ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
สรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม
5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0นี่เป็นนิยายเรื่องแรกที่ผมแต่งและลงในเว็ปนี้ และเป็นเรื่องที่สมมุติขึ้นมา จากความหวังเล็ก ๆ ว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้กะผมบ้าง 5555 ยังไงก็ฝากเรื่อง Butter Boy ไว้หน่อยนะครับ ช่วยและตามและแนะนำหน่อยนะครับ ขอบคุณครับ.....
Butter…Boy…!!
Chapter I
กลิ่นที่หอมชวนทาน,สีสันที่สวยงาม,รสชาติละมุน นุ่มลิ้น,เป็นของที่ใช้ในงานสำคัญต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น วันเกิด งานแต่ง หรือแม้แต่คริสต์มาสก็ยังใช้ คงจะพอเดาออกกันแล้วใช่ไหมล่ะ ว่าของสิ่งนั้นมันคืออะไร แน่นอนมันคือ “เค้ก”
“เค้ก” คือการนำ เนย ไข่ แป้ง นม และน้ำตาล มาผสมกัน แล้วนำไปผสมรสชาติต่าง ๆ ที่เราต้องการ จึงทำให้เค้กมีความอร่อย และเป็นของโปรดของทั้งเด็กและผู้ใหญ่มากมาย เมื่อชอบจึงทำให้เกิดความอยากที่จะ “ทำเป็น” ในปี ๆ มีคนช่างฝันที่จะทำเค้กให้เป็นอยู่ก็มากมาย สถาบันต่าง ๆ ก็ได้เปิดสอนในการทำเค้กนี้ แต่หนึ่งในนั้นคือ “Butter Class” เป็นสถาบันที่มีชื่อแห่งหนึ่ง โดยเรื่องราวในครั้งนี้ เราจะขอเสนอเด็กหนุ่มผู้ฝันอยากจะเป็นช่างทำเค้ก และได้เดินทางตามความฝันจนได้เข้าสถาบัน “บัตเตอร์คลาส” จนได้ เขาผู้นั้นคือ “แมต”
ณ โรงเรียนมัธยมปลายของรัฐบาลแห่งหนึ่ง ในวันจบการศึกษา
“เห้ย...นี่มึงได้เข้าที่ไหนวะ”
“อ๋อ ได้ที่บัตเตอร์คลาสวะ”
“เจ๋ง เลยนี่หว่า แต่มันไกล มึงก็ต้องไปอยู่หอดิวะ”
“อืม ต้องอยู่หออ่ะ แต่เป็นหอในมีรูมเมทคนหนึ่ง หอเค้าก็สะอาดดี”
“ไปกันเหอะ เค้าคงจะเริ่มแจกประกาศฯ แล้วล่ะ”
ผมแมตครับ เป็นเด็กที่เพิ่งจบ ม.6 มามาด ๆ แล้วตอนนี้ก็อยู่ที่งานจบการศึกษาของโรงเรียนครับ จบจากนี้แล้วพรุ่งนี้ผมก็ต้องย้ายของเข้าไปอยู่ในหอแล้ว คนที่ผมคุยเมื่อตะกี้ชื่อว่า “บอล” เป็นเพื่อนสนิทของผมตั้งแต่ ม.1 แล้วครับ เราอยู่ห้องเดียวกันตลอด จนเข้ามหาลัย มันก็อยากเป็นนักบอลสมชื่อมัน ก็เลยไปอยู่มหาลัยการกีฬา ระดับมันก็เข้าได้ไม่ยาก เพราะมันเป็นพวกบ้ากีฬาน่ะครับ เล่นมันไปซะแทบทุกอย่าง ก็ไม่รู้ว่าผมกะมันอยู่กันได้ยังไง ก็เพราะผมมันพวกถนัดเรียน แต่โง่กีฬา ต่างกันราวฟ้ากับเหว แต่นึกแล้วก็ใจหาย เพราะอีกไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนี้ ชีวิตที่เค้าว่ากันว่าเป็นวัยที่ “สนุกที่สุด” ก็จะจบลงแล้วนี่สิ แล้วเราก็ต้องจากเพื่อน ๆ ของเราไปเข้าสังคมใหม่แล้ว
เมื่อรับประกาศนียบัตรกันครบทุกคน ก็เริ่มพิธีการของเรา ก็ถ่ายรูป เขียนเสื้อ บอกลากัน ไปไหว้อาจารย์ และแล้วชีวิต ม.ปลายของผมก็จบลง แล้วก็ต้องไปเริ่มชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยแล้ว
ณ หอของมหาวิทยาลัย
“อยู่ดี ๆ ล่ะลูก โทรหาแม่บ้างนะ แล้วตั้งใจเรียนอย่าเที่ยวดึก ๆ ล่ะ”
“ครับแม่ ไม่ต้องเป็นห่วงหรอครับ”
“เอา ตั้งใจเรียนนะ เดี๋ยวพ่อกับแม่กลับก่อนนะ ขาดเหลืออะไรนิด ๆ หน่อย ๆ ก็ซื้อเอาก็ได้ แต่ถ้าของสำคัญลืมไว้ ก็เดี๋ยวเราจะส่งไปรษณีย์มาให้ก็ได้ เค้าเรียกแล้ว”
“สวัสดีครับ พ่อแม่”
ผมต้องจากพ่อกะแม่แล้ว ตอนนี้รู้ตัวเองเลยว่าผมมันลูกแง่แค่ไหน แต่ก็นะ เราโตแล้ว ผมรีบวิ่งไปที่ ๆ เค้านัดรวมเด็กปี 1 โดยมีอาจารย์รออยู่แล้ว
“สวัสดีคะเด็ก ๆ ยินดีต้อนรับนิสิตทุกคนนะคะ ให้นักเรียนดูชื่อของตัวเองบนบอร์ตนะคะว่าตัวเองอยู่ห้องไหน ทางมหาลัยฯจะจัดให้พวกคุณอยู่ห้องเดียวกับพี่รหัสที่อยู่ปี 3 นะคะ เมื่อทราบแล้วว่าอยู่ห้องใด ให้ไปเซ็นชื่อแล้วทางพี่ ๆ เค้าจะดูพี่รหัสให้ แล้วพี่รหัสจะดูแลน้อง ๆ ต่อเองคะ”
“เอิ่มมม....ห้อง 403 พี่รหัส พี่ผงฟู”
นั่นแหละครับห้องผม จะเป็นยังไงน้ะพี่รหัสเรา ขอให้เจอคนใจดี ๆ ด้วยเถอะ จะได้ไม่ต้องกลัวพี่เค้า
“น้องครับ เซ็นชื่อตรงนี้นะครับ แล้วอยู่ห้องไหนครับ”
“ห้อง 403 ครับ พี่รหัสพี่ผงฟู”
“ฮูย....ไอ้ฟูเด็กมึงน่ารักนี่หว่า ไอ้นี่โชคดีเป็นบ้าเลยวะ”
พวกพี่ ๆ เค้าแซวพี่รหัสของผม ว้าว พี่รหัสผมหล่อมากเลย หุ่นดี ตัวขาว รวม ๆ แล้วหล่อมาก ๆ เลยแหละครับ แถมยังดูใจดีมาก ๆ ด้วย เมื่อผมเซ็นชื่อเสร็จ พี่เค้าก็เดินมาหาผม
“น้อง...”
“ชื่อแมตครับ พี่ผงฟู”
“ครับ ยินดีที่ได้รู้จัก ของเยอะไหม เดี๋ยวพี่ช่วยถือ”
“ก็ไม่เยอะหรอกครับ แต่ว่าช่วยหน่อยก็ดี”
ของผมก็มีกระเป๋าเดินทาง 2 ใบ แล้วก็ใบเล็ก ๆ อีก 2 ใบ เราขึ้นไปที่ห้อง ห้องของผมอยู่ชั้น 4 เดินขึ้นสูงไม่เบาเลย แต่ว่าวิวก็ดีลมเย็นสบายแต่ว่าก็ไม่ใช่ชั้นบนสุด เมื่อเข้าไปในห้องแล้วพี่เค้าก็จะคุยเรื่องต่าง ๆ ในห้อง
“อยู่กะพี่ไม่ต้องคิดมากครับ สบาย ๆ แต่ขออย่าพาใครเข้ามาก็พอนะครับพี่ไม่ค่อยชอบนะครับ แล้วก็มีอะไรก็ปรึกษาพี่ได้เลยนะครับ ยังไงเราก็เรียนสายเดียวกัน พี่ก็เรียนทำเบเกอรี่เหมือนกัน”
“ครับ ขอบคุณครับ”
“ของในห้องก็ใช้ได้ทุกอย่างนะ ส่วนค่าห้องและอื่น ๆ ก็หารกันนะ แต่เครื่องใช้ส่วนตัวซื้อเองนะน้อง อย่าแอบใช้ของพี่บ่อยล่ะ”
“บ่อย...??”
“อืม ก็ถ้าหมดจริง ๆ ก็แอบใช้ไปเหอะ พี่ไม่มีอะไรมากอยู่แล้ว อืมนี่กุญแจ แล้วก็ห้องนี้มีคอม 2 เครื่องพี่ให้นายเครื่องหนึ่ง เพราะว่าบ้านพี่มันมีอ่ะ เลยเอามาใช้ได้ตามสบายคิดว่าเป็นของตัวเองไปเลย พี่จะต้องไปทำงานทุกวัน เราก็ไม่ต้องรอนอนก่อนไปเลย”
“ครับ วันนี้เราไปกินข้าวด้วยกันไหมครับ ผมเลี้ยงเอง”
“เอาจริงหรอไอ่น้อง พี่กินจุนะ”
“เต็มที่เลยครับ พี่ใจดีกับผมขนาดนี้ แล้วก็เป็นการสร้างสัมพันธ์ด้วยน่ะครับ”
“อืม ไปกันเถอะเดี๋ยวพี่ต้องไปทำงาน แต่พี่เลทได้”
เราสองคนไปกินข้าวกันที่ร้านใกล้ ๆ หอนี่แหละ แล้วพี่ผงฟูก็ไปทำงาน ผมก็ไปเดินดูอะไรหน่อย จริง ๆ ก็อยากทำงานอยู่เหมือนกัน เพราะตอนนี้ได้ตารางเรียนมาแล้ว แทบจะไม่มีเรียนเช้าเลย แถมเลิกก็ไม่เย็นเลยสักวัน เมื่อเดินดูของก็ได้ของมาก็มากมาย และก็เห็นร้านเค้กอยู่ร้านหนึ่ง เลยกะจะไปหาแรงบันดาลใจ ก็เลยจะเข้าไปหาอะไรกินซะหน่อย แต่เมื่อจะเข้าไปในร้านก็เหลือบไปเห็นป้ายประกาศที่ติดอยู่ที่ร้าน...ซึ่งมันเป็นการประกาศรับสมัครงาน Part Time เพศชาย และถ้าเรียนที่ "บัตเตอร์คลาส" ก็จะได้รับการพิจรณาเป็นพิเศษ
เมื่อเห็นใบสมัครแล้ว ผมก็รีบเปิดประตูเข้าไปในร้าน แล้วเข้าไปที่เคาท์เตอร์ในทันที โดยในร้านนี้จะมีแต่ผู้ชายจริง ๆ สมชื่อเลย ผมเข้าไปหาพี่ที่อยู่ที่เคาทเตอร์แล้วถามว่า...
“พี่ครับ คือว่าอยากจะมาสมัครงานนะครับ”
“อ่อ ครับ งั้นเข้าไปในห้องนั้นเลยครับน้อง”
พี่เค้าชี้ไปที่ห้อง ๆ หนึ่ง ซึ่งหน้าห้องเขียนว่า “ห้องผู้จัดการ” ผมบอกขอบคุณแล้วเดินไปที่ห้องนั้นแล้วเคาะประตู จนเขาให้เข้าไป ในนั้นมีชายคนหนึ่ง หน้าตาดีไม่เบา อายุน่าจะ 20 ปลาย ๆ นั่งอยู่ในห้องอยู่ เมื่อผมเข้าไปเขายิ้มรับ
“สวัสดีครับ ไม่ทราบว่ามีธุระอะไรหรอครับ”
“สวัสดีครับ คือว่าผมจะมาสมัครงานนะครับ เห็นติดประกาศที่หน้าร้าน”
“อ๋อครับ งั้นเชิญนั่งก่อนครับ ไม่ทราบว่ามีอาชีพอะไรครับ”
“เป็นนักศึกษาปี 1 ที่บัตเตอร์คลาสครับ”
“งั้นเซ็นเอกสาร แล้วขอบัตรประจำตัวนักศักษา และบัตรประชาชน แล้วรับเสื้อนี้ไป เริ่มงานวันนี้ได้เลยหรอเปล่าครับ”
“วันนี้เลย...ก็ได้ครับ”
ผมเซ็นเอกสาร และเอาบัตรทั้งสองอย่างให้ผู้จัดการ แล้วรับเสื้อมา ผู้จัดการอ่านแล้วก็ยิ้ม แล้วพูดขึ้นมาว่า...
“คุณแมต ประวัติน่าสนใจดีนะครับ เคยทำเค้กขายด้วย แต่ว่าร้านเรามีกฏที่พนักงานทุกคนต้องเริ่มจากแชร์เวอร์นะครับ ผมเป็นผู้จัดการของที่นี่ มีอะไรก็ถามได้นะครับ แล้วก็เป็นครูที่บัตเตอร์คลาสด้วยครับ เราคงได้เจอกันในไม่ช้าครับ เพราะผมก็สอนปี 1 สายเบเกอรี่ ยังไงในคาบผมก็โหดนะครับ เรียกผมว่า “พี่ไอซิ่ง” ก็ได้ครับ ป่ะผมจะไปแนะนำคุณให้คนอื่น ๆ ทราบ”
พี่ไอซิ่ง ชื่อน่ารักจังเลย ดูเหมาะกับพี่ผงฟูจัง ฮา..ๆ ก็ทั้งสองคนนี้มีชื่อเป็นส่วนผสมของเค้กหมดเลย แล้วพี่ไอซิ่งก็พาผมออกมาจากห้องแล้วเดินไปในห้องครัว ก่อนจะเดินไปก็ได้กดกริ่ง แล้วพนักงานทุกคนยกเว้นคนที่อยู่ที่เคาท์เตอร์เมื่อกี้เท่านั้นที่ไม่ได้เดินมาที่ครัว ทุกคนมาพร้อมเพรียง แล้วเรียงแถว
“ทุกคนนี่คือเด็กใหม่ของร้านเรา ปี 1 นะ ชื่อน้องแมต ยังไงก็ฝากดูแลด้วยนะ เขาจะเริ่มงานวันนี้เลย บัดดี้ก็....”
“ผมรับเอง น้องรหัสผมเองครับ”
“เอ้าหรอ น้องรหัสของผงฟูนี่เอง นึกว่าใคร แล้วก็ใครก็ได้ไปเอาป้ายรับสมัครออกด้วยนะ แล้วก็ยินดีต้องรับนะครับ ขอให้ทำงานให้สนุกครับ”
ทุกคนแยกย้ายกันไปทำงาน พี่ผงฟูเดินเข้ามาหาผมด้วยสีหน้าที่งง ๆ ว่าผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง
“เดี๋ยวกลับไปค่อยคุยกันก็ได้เนอะ ที่นี่ทำงานไม่ยากหรอก ไปรอตรงเคาท์เตอร์ เมื่อถึงคิวก็ไปรับลูกค้า แล้วก็จดรายการ แล้วเอามาให้ที่เคาท์เตอร์ แล้วก็เอาไปเสริฟ เราจะดูแลเฉพาะโต๊ะที่เรารับเท่านั้น แต่ว่าไม่ใช่ว่าเราจะรับโต๊ะเดียวนะ เมื่อถึงคิวเราก็ต้องออกไปรับอีก เอาไปทำงานได้แล้ว เดี๋ยวเลิกงานค่อยมาเจอกันนะ”
“ครับพี่”
ที่นี่ทุกคนน่ารักมาก ๆ เลยเป็นกันเองมาก ดูแลผมเป็นอย่างดี และมีแต่คนหล่อ ๆ ทั้งนั้นเลย ตอนนี้ก็มีผมเป็นเด็กปี 1 เพียงคนเดียวซะด้วย ผมเลยได้ฉายา “น้องเล็ก” ไปเลย และก็ไม่มีใครเรียกชื่อผมเลย เรียกน้องเล็ก ๆ กันหมด และที่แปลกคือทุกคนเป็นนักเรียน หรือศิษย์เก่าของบัตเตอร์คลาสทุกคน และมีข่าวบอกว่าถ้าไม่ได้เรียนที่บัตเตอร์คลาสเขาไม่รับหรอก แต่ก็ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า ร้านก็ไม่ได้ปิดดึกแต่อย่างไร แค่ 1 ทุ่มก็ปิดแล้ว 2 ทุ่มก็ได้กลับบ้าน ผมรอพี่ผงฟูออกมาจากครัว แต่รอเท่าไหร่ก็ไม่ออกมาสักทีเลยเข้าไปดู
เมื่อเข้าไปก็เห็นว่าพี่เค้ากำลังทำเค้กอยู่นั้นเอง เมื่อเขาได้ยินเสียงก็บอกว่า...
“หยิบครีมตรงโต๊ะแรกมาให้หน่อยสิ สีขาวนะ”
ผมก็หยิบไปให้ พี่เขาหันมารับก็ตกใจ ผมก็หัวเราะ พี่เขาก็หัวเราะเหมือนกันแล้วพูดว่า....
“โทษทีนะ อีกแปบเดียว เหลือแค่แต่งหน้าคัพเค้กก็เสร็จแล้ว”
“ให้ผมช่วยไหมครับ ผมบีบครีมให้แล้วพี่ก็แต่ง ผมทำเป็นนะครับ”
“เอาสิ จะได้เสร็จเร็ว ๆ”
ผมช่วยพี่เขาทำแล้วก็พูดคุยกัน....
“พี่เป็นพาร์ติซิเย่หรอ”
“อืม มีหน้าที่ทำเค้กนะ ก็อยู่มา 3 ปีแล้วนี่นา”
“ดีจังเลยนะครับ แล้วทำไมเหลือแต่พี่ล่ะครับ”
“ก็เป็นแบบนี้บ่อย ๆ พี่จะเป็นปิดร้านทุกวันแหละ แล้วพี่ก็ไม่ค่อยรีบเหมือนไอ้พวกนั้น เพราะมันรีบไปเที่ยวต่อ ส่วนพี่ก็ทำไปเรื่อย ๆ”
“อันสุดท้ายแล้วล่ะครับ”
“อืม แล้วคิดไงมาทำงานล่ะ”
“ก็เวลาว่างมันเยอะนี่นา...เลยอยากหาเงินเที่ยว”
“จะเอาเวลาที่ไหนไปเที่ยว ร้านนี้เสาร์-อาทิตย์ก็เปิด”
“ฮ่า...ๆๆๆๆ ก็นะ แต่เดี๋ยวก็ต้องมีเวลาน่า”
เมื่อทำเสร็จ ก็ช่วยกันเก็บของ แล้วก็กลับบ้าน แต่ที่แปลกคือ ที่นี่เค้าให้กุญแจกับพาร์ติซิเย่เลยหรอ ไว้ใจกันดีจัง เพราะพี่ผงฟูเขามีกุญแจของร้านเป็นพวกเลย แถมพี่ไอซิ่งก็ไม่อยู่แล้ว ไว้ใจให้พี่ผงฟูดูแลร้านขนาดนี้เลยหรอ แต่ก็ไม่ได้ถามพี่เค้าหรอกครับ ก็เดี๋ยวโดนว่า ๆ ยุ่งไม่เข้าเรื่องจะทำยังไงล่ะ
ติดตามตอนต่อไป...นะ
Writer : Glass Herat