[บันทึกรัก Leiden]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [บันทึกรัก Leiden]  (อ่าน 83595 ครั้ง)

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: [บันทึกรัก Leiden]
«ตอบ #60 เมื่อ23-12-2006 01:01:22 »


17.30 น. ทางเดินบนชั้นสาม

“เดินรอด้วยสิ  แล้วไง?  เย็นนี้จะทำไรกินอีก”

“ไม่รู้  ยังไม่คิด”  ผมตอบมันหลังจากเดินมาตามมันให้กลับบ้านได้แล้ว  ความจริงผมก็กะว่าจะกลับไปเลยไม่มาตามมันกลับพร้อมกัน  แต่ว่ากลัวโดนมันเม้งเอาอีกนะครับเลยมาตามดีกว่า  กันเหนียว!!

“ทำไมยังไม่คิดหละ เอาแบบที่เขานิยมกินกันในประเทศนายนั้นแหละ”

“ต้องกลับไปดูก่อนสิว่าในตู้มีอะไรเหลืออยู่บ้าง  ถ้าคิดไปแล้วของสดไม่มีก็ทำไม่ได้  ป่วยการคิดเปล่าๆ”

“อืม...เนอะ! มันก็จริงอย่างที่นายว่า  นายนี่....รอบคอบดีจังเลยนะ”  รอบคอบ?  ตรงไหนวะ  งง!!
................................................................................

“เสร็จแล้วเว้ย  เชิญมากินได้แล้ว.....ครับคุณสุภาพบุรุษ” ผมต้องรีบเปลี่ยนคำพูดพอหันไปเห็นสายตามหาโหดของมันครับ

“ดีมาก....แนค   แต่ว่าทำไมกลิ่นมันเหม็นอย่างนี้หละ”

“ก็นายอยากกินของที่นิยมกันในเมืองไทยไม่ใช่เหรอ  นี่ไง....นิยมสุดๆ ผัดเผ็ดถั่วฝักยาวใส่หมู”

“นายใส่อะไรลงไปด้วยล่ะ?  ทำไมมันเหม็นๆ อย่างนี้”

“ก็ใส่กะปิลงไปด้วยน่ะสิ  นายรู้จักกะปิไหม?”  มันทำหน้ายุ่งๆ ก่อนส่ายไปส่ายมาแทนคำตอบครับ  “ดีแล้ว  หัดกินซะ  ไหนว่าชอบของไทยๆ นี่หละของไทยแท้แต่โบราณ  หัดไว้ หัดไว้”  ผมตบบ่ามันเบาๆ ก่อนนั่งลงฝั่งตรงข้ามมัน  เห็นมันทำหน้าเบ้แล้วสะใจจริงๆ  คิดมาตั้งหลายชั่วโมงว่าจะเอาคืนมันยังไง  พอมาเห็นกะปิอินโดฯในครัวที่ผมซื้อมาวันก่อนเลยนึกได้ ฮ่าๆๆ  กินไม่ลงอะสิแก  ไอ้โหด  ฮ่าๆๆๆ สม!!

“ลองดูก็ได้  แล้วนายทำอย่างเดียวหรอวันนี้”  มันหันไปมองบนเตาเผื่อจะเจออย่างอื่น

“อืม....  พอดีเหนื่อยๆ นั่งทำงานมาทั้งวันเลยไม่ค่อยมีแรงทำอะไร”

“ท่าทางไม่น่าจะเหนื่อยมากเลยนะ  นั่งอย่างเดียวไม่ได้ทำอย่างอื่น  หรือว่า...”

“แล้วตกลงจะกินไหม”  ผมรีบขัดขึ้นก่อนที่มันจะนึกออกว่าผมจงใจแกล้งมันครับ

“เอ้า!!  กินก็กิน  แต่ไหนนายลองกินให้ดูก่อนสิ” มันยังลีลาทำท่าแหยงๆ อยู่ครับ

ผมทำทางจินตลีลากินประกอบคำพูดให้มันดูเป็นตัวอย่าง  ตักเสียคำโตเลยครับ “นี่นะ...  กินแบบนี้  อืม...อร่อยมากกกกกกกกส์”

“กินได้แน่นะ”  มันถามอีกครั้งตอนกำลังจะเอาช้อนตักผัดเผ็ดเข้าปาก  และแล้วมันก็...

“น้านแหละ!!......อย่างนั้น  เป็นไง? อร่อยไหม”   ผมส่งเสียงเชียร์เหมือนเชียร์เด็กเล็กๆ ให้กินข้าว  เดี๋ยวคอยดูนะครับมันตรงวิ่งไปคายทิ้งแน่นอน  ท่าทางจะกลืนยากอยู่สักหน่อยนะนั้น ฮ่าๆๆ

“อืม...ก็อร่อยดีนะ  ถ้าไม่ติดตรงกลิ่นเหม็นเน่าอย่างนี้   หัดกินบ่อยๆ คงจะชินไปเอง  นายว่าไหม แนค”  มันหันมายิ้มใส่ตาผมครับ 

เอ๊ะ!!  ทำไมเป็นอย่างนี้ไปได้นะ?  มันต้องวิ่งไปแหวะสิ ทำไมมันผิดแผนอย่างนี้หละ

“เออ....”

“วันนี้ทำไรกินกันหรอครับ กลิ่นแปลกๆ “  โมนิคหวานใจผมเองละครับ  เดินเข้ามาทักพลางโบกมือปัดกลิ่นให้วุ่น

“ผัดเผ็ดหมูนะ  แต่ว่านายคงทานไม่ได้  กินมันแรงไปหน่อย  นายทานอะไรมายัง  ทานอะไรหน่อยไหมเดี๋ยวเราจะทำให้”  ผมเริ่มอ่อยอีกแล้วครับ

“อืม...ขอบใจนะ  แต่ไม่รบกวนนายดีกว่า  วันนี้ผมแวะเข้าร้านแขกตรุกีมาแล้ว  เชิญพวกนายตามสบายนะ    ผมขอตัวก่อนแล้วกัน”  โธ่!! ไปเสียแล้วครับ  มันยืนให้ชื่นใจแป๊บเดียวเอง

“ไง?  เสนอตัวแล้วเขาปฏิเสธ  ถึงขั้นนั่งหน้าหงิกเลยเหรอ  ฮึๆ”

“แล้วจะทำไม  มันเกี่ยวกับนายตรงไหน  พูดมากดีนักงั้นจานนี้ก็ไม่ต้องกินเลย”  ผมฉวยจานกับข้าวยกหนีมันมาวางตรงหน้าผมแทน

“เฮ้ย! ไหงงั้น  เอามานี้เลย”

“ไม่นะ  ฉันเป็นคนทำมันก็ต้องเป็นของฉันสิ”

“แต่ฉันเป็นคนกินแล้วก็นั่งกินอยู่ก่อน  มันก็ต้องเป็นของฉันสิ”

“อะไรของแกวะ  มีที่ไหนกันกับข้าวเป็นของคนนั่งกิน  มันต้องเป็นของคนทำสิถึงจะถูก”

“ก็มีที่นี่หละ  เป็นของฉันทั้งคนทำทั้งกับข้าวนั้นแหละ”

“อะไรนะ  นายว่าไงนะ”  แต่ยังไม่ทันที่มันจะตอบ

“พวกนายทำไรกันนะ” เสียงขวัญใจผมที่เดินกลับมาอีกครั้งถามขึ้น  เขาคงเห็นภาพที่ผมกำลังยื้อจานกับข้าวกับไอ้โหดมันอยู่ครับ “แย่งของกันเป็นเด็กๆ ไปได้  กินด้วยกันก็สิ้นเรื่อง  ว่าแต่ว่านายทนกลิ่นนั้นไหวได้ยังไง?  หือ!  จัสติน”

“ก็ไม่มีอะไรพิเศษนิ  แค่กินๆ เข้าไป  ทนเอาหน่อยก็เท่านั้น  แต่ความจริงรสชาติมันก็ไม่เลวนักหรอกนะ  นายจะลองดูหน่อยไหม”  มันยื่นจานที่มันแย่งไปได้จากมือผมไปให้โมนิคดู  แต่เดี๋ยวก่อนครับ  แล้วที่มันว่า ‘รสชาติมันก็ไม่เลวนักหรอกนะ’ เมื่อกี้นั้นมันหมายความว่าไงหรอครับ  ตกลงว่าอร่อยหรือไม่อร่อย

“ไม่ดีกว่า  นายลองไปคนเดียวก่อนแล้วกัน  วันนี้ผมทานมาจากข้างนอกแล้ว ขอตัว...”  โมนิคทำหน้าแหยงก่อนถอยหนีแล้วก้มหยิบนมในตู้เย็นเดินหายออกไปจากห้องครัวทันที

“ฮึๆ เห็นไหม  ไม่มีใครทนกลิ่นอาหารนายได้หรอก  นอกจากฉัน  รู้อย่างนี้แล้วยังจะไปชวนคนอื่นเขามาทานอีกไหม  ไม่หัดดูตัวเองเสียบ้างเล้ย” มันถามผมเสียงเย้ยๆ ครับ

“ชวนเว้ย....  วันหลังก็ทำอย่างอื่นที่เขากินได้สิ  อันนี้ก็ไม่ต้องทำ  ไม่เห็นยาก” ผมไหวไหล่ตอบมัน  แล้วทำหน้ากวนๆ ให้สาสมกับมันไงคับ

‘เปรี้ยง’ เสียงมันทุบโต๊ะครับ  แล้วมันก็เดินออกไปเลย  ข้าวก็ไม่กินให้หมด  ไอ้ฝรั่งบ้านี่ไม่รู้หรอไงว่ามันบาป...เที่ยวมาทำกินทิ้งกินขว้างอย่างนี้  แต่จะว่าไปมันก็เป็นฝรั่ง  มันก็คงไม่รู้เรื่องหรอกเนอะ

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: [บันทึกรัก Leiden]
«ตอบ #61 เมื่อ23-12-2006 01:09:09 »

14 Mar. 2006
17.30 น. ห้องทำงานผมเองครับ

“ไหนว่าจะมารับตอนนี้ไงนะ  นี้อะไรกันถึงเวลาแล้วยังไม่มาอีก” มันเองละครับไม่มีใครหรอก   มาเที่ยวเดินวนไปวนมา  จับโน้นโยนนี่  ไหนจะชวนผมคุยมั่งหละ  มานั่งทำหน้ากวนทีนใกล้ๆ ผมมั่งหละ  รบกวนจริงๆ คนอื่นเขาไม่มีสมาธิทำงานกันพอดี  ไหนวันก่อนมันยังหาว่าผมไม่มีมารยาทส่งเสียงดังรบกวนคนอื่นอยู่เลย  ตอนนี้มันกำลังนั่งงึมงำเพลงบ้าอะไรของมันอยู่ในคนก็ไม่รู้ครับ  มันมาตั้งแต่บ่ายสี่กว่าๆ แล้ว

“นี่!!  หยุดกวนเสียที่ได้ไหม  คนเขาจะทำงาน”

“ใจคอนายจะทำงานไปจนถึงไหน  นี่มันได้เวลานัดแล้วนะ”

“ก็พี่เขายังไม่มา  นายจะให้ฉันทำไง?  ร้องไห้ฟูมฟายเอาหัวโขกฝาแทนหรือไง?”

“ถ้านายทำอย่างนั้นไงก็เยี่ยมเลยวะ ฮ่าๆๆๆ” 

....ถีบมันตกเก้าอี้ซะดีไหมนะไอ้นี่...เห็นไหมครับว่ามันกวนทีนจริงๆ

“มาแล้วจ้าหนุ่มๆ  โทษทีพอดีพี่มีโทรศัพท์ด่วนเข้ามานะ ว่าไง? รอนานไหมจ๊ะจัสติน”  พี่เต่าหันไปถามเอาใจมันก่อนเลย

“ไม่นานหรอกครับ  ผมเองก็เพิ่งลงมาเมื่อกี้”  เชอะ!  ตอแหลลื่นจริงๆ นะแก

“เออ!  พี่ขอแนะนำให้รู้จักก่อนนะ  คนนี้ชื่อ มาเรีย  เป็นลูกศิษย์แฟนพี่เองจ๊ะ” พี่เต่าเบี่ยงตัวกลมๆ ของตัวเองเผยให้พวกผมเห็นหน้ายายมาเรียนั้นชัดๆ ผู้หญิงอะไรก็ไม่รู้หน้าเหมือนแม่มดจัง  ยางก็ยื่นๆ จมูกก็โค้งๆ ยังจะตาเฉียงๆ นั้นอีก  เรียกว่าหาความสวยสมกับที่เป็นผู้หญิงไม่ได้เลยครับ  ท่าทางเดินก็  เฮ่อ!! อย่าให้ผมพูดเลย  ห่ามซะก็เท่านั้น  ผู้หญิงไทยเราสวยกว่าเยอะเลยครับ  อันนี้เรื่องจริงไม่ได้ลำเอียงเพราะเห็นว่าเป็นคนชาติเดียวกันหรอกนะครับ

“ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ” ไอ้โหดยื่นมือออกไปทักทายก่อนเลยครับ  หน้าหม้อสุดๆ เลยไอ้นี้ “ผมจัสติน  ส่วนนี้เพื่อนสนิทผม แนค ครับ  มาจากเมืองไทย”  เอ๊ะ!!  ผมไปสนิทกับมันตอนไหนเหรอครับ  ผมไม่เห็นรู้ตัวเลยอะ

“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ  ฉันเพิ่งมาถึงวันนี้อาจารย์เลยเลี้ยงฉลองต้อนรับ  เลยกลายเป็นว่าต้องรบกวนคุณเต่าเลย เกรงใจคุณจริงๆ” มาเรียหันไปยิ้มประจบเกาะแขนพี่เต่า 

“ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ  บ้านฉันนะมีปาร์ตี้บ่อยจนชินเสียแล้วละ  พอไม่มีสิมันดูเหงาๆ ไปยังไงพิกล  พวกเธอมาก็ดีแล้วไงฉันจะได้มีเรื่องหาโอกาสฉลองนะซิไม่ว่า”  พี่เต่าหันไปบอกมาเรียตอนที่เรากำลังเปิดประตูขึ้นไปนั่งบนรถ  ผมเลือกนั่งด้านหลังครับ  ไอ้โหดมันก็ตามขึ้นมาด้วย  แล้วทำไมมันไม่ไปขึ้นอีกด้านนะ  ต้องมาเบียดกระแซะให้ผมต้องลำบากเลื่อนตัวเองเข้าไปอีก  แนะ!!  ยังมีหน้ามายิ้มให้อีกครับ

“พี่ให้กุลกับนายอัตล่วงหน้าไปก่อนแล้ว  ป่านนี้คงจะหั่นผักเตรียมของไว้แล้ว  พอเราไปถึง แนคต้องเข้าครัวช่วยพี่ตามที่สัญญาไว้นะ  ห้ามลืม”

“ครับ”  ผมรับเสียงอ่อยๆ ไอ้โหดมันยิ้มอะไรของมันก็ไม่รู้  ยิ้มเหมือนคนบ้ากัญชา  แนะ!! ยังเอามือเอื้อมมาขยี้หัวผมอีก  ไอ้นี่ถ้าจะไม่เคยตาย  เดี๋ยวๆ มรึง  คอยก่อน
................................................................................

“มากันแล้วหรือคะพี่เต่า”  พี่กุลเป็นคนออกมาเปิดประตูรับพวกเราให้เข้าบ้าน  บ้านพี่เต่าน่ารักมากเลยครับ  ห้องรับแขกเป็นเรือนกระจกครึ่งหนึ่งมองออกไปเห็นสวนเล็กๆ กับสนามหญ้ากลางบ้านด้วยครับ  มีตู้ปลา...อย่างใหญ่เสียด้วยกั่นห้องทานข้าวกับห้องนั่งเล่นออกจากกัน  แล้วยังวางพวกกระถางกล้วยไม้ที่ออกดอกใหญ่ๆ ช่อยาวๆ สีสวยๆ ประดับตามมุมต่างๆ อยู่หลายกระถาง  สวยมากๆ ขอบอก  ผมอยากมีบ้านอย่างนี้จังเลยครับ

“ชอบหรอ?”  ไอ้โหดมันมากระซิบถามเมื่อเห็นผมยืนยิ้มอยู่คนเดียวกลางห้อง  คนอื่นๆ เขาแยกย้ายกันไปหมดแล้วครับ  ยายมาเรียนั้นก็แยกไปคุยกะแฟนพี่เต่าหน้าทีวี  พี่เต่ากับพี่กุลก็จูงมือกันเข้าครัวไปแล้ว  ส่วนนายอัตนั้นผมเห็นนั่งวาดรูประบายสีอยู่กับเด็กๆ สองคนลูกพี่เต่า  แต่เห็นเขาเหลือบตามองมาทางผมกับไอ้โหดหลายครั้งแล้วครับ  มองทำไมวะ?

“แนคคคคคคค… เข้ามาในนี้เร็วๆ” เสียงพี่เต่าเรียกชื่อผมยานคางเร่งให้ตามเข้าไปในครัวเร็วๆ

“นายหาไรทำไปก่อนแล้วกันนะ....  ไม่ต้องเข้าไปหรอก  ทำอะไรก็ไม่เป็น  เกะกะ” ผมบอกมันก่อนเดินตามเสียงเพลงที่พี่เต่าเปิดกล่อมตัวเองดังลั่นมาจากในครัว  ปล่อยให้มันยืนหมุนอยู่อย่างนั้นแหละครับ

“อ้าวจัสตินหละ”  พี่เต่านะพี่เต่า  ไปถามหามันทำไมครับ  “ปล่อยให้แขกอยู่คนเดียว  เขาก็กระดากแย่สิ  แนคนี่ใจร้ายจริงไม่ชวนเขาเข้ามาด้วย”  อ้าว!! ผมก็แขกนะครับพี่หรือว่าพี่ลืมไปแล้วอะ  แง.....

“เดี๋ยวกุลออกไปดูให้เองคะพี่เต่า”

“เออ...ดีๆๆ  หาเครื่องดื่มหาของว่างให้ทานไปพลางๆ ก่อนด้วยนะกุล  บอกว่าเดี๋ยวสักพักอาหารคงเสร็จแล้วนะ”

“คะพี่เต่า ไม่ต้องห่วงหรอกคะ  เดี๋ยวกุลจัดการให้”

“ส่วนเธอมานี้เลย แนค  อย่ามัวยืนเฉยอยู่อย่างนั้นซิ  เสียเวลาเปล่าๆ เดี๋ยวแขกจะรอนาน”  เอ่อ! พี่เต่าครับคนที่ชื่อ แนค นี่ก็เป็นแขกไม่ใช่หรอครับพี่  :monkeycry2:
................................................................................

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: [บันทึกรัก Leiden]
«ตอบ #62 เมื่อ23-12-2006 01:28:51 »

20.12 น. ห้องทานข้าวบ้านพี่เต่า


   “ไงทานได้ไหม?  จัสติน” เสียงพี่เต่าถามทันครับ

   “ได้ครับ  อร่อยดี” มันตอบยิ้มๆ เอาใจเจ้าของบ้าน  แต่มันก็กินเสียเยอะเลยครับ  ผมหละอ๊ายอายเจ้าของบ้านเขาจริงๆ  วันนี้ผมก็แค่ซื้อน้ำผลไม้มาสองกล่องใหญ่เท่านั้นเอง  แต่ก็ดีใจที่เห็นเด็กๆ ลูกพี่เต่าดีใจเมื่อเห็นน้ำผลไม้ที่ผมหิ้วติดมือมาด้วย  ส่วนมันหรอครับ?  มามือสิบนิ้วครับ 

   “แล้วนี้ยายกุลไปไหนเสียแล้วละ แนคเห็นบ้างไหม?”

   “เมื่อกี้ผมเห็นออกไปนั่งคุยกับแฟนพี่กะลูกศิษย์เขานะครับ  สงสัยคงคุยกันเรื่องงานเขานั้นแหละครับ  เห็นกางหนังสือกันให้วุ่นวาย”

   “หรอ?  ไงอัต?  นั่งนิ่งไม่พูดไม่จาอะไรเลยตั้งแต่เมื่อตอนนั่งกินข้างแล้ว  เป็นไรหรือเปล่าจ๊ะ” พี่เต่าหันไปถามไอ้เจ้าคนที่ผมไม่ชอบสายตาเวลาที่มันมองมาเลยครับ

“อ้อ! ไม่มีไรครับ  เพียงมันอิ่มๆ ตื้อๆ นะครับ  ฝีมือการทำกับข้าวพี่เต่าไม่เคยตกเลยจริงๆ ได้กินเมื่อไหร่เป็นอร่อยเมื่อนั้น” นายอัตยิ้มตาหยีให้พี่เต่า  มาตะเภาเดียวกันอีกแล้วครับ  ชมเอาใจเจ้าของบ้านไปเรื่อย  เห็นเมื่อกี้ตอนนั่งทานข้าวกัน  นายอัตนี้นั่งข้างๆ ไอ้โหดครับ  เห็นคุยอะไรกันก็ไม่รู้กระหนุงกระหนิงเชียว “พรุ่งนี้นายจะมาใช้เน็ตที่ห้องทำงานผมก็ได้นะจัสติน  ช่วงบ่ายๆ ผมไม่ได้ทำอะไร  นายมาใช้ได้เลย”

“หรอ?  ดีๆ ขอบใจนายมากนะ  นายนี่ใจดีจัง  ไม่เหมือนคนบางคน”  อ๊ะ1 มันว่าใครอะครับ  แต่ว่าเห็นมันเหล่หางตามาทางผม ไอ้นี่วอนบาทาเสียแล้ว

“สำหรับนายนะได้เสมอ นายไม่ต้องเกรงใจหรอกจัสติน เพื่อนกันก็ต้องช่วยเหลือกันสิ” หมอนั้นพูดยิ้มๆ ส่งสายตาแปลกๆ ให้ไอ้โหดมัน  เห็นไอ้โหดก็ยิ้มรับหน้าระรื่นเชียวครับ  มันน่าถีบนักจริงเชียว  แต่เดี๋ยวก่อน....  มันสองคนไปเป็นเพื่อนกันตอนไหนครับ  ผมไม่เห็นรู้เรื่องด้วยเลย  มีใครรู้บ้างครับ  บอกผมที...

“งั้นพรุ่งนี้บ่ายเราจะลงมาหานายที่ห้องนะ  ว่าไงแนค…ไปด้วยกันไหม?” หา!  มันหันผมชวนผมแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยอีกแล้ว  แล้วจะให้ผมตอบว่าไงดีครับ  ดูสายตาที่นายอัตนั้นมองมาดิ...  ผมควรจะตอบว่าไรดีครับ

“ไม่หละ  ขอบใจนะที่ชวน  แต่คิดว่าคงนั่งทำงานอยู่ที่ห้องดีกว่า  นายจะกลับเมื่อไหร่นายก็ลงมาตามเราเองแล้วกัน”  ผมว่าผมแอบเห็นแววตาพอใจในตานายอัตนั้นนะครับ

“อ้าว!! เหรอ?  งั้นผมไปคนเดียวก็ได้” แล้วก็ทำหน้าหงิกๆ ใส่ผม  ส่วนนายอัตนั้นก็หน้าบานเชียวครับ  ผมว่าสองคนนี้มันแปลกๆ นะ  คุณเห็นด้วยกับผมไหมครับ

“อ้าว!  มัวแต่ยืนคุยกันอยู่นั้นแหละจะหนุ่มๆ  มาทานไอศกรีมเป็นของหวานกันดีกว่า” เสียงพี่เต่าเดินเข้ามาตามให้ไปนั่งประจำที่เมื่อของหวานพร้อมเสิร์ฟแล้ว

“กลับบ้านไปเรามีเรื่องต้องคุยกันนะ”  ไอ้โหดมันก้มมากระซิบที่ข้างๆ หูครับ
................................................................................

“ทำไมนายไม่ไปห้องคนไทยคนนั้นพร้อมฉัน?”  มาถึงมันก็เปิดฉากทันทีเลยครับ

“ทำไมต้องไปด้วยละ? ฉันก็ไปใช้ที่ร้านในเมืองก็ได้  ไม่เห็นต้องไปรบกวนใครเลย” ผมตอบตอนโยนถุงมือกลับผ้าพันคอไปบนโซฟาตัวใหญ่สีขาวหน้าทีวี

“ความจริงฉันก็ไม่ได้อยากใช้อะไรหรอก  เห็นนายอยากใช้ต่างหาก  เลยไปถามนายคนไทยนั้นให้  แต่นายดันเกิดไม่ไปขึ้นมาเสียนี่สิ”  มันบ่นๆ ตอนเดินไปตะกายขึ้นเตียง

“นั้นใจคอจะไม่อาบน้ำหรอไง?”

