“เออ มันเป็นเพื่อนบ้าน แล้วเอ็งทำไมต้องจับมือลูกข้าด้วยวะ ไอ้กร”พี่นกพูดพร้อมดึงมือออก และจ้องหน้า
“ผมไม่อยากให้ไว้ใจใครง่ายๆ เกิดมันเป็นคนร้ายแฝงตัวมาล่ะ จะทำยังไง”ผมเลยเบี่ยงประเด็นด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่จริงจัง จนพี่นกพยักหน้า
“เออว่ะ เฮ้ย แต่ไม่มั้ง ตั้งแต่ได้คุยกันมันก็ไม่มีอะไรนะ จริงไหม นังหนู เอ็งคุยกับมันบ่อยนิ”พี่นกเหมือนจะเห็นด้วยแต่มีแย้งแถมโยนไปให้นังหนู ที่สะดุ้งนิดๆเหมือนโดนจับได้ว่าแอบมีกิ๊ก
“อ้าว พ่อ ไหงโยนมาให้หนูล่ะ เวลาคุยพ่อก็อยู่ด้วยตลอด และหนูไม่เคยพามันเข้ามาในบ้านซะที่ไหน อยู่หน้าบ้านตลอด ปืนก็ควักออกมาวางข้างตัวทุกครั้ง หนูพูดจริงๆนะ อา”คิดอย่างไม่ไว้ใจคือแก้ตัว แต่พอเจอคำตอนท้ายที่ยืนยันด้วยหน้าใสซื่อ กระพริบตาใส่ ทำเอาผมใจอ่อนยวบแล้ว ผมเชื่ออยู่แล้วล่ะ
“ออกไปด้วยกัน”ผมบอกและจูงมือหนูออกไปต่อหน้าพี่นกที่เหมือนจะอ้าปากหวอ แต่ยังทันได้ยิน
“มึงห่วงลูกกู เหมือนหวงเมียเลยวะ ไอ้กร”อยากจะหันไปบอกว่าเข้าใจถูกแล้ว แต่ขอดูหน้าไอ้ฝรั่งที่อาจจะดั้งแหมบถ้ามันมาจีบหนูล่ะก็ ไอ้เคน ผมเดินไปจนถึงหน้าบ้าน เห็นผู้ชายสูงพอกับผม อายุน้อยกว่า หน้าตางั้นๆ ผมคงไม่ต้องพูดมั้งว่าใครหล่อกว่า
“หนู ผมเอาผลไม้มาฝาก”มันหันมายิ้มยื่นตะกร้าใส่ผลไม้หลายอย่างให้ ผมชิงรับและวางตรงโต๊ะหิน
“อา วางเบาๆก็ได้ ช้ำหมด”หนูกระซิบบอก
“เบาที่สุดแล้ว”ผมก้มไปตอบกลับ
“สวัสดีครับ คุณอา คงเป็นน้องคุณพ่อสินะครับ”มันยกมือไหว้ทักทายอย่างมีมารยาท อยากจะบอก อาประเทศมึงเป็นน้องแม่หรือไง แต่มันดูจะไม่เหมาะกับคนอย่างผมที่จะแสดงกิริยาไม่ดีออกไป
“เป็นใคร”ผมไม่ตอบถามมันกลับที่ใช้สายตามองคาดคะเนผม อย่างไม่ให้รู้ แต่กูรู้
“เป็นเพื่อนบ้านครับ”มันตอบก่อนจะนั่งลงบ้าง หลังหนูฉุดมือผมให้นั่งลง
“ว่าแต่คุณอาเพิ่งมาเหรอครับ”มันถามต่อด้วยรอยยิ้ม แต่ตามันมองผมเหมือนจะจับผิด ก่อนจะหันไปมองหนู สักพักพี่นกตามออกมานั่งสมทบด้วย มันยกมือไหว้
“เพิ่งมา และว่าจะอยู่เลย”ผมตอบหันไปมองพี่นกที่เหมือนจะพูดแย้ง แต่หุบปากลงไปซะก่อน ผมไม่ได้ทำอะไรเลยนะ
“อ๋อ เหรอครับ ดู คุณอา หน้าไม่เหมือนลุงนกเลยนะครับ”แล้วกูบอกตอนไหนว่าเป็นน้องพ่อตาตัวเอง อยากพูดแต่ระงับเอาไว้ ผมยกยิ้มตอบกลับมันเพื่อให้มันหายสงสัยสักที
