“เอ็งล่ะไอ้หนู บอกพ่อตามจริงมาสิ ว่ารู้สึกยังไง เอาแบบเนื้อๆนะ”พ่อที่เงียบไปอึดใจ หันมาถามผมบ้างแต่มีดักคอด้วยรู้นิสัยลูกชายเป็นอย่างดี กว่าจะเข้าถึงเรื่องต้องโยงอะไรไม่เป็นเรื่องมาเป็นเรื่องจนได้
“ตอนแรกหนูก็เหมือนพ่อ เหมือนเฮีย ปกติ ไม่เคยคิดอยากจะชอบผู้ชายมาก่อน ตอนที่เฮียพาไปจากบ้านยังโกรธด้วยซ้ำ พาลด่าคิดไปต่างๆนานา กลัวด้วย กลัวจะไม่ได้กลับมาหาพ่อ คิดว่ายังไงก็ไม่ได้กลับแน่นอน คงจะถูกฆ่าทิ้ง ไม่คิดว่าโจรที่ไหนจะรักษาคำพูด”ผมพูดเกริ่นที่คิดว่ามีแต่เนื้อให้พ่อฟัง ก่อนจะเล่าต่อเมื่อพ่อไม่ท้วงอะไร
“แม้กระทั่งเจอเหตุการณ์หลายๆอย่างในป่า จนหลุดไปถึงที่โน่น ก็ยังคิดเสมอว่าจะต้องถูกฆ่า ถึงจะไม่ใช่เฮียก็ต้องเป็นคนอื่น คงไม่มีใครเอาตัวประกันที่ไร้ประโยชน์เก็บไว้ หนูคิดถึงพ่อกับแม่เสมอ แต่ในเวลานั้นคนที่หนูระแวงและกลัวมาตลอดกับเป็นคนที่ปกป้องดูแล ไม่ว่าจะเป็น จะทำ จะอะไรก็แล้วแต่ เฮียทั้งนั้น เฮียไม่เคยผิดคำพูดสักครั้ง เฮียทำตามที่รับปากพ่อไว้จนถึงที่สุด”ผมพยายามไม่ร้องไห้ออกมาเมื่อนึกย้อนไปถึงระยะเวลาที่อยู่ด้วยกันกับเฮียที่โน่นว่ามีความสุขแค่ไหน
“ถ้าก่อนหน้าที่เราไม่เจอกันแบบนี้ หนูก็มั่นใจว่าจะรักเฮียเหมือนที่เฮียรักหนู รักที่เฮียเป็นเฮีย ไม่ได้รักที่อะไรทั้งนั้น หนูไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใครมาก่อน และถ้ามีโอกาสได้อยู่ด้วยกัน หนูก็จะมีเฮียเป็นผู้ชายคนเดียวในชีวิต ฮึก พ่อ หนูขอโทษนะที่เป็นแบบนี้ ถ้าเฮียผิด หนูก็ผิดด้วยที่ห้ามใจตัวเองไม่ได้ ฮึก”ผมพูดความรู้สึกที่แท้จริงไม่ต่างกับเฮีย สุดท้ายเสียงสะอื้นที่พยายามกลั้นก็หลุดจนได้ ผมเขยิบเข้าไปกราบพ่อที่ตักอีกครั้งหลังจากกราบเท้าพร้อมเฮียไปแล้ว
“คำถามข้าไปสะกิดต่อมบิ๊วเอ็งหรือไง ไอ้หนู จะร้องทำไม”พ่อพูดติดตลกแต่หน้าไม่ได้ตลกสักนิด เอามือลูบหัวผม
“มันไม่ได้อยากร้องหรอกพ่อ ถ้าเป็นเรื่องอื่น ฮึก แต่นี่มันเป็นเรื่องที่หนูทำให้พ่อผิดหวัง เสียใจ ในตัวหนู”ผมพูดแต่ยังเอาหน้าซุกตักพ่อไม่ยอมเงยขึ้นมา ทุกครั้งผมมักจะทำเป็นลืมว่าตัวเองทำอะไรผิดไว้ แม้แต่เมื่อคืนหลังคุยกับพ่อ ก็ไม่ได้ทำให้ผมสบายใจมีแต่ความอึดอัด ฉวยโอกาสพ่อไม่พูดผมก็ไม่รื้อฟื้น แต่พอเมื่อเช้าเฮียเดินมาบอกผมว่าจะขอโทษพ่อ ไม่อยากรู้สึกผิดไปมากกว่านี้ เหมือนคนไม่มีความรับผิดชอบ ทำให้ผมคิดขึ้นมาอีกว่า มันคงถึงเวลาแล้วที่ควรจะบอกพ่อสักที
“ข้าพูดตอนไหนว่า เสียใจ ผิดหวังในตัวเอ็ง หืม ไอ้หนู เงยหน้ามองพ่อสิ”พ่อพูดเสียงอ่อนโยนเอามือจับผมให้เงยขึ้น
“หนูรู้ว่าพ่อไม่พูดหรอก”ผมบอกพ่อ
“ข้าแสดงออกเหรอวะ”พ่อย้อนถาม