“ไม่อะ  อิ่มแล้วง่วงนอน  แต่นายไม่ต้องมาทำเปลี่ยนเรื่องเลยแนค ตอบมาก่อนว่าทำไมไม่ไปใช้เน็ตห้องคนไทยเพื่อนนายคนนั้น”

“พูดให้ดีๆ นะโว้ย  ใครเพื่อนใคร?  ฉันไม่ได้เป็นเพื่อนหมอนั้น  แล้วอีกอย่างเขาก็ชื่อ ‘อัต’ ช่วยเรียกให้มันถูกๆ ด้วย”

“เออ! นั้นแหละขี้เกียจจำ  จำชื่อนายคนเดียวก็พอแล้ว  บอกมาสิ  ว่าทำไมไม่ไปใช้เน็ตห้องนายอัตนั้น  อยากเสียเงินมากเลยใช่ไหม?  ถึงไม่ยอมไปใช้ที่ห้องของคนไทยคนนั้น”

“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก” ผมหันมาพูดกับมันจากหน้ากระจก “เราไม่ได้สนิทอะไรกับเขา แล้วอยู่ๆ จะไปรบกวนใช้เครื่องของเขา  มันทะแม่งๆ นะ  ไม่เหมือนายนิ  เห็นคุยกันตั้งหลายคำ”

“นายเห็นด้วยหรอ?  เราว่าเราแอบคุยแล้วนะ”  แอบตรงไหนของแกวะ!  เห็นนั่งคุยหัวชนกันตั้งหลายรอบบนโต๊ะกินข้าว  ยังมีหน้ามาบอกอีกว่าแอบคุย

“เออ!  เห็นแล้วกันนา...  อีกอย่างเราไม่ชอบเวลาที่หมอนั้นมองมา มันเหมือนสายตาจับผิดยังไงไม่รู้  อึดอัดพิกล”  ผมยักไหล่ก่อนหันไปจัดการกับหัวตัวเองต่อ

“นายคิดมากไปหรือเปล่า  เห็นกับเราเขาก็คุยดีนะ  ท่าทางเป็นมิตรดีออก”  เฉพาะกับแกนะสิ  แต่กับฉันมันทำท่าเหมือนจะกินหัวโว้ย

“นั้นสินะ  เป็นมิตรดี  ก็เห็นเป็นเพื่อนกันแล้วนิ  ท่าทางสนิทกันเร็วดีจริง”

“เฮ้ย!  ไม่มีไร  ก็แค่ทำความรู้จักแล้วคุยกันถูกคอเท่านั้น  นายอย่าคิดไรมากเลยนา  ไม่มีไรจริงๆ ก็แค่อยากจะหาทางให้นายได้ใช้อินเตอร์เน็ตฟรีเท่านั้นเอง  จริงๆนะ” มันกระเด้งขึ้นมาปฏิเสธให้ยุ่งไปหมดเลยครับ  แล้วมันจะมาปฏิเสธทำไมกัน มันจะไปสนิทกับใครที่ไหนผมจะไปว่าไปขวางทำไมกัน  ไอ้นี่ก็แปลกคน

“ก็ไม่ได้ว่าไรนิ  ก็ดี...นายจะได้มีเพื่อนคนไทยคนอื่นบ้างนอกจากเรา” อิอิ  มาเลยครับ  เชิญมาแบ่งเบาภาระรองรับความกวนประสาทของมันไปเสียบ้างผมจะยินดีมากๆ เลยครับ คุณอัต

“ทำไม?  ทำไมนายอยากให้เราไปสนิทกับนายคนนั้นมากเลยหรอ”

“อืม...  เขาก็ดีกับนายนิ”  ผมบอกโดยที่ไม่หันไปมองมันเลยครับเพราะกำลังง่วนอยู่กับการแกะสิว วุ้ย! ทำไมมันเม็ดใหญ่จังเลยวะ

“.............”

“เฮ้!! ทำไมเงียบไปหละ  นอนแล้วเหรอ?”  คราวนี้ผมหันไปมอง  เห็นมันนอนหันหลังให้เสียแล้วครับ  อะไรวะ!? เมื่อกี้ยังพูดแจ้วๆ เผลอแป๊บเดียวหลับไปเสียแล้ว  คนบ้าอะไรหลับเร็วจริง  ผมก็เลยเดินไปปิดไฟแล้วคลานขึ้นเตียงบ้าง

“นายอยากให้เราไปสนิทกับคนไทยคนนั้นจริงๆ หรอ?” อยู่ๆ มันก็ถามขึ้นมาท่ามกลางความมืดครับ  แล้วพลิกตัวหันมาทางผม

“ก็เออดิ!!  ทำไม? อัตเขาไม่ดีตรงไหน  เห็นก็คุยกันถูกคอนิ”  จนป่านนี้มันก็ยังไม่ยอมเรียกชื่ออัตเสียที  เรียกอ้อมไปอ้อมมาอยู่นั้นแหละครับ  ผมเลยย้ำให้มันฟังอีกที

 “ก็ได้  ถ้านายต้องการอย่างนั้น” แล้วมันก็หันหลังกลับไปเลยครับ  ผมก็ได้แต่นอนลืมตามองเพดานห้องอยู่เฉยๆ เงียบๆ คนเดียว  ทำไมมันโหวงๆ ในอกชอบกลก็ไม่รู้นะครับ 

แต่ก็ดีเหมือนกันบางทีผมอาจจะใช้ไอ้โหดเป็นสะพานเชื่อมความสัมพันธ์กับนายอัตนั้นก็ได้  ก็ศิษย์เก่ามหาลัยเดียวกันแต่ไม่คุยกันแบบนี้ก็กระไรอยู่  เป็นเพื่อนกันไว้น่าจะดีกว่านะครับ  ผมว่า...



สวนหลังบ้านพี่เต่าคับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-12-2006 02:08:50 โดย oaw_eang »

ออฟไลน์ Lucifer

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
Re: [บันทึกรัก Leiden]
«ตอบ #63 เมื่อ23-12-2006 11:55:32 »

กะลังหนุกเลย มาต่อเร็วๆ นะคับ  :sad4:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: [บันทึกรัก Leiden]
«ตอบ #64 เมื่อ23-12-2006 20:32:27 »

หุหุ ตกลงอัตชอบจัสตินใช่มั๊ย  :kikkik: จะเดาผิดอีกหรือเปล่าหว่า  :really2:

No_ProMises

  • บุคคลทั่วไป
Re: [บันทึกรัก Leiden]
«ตอบ #65 เมื่อ23-12-2006 21:04:01 »

มาต่อเร๊วๆ

นะ ค๊าบ

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
Re: [บันทึกรัก Leiden]
«ตอบ #66 เมื่อ27-12-2006 13:25:07 »

สนุกมันโคตร   :like2: :like2: :like2: :like2:
แค่ไม่กี่วันก็ผูกพันกันขนาดนี้แล้ว  :impress2: :impress2: :impress2:
มาต่อด่วนๆเล้ยๆ หายไปไหนครับ
ผมจะลงแดงตายแล้ว
 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: [บันทึกรัก Leiden]
«ตอบ #67 เมื่อ29-12-2006 01:12:12 »

สนุกมันโคตร   :like2: :like2: :like2: :like2:
แค่ไม่กี่วันก็ผูกพันกันขนาดนี้แล้ว  :impress2: :impress2: :impress2:
มาต่อด่วนๆเล้ยๆ หายไปไหนครับ
ผมจะลงแดงตายแล้ว
 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:



น้่านจิคุณ blue  :confuse:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: [บันทึกรัก Leiden]
«ตอบ #68 เมื่อ29-12-2006 02:03:54 »

15 Mar. 2006
17.10 น.  ห้องทำงานผมเองครับ

‘ทำไมมันยังไม่ลงมาอีกนะวันนี้’

ผมเองละครับ  นั่งทำงานไปชะเง้อดูว่าไอ้โหดมันจะลงมาหรือยัง  ไม่มีสมาธิทำงานเลยเวลาที่ต้องรอใครแบบนี้  ว่าแล้วก็เลิกทำเก็บของเดินไปดูมันที่ห้องดีกว่า  มันจะขยันทำงานอะไรของมันขึ้นมานะวันนี้  อยากรู้จัง!

อ๊ะ!!  ไม่มีครับ  ไม่มีใครอยู่เลยในห้องมัน  แล้วมันหายหัวไปไหนนะ?  ทำไมไม่รู้จักไปบอกกันก่อนบ้างว่าจะไปไหนปล่อยให้คนอื่นเขารออยู่อย่างนี้  คอยดูนะเย็นนี้จะไม่ทำอะไรให้มันกินเลย  คอยดูนะครับทุกคน   

ว่าแต่....ทางออกมันอยู่ไหนหว่า  ขึ้นมาบนนี้แล้วผมต้องเดินลงไปทางไหนหรอครับถึงจะเจอทางออก   ไม่อยากเดินย้อนกลับไปทางเดิมอีกให้เสียเวลา  เอาวะ!!  ลองเดินเดาสุ่มๆ ไปดีกว่า  แต่ไม่รู้ว่ามันจะทำให้เสียเวลามากไปกว่าเดิมหรือเปล่านะ  ทางเดินในตึกนี้มันยิ่งสลับซับซ้อนซ่อนเงื่อนอยู่ด้วยสิ  ใครเป็นคนออกแบบกันนะ  เจอหน้าขอขอเขกหัวสักสองทีโทษฐานออกแบบแล้วตูหลงทาง  คราวหน้าถ้าจะสร้างอีกหละก็ขอที่มันมีทางเดินง่ายๆ ไม่ใช่วนไปวนมาจนหมาหลงอย่างนี้นะ

 :o อ๊ะ!! (รอบสองครับ) เสียงหัวเราะครับ  ของใครวะ? หัวเราะดังเชียว  นี้มันสถานที่ทำงานนะเว้ย  ถึงจะใกล้เวลาเลิกงานแล้วก็เถอะ แต่ว่าเสียงมันคุ้นๆ นะครับ  ดังมาจากห้องข้างหน้าเสียด้วย  เดินไปดูดีกว่า  ไหนๆ ต้องเดินวนหาทางออก(ที่ยังไม่เจอ)อยู่แล้วด้วย

“นายนี้มันตลกดีนะ” ยิ่งเดินใกล้ยิ่งได้ยินถนัดเลยครับ  จะมีใคร้?  เสียงเหมือนหมีสำลักน้ำผึ้งอย่างนี้นอกจากยอดชายนายโหดของผม  เอ๊ะ!  มันเป็นของผมตั้งแต่เมื่อไรกัน  เอาเป็นว่าของทุกคนดีกว่านะครับ แฮ่ะๆ

“นายเองก็พอกันหละ  แต่ว่าเย็นนี้นายจะไปไหนต่อ  ไปหาไรกินด้วยกันไหม?”  เสียงนายอัตกลั้วหัวเราะชวนไอ้โหดไปหาไรกินกันครับ

“คงไม่ได้หรอก  แนคคงรอกลับบ้านอยู่นะ  ผมต้องกลับบ้านไปทานข้าวกับแนคน่ะ”  ดีมากไอ้โหดลูกพ่อ  ฮิฮิ...

“นี้มันก็ได้เวลาเลิกงานแล้ว  ลองนายไม่ลงไปตามเขาแบบนี้...เขาคงไม่รอนายหรอก  คงเดินกลับไปแล้วมั้ง”

“เออ!! จริงด้วยสิ  ผมไปก่อนนะ  แนคคงกำลังรอผมอยู่”  มันทำท่าจะลุกเดินออกมาครับ

“อืม...ไม่เป็นไร  ผมทานข้าวคนเดียวชินแล้วหละ  เชิญนายตามสบาย  ผมไปหาไรทานคนเดียวเหมือนเดิมก็ได้”

“เอ่อ!....  วันนี้ขอโทษจริงๆ นะ  เอาไว้วันหลังแล้วกัน  ผมไปก่อนนะ”

“นายสัญญาแล้วนะ  ห้ามลืมล่ะ” 

ห่ะ!!  ไอ้โหดมันสัญญาตอนไหนครับ ผมไม่เห็นได้ยินเลย
....................................................................

“เอ่อ...นายไปทานกับอัตเถอะ  วันนี้เรากลับบ้านเองได้  พอดียังไม่ได้ซื้อของเลย  ท่าทางของสดจะมีน้อย  ทานสองคนคงไม่พอ  เราทานคนเดียวดีกว่า  ดีเหมือนกันจะได้ทำของเผ็ดๆ ทาน” ผมเอ่ยออกไปหลังจากที่สองคนนั้นหันมาเห็นผมยืนทำหน้าเอ๋อแด๊กอยู่ตรงหน้าห้องครับ  :try2:

“ไง?  หวัดดีแนค  นายจะไปทานกับพวกเราด้วยกันก็ได้นะ” นายอัตชวนเสียงร่าเริงเลยครับแต่ว่าไม่เข้ากับสายตาที่ส่งมาให้ผมจริงๆ

“ไม่หละ  เราอยากทานข้าวที่บ้านมากกว่า  นายไปกับอัตเถอะ...จัสติน  เรากลับเองได้”  ความจริงผมก็เป็นคนหาเส้นทางกลับบ้านเองทุกวัน  ขืนให้ไอ้โหดนำทางมีหวังได้เดินกันจนขาลากพอดี  ทำไมนะหรอครับ?  ก็มันชอบเป๋ออกนอกเส้นทางไปดูนั้นดูนี่อยู่เรื่อยเลย

“ถ้า...แนคต้องการอย่างนั้นก็ตามใจ  งั้นพวกเราไปกันเถอะ” ไอ้โหดหันไปชวนอัตที่กำลังเก็บของลงกระเป๋าอยู่ด้านหลัง

“งั้นเราแยกไปก่อนนะ”  ผมบอกตอนที่พวกเราสามคนเดินมาถึงทางแยกหน้าสถานีรถไฟ  ความจริงอัตก็มีรถจักรยานแต่ว่าวันนี้ลงทุนเดินเพราะว่าจะซ้อนกันมาไงครับสามคนรถมีคันเดียว  คงไปไม่ไหวแน่
................................................................................

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: [บันทึกรัก Leiden]
«ตอบ #69 เมื่อ29-12-2006 02:09:03 »

“หวัดดีแนค  ไหงวันนี้นั่งทานคนเดียว  แล้วจัสตินไปข้างไหนเสียหละ”  เสียงขวัญใจผมเองแหละครับ

“อ้อ!  พอดีเขาไปหามื้อเย็นทานข้างนอกกับเพื่อนเขานะ  เราเลยขอตัวกลับมาก่อน แล้วนายทานไรมายัง  นั่งทานด้วยกันไหม” ผมถามตอนเห็นเขาก้มลงหยิบอะไรๆ ให้ตู้เย็นข้างหน้า

“ผมยังไม่ได้ทานอะไรเลย  นี่ก็กำลังจะเข้ามาอุ่นอาหารแช่แข็งกินนะ” ผมเห็นเขาเอาไอ้เจ้ากล่องอะไรนั้นยัดเข้าตู้ไมโครเวฟด้านหลังไปไวๆ

“อะไรหรอนั้นนะ  อร่อยไหม?  วันหลังผมจะได้ซื้อมากินมั่ง  บางทีมันก็ขี้เกียจทำกับข้าวกินเองเหมือนกันนะ”

“รสชาติมันสู้ของที่เราทำกินเองไม่ได้หรอก  แต่ก็อย่างว่านะ” โมนิคยักไหล่  แต่ว่าทำไมผมรู้สึกว่ามันน่าดูมากเลยอะครับ “ผมทำอะไรได้ไม่ค่อยมากนักหรอกเรื่องอย่างนี้  เลยต้องฝากท้องไว้กับพวกอาหารแช่แข็งแทน  แต่ถ้ามีคนมาทำอาหารให้กินทุกวันคงดีอยู่ไม่น้อยเหมือนกันนะ...แนค  นายว่างั้นหรือเปล่า?” แล้วก็หันมายิ้มหล่อใส่ตาผมครับ  โอ้วววววววววส์  ใจผมจะละลาย  :impress2:

“มันก็ขึ้นอยู่กับว่านายอยากให้ใครมาทำให้นายกินมากกว่า  หน้าตาอย่างนายผมว่าหาคนมาช่วยเรื่องพวกนี้ได้ไม่ยากหรอก  นายนะ....เอ่อ!!”

“ผมทำไมหรอ....หือ ว่าไง?”

“อ๊ะ! มันได้ที่แล้วนิ  กลิ่นหอมเชียว”  ผมรีบเปลี่ยนเรื่องเมื่อได้ยินเสียงไมโครเวฟดีดบอกว่าอุ่นเสร็จเรียบร้อยแล้ว  โมนิคหันไปจัดการแกะใส่จานแล้วยกมานั่งทานตรงข้ามผม

“ว่าไง?  คนอย่างผมนะทำไมหรอครับ” โห!  เอากับพี่แกเดะ  มองจ้องอยู่ได้  ใครมันจะไปพูดออกครับ “ตกลงนายจะไม่บอกใช่ไหมว่า  คนอย่างผมนะทำไมถึงได้หาคนมาทำมื้อเย็นให้ทานได้ง่าย”

“นายก็น่าจะรู้ตัวดีนี่นา  ไม่เห็นต้องให้บอกเลย”

“แต่ผมอยากรู้นิ  ว่าแนคคิดว่าผมเป็นคนอย่างไง”  แล้วทำไมต้องมาจ้องหน้ายิ้มๆ กันแบบนี้ด้วยละวุ้ย  คนเขาก็เขินเป็นเหมือนนะเว้ยยยยยยยยยส์

“ก็.....นายดูดีออก  แล้วทำไมนายจะหาคนมาทำมื้อเย็นให้ทานยากหละ”  :-[

“หรอ?  ผมไม่เห็นรู้ตัวมาก่อนเลย  แต่ว่าขอบใจนะที่แนคชมว่าผมดูดี  แนคเองก็ดูดีเหมือนกันนะ” โมนิคพูดยิ้มๆ ก่อนตักของตรงหน้าใส่ปาก แล้วนั่งอมยิ้มมองผมอยู่อย่างนั้น

“เออ.....ชมกันไปชมกันมาอยู่นั้นแหละ  ผมทานเสร็จแล้วขอตัวก่อนนะ”  :myeye:

“อ้าว!  แล้วจะรีบไปไหน  นั่งคุยเป็นเพื่อนกันก่อนสิ”  ผมชะงักหยุดเดินเพราะโมนิคเอื้อมมือมาคว้ามือผมเอาไว้  อ้ายยยยยส์  เดี๋ยวก็ปล้ำเสียเลย  ยิ่ง....มาตั้งหลายวันอยู่ด้วยนะเว้ย “นะๆ นั่งคุยเป็นเพื่อนผมก่อน  ผมไม่อยากนั่งทานข้าวคนเดียว”  เสียงอ้อนๆ นะยังไม่เท่าไหร่ครับ  แต่ว่าไอ้ตาหวานเชื่อมมหาประลัยนั้นมันช่างรัญจวนใจผมดีแท้

“อืม....ก็ได้แต่ขอเราไปล้างจานก็นะ”  ผมมองไปที่มือที่โดนจับอยู่  ฝ่ายนั้นเหมือนรู้ตัวเลยหัวเราะแฮ่ะๆ แล้วปล่อยมือให้ผมไปล้างจานผม

“ก็...”  โมนิคยังไม่ทันพูดอะไรก็สะดุดค้างเสียก่อน  มีเสียงเหมือนมีคนเดินเข้ามาแล้วเดินออกไปอีก  เอ๊ะ!   ใครกันนะ? 

“ใครมานะ?”

“ไม่เห็นมีนี่”  โมนิคตอบผมตอนกำลังนั่งลงที่เดิมหลังจากเดินออกไปดูที่ห้องโถงหน้าบ้านตกลงเย็นนั้นผมก็นั่งคุยกับโมนิคเรื่อยเปื่อยหลายเรื่องด้วยกัน จนเขาถามผมว่า

“แล้วนายจะไม่ขึ้นไปเช็คเมลล์อีกหรอ  แนค”

“อ๋อ...คงไม่หละ  เกรงใจนายนะ  รบกวนเปล่าๆ  เราไปเช็คที่ร้านในเมืองก็ได้”

“เฮ้ย!  ไม่รบกวน  นายจะไปเช็คเมื่อไรก็ได้  ผมก็ไม่ค่อยได้ใช้อยู่แล้ว  แล้ววันนี้นายจะไปลองเช็คดูไหม  เผื่อจะมีใครส่งเมลล์มาให้นายจากเมืองไทย เช่น  เพื่อนนาย?  แฟนนาย?”

:pigscare2: อุ๊ย!  ไม่มีหรอก  เราไปดูมาแล้ว”  ความจริงก็คงมีของเจ้าเพื่อนๆ ผมส่งมาบ้างนั้นแหละครับแต่ว่าของแฟนนี่ไม่มีครับ  ก็เคยมีกับเขาเหมือนกัน  แต่ว่าโดนทิ้งไปแล้วครับ แงๆ ส่วนคนที่กำลังเล็งๆ อยู่  เขาไม่ยอมใช้เมลล์แบบนี้ครับ  เขาบอกว่าดูไม่จริงใจ  ชอบให้เขียนจดหมายเอาดีกว่า  ดูดีกว่ากันเยอะ  แถมยังเก็บไว้ดูอีกในวันหลังได้ด้วย  แปลกคน...

“อะไรอะ  ที่ว่าไม่มี  เมลล์หรือว่าแฟน?”  ฝรั่งมันก็ทำตาเล็กตาน้อยเป็นเหมือนกันหรอครับ ก็ไอ้คนที่มันนั่งตรงหน้าผมนี้ไงครับกำลังทำ  ผมเลยเพิ่งรู้...แล้วก็ต้องรีบปฏิเสธไปว่า

“ไม่มีทั้งคู่นั้นแหละ  อย่างผมไม่มีใครเขาสนหรอก  นายวางใจได้”

“ไม่น่าเชื่อ  อย่างนายนี้หรอไม่มีคนสนใจ  แล้วถ้าเกิดมีคนสนใจนายขึ้นมา  นายจะทำไงหรอครับ”  โมนิคถามแล้วก็จ้องเข้ามาในตาผมจนผมต้องแกล้งเสหันไปมองนอกหน้าต่างแทน

“ก็ไม่ทำไง  คงจะดีใจ...ก็เท่านั้น  นานๆ จะมีใครคนไหนมาสนใจเสียที  ก็ดีเหมือนกันนะจะได้เลิกเหงาเสียที”

“หรอ  งั้นนายก็คงต้องเลิกเหงาเร็วๆ นี้หละ  ผมขอตัวไปบนห้องก่อนนะ  แล้วคุยกัน”

....โมนิคลุกออกไปแล้วครับ  เหลือเพียงผมที่นั่งอยู่ตรงนี้คนเดียวกับความคิดหลายๆ อย่างที่วิ่งเข้าวิ่งออกในสมองน้อยๆ ของผม...   

กับข้าวในจานยังมีเหลือพอสำหรับใครบางคน  เผื่อเขาจะกลับมากิน...แต่ท่าทางคงจะไม่มากกว่า  รอนานขนาดนี้แล้ว    ก็ดี! กินคนเดียวให้หมดเลยดีกว่าไม่ต้องรงไม่ต้องรอมันแล้ว  ช่าง!  รอแล้วไม่มากินเองช่วยไม่ได้    แต่เมื่อกี้โมนิคเองก็พูดแปลกๆ นะ หรือว่าเค้าจะสนใจผมเข้าแล้ว ฮิฮิ  โห!!  ถ้าเป็นอย่างนั้นก็วิเศษไปเลยครับ  หล่อจะตาย  ใครจะไปปฏิเสธไหวครับ   :haun5:
................................................................................

“ทำไรอยู่อะ” เสียงไอ้โหดดังขึ้นข้างหลัง  ผมไม่ต้องหันไปดูก็รู้ว่าใครครับ

“อ่านนิยายโว้ย  ทำไม?”

“เปล่าก็ไม่มีไร  ......  นายจะไม่ถามเลยหรอว่าเราไปไหนมา แนค”

“ถาม?  เพื่ออะไร?  นายอยากจะเล่าก็เล่ามาสิ” ผมหันไปทำหน้าสงสัยกับประโยคของมันก่อนหันมาจ้องนิยายต่อ  แต่หูก็ผึ่งเต็มที่เลยครับ

“จริงสิ  นายคงไม่อยากรู้เรื่องของเราหรอกว่าไหม?  แล้วเมื่อเย็นทานข้าวกับใคร  คนเดียว?  หรือว่ากับ...โมนิค” เสียงมันอ่อยๆ ไปพอพูดมาถึงตอนนี้ 

“ตอนแรกก็กินคนเดียว  แต่พอดีโมนิคเข้ากลับมาพอดีเลยชวนนั่งทานด้วยกัน  ทำไมหรอ?”

