- 12 -
(part1)
ผมกึ่งวิ่งกึ่งเดินมายังห้องเรียนเพราะรู้ตัวว่าสายอีกแล้ว พอเปิดประตูห้องเข้าไปก็พบกับสายตาดุๆของอาจารย์ ผมก้มหัวให้เป็นเชิงออภัยที่เสียมารยาท จากนั้นก็สอดส่องหาที่ประทับอย่างรวดเร็ว
ไอ้โท ไอ้จ๊อบและไอ้หลามนั่งอยู่ตรงนั้น ตรงมุมเดิมที่พวกผมชอบนั่งกันเป็นประจำ ข้างๆโทมีที่ว่างอยู่ แต่ผมไม่ไปนั่งหรอก ไม่ใช่หยิ่ง แต่กลัวตัวเองอดใจไม่ไหวลุกขึ้นไปต่อยหน้าไอ้หลาม
มึงกับกูยังมีเรื่องต้องสะสางกันอีกยาว
ผมเลี่ยงเดินไปอีกมุมห้อง เอาให้ห่างพวกมันมากที่สุด หยิบหนังสือขึ้นมาวาง ทำหน้าที่เป็นนักศึกษาที่ดีต่อไป
เวลาผ่านไปจนเลิกคลาส เสียงพูดคุยดังเซ็งแซ่ เนื่องจากวิชานี้เป็นวิชาสุดท้ายของวัน บางกลุ่มจับคุยกันหารือว่าจะไปไหนต่อ บางคนโทรหาแฟน บางคนรีบกลับบ้าน อย่างเช่นผมเป็นต้น ผมไม่รอช้าเก็บของ ลุกขึ้น เตรียมตัวหนีออกจากห้องทันที แต่ผมคงลืมไปว่า...ตอนนี้ผมอยู่ที่คอนโดหรูของไอ้โทเรียบร้อยแล้ว
ผู้ชายร่างสูง มีใบหน้าอันหล่อเหลา ที่กำลังยืนขวางทางผม เป็นสิ่งเตือนใจได้ดี
“จะไปไหน” มันถาม
“กลับหอสิวะ” ผมกล้าพูดแบบนี้เพราะเห็นแล้วว่าข้างๆมีไอ้หลามกับเปรตยืนประกบอยู่ แม่งตามต้อยๆอย่างกับลูกกระจ๊อกที่มีไอ้โทเป็นหัวหน้าแก๊งอย่างนั้นแหละ
มันจ้องตาผม...เอาสิ มึงจะลากกูกลับคอนโดก็ได้นะ แต่ตอบคำถามเพื่อนๆมึงด้วยละกัน
ดูเหมือนว่าไอ้โทจะยังไม่ได้บอกใครเรื่องที่มันซื้อขาดผม อืมอันที่จริงก็เป็นเรื่องที่ไม่สมควรพูดอยู่แล้วเนอะ เปลี่ยนใหม่ๆ ไอ้โทคงยังไม่ได้บอกใครถึงเรื่องที่ผมอาศัยอยู่กับมัน เพราะไม่อย่างนั้นมันคงสวนกลับมาแล้วว่าทำไมไม่กลับคอนโดพร้อมมัน
“ทำไมไม่กลับคอนโดกับกู”
อ้าวเฮ้ย! อะไรของมันวะ แม่งถามหน้าตายเฉย ดูไอ้หลามดิ๊มันจะแดกหัวกูอยู่แล้ว
“หืม? แล้วทำไมไอ้โมมันต้องกลับคอนโดมึงด้วยวะ?” ไอ้จ๊อบถาม
“มันลืมเสื้อไว้ที่ห้องกู” ตอบเสร็จก็ลากผมออกมาเลย นี่มึงจะไม่หันไปดูหน่อยเหรอว่าไอ้จ๊อบกับไอ้หลามตามันโตเท่าไข่ห่านแล้ว ไอ้สัดเอ๊ย เสือกตอบสองแง่สามง่ามอีก แต่บอกตามตรงนะครับว่าผมแอบพอใจเล็กๆกับคำตอบของมัน เพราะมันสามารถทำให้นายปลาฉลามที่พยายามทำตัวเป็นเหาฉลามนั้นได้แต่มองตาปริบๆ
ยิ่งบวกกับเรื่องเมื่อตอนกลางวันด้วยแล้ว...หึ เชื่อรึยังล่ะว่าไอ้โทมันซื้อขาดกูจริงๆ
ผมขึ้นรถคันเดียวกับเมื่อเช้า สารถีก็คนเดิม มันไม่ได้พูดอะไรคงเพราะมีสมาธิอยู่กับการขับรถ ส่วนผมก็มองข้างทางไปเรื่อย...
เด็กม.ปลายที่ชื่อปกป้องนั่น ผมยังไม่ได้คืนเงินเลย ป่านนี้ผมคงโดนเด็กด่าไม่เหลือแล้วล่ะ เฮ้ออ ผมก็จำเบอร์มันไม่ได้ซะด้วยสิ ไว้ถ้าบังเอิญเจอกันอีกเมื่อไหร่ ผมสัญญาเลยว่าจะรีบไปธนาคารแล้วถอนเงินสดมาให้มันทันที
“เรื่องมึงกับพี่พล...” จู่ๆมันก็ทำลายความเงียบ “กูขอความจริง”
ผมหันไปมองหน้าคนขับ ถึงแม้จะเห็นแค่ด้านข้าง แต่มันก็ยังหล่อ หมั่นไส้จริงๆ คิดว่าตัวเองหล่อ รวย แล้วทำอะไรก็ไม่ผิดงั้นเหรอ?
“เหอะ” ผมตอบมันไปแค่นั้น ยังจำครั้งก่อนได้มั้ย ที่ผมมาคอนโดนี้ บอกความจริงมันว่าผมไม่ได้ขายตูด ผมโดนใครสักคนกลั่นแกล้ง แต่มันก็ไม่เชื่อผม กลับไปเชื่อรูปบ้าๆนั่นแทน จนทำให้คำว่า ‘เพื่อน’ ระหว่างมันกับผม จบลงวันนั้น...
ไอ้โทไม่ได้คาดคั้นอะไรผม แต่จากความเร็วของรถที่เพิ่มขึ้นทำให้ผมรู้ว่ามันกำลังไม่พอใจ...แล้วเรื่องอะไรผมต้องแคร์? ถึงบอกความจริงไป มันก็ไม่เชื่อผมอยู่แล้ว
ไม่นานนักผมกับมันก็เข้ามาอยู่ในห้องของคอนโดหรูอีกครั้ง ผมตรงเข้าไปเก็บเสื้อผ้าที่เพิ่งขนมาจากหอได้ไม่กี่วัน ไอ้โทเดินตามมากระชากเสื้อผ้าเก่าๆของผมเขวี้ยงทิ้งไปอีกทาง
“มึงจะทำอะไร!?”
“เก็บเสื้อผ้าไง” ผมตอบมันอย่างสบายๆ ท่าทางคุกคามของมันในตอนนี้ยังคงประสิทธิภาพความน่ากลัวเหมือนเดิม แต่ผมที่เจอโหมดนี้ของมันมาหลายครั้ง ตัวผมก็เริ่มมีภูมิต้านทานบ้างแล้ว
ผมประจันหน้ากับมันตรงๆ
“ก็มึงเป็นคนบอกไอ้จ๊อบไอ้หลามเองไม่ใช่หรอว่าที่ให้กูกลับมาคอนโดมึงเพราะให้กูมาเก็บเสื้อผ้า” ผมย้อนมันด้วยคำตอบที่มันได้ตอบสองคนนั้นไว้
“ไม่!...กู...กูไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น” น้ำเสียงในตอนท้ายนั้นเบาหวิว จนผมเกือบไม่ได้ยิน ท่าทางคนตรงหน้าเปลี่ยนไป เบี่ยงหน้าหลบ ไม่กล้าสบตา
“แล้วหมายความว่ายังไง”
“...”
ตอบไม่ได้สินะ
“ตกลงมึงจะให้กูอยู่หรือจะให้กูไป?”
“มึงลองก้าวเท้าออกจากห้องโดยที่กูไม่ได้อนุญาตสิ” ไอ้โทพูดเสียงเข้ม หันมาสบตาผมดังเดิม “อย่าลืมว่าตัวมึง...เป็นของกูแล้ว”
นั่นสินะ ซื้อขาดแล้วด้วยนี่นา
“แล้วมึงจะตอบพวกไอ้หลามไอ้จ๊อบยังไง” คงใช้ข้ออ้างเรื่องเสื้อผ้าแบบเดิมไม่ได้แล้ว มันกล้าบอกพวกนั้นตรงๆมั้ยล่ะว่ามันซื้อตัวผมแบบถาวร เหอะๆ
“...” มันเงียบ
นี่ถือเป็นการวัดใจรึเปล่า? อยากได้ตัวผม อยากซื้อขาด อยากให้ผมมาอยู่ด้วย ก็ต้องตอบคำถามเพื่อนที่สุดแสนจะสนิทอย่างไอ้หลามด้วยนะ
ผมเดินเลี่ยงมันไปอีกทาง
คนอย่างมัน...ไม่เห็นจะพูดหรือทำอะไรให้มันชัดเจนสักอย่าง...
เกลียดผม ข่มขืนผม แต่ก็เอาผมมาอยู่ด้วย นี่ต้องการอะไรจากตัวผมกันแน่? เซ็กส์ที่ผมไม่ได้เต็มใจงั้นเหรอ? ไอ้โทมันไม่เคยฟังอะไรผมเลย...
“พี่พลเกี่ยวข้องกับรูปนั่นรึเปล่า?” จู่ๆไอ้โทก็พูดขึ้นมา สายตามันจริงจัง “ขอแค่มึงบอกความจริงมา...กูจะเชื่อ”
ผมกับมันจ้องตาประสานกันราวกับวัดใจ จนในที่สุด ผมก็เป็นฝ่ายหลบตาก้มหน้าซะเอง บอกๆมันไปก็ดีเหมือนกัน จะได้ไม่มีอะไรอึดอัดในใจผมแบบนี้อีก
“ใช่ คนในรูปนั่นคือพี่พล”
“เหี้ยเอ๊ยย!! มันอยู่ไหน!!!” ไอ้โทถึงกับอาละวาด คว้ากุญแจจะออกจากห้อง
ทีงี้ล่ะเชื่อ แต่พูดความจริงแล้วก็ควรพูดให้จบสิ ไม่ว่าไอ้โทจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตาม
“ไอ้สัด ใจเย็น มันมีอะไรมากกว่านั้น...ถ้ากูพูดออกไป...มึงอาจไม่เชื่อก็ได้” เพราะมึงอาจจะเชื่อเพื่อนสนิทมึงมากกว่า
“อะไร”
“ไอ้หลามมันร่วมมือกับพี่พล มันเอารูปกูไปโพสขายนวดในเว็บเกย์ แล้วก็เป็นคนส่งรูปมาให้มึง” จบประโยคไอ้โทก็นิ่งไปเลย นิ่งซะจนผมดูไม่ออกว่ามันเชื่อหรือไม่เชื่อในสิ่งที่ผมพูด
“มันจะทำแบบนั้นไปทำไม?”
“เพื่อนรัก...รักมากล่ะมั้ง...ไปถามมันสิ” ผมตอบแบบกวนๆ “ทีนี้ปล่อยกูไปได้รึยัง? กูไม่ได้ขาย ไม่ได้ร่าน ไม่ได้มีอะไรกับผู้ชายง่ายๆเหมือนที่มึงด่ากูหรอกนะ”
“ไม่” มันตอบกลับทันที พลางสาวเท้าเข้ามาใกล้ “มึงห้ามไปไหนทั้งนั้น มึงต้องอยู่กับกูที่นี่”
“แล้วที่มึงทำกับกูไว้ล่ะ? ข่มขืนกู ด่ากูสารพัด มึงจะชดใช้ยังไง!” พูดแล้วก็เจ็บเอง มันเป็นอะไรที่แย่มากในความรู้สึกผม แค่นึกถึงตอนที่มันโมโหร้ายแล้วจะเอาผมให้ได้นั้น...ผมก็กลัวแล้ว
“...” มันไม่ตอบ เดินไปหยิบโทรศัพท์ “ไอ้หลาม อยู่ไหน?...รอนั่น เดี๋ยวกูไปหา” พอวางสายไอ้โทมันก็หันหลับมาพูดกับผมว่า “ไปกับกู ไปเคลียร์เรื่องมันให้จบๆ”
ก็ดี ผมเบื่อสภาพนี้เต็มทนแล้ว อยากกลับไปใช้ชีวิตเหมือนเก่า เหนื่อยที่ต้องคอยรองรับอารมณ์ของไอ้โท ไปให้พ้นๆจากที่นี่ซะที
Next Chapter >> - 12 - (part2)
Talk
ไม่มีข้อแก้ตัวค่ะ
น้อมรับความผิด บอกว่าจะมาอัพ แต่ก็ไม่ได้อัพ
ขอโทษทุกคนที่ทำให้ผิดหวังค่ะ