“เปล่า แต่หนูรู้ตัวเองว่าทำ ไม่มีพ่อแม่ที่ไหนยอมรับได้ง่ายๆหรอก เรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดกับบ้านเรา ถ้าแม่ ปู่ย่าตายาย ยังอยู่ ก็รับไม่ได้ ไหนจะบรรดาญาติที่อยู่ตอนนี้อีก หนูไม่ได้กลัวว่าเขาจะด่าหนู แต่หนูไม่อยากให้ใครมาว่าพ่อ”ผมส่ายหน้าบอกพ่อทั้งน้ำตา เอามือเช็ดมันก็ยิ่งไหล
“เอ็งเป็นพวกเขาเหรอถึงได้รู้ใจเขาขนาดนั้น”พ่อถามต่ออีก ดึงให้ขึ้นไปนั่งข้าง ๆ หันไปพยักหน้าให้เฮียขึ้นไปนั่งด้วย ผมส่ายหน้าซุกไหล่พ่อ
“เอ็งนี่ไม่เปลี่ยน ชอบเสือกคิดแทน ห่วงความรู้สึกคนอื่นซะจนลืมคิดถึงตัวเอง”พ่อตบไหล่ผมพูดขำๆ
“ก็เพราะเป็นพ่อ หนูถึงห่วงมากกว่าใคร ถ้าไม่ใช่คนในครอบครัวหรือสนิทหนูไม่เสือกความรู้สึกเขาหรอกพ่อ”ผมพูดกับพ่อไม่ใช่ประชด
“ถ้าไอ้เฮียมันไม่มา หรือ มันเป็นอะไรตายห่าไปก่อน เอ็งคิดจะบอกข้าไหมว่าเสียตัวให้มัน”พ่อดึงหัวผมเบาๆให้มองหน้า ตอนพูดตายห่าหันไปทางเฮียที่ยกยิ้มรับตามเดิม และผมหวังจะให้เฮียทำอะไรล่ะ ในเมื่อคนพูดเป็นพ่อผมเอง
“บอกสิ แต่ขอเวลาทำใจสักพัก หนูไม่ปิดพ่อหรอก แค่ไม่ยังไม่อยากให้พ่อเสียใจ”ผมพยักหน้าบอกพ่อ
“ไม่ว่าเอ็งจะบอกข้าตอนไหน มันก็เหมือนกันนั่นแหละ”พ่อเอามือเช็ดน้ำตาให้
“หนรู้ ยังไงพ่อก็เสียใจอยู่ดี โอ้ย พ่อ”น้ำตาไหลออกมาอีกแล้ว ก่อนจะเอามือกุมหัวเมื่อโดนเขกกะโหลกเข้าให้
“กูพูดแหมบๆอย่าคิดแทนคนอื่น”พ่อค้อนใส่ ก่อนจะถอนหายใจ”ข้าไม่ได้เสียใจหรือผิดหวัง แต่ข้าคิดไม่ถึงว่ามันจะเป็นแบบนี้ ทั้งที่ก่อนหน้าข้าก็พอจะเดาและทำใจไว้บ้างนะ ว่าอะไรเกิดมันต้องเกิด แต่พอได้ฟังจากปากเอ็งสองคน ข้าก็อึ้งไปเหมือนกัน มันไม่ใช่ความรู้สึกเสียใจหรือผิดหวัง แต่ไม่ต้องคิดว่ากูตื้นตันหรอกนะที่มึงมีผัวดีกรีดอกเตอร์”มีประชดตบท้าย ผมเบิกตาใส่พร้อมกอดพ่ออย่างแรง ก่อนจะผละออก
“จริงเหรอพ่อ พ่อไม่ได้เสียใจและผิดหวังจริงๆเหรอ”ผมเขย่าถามพ่ออย่างลืมตัว ถึงตอนท้ายพ่อจะประชด ผมก็ไม่สนใจ
“กูจะเสียใจก็ตอนที่มึงอกตัญญูฆ่ากูด้วยการเขย่านี่แหละไอ้หนู”พ่อผลักหน้าผมออก เอามือคลึงหัวไปมา
“ขอโทษจ๊ะพ่อ ไหนหนูดูสิ เฮียหยิบยาดม ยาอม ยาหม่องมาหน่อย เร็วสิ นั่งมองอยู่ได้”ผมไหว้ก่อนจะประคองพ่อหันไปพูดใส่เฮียที่นั่งมองก่อนจะลุกไปหยิบมาส่งให้
“โอ้ยยย ไม่ต้องมาเอาใจข้ากันหรอก ยังไงข้าก็ไม่ยกลูกให้”พ่อพูดสะบัดหน้าหนีนิดๆ เฮียยิ้ม
“ครับ ผมรู้ว่าตอนนี้พ่อยังไม่ยกหนูให้”เฮียพูดส่งยาหม่องให้ดม
“ตอนไหนข้าก็ไม่ยก”พ่อพูดใส่อีก แต่รับยาหม่องมาดม ผมเกือบหลุดปาก อ้าว ทำไมล่ะพ่อ ออกไปแล้วดีนะที่ระงับได้ทัน ไม่งั้นโดนคุณนกเขกหลายโป๊กแน่กับความนอกหน้าในความคิดคุณนกนะ ไม่ใช่ผม ถ้าผมถามก็แค่สงสัยเฉยๆ จริงจริ๊งงง กอปรกับสายตาเฮียที่เหมือนจะบอกว่า หนูไอ้ที่คิดอย่าพูดออกไปนะ เอาไว้เฮียกลับมาอีกรอบค่อยประเลาะพ่อกันใหม่ หรือเปล่าหว่า ถ้าระบบสื่อสารทางสายตาผมยังดีอยู่นะ