“เปล่า...  แค่ถามดู  เป็นห่วงนะ”  แล้วจะมาห่วงทำไม  ไม่ได้ไปรับทัพจับศึกที่ไหน  แค่กินข้าวเย็นคนเดียวเนี้ยนะ  แต่ว่าก็ไม่เป็นไรมีคนถูกใจมากๆ มาทานเป็นเพื่อนแทนก็เหมือนกันนะครับ  “แต่ท่าทางนายคงไม่เป็นไร  มีคนมาทานด้วยแล้วนิ”  ใช่แล้วไอ้โหดลูกพ่อ  ยิ่งพูดยิ่งถูก  “ต่อไปเราคงไม่ต้องคอยรอกลับมาทานพร้อมนายอีก”  พูดอย่างกับว่ามันเป็นหน้าที่ที่ต้องทำอย่างไงอย่างนั้นเลย  ว่าแต่ว่าใครใช้แกหรอวะ

“ก็ไม่นะ ถ้านายอยากมากินด้วยกันก็มาได้  เมื่อเย็นเรายังทำเผื่อนายเลย  กลัวนายกลับมาจะหิวอีก  แต่รอตั้งนานนายไม่มาเราเลยจัดการกินเองหมดเลย”

“จริงหรอ?  นายทำเผื่อเราด้วยหรอ  งั้นพรุ่งนี้เรามาทานกับนายนะ แนค” มันเดินมาจับมือผมเขย่าๆ  ไอ้นี่ท่าจะบ้า

“ก็เอาสิ”  แล้วทำไมมันต้องทำหน้าดีใจขนาดนั้นด้วยครับ  ผมละงง!!:untrust:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [บันทึกรัก Leiden]
« ตอบ #69 เมื่อ: 29-12-2006 02:09:03 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: [บันทึกรัก Leiden]
«ตอบ #70 เมื่อ29-12-2006 02:16:34 »


16 Mar. 2006
11.54 น.  บนเตียง
   ผมยังนอนบิดอยู่เลยครับ  ความจริงวันนี้มีสัมมนาเรื่องพรรณไม้ที่เกี่ยวข้องกับงานผมนิดหน่อยด้วย  แต่ว่า....แฮ่ะๆ ผมโดดร่มครับ  ก็เมื่อคืนนอนดึกไปหน่อย  อ่านนิยายจนเพลิน  คนเขียนเค้าเขียนได้ดีจริงๆ เลยครับ  อ่านลุ้นไปร้องไห้ไปด้วย อ้าส์ มีความสุขครับ  ได้อ่านนิยายสนุกๆ สักเรื่องหนึ่ง  ในขณะที่อยู่ต่างแดนแบบนี้  ส่วนร่างที่นอนกรนคร่อกๆ อยู่ข้างๆ ผมก็ไม่มีใครหรอกครับ  ไอ้โหดคนเดียวเลย  เมื่อเช้าพอมันมาปลุกถามผมว่าวันนี้ไม่ไปทำงานหรอ  พอผมบอกว่าไม่ไปเท่านั้นเอง มันก็นอนต่อเลยครับ  ไม่ถามอะไรอีกเลยอย่างเช่น  ทำไมไม่ไป?  เป็นอะไรหรือเปล่า?  มีปัญหาอะไรไหม?  ไม่มีจริงๆ เลยครับ  ถามแล้วนอนต่อเลย  มันช่างแล้งน้ำใจจริงๆ เล้ยยยยยยยยยส์

แต่นี้ก็จะเที่ยงอยู่แล้ว  ลุกไปหาไรกินดีกว่า  ชีวิตผมก็มีแค่นี้หละครับ  นอนๆ แล้วก็ตื่น  แล้วก็กิน  อิอิ  อย่าว่าผมเลยนะครับ  คนมันไร้ซึ่งความสามารถก็อย่างนี้หละครับ  ไม่เอาไหนเลยผมเนี้ย

“ตื่นแล้วหรอ” เสียงงัวเงียถาม หลังผมเดินไปหวีผมที่หน้ากระจก  “แล้ววันนี้จะไปไหนอะ”

“ไม่รู้สิ  ยังไม่ได้คิด  ว่าแต่นายหิวยัง  เราจะไปทำไรกินนะ  นายอยากกินไร”

“แนคกินไรเราก็กินอันนั้นแหละ  ไม่เรื่องมาก”  ดีมากลูกพ่อ ขืนแกเรืองมากพ่อจะถวายพระบาทให้รับเป็นเครื่องเช้านะลูกนะ  :kikkik:
................................................................................

“วันนี้เราไปเดินเล่นรอบๆ เมืองกันอีกไหม  วันก่อนเรายังไม่ได้ไปอีกตั้งหลายที่”

“ไปสิ  แต่ว่านายอยากไปไหนละ...จัสติน”  ผมต้องถามมันก่อนสิครับ  ขืนไม่ถามเดี๋ยวมันได้โทษอีกว่าผมพาเดินอ้อม  ก็วันก่อนตอนที่ไปเดินด้วยกันวันแรก  ผมไม่ได้วางแผนว่าจะไปไหน  แค่ออกเดินไปเรื่อย  เจออะไรน่าสนใจก็แวะเข้าไป  มันเลยออกจะเป็นเส้นทางที่มั่วๆ อยู่สักหน่อย  ไอ้โหดมันเลยว่าผมพาเดินวน

“นายละ  อยากไปไหน”  มันย้อนครับ  ถามก็ไม่ตอบ  เอาแต่ยิ้มๆ

“อยากไปซื้อเสื้อใหม่เสียหน่อยนะ  เสื้อตัวเก่งที่ซื้อจากเยอรมันมันขาดอะ  เออ!  ของจากเยอรมันไม่ได้เรื่องเลย  ซื้อมาไม่ทันไรก็ขาดแล้ว”

“ไหนๆ  ตัวไหน?  ผลิตในเยอรมันจริงหรือเปล่า  ถ้าผลิตในเยอรมันนะไม่มีทางหรอก  ของเขาทำอย่างดีเลยนะ”  มันเถียงคอเป็นเอ็นเลยครับ  พอเป็นเรื่องประเทศตัวเองนี่...เตะไม่ได้เลยนะ

“นี่ไง  เห็นไหม  ขาดเป็นรูโหว่เลย  สามรูพร้อมๆ กัน  เรายังงงเลยว่าขาดได้ไง  เสื้อตัวอื่นๆ ไม่เห็นเป็นไร  ซักก็ซักพร้อมกัน  ทำไมตัวนี่ขาดก็ไม่รู้”

“ไหนเอามาดูสิ  เออ!  ขาดจริงๆ ด้วย  เหมือนตัวอะไรกัดเลย  ตอนแรกมันก็ขาดอย่างนี้หรอ”

“อ้าว! ถ้าขาดจะซื้อมาทำไมวะ  ตอนแรกมันไม่ขาดหรอกแต่พอเอามาซักถึงได้เห็ฯว่ามันขาดไง”

“หรอ?....  แต่นี้ไม่ได้ผลิตในเยอรมันนะ  ทำในตรุกีแต่เอามาขายในเยอรมัน”  มันยังหาทางออกแก้ให้ประเทศมันอีกครับ  ทุ่มเทจริงๆ

“เออๆ  เอาเป็นว่ามันขาดเองนะ  ฉันเลยจะไปซื้อใหม่ไง”

“ที่ไหน?”  นั้นสิ  ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันวะ

13.28 น. ร้านเสื้อบนถนน Harlemmer starrts


“ไง?  ใส่แล้วเป็นไงมั่ง”  ผมถามไอ้โหดตอนออกมาจากห้องลองเสื้อในร้านเดิมเหมือนที่ซื้อในเยอรมันแหละครับ  ที่นี่ก็มีสาขาอยู่  มันเลยลากให้ผมมาเลือกร้านนี้

“ก็ดีนะ  ตกลงนายจะเอาตัวไหน  ใส่แล้วสวยทั้งสองตัวเลย”  นั้นสิ  ผมจะเอาตัวไหนดีนะ  ตัวที่ผมเลือกมันพื้นสีน้ำตาลลายขวางสีตองอ่อนสลับเขียวกับดำ  ส่วนอีกตัว  มันเลือกให้ครับพื้นสีเขียวหม่นปักลายนกอินทรีสีส้มครับ  มันเลือกเพราะว่าเหมือนประเทศมันไงครับ  ไปที่ไหนๆ ก็มีตรานกอินทรีย์หราไปหมด   ผมยกเสื้อมาดูใกล้ๆ ทีละตัวอีกครั้งแล้วก็ตัดสินใจ

“เอาทั้งสองตัวนั้นแหละ  เลือกไม่ถูก”

“หรอ?!...  แต่เราว่าเอาตัวที่เป็นนกอินทรีดีกว่านะ  เวลาใส่จะได้นึกถึงประเทศเยอรมันไง”

“แหวะ!  นึกถึงทำไมไม่เห็นจะมีไรดีเลย”  ผมว่า

“จริงหรอ?!  เราว่ามีนะ....อยากรู้ไหมว่าอะไร?  ก็คนเยอรมันไง  ดีจะตาย  ร่างกายก็แข็งแรง  แถมยังฉลาด  มีวินัย  เก่งไปสารพัดอย่าง”  มันได้โอกาสยกหางตัวเองอีกแล้วครับ  แค่ผมทำหน้างงๆ กับที่ว่าคนเยอรมันมันดีตรงไหน

“เหรอ..... :confuse:

“นายไม่เชื่อหรอไง  เดี๋ยวเราจะพิสูจน์ให้นายเห็นเอง”  มันยังโม้ไม่เลิก  ขนาดผมจ่ายเงินรับของแล้วเดินออกมานอกร้านแล้วนะครับ  ไอ้นี่....ทำไมมันพูดมากจังเลยครับวันนี้  พูดๆๆ  ยังไม่หยุดเลยตั้งแต่ออกมาจากบ้านแล้ว  ผมแปลออกบ้างไม่ออกบ้างก็ทำเนียนพยักหน้าว่าข้านี้เข้าใจไปเรื่อย  แต่จะว่าไปมันก็รู้อะไรหลายอย่างเหมือนกันนะครับ

“แล้วจะไปไหนต่อ”  ผมถามมันเมื่อเดินมาถึงทางแยกที่ไหนก็ไม่รู้

“เดินเรียบคลองนี้ไปดีกว่า  ท่าทางวิวจะสวยดี   มันคงทะลุไปถึงบ้านเราหรอก”  บ้านเราหรอ?  พูดออกมาได้  บ้านแกวะที่ไหน  บ้านพักเขาตะหากเว้ย  แต่ว่าท่าทางวิวสองข้างคลองจะสวยจริงๆ อย่างที่มันว่าครับ  ลองเดินไปดูดีกว่า


................................................................................
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-12-2006 02:42:17 โดย oaw_eang »

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: [บันทึกรัก Leiden]
«ตอบ #71 เมื่อ29-12-2006 02:25:57 »

ใกล้ึจบแล้วนาาาาาาาาาาาาาาาาาา  :piglove2:
................................................................................
“จัสติน  เฮ้!  ทางนี้”  เสียงเรียกชื่อไอ้โหดดังมาจากโต๊ะหน้าร้านกาแฟที่เค้าเอาออกมาตั้งวางให้ลูกค้านั่งดื่มกาแฟเคล้าแสงแดดอะครับ


“ใครเรียกวะ  อ้อ! อัตนะ  ไปสิ  เขาเรียกนายนะ”  :untrust:

“อ้าว!  แล้ว แนค ไม่ไปด้วยกันหรอ  มาด้วยกันสิ  อย่าเพิ่งแยกไปเลยนะ  นะๆ”

“เออๆ  ไปเร็วๆ เขามองมาใหญ่แล้ว”  จริงครับ  ผมรู้สึกได้ถึงสายตาชวนอึดอัดที่ส่งมาจากคนเรียกพวกเรา(ที่จริงๆ แล้วเรียกแค่จัสตินมันคนเดียว) ได้

“ไปไหนกันมาหรอครับ?  ผมนึกว่าพวกนายเข้าออฟฟิศเสียอีกวันนี้” เสียงนายอัตเริ่มต้นบทสนทนาเมื่อบริกรหนุ่มหน้าตาน่ากินมารับรายการเครื่องของผมกับไอ้โหดไปเรียบร้อยแล้ว

“ก็แนคนะสิ  ตื่นสายไม่ยอมไปทำงาน  ผมเลยต้องพลอยหยุดตามไปด้วย” ว่าแล้วมันก็เอามือมาผลักหัวผมเสียคะมำเลยครับ

“แล้วใครใช้ให้แกหยุดตามฉันวะ  แกขี้เกียจไม่อยากไปเองมากกว่า  แกอย่ามาโทษคนอื่นอย่างนี้สิเว้ย”  ผมโวยก่อนเหลือบมองไปทางนายอัต  ก็อย่างเคยครับสายตาแปลกๆ นั้นมองมาอีกแล้ว  แต่คราวนี้ความเป็นมิตรดูเหมือนจะลดน้อยลงไปจากสายตาคู่นั้น

“พวกนายสองคนนี้ตัวติดกันจริงๆ เลยนะ  อิจฉาวะ”  เหมือนเพิ่งรู้สึกตัวเมื่อเจอสายตาปรัศนีย์ของผมเข้าไป  นายอัตจึงเสหันไปยกถ้วยกาแฟตรงหน้าขึ้นจิบ  ก็ทำไมจะต้องอิจฉาผมด้วยละครับ  อยู่ใกล้ๆ กับไอ้โหดตลอดเวลาอย่างนี้นะหรือครับน่าอิจฉา  ผมว่าไม่นะ

“ก็ไม่ตลอดเวลาหรอกแค่เกือบๆ เท่านั้นเอง  ใช่ไหม แนค” ไอ้โหดหันมายิ้มกับผม

“อืม...  แล้ววันนี้นายไม่เข้าไปหรออัต เห็นว่ามีสัมมนาด้วยนิ”

“ไม่หรอก  ไม่ค่อยเกี่ยวกับงานผมสักเท่าไรนะ  เลยไม่ค่อยอยากเข้าฟัง  แล้วก็เบื่อๆ นะ  เลยขออู้งานสักวันหนึ่ง”

“นายเลยแอบมานั่งดื่มกาแฟคนเดียวที่นี่  ใช่ไหม?” ไอ้โหดหันไปพูดยิ้มๆ กับนายอัตนั้น

“ก็ทำไงได้หละ  คนอื่นๆ เขาไปทำงานกันหมด  มีผมที่ว่างงานอยู่คนเดียววันนี้  เออ...ถ้านายไม่ว่าไรผมขอตามพวกนายไปด้วยคนสิ  พวกนายจะไปไหนกันต่อหรือปล่าหละ  ได้ไหม? จัสติน”

“ว่าไง? แนค “ ไอ้โหดมันหันมาถามผม  เล่นเอาผมแทบสำลักโกโก้ร้อนที่กำลังละเลียดเลียวิปปิ้งครีมอยู่เลย

“แค่กๆ.......  ได้ๆ  ได้สิ  แต่ว่าเราก็กำลังจะกลับแล้วละ  วันนี้ยังไม่ทานอะไรกันมาเลยกะว่าจะกลับไปทำไรทานกันนะ  นายไปด้วยกันก็ดีสิจะได้อยู่เป็นเพื่อนคุยจัสตินตอนเราเข้าครัว ไม่งั้นหมอนี่เข้ามากวนอยู่เลย”

“ใครกวนอะ  พูดมาดีๆ เลยนะ แนค”  ไอ้โหดหันมาทำหน้าหงิกใส่ผม  จ้องหน้าเอาเรื่อง  ซวยแล้วไหมละครับผม “ดี...งั้นวันนี้นายทำครัวคนเดียวเลย  ฉันไม่เข้าไปอยู่เป็นเพื่อนแล้ว” 

มันงอนหรอครับ?  ไม่น่าเชื่อเลย  แต่ว่าพอหันไปทางนายอัตก็เจอสายตาแปลกๆ ของนายนั้นอีกแล้ว มันจะทำสายตาแบบอื่นไม่เป็นบ้างหรือไงนะ  แต่จะว่าไปคราวนี้มันเจือสายตาเยาะเย้ยมาด้วยนิดๆ ครับ  แต่ทว่าเพียงแป๊บเดียวเท่านั้นเองครับ  หรือผมจะมองผิดไปนะ
................................................................................



ร้านที่มีกันสาดสีเขียวๆ ด้านซ้ายมือนั้นแหละครับที่นายอัตนั่งอยู่
.............................................................................................................
“มื้อเย็นเสร็จแล้วครับ  เชิญคุณชายทั้งหลายมาทานได้แล้วครับ”  ผมเดินไปตามสองคนนั้นในห้อง

“จัสตินนายนี่มันสุดยอดแห่งความทะลึ่งเลยนะ” นายอัตพูดไปหัวเราะไปอยู่ในห้อง

“ใครว่า!  นายเองก็ใช่ย่อยนะ ฮ่าๆๆ  ไปเหอะ  มีคนมาตามไปกินข้าวแล้ว”  ไอ้โหดพูดก่อนหันมาจ้องผมที่ยืนนิ่งอยู่หน้าห้อง  เมื่อกี้มันพูดเรื่องอะไรหรอครับ  ถึงได้มีคำว่าทะลึ่งหลุดออกมา

“วันนี้นายทำอะไรบ้างหละ  อืม....น่ากินดีนะ  แต่ไม่รู้ว่าจัสตินจะทานได้หรอเปล่าสิ ท่าทางจะรสจัดทั้งนั้นเลย”  นายอัตพูดหลังจากนั่งลงเรียบร้อยแล้ว  จริงๆ วันนี้ผมก็ทำไม่กี่อย่างมีผักผงกระหรี่  ยำไข่ดาว  แล้วก็แกงจืดไส้กรอกครับ

“นั้นสิ  ทำไมทำแต่ของเผ็ดๆ ละวันนี้” มันหันมาทำหน้ากวนตีนถามครับ

“ทุกวันก็เห็นนายกินได้นิ  ไม่เห็นจะว่าอะไร  ก็เห็นกินเอาๆ  พอมาวันนี้เกิดจะกินไม่ได้ขึ้นมามันก็เรื่องของนายเว้ย  ไม่เกี่ยวกับเรา”

“ไหงงั้น  นายนี้ไม่ไหวเลย  ชอบแกล้งเราจริง” มันพูดแล้วก็ส่ายหัวไปมาแต่ทำท่าจะตักผัดผงกระหรี่ก่อนเพื่อนเลยนะ  นั้นนะมันดูน่าจะเผ็ดสุดนะเว้ย  ถ้ากินเผ็ดไม่ได้ทำไมไม่ตักแกงจืดใสๆ นั้นเหล่าไอ้เวร  แมร่ง!!  กวนทีนชัดๆ

“วันหลังผมจะทำของจืดๆ ให้นายทานเอาไหมครับ  จัสติน  ลองดูไหม”

“นายทำกับข้าวเป็นด้วยหรออัต  ดีสิ  งั้นวันหลังนายก็มาทำกินด้วยกันนะ  เอาไหม?”  คราวนี้ไอ้โหดมันไม่หันมาถามความคิดเห็นผมเลยครับ  ชวนเขาเองเลย  ดีเหมือนกันผมจะได้ไม่ต้องเสียเวลาทำให้มันกิน  สู้เอาเวลาไปหาทางกินนายโมนิคขัวญใจผมไม่ดีกว่าเหรอ  แต่ไอ้สองคนตรงหน้านี้มันคุยกันแบบไม่สนใจเลยว่าผมนั่งหัวโด่อยู่ด้วยทั้งคน  มันน่า...นัก   :3125:

22.48 น.  ห้องนอน
   “นั้นจะนอนแล้วหรอ  วันนี้ไม่อ่านนิยายหรอ  แปลกแหะ”

   “อืม...ขี้เกียจ  ไม่มีอารมณ์  ง่วงด้วย”  ผมตอบส่งๆ ไปงั้นแหละครับ

   “นายว่าอัตเป็นคนอย่างไงอะ  แนค…..   แนค โว้ย”  มันเดินมาโวยวายข้างๆ เตียงเมื่อผมยังนอนเฉยไม่ตอบคำถามมัน

   “ก็....ไม่รู้สิ”  ผมลุกขึ้นมานั่งก่อนไหวไหล่ทำท่ากวนทีนกลับใส่มัน  “เราไม่ได้เป็นคุยกับเขานิ  นายควรจะถามต้อเองมากกว่านะเห็นคุยกันตั้งนานนิ”

   “มันก็ใช่...  เพียงแต่เราอยากรู้ว่านายคิดว่าอัตเป็นคนยังไง  มันจะเหมือนอย่างที่เราคิดไว้หรือเปล่า”

   “แล้วนายคิดว่าไงหละ”

   “ก็นิสัยคงดีพอใช้  น่าจะคบกันเป็นเพื่อนได้  หรืออาจจะมากกว่านั้น”  มันหมายความว่าไงหรือครับที่ว่ามากกว่านั้น

   “นั้นมันเรื่องของนาย  แต่ว่าเรารู้สึกไม่ค่อยชอบเขาเท่าไร   มัน...อึดอัดพิกลเวลาที่เขาจ้องมองมาที่เรา  มันแปลกๆ อะเราว่า”

   “นายไปคิดกับเค้าในทางลบมากเกินไปหรือเปล่า  คนประเทศเดียวกันแท้ๆ น่าจะเข้ากันได้ดีมากกว่าเรานะ”  ก็มันไม่คิดอยากจะเข้ากับฉันนี้โว้ย.....

   “ก็ไม่รู้เหมือนกัน  เขาดีกับนาย  นายก็ดีกับเขาสิ  ไม่เห็นจะยากต้องไหนเลย”

   มันนั่งหันหลังให้ผมลงหมิ่นๆ ตรงขอบเตียงด้านข้างๆ ผมก่อนถามว่า “แนคอยากให้เราไปสนิทกับนายอัตนั้นจริงๆ หรอ” 

   “ก็บอกแล้วไงว่ามันเรื่องของนาย  แล้วแต่นายสิ  เรายังไงก็ได้อยู่แล้ว  ดีเสียอีกนายจะได้มีเพื่อนคนไทยคนอื่นๆ บ้างนอกจากเรา  ไม่แน่เวลาต่อไปนายไปเมืองไทยอาจจะได้ไปพักบ้านอัตไง  จะได้ไม่ต้องเสียค่าโรงแรมให้เปลือง”  ผมก็พูดเป็นกลางๆ ไปครับ  ความจริงก็ไม่อยากให้มันไปสนิทกับหมอนั้นหรอก  ก็ผม.....ผมไม่ชอบสายตาของหมอนั้นนิ 

   “ทำไมนายถึงอยากให้เราไปสนิทกับคนอื่นๆ จริง  หรือว่านายรำคาญเรา  หือ?”

   “ไม่ได้รำคาญ  แต่ว่า.....”  ผมเองก็ไม่รู้จะหาคำไหนมาพูดดีเลยเงียบไปในที่สุด  มันก็นั่งนิ่งๆ อยู่อย่างนั้นสักพักแล้วลุกขึ้นจะเดินออกไปข้างนอก  “นั้นนายจะไปไหน  นี่มันดึกแล้วนะ”

   “ไม่รู้สิ  คงไปที่ไหนสักที่....ที่ที่มีคนอยากให้เราอยู่ด้วยนะ  ไม่เป็นไร  ไม่ต้องห่วงหรอก  เดี๋ยวเราก็กลับมา  เราไปไหนไกลๆ นายไม่ได้หรอก”  มันพูดหง่อยๆ ก่อนคว้าเสื้อแล้วเดินออกไปเลยครับ  มันเป็นอะไรของมันนะ…  :confuse:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-12-2006 03:20:10 โดย oaw_eang »

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: [บันทึกรัก Leiden]
«ตอบ #72 เมื่อ29-12-2006 02:40:28 »

17 Mar. 2006
12.25 น.  ทางเดินบนชั้นสาม
   ผมกำลังเดินไปตามไอ้โหดให้มาทานของเที่ยงด้วยกันครับ  เมื่อคืนมันกลับมาตอนไหนผมก็ไม่รู้  ก็ผมหลับไปก่อนนี่ครับ  ใครจะไปรอไหว  รอจนเกือบตีสองแล้วยังไม่มาอีก  เลยนอนเลยดีกว่า  ตื่นมาอีกทีเห็นนอนหันหลังให้ผมอยู่แล้วครับ....  ส่วนเมื่อเช้าก็ไม่เจอกัน  ไม่รู้มันนึกขยันอะไรขึ้นมาเจือกออกมาจากบ้านก่อนผมตื่นเสียอีก  กล่องข้าวกลางวันก็ไม่หยิบมา  ลำบากผมที่ต้องเป็นคนถือมาให้มันอยู่นี้ไงครับ  ถึงแล้วครับห้อง C388 ของมัน  เอ๋!  ไม่มีคนอยู่ครับ  มันไปไหนของมันนะ  มันน่าโมโหจริงๆ เลย  คนเขาอุตส่าห์เดินขึ้นมาตามแล้วหายหัวไปไหนก็ไม่รู้  ไม่ยักกะอยู่รอ ไอ้นี่...อย่าให้เจอนะ

12.40 น.  โรงอาหารชั้นล่างตึกครับ
   “หวัดดีครับพี่เต่า  ผมนั่งทานด้วยคนนะ”  ผมเสนอหน้าไปหาพี่เต่าที่นั่งทานอยู่กับเพื่อนฝรั่งคนอื่นๆ

   “เอาสิจ๊ะ  นั่งเลยๆ  เออ!  เมื่อกี้พี่เห็นจัสตินเดินลงมากับอัตแล้วเธอไม่ได้ลงมาพร้อมกับพวกนั้นหรอ”  พี่เต่าหันมาทำหน้าเอ๋อเหรอถามผมที่กำลังแกะกระปุกมื้อเที่ยงอยู่  เลยต้องชะงักไปเล็กน้อย

   “อ้อ!  ไม่หรอกครับ  ผมไม่ได้มาพร้อมพวกนั้น  วันนี้ผมฉายเดี่ยวกับพี่”

   “หรอ?  แปลกจัง  เห็นทุกที่เธอไปไหนเห็นมีนายจัสตินตามติดตลอดเลยนิ”

   “โห! พี่ก็พูดซะ  ไม่หรอกครับ  หมอนั้นยังไม่มีพวกมากกว่า  นี่ผมก็เห็นว่าสนิทกับนายอัตแล้ว  ต่อไปเขาคงไปตัวติดกับนายอัตมากกว่า  ไม่เชื่อพี่คอยดูสิครับ” เป็นอย่างนั้นได้ก็ดีสิครับ  ผมจะได้หาทางไปแอ้มโมนิคได้สะดวกๆ อิอิ

   “ทะเลาะอะไรกันหรอเปล่า  เห็นตอนมาใหม่ๆ ซี้กันเหลือเกิน  พอตอนนี้มาแยกกันพี่เลยงงๆ  มีไรก็บอกพี่ได้นะ  เผื่อพี่จะช่วยได้”  พี่เต่ายังไม่วายซักอีก

   “เปล่าครับพี่  เปล่า  แค่โดนต่อยครั้งนั้นครั้งเดียวผมก็เข็ดไม่กล้าไปมีเรื่องกับมันอีกแล้วหละครับ  ไม่ไหวหมัดนักฉิบ...” ผมหยิบโรตีไส้ผัดผงกระหรี่ที่เหลือจากมื้อเย็นเมื่อวานเข้าปาก  “เราไม่ได้ทะเลาะกันจริงๆ ครับ  พอดีเมื่อวานผมไม่ได้มาทำงานแล้วออกไปเดินในตลาด  เจออัตนั่งจิบกาแฟอยู่แถวนั้น  เขาเลยบอกว่าเหงาๆ ไม่มีเพื่อนเลยขอตามพวกเราไปทานข้าวเย็นด้วยกันที่บ้าน  แล้วสองคนนั้นเลยสนิทกันครับ  ดีแล้วหละ  จัสตินมันจะได้มีเพื่อนคนอื่นๆ บ้าง”

   “หรอ?  งั้นก็แล้วไปพี่นึกว่าพวกเธอทะเลาะอะไรกันอีก  ถ้าเป็นแบบนี้ก็ดีแล้วนะ  แต่ว่าอย่างนายอัตนั้นนะหรอเหงา  ที่นี่ก็มทนักเรียนไทยรุ่นเดียวกับเขามาเรียนอยู่หลายคนนะ  แต่ว่าเรียนอยู่ตึกอื่นแนคเลยอาจจะยังไม่เคยเห็น  พี่ก็เห็นเขาเฮไปไหนกันบ่อยๆ นิ  ไม่น่าจะเหงานะ อีกอย่างอัตก็มาเรียนที่นี่ตั้งหลายปีแล้ว  ก็น่าจะปรับตัวได้แล้วนะ  ไม่น่าจะเหงาได้นา”  พี่เต่าว่าไปก็ตักของในกล่องตรงหน้าตัวเองทานไป  แถมยังเด็ดผักสลัดในถุงที่เตรียมมาส่งเข้าปากตามไปด้วย

   “ผมก็ไม่ทราบสิครับพี่  เห็นเขาว่ามาตามนั้น ผมเลยชวนไปทานด้วยกัน  นี้ก็เห็นว่าจะมาทำอาหารไทยให้นายจัสตินนั้นทานอีกเลยครับพี่....เย็นนี้”  ผมตอบเมื่อพี่เต่าถามว่าเมื่อไหร่

   “แปลกนะ  ปกติเวลามีปาร์ตี้นักเรียนไทยที่บ้านพี่  ตาอัตเขาชอบเลี่ยงไม่เข้าครัวทุกทีเลยบอกว่าทำไม่อร่อย  ทำอะไรไม่เป็น  พี่เลยให้นั่งรออยู่ข้างนอกทุกที”

   “เขาคงเกรงใจพี่นะครับ  เลยไม่กล้าแสดงฝีมือ  แบบว่า...เก่งนะแต่ไม่แสดงออก...ไงครับ อิอิ”  ผมว่า

   “น่านสินะ  อีตานี่ชอบทำตัวแปลกๆ ให้ประหลาดใจอยู่เรื่อยเลยสิ”  พี่เต่ายังบ่นไม่หยุด  แต่ผมก็ไม่กล้าจะผสมโรงนินทาไปมากนัก  เขาจะเป็นยังไงก็ช่างเขาสิครับ  ผมจะอยู่ที่นี่ไม่นานเกินเดือนอยู่แล้ว  แล้วผมจะเดือดร้อนไปทำไม  จริงไหมครับ

17.05 น. ห้องทำงานผม
   “หวัดดีจ้า แนค ทำไรอยู่เอ่ย?”  เสียงพี่กุลทักทายดังมาก่อนเจ้าตัวเลยครับ

   “กำลังจะเก็บของกลับบ้านพอดีเลยครับพี่  พี่กุลลงมาถึงนี่เชียววันนี้  มีไรหรือเปล่าครับ”

   “พี่จะมาถามว่าพรุ่งนี้เรามีโปรแกรมจะไปไหนหรือเปล่า  พอดีมันจะมีตลาดนัดวันเสาร์ตรงหน้า Town Hall นะ ไปเดินดูของด้วยกันไหม มีของสดๆ พวกอาหารทะเล  ผักแล้วก็ผลไม้ราคาถูกเยอะเลย”

   “หรอครับพี่  ดีเลย  ผมก็ยังไม่ได้คิดว่าจะไปไหน  กะว่าจะหาซื้อของสดเตรียมไว้เหมือนกันเพราะว่าเดี๋ยววันอาทิตย์ร้านปิดไม่มีอะไรกินกันพอดี”  พี่กุลทำหน้าเห็นด้วย  “แต่ว่าจะเจอกันที่ไหนยังไงดีครับพี่”

   “อืม......เจอที่หน้าร้านไอศกรีม Australian แถวๆ หน้า Town Hall นั้นแหละ ป้ายร้านมันจะเป็นสีส้มๆ หามายากหรอก  แล้วเจอกันสักบ่ายๆ นะ  เอาเป็นว่าบ่ายโมงครึ่งแล้วกัน  เพราะว่าพี่จะรอเพื่อนอีกคนด้วย  รูมเมทพี่เองหละชื่อ มิก  เขาจะมาด้วยนะ”

   “ครับพี่  เอาเป็นว่าเราไปเจอกันที่หน้าร้านนะครับ  ชื่อร้านไรนะครับ”  ผมถามย้ำอีกครั้งแต่พี่กุลลงทุนวาดแผนที่ให้เสียเลย กันผมหลงทาง

   “พี่ไปก่อนนะ  แล้วเจอกันจ๊ะ  บาย”

   “ครับพี่  แล้วเจอกัน”

   ...พี่กุลไปแล้ว  แล้วผมจะต้องเดินไปตามไอ้โหดกลับบ้านด้วยกันไหมครับ  หรือว่าไม่ต้องแต่ว่าถ้ามันเกิดรออยู่แล้วผมไม่ไปตามมันจะหาเรื่องชกผมอีกหรือเปล่านะ  แต่ว่าสองสามวันมานี้มาก็ทำตัวดีขึ้นมากแล้วนะครับ อย่างน้อยมันก็ไม่เรียกผมว่าไอ้เตี้ยแล้ว  แล้วผมจะทำไงดีครับ
................................................................................

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: [บันทึกรัก Leiden]
«ตอบ #73 เมื่อ29-12-2006 03:02:46 »



เอารูปโบส์ถใจกลางเมืองมาฝากครับ

..................................................

ผมกำลังเดินอยู่บนทางเดินบนชั้นสามครับ  ตอนแรกกะว่าจะกลับเลยแต่ว่าพอเดินไปจนถึงประตูตึกอีกใจก็บอกให้มาตามมันดีกว่า  เพื่อความปลอดภัยครับ  แต่พอมาถึงก็ไม่เจอใครครับ ห้องล็อคแล้วด้วยแสดงว่าเจ้าของห้องกลับไปแล้ว  เห็นไหมครับ  คนอย่างมันหรอจะอยู่รอผม  ไม่มีทางหรอก นี่คงไปปร๋อไปถึงไหนๆ กับนายอัตแล้วก็เป็นได้  ผมนี้ไม่น่าโง่คิดว่ามันจะรอเลย  คิดแล้วก็เซ็งในใจอย่างแรง  รีบกลับบ้านไปอ่อยโมนิคดีกว่า  คุณว่าเขาจะคิดยังไงกับผมครับ  หนังหน้าอย่างผมพอจะมีสิทธิ์งาบฝรั่งหน้าตาดีได้หรือเปล่าครับ.....

   ถึงแหละ....เอ๋!!  กลิ่นใครทำกับข้าววะ  ว่าเสียก็เดินไปดูดีกว่าเผื่อจะเป็นขวัญใจผมเอง  อ๊ะ!!  ที่ไหนได้....เป็นไอ้สองตัวนั้นครับ  มันมาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่แล้วนะ  แล้วทำไมต้องมาแย่งครัวผมใช้ด้วยนะ  ครัวบ้านแกก็มีไม่ใช่หรือไอ้อัต  ทำไมไม่ไปใช่ที่โน้นวะ!!  เจือกมาแย่งพื้นที่กรูอยู่ได้  แมร่ง!! เซ็งเลย  เข้าไปในห้องก่อนก็ได้โว้ย.....เอะ!  แต่ว่าขึ้นไปดูโมนิคดีกว่า  เขากลับมาหรือยังน้อ  จะได้ขอเช็คเมลล์ด้วย  ‘ขวัญใจครับ  ผมกำลังจะขึ้นไปหานะคร้าบบบบบบ’ ผมตะโกนบอกโมนิคในใจครับ  คุณคิดว่าไงครับถ้าผมจะตั้งชื่อไทยให้โมนิคว่า “ขวัญใจ”

   ‘ก๊อกๆๆ’
   “ใครครับ  เข้ามาสิ”  ว้าว!!!ๆๆๆๆ...... เขาอยู่ด้วยครับ  โชคดีจังเลยผมวันนี้  ขอบใจนะจ๊ะน้องอัตกระป๋องที่มาแย่งครัวพี่ใช้  ฮ่าๆๆ

   “เราเองนะ  จะมาขอใชเน็ตนะ”

   “อ้าว!  แนค เองหรอ  เข้ามาสิ  ได้เลย  ผมนะพร้อมให้ริการนายเสมอ  เข้ามาๆ”  โมนิคเรียกผมซ้ำอีก  เมื่อเห็นผมยังยืนอยู่หน้าห้อง  ทำไมจะไม่ให้ตะลึงไงไหวครับก็เขาเล่นใส่ กกน. ตัวเดียวอีกแล้ว  วันนี้ใส่ทรงบิกินีโคนขาเว้าสูงเสียด้วย  อะไรๆ มันเลยทำท่าจะแล้บออกมานะครับ

   “ฮ่าๆ เป็นไรยืนเฉยเลย  ไม่เข้ามาหรอ”  โมนิคถามอีกรอบครับ  ตอนเดินไปหยิบผ้าขนหนูมาพันกายท่อนล่างเอาไว้  มันไม่หนาวกันเยหรือไงครับพวกฝรั่งเนี้ย

   “ขะ....เข้าสิ  พอดีเรากำลังคิดอะไรเพลินไปหน่อยนะ”

   “คิดเรื่องอะไรหรอ  เกี่ยวกับผมหรือเปล่า  ถ้าเกี่ยว...นายบอกได้ไหมว่าคิดเรื่องอะไร”  โมนิคถามตอนโน้มตัวเอามือยันโต๊ะข้างหนึ่ง  ส่วนข้างที่วางเอื้อมมาคลิกเท้าท์เข้าเน็ตให้ผม ผมหละหวิวเลยครับ  ก็ผมนั่งอยู่บนเก้าอี้หน้าคอมพ์  พอนายนั้นโน้นมามันก็เฉียดๆ หน้าผมไปอะสิครับ  ขนแขนสแตนท์อัพเลยครับ

   “เปล่าๆ เราคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยนะ  ไม่ได้เจาะจงเรื่องอะไรเป็นพิเศษหรอ”  คุณว่าเขาจะเชื่อผมไม่ครับ  ก็อาการผมมันฟ้องซะขนาดนี้

   “หรอ?  ว้า!!  เสียดายจัง  นึกว่านายคิดถึงผม”  แล้วก็เดินไปกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียง  ความจริงผมนะอยากหันไปจะตาย  แต่ว่าไม่กล้าครับ  หนังหน้าเหี่ยวๆ ของผมมันเกิดหนาไม่พอขึ้นมาซะงั้น  แย่จริง!!....
................................................................................

“เอ่อ!  เสร็จแล้วขอบใจนายมากเลยนะ”  ผมหันไปหาคนที่ตอนนี้นอนแผ่จนอะไรๆ มันกำลังจะแพมออกมาแล้วครับ  เดี๋ยวก็ปล้ำเสียเลยวุ้ย  อ่อยจริงๆ เลยเว้ย...ผับผ่า

“หรอ?  อืม....  ปิดคอมพ์ไปเลยก็ได้นะ  เออ!  ว่าแต่วันนี้จัสตินพาใครมานะ  คนไทยเหมือนนายหรือเปล่า” 

“อืม....  คนรู้จักกันที่ทำงานนะ”

“เหรอ?   แล้วนายไม่ลงไปคุยกับพวกเขาหรอ  หนีขึ้นมายังนี้เขาไม่นึกว่านายโกรธหรือรังเกียจหรือไง”

“ใครจะไปนึกอย่างไงก็ช่าง  ไม่สนเสียอย่าง  แล้วนายทานมื้อเย็นหรือยังหละ”

“ยัง!....  ผมกำลังว่าจะออกไปหาไรทาน  พอดีนายก็เข้ามาเสียก่อน”

“หรอ?  ขอโทษด้วยนะ  แล้วทำไมไม่บอก  เราจะได้ไม่รบกวน”

“ไม่หรอก  สำหรับนายนะไม่รบกวนหรอก  เรานะเต็มใจเสมอ  มากกว่านี้ยังได้” อ๊ะๆ  ผมว่าขวัญใจผมมันต้องกำลังเคลมผมอยู่แน่ๆ เลยครับ  ผมควรเล่นตัวแต่พองามหรือว่ากระโจนเข้าใส่ดีครับ

“งั้นลงไปทำอะไรทานกันในครัวดีไหม  นายอยากทานอะไรละ  เดี๋ยวผมทำให้  หรือว่านายจะทำอาหารบ้านเมืองนายให้ผมชิมอีกก็ได้นะ  อยากกินนะ”

“นายจะเอาอย่างนั้นหรอ  ไม่รู้ว่าสองคนนั้นยังอยู่ในครัวหรือเปล่า?”

“ทำไม?  จะอยู่หรือไม่ก็ช่าง ไม่ใช่ครัวเขาคนเดียวเมื่อไหร่  พวกเราเองก็มีสิทธิใช้ครัวนั้นเหมือนกันนะ”

“ถ้าแนคว่าอย่างนั้นก็.... โอเค  งั้น!...ขอเวลาผมแป๊บ” แล้วโมนิคก็สลัดผ้าขนหนูผืนจ้อยนั้นทิ้งอย่าไม่ใยดี  ลุกขึ้นเดินไปคว้านหาเสื้อผ้าในตู้มาสวมลวกๆ ก่อนบอก  “ปะ!  ผมพร้อมแล้วครับ”  แล้วก็ยิ้มหล่อใส่ผม  เฮ้อ!.....  หัวใจจะละลาย
................................................................................

“ไงจัสติน?  พวกนายทานอะไรเป็นมื้อเย็นหรอวันนี้”  โมนิคทักก่อนใครเพื่อนเมื่อเดินเข้าไปในครัว  ผมต้องเจอสายตาสองคู่ที่มองมา  คู่แรกมันออกจะโหดๆ อยู่สักหน่อยครับคงเดากันได้ว่าของใคร  ส่วนอีกคู่ก็ประมาณว่าเข้ามาขัดจังหวะทำไมอะไรทำนองนี้ครับ  คู่หลังนี้ของนายอัต ครับ

“ก็ไม่มีไรมากหรอก  พอดีเพื่อนผมเค้าอยากแสดงฝีมือนิดหน่อยนะ  เออ!  โมนิคนี่อัตเพื่อนผม  อัต...นี่โมนิคเพื่อนที่พักอยู่ห้องข้างบน  เขาก็มาเรียนที่นี่เหมือนกันนะ”

“หรอครับ?  ยินดีที่ได้รู้จักครับ”  อัตยื่นมือมาทักทายกับขวัญใจผม

“เช่นกันครับ....  พอดีผมหิวนะเลยจะให้แนคมาทำอะไรให้ทานเสียหน่อยนะ  พวกนายคงไม่หาว่าเป็นการรบกวนนะ” 

“ไม่หรอก  ครัวนี้ก็ครัวนายเหมือนกันนิ”  ไอ้โหดมันว่าครับ  แต่ว่าทำไมมันจ้องยังกับว่าจะหักคอผมอย่างนั้นอะครับ

“พวกนายนั่งคุยกันไปก่อนนะ  ผมขอเวลาแป๊บนึง”  ผมว่าพลางลงมือควานหาของสดในตู้เย็น  จะทำอะไรดีนะ  ผมนึกไม่ออกจริงๆ  เอาเป็นว่าผัดผัก(เมนูสิ้นคิด)กับต้มยำแล้วกันนะ

ผมปล่อยให้พวกนั้นสามคนนั่งคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้กันไป  ผมก็หั่นผักต้มแกงของผมไปตามเรื่อง  กำลังจะเสร็จแล้วครับ  รอข้าวในหม้อแห้งน้ำลงอีกหน่อย  อยู่ๆ นายอัตมันก็ถามขึ้นมาว่า “ท่าทางคุณจะสนิทกับแนคมากเลยนะโมนิค”  เสียงนายอัตนั้นถามครับ  มันจะถามหาพระแสงดาบอะไรของมันนะ

“ก็คงพอๆ กับที่นายสนิทกับจัสตินนั้นแหละครับ”  แหม่!   หวานใจผมตอบได้สาแก่ใจมาก  เอาไปเลย...สิบคะแนน ครับ

“แต่ผมไม่ยักรู้ว่านายสนิทกันมากขนาดนั้น”  คราวนี้เสียงไอ้โหดครับ

“หรอ?  ผมก็กำลังพยายามจะให้สนิทกันมากกว่านี้อยู่เหมือนกันครับ  ถ้าแนคเขาไม่ว่าอะไรนะ”  โมนิคหันมายิ้มให้ผมครับ  แล้วทำไมต้องลากตูเข้าไปเกี่ยวด้วยนะ

“งั้นก็ดีสิ  สนิทกันให้มากๆ อบอุ่นดี”  ไอ้โหดมันหมายความว่าไงหรอครับที่ว่า ‘อบอุ่นดี’ นะ

“เอ่อ....พวกนายจะทานด้วยกันอีกไหมเราทำเผื่อด้วยแล้วนะ”  ผมถามสองคนโน้นตอนยกหม้อข้าวลงจากเตากำลังจะตกใส่จานแล้วยื่นให้โมนิค  แต่ความจริงผมไม่ได้ทำเผื่อหรอกครับ  ถามไปอย่างนั้นแหละ

“ดีสิ  ขอบใจที่ชวนนะ” เสียงมันตอบรับมาครับ  แป่ว!!! จานข้าวในมือกรูแทบร่วง  นี่ใจคอมรึงยังจะหน้าด้านนั่งอยู่ต่ออีกหรือไงวะ  “ล้อเล่นนา  ไม่ต้องทำหน้าอย่างนั้นก็ได้นะแนค…  ไปหละ  ผมไม่อยู่รบกวนแล้วนะ  ตามสบาย” ประโยคหลังนี้มันหันไปพูดกับขวัญใจผมครับ  ผมแทบทำจานข้าวในมือร่วงรอบสอง 

สองคนนั้นเดินตามหลังกันออกไปแล้วครับ  ผมได้ยินเสียงปิดประตูบ้านดังโครมเบ้อเริ้มจากหน้าบ้าน  ไม่ต้องบอกก็รู้ครับว่าใครเป็นคนปิดมัน

“ท่าทางนายอัตจะสนิทกับจัสตินมากเลยนะ”  ไอ้คำที่ว่า ‘สนิท’ ของโมนิคนี่ผมว่ามันต้องมีความหมายมากกว่านั้นแน่ๆ เลยครับ  เพราะว่าเห็นเขาทำสีหน้ามีเลศนัยพิกล

“ไม่รู้สิ!?  แต่ก็คงจะสนิทอยู่หรอกเพราะเห็นจัสตินเขาไปใช่คอมพ์ในห้องทำงานอัตอยู่บ่อยๆ” ผมกำลังละเลียดซดต้มยำในถ้วยตรงหน้าครับ  นี่ถ้าหากว่าได้ตะไคร้เพิ่มอีกนิดคงหอมกว่านี่แน่เลย

“ห้องทำงานพวกนายไม่มีคอมพ์ใช้หรอไง”

“อืม....  เพิ่งมาถึงก็เลยยังไม่เข้าที่เข้าทางนะ  คิดว่าสัปดาห์หน้าคงจะเรียบร้อย” 

“งั้นนายก็ขึ้นไปใช้เครื่องผมได้เลยนะ  ไม่ต้องเกรงใจ”  โห! ใจดีจริงๆ เลยครับ  ว่าแต่ว่าผมจะขอใช้เจ้าของเครื่องด้วยนี่...มันจะได้ไหมนะ




ตบท้ายด้วยมุมสวยๆ อีกสักรูปนะ  แบบว่าอยากอวด  :-[

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: [บันทึกรัก Leiden]
«ตอบ #74 เมื่อ29-12-2006 03:14:16 »


23.46 น.  ห้องนอนผมเองครับ
   ไอ้โหดมันเพิ่งกลับเข้ามมาเมื่อกี้นี้เองครับ  แต่ตอนนี้มันไปนอนแมะอยู่บนเตียงเรียบร้อยแล้ว  ส่วนผม....ขอนั่งเขียนไรเล่นๆ ไปสักพักก็กะว่าจะนอนแล้วเหมือนกันครับ  แต่ว่าเซ็งจังเลยครับคืนวันศุกร์ทั้งทีต้องมานั่งจ๋อมอยู่หน้าคอมพ์บนโต๊ะทำงานแบบนี้  หากเป็นกรุงเทพฯนะครับ  ผมคงไปแสดงอภินิหารอยู่กับก๊วนเพื่อนๆ อยู่ที่ผับไหนสักแห่งหนึ่งแล้วหละครับ  ให้นั่งเหงาอย่างนี้เหรอ  ไม่มีทางไมใช่ผมแน่ๆ

18 Mar. 2006
13.30 น. ร้านไอศกรีม Australian หน้าตลาดนัด


   “นายจะเอารสอะไร  หืม?”  ผมถามไอ้โหดที่นั่งหน้าหงิกอยู่บนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามครับ

   “เหมือนนายนั้นแหละ”  หน้ามันยังหงิกไม่เลิกอีก  หงิกมาตั้งแต่ตื่นแล้วครับ  เมื่อวานก็กลับมาดึก (เอ๊ะ! ผมบอกไปแล้วหรือยังนะ)  พอเช้าขึ้นมาก็มาเที่ยวซักไซ้ว่าวันนี้จะไปไหนกับใครเมื่อไหร่ยังไง ผมหละกลุ่มใจจริง  มันจะตามติดตูดกรูไปถึงไหนนะ  แล้วอย่างนี้จะมีเวลาไปล่อเสือล่อตะเข้ได้ที่ไหน  มันมาด้วยก็ต้องทำแมนไม่สนใจหนุ่มดัชท์ทั้งหลายที่น่ากินเสียเหลือเกิน ก็กลัวมันจะรู้นะครับว่าผมเป็นเกย์ 

แต่ว่าความจริงมันก็น่าจะรู้แล้วนะแต่ไม่เห็นมันพูดหรือว่ากระไรเลยอะครับ  เพื่อนผมมันยังว่า...’สำหรับแกนะ  ฉันรู้ว่าเป็นเกย์ตั้งแต่ห้าร้อยเมตรโน้นแล้ว’…  ก็ผมไม่รู้จะปิดบังกันไปทำไมครับ  ปิดไปก็เหนื่อยเปล่าๆ  บางทีพยายามปิดก็ปิดไม่มิดอีกเวลาอารมณ์หื่นมันขึ้นหน้า  ทำให้ต้องมานั่งสงสัยคอยจับผิดจับสังเกตให้อึดอัดใจกันอีก  สู้บอกไปเลยตั้งแต่ตอนเริ่มรู้จักกันดีกว่ามันจะได้เลิกสนใจและไม่คอยมาจับผิด  ไอ้คนไหนที่มันรังเกียจเราก็จะได้รู้และไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับมันให้รำคาญใจกันทั้งสองฝ่าย  ถือว่าต่างคนต่างอยู่กันซะ 

ผมเองก็ไม่ได้แสดงออกจนคนหมั่นไส้หรือว่าน่ารังเกียจ  ถึงผมจะเป็นเกย์แต่ก็เป็นอยู่แต่ตัวผมไม่ไปเกะกะระรานรังควาญใครให้เขาวุ่นวาย  เพื่อนผม (อีกแหละ!! แต่ว่าเป็นเพื่อนคนอื่นครับไม่ใช่คนเดียวกับประโยคเมื่อกี้) มันบอกว่าแบบที่พวกเราเป็นนี่เขาเรียกว่า “กุลเกย์” คือเป็นเกย์ที่เงียบๆ นิ่งๆ ไม่ได้ไปวี้ดว้ายกระตู้วู้ให้บาดหูบาดตาใคร  กริยามารยาทเรียบร้อยไม่แรด (แม้ว่ามันจะแรดเงียบๆ หรือแรดอยู่ภายในหนังหน้าที่ทำว่าเรียบร้อยตบตาผู้คนไปวันๆ อย่างนี้ก็เถอะครับ)

คนเรานี่ก็แปลกนะครับว่าไหม?  อะไรที่มันวับๆ แวมๆ แล้วหละก็ ชอบสอดรู้สอดเห็น เฮ้ย! ชอบสอดส่องให้ความสนใจกันจัง แต่พออะไรที่มันแจ่มแจ้งโล่งเหียนเตียนสว่างทางสะดวกแล้วมันจะสนใจพอเป็นพิธีสักพักมันก็เลิกพูดกันไปเองหละครับ  ผมเลยเลือกที่จะเป็นสว่างจิตดีกว่า  สบายใจทั้งตัวเองและคนที่มารู้จัก  จะได้วางตัวต่อกันถูกไม่ต้องมามัวนั่งเหนียมกันให้เสียเวลา  ชีวิตคนเรามันก็ยุ่งยากพอแล้วอะไรที่มันทำให้ง่ายๆ ได้  ผมก็เลยไม่ค่อยจะเรื่องมาก  อาจรวมทั้งเรื่องใจง่ายด้วยมั่งครับ  เลยต้องมานั่งชีช้ำอยู่ตั้งหลายรอบแบบนี้ไง

“เอารสมะม่วงกับรสลูกแพร์อย่างละก้อน  สองถ้วยครับ.....ทานที่นี่ครับ  เอ่อ!  ขอโกโก้ร้อนอย่างในภาพข้างหลังคุณนั้นด้วยแก้วหนึ่งครับ.....  ครับแบบนั้นแหละ  แต่ว่าไม่ต้องโรยไอ้แท่งน้ำตาลสีๆ นั้นนะครับ....  ครับขอบคุณครับ”  หรือว่าจะสองดีนะ?  เดี๋ยวมันหาว่าผมไม่สั่งให้มันอีกแล้วหน้ามันจะหงิกกว่านี้เข้าไปอีก  “จัสติน  นายจะเอาเครื่องดื่มอะไรไหม” ผมถาม

“ไม่อะ เอาไอติมอย่างเดียวพอ  ขอบใจนะ”

แล้วไอศกรีมสองถ้วยพร้อมโกโก้ร้อนของผมก็ถูกนำมาวางตรงหน้า  ผมจัดการฟาดในส่วนของตัวเองไปแล้วเรียบร้อย  ก็อร่อยดีครับ  ได้รสชาติของมะม่วงกับลูกแพร์ดี  แต่ว่าอร่อยสู้ร้านในห้างที่ตรง Potsdamer plazt ในเบอร์ลินไม่ได้  ที่นั้นนะครับ  โห! อร่อยอย่างแรงๆ เลยนิ  แบบว่าคนต่อแถวยาวมาก  ผมยังอุตสาหะไปต่อมาจนได้กินเลยครับติดใจจนต้องไปต่อรอบสอง  ไอ้โอ้เพื่อนผมมันเลยต้องส่ายหน้าระอากลับความคลั่งไคล้ไอศกรีมแบบไม่เข้ากับหนังหน้าของผมไปหลายระดับ

“เอาของเราไปอีกไหม” หา?! เสียงใครครับ... ออ...เสียงไอ้โหดเองเหรอ  ไม่อยากจะเชื่อเลยอะว่ามันจะใจดียอมยกไอศกรีมของมันให้ผม อิอิ  พระเจ้าจอร์ชมันยอดมาก

“แฮ่ะๆ ขอบใจนะ” มันตักของมันมาให้ผมเสียเยอะเลย  ความจริงมันกินไปนิดเดียวเองสงสัยไม่ชอบของหวาน  แต่ทำไมมันดุจัง?

“แต่นายจะเช็ดปากก่อนดีไหม  มันเลอะเทอะหมดแล้ว”  หืม!?  เลอะตรงไหนเรอะ  ตั้งแต่เมื่อไหร่หว่า  เอ๋!!  สังสัยจะติดคราบวิปปิ้งครีมในโกโก้ร้อนเมื่อกี่แห๋งๆ เลย  หยุดกินเพื่อเช็ดปากแป๊บก็ได้  และแล้วไอศกรีมที่รับช่วงต่อมาก็หมดลงไปอีกแล้วครับ  บรือส์...เล่นเอาหนาวไปเหมือนกันนะ

“นั้น!!  พวกพี่กุลมาพอดีเลย  มากับใครมั่งหว่า?” มันหันไปมองตามสายตาผมที่จ้องพวกพี่กุลที่กำลังเดินเข้ามา  เธอยังคงรักษาคอนเซปท์เดิมไว้ได้อย่างเหนียวแน่นด้วยการสวมโอเวอร์โค้ชยาวสีแดงเลือดนก  เห็นเด่น มากกกกกกกส์ ท่ามกลางผู้คนที่เดินสวนกันไปมาพลุกพล่านในตลาดนัดวันเสาร์อย่างนี้

“ไงจ๊ะ?  มากันนานยัง  พอดีพี่มาเดินดูของรอบนึงแล้วละ  เออ...นี่แนครูมเมทพี่เองชื่อมิก  เป็นลูกเจ้าของร้านอาหารไทยที่นี่เองแหละ  ว่างๆ เธอจะไปอุดหนุนบ้างก็ได้นะเวลาเบื่ออาหารฝีมือตัวเอง  มิก.....นี่แนคกับจัสตินที่พี่บอกเราไว้ไง”

“ยินดีที่ได้รู้จักครับ  ว่างๆ ก็เชิญที่ร้านนะครับ  เดี๋ยวจะลดให้เป็นพิเศษเลย”  คุณน้อง      มิกคนดีเริ่มรายการโฆษณาร้านตัวเองก่อนเลยครับ  แต่ว่าดูท่าทางมิกนี่คงเป็นน้องสาวผมครับ  ผมว่าผมดูไม่ผิดแน่

“ได้เลยครับ  ว่างๆ จะแวะไปนะ  พอดีเริ่มเบื่อๆ ฝีมืออาหารของคนบางคนแล้วหละ ฮ่าๆ”  คราวนี้เสียงไอ้โหดครับ  พูดไม่พูดเปล่าดันชายหางตามาทางผมด้วยด้วย  ไอ้บ้านี่...เนรคุณกันชัดๆ  แล้วใครใช้ให้แกกินฝีมือฉันวะ
เราสี่คนก็พากันเดินออกมาจากร้านเพื่อเผชิญโลกกว้าง  ผมเดินตีคู่ไปกับน้องมิก(ว่าที่น้องสาวคนใหม่) น้องมิกก็ช่างรู้ใจพาเดินเข้าร้านนั้นออกร้านนี้  แต่ก็ไม่วายแอบไปจิจ๊ะกับไอ้โหดอยู่บ่อยๆ  จนสุดท้ายผมเลยไปเดินกะพี่กุลแทน  แต่แล้วคุณน้องคนสวยก็ตามมาสมทบพร้อมไอ้โหด  ก่อนก็พาผมฉีกออกมาเดินคู่กันอีกรอบ

“พี่แนคเย็นนี่ผมจะพาไปตระเวนฟ้าราตรีเมืองไลเด้นเอามะ?  สนไหมพี่? แดนซ์อะ แดนซ์ๆ  ผมไม่มีเพื่อนเต้นมานานแล้วอพี่  พี่ชอบเต้นไหมอ่ะ  ผมชวนพี่กุลไปทีไร  แกก็ชอบไปนั่งทำหน้าเบื่อโลกทุกที”

“พี่เต้นไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่หรอก  แต่ก็พอได้นะ  ดีเลยพี่ก้อยากไปอยู่เหมือนกัน  แล้วมันเป็นที่แบบเฉพาะหรือเปล่า” ประโยคหลังนี้ผมลดเสียงลดแอบกระซิบ

“มันรวมๆ กันน่ะพี่...   ไม่ใช่อย่างนั้นพี่แนค....อย่าเพิ่งทำหน้าเซ็งสิ  มันแค่รวมกับเลสเบี้ยนด้วยเฉยๆ” มิกรีบตอบพอเห็นผมทำหน้าเบื่อโลก  เออ...ถ้าอย่างนี้ก็ค่อยพอทำเนาหน่อย  ถ้าเป็น ’เธคสหฯ’ ผมว่ามันจะไม่สนุก  ต้องไปยืนเต้นตัวลีบกลัวมือไม้มันจะไปโดนพวกอันธพาลเข้า  เดี๋ยวมันต่อยเอานะครับ

“แล้วเราจะไปกันกี่โมงดีน้อง”  สายตาหื่นของผมมันคงออกอาการมากไปหน่อย  น้องมันเลยว่า

“ก็คนจะเยอะหลังเที่ยงคืนน่ะพี่ เอาไว้ใกล้ๆ เที่ยงคืนผมค่อยเดินออกมารับพี่ที่หน้าบ้านพักดีกว่า”

“เออๆ  ตกลงเอาตามนี้นะ  แล้วคนที่นี่เขาแต่งตัวกันไงวะ? มิก” กลัวมันจะเป็นแบบต้องชุดหนังหรืออะไรอย่างนี้ไงครับ  จะได้หามาเตรียมเอาไว้  ผมยังไม่อยากเป็นตัวเปิ้นที่เมืองนอกตอนนี้ เรื่องอื่นๆ นี้ไม่ว่าแต่ถ้าเสื้อผ้าหน้าผมมันต้องลงทุนกันหน่อยใช่ไหมครับ  ยอมไม่ได้จริงๆ เรื่องแบบนี้  ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน

“ก็ธรรมดานะพี่  พี่ใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์มาก็พอ  แต่ว่าไม่ต้องเอาตัวแพงๆ มานะ  เดี๋ยวมันจะเหม็นบุหรี่เสียเปล่าๆ”  พี่ก็ไม่มีหรอกครับน้องเสื้อราคาแพงอย่างที่น้องว่า…  “แล้วพี่จะชวนจัสตินเขาด้วยไหมอะ?”  มิกถามต่อ

“ไม่เอาหรอก  เอามันไปด้วยก็หมดสนุกกันพอดี  เราไปสนุกแต่ของเราดีกว่า  อีกอย่างพี่ก็ไม่รู้ว่ามันเป็นเกย์หรือเปล่า  ไม่อยากเสี่ยงชวนไป  เขายิ่งว่าๆ กันอยู่ว่าพวกเยอรมันยิ่งรังเกียจเกย์ชนิดรุนแรงอยู่ด้วย”

“เหรอ?......” มิกลากเสียงยาวเชียวครับ “แต่ผมว่ามันทะแม่งๆ อยู่นะ  ผมว่าน่าจะมีลุ้นนะพี่”

“อุ้ย!  ไม่ไหวว่ะน้อง  พี่ไม่กล้าลุ้นด้วยหรอก  เชิญแกไปลุ้นกันเอาเองเถอะ  แล้วถ้ามันเกิดอะไรขึ้นมาอย่ามาหาว่าพี่ไม่เตือนนะ”

“แต่มันน่าสนนะพี่  หล่อจะตายไป  ถ้าเกิดใช่นะ  โห! คุ้มสุดๆ เลยอ้า  ฮ่าๆ” ไอ้น้องมิกมันหัวเราะร่าน เฮ้ย! ร่วนเชียวครับ  แต่ว่าไอ้โหดนี้มันหล่อตรงไหน  ขนาดผมที่ว่าชอบแบบเถื่อนๆ ดิบๆ แล้วนะ  ยังเข็นไม่ขึ้นเลย  เลยบอกน้องมันไปว่า...

“เอาเหอะน้องพี่ขอบายวะงานนี้”  ไม่กล้าจริงๆ ครับ  กลัวมันต่อยเอา  :monkeycry2:
................................................................................

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: [บันทึกรัก Leiden]
«ตอบ #75 เมื่อ29-12-2006 03:24:56 »



this picture show about Leiden town hall  :yeb:
...............................................................................

ผมเดินผ่านแผงขายปลาสดๆ จากทะเลแถวนี้ด้วยครับ  ว่าแล้วก็อย่ารอช้าเร่เข้าไปหาอะไรไปตุนไว้ในตู้เย็นดีกว่า  ตั้งแต่มานี้ยังไม่ได้สัมผัสอาหารทะเลเลยครับ  คิดถึ๊ง....คิดถึงเหลือเกิน  อยู่บ้านเรา....อยากจะกินเมื่อไหร่ก็ได้แต่ว่าที่นี่มันแพงแสนแพงครับ  คนเบี้ยน้อยหอยน้อยอย่างผมหาทานได้ลำบากครับ  แต่ว่าสำหรับที่ประเทศนี้ราคามันย่อมเยาลงมาหน่อย  เอาวะ!! แพงเป็นแพง...ช่างพระเศียรมัน  ก็มันอยากกินจนอะไรต่อมิอะไรไหลแล้วอ่ะครับ

“นายจะซื้อปลาหรอ?”  ผมสะดุ้ง! ก่อนหันไปทำหน้าดุใส่เจ้าของเสียง  ก็มันดันมาพูดซะข้างหูขนาดนั้นใครจะขวัญผวากันบ้างหละครับ

“เออดิ!!  ไม่ซื้อแล้วจะมายืนหาหอกอะไรหละ”  :untrust:

“เอาปลาอะไรหละ  เราไม่ค่อยรู้จักเสียด้วยสิ”  แล้วใครจะขอความช่วยเหลือจากมันกันครับ  ผมกำลังยืนเล็งราคาบนป้ายที่เขาเสียบไว้ในกะบะปลาบนแผงอยู่ดีๆ มันนั้นแหละเจือกแถเขามาเอง  แต่จะความไปความจริงคนเยอรมันก็ไม่ค่อยคุ้นกับอาหารทะเลมากนักหรอก แบบว่าไม่มีทางออกทะเลก็อย่างนี้แหะ  เอ!!  หรือว่ามีหว่า  แต่ว่าอาหารทะเลในเบอร์ลินแพงสะบัดเลยครับ  เรียกได้ว่าแพงมหาแพง  แพงโคตรๆ เลย  ผมเลยไม่มีปัญญาเสาะหามากินไงครับ

“ไม่รู้ดูราคาก่อน  อันไหนถูกเอาอันนั้นแหละ” 

อึ๊ยส์....อันที่ราคาถูกหร่อยมันเป็นปลาตาเดียวอ่ะสิครับ  ผมไม่กล้าเอาไปทำกิน  มันน่ากลัวอะครับหนังมันเป็นยังไงก็ไม่รู้บอกไม่ถูกครับ  เอาเป็นว่าน่ากลัวในสายตาผมแล้วกัน  ทางที่ดีเลือกเอาไอ้ที่เราคุ้นเคยดีกว่าก็ได้แก่  ปลาแซลมอนกับปลาซาบะนั้นไงครับ  เอาสองตัวนี้แหละดีแล้ว  ว่าแล้วก็ชี้ๆ แล้วพยักหน้าหยึกๆ เวลาเจ้าของร้านถามมา  ก็ไม่รู้ว่าพูดอะไรนี่ครับ  พี่แกเล่นถามมาเป็นภาษาดัชท์  ผมได้แต่ทำหน้างงๆ แล้วพยักหน้าไปเรื่อยจนพี่แกบอกเป็นราคามานั้นแหละครับถึงจะได้รู้เรื่องกัน

“นายจะเอาไปทำอะไรนะ”  ไอ้โหดมันตามาถามอีกตอนผมแถเข้าไปเลือกขิง  พริก  มะนาวที่ร้านขายผัก

“ไม่รู้  หยิบๆ ไปก่อน  แล้วค่อยโทรไปถามแม่เอาว่าทำไรกินได้บ้าง”

“แม่นาย?  ที่เมืองไทยนั้นหรอ  แม่นายทำอาหารเก่งหรอ? ไม่เห็นบอกกันมาก่อนเลย”

“แล้วทำไมฉันต้องบอกแกด้วยวะ”  จริงไหมครับ?  ทำไมผมจะต้องบอกมันด้วยว่าแม่ผมทำอะไรที่ไหน  ที่มันยังไม่บอกเลย

“ก็...แค่อยากรู้นะ” 

...มันนี่ก็แปลกคนเที่ยวอยากรู้เรื่องชาวบ้านเขาไปทั่ว (หรือว่าไม่แปลกครับ) แล้วก็อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ   เมื่อวานผมยังเห็นมันทำหน้าหงิกๆ อยู่เลยครับตอนกลับมาจากข้างนอก  ถามไรก็ไม่ตอบ  พอวันนี้ผมเตรียมตัวจะออกมาหาพวกพี่กุลก็มาทำถามโน้นถามนี่  ก่อนอ้อมแอ้มบอกว่าจะขอติดมาด้วยจะได้หรือเปล่า  ไอ้ผมก็เซ็งเลยกำลังกะว่าจะไปอ่อยหนุ่มเสียหน่อย   ถ้าให้มันตามมาด้วยก็ต้องเก็บอาการทำให้เหล่หนุ่มไม่ได้ดั่งใจอีก  แต่ถ้าจะไม่ให้มาก็สงสาร....ก็มันทำหน้าเศร้าซะขนาดนั้นนี่ครับ  เป็นใครก็ต้องใจอ่อน 

พอผมบอกว่า’เออ  ก็ไปสิ’ เท่านั้นแหละครับ  วิญญาณไอ้โหดคนเดิมเข้าสิงทันที  มันสั่งให้ผมไปหาอะไรร้อนๆ มันให้มันดื่มก่อนออกไปอะครับ  ดูมันสิครับน่าถีบให้คว่ำแค่ไหน  ทีเมื่อกี้ยังนั่งทำหน้าสลดเป็นปลาแดดเดียวอยู่แม่บๆ เผลอหน่อยเดียวมาจิกหัวใช้งานผมอีกแล้ว  พอจะออกมาผมจะแวะขึ้นไปชวนโมนิคให้ไปด้วยกัน  ก็หน้าหงิกไม่ยอมให้ขึ้นไปแล้วลากให้ผมออกมากับมันแค่สองคน  แล้วมานั่งหน้าหงิกอยู่ที่ร้านไอติมเมื่อบ่ายนั้นไงครับ

“แนค จะเดินดูอะไรอีกไหม”  เสียงพี่กุลทักขึ้นด้านหน้า

“ไม่แล้วหละครับ  ได้เสื้อที่จะใส่คืนนี้แล้วก็ปลากับของที่อยากได้เรียบร้อยแล้วครับ  พี่กุลหละครับ”

“ไม่มีไรแล้วเหมือนกัน แต่ว่าเธอลองกินปลานี่หรือยัง”  พี่กุลชี้ไปที่ปลายาวๆ ที่เขาแล่วางเอาไว้ในกะบะน้ำแข็งบนแผงปลา

“ยัง  ทำไมหรอพี่  อร่อยหรอ”

“เปล่าหรอก แต่คนที่นี่เขาชอบมาก  เห็นว่าเป็นอาหารประจำชาติอย่างหนึ่งของเค้าเลยนะ  จะเอาแบบทอดก่อนก็ได้นะ”

“ไม่ไหวอะพี่  อย่าเลยพี่แนค กินแล้วเหม็นปาก  จูบกันไม่ลงพอดี” ไอ้มิกส่งเสียงขึ้น  เรียกเสียงหัวเราะเหอะๆ ได้จากคอไอ้โหดครับ 

“งั้นเราแยกย้ายกันตรงนี้เลยแล้วกัน  แนคจะได้กลับไปพักผ่อน  เห็นว่าคืนนี้มีนัดกับมิกเขาไม่ใช่เหรอ

“เหอๆ” ผมได้แต่หัวเราะเก้อๆ เมื่อเจอสายตารู้ทันของพี่กุล  ก่อนต้องหุบปากฉับเมื่อเจอสายตาคำถามจากไอ้โหด คือพวกผมพูดไทยกันนะครับมันเลยไม่รู้เรื่องว่าเราคุยอะไรกัน  “ไม่มีไรหรอกนา ไป!!  กลับกันเถอะ”  ผมรีบชิงเดินกลับก่อนที่มันจะอ้าปากถามให้ผมต้องมุสามันอีกรอบ
................................................................................



ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: [บันทึกรัก Leiden]
«ตอบ #76 เมื่อ29-12-2006 03:28:09 »




รูปนี้ไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่องเพียงแต่อยากให้ดูเวลาเขายกสะพานข้ามคลองขึ้นเวลาจะแล่นเรื่อออกไป  เขาใช้แรงจากกังหันลมครับ

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: [บันทึกรัก Leiden]
«ตอบ #77 เมื่อ29-12-2006 04:12:19 »

“แค่นี้ก่อนนะครับแม่   คิดถึงนา  จุ้บๆๆ”  แล้วผมก็วางสาย

“ไงตกลงนายจะทำอย่างไงกับปลาพวกนั้น”  ไอ้โหดมันหมายถึงปลาที่ตอนนี้ผมส่งเข้าไปนอนพักในช่องแช่แข็งในตู้เย็นเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ

“ไม่บอก  รอกินแล้วกัน.... แล้วก็กรุณาลุกขึ้นมาช่วยเลย  เร็วสิ!!”

“เออๆ”  มันส่ายหัวแบบว่าระอาเต็มทีแต่ก็ลุกตามมาครับ  ผมหละแปลกใจวันนี้มันมีแก่ใจมาช่วยผมเข้าครัวด้วย  แปลกเว้ย!?!

ผมจัดการแปลงปลาแซลมอนชิ้นใหญ่นั้นให้กลายเป็นแซลมอนอบขิงในแบบของผมเอง  ก็อาหารไทยจากวัตถุดิบเนเธอร์แลนด์นี้ครับได้แค่นี้ก็บุญโขแล้ว  เริ่มจากเอาปลามาขูดเกล็ดแล้วล้างให้สะอาด(ตอนนี้หยะแหยงมากๆ ขอบอก  ก็หนังปลามันจับแล้วหยุ่นๆ แล้วยังเหมือนหนังงูอีก  หยดหยองอย่างแรงครับ) แล้วเอาไปคลุก  เกลือนิด  น้ำตาลหน่อย  บรรดาซอสที่ประดามีในครัวนั้นมีกี่ขวดๆ ผมก็เอามาคลุกๆ ลงไปด้วย  ประมาณว่าให้ได้อารมณ์ซี้อิ้วขาวไงครับ  แล้วก็ใส่น้ำปลาด้วย  อ้าส์! ผมโรยใบอะไรนะที่เขาเอาไว้โรยเวลากินพิซซ่านะครับ  เรียกไม่ถูก  แล้วหมักก็ทิ้งไว้   

จากนั้นก็หันไปบ่งการให้ไอ้โหดหั่นผักอย่างอื่น(ตอนนี้ถึงเวลาคิดบัญชีไอ้โหดครับ)  ผมให้มันหั่นพริก  ปอกแล้วก็ซอยขิง(ออกมาหน้าตาอุบาทว์มากๆ เลยครับ) หั่นหอมใหญ่  พอเสร็จก็เอาปลาเข้าอบในเตาไม่โครเวฟประมาณ 10 นาที  แล้วก็จัดจานเปลเตรียมไว้  ก็บีบมะนาวลงไปประมาณลูกหนึ่ง  เรียงขิง  พริก  หอมใหญ่ไว้ก้นจานสำหรับวางปลาลงบน  พอเตาดีดก็เอาปลาออกมาวางในจานที่เตรียมไว้แล้วก็โรยผักที่เหลือลงบนปลา  ใส่น้ำนิดหน่อยกันจานแห้งแล้วเอาเข้าไมโครเวฟต่อครับอีกประมาณ 10 นาทีเหมือนกัน.... 

ออกมาแล้วครับ  อืม!!!!! หอมขิงมากๆ เลย  เนื้อปลาก็ไม่คาว  ได้กลิ่นและรสมะนาวในเนื้อนั้น  สีแดงสดน่ากินมากเลยครับ ไอ้โหดแบบว่าปลื้มสุดๆ กับอาหารจานนี้ประมาณว่ามีส่วนร่วมไงครับ  โม้ใหญ่เลยครับว่าเป็นเพราะว่ามันหั่นผักนะเนี้ย  ถึงได้ออกมาน่ากินขนาดนี้ (จริงเหรอวะ?)  แต่ช่างเถอะ  มื้อนี้ผมขอมีความสุขกับการกินปลาแซลมอนอบขิงกับมันสองคนก่อนนะครับ  เรื่องอื่นค่อยว่ากันที่หลัง
................................................................................

23.50 น. ห้องนอนผมกับไอ้โหด
   “นั้นนายจะไปไหน”  เสียงมันทักตอนเดินกลับเข้ามาจากห้องน้ำ  วันนี้ผมขอตัวไม่อาบน้ำนะครับ  จะอาบทำไมกันเดี๋ยวก็ต้องไปรมควันบุหรี่อยู่แล้ว  เออ!! แล้วบุหรี่ของตูอยู่ไหนวะ  ซื้อมาตั้งนานยังไม่มีโอกาสสูบเสียที  วันนี้แหละเหมาะสุด

   “ก็...จะออกไปข้างนอกหน่อย  นัดกับมิกไว้เมื่อบ่ายตอนเดินตลาด” ผมบอกตอนฉวยเสื้อกันหนาวมาสวมก่อนกลัดกระดุม

   “นัดกันตอนไหน?  ไม่เห็นรู้เรื่อง...  แล้วไปกันกี่คน  ไปที่ไหน  ใครมั่ง?” มันถามมาเป็นชุด

   “ไปกันสองคนกลับมิกเท่านั้น  แล้วก็ยังไม่รู้ด้วยว่าจะไปที่ไหนยังไง มิกจะเป็นคนพาไปนะ” ผมบอกตอนกำลังคว้านหาถุงมือในกระเป๋าเป้  ไม่กล้าสบตาตอบมันไปหรอกครับ มันเหมือนคนกำลังทำผิดยังไงไม่รู้

   “จะกลับเมื่อไหร่?”

   “ยังไม่รู้เลย  คือ...” ผมจะบอกมันดีไหมครับว่าไปเธคเฉพาะทางนะ

   “ช่างเถอะ  อยากไปก็ไปสิ แล้วแต่นาย”  มันว่าก่อนปีนคลานขึ้นเตียงไปนอน 

ทำไมอยู่ๆ มันว่าง่ายขึ้นมาหละครับ แต่ก็ดีเหมือนกัน  ผมรีบเผ่นออกไปก่อนดีกว่า  เกิดมันกลับใจจะตามมาด้วยแล้วซวยเลย
................................................................................

23.58 น.  จุดนัดพบกับมิก

 :love2:

   “อ้าวพี่!  จัสตินไม่มาด้วยหรอครับ”

   “มันไม่มานะดีแล้วน้อง  เราจะได้ร่อนได้สมใจนึก”  :haun5:

   “แต่ถ้าจัสตินมาด้วยก็ดีนะผมจะได้ควงเสียเลย”  ไอ้นี่มันวอนตายเสียแล้วไหมละ  ไม่รู้จักไอ้โหดตีนหนักเสียแล้วน้อง  :try2:

   “ไปกันเถอะหนาววะ”  ผมเร่งก่อนมิกจะพาผมมาหยุดที่หน้าผับเล็กๆ ผับหนึ่ง



   “เรามาจุดประกายกันที่นี่ก่อนนะพี่  เพราะว่าตอนนี้ที่เธคคนยังไม่เยอะหรอก  ไม่อยากไปประเดิมร้านให้มัน” มิกบอกตอนเดินนำเข้ามาด้านใน....ความจริงมันก็เล็กๆ น่ารักๆ ดีนะครับ  ตามประสาที่เมืองนี้อะไรๆ มันก็เล็กไปหมด  เจ้าของร้าน(พร้อมกับทำหน้าที่บาร์เทนเดอร์และเด็กเสิร์ฟไปพร้อมๆ กัน) เข้ามาทักทายมิกแบบว่ากันเองดีมากๆ เลยครับ  สงสัยไอ้เด็กนี่มันจะออกมาตระเวนบ่อย  ส่วนแคชเชียร์  coyote  พีอาร์ (และอีกหลายหน้าที่ในร่างเดียวกัน) ก็เป็นแฟนเจ้าของร้านนั้นแหละครับ  ธุรกิจในครอบครัวสุดฤทธิ์  เห็นแล้วอิจฉาอย่างจัง  อยากมีมั่งอะ...ทำไงดีครับ?

   “หวัดดีดาร์ลิง  มานานยัง” เสียงฝรั่งเดินเข้ามาทักมิกครับ  แหม่!  ไอ้น้องคนนี่มัย pop ไม่ใช่เล่น

   "เพิ่งมาถึงเมื่อกี้เอง  ฮวน   นี่เพื่อนผมเองเพิ่งมาจากเมืองไทยชื่อ แนค”

   “ยินดีที่ได้รู้จักครับ  ขอต้อนรับสู่ประเทศในฝันของบรรดาเกย์ทั่วโลกครับ” นายฮวนอะไรนั้นเข้ามากอดแล้วก็ทำเสียงจุ๊บแนบแก้มซ้ายขวาทักทายตามธรรมเนียมคนที่นี่  ผมก็เลยต้องเกร็งๆ ทำกลับไป  ก็คนมันไม่เคยนี่ครับ  ทำไงได้ล่ะ

   พอได้เครื่องดืมและที่นั่ง....นายฮวนคนนั้นพยายามทำหน้าที่เป็นเจ้าของบ้านที่ดีมาก  เข้ามาชวนคุยนั้นคุยนี้ไปเรื่อยจน…

   “พี่ แนค  ผมว่ามันชักจะยังไงๆ แล้วนะ” มิกเข้ากระซิบข้างๆ หู

   “ทำไมยังไงหรอ”

   “ผมว่าไอ้นี่มันสนพี่วะ”

   “เฮ้ย! ไม่มั่ง  มันเห็นว่าพี่เป็นเพื่อนแกมากกว่า”

   “ไม่หรอกพี่  ผมรู้จักมันมานานแล้ว  ไม่เห็นมันทำแบบนี้กับเพื่อนผมคนไหนเลย  ผมว่ามันต้องเล็งพี่แน่ๆ เลย”

   “เหรอ?  ว่าแต่แกกินมันยังวะ”  ผมต้องถามเพื่อความแน่ใจครับ  อุตส่าห์มาตั้งไกลก็ต้องไม่อยากกินของเก่าของคนใกล้ตัวแบบนี้

   “ยังพี่!!  ผมก็เล็งๆ มันอยู่เหมือนกันพี่  แต่ว่าผมรู้จักมันตอนที่คบอยู่กับแฟนคนเก่าไง  มันเลยรอดตัวไป” โห! พูดซะนะ  น้อง....

   “ผมขอตัวไปร้านโน้นก่อนนะ  แล้วเจอกัน”  ฮวนเข้ามากอดลามิกกับผม  แต่ว่าก่อนผละจากผมเขาหันมาขยิบตาให้ด้วย  หรือว่าผมจะตาฝาดไปนะเพราะจะว่าไปในนี้มันก็ออกจะมืดๆ อยู่

   “ปะพี่! หมดแก้วนี้แล้วเราย้ายร้านกันบ้างดีกว่า  คนคงเริ่มไปกันที่นั้นแล้วหละ”  ผมกระดกรวดเดียวหมดแก้ว  ที่นี่ไม่ผสมโซดาครับปกติจะมีแต่เหล้ากับน้ำแข็ง  แต่ของเราพิเศษหน่อยเจ้าของร้านผสมโค้กมาให้ด้วย....
................................................................................

   “ค่าเข้าคนละ 3 ยูฯครับไม่รวมดริ้งค์  ค่าดริ้งค์ต้องแลกเป็นเหรียญเอาเองคราวละ 5 ยูฯ  จะได้หกเหรียญ  เอาไปแลกเครื่องดื่มข้างใน  ถ้าเบียร์ก็สองเหรียญ  วิกกี้ 4 เหรียญพี่” มิกอธิบายราคาให้ผมฟังก่อนเข้าไป....ก็โอเคครับสำหรับเธคพื้นบ้าน(ไอ้มิกมันเรียก)อย่างนี้  เพลงที่เปิดก็ทันสมัยกว่าเธคในเบอร์ลินมากแม้ว่าจะไม่สู้บ้านเรานะ “ถ้าอยากสนุกมากกว่านี่เราต้องไปอัมสเตอร์ดัมกันพี่  เสาร์นี้เราไปกันมะ” มิกหันมาชวนผมเมื่อเรารับเบียร์มาจากบาร์เทนเดอร์หน้าหล่อแต่อ้วนเรียบร้อยแล้ว

   “หวัดดีอีกครั้งครับ แนค” ฮวนตรงเข้ามาทักทายพวกเรา

   “เห็นไหมพี่ผมว่าแล้วเชียว”  ว่าแล้วเรื่องอะไรวะ  ก็คนเขามาทักทายเฉยๆ

   ความจริงอีตาฮวนนี่ก็หน้าตาโอเคครับแม้ว่าจะไม่เท่าโมนิคขวัญใจผม  ก็เรียกว่าควงได้ไม่อายคน  เสียแต่ว่าแก่ไปหน่อยครับ อายุ 37 แล้ว  ทำงานเกี่ยวกับกฎหมายครับ  เคยมาเมืองไทยด้วยเห็นว่าสิงหาปีนี้ก็จะมาอีก ออ! เคยมาบวชที่วัดอุโมงค์ที่เชียงใหม่ด้วยนะครับ....

   ....เสียงเพลง  แสงสี  ควันบุหรี่และฤทธิ์แอลกอฮอล์มันทำให้ผมเปลี่ยนไปครับ  จากตอนแรกที่เสงี่ยมๆ อยู่ก็เลยออกลายครับ    :angellaugh2: จนไอ้มิกมันแปลกใจ  แต่ว่ามันเองก็นะ....เปรี้ยวเยี่ยวราดเหมือนกันครับ  อาจจะยิ่งกว่าผมอีก  ก็ผมไปเต้นบนเวทีอย่างมันไม่ได้นิครับเพราะมัวแต่แกะมือปลาหมึกของไอ้เจ้าฮวนอยู่นี้ไงครับ

   “พรุ่งนี้เราจะได้เจอกันอีกไหม แนค “  ฮวนถามผมตอนที่เราตัดสินใจว่าควรกลับเสียที

   “ได้อยู่แล้ว  แล้วผมจะโทรฯหานะ จุ๊บ  บาย” ผมทำท่าส่งจูบให้หมอนั้น  ฮ่าๆๆๆ  อ่อยสุดฤทธิ์

   “พี่แนค เดินไหวม้ายยย”  มิกเข้ามาพยุงตอนเดินกลับมาส่งผมที่ห้อง

   “หว่ายๆ  แต่ว่าทำมายมานไกลจางวะ  หือ? คุณน้องมิกกกกกกก...”  :really2:

   “จะเถิงแล้ว  แข็งจายแป๊บเดียว!”  แล้วพวกผมก็ถ่อสังขารกลับมาถึงห้องจนได้  แต่ว่าผมไขกุญแจบ้านเข้ามาได้ไงไม่รู้  ง่วงมากเลย  ไม่อาบน้ำแล้วนะ  นอนเลยแล้วกัน.....บายครับ

................................................................................
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-12-2006 01:37:18 โดย oaw_eang »

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: [บันทึกรัก Leiden]
«ตอบ #78 เมื่อ29-12-2006 04:17:31 »

....ผมกำลังฝันหรอครับ  สงสัยจะฝันเปียกเสียด้วยสิก็มันฝันเรื่องอย่างว่าอะครับ  แต่ว่าผมเพิ่งจัดการไปเมื่อวานเองนะ  ไม่น่าจะใช่  แต่ก็ช่าง...เสียวดีครับ  อ้าส์....น่านแหละ  อย่างนั้น ใช่ๆ ใช่เลย  เม้มแรงๆ อีกนิดน้อง  เออดี....ซีดดดดดดดส์ เลียเก่งจริงแหะ  อุ้ย! กัดเบาๆ สิจ๊ะ  พี่เสียว  ถอดออกดีกว่ากางเกงนรกนี้เกะกะจริง  คนเขาจะสังสรรค์กันดันมาขวางทางอยู่ได้  อู้วววววววววส์ ต่ำอีกนิด  ลงต่ำไปอีกนิด  อ้าส์  เสียวมากเลย  ใครวะ  ทำไมไม่เห็นหน้านะ  ฝันอะไรทำไมมันเหมือนจริงจัง  อ้าสสสสสส์  ดูดแรงอีกนิดน้อง  เน้นๆ ตรงนั้นหน่อย ลงมาลึกๆ เลย อ้าส์...ดี   ดีมาก ทำไมมันเก่งอย่างนี้วะ  โอ้วววววววส์ มะ...ไม่ไหวแล้ว   พ...พี่จะ....จะออกแล้วน้อง  จะออกแล้ว   ซีดดดดดดส์  มะ...ไม่ไหวแล้วววววววววว อ...ออกแล้วนะ  ออกแล้ว  อ้าสสสสสสสส์  อ้ากกกกกกกส์  แฮ่กๆ.....เก่งมากเลยครับที่รัก  ขอบใจนะ จุ๊บ...  ผมยังได้กลิ่นคาวจากปากนั้นเลยครับ  :haun6:

19 Mar. 2006
--.-- น.  บนเตียง

ผมก็ไม่รู้ว่ามันกี่โมงแล้วหรอกครับ  รู้แต่ว่ายังอยากนอนแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ อุ่นดีจังเวลามีคนมากอดเราอย่างนี้  เดี๋ยวๆ!! ว่าอะไรนะ  ใครกอดใคร?  ใครกอดแก?  กรูโดนกอดหรอ  แล้วใครกอดวะ  ไหนดูซิ?  เจี๊ยก!  ขนแขนสีน้ำตาลหยิกๆ หยอยๆ แบบนี้ฝรั่งชัวร์  แต่ว่าเมื่อคืน.....เดี๋ยว...ขอผมคิดก่อน  ผมกลับถึงห้องแล้วนี้หว่าหรือว่าไม่นะ 

แต่ว่าแหกตาดูแล้วนี้มันก็ห้องผมด้วยสิ  แล้วกรูหิ้วใครติดมาด้วยหว่า?  เมื่อคืนหนักไปหน่อยครับเลยจำไม่ค่อยได้  รู้อย่างเดียวว่าเสียวดี ฮ่าๆๆ  ว่าแล้วก็หันไปดูหน้ามันชัดๆ ดีกว่า  แต่ไม่อยากหันไปเลยอะ  อยากนอนหันหลังให้มันกอดอย่างนี้ไปเรื่อยๆ อบอุ่นดีจริงๆ

ผมไม่ค่อยโดยกอดมากนัก  มันเหมือนโหยหานะครับคุณ  ผมเองเมื่อก่อนเป็นโรคจิตชนิดหนึ่งคือไม่กล้าโดนตัวใคร  ขนาดว่าคนที่สนิทมากๆ ก็ไม่กล้าครับ  มีอยู่คนเดียวคือยัยน้องสาวที่ผมกล้าจับกล้าเตะโดนตัว  นอกนั้นไม่กล้าจริงๆ  เหมือนว่าเราโดนเลี้ยงมาด้วยความรักความอบอุ่นก็จริง  แต่ไม่เคยได้รับการสัมผัสไงครับ  เพราะคนที่เลี้ยงดูผมมาค่อยไม่ชอบกอดรัดฟัดเหวี่ยงเด็กๆ เท่าไหร่  ผมเลยไม่เคยโดนกอดมาก่อนเลย  แต่หลังจาก......(เห้อ...ช่างมันเถอะ  ไม่อยากเล่า)แล้วก็อาการดีขึ้นครับ  เข้าใกล้คนอื่นๆ ได้มากขึ้น  ลดช่องว่างระหว่างตัวเองกับคนอื่นๆ ลงไปได้เยอะแต่ก็ยังห่างอยู่ดี  เอาเถอะหันไปดูดีกว่าเผื่อว่าจะเป็น...... เฮ้ย!

 :o จ้ากกกกกกกกกกกส์  ไอ้โหดครับ  ไอ้โหดมรึงกอดกรู...

“อ้าว! ตื่นแล้วหรอ” ไอ้โหดมันงัวเงียๆ ถามผมที่กระเด้งกระเถิบหนีมันไปจนติดข้างฝา    ไหงกลายเป็นมันได้ครับ  ไม่จริงงงงงงงงงงงงงส์  :sad5:

“แก...  เมื่อคืนแก.....กับฉันเหรอ?”  ผมพยายามจะถามมันถึงเรื่องเมื่อคืน  ทำไมมันนอนเฉยอย่างนี้นะ

“อืม....  เห็นนายนอนแก้ผ้าแล้วทนไม่ไหว  เลยขอยืมใช้หน่อย  นายคงไม่ว่านะ”  อะไรนะครับขอยืมใช้  มันพูดอะไรของมัน

“แกหมายความว่าไง?”

“ก็แค่....  ช่วยๆ กันคลายเครียดเท่านั้นนะ  ไม่ได้ทำอะไรมากสักหน่อย  นายอย่าคิดอะไรมากเลย  มากกว่านี้นายก็คงจะเคยนะฉันว่า  หรือว่าไม่จริง?” มันร่ายยาวมาเลยครับ แล้วยังเจือกมาพูดดักคอผมอีก  ขอผมทำสำออยเป็นสาวน้อยที่เพิ่งสูญเสียพรหมจรรย์หน่อยไม่ได้หรอไงวะ  แต่จะว่าไปมันก็พูดถูกนะครับ  แหม่!! อายุก็ปาไปขนาดนี้แล้วไม่เคยสิแปลก  แต่ไม่ได้ๆ.....ของแบบนี้ใครจะเอาให้มันยืมใช้ฟรีๆ

“เออ...แล้วไป  คราวหน้าตาฉันบ้างแกก็อย่าโวยนะโว้ย” อ้าว!?

“พร้อมเสมอ ฮ่าๆๆๆ” ไอ้นี่มันหน้าด้านจริงๆ เลยครับ  แถมยังมาหัวเราะใส่ผมอีกพอเห็นผมทำหน้าแปลกๆ หลังฟังมันพูด

ความจริงเรื่องอย่างนี้ไม่ใช่ว่าจะเป็นครั้งแรกที่มีคนมาลักหลับอย่างนี้  ผมเคยโดนมาหลายครั้งแล้วแต่ว่าก็ไม่เคยโวยวายลุกขึ้นมาถามกันตอนเช้าอย่างนี้  อย่างมากก็แค่เสร็จแล้วก็แล้วกันไปไม่มีการฟื้นฝอยหาตะเข็บ  ปล่อยให้มันสลายหายไปกับความดำมืดของรัตติกาล  จะเอามาพูดมาถามให้กระดากใจทำไมกัน  มองหน้ากันไม่สนิทเปล่าๆ ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมมันถึงต้องเป็นผมด้วยนะ  คือบางทีเขาก็อาจจะไม่ได้คิดอะไรกับผมในเชิงชู้สาวเพียงแค่นอนใกล้ๆ แล้วมันเกิดคึกคักขึ้นมาตอนเช้าๆ ไม่รู้จะไปลงที่ไหน  ยากจนข้นแค้นเหลือเกินแล้วก็เลยมาลงกับผมก็มี  หรืออาจจะเห็นว่าผมเที่ยวแรดๆ ไปทั่ว  คนเขาเลยอยากขอลองเครื่องเสียหน่อยก็เท่านั้นเอง  น้ำหน้าอย่างผมจะมีใครมาสนใจจริงๆ จังๆ  ว่าไหมครับ?

ผมเดินมานั่งหน้าโทรศัพท์เมื่ออาบน้ำอาบท่าเรียบร้อยแล้ว  หนาวชิบเป๋งเลยครับ  กำลังจะกดหาฮวน

“นั้นจะโทรหาใครนะ?” เสียงไอ้คนที่นอนซุกหัวยุ่งๆ อยู่บนเตียงถามขึ้นมาครับ

“เพื่อนนะ” แล้วก็จิ้มๆ ต่อ  ทำไมเบอร์มือถือเมืองฝรั่งนี้มันถึงยาวจังเลยวะมีตั้งสิบเลข

“คนไหน  ที่เจอกันเมื่อวันเสาร์หรอ”  ไม่รู้ว่ามันหมายถึงใคร  พวกพี่กุลหรือเปล่าวะ  มันคงไม่รู้หรอกเนอะครับว่าผมเจอกับฮวนมา

“อืม”  ผมไม่ได้โกหกนะครับ  ผมเจอฮวนเมื่อคืนวันเสาร์จริงๆ

“แล้วจะไปไหนกันอีก  วันนี้ไม่มีที่ไหนเปิดนิ”  มันผงกหัวขึ้นมาทำท่าเอาจริง  ใจคอมันจะซักผมให้ขาวเลยหรือไง

“ก็ไม่รู้  เดี๋ยวเขาคงจะพาไปเองแหละ”

“ไปด้วยสิ  ไม่อยากอยู่ห้องคนเดียว” มันวิ่งมานั่งอยู่ใกล้ๆ ผม  ทำท่าอ้อนเหมือนหมาจะขอขนมเจ้าของเลยครับ  แต่ว่ามันวิ่งโทงๆ ลงมาจากเตียงทั้งอย่างนั้นเลยอะ  อ้ายยยยยยยส์  ไอ้ชีเปลือย  ทำไมมรึงไม่รู้จักไปใส่เสื้อผ้าวะ

:pigscare2: ไม่ได้!!  แกไปด้วยกันกับฉันไม่ได้”

“ทำไม?” มันลุกขึ้นยืนเท้าสะเอวมองหน้าผม  แต่ว่าไอ้นั้นมันดันมาห้อยแกว่งไปแกว่งมาอยู่ตรงหน้าผมครับ  เมื่อคืนยังไม่ได้กินหรือว่าจะกินตอนนี้เลยดีนะ

“ก็........”  ผมกำลังคิดอะไรไม่ออกครับ  หัวมันตื้อๆ ตามันลายๆ นะครับ  จ้องอย่างเดียว  ทำไมมันหย่ายยยยยยส์นักวะ  ขนาดนั้นยังเป็นหนอนน้อยอยู่เลยนะครับ  ถ้าเกิดมันแปลงกายกลายเป็นงูมีหงอนขึ้นมาแล้วจะขนาดไหนวะเนี้ย

“มองอะไร?”  อ้าว!  ไอ้เวร   ก็มองน้องหนูมรึงอะดิ  ดันมายืนแกว่งอยู่ตรงหน้าซะขนาดนี้  แล้วยังมาถามอีก “ตกลงจะให้ไปด้วยไหม?” มันขยับเดินเข้ามาใกล้อีกแล้วครับ  คราวนี้ใกล้มาก  มากจน.....

“มะ...ไม่ได้   ปะ...ไปกับ  พะ..เพื่อนใหม่  แกะ...แก ไม่รู้  จักเค้า หระ....หรอก”  ผมแหงนหน้าขึ้นไปพูดกับมันครับ  ไอ้นั้นก็ห้อยจ่อลงมาตรงปากพอดีเลย  อ่ะ!!!  ผมจะทำไงดีครับ?

“เพื่อนใหม่?  เจอกันที่ไหน?  เมื่อไหร่?” มันยืนคิดแป๊บนึง ผมเลยลุกขึ้นเดินเลี่ยงออกมาเสียจากตรงนั้น  “แกไปเจอกันในเธคใช่ไหม?  ไม่ต้องไปเลย  ฉันไม่ได้ไปแกก็ห้ามไปเหมือนกัน” 

แล้วมันก็เดินไปหยิบกุญแจผมที่มักวางไว้บนโต๊ะทานข้าวในห้อง  เอาขึ้นซุกไว้ใต้หมอนแล้วนอนทับซะงั้น  แมร่ง!! เลยอดคั่วหนุ่มดัชท์เลยครับ :sad4:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: [บันทึกรัก Leiden]
«ตอบ #79 เมื่อ29-12-2006 04:21:43 »

20 Mar. 2006
17.35 น. หน้าเครื่องโทรศัพท์สาธารณะในสถานีรถไฟ
   “โทษทีนะฮวนที่เมื่อวานไม่ได้โทรหานาย  คือผมทำเบอร์นายหายนะ  วันนี้เลยไปขอมาใหม่จากมิกนะ” ผมโกหกอีกแล้วครับ  เพราะว่าอะไรทุกคนก็คงทราบดีอยู่แล้วนะ

“ไม่เป็นไรหรอก แนค  แต่ว่านายต้องแก้ตัวที่ปล่อยให้ผมรอนายเกือบทั้งวันเมื่อวาน”

“ได้ๆ นายอยู่ไหนหละ  ออกมาเจอกันไหม” 

“ดีสิ  เจอกันที่ไหนดี”

“นายมารับผมที่สถานีรถไฟได้ไหมหละ  ผมไปที่ไหนไม่ถูก”

“อืม!!  นายรออยู่ที่หน้าร้านหนังสือนะ  แล้วผมจะรีบไปรับ”

ผมวางสายเรียบร้อยแล้วครับ  นี่ก็ยังใจเต้นไม่หายที่แอบหนีไอ้โหดมันกลับมาก่อน  วันนี้มันมานั่งเฝ้าผมที่ห้องทำงานทั้งวัน  ดีแต่ว่าก่อนผมจะหนีออกมานายอัตมาตามมันไปดูอะไรกันก็ไม่รู้บนห้องหมอนั้น  ผมเลยวิ่งจุ๊ดๆ ออกมาเลยครับ

“หวัดดีแนค รอนานไหมครับ” ฮวนมายืนอยู่ข้างหลังผมตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้  ผมรอๆ อยู่แล้วเซ็งเลยเดินเตร่เข้ามาดูหนังสือในร้านครับ

“อ้อ!!  ไม่นานหรอก....  แล้วเราจะไปไหนกันดี” ผมถามฮวนหลังจากพากันเดินออกมาจนถึงหน้าสถานี

“น่านซิ!!  นายทานมื้อเย็นมายัง  เราไปหาอะไรทานกันก่อนดีไหม”

“ดีเลยผมเองก็เริ่มหิวแล้วอะ”

ฮวนพาผมมาทานร้านตุรกีแถวๆ ท่าเรือครับ  ความจริงผมก็เคยกินของแบบนี้มาแล้วที่เยอรมัน  อร่อยดีแล้วก็ถูกด้วยครับ  แต่ว่าเสียอยู่อย่างตรงที่มันเลอะเทอะนี้สิ  ไม่รู้ว่าจะกินยังไงไม่ให้มันเลอะ  เรายังคงนั่งคุยกันอยู่หลายคำแม้ว่าจะทานเสร็จนานแล้ว  ก็โอ้เอ้คุยไปเรื่อยๆ จนกระทั้ง....

“เดี๋ยวผมพานายไปเที่ยวที่ห้องผมดีไหม”  มันเริ่มแล้วครับ

“ก็ดีเหมือนกันนะ  ว่าแต่ที่ห้องนายมันมีอะไรสนุกๆ ให้ทำบ้างหรือเปล่าหละ”  เรื่องไรผมจะยอมแพ้ใช่ไหมครับ  เรื่องพรรค์นี้สู้ยิบตา

“นายอยากทำไรหละ  มีหลายอย่าง  เดี๋ยวนายไปดูเองแล้วกัน”  หวายๆ มันหมายความว่าไงครับ  มันมี sex toy ด้วยหรอ  ถ้าอย่างนี้ก็ไม่ไหวนะครับ มันออกจะพิสดารมากไปหน่อยนึง  ไม่ต้องรสนิยมผม  แต่ว่าไหนๆ แล้วก็ลองดูนิดหนึ่งดีกว่าถ้าไม่ไหวจริงๆ ค่อยเปิดหนี  เนอะ!!

00.03 น. ห้องนอนผมเองครับ
   “ไปไหนมา”

เอาแล้วครับนั้นไงผมว่าแล้ว  เห็นไฟยังสว่างอยู่ก็กลัวจนลนลานแล้วครับ  รู้งี้นอนค้างที่ห้องฮวนดีกว่า  ค่อยไปเจอกันที่ตึกทำงานเลยน่าจะดีกว่านะผมว่า

   “ไปหาเพื่อนมา”

   “เพื่อนคนไทย?” มันนอนถามดุๆ อยู่บนเตียงครับ

   “อืมๆ ใช่  แล้วเลยไปหาอะไรกินกันนิดหน่อย”

   “เรอะ?  แล้วอร่อยไหม” สายตามันที่จ้องมาเริ่มน่าหวาดหวั่นนิดๆ แล้วครับ

“ก็ร้านตุรกีนะ  แล้วเลยไปเที่ยวห้องเขามานะ” ผมตอบตอนเดินเลี่ยงมาเปิดคอมพ์ทำท่าว่าจะทำงานทั้งๆ ที่ความจริงก็ไม่มีงานอะไรจะทำหรอกครับ

“แปลกนะ  นายมีเพื่อนคนไทยหลายคนจัง  เพราะว่าฉันเพิ่งกลับมาจากห้องพี่กุลเมื่อตอนสามทุ่มกว่าๆ นี่เอง”

“ห๊า!?!  นายเพิ่งกลับมาจากห้องพี่กุลหรอ?”

“อืม....  ก็ยังแปลกใจอยู่เลยว่านายไปทานมื้อเย็นกับพี่กุลมาตอนไหน”  ตายโหงแล้วครับ  มันไปอยู่กับพวกพี่กุลเขามา แล้วผมจะแก้ตัวว่าไงต่อดีนะ  นึกไม่ออกวะ  “จะบอกมาดีๆ ไหมว่าไปไหนมา”  มันเดินมาบีบคอ...จุดอ่อนของผมเองครับ  ผมเลยต้องย่นคอหนีแต่ว่าก็ไม่พ้นเงื้อมมือมันหรอกครับ

“เอ่อ...  ปะ...ไป  กับ”

“กับใคร?” มันถามเสียงเข้มเลยครับ

“เอ่อ...   ไปกับ....ฮวนมานะ”

“ไปกันถึงไหน  ทำไมเพิ่งกลับมา” มันเริ่มตะคอกแล้วครับ  (ลูกช้างกลัวจน...หดหมดแล้วโว้ยไม่ต้องขู่) แถมยังลงแรงบีบเพิ่มมาอีกครับ  จากที่เมื่อกี้รู้สึกจั๊กจี้กลายเป็นเริ่มแน่นๆ แล้วครับ

“ก็ไปกินข้าวกัน  แล้วไปนั่งคุยกันต่อที่ห้องเขานะ”

“นั่งคุย?  ฮ่าๆๆ  หน้าอย่างแกนี่นะใครจะเชื่อ”

“ทำไม? แกเห็นฉันเป็นคนยังไงวะ ก็ไม่ได้มีอะไรแค่นั่งคุยจริงๆ”

“ใครจะเชื่อ  ไหน?  ลุกขึ้นมาซิ”  มันคว้าคอปกผมดึงขึ้น  ทำให้ผมต้องรีบลุกตามแรงดึงที่ว่า  จนเก้าอี้ล้มหงายไปด้านหลัง

“เจ็บนะโว้ย....  เฮ้ย!!  แกจะทำไรวะ?”  ผมถามตอนที่มันพยายามเลิกเสื้อผมขึ้นดู

“ก็จะพิสูจน์ดูไงว่าไม่มีอะไรจริงอย่างที่แกว่าหรือเปล่า”

“ไม่ให้ดู...  ทำไมต้องพิสูจน์ด้วยวะแก  ฉันจะไปทำอะไรมันก็เรื่องของฉันสิ” ผมขืนตัวพยายามดึงชายเสื้อลง

“ใช่!! เรื่องของแก แต่เผอิญฉันอยากรู้นิ” มันยังไม่ยอมหยุดมือ  มันดึงขึ้นผมก็รั้งลงจนเสื้อจะยืดหมดแล้ว  ดึงลงพลางถอยหลังพลาง  ยื้อกันไปยื้อกันมาอยู่อย่างนั้นจน....

‘ผัวะ’  มันตบกะโหลกจนผมหัวทิ่มอีกแล้วครับ  ไม่ทันได้ตั้งตัวเลยหลบไม่ทัน  มันไม่ตบหัวผมมานานแล้วนะ  วันนี้เป็นไรไม่รู้ถึงได้มาตบอีก  ไอ้เวรนี่นิสัยเสียแก้ไม่หายเลย

“ตกลงจะให้ดูดีๆ หรือเปล่าวะ”

“แล้วแกจะดูทำไม  บอกว่าไม่มีไรก็ไม่มีไรสิ”  ผมว่าพลางก็ถอยหนีวนไปเรื่อยๆ

“มานี่เลยแก  ไม่ต้องหนี  บอกว่าให้อยู่นิ่งๆ ไง” มันไม่วายดุผมอีกตอนที่ผมยื้อไม่ยอมให้มันถลกชายเสื้อขึ้นสูงอีก  เอวะไหนๆ ก็ไหนๆ ให้มันดูๆ ไปก็สิ้นเรื่อง 

“เอ้า!!  อยากดูนักก็ดูเลย” ผมยืนเฉยให้มันถลกชายเสื้อขึ้นดู

“แล้วนี้รอยอะไร  ไอ้ฮวนมันดูดมาใช่ไหม?  ไหนว่าไม่มีไรกัน  ทำไมตัวแกถึงมีรอยแบบนี้  แกเพิ่งมีอะไรกับมันมาใช่ไหม?”  มันจิ้มลงมาแรงๆ ตรงรอยแดงตรงสีข้าง  สงสัยฮวนจะดูดแรงไปหน่อยครับ

“เออ!!!  แล้วจะทำไม  แกเองก็ยังเคยพูดเลยว่ามากกว่าออรัลเซ็กส์คนอย่างฉันก็เคยทำมาแล้ว  แล้วไง?  ทำไมฉันจะมีอะไรกับฮวนไม่ได้”

“ถ้าแกอยากมีอะไร  ทำไมแกไม่บอกฉัน  ทำไมแกต้องไปมีกับคนอื่นด้วยวะ”

“ห๊ะ!?!  แกว่าไงนะ”

“ก็อย่างที่แกได้ยินนั้นแหละไม่ต้องทำเป็นไม่ได้ยินเลย” แล้วมันก็ ‘ผัวะ’ ผมอีกรอบ  คราวนี้ผมเริ่มบ่จอยหน่อยๆ แล้วนะ เลยไม่เกรงใจแล้ว  บอกมันไปตรงๆ ว่า

“แกรู้อะไรไหม  สิ่งที่ชั้นเกลียดที่สุดในตัวแกก็คือเรื่องนี้แหละ นิสัยแกไง  ชั้นเกลียดนิสัยแกสุดๆ”

“ใช่  ฉันรู้  ฉันรู้ว่าแกเกลียดชั้นแต่สิ่งที่ชั้นไม่รู้คือทำไมฉันถึงชอบแก”

“…?…” มันว่าอะไรครับ

“ฉันรู้ว่าฉันไม่ใช่คนดีอะไรมากนัก  แต่ฉันชอบแกมากจริงๆ นะ”

“…!?!...” ผมหละอึ้งแด๊กไปเลย

“แกหละชอบฉันบ้างไหม  หือ?” 

 “…!!?!!.…” ผมได้แต่เงียบ

“ทำไมแกถึงไม่ลองชอบฉันบ้างละ?” 

“…!!?!!.…”  ผมไม่รู้ว่าจะตอบว่าไงดี เลยยืนอยู่เฉยๆ จ้องหน้ามัน  ส่วนมันก็ยืนจ้องผมตอบกลับมา  ผมควรตอบว่าไงดีครับ  คนมันไม่ชอบจริงๆ นิจะให้ทำไงได้  แล้วอีกอย่างเพิ่งเจอกันไม่กี่วันเองใครจะไปทันรู้สึกอะไรใช่ไหมครับ

ผมเป็นฝ่ายยอมแพ้ถอนสายตาก่อนครับ  แต่มันก็ไม่พูดอะไรอีก  คลานขึ้นเตียงไปนอนหันหลังให้ผม  ผมไม่รู้จะทำไงต่อดีเลยเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็ปิดไฟก่อนล้มตัวลงนอน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [บันทึกรัก Leiden]
« ตอบ #79 เมื่อ: 29-12-2006 04:21:43 »





ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: [บันทึกรัก Leiden]
«ตอบ #80 เมื่อ29-12-2006 04:22:46 »

23 Mar. 2006
18.46 น. คนเดียว....ในห้องครัวหลังบ้าน

ผมเพิ่งทานข้าวเย็นเสร็จเมื่อกี้ครับ  การกินข้าวคนเดียวทำให้รสชาติที่เคยอร่อยสามารถกร่อยลงไปได้มากเหมือนกัน....  ผมไม่มีแก่ใจจะเขียนอะไรมาสองสามวันแล้วครับ  เรื่องราวที่เกิดขึ้นถ้าหากจะว่ามันแปลกๆ เหลือเชื่อไปหน่อย  ผมก็คิดว่ามันแปลกเหมือนกันครับ  มันออกจะแปลกอยู่ซักหน่อยที่อยู่ๆ ใครบางคนที่บางทีก็ท้าตีท้าต่อยกับเราบ้าง  ขู่เราบ้าง  ข่มเราแกล้งเรา  แต่ในขณะเดียวกันก็ดูทีวีกับเรา  หัวเราะกับเรา  กินข้าวหม้อเดียวกับเรา นอนเตียงเดียวกับเรา  เคยแม้กระทั้งกอดเรา....จะมาบอกว่าชอบเราทั้งๆ ที่เพิ่งเจอกันได้ไม่นาน   แล้วอยู่ๆ ก็ทำตัวหายไปจากชีวิตเราอย่างนี้  เวลาแค่เกือบสองอาทิตย์มันจะทำให้คนเราชอบกันได้มากแค่ไหนนะ  ผมไม่รู้จริงๆ

ผมรู้เพียงแต่ว่า....สามวันมาแล้วที่มันหายไป  เป็นสามวันที่ผมเกิดเหงาขึ้นมาในใจมากมายอย่างประหลาดและผมไม่สามารถรับมือกับความเหงาที่ว่านี้ได้  แปลกเหมือนกันครับ...ทีเมื่อก่อนไม่เห็นเคยเป็นอย่างนี้เลย  ไปไหนมาไหนหรือยู่คนเดียวตลอดก็ไม่เคยเหงา  เพราะมันหรือเปล่าครับ  มันมาสนิทกับผมแล้วหายไปอย่างนี้ 
ทำไมหรอ?  แค่ผมไม่ตอบคำถามมัน  มันก็เล่นหายไปอย่างนี้เลยหรอ  ไม่กลับมานอนที่ห้อง  เตียงฟากที่มันจับจองเป็นเจ้าของวางเปล่าเสมอ  ส่วนที่ทำงาน.....ผมก็ไม่กล้าตามขึ้นไป   มื้อเที่ยงผมก็ทำเผื่อไปทุกวันแต่ก็ต้องเอากลับมากินเป็นมื้อเย็นของตัวเองแทน  วันนี้เป็นวันที่สามแล้ว

อีกไม่กี่วันผมก็จะจากที่นี่ไปแล้ว  มันจะมีหรอครับ?  ใครซักคนที่จะมาชอบเราจริงๆ หน้าตาผมก็ใช่ว่าจะดีอย่างคนอื่นๆ เขาที่ไหนกัน  ธรรมดาจนถึงค่อนข้างแย่ไปเสียด้วยซ้ำ  แล้วอย่างนี้จะมีใครมาชอบเราจริงๆ ที่มันพูดมันก็พูดเล่นๆ เท่านั้นใช่ไหมครับ  ไม่งั้นมันคงไม่หายไปอย่างนี้

‘ใครละ?’ เสียงพี่กุลตอบคำถามผมเมื่อตอนกลางวันที่ผมถามว่าพี่กุลคิดว่าจะมีใครกล้าพูดว่าชอบหรือไม่ชอบใครทั้งๆ ที่เพิ่งเจอกันเพียงแค่ไม่นานไหมครับ

‘ถ้าเป็นคนไทยพี่ว่าไม่นะ  แต่ถ้าเป็นฝรั่ง?...พี่ว่ามันก็มีโอกาส ของแบบนี้มันไม่แน่หรอกบอกไม่ได้  มันขึ้นอยู่กับว่าฝรั่งคนไหนด้วย  ฝรั่งบางคนเค้าก็ชอบพูดอะไรตรงๆ อย่างนั้นหละ ทำไมหรอ แนค’

‘ปะๆ..เปล่าครับ  ผมแค่ถามดูเฉยๆ’ ผมไม่กล้าพูดต่อจึงเสหันมาสนใจกินแซนด์วิชในมือแทน  :impress3:

เพลง ละครรักแท้ ศิลปิน Crash
บทละครทุกตอน คนรักกันแต่ต้องทะเลาะกัน 
พอถึงตอนจบ  ไตร่ตรองหัวใจมองตา  บอกรักคืนดีกัน
แต่ในชีวิตจริง  ตัวสองเราไม่จบลงดังในละคร 
ตอนท้ายเรื่องจะเจ็บทั้งสองหรือปรองดองกัน  ไม่รู้จะยังไง
เกิดอารมณ์  ฉันก็เป็นตัวโกงจนเธอช้ำปวดร้าวแล้วเลิกกัน
แต่วันดีๆ ที่สองเรากอดกันนั้นอย่าลืม   โปรดกลับมาหาคนเดิมๆ อีกครั้ง
ตั้งแต่เธอเดินไปเหงาจนครวญใจ  ละครรักแท้ฉันขอเล่นใหม่อีกสักที

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: [บันทึกรัก Leiden]
«ตอบ #81 เมื่อ29-12-2006 04:27:15 »

24 Mar. 2006
18.25 น. ทางเดินหน้าบ้าน
   “เฮ้ย!!  แกจะรีบไปไหน”  ผมตะโกนเรียกไอ้โหดเอาไว้  ก็พอมันเห็นผมเดินเลี้ยวมาจากมุมตึกตรงหัวถนนใกล้ๆ จากที่มันกำลังไขกุญแจจะเข้าบ้านก็รีบผละออกแล้วเดินจ้ำอ้าวหนีไปอีกทางหนึ่งเลยครับ

   “รอด้วยสิ  แกจะรีบไปไหนวะ?”  ผมตะโกนเรียกมันตอนวิ่งตาม  แต่คงไม่ทันแล้วหละครับมันวิ่งไปนู้นแล้ว

00.34 น. บาร์ที่ผมเคยมากับมิกเมื่อวันก่อน
   “หวัดดี แนค ไม่เห็นคุณโทรหาผมเลยหลังจากวันนั้น” ฮวนเข้าทักผมที่หน้าบาร์  ผมนั่งดื่มอะไรอยู่เงียบๆ คนเดียว  เสียงเพลงกับแสงไฟในร้านมันไม่ช่วยให้ผมคลายเหงาได้เลย

   “หวัดดีฮวน  คือ...พอดีผมงานยุ่งนะ  เลยไม่ค่อยว่างสักเท่าไหร่ โทษที  แล้ววันนี้นายมาคนเดียวหรอ?”

“เปล่า!! พอดีมากับเพื่อนอีกคนน่ะ  เจอนายก็ดีเลย  ผมว่าวันนี้เราเข้าไปเที่ยวกันในอัมสเตอร์ดัมดีกว่า  นายเคยไปที่นั้นหรือยัง?”

“ยังเลย  ก็ดีเหมือนกัน   ไปกันเลยไหม?  จะได้ไม่ดึกเกินไป”

“อืม...” ฮวนตอบก่อนที่พวกเราสามคนจะพากันเดินออกมาจากร้านนั้น

1. 38 น. ถนน  requliersdwars straat กลางเมืองอัมสเตอร์ดัม
   โห!!  นี้มันต้องเรียกว่าถนนเกย์เลยครับ  แบบว่าเป็นแหล่งมันเลยอะ  สารพัดร้านจะมี  อยากเข้าร้านไหนเชิญเลือกได้ตามสบายเลยครับ

   “เดี๋ยวผมพานายทัวร์เองนะ  อืม....เราเริ่มกันร้าน Apil ก่อนดีกว่านะ”  ฮวนจูงมือผมเดินเข้าไปข้างใน  มันเป็นบาร์น่ะครับไม่ใช่เธค  เหมาะแก่การเริ่มต้นตอนหัวค่ำมากกว่า  สังเกตดูแล้วมีแต่คนอายุเยอะๆ แล้วทั้งนั้นเลยที่มาเที่ยว 50 up ไม่ไหว Shall we move now?”

   “อืม...  ไปเถอะไปร้าน SOHO แล้วกัน”  โจซวน เพื่อนของฮวนออกความเห็น

เราย้ายกันมาอีกร้านนึงครับ  คนเยอะมาก  อ้าส์ หนุ่มๆ เยอะดี  แต่งร้านก็สวยแต่ว่าดูหนักๆ โบราณๆ แบบอังกฤษมากไปหน่อย  ไม่ไหวอยู่นานๆ แล้วอึดอัดครับ  คราวนี้ฮวนเป็นคนชวนออกมาเองเลย

   “ร้านนี้ท่าทางจะเหมาะ” ผมเดินตามฮวนเข้าร้านที่สามชื่อร้าน ARC เป็นบาร์เก๋ๆ นะครับดูดีมีรสนิยม  ผมสั่ง Blue Hawaii มาดื่มราคาตั้ง 8.50 ยูฯแนะ ค่อนข้างแพงแต่รสชาติไม่เอาอ่าวเลย  เพราะเขาใส่วิปปิ้งครีมลงไปด้วย 

ฮวนสั่งไรมาไม่รู้อร่อยมากมันเป็นช้อคโกแลตเหลวผสมเหล้าใส่นมใส่น้ำแข็งมาด้วย  มีคนเข้ามาจีบเพื่อนของฮวนแล้วชวนพวกเราไปต่อที่ร้าน Exit ที่อยู่ข้างๆ ติดกัน  ค่าเข้ารวมค่าฝากเสื้อกันหนาวรวมคนละ 8.50 ยูฯ  มีสี่ชั้น  ชั้นล่างสุดเป็นบาร์คาวบอยเล็กๆ เปิดเพลงเบาๆ พอโยกๆ ชั้นสองเป็นบาร์เพลง pop แล้วก็มีห้องสำหรับเธคเทคโนฯ ด้วยเปิดเพลงเหมือนร้านดีเจฯที่สีลมซอยสองนั้นแหละครับ  ส่วนชั้นสามเป็นบาร์ R&B (ผมยืนส่ายอยู่ชั้นนี้จนได้เรื่องนั้นแหละครับ  แล้วเดี๋ยวจะบอกว่าเรื่องอะไร)  ส่วนชั้นสี่เป็นห้องน้ำกับห้องมืดครับ  ผมไม่กล้าเข้าไปทั้งที่สนใจอยากจะทดลองดูแต่พอดีว่าไม่มีเพื่อนมาด้วยเลยไม่อาจสามารถครับ

   “เป็นไง แนค สนุกไหม” ฮวนเดินเข้ามาถามพร้อมยื่นบุหรี่ยัดไส้มาให้ผมอีก  แต่คราวนี้ผมปฏิเสธไปครับ  ไม่กล้าลองอีกแล้วเจอเข้าไปหนนั้นที่เดียวเดินเท้าไม่ถึงพื้นเลยครับ  จนเสร็จไอ้โหดมันหนนั้นไง  แถมโดนใครบางคนด่าด้วยเลยไม่เอาดีกว่า  ขอผ่าน

“ก็สนุกดีนะ  เราชอบเพลงแนวนี้ด้วยนะ”  แสงสี  เสียงเพลงและฮวนที่ชวนพูดคุยมันทำให้ผมพอที่จะลืมๆ เรื่องที่รุมเร้าผมมาตั้งแต่ตอนเย็น

“นายจะดื่มอะไรอีกไหม  เดี๋ยวผมเลี้ยงแก้วนึง”  โห!  อย่านึกว่าเล็กน้อยนะครับ  นับว่าบุญโขแล้วครับที่ฝรั่งชาตินี้เมืองนี้มันเลี้ยง  ปกติเห็นมันเค็มกันเหลือเกินจริงๆสงสัยเป็นเพราะอยู่ใกล้ทะเล  การที่เขาจะเลี้ยงเราสักแก้สวนเป้นเรื่องที่ยากมากๆ ขอบอก 

“เบียร์แล้วกัน” แก้วละ 2.50 ยูฯ ครับ  ผมรับมาแล้วก็ถือคอยจิบอยู่อย่างนั้น  ฮวนก็ชวนคุยไปเรื่อยเปื่อย  จนกระทั้ง

“ขึ้นไปห้องมืดไหม? แนค”

“ไม่อะ  ขอบใจนะ  นายไปเถอะ  ตามสบาย” ก็อย่างที่บอกครับ  ไม่เปรี้ยวขนาดนั้น  ยังพอกรีดยางอายออกอยู่บ้างหรอกครับหน้าผมนะ   :-[

ผมปักหลักแดนซ์กระจายอยู่คนเดียวตรงนั้น  พอมันมึนๆ แล้วมันสนุกดีนะ  พยายามไม่คิดถึงไอ้โหดมันแต่ก็ยังอดคิดถึงมันไม่ได้อยู่  ป่านนี้มันจะไปนอนที่ไหน  หรือว่า....ห้องอัต  แล้วมันจะเสร็จไอ้อัตไหมนะ 

ทำไมผมถึงสงสัยอย่างนี้หรอครับ  ก็เพราะวันก่อนผมเจอมิกที่ซุปเปอร์(ลืมเล่า) น้องมิกเขามาชวนคุยโน้นคุยนี้ไปเรื่อยตอนเดินเลิกซื้อของ   จนมาถึงเรื่องของนายอัตที่เราสรุปตรงกันว่ามันน่าจะเป็นเกย์แบบแอบๆ น่ะครับ

“หวัดดี เพื่อนไปไหนแล้วหละครับ”  ฝรั่งมาจากไหนไม่รู้  อายุอานามคงแก่รุ่นๆ คราวพ่อแล้วเข้ามาทักผม

“ไม่รู้” ผมตอบก่อนรีบชิงหนีออกมา  เดินไปเดินมาไม่รู้จะไปไหน  ฮวนเองก็หายไปแล้ว  สงสัยขึ้นไปห้องมืด  ผมเลยตัดสินใจเดินลงไปนั่งที่บาร์ข้างล่างดีกว่า  ผมมันต้องลงบันไดกลับไปทางหน้าร้านก่อนแล้วค่อยผลักประตูเปิดก้าวเข้าไปในบาร์ได้  ใครวะคุ้นๆ เพิ่งเปิดประตูร้านเดินเข้ามา  หางตาผมเหลือบหันไปมอง

 :o อ๊ะ!! ไอ้โหดนี่ครับ  มันเพิ่งเข้ามากับไอ้อัต  ผมหละช็อกไปเลย  ถือประตูค้างจนคนข้างหลังสะกิดครับ ถึงจะได้สติ

มันมากับไอ้อัตแสดงว่ามันต้องค้างกับไอ้อัต แล้วแสดงว่ามันก็ต้อง...กับไอ้อัต   อ้ายยยยยยส์ มันน่าโมโหไหม  มาบอกว่าชอบกรูแล้วมาเที่ยวแรดๆ กับคนอื่น  มันทำงี้ได้ไง  ได้ๆ มันหยามหน้ากันเกินไปแล้วนะน้อง  เจอกันสักตั้ง  เรื่องอ๋อยคนนี้ผมถนัดนัก(ติดบ้างไม่ติดบ้างก็เถอะครับ)  ว่าแล้วเจมส์ บอนด์สายลับหน้าด่างอย่างผมก็ลงมือปฏิบัตการ mission impossible ทันที

ผมค่อยๆ สะกดรอยมันสองคนครับว่าจะไปหยุดที่ไหน  นั้นไง!! ครับหยุดตรงชั้น R&B เสียด้วย ดีเลยมรึง  เพลงชั้นนี่แหละเต้นแรดๆ ง่ายดี  ผมก็ไปสั่งเบียร์แก้วใหม่แล้วแถ เข้าใส่เลยครับ

“อ้าว! พวกนายมาด้วยเหรอ  นายมาได้ไงอะอัต  ผมไม่นึกว่านายจะเป็น...”  ผมหยุดไว้เท่านั้นครับ  เห็นสีหน้าตกใจแล้วทำเป็นออมแอมตอบของไอ้อัตแล้วสะใจดีครับ  แล้วก็เหยื่อรายต่อไปครับ...ไอ้โหด

“ไม่เจอกันนานเลยนะ  ไปอยู่ที่ไหนมาเหรอ  แต่ก็ดีเหมือนกัน  นายไม่อยู่ฉันจะได้ทำอะไรๆ สะดวกขึ้นหน่อย”  มันไม่ตอบแต่หันขวับมามองเลยครับ

“หวังว่าคืนนี้นายคงไม่กลับไปห้องนะจัสติน” ผมว่า

“อืม...คงไม่  จะค้างกับอัตต่อ”  แล้วมันก็โอบไอ้อัตเฉยเลยครับ  ไอ้นั้นก็นะยิ้มหน้าบานเป็นจานเปลเชียว  เห็นแล้วมันจี๊ดครับพี่น้อง  มันจี๊ด....

“ดี!!  ขอบใจที่ให้ความร่วมมือ”  แล้วผมก็เดินลงมาตั้งหลักวางแผนใหม่ครับ  ท่าทางมันสองตัวคงนัวกันมาแล้วแน่เลย  โอบกันซะขนาดนั้น  ได้!! มรึงนัวกันได้เดี๋ยวกรูหาคนมานัวมั่ง  แต่ว่าจะเอาใครดีวะ
อะๆ!! นั้นไง...หน้าตาพอประมาณ หุ่นกำลังโอเค  เข้าไปทำขอจุดบุหรี่ดีกว่า...

....แล้วก็มารยาสุดชีวิต ตอนแรกนึกว่าจะโดนถีบออกมาแล้ว แมร่ง!! ทำหน้าดุซะงั้น แต่ว่ามันก็ยื่นมือมาจุดบุหรี่ให้ผมครับ  ผมก็ อะนะ! จัดการขั้นสอง  ชวนคุยโน้นคุยนี้ไปเรื่อย  คือโชคดีอย่างว่าที่ร้านนี้ขึ้นชื่อว่าฝรั่งฮอลแลนด์จะมาจิกคนเอเชียครับ  สังเกตดูก็ เออ! ท่าจะจริง  เพราะว่ามีคนเอเชียเยอะมาก  ตอนแรกก็ไม่รู้ว่ามันจะสนผมหรือเปล่าเพราะว่าฝรั่งบางคนก็ไม่ชอบคนเอเชีย 

แต่คราวนี้โชคเข้าข้างผมครับ  โดนเข้าจังเบอเลย  มันไม่ไล่ผมหนี  ก็น่าจะพอลุ้นเนอะ  ผมเลยทำหน้าใสซื่อบริสุทธิ์บอกว่าหลงกับเพื่อนหาเพื่อนไม่เจอ  ให้มันพาเดินเที่ยวชมรอบๆ ร้านหน่อยไม่กล้าเดินคนเดียว อิอิ  ความจริงไอ้ฮวนพาทัวร์แล้ว  มันก็ดี  สาระแนทำหน้าที่ไกด์เต็มที่  ผมไม่ได้ดูรอบๆ ร้านอย่างที่บอกมันหรอก  มองหาไอ้สองตัวนั้นมากกว่า  หวังว่ามันคงยังไม่หนีออกไปไหนเสียก่อนนะ

นั้นไงครับ  ยืนอ้อล้อกันที่ทางขึ้นชั้นสี่  มันจะขึ้นไปปี้กันหรือไงวะ  ว่าแล้วผมก็ลากมือไอ้เซอร์บัสเตียน(ชื่อมันยาวต่อไปผมเรียกว่าไอ้โง่นะครับ  ก็ เซอร์ = เซ่อ = โง่ ไง) ผมลากมือไอ้โง่ไปยื่นเต้นอยู่ใกล้ๆ มันสองคน  พวกมันก็หันมามองเหมือนกันแต่ผมก็ไม่สน เต้นยั่วไอ้โง่สุดชีวิต  เบียดๆ สีๆ ลูบขึ้นลูบลง  เพลงก็นะเป็นใจสุดๆ ฮ่าๆ  แล้วไอ้โง่มันก็

“ขึ้นไปเที่ยวข้างบนไหม”

“นายอยากขึ้นไปหรอ?  เอาสิ! ตามใจนาย  นายเป็นไกด์นิ”  ผมเลยเดินจูงมือไอ้โง่เบียดผ่านหน้าสองคนนั้นขึ้นไปชั้นสี่เลยครับ  มันก็หันมาดูกันใหญ่  ผมก็ไม่สน  ลากไอ้โง่เข้าเขาวงกตแห่งห้องมืดเลย 

พอเข้ามาถึงไอ้โง่ไม่พูดพร่ำทำเพลงเลย กะจะเอากรูอย่างเดียวจริงๆ เพิ่งเดินเข้ามาได้นิดเดียวเองมันดันผมติดฝาผนังเลยครับ  จูบสุดฤทธิ์ ผมก็ยอมๆ หนีๆ ไปตามเรื่องแบบว่าอ่อยไงครับ ฮ่าๆ ของแบบนี้มันต้องล่อให้อยากมากๆ หน่อย  ล่อไปล่อมากรูก็ทำท่าจะอยากขึ้นมามั่งแล้ววะ เลยนัวมันซะงั้น 

แต่เอะ! มือใครมาจับๆ นะ  :confuse: ก็อย่างว่าหละครับไอ้พวกมือที่สามชอบมีส่วนร่วมมีเยอะครับในห้องมืด  แต่ว่าทำไมมันจับๆ คลำๆ ไปทั่วๆ แล้วไปจับหัวผมวะ  จับดูผมผมด้วย  เฮ้ย!  มันจะลากมือผมออกมาเลยครับ  แต่ไอ้โง่ก็ดึงขืนไว้ มันก็เข้ามาเบียด  ไอ้โง่ก็ผลักมันออก ผมก็งงๆ แต่ก็ดีผมไม่ได้อยากมีไรกับไอ้โง่เท่าไร แต่ว่ากำลังเคลิ้มเลยครับไม่อยากก็กำลังจะอยากอยู่เลยเชียว  เลยถือโอกาสจะจูงมือไอ้โง่ย้ายออกไปที่อื่น  ไอ้นั้นก็มาเกะมือผมออกจากมือไอ้โง่แล้วเอาไปจับไว้แทน 

ไอ้โง่ก็ตามมาคว้ามือผมไปจับอีก มันก็แกะออก  ก็แกะกันไปแกะกันมาจนกรูงง ว่าอันไหนเป็นมือใคร  ปากใคร  มั่วกันไปหมด  มืดก็มืดมองไม่เห็น  จนมันดึงผมผมลากออกมานั้นแหละครับ  โอ๊ย!!  ใครวะดึงหัวกรู 
อ๊ะ!!!  ไอ้โหด!!!!!!!

‘ผัวะ’ มันตบกะโหลกผมอีกแล้ว  :sad4:

“เข้าไปทำไม  ทำกันที่อื่นไม่พอหรือไงถึงต้องมาทำกันที่นี่”

“แล้วแกมายุ่งอะไรด้วย  ฉันไม่ได้มากับแกนะ  โน้น!! ไอ้อัตโน้น  ตามไปเทคแคร์มันดิ  ไปไป๊” ผมตะหวาดไล่มันแล้วชี้ไปทางไอ้อัตที่ยืนมองอยู่ที่บันไดทางลง

‘ผัวะ’   ....โอ๊ย!!!!   แล้วผมก็หัวคะมำรอบสอง  คราวนี้แรงมากๆ

“กลับบ้านกับฉันเดี๋ยวนี้เลย  ไม่ต้องไปไหนแล้ว” มันลากมือผมลงบันไดผ่านหน้าไอ้อัตมาเฉยเลยครับ  สม!!~  ยืนบื้อใบ้แด๊กไปเลยมรึง  อิอิ  อยากมาแย่งของกรูดีนัก  ไง? กรูเอาคืนจนได้  อิอิ  ไอ้สาระเลว

ความจริงผมก็ทำเป็นเถียงมันมากกว่านี้ก่อนจะออกมาจากร้านได้ แต่จำไม่ได้แล้วว่าพูดอะไรมั่ง  ด่าไอ้อัตเป็นภาษาไทยด้วย ฮ่าๆๆ  ก็ด่าเป็นอังกฤษไม่ได้นิ  อย่าว่าคนเมาเลยนะครับ  :try2:
.........................................................................................

ออฟไลน์ มูมู่น้อย

  • Global Moderator
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +468/-12
Re: [บันทึกรัก Leiden]
«ตอบ #82 เมื่อ29-12-2006 05:04:56 »

เพิ่งตามอ่านจบนะเนี่ย  ไม่รู้ว่ามีบันทึกรักมันส์ ๆ อยู่ในนี้ด้วยอะ  จริงๆ แล้วเป็นคนไม่ชอบอ่านบันทึกคนนะ  มันดูเนือย ๆ ไม่น่าสนใจ  แต่ว่าของคุณอ้าวเอง (อ่านงี้ใช่ปะคะ)  สนุกมาก ๆ  ครบรสคับท่าน 

เป็นคนทำอาหารเก่งเลยดิเนี่ย  สมกับเป็นกุลเกย์ อิอิ   ว่าแต่เสน่ห์แรงใช่เล่นนา  อ่อยเก่งอีกต่างหาก   อยากบอกว่าชอบจัสตินนะคะ  เอาให้อยู่หมัดละ  ยังไงจารออ่านต่อเน้อ   :yeb:

ออฟไลน์ Lucifer

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1
Re: [บันทึกรัก Leiden]
«ตอบ #83 เมื่อ29-12-2006 10:06:56 »

 :-[ :-[ :-[ :-[ ชอบๆๆ

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
Re: [บันทึกรัก Leiden]
«ตอบ #84 เมื่อ29-12-2006 10:14:45 »

กร๊ากกกมันๆ เร้าจาย นี่มันชีวิตจริงๆของเกย์ชัดๆ
 :kikkik:
ยั่วไปยั่วมา ตามใจฉัน

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: [บันทึกรัก Leiden]
«ตอบ #85 เมื่อ29-12-2006 10:25:09 »

หุหุ สมน้ำหน้าตาอัต  :kikkik:

เก๋าดี

  • บุคคลทั่วไป
Re: [บันทึกรัก Leiden]
«ตอบ #86 เมื่อ29-12-2006 15:07:49 »

โหยยยยยยย :pigscare2: :pigscare2:

หนุกๆ :piglove2: :piglove2:

ต่อเลยคับ


ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: [บันทึกรัก Leiden]
«ตอบ #87 เมื่อ29-12-2006 21:53:33 »

เพิ่งตามอ่านจบนะเนี่ย  ไม่รู้ว่ามีบันทึกรักมันส์ ๆ อยู่ในนี้ด้วยอะ  จริงๆ แล้วเป็นคนไม่ชอบอ่านบันทึกคนนะ  มันดูเนือย ๆ ไม่น่าสนใจ  แต่ว่าของคุณอ้าวเอง (อ่านงี้ใช่ปะคะ)  สนุกมาก ๆ  ครบรสคับท่าน 

เป็นคนทำอาหารเก่งเลยดิเนี่ย  สมกับเป็นกุลเกย์ อิอิ   ว่าแต่เสน่ห์แรงใช่เล่นนา  อ่อยเก่งอีกต่างหาก   อยากบอกว่าชอบจัสตินนะคะ  เอาให้อยู่หมัดละ  ยังไงจารออ่านต่อเน้อ   :yeb:


thnks a lot.  warm welcome to my love diary  :piglove2:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: [บันทึกรัก Leiden]
«ตอบ #88 เมื่อ29-12-2006 21:56:46 »

หุหุ สมน้ำหน้าตาอัต  :kikkik:


ใช่ๆ อย่างมันนะต้อง  :3125:





กร๊ากกกมันๆ เร้าจาย นี่มันชีวิตจริงๆของเกย์ชัดๆ
 :kikkik:
ยั่วไปยั่วมา ตามใจฉัน


 :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:




:-[ :-[ :-[ :-[ ชอบๆๆ


ชอบที่ผมร่านเหรอครับ  :3128:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: [บันทึกรัก Leiden]
«ตอบ #89 เมื่อ29-12-2006 22:03:33 »

โหยยยยยยย :pigscare2: :pigscare2:

หนุกๆ :piglove2: :piglove2:

ต่อเลยคับ



yub. then let's goooooooooooooooooooooo

................................................................................

“ไง? ไปทางไหนต่อหละแก”  ผมถามตอนพากันมาหยุดอยู่ตรงทางแยกที่แบบว่าไม่คุ้นเคยอย่างแรง  ก็ไม่รู้ว่ามันลากๆๆ ผมมาทางไหนนิ  ตอนมาผมไม่ได้มาทางนี้เสียหน่อย

“ไม่รุ” อ้าว! เวรของกรรม ไอ้ดำหน้าเหี่ยว(ผมเองแหละ)  “ถามเค้าเอาก็ได้  แล้วตอนแกมาแกมายังไง” มันหันมาถามผม  แล้วผมจะรู้ไหม นึกว่าจะไปถามเทวดาไหนที่แท้ก็ผมนี้เอง  ไอ้เวร!

“เออ!  รอแป๊บ เดี๋ยวมา”  ผมเลยต้องปฏิบัติหน้าที่นางงามจักรยานแทนในเมื่ออันดับหนึ่งทำหน้าที่ไม่ได้อันดับก็ต้องสวมรอยทันควัน  แล้วคุณคิดดูนะถามทางตอนเมาๆ  นะมันเข้าใจดีชะมัดยาก  ผับผ่า!!
......................................................................................................

“เอา!  นอนซะ” มันทุ่มผมลงใส่เตียง  ทำไมผมมึนมากอย่างนี้ไม่รู้หรือว่าจะล่อไปหลายขนานเกิน เหล้าเอย เบียร์เอย คอกแทลเอย  ไหนจะปุ๊นที่ไอ้ฮวนมาพ่นปุ๋ยๆ อยู่ข้างๆ นั้นอีก  สรุปว่าเมาครับ ก็ล่อไปหลายอย่างหลายแก้วเหลือเกินนิเนอะ

“แล้วแกจาปายหนายอะ?” ผมถามตอนเห็นมันเปิดประตูออกไป

“ไปต้มน้ำ”

“ต้มทำไม?” ผมยันตัวขึ้นมาถามอย่างทุลักทุเล

“ไม่ต้องลุกมาเลย  ฉันจะไปต้มให้นายกินไง  ได้กาแฟร้อนๆ สักแก้วคงดีขึ้น”

“อืมๆ  แต่ไม่ต้องหรอกไม่เอากาแฟ  ไม่ชอบ  แกมานั่งนี้ก่อน” ผมตบเตียงข้างๆ เรียกให้มันมานั่ง

“ทำไม?”

“แกชอบฉันจริงๆ หรอ?”

“อืม... ทำไม?  นายลำบากใจมากนักหรือไงแนค  ถ้านายไม่ชอบฉันก็ไม่เป็นไรนิ”

“แล้วถ้า....”

“ถ้าอะไร?” มันหันมาขมวดคิ้วใส่ผม ผมเลยถามว่า

“แล้วถ้าอย่างนี้หละ” ผม....จุ๊บ! มันไปทีหนึ่งแล้วก็มองหน้ามันรอดูว่ามันจะทำยังไงต่อ  :-[

“ก็ จุ๊บ! ตอบไง”  มันทำหน้าแบบว่าทะเล้นๆ ใส่ผม  ผมเลยคว้ามันมาจ๊วบปากเสียเลย...อืมมมมมมมมส์ ผมไม่ว่างเขียนแล้วนะ  ไปทำกิจกามก่อน  อิอิ  บายครับ  :like6:

25 Mar. 2006

12.56 น. บนเตียง
ผมนอนกอดใครบางคนอยู่ครับ  ท่าทางมันจะยังไม่ตื่น  ก็นะเมื่อคืนกลับมาก็ดึกแล้วแถมยัง..... ฮ่าๆๆๆ  จนสว่างคาตาครับ  ไม่ต้องบอกก็คงรู้นะว่าอะไรเกิดขึ้นเมื่อคืนนี้  ผลัดกันรุกผลัดกันรับยังกะฉากบู๊ในหนังจีนกำลังภายในเลย ฮ่าๆๆ

ดูๆ ไปมันก็เริ่มจะฉายแววความหน้าตาดีให้ผมเห็นบ้างแล้วครับ  สงสัยเมื่อก่อนไม่ได้คิดกับมันแบบนี้  ความเกียจเลยบังตาทำให้มองไม่เห็นว่ามันหล่อตรงไหน ฮ่าๆๆ 

ผมตัดสินใจแล้วครับว่าผมจะชอบมันจริงๆ หละคราวนี้ เอาไงเอากัน  ไหนๆ ก็มีฝรั่งมาชอบทั้งที  โอกาสแบบนี้หายากเนอะ  เลยกลายเป็นว่าผมถึงเยอรมันที่ฮอลแลนด์  มันดูงงดีไหมครับเนี้ย...  เอ!!  ผมมาถึงไหนบ้างแล้วนะ  เกือบถึงฝรั่งเศส  ถึงเยอรมันหลายครั้ง  ถึงฮอลแลนด์แล้ว  แล้วก็ถึงเยอรมันที่ฮอลแลนด์อีกที   คุ้มดีไหมครับผม...

17.55 น. หน้าโรงหนังเล็กๆ โรงเดียวกลางเมือง(หรือจะหลายโรงแต่ผมไม่รู้)
“ตกลงจะดูเรื่องไหนดีละ”

“ใจจริงอยากดูเรื่อง New World กับ Brock Back Mountain นะแต่ว่าเรื่องแรกยังไม่เข้าเรื่องหลังก็ฉายรอบสามทุ่มกว่าแนะ” ความจริงมีเรื่อง Ice age II ด้วยแต่ไม่กล้าบอกมันเพราะมันบอกว่าเรื่องนี้เหมาะสำหรับเด็ก ผมหละเซ็งจิตจริงๆ

“งั้นดูเรื่องนี้ดีกว่าเนอะ” มันชี้ไปที่ Inside man “เพิ่งเข้าด้วย  ฉายรอยหกโมงครึ่ง  พอดีเลยอีก 15 นาทีเอง  มีเวลาเข้าห้องน้ำก่อนด้วย  เอาไหม”

“แกชอบดูหนังแนวนี้เหรอ?”

“อืม!!  สนุกดี  ชอบฉากบู๊แอ๊คชั่นนะ”  เหมาะกับหนังหน้าโหดๆ ของมันมากกกกกกกกกส์

“ตามใจแกแล้วกัน”  ผมน่ะเป็นคนไม่ค่อยชอบดูหนังหรอกครับ  เบื่อบรรยากาศจากคนรอบข้างในโรงที่บางครั้งทำให้เสียอารมณ์เลิกอยากดูไปเลยก็ได้เพราะว่าอยากด่าคนที่ส่งเสียงน่ารำคาญอยู่ข้างหลังมากกว่า....

...ได้มาแล้วครับ ดูโรงแปด  ค่าตั๋วคนละ 8.50 ยูฯ แพงเหมือนกันเนอะ  แต่ไม่เป็นไรถือว่าหาประสบการณ์เอาก็แล้วกัน  แต่ว่าขนาดอยู่เมืองไทยมี Subtitle ให้ด้วยยังอ่านไม่ค่อยทัน  คราวนี้มีซับเป็นภาษาดัทช์ผมจะอ่านทันไหมนะ  แล้วจะดูกันรู้เรื่องไหมน้า  ภาษาอังกฤษผมมันก็ช่างดีเหลือหลายอยู่ด้วยสิ  ผับผ่า!!...  :try2:

20.43 น. บนถนนกลับบ้าน
“นายว่าหนังเมื่อกี้เป็นไงบ้าง?”

“บอกตรงๆ เลยนะว่า...ไม่ได้เรื่อง  สับสนวะ  นึกว่าจะบู๊ล้างผลาญ  ระเบิดกันแหลกลาญที่ไหนได้ดันมีตลกปนเสียด้วย” คือผมสังเกตเอาจากที่คนในโรงเขาหัวเราะกันนะครับ  ผมเลยเหมาว่ามันตลก   :confuse: แต่ที่ว่าสับสนนะเพราะมันตัดภาพไปมา  ผมฟังไม่รู้เรื่องอยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้วเลยยิ่งเวียนหัวไปกันใหญ่

“เดินเร็วๆ สิ  ฝนตกหนักลงมาแล้ว” จริงด้วยครับ  เมื่อกี้ตกลงมายังกะเหยี่ยวจักจั่นแต่ตอนนี้ผมว่าอาจมีสิทธิ์เปียกก่อนเดินถึงบ้านแน่เลยครับ  แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นครับ คือมันถอดเสื้อกันหนาวมันมาคลุมหัวให้ตัวมันเองกับผม “ขยับเข้ามาอีกสิ”

“เฮ้ย!!  ไม่ต้องก็ได้  เสื้อฉันก็มีหมวก”  ผมทำท่าจะขยับออกแล้วก็แกะหมวกที่มันม้วนเก็บอยู่ออกมา

“ไม่ต้องแกะเลย  ทำไมรังเกียจเหรอ?  จะเดินไปอย่างนี้ไม่ได้หรือไง”  แล้วผมจะทำไรได้ครับนอกจากเดินยิ้มอย่างเดียว  น้ำเน่าจริงๆ เลยแก...ไอ้บ้าโหด  ไอ้โหดของกรู
.............................................................


“หิวอะ  หาอะไรให้กินหน่อยสิ”

“ไม่รู้ว่ามีอะไรเหลือพอกินได้บ้าง  ตอนนายไม่อยู่เลยไม่ค่อยได้ซื้ออะไรมาเก็บไว้นะ” เมื่อบ่ายก็ไม่ได้ดูครับ  อาศัยว่าออกไปกินข้างนอกกัน

“เอาเหอะ!!  มีอะไรเหลือๆ ก็เอามาเหอะ  กินหมดแหละ”

“อืมมม...  แป๊บนะ  ไปดูในครัวก่อน” 
.............................................................

ผมคว้านหาได้แค่แกงจืดแตงกวายัดไส้หมูสับที่เหลือจากวันก่อนก็เลยจัดการอุ่นมาให้มัน  หากล้วยหอมได้มาอีกหนึ่ง  กับคุกกี้อีกนิดหน่อยเลยจัดการจัดใส่จาน  แล้วต้มน้ำร้อนรินใส่แก้วใส่ถุงชามาให้ด้วยอีกแก้ว  ส่วนตัวเองคว้าโยเกิร์ตในตู้เย็นมาราดสตรอเบอรี่แสนเปรี้ยวที่เพิ่งซื้อมากินกับชาร้อนๆ อีกแก้วล้างคาวปาก

“ขอบใจมากนะ  แต่ว่ามันจะกินได้หรอซุปอะไรของนายถ้วยนี้นะ” มันถามตอนลงมือจะกินแต่เห็นตะกอนในน้ำแกง  ก็ผมใส่ไข่ลงไปด้วยอะครับแล้วคนให้มันแตกๆ มันเลยจับตัวกันเป็นก้อนๆ ตกตะกอนเหมือนว่ามันบูดแล้วน่ะ

“กินได้สิ  เมื่อกี้ก็ชิมมาแล้ว”

“ไม่เชื่ออะ  แนคลองกินให้ผมดูก่อนสิ” มันตักไส้หมูในถ้วยยื่นมาจ่อตรงหน้า  เอ้า!! กินก็กินวะ  ไม่เห็นจะเป็นเลยเมื่อกี้ก็กินมาแล้ว  ยังไม่บูดเสียหน่อยทำไมจะไม่กล้ากิน 

“อามมมมม  อร่อยไหม?  ผมป้อน”

“..........” ผมเงียบไปเลยครับ  มันอิ่มอยู่ข้างในลึกๆ พิกล  พูดอะไรไม่ออก  ได้แต่ยิ้มให้มัน  :impress:

“เอาอีกคำนะ  จะได้ตัวโตๆ” 

แล้วผมจะรอดมือมันไปได้ยังไงครับแบบนี้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-12-2006 22:08:16 โดย oaw_eang »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด