31. พี่เสือ น้องกระต่ายกับการเรียนรู้
เด็กๆ หมดเวลาไปกับเรียนหนังสือ เรียนพิเศษ บางคาบพี่เสือจะโดดเรียนไปสูบบุหรี่กับจัมโบ้และลูกโป่ง เพราะไว้ใจเด็กหญิงทั้งสองคนว่าคงกันไม่ให้ใครมาแตะต้องน้องได้แน่นอน
บางครั้งพระพี่เลี้ยงทั้งสองก็ต้องอ่อนใจเหมือนกัน เมื่อกระต่ายน้อยทำหน้าเหรอหราเมื่อหมดคาบแล้วไม่เจอพี่ชาย
"สอางค์ๆ ฝนๆ" กระต่ายสะกิดเพื่อนทั้งสองคนเมื่อหมดคาบวิทยาศาสตร์
"ว่าไงเอ่ย ?" สอางค์ใจดีกับกระต่ายน้อยเสมอ อาจเพราะเธอไม่มีพี่น้อง ส่วนเพื่อนข้างบ้านที่โตมาด้วยกันอย่างลูกโป่งก็ทั้งโง่ทั้งเกรียน
"พี่เสือหายไปไหน ?"กระต่ายน้อยถามเสียงสั่น เหงื่อกาฬแตกพลั่ก ดวงตากลมกระวนกระวาย ทำให้สองสาวใจเสีย ต้องรีบปลอบน้องเล็ก
"โอ๋ๆ ไปเข้าห้องน้ำมั้ง ?"
"ใจเย็นๆ ก่อนนะต่ายน้อย"
"แต่... แต่... พี่เสือหายไปทั้งคาบเลย..." ใบหน้างามซีดเผือก ริมฝีปากอิ่มสั่นระริก "หรือ... ว่าจะไม่สบาย ?"
จะให้สองสาวตอบอย่างไรดี... พี่เสือไปจิ้มสาวๆ อยู่จ้ะ เดี๋ยวกลับมา หรือ พี่เสือไปอัดมะเร็งเข้าปอดจ้ะ กระต่ายไม่ต้องห่วง
ฝนชั่งน้ำหนักชีวิตตัวเองกับกระต่ายแล้วต้องถอนหายใจ เธอยังไม่อยากอายุสั้นโดนเสือฆาตกรรมตอนอายุสิบสามเลยได้แต่ปลอบ
"ไม่มั้งต่าย... เห็นไปกับโบ้กับโป่ง ไม่มีอะไรหรอก"
"นั่นสิ นี่ช่วงพักเราไปตามหากันเถอะ" สอางค์ช่วยอีกแรง ลูบหัวเพื่อนชายที่ตัวเล็กกว่าเธอ ขาวกว่าเธอ สวยกว่าเธอเบาๆ
กระต่ายน้อยพยักหน้า ยอมให้สอางค์จูงมือเหมือนเด็กน้อยไปหาพี่ชาย
ในช่วงที่กระต่ายไม่ทันสังเกต สอางค์ยกมือขึ้นทำท่าเป็นหูโทรศัพท์ให้ฝนเงียบๆ
ฝนพยักหน้า ต่อสายด่วนหาไอ้ต้นเรื่อง
"ไอ้ห่าเสือ!" คำแรกทักทาย มีเสียงซ่า.... ก่อนจะเป็นพี่เสือรับ
"มีไร ?"
"น้องมึงตามหา"
"...." ปลายสายเงียบไป "เดี๋ยวกูไปหา"
"พวกกูจะพาน้องไปกินไอติม ไปเจอกันที่นั่น"
"เออ"
ฝนนิ่งไปชั่วอึดใจ ก่อนตัดใจสั่งสอน "มึงรู้มั้ยว่าหน้าตาน้องมึงเป็นยังไง เป็นห่วงสารพัด ไหนว่ามึงรักมึงหวง ทำไมแค่นี้ยังทำร้ายน้องวะ ?" ได้ด่าแล้วติดเบรกไม่อยู่ สองสาวหงุดหงิดพฤติกรรมเลวร้ายของพี่เสือหลังๆ มานี่สุดๆ แล้ว
จะนอนกับใครก็ไม่ว่า ขอแค่กระต่ายอย่ารู้เรื่อง
แต่อีที่ชอบหายตัวไป... จ้ำจี้กับผู้หญิงบ้าง สูบบุหรี่บ้างแล้วทิ้งให้พวกเธอดูแลกระต่ายน้อยนี่มันจี๊ดสุดๆ
"แม่ง มึงตุ๊ดมาก ทิ้งไว้กับพวกกู มึงอย่าลืมว่ายังไงกูกับอีอางค์ก็เป็นผู้หญิง เกิดอะไรขึ้นมาใช่ว่าจะช่วยอะไรได้มาก" ฝนหยุดหายใจ เมื่อได้ยินปลายสายยังไม่วาง "มึงได้ยินใช่ไหม ? หยุดเห็นแก่ตัวได้แล้ว น้องมึงอยู่นี่ จะรอให้เกิดเรื่องก่อนใช่ไหม ?"
ปลายสายเงียบไปสักพัก ก่อนตัดบทสั้นๆ "เดี๋ยวกูไปหา"
"เออ" ฝนถอนหายใจ แต่ชั่วแวบหนึ่งพี่เสือตอบกลับมาสั้นๆ
"เออ ฝน"
"มีไร"
"ขอบใจมึงมาก"
ฝนวางสาย อยากจะกรี๊ด ชาตินี้เพิ่งเคยได้ยินไอ้เสือขอบคุณ เธอเก็บมือถือใส่กระเป๋าแล้ววิ่งไปหาสอางค์กับกระต่ายที่ร้านขายขนม
ไวทันใจ ไม่ถึงห้านาที ร่างสูงใหญ่ของพี่เสือก็ปรากฏตรงหน้าน้องเล็ก กระต่ายน้อยที่กำลังแกะซองไอศกรีมที่สอางค์ซื้อเลี้ยงเบิกตาโต
พี่เสือไม่เคยเป็นแบบนี้...
...ไม่เคยร้อนรน... จนเปียกเหงื่อจนชุ่มโชกแบบนี้...
"กระต่าย" พี่เสือเรียกเสียงทุ้ม สลับกับหายใจหอบ ร่างสูงเอามือยันตู้ไอศกรีมข้างหนึ่ง อีกข้างหนึ่งอ้าแขนกว้าง เป็นสัญลักษณ์ที่เข้าใจกันดีระหว่างพี่น้อง
กระต่ายน้อยน้ำตาคลอ โยนไอศกรีมของชอบในมือทิ้ง กระโดดเข้าหาพี่ชาย ซุกไซ้ใบหน้านวลกับแผ่นอกกว้าง เสียงหวานสั่นระริก
"พี่เสือหายไปไหนมา... ฮือ.... หนูเป็นห่วง...."
"ไม่ได้ไปไหนครับ" พี่ชายลูบศีรษะน้อยอย่างทนุถนอม ไม่สนใจป้าเจ้าของร้านขนม จูบเรือนผมนุ่มซ้ำไปซ้ำมา "พี่ขอโทษนะครับที่รัก พี่ขอโทษ"
กระต่ายน้อยส่ายศีรษะ ปิดหู ท่าทางไม่อยากฟังต่อ "ไม่เอาแล้วนะ"
"ไม่มีแล้วครับ ไม่มีอีก" พี่เสือให้สัญญา น้องเล็กจึงได้หยุดร้อง เงยหน้านวลขึ้นสบ ดวงตาใสซื่อปกปิดความรักไม่มิด พี่เสือถึงกับหยุดหายใจ...
...กระต่ายน้อยที่แสนน่ารัก ใสบริสุทธิ์.... พี่เสือไม่คู่ควรกับความรักไร้เดียงสานี้เลย
คนตัวใหญ่รู้สึกราวกับหัวใจจะหลุดออกจากอก ทั้งเจ็บปวด... ทรมาน หากวันไหนกระต่ายเป็นของคนอื่น... ดวงตาคู่นั้นไม่มีความรักให้.... พี่เสือคงตายทั้งเป็น
มือใหญ่กดศีรษะเล็กแนบกับอก ให้ร่างบอบบางกลืนหายไปในอ้อมกอด บรรยากาศคงดีกว่านี้ ถ้าสอางค์ไม่กระแอมเบาๆ
"แฮ่ม! ใกล้เข้าคาบต่อไปละ เอาไง ?"
พี่เสือยิ้มบางให้สุดที่รัก ก่อนตอบ "เดี๋ยวซื้อไอติมให้กระต่ายก่อน" ว่าแล้วก็จูงมือน้องน้อยไปเลือกไอศกรีมแท่งใหม่ พี่เสือจ่ายเงินแท่งที่แล้วที่กระต่ายทิ้งให้สอางค์ด้วย
"ถ้าเงินกระต่ายกูไม่รับ ถ้าเงินมึงกูรับ!" สอางค์ประกาศจุดยืนชัดเจน
หลังเลิกเรียน สองพี่น้องยังทำเวรอยู่ เพื่อนๆ เลยมานั่งรอหน้าระเบียง ฝนสะกิดจัมโบ้
"โบ้ ทำไมมึงพาเสือไปจากต่าย"
"ห่า" จัมโบ้เบะปาก เมื่อโดนสายตาคาดโทษจากสาวๆ "เป็นความคิดของกูกับโป่งเอง"
สอางค์อดไม่ได้ที่จะหยิกเพื่อนรัก ลูกโป่งกระโดดหนีก่อนตอบจริงจัง
"พวกกูหวังดีนะเนี่ย"
"แล้วเสือมันก็เห็นด้วย"
สองสาวไม่อยากเชื่อ เสือมันดูเป็นผู้ใหญ่เกินอายุมาตลอด แล้วทำไมถึงบ้าจี้ตามสองคนนี้ได้
"หรือมึงกระจายเชื้อโง่ใส่เสือมัน ?" สอางค์วิเคราะห์ ลูกโป่งเลยทำปากยื่นให้
"ไม่ใช่หรอก พวกกูเห็นว่าน่าจะแยกเสือกับกระต่ายได้แล้ว ไม่งั้นน้องมันจะไม่โตซักที"
เป็นทีที่สองสาวปากกรรไกรจะอึ้งบ้าง ไม่อยากเชื่อว่าสองคู่หูคู่โง่นี่จะมีความคิดเป็นผู้ใหญ่
จัมโบ้ยักไหล่ "ก็ต่อไปมันจะลำบากใช่ไหมล่ะ ? เสือมันก็กลัวอนาคต มันเลยคิดว่าน่าจะค่อยๆ แยกออกมาบ้าง"
คำพูดของป้าเจ๊... น้าทีของลูกโป่งแว่บเข้ามาในหัวทันที ใบหน้าเก๋ไก๋ตบแต่งด้วยเครื่องสำอางอย่างดีของผู้ปกครองนิ่งๆ ขณะเอ่ย
'อีปรีย์... เจ้านายน้า เพื่อนสาวน้า ถึงมันจะเป็นเกย์ถึก แต่ความคิดมันก็เป็นผู้ชายอยู่ดี... ซึ่งบางครั้ง มันก็มองอีกมุมต่างจากเราๆ ที่เป็นผู้หญิง'
นี่คงจะเป็นความต่างที่ป้าเจ๊ว่า ทำให้สอางค์เกาหัวแกรกๆ แล้วถาม
"แล้วตัวเสือมันว่าไงวะ"
"กูก็ไม่รู้ ยังไม่ได้คุยกับมันเลย" จัมโบ้ตอบ
"กูว่ามันเลือกแล้วว่ะ" ฝนขมวดคิ้ว "เห็นตอนที่คุยโทรศัพท์กับกู มันบอกขอบคุณกู"
"อืม กูดูท่าทางแล้ว มันคงเลือกอยู่ข้างๆ กระต่าย" ลูกโป่งมองภาพน่ารักกุ๊กกิ๊กของสองพี่น้องในห้องแล้วถอนหายใจ "มันคงไม่คิดถึงอนาคตแล้วว่ะ ปัจจุบันน่าจะสำคัญสำหรับมันที่สุด"
สอางค์ฟังเงียบๆ
เธอรู้ดีว่า... ครั้งนี้ลูกโป่งพูดถูก
อยู่ชั้นมัธยมมาเทอมกว่าแล้ว พี่เสือไปหาผู้หญิงน้อยลง ทำงานหนักขึ้น ทั้งเก็บเงินทำงานจากร้านเถ้าแก่ ทำงานกับคุณพ่อ ทุกเช้า พี่เสือยังตื่นเช้า รับจ้างซื้อของ แบกของให้ซ้อเง็กอีกด้วย
ส่วนกระต่ายน้อยถูกพี่เสือบังคับให้นอนตื่นสาย เสียงทุ้มๆ บอกชัดเจน
"พี่จะเก็บเงินของพี่เอง ต่ายน้อยมาช่วยก็จะเป็นเงินของต่ายเอง"
"หนูไม่เอาเงินก็ได้" กระต่ายน้อยร่ำๆ จะร้องไห้แล้ว ตาแดงๆ กระพริบปริบๆ ไล่น้ำตา ไม่ชอบเลยที่พี่เสือต้องทำงานหนักแล้วต่ายน้อยช่วยอะไรไม่ได้
"ไม่ได้ครับ" พี่เสือปฏิเสธเสียงแข็ง เงินส่วนนี้ ไม่มีใครรู้ว่าพี่ชายจะเก็บไปทำไม ทุกคนต่างบอกเสียงเดียวกันว่าพี่เสือขยันหาเงินตัวเป็นเกลียว ทั้งๆ ที่บ้านก็ฐานะค่อนข้างดี
...พี่เสือรู้... ชัดเจน...
...เงินนี้... พี่เสือจะเก็บไว้... สู่ขอน้องน้อย
ไม่รู้อนาคตว่าจะเป็นอย่างไร แต่อย่างไรเงินก็สำคัญ ถึงเวลาแล้วพี่เสือจะไม่มีวันปล่อยให้น้องน้อยลำบาก
นั่นเป็นความตั้งใจหนึ่งเดียวของชีวิตพี่เสือ
นัยน์ตาคู่ดุอ่อนแสงลง ปลอบโยนน้องชายด้วยเสียงอ่อนโยน "ต่ายน้อย ไม่ต้องมาลำบากนะคนดี... พี่ทำงานก็ออกกำลังไปด้วย เห็นไหม ตอนนี้แข็งแรงกว่าพี่ๆ ที่ค่ายอีก"
กระต่ายน้อยกัดริมฝีปากกับคำโกหกที่แสนนุ่มนวล มือเล็กกอดแขนแข็งแรง ล่ำหนาแน่น มอบจุมพิตแผ่วเบา เอ่ยเสียงสั่นพร่า
"หนูไม่รู้พี่เสือจะเอาเงินไปทำอะไร... แต่เมื่อไหร่ที่พี่เสือกลับมา... หนูจะเตรียมของโปรดพี่เสือไว้ให้นะจ๊ะ"
พี่ชายได้แต่ลูบศีรษะเล็ก หลับตา ไม่อยากวาดฝันถึงอนาคตเลย "ที่รักของพี่...."
กระต่ายน้อยดื้อดึงขนาดไหนคุณพ่อคุณแม่รู้ฤทธิ์ดี เจ้าตัวเล็กตื่นนอนพร้อมพี่ชาย จากที่ต้องให้พี่เสือปรนนิบัตรเอาใจ น้องเล็กตระเตรียมทุกอย่างไว้ให้ พอพี่เสือทำงานรอบเช้าเสร็จ จะพบกำลังใจแสนน่ารักรออยู่หน้าบ้าน ทั้งโกโก้ ของกินอร่อยๆ แทบจะป้อนถึงปาก พี่ชายแค่กินอาหารเช้าให้เรียบร้อย ขึ้นไปอาบน้ำและพบกับเสื้อผ้าที่กระต่ายเตรียมไว้ให้ ในอกอุ่นวาบทุกครั้ง กระต่ายทำเพื่อเขา...
...เขาอาจจะห้ามกระต่ายไม่ให้ทำงานหนักตามเขาได้ แต่ห้ามไม่ให้กระต่ายเอาใจเขาไม่ได้...
สองพี่น้องขะมักขะเขม้นเป็นเช่นนี้จนคุณพ่อชักเอือม ถึงจะถือคติไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของลูกแต่ก็อดใจไม่ไหวที่จะถามพี่เสือระหว่างมื้อเย็น
"เสือ ทำงานหนักไปแล้วมั้ง ?"
คุณแม่เองก็พยักหน้าเห็นด้วย "มันก็ดีหรอกลูก... ใครๆ ก็บอกลูกบ้านกตัญญู แต่มากไปก็ไม่ดีนะ"
"เสือไม่ทำให้เสียการเรียนหรอกครับ" พี่เสือลาออกจากทีมบาสเกตบอลแล้ว แต่ยังไปซ้อมมวยอยู่
"แม่รู้..." คุณแม่จนใจจะสอน เพราะคะแนนพี่เสือยังอยู่อันดับหนึ่งไม่มีเปลี่ยนแปลง เธอจึงหันไปขอกองหนุนจากลูกชายคุณเล็ก "กระต่ายห้ามพี่เค้าสิลูก"
"หนูห้ามแล้วจ้ะ" กระต่ายตอบ
ขนาดน้องสุดที่รักยังเอาไม่อยู่... เห็นทีจะห้ามไม่ได้แล้วจริงๆ คุณพ่อเลยถาม
"เสือจะเอาเงินไปทำอะไร ?"
วันนี้พี่เสือเหนื่อยเป็นพิเศษ เพราะทั้งซ้อมมวยและยกลังของที่ร้านเถ้าแก่ แต่พอกลับบ้านพบกับน้องเล็กทำของโปรดไว้ให้ น้ำหวานเย็นๆ รอท่าก็ทำให้ปฏิเสธไม่ลง ถึงจะล้า เหนื่อยหนัก แต่ใบหน้าดุๆ ของพี่ชายก็มีรอยยิ้มบาง
"เดี๋ยวคุณพ่อก็รู้"
คุณพ่อขมวดคิ้ว "เสือไม่ไว้ใจพ่อเหรอ ?"
"คุณพ่อไว้ใจเสือเถอะครับ เสือไม่ได้เอาไปทำอะไรไม่ดี แต่ตอนนี้... ยังไม่ถึงเวลา"
บุพการีถอนหายใจเฮือกใหญ่ ทำอย่างไรได้ ไม่ว่าอะไรก็ง้างปากลูกชายไม่ได้ พี่เสือกินข้าวคำสุดท้ายแล้วรวบช้อนเป็นอันจบบทสนทนา
สอบปลายภาคเร่งเข้ามา เด็กๆ ต่างวาดฝันถึงปิดเทอมฤดูร้อน สอางค์และลูกโป่งกระดี๊กระด๊าเป็นปลากระดี่ได้น้ำ เพราะคุณน้าของลูกโป่งต้องไปเรียนต่อแคนาดาด้วยทุนบริษัท ลูกโป่งจะถูกส่งตัวไปอยู่กับคุณตาน้อย พ่อของคุณน้า ดังนั้น น้าที สาวโสดปากคอเราะร้ายจึงยอมควักเงินออกค่าตั๋ว ค่ากินค่าอยู่ให้เด็กสองคนตามไปเที่ยวช่วงปิดเทอมด้วย
พี่เสือนั่งเงียบๆ มือหนึ่งถือดิกชันนารี มือนึงถือมือถือ คอยโทรเร่งน้องเล็กให้ขึ้นมาเรียน คนนั่งอยู่ตรงหน้าเกาหัวยิกๆ
ลูกโป่งคาบดินสอ ทำปากจู๋ ดูน่าหมั่นไส้ในสายตาพี่เสือสุดๆ "มึงจะโทรอะไรนักหนาวะ"
"ไปตั้งนานแล้ว" ตอบสั้นๆ ได้ใจความเหมือนเดิม
"โว๊ะ ต่ายมันไปซื้อน้ำแข็งไสกับสาวๆ พวกนี้เลือกนานจะตายห่า มึงไม่ต้องห่วงหรอก"
"ถ้ามึงพูดอีกคำก็ทำเองละกัน" พี่เสือยื่นคำขาด โยนดิกชันนารีลงบนโต๊ะ ลูกโป่งเลยเลิกขัดคอ
"โถ... พี่เสือครับ รับกูเป็นน้องเถอะครับ กูกรอกวีซาไม่เป็น" ถูกแล้ว... ลูกโป่งดีใจอยู่หรอกที่น้าจะพาไปเที่ยวเมืองนอก แต่น้าทีแค่ไปสถานทูตแคนาดา สอบถามข้อมูลแล้วจดๆ มา ตามด้วยขอเอกสารขอวีซาแล้วโยนให้เด็กสองคน
'กรอกเอง เตรียมเอง ไม่เข้าใจโทรไปถามสถานทูต ถ้าทำไม่เป็น โดนตีกลับก็ไม่ต้องไป'
สอางค์กับลูกโป่งได้แต่ทำหน้าเหรอหรา เด็กสองคนยุ่งตัวเป็นเกลียว ตัวติดกับโทรศัพท์ โทรเข้าโทรออกเบอร์สถานทูต เด็กทั้งสองชินแล้วกับการเลี้ยงดูแบบบุฟเฟ่ต์ของน้าที ถ้าไม่คอขาดบาดตายร้ายแรงเป็นอันว่าคุณน้าจะไม่เกี่ยวข้อง ตาน้อยเคยเล่าให้ลูกโป่งฟังด้วยซ้ำว่าตอนสาวๆ น้าทีล่อทุกอย่างที่มีบนโลก... เพราะน้าทีก็ถูกเลี้ยงมาแบบบุฟเฟ่ต์เหมือนกัน... แต่จะเอาอะไรกับหญิงสาวที่เลี้ยงหลานที่อายุห่างกับตัวเองแค่สิบปี ตอนนั้นน้าทีอายุแค่สิบห้า แต่ทำงานเลี้ยงตัวเองแล้ว ยังไม่พอ กระเตงลูกโป่งที่อายุแค่ห้าขวบอีกต่างหาก
ดังนั้นลูกโป่งกับสอางค์จึงไม่เดือดเนื้อร้อนใจ เข้าใจวิธีเลี้ยงเป็นอย่างดี จัดการทุกอย่างเรียบร้อย เหลือแต่เอกสารขอวีซานี่แหละ สอางค์หยิบมาสองใบกับดิกชันนารี เดินเข้าห้อง ล็อกประตูแล้ววันต่อมาก็เอามาส่งน้าทีเรียบร้อย เหลือแต่ลูกโป่งที่อ่านอะไรไม่ออก เดือดร้อนพี่เสือต้องมานั่งช่วยกรอก
พี่เสือทำหน้าหน่ายๆ แต่ก็ช่วยลูกโป่งกรอกไปได้อีกหลายช่อง ไม่นานนักกระต่ายกับสาวๆ ก็ขึ้นห้องมาพร้อมขนมนมเนย
"อ้าว ยังไม่เสร็จอีก" สอางค์ถามด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ย "อาจจะไม่ได้ไปแล้วมั้ง ?"
"โถ... น่าสงสาร" ฝนช่วยซ้ำเติม คงมีแต่กระต่ายที่ห่วงจากใจจริง
"เอามาให้เราช่วยก็ได้นะ"
"ต่ายน้อยมานั่งกับพี่ดีกว่า" พี่เสือเปลี่ยนเรื่องฉับ เรื่องอะไรจะให้สุดที่รักไปยุ่งกับเรื่องชาวบ้าน
"พี่เสือยังไม่เสร็จเหรอจ๊ะ ?" น้องนั่งข้างๆ พี่ชาย ดูดิกชันนารีเล่มหนาแล้วกลืนน้ำลายอึ้ก
"ต่ายน้อยปิดเทอมไปไหน ?" สอางค์มารวมกลุ่มด้วย ไม่สนใจเพื่อนสนิท
กระต่ายเอียงคอ "ไม่รู้สิจ๊ะ ปกติก็อยู่บ้าน"
"ไอ้โบ้ไปไหนวะ ?" จู่ๆ ฝนก็ถามขึ้นมา
"ไปล่ำลาสาว" ลูกโป่งตอบอย่างสุดเซ็ง "มันจะไปฮ่องกงตอนปิดเทอม เลยไปอวดให้ทั่วก่อน"
"ชิบโหง เหลือเป็นอาทิตย์จะปิดเทอม แม่งอะไรจะขนาดนั้น!"
"ทุกคนไปเมืองนอกกันหมดเลยเหรอ ?" กระต่ายถามซื่อๆ
"ฝนไปบ้านนอกอ่ะ" ฝนตอบ ส่ายหน้า บี้จมูกกระต่ายเล่นและโดนไอ้พี่ขี้หวงปัดมือออก
"หวงชิบ... กระต่ายไปไหมล่ะ ? บ้านฝนอยู่เชียงใหม่"
"ถ้าพี่เสือไป เราก็ไปจ้ะ" น้องตอบง่ายๆ พี่ชายเลยโอบไหล่บางแทนคำตอบแสนน่ารัก
"ชิ..." ไอ้พี่ขี้หวงคงจะยอมปล่อยไปหรอก แค่ไปซื้อขนมแป๊บเดียวก็โทรตามยิกๆ กระต่ายน้อยก็ช่างแสนซื่อ พี่โทรมาก็รับทุกสาย พอถามว่าไม่รำคาญบ้างหรือ น้องแค่ตอบหน้าแฉล้มว่า
'ดีใจออกน้า พี่เสือเป็นห่วงนี่นา'
"เสียใจ ฝน กูจะไปทำงานพิเศษ" พี่เสือดับฝัน แต่น้องชายเงยหน้ามองอย่างแปลกใจ
"พี่เสือ ?"
"ครับ ทำงานพิเศษ" พี่เสือตอบอีกครั้ง "ต่ายน้อยจะทำไหม ?"
กระต่ายชอบทำงาน ชอบหาเงิน... ตอนมีเงินรู้สึกดีออก... แต่กระต่ายก็ยังเด็ก ชอบเที่ยวมากกว่าอยู่ดี "หนูอยากไปเที่ยว..."
"ที่รักครับ... ไว้พี่จะพาไปดูหนัง โยนโบล์ว ซื้อหนังสือ กินของอร่อยๆ นะ"
สอางค์ ฝนและลูกโป่งทำท่าอาเจียนเงียบๆ ทีกับน้องล่ะแสนดี กับคนอื่นนี่คำว่าเลวยังน้อยไป
น้องกระต่ายก็ดีจนใจหาย ยิ้มตาหยีเจิดจ้า "ถ้ามีพี่เสืออยู่ด้วย หนูก็ทำจ้ะ"
ทีนี้สามสหายกลอกตาแทน
กระต่ายน้อยผ่านพ้นสอบปลายภาคไปด้วยดี ด้วยความมุมานะอ่านหนังสือ ทำรายงาน ทำการบ้าน ในที่สุดก็เห็นผล เจ้าตัวเล็กวิ่งตื๋อออกจากห้องสอบเป็นคนสุดท้ายตามเคย แต่คราวนี้ไม่ได้มีแค่พี่เสือที่นั่งรอ กลับเป็นผองเพื่อนที่คุยกันเสียงดังจนโดนคุณครูดุไปหลายที
สำหรับกระต่ายแล้ว นัยน์ตากลมโตคู่นั้นมองไม่เห็นใครอีก เพื่อนๆ ข้างๆ เหมือนกลายเป็นฉากหลัง ที่โดดเด่นเหนือใครอื่นเพื่อนคือร่างสูงใหญ่ของพี่ชาย
"พี่เสือ!"
รอยยิ้มอ่อนโยนบนใบหน้าคมเข้มคือรางวัลที่ดีที่สุด เจ้าตัวเล็กอยากเข้าไปซุกกับอกกว้าง อวดว่าตัวเองทำได้มากแค่ไหน แต่ติดตรงที่สายตาหลายคู่จ้องอยู่
"จิรนันท์ พอเจอพี่ชายแล้วไม่เอาอะไรเลยนะ" คุณครูเก็บข้อสอบพลาง แซวพลาง
ใบหน้าหวานขึ้นสีระเรื่อ หัวเราะแหะๆ รีบยกมือไหว้คุณครู
"ต่ายเก็บของแล้วไปกันเถอะ" สอางค์ชวน เสียงเบิกบาน งดด่าลูกโป่งไปหนึ่งวัน
"ไปร้องคาราโอเกะกันไหม ?" จัมโบ้ที่นั่งเสียจนเบื่อเลียไอศกรีมเป็นคำสุดท้ายแล้วโยนไม้ทิ้งลงถัง
ฝนเป็นคนเดียวที่หันมามองคนตัวเล็ก "ต่ายว่าไง ?"
"ไปจ้ะไป" ตอนนี้จะชวนไปไหนก็ไปทั้งนั้น ปลอดโปร่งที่สุด
"เอาสิ" พี่ชายเสริม หิ้วกระเป๋าให้น้องเสร็จสรรพ เหลือแต่ลูกโป่งที่นั่งหน้ามุ่ยอยู่
"เป็นไรของมึง ?" สอางค์สงสารที่ไม่มีใครสนใจเลยถามให้
ลูกโป่งส่ายหน้าแล้วกระดิกนิ้วเรียกเพื่อนรัก ก่อนกระซิบกระซาบข้างหู สอางค์เลิกคิ้ว เอานิ้วดันแว่นแล้วหัวเราะหึๆ
"ก็ได้ๆ เอางั้นก็ได้" สอางค์ทำหน้าตายตามถนัด หันกลับมาประกาศกับเพื่อนๆ "อีโป่งมันบอกว่า ให้พวกมึงไปก่อนเลย"
"ทำไมวะ ?"
สอางค์ยืดอก สูดลมหายใจลึก ขยับแว่นเป็นพิธีก่อนเฉลย "มันปวดขี้!"
หน้าน้อยของคนตัวเล็กที่สุดในกลุ่มแดงฉ่า แทบเอาหน้าซุกหลังพี่ชายไม่ทัน ฝนและจัมโบ้หัวเราะก๊าก ลูกโป่งทำหน้าจะกินเลือดกินเนื้อเพื่อนรัก
"อีเหี้ยยยยย ใครบอกให้มึงพูดดดดดดดดด"
"อ้าว เค้าถาม กูก็ตอบ" สอางค์ตอบหน้าเฉยเมย "ป่ะ ไปขี้เถอะเพื่อนรัก เดี๋ยวกูไปส่ง"
หายากยิ่งที่ใบหน้าขาวๆ ของลูกโป่งจะแดงจัด ก้มหัวงุดๆ รีบยกมือไหว้คุณครูแล้วลากสอางค์ไปห้องน้ำ สอางค์ไม่วายหันกลับมานัดแนะกับกลุ่มเพื่อน
"กูไปส่งมันขี้ก่อน พวกมึงไปห้างก่อนเลย เดี๋ยวกูโทรหา"
จัมโบ้พยักหน้าหงึกๆ หัวเราะจนน้ำตาเล็ด พี่เสือแค่หัวเราะหึๆ แล้วดึงตัวน้องเล็กที่อายแทนเพื่อนออกจากแผ่นหลัง
"เราก็ไปกันเถอะ ต่ายน้อย"
ใบหน้าหวานยังแดงไม่หาย ปากจิ้มลิ้มพึมพำ "สอางค์แกล้งเพื่อน"
ฝนหัวเราะลั่น ตบไหล่บาง "มันยิ่งทะเลาะ ยิ่งสนิทกันนะต่าย แกล้งไปแกล้งมา แต่อางค์ก็ไม่เคยทิ้งโป่ง"
"จริง" จัมโบ้เสริม ก่อนหลุดหัวเราะตาม "ขนาดขี้ยังไปส่งเลย กร๊าก!"
กระต่ายเอามือปิดหน้าแทน อายแทนลูกโป่งจริงๆ
____
คำตาม

มาช้ามาก.... กินยาแก้ปวดไปตอนค่ำค่ะ จำศีลยาวเลย...