“ผมทราบดีครับว่าเพราะอะไร”เฮียรับทราบที่เข้าใจความหมาย ไม่ใช่รับทราบเอาใจบังหน้า
“ดีแล้วที่เอ็งทราบ ในฐานะเป็นพ่อคนเหมือนกัน ถึงจะกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ แต่เรื่องนี้คงยังสรุปอะไรไม่ได้ในตอนนี้ ด้วยภาระหน้าที่เอ็งที่ข้าไม่รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ ดีหรือไม่ดี ถ้าตามข่าวเอ็งก็คือนักโทษแหกคุก ย่อมไม่ดีแน่ แต่ตามจริงที่ข้าได้รับรู้จากไอ้หนูและลักษณะท่าทางเอ็งก็ดูไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร ข้านับถือที่เอ็งเป็นคนรักษาคำพูด ขอบใจที่เอาดวงใจมาคืนให้ข้า แต่ในฐานะอื่นข้าขอยังไม่ยอมรับนะ อนาคตมันเป็นสิ่งที่มองไม่เห็น เอาไว้ถ้าเอ็งมีโอกาสจัดการตัวเองได้ และไม่เปลี่ยนใจซะก่อน ค่อยมาคุยกัน”พ่อพูดกับเฮีย ที่ยิ้มรับอย่างทุกครั้ง
“ลูกคือแก้วตาดวงใจ การที่จะมอบให้ใครสักคนรักและดูแลแทนเราก็ต้องพิจารณากันหน่อย ฐานะ ไม่ใช่เรื่องสำคัญ แค่ให้ความมั่นใจว่าจะดูแลและรักให้ได้ครึ่งของคนเป็นพ่อก็พอ นี่คือสิ่งที่ข้าจะบอกเอ็งในตอนนี้ ในทางกลับกันถ้าไอ้หนูมันไปได้เมีย ข้าก็ต้องมั่นใจว่ามันจะดูแลลูกเขาได้”พ่อพูดต่อหันมาดึงผมไปกอด
“ครับ ผมเข้าใจและรู้ซึ้งถึงสิ่งที่พ่อสอนหนูได้ด้วยตัวเองแล้ว หนูเป็นแบบนี้เพราะคำสอนที่ดีของพ่อ ผมจะจำเอาไว้ไปบอกลูกบ้าง เขาจะได้มีแบบอย่างที่ดี ”เฮียพูดก่อนจะพาตัวเองไปนั่งข้างล่าง พนมมือก้มกราบเท้าพ่ออีกครั้ง
“ขอบคุณครับที่ไม่รังเกียจ ผมจะไม่ขออะไรในตอนนี้ แต่ถ้ามีโอกาสผมจะพิสูจน์ตัวเองให้พ่อยอมรับ ผมไม่เปลี่ยนใจจากหนูแน่นอน”เฮียเงยหน้าพูดกับพ่อด้วยความหนักแน่น
“เอาเถอะ ความสุขของลูกก็คือความสุขของคนเป็นพ่อ ข้าไม่บอกหรอกนะว่าจะรอ เกิดเอ็งไม่มาตามที่บอก ข้ากับไอ้หนูก็รอเก้อ ถึงตอนนั้น ข้ายกมันให้คนอื่นแล้วเอ็งอย่ามาว่าแล้วกัน”พ่อพูดใส่เฮีย แต่เหมือนจะมีรอยยิ้มนิดๆ
“ไม่ว่าครับ แต่ผมจะไปตามเอาคืน ผมไม่ยกหนูให้ใครแน่นอนถ้าผมยังอยู่”เฮียยกยิ้มบอกพ่อที่ค่อยหุบลง มองนิ่งๆก่อนจะเหล่ผมก้มมาพูดใกล้ๆ
“ปากบานเชียวนะมึง กูเห็นตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว มันพูดอะไรมึงก็ยิ้ม”พ่อกัดฟันพูดเน้นๆ ทำเอาผมสะดุ้งที่ถูกจับได้
“อะไรล่ะพ่อ ตาลายเปล่า”ผมกระซิบมั่ง ถ้าตอบก็มันโดนใจ ก็โดนคุณนกเหน็บอีก แต่ดูเหมือนจะไม่รอดก็ปากกับหน้าไม่รักดีของผมมันบานออกซะ ผมดีใจถึงพ่อจะไม่พูดออกมาตรงๆ ว่ายกโทษให้ แต่แค่นี้ผมก็ดีใจแล้ว ก่อนจะหันไปมองเฮีย
มอง
จ้อง
อ้าปาก
ผมลุ้น
“ใครอนุญาตให้เรียกข้า พ่อ วะ! ยังไม่ยอมรับเอ็งเป็นลูกเขยสักหน่อย”“ไม่เป็นไรครับ ฝึกเอาไว้ก่อนจะได้ชินทั้งสองฝ่าย”ยิ้มและตอบพ่ออย่างสุภาพที่สุด
“ไม่ชิน ยังไงข้าก็ยังไม่ชิน ให้เลือกสองอย่าง ลุง กับ พี่ ถ้ามึงต่อรองอีก ออกจากบ้านไอ้สิบไปเลย”พ่อพูดพร้อมชี้มือไปทางประตู ผมดึงมือพ่อให้นั่งลง เดี๋ยวจะเป็นลม
“โธ่ พ่อ คิดไปโน่น เฮียเขาเรียกเพราะนับถือต่างหากล่ะ”ผมพูดให้พ่อเข้าใจเจตนาของเฮีย ถึงสายตาเฮียมันจะบอกว่าไม่ใช่ก็ตาม แต่ขอให้คล้อยตามหนูไปก่อน
“ครับ”เฮียพยักหน้าเข้าใจ
“เออ ดี”พ่อพยักหน้าใส่
“แต่ ผมขอพี่นกสักเรื่องได้ไหม”เฮียพูดออกมาอีก
“เอ็งอยากออกจากบ้านใช่ไหม”พ่อพูดใส่เสียงเรียบ
“ไม่ใช่เรื่องนั้นครับ ผมขอเวลาที่เหลืออีกสองวัน ได้ใช้เวลาอยู่กับหนูได้ไหม ผมจะไม่ทำอะไรเกินเลย ถ้าพี่นกไม่พอใจ ผมยินดีจะไปทันที”เฮียพูดสิ่งที่ขอออกมา ทำเอาผมน้ำตาจะคลอคิดไปอีกแล้วว่าเฮียพูดเป็นลางอีกแล้ว ผมได้แต่นั่งเงียบไม่กล้าจะพูดอะไรออกไป ผมอยากให้พ่อเป็นคนเอ่ยปากเอง ในเมื่อเฮียกล้าขอ ขึ้นอยู่กับพ่อแล้วว่าจะให้ไหม พ่อยังเงียบก่อนจะตัดสินใจลุกเดินไป ผมมองเฮียพยักหน้าให้กำลังใจ เฮียก็มองตอบเหมือนว่า ไม่เป็นไร ได้แค่นี้เฮียก็พอใจแล้ว
V
V
V
V
V
V
V
“อย่าให้ข้าเห็นแล้วกัน ว่าเอ็งฟัดมัน เอ็งออกจากบ้านไปได้เลย”พูดจบพ่อก็เดินออกไป ทำเอาเรายิ้มออก เหมือนหนุ่มสาวที่ถูกกันท่า ทำอะไรต้องอยู่ในสายตา แต่ก็ดีแล้ว แค่นี้พ่อก็ยอมให้มากแล้ว ขอบคุณนะพ่อจ๋า ผมบอกพ่อในใจ แต่เฮียออกเสียงไปแทน
“ขอบคุณครับ”เสียงเฮียพูดตามหลัง คิดว่าพ่อคงได้ยิน ผมเห็นพ่อพยักหน้า
.
.
.
.
.
“เฮียเจ็บมากไหม”ผมจับข้อมือเฮียลูบเบาๆ หลังจากที่พ่อปล่อยให้เราได้อยู่สองคน ส่วนพ่อไปวัดแล้ว ไอ้เคนพาไป เฮียกำชับให้ดูแลพ่อให้ดี มีอะไรไม่ชอบมาพากลให้พากลับทันที ผมเพิ่งมารู้ว่าเคนเป็นคนที่เฮียขอให้เพื่อนส่งมาคุ้มครองผมกับพ่อ ผู้ชายคนนี้ไม่ว่าจะอยู่ไหนก็ยังเป็นห่วงผมเสมอ รวมถึงญาติพี่น้องผมที่ต่างจังหวัดด้วย ผมไม่รู้จะขอบคุณเฮียยังไงดี เฮียบอกว่าไม่ต้อง แค่ให้ความรักกับเฮียก็มากแล้ว
“นิดหน่อย”คำตอบสแตนดาร์ดของเฮีย จะมากจะน้อยก็ไม่ปริปาก ผมหยิบแก้วน้ำส่งให้เฮียพร้อมยา
“นิดหน่อยถึงกับต้องกินยาเลยเหรอ”ผมพูดต่อ หยิบยาทาแก้ฟกช้ำทาข้อมือ และรอยต่างๆ ภายนอกร่มผ้าให้เฮีย คาดว่าข้างในคงจะมีไม่น้อย ผมทาตรงหน้าอกที่เป็นรอยช้ำเห็นชัด เฮียกุมมือผมยิ้มทั้งปากและตา
“แค่เห็นหนูเฮียก็หายแล้ว ไม่เจ็บแม้แต่นิดเดียว”เฮียพูดคล้ายจะอ้อน ผมยิ้มไม่ได้เขินแต่รู้สึกดีที่พอคลายเจ็บให้เฮียได้บ้าง ก่อนเฮียจะพูดต่อ“ถ้าได้อยู่ด้วยเฮียคงไม่เจ็บอีกต่อไป”
“เฮีย หนูอยากอยู่กับเฮียนะ”เฮียดึงผมไปกอดที่พูดจบพร้อมคำพูดผมที่เข้าหู แค่กอดคงไม่เป็นไรนะพ่อ เฮียไม่ได้ฟัดหนู
“ครับ เฮียก็อยากอยู่กับหนู อยากดูแล อยากเป็นครอบครัวด้วย”เฮียกระซิบจูบใบหูผม ก่อนจะไล่ไปเส้นผม
“แล้วมันจะมีไหมเฮีย วันนั้นจะมีไหม”ผมถามเฮียอย่างไม่รู้ว่าจะได้คำตอบไหม เพราะเฮียเงียบได้ยินแต่เสียงลมหายใจและอ้อมแขนที่อบอุ่น ก่อนมือใหญ่จะลูบหลังเชิงปลอบ
“เฮียจะพยายามมีให้ได้”เฮียพูดด้วยความรู้สึกไม่ต่างจากผม เฮียไม่ได้สัญญา เพราะกลัวจะทำให้ผิดหวัง เฮียไม่อยากให้ผมผิดหวัง ถึงไม่พูดผมก็รู้
“ต้องมี เฮียทำได้”ผมพยักหน้ากับไหล่เฮีย พูดให้กำลังใจเรามีความหวัง เฮียไม่พูดแต่พยักหน้าเช่นกัน เราปล่อยเวลาให้ผ่านไปเพื่อจะสัมผัสถึงกันให้มากกว่านี้
“มีเจ็บตรงอื่นอีกไหมเฮีย หนูจะทายาให้”ผมผละออกมาจับตัวเฮียมองสำรวจ
“ไม่มีแล้ว”เฮียตอบก่อนจะมองหน้าผมที่หรี่ตาเหมือนจะไม่เชื่อ
“จริงดิ”ผมถาม เฮียที่พยักหน้า
“อืม เฮียเคยเป็นอะไรมากที่ไหนล่ะ”เฮียเอามือขยี้หัวผม ยกยิ้ม
“ก็ไม่แน่หรอก เฮียไม่บอกหนูก็ไม่รู้ ไม่แน่ อาจจะ ตรงนี้ก็ได้นะ ครึครึ”ผมพูดใส่เฮียขำๆตอนชี้จุดสำคัญของผู้ชาย แต่เฮียผงะก่อนจะยิ้มเฝื่อนและพูดกลับ
“ตรงนี้เฮียรักษายิ่งชีพเลย เอาไว้ให้หนูดูแลเป็นพิเศษ”เฮียล้อทั้งเสียงและหน้า ทำเอาผมลืมท่าทางเฮียเมื่อครู่
“ก็คงพิเศษ เพราะเป็นไข่ ฮ่าๆๆๆๆ”ผมเล่นมุขแก้เขินกลับใส่เฮีย ที่ทำหน้างง ก่อนจะบางอ้อส่ายหน้าใส่ พิเศษใส่ไข่ เลยต้องใส่ใจกันหน่อย เฮียนี่ทะลึ่งขัดบุคลิกจริงเลย หรือ กูวะที่ชี้นำ
“เฮียเลิกเสื้อแล้วหันหลังหน่อย หนูจะทายาให้”ผมบอกเฮียที่ทำหน้าว่าผมรู้ได้ยังไง แต่ก็ยอมทำโดยดี
“หนูเห็นเมื่อวานเฮียถอดเสื้อ ล้างตัวในคลอง ตอนตัดหญ้าเสร็จ”ผมบอกเฮียมือก็ทา กลางหลังเฮียมีรอยช้ำวงใหญ่ ตัดกับรอยสัก และรอยจ้ำเล็กๆ ที่เฮียคงโดนมาไม่เล็กแน่
“เฮียไปทำอะไรมา เกี่ยวกับข่าวที่ออกหรือเปล่า”ผมตัดสินใจถามเฮียออกไป เฮียเงียบตามเดิม
“ในเมื่อสองวันที่ได้อยู่ด้วยกัน หนูขอให้เราอย่าปิดบังได้ไหม เฮียบอกเท่าที่เฮียบอกได้ก็พอ”ผมพยายามไม่กดดันเฮีย เอาหน้าเกยไหล่ พูดต่อเสียงเบา มือโอบเอว“เฮียรักหนู หนูรักเฮีย เรารักกัน แบ่งมาบ้างได้ไหม”
“เฮีย ไม่อยากให้หนูรู้สึกไม่ดีไปด้วย”เฮียพูดเอาหัวพิงหัวผม
“ไม่มีอะไรที่หนูจะรู้สึกไม่ดี ในเมื่อเฮียเลือกหนูแล้ว เราต้องรู้สึกเหมือนกันสิ”ผมตอบเฮียทันควันโดยไม่ต้องคิดให้เสียเวลา
“หนูต่างหากล่ะที่เลือกเฮีย ทั้งที่รู้ว่าเฮียเป็นใครในตอนที่เลือก”เฮียกุมมือผมแนบแน่นขึ้นและพูดต่อ”หนูเข้าใจถูกแล้วล่ะ เฮียไปทำงานให้นาย แต่พลาดถูกจับได้ เลย ฮึฮึ”เฮียหัวเราะในลำคอ แค่นี้ผมก็รู้แล้วว่าเฮียเจ็บปวดและทรมานแค่ไหน ก่อนเฮียจะค่อยๆเล่าออกมา เราอยู่ในท่านั้นตลอด
“เวลานั้นเฮียนึกถึงหนู เป็นห่วงมาก กลัวมันจะจับหนูไปจริง ๆ แต่พอได้สัมผัสเฮียก็แน่ใจว่าหนูยังอยู่ดี ถ้าเป็นหนูจริงในตอนนั้น เฮียบอกเลยถ้าหนีไม่ได้ เฮียจะฆ่าทิ้งทันทีไม่ให้ทรมาน”เฮียหันมาพูดเสียงแผ่วเบาจมูกเราชนกัน
“ดีแล้ว เราสัญญากันแล้ว เฮียทำถูกแล้ว”ผมเอาปากสัมผัสแก้มเฮียที่ทำกลับเช่นกัน ผมสงสารเฮียเหลือเกินรอยช้ำมันคือรอยไหม้จากเครื่องช็อตไฟฟ้า ความเจ็บปวดไม่ต้องพูดถึงแค่โดนท่อรถหรือของร้อนสะกิดเพียงนิดยังสะดุ้ง แล้วเฮียล่ะ ผมไม่อยากจะนึกภาพเลย แค่นี้ใจผมก็ถูกบีบจนอึดอัดไปหมด
“ตอนนั้นเฮียคิดว่า ถ้าตายไปก็คงจะดี แต่พอนึกถึงหนู ตุลย์ เฮียก็บอกตัวเองว่าตายไม่ได้ อย่างน้อยขอให้เจอกันอีกสักครั้ง ก็ยังดี”เฮียพูดต่อก่อนจะหันหน้ามาดึงผมเข้าไปกอด โน้มตัวจูบหน้าผาก ซับน้ำตาที่มันคลอ จบที่ปากอย่างนุ่มนวล ผมตอบรับเฮียอย่างช่วยปลอบประโลมให้ลืมความเจ็บ พอผละออกผมมองหน้าเฮียอย่างตัดสินใจที่จะถามบางอย่าง
“หนูได้ยินเสียงเฮียร้อง เอ้อ ในห้องน้ำ”ผมลูบหน้าเฮีย ตั้งแต่เฮียมาอยู่ในคราบอาจนรู้ว่าเป็นเฮีย ผมได้ยินเสียงเฮียร้อง ตอนแรกผมหน้าแดงคิดว่า เฮียเกิดอารมณ์ แต่พอฟังมันเหมือนเสียงครางด้วยความเจ็บปวดแต่ต้องกลั้นไว้ ผมไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟัง แต่บังเอิญเข้าไปทำความสะอาดและจะเรียกกินข้าว ผมเอาหูไปแนบจนแน่ใจว่าไม่ใช่
“มีอะไรที่หนูไม่รู้ว่าเฮียเจ็บปวดมากกว่าที่เห็นใช่ไหม”ผมถามเฮียที่เอาหน้าผากแนบพยักหน้าช้าๆหลับตาลงอย่างยอมรับ
“ใช่ เจ็บ มันเจ็บมากในตอนแรก แต่ตอนนี้ไม่แล้ว มันไม่รู้สึกแล้ว”เฮียยอมรับด้วยรอยยิ้ม ผมเอื้อมมือไปตรงส่วนนั้น เฮียมองจะจับแต่ผมส่ายหน้า เฮียหลับตาอีกครั้ง ผมไม่ได้ทะลึ่งลามก ผมจับกุมขยับนิดๆพอรู้สึก
“มันไม่ตื่นใช่ไหม ฮึฮึ”เฮียหัวเราะในลำคอ ผมโผเข้ากอดเฮียทันที
“ฮือออออ ทำไม ทำไม มันต้องเกิดกับเฮียด้วย ฮืออออออออ”ผมร้องไห้ออกมาอย่างเก็บไม่อยู่ ผู้ชายคนนี้เจออะไรที่เลวร้ายยังไม่พออีกเหรอ ถึงได้ลงโทษเขาขนาดนี้ ทำไมต้องทำกับเฮียแบบนี้ด้วย ไอ้คนเลว ขอให้พวกมันหดไม่มีสืบพันธ์ลูกหลานเลวๆจะได้ไม่โผล่มาเลวเหมือนบรรพบุรุษมัน ผมไม่เคยนึกอยากจะด่าสาปส่งใครเลย แต่รู้สึกโกรธแค้นแทนเฮียมากจนต้องหลุดปากสาปแช่งพวกมัน
“เฮียไม่เป็นไร ไม่เป็นไร อย่าร้องนะ”คำซ้ำๆที่ออกจากปากเสมอ ไม่ว่าจะเจ็บปวดแค่ไหน ก็แค่ไม่เป็นไร
“เฮียมีตุลย์ มีหนู อยู่ด้วยก็พอแล้ว”เฮียพูดต่อเสียงทุ้มอย่างที่พอแล้วจริงๆ
“อยู่ ฮึก หนู จะอยู่กับเฮีย ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น หนูจะอยู่ด้วย เฮียไม่ต้องกลัวนะ หนูไม่ทิ้งเฮียแน่นอน”ผมละล่ำละลักบอกเฮียไม่ให้กังวลถึงเรื่องนั้น มันไม่ได้สำคัญอะไร ไม่สักนิดในตอนนี้
“แค่ได้อยู่ด้วยกันก็พอแล้ว พอแล้ว”ผมพูดขอไม่ต่างจากเฮีย ความเงียบเข้าปกคลุมเราอีกแล้ว ได้แต่ปล่อยให้สัมผัสปลอบเราแทนคำพูดที่ไม่รู้จะพูดอะไรให้ดีกว่านี้
.
.
.
.
ความสุขมันจะอยู่กับเราสั้น ก็น่าจะจริง วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่เฮียจะอยู่ที่นี่ พรุ่งนี้เฮียต้องไปแล้ว ไปทำในสิ่งที่เฮียกับนายหวังไว้ ผมก็ไม่รู้อีกตามเคย แต่ไม่เป็นไร ขอแค่ให้มันจบลงด้วยดีก็แล้วกัน อย่าให้มีอะไรต้องมาทำให้เฮียเจ็บไปมากกว่านี้ สองวัน ผมกับเฮียใช้ชีวิตเหมือนคนในครอบครัว เช้าทำกับข้าวใส่บาตร หรือไม่ก็ไปวัดทำบุญด้วยกัน ให้อาหารปลาที่ครั้งหนึ่งผมเคยคิดว่าอยากให้เฮียมาอยู่ข้างๆ และเฮียก็มาแล้ว อยู่ว่างๆก็ทำความสะอาดบ้านเจ้าของเขาจะใช้เป็นเรือนหอแต่คนรอยังไม่มาอยู่ เฮียทำทุกอย่างแม้กระทั่งล้างห้องน้ำ ซักผ้าให้พ่อกับผมอย่างไม่รังเกียจ ไม่ใช่เป็นการเอาใจ อยู่โน่นเฮียว่างก็ทำตลอด ส่วนพ่อก็ดูจะคุยกับเฮียเรื่องปัจจุบันมากกว่า ไม่มีการจับผิดหรือว่าอะไร เหมือนไม่เคยมีเรื่องก่อนหน้า
“ข้าเป็นคนพูดคำไหนคำนั้นนะโว้ย เห็นอย่างนี้เถอะ”พ่อเริ่มคุยข่มเฮีย จิบเบียร์ไปด้วย ไม่รู้นึกครึ้มใจอะไร ซื้อเบียร์มาดื่ม
“หนูเชื่อออออออออออออ”ผมพยักหน้าลางเสียงอย่างให้รู้ว่าเชื่อจริงๆ
“ไม่ใช่ได้ไง เอ็งลูกข้า ถ้าไม่เชื่อข้า โลกนี้โลกหน้าเอ็งก็ไม่ต้องเชื่อใครแล้ว ไอ้หนูนนนนนนนนน”พ่อพูดลากเสียงยานคางบ้าง ซึ่งไม่น่าจะเกิดจากน้ำเมา เฮียแค่จิบนิดๆ บอกไม่ได้ดื่มมานานแล้ว อีกอย่างหมอห้ามด้วย หมอบอกเฮียว่ายังมีโอกาสหายได้ ผมดีใจกับเฮียด้วย แต่ถึงไม่หายผมก็จะอยู่กับเฮียแน่นอน เฮียกอดและจูบผมซะปากเปื่อยไปหมด มีหน้าบอกว่าพ่อไม่เห็นและเราไม่ได้ฟัดกันไม่ผิดหรอก ผมก็อือออตามใจที่ไม่คิดจะขัดอยู่แล้ว ครึครึ ส่วนตรงนั้นผมช่วยเฮียทายาด้วย นอกจากของตัวเองก็ไม่เคยจับของคนอื่นสักที ข่มความอายทั้งคู่ช่วยกันลูบคลำ ขยำ แม้แต่เป็นกำลังใจส่งเสียง ฮึบ ฮึบ ขึ้นโว้ย ตอนเฮียพามันกระดก ตามที่หมอบอก มันก็ไม่ยอมตื่น ทั้งที่มันไม่เคยขี้เซาหัวหดอย่างนี้มาก่อน สุดท้ายเราก็กุมมือ สบตาอย่างให้กำลังใจกันและกัน ชีวิตไม่สิ้นเดี๋ยวมันก็คงดิ้นได้อีกครั้ง สู้สู้
“ขนาดลุงกำนันทวงตังค์พ่อตั้งแต่สมัยเรียน จนปัจจุบัน พ่อบอก ไม่มีตลอด หนูก็เชื่อแล้ว ว่าพ่อพูดคำไหนคำนั้น ไม่มี คือ ไม่มี”ผมจำได้ดี แต่ลุงแกไม่ได้ทวงจริงจังหรอกแหย่พ่อมากกว่า
“ใช่ไง ข้าถูกใช่ไหมล่ะ เอ็งจำไว้นะ เราต้องเป็นคนรักษาคำพูด พูดคำไหนคำนั้น ฮ่าๆๆๆๆๆ”พ่อกอดไหล่ผมพูดอย่างภูมิใจด้วยเสียงหัวเราะ ทำเอาเฮียที่ไม่ค่อยจะหัวเราะต้องหลุดมาบ้าง
“ถูกกกกก หนูก็จำและทำมาตลอด ไอ้รงค์ทวงของเล่นหนูก็ไม่คืน คำไหนคำนั้นเหมือนกัน ฮ่าๆๆๆๆ”ผมเอามั่ง ไอ้เรื่องมีพ่อเป็นไอดอลขอให้บอก เฮียเลิกคิ้วขำๆ พากันขุดเรื่องมาคุย ยกเว้นเฮียที่นั่งฟังอาศัยขำอย่างเดียว จนเวลาปาเข้าไปตีหนึ่งก็เก็บของพากันเข้านอน เป็นคืนแรกที่พ่อให้ผมกับเฮียนอนด้วยกัน เราไม่พูดอะไรกันเลย สองวันเราบอกรักและสัมผัสกันภายนอกเกือบตลอด ในตอนนี้มีแต่มือที่กุมกันไว้ สบตากัน ส่งรอยยิ้มให้รู้ว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเราจะอยู่เคียงข้างกันตลอดไป เฮียรักหนู หนูรักเฮีย
“เฮียเดินทางดีดีนะ”
“หนูอยู่ที่นี่ระวังตัวด้วยนะ มีอะไรโทรหาเคนก่อนใกล้สุด”
“อืม เฮียระวังตัวด้วยนะ”
“ครับ”
“เฮียกินยา กินข้าว ด้วยนะ อย่าลืมล่ะ จะได้หายเร็วๆ”
“รู้แล้ว หนูก็เหมือนกัน”
“อืม”ก่อนผมจะทำปากผมรักเฮียอีกครั้ง เฮียก็ทำบ้าง
ท่ามกลางลมหายใจอันแผ่วร้อนที่กั้นเราไว้
V
V
V
V
V
“มึงสองคน จะนอนได้หรือยัง!”“คุยผ่านหน้ากูอยู่นั่นแหละ ไอ้เฮียมึงไปนอนข้างล่างเลยไป เกิดมึงนึกว่าเป็นไอ้หนู ซวบกูเข้าให้ ขี้เกียจมีปัญหากับมัน ไป ลงไปข้างล่างเลยมึง อบอุ่นซะกูเสียวหลังไปหมด”
ใช่ครับ พ่อใจดีให้เรานอนด้วยกัน โดยมีพ่อนอนตรงกลางกั้นระหว่างเราะ ไอ้เราก็นึกว่าหลับไปแล้ว อุตส่าห์อกตัญญูรินเบียร์ให้มากกว่าใคร คุณนกนี่คอแข็งจริง
“คิดจะมอมกู ยังช้าไปไอ้หนู เหล้าขาวรวมดีกรียังเอากูไม่อยู่เลย” O_O นี่พ่อรู้ด้วยเหรอนี่
“เปล๊า ใครจะกล้าทำอย่างนั้น นอน นอน หนูนอนแล้ว”ผมรีบพูดก่อนจะกอดพ่อแนบแน่น เฮียลงไปข้างล่างแล้ว คงนอนไม่ถนัดด้วยเพราะเตียงเล็กแต่อัดผู้ชายขนาดน้องควายสามคนก็เกินแล้ว ผมยิ้มให้เฮียที่ยังนอนมองหน้าผมอยู่ จนกระทั่งหลับไปด้วยความสุข พร้อมความคิดในใจ
.
.
.
.
.
‘ถึงของเฮียจะใช้ไม่ได้ หนูก็ยินดีจะสละของหนูให้เฮียใช้เป็นการตอบแทนที่เฮียให้หนูมาเยอะแล้ว ไม่ต้องกลัวนะเฮีย’
ผ่านไป
ตีสาม
.
.
.
.
.
“ฮึ่มมมม ไอ้หนู ไอ้ลูกไม่รักดี เห็นผู้ชายดีกว่าพ่อ ฮึ่มมมม”
เสียงเหมือนเครื่องยนต์คำรามกระฮึ่ม ทำเอาผมผวา แต่สงบได้เมื่อถูกโอบไปในอ้อมแขนกว้างที่คุ้นเคย ผมไม่รู้ตัวสักนิดว่าละเมอมานอนข้างล่างได้ยังไง
^______________________^
************************************************************************************************************************
ปล. มาชิวๆกันอีกตอนให้สบายอกสบายใจกันไปกับด่านพ่อตาที่ยังไง๊ ยังไง คุณนกก็ร้ายไม่ลง ส่วนตอนหน้าจะพาไปอาบแดด เอ้ย ไปอาบเลือด กันแล้ว อิอิ
มีคนแนะนำให้ทำสารบัญ บอกตรง ทำไม่เป็นอ่ะ ฮือออออออ
แต่จะลองค่ะ รอก่อนนะ หรือท่านผู้มีอุปการคุณท่านใดทำให้ ขอบคุณล่วงหน้าเลยค่ะ หุหุ
ขอบคุณค่ะสำหรับกำลังใจที่มีให้กัน จะติจะชม ดิฉันรับอมไวหมดจนหน้าบานไปหมดแล้ว แต่ชอบมากค่ะ ขอบคุณอีกนะคะ
บาย ไปทำงานต่อ อีนี่รักกรูจริงแทบจะสิงร่างเลย