ตอนที่ 17 สงคราม...สามสถาบัน (ภาค1)
เข้าสู่เดือนกันยายน เดือนแห่งบรรยากาศของการสอบเข้ามหาวิทยาลัยอันอบอวล
วันนี้วิน ปุ้ย อั้ม และฟิวไปสมัครเอ็นทรานซ์ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ด้วยกัน
.....ส่วนแมทไปสมัครที่อื่นกับเพื่อน ๆ ของเขา เพื่อจะได้สอบที่เดียวกัน
วันนี้เป็นวันที่นักเรียนจากหลาย ๆ สถาบันมารวมตัวสมัครกันที่นี่ หลาย ๆ คน
ได้เจอกับเพื่อนเก่าที่แยกย้ายกันไปเรียนที่อื่นในวันนี้ ..... วิน อั้ม ปุ้ย ก็เช่นเดียวกัน........
วันนี้เราเจอเพื่อนสมัยประถมที่เคยสนิทกัน ที่แยกย้ายไปเรียนโรงเรียนอันดับต้น ๆ
ของประเทศไทย ‘น้ำ’ สาวหมวย ตาตี่ หน้าตาน่ารัก น้ำมากับเพื่อนอีกสองคน
หญิง 1 ชาย 1 .......เด็กเรียน ใส่แว่น ติ๋ม ๆ กันทั้งนั้น
และวันนี้เอง ก็เป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งดี ๆ (ในอนาคต) ของวินได้เกิดขึ้น ……….
เพื่อนของน้ำ (ผู้ชาย) ซึ่งเรียนที่เดียวกัน ได้เข้ามาเป็นเพื่อนใหม่ในชีวิตของวิน
ในวันนั้น หลังจากที่ไม่ได้เจอกันมานานนม พวกเราจึงแลกอิเมลกันเพื่อจะได้พูดคุยกัน
ใน MSN ....และหลังจากที่วินกลับถึงบ้าน น้ำก็เข้ามาทัก และแนะนำให้วินได้รู้จัก
เพื่อนของเธอ ‘แท๊ก’ โดยการให้วินเพิ่มเขาเป็นเพื่อนใน MSN และพุดคุยกัน
แท็ก เป็นเด็กสายวิทย์ ที่เรียนเก่งมาก ได้เกรด 4 เกือบทุกเทอม เกรดเฉลี่ยรวม
ออกมาก็ไม่ต่ำกว่า 3.95 ...เก่งเหลือเกิน...ในขณะที่วินก็ 2 กว่า ๆ เท่านั้น เราพูดคุย
กันเรื่องเอ็นทรานซ์ และก็แฮร์รี่ พอตเตอร์ ซึ่งคลั่งและบ้าพอ ๆ กัน เลยคุยกันถูกคออยู่
ใช้ได้เลยทีเดียว......เราไม่ได้คุยจีบกัน หรือป้อนคำหวานกันเลยแม้แต่น้อย ไม่ว่ายังไง
แท๊ก ก็ไม่ใช่บุคคลในอุดมคติของวินอยู่แล้ว แท๊กทั้งขาว ตี๋ สุภาพ เรียบร้อย เรียนเก่ง
(มากเกินไป) นุ่มนิ่ม ซึ่งผิดกับบุคลิกของคนที่วินจะชอบโดยสิ้นเชิง ถ้าจำได้ วินจะแบน
คนขาวอย่างสิ้นเชิง วินชอบแบบแมท ที่คล้ำ ๆ เรียนปานกลาง มีความพอดี ซึ่ง แท็ก
เกินความพอดีไปเสียหมด ทั้งขาวเกิน (ขาวมาก ๆ) เพราะเป็นลูกคนจีน ตี๋เกิน
สุภาพเกิน เรียบร้อยเกิน เรียนเก่งเกินไป (อันนี้มาก ๆ) เหมือนคุยกันคนละภาษา
ที่สำคัญวินไม่ชอบ ‘คนใส่แว่น’ ….โรคจิตมั้ย ??
แท๊กเป็นคนหน้าตาเฉย ๆ ยิ่งตอนเจอกันครั้งแรกออกแนวเด๋อ ๆ ติ๋ม ๆ แต่ก็ไม่ใช่คนขี้ริ้ว
ขี้เหร่อะไร............เราจึงแค่คุยเรื่องสอบ เรื่องเรียน แท๊กให้วินได้ปรึกษา อย่างดีเลย
ทีเดียว วินรู้สึกได้ทันทีว่าเพื่อนใหม่คนนี้ดี และจะทำให้วินได้ประโยชน์ทางด้านวิชาการ
อย่างแน่นอน
ผ่านไปแล้วสำหรับสิ่งดี ๆ ที่เข้ามา(บ้าง)ในชีวิต กลับมาสู่ห้วงแห่งความทุกข์ต่อ
เวลาที่เหลือก่อนจะถึงวันสอบเอ็นทรานซ์นี้ วินได้แต่อ่านหนังสือและท่องศัพท์แต่ก็ไม่
มากนัก แถมทดลองทำข้อสอบย้อนหลัง วินก็ยังไม่เคยแตะเลยจนถึงวันสอบเอ็น’
เพราะยังคงมีเรื่องรบกวนใจอยู่เสมอ ๆ ทั้งเรื่องแมท ที่พักหลัง ๆ นี้ร้องขอวิน
มากเกินไปจริง ๆ แมทต้องการจะเจอวินมากขึ้น ไม่อยากเจอแค่วันศุกร์วันเดียวแล้ว
แมทชวนวินโดดเรียนพิเศษบ้าง โดยที่ในวันเสาร์ วินจะมีเรียนทั้งวัน แต่ทั้งแมทและวิน
จะมีเรียนด้วยกันทั้งคู่ในภาคเช้า วินเรียนครูสมศรีที่ศรีย่าน ส่วนแมทเรียนตัวต่อตัว
ที่สยาม พอแมทเลิกเรียน ก็จะชอบขอร้องให้วินโดดวิชาบ่าย ซึ่งเป็นวิชาที่วินค่อนข้าง
อ่อน แต่เป็นวิชาสำคัญมากสำหรับการสอบเข้ามหาวิทยาลัยของวิน ‘ภาษาฝรั่งเศส’
ซึ่งวินเรียนมาทางสายนี้ หากไม่ใช้วิชานี้สอบ ก็ต้องแย่แน่ ๆ จะใช้คณิตสอบแทน
ก็ไม่ได้ เนื่องจากในตอนนั้นที่โรงเรียนของวิน นักเรียนสายศิลป์ – ภาษา จะไม่ได้เรียน
วิชาคณิตศาสตร์เลยตั้งแต่ม. 4 ถึง ม.6 แต่ในปัจจุบันก็มีการปรับปรุงหลักสูตรให้ได้
มีการเรียนวิชาคณิตศาสตร์กันอย่างถ้วนหน้าแล้ว แยกเพียงแต่ความยาก – ง่ายเท่านั้น
วินมีเรียนวิชาภาษาฝรั่งเศสในสถาบันเดียวกันกับที่วินเรียนภาษาไทยนี่เอง
หลังจากเลิกเรียนครูสมศรี วินก็ต้องตรงมาที่สยามภายใน 1 ชั่วโมง ช่วงนั้นรู้สึกเหนื่อย
เพราะเรียนเยอะมากขึ้น ทำให้วินเอนเอียงโดดไปตามคำขอของแมท ซึ่งวินจำได้ว่า
วินเข้าเรียนภาษาฝรั่งเศสไปไม่ถึง 5 ครั้ง .....แต่จะโทษแมทได้อย่างไร ถ้าวินไม่โดด
เสียอย่าง แมทก็ไม่ได้ว่าอะไร....วินเองเนี่ยแหละที่ไม่ดี ความอดทนไม่พอเอง
.......และมาถึงเย็นวันพุธนี้ ซึ่งเป็นพุธสุดท้ายที่วินจะได้เรียนภาษาไทยที่นี่ (เพราะแมท)..........
ซึ่งในวันพุธที่แล้ว อาจารย์ของดสอน จึงยังไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้น วินเองก็ไม่รู้ว่าแมทได้ไป
ดักรออีกหรือเปล่า และในพุธนี้วินก็มาเข้าเรียนตามปกติ และก็เป็นอีกวันที่วินมาถึงเร็ว
ก่อนเวลาเรียนมาก ๆ วินมาถึงสยามตอน 4 โมงนิด ๆ วินเลยไปนั่งรออ่านหนังสือในร้าน
อาหารบ้านหญิง ‘ป้าหญิง’ เจ้าของร้านก็คงจำวินได้ วินไปร้านของเธอบ่อยมากช่วงนั้น
จนรู้จักกัน ทักทายคุยกันบ้างอยู่บ่อย ๆ เวลาไปนั่งในร้าน วินจะสั่งแต่น้ำ หรือไม่สั่งอะไร
แล้วมาขอนั่งอ่านหนังสือ เธอก็ไม่ได้ว่าอะไรเลย.......สมแล้วที่คนแน่นร้าน
วินนั่งอยู่สักพักก่อนเวลาเรียนประมาณ 1 ชั่วโมง ปุ่นก็โทรมาหา
“วิน...หวัดดี” ปุ่นทัก ......วินนึกขึ้นได้ทันทีว่าวันพุธก่อนโน้น วินลืมนัดปุ่นเสียสนิท
วินมัวแต่นอนครุ่นคิดเรื่องของวินที่มีคนโทรมาแกล้งเรื่องแมท จนหลับไปบนรถ
ตื่นมาอีกทีก็เลยเวลาเรียนไปโขแล้ว วินจึงกลับบ้าน....แต่วินก็แปลกใจว่าทำไมปุ่นถึง
ไม่ได้โทรตาม หรือโทรมาหาหลังจากเลิกเรียนเลยจนถึงวันนี้
“เฮ้ยปุ่น....วันพุธก่อนเราขอโทษด้วยนะ...เรามีปัญหานิดหน่อย...เลยไม่ได้มา”
วินขอโทษขอโพย
“ไม่ได้มาสยาม หรือไม่ได้มาเรียน” ปุ่นทำน้ำเสียงปนหัวเราะ
“ทำไมอ่ะ” วินถามด้วยความงง
“เราเห็นวินจอดรถนอนอยู่หน้าร้านบ้านหญิงเนี่ย” ปุ่นกล่าว
“จริงหรอ” วินตอบ ....และวินก็นึกขึ้นได้ว่าวันนั้นวินเอารถมาจอดริมทาง ซึ่งตรงกับ
ทางขึ้นไปโรงเรียนกวดวิชาที่วินเรียน และก็อยู่บริเวณหน้าร้านบ้านหญิงนั่นเอง
“อืม...เราเดาว่าคงง่วงมาก หรือไม่ก็มีปัญหากะแฟน...หึๆ" ปุ่นหัวเราะในคอ
“อืม...เรามีเรื่องให้คิดเยอะหน่อยน่ะวันก่อน” วินตอบเสียงอ่อย ๆ
“แล้วนี่วินอยู่ไหน” ปุ่นถาม
“อยู่ร้านบ้านหญิงเนี่ยแหละ - - พอดีวันนี้มาถึงเร็ว เลยมานั่งอ่านหนังสือรอขึ้นเรียน”
“อืม...เราเห็นแล้วหละ เราอยู่หน้าร้าน....เข้าไปนั่งด้วยคนดิ” ปุ่นเปิดประตูเข้ามา
วินวางสายเมื่อเห็นปุ่นเดินเข้ามา เราสองคนยิ้มทักกัน และปุ่นก็ตรงเข้ามานั่งตรงข้าม
กับวิน
“วันพุธก่อนเรียนเรื่องอะไรอ่ะปุ่น....ที่เราไม่ได้มา” วินถาม
“อืม....เราก็ไม่ได้ขึ้นเรียนเหมือนกันอ่ะ เหอะๆ ...... เรายังไม่ได้ทำความรู้จักใครเลย
นอกจากวิน เลยโดดซะเลย” ปุ่นตอบ
“เอ๊า....เกี่ยวมั้ยเนี่ย” วินกล่าว..........และจากนั้นก็มีโทรศัพท์เข้ามาหาวิน พี่แสงเดือน
นั่นเองเป็นคนโทรมา วินรู้สึกตุ๊ม ๆ ต่อม ๆ เล็กน้อย รู้ว่าต้องมีเรื่องอะไรแน่ ๆ
วินกดสายทิ้ง เพื่อโทรกลับไปหาพี่แสงเดือน เพราะเธอใช้ระบบเติมเงินที่ตอนนั้นยังไม่มี
โปรโมชั่นดี ๆ ค่าโทรราคาถูกเหมือนปัจจุบัน
“พี่แสงเดือน...” วินทัก
“คุณวิน....คุณวินสะดวกมั้ย พี่แสงเดือนมีเรื่องจะบอก” พี่แสงเดือนทำเสียงตกใจ
“ไม่สะดวกก็ต้องสะดวกแล้วหละพี่แสงเดือน.....มีอะไรว่ามาเลย” วินกล่าวโดย
พยายามกดอารมณ์ตื่นเต้นเอาไว้ ในขณะที่ปุ่นขอตัวลุกไปเข้าห้องน้ำที่ชั้นบน
“คุณวิน ....พี่แสงเดือนแอบได้ยินคุณผู้หญิงโทรหาคุณแมท แล้วบอกว่าตอนนี้
คุณวินอยู่กับเด็กผู้ชายใส่กางเกงสีกากีคนนึงที่ร้านบ้านหิน ๆ อะไรเนี่ยแหละ”
พี่แสงเดือนคงเหมือนถึงร้านบ้านหญิง
“จริงหรอ!” วินตกใจ
“แล้วคุณแม่รู้ได้ยังไงอ่ะพี่แสงเดือน” วินถามต่อ
“พี่แสงเดือนก็ไม่รู้เหมือนกันคุณวิน - - แล้วคุณวินอยู่กับผู้ชายที่ร้านนั้นจริง ๆ รึเปล่า”
พี่แสงเดือนถาม
“แล้วตอนนี้คุณแม่เองก็อยู่ที่บ้านหรอพี่แสงเดือน” วินถามกลับ เพราะสงสัยอย่างมาก
ว่าคุณแม่อยู่บ้านแล้วรู้ได้อย่างไรกัน
“ค่ะคุณวิน...คุณผู้หญิงไม่ได้ไปไหนเลยทั้งวัน- - คุณวินขา คุณวินอยู่ที่นั่นจริง ๆ หรอคะ
.........แล้วก็อยู่กับเด็กผู้ชายจริงหรอ” พี่แสงเดือนย้ำคำถาม..แต่วินยังไม่ทันได้ตอบอะไร
“พี่แสงเดือนแค่นี้ก่อนนะ” วินต้องรีบวางสาย รู้สึกใจหล่นวูบ เมื่อได้ฟังสิ่งที่พี่แสงเดือน
บอกเล่าพร้อมกับทันทีในตอนนั้นแมทก็มายืนอยู่ที่หน้าร้านบ้านหญิง วินไม่คิดจะหลบ
ถ้าหลบแมทคงเข้ามาในนี้แล้วคงเกิดเรื่องแน่ ๆ วินจึงรีบออกไปหาแมท ด้วยสีหน้าที่
ค้อนเคืองอยู่ในระดับหนึ่งเลยทีเดียว ทั้งที่ยังงงอยู่ว่านี่มันอะไรกัน...คุณแม่รู้ได้อย่างไร
“วินอยู่กับใคร” แมทถามเสียงแข็งทันทีที่เห็นหน้าวิน
วินเดินเลี่ยงไปทางด้านข้างร้านตรงเชิงบันไดทางขึ้นไปโรงเรียนกวดวิชาของวิน
เพื่อไม่ให้คนเห็น แต่ก็คงหลบไม่พ้นรัศมีนัก สยามเวลาประมาณ 4 โมงเกือบ ๆ 5 โมง
เป็นเวลาที่คนกำลังเยอะได้ที่เลยทีเดียว
“แมท...นี่มันอะไร....แมทรู้ตลอดได้ยังไงว่าวินอยู่ไหน ทำอะไร อยู่กับใคร” วินรู้สึกโกรธ
“หึ....คงนึกไม่ถึงหละสิ.....ว่าเรื่องชั่ว ๆ ที่ตัวเองทำอยู่จะไม่มีใครรู้ ไม่มีใครเห็น
และโดยเฉพาะแมท คงคิดว่าจะหลอกแมทได้ง่าย ๆ งั้นสิ” แมทกล่าวสีหน้าขุ่นเคือง
จบประโยคได้ไม่นาน แมทก็ละสายตาจากวินไปที่ประตูร้านบ้านหญิง....ปุ่นเดินออก
มาพอดี คงจะเห็นว่าวินไม่อยู่ แล้วอาจจะออกมาหา
“ไอ้ animal !” แมทเดินเขาไปดึงคอเสื้อของปุ่น แล้วลากเขามาที่วินยืนอยู่
“อะไรว้ะเนี่ย !” ปุ่นเสียงดังใส่แมท
“ม.อึงเห็นนี่ม้ะ......คนเนี้ย ของกรู !” แมทชี้มาที่วิน แล้วเสียงดังใส่ปุ่น
วินไม่รู้จะเอาหน้าไปซุกรูไหน คนแถวนั้นโดยเฉพาะในร้านยำข้าง ๆ นั่นหันมามอง ถึงแม้
ว่าพวกเขาจะไม่ได้ยินสิ่งที่สองคนกำลังพูดกัน แต่ก็รู้ได้ด้วยสัญชาตญาณว่าทั้งสอง
กำลังทะเลาะกันอยู่...... วินอายมาก เกิดมาไม่เคยพบเคยเห็นผู้ชายทะเลาะกันเพราะ
ผู้ชาย
“ของม.อึงแล้วทำไม......ทำไมฮะ” ปุ่นโต้กลับทั้ง ๆ ที่คอเสื้อยังอยู่ในอุ้งมือของแมท
ปุ่นดูกล้ามากในสายตาวิน เขาไม่สะทกสะท้านเลย แถมยังสู้สายตาของแมทไม่ลดละ
“มึงชอบหรอ...มึงชอบวินใช่มั้ย..ไอห.เอี้ย !!! “ แมทเสียงดังจังหวะที่พูดคำหยาบออกมา
ตรงนี้วินว่าใคร ๆ แถวนั้นก็ได้ยิน
“เออ !!!! ทำไมอ่ะ...ทำไมไอ animal” วินตะลึงกับคำหยาบจากปากปุ่นเล็กน้อย แต่ก็
ไม่เท่ากับคำตอบของปุ่นเรื่องความรู้สึกที่มีต่อวิน........วินไม่ได้รู้สึกดีเลย ทั้ง ๆ ที่ถ้าเป็น
เมื่อก่อนมีคนมาชอบคงหลงระเริงไปกับตัวเอง...แต่นี่...ปุ่นรู้ไหมว่าคำพูดของปุ่นมันฆ่า
วินได้เลยนะ
“แต่กรุยังไม่ได้ทำห.เอี้ยอะไรเลย....นี่ม.อึงบ้ารึเปล่า - - ทำแบบนี้ม.อึงนึกว่าม.อึงดูดี
ม.อึงนึกว่าม.อึงแน่แล้วหรอ” ปุ่นตะคอกด่าแมท
“ไอ animal…” แมทต่อยหน้าปุ่นอย่างจังจนล้มลงไปกับพื้น
“แมท !!” วินตะโกนเสียงหลง ไม่ทันไรปุ่นก็ลุกขึ้น แล้วชกแมทกลับ แต่ก็ไม่แรงเท่าที่
แมทชกปุ่นจนล้มเมื่อสักครู่นี้....วินรวบรวมความกล้าเข้าไปแยกสองคนนี้ออกจากกัน
“ปุ่น....กลับเข้าไปในร้าน ขอร้องหละ....เข้าไปก่อน” วินบอกกับปุ่น
“แมท .... เดี๋ยวเรากลับด้วยกัน.....แค่นี้ก็ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหนแล้ว” วินพูดด้วย
น้ำเสียงโมโหใส่แมท ในขณะที่ปุ่นเดินเข้าไปในร้าน
“เดี๋ยววินไปหยิบกระเป๋า....แล้วเรากลับกัน” วินบอกกับแมทที่ยืนกุมปากตรงที่โดน
ต่อยอยู่นิ่ง ๆ.........วินเข้าไปเอากระเป๋า แล้วเห็นปุ่นนั่งอยู่ ปุ่นพยักหน้าให้วินเล็กน้อย
เหมือนจะบอกว่าไม่เป็นอะไร
“ปุ่น....เราขอโทษจริง ๆ ขอโทษมาก ๆ เลย” วินบอกกับปุ่นขณะเก็บของ
“ไม่เป็นไร....วินไม่เข้าเรียนใช่มั้ยวันนี้” ปุ่นตอบเสียงนิ่ง ๆ คงเจ็บแผลอยู่เหมือนกัน
ถึงแม้ว่าตอนนั้นมันจะไม่มีแผลหรือเลือดออกมา (เหมือนในละคร) แต่วินก็เห็นว่าปาก
ของปุ่นเริ่มบวม ๆ แล้ว
“อืม...คงไม่แล้วหละ เราฝากปุ่นดูให้เราด้วยได้มั้ย...นะ” วินขอร้อง เพราะกลัวเรียน
ไม่รู้เรื่อง...กลัวต่อไม่ติดเพราะต้องขาดถึงสองครั้งก็ 4 ชั่วโมงกว่า ๆ แล้ว
“วิน.......” ปุ่นเรียกวินขณะที่วินกำลังจะออกไป
“ขอโทษนะเรื่องนั้น...เราโมโหมาก... ก็เลย....” ปุ่นเอ่ยขึ้น
“ช่างเถอะ...ไว้เราค่อยคุยกันทีหลังดีกว่าปุ่น...ไปก่อนนะ” วินตัดบท
วินขึ้นรถแมทและให้เขาไปส่งที่สถานีรถไฟฟ้าหมอชิต ระหว่างทางวินเป็นห่วงแมท
เล็กน้อย...บอกตรง ๆ ว่าตอนนั้นโกรธปุ่นมากกว่า เพราะไหนจะพูดเรื่องว่าชอบวิน
แล้วยังมาต่อยแมท (แฟนเรา) อีก …….วินรักแมทมาก ไม่รู้ว่าหลงหน้ามืดตามัวจน
ไม่ลืมหูลืมตาเลยหรือเปล่า
“แมทเป็นอะไรมั้ย” วินเอื้อมมือไปจับแก้มแมทตรงที่โดนปุ่นต่อย
“ไม่ต้องมายุ่ง !!!” แมทตะโกนเสียงดังลั่น ก้องอยู่ในรถ และปัดมือวินทิ้ง
“แมทวิน....” วินพูดไม่ทันจบก็ถอนหายใจ
“เป็นบ้าอะไรฮะ !.....ทำมาเป็นถอนหายใจ - - ใครกันแน่ที่ต้องเหนื่อยใจฮะ!!”
แมทตะคอกเสียงดังทั้งประโยค ถ้าเป็นวินคอแตกไปแล้วแน่ ๆ
“แมท...วินต้องพูดอีกกี่ครั้ง แมทถึงจะฟังว่าวินกับปุ่นไม่มีอะไรกัน” วินตอบอย่างเซ็งๆ
“เหรอ !!! แล้วไอห.เอี้ยนั่นมันเพิ่งบอกว่ามันชอบวิน.....ต้องให้มันบอกแมทกี่ครั้งหรอ
วินถึงจะเลิกตอแห.ล” วินเกลียดแมทขึ้นมาทันทีที่พูดจบ
“นี่แมทเคยคิดถึงหัวอกคนอื่นบ้างมั้ย....แมทด่าวินอยู่คนเดียว เคยนึกบ้างรึเปล่า
ว่าวินเคยพูดจาต่ำ ๆ แบบนี้กับแมทบ้างมั้ย..... กี่ทีแล้วแมท ที่แมททำตัวหยาบคาย
แบบนี้ มีสักครั้งมั้ยที่วินบ่นแมท มีมั้ยทุกครั้งแมททำอะไรให้วินอาย แล้วแมทจะคิดได้”
วินตอบกลับเป็นชุด ทำเอาแมทตาสว่างขึ้นมาบ้าง และลดระดับเสียงลง
“ก็ - - ก็แล้วทำไมวินถึงไม่เลิกเรียนที่นั่น” แมทถามต่อ
“วินคงไม่กลับไปแล้วหละ....อายจะตาย - - ไม่อยากมีเรื่องอีกแล้ว” ครั้งนี้วินพูดจริง
ในที่สุด วินก็เลิกเรียนพิเศษวิชาภาษาไทย ซึ่งเป็นช่วงสำคัญหัวเลี้ยวหัวต่อของคอร์ส
แล้วด้วย เพราะอีกไม่กี่เดือนวินก็ต้องสอบเอ็นทรานซ์ แต่ความรักที่มีต่อแมทอัน
ล้นเหลือ มันทำให้วินตัดสินใจทำในสิ่งที่โง่ที่สุดในชีวิตลงไป
“ดีแล้ววิน....วินทำถูกแล้ว” แมทช่วยย้ำความคิดผิด ๆ ของวินให้รู้สึกว่ามันถูกต้อง
“วิน - - พอถึงหมอชิตแล้ว....วินขับรถไปบ้านแมทก่อนนะ” แมทกล่าว
“ไปทำไม” วินถาม ในใจคิดแต่ว่าไม่อยากกลับไปเหยียบที่นั่นถ้าไม่จำเป็น
“ไม่ต้องไปก็ได้” แมททำเสียงไม่พอใจ
“อืมก็ดี...วินอยากกลับบ้าน” วินชักเอือมกับการกระทำของแมทในช่วง 2 เดือนที่ผ่าน
มานี้เหลือเกิน แม้จะรักเขามากมายแค่ไหน แต่ก็ใช่ว่าวินจะทำตามที่เขาต้องการได้
ไปเสียหมดทุกอย่าง โดยเฉพาะเรื่องไปเจอคุณแม่ด้วยแล้ว วินคิดว่าเป็นความคิดที่
ไม่เข้าท่าเอาเสียเลย
________________________________________________________
ตัวอย่างตอนต่อไป.....
ตอนที่ 18 คุณแม่อีกแล้ว...และอีกแล้ว
“สวัสดีน้องวิน” ทันทีที่วินและแมทไปถึงบ้าน พี่กอล์ฟก็เข้ามาทักวินอย่างชื่นมื่น
“พี่กอล์ฟมาทำอะไรอีกอ่ะ” แมทถาม ทำหน้าเบื่อ ๆ ใส่พี่กอล์ฟ
“คุณแม่ชวนพี่มาทานข้าวด้วย...พี่มาในฐานะแขกของคุณแม่...ไม่ใช่ของแมท และแมท
ก็ต้องทำตัวดี ๆ กับแขกของคุณแม่ด้วยนะจ๊ะ” พี่กอล์ฟทำท่าเหมือนผู้หญิงใส่แมท
พอพูดจบก็เอามือมาเขี่ยคางแมทเบา ๆ แล้วก็เดินบิดก้นไปมาเข้าครัวไป
..............................................
“แมทกลับมาเล่าให้แม่ฟังเรื่องวันพุธก่อนหมดแล้ว...วินทำตัวแย่มากนะ ลูกแม่ไม่เคย
ชกต่อยกับใครมาก่อน และนี่เป็นครั้งแรกที่แมทต้องเจ็บใจ แล้วยังต้องเจ็บตัวอีก”
คุณแม่อธิบาย
“แมทเข้าใจวินผิดนะคุณแม่...วินกับคนนั้นเราไม่ได้ชอบกัน” วินเถียง
“อย่ามาพูดเลยวิน....แม่รู้มานานแล้ว ว่าเราน่ะ ร้ายไม่ใช่ย่อย ...เมื่อกี๊ก็เห็นตอกหน้า
พี่กอล์ฟซะเจ็บแสบไปเลย” คุณแม่ไม่ฟังเหตุผล
“ทำไมถึงได้นำพาเรื่องยุ่ง ๆ มาในครอบครัวแม่ไม่หยุดฮะ” คุณแม่พูดด้วยน้ำเสียง
ธรรมดา ๆ เรียบเฉย
..............................................
“ก็ถ้า ไม่มีใครคอยโทรบอกแมทว่าวินทำอะไรอยู่ที่ไหน เรื่องเข้าใจผิด หรือเรื่องยุ่ง ๆ
แบบนี้ก็คงไม่เข้ามาหรอกคุณแม่” วินทำน้ำเสียงไม่พอใจใส่
“ว่าไงนะ....ใครบอก - - ใครบอกแมทเรื่องอะไร” คุณแม่หันมาถามวิน
“วินก็ไม่ทราบครับคุณแม่....แต่ที่แน่ ๆ เค้าต้องไม่หวังดีกับแมทและวิน”
วินทำตัวเนียน ตีสีหน้างง ๆ ใส่คุณแม่ แล้วบอกไป
..............................................