"จิ้นดีนัก เดี๋ยวจัดให้"
Hour# 28 -Commencement day-
"วา ตื่นนนน" ผมเขย่าแขนวาสองสามทีหลังจากที่เมื่อกี้วางสายจากหม่าม๊าที่โทรมาปลุกแต่เช้าตรู่ ได้ยินเสียงเฮียเอกบ่นมาผ่านสายว่าม๊าเล่นมาเคาะประตูตั้งแต่ตีสาม พาร่างตัวเองมาแต่งหน้ากับแม่น้องหนึ่ง ทำเอาหลับต่อไม่ลงต้องหอบน้องหนึ่งไปนอนห้องม๊าแทน
"อืม...อะไรเอ" วางึมงำในลำคอทั้งที่ยังไม่ลืมตาพลางซุกหน้าลงกับผ้าห่ม
"ตื่นได้แล้ว ไปอาบน้ำวันนี้วันซ้อมนะ เร็วเข้า" ผมยังคงไม่ยอมแพ้ลุกขึ้นนั่งและดึงแขนวาให้ลุกขึ้นแต่กลายเป็นผมที่เหนื่อยเพราะเจ้าตัวไม่ให้ความร่วมมือเอาแต่ขืนแรงผมตลอด
"นี้กี่โมง"
"ตี 5"
"ตี5 เอง รีบตื่นทำไมซ้อมตั้ง 10โมง"
"ไม่ได้ดิ่ ม๊าเขาโทรมาปลุกเนี้ย ต้องไปรับม๊าก่อนและไป มหาลัยพร้อมกัน" ครอบครัวผมเขามาถึงกรุงเทพกันตั้งแต่เมื่อคืนแล้วครับ ผมกับวาไปรับม๊าที่สนามบินกันตอนทุ่มกว่าก่อนจะพาไปส่งที่โรงแรมแถวห้องผม ส่วนพี่เฟิรส์มาถึงตั้งแต่บ่ายแล้วครับ แต่เห็นว่าพี่แกมีธุระเลยมาเจอผมกับวาตอนม๊ามาถึงก่อนจะไปนอนที่โรงแรมกับม๊า
"อืม บอกแม่ไม่ได้หรอ ว่าไม่ต้องรีบ" วาพูดเสียงเบาก่อนจะยอมลืมตามามองหน้าผมพลางขยับหัวขึ้นมานอนซบลงที่ตัก ผมยิ้มนิดๆกับอาการอ้อนของวา ยกมือขึ้นสางกลุ่มผมหนานุ่มตรงตักเบาๆ นานๆทีนะที่จะมีโมเม้นผมตื่นก่อนแบบนี้
"ฮาๆ ยากละ รายนั้นตื่นมาวาดคิ้วตั้งแต่ตีสามแล้วมั้ง ลูกชายคนโปรดรับปริญญาทั้งที" ผมตอบวากึ่งล้อเล่นกึงประชดเพราะอดหมั้นไส้ไม่ได้ทั้งที่ไอ้ตัวคนรับยังไม่อยากลุกจากเตียงแบบนี้
"น้อยใจ"
"ตลกละ น้อยใจเพื่อ เหนื่อยใจมากกว่าจะทำยังไงให้มึงกระตือรือร้นในวันนี้มากกว่านี้" จริงๆนะครับ จนวันซ้อมแล้วเหมือนมีแต่ผมที่ตื่นเต้นราวกับจะรับเอง นี้ไม่ได้อะไรนะ ผมเตรียมซื้อชุดสำหรับงานวันนี้ตั้งแต่สองอาทิตย์ที่แล้วละ
"จูบหน่อย"
"ห่ะ" ก้มลงมองหน้าคนพูดเผื่อจะหูฝาดแต่ก็เห็นแค่แววตาเป็นประกายขันจากดวงตาคมของวา ก่อนจะอดหน้าแดงไม่ได้เมื่อโดนอีกฝ่ายเอ่ยปากให้ผมเป็นคนจูบก่อน ถึงจะมีหลายครั้งที่ผมเป็นผ่ายเริ่ม แต่โดนขอตรงๆแบบนี้มันก็เขินนะครับ
"จูบก่อน แล้วจะตื่นเลย" วายังคงส่งยิ้มกรุ่มกริ่มมาให้จนเป็นผมเองที่ทนเขินไม่ไหวดันหัวเจ้าตัวออกละลุกขึ้นออกจากเตียง
"อะไรตื่นกันแน่ วาโย อย่ามานอกเรื่อง เร็วลุก โอ้ย! วาโย!! เจ็บนะดึงลงมาได้" ผมชกแขนวาไปทีก่อนจะพยายามดันตัวเองขึ้นจากอกแกร่งของวาเมื่อคนขี้แกล้งดึงแขนผมจนเสียหลักล้มลงมาอยู่ในอ้อมกอดมันอย่างพอดิบพอดี
"หน้าแดง"
"อะไร ใครหน้าแดง"
"เอหน้าแดง เขินหรอครับ"
"เขินอะไร อื้อ วาไม่เล่น ไปอาบน้ำเร็ว"
"ไม่ได้เล่นซักหน่อย เอาจริง เร็ว จูบวาก่อนแล้วเดี๋ยวไปอาบน้ำเนี้ย"
"สกปรก ฟันยังไม่ได้แปรงเลย"
"รังเกียจ"
"เออ มากด้วย อื้อออออ" สุดท้ายก็โดนคนตัวใหญ่คว้าคอลงไปจูบจนได้ จากตอนแรกตั้งใจว่าจะไม่ยอมเปิดปากแต่อารมตกใจทำให้คนเจ้าเล่ห์ตรงหน้าสอดลิ้นเข้าไปสำรวจภายในโพรงปากจนได้ ก็บอกว่ายังไม่ได้แปรงฟัน ยังจะมาตื้ออยู่ได้
"ชื่นใจ" วาปล่อยผมออกจากวงแขนก่อนจะลุกขึ้นนั่งพลางเอื้อมมือมาหยิกแก้มผมที่นั่งหน้าบึ้งอยู่ตรงหน้า
"ถ้าสุดท้ายจะเผด็จการใส่ แล้วจะขอทำไมตั้งแต่แรกว่ะ" ปัดมือใหญ่ออก หยิกอยู่นั้นอะแก้ม ไม่หยิกแก้มก็ดีดหน้าผาก
"ขอไปงั้นๆอ่ะ อย่างเอถ้ามัวแต่รอก็ไม่ได้ซักที จัดการเองง่ายกว่าเยอะ" วาหัวเราะในลำคอก่อนจะเดินผ่านผมเข้าไปอาบน้ำอย่างอารมณ์ดี
"ไอ้เผด็จการอำนาจ" ผมตะโกนด่าตามหลังเจ้าตัวต้นเรื่องไปก่อนจะรีบวิ่งกลับไปห้องตัวเองเตรียมอาบน้ำแต่งตัวบ้าง หันไปมองนาฬิกาที่ชี้บอกว่าหกโมงเข้าแล้วก็ยิ่งรน ม๊าบอกให้ไปรับตอน7โมง วาแมร่งทำเสียเวลาจริงๆ
"ม๊าสวัสดี เฮียเอก พี่มิ้น พี่เฟิร์ส สวัสดี น้องหนึ่งว่าไงครับ" ผมรีบยิ้มหวานคนที่บ้านก่อนจะไปอุ้มน้องหนึ่งมาจากเฮียเอกที่ยิ้มกว้างใส่อย่างดีใจ
"กู๋เอ อาวาคิดถึงน้องหนึ่งมั้ย"
"คิดถึงสิครับ ไหนให้กู๋เอหอมหน่อยสิ" ผมฉกเข้าไปหอมแก้มน้องหนึ่งที่หัวเราะคิกคักก่อนจะดิ้นออกไปหาวาที่เพิ่งเดินตามผมมาเพราะไปหาที่จอดรถอยู่
"มาสายนะน้องเอ" ม๊าพูดเสียงติดดุเพราะผมมาสายกว่าที่นัดไว้เกือบครึ่งชั่วโมง ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ใช่ความผิดของผมเลยนะ
"โน้น ไปเอาผิดกับคนโน้นเลย ไม่ยอมลุกไปอาบน้ำเอาแต่นอนอยู่ได้"
"พอดีวานอนดึกไปหน่อยอะครับ"
"งั้นหรอลูก ไม่เป็นไรไม่ค่อยได้พักนะซิเราทำงาน ไปกัน ม๊านัดตากล้องไว้ตอน8โมง"
"สองมตราฐานนะ ทีวาเป็นคนผิดม๊าไม่เห็นว่าอะไรวาเลย ลองหนูเป็นคนสายดิ่"
"ก็ทำตัวให้น่ารักแบบวาซิ ม๊าจะได้สองมาตราฐานกับน้องเอบ้าง ไม่ใช่เอาแต่เบะปาก ทำตัวแสนงอนใส่ม๊าแบบนี้" ม๊าส่งยิ้มให้ก่อนจะดึงมือผมไปจับ
"แต่เอกเห็นด้วยกับน้องเอ ทีตอนเอกรับไม่เห็นม๊าจะเห่อขนาดนี้เลย" ผมรีบพยักหน้ารับคำของเฮียเอก เห็นมั้ยผมไม่ได้รู้สึกคนเดียวซะหน่อย
"ทำไม่จะไม่เห่อ ถ้าสมัยนั้นมีตากล้องเยอะแยะแบบสมัยนี้ ม๊าจะจ้างมาสามคนเลยดีมั้ย เหมือนตอนพี่เฟิร์สรับไง" ม๊าหันไปพูดกับเฮียเอกที่พาเอานึกถึงตอนพี่เฟิร์สรับปริญญาที่ตอนแรกม๊าจะจ้างตากล้องสามคนมาถ่ายเพราะม๊าบอกอยากได้หลายๆมุมแต่ดีที่พี่เฟิร์สชิงตัดช่องน้อยบอกม๊าไปว่าจ้างตากล้องและจ่ายเงินไปเรียบร้อยแล้ว ม๊าไม่ต้องจัดการให้ไม่งั้นนึกสภาพแล้วคงตลกพิลึก
"นั้นก็เกินไปม๊า เอกอายแทนน้องมัน" เฮียเอกกรอกตาไปมา พร้อมกับพี่เฟิร์สหัวเราะเสียงดังเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ก่อนงานรับปริญญาของตัวเอง
"ฮาๆๆ พี่เฟิร์สเป็นยังไงบ้าง มีของอะไรมาฝากเอมั้ย" ผมเข้าไปกอดแขนพี่ชายคนกลางอย่างออดอ้อนพลางทำตาปริบๆใส่เพราะก่อนพี่เฟิรส์กลับไทย ผมส่งรูปรองเท้าโอนิสึกะ ไทเกอร์รุ่นที่ผมอยากได้ไปให้พี่เฟิร์สพลางเกริ่นๆว่าสวยจังน้า โดยที่พี่ชายก็ได้แต่ส่งอีโมกระตุกยิ้มกลับมา
"มาทวงนะ ทวงได้ตลอดที่ไป พี่ซื้อรองเท้ามาให้คนละคู่กับวา ไว้ขึ้นไปเอาตอนเย็นละกัน"
"ขอบคุณครับ รักที่สุดอะ" รีบเข้าไปประจบครับเพราะพี่ชายผมยังไปญี่ปุ่นอีกหลายรอ ของที่เล็งๆไว้จะทยอยๆออเดอร์นะ
"น้อยๆหน่อย สนใจเฮียบ้าง" เฮียเอกแทรกตัวมาตรงกลางกอดคอผมและพี่เฟิร์สอย่างเรียงร้องความสนใจ
"ไม่สน ชอบแกล้งน้อง และนี้พี่เฟิร์สกลับเชียงใหม่พร้อมม๊าเลยป่ะ" ผมหันไปเบะปากใส่เฮียเอกก่อนจะยิ้มขำเมื่อเฮียเอกหันไปทำปากขมุบขมิบอยู่กับพี่เฟิร์สที่หัวเราะไม่รู้ไม่ชี้อยู่ข้างๆ
"ใช่ พอดีพี่มีเลี้ยงรุ่นด้วยตอนคืนวันกลับ"
"เลี้ยงรุ่นอะไรหรอ"
"รุ่นมัธยมนะ"
"งั้น...พี่ต้นก็ไปนะสิ" ผมเอ่ยถึงชื่อที่อดนึกถึงไม่ได้ถ้าหากพี่เฟิร์สพูดถึงเพื่อนมัธยม คนที่มีอิทธิพลกับพี่เฟิร์สมากที่สุด คนที่เป็นรักแรกของพี่ผม คนที่หักหลังพี่ผม คนที่ทำให้พี่ผมเสียใจ
เฮียเอกหันไปมองพี่เฟิร์สนิ่งๆไม่พูดอะไรก่อนจะลูบหัวพี่ชายคนรองเบาๆและแยกตัวออกไปหาพี่มิ้นที่ยืนคุยกับวาอยู่ด้านหลัง
"อืมนะ" พี่เฟิร์สยิ้มเล็กๆที่มุมปากด้วยแววตาที่อ่านยากก่อนจะทัดผมที่ยาวขึ้นของตัวเองลงที่หูเมื่อลมพัดแรงขึ้น
"แล้วงี้พี่เฟิรส์โอเคมั้ยอะ"
"ทำไมจะไม่โอเคละ"
"ก็"
"คิดมากนะเรา ไปๆขับรถได้ละ" พี่เฟิร์สยิ้มก่อนจะเดินอ้อมไปนั่งด้านหลังเมื่อพวกเราเดินมาถึงรถที่วาจอดไว้ด้านหน้า
"เฮียเอกกับพี่มิ้นไปถูกแน่นะ" ผมหันไปถามเฮียเอกที่เช่ารถของโรงแรมเอาไว้ กำชับถามอีกครั้งเพราะกลัวเฮียจำทางไม่ได้เพราะใช้ว่าเฮียจะลงมากรุงเทพบ่อยๆ
"ทำไมจะไม่ถูกวะ ได้ข่าวเฮียก็จบจากมหาลัยนี้มานะ"
"ก็หนูนึกว่าแก่แล้ว อาจจะลืมๆไปบ้าง"
"น้องเอ เดี๋ยวเหอะนะ เฮียแก่ตรงไหน"
"พอๆ เลิกเล่นกันได้แล้วสองคนนี้นิ่"
"ก็ม๊าดูน้องเอดิ่"
"นอนไม่พอแล้วโวยวายนะเฮียเอก ฮาๆๆ" พี่เฟิร์สแซวเฮียเอกก่อนจะหัวเราะอารมร์ดีมาจูงมือม๊าขึ้นรถไป เห็นพี่เฟิร์สไลน์มาบ่นตั้งแต่เช้าแล้วว่าพี่ชายคนโตมาเคาะประตูห้องขอนอนด้วยตอนตีสี่กว่าๆเพราะโดนสองสาวรบกวน เปิดประตูมาเจอสภาพคุณพ่อที่กระเตงลูกชายที่ยังหลับไม่รู้เรื่องแล้วอดสงสารไม่ได้ นึกภาพตามแล้วก็ขำ ผู้หญิงกับการแต่งหน้าเราไปขัดเขาไม่ได้จริงๆนะครับ ฮาๆๆๆ
To be con