V
V
V
V
“ที่หน้าไม่เหมือนเพราะ ฉันเป็นสามีหนู”
O____O
ทุกอย่างเงียบกริบ ไอ้เคนเบิ่งตา มองผมที่ยกยิ้มเอามือโอบไหล่หนูอย่างตอกย้ำสถานะให้มันเข้าใจยิ่งขึ้น พี่นกอ้าปากและหุบตามเดิม มองหน้าผม มองหน้านังหนูของพ่อ ที่ไม่พูดอะไร
“จะ จริงเหรอครับ คุณหนู คนนี้เหรอ”มันถามหนูด้วยหน้าที่ตกใจกว่าเดิม ทำไมมันต้องตกใจขนาดนั้น
“อืม”หนูตอบสั้นๆ แต่ถูกใจเฮีย มันหันไปมองพี่นก คงต้องการคำยืนยันให้แน่ใจ
“เหมือนลูกกู อืม”พ่อ(ตา)ตอบเหมือนนังหนูของแก ดีครับ ผมจะถือเป็นคำอนุญาตที่ยกนังหนูให้ผมในตอนนี้ ไอ้เคนดูจะไม่เชื่อมันหรี่ตาใส่ ทำหน้าครุ่นคิด ก่อนจะมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น มันขอตัวไปรับ ระหว่างที่คุยมันก็หันมามองผมแต่ทำแบบไม่สนใจ ไอ้คนในสายคงจะบอกแล้วว่าผมเป็นใคร ให้มาคุ้มครองดันมาจีบหนูของเฮีย แต่โดยรวมมันเป็นคนดี เพื่อนผมบอก แต่ถ้าไม่เลิกจีบหนูของผม มันก็คือคนไม่ดีที่ต้องจัดการ
“ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ คุณกร”มันพูดอีกครั้ง สบตาผมที่พยักหน้า
“เฮ้ย ทำไมง่ายอย่างนี้วะ ไอ้เคน”พี่นกถามอย่างสงสัย
“ผมเข้าใจง่ายครับ ถึงจะเสียดาย แต่ก็เข้าใจครับ”ผมยกยิ้มตอบกวนๆ
“ดี ที่เข้าใจง่าย ถ้าไม่ง่ายอาจจะเสียดายอย่างอื่นแทน ไม่จำเป็นไม่ต้องมาเพ่นพ่านบ่อย อยู่ในเขตที่ควรอยู่ เข้าใจที่พูดนะ และถ้าไม่มีธุระอะไรก็กลับได้แล้วสิ เชิญ”ผมบอกมันพร้อมเชิญให้กลับสักที
“คร๊าบ เข้าใจคร๊าบ ว่าหวง แต่เป็นเพื่อนได้ใช่ไหมครับ”มันตอบรับเสียงล้อๆ พร้อมขอลดสถานะลง ไม่รู้ว่ามันมนุษย์สัมพันธ์ดีหรือหน้าด้าน
“ได้ไหมอา เคนขอเป็นเพื่อน”หนูหันมาถามผมเชิงขออนุญาต
“นังหนู เอ็งไม่เห็นพ่องงเอ็งนั่งตรงนี้เหรอ หันไปขออนุญาตมัน”พี่นกท้วงขึ้นมาทันที เน้น ตรง พ่องงงง ด้วย
“สถานะมันเปลี่ยนไปแล้วพ่อ”หนูหันไปตอบพ่อหน้าตาเฉย
“ใช่สิ เอ็งมีผัวก็ขอผัว แต่ก่อนอะไรก็พ่อ อะไรก็พ่อ”พ่อตาผมพูดออกมาอย่างน้อยใจในตัวนังหนู
“พ่ออออ มันใช่เวลาดราม่าไหม ยังไงหนูก็รักพ่อที่สุดในทุกๆโลก”หนูเรียกเสียงยานพูดเนือยๆแต่หนักแน่นตอนท้าย เหลือไว้ให้เฮียบ้างนะ
“เออ แล้วไป”สุดท้ายพ่อยอมจนได้ ผมเริ่มเห็นเค้าลางบางอย่างในอนาคตซะแล้ว เพราะฉะนั้นต้องรีบปูทางซะตอนนี้ เผื่อวันข้างหน้าที่ผมหวังจะยังมีอยู่
“อ้าว อามองเพลินเลย ยังไง”หนูหันมาพูดกับผมที่มองสองพ่อลูกเถียงกันเพลิน แม้แต่ไอ้เคนยังอมยิ้ม
“ได้ แค่เพื่อนนะ”ผมอนุญาตแต่มีกำชับ
“ครับ คุณกร”มันตอบพร้อมเน้นชื่อตอนท้าย สักพักมันก็ลากลับ
“นี่ ทำไม อา ตอบมันแบบนั้นล่ะ แผนเหรอ”หนูถามผมทันทีที่ลับตา ผมทำหน้างงกับคำถามหนู
“อ้าว งง อีก ก็เอ็งบอกไอ้เคนว่าเป็นผัวนังหนูไง แผนเอ็งใช่ไหม”พ่อตาผมไม่ต้องมีวงเล็บแล้วพูดออกมาบ้าง สรุป ที่ไม่ค้านเพราะคิดว่าเล่นละครตบตาไอ้เคนอยู่
“เอ้อ ใช่ ผมอยากจะดูว่ามันจะหลุดอะไรไหม ดีที่หนูกับพี่นกไม่แย้งออกมาซะก่อน”ผมก็เลยเล่นตาม
“เอ็งอยู่คณะไหนมาก่อนหรือเปล่าวะ เล่นสมจริงมากเลยทั้งคำพูดและสีหน้า ทำข้าเกือบหลุดแล้ว ดีนะ นังหนูมันสะกิดซะก่อน แล้วเอ็งดูแล้วมันเป็นยังไงล่ะ มีอะไรน่าสงสัยไหม”พ่อตา พูดชมผมพร้อมถามด้วยสีหน้าจริงจัง
“โดยรวมยังไม่มี แต่ขอให้ดูไปก่อน อย่าเข้าใกล้ อย่าไปไหน อย่าอยู่สองต่อสอง กับมัน เป็นเด็ดขาด เข้าใจนะ”ผมก็ถือโอกาสสั่งซะเลย พ่อตาดูจะเข้าใจพยักหน้า แต่นังหนูนี่สิ มองหน้าผม
“เยอะพอกับอายุเลยนะ อา”พูดใส่ก่อนจะดึงมือออกและเดินเข้าบ้านไปทันที สรุป จะทำตามไหม นี่เหลืออีกอย่า คืออย่าทำให้มันหลงรัก ที่เฮียยังไม่ได้สั่งเลย แต่คำย้อนนี่มันคุ้นหูนะ
“ตั้งแต่มาอยู่นี่ ข้าเพิ่งเห็นนังหนูมันดูสดชื่นขึ้นทันตาเมื่อเห็นเอ็ง”พ่อตาผมพูดตามหลังนังหนู
”ข้าเป็นพ่อมัน ทำไมจะดูไม่ออก ต่อหน้าข้ามันก็คุยหัวเราะดูแลตามปกติแต่มันไม่ได้เสแสร้งนะ เพียงแต่ความล้นมันลดลง บางทีก็นั่งเหม่อ แต่ถ้าคุยเรื่องใครคนหนึ่งของมันก็จะยิ้มเหมือนที่มันเห็นเอ็งไม่มีผิด”พูดต่อเมื่อเห็นผมมองหน้าอย่างสงสัยและไขความกระจ่างให้ ใครคนหนึ่งคือเฮียใช่ไหม
“ระหว่างที่อยู่ก็ทำให้มันยิ้มมากๆนะ คิดซะว่าเป็นใครคนนั้นของมันก็ได้”พ่อตาพูดพร้อมจ้องหน้าผม
“ครับ”ผมรับคำ พ่อตาที่ยกยิ้มก่อนจะค่อยๆเปลี่ยนเป็นแสยะ
“แต่อย่ามากกว่านั้นนะ ไอ้กร”หรี่ตาใส่เน้นในตอนท้าย ก่อนจะเดินเข้าบ้าน
“แล้วถ้ามากไปแล้วล่ะ จะฆ่าผมไหม”ผมถามตามหลังแต่กระซิบมากกว่า กลัวจะโดนฆ่าก่อนจะได้มาขอขมา
.
