สวัสดีค่ะ
วันนี้มาต่อให้แล้วนะค่ะหลังจากที่ปล่อยให้ทุกท่านทั้งลุ้น ทั้งเกร็งไปหมด
ในสิบปีที่ผ่านมามันเกิดอะไรขึ้นกับพี่ราชันและพลอยกันแน่นะ
เชิญติดตามกันได้เลยค่ะ
และสัญญาว่าตอนหน้าน้องใจจะมาแน่นอนค่ะ

บทที่ 20 (3)
[/b][/size]
ตอนนี้ผมคบกับพลอยมาได้เกือบสองปีแล้ว ผมยังคงทำงานอยู่ในบริษัทเดิมและพลอยก็จบการศึกษาจากคณะและสถาบันเดียวกับผมนั่นแหละ และเธอกำลังจะเข้ารับปริญญาในอีกไม่กี่อาทิตย์ข้างหน้า
ผมก็อายุยี่สิบสองแล้วครับ พลอยก็อายุเท่ากัน เรายังคงเป็นแฟนกันที่ใครๆก็ต่างอิจฉา แม้ว่าเราจะไม่ได้หวานเหมือนคู่อื่นๆแต่เราก็อยู่กันด้วยถ้อยทีถ้อยอาศัย
พลอยกำลังเข้าทำงานในบริษัทส่งออกแห่งหนึ่ง ผมก็ดีใจกับเธอด้วยที่เธอได้ทำงานตรงสาขากับที่เธอเรียนมาและเงินเดือนก็ดีเหมือนกัน
อ้อ...ตั้งแต่เล่ามา...ผมยังไม่เคยเล่าเรื่องทางฝั่งครอบครัวพลอยเลยใช่ไหมครับ เอาตามจริงพลอยพ่อแม่ของพลอยเสียไปได้หลายปีแล้วครับ เธออาศัยอยู่กับป้าซึ่งเป็นพี่สาวของแม่...ป้าแดง...หญิงวัยห้าสิบกว่าๆที่ใจดีและยึดถืออาชีพขายอาหารตามสั่งใกล้ๆออฟฟิซย่านสีลม บางครั้งเธอก็ไปช่วยป้าแดงบ้างเป็นบางครั้งรวมถึงผมด้วย วันไหนว่างๆผมยังพาน้องมาทานข้าวที่ร้านบ้าง น้องๆผมชมเปาะว่าอร่อยเหาะ
...ผมรู้สึกว่าทุกวันที่ผ่านมามันก็มีความสุขดีตามแบบมนุษย์ทั่วไป...
...จนกระทั่ง...
...มีเรื่องบางอย่างมาทำให้ผมรู้สึกเปลี่ยนไป...
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
หลังจากที่พลอยเข้าทำงานในบริษัทแห่งหนึ่ง พ่อผมก็เอ่ยปากว่าถึงเวลาที่ผมจะต้องเข้ามาศึกษางานที่บริษัทของครอบครัวแล้ว ผมลาออกจากบริษัทเอกชนแห่งเดิมและเข้ามาทำงานในบริษัทของบิดาในฐานะพนักงานใหม่ในแผนกการเงิน
แม้ผมจะไม่ได้เรียนจบมาทางสายนี้โดยตรงแต่ก็พอทำได้อยู่บ้างและอีกอย่างก็ไม่มีใครรู้ด้วยว่าผมเป็นลูกชายเจ้าของบริษัทเพราะทุกคนจะรู้จักผมแค่ชื่อเท่านั้น และในบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งนี้คงไม่มีใครมีเวลามานั่งถามชื่อแซ่กันหรอกแต่ละคนก็มีหน้าที่การงานของตัวเอง
ผมเข้ามาทำได้ประมานหนึ่งเดือนแล้ว ส่วนพลอย...แฟนสาวผมก็กำลังยุ่งกับการปรับตัวให้เข้ากับงานอยู่ เราสองคนเลยมีเวลาอยู่ด้วยกันน้อยลง ที่ทำงานของพลอยและของผมก็ห่างกัน
แม้แต่เสาร์อาทิตย์ผมก็ต้องเปลี่ยนหน้าที่จากพนักงานต๊อกต๋อยกินเงินเดือนมาเป็นลูกน้องของอาประสิทธ์ในท่านช่วยสอนงานให้เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับตำแหน่งใหม่ของผม
...ผมกับพลอยเราเลยห่างกันไป...
แต่เราก็มีโทรศัพท์หากันเป็นครั้งคราว...จากเกือบทุกวัน...เป็นอาทิตย์ละสามสี่วัน...สองอาทิตย์ครั้งสองครั้ง...จนกระทั่งจำนวน
ครั้งลดลงจนหายไป...
ผมขมวดคิ้วอยู่กับโทรศัพท์เมื่อผมต่อสายถึงพลอยแล้วเธอปิดเครื่อง เย็นวันนั้นผมเลยตัดสินใจไปรอเธอที่บ้าน
ป้าแดงอยู่บ้านพักผ่อนเพราะท่านปิดร้านวันนี้ ผมนั่งคุยเล่นเป็นเพื่อนท่านจนมารู้ตัวอีกทีตอนที่มีรถคันสีดำมันวาวมาจอดที่หน้าบ้าน ผมเห็นผู้ชายร่างสันทัดคนหนึ่งเดินลงมาจากรถและเดินอ้อมมาอีกฝั่งแล้วเปิดประตู พลอยก้าวออกมาจากแล้วส่งยิ้มให้ ผมยังคงมองสองคนนั้นอยู่ บอกตามตรงผมไม่ได้คิดมาอะไร นี่ไม่ใช่ละครหลังข่าวที่พอเห็นแฟนตัวเองมากับคนอื่นจะต้องหึงหวงหรือโกรธเป็นฟืนไฟ
พอพลอยเดินเข้ามาในบ้าน เธอดูตกใจเล็กน้อยที่เห็นผมอยู่ในบ้าน
“อ้าว...ราชันมาได้ยังไงเนี่ย?” เธอถามผมหลังจากที่แอบอึ้งเล็กๆ
ผมยิ้มนิดๆ “ว่าจะพาพลอยไปทานข้าวนะ” ตาแอบเหล่นาฬิกานิดๆ สามทุ่มตรงคงดึกไปแล้ว
ใบหน้าสวยทำหน้าหงอยๆ “คือ...คือพลอยกินมาแล้วน่ะ”
ผมก็พอจะเดาถูก เธอคงไปกินกับผู้ชายคนนั้น ผมผิดเองที่ไม่บอกเธอล่วงหน้า
“อืม...”
“ราชันอย่าเข้าใจผิดนะ ผู้ชายคนนั้นเป็นเพื่อนรุ่นพี่ที่ทำงานของพลอยน่ะ เขาเห็นพลอยจะกลับบ้าน เขาเลยอาสามาส่งเพราะ
ทางเดียวกัน แล้วเราเลยหาอะไรกินก่อนกลับน่ะ” เธอรีบบอกผม อาจจะเพราะกลัวผมคิดมาก เสียงเธอดูร้อนรนยังไงชอบกล
“พลอยไม่รู้ว่าราชันมารอพลอย พลอยขอโทษ”
ผมไม่ได้อะไรมากอยู่แล้วจึงยิ้มแล้วบอกเธอว่าผมไม่ได้อะไร พลอยมีสีหน้าดีขึ้นมาหน่อยหนึ่ง คืนนั้นผมนอนค้างบ้านพลอยเพราะเธอบอกว่าผมจะได้ไม่ต้องขับรถดึกๆ คืนนั้นเธอชดเชยให้ผมอยู่นานค่อนคืนเพราะเราไม่เจอกันมาหลายอาทิตย์
สำหรับเรื่องเซกส์นั้น คนเป็นแฟนกันมันก็ต้องมีเป็นธรรมดา เป็นธรรมชาติ เราสองคนมีอะไรกันตั้งแต่พลอยเรียนจบ เพราะผมไม่อยากให้มีปัญหาเกิดขึ้นระหว่างที่เราสองคนเรียนอยู่ ตอนเรามีอะไรกันครั้งแรกผมก็พอรู้ว่าผมไม่ใช่คนแรกของพลอยแต่เรื่องนี้ผมถือว่ามันเป็นอดีตของแต่ละคน ผมไม่ต้องการขุดคุ้ยขึ้นให้เป็นเรื่องกระอักกระอวลของทั้งสองฝ่าย เรื่องนี้สำหรับผู้ชายเป็นเรื่องปกติ ผมมีอะไรกับผู้หญิงตั้งแต่ม.ปลาย
แม่ผมก็สอนเรื่องนี้อยู่เสมอแม้ว่าเราจะไม่ได้เสียเปรียบแต่เราก็ควรให้เกรียติผู้หญิง เรื่องของพลอยนั้นผมค่อนข้างจริงจังและเราสองเคยวางแผนกันถึงเรื่องอนาคตและการแต่งงาน ผมจึงถือว่าที่เราสองคนมีอะไรกันถือเป็นความสุขสองเราสองคนและผมจริงจังและพร้อมจะรับผิดชอบ
หลังจากวันนั้นผมก็หมั่นไปหาพลอยเพื่อให้เรามีเวลาอยู่ด้วยกัน
...จนวันนั้น...
ผมไปหาพลอยในวันเสาร์ผมเจอพลอยนั่งเหม่อลอยอยู่ตรงโซฟาผมเรียกเธอก็ไม่ตอบ จนผมเข้าไปใกล้ๆนั้นแหละเธอถึงสะดุ้ง
เฮือกรู้สึกตัวขึ้นมา
“พลอยเป็นอะไรหรือเปล่า? ทำไมหน้าซีดๆ” ผมถาม
หญิงสาวหลุบสายตา “ไม่มีอะไรหรอก”
“พลอยเป็นอะไร? บอกผมสิ เรื่องที่ทำงานหรือเปล่า”
แต่อีกฝ่ายส่ายหน้า “พลอยแค่เครียดๆนิดหน่อยนะ”
ผมก็ไม่ได้เอะใจอะไร คิดว่าเธอคงแค่เครียดๆเท่านั้น
หลังจากวันนั้นพลอยก็ดูเปลี่ยนไป เธอมักจะไม่ค่อยรับโทรศัพท์ผมเท่าไร ผมพยายามโทรไปหลายครั้งแต่เธอก็ไม่รับ พอไปที่บ้านป้าแดงก็ทำท่าอึกอักแล้วก็บอกว่าพลอยไปข้างนอกบ้างละ...ไม่อยู่บ้างละ...ไม่ก็ทำงานเลิกดึกบ้างละ...
ผมไม่ใช่คนโง่ที่จะไม่รู้ว่าพลอยตั้งใจจะหลบหน้าผม!!
...เพียงมันเพราะอะไรกันละ?!!!!...
ผมตัดสินใจไปหาพลอยในวันถัดมาโดยที่ผมเลือกเวลาดึกขึ้นเผื่อพลอยจะกลับมาจากที่ทำงานแล้ว
วันนั้นเกิดอะไรไม่รู้ ผมถึงตัดสินใจจอดรถให้ห่างจากหน้าบ้านเล็กน้อย ก่อนเดินผ่านประตูเล็กๆที่ยังไม่ได้ล็อกเข้ามาในบ้านอย่างคุ้นเคย แต่หากเสียงพูดคุยดังเล็ดลอดออดมาจากในบ้าน
“พลอย...แกจะทำแบบนี้ไปถึงเมื่อไร?” เสียงที่ผมจำได้ว่าเป็นของป้าแดงดังขึ้นมา ก่อนจะได้ยินของหญิงสาวที่ผมไม่ได้ยินมานาน
“เอาน่าป้า...ป้าให้เวลาฉันหน่อยสิ”
“แต่แกทำอย่างนี้มันไม่ค่อยถูกต้องนะ...ฉันว่าแกรีบบอกจอมราชันเขาไปเถอะ เขาคงพร้อมที่ช่วยแก”
“แต่ฉันยังไม่พร้อมนะป้า ให้เวลาฉันก่อนละกัน” ผมได้ยินพลอยตัดบทผู้เป็นป้าแล้วก็เสียงเหมือนจะเงียบไป ผมเดาว่าทั้งสองคนคงเลิกคุยเรื่องนี้
ผมยังยืนนิ่งไม่ไปไหน...ในสมองพยายามคิดเรื่องที่ทั้งสองนั้นสนทนากัน
...พลอยมีอะไร?...
...เธอกำลังปิดบังอะไรผมอยู่?...
ผมเก็บความสงสัยเอาไว้ ผมตัดสินกลับบ้านในตอนนั้นเพราะไม่อยากไปเซ้าซี้เธออะไรตอนนี้ ผมย้อนกลับมาคิดทบทวนว่าเรื่องอะไรจะทำให้พลอยถึงกับมีเรื่องปิดบังผม แต่ผมเชื่อใจเธอจึงรอให้เธอเป็นฝ่ายเดินมาบอกผมด้วยตัวเองจะดีกว่า
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“เฮ้ย...ราชันไปกินข้าวที่ร้าน...กัน” ชินมันชวนไปกินร้านประจำที่เราชอบไปกินกันสมัยมหาลัย
ผมตกลงก่อนจะบอกพวกมันให้ไปก่อนเพราะผมยังทำงานไม่เสร็จ พวกมันโอเคแล้วออกไปก่อน ผมนั่งแท็กซี่ตามพวกมันมาที่ร้านในอีกครึ่งชั่วโมงให้หลัง ที่นั่งแท็กซี่ก็เพราะผมให้ลุงทศช่วยเอารถกลับบ้านไปก่อนและค่อยให้ไอ้ชินวนไปส่งผมเพราะบ้านมันอยู่ทางเดียวกัน
ผมลงจากรถและกำลังจะเดินเข้าร้านไปแล้ว หาก...ผมไม่ได้ยินเสียงคนคุยกันที่สวนสลัวๆของร้านที่มีม้าหินสองสามตัววางอยู่
ผมชะงักเพราะว่าเสียงหนึ่งในนั้นมันคือเสียงของ...พลอย!!!
“แกมีปัญหาอะไรน่ะพลอย ทำไมช่วงนี้แกออกมาเมาบ่อยมาก” เสียงผู้หญิงที่ผมไม่คุ้นเคยดังขึ้น
“ช่างเถอะ ฉันกำลังเครียด” เสียงของพลอยฟังดูแข็งๆ
“แกจะเครียดอะไรนักหนาฮะ...แฟนแกเลี้ยงไม่ดีหรือไง?”
“เหอะ...ฉันเซ็งเขาจะแย่” พลอยตอบซึ่งทำเอาผมถึงกับอึ้ง
...พลอยเซ็งผม?...
...แต่ว่ามันเรื่องอะไรกันละ?...
“ทำไมยะ ฉันก็เห็นเขาก็ดูแลแกดีจะตาย”
“ก็ใช่ แต่แบบเขาชอบทำตัวเป็นพนักงานต๊อกต๋อยอย่างไปเป็นลูกจ้างชาวบ้านบ้างละ ขนาดพอกลับไปทำที่บริษัทของที่บ้านยังต้องไปเริ่มต้นจากพนักงานกินเงินเดือนธรรมดา” มาถึงตรงนี้ผมเริ่มกำหมัดแน่น “ฉันอุตส่าห์ว่าจะได้ยืดบ้างเวลาบอกว่ามีแฟนเป็นถึงเจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่ประมานนี้ ไม่ใช่เป็นขี้ข้าชาวบ้านอยู่ได้”
ผมรู้แค่ว่าตอนนั้นตัวผมแข็งค้างไปหมด ผมไม่รู้เลยว่าตอนนั้นผมยืนฟังต่อไปได้อย่างไร
“แต่ตอนนี้แกท้องกับเขาแล้วไม่ใช่หรือ?”
ว่าอะไรนะ????
...พลอยท้อง???...
หูผมอื้อไปหมดตอนนั้น พลอยท้องกับผม ซึ่งผมก็ว่ามันเป็นไปได้เพราะบางครั้งเราไม่ได้ป้องกันอะไรขนาดนั้นเพราะผมรู้สึกว่าผมพร้อมที่จะรับผิดชอบเธอมากพอแล้ว
“หึ...พูดถึงเรื่องนี้แล้วฉันจะบ้า...ฉันยังไม่ได้อยากมีลูกสักหน่อย ฉันยังสาวยังสนุกกับชีวิตอยู่ยะ” ผมหนาวเยือก “อีกอย่างมีพ่อที่ยังเป็นแค่พนักงานทำงานงกๆ ลูกฉันจะสุขสบายได้ไง”
อย่าบอกนะว่า!!!
“อย่าบอกนะว่าแกไปเอาเด็กออก!” เพื่อนของพลอยถามอย่างตกใจ
ผมเห็นใบหน้าที่ผมเคยคิดว่าสวยน่ารักกำลังแสยะยิ้ม “ก็ใช่นะสิ!!!!”
!!!!
ผมเบิกตาค้าง
...พลอยท้อง...
...แต่ตอนนี้...
...เธอทำแท้ง...
...เธอลงมือฆ่าเด็กตัวน้อยที่ไม่รู้เรื่องราวอะไรเลย...
...ที่สำคัญคือ...
เด็กคนนั้น...เป็นลูกของผม...
...เธอฆ่าลูกของผม...
แม่แท้ๆลงมือฆ่าลูกตัวเองได้ลงคอ
...แม้แต่เดรัจฉานยังไม่ทำ...
ผมตัวสั่นเทิ้ม ผมรู้ดีว่าร่างกายผมตอนนี้กำลังถึงขีดสุด ใจผมสั่งไม่ให้พุ่งออกไปฆ่าผู้หญิงคนนี้
“เฮ้ยแก...มัน...” เพื่อนของพลอยดูอึกอัก
“ฉันเล่าให้แกฟังแล้วแกอย่าไปเล่าให้แกฟังเชียวละ” ผู้หญิงเลวคนนั้นยิ้มแสยะ “และฉันว่าฉันจะบอกเลิกเขาเร็วๆนี้แหละ สามสี่ปี
ที่ผ่าน ฉันถือว่าเป็นแค่การเล่นสนุกเพื่อฆ่าเวลาก็แล้วกัน...” เมื่อจบการสนทนาทั้งสองก็ขึ้นรถก่อนที่จะขับออกไป
ผมยังคงยืนค้างอยู่ตรงนั้น ก่อนจะตะโกนดังลั่นร้าน
“อ๊ากกกกกกกกกกก!!!” ผมร้องลั่นไล่แตะต้นไม้ไปเรื่อยๆ ตอนนั้นสติผมแทบไม่เหลืออะไร ผมรู้แค่ว่าผู้หญิงคนนั้นฆ่าลูกของผม จนคนในร้านวิ่งออกมาดู บ้างบอกว่าผมบ้าแต่ใครจะสน จนไอ้ชินกับไอ้จักรมันมา ผมยังคงอาละวาดจนไอ้จักรต้องมาล็อคตัวผมเอาไว้แล้วไอ้ชินเอาน้ำราดใส่
“มึงเป็นบ้าอะไร?!!!” มันตวาดผม ผมที่ผมเผ้าหน้าตาเปียกเงยมองมันอย่างแค้นเคือง นัยน์ตาผมแดงก่ำ รู้สึกร้อนที่ตา เพื่อนผมสองคนถึงกับอึ้ง
ในที่สุดพวกมันสองคนก็พาผมออกจากร้าน แล้วขอโทษขอโพยทางร้านที่ทำให้วุ่นวาย ไอ้ชินจับผมยัดใส่รถพาไปที่คอนโดของไอ้จักร
ระหว่างทางพวกมันเหลือบมองผมที่นั่งนิ่งเป็นหุ่นตายซากอยู่ด้านหลัง พอถึงผมเดินลงจากรถเหมือนคนใกล้ตาย ผมรู้แค่ว่าผมเสียใจมากที่พลอยทำแบบนี้
...เธอไม่รักผมหรืออย่างไร?...
คืนนั้นผมเมามายหลับไปไม่รู้เรื่อง ผมตื่นมาในอีกวันกับความจริงที่โหดร้ายว่าเรื่องที่ผมฟังเมื่อวานเป็นเรื่องจริง ผมไม่ได้ฝันไป
เพื่อนสองคนก็ไม่ได้ถามอะไร พวกมันรอให้ผมพร้อมที่เล่า
ช่วงนั้นผมเกือบเป็นคนเสียสติ ผมไม่กลับบ้าน ไม่ไปทำงาน ครอบครัวผมก็เป็นห่วงแต่ว่าไอ้ชินมันไปคุยให้แล้วที่บ้านผมก็พอเข้าใจ
ผมนั่งคิดทบทวนอยู่หลายอย่างจนจิตใจผมเริ่มสงบลง ไอ้ชินมันเอาธรรมะมาผมฟังทุกวัน เอาจริงๆมันช่วยได้เยอะมาก ผมได้คิดได้เปิดใจอะไรหลายอย่างและเริ่มปล่อยวาง ผมมานั่งคิดทบทวนว่าจะเอาอย่างไรต่อไปดี ผมรู้ถึงความจริงและความรู้สึกของพลอยแล้ว
...เมื่อก่อน พลอยอาจจะชอบผมจริง...
...แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว...
...เธอเปลี่ยนจากผู้หญิงน่ารัก นิสัยดี...
...เป็นหญิงสาวใจคอโหดเหี้ย ที่ฆ่าได้แม้กระทั่งลูกของตัวเอง!!!!...
ผมไม่มีทางใช้ชีวิตร่วมกับเธอได้แน่นอน
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ผมใช้เวลาเกือบสองอาทิตย์ในการกลับมาเป็นคนคนเดิม ผมตัดสินเล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนทั้งสองคงฟัง แต่ไม่ได้เล่าให้ที่บ้านฟัง
ผมไม่ต้องการให้ที่บ้านผมมารับรู้เรื่องที่ว่าหลานของครอบครัวได้จากไปแล้วด้วยฝีมือของผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ให้กำเนิด ถ้าที่บ้านรู้ผมว่าได้ช็อคไปตามๆกัน
ในที่สุดวันที่ผมรอคอยก็มาถึง...
...วันที่ผมจะหลุดพ้นจากยัยแม่มดใจเหี้ยม...
...ในเมื่อ เธออยากเลิกกับผม...
...ผมคนนี้จะบอกลาผู้หญิงเลวคนนี้เอง...
พลอยนัดเจอผมในร้านอาหารแห่งหนึ่ง เธอแต่งตัวสวยน่ารัก ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงจะพูดแบบนี้ แต่ตอนนี้...ไม่ใช่อีกแล้ว!!
“ไงราชันไม่เจอกันนานเลย พลอยคิดถึงจัง” เธอยิ้มหวาน แต่ตอนนี้ผมรู้สึกสะอิดสะเอียนเหลือเกิน เธอปั้นหน้าอยู่ได้อย่างไรเนี่ย
ผมแทบจะทำไม่ถูก
“อืม...” เธอดูแปลกใจนิดๆกับท่าทางของผม แต่ผมไม่สนใจ
“นั่งก่อนสิราชัน สั่งอะไรกินกันก่อนไหม?”
“อืม...” ผมนั่งลงตามที่เธอบอก แต่ไม่ได้ทำอะไรมากกว่านั้น
ผมนั่งดูเธอไปเรื่อยๆว่าผู้หญิงคนนี้จะเปิดฉากเมื่อไร และในที่สุดความหวังผมก็เป็นจริงเมื่อ...
“ราชัน...พลอยมีเรื่องจะบอก...” เธอเงียบไปนิดหนึ่ง “พลอยว่าพลอย...ไม่คู่ควรกับราชันหรอก...เราเลิกกันเถอะ!!”
ในที่สุดเธอก็พูดออกมา
“ทำไม?” ผมแกล้งถามเสียงเรียบทั้งที่ก็พอจะรู้คำตอบอยู่แล้ว
“เพราะ...พลอยมันจนไม่คู่ควรกับลูกชายเจ้าของบริษัทหรอก”
...โกหก!!!...
...เธอมันแม่มดสองหน้าชัดๆ...
“ถ้าอย่างนั้นผมก็ยินดี”
“ราชันไม่เสียใจใช่ไหม?” เธอถาม
หึ...จะให้เสียใจกับคนอย่างเธอนะหรือ?...
“ถ้าพลอยต้องการอย่างนั้น ผมก็ไม่ขัด” ว่าแล้วผมก็ลุกขึ้น “ต่อจากนี้...ขอให้พลอยโชคดี”
“ราชัน...” เธอเรียกแต่ไม่ได้พูดอะไร
ผมชะงักก่อนหันกลับมา “ต่อไปนี้อย่ามาเรียกผมว่าราชันอีก ผมชื่อจอมราชัน” ใช่ผมชื่อจอมราชันผู้ไม่เคยอ่อนแอให้กับคนแบบนี้
หลังจากผมเลิกกับเธอ ผมก็ลบความทรงจำทุกอย่างเกี่ยวกับเธอ ลบเบอร์ทิ้ง นำสิ่งของทุกอย่างไปทิ้งเพื่อไม่ให้ของสกปรกเหล่านั้นมาทำให้รกสายตา
ที่บ้านผมรับรู้แค่ว่าผมกับพลอยเราจากกันด้วยดี เพื่อนผมก็บอกว่ายินดีที่ผมเลิกกับเธอ
ผมถือโอกาสมาทำบุญที่วัดเพื่อปัดเป่าเรื่องร้ายออกไป รวมถึงตักบาตรอุทิศส่วนกุศลไปให้ลูกของผมให้เขาไปเกิดในภพภูมิที่ดี
...ขอให้หลับให้สบายนะลูกพ่อ...
...พ่อรักลูกเสมอ...
TBC
และแล้วเรื่องราวของพี่ราชันก็เปิดดเผย
เจอกานตอนหน้านะค่ะ