วันนี้แอบอู้งานมาลงให้ค่าาาาา
พาน้องใจมาวิ่งเล่นติดๆกันเลย
จากตอนนี้เริ่มนับถอยหลังกันแล้วนะค่ะ
ขอบคุณที่ยังคงติดตามกันมาตลอดค่ะ
บทที่ 24
“ใจเอ๋ย...ป๊าไม่ว่างไปส่งนะวันนี้ พี่เวทย์ก็ไม่อยู่ เราไปเองได้ไหม?” ปาป๊าถามขึ้นหลังจากที่ร่างกลมเดินลงมาข้างล่าง เจ้าหนูขมวดคิ้วเล็กน้อย
“อ้าวเหรอครับ?” หันซ้ายหันขวาไม่เจอหน้ามารดาจึงถาม “แล้วหม่าม้าละครับ?”
“วันนี้แม่เขาเข้าสำนักพิมพ์น่ะ” นายประสิทธิ์ตอบ “วันนี้พ่อขอโทษทีนะ พ่อต้องไปทำธุระให้นายนะ” นายที่เจ้าตัวว่านั่นก็คือเจ้านายคนเก่าคนแก่คนเดิมนั่นเอง
“อ่า...งั้นป๊าไปทำธุระให้ลุงไตรเถอะครับ เดี๋ยวใจนั่งรถตู้ไปเองครับ” เจ้าลูกหมูรับคำเป็นมั่นเหมาะ ป๊าเลยหายห่วงแล้วบอกลาลูกชายก่อนไปทำงาน เจ้าหนูก็นั่งละเอียดนมหนึ่งแก้วก่อนจะตัดสินใจว่าจะไปหาอะไรกินที่มหาลัยแทน
หลังจากเรียบร้อยทุกอย่างเจ้าตัวกลมก็เดินข้ามมาอีกฝั่งตามความเคยชินเพราะว่าทุกเช้าต้องมาทักทายคนในบ้านใหญ่ก่อน ต่อให้ไม่มีใครอยู่อย่างน้อยก็สวัสดีป้าอุ่น พี่แตงไทยกับพี่จันทร์ก็ยังดี
ร่างกลมขาวเดินดุกๆเข้ามาในตัวบ้านเจอพี่ชายร่างสูงใหญ่กำลังนั่งจิบกาแฟอ่านหนังสือพิมพ์อยู่จึงปรี่เข้าไปมักอย่างร่าเริง
“ดีคร้าบบบ พี่ราชัน” เสียงใสๆดังขึ้นทำให้เจ้าของชื่อเงยหน้ามามองแล้วส่งยิ้มให้ เจ้าหนูเดินหน้าบานเข้าไปหา
“ไงครับคนเก่ง จะไปเรียนแล้วหรือ?”
“ครับ...เดี๋ยวใจนั่งรถตู้ไปครับ” เจ้าหนูตอบแต่เหมือนว่าพี่ใหญ่จะไม่ค่อยพอใจกับคำตอบเท่าไรนักเพราะพอน้องพูดจบเจ้าตัวก็ทำหน้านิ่ว
“อ้าว...อาประสิทธิ์ไม่ได้ไปส่งหรือ?” ชายหนุ่มถามเพราะเขานึกว่าบิดาของน้องชายจะไปส่งเพราะจอมเวทย์ไม่ว่างในเช้านี้
“ป๊ามีงานด่วนนะครับ เลยออกไปแล้ว” เจ้าหนูตอบก่อนรีบเสริมเพราะหน้าหล่อคมของพี่ชายดูไม่สบอารมณ์ “เดี๋ยวใจนั่งรถตู้ไปได้ครับ สบายมาก ถึงหน้ามอเลยครับ” ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าพี่ใหญ่ไม่ชอบให้นั่งรถตู้ เจ้าตัวบอกว่าบางครั้งรถพวกนี้ขับเร็วและอันตรายเพราะว่าคนขับจะได้รีบวิ่งไปกลับไวๆเพื่อเพิ่มรอบจำนวนการวิ่งให้ได้มากขึ้น บางครั้งก็เป็นรถตู้เถื่อนที่ไม่ได้จดทะเบียนอีก
จอมใจเริ่มใจเสีย หน้าเสียเมื่อเห็นพี่ราชันเงียบไปก่อนจะยิ้มกว้างกับประโยคถัดไป
“งั้นเดี๋ยวพี่ไปส่งครับ” แต่เจ้าหนูกลับทำหน้ามุ่ยอีกครั้ง
“แล้วพี่ราชันไม่ต้องไปทำงานหรือครับ?” เขาไปไม่อยากทำให้พี่ชายเสียงานการเท่าไร แม้ว่าจะเป็นลูกชายเจ้าของบริษัทแต่ว่ามันจะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้คนอื่นๆแล้วเขาจะว่าเอาได้
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่โทรบอกพ่อก่อนนะ” พูดจบมือใหญ่ก็หยิบโทรศัพท์มากดออก รออยู่พักหนึ่งก็อีกฝ่ายก็กดรับแล้วเจ้าตัวก็กรอกเสียงลงไป “พ่อครับ..นี่ผมนะ...เดี๋ยวผมเข้างานช้าหน่อยนะครับ...ครับ...ผมจะไปส่งน้องครับ...ครับๆ...สวัสดีครับ” พูดจบก็วางสายแล้วหันมาลูบผมสลวยเบาๆ “เรียบร้อยแล้วครับ”
“แล้วลุงไตรไม่ว่าหรือครับ?”
เสียงทุ้มหัวเราะเบาๆ ใครจะว่าอะไรในเมื่อคุณจอมไตรยังฝากมาบอกว่าพาน้องไปส่งให้ถึงที่มหาลัย “ไม่หรอกครับ ลุงไตรรักเราจะตาย เจ้าตัวยุ่ง” ขยี้ผมซะเลยนี่ เจ้าหนูก็หัวเราะคิกคักๆ
เจ้าหนูสบายไปหลายตลบเพราะไม่ต้องนั่งรถไปเรียนเองแถมมีสารถีสุดหล่อสุดเลิฟมาส่งอีกต่างหากแหนะ เมื่อรถยนต์คันสวยแล่นมาถึงหนาตึกคณะ เจ้าลูกหมูก็ลงจากรถ แถมยังมีการลากร่างสูงใหญ่ลงมาด้วยด้วยเหตุผลว่า
“เลี้ยงข้าวเช้าหน่อยครับ” ว่าแล้วก็ยิ้มแหะให้ พี่ชายส่ายหน้าปลงก่อนดุนหลังเจ้าลูกหมูให้ออกเดินนำไปที่โรงอาหาร
ภาพร่างสูงใหญ่ในชุดสูทที่แตกต่างจากชาวบ้านชาวช่อง ดับรัศมีของเด็กนักศึกษาเสียจนมืดมน สาวๆก็มองเหลียวหลังกันคอแทบเคล็ด จอมใจทำหน้ามุ่ยเล็กจนร่างสูงถาม “เป็นอะไรครับ?”
“ก็นะ...ใจไม่ค่อยชอบเวลามีคนมองนะครับ เดินกับพี่เวทย์ก็โดนมอง พอมาเดินกับพี่ราชันยังจะโดนมองอีก เฮ้อ...มีพี่ชายหล่อทำไงได้ละเนี่ย” พูดเหมือนปลงตกแต่หากเจ้าหนูไม่รู้หรอกว่ากริยาแบบนี้ทำเอารอยยิ้มกว้างของพี่ชายผุดขึ้นมาเอ็นดู
น้องน้อยของเขานี่ช่างน่ารักน่ากอดเสียจริง เจ้าตัวกลมทำอะไรพูดอะไรเขาก็ว่ามันน่าเอ็นดูไปหมด
ทั้งสองคนไปยืนแถวอยู่ร้านขาวข้าว น้องสั่งอย่างหนึ่ง พี่ชายสั่งอีกอย่างหนึ่ง มือใหญ่ถือจานข้าวทั้งสองจานออกมาหาที่นั่ง ตอนที่กำลังจะกินข้างเสียงคุ้นหูก็ดังขึ้นด้านข้าง
“อ้าว...พี่ราชัน?” จอมเวทย์ที่อยู่ในชุดช็อปสำน้ำเงินเข้มยืนทำหน้างงงวยอยู่ ก็...ใครจะไปคิดว่าพี่ชายนักธุรกิจจะมานั่งกินข้าวในโรงอาหารมหาลัยน่ะสิ
“อ้าว...ว่าไง” พี่ใหญ่ทักบ้าง น้องชายคนที่สี่ทรุดตัวนั่งข้างเจ้าลูกหมู พลางแย่งช้อนกินข้าวของน้องมาหน้าตาเฉยก่อนตักข้าวคำโตเข้าปาก จนเจ้าหนูร้องแหวใส่
“อึ้ย...พี่เวทย์อย่ามาแย่งเขากินสิ นิสัย...” หน้ากลมเบ้บูด แย่งช้อนคืนมา
“โหย...แค่นี้งกไปได้”
“อย่าแย่งน้องเวทย์...จะกินก็ไปซื้อใหม่” จอมราชันทนไม่ได้ที่น้องน้อยโดนแกล้ง มือใหญ่วางเงินหนึ่งร้อยบาทบนโต๊ะ เจ้าน้องชายสุดกวนก็ยักคิ้วก่อนจะคว้าเงินไป
หลังจากทั้งสามคนอิ่มหนำสำราญพี่ใหญ่ก็เดินกลับไปส่งน้องที่หน้าคณะ ส่วนจอมเวทย์ขอแยกตัวไปคณะตัวเองบ้าง
+++++++++++++++++++++++++++++++++++
ด้านพี่ใหญ่ของบ้านหลังจากทำภารกิจระดับชาติโดยการส่งน้องน้อยที่มหาลัยเรียบร้อยแล้ว เจ้าตัวก็ขับรถมาที่ทำงานตามความเคยชิน
ร่างสูงใหญ่ของท่านรองประธานหนุ่มสุดหล่อสะกดสายตาเหล่าพนักงานคนอื่นๆได้ไม่บากโดยเฉพาะผู้หญิง แต่ยังไม่มีใครสามารถครอบครองใจของหนุ่มโสดวัยสามสิบสองปีผู้นี้ได้เสียที จนออกมีข่าวลือมากมายต่างๆนานา แต่เจ้าตัวหาได้สนใจไม่ยังคงทำหน้าที่ของตนอย่างดีเยี่ยม ทั้งบริหารงาน บริหารเงิน
ด้วยความที่ว่ามีเพื่อนสนิทอยู่เพียงสองคนในที่ทำงานเท่านั้นคือ...ชินกฤตกับจักรภพ ทำให้ใครต่อใครแอบเอาไปคิดกันเองว่าพวกเขาสามคนจะดองกันเอง
...หึ...
...รอไอ้ชินมีผัวก่อนเถอะ...
ท่านรองหนุ่มขึ้นลิฟท์มาให้ส่วนของห้องทำงานตัวเองที่อยู่ชั้นที่สามสิบของอาคาร หน้าห้องมีโต๊ะของคุณเลขามีอายุหน่อย ทำงานกับเขามาหลายปี
“มาแล้วหรือค่ะ” ทักทายเจ้านายอย่างเคยชิน
“ครับ ผมขอกาแฟร้อนแก้วหนึ่งครับ” พูดเสร็จก็เดินเข้าห้องทำงานของตัวเอง
นั่งตรวจเอกสารได้เพียงครู่เดียว เสียงโทรศัพท์ที่ตั้งอยู่บนโต๊ะทำงานก็ดังขึ้น เขารู้ทันที่ว่าเป็นคนใกล้ตัวเพราะคนที่รู้เบอร์สายตรงของห้องทำงานเขานอกจากบิดาแล้วก็มีเพื่อนสนิทสองคน เลขาและคนที่บ้านเท่านั้น แต่ว่าครอบครัวเขารู้ดีและไม่กวนเขาทำงานอย่างแน่นอน ส่วนมากจะโทรเข้ามือถือเขามากกว่า เขาเดาว่าไม่เป็นบิดาก็เพื่อน
“สวัสดีครับ...พ่อหรือครับ...ครับ ได้ครับ...เดี๋ยวผมขึ้นไปหาครับ” อย่างที่เขาเดาบิดาเขาโทรมาหา เรียกให้ไปพบที่ห้องทำงานของท่านตอนนี้
ร่างสูงใหญ่ขึ้นมาอีกเพียงสามชั้นก็ถึงห้องท่านประธานใหญ่ ด้านข้างเป็นห้องของเลขาสารพัดนึกอย่างคุณอาประสิทธ์ ปาป๊าของเจ้าลูกหมู
มือใหญ่เคาะประตูห้อง พอด้านในอนุญาต ชายหนุ่มก็เปิดประตูเข้าไป
หากแต่...
ในห้องนั้นไม่ได้มีแค่บิดาตัวเองคนเดียวเท่านั้น
+++++++++++++++++++++++++++++++++++
เอ๊ะแล้วใครอยู่ด้วยกันนะ???
TBC.
เจอกานตอนหน้าค่า