.
.
.
ผมยืนใส่บาตรหน้าบ้านพร้อมหนูและพ่อตา ถ้ามีตุลย์อีกคนครบตามที่ผมฝันและหวังไว้เลย สามวันที่ผมอยู่นี่หนูกับพ่อตื่นแต่เช้า ทำกับข้าว ใส่บาตรทุกวัน ผมช่วยเด็ดช่วยหั่นผัก หั่นหมู หยิบเครื่องปรุง หยิบชาม ยกโต๊ะออกไปกางรอพระมาบิณฑบาต เรียบร้อยก็กรวดน้ำ ผมยืนอยู่ข้างหลังแต่หนูยังไม่ลุกขึ้น เหมือนจะไม่รู้ด้วยว่าผมเดินมาทันได้ยินคำพูด
“ขอให้เฮียได้รับบุญกุศลที่หนูทำให้ด้วยนะ ขอให้เฮียปลอดภัย ขอให้ทุกอย่างจบลงด้วยดี ขอให้กลับมาหาหนูเร็วๆ”ผมยิ้มและซึ้งใจในสิ่งที่หนูทำให้ นี่คงเป็นบุญกุศลที่ผมได้รับถึงได้แคล้วคลาดมา ผมถอยไปยืนหลบตรงหลังต้นไม้ไม่ไกลนัก ผมอยากให้ทุกอย่างจบด้วยดีเหลือเกิน ผมอยากปกป้องหนูอย่างที่ผู้ชายคนหนึ่งปกป้องคนรัก ผมกลัวคนไม่ดีจะมาพรากหนูไป หนูเป็นคนดีที่ซื่อแต่ไม่ได้เซ่อจนเกินไป เขาเอาตัวรอดได้จากที่ผ่านมา แต่ผมก็อยากจะดูแลปกป้องหนูให้ดีที่สุด ผมอยากเดินเข้าไปกอดหนูและบอกว่า เฮียมาแล้ว เฮียอยู่ตรงนี้ แต่เวลามันเหลือน้อยลง อีกสองวันผมก็ต้องกลับไปที่โน่นแล้ว มีรายงานความเคลื่อนไหวของฝ่ายโน้นแล้ว ผมหันไปมองหนูไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว ผมมองหาก่อนจะเดินกึ่งวิ่งเข้าไปในบ้าน ไม่มีใคร เดินออกไปหลังบ้านพร้อมชักปืนออกมา จนได้ยินเสียงพูดคุย
“ข้าลืมไปเลยนะเนี่ยะ ว่าวันนี้ลอยกระทง เอ็งทำให้พ่อสวยๆอันใหญ่ๆนะ เผื่อมีคนมาขอลอยด้วย”พ่อตาพูดเสียงรื่นเริงพอกับหน้า มือก็รับใบตองจากหนู
“คิดยังไงจะหาแม่ใหม่ให้หนูตอนนี้”นังหนูของพ่อตาถามกลับเสียงไม่ต่างกัน
“หรือเอ็งจะให้ข้าหาพ่อใหม่แทนล่ะวะ”พ่อตาพูดใส่เสียงขำๆ
“ถ้าก้นพ่อเต็มใจก็เอาเถอะ หนูไม่ห้ามหรอก ครึครึ”นังหนูก็หยอกกลับก่อนจะโดนเขกหัว
“แล้วก้นเอ็งล่ะ พอใจใครบ้างหรือยัง ไหนข้าดูสิ”พ่อตาไม่พูดเปล่าดึงกางเกงวอร์มนังหนูของแกด้วย
“โอ้ยยยยย พ่ออออออ เดี๋ยวใครมาเห็น น่าเกลียดดดดดดด อย่ยยยยยยยยยยยา”นังหนูร้องพร้อมดิ้นหนีมือพ่อ ผมยิ้มกับการแหย่กันของสองพ่อลูก ไม่ต้องหวือหวา ไม่ต้องอยู่บ้านหลังใหญ่ แค่นี้ก็มีความอบอุ่นจนสุขแล้ว
“อา อา ช่วยด้วย ดูพ่อสิ อย่ยยยยยยา”ผมตื่นจากภะวังค์เมื่อเสียงนังหนูของพ่อตาตะโกนเรียก มือที่ถือมีดกวักหยอยๆ ให้ไปช่วยตัวเองที่โดนพ่อตาผมดึงโน่นดึงนี่อยู่ ก่อนจะดิ้นหลุดทิ้งมีดวิ่งมาหาผมที่กางแขนรับอย่างเต็มตัว ก่อนจะหลบมือพ่อ
“มานี่เลย เอ็งลักลอบมอบก้นให้ใครไปหรือเปล่า ห๊ะ นังหนู”เสียงพ่อตาพูดเข้าโสตประสาทหู ถ้ารู้มอบให้กูตายแน่
“ไม่รู้ ไม่บอก พ่อนั่นแหละ ระหว่างที่หนูไม่อยู่ แอบไปหาพ่อใหม่ให้หนูหรือเปล่า ฮ่าๆๆๆๆๆ”เถียงกลับอย่างชอบใจ วิ่งจับดึงโน่นดึงนี่ให้วุ่นไปหมด ผมเอามือกันหนู อีกมือก็กันพ่อตาอย่างระวัง กลัวจะลืมตัวพลั้งมือทำร้ายพ่อตาที่แกล้งเมียโดยไม่ตั้งใจเข้าให้
.
.
.
.
.
ที่วัดใกล้บ้านคนเยอะมาก ไม่รู้ว่ามาจากไหนกัน ทั้งที่มีบ้านไม่กี่หลัง คงเพราะมีงานคนก็เลยมารวมกันที่นี่ เมื่อตอนเย็นหนูทำกระทงสองอัน ใบใหญ่พอสมควร วัสดุจากธรรมชาติล้วนๆ ใต้ฐานมีขนมปังแผ่นกลมแปะทับอีกชั้น ผมไม่กล้าถามว่าแล้วกระทงผมล่ะ ไม่เห็นมีเลย ได้แต่เก็บความรู้สึกที่เรียกว่า น้อยใจ เอาไว้ คงเพราะหนูไม่รู้ว่าผมเป็นใครล่ะมั้ง แต่ปกติหนูเป็นคนมีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ตลอด ช่างเถอะ เรื่องแค่นี้เองทำไมผมจะต้องเอามาคิดได้ แค่รู้ว่าหนูยังรักและห่วงผมเสมอก็พอแล้ว
‘ไหว้แม่คงคาแล้ว ก็ขอบคุณปลาที่เป็นอาหารไปด้วย’เป็นความรู้ใหม่ของผมที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน หนูมือเบามาก น้องสาวผมยังไม่เบาขนาดนี้เลย แต่ก่อนทำใบตองแตกช้ำไปหมด จนแม่ต้องเป็นคนทำให้ใหม่ บางทีก็ซื้อเอา บางปีก็ไม่ได้ลอย ต่างคนต่างติดงานไม่ได้คิดอะไรด้วยซ้ำ แต่นับแต่นี้ไปจะสำคัญถ้ามีหนูอยู่ด้วย
“ก่อนลอยต้องอธิษฐานก่อน พร้อมขอบคุณแม่คงคาที่ประทานน้ำให้ใช้ ให้อาบ และขอขมา ที่ทำให้น้ำสกปรกจะทั้งตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็แล้วแต่ อะไร นี่อา ไม่เคยลอยกระทงเลยเหรอ อายุขนาดนี้ ไม่รู้จริงๆอ่ะ”หนูร่ายยาวก่อนจะจบที่อายุอีกแล้ว
“ก็เข้าใจ แต่ไม่ได้ลอยนานแล้ว นานมาก”ผมตอบเสียงเบา จนหนูเหมือนจะตกใจ
“อา หนูขอโทษ แค่แปลกใจกึ่งล้อเฉยๆ หนูขอโทษนะ อย่าโกรธนะ”หนูจับมือผมพร้อมพูดขอโทษ หน้าหงอยอย่างรู้สึกผิดเหมือนจะร้องไห้
“เปล่า ไม่ได้โกรธ ไม่เคยโกรธเลย หนูไม่ได้ผิด พูดจริงๆ ไปลอยกระทงเถอะ นี่ก็จะเที่ยงคืนแล้ว ป่านนี้พ่อดูลิเกจบแล้วมั้ง”ผมรีบบอกหนูทันที พูดไปถึงพ่อตาที่ลอยไปก่อนแล้ว พร้อมไอ้เคนที่มาด้วยก่อนจะโดนลากไปดูลิเกเป็นเพื่อน ขอบคุณครับพ่อตาที่รู้ใจผม
“เดี๋ยวรอนะ”ผมพูดก่อนจะหันหลังเพื่อจะไปรอตรงพุ่มไม้ แต่ขาผมหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงชวน หันไปมอง
“มาลอยกระทงกับหนูสิ” หนูยิ้มพูดออกมากลืนคำสุดท้ายที่ผมฟังไม่แน่ใจว่าหูฝาดเหมือนตาหรือเปล่า ผมเดินเข้าไปหาจับมือหนู พากันเดินไปที่แม่น้ำที่มีคนไม่กี่คน เรายกกระทงขึ้นเหนือหัวหลับตาสักพัก ก่อนจะลืมตาและปล่อยกระทงลงแม่น้ำท่ามกลางแสงจันทร์ที่สาดส่องลงบนพื้นผิวน้ำ ก่อนจะพากันไปนั่งบนพื้นหญ้าใต้ต้นลีลาวดีไม่ห่างจากแม่น้ำเท่าไรนัก ต่างคนต่างเงียบ จนผมเป็นฝ่ายพูดออกมาก่อน
“อธิษฐานอะไร บอกได้ไหม”ผมถามหนูที่ยังมองกระทงลอยไปตามกระแสน้ำ ลมพัดเย็นสบายเหมือนจิตใจในตอนนี้
“เขาไม่ให้บอก เดี๋ยวไม่ขลัง สิ่งที่ขอไปจะสูญเปล่า”หนูตอบหันกลับมามอง วงหน้านวลสว่างแข่งกับแสงจันทร์คลี่ยิ้ม
“กระซิบได้ไหม กระซิบเบาๆ คงไม่เป็นไรมั้ง”ผมต่อรองด้วยรอยยิ้มไม่ต่างกัน เลื่อนมือไปกุมดึงเข้ามาใกล้ โน้มหน้าเข้าไปหาและทำสิ่งที่ผมขอ ผมยิ้มก่อนจะดึงเข้ามากอด
“เห็นไหม มันขลังและเป็นจริง คิดถึงเหลือเกิน หนูของเฮีย”ผมกระซิบบอกหนูที่กอดตอบอย่างแน่นพร้อมเสียงสะอื้น หัวใจเต้นเป็นจัวหวะรัวเร็ว ‘ขอให้เราได้กลับมาอยู่ด้วยกันเร็วๆ’ นั่นคือสิ่งที่หนูขอ และไม่ใช่เรื่องอัศจรรย์ที่ผมขอเหมือนกับหนู เพราะใจเราตรงกัน
“คิดถึง คิดถึง ฮึก เฮีย เฮียมาแล้ว ฮือออ”หนูเรียกออกมา อย่างที่ผมอยากได้ยิน ผมกอดเอามือลูบหลัง
“เฮียมาแล้ว ไม่ร้องนะ”ผมดันออกยกมือเช็ดน้ำตาให้อย่างแผ่วเบา ก่อนเราจะซึมซับสัมผัสซึ่งกันและกันให้นานที่สุด ผม
จูบหน้าผาก “รู้ไหมแค่เห็นหน้าวันแรกเฮียต้องห้ามใจขนาดไหนไม่ให้ดึงเข้ามากอด สามวันที่อยู่ร่วมกันก็พยายามจะไม่วางยาพ่อตาเพื่อจะได้ใกล้ชิด”ผมพูดต่อหัวเราะในลำคอกับความคิดตัวเองที่เป็นหนัก
“แล้วไม่ทำล่ะ รออยู่”หนูพูดยิ้มๆ
“อย่าท้านะ”ผมพูดใส่พร้อมโอบเข้ามาใกล้ ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ
”แล้วรู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ว่าเป็นเฮีย เนียนเลยนะ หรือ ไอ้พี่สิบมันบอก”ผมถามข้อสงสัยพาลไปหาอีกคน
หนูส่ายหน้า ผมเลิกคิ้วเชิงว่ารู้ได้ยังไง หนูอมยิ้ม”เฮียไม่ปลอมก็แก่อยู่แล้ว นี่คงงดคอลลาเจนมานานล่ะสิ อื๊อ”ผมบิดจมูกจนเจ้าตัวร้อง
“เห็นครั้งแรกก็รู้แล้ว ใจเต้นห้ามตัวเองเหมือนกันไม่ให้เข้าไปกระโดดกอดเหมือนในหนัง”หนูพูดต่อด้วยความรู้สึกเดียวกัน
“แล้วทำไมเอาปืนจ่อเฮียและระแวงขนาดนั้น”ผมถามต่อเมื่อนึกถึงท่าทางตอนแรก
“ก็เฮียสอนเองอย่าไว้ใจคนง่าย ต้องดูให้ถี่ถ้วน อีกอย่างไอ้พี่สิบมันบอกว่าไม่มีใครรู้ว่าหนูอยู่ที่นี่ หนูก็ต้องป้องกันไว้ก่อนสิ แต่ที่จริงลึกๆ หนูแกล้งเฮียต่างหาก อยากหลอกก่อนทำไมล่ะ”โทษเป็นความผิดผมซะงั้น ก่อนจะได้พูดอะไรกันอีก
“นังหนู นังหนู อยู่ไหน จะกลับแล้ว ไอ้กร เอานังหนูไปไหนวะ เผลอไม่ได้นะมึง ”เสียงพ่อตาขัดซะก่อน ผมเอามือปิดปากหนูที่จะตอบรับ ได้ยินเสียงไอ้เคน
“คงไปปาโป่งมั้งลุง”มันเสนอพร้อมดึงพ่อตาผมไปตามที่บอก ผมพาหนูออกจากที่นั่นยังได้ยินเสียงขู่ตามหลัง
“ปาโป่งกูไม่ว่า อย่าให้รู้พาลูกกูไปปาเป้านะมึง ไอ้กร”เสียงพ่อตาผมพูดกำกวมแต่ถ้าทำถึงตายได้
“เฮีย หนีพ่อทำไมวะ อืม”หนูถามเมื่อมาถึงมุมหนึ่งของวัด ก่อนจะเงียบเมื่อโดนปิดด้วยปาก ตั้งตัวได้ก็จูบกลับมา เราจูบกันอย่างเต็มความรู้สึกรักไม่มีความรู้สึกอื่นมาเกี่ยว ผมถอนปากออกเมื่อหนูหายใจหอบ เลาะเล็มเบาๆดึงมากอด
“อีกนิด ขอเฮียกอดก่อนจะกลับบ้านนะ”ผมกระซิบข้างหูกอดกันอีกครั้ง ถ้ากลับบ้านโดนขวางแน่นอน สมชื่อ นก เติม รู้ เข้าไปเพิ่ม
“เฮีย ไปเหอะ”หนูพูดออกมา
“อีกนิดไม่ได้เหรอ”ผมต่อรองยังไม่เต็มที่เลย
“เกรงใจเขา”หนูกระซิบอย่างเกรงใจอะไรไม่รู้
“ไม่มีใครหรอก”ผมยังกอดอยู่ หอมแก้มก่อนจะถูกดึงออก
“ก็เพราะไม่มีนี่สิ ถึงได้เกรงใจ หน้ามืดพามาไม่ดูสถานที่เลย ชาตะ มรณะ เต็มไปหมด”หนูพูดใส่ก่อนจะกวาดตามองรอบๆ อนุสาวรีย์บรรพบุรุษใครไม่รู้เต็มไปหมด
“เฮียไม่ได้หน้ามืด แต่เห็นมันมืดและเงียบดีแค่นั้นเอง”ผมบอกหนูพร้อมจูงมือออกจากสถานที่นั้น
“เงียบไปไหม” หนูพูดใส่ก่อนจะถูกดึงมาซบอกได้ยินเสียงหัวเราะกันและกันเบาๆ พากันเดินไปจากที่นั่นอย่างเร็วพลางขอโทษในใจที่ไปรบกวน ช่างเป็นคืนลอยกระทงที่มีความสุขและโรแมนติคไม่เหมือนใครจริงๆ ผมขอเก็บความสุขตอนนี้เอาไว้ก่อน ที่จะต้องไปเผชิญกับสิ่งที่กำลังจะเกิดข้างหน้า ขอแค่ได้กำลังใจจากหนูของเฮียก็ไม่กลัวอะไรแล้ว
**********************************************************************************************************************
ปล. พาหนูกับเฮียมาแล้ว ในแบบชิวๆ ไม่มีอุปสรรคมาขัดขวาง จากใครเล๊ยยยย หุหุ ลอยกระทงไปเที่ยวให้มีความสุขและปลอดภัยนะคะ อวยล่วงหน้าเลย
ขอบคุณที่ยังรัก รอ และ เป็นกำลังใจให้ และที่คาดไม่ถึงเข้าเล้ามาทราบว่าเรื่องนี้ได้รางวัล มันเกินคาดมากไม่คิดว่าจะได้ แค่มีคนโหวตรอบแรกจนเข้าอีกรอบก็ดีใจแล้วที่มีคนนึกถึง ขอบคุณนะคะ ขอบคุณมากที่รักและมอบรางวัลให้ ขอบคุณ ขอบคุณ
เอาไว้เจอกัน ช่วงนี้คงจะอาทิตย์ล่ะครั้ง แต่ก็ใกล้แล้วล่ะค่ะ บาย ไปยิ้มรับกับงานต่อ สู้สู้ๆๆๆๆๆๆๆ อีกนิ๊ดดดดด ช่วยดูคำผิดให้ด้วยค่ะ ขอบคุณนะคะที่ช่วยตรวจให้