>>**ปล้นร้ายกลายรัก**<< "เรือนจำเปิด" หน้า 167 (17-03-59 )
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: >>**ปล้นร้ายกลายรัก**<< "เรือนจำเปิด" หน้า 167 (17-03-59 )  (อ่าน 1666891 ครั้ง)

ออฟไลน์ Ak@tsuKII

  • Honeymoon
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3845
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-3
ล็อคอินเพื่อมาเม้นท์ตอนนี้โดยเฉพาะ   :katai4:

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
เก๊าชอบคู่นี้ :man1:
ชอบเข้มอ่ะกรี๊ดดดดดดดด ดูแลหนูรันดีมาก ความรักทำให้คนเปลี่ยนแปลง 
ขอให้เข้มสมหวังเร็วๆๆ อวยพรๆๆๆๆ  รันใกล้จะใจอ่อนแล้วล่ะ อิอิ
:impress2:

ส่วนอีกคู่ที่ชอบสุดๆๆๆๆๆไม่แพ้กันคือคู่คุณพ่อของหนูค่ะ ชอบมาก กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด :hao6:
อยากให้คุณพ่อหนูโดน :oo1:  ไวๆๆ   

จะรออ่านนะคะ 

สรุปชอบทุกคู่เลย คู่นายก็ชอบ คู่เอกก็ชอบ คู่เบียร์ก็ชอบ  แต่หลังๆจะชอบสองคู่บนที่มากกกว่า 555 เป็นอะไรที่เหลือความคาดหมาย และถูกใจมากๆๆๆๆๆ 

เพราะเข้มตอนแรกก็ดูเป็นตัวร้าย หลังๆเห็นเข้มป้วนเปี้ยนรันก็นึกอยากให้คู่กัน แล้วสุดท้ายก็ไม่พ้นคู่กันจริงๆๆ กรี๊ดดด
ส่วนคู่คุณพ่อที่ คิดมาตลอดว่าอยากให้คุณพ่อของหนูมีสามี 555 คิดตั้งแต่แรกๆที่อ่านเลย
ต่อมาที่คุณลุงหมอปรากฏแล้วก็มีแววซะด้วย ก็ัยิ่งกรี๊ดคู่นี้ มีฟามสุข  จะรออ่านนะคะ

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
เข้มสู้สู้แล้วกัน ตื้อเท่านั้นที่คลองโลก
ตามติดชีวิตรันเข้าไว้ เดี๋ยวก็ใจอ่อน

ออฟไลน์ iammz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-6
เข้มน่ารักอ่ะ >.<
ห่วงรันดีมากกกกก

ออฟไลน์ sukaz

  • I Will Love You Unconditionally
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
อร๊ายยยย เข้ม นายดูดี มากกกก


 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ TIKA_n

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +308/-4
ชอบคู่นี้ ชอบ ๆๆๆ  :ling1: พี่เข้ม เวอร์ชั่นนี้ ได้ใจเราไปเต็ม ๆ เลย
โหดร้ายกับคนอื่น แต่อ่อนโยนกับน้องรันคนเดียว  :-[ น่ารักแบบเถื่อน ๆ นะพี่เข้ม
ถึงตอนนู้นนน จะเคยเชียร์พี่ไป่ แล้วไม่ชอบพี่เข้มเลย แต่ตอนนี้ไม่แล้วน้า
แล้วจริง ๆ แล้ว พี่ไป่กับน้องรัน ก็ไม่มีอะไรในกอไผ่กันซักนิด เราจิ้นกันไปเองนินะ
แต่พี่เข้มนี่สิ ถึงแรก ๆ ที่ไม่ถูกกับเฮีย จะดูเลว ๆ ร้าย ๆ แล้วออกแนวโรคจิต ๆ ด้วย
แต่ตอนนี้ อย่างกับคนละคน ความรักทำให้คนเราเปลี่ยนแปลงได้จริง ๆ เปลี่ยนในทางที่ดีด้วย
พี่เข้ม คงได้คิดตาม ที่เฮียบอกด้วยสินะ ว่าถ้าจริงใจกับน้องรันจริง ๆ เฮียก็จะไม่ห้าม
ตอนนี้ เลยขอใช้เวลา ที่จะได้อยู่ใกล้ชิดน้องรันอีกแค่สามปี เพื่อดูแลปกป้องน้องรันเต็มที่
ถ้าไม่ได้พี่เข้มมาช่วย ตอนนี้น้องรันของเราแย่แน่ ๆ พวกนักโทษด้วยกัน มีพวกเลว ๆ ขี้อิจฉา
คอยระราน มันก็ต้องมีบ้างเป็นธรรมดา แต่ขนาดพวกผู้คุม พัสดี ก็เป็นไปด้วยนี่สิ แย่จริง ๆ
น้องเบียร์ โชคดีแล้วที่ได้หลุดพ้นจากที่นี่ไปได้ก่อนใคร พอเป็นอย่างนี้ รู้สึกว่าก็ยังดี
ที่เฮีย ยังอยู่คอยเป็นที่พึ่งให้คนอื่น ๆ ได้ เพราะสองนายก็ไม่อยู่ช่วยแล้ว ถ้าไม่มีเฮียอีกคน
คนที่ต้องยังอยู่ที่นี่ คงแย่ยิ่งกว่านี้ น้องรันไปตามเฮียมาช่วย หวังว่าเฮียจะช่วยพี่เข้มได้น้า

ดีใจที่คู่นี้จะได้เพิ่มอีกตอน ขอบคุณคนเขียนนะคะ (จริง ๆ อยากได้เพิ่มอีกนะเนี่ย แหะ ๆ :m23: )
แต่ คนเขียนจ๋า อย่าลังเลเลยน้า ให้เค้าคู่กันไปเถอะน้าาา ได้โปรดเถอะค่า เห็นใจพี่เข้มเถอะนะจ้ะ :impress:
รอตอนหน้า จะเป็นพี่เข้มได้เป็นฝ่ายเล่าบ้างมั้ยน้า อยากรู้ความรู้สึกด้านพี่เข้มบ้างจัง
ขอบคุณคนเขียนนะคะ  :L1:

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
ก็ไม่วายโดนกลั่นแกล้งเนาะ

อย่างรันนี่เรียกซึนป่ะ  ทำเป็นเกลียดเข้ม แต่เอาจริงมีอะไรก็นึกถึงเข้มตลอดๆ

ออฟไลน์ snack

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 951
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-0
เข้มจากผู้ร้ายกลายมาเป็นพระเอกในทันทีเลย555

รันยังไงๆก็อย่าใจแข็งให้มากนะคนเค้าลงทุนปกป้องดูแลขนาดนี้แล้ว

หลังจากโดนขังเดี่ยวก็เอาใจเข้มหน่อยละกันเพื่อเป็นการไถ่โทษที่ซัดไปซะหลายที

ทั้งๆที่เค้ามาช่วยแท้ๆ..ส่วนไอ้ดำนี่ต้องให้โดนกระทืบหนักๆเลยสันดารเลวจริงๆ

ออฟไลน์ kataiyai

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +170/-1
ในที่สุด เข้มก็เริ่มมีความหวัง

น้องรันก็รีบใจอ่อนเหอะ เดี๋ยวเข้มช้ำใจ

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
เข้มสู้สู้ :ped149:

ออฟไลน์ envylover

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 166
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
เข้มแมนมากอ่า ชอบบบบบ >< แมนเถื่อน เกลียมัวด้วย

พัศดีเหมือนจะไม่ดีเลยแหะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ StillLoveThem

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3253
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +295/-10
...คู่นี้ก็ฮา น้องรันพูดแต่ละประโยคทำเอาพี่หัวเราะเลย หรือเราเส้นตื้นวะ
...เข้มเค้าเป็นผู้ชำนาญการในคุกไม่ต้องห่วงเค้าหรอก เข้มทนได้ ขังเดี่ยวอาทิตย์เดียว  รักจริงหวังดูแลนะนั่น
...น้องรัน ก็เกลียดเอ๊าเกลียดเอา แต่พอมีเรื่องคิดถึงเข้มทุกที มันรัก หรือเกลียดกันแน่
:laugh:

ออฟไลน์ Lily teddy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-2
 :katai1: โอ๊ย ตอนนี้สงสารพี่เข้มมากเลย ทำดีสารพัดน้องรันยังเย็นชาใส่อีก
พี่เข้มอุตสาห์กลับตัว กลับใจ เจ็บตัวเพราะน้องรันซะเยอะขนาดนี้
เพราะง้้นขอโอกาสให้พี่เข้มได้เป็นคนดูแลน้องรันเถอะนะคะ คนเขียนอย่าใจร้ายกะพี่เข้มเลยนะ  :monkeysad:
เข้มรันอะดีที่สุดแล้ว แล้วนี่ขนาดเฮียยังอยู่ยังโดนกลั่นแกล้งขนาดนี้
ถ้าเฮียออกจากคุกไปแล้วพี่เข้ม น้องรัน ปาน โจ๊กจะเป็นยังไงนะ
ขอให้ทุกคนได้ออกจากคุกไปเริ่มต้นชีวิตใหม่อย่างสงบเถอะนะคะ
รอติดตามทุกคู่ ทุกตอน ทั้งรุ่นเล็ก รุ่นใหญ่ และบวก บวกเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนต่อไปค่ะ
เข้มรัน เข้มรัน เข้มรัน สู้ สู้  :pig4: :L2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-02-2014 20:19:55 โดย Lily teddy »

ออฟไลน์ automaton

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 346
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
พี่เข้ม เข้มได้ใจจริง ๆ
จะทำยังไงให้น้องรันใจอ่อนลงได้นะ
รอลุ้นต่อไป
ไม่อยากให้จบเร็ว ๆ เลย อยากอ่านต่อไปเรื่อย ๆ
ขอบคุณที่แต่งนิยายสนุก ๆ ให้อ่าน
 :pig4:

ออฟไลน์ gneuhp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 303
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
เข้ม พระเอกมากอ่ะ
หวังว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับ เข้ม นะ

ออฟไลน์ entirom

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1010
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-2
เรื่องรัน น่าคงไม่จบง่ายๆหรอกมัง
จนกว่าจะได้ออกไป

ออฟไลน์ FerFii3

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 34
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
วันนี้มีเวลาว่างเข้ามาตามอ่านคู่น้องรันแล้ววววว :impress2:
บอกตามตรงเลยค่ะว่าตอนรู้ว่ารันน่าจะคู่พี่เข้มยังนึกภาพไม่ออก  :hao4:
แหม...พี่เข้มประวัติโชกโชนหนะ ขอเวลาทำใจนิดนึงค่ะ ฮ่าๆๆ

คงจะเหมือนรันที่ยังมึนๆอยู่ว่าเข้มเปลี่ยนไปขนาดนี้เชียว
ความรักช่างทรงอานุภาพ ว่าแต่เข้มไปคิดรักรันจริงจังเอาตอนไหนนะ  :-[
แต่พออ่านตอนนี้แล้วก็ต้องแอบให้คะแนนพี่เข้มเพิ่มและเอาใจช่วย
ถ้าน้องรันรักพี่เข้มเมื่อไหร่ เราก็จะรักตามค่ะ อิอิ

ปล*ไปพักผ่อนเป็นไงบ้างคะ หายเหนื่อยแล้วรีบมาอัพต่อน๊าค้างงงงงงงค่ะ 555
 :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ NewYearzz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2544
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +346/-2
อยากอ่านมุมเข้มบ้างครับ ว่าอะไรที่ทำให้เปลี่ยน  :call:

ออฟไลน์ winndy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1128
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
มาลุ้น รันกับเข้มค่ะ

ออฟไลน์ greenapple

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1115
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-5
 :mc4: :L2:
มาให้กำลังใจค่ะ
 :mew1:

ออฟไลน์ goonglovenut

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 810
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1188/-10
>> ป.50 << Run  # End


“กูไม่ยอมตายหรอก กูจะอยู่ดูแลจนกว่ามึงจะได้ออกไป กูสาบาน”

เป็นประโยคสุดท้ายที่มันพูดกับผม ก่อนจะเดินตามผู้คุมไปยังห้องขังเดี่ยว ทิ้งไว้แต่ผมที่ยังยืนอยู่ตรงนั้นเหมือนถูกคำพูดมันสาปไว้
.
.
.
.

