Dangerous Your Mind อย่าร้าย...ได้ไหม(วะ!) Special Children’s Day 9/01/2016 P.60
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Dangerous Your Mind อย่าร้าย...ได้ไหม(วะ!) Special Children’s Day 9/01/2016 P.60  (อ่าน 1069333 ครั้ง)

ออฟไลน์ อเลนคุง

  • some stories stay with us forever
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 165
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
 



__________________________












*สารบัญ* Dangerous Your Mind อย่าร้าย...ได้ไหม(วะ!)
[/b]

                                                   
โดยคุณ  Ryojung ใจดีทำสารบัญให้นะคะเข้าไปอ่านกันได้เลยค่ะ

*สารบัญ* Dangerous Your Mind อย่าร้าย...ได้ไหม(วะ!)

Intro
Chapter 1 - ลูกรัก
Chapter 2 – เหนือฟ้า
Chapter 3 - ตัวเลือก
Chapter 4 - เด็กเหนือ
Chapter 5 - หวงมาก
Chapter 6 - หมอนวด
Special part - Time
Chapter 7 - ของกู
Chapter 8 - อย่าดื้อ
อิมเมจตัวละคร
Chapter 9 - เกิบหาย
Chapter 10 - เต้นท์สั่น
Special part – คู่กัด
Chapter 11 - ลักจูบ
Chapter 12 - งานวัด
Chapter 13 - เป็นแฟน
Chapter 14 - ล่อลวง
Chapter 15 - ครอบครอง
Chapter 16 - ล้นใจ
Chapter 17 - บังเอิญ
Chapter 18 - คนป่วย
Chapter 19 - ไม่รู้
Special part - ตุ๊กตา
Chapter 20 - ลงโทษ
Chapter 21 - เพราะรัก
Special part  Ep.1.1 - เริ่มต้น
Chapter 22 – (P)On Top
Special part  [พิเศษวันรวมตัว] - ทำบุญ
Special part  Ep.1.2 - เมาจูบ
Special part  Ep.1.3 - ส่งรัก                                                        
































Intro…………


ผมจำไม่ได้...ว่าอาการกระตุกวูบไหวบริเวณก้อนเนื้อที่อกซ้ายคล้ายกับมีกระแสไฟฟ้ามากระตุ้นมันแบบฉับพลันเกิดขึ้นตอนไหน?


ผมจำไม่ได้...ว่าอาการปวดหนึบบริเวณช่องท้องแล้วแผ่ขยายเป็นบริเวณกว้างลามทั่วร่างกายพาให้ลมหายใจติดขัดคล้ายกับคนตกลงจากที่สูงลงสู่เหวลึกนี้เกิดขึ้นเมื่อไหร่?
 

ผมจำไม่ได้...ว่าเมื่อไหร่กันที่ผมมีเวทมนต์ทำให้โลกทั้งใบหยุดหมุน ทำให้คนรอบกายทุกคนหยุดเคลื่อนไหวได้ในเวลาอันรวดเร็วพร้อมๆกับที่สามารถสร้างโลกกลวงๆของตัวเองที่ทั้งใบมีแค่ “คนๆเดียว” เข้าไปยืนอยู่นั้นขึ้นมา?


ผมจำไม่ได้…ว่าสายตาของผมแคบลงตอนไหนเมื่อมันจับจ้องอยู่แค่ “คนๆเดียว” เท่านั้น?


ผมจำไม่ได้...ว่าผมมีอาชีพเสริมนอกเวลาเรียนคือการเป็นโจรไปตั้งแต่ตอนไหนเมื่อผมอยากขโมยหัวใจของ “คนๆเดียว” มาไว้กับตัวตลอดเวลา?


ผมจำไม่ได้…ว่าเมื่อไหร่กันที่ผมสูญเสียทุกความเป็นตัวของตัวเอง และกลายเป็นคนใฝ่รู้ที่ต้องมานั่งตอบคำถามตัวเองหรือหานิยามให้กับอาการเหล่านี้?


ผมคิดว่าผมกำลังป่วย…เพราะ คนหนึ่งคน...ผมว่าอาการของผมตอนนี้เข้าขั้นโคม่า!!!!!...

ผมป่วย? ผมเป็นอัลไซเมอร์เพราะกลายเป็นคนขี้หลงขี้ลืม เปล่าเลย...

ผมป่วย? ผมเป็นโรคหัวใจเพราะ ใจมันกระตุกวูบไหว เพราะมันเต้นถี่รัวจนก้อนเนื้อเต้นได้นั้นแทบหลุดออกจากอก เปล่าเลย...

ผมป่วย? ผมเป็นโรคประสาทเพราะคิดว่าตัวเองมีเวทมนต์ สร้างโลกของตัวเองที่ทั้งใบมีแค่ “คนๆเดียว” เปล่าเลย…

และผมก็มั่นใจว่าตัวเองเป็นคนดีพอที่จะไม่ลักขโมยของใครหรือผิดศีลข้อสองเป็นแน่ แต่ทำไมถึงอยากได้หัวใจของ “คนๆเดียว” นักก็ไม่รู้ ผมกำลังป่วยอยู่อย่างนั้นหรือ?

แล้วผมจะนิยามอาการของตัวเองเหล่านี้ว่าอะไรดี?


         หัวใจของผมไม่ได้เป็นของผมอีกต่อไป...เพราะผมควบคุมมันไม่ได้ นึกอยากจะเต้นรัวเร็วเป็นวงไอดอลเกาหลีตอนไหนก็เต้น อยากจะกระตุกเป็นแผ่นดีวีดียามไม่ได้ใช้เครื่องเล่นเอเจเหมือนที่ลุงแอ๊ดสมบัติโฆษณาตอนไหนก็ทำ...เส้นประสาทรับความรู้สึกของผมทำงานดีเยี่ยมจากอาการคล้ายคนตกลงจากที่สูงซึ่งผมหานิยามให้มันได้ว่าอาการ…หน่วง!ซึ่งเป็นอาการเดียวกับที่Room39เขาร้องไว้เป๊ะๆ และมันเกิดได้บ่อยครั้งในช่วงหลังๆมานี้ ซึ่งผมประเมินได้คร่าวๆว่าการรับรู้ของผมเป็นปกติดีพอๆกับอัตราการเผาผลาญของร่างกายที่ทำงานอย่างหนัก โดยเฉพาะต่อมเหงื่อที่เร่งขับของเสียออกมาอย่างรวดเร็วยามเมื่อ “คนๆเดียว” เพียงแค่เฉียดกายเข้าใกล้แต่ผมคงต้องเพิ่มอาการตัวสั่นเป็นเจ้าเข้าแทรกซ้อนมาด้วย สั่นมากเมื่อใกล้กันมาก และจะสั่นน้อยหน่อยเมื่อได้อยู่ห่างๆ ในขณะที่สายตาของผมก็กำลังแย่ลงทั้งๆที่ค่าสายตายังคงเป็นปกติหากแต่การมองเห็นกลับแคบลงจนมองเห็นได้แค่ “คนๆเดียว” และมันสร้างความหนักใจให้ผมอย่างมากเพราะผมคิดว่าคงจะหาแว่นสายตาหรือคอนแท็กเลนส์ที่มีเลนส์สายตาทำให้มองคนได้มากขึ้นไม่ได้...หรือจะให้ไปศัลยกรรมทำตาเพิ่มเป็น สาม สี่ ชั้นที่เกาหลีก็ดูจะผิดมนุษย์เกินไปสำหรับผมและเกรงว่าคนอื่นจะเข้าใจผิดว่าผมแบกตึกพาณิชย์ไว้แทนหนังตา ที่สำคัญผมไม่ได้เล่นของหรือเป็นพ่อมดหมอผีที่จะมีเวทย์มนต์ทำให้ทุกสิ่งหยุดเคลื่อนไหว แต่เพียงแค่ได้สบตากับ “คนๆเดียว” ผมกลับทำให้ทุกสิ่งรอบตัวหายไปและเห็นเพียงแค่เขาคนเดียวเท่านั้นในสายตา...


ผมเป็นอะไร? ผมอาการโคม่า ผมมั่นใจว่าผมไม่ได้บ้า ถึงผมจะไม่ได้เรียนแพทย์แต่ก็มั่นใจว่าตัวเองไม่ได้บ้าแน่นอน แต่ที่เป็นอยู่มันก็ไม่ใช่ตัวผมในแบบปกติอย่างที่เคยเป็น!!!!! ผมจำไม่ได้ว่ามันเกิดขึ้นตอนไหน พอๆกับที่ไม่รู้ว่าผมกำลังป่วยเป็นโรคอะไร แต่ผมหาต้นเหตุได้ ตัวต้นเหตุ ที่เป็นสาเหตุ และมันได้ทำให้ผมเป็นเหตุเหมือนคนบ้าตอนนี้นั่นแหละ!
ต้นเหตุของอาการเหล่านี้คือ “คนๆเดียว” !!!!!


เพราะ มัน คนเดียว!!!!!









เรื่องนี้เป็นนิยายของI-AM ซึ่งอเลนคุงได้รับอนุญาตให้เอามาลงในบอร์ดนี้แล้ว เป็นนิยายเรื่องแรกของI-AMด้วย แล้วก็เป็นการโพสลงบอร์ดครั้งแรก ถ้ามีข้อผิดพลาด หรือ หลงลืมกฎข้อบังคับไหนไปก็ขออภัยด้วยนะคะ :mew2:

อเลนคุงขอฝากตัวกับทุกคนด้วยค่ะ  :hao5: :hao5:

อเลนคุงขอให้ทุกคนอ่านนิยายเรื่องนี้อย่างสนุกสนาน ถ้าได้ตอนใหม่มาแล้วจะรีบเอามาอัพให้อ่านกันค่ะ :กอด1:


Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-01-2016 02:47:20 โดย อเลนคุง »

ออฟไลน์ Eternal luv

  • ชะตาฟ้าลิขิต แต่ชีวิตนะ...ของกรู
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 361
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-1

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23
เจิมเรื่องใหม่จ้า o13
น่าติดตามๆ
ลป.นิดนึงค่ะ ชื่อเรื่องน่าจะเป็น 'วะ' มากกว่า นะคะ

ออฟไลน์ อเลนคุง

  • some stories stay with us forever
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 165
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-0
Chapter 1...................... "ลูกรัก"


            เสียงวิ่งของรองเท้ากีฬาต่างสี ต่างขนาด เหยียบไปบนพื้นสนามหญ้าที่พื้นดินบางส่วนชื้นแฉะจากสายฝนที่เพิ่งหยุดลงได้ไม่นานดังกระทบลูกกลมๆลายขาวดำเพียงลูกเดียวที่ยื้อแย่งกันแทบเป็นแทบตายของคนนับหลายสิบคนดังอยู่ไม่ไกลนักจากบริเวณม้านั่งหินอ่อนข้างตึกเรียนของคณะที่ขึ้นชื่อว่าหาตัวนิสิตทั้งคณะได้เจอยากที่สุด ถ้าตะวันไม่ตกดินหรือมีเหตุประชุมเร่งด่วนแล้วละก็คงแทบจะไม่ได้พบปะสิ่งมีชีวิตใดเลยทั้งตึกเรียน ขึ้นชื่อว่าสถาปัตย์ หากการเรียนการนอนเป็นไปตามตารางเวลาการใช้ชีวิตของคนปกติก็คงจะไม่ใช่นิยามของเด็กคณะนี้เป็นแน่
 
“สัดปอนด์! ทิ้งพวกกูเลยนะมึง ไอ้เพื่อนทรยศ”เสียงทักอันแสนสุภาพไพเราะเสนาะหูลามให้ตีนของผมที่นั่งดูเพื่อนต่างสาขาเล่นฟุตบอลกันอยู่กลางสนามไม่ไกลนักพาลกระตุกยิกๆอยากจะวาดไปเสยปากไอ้คนทักซักเปรี้ยงแทนลูกฟุตบอลถ้าไม่ติดว่ามีความผิดติดตัวเป็นชนักติดหลังให้เอี้ยวตัวไปเสยปากมันไม่ได้อย่างที่ว่าจริงๆ
“ผัวะ!...”เสียงฝ่ามือกระทบหัวเหม่งใครซักคนอย่างแรง ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหน หัวผมเอง แต่มันเป็นมือใครนี่สิผมหาอยู่! แม่งมากันสามคน หกมือว่ะครับ แต่พอผมเงยหน้าขึ้นสบตาคนที่เพิ่งมาใหม่แล้วก็รู้ได้ว่าใคร
“เชี่ยนนท์ มึงไม่ต้องแสดงความรักกับกูแบบนี้ก็ได้นะ กูซาบซึ้งสะเทือนไปทั้งซีรีบรัมเลยสัด!”ผมก็ตอบกลับไปด้วยคำพูดแสนอ่อนโยนไม่แพ้กัน ผมกูยิ่งไม่ต่างจากสนามหญ้าที่คนสวนเพิ่งจะมาเล็มไปอยู่ตบมาทีก็ยั้งแรงไว้บ้าง
“มึงอย่าขุดความรู้สายวิทย์เท่าขี้แมลงหวี่มาด่ากูไอ้ปอนด์ ประชุมทีไรชิ่งตลอด พวกพี่เสือ พี่กร ถามหามึงกับพวกกูก็ไม่รู้จะสรรหาคำแก้ตัวไหนให้มึงแล้ว”มันดูถูกแม้กระทั่งคำด่าของผม ถ้าไม่ติดว่ามันเป็นเพื่อนซี้ปึ้กที่ผมสนิทมากๆแล้วละก็รับรองมันได้เจอหมาในปากที่ผมเพาะพันธุ์ไว้เป็นหลายสิบตัวทำงานแน่ๆ
“เหลือแค่พวกกูจะบอกว่ามึงไปตายห่าแล้วเท่านั้นแหละ”ไอ้ธามพูดแทรกขึ้นก่อนจะทิ้งตัวนั่งที่ม้าหินอ่อนตัวข้างๆผมอย่างเหนื่อยหน่าย มึงขนาดเล่นกูถึงตายห่าเลยหรอว่ะ ให้กูตายดีๆก็ได้มั้ง เกี่ยวไหม? ผมว่านั่นไม่ใช่ประเด็น
“กูขอแหละไอ้ปอนด์ กูรู้ว่ามึงไม่ชอบความวุ่นวาย โลกส่วนตัวมึงมันสูงแบบสุดโต่ง แต่มึงก็ควรแบกหนังหน้ามึงไปให้สายรหัสมึงเห็นบ้าง”ไอ้ไนท์เริ่มสวมบทอัศวินตามชื่อสั่งสอนให้ผมได้เห็นถึงสิ่งที่พึงกระทำก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงข้างๆไอ้ธามแต่ปากก็พล่ามด่าผมไม่หยุด จนไอ้นนท์ที่ยืนค้ำหัวผมอยู่นานเดินไปทิ้งตัวนั่งที่ม้าหินตรงข้ามผมบ้าง มันคงจะเมื่อยแต่คิดว่าคงไม่เมื่อยเท่าหน้าตาดุๆที่ตีใส่ผมอยู่หรอกมั๊ง คลายบ้างก็ได้ กูยังไม่อยากมีเพื่อนหน้านำไปก่อนเดี๋ยวจะพาลเรียกพ่อไปซะเฉยๆ
“เออๆ กูรู้ พี่เสือ พี่กรกูก็กินเหล้ากับพี่แกออกจะบ่อยซี้ขนาดไปนอนจมอ้วกที่หอแกมาแล้ว ไอ้กล้วยน้องรหัสกูก็เพิ่งจะพามันไปเลี้ยงข้าวแกงเมื่อวานซืนแล้วมึงจะอะไรกับกูอีกวะ”ผมบอกไปแบบเหนื่อยๆ ใช่ครับผมมันไอ้คนโลกส่วนตัวสูง ไอ้คนสุดโต่งแบบที่เพื่อนๆมันว่า แต่ผมก็แค่ไม่ชอบอะไรที่มันวุ่นวาย ผมไม่ชอบเอาตัวเองเข้าไปเกี่ยวข้องในสถานการณ์ที่ผมพอจะมองเห็นว่ามันจะทำให้ชีวิตอันปกติแสนธรรมดาสุดๆของผมต้องวุ่นวายเป็นแน่ อย่างการประชุมกิจกรรมต่างๆผมเลือกที่จะเข้าบ้างไม่เข้าบ้างก็มีเหตุผลนะครับ เพราะผมไม่ค่อยได้รับหน้าที่อะไรสำคัญๆ ไม่ทันข้ามวันไอ้ต้นประธานรุ่นมันก็มาแจงงานให้ทุกคนรู้เองนั่นแหละ ซึ่งผมก็พอใจกับงานง่ายๆอย่างลิ่วล้อลูกกระจ๊อกเล็กๆแทนที่จะเป็นเฮดใหญ่ๆอย่างไอ้เอ ที่วันทั้งวันต้องวิ่งวุ่นหัวหมุนตัวเป็นศพหน้าเป็นซอมบี้แทบไม่ได้หลับได้นอนแบบนั้น หรือ ต้องซวยดันเกิดมาหล่อโครตพ่อโครตแม่จนเข้าตากรรมการถูกดันให้เป็นเดือนคณะอย่างไอ้ไนท์ อัศวิน เจ้าชายแห่งสถาปัตย์ปี่2จนต้องเดินสายโชว์ตัวเป็นเซเลปคนดังงานนู้น งานนี้ เป็นหน้าเป็นตาของมหาวิทยาลัยซักหน่อย ผมมันก็แค่ ไอ้ปอนด์ ไอ้ปอนด์ปากหมาของเพื่อนๆ ไอ้คนแสนธรรมดาๆคนหนึ่ง แล้วไฉนผมต้องไปนั่งเสนอหน้าให้ใครๆได้เห็นด้วยว่ะครับ
“กูพูดกับมึงแล้วเหมือนชีวิตกูจะสั้นลงทุกที เอาเหอะๆ เดี๋ยวไอ้ต้น กับ น้ำฝน ก็มาแจงงานให้มึงเองแหละ ว่าแต่มึงกินข้าวยังวะ”ไอ้นนท์หันมาถามผม แต่ปรายสายตาจับจ้องที่ชายกระโปรงนิสิตสาวที่เดินเกาะกลุ่มกันมาไม่ห่าง หื่นแต่หัววันเลยเพื่อนกู สายตามึงบ่งบอกทุกอย่างเลยปกปิดบ้างเหอะ แต่ อื้อหือ! น้องนางสมัยนี้ขาเขาเรียวขาวจริงๆ แล้วนั่นผ้ามันน้อยหรือผงซักฟองมันไปทำปฏิกิริยากับใยผ้าจ๊ะถึงได้หดสั้นขนาดนั้น ผมต้องไปขอบคุณผงซักฟอกยี่ห้อนี้ซะแล้ว เลือดกำเดาจะไหล อ้าวๆอย่าก้าวยาวครับ มันเสียวจะเห็นสามเหลี่ยมจิ๋วโผล่มาสบสายตาของผมเข้า ผมยังไม่อยากจมกองเลือดตายนะสาวๆ
“ไอ้เชี่ยปอนด์ หื่นไม่ดูเวล่ำเวลานะมึง”ด่ากูแต่ตานี่ไม่มองหน้ากูเลยนะสัดธาม ได้ข่าวที่มึงจ้องตาแทบถลนนะจะเห็นไปถึงเซลล์เม็ดเลือดขาวของน้องๆเขาแล้วมั้ง แต่อย่าเพิ่งตัดสินว่าพวกผมที่นอกจากจะปากหมา หยาบคาย สถุล ไร้สกุลรุนชาติ ข้อนี้ยกเว้นไอ้ไนท์ เจ้าชายอัศวินไว้คนครับ เพราะมันรวมทุกอย่างของความสมบูรณ์แบบไว้ในตัวทั้งหนังหน้า การศึกษา และชาติตระกูล แถมควบตำแหน่งเดือนผู้เป็นดั่งเจ้าชายแห่ง สถาปัตย์ไว้ด้วย ส่วนจะผิดก็แค่หลงมาคบกับเชี่ยสามตัวอย่างผม ไอ้นนท์ ไอ้ธามนั่นแหละที่ทำให้ชีวิตมันมีอะไรให้ด่างพร้อยบ้างเป็นสีสันต์ พูดมาซะยาวผมก็แค่จะบอกว่าถึงพวกผมจะเป็นแบบนี้ แต่ก็ให้เกียรติสุภาพสตรี เด็ก และคนชรานะครับ ถึงหน้าจะไม่ให้แต่ก็เป็นคนดีใช้ได้เลยทีเดียว กับผู้หลักผู้ใหญ่ คณาจารย์ หรือรุ่นพี่พวกผมก็เคารพเสมอนะครับ เว้นแต่พี่ น้องในสายรหัสหรือกลุ่มก้อนในวงเหล้านั่นแหละที่พอจะให้เล่นหัว ปีนเกลียว พาหมาในปากที่เพาะเลี้ยงเป็นฟาร์มไว้ออกไปวิ่งพล่านแขวะกัดชาวบ้านชาวช่องเขาได้บ้างเป็นการเชื่อมสัมพันธ์ภายในเอกและผูกมิตรหลอกกินเหล้าฟรีน่ะครับ
“กูยังไม่ได้กินข้าวเลย นั่งรอพวกมึงนั่นแหละ ไปหาไรกินเหอะว่ะ กูหิวแล้ว”ผมออกปากทันทีที่รู้สึกแสบท้องขึ้นมา กินข้าวไม่เป็นเวลาหรือรวมมื้ออาหารเป็นมื้อเดียวได้ทั้งวันพวกผมถนัดครับ ยิ่งก่อนส่งโปรเจค หรือก่อนตัดFนะ อย่าว่าแต่ข้าวซักมื้อเลย น้ำซักหยดยังไม่ค่อยจะตกถึงท้องเลยครับ หวิดจะคว้ายู้ฮูกับชิ้นโมเดลในมือขึ้นมากินเป็นของว่างก็ออกจะบ่อย แต่ผมก็รู้รสนะครับ ชิมมาแล้ว ฮ่าๆๆ
“หลังมอนะ”เชี่ยนนท์พูดจบมันก็ลุกเดินนำหน้าทุกคนไปก่อน จริงๆมันเดินตามสาวๆกลุ่มเมื่อครู่ไปนะครับ โธ่ ไม่ค่อยชัดเจนเลยเพื่อนกู ยังจะตามไปส่องเขาอีกดูเผื่อกูด้วยนะ ผมเก็บสัมภาระที่มีเพียงกระเป๋าเป้สะพายข้างเก่าๆขาดๆที่ตอนแรกเป็นสีดำแต่ด้วยระยะเวลามันก็เปลี่ยนเป็นสีเทาซีดๆไปตามระเบียบ ผมหยิบมันขึ้นมาสะพายโดยไม่ลืมหยิบสมุดเขียนแบบบนโต๊ะติดมือมาด้วยแล้วเดินตามหลังเพื่อนไปติดๆ
“วันนี้ไปดูลูกรักมึงยังว่ะ เห็นวันไหนไม่ได้ไปดูเป็นบุญตาล่ะจะเฉาตาย”ไอ้ไนท์วาดแขนขาวๆที่สาวๆวาดฝันอยากจะสัมผัสพาดคอของผม แล้วยื่นหนังหน้าหล่อๆมาถาม สัด! กูละเบื่อหนังหน้ามึง อยู่กับมันทีไรผมอนาถตัวเองทุกที ถึงผมจะมีดีหน่อยคือขาวเท่ามันก็เถอะ แต่ก็ไม่ถึงขนาดหล่อโครตพ่อโครตแม่แบบมันหรอกครับ รัศมีมันผิดกัน ผมมิอาจเทียบท่านอัศวินเขา แต่ใครๆก็บอกว่าผมน่ารักนะ ตาโตๆ กับส่วนสูง178 cm.ของผม  เขาว่าผมน่ารักแบบมึนๆครับ ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจว่านั่นจะใช่คำชมรึเปล่า?
“ก็เนี่ยไงเดี๋ยวก็เห็น ลูกรักกูมันอยู่ที่เดิมของมันตลอดแหละ”ว่าพลันขาที่ก้าวฉับๆไปพร้อมกับแขนหนักๆของเพื่อนหน้าหล่อก็เดินตัดผ่านคณะคู่อริคู่กัดคูแค้นที่ไม่ถูกกันแต่เจือกมาอยู่ใกล้กันให้ได้เขม่นเหม็นขี้หน้ากันทุกวัน...ก็ถ้ามีผู้ออกแบบ มันก็ต้องมีผู้สร้างใช่ไหมล่ะครับ?
“ไอ้คณะนี้แม่งจะหน้าเถื่อนไปไหนวะ เดินผ่านทีกูล่ะขยาด แล้วช็อปแม่งซักบ้างป่าวก็ไม่รู้”แล้วมึงจะพูดดังให้มันเดินลากตีนมาเตะเสยใต้คางมึงทำเชี่ยไรสัดธาม เดินไปก่อนดีๆหันมากระซิบให้ได้กินตีนแทนข้าวทำซากไรว่ะ ช็อปมันจะเขรอะ จะซีด จะเก่าจนขาดมีสภาพอนาถหยังกับผ้าขี้ริ้วมึงจะไปสนใจทำไม ซักให้เขารึก็เปล่า สนใจหน้าพี่แกโน่นดูท่าจะอยากได้หน้าตี๋ๆของไอ้ธามขัดรองเท้าหนังแบรนด์ดังของแกซะด้วย
“ทำยังกับมึงสะอาดนักไอ้ธาม แต่ละวันมึงอาบน้ำบ้างรึเปล่าก็ไม่รู้ กูเห็นวาดแบบเสร็จไล่ให้ไปอาบน้ำไม่เห็นเคยอาบซักที ระวังพี่...คังจะถามหาไข่มึง”อื้อหือ คำพูดคำจาของไอ้อัศวินหน้าหล่อ อยู่กับพวกกูมากไปพาลพาคนดีๆหยาบคายเสียผู้เสียคนไปกันหมด
“อ๊ากกกกก ลูกรักของพ่อ!!!!! วันนี้ก็ยังสวยเหมือนเดิมเลยนะลูก เงาวาววั๊บจับใจพ่อเหมือนเคยเลย”พลันสายตาเหลือบไปใต้ร่มเงาต้นไม้ใหญ่ที่ประจำหลังคณะเถื่อนๆที่ว่า ผมก็สะบัดแขนชายในฝันของสาวๆทิ้งเป็นผ้าขี้ริ้วอย่างไม่ใยดีแล้วถลาพาร่างตัวเองปรี่เข้าไปยังวัตถุหลักหลายล้านสีขาวแสนแพงที่ผมไม่อาจแม้จะกล้าแตะต้องได้อย่างรวดเร็ว ยานพาหนะสี่ล้อแสนแพง 560แรงม้ากับตราสัญลักษณ์เป็นโล่ห์ที่หลายคนวาดฝันอยากจะจับจองเป็นเจ้าของในชั่วชีวิตนี้ อยู่ตรงหน้าเต็มๆตาโตๆของผมตอนนี้ ใช่ครับ ลูกรักผมที่ว่าเนี่ยมันคือLamborghini Gallardo LP560-4 Spyder สุดยอดรถในฝันของผมนั่นเอง เท่ห์โครตๆๆ โอ้ย แค่เฉียดเข้าใกล้ก็เห็นถึงออร่าความเร็วแรงพวยพุ่ง เบาะหนังสีดำนั่นผมอยากเอาตัวเข้าไปนั่งมันให้เป็นบุญตูดซักครั้งในชีวิตยิ่งนัก ว่าแล้วสายตาก็ตวัด ควับ!คอแทบเคล็ด แต่หาได้แคร์ไม่ เพราะผมเห็นขี้นกแปะอยู่บริเวณกระโปรงหน้าลูกรักผม
“ไอ้นกเวร กล้ามาปล่อยของเสียบนลูกรักกูเลยหรอ มันจะมากไปแล้ว” ว่าแล้วก็หยิบผ้าเช็ดหน้าผืนเก่าสีชากากๆแต่ไม่กรังไปด้วยขี้มูกนะครับผมซักแล้วหอมน้ำยาปรับผ้านุ่มด้วยหยิบออกมาจากเป้สีเทาซีดๆที่สะพายไว้ข้างตัว แล้วเช็ดๆชัดๆขี้นกบนกระโปรงหน้าลูกรักผมจนสะอาดหมดจดปราศจากขี้ใดๆให้ไม่รู้สึกระคายตายามมองลูกรักของผม
“น้อยๆหน่อยไอ้ปอนด์ ทำยังกับตัวเองเป็นเจ้าของนะมึง ระวังเจ้าของมันรู้มันจะขับลูกรักมึงนี่แหละทับหัวมึงแบ่ะ” มันไม่พูดเปล่าใช้มือหนักๆที่แรงเท่าฝ่าเท้าฟาดเพี้ยะลงบนหัวสนามหญ้าของผมอย่างแรง เจ็บวุ๊ย! บอกกูอย่างเดียวก็ได้ ไม่ต้องแสดงความรักกับกูบ่อยๆ ถึงว่าช่วงนี้กูว่ากูไม่ค่อยมีสมาธิเรียน เลือดคั่งในสมองหรือเปล่าก็ไม่รู้ขยันตบหัวกูจริง
“มันต้องขอบคุณกูสิถึงจะถูก กูอุตส่าห์ลงทุนลงแรงดูแลรถให้มันทุกวันเป็นอย่างดีเลยนะเว้ยไอ้นนท์”ถ้าวันไหนไม่ได้มาเดินโฉบผ่านให้สบเป็นบุญตาวันนั้นผมจะไม่มีเรี่ยวแรงตั้งใจเรียนเลยล่ะครับ ได้แตะนิด สัมผัสหน่อย ผมก็มีความสุขแล้ว หรือถ้าวันไหนไอ้เจ้าของรถนิรนามมันไม่พาลูกรักผมมามหาลัยด้วยแต่เปลี่ยนเป็นยี่ห้ออื่นที่แตะหลักหลายสิบล้านไม่ต่างกันผมก็ไม่สนใจครับ ผมปักใจรักแค่คันนี้เท่านั้น!
“มึงมาเหมารถเขาเป็นเจ้าของแบบนี้มาเทอมนึงแล้วมึงไม่อยากจะรู้หรอวะว่าเจ้าของลูกรักมึงเนี่ยมันเป็นใคร หน้าตามันเป็นยังไง?” ไอ้ไนท์ที่โดนผมสะบัดทิ้งเป็นผ้าขี้ริ้วถามผมแต่สีหน้าแม่งอยากจะรู้เองมากกว่านะผมว่า
“กูชอบรถเขา แล้วทำไมกูต้องสนใจเจ้าของรถว่ะ กูไม่ได้จะมาถอดล้อแม็คมันไปขายซะหน่อย”ถึงจะอยากทำก็เถอะ แต่ไม่เอาไปขายนะ จะเอาไปตั้งไว้บูชาในห้องครับ
“ก็เผื่อมึงจะได้ไปตีซี้จนสนิทได้เข้าไปนั่งในลูกรักมึงจริงๆเข้าซักวันไง”โถ๊ว ไอ้ไนท์มึงไม่น่ามาอยู่กับคนโง่ๆอย่างพวกกูเลยความคิดควายๆแบบนี้ถึงได้หลุดออกมาจากมันสมองฉลาดๆเกรดสามกว่าตลอดของมึง สาบานนะว่านี่ผมกำลังด่ามันอยู่
“มึงเห็นกูเป็นคนมีมุนษยสัมพันธ์ดีขนาดนั้นเลยหรอวะ? หน้าอย่างกูเนี่ย จนๆอย่างกูเนี่ยมีไรให้ไอ้รวยนี่จะมาสนิทวะมึง มีแต่มันจะขับลูกรักทับหัวกูแบ่ะอย่างไอ้นนท์ว่านั่นซะมากกว่าถ้ามันรู้ว่ากูมาลวนลามรถมันแทบทุกวันแบบนี้” ผมพูดขณะเดินรอบลูกรักเก็บเศษใบไม้กิ่งไม้แห้งที่ร่วงใส่ลูกรักผมรอบๆคันประหนึ่งเป็นรถตัวเอง
“กูว่าแม่งคงรวยแล้วก็เส้นใหญ่พอควรแหละว่ะ ไม่งั้นมันจะได้ที่จอดรถประจำตรงนี้ทุกวันหรอว่ะ คนอื่นยังไม่กล้ามาจอดตัดหน้ามันเลย บางวันกูเห็นลูกรักมึงไม่มาที่ตรงนี้ก็ว่างไว้รอลูกรักมึงเสมอ” ที่ไอ้ธามพูดผมก็เห็นด้วยนะ เพราะมันจะเป็นแบบนั้นจริงๆทุกครั้งไป
“เออ พวกมึงจะอีกนานไหม เจ้าของรถแม่งจะรวย จะเส้นใหญ่อะไรก็เรื่องของมันเหอะ เพราะตอนนี้กูอยากแดกเส้นหมี่น้ำตกหมูไม่งอกของป้าเล็กจะแย่แล้ว” อ้าว โมโหหิวนะไอ้นนท์ กูเดินผ่านกูก็อยากจะมาดูลูกรักกูซักนิด ไม่เห็นใจกูเลย
“ไปๆ กูดูพอแล้ว พ่อไปก่อนนะลูกรัก แล้วไว้เจอกันใหม่”หันไปแตะเบาๆบอกลาลูกรักคันงามพอเป็นพิธีจากนั้นจึงเดินตามไอ้เพื่อนสามตัวออกไปทันที พลางเดินคิดไปด้วยว่าจะสั่งอะไรกินดี



