[11]
“หิวข้าวไหม?” ผมลองถามไอ้ตัวหน้าบึ้งที่นั่งเงียบอยู่เบาะข้างคนขับมาตลอดทาง ตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลมาจนจะถึงบ้านแล้วเนี่ย
“.........” แต่มันก็ยังนั่งเงียบเพาะพันธุ์แบคทีเรียในปากเหมือนเดิม
“เก้า..”
“.........”
“ไอ้เก้า..”
“.........”
“มึงจะงอนอะไรนักหนาเนี่ย ทำเป็นพวกผู้หญิงไปได้” ผมชักจะเริ่มรำคาญละ
“ถ้าผมเป็นผู้หญิงจริงๆ ก็ดีสิ” ในที่สุดมันก็ยอมพูด แต่รูปประโยคมันฟังแปลกๆ นะ ผมว่า
“อะไรนะ?”
“ผมบอกว่าถ้าผมเป็นผู้หญิงจริงๆ ก็ดีสิ! เหมือนกับอาจารย์เกศแก้ว เหมือนกับพี่สาวพยาบาลคนนั้น ปู่ดินจะได้สนใจผมบ้าง!!” มันหันมาตะโกนใส่ผมที่ไม่ทันตั้งตัว เล่นเอาสะดุ้งทำรถแฉลบเลยทีเดียว
“ไอ้ห่า! จะตะโกนทำไมเนี่ย..” ผมกะจะหันไปโวยใส่มันสักกระบุงใหญ่ แต่ก็ต้องกลืนทั้งหมดกลับลงคอ เพราะน้ำใสๆ ที่คลอหน่วยอยู่ในตาแดงๆ ของมันนั่นแหล่ะ ..งานงอกของจริงแล้วกู
“เก้า..”
“.........”
“มึงอย่าเพิ่งมาดราม่าตอนนี้ได้ไหม กูกำลังขับรถอยู่” คือมึงทำกูเสียสมาธิมาก ไอ้เก้า
“ผมไม่ได้ดราม่า”
“แล้วลูกหมาที่ไหนมันร้องวะ?”
“ผมไม่ได้ร้อง! เรื่องแค่นี้ลูกผู้ชายเขาไม่ร้องกันหรอก”
แหม.. ก็พูดออกมาด๊ายยย แล้วไอ้น้ำตาที่ไหลเป็นปี๊บๆ ก่อนหน้านี้มันมาจากอะไรวะ? มันไหลเพราะมึงหัวเราะงั้นเรอะ? ช่างกล้านะ
“อ้อ.. เหรอ” ผมหันกลับไปมองทาง กำลังพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่หัวเราะออกมา
“ปู่ดิน..” ต่างคนต่างเงียบไปสักพัก เสียงอ่อยๆ ของไอ้เก้าก็ดังขึ้นมา
“ว่าไง?” ผมถามกลับทั้งที่สายตายังจับจ้องทางข้างหน้า
“เคยคิดจะรักผมบ้างไหม?” แต่คำถามถัดมา ทำให้ผมต้องละสายตาเพื่อหันไปมองคนพูด
“เก้า..”
“เคยไหมครับ?” ทำหน้าทำเสียงซะน่าสงสารเลยนะมึง แล้วจะให้กูตอบว่าไงได้ล่ะ?
“ไม่เคย..” ผมตอบพลางหันกลับไปมองทางเหมือนเดิม เงียบรอฟังว่าไอ้เก้ามันจะว่ายังไง แต่กลับไม่ได้ยินแม้แต่เสียงหายใจด้วยซ้ำ อดไม่ได้เลยต้องหันไปมอง
“.........” นั่นไง.. ไหลพรากๆ เลย
ผมหักรถลงจอดข้างทาง ไอ้คนที่นั่งกัดปากกั้นเสียงร้องเสียงสะอื้นหันมามองอย่างไม่เข้าใจ ผมเลยละมือจากพวงมาลัยไปปาดน้ำตาให้มัน
“กูยังพูดไม่จบเลย มึงจะรีบร้องไปไหนวะ?”
