เหตุเกิดจากเสียง....5“เฮ้ย!! โอ๊ยย ปวดหัวว” ผมทิ้งตัวลงนอนตามเดิมเพราะรู้สึกปวดจี๊ดที่หัว แล้วก็นึกขึ้นได้อีกครั้งว่าเมื่อกี้อะไรที่ทำให้ผมตกใจ
ไอ้พี่แซม!
ผมอยากจะยกหัวขึ้นจากแขมมันที่ผมนอนทับอยู่ แต่หัวผมหนักเกินกว่าจะขยับเขยื้อนได้ ปวดจนจะระเบิดอยู่แล้ว ว่าแต่ไอ้พี่แซมมันมานอนที่ห้องผมได้ยังไงกัน
แล้วเมื่อคืนมัน...เกิดอะไรขึ้น...หรือเปล่า??
“ไง ปวดหัวสิท่าทำหน้าอย่างนี้”
ผมตวัดสายตาขึ้นไปมองไอ้พี่แซม เมื่อกี้ยังหลับอยู่เลย สงสัยตื่นเพราะผม เฮ้ย! นั่นมันสำคัญที่ไหนล่ะ สิ่งสำคัญมันอยู่ที่ว่าพี่มันมานอนที่ห้องผมทำไมครับ ทำไมไม่ไปนอนที่ห้องตัวเองครับคุณพี่ครับ!
“จะไปไหน”
ผมกระเถิบตัวออกห่างจากไอ้พี่แซม แต่มันกับรั้งผมเข้าไปกอดแน่
“เฮ้ย! กอดทำไม ปล่อยผม!” ผมก็ดิ้นสิครับ พี่มันกินอะไรผิดสำแดงมาหรือเปล่าเนี่ย
“กอดไม่ได้ไง ไหนเมื่อคืนรับปากว่าจะไม่ดื้อแล้วไง เอ๊ะ อย่าดิ้นสิ!”
ยิ่งผมดิ้นมันก็ยิ่งกอดผมแน่นขึ้นจนตอนนี้หน้าผมจมลงไปในหน้าอกมันแล้ว อ๊ากกกก
“ปล่อย อื้ออออ”
“สตางค์ อย่าดื้อได้ไหม!”
“พี่ก็ปล่อยผมสิ!”
“ไหนเมื่อวานสัญญาว่าจะไม่ดื้อไงฮะ!”
“ผมบอกเมื่อไหร่กัน! แฮกๆๆ”
เหนื่อยครับเหนื่อย ผลเลยหยุดดิ้นเพื่อพักหายใจหายคอก่อน พอผมไม่ดิ้นแรงรัดก็ผ่อนลงแต่พี่มันก็ไม่ยอมปล่อยผมอยู่ดี
“เมื่อวานจำอะไรได้บ้างไหมสตางค์ ไหนพูดสิ!” ไอ้พี่แซมถามเสียงเข้ม ในน้ำเสียงไม่มีแววล้อเล่นเลย ปกติมันก็ไม่เคยล้อเล่นอยู่แล้วครับ!
“ไม่รู้” ผมบอก จำอะไรได้ที่ไหน ยิ่งคิดยิ่งปวดหัว ผมเลยหลับตาลง ปล่อยแม่งครับ อยากกอดๆไป ตอนนี้ผมทั้งเหนื่อยทั้งปวดหัว ปวดตัวด้วย ไม่มีแรงจะทำอะไรแล้ว
“เฮ้อออ ให้มันได้อย่างนี่สิ” พี่แซมพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนอกอ่อนใจ อะไรกันอีกล่ะ นี่ผมทำอะไรผิดอีกหรือไง
“...”
“เป็นอะไร เงียบทำไม”
“...”
“สตางค์”
ไอ้พี่แซมพยายามจะดึงตัวผมออก แต่คราวนี้เป็นผมที่เกาะติดมันแน่นไม่ยอมปล่อย จะปล่อยได้ยังไงล่ะ เดี๋ยวมันรู้หมดว่าผมร้องไห้
แต่สุดท้ายผมก็สู้แรงมันไม่ได้ครับ T^T เกิดมาช่างอาภัพนัก ผมไม่สามารถเอาชนะมันได้สักอย่าง
“ร้องไห้ทำไม” ผมถาม หน้านี่บิ้งได้อีก แถมยังใช้มือมันเช็ดน้ำตาให้ผมอีก แต่ผมอยากถามมันเหลือเกิรครับว่า มึงจะเช็ดหน้าหรือจะถลกหนังหน้ากูกันแน่!
ฮือออ ถ้าหน้าผมเสียโฉมนะ ผมจะให้มันรับเลี้ยง ไม่ใช่! ให้มันจ่ายค่าทำศัลยกรรมให้ผม คอยดู!
“ว่าไง บอกมาสิร้องทำไม” มันยังคงคาดคั้น
“...” จะให้บอกได้ไงล่ะว่าผมน้อยใจที่ไอ้พี่แซมมันดุอ่ะ เสียเชิงชายหมด
“อย่าต้องให้ง้างปากนะ”
ดูสิครับ มันรุนแรงกับผมตลอดเลย!
“ได้! อย่ามาว่าพี่ใจร้ายที่หลังนะ!”“อะไร...อื้อออ”
มัน...มัน...มันจูบผมครับ อ๊ากกกก จูบทำไม! จังหวะที่ผมอึ้งก็รู้สึกว่ามีอะไรดันเข้ามาในปากก่อนะที่ผมจะเคลิ้มเคลิ้มไปกับจูบของมัน ความรู้สึกนึกคิดผมบอกให้ต่อต้าน ให้ผลักมันออก แต่ร่างกายผมกลับไม่ทำตาม ปล่อยให้มันจูบผมอยู่อย่างนั้น ความรู้สึกที่ผมๆไม่เคยรู้สึกก่อตัวขึ้น้อยๆ จนเมื่อไอ้พี่แซมมันล้วงมือเข้ามาในเสื้อผม สัมผัสหวาบหวิวที่หน้าท้องทำให้ผมได้สติแล้วก็ผลักไอ้พี่แซมอย่างแรก ตามด้วยถีบมันอีกทีแบบเน้นๆ
ตุบ!
“โอ๊ยยยย! สตางค์ ถีบพี่ทำไมวะ!” ผมผุดลุกขึ้นนั่ง จ้องไอ้พี่แซมด้วยความหวาดกลัว มันมองผมอย่างไม่พอใจที่ผมถีบมัน แต่ผมก็ไม่พอใจเหมือนกันที่มันจูบผมอ่ะ แม้ว่าจะรู้สึกดีนิดหนึ่งก็เถอะ นิดหนึ่งจริงๆนะ!
“แล้วพี่ทำอะไรล่ะ ออกไปเลยนะ!” ผมไล่มัน หน้านี่ร้อนเห่อไปหมด
“เฮ้อ จะเอายังไงกันแน่สตางค์” ไอ้พี่แซมพูดอย่างข่มอารมณ์
“ไม่เอาไง” ผมตอบกลับ
มันจ้องหน้าผมเขม่งก่อนจะสาวเท้าเข้ามา ยังไม่ทันที่ผมจะลุกมันก็ดึงข้อเท้าผมแล้วก็ลากเข้าหาตัว
“อ๊ะ! ปล่อยนะ”
“ถ้าถีบอีกพี่จะปล้ำแล้วนะ!”ได้ผมครับ ผมหยุดดิ้นทันที มึงพูดอะไรของมึงครับไอ้บ้าพี่แซม!
“ถ้าวันหลังเมาแล้วเป็นอย่างนี้ไม่ต้องออกไปกินแล้วนะ”
สั่งไปเถอะ ไม่ทำตามหรอก
“จำไม่ได้ใช่ไหมว่าเมื่อวานสัญญาอะไรไว้กับพี่ เราบอกว่าเราไม่ชอบให้พี่ตวาดตะคอก แล้วกพี่ก็เลยบอกว่าถ้าสตางค์ไม่ดื้อพี่จะไม่ดุ แล้วเราก็รับปากพี่แล้ว แล้วทำไมยังดื้ออีกฮะ!” ท้ายประโยคเหมือนน็อตหลุดครับ ผมก็สะดุ้งสิ ผมไม่รู้เรื่องเลยว่าไปสัญญากับไอ้พี่แซมไว้
“ผม...จำไมได้” ผมได้แต่หลบตามันครับ ไม่กล้าสบตา
“เฮ้ออ อย่าดื้อได้ไหม พี่ไม่ชอบ”
“ทำไมพี่ต้องมายุ่งกับผม” ผมกลั้นใจถามคำถามที่อยากรู้ที่สุดออกไป คำถามนี้มันคาใจผมมานานแล้วครับ แต่ไม่เคยกล้าถามสักที คราวนี้ก็ไม่ได้กล้าหรอกครับ แต่สงสัยปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายผมยังหลงเหลืออยู่ ผมถึงได้พูดออกไปอย่างนั้น
“ทำไม พี่ยุ่งไม่ได้ไง ไม่อยากให้ยุ่งเหรอไงฮะ!” พี่แม่งเป็นประจำเดือนเหรอไงวะ อารมณ์รุนแรงฉิบ!
“แล้วพี่จะมาใส่อารมณ์กับผมทำไมล่ะ ผมแค่ถามนะ พี่ก็ดีแต่แกล้งผมนั่นแหละ ฮึก” คราวนี้ผมห้ามตัวเองไม่หยู่แล้วครับ ร้องไห้แม่งเลย
“อย่าร้องนะสตางค์...เงียบสิ!”
“....ฮือออ...” ยิ่งมันดุเสียงดังผมก็ยิ่งร้อง ผมมันตุ๊ด เออด่าเลย แต่ผมอัดอั้นนิ ไม่ทงไม่ทนมันแล้ว! ทำไมไอ้พี่แซมต้องแกล้งผมด้วย
เออ! ผมยอมรับ ผมชอบมัน จบไหม แต่มันชอบแกล้งผมอ่ะ ทำไมๆๆๆๆ ผมไม่น่าชอบมันเลย!
“อย่างร้องเลยนะ พี่ขอโทษ” เสียงมันดูนุ่มขึ้น แต่ผมไม่ฟังหรอก กูจะร้องอ่ะ มึงมีปัญหาเหรอไงไอ้พี่แซมโรคจิต!
“ฮึก...ฮือ”
“ถ้าพี่ไม่ชอบพี่ไม่ยุ่งหรอกนะ ไม่รู้ตัวบ้างหรือไง”“ไม่รู้!”
หืม...เมื่อกี้มันว่าไงนะ!
ชอบผมงั้นเหรอ? มันเนี่ยนะชอบผม!!!!
ไม่จริง! ผมไม่เชื่อเด็ดขาด หัวเด็ดตีนขาดก็ไม่เชื่อครับ มันจะต้องแกล้วผมอีกแน่ๆ ใช่แล้ว มันต้องเป็นแผลของไอ้พี่แซมแน่นอน
“อย่ามาแกล้งผมนะ ผมไม่เชื่อหรอก ออกไปเลย ออกไปจากห้องผมเลย ผมไม่เชื่อพี่หรอก ผมเกลียดพี่ รู้ไว้ด้วย!!!” ผมตะโกนเท่าที่เสียงผมจะตะเบงได้
สีหน้าไอ้พี่แซมดูอึ้งก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นใบหน้าที่ผมคุ้นเคย เวลาที่ผมทำอะไรขัดใจมันมันก็จะตีหน้าโหดแบบนี้เสมอ ผมไม่ชอบ!
“พี่ไม่ได้แกล้ง พี่ชอบเราได้ยินไหม!”
“ผมไม่เชื่อ ออกไปเลยนะ ผมไม่อยากเห็นหน้าพี่!” ตอนนี้มีแต่อารมณ์ล้วนๆแล้วครับ
“ทำไม คนอย่างพี่มันไม่น่าเชื่อถือเหรอไง!”
“ใช่ไง! คนอย่างพี่มันไม่น่าเชื่อถือรู้ตัวไว้ด้วย”“...!”
ผมและไอ้พี่แซมจ้องตากันอย่างไม่มีใครยอมครับ แล้วสุดท้ายไอ้พี่แซมก็ปล่อยผม ผมรีบลุกขึ้นจากเตียงลงมายืนข้างล่าง ไอ้พี่แซมมองผม แต่คราวนี้มันไม่ได้ทำหน้าโหด แต่ใบหน้าคมเข้มนั่นกลับเรีบยเฉย แววตานั่นมันช่างเย็นชา จากที่ผมหงุดหงิดโมโห กลายเป็นว่าผมกลับทำตัวไม่ถูก รู้สึกไม่ดีเลยที่เห็นแววตาเย็นชาแบบนั้น
“จะเอาไง พี่บอกก็ไม่เชื่อ ไหนลองพูดมาสิจะเอาไง จะต้องให้พี่ทำยังไง” มันถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ไม่เอาไง พี่ไม่ต้องมายุ่งกับผมได้ไหมล่ะ เลิกแกล้งผมซะที! ได้ไหม” “...”
ไม่มีคำตอบออกจากปากของไอ้พี่แซม แล้วอยู่ดีๆมันก็เดินออกจากห้องไปโดนไม่พูดอะไรสักคำ แต่ก่อนออกไปผมเห็นบางอย่างในแววตาเข้มคู่นั้น บางอย่างที่ทำให้ผมถึงกับเข่าทรุด
ผมคงไม่ได้ทำอะไรบางอย่างพลาดไปใช่ไหม
เดี๋ยวมาแก้คำผิดให้นะ ^^