“ตั้งใจจะหลบหน้ากันไปถึงไหนคะ?”เสียงหวานเอ่ยถามคนตรงหน้าด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ แขนเรียวขาวผิวนวลเนียนละเอียดยื่นไปฉุดแขนคนตรงหน้าเบาๆคล้ายอยากให้แค่หยุดฟังสิ่งที่ตนต้องการจะบอกเพียงเท่านั้นแต่ไม่อยากให้อีกฝ่ายได้รำคาญใจ
“พี่ว่าเราพูดกันรู้เรื่องแล้วนะ”น้ำเสียงเย็นชาส่งผ่านมาทางริมฝีปากหยักสวยได้รูปพร้อมนัยต์ตาคมๆแสนเย็นชาไม่ต่างจากคำพูดจ้องผ่านใบหน้าสวยผู้เป็นเจ้าของเรียวแขนที่คว้าเขาไว้
“รู้เรื่อง! เรื่องที่พี่ปิดมือถือจนติดต่อไม่ได้ ไปหาที่บ้านก็ไม่ออกมาพบ หรือเรื่องที่วันก่อนพี่ไปกินข้าวกับผู้หญิงคนอื่นล่ะคะ?”มือเรียวของหญิงสาวที่ตอนแรกสัมผัสเพียงเพื่อเหนี่ยวรั้งไว้ตอนนี้ได้เพิ่มแรงบีดรัดแขนแกร่งด้วยอารมณ์โทสะที่เพิ่มขึ้นพร้อมน้ำเสียงที่เคยหวานเน้นเสียงหนักขึ้นตามแรงอารมณ์
“..........”หากไม่มีคำพูดใดหลุดออกมาจากใบหน้าหล่อเหลาแสนเย็นชาตรงหน้า มีเพียงสายตาเฉยชาที่ส่งผ่านมาให้เธอ แม้น้ำตาที่ทนกลั้นไว้จะไหลออกมาจากเรียวตาสวยดวงโตที่เคยสดใสเมื่อก่อนหน้าก็ไม่ช่วยให้ชายตรงหน้าเธอมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป มีเพียงความเฉยชาเท่านั้นที่ส่งมอบให้กัน แขนเรียวคลายแรงบีบรัดและปล่อยมือออกช้าๆ ดวงตากลมสวยคลอหยดน้ำใสๆจ้องมองแขนแกร่งของคนที่ตัวเองรักหมดใจอย่างเจ็บปวดยามเมื่อเห็นรอยแดงเกิดขึ้นที่แขนเขาอันเกิดจากการกระทำของเธอเมื่อครู่
“แพทจะรอนะคะ แพทจะรอพี่เสมอค่ะ พี่เหนือ…”แม้จะเจ็บปวดเจียนตาย แต่ก็รู้ว่าเรื่องแบบนี้จะต้องเกิดขึ้น เธอรู้ดีแก่ใจ และเธอก็พร้อมจะยอมรับมัน แต่หากจะมีซักวันที่เขาจะหันกลับมามองเธอบ้างเท่านั้น เพียงเท่านั้น เธอก็ดีใจแล้ว ขาเรียวพาร่างของคนสวยระดับดาวคณะอักษรก้าวไปพร้อมน้ำตาที่ยังคงไหลอาบหน้าอย่างไม่รู้ว่าจะหยุดลงเมื่อไร พลันที่ร่างเพรียวเดินลับสายตา ร่างสูงที่มีใบหน้าหล่อเหลาแสนเย็นชาก็ขยับกายวาดแขนแกร่งลงกระเป๋ากางเกงยีนส์ขาดๆแบรนด์ดังของตัวเองแล้วฉวยหยิบวัตถุโลหะสีดำขึ้นมากดมัน
“ปิ๊บๆ”เสียงเตือนปลดล็อกดังขึ้นด้านหลัง ร่างสูงสมส่วนเดินไปเปิดประตูรถแสนแพงในฝันของใครหลายๆคนด้วยท่าทีเฉยเมยดังเดิมคล้ายกับเหตุการณ์เมื่อครู่เป็นเรื่องปกติที่พบเจอได้ในทุกวัน ก่อนจะพาตัวเองเข้าไปนั่งที่เบาะหนังประจำตำแหน่ง ใบหน้าหล่อเหลาขมวดคิ้วเล็กน้อยพร้อมนัยต์ตาคมแสนเย็นชาดุดันขึ้นกว่าเดิมเมื่อได้รับรู้แรงสั่นเบาๆจากไอโฟนสีดำในกระเป๋ายีนส์ขาดๆตัวเดิมคล้ายกับเป็นสิ่งกวนใจและแสนรำคาญนักหนา มือเรียวหยิบออกมาดูให้พอรู้ชื่อสายเรียกเข้า ก่อนจะโยนวัตถุสีดำในมือข้ามไปกระแทกเบาะหนังข้างๆตัวที่ยังว่างอยู่โดยไม่คิดจะกดรับสายหรือให้ความสนใจมันอีกแม้แต่น้อย เขาสตาร์ทรถและขับเลี้ยวพาตัวเองออกจากรั้วมหาวิทยาลัยไปอย่างรวดเร็ว โดยมีสายตานิสิตทั้งหลายต่างเหลียวมองรถหรูราคาหลักยี่สิบล้านไปตลอดทาง หากแต่เขาคงไม่รู้ว่ารถของตัวเองได้ถูกใครบางคนวางตำแหน่งกิตติมาศักดิ์อย่างลับๆให้เป็นถึง “ลูกรัก” ไว้นานแล้ว............................................................

















อเลนคุงเอาตอนแรกมาแปะให้แล้วนะคะ  o13 o13 o13
การอัพตอนใหม่อเลนจะไม่กำหนดวันนะคะ แล้วแต่I-AMมัน แต่จะพยายามขู่กรรโชกให้มันส่งตอนใหม่มาให้เรื่อยๆค่ะ :hao3: :hao3:
ขอบคุณคอมเม้นเตือนเรื่องชื่อเรื่องคะ แฮะๆ :mew3:

ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
ในอนาคตอันใกล้คงได้มากกว่านั่งแลมโบอะนุ้งปอนด์ก๊ากกกกกกกกกกก

thirin

  • บุคคลทั่วไป
รักเรื่องนี้แล้วคร้าบบบบ >< :mew1:

ออฟไลน์ อเลนคุง

  • some stories stay with us forever
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 165
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-0
รักแล้วต้องติดตามเรื่อยๆนะคร้าบบบ :mew1: :กอด1:

ออฟไลน์ blanchet

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
คุคุ น่าติดตามมากค่ะ พระเอกแบบนี้ชอบจุง :z1:
ใครหลงใครหว่า รอนะจ้าา

ออฟไลน์ อเลนคุง

  • some stories stay with us forever
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 165
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-0
Chapter 2……………………"เหนือฟ้า"



       เสียงขยับเก้าอี้ดังขึ้นหลังจากการเรียนในภาคเช้าเสร็จสิ้นไปนานแล้ว นิสิตกว่าห้าสิบชีวิตค่อยๆขยับกายเคลื่อนออกจากชั้นเรียนไปอย่างเนิบช้าพร้อมหน้าตาแสดงถึงความเบื่อหน่ายกันสุดๆ ทั้งที่จริงตอนนี้พวกเขาควรจะได้ไปกินข้าวเที่ยงและพักผ่อนตามอัธยาศัย แต่ก็ต้องมาทนนั่งฟังเพื่อนแจงงานให้อยู่นานนับชั่วโมง ขึ้นชื่อว่ากิจกรรมนั่นหมายความว่าทุกคนย่อมต้องมีส่วนร่วม จากที่เคยไม่มีแม้เวลาจะกินจะนอนจากงานของตัวเองกันอยู่แล้ว ตอนนี้มีกิจกรรมรับน้องเพิ่มมาก็พาลให้ทุกคนได้เหนื่อยได้ท้อกันไปก่อนตามระเบียบ


“ปอนด์ ปอนด์” หือ? สาวไหนเรียกกูครับ เสียงหว๊านหวาน ผมที่นั่งฟังไอ้ต้น กับ น้ำฝนแจงงานอยู่นานลุกขึ้นยืดเส้นยืดสายเล็กน้อย นั่งนานๆเส้นยึด ตะคริวแดกไข่ กางเกงในเข้าวินครับ พอทำภาระกิจเอากางเกงในกลับเข้าอู่เสร็จแล้วผมจึงค่อยสอดส่ายสายตามองหาต้นเสียงหวานๆที่เรียกชื่อผม เอกผมมีสาวเสียงหวานขนาดนี้ด้วยหรอ ตั้งแต่เป็นเฟรชชี่มาจนตอนนี้ปีสองแล้วก็เห็นแต่สาวแกร่ง ถึก และเถื่อนทั้งนั้น หน้าสวยแต่ก็เซอร์ซะจนผมที่เคยคิดจีบยังต้องเซยามเมื่อเห็นเธอๆยืนซดยาดองหลังมอแทนน้ำเปล่ากันเป็นว่าเล่น นั่นแหละครับสาวๆคณะผม เรื่องห้าวๆละอย่าให้บอก ตัวเล็กๆหน้าสวยๆนั่นมันหลอกตาครับ ผมเห็นมาแล้วแบกไม้อัด ยกถังสี วิ่งแซงหน้าผู้ชายแมนๆอย่างพวกผมได้ปร๋อเลย พวกเธอแข็งแรงและดูแลตัวเองได้มากกว่าที่ทุกคนจะคาดคิดครับ ใครอยากได้เป็นแฟนก็ไม้หน้าสามฟาดกบาลซักเปี้ยงพอสลบก็ยกไปเหอะครับเห็นจะมีแต่วิธีนี้เท่านั้นได้ผลที่สุด


“มีอะไรหรอหวาน” ผมถามกลับสาวเซอร์แต่น่ารักโครตๆตรงหน้าที่ชื่อหวานสมกับน้ำเสียงเธอ พร้อมกับส่งยิ้มให้เธออย่างออกนอกหน้าจนไอ้ธามที่นั่งอยู่ข้างๆอดหมั่นไส้ผมไม่ได้จนต้องยกมือแสดงความรักลงบนหัวสนามหญ้าของผมไปหนึ่งที สัด! กูเจ็บครับ ไม่ต้องรักกูมากก็ได้


“แค่จะมาบอกปอนด์ว่าวันเปิดตระกูลช่วยเป็นฝ่ายสวัสดิการให้หน่อยนะ พอดีคนมันไม่พอเก๋เลยให้หวานมาหาคนเพิ่ม บอกธามกับนนท์ด้วยนะ ขอแรงหน่อย” อย่าทำหน้าอ้อนครับหวาน แค่นี้ก็น่ารักจะแย่ ผมตกลงตั้งแต่หวานเรียกชื่อผมตอนแรกแล้วล่ะ คนอะไรอ้อนได้น่ารักน่าหยิกจริงๆ


“ได้สิ เดี๋ยวปอนด์รับหน้าทีนี้ให้” ทันทีที่ผมตอบไปแบบนั้น หวานก็ขอบอกขอบใจผมเป็นการใหญ่แล้วสะบัดหน้าน่ารักๆเดินไปอย่างเร่งรีบโดยไม่ทันที่ผมจะได้ชวนคุยเรื่องอื่นร่างบางก็จ้ำอ้าวเดินพรวดๆหายลับตาโตๆของผมไปแล้ว อ้าว! หลอกให้เคลิ้มแล้วตีจาก เอาความน่ารักมาล่อแล้วพอเราเผลอเธอก็ไป โธ่ๆไอ้ปอนด์นะไอ้ปอนด์ไม่เคยจำเลย ว่าสาวๆเค้าแสบกันขนาดไหน


“กับหญิงล่ะใจอ่อนตลอดไอ้ปอนด์ แล้วเป็นไงล่ะ เขาหลอกใช้ชัดๆ” ไอ้ธามได้ทีซ้ำเติมผมเป็นการใหญ่ นี่ล่ะครับเพื่อนแท้ เวลาเราเจ็บเราช้ำมันจะคอยซ้ำเติมเราก่อนจะค่อยๆกระทืบเราให้จมดิน


“เอาน่าๆ ฝ่ายนี้ก็สบายสุดแล้ว มึงอย่าบ่น ดีกว่าไปอยู่ฝ่ายสัน ดูหน้าไอ้คิม ไอ้แบทดิโทรมยังกับศพเดินได้” ผมหมายถึงฝ่ายสันทนาการน่ะครับก็พวกสร้างความสนุกเต้นแร้งเต้นกาให้น้องดูคั่นเวลา สร้างเสียงหัวเราะ ให้น้องๆได้สนุกไม่เบื่อขี้หน้าไอ้พวกรุ่นพี่ที่เอะอะอะไรไม่ถูกใจก็ว๊ากๆใส่ตลอดพาลให้หนีกลับบ้านกันไปซะก่อน เห็นจะมีก็แต่อิกราฟฟี่กระเทยร่างถึกกับแก๊งผีฟ้าน่ารักที่โมเมหลับหูหลับตาตั้งกันเอาเองพวกผมก็เลยแอบตั้งฉายาใหม่อย่างลับๆให้ว่าแก๊งผีห่าซาตานขึ้นมาแทนเพราะคิดว่าจะเหมาะกว่า สรุปแล้วก็มีแค่แก๊งนี้เท่านั้นแหละครับที่ดูจะสนุกสนานลั้ลลาตลอดเวลากับหน้าที่ที่ได้รับ และผมก็เพิ่งรู้มาว่าที่ไอ้คิม ไอ้แบทมันโทรมไม่ใช่เพราะเต้นมากๆแล้วเหนื่อยหรือเพื่อนๆใช้งานมันหนักหรอกนะครับ มันเหนื่อยจากก้นบึ้งของจิตใจที่โดนอิกราฟี่และแก๊งผีห่า เอ้ย ผีฟ้าน่ารักใช้มันสองคนเป็นเสาแล้วเต้นรูดยั่วส่ายไปมานั่นมากกว่าเห็นหน้าพะอืดพะอมแล้วก็สงสาร แต่ก็ไม่มีใครกล้ายื่นมือเข้าไปช่วยพวกมันหรอกครับ กลัวได้เป็นเสาต้นใหม่ให้อิกราฟฟี่มันสิงน่ะ
 

“หาข้าวแดกกัน กูหิวแล้วว่ะ” ไอ้นนท์พูดขึ้น ก่อนลุกยืนบิดตัวไปมาให้คลายเมื่อย เห็นใจครับ ผมเห็นใจเพื่อนเลย ดูซิหลับตั้งแต่ยังไม่เริ่มเรียนจนถึงตอนนี้ มันคงจะเหนื่อยแล้วเมื่อยจากการฟุ๊บหลับ โถ๊วๆ คงเสียพลังงานในการกรนไปเยอะเลยนะเพื่อนกู ผมละอนาถใจแทนอนาคตของชาติ


“แล้วไม่รอไอ้ไนท์ก่อนหรอวะ” หล่อโครตพ่อโครตแม่เขาโดนเรียกตัวไปฟิตติ้งชุดงานโชว์ตัวอะไรซักอย่างของทางมหาลัยนี่แหละครับ พอดียศเดือนคณะบนบ่ามันค้ำคอให้ปฎิเสธไม่ได้เลยโดนลากตัวไปตั้งแต่สองชั่วโมงก่อนแล้ว


“ไปรอมันที่ร้านป้าเล็กเลยแล้วกัน เดี๋ยวกูโทรบอกมันเอง” แยกกันเก็บของใส่เป้ของตัวเองเสร็จก็พากันเดินออกจากห้องตรงไปร้านข้าวเจ้าประจำที่พวกผมไปฝากท้องแทบทุกวันหลังมอกันเลย โดยไอ้นนท์ไม่ลืมที่จะโทรไปบอกให้หล่อโครตพ่อโครตแม่เขารู้ด้วยว่าตอนนี้พวกผมกำลังจะไปที่ไหนกัน


“วันนี้ก็ไม่มาอีกแล้วหรอวะ” ไอ้ธามพูดขึ้นหลังจากที่เห็นผมทำหน้าเป็นหมาหงอยเมื่อรู้ว่าปลายสายตาผมที่จับจ้องบางอย่างบริเวณใต้เงาร่มไม้ต้นใหญ่ต้นเดิมด้านหลังตึกคณะวิศวะหากแต่ก็ไร้เงาสี่ล้อลูกรักของผมจอดอยู่เป็นวันที่สามแล้ว สามวันแล้วที่ชีวิตผมรู้สึกเหี่ยวเฉาเพราะไม่ได้เห็นหน้าลูกรัก เดินผ่านทุกครั้งต้องได้เหลียวมองแล้วภาวนาให้วันนี้ไอ้เจ้าของนิรนามมันพาลูกรักผมมาด้วย แต่ก็ดูจะไม่ได้ผลเพราะวันนี้ผมก็ไม่เห็นแม้แต่เงาลูกรักผมอีกวันแล้ว

 
“มึงเคยบอกไม่ใช่หรอว่าถ้าไอ้เจ้าของนิรนามมันไม่พาลูกรักมึงมามันก็จะขับคันอื่นมาแทน แต่นี่เล่นหายหัวไปทั้งคนทั้งรถเลยแบบนี้ ไม่ใช่ลูกรักมึงแหกโค้งดับอนาถลงข่าวหน้าหนึ่งไปแล้วหรอว่ะ” ปากมึงพาส้นตีนกูกระตุกเลยสัดนนท์ ห่า กูยิ่งใจคอไม่ดีอยู่ ห่วงอย่างเดียวเลยคือกลัวว่าลูกรักผมจะบุบสลายแยกส่วนไม่มีชิ้นดีหรือมีตำนิอะไรให้ระคายตามากกว่า


“เอาน่ามึง วันนี้มันไม่มา เดี๋ยวพรุ่งนี้ มะรืนนี้มันก็มาเองแหละ ตอนนี้ไปหาข้าวแดกก่อนเหอะ” ไอ้ธามเดินเข้ามากอดคอหมาหงอยๆอย่างผมแล้วลากให้เดินไปด้วยกัน


“กูก็หวังว่างั้นว่ะ” ผมพูดสั้นๆพลางหันกลับไปมองที่ว่างไร้เงาลูกรักอีกครั้งก่อนจะจำใจเดินคอตกไปกับไอ้ธาม


“กระเพราหมูไข่ดาว ขอสุกๆเหมือนเดิมนะป้า ไอ้นนท์มึงเอาไร” ไอ้ธามตะโกนสั่งทันทีที่ก้าวเข้ามาในร้านเมื่อจับจองโต๊ะนั่งกันได้แล้ว ผมก็เดินดิ่งไปหยิบแก้วใส่น้ำแข็ง เติมน้ำ เสียบหลอดแล้วยกมาบริการเพื่อนรักที่นั่งรออยู่อย่างรู้งาน ร้านป้าเล็กเป็นร้านข้างทางนะครับ แต่คุณภาพนี่ผมรับประกันว่าเทียบเท่าภัตตาคารได้เลยการันตีจากปริมาณนิสิตกับพนักงานบริษัทที่พักกลางวันนั่งหน้าสลอนกันแน่นร้านก็พอจะรู้ได้เลยว่าอร่อยนาดไหน แต่ก็ต้องบริการตัวเองเล็กๆน้อยๆนะครับเพราะช่วงเที่ยงๆแบบนี้ป้าแกจะยุ่งมากพนักงานที่ช่วยเสิร์ฟมือเป็นระวิงก็แทบไม่ทันอยู่แล้ว ลูกค้าประจำก็จะรู้ได้เองว่าอะไรอยู่ตรงไหนหยิบจับเอาเองได้เลยครับแล้วคอยไปจ่ายตังป้าแกทีหลัง


“กูเอาสุกี้แห้งทะเล ไอ้ปอนด์เอาทะเลผัดพริกเผาไม่ผัก” ไอ้นนท์บอกเมนูของตัวเองกับของผมที่บอกมันไว้ล่วงหน้าแล้วกับไอ้ธาม จากนั้นเสียงกวนๆของไอ้ตี๋หน้าหนาก็แหกปากตะโกนลั่นร้านอย่างไม่อายหน้าไหนๆที่นั่งกันอยู่เต็มร้าน


“ได้เลยจ้า พ่อธามรูปหล่อ” ป้าน้อยส่งเสียงหวานตอบลูกรักขาประจำก่อนจะยกตะหลิว สะบัดกระทะ ข้าวผัดปลิวว่อนร่อนอยู่หน้าแกอย่างเคย


“เห้ย! ไอ้อัศวิน หล่อโครตพ่อโครตแม่! พวกกูอยู่นี่โว้ย”


“มึงไม่อายก็ช่วยเกรงใจคนอื่นเขาบ้างเหอะไอ้ธาม แล้วเรียกไอ้ไนท์แม่ง กูเป็นมันละอายแทน” ผมเหน็บไอ้ธามไปอย่างเหลืออด จริงๆก็เห็นไอ้ไนท์เดินมาแล้วละครับว่าจะกวักมือเรียกมันอยู่ แต่มือผมมันดันช้ากว่าปากไอ้ธามมัน


“มึงไม่หาโทรโข่งมาป่าวประกาศเลยว่ะไอ้ธาม กูรู้ว่ากูหล่อ แล้วคนอื่นมองหน้ากูเขาก็รู้ไม่ต้องโฆษณาเผื่อกูสัด” พูดจบก็แจกรักลงหัวดังผัวะ!จนไอ้ธามร้องซี๊ด มึงก็ไม่ค่อยหลงตัวเองเลยเนาะแต่ละคำถ้าหลักฐานคือหนังหน้ามึงไม่หล่อกระแทกตากูนะกูคงปล่อยหมาในปากออกไปกัดมึงคนแรก


“ว่าแต่ทำไมหล่อโครตพ่อถึงได้เดินหน้าโหดมาเลยวะ” ผมถามไอ้ไนท์ที่ตะโกนสั่งข้าวผัดหมูกับป้าน้อยไปเมื่อครู่ก่อนจะนั่งลงที่เก้าอี้ข้างขวาผมที่ยังว่างอยู่ก่อนมันจะฉวยแก้วน้ำผมไปดูดหน้าตาเฉย

“แม่งเอ้ย ให้กูไปฟิตติ้งชุด แต่กว่าจะได้ลองกันก็ปาไปหลายชั่วโมงรอไอ้ห่าไหนไม่รู้ แม่งไม่มาซักที ยี่สิบกว่าคนรอมันคนเดียว” ผมไม่เคยเห็นไอ้ไนท์มันโมโหอะไรมากมายขนาดนี้มาก่อน สงสัยมันจะโกรธจริงๆ


“ตกลงไอ้ห่านั่นมาไหมวะ!” ผมเป็นคนอินจัดครับ อินกับทุกอย่างที่ได้ดูหรือได้ฟังจากที่คนอื่นเล่า แล้วเมื่อเพื่อนโกรธ คนอินจัดอย่างผมเลยโกรธตามครับ แม้จะไม่ได้เกี่ยวข้องหรือรู้ว่าไอ้ห่าที่ว่านั่นเป็นใครเลยก็ตาม


“มาก็ดีดิ กูจะได้กระทืบแม่งจมตีน ไม่มีความรับผิดชอบต่องานเลย พูดแล้วโมโหว่ะ”


“ไอ้ห่านี่ทำงี้ได้ไงวะ!” โกรธครับ ผมโกรธ ถึงพวกผมจะกากกันขนาดไหนแต่เรื่องความรับผิดชอบมีกันเต็มร้อยครับ ถ้าเป็นงานส่วนรวมด้วยแล้วยิ่งต้องมีความรับผิดชอบให้มากขึ้นเป็นเท่าตัวเข้าไปอีก


“ไอ้เชี่ยไนท์มึงก็รู้ว่าเพื่อนมึงแม่งชอบแอ็กติ้งโอเว่อร์ยังจะเล่าให้มันฟังอีก แล้วเชี่ยปอนด์มึงจะไปเต้นตามอารมณ์ไอ้ไนท์ทำไมอยู่ในเหตุการณ์กับเขารึก็เปล่า พอๆเล่าดีๆเลยไอ้ไนท์กูรำคาญเชี่ยปอนด์” ไอ้นนท์มันคงจะรำคาญจริงๆครับหลังจากฟังผมกับไอ้ไนท์อินจัดกันอยู่นาน


“เอาดีๆกูก็อยากรู้ด้วย” ไอ้ธามได้ทีพูดแทรกขึ้นมา


“ก็หลังจากกูไปตามที่พี่การ์ตูนนัดก็ไปนั่งรอในสตูฯตามที่แกบอก เห็นดาว เดือน คณะอื่นเขานั่งรอกันก่อนแล้ว กูคิดว่ากูช้าสุดด้วยซ้ำ แต่พอพี่เอกช่างภาพเดินมาบอกว่ายังมีน้องอีกคนยังไม่มาให้รอก่อน พวกกูก็นั่งรอกัน ผ่านไปชั่วโมงกว่าข้าวก็ยังไม่ได้กิน กูเลยอาสาเดินไปถามพี่การ์ตูนเพราะแกมีลิสต์รายชื่อทุกคนอยู่ว่าใครที่ยังไม่มา พี่แกบอกกูว่าคนนี้สำคัญมากเป็นหลานคณะบดี กูก็เลยเสนอพี่การ์ตูนไปว่างั้นให้พวกที่มาฟิตติ้งชุดแล้วมาถ่ายรูปเดี่ยวกันไปก่อนส่วนรูปรวมค่อยให้พี่นัดมาถ่ายอีกที เพราะตอนนี้ทุกคนก็อยากไปทำธุระส่วนตัวกันบางคนก็มีเรียนต่อในคาบบ่าย พี่แกเลยโอเค จากนั้นพอได้ชุด ถ่ายรูปกันเสร็จแล้ว พี่การ์ตูนก็เข้ามาบอกอีกว่าไอ้เชี่ยนั่นไม่มาแล้ว ให้ถ่ายรูปรวมกันเลย สรุปแล้วที่รอกันเป็นชั่วโมงๆเสียเปล่าไม่ได้อะไรเลย ถ้าจะไม่มาทำไมไม่โทรบอกแต่แรกวะ” ไอ้ไนท์ยังคงพล่ามบ่นไม่หยุด ส่วนพวกผมสามคนก็ทำตัวเป็นผู้ฟังที่ดีครับ เคี้ยวข้าวกันเต็มปากตุ้ยๆหาได้แคร์ไอ้ไนท์ที่ข้าวผัดมันยังไม่มาเสิร์ฟแม้แต่น้อย


“แล้วมันเป็นเดือนได้ไงวะ ไม่มีความรับผิดชอบขนาดนี้ไม่โดนตัดสิทธิ์ตั้งแต่รอบแรกหรอ”


“กูขอเหอะไอ้ธามช่วยเคี้ยวข้าวให้หมดก่อนถามได้ไหม เม็ดข้าวกระเด็นใส่หน้ากูสัดนี่” ผมหันไปด่าไอ้ธามทันทีที่มันพูดจบ เพราะกลัวว่าต่อไปจะไม่ใช่แค่ข้าวแต่จะเป็นชิ้นหมู เศษไข่ดาว หรือใบกระเพราที่จะกระเด็นมาแปะอยู่บนหน้าหล่อๆของผมแทน


“มันไม่ได้เป็นเดือน แต่เห็นว่าหล่อเข้าตาจนทุกคนโหวตอยากให้งานนี้มันมีส่วนร่วม” ไอ้ไนท์พูดขณะเทพริกน้ำปลาลงในข้าวผัดแล้วคนให้เข้ากันก่อนจะตักขึ้นพูนช้อนแล้วนำเข้าปากอย่างคนหิวโซ มึงไปตายอดตายอยากมาจากไหน


“อะไรวะ หล่อเข้าหน่อยก็ผยองคิดว่าอยู่เหนือคนอื่น”


“กูก็คิดเหมือนมึงไอ้ปอนด์ แต่มันก็เหนือคนอื่นจริงนะ”


“อะไรของมึง?”ผมถามกลับอย่างไม่เข้าใจที่ไอ้ไนท์พูด เมื่อกี้ยังด่าไอ้เชียนี่หูดับตับไหม้กับกูอยู่เลยมึงจะเปลี่ยนขั้วรึไงวะไวยังกับกิ้งก่าเปลี่ยนสีเลยนะมึง


“ก็มันชื่อเหนือ! ไม่ได้เหนือแค่คนนะมึง มันเหนือสิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลกนี้เลยว่ะ เพราะแม่งชื่อ  เหนือฟ้า!... ” คนเชี่ยไรชื่อเหนือฟ้า ถ้าให้เดานะพ่อแม่พี่น้องแม่งต้องชื่อเหนือโลก เหนือดาวเคราะห์ เหนือจักวาล เหนือทางช้างเผือก เหนือกาแล็กซี่แหงเลยว่ะ


“กูพอจะคุ้นๆชื่อนี้นะ รู้สึกจะเคยได้ยินสาวๆในเอกเราพูดถึงบ่อยๆอยู่เหมือนกันว่ะ” แล้วมึงไปเสือกรู้กับสาวๆเขาได้ไงครับไอ้คุณนนท์


“หรอวะ แล้วสาวๆเขาว่าไงบ้างล่ะ” ไอ้ธามทำท่าอยากรู้จัด แต่ข้าวในปากมึงยังกระเด็นใส่หน้ากูอยู่ครับ ไม่ต้องพูดเลยดีกว่ามึงอ่ะ ผมขี้เกียจโวยวายเพราะรู้ว่าเสียแรงเปล่าเลยหันไปคว้าทิชชู่มาเช็ดหน้าตัวเองแทน


“ไม่รู้ว่ะ กูไม่ได้สนใจ ตอนนั้นมัวแต่ขอเบอร์ส้มโอสินกำอยู่เลยไม่ได้ฟังที่เขาพูดกัน” กูว่าแล้วเชียวเชี่ยนนท์แม่งเป็นแบบนี้ตลอด หลังจากนั้นก็ไม่มีใครสนใจไอ้เหนือฟ้าอะไรนี่กันอีก เพราะหันไปคุยเรื่องตีดอท วินนิ่ง และผลบอลที่ทีมโปรดผมหล่นไปอยู่อันดับห้าของตารางอย่างเซ็งๆกันจนข้าวในจานเกลี้ยงก็ลุกไปจ่ายตังป้าเล็ก ไอ้ธามยังไม่วายโดนป้าแกตบตูดดังเชี๊ยะ!ให้ได้ขนลุกกันเกรียวเป็นการเอ็นดูปนลวนลามซึ่งผมว่าออกแนวอนาจารกันมากกว่าเพราะสายตานับสิบคู่ต่างเพ่งมาที่ตูดไอ้ธามกันเป็นตาเดียว แต่มันนอกจากจะไม่อายแล้วยังแซวป้าแกกลับด้วยว่าถ้าชอบจะยกให้ไปตีเล่นที่บ้านได้นะป้า ดู๊รุ่นป้า รุ่นยายมันก็ไม่เว้น เสร็จสรรพก็แยกย้ายกลับหอซึ่งผมพักอยู่กับไอ้ธามสองคนเดินเข้าซอยไปห่างจากร้านป้าเล็กแค่10นาทีก็ถึงครับ ส่วนเชี่ยนนท์กับหล่อโครตพ่อเขากลับไปนอนบ้านกันครับ วันนี้ผมก็เฉาไปอีกวัน หวังว่าพรุ่งนี้ผมจะได้พบสี่ล้อลูกรักผมในเร็ววัน ระหว่างเดินกลับหอผมก็ไม่ลืมที่จะคิดถึงลูกรักผมไปตลอดทาง...











เอาตอนใหม่มาแปะ o13

มีอะไรเม้นติชมได้นะ อเลนจะได้ไปบอกนักเขียนว่ามีตรงไหนต้องแก้ไขหรือเพิ่มเติมบ้าง o13 o13

อยากลงรูปลูกรักของน้องปอนด์ให้ด้วย แต่ลองทำดูแล้วรูปไม่ขึ้น :hao5: :hao5: :hao5:


for-get-me-not

  • บุคคลทั่วไป
 o13 o13 o13 o13 o13

อยากให้ได้นั่งลัมโบเร็วๆแล้วอ่ะ อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

มาต่อไวๆเน้อ รอนะจ๊ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ อเลนคุง

  • some stories stay with us forever
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 165
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-0
จะได้นั่งรึเปล่า รึจะได้แค่ชะเง้อคอมอง ต้องติดตาม อิอิ :hao7:

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
สนุกอ่ะ ช๊อบชอบบบบ
เอาอีกกกกกกกกก   :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23
เมื่อไรจะได้เจอกันน้อออออ
 :z2:

ออฟไลน์ อเลนคุง

  • some stories stay with us forever
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 165
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-0
นั่นสิ เมื่อไรจะเจอกันน้า คืนนี้รอติดตามนะคะ อเลนจะไปเร่ง I-Am มัน :a2: :hao6:

ออฟไลน์ อเลนคุง

  • some stories stay with us forever
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 165
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-0
Chapter 3…………….. “ตัวเลือก”


   คุณเคยถามตัวเองไหมว่าจะมีซักครั้งในชีวิตที่คุณกล้าลองทำอะไรในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวเองดูบ้าง?...แม้ว่าสิ่งนั้นคุณจะเกลียดแสนเกลียดก็ตาม...ผมไอ้ปอนด์  ไอ้ปอนด์ที่เพื่อนๆตั้งฉายาให้ว่าไอ้ปอนด์ปากหมา ไอ้ปอนด์ที่เกลียดแสนเกลียดความวุ่นวายแล้วก็การพาตัวเองเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ที่จะพาซวยให้ตัวเองต้องพบเจอเหตุให้ยุ่งยากใจ ไอ้ปอนด์ที่ไม่สนใจโลกภายนอกที่ไม่ได้หมุนรอบๆตัวเอง ไอ้ปอนด์ที่สนใจแค่เพียงโลกของตัวเองที่จะคอยหมุนรอบๆสิ่งที่ตัวเองชอบเท่านั้น แต่ตอนนี้ไอ้ปอนด์คนนี้กำลังเจอเรื่องยุ่งยากใจที่สุดเท่าที่ชีวิตในวัย20ได้เผชิญ ไอ้ปอนด์คนนี้จะทำยังไงดีบอกผมที?!


“เร็วๆดิว่ะ เดี๋ยวก็มีคนมาเห็นหรอก” แต่ยังไม่ทันที่ผมจะคิดคำตอบให้กับตัวเอง เสียงหนึ่งดังขึ้นอีกครั้งพร้อมๆกับการกระทำอุกอาจบางอย่างที่เป็นสาเหตุให้ผมเหมือนคนน้ำท่วมปากอยู่ตอนนี้ ทั้งๆที่ผมควรจะได้กลับไปนอนอืดอยู่ที่หอกับไอ้ธามนานแล้ว ทำไมผมถึงยังอยู่ที่เดิมไม่ไปไหนมาเกือบสิบนาทีแล้วหลังจากเลิกเรียนในช่วงบ่าย ขณะที่ผมพาตัวเองเดินผ่านตึกคณะที่ขึ้นชื่อว่าเถื่อนเชี่ยๆเฉกเช่นปกติในทุกๆวันเพื่อมาดูลูกรักของผมว่าวันนี้มาให้ผมได้เห็นเป็นบุญตาหรือเปล่าหลังจากไม่ได้เห็นมาทั้งอาทิตย์ แล้วก็เป็นดั่งใจคิดครับ วันนี้ลูกรักผมมาจอดใต้ต้นไม้ต้นเดิม ยังสวยจับใจผมเหมือนเดิม จะมีแปลกกว่าเดิมก็ไอ้รอยกรีดยาวสองรอยที่กระโปรงหน้าลูกรักผมนั่นแหละที่ทำเอาผมแทบช็อค!!! มันเด่นซะจนผมที่ยืนมองอยู่ห่างมากๆยังระคายตาเป็นที่สุด อารมณ์สะเทือนใจปนโกรธเกี้ยวปะทุขึ้นทันทีที่เห็นว่ามีรอยเพิ่มขึ้นมาอีกรอยแบบสดๆร้อนๆจากการกระทำของฆาตกรชายโฉดสองนาย ซึ่งมีมีดคัตเตอร์เป็นอาวุธ แล้วถ้าเดาไม่ผิดกระป๋องสีสเปรย์ แดง น้ำเงิน ที่วางอยู่บนพื้นคอนกรีตใกล้ๆตัวนั้นไม่นานคงได้ใช้เป็นอาวุธในการสังหารลูกรักผมเป็นชิ้นต่อไป ลูกรักกูสวยสง่าด้วยสีขาวแบบเรียบๆก็ดีแล้วสัด มึงจะหวังดีหาสีมาเพิ่มให้ลูกรักกูทำไม แค่คิดน้ำตาก็พาลจะไหลครับ ผมเจอทั้งตัวฆาตกรโฉดแล้วก็หลักฐานการฆาตกรรมลูกรักผมกับตา นี่ผมกลายเป็นพยานไปแล้วใช่ไหมครับ พยานหนึ่งเดียวแบบตกกระไดพลอยโจน!


“ถ้าเพียงแค่ผมเลือกที่จะก้าวเท้าออกไปข้างหน้า...แล้วเปล่งเสียงดังๆลูกรักของผมก็จะไม่มีรอยให้ระคายตาผมเพิ่มขึ้น?”


หรือ


“ถ้าเพียงแค่ผมจะก้าวเท้าถอยหลัง...แล้วเลือกที่หันกลับไปทางเดิมทำเป็นว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เพียงแค่ฝันไป ทิ้งให้ลูกรักผมนอนตายดับอนาถอยู่ตรงนี้เงียบๆ?”


ผมควรจะเลือกอย่างไหนดี?....


   ผมไอ้ปอนด์ที่เกลียดแสนเกลียดความวุ่นวายแล้วก็การพาตัวเองเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ที่จะพาซวยให้ตัวเองต้องพบเจอเหตุให้ยุ่งยากใจ ผมไอ้ปอนด์ที่ไม่สนใจโลกภายนอกที่ไม่ได้หมุนรอบๆตัวเอง แต่ผม เลือกที่จะ....................................


“เห้ย! พวกมึงทำไรวะ!!!!!”


“เชี่ยแล้วมีคนเห็น!”ทันทีที่เสียงผมเข้าไปกระทบโสตประสาทหูฆาตกรใจโฉดที่กำลังรุมฆาตกรรมลูกรักผมอย่างเมามันส์กันอยู่ พวกมันสองคนลนลานรีบเผ่นหนีกันไปคนละทิศละทางในทันที


“เฮ้ฮ เล่นซะยี่สิบกว่าล้าน เหลือไม่ถึงล้านเลยนะพวกมึง”ผมรีบก้าวเข้าไปสำรวจร่องรอยฆาตกรรมรอบลูกรักผม พร้อมหยิบอาวุธสังหารที่ถูกลืมทิ้งไว้ขึ้นมาพินิจดู ผมประเมินได้ว่างานนี้ลูกรักเจ็บหนักครับ กระโปรงหน้างามๆมีรอยถึง5รอย! แล้วแต่ละรอยผมต้องขอนับถือไอ้ฆาตกรโฉดพวกนั้นมันช่างสร้างสรรค์จริงๆมีการกรีดแบบเน้นน้ำหนักตื้นบ้าง ลึกบ้างคละเคล้าไป รอยเส้นพลิ้วไสวสวยงามดูชดช้อย บางเส้นตรง บางเส้นหยักให้ดูมีมิติ มีการย้ำเส้นเพื่อให้ผลงานตัวเองเด่นชัด ซึ่งมันก็ชัดกระแทกตาผมจริงๆครับ กระแทกตาลามลงไปจนผมอยากจะกระแทกตีนลงบนหน้าเจ้าของผลงานวิจิตรบรรจงใจทำ!นี้จริงๆ คิดแล้วน้ำตาก็พาลจะไหลอีกแล้วครับ อึ๊บไว้ไอ้ปอนด์ อึ๊บไว้ อย่าร้องๆ


“นี่เจ้านายแกไปทำใครเจ็บแค้นเคืองโกรธว่ะ แกถึงได้โดนยำเละขนาดนี้”ผมพูดเบาๆพร้อมยื่นมือขวาที่ยังว่างเข้าไปสัมผัสเบาๆบนบาดแผลลูกรักคล้ายปลอบปะโลมอีกใจก็อยากจะสวดส่งวิญญาณให้ลูกรักผมไปสู้สุขคติแต่โดยดีครับ หากแต่ผมยังมีหน้าที่สำคัญเหลืออยู่ ผมกะว่าจะเอาเรื่องนี้ไปบอกยามก่อนเพื่อให้เขาไปแจ้งกับเจ้าของลูกรักผมอีกที แล้วถ้าจะมีการแจ้งความเอาเรื่องเอาราวกัน ผมก็พร้อมจะไปเป็นพยานเล่าแจ้งแถลงความให้ อย่างน้อยๆก็เพื่อทวงความยุติธรรมให้กับลูกรักผม เฮ้ฮ...ผมเกลียดความยุ่งยากครับ แต่ผมก็ดันเลือกจะทำในสิ่งที่เกลียดไปแล้ว...เพราะความเป็นคนดีมันยังมีอยู่ในตัวผม


“มึงทำอะไรรถกูวะ ผัวะ!”ไม่ทันได้ฟังจบประโยค รู้สึกอีกทีขากรรไกรผมก็สั่นระรัว กล้ามเนื้อที่หน้าเต้นระริก หัวสนามหญ้าสะบัดไปกับหมัดหนักๆของใครบางคนไปแล้ว


“โอ๊ย! เชี่ยแม่ง!”ผมสบถทันทีที่เริ่มตั้งสติได้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ยังดีที่ผมไม่เซล้มลง เพราะใช้แขนตะกายเกาะขอบประตูลูกรักไว้ทันอย่างทุลักทุเล ไม่งั้นคงได้ไปนอนกองที่พื้นอย่างหมดสภาพข้างๆศพลูกรัก ตายตกไปตามกันอย่างแน่นอน


“เฮ้ยๆๆๆ”เสียงผมเองครับ ก็ยังไม่ทันจะหายมึน ได้หายใจหายคอสูดออกซิเจนเข้าปอดดับอะดรีนารีนที่หลั่งออกมาให้ใจเต้นเป็นจังหวะสามช่าอยู่ตอนนี้ได้คลายลง แขนเดิมที่เหวี่ยงหมัดเข้าหน้าหล่อๆของผมเมื่อครู่ก็คว้าคอเสื้อผมขึ้นมาพร้อมกระชากให้เงยหน้าสบตากับมัน ความคิดที่อยากรู้ว่าไอ้ห่าที่จู่ๆมาต่อยผมเป็นใครพลันหายไปครับ เพราะยังไม่ทันขอเจ้าตัวมันก็จัดให้ผมไปประชิดสบนัยต์ตาคมระยะหายใจรดขี้หน้ากันในทันที คือถ้าแม่งกูเป็นหวัดนะขี้มูกกูคงกระจายเต็มหน้ามึงไปแล้ว รีบไม่ว่าแต่อย่ามองตาเพราะกูกลัว!


“เชี่ย! กล้ากรีดรถกูขนาดนี้ มึงอยากตายนักใช่ไหม ไอ้สัด!”เพิ่งเจอกันก็แจกสารพัดสัตว์ให้กันซะแล้ว ต่อไปมันคงขนมาทั้งอาณาจักร มึงจัดมาจะมอเนอร่า โพรทิสตา ฟังไจ หรือจังไร มึงก็จัดมา!กูไม่มีอะไรจะเสียแล้วตอนนี้


“ฟังก่อนสิว่ะ กูไม่ได้เป็นคนทำ!”ผมรีบพูดออกไปในทันทีที่เห็นว่าอีกหมัดกำลังจะซัดเข้าหน้าผมอีกครั้ง พลันที่ตาโตๆของผมได้พินิจเค้าโครงหน้าเรียวเพื่อเก็บรายละเอียดไอ้มหาโหดในระยะประชิดนี้ก็ทำให้ผมถึงกับอึ้งไปเล็กน้อยแต่ยังเก็บอาการไว้ทัน หล่อครับ ยอมรับแบบแมนๆเลยว่าไอ้คนตรงหน้าผมมันหล่อมากจริงๆ ขนาดผมเป็นผู้ชายแท้ๆยังต้องขอยอมแพ้เลย ถ้าไอ้ไนท์มันหล่อโครตพ่อ ไอ้เชี่ยนี่ก็หล่อโครตคนเลยล่ะครับ ตาเรียวยาวนัตย์ตาสีดำเข้มแสนเย็นชาจับจ้องมาที่ผมอย่างโกรธเกี้ยว คิ้วหนาโค้งขมวดย่นแทบจรดกันคล้ายกำลังข่มอารมณ์ไม่ให้ประทุไปมากกว่าเดิม ดั้งโด่งๆระเฉียดผิวแก้มผมไปมาพาลให้ผมต้องหายใจติดขัดเพราะรู้สึกได้ถึงลมอุ่นๆที่เป่ารดผิวแก้มแผ่วๆ ปากหยักสวยได้รูปปิดสนิทหากแต่ยามผ่อนลมหายใจออกมาเพื่อดับโทสะของตัวเองเป็นระยะก็ทำเอาผมต้องกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดๆ ใบหน้าติดเย็นชานั่นผมเห็นแล้วก็แทบอยากจะเผ่นหนีไปซะเดี๋ยวนี้เลย แต่แขนแกร่งที่ยึดคอเสื้อผมไว้นี่สิพาลให้ขาผมไม่ยอมขยับไปไหนด้วย

 
“..........”



“อย่างน้อยก็ให้กูได้อธิบายก่อน กูไม่หนีไปไหนหรอกเพราะกูไม่ได้เป็นคนทำ กูขอแค่ได้แก้ต่างให้ตัวเองบ้างแค่นั้น”เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้ายังคงมีสติฟังที่ผมพูดบ้าง ผมจึงสบนัยต์ตาคมแสนน่ากลัวนั่นไปอย่างกล้าๆกลัวๆ หวังว่าอีกฝ่ายจะเห็นถึงความจริงในตาผม


“............”แขนแกร่งค่อยๆคลายออกจากคอเสื้อผมช้าๆ แต่สีหน้าของเขายังคงน่ากลัวไม่เปลี่ยนจากเดิม ผมที่หลุดมาได้ก็สูดออกซิเจนเข้าปอดเฮือกใหญ่ก่อนเป็นอันดับแรก ดีนะเป็นคอเสื้อ ถ้าเป็นคอผมคงแหลกคามือไอ้หล่อโครตคนนี่แน่ๆ


“กูไม่ได้เป็นคนกรีดรถมึง แต่กูเห็นคนที่ทำแบบนั้น แล้วมันก็หนีไปแล้ว มีดที่กูถือแล้วก็สีสเปรย์ที่วางทิ้งไว้ก็ของพวกมัน กูไม่เกี่ยว กูกำลังจะไปบอกยามให้แจ้งความแต่มึงก็เข้ามาต่อยกูก่อน”อยากตะโกนใส่หน้ามันเหลือเกินว่ากูเป็นแพะ ไอ้สัด! แต่เห็นเสื้อช็อปน้ำเงินเข้มพร้อมความสูงที่คาดว่าน่าจะเกิน180cm. กับร่างที่หนากว่าผมนั่น ผมเลยเปลี่ยนใจพูดไปแบบให้สามารถมีชีวิตรอดไปจากตรงนี้ไว้ก่อนครับ จริงๆกะจะใช้ผมใช้คุณแถมหางเสียงให้ด้วยว่าครับ แต่รอยช้ำที่มุมปากผมมันร้องเตือนว่าไอ้เชี่ยนี้ไม่ควรได้รับความเป็นสุภาพชนของผมแม้แต่น้อย


“กูไม่ได้โง่ จะได้เชื่อคำพูดควายๆของมึง”หล่อโครตคนยังคงสรรหาสรรพสัตย์มาแจกให้ผมอย่างต่อเนื่อง ผมก็โกรธเป็นเหมือนกันนะครับ เพียงแต่ไม่อยากจะมีเรื่องเท่านั้นเองเลยทำได้แค่ยืนนิ่งๆฟังที่มันพูดอย่างตั้งใจ


“มึงจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตามใจ แต่กูขอยืนยันว่าที่กูพูดคือเรื่องจริง”


“หลักฐาน”


“..............”


“ถ้ามึงไม่ได้เป็นคนทำ งั้นมีอะไรยืนยันว่ามึงบริสุทธิ์”หล่อแล้วเสือกฉลาดอีกนะมึง โง่ๆอย่างกูก็ไปไม่เป็นเลยทีเดียว ฆาตกรโฉดสองนาย-หายหัว อาวุธฆาตกรรม-อยู่ในมือผมหนึ่ง อยู่บนพื้นอีกหนึ่ง พยานรู้เห็น-คนเดียว ซึ่งพยานกับแพะเป็นคนเดียวกัน เมื่อสมองผมประเมินเสร็จก็รู้ได้ว่าตายครับงานนี้ ผมตายแน่ๆ!


“คือ...มีแค่กูที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด...แล้วกูก็เป็นคนช่วยรถมึงไว้ด้วย” ผมตอบมันไปเสียงอ่อยๆอย่างอับจนหนทาง ก็ถ้ามึงไม่เข้ามาก่อนเรื่องคงไม่เป็นแบบนี้ เพียงแค่มึงไม่เสือกเดินเข้ามา หรือกรุณาเดินมาเร็วกว่านี้อีกนิดกูก็ไม่ต้องซวยกลายเป็นแพะแบบนี้หรอกไอ้เลว


“หึ...งั้นกูคงปล่อยมึงไปไม่ได้ แค่คำพูดมึงจะให้กูเชื่อได้ยังไง”มุมปากสวยยกขึ้นเล็กน้อย ให้ตายซิ ผมไม่เคยเห็นใครแสยะยิ้มได้หน้าตากวนตีนขนาดนี้มาก่อนในชีวิตเลยครับ


“แล้วมึงจะให้กูทำยังไงวะ กูก็บอกอยู่ว่าไม่ได้ทำๆ”


“บิลค่าทำสีใหม่ กูจะเอามาให้ในอีกสองวัน ไม่งั้นมึงก็ไปนอนในคุก”หูผึ่ง ตาเหลือก ทันทีที่ฟังจบ รอยวิจิตรบรรจงใจทำขนาดนี้ผมว่าค่าทำสีใหม่คงไม่ต่ำกว่าหลักแสนแน่ๆ แล้วผมจะหาเงินมากมายขนาดนั้นมาจากไหนชดใช้ให้มัน ผมยังไม่อยากเปลี่ยนที่นอนจากหอเป็นลูกกรงเหล็กหรอกนะครับ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นคือผมไม่ได้ทำแล้วทำไมผมต้องเสียตังไปฟรีๆกับสิ่งที่คนอื่นก่อไว้นี้ด้วย! ทำคุณบูชาโทษโปรดสัด!ได้เป็นแพะแท้ๆ


“แต่กูไม่........”


“พี่เหนือคะ”ไม่ทันที่ผมจะได้แก้ตัวเพื่อเรียกร้องทวงความเป็นธรรมให้กับตัวเอง เสียงหนึ่งดังขัดขึ้นก่อนร่างบางสมส่วนกับชุดนิสิตแนบเนื้อเน้นส่วนเว้า ส่วนโค้งบนร่างกายของสาวสวยนางหนึ่งจะวิ่งถลามาเกาะแขนคนตรงหน้าผมพร้อมรอยยิ้มหวานประดับอยู่เต็มหน้าเธออย่างไม่รู้สถานการณ์


“เมย์กำลังตามหาพี่เหนือพอดีเลย วันนี้เราไปดูหนังกันนะคะ พี่เหนือไม่มีเรียนแล้ว ถ้าไงเราไปหาข้าวทานกันก่อนดีกว่า”มาถึงก็ใส่ไม่ยั้งเลยครับ นี่เธอมองไม่เห็นผมยืนหัวโด่อยู่เลยรึไง


“วันนี้พี่ไม่ว่าง”ประโยคสั้นๆตอบกลับไปด้วยท่าทีเรียบเฉย คล้ายกับไม่ได้ใส่ใจในสิ่งที่เธอพูดแม้แต่น้อย


“พี่มีธุระหรอคะ ถ้ายังไงเมย์รอได้ค่ะพี่เหนือ พอพี่ทำธุระเสร็จเราค่อยไปกันก็ได้”ใบหน้าสวยที่ฝืนยิ้มทำเอาผมเห็นใจอย่างสุดซึ้ง พร้อมเกิดคำถามขึ้นในใจ ทำไมนะ คนแบบนี้ถึงได้รับความรัก ความหวังดีจากคนอื่นเสมอ ทั้งที่มันแทบไม่เห็นคุณค่าแล้วคิดจะรักษาไว้ด้วยซ้ำ


“............”หล่อโครตคนไม่ตอบกลับอย่างเคย แต่หันใบหน้าหล่อๆแสนเย็นชาของมันมาจับจ้องอยู่ที่หน้าของผมแทนเหมือนกับต้องการจะบอกว่าเพราะไอ้เชี่ยนี่เหละที่ทำให้มันไปกับเธอไม่ได้ แพะอย่างผมจึงทำได้แค่ยืนมองสบสายตาเย็นชากลับไปนิ่งๆพลางคิดในใจว่า กูไปเกี่ยวอะไรกับมึงด้วย!


“แล้วนี่เพื่อนพี่เหนือหรอคะ?”พอเห็นว่าหล่อโครตคนที่ตอนนี้ผมรู้แล้วว่ามันชื่อเหนือมองมายังสิ่งมีชีวิตที่วิวัฒนาการจากมนุษย์กลายเป็นแพะอย่างลับๆ สาวเจ้าถึงเห็นหัวผมขึ้นมาทันทีครับหลังจากผมเป็นแพะล่องหนอยู่นาน


“คือว่า...”


“เขาอยู่ในสถานะเดียวกับเมย์”ไม่ปล่อยให้ผมได้แนะนำตัวหรือให้สาวสวยได้คิดนาน หล่อโครตคนเขาก็ตอบแทนผมไปเสร็จสรรพ งงครับ สถานะที่ว่าคือแพะ หรือลูกหนี้มึงครับ


“พี่เหนื่อ!”น้องเมย์ปล่อยแขนไอ้หล่อก่อนจะหันมามองหน้าผมกับมันสลับไปมาอย่างไม่เชื่อสายตาเหมือนเป็นเรื่องคอขาดบาดตายร้ายแรงพอๆกับพี่มากโดนระเบิดตายแล้วโกโบริมีเมียเป็นผี 


“พี่ล้อเมย์เล่นใช่ไหมคะพี่เหนือ?”


“พี่พูดจริง”คำตอบสั้นๆพร้อมใบหน้าเย็นชาที่ไม่ฉายแววล้อเล่นทำให้เธอเริ่มมีน้ำตาคลอน้อยๆที่ดวงตาสวย แต่ก็ฝืนพยายามข่มก้อนความรู้สึกไว้ไม่ให้ทะลักทลายออกมา


“ทำไมคะ? ทุกทีกับคนอื่น ถ้าเป็นผู้หญิงเมย์ไม่ว่าอะไรหรอกนะคะ แต่นี่เขาเป็นผู้ชายเหมือนกับพี่นะคะ” “เมย์เข้ามาหาพี่เพราะอยากได้อะไร?”


“เมย์แค่...เมย์รักพี่เหนือ...”รูปประโยคมีคำว่ารัก หากแต่น้ำเสียงกลับไม่หนักแน่นอย่างเช่นเคย มันช่างเบาบางเหมือนพร้อมจะจางหายไปได้ตลอดเวลา


“แน่ใจว่าแค่นั้น?...สุดท้ายเมย์ก็ไม่ได้ต่างจากผู้หญิงคนอื่นๆ”เพียงชั่วครู่ที่ผมเห็นนัยต์ตาแสนเย็นชานั่นสั่นไหว หากแต่เพียงพริบตาเดียวใบหน้าเฉยชาเย่อหยิ่งเช่นเดิมก็กลับมาแทนที่อีกครั้ง แค่เพียงไม่ถึงเสี้ยววินาทีผมกลับจำใบหน้าแสนเศร้าของคนๆนี้ได้ติดตาไม่รู้ลืม แล้วอาการปวดหนึบที่ช่องท้องยามที่เห็นสายตาเศร้าๆนั่นมันเกิดจากอะไรกัน หรือผมรู้สึกเห็นใจคนใจร้ายแบบนี้ทั้งที่เพิ่งรู้จักกันได้ไม่กี่นาทีอย่างนั้นหรอ


“พี่เหนือ...”


“เงิน...เมย์ก็ได้ในสิ่งที่เมย์ต้องการแล้วไง...และถ้าหากจะมีใครเข้ามาหาพี่แบบเมย์บ้าง ก็ไม่เห็นแปลกตรงไหน...”


“ถ้าพี่บอกว่านั่นคือเหตุผล เมย์ทำได้แค่รับฟังเท่านั้น แต่เมย์จะไม่มีวันยอมรับเรื่องนี้โดยเด็ดขาด!”แววตาแข็งกร้าวเปื้อนหยาดน้ำตาหันมาสบตาผมอย่างคาดโทษ ปลายประโยคคล้ายกับส่งคำพูดมาที่ผมมากกว่าคนตรงหน้าเธอ ก่อนขาเรียวจะพาเธอเดินออกไปจากตรงนี้อย่างรวดเร็วเหมือนกำลังหนีความจริงบางอย่าง


“มึงพูดเชี่ยไรของมึงวะ”ผมที่เริ่มรู้สถานะของตัวเองที่คนตรงหน้าสมอ้างขึ้นโดยไม่ได้ขออนุญาตจากผมพูดออกไปอยากเหลืออด ถ้าสิ่งที่ผมเข้าใจมันถูกต้อง ผมกำลังโดนหยามศักดิ์ศรีอย่างรุนแรง ถึงจะรู้ว่าคนตรงหน้าแค่ใช้ผมเป็นขออ้างผมก็ไม่ชอบให้ใครมาทำแบบนี้กับผมอยู่ดี คำว่าศักดิ์ศรีสำหรับผมแล้วมันกินไม่ได้ก็จริงครับ แต่มันทำให้รู้ว่าผมยังมีความเป็นคนอยู่!


“กูกำลังสร้างตัวเลือกให้มึงไง”


“มึงหมายความว่าไง”


“ถ้ามึงไม่อยากเสียเงินเป็นแสน ซึ่งดูก็รู้ว่าคงไม่มีปัญญา...ก็มาเป็น“เด็กกู”ซะ หรือถ้าไม่ ก็แค่ไปนอนเล่นในคุก ซึ่งกูว่าอย่างหลังมึงคงไม่ชอบใจนัก”คำพูดติดเย็นชากับสีหน้าเรียบเฉยคล้ายกับกำลังพูดเรื่องปกติเหมือนกับเอ่ยถามผมว่า คุณสบายดีไหม?  หากแต่มันช่างเป็นประโยคแสนร้ายกาจที่ผมยังหาเหตุผลหรือนิยามมาอ้างอิงคำว่า “เด็กกู” ของมันไม่ได้ว่าสถานะดังกล่าวที่มันหยิบยื่นเป็นตัวเลือกให้ผมพร้อมๆกับการเป็น “ลูกหนี้” หมายถึงอะไร เด็กกูคือให้ผมเป็นเพื่อน? เด็กกูคือให้ผมเป็นไม้กันหมา? เด็กกูคือให้ผมเป็นขี้ข้า? หรือเด็กกูที่ว่าคือให้ผมเป็นคนของมัน? ซึ่งถ้าเป็นอย่างหลังผมทำใจรับไม่ได้แน่นอน และจะอะไรทั้งหลายแหล่ผมคิดว่าคนตรงหน้าคงไม่ตอบสิ่งที่ผมคาใจให้ฟังง่ายๆเด็ดขาด เพราะแค่จะพูดเหมือนคนปกติทั่วไปก็ยากแล้ว ไม่รู้จะหวงคำพูดไปถึงไหน คนเสียหายยังไงตอนนี้ก็คือไอ้แพะที่กำลังจะมีสถานะระหว่าง “เด็กกู” หรือ “ลูกหนี้” อย่างผมคนนี้ชัดๆ


“ก็กูบอกแล้วว่ากูไม่ได้ทำๆ มึงฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องรึไงวะ?!”


“คิดว่าคำพูดมึงจะรอดคุกได้ก็ลองดู”


“....................”


“มึงแค่อยากเอากูเป็นไม้กันหมา ใช้กูกันผู้หญิงให้ออกห่างมึงแค่นี้ใช่ไหม?”


“................”มันยังคงหวงคำพูดเหมือนเดิม แต่จากสีหน้าที่แสดงท่าทีแปลกใจว่าผมรู้ทันความคิดมันได้ยังไงก็ทำให้ผมใจชื้นเป็นกองครับ ผมคิดถูก! เรื่องวุ่นวายทั้งหมดทั้งมวลนี้มันจะไม่ไปกันใหญ่ขนาดนี้เลยถ้าผมไม่อยู่ผิดที่ผิดเวลา! ส่วนไอ้เชี่ยเหนือนี่ก็แค่มาไม่ถูกที่ถูกเวลา แล้วคุณน้องเมย์นั่นถ้าไม่เสือกมาที่ตรงนี้เวลานี้ผมก็คงจะไม่ซวยอยู่แบบนี้หรอกครับ


“กูขอเวลาคิดหน่อยได้ไหม? จริงๆกูก็ยืนยันเหมือนเดิมว่าเรื่องรถมึงกูไม่ได้เป็นคนทำแน่นอน แต่ถ้ามึงจะไม่เชื่อกูขนาดนั้นกูก็จนใจ ส่วนตัวเลือกที่มึงเสนอกูจะเก็บไปคิด แต่ถ้าจะให้กูตอบทันทีเลย กูทำไม่ได้”ผมบอกมันไปตรงๆ ขอแค่ให้มันเห็นใจผมบ้างแค่นั้นก็ยังดีใช้ไม้อ่อนให้มันตายใจ อย่างน้อยๆก็ผลัดวันไปก่อน แล้วค่อยหาทางชิ่งทีหลังก็ยังไม่สาย


“แค่ไหน?”


“หือ?”


“กูถามว่ามึงใช้เวลาคิดนานแค่ไหน!”หล่อโคตรคนขึ้นเสียงใส่ผมอย่างหงุดหงิดหลังจากที่เห็นผมทำหน้าไม่เข้าใจ คือกูผิดใช่ไหม? มึงถามกูมาสองคำหลังจากที่กูพูดไปจนน้ำลายเหนียว เอาเถอะกูเริ่มจะเข้าใจนิสัยของมึงขึ้นมาบ้างแล้ว คนอะไรเอาแต่ใจฉิบหาย!!!!!


“1เดือน”


“กูให้สามวัน”


“ห๊ะ!”แล้วมึงจะถามกูทำเชี่ยไรวะ ทีหลังมึงก็บอกกูมาเลยดีกว่า กูจะได้ไม่ต้องมาเสียเวลาคิด


“สามวันมันน้อยไป กูขอคิดนานกว่านั้นหน่อยไม่ได้หรอวะ”


“แล้วไง”สิ้นคำว่าแล้วไง ผมก็จนปัญญาครับ แม้อยากจะนั่งยันนอนยันว่าผมไม่ได้เป็นคนทำมากขนาดไหนแต่ก็ต้องจำใจกลืนคำพูดลงคอเออออไปก่อน อีกอย่างตอนนี้ผมมีหัวเดียว คิดอะไรดีๆกว่านี้ไม่ออกแล้วครับ แล้วก็จริงอย่างที่มันว่า ถ้ามันแจ้งความด้วยหลักฐานแล้วก็อะไรหลายๆอย่าง ผมไม่มีทางดิ้นหลุดแน่นอน และนั่นก็หมายความว่าอนาคตของผมต้องจบไปด้วย


“เออ สามวันก็สามวัน! แต่มึงต้องสัญญามาก่อนว่าจะไม่แจ้งความจับกู”


“.................”


“เอามือถือมึงมา”กูละเกลียดหน้าเฉยชาไม่ทุกข์ร้อนของมึงจริงๆ โมโหแต่มือก็ฉวยหยิบโนเกียร์รุ่นไฟฉายหน้าจอสองสีในเป้ที่สะพายไว้ข้างตัวส่งให้ไอ้คนตรงหน้าไปอย่างว่าง่าย เบื่อครับ คุยกับมันก็เหมือนคุยอยู่คนเดียวเพราะมันไม่เคยฟังอะไรนอกจากสิ่งที่ตัวเองพูดเท่านั้น


“มึงเป็นคนรุ่นไหนกันเนี่ย”คำพูดสบประมาทไม่ทำให้ผมจี๊ดเท่าสีหน้าดูถูกดูแคลนของมันครับ ทำไม? มือถือกูรุ่นดึกดำบรรพ์แล้วมันหนักหัวมึงหรือไง 


“...........”ผมไม่ตอบโต้อะไรกลับเพราะมัวแต่มองมันกดอะไรสักอยากบนมือถือผมก่อนจะโยนคืนให้ ย้ำว่าโยนให้นะครับ


“มึงชื่ออะไร?”


“ปอนด์ ถาปัตย์ปีสอง”ผมตอบไปอย่างเลี่ยงไม่ได้


“กูเหนือ วิศวะปีสาม แล้วมึงก็เลิกด่ากูในใจได้แล้ว” ชะอุ๊ย! สงสัยสีหน้าผมคงแสดงออกชัดเจนเกินไป ใครๆก็บอกว่าผมโกหกไม่เก่งครับ เชี่ยนนท์มันชอบบอกว่าถ้าอยากรู้ว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่ให้ดูที่หน้าเพราะผมจะแสดงออกมาทางสีหน้าหมดเลย


“กูโทรหา มึงต้องรับ เวลาเรียกชื่อกูให้มีคำว่าพี่นำหน้า ตอนนี้มึงกลับไปได้แล้ว อีกสามวันกูจะไปเอาคำตอบ ถ้าคิดหนีหรือเล่นตุกติก กูเอามึงถึงตายแน่!” มึงเกิดมาเพื่อขู่บังคับคนอื่นหรือไง แล้วถ้าคนอย่างกูยอมเรียกมึงว่าพี่นะ กูยอมตายดีกว่า ไอ้ควาย!


“ครับพี่ งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”แต่ไม่ใช่วันนี้ครับ ฝากไว้ก่อนไอ้เชี่ยเหนือ ว่าแล้วก็รีบชิ่งกลับหออย่างรวดเร็วเลยครับกลัวมันจะเปลี่ยนใจเรียกตำรวจมาลากคอผมเข้าตารางทั้งๆที่ผมเป็นผลเมืองดีแท้ๆ ไว้ถึงหอเมื่อไหร่ค่อยเล่าให้ไอ้ธามฟังให้มันช่วยหาทางออกให้ผมอีกที แต่ตอนนี้ดูท่าผมจะเจอเรื่องแสนยุ่งยากเข้าให้แล้ว...ผมควรจะทำยังไงดีกับสถานะที่ต้องเลือก.............................














ตอนสามมาแล้ว :hao7:

เป็นกำลังใจให้I-AM กันต่อไปด้วยนะคะ สำหรับนิยายเรื่องแรก  :mew1:

ทุกความเห็นอเลนพร้อมส่งถึงI-AMแน่นอน หากใครชื่นชอบ หรือให้คำติชมก็มาร่วมแชร์ความรู้สึกกันได้เลยนะคะ :hao6: :hao6:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-04-2013 22:31:54 โดย อเลนคุง »

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
ยิ่งอ่านยิ่งสนุก
แต่งได่ลื่นไหลดีมากๆๆเลยค่ะ เนื้อเรื่องสนุกน่าติดตามมากๆ o13 o13
เอาอีกกกกกกกกกกก แอร๊ยยยยยยยย :ling1: :ling1:
ชอบบบบบบบบบบบบบบบ :m3: :m1: :m4:

for-get-me-not

  • บุคคลทั่วไป
"เด็กกู"  :hao3: ................. "กูโทรหามึงต้องรับ"  :z2:

อะไรอ่ะ จะเอาอะไรกันแน่ แหมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม


ออฟไลน์ อเลนคุง

  • some stories stay with us forever
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 165
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-0
Chapter 4…………………….. “เด็กเหนือ”



       เสียงจอแจในช่วงพักกลางวันภายในโรงอาหารกลางจากนิสิตนับร้อยที่ใช้สถานที่แห่งนี้ฝากปากท้องหลังว่างเว้นจากการเรียน โต๊ะเก้าอี้กว่าร้อยโต๊ะถูกจับจองจนเต็ม ไม่เว้นแม้แต่บริเวณมุมเสาด้านในสุดต้นหนึ่งที่มีโต๊ะว่างหลงเหลืออยู่หากแต่มีพื้นที่ให้แทรกตัวเข้าไปได้เพียงน้อยนิดก็ยังถูกสี่ชีวิตจับจองใช้เป็นที่ถกประเด็นบางอย่างที่พวกเขายังคงค้างคาใจกันอย่างเคร่งเครียด?


“มึงบอกว่ามันให้เวลามึงสามวันใช่ไหมไอ้ปอนด์”ไอ้นนท์ถามผมขึ้นมาหลังจากที่เห็นผมเดินถือชามก๋วยเตี๋ยวเข้ามาวางแหมะลงบนโต๊ะโดยยังไม่ทันจะได้นั่งเพราะขาตัวเองยังแทรกผ่านเก้าอี้ของโต๊ะข้างๆมาได้เพียงแค่ขาเดียว ก่อนจะลากขาอีกข้างเข้ามานั่งลงได้อย่างทุลักทุเล


“เออ โครตเชี่ยเหอะ คิดแล้วกูก็โมโหว่ะ”ผมตอบไปอย่างรู้ว่าที่ไอ้นนท์ถามหมายถึงเรื่องอะไร เพราะหลังจากที่ผมเจอเรื่องมหาซวยตกเป็นแพะไปเมื่ออาทิตย์ก่อนทันทีที่กลับถึงหอก็รีบเล่าให้ไอ้ธามฟัง ส่วนไอ้ธามก็ตามนิสัยมันครับ รีบกระจายข่าวให้เชี่ยนนท์กับหล่อโครตพ่อได้เกาะติดทันสถานการณ์ได้อย่างฉับไวโดยที่ผมยังไม่ทันขอมันด้วยซ้ำ


“นี่มันก็ปาเข้าไปหนึ่งอาทิตย์แล้วนะเว้ย ถ้าแม่งไปแจ้งความ มึงได้ซวยกว่าเดิมแน่ๆ”


“อย่าพูดงั้นดิวะ กูยิ่งกลัวๆอยู่”พูดแล้วก็พาลให้กลัวขึ้นมาเลยครับ เพราะนี่ก็ผ่านมาเจ็ดวันแล้ว ทั้งที่มันให้เวลาผมแค่สามวัน! แต่จนตอนนี้ผมก็ยังไม่ได้เปลี่ยนสถานะตัวเองเป็น เด็กกู หรือ ลูกหนี้ แต่อย่างใด ไม่ใช่เพราะมันเกิดสำนึกได้ว่าที่ผมพูดคือเรื่องจริง หรือเกิดจับตัวฆาตกรโฉดตัวจริงได้แล้วหรอกนะครับ แต่เป็นเพราะผมกำลังหนีมันอยู่ต่างหาก! และจะด้วยเหตุผลอะไรทั้งหลายแหล่ที่ทำให้ผมยังมีชีวิตนั่งกินข้าวอยู่กับผองเพื่อนอย่างสุขสันต์เป็นปกติอยู่ตอนนี้ได้นั้นผมก็ไม่อาจรู้ จะบอกว่าตัวเองหลบเก่งหรือก็ดูจะเหลือเชื่อ เพราะแค่จะมีใครพาตำรวจมาลากคอผมเข้าคุกมันช่างง่ายแสนง่ายถ้าเรื่องถึงมือของกฏหมายเข้าจริงๆ


“กูเชื่อว่ามึงกลัวจริงว่ะไอ้ปอนด์ เล่นปิดมือถือมาเป็นอาทิตย์พวกกูจะติดต่ออะไรก็ไม่ได้ เลิกเรียนก็ตรงดิ่งกลับหอ ชวนไปไหนก็ไม่ไป อาทิตย์ก่อนใครทันเห็นหน้ามึงในมหาลัยกูว่าแม่งโครตดวงดี ขนาดกูนั่งเรียนข้างมึงแท้ๆหันไปอีกทีเก้าอี้ข้างกูว่างเปล่า กูหลอนสัดๆ ไม่รู้จะรีบห่าไรนักหนา”หล่อโครตพ่อด่าผมมาแต่ไกลพร้อมชามข้าวมันไก่ในมือ ก่อนจะเดินแทรกตัวผ่านผมเข้าไปนั่งด้านในอย่างยากลำบากเพราะผมไม่ยอมขยับให้มัน กำลังติดพันอยู่กับเส้นหมี่ในชามครับเลยไม่ว่าง


“ถ้าวันนี้พวกกูไม่ลากมาก็คงกลับไปแดกมาม่าที่หออย่างเดิมดิมึง”ประโยคนี้จากไอ้ธามครับ ความจริงมันนั่งอยู่นานแล้วแต่ความสนใจของมันพุ่งไปที่ถ้วยสุกี้ตรงหน้ามากกว่าเลยไม่สนใจจะฟังใคร ผมอยากให้มันไม่พูดเลยจะดีกว่าครับ เบื่อที่จะนั่งเช็ดหน้าตัวเองที่น้ำสุกี้จากปากไอ้ธามกระเด็นมาโดนเต็มที แล้วเสือกชอบมานั่งแดกตรงหน้ากูตลอดด้วยนะมึง เวรกรรมกูแท้ๆ


“เอาน่าพวกมึงก็ช่วยชินๆกับกูหน่อยดิว่ะ กูหลบได้แม่งเป็นอาทิตย์แล้ว วี่แววคราวซวยยังไม่มีให้เห็นเลย งานนี้ไอ้เชี่ยเหนืออะไรนั่นมันอาจจะลืมเรื่องกูไปแล้วก็ได้”


“รถมันเละขนาดนั้นคงลืมได้หรอกมึง ถ้าเป็นกูนะ กูกระทืบมึงตายตรงนั้นด้วยซ้ำ”กูเพื่อนมึงไหมเชี่ยนนท์ เข้าข้างกูบ้างก็ได้


“มึงก็พูดเกินไป ไอ้ปอนด์มันได้ทำที่ไหนกัน ถ้ามันทำจริงสิสมควรโดน”หล่อโครตพ่อมึงมีเหตุผลมากๆ หล่อแล้วยังความคิดดี โครตสมบูรณ์แบบเลยเพื่อนผม


“เป็นใครก็เข้าใจว่ามันทำทั้งนั้นแหละ แล้วก็โง่ยืนเซ่อให้ไอ้เหนือไรนั่นมาฟาดปากเฉยๆ มีมือมีตีนก็จัดกลับไปดิวะ”เชี่ยนนท์พูดใส่อารมณ์ เรื่องใช้กำลังมันถนัดครับ เพราะมันจำเป็นสำหรับพวกที่ชอบจีบดะไม่เลือกแล้วเกิดจีบโดนเมียชาวบ้าน มันจะได้ใช้ความป่าเถื่อนของตัวเองปกป้องหนังหน้าสแตนด์เลสอย่างหนาของมันให้รอดปลอดภัย


“มึงพูดแบบนี้เพราะมึงยังไม่เห็นมันนะสิว่าแม่งน่ากลัวขนาดไหน ไม่ใช่หมัดมันนะที่กูกลัว ที่กลัวคือนิสัยมันต่างหาก คนเชี่ยไร เอาแต่ใจ ไม่ฟังใคร ไร้เหตุผล มั่วซั่ว ชั่วสุดๆไปเลย”หน้าหล่อๆเวลาแสยะยิ้มมันช่างกวนตีนผมจริงๆ แววตาแสนเย็นชายามที่จ้องมองคนอื่นนั่นผมไม่ชอบเลย คำพูดเอาแต่ใจแสนร้ายกาจนั่นผมก็ไม่ชอบ ท่าทางเย่อหยิ่งสายตาดูถูกคนอื่นผมยิ่งเกลียดเข้าไปใหญ่ ยิ่งเมื่อแววตานั่นหม่นเศร้าลงใจผมมันเจ็บจี๊ดๆยังไงไม่รู้ ผมว่าผมคงเกลียดทุกอย่างในตัวมันไปแล้วละครับ ถึงได้ไม่ชอบแม้กระทั่งเห็นใบหน้าหล่อๆนั่นฉายแววเศร้าออกมา...ทั้งที่ก็แค่เพียงเสี้ยววินาที...


“ถ้ามึงจะด่ามันขนาดนั้นนะ กูว่าเอามีดไปไล่แทงมันเลยดีกว่า”กูจะไล่แทงมึงคนแรกเลยไอ้ธาม กูไม่ต้องการวิตามินเอบำรุงสายตาตอนนี้ไม่ต้องเผื่อแผ่ผักบุ้งในถ้วยสุกี้มึงให้เบ้าตากู


“มึงแดกให้หมดก่อนไอ้ธาม ถ้ามึงพูดขึ้นมาอีกนะ สาบานว่ากูเอาตะเกียบในมือไล่แทงมึงแน่”


“แต่กูสงสัยเรื่องชื่อ ว่าจะถามมึงตั้งแต่วันที่ไอ้ธามเล่าให้ฟังแล้ว”


“ชื่อ ทำไมวะ?”ผมถามไอ้ไนท์กลับก่อนจะบรรจงเช็ดผักบุ้งที่เบ้าตาออกอย่างนุ่มนวล


“มันบอกมึงว่ามันชื่อเหนือ อยู่วิดวะปีสาม แค่นั้นหรอวะ”


“เออ ประโยกแรกเลยที่กูฟังแล้วรู้สึกตีนไม่กระตุก”


“มึงว่าคนชื่อเหนือมันจะมีซักกี่คนในมอเราว่ะ กูกำลังสงสัยว่าเชี่ยพี่เหนือเฉยๆของมึง กับ ไอ้ห่าเหนือฟ้า มันจะใช่คนเดียวกันรึเปล่า”หล่อโครตพ่อทำท่าครุ่นคิด หือ สาวๆที่แอบมองอยู่เค้าจะแดดิ้นตายแล้วมึง ท่าจับปลายคางเอียงคอทำหน้าสงสัยนิดๆนั่นกูขอเหอะ กูยังไม่อยากเห็นเพื่อนตัวเองโดนปล้ำกลางโรงอาหาร เจ๊อ้วนปากแดงที่นั่งกัดช้อนทำหน้าฟินอยู่โต๊ะข้างหน้าเขาจะกินมึงแทนข้าวแล้ว


“โลกมันไม่กลมขนาดนั้นหรอกมึง แล้วไอ้เชี่ยเหนือเฉยๆ มันก็ไม่ใช่ของกูด้วย”


“เออ กูคงคิดมากไปเอง”


“ลูกรักมึงพาซวยแท้ๆ เป็นไงล่ะ ยังอยากจะเห็นหน้าลูกรักอยู่หรือเปล่าครับไอ้คุณปอนด์”เชี่ยนนท์พูดแทงใจดำน้ำตามันพาลจะไหลครับ เพราะมันจริงอย่างที่ว่า แต่ผมไม่โทษลูกรักผมหรอกนะครับ จะผิดก็ผิดที่ผมดวงซวยเองมากกว่า


“.............................”


“นายใช่ไหมที่ชื่อปอนด์ อยู่ถาปัตย์ ปีสอง”ยังไม่ทันได้หายจากดราม่าเสียงหนึ่งเอ่ยถามผมขึ้นก่อน ทำให้ผมต้องหันหน้าไปมองตามเสียงเรียกข้างๆตัว


“เอ่อ...ครับ ผมปอนด์”ตอบรับไปแบบตะกุกตะกัก เพราะมัวตะลึงกับความงามของสามสาวตรงหน้า คนหรือนางฟ้าครับถึงได้สวยกันขนาดนี้


“ได้ข่าวว่าเป็นเด็กเหนือหรอ?”เธอคนเดิมที่อยู่หน้าสุดถามผมอีกครั้ง


“เปล่าครับ ผมคนกรุงเทพฯแต่กำเนิด บ้านอยู่แถบชานเมืองใกล้ๆปทุมธานี”ผมตอบไปตามความจริงอย่างหน้าชื่นตาบาน ปลื้มครับ ครั้งแรกเลยที่มีสาวๆให้ความสนใจถึงสามคน


“ฉันถามว่าใช่เด็กเหนือหรือเปล่า!”เธออีกคนที่สวยไม่แพ้คนแรกถามผมขึ้น ไม่สิเรียกว่าตวาดอย่างอารณ์เสียมากกว่า ไปหงุดหงิดมาจากไหนละครับเนี่ย


“ไม่ใช่ครับ ผมก็บอกไปแล้วว่าเป็นคนกรุงเทพฯ ถึงผมจะหล่อไม่ต่างจากหนุ่มเหนือก็เถอะ”พูดเองอายเองแต่ขอหยอดหน่อยเถอะครับ สวยจนอดใจไม่ไหวกันจริงๆ


“ไม่ต้องทำเป็นไม่รู้เรื่องไปหน่อยเลย หน้าซื่อๆแบบนี้เสแสร้งเก่งนักนะ!”รูปประโยคที่ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆทำเอาผมที่กำลังเบิกบานเริ่มไม่ชอบใจขึ้นมานิดๆ แต่ก็ยังไม่เข้าใจว่าตัวเองพูดอะไรผิดไปตรงไหน ในเมื่อที่ผมตอบไปก็เป็นความจริงทุกคำ


“.......................”


“แค่ตอบมาว่าใช่เด็กเหนือหรือเปล่า!”ว้าเว้ย! จะเอายังไงกับผมวะครับ เริ่มจะคุยกันไม่รู้เรื่องไปใหญ่แล้ว ก็บอกอยู่ว่าไม่ใช่เด็กเหนือๆ จะย้ายภูมิลำเนาเกิดให้กันตลอดเวลา


“ผมเด็กภาคกลาง! ไม่ใช่เด็กเหนือ ถ้ายังไม่เชื่อถามเพื่อนๆผมกันได้เลย”ผมโบ้ยให้ไอ้สามตัวที่นั่งเป็นหมางงไม่ต่างจากผมเป็นคนคุยกับพวกเธอแทน


“สาวๆครับไอ้ปอนด์มันเป็นคนกรุงเทพฯจริงๆครับ ถึงหน้ามันจะบ้านๆไม่เหมือนคนกรุงแต่ผมก็ยืนยันได้ครับ”ดิสเครดิตกูทันทีเลยไอ้นนท์ หน้าระรื่นหลอกด่ากูได้แบบเนียนสุดๆ


“ไอ้พวกโง่ ฉันถามว่าแกเป็นเด็กเหนือหรือเปล่า”


“ก็บอกว่าไม่ใช่ๆๆ จะเอายังไงครับคุณ ให้ผมกลับหอไปเอาใบแจ้งเกิดพร้อมสำเนาทะเบียนบ้านมาให้ดูเลยไหมครับถึงจะเชื่อ”โมโหครับ ความคิดที่จะจีบหายไปทันทีที่หน้าสวยๆพูดจาไม่รู้เรื่องแล้วยังไม่สุภาพกับผมอีกด้วย ผมไม่เข้าใจว่าหน้าผมเหมือนชาวเขา ชาวดอยหรืออย่างไร พวกเธอถึงจะยัดเยียดย้ายถิ่นกำเนิดผมไปอยู่บนเขาบนดอยให้กันแบบนี้


“ไอ้บ้านี่ พูดไม่รู้เรื่องรึไง!”ใครกันแน่ที่พูดไม่รู้เรื่อง


“ไม่ยอมรับใช่ไหม หึ งั้นถ้าเจอแบบนี้ ยังจะทำตาโตใสซื่ออยู่ได้อีกไหม!”


“เชี่ย!!!”จบประโยคของเธอพร้อมคำอุทานของเพื่อนรักผมทั้งสามคนดังขึ้นอย่างพร้อมเพรียงโดยมิได้นัดหมาย หัวสนามหญ้าของผมก็วิวัฒนาการกลายเป็นถ้วยน้ำแข็งใสไปโดยปริยาย ทั้งขนมปัง ลูกชิด เฉาก๊วย มันเชื่อม ประดับประดาเรียงรายอยู่บนหัวผมอย่างสวยงาม ว่าแล้วก็อยากแลบลิ้นออกไปตวัดชิมสลิ่มสีชมพูสวยตรงหางคิ้วของตัวเองเหลือเกินถ้าจะย้อยลงมาซะขนาดนั้น แล้วน้ำแข็งเย็นๆกับแฮลบลูบอยสี่แดงสวยนี่ก็ช่างไหลไม่แคร์หนังหน้าผมเลยว่าจะเย็น จะเหนียว จะหนืด อะไรบ้างไหม แถมด้วยนมข้นหวานตบท้ายเข้าเบ้าตาเดิมที่เคยได้วิตามินเอบำรุงสายตาจากสุกี้ไอ้ธามมาแล้วอีกต่างหาก ครบครับน้ำแข็งใสถ้วยนี้ร้านเขาดีจริงๆเครื่องเยอะนมแยะน่าอุดหนุนวันหลังผมต้องไปซื้อมากินบ้างแล้ว!?


“อย่าล้ำเส้นให้มาก สำคัญแต่ก็ใช่ว่าจะได้ครอบครองไว้คนเดียว จำใส่หัวไว้ให้ดี”ทิ้งท้ายไว้ด้วยประโยคดูถูกแสนร้ายกาจให้ผมได้ขบคิด ก่อนจะลากขาเรียวๆพาหน้าสวยแสนหลอกตาผิดกับนิสัยเดินผ่านช่องแคบๆกันออกไปทั้งสามคน โดยมีสายตานับร้อยๆคู่จับจ้องมาที่ผมกันอย่างเต็มที่ไม่ให้ผมได้มีเวลาอาย แต่พอผมมองกลับไปสายตาทุกคู่รีบเสหลบตีเนียนไม่รู้ไม่ชี้ทำว่ากูไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้นกูเม้ากูนั่งแดกข้าวกันเฉยๆไม่เห็นอะไรเลย ผมโง่เชื่อก็บ้าแล้ว


“เป็นไงบ้างวะไอ้ปอนด์”หล่อโครตพ่อรีบดึงทิชชู่มาซับน้ำบนหัวผมอย่างรีบร้อนและห่วงใย แต่ เอ่อ...ทิชชู่มันยุ่ยง่ายไหมมึง ยิ่งซับยิ่งเปื่อยตอนนี้หัวกูเริ่มไม่ต่างจากขยะเปียกเข้าไปทุกทีแล้ว


“เดี๋ยวกูเช็ดเองดีกว่าไอ้ไนท์ แต่ที่กูอยากรู้คือ น้ำแข็งใสแม่งมาได้ไงวะ ตอนมากูก็ไม่เห็นถืออะไรติดมือกันมานี่หว่า ทำไมถึงได้มีของมาฝากลงหัวกูซะได้”พูดไปก็ใช้ผ้าเช็ดหน้าที่หยิบออกมาจากเป้ปาดทุกสิ่งจากหัวลงถ้วยโฟมเดิมที่วางทิ้งไว้ตรงหน้าผมออกช้าๆ


“ของกูเองแหละ กูเดินไปซื้อมาตอนพวกมึงกำลังคุยกัน เพิ่งกินไปได้สองช้อนเองนะเว้ย เสียดายว่ะแม่ง”ห่วงกูก่อนห่วงกินดีไหมสัดธาม แล้วถ้ามึงเกิดอยากกินพะโล้ หรือ แกงเลียงขึ้นมา หัวกูไม่ประดับประดาไปด้วย ไข่กับสารพัดผักไปแล้วหรอว่ะ เวรกรรมกูจริงๆ


“กูว่าดวงมึงช่วงนี้ราหูอมว่ะไอ้ปอนด์ ซวยซ้ำซวยซ้อน”


“กูเห็นด้วยกับไอ้นนท์”


“หุบปากมึงไปเลยไอ้ธาม หลายคดีแล้วนะมึง”ไอ้ตี๋รีบทำหน้าสลดลงทนทีที่ผมคาดโทษมัน


“มึงเด็กเหนือสินะ”เชี่ยไรอีกวะ ไม่ทันไรคราวนี้เป็นผู้ชายครับ มาคนเดียวแต่คำถามเดิมเลย หน้านี่โหดยังกับโจรภาคใต้หนวดเคราเฟิ้มเต็มหน้า สายตาดุๆมองมาที่ผมทำเอาขนลุกเกรียวกราวด้วยความกลัว แล้วเสื้อช็อปน้ำเงินเข้มนั่นบ่งบอกให้ผมรู้ได้เองว่าโจรใต้ในคราบนักศึกษาคนนี้แฝงตัวอยู่ในคณะอะไร ช่างเลือกเรียนได้เหมาะกับหน้าตาจริงๆ 


“.................”เงียบครับ ประสบการณ์สอนให้รู้ว่าบางอย่างไม่พูดไปจะดีกว่า


“หล่อดีนิมึง ผิดจากที่กูคิดไว้เลย คิดว่าเด็กมันจะตัวเล็กๆ บอบบาง น่ารักๆ ซะอีก”


“................”


“งงอะไรว่ะ กูชื่อแชมป์ พี่รหัสไอ้เหนือแฟนมึงไง”จบประโยค ตาผมก็เหลือกโพล่งขึ้นทันที คำว่าแฟนยังดังสะท้อนในหัวผมเป็นเสียงแอ็คโค่วอยู่นาน กระจ่างเลยครับ กับ “เด็กเหนือ” ที่ว่า คราวหลังช่วยเติมคำสันธานเชื่อมให้กูซักนิดเวลาถามอะไร กูจะได้เข้าใจมากขึ้น ถามกูห้วนๆ กูจะรู้ไหม ภาษาไทยแม่งแค่คำเดียวก็ความหมายไม่เหมือนกันนะเว้ยเห้ย!


“โดนหนักเลยดิมึง ทนมือทนตีนเข้าไว้ล่ะ ผัวมึงมันคนดัง ใครๆก็รักก็ชอบ ศัตรูก็เยอะ ระวังตัวไว้บ้างก็ดี กูว่าจะออกรับหน้าแทนมึงแล้วเมื่อครู่ แต่ต่อคิวซื้อโรตีอยู่หันมาอีกทีหัวมึงเป็นขยะเปียกไปแล้ว”ใครผัวกูวะ กูเป็นผู้ชายไหมไอ้พี่แชมป์ เมียกูยังหาไม่ได้ กูมีผัวแซงหน้าไปก่อนตอนไหน แล้วบัญชีที่เห็นโรตีสำคัญกว่าหัวกูจะคาดโทษไว้อย่างไม่รู้ลืม


“พี่เข้าใจอะไรเพื่อนผมผิดรึเปล่า เพื่อนผมไม่ได้เป็นแฟนไอ้เหนือน้องรหัสพี่หรอกครับ”หล่อโครตพ่อรีบแก้ตัวแทนผมอย่างสุภาพทันที


“อายเชี่ยไรวะ คนเขารู้กันทั่วแล้วว่ามึงเด็กใคร เอาเถอะ มึงถามมันเองแล้วกันมันเดินมาโน่นแล้ว เห้ย! ไอ้เหนือ ไอ้หล่อ เด็กมึงอยู่นี่ มาหาทีดิ!”พูดจบพี่แกก็ตะโกนลั่นโรงอาหารอย่างไม่กลัวว่าผมจะอายพร้อมกวักมือใหญ่ๆของพี่แกให้คนกลุ่มหนึ่งที่กำลังเดินเข้ามาได้หันมามอง สายตาผมที่หันไปตามมือใหญ่ๆนั้นต้องเหลือกขึ้นอีกครั้งที่สบนัยน์ตาคมแสนจะคุ้นเคยที่ผมพยายามหลบหน้ามาทั้งอาทิตย์ แต่วันนี้ไม่ทันแล้วครับ หล่อโครตคนมันเดินหน้าโหดเข้ามาหาผมตามเสียงเรียกของพี่รหัสมันแล้ว


“งานนี้กูว่ามีได้เลือด”ไอ้นนท์พูดขึ้นอย่างให้กำลังใจผม ผมละซาบซึ้งจนอยากแจกตีนให้มันเป็นของขวัญเลยละครับ แล้วสาวๆเขาจะกรี๊ดกร๊าดกันทำไม ไม่เห็นหน้าคนที่กรี๊ดกันหรอครับว่าแม่งโหดขนาดไหน กำลังจะมีคนตายในโรงอาหารซึ่งคาดว่าเป็นผมพวกเธอๆจะรู้บ้างไหม ดูจะมีความสุขกันเหลือเกินที่ได้เห็นหล่อโครตพ่อกับหล่อโครตคนพร้อมๆกันแบบนี้ แล้วข้างหลังที่เดินตามมันมาติดๆอีกสองคนนั่นเพื่อนมึงหรอ เข้าใจเลือกคบเพื่อนนะมึง นี่กำลังดูบอยแบนด์เกาหลีหลุดออกมาจากจอทีวีกันอยู่ใช่ไหม


“มึงใช้แฮลบูลบอยสระผม?”มาถึงก็กวนตีนซะผมอยากแจกตีนให้จริงๆครับไอ้เชี่ยพี่เหนือ


“เด็กมึงโดนบรรดาแฟนคลับมึงรุมแกล้ง กูมาเห็นพอดี แต่ช่วยไม่ทันว่ะ”ทำไมไม่บอกไปด้วยครับว่าที่ช่วยไม่ทันเพราะมึงเห็นโรตีสำคัญกว่ากูไอ้พี่แชมป์


“มึงหนีกู”


“................”ผมไม่รู้จะตอบน้ำเสียงเย็นชาของคนตรงหน้านี้ยังไงดี เพราะตอนนี้ผมคิดอะไรไม่ออก หัวมันตื้อไปหมด


“ใครใช้ให้มึงปิดมือถือ”


“.................”


“ไม่มากไปหน่อยหรอวะ เพื่อนกูมันไปทำอะไรให้มึงนักหนา เรื่องรถมึงมันก็บอกแล้วว่ามันไม่ได้ทำ”


“เสือก!”ไอ้นนท์พุ่งตัวมาจะเอาเรื่องไอ้หล่อนี่ทันที ดีที่ไอ้ธามรีบคว้าแขนห้ามไว้ก่อน


“แล้วมึงจะเอาไง กูไม่มีเงินให้มึงหรอกนะ”เห็นท่าไม่ดีผมจึงลุกยืนสบนัยน์ตาคมอย่างกล้าๆกลัวๆ ก่อนจะไอ้นนท์จะพาลยกพวกตีกันกลางโรงอาหารไปซะก่อน


“...................”


“กูเลือกให้มึงแล้ว”


“....................”ผมต้องขอบคุณในความหวังดีของมันไหม ตัวเลือก “เด็กกู” คือการที่ผมเป็น “เด็กเหนือ” หรือ “แฟนพี่เหนือ” ของสาวๆ สถานะพาซวยให้ชีวิตห่วยๆของผมมีสีสันต์ สีสดด้วยครับแดงสวยกำลังได้ที่เลยหัวผม


“ไหนว่าให้กูเลือกไง?”


“มึงผิดคำพูด”


“มึงก็เลยเที่ยวไปบอกใครต่อใครว่ากูเป็นเด็กมึงเนี่ยนะ!”


“หึ ถามเมย์ดีกว่าไหมเรื่องนี้กูไม่เกี่ยว”


“แต่มึงก็ไม่ยอมปฎิเสธ!”


“ก็มันเรื่องจริง หรือมึงจะเถียง”จบประโยคที่ดูจะไม่มีอะไรนั้น หากแต่สายตาผมที่สบนัตน์ตาคมนั้นรับรู้ได้ถึงถ้อยคำบางอย่างที่แฝงอยู่หากผมไม่ยอมทำตามใจมันผมจะต้องไปนอนในคุกจริงๆแน่


“มึงพูดอะไรกันวะเนี่ย เรื่องผัวๆเมียๆเคลียร์กันเองเถอะ กูไปก่อนล่ะโรตีกูเย็นหมดแล้ว”พูดจบไอ้พี่แชมป์มันก็เดินออกไปโดยที่ผมทำได้แค่หันไปมองตามหลังแบบแค้นเคืองในคำพูดแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะยังมีสายตาพิฆาตของคนตรงหน้าให้เคลียร์กับมันอยู่


“หึ ว่าไงคุณเมีย จะยอมรับไหม”ใบหน้าหล่อพร้อมสายตาคมฉายแววเจ้าเล่ห์นั่น ผมอยากจะฆ่ามันจริงๆ นี่ผมจะต้องเป็นเด็กมันจริงๆใช่ไหม สถานะจริงกูแค่ไม้กันหมาไม่ใช่หรอ และคำว่า “เด็กเหนือ” มันทำให้คนอื่นตีความหมายได้มากมายไปเป็น “แฟน” พัฒนาข้ามขั้นเป็น “เมีย” ในเร็ววันขนาดนั้นได้ยังไง ความคิดคนช่างน่ากลัวจริงๆ


“เออ! กูยอมรับก็ได้ ทำยังกับมีทางเลือก”


“มึงไม่ต้องทำขนาดนั้นก็ได้ไอ้ปอนด์ รถมึงค่าเสียหายเท่าไหร่กูจะจ่ายแทนมันเอง”


“................”


“ขอบใจว่ะไอ้ไนท์ แต่เรื่องนี้ขอกูเป็นคนจัดการเองได้ไหม กูไม่อยากให้มึงต้องเดือดร้อน แล้วกูก็ตัดสินใจไปแล้ว” ถ้าแค่ผมจะเอ่ยปากขอมันให้ช่วยแต่แรก ผมคงทำไปนานแล้วเพราะรู้ว่าไม่มันก็ไอ้นนท์คงยื่นมือเข้ามาช่วยผมแน่ แต่เพราะผมเกรงใจ แล้วก็ไม่รู้ว่าเงินมากมายขนาดนั้นจะหามาคืนเพื่อนได้เร็วช้าขนาดไหน ผมถึงไม่คิดจะขอความช่วยเหลือจากใครเลย เพราะความผิดทั้งหมดมันอยู่ที่ตัวผมก่อเอง ผมต้องรับผิดชอบเรื่องทั้งหมดด้วยตัวเอง


“เพิ่งรู้ว่าเด็กมึงมีเพื่อนประเสริฐขนาดนี้ว่ะเหนือ เจ้าชายแห่งสถาปัตย์ เป็นอัศวินพิทักษ์แฟนชาวบ้านอยู่นี่เอง”


“เงียบเลยไอ้แทนไปกวนตีนน้องมันทำไม ขอโทษแทนเพื่อนพี่ด้วยนะ พี่ชื่อมิน ส่วนไอ้เนี่ยชื่อแทน อย่าถือสาคำพูดมันเลยนะ”


“บอกเพื่อนพี่ด้วยนะครับ ว่าปากแบบนี้ไม่นานอาจเจอตีนชาวบ้าน”


“เชี่ย!”ไอ้พี่แทนสบถพร้อมจะพุ่งมาหาเรื่องไอ้ไนท์แต่ดีที่พี่มินห้ามไว้ก่อน นี่มันอะไรกันเนี่ย ผมกำลังอยู่ในสนามรบระหว่างเทวดากับซาตานใช่ไหม ฝ่ายเทวดานำทัพโดยหล่อโครตพ่อแห่งสถาปัตย์ร่วมด้วยพี่มินเทพบุตรจากวิศวะ ฝ่ายซาตานนำทัพโดยหล่อโครตคนที่ไม่ทำอะไรนอกจากยืนจ้องหน้าผมเท่านั้น โดยมีไอ้พี่แทนในลุกซ์แบดบอยเลวๆกระชากใจสาวเป็นลูกสมุน คนธรรมดาๆอย่างผมอยากจะหายไปจากตรงนี้เหลือเกินครับ ให้คนหล่อมันกัดกันเองไปจะดีกว่า


“กูพาไอ้แทนออกไปก่อนนะ เสร็จธุระมึงก็ตามมาล่ะ”ใบหน้าหล่อหันมายิ้มให้พวกผมอย่างสุภาพก่อนจะลากตัวไอ้พี่แทนออกไปโดยหล่อเลวฝ่ายซาตานก็ไม่ลืมที่จะหันมาสบตาหล่อโครตพ่อฝ่ายเทวดาอย่างแค้นเคืองเป็นการคาดโทษ


“กูเคยบอกมึงแล้วใช่ไหมว่าเวลาเรียกกูให้มีคำว่าพี่นำหน้า”


“กูต้องเชื่อมึงทุกอย่างเลยรึไง”


“....อื้อ.....”จบประโยคปากสวยของคนตรงหน้าก็ก้มลงประทับกับริมฝีปากผมในทันทีไม่ให้ผมได้ตั้งตัวทัน  อาการตกใจทำให้ผมเปิดปากอัตโนมัติสบโอกาสให้ลิ้นร้อนแทรกผ่านเข้าไปควานทั่วหยอกล้อกับลิ้นผมที่ยังเงอะงะไม่รู้จะทำยังไง แรงดูดเม้มบริเวณริมฝีปากรัดรึงรุนแรงจนผมไม่หลงเหลือแรงผลักไสร่างหนาให้ออกห่าง ทำได้แค่ทุบอกหนาเบาๆให้ยอมปล่อยผมซักทีก่อนจะขาดอากาศหายใจ


“อ่อยอู ไอ้อัด!”แปลได้ว่าปล่อยกู ไอ้สัด! แต่เพราะปากผมยังโดนปากไอ้เชี่ยนี่ดูดเม้มอย่างรุนแรง ลิ้นก็ถูกดุนดันจนเป็นอิสระไม่ได้ ทำให้ผมพูดไม่ถนัด มึงจูบหรือสูบวิญญาณกูครับ ถ้าจะดูดกันขนาดนี้


“อื้อ...ไอ้เอี้ย”


“................”


“แฮ่กๆ ทำเชี่ยไรของมึงวะ!”อาการหอบหายใจถี่ๆเกิดขึ้นเมื่อผมเป็นอิสระ ก่อนจะตั้งสติว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองไปเมื่อครู่ผมก็แทบหมดแรงเข่าอ่อนลงไปกองที่พื้น


“หวาน...กูไม่ชอบหวาน”


“................”หวานที่ว่าคงมาจากรสน้ำแข็งบนหัวผมที่ไหลซึมลงมาถึงมุมปาก ผมควรจะรู้สึกเย็นจากน้ำแข็งใสที่แม้จะเช็ดออกไปแล้วก็ยังหลงเหลือความเย็นไว้ แต่ทำไมทั้งหน้าทั้งหัวถึงร้อนจนแดงไปหมดแบบนี้ก็ไม่รู้


“จะเจอหนักกว่านี้ถ้าไม่เชื่อฟัง”สายตาเย็นชาฉายแววเอาจริงจนผมกลัว แต่ก็ไม่เท่าความอายที่เกิดขึ้นตอนนี้มากกว่า กลางโรงอาหารที่สายตานับร้อยๆคู่จับจ้องมาเป็นตาเดียว บางคนถึงกับอ้าปากค้างคาเส้นก๋วยเตี๋ยวอยู่ก็มี


“ ฮึ่ย! เชี่ย!”เจ็บใจตัวเอง แต่ก็ทำอะไรมันไม่ได้ ผมโมโหตัวเองเหลือเกิน


“ห้ามปิดมือถือ แล้วถ้ายังไม่เรียกกูว่าพี่ มึงจะโดนอีก”


“................”ผมไม่ตอบอะไรกลับไป ทำได้แค่มองตามันแบบโกรธเคือง ก่อนที่มันจะหันหลังเดินไปยังโต๊ะที่นอกจากจะมีไอ้พี่แทน ไอ้พี่มินนั่งอยู่ก่อนหน้า ตอนนี้ยังมีอีกห้าชีวิตซึ่งคาดว่าคงเป็นบรรดาเพื่อนฝูงในคณะของมันมาเพิ่มเพราะใส่ช็อปน้ำเงินเหมือนกันทั้งกลุ่ม เสียงโห่ แซว ดังลั่นยามเมื่อไอ้หล่อเดินไปถึง ซึ่งผมก็พอจะรู้ได้ว่าคงไม่พ้นเรื่องเมื่อครู่นี้แน่ๆ ผมที่ไม่รู้จะทนหน้าหนายืนเป็นเป้าสายตาประชาชีอยู่ทำไมจึงรีบสาวเท้าพาตัวเองออกจากสถานที่ตรงนั้นโดยเร็ว ขณะที่เพื่อนอีกสามตัวที่ยังตะลึงกับเหตุการณ์เมื่อครู่ก็เพิ่งเรียกสติตัวเองได้เดินตามผมออกมาติดๆ
นี่ไม่ใช่จูบแรกของผม เพราะจูบแรกของผมเสียให้สาวข้างบ้านที่แอบชอบไปเมื่อตอนอยู่ม.สี่ แต่นี่เป็นจูบแรกของผมที่เกิดกับผู้ชายด้วยกัน แล้วทำไมผมต้องใจสั่น ทำไมผมต้องรู้สึกดีไปกับมันด้วยก็ไม่รู้ ทั้งที่ผมโดนดิฟคิสกลางโรงอาหารที่มีสายตานับร้อยๆคู่มองมา ชีวิตธรรมดาๆของผมจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ผมจะเป็นไอ้ปอนด์ธรรมดาไม่ได้อีก แต่ผมจะต้องเป็นไอ้ปอนด์“เด็กเหนือ” ไปจริงๆแล้วใช่ไหม...ผมยอมรับมันไม่ได้!!!!!!!!!!!!!!




กูยังไม่อยากย้ายภูมิลำเนาเกิดโว้ยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!!!!









ตอนใหม่มาแล้ว :hao7:

ยาวมากๆ ขอให้สนุกกับการอ่านนะคะ  :hao6: :hao6:

ปล. นักเขียนมันฝากบอกมาว่าเม้นกันได้นะมันอยากได้กำลังใจมากๆ :katai1: :katai1:

for-get-me-not

  • บุคคลทั่วไป
 :z2: :z2: :z2: :z2: :z2:

"ว่าไงคุณเมีย จะยอมรับไหม"  >>>>>>> ตอบให้ ยอมค่ะ #ไม่เกี่ยว

เป็นเด็กเหนือ เดี๋ยวอีกหน่อยก็ได้อยู่เหนืออ่ะ  :jul1: :-[

ออฟไลน์ kkmm

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 357
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
สนุกมากคับ
ขอบคุณมาก :-[

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ rainiefonnie

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-2
 :hao6: :hao6:ได้ย้ายภูมิลำเนาแน่นอนคริคริ

สายหมอก

  • บุคคลทั่วไป
เนื้อเรื่องสนุกมากค่ะ แต่ขอแก้คำผิดให้นิดนึงนะคะ

ตรงคำว่า  "โคตร" ค่ะ ต้องเขียนแบบนี้นะคะ

ไม่ใช่  "โครต"  ค่ะ

แล้วก็ตรง วะ,ว่ะ

วะ  ใช้ลงท้ายประโยคคำถามค่ะ เช่น ทำยังไงดีวะ

ว่ะ  ใช้ลงท้ายประโยคแบบทั่วๆไป เช่น หิวข้าวว่ะ

ส่วนอื่นก็ไม่น่ามีแล้วนะคะ โดยรวมถือว่า
.
.
.
สนุกมากจ้าาาาาาา รออ่านตอนต่อไปนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ
 :mew1:

tutata

  • บุคคลทั่วไป
มาต่อเร็วๆๆๆๆๆน่ะครับ

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
5555555555 สนุกมาก o13

ยิ่งอ่านยิ่งรักเรื่องนี้เข้าไปใหญ่  o15 o15 :oni2:
น่าสงสารหนูปอนด์จากเด็กภาคกลาง ต้องกลายเป็นเด็กเหนือซะแล้ว

ปล.สมัยนี้ดูชะนีดีๆที่หน้าตาไม่ได้เลย ถ้านางจะนิสัยเสียขนาดนี้

ออฟไลน์ puppyluv

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2539
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2000/-20
สนุกมาก เข้ามาแล้วติดเลย
ท่าทางเหนือเอาจริงแล้ว
ตายแน่ เด็กเหนือ 555
โดนจูบรสน้ำแข็งไสกลางโรงอาหารต่างหาก ฮิ้ว
กดเป็ดให้ทุกตอนและเป็ดจ้า
ติดตามๆ :mew1:

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5467
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
มาเป็นกำลังใจให้นะคะ
รออ่าน ๆ ตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ LSK

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 386
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
สนุก สุดท้ายปอนด์ก็เป็นเด็กเหนือ 555

ออฟไลน์ fannan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-6
กลางโรงอาหารเลยช่างกล้าสมชื่อเหนือฟ้าจริงๆ





กลายเป็นเด็กเหนือซะงั้นทำไงอะความผิดก็ไม่ได้ก่อเศร้าเลย

ออฟไลน์ blanchet

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
55555เอาซะเด่นเลย เดี๋ยวต้องมีปัญหามารุมเร้าปอนด์ชัวร์ๆฟันธง
พี่เหนือก็เอาแต่ใจดีแท้ สนุกมากเลยค่าาา ติดตามค่ะ :katai5:

ออฟไลน์ อเลนคุง

  • some stories stay with us forever
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 165
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-0
Chapter 5…………………….. “หวงมาก”




      ใต้อาคารเรียนห้าชั้นของคณะวิศวกรรมศาสตร์ นิสิตที่ว่างเว้นจากการเรียนต่างจับกลุ่มพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน บ้างก็จับกลุ่มเล่นดนตรีแซวสาวต่างคณะที่เดินผ่านไปผ่านมาให้ได้อาย บ้างก็หลบมุมนั่งเล่นไพ่กันตาละบาทแต่พอใครเสียหรือมีการโกงเกิดขึ้นกลับแหกปากด่ากันจะเป็นจะตายประหนึ่งเล่นหุ้นแล้วขาดทุนร้อยกว่าล้าน บ้างก็เอาแต่นั่งกดโทรศัพท์ในมือมากกว่าจะสนใจสิ่งมีชีวิตอื่นใดรอบๆตัว หากแต่พอเสียงตะโกนเรียกใครบางคนดังขึ้น กิจกรรมทุกอย่างพาลให้หยุดชะงักพร้อมสายตากว่าสามสิบคู่พุ่งตรงไปยังเจ้าของชื่ออย่างพร้อมเพรียง


“เฮ้ย ไอ้ปอนด์ เด็กเหนือ!” ยังไม่ทันที่ขาผมจะก้าวผ่านเข้าไปในอาคารเรียนเสียงเรียกชื่อผมพร้อมสถานะที่เพิ่งได้มาเมื่อวานหมาดๆดังขึ้นลั่นตึก ร่างใหญ่กับผิวสีเข้มพร้อมหนวดเคราเต็มหน้าที่เห็นโรตีสำคัญกว่าผมเดินตรงดิ่งเข้ามาคว้าแขนแล้วลากผมไปโดยไม่สนใจสายตาใครต่อใครหรือหน้าตื่นๆของผมแม้แต่น้อย


“พวกมึงๆ นี่ไงเด็กไอ้เหนือ ที่กูเล่าให้ฟังไง” เมื่อลากผมไปถึงเป้าหมายพร้อมแนะนำตัวผมกับสหายที่หน้าเถื่อนไม่แพ้กันโดยผมไม่ทันได้ขอ พี่แกเข้าใจเลือกคบเพื่อนนะครับ อยู่รวมกันสาม สี่ คนไม่มีใครดิบเถื่อนน้อยไปกว่ากันเลย


“ไอ้เหนือน้องรหัสมึง...ที่ชอบทำหน้าเย็นชาๆ เวลาใครมองตาจะแจกตีนให้เขาไปทั่ว มีผู้หญิงมามั่วพัวพันมากมาย แต่เสือกถูกยกให้เป็นผู้ชายแสนเพอร์เฟค ที่มีหุ่นเอ็กซ์เซ็กส์จัด แฟ้มในประวัติดูดี  ดีกรีหลานอธิการบดี  บ้านมีทีวี49นิ้ว  ชอบหิ้วสาวขึ้นคอนโด  มีบ้านหลังโตยังกับวัง  คบเพื่อนเป็นอาบังขายมุ้ง ใช่ไหมวะ?!” กูว่าไม่ใช่ตั้งแต่บ้านมีทีวี49นิ้วแล้ว แล้วถ้าบ้านแม่งใหญ่ยังกับวังมันคงไม่คบเพื่อนเป็นอาบังขายมุ้งหรอกมึง แต่งานอดิเรกพี่แกคือการเอาประวัติคนอื่นไปแต่งเป็นกลอนสี่หยาบคายหรอวะ มึงจบจากโรงเรียนไหนมากูอยากรู้จริงๆ


“เออๆๆ คนนั้นแหละๆ ที่หล่อฉิบหายวายวอดอ่ะ” ไอ้พี่แชมป์ตอบรับทันทีอย่างชอบอกชอบใจพร้อมแท็กมือกันอย่างเห็นด้วย แล้วทั้งกลุ่มก็พากันหัวเราะร่าเยี่ยงคนบ้า นี่ผมอยู่กับกลุ่มรุ่นพี่ที่กำลังพี้กัญชากันอยู่ใช่ไหม? แต่ละคนไม่มีใครสติเต็มซักคน แล้วมึงเป็นพี่รหัสประสาอะไรพูดถึงน้องตัวเองได้ดูเลวสุดๆไปเลย คำชมหล่อฉิบหายวายวอดนั่นถ้าเจ้าตัวมันได้ยินผมว่าชีวิตพี่คงได้วอดวายสมใจแน่ๆ


“ว่าแต่มึงมาหาไอ้เหนือฟ้าหรอ?” พี่หน้าโหดอีกคนถามผมขึ้นมาหลังจากเห็นผมยืนใบ้แดกอยู่นาน


“เปล่าครับ ผมมาหาไอ้...เอ่อ พี่เหนือเฉยๆครับ”


“มึงนี่ก็กวนตีนเหมือนแฟนมึงเลยนะ ฮ่าๆๆ” อ้าว กูกวนตีนตรงไหนครับ แค่มาหาไอ้เชี่ยพี่เหนือกูกวนตีนหรอวะ?!



                เหตุที่ผมจะต้องลากสังขารมามอทั้งที่วันนี้ผมไม่มีเรียนก็เพราะไอ้เชี่ยพี่เหนือมันโทรจิกให้ผมมาหามันที่คณะตั้งแต่ยังไม่เจ็ดโมงเช้า! ผมที่กำลังหลับฝันหวานได้ที่โดนโทรศัพท์รุ่นดึกดำบรรพ์ของตัวเองดังปลุกให้ตื่นเพราะสายเรียกเข้า ด้วยความงัวเงียง่วงงึมจึงเผลอกดรับไปแบบงงๆโดยไม่ทันได้ดูด้วยซ้ำว่าใครโทรมา


“โย๋ววววววววววววววววววววววววว” แปลได้ว่า ฮัลโหล แต่เพราะความง่วงมันฉุดรั้งผมจึงถือสิทธิ์รวบคำคิดศัพท์ใหม่ขึ้นมาแบบถ้าครูสอนภาษาไทยได้ยินคงด่าผมไปสามวันเจ็ดวัน


“บ้านมึงเขาสอนรับโทรศัพท์แบบนี้หรอ” แต่มีใครบางคนด่าผมแทนครูสอนภาษาไทยแล้วครับ


“หือ? มีรายยยยยยยยยยย แล้วครายยยยยยยยยยพูด”

   
“สัด! ตื่นเลยนะมึง” สิ้นคำว่าสัดที่ซัดเข้ารูหูตาผมก็สว่างทันที แจกคำมงคลให้กูแต่เช้าเลยนะมึง จะเอากับกูใช่ไหม? เดี๋ยวกูจัดให้!


“สัดพ่อง! มึงคิดว่ามึงเป็นใคร ใหญ่โตนักหรือไงถึงได้โทรมาแจกคำมงคลให้คนอื่นแต่เช้าแบบนี้”


“กูเหนือ”


“เออ มึงเหนือ เหนือแล้วไง? คิดว่าเหนือคนอื่นหรอ?! กูกลางกูยังไม่คุยเลย ไอ้ควาย! โด่ววววววว เหนื่อเชี่ยไรวะ?...........ห๊ะ!” พลันที่สติกลับมาครบร้อยเต็ม ผมก็รับรู้ได้ว่าหายนะมาเยือนตัวเองถึงเตียงนอนตั้งแต่เช้าตรู่เข้าแล้ว กูละเกลียดชื่อมึงจริงๆ ชื่อเดียวแต่พาลให้กูเข้าใจเป็นอย่างอื่นไปได้ตลอด ใครตั้งชื่อให้มึงกูจะไปฆ่ามัน


“.................”


“พะ...พี่เหนือเองหรอครับ ผมก็คิดว่าใครที่ไหน แล้วพี่ก็ไม่บอกผมแต่แรก” กลับหน้ามือเป็นหลังตีนเลยผม


“มาหากูที่คณะตอนสิบโมง”


“แต่วันนี้ผมไม่มีเรียนคงไม่ได้เข้าไปมหาลัย”


“แล้วไง” กูอยากซื้อคำนี้ของมึงทิ้งจริงๆ คำว่า “แล้วไง” หรืออีกนัยหนึ่งคือ ช่างหัวมึงสิไม่เกี่ยวกับกูซักหน่อย


“ครับๆ”ผมตอบรับไปแบบหน่ายๆ


“ถ้าสายมึงเตรียมตัวรับโทษได้เลย”ขู่ๆๆ มึงเกิดมาเพื่อขู่บังคับคนอื่นรึไง กูกลัวตายแหละ


“ครับ ผมจะรีบไป”พูดจบมันก็ตัดสายไปทันที ทิ้งให้ผมนอนดิ้นด้วยความโมโหอยู่บนเตียงอย่างคนเสียสติ จนไอ้ธามที่หลับอยู่เตียงข้างๆต้องโยนหมอนข้ามฟากมาฟาดหน้าผมแรงๆให้หยุดส่งเสียงซักทีมันจะหลับจะนอน  ผมมีเพื่อนแสนประเสริฐจริงๆ เพื่อนตัวเองกำลังถูกรังแกไม่คิดจะแยแสแม้จะเปิดเปลือกตาขึ้นมามองหรือถามไถ่ซักนิดว่าผมต้องการความช่วยเหลือหรือเปล่า ที่เจ็บใจสุดคือหมอนที่มึงปามามันเหม็นน้ำลายมึงสุดๆเลย ไอ้สัดธาม!!!!!




          และนั่นก็เป็นเหตุการณ์ทั้งหมดทั้งมวลที่ผมจะต้องพาตัวเองมายืนเป็นเป้าสายตาของคนคณะข้างๆที่มีกลุ่มรุ่นพี่ไม่เต็มบาทอารมณ์เหมือนคนพี้กัญชามาหมาดๆลากเข้ามาล้อมวงถามไถ่ประหนึ่งตัวเองเป็นซุปตาร์คนดังอยู่ตอนนี้แหละครับ


“ว๊ายยยย ใครอ่ะไอ้แชมป์ หล่อว่ะ กูชอบ” ยังไม่หายมึนกับคำด่าว่ากวนตีน ก็มีสาวห้าวนางหนึ่งที่หน้าตาน่ารักผิดกับนิสัยเข้ามาเกาะแขนผมทันที


“น้อยๆหน่อยไอ้เนย คนนี้ของไอ้เหนือ เดี๋ยวมึงได้โดนมันกระทืบ”


“อ้าว เด็กเหนือหรอ มีผัวแล้วก็ไม่บอก” พูดจบแขนผมก็ถูกต่อยอย่างแรง ย้ำครับว่าต่อย คือพี่เธอเป็นศิษย์บัวขาวหรืออย่างไร หมัดขนาดนี้ถ้าโดนเสยปลายคางผมคงน็อคตายคาที่ แล้วทำไมไม่มีใครคิดว่าผมจะเป็นผัวมันบ้างเลยรึไง ยัดเยียดความเป็นเมียให้ผมกันจัง

 
“เหนือเรียนอยู่ นั่งรอกับพวกพี่ก่อนก็ได้เลิกอีกทีก็สิบเอ็ดโมงโน่น”


“..................” โทรหากูตั้งแต่ไก่โห่ บอกเวลานัดกูสิบโมง แต่เวลาเลิกเรียนมึงคือสิบเอ็ดโมง มึงต้องการอะไรจากกูครับ คือโทรหากูตอนสิบโมงกูก็ยังมาทันไหม ได้ข่าวหอกูอยู่ซอยหลังมอ.เดินไปสิบนาทีถึง


“เหนือฟ้านัดปอนด์มาก่อนเวลาทำไมตั้งชั่วโมง จะไปไหนกันหรอ?” พี่เนยถามผมอย่างสงสัย ในขณะที่กลุ่มพี้กัญชาเขาก็โหวกเหวกโวยวายกันไปตามประสาหน้าหนาๆของตัวเอง เป็นผมซะอีกที่อายแทน เพราะดันมีใครซักคนในกลุ่มท้าไอ้พี่แชมป์ให้เต้นเพลงกังนัมสไตล์ พี่แกก็จัดให้สมใจครับ แต่ท่าควบม้าแบบไหนไม่รู้ผมดูแล้วเหมือนกระหังกระพือปีกมากกว่าถ้าถือสากอันใหญ่ๆในมือด้วยก็ใช่เลยครับ แกเกิดมาเพื่อสิ่งนี้! หน้าระรื่นยิ้มตอบเพื่อนกลับไปว่าครีเอทท่าเฮียไซขึ้นมาใหม่นั้นผมอยากยันโครมเข้าให้จริงๆ จะติดก็ตรงรูปลักษณ์โจรป่าที่ตำตาผมอยู่นั่นแหละผมจึงทำได้แค่ยืนมองกระหังสยายปีกต่อไปเงียบๆ


“หือ? ผมมารอเหนือเฉยๆนะพี่ไม่ใช่เหนือฟ้า” ยังครองสติตอบพี่เนยไปโดยไม่ฮาตามท่ากระหังได้แบบงงๆปนสงสัย


“เล่นมุขหรอวะไอ้ปอนด์ กากว่ะ ไม่ผ่านๆ” อ้าวไอ้พี่แชมป์เห็นหน้ากูไหม หน้ากูจริงจังขนาดนี้ยังหาว่ากูเล่นมุขอีก มึงกลับไปเป็นกระหังกังนัมต่อเหอะ


“ผมไม่ได้เล่นมุข ก็ไอ้พี่เหนือ...แบบ เหนือเฉยๆไม่มีไรต่อท้าย...แบบว่า...เหนืออย่างเดียว ไม่ใช่เหนืออย่างอื่นอ่ะพี่ มันให้ผมมาหามันที่คณะตอนสิบโมง แล้วไอ้เหนือฟ้าไรของพวกพี่มันเกี่ยวอะไรกับผมวะ?” อธิบายชื่อมันยากจังครับพยางค์เดียวแต่พาผมลำบากหลายงานแล้ว มึงเปลี่ยนชื่อไปเลยเหอะไอ้พี่เหนือ


“นี่มึงไม่รู้ชื่อแฟนตัวเองได้ไงวะ ก็ไอ้เหนือเฉยๆไม่มีไรต่อท้าย เหนืออย่างเดียว ไม่ใช่เหนืออย่างอื่นของมึงกับไอ้เหนือฟ้ามันก็คนเดียวกันนั่นแหละ ชื่อมันอลังการงานสร้างขนาดนี้มึงยังจำไม่ได้อีกหรอวะ?”


“นั่นสิ ไอ้เหนือเฉยๆไม่มีไรต่อท้าย เหนืออย่างเดียว ไม่ใช่เหนืออย่างอื่นของปอนด์ หรืออีกชื่อคือ เหนือฟ้า ณัฐสิทธิ์    นวพงษ์พันธ์กูล   ปีสาม  คณะวิศวกรรมโยธา คือคนๆเดียวกันจ๊ะ เป็นผัวน้องปอนด์นั่นแหละ” ชัดเจนครับกับคำอธิบายอย่างละเอียดทั้งชื่อจริง ชื่อเล่น นามสกุลแถมสถานะผัวผมต่อท้ายให้ด้วยของไอ้พี่เหนือ หรือเหนือฟ้าที่พี่เนยช่วยเล่าแจ้งแถลงความให้ผมเข้าใจอะไรๆมากขึ้น ตอนนี้ผมอยากจะตะโกนใส่หูหล่อโคตรพ่อดังๆซะเหลือเกินครับ ว่า “โลกแม่งกลมกว่าที่มึงคิดไว้อีกไอ้ไนท์!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”


“ทำไมมึงรู้ละเอียดจังวะไอ้เนย มึงลักลอบเป็นชู้กับผัวคนอื่นหรือไง?”


“พ่องมึงสิไอ้แชมป์ กูเป็นหนึ่งในแฟนคลับเหนือฟ้าเว้ย แค่นี้ใครๆเค้าก็รู้กัน ใครไม่รู้แสดงว่าบ้านมันอยู่หลังเขาสัญญาณอินเตอร์เน็ตเข้าไม่ถึง” ผมไม่รู้ว่ะพี่เนย เพิ่งมารู้ก็ตอนที่พี่บอกเนี่ยแหละ แต่บ้านผมไม่ได้อยู่หลังเขานะพี่ เพียงแต่ผมแค่โง่เหมือนสัตว์ที่มีเขาเท่านั้นเอง


“ไอ้มิน ไอ้แทน ทางนี้ๆ” พี่แชมป์ตะโกนเรียกสองหนุ่มหล่อต่างสไตล์ทันทีที่เห็นทั้งคู่เดินออกมาจากลิฟต์ โดยมีหล่อโหดโคตรเย็นชาอย่างไอ้พี่เหนือเดินตามออกมาไม่ห่าง


“ปอนด์มารอไอ้เหนือนานแล้วหรอ?” พี่มินถามผมอย่างสุภาพพร้อมรอยยิ้มที่สาวๆเห็นคงละลาย พี่มันเทพบุตรชัดๆเลยครับ ผิดกับไอ้พี่แทนที่เดินผ่านผมไปทำให้สาวๆได้ละลายจริงๆ เพราะมีสาวสวยสุดเซ็กซี่อกสะบึมนั่งรออยู่ก่อนแล้ว เจอกันก็จะโน้มคอซบนมกันเลยหรอวะ? อิจฉาไอ้พี่แทนชะมัด ผมก็อยากได้แคลเซียมบ้างไรบ้าง


“ก็ซักครึ่งชั่วโมงได้ครับ” ผมตอบพี่มินไปแต่สายตายังจับจ้องไปที่หนองโพนมโตแท้ๆที่ไอ้พี่แทนมันยังแทะเล็มหาแคลเซียมอยู่อย่างสนอกสนใจ


“มองเชี่ยไรของมึง!” สิ้นเสียงตวาดดังลั่นสายตาผมจำต้องหันกลับมามองคนตรงหน้าที่เดินเข้ามาถึงตัวผมตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ในทันที คอแทบเคล็ดครับ นัยน์ตาคมฉายแววโกรธเคืองอย่างเห็นได้ชัด ใบหน้าเย็นชาจับจ้องมาที่ผมจนผมรู้สึกกลัว ผมทำอะไรผิดไป ผมแค่อยากดื่มนมโตหาแคลเซียมเข้าสู่ร่างกายเหมือนไอ้พี่แทนบ้างผมผิดมากใช่ไหม?


“....................”


“อย่าให้กูเห็นอีก”


“....................”


“เกินไปแล้วไอ้เหนือ น้องมันก็แค่มองสาวสวยบ้างเป็นธรรมดา มึงจะหวงอะไรนักหนาวะ” พี่มินรีบพูดขึ้นให้คนตรงหน้าที่เอาแต่ทำหน้าโหดจ้องจนผมหง๋อให้คลายอารมณ์ลงบ้าง


“แต่กูไม่ชอบ!”


“ขี้หวงนะมึง นิดๆหน่อยๆก็ไม่ได้”


“กูหวง...หวงมากด้วย” ผมชัดเจนกับ “หวง” ของมันครับ แต่คงไม่ชัดเจนจริงๆเท่า “หวงมาก” ของมันที่ยื่นหน้าหล่อๆเข้ามากระซิบข้างหูผม ก่อนจะแตะริมฝีปากสวยลงขมับผมเบาๆโดยไม่ทันให้ผมได้ตั้งตัว แล้วถอนหน้าออกมายืนจ้องตาให้ผมได้อายหนักกว่าเดิม ปากสวยยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยอย่างผู้ชนะ เป็นครั้งแรกเลยครับที่ผมได้เห็นรอยยิ้มจางๆประดับบนใบหน้าแสนเย็นชานี้โดยไม่ใช่การแสยะยิ้มอย่างกวนบาทา ถึงจะแค่ยิ้มน้อยๆนานเพียงแค่กระพริบตาก็หายไป แต่กลับทำให้ใจผมเต้นแรงอย่างไม่รู้สาเหตุ แล้วทำไมปากผมถึงต้องฉีกยิ้มตามไอ้คนตรงหน้าด้วยก็ไม่รู้ นี่ผมกำลังเมากัญชาไปกับพวกไอ้พี่แชมป์แล้วใช่ไหม?


“ฮิ้วววววววววววววววววววววววววววววววว!” กลุ่มพี้กัญชาดังประสานเสียงอย่างรู้จังหวะ ไปเตี๊ยมกันไว้หรอครับ ถนัดจริงเรื่องทำให้กูอายเนี่ย ไม่นานผมคงได้เอาปี๊บมาคลุมหัวจริงๆเข้าซักวัน

 
“เสือก!” ได้รับคำชมกันถ้วนหน้าครับ กับพี่กับเชื้อมันก็ไม่เว้น ดีที่พี่แกเป็นคนเฮฮาไม่ถือคนบ้าไม่ว่าคนนิสัยเสียก็เลยอยู่ด้วยกันรอด หรือเป็นเพราะพี่แกบ้าก็ไม่รู้นะครับเลยไม่ได้ใส่ใจอะไรใครมากมาย


“จะไปได้ยัง” พูดจบมันก็เดินนำหน้าผมออกไปโดยไม่ล่ำลาเพื่อนฝูงตัวเองซักคำ นิสัยแบบนี้มีคนคบมึงเป็นเพื่อนได้ไงวะ? คำถามนั้นควรให้คนที่มารอเกือบชั่วโมงเป็นคนถามไม่ใช่หรือไงแล้วทำไมกลายเป็นกูที่ต้องเป็นฝ่ายรู้สึกเกรงใจมึงแทนด้วย


“ผมไปก่อนนะพวกพี่” ผมรีบยกมือไหว้บอกลาทุกคนอย่างรีบร้อนแล้ววิ่งตามหลังคนที่เดินนำไปก่อนอย่างรวดเร็ว

 
“อย่าหักโหมนักนะเว้ย พรุ่งนี้เดี๋ยวจะตื่นมาเรียนไม่ไหว” ขนาดเดินมาไกลพอสมควรยังได้ยินเสียงไอ้พี่แชมป์ที่ตะโกนตามหลังมาได้ชัดเจน กลัวปี๊บจะไม่หนาพอบังหน้าผมกันใช่ไหมครับถึงได้ทำให้ผมอยากจะหาไหมาคลุมหัวแทนแบบนี้ หรือถ้าใครมีจิตใจดีก็ช่วยหาโอ่งมาบริจาคให้ผมซักใบแล้วกัน


“.......................”ไม่นานผมก็ได้มานั่งอยู่ในBMW 7-Series สีขาว รุ่นล่าสุดพร้อมคนขับที่นอกจากทำหน้าที่ขับรถแล้วตั้งแต่ขึ้นรถมาก็ยังไม่ปริปากพูดอะไรกับผมซักคำ ส่วนผมหรอครับ สนใจรถมากว่าคนอยู่แล้ว เบาะหนังที่เคยเห็นแต่ไม่เคยได้สัมผัสและคิดว่าชีวิตนี้คงไม่มีปัญญาได้มาไว้ในครอบครอง ตอนนี้ผมได้มานั่งเป็นบุญตูดแล้ว แม้จะไม่ใช่น้องแลมโบลูกรักผมก็เถอะ แค่นี้ผมก็ตื่นเต้นจนทำตัวไม่ถูกเลยทีเดียว ตัวรถด้านในเรียบหรูสมกับเป็นBMWจริงๆ ไม่โฉบเฉี่ยวเตะตามากมาย แต่ก็สวยในสไตล์คลาสสิกแบบเรียบง่ายโดนใจผม จะมีครั้งไหนที่ผมอยู่ข้างๆไอ้พี่เหนือแล้วสุขใจเท่ากับครั้งนี้ไม่มีอีกแล้ว ยิ้มจนปากจะฉีกถึงหูกันเลยทีเดียว ลูบๆคลำๆขยำขยี้เบาะรถเขาจนเลขจะขึ้นให้ซื้อหวยได้อยู่แล้วครับ


“ชอบหรอ?”


“ครับ ชอบ!” ผมตอบไปยิ้มไปเพราะรู้ว่าคนถามคงหมายถึงรถของตัวเองที่ผมให้ความสนใจแบบอกนอกหน้ามานาน ถ้ารถมันท้องได้ผมว่าลูกสาม แต่ผมก็ยังคงลวนลามรถมันต่อไป


“..............” มันไม่ตอบอะไรกลับ แต่ยื่นมือซ้ายมาผลักหัวผมเบาๆพร้อมยีแรงๆ ก่อนจะหันไปสนใจขับรถต่อ


“ฮึ่ย! ผมเสียทรงหมด” บ่นไปอย่างหงุดหงิดที่หัวสนามหญ้าของตัวเองกระจุยขึ้นอย่างปะปรายจนต้องจับกระจายตัวกลับที่เดิมอย่างห่วงหล่อ


“ทำยังกับผมมึงมีเยอะ”


“ก็เยอะกว่าของพี่แล้วกัน ถึงจะสั้นแต่ก็หนาดกดำ ของพี่เหอะ ไว้ยาว ทำสี เหมือนบอยแบนด์เกาหลีระวังจะไม่ได้ใช้หวีอีกเลย”


“ลามปามแล้วมึง” ไม่พูดเปล่ามือเดิมก็ยื่นมายีหัวผมอีกครั้งแต่คราวนี้หนักกว่าครั้งแรกครับ นี่มึงคิดว่าซักผ้าอยู่หรอวะ ขยี้ซะหนังหัวกูจะเปิดอยู่แล้ว ชอบมากมึงเอาหัวกูไปเล่นที่บ้านเลยไหม หรือมึงเข้าใจว่าหัวกูเป็นผ้าขี้ริ้ว ถึงมันจะมีสภาพไม่ต่างแต่กูก็ไม่ว่างให้เอาไปเช็ดมือบ่อยๆนะเว้ย


“หึๆ......” แล้ววันนี้มึงยิ้มเรี่ยราดไปไหมทุกทีเห็นทำหน้ายังกับจะแจกตีนให้ชาวบ้านอยู่ตลอดเวลา เจอโหมดนี้กูก็ไม่กล้าห้ามกันพอดี


“ฮึ่ย!” หงุดหงิดครับแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เหมือนเคย เลยปล่อยให้มือใหญ่ลูบหัวผมไปตลอดทางอย่างจนใจ เคลิ้มเหมือนกันครับ รู้สึกล่องลอย นี่ผมวิวัฒนาการจากผ้าขี้ริ้วไปเป็นหมาแล้วใช่ไหม?


“............” ทั้งที่ชอบทำสีหน้าเย็นชาแท้ๆ แต่กลับมีมืออบอุ่นจนผมรู้สึกได้ ผมคงบ้าไปแล้วใช่ไหมที่เกิดอยากให้มือนี้สัมผัสผมแบบนี้นานขึ้น....ถ้าผมจะยอมเป็นหมา แล้วได้เห็นรอยยิ้มแบบนั้น...ผมลองเป็นหมาดูซักวันคงเข้าท่าดีเหมือนกันนะครับ


“โอ๊ะ! ร้านนี้ผมเคยเห็นออกรายการทีวีบ่อยๆ” อาการลิงโล้ดดีใจหลังจากเห็นป้ายหน้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง ดังขึ้นทันทีที่ BMW 7-Series คันงามเลี้ยวเขามาจอด ก่อนพนักงานตอนรับจะเข้ามาพาผมกับไอ้พี่เหนือไปยังโต๊ะวีไอพีส่วนตัวที่จองไว้ล่วงหน้า ผมที่ไม่เคยมาร้านหรูๆแบบนี้ก็ออกอาการเหรอหราเป็นพม่าเข้ากรุงไปเลยครับ


“อยากกินอะไร” ไอ้พี่เหนือถามผมในขณะที่ความสนใจของผมพุ่งไปที่การตกแต่งร้านสไตล์วินเทจย้อนยุคผสมผสานความเป็นโมเดิร์นได้อย่างลงตัว ทั้งที่ไม่น่าจะเข้ากันได้ ผมว่าเจ้าของร้านคงจะจ้างสถาปนิกที่มีความคิดแปลกแหวกแนวเก่งมากมาตกแต่งร้านให้แน่ๆ สวยมากครับ เป็นแบบที่ผมชอบเลย ผมชอบอะไรที่เป็นวินเทจแต่ก็ไม่ทิ้งความเป็นโมเดิร์นนำสมัยแบบนี้แหละครับ เพราะผมมีแนวคิดอยู่เสมอว่าอดีตกับปัจจุบันถ้ารวมกันมันคือความสมบูรณ์แบบ


“อะไรก็ได้ ผมกินได้หมด ยกเว้นผัก” ผมตอบไปลอยๆโดยไม่สนใจที่จะดูเมนูที่อีกคนยื่นให้ เพราะยังใช้สายตาสำรวจร้านไปเรื่อยๆอย่างตื่นเต้น ทิ้งให้คนตรงหน้าสั่งอาหารไปคนเดียวโดยไม่สนใจจะฟังอะไรนอกจากการชื่นชมโต๊ะ เก้าอี้ โคมไฟ หรือแม้แต่ภาพถ่ายขาวดำที่ติดไว้กับผนัง มันช่างสวยโดนใจผมจนอยากขโมยกลับไปติดไว้ที่ห้องจริงๆ

 
“......................” ไม่นานพนักงานก็ทยอยยกอาหารทั้งหมดมาเสิร์ฟ เมื่อกลิ่นกับข้าวหอมๆโชยเตะจมูกผมจึงได้ละความสนใจสิ่งรอบๆตัวพุ่งมาที่อาหารตรงหน้าแทน มันช่างเขียวอื๋อละลานตาเต็มโต๊ะไปหมด ผมจะเลือกกินจานไหนดี?


“พี่ ผมว่าผมบอกไปแล้วนะว่าผมกินอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่ผัก!”


“แล้วไง” ก็ไม่แล้วไงหรอกถ้าที่มึงสั่งมาจะไม่ใช่ ผัดผักรวมมิตร หน่อไม้ฝรั่งผัดน้ำมันหอย แกงเลียงกุ้งฝอย  หอยลายผัดฉ่า แล้วก็ ไข่เยี่ยวมาผัดพริกแกง อย่าคิดว่าสองอย่างหลังจะไม่มีผักนะครับ ขอย้ำว่ามีผักอยู่ทุกจาน แล้วไอ้ร้านบ้านี่ก็จะแหวกแนวความคิดไปไหน ผมว่าจัดร้านแปลกแล้ว อาหารมึงยังแปลกไม่เข้าสไตล์การจัดร้านของมึงอีก ก็ถ้ากับข้าวจะบ้านๆขนาดนี้มึงจะเสียเงินทำร้านแพงๆแบบนี้ไปทำไม ผมละอยากเห็นหน้าเจ้าของร้านจริงๆ


“.......................”


“มึงเป็นเด็กสามขวบหรอจะได้ไม่แดกผัก” พูดจบก็ใช้ช้อนกลางจ้วงตักผัดผักรวมมิตรให้ผมทันที แล้วนั่นได้ข่าวเขาใส่กุ้งตัวโตๆมาด้วยไม่ใช่หรอ แต่ทำไมที่อยู่ในจานกูมันมีแต่บล็อกโคลี่กับแครอทวะมึง


“ไอ้พี่เหนือแม่ง!” โมโหครับแต่ก็ตักบล็อกโคลี่ชิ้นโตเข้าปากอย่างขุ่นเคือง เคี้ยวไปน้ำตาก็พาลจะไหลไปครับ จริงๆผมกินผักได้นะ เพียงแต่เพราะไม่ชอบแล้วก็ไม่มีใครบังคับ ผมก็เลยเลือกที่จะไม่กินมาตลอด


“......................” !


“พี่ ผมตักเองดีกว่า”


“......................” ยัง!!


“ให้ผมตักเองนะ”


“......................” ยังอีก!!!


“ผมเกรงใจพี่นะ ให้ผมตักเองเหอะ”


“......................” ยังไม่เลิก!!!!


“พี่ ถ้ามึงยังไม่เลิกตักหน่อไม้ฝรั่งใส่ในจานกูนะ สาบานว่ากูจะเอาแกงเลียงราดหัวมึง!!!!!” ผมพูดออกไปอย่างหมดความอดทนหลังจากที่เสียเวลาพูดจาดีๆกับมันอยู่นาน ส่วนมันหรอครับ นั่งเคี้ยวข้าวไปอมยิ้มไปที่ได้แกล้งผมอย่างสบายใจไม่ได้กลัวที่ผมขู่ไปซักนิดเดียว แต่ก็ยังดีครับที่ความสนใจแกล้งผมของมันหมดลงเพราะหันไปสนใจตักกับข้าวใส่จานของตัวเองแทน ไม่ใช่เพราะเกิดใจดี หรือ เห็นใจผมขึ้นมาหรอกนะครับ แต่เพราะจานผมไม่มีที่ว่างเหลือพอให้หน่อไม้ฝรั่งมันมานอนเล่นได้อีกต่างหาก ว่าแล้วก็อยากเอาหน่อไม้ในจานฟาดปากที่เคี้ยวข้าวอย่างสบายอกสบายใจของคนตรงหน้าจริงๆ


“กินสิ กูไม่เคยตักกับข้าวให้ใครในชีวิตมาก่อนเลยนะ”กูอยากภาวนาให้มึงไม่เคยต่อไปใจจะขาด


“พี่แม่งเลว แกล้งผม” บ่นไปไม่เต็มเสียง แต่ก็ยอมตักหน่อไม้ฝรั่งเข้าปากครับ เพราะตักข้าวไม่ได้ หาข้าวไม่เจอ อยู่ลึกเกิน ผมคงต้องแหวกกอหน่อไม้ลงไปหาก่อนครับ ไม่อย่างนั้นวันนี้คงไม่มีข้าวตกถึงท้องแน่นอน


“....................” จากนั้นผมกับไอ้พี่เหนือที่เลิกสนใจแกล้งผมก็ตั้งหน้าตั้งตากินข้าวในจานของตัวเองกันต่อไปอย่างไม่สนใจอะไรกันอีก ต้องยอมรับครับว่ากับข้าวเขาอร่อยจริงๆขนาดผมที่ไม่ชอบกินผักยังต้องยอมรับเลยว่าด้วยรสชาดดีทำให้ผมกินผักได้แบบไม่ฝืดคอเลยทีเดียว แม้ร้านจะมีความคิดแปลกแหวกแนวแต่ก็ยังคงคุณภาพของอาหารไว้ได้แบบนี้ ผมยอมให้ไอ้พี่เหนือมันหลอกมาแกล้งฟรีอีกบ่อยๆเลยละครับ


“อะ...กูให้.....” อย่าคิดว่าผมจะซาบซึ้งในน้ำใจหลังจากเห็นกุ้งตัวโตถูกวางลงในจาน ทั้งๆที่มันตักผักให้ผมจนหาข้าวในจานแทบไม่เจอมาตลอด แล้วคิดว่ากับแค่กุ้งตัวเดียวที่มันตักให้ผมจะดีอกดีใจหรอครับ ไม่มีทาง!!...แต่ทำไมผมถึงยิ้มหน้าบานไม่หุบซักทีก็
ไม่รู้ ว่าแล้วก็จับกุ้งที่เพิ่งได้มานี่แหละยัดเข้าปากไปทันทีเผื่อไอ้คนตรงหน้ามันจะได้เลิกทำสายตาเจ้าเล่ห์ใส่ผมบ้าง


“....................” พอข้าวหมดจานไอ้พี่เหนือก็เรียกพนังงานมาคิดเงินครับ เสร็จสรรพก็พากันออกไปขึ้นรถที่จอดอยู่ข้างร้าน


“หอมึงอยู่ไหน?” ทันทีที่รถเคลื่อนตัวออกมายังถนนสายหลักไอ้พี่เหนือก็หันมาถามผม ผมจึงบอกที่อยู่หอของผมไปเพราะไม่รู้จะปิดบังทำไม มีคนขับรถไปส่งฟรีๆแบบไม่เสียตังผมยิ่งไม่อยากขัดศรัทธาครับ ไม่นาน BMW 7-Series ก็มาจอดอยู่ที่หน้าหอผม แต่ยังไม่ทันจะได้เปิดประตูลงจากรถแขนผมก็ถูกคนข้างตัวดึงไว้ก่อน


“........................”


“พรุ่งนี้มึงมีเรียนกี่โมง?”


“มีแค่เอางานไปส่งช่วงบ่าย แล้วตอนเย็นผมต้องอยู่ช่วยเรื่องรับน้อง ไม่แน่อาจได้นอนค้างที่คณะเลย” เป็นปกติครับที่พวกผมจะใช้พื้นที่ของคณะเป็นที่หลับนอน ถือเป็นบ้านหลังที่สองของพวกผมเลยก็ว่าได้ ถ้ากลางวันไม่เห็นหัวนิสิตคนไหนมาเรียน ก็มาดูตอนกลางคืนเอาครับ นั่งเป็นศพข้ามวันข้ามคืนไม่ได้ไปผุดไปเกิดกันอยู่ในนี้แหละครับ


“งั้นตอนเช้ามาหากูที่คณะเหมือนเดิม”


“คร้าบๆๆ ผมไปได้ยัง?”


“.........จุ๊บ......” จบคำว่ายังมันก็ยอมปล่อยแขนผมครับ แต่กลับยื่นหน้าเข้ามาหอมแก้มแล้วก็ใช้มือยีหัวผมแรงๆเป็นการปิดท้าย


“ไปได้แล้ว” ยิ้มครับ มันยิ้มให้ผมอีกแล้ว!


“..............” ผมที่ยังเบลอๆเปิดประตูรถแล้วก้าวออกมา พอเรียกสติได้ก็รีบเดินเข้าหอไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับจังหวะหัวใจที่ยังเต้นแรงเหมือนกับจะหลุดออกมา









ถ้ากูหัวใจวายตาย กูจะกลายเป็นผีมาหลอกมึงไอ้เชี่ยพี่เหนือ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
 





















ตอนใหม่มาแล้วจ้า :hao7:


ขอบคุณทุกกำลังใจนะคะ ถ้าชอบก็ติดตามเรื่องนี้กันต่อไปเรื่อยๆเน้อ o13


ปล.ขอบคุณความเห็นแก้คำผิด จะบอกI-AMให้แก้ไขคะ ถ้ามีคำไหนผิดก็บอกกันได้นะ :mew1: :mew1:

ปล.2 I-AMบอกมาว่าทุกคำชมทำให้มีแรงฮึดมากมายคะ ถ้าไงก็มาให้กำลังใจกันเยอะๆนะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-04-2013 19:48:06 โดย อเลนคุง »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด