วยไหม?” เสียงแห่งความหวังดังขึ้น “เออๆๆดีๆๆ” กูว่าเสียงเย็นๆคุ้นๆชอบกล มึงก็รีบตอบตกลงเขาไปทั้งที่ตายังมองหนองโพข้างหน้านะไอ้ธาม ว่าแล้วก็หันไปดูซักหน่อยดีกว่า ผู้หวังดีที่มีประสงค์เดียวกัน เผื่อคุยถูกคอจะได้สานสัมพันธ์ฉันมิตรสนิทแบบหื่นกาม
“.....................”
“เชี่ย!! พี่เหนือ!” ตอนเชี่ยน่ะสองเสียงพร้อมกันครับ แต่คำว่าพี่เหนือเนี่ยเหลือแค่ผมคนเดียวแล้วที่เรียก พอหันไปเจอว่าใครเป็นผู้หวังดีตั้งสติได้ไอ้ธามก็โยนตะกร้าใส่หน้าเจ้าของร้านใส่เกียร์หมาวิ่งฝุ่นตลบหายไปทันที ปล่อยให้ผมยืนเผชิญชะตากรรมอยู่คนเดียว เวรกรรมกูอีกแล้วไอ้เชี่ยธาม
“ไอ้ธามรอกูด้วย” ตะโกนเรียกไอ้ธามที่วิ่งหายหลับตาไป พร้อมสับขาเตรียมชิ่ง แต่มือนิ่งๆเย็นๆก็เข้ามากระชากคอเสื้อให้ลอยไปปะทะอกแกร่งเข้าก่อน
“ปึ๊ก!...” ซิกแพ็กมึงแน่นมาก ชนทีเล่นเอาจุกไปถึงลิ้นปี่
“ไปไหน กูก็จะช่วยปาให้แล้วไง!” กระซิบข้างหูด้วยน้ำเสียงเย็นๆ เส้นขนลุกซู่ชูชัน เงยขึ้นสบตาโหดที่จ้องเขม็ง เกิดมาไม่เคยเจอใครน่ากลัวนาดนี้มาก่อนในชีวิต ตายแน่จริงๆผับผ่า ดูจากแววตากูตายแน่ๆ
“............................” จับข้อมือผมไว้แน่นเหมือนกลัวผมหนี ส่วนอีกมือที่ว่างหยิบลูกบอลที่เหลืออีกหกลูกจากตะกร้าในมือผมขึ้นมา
“ปึ๊ก ตูมมมมมมมมมมมมมมมม!” น้ำกระจาย หัวกระจุย ตะเกียกตะกายขึ้นจากถัง กว่าจะนั่งได้ก็ทุลักทุเล มีเป๋ไปบ้าง แต่หน้ายังสวย เชิดหน้า สบตา ส่งยิ้มหวานให้ไอ้โหดที่จ้องอยู่ ก่อนจะ....
“ปึ๊ก ตูมมมมมมมมมมมมมมมม!” น้ำกระจายอีกรอบติด สายตาเริ่มขุ่นเคือง ตะกายเกาะขอบจ้องมาแต่ยังยิ้มร่าได้อยู่ ขึ้นนั่งเซนิดๆเอียงหน่อยๆ ไม่คอยให้ตั้งตัวได้
“ปึ๊ก ตูมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม!” รอบนี้ถึงกับตีลังกาหงายหลัง เสียงดังสนั่น สามรอบติด ชีวิตบัดซบกันเลยทีเดียว ตะกายขึ้นไปนั่ง เริ่มไม่เห็นรอยยิ้มแล้ว ตาขวาง น้ำลายเริ่มฟูมปาก แต่ยังฝืนๆฉีกปากยกยิ้มได้อยู่ กูว่าว่าซาดิสพอกันทั้งคู่ มึงน่าได้กันมากๆ
“ปึ๊ก ตูมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม!” กลับหัวขาชี้ฟ้าอย่างสวยงาม น้ำกระจายออกนอกถังจนถึงขั้นพักเติมน้ำใหม่กันเลยทีเดียว เจ้าของร้านเดินเข้ามาอย่างหวาดกลัว เอ่ยถามชายโฉดข้างผมขึ้นว่า
“อะ...เอ่อ...พี่ครับ...เปลี่ยนคนบ้างดีไหมครับ”
“อย่าเสือก!”
“ปึ๊ก ตูมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม! จบคำว่าเสือก เกิบน้องนีก็ปลิวว่อน เพราะร่อนกลับหัวลงน้ำไปอีกรอบ เห็นแล้วสงสารจับจิต กับผู้หญิงมึงยังอำมหิตกับเขาได้
“ริดซี่ ทนหน่อยนะลูก พี่เขาเหลืออีกแค่ลูกเดียวแล้ว” เสียงเจ้าของร้านตะโกนบอก ลูกสาวที่ดวงซวยแบบกู่ไม่กลับ หน้าคะมำตกน้ำไปห้ารอบติด ชีวิตตกอัพแบบขั้นกว่า ริดซี่อาจมีชื่อไหม่ว่า ริดซี่ดวง ก็งานนี้เพราะตูดเธอกระแทกขอบถังน้ำดีเหลือเกิน
“ตูมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม!” ลูกสุดท้ายจบด้วยท่าตีลังกาม้วนหน้า ตามด้วยเกลียวห้ารอบ น้ำกระเซ็นน้อยมาก สวยงาม กรรมการให้คะแนนเต็ม คอพับคออ่อนลำบากต้องหามขึ้นไปพักนั่งสูดยาดมลมจับกันเลยทีเดียว หลังตกน้ำหกรอบติด ไม่วายยังชูนิ้วโป้งส่งให้ไอ้พี่เหนือมันอย่างชอบใจ แล่บลิ้นเลียริมฝีปากส่งให้อย่างยั่วยวน ทั้งที่ขาแข้งอ่อนแรง ยืนเองยังไม่ไหว สเปคผู้ชายมีปัญหาไปนะครับ เหมาะกันจริงๆอีกคนก็ซาดิส อีกคนก็วิตถาร
“พอเถอะพี่” รีบฉุดมือห้ามหลังจากทำท่าจะไปเหมาซื้อลูกบอลมาอีกชุด สาวน้อยอีกสองคนที่นั่งอยู่ถึงกับสะดุ้งสุดตัว เพราะคราวซวยอาจมาเยือนถึงตัวบ้างแล้ว สิบสองรอบติดคาดว่าคงมีคนจมน้ำตายครับงานนี้
“มึงชอบแบบนี้ไม่ใช่หรอ!”
“ผมแค่เล่นสนุกกับไอ้ธามเฉยๆ พี่อย่าโมโหดิวะ”
“กูบอกมึงว่าไง มึงไม่เคยฟังที่กูพูดเลย”
“ผมก็แค่อยากสนุกกับเพื่อนบ้าง”
“มึงก็เลยหลอกกู” ยื่นมือไปจับแขนเสื้อมันแบบกลัวๆ มือที่มันจับผมอยู่บีบแน่นมาก คิดว่าคงเป็นรอยช้ำแน่ๆ
“ผมขอโทษ” ก้มหน้าแบบรู้สึกผิด แต่ในใจก็คิดตะหงิดๆ ว่าทำไมผมต้องยอมมันทุกที เอาเถอะครับ ก็ผิดจริงๆนี่ที่ไปหลอกมัน เห็นมันโกรธทำหน้าดุ ขมวดคิ้วชนกันแล้วก็รู้สึกไม่สบายใจเลย
“................................” ไม่พูดตอบกลับ แต่เริ่มคลายแรงที่ข้อมือผมก่อนจะฉุดให้เดินไปด้วยกัน ผมเดินตามหลังมันไปช้าๆ ก้มหน้างุดๆ จริงๆก็กลัวด้วยแหละครับ ตะคอกซะผมหง๋อเลย
“พี่เหนือ...” เดินมาซักพักมันก็หยุด เงยหน้าขึ้นก็เห็นชิงช้าสวรรค์ แปลกใจ มองหน้ามันแบบสงสัย
“รอบนี้มีคนเหมาแล้วนะครับ ใครอยากเล่นรอรอบหน้านะครับ” พี่คนขายตั๋วตะโกนขึ้นก่อนจะมีเสียงโห่ไม่พอใจดังมาตาม ไอ้พี่เหนือฉุดข้อมือผมเข้าไปนั่งในชิงช้าที่หยุดค้างรอไว้ มันนั่งที่นั่งตรงข้ามผม ประตูปิด ก่อนกระเช้าจะค่อยๆเคลื่อนขึ้นข้างบนช้าๆ
“มึงอยากนั่งไม่ใช่รึไง” มันพูดขึ้นแต่ก็ไม่ยอมหันมามองหน้าผม เหมือนมันกำลังเขินอยู่
“พี่เหมารอบนี้ให้ผมหรอ?” ใจเต้นตึกตัก...หัวใจพองโต...ฉีกยิ้มไปแล้วจากใจ
“กูแค่ไม่ชอบคนเยอะ” ไม่มองหน้าอีกแล้ว...แล้วจะรู้ได้ไงว่าทำหน้าแบบไหนอยู่...อยากมอง...อยากสบตา...อยากรู้ว่าเวลาเขินเป็นแบบไหน...เพราะแค่นี้...หัวใจก็เต้นแรงเหมือนกับจะหลุดออกมานอกอกอยู่แล้ว
“ขอบคุณครับ พี่เหนือ”
“เออ” พูดแค่นั้น...ไม่หันมามองหน้ากันอีกแล้ว...ปล่อยให้ผมยิ้มคนเดียวเหมือนคนบ้า
“ชอบว่ะพี่” ตอนนี้อยู่จุดสูงที่สุด มองเห็นวิวทั่วดอนเกิบหาย เห็นหมู่บ้าน โรงเรียน ทุ่งนา ป่า อยากเก็บภาพบรรยากาศแบบนี้ไว้ ว่าครั้งหนึ่งในชีวิตได้มาเยือนที่นี่ มีความสุขจริงๆครับ มือเดิมยื่นมาลูบหัวเบาๆ...หันไปมองหน้ามัน...เห็นมุมปากกำลังยกยิ้มอยู่...คงมองมานานแล้ว...ไม่รู้ตัวเลยว่ามันมองผมอยู่
“อือ กูก็...ชอบ...” ไม่เข้าใจว่ามันหมายถึงชอบอะไร...แต่มันยังมองมาที่ผมนิ่ง...รู้สึกแปลกๆเลยเสมองไปที่อื่น เห็นที่ซุ้มยิงปืนมีไอ้พี่แทนกับไอ้ไนท์อยู่ ข้างหลังหิ้วถุงขนาดใหญ่ที่ใส่ตุ๊กตาไว้คนละใบ สงสัยกวาดเรียบมาแล้วทุกซุ้ม คงเจ๊งไปแล้วหลายร้านครับ
“พี่เคยทำอะไรแบบนี้ไหม?”
“ตอนเด็กๆเคยเห็น แต่ไม่เคยได้เล่น คิดว่าคงไม่มีโอกาสได้ทำอะไรแบบนี้...จนมาเจอมึง”
“พี่กำลังจะบอกว่าผมทำให้ชีวิตพี่ตกต่ำใช่ไหม ฮ่าๆ” อยากแหย่มันเล่นเลยพูดไปแบบนั้น มันไม่ตอบอะไรแต่ยิ้มแล้วผลักหัวผมเบาๆ ไม่รู้ว่าชิงช้าหมุนไปกี่รอบ...ไม่รู้ว่านั่งอยู่บนนั้นนานแค่ไหน...รู้ตัวอีกทีก็ตอนมันฉกหอมแก้ม...แล้วซักพักกระเช้าที่ผมนั่งก็มาจอดด้านล่างพอดี...รีบเดินหนี...เพราะไม่รู้จะมีคนเห็นบ้างรึเปล่า...ถ้าใครตาดี...เวลาสองวิคงทันได้เห็น...
“พี่อยากกินอะไรไหม ตรงนั้นมีรถเข็นขายของเพียบเลย ลูกชิ้น ส้มตำ ไก่ย่าง ปลาหมึกปิ้ง เครื่องดื่มก็มีนะ หิวน้ำไหมพี่ ของหวานล่ะ โรตี น้ำแข็งใส หรือว่าสายไหมก็มี” เห็นโรตีแล้วคิดถึงไอ้พี่แชมป์เลยครับ น้ำแข็งใสก็คิดถึงเรื่องในโรงอาหารเมื่อตอนนั้น สลิ่มยังห้อยติดตาทำผมหลอนมาจนถึงทุกวันนี้
“มึงอยากกินอะไรก็ซื้อเลย กูไม่หิว” มีเสี่ยกระเป๋าหนักมาด้วยมันดีแบบนี้นี่เองอยากกินอะไรก็ได้สมใจ ไม่ต้องควักซักบาท ผมเลยฟาดเรียบทั้งลูกชิ้น น้ำแดง ปลาหมึกปิ้งอันนี้เหนียวมากกัดทีฟันแทบร่วง ตบท้ายที่กำลังเดินถือกันอยู่คือสายไหม สีสวยมากครับ เพราะผมเลือกแบบคละสี เอาให้มันคัลเลอร์ฟูลกันไปเลย หวานขึ้นตา ละลายในปาก พร้อมละลายในมือ ความจริงก็ไม่ชอบอะไรหวานๆหรอกครับ แค่อยากลองดู เห็นสีมันสวยดี
“กินไหมพี่” ถามไปงั้นแหละครับ รู้ว่ามันไม่ชอบอะไรหวานๆอยู่แล้ว
“............จุ๊บ.....................” กำลังหยิบสายไหมฟองใหญ่ยัดเข้าปาก แต่ยังไม่ทันหมด ไอ้พี่เหนือมันก็ก้มมากัดสายไหมที่อยู่คาปากผมไป ไม่พอยังกัดเอาริมฝีปากล่างไปผมไปดูดด้วย
“นั่นปากล่างผมนะได้ข่าว หวานไหมพี่” ถามไปแบบตาขวางๆครับ จับปากดูคงเจ่อๆเพราะมันดูดแรงมาก...เหลือบไปเห็นแตงโมสีแดงสวย...คิดว่าสีหน้าผมตอนนี้คงไม่ต่างกัน
“ไม่ค่อย แต่นุ่มดี” ยังจะเล่นกับกูอีก เห็นหน้ากูไหม มันบอกว่าไม่พอใจมาก ปากล่างกูห้อยขึ้นมาใครรับผิดชอบ
“หื่นว่ะพี่”
“ก็มึงบอกให้กูกิน”
“ผมหมายถึงสายไหม” ชูถุงที่อยู่ในมือขึ้นกระแทกหน้ามัน
“กูก็ชิมสายไหม มันหวานกูไม่ชอบ...แต่ชอบอะไรที่มันนุ่มๆมากกว่า กัดแล้วมันส์ดี”
“พี่แม่ง!” เจ็บใจที่เห็นมันทำหน้ากวนใส่...แพ้อีกแล้ว...ยิ้มชอบใจ...ยิ้มบ่อยกว่าทุกที...แต่ผมก็ชอบมอง...ถ้าเลือกได้...ยอมขาดทุน...ยอมปากเจ่อ...ยอมทำเผลอลืมตัว...ให้คนตรงหน้ามีรอยยิ้ม...ดีกว่าทำหน้าดุเป็นไหนๆ
“กลับกัน” พูดจบก็เดินไปรวมกลุ่มกับพวกที่เหลือที่ยืนรอกันอยู่หน้าวัด เมื่อครบคนก็ออกเดินทาง ตอนนี้เกือบตีหนึ่งแล้วอากาศเย็นกว่าเดิม น้ำค้างเริ่มลง ไอ้ธามเดินนำลิ่วๆเพราะกลัวไอ้พี่เหนือมันกระทืบเลยต้องจำใจฟังที่ไอ้พี่มินเล่างานวิจัยลูกนิมิตไปตลอดทาง มันบอกว่าถ้าไม่มีคนเยอะมันก็จะแอบเอาติดมือกลับมาด้วย เจริญล่ะตื่นเช้ามาลูกนิมิตหาย กูว่าเรื่องใหญ่ถึงจังหวัด ส่วนไอ้ไนท์กับไอ้พี่แทนก็แบกถุงตุ๊กตามาเหมือนกับจะไปขาย แข่งกันจนร้านเขาไล่ เจอมันสองตัวที่ไหนต้องเอาหนังสติกออกมายิงขู่ไม่ให้เข้าร้าน ลำบากไอ้นนท์ที่นั่งรออยู่ต้องเข้าไปช่วยดึงมันสองคนออกมา สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นเขาจริงๆแต่มันบอกว่าจะเอาไปฝากพวกเด็กๆที่โรงเรียน ในความหยาบช้ายังคงหลงเหลือความอ่อนโยนอยู่ครับ ส่วนไอ้ต้นกับไอ้แบทก็ต้องควักเงินชดใช้ค่าเซียมซีให้ทางวัดใหม่เพราะหายังไงก็หาไม่เจอ ไม่รู้ปลิวหายไปไหน ขอไว้อาลัยให้ความซวยของมันห้าวิ
“.......................”
“ง่วงหรอ”
“ครับง่วง” พูดแล้วก็สูดน้ำมูกไปซื๊ดใหญ่ ไม่กล้าเช็ดกับเสื้อมันครับ กลัวมันด่า ไว้เผลอก่อนค่อยทำ
“น้ำค้างแรง เดี๋ยวไม่สบาย” มันพูดพร้อมดึงฮูดขึ้นคลุมหัวผม ผมก็กลัวมันไม่สบายนะ แต่มันยกเสื้อให้ผมแล้ว ผมก็ใจดีรับไว้แล้วไม่ให้คืนครับ เพราะของฟรีผมถือ! ถือเอาเป็นเจ้าของถาวร
“.....................”
“.....................” หันหน้าไปมอง...ไม่สบตา...ไม่ยอมมองหน้ากันอีกแล้ว...อยากสบตา...อยากรู้ว่าทำสีหน้าแบบไหนอยู่...แต่ช่างเถอะ...ยื่นมือมาจับข้างหลังแบบนี้...มันคงไม่ทำสีหน้าต่างจากผมเท่าไหร่หรอก...ดีที่มืด...ดีที่เดินอยู่สองคนรั้งท้ายหลังสุด...ถึงได้ไม่ยอมสะบัดมืออุ่นๆที่ยืนมาจับอยู่ตอนนี้ออกไป...เพราะอากาศเย็นหรอกนะ...ถึงได้จับมือนั้นไว้แน่นขึ้นไปอีก...สาบานเลยว่าแค่เพราะอากาศเย็น...ไม่ได้เกี่ยวกับหัวใจที่เต้นตึกตักๆๆอยู่ตอนนี้เลย...จริ๊งจริ๊งงงงงงง
ผมจะเสียงสูงทำไม?.....
สงสัยวันนี้ก็คงเมื่อยปากไปอีกวัน...อยู่กับมันแล้วไม่เคยหุบยิ้มได้ซักที...
ตอน12มาแล้วค่ะ คนแต่งมันฟื้นแล้ว

มันฝากดอกไม้แทนใจให้ทุกคำชมด้วยค่ะ
I-AMมันขอบคุณทุกความเห็นมากๆเลยนะคะ

ทุกคนดูอินมากน่ารักกันจริงๆ

เห็นแบบนี้ก็มีกำลังใจทั้งคนแต่ง คนอัพค่ะ

ปล. ใครเพิ่งแสดงตัวขอต้อนรับนะ I-AMมันปลื้มมากค่ะ

: คนเม้นประจำก็อยู่ฮาด้วยกันไปนานๆนะคะ