“.........” มันยังนั่งกัดปากนิ่งๆ แต่สายตาแดงเรื่อที่มองมานั้นเต็มไปด้วยคำถาม
“รอให้กูพูดจบก่อน แล้วมึงค่อยร้องทีเดียวเลย” ผมพูดยิ้มๆ มือก็ปาดน้ำตาที่ยังไหลไม่หยุดให้มัน แต่คราวนี้มันหันหน้าหนีแบบงอนๆ จนผมอดหัวเราะออกมาไม่ได้
“ทำไมพักนี้กูถึงได้มองว่ามึงน่ารักก็ไม่รู้ว่ะ”
ไอ้เด็กขี้งอนหันควับมามองหน้าผมราวกับไม่เชื่อหูตัวเอง ผมได้โอกาสเลยจับคางของมันเอาไว้ไม่ให้หันหนีไปอีก แล้วไล่สำรวจหน้าตามันอย่างพินิจพิจารณา
“อืม เพราะขนตามึงงอนแบบนี้นี่เอง มึงถึงได้แสนงอนนัก” ขนตาทั้งงอนทั้งยาวยิ่งเห็นเป็นแผงชัดเจนเมื่อมันกำลังเปียกปอนไปด้วยน้ำตาของไอ้เด็กขี้แย แล้วดูซิ ตาแดงๆ จมูกแดงๆ แก้มแดงๆ ปากแดงๆ ..แบบนี้มันน่าฟัดน้อยเสียเมื่อไหร่
“ไหนมาดูดปากทีดิ๊” ผมของ่ายๆ แล้วมันก็ยื่นปากมาให้ผมง่ายๆ เหมือนกัน ..คือมึงใจง่ายไปเปล่าเนี่ย ไหนงอนกันอยู่ไง?
“กูไม่เคยคิดจะรักมึงแบบนั้นเลย..” ผมบอกหลังจากได้ดูดปากแดงๆ ของมันจนเป็นที่พอใจแล้ว “จนกระทั่งกูเริ่มเห็นว่ามึงน่ารักนี่แหล่ะ”
“.........” มันทำตาโต แต่ผมยิ้มตาหยีให้มัน
“เลยว่าจะลองรักดู”
“ปู่..ปู่ดินพูดจริงนะ” มันคว้าแขนผมไปเขย่า
“กูดูเหมือนกำลังล้อเล่นหรือไง?” ผมแกล้งเก๊กหน้านิ่ง
“พูดอีกครั้งได้ไหม?” มันเริ่มอ้อน
“เสียใจไอ้หนู ของดีมีครั้งเดียว” ผมดีดเหม่งมัน แล้วเริ่มเคลื่อนรถอีกครั้ง ได้ยินมันบ่นกระปอดกระแปดหาว่าผมขี้งกอีกแน่ะ
“ตกลงอยากกินอะไร?” ผมถามเมื่อเรากลับมาอยู่บนถนน
“สุกี้”
“อืม งั้นไปกินสุกี้กัน” ผมตอบรับพลางเหลือบมองคนที่นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ทั้งที่เพิ่งจะน้ำตาไหลพรากๆ ไปเมื่อครู่แท้ๆ ..เด็กหนอเด็ก
“กาแฟครับ” เกือบๆ จะห้าทุ่ม ไอ้เก้ามันก็มาเคาะประตูห้อง พร้อมกับยกกาแฟมาเสิร์ฟให้ถึงโต๊ะทำงาน
“อืม.. ยังไม่นอนอีกไงมึง?” ผมรับกาแฟมาจิบ ถามมันแต่ตาก็ยังจับจ้องตรวจทานตัวหนังสือที่เพิ่งพิมพ์ไปบนหน้าจอ
“ยังไม่ค่อยง่วง” มันมายืนซ้อนด้านหลังเก้าอี้ผม เท้าสองแขนกับที่วางแขน เกยคางไว้กับพนักพิง
“เดี๋ยวก็ตื่นสายหรอก ไปนอนไป” ผมตีหัวมันแปะๆ แล้วเริ่มพิมพ์งานต่อ
“ไม่เป็นไร พรุ่งนี้ก็ยังเป็นวันหยุด” มันย้ายแขนมันมากอดคอผมเอาไว้หลวมๆ
“แล้วข้าวเช้ากูล่ะ?” ปากพูด ตามองจอ มือก็พิมพ์งานต๊อกแต๊กๆ ไป ขณะที่มือไม้ของไอ้เก้ามันชักจะวุ่นวายกับร่างกายผมมากขึ้นเรื่อยๆ
“ผมไม่ปล่อยให้ปู่ดินอดหรอกน่า” มันกดจมูกลงมาแถวๆ หลังหู จนผมจ้องเอียงหัวหลบ
“กูทำงานอยู่..”
“ก็ทำไปดิ” คราวนี้มันหอมแก้มผมเลย
“ไอ้เก้า..” ผมทำเสียงดุๆ
“ครับ” แต่มันก็หาได้สลดไม่ แถมยังสอดมือเข้ามาลูบๆ คลำๆ หน้าท้องผมเล่น และมีแนวโน้มว่าจะลูบต่ำลงไปเรื่อยๆ
“ไอ้นี่! เดี๋ยวกูเตะอัดกำแพง” ผมต้องละมือจากงาน แล้วหันไปดุ แต่ดันโดนมันจุ๊บปากเข้าให้ พอผละออกก็ได้เห็นหน้าอ้อนๆ ตาเยิ้มๆ ของมัน
“อยากอ่ะ”
“.........” แล้วดูพูดเข้า ไม่มีอ้อมค้อมเลยนะมึง ตกลงนี่มึงกำลังขอขนมหรือขออะไรจากกูเนี่ย?
“นะ แค่แป๊บเดียวเอง” มันเลื้อยมือไปคลึงเป้าผมเพื่อแสดงเจตจำนงว่ามันอยากทำอะไร
“มึงนี่นะ..”
“นะ~”
“.........”
“น้า~”
“เฮ้อ แค่แป๊บเดียวนะมึง” ในที่สุดผมก็ต้องยอมแพ้ คว้าคอมันมาจูบแรงๆ ทีนึง
“อือ..” พอจะผละออก มันก็ตามมาดูดลิ้นผมอย่างกับหมาหิว ส่วนมือมันก็ขยำขยี้ลูกชายผมแบบไม่เกรงใจเลย
“มานั่งนี่มา” ผมเลื่อนเก้าอี้ออกห่างจากโต๊ะทำงาน แล้วจับแขนมันให้ยืนขึ้น ดึงมาข้างหน้า ตบมืออีกข้างลงที่ตักของตัวเอง
“ผมหนักนะ” มันมองหน้าผมสลับกับตักอย่างไม่แน่ใจ
“เมื่อยเมื่อไหร่ เดี๋ยวกูดีดมึงลงไปเอง” เท่านั้นแหล่ะ มันก็ขึ้นมาคร่อมบนตักผมเลย
“หนักป่ะ?” ผมถาม คล้องแขนไว้กับคอผม
“โคตรๆ”
“บอกแล้ว” มันหัวเราะ แล้วก้มลงมาจูบผม
“อือ” เราจูบกันอยู่พักใหญ่ โดยที่มือก็ปาดป่ายร่างกายของอีกฝ่ายไปเรื่อยๆ ผมเริ่มจากสะโพกมัน เอวมัน ขึ้นมาสีข้าง ลำตัว จนตอนนี้ก็มาหยุดอยู่ที่หัวนมของมันนี่แหล่ะ ถึงจะไม่ได้มากมายให้เต็มไม้เต็มมือแบบของสาวๆ แต่มีแค่นี้มันก็เพลินดีไปอีกแบบนะ ฮ่ะๆๆ เนื้อมันก็แน่นๆ แถมผิวก็เลื่อนมือดีด้วย
“อ๊ะ ปู่ดิน..” มันถึงกับสะดุ้งและร้องออกมาเบาๆ ตอนที่ผมล้วงมือเข้าไปทักทายไอ้หนูที่กำลังคึกคักของมันถึงในกางเกง
“ดีไหม?” ผมขบหูคนที่ซบหน้าลงมาที่ซอกคอแล้วเริ่มรูดให้มัน
“อือ..” เสียงครางต่ำๆ กับหายใจหนักๆ ของมันเร้าอารมณ์ผมได้ดีทีเดียว
“อือ ปู่ดิน.. พอ..พอก่อน” อยู่ดีๆ มันก็จับมือผมให้หยุด แล้วลุกลงจากตักผมไป
“.........” แม้จะยังไม่เข้าใจ แต่ภาพที่เห็นตอนนี้ก็ทำให้ผมรู้สึกพอใจอย่างบอกไม่ถูก สภาพของไอ้เก้าที่เสื้อผ้าเริ่มหลุดลุ่ย ทั้งหน้าทั้งคอแดงก่ำเพราะแรงอารมณ์ ปากเผยอหอบน้อยๆ สองตาปรือเยิ้ม แล้วไหนจะลูกชายที่เบียดขอบกางเกงขึ้นมาเชิดหน้าชูตาให้พ่อมันอีกล่ะ ..มึงเซ็กซี่ได้ขนาดนี้เลยเหรอวะไอ้เก้า? ไอ้นี่ชักจะไม่ธรรมดาแล้ว
“เดี๋ยว” ผมจะคว้ามันมาฟัดอีกรอบ แต่มันเอามือยันไหล่ผมไว้ ก่อนทรุดนั่งลงไปตรงหว่างขาผม
“.........” ผมเลิกคิ้วเป็นเชิงถามว่ามันจะทำอะไร มันเลยจูบลงมาเบาๆ บนเป้ากางเกงผม
“อยากกินไอติม” มันบอกก่อนงับปากลงมาทั้งที่ยังมีเนื้อผ้ากั้น
“ทีตอนอยู่ที่ร้านสุกี้ล่ะบอกไม่กิน” ผมพูดยิ้มๆ สอดมือเข้าไปตามเส้นผมนุ่มๆ ของมัน
“ก็ผมไม่ได้อยากกินไอติมถ้วย.. ผมอยากกินไอติมแท่ง” ..ดูพูดเข้า
“ไอ้เด็กทะลึ่ง” ผมอดหัวเราะออกมาไม่ได้ “เคยทำมาก่อนหรือไง?”
“ไม่เคย แต่อยากลอง” มันรั้งขอบกางเกงนอนผมลง ควักลูกดินที่ยังงัวเงีย ไม่ตื่นเต็มตาขึ้นมาเหนี่ยว
“มึงแน่ใจ?” ผมยักคิ้วให้ “แท่งใหญ่นะมึง”
มันชูสองนิ้วสู้ตาย ขณะครอบปากลงมา..
“อืม..” ก็.. ไม่ได้แย่ แต่ก็ไม่ถึงกับเยี่ยม ยังมีโดนฟันโดนอะไรบ้าง แต่ครั้งแรกทำได้ขนาดนี้ก็นะ.. ต้องให้ฝึกบ่อยๆ แล้ว ฮ่ะๆๆ
“เก้า..” ผมเรียกมันเสียงกระเส่า
“อือๆๆ” ผมยังตั้งอกตั้งใจทำให้ผมอยู่ แต่ก็ช้อนตาขึ้นมามอง ภาพที่เห็นยิ่งทำให้กระเส่ากันเข้าไปใหญ่ จนผมทนไม่ไหว ต้องรั้งตัวมันกลับขึ้นมาบนตัก มาแลกลิ้นกัน
“ไปที่เตียงดีกว่า” ผมกระซิบบอก มันก็ไม่อิดออด เดินนำไปง่ายๆ ยังไม่ทันถึงเตียงดี ผมก็กระโจนใส่มันอย่างอดใจไม่ไหว ไม่รู้ทำไมถึงอยากฟัดมันมากขนาดนี้
“เหวอออ” ตอนแรกมันก็ตกใจ แต่หลังจากนั้นก็ให้ความร่วมมือดี จนเสร็จสมอารมณ์หมายกันไปทั้งคู่..
“ปู่ดิน..” ไอ้เก้าที่นอนหอบอยู่ข้างกันเมื่อครู่ จู่ๆ มันก็พลิกตัวมากอดผมไว้
“อือ” ผมครางรับในลำคอ หลังได้ปลดปล่อยสมองของผมก็เริ่มวกกลับมาคิดเรื่องนิยายที่พิมพ์ค้างไว้ต่อ ..อืมๆ ให้เป็นแบบนั้นก็ดีเหมือนกันนะ
“เราทำมากกว่านี้ไม่ได้เหรอ?”
“อะไร?”
“ผมหมายถึง..เซ็กส์น่ะ” คำตอบที่ไม่คิดว่าจะได้ยิน ทำให้ผมต้องหันไปมองคนพูด แล้วก็หันไปมองนาฬิกา ..ตายห่า ป่านนี้แล้ว วันนี้ทั้งวันยังพิมพ์ได้ไม่ถึงสามหน้าเลยกู
“กูไม่เคยทำกับผู้ชายว่ะ” ผมยันตัวขึ้นนั่งพิงหัวเตียง มันก็ลุกขึ้นนั่งบ้าง
“ผมทำเอง” มันผุดลุกขึ้นนั่งพลางบอกด้วยเสียงกระตือรือร้น และนั่นก็ทำให้ผมต้องหันไปมองหน้ามันอีกรอบ
“มึงทำเป็นเหรอ?” ก็พอจะรู้อ่ะนะว่าผู้ชายเหมือนกันมันก็คงจะมีแค่รูเดียวให้เสียบนั่นแหล่ะ แต่มันไม่เจ็บตาแหกเหรอวะ?
“เป็นดิ”
“เคยทำ?”
“ไม่เคย” มันส่ายหน้า แต่พอเห็นผมถอนหายใจ มันเลยรีบพูดต่อ “แต่ผมศึกษามาแล้ว”
“มึงเคยมีเซ็กซ์มาก่อนหรือเปล่า ไอ้เก้า?” มันทำให้ผมชักสงสัย “กับผู้หญิงน่ะ..”
“ก็..” จู่ๆ มันก็ก้มหน้างุด
“หือ?”
“เคย..”
“เคย?”
“ครั้งนึง” มันขยับมาเกาะแขนผม ทำหน้าทำตาเหมือนเด็กกำลังกลัวความผิด “แค่ครั้งเดียวเอง ตั้งแต่ปีที่แล้วแล้วด้วย ผมไม่ได้คิดจะนอกใจปู่ดินนะ ผมก็แค่..อยากลอง”
“.........” กูก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย ไม่เห็นต้องร้อนตัวขนาดนั้น? ว่าแต่อายุสิบเจ็ดกับเซ็กส์หนึ่งครั้งนี่มันน้อยไปเปล่าวะ? หรือว่าปกติ? ตอนผมอายุสิบเจ็ดนี่... เหอะๆ ช่างมันเถอะ ไอ้เก้ามันคงค่อยๆ โตตามวัย..ล่ะมั้ง
“ปู่ดินไม่โกรธผมนะ?”
“กูจะไปโกรธมึงทำไม?” ผมถามมันงงๆ
“จะไม่หึงผมหน่อยเหรอ?” มันทำปากยื่นแบบอ้อนๆ
“เหอะ”
“ปู่ดินอ่ะ”
“อย่ามาไร้สาระ” เรื่องมันตั้งนานตั้งเนแล้ว
“แล้วถ้าผมไปลองอีกทีตอนนี้ล่ะ?”
“มึงกล้า?” ผมหรี่ตามองมัน แต่มันกลับยิ้มเผล่ แล้วเข้ามากอดมาซบประจบประแจง
“โอ๋ๆ หึงเหรอ? ปู่ดินหึงผมเหรอ?”
“พอๆ กูจะไปทำงานแล้ว” ผมพยายามแงะไอ้ตัวนัวเนียออกไปให้พ้น จะได้กลับไปทำงานเสียที
“วันนี้มันดึกแล้วนะ ไว้ค่อยทำพรุ่งนี้ไม่ได้เหรอครับ?”
“วันนี้กูยังไม่ได้งานเลย แค่ออกไปกับมึงก็เกือบหมดวันแล้ว แล้วนี่ยังมากวนกูอีก”
“นะครับ ไว้ค่อยทำพรุ่งนี้นะ”
ผมเริ่มลังเล หันมองนาฬิกาอีกที ก็เห็นว่ามันดึกแล้วจริงๆ ..เออ งั้นยกยอดไปทำพรุ่งนี้แล้วกัน
“เออๆ”
“งั้น..” จู่ๆ มันก็เลื้อยขึ้นมาบนตัวผม
“อะไรอีก?”
“เรายังตกลงกันไม่ได้เลยนะ”
“เรื่อง?”
“เมคเลิฟ”
“มึงโม้คเลิฟไปก่อนได้มะ? กูยังไม่มั่นใจจะทำว่ะ” ผมไถลตัวลงนอน พลิกหันหลังให้มัน แต่มันก็ยังไม่ยอมแพ้
“ปู่ดินไม่ต้องทำอะไรหรอก แค่นอนเฉยๆ ก็พอ นะๆๆ~” มันเริ่มเขย่าตัวผม เอ๊ ไอ้นี่กวนกูจริง คนจะหลับจะนอน
“มึงจะขึ้นขย่มกูไง๊? ไอ้เด็กใจแตก” ผมคว้าคอมันแล้วจับเหวี่ยงให้ลงมานอนด้วยกัน และจะดีมากถ้ามันจะหุบปากแล้วนอนเงียบๆ เพราะผมชักจะง่วงแล้ว
“หึหึหึ” มันหัวเราะแปลกๆ แล้วพลิกขึ้นมานอนทับผมอีก หนักนะเฮ้ย!(พอไม่หื่นก็รู้สึกถึงมวลน้ำหนักขึ้นมาทันที ฮ่ะๆๆ)
“อะไรของมึงเนี่ย? เลิกเล่นได้แล้ว”
“ไม่เล่น ผมเอาจริงนะ”
“.........”
“ให้ผมเป็นคนทำปู่ดินนะ?”
“ทำกู? ทำอะไรวะ?”
“ทำรัก”
“คือมึงจะเสียบกูว่างั้น?”
“อือฮึ” มันตอบรับได้กวนส้นตีนมาก
“เดี๋ยวกูถีบเลยไอ้นี่!” ผมสะบัดมันจนหลุดจากตัว แล้วเอาตีนยันไปห่าง แต่มันดันจับข้อเท้าผมเอาไว้ แล้วแทรงตัวเข้ามาตรงหว่างขา
“อะไรเล่า ก็ปู่ดินทำไม่เป็นไม่ใช่เหรอ? ผมก็อาสาจะทำให้เองไง”
“ขอบใจ แต่ไม่ต้องเว้ย!” มึงไปห่างๆ เลย ไอ้ห่าเก้า! ไอ้นี่ชักไว้ใจไม่ได้ คิดจะแทงข้างหลังกู ไอ้หลานทรพี
“ปู่ดินอย่าดื้อดิ” มันพยายามจะปลุกปล้ำประลองกำลังกับผม
“อ้าว ห่านี่! เห็นตามใจหน่อยชักลามปามนะ”
“ว้ากกกก!!” มันแหกปากลั่นเพราะถูกผมถีบจนหลายหลังตกเตียงไป
“ไงล่ะมึง หึหึหึ” ผมหัวเราะสะใจแบบลึกๆ ..กระดูกมันคนล่ะเบอร์เว้ย ไอ้ลูกหมา!
“ปู่ดินใจร้าย..” มันปีนกลับขึ้นเตียงมาด้วยใบหน้าง้ำงอ
“เดี๋ยวมึงจะโดนมิใช่น้อย” ผมชี้มันแบบคาดโทษ อย่าคิดว่างอนคราวนี้แล้วกูจะง้อนะ มากไปเว้ย มากไป!
“ไหนปู่ดินบอกว่าจะรักผมไง?” พอเห็นว่าผมไม่ยอมอ่อนข้อให้แน่ๆ มันก็เปลี่ยนจากทำหน้างอ เป็นทำหน้าสงสารแทน ..ช่างมารยาสาไถจริงๆ หลานใครวะ?!
“เรื่องนี้กับเรื่องนั้นมันคนละเรื่องกัน”
“เรื่องเดียวกัน!” มันโพล่งขึ้นมาเสียงดัง
“ไอ้เก้า..” ผมหรี่ตามองไอ้เด็กเอาแต่ใจ
“สำหรับผมมันเรื่องเดียวกัน..” คราวนี้มันยอมลดเสียงลง “ผมรักปู่ดิน แล้วผมก็อยากจะทำรักให้ปู่ดิน ผมอยากให้ปู่ดินเป็นของผม แล้วผมก็เป็นของปู่ดิน.. ผมขอมากไปเหรอครับ?”
“เก้า..”
“ผมคงขอมากไป..” มันพูดเอง เออเอง แล้วก็ก้มหน้าก้มตาคุยกับตัวเอง และแม้จะรู้ว่ามันมารยา แต่ผมก็ดันอดนึกสงสารมันไม่ได้ ..เป็นคนดีไปไหมวะกู?
“เก้า..”
“ไม่เป็นไร ผมเข้าใจแล้ว ฝันดีนะครับ เดี๋ยวผมจะกลับไปนอนที่ห้อง” แล้วมันก็ลุกจากเตียงผม ทำท่าจะเดินคอตกออกไป “กลับไปนอนร้องไห้สักพักใหญ่ๆ ก็คงจะดีขึ้นเอง ..ไปนะ”
“มึงตอแหลไปแล้วนะ กูว่า” จากสงสาร ผมก็ชักหมั่นไส้มันละ มึงเกินงามไปแล้วไอ้เก้า
“ปู่ดินอ่ะ” มันหันมาสะบัดค้อนใส่ผมด้วยท่าทางกระแดะๆ
“มานี่ กลับมา” ผมตบที่เตียง มันก็ยอมเดินหน้าเป็นตูดกลับมานั่งที่เดิม
“อะไรอีกล่ะ?” มันทำเป็นสะบัดสะบิ้งตอนที่ผมคว้าคอมันมากอดอย่างหมั่นเขี้ยว
“เอางี้ไหม.. ให้กูเป็นคนทำมึง” ผมยื่นข้อเสนอ
“ปู่ดินทำเป็นหรือไง?” มันทำหน้าดูถูกเหยียดหยามกันมากเลย ผมก็เลยเสยกะโหลกมันไปที
“พูดเหมือนตัวเองเชี่ยวมาก”
“ผมก็รู้ว่าควรทำยังไงแหล่ะ”
“กูก็รู้เว้ย”
“แล้วปู่ดินทำได้?”
“มันจะไปยากอะไร.. ก็คงไม่ต่างอะไรกับทำกับผู้หญิงหรอกมั้ง” ประโยคหลังๆ ชักไม่แน่ใจแล้วผม
“ไม่เอานะ!” จู่ๆ มันก็หันมาหาผม ส่ายหน้ารัวๆ เหมือนกลัวอะไรสักอย่าง “ผมไม่ยอมให้ปู่ดินทำผมโดยนึกถึงผู้หญิงหรอก ไม่เอา ไม่ยอม”
“กูไม่ได้หมายความแบบนั้น.. ไม่ได้จะคิดถึงใคร กูก็แค่คิดว่าวิธีการมันอาจไม่ต่างกัน ก็กูไม่เคยทำแบบนี้นี่หว่า แต่ที่กูจะทำก็เพราะมึงบอกว่าอยากทำไง”
“ผมไม่อยากให้ปู่ดินทำเพราะแค่ว่าต้องทำหรอกนะครับ ผมอยากให้ปู่ดินรู้สึกว่าอยากทำออกมาจากใจเหมือนที่ผมกำลังรู้สึก ผมอยากกอดปู่ดิน อยากเป็นฝ่ายมอบความรักให้ปู่ดิน เพราะผมรักปู่ดินมาก” มันเอามือมาประคองใบหน้าของผมไว้ ทั้งน้ำเสียงทั้งแววตาดูจริงจังอย่างที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน
“เก้า..”
“ให้ผมได้แสดงความรักของผมที่มีต่อปู่ดินนะครับ ขอร้องล่ะ”
“.........”
แหมมึง.. พูดซะซึ้งเลยเนาะ
แต่ที่มึงกำลังขอน่ะ ตูดกูนะเว้ยยยยยยยยย!!!
TBC.

ขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาติดตาม

ถึงไวท์จะไม่เคยตอบเม้นต์(ไม่มีความมานะพอ) แต่ก็อ่านทุกเม้นต์นะจ๊ะ ได้เห็นแล้วมันจื้นจาย~