พิมพ์หน้านี้ - [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => เรื่องสั้น => ข้อความที่เริ่มโดย: MaWin ที่ 13-03-2008 02:00:01

หัวข้อ: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 13-03-2008 02:00:01
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสมและเกิดความขัดแย้ง
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ



.::.กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่ .::. (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0)


ขอยืนยันว่า เรื่องที่วินเขียน ล้วนเขียนขึ้นจากสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในชีวิตม.6
ความจริง 99.99% อีก 0.01% มาจากคำพูดที่อาจผิดเพี้ยนไปบ้าง
เรื่องนี้เจาะเฉพาะกลุ่มจริง ๆ บางคนอาจชอบ หรือไม่ชอบก็ได้
เรื่องความรักของวัยรุ่น ชาย - ชาย
ไม่ว่าจะเพศไหน ทั้งหมดก็รัก เจ็บ และ ร้องไห้ด้วยกันทั้งสิ้น

เรื่องย่อ....
วิน...เด็กม.6 ที่ทางบ้านค่อนข้างยังไม่ค่อยปล่อยไปไหนนัก
ทำให้เขาไม่ค่อยได้รู้ว่าโลกภายนอก แท้จริงมันเลวร้ายเพียงใด
ครั้งแรกที่เขาเจอกับความรัก  บอกตรง ๆ ว่าตื่นเต้น ชอบ และเห่อเป็นธรรมดา
จากนั้นความรักก็เข้ามาอีก คนที่กำลังเห่อ และหลงระเริงกับตัวเอง
ที่คิดว่าตัวเองมีดีไปเสียหมด โดยเฉพาะหลงคิดไปว่าตัวเองหน้าตาดี เอาใคร ๆ อยู่
แต่ก็มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่วินเอาอยู่คือ "แมท" แมทรักวินจริง ๆ และมาก ๆ
ครั้งหนึ่งแมทเอาชีวิตตัวเองเป็นเครื่องพิสูจน์ วินไม่เคยให้อภัยตัวเอง และไม่เคย
คิดขออโหสิกรรมกับการกระทำอันโหดร้ายของตัวเองเช่นนี้

แต่วินก็ไม่เคยคลายรักที่มีให้แมทลงเช่นกัน แม้ว่าจะอย่างไร
กระนั้น แมทที่เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ถึงแม้เหตุผลมันจะคือ "รัก" และ "หวง" ทั้ง "หึง"
แต่การกระทำอันรุนแรง (ขึ้นเรื่อยๆ) มันทำให้วินอ่อนแอที่จะดิ้นรนต่อสู้กับความรักใหม่ ๆ ที่เข้ามา
ทั้งยังคุณแม่ของแมท ที่เมื่อจุดเริ่มต้นจากการไม่ชอบวิน จนเป็นเกลียด คุณแม่แกล้ง และทำร้ายวินสารพัด (มากมายจริง ๆ จนวินเองก็นับไม่ไหว)

ตลอดระยะเวลาตั้งแต่ม.6 จนถึงตอนนี้วินอยู่ปีสุดท้ายของชีวิตนักศึกษาแล้ว
การราวีของคนในบ้านแมท ยังไม่ยอมเลิกรา หรือลดละลง
ส่งผลให้ชีวิตของวินต้องพบเจอแต่ความระแวดระวังเสมอมา
วินไม่ทราบได้ว่าเมื่อใด จะเจอคุณแม่เล่นงาน และปัจจุบัน แมทยังคงรักวิน
และทำดีกับวินเสมอมา แต่คุณแม่ต่างหากที่ทำให้วิน ไม่สามารถกลับไปคบกับแมทได้อีก........
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 13-03-2008 02:02:24
ตอนที่1 ความรัก...ครั้งแรก

. . . เรื่องมันเริ่มช่วงที่วินย้ายเข้าโรงเรียนใหม่ตอนม. 6 เป็นโรงเรียนชื่อดังใช้ได้เหมือนกัน แต่เป็นสาขาแยกออกมาอีกแห่งหนึ่ง...งงมั้ย ก็มีชื่อซ้ำกันอยู่หลายแห่งไง
พูดง่าย ๆ ไม่ได้อยู่โรงเรียนต้นสังกัดน่ะแหละ  วินย้ายมาจากโรงเรียนเก่าที่เคยอยู่มาตั้งแต่ม. 1 – ม.5   จริง ๆ วินจะย้ายมาโรงเรียนนี้ตั้งแต่ม. 4 แล้ว แต่มีปัญหากับผู้อำนวยการคนเก่า เลยยุ่งยากเข้าไม่ได้ซะที    พอม. 6 ได้ผู้อำนวยการคนใหม่ ฝันก็เลย
เป็นจริงซะที     จริง ๆ วินไม่เห็นต้องเล่าเรื่องนี้เลย (เดี๋ยวคนมาอ่านจะรู้ตัวจริงซะเปล่า ๆ เพราะตอนนั้นม.6 มีเด็กใหม่แค่ 2 คนเท่านั้น...แต่ก็เอาเหอะ ม.6 ไม่ได้มีรุ่นเดียวนี่นา) เพราะที่จริงแล้ว แฟนคนแรก  วินไม่ได้เจอในโรงเรียน เพียงแต่วินไม่รู้จะเริ่มเรื่องยังไง
เลยขอเกริ่นหน่อย เพราะระยะเวลามันไม่ทิ้งกันมาก  แต่แฟนคนแรกคนนี้วินเจอกับเค้า
ก่อนที่จะเปิดเทอมขึ้นม.6 วินขอข้ามการเจอกัน และวิธีการคบกันของเราไปนะ (ต้องขอ
อภัยจริงๆ) เพราะถ้าพูดถึงหลาย ๆ คนจะรู้ทันที แม้แต่คุณพ่อคุณแม่ของวินเองก็จะรู้
เอาเป็นแค่ว่าเราตกลงคบกันที่โขดหิน  ที่พัทยา ตอนพระอาทิตย์ตกดิน ท้องฟ้ากำลังเป็น
สีส้ม คลื่นก็สงบสุด ๆ แทบจะไม่ได้ยินเสียงคลื่นกระทบฝั่งเลย (สาบานเลยว่า มันโรแมนติกขนาดนั้นจริงๆ)
วันที่ 12 เมษายน 2546  ช่วงนั้นเป็นช่วงสงกรานต์เราเลยไปเที่ยวกัน แต่กลับวันที่ 13 เพราะกลัวรถติด พอเราตกลงคบกัน ก็เดินเล่นอยู่ริมหาดอีกซักพัก
            วินขอเล่าย้อนไปอีกนิดนึงก่อนที่จะมาถึงวันที่เราคบกัน เราก็สบตาปิ๊ง ๆ กันมาได้
ซักพักแล้ว  เขาคงรวบรวมความกล้าขอคบเราวันนั้น ในช่วงที่คนอื่น ๆ รื่นเริงอยู่ใน
ห้องพัก  ไอเราสองออกมาเดินเล่นกัน (ไม่รู้แอบแยกมารึเปล่า...จำไม่ได้)
             กลับมาถึงวันที่ 12 เมษา 2546 ต่อ แฟนคนแรกของวินคือ “แมท” เป็นลูกคนรวย
(รวยใช้ได้เลยจริงๆ) พ่อกับแม่แยกทางกัน    ทำให้แมทเป็นคนมีปัญหานิด ๆ ซึ่งแรก ๆ ยัง
ไม่เผยออกมา  แมทอยู่กับแม่มาตั้งแต่จำความได้ ซึ่งแมทเล่าว่า แมทจำความได้ตั้งแต่
อายุยัง 3 ขวบ เพราะเหตุการณ์รุนแรงในบ้านระหว่างพ่อและแม่ของเขาเองซึ่งเกิดขึ้น
บ่อยมาก
แมทสาบานว่าครั้งนึงพ่อเคยทำร้ายแม่จนเกือบพิการ แต่หมอตัดต่อ ช่วยไว้ได้ทัน
ทำให้แมทจำความได้เร็วกว่าเด็กปกติ (หรือว่าคนอื่นเค้าจำความได้กันประมาณนี้ แต่วิน
มันเด็กพิสดารก็ไม่รู้) เอาหละถึงแม้ว่าแมทจะรวยแค่ไหน วินก็ไม่เคยมองข้อนี้ของแมทเลย เพราะวินเองก็ฐานะปานกลางพออยู่ได้            แมทขับเบนซ์คอมเพรสเซอร์ มารับ
ทุกวันศุกร์ เพราะจะไปเดินห้าง หรือดูหนังกัน  สมัยวินอยู่ม.6 ที่บ้านไม่ค่อยปล่อยไปไหน
จะทำอะไรต้องบอกแผนที่บ้านทั้งหมดว่าวันไหนจะทำอะไร กลับบ้านกี่โมง และต้องเป็นไปตามนั้น
ถึงไหนแล้ว......... อ๋อ  และแมทก็เป็นลูกคนเดียวหัวแก้วหัวแหวนของแม่ ทำให้ทั้งสองรัก
กันมาก และรู้ทุกอย่างของกันและกัน แม้แต่เรื่องที่แมทเป็นเกย์ และคบกับวิน แมทเป็น
ลูกที่ดี และพื้นฐานนิสัยดีมาก เป็นคนเพอร์เฟกท์  วินกล้าเอาหัวเป็นประกันว่าใคร ๆ
ก็ต้องชอบแมท ไม่ว่าหญิงหรือชาย  แมทเป็นทุกอย่างในเสปคของวิน (จนทุกวันนี้วินก็ไม่
อยากเชื่อว่า วินจะได้แฟนคนแรกซึ่งตรงตามที่ใจคิดทุกประการ) วินเป็นคนขาว เลยเบื่อ
คนขาว ๆ วินชอบคนผิวคล้ำ ๆ เนียน ดูสะอาด คิ้วเข้ม ๆ จนเกือบจะชนกัน เอาไงดี....
เพื่อช่วยให้ทุกคนนึกออก ให้นึกถึงดารา “พี่ใหญ่ ศิระ” หรือ “พี่ต้า V1 AF3” อย่างนั้นเลย
ทีเดียว
ซึ่งทุกครั้งที่วินเห็นพี่ต้า วินก็นึกว่าแมททุกที (อิอิ) แต่วินเองก็ไม่เบาหรอกนะ  (ไม่ได้ชม
ตัวเองนะให้ตายสิ 555) เพียงแต่วินมันไม่ใช่พิมพ์นิยม อาจจะสะดุดตาใครหลายคน
แต่คงน่าเบื่อ คนคงเบื่อง่าย (หน้าตาน่าเบื่อนั่นเอง นึกออกมั้ย)
วินถ้าไม่คบ ไม่คุย ไม่สนิทกันมาก ๆ เดินสวนกัน ก็ไม่รู้หรอกว่าวินเป็นอะไร แต่ปัจจุบัน
หลาย ๆ คนก็รับรู้เพราะวินโตแล้ว แม้แต่คุณแม่ของวินก็รู้แล้ว แต่คุณพ่อนี่ก้ำกึ่งๆ คงยัง
แอบ ๆ หวังให้ลูกชายกลับใจมั้ง แต่ทั้งสองท่านก็รับได้แหละ  คุณแม่นี่ดูเหมือนจะพอใจ
ด้วยซ้ำที่ลูกชายของท่านจะได้ไม่ต้องแต่งงานแยกบ้านไปไหน

เอ้านอกเรื่องไปไกล กลับมาที่แมท   แมทเป็นทุกอย่างที่วินวาดฝัน มีหรือวินจะปล่อยให้
หลุดมือ (กรั่ก ๆ ๆ ) เดือนแรกเราคบกันสุดจะหวานแหวว เพื่อนสนิท มิตรสหายที่ใกล้ชิด
กัน ทุกคนรู้เรื่องของเราทั้งสิ้น แมทขับรถมารับวินทุกวันศุกร์ และเพื่อน ๆ มักพึ่งอานิสงส์
ติดรถไปลงที่ห้างด้วย               พอเราคบกันได้สัก ประมาณเดือนนิด ๆ ทุกอย่างยังเป็น
เหมือนเดิม แมทมารับทุกวันศุกร์ และมีเพื่อนติดสอยห้อยตามมา 2-3 คน ซึ่งพักหลังมัน
มาด้วยทุกศุกร์กันเลยทีเดียว
หลัง ๆ แมทจึงมักต่อรอง และหาวิธีอันแยบยล บอกให้เพื่อน ๆ ของวิน ลงจากรถและ
ล่วงหน้าเข้าห้างไปก่อนเสมอ  และในครั้งนั้น วินก็อยู่กับแมทสองคนบนรถ
นั่นคือครั้งแรกที่....... (นั่นแน่เด็กรุ่นใหม่ต้องไม่มีความคิดแบบนี้นะจ๊ะ) นั่นคือครั้งแรกที่
แมทแสดงท่าทีไม่พอใจ (เป็นครั้งที่ 1)   แมทจับพวงมาลัยด้วยสองมือแน่น  เงียบไปอึดใจ
หนึ่ง (อึดใจจริง ๆ ตอนนั้นรู้สึกอึดอัดพอควร) วินรวบรวมความกล้า (ซึ่งในครั้งนั้นใช้เพียง
น้อยนิด)
“แมทมีอะไร...เป็นอะไร...ทะเลาะกับพ่ออีกแล้วหรอ”  วินถามด้วยความเป็นห่วง เพราะ
วินมักได้ยินแมทคุยโทรศัพท์กับพ่อด้วยท่าทีอึดอัดใจเสมอ ๆ
“เปล่า...” แมทตอบสั้น ห้วนที่สุดตั้งแต่คบกันมา

วินงง และค่อนข้างตกใจ แต่ก็ถามต่อไป
“แมท...มีไรก็บอกวินดิ.... งั้นจะมีแฟนไว้ทำไม” วินใส่ความเน่าเต็มที่ในประโยคต่อมา
“วิน....” แมทเอ่ยขึ้น วินรอฟัง
แต่ในที่สุดแมทก็ไม่พูด แต่คลายมือแน่น ๆ ที่จับพวงมาลัยไว้ แล้วเอามาวางบนหน้าตัก
จำได้แม่นเลยว่าตอนนั้นแมทใช้ทั้งสองมือเกา ๆ ขีด ๆ ขาทั้งสองไปมา เบา ๆ เหมือน
ครุ่นคิด ซึ่งเป็นท่าทีที่วินไม่เคยเห็น และงง ๆ
“แมท - - อะไร แมท...มีอะไร - -นี่เรางงนะ” วินเปลี่ยนจากเรียกชื่อตัวเองว่า “วิน” เป็นเรา
“อ๋อ...เดี๋ยวนี้แมทกับวินห่างเหินกันขนาดนี้เลยหรอ” แมทใช้คำอย่างระวัง แทนที่แมทจะ
ใช้คำว่า “เราห่างเหินกันขนาดนี้” เป็นเรียกชื่อเราสองคนแทน
“อะไรแมท . . อะไรของแมท” วินเสียงแข็งครั้งแรกกับแมท
“แมทเป็นอะไร - -วินจะรู้ได้ไง อยู่ ๆ แมทมาหงุดหงิดใส่กันทำไม” วินกลับมาเรียกชื่อ
ตัวเองแทน “เรา” เหมือนเดิม เพราะรู้ตัวว่าเมื่อกี๊แมทหมายถึงอะไร
“เราไม่ได้เป็นอะไรหรอกวิน” ดูเหมือนแมทจะเอาคืนซะแล้ว

วินเงียบและเบือนหน้าหนีไปเลย หันไปมองกระจกข้างแทน ไม่พูด ตอนนั้นได้ยินแต่เสียง
หายใจของแมท  ณ วินาทีนั้น งงจริง ๆ มันเป็นอะไรของมัน คิดแบบนี้อยู่ในใจตลอด ด้วย
ความที่วินเป็นคนค่อนข้างใจเย็น กับเรื่องแบบนี้ ถ้าไม่จำเป็น วินจะไม่มีเรื่องเด็ดขาดไม่
ว่าแฟนหรือเพื่อน

“เงียบทำไม !” เสียงดังเล็กน้อย ออกมาจากแมท (เป็นครั้งแรกอีกแล้ว)
“แมท วินไหว้หละ แมทเป็นอะไร” วินประนมมือไว้ที่อก ทำหน้าง้อ ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้เลยว่า
ตัวเองทำอะไรผิด
และแล้วเหตุผลที่วินไม่แม้แต่จะเคยนึกก็ออกมา
“ความเป็นส่วนตัวเราน้อยลงนะวิน” แมทบอก
“อะไร” วินถามสั้น ๆ เพราะงงสุดกู่ นี่มันอะไรกัน เราทำอะไรผิด
“วินพาเพื่อนมาด้วยทุกศุกร์เลย แล้วเวลาส่วนตัวเราไปไหนหมด วินไม่นึกถึงมันแล้วหรอ
..... แต่ก่อนไม่เห็นเป็นแบบนี้เลย วินวางแผนไว้หรอ วินไม่ได้อยากอยู่กันสองคนแล้ว
หรอ” แมทสวดมาเป็นชุด เหมือนกับอั้นไว้นาน
“อ่าวแมท - - ก็เพื่อนกันทั้งนั้น” ตอนนั้นวินไม่รู้จะตอบยังไง
“วิน...” แมทเว้นวรรคไปอีกครั้ง มือกลับไปจับพวงมาลัย (วินไม่เคยเห็นท่าทีแบบนี้ของ
แมทมาก่อนไม่ว่าจะตอนเป็นเพื่อนกัน หรือตอนก่อนจะตกลงคบกัน)
“แมท...วินเวียนหัว - - เราไปกินข้าวกันแล้วค่อยคุยเรื่องนี้กันเถอะ”  หลายคนคงเป็น
กับน้ำหอมปรับอากาศแบบก้อนบนรถ เวลาเราเครียด ๆ หรือไม่ต้องเครียด กลิ่นของมันชวนคลื่นเหียนมาก
“อะไรอีกอ่ะ  - - วินเปลี่ยนไปมากนะ” แมทเริ่มเสียงเบา และอ่อยลงเยอะมาก
“เห้ยแมท - - ไม่จริงนะ ... นี่แมทเป็นอะไรไป แค่วินพาเพื่อนมาแค่นั้นจริงๆหรอ” วินตกใจ
กับคำพูดนั้น คิดทันทีว่านี่ชีวิตรักครั้งแรกของเรามันจะสั้นแค่เดือนเศษ ๆ เท่านั้นหรอ
“แค่นั้นแหละวิน พาเพื่อนมา วินก็คุยแต่กับเพื่อน แมทจะทำ จะพูดอะไรกับวินก็ไม่เหมือน
ตอนอยู่กันสองคน มันทำให้แมทอดคิดไม่ได้ว่า วินไม่อยากอยู่กับแมทสองคนอีกแล้ว” 
พระเจ้าช่วยนี่แมทคิดอะไรของเขา เขาประมวลผลอะไรออกมาแบบนี้ได้อย่างไรกัน
“แมท - - นี่แมทคิดได้ไงเนี่ย....วินยังนึกไม่ถึงเลยนะ” และแล้วความคิดของวินก็ดัง
ออกมาเป็นคำพูดจริง ๆ
“แมทมันก็งี้แหละวิน - - รับได้มั้ยหละ”  ตาแมทจ้องวินเขมง สีหน้าจริงจัง ณ ตอนนั้นมันดู
ไร้เยื้อใยสุด ๆ
“แมท นี่จะหาเรื่องเลิกกันหรอ” วินรวบรวมความกล้าอีกอึดนึงถามไปน้ำเสียงตก ๆ ซึม ๆ
แมทเอื้อมมืออย่างเร็วมาจับที่ไหล่ซ้ายของวิน แต่เบา ๆ แล้วน้ำตาหยดแหมะ หยด
เบ้อเริ่ม แล้วพูดเสียงสั่น
“วิน... วินคือทุกอย่างนะ - - แมทมองวินมาก่อนที่วินจะรู้จักแมทซะอีกนะ - - เลิกหรอวิน
... เป็นไปไม่ได้วิน แมทขอโทษวิน แมทผิดเองวิน  วินไม่ได้จะเลิกกับแมทนะ วิน ๆ ๆ ....”
คนโบราณช่างเปรียบเทียบว่า ‘ยกภูเขาออกจากอก’ ใครไม่เคยเป็น ต้องสัมผัส มันอย่าง
นั้นจริง ๆ ให้ตาย
วินไม่ได้สนใจเลยว่าที่แมทพูดหวานซึ้งแค่ไหน แต่ความมั่นใจว่าเรายังรักกันมันกลับมา
แมทซุกหน้ากับแขนเสื้อ ร้องไห้โฮ ณ ตอนนั้นวินไม่ได้รู้สึกหรอกว่ามันโอเว่อร์ หรือว่านี่คือ
เรื่องผิดปกติ รู้แต่ว่า เค้ายังรักเราแน่นอน …
วินไม่รู้จะทำอะไร ได้แต่จับบนผมของแมทเบา ๆ เหมือนลูบหัว แต่เหมือนไม่กล้าเท่าไหร่
ทำนองนั้น (แมทเป็นคนผมตรงและนิ่มมาก อีกข้อที่ทำให้วินปลื้มในตัวแมท...เวนกำ -*-)

“วิน - - ต่อไปนี้วันศุกร์ไม่เอาเพื่อนมาแล้วนะ” ตายจริง นี่เราลืมเรื่องนี้ไปแล้วนะเนี่ย
“โอเค ๆ แมท วินจะบอกเพื่อน ๆ นะ” วินรับคำทันที หลังจากเหตุการณ์ทั้งหมด
“วินจะทำยังไง - - วินไม่กลัวเพื่อน ๆ โกรธหรอ” แมทถามกลับ ทำเอาเรางง ว่านี่ตกลงจะ
เอาไงว้ะ ฮึ !!!
“เอาเหอะแมท ช่างมันเถอะ เพื่อนวินเข้าใจอยู่แล้ว - - ถ้าแมทไม่สบายใจเรื่องนี้
เดี๋ยวไงวินบอกเพื่อน ๆ ได้” วินก็ตอบไปจนได้
“แล้ววินจะบอกเพื่อนหรอว่าเป็นเพราะแมทอึดอัดอ่ะ” แมทถามอีก
“ไม่หรอกแมท วินไม่ใช่คนแบบนั้นนะ วินต้องหาวิธีพูดอยู่แล้วแหละ”
“แมทรู้ว่าวินไม่ใช่คนอย่างนั้น - - แมทแค่กลัวว่าเพื่อนวินจะเข้าใจแมทผิด” แมทตอบ

สรุปก็คือแมทคิดว่าวินจะบอกเพื่อนว่าแมทอึดอัดอยู่ดีนี่หน่า !!!!?????
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส
เริ่มหัวข้อโดย: Yurameki ที่ 13-03-2008 02:03:34
 :oni2: มาปูเสื่อรอง๊าบ

หลังจากที่อ่านจบจากที่เว็บเด็กดีมาแล้ว

^^

อ่านกันได้นะคะเพื่อนๆ บอร์ดเล้าเป็ด

ดราม่าคะ เรื่องนี้ ขอบอก
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส
เริ่มหัวข้อโดย: MiTo™ ที่ 13-03-2008 02:06:55
เรื่องใหม่ หุหุ

เป็นกำลังใจให้นะครับบบบบบบบบบบ

จากเรื่องย่อ อยากจะบอกว่า

" รักจริงต้องหนีตาม " เอิ๊กๆๆ



_______________________________________________________
แว๊บบ.... กลับทู้ตัวเอง
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส
เริ่มหัวข้อโดย: anston ที่ 13-03-2008 02:41:48
 :oni1:มาลงชื่ออ่านเรื่องใหม่ด้วยคน..
เท่าที่อ่านเรื่องย่อ..สงสัยต้องได้เตรียมทิชชู่ไว้ซะแล้ว.. :m15:
แล้วมาต่ออีกน๊า..เป็นกำลังใจให้ค๊าบ :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส
เริ่มหัวข้อโดย: kdds ที่ 13-03-2008 02:48:04
เห็นด้วยกะคุณ clearest ที่ว่า รักจริงต้องหนีตาม  :oni1:

ก็อุตส่าห์ได้เจอคนที่ใช่ทั้งที มันน่าเสียดายอ่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส
เริ่มหัวข้อโดย: LingNERD* ที่ 13-03-2008 03:04:00
มาลงเร็วๆๆเน้อ คอยติดตาม
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 13-03-2008 08:52:34
ตอนที่ 2 คารม...ชนะทุกสิ่ง

เอาหละ วินไม่ได้บอกเพื่อน ๆ พี่ ๆ ไว้ก่อนหน้านี้ว่า เรื่องนี้ไม่มีพระเอก ไม่มีนางเอก แต่มีตัวร้ายแน่นอน ร้ายมากร้ายน้อย แค่นั้นเองที่แตกต่างกัน วินคนเขียนเอง ต้องทำใจก่อนเลย ว่าคนที่มาอ่าน อาจจะไม่ชอบการกระทำของวินในตอนต่อ ๆ ไปในอนาคตก็ได้
แต่นี่คือชีวิตจริง และเป็นบทเรียนให้ใครได้หลายคนจริง ๆ อยากให้คนที่ยังมีโอกาส (คนที่ยังเป็นวัยรุ่นนั่นเอง) ได้เรียนรู้ และปรับใช้บทเรียนของวิน  ซึ่งจริง ๆ ก็ไม่ได้ร้ายแรงหรอก คงจะระดับหลาน ๆ ถ้าเทียบกับใครหลายคน แต่มันก็ช่วยให้ชีวิตไม่ต้องเจอกับเรื่องแย่ ๆ และประสบความสำเร็จในชีวิตได้ (เร็วขึ้น)

อ่ะ....ตอนที่ 2   

         วินไม่อยากจะเชื่อว่าแมทเปลี่ยนอารมณ์ ท่าที อาการได้อย่างรวดเร็วดั่งนักแสดง
แต่วินก็ไม่มีทางเลือกอะไรอีก เราถกเถียง และเงียบใส่กันในรถอยู่ราว ๆ 30 นาที จำได้ว่ายัยอั้ม (เพื่อนสนิทสมัยนั้น) โทรมา 1 ครั้ง แต่ไม่ได้รับ  . . .มาถึงวันนี้วินก็รู้สึกว่าวินเข้าใจแมทนะ เพราะช่วงนั้น วินพาเพื่อนไปด้วยทุกศุกร์แถมยังเดินห้างด้วยกัน มีบางครั้งพาไปกินข้าวหรือดูหนังกันอีกด้วยซ้ำ แล้วแมทก็ต้องเป็นคนเลี้ยงอีกต่างหาก. . .
 ไม่มีเวลาที่ส่วนตัวจริง ๆ ทั้ง ๆ ที่เราเจอกันก็ไม่ได้บ่อยนัก

“ปะ!  ที่รัก. . . วันนี้อยากกินอะไรครับ” น้ำเสียงสดใส กลับมาอีกครั้งเรียกให้ออกจากรถ
แมทเป็นคนที่พูดเพราะ มีน้ำเสียงที่น่าฟัง และลงท้ายด้วยคำว่า ‘ครับ’ เสมอ นี่คืออีกข้อดีของเขาจริง ๆ  (แม่เขาสอนมาดี)
“อะไรก็ได้” วินตอบไปสั้น ๆ ยอมรับว่าตอนนั้นอารมณ์ยังขุ่นอยู่นิด ๆ
“ทำไมอ่ะ - - คราวที่แล้วแมทเลือกร้าน คราวนี้วินมั่งดิ” แมทความจำดีมาก แมทจดจำได้หมดว่ากิจกรรมของเรามีอะไรบ้าง ถึงตอนนี้วินเชื่อเต็มใจเลยว่า แมทไม่เคยมีใครเลยนอกจากเราตลอดช่วงเวลาที่คบกัน
“ไม่รู้ดิ - - วินเวียนหัวอ่ะ แมทมีลูกอมมั้ย”
น้ำหอมบนรถยังคงออกฤทธิ์ในโสตประสาทวินอยู่
“จริงหรอวิน... ไม่มีอ่ะ - - งั้นเดี๋ยวเข้าห้างแล้วไปนั่งตรงน้ำพุก่อนนะ . . . แล้ววินค่อยคิด ว่าวันนี้วินอยากกินอะไร - - ดีมั้ยครับ” คำพูดของแมททุกวันนี้วินไม่เคยลืม มันทั้งดี ทั้งเพราะ สุภาพทุกอย่าง
“อืม ๆ” ตอนนั้นวินคลื่นไส้จริง ๆ ไม่อยากพูด ไม่อยากตอบอะไร บวกกับอารมณ์ที่ยังค้างอยู่ ทำให้ตอบแมทไปเพียงสั้น ๆ

เราเดินเข้าไปในห้างอย่างเงียบ ๆ โดยแมทหันมามองหน้าวินตลอดเวลา คล้ายว่าจะเป็นห่วง เพราะสีหน้า ณ ตอนนั้นคงบอกไม่ถูกจริง ๆ แต่ไม่พูดอะไร จนมาถึงหน้าน้ำพุ
“วินนั่งก่อนนะ เดี๋ยวแมทมา” ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไร วินพยักหน้าแล้วปล่อยแมทไปซะเฉย ๆ (ต้องเข้าใจวินนะ คนกำลังมึน แถมอารมณ์ไม่ดี ตอนนั้นคิดอย่างเดียวว่า เออจะทำไรก็ไปทำเหอะ)

ไม่เกิน 2 นาทีแมทเดินกลับมาพร้อมซองกระดาษสีขาว ขนาดเท่า 1 ฝ่ามือครึ่ง 
แมทนั่งลงข้าง ๆ หยิบของในถุงกระดาษออกมา

“อ่ะ . . . จะได้หาย” แมทยื่นยาดม จำยี่ห้อไม่ได้รู้แต่มันสีแดง ๆ หัวแหลม ๆ อ่ะ มีหัวเดียวไม่เหมือนโป๊ยเซียน พร้อมกับ Fisherman’s Friend สีเขียว 1 ซอง
(พูดแล้วจะหาว่าเสร่อ วินรู้จักยาอมยี่ห้อนี้เป็นครั้งแรกวันนั้น เพราะแมท และซื้ออมมาจนถึงทุกวันนี้ไม่ว่าจะไอ เจ็บคอ หรือมึนหัว...อดคิดถึงแมทไม่ได้เหมือนกัน - -,)

วินหยิบทั้งยาดมและยาอมมา แล้วอารมณ์ขุ่นมัวก็หายไปสนิท ใบหน้าหล่อคมของแมท
รอยยิ้มจริงใจ มันทำให้ใจของวินมันสดชื่นอย่างบอกไม่ถูก  คนมีความรักคงเข้าใจนะ
“ขอบคุณนะ”  วินยิ้มครั้งแรก หลังจากเหตุการณ์บนรถ
“อม สองเอฟดิวิน . . . หายแน่” แมทเรียกยาอมโดยย่อชื่อของมันจนเหลือแค่ FF แล้ว
เรียกว่า สองเอฟ (Fisherman’s Friend – FF) วินไม่เคยได้ยินใครเรียกแบบนี้เลยจนถึง
วันนี้
วินเอายาอมเข้าปากได้ไม่ถึง 10 วินาที โทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีก
“AUM” ชื่อเพื่อนตัวดีปรากฏขึ้น
“อั้มโทรมา” วินบอกแมท ในมือกำโทรศัพท์มือถือไว้ ยังไม่ได้รับ
“รับสิครับ - - รับเหอะ” แมทพูดเพราะอีกแล้ว (ปลื้มจริง ๆ)
“เหวย . . . ไงเมิง” วินรับตามสไตล์
“เชี่ย . . . นี่เมิง –ตู๊ด- กันบนรถหรอว้ะ - - กรุอยู่ซิสเลอร์ บอกผะ-อัวเมิง มาเลี้ยงพวกกรุ
บัดเดี๋ยวนี้เลย”   ยัยอั้มเพื่อนรัก (สมัยนั้น) พูดจาหยาบคายเป็นชุดออกมาทางโทรศัพท์
โชคดีที่อัจฉริยภาพโทรศัพท์ไม่เหมือนปัจจุบัน ที่เสียงมันไม่กระหึ่มเผื่อแผ่ชาวโลกรอบข้าง
เหมือนปัจจุบัน ที่ขึ้น BTS ทีไร เห็นอาม่าโฟ่แตกกับคู่สนทนา ทำเอารู้หมดว่าเจ๊แกมี
ปัญหาอะไรกัน
ถ้าแมทได้ยิน ไม่อยากจะคิดเลยว่าแมทจะมองอั้มยังไง เผลอ ๆ จะมองวินยังไงที่มีเพื่อน
แบบนี้ ลืมบอกไปว่า  วินไม่เคยได้ยินคำหยาบจากปากแมทเลย แมทเป็นลูกที่ดี ท่าทีเป็น
ผู้ดีมีสกุล เรียนโรงเรียนดีใช้ได้ ไม่ใช่รัฐบาล ไม่ใช่เอกชน และไม่ใช่อินเตอร์ฯ (ขอบอกแค่นี้
หละนะ) วินเองก็ไม่รู้มาคบเพื่อนคนนี้ได้ไงเหมือนกัน (เวนกำ) ทางบ้านวินเองก็อบรมมา
ดีใช้ได้ไม่แพ้แมทเลย นามสกุลของพ่อและแม่ของวิน ถ้าพูดถึงนี่ ไม่มีใครไม่ร้องอ๋อ
แต่ไม่ใช่นามสกุลเส้นใหญ่ หรือมีคนทำงานการเมืองมีชื่ออะไรหรอก แค่มันเป็นตระกูล
ใหญ่ มีคนรู้จัก . . บอกเอาพอยาไส้ก็พอเนอะ
“ถ้าจะทำอย่างนั้นจะมาที่นี่ทำไม - - แล้วเราก็จะไปกินฟูจิหว่ะ” ปกติวินจะใช้คำของพ่อ
ขุนฯ แทนคำว่าเรา แต่ด้วยแมทอยู่ตรงนั้น ภาพลักษณ์เป็นสิ่งสำคัญ
“แหมคุณวิน...ผีผู้ดีทรงร่างเมิงเลยนะ - - ผะอัวเมิงอยู่ตรงนั้นอ่ะสิ” วินาทีนั้นอยากจะเดิน
ไปหาอีเพื่อนตัวดีนี่ที่ซิสเลอร์แล้วเอามันทำสลัดบาร์เสียตรงนั้นจริง ๆ
“เออ ไม่ไปอ่ะ กินกันไปเหอะ. . . ไม่ชอบซิสเลอร์ด้วยอ่ะ”
นี่คือเรื่องจริง ถ้าใครรู้จักวินจริง ๆ มาอ่านคงชัดขึ้นว่าวินคือใคร เพราะวินไม่ชอบซิสเลอร์
เอาซะเลย ในชีวิตนี้กินมาทั้งหมด 4 ครั้ง และล้วนจำใจไปกินทั้งสิ้น
“เออสัส” แล้วมันก็วางไป
“ทำไมหละ - - วินไม่ไปหรอ...เพื่อนอุตส่าห์ชวน” แมทถาม
แมทนี่ก็เอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้ เดี๋ยวก็อยากอยู่กันส่วนตัว เดี๋ยวอย่างนั้น เดี๋ยวอย่างนี้
ซึ่งเป็นมากขึ้น ในช่วงที่คบกันได้ซักพักนั่นเอง
“เวลาส่วนตัวอ่ะ - - เริ่มวันนี้แหละแมท...วินนึกออกแระ วินอยากกินกุ้งทอดเทมปุระ”
กุ้งเทมปุระใครจะชอบที่ไหนก็ตาม วินไปมาหมดแล้ว ชอบของฟูจิที่สุด (ขอค่าสปอนเซอร์
ด้วยถ้าผู้บริหารฟูจิได้มาอ่าน)
“อืมเอาดิ - - แมทก็อยากกิน. . . แต่วินหายปวดหัวแล้วใช่มั้ย” ไม่น่าเชื่อแต่ก็ต้องเชื่อว่า
ลูกอมสีหิมะเม็ดวิเศษนี้มันจะกลบกลิ่นน้ำหอมมฤตยูนั่นเสียหมดได้ในเวลาอันรวดเร็ว
(และในเวลาต่อมาอีกเช่นกันแมทหันมาใช้สเปรย์ฉีดรถแทนก้อนปรับอากาศนั่น ซึ่งหอม
กว่ามาก ๆ . . . แมททำเอาใจวินทุกอย่างจริง ๆ)
“เออแมท ยาอมนี่ดีนะ ซื้อได้ที่ไหนอ่ะ วินไม่เคยเห็นมาก่อนเลย” วินปล่อยแมลงเสร่อ
ออกไปเต็มสตรีม
“อ่อ ฟิชเชอร์แมนเฟรน. . . กินได้หมดเลยนะวินเจ็บคอ ไอ มึนหัว ง่วงนอนอะไรก็ช่วยได้
หมด” ซึ่งมันก็เป็นอย่างที่แมทว่าจริง ๆ ตอนวินเอนทรานซ์ ง่วงมากฟิชเชอร์แมนเฟรนเม็ด
เดียวตื่นไปถึงเย็นเลยทีเดียว 
“ร้านยาทั่วไปมีหมดแหละ เซเว่นก็มีนะแต่ต้องสาขาใหญ่ ๆ หน่อย  วัตสันก็มี”
แมทอธิบายเสร็จสรรพ

พอเราไปถึงฟูจิ ก็ต้องรอคิว (เหมือนปัจจุบันไม่มีเปลี่ยน ของเค้าอร่อยจริง) เวลาเราไป
ไหนที่ต้องรอคิว แล้วต้องจองด้วยชื่อ แมทจะจองชื่อว่า “มิน” ทุกครั้ง เป็นการเอาชื่อเรา
สองคนมาผสมกัน . . . คิดได้จริง ๆ อ่ะแมท ^^
วันนั้นเป็นวันศุกร์ คิวยาวมหาศาล แต่ด้วยความที่เรามาแค่สองที่ เลยได้ลัดไปหลายคิว
อยู่เหมือนกัน พอเข้าไปนั่ง ก็จัดการสั่ง อาหารก็มา
สรุปวันนั้นแมทไม่ได้สั่งกุ้งทอดเทมปุระ ทั้ง ๆ ที่ตัวเองบอกก่อนหน้านี้ว่าอยากกิน
เหมือนกัน  แมทหันไปสั่งพวกข้าวปั้น ปลาดิบ ซึ่ง 1 ที่มีแค่คู่เดียว และก็ราคาไม่ต่ำกว่า
คู่ละ 50 ทั้งนั้น แมทสั่งมาหลายคู่เหมือนกัน จำไม่ได้ว่ามีอะไรบ้าง แต่จำได้ว่ามีหน้ากุ้ง
กับปูอัด ซึ่งแมทสั่งประจำ ทุกครั้งที่เราไปทานอาหารญี่ปุ่น ไม่ว่าจะที่ไหนก็ตาม
(ไม่อยากจะรำลึกเลยแต่ก็ขอหน่อย การคบแมททำให้วินกินวาซาบิเป็น กินเผ็ดได้ กระทั่ง
เรื่องการแต่งตัว แมทเป็นคนเนี๊ยบมาก ชุดนักเรียน ถ้ายังไม่ถึงบ้าน เสื้อไม่มีหลุดออกจาก
กางเกงสีดำเข้มไม่มีด่างเรียบตึงเช่นเดียวกับเสื้อ เข็มขัดเงาวับทั้งหัวเข็มขัดทั้งสายเข็มขัด
วินก็ได้มาจนติดเป็นนิสัยจนถึงทุกวันนี้ . . . และอื่น ๆ อีกมากมาย)

สรุปวันนั้นก็จบลงด้วยดีแมทไปส่งวินที่ปากซอยบ้าน  เพื่อให้ดูเหมือนว่าวินเดินเข้าบ้าเอง
แต่จะดูลาดเลากันก่อนว่ามีแม่บ้านยืนกวาดหน้าบ้านหรือใครในบ้านออกมาหน้าบ้าน
รึเปล่า วินถึงจะลงจากรถ (แต่เพื่อนบ้านแถวนั้นคงเห็นแหละ)
อ้อ . . . ลืมบอกไปว่าทุกทีวินจะขับรถไปโรงเรียนเอง แต่ตั้งแต่คบแมท  ทุกวันศุกร์ วินจะ
ไม่ขับรถไปเรียน โดยจะนั่งรถไปกับน้องสาวซึ่งพ่อไปส่ง  (ซึ่งปกติพ่อจะไปส่งน้องตอนเช้า
ส่วนครึ่งชั่วโมงต่อมาวินจะขับรถตามไป เนื่องจากวินตื่นสายกว่าน้องสาวนั่นเอง แต่วัน
ศุกร์ก็ต้องตื่นเช้าขึ้นหน่อยแค่นั้น)
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 13-03-2008 08:54:19
***ขอบคุณทุก ๆ คนเลยสำหรับกำลังใจ***
เป็นปลื้ม ๆ ^_^
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส
เริ่มหัวข้อโดย: Yurameki ที่ 13-03-2008 17:09:07
 :oni1:  ตามมาแว้ว แง้วววว

 หวานซ้า พี่จ๋าาา

มาช่วยดันกระทู้เจ้าค่า ฮี่ๆ   :m23:




 :oni2: :oni2: :oni2: :oni2: :oni2: :oni2: :oni2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส
เริ่มหัวข้อโดย: อาจารย์..สีฟ้า ที่ 13-03-2008 17:54:11
เข้ามาให้กำลังใจเรื่องใหม่ครับ

ต่อเร็วๆๆ นะ กำลังสนุกเลย :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส
เริ่มหัวข้อโดย: LingNERD* ที่ 13-03-2008 18:12:43
น่ารักกันจังคู่นนี้ :o8:

ตอนต่อไปจะน่ารักแบบนี้ไหมน้า  :sad2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 13-03-2008 19:19:30
ตอนที่ 3 เอาแล้วไง...ความหวั่นไหว


หลังจากถึงบ้านแล้ว ประมาณ 2 ทุ่ม อั้มก็โทรเข้ามาที่บ้าน
“เห่น...โล๊” สำเนียงอั้มประมาณนี้จริง ๆ
“เออว่าไง” วินตอบกลับไป
“เป็นไงมั่งเมิง วันนี้ไม่ได้เดินด้วยกันเลย ไม่ได้เม้าท์เลยหว่ะ กรุเจออีส้มดำด้วย”
ส้มดำจริง ๆ แล้วชื่อส้ม แต่เนื่องจากเรามีเพื่อนชื่อส้มถึง 3 คน จึงต้องดึงเอกลักษณ์มา
ต่อท้ายชื่อ ส้มดำเป็นเพื่อนเก่าอั้ม ซึ่งขณะนั้น ส้มดำเลิกคบกับอั้มไปแล้ว พร้อมทั้งอั้มยัง
ปฏิบัติการแฉความร้าย (ที่จริงมั่ง แต่งขึ้นเองมั่ง) ของส้มดำให้เพื่อน ๆ คนอื่นฟัง อั้มเป็น
คนที่มีภาวะเทพพูดอะไรคนฟังหมด ทำเอาส้มดำมีเพื่อนเหลืออยู่ 2 – 3 คนกันไปเลย
 (ซึ่งปัจจุบันอั้มหมดภาวะเทพไปแล้ว และเหมือนกรรมตามสนอง ไม่มีเพื่อนคนไหนเลยที่
คบอั้ม ยกเว้นเพื่อนใหม่ที่มหาวิทยาลัย และวิน ซึ่งยังติดต่อกันอยู่บ้าง)
“เออ...เดอะมอลล์มันบ้านเมิงรึไง - - มันถึงไปเดินเจอเมิงไมได้อ่ะ” วินรำคาญมากเวลา
อั้มเอาเรื่องส้มดำมาเล่าให้ฟัง (ถ้าเป็นเรื่องอื่นก็โอเคเลย เพราะวินเบื่อเรื่องส้มดำแล้ว
อยากฟังเรื่องใหม่ 555)
“เอ้อออ...เพื่อนกันอ่ะ เอาเหอะ ๆ - - แล้วทำไมวันนี้โทรไปไม่รับ ทำไมลงมาจากรถช้า
แล้วทำไมไม่มาเจอกันไม่มากินข้าวด้วยกัน” อั้มเป็นคนแบบนี้เสมอ ๆ อยากรู้อะไรจะถาม
รวดเดียว ม้วนเดียวจบ ถ้าฟังไม่ทัน มันจะถามใหม่เหมือนอัดเทปไว้เลย
“เออ...เราก็ว่าจะบอกแกหว่ะ - - คือทุกวันศุกร์อ่ะ สงสัยพวกแกจะติดรถไปไม่ได้แระ”
วินเกริ่นแบบตรง ๆ
“ไมว้ะ” อั้มถามแบบสั้นๆ
“ก็วันนี้ ที่ลงจากรถช้า เพราะแมทไม่พอใจเราอ่ะที่ชอบพาเพื่อนมาด้วย” วินไม่ได้นึกถึงสิ่ง
ที่สัญญาหรือ คิดจะรักษาคำพูดที่ว่า ‘วินไม่ใช่คนแบบนั้น’ ไปได้อย่างไรกัน นี่วินกำลังจะ
ทำให้เพื่อน ๆ เกลียดแฟนตัวเอง
“เห้ย ! จริงหรอ - - แมทมันไม่ชอบพวกกรุหรอ” อั้มเสียงอ่อยไป
“ป่าว ๆ - - มันคงอึดอัดน่ะอั้ม... บอกว่าอยากมีเวลาส่วนตัวกับเรามากขึ้น อีกอย่าง
อาทิตย์นึงเราเจอกันครั้งเดียวเอง - - คงอยากมีความเป็นส่วนตัวกันน่ะ” วินยังคงสาธยาย
ตามความเป็นจริงไม่หยุด (เริ่มเห็นความไม่ซื่อตรงของวินแล้วใช่มั้ย อย่าเพิ่งเกลียดกัน
หละ อ่านกันไปก่อนนะ)
“อะไรว้ะ - - บนรถเมิงจะส่วนตงส่วนตัวอะไรกันมาก . . . เมิงทำอะไรให้แมทตอนขับรถ
หรอ เดี๋ยวก็รถคว่ำตาย ห.อ่า หรอก” อั้มเป็นคนที่พูดไม่คิด หรือคิดแล้วแต่จะพูดก็ไม่รู้
“ทำไมหัวเมิงถึงคิดแต่เรื่องแบบนี้ว้ะ. . . กรุไม่ใช่คนอะไรอย่างนั้นแน่นอน” และก็เป็น
อย่างที่วินว่า ไม่รู้ว่าเราทั้งสองคนไม่กล้าเริ่มต้น หรือยังไงถึงได้ไม่ทำอะไรกันเลยเถิดเลย
ตลอด 1 เดือนกว่า ๆ นั้น (เชื่อหรือไม่ว่ามากสุดแมทแค่จุ๊บปากเท่านั้น แม้แต่ French
Kiss เราก็ไม่เคยทำ)
“หย่ะ...พ่อคนเลิศเลอ เพอร์เฟกท์ พ่อคนไม่ฉาบฉวย” อั้มประชดประชัน
“มีอะไรอีกป่ะ จะไปอาบน้ำ” วินพูดกับอั้ม ทั้ง ๆ ที่วินสนิทกับอั้ม แต่มีหลายครั้งมากที่วิน
รำคาญอั้มจนแทบจะเดินหนีไปไกล ๆ หรือวางโทรศัพท์ไปเสียเดี๋ยวนั้น

วินต้องขอเล่านิดนึงว่ามาสนิทกับอั้มได้อย่างไร อั้มเคยเป็นเพื่อนเก่าสมัยประถม (ซึ่งตอน
นั้นแววแรงของเธอก็มีให้เห็นแล้วแพลม ๆ)
พอมาเจอกันตอนม.6 ในช่วงแรก ๆ ก็ยังไม่ได้สนิทกัน วินไปอยู่กับอีกกลุ่มนึง
แต่ไป ๆ มา ๆ ก็เหมือนจะโกรธกันด้วยเรื่องจุกจิกซึ่งวินก็นึกไม่ออกแล้วว่าเรื่องอะไร
ประกอบกับเพื่อนของอั้มชื่อนิม สาวสวยประจำห้อง ขาวสวย ตาโต ผมสวยราวกับ
พรีเซนเตอร์ยาสระผม มากุ๊กกิ๊กกับวิน (ไม่ได้ชอบจริงจัง ก็แค่แบบกระแซะเด็กใหม่แค่นั้น)
ซึ่งในวิชาลีลาศอาจารย์จะเป็นคนจับคู่ชาย – หญิงให้นักเรียนทุกคน ซึ่งวินอยู่สายศิลป์
เป็นที่รู้กันว่าผู้ชายมันช่างน้อยนิด นักเรียน 50 คน มีผู้ชายรวมวินแล้ว 11 คน
ที่เหลือผู้หญิงก็เต้นด้วยกันเองพออาจารย์เรียกชื่อวิน  นิมก็ยกมือแล้วขออาจารย์ว่า
“หนูขอคู่กับวินได้มั้ยค่ะ” อาจารย์ก็ตกลง  จากนั้นท่าทีของเพื่อนทั้งห้องก็ฮือฮา ประมาณ
ว่า ‘นิมมันช่างกล้า’ แถมเรื่องบังเอิญที่อาจารย์ลีลาศดันสนิทกับพ่อของวิน อาจารย์จึง
ไม่ได้ขัดข้องอะไรมาก จากนั้นก็มีเรื่องกระทบกระทั่งกันตามประสาผู้หญิงม.ปลายในห้อง
พูดจากระแทกใส่กัน ว่านิมสารพัด   นิมก็ส่ง sms (ทั้ง ๆ ที่อยู่ในห้องเรียนด้วยกันแต่นั่ง
คนละแถว) มาบอกว่า “I’m really sorry that I brought you to this position”
อะไรทำนองนี้แปลประมาณว่า ‘เราขอโทษที่ทำให้เธอต้องมาเจอเรื่องแบบนี้’
จากนั้นวินก็ใกล้ชิดกับนิมมากขึ้นเพราะต้องเต้นลีลาศด้วยกันทุกสัปดาห์ ทำให้วินเข้าใกล้
อั้มมากเพราะทั้งสองเป็นเพื่อนกัน      (ประมาณว่าเพื่อนในห้องไม่ชอบขี้หน้าสองคนนี้
เหมือนกัน) และวินก็สนิทกับอั้มในที่สุด    แต่พอนิมรู้ว่าวินไม่เล่นด้วย ก็เริ่มห่าง ๆ ออกไป
จะเล่นด้วยได้ไงก็เธอเล่นมีแฟนอยู่แล้วแถมตัวอย่างกับตึก ตัวใหญ่มากกก อยู่ม.5 เองตัว
ใหญ่กว่าเราซักสามคนได้มั้ง  จริง ๆ ก็ไม่ต้องอ้างอะไรหรอก ก็เพราะวินไม่ชอบผู้หญิง
ต่างหาก 555    แต่ตอนนั้นก็คิดว่าจะเปลี่ยนตัวเองได้ซะอีกนะ เต้นรำด้วยกันทุกวัน
แถมนิมก็เป็นผู้หญิงที่สวยมาก แต่นิสัยไม่ต้องพูดถึง เพื่อนไม่ชอบทั้งห้องขนาดนั้น -*-
นั่นแหละทำให้วินต้องมาสนิทสนมกับอั้ม แต่อั้มก็ใช่ว่าจะมีข้อเสียไปซะหมด อั้มเป็น
เพื่อนที่แทบจะเรียกได้ว่า ‘คอยรับใช้’ แทบทุกอย่าง อั้มชอบบริการเพื่อน ทำให้เพื่อนเห็น
ให้ได้ว่าอั้มทำ อั้มทุ่มเท ประมาณนั้น แต่ก็ด้วยความที่อั้มเป็นคนที่มีปัญหาในการให้
ความจริงใจกับเพื่อน ขาดการเป็นผู้ให้โดยไม่หวังผลตอบแทนไป ทำให้อั้มกับวินลดความ
สนิทสนมลงจนเป็นเพื่อนธรรมดาในเวลาต่อมา  ซึ่งสนิทกันน้อยกว่าตอนประถมเสียอีก

กลับมาที่เรื่องหลักของเราต่อ....
หลังจากครั้งแรกที่วินได้เห็นอาการแปลก ๆ และท่าทีกลับไปกลับมาวันนั้นของแมท
เวลาก็ช่วยทำให้วินมองข้าม และลืม ๆ มันไปจนไม่ได้นึกถึงมันอีกตลอดเวลาที่คบกัน
แต่วินก็ระวังมากขึ้น เรื่องการพาเพื่อนมาทำให้แมทอึดอัด ยังมีบ้างบางครั้งที่วินพาเพื่อน
มาด้วย แต่จะพามาก็เฉพาะเวลาจะติดรถไปลงระหว่างทาง ประมาณว่าแค่ทางสั้น ๆ เท่านั้น

ความสัมพันธ์ของวินกับแมทขยับขึ้นเมื่อย่างเข้าเดือนที่ 3 ตอนนั้นเราคบกันได้ประมาณ
เกือบสองเดือนแล้ว  วินเองก็จำไม่ได้ เพราะพอดีในไดอารี่ ช่วงเวลานี้ไม่ได้จดวันที่ เพราะ
เริ่มรู้สึกขี้เกียจบันทึก

ตอนนั้นกำลังย่างเข้าเดือนกรกฎาคมแล้ว 12 กรกฎาคม เราก็จะคบกันครบ 3 เดือน
แมทเป็นคนที่ซีเรียสกับวันครบรอบ (เดือน) ของเรามาก ทุก ๆวันที่ 12 ของทุกเดือน
แมทจะทำให้มันเป็นโอกาสพิเศษเสมอ โดยจะพาวินไปเลี้ยงข้าว และมีของขวัญทุกเดือน
(ซึ่งวินไม่คิดเลยว่าเหล่านี้จะเป็นสิ่งที่จะทำให้แมทนำมันมาทำร้ายวินอย่างเจ็บปวดพอดูในเวลาต่อมา)

ในช่วงเวลานี้ของการคบกันของเราก็มีคนคนนึงเข้ามาในชีวิตวิน.. “ฟิว” เป็นนักเรียน
โรงเรียนเอกชน ชายล้วนขึ้นชื่อของกรุงเทพแห่งนึงเลยทีเดียว  ฟิวเป็นนายแบบโฆษณา
ตัวนึงในตอนนั้น คิดว่าหลาย ๆ คนคงรู้จัก ซึ่งในเวลาต่อมาก็มีงานถ่ายแบบหลายงาน
ทีเดียว และตอนนี้ก็ก้าวเข้ามาเป็นที่รู้จักกว้างขวางขึ้น  ฟิวชอบเต้น “เบรกแดนซ์”
(เขียนอย่างนี้รึเปล่า) เท่ห์ในสายตาหลาย ๆ คน (แต่ไม่ใช่สำหรับวินแน่นอน)
อย่างที่บอก วินชอบคนเรียบ ๆ เนี๊ยบ ๆ แบบแมทมากกว่า แต่ไม่รู้ยังไงฟิวก็เข้ามาในชีวิต
วินจนได้

ปุ้ยเป็นเพื่อนร่วมห้องม.6 อีกคนของวิน ซึ่งก็รู้จักกันมาตั้งแต่ประถมเหมือนอั้ม เป็นคนที่
นำพาฟิวเข้ามาในชีวิต เนื่องจากในวันเสาร์นั้น ปุ้ยโทรมาชวนไปร้องคาราโอเกะที่ SF มา
บุญครอง ซึ่งเพิ่งเปิดใหม่ๆ เลย เป็นคาราโอเกะแบบห้องส่วนตัวที่ใคร ๆ ก็เห่อและแห่ไป
ร้องกัน   วินไปพร้อมอั้ม  เนื่องจากสายถนนอยู่ละแวกเดียวกัน (แต่วินก็ต้องไปรับเพื่อน
บังเกิดเกล้าคนนี้ถึงบ้านอยู่ดี) พอถึงห้องวินก็เปิดประตูห้องเลขที่ตามที่ปุ้ยบอกทุก
ประการ วินก็เห็นฟิวนั่งอยู่คนเดียวในห้อง
“โอ๊ะ...ขอโทษครับ ๆ” และรีบเปิดประตูออกไป เพราะคิดว่าเข้าห้องผิด
“เพื่อนปุ้ยรึเปล่าครับ” ฟิววิ่งตามออกมาหน้าตาตื่นปนยิ้ม
“ใช่ค่ะ” เสียงตอบฉะฉานจากอั้มตอบนายแบบโฆษณาร่างสูง หุ่นดีไป
“ห้องนี้แหละครับ ปุ้ยไปเข้าห้องน้ำ - - เดี๋ยวมา” ฟิวบอก
“อ่าวแล้วนัดกันเที่ยง นี่เที่ยงครึ่งแล้ว ยังมากันไม่ครบอีกหรอ” วินซีเรียสมากกับเรื่องเวลา
(ในขณะนั้น...เดี๋ยวนี้สายซะเองแล้ว) ถามไป โดยลืมไปว่า ไอตานี่เรายังไม่รู้จักเค้าด้วยซ้ำ
ก็แผลงฤทธิ์ไปแล้ว

ฟิวตอนนั้นในสายตาวิน ถือว่าเป็นคนที่หน้าตาดีมาก ถึงมาก ๆ (แต่ไม่มากที่สุดแฮะ อิอิ)
แต่ด้วยความที่วินเพิ่งมีแฟนครั้งแรก คนแรก จึงยังไม่รู้จักคำว่า “เจ้าชู้” (ซึ่งฟิวก็สอนให้วิน
รู้จักในเวลาต่อมานั่นเอง) วินคิดอย่างเดียวเลยว่ามีแมทแล้ว วินไม่สนใจฟิวอย่างสิ้นเชิง
ไม่เลยแม้แต่จะคิด 
พวกเรานั่งกันอยู่สามคนอยู่พักใหญ่ ปุ้ย และเพื่อน ๆ อีก 7-8 คนก็เข้ามา
“อ่าววิน - - แกมาแล้วหรอ” ปุ้ยทำเสียงเล็กแหลมถาม ปุ้ยเป็นคนตัวเล็ก ๆ น่ารักใช้ได้
ไม่ได้สวยอะไรมากมาย แต่เสน่ห์อยู่ที่ความตลกของเธอ (ปัจจุบันปุ้ยก็อยู่มหาวิทยาลัย
เดียวกับวิน เพียงแต่คนละคณะ ซึ่งเรายังไป – กลับด้วยกันบ่อย ๆ โดยปุ้ยจะติดรถวินไป
ลงที่บ้าน ซึ่งอยู่เพียงหมู่บ้านตรงข้ามกัน และทุกครั้งที่เราเจอกัน ไม่มีครั้งไหนที่ไม่เคยพูด
ถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในสมัยม.6)

“เออ ซักพักแล้วหละ - - ไปไหนกันมานานเชียว” ปุ้ยเป็นเพื่อนที่ดี วินจึงไม่ต่อว่าอะไรมาก
ที่ปล่อยให้นั่งรอเกือบ 10 นาที อย่างอึดอัดกับคนที่ไม่รู้จักในห้องอีก 1 คน
(ตอนนั้นวินไม่รู้เลยว่าฟิวเป็นนายแบบโฆษณา รู้แต่ว่าผู้ชายคนนี้เฉิดฉายมีราศีดีเท่านั้น
เพราะคงยังไม่มีชื่อเสียงเหมือนทุกวันนี้...แต่ทุกวันนี้ก็ไม่ได้โด่งดังอะไรมากนะ)
“พาเมย์มันไปเล่นเกมตรงเนี้ย - - แกนี่เพื่อนเรา ‘ฟิว’ พอดีพามันมาตัดผมที่ร้านประจชั้น”
ปุ้ยไม่เคยใช้ภาษาพ่อขุนรามฯ จะใช้คำว่าชั้น (ฉัน) กับแก เสมอ
“เมื่อกี๊ เพื่อนปุ้ยวีนด้วยว่า นัดเที่ยงแล้วทำไมยังไม่มา” ฟิวพูดกับปุ้ยเชิงตลก แล้วก็มอง
หน้าวินยิ้ม ๆ
วินยิ้มตอบแบบงง ๆ รู้สึกว่า ไอนี่มันกล้าดีเนอะ  กล้าทำอะไรแบบนี้กับคนที่เพิ่งพูดไป
ด้วยประโยคเดียว แถมเป็นประโยคที่ไม่ดีซะด้วยสิ
“เออ - - วินมันขี้วีน” อั้มโพล่งขึ้นมาแทรกระหว่างปุ้ยกับฟิว ขณะที่วินเอนตัวพิงกับโซฟา
ด้วยความเบื่อว่า วันนี้จะร้องเพลงกันมั้ย
“อ่อ...หรอครับ” ฟิวพูดตอบอั้ม แล้วหันมามองวินอีกครั้ง
จากน้ำเสียงทุ่ม ๆ จากหุ่น และท่าทางของฟิวแล้ว วินไม่ได้เอะใจหรือคิดเลยว่าฟิวไม่แมน
วินยิ้มตอบไป ทำหน้าแบบกำกึ่งยอมรับ – ไม่ยอมรับไป
“ท่าทางไม่เห็นเป็นแบบนั้นนะ - - เราว่า” ฟิวยังพูดต่อไปและมองหน้าอั้มสลับกับมอ
หน้าวิน
“ร้องเพลงเหอะ - - ไปฟังอะไรอิอั้ม...ฟังแล้วต้องเอามาหารสิบ” ปุ้ยตัดบท พาเอาทุกคน
หัวเราะเกือบตกเก้าอี้กับคำพูดของเธอ
พวกเรานั่งฟังปุ้ยร้องเพลง (ซึ่งจ่ายค่าห้องครึ่งนึง เพราะเธอรู้ตัวว่า ไมโครโฟน 2 ตัว 1 ตัว
ต้องเป็นของเธอ) กันอยู่นาน โดยมีอั้มนั่งอยู่ทางขวาซึ่งกันระหว่างวินกับฟิวไว้
และปาฏิหาริย์ก็ช่างกลั่นแกล้งวินให้ต้องเจอจุดเริ่มต้นของหายนะแห่งชีวิต
‘ยัยอั้มเกิดปวดฉี่จากการกินเป๊บซี่ไปเกือบเหยือก’

“เมิง...ปวด ย.เอี่ยว หว่ะ” ไม่มีประโยคไหนของอั้มที่ไม่มีคำหยาบคาย
“ก็ไปสิว้ะ - - วินมันเป็นพ่อเมิงรึไง จะให้มันเปลี่ยนผ้าอ้อมหรอ”
ปุ้ยวางไมค์ชั่วคราวหันมาตอบแทน (เนื่องจากอั้มพูดดังมากว่าเธอปวดฉี่)
“เออเดี๋ยวกรุมา” อั้มบอกแล้วพรวดข้ามเพื่อนๆ  ออกประตูไป
“ไม่ต้องรีบนะอิอั้ม ค่อย ๆ ปล่อย” ปุ้ยพูดใส่ไมค์ พอที่ให้อั้มได้ยิน

ตอนนั้นวินไม่รู้เลยว่าอะไรทำให้ปุ้ยต้องตอบรับแทนที่ไล่ให้อั้มไปเข้าห้องน้ำ หรือพูดว่าไม่
ต้องรีบกลับมา คิดเพียงแต่ว่าเป็นมุขตลกของเธอที่มีอยู่แล้วประจำเท่านั้นประกอบกับ
เป็นที่รู้กันว่าเพื่อน ๆ ในห้องไม่ค่อยชอบอั้มเท่าไหร่ พอ ๆ กับนิม  ซึ่งฟิวมาบอกทีหลัง
ว่าวันนั้นฟิวไม่ได้มาตัดผม ฟิวอยากเลิกกับแฟน เลยให้ปุ้ยหาแฟนใหม่ให้หน่อย  ถ้าเป็นปัจจุบันคงใช้คำว่า ‘กิ๊ก’แทนคำว่า ‘แฟนใหม่’ ของฟิวแน่ ๆ และที่ปุ้ยเข้าห้องมาช้า เพราะ
ก่อนหน้านั้น วินโทรหาปุ้ยว่าอยู่ห้องไหน ทำให้ปุ้ยรู้ว่าวินกำลังจะมาถึง จึงแห่กันออกไป
หมด กะให้วินอยู่กะฟิวลำพัง  แต่ผิดแผนที่วินพาอั้มมาด้วย     เพื่อน ๆ ไม่ได้เชิญอั้มไว้ใน
ตอนแรก วินพามาเอง
หลังจากอั้มออกไปได้ไม่ถึงนาที ฟิวก็กระเถิบเข้ามานั่งใกล้วิน โดยเว้นระยะห่างไว้
ประมาณ 1 คืบได้   ฟิวคงเห็นท่าทีงง ๆ ของวินเลยรีบชวนคุยกลบอาการตกใจของวิน

“วินเรียนที่เดียวกับปุ้ยหรอครับ” บอกตรง ๆ ว่าวินแพ้คนพูดเพราะจริง ๆ
“อาฮะ” วินตอบไปสั้น ๆ ในใจเริ่มสั่น และรู้ว่านี่มันไม่ปกติแน่ ๆ
“ทำไมเพิ่งเข้ามาตอนม.6 หละ” ฟิวถาม วินรู้ทันทีว่านี่ผิดปกติ นี่แสดงว่าฟิวกับปุ้ยต้องคุย
กันไว้ถึงวินก่อนหน้านี้ แม้แต่เรื่องเล็กน้อยที่ย้ายโรงเรียนมาฟิว (คนนอก) ยังรู้
“ไปทำอะไรผิดมารึเปล่า” ฟิวแซวทำน้ำเสียงอย่างที่วินไม่มีทางได้ยินจากแมทแน่นอน
“จะถามอ้อม ๆ ว่าเราโดนไล่ออกรึเปล่าหรอ” วินตอกกลับไปทีเล่นทีจริงบ้าง
“ใช่ เราโดนไล่ออก เพราะเอาคัตเตอร์กรีดท้องเพื่อน มันมายั่วประสาท ตอนแรกก็โดนทัณ
บนฑ์ก่อน  แต่มีคดีใหม่ เพราะมีคนใหม่มากวนประสาทอีก เลยเอากรีดหน้ามันซะเลย - -
ก็เลยย้ายมานี่แหละ” วินใส่เป็นชุด หวังว่าฟิวจะรู้ว่าวินพูดเล่น
วินสาบานได้ตรงนี้เลยว่าตอนนั้นไมได้แม้แต่จะคิดสนใจอะไรในตัวฟิว แต่ก็ไม่ได้รู้สึกไม่ชอบหน้าเหมือนตอนแรก ๆ รู้สึกแต่ว่า...เออคุยกันได้

ไม่นานอั้มก็เข้ามา แล้วมองหน้าวิน และฟิวแปลก ๆ ที่กำลังคุยกันอยู่ แล้วไม่พูดอะไรเลย
แล้วก็ไปนั่งแทนที่ฟิว โดยมีฟิวมานั่งแทนที่อั้ม
อั้มเงียบลงไปเยอะมาก ทุกครั้งที่หน้าของวินพ้นหลังของฟิว จะทำให้อั้มมองวินได้ อั้มจะ
มองวินด้วยสีหน้าบอกไม่ถูก วินมีลางสังหรณ์ลึก ๆ ว่าต้องทำอะไรซักอย่าง อั้มกำลัง
เข้าใจอะไรไม่ดีแน่ ๆ

ถึงคราววินปวดฉี่บ้าง เลยไปเข้าห้องน้ำ โดยที่วินเอ่ยปากชวนอั้มให้ไปเป็นเพื่อน เพราะ
อยากคุยกับเธอพอดี แต่อั้มปฏิเสธและบอกว่าปวดท้องประจำเดือน ซึ่งภายหลังอั้มเฉลยว่า จะดูซิว่าฟิวจะตามไปมั้ย
ซึ่งฟิวก็ตามมาจริง ๆ   ตอนแรกที่วินเข้าห้องน้ำยังไม่เห็นฟิว แต่พอเปิดประตูออกมา ฟิวก็
ยืนอยู่ตรงอ่างล้างหน้า
“อ่าว”  วินอุทานขึ้น
“อ่าว...ครับ” ฟิวพูดตอบ พยักหน้าเชิงว่าทัก
ขณะที่วินล้างมือ ฟิวยืนพิงขอบอ่างอยู่ห่างไป 1 อ่างล้างหน้า   พอวินเช็ดมืออะไรเสร็จ
ก็ถามว่า
“มาทำอะไรเนี่ย - - ยืนเฉยๆหรอ”
 วินรู้ทันทีว่านั่นเป็นคำพูดแรกที่เปิดฉากอะไรต่อมิอะไรได้
“ป่าว มารอวิน” ฟิวตอบหน้าตาเฉยมาก ๆ
“ทำไม - -เพื่อน ๆจะกลับแล้วให้มาทวงตังค์ กลัววินชิ่งหรอ” วินยังพูดต่อไม่หยุดทั้ง ๆ ที่รู้
ว่าตัวเองไม่ได้รู้สึกแบบนั้นเลย (แย่ที่สุด)
“ป่าว   - - “ ฟิวทำตากลอกไปกลอกมา ก่อนจะพูดคำที่ทำให้วินหน้าชาเหมือนถูกฉีดยา
ชาไปซัก 5 เข็ม
“วินน่ารักดีนะ - - รู้ป่ะ” ฟิวพูดอย่างหน้าตาเฉยอีกครั้ง
“.........” วินพูดไม่ออก มองหน้าฟิว แล้วก็ดึงทิชชู่อันใหม่มาเช็ดมือแบบอึ้ง ๆ ตอนนั้นรู้สึก
ว่ามันชาไปหมด หน้ารู้สึกร้อนเหมือนเป็นไข้ไม่มีผิด
“น่ารักจริง ๆ นะ - - หน้าเหมือนแฟนเก่าฟิวเลย… แค่วินดูดีกว่า” เขาพูดอย่างไม่สะทก
สะท้าน ไม่แม้แต่จะกลัวใครมาได้ยิน หรือไม่กังวลเลยว่าประตูห้องน้ำที่ปิด ๆ อยู่นั้นจะมี
ใครอยู่รึเปล่า หรือว่าเค้าเช็คหมดแล้วก่อนวินออกมาก็ไม่รู้
“กลับห้องเถอะ” วินกำลังจะเดินออกจากห้องน้ำ
ชีวิตดั่งฉากในละคร แขนเป็นมัดๆ ยาว ๆ ยื่นมาบังแล้วกวาดตัววินกลับเข้าไปในห้องน้ำ
อีกครั้ง วินทั้งตกใจ และสติสตังแทบไม่เหลือ นี่มันอะไรกัน เกิดมาไม่เคยพบเคยเจอ
“เดี๋ยวดิ - - เข้าไปก็ไม่ได้คุยแบบนี้” ฟิวจู่โจม เหมือนคนสบโอกาส
“ฟิว... ฟิวจะคุยอะไรกับเรา” เสียงวินตอนนั้นแหบ ๆ เบา ๆ เหมือนไม่มีเสียงเสียเฉยๆ
“วิน - - วินน่ารักจริง ๆ นะ……ฟิวขอเบอร์วินหน่อยสิ แต่ให้เพราะอยากให้นะ อย่าให้
เพราะอยากออกไปจากที่นี่” ฟิวพูดเหมือนไปอ่านนิยายอมตะที่ไหนมา ประโยคมันคุ้น
พิลึก หรือว่าเราเคยดูในละคร
“เอาโทรศัพท์มา” วินพูดห้วนๆ
“อยากให้รึเปล่า หรือว่าต้องให้” ฟิวยียวนมาก ๆ ตอนนั้น รู้สึกโกรธ งง ตกใจ และแอบ
ชอบใจอยู่ลึก ๆ (รู้ตัวเลย)
“อืมให้ ๆ อยากให้” วินตอบไป      “เอามาสิ”
ฟิวยื่นโทรศัพท์ให้ และวินก็กดเบอร์ให้ไป เมื่อวินยื่นโทรศัพท์ให้ฟิวไป ขณะที่กำลังจะ
ออกไปจากห้องน้ำ ฟิวก็เอาตัวเข้ามาขวางไว้อีกที ตามองที่โทรศัพท์อยู่พักหนึ่ง แล้วก็เอา
โทรศัพท์แนบหู ไม่นานโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงวินก็ดังขึ้น
“โอเค - -ไม่มั่ว” ฟิวเอ่ยขึ้น เมื่อรู้ว่าวินไม่ได้ให้เบอร์ผิดไป
“วินเข้าไปก่อนเลย เดี๋ยวเข้าไปพร้อมกัน...คนอื่นจะสงสัย” ฟิวพูด พร้อมกับเดินเปิดประตู
เข้าห้องน้ำไป   ทำเอาเรางง ว่าทำไมต้องกลัวใครสงสัย นี่เราทำอะไรผิดไปจริง ๆ หรอ
อารมณ์นั้นงงมาก ไม่รู้ว่าตัวเองชอบฟิวแล้วรึยัง ชอบใจที่เกิดเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหรือว่า
อย่างไร...........

หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 13-03-2008 20:35:59
เข้ามาทักทายเรื่องใหม่เคอะ

ยังไงจะเอาใจช่วยนะเคอะคุณน้อง
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 13-03-2008 20:44:29
เข้ามาทักทายเรื่องใหม่เคอะ

ยังไงจะเอาใจช่วยนะเคอะคุณน้อง

ขอบคุณฮับ ^^
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส
เริ่มหัวข้อโดย: Yurameki ที่ 13-03-2008 21:01:22
 :oni2: เย่  ท่านพี่ฟิวมาแล้ว   เชียร์ท่านพี่ฟิวอ่า


พี่ฟิว สู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  :a2:


 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 13-03-2008 21:31:56
:oni2: เย่  ท่านพี่ฟิวมาแล้ว   เชียร์ท่านพี่ฟิวอ่า


พี่ฟิว สู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  :a2:


 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

ยูระใจเย็น....
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส
เริ่มหัวข้อโดย: ICEME ที่ 13-03-2008 21:45:43
ปูเสื่อนอนรอ..

เรื่องนี้ถึงจะหวังแค่ไหนก็ต้องจบลงที่ความเจ็บปวดละสิ เพราะว่ามันเป็นอดีตที่แก้อะไรไม่ได้แล้วอ่ะ

โฮๆ

อย่างน้อยก็ขอให้ความรักคงอยู่ต่อไป.. :a2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 13-03-2008 21:51:36
ปูเสื่อนอนรอ..

เรื่องนี้ถึงจะหวังแค่ไหนก็ต้องจบลงที่ความเจ็บปวดละสิ เพราะว่ามันเป็นอดีตที่แก้อะไรไม่ได้แล้วอ่ะ

โฮๆ

อย่างน้อยก็ขอให้ความรักคงอยู่ต่อไป.. :a2:

น้องยูระ....
พี่วินฝาก น้องให้ความเห็นกับคุณ ICEME หน่อยจิ
ในฐานะคนเขียน มิกล้าเสนอความคิด 555
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 13-03-2008 21:53:52
แรก ๆ วินคิดว่า อาจจะรู้สึกว่าเรื่องเดินไปอย่างปกติ
แต่จะเจ็บ ๆ แสบ ๆ ขึ้นเรื่อย ๆ สัญญา ๆ

ติดตามและเป็นกะลังจายให้วินด้วย

ปล. ถูกต้องที่บอกว่า ความรักจะคงอยู่ต่อไป
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 13-03-2008 23:25:10
นึกว่ามาต่อ

อารมณ์เสีย

ชิส์


อิเจ้  เอิ้กๆ  :laugh:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส
เริ่มหัวข้อโดย: anston ที่ 14-03-2008 00:35:55
แปลกดีเหมือนกันเนอะ..คนมีแฟนแล้วมักจะเนื้อหอมผิดปกติ..
เห็นมาเยอะละ..สงสัยจะมีกลิ่นพิเศษเย้ายวนใจคน..
ฟิว..ต้องเป็นตัวแปรสำคัญระหว่างแมทกะวินแน่ๆเลย..
แล้วมาต่ออีกน๊า..
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 14-03-2008 00:38:10
นึกว่ามาต่อ

อารมณ์เสีย

ชิส์


อิเจ้  เอิ้กๆ  :laugh:

อย่านะ ๆ เดี๋ยวก็ลงเป็นปึกซะหรอก
ฮี่ ๆ ๆ  :m23:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส
เริ่มหัวข้อโดย: Yurameki ที่ 14-03-2008 00:38:53
แปลกดีเหมือนกันเนอะ..คนมีแฟนแล้วมักจะเนื้อหอมผิดปกติ..



จิงนะ พี่ท่าน
อ่านมาหลายเรื่องอยู่
เป็นงี้ทุกที

 o7


ปูเสื่อนอนรอ..

เรื่องนี้ถึงจะหวังแค่ไหนก็ต้องจบลงที่ความเจ็บปวดละสิ เพราะว่ามันเป็นอดีตที่แก้อะไรไม่ได้แล้วอ่ะ

โฮๆ

อย่างน้อยก็ขอให้ความรักคงอยู่ต่อไป.. :a2:

น้องยูระ....
พี่วินฝาก น้องให้ความเห็นกับคุณ ICEME หน่อยจิ
ในฐานะคนเขียน มิกล้าเสนอความคิด 555

กำสิ พี่วิน เค้าไม่ใช่เจ้าของเรื่องนิ

แต่ อืม อ่านจบแล้วอะ  บอกได้ว่า  เรื่องนี้ ครบทุกรสชาติ

อ่านไปเรื่อยๆ แร้วจะรุเอง อิอิ

บอกก่อนมากก่านี้ไม่ได้แล้ว เด๋วไม่หนุก
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 14-03-2008 00:54:46
ตอนที่ 4 ความผิด...ครั้งแรก

ทันทีที่วินไปถึงห้อง ก็เห็นอั้ม กลับมานั่งที่เดิมของเธอแล้ว พร้อมกับเอามือตบเบาะ 2 – 3
ที เพื่อบอกวินเป็นเชิงว่าให้รีบมานั่งตรงนี้ (ที่เดิมของวิน)
“มันตามเมิงไปใช่มั้ย” อั้มเป็นคนไม่เกริ่น ไม่มีวิธีซักถามที่ไม่ทำให้คนตกใจ
“ใครตามไปไหน” ในใจวินรู้อยู่แล้วว่าอั้มหมายถึงอะไร วินยังคงอึ้งไม่หายกับเหตุการณ์
เมื่อสักครู่
“ก็ไอดารานั่นไง - - พอเมิงลุกไป แป๊บนึงมันก็ตามไป” อั้มรู้ว่าฟิวคือนายแบบโฆษณา
“เห้ย ! - - เค้าเป็นดาราหรอ เล่นเรื่องอะไร” คำว่า ‘ดารา’ สำหรับวินทำให้คิดว่าต้องเป็น
นักแสดงจากละคร หรือภาพยนตร์
“ไอนี่...เล่นโฆษณา ‘...ชื่อผลิตภัณฑ์…’ ไงเมิง - - ไม่เคยดูหรอ” อั้มอธิบายต่อ
“เออไม่คุ้นเลย...สงสัยยังไม่เคยดู” วินตอบไปตามจริง
“มันคงเลิกฉายแล้วหละเมิง - - ระวังหน่อยก็ดีนะ กรุว่ามันไม่ธรรมดา อีกอย่างแมทก็รัก
เมิงมากไม่ใช่หรอ” อั้มสวดมาเป็นชุด ดูเธอมั่นใจมากราวกับว่าเห็นในสิ่งที่เกิดขึ้นใน
ห้องน้ำ
“เห้ยอั้ม...นี่เมิงคิดอะไร - - ไม่ใช่แระ” วินทำน้ำเสียงเล่น ๆ
อั้มยังคงมีสีหน้าจริงจัง และสายตาอั้มก็เปลี่ยนความสนใจจากวินไปที่ประตู และอั้มก็
เอนตัวลงนั่งดังเดิม
ฟิวเดินเข้ามาพอดี และมองวินแบบเปลี่ยนไปจากตอนแรกที่เจอกันอย่างเห็นได้ชัด และ
ลงไปนั่งข้าง ๆ ปุ้ย ซึ่งนั่งอยู่ทางซ้ายของวิน
“กรุว่าแล้ววิน - - เมิงทำงี้ไม่ได้นะ....แล้วแมทหละ” อั้มเอ่ยขึ้นเบา ๆ แต่ถ้าไม่มีเสียงเพลง
หลาย ๆ คนก็คงได้ยิน (แต่ปุ้ยมาบอกตอนอยู่มหาวิทยาลัยแล้ว ตอนเรากลับบ้านด้วยกัน
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ปุ้ยบอกปุ้ยได้ยินที่อั้มพูด และรู้ทุกอย่างว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะฟิวมาเล่า
ให้ฟัง และปุ้ยก็ได้หันไปบอกฟิวเดี๋ยวนั้นว่า “วินมีแฟนแล้วนะ” แต่ฟิวเหมือนไม่สะทกสะท้านเท่าไรนัก คงเป็นเพราะตัวฟิวเองก็มีแฟนอยู่แล้ว ยังไม่สนใจเลย)

“อั้ม....เมิง” วินไม่รู้จะตอบอะไร
“เมิงกรุไม่โง่นะ” อั้มพูดสั้น ๆ และนั่งกอดอกเงียบ ๆ ต่อไป
ขณะเดียวกันโทรศัพท์วินก็ดังขึ้น เป็นเสียงเรียกของข้อความเข้า วินหยิบขึ้นมาดู ผู้ส่งขึ้น
เป็นเบอร์โทร ไม่ใช่ชื่อใน Contacts
“นี่เบอร์เรานะ...ฟิว”  ในข้อความบอกถึงเบอร์ไม่คุ้นเบอร์นี้ว่าเป็นของใคร
วินรีบเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ายังไม่ทันได้เซฟเก็บหรือแม้แต่กดออกจากข้อความนั้น
เวลาผ่านไป 2 ชั่วโมง (อันเงียบงันระหว่างวินและอั้ม) ทุกคนก็บอกว่าจะไปดูหนังกันต่อ

“วิน  แกต้องไปนะ เดี๋ยวก็สอบแล้ว ไปปลดปล่อยหน่อย” ปุ้ยพูดขึ้นชวน และช่วงนั้นก็เป็น
เดือนกรกฎา ซึ่งเรากำลังจะสอบกลางภาคกันระยะนั้น
ปุ้ยเป็นคนชอบเที่ยว แต่การเรียนเธอก็ไม่เคยเสียเลย ปุ้ยเป็นเพื่อนที่แยกแยะทุกอย่างได้
อย่างลงตัว มีความเป็นผู้ใหญ่ ถึงแม้จะดูตลกก็ตาม เธอก็พูดอะไรที่ทำให้คนเชื่อถือได้
เช่นกัน  และที่โรงเรียนแห่งใหม่ของวินที่นี่ เวลาสอบไม่ว่ากิจกรรมใด ๆ จะถูกชะลอตัว
หรือปิดลงไป เช่น ห้ามใช้สนามฟุตบอลเวลาพัก นอกจากวิชาเรียน ปิดสนามบาสฯ
แบดมินตัน ฯลฯ ทุกคนจะนั่งอ่านหนังสือที่ม้าหิน เป็นภาพที่ขลังและประทับใจมากเลย
ทีเดียว ซึ่งภาพบรรยากาศลักษณะนั้นก็ยังคงมีและเป็นมาถึงทุกวันนี้   เพราะเหตุนี้ทำให้
ปุ้ยเอามาเป็นเหตุผลเชิญชวนวินไปดูหนังกัน

“เอาสิ - - เรื่องอะไรหละ” วินรับคำทันที โดยไม่ได้หันไปถามอั้ม
“กรุไม่มีตังค์นะวิน” อั้มพูดออกมาพอให้หลาย ๆ คนได้ยิน
“ไปเถอะวิน . . . เดี๋ยวก็สอบแล้ว” ฟิวเอ่ยชวนเหมือนไม่ได้ยินอั้มพูดเมื่อกี๊นี้
“เออเดี๋ยวกรุเลี้ยงมึงเอง” วินพูดกับอั้ม (นี่ไม่ใช่ครั้งแรกและครั้งเดียวที่วินต้องควักเงิน
ตัวเองเพื่ออั้ม)
“ดูเรื่องอะไรว้ะ” อั้มถามปุ้ย
“นีโม่” ปุ้ยตอบ
“การ์ตูนหรอ” อั้มทำท่าขยาด
“เอนิเมชั่นเว่ย” ปุ้ยตอบ
“สนุกหรอว้ะ” วินเป็นฝ่ายถามบ้าง
“สนุกแก..สนุก - - น่ารักด้วย” ปุ้ยยืนยันราวกับดูมาแล้วรอบนึง ประกอบกับช่วงนั้นไม่มี
หนังอะไรน่าดูเข้าฉาย วินจึงตกลงไปดู ซึ่งก็สนุกอย่างที่ปุ้ยว่าจริง ๆ ทำเอาวินต้องซื้อดีวีดี
แผ่นแท้มาเก็บไว้เลยทีเดียว ปลาตัวโปรดของวินคือ ‘ดอรี่’ เป็นตัวที่ทำให้วินประทับใจ
หนังเรื่องนี้มาก ๆ เลยทีเดียว

“กรุว่า กรุเดินเล่นรอเมิงดีกว่าวิน” อั้มพูดขึ้น
“เออตามใจ - - ถ้าแกไม่อยากดู วินก็จะได้ไม่ต้องเสียเงินฟรี” ปุ้ยพูดใส่อั้ม น้ำเสียงเรียบ ๆ
“ทำไมอ่ะอั้ม ... ไปเหอะ หนังตั้งเป็นชั่วโมง” วินคะยั้นคะยอ
“ไม่อ่ะ ไปเหอะ” สีหน้าอั้มตอนนั้นเหมือนคนถูกรุม
“ไปเหอะ จะได้เอารอบก่อนบ่ายสาม…เดี๋ยวเสร็จเย็นเกิน”
ปุ้ยพูดพลางผลักประตูห้องคาราโอเกะออกไป
“เอาจริงหรออั้ม” วินพูดกับอั้ม  อั้มพยักหน้าขึ้นกึ่ง ๆ ไม่พอใจเท่าไรนัก
“ดูมั้ยวิน” ฟิวถามขณะกำลังจะออกจากห้องกัน
“ไม่รู้ดิ - - อั้มมันไม่ยอมดู” วินตอบไป
“เมิงไปดูเหอะ - - กรุว่าจะไปโบนันซ่า ว่าจะไปดูรองเท้า” ประโยคนี้คนที่รู้จักอั้มดี จะรู้ว่า
เธอไม่ได้หมายความเช่นนั้น อั้มมาสยามนับครั้งได้ และรู้จักเพียงชื่อโบนันซ่า และรู้ว่าคน
ชอบไปซื้อรองเท้ากันเท่านั้น อั้มไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนั้นโบนันซ่าต้องเดินไปทางไหน และที่
สำคัญ อั้มไม่ใช่คนชอบซื้อรองเท้า หรือเสื้อผ้า เพราะเสื้อผ้าไปเที่ยวหรือรองเท้า เธอใส่
ของแม่เธอเกือบทั้งสิ้น (รวมถึงวันนั้นด้วย)
วินลังเลมากที่จะทิ้งเพื่อนไว้คนเดียว เพราะวินไปชวนอั้มมา แล้วจะทิ้งอั้มเสียเฉย ๆ ลึก ๆ
วินรู้ว่าในใจอั้มคงไม่อยากให้วินไปเสียเท่าไรนัก

“อั้มน่าจะไปนะ - - ถ้าวินเค้าอยากดู...ไปดูเป็นเพื่อนกัน” ฟิวเอ่ยขึ้น
“เพื่อนก็เยอะแยะแล้วนี่...ฟิวกับวินจะได้ทำความรู้จักกันด้วย - - ไปเหอะวิน” อั้มเริ่ม
แผลงฤทธิ์   และนั่นเองก็เป็นการจุดชนวนความเคืองให้วิน วินจึงรับคำไปดูหนังทันที
ทั้งที่จริง ๆ ถ้าอั้มไม่พูดประโยคนั้นเปอร์เซ็นต์ที่วินจะอยู่กับอั้มสูงกว่าไปดูหนังเสียอีก

“เอองั้นกรุไปนะ” วินหันไปพูดกับอั้ม และเดินออกจากห้องทันที
ฟิวเดินตามออกมาติด ๆ โดยปล่อยให้อั้มออกมาเป็นคนสุดท้าย (มาถึงวันนี้วินรู้ตัวเลยว่า
ตั้งแต่วินมีแฟนวินแคร์เพื่อนตัวเองน้อยลงมาก ทั้ง ๆ ที่อั้มก็ค่อนข้างทุ่มเท และคอยรับใช้
ทำนู่นทำนี่ให้วินเสมอ ๆ ในเวลานั้นวินอยากได้ หรืออยากไปไหน แค่โทรหาอั้มเท่านั้น
อั้มจะแต่งตัวรอให้วินไปรับที่บ้านและไปด้วยกันทันที......ขอโทษจริง ๆ นะเพื่อน)

วันนั้นเราดูหนังกันทั้งหมด 7 คน โดยมีวิน ปุ้ย ฟิว และเพื่อนอีก 4 คน โดยอั้มไม่ได้ดู และ
มีเพื่อนกลับไปก่อนอีก 2 คนวินนั่งตรงกลางระหว่างปุ้ยกับเพื่อนอีกคน  ปุ้ยนั่งคั่นระหว่าง
วินกับฟิวทางด้านขวามือ โดยวินเป็นคนบอกให้ฟิวเข้าไปนั่งก่อน และผลักให้ปุ้ยตามไป
จากนั้นวินจึงตามไป  เพราะเวลานั้นรู้สึกไม่ค่อยดีแล้ว คำพูด สีหน้า ท่าทางของอั้มที่มีต่อ
วินในเรื่องของแมทมันวนเวียนอยู่ในหัว แต่พอหนังฉาย ความสนุก และความฮาของดอรี่
ก็ดึงวินออกจากอารมณ์ขุ่นมัวชั่วคราว

เมื่อหนังจบ วินก็หยิบโทรศัพท์โทรหาอั้มทันที
“อยู่ไหนเนี่ย” วินถามอั้ม
“เออพอดี เมื่อกี๊กรุโทรหาพี่โซดาแล้วเค้าอยู่แถวสีลมพอดี กรุเลยกลับมากับเค้าแล้วอ่ะ - -
กรุไม่กล้าโทรบอกเมิงเพราะไม่รู้หนังจบเมื่อไหร่” อั้มพูดน้ำเสียงโทนเดียวกัน ออกแนวเย็น
ชาเล็กน้อย  (พี่โซดาคือแฟนของอั้มในขณะนั้นซึ่งคบกันได้ 6-7 เดือนแล้ว พี่โซดาเป็นคน
ท้วม ๆ ถึงอ้วน เป็นคนขาว หน้าตาหวาน ๆ ซึ่งก็เป็นสเปกของอั้มที่ชอบคนอ้วน ๆ ตอนนั้น
...แต่ปัจจุบันไม่รู้อย่างไร อั้มหันมาคบทอมแทนแล้ว แถมรวยอีกต่างหาก นี่คือข้อมูล่าสุด
ที่วินรู้จากอั้ม ไม่รู้ว่ายังคบกันอยู่รึเปล่าแล้วตอนนี้)
“อ่าว” วินพูดสั้น ๆ โดยตอนนั้นฟิวเดินมาอยู่ข้าง ๆ แล้วอ้อมมาข้างหน้าพอดี
“กลับด้วยกันมั้ยวิน” ฟิวถามเสียงดังพอให้อั้มได้ยิน
“นั่นไง - - เมิงมีเพื่อนกลับแล้ว” อั้มมีน้ำเสียงประชดประชันเบา ๆ
“แค่นี้นะอั้ม” วินโมโห  วินคบกับอั้มต้องใช้ฟางหลายเส้นเหลือเกินกว่าจะถึงเส้นสุดท้าย
“อืม” อั้มตอบสั้น ๆ และเป็นฝ่ายกดวางโทรศัพท์ไป
“ให้ฟิวไปส่งนะ” ฟิวเอ่ยขึ้น
“ไม่เป็นไร..เราเอารถมา” วินจำไม่ได้ว่าตอนนั้นสีหน้าตัวเองเป็นอย่างไร รู้แต่ว่าตอบไป
แบบนี้
“นั่นแหละ...ให้ฟิวนั่งไปส่ง” ฟิวเป็นคนพูดจาตอบกลับคนได้ฉะฉาน ไม่มีตก หรือติดขัด
“ปุ้ย กลับกะเรามั้ย” วินหันไปถามปุ้ยที่กำลังสาละวนอยู่กับฝาแก้วน้ำนีโม่อยู่ใกล้ ๆ
“เรากลับกะเมย์หว่ะแก - - เดี๋ยวจะไปทำซาคูกินกันที่บ้านเมย์” ปุ้ยตอบ
“หรอ....” วินรู้สึกผิดหวัง 
“นะ - - ให้ฟิวไปด้วยคน...อยากนั่งไปเป็นเพื่อน - - หรือเป็นอย่างอื่นก็ได้” ฟิวเป็นคนที่
คารมคมคาย แมทไม่เคยทำแบบนี้ แมทเป็นคนตรง ๆ และโรแมนติกอย่างตรงไปตรงมา
ไม่เคยใช้คำพูดอะไรแบบนี้มาก่อน ทำให้วินหลงไปชั่วขณะกับคำพูดนั้น
“อืมได้ ๆ” วินตอบตกลงไป

หลังจากลากับเพื่อน ๆ ฟิวก็เดินไปกับวิน ระหว่างทางจะไปถึงรถฟิวก็ชวนวินคุยสารพัด
หลายเรื่องมาก และคนก็มองฟิวกันเยอะอยู่พอใช้ได้ ทำเอาวินแน่ใจทันทีว่า มีแค่วินและ
คนไม่กี่คนหรอกที่ไม่รู้ว่าฟิวเป็นนายแบบโฆษณา แล้วทำไมเขาถึงกล้าเดินมากับเรา และ
แสดงท่าทีสนิทสนมขนาดนี้ วินคิดเรื่องนี้อยู่ในหัววนไปวนมา และโทรศัพท์ก็ดังขึ้น

“MATT” แมทเป็นคนที่ให้เกียรติวินมาก แมทรู้ว่าวินจะไปเที่ยวกับเพื่อน และดูหนัง
แมทคำนวนและกะเวลาอย่างพอเหมาะ และเลือกเวลาที่เหมาะสมเพื่อโทรหาวิน
(ที่รู้เพราะว่าเป็นเช่นนี้เสมอมา และแมทก็ให้เหตุผลกับวินตลอดว่าทำไม)
วินรู้สึกตกใจกึ่งรู้สึกตัว เหมือนออกจาภวังค์ที่ตอนนั้นมีแต่วินและฟิว และเหมือนนึกขึ้นได้
และเตือนตัวเองว่า ‘นี่แฟนเราโทรมา’ ขณะที่รับโทรศัพท์ วินจำความรู้สึกนึกคิดตัวเองได้ดี
ที่กำลังถามตัวเองว่า ‘นี่เรามาทำอะไรกับผู้ชายคนนี้’
“วิน - -  เสร็จรึยัง” เสียงสุภาพที่คุ้นเคยมาตามสายถามขึ้น
“พอดีเลยแมท... นี่วินกำลังจะกลับบ้าน” วินตอบ
“อย่าเพิ่ง แมทอยู่ พรอพพากันด้า” (Propaganda : สยามดิสคัฟเวอร์รี่) แมทบอก
ขณะนั้นวินอยู่มาบุญครอง จำไม่ได้ว่าบริเวณไหน แต่กำลังจะเดินไปที่จอดรถแล้ว
“แมทมาทำอะไร” วินถามไปสั้น ๆ
“มาซื้อของขวัญวันครบรอบให้วินอ่ะสิ ... ยังหาไม่ได้เลย แมทอยากพาวินไปเดินเล่น
แล้วเลือกกัน แมทว่าวินมาที่ลอฟท์ดีกว่า” (LOFT  ในสยามดิสคัฟเวอร์รี่ที่ไม่รู้เป็นอะไร
ทุกครั้งที่ไปสยาม วินจะต้องเข้าไปเดินดูของตลอด และไปบ่อยมากตลอดเวลาที่คบ
กับแมท)
“หรอแมท...วินกลัวจะกลับบ้านค่ำอ่ะ แมทน่าจะบอกก่อนวินจะได้ไม่ต้องดูหนัง”
วินตอบกลับไป ณ เวลานั้นรู้สึกกึ่งหนึ่งว่าต้องกลับบ้าน อีกส่วนหนึ่งก็ไม่อยากแยกกับฟิว
(แย่มั้ย...อย่างนี้หลายคนคงเรียกว่าเลวรึเปล่า)
“จริงหรอ....” เสียงแมทแผ่วลง
“อืมแมทน่าจะบอกก่อนจริง ๆ อ่ะ - - รู้ทั้งรู้ว่าที่บ้านวินเป็นยังไง แมทลืมสนิทเลย รู้แต่ว่า
กะจะมาเจอวิน เพราะนาน ๆ วินจะได้ออกจากบ้าน...แต่ไม่เป็นไรหรอกครับ เราเพิ่งเจอ
กันเมื่อวาน(วันศุกร์) เอง” แมทคนดีตอบกลับมา
วินรู้สึกผิดที่สุด ยิ่งได้ยินคำพูดของแมทที่เข้าใจวินคำนั้น ยิ่งรู้สึกตัวเองต่ำลงไปเรื่อย ๆ
“งั้นเดี๋ยวแมทเดินไปดูของที่ลอฟท์เอง หวังว่าแมทคงเดาถูกว่าวินอยากได้อะไร”
แมทพูดต่อ
“ถ้าอย่างนั้น...ขับรัถกลับบ้านดี ๆ นะวิน - - โอเคนะครับ” แมทพูดคว่าโอเคนะเสมอเวลา
จะวางโทรศัพท์
“ไม่เอาดีกว่าแมท เดี๋ยววินไปหา” เหมือนวินจะคิดได้แต่ก็สายไป
“ไม่เป็นไรวิน แมทมาถึงลอฟท์แล้ว แมทอยากเลือกให้วินเองด้วย - - ถ้าเดือนนี้ไม่พอใจ
ไว้เดือนหน้าวินมาเลือกเองไง” แมทแสนดียังคงพูดต่อไป ทั้ง ๆ ที่การมาของเขาครั้งนี้ก็
เพื่อมาเจอเรา บ้านแมทและวินอยู่ห่างกันไม่มาก เรียกได้ว่าหมู่บ้านเดียวกัน แต่ถนนคน
ละสาย แต่บ้านของเราทั้งสองไกลจากสยามประมาณชั่วโมงครึ่ง ถึงสองชั่วโมง หรือไม่ก็
ต้องมาทางด่วนซึ่งเวลาเดินทางจะเหลือเพียง 30 – 45 นาที แมทคงจ่ายค่าทางด่วนบาน
เพื่อดั้นด้นมาที่นี่
“เจอกันวันศุกร์นะ แล้วเดี๋ยวแมทโทรหานะครับ”
“ก็ได้ ๆ แมท ... แมทก็อย่ากลับเย็นนะ” วินตอบไป ตอนนั้นวินจำอะไรไม่ได้มาก
เคยมีใครเป็นมั้ย ความรู้สึกนึกคิด มันวิ่งชนกันไปมา ถ้าเป็นคอมพิวเตอร์ วินคงต้อง
ฟอร์แมทตัวเองตรงนั้นเลย มันรวนไปหมดแล้ว และวินกับแมทก็วางโทรศัพท์ไป
และวันนั้น เราก็ไม่ได้เจอกัน ทั้ง ๆ ที่เราห่างกันแค่ระหว่างห้างมาบุญครอง กับ
สยามดิสคัฟเวอรี่

“แฟนหรอวิน” ฟิวถามหน้าตาเฉย วินเริ่มชินกับหน้าไม่รู้ร้อนรู้หนาวของฟิวเสียแล้ว
“ใช่ - - ชื่อแมท เค้ามาซื้อของขวัญวันครบรอบที่สยามดิส’ ” วินตอบโดยรู้สึกว่าต้องทำ
อะไรสักอย่างเพื่อลบเลือนความรู้สึกผิด และมันก็ช่วยได้ แต่ก็ไม่หมดเสียเท่าไหร่
เพราะแมทไม่ได้รับรู้ว่าวินกำลังจะกลับกับใคร
“นี่คบกันครบปีแล้วหรอ?” สีหน้าฟิวตกใจพอควร
“ป่าว จะ 3 เดือน” วินตอบ
“แล้วครบรอบอะไร - - ครบรอบเดือนเนี่ยนะ” ฟิวมีสีหน้าเบาใจลง
“อืม...แมทเค้าก็เงี้ยแหละใส่ใจกับรายละเอียดปลีกย่อย” วินพูดอย่งไหลลื่นขึ้น
“เรียนที่เดียวกันป่ะ...ปุ้ยไม่เห็นเคยพูดถึง” ฟิวถามต่อ
“ป่าว เค้าเรียนอยู่ที่ ‘xxxxxxx’ “ วินบอกชื่อโรงเรียนไป
“อ๋อ เด็กในเมืองนี่ . . . ไม่ไกลจากฟิวมากนักด้วย” ฟิวเองก็ไหลลื่นไม่เบา

เราเดินมาถึงรถกันโดยฟิวชวนคุยเรื่องอะไรต่อมีอะไรสารพัดระหว่างทาง
“วินขับรถเข้ากับตัวเองมากอ่ะ” วินไม่เข้าใจหรอกที่ฟิวพูดมันวัดจากอะไร ก็ได้แต่ยิ้ม ๆ ไป

เวรกรรมและผีสางดลใจนั้นมีจริง ขณะที่วินขับลงเพื่อออกจากลานจอดรถในชั้นที่เตี้ยกว่า
วินเจอกับเบนซ์ คอมเพรสเซอร์สีดำเงาวับจอดอยู่ วินจำทะเบียนรถของแมทไม่ได้   แต่จำ
ได้ว่า ที่หน้ารถของแมทมีตุ๊กตาหมูสีชมพูวางอยู่ตรงหน้ารถ ซึ่งเป็นตุ๊กตาตัวแรกที่วินซื้อ
ให้แมทในช่วงสัปดาห์แรก ๆ ที่คบกันเลย
(วินเป็นคนชอบหมูตั้งแต่ดูเรื่องเบ๊บ หมูน้อยหัวใจเทวดา หลังจากนั้นวินก็ชอบซื้อของที่เกี่ยวกับหมูน่ารัก ๆ มาเก็บไว้ กลายเป็นสะสมหมูไปเลย)
“เห้ย ...” วินชะลอรถช้าลงมาจนรถคันหลังที่ขับตามมาบีบแตรไล่
“อะไรวิน - - อะไร ๆ” ฟิวตกใจ นึกว่ารถเป็นอะไรไป
วินชะลอ และทิ้งระยะห่างไว้ ค่อย ๆ ขับเข้าไปเพื่อให้แน่ใจว่าเจ้าของรถไม่ได้อยู่บนรถคัน
นั้น หรือกำลังเดินมาอยู่ในรัศมีบริเวณนี้ เมื่อแน่ใจวินจึงขับต่อไปได้  (แมทคงจะเอารถมา
จอดที่มาบุญครอง และเดินไปที่สยามดิสคัฟเวอร์รี่เหมือนที่เคยทำบ่อย ๆ)

“คันไหนอ่ะ ... รถแฟนวิน” ฟิวนี่ฉลาดไม่เบานะ
“เบนซ์สีดำเมื่อกี๊” วินตอบไป ในใจยังหวั่น ๆ อยู่ อยากขับไปให้พ้นรัศมีห้างจริง ๆ
“ไม่เห็นต้องตกใจอะไรเลยนี่ - - เราไม่ได้แอบคบกันซะหน่อย....” ฟิวพูดออกมาอีกครั้ง
“อืม ๆ” วินตอบไป ใจคอไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
“เราออกจะคบกันเปิดเผย…อ่ะฮ่าฮ่า”
ฟิวพูดต่อประโยคเมื่อครู่และหัวเราะเบา ๆ แสดงทีเล่นทีจริง
“ฟิว . . .” ท่าทางวินจริงจังขึ้นมา ทำเอาฟิวหุบยิ้มแทบไม่ทัน
“เราไม่รู้ปุ้ยกับฟิวจะทำอะไรนะ - - แต่แฟนเราคนนี้ดีมาก เค้าดีกับเรามาก เราทำร้ายเค้า
ไม่ได้หรอก ถ้าฟิวคิดจะทำอะไร - - แต่ถ้าฟิวไม่คิดก็ดีแล้ว” วินพูดได้ยาวขึ้นหลังจากพ้นที่
คืนบัตรจอดรถ
“เราส่งฟิวที่หมอชิตนะ - - เราจะไปบ้านแมทต่อ” วินใจแข็งขึ้นมาแล้ว รวบรวมสติ และ
เรียกความถูกต้องกลับคืนมาได้ขณะนั้น
“ได้ ๆ ... เห้ยเราขอโทษนะ - - ไม่คิดว่าวินจะซีเรียสอ่ะ.....แต่เราชอบวินจริง ๆ นะ
วินน่ารักดี” ฟิวรีบขอโทษและมีสีหน้ารับผิด แต่ยังไม่วายที่จะต่อท้ายด้วยประโยคที่ทำให้
หวั่นไหว
“อืม . . ขอบคุณ เรารู้สึกดีนะ แต่ตอนนี้เรารักแมท รักมาก ถ้าเราทำผิดต่อแมทตอนนี้เรา
จะไม่ให้อภัยตัวเองเลย - - ฟิวคงเข้าใจ” วินพูดกับฟิวโดยไม่มองหน้า ตามองถนน เพราะ
วินไม่อยากให้สายตาแบบไหนก็ตามมาเปลี่ยนความรู้สึกตัวเองในตอนนั้น

เราเงียบใส่กันจนถึงสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสอนุสาวรีย์ชัยฯ ฟิวจึงขอลงตรงนั้น 
“เดี๋ยวเราลงตรงนี้แหละวิน - - วินจะได้ขึ้นทางด่วนข้างหน้าเลย” ฟิวหาข้ออ้างได้ดี
ทำให้วินไม่อึดอัดที่จะต้องปล่อยเขาลงตรงนั้น
“เออ ดีเหมือนกัน รถเริ่มติดแล้วด้วย” ตอนนั้นเกือบ 6 โมงแล้ว วันเสาร์รถเริ่มติดมากพอดี
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส
เริ่มหัวข้อโดย: LingNERD* ที่ 14-03-2008 01:23:10
เรื่องราวเริ่มน่าสนใจมากขึ้น

มาต่อเร็วๆๆน้าคราบบบบบบ
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 14-03-2008 03:00:42
มาต่อยามดึก หลังจากได้กำลังใจให้ลงต่อ....อิอิ

ตอนที่ 5 เข้าทางแม่

หลังจากฟิวก้าวลงจากรถไปไม่ถึง 2 นาที น้ำตาวินไหลออกมาแบบไม่ต้องรู้สึกอะไร
เพราะความรู้สึกมันประทังอยู่ลึก ๆ แล้ววินก็ร้องไห้มากขึ้น จนมีเสียงฮือ เสียงสะอื้น
ออกมาอยู่คนเดียวบนรถ   วินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาแมททันทีที่ห้ามเสียงสะอื้น
ตัวเองได้ 
“ครับ” แมทรับโทรศัพท์
“แมท - - วินไปรอแมทที่บ้านนะ ตอนนี้กำลังจะขึ้นทางด่วน” วินบอกแมทไป พยายาม
กลั้นเสียงอมน้ำตาของตัวเอง
“ทำไมอ่ะวิน - - วินเป็นอะไรรึเปล่า” ไม่รู้ว่าเสียงของวินมันฟ้อง หรือแมทแปลกใจจริงๆ
“เปล่าแมท - - วินรู้สึกไม่ดีอ่ะที่ไม่ไปเจอแมท ... แมทอุตส่าห์มาหาแล้ว - -ให้วินไปนะ
แมทรีบกลับมาเลยนะ ตอนนี้วินติดอยู่ที่อนุสาวรีย์ฯ ถ้ายังไม่ได้ซื้อของ ค่อยซื้อก็ได้”
วินพูดทุกอย่างให้แมทยอมให้วินไป
“ดีซะอีกวิน - - เรื่องไรแมทจะไม่ให้มา เดี๋ยวแมทไปเลย ... เดี๋ยวนี้แหละ โอเคนะครับ”
“ได้ ๆ แล้วเจอกันนะ” วินตอบ ก่อนจะวางสาย

วินถึงบ้านแมทใน 1 ชั่วโมงต่อมา  วินจอดรถรออยู่ที่หน้าบ้านเยื้องประตูใหญ่บ้านแมทไป
นิดหน่อย   ไม่เกิน 5 นาที คุณแม่แมทในชุดกีฬาก็วิ่งเหยาะ ๆ ออกมาจากบ้าน 4 ชั้นอัน
ใหญ่โต รั้วบ้านแมทยาวมากจนเลี้ยวโค้งเป็นตัว L ฉะนั้นไม่ว่ายังไงคุณแม่ของแมทก็ต้อง
เห็นรถของวินจอดอยู่
“วิน...ลูก” น้ำเสียงใจดี และเป็นมิตรทักเข้ามา ขณะที่วินเปิดกระจกยกมือไหว้คุณแม่
“เข้ามารอในบ้านสิคะ ... แมทโทรบอกแม่แล้ว ว่าลูกจะมา...อีก 20 นาทีคงถึง เห็นว่าอยู่
บนทางด่วนแล้ว”   คุณแม่แมทมีท่าทีที่ต้อนรับวินที่สุด ท่าทางเป็นผู้ดีเต็มร้อย แม้ว่าคุณ
แม่แมทจะไม่ใช่คนผิวพรรณดีอะไรมากมาย และไม่ค่อยชอบแต่งเติมสีสันบนหน้าแต่จาก
บุคลิกท่าทางของคุณแม่แมทก็ดูอบอุ่นมากมาย

“อ่อ...หรอฮะ - - ครับ ๆ” วินทำอะไรไม่ถูก กับท่าทีเป็นมิตรเช่นนั้น และกำลังอึ้งที่แมท
เดินทางเร็วเหลือเกิน (นี่แสดงว่าพอวินโทรปุ๊บ แมทก็ออกมาปั๊บเลย ไม่ได้โอ้เอ้แต่อย่างใด)
วินก้าวลงจากรถ ไขกุญแจเพื่อล๊อคประตู กำลังจะก้าวเข้าไปในบ้าน
“เอามาจอดในบ้านสิลูก ถนนมันแคบเดี๋ยวโดนเฉี่ยวเอา” คุณแม่ช้าไปนิด วินดับเครื่องไป
แล้ว แต่ไม่เป็นไรสตาร์ทใหม่ก็ได้ โดยมีคุณแม่ผู้ใจดี เปิดประตูให้
ในลานจอดรถของบ้านแมท เหมือนบ้านคนรวยในละครไม่มีผิด มีโรงจอดรถแนวขวาง
พร้อมหลังคา ลานจอดเป็นหินอ่อนสีชมพูอ่อน ๆ สามารถจอดรถได้ไม่ต่ำกว่า 5 คัน แต่มี
เพียงรถคุณแม่เท่านั้นที่จอดอยู่ตอนนั้น ถ้ารวมของแมทก็คงมีแค่สองคัน  แมทบอกว่า
บ้านหลังนี้พ่อยกให้แม่หลังจากหย่ากัน เพื่อจะได้ไม่ต้องย้ายไปไหน และให้แมทได้อยู่
บ้านที่สุขสบาย
บ้านแมทใหญ่มาก มี 4 ชั้น รวมห้องใต้ดิน ซึ่งชั้นใต้ดินจะเป็นห้องอ่านหนังสือ และห้องดู
หนัง (Home Theatre) ชั้นแรกเป็นห้องรับแขก ห้องครัว ห้องทานข้าวที่โต๊ะนั่งได้ซัก 10คน ชั้นสองเป็นห้องของคุณแม่แมท  ห้องเสื้อผ้า(ต่างหาก)ของคุณแม่  ห้องกาแฟเล็ก ๆ
และห้องน้ำแยก และพื้นที่กว้าง ๆ ปูพรม มีทีวี โซฟาอยู่เหมือนบ้านอีกหลังอยู่บนชั้นสอง
ชั้นสามเป็นชั้นของแมท เป็นชั้นที่สวยและสบายที่สุดสำหรับวิน มีตู้เกมแบบหยอดเหรียญ
ที่เราเล่นกันในมาบุญครองเลย มีอยู่ 2 – 3 ตู้ มีพวกพินบอล และอะไรอีก วินก็ไม่รู้จัก
มีห้องนั่งเล่นเกม มีทั้งเกมเพลย์สเตชั่น (ไม่รู้ 1 หรือ 2 เพราะวินดูไม่เป็น ไม่เคยเล่นด้วย) ยังมีนินเทนโด และก็อะไรอีกไม่รู้เกลื่นกราด เหมือนกองขยะราคาแพง มุมนั่งอ่านหนังสือ
และชั้นวางหนังสืออีกสองสามหลัง และเก้าอี้สุดจะน่านั่ง ที่วินเคยไปถามราคาก็ตัวละ
เป็นหมื่น ปูพรมสีกรมท่า ผ้าม่านสีเข้าชุด ขอบสีทอง  และห้องนอนซึ่งใหญ่กว่าห้องของคุณแม่ประมาณครึ่งหนึ่ง
หัวเตียงมีกระจกบานใหญ่ (กลางคืนน่ากลัวมาก) เป็นเตียงสำหรับสองคน แต่วินคิดว่า
น่าจะนอนได้ซัก 4 คน และมีตู้เสื้อผ้าแบบ Build – in ในห้องนอน และมีลิ้นชักวางสำหรับ
นาฬิกาทั้งฟอสซิลและดิเซล ยี่ห้อโปรดของแมทอยู่ 8-9 เรือน (คบไปได้ซักพักมันก็เพิ่มไป
เป็นเกือบ 20 เรือน....ป่านนี้คงเป็นร้อยแล้วมั้ง)
คุณแม่ให้แม่บ้านซึ่งเป็นคนลาวชื่อ “แสงเดือน” (ไม่รู้คุณแม่ตั้งให้ใหม่รึเปล่า) นำน้ำแดง
ผสมน้ำรสหวานอ่อน ๆ มาเสิร์ฟ ระหว่างรอ คุณแม่ชวนคุยจนวินหายเขิน
“วินนี่ขาวเนอะลูก - - เป็นคนจีนรึเปล่า” คุณแม่แมทเป็นคนจีน แต่ผิวดำ แต่วินคนไทยแท้
“อ่อ เปล่าครับ - - คุณพ่อไทย คุณแม่ก็ไทยครับ” วินตอบ
“หรอลูก...ตาย ไม่น่าเชื่อ - - ผิวดี๊ดี หน้าใสมากเลยนะ” คุณแม่แมทชอบชมวินอยู่อย่างนี้
บ่อยครั้งที่วินไปที่บ้านแมทอยู่เสมอ วินรู้ว่าตัวเองเป็นคนหน้าใสก็ตอนนั้นแหละ
(แต่ตอนนี้ก็มีกะเค้าแล้วหละสิวหนะ แถมกระเริ่มมาอีกต่างหาก....เห้อสังขาร)
“แมทพูดถึงแต่ลูกบ่อย ๆ ตั้งแต่ก่อนคบกันอีกรู้มั้ย” นี่คุณแม่เตี๊ยมกับแมทไว้รึเปล่าเนี่ย
พูดเหมือนกันอย่างกับถอดคำประพันธ์มา
“อ่อครับ” วินหัวเราะหึๆ ไม่รู้จะตอบอะไรได้ จะบอกว่า ‘รู้ครับ’ ก็คงจะตรงไป
“เดี๋ยวแม่โทรถามแมทให้นะลูก” คุณแม่ทำท่าจะลุกไปหยิบโทรศัพท์ไร้สายข้าง ๆ
“ไม่เป็นไรคุณแม่ เดี๋ยวเค้าจะรีบ” วินห้ามไว้ทัน
“เออจริงด้วยนะลูก - - เดี๋ยวเป็นอะไรไป แม่ต้องให้วินมาอยู่แทนแมทเลยนะ เพราะแม่มี
ลูกกะเค้าอยู่คนเดียว” คุณแม่ยิ้มให้วินอย่างเอ็นดูเหมือนเป็นลูกอีกคนหนึ่ง (วินก็ได้รับรู้
รสชาติของความรักลูกของคุณแม่ในเวลาต่อมานั่นเอง)

ตอนนั้นเกือบสองทุ่มแล้ว วินแปลกใจมากที่ทางบ้านไม่ได้โทรตาม วินเลยเป็นฝ่ายโทรไป
วินโทรเข้าโทรศัพท์มือถือพ่อ เพราะพ่อจะพูดง่ายกว่าแม่ (พูดง่าย ๆ ว่าแม่ดุนั่นแหละ)

“พ่อ - - วินอยู่บ้านเพื่อนนะ ไม่ต้องห่วง แถวบ้านเราเนี่ยแหละ” วินบอกพ่อ
“อ่าวหรอ...แม่เค้ากำลังจะโทรหาลูกเนี่ย ว่าจะฝากซื้อของที่สยาม” วินรู้สึกโล่งอกทันที ที่
ทั้งสองท่านยังคิดว่าวินอยู่สยาม นั่นหมายความว่า ท่านไม่ได้ว่าอะไร
“เปล่า กลับมานานแล้วอ่ะ” วินไม่ค่อยพูดครับกับพ่อแม่เท่าไหร่ มีแต่น้ำเสียงเท่านั้นที่
แสดงถึงความเคารพ
“แล้วจะกลับบ้านรึเปล่าเนี่ยฮะ” เสียงแม่เล็ดรอดเข้ามาจากโทรศัพท์พ่อ
“เดี๋ยวกลับแหละ พอดีวินรอเพื่อนอยู่ อยู่กับคุณแม่เค้า...โทรมาบอกจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง” วินตอบฝากพ่อไป   จากนั้นก็วางสาย
“ที่บ้านคงหวงวินนะลูก - - ลูกชายคนเดียว ... วินมีพี่หรือน้องมั้ยจ๊ะ” คุณแม่ชวนคุยต่อ
“วินเป็นคนโตครับ มีน้องสาว 1 คน” วินตอบ
“อ่อ...” คุณแม่พยักหน้า
“แม่อยู่กับแมทสองคน เง๊าเหงาลูก - - ว่าง ๆ วินมานอนเป็นเพื่อนแมทบ้างสิ ทั้งแมทและ
แม่จะได้มีเพื่อน ลงไปร้องเพลงข้างล่างกัน” คุณแม่หมายถึงห้องดูหนังที่อยู่ชั้นใต้ดิน
“อ่อครับ” วินหัวเราะ พยักหน้ารับคำ
เราคุยกันอยู่ไม่นาน ก็มีเสียงแตรบอกยี่ห้อรถมาจอดอยู่หน้าบ้าน
“มาแล้ว” คุณแม่พูดขึ้น พร้อมลุกขึ้นไปดูที่หน้าต่างบานใหญ่ใสแจ๋วข้าง ๆ
แมทรีบลงจากรถ พร้อมถุง 6-7 ใบ แล้วบอกให้คนขับรถของคุณแม่เอารถไปจอด (ไฮโซสุดๆ)

“แม่ครับ วินอยู่ไหนอ่ะ”
แมทยังไม่ทันเดินเข้ามาในห้องรับแขก แต่เจอคุณแม่อยู่ที่หน้าประตู เอ่ยถามขึ้น
“แหม - - ใจเย็นสิลูก อยู่ในห้องรับแขกโน่น” คุณแม่ตอบและเดินเข้ามาพร้อมกับลูกชาย
แมทมีสีหน้าดีใจที่สุด ยิ้มกว้างมาให้ และมานั่งข้าง ยื่นถุงสีเหลืองของลอฟท์ใบใหญ่ให้
นี่เป็นครั้งแรกที่วินมาบ้านแมท  ก่อนหน้านี้มีแต่มาที่หน้าบ้าน ตอนแมทพามาเพื่อมาเอา
ของ และเป็นการแนะนำให้รู้จักเส้นทางบ้านของเขา
“อ่ะ ตอนวินโทรมา แมทก็ถึงรถพอดี” แมทยื่นถุงลอฟท์ให้ คำพูดแมททำให้วินนึกถึง
ขณะหนึ่งที่เห็นรถแมทจอดอยู่แล้วหน้าฟิวก็ลอยมาเตะความคิดวูบหนึ่ง
“อ๋อ ถึงว่ามาถึงเร็วเชียว” วินตอบ
“วินมาถึงนานรึยัง” เวลาแมทอยู่ต่อหน้าแม่จะไม่พูดเพราะหรือหวานมากเกินไปกับวิน
“ซักพักแล้วหละ เกือบ 20 นาทีละ” คุณแม่ตอบแทน
“แมทชวนวินค้างที่นี่สิลูกคืนนี้ พรุ่งนี้วันอาทิตย์ก็ชวนเค้าไปที่โรงงานกัน” คุณแม่แมทเป็น
เจ้าของโรงงานผลิตสินค้าประเภทหนึ่ง เป็นโรงงานเล็ก ๆ อยู่จังหวัดสระบุรี
“ไม่ได้หรอกครับแม่ - - ที่บ้านวินเค้าหวงวินกว่าลูกสาวซะอีก” แมทยิ้มแล้วตอบคุณแม่ไป
“เดี๋ยวแม่โทรไปบอกที่บ้านให้เอามั้ยลูก” คุณแม่หันมาถามวิน หน้าตาชักชวน และต้อนรับที่สุด
“ไม่เป็นไรครับคุณแม่” วินตอบอย่างสุภาพ
“เอาดิวิน แมทอยู่กะแม่สองคนเหงาจะตาย” แม่ลูกคู่นี้พูดประโยคเหมือนกันจริง
“ไม่ดีมั้งแมท - - ยากด้วย” วินตอบแมท
“ตามใจ - - งั้นอยู่กินข้าวกันก่อน....วันนี้มีอะไรกินอ่ะครับแม่” แมทหันไปถามคุณแม่
“เยอะเลยลูก ... วันนี้แม่ไปโลตัสกับแสงเดือนได้ของมาเพียบ...มีผัดผัก คะน้าหมูกรอบ
ต้มย้ำกุ้ง และเดี๋ยวให้แสงเดือนทอดไข่เจียวหมูสับให้” คุณแม่อธิบาย
คุณแม่พูดจบวินก็นึกได้พอดีว่าวันนี้ยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เช้า ดูหนังก็กินแต่
ป๊อบคอร์นของปุ้ยไปนิดหน่อย พอคุณแม่พูดแค่นั้นทำเอาวินหิวขึ้นมาทันที
“นะวิน - - กับข้าวตรึมเลยวันนี้ อยู่กินกันก่อนเหอะ” แมทคะยั้นคะยอ
“ได้ดิ วินโทรบอกที่บ้านแล้วว่าอยู่บ้านเพื่อน” วินตอบ
“ดี ๆ - - แล้ววินจะไม่เปิดของขวัญหรอ” แมทถาม  วินลืมเสียสนิทว่าเมื่อครู่แมทยื่นถุง
ของที่ซื้อจากลอฟท์มาให้ (จริง ๆ ของในนั้นไม่ได้มาจากลอฟท์ แมทไปได้ถุงกับกล่องมา
จากไหนก็เป็นปริศนาอยู่มาจนถึงปัจจุบัน)
“อะไรอ่ะลูก ขอแม่ดูด้วยคน” คุณแม่แมทแสดงท่าทีใคร่รู้ จะว่าไปคุณแม่ของแมทมีความ
เป็นวัยรุ่นอยู่มากเลยทีเดียว
“ของขวัญวันครบรอบครับแม่” แมทตอบ
“ไหน ๆ เปิดเลยลูกวิน” คุณแม่เร่งวิน
วินจัดการดึงกล่องใบใหญ่พอสมควรออกมาจากถุง แมทไม่ได้ห่อของขวัญมา แต่กล่อง
เป็นสีน้ำตาลเลยไม่สามารถรู้ได้ว่าข้างในคืออะไร  วินค่อย ๆ ใช้นิ้วแซะเอาเทปกาวที่ผนึก
ไว้ออก  สีหน้าของแมทลุ้นสุด ๆ มองหน้าวินอยู่ตลอดเวลา เมื่อเปิดกล่องก็พบกับเศษ
กระดาษหนังสือพิมพ์เต็มไปหมด  วินหยิบเศษกระดาษออก และเห็นกล่องกระดาษสีขาว
เกลี้ยง ๆ เล็กเหมือนกล่องแก้วน้ำอยู่ เมื่อหยิบออกมาวินก็เปิดกล่องออก เป็นนาฬิกา
แท็ก ฮอยเออร์ (Tag Heuer) 2 เรือน หน้าปัดสีขาวมุกสวยมากกกก สายสีเงินเงาวับ
สวยเตะตาที่สุด
“ใส่คู่กันนะวิน” แมทพูด สีหน้าเบิกบาน ยิ้มกว้างสุด ๆ
“ฮี้ววว” คุณแม่ปรบมือชอบใจ (บอกแล้วว่าท่านวัยรุ่น)
วินไม่อยากจะรับเลย เพราะนาฬิกายี่ห้อนี้ได้ยินมาว่าราคาเป็นหมื่น และหลังจากนั้นวินก็
ไปเช็คราคาในอินเตอร์เน็ท ขายถูกสุดก็ 13,000 บาท
“แมท...” วินยิ้มกึ่งเกรงใจ แบบบอกไม่ถูก
“แมทให้นะวิน ใส่คู่กัน” แมทยังยิ้มไม่หุบ
“แมท - - นี่มันแพงมากนะ” วินกระซิบเบา ๆ ไม่รู้หรอกว่ามันราคาเท่าไหร่ รู้แต่ว่าแพง
แค่เกินพันวินก็ไม่อยากรับแล้ว
“ไม่เป็นไรหรอกลูก - - แม่ให้แมทเป็นคนรูดบัตรเองแหละ แมทเค้าโทรหาแม่ก่อนจะซื้อ
นี่เอง คิดซะว่าแม่ซื้อให้ลูกละกัน” คุณแม่แมทยิ้มกว้างพอ ๆ กับลูกชาย วินเองก็ไม่รู้ว่า
สีหน้าตัวเองตอนนั้นเป็นยังไง เพราะในใจก็ไม่รู้ว่าควรจะแสดงท่าทางอย่างไรดี จะดีใจ
เกรงใจ หรืออย่างไรดี เพื่อเป็นการรักษามารยาท
แมทเป็นคนถอดนาฬิกา (Casio) เรือนเก่าของวินออก แล้วใส่เรือนใหม่ที่แมทซื้อให้ด้วย
มือเขาเอง
“แมทรักวินนะ” แมทพูดเบา ๆ ครั้งนี้เบาเสียจนคุณแม่ก็ไม่ได้ยิน (หรือได้ยินแต่ท่านไม่
แสดงความเห็นก็ไม่ทราบ)
“ขอบคุณนะแมท - - ขอบคุณมาก ๆ เลย” วินตอบ วินาทีนั้นเริ่มคิดเรื่องใหม่แล้วว่ากลับ
บ้านแล้วจะเอาไปซ่อนไว้ที่ไหนดี เพราะถ้าที่บ้านเห็นคงไม่ค่อยดีเท่าไรนัก....
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 14-03-2008 03:13:11
ตอนแรกยังไม่จบเลยด้วยซ้ำ
แต่มาแปะไว้ก่อน แหะๆ
 :m23:

หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส
เริ่มหัวข้อโดย: anston ที่ 14-03-2008 03:43:09
แมทน่ารักจริงๆเลย..ใส่ใจกับอะไรเล็กๆน้อยๆที่คนอื่นคิดว่าไม่สำคัญ..
มีแฟนงี้รักตายเลยเนี่ยะ..
ส่วนแม่แมทตอนแรกๆทำไมใจดีงี้ล่ะ..
ไม่น่าเชื่อว่าต่อไปจะร้ายน่าดู..
คงต้องรอดูกันต่อไปเนาะ..
ขอบคุณนะที่มาต่อบ่อยๆ.. :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส
เริ่มหัวข้อโดย: LingNERD* ที่ 14-03-2008 12:30:53
คุงแม่ไม่เห้นโหดร้ายเยยอะ  :a5:

มาต่อด่วนๆๆๆคับพี่วินนี่  :oni2:

ปล.มาลงเรื่องต่อ หลังจากคอมเม้นผมทุกทีเยย เลยมะทันได้อ่าน  :o12:  
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 14-03-2008 13:02:56
คุงแม่ไม่เห้นโหดร้ายเยยอะ  :a5:

มาต่อด่วนๆๆๆคับพี่วินนี่  :oni2:

ปล.มาลงเรื่องต่อ หลังจากคอมเม้นผมทุกทีเยย เลยมะทันได้อ่าน  :o12:  

ไม่ได้น้อยใจจนวิ่งหนีไปจริง ๆใช่ม้ะ

ปล.ถึงผู้อ่านทุกท่าน........
เรื่องร้าย ๆ มั่งเริ่มต้นเส้นทางที่โรยด้วยกลีบกุหลาบเสมอ
แล้วทุกท่านจะรู้ซึ้งถึงคำว่า "หน้ามือ เป็นหลังเท้า"
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 14-03-2008 13:03:37
^
^
มั่ง = มัก
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 14-03-2008 13:05:06
ตอนที่ 6 ค้างที่นี่นะ...คืนนี้

เมื่อพี่แสงเดือน (พี่แม่บ้านคนนี้ภายหลังมีบทบาทในชีวิตวินมาก) จัดอาหารเสร็จ เราทั้ง
สาม จึงไปนั่งที่โต๊ะกัน   คุณแม่นั่งที่หัวโต๊ะ แมทนั่งตรงข้ามวิน เกิดมาวินไม่เคยนั่งกินข้าว
บรรยากาศแบบนี้มาก่อน โต๊ะมันใหญ่มาก โล่ง ๆ พิลึก  (แล้วนึกดูว่าถ้าไม่มีวิน เขาก็จะ
กินกันสองคน)

คาดว่าหลาย ๆ คนคงนึกถึงฉากในละครที่มีการตักอาหารให้กันใช่ม้ะ วินเองก็คิดเช่นนั้น
แต่วินบอกแล้วว่าแมทเป็นคนตรง ๆ ไม่แสร้ง หรือแกล้งทำอะไรให้เพื่อดูดี หรือสร้าง
บรรยากาศโรแมนติกขึ้นเองโดยไม่เป็นธรรมชาติ หรือแมทก็อาจจะไม่อยากทำให้เหมือน
ในละครก็เป็นได้ (อิอิ)
ฉากแบบนั้นจึงไม่เกิดขึ้น มีแต่ใช้ส้อมชี้แล้วพูดว่า “วินกินนี่ดิ” แค่นั้น
ฝีมือในการเข้าครัวของคุณแม่ และลูกมืออย่างพี่แสงเดือน ทำให้กับข้าวมื้อนั้นอร่อยมาก
พี่แสงเดือนทอดไข่เจียวหมูสับได้อร่อยเหมือนร้านอาหารเลย ทำให้วินได้เคล็ดลับการ
เจียวไข่ให้ฟู อร่อยมาด้วยตอนนั้น เวลาทอดไข่ก็ไม่มีตอนไหนที่ไม่นึกถึงคนบ้านนี้  (อีกแล้ว)

เวลาแห่งความสบายใจในชีวิตวินตั้งแต่มีฟิว มักสั้นลงเสมอ ระหว่างที่เรากำลังจะจัดการ
กับอาหารมื้อนั้นเสร็จ โทรศัพท์ก็ดังขึ้น   ไม่ขึ้นชื่อผู้โทรแต่ขึ้นเบอร์ วินจำได้ทันทีว่าเป็นฟิว
จากเลขลงท้าย 777 ที่ส่ง sms มาเมื่อกลางวัน เพียงแต่วินยังไม่ได้เซฟชื่อลงเครื่องเท่านั้น
วินรีบรับเพื่อให้ดูเป็นปกติ ไม่รีรอนานเกินไปให้แมทสงสัยจากอาการได้

“ฮัลโหล” น้ำเสียงเรียบเฉยของวินส่งไปตามสาย
“วิน - - อยู่ไหน” ฟิวส่งเสียงค่อนข้างเริงร่า (เดาจากน้ำเสียงเอา)
“อยู่บ้านแมท...มีอะไรรึเปล่า”
วินกดน้ำเสียงให้เหมือนคุยกับเพื่อน ๆ เหมือนเวลาอั้มโทรมา
“โทรมาหาเฉย ๆ อยากรู้ว่าถึงบ้านรึยัง - - แต่ถ้ายังอยู่บ้านแฟนก็แค่นี้ก่อนก็ได้”
ฟิวน้ำเสียงธรรมดามาก วินแปลกใจที่ฟิวสามารถทำท่าทีหรือแสดงอาการไม่รู้ร้อนหนาว

เช่นนี้ได้อย่างไรกัน
“อืม โอเคๆ” วินรีบตัดบท
“งั้นไว้โทรหาใหม่นะ” ฟิวบอกก่อนจะวางสายไป โดยที่วินยังไม่ได้ทันได้พูดตอบอะไร
“อิ่มมั้ยวิน” แมทถาม วินพยักหน้าตอบ (อย่างที่วินบอกว่าแมทให้เกียรติวินเสมอ
ไม่เคยถามว่าใครโทรมา หรือซอกแซกอะไรแต่อย่างใด)
วินพยักหน้า และยัดโทรศัพท์กลับเข้ากระเป๋ากางเกงก่อนจะลุกไปช่วยทุกคนเก็บจาน
“ไม่เป็นไรลูก...วิน เดี๋ยวให้เดือนเค้ามาเก็บ - - แมทพาวินไปเดินเล่นที่สวนสิ หรือพาทัวร์
บ้านก็ได้ลูก” คุณแม่เอ่ยขึ้น
“วินไปดูห้องแมทดีกว่า…จะพาไปดู” แมทดึงมือวินขึ้นบันไดไป
“อีก 10 นาทีลงมาทานผลไม้กับขนมหวานกันนะลูก” เสียงคุณแม่แมทพูดตามหลังมา
“ครับ” วินเป็นฝ่ายตอบรับแทนเราสองคน
นี่เป็นครั้งที่วินได้เห็นทุก ๆ ส่วนของบ้านแมท เป็นบ้านที่สวยมาก หรูมาก เฟอร์นิเจอร์
ราคาแพงทั้งสิ้น  บ้านวินเป็นบ้านสองชั้นธรรมดาทั่วไป เก่าแก่ 20 กว่าปีแล้ว อยู่มาตั้งแต่
รุ่นตารุ่นยายกันแล้ว พอเห็นอะไรแบบนี้ก็ตื่นตาตื่นใจ

“บ้านสวยมากอ่ะแมท” วินเอ่ยขึ้น
“อืม...แต่ไม่อบอุ่นเท่าบ้านวินหรอก....หลังใหญ่ หรือสวยมากแค่ไหนก็เท่านั้นแหละ
ถ้าขาดสมาชิกในครอบครัวไป” คำพูดของแมททำเอาวินน้ำตาซึมไม่รู้ตัว วินสงสารแมท
จับใจกับคำพูดของแมทอยู่เสมอ ๆ (แต่สุดท้ายวินกลับใช้ข้อด้อยนี้ของแมททำร้ายแมท
กลับเช่นกัน . . . บาปกรรมที่สุด!)

แมทพาวินขึ้นไปชั้นสาม และเข้าไปดูในห้องนอน เราเดินดูกันทุกอย่างไม่ว่าจะห้องน้ำ
ตู้เสื้อผ้า ตอนนั้นรู้สึกอย่างกับว่าจะย้ายมาอยู่กันเลยทีเดียว   ครู่นึงแมทก็พาวินนั่งลงที่
ปลายเตียง ที่นอนนุ่มสุด ๆ ผ้าคลุมเตียงเป็นผ้านวมสีเลือดหมู อย่างกับในหนังราชวงศ์
ฝรั่ง อย่าง Princess’s Diaries

“วินค้างด้วยกันเหอะ” แมทยิ้มทำหน้าอ้อนวอน
“จะบ้าหรอแมท ... แมทก็รู้ว่าที่บ้านวินเป็นไง” วินตอบไปทั้งที่ในใจลึก ๆ ก็อยากลองนอน
ในคฤหาสห์หลังนี้เสียจริง ๆ (ไม่ได้คิดเรื่องอะไรนอกจากนี้จริง ๆ นะ   วินอินโนเซนส์สุด ๆ
แล้วม.6 ในตอนนั้น ไม่รู้เรื่องอะไรที่สุดในสายชั้นแล้วมั้ง...อิอิ)
“ไม่ลองไม่รู้นะวิน ลองขอดูก่อน - - พรุ่งนี้จะได้ไปเที่ยวสระบุรีกัน” แมทอ้อนต่อ
“โรงงานอยู่ที่นั่นหรอ” วินถาม
“อืมจริง ๆ อยากให้อยู่ใกล้ ๆ แถวรังสิตเนี่ยแหละ แต่ไม่รู้ว่าโซนนิ่งยังไง กระเถิบไปถึงนู่น”
ตอนนั้นก็ไม่รู้หรอกว่าแมทหมายถึงอะไร แต่ตอนนี้ก็ยังไม่รู้อะไรมากอยู่ดีเหมือนมีการจัด
โซนที่ตั้งของโรงงานแต่ละประเภทอะไรประมาณนั้น (มั้งนะ)
“นะ - - นะ ๆ ๆ วินนะ ... นะคร๊าบบ นะนะ ...นะครับ” แมทพูดมาแบบนี้
แล้วคนแพ้คนพูดเพราะอย่างวินก็ใจอ่อนในที่สุด
“นอนยังไงอ่ะแมท เสื้อผ้าอะไรก็ไม่มี” วินแอบตกลงเป็นเชิง (อิอิ)
“ชุดแมทไง วินใส่ได้อยู่แล้ว” วินกับแมทตัวพอ ๆ กัน ตอนนั้นแมทสูง 172 วินสูง 170
เห็นจะได้ แต่แมทจะตัวใหญ่กว่าวินเล็กน้อย ตอนนั้นวินเอว 26 เอง ^^ ส่วนแมท 29 มั้ง
“จริงดิ....” วินครุ่นคิด เพราะไม่กล้าจะโทรไปขอที่บ้าน นี่เป็นครั้งแรกที่วินจะขอที่บ้านเพื่อ
ไปค้างบ้านเพื่อน (แต่ในใจก็อยากค้างนั่นแหละ ไม่ได้ขัดข้องอะไร อีกอย่างมันก็เริ่มดึก
แล้วหละน่าจะสักประมาณ 3 ทุ่มเกือบ ๆ 4 ทุ่มเห็นจะได้)
แต่ในที่สุดความต้องการก็ชนะความหวาดหวั่น วินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและโทรไปที่บ้าน
จนได้
“ว่าไงลูก” เสียงคุณพ่อวินรับมาอย่างอารมณ์ดี ทำให้วินค่อยใจชื้นขึ้น
“พ่อ - - - - - วินขอนอนบ้านเพื่อนได้มั้ยวันนี้” วินทำเสียงเรียบ ๆ ถามไป
“ถามแม่ละกัน….อ่ะ - - เดี๋ยวนะ” ในบ้านอำนาจตัดสินใจสูงสุดมักจะตกอยู่ที่แม่ของวิน
พ่อยื่นโทรศัพท์ให้แม่ทันที โดยไม่พูดพร่ำทำเพลง
“ว่าไง” เสียงเข้ม ๆ ของแม่มาตามสาย
“แม่ - - - - - - - วินจะขอนอนบ้านเพื่อนอ่ะ” วินรวบรวมความกล้ามากพอแล้วถามไป
“ที่ไหน?”  คุณแม่ถาม
“ในหมู่บ้านเราเนี่ยแหละ” วินตอบไปด้วยน้ำเสียงออดอ้อนเล็กน้อย
“ตรงไหนหละ ในหมู่บ้านเราอ่ะ” คุณแม่สุดที่รักยังคงถามต่อไปเสียงแข็ง ๆ
“วินก็บอกไม่ถูกอ่ะแม่ มันคนละสายกัน อยู่หลังโรงเรียน ‘xxxx’ อีกทีนึง”
วินอธิบายไม่ถูกแต่นึกขึ้นได้ว่ามีโรงเรียนที่มั่นใจว่าคุณแม่รู้จักอยู่แถวนั้นจึงบอกไป
“อ๋อ . . . อย่าโกหกแม่นะวิน เกิดแม่ไปแถวนั้นแล้วไม่เจอหละน่าดู”
คุณแม่วินเป็นเช่นนี้เสมอ แต่จริง ๆ ท่านไม่ใช่คนชอบจับผิด ท่านแค่ต้องการอบรม
ลูกก็เท่านั้น ซึ่งก็ได้ผลดี วินถือได้ว่าเป็นที่รักของญาติพี่น้องในเรื่องของการวางตัว
การพูดการจา แม้ว่าวินจะโดนทางลุง ทางป้าแซวเรื่องลุค (Look) ที่เรียบร้อยนุ่มนิ่ม
อยู่บ่อย ๆ วินก็เก็บอาการและทำเป็นตลกได้เสมอ ข้อนี้คุณแม่บอกว่าภูมิใจที่สุด
ที่ลูกแม่ไม่เคยแสดงท่าที่หยาบคายใด ๆ เลย
พูดถึงลุง - ป้า ที่ชอบแซว ทุกครั้งที่วินโดนแซว สีหน้าของคุณพ่อจะไม่พอใจอยู่เสมอ
แต่ด้วยคุณพ่อเป็นน้องสุดท้อง และเป็นคนไม่ชอบมีปากเสียง (ข้อดีตรงนี้วินก็ได้
มาจากพ่อ) คุณพ่อจะนิ่ง ๆ เงียบ หรือก้มหน้าไป บางทีก็ลุกไปทำอย่างอื่นเลย
วินนึกก็สงสารพ่อ แต่ถ้าถามวินจริง ๆ เหมือนหลาย ๆ คนเคยโดนถามว่า
‘ถ้าเลือกได้จะเป็นเกย์มั้ย’ วินก็ไม่รู้นะ วินตอบไม่ถูก วินไม่เคยอยากเป็นผู้หญิง
แต่วินก็ไม่ได้อยากเป็นผู้ชาย วินอาจจะพอใจในความเป็นตัวเองของวิน
ซึ่งวินบอกตัวเองเสมอว่า ไม่ว่าวินจะเป็นอย่างไร วินจะไม่ทำให้พ่อแม่ต้องอับอาย
ซึ่งปัจจุบันนี้เมื่อคุณแม่รับรู้แล้ว แต่เราก็ยังคงไม่พูดกันตรง ๆ เท่าไรนัก  คุณแม่
เคยพูดกับวินบนรถว่า ‘จะเป็นอะไรก็เป็นเถอะลูกแม่อ่ะ  แต่เป็นคนดี แล้วทำให้แม่
ภาคภูมิใจก็พอ ... อย่าทำให้แม่เสียใจแล้วกันนะลูก’ แต่นั้นมาวินก็ไม่เคยทำอะไร
ให้แม่ต้องเจ็บช้ำน้ำใจเลย

กลับมาถึงตอนที่คุณแม่รับรู้ว่าวินอยู่ตรงไหน คุณแม่ก็ไม่ว่าอะไร แล้วบอกว่า จะมาเอา
เสื้อผ้าไปรึเปล่า หรือจะให้พ่อเค้าเอาไปให้ (เห็นมั้ยว่าคุณแม่ท่านใจดีแค่ไหน ไม่ว่า
อย่างไร ท่านจะแทรกความเป็นห่วงอยู่เสมอ และมักบริการลูก ๆ เช่นนี้ตลอดมา
ไม่ว่าจะกับวิน หรือโดยเฉพาะยัยน้องสาวที่วินรักมันสุดใจเช่นกัน แต่เธอทำอะไร
ไม่ค่อยจะเป็นเลย)
“เออ...แม่ - - พรุ่งนี้วินขอไปเที่ยวกับที่บ้านเพื่อนด้วยนะ คงกลับบ่าย ๆ”
วินได้คืบจะเอาศอก
“ไปถึงไหนหละ แล้วเสื้อผ้ามีหรอ” คุณแม่ยังคงเป็นห่วงวินต่อ ...วินลืมบอกไปว่า
คุณแม่วินเองก็วัยรุ่นไม่เบา แต่ด้วยหน้าที่การงานที่มีตำแหน่งค่อนข้างสูง
และอาวุโส ท่านจึงมีมาดที่น่าเกรงขามอยู่มาก แต่เมื่ออยู่กับครอบครัว คุณแม่เป็น
คนอารมณ์ขัน และแต่งตัวเก่งที่สุดในโลก (สำหรับวิน) ท่านแต่งตัวเหมาะสมกับโอกาส
และแสดงความเป็นตัวท่านอย่างเหลือเชื่อ ท่านจึงได้ถามวินเรื่องเสื้อผ้าที่จะใส่
เพราะท่านให้ความใส่ใจในบุคลิกของลูกทั้งสองของท่านมาก
“ใส่ของวันนี้แหละแม่ ... ไม่เป็นไรหรอก วันนี้เดินแต่ห้าง อยู่กับแอร์ทั้งวัน”
แท้จริงวินจะใส่เสื้อของแมทต่างหาก แต่วินกลัวไปเองว่ามันดูไม่ดี
“ตามใจ ๆ กลับมาให้ทันอาหารเย็นนะ” คุณแม่จะซีเรียสกับวันอาทิตย์มาก ซึ่งต้องยก
ให้เป็นวันของครอบครัว โดยเฉพาะเวลาทานข้าวต้องพร้อมหน้า พูดคุยกัน
“ฮะแม่” บอกแล้ววินไม่ค่อยพูดครับอย่างเต็มปากเท่าไรนัก ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน

ในที่สุดวินก็ได้ค้างกับแมทสมใจทั้งวิน และทั้งบ้านแมท (รึเปล่า?)  อย่างที่วินเกริ่นไว้
ตั้งแต่ในตอนที่3 แล้วว่า เดือนที่ 2 ย่างเข้าเดือนที่ 3 นี้ ความสัมพันธ์เราจะคืบหน้า
จริง ๆ ไม่อยากจะเล่า เพราะก็เป็นเรื่องส่วนตัว ใคร ๆ คงไม่อยากจะมารู้นักหรอก
แต่ต้องเล่าสักนิดพอเป็นน้ำจิ้ม   เพราะมันคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้แมทแสดงท่าที
เป็นเจ้าเข้าเจ้าของ และทำตัวเหมือนรู้จักวินไปเสียทุกอย่าง และเรื่องราวก็ตึงเครียด
ขึ้นเรื่อย ๆ แต่นั้นมา

“แม่ให้ด้วยหรอ” แมทยิ้ม น้ำเสียงแทบจะสกัดความดีใจไว้ไม่อยู่
“อืม” วินยิ้มตอบ    “พรุ่งนี้ไปกับแม่แมทได้ด้วย” วินพูดต่อ
“โอ้ยยย....ดีอ่ะ” แมทโผเข้ากอดวินทั้งที่นั่งอยู่บนเตียง แล้วหอมวินตรงบริเวณที่ใต้หู
(แมทหอมตรงนี้บ่อยมาก มันทำให้รู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกจริง ๆ)
“ตัวหอมจัง” แมทพูดขึ้นหลังจากหอมวิน   “น้ำหอมอะไรอ่ะวิน - - เปลี่ยนใหม่หรอ”
แมทถามถึงยี่ห้อน้ำหอมนั้น
“ดาวิดอฟ” วินตอนสั้น เพราะวินไมได้เปลี่ยนกลิ่นน้ำหอม ใช้มาเป็นปีแล้วด้วยซ้ำ
และแมทก็เคยได้กลิ่นน้ำหอมนี้อีกต่างหาก ทำเอาวินงง และไม่รู้ว่ากลิ่นนั้นมันเปลี่ยนไป
อย่างไร
“จริงหรอ - - วินใช้มานานแล้วนี่...กลิ่นไม่เหมือนเดิม” แมทตอบกลับ
วินตกใจมาก นึกถึงช่วงเวลาในห้องน้ำกับฟิว  หรือว่านี่เราจะใกล้ชิดกันขนาดนั้น จนทำ
เอาน้ำหอมเปลี่ยนกลิ่น วินคิดไปไกลมาก
“ไม่นะแมท - - ก็เหมือนเดิม” สีหน้าวินคงดูตกใจมาก
“ไหนหอมใหม่ซิ” แมทเข้ามาหอมอีก
แล้วแมทก็จับไหล่ทั้งสองของวินให้เอนตัวลงนอนบนเตียง    ที่แท้มันเป็นมุขของแมท
ทำเอาวินอกสั่นขวัญแขวนไปหมด
“แมทรักวินจัง - - วินไม่ใช่คนแรก...แต่จะเป็นคนสุดท้ายแน่ ๆ” วินไม่คิดเลยว่าแมทจะ
หมายความว่าเช่นนั้นจริง ๆ
วินได้แต่ยิ้ม เพราะตกใจกับการกระทำของแมท อกแมททับอกวินอยู่ตรงนั้น วินรู้สึกถึง
อัตราการเต้นของหัวใจของแมท และคิดว่าแมทก็คงรู้สึกของวินเช่นกัน
แมทก้มหน้าลงมาช้า ๆ แล้วเอาปากประกบกับปากของวิน แล้วจุ๊บเหมือนที่เคยทำ
แมทจุ๊บไปยิ้มไป จุ๊บไปยิ้มไปอยู่ 5 – 6 ครั้ง (แมทตอนนั้นตัวก็หอมมากเช่นกัน บอกแล้ว
ว่าแมทเป็นคนเนี๊ยบ สะอาดสะอ้าน) หลังจากนั้นทุกอย่างเริ่มเป็นเรื่องใหม่สำหรับวิน
เรา French Kiss กันในที่สุด   นั่นคือครั้งแรก วินรู้สึกทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ปล่อยให้แมท
ดำเนินการไป วินก็ได้แต่อยู่เฉย ๆ เราอยู่ในฉากนั้นร่วมนาที แล้วแมทก็เอาหน้าออกมา
แล้วมองวินโดยใช้สายตาสีน้ำตาลอ่อน (อ่อนมากจริง ๆ)ที่หวานมากมองวินอย่างรักใคร่
“ลงไปกินขนมกันดีกว่าครับที่รัก ... จะได้บอกแม่ด้วยว่าพรุ่งนี้วินจะไปกับเรา”
แมทเป็นคนที่รู้จักจังหวะในการจู่โจม รู้ว่าตอนไหนควรเริ่ม และตอนไหนควรหยุด
และเว้นช่วงไว้ก่อน (เรียกง่าย ๆ ว่าทำเป็นนั่นเอง) เพราะยังไงคืนนี้เราก็จะอยู่ด้วยกัน
ทั้งคืนอยู่แล้ว
ใจวินเต้นรัวจนเจ็บหน้าอก นึกว่าเป็นโรคหัวใจเสียแล้วตอนนั้น แมทฉุดวินให้ลุกขึ้น
“จัดเสื้อผ้าให้เรียบก่อนวิน” แมทผู้เนี๊ยบสะอาด พินิจวินแค่ชั่วครู่ก่อนจะเตือนให้จัดเสื้อ
“เดี๋ยวแม่เค้าจะรู้ว่าเรา......” แมททิ้งช่วงไป และเปลี่ยนเป็นร้อยยิ้มเจ้าเล่ห์เล็กน้อย
วินชักรู้สึกว่า แมทคนนี้ที่เรารู้จัก ยังมีอะไรที่ต้องรู้จักให้มากกว่านี้แน่ ๆ


NEXT :

ตอนที่ 7 ความสัมพันธ์...ขยับขยาย
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส
เริ่มหัวข้อโดย: Yurameki ที่ 14-03-2008 16:42:54
 :o8: 


แมททททททท   หวานซ้าาาาาาาา หวานซ้าาาาา

แต่เราจะเชียร์ฟิว คิๆ

รุสึกชอบวิธีขอเบอร์ของพี่ท่านมาก   เราชอบแบบนั้นอะ กร๊ายยย  :m1:

 :oni1:

ตามมาช่วยดันกราทู้ด้วยแหละฮับ แร้วนี่พี่วินนี่ไปไหนง่า  ไปเทียวกะแฟนอยู่เหรอ  :oni2:



หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 14-03-2008 17:32:48
:o8: 


แมททททททท   หวานซ้าาาาาาาา หวานซ้าาาาา

แต่เราจะเชียร์ฟิว คิๆ

รุสึกชอบวิธีขอเบอร์ของพี่ท่านมาก   เราชอบแบบนั้นอะ กร๊ายยย  :m1:

 :oni1:

ตามมาช่วยดันกราทู้ด้วยแหละฮับ แร้วนี่พี่วินนี่ไปไหนง่า  ไปเทียวกะแฟนอยู่เหรอ  :oni2:





อยู่เนี่ยแหละ ยูระ
รอคนมาอ่าน 555
ปล.กระทู้เกือบตกแล้วเชียว
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 14-03-2008 18:21:03
ตามมาอ่านแล้วจ้า  :oni1: :oni1: :oni1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 14-03-2008 18:57:40
ตอนที่ 7 ความสัมพันธ์...ขยับขยาย

ขณะที่ลงมาจากชั้นสามซึ่งเป็นชั้นของแมท   แมทเดินอยู่ข้าง ๆ และโอบวินจากด้าน
ข้างตลอดเวลา  เราสองคนเดินลงมาอย่างช้า ๆ ถ้าเร็ว ตกบันไดแน่ ๆ เล่นกอดกัน
เดินลงมาอย่างนั้น  วินรู้สึกอบอุ่นที่สุดในชีวิต (ไม่นับความรักที่ได้จากครอบครัวนะ)
แมทเป็นคนหุ่นดีประมาณนึงและตัวใหญ่กว่าวิน แค่กอดเบา ๆ ก็ทำให้วินรู้สึกดีได้ไม่น้อย

พอจะถึงบันไดชั้นสุดท้ายเพื่อจะลงไปยังชั้น 1 แมทจึงปล่อยวิน และเดินลงไปด้วยกัน
ตามปกติ
“แม่บอก 10 นาทีไงแมท - - เร็วเข้าขนมเย็ชืดหมดแล้วลูก” คุณแม่แมทเอ่ยขึ้น
เราสองคนหายไปเกือบครึ่งชั่วเห็นจะได้ อยู่ในห้องนอนแมทก็เกือบ 10 นาทีเข้าไปแล้ว
แต่ความรู้สึกระหว่างตลอดเกือบครึ่งชั่วโมงนั้น วินรู้สึกว่ามันไม่ถึง 10 นาทีด้วยซ้ำ
ยิ่งสิ่งที่เกิดในห้องนอนแมทเมื่อครู่ เหมือนเพียง 1 นาทีเท่านั้น
“แม่ - - วินนอนที่นี่ได้มั้ยครับ” แมทถามแม่ สีหน้ายิ้มแย้ม
“อ่าว ก็แม่เพิ่งให้ลูกชวนวินเค้านี่ - - ไว้วันไหนที่บ้านปล่อยวินมากกว่านี้ ก็มานอนได้
ทุกเมื่อเลยนะลูก” คุณแม่ที่ตามมุขลูกชายไม่ทันเอ่ยตอบ
“วันนี้แหละครับแม่” แมทเฉลย
“หรอลูก...”เหมือนคุณแม่จะพูดต่อ แต่คงไม่รู้จะพูดอะไร ก็ได้แต่ยิ้มต้อนรับวินเต็มที่
“แล้วพรุ่งนี้แมทขอขับรถไปคนละคันนะ - - ให้อาตู่ขับให้แม่ละกันนะครับ”
แมทจัดแผนการเดินทางในวันรุ่งขึ้นเสร็จสรรพ ทั้งที่วินเองก็ไม่รู้มาก่อนว่าแมทจะขับไป
กับวินอีกคันหนึ่ง ซึ่งปกติแมทจะเป็นคนขับให้คุณแม่ (ตอนนั้นคุณแม่ยังขับรถไม่เป็น)
“วินไปได้จริง ๆ หรอลูก - - งั้นก็ตามใจลูกสิ.... แต่ค่าน้ำมัน หักจากค่าขนมนะ”
คุณแม่ตอบพลางยิ้มเยาะ
“แม่ทำไม่ลงหรอก   แมทรู้” สองแม่ลูกหยอกกันอย่างน่ารัก
“วินชอบทานอะไรลูก - - เลือกก่อนเลย”
คุณแม่แมทให้วินเลือกขนมในถ้วยเซรามิกสีขาวทรงกลมขอบทองก่อนว่าชอบถ้วยไหน
จำได้แต่ว่าวินเลือกอะไรไป แต่อีกสองถ้วยที่เหลือลืมไปแล้วว่าเป็นอะไร รู้แต่ว่าทาน
ไม่เป็น
“สาคูแล้วกันครับแม่ - - อันอื่นวินไม่เคยทานเลย” วินยิ้มเขิน ๆ ที่กล้าเอ่ยปากเลือก
“รู้มั้ย...นี่ของโปรดแมทเลย - - เด็ก ๆ กินบ่อยมาก ...เค้าจะแซะกินแต่มะพร้าวอ่อน
กับข้าวโพด” คุณแม่รำลึกความหลังสมัยเด็กของแมทให้ฟัง
“แมทชอบจริง ๆ นะ - - แม่ไม่ได้พูดเอาใจ” แมทเสริม ย้ำให้วินรู้ว่าเราชอบเหมือนกัน

คุณแม่แมท และวินนั่งลงที่ตำแหน่งเดิมอีกครั้ง ยกเว้นแมทที่ย้ายมานั่งทางด้านซ้ายของวินแทน (คุณแม่อยู่หัวโต๊ะ ทางขวาของวิน)
“กินด้วยคนนะ” แมทหยิบช้อนจากถ้วยขนมอีกถ้วยหนึ่งที่เหลือตกเป็นของแมท หลังจาก
วินและคุณแม่เลือกถ้วยกันแล้ว ถ้าวินจำไม่ผิดถ้วยของแมทคืนนั้นน่าจะเป็นข้าวเหนียว
ดำราดกะทิหรืออย่างไรนี่แหละ
“แมท น่าเกลียด - - แย่งวินเค้า” คุณแม่ปราม
“ไม่เป็นไรหรอกครับแม่” วินหันไปยิ้มให้คุณแม่
“เห็นมั้ยครับ” แมทเอ่ยกับแม่ของเขา และยิ้มน่ารัก ๆ
เราทั้งสามจัดการกับขนมกันหมดภายใน 10 นาที ส่วนถ้วยของวินหมดก่อนคุณแม่ประมาณ 3-4 นาทีแล้ว เพราะมีแมทช่วยจัด (วินเชื่อแล้วว่าแมทชอบจริง ๆ)
พอวินเงยหน้ามองแมท แทบกลั้นหัวเราะไม่อยู่ วินไม่เคยเห็นแมทลุคนี้เลยจริง ๆ
น้ำกะทิ ติดอยู่ที่หนวดของแมทเป็นแนว (แมทไม่ยอมโกนหนวดจนถึงตอนนั้น แต่ก็เป็นแค่
หนวดเส้นอ่อน ๆ เห็นไม่ชัดมากถ้าไม่อยู่ใกล้ ๆ แต่มันก็ไม่ได้หรอมแหรมหรอกก็มีอยู่ทั้ง
แนวปาก  ซึ่งดูเท่ห์ไปอีกแบบ)
“แมท...ลูก”  คุณแม่ยื่นกระดาษทิชชู่ให้แมท หน้ายิ้มๆ
“จริงหรอแม่...หัวเราะทำไม..ทำไมไม่บอกหละ...ฮึ ๆๆๆ” แมททำเป็นเอามือมาบีบคอวิน
แววตาเขินอาย เรื่องแค่นี้จริง ๆ วินไม่คิดอะไรหรอก แต่แมทมักอยากดูดีเสมอต่อหน้าวิน
“วิน... เดี๋ยวแม่ต้องขอตัวแล้วหละลูก  เราสองคนก็เดี๋ยวต้องไปนอนแล้วนะ พรุ่งนี้ 6 โมง
เช้าแม่จะปลุกนะ อย่านอนดึกกันหละ - - แมทไม่เล่นเกมนะลูกคืนนี้”
ว่าแล้วคุณแม่ก็ลุกขึ้น และเอานิ้วชี้มาเขี่ยแก้มวินเบา ๆ
“แก้มใสจริง ๆ” คุณแม่ก้มลงมาหอมแก้มวินฟอดใหญ่
ลึก ๆ วินทั้งอึ้ง ทั้งตกใจ งงงวย ไม่คิดว่าคุณแม่จะเป็นมิตร (ขนาดนี้) แต่ก็ดีใจที่คุณแม่
ไม่ได้รังเกียจวินแม้แต่น้อย และต้อนรับวินอย่างดี วินไม่รู้ว่าคุณแม่แมท รู้มานานแค่ไหน
ว่าแมทเป็นเกย์ แต่ท่าทีของคุณแม่ที่แสดง ทำให้มันเหมือนเป็นเรื่องธรรมดาทั่ว ๆ ไป
อย่างมาก จะว่าไปคุณแม่ทำเหมือนวินเป็นลูกเขย (หรือไม่ก็สะใภ้) คนนึงเลยทีเดียว

“แม่แมทไม่เคยทำแบบนี้กับใครเลยนะ...แฟนคนเก่าก็ไม่เคย” แมทพูดขึ้น
“จริงหรอ - -แล้วทำไมแม่แมท ....” วินถามแมทต่อ  แต่ไม่จบประโยค
“ก็แมทไม่เคยพาใครมาบ้านไง” แมทแทรกขึ้น
“แมทก็ไม่ได้พาวินมานี่ ... วินขอแมทมาเอง” วินบอก
“อย่าพูดงั้นสิ แมทอยากให้วินมานะ” แมทกล่าว ทำหน้าหวานซึ้ง
“เปล่า....ก็หมายถึงว่าวินมาเอง แมทไม่ได้พามาไง” วินเสริม
จู่ ๆ แมทก็พุ่งตัวเข้ามาจูบวินอยู่ประมาณ 5 วินาทีได้ วินก็ผละออกมา
“แมท เดี๋ยวแม่หรือพี่แสงเดือนมา” วินทำสีหน้าจริงจัง
“ก็แมทบอกวินแล้วไง  ว่าอย่าพูดอย่างนั้น” แมทเถียง
วินนิ่งไปครู่หนึ่ง เพราะรู้สึกแปลก ๆ ที่แมททำอะไรแบบนี้  วินเริ่มคิดมากขึ้นว่าแมท
ที่วินรู้จักก่อนหน้านี้ 7 - 8 เดือน และระยะเวลาที่เราเริ่มคบกันตลอดเกือบ 3 เดือนที่
ผ่านมาไม่เคยทำอะไรเช่นนี้มาก่อน
“วิน . . . โกรธหรอ...” แมทจับไหล่ซ้ายของวินแล้วเอ่ยถามขึ้น
“เปล๊า” วินพยายามทำน้ำเสียงเล่น ๆ กลบเกลื่อน
“ไม่จริงอ่ะ - - แมทขอโทษน้า...นะคร๊าบ น้า...นะ...นะครับวิน” ทันทีที่แมทพูดคำว่า ‘ครับ’
ที่หนักแน่นกว่าคำว่า ‘คร๊าบ’  วินก็คลายความรู้สึกไม่ดีออกไป
“เปล่าจริง ๆ - - วินขออาบน้ำก่อนแมทนะ ง่วงแล้ว” วินพูดพลางลุกขึ้นจากที่นั่ง
“พี่แสงเดือน ... เก็บโต๊ะทีนะ” แมทตะโกนด้วยน้ำเสียงสุภาพ แต่ไม่มีคำว่า ‘ครับ’
(วินมารู้ทีหลังว่าแมทและคุณแม่ค่อนข้างแบ่งชนชั้นอย่างชัดเจนมาก)

เราสองคนเดินขึ้นบันไดไปยังชั้นสาม วินเริ่มตระหนักขึ้นมาว่า วินอยู่ที่นี่ทุกวันไม่ได้แน่ ๆ
หรือต้องรอให้ชินเสียก่อน ถึงจะไต่บันไดของบ้านนี้จนถึงชั้นสามได้ บันไดบ้านแมทเป็น
บันไดลักษณะตีโค้งกว้าง ๆ ยาว ๆ เพื่อลดความลาดชัน แต่ระยะทางจะยาวขึ้นมาก

“อาบด้วยกันมั้ยครับ” แมทพูดติดทะลึ่ง แต่มีคำว่าครับ ทำให้ประโยคนี้ดูสุภาพแบบ
พิกล ๆ    เพราะแมทพูดเหมือนมันเป็นเรื่องธรรมดา ๆ ที่เกิดขึ้นได้เพียงเอ่ยปาก
“ไม่เอา...จะบ้าหรอ” วินไม่ยอมแน่นอนในความรู้สึกนั้น วินไม่มีทางทำอะไรแบบนั้น
มันน่าอายกว่ามีอะไรกันเสียอีก  เวลาอาบน้ำไม่ใช่เวลามาทำเรื่องของหัวใจต้องการ
วินคิดแบบนั้นจริง ๆ
“เหอะหน่า...นะครับ นะนะนะน นะครับ” เอาอีกแล้ว แมทเหมือนจะจับจุดวินได้ว่าวิน
จะใจอ่อนกับคำว่า ‘ครับ’ ของเขา....แต่เสียใจครั้งนี้มันไม่ทำให้วินใจอ่อนแม้แต่น้อย
วินรู้สึกอาย และไม่ชอบมากเกินกว่าจะยอมอ่อนให้กับคำพูดออดอ้อนนั้น
“ไม่เอาแมท... ไม่งั้นวินกลับบ้านละนะ” วินฉุนขึ้นมา รู้สึกว่าทำไมรุกกันเยอะขนาดนี้
“โห... อะไรกันอ่ะ - - ไม่อาบด้วยก็ได้ งั้นคืนนี้แมทไม่อาบน้ำแล้วกัน ขี้เกียจ”
แมทกอดอกทำหน้าบึ้ง
“กว่าวินจะอาบเสร็จ แล้วแมทอาบต่อก็กว่าจะเสร็จ - - ออกมาวินหลับพอดี” แมทพูดต่อ
วินเริ่มฉลาดตามทันคำพูดของแมทบ้างแล้วครั้งนี้ ว่าแมทหมายถึงอะไร
“อาบเหอะ - - ก็อย่าอาบนานสิ. . . แมทวินอาบหละ เดี๋ยวดึก” วินหยิบชุดนอนลายหมี
สีฟ้า (ของแมท) กับผ้าเช็ดตัวอย่างดีผืนใหญ่ที่พี่แสงเดือนเตรียมไว้ให้ขณะพวกเรากำลัง
ทานของหวานกันอยู่ เดินเข้าห้องน้ำไปโดยไม่รอฟังคำตอบใด ๆ
“เร็ว ๆ นะครับที่รัก” คำพูดนี้ทำให้วิน อาบเสร็จภายใน 10 นาที
“นานมาก” แมทเอ่ย ทันทีที่วินเปิดประตูออกมา
“นี่เร็วที่สุดแล้วแมท” วินยิ้มแล้วตอบ
ตอนนั้นวินยังตัดรองทรงสูงตามระเบียบของโรงเรียนรัฐบาล เลยไม่มีความจำเป็นใดต้อง
ใช้ครีมนวด แค่สระ ๆ ก็พอแล้ว ส่วนแมทโรงเรียนอนุญาตให้ไว้ผมยาวได้มากกว่าวิน
แต่ก็ไม่ยาวมาก แมทเลยมักใช้ครีมนวดผม เลยน่าจะเป็นสาเหตุทำให้แมทผมนิ่มรึเปล่า
ก็ไม่รู้   แมทใช้เวลาอาบน้ำสั้นกว่าวินนิดหน่อย แต่ก็เดินหอมฟุ้งออกมา  ราวกับว่าใช้สบู่
ครั้งละก้อนในการอาบน้ำอย่างนั้นเลย

แมทใส่ผ้าคลุมอาบน้ำแบบผูกเชือกตรงเอว ออกมาจากห้องน้ำ  แล้วเดินเข้าไปในห้อง
เสื้อผ้า  ส่วนวินนอนดู UBC (ที่ตอนนั้นบ้านวินยังไม่มีเลย) อยู่บนเตียงในชุดนอนลายหมี
สีฟ้า ตัดกับเตียงสีเลือดหมูซะไม่มี   เพียงไม่ถึง 1 นาที แมทก็เดินออกมาจากห้องเสื้อผ้า
โดยนุ่งกางเกงเลสีดำมาเพียงตัวเดียว    วินค่อนข้างอึ้ง ๆ ที่ชุดนอนของเราสองคน
มันช่างแตกต่างกันเหลือเกิน ซึ่งก่อนหน้านี้วินคาดว่าชุดนอนของแมทก็คงไม่ต่างอะไร
จากของวินมานัก เพราะที่วินใส่อยู่มันก็คือของแมทนี่นา   แมทเป็นคนหุ่นดีอย่างที่เห็น
จากภายนอกจริง ๆ ถึงจะไม่ได้ดีอะไรมากมายขนาดนายแบบ (อย่างฟิว) แต่ก็ถือว่าใช้ได้
วินมองแมทตอนเดินออกมาเพียงแป๊บเดียว แล้วทำทีหันไปสนใจทีวีต่อ
“เรื่องอะไรครับ” แมทถามพลางสวมเสื้อคอกลมสีขาว ที่ถือติดมือมา
“ไม่รู้อ่ะ...ไม่ได้ดูตั้งแต่แรก” วินตอบ
“ก็ดูแมกกาซีนสิครับ” น้ำเสียงหวาน ๆ และคำพูดสุภาพ ๆ เริ่มมีให้วินได้ยินอีกครั้ง
“แมกกาซีนอะไร” หลาย ๆ คนคงรู้ว่าแมทหมายถึงอะไร (แมกกาซีนรายชื่อหนังที่จะฉาย
ของแต่ละช่อง) แต่วินไม่รู้เลย แอบนึกไปว่าเป็นพวกนิตยสารคลีโอ, เซเว่นทีนด้วยซ้ำ
“เห้อ.....เหนื่อยจัง” แมทไม่ได้ตอบคำถามของวิน แล้วก็กระโดดขึ้นเตียงแบบทิ้งตัวลงมา
พอทำให้วินสั่นสะเทือนไปด้วย
“อื้มมมม......วันนี้ไม่เหมือนวันไหน ๆ เลย แมทไม่ได้นอนคนเดียวในรอบกี่ปีก็ไม่รู้”
แมทเอื้อมมากอด และเอาหน้าซบที่หน้าท้องวิน (ที่สมัยนั้นแบนราบ) ที่กำลังกึ่งนั่งพิงกึ่ง
นอน โดยเอาหมอพิงกับหัวเตียงไว้   วินเล่นผมแมทที่นอนอยู่  ผมแมทชื้น ๆ มันช่างนิ่ม
มาก และตรงแหน่ว
แมทพลิกตัวหันหน้าเข้าหาท้องวินและมองหน้าวินแทนจากเดิมที่ดูทีวีอยู่
“ขอบคุณนะวิน.....” แมทเอ่ย
“เรื่องอะไร” วินถาม
“สำหรับทุกอย่าง - - ที่คบกับแมท....ทำให้แมทมีความสุข....ถึงแมทจะไม่มีพ่อ...แต่วินก็
ถือเป็นส่วนเติมเต็มชีวิตให้แมท” แมทสาธยาย ทำหน้าหวานซึ้งกินใจสุด ๆ
“แมท . . วินก็ไม่ได้ดีอะไรดีขนาดนั้นหรอกนะ. . . ถึงแมทจะไม่ได้พร้อมทางครอบครัว - -
แต่แม่ของแมทเค้าก็พยายามจะเติมเต็มชีวิตให้แมทอย่างเต็มที่....วินเชื่องั้นนะ”
วินก้มหน้ามองแมทแล้วกล่าวขึ้น
“แม่และวิน คือสิ่งมีค่าและสำคัญที่สุดในชีวิตแมท - - วินอย่างทิ้งแมทไปก็แล้วกัน”
วินรู้สึกดีมาก.... โดยที่ไม่คิดเลยว่าคำพูดเหล่านี้เป็นสัญญาณเตือนต่าง ๆ มากมาย
 “แต่ก่อนแมทมีแต่แม่ก็จริง - - สิ่งที่แมทขาดไม่ได้คือแม่....แต่ตอนนี้คือแม่และวิน”
(แมทหมายความตามนั้นทุกประการ)
“พอเหอะ...จะลอย” วินตัดบท  เพราะวินไม่ค่อยชอบฟังเรื่องราวดราม่าของใครนาน ๆ

เรานั่งมองหน้ากันอยู่ครู่หนึ่ง แมทลุกขึ้นโดยที่หน้าของเราทั้งสองอยู่ใกล้กันอีกครั้ง
“แมท . . . วินกลัว”  วินไม่ได้หมายความตามนั้น แต่วินเป็นคนที่ขี้เขินเอามาก ๆ รู้สึก
แต่ว่าต้องพูดอะไรแก้เขินหน่อย
แต่แมทเหมือนไม่ได้ยินคำพูดของวินแม้แต่น้อย แมทยังคงทำตาหวานซึ้ง มองวินไม่ลดละ
และฉากใหม่ก็เริ่มขึ้น  จูบครั้งที่ 2 วินเริ่มเป็นขึ้นมาบ้างแล้ว
“เก่งนะเนี่ย” แมทพูดขึ้นแผ่ว ๆ จนดูเหมือนแทบไม่ได้ขยับปาก
น้ำเสียงที่ไม่คุ้นเคย ถ้าเป็นเดี๋ยวนี้วินคงเรียกน้ำเสียงนั้นว่า ‘หื่น’ เพียงแต่ตอนนั้นเคย
ได้ยินแต่คำนี้ในหนังสือพิมพ์
วินใจเต้นแรงมาก (ครั้งแรกนี่) วินอยู่แต่กับบ้าน และเป็นลูกติดแม่เสมอมา ถึงแม้วินจะ
เป็นผู้ชาย ไม่มีอะไรจะเสีย วินไม่ท้อง แต่อย่างไรภาพหน้าพ่อแม่ก็ลอยเข้ามา และความ
รู้สึกนึกคิดก็ตีกันไปมาอีกครั้ง (ตั้งแต่วินมีแมทและฟิว ความรู้สึกแบบนี้เกิดขึ้นแทบทุกวัน)
ความรู้สึกที่ว่า ‘เราไม่ควรทำ’ กับ ‘นี่คือสิ่งที่เราต้องการ’ คงมีคนอยู่ไม่น้อยที่ฝืนความต้อง
การของตนเองไม่ได้ และวินก็คือ 1 ในนั้น    แมทดึงตัววินให้นอนลงบนหมอน และแมท
ประคองหัวไหล่วินไว้ เหมือนในละครไม่มีผิด มันช่างสวยงามไปเสียหมดทุกอย่างใน
เวลานั้น  แมทถอดเสื้อคอกลมของเขา และจับมือวิน ไปคล้องคอของเขา เหมือนเต้นลีลาศเลย และการปะทะ Kiss ก็เกิดขึ้น และยาวนานกว่าครั้งไหน ๆ
และทุกอย่างก็เปลี่ยนไป เป็นเรื่องใหม่ทั้งหมด วินไม่รู้สึกขัดเขิน หรืออะไรอีกแล้ว
ขณะนั้นมีเพียงแสงไฟจากทีวีเท่านั้น (วินต้องขอบอกก่อนว่า เราลึกซึ้งกันเหมือนคนทั่ว ๆ
ไป  แต่สิ่งที่วินเว้นไว้ และเว้นไว้จนถึงปัจจุบัน ในคืนนั้นแมทไม่ได้ทำอะไรที่วินต้องเจ็บตัว
หลาย ๆ คนคงคิดว่าการลึกซึ้งของชาย – ชาย ก็คือการมีอะไรกันในส่วนที่เค้าไม่ได้มีไว้
เพื่อให้มีอะไรกัน   ดังนั้นวินจึงไม่เคยยอมให้ใครทำให้วินต้องเจ็บตัวในส่วนที่เค้ามี
ไว้เพื่อการอื่นเลย . . . นี่คือสิ่งที่วินทำแตกต่างไปจากหลาย ๆ คนมาจนถึงปัจจุบัน
และแมทก็เป็นคนที่ดีเสมอมา แม้ว่าแมทจะเคยร้องขอหลายครั้ง เมื่อวินปฏิเสธ โดยให้
เหตุผลว่า ‘วินให้ทุกอย่าง ขอแค่อย่างเดียว วินให้ไม่ได้’ แมทก็เข้าใจเสมอ และไม่เคย
บ่นแม้แต่คำเดียว) ทุกอย่างสิ้นสุดลง โดยวินเองก็ไม่รู้ว่ามันใช้เวลาไปเท่าไหร่
แมทหอมที่แก้มบริเวณใต้หู ก่อนที่จะปิดทีวีนอน วินนอนหันหลังให้แมท โดยมีแมทนอน
กอดวินอยู่ตลอดทั้งคืน    แม้กลางดึก  วินจะลุกไปเข้าห้องน้ำ เมื่อกลับมา แมทก็จะ -
พลิกตัวมากอดไว้อีกครั้ง กระทั่งตอนเช้า.......


_____________________________________________________________





ตัวอย่าง "บางช่วง" ของตอนต่อไป (ทำเป็นไฮโซ) :

ตอนที่ 8 สระบุรี...กับคุณแม่ (เริ่มร้าย)

...................
อย่างที่วินบอกไว้ว่า แต่นี้ต่อไปเวลาแห่งความสุขของวินมักสั้นเสมอ  ระหว่างที่เรากำลัง
เดินเพื่อไปหาคุณแม่ของแมทนั้น โทรศัพท์ก็ดังขึ้น
“ xx-xxx-x777” เบอร์ใหม่ที่เริ่มคุ้นเคย ปรากฏขึ้น  ตั้งแต่เมื่อวานหลังจากวางสายฟิวไป
วินลืมนึกถึงเขาไปเสียสนิท  วินรับสายของฟิว ในขณะที่แมทก็ไม่ได้หันมามองแต่อย่างใด
“สวัสดีครับ...คนน่ารัก”

............................

“ใคร” เสียงเข้ม ๆ ถามมาสั้น ๆ จากแมท (อย่างที่บอกแมทจะไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว)
“เพื่อน....” วินเอาโทรศัพท์ลงมาแนบกับอก แล้วกระชิบตอบเบา ๆ
“เพื่อน ? แล้วทำไมต้องกระซิบด้วย” แมทถามต่อ...เอาแล้วไง นี่เราเผลอเรออะไรขนาดนี้
“ไหน...”  แมทดึงโทรศัพท์ออกจากหูวิน

.............................

“วินรักแมทมากนะคุณแม่”  วินตอบคุณแม่ไปแบบตัวชา ๆ
“แม่ไม่สนว่าวินจะรักมากแค่ไหน รักได้ ก็เลิกรักได้ - - แม่ต้องการแค่ให้วินรับปากกับแม่
ว่าเรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก - - และวินก็ต้องไม่ทิ้งแมทไปไหน” คุณแม่พูดต่อไป
คำพูดเหล่านี้ทำให้ความรู้สึกของวินที่มีต่อคุณแม่เปลี่ยนไปจากเมื่อวานอย่างสิ้นเชิง


............................................


หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 14-03-2008 20:03:56
ทำไมอ่านๆ ไปยังนึกไม่ออกว่า คุณแม่กับแมทจะร้ายกับวินได้มากแค่ไหน  :m13: :m13:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส
เริ่มหัวข้อโดย: LingNERD* ที่ 14-03-2008 20:53:15
โอ้ว คุงแม่จะร้ายแล้วหรอเนี่ย

สู้ๆๆๆๆคับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส
เริ่มหัวข้อโดย: duchess ที่ 14-03-2008 21:43:06
 :m29:

รู้มั้ยคับ

อ่านแร้วนึกถึงอะไร

 o7

สงครามนางฟ้ดชัดๆ เรย

ฮือๆๆๆ สงสารวินนะ

ไอ้แมท บ้า

 o12

ป.ล.นี่ดีนะที่ตัวร้ายเปนแม่แมท ไม่มีเชอร์รี่

ไม่งั้นคงต้องวอนโดนตบแน่นอน
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 14-03-2008 21:55:19
:m29:

รู้มั้ยคับ

อ่านแร้วนึกถึงอะไร

 o7

สงครามนางฟ้ดชัดๆ เรย

ฮือๆๆๆ สงสารวินนะ

ไอ้แมท บ้า

 o12

ป.ล.นี่ดีนะที่ตัวร้ายเปนแม่แมท ไม่มีเชอร์รี่

ไม่งั้นคงต้องวอนโดนตบแน่นอน

ถูกต้องแล้วที่คิดถึงเรื่องนี้ 555+
เพราะแรงบันดาลใจให้เขียนเรื่องนี้
เพราะชีวิต (เกือบ ๆ )รันทด
เหมือนพี่แอร์กี่งายยย
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 14-03-2008 22:10:24
ตอนที่ 8 สระบุรี...กับคุณแม่ (เริ่มร้าย)

ด้วยความที่วินเป็นคนนอนแปลกที่ทางแล้วจะนอนไม่ค่อยหลับ วินจึงหลับ ๆ ตื่น ๆ อยู่
เกือบจะทั้งคืน เลยทำให้วินตื่นก่อนแมท และคุณแม่เล็กน้อย เพราะดูที่นาฬิกา เวลาก็
ใกล้จะ 6 โมงเช้าแล้ว  วินจึงลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำและแปรงฟัน โดยใช้แปรงของแมท
ที่เจ้าตัวอนุญาตไว้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว (วินรู้สึกได้ด้วยจิตสำนึกเลยว่า นี่ความสัมพันธ์ของ
เราทั้งสองไม่เหมือนเมื่อวานนี้อีกต่อไป)    วินไม่เคยใช้แปรงสีฟันร่วมกับใครมาก่อน
แต่วินก็ไม่ได้รู้สึกรังเกียจ หรือรู้สึกว่าต้องล้างแปรงจนสะอาด วินเพียงเปิดน้ำใส่หัวแปรง
แล้วบีบยาสีฟัน แปรงไปตามปกติ
แมทคงได้ยินเสียงน้ำ และเสียงใช้ห้องน้ำของวิน จึงมาเคาะที่หน้าประตูห้องน้ำ

“ตื่นแล้วหรอครับวิน” แมทพูดขึ้นแหบ ๆ แบบคนงัวเงียเพิ่งตื่นนอน
“อืม”  วินส่งเสียงตอบได้ไม่มาก เพราะยาสีฟันยังเต็มปากอยู่
“เปิดให้แมทเข้าไปหน่อย...แมทปวดฉี่”  วินไม่รู้สึกตกใจหรืออึ้งอะไรกับสิ่งเหล่านี้อีกแล้ว
รู้สึกด้วยตัวเองด้วยว่า  เราโตขึ้นจากเมื่อวานไม่มากแต่ก็ไม่น้อย และเหมือนเรา
สามารถทำอะไรร่วมกันได้มากขึ้น  วินจึงเปิดประตูให้แมทเข้ามาโดยไม่ลังเล
แมทเอี้ยวตัวมาหอมที่แก้มวินที่กำลังยืนแปรงฟันอยู่ และยิ้มมุมปากให้วินผ่านในกระจก
แล้วจึงเดินไปทำธุระของเขา
“เสร็จแล้ววินบีบยาสีฟันให้แมทไว้หน่อยนะครับ” สิ่งที่ยังเหมือนเดิมคือความสุภาพของ
แมทที่มีต่อวิน
“อืม” ยาสีฟันยังคงเต็มปากวินอยู่
เสร็จธุระ  แมทก็ปิดฝาส้วม และนั่งรอวินแบบงัวเงีย ๆ พลางเอามือขยี้ตา (ที่วินจำได้
เพราะเป็นภาพของแมทที่วินไม่เคยเห็นมาก่อนในตอนนั้น แมทในเสื้อคอกลม กับ
กางเกงเล ที่ดูธรรมดา ๆ และท่าทีแบบไม่ต้องวางฟอร์มใส่กัน)
วินล้างแปรงอย่างสะอาด และบีบยาสีฟันตามที่แมทบอกเมื่อสักครู่ และหันไปยื่นให้แมท
แมทลุกขึ้น และคว้าต้นคอวินเข้าไปหา และหอมที่คอวิน 1 ครั้ง ทำเอาวินขนลุก

“วินไปรอข้างนอกก่อนนะครับ แมทเตรียมชุดไว้ให้แล้ว” แมทบอก
นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่วินต้องแต่งตัวนอกห้องน้ำ เพราะปกติวินเป็นคนขี้อาย ไม่มีทางที่
ใครจะได้เห็นมังสาของวิน         แต่วินก็เข้าไปแต่งตัวในห้องเสื้อผ้าของแมทเสร็จก่อนที่
แมทจะเดินออกมา  ถึงแม้จะผ่านเรื่องราวตลอดเมื่อคืนมา วินก็ยังอายแมทอยู่ดี จึงต้อง
รีบ ๆ แต่งตัว    แมทออกมาโดยมือถือเสื้อคอกลมของเขาอยู่ในมือ  พอเจอวิน แมทโยน
เสื้อของเขาใส่วิน จนคลุมหัววินไว้
“อับดุลเอ๊ย” แมทเล่นมุขแต่เช้า และหัวเราะชอบใจ
วินเอาเสื้อออกแล้วหัวเราะกับมุขตลกของเขาไปด้วย  วินมีความสุขเหลือเกินในเช้าวันนั้น
ไม่รู้สึกง่วงหรือปวดหัวแต่อย่างใด ซึ่งปกติถ้าวินตื่นเช้า ทั้งที่เมื่อคืนนอนดึก อารมณ์วินจะ
ไม่ค่อยดีไปเกือบตลอดวัน
“แมทแต่งตัวก่อนนะครับ” แมทใช้นิ้วโป้งเขี่ยแก้มวินเบา ๆ  ไม่รู้ว่าทำไมทุกอย่างมันถึงได้
ดูดี และสวยงามไปหมดเช่นนี้
ไม่นานคุณแม่แมทก็มาเคาะที่ประตูห้อง และก็เปิดเข้ามา  ทำเอาวินตกใจมาก นี่เมื่อคืนนี้
แมทไม่ได้ล๊อคห้องอย่างนั้นหรือ  ถ้าเป็นที่บ้านวินเมื่อวินเคาะห้องคุณพ่อคุณแม่ วินจะรอ
ให้ท่านตอบก่อนจึงจะเข้าไปได้  แต่วินก็ไม่ได้รู้สึกแปลกหรือเอะใจอะไรทั้งนั้น เพราะมันก็
เป็นเรื่องปกติ นี่บ้านของท่าน และนี่ก็ห้องลูกชายสุดที่รัก วินจึงคิดเรื่องนี้อยู่เพียงวูบเดียว
เท่านั้น เหลือแต่ความตะลึงที่ตลอดเมื่อคืนนี้ห้องนอนของแมทไม่ได้ล๊อค
“ครับแม่...เสร็จพอดีเลย  - - พอดีวินตื่นก่อนเวลาอีก แมทเลยเสร็จเร็วไปด้วย” แมทตอบ
“ขอบใจวินนะลูก....แหมมีวินเข้ามาในบ้านเรานี่อะไร ๆ คงดีขึ้นเนอะ“
คุณแม่ยิ้มให้วินอย่างเอ็นดูเป็นครั้งแรกของวัน  แต่จริง ๆ ถ้าวินมาค้างที่บ้านนี้จนชินที่
ชินทางแล้ว คงตื่นสายกว่าแมทเสียอีก
“ตู่...วันนี้คุณแมทจะเอารถออก . . . และเธอก็มาขับรถให้ชั้นด้วยนะวันนี้”
คุณแม่ที่เพิ่งออกไปจากห้องนอนแมทได้สักครู่ ตะโกนขณะลงบันไดไป  ร้องเรียกคนขับรถ
เราสองคนเดินลงมาถึงชั้นล่าง โดยที่คุณแม่กำลังยืนดูอาตู่ (คนขับรถ) เช็ดรถของแมทอยู่
“อาตู่ - - ไม่ต้องเช็ดดีอะไรมากหรอกครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าค่อยเช็ดก็ได้ ก่อนแมทไปเรียน”
แมทบอกอาตู่ เพราะคงกลัวว่าเดี๋ยวยังไงก็ต้องไปเผชิญฝุ่น และพรุ่งนี้ก็ต้องเอารถไปเรียน
อยู่ดี เลยไม่อยากให้เช็ดอะไรมากมาย
“ครับ คุณแมท” อาตู่ตอบ 
“งั้นไปเลยตู่ - - เดี๋ยวรถจะติด” คุณแม่พูดกับคนขับรถ
“แม่ครับ ยังไม่เจ็ดโมงเลย และวันนี้ก็วันอาทิตย์...รถไม่ติดอะไรซะหน่อย - - แล้วทุกครั้ง
ที่เราไปสระบุรี เราก็ขึ้นโทลเวย์จนถึงรังสิตเลยนี่ครับ - - ไม่ต้องรีบนะอาตู่ ขับดี ๆ”
แมทสาธยาย แสดงความเป็นลูกผู้ชายคนเดียวในบ้าน จนวินรู้สึกได้

“วินเงียบเลยลูก - - เมื่อคืนเพลียหรอ” วินค่อนข้างแปลกใจกับคำพูดบวกกับสีหน้าของ
คุณแม่  วินไม่สามารถเดาได้ว่าท่านหมายความว่าอย่างไรกันแน่ ท่านหมายความเช่นนั้น
จริง ๆ หรือต้องการแซวเรื่องของเราที่ ‘อาจ’ เกิดขึ้นได้เมื่อคืนในสายตาของท่าน  แต่วินก็
ยังคงกดความรู้สึกตัวเอง และเบี่ยงประเด็นในความคิดที่คิดไว้ตั้งแต่เมื่อคืนว่า ‘ท่านมี
ความเป็นวัยรุ่น…และไม่หัวโบราณ’ และวันนั้นคุณแม่แมทก็แต่งตัวได้วัยรุ่นมาก กางเกง
ผ้ายืดรัดเข้ารูปสีขาว เสื้อสีครีมออกเหลือง ๆ เข้มขัดชาแนลสีดำ หัวสีเงินเงาวับ และห้อย
กระเป๋าหลุยส์ วิทตองไว้ที่แขบพับ นาฬิกาสายดำไม่รู้ยี่ห้อ และยังทัดแว่นตากันแดดกุชชี่
ไว้เหมือนที่คาดผม (วินนี่ช่างสังเกตจริง ๆ) คุณแม่ผัดเพียงแป้งฝุ่นและทาลิปมันเท่านั้น
ท่านเป็นคุณแม่ที่ดูดีเสียจริง ๆ
“คุณแม่....” แมททำเสียงแผ่ว ๆ ใส่คุณแม่ ขณะที่วินได้แต่ยิ้มเจื่อน ๆ อยู่ข้าง ๆ
ท่านยิ้มเล็กน้อย แล้วเอาแว่นตากันแดดลงมาสวมไว้ที่ตา และเข้าไปในรถที่อาตู่เปิดรอไว้
วินาทีนั้นวูบหนึ่ง วินนึกถึงท่าทางของตัวร้ายในฉากหนึ่งของละครขึ้นมาในความคิด
“วิน...” แมทจับตัววินที่กำลังทึ่ง ๆ อึ้ง ๆ อยู่นานตั้งแต่มายืนอยู่ตรงนี้
“ฮึ . . .” วินตอบ
“ง่วงรึเปล่า - - หลับบนรถก็ได้นะ” แมทเอี้ยวตัวมามองหน้าวิน ที่สีหน้าคงไม่สู้ดีนัก
“ไม่ ๆ - - ไม่ง่วง” วินตอบไป
“ปะ...งั้นเราไปกันเหอะครับ” แมทเดินอ้อมไปที่ฝั่งคนขับ (แหมนึกว่าจะเปิดประตูให้เรา
ซะอีก  บอกแล้วแมทเป็นคนตรง ๆ ไม่ทำอะไรเพื่อเอาใจโดยที่ตัวเองไม่ได้รู้สึกเด็ดขาด)
วินเปิดประตูลงไปนั่งในรถ รู้สึกอึดอัดขึ้นมาด้วยเหตุอันใดก็ไม่รู้  รู้สึกคิดผิดที่จะไปเที่ยว
สระบุรีในวันนี้   เราพูดคุยกันนิดหน่อย แต่วินคุยไม่มากนักตลอดทางจนถึงแถวดอนเมือง

“วินมีเศษเงินมั้ย - - แมทมีแต่แบงค์ร้อย” แมทหันมาถามก่อนจะถึงตู้จ่ายค่าโทลเวย์
“แมท - - วินลืมกระเป๋าตังค์ไว้ที่บ้านแมทอ่ะ” วินเอ่ยหลังจากจับที่กระเป๋ากางเกงตัวเอง
“สงสัยยังติดอยู่ในกางเกงตัวเมื่อวาน” วินบอกต่อ
“ไม่เป็นไรครับ - - ให้แบงค์ร้อยเค้าไปก็ได้” แมทยิ้มให้ แสดงสีหน้าให้รู้ว่าไม่เป็นไรจริง ๆ
ก่อนจะเขยิบหยิบกระเป๋าสตางค์ในกระเป๋าหลังกางเกงตัวเอง (แมทชอบเอากระเป๋า
สตางค์ไว้ที่กระเป๋าหลัง   ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน)

ภายใน 5 นาทีเราก็ลงจากโทลเวย์มาถึงรังสิต วินไม่รู้ว่าแมทขับรถเร็ว
หรือว่าเพราะรถไม่ติด

“เนี่ยวิน โรงกษาปณ์ ... ที่ผลิตเหรียญ” แมทชี้ให้วินดูโรงกษาปณ์ทางขวามือ
“หรอ” วินหันไปมอง รู้สึกสนใจ  แมทรู้อะไรเยอะดี ตอนนั้นวินเหมือนกบในกะลา
รู้อะไร ๆ น้อยมาก

เราคุยกันเรื่องนั้นเรื่องนี้กันตลอดเกือบ 2 ชั่วโมงจนเกือบจะถึงที่หมาย แล้วโทรศัพท์ของ
แมทก็ดังขึ้น

“ครับแม่” แมทรับโทรศัพท์
“หรอแม่ . . . แมทเลยมาแล้วอ่ะครับ” วินไม่รู้ว่าแมทกับคุณแม่พูดเรื่องอะไรกัน
“แม่ทานคนเดียวได้มั้ย - - หรือจะให้แมทเลี้ยวกลับไป” แมทตอบ
“ครับ ๆ - - ครับ....เจอที่โรงงานเลยแล้วกันนะครับ” แมทวางสายไป
“แม่บอกให้แวะกินข้าวกันที่ ‘ชื่อร้าน’ “   วินลืมชื่อร้านไปแล้ว จำได้ว่าชื่อแปลก ๆ
“อ่าวเพิ่งเลยมาตะกี๊เองนี่” ร้านอยู่ริมถนน พอทำให้วินมองเห็นชื่อร้าน ที่เราผ่านเมื่อสักครู่
“อืม - - แมทนึกว่าแม่จะถึงโรงงานแล้วนะเนี่ย” แมทกล่าว
“ไม่มีที่ให้เลี้ยวกลับหรอแมท” วินถาม ในใจไม่อยากให้คุณแม่ต้องเสียความตั้งใจ และ
ต้องนั่งทานมื้อเช้าเพียงลำพัง
“ช่างเถอะ . . . แม่ไม่ว่าอะไรหรอก”   .....เป็นอย่างนั้นจริง ๆ ก็ดีสิแมท
“หรอ…อืม ๆ” วินตอบ

เราสองคนมาถึงที่โรงงานในที่สุด โรงงานของที่บ้านแมท ไม่ใช่โรงงานใหญ่โตมากนัก
แต่ก็ไม่ใช่โรงงานเล็ก ๆ อยู่ดีสำหรับวิน

“แมทถึงแล้วนะครับแม่” แมทหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาตอนไหนก็ไม่รู้
“ครับ” แมทวางโทรศัพท์ไป
“แม่ยังอยู่ที่ร้านอยู่เลยวิน...ไปเดินดูโรงงานกันมั้ย”
แมทหันมาถามวินหลังจากวางโทรศัพท์ไป
“เอาสิ ๆ”   วินรู้สึกอยากเดินดูกิจการของบ้านแฟนเหมือนกัน
“จุ๊บทีนึง” แมทยื่นหน้าเข้ามา  และวินก็สนองตอบโดยจุ๊บแมทไป 1 ที
“ไปดูกัน ว่ากิจการของเราสองคนในอนาคตเป็นยังไง” แมทยิ้มหวานให้ก่อนจะดับเครื่อง
และเปิดประตูออกจากรถ ไปพร้อม ๆ กับวิน

อากาศตอน 8 โมงนิด ๆ ที่สระบุรีสดชื่น และมีลมเย็น ๆ เป็นบรรยากาศที่ดี ที่กรุงเทพฯ
ของเรานั้นไม่ค่อยมีให้สัมผัสนัก

“ดีค๊า...น้องแมท” พนักงานสาวสวย ตัวเล็ก ๆ เดินดิ่งเข้ามาทักแมท
“สวัสดีค่ะ....” พนักงานคนเดิมหันมาพยักหน้าทักวินอย่างสุภาพ
“นี่วินครับ - - เพื่อนแมท” แมทเอามือล้วงกระเป๋า ในเสื้อโปโลสีขาวกับกางเกงยีนส์สีดำ
ทำให้แมทดูภูมิฐานมากในตอนนั้น
“เรียนที่เดียวกันหรอค่ะน้องวิน” พนักงานสาวคนนั้นถามต่อ
“เปล่าครับพี่ไอริน - - คนละที่กัน” แมทตอบแทน

พนักงานชื่อสวยสมกับหน้าตาเสียจริง ๆ   หลังจากแมทตอบพี่ไอรินก็ทำหน้าแปลก ๆ
หลุดออกมาให้เห็นชั่วครู่ เหมือนคิดว่า ‘แล้วรู้จักกันได้ไง’ แล้วหันไปคุยกับแมทต่อ

“คุณแม่หละน้องแมท - - แล้วทำไมวันนี้มาคนละคันกันละคะ” พี่ไอรินถาม
“ทานข้าวอยู่เลยครับ พอดีแมทมาเร็วกว่า ตอนคุณแม่โทรมาชวน แมทก็เลยมาแล้ว”
แมทอธิบาย แต่ไม่ได้ตอบคำถามพี่ไอรินว่าทำไมแยกมาคนละคัน
คนรอบตัววินในตอนนั้น ดูจะฉลาดเสียเหลือเกิน พี่ไอรินทำหน้ากรุ้มกริ่มมองหน้าวิน
แปลก ๆ  วินยิ้มตอบเป็นมารยาท ทั้งที่คิดในใจว่า ‘นี่แกคิดอะไรของแกอยู่ฮึ !?’

“งั้นเข้ามานั่งรอข้างในกันนะคะ” พี่ไอรินชวน
“ไม่เป็นไรครับพี่ไอริน....แมทว่าจะพาวินเดินดูโรงงานอ่ะครับ”
แมทพูดจบ พี่ไอรินยิ่งมีสีหน้าที่ฉงน สงสัยกับการมาครั้งนี้ของวิน
“ไป...วิน เดินเล่นกัน” แมทหันมาพูดกับวิน    วินคิดว่าพี่ไอรินจะเดินกลับเข้าไปตั้งแต่
แมทปฏิเสธที่จะเข้าไปนั่งรอ   แต่พี่เธอกลับยืนฟังบทสนทนาของแมทที่พูดกับวิน
ซึ่งแมทเองก็ดูเหมือนว่าไม่มีทีท่าจะใส่ใจกับพี่ไอรินที่กำลัง ‘มอง ’ และ ’ฟัง’ อยู่ตรงนั้น

“พี่ไอริน...จะไปทำอะไรก็เชิญนะครับ” แมทพูดขึ้น  วินรู้สึกอยากปรบมือให้แมทเสีย
ตรงนั้น  ถ้าไม่ติดที่บังเอิญรู้ว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ
“ค่ะ” พี่ไอรินตอบสั้น ๆ   ผู้หญิงคนนี้ในตอนนี้วินรู้สึกกับเธอแตกต่างไปจากแรกพบ
อย่างสิ้นเชิง   เธอไม่ได้ทำอะไรให้วินหรอก อันนี้เป็นความรู้สึกส่วนตัว (ที่ไม่ค่อยดีนัก)
ของวินก็เท่านั้นเอง  วินเพียงไม่ค่อยชอบใจที่เธอมีท่าทีใคร่รู้ และยืนฟังที่เราคุยกัน
“นี่ถ้าแมทไม่ไล่ให้พี่เค้าไป เค้าคงจะไปเดินกับเราเลยมั้ยเนี่ย”  วินแสดงความไม่พอใจ
ออกมาเสียเฉย ๆ ไม่รู้นิสัยรู้จักเก็บอาการหายไปไหนหมด
“ทำไมอ่ะวิน - - เป็นอะไร” แมทดูงง ๆ (ก็จะไม่ให้งงได้ไงหละ)
“เปล่าหรอก . . . วินแค่ไม่ชอบที่พี่เค้ามายืนฟังที่เราคุยกัน - - แล้วเมื่อกี๊เค้าก็ซักนู่นซักนี่
ว่าแม่แมทอยู่ไหน   ทำไมไม่มาด้วยกัน และก็ทำหน้าแปลก ๆ ตอนที่แมทบอกจะพาวินไป
เดินเล่น...ก็เลยไม่พอใจนิดหน่อย”   อ่าวนี่วินเป็นอะไรไป แต่มันเกิดจากความรู้สึกที่ว่า
ไม่อยากให้ใครมองเราสองคนด้วยสายตาทำนองนั้นแค่นั้นเอง
“จริงหรอ - - ทำไมวินไม่บอกแมท” แมทถาม (แล้ววินจะบอกได้ไงหละ ถ้าวินบอกแมท
วินพูดกับพี่เค้าเองตรง ๆ ไม่ดีกว่าหรอ) วินลดความรู้สึกเมื่อสักครู่ลงทันที  เมื่อดูเหมือน
ว่าแมทจะทำเป็นเรื่องใหญ่กว่าที่วินทำอยู่
“บ้าหรอแมท...ไม่ได้อะไรซะหน่อย” วินตอบ

จากนั้นแมทดึงมือวินเข้าทางเดินที่จะนำเราไปสู่บริเวณรอบ ๆ โรงงาน      แม้วินจะรู้สึกว่า
มันประเจิดประเจ้อไปหน่อย แต่ก็ไม่รู้สึกมากพอที่จะเอามือออกจากมือของแมท ได้แต่
ปล่อยให้แมทจูงวินเดินต่อไป      (อย่างที่เกริ่นไว้ว่าแมทเริ่มแสดงท่าทีที่มากขึ้นหลังจาก
เมื่อคืนนี้ และก็จะมากขึ้นเรื่อย ๆ ต่อไป)
เราเดินกันอยู่เกือบ 20 นาที โดยที่แมทก็ชี้ให้ดูโน่นนี่ และอธิบายว่าอะไรเป็นอะไร
อะไรอยู่ตรงไหน  มีไว้ทำไม ฯลฯ  พี่ไอรินก็เดินเข้ามาจากไหนไม่รู้ พอที่จะเห็นว่าแมทจูง
มือวินอยู่  โดยวินเป็นฝ่ายเอามือออกจากแมทเอง และทำหน้าบอกไม่ถูก ในขณะที่แมท
ดูเหมือนจะไม่รู้สึกอะไร

“คุณแม่มาแล้วคะ” พี่ไอรินบอก มองหน้าวินด้วยสีหน้ายิ้มแย้มเช่นเคย
“ครับ - - ไปวิน” แมทยังคงยื่นมือมา เพื่อให้วินจับมืออีกครั้ง   แล้วมีหรือที่พี่ไอรินจะหัน
กลับไป
“อ่าว . . ไปสิครับ” แมทเสียงแข็งใส่พี่ไอริน อาจจะเป็นเพราะรับรู้เรื่องราวจากปากของวิน
ก่อนหน้านี้       พี่ไอรินหน้าทำหน้าหักเล็กน้อยและเดินนำไป
“ไปครับ” แมทหันกลับมายื่นมือให้วินอีกครั้ง
“เราเดินเฉย ๆ ไปดีกว่าแมท - - คนอื่นเห็นมันไม่ดีเท่าไหร่นะ เราไม่ใช่ผู้หญิง – ผู้ชาย”
วินบอกกับแมท      แมทดึงมือกลับไปและหันหน้าเดินนำวินไปข้างหน้า  ตอนนั้นวินไม่รู้
เลยว่าคำพูดนั้นจะทำให้แมทไม่พอใจ 

อย่างที่วินบอกไว้ว่า แต่นี้ต่อไปเวลาแห่งความสุขของวินมักสั้นเสมอ  ระหว่างที่เรากำลัง
เดินเพื่อไปหาคุณแม่ของแมทนั้น โทรศัพท์ก็ดังขึ้น
“ xx-xxx-x777” เบอร์ใหม่ที่เริ่มคุ้นเคย ปรากฏขึ้น  ตั้งแต่เมื่อวานหลังจากวางสายฟิวไป
วินลืมนึกถึงเขาไปเสียสนิท  วินรับสายของฟิว ในขณะที่แมทก็ไม่ได้หันมามองแต่อย่างใด
“สวัสดีครับ...คนน่ารัก” น่าแปลกที่ไม่เคยมีใครชมวินว่าหล่อเลย ทั้ง ๆ ที่อยากหล่อจะแย่
ไม่ว่าแมท พ่อ แม่ พี่ น้อง หรือใคร ๆ มีแต่คนพูดว่า ‘แกแค่น่ารัก ไม่ถึงกะหล่อหรอก’
ว้า....ก็อยากหล่อมั่งอ่ะ ทำไงดี...
“อืม...หวัดดี” วินตอบรับเสียงทักเมื่อครู่ ด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ
“หวังว่าตอนนี้คงอยู่บ้านแล้วนะ” ฟิวไม่รู้ว่าเมื่อคืนนี้ วินไม่ได้กลับบ้าน
“เปล่า” วินตอบไปเพียงสั้น ๆ
“ไปเที่ยวไหนกะที่บ้านหรอ” ฟิวถามต่อไป
“อยู่กับแมท” คำตอบนั้นเองทำให้แมทหันมามองวิน
“ใคร” เสียงเข้ม ๆ ถามมาสั้น ๆ จากแมท (อย่างที่บอกแมทจะไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว)
“เพื่อน....” วินเอาโทรศัพท์ลงมาแนบกับอก แล้วกระชิบตอบเบา ๆ
“เพื่อน ? แล้วทำไมต้องกระซิบด้วย” แมทถามต่อ...เอาแล้วไง นี่เราเผลอเรออะไรขนาดนี้
“ไหน...”  แมทดึงโทรศัพท์ออกจากหูวิน
ฟิวผู้ไวเป็นกรด คงได้ยินเสียงดุเข้มของแมท ชิ่งวางไปแล้วเรียบร้อย และโชคดีแค่ไหน
ที่วินไม่ได้เซฟชื่อของฟิวไว้
“ฮัลโหล - - - ฮัลโหล” แมทเปล่งเสียง
“วางไปแล้ว....” แมทมองหน้าจอโทรศัพท์แล้วเอ่ยขึ้น
“ใครวิน - - เพื่อนชื่ออะไร” เราหยุดเดินกันตั้งแต่แมทแย่งโทรศัพท์ไป และยังคงถามวินต่อ
วินไม่อยากจะเชื่อ  พี่ไอรินคนสวยก็หยุดยืนฟังอยู่ด้วย วินาทีนั้นใครไม่รู้ว่าเราอารมณ์เสีย
ต่อกันก็แย่แล้ว  วินไม่รู้จะทำยังไง ได้แต่ตอบไปตามตรง
“ฟิว....เพื่อนปุ้ย” วินตอบ
“ผู้หญิงหรือผู้ชาย - - - อย่าโกหกนะ”  เนื่องจากชื่อฟิวก้ำกึ่งเหมือนทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
แมทจึงถามขึ้น แต่ประโยคคำสั่งต่อท้ายของแมท ทำให้วินต้องตอบแทบจะทันที
“ผู้ชาย...” วินมองตาแมทที่กำลังจะเปลี่ยนเป็นสีแดง ด้วยสายตาอ้อนวอนขอชีวิต
“เพื่อนที่ไหน ที่ xxx หรอ” แมทเอ่ยชื่อโรงเรียนที่วินเรียนอยู่
“ป่าว...” วินตอบสั้น ๆ แทบทุกประโยค
“แมท ......ลูก” คุณแม่เดินเข้ามาพอดี ในขณะที่พี่ไอริน ก็ยังยืนอยู่ห่างจากเราสองคน
ประมาณ 4 ก้าว   เธอยืนฟังอย่างตั้งใจ ราวกับว่าจะเป็นผลดีกับอาชีพการงานของเธอ
แมทไม่ตอบ และยังยืนหันหลังให้คุณแม่ตัวเองที่กำลังเดินเข้ามา
“คุณแม่....” วินเอ่ยทักอย่างสุภาพ
“มีอะไรกันลูก....เป็นอะไรรึเปล่า” คุณแม่ไม่ได้ถามวิน และมองหน้าวินอยู่เพียงครู่ ขณะที่
จับหลังของลูกชายตน และอ้อมมามองหน้าแมท
“มีผู้ชายโทรมาหาวินครับ - - และวินก็บอกว่าเพื่อน แต่กระซิบบอกแมท เหมือนจะไม่ให้
คู่สายได้ยิน”  แมทตอบคุณแม่ทั้งที่ตายังจ้องมองวินราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ ท่าทีแบบนี้
ทำวินตกใจมาก นี่วินเป็นคนนอก และคนในครอบครัวเขาต้องเข้าข้างกันอยู่แล้ว
“คุยกันด้วยเหตุผลสิแมท” วินเอ่ยขึ้น แทบจะไม่สนใจว่าคุณแม่ของแมทก็อยู่ตรงนั้น
คุณแม่หันมามองวิน ด้วยสายตาแปลก ๆ เป็นครั้งแรก
เชื่อหรือไม่ พี่ไอรินยังคงยืนอยู่ แล้วดูเหมือนจะอยู่ใกล้เข้ามา กว่าเดิมซัก 1 ก้าว แล้วหัน
หน้ามาเต็มตัว จากเดิมที่แค่เอียง ๆ ตัวยืนฟังอยู่   วินรู้สึกตัวคนเดียวมาก ๆ ทั้ง 3 คนที่ยืน
อยู่ตรงนั้นเหมือนเขาเป็นคนบ้านเดียวกัน และวินกำลังคือผู้ต้องหา แมทยืนตัวตรง
ไม่กระดิก หรือเปลี่ยนท่าทางเลยตั้งแต่วินาทีที่ดึงโทรศัพท์ไป

“แมท....” เสียงวินแผ่ว เพราะกลัวเหลือเกินกับสายตาของแมทในเวลานั้น 

คุณแม่ยืนลูบหลังของแมทอยู่ข้าง ๆ โดยที่วินหวังว่าคุณแม่จะช่วยพูดอะไรบ้าง แต่ก็ไม่มี
ได้แต่มองหน้าลูกชายของท่านอย่างเอ็นดู และเริ่มมองวินด้วยสายตาที่วินไม่คุ้นเคย
วินไม่เคยถูกใครมองด้วยสายตาแบบนี้มาก่อนเลย

“แมท....” วินพูดเบา ๆ อ่อน ๆ อีกครั้ง
“ก็พูดมาสิ !!!” เสียงแมทดังมาก จนคุณแม่ และพี่ไอรินก็ยังสะดุ้งเฮือก จนคุณแม่ต้อง
หยุดลูบหลังแมทไปชั่วขณะ
“แมทลูก - - ใจเย็น” คุณแม่พูดขึ้นอีกครั้ง   
ขณะนั้นพี่ไอริน ตั้งใจดูเหมือนได้ดูละครฉากไคลแมกซ์อย่างจดจ่อ คงไม่ต้องเดาแล้วหละ
ว่าแมทกับวินเป็นอะไรกัน
“มันไม่ใช่อ่ะแมท - - ฟิวเป็นเพื่อนวิน....วินไม่ได้คิดอะไรกับเค้าเลย” วินตอบ
“แล้วเค้าหละ...คิดอะไรกับวินรึเปล่า” แมทเสียงแข็งมาก ๆ แข็งมากจิง ๆ
“วินลูก...” คุณแม่เอียงคอ มองวินด้วยสายตาให้วินรู้สึกว่า วินต้องทำให้มันถูกกว่านี้
“คุณแม่...วินกับคนที่แมทว่า ไม่ได้อะไรกันจริง ๆ คุณแม่” วินหันไปพูดกับคุณแม่
“บอกแมทสิวิน... บอกแมท” คุณแม่ดูไม่เข้าข้างวินเอาซะเลย (ก็วินไม่ใช่ลูกท่านนี่)
“ว่าไงวิน...ไอผู้ชายคนนี้ มันคิดอะไรกับเธอรึเปล่า” แมทเรียกวินว่า ‘เธอ’ ครั้งแรก
วินน้ำตาซึมขึ้นมาตอนนี้เอง   คุณแม่ยังคงมองวิน และลูบหลังลูกชายต่อไป
ในขณะนั้นเอง แมทเบือนหน้าหนีจากวินครั้งแรก พอจะเห็นว่ามีคนที่ 4 ยืนอยู่ตรงนั้น
ด้วย 

“พี่ไอริน....ไม่มีอะไรทำหรอ....ไปตอกบัตรเข้างานก็ได้นะ ถ้าตอนนี้ว่างอยู่อ่ะ”
แมทพูดขึ้นเสียงเกือบจะตวาดใส่พี่ไอริน ที่ยืนฟังอย่างเพลิดเพลินอยู่ตรงนั้น วินยังแอบ
รู้สึกสะใจอยู่ลึก ๆ เลย
“นี่ไอริน......ไม่ใช่หน้าที่อะไรที่เธอต้องมาอยู่ตรงนี้ไม่ใช่หรอ” คุณแม่เสริม
“คะ” พี่ไอรินคอตกเดินออกไปอย่างเสียดายด้วยความรวดเร็ว
แมทหันหน้าไปมองที่อื่นต่อ  วินเอื้อมมือไปจับแขนแมท
“แมท...แมทเชื่อวินนะ”  วินพูดน้ำเสียงขอร้อง ตอนนี้น้ำตาก็ไหลออกมาแล้ว แต่ดูเหมือน
ทั้งแมทและคุณแม่จะไม่ใจอ่อนเลย
“โอ๊ย !!”  แมทเสียงดังอีกครั้ง และสะบัดแขนออกจากมือวินอย่างแรง จนวินตัวเซเล็กน้อย
“แมทลูก ...แมท...แมท ๆ ไม่เอานะ  ไม่เอา” คุณแม่ไม่ปลอบวินบ้างเลย - -,
แมทเป็นคนอารมณ์ร้อนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้    จู่ ๆ ก็เป็น  วินตั้งตัวไม่ทันเลยจริง ๆ
วินรู้สึกเสียใจที่สุดที่แมทสะบัดมือวินเมื่อสักครู่นี้
“เมื่อกี๊ก็เหมือนกัน....แมทจะจับมือวินเดิน - - วินก็ไม่ให้จับ” หน้าแมทแดงมากในตอนนี้
“ทำไมหละวิน...ฮะลูก”  น้ำเสียงของคุณแม่เท่านั้นที่ยังเหมือนเมื่อวานอยู่ แต่สายตา
มองวินผิดเต็ม ๆ
“คุณแม่...วินก็คิดแค่ว่ามันไม่ค่อยเหมาะ - - วินกลัวคนในโรงงานจะเห็น แล้วมองแมท
หรือเราทั้งสองคนไม่ดี” วินพูดไปตามความจริง ไม่คิดว่าจะมีประโยคต่อไปของคุณแม่
“ทำไมหละวิน...แมทไม่ดีตรงไหน หรือว่าวินอายหรอลูก....ที่คนจะรู้ว่าเป็นอะไรกับแมท”
คุณแม่พูดเหมือนวินเป็นผู้หญิงที่ทำอะไรก็ได้โดยไม่ต้องแคร์สายตาใคร ที่นี่ไม่ใช่
สวิสเซอร์แลนด์เสียหน่อย คุณแม่เองก็น่าจะรู้ว่าเมืองไทยเปิดรับเรื่องนี้สักแค่ไหนกัน
“เปล่าเลยคุณแม่ -- ทั้งคุณแม่และแมทน่ารักกับวินมาก...วินไม่มีทางคิดอย่างนั้นแน่ ๆ
คุณแม่” วินตอบไปด้วยเสียงสั่น น้ำตาไหลพราก     แมทไม่แม้แต่จะมองหน้าของวิน
ได้แต่เหลือบ ๆ มามองด้วยสายตามองค้อน  วินเจ็บปวดอย่างบอกไม่ถูก
“แมท - - แม่ว่าเราเข้าไปในออฟฟิศดีกว่าลูก....เดี๋ยวแดดจะเผาเอา”
อ่าวคุณแม่ ยังกลัวแดดจะเผาลูกตัวเองอีก แถมคุณแม่ยังประคองให้แมทเดินออกไป
จากวิน  โดยไม่หันมาชวน หรือพูดกับวินซักคำ....นี่วินควรจะตามไปมั้ย หรือรออยู่ตรงนี้
วินคิดถึงคุณแม่ตัวเองจับจิตในวินาทีนั้น อยากกลับบ้านเหลือเกิน ถ้าคุณแม่ของวินรู้ว่า
ลูกชายของท่านต้องมาเจอกับอะไรที่นี่ ท่านคงเสียใจไม่น้อย วินตัวคนเดียวที่นี่ ไม่มีพวก
ทำอะไรไม่ได้มากจริง ๆ วินคิดในใจว่า ถ้าลองกลับกัน เป็นคุณแม่ของวิน คุณแม่คงมีวิธี
ที่ดีกว่าคุณแม่ของแมทแน่ ๆ คิดแล้ววินก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่   แต่ในที่สุดก็ตัดสินใจเดิน
ตามทั้งสองไป
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 14-03-2008 22:11:22
(ตอนที่ 8 Part 2)


ขณะเดินเข้าไปในโรงงาน   ระหว่างทางที่จะไปถึงออฟฟิศ  วินเดินไปทั้งตาแดง  ช้ำน้ำตา
แต่วินใช้มือปาดน้ำตาที่อยู่บนหน้าออกจนหมดแล้ว  และวินก็พบกับพี่ไอรินและพนักงาน
หญิงอีก 2-3 คน และพนักงานชาย (ที่คิดว่าไม่ชายสักเท่าไหร่) 1 คน  ทุกคนมองวินด้วย
สายตาที่วินเองก็อธิบายไม่ถูก   คงเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อ ที่ทุกคนจะไม่รับรู้ถึงเหตุการณ์
เมื่อสักครู่นี้  ที่หากพี่ไอรินบันทึกภาพไว้ได้เธอคงทำ     แต่วินาทีนั้นวินไม่ได้สนใจอะไร
คิดแต่ว่าวินจะทำอย่างไรดีกับแมท ทำอย่างไรให้แมทเข้าใจและหายอารมณ์เสีย
แต่ลึก ๆ วินก็รู้สึกว่าตัวเองถูกอยู่เพียงครึ่งเดียว  เพราะเหตุการณ์เมื่อวานตอนกลางวัน
กับฟิวในห้องน้ำที่คาราโอเกะ วินยังคงลืมไม่ได้ง่าย ๆ

“วิน...เข้ามาในนี่”  แมทเรียกวินด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง ให้เข้าไปในออฟฟิศ
วินเดินอย่างเร็ว กลุ้มปนดีใจ ที่อย่างน้อย ๆ แมทยังพูดกับวิน......สักหน่อยก็ยังดี
ขณะที่วินเดินมาถึงประตูห้อง คุณแม่ของแมทยืนจับประตูหน้าห้องเพื่อให้วินเข้าไป
ขณะที่แมทเข้าไปนั่งรออยู่ข้างในแล้ว วินก้มตัวเล็กน้อยเพื่อเดินผ่าน    คุณแม่เอามือ
มาบังหน้าอกวินไว้เบา ๆ ก่อนจะพูดว่า
“ทำกับลูกแม่ดี ๆ หน่อยนะวิน” คุณแม่มีสีหน้าเฉย ๆ น้ำเสียงสุภาพ วินไม่ได้รู้สึกอะไร
กับคำพูดนั้น     วินเพียงแต่พยักหน้าตอบไป  เพื่อน้อมรับคำของท่านและเดินเข้าไป
คุณแม่ปิดประตู และมองเข้ามา และยืนอยู่ครู่เดียว ก่อนที่แมทจะเดินไปที่ประตูและ
เปิดออกพร้อมพูดกับคุณแม่เบา ๆ
“ขอเวลาแมทแป๊บนึงนะครับแม่”  และแมทก็ดึงมู่ลี่ลง จนในห้องนั้นก็มีเพียงเราสองคน
“แมท...” วินนั่งอยู่ที่โซฟาร้องเรียกแมท ในขณะที่เขาทำเหมือนไม่สนใจ และเดินผ่านหน้า
วินไปนั่งที่โต๊ะทำงานแม่ของเขา  และเขาก็มองหน้าวินในที่สุด
“วิน - - แมทไม่สนว่าวินจะรู้สึกอะไรกับ ‘ไอนั่น’ - - แมทสนแต่ว่ามันจะต้องไม่คิดอะไร
กับวิน”   แมทเน้นคำว่า ‘ไอนั่น’ จนวินแทบไม่เชื่อหูตัวเอง ตั้งแต่เช้าของวันนี้ ทุกอย่างดู
เป็นเรื่องใหม่สำหรับวินเกือบทั้งหมด
“วินตอบแมทได้มั้ย - - ว่ามันจีบวินรึเปล่า” แมทถามต่อ
“เปล่าแมท”  วินตอบสั้น ๆ น้ำเสียงจริงจัง
“ถ้างั้น...มันชอบวินรึเปล่า” แมทถามวินราวกับเป็นทนาย คำถามมันช่างเจาะจง
รอบคอบ และแคบลงเรื่อย ๆ
“ไม่หรอกแมท”  วินตอบไปเช่นนี้ เพียงเพราะรู้สึกว่าไม่กล้าโกหกแมทก็เท่านั้น
“ไม่หรอก ?.....หึ”  แมทยกตัวเล็กน้อย ย้ำคำตอบของวิน และเบ้ปากกับคำตอบที่
ไม่เต็มร้อยของวิน
“งั้นก็แปลว่าวินเองก็ไม่แน่ใจใช่มั้ย - - ถ้ามันไม่ใช่ หรือวินไม่รู้ วินคงตอบมาว่า
  ‘ไม่’ แล้ว คงไม่ตอบแบบนี้หรอก”  แมทพูดต่อ  ถูกของแมท วินไม่แน่ใจจริง ๆ
“แมท…” วินพูดพร้อมลุกขึ้นไปยังที่แมทนั่งอยู่  วินนั่งคุกเข่าลงต่อหน้าแมท  มือจับเข่า
ของเขาไว้
“แมท วินไม่ได้คิดอะไรกับเค้าเลยนะ - - แค่นั้นก็น่าจะพอแล้วไม่ใช่หรอ” วินอ้อนวอน
“วินแน่ใจนะว่าวินไม่ได้ชอบเค้า” แมทเสียงอ่อนลง แต่ก็ยังไม่เหมือนเดิมเท่าไรนัก
“ยิ่งกว่าแน่แมท”  วินตอบ
แมทดึงมือวินให้ลุกขึ้น แล้วสวมกอดอย่างแน่น และตบหลังวินเบา ๆ  การกอดครั้งนี้
เสมือนการปลอบเสียมากกว่ากอดด้วยความรัก

“ถ้าวินจำได้ - - ว่าเมื่อคืนแมทพูดอะไรก่อนนอน....ขอให้รู้ไว้นะ  ว่าแมทหมายความ
อย่างนั้นจริง ๆ”  แมทพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย  เหมือนเป็นการเตือนมากกว่าการ
บอกเล่า
“แมท....พูดกับวินเหมือนเดิมได้มั้ย - - วินไม่อยากได้ยินน้ำเสียงแบบนี้เลย”
วินขอร้องแมท
“วิน...แมทมีแต่วินคนเดียวนะ - - แมทรักวินมาก....หวังว่าวินคงเข้าใจทั้งหมดนี้นะ”
แมทมีน้ำเสียงที่คล้ายกับแมทคนเดิมมากขึ้น พอทำให้วินอุ่นใจ
“อืม...วินเข้าใจแมท - - แต่เราอย่าทะเลาะกันอีกเลยนะ...วินก็รักแมท - - วินขอให้
แมทไว้ใจวินนะ”  วินบอกกับแมท    ทั้ง ๆ ที่ในอนาคตวินเองนี่แหละที่ทำตัวเอง
ให้แมทไว้ใจไม่ได้ (อีกต่อไป)
“ครับ - - แมทขอโทษนะ”  ในที่สุดแมทคนเดิมก็กลับมา และแมทก็ขยี้หัววินเบา ๆ
“ไปเถอะ - - แมทไม่อยากให้วินไม่สนุก” แมทกล่าวขึ้นพร้อมจูงมือวินออกจากห้อง
โดยครั้งนี้วินไม่กล้าที่จะขัดเขาอีกต่อไป  คิดในใจว่าอีกหน่อยคงชินกับการกระทำ
ที่เปิดเผยของแมทแบบนี้    แต่วินก็แอบหวังลึก ๆ ว่า แมทคงจะปล่อยมือวินก่อนที่
จะออกจากห้องไป       แต่ก็เปล่า....เมื่อออกจากห้องไป การกระทำของเราสองคน
คงจะช่วยย้ำความถูกต้องของเรื่องที่พี่ไอรินเล่าให้เพื่อนร่วมงานละแวกนั้นได้รับรู้

“เป็นไงลูก...” คุณแม่ถามพร้อมยิ้มให้กับแมท โดยยังคงหลีกเลี่ยงที่จะมองหน้าวิน
“ไม่เป็นไงครับแม่....ปกติดี” น้ำเสียงแมทกลับมาเป็นปกติ
“แม่ขอยืมตัววินแป๊บนึงสิ” คุณแม่หันมายิ้มให้วินในที่สุด
“เอาสิครับ”  แมทปล่อยมือวินและเอามือแตะไหล่เบา ๆ เป็นเชิงว่ายกให้คุณแม่ตามที่ขอ
“ไป...วิน” คุณแม่จูงมือวิน และเดินออกจากรัศมีของแมท

คุณแม่เริ่มเปิดฉากพูดกับวิน พร้อมกับเดินไปด้วยตลอดการสนทนาของเรา และมือของ
วินก็ยังคงอยู่ในมือของคุณแม่ตลอดเวลาเช่นกัน

“วิน - - แม่ขอร้องนะ.....แม่มีลูกของแม่อยู่คนเดียว - - แม่คงยอมไม่ได้นะ ถ้าลูกของแม่
คนนี้ต้องเป็นอะไรไป แม่หวังว่าวินจะเข้าใจ”  คุณแม่ไม่เรียกวินว่า ‘ลูก’ เหมือนเมื่อวาน
ทั้งยังใช้คำว่า ‘ลูกของแม่’ แทนเรียกชื่อแมทกับวิน  วินตกใจเล็กน้อยแต่ก็รับคำไป
“วินรักแมทมากนะคุณแม่”  วินตอบคุณแม่ไปแบบตัวชา ๆ
“แม่ไม่สนว่าวินจะรักมากแค่ไหน รักได้ ก็เลิกรักได้ - - แม่ต้องการแค่ให้วินรับปากกับแม่
ว่าเรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก - - และวินก็ต้องไม่ทิ้งแมทไปไหน” คุณแม่พูดต่อไป
คำพูดเหล่านี้ทำให้ความรู้สึกของวินที่มีต่อคุณแม่เปลี่ยนไปจากเมื่อวานอย่างสิ้นเชิง

“ครอบครัวของเรา โดยเฉพาะแมท ต้องเจอปัญหามามากมายแล้ว...แม่ดีใจที่วินเข้ามา
ในชีวิตลูกของแม่ และทำให้เขามีความสุขมากขนาดนี้ - - แม้ชีวิตของเราจะเปลี่ยนไป
บ้าง...อย่างวันนี้ที่แมทต้องแยกรถมา และไม่ได้ไปนั่งทานอาหารเช้ากับแม่ที่ร้านนั่น
ซึ่งเราไปกันเป็นประจำทุกครั้งที่มาโรงงาน - - แต่แม่ไม่ว่าอะไร ขอแค่ลูกของแม่มีควาสุข
แม่ก็ยอมได้หมด” คุณแม่ช่วยไขข้อข้องใจ ว่าทำไมเมื่อครั้งที่คุณแม่มาถึงที่โรงงาน
และเห็นหน้าวิน จึงมีสีหน้าไม่สู้ดีนัก (แล้วไหนแมทบอกวินว่าไม่เป็นไรไงหละ)
ซ้ำร้ายวินไม่คิดเลยว่าแค่เรื่องแยกรถมา คุณแม่ก็เอามาเป็นเหตุผลตอนนี้ นี่เป็นสาเหตุ
ของท่าทีเมินเฉยเมื่อเช้านี้หรือเปล่า

“ถ้าวินคิดจะเลิกกับแมท  - - วินต้องนึกถึงวันแรกที่เจอกัน...อีกอย่าง ถ้าไม่คิดจะรัก
ก็ต้องไม่ทำให้เค้ารักตั้งแต่แรก - - ถ้ารักกันแล้ว ทำให้แมทรักวินแล้ว....แม่ถือว่าวินต้อง
รับผิดชอบต่อความรักที่แมทมีให้กับวิน”  คุณแม่ยังพูดต่อไป ในขณะที่วินยังคงตกใจกับ
คำพูดเหล่านั้น   ในความคิดของวินอยากจะถามคุณแม่ด้วยความใคร่รู้เหลือเกินว่า
ถ้าแมทเป็นฝ่ายทิ้งวินไป คุณแม่จะห่วงวินบ้างหรือไม่....แต่ใครจะกล้าถามหละ จริงมั้ย?
“ครับคุณแม่ - - ไม่ต้องเป็นห่วง”  วินพูดเอาใจคุณแม่ไป เพราะใครสักกี่คนที่จะมั่นใจ
ในอนาคตได้ขนาดนั้น ยิ่งกับคำพูด กึ่งขู่ของคุณแม่แบบนี้
“ดีลูก” เหมือนคุณแม่จะพอใจกับคำตอบของวิน พอทำให้กลับมาเรียกวินว่าลูกดังเดิม
“แม่ขอลูกอีกอย่าง ... อย่าพูดกับแมทเรื่องนี้ - - บอกแมทว่าแม่พามาเดินเล่น และเรา
ก็คุยปรับความเข้าใจกัน”  เสียดายจริง วินว่าจะเล่าให้แมทฟังเสียหน่อย ว่าคุณแม่เขา
น่ากลัวในสายตาวินแค่ไหน  แต่วินก็ทำตามที่คุณแม่ขอร้องทุกอย่าง (จนถึงวันนี้)




___________________________________________________________


ตัวอย่างตอนต่อไป...........

ตอนที่ 9 ฟิวจะวุ่น...แมทก็ฉุดไม่หยุด


“แมทเค้าช่างเลือกจังเลย - - แม่คิดไม่ผิดที่ยอมให้ลูกรูดการ์ดซื้อนี่มา” คุณแม่หมายถึง
นาฬิกาฮอยเออร์เรือนขาวมุก ที่วินและแมทใส่อยู่ในวันนั้นด้วยกัน
“เนี่ย - - ไม่ต้องไปหาแฟนใหม่แล้ว.....คบกับแมท...มีแต่สิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิต”
จบประโยคของคุณแม่ วินก็รู้สึกเหมือนถูกตบหน้าก็ไม่ปาน 

....................................................................................

“ไม่เอา - - ไม่เอาอ่ะแมท....แมทอย่าร้องสิ”  วินน้ำตามซึม ยัดโทรศัพท์เข้ากระเป๋า
จู่ ๆ ไม่รู้ยังไง คุณแม่ก็เดินกลับมาอีกครั้ง (ไหนว่าจะไปทำการทำงาน)
“แมท!! - - แมทเป็นอะไรลูก” คุณแม่ตกใจ 

....................................................................................

“ม.อึง รู้ไว้นะว่าวินมีเจ้าของแล้ว และ ม.อึง ก็รู้ไว้เลยว่าวินเป็นของกูตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว”
วินไม่อยากเชื่อว่าแมทจะกล้าพูดเรื่องของเราให้คนอื่นที่แม้แต่วินเองก็รู้จักได้เพียงไม่ถึง
1 วันได้รับรู้

....................................................................................

“จำไว้นะวิน - - วินต้องเป็นของแมทคนเดียวเท่านั้น” แมทพูดกับวินทั้ง ๆ ที่อยู่บนตัววิน
วินก็ได้แต่พยักหน้าหงึก ๆ งงว่านี่เรามีอะไรกัน เพียงเพราะให้แมทรู้สึกว่าวินเป็นของแมท
อย่างนั้นหรือ ??  ความรักและเซ็กส์เป็นสิ่งสวยงามที่น่าจะเดินคู่กันไปในความคิดของวินเสมอมา แม้จะมาจนถึงวันนี้ก็ตาม  .......นี่แมทกับวินคิดเหมือนกันหรือเปล่า ?
“พูดสิวิน....ว่าวินเป็นของแมทคนเดียว”  วินกลัวมากกับสิ่งที่ได้ยินและสายตาที่ไม่คุ้นเคย
ของแมทที่ส่งมาให้วิน     
...................................................................................
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส
เริ่มหัวข้อโดย: ICEME ที่ 14-03-2008 23:44:58
จิ้มๆ

เครียดแทนวินอ่ะ ไม่เข้าใจหรอกเพราะเต่าไม่เคยมีแฟน แต่ถ้าต้องถูกกดดันจา่กฝ่ายแม่แบบนี้ก็แย่เลยอ่ะ

แล้วแมทก็ชอบทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของมากเกินไป ถึงจะรักก็เหอะอ่ะ

ง่ะ ต่อไปเรื่อยจะเป็นยังไงต่อไปอ่ะเนี่ย อ๊า :serius2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 15-03-2008 00:07:59
ตอนที่ 9 ฟิวจะวุ่น...แมทก็ฉุดไม่หยุด

“กลับมาซะที - - ไปคุยอะไรกัน” แมทเอ่ยถาม
วินในร่างไร้วิญญาณ (ที่โดนคุณแม่ดูดไปแทบสิ้น) ยังคงไม่อยู่กับร่องกับรอย ไม่ได้ตอบ
แมทไป  ขณะนั้นเอง คุณแม่มาจับที่หัวไหล่วิน ค่อนข้างแน่นพอดู  วินรู้สึกตัวและหันกลับ
ไปมองหน้าท่าน   คุณแม่ใช้สายตาสุภาพ (ที่วินรู้สึกว่านั่นคือสายตาบังคับให้วินตอบ)
มองกลับมาที่วิน
“แมทเค้าถามแน่ะลูก” คุณแม่เอ่ยเบา ๆ แต่น้ำเสียงแข็งพิลึก
“คุณแม่เค้านึกว่าแมทยังไม่ได้พาวินเดินดูโรงงาน...ก็เลยพาวินไปดู และก็คุยเรื่องทั่วไป”
วินตอบไปทั้ง ๆ ที่สติยังไม่สมประดีนัก
“คุยอะไรกัน...ฮึ” แมททำหน้าฉงนถามวินต่อ
“แหม...แมท - - ก็คุยกันตามประสาแม่กับคนที่จะมาเป็นลูกของแม่อีกคนนะแหละ”
วินรู้สึกแปลกประหลาดอย่างที่สุดในชีวิต วินไม่เคยคิดว่าตัวเองต้องมาตกอยู่ในฉากชีวิต
ที่เหมือนดั่งละครเช่นนี้   วินาทีนั้นวินนึกถึงคำพูดที่เคยได้ยินว่า ‘ชีวิตจริง น้ำเน่ายิ่งกว่า
ในละคร’ ใครไม่มาเจออย่างที่เค้าว่า ไม่มีทางรู้หรอก วินเอาหัวเป็นประกันเลย

คำพูดคุณแม่ทำเอาแมทยิ้มแป้น วินรู้สึกว่าคนบ้านนี้เปลี่ยนอารมณ์เร็ว เสียยิ่งกว่าลม
เปลี่ยนทิศเสียอีก  ทั้งความรู้สึกตกใจ เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างวินและแมท และ
ไหนจะความรู้สึกระหว่างวินกับคุณแม่ของแมท และยังจะสายตาหลาย ๆ คู่ในโรงงาน
ที่มีพี่ไอรินเป็นเสมือนลำโพง hi-fi คอยพากษ์ความเป็นไปของวินอีก   ความรู้สึกคิดถึง
บ้านก็ประทังเข้ามาเรื่อย ๆ เสียงอื้ออึงของเครื่องจักร ทำให้วินรู้สึกตื้อ    และเหมือนคน
ไร้สติสัมปัชชัญญะในขณะนั้น.......นี่มันอะไรกัน ทำไมอะไร ๆ รอบตัววินตั้งแต่เมื่อเช้านี้
มันถึงได้เป็นอะไรที่วินไม่เคยพบเคยเจอได้ขนาดนี้ (ทุกวันนี้วินเคยคิดอยู่บ่อย ๆ ว่า...
ถ้าวันนั้นวินไม่ไปเจอแมทที่บ้าน  ไม่ย่างกายเข้าบ้านแมท  ไม่ต้องรู้จักกับคุณแม่ของแมท
เรื่องต่าง ๆ เหล่านี้ก็คงไม่เกิดขึ้น...เราอาจจะยังคบกันอยู่ก็ได้)

“แมทหิวจัง ... วินไปกินข้าวกับแมทมั้ย” แมทเอ่ยขึ้น
ในใจวินรู้สึกว่าแมทไม่น่าพูดคำนี้เลย...........และวินก็คิดถูกจริงๆ
“เมื่อกี๊ ดันขับรถเร็วทำไมหละ - - หรือไม่ก็ไม่น่าแยกรถกับแม่ เห็นมั้ย...คลาดกันจนได้”
คุณแม่พูดเหมือนคนได้ที
“แหม...คุณแม่ ... ใจคอจะใจร้ายกับลูกชายตัวเองไปถึงไหน” แมทผู้ไม่รู้อะไรเอ่ยขึ้น
แมทจ๋า...ถ้าแมทรับรู้คำพูดที่คุณแม่ท่านพูดกับวินเมื่อครู่ แมทจะว่ายังไงเนี่ย ???
“แมทขอเงินหน่อยสิแม่ น้า....” แมทอ้อน
“ไม่ให้วินเลี้ยงหละจ๊ะ - - เผื่อกับข้าวจะอร่อยขึ้น” คุณแม่พูดด้วยทีท่าน่ารักตามประสา
คนใจดี  แต่วินไม่รู้สึกเช่นนั้นร่วมด้วยอีกต่อไป (นี่จนทุกวันนี้แมทจะยังไม่รู้จริง ๆ หรอว่า
คุณแม่ท่านไม่ได้เป็นอย่างที่ท่านแสดงออกมาเสมอไป)
“วินเค้าลืมเอากระเป๋าตังค์มา...ลืมไว้ในกางเกงตัวเมื่อวานหนะครับ” แมทตอบ
“อ่าวหรอจ๊ะวิน....แหมไม่ต้องห่วง - - คบกับลูกชายแม่ สบายจะตาย . . . วินไม่ต้องควัก
สักบาท - - ให้ลูกชายแม่จัดการเอง” วินไม่รู้คุณแม่จะหาว่าหลอกแด๊กส์ลูกชายท่าน หรือ
ท่านตั้งใจจะให้วินสบายจริง ๆ แต่อย่างไรก็ตามคุณแม่ยังคงไม่ลดละในประโยคถัดมา
“เนี่ย” คุณแม่ยกข้อมือซ้ายของวินขึ้นมา
“แมทเค้าช่างเลือกจังเลย - - แม่คิดไม่ผิดที่ยอมให้ลูกรูดการ์ดซื้อนี่มา” คุณแม่หมายถึง
นาฬิกาฮอยเออร์เรือนขาวมุก ที่วินและแมทใส่อยู่ในวันนั้นด้วยกัน
“เนี่ย - - ไม่ต้องไปหาแฟนใหม่แล้ว.....คบกับแมท...มีแต่สิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิต”
จบประโยคของคุณแม่ วินก็รู้สึกเหมือนถูกตบหน้าก็ไม่ปาน  คำพูดนั้นสำหรับวิน
มันเหมือนดูถูกยังไงก็ไม่รู้  ถึงวินจะไม่ใช่คนร่ำรวยที่ทางบ้านมีกิจการร้อยล้าน
แต่วินก็ไม่เคยแม้แต่จะคิดถึงความร่ำรวยของแมทเลยแต่น้อย   ครอบครัววินทั้งคุณพ่อ
คุณแม่ทั้งสองท่านต่างก็ไม่เคยรับของจากใครฟรี ๆ นามสกุลของเราก็มีเกียรติเป็นตระกูล
เก่าแก่ ได้รับความนับหน้าถือตามาแต่อดีตถึงปัจจุบัน    และทั้งสองท่านไม่เคยสอนให้วิน
ยโสโอหัง หรือข่มผู้น้อยด้อยกว่า  แต่ท่านพูดเสมอว่าต้องหยิ่งในศักดิ์ศรีของเราอย่าได้ทำ
ให้วงศ์ตระกูลเสื่อมเสีย  แต่คำพูดของคุณแม่ทำให้วินรู้สึกด้อยค่าอยู่ไม่น้อยเลย
นี่วินคิดผิดหรือเปล่าที่รับของชิ้นนี้มา ???

“ไปมั้ยวิน - - กินข้าวกัน” วินรู้สึกดีใจกับประโยคนี้อย่างพิสดาร   ที่ดูเหมือนมันจะเข้ามา
หยุดคำพูดที่ ‘อาจ’ จะลุกลามไปกว่านี้ของคุณแม่ได้
“ไป ๆ” วินรับคำอย่างเร็ว  สติสตังก็ยังไม่ได้กลับมาเท่าไรนักหรอก
โทรศัพท์วินดังขึ้นมาอีกครั้ง  น่าแปลกที่ตั้งแต่เมื่อวานเย็นนี้ มีแต่ฟิว   ฟิว  และฟิว ที่โทร
หาวิน  อาจเป็นเพราะอั้มที่ยังคงงอนวินอยู่เลยไม่โทรมา และปกติแมทจะโทรหา แต่เรา
อยู่ด้วยกันจนถึงตอนนี้ เลยไม่มีใครโทรหาวินอย่างนั้นมั้ง

เบอร์เดิมที่เป็นต้นเหตุให้วินเกือบตายโทรกลับมาอีกครั้ง  ทั้ง ๆ ที่วินคิดว่าฟิวได้ยินเสียง
แข็ง ๆ ของแมทเมื่อพักใหญ่ที่ผ่านมาแล้วจึงชิงวางไปเสียอีก  วินรู้สึกพอแล้ว ไม่เอาแล้ว
วินจึงพูดขึ้นกับแมท
“แมท - - ฟิวโทรมา วินไม่อยากรับ วินไม่อยากมีเรื่อง...ถ้าแมทข้องใจอะไร วินว่าแมท
คุยกับเค้าเองเลย...วินไม่อยากรับ”  วินกล่าว   คุณแม่ตอนนี้แลดูมีสีหน้าปิติยิ่งนัก
“เอามา” แมทเสียงแข็งเล็กน้อย
“เอาคืนไป - - แค่นี้แหละ” แมทกดวางสายไป และยื่นกลับคืนมาให้วิน
ไม่ถึง 10 วินาที เบอร์ตัวปัญหาเดิมก็เรียกเข้ามาอีก
“อีกแล้วหรอ” แมทรับโทรศัพท์วินไปและกดวางสายไปอีกครั้ง
“เนี่ยนะ - - มันไม่ได้ชอบวิน” แมทดูจะมีน้ำโหขึ้นมาอีกระรอก
วินไม่ได้ทันได้ตอบ โทรศัพท์ของวินที่ยังอยู่ในมือของแมทก็ดังขึ้นอีก
“อะไรว้ะเนี่ย” แมทอุทานแบบไม่สุภาพเป็นครั้งแรกต่อหน้าวิน
“แมทรับสิ - - รับเลย” วินหันไปมองต้นเสียง....คิดในใจว่าขอให้เป็นคนอื่นไม่ใช่คุณแม่พูด
แต่จะเป็นไปได้ไง ก็เรายืนกันอยู่สามคนนี่นา
“แล้วถามมันไปเลยลูก - - อะไรที่ลูกอยากรู้....และบอกมันว่าอย่ามายุ่งกับวินอีก”
พระเจ้าช่วยหมวยที  สาบานกับวินทีสิว่านี่คือคุณแม่คนเดียวกันกับคนเมื่อวานที่วินได้พบ
“คุณแม่ก็รู้ แมทไม่ชอบมีเรื่องกับใคร” แมทเอ่ย ขณะโทรศัพท์ในมือก็ยังดังต่อไป
(ครั้งนั้นสำหรับวิน รู้สึกว่าทำไมโทรศัพท์มันดังได้นานขนาดนี้  มันน่าจะดับไปแล้ว
ไม่ใช่หรือ  คงเป็นเพราะเหตุการณ์ตึงเครียดดึงเวลาอันสั้นให้ดูยาวนานขึ้นกระมัง)
“งั้นให้แม่คุยให้มั้ยหละ”  โอ้โหคุณแม่ผู้เลิศเลอในสายตาวินคนเมื่อวานนี้ไปไหนเสียแล้ว
“ไม่เอาแม่ - - จะบ้าหรอ” แมทตอบกลับ ไม่สุภาพอีกครั้ง
วินยังไม่เคยพูดกับแม่วินอย่างนี้เลย สงสัยเหมือนกันว่าทำไมคุณแม่ไม่ว่าอะไร แต่วินก็
แอบเห็นด้วยกับแมทว่า ‘จะบ้าหรอ’ คุณแม่เป็นผู้ใหญ่นะ และทั้งสามคนนี้ก็แค่เด็กม.6
“เงียบไปแล้ว” คุณแม่พูดขึ้น เมื่อโทรศัพท์หยุดดัง    ขณะเดียวกันคุณแม่ก็หันมามอง
หน้าวิน  สีหน้าราวกับว่าวินได้นำพาสิ่งเลวร้ายเข้ามาในครอบครัวของท่าน 
(ซึ่งในเวลาต่อมาไม่นาน คุณแม่ก็หาว่าวินเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ด้วย.... ทั้ง ๆ ที่คุณแม่นั่น
แหละเป็นคนทำให้ทุกอย่างมันแย่ขึ้นเรื่อย ๆ จนทุกวันนี้ คุณแม่ก็ยังไม่หยุด)
“วินจะทำไงเนี่ย” แมทถามกับวินดี ๆ สีหน้าดูกลุ้มใจ  วินรู้สึกสงสารแมทมาก วินไม่น่าให้
เบอร์ไปกับฟิวเลย....นี่ยังดีนะที่แมทไม่ได้ถามว่าฟิวได้เบอร์วินมาจากไหน ถ้าแมทรู้
คำตอบ วินไม่อยากจะนึกภาพเหตุการณ์ต่อจากนั้นเลย
“แมทจะให้วินทำไงหละ…วินก็จะทำอย่างงั้นอ่ะแมท”  วินที่รู้สึกสงสารแมทเหลือเกินตอบ
คุณแม่มีสีหน้าที่ปิติล้นเปี่ยมอีกครั้ง ออกแนวสะใจเสียมากกว่า  นี่ถ้าฟิวมาได้ยินที่วินพูด
คุณแม่คงรู้สึกดีกว่านี้แน่
“แค่วินอย่าชอบมันก็พอ” แมทเอ่ย  สีหน้ายังคงความกังวลใจ  วินรับรู้ว่าตอนนั้นแมท
ไม่ได้รู้สึกอยากจะต่อว่าวินแล้ว  คงรู้สึกแต่เพียงว่าจะทำอย่างไรดีกับฟิวตัวปัญหาเท่านั้น
“หึ...ไม่มีวันอ่ะแมท”     ทุกวันนี้วินเองก็ไม่แน่ใจตัวเองว่าในอดีตที่ผ่านมานั้น  วินได้ทำ
อย่างที่พูดนี่หรือเปล่า..........ไม่แน่ใจจริง ๆ ถึงแม้เรื่องมัน (เหมือน) จะจบ ๆ ไปแล้ว
วินอาจจะเคยรู้สึกชอบนิด ๆ หรือไม่ได้ชอบเลย.........วินไม่รู้จริง ๆ นะแมท ถึงแม้ทุกวันนี้
แมทอาจจะไม่เชื่อวินก็ตาม

และแล้วปฏิบัติการแรกของ ‘ฟิวจะวุ่น….ใครก็ฉุดไม่อยู่’ ก็ได้เริ่มขึ้น  เสียงตี๊ด ๆ ตี๊ด ๆ
(คงรู้นะว่าโทรศัพท์ยี่ห้ออะไร...อิอิ) เป็นเสียงเรียกของข้อความ  และแล้วแมทคนเดิม
ก็กลับมาอีกครั้ง  .... แมทไม่ได้กดดูข้อความนั้น...แต่ยื่นโทรศัพท์คืนให้วิน   ในขณะที่
คุณแม่ทำสีหน้าไม่พอใจใส่วิน เหมือนอยากจะคว้าโทรศัพท์นั้นไว้เอง  วินหยิบโทรศัพท์มา
แต่ไม่ได้กดเปิดข้อความ
“แมทจะดูมั้ย - -  ถ้าแมทจะดู....วินก็ให้ดู...ไม่มีอะไรปิดบังกันทั้งนั้นแมท”
ถ้าใครได้เห็นสีหน้าแมทตอนนั้นคงสงสารแมท และเกลียดวินน่าดูที่นำพาสิ่งเหล่านี้เข้า
มาในชีวิตของเรา
“ดูสิลูก....เพื่อความสบายใจ”  คุณแม่เหมือนได้ที
“อะ....คุณแม่”  วินยื่นโทรศัพท์ให้คุณแม่ รู้สึกว่าวินจะทำเฉยไม่ได้แล้วกับท่าทีของท่าน
ท่านเองก็เหมือนจะรู้ตัว  ท่านมองโทรศัพท์ของวิน และส่ายหน้าเบา ๆ
“อะแมท”  วินยื่นไปให้แมทอีกครั้ง ขณะเดียวกันเสียงเรียกก็ดังขึ้นอีกครั้ง บ่งบอกถึง
ข้อความเข้าฉบับที่สอง..............นี่วินยังเดือดร้อนไม่พอหรือนี่ฟิว !!!!!?????
“โอโหวิน...........” แมทพูดเสียงเบา พร้อมส่ายหน้า แสดงความระเหี่ยใจอย่างมาก
“นี่มันอะไรกันเนี่ย....วิน” คุณแม่ที่เข้าไปปลอบแมท หันมาจ้องวินเขม็ง
“วินก็ไม่ทราบเหมือนกันคุณแม่” เสียงวินค่อนข้างแข็งตอบกลับคุณแม่ แต่ยังเรียกท่าน
โดยมีคำว่า ‘คุณ’ นำหน้าอยู่  และเป็นเช่นนี้เสมอ ไม่ว่าวินจะระอาท่านเพียงใด
“โอ๊ย....เคลียร์กันเองนะลูก - - แม่ไม่เป็นอันทำการทำงานแล้ว - - เรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ ของ
วัยรุ่นสมัยนี้แม่ตามไม่ทันจริง ๆ . . . นี่ถ้าวินเป็นผู้หญิง แมทคงแย่แน่ ๆ”  คุณแม่พูดถึง
เรื่องเพศของเราเป็นครั้งแรกตั้งแต่วินพบกับท่าน พร้อมมีสีหน้าไม่พอใจ โดยครั้งนี้ท่าน
แสดงต่อหน้าลูกชายของท่านด้วย
“ทำไมต้องพูดอย่างงั้นด้วยอ่ะแม่” แมทหันไปทำเสียงกึ่งดุกับคุณแม่
“ก็ไม่รู้หละ - - ตั้งแต่แม่มาถึงนี่แม่ยังไม่ได้ไปดูงานเลย แมทจะไปกินข้าวหรือพาวินไปไหน
ก็ไปเลยนะ ...แม่ขอไปทำงานแล้ว” คุณแม่พูดพร้อมหยิบแบงค์พัน 2 ใบใส่มือแมท และ
เดินออกไปจากตรงนั้น  ท่านไม่วายหันมาค้อนวิน 1 ที   วินคงผิดจริง ๆ แหละ การมาของ
วินวันนี้ทำให้หลาย ๆ คนเสียการเสียงานไปหมด   ......... แต่พี่ไอรินนี่เค้าทำตัวเค้าเองนะ
วินว่าวินไม่เกี่ยว…
“วิน...แมทขอโทษนะ...แม่แมทเค้าคงห่วงแมทเกินไปอ่ะ”  แมทเอ่ยด้วยสีหน้าที่ยังดูวิตก
“ไม่เป็นไรแมท...ถ้าเป็นแม่วินก็คงไม่ต่างกันหรอก” วินพูดไปทั้ง ๆ ที่ในใจไม่ได้คิดเช่นนั้น
คุณแม่วินไม่เคยแสดงท่าทีอาการเช่นนี้เลยตลอดชีวิตของวินตั้งแต่จำความได้
“ยังไงแมทก็ขอโทษอ่ะ….วินอย่าถือสาแม่เลยนะครับ”  แมทกล่าวต่อ.......คำว่า ‘ถือสา’
ของแมทในวันนั้นวินก็ได้รับรู้และเข้าใจจากคำบอกเล่าของพี่แสงเดือนในช่วงที่คบกับ
แมทได้ประมาณ 7 เดือน โดยเธอเล่าว่า
“หลังจากคุณผู้ชายเก็บข้าวของออกไปจากบ้าน หน้าที่รับผิดชอบเลี้ยงน้องแมท ก็ตกอยู่
กับพี่แสงเดือน....ตอนนั้นน้องแมทอายุ 2-3 ขวบกำลังน่ารัก แต่คุณผู้หญิงเอาแต่เก็บตัว
ไม่ไปไหน นอนอยู่แต่ในห้อง และไม่ยอมให้น้องแมทเข้าไปหา หรืออุ้มน้องแมทเลย
ญาติทางฝั่งคุณผู้หญิงต้องพาจิตแพทย์มาหาถึงบ้าน หมดเงินกันไปเป็นก้อน และใช้เวลา
อยู่ร่วมปี กว่าคุณผู้หญิงจะออกไปข้างนอก และยอมทานมากขึ้นอีกครั้ง ตอนนั้นน้องแมท
ก็พูดได้จนเกือบเก่งแล้ว แต่ต้องสอนให้เรียกคุณผู้หญิงว่าแม่อยู่ตั้งนาน กว่าจะยอมเรียก
พอทุกอย่างใกล้จะกลับมาเป็นปกติ   ขณะที่คุณผู้หญิงอุ้มและเล่นกับน้องแมทอยู่
ท่านพูดกับพี่แสงเดือนว่า ‘คอยดูนะ ..... แมทจะต้องไม่มีทางลำบาก ต้องไม่มีใคร
มาทำให้ลูกฉันเสียใจ และต้องเหนือกว่าทุก ๆ คน’ ......แหมคุณวินขา ถึงพี่แสงเดือนจะเรียนมาน้อย แต่ก็พอจะรู้ว่านี่มันคือคำพูดที่ไม่ปกตินัก…ทุกวันนี้คุณผู้หญิงยังต้องทาน
ยาตามแพทย์สั่งอยู่เลย”  พี่แสงเดือนก็ช่างเป็นแม่บ้านที่เก็บทุกรายละเอียด ทุกวันนี้
พี่แสงเดือนไม่ได้ทำงานที่บ้านแมทแล้ว ตั้งแต่คุณแม่พี่แสงเดือนเสีย พี่แสงเดือนก็ต้อง
กลับบ้านไปดูแลสมาชิกที่เหลือ แต่พี่แสงเดือนก็ยังติดต่อกับวินอยู่ ไม่ว่าจะตอนที่ยังอยู่
บ้านแมท หรือตอนที่กลับอิสานไปแล้ว (พี่แสงเดือนเป็นคนลาว แต่ไม่รู้อย่างไรเธอถึงมา
อยู่ในประเทศไทยได้)  ทุกวันนี้พี่แสงเดือนก็ยังโทรหาวินอยู่บ่อย ๆ ส่วนมากจะยิงมาและ
ให้โทรกลับไปหา  วินชอบคุยกับพี่แสงเดือนมาก เพราะเหมือนเราจะรู้จักกันดีพอสมควร
นอกจากเราจะพูดคุยถึงเรื่องเก่า ๆ เกี่ยวกับแมทและคุณแม่แล้ว  พี่แสงเดือนก็ชอบแนะ
วิธีการทำอาหาร หรือเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยในการเข้าครัว..........ซึ่งวินก็ทำได้แต่ไข่เจียวอยู่ดี
..........แต่ถึงแม้วินจะได้รับรู้เรื่องของคุณแม่ที่ท่านป่วย ทำให้จิตท่านไม่ปกติแล้ว มันก็ยัง
ไม่สามารถทำให้วินรู้สึกให้อภัยท่านในสิ่งที่ท่านได้พยายามทำ หรือสิ่งที่ทำจนสำเร็จกับ
วินอยู่ดี (มันเจ็บปวดเกินจะอภัยจริง ๆ นะคุณแม่)

วินมาไกลเกินไปแล้วหละ แต่ทุกคนควรจะรู้ก่อนว่าทำไมคุณแม่ถึงได้ลมเพลมพัดเช่นนี้
นี่ดีนะที่คนอ่านได้รับรู้แล้ว แต่คิดดูสิตลอดระยะเวลาอันยาวนานกว่าวินจะรู้ วินจะงงงวย
กับการกระทำของท่านขนาดไหน

กลับมาที่เรื่องของวินและแมทต่อ ถ้าใครจำไม่ได้ เพื่อเป็นการไม่ต้องย้อนกลับไปอ่าน
วินจะทวนให้ตรงนี้ แมทบอกกับวินว่า
“ยังไงแมทก็ขอโทษอ่ะ….วินอย่าถือสาแม่เลยนะครับ” 
“ไม่หรอกแมท...วินเข้าใจ” วินตอบ
เชื่อหรือไม่ ซาตานมีจริง!  ข้อความฉบับที่สามดังเข้ามาอีกครั้ง ตามด้วยเสียงเรียกเข้า
ดังขึ้นอีกครั้ง ห่างกันไม่ถึง 5 วินาที
แมทถึงกับเอามือกุมขมับ และส่ายหัวไปมา ไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว แมท....วินจะทำ
ยังไงดี  ขอโทษก็คงไม่พอที่พาแมทมาเจอกับการกระทำของฟิวแบบนี้
“วิน - - วินรับเถอะ” แมทเงยหน้าขึ้นมาทั้งน้ำตา
วินตกใจมาก ไม่คิดว่าเรื่องนี้จะทำให้แมทมีน้ำตาได้
“ไม่เอา - - ไม่เอาอ่ะแมท....แมทอย่าร้องสิ”  วินน้ำตามซึม ยัดโทรศัพท์เข้ากระเป๋า
จู่ ๆ ไม่รู้ยังไง คุณแม่ก็เดินกลับมาอีกครั้ง (ไหนว่าจะไปทำการทำงาน)
“แมท!! - - แมทเป็นอะไรลูก” คุณแม่ตกใจ  สำหรับวินมันโอเว่อร์ไปนิด แต่อย่างว่า
ท่านรักของท่านมาก ก็อย่างนี้แหละ
เสียงคุณแม่ดังมาก ทำเอาขาประจำละครชีวิตของวิน   อย่างพี่ไอรินเปลี่ยนช่องกลับมา
ดูที่เราสามคนยืนอยู่   ครั้งนี้มีสมาชิกเพิ่มมาอีก 4 – 5 คน ถึงแม้ทั้งหมดจะทำทีไม่สนใจ
แต่ขอบอกว่าไม่เนียนเอาเสียเลย    แต่วินไม่โทษพี่ ๆ หรอก ถ้าเป็นวิน วินก็คงละสายตา
ไม่ได้เหมือนกัน  ก็เสียงคุณแม่ลั่นทุ่งเสียขนาดนั้น

“วิน ! เกิดอะไรขึ้น”  คุณแม่ขึ้นเสียงกับวินครั้งแรก  แต่ขอโทษวินไม่ได้ตกใจแม้แต่น้อย
เหมือนจะรู้ล่วงหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้น      ก็แหมการกระทำแต่ละอย่างของคุณแม่วันนี้
วินเริ่มจะคุ้นเคยกับมันแล้วหละ
“คุณแม่.... วินไม่ได้ทำอะไรซะหน่อย - - ทำไมต้องทำเสียงแบบนั้น” แมทพูดกับคุณแม่
ด้วยน้ำเสียงระทวยกับการร้องไห้ของเขา
สิ้นประโยคของแมท คุณแม่ก็ได้แต่มองหน้าวินอยู่นิ่ง ๆ และลูบหลังลูกชายของท่านไปมา
วินมองคุณแม่ สายตาไม่ได้ละไปไหน วินรู้สึกว่านี่มันเกินเหตุไปสักนิด และเหลืออดมาก
กับอะไรหลาย ๆ อย่างในวันนี้   วินรู้ทันทีว่านี่สงครามระหว่างคุณแม่และวินได้เริ่มขึ้นแล้ว
(แต่ไม่ใช่สงครามนางฟ้านะ 555)

คุณแม่เหมือนจะรู้ว่าวินสู้สายตา ท่านเปลี่ยนสีหน้าเป็นโกรธแค้นที่วินทำกับลูกชายท่าน
“ฮึ่ยย !!” ท่านทำน้ำเสียงไม่พอใจ เบือนหน้าหนี และผละตัวออกไปจากบริเวณนั้นทันที
จุดอ่อนของคุณแม่ดูเหมือนจะอยู่ที่คำพูดทุกคำพูดของแมท    ในเวลาต่อมา ทันทีที่วินจับ
จุดอ่อนของคุณแม่ในข้อนี้ได้ วินก็มักใช้มันเล่นงานคุณแม่กลับเสมอ  เมื่อคุณแม่ทำไม่ดี
กับวินก่อน (ทำไมร้ายอย่างนี้เนี่ย...วินหนอวิน บาปกรรมแท้ ๆ - -^)

“แมท - - วินขอโทษ” ในที่สุดคำขอโทษของวินสำหรับเรื่องนี้ ก็ออกมาครั้งแรก
“ขอโทษทำไมวิน....วินไม่ได้ทำอะไรผิด” แมทพูดตอบ  ยังคงร้องไห้อยู่นิดหน่อย
“แมท - - วินเป็นคนให้เบอร์กับฟิวไป....และฟิวก็ดูเหมือนจะจีบวิน”
วินไม่รู้ว่าตัวเองคิดถูกหรือไม่ที่พูดมันออกไป  แต่คิดในใจว่าเดี๋ยวก็คงได้รู้กัน
“จริงหรอวิน”  แมทถาม....น่าแปลกที่น้ำเสียงแมทยังคงเป็นปกติ
“อืม...” วินตอบเบา ๆ
แมทลุกลงจากเครื่องจักรที่ตอนแรกเขาขึ้นไปนั่งตอนที่ร้องไห้  และแมทก็ดึงมือวิน
กลับเข้าออฟฟิศ โดยไม่พูด หรืออะไรแต่อย่างใด    วินแอบคิดในใจขึ้นมาทันทีว่า
‘ไม่น่าเลยกรู...บอกทำไมก็ไม่รู้’   ขณะนั้นวิน คนที่ยังคงแคร์สายตาประชาชีอยู่
หันไปมองพี่ไอรินและเพื่อน ๆ ที่ยืนอยู่ที่เดิม  ทุกคนที่กำลังขยับปากซุบซิบอยู่หยุดทันที
เหมือนโดนวินสาปเสียอย่างนั้น
“วินเอาโทรศัพท์มานี่ - - แมทจะโทรกลับไปหามันเอง” วินรู้สึกดีขึ้นนิดหน่อยที่ไม่โดน
ต่อว่า หรือแมททำเสียงไม่ดีใส่    ......วินหยิบโทรศัพท์ให้แมทแต่โดยดี
แมทกดโทรกลับไปหาฟิวทันที..................
“พ่อ ม.อึง สิ !!!” แมทเสียงดังใส่โทรศัพท์ (ซึ่งหลังจากวางแมทเล่าให้ฟังว่าฟิวรับโทรศัพท์
แล้วพูดว่า  ‘ว่าไงน่ารัก... เคลียร์กับแฟนนานเลยสิ’ ....... วินรู้สึกว่าแมททำถูกที่สุด)
“ม.อึง รู้ไว้นะว่าวินมีเจ้าของแล้ว และ ม.อึง ก็รู้ไว้เลยว่าวินเป็นของกูตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว”
หมดกันวิน...ไม่เหลือ - - หมดสิ้นแล้วภาพลักษณ์นักเรียนหนุ่มม.6 .ใส ๆ ไม่เหลือ -*-
วินไม่อยากเชื่อว่าแมทจะกล้าพูดเรื่องของเราให้คนอื่นที่แม้แต่วินเองก็รู้จักได้เพียงไม่ถึง
1 วันได้รับรู้
“แค่นี้นะไอ้ animal”  วินเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองชินกับคำหยาบจากปากแมทเอาตอนไหน
คำหยาบที่แม้แต่วินเองก็ไม่กล้าจะใช้ในตอนนั้น (ก็แปลว่าตอนนี้กล้าแล้ววอ่ะสิ ?)
แมทวางโทรศัพท์ไป และยื่นมันคืนมาที่วิน
“เอาไป”  น้ำเสียงแข็ง ๆ กลับมาอีกแล้ว (วิน...ลางสังหรณ์นายช่างแม่น วันนี้นายไม่น่ามา
เลยจริง ๆ ด้วย)
“เอ้า !....แมทโกรธวินอีกแล้วหรอ”  วินเอ่ยขึ้นงง ๆ
“เปล่า”   แมทตอบสั้น ๆ ก่อนจะเดินไปล๊อคประตูห้อง (ดีนะที่ครั้งนี้ล๊อค)
แมทดึงวินไปที่โซฟา แล้วผลักวินลงไปนอน แมทถอดเสื้อ เข้ามาจูบวินอยู่นาน และเราก็
ทำเรื่องส่วนตัวกันอีกเป็นครั้งที่ 2 มันไม่ต้องมีพิธีอะไรอีกต่อไป  วินกลายเป็นคนใกล้ชิด
กับเรื่องแบบนี้ขึ้นในที่สุด หลังจากที่แมทและวินมีครั้งแรกกันเมื่อคืน  ทั้ง ๆ ที่ปกติวินยัง
วิ่งเล่นแปะแข็ง เล่นบอลลูนสี บอลลูนเส้น (ม.6เนี่ยแหละ) กับเพื่อน ๆ อยู่เลย เรื่องแบบนี้
แทบจะไม่เคยอยู่ในหัวจริง ๆ  คงเป็นเพราะสภาพแวดล้อมครอบครัวของวินด้วย ที่ทำให้
วินอ่อนปวกเปียกขนาดนี้.....และอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้วินเป็นเกย์ด้วยก็ได้มั้ง ...อิอิ

“จำไว้นะวิน - - วินต้องเป็นของแมทคนเดียวเท่านั้น” แมทพูดกับวินทั้ง ๆ ที่อยู่บนตัววิน
วินก็ได้แต่พยักหน้าหงึก ๆ งงว่านี่เรามีอะไรกันเพียงเพราะให้แมทรู้สึกว่าวินเป็นของแมท
อย่างนั้นหรือ ??  ความรักและเซ็กส์เป็นสิ่งสวยงามที่น่าจะเดินคู่กันไปในความคิดของวินเสมอมา แม้จะมาจนถึงวันนี้ก็ตาม  .......นี่แมทกับวินคิดเหมือนกันหรือเปล่า ?
“พูดสิวิน....ว่าวินเป็นของแมทคนเดียว”  วินกลัวมากกับสิ่งที่ได้ยินและสายตาที่ไม่คุ้นเคย
ของแมทที่ส่งมาให้วิน     ไม่นานก็มีคนมาเคาะที่ประตู แมทสวมเพียงกางเกงยีนส์ของเขา
และเดินไปเปิดประตู ลืมบอกไปว่าเสื้อผ้าวินยังอยู่ครบทุกชิ้น ^.^  ………แมทเปิดประตู
ออกมา
“แมท...นี่ลูก - - ลูกทำอะไร”     คุณแม่ที่ไม่ได้รับรู้กิจกรรมของลูกชายเมื่อครู่เอ่ยทักอย่างตกใจ         สีหน้าของแมทดูราวกับไม่รู้ร้อนไม่รู้หนาวเอาเสียเลย    คุณแม่แทรกตัวเข้ามา
แล้วรีบ ปิดประตู คงเกรงว่าใครจะมาเห็นเข้า   (ทีอย่างนี้หละรู้สึกขึ้นมานะคุณแม่   ที่วิน
รู้สึกว่าไม่ควรเดินจับมือกันประเจิดประเจ้อ กลับไม่เห็นด้วยกับวิน......เชอะ)
“แล้วทำไมไม่ใส่เสื้อ - - ฮะ! ” คุณแม่ถาม  .........เวรกรรม นี่วินไม่คิดเลยว่าคุณแม่จะถาม
อะไรแบบนี้ แทนที่จะถามว่าทำอะไร ทำทำไม ทำลงไปได้ไง ทำในที่แบบนี้เนี่ยนะ อะไร
เทือกนั้น  ทำเอาวินหายเขินไปเสียเดี๋ยวนั้น....เพราะนี่ก็คงเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ธรรมดา
สำหรับคุณแม่สินะ ….. โชคดี (หรือเวรกรรม) ของไอ้วินแท้ ๆ
“ใส่ทำไมหละครับคุณแม่ - - ใครมาเห็นจะได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น...ไม่ว่าใครหน้าไหน - - มันก็
จะได้รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ... ใครเป็นของใคร”  แมทตอบ.........ถ้ายังจำในสิ่งที่พี่แสงเดือน
เล่าให้วินฟัง     คงจะไม่สงสัยกันเท่าไหร่ที่แมทพูดเช่นนั้น.......ก็วิธีการเลี้ยงลูกอันแสนจะ
สร้างความเพียบพร้อมให้ลูกชายของคุณแม่น่ะแหละ....แต่วินเนี่ยสิที่ยังไม่รู้......อึ้งไปเลย
“ใส่เสื้อผ้าซะด้วยนะ...ก่อนจะออกไปน่ะ” คุณแม่ทำหน้าดุ ๆ ใส่แมท
แต่แมทกลัวเสียที่ไหน  ยังดีที่ไม่กลัวแต่ทำตาม ไม่งั้นวินคงเอาหน้าไปซุกตูดพี่ไอริน
ยังจะดีเสียกว่าเดินลอยหน้าลอยตาอยู่ในโรงงานนั่น

___________________________________________________________________


ตัวอย่างตอนต่อไป........

ตอนที่ 10 ความสุขครั้งแรกในรอบวัน…และแฟนเก่า(แก่)ของแมท


“จำได้มั้ย” คุณแม่เสียงตื่นเต้นดีใจพิกล  พร้อมผายมือให้แมทมองไปที่พนักงานผู้ชายคนนั้น
“ได้สิ”    แมทตอบสั้น ๆ
“หวัดดีครับพี่กอล์ฟ” แมททัก สีหน้าไม่เต็มใจ
“แหมแมท ไม่เห็นต้องห่างเหินกันขนาดนี้เลย...ใช่มั้ยคุณแม่” คำพูดครั้งแรกของพี่กอล์ฟ
ทำให้วินได้ยินเสียงของเขา.......ถ้าหลับตาฟัง วินคงนึกว่าผู้หญิงพูด

“วิน...นี่กอล์ฟ - - แฟนแมท”  คุณแม่เสียงแข็ง....ทำไมคุณแม่ใจร้ายกับวินอย่างนี้ นี่คุณ
แม่ลงทุนเรียกพี่กอล์ฟอะไรนี่มาถึงโรงงานเลยหรอ


.............................................................................................


“อะไรอ่ะ !!!” แมทเสียงดัง
“แมท - - พี่ทำถ้วยกาแฟตกใส่แฟนแมทอ่ะ”  พี่กอล์ฟประกาศให้พนักงานแถวนั้น รู้ฐานะ
ของวินที่มีต่อแมทตรงนั้น ในเวลานี้นี่เอง

“แมทจะให้แม่ตัดเงินเดือน !” แมทพูด
“วินเป็นอะไรรึเปล่า” แมทคงยังเปลี่ยนน้ำเสียงไม่ทัน หันมาถามวินเสียงแข็งเล็กน้อย


.............................................................................................

หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส
เริ่มหัวข้อโดย: LingNERD* ที่ 15-03-2008 00:19:40
โอ้ว ร้ายกันจังเยย :o12:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส
เริ่มหัวข้อโดย: Yurameki ที่ 15-03-2008 00:23:20
เชอร์ร่า เอ๊ย พี่กอล์ฟมาเรอะ ตอนต่อไป ฮ่าๆ

แม่ร้ายแล้วอ่าาา  :o12:

มาให้กำลังใจค่า พี่วิน

 :oni1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส
เริ่มหัวข้อโดย: duchess ที่ 15-03-2008 01:02:55
 :angry2: :angry2: :angry2: :angry2: :angry2:

หนอยๆๆๆๆ

อุตส่าห์ดีจัยที่นึกว่าจะไม่มีอีเชอร์รี่

แต่ดันได้อีสตรอว์เบอร์รี่กอล์ฟนี่มาแทนหรอ

+++

นี่ถ้าเราเป็นวิน

แมร่งจะหวดอีนีไปตกหลุมเตรียมฝังเรย

 :เตะ1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส
เริ่มหัวข้อโดย: anston ที่ 15-03-2008 04:52:30
จะว่าแม่ของแมทร้ายก็จริงอยู่..แต่มันก็มีที่มานะ
เหตุผลก็คงเพราะชีวิตนี้เหลือลูกชายอันเป็นที่รักเพียงคนเดียว..
เลยไม่อยากให้ใครมาทำร้ายหรือทำให้เสียใจ..
นี่ยังดีนะที่ยังให้คบกันได้..ยังเห็นความสุขของลูกเป็นใหญ่..
แต่ก็ต้องรอดูต่อไปเนอะ..
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 15-03-2008 13:06:39
ตอนที่ 10 แฟนเก่า(แก่)...ของเธอ

ยังดีที่โชคชะตาของวินยังเมตตา  เรื่องทุกอย่าง (ดูเหมือน) ยุติลงหลังจากเหตุการณ์ใน
ออฟฟิศนั้น  แมทดูมีความสุข ภาคภูมิใจ และเป็นเจ้าเข้าเจ้าของตัววินยิ่งกว่าเมื่อเช้านี้
เสียอีก  แมทเดินกอดคอวิน (ก็ยังดีกว่าจับมือแหละนะ) ระหว่างทางในโรงงาน เพื่อที่จะ
ไปยังรถของแมท แล้วออกไปหาอะไรทานเป็นอาหารเช้า ในเวลา 11 โมง  (ไม่อยากจะ
เชื่อเลย วินนึกว่าตอนนั้น น่าจะสัก บ่ายแก่ ๆ ได้แล้ว...เวลาผ่านไปช้ามาก)

เราไปทานร้านอาหารแห่งหนึ่งในละแวกนั้น เป็นร้านอาหารดีเหมือนกัน        มีอาหารอยู่
หลายประเภท แต่ที่ขึ้นชื่อคงจะเป็นสเต๊ก    แมทจึงสั่งมา 1 ที่ โดยที่วินสั่งข้าวผัดธรรมดา
ในใจก็อยากทานสเต๊กอยู่เหมือนกัน เพราะเป็นอาหารจานโปรดอยู่เหมือนกัน  แต่ในวันนี้
ตั้งแต่เช้า วินร้องไห้จนปวดหน้าปวดตาไปหมด บวกกับอาการเครียดตลอดเกือบ 3ชั่วโมง
ที่ผ่านมา      ทำให้วินมานั่งหั่น แล้วยังต้องเคี้ยวเสต๊กเหนียว ๆ ไม่ได้แน่ ๆ ........เรานั่งอยู่
ที่ร้านอาหารราว ๆ 45 นาที  จู่ ๆ วินก็บ่นปวดหัว แล้วรู้สึกคลื่นไส้มาก ในที่สุดก็ทนไม่ไหว
วินจึงลุกไปอาเจียนในห้องน้ำ......เอ๊ะ! หรือนี่เราจะท้อง !?....ไม่น่ามั้ง.....คงไม่เร็วขนาดนี้
เอ้า...อย่าไหลตามวินนะ วินล้อเล่น...แหมเพิ่งจะหายเครียด.......ช่วยขำหน่อยละกัน ^^

“วิน - - เป็นยังไงบ้าง” แมทมีสีหน้าเป็นห่วง  วินรู้สึกดีใจที่เห็นสีหน้าแบบนี้ของแมท
จะว่าไปทุกครั้งที่วินอยู่กับแมท (แค่สองคน)  วินก็มีความสุขดีมาก ถึงมากที่สุดเลยทีเดียว
“ปวดหัวแมท - - วินอ้วกเลยอ่ะ”  ถ้าเป็นแต่ก่อนวินคงไม่ตอบแบบนี้ แต่ไม่รู้อะไรมาทำให้
วินรู้สึกใกล้ชิด สามารถเปิดเผยและไม่ต้องวางฟอร์มกับแมทอีกต่อไป(จะอะไรซะอีกหละ)
“เอาพาราฯ มั้ยวิน - - หน้าซีดเลยอ่ะ”  แมทเอ่ยถาม.....วินรู้สึกดีขึ้นกว่าเดิมมากในตอนนี้
“แมทมีหรอ” วินถาม ... ไม่คิดว่าแมทจะรอบคอบถึงกับพกยาแก้ปวดติดตัวไปไหนด้วย
“เปล่า... แมทจะไปขอที่เคานท์เตอร์ให้” แมทตอบวิน..ช่างเป็นคนดีอะไรกับวินเช่นนี้ (ยิ้ม)
“เค้าจะให้หรอแมท”      วินเองก็รู้สึกต้องการยาแก้ปวดซัก 2 เม็ดอยู่เหมือนกัน
“เดี๋ยวแมทลองถามดู”   ว่าแล้วแมทก็ลุกขึ้นไปที่เคานท์เตอร์เพื่อถามพนักงาน
และแมทก็เดินกลับมาพร้อมกับยาแก้ปวดสองเม็ดในถ้วยน้ำจิ้มของร้าน
“อ่ะ...อัพเข้าไปซะ”  แมทพูดเล่นกับวิน พร้อมยื่นยามาให้
“ขอบคุณมากเลยแมท”  วินรับยามา และทานเข้าไปทันที
“กลับบ้านกันก่อนมั้ยวิน”  คำถามของแมททำเอาความรู้สึกเห็นแก่ตัวของวินมันนำหน้า
ความถูกต้องขึ้นมาทันที
“แล้วคุณแม่หละ”  วินถามขึ้น แต่ในใจวินขึ้นไปอยู่บนรถพร้อมตีกลับกรุงเทพฯ แล้ว
“ก็....” แมทเว้นวรรคไปครู่หนึ่งก่อนจะต่อคำพูดของเขา ...เพราะเขาเองก็คงไม่แน่ใจ
เหมือนกัน
“ถ้าวินไม่ไหว - - ยังไงเรากลับกันก่อนก็ได้....อยู่โรงงานเสียงมันดัง เดี๋ยววินจะแย่”
สีหน้าของแมทดูไม่ค่อยมั่นใจในคำพูดของตนนัก.....วินาทีนั้นวิน ‘เดา’ ว่าแมทคงรู้สึกว่า
คิดผิดที่ถามขึ้นมาอยู่เหมือนกัน  เพราะเขาคงไม่อยากทิ้งคุณแม่ของเขาไป
“วินเพิ่งกินยาไป - - เดี๋ยวอาจจะดีขึ้น”  ดูเหมือนความถูกต้อง  แม้จะเหลืออยู่น้อยนิด
ที่มีอยู่ในตัววินก็ยังคงทำงานอยู่บ้าง
“ครับ ๆ ลองรอดูก่อน”  แมทมีสีหน้าโล่งอกขึ้น
“กลับมั้ย - - หรือจะอาบแดด”  แมทหยอกอีกครั้ง ขณะนั้นแดดเริ่มร้อนขึ้นมาแล้ว แต่ลม
ก็ยังพัดให้รู้สึกเย็นสบายอยู่
“กลับสิ” วินตอบ
แมทเรียกให้พนักงานมาคิดเงิน    และเราก็ขึ้นรถ    ตรงกลับไปที่โรงงานอีกครั้ง  การกลับ
เข้าไปในโรงงานครั้งนี้สำหรับวิน  มันไม่ได้รู้สึกกระตือรือร้นอยากจะเข้าไปเหมือนครั้งแรก
ในเมื่อเช้านี้เลยแม้แต่น้อย
ทันทีที่เราถึงหน้าโรงงาน ก็เห็นคุณแม่แมทยืนคุยงานอยู่กับพนักงานผู้ชายคนหนึ่ง

“อ้าว......แมท มาแล้วหรอลูก” คุณแม่ทักแมท หน้าวินท่านคงไม่อยากมอง วินก็ได้แต่ยืน
ทำท่าไม่รู้ร้อนรู้หนาวอยู่หน้ารถ
คุณแม่เข้ามาสวมกอดแมท ราวกับว่าเราสองคนใช้เวลาไปทานอาหารเป็นเดือนอย่างนั้น
“จำได้มั้ย” คุณแม่เสียงตื่นเต้นดีใจพิกล  พร้อมผายมือให้แมทมองไปที่พนักงานผู้ชายคนนั้น
“ได้สิ”    แมทตอบสั้น ๆ .... วินเห็นสีหน้าแมทตั้งแต่บนรถแล้วหละว่าไม่สู้ดีนัก
ที่แท้พนักงานชายคนที่นี้ ไม่ใช่แค่พนักงาน เมื่อเค้าหันหน้ามา วินคาดว่าเขาคงแก่กว่าวิน
ไม่มากนัก เต็มที่ก็คงไม่เกิน 4 ปี
“หวัดดีครับพี่กอล์ฟ” แมททัก สีหน้าไม่เต็มใจ
วินก็ได้แต่ยืนเงียบดังเดิมตั้งแต่มาถึงที่นี่  ส่วนคุณแม่ยิ้มแย้ม ท่าทางตื่นเต้น แต่คงลืม
ไปแล้วว่าไอ้วินยืนอยู่ตรงนั้น
“แหมแมท ไม่เห็นต้องห่างเหินกันขนาดนี้เลย...ใช่มั้ยคุณแม่” คำพูดครั้งแรกของพี่กอล์ฟ
ทำให้วินได้ยินเสียงของเขา.......ถ้าหลับตาฟัง วินคงนึกว่าผู้หญิงพูด (ไหงเป็นงี้ไปได้เนี่ย)

เป็นอย่างที่วินบอกไว้ว่า วินจะมีความสุขมากกว่า ถึงมากที่สุด ถ้าได้อยู่กับแมทลำพัง
“วิน...นี่กอล์ฟ - - แฟนแมท”  คุณแม่เสียงแข็ง....ทำไมคุณแม่ใจร้ายกับวินอย่างนี้ นี่คุณ
แม่ลงทุนเรียกพี่กอล์ฟอะไรนี่มาถึงโรงงานเลยหรอ
“เคยเป็นวิน - - แฟนเก่า....เลิกกันโคตรนานแล้ว”  แมทหันมาตอบ แต่ใช่ว่าอารมณ์อึ้ง
ของวินจะเปลี่ยนได้ง่าย ๆ ภายใน 10 วินาที
“สวัสดี - - วิน” พี่กอล์ฟมองวินไม่เต็มตานัก เอ่ยทักขึ้น
วินทำเฉย ๆ ไม่ทักตอบ หรือแสดงสีหน้ายินดีที่ได้รู้จักแต่อย่างใด  (วินกลายเป็นคนแบบนี้
ตอนไหน ตัวเองก็ยังสงสัยอยู่)
“วิน - - ไม่ได้ยินหรอ พี่เค้าทัก” คุณแม่พูดดี ๆ กับวิน เป็นน้ำเสียงที่คุ้นเคยเหมือนเมื่อวาน
ไม่รู้อะไร ทำให้วินได้สติ กลับมารู้สึกดี ๆ กับคุณแม่อีกครั้ง โดยที่ลืมความคิดที่ว่าคุณแม่
พาพี่คนนี้มาทำไมไปเสียหมด
“หวัดดีครับ” วินยกมือไหว้พี่กอล์ฟอย่างเต็มใจ
“พี่เค้าทำงานที่นี่ เป็นพนักงานบัญชี” แมทตอบ  ....ที่แท้คุณแม่ไม่ได้เป็นคนพามาเสีย
หน่อย....วินขอโทษคุณแม่ วินผิดไปแล้ว วินไม่น่าตัดสินคุณแม่ผิดไปเลยก่อนหน้านี้
“ทำไมไม่เรียกกอล์ฟเหมือนแต่ก่อนหละ...แมท” พี่กอล์ฟเสียงหวานเอ่ย
“กอล์ฟ - - นี่แฟนแมทเอง .... น่ารักมั้ย...หน้าตาดีที่สุดเท่าที่แมทเคยมีมาเลย” แมทตอบ
ด้วยสีหน้าเรียบเฉย.......วินหวังว่าพี่กอล์ฟคงจะรู้สึกอะไรบ้างนะ
“หรอ....แต่แมทเคยบอกว่าแมทไม่เคยรักใครเท่าเรานี่” วินรู้สึกแปลก ๆ ที่รุ่นพี่อย่างพี่
กอล์ฟใช้คำแทนตัวเองว่า ‘เรา’ กับรุ่นน้องอย่างแมท แต่ก็ไม่แปลกและทำเอาวินงึงงัน
เท่าคำพูดของพี่ท่าน....อย่างที่บอก ‘ชีวิตยิ่งกว่าละคร’ ไม่มีอะไรจะจริงไปกว่านี้แล้ว
“กอล์ฟ - - แมทรักแฟนคนนี้มาก...มากกว่าครั้งไหน ๆ - - แม่ยืนยัน”  คุณแม่ทำเหมือน
กระซิบกับพี่กอล์ฟเบา ๆ แต่ก็ตั้งใจจะให้แมท และวินได้ยิน   วินรักคุณแม่ขึ้นมาอีกครั้ง
นี่คุณแม่ได้ทำอะไรเพื่อวินเป็นครั้งแรกของวัน....ขอบคุณเหลือเกินคุณแม่
“แหมคุณแม่ก็ - - กอล์ฟก็แค่แซวกันเล่น ๆ เท่านั้นเอง” พี่กอล์ฟทำท่าสะดิ้ง
วินหลุดหัวเราะในท่าทางของพี่กอล์ฟ  จนเอามือปิดปากแทบไม่ทัน
“ไปวิน...กลับไปที่ออฟฟิศที่เรา......กันเมื่อกี๊ดีกว่า” แมทพูดแบบเว้นว่างไว้ คุณแม่มีสีหน้า
อึ้งเล็กน้อย ส่วนพี่กอล์ฟก็นิ่งเงียบไปเลย.......แมททำแบบนี้อีกแล้ว  เที่ยวป่าวประกาศให้
คนรับรู้เรื่องแบบนี้ของเราไปทั่ว แมทคงแค่ต้องการให้พี่กอล์ฟเงียบ....แต่วินก็ไม่มีทางชิน
กับเรื่องแบบนี้ได้อยู่ดี
“วิน....เดี๋ยวลูก - - แม่ขอคุยด้วยหน่อย” คุณแม่เรียกวินเข้าไปหาด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร
“คุณแม่...” วินเดินเข้าไปหาท่าน     คุณแม่ดึงแขนวินเบา ๆ ให้ห่างออกมาจากอีกสองคน
ที่กำลังยืนอยู่ตรงนั้น
“วิน....แม่หวังว่าวินคงรู้ดี  ว่าแม่ยังสนับสนุนวินกับแมทอยู่ - - อย่าได้ทำให้แม่ผิดหวัง
.....เรื่องของฟิว  จะไม่มีโอกาสต่อไปนะ - - วินต้องไม่ทำให้ลูกของแม่เสียใจอีก”
คุณแม่พูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ วินเห็นด้วยกับคำพูดของท่านเต็มเปี่ยม ไม่รู้สึกขัดขืน หรือ
คิดว่าเป็นคำขู่อะไรแต่อย่างใด และตั้งใจจะทำตามที่ท่านขอร้อง
“คุณแม่ไม่ต้องห่วง...วินสัญญา”  วินพยักหน้า แล้วรับคำกับคุณแม่อย่างหนักแน่น
คุณแม่ลูบศีรษะวินอย่างเอ็นดูอยู่ 2 – 3 ครั้ง และดันศีรษะของวินเข้าไปหอม (หวังว่า
วันนั้นหัวของวินคงจะหอมนะคุณแม่)
“ไปเถอะลูก” คุณแม่ยิ้มให้วิน และพยักหน้าบอกให้วินไป
หันกลับไปที่แมท ก็เห็นสีหน้าที่ยิ้มอย่างดีใจอยู่บนหน้าของเขาด้วย        ต้องขอโทษที่วิน
ลืมมองว่าตอนนั้นพี่กอล์ฟทำหน้าอย่างไร  เพราะมัวแต่ดีใจ จนลืมเสียสนิทว่าเขาอยู่ตรง
นั้นด้วย   รู้ตัวอีกที วินก็เดินออกมากับแมทแล้ว (เสียดายจริง ๆ ^o^)

ทุกอย่างกลับคืนสู่สภาวะปกติ วินและแมทนั่งเล่น  คุยกันเรื่องโน้นเรื่องนี้กันราว 1 ชั่วโมง
แล้วก็เตรียมตัวกลับบ้านกัน  วินรู้สึกเสียดายพอควรที่จะต้องกลับบ้าน และไม่ได้เจอแมท
อีก จนกว่าจะวันศุกร์
“ไม่อยากกลับเลย” วินพูดหวานขึ้นบ้าง เป็นครั้งแรกของวัน
“ทำไมอ่ะครับ” แมททำเสียงอ่อย ๆ รู้ทันว่าวินเรียกร้องความสนใจ
“ก็นอนกับแมทอีกซักคืนสิ ไปเอาชุดนักเรียนจากที่บ้าน แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้แมทไปส่ง”
นี่แมทเอาจริงหรอเนี่ย ?   ...แต่งานเลี้ยงต้องมีวันเลิกรา...ได้คืบ ต้องอย่าเอาศอก
....ยังไงวันนั้นวินก็ต้องกลับบ้าน

หลังจากที่วินและแมทออกมาจากออฟฟิศ (ตอนนั้นคุณแม่ออกไปกับอาตู่สักพักแล้ว)
วินก็พบกับกลุ่มพี่ไอรินอีกครั้ง และแล้ววินก็นึกออกจนได้ พี่กอล์ฟ คือพนักงานผู้ชาย
ที่วินเห็นตั้งแต่ครั้งแรกที่ก้าวเข้ามาในโรงงานนี้แล้ว (ที่วินเล่าว่าดูไม่แมนนัก)
ถึงว่าทำไมมันคุ้นนัก  ทุกคนมองมาที่วินและแมท โดยเฉพาะพี่กอล์ฟที่ตอนนั้นทำหน้า
สลดอยู่เหมือนพระเอก และวินคือตัวร้ายที่เค้าต้องเกรงกลัว    วินเดินผ่านตรงนั้นไป
อย่างสงบและนิ่ง.....จู่ ๆ ก็  ...... ‘เพล้ง !!!!’  …. แก้วกาแฟฟ้าประทานตกแตก กระเด็นใส่
กางเกงลาคอสท์สีขาวจั๊ว (ของแมท)
“เห้ย”  วินอุทาน (แม๊น..แมนหละ ขอบอก)
“อุ๊ย...ขอโทษน้อง ขอโทษ ๆ พี่หยิบกระดาษออก ไม่คิดว่ามันอยู่ตรงนี้ - - ตายแล้ว
เป็นอะไรมากมั้ย”  พี่กอล์ฟวี๊ดว๊ายตกใจ ทำทีขอโทษขอโพยวินที่ยืนตกใจอยู่ตรงน้น
.........ฉากนี้คงช่วยย้ำเรื่องของพี่แอร์กี่ได้ดีว่า ชีวิตมันน้ำเน่ากว่าในทีวี (เยอะ)……...
“อะไรอ่ะ !!!” แมทเสียงดัง
“แมท - - พี่ทำถ้วยกาแฟตกใส่แฟนแมทอ่ะ”  พี่กอล์ฟประกาศให้พนักงานแถวนั้น รู้ฐานะ
ของวินที่มีต่อแมทตรงนั้น ในเวลานี้นี่เอง
“นี่กางเกงแมทนะ !”  แมทตวาดต่อ........พี่กอล์ฟมีสีหน้าตกใจเล็กน้อย ไม่รู้ว่าตกใจ
เพราะผิดแผนที่กางเกงตัวนี้ไม่ใช่ของวิน หรือเพราะวินเอากางเกงของแมทมาใส่ได้ยังไง...
“แมทจะให้แม่ตัดเงินเดือน !” แมทยังพูดต่อไม่หยุด
“วินเป็นอะไรรึเปล่า” แมทคงยังเปลี่ยนน้ำเสียงไม่ทัน หันมาถามวินเสียงแข็งเล็กน้อย
“ไม่เป็น ๆ แมท” วินกลัวพี่กอล์ฟจะถูกตัดเงินเดือน ทั้งที่อีกใจก็คิดว่าพี่เขาแกล้งวิน
จึงตอบไปว่าไม่เป็นอะไร  ทั้ง ๆ ที่ตอนนั้นมันร้อนไปหมด

แมทดึงวินไปเพื่อจะพาไปเข้าห้องน้ำ ขณะเดียวกันวินก็หันกลับไปมองที่จุดเกิดเหตุ
เห็นพี่ไอรินกับพี่กอล์ฟ และเพื่อน ๆ ยืนกระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ .... ทุกคนต้องเข้าใจวินนะ
พี่กอล์ฟเพิ่งจบปริญญาตรีมาหมาด ๆ แต่วินก็แค่เด็กม.6 และก็เป็นแค่เด็กปอดแหก
คนนึง คงไม่กล้าจะไปต่อกรกับรุ่นพี่อย่างพี่กอล์ฟแน่ ๆ (แต่ถ้าเป็นเดี๋ยวนี้ก็ไม่แน่...ฮึ่ย!)

วินรู้สึกแสบ ๆ จนน้ำตาซึม ขณะที่ทั้งแมทและวินช่วยกันเอาน้ำราดขากางเกง
ขณะนั้นเองแมทก็ดึงขาเกงเกงขึ้น  วินถึงได้เห็นว่ามันแดงเป็นวง ๆ เท่าฝ่ามือ
“วิน !”  แมททำสีหน้าตกใจ
“จะเป็นอะไรมั้ยเนี่ย”  วินกลัวเสียโฉม (ที่ขา)
“ไหนว่าไม่เป็นไรไง” แมทถามต่อ
“ก็วินกลัวแมทจะต่อว่าพี่กอล์ฟ และก็กลัวว่าแมทจะให้คุณแม่ตัดเงินเดือนพี่เค้าจริง ๆ”
คงไม่คิดว่าวินเป็นคนดี...วินแอบฟ้องอยู่เป็นเชิงต่างหาก แถมยังแอบสร้างภาพให้ตัวเอง
ไปในตัวได้อีกด้วย ^.^
“วินนี่ไม่ไหวเลย” แมทส่ายหัว  วินไม่แน่ใจนักว่าแมทหมายถึงอะไร - -,
“แมท - - วินถามหน่อยสิ” วินเอ่ยขึ้นหลังจากปิดก๊อกน้ำ
“พี่กอล์ฟเค้าทำงานที่นี่มานานรึยัง” วินทำสายตาหึงหวงใส่แมท (อาจจะเป็นครั้งแรก)
“เดือนเดียวเองวิน - - แมทเจอเค้าที่โรงเรียน เค้ามาซ้อมลีดฯ...ตอนนั้นพี่เค้าเป็นฝ่าย
เข้าหาแมทก่อน....เราคบกันไม่ถึงเดือนด้วยซ้ำ” แมทอธิบาย
“แล้วทำไมคุณแม่รู้จัก...แล้วทำไมพี่เค้าถึงได้มาทำงานที่นี่ ??” วินยังคงถามต่อไป
“วินหึงหรอ” แมทถามพลางยิ้ม ๆ
“ตอบคำถาม...แมท” วินเสียงแข็ง ดูเหมือนแมทจะชอบใจกับท่าทีของวินขณะนั้น
“เค้าเคยไปกินข้าวกับแมทและแม่ครั้งนึง...ที่โนโวเทล” แมทตอบ ...อย่างน้อยแมทก็
ไม่ได้โกหกเรื่องที่ว่าไม่เคยพาใครเข้าบ้าน (แต่ทำไมไปกินหรูกันจัง ??)
“นี่วินหึงแมทจริง ๆ  นะเนี่ย - - ทีนี้รู้ยังว่าแมทรู้สึกยังไงเรื่องฟิว”  แมทพูดงี้เอากาแฟ
 มาราดขาวินอีกข้างเลยดีกว่า...ชิ!
“แล้วทำไมเค้ามาทำงานที่นี่ได้หละ” วินถามย้ำ
“อ่อ - - ถ้าวินรู้จักแม่แมทกว่านี้ จะรู้ว่าเค้าสนิทกับใครง่าย เค้าเจอพี่กอล์ฟครั้งเดียว
ก็บอกว่าชอบแล้ว คงเป็นเพราะพี่กอล์ฟจบจากบัญชี, xxxx ด้วยมั้ง” แมทเอ่ยถึง
คณะและสถาบันที่พี่กอล์ฟเรียนจบมา..อืม....ทำเอาวินนิ่งไปเหมือนกัน คณะและสถาบัน
ที่ทุกคนใฝ่ฝัน ที่พี่กอล์ฟจบมา...วินเองก็คงไม่มีทางเข้าได้
“แมท - - เป็นไปได้มั้ยที่เค้ายังรักแมทอยู่” วินถามขึ้นอีก
“รัก ? - - วินจะบ้าหรอ ... แมทคบกับพี่เค้าไม่ถึงเดือนนะ”  แมทตอบ
“อย่างน้อยก็สนิทกันมากพอที่แมทจะเลิกเรียกเค้าว่า ‘พี่’ ...ไม่ใช่หรอ” วินคงหึงแมทขึ้นมา
 บ้างจริง ๆ อย่างที่แมทบอกแหละ
“ไม่รู้สิ - - อาจจะยังรักอยู่ก็ได้มั้ง แต่ก็ไม่มากเท่าที่แมทรักวินหรอกครับ” แมทยิ้มหวานใส่
“แมทเคยมีอะไรกับเค้าป่ะ”  วินไม่ติดขัดฝีปากเลยที่จะถามเรื่องแบบนี้...ทั้งที่เมื่อก่อนคง
ไม่กล้าที่จะถามเท่าไรนัก
“ก็ - - - -“ แมทเว้นวรรคประโยค
“เคยอยู่แล้วหละ” วินเอ่ยขึ้น โดยไม่รอ
“อืม...ก็เคยอ่ะ” แมท ทำหน้าไม่ค่อยดีเท่าไร
“ถึงว่า...ดูตัดใจไม่ได้” วินกล่าวต่อไป......วินคิดในใจว่าก็แมททั้งหน้าตาดี เป็นคนดูดี
 ฐานะก็ดี  ใครหละจะไม่เสียดาย
“อะไรทำให้วินคิดยอย่างนั้น” แมทถาม
“แมทว่าพี่เค้าไม่ชอบหน้าวินมั้ย - - เอาตามตรงนะแมท”    วินถามกลับ
“ตามสัญชาตญาณคนก็คงไม่มั้งวิน...ทำไมหละครับ”   แมททำเสียงหวานลงท้ายประโยค
“แมทว่าเป็นไปได้ป่ะ - - - “ วินเว้นประโยคไปเล็กน้อย  …. แมทท่าทีดูตั้งใจฟัง
“ว่าพี่กอล์ฟจะแกล้งทำกาแฟหกใส่วิน”  วินกล่าวต่อ
แมทหัวเราะขึ้นดัง พร้อมส่ายหัวเล็กน้อย
“วินจะบ้าหรอ - - ดูละครมากไปรึเปล่า”  แมทตอบกลับมา....วินก็ไม่อยากจะคิดหรอกนะ
เพราะมันก็ดูละค้อน...ละคร แต่มันก็ดูเหมือนอย่างนั้นจริง ๆ
“วินว่าพี่กอล์ฟน่ะแหละที่ดูละครมากไป - - ถึงได้ทำอะไรแบบนี้”  วินเถียงกลับ..เพราะทั้ง
พี่กอล์ฟและพี่ไอริน ดูท่าจะติดละครน้ำเน่าเสียเหลือเกิน ถึงได้ทำอะไรน้ำเน่า ๆ แบบนี้ได้
“วิน - - นี่คิดจริง ๆ หรอว่าพี่กอล์ฟเค้าตั้งใจ” แมทถาม สีหน้าดูจริงจัง
“ไม่รู้สิแมท - - วินไม่รู้จะคิดอะไรได้นี่....อยู่ ๆ มาดึงกระดาษ จนกาแฟตกใส่วินทำไมเอา
ตอนนั้นพอดีล่ะ”    วินกล่าวต่อไป สีหน้าจริงจัง เชื่อเต็มที่ว่าพี่กอล์ฟจงใจทำแบบนี้กับวิน
“อืม...วินก็พูดมีเหตุผล - - แต่แมทคิดว่าพี่กอล์ฟไม่น่าจะทำอะไรแบบนั้นได้นะ”
แมทยังคงแก้ต่างให้พี่กอล์ฟ
“แมทคบกับเค้าไม่ถึง 1 เดือน - - รู้จักเค้าขนาดนั้นเลยหรอ”   วินเสียงแข็ง
แมททำสีหน้ายิ้มเยาะกับท่าทีหึง(ที่ไม่ลดละ)ของวิน
“เอา ๆ - - ไปกันใหญ่....อย่าหาเรื่องแมทสิครับ”  แมทพูดทั้งยิ้ม ๆ
“อืม...วินก็ขี้เกียจเถียงแล้ว - - เอาเป็นว่ามันเป็นอุบัติเหตุก็ได้”   วินบอกปัด รู้สึกเหนื่อย
ที่จะต่อความยาวไปอีก
“แล้ววินเจ็บรึเปล่า” แมทยังคงเป็นห่วงต่อ
“แสบ ๆ”  วินตอบไปสั้น ๆ ในใจแอบเคืองเล็กน้อยที่แมทไม่ยอมเห็นพ้องกับวิน (เอาแต่ใจ
จริง ๆ)
“แมทรีบกลับกันเถอะ - - วินต้องกลับไปเอารถที่บ้านแมทอีก...เดี๋ยวถึงบ้านเย็น”
วินเอ่ยขึ้น ขณะนั้นเวลาน่าจะประมาณบ่ายสองแก่ ๆ ได้แล้ว  วินกังวลว่าจะกลับไป
ทานข้าวเย็นกับที่บ้านไม่ทัน
“ครับ ๆ”  แมทเองก็เหมือนนึกขึ้นได้ว่าวินต้องรีบกลับบ้าน กระตือรือร้นขึ้นมา
เราทั้งสองต้องเดินผ่านไปยังจุดเกิดเหตุเมื่อครู่อีกครั้ง ขณะที่พี่แม่บ้านผู้น่าสงสารต้อง
มาทำความสะอาดฉากละครที่พี่กอล์ฟได้จัดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้...ขอให้เวรกรรมตาม
สนองพี่กอล์ฟ ถ้าพี่กอล์ฟคิดจะแกล้งวินจริง ๆ ทั้งยังทำให้พี่แม่บ้านต้องมาเก็บกวาด
โดยใช่เหตุ    วินเดินผ่านพี่กอล์ฟ พี่ไอริน และผองเพื่อนไปโดยไม่มองหน้าใคร ... ตอนนั้น
รู้สึกกลัวจริง ๆ วินจะเก่งก็ต่อหน้าแมทเท่านั้น วินจะไปกล้าทำอะไรคนที่ทั้งเก่ง  ทั้งฉลาด
และแก่กว่า ยังไงเขาก็เป็นพี่ อาวุโสกว่า ....ตอนนั้นวินได้แต่คิดแบบนั้น


________________________________________________________________


ตัวอย่างตอนต่อไป...............
ตอนที่ 11 ความจริง...เป็นสิ่งที่ตายไปได้ก็จะดี


“ทำไม - - แมทกับพี่กอล์ฟ มีอะไรกันเร็วจัง....ไม่ถึงเดือนเนี่ย”  วินปล่อยคำถามที่ค้างคา
“ถามทำไมอ่ะวิน - - เรื่องมันผ่านมานานแล้ว”  แมทสลับสายตาที่มองถนนและวินไป
พร้อม ๆ กันในเวลานั้น
“วินอยากรู้ - - ก็แมทดูเป็นคนไม่ฉาบฉวยดี.....ขนาดวิน เรายังรอกัน 3 เดือนเลย”
วินให้เหตุผล

......................................................................................

“พี่แสงเดือนก็ต้องพอรู้ว่าแมทมีแฟนมากี่คน ?”
   วินถาม
“คุณวินเป็นคนที่สองมั้งคะ....พี่แสงเดือนไม่เคยเห็นคุณแมทพาใครมาที่บ้านนอกจาก
คุณกอล์ฟ แล้วก็คุณวินนี่แหละค่ะ”  พี่แสงเดือนเฉลยโดยวินไม่ต้องถามอะไร และนี่แหละ
คือคำตอบที่วินต้องการจากพี่แสงเดือน   

.........................................................................................

หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส
เริ่มหัวข้อโดย: mobilejom ที่ 15-03-2008 15:06:35
สงสารวินจัง :m15: พี่กอล์ฟนางร้ายเหลือเกิน วินน่าจะเอาเรื่องนะ :เตะ1:

ปล. ชอบเรื่องนี้จัง สนุกๆ มาต่อไวๆนะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 15-03-2008 18:09:27
เชอร์ร่า เอ๊ย พี่กอล์ฟมาเรอะ ตอนต่อไป ฮ่าๆ

แม่ร้ายแล้วอ่าาา  :o12:

มาให้กำลังใจค่า พี่วิน

 :oni1:

ขอบใจจ้า น้องยูระ
จุ๊ฟ
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 15-03-2008 18:10:04
จะว่าแม่ของแมทร้ายก็จริงอยู่..แต่มันก็มีที่มานะ
เหตุผลก็คงเพราะชีวิตนี้เหลือลูกชายอันเป็นที่รักเพียงคนเดียว..
เลยไม่อยากให้ใครมาทำร้ายหรือทำให้เสียใจ..
นี่ยังดีนะที่ยังให้คบกันได้..ยังเห็นความสุขของลูกเป็นใหญ่..
แต่ก็ต้องรอดูต่อไปเนอะ..

ช่าย...
ต้องรอดูต่อไป
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 15-03-2008 18:10:40
สงสารวินจัง :m15: พี่กอล์ฟนางร้ายเหลือเกิน วินน่าจะเอาเรื่องนะ :เตะ1:

ปล. ชอบเรื่องนี้จัง สนุกๆ มาต่อไวๆนะ

ขอบคุณมาก ๆ น้า
ที่ชอบเรื่องของวิน
 :o8:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส
เริ่มหัวข้อโดย: LingNERD* ที่ 15-03-2008 18:29:45
นางมารร้ายยยยยยยยยยย :angry2:

สู้ๆๆ เปงกำลังใจให้พี่วินนี่ :m1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 15-03-2008 18:41:43
นางมารร้ายยยยยยยยยยย :angry2:

สู้ๆๆ เปงกำลังใจให้พี่วินนี่ :m1:

ขอบใจจ้า :o8:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส
เริ่มหัวข้อโดย: ICEME ที่ 15-03-2008 19:27:12
-*-" ใจร้ายกันจังเลยอ่ะ เอ่อ อ่านไปแบบมึนๆ กำลังเครียดหนักเลยค่า

แอบสงสารอ่ะ :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 15-03-2008 19:50:55
-*-" ใจร้ายกันจังเลยอ่ะ เอ่อ อ่านไปแบบมึนๆ กำลังเครียดหนักเลยค่า

แอบสงสารอ่ะ :o12: :o12:


มึนเพราะ อ่านแล้วเครียดจากสถานการณ์ในเรื่อง

หรือวินเขียนมะรู้เรื่องอ่า

บอกด้วยน้า
จาได้ไปปรับปรุงจ้า  :a2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 15-03-2008 20:09:25
หุหุ เท่าที่อ่านตอนนี้ ยังไม่ขอเข้าข้างใครละกัน
ต่างคนก็ต่างมีคนมาวุ่นวายด้วย  :m23:
ส่วนคุณแม่ออกแนวโรคจิตนิดๆ แฮะ (ขอโทษค่ะ  :m13: รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ อ่านตามที่เขาเขียนมานะ)

ชักลุ้นตอนต่อไปแล้วสิ มาต่อไวไวน้า  :oni2: :oni2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 15-03-2008 21:27:29
ตอนที่ 11 ความจริง...เป็นสิ่งที่ตายไปได้ก็จะดี

ระหว่างทางกลับบ้านวินมีคำถามอีกมากมายเกี่ยวกับพี่กอล์ฟ     ที่รอการพรั่งพรูออกมา
เพื่อให้แมทไขข้อข้องใจเหล่านั้น  ความคิดหลัก ๆ ของวิน ณ ตอนนั้น คือเรื่องพี่กอล์ฟกับ
แมท  ว่าทำไมทั้งสองคนลึกซึ้งกันแค่ในเวลาไม่ถึง 1 เดือน    แล้วทำไมทีวิน แมทรอจน
เกือบ 3 เดือนกว่าเราจะลึกซึ้งกัน (ตอนนั้นคิดแค่นี้จริง ๆ)
และแล้วความคิดของวินก็กลายเป็นคำถามในที่สุด
“แมท...”  วินเรียก
“ครับ”   แมทละสายตาจากถนนครู่หนึ่งมาที่วิน
“ทำไม - - แมทกับพี่กอล์ฟ มีอะไรกันเร็วจัง....ไม่ถึงเดือนเนี่ย”  วินปล่อยคำถามที่ค้างคา
“ถามทำไมอ่ะวิน - - เรื่องมันผ่านมานานแล้ว”  แมทสลับสายตาที่มองถนนและวินไป
พร้อม ๆ กันในเวลานั้น
“วินอยากรู้ - - ก็แมทดูเป็นคนไม่ฉาบฉวยดี.....ขนาดวิน เรายังรอกัน 3 เดือนเลย”
วินให้เหตุผล
แมทหัวเราะในคอเล็กน้อยก่อนจะตอบ
“ก็แมทรักวินจริง ๆ นี่ - - ไม่ได้แค่เล่น ๆ...ชั่วครั้งชั่วคืน”  แมทตอบ...วินรู้สึกดีเล็กน้อย
“ถ้าอย่างนั้นแค่สามเดือน - - วินก็ว่ามันเร็วไปอยู่ดีอ่ะ”  วินค้าน
“แหม - - ถ้าวินเป็นผู้หญิง คิดอย่างนั้นก็ไม่ผิด....แต่นี่เราไม่มีอะไรจะเสียกันทั้งคู่นี่”
แมทตอบกลับมา......อืมมม ก็จิงของแมทแฮะ  วินจึงได้แต่พยักหน้าตอบไปแบบเห็นด้วย
(และวินจะได้กลับไปพบเรื่องโกหก กับความจริงที่เจ็บปวดเล็กน้อยเมื่อถึงกรุงเทพฯ แล้ว)
“แมท - - แล้วทำไมเลิกกัน”  วินเปลี่ยนคำถาม
“วินจะเซ้าซี้ทำไม.....ตอนนี้แมทรักวิน แมทอยู่กับวิน จะพูดถึงความหลังทำไมครับ”
แมทมีน้ำเสียงแข็งขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ยังลงท้ายประโยค  ที่แสดงว่าอารมณ์แมทปกติดีอยู่
“ก็วินอยากรู้นี่.....วินไม่ได้จะอะไร ก็แค่อยากรู้เรื่องของแฟนตัวเองแค่นั้นเอง”
 วินทำหน้าอ้อนวอน และก็สำเร็จ แมทใจอ่อนตอบในที่สุด
“แมทไม่ชอบ - - พี่กอล์ฟเป็นคนประเภท ‘เสนอหน้า’ ชอบทำดีเอาหน้า ยิ่งกับแม่แมทแล้ว
ชอบทำมาเป็นเอาใจ ประจบประแจง - - แม่แมทดูไม่ออก แต่แมทดูออก...พี่เค้าทำซะจน
แม่แมทตายใจ....จนแม่ปลื้มซะเว่อร์ - - แมทก็ไม่รู้ทำไม....แม่ดูจะชอบพี่เค้าเอามาก ๆ”
.......แมทตอบมาเสียยาว ทำเอาวินหน้าหดเหลือสองนิ้ว  วันนี้วินทำเรื่องที่ไม่น่าปลื้ม
ออกไปสารพัด.…..แต่เอ๊ะ ?.....ถ้าเคยเจอกันตอนกินข้าวที่โนโวเทลครั้งนึง ทำไมพี่กอล์ฟถึงได้มีโอกาสทำตัวอะไรอย่างนั้นกับคุณแม่ได้เหมือนเจอกันอยู่บ่อย ๆ ....ช่างเหอะ ๆ 
ถามต่อดีกว่า   (เดี๋ยวถึงกรุงเทพฯ ก็รู้....เห้ออออ....)
“แล้วอย่างนี้.....คุณแม่เค้าก็ไม่ชอบวินอ่ะสิ”  วินเสียงอ่อยมาก ๆ
“ไม่....วิน - - แมทรักใคร คุณแม่ก็รัก”   แมทยืนกราน
“คุณแม่คงปลื้มพี่เค้าอยู่ไม่น้อยนะ....ถึงยอมรับพี่เค้าทำงานโดยไม่พิจารณาเลย”  วินเอ่ย
“แหมวิน- -พี่กอล์ฟเป็นพนักงานคนเดียวตอนนี้ในโรงงานของเรา ที่จบเกียรตินิยมมานะ”
 คำตอบของแมท ทำเอาหน้าวินหดลงไปอีกจนเหลือนิ้วเดียว (จากสองนิ้ว)…..นี่วินมีดี
อะไรที่จะไปสู้พี่กอล์ฟได้บ้างมั้ยเนี่ย...ไม่มีเลยจริงๆนะ(จนวันนี้วินก็สู้อะไรพี่เค้าไม่ได้เลย)
“อ่อ”   วินตอบไปสั้น ๆ คิดในใจ  นี่จะถามทำไมเนี่ย   ยิ่งถามยิ่งรับรู้แต่ข้อดีของพี่กอล์ฟ
..........จึงเลิกถามไป     โดยวินก็ไม่ได้ถามถึงสถานการณ์ที่ในที่สุดทำให้ทั้งสองเลิกรากัน
(วินลืมบอกไปว่าพี่กอล์ฟเป็นคนหน้าตาใช้ได้ ไม่ถึงกับดี ตัวสูงเหมาะเป็นเชียร์ลีดเดอร์
จริง ๆ ผิวขาวแต่ไม่เท่าวิน หน้าเค้าแดงนิดหน่อยเหมือนกำลังทำเลเซอร์หลุมสิวที่มีอยู่
ประปรายบนหน้าเค้า...โดยรวมก็ถือว่าหน้าตาหาแฟนได้แน่ ๆ ไม่ต้องห่วง)

ขากลับเราถึงกรุงเทพฯ เร็วกว่าขาไปเสียอีก ไม่นานเราก็ถึงห้างฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต และนี่
คือครั้งแรกที่วินได้เห็น และได้เดินห้างแห่งนี้ เราเดินเล่นกันอยู่ไม่นาน เนื่องจากแมทรู้สึก
เหนื่อยในการขับรถ        เราซื้อไอศครีมเพื่อทานกันระหว่างทาง  โดยระยะทางจากห้างฯ
ถึงบ้านแมท   วินต้องเปลี่ยนมาเป็นคนขับให้แมทที่ดูเพลียเอาจริง ๆ เลยขอให้วินขับแทน
เป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่วินได้ขับรถยี่ห้อนี้.....ไม่ค่อยถนัดอยู่เหมือนกัน

พอถึงบ้านของแมท วินก็เห็นพี่แสงเดือนกำลังกวาดหน้าบ้านอยู่พอดี จึงเอาขนม
กะหรี่ปั๊บที่ซื้อมาระหว่างทางลงไปฝากพี่แสงเดือน ในขณะที่แมทกำลังบอกให้อาตู่
ที่มาถึงก่อนหน้าเรา เอารถเข้าบ้าน
“ขอบคุณค่ะ...คุณวิน”  พี่แสงเดือนยกมือไหว้ จนวินรับไหว้แทบไม่ทัน
“พี่แสงเดือนเรียกว่าวินดีกว่า - - แล้วต่อไปก็ไม่ต้องไหว้วินแล้วนะ”  พี่แสงเดือนคง
แก่กว่าวินซัก 20 ปีได้ในตอนนั้น อายุแกป่านนี้ก็คง 40 นิด ๆ แล้วหละ วินจึงรู้สึกไม่ดีนัก
ที่พี่แสงเดือนต้องยกมือไว้วิน   จากนั้นทุกครั้งที่พี่แสงเดือนไม่ได้อยู่ต่อหน้าคุณแม่
พี่แสงเดือนก็จะเรียกวินว่า ‘น้องวิน’ ตลอด โดยที่แมทก็เคยถามอยู่เหมือนกัน แต่เมื่อวิน
ให้เหตุผลไป แมทก็ไม่ว่าอะไร แต่ถ้าเป็นต่อหน้าคุณแม่ จะไม่ได้เด็ดขาด....
จากนั้นเราทั้งสองก็เดินเข้าไปในบ้าน โดยเวลานั้นคุณแม่คงนอนพักผ่อนอยู่ที่ห้องนอน
ของท่าน  วินจึงไปเปลี่ยนชุดกลับเป็นชุดเดิม และคืนเงินแมทตามที่วินยืมไปในการซื้อ
ของที่สระบุรี รวมถึงขนมที่ซื้อมาฝากพี่แสงเดือนด้วย เพราะวินลืมเอากระเป๋าเงินไป

ตามที่บอกไว้ก่อนหน้านี้ว่าวินจะได้รับรู้การโกหก และความจริงที่เจ็บปวด(เล็กน้อย)
เมื่อกลับมาถึงกรุงเทพฯ นี่เอง ........ เมื่อวินลงมาถึงชั้นล่าง ในขณะที่แมทใช้ห้องน้ำ
อยู่บนห้องนอนของเขา  วินก็เจอพี่แสงเดือนในห้องครัว.....วินที่นิสัยเริ่มแย่ลง ยังคง
มีคำถามเกี่ยวกับพี่กอล์ฟ จึงดิ่งเข้าไปหาพี่แสงเดือนทันที โดยที่ตรงนั้นก็มีแต่เราสองคน

“พี่แสงเดือน” วินเอ่ยทักพี่แสงเดือนที่กำลังเช็ดห้องครัวอยู่
“กะหรี่ปั๊บอร่อยมั้ย” วินถามเพื่อเป็นการเกริ่นก่อนเข้าเรื่อง
“ยังไม่ได้ทานเลยน้องวิน”  พี่แสงเดือนตอบ
“ใส้ไก่ - - อร่อยมากเลยนะ...ลองชิม ๆ” วินบอก
“เออพี่แสงเดือน....วินถามหน่อยสิ”  วินเริ่มปฏิบัติการ
“อะไรคะคุณ?” พี่แสงเดือนตอนนั้นยังคงเรียกวินสลับไปมา ระหว่าง ‘น้องวิน’ และ ‘คุณ’
วินดึงแขนพี่แสงเดือนให้ออกมาจากมุมอับบริเวณนั้น ให้มาอยู่ที่ช่องทางเดินตรงห้องครัว
เพื่อที่จะได้เห็นหากมีใครผ่านมาแถวนั้น
“พี่แสงเดือนทำงานที่นี่มานานแค่ไหนแล้ว” วินถาม
“ตั้งแต่คุณแมทตีนเท่าเขียดเลยค่ะ”  พี่แสงเดือนตอบ  ถ้าวินมีความรู้มากพอคงเคยได้ยิน
คำอุปมาของพี่แสงเดือนคำนี้ แทนที่จะเคยได้ยินแต่ ‘ตีนเท่าฝาหอย’ เพียงคำเดียวเท่านั้น
“หรอ ๆ”    วินกระตือรือร้น มีกำลังใจจะถามคำถามต่อไป
“พี่แสงเดือนรู้ใช่ม้ะ ... ว่าวินกับแมทเป็นอะไรกัน”     วินถามพี่แสงเดือนอีก
“คุณผู้หญิงก็รู้ค่ะ- -แกรับได้..คุณวินไม่ต้องเป็นห่วง” พี่แสงเดือนใสซื่อไม่รู้แผนการของวิน
“เรียกน้องวินแหละดีแล้ว.....แล้วถ้างั้นพี่แสงเดือนก็ต้องพอรู้ว่าแมทมีแฟนมากี่คน ?”
   วินถามต่อไป
“คุณวินเป็นคนที่สองมั้งคะ....พี่แสงเดือนไม่เคยเห็นคุณแมทพาใครมาที่บ้านนอกจาก
คุณกอล์ฟ แล้วก็คุณวินนี่แหละค่ะ”  พี่แสงเดือนเฉลยโดยวินไม่ต้องถามอะไร และนี่แหละ
คือคำตอบที่วินต้องการจากพี่แสงเดือน   วินรู้สึกหน้าร้อนขึ้นมาตรงนั้น …………….
………..นี่หรือ คืออาการหึง ??
“จริงหรอพี่แสงเดือน - - พี่แสงเดือนรู้จักพี่กอล์ฟด้วยหรอ”  วินเก็บอาการ แล้วทำเหมือน
 กำลังใคร่รู้อย่างราบรื่น จนพี่แสงเดือนก็ไม่รู้ว่าวินมีทีท่าหึงหวงแต่อย่างใด
“เคยมาที่นี่ 2 – 3 ครั้ง แหละค่ะน้องวิน......พี่แสงเดือนก็ไม่แน่ใจ - - ตอนนั้นคุณแมทไม่
ม.4 ก็ม.5”
พี่แสงเดือนยังคงเฉลยออกมาไม่หยุด ทั้ง ๆ ที่วินยังไม่ได้ถามว่าพี่กอล์ฟเคยมาที่นี่หรือไม่
“มอ 4 มอ 5 !”     วินเปล่งเสียง
“ค่ะ”  พี่แสงเดือนเริ่มมีสีหน้างงเล็กน้อย
“คุณผู้หญิงดูชอบพอคุณเค้ามาก ... แต่พี่แสงเดือนว่าคุณแมทไม่เท่าไหร่หรอกค่ะ......
อีกอย่าง คุณผู้หญิงเป็นคนชวนคุณเค้ามาเอง คุณแมทไม่ได้ชวน” พี่แสงเดือนอธิบาย
“พี่แสงเดือนรู้ได้ไง - - ว่าแมทไม่ได้ชวน”  เอาแล้วไงวิน....นี่พี่แสงเดือนเค้าไม่เกี่ยวนะ
“ก็....คุณกอล์ฟเธอชอบมาที่บ้าน และคุณผู้หญิงแกเลยชวน - - มีบางทีนะน้องวิน
 ที่คุณกอล์ฟกำลังอาบน้ำอยู่บนบ้าน คุณแมทยังเคยดุคุณผู้หญิงเลยว่า ‘ชวนค้างทำไม’ ”
พี่แสงเดือนนี่ช่างสังเกตเสียจริง ๆ  ….วินรู้สึกตลกเล็กน้อยที่พี่แสงเดือนเรียกพี่กอล์ฟว่า
‘เธอ’…..วินรักพี่แสงเดือนที่ใส ๆ ซื่อ ๆ คนนี้มากจริง ๆ (รักจริง ๆ นะ)
“มาบ่อยมั้ยพี่แสงเดือน” วินถามต่อ
“ก็ 2 – 3 ครั้งไงคะ”  พี่แสงเดือนย้ำคำตอบ
“งี้ก็แปลว่า ค้างทุกครั้งที่มาเลยสิ - - แรดจิง”  วินสบถ....วินเกลียดตัวเองในเวลานั้นจริง ๆ
“ก็มาทีไร ก็ค้างทุกทีแหละ - - พี่แสงเดือนไม่ชอบเลย....คนอะไรไม่รู้ ใช้เก่งมาก ... เหมือน
 อย่างกับเป็นเจ้านายพี่แสงเดือนเลยน้องวิน”  พี่แสงเดือนดูเหมือนจะเริ่มตั้งวงกับวินแล้ว

“วิน! - - วิน”   แมทเดินลงมาจากบันไดพอดี  วินรู้สึกเหมือนหนังกำลังสนุกต้องหยุดลง
เพราะต้องเปลี่ยนแผ่นสอง (แต่กว่าจะได้หยิบแผ่นสองมาเปลี่ยนก็ต้องอดทนอยู่นาน)
“พี่แสงเดือน - - เรื่องที่เราคุยกันไม่ต้องบอกใครนะ”  วินกล่าวก่อนจะเดินออกไป
“ค่ะ ๆ” พี่แสงเดือนรับคำ
“ว่าไงแมท”  วินเดินออกมาจากครัว
“เข้าไปทำอะไร” แมทน้ำเสียงห้วน ๆ ที่งงว่าทำไมวินต้องเข้าไปในห้องครัว
“เข้าไปถามพี่แสงเดือน...ว่ากะหรี่ปั๊บอร่อยรึเปล่า”   วินนี่ช่างไหลลื่นเก่งจริง ๆ
“แล้วเป็นไง” แมทถามต่อ
“พี่เค้ายังไม่ได้กินเลย - - วินก็เลยชวนคุยเรื่องนู่นนี่”  วินตอบ
“เรื่องอะไรหละ”  แมทถามซอกแซก
“ก็เรื่องทั่วไปแหละ....ถามว่าทำงานคนเดียวเหนื่อยมั้ย บ้านใหญ่โตขนาดนี้ และก็อื่น ๆ”
  วินตอบ.......สุดยอดมั้ยหละไอ้วินคนนี้
“พี่แสงเดือนเค้าชินแล้ว....ทำงานที่นี่มาตั้งแต่แมทจำความได้”  แมทตอบ
…..‘ก็ใช่หละสิ ถึงได้รู้ความจริงอะไรที่วินไม่รู้ แล้วแมทพยายามปกปิด’  นี่คือความคิดของวินนะ...ใครจะพูดออกไป...พี่แสงเดือนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่จะพลอยซวยเอาได้ อีกอย่าง
ยังมีอีกหลายสิ่งที่วินต้องพึ่งพาพี่แสงเดือนอยู่ (ตลอดเวลา 1 ปี พี่แสงเดือนเสมือนไส้ศึก
ในบ้านของแมท และคอยเป็นผู้ช่วยให้วินไม่ต้องมาเจอเรื่องร้าย ๆ จากแผนของคุณแม่
....ถึงแม้จะไม่ค่อยทันเท่าไรนัก)
“วินเป็นอะไรรึเปล่า - - ทำไมทำหน้างี้ใส่แมท” 
แมทคงสังเกตเอาจากสีหน้า (ที่เพิ่งได้รับรู้ความจริง) ของวิน
“เปล่า - - วินจะกลับบ้านแล้ว”  วินตอบ
“หรอ”  แมททำหน้าตาละห้อยเล็กน้อย
“คุณแม่อยู่ไหน - - วินจะได้ไปลา”  วินที่อารมณ์ไม่สู้ดีนัก ถามขึ้น
“คุณแม่หลับอยู่ .... ไม่เป็นไรวินกลับไปเถอะ”  แมทตอบ
“งั้นวินฝากสวัสดีคุณแม่ด้วยนะแมท”  วินที่อารมณ์ยังค้างบอกไปด้วยน้ำเสียงทื่อ ๆ
 (วินไม่คิดเลย  ว่าต่อมาคุณแม่จะไม่พอใจวิน  เรื่องที่วินไม่ได้เข้าไปลาคุณแม่กลับบ้าน
 แล้วเอาวินไปว่าให้พี่แสงเดือนฟังในเย็นวันนั้น ว่าวินไม่มีสัมมาคารวะ ไปไม่ลา มาไม่ไหว้
 ก็ใครจะไปกล้า  ผู้ใหญ่กำลังพักผ่อน.....ถ้าวินเข้าไปก็จะหาว่าไม่มีมารยาทมารบกวนอีก
 ตอนที่พี่แสงเดือนมาเล่าให้ฟัง เป็นตอนที่พี่เค้าออกมาแล้ว พี่แสงเดือนยังบอกเลยว่า   
 ‘เวรกรรมอะไรของน้องวินก็ไม่รู้’...จริง ๆ วินก็กล้าจะไปกวนอยู่ เพราะเรื่องลา – มาไหว้
เป็นเรื่องสำคัญสำหรับวิน....แต่ลูกชายของคุณแม่เอง  ยังเป็นคนบอกว่าไม่ต้องก็ได้นี่นา)

ขณะวินขับรถกลับบ้าน  วินคิดมาตลอดทางว่าวินควรจะถามแมทเกี่ยวกับเรื่องนี้เลยดี
หรือจะรอไปก่อน ให้แมทเป็นคนบอกความจริงเอง  แต่ในที่สุดวินก็เก็บมันไว้ โดยที่แมท
เองก็ไม่ได้บอกความจริงกับวิน ทั้ง ๆ ที่วินก็เคยถามเป็นเชิงอยู่ออกบ่อย  จนวันนึงคนที่
เปิดเผยก็คือ........(ตามอ่านกันเอง  อิอิ)

___________________________________________________________


ตัวอย่างตอนต่อไป.........
ตอนที่ 12 เพื่อนสนิท...คนใหม่ในชีวิต


‘วินมีแฟนแบบนี้ได้ยังไง ระวังเถอะวิน คนโมโหร้าย....ฟิว” เบอร์ลงท้ายด้วย 777 เป็น
ผู้ส่งมา และไม่นานก็มีข้อความดังตามมา

..............................................................................................

“วิน....เราก็คนนึงที่ชอบวินอ่ะ - - ไม่ได้หรอ  ถ้าวินบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้ชอบเรา ...เราจะไปทำ
อะไรวินได้....ไม่เห็นต้องปิดกั้นอะไรกันเลย   ฟิวก็เพื่อนปุ้ยนะ เราเป็นเพื่อนกันไม่ได้หรอ”
ฟิวพูด

................................................................................................


หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 15-03-2008 22:56:57
ขอปาดเหงื่อหน่อย  :m29: รักนี้ท่าทางจะสาหัสเหมือนชื่อเลยอ่ะ  :m29:
รักแรกสาหัสขนาดนี้ ถามนิดนะ เข็ดกับความรักบ้างรึเปล่า  :m13:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 15-03-2008 23:50:08
ขอปาดเหงื่อหน่อย  :m29: รักนี้ท่าทางจะสาหัสเหมือนชื่อเลยอ่ะ  :m29:
รักแรกสาหัสขนาดนี้ ถามนิดนะ เข็ดกับความรักบ้างรึเปล่า  :m13:

อยากรู้.........
อย่างนี้ยิ่งต้องติดตามเลย 5555

(ขอกระชากเรทติ้งตัวเองนิดนุง...แบบว่าขาประจำมีน้อย... กริกริ)
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: ICEME ที่ 16-03-2008 00:10:57
โอ๊ยยยยยย เดี๋ยวต้องมีเรื่องยุ่งๆ ตามมาอีกแหง
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: LingNERD* ที่ 16-03-2008 01:00:16
เพื่อนคนใหม่นี้ จะนำเรื่องเลวร้ายหรือเรื่องดีๆมาให้พี่วินของผมบ้างเนี่ย :a5:

เปงกำลังใจให้เหมือนเดิมก๊าบบบบบ :m1:

ปล.อ่านมาหลายวัน ลืมกดบวก+1อิอิ จัดไปอย่าให้เสีย  :o8:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 16-03-2008 12:40:50
ตอนที่ 12 เพื่อนสนิท...คนใหม่ในชีวิต

กลับถึงบ้าน  วินพบกับคุณพ่อคุณแม่ ท่านทั้งสองกำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่ วินเข้าไปกอด
คุณแม่ เหมือนทุกครั้งที่เคยทำ (วินกับคุณแม่กอดกันอยู่เสมอ จนถึงทุกวันนี้) ตอนนั้น
กอดเพราะไม่เคยห่างท่านเกิน 1 วันเลย ก็เลยกอดซะหน่อย ไม่ได้กอดเพราะว่าเพิ่ง
ไปเจอเรื่องร้าย ๆ มาหรอก ...เพราะวินเองก็แทบจะลืม ๆ มันไปหมดแล้ว หลังจากที่
แมทเข้าใจวิน และเราก็ดี ๆ กันมาจนสิ้นสุดวัน

“กินอะไรมารึยังหละ” คุณแม่ถาม
“ยังเลยแม่....แต่วินยังไม่ค่อยหิว ..เดี๋ยวขอไปล้างหน้าล้างตาก่อน”  ว่าแล้ววินก็ลุกขึ้น
 ไปล้างหน้า ล้างอาการปวดหัว และอาการหึงหวงตกค้างออกเสียหน่อย.....อิอิ
 ล้างหน้าเสร็จวินก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา......ปรากฏว่าแบตหมด วินคิดขึ้นมาทันที
 ว่านี่โทรศัพท์คงดับมานานแล้วพอใช้ได้ เพราะหลังจากวินาทีที่แมทสบถใส่ฟิวไป
 ฟิวก็ไม่ได้โทรกลับมา หรือมีข้อความมาเลย....หรือคงเข็ดไปจริง ๆ แต่ก็ไม่เป็นเช่นนั้น
 หลังจากวินชาร์จและเปิดเครื่องไม่นานก็มีเสียงข้อความเข้ามา....วินจึงหยิบขึ้นเปิดอ่าน

‘วินมีแฟนแบบนี้ได้ยังไง ระวังเถอะวิน คนโมโหร้าย....ฟิว” เบอร์ลงท้ายด้วย 777 เป็น
ผู้ส่งมา และไม่นานก็มีข้อความดังตามมา โดยเวลาส่งห่างกันประมาณ 5 นาที
‘วินปิดเครื่องหนีฟิวหรอ ก็แค่ขอเป็นเพื่อน จะไม่ได้เลยรึไง...ฟิว’  และเสียงข้อความที่ 3
ก็ดังตามมา โดยเวลาส่งห่างกัน 10 นาที
‘ฟิว add MSN ไปแล้วนะ แล้วเราคุยกันนะ...ฟิว” หมดเสียทีข้อความจากฟิว
เสียดายที่ระบบโทรศัพท์ตอนนั้นไม่มีบริการส่งข้อความแจ้งว่ามีสายไหนบ้างที่ไม่ได้รับ
และทั้งหมดกี่สายเหมือนทุกวันนี้...วินจะได้รู้ว่าฟิวโทรมาหรือเปล่า โทรมากี่ครั้ง
แต่วินคงไม่รอที่จะคุยกับฟิวทาง msn หรอก วินโทรกลับไปหาฟิวทันทีเดี๋ยวนั้น
วินรออยู่ไม่นานก็มีคนรับสาย แต่ไม่พูดอะไร
“ฮัลโหล..”    วินเป็นฝ่ายทักก่อน
“อ๋อ....วินนั่นเอง - - นึกว่าเจ้าของของวินก็เลยไม่พูดน่ะ”       วินรู้สึกไม่ดีกับคำที่ฟิวใช้
เรียกแมทแบบนี้...ขณะเดียวกันก็นึกโกรธที่แมทพูดใส่โทรศัพท์ ให้ฟิวรับรู้เรื่องนั้นไป
“ฟิวต้องการอะไร....ทำแบบนี้ทำไม”   วินพูดเสียงแข็ง
“ก็ต้องการรู้จักวิน...เป็นเพื่อนวิน - - ผิดด้วยหรอ....ไม่เห็นต้องด่ากันขนาดนั้นเลย”
ฟิวตอบมาด้วยน้ำเสียงเคืองเล็กน้อย
“วินไม่ได้เป็นคนด่า...และก็ไม่อยากมีเพื่อนใหม่ด้วย”  วินวางสายทิ้งหลังจากพูดจบ
ไม่เกิน 1 นาที ฟิวก็โทรกลับมา
“งั้นเป็นแฟนเลยมั้ยหละ”   ฟิวพูดขึ้นทันทีที่วินรับสาย
“ฟิว !”   วินเสียงแข็งกลับไปอีกครั้ง
“วิน....เราก็คนนึงที่ชอบวินอ่ะ - - ไม่ได้หรอ  ถ้าวินบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้ชอบเรา ...เราจะไปทำ
อะไรวินได้....ไม่เห็นต้องปิดกั้นอะไรกันเลย   ฟิวก็เพื่อนปุ้ยนะ เราเป็นเพื่อนกันไม่ได้หรอ”
ฟิวพูดจบ ในขณะหนึ่งวินเห็นด้วยที่ว่าทำไมวินต้องรู้สึกอะไร ถ้าไม่ได้ชอบฟิวจริง ๆ
“มันทำให้วินมีปัญหานะฟิว....” วินตอบ ตอนนั้นรู้สึกไม่รู้จะพูดอะไร หมดคำพูดเสียเฉยๆ
“แล้ววินไปบอกอะไรกับแมทหละ  เค้าถึงได้มีปัญหา....ธรรมดาถ้าบอกว่าเราเป็นเพื่อนกัน
แมทก็คงไม่ว่าอะไร - - วินไปบอกอะไร หรือไปบอกว่าเราจีบวิน”   ฟิวถามมาเป็นชุด
“เปล่า”      วินตอบสั้น ๆ ทั้งที่จริง ๆ วินบอกกับแมทไปว่าฟิวดูเหมือนจะจีบวิน  นี่วินหลง
  ตัวเองหรอเนี่ย ??.....ตอนนั้นรู้สึกอายตัวเองพิกล
“งั้นทำไมแมทต้องมาด่าเราด้วย”   ฟิวสวนกลับทันที
“เค้าก็คงคิดว่าฟิวจีบแหละ...”   วินพูดอย่างอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ....วินเองก็รู้สึกว่า  นี่วินไม่ยอมรับ
ความผิดที่ตัวเองได้ก่อขึ้น  กลับโยนความผิดให้กับแมท....สมแล้วถ้าคุณแม่จะไม่ปลื้มวิน
“ฟิวเดี๋ยวนะ....สายซ้อน”    วินบอกกับฟิว เมื่อเห็นสายซ้อนของแมทโทรเข้ามา
“วินถึงบ้านรึยังครับ”   แมทถาม
“เพิ่งถึงเนี่ยแมท”   วินตอบไปเสียงปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้
“แล้วคุยกับใครอยู่ - - แมทเห็นมันขึ้น ‘เวทติ้ง’ ตอนโทรหาวิน”  แมทถามกลับมา
โทรศัพท์ของใครหลายคนคงเคยเป็น เวลาใช้มือถือโทรเข้ามือถือด้วยกัน ถ้าตัวเราเป็น
สายซ้อน  หน้าจอจะขึ้นว่า ‘waiting’ ให้ทราบ
“ปุ้ย...ปุ้ยโทรมา”  วินโกหก....รู้สึกแย่ที่สุด เพราะก่อนจะมาถึงบ้าน วินกับแมทก็ยังรู้สึกดี
 ต่อกันอยู่เลย   จู่ ๆ ก็มีเสียงสายซ้อนกลับเข้ามาทางสายของวินอีกครั้ง
“xx-xxx-x777”  ฟิวคนเดิมคงรอไม่ไหวโทรกลับมา   แต่วินไม่ได้รับ ปล่อยให้มันเรียกไป
“คุณแม่ตื่นรึยังแมท”  วินเปลี่ยนเรื่อง
“ยังเลย - - แมทออกมาหาอะไรทานที่ตลาดแถวบ้าน”  แมทตอบ
“แมท....วินขอโทษนะ ...สำหรับเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นวันนี้”   วินกล่าว  รู้สึกผิดมาก ๆ
“ไม่เป็นไรวิน....แค่วินซื่อตรงกับแมท...ไม่โกหก ไม่ปิดบังอะไรต่อกัน แค่นั้นแมทก็ดีใจ
  มาก ๆ แล้ววิน”  คำพูดของแมททำเอาวินกลืนน้ำลายไม่ลง  วินเพิ่งจะโกหกแมทไป
  ด้วยประโยคเมื่อครู่นี้เอง (ตอนนั้นลืมไปเสียสนิท ว่าแมทเองก็ปิดบังวินเรื่องพี่กอล์ฟ
  เหมือนกันแหละ....ชิชะ!)
“อืม”   วินตอบสั้น ๆ ....ก็จะให้วินตอบอะไรไปได้มากกว่านี้ จริงมั้ย ?
“โอเค...เดี๋ยวขอแมทหาไรทานก่อนนะครับ”
“ได้ ๆ แล้วเดี๋ยวคุยกัน”   วินรับคำ ก่อนจะวางสาย  แต่ทันทีที่วางสายจากแมท
 โทรศัพท์ของวินก็ดังต่อ  ฟิวคนเดิมโทรกลับมานั่นเอง
“ว่าไง”  วินรับสาย
“แมทโทรมาอ่ะดิ - - ไม่อยากลงทุนเสียค่าโทร เพื่อรอสายนายคนนี้....ขอโทษด้วยนะ”
 นี่ฟิวกับแมทเกลียดกันทั้ง ๆ ที่ยังไม่เคยเจอกัน.....เป็นเพราะวินแท้ ๆ เลย
“ฟิว....มีอะไรรึเปล่า - - ถ้าไม่มีแค่นี้ก่อนได้มั้ย....วินเพลีย”  วินพูดดี ๆ กับฟิว วินรู้สึก
เหนื่อย เพลีย อ่อนปวกเปียกไปหมด   ไม่อยากทำอะไรแล้ว รู้สึกว่าวันนี้เจอศึกหนัก
เหลือเกิน บวกกับเมื่อเช้านี้วินตื่นแต่เช้ามากด้วย ทั้งที่เมื่อคืนนี้ก็นอนไม่ค่อยจะหลับนัก
“ตื่นมาแล้วออนไลน์แล้วกันนะ - - ฟิวอยากคุยด้วย...ไม่ได้ยินเสียง เห็นตัวหนังสือก็ยังดี”
คารมของฟิวนี่มันช่างมีล้นเหลือเสียจริง ๆ .........จากนั้นวินก็วางสายไป และตรงดิ่งเข้า
ห้องนอนแสนสบายที่คุ้นเคย....และวินก็หลับไปในที่สุด  หลังจากที่วินหลับไปได้ราว
2 – 3 ชั่วโมง คุณแม่ก็มาเรียกให้ลงไปทานข้าวเย็น    พอทานเสร็จวินก็ไปเล่นคอม
และเปิด msn โดยที่ตอนนั้นลืมไปแล้วจริง ๆ ว่าฟิวบอกว่า add มา.....พอออนไลน์
ก็มีข้อความขึ้นมาทันที  วินกดรับฟิวเข้ามาในรายชื่อเพื่อน msn ไม่นานก็มีเสียงทักขึ้น

“หวัดดี....นี่วินหรือแฟนวิน ?”  อิเมลที่เพิ่งกดรับเข้ามาเมื่อสักครู่ทักขึ้นมา
“วิน”   วินไม่มีอารมณ์ต่อกรอะไรนัก พิมพ์ตอบกลับไป  และบทสนทนาของเราก็เริ่มขึ้น

FEW : วิน ๆ ถามหน่อยดิ ทำไมไปอยู่กับแมทได้หละวันนี้
WIN : พอดีวันนี้วินไปที่โรงงานของคุณแม่แมทมา
FEW : ทำไมออกจากบ้านได้หละ ปุ้ยบอกว่าที่บ้านหวงนักหวงหนา
WIN : คุยกับปุ้ยเรื่องเราเยอะขนาดนี้เลยหรอ
FEW : ปล๊าวว  ก็แค่ไม่กี่เรื่อง
WIN : มีอะไรที่วินยังไม่รู้อีกมั้ย
FEW : คิดมากหน่า สรุปไปด้วยกันได้ไงอ่ะ อยากรู้บอกหน่อยดิ
WIN : ก็ไม่ทำไม ก็แค่ไปเที่ยวด้วยกัน จะรู้ไปทำไมเนี่ย
FEW : วินไปนอนบ้านแมทมาหรอเมื่อคืน ไม่ถามดีกว่า เพราะยังไง คำตอบก็คือ “ใช่”
           ก็แฟนวินเค้าเป็นคนมาบอกกับฟิวเองเมื่อตอนกลางวัน
WIN : เราไม่คุยกันเรื่องนี้ไม่ได้หรอ
FEW : โอเค ๆ  ถ้างั้นเราก็ขอโทษนะ ถ้าวันนี้เราคือต้นเหตุอ่ะ
WIN : อืม ๆ ไม่เป็นไร
FEW : แล้วเราชอบวินได้ป่ะ
WIN : แค่นี้ยังยุ่งไม่พอหรอ  เราไม่อยากเจอเรื่องอะไรอีกแล้วอ่ะฟิว
FEW : เรียกแทนตัวเองว่า “วิน” เหมือนเดิมดีแล้ว น่ารักกว่า “เรา” เยอะเลย
WIN : อืมมม          (ปกติวินเป็นคนถนัดที่จะเรียกชื่อตัวเองอยู่แล้ว ไม่ว่าจะกับที่บ้าน
                   หรือแม้แต่กับอาจารย์ คนอื่นเค้าเรียกแทนตัวเองว่า “ผม” หรือ “หนู”
                   กัน แต่วินก็เรียกแทนตัวเองว่า “วิน” จนถึงวันนี้กับอาจารย์ที่
                   มหาวิทยาลัยแล้ว  วินก็ยังไม่เปลี่ยน....หน่อมแน้มจริง ๆ)
FEW : เห้ยวิน เราขอโทษจากใจจริงนะ ที่เรารุกมากไป เราไม่รู้ทำไมถึงได้ถูกชะตากับวิน
           มากขนาดนี้  ไม่ได้คบกันเป็นแฟน ก็เป็นเพื่อนกันก็ได้ เราเป็นเพื่อนกันได้มั้ย
           อนาคตวินจะชอบเรากลับก็ค่อยว่ากัน หรือถ้าไม่ เราก็เป็นเพื่อนกัน อย่างน้อย ๆ
           เราก็มีเพื่อนใหม่เข้ามาในชีวิตไง  เรารู้สึกชอบวินจริง ๆ เป็นเพื่อนก็ยังดี
WIN : อืม ได้
FEW : ถ้าวินมีเรื่องทุกข์ใจ ร้อนใจ  มีปัญหาส่วนตัว หรือมีปัญหากับใคร บอกเราเลยนะ
          จะไปจัดการให้ หรือเป็นที่ปรึกษาก็ได้ เรายินดี
WIN : เราเพิ่งเจอกันครั้งเดียวเองนะฟิว  ทำไมต้องอะไรขนาดนี้ด้วย
FEW : อย่างที่บอก “ถูกชะตา” ถ้าไม่เคยไม่รู้หรอก
WIN : อืม ๆ
WIN : ฟิว วินขอไปนอนก่อนนะ ง่วงมาก พรุ่งนี้ต้องตื่นไปเรียนอีก แล้วไว้คุยกันนะ
FEW : หรอออออ    อืม ๆ ก็ได้ งั้นก็ฝันดีละกัน  บ๊ายบาย
WIN : บาย

และก็เป็นไปตามคำพูดของฟิว ทุกครั้งที่วินมีปัญหา หรือต้องการความช่วยเหลือ
ฟิวจะคอยอยู่เคียงข้าง และมาช่วยเหลือทุกครั้งที่ทำได้จริง ๆ
คุยเสร็จวินก็อาบน้ำ และเข้านอนด้วยความเพลียทันที วินจำได้เลยว่าวันนั้นหลับสนิท
ภายใน 5 นาที .............และในที่สุดวันนี้ก็สิ้นสุดลง

_____________________________________________________________



ตัวอย่างตอนต่อไป

ตอนที่ 13 ของมีค่า…ราคาเหลือครึ่งเดียว




“ดูนี่ - - ชอบมั้ย” คุณแม่ยื่นกล่องกำมะหยี่สี่เหลี่ยมสีขาวมาให้วิน....ในใจก็พอเดาออก
แล้วว่าอะไรอยู่ในกล่องนั้น....วินเปิดออกหลังจากรับมา
“ดูด้านในแหวนสิครับ”  แมทบอก
วินได้รับแหวนทองคำขาว ที่ตรงขอบด้านในของแหวน (ส่วนที่หันเข้าหานิ้วของเราเมื่อ
สวมแล้ว) สลักตัวย่อ ‘M.W.’
“มาแมทใส่ให้”   แมทเอ่ยขึ้น  แล้วสวมแหวนให้วิน

............................................................................................


“วิน...”  คุณแม่น้ำเสียงเปลี่ยนเล็กน้อย วินเองก็งงเล็กน้อย
“ที่แม่ทำแหวนให้...เพราะแมทขอ...แต่ก็ใช่ว่าแม่ไม่อยากทำนะ - - แต่วินต้องเข้าใจ
ว่าแม่ยังไม่มั่นใจในตัววินนัก...แม่เองก็ไม่รู้ว่าแมทจะรักวินจริงรึเปล่า - - แต่แม่เอง
ก็ไม่อยากขัดลูกของแม่....ฉะนั้นพิสูจน์ตัวเองให้แม่เห็น...ว่าวินซื่อสัตย์กับแมทจริง ๆ
และแม่จะไม่รู้สึกเสียดายเรื่องแหวนสองวงนี้เลย”   คุณแม่พูดเสียงเรียบ ๆ และดู
ไร้อารมณ์มาก ๆ ต่างกับเมื่อสักครู่ราวกับคนละคน   

...............................................................................................

“คุณวิน....ยังไงคุณแมทก็รักคุณวินมากนะคะ - - อย่าเพิ่งทิ้งคุณแมทไปตอนนี้”
  คำพูดของพี่แสงเดือนช่วยทำให้วินมั่นใจขึ้นมาว่า ไม่ว่าอย่างไรวินก็ต้องพิสูจน์กับ
  คุณแม่ ว่าวินรักแมทจริง ๆ ให้ได้           วินพยักหน้าและยิ้มรับคำของพี่แสงเดือน

...........................................................................................


หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: LingNERD* ที่ 16-03-2008 13:15:48
พี่วินคงน่ารักนะคับ พี่ฟิวถึงตื้อมะหยุด :o8:

เปงกำลังใจให้เหมือนเดิม :m1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: panang ที่ 16-03-2008 13:43:35
ยังไม่ได้อ่าน มาเจิมก่อน แต่อ่านเรื่องย่อคร้าวๆแล้ว

คิดในใจ ตรูไม่น่าอ่านเลย  :m29: หมดลุ้นเลย

แต่ยังไงก็จะตามอ่านน๊า  :oni1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 16-03-2008 13:51:49
พี่วินคงน่ารักนะคับ พี่ฟิวถึงตื้อมะหยุด :o8:

เปงกำลังใจให้เหมือนเดิม :m1:

เป็นคำถามที่แอบชมรึเปล่าเนี่ย  :o8:

คงจะจริงสำหรับ 5 ปีที่แล้วน่ะ
อิอิ

ยังไม่ได้ขอบคุณจริง ๆ จัง ๆ เลยนะ
ที่ติดตามอ่านมาตั้งแต่ต้น  :a1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 16-03-2008 13:53:42
ยังไม่ได้อ่าน มาเจิมก่อน แต่อ่านเรื่องย่อคร้าวๆแล้ว

คิดในใจ ตรูไม่น่าอ่านเลย  :m29: หมดลุ้นเลย

แต่ยังไงก็จะตามอ่านน๊า  :oni1:

ทำไมหมดลุ้นซะแล้วหละ
เพราะเรื่องย่อเฉลยหรอ....

ถ้าเป็นงั้นก็...........
ไม่จริงเลยนะ
คุณ panang ยังได้ลุ้นต่อไม่หยุดแน่ ๆ
เรื่องนี้ให้อะไรอีกเยอะ (5555 แอบชมตัวเอง)
ลอง ๆ ติดตามดูนะ และก็มาเป็งกำลังจาย ให้กันด้วยเน่อออ  o7
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: LingNERD* ที่ 16-03-2008 13:58:32
พี่วินคงน่ารักนะคับ พี่ฟิวถึงตื้อมะหยุด :o8:

เปงกำลังใจให้เหมือนเดิม :m1:

เป็นคำถามที่แอบชมรึเปล่าเนี่ย  :o8:

คงจะจริงสำหรับ 5 ปีที่แล้วน่ะ
อิอิ

ยังไม่ได้ขอบคุณจริง ๆ จัง ๆ เลยนะ
ที่ติดตามอ่านมาตั้งแต่ต้น  :a1:


นึกว่าพี่วินจะมาต่อ ว้าแย่จัง

ชมนะคับนั้นอะ  :o8:ว่าแต่เรื่องนี้มีกี่ตอนหยอ  
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: ICEME ที่ 16-03-2008 14:25:24
ไปโพสในเด็กดีให้แล้วด้วย แฮะๆ ตามติดเลยเรื่องนี้...

อยากรู้จังว่าจะเป็นไงต่อ แม่ของแมทก็เริ่มร้ายขึ้นเรื่อยๆ แล้วด้วย ลุ้นๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 16-03-2008 14:32:29
ไปโพสในเด็กดีให้แล้วด้วย แฮะๆ ตามติดเลยเรื่องนี้...

อยากรู้จังว่าจะเป็นไงต่อ แม่ของแมทก็เริ่มร้ายขึ้นเรื่อยๆ แล้วด้วย ลุ้นๆ

กำลังหาตัวอยู่เลย ว่าใครใจดีไปเม้นให้เรา
คุณ ICEME นี่เอง
น่ารักแบบนี้เอาไป +1
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 16-03-2008 14:34:56
เพื่อนคนใหม่นี้ จะนำเรื่องเลวร้ายหรือเรื่องดีๆมาให้พี่วินของผมบ้างเนี่ย :a5:

เปงกำลังใจให้เหมือนเดิมก๊าบบบบบ :m1:

ปล.อ่านมาหลายวัน ลืมกดบวก+1อิอิ จัดไปอย่าให้เสีย  :o8:

ขอบคุณน้า น้อง NonG MeE น่ารักจริงๆ
กดคืนไปแระนะ รู้ตัวป่ะ  o13
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 16-03-2008 14:47:11
ตอนที่ 13 ของมีค่า…ราคาเหลือครึ่งเดียว

ตอนเช้าวินก็ตื่นไปเรียนตามปกติ รู้สึกแปลกนิด ๆ เป็นการส่วนตัว คนอื่นอาจจะไม่เป็น
เหมือนวินก็ได้....วินรู้สึกว่าตัวเองไม่ใช่คนเดิมยังไงก็ไม่รู้ วินจะได้ไปเจอเพื่อน ๆ ที่คุ้นเคย
กับวินในภาพของนักเรียนม.ปลายอารมณ์ดี  ฮา ๆ ....วินคนเดิมที่อารมณ์แตกต่างออกไป
ใครจะคิดอะไรมั้ยเนี่ย ถ้ารู้ว่าวินคนนี้ก็มีประสบการณ์กับเขาบ้างแล้วนะ....วินรู้สึกว่า
ตัวเองไม่ใช่เด็ก ๆ เหมือนที่เคยรู้สึกอีกแล้วยังไงก็ไม่รู้.....รู้สึกอะไรอย่างนี้......เว่อร์จริง ๆ
วินพบกับอั้มขณะรอเข้าแถวเคารพธงชาติ

“วิน...”    อั้มเดินเข้ามาทัก สีหน้ายิ้มแย้ม  ทำให้วินรู้สึกดีใจที่อั้มไม่ได้โกรธอะไรวินเรื่อง
 ที่ทิ้งเธอไปดูหนังเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
“อั้ม...”  วินทักตอบไป
“เป็นไงมั่งเมิง...กับไอดารานั่น”  อั้มถามถึงฟิว
“ไม่รู้หว่ะอั้ม.....เสาร์ – อาทิตย์ที่ผ่านมานี้มีแต่เรื่องยุ่ง ๆ”  วินตอบ
“อะไรว้ะวิน ?”  อั้มคงเห็นสีหน้าเหนื่อย ๆ ของวิน จึงเอ่ยถามขึ้นอย่างเป็นห่วง
“ไม่รู้จะเริ่มยังไงเหมือนกัน - - เดี๋ยวค่อยว่ากันตอนพักละกัน”  วินตอบ
“เห้ยวิน...เป็นไงมั่งแก”  ปุ้ยตรงดิ่งเข้ามาหาวิน
“ได้คุยกับฟิวรึยัง - - เราให้มันแอ๊ดแกไปเมื่อวานนี้เอง”  ปุ้ยพูดต่อ....อ๋อ   ปุ้ยนี่เองที่
เป็นคนส่งมอบอีเมลของวินให้ฟิวไป
“เราขอโทษนะเว่ย...มันคะยั้นคะยอจนรำคาญอ่ะ เลยให้ ๆ ไป”   ปุ้ยกล่าวต่อ
“เออไม่เป็นไร”  อย่างที่บอกว่าปุ้ยเป็นเพื่อนที่ดี   ยากมากที่วินจะต่อว่าปุ้ยกับเรื่องแค่นี้

วินและอั้มกลับมาคุยกันตามปกติ และทุกอย่างก็ดำเนินไปดังเดิมเหมือนทุก ๆ วัน
ในที่สุดวินก็ไม่ได้เล่าเรื่องเมื่อวานนี้ให้อั้มหรือใครได้ฟังเลย และก็เก็บมันไว้จนมาถึงวันนี้
ถึงวันศุกร์แมทก็มารับวินเหมือนเคย โดยที่ไม่มีเพื่อนคนไหนติดสอยห้อยตามไปด้วย
โดยที่ในระหว่างสัปดาห์ฟิวไม่ได้โทรหาวินเลย แต่ส่ง sms วันละ 4 เวลา เช้า กลางวัน
เย็น และก่อนนอน เป็นอย่างนี้จนถึงวันศุกร์ เป็นข้อความทั่วไปบ้าง จีบบ้าง ยียวนบ้าง
อวยพรให้ฝันดีบ้าง  เวลาผ่านไปประมาณ 2 – 3 ศุกร์เห็นจะได้...วินก็ไม่แน่ใจ แต่ที่แน่ ๆ
คงจะยังไม่ถึงเดือน   พอมาถึงวันศุกร์ของสัปดาห์นี้ แทนที่วินและแมทจะไปเดินห้างฯ กัน
เหมือนทุกครั้ง แต่แมทกลับขอเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง

“วิน.....วันนี้ไปบ้านแมทกันเถอะ”  แมทเอ่ยขึ้น
“ทำไมหละ - - มีอะไรที่บ้านหรอ”  วินถาม
“เปล่า....เบื่อเดอะมอลล์แล้ว เดินทุกศุกร์เลย” แมทให้เหตุผล
“อืมก็ได้....วินไม่ได้เจอคุณแม่นานแล้วเหมือนกัน”  วินที่ลืมเรื่องราวต่าง ๆ ไปจนเกือบ
จะหมดแล้ว ตอบตกลง
“ดีเลย....แม่ก็บ่นคิดถึงวินอยู่เหมือนกัน”   วินรู้สึกดีใจ หวังลึก ๆ ว่าให้เป็นอย่างนั้นจริง ๆ

แมทดึงมือวินไปวางไว้บนตัก และกุมไว้ตลอดทางที่จะไปบ้านของเขา  วันนี้แมทดูยิ้มแย้ม
และให้ความอบอุ่นกับวินดีขึ้นกว่าปกติ  ทั้ง ๆ ที่แมทไม่เคยจับมือวินขณะขับรถมาก่อน
วินแปลกใจเล็กน้อย แต่ความรู้สึกดี ๆ มันมีมากกว่า เลยไม่ได้คิดอะไร

เมื่อถึงบ้านของแมท พี่แสงเดือนก็ออกมาเปิดประตู   โดยที่วินขอลงจากรถเพื่อไปทักทาย
พี่แสงเดือนก่อน
“พี่แสงเดือน เป็นไงบ้าง” วินเอ่ยทัก
“สบายดีค่ะ....กะหรี่ปั๊บอร่อยมากเลยคุณวิน”   นี่วินลืมไปแล้วนะเนี่ยเรื่องกะหรี่ปั๊บ
เกือบจะเดือนนึงแล้ว  พี่แสงเดือนยังจำได้ และมาตอบคำถามของวิน
“วินบอกแล้วไง...เรียกน้องวิน ดีกว่าเยอะ”  วินเตือนสติพี่แสงเดือน
“ค่า....”  พี่แสงเดือนเอนตัวมาจับมือของวินอย่างเอ็นดู
“แสงเดือนมากไปแล้วนะเธอ”   คุณแม่เอ่ยขึ้น  วินไม่ได้สังเกตว่าคุณแม่เดินมาขณะนั้น
  พี่แสงเดือนหน้าเจื่อน ปล่อยมือวินทันที
“คิดถึงจังเลยลูก...”  คุณแม่เข้ามาสวมกอดวิน หลังจากที่วินยกมือไหว้สวัสดีคุณแม่
“เข้าไปเตรียมน้ำมาให้คุณแมทกับคุณวินสิ”  คุณแม่พูดกับพี่แสงเดือนที่ยังยืนหน้าจ๋อย ๆ
  อยู่ตรงนั้น
“ค่ะ”    พี่แสงเดือนรับคำ เอามือประสานสำรวมไว้ข้างหน้า  ก้มตัวผ่านวินและคุณแม่เข้า
 บ้านไป....วินสงสารพี่แสงเดือนนิดหน่อยที่ทำท่าอย่างนั้น  พี่แสงเดือนเป็นคนตัวเล็ก ๆ
 ตัวเตี้ยกว่าวินเสียอีก  หน้ากลม ๆ ทำท่าแบบนี้แล้วดูน่าสงสารยังไงก็ไม่รู้
“เข้าบ้านดีกว่าครับวิน”   แมทที่เพิ่งเอารถไปจอดเดินเข้ามาพอดี
“ไปลูก”   คุณแม่โอบวินเดินเข้าบ้าน  ทั้งสองดูมีสีหน้าปิติยังไงบอกไม่ถูก
“วินวันนี้อยู่ทานข้าวเย็นกับแม่ได้มั้ยลูก”  คุณแม่หันมาถามก่อนจะเข้าตัวบ้าน
“น่าจะได้ครับคุณแม่”  วินตอบ
“วินโทรไปบอกที่บ้านไป.....ว่าจะกลับซัก 2 – 3 ทุ่ม”   แมทหันมาบอก
“อืม ๆ เดี๋ยววินลองขอดู”   วินรับคำโดยไม่ลังเลเท่าไรนัก

เราทั้งสามเข้าไปในบ้าน และนั่งอยู่ที่ห้องรับแขก โดยมีพี่แสงเดือนกำลังนั่งคุกเข่า
เสิร์ฟน้ำบนโต๊ะ  วินยิ้มให้พี่แสงเดือนเล็กน้อย แต่พี่แสงเดือนดูเหมือนจะต้องแอบยิ้ม
กลับมาให้วิน

“วินลูก….. ปล่อยให้แสงเดือนปีนเกลียวกับลูกอย่างนั้นได้ยังไง”  คุณแม่เอ่ยถาม
 หลังจากพี่แสงเดือนออกไปจากรัศมีเสียงของคุณแม่
“ยังไงคุณแม่”   แมทถาม ทำสีหน้าแปลกใจ
“ก็เมื่อกี๊...แม่เห็นยืนจับมือลูกวิน แกว่งไปแกว่งมา เหมือนเพื่อนเล่นอย่างนั้นแหละ”
 คุณแม่ตอบลูกชายของท่าน
“ไม่เป็นไรหรอกคุณแม่...พี่แสงเดือนคงเอ็นดูวิน ก็เลยเล่นด้วย”   วินตอบตามความคิด
 ของตัวเองออกไป
“ไม่ได้นะลูก...อีกหน่อยไม่ลูบหัวลูกหรอจ๊ะ”   คุณแม่ทำสีหน้าตกอกตกใจกับคำตอบของ
  วินเมื่อครู่ เอ่ยค้านขึ้นมา
“วิน...คนใช้ก็คือคนใช้สิ...อย่าไปเล่นด้วยมาก”  แมทใช้คำแรงมากสำหรับวิน วินไม่เคย
เรียกคนที่บ้านว่า ‘คนใช้’  แม่แต่ครั้งเดียว   เราจะเรียกว่า ‘เด็ก’ หรือ ‘แม่บ้าน’ ตลอด
“แมท - - เรียกพี่เค้าว่าแม่บ้านสิ….เพราะกว่าคนใช้เยอะเลย”  วินหันไปพูดกับแมทเบา ๆ
“เอาเถอะลูกวิน....จะคำไหนก็ช่าง....ก็คือคนทำงานบ้าน....เราจะไปลดตัวอย่างนั้น
ไม่ได้....ที่บ้านวินไม่มีคนใช้หรอลูก” คุณแม่ยังคงใช้คำเดียวกับลูกชายของท่าน ซ้ำยังใช้
คำว่า ‘ลดตัว’ เพิ่มเข้ามา  ทำเอาวินอึ้งเล็กน้อย
“ก็มีฮะคุณแม่”  วินตอบเสียงอ่อย ๆ
“แล้วคุณพ่อคุณแม่วินไม่ได้สอนเรื่องนี้หรอลูก”  คุณแม่ถาม
“ท่านก็พูดบ้าง...แต่วินเห็นว่าพี่แสงเดือนเค้าเป็นคนน่ารัก วินคุยด้วยแล้วสนุกดี อีกอย่าง
วินคิดว่าแค่จับมือ คงไม่เป็นอะไร....ถ้าจับหัว วินก็อาจจะคิดอีกที”     วินตอบ
“นี่วินคุยอะไรกับพี่แสงเดือนมากมายหรอ”    แมทหันมาถาม
“นั่นสิ....”   คุณแม่ก็ดูฉงนไปด้วย
“ก็ - - คุยไม่มากหรอกแมท คุยไปเรื่อย พี่แสงเดือนเป็นคนคุยสนุกดี เท่านั้นเอง”  วินตอบ
“อย่าไปคุยเล่นมากนะลูก เดี๋ยวจะปีนเกลียว”  คุณแม่ตบท้ายก่อนจะเปลี่ยนเรื่อง
(เปลี่ยนเสียที นี่ทำอย่างกับวินทำอะไรผิดมากมาย ถ้าเป็นเรื่องฟิวแล้วมาสอบสวนวิน
อย่างนี้จะไม่งงเลย)
“แมทพาวินไปดูทีวีที่ห้องก็ได้นะลูก ... จะได้ไม่เบื่อ - - เดี๋ยวอาหารเย็นพร้อมแล้วแม่จะให้
แสงเดือนขึ้นไปเรียก”  คุณแม่กล่าว
“ครับ...ไปวิน....ขึ้นไปเล่นเกมกัน”   แมทชวน.....แมทจ๋า.... วินเล่นเกมไม่เป็น -*-
  ขอเป็นมาริโอ หรือเทตริสได้มั้ย (Mario / Tetris)

พอถึงชั้นสามแมทก็เดินไปที่เกมเพลย์สเตชั่นในห้องเล่นเกมของเขา
“วินอยากเล่นอะไร”  แมทเอ่ยถาม
“ขอวินดูหน่อย...มีเกมอะไรบ้าง”   วินตอบ .....ในใจอยากจะบอกว่าไม่เคยเล่น แต่ขอดู
เสียหน่อย  เผื่อมีอะไรที่เคยผ่านมือมาแล้วบ้าง
“ชอบอันนี้มั้ยวิน”  แมทยกแผ่นเกมขึ้นมา เป็นรูปอะไรก็ไม่รู้ แดง ๆ เละ ๆ ไม่น่าอภิรมย์
เอาเสียเลย ถ้าไม่บอกว่าเกม วินคงนึกว่าหนังสยองขวัญ
“ไม่เอาอ่ะ อะไรก็ไม่รู้”  วินตอบไปตามความคิด
...........ในที่สุดวินก็หามาริโอ หรือเทตริสไม่เจอ.....นี่แมทไม่รู้จักซื้อเกมพวกนี้มาเล่นบ้าง
หรือยังไงเนี่ย.......เชยจริง ๆ บ้านวินยังมีเลย เดี๋ยวจะเอามาให้ยืมเล่น   (หวังว่าเครื่อง
เพลย์ฯ ของแมท จะเล่นเกมตลับของวินได้นะ)
“ไม่เห็นมีอะไรน่าเล่นเลย...เถื่อน ๆ ทั้งนั้น”   วินเอ่ยขึ้นหลังจากพิจารณาดูทั้งหมดแล้ว
 .....ไม่มีแต่รูปปืน ก็รถแข่ง หรือไม่งั้นก็มีแต่รูปผี ตัวเดียวมั่ง เป็นฝูงมั่ง (นี่แมทเล่นตอน
กลางคืนบ้างรึเปล่าเนี่ย...จะได้มาช๊อคเป็นเพื่อน)
“บ้าหรอ...ออกจะสนุก”  แมทพูดขึ้น
“สนุกกะผีอ่ะสิ”    วินเถียง (ก็ผีทั้งนั้นเลยอ่ะแมท)
“ให้สอนมั้ย....สนุกนะวิน เล่นแข่งกัน”   แมทกล่าว....เกมผีเนี่ยนะ....มีแข่งกันด้วย ?
   แข่งกันตายหรือนี่ ??
“ไม่เอาอ่ะ...ไม่เห็นน่าหนุกเลย”  วินตอบ
“อ๋อ...ชอบหนุก ๆ ก็ไม่บอก”  แมทลุกขึ้นมาเข้าใกล้วิน ที่นั่งอยู่  วินผลักแมทออก...ไม่เบา
เท่าไหร่นะ แมทกระเด็นเสียหลักไปอยู่เหมือนกัน (ขอเล่นตัวนิดนึง)
“โอโห...อะไรเนี่ย ทำไมต้องถีบกันด้วย”   แมทหัวเราะ
“อ้าว.....กะแค่ยันเบา ๆ เอง”  วินหยอกกลับ
“นะ ๆ ..... ขอเหอะ”  แมททำหน้าตาละห้อย
“อะไร ๆ”     วินเริ่ม ๆ เขิน..........ว่าแล้วแมทก็เข้ามาจูบ....เห้อ....วินชักติดใจแล้วนะ -*-
และเราทั้งสองก็ลงเอยด้วยการมีอะไรกันอีก (ในห้องแมทนะ ไม่ใช่ตรงนั้น) เป็นครั้งที่ 3
จากนั้นวินก็โทรขอที่บ้านว่าจะกลับบ้านค่ำ โดยได้รับคำอนุมัติจากคุณแม่ที่แสนดี
และวินก็นั่งแช่แอร์อยู่บนเตียงกับแมทในห้องนอน ดูหนังกันอยู่สองคนจนจบ
 (จำชื่อเรื่องไม่ได้แล้ว แต่จำได้ว่าสนุกมาก....สนุกเสียจนแมทกับวินแทบไม่พูดกันสักคำ)

ไม่นานพี่แสงเดือนก็มาเคาะเรียกที่หน้าห้อง บอกว่าให้ลงไปทานอาหารเย็นได้แล้ว

“มาเร็วลูก...กำลังร้อน ๆ“   คุณแม่เอ่ยปากชักชวน
“หิว ๆ ๆ ๆ”   แมทถูมือไปมา
อาหารมื้อนั้นอร่อยไม่แพ้มื้อแรกเมื่อ 2 – 3 สัปดาห์ก่อนเลย  พี่แสงเดือนนี่สุดยอดแม่ครัว
เสียจริง ๆ......ไม่น่ากลับอิสานเลย น่าจะมาอยู่กับวินให้หายคิดถึง

“วินลูก...” หลังจากทานอาหารเสร็จไม่นาน คุณแม่ก็เรียกพร้อมยิ้มให้วิน
วินหันไปมองคุณแม่แล้วยิ้มตอบ
“ดูนี่ - - ชอบมั้ย” คุณแม่ยื่นกล่องกำมะหยี่สี่เหลี่ยมสีขาวมาให้วิน....ในใจก็พอเดาออก
แล้วว่าอะไรอยู่ในกล่องนั้น....วินเปิดออกหลังจากรับมา
“ดูด้านในแหวนสิครับ”  แมทบอก
วินได้รับแหวนทองคำขาว ที่ตรงขอบด้านในของแหวน (ส่วนที่หันเข้าหานิ้วของเราเมื่อ
สวมแล้ว) สลักตัวย่อ ‘M.W.’
“มาแมทใส่ให้”   แมทเอ่ยขึ้น  แล้วสวมแหวนให้วิน  วินเขินคุณแม่อยู่เล็กน้อย
“อ่ะสวมให้แมทสิลูก” คุณแม่ยื่นอีกกล่องมาให้วิน โดยวงนี้สลักคำย่อ  ‘W.M.‘
วินสวมแหวนวงนั้นให้แมท  วินยิ้มดีใจตามความรู้สึก แต่ลึก ๆ ก็คิดว่านี่เรารับของ
เขามาราคาหลายอยู่เหมือนกันนะ ...แล้วไหนจะนาฬิกาอีก
“วินจะเป็นแรกและคนเดียวที่แมทรักที่สุดนะ...แมทคุยกับคุณแม่เรื่องนี้มาทั้งอาทิตย์เลย
  ขอให้คุณแม่สั่งทำแหวนให้ สองวงนี้ไม่เหมือนที่ไหนนะ ไม่ได้มีขายอยู่ตามร้านทั่วไป
  คุณแม่สั่งทำพิเศษขึ้นมาสองวง และก็ให้เค้าสลักให้ด้วย”      แมทพูดเสียงซึ้ง
“วงที่สลัก M.W. หมายถึง แมทรักวิน ซึ่งแม่ให้วินใส่ ส่วนอีกวงคือวินรักแมท อันนั้น
แมทก็เป็นคนใส่…..อันนี้แม่คิดเองเลยนะ”   คุณแม่ยิ้มแย้มให้เราสองคน วินรู้สึกดีใจมาก
ความคิดที่ว่าวินสู้พี่กอล์ฟไม่ได้ และที่เคยคิดว่าคุณแม่ชอบพี่กอล์ฟมากและคุณแม่คง
ชอบวินไม่เท่าพี่กอล์ฟแน่ ๆ .........มาถึงตอนนี้วินรู้สึกมั่นใจขึ้น และดีใจขึ้นมาก ๆ

แต่แล้วความดีใจนั้นก็หาได้อยู่คงทนถาวรกับวินไม่  อะไรดลใจแมทก็ไม่ทราบให้ต้อง
ปวดท้องจู๊ด ๆ ขึ้นมาเดี๋ยวนั้น (รอวินกลับก่อนก็ไม่ได้) ทำให้วินอยู่กับคุณแม่สองคนบน
โต๊ะอาหารในที่สุด

“วิน...”  คุณแม่น้ำเสียงเปลี่ยนเล็กน้อย วินเองก็งงเล็กน้อย
“ที่แม่ทำแหวนให้...เพราะแมทขอ...แต่ก็ใช่ว่าแม่ไม่อยากทำนะ - - แต่วินต้องเข้าใจ
ว่าแม่ยังไม่มั่นใจในตัววินนัก...แม่เองก็ไม่รู้ว่าแมทจะรักวินจริงรึเปล่า - - แต่แม่เอง
ก็ไม่อยากขัดลูกของแม่....ฉะนั้นพิสูจน์ตัวเองให้แม่เห็น...ว่าวินซื่อสัตย์กับแมทจริง ๆ
และแม่จะไม่รู้สึกเสียดายเรื่องแหวนสองวงนี้เลย”   คุณแม่พูดเสียงเรียบ ๆ และดู
ไร้อารมณ์มาก ๆ ต่างกับเมื่อสักครู่ราวกับคนละคน   แต่วินตายไปพร้อมกับประโยคของ
คุณแม่ตั้งแต่ที่ว่า   ‘แม่เองก็ไม่รู้ว่าแมทจะรักวินจริงรึเปล่า’ แล้ว
นี่คุณแม่เห็นวินไม่มีหัวใจหรืออย่างไร...วินรู้สึกว่าแหวนนี้มันไร้ค่าไปเลยครึ่งหนึ่ง
(อีกครึ่งหนึ่งก็มาจากความตั้งใจของแมทเท่านั้น)  วินได้แต่ถามคุณแม่ในใจว่าทำไมถึง
ได้ใจร้ายกับวินจัง….ถ้าจะโกรธวินเรื่องฟิว วินก็ขอโทษ และได้รับปากกับคุณแม่ไปแล้ว
ตั้งแต่ที่โรงงาน และเรื่องมันก็ผ่านมาเกือบเดือนแล้ว ทำไมคุณแม่ยังไม่ชอบใจวินอยู่อีก

วินได้แต่เงียบ ไม่พูดอะไร คุณแม่ก็มองหน้าวินอยู่อย่างนั้นเกือบ ๆ 1 นาที โดยที่วินมอง
หน้าคุณแม่บ้าง มองไปที่โต๊ะอาหารบ้าง (ไม่กล้าสบตา) คุณแม่ไม่ยิ้ม ไม่มีสีหน้าโกรธ
แต่มองวินเฉย ๆ เหมือนคุณแม่จ้องอะไรสักอย่างที่ไม่ใช่แฟนของลูกคุณแม่  วินไม่เคย
พบเคยเห็นกับสายตาแบบนี้ วินกลัวมาก จนรู้สึกเหมือนตัวจะสั่นเสียด้วยซ้ำ  วินไม่รู้
ว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น (อย่างที่บอกว่าตอนนั้นวินยังไม่รู้ว่าท่านป่วยทางจิต)

“ใส่เอาไว้ตลอดหละ - - จะได้เป็นเครื่องเตือนสติ....ถ้าเราจะทำอะไรผิด หรืออะไรที่
ถือว่าเป็นการไม่ซื่อสัตย์กับแมท”     คุณแม่เอ่ยขึ้น เหมือนเมื่อครู่ยังไม่หนักพอ คุณแม่
ยังปรามาสวินล่วงหน้า  ว่าวินจะไปทำอะไรที่ผิดต่อแมทต่ออีก
“คุณแม่...”     วินที่สีหน้าสลดไม่รู้จะพูดอะไรดี
“ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น - - ฟังอย่างเดียวก็พอ.....แม่เป็นผู้ใหญ่แล้ว รู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร”
คุณแม่เอ่ยขึ้นอีก
“เราสองคนก็แค่เด็กม.6  อนาคตยังอีกยาวไกล  แมทอาจจะไปเจอใครที่ถูกใจกว่านี้
ที่มหาวิทยาลัยก็ได้  ที่จุฬาฯ เด็กหน้าตาดี เพียบพร้อมเยอะแยะ แมทอาจจะไปเจอ
อะไร ๆ ที่ดีกว่าที่นั่น”  คุณแม่ยิงบาซูก้าใส่วินไม่หยุดหย่อน......คุณแม่ปลื้มมหาวิทยาลัย
นี้มาก  และหวังว่าลูกชายของท่านจะเข้าได้ในที่สุด  (แต่คุณแม่ก็ต้องผิดหวัง และยังโทษ
อีกด้วยว่า ‘มันเป็นความผิดของวิน’ ...... แต่มันก็อาจจะจริงก็ได้มั้ง)
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 16-03-2008 14:47:54
(ตอนที่ 13 : Part 2)



“วินไม่ดีหรอคุณแม่....ทำไมคุณแม่ถึงอยากให้แมทเจอคนที่ดีกว่า”   วินรวบรวมความ
กล้าถามออกไปในที่สุด
“แม่ไม่ได้อยาก....แต่แม่หวังว่าแมทคงเจอสิ่งที่ดีกว่าที่นั่น”  คุณแม่ตอบ....วินก็ได้แต่เถียง
ในใจว่าถ้าไม่อยากแล้วจะหวังทำไมกัน
“ฟังนะวิน - - ห้ามทิ้งลูกของแม่เด็ดขาด !”  คุณแม่พูดแบบกัดฟัน  วินกลัวคุณแม่จับใจ
เลยในตอนนี้.........วินก็ได้แต่พยักหน้า หมดเสียงไปเสียแล้ว....
“แม่คิดว่าวินเองก็ไม่เบาหรอก...อย่างเรื่องที่โรงงาน แม่เห็นอะไรหลาย ๆ อย่างในตัววิน”
คุณแม่พูดโดยไม่มองหน้าวิน แต่มองตรงไปที่อื่น.....รู้สึกว่าท่านคงเหม็นหน้าวินแล้วมั้ง
ในใจก็ได้แต่อยากจะถามว่า ‘เห็นอะไรหรอคุณแม่’  วินไม่เข้าใจจริง ๆ วันนั้นวินก็ง้อแมท
สุด ๆ แล้ว  ทั้งรับปากคุณแม่เรื่องฟิว....คุณแม่ยังต้องการอะไรอีก....สำหรับวินตอนนี้คือ
โอกาส......ขอวินได้ไหม
“เห้อ....แม่ก็ไม่รู้นะ ว่าแมทเห็นอะไรในตัววิน ...แต่คงเห็นไม่เหมือนที่แม่เห็น ซึ่งแม่เชื่อว่า
ที่แม่เห็นคือความจริงมากกว่าที่แมทเห็นแน่ ๆ”   คุณแม่คงหมายถึงวิน ‘เสแสร้ง’ ใช่ไหมนี่
วินหมดเสียงจริง ๆ ไม่แม้แต่จะกล้าอ้าปากด้วยซ้ำ......
“จำได้ใช่มั้ย...ที่แม่บอกว่าสนับสนุนวินกับแมท  นั่นคือในแง่ที่แม่มองจากฝั่งแมท เพราะ
ตอนนี้แมทดูรักวินคนเดียว....แต่ถ้าพูดถึงฝั่งวินคนเดียว ไม่พูดถึงแมท....แม่บอกตรง ๆ
แม่สนับสนุนกอล์ฟ”   เหมือนคุณแม่ต้องการจะเหยียบวินให้จมดินลึกลงไปอีก
“แมทเคยบอกใช่มั้ย...ว่ากอล์ฟเคยมาที่นี่ตั้งหลายครั้ง”   คุณแม่ถาม
วินที่ก้มหน้าน้ำตาซึมส่ายหัวเบา ๆ เป็นคำตอบว่า  ‘ไม่...แมทไม่เคยบอก’
“กอล์ฟเป็นคนดีนะ....น่ารักมาก  ทั้งฉลาด และรู้จักกาลเทศะ....แม่หละเสียดายจริง ๆ
ที่แมทเลิกกับกอล์ฟไป....แล้วในที่สุดก็มาลงเอยที่วิน....แม่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า..........”
คุณแม่ยังไม่ทันจะพูดจบประโยค และแล้วบรรยากาศอันแสนจะอึดอัดก็คลายลง
แมทที่รักเดินกลับมาในที่สุด     โดยที่วินเองก็ไม่ต้องการจะได้ยินประโยคต่อไปของ
คุณแม่แล้ว แค่นี้ก็จะตายแล้วคุณแม่.......ไว้ต่อครั้งหน้าก็แล้วกัน วันนี้วินขอพอแค่นี้ก่อน

“เห้อ...สบาย”  แมทที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นทำท่าตบท้อง
“พี่แสงเดือน ใส่ยาถ่ายเข้าไปหรอเนี่ย...ฮึ”  คุณแม่พูดเล่นขึ้นมา  วินมองหน้าคุณแม่อย่าง
งง ๆ เล็กน้อยที่ท่านเปลี่ยนสีหน้าและอารมณ์ไปจากเดิมอย่างรวดเร็ว   คุณแม่หันมามอง
หน้าวินที่น้ำตาคลอ สีหน้าไม่สู้ดีนัก
“วิน ... ไม่ชอบแหวนหรอลูก”    เหมือนคุณแม่อาศัยท่าทีของวิน แล้วเอ่ยถามขึ้น
“วิน....ชอบรึเปล่า”  แมทเดินเข้ามาจับหัวไหล่วินแล้วถามขึ้น
“ช-ชอบสิ”  วินรู้สึกพูดไม่ค่อยออกจริง ๆ จัง ๆ ในตอนนั้น
“ต่อไปนี้เวลาเราไปไหนด้วยกัน  เราก็ใส่ทั้งนาฬิกาและก็แหวนคู่กันเลยนะ”  แมทกล่าว
“ได้ ๆ”  วินพูดตอบแมทที่ไม่รู้เรื่องไปอย่างฝืนยิ้ม ในใจวินไม่รู้สึกอะไร....ไม่รู้สึกจริงๆ บอก
 ไม่ถูก หรือคิดไม่ออกแล้วว่าตัวเองจะรู้สึกยังไงได้อีก ความรู้สึกของวินตอนนั้นมันเหมือน
 ฝัน ๆ ตื่น ๆ เมื่อกี๊ยังดีใจ รู้สึกดี ๆ อยู่    ไม่ถึง 1 นาทีต่อมาก็เหมือนตื่นจากฝันดี ต้องพบ
 เจอกับความจริงอันเลวร้ายจากปากคุณแม่  วินรู้สึกเหมือนไม่ได้รับแหวนวงนี้มาด้วยซ้ำ
 (ให้ลองพยายามนึกว่า หากเจอกับตัวคุณเองจริง ๆ ....แล้วน่าจะพอรู้ว่าวินรู้สึกอย่างไร)

“พาวินไปบนห้องไปลูก....อยู่กับแม่เดี๋ยวจะอึดอัดเปล่า ๆ”   คุณแม่กวาดสายตามามอง
ที่วิน  ....วินเองก็อธิบายไม่ถูกว่าสายตานั้นจะเรียกว่าสายตาของความรู้สึกอะไร คุณแม่
เป็นคนที่ส่งสายตาไร้ความรู้สึกได้จนวินกลัว และไม่รู้ว่าจะตอบโต้ท่านด้วยท่าทีอย่างไร
“แหมไม่หรอกครับแม่ - - ใช่มั้ยวิน....ตอนที่แมทไปรับวินที่โรงเรียน .. วินยังบอกเลยว่า
อยากเจอคุณแม่...ไม่ได้เจอนานแล้ว...วินคิดถึงคุณแม่จะตาย”....แมท...หยุดพูดเถอะ - -,
“เอาเถอะ...เดี๋ยวแม่จะให้แสงเดือนขึ้นไปนวดซะหน่อย...เมื่อยเหลือเกิน”  คุณแม่ตอบ
 .....นี่คงไม่ได้สนใจคำพูดของลูกชายท่านเลย ...รู้รึเปล่าว่าที่แมทพูดมันคือความจริง ?
“แสงเดือน....เสร็จแล้วตามฉันขึ้นไปที่ห้องนะ”  คุณแม่ตะโกนเรียกพี่แสงเดือน
แมททำหน้างงอยู่เล็กน้อย แต่คงไม่คิดอะไร เลยชวนวินให้ขึ้นไปนั่งเล่นที่ห้องต่อ
“ไปวิน....ไปดูหนังกัน”  แมทชวน
“นี่กี่โมงแล้วอ่ะ - - วินบอกที่บ้านว่าจะกลับไม่เกินสามทุ่ม”   วินหวังว่ามันคงจะใกล้เวลา
นั้นแล้ว...ทุกครั้งที่วินเจ็บปวด หน้าคุณแม่จะลอยเข้ามาเสมอ (แต่วินก็ยังไม่เคยบอกให้
ท่านได้รับรู้เรื่องเหล่านี้  เพราะมันเจ็บปวดสำหรับวินเกินกว่าจะบอกท่าน  เคยได้ยินมั้ย
‘ถ้าลูกเจ็บ...พ่อแม่จะเจ็บกว่าหลายเท่า’ …วินไม่อยากเอาเรื่องพวกนี้ไปทำให้ท่านต้องไม่
สบายใจ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม)
“เพิ่งหกโมงเอง...”    แมทยิ้ม เมื่อรู้ว่าเวลาของเราวันนี้ยังไม่หมดลง
“แมทขึ้นไปก่อนได้มั้ย วินอยากเข้าห้องน้ำ”  วินเอ่ยขึ้น
“ขึ้นไปเข้าที่ห้องแมทสิ”
“ไม่ไหวแล้วแมท  ไม่มีแรงขึ้นแล้ว ขอเข้าตรงนี้แหละ”   วินถือโอกาสที่บันไดบ้านแมท
อันแสนจะยาวเป็นข้ออ้างในการรอเข้าห้องน้ำข้างบนไม่ไหว (ถึงมันจะดูไม่สมเหตุนัก)
“โอเค ๆ งั้นแมทขึ้นไปรอก่อนก็ได้  จะได้ไปหาแผ่นหนังมาเปิดดูกัน”   วินโล่งอกที่
   แมทยอมตามใจ   

หลังจากที่แมทขึ้นไปได้ไม่นาน วินก็เดินเข้าห้องน้ำชั้นล่างที่ติดกับห้องครัว  วินเข้าไป
นั่งร้องไห้อยู่เกือบ 5 นาที พอรู้สึกว่านานเข้าจึงลุกขึ้นมาล้างหน้าล้างตา วินมองกระจก
ในห้องน้ำอยู่ครู่หนึ่ง  ครุ่นคิดถึงสิ่งที่คุณแม่พูดกับวิน และมองหน้าตัวเอง รู้สึกโทษตัวเอง
อยู่บ้างที่มีเรื่องฟิวเข้ามา...ถ้าไม่ให้เบอร์ไปตั้งแต่แรก....คุณแม่ก็คงจะยังชอบวินอยู่
วินมองหน้าตัวเองอยู่อย่างนั้น....อดรู้สึกสงสารตัวเองไม่ได้  พูดกับตัวเองในใจอยู่ตรงนั้น
ว่าคนในกระจกนี่คือลูกของคุณแม่เราเอง นี่คือลูกของท่าน นี่ลูกของท่านกำลังเสียใจ
ทำยังไงดี...ท่านคงไม่อยากให้เราเป็นแบบนี้...ท่านจะเจ็บปวดแค่ไหนถ้าต้องมารู้ว่า
ลูกชายของท่านตอนนี้ทรมานแค่ไหน.....วินยืนได้อยู่อีกครู่หนึ่ง........
“คุณวิน - - คุณวินคะ”   เสียงพี่แสงเดือนเรียกวินเบา ๆ หน้าห้องน้ำ
“พี่แสงเดือน....มีอะไรหรอ”   วินตอบไปน้ำเสียงสั่น ๆ
“เสร็จรึยังคะ...ออกมาหาพี่แสงเดือนเดี๋ยว”   พี่แสงเดือนกล่าว
วินเปิดประตูออกมา เห็นสีหน้าพี่แสงเดือนที่กำลังดูเหมือนเข้าใจวินสุด ๆ แล้วพี่แสงเดือน
ก็เอื้อมมือมาจับมือทั้งสองข้างของวินไว้
“คุณวิน....พี่แสงเดือนแอบได้ยินคุณผู้หญิงพูดเมื่อกี๊นี้ - - คุณวิน....พี่แสงเดือนเป็นห่วง”
คำพูดของพี่แสงเดือนทำเอาวินกลั้นน้ำตาไม่อยู่ ในที่สุดอย่างน้อยก็มีคนในบ้านนี้
ที่รับรู้ และเห็นใจวินขึ้นมาบ้าง
“พี่แสงเดือน.....”  วินร้องไห้
“เกิดอะไรขึ้นค่ะคุณวิน....ทำไมคุณผู้หญิงแกถึง....”   พี่แสงเดือนมีสีหน้าวิตก ลูบไหล่วิน
  เบา ๆ เพื่อเป็นการปลอบ
“พี่แสงเดือน...วินต้องขึ้นไปแล้ว - - เดี๋ยวแมทจะสงสัย”   วินนึกขึ้นได้ จึงบอกพี่แสงเดือน
“คุณวินล้างหน้าก่อนมั้ยค่ะ.....พี่แสงเดือนเป็นห่วงจัง”  สีหน้าพี่แสงเดือนยังเป็นห่วงวิน
เหมือนเดิม ลูบหลังวินและเดินไปพร้อมวินเพื่อให้วินล้างหน้า
“ขอบคุณนะพี่แสงเดือน....วินไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกันพี่แสงเดือน”      วินหันไปกอด
พี่แสงเดือนที่อยู่ข้าง ๆ  รู้สึกขอบคุณพี่แสงเดือนเหลือเกิน  วินกำลังต้องการใครสักคน
จริง ๆ ตอนนี้
“คุณวินขึ้นไปเถอะค่ะ....ขึ้นไปพร้อมพี่แสงเดือน”   พี่แสงเดือนเอ่ยขึ้น

พี่แสงเดือนและวินเดินขึ้นไปด้วยกัน โดยที่พี่แสงเดือนแยกเข้าไปในห้องของคุณแม่ที่
ชั้นสอง  ก่อนจะเข้าไปในห้อง  พี่แสงเดือนหันมาพูดกับวินก่อน
“คุณวิน....ยังไงคุณแมทก็รักคุณวินมากนะคะ - - อย่าเพิ่งทิ้งคุณแมทไปตอนนี้”
  คำพูดของพี่แสงเดือนช่วยทำให้วินมั่นใจขึ้นมาว่า ไม่ว่าอย่างไรวินก็ต้องพิสูจน์กับ
  คุณแม่ ว่าวินรักแมทจริง ๆ ให้ได้           วินพยักหน้าและยิ้มรับคำของพี่แสงเดือน
  พี่แสงเดือนคงเป็นห่วงแมท    ไม่ว่าอย่างไร แมทก็คือเด็กคนที่พี่แสงเดือนเลี้ยงมาแต่เด็ก
  พี่แสงเดือนคงไม่อยากให้แมทต้องเสียใจ หรือทุกข์ใจกับอะไรเหมือนกัน….เพียงแต่วิธี
  การของพี่แสงเดือนแตกต่างไปจากของคุณแม่อย่างสิ้นเชิง

“มาซะที....นึกว่าไปดูดส้วมมา…..รอจนเน่าแล้วเนี่ย”   แมททักขึ้นเมื่อวินเข้าไปในห้อง
วินรู้สึกไม่สดใสเอาเสียเลยตอนนั้น   รู้สึกแต่ว่า วินอยากให้คุณแม่ชอบวิน ยังไม่ต้องรัก
ก็ได้ แค่ชอบก็พอ  แต่อย่าเกลียดวินได้ไหม วินผิดไปแล้วเรื่องฟิว แต่ให้โอกาสวินเถอะ
“เป็นอะไรรึเปล่าวิน....”   แมทถามขึ้น เขาเองก็คงสังเกตสีหน้าของวินออกว่าไม่สบายใจ
“ไม่เป็นอะไรมาก...รู้สึกมึนหัวนิดหน่อย”   วินตอบแบบขอไปที
“ท้องรึเปล่า..อะไรกัน....ทำบ่าย ได้เย็นเลย..ฮ่า ๆ ๆ“ แมทหัวเราะชอบใจกับมุขของตัวเอง
วินก็ได้แต่ยิ้มให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในตอนนั้น

เราดูหนังที่แมทเลือกไว้ระหว่างรอวินกันจนจบตอนเวลาสองทุ่มนิด ๆ............ทั้ง ๆ ที่หนัง
ที่แมทอุตส่าห์เลือกไว้  เพื่อให้วินมาดูด้วยก็สนุกดี    แต่ใจของวินไม่ได้อยู่กับหนังเท่าไรนัก
คิดแต่เรื่องคุณแม่   วินคิดอย่างจริง ๆ จัง ๆ ว่าอะไรทำให้ท่านไม่ชอบวินนานได้ขนาดนี้
ทั้ง ๆ ที่ท่านเองก็น่าจะทราบดีว่าวินรักลูกของท่านแค่ไหน....ที่สำคัญท่านเองก็ดูพอใจ
ที่วินรับคำมั่นสัญญากับท่านที่โรงงานตอนนั้นแล้ว.......วินไม่เข้าใจคุณแม่จริง ๆ เลย

______________________________________________________________


ตัวอย่างตอนต่อไป.....
ตอนที่ 14 เลิก...เรียนพิเศษซะ !



“เราชื่อปุ่นนะ ... ชื่อไรอ่ะ”   เด็กใหม่แนะนำตัวขณะที่ทุกคนกำลังเก็บของเตรียมกลับบ้าน
“วิน”  วินตอบไปสั้น ๆ วินไม่ค่อยคุ้นเคยที่จะพูดคุยกับคนที่ไม่รู้จักมากนัก

....................................................................................

“เออวิน.....เราขอเบอร์วินไว้หน่อยดิ เผื่อมีไรจะได้โทรไปถามอ่ะ”   ปุ่นเอ่ยขึ้น
“อ๋อ...เออ ได้ ๆ 01-xxx –xxxx”  ปุ่นยกโทรศัพท์ขึ้นมากดตามที่วินบอกขณะเดินลงมา
ด้วยกัน
“วินหิวป่าว......กินอะไรกันที่บ้านหญิงมั้ย.....เดี๋ยวเราเลี้ยงเอง  ถือว่าเป็นการขอบคุณวิน
ที่อุตส่าห์ช่วยสอนเรามาสองอาทิตย์แล้ว”    ปุ่นพูดยังไม่ทันจบ....
วินก็เห็นคนหน้าคุ้น ๆ ยืนกอดอกอยู่ด้านล่างบันไดเยื้อง ๆ ร้านบ้านหญิงนั่นเอง
“แมท…”  วินอุทานขึ้นมาเบา ๆ .........

....................................................................................

“เลว !...  วินรู้ตัวมั้ย...ว่าตัวเองทำตัวเลวระย.อำแค่ไหน!”  แมทสบถเหมือนคนเริ่มติดใจ
กับการพูดคำหยาบเสียแล้ว
“แมท !”  วินตะคอก ทำเอาแมทหน้าหุบเล็กน้อย
“วินบอกไม่มีอะไรไง....เค้าเป็นเพื่อน...’เพื่อน’ จริง ๆ ได้ยินมั้ย”    วินขึ้นเสียงต่อไป

....................................................................................

“ถ้า – ยังอยาก – คบ – กับ – ลูกชาย – ของชั้น – อย่างมี – ความสุขอยู่.....เลิก – เรียน –
ที่นั่น – ซะ – เข้า – ใจ – มั้ย”   น้ำเสียงคุณแม่ตอนนั้นมันทำให้วินปฏิเสธไม่ได้ วินกลัว
คุณแม่มาก...กลัวมากจริง ๆ ในตอนนั้น   วินได้แต่พยักหน้าน้ำตาไหลพรากไป
“ดี...อย่าให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีกนะวิน”   คุณแม่เปลี่ยนน้ำเสียงมาเป็นปกติ แต่ยังคง
ความเย็นชา และสายตาที่มองวินอย่างเหยียดหยามอยู่
“คุณแม่...วินไม่ได้ทำอะไรเลย - - แมทเข้าใจไปเองทั้งนั้น”   วินเถียงกลับ  ครั้งนี้วินไม่
ผิดจริง ๆ ....วินจะยอมได้อย่างไร
“อย่ามาเถียง!”  คุณแม่ยกมือขึ้นชี้หน้าวิน มือคุณแม่เกร็งเสียจนมือของท่านสั่น

........................................................................................
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: LingNERD* ที่ 16-03-2008 15:19:03
อ๊ากกกกกกกกกกก เริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆๆๆ :o12:

เปงกำลังใจให้พี่วินนี่เหมือนเคย  :m1:

ปล.รู้ตัวช้าอะคับ ว่าพี่วินกดให้ คิคิ เด๋ว+1 ให้คับ จัดไปอย่าให้เสีย
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: anston ที่ 16-03-2008 16:39:41
ดูท่าทางคุณแม่จะรักลูกชายมากเกินไปแน่ๆ..
เลยมาคาดหวังกับคนที่ลูกชายรัก..
อ่านแล้วเครียดตามเลย..
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 16-03-2008 19:13:26
อ๊ากกกกกกกกกกก เริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆๆๆ :o12:

เปงกำลังใจให้พี่วินนี่เหมือนเคย  :m1:

ปล.รู้ตัวช้าอะคับ ว่าพี่วินกดให้ คิคิ เด๋ว+1 ให้คับ จัดไปอย่าให้เสีย

ขอบคุณสำหรับกำลังใจน้า น้องหมี
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 16-03-2008 19:14:08
ดูท่าทางคุณแม่จะรักลูกชายมากเกินไปแน่ๆ..
เลยมาคาดหวังกับคนที่ลูกชายรัก..
อ่านแล้วเครียดตามเลย..

มีคนอินแล้ว  o7
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: LingNERD* ที่ 16-03-2008 19:20:39
นึกว่าพี่วินนี่จะมาต่อ  :angry2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 16-03-2008 19:36:15
อ่านแล้วถอนหายใจ เรื่องจริงนี่ยิ่งกว่านิยายเจงๆ  :เฮ้อ:  :เฮ้อ:  :เฮ้อ:  :เฮ้อ:
ใครจะเชื่อ ว่ามีคนแบบคุณแม่อยู่บนโลกใบนี้  :a6: :a6: :a6:

หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 16-03-2008 19:49:39
อ่านแล้วถอนหายใจ เรื่องจริงนี่ยิ่งกว่านิยายเจงๆ  :เฮ้อ:  :เฮ้อ:  :เฮ้อ:  :เฮ้อ:
ใครจะเชื่อ ว่ามีคนแบบคุณแม่อยู่บนโลกใบนี้  :a6: :a6: :a6:



วินไงเชื่อแล้ว  :m23:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 16-03-2008 20:26:51
ถึง...คุณเต่าน้ำแข็ง

รูปที่วาดสวยมากจ้า แบบว่า คิดได้อ่ะ ...อิอิ
วาดเก่งด้วยนะเนี่ยยย

และก็ ขอบคุณ คุณเต่ามากเลย ที่ช่วยชักชวนเพื่อน ๆ ให้ไปอ่านกัน
จะสม หรือเป็นกำลังใจ ก็อ่านกานเย้อ ๆ น้า อิอิ
 

ขอบคุณมั่ก ๆ เลยจ้าา   o13
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: agape ที่ 16-03-2008 20:52:53
อ่านแล้วเหนื่อยแทนเลยอะครับ

ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยายจริงๆๆอะครับ

นี่ถ้าเป็นผมคงจะท้อตั้งแต่ยกแรกแล้วมั้งครับ

เป็นกำลังใจให้นะคับ

มาต่อเร็วๆๆนะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: ICEME ที่ 16-03-2008 21:03:40
ตอนต่อไปท่าจะดุเดือดมากเลยอ่ะ เหอ เป็นเต่านะคงไม่ทนอ่ะ แต่ก็ไม่รู้นะ คนไม่เคยมีแฟน แฮ่ๆ

สู้ต่อไป! หึๆ ว่าแต่ชื่อ mawin อ่ะ เป็นชื่อเต็มๆ ของวินหรือว่าชื่อวินกะแมทอ่ะ ข้องใจหลาย บอกหน่อยน้า.. :oni1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 16-03-2008 21:54:32
อ่านแล้วเหนื่อยแทนเลยอะครับ

ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยายจริงๆๆอะครับ

นี่ถ้าเป็นผมคงจะท้อตั้งแต่ยกแรกแล้วมั้งครับ

เป็นกำลังใจให้นะคับ

มาต่อเร็วๆๆนะ

อย่าเพิ่งท้อฮับ  o7

ยังมีอีกหลายยก  :a2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 16-03-2008 21:57:29
ตอนต่อไปท่าจะดุเดือดมากเลยอ่ะ เหอ เป็นเต่านะคงไม่ทนอ่ะ แต่ก็ไม่รู้นะ คนไม่เคยมีแฟน แฮ่ๆ

สู้ต่อไป! หึๆ ว่าแต่ชื่อ mawin อ่ะ เป็นชื่อเต็มๆ ของวินหรือว่าชื่อวินกะแมทอ่ะ ข้องใจหลาย บอกหน่อยน้า.. :oni1:

mawin เป็งนามปากกาจ้า คุณเต่า

ชื่อในเรื่อง "วิน"  เฉย ๆ เรยยยย

และบอกหน่อยนิดนึง ว่าทั้งหมดเป็นชื่อสมมตินะ
ใช้ชื่อจริง เดี๋ยวมีโดนเล่นงาน (อีกรอบ)

ปล. ถ้าคุณเต่ายังไม่เคยมีแฟน
ถ้าไม่ัขัดข้อง เีดี๋ยววินติดต่อแมทให้ เอาม้ะ กร๊าากกกก

ขอบคุณ คุณเต่าอีกครั้งน้า ที่ไปเม้นให้สองที่เลย

ปล. 2 ยังคงชอบรูปคุณเต่า (น้ำแข็ง) อยู่เรยอ่า
เห็นแล้วอารมณ์ดีเป็นที่สุด
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: ICEME ที่ 16-03-2008 22:15:35

mawin เป็งนามปากกาจ้า คุณเต่า

ชื่อในเรื่อง "วิน"  เฉย ๆ เรยยยย

และบอกหน่อยนิดนึง ว่าทั้งหมดเป็นชื่อสมมตินะ
ใช้ชื่อจริง เดี๋ยวมีโดนเล่นงาน (อีกรอบ)

ปล. ถ้าคุณเต่ายังไม่เคยมีแฟน
ถ้าไม่ัขัดข้อง เีดี๋ยววินติดต่อแมทให้ เอาม้ะ กร๊าากกกก

ขอบคุณ คุณเต่าอีกครั้งน้า ที่ไปเม้นให้สองที่เลย

ปล. 2 ยังคงชอบรูปคุณเต่า (น้ำแข็ง) อยู่เรยอ่า
เห็นแล้วอารมณ์ดีเป็นที่สุด

จะติดต่อแมทให้ก็น่าสน ถ้าเกิดติดต่อโดยที่เต่าไม่ได้อ่านเรื่องนี้นะ อาจจะรีบตกลง แต่ตอนนี้คงเซย์กู๊ดบายค่ะ

แฟนคนแรกที่คบจริงจังขอให้ไม่มีอุปสรรคเยี่ยงนี้ รับไม่ไหว ไม่ใช่คนความอดทนสูงปานนั้น 55+

เห็นแล้วอารมณืดีปานนั้น ถ้าไม่รังเกียจ เอาวินเป็นแฟนคนแรกได้มั้ยอ่ะ :o8:

พูดไปนั่น ล้อเล่นนะคะ แฮ่

ตอนแรกนึกว่าจะอัพซะอีก ทีไหนได้มาตอบเต่านี่เอง แต่ก็ปลื้ม...อิอิ
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 16-03-2008 22:46:06

mawin เป็งนามปากกาจ้า คุณเต่า

ชื่อในเรื่อง "วิน"  เฉย ๆ เรยยยย

และบอกหน่อยนิดนึง ว่าทั้งหมดเป็นชื่อสมมตินะ
ใช้ชื่อจริง เดี๋ยวมีโดนเล่นงาน (อีกรอบ)

ปล. ถ้าคุณเต่ายังไม่เคยมีแฟน
ถ้าไม่ัขัดข้อง เีดี๋ยววินติดต่อแมทให้ เอาม้ะ กร๊าากกกก

ขอบคุณ คุณเต่าอีกครั้งน้า ที่ไปเม้นให้สองที่เลย

ปล. 2 ยังคงชอบรูปคุณเต่า (น้ำแข็ง) อยู่เรยอ่า
เห็นแล้วอารมณ์ดีเป็นที่สุด

จะติดต่อแมทให้ก็น่าสน ถ้าเกิดติดต่อโดยที่เต่าไม่ได้อ่านเรื่องนี้นะ อาจจะรีบตกลง แต่ตอนนี้คงเซย์กู๊ดบายค่ะ

แฟนคนแรกที่คบจริงจังขอให้ไม่มีอุปสรรคเยี่ยงนี้ รับไม่ไหว ไม่ใช่คนความอดทนสูงปานนั้น 55+

เห็นแล้วอารมณืดีปานนั้น ถ้าไม่รังเกียจ เอาวินเป็นแฟนคนแรกได้มั้ยอ่ะ :o8:

พูดไปนั่น ล้อเล่นนะคะ แฮ่

ตอนแรกนึกว่าจะอัพซะอีก ทีไหนได้มาตอบเต่านี่เอง แต่ก็ปลื้ม...อิอิ


ต่อไปจะ อัพวันละตอนจ้าาาา
จะได้โฟ่(คุย) กันนาน ๆ ๆ ๆ ๆ

คิดดีแล้วหรอ ขอวินเป็นแฟน อิอิ :o8:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: gtm ที่ 16-03-2008 23:02:30
หวังว่าตอนจบคงไม่เศร้าเหมือนชื่อเรื่องนะคับ ยังไงก็เป็นกำลังใจให้คับมาต่ออีกนะคับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 16-03-2008 23:10:09
หวังว่าตอนจบคงไม่เศร้าเหมือนชื่อเรื่องนะคับ ยังไงก็เป็นกำลังใจให้คับมาต่ออีกนะคับ

ขอบคุณก๊าาบบบบ
สำหรับกำลังใจ
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: แมววาย ที่ 16-03-2008 23:19:42
เข้ามาให้กำลังใจค่า  +1 :L2:

เมื่อวานอ่านจนอยากกินกุ้งเทมปุระ  วันนี้ก็ขอสักหน่อยติดที่ว่าไม่มีเวลาเลยไม่ได้กินฟูจิเหมือนวินน้า วันนี้มาอ่านต่ออยากทำไข่เจียวฟูๆ ได้บ้าง  พี่ทำไม่เป็นน้องวินมาทำให้กินหน่อยจิ 

จริงๆ อ่านไปพี่ก็เครียดไปนะ แต่ทำไมถึงได้อยากกินโน่นกินนี่แทนไม่รู้  สงสัยที่ว่าเครียดแล้วจะกินมากท่าจะจริง    :laugh:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 17-03-2008 12:34:50
เข้ามาให้กำลังใจค่า  +1 :L2:

เมื่อวานอ่านจนอยากกินกุ้งเทมปุระ  วันนี้ก็ขอสักหน่อยติดที่ว่าไม่มีเวลาเลยไม่ได้กินฟูจิเหมือนวินน้า วันนี้มาอ่านต่ออยากทำไข่เจียวฟูๆ ได้บ้าง  พี่ทำไม่เป็นน้องวินมาทำให้กินหน่อยจิ 

จริงๆ อ่านไปพี่ก็เครียดไปนะ แต่ทำไมถึงได้อยากกินโน่นกินนี่แทนไม่รู้  สงสัยที่ว่าเครียดแล้วจะกินมากท่าจะจริง    :laugh:

ขอบคุณสำหรับกำลังใจฮับ +1

ดีใจนะที่คนอ่าน พออ่านแล้วอิน
ถึงจะอินในเรื่องของกินก็ยังดี 5555
อย่าเพิ่งเครียดจัดนะฮะ เพราะเดี๋ยวยังต้องเครียดต่อ เอิ๊กๆ o7
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 17-03-2008 12:38:37
ตอนที่ 14 เลิก...เรียนพิเศษซะ !

หลักจากสัปดาห์ของเรื่องแหวนทองคำขาวนั้นผ่านไป....ในสัปดาห์ถัดมา.........
           ตามปกติแล้ววินจะต้องไปเรียนพิเศษเพื่อเตรียมสอบเอ็นทรานซ์ตั้งแต่ต้น ๆ เทอม
เกือบจะทุกวัน ยกเว้นวันศุกร์  วันจันทร์วินจะไปเรียนภาษาอังกฤษที่โรงเรียนกวดวิชาของ
คุณครูสมศรีคอร์สสปรินเตอร์  ตอนเกือบ ๆ 6 โมงเย็น แถวศรีย่าน  วันพุธไปเรียน
ภาษาไทยกับอาจารย์ที่เกษียณมาจากโรงเรียนเตรียมอุดมแล้ว สอนเก่งมาก ๆ ท่านเปิด
สอนอยู่ในสถาบันกวดวิชาอ.เสาวนิตย์ โดยที่นี่จะเปิดการสอนหลาย ๆ วิชา ที่เรียนก็ชั้น
บนของโรงหนังสยามแถว ๆ ดังกิ้นโดนัท (นึกออกเนอะ)  ส่วนวันเสาร์วินมีเรียน
ภาษาอังกฤษที่โรงเรียนครูสมศรีอีก แต่เป็นคอร์สเอ็นทรานซ์2 และวันนี้เป็นวันพุธ วินต้อง
ไปเรียนภาษาไทยตามปกติ   โดยวันนี้มีนักเรียนใหม่มาอีกคน ซึ่งมาจากโรงเรียนชายล้วน
เครื่องแบบกางเกงสีกากีแถว ๆ ในเมืองนั่นแหละ  พอมาถึงก็มานั่งที่ข้าง ๆ วิน  เพราะที่
เราเรียนกันเป็นห้องเล็ก ๆ มีคนเรียนอยู่ประมาณ 7 – 8 คน เป็นผู้ชาย 2 คนเท่านั้น   
ที่เขามานั่งกับวินไม่ใช่เพราะอะไร เพราะวินนั่งหลังสุด (ตั้งใจเรียนมากนั่นเอง...อิอิ)

“ดีครับ”   นักเรียนใหม่เอ่ยทักวิน พยักหน้าเล็กน้อย
วินพยักหน้าตอบไม่ได้พูดอะไร ได้แต่ส่งสายตาวิ๊ง ๆ ๆ ไป (เขาแอบหน้าตาดีนี่นา...ฮ่า ๆ)
เนื่องจากนักเรียนใหม่คนนี้มาเรียนเอาตอนเราเริ่มกันไปแล้วครึ่งทาง ก็เลยตามไม่ค่อยทัน
เขาเลยหันมาถามวินบ่อย ๆ วินก็อธิบายไปตามเข้าใจ บางครั้งวินตอบไม่ได้ อธิบายมั่ว ๆ
ไปก็มี (คนมันอวดฉลาดน่ะ) แต่ในที่สุดเขาก็พอตามทัน
“ขอบคุณครับ”
ท่าทางนายคนนี้จะเด็กเรียนมาก ๆ ถึงจะไม่ได้ใส่แว่น แต่ก็สุภาพ และเรียบร้อยซะ (วินว่า
ตัววินเองหนิมแล้วนะ)
วินก็ไม่ได้ตอบเขาไปอีก ได้แต่ยิ้ม ๆ พยักหน้ารับ
เราเรียนกันประมาณ 2 ชั่วโมงกว่า ๆ โดยที่วินก็ตั้งใจเรียนเต็มที่ พร้อมกับอธิบายให้เพื่อน
ใหม่ฟังเกี่ยวกับบทเรียนที่เขาตามไม่ทันด้วย
“เราชื่อปุ่นนะ ... ชื่อไรอ่ะ”   เด็กใหม่แนะนำตัวขณะที่ทุกคนกำลังเก็บของเตรียมกลับบ้าน
“วิน”  วินตอบไปสั้น ๆ วินไม่ค่อยคุ้นเคยที่จะพูดคุยกับคนที่ไม่รู้จักมากนัก.......เขินนั่นเอง
ปุ่นถือว่าเป็นคนหน้าตาดีใช้ได้ ถ้าไม่ติดที่ว่าตัวเตี้ยไปนิด คงจะประมาณ 160 – 163 ซม.
วันนั้นวินและปุ่นเดินกลับลงมาจากบันไดพร้อม ๆ กัน   และวินก็แยกย้ายกับเขาเมื่อถึง
ร้านอาหาร “บ้านหญิง”  ร้านอาหารสุดฮิตซึ่งที่นั่งในร้านจะเต็มตลอดเมื่อถึงเวลากลางวัน 
คุณแม่ของวินจะมารอรับทุกครั้งที่ท่านมาได้ และวันนี้ท่านก็ว่าง เลยซื้อขนมปัง ลูกชิ้น
ทอด น้ำมะพร้าวปั่น (น้ำปั่นสุดโปรดของวิน) มารอวินอยู่ในร้านบ้านหญิง  อาทิตย์นั้นก็
ไม่มีเรื่องวุ่นวายอะไรมาก เรื่องแหวนวินก็แทบจะลืม ๆ ไปหมดเหมือนกัน วันศุกร์แมท
และวินก็ไปเที่ยวกันเหมือนทุก ๆ ครั้ง  เมื่อมาถึงสัปดาห์ถัดมา  จำได้แม่นว่าปลายเดือน
สิงหาคม เพราะช่วงที่วินต้องเข้าสู่ห้วงแห่งความทุกข์ใจ นั่นคือช่วงเวลาที่วินและแมทคบ
กันได้ครบ 4 เดือนแล้ว  มาถึงพุธนี้ปุ่นก็มานั่งกับวินอีกเช่นเคย  เราเริ่มคุ้นเคยกันมากขึ้น
พูดคุย และเล่านู่นนี่บ้างขณะเรียน จนอาจารย์ต้องทำเสียง “จุ๊ ๆ” อยู่บ้าง  ปุ่นเป็นคน
ขี้สงสัยมาก ๆ ถามวินตลอด     แต่วินก็ยินดีตอบ   เราเรียนกันครบสองชั่วโมงก็เลิก
…..มาวันนี้ปุ่นก็เดินกลับกับวินเหมือนสัปดาห์ที่แล้ว เพียงแต่วันนี้คุณแม่ไม่ได้มารับวิน
วินเลยเอารถไปจอดที่สำหรับจอดรถตรงหมอชิตของบริษัท BTS และนั่งรถไฟฟ้ามาลงที่
สยามแทน  เวลาตอนนั้นประมาณ 2 ทุ่ม (เริ่มเรียน 5 โมงครึ่ง) ขณะที่เราลงบันได (ข้าง ๆ
ร้านบ้านหญิง) ลงมาพร้อมกัน ปุ่นก็หันมาพูดกับวิน
“เออวิน.....เราขอเบอร์วินไว้หน่อยดิ เผื่อมีไรจะได้โทรไปถามอ่ะ”   ปุ่นเอ่ยขึ้น
“อ๋อ...เออ ได้ ๆ 01-xxx –xxxx”  ปุ่นยกโทรศัพท์ขึ้นมากดตามที่วินบอกขณะเดินลงมา
ด้วยกัน ... บอกตามตรงว่าวินก็ไม่รู้ว่าปุ่นเขาคิดอะไรกับวิน หรือเขาแค่ต้องการที่จะ
ปรึกษาเรื่องเรียนจริง ๆ เพราะตอนนั้นวินก็ไม่ได้คิดอะไร  เลยให้ไป
“วินหิวป่าว......กินอะไรกันที่บ้านหญิงมั้ย.....เดี๋ยวเราเลี้ยงเอง  ถือว่าเป็นการขอบคุณวิน
ที่อุตส่าห์ช่วยสอนเรามาสองอาทิตย์แล้ว”    ปุ่นพูดยังไม่ทันจบ....
วินก็เห็นคนหน้าคุ้น ๆ ยืนกอดอก อยู่ด้านล่างบันได เยื้อง ๆ ร้านบ้านหญิงนั่นเอง
“แมท…”  วินอุทานขึ้นมาเบา ๆ แต่ก็พอทำให้ปุ่นได้ยิน  ปุ่นคงมองตามสายตาวินไป
ก็พบกับสายตาอำมหิตยืนแข็งทื่อด้านล่าง  ทั้งวินและปุ่นหยุดกันอยู่  ที่อีกสามขั้นสุดท้าย
ก็จะถึงพื้นที่แมทยืนอยู่
“มานี่ !!!!!!!!”   แมทกระชากมือวินจนตัวลอยลงมาจากบันไดสามขั้น  วินล้มลงหัวเข่ากระแทกลงพื้นอย่างจัง โดยไม่มีอะไรมาทุ่นแรงโน้มถ่วงแต่น้อย หนังสือกระจัดกระจาย
คนก็หันมามองเป็นตาเดียว แต่วินไม่ได้ทันสนใจ เพราะรู้สึกเจ็บจนร้าว ไปจนถึงหน้าท้อง
เลยทีเดียว
“ไอห.เอี้ย ! ...animal…ม.อึง เป็นใคร....นี่แฟนกรู...ม.อึงรู้มั้ยไอควาย !!!”  แมทยืนชี้หน้า
พ่นคำสบถใส่ปุ่นที่ยังยืนอึ้งอยู่ที่เดิม
“เห้ย.....ไม่ใช่แล้ว”   ปุ่นเถียงกลับมา
“ม.อึงไม่ต้องพูดเลย ... กรูเห็นม.อึงขอเบอร์มันอยู่เมื่อกี๊”  แมทเรียกวินว่า ‘มัน’ พร้อมชี้นิ้ว
มาที่วิน ........แมทคงเห็นวินกับปุ่นตั้งแต่ตอนลงบันไดมาแล้ว เลยเห็นว่าปุ่นขอเบอร์วิน
และกดเบอร์บันทึกลงโทรศัพท์
“แมท...ไม่ใช่ - - นี่เพื่อนวินที่เรียนภาษาไทยด้วยกัน”   วินที่เจ็บจะตาย พยายามอธิบาย
“เงียบไปเลยวิน เดือนก่อนก็ไอห.เอี้ยฟิว..นี่มีใหม่อีกแล้วหรอ....วินเป็นคนยังไงเนี่ยฮะ !!!”
แมทตะโกนดังมาก เหมือนตอนนั้นมีเพียงเรา 3 คนอย่างนั้น
“ม.อึงจะไปไหนก็ไปเลยนะ - - ไป !!!”  แมทชี้หน้าไล่ปุ่น
“ไม่ !!”     ปุ่นตะโกนกลับมา  วินตกใจเล็กน้อยที่ปุ่นมีความกล้าเช่นนี้ เห็นตอนแรกออก
จะนิ่ง ๆ เงียบ ๆ...ไม่คิดว่าจะกล้าอยู่สู้แมท
“โห...ไอห.เอี้ย  นี่ม.อึงหน้าด้านขนาดนี้เลยหรอว้ะ”  แมทพูดจบก็ทำท่าจะก้าวขึ้นบันได
ไปหาปุ่น  ส่วนปุ่นเองก็ไม่ได้ถอยแต่อย่างใด  แต่โชคดีวิน (ที่ยังลุกไม่ขึ้น) ดึงขาแมทไว้
“แมท...นี่แมทเข้าใจผิดแล้วนะ”  วินพูด
แมทสะบัดขาแรงพอให้มือวินหลุด แต่วินก็คว้าไว้ได้อีก
“แมทเรากลับเถอะ - - ปุ่น...กลับไปก่อน”   วินพูดกับแมท และหันไปขอร้องปุ่น
วินคิดว่าปุ่นจะเดินกลับขึ้นไป แล้วไปลงทางฝั่งโรงหนัง ซึ่งอยู่อีกฝั่งแทน แต่ปุ่นกลับเดิน
ลงมา และเดินมาใกล้ ๆ แมท แล้วมองหน้าอยู่อึดใจหนึ่ง ก่อนจะเดินปัดตัวไปแรง ๆ
“เออ...แล้วม.อึงก็ไม่ต้องกลับมาอีกนะ...ไอ้ animal !!!”  แมทด่าตามหลังปุ่นไป  ปุ่นหัน
มาหยุดมองอยู่แป๊บนึง แต่ก็หันหลังกลับ  แล้วเดินต่อไป
“แมท...พอแล้ว - - อายเค้า”   วินพูดขึ้นเบา ๆ
“อายหรอ ..... วินน่ะแหละทำตัวน่าอายมาก”  แมทหันมาพูดกึ่งๆ ตะคอกใส่วิน แล้วฉุด
วินลุกขึ้น..........พระเจ้าช่วย...เจ็บหัวเข่าสุด ๆ จะทำไงเนี่ย  วินไม่กล้าแม้แต่จะมองดู
หัวเข่าตัวเองเลย คิดดู กางเกงนักเรียนก็สั้น วินเอาเข่าลงจัง ๆ ไม่มีอะไรรองรับเลย ทั้ง
แสบแผลที่ถลอก ปวดก็ปวดจากแรงกระแทก......อะไรกันเนี่ย วินยังไม่ได้ทำอะไรเลย !

“กลับไปกับแมทเดี๋ยวนี้”   แมทส่งสายตาพิฆาตมาที่วิน   วินพยักหน้าเบา ๆ และเดินไป 
ตามแรงฉุดของแมท....แมทจูงมือวินเดินเร็ว ๆ ....ถ้าวินเป็นคนอื่นวินก็คงมองไอสองคนนี้
วินไม่โทษสายตาชาวบ้านในตอนนั้นเลย  ไม่รู้สึกอายแล้วด้วยซ้ำ.....เจ็บเสียมากกว่าอีก
แมทจอดรถอยู่ในซอยภายในสยาม   เมื่อถึงรถ  แมทเหวี่ยงมือวินแล้วชี้ไปที่ด้านผู้โดยสาร
ขณะที่แมทกำลังไขกุญแจรถอยู่
“ขึ้นรถ !”   แมทแผดเสียง
วินก็เปิดประตูขึ้นไป   ทั้งที่ในใจตอนนั้นวินอยากจะวิ่งหนีไปให้ไกล ๆ คนอะไรไม่ฟัง
เหตุผลเอาเสียเลย....แย่ที่สุด...วินต้องมาเจ็บตัวทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็ไม่ได้ทำอะไรเลย
วินนั่งกัดฟันอยู่ในรถ   รู้สึกโกรธแมทมาก....มากที่สุดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
แมทเข้ามานั่งในรถไม่พูดอะไรกับวินอยู่พักหนึ่ง  และในที่สุด....
“เลว !...  วินรู้ตัวมั้ย...ว่าตัวเองทำตัวเลวระย.อำแค่ไหน!”  แมทสบถเหมือนคนเริ่มติดใจ
กับการพูดคำหยาบเสียแล้ว
“แมท !”  วินตะคอก ทำเอาแมทหน้าหุบเล็กน้อย
“วินบอกไม่มีอะไรไง....เค้าเป็นเพื่อน...’เพื่อน’ จริง ๆ ได้ยินมั้ย”    วินขึ้นเสียงต่อไป
“ตอแห.ล !!!..... ไอ้ฟิวก็อีกเรื่องแล้ว....นี่ยังมาไอ้เด็ก xxx นี่อีก”  แมทเอ่ยถึงปุ่นโดยพูดถึง
ชื่อสถาบันของเขา
“วินไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น ....ต่อไปนี้ไม่ต้องมาเรียนที่นี่แล้ว”  แมทออกคำสั่งราวกับเป็น
คนออกค่าเล่าเรียนให้วินอย่างนั้น
“ไม่ได้...วินจะเรียนแมท...อีกไม่กี่เดือนวินก็จะเอ็นท์แล้วนะ”  วินเถียง
“ไม่รู้.....ยังไงแมทก็ไม่ให้วินเรียนที่นี่แล้ว - - แมททนไม่ได้หรอกถ้าจะต้องโดนสวมเขา”
แมทยังยืนกราน
“ก็วินบอกไม่มีอะไรไง...ที่เค้าขอเบอร์วิน ก็เพราะเค้าเป็นเด็กใหม่เพิ่งมาเรียน...เค้าเรียน
ตามไม่ทันคนอื่น  เค้าเลยอยากจะโทรมาปรึกษาเรื่องเรียนก็เท่านั้น”   วินอธิบาย
“เดี๋ยว....แล้วแมทมาได้ยังไง...ทำไมอยู่ ๆ ถึงได้มารอวินที่นี่”   วินที่เพิ่งนึกออกว่าจู่ ๆ
แมทมายืนอยู่ตรงนั้นได้อย่างไร และวินก็เรียนที่นี่มาครึ่งเทอมแล้ว ทำไมอยู่ ๆ แมทถึง
มาดักรอวินได้ในวันนี้
“วินไม่ต้องรู้หรอก...ว่าแมทรู้ได้ยังไง - - เอาเป็นว่า จะทำอะไรก็ระวังไว้แล้วกัน” แมทตอบ
จากนั้นแมทก็ออกรถ และไปส่งวินที่หมอชิต พอลงจากรถ วินก็รู้สึกปวด ๆ ร้าว ๆ ที่หัวเข่า
อีกครั้ง  วินอาศัยแสงไฟจากสถานีรถไฟฟ้าหมอชิตดูหัวเขาตอนนั้นเอง  มีแต่เพียงรอย
ถลอก และรอยแดง ๆ เท่านั้น ไม่มีเลือด ดูเกือบเหมือนจะปกติเสียด้วยซ้ำ  วินต้องข้ามฝั่ง
ไปเพื่อเอารถที่จอดอยู่  โชคดีที่มีบันไดเลื่อน ถ้าให้วินก้าวขึ้นบันไดเองคงแย่แน่ ๆ
         พอถึงบ้านวินก็รีบเข้าห้องน้ำเพื่อล้างแผล  วินแปลกใจปนดีใจที่หัวเข่าไม่มีแผลที่
น่าเป็นห่วงหรือน่าตกใจมากนัก  แต่ความรู้สึกเจ็บและปวดมันยังคงอยู่ รู้สึกตุ๊บ ๆ อยู่
ตลอดเวลา  วินไม่รู้จะทำอย่างไรก็ได้แต่เอายาที่มีติดบ้านมานวด ๆ เพื่อคลายความ
เจ็บปวด….แต่หัวเข่าก็เขียวอยู่เป็นอาทิตย์   และวินต้องบอกคนอื่น ๆ ว่าล้มตกบันไดเอง
         ตลอดทั้งคืนนั้นจนถึงวันศุกร์ วินคิดอยู่บ่อย ๆ ว่า  อะไรที่ทำให้จู่ ๆ แมทก็มายืนอยู่
ตรงนั้น  ทำไมถึงได้พอเหมาะพอดี ทำไมต้องเป็นช่วงที่ปุ่นเพิ่งมา ทั้ง ๆ ที่วินก็เรียนที่นี่มา
ตั้งนานแล้ว   เหมือนแมทรู้เลยว่าปุ่นเพิ่งเข้ามาเรียน แต่อะไรที่ทำให้แมทมาในคืนนั้นนะ?

พอถึงวันศุกร์แมทก็มารับวินเช่นเคย  เขาทำตัวปกติ และหวานใส่วินเหมือนเคย จนทำให้
วินรู้สึกดี และก็ไม่ใส่ใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นอีก  ในวันศุกร์นี้แมทพาวินไปที่บ้านของเขา โดย
ให้เหตุผลว่าคุณแม่อยากทานมื้อเย็นด้วย และก็ขอให้วินโทรบอกที่บ้านว่าจะกลับค่ำอีก
วินก็ตกลงตามนั้น   เมื่อถึงบ้าน.....ก็เหมือนเช่นเคย เราีมีอะไรกันอีกครั้ง.....หลังจาก
ทุกอย่างจบลง......
“วินครับ.....”  แมทพูดขึ้นเสียงหวาน
“ฮึ”   วินตอบ
“แมทรักวินนะ....แต่แมทไม่สบายใจเลยที่วินต้องเรียนที่นั่นอ่ะ - - วินไม่ไปเรียนแล้วไม่ได้
หรอครับ.....นะครับนะ”    แมทใช้น้ำเสียงขอร้อง
“แมท....วินแค่ไปเรียน   ปุ่นกับวินไม่ได้คิดอะไรกันเลย”    วินตอบ
“วินทำให้แมทไม่ได้หรอ - - ถ้าอะไรที่ทำให้วินไม่สบายใจ แมทก็จะไม่ทำนะครับ”
แมทกล่าว  ทำให้วินรู้สึกไม่ดีที่จะต้องเลิกเรียนที่นี่ คุณแม่ของวินก็จ่ายค่าเล่าเรียนไปแล้ว
แต่ด้วยความหน้ามืดตามัวทำให้วินคิดอะไรไม่ได้มาก ความรักมากมายที่มีต่อแมทมัน
บอกให้วินทำเพื่อแมท ทำให้แมทสบายใจ
“อืม...วินจะคิดดูก่อนนะ”    วินเองก็ยังไม่ค่อยแน่ใจ เกิดมายังไม่เคยโดดเรียน หรือเลิก
เรียนพิเศษที่คุณแม่ส่งเสียมาก่อน  จึงตอบไป
“ครับ ๆ.........ยังไงก็ทำเพื่อแมทนะ - - แมทอ่ะทำเพื่อวินได้ทุกอย่าง”   แมทกล่าว
วินเริ่มเปลี่ยนเรื่องในใจ คิดไปถึงเหตุการณ์วันนั้น  คิดว่าแมทน่าจะไถ่ถามเกี่ยวกับ
ความรู้สึกทางใจและทางกายของวินบ้าง   ที่วินตกลงมาจากบันไดสามขั้นขนาดนั้น
แต่เขาก็ทำเหมือนว่าลืมมันไปหมดแล้ว  แต่ความรักที่คงบวกกับความหลงในขณะนั้น
ทำให้วินมองเขาในแง่ดีมาตลอด

จู่ ๆ พี่แสงเดือนก็มาเคาะที่หน้าห้องของแมท   แม้ว่าวินที่นอนอยู่ตรงนั้นจะเพิ่งแต่งองค์
ทรงเครื่องเรียบร้อยแล้ว (เพราะขี้อาย) แต่แมทที่ตอนนั้นยังไม่ได้ใส่อะไรเลย        ก็หยิบ
ผ้าเช็ดตัวไปนุ่งและออกไปเปิดประตู  ........ สีหน้าพี่แสงเดือนตกใจเล็กน้อย แสดงสีหน้า
ตะลึง ๆ อยู่ขณะหนึ่งเลยทีเดียว       ภาพของวินในสายตาของพี่แสงเดือนตอนนั้นคงไม่มี
เรื่องแบบนี้อยู่เสียเท่าไหร่นัก

“คุณผู้หญิงให้มาตามคุณวินค่ะ”  พี่แสงเดือนที่ยังคงมองหน้าวินแบบอึ้ง ๆ เอ่ยขึ้น
วินรู้สึกได้ด้วยสามัญสำนึกทันทีว่า  ‘นี่แมทคงบอกคุณแม่เรื่องปุ่นไปเรียบร้อยแล้วหละ’

วินเคาะประตูห้องคุณแม่  แล้วเปิดเข้าไปได้เพียงไม่มาก  วินก็เพิ่งเข้าไปได้เพียงครึ่งตัว
จู่ ๆ วินก็รู้สึกถึงแรงกระชากที่แขนเข้าไปในห้องอย่างแรง
“คุณแม่”  วินเอ่ยทักขึ้น เมื่อเห็นหน้าเจ้าของแรงเมื่อครู่
คุณแม่ไม่พูดอะไร  แต่เข้ามาจับหัวไหล่ของวินทั้งสองข้างไว้แน่น แล้วคุณแม่ก็จ้องหน้าวิน
ด้วยสายตาเย็นชาแต่แข็งกร้าวเหมือนเคย  คุณแม่เม้มปากแน่นเหมือนคนกำลังกัดฟัน
“คุณแม่...”   วินพูดขึ้นเสียงสั่น ๆ ด้วยความตกใจกลัว ...ไหนแมทบอกว่า คุณแม่อยาก
ทานมื้อเย็นกับวิน.......แต่นี่คุณแม่จะทานวินเข้าไปเสียเองแล้ว
“แม่ – บอก – ว่า – ยังไง – วิน”  คุณแม่พูดโดยไม่อ้าปาก ขบฟันไว้แน่น เอ่ยขึ้น โดยย้ำทุก
พยางค์ที่ท่านพูด
“คุณแม่.....แมทเข้าใจวินผิด - - มันไม่มีอะไรจริง ๆ นะคุณแม่”  วินตอบไป  น้ำตาเริ่มคลอ
(อีกแล้ว....วินนี่อ่อนแอเสียจริง ๆ)
“อย่ามา - - โกหก - - ชั้น”   คุณแม่พูดกลับมา น้ำเสียงแข็งมาก แถมยังใช้คำแทนตัวเอง
ที่ท่านไม่เคยพูดกับวินมาก่อน
“ถ้า – ยังอยาก – คบ – กับ – ลูกชาย – ของชั้น – อย่างมี – ความสุขอยู่.....เลิก – เรียน –
ที่นั่น – ซะ – เข้า – ใจ – มั้ย”   น้ำเสียงคุณแม่ตอนนั้นมันทำให้วินปฏิเสธไม่ได้ วินกลัว
คุณแม่มาก...กลัวมากจริง ๆ ในตอนนั้น   วินได้แต่พยักหน้าน้ำตาไหลพรากไป
หลังจากวินพยักหน้ารับคำแล้ว ท่านก็คลายมือ จากบริเวณหัวไหล่ของวินออก  วินรู้สึก
ได้ทันทีว่าเลือดวิ่งไปเลี้ยงแขนของวินอย่างเร็ว  นี่คุณแม่บีบแขนวินไว้แน่นขนาดนี้เลย
หรือนี่?
“ดี...อย่าให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีกนะวิน”   คุณแม่เปลี่ยนน้ำเสียงมาเป็นปกติ แต่ยังคง
ความเย็นชา และสายตาที่มองวินอย่างเหยียดหยามอยู่
“คุณแม่...วินไม่ได้ทำอะไรเลย - - แมทเข้าใจไปเองทั้งนั้น”   วินเถียงกลับ  ครั้งนี้วินไม่
ผิดจริง ๆ ....วินจะยอมได้อย่างไร
“อย่ามาเถียง!”  คุณแม่ยกมือขึ้นชี้หน้าวิน มือคุณแม่เกร็งเสียจนมือของท่านสั่น
“คิดว่าแมทโง่งั้นหรอ.....วินว่าลูกแม่โง่งั้นหรอ....ฮะ!”   คุณแม่ตะคอกแบบกั๊กเสียงไว้ 
เพื่อไม่ให้เล็ดรอดออกไปถึงนอกห้องจนใคร ๆ ได้ยิน
“คุณแม่....”   วินร้องไห้
“เงียบเดี๋ยวนี้นะวิน....แม่ไม่เคยเห็นใครหน้าด้านขนาดนี้มาก่อนในชีวิต” 
คุณแม่ตัดสินวินอีกแล้ว....วินไม่รู้จะทำอย่างไร...วินจึงหันหลังเดินไปที่ประตู เพื่อที่จะ
ออกไปจากห้องของคุณแม่
“ใครให้เธอไป”   คุณแม่แผดเสียงขึ้น    วินจึงหยุดและหันกลับมา
คุณแม่เดินตรงเข้ามาที่วินและใช้นิ้วชี้ของท่านผลักหน้าผากของวินอยู่ 3-4 ที ค่อนข้างแรง
อยู่ทีเดียวเลย
“อย่างเธอน่ะ.....เดี๋ยวแมทก็เขี่ยทิ้ง - - อย่ายโสนักเลย....พวกผู้ดี ‘เก่า’ อย่างบ้านเธอน่ะ
ชั้นไม่ก้มหัวให้หรอก แม้แต่ลูกของชั้น ชั้นก็จะไม่ยอมให้อีพวกตระกูลดังที่เหลือแต่ชื่อ
หน้าไหนมาทำร้ายเด็ดขาด”    ในความคิดวินตอนนั้นอยากจะผลักคุณแม่ให้ไปไกล ๆ
หน้าวินเหลือเกิน คุณแม่แสดงกริยาที่ดูถูกวินโดยการใช้นิ้วดันหน้าผากวินยังไม่พอ
ยังกล่าวว่านามสกุล และตระกูลของวินอีก....คุณแม่คือคนแรก และคนเดียวที่ทำอย่างนี้
ตั้งแต่เกิดมาวินไม่เคยถูกกระทำแบบนี้มาก่อนเลยในชีวิต
“จำไว้นะ”   คุณแม่พูดประโยคสุดท้ายจบ ก็ใช้นิ้วผลักหน้าผากวินอย่างแรง จนหน้าหงาย
“ออกไปได้แล้ว . . . และก็เชิญกินข้าวกับลูกชายของชั้นไปตามสบายเลยนะ - - ชั้นคงไม่
ไปร่วมโต๊ะอาหารกับพวกตอแห.ลหรอก”    คุณแม่พูดจบก็สะบัดหน้าเดินไปที่เตียงนอน
วินที่มีคำพูดมากมายอยากจะอธิบายก็พูดอะไรไม่ออก ได้แต่เดินน้ำตานองออกไปจาก
ห้องนอนของท่าน

“วินเป็นอะไร !”   แมทที่ออกมาพอดีเอ่ยถามขึ้น
วินที่ตอบช้าเกินไป   จึงไม่ทันคุณแม่ที่ได้ยินเสียงของแมทถามขึ้น แล้วออกมาจากห้อง
เกือบจะทันที
“วินก็มาขอโทษแม่น่ะสิลูก ... จะอะไรซะอีก....แล้ววินเค้าก็ ‘สัญ – ญา’ ว่าเรื่องแบบนี้
จะไม่เกิดขึ้นอีก - - แถมเค้าก็รับปากแม่แล้วนะ...ว่าจะไม่กลับไปเรียนที่นั่นอีก”
คุณแม่นี่ช่าง..........วินจะพูดอย่างไรดี.......?
“วิน .... ขอบคุณมากเลย”   แมทเข้ามาจับหัวไหล่วินแล้วเขย่าเบา ๆ แสดงความดีใจ
วินก็ได้แต่พยักหน้า แล้วหันไปมองคุณแม่ด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยคำถามมากมาย
ท่านก็ดูไม่ใยดีนัก จึงสะบัดหน้ากลับเข้าไปในห้องนอน
“แมท....วินกลับก่อนนะ”    วินบอกแมท
“อ้าว ! ทำไมหละ...ไม่อยู่กินอะไรด้วยกันก่อนหรอ”   แมทถามน้ำเสียงตกใจ
“ไม่อ่ะ....วินไม่หิว.....วินอยากกลับบ้าน”   วินตอบไป....ตอนนั้นใครกินอะไรลง วินก็ว่า
เก่งมากแล้วหละ
แมทมีสีหน้างง ๆ แต่ก็ยอมเดินไปส่งวินที่รถแต่โดยดี  วินหวังว่าเขาจะถามอะไรวินสักคำ
วินจะได้พลั้งปากบอกความจริงไปบ้าง แต่แมทก็ไม่เคยถาม แมทเป็นคนที่ปากหนักมาก
ตลอดเวลาที่เราคบกัน แมทไม่เคยใส่ใจความรู้สึกของวินเท่าไหร่ และหลัง ๆ ก็ดูจะใส่ใจ
แต่ความรู้สึกของตัวเองแต่เพียงผู้เดียวเสียด้วย

____________________________________________________________________



ตัวอย่างตอนต่อไป
ตอนที่ 15 หน้าที่...ของเพื่อนสนิท

ตอนที่ 15 สั้น ๆ เดี๋ยวขอมาต่อตอนเย็น ๆ
(กะว่าจะอัพวันละตอนซะหน่อย -*-)
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: LingNERD* ที่ 17-03-2008 13:10:18
รักแรง หึงแรง แบบนี้ก้มะไหวเน้อ o7

พี่ชินจังจะมาต่ออีกหรอ กะลังนุกเยย :oni1:

ปล.แอบชอบพี่ปุ่น  :o8:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 17-03-2008 13:16:10
รักแรง หึงแรง แบบนี้ก้มะไหวเน้อ o7

พี่ชินจังจะมาต่ออีกหรอ กะลังนุกเยย :oni1:

ปล.แอบชอบพี่ปุ่น  :o8:

จัดไปอย่าให้เสียตามสัญญาแระนะ น้องหมี

ก็ตอนแรกพี่ก็ว่าจะลงแค่วันละตอน
แต่ถ้าพรุ่งนี้มาลงตอนที่ 15 ตอนเดียว มันจะไม่มันส์
เพราะเป็นแค่ตอน ผ่อนคลาย ๆ สั้น ๆ แค่ 3 หน้ากระดาษ
เลยขอมาต่ออีกหน่อยให้คนอ่านคลายเครียด ในช่วงเย็น ๆ

ปล. ปุ่นน่ารักมากมายนะ 555+
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: ICEME ที่ 17-03-2008 14:19:00
โห เนี่ยเหรอความรักของแมท ได้แค่นี้เองเหรอ

เริ่มผิดหวังกับแมทมากขึ้นเรื่อยๆ นอกจากจะทำร้ายวินแล้วยังไม่เคยคิดจะไถ่ถามความรู้สึกวินอีก ไม่เคยฟังอะไรเลย

ไม่รู้นะว่าทำไม...หึ..ความรักที่เห็นแก่ตัวแบบนี้อ่ะ เต่าไม่ปลื้มเลย

หวังแต่จะให้ตัวเองมีความสุขแต่ก็ทำร้ายคนอื่นได้หน้าตาเฉยเหมือนไม่แคร์เลย..

ตั้งแต่อ่านมาก็เรื่องของวินเรื่องแรกนี่แหละที่มีปัญหากะพ่อแม่อีกฝ่าย แถมยังรุนแรงซะขนาดนี้ด้วยอ่ะ

ขอให้หลุดพ้นเร็วๆ ก็แล้วกันค่ะ เอาใจช่วย

บ่นด้วยอารมณ์ล้วนๆ เลย ปกติอ่านแล้วอ่ะยอมได้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าอีกฝ่ายยังคงรักอยู่ แต่นี่มันเหมือนกัย.......

อ๊ากกก :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:

ทำไมแมทหยาบคายได้ขนาดนี้...โฮๆ...แมทย้า! :angry2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 17-03-2008 15:02:07
โห เนี่ยเหรอความรักของแมท ได้แค่นี้เองเหรอ

เริ่มผิดหวังกับแมทมากขึ้นเรื่อยๆ นอกจากจะทำร้ายวินแล้วยังไม่เคยคิดจะไถ่ถามความรู้สึกวินอีก ไม่เคยฟังอะไรเลย

ไม่รู้นะว่าทำไม...หึ..ความรักที่เห็นแก่ตัวแบบนี้อ่ะ เต่าไม่ปลื้มเลย

หวังแต่จะให้ตัวเองมีความสุขแต่ก็ทำร้ายคนอื่นได้หน้าตาเฉยเหมือนไม่แคร์เลย..

ตั้งแต่อ่านมาก็เรื่องของวินเรื่องแรกนี่แหละที่มีปัญหากะพ่อแม่อีกฝ่าย แถมยังรุนแรงซะขนาดนี้ด้วยอ่ะ

ขอให้หลุดพ้นเร็วๆ ก็แล้วกันค่ะ เอาใจช่วย

บ่นด้วยอารมณ์ล้วนๆ เลย ปกติอ่านแล้วอ่ะยอมได้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าอีกฝ่ายยังคงรักอยู่ แต่นี่มันเหมือนกัย.......

อ๊ากกก :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:

ทำไมแมทหยาบคายได้ขนาดนี้...โฮๆ...แมทย้า! :angry2:

นี่แหละสิ่งที่นักเขียนต้องการจากผุ้อ่าน

"inner" 5555+

ขอบคุณ คุณเต่าอีกแล้ววววว

ปลื้มอีกแว้วววววว  :oni1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 17-03-2008 15:02:53
+1 คุณเต่า
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 17-03-2008 16:49:39
ถึงคุณ แต่งน้ำเขา  (เต่า่น้ำแข็ง)

เมลหนะที่ไปขอในเด็กดี add มาเลยจร้าาาาา
ไม่มีปัญหา
จริง ๆ วินก็ลงไว้ในเล้าแล้วนะ
คุณเ่ต่า คงไม่ได้คลิ๊กดูที่ชื่อวินหละสิ เลยไม่เห็น

ปล. เออคุณเต่า เห็นคอมเม้นท์ที่เด็กดีใช่ม้ะ ก่อนคุณเต่าอ่ะ
เค้าบอกว่า ทำไมเราต้องใช้คำว่า "วิน" แทนตัวเอง
มันดูไม่ธรรมชาติ
วินไม่รู้เลยอ่ะ มันไม่ธรรมชาติจริงหรอ

เพราะธรรมชาติ(ปกติ)ของวิน วินก็เรียกชื่อตัวเอง กับทุกคน
ไม่ว่าจะกับพ่อ แม่ เพื่อน กระทั่งครูอาจารย์ ไม่เห็นมีใครบอกว่าแปลกเลย

วินงง o12
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 17-03-2008 17:26:52
ตอนที่ 15 หน้าที่...ของเพื่อนสนิท

วินออกรถมาได้ครึ่งทางโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
‘FEW’   ฟิวโทรมา
   วินเล่าข้ามตอนไปนิด...ระหว่าง 1 เดือนกว่า ๆ ที่ผ่านมา วินกับฟิวคุยกันทาง
MSN กันอยู่เรื่อย ๆ คุยกันเรื่องสอบเข้ามหาวิทยาลัยบ้าง   ถามเรื่องในวงการจากฟิวบ้าง
มีบ้างที่ฟิวพูดจีบ ๆ แต่วินก็ห้ามอยู่ทุกครั้ง...จนฟิวและวินก็เป็นเพื่อนที่สนิทกันมากขึ้นมา
ในที่สุด....ไม่ว่าจะพูดคุยกันทาง MSN หรือโทรศัพท์ (ที่ไม่บ่อยนัก)  ก่อนที่จะวางสายหรือ
เลิกคุย MSNกัน  ฟิวจะพูดประโยคเดิม ๆ เสมอว่า ‘ถ้ามีปัญหาให้บอกฟิว ถ้าไปได้จะไป’ 
ทุกครั้ง

“ฮัลโหล...ฟิว”   วินเสียงอ่อย ๆ รับโทรศัพท์ทั้งน้ำตา
“วิน...............วินเป็นอะไร - - ไม่สบายหรอ...นอนอยู่รึเปล่า”    ฟิวน้ำเสียงดูเป็นห่วง
“ฟิว...”     วินปล่อยโฮ
“วิน!....เห้ยวิน ใจเย็น ๆ เป็นอะไรไปเนี่ย - - ทะเลาะกับแฟนหรอ”  เวลาที่ฟิวพูดถึงแมท
ฟิวไม่ค่อยเอ่ยชื่อเสียเท่าไหร่จะใช้สรรพนาม ‘แฟน’ เรียกแมททุกครั้ง
“ฟิว....แมทไม่เข้าใจวินอ่ะ....เข้าใจวินผิด ๆ แล้วก็ตัดสินวิน ไม่ฟังเหตุผลเลยซักคำ”
วินร้องไห้ไม่หยุด
“ไอห่-านี่...ทำไม.....มันทำยังไง”  ฟิวถาม น้ำเสียงโมโห
“เดี๋ยว - - แล้วนี่วินอยู่ไหน”  ฟิวชิงถามขึ้นมาต่อ
“วินกำลังจะกลับบ้าน”  วินตอบ
“วินเราอยู่บ้านปุ้ย....วินมาได้มั้ย”    ฟิวเอ่ยชวน.........อย่างที่เคยบอกว่าปุ้ยกับวินบ้านเรา
อยู่ไกลกันแค่หมู่บ้านฝั่งตรงข้าม มีเพียงถนนใหญ่คั่นเท่านั้น
“ไม่เป็นไรฟิว....วินจะกลับบ้านแล้ว ....วินอยากพักผ่อน”   วินตอบกลับไป
“เห้ยวินแก....แกมาหาที่บ้านชั้นหน่อย”   ปุ้ยมารับสายแทนฟิวในตอนนั้น
“ปุ้ย - - เราไม่สะดวกอ่ะ...ไว้วันหลังแล้วกัน”   วินตอบปุ้ย
“เห้ยวิน...เสียงแกแย่มากเลย - - มาหาชั้นนะแก มาเหอะ....กลับบ้านไปตอนนี้
พ่อแม่เห็นแกเป็นแบบนี้.....จะดีหรอว้ะ”   ปุ้ยยืนกราน
วินรู้สึกเห็นด้วยกับปุ้ย    วินคงไม่หยุดร้องไห้ง่าย ๆ และวินก็คงจะถึงบ้านในเร็ว ๆ นี้
วินไม่อยากให้คุณพ่อและคุณแม่เห็น จึงตอบรับไป
“เออ ๆ ก็ได้ ...เดี๋ยวเราเข้าไป”   วินตอบ   จากนั้นฟิวก็มารับสายต่อ
“วิน...เดี๋ยวเจอกันนะ....ใจเย็น ๆ นะวิน อย่าเพิ่งคิดอะไรมาก”   ฟิวกล่าว
“อืม ๆ”   วินวางสายไป

ก่อนจะถึงหน้าบ้านปุ้ย   วินก็เห็นฟิวยืนรอพร้อมกับมองซ้ายมองขวาอยู่หน้าบ้าน
วินจอดรถ และออกมาจากรถไม่นาน ปุ้ยก็เดินออกมา แล้วเข้ามากอดวิน
“เห้ยวิน - - แกตัวสั่นมากเลย....นี่มันอะไรว้ะ”   ปุ้ยถามทั้ง ๆ ที่ยังสวมกอดวินอยู่
“วิน….”   ฟิวเรียกวินเบาๆ สีหน้าเป็นห่วง และยื่นมือของเขามาลูบมือของวินที่กอดปุ้ยอยู่
“เข้าบ้านก่อน - - ไปนั่งที่ระเบียงแล้วคุยกัน...พ่อชั้นไปต่างจังหวัด...แม่ยังไม่ออกเวรเลย”
ปุ้ยกล่าว   คุณพ่อของปุ้ยเป็นอาจารย์ ส่วนคุณแม่เป็นนางพยาบาล....ที่บ้านปุ้ยมีระเบียง
ขนาดใหญ่นั่งได้ประมาณ 10 คน อยู่ริมน้ำ เพื่อน ๆ ยังมาทานข้าวกันที่บ้านของเธออยู่
บ่อย ๆ
“วิน...แก   มีอะไรว้ะ”  ปุ้ยถามขึ้น หลังจากที่เราไปถึงและนั่งลงที่ระเบียงแล้ว
“เราไม่รู้จะพูดอะไรแล้วปุ้ย...แมทไม่ฟังเราเลย...ไม่มีเหตุผลเลย”  วินพูดทั้งน้ำตา
“เห้ยแกใจเย็น...มีอะไร - - บอกได้มั้ย”   ปุ้ยถาม

วินเล่าให้ปุ้ยและฟิวฟังทั้งหมด ตั้งแต่เรื่องที่โรงงาน เรื่องที่คุณแม่ของแมทไม่พอใจวิน
เรื่องฟิว   และไม่ให้โอกาสวินอีกเลย แถมยังตัดสินวินเองในเรื่องต่าง ๆ โดยเอาเรื่องเก่า ๆ
อย่างเรื่องฟิวเป็นที่ตั้งเสมอมา คุณแม่ไม่เคยให้โอกาส หรือมองวินใหม่  ทั้งยังเรื่องห้าม
ไม่ให้วินไปเรียนกวดวิชาอีก เรื่องที่แมททำวินเจ็บตกบันไดที่สยาม เรื่องด่าวินบนรถ  เรื่อง
ด่าปุ่นที่วินเพิ่งรู้จักกันได้ไม่นานจนวินอาย   จนถึงเรื่องวันนี้กับคุณแม่  ที่รับไม่ได้ที่สุดคือ
ที่คุณแม่ดูถูกถึงครอบครัวของวิน..........วินร้องไห้หนักขึ้น ๆ บางทีปุ้ยก็ต้องถามซ้ำให้วิน
เล่าใหม่ เพราะวินพูดแทบจะไม่รู้เรื่อง 
จู่ ๆ ปุ้ยก็ถกแขนเสื้อวินขึ้นดู หลังจากที่วินเล่า ปรากฏว่ามีรอยแดงอมม่วงเป็นจ้ำ ๆ ที่แขน
วินเองก็เพิ่งเห็นตอนนี้เช่นเดียวกัน

“โหวิน...นี่ทำกันขนาดนี้เลยหรอ”  ฟิวตกใจ
“วินแก.......”  ปุ้ยทำหน้าสงสารวินสุดใจ
“เรายอมรับผิดนะ....เรื่องฟิว เราทำไม่ถูกเอง - - แต่หลังจากนั้นมันก็ไม่มีอะไรอีกแล้ว
จริง ๆ นะปุ้ย....กับฟิวเราก็ระวังตัว ระวังคำพูดกันมาตลอด”   วินกล่าวกับปุ้ย และหันไป
 ขอความเห็นด้วยกับฟิว
“อืม...”   ฟิวพยักหน้า
“เราไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมแม่แมทถึงได้โกรธจนเหมือนจะเกลียดเราได้นานขนาดนี้
นี่มันก็สองเดือนได้แล้วมั้ง”   วินกล่าวต่อไปทั้งน้ำตา
“เลิกมั้ยว้ะ”   ปุ้ยถามขึ้น
“จะบ้าหรอปุ้ย...มันไม่ยุติธรรมกับแมท และเราเองก็ยังรักแมทมากด้วย....ถ้าแค่เราไม่
ไปบ้านแมท ไม่ต้องเจอคุณแม่อีก....อะไร ๆ ก็คงจะดีขึ้น”   วินโต้
“แล้วแฟนวินมันรู้เรื่องนี้มั้ย...เรื่องแม่มันอ่ะ”   ฟิวถาม
“ไม่รู้...เราไม่กล้าบอก เค้าแม่ลูกกัน - - อีกอย่างคุณแม่ก็กำชับกับเรา ว่าห้ามบอกแมท”
 วินตอบ
“แล้วแกต้องเชื่อด้วยหรอเนี่ย....วินแกบ้ารึเปล่า โง่มั้ยเนี่ย”   ปุ้ยโมโหขึ้นมา
“ปุ้ย....ถ้าเราบอกแล้วแม่ลูกเค้าคุยกัน - - คุณแม่จะไม่ยิ่งเกลียดเราหรอ....เราไม่พูด
เพราะยังคิดว่าสักวันคุณแม่คงเข้าใจเรา และก็จะดีกับเรา...ยังไงเค้าก็เป็นแม่ของแมท
....ถ้าแมทรักเราจริง คุณแม่คงเข้าใจแหละ”     วินตอบปุ้ย
“แล้วนี่วินจะเลิกเรียนพิเศษจริง ๆ หรอ”   ฟิวถาม
“ไม่หรอก……ยังไงวินก็จะไปเรียน...เรียนมาขนาดนี้แล้ว เดือนหน้าก็จะสมัครเอ็นท์ฯ
วินเหลือเวลาอีกไม่ถึงสองเดือน ยังไงวินก็ต้องเรียนอ่ะ”    วินตอบ
“เห้ย...เดี๋ยวขอไปรับโทรศัพท์ก่อน”  ปุ้ยเอ่ยขึ้นหลังจากได้ยินเสียงโทรศัพท์ในบ้านดัง

ฟิวกับวินนั่งกันอยู่ตามลำพัง สีหน้าของฟิวที่มองวินอยู่ขณะนั้น ดูเป็นห่วง และค่อนข้าง
กังวลใจน่าดู ... วินรู้สึกดีที่มีเพื่อนทั้งสองคนนี้ในเวลาแบบนี้....เวลาที่วินต้องการใครมา
รับฟังเรื่องเหล่านี้บ้าง....ถ้าวินไม่มีสองคนนี้ ป่านนี้คงอกแตกตายไปแล้วเป็นแน่

“เราน่าจะเจอกับวินเร็วกว่านี้ซักปีนึงเนอะ”   ฟิวพูดขึ้น สีหน้ายังคงแสดงความห่วงใยอยู่
“ฟิวอย่าพูดแบบนี้......เราแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว”   วินตอบ
“แล้วถ้าได้หละ...ถ้าเรารู้จักกันก่อนหน้านี้แล้วเราชอบวิน...วินจะชอบเรารึเปล่า”  ฟิวถาม
วินไม่ตอบอะไร ได้แต่เบือนหน้าไปมองอย่างอื่น  วินยังคงน้ำตาไหลอยู่ตลอด
“เราขอโทษ....เรารู้ว่าเวลามันไม่เหมาะ - - แต่ก็อดไม่ได้....เราเป็นห่วงวินจริง ๆ นะ.......
ถ้าเป็นเรา....เราคงจะไม่ยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับวินแน่ ๆ”    ฟิวพูดต่อไป
“ฟิว....แมทก็คงคิดแบบนี้ วินก็คิดแบบนี้ตอนที่คบกับแมทแรก ๆ...ไม่มีใครรู้อนาคตหรอก
เราหรือแมทก็คงไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น”    วินบอกกับฟิว
“วินเจ็บมั้ย...แขนอ่ะ”   ฟิวเปลี่ยนเรื่อง
“ปวดนิดหน่อย....แต่ไม่เป็นอะไรมากหรอก”   วินตอบ

วิน ปุ้ยและฟิว เราพูดคุยกันอยู่สักพัก จนวินสบายใจขึ้น   จากนั้นวินจึงขอตัวกลับบ้าน
คืนนั้นวินนอนหลับได้ไม่สนิทเกือบจะตลอดทั้งคืน นอนแล้วก็ฝันถึงเรื่องคุณแม่ ทั้งสีหน้า
น้ำเสียงของคุณแม่มันน่ากลัวมาก ทำให้วินหลับ ๆ ตื่น ๆ อยู่ตลอด แต่ในที่สุดค่ำคืนนี้ก็
ผ่านไปในที่สุด

_____________________________________________________________


ตัวอย่างตอนต่อไป.....
ตอนที่ 16 ตัวร้าย...ที่(ยัง)ไม่แสดงตัว


“เห้ยวิน...เรื่องวันก่อนเราโทษทีอ่ะ”    ปุ่นพูดขึ้น
“ปุ่น...เราสิต้องขอโทษ...ปุ่นไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย”   วินตอบกลับ
“เราว่า...เราสองคนไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะ....แต่ช่างเหอะ เราไม่ถือสา”   ปุ่นยิ้ม

...

“วิน...ไหนว่ารับปากแม่แมทแล้วไงว่าจะไม่มาเรียนที่นี่อีก”   แมทเสียงแข็ง
“เราไปนะ...”   ปุ่นหันมาพูดกับวินเพื่อบอกลา
“ก็ไปสิครับ....จะรออะไรหรอ”   แมทหันไปเสียงแข็งใส่ปุ่น  ปุ่นทำท่าไม่ใส่ในคำพูดแมท
ราวกับว่าแมทไม่ได้อยู่ตรงนั้นเลยทีเดียว 

...

“ฮัลโหล ....วินนนน”   เสียงผู้ชายที่ทำเสียงเล็กเสียงน้อยแบบผู้หญิง ลากเสียงยาวมา
  ตามสาย
“ใครอ่ะ”   วินถาม
“ก็แฟนใหม่แมทอ่ะสิ”   คู่สายของวินทำเสียงเล็กเสียงน้อยตอบกลับมา

“เอ้า ! เงียบทำไมหละจ๊ะ....พอดีจะโทรมาบอกว่ากำลังจะมีอะไรกับแฟน ‘เก่า’ ของเธอ
แต่อยากรู้ว่าเค้าลีลาเด็ดแค่ไหน.....ได้ข่าวว่าเธอเองนี่ก็ ‘ห่วยแตก’ ! มากเลยหรอ ไม่ยอม
ให้แ่มททำข้างหลัง”    คู่สายหยาบคายใส่มาเป็นชุด 

...






หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 17-03-2008 17:54:19
สงครามนางฟ้า ภาค y  :oni2: :oni2: :oni2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: agape ที่ 17-03-2008 19:32:02
อะไรมันจะวุ่นได้ขนานนี้ละคับเนี่ย

เหนื่อยแทนเลยอะคับ

น่าจะบอกเป็นนัยๆๆให้แมทฟังซักนิดก็ดีนะ

ดูแมททำหน้ายังไง

อินตามเรื่องนี้

คุณแม่ก็. . .สุดๆๆเหมือนกันอะ

เป็นกำลังใจให้เสมอนะคับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 17-03-2008 19:54:51
สงครามนางฟ้า ภาค y  :oni2: :oni2: :oni2:

 o13
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 17-03-2008 19:55:54
อะไรมันจะวุ่นได้ขนานนี้ละคับเนี่ย

เหนื่อยแทนเลยอะคับ

น่าจะบอกเป็นนัยๆๆให้แมทฟังซักนิดก็ดีนะ

ดูแมททำหน้ายังไง

อินตามเรื่องนี้

คุณแม่ก็. . .สุดๆๆเหมือนกันอะ

เป็นกำลังใจให้เสมอนะคับ

ขอบคุณง๊าบบบ สำหรับความ"อิน"  :o8:

และก็ขอบคุณสำหรับกำลังใจด้วยฮับ  :oni2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: ICEME ที่ 17-03-2008 20:02:22
เหอะ..

ตอนนี้เฉยๆ อ่ะ เพราะว่าไม่มีอะไรมาก แต่แอบเห็นตัวอย่างตอนต่อไปแล้วตากระตุก อะไรอีกฟะ...จะเอาอะไรอีก อ๊าก :m16:

มาต่อเร็วๆ เลยนะคุณวิน... o12

ขอให้พรุ่งนี้มาถึงไวๆ เ้ลย

เรื่องแทนตัวเองว่าวินเต่าเม้นต์ให้แล้วในเด็กดีนะ ไม่เป็นไรหรอก เรียกไปเหอะ

แอดเมล์ไปแล้วด้วย เดี๋ยวคงได้คุยกัน เมล์เต่าขึ้นต้องด้วยตัว r ลงท้ายด้วยตัว t นะ บอกไว้ๆ เผื่อๆ เดี๋ยวจะคิดว่าเป็นเมล์ไวรัสซะเปล่าๆ

 :o8:คุณวินขอบคุณเต่าหลายรอบแหละ พอเหอะนะ... + ให้ 2 ครั้งแล้วด้วย เหอๆ คะแนนเต่าจะขึ้นก็เพราะคุณวินเนี่ยล่ะ

เต่าบวกให้มั่งดีกว่า ตั้งแต่สิงบอร์ดมายังไม่เคยบวกให้ใครเลยอ่ะ แฮ่ๆ

มาเคลียร์ต่อให้จบด้ยว่าผู้ฉิงทีี่โทรมาเป็นไผ :angry2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 17-03-2008 22:04:00
เหอะ..

ตอนนี้เฉยๆ อ่ะ เพราะว่าไม่มีอะไรมาก แต่แอบเห็นตัวอย่างตอนต่อไปแล้วตากระตุก อะไรอีกฟะ...จะเอาอะไรอีก อ๊าก :m16:

มาต่อเร็วๆ เลยนะคุณวิน... o12

ขอให้พรุ่งนี้มาถึงไวๆ เ้ลย

เรื่องแทนตัวเองว่าวินเต่าเม้นต์ให้แล้วในเด็กดีนะ ไม่เป็นไรหรอก เรียกไปเหอะ

แอดเมล์ไปแล้วด้วย เดี๋ยวคงได้คุยกัน เมล์เต่าขึ้นต้องด้วยตัว r ลงท้ายด้วยตัว t นะ บอกไว้ๆ เผื่อๆ เดี๋ยวจะคิดว่าเป็นเมล์ไวรัสซะเปล่าๆ

 :o8:คุณวินขอบคุณเต่าหลายรอบแหละ พอเหอะนะ... + ให้ 2 ครั้งแล้วด้วย เหอๆ คะแนนเต่าจะขึ้นก็เพราะคุณวินเนี่ยล่ะ

เต่าบวกให้มั่งดีกว่า ตั้งแต่สิงบอร์ดมายังไม่เคยบวกให้ใครเลยอ่ะ แฮ่ๆ

มาเคลียร์ต่อให้จบด้ยว่าผู้ฉิงทีี่โทรมาเป็นไผ :angry2:


พรุ่งนี้จามาอัพจ้า.....
อย่าลืมติดตาม ๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: แมววาย ที่ 17-03-2008 22:41:12
จะรอตอนต่อไปนะจ๊ะ   :sad2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: LingNERD* ที่ 17-03-2008 22:56:22
ตอนหน้ามีพี่ปุ่นแว้ว :m1:

ปล. :m14: :m14: :m14:สำหรับพี่ชินจัง
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 17-03-2008 23:06:00
ตอนหน้ามีพี่ปุ่นแว้ว :m1:

ปล. :m14: :m14: :m14:สำหรับพี่ชินจัง

มาแลบลิ้นใส่เค้าทามมายยยยย
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 17-03-2008 23:07:01
จะรอตอนต่อไปนะจ๊ะ   :sad2:

ขอบคุณก๊าาาา :o8:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: anston ที่ 18-03-2008 00:30:41
 :angry2:สงสัยจะเข้าขั้นโรคจิตด้วยกันทั้งแม่ทั้งลูก..
แต่ตอนต่อไปนี่สิ..มันเป็นใครหว่า.. o12
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: Yurameki ที่ 18-03-2008 05:39:38
อ๊ายยย พี่วินนน มาให้กำลังใจ บวก มาดัน

เค้าคิดว่า  เด๋วถ้าเค้าว่าง เค้าจาอ่านอีก

เออ พี่วิน  เด๋วไว้ ออนเอ็มเจอกันอีก ส่งมั้งหมดมาให้เค้าเรยได้ไม๊

อยากเอาไปปรินท์เก็บไว้อ่านอ่า (พอดีว่าพอจะมีที่ๆ เราไปปรินท์ฟรีได้ คริๆ)

เดี๊ยนว๊อนขนาดนั้นเรยอ่า คริๆ  จาได้อ่านหลายๆ รอบไงคะ

คิดถึงพี่วินจังอ่า ไม่ได้คุยหลายวันละ อิอิ  งานยุ่งชิมัด   :m15:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: thaifriend ที่ 18-03-2008 10:16:49
ummmmmmmmmmmmmmmmmmmm
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 18-03-2008 13:33:37
:angry2:สงสัยจะเข้าขั้นโรคจิตด้วยกันทั้งแม่ทั้งลูก..
แต่ตอนต่อไปนี่สิ..มันเป็นใครหว่า.. o12

เดี๋ยวจาเอามาลงละ  :oni2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 18-03-2008 13:34:13
อ๊ายยย พี่วินนน มาให้กำลังใจ บวก มาดัน

เค้าคิดว่า  เด๋วถ้าเค้าว่าง เค้าจาอ่านอีก

เออ พี่วิน  เด๋วไว้ ออนเอ็มเจอกันอีก ส่งมั้งหมดมาให้เค้าเรยได้ไม๊

อยากเอาไปปรินท์เก็บไว้อ่านอ่า (พอดีว่าพอจะมีที่ๆ เราไปปรินท์ฟรีได้ คริๆ)

เดี๊ยนว๊อนขนาดนั้นเรยอ่า คริๆ  จาได้อ่านหลายๆ รอบไงคะ

คิดถึงพี่วินจังอ่า ไม่ได้คุยหลายวันละ อิอิ  งานยุ่งชิมัด   :m15:

ได้จ้าน้องสาว
เดี๋ยวส่งให้ทาง m เนอะ  o13
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 18-03-2008 13:34:54
ummmmmmmmmmmmmmmmmmmm

แปลว่าไรอ่ะ
ใช่ความเห็นรึเปล่า  :m22:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: ICEME ที่ 18-03-2008 13:35:31
มาอัพจิ อัพจิ อัพเซ่ :angry2: :angry2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 18-03-2008 13:43:10
ตอนที่ 16 ตัวร้าย...ที่(ยัง)ไม่แสดงตัว

มาถึงสัปดาห์ใหม่   วันพุธนี้วินขอร้องให้คุณแม่มารับหลังจากวินเลิกเรียนภาษาไทย
สัปดาห์นี้วินมาถึงเร็วกว่าใคร ๆ เลยเข้าไปนั่งอ่านหนังสืออยู่ได้สักพัก  คนที่สองที่เข้ามา
ในห้องก็คือ ปุ่น     วินคิดว่าคงมองหน้าปุ่นไม่ติดแล้ว วินรีบก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือ
ทันทีที่รู้ว่าเป็นปุ่นเดินเข้ามา....แต่ปุ่นก็เป็นฝ่ายเดินตรงเข้ามานั่งที่เดิมของเขาข้าง ๆ วิน

“เฮ้ยวิน...เรื่องวันก่อนเราโทษทีอ่ะ”    ปุ่นพูดขึ้น
“ปุ่น...เราสิต้องขอโทษ...ปุ่นไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย”   วินตอบกลับ
“เราว่า...เราสองคนไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะ....แต่ช่างเหอะ เราไม่ถือสา”   ปุ่นยิ้ม
“เออ...เรื่องเวตาล ที่เค้าถามเรื่องกลวิธีการประพันธ์ มันหมายถึงอะไรอ่ะ”    ปุ่นเปลี่ยน
หัวข้อสนทนา ทำให้วินหายอึดอัดได้  .......จะว่าไปคนรอบตัว ทั้งคนที่เป็นเพื่อนเก่า หรือ
เพื่อนใหม่ ๆ ที่เข้ามาในชีวิต ต่างก็ทำให้วินสบายใจได้ทุกคนจริง ๆ....ความสุขในช่วงนั้น
ของวินก็มาจากเพื่อนรอบ ๆ ตัวทั้งนั้น ...วินแทบจะไม่ได้รับความสุขจากความรักเลย
ตลอดเกือบ 1 ปี  นอกจากช่วงแรก ๆ ที่วินคบกับแมทเท่านั้น
“โผต้นนั้นผันตนไปต้นโน้น อ่ะหรอ”   วินถาม
“เออ ๆ ๆ ๆ ตรงนี้เลย”    ปุ่นกระตือรือร้น
เราติวกันอยู่ 20 นาที ก่อนที่ทุกคนจะมาครบ และเริ่มเรียนกันในที่สุด...ตลอด 20 นาทีนั้น  วิน และปุ่นก็คุยกันแต่เพียงเรื่องเนื้อหาวิชาที่อยู่ในหนังสือเท่านั้น....ไม่ได้มีจังหวะไหนเลย
ที่แสดงว่าเราจีบกัน  วินไม่ได้คิดอะไรกับปุ่น และปุ่นก็ไม่ได้คิดอะไรกับวิน    ทำให้วินรู้สึก
สบายใจที่วินไม่ได้ทำผิดอะไรเลยจริง ๆ ............หลังจากผ่านไป 2 ชั่วโมง  ก็เลิกเรียนตรง
ตามเวลาเหมือนทุก ๆ ครั้ง
“วิน....ไปกินข้าวกัน”    ปุ่นเอ่ยชวน หลังจากที่ อาทิตย์ที่แล้วไม่สำเร็จ
“วันนี้แม่เรามารับอ่ะปุ่น....ตอนนี้คงรออยู่ที่ร้านบ้านหญิงแล้วหละ”    วินตอบ
“หรอ....พรุ่งนี้วินมีเรียนที่นี่ หรือแถว ๆ สยามนี่รึเปล่า”   ปุ่นถามต่อ
“พรุ่งนี้มีครูสมศรีอ่ะ....ศรีย่านนู่น”  วินตอบ
“หรอ.....”   ปุ่นลากเสียง
“ปุ่นมีเรียนที่นี่อีกหรอ”   วินถาม
“อ๋อเปล่าหรอก....ว่าจะชวนมาเดินเล่น หาไรกินกันที่นี่”   ปุ่นยิ้มให้
วินไม่แน่ใจในท่าทีของปุ่นนัก  วินไม่ได้คิดอะไรกับเขาจริง ๆ และไม่คิดว่าคนอย่างเรา ๆ
มันจะมีอยู่เกลื่อนกราดเกินไป เสียจนเดินชนกันได้ง่าย ๆ ขนาดนี้....... (วินไม่คิดว่าปุ่นเป็นเกย์)
“แล้ววินจะมาแถวนี้รึเปล่าหละหลังเลิกเรียน”   ปุ่นถามต่อ
“ไม่แน่อ่ะ...เราเรียนกับเพื่อน...ถ้าเพื่อน ๆ มาก็คงมามั้ง”   วินตอบ
“ไม่เป็นไร ๆ ไว้พุธไหน ถ้าแม่วินไม่ได้มารับค่อยว่ากันอีกทีก็ได้”   ปุ่นยิ้มให้พร้อมเอ่ยขึ้น
 เราเดินออกมาจากห้องพร้อมกันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้วินก็แอบหวาด ๆ อยู่เล็กน้อย
“ปุ่นเดี๋ยวแยกกันตรงนี้เลยละกัน”  วินบอกกับปุ่นเมื่อมาถึงหน้าโรงเรียน   แต่สายไป......
ครั้งนี้แมทไม่ได้รอที่บันได  แต่มารอที่หน้าโรงเรียนกวดวิชาเลย

“วิน...ไหนว่ารับปากแม่แมทแล้วไงว่าจะไม่มาเรียนที่นี่อีก”   แมทเสียงแข็ง
“เราไปนะ...”   ปุ่นหันมาพูดกับวินเพื่อบอกลา
“ก็ไปสิครับ....จะรออะไรหรอ”   แมทหันไปเสียงแข็งใส่ปุ่น  ปุ่นทำท่าไม่ใส่ใจ ในคำพูดแมท
ราวกับว่าแมทไม่ได้อยู่ตรงนั้นเลยทีเดียว  เขาหันหน้าและเดินแยกไปโดยไม่ได้สะเทือน
กับคำพูดของแมท....ปุ่นดูเป็นคนเรียบร้อย และคงไม่อยากทะเลาะกับใครนัก เลยอาจ
ทำให้เขาทำทีไม่สนใจคำพูดของแมท
“ไอควาย...”  แมทพูดเบา ๆ ใส่หลังปุ่น  แต่มีเพียงวินคนเดียวที่ได้ยิน
“ว่าไงวิน...แมทบอกแล้วไงไม่ให้มาเรียน”   แมทพูดต่อไป เสียงยังคงแข็งเหมือนเดิม
“ก็เรื่องอะไรหละแมท...ทำไมวินต้องเลิกเรียน....แมทไม่ได้เป็นคนจ่ายค่าเรียนให้วินนะ”
วินทำเสียงเฉย ๆ กับแมท
“ไหนแม่ว่าวินรับปากแล้วไง”   แมทถามต่อ
“คุณแม่ของแมทเองก็ไม่ได้เป็นคนจ่ายค่าเรียนให้วินเหมือนกัน”   วินโมโหกับเขาบ้างแล้ว
“นี่วิน......”    แมทดูอารมณ์ขุ่นมัวมากขึ้น
“แมท....นี่มารอวินอย่างนี้ทุกวันไม่ได้นะ...แล้ววันนี้วินก็จะกลับกับแม่...ตอนนี้เค้าก็รออยู่
ที่ร้านบ้านหญิง...วินต้องไปแล้วนะ เลยเวลาเลิกเรียนมานานแล้ว เดี๋ยวแม่จะเป็นห่วง”
วินที่อารมณ์เสียสุด ๆ ไม่ได้สนใจว่าแมทจะมาได้อย่างไร หรือมานานแค่ไหนแล้ว
จึงเดินหนีออกมาจากแมท   แต่เดินมาได้ไม่นาน แมทก็เดินเข้ามาดึงแขนวินไว้
“วิน...นี่วินชอบไอนั่นหรอเนี่ย”   แมททำเสียงแข็งถาม
“แมท....นี่จะบ้ากันไปใหญ่แล้ว....วินรักแมทนะ รักมาก และตอนนี้ก็ยังคงเป็นอย่างนั้นอยู่
ให้เกียรติกันบ้างสิ......จะไม่ให้วินเข้าใกล้ใคร หรือมีเพื่อนเลยรึไง”
 วินกล่าวกับแมทอยางหงุดหงิด  แมทดูนิ่งไปอยู่ครู่หนึ่งเหมือนจะคิดได้............แต่ก็เปล่า
“แล้วทำไมต้องผู้ชาย”  แมทถามกลับมา
“แล้วแมทนึกว่าวินเป็นผู้หญิงหรอ.....แมทจะบ้าหรอ เพศไหนก็เป็นเพื่อนกับวินได้
ทั้งนั้นแหละ......ถ้าแมททำอย่างนี้อีก วินจะไม่พูด ไม่มาเจอแมทอีก”  วินขู่
“อ๋อ...เดี๋ยวนี้วินเป็นขนาดนี้แล้วใช่มั้ย”    แมทบีบแขนวิน
“ปล่อยเหอะแมท........วินจะกลับบ้าน”   วินเสียงแข็ง
“แล้วเราจะได้เห็นดีกันวิน”   แมทปล่อยแขนวินแล้วเดินสะบัดหน้าลงบันไดไปอีกทางหนึ่ง
 แล้ววินก็ลงบันไดไปทางเดิม เพื่อไปหาคุณแม่ที่รออยู่ในร้านอาหาร...วินแอบรู้สึกกลัวอยู่
เล็กน้อยกับคำขู่ของแมท  เพราะวินตระหนักแล้วว่าคนบ้านนี้สามารถทำอะไรก็ได้จริง ๆ

วันพุธต่อมา...ในเวลากลางวัน ปุ่นโทรเข้าหาวินที่โทรศัพท์มือถือ
“วิน...วันนี้วินเลิกกี่โมง”   ปุ่นถามหลังจากวินรับโทรศัพท์
“สามโมง....มีอะไรรึเปล่าปุ่น”   วินถามกลับไป…คิดว่าอาจารย์จะงดเรียนพิเศษเย็นนี้
“วินมาถึงที่สยามนี่ได้เร็วที่สุดกี่โมงอ่ะ”    ปุ่นถามต่อ
“ทำไมอ่ะ - - มีอะไรรึเปล่า”     วินสงสัย
“เราอยากให้วินมาติวให้เราหน่อย - - ที่ร้านบ้านหญิงอ่ะ”    ปุ่นให้เหตุผล
“อ๋อ...ได้ดิ - - ถ้าเลิกแล้วออกไปเลย ก็คงถึงประมาณ 4 โมงครึ่ง ไม่เกิน 5 โมงอ่ะ”
“อืม...งั้นปุ่นนัดวิน 5 โมงละกัน....ที่ร้านบ้านหญิง   เบอร์ปุ่นเบอร์นี้แหละนะ ถ้ายังไง
วินมาถึงแล้วโทรหาปุ่นนะ เผื่อไม่ได้นั่งชั้นล่าง”   ปุ่นกล่าว....เนื่องจากที่ร้านบ้านหญิง
ที่ว่านี้ มีสองชั้น หากชั้นแรกเต็มก็ต้องขึ้นไปอยู่ชั้นสอง ปุ่นคงกลัวว่าวินจะหาเขาไม่เจอ
เลยบอกให้วินโทรไป และวินก็บันทึกเบอร์ปุ่นไว้...... วินไม่เคยขอเบอร์ปุ่นเลย มีแต่วินที่
ให้เบอร์ตัวเองกับปุ่นไป

วินรับคำ และวางโทรศัพท์ไป  ไม่นาน ราว ๆ 10 นาทีต่อมาก็มีเบอร์ไม่คุ้นโทรเข้ามาหาวิน
“ฮัลโหล ....วินนนน”   เสียงผู้ชายที่ทำเสียงเล็กเสียงน้อยแบบผู้หญิง ลากเสียงยาวมา
  ตามสาย
“ใครอ่ะ”   วินถาม
“ก็แฟนใหม่แมทอ่ะสิ”   คู่สายของวินทำเสียงเล็กเสียงน้อยตอบกลับมา
คำพูดนั้นทำเอาวินรู้สึกใจไม่ดีอยู่ไม่น้อยเลย....วินจึงเงียบไปครู่หนึ่ง รอให้มันตอบกลับมา
“เอ้า ! เงียบทำไมหละจ๊ะ....พอดีจะโทรมาบอกว่ากำลังจะมีอะไรกับแฟน ‘เก่า’ ของเธอ
แต่อยากรู้ว่าเค้าลีลาเด็ดแค่ไหน.....ได้ข่าวว่าเธอเองนี่ก็ ‘ห่วยแตก’ ! มากเลยหรอ ไม่ยอม
ให้แมททำข้างหลัง”  คู่สายหยาบคายใส่มาเป็นชุด  ทำเอาวินตัวร้อนไปหมด ไม่รู้สึกอยาก
ร้องไห้เลยแม้แต่น้อยตอนนั้น ทั้ง ๆ ที่เคยคิดว่าถ้าหากเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นคงร้องไห้ไปตาม
ระเบียบ .... แต่ครั้งนี้มันรู้สึกโมโห   หึง   เจ็บใจ  ร้อนหน้าร้อนตัวไปหมด
“อะ แฮะๆๆๆ.....”  คู่สายคนเดิมส่งเสียงหัวเราะแบบเยาะเย้ยมาอีกครั้ง ในขณะที่วินก็
ยังคงไม่พูดอะไร
“แหม ๆ ๆ ๆ  ..... ก็ใครเค้าจะไปทนได้หละจ๊ะ....กับอีพวก ‘กลัวเจ็บ’ อย่างหล่อนอ่ะ
 โธ่ ! คิดจะมันส์ แต่ไม่กล้าพอ....อุ๊ย ๆ ๆ ๆ เค้ามาแล้วหละ แย่จัง คงไม่ได้ถามเธอแล้วอ่ะ
ว่าแมทน่ะ เก่งกาจสามารถแค่ไหน....แต่เธอก็ต้องทำใจนะ ที่แมทเค้าจะหันมา ‘เอา’ ของ
ที่เด็ดกว่า   กล้ากว่าน่ะ ฮิ ๆ ๆ ๆ”    คู่สายคนเดิมพูดเน้นคำต่ำ ๆ ทุกคำตลอดการสนทนา
หลังจากที่มันหัวเราะเยาะใส่วิน มันก็วางไปในที่สุด....วินก็ได้แต่เงียบ และรู้สึกเลือดขึ้น
หน้านั่งอยู่ตรงนั้นกับอั้มและปุ้ย
“เฮ้ย เป็นอะไรว้ะ”   อั้มถามขึ้น
“ตุ๊ดที่ไหนก็ไม่รู้โทรมา - - บอกว่ามันกำลังจะมีอะไรกับแมท”   วินพูดด้วยความโกรธ
“เฮ้ยเมิง...ใจเย็น”   อั้มลูบหัวไหล่วินไปมา
“ใครว้ะ....แกรู้รึเปล่า”   ปุ้ยถาม
“ไม่รู้...ไม่ได้ถามมัน”   วินตอบ อารมณ์ยังโกรธสุดขีด
ไม่นานเสียงเรียกของข้อความก็ดังขึ้น วินหยิบขึ้นมาและกดอ่าน
‘ถ้าอยากดูทีเด็ดแฟนเก่าของตัวเอง...มาดูก็ได้นะ....ที่เดียวกับครั้งแรกของเธอนั่นแหละ’
วินรู้สึกโมโหอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน รู้สึกร้อนตัวไปหมดขึ้นมากระทันหัน.......นี่เรื่องจริง
ใช่ไหม...ถ้าไม่จริงแล้วเขาจะรู้เรื่องของวินกับแมท ที่ควรจะรู้กันเพียงสองคนได้อย่างไรกัน
เรื่องสถานที่ครั้งแรกที่เราลึกซึ้งกัน  หรือกระทั่งเรื่องที่วินไม่ยอมให้แมททำอะไรอย่างว่า
นั่นอีก
“เฮ้ยวิน .... จะไปไหน”  วินลุกขึ้น คว้ากระเป๋านักเรียนขึ้นสะพาย
“ก็คิดว่าที่ไหนหละ”   วินหันมาตอบเสียงแข็งกับเพื่อน ๆ
วินเดินออกไปจากโรงอาหาร และตรงไปที่ประตูใหญ่เพื่อจะออกจากโรงเรียน  แต่ก่อนจะ
ออกจากได้ จะต้องผ่านยามที่เฝ้าอยู่ และในขณะนั้นยามก็เข้ามาถามวิน
“จะไปไหนวิน”   ยามคนนี้รู้จักวินเพราะรู้จักกับคุณพ่อของวิน ซึ้งทั้งสองค่อนข้างสนิทกัน
และพี่ยามก็เคารพในตัวคุณพ่ออยู่อย่างมาก
“วินไม่สบาย...จะกลับบ้าน...พี่ช่วยวินด้วยนะ วินไม่มีเวลาไปขอใบลา”   วินขอร้องพี่ยาม
เสียงแข็ง ๆ ที่จะไม่ต้องไปขอใบลาที่ห้องปกครอง
“อ่ะครับ ๆ งั้นรีบ ๆ ออกไปนะ เดี๋ยวอาจารย์จะมาเห็นเข้า”   พี่ยามคงเกรงในทีท่าของวิน
เลยรีบให้วินออกไปจากบริเวณนั้น
วินรู้สึกเกลียดตัวเองอยู่ลึก ๆ ที่ใช้ความเป็นผู้ใหญ่ของคุณพ่อกับพี่ยามเฝ้าประตู
แต่ความโกรธ ความหึงตอนนั้นมันพุ่งพล่านไปหมด....ถึงกับขนาดโดดเรียนคาบบ่าย
เป็นครั้งแรกในชีวิต แต่ตอนนั้นวินไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น คิดอย่างเดียวว่าจะต้องไปให้
เห็นกับตา ให้รู้กันไปเลยวันนั้นว่าอะไรเป็นอะไร

วินขับรถออกมาจากโรงเรียนด้วยความเร็วมาก และถึงบ้านแมทภายในเวลา 10 นาที
ถึงโรงเรียของวินจะไม่ไกลจากบ้านวินและแมทมากนัก แต่ปกติก็ต้องใช้เวลาเกือบ 30
นาทีในการเดินทาง
“คุณวิน....”  พี่แสงเดือนทักวิน หลังจากวินก้าวออกมาจากรถ
“พี่แสงเดือน...ใครอยู่ในบ้าน”   วินเสียงแข็งใส่พี่แสงเดือน
“คุณวิน....เป็นอะ....”   พี่แสงเดือนยังไม่ทันพูดจบประโยค
“มีใครอยู่พี่แสงเดือน...ใคร!”   วินถามย้ำไป  ทำเอาหน้าพี่แสงเดือนเจื่อนไปอยู่เหมือนกัน
“มีคุณแม่...คุณกอล์ฟ...เค้ามา........”  วินรอให้พี่แสงเดือนพูดจบประโยคไม่ไหวแล้ว
หลังจากได้ยินชื่อพี่กอล์ฟ ณ วินาทีนั้น........... วินกระแทกประตูเข้าไป โดยไม่สนใจอะไร
“คุณวิน...คุณวินค่ะ...”  พี่แสงเดือนเรียกวินตามหลังมา แต่วินไม่สนใจ ได้แต่ตรงดิ่ง
เพื่อเข้าไปในบ้าน
ทันทีที่เข้าไปถึงในห้องรับแขก วินก็เห็นคุณแม่และพี่กอล์ฟ กำลังคุยกัน เหมือนปรึกษา
เรื่องงาน

“มีอะไรวิน…มาทำอะไร - - ไม่มีเรียนรึไง”   คุณแม่ถามขึ้นเสียงห้วน ๆ
“คุณแม่....แมทหละ”    ถึงวินจะเรียกว่าคุณแม่ แต่วินรู้ตัวว่าเสียงวินกร้าวมาก และ
ยังไม่ลงท้ายด้วยหางเสียง
“นี่เป็นอะไร....เกิดบ้าอะไรขึ้นมา - - ลูกแม่ไม่โดดเรียนหรอก...”  คุณแม่พูดไม่ทันจบ
“แล้วเค้าอยู่ไหน คุณแม่”   วินยังไม่ลดละ
“ก็อยู่โรงเรียนสิย่ะ....จะบ้าหรอ มาถามเอาอะไรเนี่ย”   วินาทีนั้นวินรู้สึกอะไรก็ไม่สามารถ
บรรยายเป็นคำพูดหรือตัวอักษรได้  วินหันไปมองหน้าพี่กอล์ฟที่นั่งอยู่ข้าง ๆ คุณแม่
“น้องวินเป็นอะไรจ๊ะ.....เมนส์ไม่มาหรอ”   พี่กอล์ฟพูดเหมือนแซวเล่น ๆ ในสายตาของ
คนอื่น ๆ แต่สำหรับวิน วินรู้สึกได้ว่านี่คือการเย้ยหยัน และดูสะใจอยู่ลึก ๆ
วินไม่ต้องอาศัยความฉลาด  ก็รู้ได้ทันทีว่าพี่กอล์ฟต้องแกล้งวินแน่ ๆ และวินเชื่ออยู่ลึก ๆ
ว่าคุณแม่เองก็คงเห็นดีเห็นงามด้วย  แต่ที่วินสงสัยคือ พี่กอล์ฟหรือคุณแม่รู้เรื่องส่วนตัว
ของวินกับแมทได้อย่างไรกัน  แต่วินก็ทำอะไรไม่ได้มาก...จริงมั้ย ?
“วินคงเข้าใจผิดไปเองคุณแม่ ขอโทษครับ”   วินยกมือไหว้คุณแม่และเดินออกมาจากบ้าน

“คุณวิน... มีอะไรค่ะ”  พี่แสงเดือนแสดงความเป็นห่วง เมื่อวินเดินมาถึงประตูใหญ่
“พี่แสงเดือน...แมทไม่ได้อยู่บ้านใช่มั้ย”   วินถาม น้ำตาเริ่มคลอ
“เปล่าค่ะ...มีอะไรคะคุณวิน...ใจเย็น ๆ นะคะ ใจเย็น ๆ”  พี่แสงเดือนปลอบ
“แล้วพี่กอล์ฟมาทำอะไรที่นี่”   วินถามต่อ
“พี่แสงเดือนก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ ...พอคุณกอล์ฟมาถึง  คุณผู้หญิงก็ไล่พี่แสงเดือน
ให้ออกมาเช็ดรถ  ถูโรงรถ แล้วก็รดน้ำต้นไม้เลยค่ะ”   พี่แสงเดือนตอบ
“พี่แสงเดือน...มีโทรศัพท์มือถือรึเปล่า”  วินถามพี่แสงเดือน
“มีค่ะๆ...นี่ค่ะ”   พี่แสงเดือนยื่นโทรศัพท์มาให้วิน.......วินกดเบอร์โทรศัพท์ของวินให้
พี่แสงเดือนไป
“นี่เบอร์วินนะพี่แสงเดือน....ถ้าพี่แสงเดือนคิดว่ามีอะไรที่วินควรรู้ วินรบกวนพี่แสงเดือน
ด้วย...วินจะขอบคุณมาก  ยิงมาก็ได้ เดี๋ยววินโทรกลับ”   วินบอกพี่แสงเดือน
“ค่ะๆ เดี๋ยวพี่แสงเดือนโทรเข้าไป คุณวินจะได้รู้เบอร์พี่แสงเดือนนะคะ”  พี่แสงเดือนตอบ
“วินไปก่อนนะพี่แสงเดือน....แล้วค่อยเจอกัน”   วินรีบเดินไปขึ้นรถ และออกไปจากที่นั่น

วินตรงไปที่สยามทันที เพราะเข้าไปเรียนตอนนี้ก็คงไม่ได้แล้ว  วินไปถึงสยามตอนเกือบ ๆ
บ่ายสองโมง.......วินเอนเบาะลงนอน ไม่ลงจากรถ  นอนคิดถึงความน่าจะเป็นไปได้ต่าง ๆ
เกี่ยวกับเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นวันนี้ แต่วินก็คิดไม่ออกว่ามันเกิดอะไรขึ้น ใครแกล้งวิน  แล้ว
คนที่โทรมา จะใช่พี่กอล์ฟจริง ๆ หรือเปล่า   แม้ว่าจะใช่หรือไม่ แต่ทำไมถึงรู้เรื่องของวินกับ
แมท ถึงกับขนาดรู้เรื่องอย่างว่าด้วย……

____________________________________________________________


ตัวอย่างตอนต่อไป....
ตอนที่ 17 สงคราม...สามสถาบัน (ภาค1)


“แล้วนี่วินอยู่ไหน”   ปุ่นถาม
“อยู่ร้านบ้านหญิงเนี่ยแหละ - - พอดีวันนี้มาถึงเร็ว เลยมานั่งอ่านหนังสือรอขึ้นเรียน”
“อืม...เราเห็นแล้วหละ เราอยู่หน้าร้าน....เข้าไปนั่งด้วยคนดิ”   ปุ่นเปิดประตูเข้ามา
วินวางสายเมื่อเห็นปุ่นเดินเข้ามา เราสองคนยิ้มทักกัน และปุ่นก็ตรงเข้ามานั่งตรงข้าม
กับวิน
..................................................................................................

“คุณวิน ....พี่แสงเดือนแอบได้ยินคุณผู้หญิงโทรหาคุณแมท แล้วบอกว่าตอนนี้
คุณวินอยู่กับเด็กผู้ชายใส่กางเกงสีกากีคนนึงที่ร้านบ้านหิน ๆ อะไรเนี่ยแหละ”
พี่แสงเดือนคงเหมือนถึงร้านบ้านหญิง
“จริงหรอ!”   วินตกใจ
“แล้วคุณแม่รู้ได้ยังไงอ่ะพี่แสงเดือน”   วินถามต่อ

...

“แมท...นี่มันอะไร....แมทรู้ตลอดได้ยังไงว่าวินอยู่ไหน ทำอะไร อยู่กับใคร”   วินรู้สึกโกรธ
“หึ....คงนึกไม่ถึงหละสิ.....ว่าเรื่องชั่ว ๆ ที่ตัวเองทำอยู่จะไม่มีใครรู้ ไม่มีใครเห็น
และโดยเฉพาะแมท คงคิดว่าจะหลอกแมทได้ง่าย ๆ งั้นสิ”       แมทกล่าวสีหน้าขุ่นเคือง
“ไอ้ animal !”    แมทเดินเขาไปดึงคอเสื้อของปุ่น
“ม.อึงเห็นนี่ม้ะ......คนเนี้ย ของกรู !”    แมทชี้มาที่วิน แล้วเสียงดังใส่ปุ่น
“ของม.อึงแล้วทำไม......ทำไมฮะ”   ปุ่นโต้กลับทั้ง ๆ ที่คอเสื้อยังอยู่ในอุ้งมือของแมท
“มึงชอบหรอ...มึงชอบวินใช่มั้ย..ไอห.เอี้ย !!! “ แมทเสียงดัง
“เออ !!!! ทำไมอ่ะ...ทำไมไอ animal”    วินตะลึงกับคำหยาบจากปากปุ่นเล็กน้อย แต่ก็
ไม่เท่ากับคำตอบของปุ่นเรื่องความรู้สึกที่มีต่อวิน

...
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 18-03-2008 13:43:46
มาอัพจิ อัพจิ อัพเซ่ :angry2: :angry2:

จัดให้แว้วน้าคุณเต่า
มาประท้วงเง้บ่อย ๆ นะ
ชอบ ๆ มันเป็นปลื้ม.... :oni2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: ICEME ที่ 18-03-2008 15:13:39
 o12ตาแมทชักจะเอาใหญ่แล้วนะ เห็นเขายอมเป็นไม่ได้ ขู่สารพัด

แอบคาดหวังกะตอนหน้าว่าจะได้เห็นคนต่อยกัน

ที่แท้โทรศัพท์ก็มาจากพี่กลอฟอ่ะเอง(70% คาดว่าไม่ผิดตัว) ทำงี้ได้ไง เอาเรื่องที่มีอะำไีรกะแฟนไปบอกให้คนอื่นฟังได้ไง

โดยเฉพราะคุณแม่ตัวดี มีอะไรก็ไปเล่าให้ฟัง ทำยังกะลูกแหง่ ไม่มีแม่ก็อยู่ไม่ได้ซะล่ะมั้งนั่น

ขัดใจ!

อ๊ากกกกกก เซ็งจิต...ไม่เข้าใจ

ก้อนหินอุดอยู่ที่เบ้าตาวินนานไปนะ รู้ตัวเปล่า.. :m16:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: mobilejom ที่ 18-03-2008 15:53:55
 :m29: โรคจิตกันทั้งบ้านเลยอ่ะ หลอนนะเนี่ย....แมทก็หึงไม่ลืมหูลืมตา ไม่ไหวนะ ... :m16: วินก็นะ...รู้ว่าตัวเองน่ารักก็โปรยเสน่ห์อีก เหอๆๆๆ แต่หมันไส้สุดๆก็คงพี่กอล์ฟแหละ ไม่น่าเก็บไว้ :เตะ1: 555

ปล. มาต่อไวๆนะ เดี๋ยวลงแดง
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: konan6688 ที่ 18-03-2008 19:04:24
เห็นใจคับ   ผมไม่เข้าใจคุณแม่ของแมทเลย  แต่ทำไงได้  เห้อ
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 18-03-2008 21:31:25
งานนี้ คุณแม่ลุยเองเลยวุ้ย วินคงตามไม่ทันแน่  o7 o7
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 18-03-2008 21:57:09
o12ตาแมทชักจะเอาใหญ่แล้วนะ เห็นเขายอมเป็นไม่ได้ ขู่สารพัด

แอบคาดหวังกะตอนหน้าว่าจะได้เห็นคนต่อยกัน

ที่แท้โทรศัพท์ก็มาจากพี่กลอฟอ่ะเอง(70% คาดว่าไม่ผิดตัว) ทำงี้ได้ไง เอาเรื่องที่มีอะำไีรกะแฟนไปบอกให้คนอื่นฟังได้ไง

โดยเฉพราะคุณแม่ตัวดี มีอะไรก็ไปเล่าให้ฟัง ทำยังกะลูกแหง่ ไม่มีแม่ก็อยู่ไม่ได้ซะล่ะมั้งนั่น

ขัดใจ!

อ๊ากกกกกก เซ็งจิต...ไม่เข้าใจ

ก้อนหินอุดอยู่ที่เบ้าตาวินนานไปนะ รู้ตัวเปล่า.. :m16:

ตอนนั้นไม่รู้จริง ๆอ่ะเต่า -*- o7
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 18-03-2008 21:57:50
:m29: โรคจิตกันทั้งบ้านเลยอ่ะ หลอนนะเนี่ย....แมทก็หึงไม่ลืมหูลืมตา ไม่ไหวนะ ... :m16: วินก็นะ...รู้ว่าตัวเองน่ารักก็โปรยเสน่ห์อีก เหอๆๆๆ แต่หมันไส้สุดๆก็คงพี่กอล์ฟแหละ ไม่น่าเก็บไว้ :เตะ1: 555

ปล. มาต่อไวๆนะ เดี๋ยวลงแดง

อะไรจอม มาว่าเราโปรยเน่ห์
เราแค่อ่อย จ๊าาาากกกก :a4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: anston ที่ 18-03-2008 23:04:51
อีพี่กอล์ฟนี่ก็ร้ายใช่ย่อยนะ..แต่ที่ร้ายกว่าก็แม่แมทน่ะสิ..น่ากลัวอ่ะ
แล้วตอนต่อไปจะมาเมื่อไหร่จ๊ะ..รออยู่น๊า :bye2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: LingNERD* ที่ 19-03-2008 12:56:06
อ๊ากกกกกกกก พี่ปุ่นของเราจะเปงไรมะเนี่ย :o12:

พี่ชินจังมาต่อด่วนนนนนน  :m14:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 19-03-2008 13:01:39
ตอนที่ 17 สงคราม...สามสถาบัน (ภาค1)

เข้าสู่เดือนกันยายน เดือนแห่งบรรยากาศของการสอบเข้ามหาวิทยาลัยอันอบอวล
วันนี้วิน ปุ้ย อั้ม และฟิวไปสมัครเอ็นทรานซ์ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ด้วยกัน
.....ส่วนแมทไปสมัครที่อื่นกับเพื่อน ๆ ของเขา เพื่อจะได้สอบที่เดียวกัน

   วันนี้เป็นวันที่นักเรียนจากหลาย ๆ สถาบันมารวมตัวสมัครกันที่นี่ หลาย ๆ คน
ได้เจอกับเพื่อนเก่าที่แยกย้ายกันไปเรียนที่อื่นในวันนี้ ..... วิน อั้ม ปุ้ย ก็เช่นเดียวกัน........
วันนี้เราเจอเพื่อนสมัยประถมที่เคยสนิทกัน   ที่แยกย้ายไปเรียนโรงเรียนอันดับต้น ๆ
ของประเทศไทย ‘น้ำ’ สาวหมวย ตาตี่ หน้าตาน่ารัก   น้ำมากับเพื่อนอีกสองคน
หญิง 1 ชาย 1 .......เด็กเรียน ใส่แว่น ติ๋ม ๆ กันทั้งนั้น
   และวันนี้เอง ก็เป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งดี ๆ (ในอนาคต) ของวินได้เกิดขึ้น  ……….
เพื่อนของน้ำ (ผู้ชาย) ซึ่งเรียนที่เดียวกัน ได้เข้ามาเป็นเพื่อนใหม่ในชีวิตของวิน
ในวันนั้น หลังจากที่ไม่ได้เจอกันมานานนม พวกเราจึงแลกอิเมลกันเพื่อจะได้พูดคุยกัน
ใน MSN ....และหลังจากที่วินกลับถึงบ้าน  น้ำก็เข้ามาทัก และแนะนำให้วินได้รู้จัก
เพื่อนของเธอ ‘แท๊ก’ โดยการให้วินเพิ่มเขาเป็นเพื่อนใน MSN และพุดคุยกัน
   แท็ก เป็นเด็กสายวิทย์ ที่เรียนเก่งมาก ได้เกรด 4 เกือบทุกเทอม เกรดเฉลี่ยรวม
ออกมาก็ไม่ต่ำกว่า 3.95 ...เก่งเหลือเกิน...ในขณะที่วินก็ 2 กว่า ๆ เท่านั้น  เราพูดคุย
กันเรื่องเอ็นทรานซ์ และก็แฮร์รี่ พอตเตอร์ ซึ่งคลั่งและบ้าพอ ๆ กัน เลยคุยกันถูกคออยู่
ใช้ได้เลยทีเดียว......เราไม่ได้คุยจีบกัน หรือป้อนคำหวานกันเลยแม้แต่น้อย  ไม่ว่ายังไง
แท๊ก ก็ไม่ใช่บุคคลในอุดมคติของวินอยู่แล้ว แท๊กทั้งขาว ตี๋ สุภาพ เรียบร้อย เรียนเก่ง
(มากเกินไป)  นุ่มนิ่ม  ซึ่งผิดกับบุคลิกของคนที่วินจะชอบโดยสิ้นเชิง ถ้าจำได้ วินจะแบน
คนขาวอย่างสิ้นเชิง วินชอบแบบแมท ที่คล้ำ ๆ เรียนปานกลาง  มีความพอดี ซึ่ง แท็ก
เกินความพอดีไปเสียหมด   ทั้งขาวเกิน (ขาวมาก ๆ) เพราะเป็นลูกคนจีน  ตี๋เกิน
สุภาพเกิน  เรียบร้อยเกิน   เรียนเก่งเกินไป (อันนี้มาก ๆ) เหมือนคุยกันคนละภาษา
ที่สำคัญวินไม่ชอบ ‘คนใส่แว่น’ ….โรคจิตมั้ย ??
แท๊กเป็นคนหน้าตาเฉย ๆ ยิ่งตอนเจอกันครั้งแรกออกแนวเด๋อ ๆ ติ๋ม ๆ แต่ก็ไม่ใช่คนขี้ริ้ว
ขี้เหร่อะไร............เราจึงแค่คุยเรื่องสอบ เรื่องเรียน แท๊กให้วินได้ปรึกษา อย่างดีเลย
ทีเดียว  วินรู้สึกได้ทันทีว่าเพื่อนใหม่คนนี้ดี และจะทำให้วินได้ประโยชน์ทางด้านวิชาการ
อย่างแน่นอน

   ผ่านไปแล้วสำหรับสิ่งดี ๆ ที่เข้ามา(บ้าง)ในชีวิต กลับมาสู่ห้วงแห่งความทุกข์ต่อ
เวลาที่เหลือก่อนจะถึงวันสอบเอ็นทรานซ์นี้ วินได้แต่อ่านหนังสือและท่องศัพท์แต่ก็ไม่
มากนัก   แถมทดลองทำข้อสอบย้อนหลัง วินก็ยังไม่เคยแตะเลยจนถึงวันสอบเอ็น’
เพราะยังคงมีเรื่องรบกวนใจอยู่เสมอ ๆ ทั้งเรื่องแมท ที่พักหลัง ๆ นี้ร้องขอวิน
มากเกินไปจริง ๆ แมทต้องการจะเจอวินมากขึ้น ไม่อยากเจอแค่วันศุกร์วันเดียวแล้ว
แมทชวนวินโดดเรียนพิเศษบ้าง    โดยที่ในวันเสาร์ วินจะมีเรียนทั้งวัน แต่ทั้งแมทและวิน
จะมีเรียนด้วยกันทั้งคู่ในภาคเช้า วินเรียนครูสมศรีที่ศรีย่าน ส่วนแมทเรียนตัวต่อตัว
ที่สยาม พอแมทเลิกเรียน ก็จะชอบขอร้องให้วินโดดวิชาบ่าย ซึ่งเป็นวิชาที่วินค่อนข้าง
อ่อน แต่เป็นวิชาสำคัญมากสำหรับการสอบเข้ามหาวิทยาลัยของวิน ‘ภาษาฝรั่งเศส’
ซึ่งวินเรียนมาทางสายนี้ หากไม่ใช้วิชานี้สอบ ก็ต้องแย่แน่ ๆ จะใช้คณิตสอบแทน
ก็ไม่ได้  เนื่องจากในตอนนั้นที่โรงเรียนของวิน นักเรียนสายศิลป์ – ภาษา จะไม่ได้เรียน
วิชาคณิตศาสตร์เลยตั้งแต่ม. 4 ถึง ม.6 แต่ในปัจจุบันก็มีการปรับปรุงหลักสูตรให้ได้
มีการเรียนวิชาคณิตศาสตร์กันอย่างถ้วนหน้าแล้ว แยกเพียงแต่ความยาก – ง่ายเท่านั้น
   วินมีเรียนวิชาภาษาฝรั่งเศสในสถาบันเดียวกันกับที่วินเรียนภาษาไทยนี่เอง
หลังจากเลิกเรียนครูสมศรี วินก็ต้องตรงมาที่สยามภายใน 1 ชั่วโมง  ช่วงนั้นรู้สึกเหนื่อย
เพราะเรียนเยอะมากขึ้น  ทำให้วินเอนเอียงโดดไปตามคำขอของแมท ซึ่งวินจำได้ว่า
วินเข้าเรียนภาษาฝรั่งเศสไปไม่ถึง 5 ครั้ง  .....แต่จะโทษแมทได้อย่างไร  ถ้าวินไม่โดด
เสียอย่าง แมทก็ไม่ได้ว่าอะไร....วินเองเนี่ยแหละที่ไม่ดี ความอดทนไม่พอเอง

.......และมาถึงเย็นวันพุธนี้ ซึ่งเป็นพุธสุดท้ายที่วินจะได้เรียนภาษาไทยที่นี่ (เพราะแมท)..........
ซึ่งในวันพุธที่แล้ว อาจารย์ของดสอน จึงยังไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้น วินเองก็ไม่รู้ว่าแมทได้ไป
ดักรออีกหรือเปล่า และในพุธนี้วินก็มาเข้าเรียนตามปกติ และก็เป็นอีกวันที่วินมาถึงเร็ว
ก่อนเวลาเรียนมาก ๆ วินมาถึงสยามตอน 4 โมงนิด ๆ วินเลยไปนั่งรออ่านหนังสือในร้าน
อาหารบ้านหญิง   ‘ป้าหญิง’ เจ้าของร้านก็คงจำวินได้ วินไปร้านของเธอบ่อยมากช่วงนั้น
จนรู้จักกัน ทักทายคุยกันบ้างอยู่บ่อย ๆ เวลาไปนั่งในร้าน วินจะสั่งแต่น้ำ หรือไม่สั่งอะไร
แล้วมาขอนั่งอ่านหนังสือ เธอก็ไม่ได้ว่าอะไรเลย.......สมแล้วที่คนแน่นร้าน
วินนั่งอยู่สักพักก่อนเวลาเรียนประมาณ 1 ชั่วโมง ปุ่นก็โทรมาหา

“วิน...หวัดดี”   ปุ่นทัก ......วินนึกขึ้นได้ทันทีว่าวันพุธก่อนโน้น วินลืมนัดปุ่นเสียสนิท
วินมัวแต่นอนครุ่นคิดเรื่องของวินที่มีคนโทรมาแกล้งเรื่องแมท จนหลับไปบนรถ
ตื่นมาอีกทีก็เลยเวลาเรียนไปโขแล้ว วินจึงกลับบ้าน....แต่วินก็แปลกใจว่าทำไมปุ่นถึง
ไม่ได้โทรตาม หรือโทรมาหาหลังจากเลิกเรียนเลยจนถึงวันนี้
“เฮ้ยปุ่น....วันพุธก่อนเราขอโทษด้วยนะ...เรามีปัญหานิดหน่อย...เลยไม่ได้มา”
วินขอโทษขอโพย
“ไม่ได้มาสยาม หรือไม่ได้มาเรียน”   ปุ่นทำน้ำเสียงปนหัวเราะ
“ทำไมอ่ะ”   วินถามด้วยความงง
“เราเห็นวินจอดรถนอนอยู่หน้าร้านบ้านหญิงเนี่ย”    ปุ่นกล่าว
“จริงหรอ”    วินตอบ ....และวินก็นึกขึ้นได้ว่าวันนั้นวินเอารถมาจอดริมทาง ซึ่งตรงกับ
ทางขึ้นไปโรงเรียนกวดวิชาที่วินเรียน และก็อยู่บริเวณหน้าร้านบ้านหญิงนั่นเอง
“อืม...เราเดาว่าคงง่วงมาก หรือไม่ก็มีปัญหากะแฟน...หึๆ"    ปุ่นหัวเราะในคอ
“อืม...เรามีเรื่องให้คิดเยอะหน่อยน่ะวันก่อน”    วินตอบเสียงอ่อย ๆ
“แล้วนี่วินอยู่ไหน”   ปุ่นถาม
“อยู่ร้านบ้านหญิงเนี่ยแหละ - - พอดีวันนี้มาถึงเร็ว เลยมานั่งอ่านหนังสือรอขึ้นเรียน”
“อืม...เราเห็นแล้วหละ เราอยู่หน้าร้าน....เข้าไปนั่งด้วยคนดิ”   ปุ่นเปิดประตูเข้ามา
วินวางสายเมื่อเห็นปุ่นเดินเข้ามา เราสองคนยิ้มทักกัน และปุ่นก็ตรงเข้ามานั่งตรงข้าม
กับวิน
“วันพุธก่อนเรียนเรื่องอะไรอ่ะปุ่น....ที่เราไม่ได้มา”    วินถาม
“อืม....เราก็ไม่ได้ขึ้นเรียนเหมือนกันอ่ะ เหอะๆ ...... เรายังไม่ได้ทำความรู้จักใครเลย
นอกจากวิน เลยโดดซะเลย”   ปุ่นตอบ
“เอ๊า....เกี่ยวมั้ยเนี่ย”    วินกล่าว..........และจากนั้นก็มีโทรศัพท์เข้ามาหาวิน พี่แสงเดือน
นั่นเองเป็นคนโทรมา วินรู้สึกตุ๊ม ๆ ต่อม ๆ เล็กน้อย รู้ว่าต้องมีเรื่องอะไรแน่ ๆ

วินกดสายทิ้ง เพื่อโทรกลับไปหาพี่แสงเดือน เพราะเธอใช้ระบบเติมเงินที่ตอนนั้นยังไม่มี
โปรโมชั่นดี ๆ ค่าโทรราคาถูกเหมือนปัจจุบัน
“พี่แสงเดือน...” วินทัก
“คุณวิน....คุณวินสะดวกมั้ย พี่แสงเดือนมีเรื่องจะบอก”   พี่แสงเดือนทำเสียงตกใจ
“ไม่สะดวกก็ต้องสะดวกแล้วหละพี่แสงเดือน.....มีอะไรว่ามาเลย”   วินกล่าวโดย
พยายามกดอารมณ์ตื่นเต้นเอาไว้    ในขณะที่ปุ่นขอตัวลุกไปเข้าห้องน้ำที่ชั้นบน
“คุณวิน ....พี่แสงเดือนแอบได้ยินคุณผู้หญิงโทรหาคุณแมท แล้วบอกว่าตอนนี้
คุณวินอยู่กับเด็กผู้ชายใส่กางเกงสีกากีคนนึงที่ร้านบ้านหิน ๆ อะไรเนี่ยแหละ”
พี่แสงเดือนคงเหมือนถึงร้านบ้านหญิง
“จริงหรอ!”   วินตกใจ
“แล้วคุณแม่รู้ได้ยังไงอ่ะพี่แสงเดือน”   วินถามต่อ
“พี่แสงเดือนก็ไม่รู้เหมือนกันคุณวิน - - แล้วคุณวินอยู่กับผู้ชายที่ร้านนั้นจริง ๆ รึเปล่า”
พี่แสงเดือนถาม
“แล้วตอนนี้คุณแม่เองก็อยู่ที่บ้านหรอพี่แสงเดือน”  วินถามกลับ เพราะสงสัยอย่างมาก
ว่าคุณแม่อยู่บ้านแล้วรู้ได้อย่างไรกัน
“ค่ะคุณวิน...คุณผู้หญิงไม่ได้ไปไหนเลยทั้งวัน- - คุณวินขา คุณวินอยู่ที่นั่นจริง ๆ หรอคะ
.........แล้วก็อยู่กับเด็กผู้ชายจริงหรอ” พี่แสงเดือนย้ำคำถาม..แต่วินยังไม่ทันได้ตอบอะไร
“พี่แสงเดือนแค่นี้ก่อนนะ”   วินต้องรีบวางสาย รู้สึกใจหล่นวูบ เมื่อได้ฟังสิ่งที่พี่แสงเดือน
บอกเล่าพร้อมกับทันทีในตอนนั้นแมทก็มายืนอยู่ที่หน้าร้านบ้านหญิง  วินไม่คิดจะหลบ
ถ้าหลบแมทคงเข้ามาในนี้แล้วคงเกิดเรื่องแน่ ๆ วินจึงรีบออกไปหาแมท ด้วยสีหน้าที่
ค้อนเคืองอยู่ในระดับหนึ่งเลยทีเดียว ทั้งที่ยังงงอยู่ว่านี่มันอะไรกัน...คุณแม่รู้ได้อย่างไร

“วินอยู่กับใคร”   แมทถามเสียงแข็งทันทีที่เห็นหน้าวิน
วินเดินเลี่ยงไปทางด้านข้างร้านตรงเชิงบันไดทางขึ้นไปโรงเรียนกวดวิชาของวิน
เพื่อไม่ให้คนเห็น แต่ก็คงหลบไม่พ้นรัศมีนัก   สยามเวลาประมาณ 4 โมงเกือบ ๆ 5 โมง
เป็นเวลาที่คนกำลังเยอะได้ที่เลยทีเดียว
“แมท...นี่มันอะไร....แมทรู้ตลอดได้ยังไงว่าวินอยู่ไหน ทำอะไร อยู่กับใคร”   วินรู้สึกโกรธ
“หึ....คงนึกไม่ถึงหละสิ.....ว่าเรื่องชั่ว ๆ ที่ตัวเองทำอยู่จะไม่มีใครรู้ ไม่มีใครเห็น
และโดยเฉพาะแมท คงคิดว่าจะหลอกแมทได้ง่าย ๆ งั้นสิ”       แมทกล่าวสีหน้าขุ่นเคือง
จบประโยคได้ไม่นาน แมทก็ละสายตาจากวินไปที่ประตูร้านบ้านหญิง....ปุ่นเดินออก
มาพอดี คงจะเห็นว่าวินไม่อยู่ แล้วอาจจะออกมาหา
“ไอ้ animal !”    แมทเดินเขาไปดึงคอเสื้อของปุ่น แล้วลากเขามาที่วินยืนอยู่
“อะไรว้ะเนี่ย !”    ปุ่นเสียงดังใส่แมท
“ม.อึงเห็นนี่ม้ะ......คนเนี้ย ของกรู !”    แมทชี้มาที่วิน แล้วเสียงดังใส่ปุ่น
วินไม่รู้จะเอาหน้าไปซุกรูไหน คนแถวนั้นโดยเฉพาะในร้านยำข้าง ๆ นั่นหันมามอง ถึงแม้
ว่าพวกเขาจะไม่ได้ยินสิ่งที่สองคนกำลังพูดกัน แต่ก็รู้ได้ด้วยสัญชาตญาณว่าทั้งสอง
กำลังทะเลาะกันอยู่......  วินอายมาก เกิดมาไม่เคยพบเคยเห็นผู้ชายทะเลาะกันเพราะ
ผู้ชาย
“ของม.อึงแล้วทำไม......ทำไมฮะ”   ปุ่นโต้กลับทั้ง ๆ ที่คอเสื้อยังอยู่ในอุ้งมือของแมท
ปุ่นดูกล้ามากในสายตาวิน เขาไม่สะทกสะท้านเลย แถมยังสู้สายตาของแมทไม่ลดละ
“มึงชอบหรอ...มึงชอบวินใช่มั้ย..ไอห.เอี้ย !!! “ แมทเสียงดังจังหวะที่พูดคำหยาบออกมา
ตรงนี้วินว่าใคร ๆ แถวนั้นก็ได้ยิน
“เออ !!!! ทำไมอ่ะ...ทำไมไอ animal”    วินตะลึงกับคำหยาบจากปากปุ่นเล็กน้อย แต่ก็
ไม่เท่ากับคำตอบของปุ่นเรื่องความรู้สึกที่มีต่อวิน........วินไม่ได้รู้สึกดีเลย ทั้ง ๆ ที่ถ้าเป็น
เมื่อก่อนมีคนมาชอบคงหลงระเริงไปกับตัวเอง...แต่นี่...ปุ่นรู้ไหมว่าคำพูดของปุ่นมันฆ่า
วินได้เลยนะ
“แต่กรุยังไม่ได้ทำห.เอี้ยอะไรเลย....นี่ม.อึงบ้ารึเปล่า - - ทำแบบนี้ม.อึงนึกว่าม.อึงดูดี
ม.อึงนึกว่าม.อึงแน่แล้วหรอ”   ปุ่นตะคอกด่าแมท
“ไอ animal…”   แมทต่อยหน้าปุ่นอย่างจังจนล้มลงไปกับพื้น
“แมท !!”  วินตะโกนเสียงหลง  ไม่ทันไรปุ่นก็ลุกขึ้น แล้วชกแมทกลับ แต่ก็ไม่แรงเท่าที่
แมทชกปุ่นจนล้มเมื่อสักครู่นี้....วินรวบรวมความกล้าเข้าไปแยกสองคนนี้ออกจากกัน
“ปุ่น....กลับเข้าไปในร้าน ขอร้องหละ....เข้าไปก่อน”    วินบอกกับปุ่น
“แมท .... เดี๋ยวเรากลับด้วยกัน.....แค่นี้ก็ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหนแล้ว”    วินพูดด้วย
น้ำเสียงโมโหใส่แมท   ในขณะที่ปุ่นเดินเข้าไปในร้าน
“เดี๋ยววินไปหยิบกระเป๋า....แล้วเรากลับกัน”   วินบอกกับแมทที่ยืนกุมปากตรงที่โดน
ต่อยอยู่นิ่ง ๆ.........วินเข้าไปเอากระเป๋า แล้วเห็นปุ่นนั่งอยู่ ปุ่นพยักหน้าให้วินเล็กน้อย
เหมือนจะบอกว่าไม่เป็นอะไร
“ปุ่น....เราขอโทษจริง ๆ ขอโทษมาก ๆ เลย”   วินบอกกับปุ่นขณะเก็บของ
“ไม่เป็นไร....วินไม่เข้าเรียนใช่มั้ยวันนี้”    ปุ่นตอบเสียงนิ่ง ๆ คงเจ็บแผลอยู่เหมือนกัน
ถึงแม้ว่าตอนนั้นมันจะไม่มีแผลหรือเลือดออกมา (เหมือนในละคร) แต่วินก็เห็นว่าปาก
ของปุ่นเริ่มบวม ๆ แล้ว
“อืม...คงไม่แล้วหละ  เราฝากปุ่นดูให้เราด้วยได้มั้ย...นะ”    วินขอร้อง เพราะกลัวเรียน
ไม่รู้เรื่อง...กลัวต่อไม่ติดเพราะต้องขาดถึงสองครั้งก็ 4 ชั่วโมงกว่า ๆ แล้ว
“วิน.......”   ปุ่นเรียกวินขณะที่วินกำลังจะออกไป
“ขอโทษนะเรื่องนั้น...เราโมโหมาก... ก็เลย....”   ปุ่นเอ่ยขึ้น
“ช่างเถอะ...ไว้เราค่อยคุยกันทีหลังดีกว่าปุ่น...ไปก่อนนะ”     วินตัดบท

วินขึ้นรถแมทและให้เขาไปส่งที่สถานีรถไฟฟ้าหมอชิต ระหว่างทางวินเป็นห่วงแมท
เล็กน้อย...บอกตรง ๆ ว่าตอนนั้นโกรธปุ่นมากกว่า เพราะไหนจะพูดเรื่องว่าชอบวิน
แล้วยังมาต่อยแมท (แฟนเรา) อีก  …….วินรักแมทมาก ไม่รู้ว่าหลงหน้ามืดตามัวจน
ไม่ลืมหูลืมตาเลยหรือเปล่า

“แมทเป็นอะไรมั้ย”    วินเอื้อมมือไปจับแก้มแมทตรงที่โดนปุ่นต่อย
“ไม่ต้องมายุ่ง !!!”    แมทตะโกนเสียงดังลั่น ก้องอยู่ในรถ และปัดมือวินทิ้ง
“แมทวิน....”    วินพูดไม่ทันจบก็ถอนหายใจ
“เป็นบ้าอะไรฮะ !.....ทำมาเป็นถอนหายใจ - - ใครกันแน่ที่ต้องเหนื่อยใจฮะ!!”
แมทตะคอกเสียงดังทั้งประโยค   ถ้าเป็นวินคอแตกไปแล้วแน่ ๆ
“แมท...วินต้องพูดอีกกี่ครั้ง  แมทถึงจะฟังว่าวินกับปุ่นไม่มีอะไรกัน”   วินตอบอย่างเซ็งๆ
“เหรอ !!! แล้วไอห.เอี้ยนั่นมันเพิ่งบอกว่ามันชอบวิน.....ต้องให้มันบอกแมทกี่ครั้งหรอ
วินถึงจะเลิกตอแห.ล”    วินเกลียดแมทขึ้นมาทันทีที่พูดจบ
“นี่แมทเคยคิดถึงหัวอกคนอื่นบ้างมั้ย....แมทด่าวินอยู่คนเดียว เคยนึกบ้างรึเปล่า
ว่าวินเคยพูดจาต่ำ ๆ แบบนี้กับแมทบ้างมั้ย..... กี่ทีแล้วแมท ที่แมททำตัวหยาบคาย
แบบนี้   มีสักครั้งมั้ยที่วินบ่นแมท มีมั้ยทุกครั้งแมททำอะไรให้วินอาย แล้วแมทจะคิดได้”
วินตอบกลับเป็นชุด   ทำเอาแมทตาสว่างขึ้นมาบ้าง และลดระดับเสียงลง
“ก็ - - ก็แล้วทำไมวินถึงไม่เลิกเรียนที่นั่น”     แมทถามต่อ
“วินคงไม่กลับไปแล้วหละ....อายจะตาย - - ไม่อยากมีเรื่องอีกแล้ว”   ครั้งนี้วินพูดจริง
ในที่สุด วินก็เลิกเรียนพิเศษวิชาภาษาไทย ซึ่งเป็นช่วงสำคัญหัวเลี้ยวหัวต่อของคอร์ส
แล้วด้วย  เพราะอีกไม่กี่เดือนวินก็ต้องสอบเอ็นทรานซ์        แต่ความรักที่มีต่อแมทอัน
ล้นเหลือ มันทำให้วินตัดสินใจทำในสิ่งที่โง่ที่สุดในชีวิตลงไป
“ดีแล้ววิน....วินทำถูกแล้ว”    แมทช่วยย้ำความคิดผิด ๆ ของวินให้รู้สึกว่ามันถูกต้อง
“วิน - - พอถึงหมอชิตแล้ว....วินขับรถไปบ้านแมทก่อนนะ”  แมทกล่าว
“ไปทำไม”   วินถาม ในใจคิดแต่ว่าไม่อยากกลับไปเหยียบที่นั่นถ้าไม่จำเป็น
“ไม่ต้องไปก็ได้”   แมททำเสียงไม่พอใจ
“อืมก็ดี...วินอยากกลับบ้าน”   วินชักเอือมกับการกระทำของแมทในช่วง 2 เดือนที่ผ่าน
มานี้เหลือเกิน แม้จะรักเขามากมายแค่ไหน แต่ก็ใช่ว่าวินจะทำตามที่เขาต้องการได้
ไปเสียหมดทุกอย่าง โดยเฉพาะเรื่องไปเจอคุณแม่ด้วยแล้ว วินคิดว่าเป็นความคิดที่
ไม่เข้าท่าเอาเสียเลย


________________________________________________________


ตัวอย่างตอนต่อไป.....
ตอนที่ 18 คุณแม่อีกแล้ว...และอีกแล้ว


“สวัสดีน้องวิน”   ทันทีที่วินและแมทไปถึงบ้าน พี่กอล์ฟก็เข้ามาทักวินอย่างชื่นมื่น
“พี่กอล์ฟมาทำอะไรอีกอ่ะ”    แมทถาม ทำหน้าเบื่อ ๆ ใส่พี่กอล์ฟ
“คุณแม่ชวนพี่มาทานข้าวด้วย...พี่มาในฐานะแขกของคุณแม่...ไม่ใช่ของแมท และแมท
ก็ต้องทำตัวดี ๆ กับแขกของคุณแม่ด้วยนะจ๊ะ”   พี่กอล์ฟทำท่าเหมือนผู้หญิงใส่แมท
พอพูดจบก็เอามือมาเขี่ยคางแมทเบา ๆ แล้วก็เดินบิดก้นไปมาเข้าครัวไป

..............................................

“แมทกลับมาเล่าให้แม่ฟังเรื่องวันพุธก่อนหมดแล้ว...วินทำตัวแย่มากนะ ลูกแม่ไม่เคย
ชกต่อยกับใครมาก่อน และนี่เป็นครั้งแรกที่แมทต้องเจ็บใจ แล้วยังต้องเจ็บตัวอีก”
คุณแม่อธิบาย
“แมทเข้าใจวินผิดนะคุณแม่...วินกับคนนั้นเราไม่ได้ชอบกัน”    วินเถียง
“อย่ามาพูดเลยวิน....แม่รู้มานานแล้ว ว่าเราน่ะ ร้ายไม่ใช่ย่อย  ...เมื่อกี๊ก็เห็นตอกหน้า
พี่กอล์ฟซะเจ็บแสบไปเลย”   คุณแม่ไม่ฟังเหตุผล
“ทำไมถึงได้นำพาเรื่องยุ่ง ๆ มาในครอบครัวแม่ไม่หยุดฮะ”   คุณแม่พูดด้วยน้ำเสียง
ธรรมดา ๆ เรียบเฉย

..............................................

“ก็ถ้า ไม่มีใครคอยโทรบอกแมทว่าวินทำอะไรอยู่ที่ไหน เรื่องเข้าใจผิด หรือเรื่องยุ่ง ๆ
แบบนี้ก็คงไม่เข้ามาหรอกคุณแม่”   วินทำน้ำเสียงไม่พอใจใส่
“ว่าไงนะ....ใครบอก - - ใครบอกแมทเรื่องอะไร”   คุณแม่หันมาถามวิน
“วินก็ไม่ทราบครับคุณแม่....แต่ที่แน่ ๆ เค้าต้องไม่หวังดีกับแมทและวิน”
วินทำตัวเนียน ตีสีหน้างง ๆ ใส่คุณแม่ แล้วบอกไป

..............................................
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: LingNERD* ที่ 19-03-2008 13:27:25
พี่ชินจังมาต่อแระ  :m14: :m14: :m14:

ชอบพี่ปุ่น  :m1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: ICEME ที่ 19-03-2008 13:33:10
เหอๆ อีตาแมทนี่ถ้ามองอีกมุมก็โคตรน่าสงสารนะ เหมือนตัวอะไรสักอย่างที่ให้เขาชักลอกไปมา

ดีแล้วคุณวิน อย่าไปยอมแมทมาก ให้รู้ซะมั่งว่าเราก็ไม่ใช่สิ่งของที่จะมาทำอะไรตามใจก็ได้

 :angry2:แต่คุณวินคิดผิดมากๆ เลยอ่ะ เรื่องเลิกเรียน เราไม่ควรให้อารมณ์มาอยู่เหนือเหตุผลต่างๆ นะ

อีกอย่างก็ใกล้จะเอ็นแล้ว ไม่ติดจะทำยังไงล่ะนั่น

อย่าบอกนะว่าไม่ติดจริงๆ

ปุ่นแมนมาก ต่อยไปซะได้ กะแล้วเชียวว่าต่อยไปแล้วต้องมีปัญหาไปถึงคุณแม่ตัวดีแน่ๆ

อ๊าก

เซ็งงงงงงง :serius2:

เมื่อไหร่จะหลุดพ้นอโคจรนี่ซะที

ว่าแ่ต่คุณวินออนเอ็มมั้ยคืนนี้....
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 19-03-2008 14:58:53
พี่ชินจังมาต่อแระ  :m14: :m14: :m14:

ชอบพี่ปุ่น  :m1:

จีบเลยมั้ยน้องหมี  :oni1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 19-03-2008 15:01:52
เหอๆ อีตาแมทนี่ถ้ามองอีกมุมก็โคตรน่าสงสารนะ เหมือนตัวอะไรสักอย่างที่ให้เขาชักลอกไปมา

ดีแล้วคุณวิน อย่าไปยอมแมทมาก ให้รู้ซะมั่งว่าเราก็ไม่ใช่สิ่งของที่จะมาทำอะไรตามใจก็ได้

 :angry2:แต่คุณวินคิดผิดมากๆ เลยอ่ะ เรื่องเลิกเรียน เราไม่ควรให้อารมณ์มาอยู่เหนือเหตุผลต่างๆ นะ

อีกอย่างก็ใกล้จะเอ็นแล้ว ไม่ติดจะทำยังไงล่ะนั่น

อย่าบอกนะว่าไม่ติดจริงๆ

ปุ่นแมนมาก ต่อยไปซะได้ กะแล้วเชียวว่าต่อยไปแล้วต้องมีปัญหาไปถึงคุณแม่ตัวดีแน่ๆ

อ๊าก

เซ็งงงงงงง :serius2:

เมื่อไหร่จะหลุดพ้นอโคจรนี่ซะที

ว่าแ่ต่คุณวินออนเอ็มมั้ยคืนนี้....

ใช่วินคิดผิดมาก ๆ  :o12:
ส่วนเอ็นติดหรือไม่นี่ ต้องติดตาม  :laugh:

นึกย้อนไปถึงปุ่นเวลานั้น แม๊น แมน (เอ๊ะ หรือตอนจบเราจะได้กะปุ่น ? คริคริ) ...หลอกให้ติดตาม  :a4:

ส่วนเมื่อไหร่จะหลุดไปจากวงโคจรของคนบ้านนี้.....ก็โดนอีกหลายดอกเลยหละ  o7

และคืนนี้ก็ออนจ้า ไว้คุยกัน  :bye2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: mobilejom ที่ 19-03-2008 15:55:23
เย้ๆ วินเริ่มจะแรงแล้ว ตอนหน้าน่าติดตามมากมาย วินจะเริ่มเล่นคุณแม่กลับแล้ว  :mc4: สะจายยยยยยยย มาต่อเร็วๆนะ 
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 19-03-2008 19:22:46
เย้ๆ วินเริ่มจะแรงแล้ว ตอนหน้าน่าติดตามมากมาย วินจะเริ่มเล่นคุณแม่กลับแล้ว  :mc4: สะจายยยยยยยย มาต่อเร็วๆนะ 

ขอบคุณนะ
นายจอม  :o8:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: anston ที่ 20-03-2008 03:59:29
เออ..ให้มันได้อย่างนี้สิวิน o13..มีปากกะเค้าเหมือนกันนะเรา..
อันไหนยอมไม่ได้ก็ต้องสู้บ้างนะ..สู้สู้
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: Yurameki ที่ 20-03-2008 06:04:32
 :oni1: :oni1: :oni1:

พี่วินทนไปได้ไงอ่าาาาา

เลิก เรียนพิเศษซะ

พี่น่าจะบอกไปว่า

เออ เลิกก็เลิก

เลิกกะม อึง ไง แมท

 :m14:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: thaifriend ที่ 20-03-2008 06:39:44
sanook dee krub :serius2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 20-03-2008 07:44:54
งานนี้สงสัยเอ็นไม่ติด  :m29: :m29: :m29:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 20-03-2008 14:02:49
เออ..ให้มันได้อย่างนี้สิวิน o13..มีปากกะเค้าเหมือนกันนะเรา..
อันไหนยอมไม่ได้ก็ต้องสู้บ้างนะ..สู้สู้

กร๊าาากกกกก  o7
เชียร์วินต่อไปด้วยเน่อออออ  :oni2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 20-03-2008 14:05:54
:oni1: :oni1: :oni1:

พี่วินทนไปได้ไงอ่าาาาา

เลิก เรียนพิเศษซะ

พี่น่าจะบอกไปว่า

เออ เลิกก็เลิก

เลิกกะม อึง ไง แมท

 :m14:

เออแจ่มแฮะ น้องสาวจ๋า
ไว้พี่จาเขียนออกมาเป็นภาคพิศดาร
(ภาคไอ้วินเป็นตัวร้าย) มั่งดีม้ะ
กรั่กๆๆๆ :a4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 20-03-2008 14:07:04
sanook dee krub :serius2:

Thank you naaa.....  :oni2:


งานนี้สงสัยเอ็นไม่ติด  :m29: :m29: :m29:

อ๊ะ เดากานนนปายยยย  :o8:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 20-03-2008 14:10:59
ตอนที่ 18 คุณแม่อีกแล้ว...และอีกแล้ว

เข้าสู่เดือนที่ 6 ของการคบกันในเดือนตุลาคม......วินยังคงอ่านหนังสือได้ไม่มากเช่นเคย
ข้อสอบย้อนหลังก็ไม่เคยทดลองทำ (พูดง่าย ๆ ว่าวินยังไม่เคยเห็นข้อสอบเอ็นทรานซ์
มาก่อนเลยว่าหน้าตาเป็นอย่างไร)  ทั้ง ๆ ที่คุณแม่ซื้อมาให้วินวิชาละ 1 เล่ม ครบทุกวิชา
แม้แต่วิชาสำรองอย่างวัดแววทางความสามารถในสาขาวิชาต่าง ๆ คุณแม่เสียเงินไปกับ
การศึกษาของวินเพื่อให้วินสอบติดไปครึ่งแสนเห็นจะได้ ไหนจะค่าเล่าเรียนทั้งแบบเป็น
คอร์สของโรงเรียนกวดวิชา ทั้งภาษาอังกฤษ ภาษาไทย สังคม ฝรั่งเศส จากสถาบันดัง ๆ
หรือจะเป็นคอร์สตัวต่อตัวที่เพียงวินมาขอเรียน คุณแม่ก็อนุญาตทันที  เหตุด้วยที่เห็นว่า
ลูกมีความกระตือรือร้น แล้วยังจะค่าแบบฝึกหัด หนังสือพิชิตข้อสอบ หรือแม้แต่
ตัวอย่างข้อสอบย้อนหลัง  ท่านหมดไปกับวินมากจริง ๆ ซึ่งหนังสือเหล่านั้นก็ยังคง
ใหม่เอี่ยมอ่อง   ไม่เคยถูกเปิดแต่อย่างใด.......ทั้งหมดเป็นความเหลวไหล ไม่รับผิดชอบ
ของวินทั้งสิ้นที่ไม่หนักแน่นพอ ไม่อดทนพอต่อความต้องการของตัวเอง จนละเลยสิ่งที่
ควรทำไป    วินทั้งรัก ทั้งหลงแมทจนไม่เป็นอันทำอะไร   ไม่ว่ามีปัญหาใดเข้ามาวินก็จะ
หยุดอยู่กับมันจนละเลยการเรียนไป  ผลสอบปลายภาคของวินตกจาก 3.12 เป็น 2.56
คุณแม่ก็ไม่เคยดุว่าแต่อย่างใด มีแต่เตือนว่าให้ระวังเกรดไว้ดี ๆ เพราะต้องใช้ในการ
สอบเอ็นทรานซ์ด้วย แต่คุณแม่คิดว่าวินเครียดกับการสอบเข้ามหาวิทยาลัย บวกกับ
เอาแต่เรียนกวดวิชาจนเหนื่อย เลยอาจจะลืมวิชาที่โรงเรียนไป  แท้จริงแล้ววินทิ้งมัน
เกือบเสียทุกอย่างเลย....ทุกวันนี้บ่อย ๆ เวลาก่อนนอนวินคิดย้อนกลับไป ก็จะนอน
น้ำตาไหลอยู่ตลอด สงสารคุณแม่จับใจในความไม่เอาไหนของวิน ถึงแม้ว่าวินจะกู้
สถานการณ์ต่าง ๆ กลับมาได้อย่างทันท่วงที แต่ก็อดเห็นใจท่านไม่ได้ที่ลูกชายคนเดียว
ของท่านเคยทำให้ท่านผิดหวังมาตลอด 1 ปีเต็ม ๆ

...........ในเดือนตุลาคมนี้เป็นเดือนของการปิดภาคเรียน (1เดือน)
และวินก็เรียนพิเศษเข้มข้นขึ้น เพราะเวลาจวนเจียนเข้ามาแล้ว  เพื่อน และคนอื่น ๆ ต่าง
ก็ตื่นเต้นกับการสอบเข้ามหาวิทยาลัยของตน  ผิดกับวินที่ไม่รู้สึกสะทกสะท้านเสีย
เท่าไหร่นัก  โดยมีแมทกรอกหูอยู่ข้าง ๆ ว่าเรียนที่ไหนก็เหมือนกัน (ทั้งที่จริง ๆ คุณแม่
ของเขาก็อยากให้เขาเข้าจุฬาฯได้)
*** แท้จริงแล้วคนเราเรียนที่ไหนก็ได้ ทั้งหมดทั้งปวงมันก็อยู่ที่เรา ว่าเราจะทำให้ตัวเอง
ประสบความสำเร็จได้แค่ไหน  เพียงแต่วินอยากทำให้คุณแม่ภาคภูมิใจ เลยรู้สึกว่า
ต้องการเข้ามหาวิทยาลัยนั้น ๆ ให้ได้.... แต่จริง ๆ แล้ววินว่าเรียนที่ไหนก็ภาคภูมิได้
เหมือน ๆ กัน ....ทุกสถาบัน และทุกคนมีเกียรติด้วยกันทั้งนั้นที่ทำเพื่อปริญญาตรี ***

ในช่วงปิดเทอมวินและแมทเจอกันบ่อยขึ้น ปัญหาก็มีมากขึ้นเช่นกัน ตั้งแต่เรื่องเล็กน้อย
ไปจนเรื่องใหญ่ ที่วินเองก็นับไม่หวาดไม่ไหวแล้ว  วินไม่รู้ตัวแล้วในตอนนั้นว่าคลายรัก
ลงจากแมทตั้งแต่เมื่อไหร่  วินรับรู้ได้ถึงความรู้สึกเหนื่อยของตัวเอง และรู้ว่าวินรักแมท
น้อยลงไม่มากไม่น้อยเลยทีเดียว  แต่กระนั้นความหลงในเสน่ห์ และหน้าตาของเขาที่
วินมี ก็ยังคงเต็มเปี่ยมอยู่เสมอ     วินรู้สึกว่าตัวเองใจแตกเสียแล้ว ทั้งหนีเรียน และยัง
จะเรื่องอย่างว่าอีก  วินชักจะติดใจมันอย่างถอนตัวไม่ขึ้น       อย่างที่บอกว่าแมทรู้จัก
วิธีที่ทำให้วินรู้สึกดี มีความสุขได้อย่างถูกจังหวะ และสมบูรณ์แบบไปหมด

และในวันนี้วินก็โดด ไม่ไปเรียนพิเศษ  แมทชวนวินมาทานข้าวที่บ้าน.....ถึงแม้ว่าวิน
พยายามที่จะหลีกเลี่ยงการไปพบคุณแม่เพียงใด แต่ก็คงต้องไปบ้าง ตามคำชวนของ
แมท และเพื่อไม่ให้เป็นการทำให้แมทรู้สึกไม่สบายใจ.....อีกอย่างวินไม่ได้ไปพบคุณแม่
เกือบ 1 เดือนแล้ว  ถ้าหายไปเลยคุณแม่อาจจะหาเรื่องมาว่าวินอีกก็ได้

“สวัสดีน้องวิน”   ทันทีที่วินและแมทไปถึงบ้าน พี่กอล์ฟก็เข้ามาทักวินอย่างชื่นมื่น
วินรู้สึกเกลียดขี้หน้าพี่กอล์ฟอย่างบอกไม่ถูก  น้ำเสียงพี่กอล์ฟมันช่างคล้ายกับเสียง
ของคนที่เคยโทรมาแกล้งวินอยู่ไม่น้อย....วินเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองมัวโง่อะไรอยู่ที่ไม่รู้จัก
บอกเรื่องพวกนี้กับแมทเลย..........คงมัวแต่หลงเรื่องนั้นเรื่องนี้กับแมทจนลืมเสียหมด
“พี่กอล์ฟมาทำอะไรอีกอ่ะ”    แมทถาม ทำหน้าเบื่อ ๆ ใส่พี่กอล์ฟ
“คุณแม่ชวนพี่มาทานข้าวด้วย...พี่มาในฐานะแขกของคุณแม่...ไม่ใช่ของแมท และแมท
ก็ต้องทำตัวดี ๆ กับแขกของคุณแม่ด้วยนะจ๊ะ”   พี่กอล์ฟทำท่าเหมือนผู้หญิงใส่แมท
พอพูดจบก็เอามือมาเขี่ยคางแมทเบา ๆ แล้วก็เดินบิดก้นไปมาเข้าครัวไป
“คุณแม่........ลูกชายสุดหล่อของคุณแม่มาแล้ว”    พี่กอล์ฟบอกคุณแม่ที่อยู่ในครัว
“ไม่เป็นไรนะวิน....อยู่เฉย ๆ เดี๋ยวแมทจัดการเอง”   แมทพูดอย่างกับว่าวินจะไปทำอะไร
คนที่นี่ได้อย่างนั้นแหละ..........นี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วที่วินคิดผิดในการมาเหยียบที่นี่
“หวัดดีลูก....”  คุณแม่เดิน ซึ่งเหมือนเหินออกมาจากห้องครัวมากกว่า แล้วเข้ามาจูบ
หน้าผากแมท แล้วก็เข้ามาหอมแก้มวิน
“อื้มมม....แก้มหอมจังเลย...กอล์ฟเธอคงต้องหัดทำแก้มให้หอมเหมือนวินแล้วหละ
เผื่อจะได้แมทกลับไปไง”   คุณแม่ที่เพิ่งผละตัวออกจากวินได้ไม่นานก็หันไปพูดกับพี่
กอล์ฟที่ยืนอยู่ข้าง ๆ
“คุณแม่...”   แมททำเสียงแข็ง
“แมท - - แม่พูดเล่น....แม่รู้หรอก ว่าแมทน่ะ ‘หลง’ แฟนคนนี้ขนาดไหน”  คุณแม่พูดยิ้มๆ
แต่ส่งสายตามองค้อนมาที่วิน.....วินเริ่มชินกับฉากละครเรื่องนี้เสียแล้ว ถึงแม้ว่าแต่ก่อน
จะแปลกใจอยู่บ่อย ๆ ที่คิดว่าในชีวิตจริงของคนเราไม่น่าจะมีเรื่องน้ำเน่า และร้ายกาจ
เกินเหตุอยางนี้เหมือนในละคร
“วิน...ไปช่วยแม่ในครัวมั้ยลูก”   คุณแม่ชวน
“แล้วพี่แสงเดือนหละครับ”   แมทถาม เหมือนไม่อยากให้วินไป
“แม่ให้ไปขึ้นเงิน...แม่ถูกลอตเตอรี่”    คุณแม่ตอบ
วินเพิ่งรู้ว่าคุณแม่ก็ซื้อสลากกับเขาเหมือนกัน  คงเล่นสนุก ๆ มากกว่า เพราะคุณแม่เอง
ก็รวยจนไม่รู้จะเอาเงินไปทำอะไรแล้ว คงไม่มาหวังอะไรกับการพนันเล็ก ๆ นี้
“มาสิลูกเข้าครัวกัน......ได้มั้ยวิน - - แมท แม่ฝากกอล์ฟด้วยนะ……ไม่ได้มาซะนาน
คงหลงทิศอยู่เหมือนกัน”   คุณแม่ชวนวินเข้าครัว แล้วปล่อยให้แมทอยู่กับพี่กอล์ฟ แถมยัง
พูดย้ำ เรื่องที่พี่กอล์ฟเคยมาบ้านหลังน ี้เมื่อนานมาแล้วอีก

   คุณแม่โยนเขียงมาไว้ตรงหน้าวินจนเกิดเสียงดัง ทำเอาวินสะดุ้ง แต่ดีที่ท่านวาง
มีดให้วินเบา ๆ ถ้าโยนมีดมาให้นี่.....คงมีโยนกลับหละคราวนี้
“หั่นผักเป็นมั้ยจ๊ะ ลูกผู้ดีเก่า....หวังว่าจะเคยเข้าครัวนะ ชาววังเค้าต้องเข้าครัวกัน
รู้ใช่มั้ย”   ทันทีที่เราอยู่กันสองคน คุณแม่จะเป็นแบบนี้ทันที และไม่เคยเปลี่ยนอีกเลย
ว่าแล้วคุณแม่ก็โยนผักต่าง ๆ มาให้วินหั่น โชคดีที่วินเคยหั่นผักมาบ้าง ก็เลยพอทำเป็น

   พอหั่นผักเสร็จคุณแม่ก็เอาเนื้อหมูสด ๆ มาให้วินหั่น........วินไม่ได้กระแดะนะ
แต่ในตอนนั้นวินกลัวเนื้อสัตว์สด ๆ ไม่รู้เป็นอะไร กลัวกลิ่นและหน้าตาของมันมาก
วินไม่เคยไปกินหมูกระทะเลย หรือถ้าไปกินสุกี้ก็จะลวกแต่พวกลูกชิ้น ส่วนพวกเนื้อสัตว์
ดิบ ๆ จะเป็นหน้าที่ของคนอื่น วินกลัว เหมือนที่เคยมีดารากลัวส้มตำแบบนั้นแหละ
แต่วินก็เลิกกลัว ....ต้องขอบคุณคุณแม่มาก ๆ เลย ที่ทำให้วินได้ไปกินหมูกระทะกับเขา
ได้แล้วในทุกวันนี้
วินหั่นเนื้อหมูดิบ ๆ ด้วยท่าทีไม่ดีนัก  วินกลัวมันอย่างบอกไม่ถูก มีแต่คนที่บ้านวิน
เท่านั้นที่ทราบว่าวินกลัว และรู้สึกว่าวินก็เคยบอกแมทแล้วตอนที่แมทเคยจะชวน
วินไปทานข้าวที่ร้าน บาร์บีคิวพลาซ่า เพราะวินกลัวเนื้อสดที่เราต้องมาคอยปิ้งเอง
ก็เลยทำให้แมทอดทาน และก็เลยรับรู้เรื่องที่วินกลัวเนื้อสดไปด้วย ......แต่ปัจจุบัน
บาร์บีคิวพลาซ่า กลับเป็นร้านโปรดของวินร้านนึงเลยทีเดียว
“คุณแม่ !”    แมทที่เดินเข้ามาพอดีตวาดคุณแม่ตัวเอง
“วินกลัวเนื้อสัตว์ดิบ ๆ .....แมทเคยบอกคุณแม่แล้วไม่ใช่หรอครับ”   แมทเสียงดัง
วินได้ยินแล้วอยากจะเอามีดในมือชำแหละคุณแม่เหลือเกิน   ทำไมคุณแม่ทำกับ
วินแบบนี้เนี่ย....ทำเพื่ออะไรกัน?? (วินอยากถามคุณแม่จริง ๆ นะ ทุก ๆ อย่างเลย
ทำไปทำไม?)
“จริงหรอ ! ตายแล้ว....แมทบอกแม่ตอนไหน”   คุณแม่ทำหน้าซื่อ
“ก็ตอนที่แมทกลับมาเล่าเรื่องของวินไง  ที่วินไม่ได้ไปกินบาร์บีคิวกับแมท……คุณแม่
เองยังหัวเราะวินเลย”     แมทรื้อฟื้น
“อุ๊ย ! น้องวิน...ไอนู่นก็ไม่กล้า ไอนี่ก็ไม่กล้า กลัวนู่นกลัวนี่ไม่หมด....จะทำอะไรได้มั้ย
เนี่ยฮึ.......อย่างนี้ชีวิตก็ขาดรสชาติ หมดสนุกกัน”    พี่กอล์ฟเอ่ยขึ้นมาทำท่ายิ้มเยาะ
ใส่วิน.......นี่พี่กอล์ฟต้องการจะบอกวินใช่ไหมว่าวันนั้นคนที่โทรมาแกล้งวินคือพี่กอล์ฟ
นั่นเอง.........ก็ดีเหมือนกัน เปิดฉากกันไปเลย  วินจะได้ไม่ต้องฆ่าผิดคน !!!
พี่กอล์ฟเข้ามาแย่งมีดออกไปจากมือวินโดยไม่ดูตาม้าตาเรือ  หรือดูแล้วแต่ตั้งใจก็ไม่รู้
พี่กอล์ฟทำมีดบาดนิ้วโป้งวิน แต่ไม่ลึกมากนัก
“อิตุ๊ดยักษ์!!”    แมทตะโกนด่าพี่กอล์ฟ   วินแทบสิ้นสติสมประดีจนลืมความเจ็บด้วย
ความสะใจ แมทด่าได้ตรงใจที่สุด.....พี่กอล์ฟหน้านิ่งไปเลย
“โง่หรือปัญญาอ่อนฮะ  ดึงไปได้นี่มีดนะเว่ย...เอามานี่ แมทจะได้เอามาปาดมือพี่บ้าง”
แมทยื่นมือไปแย่งมีด  วินเข้าไปดึงมือแมทไว้ แต่ไม่ใช่เพราะเป็นห่วงนะ เพราะวินจะขอ
เอาคืนบ้างต่างหากหละ
“แมทอย่า....แค่ด่าพี่เค้าว่า ‘อิตุ๊ดยักษ์’ ก็เจ็บกว่ามีดบาดแล้ว”  วินพูดเหมือนเป็นห่วง
แต่ด้วยประโยคของวินทำเอาคุณแม่และพี่กอล์ฟได้เห็นฤทธิ์วินครั้งแรกบ้างแล้ว
“ไปทำแผล”   แมทตวาดวิน แต่ไม่ดังมากนัก...หวังว่าที่ตวาดคงเพราะเป็นห่วงนะ
ว่าแล้วแมทก็พาวินไปนอกครัวเพื่อทำแผล  หลังจากปิดพลาสเตอร์ยาแล้วคุณแม่ก็
มาเรียกวินเข้าไปอีก

“ร้ายไม่เบานะเรา....มาช่วยถือจานเต้าหู้ให้หน่อยซิ”   คุณแม่พูดขึ้นหลังจากวิน
เข้าไปถึงในครัว
“กอล์ฟออกไปก่อนไป ...หาอะไรทำข้างนอก - - แม่มีเรื่องต้องคุยกับวิน”
คุณแม่ไล่พี่กอล์ฟให้ออกไปจากครัว   ขณะเดียวกันวินก็รู้สึกได้ถึงรังสีอำมหิตแผ่ซ่าน
ออกมาจากตัวคุณแม่  แรงกว่าไอร้อนจากหม้อต้มน้ำตรงหน้านั่นเสียอีก
“ครึ่งปีแล้วสิ - - ไวเหมือนโกหกเลยนะ”   คุณแม่พูดกับวินโดยที่ตายังจ้องอยู่ใน
หม้อต้มน้ำ พร้อมกับหยิบเต้าหู้ในจานที่วินถือไว้ลงหม้อ
“คุณแม่จะทำแกงจืดตำลึงหรอครับ”   วินถามคุณแม่
“นี่ !! มาระยง มารยาทไม่มีรึไง ผู้ใหญ่พูดอยู่ ถึงได้มาเปลี่ยนเรื่องเนี่ย”  คุณแม่หันมา
ดุวิน........เห้อ เรานี่เสียมายาทจริง ๆ ยอมรับ ๆ
“ขอโทษครับ”   วินตอบ
“วินเป็นคนแรกนะ....ที่แมทคบได้นานขนาดนี้....” คุณแม่หันไปมองหม้อเหมือนเดิม
“ครับ”   วินตอบ
“หึ...ที่ครับนี่ยอมรับว่ารู้ตัวหรอ....ไม่ต้องพูดอะไรหรอก.........แต่ก่อนแมทมีแม่คนเดียว
หัวใจของเขาที่มีเคยให้แต่แม่....ตอนนี้แบ่งไปให้วินแล้วสินะ...ดูเหมือนจะมากขึ้น
ทุกวัน ๆ ด้วยสิ - - ดูเอาแล้วกัน กล้าดุแม่ ดุคนที่ทำงานของแม่ต่อหน้าต่อตาแม่เมื่อกี๊” 
คุณแม่พูดและยังคงไม่มองหน้าวินต่อไป....วินรู้สึกแย่กับคำพูดของท่านอยู่นิดหน่อย
“วินว่าความรักที่แมทเค้ามีให้คุณแม่ มันก็เท่าเดิมละครับ ส่วนที่มีต่อวิน มันก็เป็น
ความรักคนละแบบกัน.....วินยังรักคุณพ่อคุณแม่วินเท่าเดิมเลย”   วินอธิบาย
“ก็เพราะว่าวินรักลูกแม่ ไม่เท่าที่เค้ารักวินน่ะสิ”   คุณแม่หันมาทำเสียงแข็งใส่วินเบา ๆ
“ไม่ใช่นะคุณแม่”    วินเริ่มหน้าเสีย
“แมทกลับมาเล่าให้แม่ฟังเรื่องวันพุธก่อนหมดแล้ว...วินทำตัวแย่มากนะ ลูกแม่ไม่เคย
ชกต่อยกับใครมาก่อน และนี่เป็นครั้งแรกที่แมทต้องเจ็บใจ แล้วยังต้องเจ็บตัวอีก”
คุณแม่อธิบาย
“แมทเข้าใจวินผิดนะคุณแม่...วินกับคนนั้นเราไม่ได้ชอบกัน”  วินเถียง
“อย่ามาพูดเลยวิน....แม่รู้มานานแล้ว ว่าเราน่ะ ร้ายไม่ใช่ย่อย  ...เมื่อกี๊ก็เห็นตอกหน้า
พี่กอล์ฟซะเจ็บแสบไปเลย”   คุณแม่ไม่ฟังเหตุผลอีกคนแล้ว...วินเริ่มโมโหแล้วนะ
“ทำไมถึงได้นำพาเรื่องยุ่ง ๆ มาให้ครอบครัวแม่ไม่หยุดฮะ”   คุณแม่พูดด้วยน้ำเสียง
ธรรมดา ๆ เรียบเฉย หน้าวินท่านก็ยังคงไม่มองเหมือนเดิม
“เรื่องฟิววินยอมรับนะคุณแม่  แต่เรื่องนี้วินไม่ได้ทำอะไรผิดจริงๆ”   วินเถียงต่อไป
“นี่ต้องให้จับได้ตอนที่ขึ้นไปอยู่บนเตียงด้วยกันแล้วสิ.....ฮึ?...วินถึงจะยอมรับ”
คุณแม่พูดประโยคร้าย ๆ เหล่านี้ออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ ได้เหมือนเป็นเรื่องปกติ
.........ในที่สุดวินก็อดไม่อยู่...........
“ก็ถ้า ไม่มีใครคอยโทรบอกแมทว่าวินทำอะไรอยู่ที่ไหน เรื่องเข้าใจผิด หรือเรื่องยุ่ง ๆ
แบบนี้ก็คงไม่เข้ามาหรอกคุณแม่”   วินทำน้ำเสียงไม่พอใจใส่
“ว่าไงนะ....ใครบอก - - ใครบอกแมทเรื่องอะไร”   คุณแม่หันมาถามวิน
“วินก็ไม่ทราบครับคุณแม่....แต่ที่แน่ ๆ เค้าต้องไม่หวังดีกับแมทและวิน”
วินทำตัวเนียน ตีสีหน้างง ๆ ใส่คุณแม่ แล้วบอกไป
“ไร้สาระ....ถูกจับได้แล้วจะโยนความผิดไปให้คนอื่นน่ะสิ”   คุณแม่หันกลับไปสนใจ
ต้มจืดอีกครั้ง....วินที่อารมณ์ไม่ดีอยากจะบอกกับคุณแม่เหลือเกินว่า
…..‘จานก็หนัก รีบ ๆ ใส่เต้าหู้เข้าไปเหอะ...หยุดพูดได้แล้ว......ขี้เกียจถือ !!!’.....
“แต่แม่ก็เข้าใจวินนะ....วินคงจะใช้หน้าตาตัวเองบวกกับท่าทีให้ความหวังคนอื่น
ใครไม่เอา ไม่ชอบ ก็โง่มากแล้ว....วินคิดอย่างนั้นใช่มั้ย”   คุณแม่พูดต่อไม่หยุด
“วินไม่เคยคิดว่าตัวเองมีดีอะไรขนาดนั้น และก็ไม่เคยให้ความหวังใครเลยนะคุณแม่”   
วินเถียงกลับคุณแม่.........ในใจรู้สึกอยากจะเทเต้าหู้ในจานลงหม้อให้หมด แล้วออกไป
จากครัวเดี๋ยวนั้นจริง ๆ
“แม่อาบน้ำร้อนมาก่อน...แต่ก่อนแม่ก็เป็นแบบวินแหละ อ่อยเค้าไปทั่ว”  คุณแม่พูดต่อ
...นี่สรุปคุณแม่จะหลอกด่าวินหรือด่าตัวเองให้วินฟังเนี่ย....หรือทั้งสองอย่าง ??
วินผู้ขี้ขลาดจะทำอะไรได้ เถียงไปก็เท่านั้น ก็ได้แต่นิ่งเงียบและยอมรับไปแหละ........
วินไม่รู้ว่าเมื่อไหร่คุณแม่จะเลิกแดกดันวินซะที เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก
ไม่จบไม่สิ้น....หรือคุณแม่จะเกลียด และกระแทกแดกดันวินแบบนี้ตลอดไป.......?

_____________________________________________________________


ตัวอย่างตอนต่อไป.....
ตอนที่ 19 ความรัก...ของคนเป็นแม่


“วินกำลังจะเรียนภาษาอังกฤษครับคุณแม่”   วินตอบ
“หรอลูก...นี่แม่อยู่ที่สยาม - - แม่อยากคุยกับลูกเหลือเกิน....แม่ไม่สบายใจเลย
เรื่องวันก่อน....แม่ไม่รู้ตัวเลยว่าพูดอะไรอย่างนั้นออกไปได้อย่างไรกัน”  คุณแม่พูด
เหมือนคนกำลังร้องไห้อยู่
“วินเลิกเรียนก็เกือบ 2 ทุ่มแล้วคุณแม่....พรุ่งนี้วินเข้าไปหาคุณแม่ได้มั้ย”   วินตอบ
“อีก 10 นาทีแม่ก็แทบรอไม่ไหวแล้วลูก - - แม่อึดอัดใจมาก ๆ นอนไม่หลับมา
หลายคืนติด ๆ กันแล้ว”    คุณแม่กล่าวต่อไป
“วินมาเพื่อแม่หน่อยสิลูก.....ถ้าวินไม่รักแม่ ก็คิดซะว่าเห็นแก่แมทนะ เพราะนี่แม่ก็
นัดแมทมาด้วย อีกไม่นานแมทก็คงจะมาแล้ว....แม่จะพูดต่อหน้าลูกทั้งสอง”
คุณแม่ยืนยันจะให้วินไปหาให้ได้

.......................................

“อ้าวปุ่น...เป็นไง”   วินทักตอบ
“นั่งด้วยได้มั้ย”   ปุ่นถาม
“เอาดิ ๆ”   วินบอกให้ปุ่นนั่ง ในใจก็คิดกลัวอยู่ ว่าแมทหรือคุณแม่อาจจะเข้ามาเห็นพอดี
“วินไม่มาเรียนเลย....อาจารย์ปิดคอร์สไปแล้ว...แกถามเราถึงวินด้วย”   ปุ่นบอก
“แล้วปุ่นบอกว่าไง”   วินถาม
“เราก็บอกว่าวินติดธุระทำให้มาไม่ได้อีก....ตอนนั้นเหลืออีก 4 – 5 ครั้งมั้ง…อาจารย์แก
เลยบอกแต่ว่าเสียดาย เพราะวินดูเป็นเด็กดี น่าจะมาเรียนให้จบ”   ปุ่นตอบวิน
“อืม....ขอบคุณนะ”    วินรู้สึกโล่งใจที่อาจารย์ไม่ได้มองวินไม่ดี
“ขอบคุณที่เราไม่ได้บอกความจริงอ่ะหรอ”   ปุ่นกล่าวแล้วหัวเราะเบา ๆ

.......................................

หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: LingNERD* ที่ 20-03-2008 18:05:58
สงสารพี่วินจัง  o7
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: mobilejom ที่ 20-03-2008 18:08:16
 :m4: ในที่สุดวินนี่ก็มีปากเสียงแล้ว ว่าแต่ ตอนนั้นวินน่าจะเอามีดจ้วงพี่กอล์ฟนะ หมันไส้ๆ :เตะ1:

ปล. พรุ่งนี้มาต่อไวๆนะ
ปล 2.ช่วยดันแล้ว...ว่าจอมไม่ได้แล้วนะ คิคิ :m23:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: ICEME ที่ 20-03-2008 19:49:01
แม่เขาคงคิดว่าใครๆ จะต้องเป็นเหมือนเขาไปซะหมดอ่ะคุณวิน แย่จริงๆ

พี่กอล์ฟก็ดี สมน้ำหน้ามาก ด่าซะได้ก็ดีแมท

 o13ตอนนี้แมทน่ารักมากยังไม่เห็นความร้ายกาจของแมทเลยตอนนี้ (ซึ่งไม่เชื่อว่ามันจะไม่มี แค่ยังหาไม่เจอในตอนนี้เท่านั้นเอง
)

จะเอ็นติดมั้ยเนี่ย ยังลุ้นอยู่เหมือนเดิม

ต่อไปจะเป็นไงเนี่ย

เรียกไปหาแบบมีแผนแหง แล้ววินก็หลวมตัวไปใช่ป่ะ

 :angry2: :angry2: :angry2: :angry2: วินบ้าาาาา

แล้ว..จะเป็นไงต่อเนี่ย...ลุ้นๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 20-03-2008 21:47:27
ความรักเหมือนโรคา บันดาลตาให้มืดมน ไม่ยินและไม่ยล อุปสรรคคะใดๆ (เขียนไม่ถูกก็ขออภัยด้วยน้า  :m13:)

นี่แหละน้า ผู้ใหญ่เขาถึงกลัวนัก ว่าเด็กจะมีรักในวัยเรียน  o7 o7
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: แมววาย ที่ 20-03-2008 22:42:36
ในมโนภาพของเจ๊นะ ให้วินเอามีดจ้วงๆๆๆๆ นังพี่กอล์ฟ แล้วหันไปเอาเต้าหู้กระแทกใส่หน้าคุณแม่ผู้แสนดีของแมท จริงๆ  :angry2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: wareehero ที่ 20-03-2008 23:22:58
อ่านเรื่องนี้แล้วสงสารวินอ่ะ
ไม่ขอบแมทเลยอ่ะพูดไม่รู้เรื่อง
เกลียดคุณแม่ม๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: anston ที่ 20-03-2008 23:23:51
เหอะ..เหอะ แม่แมททำตัวอย่างนี้นี่เอง..สามีถึงได้หนีไป
เลยคิดว่าคนอื่นจะเหมือนตัวเองล่ะสิ..ชิส์
ตอนต่อไป..วินก็คงโดดเรียนอีกแล้วสินะ..
คราวนี้ทั้งแม่และแมทจะมาไม้ไหนเนี่ยะ.. :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 21-03-2008 14:25:37
ตอนที่ 19 ความรัก...ของคนเป็นแม่

กลางเดือนนี้ (ตุลาคม) วินก็จะต้องเข้าสอบเอ็นทรานซ์แล้ว ทั้ง ๆ ที่ความรู้ในหัวตอนนั้น
มันมีอยู่น้อยเหลือเกิน....วินรู้สึกว่าตัวเบา ๆ อย่างบอกไม่ถูก  เหมือนจะไปรบ ถึงแม้ว่า
วินจะมีอาวุธครบมือ...แต่วินใช้ไม่เป็นสักอย่างเดียว....ความรู้สึกของคนที่อยากเข้า
มหาวิทยาลัยดี ๆ ที่ตัวเองต้องการได้ มีทุกสิ่งอย่างอยู่รอบกายที่พร้อมจะเอื้อให้ฝัน
ของตัวเองสำเร็จ  แต่แล้วก็ไม่ได้หยิบฉวยสิ่งเหล่านั้นมาช่วยส่งเสริมตัวเองแม้แต่น้อย
เพียงความต้องการที่อยากจะเข้าให้ได้ ก็คงไม่เพียงพอ.......นี่คือสิ่งที่วินมาคิดได้
ในวันที่อะไร ๆ ก็สายไปแล้ว..................

   วันนี้เป็นวันจันทร์ วินจะต้องไปเรียนครูสมศรีซึ่งเหลือเพียงวันนี้และวันจันทร์
หน้า ก็จะปิดคอร์ส  ซึ่งถือว่าสำคัญมาก เพราะคุณครูจะให้ทั้งข้อมูลในการเตรียมตัว
และแนวข้อสอบที่เข้มข้นเพื่อให้เราพร้อมเข้าสอบอย่างเต็มที่
   วินมาถึงโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษครูสมศรีด้วยรถเมล์สีเขียวสาย 14 ซึ่งเป็น
สายเดียวที่ผ่านบริเวณนั้น         ซึ่งปัจจุบันวินก็ไม่ทราบว่ามีรถเมล์สายอื่นผ่านตรงนั้น
มากกว่าเดิมแล้วหรือยัง  วินนั่งทบทวนบทเรียนอยู่ได้ไม่นาน โทรศัพท์วินก็ดังขึ้น

‘MATT’s MOM’  คุณแม่แมทโทรมา
“ครับคุณแม่”   วินรับสาย
“วินลูก....แม่ไม่สบายใจเลย - - แม่อยากปรับความเข้าใจกับวิน....วินว่างรึเปล่าลูก”
คุณแม่น้ำเสียงดูกังวลมาก ๆ
“วินกำลังจะเรียนภาษาอังกฤษครับคุณแม่”   วินตอบ
“หรอลูก...นี่แม่อยู่ที่สยาม - - แม่อยากคุยกับลูกเหลือเกิน....แม่ไม่สบายใจเลย
เรื่องวันก่อน....แม่ไม่รู้ตัวเลยว่าพูดอะไรอย่างนั้นออกไปได้อย่างไรกัน”  คุณแม่พูด
เหมือนคนกำลังร้องไห้อยู่
“วินเลิกเรียนก็เกือบ 2 ทุ่มแล้วคุณแม่....พรุ่งนี้วินเข้าไปหาคุณแม่ได้มั้ย”   วินตอบ
“อีก 10 นาทีแม่ก็แทบรอไม่ไหวแล้วลูก - - แม่อึดอัดใจมาก ๆ นอนไม่หลับมา
หลายคืนติด ๆ กันแล้ว”    คุณแม่กล่าวต่อไป
“อืม.....งั้นคุณแม่รอวินได้รึเปล่า เพราะวันนี้เป็นวันรองสุดท้ายแล้วก่อนจะปิดคอร์ส
วินขาดไม่ได้ครับคุณแม่...ไม่งั้นวินจะไม่ได้อะไรเลย”   วินบอกกับคุณแม่ให้รอ
“วินลูก....”  คุณแม่ปล่อยโฮออกมา
“วินมาเพื่อแม่หน่อยสิลูก.....ถ้าวินไม่รักแม่ ก็คิดซะว่าเห็นแก่แมทนะ เพราะนี่แม่ก็
นัดแมทมาด้วย อีกไม่นานแมทก็คงจะมาแล้ว....แม่จะพูดต่อหน้าลูกทั้งสอง”
คุณแม่ยืนยันจะให้วินไปหาให้ได้
“อืม...”   วินลังเลมาก  อีกไม่ถึงสองสัปดาห์ก็จะเข้าสู่สนามสอบแล้ว วินไม่อยากขาด
เรียนอีกแล้ว.....
“นะลูกนะ.........ฮือ ....ฮือๆๆๆ”   คุณแม่ร้องไห้เสียงหลง  วินตกใจมาก ไม่คิดว่าคุณแม่
จะรู้สึกเครียด หรือรู้สึกแย่ขนาดนี้
“ตกลงคุณแม่....วินจะไปเดี๋ยวนี้หละครับ - - คุณแม่ใจเย็น ๆ นะ...แล้วคุณแม่จะให้วิน
ไปรอที่ไหนครับ”    วินยอมตกลงในที่สุด
“ร้านบ้านหญิงร้านประจำนั่นแหละลูก”   คุณแม่ตอบ....วินไม่รู้สึกเอะใจสักนิดว่า
คุณแม่ทราบได้อย่างไรว่า ร้านนั้นเป็นร้านที่วินไปบ่อย ๆ
“ครับคุณแม่ ... วินออกเดี๋ยวนี้แหละครับ”   วินเก็บข้าวของอย่างเร็ว และเดินออกไป
เรียกรถแท็กซี่เพื่อความรวดเร็วให้ไปส่งที่สยาม  เวลานั้นรถค่อนข้างติด กว่าจะถึงสยาม
วินก็หมดไปหลายร้อยบาทอยู่เหมือนกัน
พอวินไปถึงร้านบ้านหญิงวินก็โทรหาคุณแม่ทันที........
“คุณแม่ตอนนี้วินอยู่ที่ร้านบ้านหญิงแล้วนะครับ”    วินบอกคุณแม่
“ดีลูก....วินรออยู่ที่นั่นก่อนนะ พอดีแม่เจอกับเพื่อนที่ดิสคัฟเวอร์รี่ เค้าชวนแม่ดื่มกาแฟ
ที่สตาร์บัค....แม่ร้อนใจจะแย่แล้ววิน....วินรอแม่เดี๋ยวนะลูก”    คุณแม่กล่าว
“ครับคุณแม่”    วินรับคำแล้ววางโทรศัพท์ จากนั้นก็เดินเข้าไปนั่งรอในร้าน
วินรอตั้งแต่หกโมงครึ่งจนถึง 1 ทุ่มครึ่ง คุณแม่ยังไม่มา แต่วินก็ไม่กล้าโทรไปเร่งท่าน
เดี๋ยวจะเสียมารยาท  ....วินจึงโทรไปหาแมท เพราะเห็นว่าคุณแม่บอกว่าแมทจะมาด้วย
วินโทรไปหาแมท 2–3ครั้งจนสายหลุดก็ไม่มีคนรับ....วินก็ไม่ได้คิดอะไร ได้แต่คิดในแง่ดี
ว่าเส้นทางจากสยามดิสคัฟเวอรี่มาถึงที่นี่ก็ไม่ใช่ใกล้ ๆ และคุณแม่คงอยู่กับเพื่อนสัก
ประมาณ 45 นาที ถ้าออกมาป่านนี้ก็คงยังจะเดินอยู่ และระหว่างทางท่านคงจะเดินดู
ของอยู่บ้าง....ทำให้วินใจเย็นลง
   เวลาผ่านมาจนถึง 2 ทุ่ม วินรู้สึกเกรงใจป้าหญิงเจ้าของร้าน เลยสั่งก๋วยเตี๋ยว
คั่วไก่กับชามะนาวมาทานรอ เพราะตัวเองก็รู้สึกหิวเหมือนกัน ตั้งแต่กลางวันยังไม่ได้
ทานอะไรเลย ปกติวินจะซื้อขนมในโรงเรียนครูสมศรีทานก่อนขึ้นห้องเรียน
   จนวินทานเสร็จเกือบ ๆ สองทุ่มครึ่งแล้ว ก็ไม่มีวี่แววของคุณแม่หรือแมทเลย
วินเลยโทรหาคุณแม่อีกครั้งแต่ท่านไม่ได้รับ วินไม่กล้าโทรหาท่านบ่อย ๆ ด้วยความที่
เราเป็นเด็ก และท่านเป็นผู้ใหญ่ โทรตามบ่อย ๆ คงไม่ดีนัก วินจึงโทรหาแมทอีกครั้ง
แต่แมทก็ยังคงไม่รับ....วินรู้สึกกังวลเล็กน้อย คิดในใจว่า ‘รู้อย่างนี้เรียนให้เสร็จก่อนแล้ว
ค่อยมาก็ได้นี่นา....ไหนจะค่าแท็กซี่อีก...เห้อ’   แต่วินก็ไม่ได้รู้สึกหงุดหงิดใจอะไร เพราะ
คิดแต่ว่าสงสารคุณแม่ ท่านคงรู้สึกไม่ดีมาก ๆ จนต้องโทรมาร้องไห้และขอร้องวิน
   วินหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านรอจนเพลิน พอถึงสามทุ่มก็มีคนเข้ามาทักวิน
“วิน...”   วินเงยหน้าขึ้นมองต้นเสียง ปุ่นนั่นเองที่เป็นคนทักวิน
“อ้าวปุ่น...เป็นไง”   วินทักตอบ
“นั่งด้วยได้มั้ย”   ปุ่นถาม
“เอาดิ ๆ”   วินบอกให้ปุ่นนั่ง ในใจก็คิดกลัวอยู่ ว่าแมทหรือคุณแม่อาจจะเข้ามาเห็นพอดี
“วินไม่มาเรียนเลย....อาจารย์ปิดคอร์สไปแล้ว...แกถามเราถึงวินด้วย”   ปุ่นบอก
“แล้วปุ่นบอกว่าไง”   วินถาม
“เราก็บอกว่าวินติดธุระทำให้มาไม่ได้อีก....ตอนนั้นเหลืออีก 4 – 5 ครั้งมั้ง…อาจารย์แก
เลยบอกแต่ว่าเสียดาย เพราะวินดูเป็นเด็กดี น่าจะมาเรียนให้จบ”   ปุ่นตอบวิน
“อืม....ขอบคุณนะ”    วินรู้สึกโล่งใจที่อาจารย์ไม่ได้มองวินไม่ดี
“ขอบคุณที่เราไม่ได้บอกความจริงอ่ะหรอ”   ปุ่นกล่าวแล้วหัวเราะเบา ๆ
“แล้วหน้าบวมไปกี่วันหละ”  วินถาม
“บวมเบิมอะไรกัน....เราน่ะคนเหล็ก”     ปุ่นยิ้ม
“เออ....ดึกแล้วงั้นเดี๋ยวเราไปก่อนนะ พอดีเดินผ่านมา...เห็นวินนั่งอยู่เลยเข้ามาทัก”
ปุ่นกล่าวลา
“อืม ๆ แล้วเจอกันนะปุ่น”    วินตอบ
“ไว้ปุ่นโทรหานะ”  ปุ่นทำท่าพับนิ้วเป็นรูปโทรศัพท์แล้วเอาไปแนบที่หน้า แล้วกล่าวขึ้น
(จำได้ขนาดนี้เพราะรู้สึกว่าปุ่นทำแล้วดูเท่ห์ดี.....อิอิ)
        วินพลิกดูนาฬิกาก็เกือบสามทุ่มครึ่งแล้ว รู้สึกกังวลใจเล็กน้อยที่ทั้งแมทและคุณแม่
ยังไม่มา ซ้ำยังไม่รับโทรศัพท์ด้วย เกรงว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับทั้งสองที่อาจจะมาพร้อมกัน
วินนั่งคิด นั่งกังวล และรออยู่อีกครู่หนึ่ง แมทก็โทรกลับมา...วินรู้สึกดีใจมาก เพราะกำลัง
รู้สึกเป็นห่วงสุด ๆ
“วิน....มีอะไรครับ”    แมทกล่าวทัก...วินงงเล็กน้อย
“แมท....แมทอยู่ไหนทำไมยังไม่มา  มีอะไรรึเปล่า”  วินน้ำเสียงกังวัล
“วันนี้เรานัดกันหรอ ?? แมทมาเข้าค่าย....วินจำไม่ได้หรอครับ”   คำตอบของแมททำให้
วินนึกขึ้นได้ว่าแมทบอกกับวินไว้ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ว่าเขาจะไปเข้าค่ายกับทางโรงเรียน
   แม้ว่าตอนนั้นวินจะรู้สึกหน้าชา ๆ และร้อนใจอยู่ชั่วครู่  วินก็พยายามคิดในแง่ดี
ว่าคุณแม่คงลืมไปว่าแมทเข้าค่าย แต่ก็ยังนัดวินมาโดยที่ไม่มีแมทก็ไม่เป็นไร
“แมท............- - .....แล้วคุณแม่หละ”    วินถามเสียงอ่อย ๆ รู้สึกนิ่ง เฉื่อยชาไปชั่วขณะ
“อยู่บ้านแหละ....แมทเพิ่งวางสายเมื่อกี๊เอง....แม่โทรมาแมทก็ไม่ได้รับเหมือนวินแหละ
แมทเอาโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋า เพราะเดี๋ยวมันจะหาย.....ตกลงวินมีอะไรครับ”
คำตอบของแมทรอบนี้มันทำให้วินมองคุณแม่ในแง่ดีอีกต่อไปไม่ไหวแล้ว
วินตัวร้อนไปหมด.....อาการนี้เกิดขึ้นกับวินบ่อย ๆ หลังจากเข้ามารู้จักกับคนบ้านนี้
“วิน...วิน....วินครับ !”  แมทตะโกนเรียกวิน  แต่วินไม่รู้จะตอบอะไร พูดไม่ออก

วินจะคิดอย่างไรดี  นี่วินรอคุณแม่มา 3 ชั่วโมง   วินโดดเรียนชั่วโมงสำคัญ แล้วรีบขึ้น
แท็กซี่มาหาคุณแม่..........นี่วินโดนคุณแม่หลอกอย่างนั้นหรือ ? ....คุณแม่แกล้งวินอีก
แล้วใช่มั้ย?.......วินให้เหตุผลคุณแม่ไปแล้วนะว่าวันนี้วินขาดไม่ได้ มันสำคัญกับวินมาก
แต่คุณแม่ก็ยืนกรานให้วินมาให้ได้.........คุณแม่..........ทำไมคุณแม่ทำกับวินถึงขนาดนี้?

“วิน...วิน ๆ วินครับ วินอยู่รึเปล่า....วินเป็นอะไร”    แมทตะโกนเรียกวินในโทรศัพท์อยู่
อย่างนั้น...วินรู้สึกตัวเองพาลไปหมด โกรธคุณแม่ โกรธแมทที่ทำไมต้องเป็นลูกคุณแม่
“แค่นี้ก่อนนะแมท”    วินพูดเสียงเย็นชาไร้ความรู้สึก  เพราะวินไม่รู้จะรู้สึกอะไรได้อีก
วินชา และตัวหนักอึ้งไปตั้งแต่เรียบเรียงเหตุการณ์ทั้งหมดเองได้

   วินเรียกให้พี่ในร้านมาคิดเงิน และก็เดินออกไปจากร้าน ตลอดทางที่วินเดิน
จากร้านอาหารไปยังสถานีรถไฟฟ้าสยาม  วินเดินแบบเหม่อลอยมาก ๆ วินคิดอยู่ตลอด
เวลาว่า  ‘คุณแม่ทำได้อย่างไรกัน’ …… ‘นี่คุณแม่โกหกวินจริง ๆ หรอ’…. ‘ทำไมคุณแม่
พูดเหมือนจริงเลย?’………..’แล้วคุณแม่ร้องไห้จริงๆ หรือเปล่านี่’…………วินคิดไม่ตก
ว่าวินไปทำอะไรร้ายแรงนักหนา จนคุณแม่ต้องมาทำกับวินขนาดนี้
   วินเหม่อมาตลอดจนถึงสถานีรถไฟฟ้าหมอชิต  จากนั้นวินก็เดินตรงไปที่จอดรถ
ในทันทีที่วินขึ้นรถ  วินก็ร้องไห้อย่างหนัก   ร้องไห้จนเหมือนคนบ้า          วินร้องดังมาก
และทุบพวกมาลัยรถอยู่หลายครั้งจนปวดมือไปหมด         ได้แต่พูดกับตัวเองเหมือนคน
เสียสติไปมา........
“ทำไมอ่ะ   ทำไม ทำไม ทำไม ทำไม คุณแม่ ทำไม ทำไม!!!”        วินไม่เคยเป็นแบบนี้
มาก่อนเลยในชีวิต ไม่เคยฟูมฟายให้กับอะไรจนแทบจะเสียสติอย่างนี้มาก่อน
ทำไมคุณแม่ต้องทำอะไรแบบนี้กับวินด้วย ที่วินแค้นที่สุดคือทั้ง ๆ ที่วินบอกไปแล้วว่า
วินอยากเรียน  วินต้องเข้าเรียน แต่แล้วทำไมคุณแม่ยังเลือกที่จะทำแบบนี้กับวินอีก.......
ทำไมวินไม่กล้าบอกแมท....วินยังเกรงใจอะไรอยู่.....ทำไมไม่บอกแมท ทำไมนะ ทำไม ๆ

_________________________________________________________


ตัวอย่างตอนต่อไป.....
ตอนที่ 20 ความเสียใจ...สิ่งที่ต้องทำใจให้ชิน


“โอ๊ย...โอ๊ะ.............”    เสียงลากยาว ๆ สั่น ๆ เหมือนคนกำลังมีอะไรกัน
วินรู้สึกตกใจมาก ทำอะไรไม่ถูก
“ฮัลโหล........- - ฮัลโหล....ฮัลโหล นั่นใคร....ใครรับสาย - - ใคร !”  วินเสียงดัง
เสียงในโทรศัพท์นั้นยังคงแสดงถึงรสรักอันดุเดือดเข้ามา  วินรู้สึกเลือดขึ้นหน้า มือสั่น
ตัวสั่นไปหมด วินกดวางสายและโทรกลับไปใหม่.....แต่ก็ยังคงเป็นคนเดิมที่ส่งเสียง
ทุเรศ ๆ นั้นกลับมา.........ตอนนั้นในใจคิดอยู่เพียงอย่างเดียวว่า ‘นี่แมทกำลังมีอะไรกับ
ใครอยู่'


............................................

“แมทอยู่มั้ยพี่ไอริน”   วินถามไปห้วน ๆ ด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว
“อุ๊ย...เป็นอะไรคะ”    พี่ไอรินมีท่าทียียวน
“แมทอยู่ไหนพี่ไอริน”   วินถามกลับไปเสียงดังขึ้น
“น้องวิน ๆ ....น้องวินใจเย็น ๆ นะคะ ค่อยพูดค่อยจา เป็นอะไรก็บอกพี่ไอรินนะคะ”
พี่ไอรินทำเป็นมาลูบแขนวินทั้งสองข้าง  แต่วินรู้สึกว่าพี่ไอรินกวนประสาทวินอยู่

...........................................

“น้องวิน ... เป็นอะไรไปค่ะเนี่ย....”    พี่ไอรินทำหน้าละห้อยเข้ามาทักก่อนวินจะออก
ไปจากตัวโรงงาน
“พี่ไอริน....”   วินพูดขึ้นเบา ๆ   ดูพี่ไอรินเองก็ตั้งใจฟังขึ้นมา
“ถ้าเลิกดัดจริตได้ - - หาผ.อัวได้แน่นอน.......วินรับรอง”    วินพูดออกไปเสียงเบา ๆ

..........................................

หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 21-03-2008 17:03:12
 :เฮ้อ: คุณแม่นี่แสบจริงๆ  :angry2: :angry2: :angry2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: ICEME ที่ 21-03-2008 18:25:10
เหอ ถ้ามีใครมาทำกะลูกคุณแม่มั่งแล้วจะรู้สึก ทำให้ต้องขาดเรียน ทั้งที่สำคัญมาก คิดได้ไงอ่ะ

ปัญญาอ่อนอ่ะ คุณแม่ ชริๆ

นี่ พี่วิน แทนที่จะตัั้งชื่อตอนว่าความรักของคนเป็นแม่ ตั้งว่่าเล่ห์ร้าย อุบายแม่-ัวดีกว่า

น่าตบจริง!

จะเอ็นติดมั้ยเนี่ย...

ปล. แอบสะัใจกะไตเติ้ลตอนต่อไปอ่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: LingNERD* ที่ 21-03-2008 18:53:12
ทำไมทำกันแบบนี้ละ  :angry2:

พี่วินเริ่มแรง คิคิ  :m12:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: ICEME ที่ 22-03-2008 19:35:35
ง่า ไม่มาต่อหรอ??
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: agape ที่ 22-03-2008 22:04:09
แม่แมทนี่สุดๆๆเลยอะคับ

บ้านนี้ต้องย้อนสักคำสองคำให้เจ็บเล่นๆๆเหมือนกันอะ

มาต่ออีกเร็วๆๆนะคับ

เป็นกำลังใจให้เสมอนะครับ

ปล...ตอนหน้านี่คงจะมันแน่เลย
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: แมววาย ที่ 22-03-2008 22:23:19
ทำไมทำกันแบบนี้ละ  :angry2:

พี่วินเริ่มแรง คิคิ  :m12:

แต่เจ๊ว่าแรงส์  ช้าไม่สะใจอ่ะ 
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 23-03-2008 00:18:55
ตอนที่ 20 ความเสียใจ...สิ่งที่ต้องทำใจให้ชิน

หลังจากเหตุการณ์วันนั้น วินถึงบ้าน ก็นอนร้องไห้  ร้องๆ หยุดๆ อยู่ตลอดทั้งคืน
จนถึง 6 โมงเช้า โชคดีแค่ไหนที่เป็นช่วงเวลาของปิดเทอม  ถ้าวินต้องไปเรียนสภาพ
ตาบวมขนาดนี้คงไม่ไหว   คุณแม่ของวินก็ถามว่าเป็นอะไร วินก็ต้องโกหกท่านไปว่า
อ่านหนังสือจนเพลินไม่ได้หลับทั้งคืน   คุณแม่.....วินเป็นลูกที่แย่ที่สุดเลย วินจะขอโทษคุณแม่อย่างไรดี

ในวันอังคารนี้วินนอนซมคิดถึงแต่เรื่องคุณแม่  จนวินทานอะไรไม่ลงเลยตลอด
ทั้งวัน    แม่บ้านที่บ้านไปซื้อข้าวมาให้ ทานไปได้นิดหน่อย ไม่นานก็ลุกไปอาเจียน
คงเป็นเพราะความเครียด เสียจนท้องไส้ปั่นป่วนไปหมด.....วินนอนครุ่นคิดตลอดเวลา
ว่านี่คุณแม่เกลียดวินเข้าไส้จริงๆ คุณแม่จะไม่มีวันญาติดีกับวินอีกแล้วใช่ไหม ถึงได้
ทำกับวินขนาดนี้   วูบหนึ่ง วินคิดถึงการเลิกกับแมท....แต่อีกใจ ก็ยังทั้งรัก และหลงแมท
ทุกเรื่อง แต่ที่แย่ที่สุด คงเพราะหลงรสสัมผัสของเขา ที่ทำให้วินลืมเขาไม่ลงได้ง่ายๆ และ
ยอมปิดปากเงียบ ไม่บอกเรื่องคุณแม่ให้แมทฟังเลย เพราะกลัวว่าถ้าคุณแม่รู้จะยิ่งทำให้
วินกับแมทเลิกกัน.........คิดได้แค่นั้นน่ะแหละคนอย่างวิน
   วินคิดว่านี่คือสิ่งที่ร้ายที่สุดแล้ว วินคงไม่ต้องพบเจออะไรแบบนี้อีก และวินจะ
ต้องลืมมันได้ในที่สุด....ทุกอย่างจะต้องดีขึ้น...จากนี้วินจะเจอแต่เรื่องดีๆ เข้ามา.....
วินพร่ำบอกกับตัวเอง และนึกถึงความทรงจำดี ๆ ระหว่างวินกับคุณแม่ในช่วงแรก ๆ
และนึกถึงความสัมพันธ์ของวินและแมท  ก็พอทำให้วินรู้สึกดีขึ้นได้บ้าง....................

   สัปดาห์ถัดมา....ในวันจันทร์นี้เป็นจันทร์สุดท้ายของการเรียนภาษาอังกฤษ
กับคุณครูสมศรีของวิน  อีกไม่ถึง 10วัน ก็จะถึงวันสอบเอ็นทรานว์แล้ว ยังไงวันนี้วินก็จะ
ไม่ยอมให้อะไรมาก่อกวนเด็ดขาด วินไปถึงก่อนเวลาอีกเช่นเคย เลยนั่งอ่านหนังสือรอ
อย่างที่วินคิดไว้ตั้งแต่ต้นว่าอย่างไร วินก็จะต้องมาเรียนชั่วโมงสุดท้ายให้ได้....
วินจึงตัดสินใจโทรบอกคุณแม่ว่า วินจะปิดโทรศัพท์ เลิกเรียนแล้วจะโทรหาท่านเอง
หลังจากวางสายกับคุณแม่ วินก็โทรหาแมท เพื่อจะบอกเขาเช่นเดียวกัน
วินรอสายแมทอยู่นานจนสายหลุดไป  วินจึงโทรกลับไปอีกครั้ง วินรออยู่สักพักก็มีคนรับ
ในที่สุด..............แต่สิ่งที่วินได้ยิน ไม่ใช่เสียงแมท มันไม่ใช่แม้แต่คำพูด
“โอ๊ย...โอ๊ะ.............”    เสียงลากยาว ๆ สั่น ๆ เหมือนคนกำลังมีอะไรกัน
วินรู้สึกตกใจมาก ทำอะไรไม่ถูก
“ฮัลโหล........- - ฮัลโหล....ฮัลโหล นั่นใคร....ใครรับสาย - - ใคร !”     วินเสียงดังเสียจน
คนข้าง ๆ หันมามอง ทำให้วินต้องออกมาคุยด้านนอกโรงเรียน
เสียงในโทรศัพท์นั้นยังคงแสดงถึงรสรักอันดุเดือดเข้ามา  วินรู้สึกเลือดขึ้นหน้า มือสั่น
ตัวสั่นไปหมด วินกดวางสายและโทรกลับไปใหม่.....แต่ก็ยังคงเป็นคนเดิม ที่ส่งเสียง
ทุเรศ ๆ นั้นกลับมา.........ตอนนั้นในใจคิดอยู่เพียงอย่างเดียวว่า ‘นี่แมทกำลังมีอะไรกับ
ใครอยู่.....แล้วนี่โทรศัพท์คงอยู่ติดตัวหรืออะไรก็ตามแต่ แล้วมีใครหรืออะไรมาเผลอกด
รับโทรศัพท์ของแมทเข้าโดยไม่รู้ตัว’.….ด้วยความหึงหวง บวกความโง่ของวินทำให้วิน
ไม่คิดอะไรทั้งสิ้น วินยอมขาดเรียนชั่วโมงสุดท้าย แล้วตรงดิ่งไปยังบ้านของแมท
ตลอดทางวินร้อนรนใจมาก  คิดอยู่ว่า กว่าจะไปถึง แมทอาจจะเสร็จกิจจนไม่เหลือ
หลักฐานอะไรแล้ว........แต่ยังไงวินก็ต้องไปดูที่บ้าน ว่าแมทอยู่กับคุณแม่เพียงลำพัง
หรือมีคนอื่นอยู่ด้วย  โดยเฉพาะ ‘พี่กอล์ฟ’
   ในที่สุดวินก็มาถึงที่บ้านแมทภายในเวลา 45 นาทีโดยใช้ทางด่วนมาตลอดทาง
ต้องเสียเงิน (อีกแล้ว) กับด่านเก็บค่าผ่านทาง 3 – 4 ด่าน หมดไปอีกเป็นร้อย

“คุณวิน....”   พี่แสงเดือนลากเสียงยาวแสดงความดีใจ เดินเข้ามาหาวิน
“พี่แสงเดือน...นอกจากคุณแม่ .....แมทอยู่กับใครในบ้านอีก”    วินถามเสียงแข็ง
“ไม่มีค่ะ.....คุณแมทกับคุณผู้หญิงไปที่โรงงานแต่เช้าแล้ว”   พี่แสงเดือนตอบ
ทันทีที่สิ้นสุดคำตอบของพี่แสงเดือน....วินรู้ตัวแล้วว่าความกลัวของวินก็เป็นความจริง
‘แมทอยู่กับพี่กอล์ฟ !!!!!’ ………. วินรีบกลับขึ้นรถทันที โดยมีพี่แสงเดือนร้องเรียกอยู่
แต่วินไม่สนใจ.........วินตรงไปยังโรงงานของคุณแม่ที่สระบุรีทันที.....มานึกย้อนดูแล้ว
ก็เกลียดตัวเองที่ทำตัวโง่เขลา เบาปัญญาขนาดนั้น  ที่บ้านก็อบรมสั่งสอนมาดี ให้การ
ศึกษาอย่างดีมาตลอด.....ทำไมวินถึงใจแตก และทำตัวเหลวไหลได้ขนาดนี้

   ระหว่างทาง วินจินตนาการภาพของตัววินเอง เมื่อไปถึงที่นั่นอยู่ตลอดเวลา
ว่าวินจะเข้าไปกระชากผมพี่กอล์ฟมาให้ล้มลงกับพื้น แล้วจะทั้งเตะ ทั้งต่อยพี่กอล์ฟ
ให้น่วมไปเลยตรงนั้น  ทั้งยังจะชกหน้าแมทให้สะใจสักทีสองที
   หลังจากที่วินลงจากโทลเวย์และใกล้จะถึงโรงงานในอีก ไม่ถึง 30 กิโลเมตร
ข้างหน้า  วินก็นึกขึ้นได้ว่า นี่ถ้าแมททำอะไรกับพี่กอล์ฟอยู่จริง ๆ ป่านนี้อาจจะเสร็จ
เรียบร้อยไปแล้วก็ได้ ...วินจึงตัดสินใจโทรไปหาอีกที แต่อย่างไรวินก็จะไปอยู่ดีนั่นแหละ
ทันทีที่มีคนรับโทรศัพท์ ก็ยังคงมีเสียงที่ทำให้วินยิ่งโมโหโกรธามากยิ่งขึ้น
......นี่มันทำอะไรกันนักหนา เป็นชั่วโมงแล้วนะ !? ....แต่ก็ดี จะได้ให้มันเห็นกับตาไปเลย
   วินขับรถด้วยความเร็วราว  ๆ 150 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง มาคิด ๆ ดูแล้วถ้าหากใน
วันนั้นวินเกิดเป็นอะไรขึ้นมา คุณแม่ที่คิดว่าวินปิดโทรศัพท์มือถือเพราะเข้าเรียน
จะทราบข่าวว่าวินเป็นอะไรไปเมื่อไหร่นะ?   แล้วท่านจะเสียใจแค่ไหนที่รู้ว่าลูกชายของ
ท่านต้องมาประสบอุบัติเหตุ เพียงเพราะเรื่องงี่เง่าอย่างนี้??.............คุ้มมั้ยกับที่ท่านเฝ้า
ประคบประหงมเรามา 16 – 17 ปี แล้วต้องมาจากท่านไปเพราะอารมณ์หึงหวงของวิน?
วินโง่ที่สุด ...โง่    โง่    โง่   โง่    โง่   โง่    โง่ !!! ที่ปล่อยให้ตัวเองเป็นหมาก  ให้คนอื่น ๆ
คอยบงการ คอยจับวินเดินไปทางนั้นทางนี้
   วินไปถึงโรงงานเวลาสองทุ่มกว่า ๆ  (ที่โรงงานจะมีที่พักให้พนักงานนอนพักที่นั่น
เลย...แต่วินก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงยังคงมีพนักงานบางส่วนเดิน และทำนู่นทำนี่อยู่
ในเวลาค่ำขนาดนี้ หรืออาจจะมีประชุมใหญ่ หรืออะไรก็ไม่ทราบเหมือนกัน)
วินลงจากรถ ด้วยอารมณ์อยากจะเป็นฆาตกร จากนั้นวินก็ตรงเข้าไปทันที แต่ก่อนจะถึง
ด้านในโรงงาน วินก็พบเข้ากับพี่ไอรินตรงบริเวณทางเข้า
“น้องวิ๊นนนน...มาทำอะไรคะ”  พี่ไอรินลากเสียงยาว ทำตัวเหาะเหินเข้ามาทัก ราวกับว่า
รู้จักสนิทสนมกับวินมานานนับแรมปี
“แมทอยู่มั้ยพี่ไอริน”   วินถามไปห้วน ๆ ด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว
“อุ๊ย...เป็นอะไรคะ”    พี่ไอรินมีท่าทียียวน
“แมทอยู่ไหนพี่ไอริน”   วินถามกลับไปเสียงดังขึ้น
“น้องวิน ๆ ..........น้องวินใจเย็น ๆ นะคะ ค่อยพูดค่อยจา เป็นอะไรก็บอกพี่ไอรินนะคะ”
พี่ไอรินทำเป็นมาลูบแขนวินทั้งสองข้าง  แต่วินรู้สึกว่าพี่ไอรินกวนประสาทวินอยู่
“ตกลงพี่ไอรินจะตอบคำถามวินมั้ย....แมทอยู่ไหน”   วินโมโหมากจริง ๆ ตอนนั้น
“อยู่ค่ะ แต่ไม่รู้ว่าอยู่ไหน...เข้าไปหาเองแล้วกันค่ะ”   พี่ไอรินชักสีหน้าไม่ดี
“ก็แค่นั้นแหละ...”   วินสะบัดหน้าออกมาจากตรงนั้น
“เดี๋ยวสิคะ ๆ ....น้องวินทะเลาะกันมาหรอ...ค่อย ๆ พูดค่อย ๆ จากันนะคะ....มีอะไร
ปรึกษาพี่ไอรินได้นะ”     พี่ไอรินพูดจบ........วินก็หมดความอดทนพอดี คนกำลังอารมณ์
ไม่ดี ซึ่งพี่ไอรินเองก็น่าจะดูออก แต่ก็ยังกล้ามาพูดจายียวนยั่วประสาทอีก
“โอ๊ย !!! อีบ้า....เป็นบ้าอะไรนักหนาฮะ!.....ถ้าอยากรู้ ก็รอดูเอาเลย....ถนัดกว่างานที่ทำ
อยู่ที่นี่อีกไม่ใช่หรอ...อีผีบ้า !!”
.............วินด่าพี่ไอรินออกมาในที่สุด รู้สึกสะใจอย่างมากเลยทีเดียว...........
พี่ไอรินอึ้งเงียบไป เหมือนเธอจะอ้าปากพูด แต่เมื่อเธอสบตาวินแล้ว เธอก็หุบปากสนิท

“วิน!”    เสียงที่คุ้นเคยทักมาข้างหลัง  วินหันขวับไปด้วยสายตาอย่างไร วินก็ไม่รู้ตัว
แต่ที่แน่ๆ มัดุดันพอจะทำให้แมทที่เป็นคนเรียกวิน หน้าเสียได้อยู่ไม่น้อย
“วิน - - - - วินเป็นอะไรครับ”   แมทเสียงอ่อยมาก อย่างที่วินอาจจะไม่เคยได้ยินมาก่อน
“แมททำอะไรอยู่เมื่อกี๊”  วินเสียงแข็งใส่แมท  หน้าของแมทตอนนั้นซีดลงอย่างเห็นได้ชัด
“แมท - - แมทก็...........เดินดูงานไปรอบ ๆ”    แมทตอบแบบอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ดูน่าสงสาร
มากกว่าคนมีพิรุธ
“พี่ไอรินจะอยู่ดูจนจบเลยมั้ย....หรือจะเอาวิดีโอมาอัด....วินจะได้รอ !”  วินหันไปตะคอก
พี่ไอริน ที่ยังคงตั้งอกตั้งใจฟัง เหมือนคราวที่แล้วไม่มีผิด
“ออกไปพี่ไอริน”    แมทไล่พี่ไอรินเบา ๆ
“สาระแนจริง ๆ คนบ้าอะไร”   วินด่าไล่ตามหลังพี่ไอรินไป วินมั่นใจว่าเธอได้ยินแน่ ๆ
แม้ว่าวินจะรู้ตัว ว่าวินทำตัวไม่สุภาพ  แต่วินก็ไม่รู้สึกอยากจะหยุดมันเลยแม้แต่น้อย
และวินก็อยากจะใช้คำว่า ‘ส.ใส่เกือก’ อยู่เหมือนกัน แต่รู้สึกว่าคำว่า ‘สาระแน’  เจ็บกว่า
...........มีการไตร่ตรองก่อนจะด่าด้วย....ร้ายมั้ยหละวินคนนี้ ??
“วิน....วินเป็นอะไรอ่ะ”   แมทเข้ามาจับไหล่แล้วเอ่ยขึ้น
“แมทอยู่ไหน   ทำอะไรอยู่เมื่อกี๊  วินโทรมาหาเป็นชั่วโมงแล้ว.....และวินก็ได้ยินเสียง....”
วินพูดยังไม่ทันจบประโยคแมทก็หัวเราะขึ้น
“นี่วินมาเพราะเรื่องนี้หรอ....เป็นห่วงแมทหรอครับ...โถ ๆ ๆ น่าชื่นใจจัง”   แมทเอาวิน
เข้าไปกอด...............วินผละตัวออกจากเขาอย่างแรง แล้วจ้องหน้าเขม็ง
“อะไรของแมท...ตกลงว่าแมททำอะไรอยู่”    วินยังคงเสียงระดับเดิม
“วิน....นี่วินเป็นอะไรเนี่ย....แค่แมทไม่ได้รับโทรศัพท์เนี่ยนะ”   แมทยังคงพูดดีๆ กับวิน
“แมทก็ตอบวินมาสิ ว่าแมททำอะไร อยู่กับใคร ถึงไม่ได้รับโทรศัพท์วิน!”  วินขึ้นเสียง
“วิน - -  แมทลืมโทรศัพท์ไว้ในออฟฟิศ......1 ชั่วโมงที่ผ่านมา แมทออกมาเดินข้างนอก
และเดินดูงานไปด้วย  เพราะคุณแม่ใช้ออฟฟิศประชุมอยู่….วินเป็นอะไรของวิน”
แมทตอบ สีหน้างงอย่างมาก
   ขณะเดียวกันความหึงหวง และความโมโหของวินก็ลดลงอย่างเร็ว วินรู้สึกมึนหัว
ขึ้นมาเดี๋ยวนั้น น้ำตาคลอโดยไม่ต้องสั่ง  เมื่อเรียกสติกลับมาได้ วินก็ถามแมทขึ้นอีกครั้ง

“คุณแม่..... - - ........ประชุมอยู่กับใคร”    วินเสียงสั่น
“พี่กอล์ฟ.....”   แมทตอบแผ่ว ๆ สีหน้าของเขาไม่แน่ใจนักว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น
   สมองวินประมวลผลเองอย่างรวดเร็ว ว่าสิ่งที่วินทำอยู่คือการกระทำของคนโง่ ๆ
คนหนึ่ง.......พี่กอล์ฟแกล้งวินอีกแล้ว และครั้งนี้ก็แกล้งวินอยู่ในออฟฟิศคุณแม่............
หรือนี่ทั้งสองคนจะรวมหัวกันแกล้งวิน !?
“เค้าประชุมกันมาเป็นชั่วโมง ๆ แล้ววิน - - แมทก็เลยไม่กล้าจะเข้าไปเอามือถือ”
แมทอธิบายต่อ เพราะยังคิดว่าวินโกรธเขา ที่ไม่รับโทรศัพท์อยู่
   วินพูดอะไรไม่ออกแล้ว   หันหลังจะเดินกลับไปที่รถทันที แต่แมทเดินเข้ามาดึง
แขนเอาไว้
“วิน....โกรธแมทขนาดนี้เลยหรอ”   แมทถาม น้ำเสียงรู้สึกผิด
“วินไม่ได้โกรธเรื่องนี้แมท”      ถึงแม้ว่าวินน้ำตาจะไหลออกมาแล้ว แต่ก็ยังคงเสียงแข็ง
ด้วยความโกรธแค้น กับการกระทำของคุณแม่และพี่กอล์ฟที่วิน ‘คิด’ ว่าทั้งสองได้ทำ
“วิน....นี่มันเรื่องอะไรเนี่ย….แมทงงไปหมดแล้ว”   แมทถาม มีสีหน้าวิตก
“ก็เข้าไปถามคุณแม่กับพี่กอล์ฟเองสิ.........ว่าประชุมเรื่องอะไรกันแน่”
วินเสียงแข็งแบบสั่น ๆ ตอบกลับไปทั้งน้ำตา..........จากนั้นแมทก็ปล่อยแขนวิน และรีบ
เดินตรงไปที่ออฟฟิศ.......วินคงไม่รอให้ทั้งสองคนเดินออกมาหรอก  แค่นี้วินก็จะแย่แล้ว
วินไม่อยากเห็นหน้าทั้งสองคนในตอนนี้...ถึงวินจะรู้สึกโมโห หรือคิดว่าตัวเองเก่ง  และ
เข้มแข็งขึ้นมาบ้างแล้ว....แต่มันก็ไม่เพียงพอที่จะอยู่ต่อสู้กับคุณแม่ หรือแม้แต่พี่กอล์ฟ
วินเดินหันหลังเพื่อจะกลับไปที่รถในตอนนั้นทันที

“น้องวิน ... เป็นอะไรไปค่ะเนี่ย....”    พี่ไอรินทำหน้าละห้อยเข้ามาทักก่อนวินจะออก
ไปจากตัวโรงงาน
“พี่ไอริน....”   วินพูดขึ้นเบา ๆ   ดูพี่ไอรินเองก็ตั้งใจฟังขึ้นมา
“ถ้าเลิกดัดจริตได้ - - หาผ.อัวได้แน่นอน.......วินรับรอง”    วินพูดออกไปเสียงเบา ๆ
ในใจรู้สึกอยากจะพูดมากกว่านั้น แต่รู้สึกนึกอะไรไม่ออกแล้ว วินใจเต้นแรงจนรู้สึกเจ็บ
และแน่นหน้าอกไปหมด......
   พอขึ้นรถวินก็นึกถึงเรื่องราวทั้งหมดตั้งแต่ที่โรงเรียนครูสมศรี คิดได้ทีหลังอีกแล้ว
ว่าไม่น่าโทรหาแมทเลย รู้อย่างนี้โทรหาคุณแม่คนเดียวก็พอ.....ทำไมวินโง่อย่างนี้.........
วินเกลียดตัวเองที่สุดในตอนนั้น...............วินขับรถไปทั้งที่น้ำตาท่วมหน้าไปตลอดทาง

วินรู้สึกว่าขับรถอยู่คนเดียวไม่ได้แล้ว  และในที่สุด.........คนแรกที่วินนึกขึ้นได้ในตอนนั้น
ว่าจะโทรฯ หาใครดีก็คือ..............‘ฟิว’

_________________________________________________________

ตัวอย่างตอนต่อไป.....
ตอนที่ 21 เหตุผล...ของคนหลายใจ


“อะไรอีกวิน....พวกมันทำอะไรวินอีก แล้ววินอยู่ไหน”   ฟิวเปล่งเสียงเคืองขึ้นมาบ้าง
“วินกำลังจะกลับบ้านแล้ว...ตอนนี้วินอยู่สระบุรี......อีตุ๊ดหน้าขาวนั่นมันมารับ
โทรศัพท์ของแมท แล้วส่งเสียงโหยหวนเหมือนมันกำลังมีอะไรกับใครอยู่”   
ขณะนั้นเองที่น้ำตาของวินหยุดไหล
“เฮ่ย...เอาวินคนเดิมกลับมานะ”    ฟิวหยอก  ก่อนจะกลับเข้าเรื่องในประโยคต่อไป
“แล้วยังไง มันแกล้ง หรือมันขุดดินอยู่กับใครจริง ๆ....แล้วจะขุดกับใคร - - แมทเรอะ?”
ฟิวถามกลับมา....ถึงแม้คำว่า ‘ขุดดิน’ ของฟิว   วินจะไม่รู้ว่ามันมาจากอะไร แต่ก็พอรู้ว่า
ฟิวหมายถึงอะไร
“วินก็ไม่รู้.....ทำกับวัวกับควายมั้ง.....เห็นโหยหวนซะ !!”  เอาแล้วไงวิน....ไหงเมื่อกี๊แกยัง
ร้องห่มร้องไห้จะเป็นจะตายอยู่เลย !?.......ตอนนี้น้ำตาแห้งเสียแล้ว

..............................................

“วิน.........วินฟังเรานะ  เราอยู่ที่คอนโดของเพื่อน - - เราว่าวินมาพักที่นี่ก่อนนะ...เราว่า
วินอย่าเพิ่งเล่าอะไรตอนนี้ - - วินมาหาเราที่นี่ก่อนนะ เราอยู่กับเพื่อน....เรารับรองว่าจะ
ไม่ทำอะไรไม่ดีแน่นอน”   ฟิวชักชวน
“เห็นวินเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ รึไง.....ทำไมจะต้องออกปากขนาดนั้น”    วินถาม
“เอาน่า.....มานะ....เราอยู่คอนโด xxx ตรงสะพานใหม่นะวิน ....เอางี้พอวินมาถึงบิ๊กซี
แล้ววินเข้าไปจอดรอ เดี๋ยวเราจะขับรถนำวินมาที่คอนโด....โอเค้?”   ฟิวอธิบาย

................................................

“วิน......ทำไมวินถึงได้ทนแมท และคนในครอบครัวมันได้ขนาดนี้”   ฟิวกล่าว และน้ำตาของเขา
เริ่มคลอ
“ให้โอกาสเราบ้างไม่ได้หรอ”    หลังจากฟิวพูดจบ เขาก็เปลี่ยนจากใช้นิ้วเช็ดน้ำตา
เป็นใช้ทั้งฝ่ามือวางไว้บนแก้มของวิน
“เรารักวินจริง ๆ นะ.....”    ฟิวพูดเสียงเบามาก เหมือนให้เพียงเราสองได้ยิน
“วินเชื่อมั้ย............ว่าเรารักวิน............เรา -  รัก  - วิน”  ฟิวพูดย้ำ และเน้นคำใน
ประโยคสุดท้าย ด้วยเสียงกระซิบเบา ๆ อีกครั้ง

.................................................





หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: ICEME ที่ 23-03-2008 00:40:51
ไม่นะ อย่าบอกนะว่าตอนต่อไปวินจะเริ่มหลงฟิวบ้างแล้วอ่ะ

ไม่ได้

ต้องเลิกกะแมทให้เด็ดขาดก่อนนะ จะได้ว่าได้เต็มๆ ปาก

สรุปว่าได้เรียนมั่งมั้ยเนี่ย

ไม่น่าเลยอ่ะวิน อ๊ากกกก

แต่ก็ว่าไรไม่ได้ ก็มันแก้ไม่ได้แล้ว

อย่าทำอีกนะ

ไม่ใช่แฟนคนแรกคงไม่หลงขนาดนั้นแล้วใช่มั้ย

เท่าที่ดู ตอนนี้้แมทยังดูรักวินอยู่้เลย ทำเอาใจที่อาฆาตแมทลดลิมิตลงมาบ้างแล้ว

รอ!..วันนี้อัพดึกได้ใจมากค่ะ o7
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 23-03-2008 01:14:22
คราวนี้เล่นแรงแฮะ  :เตะ1: :เตะ1: :เตะ1: ขอสักครั้งเถอะ กอล์ฟ  :เตะ1: :เตะ1: :เตะ1: :เตะ1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: Yurameki ที่ 23-03-2008 05:17:44
 :เตะ1: :เตะ1: :เตะ1: :เตะ1: :เตะ1: :เตะ1: :เตะ1: :เตะ1: :เตะ1: :เตะ1: :เตะ1:   แด่กอล์ฟ

 :เตะ1: :เตะ1: :เตะ1: :เตะ1: :เตะ1: :เตะ1: :เตะ1: :เตะ1: :เตะ1: :เตะ1: :เตะ1:   แด่แม่แมท

 :เตะ1: :เตะ1: :เตะ1: :เตะ1: :เตะ1: :เตะ1: :เตะ1: :เตะ1: :เตะ1: :เตะ1: :เตะ1: แด่แมท

แสบสันต์กันจริงๆ

พี่วินเคอะ เอาใจช่วยเค่อะ

สู้ๆ  :a2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 23-03-2008 14:11:09
ตอนที่ 21 เหตุผล...ของคนหลายใจ

“โอ้โห.....วันนี้ท่าทางฝนจะตก นกจะร้องไม่หยุดซะแล้ว - - วินโทรหาโผมมมม”
ฟิวพูดขึ้นทันทีที่รับโทรศัทพ์วิน
“ฟิว.....”   วินสะอื้นหนัก
“เฮ่ย ! วินเป็นอะไรอีก....มุขหรือจริง ๆ เนี่ย”    ฟิวถามเสียงตกใจเล็กน้อย
“ฟิว....คุณแม่เอาอีกแล้ว......นี่วินชักจะไม่ไหวแล้วนะ”   แม้ว่าวินจะร้องห่มร้องไห้อยู่
แต่คนที่เคยชอบฟูมฟายจนพูดไม่รู้เรื่อง เหมือนจะไม่ได้อยู่ในร่างของวินในตอนนั้น
ทั้งความโมโห โกรธ และเคืองแค้นมันสุมอก ทำให้วินพูดออกมาได้อย่างชัดเจนและ
หนักแน่นอยู่เลยทีเดียว
“อะไรอีกวิน....พวกมันทำอะไรวินอีก แล้ววินอยู่ไหน”   ฟิวเปล่งเสียงเคืองขึ้นมาบ้าง
“วินกำลังจะกลับบ้านแล้ว...ตอนนี้วินอยู่สระบุรี......อีตุ๊ดหน้าขาวนั่นมันมารับ
โทรศัพท์ของแมท แล้วส่งเสียงโหยหวนเหมือนมันกำลังมีอะไรกับใครอยู่”   
ขณะนั้นเองที่น้ำตาของวินหยุดไหล..หมดแล้ว ไปเสียที  วินที่มัวแต่โศกเศร้าเสียใจให้กับ
ความโง่เขลาของตัวเอง เหลือไว้แต่ไอ้วินที่มีแต่ความโกรธจัดอย่างรุนแรงอยู่  ณ ตรงนั้น
(วินลืมบอกไปว่าพี่กอล์ฟเป็นคนที่ทาแป้งซึ่งขาวกว่าตัวเองมาก ถ้าแป้งเบอร์ที่ขาวที่สุด
คือเบอร์ 1 วินคิดว่าพี่กอล์ฟคงใช้สักเบอร์ ‘ลบ 2’ เห็นจะได้......ประชดนะ แต่ขาวจริง ๆ)
“เฮ่ย...เอาวินคนเดิมกลับมานะ”    ฟิวหยอก  ก่อนจะกลับเข้าเรื่องในประโยคต่อไป
“แล้วยังไง มันแกล้ง หรือมันขุดดินอยู่กับใครจริง ๆ....แล้วจะขุดกับใคร - - แมทเรอะ?”
ฟิวถามกลับมา....ถึงแม้คำว่า ‘ขุดดิน’ ของฟิว   วินจะไม่รู้ว่ามันมาจากอะไร แต่ก็พอรู้ว่า
ฟิวหมายถึงอะไร
“วินก็ไม่รู้.....ทำกับวัวกับควายมั้ง.....เห็นโหยหวนซะ !!”  เอาแล้วไงวิน....ไหงเมื่อกี๊แกยัง
ร้องห่มร้องไห้จะเป็นจะตายอยู่เลย !?.......ตอนนี้น้ำตาแห้งเสียแล้ว
“เฮ้ยวิน....เราว่าใจเย็น ๆ ก่อนดีกว่าหว่ะ - - สงสารคนใช้ถนนร่วมกับวินตอนนี้.......
เกรงว่าจะโดนลูกหลง........ขับรถอารมณ์เสียไม่ดีนะครับจะบอกให้”   
ฟิวพยายามพูดเล่นเพื่อกดอารมณ์ฉุนเฉียวของวิน...เขาเองก็คงรู้สึกได้ (ถึงแม้ว่าตอนที่
เอามาเล่าให้เพื่อนฟัง หรือที่เอามาเขียนอยู่ตอนนี้ มันอาจจะดูเหมือนเป็นเรื่องขำขันได้
แต่อารมณ์  ณ เวลานั้น  วินโกรธจริง ๆ ......เผลอ ๆ อาจจะรู้สึกแค้นด้วยซ้ำ)
“เออ....ไม่ต้องห่วงหรอก  ถนนว่างแล้วตอนนี้”    วินตอบ
“แล้วที่โทรมา - - มีอะไรให้เพื่อนรักอย่างเรารับใช้หรือครับ”   ฟิวทำพูดเน้นเสียง
“ตอนแรกร้องไห้หนักมาก....วินไม่รู้จะทำยังไง ไม่อยากขับรถคนเดียว เลยหาเพื่อนคุย”
วินตอบเสียงอ่อยลง
“อ่าว....แหม.......พอได้ยินเสียงเรา ก็หายเลยหรอ....นี่ยังไม่ได้ทำไรเลยนะเนี่ย”
ฟิวยียวน
“อืม.....”   วินตอบไปสั้น ๆ ....เพราะจู่ ๆ ก็รู้สึกใจไม่ดีขึ้นมาอีกครั้ง อยู่ดีๆ  ก็นึกถึงเรื่อง
พี่กอล์ฟและคุณแม่....นึกแล้วก็น้ำตาไหลออกมาอีกรอบ.....นี่วินเป็นบ้าหรือเปล่า ??
“วิน....เงียบทำไม”    ฟิวถาม
“วินเบื่ออ่ะฟิว....เมื่อไหร่คุณแม่จะกลับไปเป็นเหมือนแรก ๆ ที่เจอวินซะที” วินเริ่มร้องไห้
“อ่าวเฮ่ย ! ….. อะไรอีกวิน...วินใจเย็น ๆ นะ - - อย่าคิดมาก เดี๋ยวทุกอย่างก็ดีเอง”
ฟิวปลอบ
“วินสู้คุณแม่ไม่ไหวจริง ๆ ฟิว....วินพยายามทำทุกอย่างแล้ว - - หรือว่าวินยังทำไม่เต็มที่
…..วินจะต้องทำยังไงอีก”    วินร้องไห้หนักขึ้นอีก
“วิน ๆ ๆ ๆ ......ฟังนะวิน - - วินใจเย็นนะ........มีอะไร เกิดอะไรขึ้น วินบอกเรามา” 
ฟิวถามขึ้น.....วินลืมเสียสนิท ว่าตั้งแต่ฟิวรับโทรศัพท์ วินก็ยังไม่ได้เล่าอะไรให้เขาฟังเลย
ได้แต่ใส่ ๆ คำด่าพี่กอล์ฟให้ฟิวฟังอย่างเดียว
“วินก็ไม่รู้ฟิว....ไม่รู้ว่าใช่คุณแม่กับพี่กอล์ฟรึเปล่าที่แกล้งวิน............แล้ววิน.........”
และแล้ววินคนเดิมก็กลับมา  วินที่พูดไม่ออก และร้องไห้ไม่หยุด
“วิน ๆ ....วิน ๆๆๆ  วินใจเย็น ๆ นะ - - ขับรถได้รึเปล่า ....จอดข้างทางก่อนมั้ย” 
ฟิวที่ได้ยินเสียงฟูมฟายของวินเริ่มแสดงความเป็นห่วง
“ไม่ไหวจริง ๆ อ่ะฟิว ...... ฟิวเชื่อมั้ย วินโง่มากเลย วินไม่ได้ไปเรียนพิเศษสองครั้ง
สุดท้าย......คิดแล้วแค้นมากเลยฟิว......”    วินหยุดสะอื้น  เวลานั้นวินสะอึกสะอื้นถี่มาก
จนแทบจะหายใจไม่ออกเสียด้วยซ้ำ
“วิน.........วินฟังเรานะ  เราอยู่ที่คอนโดของเพื่อน - - เราว่าวินมาพักที่นี่ก่อนนะ...เราว่า
วินอย่าเพิ่งเล่าอะไรตอนนี้ - - วินมาหาเราที่นี่ก่อนนะ เราอยู่กับเพื่อน....เรารับรองว่าจะ
ไม่ทำอะไรไม่ดีแน่นอน”   ฟิวชักชวน
“เห็นวินเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ รึไง.....ทำไมจะต้องออกปากขนาดนั้น”    วินถามทั้งสะอื้น
“เอาน่า.....มานะ....เราอยู่คอนโด xxx ตรงสะพานใหม่นะวิน ....เอางี้พอวินมาถึงบิ๊กซี
แล้ววินเข้าไปจอดรอ เดี๋ยวเราจะขับรถนำวินมาที่คอนโด....โอเค้?”   ฟิวอธิบาย
“เพื่อนฟิวนี่...เรารู้จักรึเปล่า”    วินถาม....วินไม่ค่อยชอบอยู่กับคนที่ไม่รู้จักเท่าไรนัก
“ก็ปุ้ยไง....”    ฟิวตอบ น้ำเสียงเหมือนเพิ่งนึกออก
“เออแล้วก็ไม่บอกแต่แรก”    วินต่อว่า
“อืม ๆ เดี๋ยววินโทรหานะ”    พูดจบ วินก็วางสายไป   และวินก็ร้องไห้ ร้อง ๆ หยุด ๆ อยู่
ตลอดทางไปคอนโดฯ เพื่อนฟิว   วินรู้สึกทรมานใจอย่างบอกไม่ถูก วินไม่รู้จะบรรยาย
มันออกมาอย่างไรได้ (คงต้องเจอเองล่ะมั้ง...ถึงจะรู้)………วินโทรบอกที่บ้านว่า วินจะ
ไปอยู่ที่บ้านปุ้ยสักพัก คงกลับดึก ไม่ต้องเป็นห่วง
   วินขับรถประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึงที่ห้างบิ๊กซี สะพานใหม่ตามที่ฟิวนัดไว้  โดยที่ฟิว
และปุ้ยมารออยู่ก่อนแล้ว ปุ้ยย้ายมานั่งเป็นเพื่อนวิน  และรับรู้เรื่องทั้งหมดจากวินบนรถ
วินร้องไห้ตลอดที่เล่าให้ปุ้ยฟัง โดยที่ปุ้ยเองก็ร้องตาม   วินเองก็ไม่แน่ใจว่าวินกับปุ้ยสนิท
กันมากขึ้นถึงขั้นนี้เอาเมื่อไหร่ รู้แต่ว่าตั้งแต่ฟิวเข้ามาในชีวิต    วินกับปุ้ยก็ไปไหนด้วยกัน
บ่อยขึ้น....ตลอดทางปุ้ยยุให้วินเลิกกับแมทและให้ด่าแม่แมทกลับบ้าง     แต่วินก็ปฏิเสธ
ทุกกรณี.....ตามด้วยคำด่าจากปุ้ยว่า “อีห่-า.....ทนมือทนตี-นดีจริง ๆ นะแกนี่”

        หลังจากถึงคอนโดฯ วินก็เจอกับเพื่อนฟิวที่เป็นเจ้าของห้อง ซึ่งวินไม่รู้จัก นั่งอยู่แค่
คนเดียว   เป็นผู้ชายตี๋ ๆ แนว ๆ นั่งเล่นเกมอยู่ (ถ้าวินจำไม่ผิดน่าจะเป็นเกมบอล
ชื่อวินนิ่งเนี่ยแหละ......ถ้าผิดก็ขออภัย)
วินมารู้จากฟิวว่า ‘เอิ้น’ เพื่อนของฟิวคนนี้กำลังจีบ ๆ ปุ้ยอยู่ และดูปุ้ยเองก็ชอบ
เขาอยู่เหมือนกัน…เอิ้นเป็นชาวจังหวัดจันทบุรี มาเรียนที่กรุงเทพฯ ได้ 4 ปีแล้ว และพ่อ
ของเขาก็ทำกิจการเพชรพลอย รวยใช้ได้และซื้อคอนโดฯ อย่างหรูให้เอิ้นอยู่ 1 ห้องนอน
2 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก และห้องครัว
   วินกับปุ้ยเข้าไปในห้องนอนของเอิ้น เพื่อให้วินระบายความในใจ ปุ้ยกอดวิน
ไว้ตลอด วินร้องไห้จนปวดตาไปหมด.....เชื่อหรือไม่วินร้องจนเลือดกำเดาไหล ในที่สุด
วินก็เพลียมาก  จากการร้องไห้แบบเป็นบ้าเป็นหลัง ปุ้ยเลยโทรไปขอที่บ้านวินว่าคืนนี้
วินจะค้างอยู่กับปุ้ยที่บ้านของเธอ (โกหกอีกแล้ว) วินไม่ได้อาบน้ำด้วยซ้ำคืนนั้น
รู้สึกเพลีย  เครียด  เบลอ  แทบจะปะติดปะต่อเรื่องราวอะไรในขณะนั้นไม่ได้แล้ว
กึ่งหลับกึ่งตื่นอยู่ตลอดเวลา   วินได้ยินเสียงเกือบทุกอย่าง วินอยากลืมตา แต่รู้สึกว่า
ตามันหนักมาก คงเป็นเพราะวินร้องไห้มากเกินไป.....พอปุ้ยเห็นว่าวินหลับแล้ว
เธอก็เดินออกไปนั่งคุยกับเอิ้นต่อ.......
   จู่ ๆ วินก็ได้ยินเสียงเปิดประตูเข้ามาอีกครั้ง วินลืมตาดูได้เพียงนิดหน่อย
เพราะรู้สึกเพลียอย่างมากที่สุดในโลก ตื่นก็เช้า เหนื่อยก็เหนื่อยมาทั้งวัน ความเครียด
บวกความล้าของกล้ามเนื้อตาที่ใช้พลังงานไปเสียหมดกับการร้องไห้  และยังจะ
แอร์อันแสนจะเย็นสบายทำให้วินรู้สึกอยากนอนเป็นที่สุด...........และวินก็ได้ยิน
เสียงคนทำอะไรกุก ๆ กัก ๆ อยู่ที่หน้าโทรทัศน์ ตรงเครื่องเล่นซีดี  ไม่นานวินก็ได้ยิน
เสียงเพลง วินรับรู้เกือบทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เพลียเหลือเกิน เกินกว่าที่จะอยาก
ลืมตาขึ้นมา   วินจับทำนองและคำร้องขึ้นต้นได้ ก็รู้ว่าเป็นเพลง ‘เพียงชายคนนี้ (ไม่ใช่
ผู้วิเศษ)’ ……วินพอจะรู้แล้วหละว่าใครเดินเข้ามาในห้อง และเขาเองก็เดินเข้ามาใกล้ๆ
วิน (ฟังดูขนลุกเนอะ ....เหมือนเจอผีเลย)

“วิน....วินหลับยัง”    ฟิวพูดขึ้นเบา ๆ ทำเสียงทรงเสน่ห์สุด ๆ (อย่างน้อยเขาก็พยายาม)
“อือ...........”   วินส่งเสียงอยู่ในลำคอ
ฟิวเดินอ้อมปลายเตียงไปทางด้านซ้ายของวิน ซึ่งเป็นที่ว่างอยู่ ในใจวินก็รู้อยู่เต็มร้อยว่า
มันเป็นสถานการณ์ที่โรแมนติกเกินไปแล้ว  แต่วินง่วงจริง ๆ นะ วินสาบานได้
“วิน....วิน..........หันมานี่หน่อย”   ฟิวที่เพิ่งนั่งลงบนเตียงด้านซ้ายมือของวินเอ่ยเรียก
วินรู้สึกว่าคงทำเฉยไม่ได้แล้วหละ คงต้องทำอะไรสักอย่าง  วินใช้แบตสำรองชุดสุดท้าย
ที่มีอยู่ในร่างกายเพื่อลุกขึ้นนั่ง
“อะไรของฟิว”   วินถามขึ้นเบา ๆ อย่างงัวเงียที่สุด
“วิน.....ปุ้ยออกไปเล่าให้เราฟังหมดแล้ว - - ทำไมวินยังทนคนบ้านนี้อยู่อีก หรือทำไมวิน
ไม่บอกแมทไป”   ฟิวถาม
“วินไม่รู้ฟิว....วินไม่อยากเลิกกับแมท.....วินเคยบอกไปแล้วนี่”   วินอธิบายอย่างเบา ๆ
“วิน - -............คนที่ไร้ความรู้สึก ไม่รู้ร้อนรู้หนาว มีแต่จะทำให้ชีวิตเราไร้ค่าลงนะ”
ฟิวกล่าว  วินก็ไม่เข้าใจนักว่าฟิวหมายความว่าอย่างไร มันคือปรัชญาอะไรหรือเปล่า ?
“วินไม่ใช่ไม่รู้สึกนะฟิว......แต่วินรักแมท วินคิดแต่ว่า ถ้ามีเรื่องกับคุณแม่ และแมทเป็น
ลูกของท่าน ยังไงวินก็ทำอะไรไม่ได้ ....มีแต่จะทำให้เราเลิกกันนะ”  วินอธิบาย
“ฟิว....วินเพลียมากเลย  ขอนอนก่อนนะ”    วินเอ่ยขึ้นพร้อมล้มตัวลงนอน โดยที่คราวนี้
วินหันหน้าไปทางฟิว   
ฟิวปล่อยให้วินนอนอยู่สักพัก  ราว  1 นาทีกว่า ๆ ได้......จากนั้นเขาก็เอามือมาลูบหัววิน
วินรู้สึกเกือบจะตลอด แต่วินทั้งเพลียและทั้งยอมปล่อยให้มันเป็นไป แม้ว่าวินจะกึ่งหลับ
กึ่งตื่น แต่วินก็คิดอยู่ในใจลึก ๆ และถามตัวเองอยู่ในเวลานั้นว่า  ’นี่เราชอบฟิวหรือ?’
ฟิวลูบหัว เล่นผมวินไปมาได้อยู่ชั่วครู่ เขาก็ล้มตัวลงนอน.........และนั่นก็ทำให้วินต้อง
ลืมตาขึ้นอีกครั้ง........วินและฟิว หน้าของเราห่างกันอยู่ประมาณ 1 คืบครึ่งเห็นจะได้

“วิน.....วินยังน้ำตาไหลอยู่เลย....รู้ตัวรึเปล่า”    ฟิวพูดขึ้นเบา ๆ คลอไปกับเสียงเพลง
วินไม่รู้ตัวว่าตอนนั้นตัวเองก็ยังมีน้ำตาไหลออกมาอยู่ตลอดเวลา............นี่เราเสียใจ
ขนาดนี้เลยหรือนี่?
ฟิวใช้นิ้วของเขาเช็ดน้ำตาของวินเบา ๆ (ทำไมเรื่องโรแมนติก ๆ แบบนี้  ถึงได้มาบังเกิด
กับชีวิตของวินได้ถึง 2 ครั้ง  ภายในเวลาเพียง 6 เดือนนี้)
“วิน......ทำไมวินถึงได้ทนแมท และคนในครอบครัวมันได้ขนาดนี้”   ฟิวกล่าว และน้ำตา
ของเขาเริ่มคลอ........วินไม่ตอบอะไร
“ให้โอกาสเราบ้างไม่ได้หรอ”    หลังจากฟิวพูดจบ เขาก็เปลี่ยนจากใช้นิ้วเช็ดน้ำตา
เป็นใช้ทั้งฝ่ามือวางไว้บนแก้มของวิน
“เรารักวินจริง ๆ นะ.....”    ฟิวพูดเสียงเบามาก เหมือนให้เพียงเราสองได้ยิน แม้แต่ลม
ก็ยังต้องเงี่ยหูฟัง.........คำพูดต่าง ๆ ของฟิวไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรักของวินที่มีต่อแมท
ตลอดจนที่เขาบอกว่าเขา ‘รักวิน’  ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ฟิวใช้คำนี้ เพราะก่อนหน้านี้เขาจะใช้
คำว่า ‘ชอบวิน’ อยู่ตลอด   มันทำให้วินน้ำตาไหลออกมา วินทั้งดีใจที่มีคนรักเรา แคร์เรา
เป็นห่วงเราขนาดนี้ ทั้งยังหนักใจที่ทำไมวินต้องรักแมท ทำไมวินต้องทนกับเรื่องเหล่านี้
“วินเชื่อมั้ย............ว่าเรารักวิน............เรา -  รัก  - วิน”  ฟิวพูดย้ำ และเน้นคำใน
ประโยคสุดท้าย ด้วยเสียงกระซิบเบา ๆ อีกครั้ง......วินร้องไห้มากขึ้น จนเกือบจะกลับมา
สะอื้นอีกครั้ง
“อย่าร้องนะวิน..........อยู่กับเรา - - เราจะต้องไม่เห็นวินร้องไห้”   คำพูดแต่ละคำของฟิว
คนที่กำลังอ่อนไหวอย่างวินก็ย่อมกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่อย่างแน่นอน
“ถ้าอยู่กับแมทแล้วมีแต่ร้องไห้....งั้นก็ต้องมีแต่รอยยิ้มจากวินเมื่ออยู่กับเรา”   ฟิวยังคง
พูดด้วยเสียงกระซิบเบา ๆ ต่อไปไม่หยุด..วินน้ำตาก็ไหลออกมาเรื่อยๆ ทำเอาหมอนของ
เอิ้น เจ้าของห้องชุ่มไปหมด........ฟิวใช้นิ้วเช็ดน้ำตาวินอีกครั้ง มือของเขายังคงวางไว้บน
แก้มของวิน.........บอกตามตรงในฐานะคนหลายใจอย่างวิน วินรู้สึกดี และอบอุ่นที่สุด
ฟิวขยับหน้าของเขาเข้ามาใกล้วินมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยที่วินเองก็รู้ได้ด้วยสำนึกของตัวเอง
ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น แต่วินก็ไม่ได้ทำให้มันหยุดลง....ไม่แม้แต่จะคิดด้วยซ้ำ
จนในที่สุด ฟิวก็ขยับหน้าของเขาเข้ามาจนจมูกของเราชนกัน....ฟิวส่ายหน้าเบาๆเพื่อให้
จมูกของเราสองคนชนกันไปมา และเขาก็ส่งยิ้มให้อย่างซึ้ง ๆ............และแล้ว...............
...ดนตรีก็หยุดลง !

วินที่ได้สติ ก็ค่อย ๆ ขยับหน้าออก วินรู้แต่ว่านี่มันไม่ถูกต้อง วินไม่ได้รังเกียจฟิวแต่น้อย
ถ้าวินรังเกียจก็คงดึงหน้าออกมาอย่างแรงแล้ว....แต่นี่เพียงวินรู้สึกไม่ดี วินจึงแค่ขยับ
หน้าและตัวของวินออกมาเบา ๆ เพื่อไม่ให้เป็นการทำลายบรรยากาศที่รุนแรงเกินไป
“ฟิว....อย่าทำแบบนี้อีก .....วินขอร้องนะ - - วินไม่อยากทำตัวเหมือนที่คุณแม่มองวิน
และตัดสินวินไว้ก่อนหน้านี้”       วินลุกขึ้นนั่ง น้ำตาไหลนอง และพูดออกไปเสียงสั่นๆ
“วินต้องชนะใจคุณแม่ให้ได้.........และวินต้องบริสุทธิ์ใจ เมื่อเจอหน้าท่านและแมท”
วินกล่าวต่อไป
“เราขอโทษ........ขอโทษ ๆ วิน ขอโทษจริง ๆ”   ฟิวลุกขึ้นนั่ง รีบกล่าวขอโทษ
“ไม่เป็นไรฟิว.....เราขอบคุณนะที่รักเรา”  วินพูดจบก็เอื้อมมือของวินไปกุมมือของฟิวไว้
“วิน......”   ฟิวมองหน้าวิน น้ำตาไหล
“ขอโทษจริง ๆ”    ฟิวพูดจบก็เข้ามากอดวินไว้  และวินก็กอดตอบเขาด้วยเช่นกัน
..... นี่วินเจ้าชู้แล้วใช่ไหม   วินแบ่งหัวใจให้ฟิวไปแล้ว.......วินประทับใจความรักทางฝั่งนี้
มากกว่าแมทแล้วเสียด้วยซ้ำ.....ด้วยที่วินรู้สึกได้ว่า ความรักทางนี้คือความรักที่จะไม่มี
ปัญหา ไม่มีความเจ็บปวดอย่างหนักหนา.....ความรักที่ไร้ศัตรู หรือคู่ต่อสู้ ....นี่คือความ
รักที่วินไม่ต้องเหนื่อย ไม่ต้องเพียรพยายามทำความดี หรือทำอะไรเพื่อเอาใจใคร
วินให้คำตอบตัวเองไม่ได้ ว่าแท้จริง ‘วินชอบฟิวเมื่อไหร่?’ อาจจะรู้สึกดีขึ้นอย่างมาก
หลังจากที่ไปบ้านปุ้ยวันนั้น...........หรือเป็นเพราะทุกครั้งที่วินร้องไห้ หรือมีปัญหา
คนที่วินคุยด้วยทั้งทางอินเตอร์เนท หรือโทรศัพท์ก็คือ ฟิว..........................................
............วินควรจะเลือกความรักทางฝั่งนี้หรือ ?............ถามตัวเองตอนนี้มันก็สายไป !
วินเริ่มรักฟิวขึ้นมาแล้ว........เพื่อนคนแรกที่วินนึกถึงเมื่อวินเจ็บปวดก็คือ ฟิว................
คนที่วินเคยโกรธ เกลียด ไม่อยากรู้จัก.........เวลานี้วินกลับรู้สึกดีกับเขาอย่างมาก
ฟิวมีดีหลาย ๆ ด้าน.....มีหน้าที่การงานที่สามารถสร้างชื่อเสียง และเงินทองให้เขาได้
เขาไม่จำเป็นต้องมาง้องอนวินเลย........เขาทั้งหน้าตาดี และเหนือกว่าวินหลาย ๆ ด้าน
ใคร ๆ ก็ชอบ และปลื้มฟิว........แต่ในเวลานี้ฟิวเลือกที่จะให้ความรักแก่วิน.................
แล้ววินจะปฏิเสธเขาลงได้อย่างไร?...และแล้วความคิดที่จะเลิกกับแมทก็เข้ามาในที่สุด!

_______________________________________________________

ตัวอย่างตอนต่อไป....

ตอนต่อไปเป็นเนื้อเรืื่องคั่นแบบสั้น ๆ
ไม่มีอะไรมาก จะเอามาลงตอนเย็น ๆ นะ

ปล. ต่อไปนี้จะลงได้เฉพาะวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ (เหมือนละครเลย -*-)
แล้วนะ เพราะวินต้องไปอยูหอ ฝึกงานแระ เืบื่อ ๆ ๆ ๆ
ยังไงฝากทุกคนรักษากระทู้ไว้ให้อยู่ที่หน้า 1 ไว้ด้วยน้า
จุ๊ฟๆ
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 23-03-2008 15:10:11
 :เฮ้อ: หนักหนาเกินกว่าที่วินจะรับได้  :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: ICEME ที่ 23-03-2008 16:22:51
ต่อไปจะเป็นละครตอนเย็นเรื่องรักครั้งแรกแสนสาหัสเสียแล้วสิ หึๆ

วินนนนนนนนนนนนนน

จะเลิกกะแมทแล้ววววววววววววววววววววววววววววววววววววว

รึยัง?

ใจก็อยากอีกใจก็ไม่

อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกก

แมทประสาทแน่ ถ้าโดนบอกเลิก
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: angsumalin ที่ 23-03-2008 20:45:24
วินทนได้ดีจริงๆ ทำได้ยังไงง่ะ จะบอกว่าเพราะรักถึงทนได้มันก็เกินจะรับไหวจริงๆน่ะ มาเป็นกำลังใจให้ง่ะสู้ๆน่ะวิน
อ่านแล้วเหนื่อยแทนจังเลย คุณแม่ก็จิตป่วง คุณลูกก็โดนตามใจซะ ไร้เหตุผลเป็นรองใครไม่เป็นแย่จังเลย  :m29:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: naja ที่ 23-03-2008 21:06:12
เจอแบบนี้เครียดตายห่านเรยคับทั่น :serius2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: Tsukasa999 ที่ 24-03-2008 00:15:44
 :o12: เพิ่งมาอ่านอ่ะ ปวดใจจริงๆเลย

พวกคนรวยๆนี้เขาไม่มีใครมาคอยห้ามกัน ถึงว่ายิ่งสูงยิ่งหนาว พอไปเป็นบ้าบนหอคอยใครก็ช่วยอะไรไม่ได้ :m16:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: LingNERD* ที่ 24-03-2008 01:36:36
สงสารพี่วินจัง o7 :o12:

ปล.จะมาต่อ ศูกร์ เสาร์ อาทิตย์ แล้วหรอ ตั้งใจฝึกงานละพี่ชินจัง :oni1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: Yurameki ที่ 24-03-2008 02:41:56
พี่วินค้าฟฟฟฟ   :m15:   แล้วรีบกลับมาเมาท์กะเค้านะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: ICEME ที่ 24-03-2008 19:34:36
นั่ง

นอน

ตีลังกา

ตาย...

 :sad2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 25-03-2008 23:36:24
แวะมารอน้องวิน  :oni2: :oni2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: Yurameki ที่ 26-03-2008 07:03:49
 :a6:

ดันแต่เช้าาาาา เอิ๊กกกกก

^^
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: mobilejom ที่ 27-03-2008 21:29:27
 :oni1: มาช่วยดัน  :m23: เดี๋ยววินเคือง 555 มาต่อไวๆเลยนะ พรุ่งนี้อ่ะ  :m14:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: ICEME ที่ 27-03-2008 22:17:11
ไม่ดัน

แต่มาฉุด

 :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: anston ที่ 28-03-2008 03:51:50
อ่านแล้วเครียด จะบ้าตาย..
ทำไมมันถึงได้ร้ายกาจกันนักนะ..
เลิกๆไปเหอะ..ใช่ว่าอยู่ไปจะมีความสุข
ยังไงแม่ลูกก็ตัดกันไม่ขาดอยู่แล้ว..
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 28-03-2008 20:03:38
ตอนที่ 22  ชีวิต...เบ็ดเตล็ด

วินและฟิวล้มตัวลงนอนหันหน้าเข้าหากัน เราทั้งสองยิ้มให้กันก่อนที่วินจะหลับตา
ฟิวเอื้อมมือมาจับมือวินไว้
“เป็นอะไรมั้ย”  ฟิวเอ่ยถามขึ้น เพราะกลัวว่าวินจะไม่ให้จับมือ...วินส่ายหน้าแล้วยิ้มตอบ
   และวินก็หลับลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากไม่มีเสียงรบกวนอีกแล้ว ในคืนนั้นเอิ้น
เจ้าของห้องและปุ้ยคงจะนอนคุยกันข้างนอก ส่วนวินและฟิว เราก็นอนจับมือกันตลอด
ทั้งคืน  จนถึงเช้าเราก็ยังคงอยู่ในท่าและตำแหน่งเดิม...วินตื่นก่อนฟิว จึงบีบมือเขาเบาๆ
ฟิวตื่นขึ้นแล้วยิ้มให้        วินยิ้มตอบก่อนจะปล่อยมือเขาแล้วลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำเพื่อ
ล้างหน้าล้างตา......หลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำ ฟิวก็ออกไปอยู่ข้างนอกห้องแล้ว
วินจึงตามออกไป เห็นปุ้ยนอนอยู่บนโซฟา และเอิ้นผู้เป็นเจ้าของถิ่นนอนอยู่กับพื้น
วินเข้าไปปลุกปุ้ย เพื่อจะชวนเธอกลับพร้อมกัน........วินฝากฟิวขอบคุณเอิ้นที่กำลังนอน
อย่างไม่กระดิกก่อนจะกลับบ้านไปพร้อมปุ้ย  เวลานั้นเป็นเวลาประมาณเที่ยง ๆ วินและ
ปุ้ยจึงแวะร้านอาหารตามสั่งเพื่อหาอะไรทานด้วยกัน       เราคุยกันเรื่องแมทและฟิวใน
ระหว่างที่กำลังทานข้าวอยู่ด้วยกัน

“เมื่อคืนแกกับฟิว.....”    ปุ้ยเว้นวรรคแล้วยิ้ม
“ไม่ ๆ .....ฟิวแค่เข้ามาปลอบเรา แล้วก็นอนหลับไปพร้อมกัน”    วินยิ้มแล้วตอบกลับ
“หรอ.....เออ ๆ .....แต่แกรู้ใช่มั้ยว่าฟิวมันชอบแกมาก อยู่กับชั้นไม่มีครั้งไหนเลยที่ฟิว
มันจะไม่พูดถึงแก.......ทำไมแกถึงชอบมันไม่ได้ว้ะ  แฟนแกคนนี้มันดีตรงไหน” ปุ้ยกล่าว
“แมทไม่ได้ผิดอะไรนะปุ้ย  คนที่เราทนไม่ได้คือแม่เค้าต่างหาก”    วินตอบ
“ไม่ได้ผิดอะไร แล้วที่มันกระชากแกตกบันไดมานั่นหละ....แกไม่อายหรอว้ะที่จะต้องคบ
กับมันต่อไปอ่ะ........ชั้นบอกให้นะ  ยิ่งนานแกจะยิ่งถอนตัวไม่ขึ้น และไอแมทมันก็จะยิ่ง
หึงหวงรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ..... ชั้นว่าแกรีบถอนตัวออกมาซะตั้งแต่ที่ยังมีโอกาสดีกว่าหว่ะ”
ปุ้ยร่ายยาว....วินก็ได้แต่พยักหน้าหงึก ๆ ไม่รู้จะเถียงอะไรได้
“เฮ้ยวิน...เราขอโทษนะแกที่ยุ่งเรื่องของแกมากเกินไป....และชั้นก็ยังไม่ได้ขอโทษแกเลย
ที่พาฟิวมันเข้ามา ทำให้เรื่องมันยุ่งไปหมดขนาดนี้.....แต่ชั้นคิดว่าคุณแม่เป็นผู้ใหญ่แล้ว
เรื่องแค่นั้น แถมมันก็เกิดขึ้นแค่ครั้งเดียว แล้วยังตั้งนานมาแล้วด้วย  เค้าก็น่าจะลืม ๆ
มันไปได้แล้ว และก็ดีกับแกได้ซะที...วิน แกเชื่อจริง ๆ หรอว่าคุณแม่เค้าไม่ชอบแกเพราะ
เรื่องนี้เรื่องเดียว”    ปุ้ยถาม  คำถามของเธอทำให้วินฉุกคิดขึ้นมาเหมือนกัน แต่มันก็ไม่
มีเหตุอื่นแล้วนี่ ที่จะมากไปกว่านี้
“อืม เราก็ไม่รู้นะปุ้ย....หรืออาจจะเรื่องปุ่นที่คุณแม่เข้าใจผิดด้วยมั้ง แม้แต่แมทยังไม่
เข้าใจเราเลยปุ้ย  แล้วจะไปหวังอะไรให้คุณแม่มาเข้าใจ....แมทคงเล่าให้คุณแม่ฟัง
อยู่แล้วหละ”    วินให้เหตุผล
“เออ ! แล้วเรื่องนั้นหละ....ที่แม่แมทเค้ารู้ว่าแกอยู่ที่ไหนกับใครอ่ะ”    ปุ้ยนึกขึ้นได้
“เออใช่.....อันนี้เราก็ไม่รู้เหมือนกัน   ยังงง ๆ อยู่เลย  แต่จะไปถามใครหละแก”   วินตอบ
“อืม”   ปุ้ยพยักหน้าตอบ
   เราทานข้าวไป คุยกันไปอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง  จากนั้นเราก็เดินทางกลับบ้าน
กันในที่สุด  พอวินถึงบ้าน ก็เปิดโทรศัพท์มือถือ ที่เนื่องจากเมื่อคืน วินรอตั้งนานบนรถ
ให้แมทโทรมาถามไถ่ แมทก็ไม่โทรมาเลย จนวินถึงคอนโดฯ ของเพื่อนฟิว แมทก็ยัง
ไม่โทรมาทำให้วินน้อยใจอยู่เล็กน้อย วินก็เลยปิดโทรศัพท์ประชดเสียเลย....แต่หลังจาก
วินเปิดเครื่องได้ไม่นานก็มีข้อความเข้ามา......
‘ไอ้เด็กเปรต! แกมาพูดอะไรกับลูกชายฉัน แกเป็นผีห่-าซาตานที่ไหนมาเกิดถึงจะ
ทำให้แม่ลูกแตกคอกัน’    ชื่อเจ้าของข้อความคงไม่ต้องสืบกัน.....’MATT’s MOM’
……….และก็ต่อด้วยข้อความที่สอง
‘วินปิดมือถือทำไม มีอะไรทำไมไม่เคลียร์ นี่วินดูถูกแม่แมทและไม่ให้เกียรติแมทนะ’
......เป็นข้อความที่สองจาก....MATT
แค่วินอ่านข้อความของแมทจบวินก็รู้สึกได้ทันที คิดอยู่แล้วว่าลูกต้องเข้าข้างแม่และมอง
ว่าวินเป็นคนเลวที่ไปกล่าวหาแม่เขา....ก็วินไม่มีหลักฐานอะไรนี่
.............จากนั้นข้อความที่สามก็ตามมา
‘ไอ้ชาติชั่ว ปิดเครื่องทำไม ฉันจะโทรไปด่าซะหน่อย’  นี่คือข้อความของคนเป็นแม่นั่นเอง
   และวินก็นึกขึ้นได้ว่านี่คุณแม่ก็คงยังไม่รู้ตัวหรือไม่ก็คงจะไม่ยอมบอกแมทว่า
ท่านทำอะไรอยู่กับพี่กอล์ฟในออฟฟิศกันแน่ และวินเองก็ไม่ฉลาดพอที่จะบอกกับแมท
ไปตั้งแต่เมื่อคืนวาน.....วินทำอะไรไม่ถูกจริงๆ จับต้นชนปลายมั่วไปหมด และวินก็รู้สึก
ไม่แคร์อีกต่อไปแล้วว่าคนบ้านนี้จะรู้สึกอย่างไร......วินเบื่อแมท !
………..และวินก็เปิดข้อความที่สี่ ซึ่งเป็นข้อความสุดท้ายอ่าน
‘แมททำผิดอะไรอ่ะวิน ทำไมวินไม่คุยกับแมทหละครับ’  และแล้วข้อความสุดท้าย
ก็ทำให้วินรู้สึกผิด และกลับมารู้สึกดีกับแมทอีกครั้ง.....นี่เราจะต้องตกอยู่ในวงจร
เหล่านี้ด้วยความใจอ่อนของเราอีกนานแค่ไหนกัน ??
   เวลาผ่านไปมาจนถึงวันที่ต้องเข้าสอบเอ็นทรานซ์   ทั้ง 4 คน วิน ปุ้ย อั้ม และฟิว
เราเลือกสนามสอบที่เดียวกัน และทุกคนก็ติดรถของฟิวไปสอบพร้อมกัน  โดยที่ฟิวเป็น
คนขับ ส่วนวินนั่งหน้ากับฟิว และข้างหลังทั้งสองก็คือปุ้ยและอั้มตามระเบียบ
   และเวลาแห่งการสอบก็ผ่านไป  วินทำได้แต่วิชาภาษาอังกฤษ    นอกนั้นก็มีแต่
คุ้น ๆ ว่าเคยเรียน หรือเคยอ่านผ่านตามาบ้าง แต่ก็ยังไม่แน่ใจ หรือไม่ก็ทำไม่ได้ไปเลย
เนื่องจากวินเข้าเรียนน้อยครั้งมาก และพักหลัง ๆ ก็เข้าไปเรียนทั้ง ๆ ที่จิตใจไม่สู้ดีนัก
จากเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในตอนนั้น........และแล้วก็เข้าสู่เดือนพฤศจิกายน
เดือนแห่งผลคะแนน ทันทีที่วินเห็นผลคะแนน วินน้ำตาแทบไหล แต่ลึก ๆ ก็รู้อยู่ว่ามัน
‘สมควรแล้วหละ’  วินจำได้แม่น ภาษาไทยวินได้ 52  สังคมได้ 42.5 ฝรั่งเศสได้แค่ 38.75 และภาษาอังกฤษที่ทำได้แต่ทำไม่ทัน (เพราะวินไม่เคยลองทำข้อสอบแล้ว
จับเวลามาก่อนเลย) วินเลยได้มาแค่ 64 เท่านั้น...ขณะเดียวกันคุณแม่ของวินก็ยังคงลูบ
ศีรษะของวินที่นั่งดูผลคะแนนพร้อม ๆ ท่านตรงนั้น เพื่อปลอบใจวิน แล้วบอกว่า
“ไม่เป็นไรลูก...ไว้เอาใหม่เดือนมีนา’ ก็ได้”   คุณแม่ปลอบ.......(วินยังสอบระบบเก่าอยู่)

....ตั้งแต่ตอนนี้วินจะเล่าอย่างย่อ ๆ และข้าม ๆ ไปบ้างนะ......แต่วินก็ยังจะเล่าทุกรายละเอียดที่เกี่ยวกับเหตุการณ์รุนแรงหลัก ๆ ที่ทำให้วินเสียใจให้ครบถ้วนอยู่.............

   เดือนพฤศจิกายน เป็นช่วงที่เปิดเทอมแล้ว ตอนนั้นจู่ ๆ วินก็มีเรื่องภายใน
โรงเรียน.........วินไม่รู้ว่าใครเอาวินไปโพสท์ในเว็บบอร์ดของโรงเรียน แต่ตรงนี้วินขออภัย
ที่ไม่สามารถบอกได้ว่าหัวข้อกระทู้เขียนว่าอะไร เพราะตอนนี้มันยังค้นได้จาก google
อยู่เลย....ตั้ง 5 ปีแล้วมา ไม่รู้ทำไมยังอยู่อีก        แถมถ้าเอาชื่อ และนามสกุลจริง ๆ ของ
วินไปค้นดูใน google ก็จะพบหัวข้อกระทู้นี้อยู่เลย เพราะคนที่เอาวินไปลง เขาเขียน
ทั้งชื่อ และนามสกุลของวินอย่างเต็มยศ
   เนื้อหาในกระทู้นั้น กล่าวหาวินว่า........... ‘วินไปนั่งจูบกับนักเรียนที่มีตำแหน่งใน
โรงเรียนอยู่ในโรงหนัง’   แต่เรื่องนี้ไม่เป็นความจริงเลยแม้แต่น้อย เด็กนักเรียนคนนั้น
วินรู้จักกับเขาก็จริง เพราะเราทำกิจกรรมของโรงเรียนร่วมกันอยู่ และเขาก็เป็นคน
ที่มีตำแหน่งในโรงเรียน อย่างพวกสารวัตนักเรียนอะไรทำนองนี้ แต่สูงกว่า วินพูดถึงมาก
ไม่ได้เพราะเสี่ยงเกินไป (เพราะตอนนี้เหมือนแมทจะรู้ว่าวินเขียนเรื่องนี้ เดี๋ยวชีวิตวิน
จะไม่ปลอดภัย....แต่ทำไงได้ เขียนมาจะจบแล้ว วินไม่กลัวหรอก อิอิ)
โดยเรื่องนี้ค่อนข้างเป็นเรื่องที่ซีเรียสมาก เพราะเดินไปไหนก็มีแต่คนชี้ว่า “นี่ไงวิน”  และ
ที่สำคัญ คุณพ่อและคุณแม่ของวินก็ทราบเรื่องนี้ด้วย   ท่านทั้งสองโกรธมาก แต่ก็ทำ
อะไรไม่ได้มากนัก  แต่ในวันที่มีคนมากล่าวหาว่าวินไปจูบกับใครนั่น วินอยู่ที่บ้านกับ
ครอบครัวทั้งวัน ท่านจึงทราบว่ามันไม่เป็นความจริงอย่างแน่นอน.........เวลาผ่านมาได้
สักระยะหนึ่ง เพื่อนร่วมห้องเรียนของวินก็รวมตัวกันและบอกกับวินว่าคนที่เอาไปโพสท์
และน่าจะมีความเป็นไปได้สูงก็คือ ‘อั้ม’ เพื่อนสนิทของวินนั่นเอง  ตอนนั้นมีเรื่องเกิดขึ้น
มากมายระหว่างวินและอั้ม   วินที่หันมาสนิทและไปไหนมาไหนกับปุ้ยมากขึ้น
อั้มจึงรู้สึกเหมือนถูกทิ้ง ทั้งที่จริง ๆ วินก็ชวนเธอไปด้วยตลอด แต่ด้วยอั้มไม่ชอบฟิว และ
ไม่ได้รับรู้เรื่องราวความรักของวินอย่างละเอียดเหมือนปุ้ย ทำให้วินพูดคุยกับเธอในเรื่อง
เหล่านี้ไม่ได้มาก  ที่วินไม่เล่าให้อั้มฟัง เพราะอั้มเป็นคนเก็บความลับไม่อยู่  ไม่ใช่ว่า
เพราะวินอยากปิดบังอะไรเธอ   บวกกับตอนนั้นเธอเพิ่งถูกพี่โซดาทิ้ง หลังจากที่คบกัน
ได้ 8 เดือน ...เธอพบว่าพี่โซดากำลังคบกับเกย์ที่อายุแก่กว่า 10 ปีอยู่ เธอจึงยิ่งห่าง
จากวิน เพราะเธอพาลเกลียดเกย์ไปเสียหมด........และเหตุการณ์ (อย่างย่อๆ) ที่กล่าว
มาทั้งหมดนี้ ก็เป็นเหตุให้วินห่างออกมาจากอั้ม และมาสนิทกับปุ้ยแทนในที่สุด  แต่เรื่อง
กระทู้นี้ก็ทำให้แมทมาทำวินประสาทกินอยู่เหมือนกันแต่ก็ไม่มาก โดยในเดือนนี้วินจะ
อารมณ์ไม่ดีมาก ๆ หลังจากรู้ผลคะแนนสอบ แมทจึงไม่หาเรื่องวินมาก เพราะรู้ว่ายังไง
วินก็จะไม่ง้อ........
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 28-03-2008 20:15:33
เคราะซ้ำกรรมซัดจริง น้องวินเอ้ย  o7 o7 o7 o7
แต่ข้อความที่คุณแม่ส่งมา  ใช้เป็นหลักฐานในการบอกแมทได้ปะ ว่าคุณแม่ร้ายขนาดไหน  o12
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 28-03-2008 20:19:27
ตัวอย่างตอนต่อไป....
ตอนที่ 23 วันเกิดของเธอ...วันตายของฉัน


“คุณแม่จะให้วินช่วยอะไร หรือว่าขาดอะไรมั้ยคุณแม่ วินจะได้ไปซื้อมาให้”  วินพูดต่อ
“นี่...จะพูดหาอะไรฮะ - - อยากทำอะไรก็ไปทำสิ มาชวนคุย จะได้ช่วยมั้ย”
คุณแม่พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงปกติ
“ฮะ”   วินพยักหน้าตอบรับคำของท่าน
“แล้วก็อย่าก่อเรื่องอะไรหละวันนี้”   คุณแม่พูดขึ้นขณะที่วินเดินผ่านหน้าท่าน....วินพยัก
หน้ารับอีกครั้ง
“ดี!”   คุณแม่กระตุกน้ำเสียงเล็กน้อย และวินก็เดินออกมาจากบริเวณนั้น
...................................

“พี่แสงเดือน ...แล้วนี่แมทไปไหน”   วินถาม พี่แสงเดือนหน้าเจื่อน ๆ ไปเล็กน้อย
“ก็ - - - ไปรับคุณกอล์ฟค่ะ”   พี่แสงเดือนตอบเบาๆ…..วินหน้าหงิกขึ้นมาทันที
“คุณผู้หญิงแกให้ไปรับ....”   พี่แสงเดือนแสดงสีหน้าปลอบประโลมอาการของวิน
“ทำไมไม่ไปรับเอง....”   วินกล่าวขึ้นมาลอย ๆ .....พี่แสงเดือนยิ้มหัวเราะหึ ๆ
...................................

“แมทรู้มั้ยว่าคุณแม่ กับพี่กอล์ฟทำอะไรกับวินไว้บ้าง”   วินเกริ่น….แมทมีสีหน้าดูไม่
พอใจนักที่วินเอ่ยถึงคุณแม่ของเขาในลักษณะประโยคเช่นนี้
“วิน....”   แมทเดินเข้ามาใกล้ ๆ โอบวินไว้ แล้วประคองให้ไปนั่งที่เตียง...วินฝืน และยืน
อยู่ในตำแหน่งเดิม
“แมทฟังนะ....และคิดตามด้วย ว่าถ้าคุณแม่ของวิน หรือใครมาทำกับแมทแบบนี้บ้าง
........แมทจะทำยังไง”   วินเปิดฉาก
...................................

“นี่แกไปพูดอะไรกับลูกชั้นอีกฮะ !!”   คุณแม่ที่เดินเข้ามาพร้อมพี่กอล์ฟแผดเสียงขึ้น
วินเงยหน้ามองเห็นทั้งสองก็ลุกออกจากเตียง และตรงไปยังประตูเพื่อจะออกไปให้พ้น
จากตรงนั้น....พี่กอล์ฟดึงมือวินเข้ามา แต่วินใช้แรงทั้งหมดสะบัดจนหลุด
“หลีกไปอิกระเทยควาย !!!”   วินตวาดด่าพี่กอล์ฟ
คุณแม่โผเข้ามาจิกแขนบริเวณหัวไหล่วินไว้แน่น  ท่านใช้เล็บทั้ง 8 จากสองมือจิกเนื้อวิน
ผ่านเสื้อจนวินรู้สึกเจ็บมาก
“คุณแม่วินเจ็บนะ”    วินเจ็บมากจนร้องไห้ พูดขึ้นเสียงแทบจะไม่ออกมาด้วยความเจ็บ
“ดี....อีเด็กห.เอี้ย สัน-ดารหมา....ปลอกลอกลูกกุไม่พอ...ยังจะมาสร้างความแตกแยก
ในบ้านของกุอีก”   คุณแม่จิกวินแน่นขึ้น ๆ กัดฟันสบถด่าวิน
..................................


หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 28-03-2008 20:23:16
เคราะซ้ำกรรมซัดจริง น้องวินเอ้ย  o7 o7 o7 o7
แต่ข้อความที่คุณแม่ส่งมา  ใช้เป็นหลักฐานในการบอกแมทได้ปะ ว่าคุณแม่ร้ายขนาดไหน  o12

บอกในตอนต่อไปหละพี่ THIP
แล้วเป็นไงก็คอยดู  :o12:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: agape ที่ 28-03-2008 20:40:11
สะดุ้งตั้งแต่ข้อความแรกเข้ามาแล้วละครับ

อะไรมันจะได้ขนาดนี้อะ

ยิ่งตอนหน้า

อ่านตัวอย่างแล้วรู้สึกว่า

คุณแม่แกยิ่งมากขึ้นทุกๆๆวัน

เป็นผมเถียงกันไม่รู้กี่ยกแล้วแน่เลย

เป็นกำลังใจให้นะครับ

ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: angsumalin ที่ 28-03-2008 22:37:10
นี่หรือ??สันดารผู้ดี :angry2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: LingNERD* ที่ 28-03-2008 22:51:54
สงสารพี่วินจังเยย  :o12:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: anston ที่ 28-03-2008 23:13:15
สู้รบกับผู้ดีนี่มันช่างเหนื่อยกว่าชาวบ้านธรรมดาทะเลาะกันอีกนะเนี่ย..
แต่ดูจากคำพูดของแม่แมทแล้ว..แม่ค้าปากตลาดยังเกรงๆเลยมั้ง..
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: ICEME ที่ 29-03-2008 17:58:29
วู้ ได้อ่านแล้ว อ่ะเย้

ตอนหน้าน่าอ่านมากเลยอ่ะ

อยากีรู้จังว่าจะทำยังไงต่อ?

แล้ววินพูดเหมือนกะว่ายังติดต่อกะแมทอยู่เลบอ่ะ อย่าบอกว่าติดต่อกันอยู่

 :serius2:

หรือว่าไม่ใช่ :m13:

ว่าแต่คนที่ดูมีฐานะแล้วมาพูดหยาบคายนี่มันดูสถุลกว่าพวกชาวบ้านอีกเนอะ หรือพี่คิดว่าไง?
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 30-03-2008 01:11:40
ตอนที่ 23 วันเกิดของเธอ...วันตายของฉัน

หลังจากเหตุการณ์ที่โรงงาน ก็ผ่านมาเป็นเวลา 1 เดือน ในเดือนนี้เป็นเดือนธันวาคม
ซึ่งเป็นเดือนเกิดของแมท  ........ตัววินที่หลีกเลี่ยงไม่ไปบ้านของแมทเลยไม่ว่าจะอย่างไร
เพราะไม่อยากจะเจอกับคุณแม่อีก ก็ท่านเล่นส่งข้อความมาด่าขนาดนั้นแล้ว ใครจะไป
มองหน้าท่านติดอีก.....แต่ถึงอย่างไร ในเดือนนี้ก็มีวันสำคัญสำหรับแมทและวิน
ซึ่งวันเกิดของแมทปีนี้ แมทก็จัดขึ้นที่บ้านของเขาเช่นเดียวกับทุก ๆ ปี    วินจะปฏิเสธ
ไม่ไปก็ไม่ได้อยู่แล้ว .....ในเวลานั้นวินก็กลับมารักแมทมากขึ้นเหมือนเดิม โดยทิ้งเรื่อง
ระหว่างวินและฟิวไว้ จนเกือบจะลืม ๆ มันไปเสียแล้วด้วยซ้ำ

“วิน...วันเสาร์นี้แมทจะจัดงานวันเกิดที่บ้าน วินต้องไปนะ แล้วก็ค้างที่บ้านแมทด้วยนะ”
 แมทชวนขณะที่เรากำลังนั่งรถเพื่อไปดูหนังด้วยกันที่สยาม
“หรอได้ ๆ ....แล้วแมทอยากได้อะไรหละ”    วินถาม
“วินอย่าซื้อนะ แมทขอสั่ง.....แมทไม่อยากได้อะไรจากวินอีกแล้ว ....แค่วินยังรักแมท
และในคืนวันเสาร์นี้ก็มาค้างกับแมท ถือว่าเป็นของขวัญวันเกิดแล้วกัน”   แมทยิ้ม
“แต่วินอยากอะไรให้แมทอ่ะ”     วินโต้ รู้สึกอยากให้อะไรเขาบ้างจริงๆ
“รักแมทสิ...พอแล้ว - - อย่าซื้อนะวิน ถ้าซื้อแมทโกรธ โกรธจริง ๆ นะ”    แมทขู่
วินงงเล็กน้อยว่ากะอีเรื่องแค่นี้จะเครียดได้มากขนาดนี้เชียวหรือ แต่วินก็เชื่อฟัง
วินไม่ได้ซื้ออะไรให้เขาเลยในวันเกิด และได้ขอที่บ้านล่วงหน้าไว้แล้วว่าจะไปงานวันเกิด
ของเพื่อน และคงอยู่จนถึงดึก เลยจะค้างที่นั่นเลย โดยคุณแม่ก็อนุญาตแต่โดยดีเพราะ
ไม่อยากให้วินขับรถกลับบ้านเวลามืดแล้วเช่นกัน
   และแล้ววันที่รอคอยก็มาถึง  วินไปถึงที่บ้านแมทตอน 4 โมงเย็น ซึ่งงานเลี้ยง
จะเริ่มขึ้นตอน 6 โมงครึ่ง  วินไปถึงก็เข้าไปสวัสดีคุณแม่ทันที…ตอนนั้นแมทไปไหนก็ไม่รู้
“คุณแม่สวัสดีครับ”   วินกล่าวขึ้น ฝืนยิ้มอย่างเต็มที่
“เอาเก้าอี้ไปไว้ตรงโน้นนะ โต๊ะละ 6 ตัวพอ จะได้ไม่แออัด”  คุณแม่หันมามองวิน และก็
หันกลับไปพูดกับคนงานที่มาจัดโต๊ะ
“โต๊ะจีนเลยหรอคุณแม่”   วินชวนคุย……..คุณแม่พยักหน้าตอบเล็กน้อย แต่ไม่ได้มอง
หน้าวิน.....คุณแม่เป็นคนที่มีกลวิธีที่ดีมากที่จะทำทุกอย่างให้มันออกมาดูเหมือนว่า
เรื่องทั้งหมดเป็นความผิดของวิน วินเชื่อสนิทใจว่าการกระทำของคุณแม่ตอนนั้น
ล้วนเป็นผลมาจากการกระทำของวิน.......วินผิดเอง
“คุณแม่จะให้วินช่วยอะไร หรือว่าขาดอะไรมั้ยคุณแม่ วินจะได้ไปซื้อมาให้”  วินพูดต่อ
“นี่...จะพูดหาอะไรฮะ - - อยากทำอะไรก็ไปทำสิ มาชวนคุย จะได้ช่วยมั้ย”
คุณแม่พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงปกติ.....วินก็คิดในใจว่า  ‘เออ จริงของท่าน’ ท่านกำลังยุ่ง
อยู่กับการจัดงาน แต่วินดันมาชวนคุย......
“ฮะ”   วินพยักหน้าตอบรับคำของท่าน
“แล้วก็อย่าก่อเรื่องอะไรหละวันนี้”   คุณแม่พูดขึ้นขณะที่วินเดินผ่านหน้าท่าน....วินพยัก
หน้ารับอีกครั้ง
“ดี!”   คุณแม่กระตุกน้ำเสียงเล็กน้อย และวินก็เดินออกมาจากบริเวณนั้น
.........วินรู้สึกว่าตัวเองนี่หน้าหนาใช้ได้เลย ไปอาละวาดที่โรงงาน พูดให้แมทเข้าใจ
คุณแม่ผิด (จริง ๆ ก็เข้าใจถูกแหละ) ทำกับบ้านเขาขนาดนี้ยังจะมีหน้ามาตีหน้าซื่อตาใส
กับเขาอีก..........

   วินเดินเข้าไปในครัวก็พบกับพี่แสงเดือนกำลังนั่งอยู่กับพื้น ทุบน้ำแข็งในถุงแล้ว
เอาลงกระติกน้ำแข็งอยู่
“พี่แสงเดือน.....วินช่วยมั้ย”    วินเอ่ยทัก
“คุณวิ๊นนนน.......”   พี่แสงเดือนกรี๊ด จนเรียกชื่อวินเพี้ยนวรรณยุกต์
“คนเยอะเน๊าะ....เค้าจัดงานใหญ่โตขนาดนี้ทุกปีเลยหรอ”   วินนั่งลงตรงข้ามพี่แสงเดือน
แล้วก็เริ่มชวนคุย
“ค่ะ....ปีที่แล้วเป็นแบบยืนกิน ปีนี้คุณแมทบอกอยากได้โต๊ะจีน”   พี่แสงเดือนตอบ
...........วินขอเดาว่าปีที่แล้วพี่แสงเดือนคงหมายถึงบุพเฟ่ต์
“หรอ...คุณแม่นี่ใจดีนะ....อย่างว่าท่านมีลูกของท่านอยู่คนเดียว”   วินกล่าวขณะกำลัง
ช่วยพี่แสงเดือนเอาน้ำแข็งใส่กระติก
“คุณผู้หญิงท่านก็รักลูกมากแหละค่ะ.....ตั้งแต่คุณผู้ชายทิ้งไป...........”   พี่แสงเดือนเล่า
.............และนี่เองก็คือช่วงที่พี่แสงเดือนเล่าทุกอย่างให้วินฟัง    จากการคะยั้นคะยอ
ของวินเอง ถ้าอ่านแล้วจำไม่ได้ว่าพี่แสงเดือนพูดเรื่องอะไร เดี๋ยววินจะช่วยเตือนความ
จำก็แล้วกัน....พี่แสงเดือนเล่าเรื่องที่คุณแม่ป่วยทางจิต ตั้งแต่คุณพ่อของแมทเก็บ
ข้าวของออกจากบ้าน แล้วทิ้งท่านไป ............(อ่านรายละเอียดอีกรอบได้ในตอนที่ 9)
และพี่แสงเดือนก็ลงท้ายด้วยประโยคที่วินต้องแปลกใจอยู่เล็กน้อยกับความคิดของคุณ
แม่ที่ท่านพูดกับพี่แสงเดือนว่า………

“คอยดูนะ ..... แมทจะต้องไม่มีทางลำบาก ต้องไม่มีใครมาทำให้ลูกฉันเสียใจ และต้อง
เหนือกว่าทุก ๆ คน”   พี่แสงเดือนเล่าถึงประโยคที่คุณแม่กล่าวกับเธอ
“แหมคุณวินขา......ถึงพี่แสงเดือนจะเรียนมาน้อย แต่ก็พอจะรู้ว่านี่มันคือคำพูดที่
ไม่ปกตินัก”     พี่แสงเดือนกล่าวต่อไป
“จริงหรอพี่แสงเดือน”    วินถามกลับไปเสียงเบา ๆ
“จริงค่ะ....ทุกวันนี้คุณผู้หญิงยังต้องทานยาตามแพทย์สั่งอยู่เลย”   พี่แสงเดือนตอบ
วินรู้สึกแปลกใจน้อยลงมาก เมื่อรู้ว่าคุณแม่มีอาการทางจิต เพราะวินก็เคยรู้สึกแปลกใจ
อยู่หลายครั้งกับการกระทำของท่าน ว่าท่านทำลงไปได้อย่างไร ท่านคิดอะไรของท่านอยู่
แต่คำบอกเล่าของพี่แสงเดือน ทำให้วินนึกย้อนถึงการกระทำของท่านที่ทำกับวินไว้ 
แล้ววินก็รู้สึกเข้าใจท่าน และหายโกรธในสิ่งที่แล้ว ๆ มา       วินบอกตัวเองตอนนั้นว่า
‘ท่านคงคิดอะไรที่ต่างไปจากเรา...ท่านถึงได้ทำเรื่องเหล่านี้ได้’….คุณแม่ของวินมักสอน
และเตือนสติกับวินเสมอว่า “สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม” ประโยคนี้สำหรับวิน
มันสามารถอธิบายทุก ๆ อย่างบนโลกนี้ได้ไม่น้อยเลย  วินจึง “มักจะ” มองโลกในแง่ดี
อยู่เสมอ ๆ วินคิดว่าคุณแม่ของแมทมีกรรมของท่านที่บันดาลให้ท่านเป็นแบบนี้
และวินก็มีกรรมร่วมกับท่านมาจึงดลใจให้ท่านต้องกระทำกับวินเช่นนี้ วินเป็นคนเชื่อ
เรื่องเวรกรรมอย่างถอนตัวไม่ขึ้น .......วินจึงให้อภัยคุณแม่ที่ทำกับวินมาทั้งหมด
......แต่แล้วเรื่องทุกเรื่องย่อมมีการยกเว้น....เช่นเดียวกับเรื่องที่จะเกิดขึ้นในค่ำคืนนี้.......
วินนั่งช่วยพี่แสงเดือน โดยที่พี่แสงเดือนเป็นคนทุบน้ำแข็งไม่ให้เกาะกัน ส่วนวินก็ช่วย
แกะถุงน้ำแข็งและเทน้ำแข็งใส่กระติก ซึ่งนั่งช่วยอยู่ได้ไม่นานคุณแม่ก็เข้ามา
“แสงเดือน...แค่นี้ทำคนเดียวไม่ได้หรอ”   คุณแม่ขึ้นเสียงเล็กน้อย
“วินเข้ามาช่วยพี่เค้าเองคุณแม่ วินเห็นว่ามันเยอะ ก็เลยมาช่วย จะได้เสร็จเร็ว ๆ”
วินออกตัวรับแทนพี่แสงเดือน ที่เธอเองก็คงไม่รู้จะตอบไปอย่างไรดี
“แล้วทำไมเราไม่ไปช่วยงานที่มันยังไม่มีคนอื่นทำหละ”   คุณแม่หันมาถามวิน
วินหันมามองหน้าพี่แสงเดือนด้วยความเซ็งสุดขีด ก่อนจะตอบไปด้วยอารมณ์
ฉุนเฉียวเล็กน้อย
“เมื่อกี๊วินถามคุณแม่ว่าอยากให้วินช่วยอะไร คุณแม่ก็บอกวินว่า อยากทำอะไรก็ไปทำ...
…วินก็ไม่รู้จะทำอะไร เลยมาช่วยพี่แสงเดือนอ่ะครับ”   วินตอบด้วยน้ำเสียงสุภาพ
“โฮ้ย !!”  คุณแม่ถอนหายใจแรง ๆ ใส่วิน (หรือพี่แสงเดือนก็ไม่รู้) แล้วท่านก็เดินสะบัด
หน้าออกไปจากตรงนั้น.......วินมองหน้าพี่แสงเดือน พี่แสงเดือนก็มองหน้าวิน
เราสองคนยิ้มเป็นเชิงว่ารู้ ๆ กัน
“แค่นี้ยังน้อยนะคุณวิน”   พี่แสงเดือนกระซิบ
“แค่นี้วินก็ทนไม่ไหวแล้วพี่แสงเดือน...อย่าให้มันมากกว่านี้เลย”   คำพูดวินทำเอาพี่
แสงเดือนหัวเราะจนไฝที่หน้าผากแทบหลุด รีบเอามือมาป้องปากขำเป็นการใหญ่
“พี่แสงเดือนทนได้ไงถามจริง...วินอยู่ด้วยแค่ 5 นาทีก็อยากจะไปให้ไกล ๆ แล้ว”
วินเปิดฉากนินทาแม่แฟนตัวเอง ....นิสัยส่วนตัวน่ะ อิอิ
“ใครว่าพี่แสงเดือนทำเพื่อคุณผู้หญิงเล่าคุณวิ๊นน....คุณผู้ชาย พ่อของคุณแมทโน่น
ที่เป็นคนฝากพี่แสงเดือนไว้ ว่าให้อยู่ดูแลคุณแมทตั้งแต่แบเบาะจนโต....คุณผู้ชาย
หรอกนะที่เป็นคนให้เงินพี่แสงเดือนจนคุณแมทเข้าเรียนประถม คุณผู้หญิงก็จ้าง
พี่แสงเดือนต่อ แต่ลดเงินลงไปพันนึง”   พี่แสงเดือนเล่า......อย่างนี้นี่เองพี่แสงเดือน
ถึงไม่ได้จงรักภักดีกับคุณแม่นัก นอกจากจะแผลงฤทธิ์ใส่พี่แสงเดือนสารพัดแล้วยัง
จะมาลดเงินเดือนเธออีก
“พี่แสงเดือนคงรักแมทมากใช่มั้ย”   วินถาม
“ผูกพันค่ะคุณวิน....พอคุณแมทโตมา นิสัยก็คล้าย ๆ คุณผู้หญิง และก็ฟังคุณผู้หญิง
มากจนเกินไป....พี่แสงเดือนได้ยินบ่อย ๆ ว่าคุณผู้หญิงสอนอะไรผิด ๆ สอนให้คุณแมท
เอาชนะเพื่อน  โดยเฉพาะสอนให้คุณแมทเกลียดคุณผู้ชายเนี่ยสิ”  พี่แสงเดือนหน้าหงิก
“ถึงว่าเวลาแมทคุยโทรศัพท์กับคุณพ่อ แมทพูดไม่ดีเลย วินยังนึกว่าพูดกับเพื่อนเลย”
วินออกความเห็น
“แล้วคุณพ่อท่านรู้รึเปล่าว่าแมทเป็น.....”   วินถามแบบเว้นวรรคไว้ หวังว่าพี่แสงเดือนคง
รู้ว่าวินหมายถึงอะไร
“อ๋อ...รู้....แต่คุณผู้ชายเกลียดคุณกอล์ฟมาก บอกว่าอ้าปากก็เห็นลิ้นไก่”   วินฟังพี่
แสงเดือนเล่าถึงประโยคนี้แล้ว วินรู้สึกอยากทำความรู้จักกับคุณพ่อจัง
“คุณผู้ชายก็รู้จักคุณวินนะคะ...พี่แสงเดือนเล่าให้ฟังเอง”    พี่แสงเดือนกล่าวต่อ
“ฮึ้ยยย...พี่แสงเดือน พูดถึงวินดี ๆ นะ”    วินกล่าวทีเล่นทีจริง
“ไม่ต้องห่วงค่ะ.....แต่คุณผู้ชายแกก็ไม่ค่อยพูดถึงคุณแมทในเรื่องนี้เท่าไหร่หรอก”
“อืม...เข้าใจแหละ พ่อที่ไหนก็อยากให้ลูกชายตัวเองสืบสกุล”   วินกล่าว
“เดี๋ยววันนี้คุณผู้ชายก็คงมาค่ะ....เดี๋ยวคุณวินก็ได้เจอ”   พี่แสงเดือนกล่าวแล้วยิ้มให้วิน
“จริงหรอ.....”    วินรู้สึกหวั่น ๆ อยู่เล็กน้อย
“พี่แสงเดือน ...แล้วนี่แมทไปไหน”   วินถาม พี่แสงเดือนหน้าเจื่อน ๆ ไปเล็กน้อย
“ก็ - - - ไปรับคุณกอล์ฟค่ะ”   พี่แสงเดือนตอบเบาๆ…..วินหน้าหงิกขึ้นมาทันที
“คุณผู้หญิงแกให้ไปรับ....”   พี่แสงเดือนแสดงสีหน้าปลอบประโลมอาการของวิน
“ทำไมไม่ไปรับเอง....”   วินกล่าวขึ้นมาลอย ๆ .....พี่แสงเดือนยิ้มหัวเราะหึ ๆ
ตายยากจริง ๆ คนกำลังพูดถึงได้ไม่เกิน 2 นาที แมทก็เข้ามาโดยที่วินก็ไม่รู้ตัว
“โฮ่ !!!!”  แมทแผดเสียง แล้วผลักหลังวิน...ดีที่วินไม่แหกปากกรี๊ดออกมา แต่ก็สะดุ้งโหยง
“โอย....คุณแมท คุณวินขวัญกระเจิงหมด”   พี่แสงเดือนพูด
“มานานยังครับ”   แมทเอ่ยถาม
“ครึ่งชั่วโมงได้แล้วมั้ง”   วินตอบ มีอารมณ์ขุ่นเล็กน้อยที่แมทไปรับพี่กอล์ฟ
“เป็นไรอีก...”    แมทลงนั่งยอง ๆ ข้างวิน ทำหน้าออดอ้อน
“เปล่า...เป็นไงไปรับพี่กอล์ฟถึงไหน”    วินถาม
“หึงรึไง....ไม่เอาหน่าวิน อายพี่แสงเดือนบ้าง”    แมทเขย่าหัวไหล่ ยิ้มเยาะ
“เปล่า ๆ”    วินตอบ อาการหึงหวงหายไปด้วยท่าทีออดอ้อนของแมท
“แล้ววันนี้วินมาค้างที่นี่ได้รึเปล่า”    แมทถาม
“ได้สิ....ก็แมทขอเป็นของขวัญวันเกิดไม่ใช่หรอ”   วินตอบแล้วยิ้มให้
“หืมมม”   แมทเข้ามารัดตัววินแน่นแล้วหอมแก้ม
“ว้ายยย !!” พี่แสงเดือนทำท่าปิดตา
“แมท !!”   วินบิดตัวสลัดเขาออกด้วยความเขินสุด ๆ
“พี่แสงเดือนอย่าบอกใครนะ...ครั้งแรก ๆ”   แมทยิ้มให้พี่แสงเดือนแล้วกล่าว
“ไปวิน....ไปเดินดูงานกัน”   แมทลุกขึ้นแล้วดึงแขนวินลุกตาม
“ไปเถอะค่ะคุณวิน....ขอบคุณมากนะคะ พี่แสงเดือนใกล้เสร็จแล้วหละ”  พี่แสงเดือนยิ้ม
   วินเดินออกจากครัวก็เห็นพี่กอล์ฟกำลังคุยกับคุณแม่อย่างเมามัน มือไม้สะบัด
ไปมาประกอบการพูดของเขา ทันทีที่ทั้งสองเห็นวินก็หยุดพูดทันที และแสดงสีหน้าที่
ไม่ดีนักกลับมา ก่อนที่จะเดินออกจากบริเวณบ้านไป
“ไม่เป็นไรนะวิน...อย่าคิดมาก”   แมทกล่าวกับวิน  วินรู้สึกว่าความอดทนของวินน้อยลง
ไปอย่างมาก..และในที่สุด........
“แมท...วินจะไม่ทนกับเรื่องพวกนี้อีกแล้ว”   วินพูดขึ้นเสียงแข็ง
“อะไรวิน...เล่าให้แมทฟังได้มั้ย”   แมทที่ยังไม่รู้เรื่องราว ว่าคุณแม่และพี่กอล์ฟทำอะไร
กับวินไว้มากกว่าที่เขารู้ และมากกว่าที่เขาจะคิดได้
“ไม่ต้องกลัว.....วินเล่าแน่”   วินเสียงกร้าวใส่แมท...จากนั้นวินก็ดึงแขนแมทขึ้นไปบน
ห้องนอนของเขา....เมื่อถึงห้อง วินปิดประตูและล๊อคห้อง
“แมท.....”  วินเอ่ยขึ้น พร้อมถอนหายใจ
“แมทรู้มั้ยว่าคุณแม่ กับพี่กอล์ฟทำอะไรกับวินไว้บ้าง”   วินเกริ่น….แมทมีสีหน้าดูไม่
พอใจนักที่วินเอ่ยถึงคุณแม่ของเขาในลักษณะประโยคเช่นนี้
“วิน....”   แมทเดินเข้ามาใกล้ ๆ โอบวินไว้ แล้วประคองให้ไปนั่งที่เตียง...วินฝืน และยืน
อยู่ในตำแหน่งเดิม
“แมทฟังนะ....และคิดตามด้วย ว่าถ้าคุณแม่ของวิน หรือใครมาทำกับแมทแบบนี้บ้าง
........แมทจะทำยังไง”   วินเปิดฉาก และเล่าให้เขาฟังตั้งแต่ต้นจนจบ ยกเว้นเรื่องที่ท่าน
พูดเชิงขู่กับวินที่โรงงาน เพราะวินคิดว่ามันเล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับสิ่งอื่น ๆ วินเล่า
ตั้งแต่ที่คุณแม่พูดเรื่องนาฬิกา  เรื่องแหวนที่ทำเอาวินนิ่งงันไป  เรื่องดูถูกครอบครัว
เรื่องที่ท่านรู้เสมอว่าวินทำอะไร  เรื่องที่ท่านนัดวินแล้วท่านไม่ไปทำให้วินขาดเรียน
เรื่องที่พี่กอล์ฟรับโทรศัพท์แมท และวินคิดว่าคุณแม่รู้เห็นด้วย และเรื่องอื่น ๆ ที่วิน
พิมพ์ไปก็จะเปลืองตัวอักษรเปล่า ๆ ........แมทถอยลงไปนั่งบนเตียงของเขาอยู่เงียบ ๆ

“นี่เรื่องจริงหรอ.....”   แมทถามเสียงอ่อยหลังจากวินเล่าทุกอย่างจบลง
“วินพยายามแล้วนะแมท ตั้งแต่เกิดเรื่องฟิว....วินก็ไม่มีเรื่องทำนองนี้อีกเลย”  วินพูดได้
ไม่เต็มปากนัก เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่คอนโดฯ กับฟิว   แต่ก็เถอะ คุณแม่ทำกับวินไว้
เยอะเกินไปแล้วนี่
“วินไม่ชอบใจอะไรแม่ของแมทรึเปล่า”   แมทถามขึ้นมาเหมือนรู้สึกตัวได้ว่าวินอาจจะ
เป็นฝ่ายไม่ดีเอง
“แมท....”   วินเรียกเขาด้วยความตกใจ
“นี่เราคบกันมา 8 เดือนแล้ว....แมทคิดว่าวินเป็นคนแบบนั้นจริง ๆ หรอ”   วินตวาด
“นี่วินใจเย็น ๆ ก่อนได้มั้ย !”   แมทขึ้นเสียง หน้าหงิกเดินเข้ามา
“วิน.....วินอย่าเข้าใจแม่แมทผิดนะ”    แมทเดินเข้ามาใกล้แล้วกอดวินไว้ แล้วเอาหน้า
มาใกล้.....วินเข้าใจอารมณ์ตอนนั้นทันทีว่าแมทจะปลอบวินด้วยการมีอะไรกันอีกแล้ว
“พอเถอะแมท....วินเป็นคนรักแมท หรือเป็นเครื่องมือเซ็กส์กันแน่ ! ทุกครั้งเวลามีปัญหา
เอะอะอะไรก็จะมาเริ่มกับวินแบบนี้....แมทฟังปัญหาของวินบ้างรึเปล่า...แมทต้องทำ
อะไรบ้างนะ ! - - ไม่งั้นวินจะไม่ทนอีกแล้ว !”      วินผลักแมท แล้วตวาดเสียงดัง
“วินหมายความว่าไง !”  แมทตวาดกลับ
“ก็หมายความว่า ถ้าแมทไม่คิดจะปกป้องวินบ้าง.....เราก็จบกันแค่นี้แหละ!!!”
วินเสียงดัง วินมั่นใจว่าถ้ามีใครอยู่บริเวณนั้นก็ต้องได้ยิน
“วิน!!!”   แมทเสียงดังก้องไปทั้งห้อง แล้วเอาอุ้งมือของเข้ามาดันคอวินจนติดกับประตู
“เอาซี่...เอะอะอะไรก็รุนแรงทุกที เอาเลยแมท คิดว่าทำแบบนี้แล้วจะได้หัวใจวินงั้นหรอ”
วินโกรธจนตาแทบเหลือก ถลึงตาใส่แมทด้ยความโกรธสุดขีด
“นี่วิน...”  แมทผลักคอวิน แล้วปล่อยมือของเขาออก
“วินคิดว่าแมทจะรู้สึก หรือทำอะไรกับเรื่องนี้บ้าง.....แต่แมทกลับคิดว่าวินเป็นคนผิด”
วินเริ่มร้องไห้
“ก็วินทำผิดรึเปล่าหละ....เรื่องไอ้ฟิว แล้วก็ไอ้ปุ่นนั่น มันอะไรนักหนาวิน !”  แมทตวาด
“วินน่าจะรู้.....ว่าแมทคงไม่มีทางปกป้องวินได้ ตั้งแต่ที่แมทไม่ฟังเหตุผลวินเรื่องปุ่นแล้ว”
วินพูดเหมือนคนนึกขึ้นได้ทั้งน้ำตา
   หลังจากที่แมทยืนทำตาขวางใส่วินอยู่สักพัก เขาก็เดินออกไปจากห้องด้วยท่าที
ที่รุนแรงอย่างที่วินคุ้นเคยมาเกือบ 6 เดือนแล้ว.....ส่วนวินก็ไปนั่งร้องไห้บนเตียง ไม่รู้จะ
ทำอะไรต่อได้อีก ในเมื่อบอกทุกอย่างแล้ว แต่แมทก็ยังไม่คิดจะเข้าข้างวิน
   แมทหายลงไปนานมากเกือบครึ่งชั่วโมง ส่วนวินก็ไม่มีอารมณ์จะไปร่วมงานแล้ว
ไม่นาน มฤตยูในชีวิตของวินก็โผล่เข้ามาถึง 2 คน
“นี่แกไปพูดอะไรกับลูกชั้นอีกฮะ !!”   คุณแม่ที่เดินเข้ามาพร้อมพี่กอล์ฟแผดเสียงขึ้น
วินเงยหน้ามองเห็นทั้งสองก็ลุกออกจากเตียง และตรงไปยังประตูเพื่อจะออกไปให้พ้น
จากตรงนั้น....พี่กอล์ฟดึงมือวินเข้ามา แต่วินใช้แรงทั้งหมดสะบัดจนหลุด
“หลีกไปอิกระเทยควาย !!!”   วินตวาดด่าพี่กอล์ฟ
คุณแม่โผเข้ามาจิกแขนบริเวณหัวไหล่วินไว้แน่น  ท่านใช้เล็บทั้ง 8 จากสองมือจิกเนื้อวิน
ผ่านเสื้อจนวินรู้สึกเจ็บมาก
“คุณแม่วินเจ็บนะ”    วินเจ็บมากจนร้องไห้ พูดขึ้นเสียงแทบจะไม่ออกมาด้วยความเจ็บ
“ดี....อีเด็กห.เอี้ย สัน-ดารหมา....ปลอกลอกลูกกุไม่พอ...ยังจะมาสร้างความแตกแยก
ในบ้านของกุอีก”   คุณแม่จิกวินแน่นขึ้น ๆ กัดฟันสบถด่าวิน
“แล้วคุณแม่หละ....นัดวินไปแล้วก็ไม่ไป ทั้ง ๆ ที่วินต้องเรียนพิเศษ คุณแม่สร้างความ
เสียใจให้วินมากี่ครั้งแล้ว”   วินพูดขึ้นทั้งน้ำตา
“อย่ามาปากดีนะอีลูกไพร่ส-ถุ-ล.....พ่อแม่ม.อึงคงจะไปขอลูกอย่างม.อึงจากเจ้าพ่อ
หมาจิ้งจอก ถึงได้เลวระ-ยำหมาขนาดนี้”    คุณแม่กัดฟันแน่นจิกแขนวินไม่ลดละ
“คุณแม่ปล่อยวินเดี๋ยวนี้นะ วินเจ็บ”   วินไม่กล้าดิ้นมาก เพราะรู้สึกว่าคุณแม่จิกเข้าไปใน
เนื้อวิน ถ้าวินกระดิกจะทำให้วินเจ็บกว่านี้แน่ ๆ
“กุไม่ปล่อยม.อึงจะทำไม......จะไปฟ้องโค-ตรพ่อโค-ตรแม่ม.อึงมาทำอะไรกุหรอ”
คุณแม่สบถไม่หยุด ทำวินโมโหสุดขีด
“หยุดด่าพ่อแม่วินได้แล้ว !!! ถ้าคุณแม่เกลียดวินนัก ก็ด่าวินสิ พ่อแม่วินไม่ได้ทำอะไรให้
พ่อแม่วินไม่เกี่ยว ทำไมต้องด่ากันอยู่ได้ !!!”   วินขึ้นเสียง
“ม.อึงนี่ปากดีเนอะ ไอ้เด็กหน้าส้น-ทีน”   พี่กอล์ฟพูดขึ้น เบะปากเหมือนตัวอิจฉา
“ม.อึงอย่าเสื-อก อีกระเทย !!!”   วินหันไปด่า แล้วรวบรวมกำลังผลักคุณแม่จนล้ม
“โอ๊ยยย.....อีลูกไพร่ - - ม.อึงกล้าทำกับกุแบบนี้เลยหรอ ฮะ!!!”     คุณแม่ลุกขึ้นมาแล้ว
คว้าข้อมือวินไว้ .....แล้วท่านก็ยกข้อมือวินให้พี่กอล์ฟดูนาฬิกา
“นี่ไงกอล์ฟ...ของชิ้นแรก ๆ ที่มันปลอกลอกไปจากแมท”   คุณแม่พูดขึ้น ยังกัดฟันไม่เลิก
“วิน – ไม่ – เคย – ปลอก – ลอก – ใคร.....เลิกดูถูกวินได้แล้ว !”    วินเสียงแข็งพูดเน้นคำ
“กอล์ฟช่วยแม่ถอดมันออกทีซิ”    คุณแม่ออกแรงแกะนาฬิกาที่แมทซื้อให้วินออก
“ปล่อยนะคุณแม่”    วินบิดข้อมือฝืน....จากนั้นพี่กอล์ฟก็เข้ามาช่วยคุณแม่แกะออก
........ในที่สุดทั้งสองคนก็เอานาฬิกาออกไปจากข้อมือวินได้
“ของแค่เนี้ย....กุไม่เสียดายหรอก  แค่ทำบุญให้กับลูกไพร่อย่างม.อึง”  คุณแม่ชูนาฬิกา
แล้วด่าไปถึงคุณพ่อคุณแม่วินว่า ‘ไพร่’ ไม่เลิก
คุณแม่ปานาฬิกาลงกับพื้นอย่างแรง แล้วกระทืบจนหน้าปัดนาฬิกาแตกกระจาย
“คุณแม่ !” วินร้องเสียงหลง แล้วยิ่งร้องไห้หนักขึ้น หลังจากที่เห็นมันแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
ถึงแม้ว่าวินไม่เคยคิดจะอยากได้ของจากแมท แต่นี่ก็คือสิ่งที่แมทซื้อให้ มันคือความ
ทรงจำดี ๆ และความประทับใจที่วินมีต่อแมท
“แน่นักก็ให้พ่อแม่ม.อึงซื้อให้สิ.........ถ้าพวกมันมีปัญญาซื้อให้ม.อึงนะ”  คุณแม่ยังคงด่า
พ่อแม่วินต่อไป และครั้งนี้คุณแม่เรียกท่านทั้งสองว่า ‘พวกมัน’
วินถึงแม้จะโกรธ แต่ก็เสียใจจนร้องไห้ไม่หยุด ทำให้พูดโต้ตอบไม่ออกในตอนนั้น ได้แต่
มองหน้าคุณแม่อย่างโกรธเคือง....พี่กอล์ฟก็ยืนยิ้มเยาะวินอยู่ข้าง ๆ......วินลุกขึ้นแล้ว
เปิดประตูออกไปจากห้องอย่างเร็ว.......โดยที่ทั้งสองคนก็เดินตามออกมา
    คุณแม้เข้ามาดึงผมวินจากด้านหลัง จนวินหน้าหงาย  แล้วท่านก็ตบหน้าวินอย่างแรง
จนวินรู้สึกหน้ามืดขึ้นมาทันที วินที่ร้องไห้จนจะหมดแรง แม้แต่จะนึกสู้วินยังนึกไม่ออก
เลยด้วยซ้ำ แล้วคุณแม่ก็ตบหน้าวินอีกครั้ง โดยที่อีกมือหนึ่งของท่านก็ดึงมือวินไว้
“อิลูกไพร่....ม.อึงจะทำให้แม่ลูกเค้าแตกกัน....ชาติชั่ว!” คุณแม่ด่าจบ ก็เหวี่ยงแขนวิน
ลงบันไดไป...........วินกลิ้งตกบันไดลงไป 6 – 7 ขั้น โชคดีที่บันไดบ้านแมทไม่ชัน และ
เป็นลักษณะโค้ง ทำให้วินไม่กลิ้งลงไปจนถึงขั้นสุดท้าย วินรู้สึกเจ็บ ปวด ระบมไปหมด

“อะไรกันเนี่ย.......นี่คุณ ! คุณกะจะฆ่าเค้าให้ตายเลยหรอ”   เสียงผู้ชายวัยเดียวกับ
คุณแม่เข้ามาประคองวินไว้ วินเดาว่าต้องเป็นคุณพ่อของแมทแน่ ๆ
“คุณวิน....คุณวิน ๆ ๆ!”  พี่แสงเดือนวิ่งขึ้นมาตามเสียงของคุณพ่อ...ตอนนั้นวินรู้สึก
เหมือนคนง่วงจัด ๆ วินอยากหลับไปตรงนั้น ไม่อยากลุกไปไหนแล้ว นอนหลับตาได้ยิน
แต่เสียงทุกคนคุยกัน
“คุณวินขา....คุณวิน.......”  พี่แสงเดือนร้องไห้
“เอาคุณเค้าออกไปจากตรงนี้”    คุณพ่อบอกกับพี่แสงเดือน
“คุณ....คุณเป็นบ้าอะไร นี่วันเกิดลูกนะ - - อยากเข้าคุกรึไง หรือจะเข้าโรงพยาบาลบ้า!”
คุณพ่อตวาดใส่คุณแม่.......คุณแม่ไม่ตอบ แต่กรี๊ดเสียงดังลั่นบ้าน ขนาดพี่แสงเดือน
ประคองวินมาถึงชั้นสองแล้ว วินยังได้ยินชัดเจน
“วิน...วิน เป็นอะไรอ่ะ”   แมทที่คงจะมาตามเสียงคุณแม่เดินเข้ามาจับตัววิน
“เลว !..... ม.อึงเป็นแฟนภาษาอะไรเนี่ย”    วินผลักแมทจนกระเด็นล้มลง
“คุณวินคะ....ใจเย็น”   พี่แสงเดือนกอดวินไว้แน่น
วินสลัดตัวออก แล้ววิ่งลงบันไดไปจนถึงชั้น 1 มองออกไปข้างนอกคนก็เริ่มเยอะแล้ว
แต่วินไม่กลัว  วันนี้วินจะต้องเลิกกับแมท แล้วตัดขาดจากคนบ้านนี้ให้ได้
แมทที่วิ่งตามวินลงมาเข้ามาดึงตัววินไว้ วินผลักเขาออกแล้วถอดแหวนทองคำขาวที่เขา
เคยให้ไว้ แล้วปาลงไปที่บันได บริเวณที่เขายืนอยู่....วินรู้สึกเจ็บและร้อนหน้าตรงที่
คุณแม่ตบอย่างมากวินปวดตัวอย่างที่สุด จากการกลิ้งตกบันไดอย่างไม่เป็นท่า
มาเกือบ 10 ขั้น
“พอทีแมท !.........วินจะไม่มาเหยียบที่นี่อีก - - คุณแม่แมทเป็นบ้า วินทนไม่ไหวแล้ว!”
“วิน....” แมทเสียงอ่อย เขาเดินลงมาหยิบแหวน แล้วค่อย ๆ เดินเข้ามายื่นใส่มือวิน
วินยืนตัวสั่นด้วยความโกรธและเจ็บ    ร้องไห้อย่างหนัก แต่รู้ตัวเองว่าหน้าของวินใน
ขณะนั้นนิ่งเฉยและเคลือบไปด้วยสีหน้าของความแค้น
“เอาไป !!!!!!!”   วินเขวี้ยงแหวนโดนหน้าผากแมทอย่างแรงมาก ๆ จนเขาร้อง “โอ๊ย!!!”
“อย่าเอาของที่ซื้อด้วยเงินสกปรก ๆ ของคุณแม่มาให้วินอีก.......แค่นี้คุณแม่ก็ดูถูกวิน
มามากพอแล้ว  แล้วยังไม่พอ ยังจะมาดูถูก ด่าพ่อล่อแม่วินอีก!”   วินตวาดเสียงดัง
“วินลูก.......วินใช่มั้ย”   คุณพ่อเดินลงบันไดมาเรียกวิน.... วินมองหน้าท่านแต่ไม่ตอบรับ
“เด็กห.เอี้ย !!! - - ม.อึงนี่สร้างภาพจนคนอื่นเค้ามองว่ากุเลวหมดแล้ว!!!” 
คุณแม่พูดพร้อมวิ่งลงมาจากบันได แล้วพุ่งเข้ามาบีบคอวินจนวินล้มลงไปนอนกับพื้น
“คุณ!.......- -......... คุณผู้หญิง!.....- -…แม่! ”     คุณพ่อ   แมท  และพี่แสงเดือนตะโกน
คุณแม่บีบคอวินแน่นมาก จนวินพูดไม่ออก วินทำไม่ได้แม้แต่จะเก็บปากหรือลิ้นตัวเอง
จากนั้นคุณพ่อ  แมท และพี่แสงเดือน ทั้งสามคนเข้ามาประกบตัวแล้วดึงคุณแม่ไว้
โดยที่พี่กอล์ฟยืนดูเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่บนบันไดขั้นสูงกว่าคนอื่นอย่างนิ่งเฉย ดูเขาจะ
ชอบใจเสียด้วยซ้ำ
   ทันทีที่คุณแม่ปล่อยคอวิน วินรับรู้ถึงคุณค่าของออกซิเจนอย่างที่ไม่เคยรู้สึก
มาก่อน  วินไอไม่หยุด จนเจ็บคอไปหมด   วินยังคงรู้สึกถึงความแน่นที่ลำคออย่างบอก
ไม่ถูก...วินที่ยังคงพูดไม่ออกลูบคอตัวเองไปมา  และยังคงรู้สึกเหมือนว่ามือของคุณแม่
ยังรัดแน่นอยู่รอบคอ เพียงแต่วินหายใจออกเท่านั้น...........
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 30-03-2008 01:16:04
ตัวอย่างตอนต่อไป.....
ตอนที่ 24 ถึงเวลา...แผลงฤทธิ์ !


“แสงเดือนบอกว่าวินเป็นคนดีมาก และจากที่พ่อฟังแสงเดือนเล่า วินดูเป็นคนอ่อนแอ
ซึ่งมากเกินไป....มากเกินกว่าที่พ่อคิดว่าจะรับมือกับแม่ของแมทได้”    คุณพ่อยังคงพูด
ต่อไป.....วินไม่เข้าใจนักว่าคุณพ่อต้องการจะบอกอะไรกับวิน      วินก็ได้แต่พยักหน้าไป
“ให้พ่อแนะนำหน่อยนะ....ถ้าไม่จำเป็นวินอย่ามาที่บ้านหลังนี้ จะเจอกับแมทก็ให้ไปเจอ
กันข้างนอก...ตอนนี้แม่แมทกำลังป่วยหนัก ถ้าเค้าทำอะไรวินขึ้นมา พ่อคงรับผิดชอบ
กับคุณพ่อคุณแม่ของวินไม่ไหว”    คุณพ่อพูดด้วยสีหน้าวิตก 
...................................

“วิน ! …….จะกลับบ้านหรอ”    แมทตะโกนแล้วเดินเข้ามาหาอย่างเร็ว
“พี่ไอริน ...ช่วยที!”  แมทตะโกนเรียกสั่งพี่ไอริน....เธอก็ทำหน้าที่พนักงานนอกเวลาได้
อย่างดีเยี่ยม   พี่ไอรินเข้ามายืนขวางวิน
“พี่ไอรินวินขอร้อง วินจะกลับบ้าน”     วินพูดจบพี่ไอรินก็ยังคงยกแก้วดื่มน้ำอยู่ โดยที่
ไม่พูดอะไร
“ให้เค้ากลับบ้านไปแมท”   คุณพ่อพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ไม่ครับ....พ่ออย่ายุ่งกับเรื่องของเราดีกว่า....แมทขอร้องหละ ใช่ว่าชีวิตคู่ของพ่อจะ
ดีเลิศอะไร...อย่ามาสอนแมทเลย”   แมทพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา
....................................

“ร้องไห้หรอ….”    ฟิวถามขึ้นเสียงเบา ๆ ในความเงียบ
“อืม...”   วินตอบไปเสียงอู้อี้ ด้วยน้ำมูกที่ยังค้างในจมูก
“ไม่เป็นไรนะ...เดี๋ยวมันก็ผ่านไป”   ฟิวเอ่ยขึ้นเสียงแหบ ๆ แล้วเอามือของเขาเข้ามา
กุมมือวินไว้  ฟิวบีบมือของวินเพื่อปลอบใจ

................................
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: แมววาย ที่ 30-03-2008 01:41:38
แฮ่กๆๆ  ... เหนื่อยมากๆ  แทบลืมหายใจ  ขออากาศหน่อย

มันคือนิยาย    :oni3:  มันคือนิยาย   :oni3: ขอหลอกตัวเองหน่อย

ดีใจที่วินฮึดสู้ซะที  :a1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: konan6688 ที่ 30-03-2008 02:37:50
พี่คับ ทุกวันนี้แม่ของพี่แมท  ยังรังควานพี่อยู่ป่าวคับ  ผมเห็นใจพี่มากๆ  เลย   
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 30-03-2008 03:33:13
พี่คับ ทุกวันนี้แม่ของพี่แมท  ยังรังควานพี่อยู่ป่าวคับ  ผมเห็นใจพี่มากๆ  เลย   

ก็มีโทรมาบ้าง (ล่าสุดก็ตั้งแต่ช่วงลอยกระทงปีที่แล้ว แล้วหละ)
แต่ไมไ่ด้รังควานอะไรหรอก เป็นยังไง นี่ก็จะเขียนไว้ในตอนจบแล้วจ้าาา  อิอิ  :oni2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: kalo_o_sm ที่ 30-03-2008 04:59:00
เเม่พี่เเมทเป็นโรคประสาทนิดๆหรือมากๆเเน่เลย
เฮ้อ...สงสารพี่เเมทอ่ะ ถูกเลี้ยงมาผิดๆ :sad2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 30-03-2008 08:19:38
 :o อ่านตอนท้ายแล้ว แสดงว่าเกิดต่อหน้าต่อหน้าแมทเลยนะนี่
นี่ยังไม่รู้สึกอะไรอีกเหรอแมท  :serius2: :serius2: :serius2:
อาการหนักทั้งแม่ทั้งลูก  :angry2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: ICEME ที่ 30-03-2008 12:30:44
โห อ่านไปแบบแทบไม่หายใจ

สะใจสุึดยอด

แต่ในขณะเดียวกันกลับรู้สึกสงสาร

ถึงว่าพวกเขาจะทำกะวินขนาดนี้ก็เหอะ แต่เต่าก็สงสารยังไงไม่รู้

ยิ่งกับแมท ถึงจะไม่ดีกะวินแต่ก็สงสารอ่ะ

แต่ก็ดีแล้วที่ทำไป อย่าไปยอมเขาเสียหมด

มันจะทำให้เราด้อยค่าอ่ะ

เหอ...วันนี้วันอาทิตย์ รอตอนต่อไปต่อค่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 30-03-2008 15:40:21
ตอนที่ 24 ถึงเวลา...แผลงฤทธิ์ !

“วิน ๆ พ่อขอคุยด้วยเดี๋ยวสิ...”   คุณพ่อของแมทมีสีหน้าขอร้อง
วินจึงพยักหน้าตอบรับ คุณพ่อจึงเดินเข้ามาโอบต้อนวินไปให้ไกลจากบริเวณนั้น
“วิน...แมทขอโทษ”   แมทพูดออกมาเบา ๆ ตามหลัง
“ไปขอโทษมันทำไม !!!”  คุณแม่แผดเสียง หายใจแรงฮืด ๆ
“เงียบไปเลยคุณ...ถ้าอ้าปากอีก ผมจะเอาอะไรไปอุดเดี๋ยวนี้”   คุณพ่อหันไปตวาด
   คุณพ่อกอดไหล่ของวิน แล้วเดินไปยังโซฟาห้องรับแขก ในเวลานั้นวินก็เห็น
พี่ไอรินกำลังยืนดื่มน้ำอยู่ตรงวงกบประตูบ้าน อิงหลังยืนอยู่ คงมายืนชมฉากระทึก
เมื่อครู่อย่างเพลิดเพลินเจริญใจ

“วิน....แสงเดือนเล่าทุกอย่างให้พ่อฟังอย่างคร่าว ๆ เท่าที่แสงเดือนเค้ารู้”  คุณพ่อเอ่ยขึ้น
วินเงยหน้ามองคุณพ่อ รู้สึกง่วงหรือหมดแรงอย่างบอกไม่ถูก เหตุการณ์มันมัว ๆ เหมือน
อยู่ในฝัน
“แสงเดือนบอกว่าวินเป็นคนดีมาก และจากที่พ่อฟังแสงเดือนเล่า วินดูเป็นคนอ่อนแอ
ซึ่งมากเกินไป....มากเกินกว่าที่พ่อคิดว่าจะรับมือกับแม่ของแมทได้”    คุณพ่อยังคงพูด
ต่อไป.....วินไม่เข้าใจนักว่าคุณพ่อต้องการจะบอกอะไรกับวิน      วินก็ได้แต่พยักหน้าไป
“ให้พ่อแนะนำหน่อยนะ....ถ้าไม่จำเป็นวินอย่ามาที่บ้านหลังนี้ จะเจอกับแมทก็ให้ไปเจอ
กันข้างนอก...ตอนนี้แม่แมทกำลังป่วยหนัก ถ้าเค้าทำอะไรวินขึ้นมา พ่อคงรับผิดชอบ
กับคุณพ่อคุณแม่ของวินไม่ไหว”    คุณพ่อพูดด้วยสีหน้าวิตก  ....จนทุกวันนี้วินเองก็ยัง
คงสงสัยในคำพูดของคุณพ่อ เพราะวินก็ไม่กล้าถามไป   แต่คุณพ่อพูดเหมือนกับว่า
คุณแม่อาจจะทำร้ายวินถึงชีวิตได้
“ฮะ”   วินพยักหน้าตอบ
“วินขอตัวกลับบ้านก่อนได้มั้ยคุณพ่อ”   วินเอ่ยถาม...ในใจยังคงร้อนระอุอย่างมาก
วินลุกขึ้นพร้อมคุณพ่อ แล้ววินก็ยกมือไหว้เพื่อลาท่าน
“วิน ! …….จะกลับบ้านหรอ”    แมทตะโกนแล้วเดินเข้ามาหาอย่างเร็ว วินมองหน้าเขา
อยู่ครู่เดียว แล้วเดินหันหลังเพื่อจะออกจากประตูไป
“พี่ไอริน ...ช่วยที!”  แมทตะโกนเรียกสั่งพี่ไอริน....เธอก็ทำหน้าที่พนักงานนอกเวลาได้
อย่างดีเยี่ยม   พี่ไอรินเข้ามายืนขวางวิน ด้วยสีหน้าที่ใคร ๆ ก็ต้องบอกว่า อีนี่กวน_น
ที่สุด
“พี่ไอรินวินขอร้อง วินจะกลับบ้าน”     วินพูดจบพี่ไอรินก็ยังคงยกแก้วดื่มน้ำอยู่ โดยที่
ไม่พูดอะไร....และแมทก็เข้ามาถึงตัววินพอดี แล้วดึงแขนวินให้เข้าไปหาเขา
“ให้เค้ากลับบ้านไปแมท”   คุณพ่อพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ไม่ครับ....พ่ออย่ายุ่งกับเรื่องของเราดีกว่า....แมทขอร้องหละ ใช่ว่าชีวิตคู่ของพ่อจะ
ดีเลิศอะไร...อย่ามาสอนแมทเลย”   แมทพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ยังไงวันนี้วินก็จะกลับบ้าน”   วินพูดขึ้นเสียงแข็ง
“แมทไม่ให้กลับ”   แมทตอบกลับทันที
วินสลัดแมทเบา ๆ ให้พอที่เขาจะออกไปจากตัววิน  วินหันหลังเดินกลับออกไปที่ประตู
อีกครั้ง  โดยมีพี่ไอรินเข้ามาขวางเช่นเดิม........
“ว๊ายยย !!!”   วินคว้าแก้วน้ำที่พี่ไอรินกำลังดื่มอยู่มา แล้วสาดใส่หน้าพี่ไอรินเข้าเต็ม ๆ
จนเธอร้องเสียงดังลั่น
“หลีกไป........วินยังมีแก้วเปล่าในมืออยู่นะ คราวนี้ไม่มีน้ำ....วินคงต้องใช้แก้วนี้กับ
พี่ไอริน ถ้ายังยืนขวางทางวินอยู่”    วินขู่ แล้วกำแก้วน้ำไว้แน่น
“อะไรกันวิน....นี่วินเกลียดแมทขนาดนี้เลยหรอ”    แมทถาม
“ยิ่งกว่าที่แมทคิดด้วยซ้ำ”   วินหันไปพูด ทำตาแข็งใส่
“ปล่อยมันไปสิลูก - - จะไปสนใจมันทำไม....เดี๋ยวพอมันอยากได้อะไร มันก็กลับมาหา
ลูกเองแหละ”    คุณแม่พูดขึ้นหลังจากที่เงียบไปนาน
วินหมดความอดทน จึงใช้แก้วที่ทีแรกจะใช้กับพี่ไอริน ปาเข้าไปตรงที่คุณแม่ยืนอยู่
จนคุณแม่ พี่กอล์ฟ และพี่แสงเดือนวงแตกกระเจิง (วินต้องขอโทษพี่แสงเดือนด้วยนะ
แต่ดีที่พี่แสงเดือนไม่เป็นอะไร)
“อ๊ายยยย !!!”   คุณแม่กรี๊ดลั่นบ้าน จนคนข้างนอกมองเข้ามา
“ดูมันสิแมท ดูมัน.....สัน-ดารไพร่เหมือนโค-ตรพ่อ โค-ตรแม่มันเล้ย....อีลูกไพร่ส-ถุล
คุณแม่เสียงดัง
วินไม่สนใจอะไรทั้งนั้น แล้วตรงไปที่รถของตัวเองที่จอดอยู่หน้าบ้าน ท่ามกลางสายตา
ก่นด่าของคนทั้งงาน
“วิน ๆ ๆ”  แมทวิ่งตามมาอีก ....ตอนนั้นวินรู้สึกเหมือนว่าแมทเป็นตุ๊กแก ที่น่ารังเกียจ
น่ารำคาญเป็นที่สุด วินอยากจะสลัดเขาไปให้พ้น ๆ
.....แมทเข้ามาดึงแขนวินอีกเป็นครั้งที่ร้อย.....วินผลักแมทอย่างแรงอีกครั้งจนเขาล้มลง
ไปบนสนามหญ้า  ครั้งนี้วินคิดว่าแมทคงเจ็บมาก เพราะล้มลงไปอย่างแรง
“อย่ามายุ่งกับวินอีก เข้าใจมั้ย !!!”  วินแผดเสียงดังที่สุดเท่าที่จะทำได้
“ทำไมต้องทำกันขนาดนี้ด้วย!...แมทเจ็บนะ!!!”   แมทลุกขึ้นแล้วตะคอกเสียงดังกลับมา
“แค่นี้มันยังน้อยไป.....ถ้าเทียบกับที่แมททำกับวินที่สยามวันนั้น”   วินพูดด้วยน้ำเสียง
เย็นชา.......แมทเงียบอึ้งไป ส่วนวินก็รีบเดินไปที่รถ สตาร์ทเครื่องแล้วออกไปจากที่นั่น
ทันที
   วินกลับบ้านไม่ได้ ถ้ากลับไปทั้งสภาพหน้าแดงก่ำ เนื้อตัวเขียวเป็นจ้ำ ๆ แบบนี้
คุณพ่อคุณแม่ต้องสงสัยแน่ ๆ ถึงแม้ว่าจะบอกท่านว่าไปตกบันไดที่ไหนมา       ก็ยังน่า
สงสัยอยู่ดี ที่จู่ ๆ วินก็เปลี่ยนแผนไม่นอนค้างบ้านเพื่อน แล้วกลับบ้านในสภาพเช่นนั้น
.............วินจึงโทรหาปุ้ย เพื่อนคนเดียวที่วินพึ่งได้ในตอนนั้น

“ปุ้ย...เราไปค้างบ้านแกได้มั้ยคืนนี้”    วินถาม หลังจากที่ปุ้ยรับโทรศัพท์
“ได้ ๆ.....เฮ้ย  มีอะไรรึเปล่าว้ะ”    ปุ้ยถามน้ำเสียงตกใจ
“เดี๋ยวค่อยเล่า....เดี๋ยวจะเข้าไปแล้วนะ”    วินบอก
“เออดี ชั้นอยู่กับแมวกับหมา เหงาเหลือเกิน ไม่มีใครอยู่บ้านเลย.....มาเลยๆ”    ปุ้ยตอบ
   วินไปถึงบ้านปุ้ยก็เปิดฉากเล่าเรื่องทั้งหมดให้เธอฟังครบทุกรายละเอียด วินไม่ได้
ร้องไห้เลยแม้แต่น้อย วินโกรธ เกลียด แค้นคุณแม่ที่สุด .........ถ้าบ้านเมืองไม่มีกฎหมาย
วินคงฆ่าคุณแม่ไปแล้วในตอนนั้น.....ดูถูกวินไม่พอ ทำไมต้องว่าไปถึงพ่อแม่วินด้วย !!!
“ฟังแล้วก็น่าสงสารเค้านะแก....ถ้าจิตไม่ปกติจริงๆ อ่ะ”    ปุ้ยทำสีหน้าปลง
“หึ...ไม่อ่ะ ถ้าจะบ้าทำไมต้องมาบ้ากับเราอยู่คนเดียว...ตอนแรกเราก็สงสารอยู่หรอกนะ
แต่ดูที่เค้าทำกับเราสิปุ้ย....ใครน่าสงสารกว่ากัน?”    วินกล่าว
“เออ ๆ ......ทีนี้จะเลิกได้รึยัง หรือจะทนมือทนเท้าให้แม่ลูกคู่นั้นต่อไป”   ปุ้ยประชด
“เลิก!...ไม่เอาแล้ว...คบกันมีแต่เรื่อง...สามวันดีสี่วันไข้...นับวันมีแต่จะหึงหวงรุนแรงขึ้น
……แล้วยังจะมามีเรื่องคุณแม่อีก...อีกครั้งเดียวเราก็ไม่ทนแล้วปุ้ย”   วินกล่าว   
“ดีแล้วแก ....จบ ๆ มันได้แล้ววิน เรื่องบ้า ๆ แบบนี้”     ปุ้ยกล่าวพลางลูบหลังปลอบ
(....ถ้ามันจบลงง่าย ๆ อย่างที่ปุ้ยว่าก็คงจะดีไม่น้อย......แต่อย่างว่า เวรกรรมของวินมัน
ยังมีอยู่อีกไม่มากไม่น้อยเลยทีเดียว........)

   ไม่นานก็มีโทรศัพท์จากแมทโทรเข้ามาหาวิน ....วินกดทิ้งไปราว 10 กว่าครั้งได้
แต่แมทก็โทรมาไม่หยุด จนวินต้องปิดเครื่องไป

“วิน....”   ปุ้ยเรียกวินแล้วลากเสียงเว้นระยะ
“อะไร”    วินถาม
“แกจะไม่ลองคบกับฟิวดูหรอ...”    ปุ้ยทำสีหน้าคล้ายคนที่ไม่กล้าจะเอ่ยปากพูดนัก
“เรารู้สึกเข็ดกับความรักยังไงก็ไม่รู้หว่ะปุ้ย....รักครั้งแรกเราก็เจอแจ๊คพอตขนาดนี้” 
วินตอบด้วยความรู้สึกเซ็งในความรักสุดชีวิต
“ครั้งที่สองต้องดีกว่า”   ปุ้ยยิ้มชอบใจ
“ไม่รู้สิ ....เราก็ชอบฟิวนะ แต่ไม่รู้จะชอบมากขนาดเป็นแฟนกันได้มั้ย”   วินลังเลใจ
“ทำไมแกถึงได้แปลกคนแบบนี้ ไอฟิวมันทั้งหล่อ เท่ห์ นิสัยดี....แกยังจะเอาอะไรอีก”
ปุ้ยบ่น
“ไม่รู้...ขอดูแม่มันก่อนแล้วกัน”   วินพูดพลางยิ้มให้ปุ้ย....ปุ้ยหัวเราะกับคำพูดของวิน
“โทรหาฟิวมั้ย....ให้มันมานอนที่นี่”  ปุ้ยเอ่ย
“แล้วพ่อแม่แกหละ ?”   
“เหมือนเดิม.....พ่ออยู่ต่างจังหวัด...แม่เข้าเวร กลับมาก็เช้านู่น”   ปุ้ยตอบ
“อย่าเลยหว่ะ....อยากอยู่กะแกสองคน  อยากคุยเรื่องนู้นเรื่องนี้”    วินกล่าว.......ในใจก็
อยากให้ฟิวมาเหมือนกัน เพราะแค่คิดว่าได้เห็นหน้าฟิว วินก็รู้สึกดีขึ้นมามากเหมือนกัน
“เอาน่า....คุยกับมันด้วย ไหน ๆ มันก็รับรู้เรื่องของแกมาตั้งแต่ต้น ต้องให้มันต่อเนื่อง”
ปุ้ยหว่านล้อม
“อืมเอาดิ.......แต่ไม่ต้องให้มันมานอนหรอกนะ”   วินตกลงโดยมีข้อแม้
“เออ ๆ ๆ”    ปุ้ยรับคำแบบขอไปที...ว่าแล้วเธอก็พุ่งตรงไปยังโทรศัพท์บ้าน และวินก็
ไม่ได้ยินที่ทั้งสองคุยกัน...............ในที่สุดฟิวก็มาถึง พร้อมเป้แบบสะพายหลัง 1 ใบ
“เป็นเพื่อนที่ดีจริง ๆ นะแก”    วินกระซิบต่อว่าปุ้ยเบา ๆ หลังจากที่เห็นฟิว
“อ้าวหวัดดีวิน......ไม่คิดว่าจะเจอนะเนี่ย”    ฟิวเอ่ยทัก ทำทีแปลกใจ
“เฮ้ย ๆ ไม่ทัน ๆ มันรู้แล้ว”   ปุ้ยยิ้มแล้วบอกฟิว
“เราก็รู้แล้ว....ทำฟอร์มไปงั้น”    ฟิวฉีกยิ้มมาให้วิน ทำตาซึ้ง
   วินรู้สึกชอบฟิวอยู่มากเลยในตอนนั้น  ฟิวผิวขาวพอ ๆ กับวิน ตัดผมเท่ห์ ๆ ตาม
สไตล์นักเรียน รด. ที่ชอบแหวกกฎระเบียบ (อ้อ...วินไม่ได้เรียนรด.แหละ ผมเลยยาวกว่า
เด็กผู้ชายส่วนใหญ่ในวัยเดียวกันตอนนั้น)     สวมเสื้อยืด กางเกงสามส่วนแบบสบาย ๆ
ที่วินไม่เคยพบเคยเห็นได้จากแมท ที่เนี๊ยบเรียบเสมอ  ใส่กางเกงลูกฟูกขายาว แม้จะอยู่
กับบ้านก็ตาม....ถึงแม้ว่าฟิวจะไม่ใช่บุคคลในอุดมคติ (สเปค) ของวิน แต่ในขณะนั้น
วินก็ต้องการความรักดี ๆ (เหมือนช่วงแรก ๆ ที่คบกับแมท) มาทำให้สภาพจิตใจดีขึ้น
แล้ววินก็รู้สึกดีตลอดเวลาที่อยู่กับฟิว ทำให้วินชอบฟิวอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
   คืนนั้นปุ้ย และฟิว ดูรอยแดงบนหน้าของวินที่โดนคุณแม่ตบ และรอยฟกช้ำ
เล็กน้อย จากการกลิ้งตกบันได โดยที่มีฟิวทายาหม่องให้อย่างบรรจง วินรู้สึกดีอย่าง
ที่สุดในช่วงเวลา 6 – 7 เดือนที่ผ่านมานี้  จากนั้นทั้งปุ้ย และฟิวก็นั่งสาปส่งคุณแม่
อยู่สักพัก แล้วเราทั้งสามก็นอนเล่น นั่งเล่นคุยกันจนเกือบ ๆ จะตี 3 ก็หมดแรงในที่สุด
..เราทั้งสามก็ล้มตัวลงนอน โดยที่วินนอนคั่นกลาง หลังจากที่ทุกอย่างเงียบลงได้ไม่นาน
ความคิดที่เมื่อครู่มีแต่ความสุขก็เริ่มว่างเปล่า และถูกแทนที่ด้วยเรื่องเมื่อตอนหัวค่ำ
กับคุณแม่  ก็ทำให้วินน้ำตาไหล และร้องไห้ออกมาในที่สุด วินจึงลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำ
และนั่งร้องไห้อยู่สักพัก พอเริ่มสงบใจได้ก็กลับเข้าห้องนอน..หลังจากที่วินล้มตัวลงนอน
และสูดน้ำมูกอยู่เบา ๆ ............
“ร้องไห้หรอ….”    ฟิวถามขึ้นเสียงเบา ๆ ในความเงียบ
“อืม...”   วินตอบไปเสียงอู้อี้ ด้วยน้ำมูกที่ยังค้างในจมูก
“ไม่เป็นไรนะ...เดี๋ยวมันก็ผ่านไป”   ฟิวเอ่ยขึ้นเสียงแหบ ๆ แล้วเอามือของเขาเข้ามา
กุมมือวินไว้  ฟิวบีบมือของวินเพื่อปลอบใจ....แล้ววินก็บีบมือฟิวตอบกลับไป
เราทั้งสองกุมมือกันจนวินหลับไปในที่สุด
..............และนี่ก็เป็นอีกค่ำคืนอันร้าย ๆ ที่ผ่านไปด้วยดี................


_________________________________________________

ตัวอย่างตอนต่อไป.....
ตอนที่ 25 คนเฉียดตาย...จะนึกถึงอะไร ?


“นะวิน.....วินมาหาแมทหน่อยนะครับ...นะวิน....แมทขอร้องหละ”    แมทร้องไห้หนักขึ้น
“เมื่อคืนวินพูดออกไปแล้วขนาดนั้น ว่าจะไม่ไปเหยียบที่นั่นอีก”    วินให้เหตุผล
“งั้นวินมาเจอแมทบนรถก็ได้ เดี๋ยวแมทขับออกไปรอที่หน้าปากซอย แล้วแมทจะเอาของ
ของวินไปคืนให้ และเราก็ขับรถเล่นคุยกันเป็นครั้งสุดท้าย....นะวินนะ.. นะ แมทขอร้อง”   
...........................................

“อะไรของวินนักหนา !!!......ง้อก็แล้ว อะไรก็แล้ว แมทไม่เคยง้อใครขนาดนี้เลยนะ !!”
แมทตวาดเสียงดัง กลายเป็นคนละคนกับเมื่อสักครู่อย่างสิ้นเชิง
“วินก็ไม่ได้ให้แมทมาง้อนี่....เปิดล๊อค !... วินจะได้กลับ”   วินเสียงแข็งกลับ
“ไม่!!!”   แมทเสียงดัง แต่ก็ร้องไห้อย่างหนักไปด้วย
...........................................

“เราไม่ได้รักแมทแล้วปุ้ย...วันนี้เรามั่นใจเลย แกต้องเห็น...แมทไม่ใช่คนเดิม
แมทคนที่เรารัก คือคนที่คบกับเราเมื่อ 6 – 7 เดือนก่อน   ทำไมตอนนี้มันเหมือน
คนละคนกันขนาดนี้”    วินกล่าวอย่างหนักใจ
“แต่วินก็บอกกับมันไปแล้วนี่ ว่าจะยังคบกันต่อ”    ฟิวเอ่ยขึ้น สีหน้าเขาดูวิตกเล็กน้อย
“ก็จะให้วินทำยังไงหละฟิว.....วินต้องทำ เพื่อให้ตัวเองรอดจากตรงนั้น”  วินกล่าว
............................................
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: Yurameki ที่ 30-03-2008 22:22:21
 :m1:พี่ฟิวนี่น่ารักเสมอต้นเสมอปลายเลยนะ

เป็นเพื่อนที่ดีเสมอเยย

ดีนะ   o7พี่วินยังมีเพื่อนดีๆ คอยให้กำลังใจมาตลอด

สู้ต่อไปนะทาเคชิ   :a2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: ICEME ที่ 30-03-2008 23:18:55
จะบอกว่าสงสารแมท จะเคืองมั้ยเนี่ย

แต่ก็ทำถูกต้องแล้วล่ะ

จะยอมให้ดูถูกกันตลอดไปได้ยังไง

ว่าแต่ไอตอนต่อไปที่แง้มนี่ หวังว่าคงไม่ได้โดนแมทบีบคอตายคารถหรอกนะ

รู้อย่างนี้วินไม่น่าให้แมทไปเลยตอนที่มาค้างที่บ้านครั้งแรก คนเราพอได้อย่างที่ใจอยากแล้วก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลัง-ีนอย่างนี้อ่ะ

เฮ้อ..

แล้วมีนาจะเอ็นติดมั้ยเนี่ย

คงจะติดแหละเนอะ

ปล.เขามารกะหางเดวิลของวินเริ่มโผล่แล้วน้า
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 31-03-2008 19:37:55
 :เฮ้อ:  :เฮ้อ: ดูเหมือนยังไม่หมดเวร  :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: anston ที่ 01-04-2008 03:28:16
โหยย..นี่หรือคือชีวิตจริง..น่ากลัวอ่ะ
แต่วินโต้ตอบได้สุดยอดมาก..เยี่ยมไปเลย
แล้วตอนต่อไปแมทจะทำอะไรอีกเนี่ยะ..
(ว่าไปก็น่าสงสารแมทนะที่ถูกเลี้ยงดูมาแบบจิตจิต(โรคจิต)..แบบนี้)
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: LingNERD* ที่ 01-04-2008 11:14:02
เห้อออออออออ  :m15:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: angsumalin ที่ 01-04-2008 22:35:27
โอ้ยยโหดง่ะสองแม่ลูกเนี่ยสติแตกถึงกับฆ่าคนได้เชียวน่ะ ไม่ไหวๆ ชีวิตช่วงนั้นของวินไม่ปลอดภัยเอาซะเลย  :m29:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: แมววาย ที่ 02-04-2008 23:49:45
หายไปไหนเนี่ยน้องวิน   :a4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: anston ที่ 04-04-2008 02:26:02
 o12เออนะ..หายไปไหนหว่า
หรือโดนแม่แมทสั่งเก็บไปเรียบร้อยแล้ว..55ล้อเล่นน่ะ :m23:
รีบกลับมาน๊า.. :bye2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 04-04-2008 22:13:52
ขอบคุณทุก ๆ คนเลยยยย ที่เข้ามาช่วยกันคอย ช่วยกันดัน
คอยให้กะลังจายยย เอาต่อตอนที่ 25 เลยยยยย :a2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 04-04-2008 22:18:17
ตอนที่ 25 คนเฉียดตาย...จะนึกถึงอะไร ?

       ตื่นเช้าขึ้นมา ทั้งวินและฟิวก็ไม่ได้อยู่ในท่าเดิม ไม่เหมือนครั้งก่อนที่เรานอนจับมือ
กันจนถึงเช้า    ซ้ำในเช้าวันนี้เรานอนหันหน้าไปคนละทิศละทาง.....ในเช้าวันนี้ หลังจาก
ตื่นนอนมาแล้ว วินรู้สึกกระวนกระวายใจอยู่พอใช้ได้ ในเรื่องของวินและแมท วินจึงเปิด
โทรศัพท์มือถือ ก็มีข้อความเข้ามา 1 ข้อความจากแมท ซึ่งยาวจนระบบต้องแยกส่งมา
เป็น 2 ฉบับ โดยมีใจความดังนี้....
“ถ้าวินทนแม่ของแมทไม่ได้จริง ๆ ถ้าวินอยากเลิกกับแมท แล้วถ้ามันทำให้วินมีความสุข
มากกว่าคบกับแมท แมทก็ยอมทำเพื่อความสุขของวิน แต่ช่วยโทรหาแมทก่อนนะครับ”
         วินอ่านข้อความจบ ก็กดโทรศัพท์โทรหาแมททันที ซึ่งในตอนนั้นเป็นเวลา
ประมาณ 8 โมงเช้า
.........แมทรับโทรศัพท์แทบจะในทันที
“วิน”   แมททำเสียงตื่นเต้น
“ว่าไงแมท”   วินพยายามกดเสียงให้ไร้อารมณ์ที่สุด
“แมทขอโทษแทนแม่ได้มั้ย..........เรากลับมาเหมือนเดิม   แล้วลืมเรื่องเมื่อวาน และเรื่อง
ทั้งหมดได้มั้ยวิน”        แมทร้องไห้……….ทำให้วินใจอ่อนลงมาก
“วินลืมไม่ลงจริง ๆ แมท....วินเจ็บทั้งตัว เจ็บทั้งใจ...ให้วินลืมคงจะง่ายไปหน่อยนะ”
  วินกล่าว น้ำตาเริ่มคลอรู้สึกสงสารแมทจับใจ
“........งั้นอย่างน้อยให้แมทได้เจอวินเป็นครั้งสุดท้ายได้มั้ย.......คิดซะว่าวินมาเอาของ
ของวินที่ทิ้งไว้เมื่อคืนนี้กลับไปก็ได้”    แมทขอร้อง
“ไม่เป็นไร....วินซื้อใหม่ได้”   วินพยายามทำใจให้แข็งที่สุด
“นะวิน.....วินมาหาแมทหน่อยนะครับ...นะวิน....แมทขอร้องหละ”    แมทร้องไห้หนักขึ้น
“เมื่อคืนวินพูดออกไปแล้วขนาดนั้น ว่าจะไม่ไปเหยียบที่นั่นอีก”    วินให้เหตุผล
“งั้นวินมาเจอแมทบนรถก็ได้ เดี๋ยวแมทขับออกไปรอที่หน้าปากซอย แล้วแมทจะเอาของ
ของวินไปคืนให้ และเราก็ขับรถเล่นคุยกันเป็นครั้งสุดท้าย....นะวินนะ.. นะ แมทขอร้อง”   
   วินยังไม่ทันได้ตอบ ก็ต้องสะดุ้ง เมื่อฟิวที่เพิ่งตื่น เข้ามาสวมกอดวินจากข้างหลัง
ทำให้เกิดคำถามขึ้นในใจวินทันทีว่า ‘นี่วินกับฟิวเป็นอะไรกัน?’ ...........วินจับแขนฟิว
ออกเบา ๆ แล้วลุกขึ้น เพื่อเดินออกไปคุยข้างนอกห้อง
“ว่าไงวิน.....นะครับ แมทขอร้องหละ แมทไม่อยากให้เราจบแบบนี้”       แมทหว่านล้อม
“โอเค....วินจะไปเดี๋ยวนี้แหละ....แล้วก็เอาออกมาทั้งกระเป๋าเลยนะ  เมื่อวานวินยังไม่ได้
เอาของอะไรออกจากกระเป๋า มีแค่นั้นแหละ.....แล้วไม่ต้องทำเป็นลืมอะไรนะ
เพราะยังไงวินก็จะไม่กลับไปที่นั่นอีก”    วินเสียงแข็ง แต่น้ำตาไหลพราก
“ครับ ๆ .....ขอบคุณนะวิน....แล้วเราเจอกันนะ”

   20 นาทีต่อมาวินก็ไปถึงหน้าปากซอยบ้านแมท โดยมีแมทมาจอดรถรออยู่แล้ว
“ขึ้นไปคุยกันบนรถก่อนนะวิน”        แมทดึงมือวิน
“คุยกันตรงนี้ก็ได้ ....วินจะรีบไป”     วินปฏิเสธ
“แมทขอร้องหละวิน.......ความทรงจำของเราสองคน ส่วนนึงก็อยู่บนรถคันนี้นะ”   
  แมทให้เหตุผล............ตาของแมทบวม และแดงก่ำ เหมือนคนอดนอนมาทั้งคืน
หน้าตาและสีปากของเขาซีดมาก   จนวินรู้สึกเป็นห่วงขึ้นมา....แต่วินจะต้องไม่แสดงมัน
ออกมา.....แค่วินเห็นหน้าแมท วินก็แทบจะทนไม่ได้ที่จะกลับไปคบกับเขาเหมือนเดิม
“นะวินนะ.....แมทไหว้แล้ว”   แมทยกมือขึ้นไหว้วิน  วินเห็นภาพนี้เป็นครั้งแรก
ทำเอาวินยิ่งรู้สึกเห็นใจเขาอย่างหนัก
“อืมก็ได้....แต่อย่านานนะ”    วินตอบรับ
   วินเดินไปล๊อครถของตัวเอง แล้วขึ้นรถไปพร้อมกับแมท เขาล๊อคประตูรถทันทีที่
วินขึ้นรถและแมทก็พาออกไปขับวนรอบ ๆ หมู่บ้านของเขา (รถของแมทเวลาล๊อคแล้ว
ตัวปุ่มล๊อคจะหายลงไปในรูเลย ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นก็จะทำอะไรไม่ได้ทั้งสิ้น....)

“วินจะเลิกกับแมทจริง ๆ หรอ”    เขาหันมามองหน้าวิน ทำหน้าตาน่าสงสาร
“แมทไม่เข้าใจวินเลย แมทไม่เคยให้เกียรติ ไม่เคยไว้ใจ และไม่เคยอยู่ปกป้องวิน เวลาที่
วินโดนพี่กอล์ฟกับคุณแม่เล่นงาน ซ้ำยังคิดว่าวินเป็นคนก่อเรื่องทั้งหมด.....แมทยังคิดว่า
เราจะไปกันได้อีกหรอ”    วินกล่าว
“แมทขอโทษวิน.....เราอย่าเลิกกันเลย...แมทขอร้อง”   แมทคว้ามือของวินไปแนบกับคอ
ของเขา และร้องไห้ออกมาอย่างหนัก.....วินดึงมือกลับมาแล้วหันหน้าไปมองกระจกข้าง
และนั่งครุ่นคิดอย่างหนัก
“วิน........”     แมทเอ่ยขึ้นเบา ๆ
“แมทอยู่ไม่ได้ ถ้าไม่มีวิน....ไม่มีใครเหมือนวินเลย....วินเคยเป็นทุกอย่างของแมทยังไง
วินก็ยังคงเป็นอย่างนั้นจนถึงวันนี้”    แมทร้องไห้ไม่หยุด
“แล้วแมทเคยอยู่ข้างวินบ้างรึเปล่า เวลาวินมีปัญหา.....เวลามีเรื่องเข้าใจผิด แมทไม่เคย
รับฟังเหตุผลจากวินเลย....พูดจาด่าทอ หยาบคายกับวินสารพัด....แมททำกับคนที่เป็น
ทุกอย่างของแมทอย่างนี้หรอ”    วินพูดออกมาเหมือนคนได้ระบาย
“แมทขอโทษวิน....แมทขอโทษ”    แมทกุมมือวินแล้วเอ่ยขึ้น
“คนที่วินทนไม่ได้มากที่สุดคือคุณแม่ และรองมาก็คือแมท”   วินเสียงแข็ง
“วินพูดไปหมดแล้ว ว่าคุณแม่ทำอะไรกับวินไว้บ้าง  ถ้าแมทรักวิน อย่างน้อย ๆ ก็น่าจะ
เห็นใจกันบ้าง...แล้วเมื่อคืน แมทไปพูดอะไร ทำไมคุณแม่ถึงได้ขึ้นมาทำกับวินแบบนั้น”
วินถาม
“แมทก็ลงไปคุยกับแม่ทันทีที่วินบอกกับแมท แมทอยากรู้ความจริง แต่คุณแม่ก็ปฏิเสธ”
แมทเล่า
“แล้วทำไม ตอนที่คุณแม่เดินมาหาวิน แมทไม่ตามมาด้วย ถ้าแมทเดินตามมา
แมทก็จะได้ยิน ได้เห็นในสิ่งที่คุณแม่ทำกับวิน”    วินกล่าว
“แมทก็ได้เห็นแล้วไงวิน....ที่แม่แมทบีบคอวิน.....แล้วก็นี่……”   แมทกล่าวจบก็ยื่น
นาฬิกาฮอยเออร์เรือนขาวมุก ที่กระจกหน้าปัดแตกไม่เหลือ และเข็มยาวที่หักงอให้วิน
วินหยิบนาฬิกามาจากมือของแมท และเพ่งมองมันด้วยความรู้สึกเศร้าและหดหู่ จนวิน
ก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
“คุณแม่ทำเรื่องแบบนี้ได้ยังไง”    วินพูดขึ้นทั้งน้ำตา
“วิน....แมทขอโทษ....แมทรักวินมากนะ”    แมทพูดจบก็เอามือมาประคองลำคอ แล้ว
เขาก็หอมแก้มวินเบา ๆ จากนั้นก็หยิบแหวนที่วินปาใส่เขาเมื่อวานนี้ออกมา...แมทยก
มือวินขึ้นมาเพื่อที่จะสวมแหวนคืนให้วิน
“แมทอย่า......วินจะไม่ให้คุณแม่มาดูถูกวินได้อีก.....เอาของ ของท่านคืนไปเถอะ”
วินดึงมือกลับแล้วเอ่ยขึ้น
   จู่ ๆ แมทก็เปลี่ยนเป็นอีกคนภายในเวลาอึดใจเดียว  เขาเขวี้ยงแหวนผ่านหน้าวิน
และกระแทกกระจกด้านผู้โดยสารเข้าอย่างแรง จนวินตกใจสะดุ้ง
“อะไรของวินนักหนา !!!......ง้อก็แล้ว อะไรก็แล้ว แมทไม่เคยง้อใครขนาดนี้เลยนะ !!”
แมทตวาดเสียงดัง กลายเป็นคนละคนกับเมื่อสักครู่อย่างสิ้นเชิง
“วินก็ไม่ได้ให้แมทมาง้อนี่....เปิดล๊อค !... วินจะได้กลับ”   วินเสียงแข็งกลับ
“ไม่!!!”   แมทเสียงดัง แต่ก็ร้องไห้อย่างหนักไปด้วย
......แมทเหยียบคันเร่ง และเอาศีรษะโขกกับพวงมาลัย แล้วไม่มองทาง.......
“ไม่เลิกวิน...ไม่เลิก ไม่เลิก ไม่เลิก .....วินต้องไม่เลิกกับแมท ๆ ๆ ๆ ๆ”   แมทพูดซ้ำ ๆ
วินตกใจและกลัวสุดชีวิต แมทคงเหยียบสัก 80 กิโลเมตร ต่อชั่วโมงเห็นจะได้ โชคยังดี
ที่ในช่วงเวลาเช้า ๆ ของวันอาทิตย์ในหมู่บ้านของแมท ไม่มีรถ หรือเด็ก หรือสิ่งกีดขวาง
ใด ๆ แต่ในใจวินก็ยังต้องกลัวที่แมทจะหักเลี้ยวให้รถชนข้างทางอยู่ดี
“แมทหยุดนะ แมท ๆ หยุด ....เงยหน้าขึ้นมา”   วินพูดด้วยน้ำเสียงตกใจ ร้องขอให้เขา
มองถนน ขณะเดียวกันตาวินก็มองทางไปด้วย เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่ชนเข้ากับอะไร
“ไม่ ๆ ๆ วินอย่าเลิกกับแมท อย่าเลิกนะวิน อย่าเลิก ๆ ๆ ๆ”  แมทยังคงพูด และเอา
ศีรษะโขกกับพวกมาลัยรถต่อไปไม่หยุด
   ในตอนนั้น หน้าคุณพ่อและคุณแม่ลอยเข้ามาในความคิดของวิน เหตุการณ์
เรื่องราวต่าง ๆ ย้อนเข้ามาให้วินนึกถึง...ความคิดว่าวินไม่น่ามาหาแมทวันนี้เลย
มันพรั่งพรูเข้ามาอย่างรวดเร็ว
“ตกลง ๆ ...ไม่เลิกแมท ไม่เลิก เงยหน้าขึ้นมาแมท เดี๋ยวก็ตายกันหมดหรอก”
วินยอมตกลงด้วยความกลัวตาย......และก็ได้ผล แมทเหยียบเบรก พอรถหยุดอยู่กับที่
เขาก็เงยหน้าขึ้นมอง แล้วเข้ามากอดวิน
“ขอบคุณนะวิน...ขอบคุณนะ ๆ ๆ”   แมทกล่าว.....เขาไม่รู้เลยหรืออย่างไรว่าการกระทำ
ของเขามันคือการ ‘ขู่’ ให้วินกลับไปคบด้วย ??..............

   ในที่สุดแมทก็ขับรถมาส่งวิน ตรงที่วินจอดรถไว้  เขาหอมแก้ม 1 ทีก่อนวินจะลง
จากรถ   ในตอนนั้นวินหมดรักแมทอย่างสมบูรณ์ วินไม่รู้สึกอะไรกับการหอมของเขา
เมื่อครู่นี้เลย  วินอยากจะไปให้พ้น ๆ เขาเท่านั้น
   ทันทีที่ถึงรถ วินรู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก วินรีบขับตรงดิ่งไปยังบ้านปุ้ย ที่ฟิวก็ยัง
อยู่ที่นั่น เมื่อไปถึง วินก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ทั้งปุ้ยและฟิวฟังอย่างละเอียด
“โรคจิต!”   ฟิวเอ่ยขึ้นทันทีที่วินเล่าจบ
“วิน..ไม่ไหวแล้วนะแก - - แล้วทำไมยังโง่ไปอีก แถมไม่บอกไม่กล่าวกันซักคำ”  ปุ้ยกล่าว
“เราแค่จะไปเจอหน้ากันเป็นครั้งสุดท้าย แมทบอกไม่อยากให้จบแบบไม่ดี แล้วก็ให้ถือ
ว่าเราจะได้ไปเอาของของเรากลับมาด้วย”   วินให้เหตุผล ในใจเต้นตุบ ๆ กับเหตุการณ์
เฉียดตายที่ผ่านมา
“คบกับมันไม่เจ็บตัว ก็เฉียดตาย....ยังจะคบอยู่อีกหรอว้ะวิน”    ปุ้ยสีหน้าจริงจัง
“เราไม่ได้รักแมทแล้วปุ้ย...วันนี้เรามั่นใจเลย แกต้องเห็น...แมทไม่ใช่คนเดิม
แมทคนที่เรารัก คือคนที่คบกับเราเมื่อ 6 – 7 เดือนก่อน   ทำไมตอนนี้มันเหมือน
คนละคนกันขนาดนี้”    วินกล่าวอย่างหนักใจ
“แต่วินก็บอกกับมันไปแล้วนี่ ว่าจะยังคบกันต่อ”    ฟิวเอ่ยขึ้น สีหน้าเขาดูวิตกเล็กน้อย
“ก็จะให้วินทำยังไงหละฟิว.....วินต้องทำ เพื่อให้ตัวเองรอดจากตรงนั้น”  วินกล่าว
   เราคุยกันอยู่ร่วมชั่วโมง  วินก็กลับบ้าน ทันทีที่เห็นหน้าคุณพ่อคุณแม่ วินก็นึก
ถึงเหตุการณ์บนรถแมทนั่น   วินกลัวเหลือเกิน กลัวจะไม่ได้กลับมาเห็นหน้าพวกท่านอีก
.....เวลาดำเนินต่อไป ตามหน้าที่ของมัน วินและแมทเจอกันทุกวันศุกร์ แต่วินไม่ได้ให้
แมทมารับวินที่โรงเรียนอีกแล้ว วินขับรถไปเจอแมทเองที่ห้างฯ วินไม่อยากนั่งรถกับเขา
อีกต่อไป      โดยวินอ้างกับแมทไปว่า ที่บ้านเริ่มสงสัย และคุณพ่อของวินก็รู้จักกับคนใน
โรงเรียนเยอะ กลัวว่าจะให้ใครมาจับตามอง....ทั้งที่คุณพ่อวินไม่มีนิสัยจับผิดเช่นนั้น
ทุกวันศุกร์วินรู้สึกหนักใจที่จะต้องไปเจอแมท  วินเบื่อวันศุกร์ ซึ่งตรงข้ามกับคนอื่น ๆ
วินเบื่อหน้าแมท ไม่ว่าเขาจะหล่อ และดูดี เหมือนที่วิน ‘เคย’ มองสักแค่ไหน   วินก็เอือม
ระอา และหนักใจที่จะต้องทำตัวซึ้งซาบ หวานหยดกับเขา  และยังต้องพยายามทำตัว
ให้เหมือนเดิมกับเขามากที่สุด...วินอยากให้เรื่องพวกนี้จบลงเสียที แต่มันก็ไม่ยอมจบ....

________________________________________________________


ตัวอย่างตอนต่อไป.....
ตอนที่ 26 สงคราม...สามสถาบัน (ภาค 2)


“อ่ะ....เอาไป แฮปปี้วาเลนไทน์ย้อนหลัง”   ฟิวยื่นกุหลาบให้ ท่าทีไร้ซึ่งความหวาน
“เฮ้ย...ขอบคุณมากฟิว”   วินยิ้มกว้าง
“รู้นะว่าวินไม่เข้ากับดอกกุหลาบ....ตอนแรกจะซื้อดอกหน้าวัวให้ แต่หาซื้อไม่ได้เลย”
ฟิวกล่าวพร้อมหัวเราะ 
................................................

“คุณวิน ๆ ....พี่แสงเดือนรู้แล้ว...”   พี่แสงเดือนพูดอย่างตื่นเต้น
“อะไรพี่แสงเดือน อะไร!”   วินตกใจ......จนทำเอาฟิวเองก็ตกใจไปด้วย
“คุณผู้หญิงค่ะ....พี่แสงเดือนรู้แล้ว ว่าคุณผู้หญิงทราบได้ยังไง ว่าคุณวินอยู่ไหน ทำอะไร
อยู่กับใคร............”   พี่แสงเดือนเว้นวรรคไป
“อะไรพี่แสงเดือน.....เพราะอะไร”    วินใคร่รู้ขึ้นมาทันที

................................................

“แมท...วินเจ็บนะ...เจ็บมาก”    วินพยายามบอกแมทเชิงขอร้อง
“ไอห่-าแมท.....ม.อึงปล่อยวินเดี๋ยวนี้นะ”   ฟิวเดินเข้ามาได้ไม่กี่ก้าว แมทก็ขู่ขึ้น
“อย่านะไอ้ animal…….ถ้าม.อึงไม่อยากให้วินเจ็บตัว” 
................................................


หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: naja ที่ 04-04-2008 22:42:16
โหดจิงๆครอบครับนายแมท :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: konan6688 ที่ 05-04-2008 01:45:15
พี่เค้ามีอาการทางจิตด้วยป่าววะเนี่ย   ฟังแล้วอึ้ง
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: mobilejom ที่ 05-04-2008 08:39:57
 :m29: บ้านนี้บ้าได้อีก เหอๆๆ  :เฮ้อ:
 
ปล. ยิ่งอ่านยิ่งไม่ชอบแมท  :เตะ1: ใครเป็นเหมือนผมบ้าง 555
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: agape ที่ 05-04-2008 15:29:09
 :เตะ1: :a6: :serius2: :o12:

อ่านเรื่องนี้แล้วหลายอารมณ์จังเลย

บ้านนี่ร้ายได้ทุกวันเลยอะ

ไม่เหนื่อยบ้างหรอสงสัยจัง

มาต่ออีกเร็วๆๆนะคับ

เป็นกำลังใจให้นะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 05-04-2008 18:07:15
 :เฮ้อ: น่ากลัวเหลือเกิน  :m29:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 05-04-2008 18:23:47
หมั่นไส้คุณแม่แมทมากกกกกกกกกก  :angry2:

ถ้าเป็นผมนะไม่โดนแค่นี้หรอก

ถึงเป็นผู้ใหญ่ก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะทำถึงขนาดนี้

ยอมเสียตังค์เพื่อทำร้ายคนแก่ :เตะ1:

*-----*-----*-----*------*-----*-----*

แต่ก็เข้าใจพี่แมทนะ

เพราะคนเราถูกเลี้ยงดูมายังไงก็จะเป็นอย่างนั้น

ถ้าด้ายอยู่กับพ่อคงจะเป็นคนที่ perfect มาก :o8:

อยู่กับแม่เลยบ้าตามแม่ไปเลย

อินจัด คับ  อยากเจอหน้าแม่พี่แมทจัง
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: LingNERD* ที่ 05-04-2008 18:43:31
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: angsumalin ที่ 05-04-2008 19:05:34
โห้ยยน่ากลัวง่ะ ทำไมแมทถึงได้โรคจิตขนาดนี้  :m29:

วินโชคดีมากเลยที่รอดจากการเฉียดตายมาได้ หวาดเสียว  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: Yurameki ที่ 05-04-2008 21:31:18
พี่วิน เค้าไม่เจอตะเองเลยอะ

ตามมาอ่านจ้า  :o8:

แมทอะ  หลอกตัวเอง

ขู่พี่วินอย่างงั้นคิดหรอว่าพี่วินไม่อยากเลิกกับแมทจิงๆ

เป็นใครก็ต้องตามใจมันไว้ก่อน

เพราะว่ากลัวตายกันทั้งนั้นอะ

ก็รู้เนอะ  ว่า  พี่วินพูดว่าไม่เลิก มันไม่ได้ออกมาจากใจจริง

ยังคิดจะทำ

คนเรา  ทำอะไรไม่เคยคิด

เกลียดแม่แมทกะแมทอะ

อย่าให้เจอสองท่านนี้นะพี่วิน   จะเถียงจนมันเถียงไม่ออก

(ยิ่งเป็นพวกชอบเถียงอยู่ด้วย หุๆ)

หึๆๆๆๆ    :m14:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: แมววาย ที่ 05-04-2008 22:30:16
ดีใจที่วินมาต่อ  เค้าก็เป็นห่วงนึกว่าแมทรู้เรื่องแล้ว
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: ICEME ที่ 05-04-2008 22:34:47
เอ้อ

อัพมะไหร่นี่..ทำไม..

ทำไม.....

ทำไมแมทถึงได้โรคจิตแบบนี้อ่ะ แล้วทำไม...

เอ่อ หรือว่ามันเป็นเพราะการเรียนดูของคนเป็นแม่ หรือเพราะจิตใต้สำนึกบอกให้ทำแบบนั้นอ่ะ

แมทแย่มากอ่ะ

ถ้ามันเป็นนิยายเต่าคงจะชอบอะไรแบบนี้ ที่มันจริงหน่อย แต่ในเมื่อมันเป็นเรื่องจริงก็ค่อนข้างจะรับไม่ได้อ่ะ

แมทแย่มากอ่ะ

หลอกตัวเองหลอกคนอื่นหลอกทั้งหมดเลยอ่ะ

คำว่ารักของแมทมันไม่จริงสักนิด

เมื่อไหร่จะหมดกรรมสักทีอ่ะพี่วิน

ปล. วันนี้ไปงานหนังสือมาค่ะ เหนื่อย+โทรมมาก คนยั้วเยี้ยเลยอ่ะ o2
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 05-04-2008 23:18:35
โหดจิงๆครอบครับนายแมท :เฮ้อ: :เฮ้อ:
โหดได้ครึ่งทางแล้วหละคุณ naja

พี่เค้ามีอาการทางจิตด้วยป่าววะเนี่ย   ฟังแล้วอึ้ง

ขนาดนี้คงไม่ต้องสืบแล้วหละ จิตอยู่แว้ววววว อิอิ

:m29: บ้านนี้บ้าได้อีก เหอๆๆ  :เฮ้อ:
 
ปล. ยิ่งอ่านยิ่งไม่ชอบแมท  :เตะ1: ใครเป็นเหมือนผมบ้าง 555

จอมพักนี้วินมะได้ออนเลย ฝึกงานเหนื่อยเหลือเกินนนนนน ขอบคุณสำหรับกำลังใจน้าาาาา :oni2:

:เตะ1: :a6: :serius2: :o12:

อ่านเรื่องนี้แล้วหลายอารมณ์จังเลย

บ้านนี่ร้ายได้ทุกวันเลยอะ

ไม่เหนื่อยบ้างหรอสงสัยจัง

มาต่ออีกเร็วๆๆนะคับ

เป็นกำลังใจให้นะ

ตอนนั้นไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ถึงไม่ยอมเหนื่อย
ด้านเจง ๆ คงเพราะหลงหัวปักหัวปำกะรักครั้งแรก(แสนสาหัส) นั่นหละ
และก็ขอบคุณสำหรับกำลังใจง๊าบบบ  :oni2:

:เฮ้อ: น่ากลัวเหลือเกิน  :m29:

ยังมีอีก อย่าเพิ่งกลัวเยอะมากนักนะ อิอิ
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 05-04-2008 23:29:10
หมั่นไส้คุณแม่แมทมากกกกกกกกกก  :angry2:

ถ้าเป็นผมนะไม่โดนแค่นี้หรอก

ถึงเป็นผู้ใหญ่ก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะทำถึงขนาดนี้

ยอมเสียตังค์เพื่อทำร้ายคนแก่ :เตะ1:

*-----*-----*-----*------*-----*-----*

แต่ก็เข้าใจพี่แมทนะ

เพราะคนเราถูกเลี้ยงดูมายังไงก็จะเป็นอย่างนั้น

ถ้าด้ายอยู่กับพ่อคงจะเป็นคนที่ perfect มาก :o8:

อยู่กับแม่เลยบ้าตามแม่ไปเลย

อินจัด คับ  อยากเจอหน้าแม่พี่แมทจัง

ถ้าเป็นตอนนี้ วินก็คงไม่ยอมเหมือนกานแหละ คนอาไร๊ถึกเหลือเกิน -*-
ถ้าอยากรู้แมทหน้าตาเป็นไง ถ้าเวลาเค้าแต่งหน้า ทำผม รวบผม ก็จะเหมือนคุณเพ็ญพักตร์เลย
แต่จะแต่งหรือไม่แต่งก็ ดูร้าย ๆ ตาขวาง ๆ อยู่ดี  :sad2:

:เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

สวัสดีน้องหมี หายไปนานเลย  :pig2:

โห้ยยน่ากลัวง่ะ ทำไมแมทถึงได้โรคจิตขนาดนี้  :m29:

วินโชคดีมากเลยที่รอดจากการเฉียดตายมาได้ หวาดเสียว  :เฮ้อ:

ใช่วินก็นึกย้อนกลับไป แล้วรู้สึกโชคดีอย่างบอกไม่ถูกเลยทีเดียว อิอิ

พี่วิน เค้าไม่เจอตะเองเลยอะ

ตามมาอ่านจ้า  :o8:

แมทอะ  หลอกตัวเอง

ขู่พี่วินอย่างงั้นคิดหรอว่าพี่วินไม่อยากเลิกกับแมทจิงๆ

เป็นใครก็ต้องตามใจมันไว้ก่อน

เพราะว่ากลัวตายกันทั้งนั้นอะ

ก็รู้เนอะ  ว่า  พี่วินพูดว่าไม่เลิก มันไม่ได้ออกมาจากใจจริง

ยังคิดจะทำ

คนเรา  ทำอะไรไม่เคยคิด

เกลียดแม่แมทกะแมทอะ

อย่าให้เจอสองท่านนี้นะพี่วิน   จะเถียงจนมันเถียงไม่ออก

(ยิ่งเป็นพวกชอบเถียงอยู่ด้วย หุๆ)

หึๆๆๆๆ    :m14:

คิดถึงน้องสาวมากมาย งานมันเข้าจิง ๆ จัง ๆ น้องจ๋า
พี่วินอยากจะออนเม้าท์กะน้องมากมาย แต่ต้องทำรายงานส่งตลอดเลย
ไว้ยังไงเรากริ๊งกร๊างกันได้เสมอน้าาาา
 miss u so โอ้โฮ ๆ  :oni2:

ดีใจที่วินมาต่อ  เค้าก็เป็นห่วงนึกว่าแมทรู้เรื่องแล้ว

ดีใจที่คุณ MeowY มารอ และมาอ่านเช่นกานนนน  :o8:

เอ้อ

อัพมะไหร่นี่..ทำไม..

ทำไม.....

ทำไมแมทถึงได้โรคจิตแบบนี้อ่ะ แล้วทำไม...

เอ่อ หรือว่ามันเป็นเพราะการเรียนดูของคนเป็นแม่ หรือเพราะจิตใต้สำนึกบอกให้ทำแบบนั้นอ่ะ

แมทแย่มากอ่ะ

ถ้ามันเป็นนิยายเต่าคงจะชอบอะไรแบบนี้ ที่มันจริงหน่อย แต่ในเมื่อมันเป็นเรื่องจริงก็ค่อนข้างจะรับไม่ได้อ่ะ

แมทแย่มากอ่ะ

หลอกตัวเองหลอกคนอื่นหลอกทั้งหมดเลยอ่ะ

คำว่ารักของแมทมันไม่จริงสักนิด

เมื่อไหร่จะหมดกรรมสักทีอ่ะพี่วิน

ปล. วันนี้ไปงานหนังสือมาค่ะ เหนื่อย+โทรมมาก คนยั้วเยี้ยเลยอ่ะ o2

คุณเต่า วินก็พยายามมาอัพให้เร็วที่สุด
แต่บางทีมีแอบลืม เพราะงานมันสุมหัว นรกมันสุมอก(เพราะกลัวทำงานไม่ทัน)

ิส่วนเรื่องเวรเรื่องกรรม ก็ใกล้หมดแระ แต่ยังมีอีก ต้องเล่าต่อ
เหนื่อยกันแล้วหละสิ โถ....แค่นี้ยังน้อย  :sad2:
แมทไม่รู้ว่ารักวินจริงรึเปล่าเหมือนกันเนอะ
นึกย้อนไปละ ก็กลุ้มจายยยยย




ปล.
วินขอบคุณทุกคนมาก ๆ เลยที่คอยติดตาม และช่วยกันเข้ามาดัน
เข้ามารอเรื่องของวินนะ
ช่วงนี้ฝึกงานหนักขั้นสาหัส ต้องทำรายงานทุกวันเลย  :sad2:
วินปวดหัวมากมายกับสารพัดเรื่องที่ทำงาน
อยากจะบอกว่าตอนนี้มีเรื่องราว น่าปวดหัวที่ฝึกงานด้วย
กะว่าถ้ามาเขียนเล่าคงมันส์พิลึก แบบตอนเดียวจบ
ไม่อยากเชื่อว่าจะได้เจอเรื่องชกต่อย ต่อหน้าต่อตาใกล้ ๆ แบบนี้อีก
(แต่ต่อยเพราะเรื่องอื่นนะ ไม่ได้แย่งวิันกันหรอก)
วินมาอัพดึกทุกวันเลย ต้องขออภัย ที่ไม่มีเวลาอัพแน่นอน
แต่เชื่อว่าทุกคน คงยังไม่ทิ้งกัน อิอิ  :o8:

ดีใจน้า ที่มีคนมารอ มาเีชียร์ มาเป็นกำลังใจ และชอบเรื่องของวิน
แล้ววินจะมาอัพต่อ ๆ
ว่าแล้วก็อัพเลยดีก่าาาาาาา
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 05-04-2008 23:37:27
ตอนที่ 26 สงคราม...สามสถาบัน (ภาค 2)
[/b]

เรื่องราวอันน่าเบื่อของวินและแมทดำเนินผ่านมาเรื่อย ๆ ข้ามผ่านวันสิ้นปี และวันปีใหม่
ไปอย่างน่าเบื่อ....ไม่มีอะไรใหม่ ๆ ดี ๆ เข้ามาในชีวิต วินไม่ได้แม้แต่จะอ่านหนังสือ
เพื่อสอบเอนทรานซ์รอบสอง  ....เข้าเรียนบ้าง ไม่เข้าบ้าง เพราะแมทที่งี่เง่ามากขึ้น
ครั้งนี้วินไม่โทษตัวเอง วินต้องโทษแมทเต็ม ๆ ที่อ้อนวอนกึ่งบังคับวินให้โดดเรียน
ซึ่งรวม ๆ กันแล้วแต่ละวิชา ก็ปาเข้าไปครึ่งค่อนคอร์ส ถ้าวินไม่ไปก็จะโกรธ ต่อว่าวิน
สารพัด เหมือนเขาลืมเหตุการณ์วันที่เขาขอคืนดีวินไปหมดแล้ว.....วินเคยคิดอยู่หลาย
ครั้งว่าจริงๆ  แล้วเป็นเพราะวินใจอ่อนเองจึงยอมโดด แต่ก็ไม่ใช่ .......แมทที่เหมือนจะ
รู้ทันว่าวินใจแข็ง ก็มักมีกลวิธี ‘มัดมือชก’ วินอยู่เสมอ  เช่น ซื้อตัวหนังไว้ก่อนแล้วค่อย
โทรมาชวน หรือชอบอ้างว่าจองโต๊ะอาหารไว้แล้วบ้าง โน่นนี่บ้าง  มาตลอด 2 เดือนนั้น
   เดือนนี้เป็นเดือนแห่งความรัก ซึ่งในวันที่ 14 ก็ใกล้กับวันที่เราคบกันคือวันที่ 12
แมทซื้อช่อช็อคโกแลตเฟอเรโร รอเชอร์ ช่อใหญ่มาก มีช็อคโกแลตอยู่ร่วมร้อยลูกได้
เขารวบยอดซื้อให้วินทั้งเนื่องในโอกาสวันแห่งความรัก และวันครบรอบ 10เดือนของเรา
(2 เดือนแรกแห่งความสุข.....8 เดือนหลังแห่งความทุกข์ทรมานใจ)
วินเดินถือกลับบ้านจนคุณแม่ของวินยังต้องทัก....แรก ๆ วินก็ไม่กล้าทาน แต่พอนานไป
วินก็ทานจนเกลี้ยง (^.^) โดยมีสมาชิกในครอบครัวช่วยจัดการไปบ้างเล็กน้อย
   วินยอมรับว่าวินรู้สึกชอบแมทอยู่บ้าง แต่ที่แน่ ๆ ไม่ใช่ความรัก วินอาจจะหลงใน
รูปลักษณ์ของเขาก็เป็นได้ แต่ความรู้สึกของวินมันก็ชอบ ๆ เบื่อ ๆ อยู่ตลอดเวลา
ทำให้ในระหว่างนั้น วินโทรฯ คุยกับฟิวอยู่ตลอด  โดยฟิวโทรมาจีบ ‘อย่างเปิดเผย’    เรา
คุยกันทุกวัน มาตลอด 2 เดือน เราไปเจอกันบ้างเป็นครั้งคราว แต่ก็เจอที่บ้านของปุ้ย
เพราะวินจะไปเดินห้างฯ แถวบ้าน ก็เสี่ยงเจอแมท เพราะบ้านเราอยู่ในละแวกเดียวกัน
หรือจะไปเดินสยาม ก็ใกล้กับโรงเรียนที่แมทเรียนอยู่ ซึ่งในเวลาเลิกเรียน เด็กโรงเรียน
แมทก็เดินกันให้พรึ่บ....ทว่า วินกับฟิวก็ยังคงคบกันฉันท์เพื่อนสนิท ที่สนิทกันมาก ๆ
แค่นั้นเอง แต่มีบ้างที่เราอยู่กันสองคน เช่น บนรถ ฟิวก็จะจับมือวินไว้เกือบตลอด
แต่เรื่องหอมแก้ม จูบ อะไรแบบนั้น เราไม่เคยทำ และฟิวก็ไม่เคยมีทีท่าจะเริ่มด้วยซ้ำ
และแล้วความบังเอิญ (ซวย) ก็เกิดขึ้น...........

วันนั้นเป็นวันจันทร์ ซึ่งวินเรียนครึ่งเช้า เพราะช่วงบ่ายทางโรงเรียนจะเลิกเพื่อให้
นักเรียนวิชาทหารไปเรียนรด.กัน      ซึ่งวินก็จะเปรมปรีด์เพราะไม่ได้เรียน..........
แต่ฟิวเรียนรด.ในช่วงเช้า ช่วงบ่ายเขาก็จะมีเรียน แต่วันนั้นฟิวโดดเรียน จึงโทรมาชวน
วินไปเที่ยว
“เลิกเรียนแล้วอ่ะเด้.....ไปเที่ยวกันเลย…ไปเลย ๆ  ห้ามปฏิเสธด้วย”   ฟิวกล่าวหลังจาก
ที่วินรับโทรศัพท์เขา (ตลอด 2 เดือน วินและฟิวไม่เคยมีใครตกลงเป็นแฟนกัน รู้แต่ว่าเรา
ชอบกันอยู่เท่านั้น.........แต่ความสัมพันธ์ และการปฏิบัติตัวของเรา ก็มีอยู่บ้างที่เป็นไป
ในลักษณะของคนเป็นแฟนกัน  ยกเว้นอยู่อย่างเดียวที่ไม่มีเข้ามาคือ ‘เรื่องหึงหวง’)
“เสียใจ...วินมีเรียนภาษาอังกฤษ”    วินตอบ
“เฮ้ย....ก็รีบมาสิ รู้นะว่าเรียนตั้ง 6 โมงนู่น.....มาเลย ๆ แล้วเดี๋ยวนั่งรถไปส่งที่โรงเรียน
ครูสมศรี”     ฟิวตอบกลับมา (ฟิวไม่เคยชวนวินโดดเรียนเลย)
“ไม่ต้อง....ไปคนเดียวได้”    วินทำเป็นเล่นตัว (*^-^*)
“ไม่เอา จะไปนั่งรอ...เค้าไม่ได้ไปรอตัวเองนะ จะเช็คเรทติ้งตะหาก”   ฟิวตอบมาติดตลก
“อี๋....”    วินหยอก
ในที่สุดวินก็ตอบตกลง เพราะก็ไม่รู้เหมือนกันว่าระหว่างรอเรียนพิเศษนั้นจะไปทำอะไร

   วินไปถึงสยามประมาณบ่ายโมง ฟิวก็โทรมาถามว่าวินจอดรถตรงไหน เพื่อที่เขา
จะได้เดินมาหาวินที่รถ   และเมื่อเขามาถึง ............
“อ่ะ....เอาไป แฮปปี้วาเลนไทน์ย้อนหลัง”   ฟิวยื่นกุหลาบให้ ท่าทีไร้ซึ่งความหวาน
“เฮ้ย...ขอบคุณมากฟิว”   วินยิ้มกว้าง
“รู้นะว่าวินไม่เข้ากับดอกกุหลาบ....ตอนแรกจะซื้อดอกหน้าวัวให้ แต่หาซื้อไม่ได้เลย”
ฟิวกล่าวพร้อมหัวเราะ   ฟิวเป็นคนที่ทำให้วินมีความสุขได้เสมอ เวลาอยู่กับเขา
“ดูรู้มั้ยเนี่ย...ว่ามันไม่เหมือนกุหลาบทั่วไป ดอกนี้ราคาเป็นร้อยเลยนะ...เอาไปดอกเดียว
ก็พอ....ต้องซื้อให้หลายคน”    ฟิวกล่าวแล้วทำยิ้มเก๊ก ๆ
“พอ ๆ…..อืมดูไม่รู้อ่ะ ถ้าไม่บอกว่ากุหลาบ ก็นึกว่าดอกบัว”   วินขัด
“น่าเกลียดวิน”   ฟิวเบะปาก
   วินและฟิวเดินเล่นกันไปอยู่หลายที่ เริ่มจากเดินในสยามอยู่ชั่วโมงนึงได้
ฟิวเป็นคนที่เดินซื้อของเก่งมาก   แวะเกือบทุกร้าน และเขาก็จะต่อกระจาย ถ้าต่อไม่ได้
เขาก็ไม่ซื้อ ผิดกับแมทอย่างมาก ถามราคาปุ๊บ ซื้อปั๊บเลย     จากนั้นเราก็ไปเดินที่
สยามเซนเตอร์ ต่อด้วยสยามดิสคัฟเวอร์รี่ และไปมาบุญครอง จากนั้นก็ไปเวิล์ดเทรด
เซนเตอร์ (เซนทรัลเวิล์ดปัจจุบัน)   ฟิวซื้อซีดีเพลงของวง Sixpence Non The Richer
ที่ร้าน CD Ware House ให้วิน เพราะทั้งวินและฟิวชอบอยู่เพลงนึงในอัลบั้มเหมือนกัน นั่นก็คือเพลง “Don’t Dream It’s Over”   วินฟังบ่อยมาก ถ้าเป็นเทปก็คงยืด หรือไม่ก็
ติดไฟไปแล้วเพราะเปิดบ่อยเกิน และวันนั้นวินก็ได้ตุ๊กตาหมาพันธุ์ปั๊กตัวเล็กๆ ที่ทำจาก
การเป่าแก้วมา 1 ตัว  โดยที่ฟิวก็เป็นคนซื้อให้อีก เพราะเขารู้ว่าวินชอบสุนัขพันธุ์นี้มาก
และวินก็เลี้ยงอยู่ 1 ตัวในตอนนั้นชื่อ ‘ไอ้ย่น’ แต่ตอนนี้ตายไปแล้ว  (ในขณะที่วินเขียน
เรื่องนี้อยู่ ตุ๊กตาแก้วหมาปั๊กตัวนั้นก็ตั้งอยู่ข้าง ๆ วินนี่เอง...แต่สีทอง ๆ ที่เข้าระบายมาก็
หาย ๆ จาง ๆ ไปเยอะแล้ว)
          ฟิวเป็นคนเตือนวินเรื่องเวลา เพราะตอนนั้นก็ใกล้เวลาเรียนแล้ว  ฟิวกับวินจึงเดิน
กลับไปที่สยามเพื่อเอารถ
“วินเรียนกี่ชั่วโมงอ่ะ”   ฟิวถาม
“สองชั่วโมงได้”   
“ไปด้วยนะ....ไปนั่งรอ”    ฟิวกล่าว
“เพื่ออะไรฟิว”     วินถาม
“เพื่อรอไง....ก็บอกไปแล้ว....ติงต๊องนะเนี่ยวินอ่ะ”    ฟิวตอบกลับมากวน ๆ
“อืมดี...ไม่อยากขับรถคนเดียวเหมือนกัน”    วินตกลง
“เดี๋ยวเตะกระเด็นเลย...นึกว่าอยากให้เราไปด้วย”    ฟิวทำทีต่อว่า
“เออ ๆ ก็อยากด้วย”   วินยอมรับอย่างเขิน ๆ
จู่ ๆ ก็มีสายเข้ามาจากพี่แสงเดือน  ...วินรู้สึกไม่ดีนัก ที่เห็นชื่อพี่แสงเดือนปรากฏบน
หน้าจอโทรศัพท์….วินกดวาง และโทรกลับไปตามเคย
“คุณวิน ๆ ....พี่แสงเดือนรู้แล้ว...”   พี่แสงเดือนพูดอย่างตื่นเต้น
“อะไรพี่แสงเดือน อะไร!”   วินตกใจ......จนทำเอาฟิวเองก็ตกใจไปด้วย
“คุณผู้หญิงค่ะ....พี่แสงเดือนรู้แล้ว ว่าคุณผู้หญิงทราบได้ยังไง ว่าคุณวินอยู่ไหน ทำอะไร
อยู่กับใคร............”   พี่แสงเดือนเว้นวรรคไป
“อะไรพี่แสงเดือน.....เพราะอะไร”    วินใคร่รู้ขึ้นมาทันที
“ตะกี๊พี่แสงเดือนได้ยินคุณผู้หญิงโทรบอกคุณแมทอีกแล้วค่ะ.......แต่ก่อนหน้านั้น
พี่แสงเดือนก็ได้ยินคุณผู้หญิงพูดกับเพื่อนทางโทรศัพท์”   พี่แสงเดือนพูดเบาลง
เหมือนกลัวว่าใครจะมาได้ยิน
“ว่ามาพี่แสงเดือน”   วินเร่งเร้า
“คุณวินคะ...พี่แสงเดือนไม่รู้ว่าจริงรึเปล่านะคะ  แต่พี่แสงเดือนคิดว่าคุณผู้หญิงให้
เพื่อนของแก สะกดรอยตามคุณวินค่ะ”    สิ้นเสียงพี่แสงเดือน วินหยุดเดิน และนิ่ง
ไปชั่วขณะ จนฟิวต้องหันมาถาม…
“แล้วทำไมพี่แสงเดือนถึงคิดว่าเป็นอย่างนั้น”   วินถาม ...ตัวเองรู้สึกนิ่งอึ้งไปแล้ว
“ก่อนหน้าที่คุณผู้หญิงจะโทรหาคุณแมท....คุณผู้หญิงรับโทรศัพท์ และเอากระดาษ
ปากกามาจดที่ที่คุณวินไปหมดเลยค่ะ  พี่แสงเดือนก็จำไม่ได้ว่าชื่ออะไรบ้าง มีแต่
ภาษาอังกฤษหมดเลยค่ะ”   พี่แสงเดือนตอบ ยิ่งทำให้วินรู้สึกแน่ใจขึ้นมาอย่างชัดเจน
ว่านี่วินถูกสะกดรอยตาม!
“ขอบคุณนะพี่แสงเดือน”    วินพูดแบบคนไร้ความรู้สึก แล้ววางโทรศัพท์ไป
“วินมีอะไร.....เป็นอะไรวิน”    ฟิวถาม
“คุณแม่แมท....ให้คนสะกดรอยตามเรา ฟิว”    วินตอบ
“ฮะ ??!!”   ฟิวเสียงดังด้วยความตกใจ
“วินไม่รู้ว่านานแค่ไหนแล้ว.....ตอนที่เกิดเรื่องปุ่น....วินไม่รู้ว่าตอนนั้นด้วยรึเปล่า”   
วินยังคงพูดไปอย่างเบลอ ๆ ....ใครจะไปคิดไปฝัน ว่าชีวิตในช่วง 7 – 8 เดือนที่ผ่านมา
จะมีคนจ้องดูเราใช้ชีวิตอยู่ตลอดเวลา รู้ว่าเราทำอะไร ไปที่ไหน และอยู่กับใคร
รู้สึกเหมือนถูกจับแก้ผ้าอย่างนั้น   วินพยายามนึกว่าที่ผ่านมาวินทำอะไรไปบ้าง
วินหมดความเป็นส่วนตัวไปเป็นเวลากี่เดือนแล้ว
“ไอห่-าเอ๊ย....นี่คนบ้านนี้มันทำถึงขนาดนี้เลยหรอเนี่ย”   ฟิวเสียงดัง
“ฟิว...เรารีบไปที่รถกันเถอะ”    วินกล่าว......วินรู้สึกว่าความปลอดภัยมันหายไป วินมอง
ซ้ายมองขวา  มองไปรอบ ๆ ตัว ทุกคนที่อยู่บริเวณนั้น ก็ไม่มีใครมองมาที่วินและฟิวเลย 
วินหวาดระแวง  และหมดความมั่นใจ รู้สึกไร้ที่กำบังอย่างบอกไม่ถูก
“ไปสิ...ไป ๆ”   ฟิวกล่าว แล้วพาวินเดินอย่างเร็วกลับไปที่รถ
เราสองคนเดินมาถึงที่หน้าเซนเตอร์พอยท์ วินก็ต้องพบกับคำตอบสุดท้ายของคุณแม่
............แมทยืนมองซ้ายมองขวาอยู่หน้าร้านบูทส์ (Boots) ข้าง ๆ เซนเตอร์พอยท์
ซึ่งซอยถัดไปเป็นที่จอดรถของวิน .............
แมทคงจะเห็นรถของวินจอดอยู่ จึงยืนรอวินอยู่ตรงนั้น.......วินจะหลบก็คงสายไป
จึงยืนอยู่จนสายตาของแมทมองสบกลับมา....เหตุการณ์วันนั้น มันอยู่ในใจของวิน
อย่างไม่เคยเลือน หรือจางไปไหน      วินจำทุกฉากทุกตอนได้อย่างแม่นยำเสียยิ่งกว่า
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสัปดาห์ที่แล้วเสียอีก (และแล้ววันนั้นวินก็ไม่ได้ไปเรียน)
..........แมทเดินกำหมัดทั้งสองข้างรี่เข้ามาที่วินและฟิว....ฟิวผลักวินให้ไปอยู่ข้าง ๆ
ด้านหลังเขา (แมนซะไม่มี)...ฟิวเชิดหน้าขึ้นมองแมทอย่างหาเรื่อง...ในชุดรด.ของทั้งสอง
ทำให้ดูเหมือนทหารกำลังเผชิญหน้าพร้อมรบกัน....วินในชุดพละของโรงเรียน ดูเป็นเด็ก
อ่อนไปขนัดตา
“แมท...วิน..”    วินเดินออกมาเพื่อจะอธิบาย แต่ฟิวก็เอาแขนใหญ่ ๆ ของเขามากั้นไว้
และกวาดตัววินไปข้างหลังอีก พร้อมพูดกับวินอย่างเป็นห่วงว่า....
“ถอยไปน่าวิน....อยากเจ็บตัวอีกรึไง”
“ว่าไงไอ้หน้าจืด”    ฟิวเป็นฝ่ายเริ่มพูดก่อน
“ว่าไงหละ ไอ้หน้าด้าน”    แมทตอบ แต่ฟิวยังคงเชิดหน้า ทำท่าทางหาเรื่องแมทต่อ
(เสียดายที่วินอยู่ข้างหลังฟิว เลยไม่เห็นแววตา หรือสีหน้าของเขา อยากรู้เหมือนกัน
ว่ามันจะยียวน กวนใจสักแค่ไหน)
“ฟิว ๆ คนมองหมดแล้ว”    วินดึงเสื้อฟิวแล้วเอ่ยขึ้นจากด้านหลังของเขา แต่ฟิวก็ไม่ตอบ
....ในเวลานั้นแม้จะเริ่มมืด ๆ แต่ไฟสีขาวจากร้านบูทส์ก็ทำให้ใคร ๆ ที่เห็นเหตุการณ์
พอเข้าใจว่า ทั้งสองคนกำลังมีเรื่องกัน แต่หวังว่าคงจะไม่รู้ ว่าเป็นเรื่องของผู้ชาย 3คน-*-
“กุบอกม.อึงแล้วใช่มั้ย ไอ้ฟิว...ว่าอย่ามายุ่งกับแฟนกุอีก”   แมทพูดขึ้นเบา ๆ  แค่พอให้
ได้ยินกันอยู่ตรงนั้น
“แล้วนายเป็นใครทำไมเราต้องเชื่อ”   ฟิวตอบ โดยไม่ขึ้น ‘ม.อึง-กุ’ กลับไป
“วิน...กลับ!”    แมททำทีออกคำสั่ง....วินเดินออกมา แต่ฟิวก็กวาดตัววินกลับไปอีก
“จะให้เค้ากลับไปทำไม...นายจะได้ฉุดกระชาก ผลักเค้าตกบันได หรือบีบคอเค้าอีก
งั้นหรอ....นายจะทำร้ายเค้าด้วยวิธีไหนอีก....บ้านเมืองมีกฎหมายนะเว่ย
บุญแค่ไหนแล้วที่วินเค้าไม่แจ้งความ........ครั้งนี้ถ้าแกทำอะไรวินอีก เราจะให้เค้า
แจ้งความจับนายให้ได้”    ฟิวกล่าวจบ แมทก็มีสีหน้ากลัวอยู่เล็กน้อย
“พอเหอะฟิว”   วินพูดขึ้นแล้วปัดตัวฟิวออกไป แล้วเดินไปอยู่ระหว่างทั้งสอง
“อายคนกันบ้าง....รู้ว่าหน้าหนา แต่วินอาย ถ้าจะทะเลาะกัน วินขอกลับก่อน”
วินกำลังจะเดินผ่านแมทไป....แต่แล้วแมทก็เข้ามาคว้ามือวินไว้ เขาใช้เล็บนิ้วโป้งจิก
ที่หลังมือของวิน บริเวณข้อมือที่ตรงกับนิ้วโป้ง ....วินเจ็บมาก และมองไปที่มือของ
ตัวเอง ก็เห็นเลือดซึมอยู่รอบ ๆ เล็บของแมท
“แมท...วินเจ็บนะ...เจ็บมาก”    วินพยายามบอกแมทเชิงขอร้อง
“ไอห่-าแมท.....ม.อึงปล่อยวินเดี๋ยวนี้นะ”   ฟิวเดินเข้ามาได้ไม่กี่ก้าว แมทก็ขู่ขึ้น
“อย่านะไอ้ animal…….ถ้าม.อึงไม่อยากให้วินเจ็บตัว” 
..........วินที่แมทเคยบอกว่ารัก เคยบอกว่าขาดไม่ได้ ตอนนี้กลายเป็นตัวประกันของแมท
แล้วใช้เพื่อขู่ฟิวไปแล้วหรือนี่ ?
“แมทวินเจ็บอ่ะ....ปล่อยวินนะ เจ็บมากเลยแมท”    วินขอร้อง
“เงียบไปเลยวิน...หลายใจ สัน-ดารร่า-น !!” แมทตะคอก แล้วใช้คำที่วินไม่เคยคิด  ว่าจะ
มีใคร  ที่เขาจะใช้คำนี้เพื่อด่าผู้ชาย......แมททำวินอายอีกแล้ว ซ้ำซาก ไม่จบไม่สิ้นเสียที
“เฮ้ย...ไอ้เลว.....ปากม.อึงนี่ยิ่งกว่าผู้หญิงอีกหว่ะ”       ฟิวกล่าว  แล้วทำท่าทีดูถูกแมท
“แมท...วินเจ็บ เจ็บจริงๆ แมท เจ็บมาก ปล่อยนะ”   วินขอร้อง รู้สึกเจ็บจนร้องไห้ออกมา
“ปล่อยวินนะเว่ย….รู้จักอายบ้างรึเปล่าว้ะ”    ฟิวกล่าว
ขณะนั้นเองวินก็เห็นเลือดตัวเองไหลออกจากแผลเป็นทาง มาจนถึงข้อมือ แล้วก็หยดลง
บนพื้น....วินไม่เคยเลือดไหลจนหยดแบบนี้มาก่อน แม้แต่มีดบาด วินก็ยังไม่เคยโดน…..
แล้วแมทเป็นใคร มาทำร้ายวินจนเลือดตกยางออก........ทำไมเลวขนาดนี้!?
“ไอห.เอี้ย....นี่มึงยังเป็นคนอยู่รึเปล่าฮะ !!!”   ฟิวตวาด........และวินก็หันไปเห็นฟิว
ในตอนนั้นมีน้ำตาไหลออกมา
“เอาเลือดร่า-น ๆ ออกบ้าง.....เผื่อจะดีขึ้น”    แมทกล่าว ด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“เลือดเย็นที่สุด”    วินเอ่ยขึ้นเบาๆ  จ้องหน้า และส่ายหน้าใส่แมทด้วยความเอือมระอา
“แค่นี้มันยังน้อยไป ไอ้สันดาร!!”  แมทขึ้นเสียง แล้วตบหน้าวินอย่างแรง ....ซึ่งวินรู้สึกว่า
เหมือนผลักวินไปครึ่งหน้าอย่างแรงมากกว่า
“ไอ้แมท!!!”   ฟิวตะโกน....แล้วกระโดดถีบหน้าท้องแมทอย่างแรง จนเขาล้มลงไป 
…………..ขณะนั้นก็มีพี่ยามเป่านกหวีดชี้นิ้วมาที่เราทั้งสามคน....
“พี่ครับ....ไอนี่มันบ้า มันทำร้ายร่างกายเพื่อนผม เอามันไปเลยพี่ เอามันไปเดี๋ยวนี้!!”
ฟิวตะโกนบอก  แล้วชี้นิ้วไปที่แมท ที่กำลังนั่งอยู่กับพื้น......แมทลุกขึ้นแล้วชี้หน้าวิน
ด้วยสีหน้าแค้นสุด ๆ และเขาก็เดินไปจากตรงนั้น........จากนั้นฟิวก็พาวินไปนั่งตรง
บริเวณน้ำพุของเซนเตอร์พอยท์
“เฮ้ยวิน !!!”  ฟิวอุทานขึ้นอย่างดัง วินที่ไม่รู้ตัวเอง  ก็ได้แต่หันไปมองหน้าเขา
“ไอ้ animal เอ้ย”    ฟิวพูดขึ้นเบา ๆ แล้วน้ำตาไหล  จากนั้นเขาก็ควานหาของในกระเป๋า
กางเกงและกระเป๋าเสื้อ แล้วดึงผ้าเช็ดหน้าของเขาออกมา และซับลงที่ตรงจมูกของวิน
ขณะนั้นเองวินก็เห็นเลือดจำนวนมากติดออกมากับผ้าเช็ดหน้าของฟิว
“วินเจ็บมั้ย”   ฟิวร้องไห้...นี่เป็นครั้งแรกที่วินเห็นฟิวร้องไห้ ไม่ว่าจะร้องให้วิน หรือร้องให้
กับเรื่องอะไร วินก็ไม่เคยเห็นเขาในภาพคนอ่อนแอมาก่อน ฟิวสีหน้าเฉย ๆ พยายามเก๊ก
แมนสุดตัว แต่น้ำตาไหลพรากออกมา
“เลือดกำเดาหรอฟิว”   วินถามไปอย่างโง่ ๆ
“สองข้างเลยวิน……ไปหาหมอกัน”   ฟิวกล่าว...วินแทบจะสิ้นสติ นี่วินเลือดออกเยอะ
ขนาดนี้เชียวหรือนี่ ??.....แต่วินเองก็รู้สึกมึน ๆ อยู่ไม่น้อยจากที่โดนแมทตบ หรือต่อย
ก็ไม่รู้.........วินไม่รู้ว่าโดนตบหรือต่อยอย่างไร โดนตรงไหน วินรู้แต่ว่ามันแรงมาก ๆ
“ทำไมมันเลวแบบนี้วิน....มันห.เอี้ย มากเลยนะเนี่ย”   ฟิวกล่าวทั้งน้ำตา พยายามทำ
หน้าไม่ให้เบ้ เขาทำหน้าเฉยมากที่สุด แต่น้ำตาก็ไหลออกมาไม่หยุด
....ขณะเดียวกัน วินก็ยกมือของตัวเองขึ้นดู ก็เห็นแผลที่หลังมือของตัวเอง เป็นแผลลึก
ฉีกออกจากกัน เป็นรอยรูปเล็บของแมท และเลือดก็ไหลออกมาเป็นทาง วินรู้สึกเจ็บ
และปวดอยู่มากเลยทีเดียว
“โอโห...วิน…….”    ฟิวทำหน้าวิตก
“ไปจากตรงนี้ดีกว่าฟิว....เดี๋ยวก็เสียภาพพจน์หมด”    วินกล่าว
“วินอย่ามาตลกตอนนี้ได้มั้ย”    ฟิวมีน้ำเสียงต่อว่า
“เปล่าจริง ๆ ฟิว..........วินว่ามันยังไง ๆ นะ”
“อืม ๆ ไปที่รถก็ได้”    ฟิวยอมเข้าใจ
.....เราทั้งสองเดินไปที่รถท่ามกลางสายตาประชาชีที่อยู่บริเวณนั้น คนที่นั่งอยู่ตรงน้ำพุ
คงจะทราบดีว่าเกิดอะไรขึ้น และสถานการณ์มันคืออะไร แต่คนที่เดินผ่านไปผ่านมา
คงแค่สงสัย และไม่รู้สถานการณ์ที่แท้จริง....วินเป็นห่วงภาพของฟิวอยู่เหมือนกัน
เพราะตอนนั้นเขาเองก็เริ่มมีชื่อเสียง อาจจะไม่ถึงกับดัง แต่ก็มีคนรู้จักและชื่นชอบเขา
มากจนมีคนสร้างเว็บแฟนคลับขึ้นมาให้เขาแล้วในตอนนั้น (ยิ่งถ้าเป็นตอนนี้วินว่าฟิวคง
จะไม่ทำอะไรแบบนั้นแน่ ๆ อย่าหาว่างั้นงี้เลยนะฟิว.....อิอิ)
   วินซับเลือดที่แขนจนหมด และเอากระดาษทิชชู่ปิดแผลไว้ เพราะว่าไม่อยากเห็น
จากนั้นก็นอนหงายหน้าอยู่ราวครึ่งชั่วโมงบนรถ จนเลือดกำเดาแห้ง พอวินกลับสู่ท่า
ทางปกติได้ไม่นาน ประมาณ 10 นาที เลือดกำเดามันก็ไหลออกมาอีก  ฟิวบอกให้วิน
ไปหาหมอ แต่วินดึงดันไม่ยอมไป ฟิวก็ได้แต่นั่งมองหน้าวินที่อาบเลือดอยู่ในรถ
....วันนั้นวินจึงขับรถไม่ได้  ฟิวเลยขับรถไปส่งวินที่บ้านปุ้ย ซึ่งตอนนั้นยังไม่ถึงเวลา
ที่วินต้องกลับบ้านเพราะวินควรจะอยู่ที่โรงเรียนกวดวิชาอยู่.....ปุ้ยที่เห็นวินในสภาพ
นั้นก็เป็นเดือดเป็นแค้น จะพาวินไปโรงพักให้ได้....แต่วินก็ไม่ฉลาดพอที่จะเชื่อเพื่อน
....ฟิวอยู่ที่บ้านปุ้ยได้สักพัก ก็ต้องนั่งรถแท็กซี่กลับไปเอารถของเขาที่จอดทิ้งไว้
ที่สยาม และขับกลับบ้านของเขาไป....วินรู้สึกซึ้งใจอย่างมาก ที่ฟิวทำให้วินได้ขนาดนี้
   พอถึงเวลาวินก็กลับบ้าน โดยมีฟิวโทรมาถามอาการเป็นระยะ ๆ  วินรีบขึ้น
ห้องนอนทันทีที่ถึงบ้าน เพราะกลัวมีคนเห็น วินล้างหน้าล้างตา....แค่มือไปโดนจมูก
นิดเดียว เลือดก็ไหลออกมาอีก ถ้านอนเฉย ๆ สัก 2-3 นาทีเลือดก็หยุด  จนวินหลับไป
พอตื่นเช้ามา เลือดก็ไหลเต็มหมอนไปหมด....วินเลือดกำเดาไหลแบบไหล ๆ หยุด ๆ อยู่
แบบนี้จนถึงเย็นของอีกวัน ซึ่งระหว่างวันมันก็ไหลออกมานิดหน่อย ถึงจะไม่มาก
เหมือนตอนแรก แต่ก็สร้างความรำคาญ และลำบากใจอยู่เหมือนกัน ส่วนแผลที่หลังมือ
ก็เริ่มประสาน แต่ก็ยังไม่แห้ง วินยังคงต้องอาบน้ำโดยไม่ให้แผลเปียก       และถึงแม้ว่า
ในเวลาต่อมา แผลจะปิดสนิทและหายเจ็บไปแล้ว แต่ก็ยังคงทิ้งรอยแผลเป็นนูนๆ ขนาด
เท่ากับเล็บของแมทไว้ให้วินเห็น และตอกย้ำถึงความรุนแรงของเขามาจนถึงวันนี้..........

________________________________________________________


ตัวอย่างตอนต่อไป.....
ตอนที่ 27 หมดสิ้น...ซึ่งความโง่เขลา


“คุณแม่ก็ถามแมทเอาเองสิครับ ว่าแมทเค้าทำอะไรวิน”
วินตอบไปด้วยน้ำเสียงงัวเงียอีกครั้ง
“วิน.........แม่ไม่มีกำลังจะมาเถียงกันตอนนี้.....วินต้องมาช่วยแม่เดี๋ยวนี้เลย
ตั้งแต่วันจันทร์แล้วเนี่ย.....แมทไม่ออกมาจากห้องเลย ไม่กิน ไม่อะไรทั้งนั้น”
คุณแม่มีน้ำเสียงเป็นห่วง และกังวลที่สุด.............ทำเอาวินรู้สึกวิตก กังวลไปด้วย
“แล้วคุณแม่จะให้วินทำอะไร......วินเป็นคนนอก”    วินลุกขึ้นนั่งแล้วพูดจาไร้เยื้อใย


........................................

“พี่กอล์ฟ.....”    วินเอ่ยขึ้นเบา ๆ จ้องมองคนที่มาเปิดประตูอย่างประหลาดใจ
“วิน......”    แมทเอ่ย ทั้งที่เขายังอยู่ในท่าโก่งตัวค้างไว้   คงอาจจะเป็นเพราะพยายามจะ
ดึงตัวพี่กอล์ฟไม่ให้มาเปิดประตูเมื่อสักครู่ แต่ไม่ทัน
.........แมทนุ่งกางเกงเลสีดำตัวเดียวกันกับที่เขาเคยใส่ในคืนแรกที่วินมาค้างกับเขา
และไม่ได้ใส่เสื้อ.........แล้วจะให้วินคิดอย่างไรได้อีก ? (หรือกางเกงตัวนี้คือกางเกง
นำโชคในการเผด็จศึกเรื่องบนเตียงของเขา??)
“เฮลโหล”    ชายหน้าขาว การศึกษาดี คนที่วินคุ้นเคยอยู่ในชุดนอนลายแก่ๆ ยืนกอดอก
พิงประตู เอ่ยทักวินด้วยสีหน้าปิติยิ่งนัก

.........................................

“หนอยไอ้เด็กบ้านี่”    คุณแม่ง้างมือจะตบหน้าวิน แต่ก็ต้องชะงัก เพราะวินกำหมัดขึ้น
เตรียมตอบกลับ
“เอาสิ....เอาเลยคุณแม่ วินจะเอาคืนให้สาสม รวบยอดกับที่คุณแม่ทำกับวินมาตลอด
เกือบ 1 ปีนี้……..เอาเล้ย.....มาสิ .....แลกกัน!!!”   วินท้า

...........................................

“ร้องทำไม”   วินถามแล้วยิ้มให้พี่แสงเดือน
“สงสารคุณวิน......”   พี่แสงเดือนกล่าวเสียงหลง ทำหน้าเบ้แล้วใช้มือปาดน้ำตาไปมา
“วินจะโทรหา....วินไม่ลืมพี่แสงเดือนหรอก...คิดถึงก็โทรมานะ วินจะโทรกลับ”  วินกล่าว
“ค่ะ”   พี่แสงเดือนพยักหน้าหงึก ๆ

............................................
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: angsumalin ที่ 06-04-2008 20:47:42
อ้างถึง
(2 เดือนแรกแห่งความสุข.....8 เดือนหลังแห่งความทุกข์ทรมานใจ)

วินทนมาได้ยังไง ทนเพราะอะไร ทำไมถึงต้องทนขนาดนั้น แล้วความรุนแรงของแมทมันเริ่มบ้ามากขึ้นเรื่อยๆ ปัจจุบันแมทเนี่ยยังอยู่ดีครบอวัยวะหรือป่าวคับเนี่ย ไปทำแบบนี้กับคนอื่นหรือป่าวง่ะ ไม่โดนฆ่าหมกป่าหรอ
ทำไมถึงเป็นคนแบบนี้ได้ โหดควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่เลย
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: ICEME ที่ 07-04-2008 00:37:42
 :o211: :o211: :o211: :o211: :o211:

ขอด่าแรงๆ สักคำได้มั้ย

ไอเชี่ยแมทททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททท

แฮ่กๆ เหนื่อยเลย เหนื่อยใจ

พี่วินทำให้เต่าไม่กล้ามีแฟนนะเนี่ย

ถ้าเกิดว่ายอมนิดยอมหน่อยก็ต้องยอมตลอดไป

เต่าเคยคิดนะว่าพวกเกย์(เรียกแบบนี้โกรธป่ะ)เป็นสุภาพบุรุษอ่ะ

แต่การกระทำของแมทสอบตกในฐานะแฟน ฐานะคน!

พี่วินเหมือนเพื่อนเต่าเลย ความรักกระแทกเบ้าตาอ่ะ

แต่ไม่เหมือนกันตรงที่..มันยังคงโง่อยู่ถึงแม้จะโดนบอกเลิกแล้วก็ตาม

ทำไมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม

โลกนี้จะต้องมีคนแบบพี่วิน จะสงสารหรืออะไรดีละนี่

ไม่น่าไปยอมเขาตอนแรกเลยอ่ะ ยอมแล้วก็กลายเป็นแบบนี้

ไม่รู้จะสงสารหรือสมเพชแมทดีอ่ะ

รู้แต่ว่าทำเกินไปแล้ว ไหนละความรักที่เคยพล่ามเอาไว้อ่ะ ไหนละ ไหนๆ

ไม่เคยช่วยไม่เคยทำอะไรให้เลย

ยังเป็นผู้กระทำเสียเองด้วยซ้ำ

อ่านตอนนี้แล้วมันอึ้งๆ ไงไม่รุ

รู้สึกทำใจยอมรับไม่ได้อ่ะ

ดีใจด้วยนะคะที่ออกจากวังวนแห่งความวิปลาสนั่นได้เสียที ถึงจะใช้เวลาไปนานแสนนานก็เถอะ

ทำงานเหนื่อยก็พักเถอะค่ะ ไม่เร่ง แต่ตามทวงเป็นระยะๆ

เล่าเรื่องนี้จบอย่่าลืมเต่าก็แล้วกัน :oni3: :oni3:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 07-04-2008 07:04:14
 :เฮ้อ:แมทนี่สมควรโดน  :เตะ1: :เตะ1: :เตะ1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: ICEME ที่ 11-04-2008 21:21:38
เชื่อป่ะพี่วิน
ตอนที่พี่อ่านข้อความของเต่าอยู่
..พี่ต้องอยู่หน้าจอคอมแหง 55+  :laugh:
ไม่มีไร มาเม้นต์ให้ก่อน กลัวเรื่องนี้หลุดกรอบ
ว่างแล้วมาต่อนะ :o8:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: shetuktig ที่ 11-04-2008 21:22:25
มาต่อด้วยน้าวินจ๋า

 :c5:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 12-04-2008 00:02:12
ตอนที่ 27 หมดสิ้น...ซึ่งความโง่เขลา
หลังจากที่อาการมึน ๆ และเลือดกำเดาไหลไม่หยุด ได้หายไป เหลือไว้แต่แผลที่บริเวณ
หลังมือ ที่ยังไม่สมานกันดีนัก (วินมารู้ทีหลังว่าจริง ๆ ควรเย็บ) ....และก็มาถึงวันใหม่
....วินกำลังนอนหลับสบายในยามเช้าตรู่ อาทิตย์เพิ่งส่องแสงได้ไม่นาน เวลาประมาณ
6 โมงยังไม่ถึงครึ่ง ก็มีโทรศัพท์เข้ามา........
‘MATT’s MOM’ …………มาอีกแล้ว ...จะรับดี ไม่ดีนะวิน.......รับซะหน่อยก็ได้ เอ้า...
“วินลูก...!!!”    คุณแม่ทำเสียงตกใจ
“คุณแม่”    วินก็ได้แต่ตอบรับไปสั้น ๆ ด้วยความงัวเงีย (ก็เพิ่งเลยตีห้ามาได้ไม่กี่นาที)
“วินทะเลาะอะไรกับแมทอีก.....แม่เป็นห่วงเค้ามาเลยเนี่ย....อะไรกันอีกลูก”
คุณแม่มีน้ำเสียงดุเล็กน้อย ทำให้วินรู้สึกว่า ‘โอเค...นี่คือคุณแม่ตัวจริง...วินคงไม่โดน
แกล้งอะไร หรือให้คุณแม่มาแสร้งแกล้งทำอะไรใส่อีก’
“คุณแม่ก็ถามแมทเอาเองสิครับ ว่าแมทเค้าทำอะไรวิน”   วินตอบไปด้วยน้ำเสียงงัวเงีย
อีกครั้ง
“วิน.........แม่ไม่มีกำลังจะมาเถียงกันตอนนี้.....วินต้องมาช่วยแม่เดี๋ยวนี้เลย
ตั้งแต่วันจันทร์แล้วเนี่ย.....แมทไม่ออกมาจากห้องเลย ไม่กิน ไม่อะไรทั้งนั้น”
คุณแม่มีน้ำเสียงเป็นห่วง และกังวลที่สุด.............ทำเอาวินรู้สึกวิตก กังวลไปด้วย
“แล้วคุณแม่จะให้วินทำอะไร......วินเป็นคนนอก”    วินลุกขึ้นนั่งแล้วพูดจาไร้เยื้อใย
“โถวินลูก....ช่วยแม่ที มาพูดกับแมทหน่อย ....เค้าไม่กินข้าว กินน้ำมา 2 วันแล้ว”
คุณแม่มีน้ำเสียงขอร้อง เหมือนจะร้องไห้ (อีกแล้ว)
   หลังจากที่คุณแม่กล่าวจบ วินก็ลองกดโทรศัพท์บ้านที่อยู่ในห้องนอน เพื่อโทร
หาแมท  แต่เขาปิดเครื่อง....วินจึงเริ่มเป็นห่วงขึ้นมาบ้างจริง ๆ
“แล้ววินจะรู้ได้ยังไง....ว่าคุณแม่จะไม่โกหกวินอีก”    วินถามกันท่า แบบคนเริ่มฉลาดขึ้น
“วินแม่ขอร้องหละ....วินต้องรับผิดชอบนะ”   คุณแม่มีน้ำเสียงดุดัน ทำให้วินรู้สึกว่า
คุณแม่ไม่ได้แกล้งทำแน่ ๆ เพราะถ้าอย่างนั้น คุณแม่คงทำเสียงดี ๆ กว่านี้
“โอเคคุณแม่ เดี๋ยววินไป”   วินมีน้ำเสียงรำคาญเล็กน้อย

พอวางสายจากคุณแม่....วินก็โทรหาพี่แสงเดือน  มีสัญญาณ แต่พี่แสงเดือนไม่ได้รับ ....
เธอคงกวาดหน้าบ้านในยามเช้า ตอนที่แดดยังไม่ร้อน เหมือนกับทุก ๆ วัน
วินไม่มีทางเลือกนัก ยังไงก็ต้องลองเสี่ยงไป ถ้าเป็นเรื่องจริงแล้วไม่ไป ก็จะดูโหดร้าย
เกินไป  แต่ถ้ามีการโกหกอีก  อย่างน้อย ๆ ก็จะได้รู้ว่าคนบ้านนี้คบไม่ได้ และวินก็จะ
ไม่เชื่ออะไรที่คนบ้านนี้พูดอีกเลย....วินออกจากบ้านทันที โดยที่ยังอยู่ในชุดนอน
หน้าตาก็ไม่ได้ล้าง   คุณพ่อคุณแม่ของวินก็ยังคงหลับอยู่ วินไม่ได้แม้แต่จะขออนุญาต
ท่านเพื่อออกมาด้วยซ้ำ.........

วินมาถึงหน้าบ้าน ก็เห็นคุณแม่ยืนประกบพี่แสงเดือนอยู่ สีหน้าของท่านดูกังวลมาก
แต่การที่ท่านมายืนคุมพี่แสงเดือนอยู่นั้น ทำให้วินไม่ได้ไถ่ถามอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้
...คุณแม่รีบเดินเข้ามาจับแขนวินทันทีที่วินลงมาจากรถ แล้วพาเข้าไปในบ้านพร้อมท่าน

“วิน....ช่วยแม่หน่อยนะลูก แล้วแม่จะไม่รบกวนวินอีกเลย”   คุณแม่หยุดที่ตรงหน้า
บันได เพื่อให้วินขึ้นไปตามลำพัง.........วินพยักหน้าตอบและเดินขึ้นไปยังห้องแมท

   ทันทีที่วินถึงหน้าห้องแมท ก็รู้สึกได้ถึงไอเย็น ที่ออกมาจากช่องใต้ประตูห้องนอน
ของเขา ทำให้วินทึกทักในใจว่าเขาคงหมกตัวอยู่แต่ในห้องและไม่ได้ปิดแอร์เลย
ไอเย็นเฉียบมันถึงได้รอดออกมาขนาดนี้......วินจึงเชื่อที่คุณแม่พูดมากขึ้น

“แมท....นี่วินเอง เปิดประตูได้มั้ย....ออกมาเถอะแมท”   วินเคาะประตูเรียกแมท
   หลังจากที่วินเคาะประตูแล้วเรียกได้ไม่นาน ก็ได้ยินเสียงปึงปัง เหมือนคนลุก
พรวดพราดจากเตียง แต่มันเป็นเสียงโครมครามผิดปกติดเล็กน้อย.........................
   และแล้ววินก็ได้ยินเสียง ที่วินรู้ทันทีว่าเป็นเสียงของแมท..............
“เฮ้ย !!!........ อย่า!!.....มานี่.......อย่านะ”   เสียงของแมทเอ่ยขึ้นไปพร้อม ๆ กับเสียง
โครมคราม ฉุดกระชาก ลากถู........และประตูก็เปิดออก ด้วยการดึงอย่างแรงของผู้เปิด
ราวกับว่ากลัววินจะไม่รอ แล้วเดินไปจากตรงนั้นเสียก่อน……………………………….
....................และวินก็.............


“พี่กอล์ฟ.....”    วินเอ่ยขึ้นเบา ๆ จ้องมองคนที่มาเปิดประตูอย่างประหลาดใจ
“วิน......”    แมทเอ่ย ทั้งที่เขายังอยู่ในท่าโก่งตัวค้างไว้   คงอาจจะเป็นเพราะพยายามจะ
ดึงตัวพี่กอล์ฟไม่ให้มาเปิดประตูเมื่อสักครู่ แต่ไม่ทัน
.........แมทนุ่งกางเกงเลสีดำตัวเดียวกันกับที่เขาเคยใส่ในคืนแรกที่วินมาค้างกับเขา
และไม่ได้ใส่เสื้อ.........แล้วจะให้วินคิดอย่างไรได้อีก ? (หรือกางเกงตัวนี้คือกางเกง
นำโชคในการเผด็จศึกเรื่องบนเตียงของเขา??)
“เฮลโหล”    ชายหน้าขาว การศึกษาดี คนที่วินคุ้นเคยอยู่ในชุดนอนลายแก่ๆ ยืนกอดอก
พิงประตู เอ่ยทักวินด้วยสีหน้าปิติยิ่งนัก

   วินจะไปทำอะไรได้ ...ได้แต่มองหน้าแมท น้ำตาคลอ และหยดติ๋งโดยไม่ต้องสั่ง
...เราทั้งสามยืนอยู่ในตำแหน่งเดิมท่ามกลางความเงียบ ไม่มีใครพูดกับใครอยู่ได้ครู่หนึ่ง
วินก็เดินหันหลังเพื่อจะกลับบ้าน....วินมีอะไรหลายอย่างมากในใจที่อยากพูด อยากทำ
แต่มันพูดไม่ออก ทำไม่ถูกจริง ๆ
“วิน !!!”   แมทพุ่งตัวออกมาขวางหน้าวิน
“หลีกไป...”    วินกล่าวทั้งน้ำตา
“วินร้องไห้?.......แสดงว่าวินยังรักแมท.....วินยังหึงแมทใช่มั้ย”    แมทถาม สีหน้าดูดีใจ
.... วินไม่นึกไม่ฝันว่าแมทเขาจะนึกเหตุผล  จากท่าทีของวิน ประกอบการกระทำของเขา
ที่ทำลงไปแบบนี้ออกมาได้
“รัก?.....วินรักแมทหรอ.........”    วินถามด้วยน้ำเสียงดูถูกเล็กน้อย และทำหน้าร้ายให้
ได้มากที่สุด ^_^
“วินร้องไห้ให้กับความโง่ ความควาย กับคนโกหก ตอ-แหล ของบ้านนี้ต่างหากหละ !!!”
วินแผดเสียงดังที่สุด มั่นใจว่าคนข้างล่างต้องได้ยิน
“คุณแม่ของแมทปลิ้นปล้อน ตอ-แหลเป็นอาชีพ จนวินหลงเชื่อมาตลอด !!!”  วินเสียงดัง
............วินด่าจนรู้สึกพอใจแล้วก็วิ่งลงบันไดไป โดยที่แมทและพี่กอล์ฟตามลงมาด้วย
พอถึงชั้นล่าง วินก็เห็นคุณแม่ยืนทำหน้าไม่รู้ร้อนรู้หนาว (ลองจินตนาการหน้าของคุณ
เพ็ญพักตร์ เวลาเธอเล่นบทร้าย ทำสีหน้าไร้อารมณ์ดู)
.......วินเดินตรงเข้าไปหาคุณแม่ จนคุณแม่ต้องเดินถอยไป 3 – 4 ก้าว และมีสีหน้า
ตกใจกลัวเล็กน้อย
“แกจะทำอะไรชั้น”   คุณแม่พูดขึ้นอย่างหวาด ๆ
“กลัวด้วยหรอคุณแม่....”    วินพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“วินไปทำอะไรให้คุณแม่นักหนา !!! ทำไมต้องมาทำร้ายกันไม่หยุดไม่หย่อน !!!
คุณแม่เป็นบ้าอะไร....ทำไมต้องทำกันถึงขนาดนี้  วินเคยทำอะไรให้คุณแม่เจ็บปวด
มากมายนักฮะ !!!!”    นี่คือครั้งแรกที่วินแผดเสียงดังลั่นบ้านใส่คุณแม่
“แมท....แมทลูก”   คุณแม่มีสีหน้าตกใจ ร้องเรียกให้ลูกของท่านช่วย
“ฟังนะแมท........ที่วินมาที่นี่วันนี้ ตอนนี้ เพราะเป็นห่วงแมท เพราะอีแม่ตอ-แหลคนนี้
มันโทรไปหาวินแต่เช้า บอกว่าแมทนอนซมอยู่ในห้องมาสองวัน !!!!”  วินหันไปบอกแมท
ด้วยน้ำเสียงดังเท่าเดิม...วินรู้สึกเจ็บคอไปหมด แต่โมโหเกินกว่าจะลดเสียงลงได้
“นี่แกเรียกชั้นว่าอะไรนะ !!”   คุณแม่ขึ้นเสียง
”อีตอ-แหล !!!...ทำไม !!! วินเรียกคุณแม่ว่า อีตอ-แหล !!!”    วินหันไปแผดเสียงตอบ
“หนอยไอ้เด็กบ้านี่”    คุณแม่ง้างมือจะตบหน้าวิน แต่ก็ต้องชะงัก เพราะวินกำหมัดขึ้น
เตรียมตอบกลับ
“เอาสิ....เอาเลยคุณแม่ วินจะเอาคืนให้สาสม รวบยอดกับที่คุณแม่ทำกับวินมาตลอด
เกือบ 1 ปีนี้……..เอาเล้ย.....มาสิ .....แลกกัน!!!”   วินท้า
“แมทดู ดู๊.....ดูมันนะแมท......เห็นมั้ย ในที่สุดธาตุแท้มันก็ออกมาแล้ว”   คุณแม่กล่าว
“จะคิดยังไงกับวินก็ช่าง.......วินไม่สน!!!”   วินตวาด
“วิน....”   แมทเสียงอ่อยใส่วิน
“พอกันทีแมท...”   วินหันไปมองหน้าแมท แล้วเอ่ยขึ้นเสียงแข็ง….ก่อนจะหันกลับมาที่
คุณแม่อีกครั้ง
“พอกันทีคุณแม่.............ถ้าคุณแม่อยากให้วินเลิกกับลูกชายของคุณแม่นักละก็.......”
วินกล่าวเสียงสั่น ทั้งน้ำตา
“วิน....วินครับ.....”    แมทเดินเข้ามาจับแขนวิน ก่อนที่เขาจะได้ยินประโยคต่อไปของวิน
“วินก็จะเลิก !”   วินพูดขึ้นอย่างเย็นชา.........แมทลงนั่งคุกเข่า จับมือวินแน่น
.........วินจ้องหน้าคุณแม่ที่กำลังตกใจ อึ้ง กับสิ่งที่วินพูดไปอยู่ไม่นาน  และวินก็สลัดมือ
ของแมทออก....และเดินออกไปจากตรงนั้น
........คิดดูแล้วกันว่าพี่กอล์ฟยืนอยู่นิ่ง ๆ ไม่รู้สึกผิดอะไรเลย........ถ้าพี่กอล์ฟได้มาอ่าน
วินอยากถามจริง ๆ ว่า วินเคยไปทำอะไรให้พี่นักหนา  พี่ถึงได้จงเกลียดจงชังวิน ตั้งแต่
ยังไม่เคยคุยกันด้วยซ้ำ
“วิน....วิน !!!!............แมทขอโทษวิน..........แมทขอโทษวิน !!!”  แมทตะโกนตามหลัง
วินมา....แต่ความเกลียดชังคนบ้านนี้ที่วินมี มันมากมายเหลือเกิน....จบกันสักทีนะแมท!

“คุณวินคะ....”   พี่แสงเดือนที่เช็ดรถอยู่ ซึ่งคงได้ยินทุกอย่าง เดินเข้ามาจับมือวิน
“แล้ววินจะโทรหานะพี่แสงเดือน”   วินจับมือพี่แสงเดือนแน่นแล้วร้องไห้ ส่วนพี่
แสงเดือนก็น้ำตาคลอ ๆ
“ไว้เรานัดเจอกันข้างนอกนะพี่แสงเดือน ....วินไม่ไหวแล้ว....วินไม่ทนแล้วพี่แสงเดือน”
วินกล่าวทั้งน้ำตา....พี่แสงเดือนพยักหน้าตอบ เบะปากเล็กน้อยแล้วน้ำตาก็ไหล
“ร้องทำไม”   วินถามแล้วยิ้มให้พี่แสงเดือน
“สงสารคุณวิน......”   พี่แสงเดือนกล่าวเสียงหลง ทำหน้าเบ้แล้วใช้มือปาดน้ำตาไปมา
“วินจะโทรหา....วินไม่ลืมพี่แสงเดือนหรอก...คิดถึงก็โทรมานะ วินจะโทรกลับ”  วินกล่าว
“ค่ะ”   พี่แสงเดือนพยักหน้าหงึก ๆ
   และวินก็เดินไปที่รถ รู้สึกโล่งอกโล่งใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนในช่วง 10 เดือน
ที่ผ่านมา....วินหยิบซีดีเพลงที่ฟิวซื้อให้และเปิดฟังระหว่างทางจนถึงบ้าน............
.........จบสิ้นกันเสียที กับความรักครั้งแรกที่ไม่ประทับใจเอาเสียเลย แล้วยังต้องเจ็บตัว
เจ็บใจ อึดอัด หาความสุขไม่ได้...........วินเริ่มคิดถึงเรื่องของวินและฟิวได้อย่างเต็มร้อย
มากขึ้น.....วินไม่ต้องห่วงเรื่องของแมท และคุณแม่อีกต่อไป.....วินไม่สนว่าคุณแม่จะ
มองวินอย่างไร.....ไม่สนว่าคุณแม่และแมทจะรู้สึกว่าพวกเขาคิดถูกหรืออย่างไรก็ตาม
เกี่ยวกับเรื่องของวินและฟิว……..วินไม่สนคนบ้านนี้อีกต่อไปแล้ว
........ต่อไปนี้วินไม่ต้องเกรงใจ หรือแคร์ความรู้สึกของแมทอีก........แต่นี้ต่อไปมันจะเป็น
เรื่องของวินและฟิว........ฟิวเข้ามาอยู่ในความคิด พิจารณาของวินในตอนนั้นเอง..........
____________________________________________________________


ตัวอย่างตอนต่อไป.....
ตอนที่ 28 สุขๆ ทุกข์ๆ...นี่แหละชีวิตของเรา

“คุณวินคะ...คุณวินเกิดเรื่องใหญ่แล้วค่ะ !!”  พี่แสงเดือนมีน้ำเสียงตกใจ
“เป็นอะไรพี่แสงเดือน”   วินรีบถามกลับ
“คุณแมทค่ะ...คุณแมทกินไบกอน!!!”   พี่แสงเดือนตอบ
“อะไรนะ”   วินคิดว่าตัวเองฟังผิด
“คุณแมทฉีดยาฆ่าแมลงเข้าปาก เมื่อเช้านี้เองค่ะคุณวิน”   พี่แสงเดือนเริ่มหอบ

..........................

“ฟิว......”    วินเรียก
“วิน......”     ฟิวเรียกวินกลับ โดยทำน้ำเสียงใกล้เคียงกับที่วินเรียกเขา
“ขอบคุณนะ  สำหรับทุกอย่าง.....ฟิวมีส่วนอย่างมากที่ทำให้วินเข้มแข็ง และใจแข็ง
มากขึ้น...ถ้าไม่มีฟิวกับปุ้ย...วินเผชิญกับเรื่องนี้คนเดียวไม่ได้แน่ ๆ วินไม่รู้จะปรึกษาใคร
......พ่อกับแม่วินก็ไม่รู้ว่าวินเป็นอะไร”    วินกล่าว
“ของอย่างนี้มันต้องมีสิ่งตอบแทน....ขอบคุณเฉย ๆ ไม่พอหรอก”   ฟิวเอ่ยขึ้น
..........................

“แมท....”   วินเรียกแมท และเข้าไปจับมือเขาไว้
“ทำแบบนี้ทำไม”  วินถาม......แมทพูดออกมาเบา ๆ แต่เสียงก็อู้อี้ภายใต้ที่ครอบจมูกนั่น
ทำให้ฟังไม่รู้เรื่อง    เขาส่ายหน้าไปมาเบา ๆ และมีน้ำตาไหลออกมาเป็นทาง
“วินขอโทษนะแมท”    วินกุมมือเขาแน่น..........แมทพยักหน้าตอบ และยิ้มให้ทั้งน้ำตา

............................

“เจ็บมั้ยแก....แกเจ็บมั้ย....วิน....ทำใจดี ๆ นะแก”   ปุ้ยกล่าวทั้งน้ำตา
“ปุ้ย.....ทำไม.......”   นั่นคือคำพูดสุดท้าย  ก่อนที่วินจะรู้สึกมึน เหมือนง่วงอย่างทัดทาน
ไม่ได้ และหมดสติไป

.............................

หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: แมววาย ที่ 12-04-2008 00:43:03
คุณน้องคะ  เรื่องของคุณน้อง พี่อึดอัดจริงๆ  เหมือนต้องกลั้นหายใจอ่านเลย  มันลุ้นไปด้วย  อ่านจบที่ ก็ เฮ้อออออออ

ติดตามต่อไปคะ   อ๋อ ต้องสุขสันต์วันสงกรานต์ด้วยนะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: LingNERD* ที่ 12-04-2008 02:04:39
เห้อออออออออ :เฮ้อ: โหดร้ายจัง

พี่วินเค้าไม่ค่อยได้เข้ามาอ่านเลยอ่า

ช่วงเน้จะกำลังยุ่งๆๆๆๆกะเรื่องแอดมิชชั่น
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 12-04-2008 10:19:08
อ้างถึง
(2 เดือนแรกแห่งความสุข.....8 เดือนหลังแห่งความทุกข์ทรมานใจ)

วินทนมาได้ยังไง ทนเพราะอะไร ทำไมถึงต้องทนขนาดนั้น แล้วความรุนแรงของแมทมันเริ่มบ้ามากขึ้นเรื่อยๆ ปัจจุบันแมทเนี่ยยังอยู่ดีครบอวัยวะหรือป่าวคับเนี่ย ไปทำแบบนี้กับคนอื่นหรือป่าวง่ะ ไม่โดนฆ่าหมกป่าหรอ
ทำไมถึงเป็นคนแบบนี้ได้ โหดควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่เลย


วินก็ไม่รู้ว่าฉลาดน้อยทนมาได้ยังไง แต่คงทนเพราะลุ่มหลง(อย่างหนัก) ไม่ว่าจะรูป รส สัมผัสของแมท
วินเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองมารู้ตัวเอาตอนไหนว่าความรุนแรงของแมทมันมีอยู่มากเหลือเกิน รู้ตัวอีกที ตัวเองก็ได้เลือด ได้แผลมาซะแล้ว

ส่วนปัจจุบัน แมทยังคงอยู่ดีจ้า ซึ่งจะพูดถึงแมท(ปัจจุบัน) ในตอนจบอีกทีนะ อิอิ


:o211: :o211: :o211: :o211: :o211:

ขอด่าแรงๆ สักคำได้มั้ย

ไอเชี่ยแมทททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททททท

แฮ่กๆ เหนื่อยเลย เหนื่อยใจ

พี่วินทำให้เต่าไม่กล้ามีแฟนนะเนี่ย

ถ้าเกิดว่ายอมนิดยอมหน่อยก็ต้องยอมตลอดไป

เต่าเคยคิดนะว่าพวกเกย์(เรียกแบบนี้โกรธป่ะ)เป็นสุภาพบุรุษอ่ะ

แต่การกระทำของแมทสอบตกในฐานะแฟน ฐานะคน!

พี่วินเหมือนเพื่อนเต่าเลย ความรักกระแทกเบ้าตาอ่ะ

แต่ไม่เหมือนกันตรงที่..มันยังคงโง่อยู่ถึงแม้จะโดนบอกเลิกแล้วก็ตาม

ทำไมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม

โลกนี้จะต้องมีคนแบบพี่วิน จะสงสารหรืออะไรดีละนี่

ไม่น่าไปยอมเขาตอนแรกเลยอ่ะ ยอมแล้วก็กลายเป็นแบบนี้

ไม่รู้จะสงสารหรือสมเพชแมทดีอ่ะ

รู้แต่ว่าทำเกินไปแล้ว ไหนละความรักที่เคยพล่ามเอาไว้อ่ะ ไหนละ ไหนๆ

ไม่เคยช่วยไม่เคยทำอะไรให้เลย

ยังเป็นผู้กระทำเสียเองด้วยซ้ำ

อ่านตอนนี้แล้วมันอึ้งๆ ไงไม่รุ

รู้สึกทำใจยอมรับไม่ได้อ่ะ

ดีใจด้วยนะคะที่ออกจากวังวนแห่งความวิปลาสนั่นได้เสียที ถึงจะใช้เวลาไปนานแสนนานก็เถอะ

ทำงานเหนื่อยก็พักเถอะค่ะ ไม่เร่ง แต่ตามทวงเป็นระยะๆ

เล่าเรื่องนี้จบอย่่าลืมเต่าก็แล้วกัน :oni3: :oni3:

ด่าไปเลยจ้าเต่า ไม่รู้ว่าจะยอมทำไมเหมือนกันแหละ แต่ก็รักอ่ะ รักมาก ทำได้ทุกอย่างให้เค้าเห็นความดี
คิดอย่างเดียวว่าอยากพิสูจน์ตัวเอง อะไรเทือกนั้น จนลืมห่วงตัวเอง และทิ้งคนที่รักเรารอบข้างไปจนหมด
ส่วนเรื่องที่ถามว่าเรียก "พวกเกย์"    ไม่โกรธร๊อกก แหม ก็เหมือนเรียก พวกผู้หญิง พวกผู้ชายแหละ(มั้ง) อิอิ

แต่เต่าอ่านเรื่องของพี่แล้ว ต้องอย่าอินจัดไปจนทำให้เ่ต่าไม่กล้ามีแฟนจิ คนดี ๆ อย่างมีอีกมากมาย
อ่านเรื่องนี้ให้จบ แล้วจะรู้ว่าความรักมันมีครบทุกด้าน ตั้งแต่ด้านที่สวยงามที่สุด ไปจนถึงด้านที่โหดร้ายสุดกู่
คิดซะว่าเรื่องนี้เป็น สปช. ชีวิตความรักเรื่องนึงให้เต่าก็แล้วกัน  o13

:เฮ้อ:แมทนี่สมควรโดน  :เตะ1: :เตะ1: :เตะ1:

จัดไปเลยคุณ THIP

เชื่อป่ะพี่วิน
ตอนที่พี่อ่านข้อความของเต่าอยู่
..พี่ต้องอยู่หน้าจอคอมแหง 55+  :laugh:
ไม่มีไร มาเม้นต์ให้ก่อน กลัวเรื่องนี้หลุดกรอบ
ว่างแล้วมาต่อนะ :o8:

ขอบคุณน้องเต่าอีกรอบที่มาช่วยดัน จุ๊ฟ ๆ
ปล. เต่านี่แม่นอย่างกะจับวางเลยนะ รู้ได้ไงอ่ะว่าเราต้องอยู่หน้าคอม  o13

มาต่อด้วยน้าวินจ๋า

 :c5:

มาแล้วจ้าาา ขอบคุณน้าที่ติดตาม :o8:

คุณน้องคะ  เรื่องของคุณน้อง พี่อึดอัดจริงๆ  เหมือนต้องกลั้นหายใจอ่านเลย  มันลุ้นไปด้วย  อ่านจบที่ ก็ เฮ้อออออออ

ติดตามต่อไปคะ   อ๋อ ต้องสุขสันต์วันสงกรานต์ด้วยนะ

ดีใจนะเนี่ยยย...แสดงว่าวินเขียนดี จนพี่อิน อิอิ
สุขสันต์วันสงกรานต์เช่นกันง้าบบบ  :oni2:

เห้อออออออออ :เฮ้อ: โหดร้ายจัง

พี่วินเค้าไม่ค่อยได้เข้ามาอ่านเลยอ่า

ช่วงเน้จะกำลังยุ่งๆๆๆๆกะเรื่องแอดมิชชั่น

ไม่เป็นไร ๆ น้องหมี
แวะมาทักทายกันบ้างก็ดีจายแว้ววว
ปล. ขอให้โชคดี ได้เข้ามช.ตามที่หวังเลยน้าาา  :oni2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: animob ที่ 12-04-2008 12:03:48
สะใจจัง ตอนด่าแม่แมท 55555 สมควรโดนอะ
แต่ตอนหน้าท่าทางแม่แมทจะแค้นฝังหุ่นกลับมาแก้แค้นแน่ๆ  :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: angsumalin ที่ 12-04-2008 12:24:50
คุณแม่ละครช่อง 3 ยังอายเลยคับเมื่อเจอ แม่ของแมท  :angry2:

มาต่อไวๆนะ อ่านตัวอย่างตอนต่อไป วินเป็นอะไรทำไมถึงสลบ ลุ้นมากเลย
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 12-04-2008 15:08:25
เหมือนเพ็ญพักตร์  โหดน่าดู :serius2:

สงกรานต์ลั่น ลั้นลา :oni2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 12-04-2008 22:21:13
ตอนที่ 28 สุขๆ ทุกข์ๆ...นี่แหละชีวิตของเรา

   ในที่สุด  วันแห่งการโกหกของคุณแม่แมทครั้งที่ร้อยแปดก็จบลง  ตกกลางคืน
วินก็นอนคุยโทรศัพท์กับฟิว และเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟิวฟัง จากนั้นเราก็คุยกันจนเกือบ
เช้าเลยทีเดียว
   หลังจากที่วินและฟิววางสายกันไป วินมีเวลาได้นอนต่ออีก 4 – 5 ชั่วโมงได้
พอตอนเวลาประมาณ 9 โมง พี่แสงเดือนก็โทรเข้ามาหาวิน.....

“คุณวินคะ...คุณวินเกิดเรื่องใหญ่แล้วค่ะ !!”  พี่แสงเดือนมีน้ำเสียงตกใจ
“เป็นอะไรพี่แสงเดือน”   วินรีบถามกลับ
“คุณแมทค่ะ...คุณแมทกินไบกอน!!!”   พี่แสงเดือนตอบ
“อะไรนะ”   วินคิดว่าตัวเองฟังผิด
“คุณแมทฉีดยาฆ่าแมลงเข้าปาก เมื่อเช้านี้เองค่ะคุณวิน”   พี่แสงเดือนเริ่มหอบ
...วินตกใจมากกับสิ่งที่ได้ยิน  เคยเห็นแต่ในข่าวที่แฟนฆ่าตัวตายประชดรัก ไม่คิดว่า
มันจะมาเกิดขึ้นกับตัวเอง....แต่อีกใจวินก็รู้สึกว่า  วินไม่เกี่ยวข้องกับคนบ้านนี้อีกแล้ว
เราเลิกกันแล้ว....ความรู้สึกของวินเริ่มสับสน....คนที่เคยเจอกับเรื่องนี้คงเข้าใจดี....
“จริงหรอพี่แสงเดือน”   วินไม่รู้จะถามอะไรได้อีก
“คุณวินมาหาคุณแมทได้รึเปล่าคะ...คุณแมทนอนอยู่ในห้องพัก ร้องหาแต่คุณวิน
พี่แสงเดือนมาเฝ้าเนี่ยค่ะ”   พี่แสงเดือนมีน้ำเสียงขอร้อง
“อ้าว...แล้วที่พี่แสงเดือนคุย แมทไม่ได้ยินหรอ”   วินถาม
“พี่แสงเดือนก็ออกมาคุยข้างนอกสิคะ”   
“วินรู้ว่าควรไปนะพี่แสงเดือน -  - แต่ไม่รู้ว่าจะไปดีรึเปล่า”   วินลังเล
“ถ้าคุณวินมา โทรหาพี่แสงเดือนแล้วกันค่ะ....พี่แสงเดือนจะดูคุณผู้หญิงให้”
“ได้ ๆ พี่แสงเดือน.....ถ้าวินไปนะ”   วินตอบ

   หลังจากวางสาย วินก็ครุ่นคิดอยู่นาน ว่าวินจะไปเยี่ยมแมทดีหรือไม่....ใจนึงวิน
ก็อยากไป เพราะอย่างน้อย ๆ เราก็เคยมีความรู้สึกที่ดี ๆ ต่อกัน แต่อีกใจวินก็เกลียด
แมทจับใจอยู่เหมือนกัน.......วินคิดอยู่สักพัก ก็โทรหาฟิว

“วินอยากไปรึเปล่า....ถ้าอยากไปฟิวจะไปเป็นเพื่อน”   ฟิวถาม หลังจากที่วินเล่า
ทุกอย่างให้เขาฟัง
“วินก็ไม่รู้นะฟิว....แต่ที่แน่ๆ ถ้าวินไป ฟิวขึ้นไปด้วยไม่ได้”   วินตอบ
“ก็ใครว่าผมจะขึ้นไปหละคร๊าบบบ...คุณวิน”   ฟิวทำเสียงหยอก
“ฟิว...ขอร้อง....”   วินทำเสียงเข้ม
“อ้าว...เค้าเห็นตัวเองแพ้คนพูดเพราะ”  ฟิวกล่าว (ปุ้ยคงเคยบอกกระมัง เรื่องวินชอบคน
พูดเพราะ)
“ไอฟิว....”   วินเสียงแข็ง
“อือหือ..... - - เออ ๆ เอาไงหละ แล้วจะชวนปุ้ยมันไปดีมั้ย ให้มันไปเป็นเพื่อน”
“เออ...ก็ดีเหมือนกันนะฟิว....สี่มือ ก็ยังดีกว่าสอง”   วินตอบ
“นี่กะไปเยี่ยมลูกเค้า หรือจะไปตบกับแม่มันเนี่ย”   ฟิวแซว
“อืม เดี๋ยววินโทรชวนปุ้ยดีกว่าฟิว….บอกมันแต่เนิ่น ๆ จะได้ให้มันเตรียมตัว”  วินกล่าว
“ได้ ๆ ถ้างั้นเดี๋ยวเราเสร็จงานจากตรงนี้แล้ว   จะรีบไปรับวินเลยแล้วกัน”  ฟิวตอบ
....วันนั้นที่บ้านวินไม่มีรถอยู่เลย เพราะคุณพ่อรถเสีย เลยต้องเอารถวินไปใช้ ส่วนฟิวก็
ติดงานถ่ายแบบนิดหน่อย แต่ใกล้จะเสร็จพอดี เขาจึงอาสามารับวิน เพื่อจะได้ไปส่งที่
โรงพยาบาล
   วินโทรบอกปุ้ย และเธอก็ตกใจกับสิ่งที่วินเล่า เป็นธรรมดาของมนุษย์อยู่แล้ว
... พอประมาณเที่ยงฟิวก็มารับวินที่บ้าน

“มีใครอยู่บ้านมั้ยวิน...”     ฟิวลดกระจกรถลงแล้วถาม
“ไม่มี....ทำไม”   วินที่เตรียมตัวจะออกจากบ้านเต็มที่ ถามกลับไป
“ปวดฉี่...ขอเข้าไปใช้ห้องน้ำหน่อยได้มั้ย”  ฟิวดับเครื่อง............คงไม่ต้องรอวินอนุญาต
แล้วหละ ก็เล่นดับรถแล้วเสียขนาดนั้น
“โอยปวดฉี่ ๆ ๆ ๆ”    ฟิวทำท่ากุมเป้า แล้ววิ่งแถ ๆ เข้าบ้านวินไป.....วินเห็นแล้วก็อด
หัวเราะไม่ได้....ฟิวเป็นคนที่ไม่เคยห่วงหล่อเลยแม้แต่น้อย แถมยังชอบทำอะไรให้วิน
ต้องหัวเราะอยู่เสมอ....วันนี้ช่างเป็นบรรยากาศใหม่ ๆ ที่มีความสุขเสียจริง ๆ
“เฮ้ย !! ทำไมนาน...”      วินตะโกนเรียกฟิว
“เสร็จแล้ว ๆ”       ฟิวพูดจบ ก็เปิดประตูออกมา  แล้วเขาก็เข้ามาโอบที่เอววิน.......
“โสดสนิทแล้วสิ.....”    ฟิวทำหน้ายิ้มแย้ม
“อืม...”   วินพยักหน้า วางสีหน้าเล่นด้วย (เอ๊ะ ! หรือเค้าเรียกว่าให้ท่านะ?)
...ฟิวขยับมือจากเอวมาเป็นกอดวินอย่างแนบแน่น ฟิวให้ความรู้สึกว่าการกอดนั้น
เป็นการกอดของเพื่อนที่มีความจริงใจ ไม่มีความรู้สึกว่าเป็นการกอดเพื่อเรื่องอย่างว่า
โดยสิ้นเชิง.....
“ฟิว......”    วินเรียก
“วิน......”     ฟิวเรียกวินกลับโดยทำน้ำเสียงใกล้เคียงกับที่วินเรียกเขา
“ขอบคุณนะสำหรับทุกอย่าง.....ฟิวมีส่วนอย่างมากที่ทำให้วินเข้มแข็ง และใจแข็ง
มากขึ้น...ถ้าไม่มีฟิวกับปุ้ย...วินเผชิญกับเรื่องนี้คนเดียวไม่ได้แน่ ๆ วินไม่รู้จะปรึกษาใคร
......พ่อกับแม่วินก็ไม่รู้ว่าวินเป็นอะไร”    วินกล่าว
“ของอย่างนี้มันต้องมีสิ่งตอบแทน....ขอบคุณเฉย ๆ ไม่พอหรอก”   ฟิวเอ่ยขึ้น
“อะไร.......”   วินถาม
“เป็นแฟนกับฟิวสิ”    ฟิวพูดเสียงเบาลง ทำหน้ายิ้มจริงจัง
“วินเพิ่งเลิกกับแมทเมื่อวานนะฟิว......”    วินตอบกลับไป...รู้สึกว่ายังไม่พร้อมจริง ๆ
“แล้ววินจะลองคิดเรื่องนี้ดูรึเปล่า”    ฟิวถาม............และวินก็พยักหน้าตอบรับไป
“สัญญานะ”  ฟิวยกนิ้วก้อยขึ้นให้วินสัญญา....วินเกี้ยวนิ้วก้อยของเขาเพื่อเป็นการ
ตอบตกลงสัญญา
“ไปเถอะ....เดี๋ยวปุ้ยรอ”   วินกล่าว

   ฟิวขับรถไปที่บ้านปุ้ย โดยที่นั่งจับมือกับวินไปตลอดทาง วินชอบฟิวอยู่มาก
แต่ไม่แน่ใจนักว่าจะรักเขาในฐานะแฟนได้จริง ๆ หรือเปล่า  แต่ในใจก็เชื่อว่า เวลาจะ
ช่วยทำให้วินลืมแมท และคบกับฟิวได้ในที่สุด............ในวันนั้นอะไร ๆ ก็ดูสว่างไสว
ไปเสียหมด....วินเหมือนคนหลุดพ้นจากบ่วงเวรบ่วงกรรมที่ทนทุกข์ ทนเจ็บตัว เจ็บใจ
มาร่วมปี
   เมื่อเราถึงบ้านปุ้ย ก็ตรงไปยังโรงพยาบาลที่แมทพักรักษาตัวอยู่ทันที
ตลอดทางเราพูดคุยถึงเรื่องแมท  ที่กล้าทำอะไรแบบนี้ได้ จนทั้งปุ้ยและฟิวบอกให้
วินระวังตัวไว้ ถึงจะเลิกกันแล้วก็ตาม และยิ่งมีเรื่องสะกดรอยตามเข้ามา ทำให้วิน
ยิ่งต้องรอบคอบก่อนจะทำอะไรด้วย.....ปุ้ยและฟิวลงความเห็นว่า วินไม่ควรไปไหน
คนเดียวในที่มีคนน้อย ๆ เพราะตอนนี้วินไม่ได้อยู่ในฐานะแฟนของแมท คุณแม่อาจ
จะทำอะไรวินก็ได้ โดยไม่ต้องเกรงใจแมทอีกต่อไป..........
   เราทั้งสามถึงโรงพยาบาลใน 20 นาทีต่อมา .....ฟิวแยกไปนั่งทานข้าวในบริเวณ
โรงอาหารที่ทางโรงพยาบาลจัดไว้ให้   ส่วนวินกับปุ้ยก็เดินขึ้นไปเยี่ยมแมทที่ห้องพัก
โดยพี่แสงเดือนได้บอกเลขที่ห้องไว้ตอนที่เราคุยกันแล้ว........วินโทรหาพี่แสงเดือนก่อน
ที่จะขึ้นลิฟต์ แต่พี่แสงเดือนไม่รับ....วินโทรอยู่ 3 – 4 ครั้ง จึงตัดสินใจขึ้นไปดูที่หน้าห้อง
กับปุ้ย     พอวินไปถึงหน้าห้อง ก็ให้ปุ้ยแอบ ๆ มองเข้าไปดูว่ามีใครอยู่บ้าง

“มีแต่แฟนเก่าแกอ่ะ...ไม่มีใครเลย”   ปุ้ยเอ่ยขึ้นหลังจากที่เธอมองเข้าไปภายในห้องแล้ว
...วินจึงขอลองมองเข้าไป  เพื่อความแน่ใจอีกครั้ง และวินก็เห็นโทรศัพท์พี่แสงเดือน
วางอยู่บนโซฟาสำหรับญาติที่มาเยี่ยมไข้ และก็เห็นแมทนอนอยู่คนเดียว
วินและปุ้ยจึงเปิดเข้าไป.....แมทหันมามองวิน และยิ้มกว้าง แต่เขาไม่พูดอะไร
แมทนอนหน้าซีดอยู่บนเตียง โดยมีสายน้ำเกลือติดที่แขนเขา และเครื่องช่วยหายใจ
ครอบจมูกของเขาไว้........วินเห็น ก็รู้สึกสงสารเขาอยู่มาก แต่ไม่รู้สึกอยากร้องไห้
แต่อย่างใด……..นี่วินคงกลายเป็นคนแข็งกระด้าง ใจแข็งไปแล้วแน่ ๆ

“แมท....”   วินเรียกแมท และเข้าไปจับมือเขาไว้
“ทำแบบนี้ทำไม”  วินถาม......แมทพูดออกมาเบา ๆ แต่เสียงก็อู้อี้ภายใต้ที่ครอบจมูกนั่น
ทำให้ฟังไม่รู้เรื่อง    เขาส่ายหน้าไปมาเบา ๆ และมีน้ำตาไหลออกมาเป็นทาง
“วินขอโทษนะแมท”    วินกุมมือเขาแน่น..........แมทพยักหน้าตอบ และยิ้มให้ทั้งน้ำตา
“อย่าทำแบบนี้อีกนะแมท.......ถ้าแมทเป็นอะไรไป แล้วเราจะเจอกันได้ยังไงหละ”
วินยิ้มแล้วกล่าว.....แมทก็พยักหน้าตอบ
...........................วินมองหน้าแมท และยิ้มให้เขาอยู่สักพักใหญ่ ๆ .............................
วินก็ได้ยินเสียงกรี๊ดดังมาก.........และวินก็รับรู้ได้ถึงความรู้สึกตุบ ๆ หนัก ๆ และปวดที่
ศีรษะอย่างมาก................วินไม่รู้สึกเจ็บ หรือแสบอะไร แต่ปวดสุด ๆ และมันหนักที่ศีรษะเหมือนมีอะไรมาถ่วงไว้ จนวินรู้สึกอยากจะนอนลงไปตรงนั้น

“ตายแล้ว !!!”     ปุ้ยร้องเสียงดัง
วินหันไปก็เห็นคุณแม่ถือช้อน (แบบแข็ง ๆ หนา ๆ) โดยที่กำส่วนหัวไว้ แล้วหันด้ามช้อน
มาทางวิน.........วินรู้ทันทีว่าคุณแม่ใช้ปลายด้ามของช้อนแทงเข้าที่ศีรษะของวินเสียแล้ว
.........ทันทีที่วินเห็นเช่นนั้น ก็รีบเอามือไปจับตรงบริเวณที่วินรู้สึกหนัก เพราะวินนึกว่า
มันมีช้อนคาอยู่ เพราะวินรู้สึกว่ามันหนักจริง ๆ......แต่ก็ไม่มี จะมีก็แต่เพียงเลือดจำนวน
หนึ่งที่ติดทั้งฝ่ามือออกมา...........มันคงจะเป็นความรู้สึกระบมของการถูกของทื่อ ๆ แทง
นั่นเอง.........
   แต่วินยังไม่ทันจะได้พูดหรือโต้ตอบอะไร   คุณแม่ก็พุ่งเข้ามาจะเอาด้ามช้อนนั้น
มาแทงวินอีก....ปุ้ยเข้ามาดึงตัวคุณแม่ไว้ โดยคุณแม่ก็ทำท่าแทงไม่หยุด....แมทลุกพรวด
ลงจากเตียง เขาดึงที่ครอบจมูก และสายน้ำเกลือออก
“แม่....หยุดนะ !!! - - หยุดนะแม่.....”   แมทเสียงดัง แต่คุณแม่ก็ไม่หยุด ยังคงร้องกรี๊ด
และเอาช้อนแทงขึ้นแทงลงอยู่ตรงนั้น .....วินรู้สึกมึนไปหมด และตาข้างขวาของวินก็เริ่ม
รู้สึกตึง ๆ และเบลอขึ้นมา (คุณแม่แทงลงไปตรงกลางของด้านหลังศีรษะ เฉียงไปทาง
ด้านขวา รัศมีเดียวกันกับใบหู)  วินรับรู้ได้ถึงความระบม จากอาการตาเบลอนั้น
“ห.เอี้ย ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ”  คุณแม่พูดคำนี้ไม่หยุด และก็แทงช้อนใส่วิน โดยมีปุ้ยรั้งไว้
(นี่ถ้าปุ้ยไม่มา วินต้องแย่แน่ ๆ)
 “หยุดคุณแม่ !!! หยุด !!!”   แมทตวาดเสียงดังขึ้นอีก
“ห.เอี้ย ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ กุจะฆ่าม.อึง ๆ ๆ ๆ”    คุณแม่ทำท่าเหมือนฆาตกรเสียสติ
“หยุด ! คุณแม่ !!!!”  แมทสั่งออกมาเสียงดังมาก พร้อมยกมือขึ้นทำท่าจะตบคุณแม่ของ
เขา....คุณแม่ย่อตัวลงไปกับพื้น แล้วเอามือป้องตัวไว้ และร้องไห้ออกมา........สำหรับวิน
มันเป็นภาพที่เศร้าใจอย่างมาก ....วินทำให้ลูกเกือบจะต้องทำร้ายบุพการีของเขา
“แม่.....ทำไมทำแบบนี้”   แมททรุดตัวร้องไห้ แล้วเข้าไปพยุงหัวไหล่คุณแม่ของเขา
....วินร้องไห้ออกมากับสิ่งที่เห็น  ปุ้ยเอามือป้องปาก แล้วร้องไห้ออกมาอย่างหนักไม่แพ้
วินเลย...และปุ้ยก็เข้ามากอดวินที่นั่งอยู่กับพื้นไว้ แล้วร้องไห้กับวิน
“เจ็บมั้ยแก....แกเจ็บมั้ย....วิน....ทำใจดี ๆ นะแก”   ปุ้ยกล่าวทั้งน้ำตา
“ปุ้ย.....ทำไม.......”   นั่นคือคำพูดสุดท้าย  ก่อนที่วินจะรู้สึกมึน เหมือนง่วงอย่างทัดทาน
ไม่ได้ และหมดสติไป
   วินฟื้นขึ้นมาในห้องปฐมพยาบาล ในอีก 20 นาทีต่อมา โดยมีพี่แสงเดือนยืน
กุมมือวินอยู่ข้าง ๆ และมืออีกข้างก็เป็นปุ้ยที่กุมไว้ ส่วนฟิวก็มายืนอยู่ข้างปุ้ย
“วิน....เป็นยังไงบ้าง”    ฟิวพูดขึ้นมาเป็นคนแรก
“หมอบอกว่าแกเป็นลม ....ไม่ได้สลบเพราะศีรษะกระทบกระเทือนอะไร”    ปุ้ยกล่าว
“คุณวิน....คุณวินคะ”    พี่แสงเดือนร้องไห้อย่างหนัก
....วินยังคงมึน ๆ มองทุกคนอยู่อย่างเงียบ ๆ รู้สึกแต่ว่าตัวเองลุกไม่ขึ้น เหมือนจะต้องใช้
ความพยายามอย่างมากที่จะยกศีรษะตัวเองขึ้นมา เพราะมันยังรู้สึกตึง ๆ หนัก ๆ อยู่
“วินเป็นอะไรมากรึเปล่า”    ฟิวมีสีหน้าเป็นห่วง
วินส่ายหัวเบาๆ รู้สึกอยากนอน แต่ก็นอนไม่หลับ เพราะเจ็บแผลที่ศีรษะอย่างมาก
“คุณวิน..........นี่คุณวินจำพี่แสงเดือนได้รึเปล่า”    พี่แสงเดือนคนซื่อคงเห็นวินไม่ตอบ
เลยคิดว่าวินความจำเสื่อมไปเสียแล้ว
“เฮ้ยวิน....”   ปุ้ยฟังพี่แสงเดือนพูด เลยตกใจขึ้นมาบ้าง
“จ...จำได้...จำได้”   วินเอ่ยขึ้นเบา ๆ
“วินต้องแจ้งความนะ.....”   ฟิวพูดขึ้นเสียงแข็ง
.........วินส่ายหัว
“ทำไมว้ะแก.......โดนขนาดนี้......แกยังจะปล่อยพวกนั้นไปอีกหรอ”   ปุ้ยพูดต่อ
......วินค่อย ๆ ลุกขึ้นจากที่นอน รู้สึกปวด  ร้าว  ระบม ไปทั้งศีรษะ........
“เราทำอย่างนั้นไม่ได้นะปุ้ย...ฟิว.....เค้ามีกันอยู่แค่สองคน วินไม่อยากให้มีอะไรมา
กระทบกระเทือนทั้งสองคนอีก....วินก็มีส่วนสร้างเรื่องวุ่นวายพวกนี้ขึ้น”
วินพูดขึ้นเบา ๆ นั่งก้มหน้าหลับตาไว้แน่น ด้วยความปวดศีรษะอย่างมาก
“ให้มันเลิกแล้วต่อกันไป  ก็แล้วกัน”   วินกล่าวต่อไป
.....ปุ้ยส่ายหน้า ....เธอคงเอือมระอาในความโง่เขลาของวินที่ไม่มีลิมิตได้ขนาดนี้
   วินอาการดีขึ้น และลุกขึ้นเดิน พูดได้อย่างปกติในอีก 30 นาทีต่อมา
แต่แผลจากการโดนแทงที่ศีรษะก็ยังระบม ปวดตุบ ๆ อยู่ตลอดเวลา.......วินเดินเข้า
ไปในห้องพักของแมท    วินก็เห็นเขานอนอยู่บนเตียง โดยมีคุณแม่นั่งอยู่ข้าง ๆ
.......คุณแม่ลุกขึ้น  และมีท่าทีหาเรื่องทันทีที่เห็นวิน
“คุณแม่......”   วินเอ่ยขึ้น
“ครั้งนี้วินจะไม่เอาเรื่องอะไรคุณแม่.......แต่ถ้าคุณแม่และแมท ยังมายุ่งวุ่นวายกับ
ชีวิตของวินอีก วินจะไม่ปล่อยคุณแม่ไว้อีกแล้ว....วินจะเอาเรื่องคุณแม่ให้ถึงที่สุด”
....คุณแม่ยืนกัดฟัน สีหน้าโกรธเคือง แต่แววตาของท่าน ทำให้วินรับรู้ว่าท่านยอมรับ
ในสิ่งที่วินพูด
“เรื่องสะกดรอยตาม....วินมีพยานรับรู้ และวินจะหาหลักฐานให้ได้ ถ้าคุณแม่ยัง
พยายามสะกดรอยตามวินต่อไป…..วินก็จะเอาเรื่อง - - - - เรื่องทุกอย่างจะต้องจบ
ลงในวันนี้ เลิกแล้วต่อกัน วินจะอโหสิกรรมให้คุณแม่ทั้งหมด และจะไม่นึกถึงคุณแม่
อีกเลยนับแต่วินาทีที่วินก้าวออกไปจากห้องนี้ วินจะไม่เอาเรื่อง เอาราวอะไรคุณแม่
........วินขอแค่อย่างเดียว........แค่คุณแม่ พี่กอล์ฟ และลูกชายของคุณแม่ จะต้อง
ไม่มายุ่งกับชีวิตของวินอีก.........”    วินร่ายยาวด้วยน้ำเสียงปกติธรรมดา
…แมทได้แต่นอนมองหน้าวิน หน้าของเขาแดงก่ำ อาบน้ำตา.....วินสงสารเขาอย่างมาก
แต่วินก็สงสารตัวเองมากกว่า...........พอแล้ว.....วินรับเรื่องร้าย ๆ พวกนี้คนเดียวต่อไป
ไม่ได้อีกแล้ว.........วินจะต้องจบเรื่องพวกนี้จริง ๆ จัง ๆเสียที
“แมท....เราขอโทษนายแล้วกันนะสำหรับทุกอย่าง....แต่นายควรจะปล่อยวินไปได้แล้ว”   
ฟิวพูดขึ้น……………แมทมีสีหน้าโกรธเคือง และเขาก็............ ‘ชูนิ้วกลาง’  ให้ฟิว
“ถือว่าแปลว่า ตกลง ก็แล้วกัน”   ฟิวตอบกลับไป และเขาก็ดึงมือวินเพื่อให้ออกไปจาก
ที่นั่น
“หายเร็ว ๆ นะแมท”   วินมองหน้าแมทแล้วพูดขึ้น ก่อนจะออกไปจากห้องนั้น

   เราทั้งสามคนออกไปจากโรงพยาบาลนั้น  โดยที่วินก็มีเพียงสำลีกดซับแผลอยู่
วินไม่ยอมเย็บ เพราะกลัวเจ็บ และกลัวคุณพ่อคุณแม่เห็น (บ้ามั้ยหละ)
ตลอดทางฟิวและปุ้ยชวนวินคุย   วินก็ได้แต่พยักหน้า และส่ายหน้า จนทั้งสองต้องหยุด
พูดกันไป.....และบรรยากาศก็เริ่มเงียบ....วินนั่งนึกย้อนกลับไป วันที่วินคบกับแมทแรกๆ
ว่าวินเคยมีความสุขแค่ไหน....ครั้งแรกที่วินพบกับคุณแม่   ความเอาใจใส่ และ
การกระทำที่ดีของแมทที่มีต่อวิน    ความสุขในช่วงเดือนแรก มันดีเสียจนวินเองก็ลืม
ไม่ลง......แต่แล้วทุกอย่างที่วินเคยมีความสุขกับมัน ก็กลายเป็นสิ่งที่กลับมาทำร้ายวิน
ตลอดเวลา 8 เดือนที่ผ่านมา.....คนที่วินรัก คนที่วินเคารพ และพยายามอย่างเต็มที่
ที่จะเอาชนะใจ คนที่วินพยายามจะพิสูจน์ตัวเองให้เห็นมาตลอด แต่มันก็ไร้ค่า
เพราะเขาไม่เคยที่จะเข้าใจ หรือเปิดรับวินเลย....วินทนอย่างคนโง่มาตลอด 8 เดือน
เพื่ออะไรกัน ? วินแลกทุกอย่าง กลับได้รับแต่ความเจ็บปวด ทั้งทางกาย และใจเป็นการ
ตอบแทน.....การโกหก กลั่นแกล้ง สารพัดที่วินเคยคิดว่ามันมีแต่ในละคร วินกลับต้อง
มาประสบพบเจอกับตัวเอง ทั้งที่อยู่ในช่วงหัวเลี้ยงหัวต่อของชีวิต .....เหตุการณ์ที่
โรงพยาบาลวันนี้ มันทำให้วินรู้สึกเข็ดกับความรัก วินกลัว....กลัวเจ็บทั้งตัว เจ็บทั้งใจ
วินนึกถึงสีหน้าของคุณแม่ ที่เหมือนพยายามจะฆ่าวินให้ตายตรงนั้น....ทำให้มุมมอง
ความรักของวินในตอนนั้นเปลี่ยนไป.....วินรู้สึกอ่อนแรง ...วินได้แต่ด่าตัวเองในใจว่า
‘ไอ้หน้าโง่’   ที่ยอมสู้ ยอมทนอยู่ได้เกือบปี....แต่ผลสุดท้าย วินก็ไม่ได้อะไรกลับมา
ได้แต่สิ่งที่ร้าย ๆ....เจ็บปวดเกินไปที่เด็กอายุ 17 อย่างวินในตอนนั้นจะรับไหว
......วินรู้สึกว่าทุกอย่างสูญเปล่า....วินเสียอะไรไปมากมาย....วินหันหลังให้เพื่อน
ให้ครอบครัว ให้การเรียน ให้ความฝันของตัวเอง และของคุณแม่ ....แต่เพื่ออะไรกัน
วินเคยอยากมีความรัก วินนึกถึงความรักว่าเป็นสิ่งที่สวยงาม แม้จะมีการทะเลาะกัน
แต่ที่สุดแล้ว ทั้งสองฝ่ายก็ต้องปรับความเข้าใจกันได้ในที่สุด หรือแม้แต่เรื่องอุปสรรค
ก็เป็นเรื่องธรรมดาของคนสองคนที่จะต้องฝ่าฟันมันไปด้วยกัน จนเอาชนะมันได้ในที่สุด
เพียงแต่........วินไม่เคยคิด ว่าจะต้องเจ็บตัว เจ็บใจ เพื่อแลกกับความรัก อะไรมากมาย
ขนาดนี้มาก่อน......วินคงจะลืมนึก และเตรียมใจไว้ว่า อุปสรรคมันจะมีมากมายขนาดนี้
........จนในที่สุดวินเองต้องเป็นฝ่ายยอมแพ้ให้กับมัน.........
.    สุดท้าย ความเจ็บปวด และร่องรอยของแผลบนศีรษะก็เหลือไว้แต่แผลเป็น
ขนาดใหญ่  เอาไว้อวดใคร ๆ และเป็นบทเรียนสอนใจให้กับวินได้ต่อไป........
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 12-04-2008 22:23:14
ตัวอย่างตอนต่อไป.....
ตอนที่ 29 ความรักที่ดีที่สุด...สำหรับเราสองคน


“วิน....คิดเรื่องของเราบ้างรึเปล่า”   ฟิวถามขึ้น ระหว่างที่เรารออาหารมาเสิร์ฟ
                                                    เขามีสีหน้าที่ค่อนข้างจริงจัง
“คิด...คิดมาตลอดฟิว”     วินตอบ ขณะเดียวกันน้ำตาก็เริ่มคลอ
“ถ้าเราไม่ได้อยู่ในที่สาธารณะ...ฟิวจะจับมือวิน”     ฟิวกล่าว

....................

“พวกแกทำไมถึงบ้ากันได้ขนาดนี้ว้ะ.......วิน...ชั้นไม่อยากจะเชื่อเลย”   ปุ้ยกล่าวจบก็
เข้ามากอดวิน และฟิว
“ไอ้วิน...ชั้นจะไม่ร้องไห้ให้เรื่องของแกอีกแล้วนะ......อย่าเอาอะไรมาใส่กะบาลชั้นอีก”
ปุ้ยกล่าว และหัวเราะทั้งน้ำตา

....................


หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 12-04-2008 22:23:40
ปล. ใกล้จบแล้วจ้า เหลืออีก 2 ตอน  :o12:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: แมววาย ที่ 12-04-2008 23:22:44
 o7 ให้มันได้อย่างนี้สิ ชีวิต บทเรียนราคาแพง เริ่มต้นใหม่ไปเจออะไรที่ดีกว่าแหละ ดีแล้ว

เข้ามารอโลกใบใหม่ของวินนะ   :a2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: ICEME ที่ 13-04-2008 00:09:35
 :a5:เสียวหัวอ่ะ
อ่า
เสียวหัว
ฉึกๆ
อ่า นึกภาพออกเลยอ่ะค่ะ เฮ้อ...หมดเวรหมดกรรมกันเสียที
แมทน่าสงสารแต่แม่แมทน่าสังเวชมากเลยอ่ะ
เครียด..เป็นเต่า เต่าไม่ทนหรอกนะนั้่น มีตบแน่
เต่าไม่ได้เข็ดความรักเพราะแค่เรื่องพี่วินแน่ เต่าเห็นรอบข้างมาเยอะอ่ะ
เลยไม่อยากจะโดนเอง เฮ้อ...

อีก 2 ตอนสู้ๆ
ตอนนี้เจอศึกหนักทางเอ็ม ไปล่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 13-04-2008 14:50:33
 :m29: ดีนะที่ใกล้จะจบแล้ว ไม่งั้นต้องหลอนคุณแม่ไปอีกนาน  :m29:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: angsumalin ที่ 13-04-2008 18:59:56
อีก 2 ตอนก็จบแหล่ะ อึดอัดมานานอ่านไปก็ทรมานตามไปด้วย :o12:

ปล. ช่วยบอกด้วยน่ะว่าปัจจุบันแม่ของแมทเป็นไง อยากรู้จริงๆ ร้ายสุดกู่เลย o2
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: anston ที่ 14-04-2008 11:46:08
อ่านเรื่องของคุณวินแต่ละตอนเนี่ยะ..เฮ้อ :เฮ้อ:ทุกตอนเลย
หลังจากตอนนี้ไปก็คงจะได้ยิ้มกันบ้างนะ..
ผ่านอะไรร้ายๆมาเยอะ..ต่อไปก็ต้องเจอแต่เรื่องดีดีนะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 17-04-2008 14:04:45
จะจบแระหรอพี่วิน

เอาเรื่องที่ดี ๆๆ

กับคนอื่นที่ไม่ใช่พี่แมทมาลงให้อ่านมั่งนะคับ

อยากอ่านอีก  ไม่อยากให้จบ
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: anston ที่ 18-04-2008 02:54:46
 :m23:เออ..ไม่ทราบมีใครเห็นคุณวินบ้างเอ่ย..
หายไปหลายวันเลย..สงสัยยังเล่นสงกรานต์ไม่เลิก
คงไปวันไหลพัทยา แล้วมาต่อที่พระประแดงอีกใช่ม๊า..
55ล้อเล่นอ่ะคร้าบ..รีบกลับมาต่อน๊า.. :m12:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 18-04-2008 22:33:04
o7 ให้มันได้อย่างนี้สิ ชีวิต บทเรียนราคาแพง เริ่มต้นใหม่ไปเจออะไรที่ดีกว่าแหละ ดีแล้ว

เข้ามารอโลกใบใหม่ของวินนะ   :a2:

ขอบคุณที่ตั้งตารอคอยเรื่องของวิน้าาาา ปลื้มจายยย


:a5:เสียวหัวอ่ะ
อ่า
เสียวหัว
ฉึกๆ
อ่า นึกภาพออกเลยอ่ะค่ะ เฮ้อ...หมดเวรหมดกรรมกันเสียที
แมทน่าสงสารแต่แม่แมทน่าสังเวชมากเลยอ่ะ
เครียด..เป็นเต่า เต่าไม่ทนหรอกนะนั้่น มีตบแน่
เต่าไม่ได้เข็ดความรักเพราะแค่เรื่องพี่วินแน่ เต่าเห็นรอบข้างมาเยอะอ่ะ
เลยไม่อยากจะโดนเอง เฮ้อ...

อีก 2 ตอนสู้ๆ
ตอนนี้เจอศึกหนักทางเอ็ม ไปล่ะ

ใจเย็น ๆ นะเธอ ขอให้ผ่านพ้นไปได้ (ด้วยดี)

:m29: ดีนะที่ใกล้จะจบแล้ว ไม่งั้นต้องหลอนคุณแม่ไปอีกนาน  :m29:
อิอิ ว่าจะโม้ต่อซะหน่อย 5555


อีก 2 ตอนก็จบแหล่ะ อึดอัดมานานอ่านไปก็ทรมานตามไปด้วย :o12:

ปล. ช่วยบอกด้วยน่ะว่าปัจจุบันแม่ของแมทเป็นไง อยากรู้จริงๆ ร้ายสุดกู่เลย o2

บอกแน่นอนจ้า แต่ก็บอกได้แค่เท่าที่รู้น้า

อ่านเรื่องของคุณวินแต่ละตอนเนี่ยะ..เฮ้อ :เฮ้อ:ทุกตอนเลย
หลังจากตอนนี้ไปก็คงจะได้ยิ้มกันบ้างนะ..
ผ่านอะไรร้ายๆมาเยอะ..ต่อไปก็ต้องเจอแต่เรื่องดีดีนะ

ต้องอ่านแล้วตัดสินกานดูว่าจายิ้มได้รึเปล่า อิอิ

จะจบแระหรอพี่วิน

เอาเรื่องที่ดี ๆๆ

กับคนอื่นที่ไม่ใช่พี่แมทมาลงให้อ่านมั่งนะคับ

อยากอ่านอีก  ไม่อยากให้จบ
มีอยู่เหมือนกันนะ เดี๋ยวพยายามนึก ๆ ร่าง ๆ ดูก่อนนะว่าหนุกอ่ะป่าว อิอิ แต่ก็แนวเดิมแหละ
แล้วถ้ามีเวลาว่าง ๆ ๆ ๆ มาแน่นอน ชอบเขียน ๆ มีกำลังใจจากทุกคนด้วย (ยิ้ม)

:m23:เออ..ไม่ทราบมีใครเห็นคุณวินบ้างเอ่ย..
หายไปหลายวันเลย..สงสัยยังเล่นสงกรานต์ไม่เลิก
คงไปวันไหลพัทยา แล้วมาต่อที่พระประแดงอีกใช่ม๊า..
55ล้อเล่นอ่ะคร้าบ..รีบกลับมาต่อน๊า.. :m12:

วินไม่ได้เล่นสงกรานต์เล้ยยยยย
มีแต่งาน ๆ ๆ ๆ ๆ  และงาน กับงาน และก็งาน
เห้อออออ   ขอบคุณคุณ anston น้าที่เข้ามารอ อิอิ เดี๋ยวจัดตอนรองสุดท้ายปายยย
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 18-04-2008 22:39:24
ตอนที่ 29 ความรักที่ดีที่สุด...สำหรับเราสองคน

เวลาผ่านล่วงเลยไป........
   ผ่านช่วงสอบเอ็นทรานซ์รอบที่สองไปด้วยความสบาย เพราะไม่มีอะไรอยู่ในหัว
เลยแม้แต่น้อย  วินเงียบและซึมลงไปจนใคร ๆ ก็ทัก....วินก็ได้แต่อ้างว่าทำข้อสอบไม่ได้
และก็เครียดตกค้างจากการอ่านหนังสือหนัก.......ตั้งแต่เหตุการณ์ที่โรงพยาบาล
วินก็กลายเป็นคนซึม ๆ ไม่ก็เฮฮาอยู่แล้วจู่ ๆ ก็เงียบไปอยู่บ่อยครั้ง ปุ้ยและฟิวก็สังเกตได้
แต่ทุกคนก็ไม่รู้จะทำอย่างไรได้....วินยังคงหัวเราะ ยิ้มแย้มได้เหมือนคนปกติ    เพียงแต่
วินลบเรื่องระหว่างวินและแมทไปไม่ได้.....วินหดหู่อย่างยาวนาน ตั้งแต่เกิดเรื่องในเดือน
กุมภาพันธ์มาจนถึงช่วงสงกรานต์    ปีนั้นเป็นปีแรกที่วินไม่ไปเที่ยวไหน หมกตัวอยู่แต่
ในบ้าน……..คุณพ่อคุณแม่ก็คงสังเกตได้ แต่ท่านไม่พูดหรือซักถามอะไร ได้แต่เอาใจ
และชวนพูดคุยอยู่เสมอ   วินนอนร้องไห้คืนเว้นคืนเลยก็ว่าได้....และวินก็เรียนจบแล้ว
ไม่ต้องไปเรียน ไม่ได้เจอเพื่อน ๆ เหมือนแต่ก่อน      มันทำให้วินยิ่งเศร้าและหดหู่หนัก
น้ำหนักวินลดลงไปจาก 59 เหลือ 50 กิโลฯ ....วินผอมมาก จนใคร ๆ ก็ทัก
วินไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร  ตอนนั้นวินยังไม่รู้จัก ‘โรคซึมเศร้า’  ไม่รู้ตัวว่าตัวเองเป็น
พี่แสงเดือนโทรมาหาวินอยู่เป็นระยะ.....แมทก็ส่งข้อความมาตลอด
เฉลี่ยแล้วสัปดาห์ละ 4 ครั้งเห็นจะได้....ส่งมาง้อ ส่งมาแสดงความเป็นห่วง ส่งมาบอกรัก
แต่วินไม่เคยตอบกลับไปเลยแม้แต่ครั้งเดียว....และวินก็เปลี่ยนเบอร์ฯ หนีไปในที่สุด
ไม่มีวันไหนที่วินไม่นึกถึงเหตุการณ์ในช่วง 11 เดือนก่อนเลย  ฟิวโทรหาวินทุกคืน เราคุย
กันตามปกติ   วินมีความสุขและยิ้มแย้มที่ได้คุยกับฟิวทุกครั้ง .........และข่าวคราวที่
พี่แสงเดือนนำมาฝากวินในช่วงนั้นก็คือ ขณะนั้นแมทกลับไปคบกับพี่กอล์ฟ ตั้งแต่
เลิกกับวินได้ไม่ถึงเดือน   พี่กอล์ฟแทบจะเรียกได้ว่ามาอยู่ที่บ้านนั้นเลย เพราะตอนเช้า
ก็ไปโรงงานพร้อมคุณแม่ หรือวันไหนคุณแม่ไม่ไป ก็จะขับรถไปเอง แต่แมทมีท่าทีที่
รุนแรงกับพี่กอล์ฟเสมอ  แมทกลายเป็นคนก้าวร้าวรุนแรงมากขึ้น ดื่มเหล้า เที่ยว
กลางคืน อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน  และในที่สุดข่าวที่ทำให้วินตกใจที่สุดก็คือ
ระหว่างที่แมทคบวิน แมทไม่ค่อยเข้าเรียน และขาดสอบไป 3 วิชา แมทไม่ได้สอบ
เอ็นทรานซ์รอบ 2 เพราะแมทไม่จบม.6  และนั่นก็คือเหตุผลให้คุณแม่โทรกลับมาด่าวิน
อีกครั้ง เพราะทำให้แมทต้อง ‘ซ้ำชั้น’  และก็สาปแช่งให้วินเอ็นไม่ติด ซึ่งคำสาปนั้นก็เป็น
ไปตามที่คุณแม่ปรารถนา วินไม่สามารถเข้ามหาวิทยาลัยที่วินเลือกไปได้เลยแม้แต่
อันดับเดียว....
............และในวันประกาศผลสอบเข้ามหาวิทยาลัย นั้นเอง............

วินเปิด MSN ก็พบแต่เพื่อน ๆ ตั้งชื่อกันด้วยความดีใจที่สอบติดกันเป็นส่วนใหญ่
ไม่ว่าจะเป็น ‘ได้เป็นลูกพระเกี้ยวแล้ว’   ‘ลูกแม่โดม’  ฯลฯ

“วินเป็นไงบ้าง”    ฟิวเข้ามาถามในการสนทนา MSN
“ไม่ติด”       วินตอบ
“ไม่เป็นไรหรอกวิน...อย่าเสียใจนะ”    ฟิวพิมพ์กลับมา (ส่วนฟิวสมัครเรียนอินเตอร์ของ
มหาวิทยาลัยรัฐบาลแห่งหนึ่งไปแล้ว เพราะเขารู้ตัวว่ายังไงก็คงไม่ติด)
“ปุ้ยได้ xxxx   xxxx”   ฟิวบอกคณะ และสถาบันที่ปุ้ยสอบติด เป็นมหาวิทยาลัยที่
ใครหลายคนอาจจะอยากเข้า แต่ก็ไม่ใช่มหาวิทยาลัยที่คนนิยมเลือกเป็นอันดับ 1-2
   และวินก็เห็นแท็ก (เด็กเรียน สายวิทย์ ใส่แว่น ตี๋ ๆ คงจำกันได้นะ) ออนไลน์อยู่
วินจึงเข้าไปทัก และถามเขาว่าสอบติดที่ไหน เพราะเขาไม่ได้ตั้งชื่อ MSN บอกเหมือน
คนอื่น ๆ
“แพทย์ฯ”    แท็กตอบกลับมา ....แค่นี้วินก็ชอคในความเก่งจะแย่
“ที่ไหนอ่ะ”    วินถาม….สถาบันที่แท็กตอบมายิ่งทำให้วินอึ้งในความเก่งกาจของเขา
                   เป็นสถาบันที่ใคร ๆ ก็อยากเข้า ไม่ว่าจะคณะใดก็ตาม
                   (โดยเฉพาะเด็กกรุงเทพฯ....วินว่าใคร ๆ ก็ต้องเลือกไว้อันดับที่ 1)
“เก่งมากกกกก....เราไม่ติด”     วินตอบกลับไป

   วันนั้นวินและแท็กคุยกันอยู่นานมาก มากกว่าปกติวิสัย จากนั้นวินก็ขอตัว
ไปนอน ก่อนที่วินจะออกจากการสนทนาไป แท็กก็พิมพ์ขอเบอร์วิน วินงงเล็กน้อย
คิดในใจขึ้นมาว่า ‘เสน่ห์จะแรงเกินไปแล้วนะเรา’ แต่วินก็ให้ไป เพราะอยากปรึกษา
อะไรหลาย ๆ อย่างกับแท็ก


   และนี่ก็เป็นอีกคืนที่วินร้องไห้หนัก เพราะวินทำให้คุณแม่ผิดหวัง ถึงแม้ว่า
คุณแม่วินจะไม่ได้ว่าอะไรเลย ซ้ำท่านยังลูบศีรษะวินเบา ๆ แล้วบอกว่าไม่เป็นอะไร
แต่วินก็รู้ว่าท่านผิดหวัง ....วินร้องไห้จนต้องโทรหาฟิว   ฟิวปลอบวินได้สำเร็จ
และนัดวินให้ไปทานข้าวด้วยที่ร้านโอลดี้ สยามเซนเตอร์ นั่นเป็นครั้งแรกที่เราทานข้าว
ด้วยกันสองต่อสอง

“วิน....คิดเรื่องของเราบ้างรึเปล่า”   ฟิวถามขึ้น ระหว่างที่เรารออาหารมาเสิร์ฟ
                                                    เขามีสีหน้าที่ค่อนข้างจริงจัง
“คิด...คิดมาตลอดฟิว”     วินตอบ ขณะเดียวกันน้ำตาก็เริ่มคลอ
“ถ้าเราไม่ได้อยู่ในที่สาธารณะ...ฟิวจะจับมือวิน”     ฟิวกล่าว
“ฟิว.........”      วินเรียกขึ้น น้ำตาไหลออกมาในที่สุด
“ฟิวเป็นคนที่ดีมาก......ฟิวดีกับวินอย่างที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน”     วินเสียงเริ่มสั่น
“ถ้าฟิวจะถามวินว่า...วินรักฟิวรึเปล่า.......วินบอกได้ตรงนี้เลยว่า ‘รักมาก’ ฟิว
รักมากจริง ๆ ....มันเริ่มจากความชอบ และกลายเป็นความรักตอนไหนวินก็ไม่รู้………
ฟิวทำให้วินมีความสุขที่สุด ตลอดระยะเวลา 1 ปีมานี้ ...ทุกครั้งที่วินร้องไห้ วินจะนึกถึง
ฟิวเป็นคนแรก และฟิวก็คือคนเดียวที่ทำให้วินยิ้มได้ทุกครั้ง”    วินกล่าว
“มีแต่ใช่มั้ยวิน.....”   ฟิวน้ำตาคลอ
“ฟิว........วินผิดหวังกับความรักครั้งแรกมาอย่างสาหัส....วินไม่สามารถกลับไปเป็น
เพื่อนกับแมทได้อีกด้วยซ้ำ”     วินกล่าว
“แล้ว....”     ฟิวถาม
“วินรักฟิว....และต้องการอยู่กับฟิวอย่างนี้ตลอดไป ....วินรักฟิวมาก ......”   
วินร้องไห้หนักขึ้น จนพนักงานเริ่มมอง
“แต่มันมากเกินกว่าที่วินจะคบกับฟิวเป็นแฟนได้......วินมีเหตุผลนะฟิว”    วินกล่าว
....ฟิวมีสีหน้าเศร้าอย่างมาก และรอฟังเหตุผลของวิน
“ฟิว.......ฟังนะ...........ถ้าเราคบกัน มันจะเป็นอะไรที่ดีมาก.........แต่วินกลัว.......ฟิว - - -
วินกลัวว่าเราจะจบไม่ดี...... วินกลัวว่าในที่สุดเราต้องเลิกกัน........แล้ววินจะเสียคนดี ๆ
อย่างฟิวไป..........วินมีบทเรียนมา 1 ปี.....วินไม่อยากให้เราเป็นอย่างนั้น”   วินกล่าว
“วิน.....ฟิวไม่มีทางทำอย่างนั้นกับวิน.......ฟิวอยากคบวิน....ไม่ใช่แค่เพราะวินน่ารัก
เหมือนที่ฟิวเคยบอก..........แต่ฟิวชอบนิสัย และทุกอย่างที่เป็นวิน......ฟิวว่าวินแตกต่าง
………ให้โอกาสเราทั้งสองคนไม่ได้หรอวิน........เราไม่เลิกกันหรอก”    ฟิวเริ่มน้ำตาไหล
“วินรู้นะฟิว.....ว่าเราอาจจะไม่เลิกกัน หรือคบกันไปจนตาย.........แต่วินไม่กล้าแม้แต่จะ
ลองเสี่ยงคบกับฟิว....เพราะถ้าเลิกกัน.....วินต้องเสียใจมากที่ต้องเสียฟิวไป”   วินร้องไห้
“วิน......”   ฟิวตาแดงก่ำ พยายามกลั้นน้ำตา และมีสีหน้าร้องขอ
“เราเป็นอย่างนี้ดีแล้วฟิว....มิตรภาพของเพื่อนมันยั่งยืนกว่า.......เพื่อนคบกันได้โดยไม่มี
ข้อแม้เลยนะฟิว.........แต่ฟิวรู้ไว้แล้วกัน......ว่าวินรักฟิวมาก”    วินก้มหน้าร้องไห้
“แล้วทำไมเราไม่คบกันหละวิน....ทำไมวินต้องตัดโอกาสของเราสองคน”   ฟิวจ้องตาวิน
“ใครไม่เจอความรักแบบนั้นมาอย่างวิน....ไม่มีทางเข้าใจหรอก...ว่าวินกลัวเพราะอะไร” 
วินตอบ
“วินจะไม่คิดเรื่องนี้อีกแล้วหรอ......วิน”    ฟิวถาม
“วินคิดดีแล้วฟิว.........เราเป็นเพื่อนกันดีกว่า...........ฟิวอย่าโกรธวิน หรือเลิกเป็น
เพื่อนกับวินเลยนะ.....วินขอร้องนะฟิว เข้าใจวินด้วย”         วินกล่าว
   ฟิวพยักหน้า น้ำตาไหล.....ในที่สุดเราก็ทานอะไรกันไม่ลง จึงสั่งให้พนักงานห่อ
กลับบ้าน
จากนั้นฟิวก็ไปส่งวินที่บ้านปุ้ย ซึ่งวินนัดเจอฟิว และเอารถมาจอดทิ้งไว้ที่นั่น
เพื่อจะได้ออกไปสยามกับฟิว ............
ปุ้ยเห็นเราสองคน เธอก็มีสีหน้าที่พอจะเข้าใจอะไรๆ ได้ จากสีหน้าของวิน
และฟิว เธอจึงไม่พูดหรือไถ่ถามอะไร ฟิวชวนวินไปที่ห้องนอนของปุ้ย โดยให้เหตุผลว่า
อยากคุยกับวินตามลำพัง....และวินก็ตกลง

“ฟิวจะรอนะวิน...”   ฟิวเอ่ยขึ้น  หลังจากเราเข้ามาอยู่กันตามลำพังในห้องของปุ้ย
“อย่าเลยฟิว.....อย่าปิดกั้นตัวเองเหมือนวิน”   วินกล่าว
        ฟิวเข้ามากอดวินไว้แน่น และร้องไห้ วินรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่สะเทือนใจวินอย่างมาก
วินคิดในใจอย่างสับสนว่า ‘นี่ตัวเราเป็นบ้าอะไร’  วินรักฟิวที่สุดในตอนนั้น วินรู้สึกดี
กับฟิว อย่างที่ไม่เคยรู้สึกกับแมท แต่ทำไมวินถึงเป็นแฟนฟิวไม่ได้ แต่เหตุผลในใจ  ที่วิน
รู้ดีก็คือ ‘ในที่สุดแล้ว...วินไม่อยากเสียฟิวไป’ 
   ฟิวร้องไห้ออกมาเสียงดัง และกอดวินแน่นขึ้น วินกอดตอบและร้องไห้
“วินขอโทษ...ฟิว….”   วินกล่าวทั้งน้ำตา
ฟิวยังคงร้องไห้หนักต่อไป จากนั้นเขาก็คลายกอดจากวิน และเอามือมาจับแก้มทั้งสอง
ข้างของวินไว้.......ฟิวเอาหน้าเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ....วินไม่ฝืนแต่น้อย วินบอกตัวเองในใจ
ว่า  ‘ถ้าฟิวจะจูบ วินก็จะไม่ว่าอะไร’ ให้เป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่ประทับใจของเรา
....ฟิวเข้ามาใกล้จนจมูกและหน้าผากของเราชนกัน ฟิวหลับตา.....

“เราจะเป็นแค่เพื่อนกันต่อไปจริงๆ  ใช่มั้ยวิน”    ฟิวพูดขึ้นเบา ๆ ยังคงหลับตาอยู่
........วินไม่ตอบอะไร ได้แต่ร้องไห้ และรู้สึกเจ็บปวดในใจอยู่อย่างมาก
.…ฟิวพยักหน้ายอมรับสภาพของเราทั้งสอง และเขาเปลี่ยนทิศทาง  จากที่จะจูบปากวิน
มาเป็นหอมที่แก้ม......ฟิวหอมที่แก้มของวิน โดยแช่อยู่นานเกือบ 1 นาที โดยที่ร้องไห้อยู่
ตลอดเวลา
“ในอนาคตใกล้ ๆ นี้.......ฟิวคงรักใครไม่ได้เท่าวินอีก”    ฟิวกระซิบที่ข้างหู
วินได้ยินที่เขาพูดก็ยิ่งร้องไห้หนัก และเป็นฝ่ายเข้าไปกอดเขาก่อนบ้าง
“เราจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันอย่างนี้ ตลอดไปนะฟิว”    วินกล่าว และคลายกอดเขา
.......ฟิวจับมือวินทั้งสองข้าง และมองหน้าวินอยู่พักใหญ่

“หวังว่าแฟนในอนาคตของวินจะรู้นะ.....ว่าเค้าโชคดีแค่ไหน”   ฟิวพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
......ฟิวนี่เอง ที่เป็นคนทำให้วินรู้สึก ว่าตัวเองกลับมีค่าขึ้นมาอีกครั้ง.........

   และเราทั้งสองก็ออกมาจากห้อง โดยที่มีปุ้ยยืนน้ำตาไหลอยู่นอกห้อง

“พวกแกทำไมถึงบ้ากันได้ขนาดนี้ว้ะ.......วิน...ชั้นไม่อยากจะเชื่อเลย”   ปุ้ยกล่าวจบก็
เข้ามากอดวิน และฟิว
“ไอ้วิน...ชั้นจะไม่ร้องไห้ให้เรื่องของแกอีกแล้วนะ......อย่าเอาอะไรมาใส่กะบาลชั้นอีก”
ปุ้ยกล่าว และหัวเราะทั้งน้ำตา
   
         วินขอตัวกลับออกมาก่อน และเปิดซีดีเพลงโปรดของวินและฟิว ที่ฟิวเป็นคนซื้อให้
ระหว่างทางกลับบ้าน.....วินก็อดไม่ได้ที่จะต้องน้ำตาไหล........แต่ลึก ๆ วินก็รู้ดีว่า   นี่คือ
การตัดสินใจที่ถูกต้องครั้งแรกของวิน ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา.......จะไม่มีอะไรถูกต้อง และ
ดีที่สุด สำหรับวินและฟิวมากไปกว่านี้แล้ว...........

___________________________________________

โปรดติดตามตอนจบ
วันจันทร์ที่ 21 เมษายน ... เวลา 20.30 น.
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 18-04-2008 22:44:20
ตอนที่ 29 ความรักที่ดีที่สุด...สำหรับเราสองคน

โปรดติดตามตอนจบ
วันจันทร์ที่ 21 เมษายน ... เวลา 20.30 น.

^
^
^
ทำเว่อร์ อลังการบานเบอะไปไหนอ่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: naja ที่ 18-04-2008 23:10:21
โอ๊ว เศร้าอ่ะ ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย o7
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: ICEME ที่ 18-04-2008 23:45:36
บางทีพี่อาจจะทิ้งคนรักที่ดีที่สุดที่ในชีวิตของพี่จะหาได้ก็เป็นได้นะ
แต่ก็จริง ความสัมพันแบบเพื่อนนี่แหละที่ยั่งยืนที่สุด
รอตอนจบของพี่นะ

ปล. อัพไม่บอก มันต้อง :เตะ1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: แมววาย ที่ 19-04-2008 00:13:20
ทำไม ต้องเลือกวัน เวลานี้ เป็นตอนจบด้วยล่ะ 
เฉลย ๆ ๆ  :oni2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: anston ที่ 19-04-2008 00:28:40
ในเมื่อรู้ใจตัวเองขนาดนี้..แต่ก็ยังปฏิเสธไป
วินคงกลัวที่จะสูญเสียคนดีดีไปเพราะความรัก..
จึงให้คำว่าเพื่อนกับฟิว..มิตรภาพที่ยั่งยืนที่สุด
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: แก้ว ที่ 19-04-2008 00:40:41
 :m15:

หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: Yurameki ที่ 19-04-2008 19:40:21
หายไปนานเลยเรา
กลับมาช่วยดัน
ช่วงนี้พี่วินงานหนักน่าดูเลย
สู้ตายน้อพี่ท่าน

ขอคอมเม้นยาวหน่อย
เด๋วพี่วินจาเหงางิ คิๆ

อย่างแมทต้องเจอแบบพี่กอล์ฟนะดีแล้วพี่วิน
เหมาะกันดี  เหมือนผีเน่ากับโลงผุๆ หุๆๆๆๆ
ในเมื่อแม่แมทส่งเสริมให้ลูกได้กะพี่กอล์ฟ ก้อปล่อยแกไป
เอิ๊กๆ
น่าจะประมาณว่า "คนอย่างแมท ต้องเจออย่างกอล์ฟ" 55555+

แมทอะ ดูการกระทำภายนอกแล้วหนูว่าเค้าเลวบัดซบสุดๆ
ก็แค่ไอ่เชี่ยตัวนึงอะไรแบบนี้อะ
แต่โทษแมทคนเดียวมันไม่ถูก
แบคกราวน์การเลี้ยงดูของแม่แมทมันทำให้แมทเป็นอย่างงี้ไม่ใช่หรอ
เลี้ยงลูกยังไง ลูกก็จะเป็นยังงั้น
เคสแมทคือ  แม่ตามใจสุดๆ  แม่ไม่ให้แมทต้องเจอกับความลำบาก (อย่างที่พี่แสงเดือนแกเล่าให้พี่วินฟัง)
เมื่อแมทไม่เคยลำบาก ไม่เคยเจ็บปวด เศร้า ทุกข์ใจ เพราะการเลี้ยงดูที่สุดแสนโอเว่อของแม่
มันทำให้แมทไม่เคยได้เรียนรู้เรื่องพวกนี้เลยซักนิด

"รัก" มันเป็นอะไรที่มีหลากหลายรสชาติ
สำหรับเราเราว่ามันเหมือนช๊อกโกแลตที่มีรสขมปนอยู่
มีทั้งหวานทั้งขม อะไรแบบนั้นเลยล่ะนะ
สุภาษิตจีนโบราณที่ตือโป๊ยก่ายชอบพล่ามในเรื่องไซอิ๋วว่า "ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์" สามารถอธิบายได้เป็นอย่างดีเลยว่า
ถ้าคิดจะรักต้องเผื่อใจเอาไว้ เพราะความรักไม่ได้มีแต่เรื่องที่สุขสมเสมอไป
แต่ความทุกข์ก็มีเช่นกัน
นี่คือธรรมชาติของความรัก

ย้อนกลับไปที่การเลี้ยงดูของแม่แมท
ในเมื่อเค้าไม่เคยที่จะได้รับความเจ็บปวด ความทุกข์ ความเศร้าใจใดๆ
แม่โอ๋ตลอด
เวลาแมทมีความรัก  แล้วต้องเจ็บปวด ต้องเศร้า ต้องเจ็บใจ
แม่ก็จะออกมาปกป้องลูกตัวเองเหมือนอย่างที่เคยทำ
ปรากฎว่า แมทไม่ได้เรียนรู้ที่จะอยู่กับธรรมชาติของความรักซักที
จริงๆ แล้ว แมทไม่รู้ว่าการมีความรักรสชาติของมัน และธรรมชาติของมันเป็นยังไง

แมทก็ยังคงเป็นคนที่ไม่รู้อยู่อย่างเงี้ยะ

ขอโทดนะคะ  คนอย่างแมทอะค่ะ  น่าจะรู้จักกับความรู้สึกต่างๆ ในแง่ลบ และยอมรับที่จะแก้ปัญหาเพื่อหาทางออกจากความรู้สึกเหล่านั้นได้ด้วยตัวเอง
ด้วยวิธีที่คนอื่นเค้าไม่เดือดร้อน
รู้จัก ณ จุดๆ นี้ก่อนเถอะค่ะ

คนอย่างแมทถึงจะรักคนอื่นเป็นซักที

ว่าปะ พี่วิน

แต่แม่แมทก้อใช่ว่าจะผิดไปทุกอย่าง  เค้าบ้านี่นา - -" เหอๆ

ถ้าแมทได้ไปอยู่กะพ่อ แมทคงจะเป็นคนเหมือนคนปกติเนอะพี่วิน

วันนี้หนูมาโหมด วิญญาณ คริกะติก (Critic) เข้าสิง
องค์ลงๆๆๆๆๆ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ


ดันแล้วนะจ๊า
จัดห้ายยยยย
 :oni2: :oni2: :oni2: :oni2:


 :oni1: :oni1: :oni1: :oni1: :oni1:

ช่วงนี้ก็ เรียนซัมเมอร์ เด้

 o2  ไม่ค่อยได้เข้าบอร์ดทุกวี่ทุกวัน
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 19-04-2008 20:26:51
 :เฮ้อ: รักครั้งแรกแสนสาหัสจริงๆ ไม่กล้าแม้แต่จะรักใครอีก  :m13: :m13:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 19-04-2008 22:07:27
โอ๊ว เศร้าอ่ะ ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย o7
วินตัดสินใจถูกมั้ยอ่าาา  :o12:

บางทีพี่อาจจะทิ้งคนรักที่ดีที่สุดที่ในชีวิตของพี่จะหาได้ก็เป็นได้นะ
แต่ก็จริง ความสัมพันแบบเพื่อนนี่แหละที่ยั่งยืนที่สุด
รอตอนจบของพี่นะ

ปล. อัพไม่บอก มันต้อง :เตะ1:
ก็จริงอย่างน้องเต่าว่า ฟิวอาจเป็นคนรักที่ดีที่สุดของวิน
แต่วินเองก็กลัวว่าจริง ๆ แล้ว ฟิวอาจจะเป็นเพื่อนที่ดีได้มากกว่าเป็นแฟนที่ดี
คงไม่มีใครอยากเสียเพื่อนดี ๆ ไปด้วยการเป็นแฟนกัน จริงม้าย

ทำไม ต้องเลือกวัน เวลานี้ เป็นตอนจบด้วยล่ะ 
เฉลย ๆ ๆ  :oni2:

อิอิ ว่าจาเฉลยวันจันทร์ แต่บอกเลยกะได้
เห็นว่าเดือนนี้ เป็นเดือนเดียวกันกับวันที่วินคบแมท (12 เมษา 2546)
ถือเคล็ดว่าให้เรื่องนี้จบในเดือนที่เราคบกันครบรอบ 5 ปี (ถ้ายังคบกันอยู่)
แต่สลับเลขซะหน่อย เหมือนกรวดน้ำแล้วคว่ำขันเป็น  21 เมษา 2551
เรื่องของวินจะได้จบไปพร้อม ๆ กันกับตอนที่ 30 เลย ชาตินี้ไม่ต้องมาเจอกันอีก อิอิ
เว่อร์ไปม้ะ ???

ในเมื่อรู้ใจตัวเองขนาดนี้..แต่ก็ยังปฏิเสธไป
วินคงกลัวที่จะสูญเสียคนดีดีไปเพราะความรัก..
จึงให้คำว่าเพื่อนกับฟิว..มิตรภาพที่ยั่งยืนที่สุด
แอบซึ้งนะเนี่ยคุณ anston เป็น quote เด็ดประจำตอนได้เลยทีเดียว  :oni2:


:เฮ้อ: รักครั้งแรกแสนสาหัสจริงๆ ไม่กล้าแม้แต่จะรักใครอีก  :m13: :m13:

งั้นแสดงว่าวินประสบความสำเร็จในการตั้งชื่อเรื่อง
อันนี้ต้องยกเครดิตให้น้อง Yurameki ที่ช่วยกันตั้งชื่อจนเกือบรุ่งสาง  :a2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 19-04-2008 22:10:44
หายไปนานเลยเรา
กลับมาช่วยดัน
ช่วงนี้พี่วินงานหนักน่าดูเลย
สู้ตายน้อพี่ท่าน

ขอคอมเม้นยาวหน่อย
เด๋วพี่วินจาเหงางิ คิๆ

อย่างแมทต้องเจอแบบพี่กอล์ฟนะดีแล้วพี่วิน
เหมาะกันดี  เหมือนผีเน่ากับโลงผุๆ หุๆๆๆๆ
ในเมื่อแม่แมทส่งเสริมให้ลูกได้กะพี่กอล์ฟ ก้อปล่อยแกไป
เอิ๊กๆ
น่าจะประมาณว่า "คนอย่างแมท ต้องเจออย่างกอล์ฟ" 55555+

แมทอะ ดูการกระทำภายนอกแล้วหนูว่าเค้าเลวบัดซบสุดๆ
ก็แค่ไอ่เชี่ยตัวนึงอะไรแบบนี้อะ
แต่โทษแมทคนเดียวมันไม่ถูก
แบคกราวน์การเลี้ยงดูของแม่แมทมันทำให้แมทเป็นอย่างงี้ไม่ใช่หรอ
เลี้ยงลูกยังไง ลูกก็จะเป็นยังงั้น
เคสแมทคือ  แม่ตามใจสุดๆ  แม่ไม่ให้แมทต้องเจอกับความลำบาก (อย่างที่พี่แสงเดือนแกเล่าให้พี่วินฟัง)
เมื่อแมทไม่เคยลำบาก ไม่เคยเจ็บปวด เศร้า ทุกข์ใจ เพราะการเลี้ยงดูที่สุดแสนโอเว่อของแม่
มันทำให้แมทไม่เคยได้เรียนรู้เรื่องพวกนี้เลยซักนิด

"รัก" มันเป็นอะไรที่มีหลากหลายรสชาติ
สำหรับเราเราว่ามันเหมือนช๊อกโกแลตที่มีรสขมปนอยู่
มีทั้งหวานทั้งขม อะไรแบบนั้นเลยล่ะนะ
สุภาษิตจีนโบราณที่ตือโป๊ยก่ายชอบพล่ามในเรื่องไซอิ๋วว่า "ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์" สามารถอธิบายได้เป็นอย่างดีเลยว่า
ถ้าคิดจะรักต้องเผื่อใจเอาไว้ เพราะความรักไม่ได้มีแต่เรื่องที่สุขสมเสมอไป
แต่ความทุกข์ก็มีเช่นกัน
นี่คือธรรมชาติของความรัก

ย้อนกลับไปที่การเลี้ยงดูของแม่แมท
ในเมื่อเค้าไม่เคยที่จะได้รับความเจ็บปวด ความทุกข์ ความเศร้าใจใดๆ
แม่โอ๋ตลอด
เวลาแมทมีความรัก  แล้วต้องเจ็บปวด ต้องเศร้า ต้องเจ็บใจ
แม่ก็จะออกมาปกป้องลูกตัวเองเหมือนอย่างที่เคยทำ
ปรากฎว่า แมทไม่ได้เรียนรู้ที่จะอยู่กับธรรมชาติของความรักซักที
จริงๆ แล้ว แมทไม่รู้ว่าการมีความรักรสชาติของมัน และธรรมชาติของมันเป็นยังไง

แมทก็ยังคงเป็นคนที่ไม่รู้อยู่อย่างเงี้ยะ

ขอโทดนะคะ  คนอย่างแมทอะค่ะ  น่าจะรู้จักกับความรู้สึกต่างๆ ในแง่ลบ และยอมรับที่จะแก้ปัญหาเพื่อหาทางออกจากความรู้สึกเหล่านั้นได้ด้วยตัวเอง
ด้วยวิธีที่คนอื่นเค้าไม่เดือดร้อน
รู้จัก ณ จุดๆ นี้ก่อนเถอะค่ะ

คนอย่างแมทถึงจะรักคนอื่นเป็นซักที

ว่าปะ พี่วิน

แต่แม่แมทก้อใช่ว่าจะผิดไปทุกอย่าง  เค้าบ้านี่นา - -" เหอๆ

ถ้าแมทได้ไปอยู่กะพ่อ แมทคงจะเป็นคนเหมือนคนปกติเนอะพี่วิน

วันนี้หนูมาโหมด วิญญาณ คริกะติก (Critic) เข้าสิง
องค์ลงๆๆๆๆๆ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ


ดันแล้วนะจ๊า
จัดห้ายยยยย
 :oni2: :oni2: :oni2: :oni2:


 :oni1: :oni1: :oni1: :oni1: :oni1:

ช่วงนี้ก็ เรียนซัมเมอร์ เด้

 o2  ไม่ค่อยได้เข้าบอร์ดทุกวี่ทุกวัน

ไม่เจอซะนาน เม้นยาวเหมือนเดิมนะคุณน้องเอ๋ย  :m4:

คิดถึงจัง ไม่ค่อยได้คุยกันเลยเนอะ ต่างคนต่างมีภาระ

คนนึงใกล้จบ คนนึงยุ่งกับการเริ่มเป็นเฟรชชี่

ยังไงก็สู้ ๆ สู้ตาย หนทางยังอีกยาวไกล (มีแอบขู่  :m23:)

และก็ขอบคุณสำหรับคอมเม้นด้วยเน่ออออ
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: anston ที่ 20-04-2008 07:23:25
เห็นน้องวินเข้ามา..นึกว่ามาต่อเร็วกว่ากำหนดซะอีก
ที่แท้ก็เข้ามาตอบเม้นนี่เอง..ขอบคุณสำหรับคำชมน๊า :m13:
เรื่องนี้ผ่านมาตั้ง 5 ปีแล้วรึนี่..
แล้วตัวละครแต่ละคนนี่ตอนนี้เป็นไงบ้างนะ..
ส่วนน้องวิน..หลังจากผ่านเรื่องร้ายๆจากความรักมา คงจะรู้จักความรักดีขึ้นแน่ๆ.. :a1:
แล้วจะรออ่านบทสรุป..ความรักของวิน.. :bye2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 21-04-2008 18:31:34
ตอนที่ 30 ชีวิต...หลังพายุฝน
(ตอนจบ)
   วินและฟิวยังคงโทรฯ คุยกันทุกคืนตามปกติ  พอเวลาล่วงไป ฟิวบอกกับวินว่า
เขาจะพยายามโทรหาวินให้น้อยลง เขาจะได้ทำใจเป็นเพื่อนกับวินให้ได้ในที่สุด
ระหว่างนั้นวินก็โทรคุยกับแท็ก นักเรียนแพทย์เฟรชชี่  คุยกันในเรื่องที่เราสนใจ และ
วินก็ปรึกษาเรื่องเรียนกับแท็ก  เพราะตอนนั้นวินเริ่มคิดถึงเรื่องการสอบเอ็นทรานซ์
ครั้งใหม่ในปีหน้า หรือที่เรียกกันว่า “ซิ่ว”  นั่นเอง......วินและแท็ก เราเริ่มสนิทสนม
และคุยกันถูกคอมากขึ้น.....แท็กเป็นคนดี สุภาพ และตั้งใจเรียนเป็นอย่างมาก

วินขอคำปรึกษาเรื่องสถานที่เรียนกวดวิชา ที่เขาเคยเรียนมา ...กระทั่งวันหนึ่ง
วินกับเพื่อนใหม่ที่มหาวิทยาลัย ไปเดินเล่นเที่ยวที่สยามกัน ...โดยในวันนั้นแท็กนัด
ให้วินมาเจอที่หน้าร้านเอสแอนด์พี (S&P) เขาบอกว่ามีอะไรจะให้....และวินก็ไปตามที่
แท็กนัด…..และในวันนั้นเอง จุดเริ่มต้นแห่งชีวิตที่ดี และการเริ่มต้นใหม่ในชีวิตของวิน
ก็เกิดขึ้น   แท็กขนหนังสือทุกวิชาที่เขาเคยไปกวดวิชามา มีลายมือของเขาที่จดเนื้อหาไว้
อย่างละเอียด  ไม่ว่าจะเป็นวิชาภาษาไทย สังคม และยังมีซีดีเพลงศัพท์อีกจำนวนมาก
ใส่มาในถุงใบใหญ่ และเขาก็มอบให้แก่วิน....

“ลองอ่านดูก่อน...แล้ววินค่อยคิดจะสมัครเรียน”   แท็กให้เหตุผล...แท็กเป็นเด็กเรียน
ในสายตาคนร้อยทั้งร้อย  เขาเป็นคนดี สุภาพ พูดจามีเหตุผล และน่าเชื่อถืออย่างมาก
....วินรับหนังสือและซีดีเพลงท่องศัพท์ที่เขาเตรียมมาให้ไว้ และเริ่มทบทวนทั้งหมด
อย่างจริงจัง  วินฟังเพลงศัพท์แทนฟังเพลง วินพกเพลงศัพท์ติดรถไว้ และลงเพลงไว้
ในโทรศัพท์มือถือ เพื่อนั่งฟังเวลาว่าง ....วินรู้สึกขอบคุณในสิ่งที่แท็กได้ทำให้วินเป็น
อย่างมาก....และในที่สุด เมื่อเข้าสู่เทอมที่ 2 ของชีวิตมหาวิทยาลัย วินก็เริ่มขอคุณแม่
ไปเรียนพิเศษ เพื่อเตรียมสอบใหม่อีกครั้ง โดยคุณแม่ก็ยอมตกลง แต่ในขณะเดียวกัน
วินก็ไม่ได้ทิ้งการเรียนที่มหาวิทยาลัยเลย เทอมแรกวินได้เกรดเฉลี่ย 3.66 ซึ่งถ้าวิน
รักษาระดับนี้ไว้ได้ วินสามารถทำเกียรตินิยมอันดับ 1 ได้เลยทีเดียว ...คุณแม่เสียดาย
เล็กน้อยที่วินจะทิ้งเกรดนี้ไป แต่ท่านก็ไม่ขัด หากมันคือความฝันของวิน
   แท็กให้คำปรึกษาวินอย่างดีเสมอมา ในขณะที่เขาเองก็เรียนหนัก แท็กและวิน
เริ่มคุยกันเกือบทุกคืน วินไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ของเราเป็นไปในแนวทางใด วินรู้แต่ว่า
แท็กเป็นคนดีเหลือเกิน....วินรู้สึกดี และไว้ใจแท็กอย่างมาก จนกระทั่งแท็กนัดวิน
ไปทานสเต็กที่ร้าน “นิวไลท์” ในสยาม นั่นคือร้านแรก และมื้อแรกของเรา
....ฟิวรับรู้เรื่องแท็กมาโดยตลอด....ฟิวดีใจกับวินที่เจอเพื่อนดีๆ  และระหว่างนั้นฟิวเอง
ก็เริ่ม ๆ ศึกษาดูใจกับเพื่อนของเขาที่เรียนด้วยกัน แต่คบกันได้ไม่นาน ฟิวก็เลิก และ
กลับมาคุยกับวินมากขึ้นกว่าเดิม และให้เหตุผลว่า “ยังไงก็ไม่มีใครเหมือนวิน”   
ทำเอาวินลอยสูงไปเลยอยู่เหมือนกัน....แมทยังคงตามรังควาญให้วินลำบากใจอยู่บ้าง
พี่แสงเดือนโทรมาบอกวินว่า แมทเอาอีโต้ไล่สับพี่กอล์ฟ เพื่อไล่ให้ออกไปจากบ้าน
ทั้งสองคบกันได้เดือนเศษ ๆ ก็เลิกกันอีกครั้ง  พี่แสงเดือนบอกว่า แมทควงแฟนมาที่บ้าน
เดือนละคนเลยเห็นจะได้ วินเปลี่ยนเบอร์ไปเป็นเบอร์ที่ 4 เพราะไม่รู้ว่าแมทรู้เบอร์ใหม่ ๆ
ของวินได้อย่างไร จนกระทั่งวันนึง วินเปลี่ยนมาเป็นเบอร์ที่ 7 เห็นจะได้ วินลองไม่บอก
เบอร์ใหม่นี้กับอั้มดู (หลังจากที่สังเกตกับปุ้ยมานาน)  แมทก็ไม่โทรหาวินอีกเลย
มีแต่ส่งอิเมลมา ส่งเพลงซึ้ง ๆ มาให้บ้าง และวันวาเลนไทน์ล่าสุด (2008) เขาก็ส่งเพลง
มาให้ทางอิเมล พร้อมให้คนขับรถนำโหลแก้วที่บรรจุทรายสี ๆ เป็นรูปหัวใจมาให้วิน
ที่บ้าน พร้อมด้วยช็อคโกแลตดูดีมีราคากล่องใหญ่อีก 1 กล่อง โดยมีการ์ดที่เขียนว่า…..
‘ยังรัก และรอคอย’.....และวินก็ทานช็อคโกแลตหมดคนเดียวภายใน 2 วัน (ตายแล้ววิน-*-)

   เมื่อการสอบเอ็นทรานซ์ครั้งที่ 2 ของวินมาถึง วินเข้าไปสอบด้วยความมั่นใจ
และทำข้อสอบ ‘พอได้’ และผลก็เป็นที่น่าพึงพอใจ วิชาภาษาไทยจาก 52 เป็น 68
วิชาสังคมจาก 42.5 เป็น 65  ภาษาอังกฤษจาก 64 เป็น 76 และภาษาฝรั่งเศส
จาก 38.75 เป็น 58.75...................และเมื่อถึงวันประกาศผลสอบเข้ามหาวิทยาลัย
....ในที่สุดวินก็สามารถเข้ามหาวิทยาลัยที่วิน และคุณแม่ใฝ่ฝันได้.....และช่วงนั้นเอง
ที่คุณแม่รับรู้เรื่องของวินและแท็ก ท่านไม่ได้ว่าอะไรเลยแม้แต่น้อย ท่านกลับดีใจ
ที่ชวนกันเรียน ไม่พากันเสีย แท็กและวินเริ่มคุยกันจริงจัง ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2547
และคบกันมาเรื่อย ๆ จนถึงทุกวันนี้ เราตกลงคบกันเป็นแฟนมาเป็นเวลา 4 ปีแล้ว
แท็กไม่เคยหึง ไม่เคยทำร้าย ไม่เคยตวาด ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย ท่าทีของแท็ก
ในวันแรกที่เราเจอกัน คบกัน เป็นอย่างไร ทุกวันนี้แท็กก็ยังคงเป็นเช่นนั้น มีแต่จะดีขึ้น
และหวานขึ้นด้วยซ้ำ  มีบ้างที่เราทะเลาะกัน วินจะเป็นฝ่ายอารมณ์เสีย และมีท่าที
กับแท็กก่อนเสมอ   แต่แท็กก็จะเอาท่าทีใจเย็นของเขาเข้าแลก เราไม่เคยทะเลาะ หรือ
โกรธกันข้ามวันเลย แท็กยอมวินเสมอ และเข้าใจในตัวของวิน และเหตุผลของเขาที่
บอกว่ารักวิน ก็เช่นเดียวกันกับฟิว แท็กบอกว่า “คนอย่างวิน หายาก”  วินดีใจจริงๆ
ที่มีคนชื่นชมวินในลักษณะนี้มาตลอด
วินเป็นแฟนคนแรกของแท็ก..........แท็กรับรู้เรื่องของวินและแมท แต่ก็ไม่มากนัก
เราทั้งสองคนเคยถูกแมทคุกคาม และก่อกวน จนเราเลิกกันไป 1 ครั้ง แต่ก็กลับมาคืนดี
กันได้  เนื่องจาก ‘ฟิว’ เป็นผู้ช่วยทำให้วินและแท็กกลับมาคบกันต่อไป.....จนถึงปัจจุบัน
   ฟิวยังคงโทรหาวินอยู่เสมอ แรก ๆ เฉลี่ยอาทิตย์ละ 2 ครั้ง พอนานไปก็เหลือ
อาทิตย์ละ 1 ครั้ง และพอถึงปัจจุบัน ก็เหลือเดือนละ 1 – 2 ครั้ง....ฟิวโทรมาถาม
สารทุกข์ สุขดิบ และยังคงหยอดคำหวานอยู่เป็นระยะ ทั้งยังพูดทีเล่นทีจริงว่า
“ยังรอวินอยู่นะ” อยู่เสมอ ๆ (วินก็ไม่รู้ว่าเขาพูดจริงหรือเปล่า)

   หลังจากที่วินเข้ามหาวิทยาลัยที่ต้องการได้ไม่นาน คุณแม่แมทก็โทรมาหาวิน
ขอร้องให้กลับไปคบกับแมท เพราะตั้งแต่เลิกกับวิน แมทเปลี่ยนไปอย่างมาก
เที่ยวเกือบทุกคืน กลับมาก็เมาเหมือนหมา (คุณแม่บอกอย่างนี้นะ) เวลาเมา
แมทก็จะร้องไห้ และพูดถึงแต่วิน  แมทมีแฟนเยอะมาก แต่ไม่คบใครจริงจังเลย
คุณแม่กลัวแมทจะติดโรคร้าย จึงโทรหาวิน เพื่อให้วินกลับไปคบ แต่วินปฏิเสธ
และบอกว่าวินมีแฟนใหม่แล้ว คุณแม่ก็ยอมรับและเข้าใจแต่โดยดี แต่ยังคงทิ้งท้ายไว้ว่า
“ถ้าเลิกกับแฟนคนนี้เมื่อไหร่ ให้กลับไปคบแมททันที”   แต่วินคิดอยู่แล้วว่ายังไงวินก็คง
ไม่กลับไปอย่างแน่นอน

   ในมหาวิทยาลัยแห่งใหม่ที่วินใฝ่ฝันนี้ วินได้พบแต่เพื่อนดี ๆ และทุกคนก็ทำให้
วินมีความสุขและลืมทุก ๆ อย่างได้ ซึ่งก่อนหน้านั้น ฟิวเป็นคนพาวินไปหาจิตแพทย์
ซึ่งเป็นเพื่อนของคุณพ่อของฟิว  คุณหมอบอกว่าวินเป็นโรคซึมเศร้า ให้วินหลีกเลี่ยง
การอยู่คนเดียวไประยะใหญ่ และก็ให้คำปรึกษาต่าง ๆ นานา จนปัจจุบัน วินก็ไม่ต้อง
นึกถึงเรื่องของวินกับแมทอีกต่อไป   และทิ้งมันไว้ข้างหลัง เป็นความทรงจำ และ
บทเรียนราคาแพง ที่วินจะไม่มีวันลืมเลยในชีวิตนี้

   ช่วงเดือนตุลาคม เป็นช่วงปิดเทอม ซึ่งกำลังจะขึ้นเทอมสอง  ของชีวิตนักศึกษา
ขณะที่วินกำลังนอนดูทีวีอย่างเพลิดเพลิน พี่แสงเดือนก็โทรเข้ามาหาวิน........
“คุณวินคะ....พี่แสงเดือนมีเรื่องจะรบกวน”   พี่แสงเดือนทำเสียงขอร้อง
“อะไรพี่แสงเดือน....ว่ามาเลย”    วินตอบอย่างเต็มใจ
“คุณวินช่วยไปส่งพี่แสงเดือนที่หัวลำโพงได้มั้ยคะ” 
“ทำไม....พี่แสงเดือนจะไปไหน”   วินตกใจเล็กน้อย…………และสายก็หลุดไป
วินจึงโทรกลับไปหา
“ขอโทษค่ะคุณวิน....เงินพี่แสงเดือนหมด”   พี่แสงเดือนบอกเหตุผลที่สายหลุด
วินก็ลืมไปเสียสนิท  ว่าควรจะกดวางแล้วโทรกลับไป
“แล้วพี่แสงเดือนจะไปไหน”   วินถามต่อ
“คุณแม่พี่แสงเดือนป่วยมาก....ต้องกลับบ้านแล้วค่ะ.....คุณผู้หญิงโกรธที่พี่แสงเดือน
ลาออก....เลยไม่ยอมจ่ายเงินเดือนให้พี่แสงเดือน ส่วนเงินเดือนของเดือนที่แล้ว
พี่แสงเดือนก็ส่งกลับบ้านไปเป็นค่ารักษาพยาบาลให้แม่พี่แสงเดือนหมดแล้ว
พี่แสงเดือนไม่มีเงินนั่งรถไปหัวลำโพงเอง....มีเงินติดตัวอยู่ 800 กว่าบาท
กลัวจะไม่พอค่ารถไฟ......คุณวินช่วยพี่แสงเดือนหน่อยได้มั้ยคะ” 
....พี่แสงเดือนมีน้ำเสียงเหมือนคนกำลังจะร้องไห้
“เฮ้ย...ได้ ๆ พี่แสงเดือน ให้วินไปรับที่ไหน”   วินถาม
“ที่หน้าหมู่บ้านได้มั้ยคะ พี่แสงเดือนรู้ว่าคุณวินไม่อยากมาที่บ้านนี้”  พี่แสงเดือนตอบ
“ได้พี่แสงเดือน...งั้นวินจะออกไปแล้วนะ....จะได้ไปซื้อตั๋วด้วยไง”   วินกล่าว
“ค่ะ....พี่แสงเดือนก็เก็บกระเป๋าแล้ว.....ขอบคุณค่ะคุณวิน”

   วินไปรับพี่แสงเดือนภายใน 20 นาที หลังจากที่วางสาย   และไปส่งพี่แสงเดือน
ที่สถานีรถไฟหัวลำโพง พี่แสงเดือนซื้อตั๋วรถไฟด้วยเงินของเธอเอง เหลือทอนกลับมา
ประมาณ 2 – 3 ร้อยบาท…….รถไฟขบวนของพี่แสงเดือนกว่าจะออกก็เย็นมาก
ตอนนั้นเพิ่งจะบ่ายนิด ๆ วินเลยอยู่เป็นเพื่อนพี่แสงเดือน และพาพี่แสงเดือนไปหา
อะไรทาน   พี่แสงเดือนเล่าเรื่องมากมายในบ้านหลังนั้นให้วินฟัง ก็ไม่มีเรื่องไหน
ที่วินคาดไม่ถึงเลยแม้แต่เรื่องเดียว

“แล้วพี่แสงเดือนจะกลับมาอีกมั้ย”    วินถาม
“ไม่แล้วค่ะ....คงอยู่ดูแลที่บ้านเลย”
“อย่างนี้วินก็คิดถึงพี่แสงเดือนแย่เลยสิ”    วินทำเสียงอ่อย
“โทรคุยกันบ่อย ๆ นะคะคุณวิน”   พี่แสงเดือนยิ้มให้
“ได้เลยพี่แสงเดือน”   วินตอบ
   
   วินและพี่แสงเดือนไปนั่งรอ เพื่อจะส่งพี่แสงเดือน ก่อนรถออกประมาณ 30 นาที

“อะ....พี่แสงเดือนวินให้”   วินยื่นบัตรเติมเงินโทรศัพท์ 500 บาท 2 ใบ ที่วินแวะซื้อ
ระหว่างทาง  ตอนที่ไปรับพี่แสงเดือนที่บ้าน
“โอ๊ย ตายแล้วคุณวิน ให้ทำไมเยอะแยะคะ”  พี่แสงเดือนทำหน้าตกใจ
“พี่แสงเดือนจะกลับบ้าน  แล้วก็ไม่ได้กลับไปเป็นปี ๆ แล้ว ไม่มีเงินในโทรศัพท์เลย
ได้ยังไงกัน”   วินกล่าว
“และก็นี่....”   วินยื่นเงินให้พี่แสงเดือนไป 1,200 บาท (ตอนนั้นวินมีอยู่ 1,300 กว่าๆ
ตั้งใจจะให้พี่แสงเดือนเยอะ ๆ แต่ติดตัวไว้ เผื่อเจอตำรวจตอนขากลับสัก 100 บาท)
“คุณวิน - - พี่แสงเดือนไม่เอาหรอกค่ะ”   พี่แสงเดือนผลักมือวิน
“เอาไปเหอะพี่แสงเดือน”   วินเอาเงินใส่มือพี่แสงเดือน
“คิดซะว่าเป็นค่าจ้าง ที่คอยสืบ และคอยช่วยเหลือวินมาตลอดแล้วกันนะ....ให้วินได้
ให้อะไรพี่แสงเดือนเป็นของขวัญส่งกลับบ้านหน่อยเถอะ....อีกอย่าง มีเงินติดตัวอยู่
2 ร้อยกว่าบาท  ไม่กลัวมีอะไรฉุกเฉินหรอ.....และพอถึงบ้าน ก็รีบโทรหาวินเลยนะ
คราวนี้วินจะไม่โทรกลับแล้วด้วย....โทรมาเองเลย....มีเงินตั้งเยอะแล้ว”  วินกล่าว

...........พี่แสงเดือนน้ำตาไหลพราก เบะปากอีกแล้ว ……
“คุณวินคะ........”  พี่แสงเดือนร้องไห้
“โอ๊ยพี่แสงเดือนอ่ะ”     วินทำทีต่อว่าพี่แสงเดือน เพราะจะทำให้วินร้องตาม
“จะว่าอะไรมั้ยคุณวิน.....ถ้าพี่แสงเดือนจะขอกอดคุณวินซักที”   พี่แสงเดือนถาม
....จบคำถาม วินก็เข้าไปกอดพี่แสงเดือน และร้องไห้ที่ต้องบอกลาพี่สาวที่แสนดี
ของวินคนนี้ไป วินไม่รู้เมื่อไหร่เหมือนกัน ที่จะได้เจอเธออีก…..เรายืนทำซึ้งกันอยู่
ได้สักพักใหญ่   จากนั้นก็มีประกาศเรียกผู้โดยสาร รถไฟขบวนของพี่แสงเดือน

“ไปนะคะคุณวิน........”  พี่แสงเดือนเอ่ยลา และเข้ามากอดวินอีกครั้ง พี่แสงเดือน
ตัวเล็กเท่าคอวิน จนเธอต้องเขย่ง
“กลับดี ๆ นะพี่แสงเดือน..........ถึงแล้วโทรหาวินเป็นคนแรกเลยนะ”   วินกล่าวทั้งน้ำตา
...พี่แสงเดือนจับมือวินแน่น หน้าตาของเธอแดงก่ำจากการร้องไห้   จากนั้นเธอก็เดินขึ้น
รถไฟไป และหันมาโบกมือให้วินทั้งน้ำตานอง ก่อนจะเข้าไปในตัวขบวน....วินโบกมือลา
ห้ามน้ำตาตัวเองไว้ไม่อยู่จริง ๆ .................วินยืนอยู่สักพัก หลังจากพี่แสงเดือนขึ้นไป
ในรถไฟแล้ว..............วินมองไปรอบ ๆ และนึกย้อนถึงความทรงจำ เกี่ยวกับพี่แสงเดือน
และวิน และคนบ้านนั้นอีกครั้ง  พี่แสงเดือนทำให้วินต้องนึกถึงเรื่องเก่า ๆ แต่วินก็เพียง
แค่นึกถึงเท่านั้น ไม่ได้เสียใจอะไร....
   
   การได้มาเจอพี่แสงเดือนวันนี้อีกครั้งหลังจากที่ไม่ได้เจอกันมาร่วมปี มันทำให้
วินคิดอะไรขึ้นมาได้อีกหลายอย่าง.........ตอนนี้  ชีวิตของวินมันได้เข้มแข็งขึ้นมากแล้ว
.....วันเก่า ๆ มันเป็นสิ่งที่ช่วยทำให้วิน มีวันที่เข้มแข็งอย่างวันนี้
   ต้องขอบคุณคุณแม่และแมท ที่ช่วยทำให้วินมีประสบการณ์ร้าย ๆ ที่มันจะช่วย
ทำให้วินมีกำลังใจต่อสู้กับเรื่องเลวร้ายใหม่ ๆ ที่จะเข้ามาในชีวิต ....ทุกครั้งที่วินมองย้อน
กลับไป ก็ไม่มีเรื่องไหนเลย ที่จะร้ายไปกว่าเรื่องของวินเมื่อ 5 ปีที่แล้วได้......ทุกอย่าง
มันทำให้วินโตขึ้น เรียนรู้อะไรได้หลายอย่าง        และวินก็พร้อมที่จะลุกขึ้นสู้ กับคนทุก
รูปแบบที่จะเข้ามาทำลายชีวิตวิน......เหตุการณ์เหล่านั้น ทำให้วินรักตัวเองมากขึ้น และ
ไม่ว่าอย่างไร วินจะไม่มีทางยอมให้ใครหน้าไหน มาหยามศักดิ์ศรีของวินได้อีก และวิน
จะสู้ยิบตา ถ้ามีใครมาดูถูกบุพการีของวินอีกครั้ง
   สิ่งที่วินเรียนรู้ และจดจำมาจนถึงทุกวันนี้ คือ การที่เรา  ต้องเห็นความสำคัญ
ของการ “เริ่มใหม่”   และจงอย่าจมปรัก อยู่กับสิ่งที่ทำร้ายเรา ไม่ว่าเราจะเชื่อมั่น และ
ทุ่มเทกับมันแค่ไหน......คุณค่าของชีวิต คือการที่เราได้ก้าวเดินต่อไป และเผชิญหน้า
กับปัญหาทุกอย่าง และเอาชนะมันให้ได้ด้วยตัวเอง และก้าวข้ามมันมาด้วยความ
ภาคภูมิใจ ........ความรักจากเพื่อน และพ่อแม่ คือพลังสำคัญ ที่จะช่วยผลักดันเรา
ให้พ้นจากความทุกข์ร้อนต่าง ๆ .....มีคติสอนใจจากภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง ที่วินท่องจำ
จนขึ้นใจ และเป็นกำลังใจให้วินเดินหน้าใช้ชีวิตต่ออย่างไม่ท้อ ไม่หมดกำลัง นั่นคือ
“Every story has an end, but in life, every end is just a new beginning”
แปลได้ประมาณว่า “ทุกเรื่องราวย่อมมีตอนจบ แต่ในชีวิตจริง ทุก ๆ ตอนจบ
จะมีการเริ่มใหม่”    ........เหมือนกับทุกเรื่องราวของวิน ไม่ว่าเรื่องความรักร้าย ๆ ของวิน
มันจะจบลงไปแล้ว  แต่ก็จะมีการเริ่มใหม่ในชีวิตของวิน ที่มันเข้ามาทุกวัน
ถ้าวินมัวแต่ย้ำอยู่กับที่ มัวแต่จมอยู่กับความเสียใจ วินก็จะไม่ได้เริ่มต้นเรื่องใหม่ๆ
ในชีวิต.......วินจะต้องก้าวต่อไปเพื่อชีวิตที่ดีกว่า
   
   วินและคุณแม่แมท.....แม้ว่าเราจะเคยสู้รบกันมามากมายแค่ไหน   แต่วินดีใจ
ที่วินไม่เคยทำร้ายคุณแม่ด้วยกำลังกลับเลย วินอโหสิกรรมให้คุณแม่ ไม่ว่าชาติไหน
เราไม่ต้องมาจองเวรกันอีก และวินขอให้คุณแม่มีความสุข  กับชีวิตที่คุณแม่ได้ปูทาง
เอาไว้ ให้กับตัวคุณแม่ และลูกชายของคุณแม่เอง
   วินและแมท.....ทุกอย่างจะเป็นความทรงจำดี ๆ ระหว่างเราสองคน วินจะลืม
เรื่องร้าย ๆ ทั้งหมด และอภัยให้ในทุก ๆ อย่าง แม้ว่าแมทอาจจะไม่มีทางอภัยให้วิน
ก็ตาม  ถึงวันนี้ ความโกรธ ความเกลียดชัง ที่วินเคยมีต่อแมท มันก็เปลี่ยนเป็น
การให้อภัย และได้โปรดรับคำ ‘ขอโทษ’ จากวินไปด้วย
   วินและปุ้ย.....เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน และยังคงคบกันมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งปุ้ยเอง
ก็สอบเอ็นทรานซ์ใหม่ และติดที่เดียวกับวิน แต่คนละคณะ
   วินและแท็ก.....เราคบกัน รักกัน และเข้าใจซึ่งกันและกัน คนนึงร้อน อีกคนนึง
ต้องเย็น เป็นอย่างนี้เรื่อยมา และเราก็คบกันอย่างมีความสุขมาตลอด 4 ปี จนถึง
ปัจจุบัน....วินขอบคุณแท็ก ที่ทำให้ชีวิตของวินลุกขึ้นได้ จนมีวันนี้ และเข้าใจวินเสมอมา
   วินและพี่แสงเดือน.....พี่สาวสุดที่รัก คนที่คอยช่วยวินเสมอมา คนที่ช่วย
ประคับประคอง    ช่วยเตือนวินให้รู้ตัว และรอดจากเรื่องร้าย ๆ แม้จะทันบ้าง ไม่ทันบ้าง
วินจะไม่มีวันลืมพี่แสงเดือนเลย
   วินและฟิว.....เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน อย่างเสมอต้นเสมอปลายมาตลอด
จนถึงวันนี้ ก็เป็นเวลา 5 ปีแล้วที่เราได้รู้จักกัน...ฟิว....คนที่วินเคยไม่ชอบหน้า แต่ตอนนี้
เขาเข้ามามีบทบาทอย่างมากในชีวิต และเป็นเพื่อนที่คอยอยู่เคียงข้างวินเสมอมา
ตามคำสัญญาที่เขาเคยให้ไว้....ว่า    ‘เมื่อวินมีปัญหา เขาจะมา’     ฟิวไม่เคยผิดสัญญา
และไม่เคยทำให้วินต้องผิดหวังเลย แม้แต่ครั้งเดียว

         วินนั่งครุ่นคิดถึงอดีตอยู่บริเวณชานชลาได้ไม่นาน ก็ลุกขึ้น และเดินกลับไปยังที่รถ
วินภาคภูมิใจ ที่ได้ผ่านเรื่องต่าง ๆ มาได้ด้วยตัวเอง  และฝันของวินที่มันอาจจะเป็นจริง
ช้าไป 1 ปี.......แต่วินก็ภูมิใจ ที่ครั้งหนึ่งในชีวิต วินทำมันจนสำเร็จได้ในที่สุด   แต่ก็คงมี
ฝันอีกมากมาย ที่ยังคงรอวินในวันข้างหน้า  เพื่อที่วินจะได้ทำมัน ให้สำเร็จในที่สุด.........





“ชีวิตจะมีค่า...ก็ต่อเมื่อมันได้ก้าวต่อไป”
- อวสาน -
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: ICEME ที่ 21-04-2008 19:36:34
โอ้ว
จบซะเว่อร์เลยพี่วินจ๋า
ทิ้งคำคมเอาไว้เยอะแยะเลยนะ ในที่สุดชีวิตพี่ก็พ้นภัย
จะว่าไง ถ้าจะบอกว่าแมทน่าสงสารจัง
ชาตินี้ทั้งชาติคงไม่เจอคนที่รักจริงแล้วล่ะ
หญิืงแม่ก็นะ พอจากไปแล้วจะลากให้กลับมาอ่ะยากส์
แต่ว แล้่วก็คบกะพี่แท๊กซะงั้น
แต่ยินดีด้วยนะที่มีความสุขด้วยกันมาตลอด แทบจะไม่เจออุปสรรคอะไำรเลย
ถึงจะเจอมันก็ไม่เลวร้ายเท่ากับอดีตเมื่อตอนนั้นหรอกใช่มั้ยละ
กะพี่ฟิวก็เป็นเพื่อนที่ดีกันต่อไป ดีแล้วๆ
แต่หญิงอั้มนี่...เหอ...ให้เต่าคิดเล่นๆ นะ เต่าว่าเขางอนพี่ตั้งแต่ตอนเจอกะพี่ฟิวเขามั้ง
ถึงได้ตามจองล้างจองผลาญ
อยากให้สนใจอ่ะป่าวนั่น
น่าจะเป็นแฟนกะเฮียแมทไปเลยนะ
เหมาะกันดี
เปลี่ยนมาคบกะผู้หญิงบ้าง แมทเขาอาจจะใจเย็นขึ้นก็ได้...........................มั้ง



.
.
บ๊ายบาย
จบแล้ว
แต่จะตามราวีทางเอ็ม
555+ :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 21-04-2008 19:46:24
ลุกขึ้นยืนตบมือ  :m4: :m4: :m4: :m4: จบได้เหมือนในหนังเลย

ชอบบทอวสานมากๆ เคลียร์ทุกอย่าง

ดีใจกับรักครั้งใหม่ของวิน

ดีใจที่ได้รับรู้เรื่องของวิน

ขอบคุณมากค่ะ ที่เขียนเรื่องให้อ่านกัน

 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: angsumalin ที่ 21-04-2008 21:19:34
จบได้แบบกำลังใจเต็มร้อยเลยคร๊าบบ  :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 22-04-2008 18:55:13
ขอบคุณทุก ๆ คนเลยน้า ที่เข้ามาอ่านเรื่องของวินจนจบ
และเป็นกำลังใจให้กันเสมอมา คิดถึงจริง  o7
ไว้ว่างจะเอา Deleted scene มาลง
ี่ที่ Deleted ไปเพราะตอนแรกวินเอาไปลงในเด็กดี
เลยต้องลบฉากรุนแรง ถ้อยคำรุนแรง ทำร้ายจิตใจ จากทั้งปากวินและตัวละครอื่น ๆในเรื่อง
เพื่อไม่ให้ทุกคนลืมวิน ไว้จะรวบรวมเอามาลงให้หมดเลย
อิอิ

ขอบคุณทุกคนอีกครั้ง รักนะจุ๊ฟๆ :o8:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 22-04-2008 19:42:53
มานั่งรอ  :m1: :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: แก้ว ที่ 22-04-2008 19:44:58
สาหัสจริง ๆ ด้วย  o2

ยอดมาก ๆ ที่ผ่านมาได้  o13

หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: anston ที่ 23-04-2008 02:38:05
 o7จบได้สุดยอดมาก..ได้ข้อคิดดีๆในการใช้ชีวิตจากน้องวินเพียบเลย
ก็ขอให้รักษาความเป็นตัวเองไว้ให้สมกับที่เค้าชมว่า..คนอย่างวินน่ะหายาก o13
 :L2:ดีใจด้วยกับความรักที่ลงตัวสุดสุด..
หลังจากผ่านเรื่องร้ายมามากมาก..จากนี้ไปก็ใช้ชีวิตให้มีความสุขนะ :bye2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 01-05-2008 21:24:39
จบแระหรอพี่วิน

เพียวยังไม่ด้ายอ่านตอนจบเรย

เด๋วไปอ่านก่อน

แล้วอย่าลืมเอาเรื่องราวดี ๆ กับคนดี ๆมาให้อ่านมั่งน้า

แต่ยังไงความรู้สึกของเพียวก็ยังสงสารพี่แมทอยู่ดี อ่ะ
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: Yurameki ที่ 04-05-2008 02:35:00
DELETED SCENE !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

จามารอเกาะติดสถานการณ์คร่า

อยากอ่านอ่า

ยังไม่เคยอ่านเลย

เอามาลงไวๆ นะ เค๊อะ *-*   :oni1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: Yurameki ที่ 12-05-2008 01:07:08
พี่วิน  :oni1:

DELETED SCENE ละค๊าาาา

 :m1:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: MaWin ที่ 20-05-2008 21:11:13
เฮ้ย....ยูระ
เค้าขอโต๊ด  ลืมไปเลยว่าจะเขียน Deleted scene
เดี๋ยวขอดึง ๆ มาก่อน
ตอนนี้ว่างแระ เด๋วจาเอามาลงแน่นอนจ้าาาา
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: ~NeMeSiS_PURE~ ที่ 21-05-2008 16:59:22
เงอ ๆๆ  นึกว่าพี่วินลืมไปจิง ๆๆๆ เข้ามาดูทุกวัน ก็ไม่เห็นมา  :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: แก้ว ที่ 30-06-2008 10:29:02
รอดีลิทซีน  :laugh:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: ppanudet ที่ 30-06-2008 18:42:53
ขอบคุณครับ
ชอบๆๆ
เหงา เศร้า ซึ้ง
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: Lady-Rabbit ที่ 01-07-2008 20:20:20
นั่งอ่านมาตั้งแต่ตอนเย็นเลย
เกลียดบ้านแมทจริงๆ น่าสงสารที่ถูกเลี้ยงมาแบบนั้น
ทำให้นึกถึง "หมูแฮม"  :a5:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: arty136 ที่ 01-08-2008 04:25:49
ทนมาได้ไงครับ
แต่ก็อย่างว่าล่ะครับบประสบการณ์สอนเราให้เข้มแข็งขึ้น
ไม่ต่างอะไรกับผมหรอกก
แต่เอ๊ะผมว่าคุณวินก็น่าจะรุ่นๆๆเดี่ยวกับผมซิครับ
นั่งอ่านมานานก็เหมือนได้อ่านเรื่องที่มีนเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดี่ยวกับผมเลย
(ผ่านบ้านผมบ่อยนะครับบแถรังสิตดอนเมืองง่ะ....อิอิ)
ยังไงก็ขอบคุณนะครับบบที่มีมาเขียนให้อ่านกัน...และยังทำให้รู้ว่าเราไม่ได้มีทุกข์มากขนาดนั้นเมื่อเที่ยบกับคุณวินแล้ว
ผมอ่านข้ามวันเลยครับบบ
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: mumoo ที่ 11-08-2008 06:26:44
เข้ามาอ่านม้วนเดียวจบคร่า..(โอ้วว...เช้าวันใหม่พอดี)
กดให้คะแนน+1 ไปก่อนจะอ่านเสร็จ นี่กะว่ารีพลายเสร็จจะกดเพิ่มให้อีก

ต้องกดให้เพราะเรื่องนี้รีดน้ำตาพี่จนแห้งเลย  ตาบวมอยู่เนี่ย!! o7
ไม่ได้คิดจะแสดงความสงสารอะไรหรอก แค่อ่านแล้วเผลอจินตนาการว่าเป็นตัวเองน่ะ
ขอบอกว่ามันตื้อๆ แบบหลายอารมณ์ตีกันยุ่งเหยิงไปหมดอ่ะน้อง (ค่อนข้างชัวร์ว่าอายุเยอะกว่า 4-6ปี เพราะของพี่มันเป็นปีแรกที่ใช้ระบบสอบ 2 ครั้ง ทำให้พี่ต้องลี้ภัยความเครียดโดยรีบเอาโควตาสอบตรงก่อนเลยจะได้ไม่ต้องอ่านหนังสือเตรียมสอบครั้งหลัง 55+แต่ก็ดีนะเลยได้มาเป็นลูกแม่โดมอย่างเพื่อนน้องไง )

แหม!!ผ่านมรสุมชีวิตมาเยอะขนาดนี้ ก็ขอให้สิ่งเหล่าเปลี่ยนเป็นแรงขับเคลื่อนให้ชีวิตน้องไปสู่เส้นทางที่ดียิ่งขึ้นๆ นะจร้า และขอบใจมากๆที่อุตสาห์มาถ่ายทอดประสบการณ์ชีวิตที่ทำให้คนอ่านได้มุมมองแง่คิดใหม่ๆเพิ่มขึ้น ข้าน้อยขอคารวะ :pig4:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 02-02-2009 18:06:50
พี่วินสู้ๆนะ :3123:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 03-02-2009 16:14:50
ถ้าแมท คุณแม่ พี่กอล์ฟมาอ่านเรื่องนี้ก็เหมือนได้ส่องกระจกเลยอ่ะ

ว่าในอดีตเราเคยร้ายกะใครไว้บ้าง

อยากให้3คนนี้มาอ่านจัง จะได้รู้ว่าพี่วินน่าสงสารแค่ไหน

สู้ๆนะคะพี่วิน :L2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: everytime ที่ 03-03-2009 02:12:52
 :sad11:ชีวิตแค่โดนทำร้าย   :impress3:

 :o12: แต่ที่สุดมันต้องไม่โดนทำลาย   :serius2:

 :sad4: แค่วันนี้หัวใจสลาย

 :3123: เตือนตัวเองว่าถึงยังไงฉันยังต้องอยู่

 :L1: ความรักลวงหลอกมันก็แค่เจ็บปวด

 :L1:
ไม่มีค่า ให้มันทำลายชีวิตไม่ได้.........[/move]





หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: 4559 ที่ 18-08-2011 20:42:51
ซึ้งอ่า
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: kobshine ที่ 19-08-2011 14:55:39
ซึ้งครับ

และก็ให้ขอคิดดีมากๆๆ....
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: paem ที่ 27-10-2011 23:20:31
เข้มแข็งมากๆ เลยครับ ถ้าเกิดขึ้นกับตัวเองคงไม่รู้จะทำไงดี  แต่ก็ทำให้ได้รู้นะคับว่าทุกอย่า่งไม่ได้เลวร้ายไปตลอด ใช่มั้ยครับ??

ชอบคับ ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆ นะคับ ^^  o13
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: BossoM ที่ 19-12-2011 16:14:01
ตอนนี้วินจะเป็นยังไงบ้างนะ  :bye2:
หัวข้อ: Re: [เรื่องจริง] รักครั้งแรก...แสนสาหัส (เจ็บแล้วจำคือคน...เจ็บแล้วทนคือกรู)
เริ่มหัวข้อโดย: top_fy ที่ 14-10-2015 21:34:26
ขอบคุณพี่สินคับสำหรับเรื่องเล่าประสบการณ์ความรักสนุกๆให้ได้อ่านกัน. ผมเชื่อว่า ถ้าทุกคนได้มาอ่านเรื่องของพี่จะมีกำลังใจในความรักมากขึ้นคับ. ขอให้พี่แท๊กกัยพี่วินรักกันนานๆน่ะคับ ขอบคุณคับ :katai2-1: