☆☆Magica Café☆☆ ตอนพิเศ๊ษ พิเศษ มาอ่านกันเต๊อะ (30/08/2556)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ☆☆Magica Café☆☆ ตอนพิเศ๊ษ พิเศษ มาอ่านกันเต๊อะ (30/08/2556)  (อ่าน 122220 ครั้ง)

ออฟไลน์ TinyB

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 522
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-0
คู่เพื่อนสนิทออกมากะจิ๊ดดดดดดดดดเดียวเองง่าา  :katai1:

ออฟไลน์ Naenprin

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-1
ไวน์นี่ร้ายเกินไปแล้วนะยะ อย่ายุ่งกับปอมปอมของชั้นเด็ดขาด

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
เรื่องไวน์ ป๋าก็ควรจะบอกตรงๆนะว่ามีแฟนแล้ว เขาไม่รู้ความจริงก็ฝันหวานไปแล้วน่ะสิ :เฮ้อ:
ปอมปอมน่ารักจริง ขนาดหึงยังน่ารักเลยอ่า :man1:
คู่เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อก็หวานขึ้นเรื่อยๆเลยนะ :z1:

ออฟไลน์ greensnake

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +920/-14
แม้จะมีเรื่องเครียดแค่ไหนกะปอมน้อยก็สามารถทำให้ยิ้มได้เสมอ
แต่เรื่องของตัวเองนี่สิ ไม่รู้ว่าจะอาละวาดหรือเปล่า :laugh:
งานจะเข้าป๋าแล้ว ถ้าขืนยังไม่บอกเขาไปว่ามีแฟน(เด็ก)แล้ว
มันเท่ากับให้ความหวังฝ่ายโน้นด้วย ดูท่าทางไวน์ก็เป็นคนดี
ถ้าผิดหวังคงน่าสงสารอยู่ อย่างนี้ต้องหาคนมาดูแลไวน์ซะล่ะมั้ง
แต่ไม่ต้องหาให้ตี๋น้อยนะ เพราะเค้ามีเพื่อนสนิทดูแลกันอยู่แล้ว :-[
อ่านตอนนี้แล้วเห็นความรักของพ่อกับแม่เลยล่ะว่ามันยิ่งใหญ่ขนาดไหน
เด็กๆในเรื่องโชคดีนะที่ครอบครัวเข้าใจ แม้ตอนแรกจะรับไม่ค่อยได้ก็เถอะ
ในที่สุดก็ได้เห็นว่าความรักและความสุขของลูกมาเป็นที่หนึ่งเสมอ
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :กอด1:
+1และเป็ดน้อยจ้า

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
อิหนูไวน์น่าสงสารหาคู่ให้หน่อยเร็ว :z2:

fay_13

  • บุคคลทั่วไป
อืมมมม จะสงสารหรือรอสมน้ำหน้าสองสาวนั่นดีล่ะเนี่ย ยังไงๆ ก็ไ่ม่สำเร็จร้อกกก  :laugh:

อิป่า... ป๋าก็บอกไปเด่ะว่ามีแม่ทูนหัวแล้วอ่ะ ปากอ่ะ จะหนักไปไหนยะ  :beat: :beat:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
เพิ่งได้อ่านเรืีองนี้
อยากรู้ว่าปอมน้อยจะจัดการยังไง 5555

ออฟไลน์ YOSHIKUNI RUN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
 ไวท์ อย่าทำอะไรเสี่ยงๆนะ 
เดวเป็นตัว ร้าย หรอก ไม่ไดีๆ  :katai3:

เดวเราช่วยหาคู่ ให้ :hao3:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-07-2013 20:50:37 โดย YOSHIKUNI RUN »

ออฟไลน์ cinquain

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-0
อ่านตอนนี้แล้วอยากจับชีวาเขย่าๆให้เวียนหัวเลย!!
มัวแต่หลงตัวเองว่าหล่อมีคนมาชอบอยู่นั่นล่ะ ขอชัดเจนหน่อยสิ
คุณแม่อุตส่าห์ไม่ว่าอะไรแล้ว หรือคนใจดีมักเป็นอย่างนี้กันทุกคน?
แต่มันจะทำให้คนเป็นแฟนจริงๆลำบากใจนะ!

เห็นใจคุณพ่อด้วยค่ะ คงอยู่ในระยะทำใจอีกนาน ส่วนคุณแม่
แม้จะไม่ว่าอะไรแล้วแต่ก็มีตึงๆนิดหนึ่งนะคะ ^^

วันใหม่สู้ต่อไปค่ะ เอาใจช่วยเสมอ  :กอด1:   :katai4:

ออฟไลน์ TinyB

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 522
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-0
ไม่ได้กดดันพี่วันใหม่เล้ยยย แค่มารอ อิๆ  :hao7:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ wanmai

  • ★รักใสปิ๊ง★(>_<)
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 936
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1195/-5
Magica Cafe'

Magic (20)



การมาถึงของกะปอมน้อยดูจะเป็นที่ชอบใจของกลุ่มเด็กในบ้านของคุณตากับคุณยาย หนุ่มน้อยกลายเป็นหัวหน้าแก๊งเด็กแสบที่ไปไหนไปกันกับเพื่อนรุ่นจิ๋วอีกเป็นพรวน หลังจากพักผ่อนกันหนึ่งวันเมื่อมาถึงบ้านคุณตาคุณยายแล้วเด็กๆก็ได้เวลาออกเที่ยว ปอมปอมกับชีวาปั่นจักรยานไปเล่นน้ำที่ชลประทานกัน โดยมีลูกพี่ลูกน้องพาไป

ส่วนผู้ใหญ่ก็ไปทำบุญที่วัด เพื่อเป็นสิริมงคลในแก่ตัว มาเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจกันจริงๆ พวกท่านจึงไม่รีบเร่งที่จะไปที่ไหนกันนัก เด็กๆเองก็คงอยากเล่นกันใกล้ๆนี้มากกว่า อีกทั้งวัดวาอารามในต่างจังหวัดเช่นนี้ก็ดูร่มรื่นร่มเย็นดี

ชลประทานที่ตอนนี้น้ำไม่ได้เอ่อท้นเหมือนช่วงฤดูฝน แต่ก็ยังคงมีน้ำอยู่เต็มพื้นที่ ให้ผู้คนได้ใช้ประโยชน์จากมันได้อย่างไม่จบสิ้น ช่วงกลางลำน้ำมีเรือเล็กที่คนในพื้นที่ใช้ออกหาปลาอยู่ประปราย บัวสีแดง สีชมพูผลิดอกทอดยาวไปตามลำน้ำดูสวยงามจนกะปอมน้อยต้องถ่ายรูปเก็บเอาไว้ นานๆมาเห็นสถานที่จริงไม่ใช่แค่ผ่านสื่อออนไลน์ เขาก็อยากเก็บมันเอาไว้ทั้งในความทรงจำและภาพถ่ายเหมือนกัน

บริเวณที่ตื้นหน่อยมีเด็กๆเสียงเจี๊ยวจ๊าว หนึ่งในนั้นคือปอมปอมที่แย่งห่วงยางจากลูกพี่ลูกน้องตนเองมาลอยตุ๊บป่องสบายอารมณ์ ชีวาดำน้ำลงไปก่อนจะไปโผล่พรวดข้างน้อง ปอมปอมผวากอดห่วงยางไว้แน่นเมื่อพี่ทำท่าจะคว่ำมันลงไป เมื่อน้องเกาะแน่นยิ่งกว่าตุ๊กแกคนเป็นพี่เลยหาตัวช่วย น้องเลย์ ลูกพี่ลูกน้องของปอมปอมลอยคอเข้ามาหา แย่งห่วงยางกลับไปขณะที่ชีวาดึงตัวเด็กแสบถอยห่างออกมา มือเรียวยังเอื้อมคว้าตามห่วงยาง ดิ้นกระแด่วๆอยู่ในอ้อมแขนพี่ มีแต่คนแกล้งปอมอ่ะ!

“ป๋า ปอมจะเอาห่วงยาง~~~~” น้องร้องโหยหวน แต่กลับได้เสียงหัวเราะจากเด็กๆลูกสมุนตอบกลับมาเป็นที่ครื้นเครง จำไว้เลยนะ!

“โตป่านนี้แล้วจะเล่นห่วงยางอยู่ทำไม ลงน้ำไปเลยดีกว่า”

ว่าแล้วชีวาก็ช้อนอุ้มน้องขึ้นมาจะพาลงน้ำที่ลึกกว่าเดิม ปอมปอมกอดคอพี่แน่น เขาว่ายน้ำเป็นนะ แต่ไม่อยากว่ายอ่ะ เอาห่วงยางคืนมา~~~~~ (ยังไม่เลิก)

“ป๋า ไม่เอานะ!”

“จะโยนแล้วนะ”

“ป๋าอ่ะ~~~~”

แขนเรียวกอดคอพี่แน่นกว่าเดิม ชีวาหัวเราะทำท่าจะปล่อยน้องจากอ้อมแขนจริงๆ แต่ปอมปอมน้อยไม่ยอมปล่อยคอพี่ เด็กที่มาด้วยกันหัวเราะ เลยโดนสายตาพิฆาตจากลูกพี่เป็นรางวัล พอเหลือบขึ้นมามองพี่ที่อยู่ใกล้กันแค่นี้แล้วริมฝีปากจิ้มลิ้มก็เผยยิ้มออกมา คลายแขนตนเองจากคอพี่เล็กน้อยเพื่อไม่ให้พี่อึดอัดจนเกินไปนัก ชีวาอมยิ้ม ก้มลงแตะหน้าผากกับน้องแล้วยิ้มให้กัน



เล่นสนุกกันจนพอใจแล้วเด็กๆก็พากันกลับบ้าน ก่อนกลับปอมปอมยังมีเช็คเรียงตัวว่าอยู่ครบกันไหม เขาแอบกลัวเหมือนกันนะว่าจะทำลูกคนอื่นหาย วันหลังไม่พากันไปที่เสี่ยงๆดีกว่า กลัวอ่ะ

กลับมาถึงบ้านด้วยสภาพเปียกปอนกันทุกคน ลมที่พัดระหว่างทางไม่ได้ทำให้มันแห้งเลย แค่หมาดๆหน่อยเดียวเลยโดนแม่ไล่ไปอาบน้ำกันยกชุด พออาบเสร็จหนุ่มน้อยก็กลับลงมาถามหาพี่ชาย เพราะตั้งแต่กลับมาถึงก็ไม่เห็นอาร์ดิวเลย คุณแม่รวิบอกพี่ไปดูลุงตกปลาที่หนองน้ำกลางทุ่งนาโน่น วันนี้ลุงตะวันจะลงมือตกปลามาให้ทำอาหารทานกัน คุณแม่รวิบอกแล้วว่าไม่ต้อง เพราะซื้อมาทำเอาก็ได้ แต่ลุงก็ยังบอกว่าปลาที่เลี้ยงไว้เยอะอยู่ ลูกหลานมาก็อยากให้ได้กินของดีๆ คุณแม่รวิเลยต้องปล่อยให้พี่ชายที่เป็นถึงพ่อค้าอัญมณีแปลงร่างเป็นหนุ่มชาวนาไปตกปลาอยู่กลางทุ่ง คุณแม่รวิกับคุณแม่ของชีวาเลยต้องเตรียมเครื่องปรุงวัตถุดิบต่างๆเอาไว้รอท่าอยู่ที่บ้านนี่ หนุ่มๆและไม่หนุ่มเขายกโขยงกันไปหมดแล้ว

“งั้นปอมไปหาดิวนะครับ”

“เพิ่งกลับมาเองไม่ใช่หรือปอมปอม จะไปไหนอีกแล้ว” คุณแม่ว่า

“มันไม่เหมือนกันอ่า เมื่อกี้ปอมไปเล่นน้ำ แต่ตอนนี้ปอมจะไปดูลุงตกปลา มันคนละอย่างกันนะหม่ามี้” หนุ่มน้อยยังแถไปได้อีก

“ถ้าตัวเลอะกลับมาอีกหม่ามี้จะเราให้เฝ้าบ้าน”

“ไม่เลอะหรอกครับ สะอาดเอี่ยม” ยิ้มแฉ่ง แถมยกนิ้วโป้งให้ด้วยเพื่อเป็นการยืนยัน

“ไปเร็วป๋า เดี๋ยวแม่เปลี่ยนใจ”

ดึงแขนพี่ที่เพิ่งเดินเข้ามาในบ้านวิ่งไปที่จักรยาน เด็กๆก็พากันตามเป็นพรวน คุณแม่รวิส่ายหน้าขำ

“อยู่นานกว่านี้ท่าจะได้กลายเป็นหัวหน้าแก๊งเด็กแสบซะล่ะมั้ง”

คุณแม่ชีวากับคุณยายหัวเราะอย่างเห็นด้วย เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ดังขึ้นมา คุณแม่รวิมองหาที่มาของเสียง ก่อนเดินไปที่กระเป๋าใบเล็กของปอมปอมที่วางอยู่ข้างโทรทัศน์ รีบมากจนลืมของเสียแล้วไหมล่ะลูกคนนี้

ท่านหยิบมันออกมาดู หัวคิ้วสวยขมวดเมื่อมันไม่ใช่ของปอมปอม เดินกลับมาหาคุณแม่ของชีวาแล้วเอาให้ดู

“เหมือนของชีวาจังค่ะ”

ได้ยินเช่นนั้นคุณแม่รวิจึงยื่นให้ คุณแม่ของชีวารับมาดูแล้วบอก

“ใช่จริงด้วยค่ะ”

“ถ้าอย่างนั้นรับไหมคะ บางทีคนโทรมาอาจมีธุระสำคัญ” เมื่อเสียงเรียกเข้ายังดังอยู่คุณแม่รวิจึงเอ่ยถาม คุณแม่ชีวาพยักหน้า ก่อนกดรับ



พลพรรคจักรยานของปอมปอมมาจอดกันที่หนองน้ำ รอบๆมีรั้วไม้ไผ่ล้อมเอาไว้ ตรงทางเข้ายังมีประตูรั้วเตี้ยๆอีก เพราะด้านในตรงที่ถูกถมให้สูงขึ้นมาจากหนองน้ำนั้นปลูกไม้ผลไว้หลายอย่าง ทั้งมะม่วง ฝรั่ง และน้อยหน่า ทางลงไปยังหนองน้ำค่อนข้างลาดชัน ตั้งแต่สมัยคุณตาท่านก็ได้ขุดดินเป็นชั้นๆเหมือนขั้นบันได้ แล้ววางแผ่นไม้ทับลงไปอีกทีเพราะดินเป็นดินเหนียว เวลาฝนตกจะลื่นมากทีเดียว

ในหนองที่มีน้ำอยู่เพียงครึ่งเพราะหมดหน้าฝนไปแล้ว คุณลุงตะวันกับคุณพ่อของสองพี่น้องปอปลาลอยคออยู่ในนั้น อุปกรณ์หาปลาคือแห ใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านและความสามารถกันล้วนๆ และมีถังน้ำที่ถูกตาข่ายปิดปากถังเป็นที่ใส่ปลา

คนหาก็หาไป คนบนบกก็ติดไฟย่างปลาไปด้วย มีแค่เกลืออย่างเดียวก็อร่อยแล้ว คุณพ่อของชีวาเองก็ร่วมวงย่างปลากับเขาอยู่ตรงนั้น ช่างกลมกลืนกับชาวบ้านเขาจริงๆ

“เฮ้ย! เก็บด้วย”

ปลาตัวโตถูกขว้างขึ้นมาด้านบนให้คนบนฝั่งเก็บใส่ถัง หากจะเก็บในน้ำก็กลัวมันจะหลุดมือไป อาร์ดิวนั่งมองสถานการณ์อยู่บนคันคู การ์ฟเป็นคนไปช่วยเก็บ มองดูเพลินๆกลับมีของแถม เมื่อปลาตัวหนึ่งลอยวืดมาตกข้างตัว อาร์ดิวลุกพรวดด้วยความตกใจ คุณพ่อกับคุณลุงหัวเราะ

การ์ฟยิ้มขำ เดินมาหาจะเก็บปลาใส่ถัง ปลาดิ้นหนีมาโดนเท้าอาร์ดิว เด็กหนุ่มกระโดดเหย็งไปเกาะการ์ฟ มองเจ้าปลาน้อยบนพื้นท่าทางแหยงๆ

“กลัวทำไมอาร์ดิว จับมันลงถังเลยลูก” คุณลุงส่งเสียงมาบอกจากในหนองน้ำ

“ผมเปล่ากลัว แค่ตกใจนิดเดียวเอง”

คำปฏิเสธของตี๋น้อยทำเอาทุกคนฮาครืน การ์ฟก้มมองคนที่ทำท่าว่าจะไม่รู้ตัวว่ากำลังกอดเขาอยู่

“ตกใจจนกอดไม่ปล่อยเลยนะ”

เสียงกระซิบที่อยู่ใกล้เพียงนิดทำให้ตี๋น้อยเงยมองคนพูด กะพริบตาปริบๆ อ้าปากพะงาบยิ่งกว่าปลาบนพื้น แล้วจึงค่อยถอยออกห่าง แต่ด้วยความที่พื้นมันลาดเอียงเลยจะลื่นไถลลงไป การ์ฟต้องรีบคว้าตัวไว้ ใจตี๋น้อยเต้นไม่เป็นส่ำ ทั้งตกใจทั้งเขินที่ถูกกอด

“เอ้า มัวแต่กอดกัน ปลามันไปไหนหมดแล้วนั่นน่ะอาร์ดิว”

ลุงตะวันยังไม่เลิกแซว อาร์ดิวผละออกจากอ้อมแขนการ์ฟ หันซ้ายหันขวามองหาปลาที่คุณลุงพูดถึง การ์ฟอมยิ้มน้อยๆ นั่งลงแล้วแหวกหญ้าแถวนั้นออก ปลายังนอนนิ่งอยู่ในนั้นไม่ไปไหน เงยขึ้นพยักพเยิดให้ตี๋น้อยมาจับ อาตี๋นั่งยองๆลงข้างกัน มองปลาที่นอนนิ่งแล้วทำหน้าปุเลี่ยน

“จับสิ ไหนว่าไม่กลัว”

การ์ฟเอ่ยเร่ง ตี๋น้อยเลยค้อนให้ มือเรียวพนมขึ้นจรดหน้าผาก หลับหูหลับตาพึมพำๆ

“ขอโทษนะครับคุณปลา”

การ์ฟขำพรืด มือที่กำลังจะเอื้อมไปจับปลาเลยเปลี่ยนมาตีการ์ฟแทน ปอมปอมน้อยชะเง้อชะแง้มองอยู่ห่างๆอย่างห่วงๆ แล้วหันมาทางชีวาที่กำลังมองสองคนนั้นอยู่เหมือนกัน สีหน้าหนุ่มน้อยเปลี่ยนเป็นนิ่ง ก่อนว่า

“เดี๋ยวจะงอนให้ดู”

“หะ... หา?” ชีวาอุทานงงๆ มองน้องที่หน้าเริ่มมุ่ยด้วยความงง เกิดอะไรขึ้น??

“ขี้เกียจจะถามซ้ำๆ” ว่าแล้วก็เดินตึงๆผ่านหน้าพี่ไป ชีวาเกาหัวแกรก รีบก้าวตามไปแก้ต่างให้ตัวเอง

“ปอมปอม พี่แค่มองเฉยๆ”

“รู้ แค่มอง ไม่ได้เดินเข้าไปจับพวกเขาแยกจากกัน แต่ในใจป๋าอ่ะคิด อย่าลืมนะว่าสายตาอ่ะ!”

สองนิ้วเรียวชี้แทบจะทิ่มตาตัวเองแล้วกระแทกเสียง

“มันเป็นหน้าต่างของหัวใจ!”

“..........”

“เลย์ กลับ!!” สั่งลูกพี่ลูกน้องเสียงเด็ดขาดแล้วก้าวฉับๆไปที่รถจักรยานคันเก่ง

“เฮ้ย พวกเรากลับเว้ย พี่ปอมปอมจะกลับแล้ว”

ลูกสมุนตามกันไปเป็นพรวนเหมือนขามา ชีวาขยี้หัวแรงๆ อยู่ดีไม่ว่าดี กูหนอกู ทั้งที่คิดว่ามองสองคนนั้นแบบปรกติแล้วแท้ๆ แต่ทำไมน้องยังคิดว่าเขาชอบอาร์ดิวอยู่ล่ะนี่ เฮ้อ คบเด็กนี่มันเอาใจยากจริงๆเลยแฮะ



กลับมาถึงบ้านคุณแม่ของชีวาก็เอาโทรศัพท์มาให้ บอกเพื่อนชื่อไวน์โทรมาหาตอนที่เขาไม่อยู่ เคราะห์ซ้ำกรรมซัดจริงๆชีวา น้องงอนไปโน่นแล้ว

เด็กหนุ่มมองตามน้องที่ไม่หันกลับมาสบตาเขาสักนิด แม้แต่ตอนทานข้าวก็ไปนั่งกับเลย์ที่เป็นลูกพี่ลูกน้อง ไม่มานั่งใกล้เขาสักนิด ก้มหน้าก้มตากินอย่างตั้งใจ ชีวาก็ได้แต่มองตาละห้อย

กลุ่มผู้ใหญ่ที่นั่งล้อมวงทานข้าวกันก็ทานกันไปคุยกันไปเป็นที่ครื้นเครง ครอบครัวการ์ฟเองก็มาร่วมทานข้าวเย็นที่นี่ด้วย ครอบครัวที่ใหญ่อยู่แล้วคราวนี้เลยมีลูกหลานเต็มบ้านจริงๆ พวกท่านคุยกันถึงเรื่องที่ว่าช่วงนี้มันใกล้หมดฤดูกาลที่จะได้เห็นหิ่งห้อยแล้ว เมื่อย่างเข้าสู่หน้าหนาวที่อากาศมันแห้งแล้ง เดี๋ยวคืนนี้ลองไปดูกันเพราะยังสามารถเห็นได้ประปราย อาจไม่มากเท่าช่วงฤดูฝน แต่ก็สวยงามไม่แพ้กัน

ขณะที่ผู้ใหญ่พูดคุยกันอยู่ แสงวิบวับจากหิ่งห้อยตัวน้อยก็ลอยอ้อยอิ่งหลงเข้ามากลางวงกินข้าวตัวหนึ่ง ทุกคนนิ่งเงียบเมื่อมันค่อยบินผ่านไปช้าๆ ก่อนจะเกาะลงบนไหล่ของอาร์ดิวที่กำลังจะตักข้าวเข้าปาก เด็กหนุ่มชะงักกึกเมื่อหางตาเหลือบเห็นแสงแวบๆตรงหัวไหล่

“ท่าทางมันจะชอบนาย” การ์ฟว่า ก้มหน้าซ่อนยิ้ม

“เอาออกไปได้ไหมการ์ฟ” อาร์ดิวหน้าเบ้ ขอให้คนที่นั่งข้างตนเอาออกให้ เอียงคอหนีสุดชีวิต กลัวมันไต่เข้ามาในคอเสื้อ

“อย่าบอกว่ากลัวหิ่งห้อย?” การ์ฟทำเลิกคิ้วถามหน้าซื่อ

“ไม่ใช่ คุณอย่าล้อสิ”

ตี๋น้อยต่อว่า สีหน้ายุ่งยากใจ การ์ฟไม่ได้ว่าอะไรต่อ เอื้อมมือจะหยิบเจ้าแมลงตัวน้อยออกจากไหล่อีกคน

“เขาว่ากันว่าถ้าจับหิ่งห้อยแล้วมาจับถ้วยจานมันจะแตกนะการ์ฟ”

เสียงคุณแม่เอ่ยทักทำให้การ์ฟชะงักมือ ก่อนบอก “งั้นนายอยู่นิ่งๆไปแบบนี้แล้วกัน ฉันยังกินข้าวไม่อิ่มเลย”

“การ์ฟ~”

ถึงจะทำเสียงออดแบบนั้นแต่อีกคนก็ยังทำไม่สนใจ อาร์ดิวหน้ามุ่ย เอื้อมมือไปจับหิ่งห้อยบนไหล่ออกเอง พอแบมือมันก็ยังอยู่ในมือของเขาไม่ได้บินไปไหน อาร์ดิวเลยลุกเอาออกไปปล่อยนอกบ้านแล้วค่อยกลับมาทานข้าวต่อ แต่เพียงนั่งลงเท่านั้นตี๋น้อยก็เป็นอันสะดุ้งเฮือก

“ระวัง!”

เสียงทักท้วงจากการ์ฟทำเอาสะดุ้งเป็นจริงเป็นจัง หันขวับมามองคนทักก็เห็นอมยิ้มแล้วว่า

“ระวังจานแตก”

“บ้า”

“หึๆ”

ไม่อยากสนใจเสียงหัวเราะในลำคอนั่นหรอก ตี๋น้อยทานข้าวต่อ บรรยากาศกันเองของบ้านคุณตาคุณยาย และรสมือของคุณป้าและแม่ๆพาให้ทุกคนเจริญอาหารไปตามๆกัน

ขณะที่ทุกคนเอร็ดอร่อยกับอาหารปอมปอมกลับทานไปเงียบๆไม่ช่างพูดเหมือนเดิม ชีวาลอบมองอย่างเป็นกังวล หลังทานเสร็จก็คุยกันบ้าง ดูโทรทัศน์บ้างตามประสา สาวน้อยสาวใหญ่เอาจานไปล้างที่ลานปูนข้างบ้าน โดยมีหนุ่มน้อยทั้งหลายช่วยเก็บไปให้ถึงที่ ชีวาที่เข้าไปช่วยคุณแม่ล้างจานกลับถูกคุณแม่ไล่ออกมา

“เกะกะจริงชีวา”

“แต่ผมอยากช่วยนี่ครับ” เด็กหนุ่มแย้งเสียงอ่อย

“ออกไปคุยกับน้องโน่นไป”

“แต่ว่า...”

“ไปคุยกับน้อง อย่าให้แม่ต้องพูดซ้ำ”

น้ำเสียงของคุณแม่ทำให้ชีวาต้องยอมแพ้ไม่ตื๊อต่อ พอหันหลังจะเดินออกไปก็กลับหยุดแล้วหันมาถาม

“แม่พูดเหมือนรู้ตลอดเลยว่าเกิดอะไรขึ้น”

“เพราะแม่เป็นแม่ไงชีวา”

ประโยคสั้นๆแต่ได้ใจความจนชีวาอึ้ง ใช่สิ เพราะแม่เป็นแม่ ถึงได้รู้เรื่องของเขาไปเสียทุกอย่าง ไม่มีเรื่องไหนที่รอดพ้นหูตาและความห่วงใยจากท่านไปได้ ชีวาค่อยยิ้มออกมา ก่อนออกไปหาน้องตามที่คุณแม่ได้เอ่ยแนะ

คุณตาบอกว่าน้องคงไปนั่งเล่นแถวสะพานกับพวกน้องเลย์มั้ง เพราะตอนนี้ก็ยังเพิ่งหัวค่ำ เด็กๆพากันไปวิ่งเล่นอยู่แถวนั้นทุกวันไม่มีอันตรายอะไร เมื่อได้รับคำบอกกล่าวชีวาจึงเดินตามหาน้อง เจอการ์ฟกับอาร์ดิวที่ยืนคุยกันอยู่บนสะพานไม้ชีวาจึงเลี่ยงไปอีกทาง

การ์ฟที่มาทานข้าวพร้อมพ่อแม่กำลังจะกลับบ้าน พ่อกับแม่ของเขาและน้องเอิงกลับไปแล้ว เหลือเขาคนเดียวที่ยังอ้อยอิ่ง

“เมื่อกลางวันยังร้อนอยู่เลย พอตกกลางคืนกลับหนาวเนอะ”

ตี๋น้อยชวนคุยเมื่อลมเย็นๆเริ่มพัดมา ความมืดก็เริ่มโรยตัวหลังอาทิตย์ตก แสงไฟจากบ้านช่องข้างเคียงเปิดให้ความสว่าง แต่บนสะพานนี้มีเพียงแสงจากโคมไฟบนต้นเสาสะพานเท่านั้นที่สาดส่องมาถึง

“นี่มันตุลาแล้วนี่ ลมหนาวเริ่มมาแล้ว ยิ่งบ้านนอกแบบนี้อากาศตอนกลางคืนมักจะเย็นกว่าในเมือง” การ์ฟว่า

“อืม กรุงเทพฯไม่ว่าจะฤดูไหนก็ร้อนเนอะ”

“จริง”

ตอบรับกลั้วหัวเราะอย่างเห็นด้วยแล้วทั้งคู่ก็เงียบไป อาร์ดิวลูบแขนตนเองเบาๆ มองบรรยากาศรอบๆที่ให้ความรู้สึกแตกต่างจากเมืองกรุงแล้วยิ้มออกมาน้อยๆ

“นี่ตี๋”

“หืม?”

“เราจะเป็นเพื่อนสนิทกันไปอีกนานแค่ไหน?”

อาร์ดิวค่อยหันมามองคนพูดอึ้งๆ ไม่รู้ตัวเองทำหน้าอย่างไรตอนเอ่ยถามกลับไป

“คุณ... ไม่อยากเป็นเพื่อนกับผมแล้วเหรอ?”

“ไม่”

คำตอบอย่างทันควันนั่นยิ่งกว่าอึ้ง ตี๋น้อยกะพริบตาปริบ หลุบตามองต่ำในหัวมีแต่คำว่าทำไม แต่กลับไม่ได้มีเสียงใดหลุดลอดจากปากสักคำ

“ไม่อยากเป็นเพื่อนแล้ว...”

“............”

“...อยากเป็นอะไรที่มากกว่านั้น”

“หึๆ” อาร์ดิวหลุดหัวเราะอย่างไม่ตั้งใจ มองหน้าการ์ฟแล้วยิ่งขำจนการ์ฟงง

“เป็นอะไรตี๋ คนกำลังทำซึ้ง ขำทำไม?”

“ก็... ก็คุณพูดเหมือนในเพลงเลยอ่ะ”

“เพลงอะไร?”

การ์ฟทำหน้างง อีกคนก็อมยิ้มไม่บอกอะไร ใครจะกล้าบอกกันล่ะเพลงแบบนั้นน่ะ แต่ดูเหมือนการ์ฟจะรู้แล้ว เพราะรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นมาบนใบหน้า

“เพลงนี้ใช่ไหม?”

...ก็รู้เราเป็นเพื่อนกัน แต่ฉันก็คิดไปไกล อยากเป็นอะไรที่มากกว่านั้น ก็รู้ว่ามันไม่ควร แต่รักห้ามได้ที่ไหนกันเพื่อนก็เพื่อนเถอะ จะว่าก็ช่างเถอะ ก็มันรักหมดใจ

ไม่รู้ว่านานเท่าไรที่ใจรับเธอเข้ามา ปิดบังเรื่อยมาไม่ปรึกษาใคร วันนี้เป็นไงเป็นกัน โปรดฟังฉันให้เข้าใจ เลิกเป็นเพื่อนเถอะ พอสักทีเถอะ เมื่อเรื่องมันเป็นแบบนี้

1 คือหึงเมื่อใครใกล้เธอ 2 คือเพ้อเวลาห่างกัน  3 คิดถึงเธอทุกวัน เพื่อนกันไม่เป็นแบบนี้ 4 คืออยากสบตา ส่วนข้อ 5 น่ารักสิ้นดี  6 ถึงร้อย ไว้ฟังพรุ่งนี้ เหตุผลที่ฉัน ไม่อยากเป็นเพื่อนเธอ...

อาร์ดิวไม่รู้ว่าจะขำหรือจะเขินดี ก็การ์ฟเล่นร้องเพลงนั้นออกมาจริงๆเสียนี่ แสงเรืองๆลอยละล่องผ่านมา เรียกสายตาสองหนุ่มให้หันไปมองตาม ความมืดที่โรยตัวปกคลุม แสงไฟเพียงเล็กน้อยจากบ้านรอบข้างไม่สามารถส่องไปถึงต้นไม้ใหญ่ริมน้ำ เงาตะคุ่มของสุมทุมไม้กลับมีแสงระยิบประดับเต็มไปหมด ราวมีคนเอาไฟกะพริบไปติดตกแต่ง อาร์ดิวมองด้วยความตื่นตา ถึงจะเคยมาที่บ้านคุณตาคุณยายหลายครั้ง แต่น้อยครั้งที่จะได้เห็นแบบนี้ ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นไปกับมัน

การ์ฟมองคนข้างกายที่ฉีกยิ้มเสียกว้างขวาง ดวงตาพราวไปด้วยความสุขแล้วยิ้มตาม อาร์ดิวหันมาเห็นอีกคนมองอยู่ก็ชะงักยิ้มค้าง การ์ฟค่อยโน้มลงไปใกล้ อาร์ดิวเอนตัวหนี แต่เมื่อการ์ฟหยุดอยู่เพียงแค่นั้นตี๋น้อยจึงนิ่ง ไม่ขยับไปไหน การ์ฟจึงค่อยขยับไปใกล้อีกนิด และอีกนิดจนริมฝีปากแตะแผ่ว

ดวงตาเรียวรีเบิกโตขึ้นกับสัมผัสที่ได้รับ มือการ์ฟเลื่อนมาจับหัวไหล่  ริมฝีปากค่อยบดเบียดช้าๆ ดวงตาเรียวหลับลงเมื่อมันไร้อาการจาบจ้วง ค่อยเป็นค่อยไปไม่หักหาญ

การ์ฟค่อยถอนจูบ ในใจอดเต้นรัวไม่ได้กับสิ่งที่ตนเองทำ อาร์ดิวค่อยลืมตาขึ้นมา พอเห็นเขามองอยู่ตี๋น้อยก็เบือนสายตาไปทางอื่น การ์ฟยิ้มบาง ค่อยโน้มไปกระซิบ

สรุปเลยนะ... บอกเธออีกที ว่าเพื่อนคนนี้...

........

อยากเป็นแฟนของเธอ



................



อีกด้านหนึ่ง ชีวาจูงมือน้องที่ไปเล่นซนกับเด็กๆกลับมา สะพานไม้ที่ทอดยาวยามกลางคืนดูน่ากลัวจนปอมปอมเกาะแขนพี่แน่น ตอนขามามันยังไม่มืดเท่านี้ ถึงจะมีแสงไฟตามจุดต่างๆบ้างแต่พอมองไปรอบๆที่มันมีแต่ความมืดเขาก็กลัวไม่น้อย

“วันนี้น่าจะเป็นวันที่ดีของเราอีกหนึ่งวันนะว่าไหม?”

ชีวาเปรยขึ้นมา แต่คนข้างๆก็ยังคงเงียบ ไม่มีเสียงตอบรับ

“ถึงปอมปอมขี้เกียจพูดซ้ำ แต่พี่ยังอยากจะพูดอีกซ้ำๆ จนกว่ากะปอมน้อยตัวนี้จะยอมเชื่อพี่”

“ปอมเชื่อที่การกระทำไม่ใช่คำพูด”

คนเป็นพี่พยักหน้าเนิบนาบเป็นเชิงรับรู้ รู้สึกดีขึ้นมาหน่อยที่น้องยอมพูดกับตนเองแล้ว ปอมปอมหยุดเดิน ปลดแขนที่กอดแขนพี่ลง ชีวาหันมามองน้อง

“จะว่าปอมใจแคบก็ได้ที่อยากให้ป๋ามองแค่ปอม เพราะปอมมีใจเดียว และยกให้ป๋าอยู่เต็มหมดทุกห้องแล้ว”

“พี่ก็มีใจเดียว เมื่อก่อนอาจยกให้คนอื่นไปทั่ว แต่ตอนนี้มันเป็นของปอมปอมนะ”

คำสารภาพนั้นไม่ได้ทำให้น้องยิ้ม แต่กลับดูเครียดมากกว่าเดิมเสียอีกเมื่อเอ่ยถามพี่

“พี่ไวน์คนนั้น... อยู่ในฐานะอะไรสำหรับป๋า?”

“เพื่อน” ชีวาตอบน้ำเสียงเน้นหนักจริงจัง

“แล้วเขาคิดว่าป๋าเป็นเพื่อนเขาหรือเปล่า?” น้องยังถามต่อ สีหน้าเริ่มไม่สู้ดีเสียแล้ว

“เขาจะคิดยังไงมันไม่สำคัญหรอก สำคัญที่พี่ไม่ได้คิดอะไรกับเขามากกว่า”

“ป๋าไม่คิดอะไร แต่ป๋าก็ไม่เคยชัดเจน ป๋าคงไม่รู้ว่าปอมรู้สึก”

ความเจ็บปวดส่งมาให้เขาจนรู้สึกได้ ดวงตาเรียวมองเขาอย่างตัดพ้อ ชีวาเองก็มองน้องอย่างเจ็บปวดไม่แพ้กัน มือใหญ่สัมผัสแผ่วข้างแก้มใส ใช่ เขามีเรื่องปิดบัง เสียงทุ้มเอ่ยแผ่ว

“พี่ทำให้ปอมปอมเสียใจอีกแล้วเหรอ?”

“ปอมอ่ะมีแต่ป๋า ก็อยากให้ป๋าจริงจังกับปอมบ้าง”

“ทำไมพี่จะไม่จริงจังกับปอมปอม พี่มีปอมปอมแค่คนเดียว ตั้งแต่ที่เราคบกันพี่ไม่เคยเผื่อใจให้ใครเลยสักนิด”

ปอมปอมหันหน้าไปทางอื่น สูดจมูกเบาๆ กะพริบตาถี่ไล่ความรู้สึก ก่อนช้อนมองพี่

“บางทีป๋าอาจต้องการเวลา”

“ปอมปอม!”

ชีวาเรียกน้องเสียงดัง แต่น้องก็เดินหนีเขาไปไม่หันกลับมาสนใจสักนิด ปอมปอมเดินดุ่มไม่กลัวแม้มันจะมืด ใจเขาตอนนี้มันมืดดำยิ่งกว่าเสียอีก พอจะพ้นตีนสะพานหนุ่มน้อยก็หยุด หันกลับไปหาชีวาอย่างคาดหวังว่าพี่จะตามมา แต่กลับมีคนอื่นอยู่ตรงนั้นแทนที่เขาแล้ว

ปอมปอมยืนนิ่ง รู้สึกร้าวไปทั้งกระบอกตา เมื่อน้ำตามันไหลลงมาอย่างไม่สามารถหักห้ามได้ทัน ขาเรียวนำพาร่างกายหมุนกลับ ก่อนออกวิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่ขาของเขาจะพาไปได้

...ยืนยันหน่อยได้ไหม ช่วยบอกหน่อยได้ไหม ช่วยบอกให้ชัดๆ พูดว่ารักฉันดังๆ ช่วยบอกคำว่ารัก ดังๆอีกสักครั้ง ช่วยพูดให้ดังๆหน่อย ถ้าไม่มีใครอยู่ข้างๆเธอ ช่วยพูดให้ดังๆหน่อย พูดคำว่ารักให้มันชัดเจน...

...ช่วยพูดให้ชื่นใจหน่อย พูดให้ดังๆว่า ... ฉันรักเธอ ...



TBC



#สิริมงคล เขียนแบบนี้ถึงจะถูกเนอะ มักสับสนระหว่าง ศิริ กับ สิริ แบบนี้มาตลอดเลย ถ้าตามราชบัณฑิตยสถานต้อง สิริมงคล :hao3:

ขอบคุณทุกคนค่ะ เดี๋ยวมาบวกให้นะคะ ไปซื้อข้าวก่อน  :katai5:

++++++++++

บวกเรียบร้อยค่ะ ^^

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-07-2013 13:36:29 โดย wanmai »

ออฟไลน์ Naenprin

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-1
ปอมปอมหึงด้วยอ่ะ อาร์ดิวก็รับรักการ์ฟเถอะ

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ใครมายืนแทนปอมปอม???
ถ้าเป็นอาร์ดิวก็ไม่น่าใช่เพราะน่าจะอยู่กับกราฟ
รึว่าเป็นไวน์??

ออฟไลน์ udongjay

  • ความรัก...ไม่เคยจำกัดเพศ แต่เพศต่างหากที่จำกัด...ความรัก
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +235/-2
จิร้องไห้ตามปอมปอม ฮือออออ
เรื่องนี้ป๋าผิดนะ เพราะไม่เคยชัดเจนอะไรเลยอ่ะ มีปอมอยู่แล้วก็บอกไวน์ไปดิ
บอกทำไมว่าเป็นน้องชาย ย้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก
เกลียดป๋า
ตี๋น้อยกับการ์ฟช่างเป็นอารมณ์ที่แตกต่างจริงจัง
คู่นี้หวานมากๆๆๆๆๆๆๆๆ เขินตามตี๋ คึคึ

บวกคร้าบพี่ใหม่

ออฟไลน์ TinyB

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 522
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-0
เอิ่ม..เด่วนะ ที่ปอมปอมตัดสินใจออกวิ่งนี่คือ สิ่งที่มองไม่เห็นมายืนข้างป๋าป่าวอ่ะ  o22
แต่คู่หลักกำลังเข้าด้ายเข้าเข็มเลยอ่าา อิๆ  :hao6:

ออฟไลน์ cinquain

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-0
อ่านของอาร์ดิวกับการ์ฟแล้วอมยิ้มอารมณ์ดี
แต่พออ่านของชีวากับปอมปอมแทบอยากจับชีวาเขย่าแรงๆ
เอาให้หัวสั่นหัวคลอนเลย!  อ้ากกกก  :ling1:

รอความชัดเจนของชีวา ฮึ้ม!

ออฟไลน์ $VAN$

  • Moderator
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-6
คู่แรกน่ารักมาก ชอบเพลงนะ
คู่สอง อารายเนี่ย สงสารปอมง่ะ

ออฟไลน์ fangkao

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3
อิป๋าใจร้าย 

fay_13

  • บุคคลทั่วไป
อ๊ากกกกกกกก ตบๆๆ อิป๋า บังอาจทำกะปอมน้อยร้องไห้อีกแล้ววววว  :beat: :beat: :beat: :beat:

อาร์ดิวจ๋ารับรักไปเต๊อะ ร้องมาเป็นเพลงซะขนาดนี้แล้ว  :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ greensnake

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +920/-14
อารมณ์กลับกันซะอย่างนั้นอ่ะ ต่างจากตอนที่แล้วลิบลับเลย
กลายเป็นคนพี่ที่หวานซะหิ่งห้อยอาย คนน้องกลับเสียน้ำตาซะนี่
งานนี้เราโทษชีวาเต็มๆ การกระทำของป๋าเป็นการให้ความหวังเขานะ
บอกใครๆว่าปอมปอมเป็นน้องชาย ในขณะที่ตัวเองแสดงออกว่าหึงหวง
เป็นพี่ชายประสาอะไรมาหึงหวงน้องชายกันล่ะ หมั่นใส้จริงเชียว :a14:
สงสัยต้องให้พ่อไปป์สั่งสอนชีวาซะบ้างแล้ว บังอาจทำลูกชายสุดที่รักร้องไห้
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :กอด1:
+1และเป็ดปลอบใจกะปอมน้อย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
แฮปปี้ดี๊ด๊ากับการ์ฟและอาร์ดิว :o8:
แต่เศร้ากับกะปอมน้อยอะ ป๋าทำน้องร้องไห้อีกแล้วนะ  :angry2:
โกรธแทนอะ สงสัยต้องการเวลาอย่างที่ปอมปอมว่าจริงๆ :hao5:

ออฟไลน์ wanmai

  • ★รักใสปิ๊ง★(>_<)
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 936
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1195/-5
Magica Cafe'

Magic (21)




“เกิดอะไรขึ้น?”

ชีวาหันไปตามเสียงทัก อาร์ดิวที่เพิ่งแยกกันกลับบ้านกับการ์ฟเดินเข้ามาหา ทันเห็นหลังปอมปอมไวๆ พอเดินเข้ามาใกล้ก็รู้สึกได้ถึงบรรยากาศไม่ปรกติ

ชีวามองอาร์ดิวแล้วถอนใจ หันหลังพิงราวสะพาน สายตาคมมองบรรยากาศยามค่ำคืน แสงจากหิ่งห้อยที่บินลอยมาทายทักไม่ได้ทำให้เขารู้สึกดีแม้แต่น้อย เมื่อไม่มีใครอีกอยู่ด้วยกันในตอนนี้

“ฉันคิดว่าฉันตัดใจจากนายได้แล้วจริงๆนะ”

น้ำเสียงเหนื่อยล้าจากเพื่อนทำให้อาร์ดิวคิ้วขมวด “มีอะไรเหรอ?”

“ทำไมน้องไม่เชื่อฉันวะ ทั้งเรื่องของนายแล้วก็...”

“?” ตี๋น้อยช้อนสายตามองเพื่อนที่ค้างคำพูดไว้แล้วยังคงเหม่อมองไปไกล

“เรื่องเพื่อนที่มหา’ลัย” ชีวาบอกเช่นนั้น

“ตอนที่ยังโกรธปอมปอมไม่ฟังใครหรอก ต้องรอให้ใจเย็นสักพักค่อยคุยกันใหม่” บอกเพราะรู้จักนิสัยของน้องดี

“น้องไม่เชื่อใจฉันเลย” ชีวายังคงตัดพ้อ

อาร์ดิวมองเพื่อนนิ่ง สีหน้าเด็กหนุ่มจริงจังเมื่อเอ่ยคำ “นายมีความลับกับเขาหรือเปล่าล่ะ? มีอะไรที่นายยังไม่บอกปอมปอมหรือเปล่า หรือมีเรื่องอะไรที่นายคิดว่ามันเป็นเพียงเรื่องธรรมดาสำหรับนาย นายเลยไม่คิดจะพูดหรือบอกปอมปอม มีไหม?”

“ฉันลืมไปได้ยังไงว่านายมีนิมิต” แค่นหัวเราะ อาร์ดิวส่ายหน้าเบา

“ไม่หรอก เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องใช้นิมิต ถ้านายรู้จักปอมปอมดีพอ”

ชีวาชะงักกับคำพูดของเพื่อน กะพริบตาถี่แล้วแหงนเงยหน้าขึ้นครู่หนึ่ง อาร์ดิวยืนเงียบอยู่ข้างๆ สักพักทั้งสองคนจึงพากันกลับบ้านคุณตาคุณยาย



หลังอาบน้ำเสร็จ ก่อนจะเข้านอนชีวาจึงเปิดโทรศัพท์มือถือที่ปิดเอาไว้ตั้งแต่บ่ายหลังจากแม่บอกว่าใครโทรมาหา พอเปิดเครื่องก็ยังมีข้อความเตือนสายที่ไม่ได้รับเป็นเบอร์ของไวน์อีก ชีวาถอนใจ ก่อนกดโทรหาเจ้าของเบอร์

“วากลับไปค่อยคุยกันนะไวน์ วามีเรื่องสำคัญจะคุยด้วยเหมือนกัน”

ชีวาบอกกับอีกฝ่ายเสียงเครียด ก่อนจะวางสาย รู้สึกปวดหัวตุบๆขึ้นมาเมื่อนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เด็กหนุ่มทอดถอนใจ กุมศีรษะแสนหนักอึ้งแล้วทิ้งตัวลงนอนบนเตียง มองฝ้าเพดานนิ่งทั้งที่มันไม่มีอะไรน่าสนใจสักนิด ในหัวยังปวดตุบจนแทบระเบิด



อากาศในช่วงเช้าที่ยังไม่ร้อนมาก ครอบครัวชีวาและครอบครัวสองพี่น้องปอปลาออกไปเที่ยวกัน พอตกบ่ายก็พักทานข้าวกันที่ริมน้ำ อากาศเย็นสบายจากสายลมที่พัดพาจากท้องน้ำเข้ามาหาเพิ่มอรรถรสในการทานอาหารได้ดียิ่งขึ้น

ร้านค้ารอบบริเวณขายของหลายอย่าง  ทั้งของกินของฝากมากมาย ทั้งยังมีของเล่นที่หายากแล้วในสมัยนี้ให้เก็บสะสมกันอีกด้วย เด็กๆพากันเดินเที่ยวดูของหลังทานข้าวเสร็จ สองพี่น้องจูงมือกันแวะร้านนั้นออกร้านนี้โดยมีสองหนุ่มเดินตามไปมันทุกร้าน

“การ์ฟ”

อาร์ดิวหันมาเรียกคนที่เดินตามมาช้าๆนั่นให้รีบตามเข้ามาหน้าร้านขายเครื่องประดับกระจุ๋มกระจิ๋ม คนถูกเรียกก้าวเร็วๆเข้าไปหา เมื่อการ์ฟเข้ามายืนข้างๆตี๋น้อยจึงหันมาแล้วแบมือให้ดู

“อะไร?” การ์ฟเลิกคิ้วถามยิ้มๆ

“ดูดีๆสิ มีหิ่งห้อยในนี้ด้วยอ่ะ” น้ำเสียงและสีหน้าคนพูดดูตื่นเต้น

“จริงเหรอ?”

การ์ฟจ้องมองของในมืออาร์ดิว มันเป็นขวดโหลอันเล็กจิ๋ว ในขวดสีใสมีหิ่งห้อยตัวจิ๋วยิ่งกว่าอยู่ข้างใน แสงวิบวับจากกากเพชรที่ใส่เอาไว้ในขวดส่งให้เหมือนมันส่องแสงได้ การ์ฟเงยขึ้นมองตี๋น้อยที่อมยิ้มอยู่

“อยากได้ป่ะ?”

เด็กหนุ่มเอ่ยถามมีนัยยะ ตี๋น้อยพยักหน้าหงึกแล้วยิ้มตาปิด

“ผมจะซื้อ”

บอกไปแบบนั้นแต่อีกคนกลับหยิบขวดหิ่งห้อยจากมือเขาไปยื่นให้คนขายหน้าตาเฉย

“เอาอย่างนี้สองอันครับ ขอสร้อยคอสองเส้นด้วย”

“การ์ฟ ของผม”

ตี๋น้อยเอ่ยทักท้วง การ์ฟหันมาหาแล้วบอกเสียงเรียบ

“รู้แล้ว”

ฟังอย่างนั้นแล้วอาร์ดิวก็คิ้วขมวด ไม่เห็นเข้าใจ รู้แล้วแต่มาซื้อตัดหน้าเขาทำไม อันอื่นมีเยอะแยะ

“พี่ครับ อันเมื่อกี้อันละเท่าไหร่ครับ”

เอ่ยถามคนขายที่กำลังประกอบขวดหิ่งห้อยกับห่วงเพื่อทำเป็นจี้ห้อยคอตามที่การ์ฟต้องการ คนขายบอกราคามา ตี๋น้อยจึงเปิดกระเป๋าจะเอาตังค์ออกมาจ่าย การ์ฟรีบกดมือที่กำลังหยิบเงินออกมาเอาไว้ ทำให้ดวงตาเรียวตวัดมอง

“บอกแล้วไงว่ารู้แล้ว”

“แล้วไงอ่ะ”

อาร์ตี๋ย้อน การ์ฟถอนใจเฮือกก่อนบอกจุดประสงค์ “จะซื้อให้”

“ไม่เอา!” คำปฏิเสธทันทีนั้นทำให้คนใจดีจะซื้อของให้เริ่มหน้าตึง เอ่ยถามกลับเสียงขุ่น

“ทำไม?”

ตี๋น้อยคิ้วขมวด “จะมาซื้อให้ทำไมล่ะ ผมซื้อเองก็ได้”

“อยากซื้อให้ จบป่ะ?”

อยากซื้อของให้เขาแต่ก็ยังกวนเขาไม่เลิก อาร์ดิวมองหน้า สีหน้าหนุ่มตี๋ยังดื้อรั้น การ์ฟจึงต้องเปลี่ยนวิธีพูดใหม่

“อยากให้จริงๆ”

น้ำเสียงที่เอ่ยบอกอ่อนลง ไม่มีแววกวนอีก ทำให้อาร์ดิวเองลดความแข็งข้อ ยอมเก็บกระเป๋าเงินของตนเอง มองคนขายเอาของใส่ถุงลายน่ารักให้ การ์ฟเองก็มองตี๋น้อยยิ้มๆ ใช้ปลายนิ้วเกลี่ยแก้มอีกคนเบาๆ พอเจ้าของเขาหันมาคนทำก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้

อาร์ดิวหันกลับ มือเรียวยกขึ้นจับแก้มตัวเอง อมยิ้มเขิน



ปอมปอมที่ยังไม่เจอของถูกใจเดินแยกออกไปอีกร้านหนึ่ง ชีวาเดินตามน้องไปเรื่อยๆ ไม่ได้คุยกันเลยตั้งแต่มา พอน้องดูของจนเบื่อแล้วก็มาทางสระน้ำขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นมากลางลานกว้างของสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ รอบนอกเป็นแม่น้ำธรรมชาติที่ไหลผ่าน ด้านในยังเป็นสระน้ำอีก หากมองจากที่สูงจะเป็นว่ามันเป็นวงกลมซ้อนกัน ทั้งแม่น้ำด้านนอกและสระน้ำที่สร้างขึ้นด้านใน

ชีวาก้าวให้เร็วขึ้นอีกนิดเพื่อมาเดินข้างน้อง หางตาน้องปรายมามองแต่ไม่พูดอะไร ทั้งคู่เดินข้างกันไปเงียบๆ เสียงนักท่องเที่ยวคนอื่นๆพูดคุยกันบ้าง ถ่ายรูปกันบ้างเป็นที่เฮฮา เวลานี้พ่อแม่ของทั้งคู่คงไปไหว้พระอีกแน่ เพราะเห็นว่าที่นี่มีพระพุทธรูปในถ้ำหินด้วย พวกท่านคงไม่พลาดไปสักการะ

ลมพัดเย็นๆจากผืนน้ำพัดพามา ปอมปอมหยุดเดินอยู่ตรงเนินหญ้าริมสระ สูดลมหายใจเข้าปอดลึกแล้วค่อยผ่อนมันออกมาช้าๆพร้อมรอยยิ้ม ก่อนที่หนุ่มน้อยจะหันมาหาชีวาแล้วยิ้มให้

ชีวาชะงักเมื่ออยู่ๆน้องก็ยิ้มให้ตนเอง ก่อนที่เขาจะยิ้มให้น้องกลับไปบ้าง เกือบค่อนวันน้องเพิ่งยิ้มให้เขาก็ตอนนี้ แต่ไม่รู้ทำไมเขาถึงรู้สึกเศร้าใจบอกไม่ถูก

“ป๋า...”

“...........”

เพียงน้องเอ่ยเรียกก็เหมือนสิ่งรอบกายจะเงียบเสียงลงไปเสียสนิท ราวสรรพสิ่งไม่เคลื่อนไหว ส่งผลให้สิ่งที่ได้ยินมันดังก้องจนสะเทือนไปทั้งใจ

“เราเลิกกันเถอะ”

ชีวานิ่งงัน รอยยิ้มนั่นมันติดตา บอกเลิกเขาด้วยรอยยิ้มแบบนั้นได้อย่างไร ในใจเด็กหนุ่มบีบรัด ความผิดของเขามันมากมายเสียจนต้องทำแบบนี้กับเขาเชียวหรือ แต่ถึงอย่างนั้น ถึงจะประท้วงไปแต่ก็ไร้ประโยชน์ เมื่อน้องไปแล้ว เดินจากเขาไปอย่างใจร้ายที่สุด

ชีวาก้มหน้านิ่ง ไหล่กว้างสั่นไหวน้อยๆ ก่อนเสียงสะอื้นแผ่วจะดังลอด มือใหญ่กุมอกซ้าย รู้สึกร้าวรานไปทั้งหัวใจ

“ป๋า...”

เสียงเรียกแผ่วเบาในความรู้สึกไม่ได้ทำให้ใจเขาหันเหไปหาได้สักนิด ไม่อยากได้ยิน ไม่อยากได้ยินเสียงนี้

“ป๋า ป๋าเป็นอะไร?”

เป็นอะไรอย่างนั้นหรือ คำถามนี้เขาควรตอบไหม ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจ เด็กน้อยหน้าซื่อ

“ป๋าได้ยินปอมไหม?”

เสียงที่เหมือนได้ยินอยู่ไกลลิบกลับชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ใบหน้าจิ้มลิ้มลอยเด่นให้เห็นเต็มตา แต่เวลานี้ตาของเขาพร่าไปด้วยหยาดน้ำตาจนมองเห็นได้ไม่ชัดเจนนัก แต่เขาก็มั่นใจว่าเป็นน้องแน่ๆ น้องกลับมาแล้ว กลับมาอย่างนั้นหรือ? ชีวามองภาพตรงหน้านิ่ง เมื่อครู่น้องแค่ล้อเล่นสินะ ที่บอกเลิกเขาเป็นเพียงเรื่องล้อเล่นสินะ ช่างเป็นเรื่องตลกร้าย แต่เขาก็ดีใจที่มันเป็นเพียงเรื่องล้อเล่น

แขนแกร่งคว้ากอดน้องแน่น ปอมปอมน้อยตัวแข็งทื่อ ชีวาหัวเราะในลำคอกับท่าทีนั้น ตกใจหรือ? ตกใจที่เขาโผเข้ากอดสินะเด็กแสบ ก่อนรอยยิ้มจะเปิดกว้างมากขึ้นเมื่อมือเรียวลูบหลังเขา นี่หรือเปล่าที่เขาเรียกตบหัวแล้วลูบหลังน่ะ แต่เขาไม่โกรธหรอก ไม่เลย

“ป๋า ร้องไห้ทำไม ไข้ขึ้นจนเพ้อเหรอ?”

ใครเป็นไข้ เขาไม่ได้ป่วย ถ้าจะป่วยก็คงเป็นใจของเขานี่ล่ะ ที่ถูกน้องเล่นแรงแบบนี้ ชีวาผละออกมา มองดวงตาแป๋วแหววของเด็กแสบ

“พี่เปล่าเพ้อสักหน่อย...”

เสียงที่เอ่ยบอกน้องช่างแหบแห้ง ชีวากระแอมเบาๆ หัวคิ้วเข้มขมวด เสียงใครวะ?

“หรือเพราะป๋านอนนานไป ตื่นมาเลยสะลึมสะลือแบบนี้” หนุ่มน้อยสันนิษฐาน คิ้วชีวาขมวดปมมากขึ้น มองดูรอบกายที่เปลี่ยนไปจากตอนแรกลิบลับ

“ปอมปอม?” เอ่ยเรียกน้องงงๆ

“หือ?”

เด็กน้อยหน้าซื่อเลิกคิ้วมองพี่เชิงถาม ความปวดแล่นริ้วจนชีวาต้องกุมหัว มือใหญ่สะดุดเข้ากับอะไรบางอย่าง มีแผ่นอะไรไม่รู้แปะอยู่บนหน้าผากของเขา

“ป๋าเป็นไข้ วันนี้เลยไม่ได้ไปเที่ยวกับคนอื่นเลย”

เมื่อน้องบอกมาแบบนั้นชีวาจึงคิดตาม เมื่อวานก่อนจะนอนเขารู้สึกปวดหัว คิดโน่นคิดนี่แล้วเผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้ สติสตังของเด็กหนุ่มเริ่มกลับมาทีละน้อย

“ปอมปอมไปเที่ยวกลับมาแล้วเหรอ?”

“ปอมไม่ได้ไป อยู่เฝ้าป๋าเนี่ย... ป๋าร้องไห้ด้วย” ท้ายประโยคบอกเสียงอ่อย สีหน้าจ๋อยเพราะสงสารพี่

“ปอมปอม...”

“ครับ?”

“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ช่วยฟังพี่อธิบายสักนิดนะ อย่าเพิ่งบอกลาพี่ไป”

คงเพราะอาการไข้ถึงทำให้เขาเพ้อขนาดนี้ มือเรียวปาดเช็ดน้ำตาให้ ก่อนจะกอดปลอบ

“ป๋าอย่าร้องไห้อีกนะ ปอมใจไม่ดีเลย”

แขนเล็กๆ แต่ทำให้อุ่นไปทั้งใจ ชีวากอดน้องตอบ หอมไหล่เล็กแล้ววางคางเกยก่าย

“ไม่ร้องหรอก ไม่ร้องแล้ว”

เด็กหนุ่มยิ้มออกมาอย่างขอบคุณ ขอบคุณที่เรื่องราวเหล่านั้นมันเป็นเพียงความฝัน ขอบคุณจริงๆ



เช้าวันต่อมา หลังจากพักผ่อนอย่างเต็มที่ ทั้งยังได้รับการดูแลจากพยาบาลหนุ่มน้อย อาการไข้ของชีวาก็ดีขึ้น คุณแม่ที่กลับมาจากไปเที่ยวเพราะปอมปอมอาสาดูแลพี่เอง เมื่อเห็นการดูแลเอาใจใส่จนลูกชายของท่านอาการดีขึ้นก็พอจะวางใจได้บ้าง เพราะเมื่อวานบรรยากาศระหว่างทั้งสองคนดูกดดันมากกว่านี้

ปอมปอมไปวิ่งออกกำลังกายกับเด็กๆในยามเช้า ชีวาที่เพิ่งสร่างไข้วิ่งเหยาะๆตามน้องไปเรื่อยๆ จนพากันมาหยุดพักใต้ต้นไม้ใหญ่ใกล้กับโรงเรียนของเด็กๆ ชีวาอยู่ใกล้น้องแต่ไม่ได้คุยอะไรกัน เมื่อวานพอจะจำได้อยู่ว่าน้องคอยดูแลดีแค่ไหน แต่เมื่อน้องไม่พูดด้วยเขาเลยไม่รู้จะเริ่มอย่างไร

เลย์มองทั้งสองคนแล้วส่ายหน้า ต้องให้ถึงมือไอ้เลย์เสียแล้วกระมัง หนุ่มน้อยทำเดินเข้าไปใกล้พี่ปอมปอมแล้วชนเข้าเต็มแรงจนปอมปอมเซไปหาชีวา แขนแข็งแรงรับน้องไว้อัตโนมัติ

“อุ๊ยตาย ขอโทษที เลย์ไม่เห็น”

ท่าทางทะลึ่งทะเล้น จีบปากจีบคอทำเสียงเล็กเสียงน้อยนั้นไม่มีใครอยากเชื่อหรอกว่าเลย์ไม่เห็น คนยืนอยู่ทั้งคน แถมยังมาอุ๊ยตงอุ๊ยตายด้วย เด็กเกรียนๆอย่างเลย์มาพูดแบบนี้แล้วมันน่าเตะมากกว่า

พอรู้สึกตัวปอมปอมก็ขยับยุกยิก ชีวาค่อยปล่อยน้องจากอ้อมแขน หนุ่มน้อยขยับห่างพี่อีกนิด ขณะที่เด็กๆลูกสมุนทำเป็นมองไม่เห็น มองนกมองไม้ไปเรื่อย

“หายโกรธพี่ยัง?”

“............” ไม่มีสัญญาณตอบรับใดๆ

“ไม่พูดด้วยพี่เสียใจนะ”

ต่อให้ตัดพ้อน้องก็ยังคงเงียบกริบ ชีวามองเสี้ยวหน้าด้านข้างของเด็กดื้อที่ทำเป็นไม่ได้ยินเสียงเขา มือใหญ่คว้ามือน้องมาจับไว้ทั้งสองข้าง มองน้องที่เบือนสายตาหนี

“ขอโทษในเรื่องที่พี่ไม่ได้บอกปอมปอม เพราะพี่คิดว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อยที่พี่สามารถจัดการมันด้วยตัวเองได้ ไม่คิดว่าจะทำให้ปอมปอมกังวลใจ”

เด็กหนุ่มง้องอนทั้งน้ำเสียงและสีหน้า ปอมปอมน้อยถอนใจ หันมาเผชิญหน้าพี่

“ปอมเอาแต่ใจเอง ปอมคงยังเด็กเกินไป คิดว่าตัวเองเข้าใจทุกอย่างดี แต่ไม่เลย ปอมไม่เคยเข้าใจอะไรสักอย่าง ป๋าคงเหนื่อยที่ปอมเป็นแบบนี้ใช่ไหม?”

“อาจมีบ้างที่เราข้าใจไม่ตรงกัน แต่พี่ไม่เคยรู้สึกว่าการได้รักปอมปอมมันเป็นเรื่องที่หนักหนาหรือเหนื่อยตรงไหน”

“............”

“ให้โอกาสพี่อีกสักครั้งได้ไหม พี่จะจัดการทุกอย่างให้มันเรียบร้อยเอง”

สายตาเว้าวอนส่งให้น้องจากความรู้สึกที่มี ปอมปอมนิ่งไปอึดใจหนึ่ง ก่อนพยักหน้ารับช้าๆ ชีวายิ้มกับโอกาสที่ได้รับ เกือบดึงน้องมากอดแล้ว ถ้าไม่เห็นเจ้าพวกแสบทำคอยื่นคอยาวเสียก่อน

ปอมปอมอมยิ้มขำ ก่อนเดินไปหาเลย์ ตบเข้ากลางหลังลูกพี่ลูกน้องของตนเองที่ทำไม่รู้ไม่ชี้ เลย์สะดุ้งโหยง สูดปาก ขณะที่คนอื่นถอยกรูด

“วิ่งกลับบ้านแข่งกันป่ะเลย์?” หนุ่มน้อยยักคิ้วท้า

“จัดไป” เลย์ยังหน้าเบ้เพราะเจ็บหลัง แต่ก็รับคำท้านั้นอย่างไม่มีถอย “แล้วถ้าใครชนะจะได้อะไร?”

คำถามนั้นทำให้ปอมปอมกลอกตามองสูง ทำท่าคิดแป๊บนึงก่อนบอก “อะไรก็ได้ แล้วแต่คนชนะเลย เพราะพี่มั่นใจว่าพี่ไม่แพ้แน่”

“เดี๋ยวก็รู้ เตรียมตัวรับความพ่ายแพ้ได้เลยพี่ปอมปอม”

ว่าแล้วเลย์ตัวแสบก็ออกวิ่งทันที ปอมปอมอ้าปากหวอ ตาโต แล้วออกวิ่งตามสุดชีวิตทั้งร้องโหวกเหวก

“ว๊ากกก ขี้โกงอ่ะ ออกตัวก่อน เลย์ขี้โกง~”

เด็กๆพากันวิ่งเฮโลตามไป ชีวามองแล้วก็หัวเราะ ถอนใจเบาด้วยความโล่งอกโล่งใจ ก่อนออกวิ่งตามน้องไป ขาเขายาวไม่ต้องเร่งมากก็ไปถึง ตอนนี้สิ่งที่เขาควรทำมากที่สุดคือเคลียร์ตัวเองให้กระจ่างใสเสียทีได้แล้ว ก่อนที่จะเสียน้องไปจริงๆ

กลับมาบ้านปอมปอมก็ค้นของฝากที่เมื่อวานครอบครัวตนเองกับครอบครัวชีวาไปเที่ยวแล้วซื้อมาฝากคนเฝ้าไข้อย่างเขาออกมาทาน ถือของกินเดินมาหาคุณตาที่หน้าบ้าน คุณตาเปิดสอนงานจักสานจำพวกตะกร้าและเครื่องใช้ไม้สอยให้นักเรียน เวลามีโครงงานมักมีชื่อคุณตาเป็นผู้สอนเสมอ เด็กๆมักจะมาขอให้ช่วย ท่านก็ช่วยด้วยความเต็มใจ ในเวลานี้ลูกหลานไม่มีอะไรต้องห่วงแล้ว กิจการงานต่างๆลูกชายก็บริหารไปได้ดี ท่านที่อยู่บ้านเฉยๆก็ทำอะไรเล็กๆน้อยๆ คุณยายท่านก็เป็นประเภทแม่ศรีเรือน ทำขนมนมเนยแจกเพื่อนบ้านอยู่เรื่อยๆ

“คุณตาคร้าบ ทำอะไรอยู่?”

หนุ่มน้อยนั่งลงบนแคร่ไม้ที่คุณตากำลังนั่งสานอะไรสักอย่าง ตอกเส้นบางวางเรียงอยู่ข้างกายท่าน

“ตะกร้าน่ะ ทำให้ยายเขา จะได้ใส่ข้าวของเวลาไปวัด”

ปอมปอมน้อยพยักหน้าหงึกหงักกับคำอธิบายของคุณตา นั่งดูท่านทำงานอย่างสนอกสนใจ แต่ถ้าให้ทำปอมทำไม่เป็นนะ



เมื่อวันหยุดพักผ่อนของทั้งเด็กและผู้ใหญ่หมดลงก็ได้เวลาเตรียมตัวกลับบ้านกัน ก่อนกลับคุณตาคุณยายก็มีของเล็กๆน้อยๆให้หลานๆ อาร์ดิวคลานเข่าเข้าไปรับถุงผ้าใบเล็กจากคุณยาย ไม่รู้เหมือนกันว่ามีอะไรอยู่ในนั้น ท่านทั้งสองมองเขาแล้วยิ้มบาง

“ขอให้หลานผ่านพ้นทุกอย่างไปได้ด้วยดี แม้ชะตามันจะถูกกำหนดไว้แล้ว แต่แรงศรัทธาที่มีมันจะทำให้หลานปลอดภัย”

คำพูดที่ได้ยินกันเพียงสามคนทำให้ตี๋น้อยย่นหัวคิ้ว ไม่เข้าใจในสิ่งที่คุณตาพูด จะเกิดอะไรขึ้นกับเขาอีกอย่างนั้นหรือ?

“อาร์ดิวอายุครบสิบแปดแล้วสินะ” คุณยายเอ่ยถามเสียงอารี

“ครับ”

“โตเป็นหนุ่มแล้วนะ เด็กสมัยนี้โตไวกันจริงๆนะตา”

คุณยายหันไปขอแนวร่วม คุณตาหัวเราะ ทำให้บรรยากาศแปลกๆเมื่อครู่คลายลง อาร์ดิวอมยิ้ม กราบขอบคุณท่านก่อนคลานออกไป ให้ปอมปอมเข้าไปหาคุณตากับคุณยายบ้าง



“คุณไม่กลับด้วยกันเหรอ?”

หลังจากขนข้าวของขึ้นรถเสร็จอาร์ดิวจึงปลีกตัวมาคุยกับพนักงานช่วยยกของ น้ำเย็นๆในแก้วถูกส่งให้การ์ฟรับไปดื่ม

“ยังหรอก ปิดเทอมทั้งทีอยากทำตัวมีประโยชน์บ้าง”

มุมปากเด็กหนุ่มยกยิ้ม ตี๋น้อยยิ้มตาม ก่อนรับแก้วน้ำคืนแล้วบอกลา

“งั้นผมไปแล้วนะ เจอกันที่กรุงเทพฯ” ยิ้มให้เพื่อนสนิทที่อยากเลื่อนสถานะแล้วตี๋น้อยก็หมุนกายกลับ

“ตี๋”

“?” หันกลับมาเลิกคิ้วมองคนเรียก

“เปล่า”

คำปฏิเสธพร้อมรอยยิ้มแห้งทำให้ตี๋น้อยงง อะไรของเขา?

“เอาวะ เดี๋ยวก็ได้เจอกันแล้ว” บอกกับตัวเองเมื่อมองตามหลังอาร์ดิว ก่อนจะก้าวตามไปส่งตี๋น้อยที่รถด้วย

“ปอมปอมไม่ลืมอะไรนะลูก?” คุณแม่รวิเอ่ยถามลูกชายคนเล็กเมื่อตัวผอมๆนั้นจะก้าวขึ้นรถก่อนใคร

“ไม่ครับ ทุกอย่างเตรียมพร้อม”

ตะเบ๊ะให้ด้วยความมั่นใจ กวักมือไหวๆเรียกป๋าชีวาให้รีบขึ้นมา ขณะที่ตนเองนำไปก่อนแล้ว เมื่อพร้อมกันแล้วทุกคนจึงลาผู้อาวุโสที่ออกมาส่งก่อนขึ้นรถกลับกรุงเทพฯกัน

“ลานะคะ” คุณแม่รวิหันไปลาครอบครัวการ์ฟที่มารอส่ง

“เดินทางปลอดภัยค่ะ ไว้ไปส่งเจ้าการ์ฟแล้วจะแวะไปหาค่ะ”

“ยินดีต้อนรับเสมอค่ะ”

ทั้งสองครอบครัวยิ้มให้กัน ก่อนที่ประตูรถตู้จะปิดลงแล้วรถจึงค่อยเคลื่อนตัวออกไป น้องเอิงโบกมือลาพี่ๆ นานๆเธอจะได้เจอพี่ๆสักที อยากกลับไปเรียนที่กรุงเทพฯเหมือนกัน แต่ก็กลัวคุณพ่อคุณแม่เป็นห่วงอีก อยู่ใกล้ๆพวกท่านก็ดีเหมือนกัน อ้อนได้ตลอด ไม่ต้องทนคิดถึงกันนานๆ

“มองตามตาละห้อย แม่เพิ่งรู้ว่าเราแสดงอาการแบบนี้เป็น”

เสียงคุณแม่เอ่ยล้อพ่อลูกชายตัวดี เรียกสายตาจากคุณพ่อและน้องเอิงให้มองมาที่การ์ฟเป็นตาเดียว เด็กหนุ่มทำหน้าเหรอหรา แต่ไม่เนียนเอาเสียเลย

“อะไรกันครับ มาแซวกันเองซะงั้น” หัวเราะน้อยๆกับท่าทีส่งค้อนแต่พองามของคุณแม่ กอดเอวท่านแล้วพากันเดินกลับบ้าน พอหันมามองคุณพ่อที่ยังนิ่งเฉยการ์ฟจึงเอ่ยขึ้นมา

“ดูพ่อไม่ตื่นเต้นเลย”

“ตื่นเต้นเรื่องอะไร?” น้ำเสียงเรียบนิ่งพอๆกับสีหน้าเลยทีเดียว

“เรื่องผม... เป็นเกย์”

“น้าแกก็เป็น”

“หา? นี่ตกลงรับได้หรือครับ?” สิ่งที่คุณพ่อย้อนมาทำให้การ์ฟอุทานเสียงหลง รู้เรื่องน้าเทสต์เสียด้วย แต่ไม่ว่าอะไรนี่มันแปลกไหมนะ?

“รับไม่ได้หรอก แต่ต้องยอม” ท่านบอกแล้วถอนใจยาว

“ทำไมครับ?” คนเป็นลูกเอ่ยถามอย่างข้องใจ ที่บอกว่าต้องยอมหมายถึงอะไร?

“ไม่รู้แกรู้หรือยัง แกกับอาร์ดิวลูกลุงไปป์น่ะ...” สายตาคุณพ่อมองมา การ์ฟพยักหน้าอย่างเข้าใจในสิ่งที่ท่านจะพูด

“อ๋อ ถ้าเรื่องที่คุณป้ารวิผูกดวงเราสองคนไว้ด้วยกัน ผมรู้แล้วครับ เพราะอย่างนั้นเหรอ พ่อถึงได้ต้องยอมรับ?”

“จะบอกให้นะ ถ้าไม่ทำพิธีตัด แกกับลูกลุงไปป์ไม่มีทางหนีกันพ้นหรอก”

“ซึ่งผมก็ไม่คิดจะตัดแน่นอน” การ์ฟเสริม

“อย่ามาตอกย้ำสิวะ ไอ้ลูกคนนี้”

คุณพ่อถอนฉุน รู้หรอกว่ามันเป็นมาอย่างไร แต่ทำใจรับปุบปับมันไม่ได้ เรื่องนี้รู้มานานแล้ว เรื่องที่ว่าลูกของตนกับลูกชายของผู้มีพระคุณนั้นมีดวงผูกกันอยู่ทำให้หลีกลี้หนีกันยาก แต่ท่านก็ทำปล่อยผ่านเลยไปได้ตั้งหลายปีเพราะไม่คิดว่าทั้งคู่จะได้เจอกันแล้วผูกสัมพันธ์กันมากกว่าเพื่อนธรรมดา แต่ในวันนี้คงหลอกตัวเองต่อไปไม่ได้อีก

“อาร์ดิวก็เป็นเด็กเรียบร้อยออก แม่ชอบนะ พูดจาสุภาพ มีสัมมาคารวะ น่ารักดี” คุณแม่เอ่ยชมหนุ่มตี๋ พ่อลูกชายยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างกับถูกชมเสียเอง

“แหนะ เห็นไหม แม่ยังชอบเลยอ่ะ”

“เอิงก็ชอบ” น้องเอิงเอ่ยเสริม สนับสนุนพี่อาร์ดิวเต็มที่ ส่วนพี่ชายแค่ตัวแถม

“เข้ากันดีเป็นปี่เป็นขลุ่ย”

คุณพ่อว่าเคืองๆ ถูกโจมตีอยู่คนเดียว อีกสามคนพากันอมยิ้ม น้องเอิงกอดแขนคุณพ่อ เอียงศีรษะซบออดอ้อนเอาใจ สองพ่อลูกเลยคุยเล่นหัวเราะคิกคักกันไปตามทาง สะพานไม้เชื่อมต่อทอดไปยังอีกฝั่งที่เป็นบ้านของการ์ฟ เมื่อเดินมาถึงกึ่งกลางสะพานเด็กหนุ่มก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองต้นไม้ใหญ่ริมน้ำอีกฟากฝั่งหนึ่ง ก่อนยิ้มออกมาบางเบา

“ยิ้มหวาน มีความหลังอะไรกับต้นไม้นั่นหรือไงพ่อหนุ่ม?”

ลืมไปได้อย่างไรว่าคุณแม่ตาดี การ์ฟหัวเราะในลำคอ กระชับเอวคุณแม่พาเดินไปด้วยกัน ไม่ได้ตอบอะไร เก็บไว้ให้เขากับ ‘เพื่อนสนิท’ รู้กันสองคนก็พอ



บนรถตู้ที่มุ่งตรงสู่กรุงเทพมหานคร ชีวาจับมือน้องเล็กที่นอนหลับพิงตนเองอยู่ นั่งรถนานๆแล้วน้องคงเพลีย เวลาก็เริ่มเข้าสู่พลบค่ำแล้วด้วย คงจอดทานข้าวกันที่ไหนสักที่ก่อนไปต่อ มือใหญ่เกี่ยวผมนิ่มที่เริ่มยาวทัดหูให้น้อง มองแล้วก็อมยิ้ม ก่อนเอนหัวลงนอนชนหัวน้องพอดีแล้วหลับตาลง

เสียงข้อความเข้าเครื่องอาร์ดิวทำให้ชีวาหรี่ตาขึ้นมา เห็นเพื่อนเปิดดูข้อความแล้วยิ้มเขินอยู่คนเดียว ชีวาอมยิ้ม อาร์ดิวมีความสุข เขาเองก็มีความสุข ไม่ใช่เพราะยังตัดใจไม่ได้ เพราะอาร์ดิวคือเพื่อนคนสำคัญและเป็นพี่ชายของคนที่เขารักต่างหาก รักในวัยเยาว์มันผ่านพ้นไปแล้ว ตอนนี้ต่างหากคือความจริง คนที่อยู่ข้างกายเขาตอนนี้ต่างหากที่สำคัญ

อาร์ดิวที่เปิดดูข้อความแล้วก็พิมพ์ข้อความตอบกลับ ไม่นานข้อความจากการ์ฟก็ส่งกลับมาอีก คราวนี้ทำเอาอายม้วน บอกกับโทรศัพท์เบาๆว่าบ้า ก่อนเก็บเข้ากระเป๋าตนเอง

เด็กหนุ่มนั่งพิงเบาะ มองออกนอกหน้าต่างรถ ข้างนอกเริ่มมืดแล้ว แสงไฟจากข้างทางมีประปราย แม้ไม่เหมือนแสงหิ่งห้อยในคืนนั้น แต่กลับทำให้เขานึกถึงมันขึ้นมา มือเรียวแตะกลีบปากตนเองแล้วเม้มแน่นเมื่อนึกถึงรอยจูบของใครบางคน...




TBC




ขอบคุณทุกๆคนที่ยังอยู่ด้วยกันค่ะ จัดบวกกันไปโดยถ้วนหน้า :L2:

เก็บตก

ข้อความใหม่จาก การ์ฟ : ถึงไหนแล้ว?

อาร์ดิว : ถึง...(ชื่อจังหวัด)

ข้อความตอบกลับจาก การ์ฟ : เปล่า ไม่ได้หมายถึงนาย ฉันหมายถึง...

.

.

.

.

.

.

.

แหนะ รู้นะว่าเลื่อนลงมาดู

.

.

.

.

ที่ถามว่าถึงไหนแล้วฉันหมายถึง...

.

.

.

.

ใจของฉันน่ะ...

.

.

.

.

.

ใกล้ถึงใจนายหรือยัง?


me : ฮิ้วววววววววว (อายอ่ะ การ์ฟฟฟฟ >/////< )

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-07-2013 20:00:16 โดย wanmai »

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
นานๆจะได้จิ้มวันใหม่สักที :z13:
เอาไปก่อนเลย+1และเป็ด

การ์ฟนายเสี่ยวมาก
แต่โคตรชอบเลย :impress2:

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13
มุขเสี่ยวแต่ได้ใจตี๋น้อยใช่ม้า

ออฟไลน์ udongjay

  • ความรัก...ไม่เคยจำกัดเพศ แต่เพศต่างหากที่จำกัด...ความรัก
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +235/-2
ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก การ์ฟดิวหวาเว่อร์เลยง่าาาา
แอบเขินแทน

ส่วนป๋ากับกะปอม ป๋าฝันได้น่าตกใจเกินไปนะ แอบจิตตกเลยง่า
ถ้าป๋าไม่ได้ดิวเตือนสติจะรู้ไหมว่าควรทำไร

หวังว่าไวน์จะยอมรับความจริงได้นะ ไม่อยากดราม่า คึคึ

บวกฮะพี่ใหม่

ออฟไลน์ Naenprin

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-1
 :mew1:

เฮ้อ สงสารชีวาจัง มีแต่คนเข้าหา

ดีนะที่ปอมปอมยังมีความเป็นผู้ใญ่บ้าง

ออฟไลน์ cinquain

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1125
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +247/-0
อ้ากกกก น้องใหม่! มันน่ารักค่ะ ฮิ้วววววว ^^
ยิ่งอ่านตอนอาร์ดิวได้รับข้อความแล้วพึมพำว่าบ้านี่อยากรู้เลย
พอได้อ่านตอนท้ายพี่ยิ้มแก้มจะแตก  :ling1: 

ลักษณะการเขียนอันเป็นเอกลักษณ์ของวันใหม่เลยค่ะอย่างนี้ ทำคนอ่านเขินเนี่ยหน้าที่ประจำ ^^

ส่วนชีวาดีขึ้นนิดหนึ่ง แต่ขอรอดูการพูดคุยกับไวน์ก่อนนะ ถ้าเด็ดขาดถึงจะเชื่อใจ
ไม่อยากให้ปอมปอมน้อยเสียใจจริงๆค่ะ / พี่อินมากนะนี่ ^^

เป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ อัพเมื่อไหร่อีกกริ๊งกร๊างมาในเฟสนะคะ  :กอด1:

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
กำลังอยากรู้เลยว่าการ์ฟส่งข้อความอะไรมาให้อาร์ดิว ถึงทำให้ตี๋น้อยของเราอายม้วนต้วนได้ขนาดนี้
ให้ความรู้สึกทั้งหวาน ทั้งเลี่ยนเลยนะการ์ฟ แต่ก็ชอบอะ ขนาดอาร์ดิวยังชอบเลย  :o8:
เกือบร้องไห้ตามป๋าชีวาแล้วอะ ตอนที่ฝันว่าน้องปอมปอมบอกเลิก  :mew6:
รอดูอยู่ว่าป๋าจะจัดการยังไงต่อไป ถือซะว่าเป็นบทเรียนนะป๋านะ อย่าทำอีกล่ะ  :hao5:

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
กรี๊ดดดดด กับข้อความของการ์ฟ เดินหน้าจีงต่อไปเลยการ์ฟ อาร์ดิวไปไหนไม่รอดแน่ๆ
ชีวาดีนะที่แค่ฝัน อย่า ทำให้ปอมน้อยเสียใจอีกเลย
ชัดเจนกับทุกๆอย่างได้ แล้ว กอ่นที่ฝันป๋าจะกลายเป็นจริงเสีย

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
จริงของปอม ชีวาไม่ยอมบอกเรื่องปอมกับเพื่อน

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด