หัวข้อ: [แนว Incest] Coming Back Home (เรื่องสั้น) แจ้งรวมเล่ม Home The Series P.10

[winnie_the_far]

ชอบชื่อจัง กัปตัน กับแอร์บัส.... อิอิ

[thearboo]

อรั๊ยยยย!! สอนกันแบบนี้ คนอ่านก็ฟินสิคะ ฮิ้ววววว
ชอบแนวincest มั่กๆเลยค๊า
+เป็ดกันไปเล้ย
 

[Motion_Lover]

น้องแอร์บัสสน่ารักมากเลยย คุณต้นแต่งดีมากเลยค่ะ

[buff89]

มันแบบ.. ฟินอะ ฟินมากกกกก!!
อบอุ่นละมุนละไม อินเคสแนวโปรดเราเลยอะ ชอบแนวนี้ๆ

[♥lvl♀‘O’Deal2♥]

ปูเสื่อรอตอนต่อไป

[่patsaporn]

วัยแห่งการเรียนรู้  แต่พอเริ่มโตพี่อาจเริ่มห่าง ๆ น้องไปรึป่าว ดราม่ามั้ยอะไรมั้ย
รอติดตามชมค่ะ

[Ramika]

ฟิน

[kongxinya]

รอตอนต่อไปและเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้ค่ะ 

[Zalzah_iP]

ติดตามๆๆๆๆ หุๆๆๆๆ 

[Arancia]

ดูน่ารัก น่าติดตามๆ

[bozang]

กรี๊ดดดดดดดดดดด ชอบ >w< รอค่ะรอ

[ExecutioneR]

ตอนที่ 2

คืนนั้นกัปตันสอนในสิ่งที่ผมไม่เคยรู้หลายอย่าง ทั้งเรื่องการช่วยตัวเอง การทำความสะอาด และการมีอะไรกับผู้หญิงเป็นอย่างไร เรานอนคุยกันจนกระทั่งดึกดื่น ผมทั้งแปลกใจแล้วก็ตื่นเต้นที่ได้ความรู้ใหม่ๆ โดยเฉพาะการที่เรื่องเหล่านั้นเป็นสิ่งที่ผมไม่สามารถคุยกับคนอื่นได้เลย แต่ในบรรดาเรื่องทั้งหมด สิ่งที่กระตุ้นความสนใจของผมมากที่สุดก็คือเรื่องของการมีเซ็กส์นี่แหละ หลังจากนั้นเป็นต้นมาเลยกลายเป็นว่าเราคุยกันถึงเรื่องพวกนี้และชักว่าวด้วยกันแทบทุกคืน ถ้าลองมาคิดดูดีๆ แล้วก็คงเป็นเพราะเขานี่แหละที่กระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของผมให้ขึ้น บางทีผมก็นึกสงสัยอยู่เหมือนกันว่าเขาไปรู้เรื่องพวกนั้นมาจากไหน และเมื่อผมถามออกไป เขาก็บอกแค่ว่าเขารู้มาจากเพื่อนและดูหนังโป๊ที่บ้านเพื่อนบ้าง แต่เขายืนกรานว่ามันยังไม่ถึงเวลาของผมที่จะดูของพวกนั้น

เวลาผ่านไปอีก 2-3 สัปดาห์ ในคืนหนึ่ง หลังจากที่เรานอนคุยเรื่องสัพเพเหระทั่วไปกันได้สักพัก เราก็วกกลับมาคุยเรื่องอย่างว่าอีกครั้ง และเขาก็หลุดพูดถึงการใช้ปากเวลามีเซ็กส์ขึ้นมา ซึ่งนั่นเป็นครั้งแรกเลยที่ผมได้ยินว่ามันมีการทำแบบนั้นได้ด้วย

“ใช้ปากเหรอ! คือยังไงอะ” ผมถามด้วยความแปลกใจ

เขาดูอึกอักที่จะพูดถึงสิ่งนี้เล็กน้อย “ก็เช่นผู้หญิงอมจู๋ให้ผู้ชาย หรือผู้ชายเลียของผู้หญิงไง”

“อี๋ยยย์!” ผมนิ่วหน้าและทำท่าจะอ้วก “สกปรกอะ!!”

“เฮ้ย ไม่สกปรกหรอกน่า รึบัสจะบอกว่ากระเจี๊ยวตัวเองสกปรก”

“ไม่มีทางงง!! ของบัสสะอาดจะตายเหอะ! ไม่เชื่อมาดมได้เลย หอมด้วย!”

เขาหัวเราะ “เห็นมั้ยล่ะ เพราะงั้นมันจะสกปรกได้ไง ที่จริงเวลาถูกอมอะ มันเสียวกว่าใช้มืออีกนะเว้ย”

“จริงดิ!” ผมตกใจ เพราะขนาดแค่ใช้มือชักว่าวผมว่ามันก็เสียวสุดๆ แล้วนะ

“ก็ต้องจริงสิ ตันเคยโกหกบัสเหรอ”

“แล้วพี่บัสรู้ได้ไง พี่บัสเคยแล้วปะ”

“อ... เอ่ออ ไม่เคยหรอก แค่ได้ยินเพื่อนมันบอกมาอีกทีเฉยๆ” เขาพูดเบาๆ “บัสอยากลองทำด้วยกันมั้ยล่ะ”

ผมไม่ค่อยแน่ใจกับความคิดที่จะเอาไอ้จู๋ที่มีหน้าที่ไว้ฉี่เข้าปากสักเท่าไหร่ “พี่ตันอยากลองเหรอ”

“ตันทำให้บัสก่อนก็ได้ แล้วบัสค่อยทำให้ตัน โอเคปะ”

“งั้นก็ได้มั้ง ลองดู”

“โอเค งั้นมานอนที่เตียงของตันนี่” เขาตบมือลงบนเตียงเบาๆ

ผมลุกออกจากเตียงของตัวเองแล้วเดินไปหาเขา

“อ้าว จู๋เข็งรออยู่แล้วนี่หว่า” เขาหัวเราะ

“ก็แหงล่ะ แล้วพี่ตันไม่แข็งรึไง”

“แข็งดิ” เขายิ้มกว้าง

ผมนอนลงบนเตียงข้างๆ เขาอย่างว่าง่าย แต่ที่จริงแล้วใจกลับเต้นแรงด้วยความตื่นเต้น กัปตันดึงตัวผมเข้าไปกอดแล้วหอมแก้มผมเบาๆ ก่อนที่เขาจะสะบัดผ้าห่มออกแล้วค่อยๆ ขยับตัวขึ้นคร่อมผม

“อย่าส่งเสียงล่ะ เกิดพ่อกับแม่ได้ยินขึ้นมาล่ะก็ เรื่องใหญ่แน่!” เขาเตือน

“รู้แล้วล่ะน่า”

เขาหอมแก้มผมอีกครั้ง

โอเค ก่อนอื่นผมต้องบอกเลยว่าการที่เขาหอมแก้มผมนั้นมันไม่ใช่เรื่องแปลกเลยแม้แต่นิดเดียว เราสองคนทำแบบนี้กันมาตั้งแต่จำความได้แล้ว เพียงแต่เราไม่เคยหอมแก้มกันต่อหน้าเพื่อนๆ คนอื่นเท่านั้นเอง ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมคนพวกนั้นถึงต้องเห็นว่าการที่พี่ชายหอมแก้มน้องชายหรือน้องหอมแก้มพี่เป็นเรื่องแปลกด้วย แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ต้องยอมรับความจริงว่าช่วงหลังๆ มานั้น กัปตันไม่ค่อยหอมแก้มผมบ่อยๆ เหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว ดังนั้นการที่ผมถูกเขาหอมแก้มติดๆ กันสองครั้งแบบนั้นจึงทำให้ผมรู้สึกดีมาก

ในขณะที่ผมกำลังหัวเราะคิกคักเบาๆ เพราะรู้สึกจั๊กจี๋ที่เขาซุกหน้าลงบนซอกคอของผมอยู่นั้น กัปตันก็ค่อยๆ เลื่อนตัวต่ำลงจนกระทั่งไปหยุดอยู่ที่หว่างขาของผม เขาเงยหน้าขึ้นสบตากับผมครู่หนึ่ง ก่อนจะจับไอ้น้องชายของผมตั้งขึ้นแล้วครอบปากลงไป ทันทีที่ลิ้นของเขาสัมผัสเข้ากับไอ้ท่อนลำของผม ผมก็ซี้ดปากออกมาเสียงดังพร้อมกับแอ่นอกขึ้นด้วยความเสียวทันที

“ชู่ววว!!” เขาส่งเสียงเตือน

“ก็มัน... มัน...!!” ผมลมหายใจขาดห้วง

“เสียวใช่มั้ย”

ผมพยักหน้า ถึงจะรู้อยู่แล้วว่ามันต้องเสียวแน่ แต่ผมไม่ได้คิดว่ามันจะเสียวท้องน้อยและทำให้ผมสะดุ้งได้ถึงขนาดนี้ กัปตันก้มหน้าลงและจัดการจับไอ้แท่งน้อยของผมเข้าไปในปากต่อ ผมกำหมัดแน่นและพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะไม่ร้องครางออกมา เขาดูดมันแบบกำลังดูดไอติม และใช้ลิ้นเลียดุนเบาๆ ไปด้วย

“ซี้ดดด..ส...ส์ เสียวว่ะ พี่ตัน อ๊าาซซ์....” ผมร้องครางลงบนหมอนที่เพิ่งหยิบมาปิดปากเอาไว้

อีกแค่เพียงไม่กี่นาทีต่อมา ร่างกายของผมก็กระตุกเบาๆ ผมถึงจุดสุดยอดในปากของพี่ชายผมเป็นครั้งแรก (แน่นอนว่าตอนนั้นผมก็ยังไม่มีน้ำเงี่ยนอยู่ดี) และมันก็เสียวสุดยอดยิ่งกว่าตอนที่เขาใช้มือให้ผมเสียอีก

หลังจากที่ร่างกายหยุดกระตุกและกลับสู่ภาวะปกติแล้ว ผมก็นอนนิ่ง หอบหายใจเสียงดังพลางลืมตามองเพดานห้องอย่างเลื่อนลอยอยู่ครู่หนึ่ง ผมรู้สึกราวกับตัวเองตายไปแล้วและกำลังขึ้นสวรรค์ยังไงอย่างนั้นแหละ สิ่งถัดมาที่ผมรู้สึกคือกัปตันที่คลานขึ้นมานอนข้างๆ แล้วเขย่าตัวผมเบาๆ

“เฮ้ย เป็นยังไงบ้าง แอร์บัส ไหวรึเปล่า”

ผมพยักหน้า “ไหวครับ... บัสแค่เหนื่อยอะ”

“ก็น่าอยู่หรอก” เขาหัวเราะในลำคอ “แล้วเป็นไง ชอบมั้ย”

ผมพยักหน้าอีกครั้ง “ชอบดิ หลังจากนี้พี่ตันจะอมให้บัสอีกมั้ย”

“ก็ได้ แต่อย่าเพิ่งลืมที่ตัวเองรับปากดิ พร้อมทำให้ตันยัง”

“โอเคๆ ไม่ลืมหรอกน่าาา” ผมพลิกตัวและขยับหลบให้เขาสามารถนอนหงายได้สบายๆ

กัปตันเขยิบตัวขึ้นไปนอนหนุนหมอนแทนที่ผมและถ่างขาออก ผมจึงเลื่อนตัวลงไปหยุดที่หว่างขาของเขา จับไอ้น้องชายของเขาตั้งขึ้นและใช้ปลายนิ้วเขี่ยบริเวณส่วนหัวที่มีน้ำใสๆ ไหลออกมาหยดหนึ่ง เขาเคยอธิบายให้ผมฟังแล้วว่าน้ำใสๆ นั้นคืออะไร ผมใช้นิ้วโป้งกับนิ้วชี้ละเลงน้ำเหนียวๆ นั้นจนทั่วส่วนหัวรูปดอกเห็ด ทำให้เสียงลมหายใจของเขาขาดห้วงไปทันที จากนั้นผมก็ใช้ลิ้นตวัดตรงบริเวณรอยหยักเบาๆ เป็นการลองเชิง และเมื่อผมทำแบบนั้น กัปตันก็ถึงกับสะดุ้งเฮือกและรีบใช้มือจับหัวของผมไว้ทันที

“ทำไมอะ” ผมถาม

“มันเสียว...” เสียงของเขาแหบพร่า และผมรู้สึกว่ามันฟังดูเซ็กซี่ชอบกล

“รสชาติไอ้น้ำนี่มันหวานๆ แปลกๆ ดีนะ” ผมบอกเขา

“เหรอ... แล้วคิดว่าอมให้ตันได้ปะ”

“ได้ดิ!” เมื่อพูดจบ ผมก็ครอบริมฝีปากลงบนท่อนลำของเขาทันที

ผมก็ไม่รู้หรอกว่าผมต้องทำอย่างไรบ้าง ผมแค่พยายามเลียนแบบสิ่งที่เขาทำกับผมทุกอย่าง ซึ่งกัปตันเองก็ดูน่าจะชอบและรู้สึกเสียวอยู่ไม่น้อย เพราะเขาคอยส่งเสียงครางเบาๆ ออกมาตลอดเวลา ผมพยายามระวังไม่ให้ฟันของผมไปครูดโดนผิวหนังของเขาตามที่เขาบอก และในขณะเดียวกันก็พยายามดูดเบาๆ หรือไม่ก็ใช้ลิ้นตวัดส่วนหัวของเขาไปด้วย เสียงครางของเขาทำให้ผมรู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูกที่สามารถทำให้พี่ชายของผมมีความสุขได้

อีกไม่กี่นาทีถัดมา เขาก็ร้องเตือนผมว่าเขาจะแตกแล้วและให้ผมถอนปากออก ตอนแรกผมก็จะทำแบบนั้น แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเมื่อกี้เขายังทำให้ผมเสร็จในปากเขาได้เลย และผมก็อยากให้เขารู้สึกเสียวแบบเดียวกันด้วย ดังนั้นผมจึงใช้ปากให้เขาต่อ จนสุดท้ายร่างกายของเขาก็กระตุกพร้อมกับไอ้น้องชายที่พ่นน้ำรักเข้าปากของผมอย่างแรง ผมเผลอกลืนมันลงคอไปโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่เขาหลั่งออกมาเยอะมากจนผมกลืนมันทั้งหมดไม่ทัน ดังนั้นผมจึงถอนปากออกและใช้มือชักต่อให้เขาแทน

กัปตันหอบและกระตุกเบาๆ อีกหลายครั้ง น้ำสีขาวขุ่นระลอกต่อๆ มาไหลออกจากน้องชายของเขาเป็นทางบนหน้าท้อง
เขาบิดหัวไปมาพลางหอบหายใจเสียงดังอยู่อีกสักพักก่อนที่จะเริ่มนิ่งลง

“เป็นไงบ้าง” ผมถามเขา

“เป็นไงอะไรล่ะ ก็เสียวอะดิ!” เขาตอบ “ว่าแต่เมื่อกี้บัสกลืนมันลงไปจริงๆ เหรอ”

ผมพยักหน้า “ก็บัสอยากให้พี่ตันเสียวแบบเดียวกับที่บัสรู้สึกอะ”

“แล้วรสชาติเป็นยังไงบ้าง”

ผมนิ่วหน้า “ก็แปลกๆ อะว่ะ”

“ก็ตันบอกแล้วว่าให้หยุดๆ”

“ไม่ๆ มันก็ไม่แย่หรอก มันเค็มๆ หวานๆ ขมๆ นิดๆ บอกไม่ถูกอะ”

เขาหัวเราะแล้วดึงตัวของผมขึ้นมากอด “แต๊งกิ้วนะ น้องรัก”

ผมได้แต่อมยิ้มน้อยๆ แล้วกอดเขาตอบ “พี่ตัน”

“หืมมม”

“พี่ตันรักบัสปะ”

“รักดิ”

“บัสก็รักพี่ตันเหมือนกัน”

เขาขยี้หัวผมเบาๆ จากนั้นก็กระชับวงแขนกอดผมแน่นขึ้นอีก สุดท้ายเราสองคนก็หลับกันลงไปในท่านั้นจนกระทั่งถึงเช้า

ความสัมพันธ์ของผมกับกัปตันดูเหมือนจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม หรือไม่ก็ดีขึ้นกว่าเดิมเสียอีกด้วยซ้ำ ในตอนนั้นผมก็ยังไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่เราทำกันนั้นมันไม่ใช่เรื่องปกติที่พี่น้องจะทำด้วยกัน และมันเป็นสิ่งที่ผู้ชายปกติไม่คิดจะทำกัน แต่ผมมาเริ่มแน่ใจในตัวเองว่าผมมีบางอย่างที่ผิดแปลกไปจากเด็กผู้ชายคนอื่นๆ รุ่นเดียวกันก็ตอนอยู่ ม. 2 นั่นแหละ เพราะผมไม่รู้สึกสนใจในเพศตรงข้ามเลยแม้แต่นิดเดียว ผมชอบมองเด็กผู้ชายหน้าตาดีๆ มากกว่าเด็กผู้หญิง และที่สำคัญ ผมเริ่มรู้จักคำว่า ‘หึง’ เป็นครั้งแรกก็ช่วงนั้นด้วย เพราะตอนผมอยู่ ม. 2 กัปตันก็อยู่ ม.4 แล้ว ซึ่งเป็นช่วงที่เขาเริ่มเป็นที่รู้จักของคนทั้งโรงเรียนมากขึ้น เขามีเพื่อนหลายคน ไปเที่ยวนอกบ้านกับเพื่อนบ่อยๆ ทำให้ผมกับเขาไม่ค่อยได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันเหมือนอย่างเคย ถึงเราจะยังนอนห้องเดียวกัน แต่กิจกรรมที่เราเคยทำร่วมกันก็เริ่มน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะหลังจากนั้นสักพัก ตอนที่ผมรู้ว่าเขามีแฟน ผมก็ยิ่งรู้สึกทั้งหวงแล้วก็หึงพี่ชายคนนี้ของผมมากขึ้นอย่างอดไม่ได้ แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่เคยพูดหรือแสดงท่าทีเหล่านั้นออกไปให้เขาจับได้แม้แต่ครั้งเดียว

ในวันเกิดอายุ 13 ปีของผม กัปตันพาผมออกไปดูหนังกับเขานอกบ้านและซื้อรองเท้าผ้าใบให้ผมคู่หนึ่ง วันนั้นเป็นวันที่ผมมีความสุขมาก และเมื่อตกกลางคืน เราก็จบลงด้วยการใช้ปากให้แก่กันเหมือนอย่างเคย แต่สิ่งที่ต่างออกไปจากครั้งอื่นๆ คือ หลังจากที่ผมกลืนน้ำของเขาลงคอไปหมดแล้วและกำลังเลื่อนตัวขึ้นมานอนข้างๆ เขา เขาดึงตัวของผมเข้าไปหอมแก้ม ซึ่งผมก็หอมแก้มเขาตอบ แต่เมื่อเราสบตากันอยู่ครู่หนึ่ง ใบหน้าของเราต่างก็ค่อยๆ เคลื่อนเข้าหากันมากขึ้นเรื่อยๆ และแล้วในที่สุดริมฝีปากของเราก็สัมผัสกัน ตอนนั้นผมไม่ได้ไร้เดียงสาเหมือนเมื่อตอนประถมอีกแล้ว ผมรู้ว่าการจูบคืออะไร และการจูบแบบใช้ลิ้นเป็นอย่างไร ซึ่งนั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนั้นเลย ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าใครที่เป็นฝ่ายเริ่มใช้ลิ้นก่อน แต่เมื่อรู้สึกตัวอีกที เราสองคนต่างก็ตวัดลิ้นเข้าหากันอย่างโหยหา ลมหายใจของเราเริ่มหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ และไอ้น้องชายของผมก็กลับแข็งขึ้นมาอีกครั้งอย่างรวดเร็ว ในตอนนั้นผมรู้สึกราวกับตัวเองกำลังอยู่บนสวรรค์เลยทีเดียว

ในที่สุด กัปตันก็เป็นฝ่ายถอนริมฝีปากออกก่อน เขามองหน้าผมด้วยดวงตาเหม่อลอยอยู่ครู่หนึ่ง

“ใครเป็นคนสอนให้เราจูบแบบนั้นมาวะ แอร์บัส”

“เฮ้ย ไม่มีใครสอนทั้งนั้นแหละ จะบ้าเรอะ”

“แปลว่าเมื่อกี้คือจูบแรกเหรอ” เขาเลิกคิ้วขึ้น

“อื้อ”

“ทำไมเก่งจังวะ”

“เก่งเหรอ จริงอะ”

“จริงดิ” เขาจุ๊บปากผมเบาๆ อีกครั้ง “จะเที่ยงคืนแล้วนะ รีบนอนกันเหอะ”

เขาไม่ได้กอดผมเอาไว้ และไม่ได้บอกให้ผมนอนบนเตียงเดียวกับเขา ผมจึงเดินกลับไปที่เตียงของตัวเอง แต่จะว่าไปก็คงไม่แปลกหรอก เพราะผมกับเขาก็ไม่ได้นอนด้วยกันมาสักพักแล้ว เพราะในตอนนั้นผมที่เริ่มสูงขึ้นจนเกือบถึง 170 เซนติเมตร และเขาที่สูงแตะ 185 เซนติเมตรเข้าไปแล้วก็ไม่สามารถนอนอยู่บนเตียงเดียวกันได้อีกต่อไป

แต่ที่จริงแล้ว นับจากวันนั้นเป็นต้นมา สิ่งที่ขาดหายไประหว่างเราสองคนกลับไม่ใช่แค่การนอนร่วมเตียงเดียวกันแค่เพียงอย่างเดียว แต่การชักว่าว การใช้ปากให้แก่กัน และการจูบปากที่ผมอยากจะทำอีกเหลือเกินนั้นต่างก็ไม่เคยเกิดขึ้นอีกเลย กัปตันต้องเรียนหนักมากขึ้น แต่ที่หนักยิ่งกว่าคือการที่เขาต้องซ้อมกีฬาทุกเย็นหลังเลิกเรียนจนดึกดื่น และคำว่าทุกวันนั้นผมหมายถึง ‘ทุกวัน’ ตั้งแต่จันทร์ถึงอาทิตย์ จริงๆ ในช่วงสองปีนั้น เขาสร้างชื่อเสียงให้แก่ตัวเองในฐานะนักกีฬาดาวรุ่งของโรงเรียนและของจังหวัด ในขณะที่ผม ผู้เป็นน้องชายและมีหน้าตาคล้ายคลึงกับเขากลับทำได้แค่ตั้งหน้าตั้งตาเรียนเพื่อรักษาเกรดเฉลี่ย 4.00 ของตัวเองเอาไว้ให้ได้ทุกเทอม ผมเองก็เป็นที่รู้จักของคนหลายๆ คนในโรงเรียนเหมือนกัน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผลการเรียนของผม แต่ส่วนมากแล้วผมจะเป็นที่รู้จักในฐานะ ‘น้องชาย (ฝาแฝด) ของกัปตัน’ มากกว่า และชื่อเสียงของผมมันก็เทียบไม่ได้เลยกับสิ่งที่เขามี เขามีเพื่อนฝูงห้อมล้อมมากมาย เริ่มมีแฟนสับเปลี่ยนกันหลายคน และถึงแม้ผลการเรียนของเขาจะไม่ดีมากนัก แต่เมื่ออยู่ ม. 6 เขาก็ได้ทุนนักกีฬาให้ไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง และเมื่อเขาจบจากชั้นมัธยมปลาย ไปเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว ความใกล้ชิดระหว่างเขากับผมก็จบลงอย่างสมบูรณ์ เพราะเขาต้องนอนหอพักและแทบไม่ได้กลับมาบ้านอีกเลย

ตอนผมอยู่ชั้นมัธยมปลาย เป็นช่วงที่ผมมีอิสระในการใช้อินเตอร์เน็ตมากขึ้น พ่อกับแม่ซื้อคอมพิวเตอร์และติดไฮสปีดอินเตอร์เน็ตให้ผมในห้องนอน (ในตอนนั้นเพิ่งมีไฮสปีดอินเตอร์เน็ตเป็นช่วงแรกๆ และยังไม่มีสิ่งที่เรียกว่าสมาร์ทโฟนด้วยซ้ำ) ผมได้เรียนรู้เรื่องเซ็กส์ของชายกับชายมากขึ้น มันทำให้ผมเริ่มมั่นใจในตัวเองมากขึ้นว่าสิ่งที่น่าจะเป็นสาเหตุให้ผมกับพี่ชายของผมต้องห่างกันไปนั้นคืออะไร นั่นคือการที่ผมชอบผู้ชาย แต่เขาชอบผู้หญิง ผมเป็นเกย์ แต่เขาไม่ใช่ และที่แย่ยิ่งไปกว่านั้นคือผมหลงรักเขาไปแล้ว ผมต้องต่อสู้กับความขัดแย้งในใจของตัวเองอยู่นานร่วมปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาย้ายออกจากบ้านไปแล้ว แทนที่มันจะทำให้ผมตัดใจได้ง่ายขึ้น ผมกลับยิ่งรู้สึกเหงาและคิดถึงเขามากกว่าเดิมเสียอีก มันเป็นความสับสนที่ทำให้ผมแทบจะกลายเป็นบ้า

ตอนอยู่ ม. 5 ผมตัดสินใจว่าถ้าหากกัปตันสามารถเลือกทางเดินชีวิตของตัวเองได้ ผมก็จะเลือกทางเดินของผมเองด้วยเช่นเดียวกัน ดังนั้นผมจึงตัดสินใจบอกพ่อกับแม่ว่าผมอยากไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่ต่างประเทศ ทั้งสองคนต่างก็ตกใจกับการตัดสินใจที่แลดูกะทันหันของผม แต่ในขณะเดียวกันพวกเขาก็สนับสนุนผมอย่างเต็มที่ ผมใช้เวลาหาข้อมูลและเตรียมตัวอยู่เกือบปี และในที่สุดผมก็ขึ้นเครื่องบินลาจากบ้านเกิดและครอบครัวของผมไปเรียนต่อที่ออสเตรเลียตามลำพัง ผมยังจำภาพที่สนามบินวันนั้นได้ดีจนถึงตอนนี้ กัปตันที่ไม่เคยแสดงความคิดเห็นเกี่ยวการตัดสินใจของผมเลยสักครั้ง เดินเข้ามากอดผมเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่ผมจะเดินเข้าไปในเกท

“โชคดีนะ แอร์บัส ดูแลตัวเองด้วยล่ะ”

“ครับ พี่ตันก็เหมือนกันนะ”

เขานิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะกระซิบออกมาเบาๆ เพื่อให้ผมได้ยินแค่คนเดียว “ตันรักบัสนะ”

มันคือคำว่ารักที่ผมไม่ได้ยินมานานหลายปีแล้ว และผมก็รู้สึกว่ามันคงจะเป็นคำว่ารักคำสุดท้ายจากปากพี่ชายของผมที่ผมจะได้ยินด้วยเช่นกัน

ผมหันหลังให้เขา เดินเข้าไปในเกทพร้อมด้วยดวงตาที่เอ่อไปด้วยน้ำตาและดวงใจที่แตกเป็นเสี่ยงๆ

[ExecutioneR]

ถ้าคนเม้นเยอะๆ กระแสตอบรับดี จะมาต่อให้วันละตอน ตอนละวันไปเล้ยยย เอ้า ฮึบบ!!

[Ra poo]

อ๊ายยยยยยยยยยยยยยย ยยยยยยยยยยยยยย ยย ยยย อ๊ายยยยย แอร๊ยยยยยยยยยยยย  ยยยยยยยยยยยยย ยย ย


มันก๊าวใจอ่ะ บอกไม่ถวก 5555
 

แล้วการที่บัสไปออสเงี้ย ประสบการณ์เพิ่มขึ้นอีกตรึมแหง ชัวร์เลย
ตอนเด็กๆตันเป็นคนสอนบัสใช่ม้า โตมาบัสก็สอนตันมั่งนะ


พี่น้องท้องชนกัน อิอิ

ติดตามต่อไปนะค้า 

[Windyne]

เอ้า! ไปคนละทางแล้ว

[BeeRY]

รักแรกมันฝังใจนะน้องบัส ไม่รู้จะเปิดรับใครใหม่ได้หรือเปล่า แต่คำว่ารักของพี่ตันเหมือนกรงขังไม่ให้เราไปไหนได้เลยอ่า

[Mookkun]

  :hao7
หนีไปซะล้าววว

[winnie_the_far]

ต่อให้หนีไปไกลสุดหล้า  แต่ฟ้าจะยังหมนหมองเหมือนเดิม

ต่อให้วิ่งหนีสุดชีวิต   ครามรักก็เหมือนพระอาทิตย์ ที่จะโผล่มาให้เห็นเสมอ...

แอร์บัส. จะเป็นไงต่อไปละ...

[Khunsathi]

แนว Incest นี่ของโปรดจริงๆค่ะ แอ๊ววววว > <
น้องบัสรู้ตัวแล้ว แล้วพี่ตันล่ะ ?​??
เห้ออ
รักแรกมันฝังใจนะ...
ลืมไม่ได้หรอก อ ิอิ

[HoMoSiS]

บัสจะกลับบ้านมาพร้อมกับความเคะ และความยั่ว ก๊ากกกก
ติดตามค่ะสนุกจริง แหม่ แต่ตอนบัสยังใสซื่อแล้วคนเขียนบรรยายแต่ละอย่างมันอายว่ะ 55 แต่บรรยายทีเหมือนกับคนเขียนเคยลองภาคปฏิบัติมาแล้วงั้นล่ะ #หลบเท้า 

[♥lvl♀‘O’Deal2♥]

ตอนที่ 3 รออ่านต่อไป

[Vesi]

น้องบัสน่ารักจริงๆ เบยอ่าาาา ชอบ ชอบ ชอบ

[cher7343]

แง๊ หนูบัสคงเจ็บน่าดู
หนูไปเรียนต่างประเทศแล้วเอาลูกเขยหล่อๆกลับมานะลูก
ปล่อยพี่ตันมันไปซะ   

[fuku]

เจ๋งตรงลำดับความคิดของบัสมากๆ
รักยังไงมันก็ไม่ผิด มันพลาดตรงที่ผิดคน ก็ต้องปรับตัวปรับใจให้ได้

เชียร์แอร์บัสดังๆ รักแรกขอให้เป็นความทรงจำที่ดีไม่ทำร้ายบัสในที่สุด
อยากให้ลงเอยได้จัง แต่ความจริงไม่เคยจบสวยเลย

[buff89]

ตอนแรกกำลังฟินเลย ไหงตอนหลังเริ่มตั้งท่าต้มน้ำลวกมาม่าซะแล้ว
จะแฮปปี้เอนดิ้งมั้ยอะ สงสารน้องแอร์บัส

[netkung]

 :impress2:ชอบมากอ่ะ  ตรงๆนะพี่ต้น ผมชอบเรื่องนี้มากที่สุดตั้งแต่ที่พี่ต้นแต่งมา อิอิ

[♠DekDoy♠]

พี่ตันก็น่าจะรู้ตัวเหมือนกัน เลยชิงห่างบัสก่อนรึเปล่า

[ohm]

ตอนนี้เศร้านิดๆ แต่เชื่อว่า ถ้าห่างกันสักพัก น่าจะห่วงหากันมากขึ้น
 ขอบคุณที่มาต่อครับ ^^

[SenzaAmore]

แรกๆก็ยัง....

แต่ทำไมหลังๆมัน... หยั่งงี้ล้ะ ม่ายยยยย

สนุกดีค่าาาา มาต่อทุกวันเลยน้าา  

[Nus@nT@R@]

สนุกค่ะ
สงสารแอร์บัสจัง  แต่ก็คงรู้ว่าไม่ีมีประโยชน์ที่จะดึงดัน เลยพยายามตัดใจ แถมเอาตัวเองออกไปในที่ไกลๆซะงั้น