“ไอ้ สัด”

“ไอ้เหี้ย”

“พวกแม่ง ต้องการจวยอะไรนักหนาวะ”ไอ้ปาน ไอ้โจ๊ก สบถด่าหลังจากผมกลับมาเล่าให้พวกมันฟัง ตอนนี้เป็นเวลามืดแล้ว ไอ้เฮียก็ยังไม่กลับมา ผมอยากจะให้มันรู้เร็วๆจังเลย จะได้ไปช่วยไอ้เข้ม ไม่รู้ผมกับมันทำบุญร่วมชาติ สันนิบาตสร้างสรรค์ กันแต่ชาติปางไหน ถึงได้ปีชงกันตลอด

“กูว่าแล้ว พวกมันต้องเล่นสกปรก โสโครก ขี้กลาก ขี้เกลื้อน ขี้เรื้อน สังคัง ใส่พวกเรา เหี้ยเอ้ย”ไอ้โจ๊กลากสารพัดโรคติดต่อมายำด่าพวกมัน สาธุขอให้พวกมึงติดโรคให้หมด ไอ้พวกชอบแทงข้างหลัง ยกเว้น แทงถูกวิธี

“ดีนะ ที่ไอ้เข้มมันตามติดก้นมึงตลอด ไม่งั้น มึงได้มีผัวที่ไม่ใช่มัน แถมเยอะด้วย”ไอ้ปานหันมาตบไหล่พูดสีหน้าจริงจัง

“จวย ไม่ว่าใครกูไม่อยากได้ทำผัวทั้งนั้นแหละ”ผมตบหัวมันกลับไม่แรงนัก

“แล้วนี่ ไอ้เฮียยังไม่มาอีกเหรอวะ เฮ้ย ! หรือว่ามันจะโดนดักเล่นเหมือนพวกมึง”ไอ้โจ๊กพูดถึงไอ้เฮีย ทำเสียงตกใจประกอบประโยคการพูดไปด้วย

“นั่นสิ ปกติมันไม่เคยกลับดึกขนาดนี้นะ กูชักห่วงมันแล้วสิ”ไอ้ปานเห็นด้วย ผมส่ายหน้า

“จะเล่นไอ้เฮีย พวกมันต้องวางแผนให้ดี ไม่งั้นจะถูกเล่นเอง กูว่ามันไม่เป็นอะไรหรอก”ผมเป็นห่วงมัน แต่ก็มั่นใจว่ามันไม่เป็นอะไรแน่นอน ไม่ใช่ว่าไอ้เฮียเก่งเกินคน แต่มันก็จัดว่ารอบครอบและระวังตัวคนหนึ่ง มันไม่เคยประมาท นอกจากเกินจะป้องกันเหมือนตอนที่ถูกจับและเจ็บหนักคราวก่อน

“เออ เดี๋ยวมันก็คงมา แต่ พวกมันจะสร้างเรื่องเหี้ยๆทำไมวะ”ไอ้โจ๊กพยักหน้าก่อนจะสงสัยปนด่าไอ้พวกนั้นไปด้วย แต่ก็ไม่มีใครตอบ คงต้องรอปรึกษาไอ้เฮียก่อน

“มึงไม่เจ็บตรงไหนแน่นะ ไอ้รัน ช้ำในหรือเปล่า”ไอ้ปานยังถามผมด้วยความเป็นห่วง เพื่อนร่วมห้องขังหลายคนพอทราบเรื่องก็ไม่พอใจเช่นกัน ต่างพูดว่า ไอ้ดำ มันต้องการจะมาคุมที่นี่ด้วยแน่ มันนึกว่าบ้านจัดสรรหรือที่ดินมูลค่ามหาศาลหรือไงวะ ถึงอยากได้นัก คราวหน้าเสนอทางเรือนจำให้หย่อนบัตรเลือกตั้งขาใหญ่ประจำแดนดีกว่าไหม จะได้ไม่มีปัญหา หรือ มากกว่าเดิม เพราะมีการซื้อสิทธ์ ล้างตู้เย็นฟรีพร้อมแจกตุ๋ยทองคำ ให้กับคนที่เลือกขาใหญ่นั้น เหมือนเลือกตั้งข้างนอกที่มีการแจก อุ๊บ ผมหุบความคิดดีกว่า เดี๋ยวเป็นประเด็น

“ไม่มี กูน้อยกว่าไอ้เข้ม มันถูกแทงด้วยนะ ถึงไม่ลึกแต่ก็เลือดออกเต็มไปหมดเลย มึงว่าผู้คุมเขาจะพามันไปหาหมอไหมวะ”ผมส่ายหน้าในตอนแรก ก่อนจะพูดถึงไอ้คนที่โดนหนักกว่าผม อย่างเป็นห่วง ถึงยังไงมันก็ช่วยผมไว้

“ฮึ คงพาไปหรอก กูว่าพวกมันจะซ้ำซะมากกว่า”ไอ้โจ๊กแค่นยิ้มพูดประชด ไอ้ปานสะกิดมองพยักหน้าไปทางประตูที่ผู้คุมเดินถือกระบองตรวจตราตามหน้าที่ เพื่อนร่วมคลาสขังรวม เอนตัวลงนอนบ้างแล้ว หลังปฏิบัติภารกิจกันมาเกือบทั้งวัน นอนไม่หลับก็ต้องนอนเพราะเป็นเวลาที่ถูกกำหนดมาแล้ว

“มึงพูดอะไรระวังหน่อย ไอ้โจ๊ก ประตูมีช่อง กรงมีซี่ เดี๋ยวพวกมันได้ยินก็เล่นมึงอีกคนหรอก”ไอ้ปานพูดเตือน มันก็ไม่พอใจเช่นกัน แต่ก็ต้องระวังคำพูดคำจาเอาไว้บ้าง

“ช่างแม่ง กูไม่ได้เอ่ยชื่อสักหน่อย”ไอ้โจ๊กพูดอย่างไม่สนใจ แต่มันก็เบาเสียงลง ไม่ได้กลัว แต่เกรงไอ้ปานที่มันอุตส่าห์เตือนด้วยความหวังดี พอกับผู้คุมมองเข้ามา ผมเลยพยักหน้าให้เอนลงนอน สักพักจึงหันกลับไปทางเดิม

“เหี้ย หูดีจังนะพวกมึง ทีตอนมีเรื่อง หูตึงขึ้นมาทันที”ไอ้โจ๊กยังไม่วายเหน็บ

“ผู้คุมบางคนเขาก็ดี แต่กูว่าครั้งนี้พวกมันวางแผนมาแล้วมากกว่า”ผมออกความเห็นอย่างเป็นกลาง ผู้คุมที่คุ้นหน้าถูกย้ายไปอยู่อีกแดน เหมือนพวกผมถูกจับตามองยังไงก็ไม่รู้ ถ้านายยังอยู่คงไม่เป็นแบบนี้ ยังดีที่ไอ้เฮียอยู่ด้วย

“กูก็ว่างั้น เฮ้อ ไอ้เข้มมันคงไม่เป็นไรหรอก หนังมันหนา ถ้าตายมันคงตายไปนานแล้ว”ไอ้โจ๊กถอนหายใจ ก่อนจะพูดถึงไอ้เข้มแบบติดตลก ตั้งแต่ผ่านเหตุการณ์ด้วยกันมาดูจะคุยกันรู้เรื่องมากขึ้น ไม่มีเขม่นใส่กัน ไอ้พัฒน์กับพวกอีกสามคนอยู่อีกแดน มันก็พยายามโฉบมาคุยด้วยตลอด  เมื่อเย็นลูกน้องไอ้เข้มก็มาถามข่าวลูกพี่เหมือนกัน เหี้ยยังไงมันก็รักลูกพี่มัน ลูกน้องมันบอกว่า พี่เข้มเป็นคนที่โหด ไม่เอาใคร แต่ถ้าให้ใจก็ให้กลับ บอกกูเพื่อ ไม่ได้ถามสักหน่อย

“เฮ้ย ไอ้เฮียมาแล้ว”ไอ้ปานร้องบอก ทำให้ลุกจากที่นอนกันพรึบพรับ รวมทั้งผมด้วยที่เด้งตัวทั้งที่ไม่ใช่ที่นอนสปริง แต่ไม่มีใครลุกไป ผู้คุมหันมามองด้วยสายตาเอาเรื่องที่ส่งเสียงฮือฮา เลยพากันเงียบ ได้ยินเสียงผู้คุมถาม

“วันนี้กลับช้ากว่าเวลานะ”ผู้คุมหน้านิ่งถามเสียงเรียบ แต่ไม่เท่าหน้าไอ้เฮียที่ยิ่งกว่า มันยื่นเอกสารให้ผู้คุมที่รับเอาไปและเปิดอ่าน

“ขอโทษครับ ผมทำธุระเพิ่งเสร็จ”ไอ้เฮียพูดด้วยเสียงเดียวกัน เซ็นชื่อลงในสมุดบันทึกที่ผู้คุมอีกคนเอามาให้พร้อมตรวจค้นร่างกาย ผู้คุมมองหน้ากันก่อนจะส่งคืน

“คราวหน้าก็รีบหน่อยแล้วกัน”ผู้คุมบอกก่อนจะไขห้องขัง

“ครับ”ไอ้เฮียรับคำ พร้อมรับเอกสารคืน จังหวะที่กำลังเดินเข้า

“ผมไม่อยากให้คนอื่นเอามาเป็นข้ออ้างสิทธิไม่เท่าเทียมกันในการปฏิบัติตามกฎระเบียบ จะทำให้ควบคุมยาก เพราะมีตัวอย่างให้เห็น”ผู้คุมพูดขึ้นมาถึงกฎระเบียบในเรือนจำ คงไม่จบแค่นี้ ไอ้เฮียหันไปมองด้วยสีหน้านิ่งตามเดิม

“ไม่ใช่ว่า ทำดีไถ่โทษ แล้วจะถือโอกาสใช้สิทธ์เหนือนักโทษคนอื่น ยังไงก็ยังเป็นนักโทษอยู่”ผู้คุมอีกคนพูดขึ้นมาบ้าง

“ครับ ขอบคุณที่เตือนด้วยความหวังดี”ไอ้เฮียก้มหัวเล็กน้อยเป็นการรับคำ ทำเอาผู้คุมยกยิ้มแบบว่าตัวเองเหนือกว่า ก่อนจะหุบยิ้มเมื่อได้ฟังประโยคถัดมา


“เอาไว้ ผมจะบอก ผอ.เรือนจำ ว่า อย่าให้ผมทำงานล่วงเวลาบ่อยเกินไป เดี๋ยวผู้คุมที่มีความรับผิดชอบอย่างพวกคุณจะลำบากใจในการปฏิบัติหน้าที่”

ไอ้เฮียพูดเรียบๆ ก่อนจะหันหลังเดินกลับมาที่ตัวเอง ปล่อยให้ผู้คุมยืนหน้าเสียไปพัก คิดได้ก็ชักสีหน้า ปิดห้องขังเสียงดัง และเดินไปจากตรงนั้น

“ฮ่าๆๆๆ เจ๋งว่ะ”ไอ้โจ๊กหัวเราะเสียงไม่ดังนัก แต่สีหน้าบอกว่าสะใจที่ผู้คุมถูกตอกหน้า

“แม่ง ง่อยแดกไปเลย”ไอ้ปานแสยะยิ้มพูดบ้าง คนอื่นหัวเราะชอบใจเช่นกัน

“พูดเหมือนหวังดี แขวะมึงชัดๆ ถุย”ไอ้โจ๊กเบะปาก

“กูแปลกใจว่าผู้คุมเก่าถูกย้ายไปทำไมวะ”ไอ้ปานถามอย่างสงสัย

“นั่นสิ กูรู้สึกว่าตั้งแต่เปลี่ยนผู้คุมใหม่ พวกเรามีแต่เรื่องฉิบหายเข้ามาเยือน”ไอ้โจ๊กสงสัยขึ้นมาบ้าง

“มึงไม่เป็นไรใช่ไหม”ไอ้เฮียไม่ตอบหันมาถามผมที่นั่งเงียบ รอจะเสียบเล่าเรื่องบ้างแต่ไม่มีโอกาส

“ไม่เป็นไร แต่”ผมตอบมันแต่ยังไม่ทันจบ

“ปล่อยให้มันติดไปก่อน”ไอ้เฮียพูดแทรกขึ้นมา พวกผมขมวดคิ้วมองหน้ากันอย่างแปลกใจ แสดงว่ามันรู้เรื่องแล้ว

“ทำไมวะ มันบาดเจ็บด้วยนะมึง”ผมถามพยายามหาเหตุผลมายกประกอบไม่ให้เป็นการออกนอกหน้าจนเกินไป

“มันต้องโดนซ้อมแน่ระหว่างอยู่ในนั้น”ไอ้โจ๊กพูดเสริม เหมือนจะช่วยทำให้เหตุผลดูสมควรไปช่วยยิ่งขึ้น ผมมั่นใจว่าไอ้เฮียไม่ได้เกลียดหรือแกล้งไม่ช่วยไอ้เข้มแน่นอน แต่มันมีเหตุผลอะไร ไอ้ปานเขยิบตูดพร้อมอ้าปากจะพูดบ้าง

“มันไม่เป็นอะไรแล้ว หมอไปดูบาดแผลเรียบร้อย”ไอ้เฮียพูดออกมา ทำเอาเหตุผลและข้ออ้างหายเป็นปลิดทิ้ง แล้วกูจะยกอะไรอ้างกับมันได้อีกวะ ไอ้สองคนยักไหล่คงคิดเหมือนผม

“มึงไม่ต้องห่วง มันถูกขังไม่ถึงอาทิตย์หรอก อีกสองวันก็ออกแล้ว”มันหันมาพูดเจาะจงกับผมโดยเฉพาะ

“กูไม่ได้ห่วง ที่กูอยากให้มึงช่วยเพราะมันไม่ได้ผิด มันถูกขังเพราะช่วยกูไว้ กะ กู ไม่อยากติดหนี้บุญคุณมันต่างหาก”ผมพูดออกไปอย่างเร็วตะกุกตะกัก เหมือนกลัวจะถูกเข้าใจผิด ไม่จำเป็นต้องอธิบายก็ได้ ไอ้เฮียมันไม่ได้พูดจับผิดสักหน่อย

“อืม”มันพยักหน้า ก่อนจะเอนตัวลงนอน มึงไม่อาบน้ำเหรอวะ หรือแวะอาบมาแล้ว ใช่เรื่องที่กูควรจะสนใจตอนนี้ไหม มันหลับตาลงเอามือก่ายหน้าผาก ทำให้พวกผมต้องเอนตัวลงนอนบ้าง กำลังจะหลับตาลงบ้าง แต่ต้องเหลือกตาเมื่อได้ยิน
.
.
.

“กูพูดตามสีหน้ามึง”

“ครึ ครึ”

“คิก คิก”

“โดน โดนเต็มๆ”

“สัด หลับไปเลย”


ผมหันไปถีบไอ้สองคนที่คิกคักชอบใจกับสิ่งที่ได้ยิน พวกมันกลั้นหัวเราะ มีแต่ผมที่ยังสงสัย


‘หน้ากูแสดงออก เหมือนความรู้สึกในใจเลยเหรอวะ’

ไม่จริงหรอก ผมไม่ได้รู้สึกห่วงมันแบบนั้น แล้วมันแบบไหนล่ะ เพราะผมยังไม่รู้ตัวเองเลยว่าแบบไหน รู้แค่ห่วงมัน

“โอ้ย ทำไมมึงต้องมารังควานกูให้ห่วงด้วยวะ”

คิดไม่ออก ผมเลยพูดเบาๆ อย่างพาลไอ้คนที่ทำให้รู้สึกห่วง  ห่วงอีกแล้ว กูจะหลับลงไหมเนี่ย คำว่าห่วงแม่งถ่างคาตากูเลย

.
.
.
.

ฉันมาทำอะไรที่นี่

ฉันมาทำอะไรที่นี่

นั่นสิ ผมมาทำอะไรที่นี่ กว่าจะรู้ขาก็ก้าวมายังสถานที่คุมขังนักโทษที่ทำผิดกฎระเบียบวินัยของเรือนจำ แต่ผมไม่ได้เข้าไปข้างใน ผมยืนอยู่ตรงหลังต้นไม้ เห็นแต่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเดินสวนกันไปมา

ฉันมาทำอะไรที่นี่

ผมยืมประโยคในเพลงป๋าเบริด์ มาถามตัวเองอีกครั้ง ว่ามาทำอะไรที่นี่  ก็ตั้งแต่ไอ้เฮียพูดว่า อีกสองวัน มันก็ออกมาจากในนั้นแล้ว ผมก็มายืนอยู่ตรงนี้ทันทีที่รู้ว่าวันนี้เป็นวันที่สอง อืม แล้ว อีกสองวันในความหมายไอ้เฮีย หมายถึง มันจะถูกปล่อยภายในวันนี้ หรือว่า ต้องหมดวันนี้ไปก่อน พอรุ่งขึ้นก็ถูกปล่อย เอาไงดีวะ ผมก็ไม่กล้าถามมันซะด้วยสิ กลัวมันพูดดีๆใส่ในแบบของมัน สู้ให้มันด่าซะดีกว่า แต่ก็นานครั้ง ไอ้เฮียจะด่าสักที บางทีไม่ด่า แม่ง ลงมือเลย ถ้าถึงที่สุด

“แล้วถ้ามันยังไม่ออกมา กูจะยืนรอมันนานก็ไม่ได้ด้วยสิ เดี๋ยวต้องไปทำอย่างอื่นอีก”ผมทรุดตัวลงนั่งกับพื้นหญ้า เอามือท้าวคางทั้งสองข้างอย่างครุ่นคิด

“แล้วกูจะรอมันทำไมวะ เดี๋ยวมันออกมาก็เห็นเองนั่นแหละ ถ้าไม่เห็นก็แสดงว่ายังไม่ออก”ผมพูดเองตอบเอง ลุกขึ้นกำลังจะหันกลับไปมองอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่ามันไม่ออกมา


“มารับกูเหรอ”

ผมยืนชะงักอยู่กับที่ เมื่อได้ยินเสียงทุ้มผสมความดีใจ เหมือนเด็กที่ผู้ปกครองมารับ แต่คงไม่มีเด็กที่ไหนพูดกูมึงกับผู้ปกครองตัวเองแบบไอ้เด็กคนนี้แน่ มันอายุน้อยกว่าผมแต่ไม่บอกหรอกเท่าไหร่ ถ้าบอกก็รู้สิว่าผมอายุมากกว่ามันกี่ปี

“ว่าไง มารับกูใช่ไหม”

มันถามย้ำเมื่อเห็นว่าผมยังไม่หันกลับไป แต่ผมรู้ว่ามันเดินมาใกล้แล้ว เพราะเงามันค้ำกบาลผมอยู่ ความสูงเป็นสิ่งเดียวที่ผมน้อยกว่ามัน อย่างอื่นผมไม่รู้ ไม่อยากคิด คิดแต่ว่าจะตอบมันยังไงดี มาเดินเล่น หลงทาง เหอะ ตัดไปได้เลย เหตุผลมันดูนางเอกละครมากเกินไป ผมเดินไปข้างหน้าสามก้าวก็ยังไม่พ้นเงาที่ทาบทับ แต่คงดีกว่าที่จะหันไปชนกันพอดี ผมหันไปเผชิญหน้า กำลังอ้าปากจะพูดกลายเป็นอ้าปากค้างพูดไม่ออกแทน

ไอ้เข้ม

มัน

มัน


ยิ้ม!

ยิ้มที่ไม่ใช่แสยะ

ยิ้มที่ไม่ใช่เยาะ

ยิ้มที่ไม่กวนตีน

ยิ้มแบบที่

ผมไม่เคยเห็นมาก่อน

มันเป็น

ยิ้มที่บริสุทธิ์

เหมือนมนุษย์ทั่วไปเขายิ้มกัน

ผมหันหลังกลับอีกรอบ กลืนน้ำลาย ตั้งสติให้กลับมา หลังเตลิดไปกับรอยยิ้มเห็นฟันเรียงสวย ไม่น่าเชื่อว่าฟันมันจะสวย และคงเป็นครั้งแรกที่ผมสังเกตมันละเอียดขนาดนี้

“ดีใจ ที่ออกมาเจอมึงเป็นคนแรก”มันเป็นฝ่ายพูดทำลายความเงียบ น้ำเสียงเริ่มระริกระรี้ ไม่ได้ ผมต้องขัดอารมณ์มันรวมถึงตัวเองด้วย

“เจ้าหน้าที่ไม่ใช่เหรอที่มึงเจอคนแรก เพราะเขาปล่อยมึง ไม่ใช่กูสักหน่อย”พูดใส่มัน แต่ทำไมฟังดูไม่ทำร้ายจิตใจเลยวะ เหมือนต่อปากต่อคำเวลาเวลาทะเลาะกันแบบไม่รุนแรงเข้าข่ายประเภท  งอน  อีกฝ่ายอยู่ แล้วกูจะพูดให้รู้สึกแบบนี้ทำไมวะ


“กูไม่นับ สนแค่มึง”

มันตอบกลับมา เป็นการยืนยันว่า คนพวกนั้นนอกสายตา ในสายตามองแต่ไอ้คนที่มันเรียกว่า  มึง  เท่านั้น กลายเป็นกูที่โดนทำร้ายจิตใจแทน มันเต้นแรงยิ่งกว่าแผ่นดินไหวที่ไม่เคยได้สัมผัสว่าเป็นยังไง แต่อยากเปรียบให้รู้ว่ามันเป็นประมาณนั้น ก่อนจะสะดุ้งเผลอกระแทกศอกใส่ตามสัญชาติญาณ

“โอ้ย”มันร้องออกมา เอามือกุมท้อง ผมมองอย่างตกใจ ก่อนจะเข้าไปจับแขน

“เป็นไรไหม กูไม่ได้ตั้งใจ แค่ตกใจ”ผมรีบบอกมัน แค่เห็นมันทำหน้าว่ากูไม่ได้คิดจะทำอะไร แววตาอ่อนลงอย่างมาก

“ไม่เป็นไร กูขอโทษที่จับมึง”มันส่ายหน้าพร้อมขอโทษ

“กูไม่ได้คิดอย่างนั้น แค่ตกใจเฉยๆ”ผมพูดเสียงหงุดหงิดใส่มันที่พูดโทษตัวเอง และเหมือนผมรังเกียจมัน

“คิดอะไรเหรอ”มันถามกลับเสียงแปลกใจ ผมนึกได้ นั่นสิ ผมคิดว่ามันคิดอะไรวะ แล้วรู้ได้ยังไงว่ามันคิด

“ปะ เปล่า ไม่มีไรหรอก ไปยังล่ะ หรือมึงอยากเข้าไปอยู่อีก”ผมพูดปฏิเสธกลบเกลื่อนความรู้สึก เกลียด มันหายไปแล้ว หายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้  รู้สึกตัวเองร้อนตัวยังไงไม่รู้ หันหน้าเดินหนีจากตรงนั้น

“รอด้วยสิวะ”มันร้องบอกพร้อมเดินกึ่งวิ่งตามจนทัน แต่ก็เดินตามติดข้างหลัง ผมปรายตามองเห็นมันยังเอามือกุมท้องอยู่

“มึงเจ็บใช่ไหม โอ้ย”ผมหันไปถามมัน ก็หัวกระแทกปลายคางมันเข้าให้ “เหี้ยเข้ม แม่ง มึงไม่สิงร่างกูเลยล่ะ ฉิบหายเดินติดขนาดนี้ หัวกูแตกแล้วมั้ง”ผมด่ามันเอามือกุมหัวไปด้วย

“โทษทีว่ะ กูไม่รู้ว่ามึงจะหยุดนี่หว่า”มันรีบเอามือมาดึงมือผมออก พูดเสียงอ่อยๆ

“กูผิดล่ะสิ ที่หยุดไม่บอกมึง”ผมเงยหน้าขึ้นไปด่ามันอีก แม่ง โทษกูอีก

“ไม่ใช่ เออๆ กูผิดเองแหละที่เดินติดมึงเกินไป ไหนกูดูสิ หัวโนเปล่า”มันรีบยกไปใส่ตัวเอง ก่อนจะดูหัวผม ระยะที่ยืนห่างไม่ถึงคืบ ทำให้เห็นหน้ามันชัดๆ หน้าคมเข้ม ถ้าเป็นแต่ก่อน หน้าโรคจิตฉิบหาย ยิ่งแสยะยิ้มนี่ใช่เลย ตอนนี้กลับดูดีไม่น่าเชื่อ ผิวสีทองแดงมีร่องรอยทั้งแผลเก่าแผลใหม่ ก็ไม่ได้น่าเกลียด มันยังเหลือผิวบางส่วนให้เห็นว่าเนียน มือที่เคยฆ่าคนมานับไม่ถ้วน ทั้งหยาบทั้งสาก แปลกกลับเบามือดูนุ่มนวลเมื่อมันกำลังสัมผัสหัวผมอยู่ ไล่ลงไป อืม เลยไปดูตีนดีกว่า อาจทำให้ผมหยุดความคิดที่ว่า


รู้สึก มึงจะดูดีเกินไปแล้ว

“ไม่โนว่ะ ไปกันเถอะ”เสียงมันหยุดความคิด แทนตีนมันที่ไม่ได้ช่วยอะไรผมเลย แต่กลับเดินต่ออย่างว่าง่าย ก่อนจะหยุดสายตาที่ท้องมันเหมือนมีน้ำซึมออกมา ผมหรี่ตาดูจนแน่ใจ

“แผลมึง เลือดออก”ผมบอกพร้อมชี้

“ไหน อ๋อ มันหายแล้ว นิดหน่อย”มันดูก่อนจะพยักหน้าว่าไม่เป็นอะไร

“คงโดนศอกกูแน่”ผมพูดออกมาอีก ก่อนจะตัดสินใจ

“ไปกับกู”พูดจบผมก็จับมือมันเดินไปอีกทางที่ไม่ใช่เรือนนอนทันที มันไม่ตกใจแต่ทำหน้าแปลกใจ ก่อนจะคลี่ยิ้มน้อยๆ

“ยิ้มทำส้นตีนอะไร”ผมหันไปว่ามันที่ส่ายหน้า ไม่พูดได้แต่เดินตามแรงจูงของผม สงสัยดีใจที่มีคนจูงเดินเหมือนหมาล่ะสิ ไอ้เข้ม หึหึ
.
.
.
.

“แผลไม่เป็นไรมาก แต่รอยฟกช้ำคงอีกสองสามวัน หมั่นกินและทายาตามนี้นะ”เสียงหมอประจำเรือนพยาบาลบอกไอ้คนเจ็บที่พยักหน้า และรับซองยาไปถือเอาไว้อย่างไม่ใส่ใจจะดูว่าต้องกินและทายังไงบ้าง

“ถ้าสามวันไม่ดีขึ้น กลับมาหาหมอนะ”คุณหมอย้ำถึงอาการฟกช้ำ พูดอย่างใจดีและสุภาพ ไม่ว่าผู้ป่วยจะเป็นใคร หมอก็ต้องรักษาตามจรรยาบรรณที่ดีของอาชีพ

“ขอบคุณครับ หมอ อ้าว ใบ้แดกไงมึง ขอบคุณหมอเขาสิ”กลายเป็นผมที่เอ่ยปากก่อน พร้อมด่าเตือนสติไอ้คนเจ็บ

“ขอบคุณ”มันพูดแค่นั้น หมอก็ยิ้มและพยักหน้า ผมกับมันก็ออกจากเรือนพยาบาลตรงไปเรือนนอนตัวเอง เรือนนอนไอ้เข้มมันอยู่ติดผมนั่นแหละ แค่ลูกกรงกั้นเท่านั้น

“มึงไปโดนอะไรมาวะ”ผมถามมันอย่างสงสัยกับรอยฟกช้ำ บริเวณท้องที่เขียวอมม่วงดูน่ากลัวมาก

“หืม”มันเลิกคิ้ว ก่อนจะนึกได้ “อ๋อ ก็ที่มีเรื่องกับไอ้พวกนั้นไง”

“เยอะขนาดนี้เลยเหรอวะ”ผมถามมันอีกอย่างสงสัย เพราะวันนั้นถ้าผมดูไม่พลาด ไอ้เข้มแถบจะไปไม่โดนมือโดนตีนเลย มีแต่มันที่ยำใส่ไอ้พวกนั้นเน้นๆ หนักสุดก็โดนไอ้ดำเสียบเฉียดๆ

“อืม มันเพิ่งออกอาการ แต่ไม่เจ็บแล้วล่ะ”มันพยักหน้าก่อนจะยักไหล่ เดินแกว่งถุงยาไปมา

“แต่กูว่า เหมือนโดนของแข็งมากกว่า”ผมยังไม่เลิกสงสัย พูดถึงความน่าจะเป็น ดูสีหน้ามันไปด้วย

“...................”

“มึงถูกซ้อมใช่ไหม”ผมตัดสินใจพูดออกไป

“หึ ก็เหมือนที่เคยโดน กูชินแล้ว”มันแค่นยิ้ม มองหน้าผมที่เงียบไป ไม่ใช่ไม่รู้ว่ายังมีวิธีแบบนี้ที่นี่ ถ้าร่วมมือด้วยดีและยอมรับในสิ่งที่ทำ ไม่ว่าจะจริง หรือ ยัดเหยียด ก็จะไม่เจ็บตัว แต่ถ้าไม่ ก็มีสภาพแบบนี้ ถึงจะมีกฎห้ามทำร้ายหรือซ้อมนักโทษก็ตาม แต่ใครล่ะจะยื่นมือมาช่วย หาได้น้อยมาก

“ยังดี ที่ไอ้เฮียไปทัน”มันพูดต่อด้วยน้ำเสียงทุ้ม

“มันไปวันนั้นเลยเหรอ”ผมถามมัน ก่อนจะทรุดตัวลงนั่ง วันนี้กว่าจะถึงเรือนนอนคงอีกนาน แวะจุดพักตีนกันตลอด

“อืม มึงไม่ได้บอกมันเหรอ”มันพยักหน้าก่อนจะถามกลับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ goonglovenut

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 810
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1188/-10
“กูไม่เจอมัน จะเข้าไปหามันก็ไม่ได้ เลยไปรอที่เรือนนอน เล่าให้พวกไอ้โจ๊กกับไอ้ปานฟัง แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง จนไอ้เฮียกลับมาดึกเหมือนกัน แต่เหมือนมันจะรู้อยู่แล้วเรื่องมึง มันบอกว่า อีกสองวันมึงก็ออกแล้ว”ผมเล่าให้มันฟัง

“มึงเลยมารอกูใช่ไหม”มันถามกลับยิ้มๆ

“ตีนเห๊อะ กูแค่ไปดูให้แน่ใจว่ามึงออกจริงหรือเปล่า”ผมยกตีนถีบมัน

“และมันต่างกันไหน ยังไงมึงก็ไปรอรับกูอยู่ดี”มันพูดออกมาอีก ทำเอาผมคิดได้ คำพูดแก้ตัวกูไม่ได้ช่วยอะไรเลย มีแต่ฝังกูมากกว่าเดิม หน้ามันยิ้มระรื่น

“ต่างสิวะ กูหมายถึงว่า ไปดูให้แน่ใจว่ายังไงมึงก็ไม่มีทางออกมาแน่นอน สบายใจกูด้วย”ผมพูดขัดสีหน้ามันด้วยความหมั่นไส้ แทนที่มันจะสลด กลับพยักหน้าช้าๆ

“อ๋อ กูเข้าใจผิดไปเอง แต่มึงก็อดทนนะ นั่งดูให้แน่ใจเกือบสามชั่วโมง”มันพูดออกมาอีก ผมเกือบโล่งแล้ว ถ้าไม่ได้ยินประโยคหลัง เงยหน้าเบิ่งตาใส่มันที่ยกยิ้มมุมปาก

“มึง”พูดไม่ออก แสดงว่ามันเห็นผมตั้งแต่แรก


“บอกแล้วไง กูสนแค่มึงเท่านั้น”

และมันก็ตอกย้ำให้รู้อีกครั้ง ว่า มึง ที่มันเอ่ยถึง คือ คนที่อยู่ในสายตามันตลอด ผมอ้าปากก่อนจะหุบ หน้าเริ่มร้อนไม่ใช่คำพูดมัน แต่ยังรวมไปถึง ท่าทางการแสดงออกระหว่างที่ไปดูให้แน่ใจว่ามันจะออกมาไหม และก็แน่ใจว่ามันออกมาจริงๆ

“แล้วไอ้เฮียมันรู้ได้ไง”ผมเบนความสนใจออกจากตัวเอง ไปยังเรื่องที่สงสัย ถามมันดูจะง่ายกว่าถามไอ้เฮีย

“กูบอกตามตรง ไม่รู้”มันพูดจริงจัง และเป็นประโยชน์กับกูมาก ก่อนจะฟังมันพูดต่อ

“ระหว่างที่กูกำลังโดนผู้คุมบังคับให้เซ็นยอมรับว่าเป็นฝ่ายผิด หาเรื่อง ไอ้เหี้ยพวกนั้นก่อน แต่กูไม่ยอม มันพวกเดียวกันกับไอ้ดำ พวกมันถูกปล่อยตั้งแต่วันนั้น”มันเล่าให้ฟังเสียงเรียบพอกับสีหน้า

“กูว่าแล้ว พวกมันต้องโดนปล่อยตัว เห็นมันส่งสายตาให้กันอยู่ แล้ว ไอ้เฮียมันทำยังไงวะ”ผมกระตุกยิ้มเมื่อนึกไอ้คนพวกนั้นที่มีลับลมคมใน ก่อนจะถามถึงเหตุการณ์ตอนต่อไป

“มันกำลังจะลงมืออีก แต่เจ้าหน้าที่อีกคนเข้ามากระซิบ พวกมันเลยหยุด มึงต้องเห็นไอ้เฮียตอนเดินเข้ามาและยื่นเอกสารให้พวกมัน กูโคตรสะใจเลย แม่ง ซีดยิ่งกว่าศพอีก มองหน้ากันไปมาทำอะไรไม่ถูก และยิ่งกว่านั้น พอวันรุ่งขึ้น ไอ้ดำก็ถูกส่งตัวมา และคงจะติดครบอาทิตย์ หึหึ”มันเล่าต่อด้วยเสียงและสีหน้าสะใจปนสุขสม ผมพลอยอมยิ้มไปด้วย

“สม ไอ้พวกเหี้ย แม่ง น่าจะติดอยู่ในนั้นซะเลย”ผมพูดเสียงสะใจไปด้วย ก่อนจะหัวเราะชอบใจกัน พอนึกได้ก็เก้อกันทั้งคู่ ต่างคนต่างค่อยลดเสียงและหุบปาก หันไปมองคนล่ะข้าง

“ที่จริงวันนั้น ไอ้เฮียมันจะเอากูออกมาเลยก็ได้ แต่มันบอกให้อยู่เป็นพิธีสักหน่อย ว่าแต่ไม่มีใครรังแกมึงใช่ไหม”มันเป็นฝ่ายพูดทำลายความเงียบขึ้นมาก่อน ถามอย่างเป็นห่วงในน้ำเสียง

“ไม่มีหรอก ไอ้สองคนประกบกูตลอด แม้กระทั่งขี้ มันก็ตามไป ถ้าเข้าไปด้วยได้มันคงทำว่ะ ฮ่าๆๆๆ”ผมเล่าให้มันฟังขำๆ ก่อนจะหุบขำแทบไม่ทัน



“แต่กูเข้าไปได้นะ เพื่อความปลอดภัยของมึง”


“ไอ้สาดดดดดดดดดดดด ไอ้โรคจิต มึงจะเข้าไปแดกขี้กูหรือไง”ผมทุบมันอย่างลืมตัว มันก็หัวเราะเอามือปัดไม่จริงจัง ทำเอาผมหยุดมือ ใจเต้นอีกแล้ว ไอ้เข้มมันหัวเราะเห็นฟังเรียบสวยบนเหงือกสีชมพู ถ้ากว้างอีกนิด คงได้เห็นลิ้นไก่มันว่าสีชมพูเหมือนเหงือกหรือเปล่า แว๊กกกกก จะบ้าเหรอ กูจะสังเกตไปเพื่อ

“กูก็โรคจิตกับมึงนั่นแหละ”มันพูดออกมาอีกเสียงเบา

“กูไม่ชอบ มึงน่ากลัว”ผมตอบมันทันที นึกถึงตอนแรกที่เจอและถูกมันข่มเหง

“มึงคงกลัวกูมากสินะ”มันพูดออกมาอีก สบตาผม

“มาก แต่ไม่เท่า”ผมยอมรับ


“ความเกลียด ที่มีมากกว่า”


มันหน้าหงอยยิ่งกว่าเดิม ก่อนจะพยักหน้าและพูดต่อ“กูเข้าใจ เป็นใครโดนทำแบบนั้น ก็สมควรแล้วที่จะโดนเกลียด”

“ตั้งแต่กูก้าวเข้ามาอยู่ในนี้ กูก็โดนรับน้องเหมือนกัน กูขัดขืนและสู้ทุกอย่างเพื่อให้ได้เป็นหนึ่ง ไม่ให้ใครหน้าไหนรังแกกูได้ จนกูมีนายคนแรกในคุกช่วยส่งเสริมให้กูมีอำนาจมากขึ้น ใครไม่ลงไม่ยอมสยบให้ ก็ต้องเจ็บหรือไม่ก็หายไป ไม่มีใครกล้าหือกับกูแม้แต่คนเดียว จนวันหนึ่งนายกูถูกลอบฆ่าในคุก ทำให้ไอ้คนที่กูกดไว้บางคนเริ่มแข็งข้อ กูเกือบเสียท่าเหมือนกัน แต่เหมือนบุญกูยังมีอยู่บ้าง ที่บังเอิญไปช่วยนายเฟยเอาไว้ ทำให้กูมีอำนาจอีกครั้ง แต่นายเฟยไม่เหมือนนายกูคนไหนที่เคยผ่านมา นายมีกฎถ้านำเรื่องเดือดร้อนมาให้ นายจะไม่เลี้ยงไว้ แต่ถ้าหักหลัง โทษตายสถานเดียว ตอนแรกกูไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ ลองดีกับเขาในขั้นแรก นายสั่งสอนกูปางตาย เป็นครั้งแรกที่กูรู้สึกกลัว จนไม่กล้าทำอีก”ผมฟังมันเล่าด้วยสีหน้าว่าหวาดกลัวจริงๆเมื่อพูดถึงนายเฟย

“แต่ก็เป็นนายอีกนั่นแหละ ที่ทำให้กูไว้ใจและยอมถวายชีวิตให้ นายมีน้ำใจไม่เคยเอาเปรียบลูกน้อง กูติดคุกเพราะนายคนเก่าหักหลัง แต่ไม่ร้ายเท่า มันทำร้ายคนสำคัญเพียงคนเดียวของกูตาย คนสำคัญเพียงคนเดียวที่กูมีในโลกนี้”มันเล่าถึงนายด้วยน้ำเสียงชื่นชมและนับถือ ก่อนจะเจ็บแค้นเมื่อพูดถึงคนทำร้ายคนสำคัญของมัน และปิดท้ายด้วยสีหน้าและน้ำเสียงเจ็บปวดกับคนสำคัญเพียงคนเดียวของมัน ที่เอ่ยถึง คงเป็น

“คนสำคัญมึงชื่อ เต ใช่ไหม”ผมถามออกไปก่อนจะสะดุ้งเมื่อมันจ้องเขม็ง

“มึงรู้ได้ไง”มันถามอย่างสงสัย

“กู กู เคยเห็นรูปที่มึงทำร่วงอยู่”ผมบอกมัน เป็นรูปถ่ายคู่เก่ามากแล้ว ไอ้เข้มในตอนนั้นดูเป็นคนหน้าตาซื่อๆ ส่วนเพื่อนมันหน้าตาน่ารัก ยิ้มกว้าง เขียนชื่ออยู่ข้างหลัง ผมเก็บไปคืนแต่แอบเอาไปใส่ในกระเป๋าปืนมันทีเผลอ ตอนแรกกะจะไม่สนใจ แต่นึกได้ว่ามันยังเอารูปครอบครัวผมมาให้เลย

“ใช่ ไอ้เต เป็นคนสำคัญของกู ตั้งแต่จำความได้ก็เห็นมันแล้ว กูกับมันโตจากในบ่อนเจ้าของเลี้ยงเราเอาไว้ใช้งาน พอโตขึ้น เขาก็ให้มันไปทำงานในซ่องเป็นเด็กรับใช้ทำทุกอย่าง ได้ทิปจากผู้หญิงขายตัวและแขกทุกวัน มันเป็นคนขยัน ใฝ่เรียน ผิดกับกู ที่เอาดีทางด้านนักเลง แต่เราก็ไม่เคยทิ้งกัน เก็บเงินจนได้ก้อนหนึ่ง มันฝันอยากเรียนให้ถึงมหาวิทยาลัยจะได้มีงานทำดีๆไม่ต้องอยู่ในสภาพแบบนี้ไปจนตาย กูอยากทำให้ฝันของมันเป็นจริง ก็เลยรับจ้างทำงานทุกอย่างที่ได้เงินมาง่าย ไม่ต้องบอกใช่ไหมว่างานอะไร”มันเล่าถึงความผูกพันและปูมหลังของมันกับเพื่อน มันกระตุกยิ้มเล่าต่อ

“กูเดินโพยบอล หวยใต้ดิน เป็นหน้าม้าในบ่อน แม้แต่ส่งยา ได้เงินเท่าไหร่กูให้มันเก็บหมด โดยมันไม่รู้เลยว่ากูทำอะไรจนกระทั่ง ความผูกพันแบบเพื่อนเปลี่ยนเป็นคนรัก เป็นช่วงเวลาที่กูมีความสุขมาก พอพวกกูอายุสิบแปด มีคนมาเที่ยวและพอใจมันอยากจะซื้อ มันไม่ยอม ขัดขืนทุกอย่าง กูรู้เข้าเลยต่อยแขกคนนั้น จนคนที่เลี้ยงพวกกูมาเคลียร์ให้แต่กูก็เจ็บไม่ใช่น้อยกับการถูกซ้อม กูตัดสินใจพากันหนีออกจากที่นั่น ขืนอยู่มันก็คงไม่พ้นไอ้แขกเหี้ยนั่นแน่ มันจ่ายหนัก พวกกูไม่รู้จะไปไหนในตอนนั้น รู้อย่างเดียวต้องหนีให้พ้น นั่งรถไม่มีจุดหมาย จนมาถึงอีกจังหวัด ก็รับจ้างเขาไปทั่ว มันโชคดีมีวุฒิจบ ม.หก ได้ทำงานร้านขายของ กูไม่ได้จบอะไรสักอย่าง ไปทำงานตามสถานที่อย่างนั้นแหละ งานเดิมๆ”มันยกเข่าขึ้นมากอด ตามองข้างหน้า ผมนั่งฟังมันอย่างสนใจ มันคงรักคนชื่อ เต มาก ผมดูว่ามันไม่ได้เสแสร้งปั้นเรื่องขึ้นมา

“ในที่สุดมันก็ได้เรียนมหาวิทยาลัยสมใจ เป็นมหาลัยเปิด มันทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย กูก็ยังทำเหมือนเดิม จนกระทั่งเกิดเรื่องร้ายแรง กูพลั้งมือฆ่าคนทำร้ายนายจ้างตาย กูไม่อยากให้มันเดือดร้อน ก็เลยหนีไปทิ้งไว้เพียงจดหมายบอกว่าจะติดต่อกลับมา นายจ้างช่วยให้กูหนีไปอยู่กับคนใหญ่โตคนหนึ่ง และไอ้คนนี้แหละที่ทำให้ชีวิตกูเปลี่ยน”สีหน้ามันมีความสุขทุกครั้งที่เอ่ยชื่อคนสำคัญ จนผมนึกอยากจะขัดคอและลุกเดินหนีไปซะ ถ้าน้ำเสียงและสีหน้ามันไม่เปลี่ยนเป็นเจ็บแค้น

“เกิดอะไรขึ้นกับมึง”และผมก็เสือกอยากรู้อีกแล้ว ว่าทำไม

“ไอ้นายกูคนนี้ มันรวยมาก รู้จักคนใหญ่คนโตหลายคน มันค้าของผิดกฎหมายทุกอย่าง มีมือปืนไว้ใช้เองและรับจ้างวานฆ่าตามใบสั่งมากมาย กูไปเป็นลูกน้องก่อนจะล้มลูกพี่ตัวเองได้ และนั่นเป็นครั้งแรกที่กูฆ่าคนโดยไม่รู้สึกว่าผิดสักนิด พิสูจน์ให้เห็นถึงความชั่วที่มันพอใจ ทำให้กูเหลิงไปกับอำนาจและเงินทองที่ไม่เคยมีมาก่อน กูส่งไปให้ไอ้เตทุกเดือน กำชับตลอดอย่าบอกใคร กูไม่ได้ห่วงตัวเอง แต่ห่วงมันว่าจะมีอันตราย กูอยู่กับมันหลายปีสร้างผลงานไม่เคยบกพร่อง ใครที่ขวางทาง กูกำจัดให้มันได้หมด จนขึ้นบัญชีดำของทางการ แต่ก็อยู่มาได้สบายเพราะเส้นดี กูทำอย่างนี้เหมือนเป็นเรื่องปกติ จนคิดว่าตัวเองแกร่งพอจะดูแลไอ้เตได้ กูซื้อบ้านและไปรับมันมาอยู่ด้วย มันตื่นเต้นและสงสัยว่ากูไปเอาเงินมาจากไหน กูก็ยังไม่กล้าบอกมันอยู่ดี ได้แต่โกหก แต่มันไม่เชื่อแต่ไม่ได้ถาม จนวันหนึ่งมันรู้เรื่องเข้า ขอให้กูเลิก แต่กูรู้ว่ากูเลิกไม่ได้ กูก้าวขาเข้ามาแล้ว มันไม่มีทางปล่อยกูไปแน่ กูรับปากมันไปวันๆ แต่ในหัวก็คิดจะหาทางหนีทุกครั้ง จนทำให้พักหลังกูเริ่มทำงานพลาดบ่อย ทำให้มันไม่พอใจและเริ่มรู้ว่ากูจะตีตัวออกห่าง โดยที่กูไม่รู้ว่ามันรู้เรื่องแล้ว จนทำให้กูสูญเสียคนสำคัญที่สุดไป”มันเล่ามาถึงตอนท้ายด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่เศร้าหมอง ดวงตาที่แข็งกร้าวอ่อนลงอย่างกับไม่ใช่ไอ้เข้มคนเดิม

“ถ้ามึงไม่อยากเล่าต่อ ก็พอเถอะ กูขอโทษที่เสือกเกินไป”ผมตบไหล่มัน รู้สึกผิดที่ไปถามถึงความหลังที่คงเจ็บปวดไม่น้อย มันส่ายหน้า

“ให้กูเล่าเถอะ เป็นครั้งแรกที่กูอยากเล่าอะไรให้ใครฟัง”มันพูดเหมือนอยากจะระบายความในใจให้ใครสักคนฟัง มันคงไม่มีใครเลยในชีวิตนอกจากคนชื่อเต แม้แต่พ่อแม่ มันก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร ผมรู้สึกเห็นใจมัน และคิดว่าตัวเองโชคดีกว่ามันเยอะ ถึงไม่มีพ่อ แต่ก็ยังมี แม่ ยาย น้อง อยู่เคียงข้าง และมันล่ะเติบโตมาท่ามกลางสภาพแวดล้อมแบบนั้น ไม่มีใครสั่งสอนไปในทางที่ดี มีแต่คนสำคัญคนนี้เพียงคนเดียวที่อยู่เคียงข้างกับมัน

“และมันคงเป็นครั้งสุดท้ายที่กูจะพูดเรื่องนี้ เพราะหลังจากนี้นอกจากมึง กูจะให้มันตายไปกับตัว”มันพูดเสียงจริงจัง ฟังดูเป็นลาง แต่จะขัดมันก็คงไม่ได้ ผมเลยได้แต่พยักหน้าให้มันเล่าต่อ

“มันบอกว่าถ้ากูทำงานนี้สำเร็จมันจะปล่อยกูไป ตอบแทนที่กูทำงานให้มันมาหลายปี ในตอนนั้นกูดีใจมาก จนหลงลืมไปว่า ไม่มีสัจจะในหมู่คนชั่ว กูไปทำงานโดยไม่แคลงใจหรือระวังอะไรทั้งนั้น แต่มึงรู้ไหม วันนั้นใจกูเต้นแรงผิดปกติเหมือนจะหลุดออกจากอก นึกถึงแต่ไอ้เตตลอด ภาวนาว่าอย่าให้เกิดอะไรขึ้นกับมันเลย ถ้าจะเกิดขอให้มาลงที่กูแทน แต่สวรรค์ก็ไม่เข้าข้างคนชั่วอย่างกู กูทำงานเสร็จรีบกลับไปบ้าน บ้านที่เงียบจนน่าใจหาย มือกูสั่นตอนที่เปิดลูกบิด ยิ่งตอนที่เปิดออกกว้าง กูสั่นไปทั้งตัว”ไอ้เข้มทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ ตัวมันสั่นอย่างที่มันเล่า จนผมต้องจับมือมันเอาไว้

“กูพยายามก้าวขาไปหามันที่นอนจมกองเลือดอยู่บนเตียง ในสภาพเปลือยเปล่า เลือดไหลออกจากจมูกและปากเต็มไปหมด ตามตัวมีรอยฟกช้ำ รอยกัด มือถูกมัดไพร่หลัง มีเสียงดังขึ้นทำเอากูสติหลุดเมื่อเห็นภาพที่ปรากฏในทีวี เป็นหน้าไอ้นายเหี้ยที่ข่มขืนมัน ตามองทางกล้องอย่างเย้ยหยัน ต่อจากนั้นก็ลูกน้องมัน กูทนดูต่อไปไม่ได้ ทุบทิ้ง เข้าไปกอดมันและร้องไห้จนรู้สึกอยากจะตายไปซะตอนนั้น”ผมจับมือมันแน่นขึ้น เมื่อเห็นน้ำตามันไหล เอื้อมมือไปเช็ดให้ อย่างไม่รู้จะทำอะไรให้ดีไปกว่านี้  อยากจะให้มันหยุดเล่าสักที ไม่อยากเห็นมันเป็นแบบนี้

“ยังไม่ทันที่กูจะตั้งสติ ไอ้พวกที่ทำกับมันก็ยิงเข้ามา กูเอาผ้าคลุมร่างมันไว้ เพื่อไปจัดการไอ้พวกระยำ พวกมันตามมาเก็บ แต่ก็โดนกูเก็บซะเอง แต่กูไม่ให้พวกมันตายง่ายๆ กูทรมานพวกมันช้าๆ เฉือนเนื้อพวกมันทีล่ะชิ้น เอามีกรีดและควักหัวใจทั้งที่ยังเต้นอยู่ท่ามกลางเสียงร้องโหยหวน ให้สาสมกับที่ทำกับไอ้เตอย่างทารุณ ทำกับคนที่บริสุทธิ์ ทำกับคนสำคัญของกู”มันเม้มปากสีหน้าบิดเบี้ยว น่าแปลกที่ผมฟังแล้วกลับไม่รู้สึกถึงความป่าเถื่อนวิปริตกับสิ่งที่มันทำ กลับรู้สึกว่าสาสมแล้วกับไอ้คนชั่วพวกนั้น

“กูเอาศพมันออกจากบ้าน ไปเผาที่วัดแห่งหนึ่งก่อนจะไปลอยแม่น้ำ และกลับไปฆ่าไอ้ตัวการใหญ่ แต่ก็เข้าทางมันทุกอย่าง มันวางแผนให้ตำรวจที่เป็นพวกมันจัดการกูแบบจับตาย แต่กูมันก็ดวงตายยากมีตำรวจฝ่ายดีขัดเอาไว้ เขาไม่ได้ตั้งใจหรอก จับกุมตามหน้าที่นั่นแหละ มันทำอะไรไม่ได้ในตอนนั้น ได้แต่พูดเยาะ และส่งคนเข้ามาเก็บกูในคุกตลอด แต่กูก็รอดได้ทุกครั้ง สวรรค์คงเห็นใจให้กูมีชีวิตรอดกลับไปแก้แค้นมันจนสำเร็จ หึ”มันยกยิ้มอย่างสะใจในตอนท้าย ก่อนจะหันมามองหน้าผม ก้มหน้าลงพูดต่อ

“แต่สุดท้าย คนที่สมควรตายมากที่สุด ก็คือ กู กูที่เป็นสาเหตุพามันมาตายอย่างทรมาน กูฝันร้ายทุกวัน ฝันเห็นภาพมันร้องและตายอย่างทารุณซ้ำๆ จนกูหลอนไปพัก ต้องถูกส่งไปบำบัด แต่ก็แค่นั้น กูเลยหาทางออกโดยการทำร้ายคนอื่น ทำยังไงก็ได้ให้ลืมความทรงจำเก่าๆ สุดท้ายพอหลับตา มันก็เกิดขึ้นอีก ไม่อยากจะยอมรับว่านั่นคือโทษที่กูควรได้รับ มันคงโกรธ เกลียด ไม่ให้อภัยกู ถึงได้ลงโทษกูแบบนี้”มันพูดเสียงขื่น เอามือลูบหน้าเหมือนอยากจะลบให้หายไป

“ไม่หรอก กูว่า เขาไม่ได้เกลียดหรือไม่ให้อภัยมึง เขารักมึงมาก เขาเลยมาเตือนมึงให้เลิกทำชั่วมากกว่า”ผมตบไหล่พูดปลอบมันที่เงยหน้าขึ้นมาสบตาผม

“มึงคิดแบบนั้นเหรอ”มันถามออกมา ผมพยักหน้า

“เพื่อนยังไงก็ไม่ทิ้งกัน ถ้าเป็นเพื่อนตาย และยิ่งเป็นคนรักด้วยแล้ว ไม่อยากเห็นคนที่ตัวเองรักทำเรื่องไม่ดีหรอก และถึงทำไปแล้วก็พร้อมจะให้อภัยเสมอ ถ้ากลับตัวกลับใจ มึงลองดูก็ได้ ไม่เห็นผลวันนี้ แต่สักวันหนึ่งมึงจะเห็นเขายิ้มให้อีกครั้งด้วยความรักที่มีให้มึงเสมอ”ผมยกยิ้มบอกมันตามความคิดของตัวเอง มันมองเหมือนไม่เชื่อ ก่อนจะยิ้มมุมปาก

“กูเห็นมึงครั้งแรก บอกตามตรง ว่าอยากได้ ทำยังไงก็ได้ กูต้องเอามึงมาเป็นเมียให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นวิธีอะไรก็ตาม แม้แต่ข่มเหงมึง แต่รู้ไหมพอกูทำแบบนั้น ภาพไอ้เตก็ลอยซ้อนมาทับ ทำกูชะงักทุกที น่าแปลกกูทำกับคนอื่นๆไม่เคยรู้สึกแบบนี้เลย ยิ่งมึงขัดขืนดิ้นรน ถลึงตาใส่ สู้อย่างไม่คิดชีวิต ยิ่งทำให้กูเห็นมันในตัวมึงมากขึ้น จนกระทั่งไอ้เฮียยื่นมือเข้ามาช่วย กูรู้สึกเหมือนถูกแย่งชิงความรู้สึกบางอย่างที่มันเริ่มกลับมาไปจากอก ยิ่งรู้ว่ามึงเป็นเมียมัน ก็ยิ่งทำให้กูอยากแย่งคืน พาลเกลียดขี้หน้าไอ้เฮียไปซะทุกเรื่อง เกลียดที่มันเหนือกว่าทุกอย่าง ทั้งที่มันไม่เคยเห็นกูอยู่ในสายตาเลยนะ แต่กูก็เกลียดที่มันเอามึงไป และยิ่งเกลียดเมื่อรู้ว่ามึงมีใจให้มัน แต่ก็มันอีกนั่นแหละพูดให้กูคิดเรื่องมึง”มันพูดถึงตอนที่ครั้งแรกและอีกหลายครั้งที่มันทำกับผม ในตอนนั้นผมเกลียดมันมาก มากกว่าอะไรทั้งหมด เรียกว่า เกิดมาไม่เคยเกลียดใครเท่านี้มาก่อน

“กูไม่ขอให้มึงเลิกเกลียดกูหรอกนะ แต่กูขอโอกาสแก้ตัวก่อนจะไม่มีโอกาส ขอดูแลมึงในนี้จนกว่ามึงจะออกไป”มันพูดต่อเสียงทุ้ม แต่สีหน้าแววตาจริงจัง และ ดูจริงใจกว่าทุกครั้ง

“ทั้งที่กูเกลียดมึง มึงก็จะดูแลกูเหรอ”ผมถามมันกลับเสียงเรียบ

“ใช่ กูยอมให้มึงทุกอย่าง ถึงความเกลียดจะไม่หายไปจากใจมึง กูก็จะดูแลปกป้องมึงด้วยชีวิต”มันตอบกลับอย่างไม่หยุดคิดแม้แต่วินาทีเดียว

“กูไม่ใช่คนสำคัญของมึง จะมาดูแลปกป้องยกชีวิตมึงให้กูทำไม”ผมพูดแต่เบือนหน้าหนีสายตามัน อยากจะตอกหน้ามันว่า กูไม่ใช่ตัวแทนแฟนเก่ามึงสักหน่อย แต่ดูจะทำร้ายจิตใจเกินไป อย่างน้อยคนที่ถูกกล่าวถึงก็จากโลกนี้ไปแล้ว


“กูให้เพราะมึงคือมึง ไม่ใช่เพราะมึงคือใคร”


ประโยคที่เอ่ยออกมาราวกับรู้ว่าใจผมคิดอะไร ทำให้หันกลับมามองหน้าและสบตาอีกครั้ง

ออฟไลน์ goonglovenut

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 810
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1188/-10
“กูไม่ได้หวังว่าสิ่งที่ให้จะไปทดแทนให้มึงหายเกลียด ไม่ได้หวังให้มึงเห็นว่ามีค่า สูงส่ง หรือ คู่ควร จะได้รับ ไม่หวังอะไรเลยเพราะกูไม่ควรได้รับสิ่งนั้นจากมึงอยู่แล้ว”มันพูดเหมือนตัดพ้อ น้อยใจ ดูถูกตัวเอง ถ้าเป็นแต่ก่อนผมคงถุยน้ำลายรดหน้าและเดินเอาหูหนีจากมันไปแล้ว ไม่เสียเวลาฟังหรือแม้แต่จะเอาตัวเองเข้าใกล้มันด้วยซ้ำ แต่ครั้งนี้ผมกลับฟังด้วยความรู้สึกว่า กูไม่ได้คิดแบบที่มึงพูดนะ รู้สึกผิดที่เห็นสีหน้าเศร้าๆ ตาล่ะห้อยพอกับปากของมัน เก็บรายละเอียดมันอีกแล้ว กำลังจะพูด มันก็แทรกขึ้นมาซะก่อน

“มึงพูดเองไม่ใช่เหรอ ว่าถ้ากลับตัวกูจะได้เห็นรอยยิ้มด้วยความรักอีกครั้ง ช่วยให้โอกาสกูหน่อยนะ รัน”เสียงอ้อนวอนขอโอกาสจากผม ถ้าผมไม่ให้มันจะคุกเข่าแล้วบอกว่า จะไม่ลุกขึ้นจนกว่าจะได้ยินคำว่าให้โอกาสจากปากผม หรือเปล่าวะ คิดให้ขำแต่กูขำไม่ออกเลยเมื่อเจอไอ้เข้มเวอร์ชั่นนี้เข้าไป มันเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ ไม่รู้อะไรทำให้มันเปลี่ยน คนสำคัญของมัน หรือ ผม แล้วทำไมผมต้องเปรียบเทียบตัวเองกับคนตายไปแล้ว ไม่ดีเลย เหมือนผมกำลังอิจฉาคนที่เคยได้รับมาก่อน

“มึงยังไม่ต้องให้ตอนนี้ก็ได้ กูจะพิสูจน์ตัวเองให้มึงเห็น ว่าสมควรจะได้”ตั้งแต่พูดได้ แม่ง พูดไม่มีหยุด ไม่คิดจะให้กูพูดมั่งหรือไง ผมจิ๊ปากพูดเสียงดังใส่มัน


“มึงรู้ได้ไง ว่ากูไม่ให้”

มันมองผมอย่างตะลึง ในขณะที่ผมยังไม่รู้ว่าตัวเองโพล่งอะไรออกไป ก่อนมันจะฉีกยิ้มกว้าง

“มึงให้กูแล้ว มึงอนุญาตแล้ว”มันพูดเสียงตื่นเต้น ดีใจ

“ไอ้สัด มึงพูดเบาๆก็ได้ แล้วกูให้อะไร”ผมด่ามันพร้อมถาม ตาก็มองรอบข้าง เป็นใจอีกแล้ว สองต่อสอง

“ก็มึงพูดเมื่อกี้ว่า ให้โอกาสกูดูแลมึงไง อะไรวะ ลืมง่ายจัง”มันทวนคำพูดมีตำหนิทิ้งท้าย

“กูแค่ถาม ยังไม่บอกว่าให้สักหน่อย”ผมนึกได้พูดกลับใส่มันที่หน้าหงอยลงไปอีกแล้ว

“ไม่เป็นไร กูรอได้ ไม่บังคับมึงหรอก ถ้าต้องได้มาด้วยความไม่เต็มใจ มันก็สูญเปล่า แต่กูจะทำตามที่พูดแน่นอน”ตัดพ้อกูอีกแล้ว ดูทำหน้าเข้าสิ ไม่เหมาะกับหนังหน้ามึงเลย

“มึงนี่มัน สำบัดสำนวน ฉิบหาย ดูละครมากไปหรือเปล่าวะ”ผมพยักหน้าพูดเหน็บมันอย่างหมั่นไส้

“กูพูดจากใจ ไม่เคยพูดอะไรน่าอายแบบนี้กับใครมาก่อน”มันตอบจริงจัง ซะจนผมเหวอ กูพูดเล่นเอง แล้วมึงรู้สึกอายเป็นด้วยกับเขาด้วยเหรอ  แม้แต่กับ เอาอีกแล้ว เปรียบอีกแล้ว เดี๋ยวกูว่าได้มาเข้าฝันกูแน่

“แม้แต่ เต ก็ไม่เคย”

นั่นไง พูดอย่างรู้ว่าใจกูคิดอะไรอีกแล้ว ไม่ได้คิดเปล่า เต้นแรงอีกต่างหาก ผมไม่รู้จะทำยังไง เลยพูดออกไปเพื่อให้ใจเต้นน้อยลง


“กูก็ไม่เคย ฟังคำพูดน่าอายแบบนี้มาก่อนเหมือนกัน”


ผมไม่รู้ว่า ใจมันเต้นแรงแบบผมหรือเปล่า ผมรู้แต่ว่า ตอนนี้ ไอ้เข้ม หน้าแดง ตัดกับผิวดำแดงจนเห็นได้ชัด แสดงว่ามันอายเป็นเหมือนกัน แล้วก็เงียบกันไปอีก ผมมองมันอีกครั้งอย่างชั่งใจว่า ผมจะลองเชื่อใจและให้โอกาสมันพิสูจน์ตัวเอง ในเมื่อมันพูดขอผมด้วยตัวเองแล้ว ผมจะไม่ถามว่าทำไมต้องเป็นผม

“ไอ้เข้ม”ผมเรียกมันให้หันกลับมามองหน้า

“ถ้ามึงไม่ได้หวังอะไรจากกู กูก็ไม่ได้หวังอะไรจากมึงเหมือนกัน กูก็คนเดินดินธรรมดาคนหนึ่ง ไม่ได้วิเศษไปกว่าใคร รวมถึงมึงด้วย ความเป็นคนเราเท่ากัน”


“ส่วนเรื่องโอกาส มึงอย่าขอเลย”มันมองผมด้วยสีหน้าผิดหวังทันทีที่ผมพูดจบ


“นับจากวันนี้”


“มึงกับกู”


มันทำหน้าเหมือนทนฟังอีกไม่ได้


“เป็นเพื่อนกัน”


และหน้ามันก็เปลี่ยนอีก เมื่อผมพูดจบ


“กูให้มึงได้แค่นี้ ถ้ามึงไม่รับ ก็”ผมพูดพร้อมกับจะลุกขึ้น มันดึงแขนผมเอาไว้ก่อน

“รับ กูรับ มันยิ่งกว่ามึงให้โอกาสกูอีก ขอบใจ ขอบใจนะ รัน”มันพูดพยักหน้ารัวเร็วๆ ยิ้มกว้างอย่างดีใจ

“เพราะฉะนั้น ก็ช่วยกันดูแล ช่วยเหลือ ไม่ต้องแบกรับไปคนเดียวหรอก เข้าใจไหม”ผมยกยิ้มให้มันในตอนท้าย

“เข้าใจ แต่”มันพยักหน้า

“แต่อะไรอีกวะ มึงนี่เยอะจริงๆ”ผมขมวดคิ้วใส่มัน

“อะไรที่กูพูดออกไป กูขอทำตามเดิมแล้วกัน สัญญา ว่าจะไม่ทำให้มึงอึดอัด”มันยังยืนยันจะทำตามที่พูด

“เออๆๆ”ผมเลยตัดความรำคาญ มันจะได้ไม่พูดอีก


“กูจะทำให้ดีที่สุด เผื่อว่าสักวัน กูจะได้รับรอยยิ้มของความรักอีกครั้ง”


แล้วมันก็พูดอีกจนได้ แต่ทำไมมึงต้องมองกูด้วยสายตาหวานเยิ้มด้วยวะ

“เอาล่ะๆ ไหนมาดูสิ หมอให้ยาอะไรมึงมาบ้าง กูเห็นเขาพูดมึงไม่สนใจเลย”ผมเปลี่ยนเรื่อง ไปสนใจเรื่องยาแทน และหยิบจากมือมันมาดูซะเอง

“มึงก็กินตามฉลากที่เขาบอก กินให้หมดด้วยล่ะ ไม่ใช่หายเจ็บก็ไม่แดกต่อ”ผมดูก่อนจะคืนให้มัน ที่หยิบขึ้นมาพลิกดู

“กินยังไง”มันเงยหน้ามาถาม

“ควาย มึงก็หยิบออกจากซอง มายัดใส่ปากตามด้วยน้ำ ก็จบแล้ว”ผมว่ามันกับคำถามที่ไม่ควรถาม เรื่องง่ายๆ

“กูรู้ แต่กูจะกินเวลาไหน ยังไง”มันรู้ แต่เสือกถามต่ออีก

“มึงก็อ่านดูสิ เขาก็เขียนบอก อะไรวะ ไม่เคยแดกยาหรือไง”ผมจิ้มๆบนซองยา ส่ายหน้าเอือม ยังไม่ทันไรกูเริ่มเอือมมึงและ

“เคย”

“แต่”

มีแต่อีกแล้ว


“กูอ่านหนังสือไม่ออก”


กลายเป็นกูที่อึ้งแทน มองหน้ามันที่แสดงความหงอยบ่อยเหลือเกิน และก็ทำให้กูรู้สึกผิดอีกแล้ว

“กูลืมไปหมดแล้ว ว่าอ่านและสะกดยังไง”มันพูดต่อ พอเถอะอย่าตอกย้ำกูอีกเลย แค่นี้กูก็รู้สึกแล้ว

“แล้วที่ผ่านมา มึงทำงานได้ยังไง”แต่ก็อดจะสงสัยไม่ได้ ถ้ามันไม่พูดผมไม่รู้เลย ว่าไอ้เข้มที่ดูฉลาด โหดเหี้ยม ฆ่าคนอย่างเลือดเย็น ทำงานให้นายไม่เคยพลาด แต่มันกลับอ่านหนังสือไม่ออก

“กูฟังและก็จำเอา มึงอ่านตัวนี้สิ”มันบอกและชี้ให้ผมอ่าน

“หลังอาหาร”ผมออกเสียง

“ตัวนี้อ่านว่า หลังอาหาร แต่กูไม่รู้ว่ามันคือตัวอะไร สะกดยังไง เขียนก็เหมือนกัน กูใช้วิธีเลียนแบบคล้ายวาดรูปเอา แต่ก็อ่านไม่ออกอยู่ดี ครึครึ”มันพูดอย่างตลกตัวเอง แต่ผมไม่ขำสักนิด

“กูขอโทษนะ”ผมพูดแผ่วเบา

“เฮ้ย ขอโทษทำไมวะ”มันถามหน้าขำๆ

“กูว่ามึงว่า ควาย ไง กูไม่ได้ตั้งใจ กูนึกว่ามึงแกล้งกวนตีนกู”ผมพูดกับมันพร้อมกลั้นเสียงที่เกือบสะอื้นเอาไว้

“ก็มึงไม่รู้นี่หว่า”มันยิ้มน้อยๆ วันนี้มันยิ้มจนผมนับไม่ทันแล้วว่ายิ้มกี่ครั้ง ยิ้มแบบไหนบ้าง ผมพยักหน้า

“เออ แล้วเมื่อวานมึงรู้ได้ไง ว่าเป็นเอกสารให้มึงเซ็นรับความผิด”ผมอดจะแปลกใจในตัวมันไม่ได้อีกแล้ว

“มันพูดออกมาเอง แต่ถึงไม่พูดกูจำได้”มันบอกตามตรงและใช้วิธีเดิม

“แต่มันเยอะนะโว้ย ไม่ใช่แค่ไม่กี่ประโยค”ผมถามมันต่ออีก ไม่น่าเป็นไปได้

“เพราะอ่านไม่ออกนี่แหละ กูเลยขโมยเอกสาร มาให้ลูกน้องอ่านให้ฟัง แต่พวกมันไม่รู้หรอก นึกว่ากูขี้เกียจอ่าน และกูก็จำว่าฉบับไหนคือเรื่องอะไร อีกอย่างกูดูท่าทางการแสดงออกพวกมันด้วย ก็คิดไว้ก่อนต้องไม่ดีแน่ แต่ก็มีผู้คุมที่ดีบางคนที่เขารู้ว่ากูอ่านไม่ออก เขาจะอ่านให้กูฟังก่อนเซ็นรับทุกครั้ง กูจำและเขียนชื่อตัวเองได้แค่นั้น นี่มึงรู้ไหม ลายเซ็นกูไม่เคยเหมือนกันเลยสักครั้ง กูมั่วไง กว่าผู้คุมจะรู้กูก็เซ็นเป็นร้อยฉบับแล้วมั้งตั้งแต่ติดที่นี่ ฮ่าๆๆๆๆ”มันหัวเราะปิดท้าย ไม่รู้ขำตัวเองหรือขำผู้คุมที่ไม่เคยตรวจสอบ  ผมเป็นผู้คุมก็คงไม่มีเวลามานั่งดูหรอก นอกจากจะสำคัญจริง

“สัด มึงนี่กวนตีนจริง ครึครึ”ผมด่าและหัวเราะมันบ้าง มันก็ยักไหล่ มองซองยาและอ่านทวนอีกครั้ง

“ยาซองอื่นก็เหมือนกัน กินหลังอาหารทั้งหมด และถ้ามันกินก่อนอาหารล่ะ มึงจะรู้ได้ไงวะ”ผมบอกมันอีกครั้ง แต่ยังไม่วายมีปัญหาถามมันให้หายสงสัย

“กูก็ดูว่า มันเขียนไม่เหมือนไอ้หลังอาหารไง มันคงไม่เขียนเหมือนกันหรอกมั้ง ใช่ไหม”มันแสดงความฉลาดที่ผมอดจะทึ่งไม่ได้ แต่ก็ยังดูไม่แน่ใจเท่าไหร่

“อืมๆ เอาอย่างนี้นะ ถ้าอันไหนมึงไม่แน่ใจ ก็ถามกูก่อน”ผมพยักหน้าก่อนจะเสนอความช่วยเหลือในเบื้องต้นให้มันไปก่อน

“อืม กูไม่กล้าถามใครหรอก อายเขา”มันยอมรับว่าอายอีกแล้ว

“แล้วไม่อายกูหรือไง”ผมเลิกคิ้ว

“ก็ มีบ้าง”มันก้มหน้าตอบอ้อมแอ้ม

“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ”ผมหัวเราะกับท่าทางมัน อยากจะทำคลิปไว้ดูจริงๆ แต่คิดอีกที ดูคนเดียวดีกว่า มันเอามือเกาหัวยิ้มแหยๆ

“รัน”มันเรียกผมที่เดินนำหน้ามัน หลังจากลุกจากตรงนั้นแล้ว

“อะไร”ผมหันไปมอง

“มึง หัดให้กูอ่านและเขียนหน่อยสิ เอาที่จำเป็นๆก็ได้ เผื่อมึงออกไปแล้ว กูไม่รู้จะถามใคร อีกอย่าง”มันขอให้ผมสอนอ่านและเขียนให้ ซึ่งหนักใจพอสมควร ว่าจะเริ่มตรงไหนก่อนดี แต่ดูหน้ามันแล้วก็ปฏิเสธไม่ลง แล้วอีกอย่างที่มันพูดคาไว้คืออะไรวะ



“กูอยากเขียนจดหมายไปหามึง”


ผมมอง ไอ้เข้ม ที่ตอนนี้เป็น ไอ้โข่ง ไปเรียบร้อยแล้ว

“และถ้ามึงจำไม่ได้ล่ะ มึงจะเขียนได้ยังไง เกิดมึงนึกไม่ออกจริงๆ แบบสมองมึงฝ่อไปแล้ว”ผมพูดขำๆ แต่ในอกตื้อไปหมด

“อืม ทำไงเหรอ”มันทำท่าคิด ก่อนจะนึกออก


“กูก็จะวาดรูปแทนไง”


เป็นคำตอบที่นึกไม่ถึงจริงๆ


“แล้วกูจะรู้ได้ไงล่ะ ว่ามึงรู้สึกยังไง”ผมถามมันอีกไม่ได้สงสัยแล้ว แต่อยากต่อปากต่อคำกับมัน จนกว่ามันจะจนมุม

“ก็ถ้ากูเหงา กูก็จะวาดภาพหน้าตัวเองหงอยๆ และถ้ากูมีความสุขก็ยิ้ม ไง ไม่เห็นจะยากเลย กูวาดรูปเก่งนะโว้ย”มันบอกราวกับเป็นเรื่องง่ายๆ ยอตัวเองไปด้วย ผมไม่ได้สนใจท่าทางนั้น กลับถามมันด้วยคำถามที่อยากรู้ว่ามันจะวาดยังไง


“ และ ถ้าคิดถึง ล่ะ”


มันมองหน้า พูดออกมาอย่างไม่เสียเวลาคิด



“กูก็จะวาดตัวเองนั่งมองท้องฟ้า ที่มีมึงอยู่บนนั้น”


ผมหันหลังกลับทันที ซ่อนน้ำตาที่มันไหลออกมาอย่างมากมาย ไม่คิดว่าจะต้องมาร้องไห้ให้มัน ให้ไอ้คนที่ผมเกลียดยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด แต่ความรู้สึกนั้นมันแค่ เคยเกลียด ตอนนี้มันหายไปอยู่ซอกไหนแล้วก็ไม่รู้


“บางที อาจจะมีรูปหัวใจ ติดไปด้วยก็ได้”


มันพูดออกมาอีก ทำเอาผมชะงักเท้า ถามออกไปเสียงสั่นๆ


“ทำไมล่ะ”



“ก็มันจะได้ครบ”


“ครบอะไร”



“รัก และ คิดถึง”


“ได้ใช่ไหม”


“ห๊ะ อะ อะไร”


ผมมัวแต่จมอยู่กับความหมายที่มันบอก ไม่ได้ฟัง ว่ามันถามอะไร


“ก็ รักและคิดถึงไง กูเคยเห็นเวลาที่ลงท้ายจดหมาย มันใช้กับเพื่อนได้ ถ้ากูจำไม่ผิดนะ”มันมองหน้าผมประมาณว่ากูพูดถูกใช่ไหม มึงพูดถูก แต่กูเสือกตีความหมายไปอีกทางในตอนแรก

“อืม”เลยตอบมันแค่นั้น ก้าวเท้าเดินต่อ เสียงมันก็ยังตามหลังมาติดๆ

“ที่จริง กูว่าโทรศัพท์มันคงจะง่ายกว่า แต่มันติดที่ กูจะเอาตังค์ที่ไหนไปหยอดวะ ถ้าไปใช้ห้องผู้คุมทุกวันก็คงจะไม่ได้ เพราะไม่มีเหตุจำเป็น”มันยังคิดถึงเรื่องจะติดต่อผมยังไงให้ง่ายที่สุด ผมส่ายหน้ากับความพยายามของมัน แต่ปากกับอมยิ้ม

“กูว่ามึงอย่าเพิ่งไปนึกถึงวันนั้นเลย ฉิบหาย อีกตั้งสามปี”ผมหยุดความคิดในอีกสามปีข้างหน้าของมันเอาไว้ก่อน

“แต่ถ้าไม่ได้จริงๆ เหลือวิธีเดียว”มึงไม่ได้ฟังกูเลยใช่ไหม ก็ได้ กูจะฟังวิธีสุดท้ายของมึง ผมหันไปมองหน้ามัน



“มึงมาหากู”


O_O


“ดีไหม เพราะยังไง กูก็ไม่ได้ย้ายไปไหนอยู่แล้ว”มันยังมีหน้าเสนอความคิดอันชาญฉลาด


“ไม่ดีโว้ย ไอ้สัด”ผมหุบปากได้ หันหลังพูดเสียงดังเดินหนีมันเร็วๆ

“กูคิดเผื่อไว้ก่อน”มันเดินมาย้ำอีก

“หยุดคิด มึงคิดอีก กูจะไม่พูดกับมึง”ผมหันไปชี้หน้าสั่งและขู่มัน ซึ่งได้ผลมันเดินตามเงียบกริบ กลายเป็นผมที่คิดแทนมัน


‘กูจะรับไว้พิจารณาก่อนแล้วกัน ถ้ามันเป็นวิธีสุดท้ายที่เหลืออยู่’.
.
.
.

หลังจากวันนั้นก็ผ่านมาสองอาทิตย์ เหตุการณ์ในเรือนจำกลับมาเป็นปกติ ไม่มีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้น ผู้คุมถูกเปลี่ยนหน้า พอกับ พัศดี ที่เปลี่ยนใหม่ แต่ดีขึ้นกว่าเดิม พวกไอ้ดำก็ไม่มายุ่ง เรียกได้ว่า เดินสวนกัน เหมือนไม่รู้จักกันมาก่อน ดูมันหงอด้วยซ้ำ ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ถามไอ้เฮียมันก็คงไม่บอกอยู่ดี แต่ก็ดีแล้ว ผมขอให้เป็นอย่างนี้ตลอดไป เอาเวลาที่เหลือทำความดีซะดีกว่ามาแก่งแย่งความเป็นใหญ่ไม่ถูกที่

แต่ที่เปลี่ยนแปลงเห็นได้ชัด ชัดมาก คือ เรือนนอน ที่ผมประจำอยู่ มีนักโทษมาอยู่ใหม่ แต่หน้าเดิม ผมไปไหนมันไปนั่น แทบไม่ต้องหยิบต้องจับอะไรด้วยซ้ำ แม้แต่เข้าห้องน้ำ มันก็ยืนเฝ้าหน้าห้องซะจนผมต้องขมิบไปซะทุกอย่าง ไล่มัน มันก็เดินไปตดไม่ทันเสียงหาย มันก็วกกลับมายืนที่เดิมอีก อาบน้ำมันก็ให้ผมชิดริมสุด โดยมันยืนจังก้าท้าทุกสิ่งทุกอย่างบังผมอีกที แต่มันเองนั่นแหละเหลือบตาแม่งทุกครั้ง พอด่า มันก็บอกว่า

‘จะได้ชินเอาไว้ เห็นบ่อยๆก็ไม่คิดอะไรแล้ว’

ดูเหตุผลมัน ฟังขึ้นมาก มึงไม่คิด แต่ไอ้นั่นมึงเหมือนจะไม่เชื่อฟัง ดูแข็งข้อตลอด จนกูต้องตบด้วยขัน ถ้ายังไม่เชื่อฟัง กูจะตบแม่งให้หักไปเลย

เป็นอย่างนี้ทุกวันทุกวัน สิ่งที่มันขอแลกเปลี่ยน ก็ไม่ยาก สอนครั้งเดียวจำได้เลย แถมเขียน อ่านออกเสียงได้ด้วย คำนั้นคือ

รัน

รัน

คุ้นไหมครับ

ต่อมาพัฒนาขึ้น

รู้จักประยุกต์เอาคำเก่าเขียนร่วมกับคำใหม่ กลายเป็น

รัน เข้ม รัน เข้ม รัน เข้ม รัน เข้ม รัน เข้ม รัน เข้ม รัน เข้ม รัน เข้ม สลับกันจนตาลาย เห็นเหมือนเป็นคำเดียวกัน

“แล้วคำว่า”มันเงยหน้าจากกระดาษขึ้นมาถาม อุปกรณ์การเรียน ไอ้เฮียหามาให้ เวลาว่างจากงานที่ทำประจำ ก็มาฝึกเขียน ฝึกอ่าน กันข้างเรือนนอน ตอนแรกไอ้ปาน ไอ้โจ๊ก มันก็สงสัย และมันก็รู้ด้วยตัวเอง แต่มันก็ไม่ถามหรือหัวเราะไอ้นักเรียนโข่ง มีแต่ช่วยสนับสนุนการศึกษามันอย่างเป็นทางการ

“มึงหยุดไปเลย เร้ารื๊ออีก กูไม่สอน”

ผมชี้หน้าดักคอมันไว้ก่อน ทำเป็นหน้าซื่อหลอกให้กูสอน

“มึงก็สอนมันไปเถอะ ครึครึ”ไอ้ปานชะโงกหน้ามาดู

“มันจะได้เขียนแทรกตรงกลาง ครึครึ”ไอ้โจ๊กลูกคู่ก็ช่วย

“ให้ไปแทรกหว่างขามึงไหมล่ะ ไปไกลตีนกูเลย”ผมด่าพร้อมไล่มัน อยู่มีแต่เสียดแทงกูตลอด

“ไอ้ปาน เขาอยากสอนกันตัวต่อตัว เราก็ไปเถอะวะ”ไอ้โจ๊กกอดไหล่ไอ้ปานพูดยิ้มๆ

“ใช่ เราอยู่เขาเลยกระดากตูด ทำให้พูดสอนคำนั้นไม่ออก ฮ่าๆๆๆๆ”ไอ้ปานทำหน้ากวนตีนพอกับเสียง ก่อนจะหนีรองเท้าผมอย่างไว

“เขียนไป คำอื่น หัดเขียนด้วย เขียนแม่งแต่คำนี้ แล้วอยากจะเขียนจดหมาย”หันมาพาลไอ้โข่ง ตบด้วยสมุดไปสองที

“ก็มันเป็นคำลงท้าย มึงไม่สอนกูเขียน มันก็มีแต่คิดถึง มีแต่คิดถึง  โอ้ยยยยยย”มันย้อนกลับมาเป็นเพลง เลยโดนสันสมุดอีกสองโป๊ก และมันก็ดังต่อเนื่อง จนมันเลิกสนใจ เขียนคำอื่นแทน มันก็ไม่เคยไปถามคนอื่นนะ แสดงว่ามันคงเกรงใจผมที่สละเวลาปากเปียกปากแฉะสอนมัน และในบางครั้งก็เมื่อยมือกับมันเหมือนกัน จะอะไร ตัวไหนมันเขียนไม่ได้ ผมก็ต้องจับมือมันลากขึ้นลากลง ห่าราก แล้วบอกวาดรูปเก่ง แค่ตัวอักษรง่ายๆ เสือกเขียนไม่ได้ ไม่อยากจะด่า โง่ เดี๋ยวจะทำหน้าหงอยใส่ให้กูรู้สึกผิดอีก
.
.
.
.
หลังเหนื่อยมาทั้งวัน ได้เวลานอนพักผ่อน ผมสวดมนต์อย่างที่ทำเป็นประจำ ล้มตัวนอน ไอ้โข่งก็ตามติด มันขอให้สอนบทสวดให้มันหน่อย เอาแผ่เมตตาด้วย จะขัดก็บาป มันคงอยากสวดให้คนสำคัญของมัน นั่นไม่ใช่ประเด็น

‘ไอ้เข้ม มึงสวดในใจไม่ได้หรือไง ฉิบหาย คุกนะมึง ไม่ใช่วัด’

‘กูลองแล้ว พอหลับตามันมืด ทำให้กูลืมจนสวดผิดสวดถูก มันต้องออกเสียงด้วยกูถึงจะจำได้’

‘มึงออกเสียงเบาๆก็ได้ ไม่ใช่สวดอย่างกับมีพระสักสิบองค์ อื้อหือ แม่ง กูจะด่าอะไรมึงดีวะ’

ด่าไม่ออก หันไปเพื่อนร่วมคลาส แม่งนอนเอามือกุมท้องปิดปากกลั้นเสียงไม่หวัดไม่ไหว ก่อนมันจะพยักหน้าและทำใหม่ อีกหลายครั้งจนทำได้ นึกแล้วก็ขำจนต้องหันไปมองหน้ามันในความมืดที่หลับไปแล้ว สมุดวางอยู่ไม่ห่างตัว ผมหยิบมาดู หน้าแรก หน้าถัดไป ถัดไป ไม่มีอะไร จนมาสะดุดกับหน้าที่มีภาพคน อดจะขำไม่ได้ที่มันบอกว่า มันวาดรูปเก่ง เก่งจริงๆ ประมาณประถมสี่ได้ ถึงไอ้คนในภาพมันจะจมูกหัก ยิ้มกว้างเกิน ขาก็ลีบ แต่ใครได้ดูก็รู้ มันเขียนกำกับใต้ภาพว่า ‘รัน’ 

“ขี้เหร่ฉิบหายเลย กู”ผมพึมพำ เปิดไปอีก ภาพไม่ต่างกัน ตัวโตกว่า แขน ขา ก้ามเป็นมัด ไม่ต้องบอกมั้งครับ ว่า ใคร

“ทุเรศกว่ากูอีก”ผมพูดขำๆ ก่อนจะเปิดไปอีก

เป็นพัฒนาการของภาพ เมื่อนำมารวมกัน พร้อมกำกับข้างใต้


เข้ม     :L1:        รัน

 
มึงพยายามมาก

กูลืมไป

ว่ามึงเขียนไม่ได้

 แต่ วาดได้

วาดได้เหมือนการ์ดมงคงสมรส ฉิบหาย ไอ้เข้ม ฮึ่มมมมมมมมม อยากจะเอาสันสมุดฟาดให้หน้าแหก แต่มันเสือกนอนยิ้มเหมือนหลับฝันดี เลยต้องลดมือลงวางไว้ที่เดิม กูจะทำเป็นไม่รู้แล้วกัน กูคิดผิดหรือคิดถูกวะที่ให้มึงมาใกล้ชิดด้วย อีกสามปี จะมีอะไรเปลี่ยนไปหรือเปล่า เฮ้อ ทำไมกูต้องมานอนถอนหายใจกลุ้มคนเดียวด้วยวะ ช่างมันเถอะ อยู่ไปเดี๋ยวก็รู้เองแหละว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ขอให้เป็นไปในทางที่ดีก็แล้วกัน

*********************************************************************************************************************

ปล. กลับมาแล้วจ้า (ใครถามหาแก) กลับมาถึงก็ขอเคลียร์งานก่อนเลย :katai4:   เป็นตอนจบของคู่นี้ ผลจะเป็นยังไง อีกสามปีมาดูกัน ฮ่าๆๆๆๆๆๆ  :laugh:(มุกเดิม) คู่นี้เขาชีวิตรันทดดีเน๊าะ เหมาะกันจริงๆ ไม่ได้แกล้งนะ o18 แต่อยากให้เขามีอะไรมาเติมให้กันและกัน  ส่วนตอนหน้าเราจะปิดการปล้นแล้วนะ ติดตามกันด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ เจอกันอีกที อาทิตย์หน้านะคะ  :bye2:

ออฟไลน์ narunarutoboyz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 595
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
ขอโทษที่ปาดนะคะ
อ่านตอนนี้เเล้วสงสารเตจังเลย ไม่อยากจะนึกถึงเหตุการณ์วันั้นเลย สาสมเเล้วจริงๆที่เข้มทำกับคนพวกนั้น
เเอบร้องไห้ตามเข้มเลย แถมยังสงสารเพิ่มขึ้นอีก  :m15:
คิดว่ายังไงก็คงไม่คลาดกันหรอก คุณคนเขียนคงไม่ใจร้ายกับเข้มเนอะ
แต่ว่าตอนรันสอนเข้มอ่าน เขียน หนังสือ น่ารักชะมัด คือไม่เคยมีภาพเข้มมุ้งมิ้งเเบบนี้เลยนะ
แม้เราจะยังเป็นห่วงอนาคตของเข้มว่าจะดูแลรันเเบบไหน แต่ก็คิดว่าอย่างเข้มทำได้อยู่เเล้ว  :กอด1:

ขอเป็นกำลังใจเเละติดตามจนตอนพิเศษสุดท้าย จนออกมาเป็นหนังสือเลย อิอิ
 :L2: :กอด1:

ปล.ขอถามคนเเต่งเเละคนอื่นๆหน่อยว่า เข้มติดคุกกี่ปีอ่ะ จำไม่ได้ว่าคนเเต่งเคยเขียนบอกไว้มั๊ย แต่ตอนนี้ย้อนกลับไปหา
ยังหาไม่เจอเลย(ไม่เจอหรือไม่มี) ขอบคุณล่วงหน้าค้าบบบบบ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-02-2014 16:31:51 โดย narunarutoboyz »

ออฟไลน์ nirun4

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 491
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0

ออฟไลน์ rujaya

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +377/-1
ชีวิตเข้มมันน่าสงสารเนอะ

เอาใจช่วยเข้ม อีกสามปีมันต้องมีอะไรดีขึ้นซิ

เขียนจดหมายรักบ่อยๆ เดี๋ยวรันก็ใจอ่อนเองแหละ  :กอด1:

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3130
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
 :z13: แปะไว่ก่อน

 :katai5:
*************************************
บวก 1 ให้พี่เข้ม คิกๆ

ทำไมตอนนี้พี่เข้มมันได้น่ารักนักนะ ลบภาพเดิมๆออกไปเลย

อีกอย่างไม่บอกไม่รู้นะว่าอ่านหนังสือไม่ได้ เพิ่งมาเอะใจตอน

รันให้ดูซองยานี่แหละ แต่เหมือนมันจะดีมากๆเลยนะที่ได้ครูรันมาสอน

เพราะโอกาสที่พัฒนามันมีเยอะ อิอิ

รออีกสามปีมาดูกัน

ตอนหน้าจะปิดปล้นแล้วหรอ  ว้า...........คงคิดถึงแย่เลย

แต่เราจะไม่ลืมแน่นอน

รอตอนหน้าจ้า  :mew1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-02-2014 10:27:51 โดย aoihimeko »

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
คู่นี้เขาเรียกเป็นตำนานรักในคุกของแท้ 5555555
ขอบคุณคนเขียนค่าา
กอดสามทีแรงๆ อิอิ

ออฟไลน์ Zinub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-0
โอ๊ยย เข้มน่ารักเน๊อะ :m1: เรื่องในอดีตของเข้มทำน้ำตาซึม :impress3:
รันก็ปากแข็งใจแข็งจ๊างง สงสารเข้มเถอะนะ :mew2:
อ่านเขียนไม่ได้ก็ยังวาดรูปแทนความในใจได้ :L1: โง๊ยย น่ารักว่ะ :m3:
 :L1:....คนเขียน :mew1:

ออฟไลน์ keinoo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 328
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-0
อร๊ายยยย!!!
น้องรันกรุณาอย่าใจแข็ง เห็นใจคนหล่อ เข้ม ชีวิตรันทด โดยด่วนเถอะคร่าาา :-[

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด