พิมพ์หน้านี้ - ☆☆Magica Café☆☆ ตอนพิเศ๊ษ พิเศษ มาอ่านกันเต๊อะ (30/08/2556)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: wanmai ที่ 30-11-2012 23:38:23

หัวข้อ: ☆☆Magica Café☆☆ ตอนพิเศ๊ษ พิเศษ มาอ่านกันเต๊อะ (30/08/2556)
เริ่มหัวข้อโดย: wanmai ที่ 30-11-2012 23:38:23
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0




(http://i1064.photobucket.com/albums/u379/wanmai28/Garf2.jpg)

(http://i1064.photobucket.com/albums/u379/wanmai28/r3_zpsbae5d96d.png)

(http://i1064.photobucket.com/albums/u379/wanmai28/pompom2.jpg)  (http://i1064.photobucket.com/albums/u379/wanmai28/Shiva2.jpg)



Q : คุณเชื่อเรื่องโชคชะตาฟ้าลิขิตไหม?



อาร์ดิว : เชื่อครับ เพราะโชคชะตานำพาให้เรามาพบกัน *ยิ้ม*

การ์ฟ : ............

อาร์ดิว : (‘ ’)???

ชีวา : ไม่อ่ะ เพราะผมชอบลิขิตชีวิตตัวเองมากกว่านะ *หัวเราะ*



Q : ปอมปอมล่ะ?



ปอมปอม : หือ? ปอมไม่ว่าง อย่าเพิ่งถามครับ *ก้มหน้าก้มตาเขียนอะไรไม่รู้ยุกๆยิกๆ*

ชีวา : เขียนไรอ่ะ? *ยื่นหน้าเข้ามาดู*

ปอมปอม : หวา~ ป๋าห้ามดู!! *รีบดึงกระดาษไปซ่อนข้างหลัง*

ชีวา : =___=

ปอมปอม : อยากรู้ไปอ่านในเรื่องเอานะป๋า *หัวเราะคิกคัก*


:D                          :D                                      :D                                      :D



หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ ทักทายกันก่อนสักนิด (30_11_2555)
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 30-11-2012 23:42:19
มารอปอมน้อย
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ ทักทายกันก่อนสักนิด (30_11_2555)
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 30-11-2012 23:43:59
รอค่ะ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ ทักทายกันก่อนสักนิด (30_11_2555)
เริ่มหัวข้อโดย: FFS_Yaoi ที่ 01-12-2012 00:08:22
รอติดตามอยู่ค่ะ
 :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ ทักทายกันก่อนสักนิด (30_11_2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Narcissus ที่ 01-12-2012 01:13:31
โอ้ เรื่องนี้กลับมาแล้ว~!!  :mc4:

นึกว่าจะรีไรท์นานกว่านี้ซะอีกค่ะ รู้สึกยินดีที่จะได้อ่านอีกครั้ง  :mc3:

ยินดีต้อนรับการกลับมาค่า~  :pig2:

เป็นกำลังใจให้นะคะ  :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ START!!!!!!!!! (01/12/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: wanmai ที่ 01-12-2012 06:34:41
MAGICA CAFÉ



START!!!





Magica Café


ช่วงเวลาเช้าตรู่ของวันหยุด ณ ร้านMagica Café ร้านที่ให้บริการด้านอาหารและเครื่องดื่ม ขึ้นชื่อด้านรสชาติและบรรยากาศ
ของร้านที่น่านั่ง ตัวร้านถูกตกแต่งให้ดูคล้ายบ้านที่สร้างด้วยอิฐสี สับหว่างให้เกิดความสวยงามคล้ายบ้านขนมหวานในเทพ
นิยาย ไม้ดอกทั้งแบบพุ่มและแบบห้อยระย้าถูกปลูกไว้รายรอบร้าน ดูลงตัวพอดิบพอดี

ตกแต่งภายในสไตล์แอนทีค โทนสีดูอบอุ่นไม่ทึมเทามากไป มีนาฬิกาโบราณเรือนใหญ่แขวนไว้ที่ผนังด้านข้างเคาน์เตอร์
นั่นยิ่งส่งให้ร้านนี้ดูมีมนต์ขลังมากขึ้นไปอีก กระจกใสถูกบุรอบตัวร้านให้แสงธรรมชาติส่องเข้าไปภายในได้ และให้สามารถ
มองเห็นธรรมชาติภายนอกร้านเป็นอาหารตาอีกด้วย


บนถนนเส้นเล็กที่ทอดยาวมายังร้านMagica Café หนุ่มน้อยวัยมัธยมตัวผอมบางคนหนึ่งกำลังวิ่งตรงมาที่ร้าน สีหน้าของเขาดู
เบิกบาน ช่างเหมาะกับเช้าที่แสนสดใสยามนี้เสียจริง ผมที่ตัดซอยเข้าทรงตามสมัยนิยมปลิวกระดกตามแรงเคลื่อนไหวจากการ
วิ่งลั้นลาของเจ้าตัว คนสนิทมักเรียกมันว่าทรงหัวเห็ด แต่เจ้าตัวกลับค้านหัวชนฝาว่ามันไม่ใช่เห็ด หนุ่มน้อยเปิดประตูเข้ามาใน
ร้าน พนักงานของร้านที่กำลังทำความสะอาดและจัดโต๊ะกันอย่างขะมักเขม้นต่างหันมามอง

“อรุณสวัสดิ์ครับพี่ ๆ~”

น้ำเสียงสดใสเอ่ยทักทายพนักงานในร้าน รอยยิ้มกว้างขวางจริงใจส่งให้ทุกคนโดยทั่วถึงกัน ดวงตาเรียวรีภายใต้กรอบแว่นแฟชั่น
อันโตหยิบหยีเมื่อเจ้าตัวยิ้มกว้างเสียขนาดนั้น

“อรุณสวัสดิ์ครับปอมปอม”

เหล่าพนักงานรุ่นพี่ในร้านเอ่ยทักทายหนุ่มน้อยตาหยี ปอมปอม ปริญญ์ ลูกชายเจ้าของร้านMagica Café แห่งนี้ เด็กผู้ชายตัว
ผอมบาง ผิวขาว หน้าตาดูจิ้มลิ้มเหมาะกับตัว จุดเด่นของเขาคงอยู่ที่ความร่าเริงสดใส ซึ่งส่งให้คนรอบกายต่างรักและเอ็นดู

ปอมปอมมีพี่ชายอีกคนคืออาร์ดิว ปราณรวี เด็กหนุ่มหน้าตี๋ ผู้มีวาจาสุภาพอยู่เสมอ ไม่เคยโหวกเหวกโวยวายเหมือนน้องชาย
อย่างปอมปอมเลยสักนิด ปอมปอมเคยพูดถึงพี่ชายคนนี้ว่าอีกไม่นานอาร์ดิวอาจจะอยากละทางโลกไปบวชเป็นพระก็เป็นได้
เลยโดนคนเป็นพี่สวนมาว่าพูดจาดี คิดดี ทำดี ถึงไม่เป็นพระก็ทำได้เหมือนกัน มันอยู่ที่ใจต่างหาก

หนุ่มน้อยส่งยิ้มให้พี่ๆพนักงานก่อนเดินเข้าไปด้านหลังร้านที่เป็นห้องสำหรับเปลี่ยนชุด วันหยุดอยู่ว่างๆเขาก็อยากมาทำงานที่
ร้านบ้าง สนุกดีออก คุณแม่กับคุณพ่อที่รักของเขาพากันไปท่องโลกกว้าง ปล่อยสองพี่น้องกับร้านอาหารเอาไว้ ให้ทั้งคู่เป็นคน
ดูแลกันเอง แต่ก็ยังดีหน่อยที่มีคุณน้าจันทรา น้องสาวของคุณแม่มาคอยช่วยดูให้อีกทาง ไม่อย่างนั้นคงมีหัวหมุนกันบ้างล่ะ

ปอมปอมเดินเข้ามาถึงหน้าห้องเปลี่ยนชุดสำหรับพนักงาน ก่อนที่หนุ่มน้อยร่าเริงจะได้ก้าวเข้าไป เสียงแปลกๆก็ดังลอดออกมา
ทำให้ขาเรียวเล็กนั้นหยุดชะงัก เมื่อลองเงี่ยหูฟังดีๆก็พอจะรู้ว่ามันคือเสียงอะไร อารมณ์ดีๆที่มีอยู่ปลิวหาย เท้าขวาถูกยกขึ้นถีบ
ประตูเปิดโครม ขอโทษนะครับที่ดูไร้มารยาท แต่มันเกินจะทนไหวจริงๆ

คนที่อยู่ในห้องหันมามอง เป็นชายหนุ่มกับหญิงสาวที่ท่าทางจะขาดความอบอุ่น เพราะช่างแนบชิดสนิทแน่นกันเหลือเกิน
ฝ่ายหญิงท่าทางตกใจที่เห็นลูกชายเจ้าของร้านโผล่มาเช่นนี้ เธอรีบผละห่างพนักงานของร้านเมจิคกะที่แนบชิดเธออยู่ก่อน
เลี่ยงออกไปอย่างเร็วไว ปอมปอมเพียงเหลียวมองตามแล้วหันกลับมาหาชายหนุ่มที่เหลืออยู่ในห้องนี้ ท่าทางของนายคนนั้น
ก็กระไรเลย ดูไม่สะทกสะท้านสักนิด ยังมีหน้ามายิ้มเหยียดใส่เขาอีก มันน่านัก!

หนุ่มน้อยมองอีกฝ่ายด้วยความขวางขุ่น ก่อนก้าวไปที่ล็อคเกอร์เก็บของของตนเอง เอาข้าวของในนั้นออกมาเพื่อที่จะแต่งตัวให้
เรียบร้อยแล้วออกไปช่วยพี่ๆเขาหน้าร้าน ดูเอาเถอะ ขนาดเขาเป็นลูกเจ้าของร้านยังมีความกระตือรือร้นอยากจะทำงานมากกว่า
พนักงานกินเงินเดือนอย่างนายคนนี้อีก ยิ่งคิดปอมปอมยิ่งขุ่นมัว บรรยากาศแสนสดใสในยามเช้าของเขาหายไปเพราะเรื่องบ้าๆ
นี่หมดแล้ว

พนักงานหนุ่มที่ทำเรื่องบัดสีเมื่อครู่เดินเข้ามาใกล้ปอมปอม สายตาที่ใช้มองหนุ่มน้อยดูน่าเกลียดเหลือทน มือเอื้อมไปจะจับก้น
คนตัวบาง ปอมปอมหันกลับมาตวัดตามอง ผู้ชายคนนั้นเพียงชะงักมือ ก่อนจะยกยิ้มมุมปากแล้วเท้าแขนกับตู้ล็อคเกอร์กั้นตัว
ปอมปอมเอาไว้

“ท่าทางซ่าส์นะเราน่ะ” นายคนนั้นพูด หน้าตาไม่ดีแล้วรอยยิ้มยังดูน่าเกลียดอีก

“อยากมากก็ไปทำที่อื่น ที่นี่ไม่ใช่โรงแรมม่านรูด!”

ปอมปอมว่าใส่หน้า ทั้งที่ดูไปแล้วอีกฝ่ายน่าจะอายุเยอะกว่าปอมปอมหลายปี แต่อายุเยอะกว่าแล้วไง ทำตัวไม่น่าเคารพ

“สนใจไปด้วยกันไหมล่ะคุณหนู?”

ปอมปอมฉุนกึกกับคำถามเชิงดูถูกนั่น ก่อนที่หนุ่มน้อยจะโต้กลับ

“เก็บเอาไว้ถามลูกพี่เถอะคำถามนี้น่ะ”

“ปากดี อยากจะรู้จริงๆว่าเวลาครางจะเสียงดีเหมือนเวลาด่าไหม”

พนักงานหนุ่มเค้นเสียงลอดไรฟัน ก่อนจับแขนเรียวเล็กของปอมปอมแล้วกระตุกดึงไปยังห้องน้ำที่อยู่ด้านใน ถัดจากห้องเปลี่ยน
เสื้อผ้าไปเล็กน้อย ปอมปอมหน้าตาตื่นตกใจกับสถานการณ์ เมื่อพนักงานคนดังกล่าวเข้าโรมรันจะหักหาญน้ำใจ หนุ่มน้อยดิ้นรน
พร้อมร้องตะโกนให้ใครอีกคนมาช่วย

“ป๋า!! ช่วยปอมด้วย!!!!”

สิ้นเสียงร้องของปอมปอมน้อย มือปริศนาของใครคนหนึ่งก็ลอยวืดมาคว้าคอของพนักงานหนุ่มคนดังกล่าวก่อนกระชากกลับ
เมื่อฝ่ายนั้นหันมาเจ้าของมือก็ชกไปเสียเต็มหมัด

“โอ๊ย!! ไอ้ชีวา!”

พนักงานใจทรามร้องเสียงหลงเมื่อเจอหมัดพิฆาตจากเด็กหนุ่มตัวโต ชีวา หรือ ป๋า ของปอมปอม เด็กหนุ่มผู้มีดวงตาเฉี่ยวคมดู
ดุจนคนถูกมองต้องสะดุ้ง ปอมปอมรีบหลบไปอยู่ด้านหลังของชีวา เด็กหนุ่มเหลียวมามองน้องก่อนหันกลับมาหานายพนักงาน
ชีกอ

“รังแกเด็ก น่าภูมิใจมากสินะ”

ชีวาจ้องเขม็ง ท่าทางเอาจริงของเด็กหนุ่มทำให้นายชีกอไม่กล้าวัดด้วย ยิ่งชีวาชอบชกมวยเป็นชีวิตจิตใจยิ่งไม่ควรเอาชีวิตมา
เสี่ยง นายชีกอมองปอมปอมที่หลบหลังชีวาอยู่ ก่อนจะฟึดฟัดออกจากห้องไป ชีวาถอนหายใจเฮือกกับความวุ่นวายที่เกิด หัน
มาหาคนด้านหลังแล้วจึงเอ่ยถาม

“เป็นไงน่ะเรา?”

“ป๋า~~”

ปอมปอมโผเข้ากอดคนเป็นพี่แน่น ชีวาชะงักไปเล็กน้อยก่อนกอดคนตัวบางตอบ ลูบไหล่ลูบหลังปลอบใจเด็กเสียขวัญ

“มันจับไอ้นั่นปอมด้วยอ่ะ ฮึ่ก!” หนุ่มน้อยฟ้องพี่พร้อมเสียงสะอื้น

“แค่จับ มันไม่ได้เอาไปสักหน่อย อย่าร้องไห้เลยน่า”

ชีวาพยายามปลอบ แต่ฟังดูแล้วมันไม่เหมือนการปลอบเท่าไหร่เลย หนุ่มน้อยในอ้อมกอดเลยเงยหน้าขึ้นมาต่อว่า

“ป๋าอ่ะ มันจับปอมน้อยนะ จะให้ปอมหัวเราะหรือไง!”

“เอ้า ปลอบอยู่นะเนี่ย ไหงมาโกรธกันวะ?”

ป๋าชีวาถึงกับเอ๋อ เขาอุตส่าห์ปลอบนะ ทำไมเขาถึงถูกงอนเล่า ดู มาทำหน้างอใส่อีก เด็กอะไร

“มีอะไรกันปอมปอม เสียงดังเชียว”

อาร์ดิว พี่ชายของปอมปอมน้อยโผล่เข้ามาเมื่อได้ยินเสียงเอะอะ สวนกับพนักงานเจ้าปัญหาไปโดยที่ไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้น ปอม
ปอมปาดน้ำตาก่อนย่นจมูกใส่ชีวา หนุ่มน้อยเดินไปคล้องแขนพี่ชายอย่างอาร์ดิวแล้วพากันออกไปจากห้องเปลี่ยนชุด บอกกับ
พี่ชายว่าเดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง ให้พี่ชายอย่างอาร์ดิวช่วยตนเองด้วย

ชีวามองตามสองพี่น้องที่คล้องแขนกันออกไปแล้วเกาหัว เอาใจไม่ถูกแล้วนะนี่ คบเด็กสร้างบ้านรึเปล่าฟะ?

แอบบ่นในใจแล้วชีวาก็เดินตามสองพี่น้องออกไปบ้าง เมื่อออกมาด้านนอก นายพนักงานชีกอนั่นก็กำลังทำงานอยู่ ชีวาปรายตา
มองอีกฝ่ายที่ไม่มีท่าทีสะท้านสะทกแม้แต่น้อย คนแบบนี้ถ้าไม่เจอของจริงคงไม่รู้สึก

เด็กหนุ่มตาคมเดินเข้าไปหาปอมปอมกับอาร์ดิวที่ประจำการอยู่หลังเคาน์เตอร์ ปอมปอมหน้างอ มองนายพนักงานชีกอด้วย
ความเคืองขุ่น ชีวาโยกศีรษะน้อง ทำให้คนหน้างอเลิกให้ความสนใจนายพนักงานนั่น เมื่อเริ่มเปิดร้านและมีลูกค้าเข้ามา
พนักงานทุกคนก็ทำหน้าที่ของตนเองไม่ให้ขาดตกบกพร่อง

ร้านMagica Café แห่งนี้ ถ้ามองเพียงผิวเผินก็คงไม่ต่างจากร้านอาหารธรรมดาร้านหนึ่ง แต่ลึกลงไปกว่านั้นร้านแห่งนี้ไม่เพียง
แต่มีชื่อเป็นร้านแห่งเวทมนตร์เท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้วก็มีเวทมนตร์บางอย่างซ่อนอยู่ตามชื่อร้านอีกด้วย และคนที่จะร่าย
เวทย์ เสกมนตราคนนั้นก็คือ ...


อาร์ดิว ปราณรวี



เขามีความลับบางอย่างที่บอกใครไม่ได้... เขาเป็นพ่อมด ...


.

.

เชื่อจริงๆน่ะหรือ? เขาไม่ใช่พ่อมดหรอก เพียงแต่เขาสามารถมองเห็นในสิ่งที่คนธรรมดาไม่สามารถมองเห็น ไม่ใช่ผี ไม่ใช่
วิญญาณ แต่เขามีญาณวิเศษ นิมิตเห็นบางสิ่งบางอย่างเกี่ยวกับใครก็ตามที่เขาได้สัมผัสกาย มันคือความประหลาดที่เขาไม่
ได้อยากมี แต่เมื่อเขามีมันติดตัวอยู่แบบนี้ คุณแม่ของเขาจึงสอนให้รู้จักควบคุมมัน และใช้มันให้เกิดประโยชน์ เพื่อลบล้าง
ความคิดที่ว่าเขาเป็นตัวประหลาดให้หมดไป

แต่พอนานวันเข้ากลับมีบางอย่างเกิดขึ้นกับตัวเขา เหมือนมีพลังงานหรือไฟฟ้าสถิตไม่ทราบได้ ทำให้บางครั้งเขาก็ทำในสิ่งที่คน
ธรรมดาทำไม่ได้



... หรือแท้ที่จริงแล้วเขาจะเป็นพ่อมดจริงๆกันนะ ? …



ปอมปอม น้องชายที่น่ารัก และ ชีวา เพื่อนสนิทในวัยเด็กของเขา ทั้งสองคนรู้เรื่องนี้ ไม่มีใครรังเกียจ แต่ต่างก็คอยประคับ
ประคองจิตใจที่เปราะบางของเขาเอาไว้เสมอ



กรุ๊ง~ กริ๊ง~~



“ยินดีต้อนรับครับ~”

เสียงกระดิ่งหน้าร้านMagica Café ดังขึ้น ทำให้พนักงานในร้านหันไปเอ่ยคำต้อนรับโดยทั่วกัน เด็กหนุ่มตัวสูง หน้าตาจัดว่าดี
ผนวกกับท่าทางดูไว้ตัวนั่นส่งให้เขายิ่งดูเด่นมากขึ้น ร่างสูงเดินเข้ามาในร้าน อาร์ดิวที่ยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์เมื่อเห็นว่าผู้ที่ก้าว
เข้ามาคือใครก็ชะงักไป มีความรู้สึกบางอย่างเกิดขึ้นกับตัวเขา เหมือนถูกช๊อตเล็กๆ อะไรกันนะ?

เด็กหนุ่มตัวสูงก้าวเข้ามาที่หน้าเคาน์เตอร์ ชีวาที่กำลังทำหน้าที่เสิร์ฟอาหารอยู่เหลือบมามองอย่างไม่ไว้ใจ ขณะที่ปอมปอมโผล่
ขึ้นมายืนข้างอาร์ดิว หนุ่มน้อยเปิดยิ้มตาหยีให้คนที่ตนเองคิดว่าเป็นลูกค้า ผู้ที่ก้าวเข้ามาหยุดหน้าเคาน์เตอร์มองอาร์ดิวกับเด็ก
น้อยที่ไหนไม่รู้ที่ยิ้มแป้นแล้นให้เขาแล้วจึงเอ่ยถาม

“นายใช่ไหม อาร์ดิว?”

“พี่อาร์ดิว~”

ก่อนที่อาร์ดิวจะได้เอ่ยตอบ เสียงของใครอีกคนก็เอ่ยเรียกเขาแทรกขึ้นมา เด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักคนหนึ่งเอี้ยวตัวโผล่หน้ามา
จากด้านหลังของคนที่เอ่ยถามเขา อาร์ดิวยิ้มก่อนเอ่ยทักทายเด็กหญิงกลับไป

“สวัสดีครับ น้องเอิง”

“ดีค่า~”

เด็กหญิงเปิดยิ้มน่ารักแล้วตอบกลับมาเสียงทะเล้น คนที่ยืนอยู่ด้านหน้าเธอจึงปรายตามามองที่อาร์ดิว

“งั้นก็คงเป็นนายสินะที่ใครต่อใครบอกว่ามีญาณวิเศษ เห็นอนาคตได้น่ะ?”

“พี่การ์ฟ” น้องเอิงตีแขนพี่ชายที่พูดแบบนั้นกับพี่อาร์ดิวของเธอ ก่อนหันมาบอกกล่าวกับพี่อาร์ดิว

“พี่ชายเอิงเองค่ะ พี่เขาไม่เชื่อว่าพี่อาร์ดิวมองเห็นจริง เลยจะมาจับผิด โอ๊ย!!”

การ์ฟดีดเหม่งเด็กช่างจ้อ แทนที่จะเข้าข้างพี่ชายตัวเองนะเด็กคนนี้ น้องเอิงบุ้ยปากใส่พี่ชายก่อนลูบหน้าผากที่ถูกพี่ชายดีดป้อยๆ
เจ็บอ่ะ

“แล้วมันใช่ไหมล่ะ?” การ์ฟหันมาถามอาร์ดิวที่ยืนมองเขาและน้องสาวเงียบๆ

“เปล่าสักหน่อย”

“อะไรนะ?”

“ไม่ได้เห็นอนาคต แต่เขาเรียกว่านิมิตต่างหาก” อาร์ดิวว่าหน้าตาเฉย ก็เขาตอบตามความจริง

“แล้วมันต่างกันตรงไหนตี๋?”

การ์ฟกอดอกลอยหน้าถาม อาร์ดิวนึกฉุนกับคำเรียกขานของฝ่ายนั้น เรียกเขาว่าตี๋อย่างนั้นหรือ เพิ่งพบกันเองนะ มาตั้งฉายา
อะไรให้เขาแล้วนี่

“ก็มันเป็นแค่การเห็นในสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นในเวลาอันใกล้นี้ แล้วผมก็แค่เตือนให้ระวังตัวเท่านั้นเอง” อาร์ดิวอธิบาย

“หลอกลวง”

“ว่าไงนะ?”

“นายมันพวกหลอกลวง หาเงินด้วยวิธีง่ายๆแบบนี้น่ะเหรอ?”

คำถามของการ์ฟทำให้อาร์ดิวเม้มปาก ชีวาที่มองอยู่เงียบๆก็ชักเริ่มจะเขม่นหนุ่มการ์ฟหน้าหล่อแต่นิสัยเสียนี่เสียแล้ว เป็นใครมา
จากไหนถึงได้มาพูดจาทำร้ายจิตใจอาร์ดิวแบบนี้ เพื่อนเขายิ่งเป็นคนคิดมากอยู่

“ผมไม่เคยรับเงินจากใครในทุกกรณีที่เขามาขอความช่วยเหลือ” อาร์ดิวบอกเสียงเรียบ ชักจะโกรธนายคนนี้แล้วเหมือนกัน มี
ปัญหาอะไรกับเขานักหนา

“แล้วทำทำไม ถ้าไม่อยากได้เงิน?”

การ์ฟยังจี้ไม่เลิก น้องเอิงมองพี่ชายสลับกับพี่อาร์ดิวของเธอไปมา ก่อนจะสะดุ้งเมื่อพี่ชีวาเดินมาหยุดอยู่ข้างหลัง

“ก็ผมแค่เห็นแล้วอยากจะช่วยเขาเท่านั้น”

“นายเห็นจริงๆน่ะ ไหนลองดูให้ฉันหน่อยสิว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับฉันบ้าง?” การ์ฟหรี่ตา ยิ้มร้าย

“ไม่เอา อย่านะ... !!”

เอ่ยจบการ์ฟก็จับแขนอาร์ดิวแล้วดึงรั้งออกมาด้านหน้า ก่อนจะจับมือเรียวนั้นกระชับแน่น อาร์ดิวจะยื้อไว้แต่ไม่ทัน ภาพ
เหตุการณ์ต่างๆเกี่ยวกับการ์ฟผ่านวูบมาให้ได้เห็น มันมากมายจนอาร์ดิวหัวหมุน ทั้งที่จริงๆแล้วเขาควรเห็นมันเพียงแว้บ
เดียว เห็นเพียงบางสถานการณ์ แต่หนนี้ทำไมมันมากมายเช่นนี้ไม่รู้ และที่น่าแปลกใจกว่านั้น ในทุกๆเหตุการณ์มีตัวเขา
รวมอยู่ในนั้นด้วย

“ว่าไง เห็นอะไรบ้างล่ะ?”

การ์ฟเอ่ยถามเมื่อเห็นอีกฝ่ายนิ่งไป อาร์ดิวกะพริบตาปริบๆ ยังมึนกับสิ่งที่ผ่านวูบวาบเข้ามาในหัว สลัดความคิดหลายหลากที่
เกิดขึ้นไม่ตั้งตัว ก่อนจะมองหน้าการ์ฟที่เลิกคิ้วท้าทายตนเองแล้วจึงว่า

“เห็นว่าคุณเดินออกจากร้านไปแล้วกระถางต้นไม้จะหล่นใส่หัวคุณ”

“แช่งฉันเหรอ?” การ์ฟเอ่ยถามทำนองหาเรื่อง

“ลองดูไหมล่ะ?”

อาร์ดิวท้าทายกลับ ขณะที่การ์ฟพยักหน้าเนิบนาบ กล้าท้า เขาก็กล้าลอง เด็กหนุ่มหมุนตัวก้าวออกไปจากร้าน น้องเอิงมอง
พี่ชายที่เดินออกไปตาโต จะเอ่ยห้ามแต่พี่ชายก็ไม่หยุดฟัง ปอมปอมน้อยเท้าคางมองคนที่มาท้าทายพี่ชายตนเองยิ้มๆ เดี๋ยว
จะรู้สึก หึ!

เพียงแค่การ์ฟก้าวพ้นประตูร้านเท่านั้น กระถางต้นไม้จากชั้นบนก็หล่นโครมลงมา เด็กหนุ่มกระโดดหลบก่อนจะมองเข้ามา
ในร้าน ท่าทางอึ้งกิมกี่ คราวนี้ถึงทีอาร์ดิวกอดอกยิ้มเยาะเย้ยอีกฝ่ายบ้าง การ์ฟเดินดุ่มกลับเข้ามาในร้าน โดยที่ไม่สังเกตเลย
ว่าเสียงกระถางต้นไม้แตกโครมครามขนาดนั้น แต่ลูกค้าที่มาทานอาหารที่ร้านนี้กลับไม่มีใครแตกตื่นหรือสนใจสักนิด เพราะ
มัวแต่โมโหคนที่ยืนยิ้มเยาะตนเองอยู่ทำให้เขาลืมสังเกตจุดนั้นไป

“นายแกล้งฉัน” การ์ฟเดินมาหยุดที่หน้าเคาน์เตอร์ ท่าทางโมโหโทโส

“ผมจะแกล้งคุณได้ยังไงในเมื่อผมอยู่ในร้าน ไม่ได้แยกร่างได้นะ”

อาร์ดิวว่า น้องเอิงพยักหน้าหงึกหงักเป็นพยานยืนยันด้วยอีกคน การ์ฟมองน้องดุๆ แต่น้องเอิงก็ไม่ได้กลัวสักนิด

“เรื่องแบบนี้พี่จะไม่เชื่อก็ได้ มันเป็นความเชื่อส่วนบุคคล พี่ไม่เคยได้ยินเหรอครับ?”

ปอมปอมลอยหน้าเข้ามาแทรก ก่อนส่งยิ้มหวานให้พี่ชายหน้าหล่อ แต่ตอนนี้หน้าตาบึ้งตึงดูไม่ได้เอาเสียเลย เฮ้อ~

สายตาทุกคู่มองมาที่การ์ฟ เด็กหนุ่มยืดอกขึ้นเล็กน้อย พยายามปรับสีหน้าของตนเองให้ดีขึ้น เมื่อสายตาแต่ละคู่ที่มองมาเหมือน
เขาทำอะไรผิดร้ายแรงอย่างนั้น เขาแค่ไม่เชื่อ เขาผิดตรงไหนกัน?

“ถ้าจะมาเพื่อหาเรื่องกันฉันว่านายกลับไปดีกว่านะ แต่ถ้าจะมาในฐานะลูกค้าก็เชิญที่โต๊ะแล้วสั่งอาหารซะ”

ชีวาก้าวเข้ามาร่วมวงเมื่อทนไม่ไหว เด็กหนุ่มจ้องการ์ฟเขม็ง การ์ฟเพียงมองด้วยหางตา ท่าทางหยิ่งยโสนั่นทำเอาชีวาปรี๊ดแตก
อยากจะต่อยหน้าเชิดๆของมันจริงๆพับผ่า!!

การ์ฟเบนสายตามามองอาร์ดิว ก่อนหมุนตัวกลับแล้วเดินออกจากร้าน น้องเอิงรีบร้องเรียกพี่ชายหน้าตาตื่นเมื่อถูกทิ้ง

“พี่การ์ฟ รอเอิงด้วยสิ~ ...พี่อาร์ดิวคะ อย่าใส่ใจเลยนะ พอดีว่าพี่ชายเอิงเขาแอนตี้เรื่องพวกนี้น่ะค่ะ เพราะว่า...”

“เอิง!”

“อุ้ย!”

ยังไม่ทันที่น้องเอิงจะได้อธิบายอะไรพี่ชายก็ส่งเสียงเรียกมาเสียห้วนดุ น้องเอิงสะดุ้งเล็กน้อยก่อนยิ้มแหยให้อาร์ดิว

“เอ่อ... เอิงไปดีกว่าค่ะ แหะๆ” เอ่ยลาพี่ๆในร้านแล้วสาวน้อยก็รีบตามพี่ชายออกไป

เมื่อสถานการณ์กลับเข้าสู่สภาวะปรกติชีวาก็ถอนใจเฮือกก่อนแยกไปทำงานของตนเองต่อ ขณะที่ปอมปอมก็กลับไปนั่งประจำ
ที่เครื่องคิดเงิน พนักงานคนหนึ่งนำรายการอาหารมาให้อาร์ดิว เด็กหนุ่มรับมาแต่ยังไม่ได้เดินไปให้คนในครัวทันที ยังคงมอง
ตามหลังการ์ฟไปด้วยสีหน้าไม่สบายใจ เมื่อสิ่งที่ตนเองเห็นนั้นมันมีสิทธิ์เกิดขึ้นได้เสมอ เขาจะต้องพัวพันกับนายการ์ฟนี่จริง
หรือ?

อาร์ดิวพยายามปลอบใจตนเองว่ามันเป็นเพียงเรื่องบังเอิญที่ได้มาเจอกันเช่นนี้ ในเมื่อฝ่ายนั้นไม่ได้ชอบตนเองเลย ต่อไปก็คงไม่
มีโอกาสได้เจอกันแล้ว แต่ที่อาร์ดิวไม่รู้คือ... นี่เป็นเพียงการเจอกันครั้งแรกที่ Magica Café ร้านแห่งเวทมนตร์ ร้านนี้เท่านั้น





++++++++++++++





การ์ฟกลับมาที่บ้านด้วยความหัวเสีย เจอเทสต์ น้าชายของตนเองกำลังจะออกไปข้างนอกพอดี การ์ฟยิ่งไม่สบอารมณ์เมื่อคน
เป็นน้าเอ่ยทัก

“ไปไหนมาล่ะ?”

เด็กหนุ่มมองน้าชายตาขวาง เทสต์ชะงักไปเล็กน้อยก่อนยิ้มมุมปากท่าทางยียวน

“โอ้ อย่าบอกนะว่าไปเจอเด็กคนนั้นมา แหมๆๆ ไหนว่าไม่สนใจไง?”

“ก็ไม่ได้สนใจ” การ์ฟตอบกลับเสียงห้วน เขาไม่สบอารมณ์กับอะไรหรือใครทั้งนั้นล่ะเวลานี้ โดยเฉพาะน้าชายของเขาคนนี้

“แล้วไปทำไมไม่ทราบ?”

เทสต์ยังถามต่อ แต่หลานชายไม่ยอมตอบ เดินหนีขึ้นบ้านไปเฉย เทสต์มองตามแล้วหัวเราะในลำคอ เขากับหลานอายุไม่ได้ห่าง
กันมากมายนัก ทำให้ดูเหมือนพี่น้องมากกว่าน้าหลานเสียอีก มีเรื่องบางอย่างทำให้การ์ฟไม่ค่อยจะชอบใจในตัวเขานัก น้องเอิง
วิ่งหน้าเริ่ดเข้ามาในบ้าน เทสต์หันมาหาหลานคนเล็กแล้วกางแขนออกรับตัวบางๆนั้นไว้

“เอ้าๆ ช้าๆลูก เดี๋ยวหกล้มหกลุกไป”

“น้าเทสโต้เจอพี่การ์ฟไหมคะเมื่อกี้?” น้องเอิงเอ่ยถามน้าชายปนหอบ เธอชอบเรียกน้าว่าเทสโต้ตามใครบางคนที่ตั้งชื่อใหม่
ให้น้าของเธอ

“เจอค่ะ” เทสต์ยิ้มบอก น้องเอิงท่าจะเหนื่อยนะ วิ่งตามพี่ชายอย่างการ์ฟน่ะ

“ว่าแต่เราสองคนไปไหนมาล่ะ?”

“ไปร้านเมจิคกะมาค่ะ แต่พี่การ์ฟอารมณ์ไม่ดี เกือบมีเรื่องกับพี่ชีวาแล้วอ่ะ”

คนเป็นน้าเลิกคิ้วสูงเมื่อได้ยินชื่อร้าน อดไม่ได้ที่จะหัวเราะในลำคออีกครั้ง การ์ฟกำลังหนีอะไรบางอย่าง แต่กลับเดินเข้าไปหา
มันโดยไม่รู้ตัว หรือที่จริงแล้วจะรู้แต่อยากท้าทายกันแน่



แต่จะอะไรก็ช่าง กงล้อแห่งโชคชะตาของการ์ฟกำลังหมุน หมุนไปพร้อมๆกับใครบางคนในร้านแห่งเวทมนตร์แห่งนั้น...









TBC






กลับมาอีกครั้ง ปอมปอมรีเทิร์น :D

ยินดีต้อนรับทุกท่านนะคะ เราจะไม่ทิ้งกันไปไหนแล้วน้า :กอด1:

อาจจะยังมีส่วนที่ผิดพลาดไปบ้าง แนะนำ ติ ชม กันได้เช่นเคยค่ะ

วันใหม่ :L2:


ปล. ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารอ เดี๋ยวมาจิ้มบวกให้คืนนี้ค่ะ

หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ START!!!!!!!!! (01/12/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: MooJi ที่ 01-12-2012 07:21:47
ยินดีต้อนรับการกลับมาของกะปอมกับอาร์ดิว
เย๊ๆๆๆๆๆ
ในที่สุดก็กลับมาให้ยลโฉมกันแล้ว
คิดถึงกะปอมมมมมมมม
คิดถึงอาร์ดิวววว
^^
ปล.น้าเทสต์หรือเทสโต้เนี้ยมาใหม่รึเปล่าน๊าไม่คุ้นหรือเราอ่านข้ามเองในอันเดิม
     ไม่เป็นไร  ช่างเถอะ  แต่แลดูแล้วน้าเทสต์คนนี้ต้องรู้อะไรๆที่ไม่ธรรมดาแน่ๆเกี่ยวกับการ์ฟกับอาร์ดิว
     แล้วที่สำคัญที่สุด น้าต้องมีคู่ชิมิ(ฮฺฮฺ มีรึเปล่าไม่รู้เข้าข้างตัวเองไว้ก่อนว่ามี เอิ๊กๆ)
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ START!!!!!!!!! (01/12/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: KhunToOk ที่ 01-12-2012 08:17:35
 มาแล้วๆ  ดีใจจัง  นึกว่าต้องรอนานกว่านี้อ่ะ  อิอิ   :mc4:


ชอบเรื่องแนวนี้จ้า  รอคนเขียนมาอัพต่อน๊าาา
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ START!!!!!!!!! (01/12/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: YounIn ที่ 01-12-2012 11:27:31
เย้ๆ

มาแล้ว

รู้สึกเหมือนมี เพิ่ม สินะ

หรือเราลืม?

ยังไงก็ดูน่าสนุก อ่ะนะ

ต่อๆจ้า
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ START!!!!!!!!! (01/12/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 01-12-2012 11:48:11
ซัมติงกันแน่ ๆ เลย 2 คนนั้น
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ START!!!!!!!!! (01/12/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: อยากกินไข่พะโล้ โปะ ที่ 01-12-2012 11:56:48
อ๊ากชอบๆ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ START!!!!!!!!! (01/12/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 01-12-2012 11:57:50
ดีใจที่กลับมาอีกครั้งค่ะ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ START!!!!!!!!! (01/12/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: FFS_Yaoi ที่ 01-12-2012 14:09:58
มาแว้วๆ :mc4: :mc4: :mc4:

รีไรท์ใหม่ตัวละครเพิ่มมาอีกด้วย55+
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ START!!!!!!!!! (01/12/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: ชัดเจนกาบ ที่ 01-12-2012 15:05:23
เกลียดไอ้ชีกอนั้นอยากฆ่ามัน หยามกันชัด ไม่เห็นใครจะลงโทรมันเลยหงุดหงิด
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ START!!!!!!!!! (01/12/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: ชัดเจนกาบ ที่ 01-12-2012 15:05:43
เกลียดไอ้ชีกอนั้นอยากฆ่ามัน หยามกันชัด ไม่เห็นใครจะลงโทรมันเลยหงุดหงิด
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ START!!!!!!!!! (01/12/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: NOoTuNE ที่ 01-12-2012 15:41:09
 :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:



รีไรท์ มีตัวละครเพิ่มมาแล้ว  :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ START!!!!!!!!! (01/12/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 01-12-2012 15:57:30
เย้ๆๆๆๆ ปอมปอมมาแล้วววว

ยังค้างคากับก่อนหน้านี้

555 สู้ๆนะค้าบบ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ START!!!!!!!!! (01/12/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: SaJung13 ที่ 01-12-2012 17:35:30
 :L2: ต่อเถอะๆ กำลังสนุกเลยคะ
แหวกหญ้า เอ๊ย!! แหวกแนวดีแท้  o13
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ START!!!!!!!!! (01/12/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: love2y ที่ 01-12-2012 17:44:40
ไม่ได้อ่านรอบที่แล้ว เพิ่งได้อ่านวันนี้เลย หุหุ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ START!!!!!!!!! (01/12/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: bobie ที่ 01-12-2012 19:41:45
คราวนนี้เป็นเรื่องของปอมปอมกับเรื่องของอาร์ดิวแล้ว
เป็นแนวแบบนี้ก็สนุกไปอีกแบบล่ะเนอะ
ว่าแต่เป็นลูกเจ้าของร้านโดนทำแบบนี้ทำไมถึงไม่ไล่ออกไปจากร้านอ่าคะ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ START!!!!!!!!! (01/12/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 01-12-2012 20:10:04
เย้เย้ อาร์ดิวกับปอมปอมกลับมาแว้ววว
โฉมใหม่ไฉไลกว่าเดิม!!!
รออ่านต่อนะคะ คุณวันใหม่ จ๊วบๆ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ START!!!!!!!!! (01/12/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: wanmai ที่ 01-12-2012 22:19:18
จิ้มบวกให้ทุกท่านที่มารอน้องปอมปอมในบทนำค่ะ :L2:

เรื่องพนักงานนั่นใจเย็นๆกันก่อนนะคะ ตามท้องเรื่องของอันเก่าคนที่เคยอ่านก็คงพอจำกันได้เนอะ แต่ภาคนี้เปลี่ยนแปลงบท
เล็กน้อย ไว้รอติดตามตอนต่อไปนะคะ^^

>>> 'TBC'
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ START!!!!!!!!! (01/12/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 01-12-2012 23:26:33
เรื่องน่าสนใจมากกก

 o13
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ START!!!!!!!!! (01/12/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: 111223 ที่ 02-12-2012 04:33:41
การ์ฟดูเป็นคนอารมณ์ร้อน ขี้โมโหสุดๆ ใจเย็นๆน๊า
สิ่งที่ตาไม่เห็นใช่ว่าจะไม่มี ฮุฮุ
ไอ้พนักงานลามกใครก็ได้เอามันออกป๊ายยย
เห็นแล้วมันขัดตาจริงๆ ชิชิ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ START!!!!!!!!! (01/12/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 02-12-2012 12:25:30
น้าเทสโต(รสเกลือป่ะ ชอบ) ท่าจะรู้อะไรบางอย่าง นายการ์ฟก็รู้เหมือนกัน
แล้วมันอะไรหนอ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ START!!!!!!!!! (01/12/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: greensnake ที่ 02-12-2012 14:31:03
เข้ามาเพราะชื่อ Wanmai นี่แหละ :กอด1:
ไม่ได้อ่านก่อนหน้านี้ เดี๋ยวติดตามตอนนี้เลยแล้วกัน
ไม่รู้ว่าไปยังไงมายังไง แต่เรื่องราวน่ารักมากๆค่ะ
แล้วก็ค่อนข้างได้ลุ้นด้วยสิ รอติดตามตอนต่อไปค่ะ
ชอบที่น้องปอมปอมเรียกชีวาว่าป๋าน่ะ น่ารักดี :-[
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:


หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ START!!!!!!!!! (01/12/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 02-12-2012 14:32:19
รออ่านตอนต่อไปจ๊ะ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ START!!!!!!!!! (01/12/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: honeyhoon ที่ 02-12-2012 19:54:11
 :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
ตอนแจ้งลบเราไม่ได้อ่าน คนอ่านผิดเอง คนอ่านขอโทษ
แต่กลับมาแล้วเราก้ดีจาย
 o18
 o18
 :L1:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ START!!!!!!!!! (01/12/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 02-12-2012 21:04:12
มาติดตามปอมปอมน้อย
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic (1) UP!!! <<04_12_2555>>
เริ่มหัวข้อโดย: wanmai ที่ 04-12-2012 20:45:21
Magica Café



Magic (1)






ช่วงสายของวัน น้าจันทราเข้าร้านมาด้วยท่าทางเคร่งเครียด เรียกพนักงานที่สร้างเรื่องเข้าไปคุยที่ห้องทำงานด้านในร้าน ปรกติ
วันหยุดแบบนี้น้าจันทราจะมาตอนบ่ายๆเพื่อมาช่วยหลานชายเคลียร์บัญชีของร้าน แต่เพราะอาร์ดิวโทรไปรายงานเรื่องที่เกิดกับ
ปอมปอมทำให้ท่านต้องเข้าร้านก่อนเวลาปรกติที่เคยมา

ภายในห้องทำงานประกอบไปด้วยอาร์ดิว ปอมปอม นายพนักงานเจ้าปัญหา และคุณน้าจันทรา ส่วนชีวาได้แต่ชะเง้ออยู่หน้าร้าน
ด้วยความเป็นห่วง คุณน้ามองนายพนักงานชีกอที่มีท่าทีไม่ยี่หระต่อสถานการณ์ หลังจากได้ฟังเรื่องราวที่ท่านพูดแล้วก็ไม่มีคำ
ปฏิเสธจากพนักงานคนดังกล่าว นั่นแสดงว่าทุกอย่างที่อาร์ดิวบอกกับท่านคือความจริง

“หากคุณยังไม่เข้าใจ ก็ทำความเข้าใจเสียเดี๋ยวนี้เลยนะคะว่า... ที่นี่คือร้านอาหาร คนที่มาที่นี่เขามาเพื่อรับประทานอาหาร ไม่ได้
มาดูหนังสด รู้จักให้เกียรติสถานที่ทำงานสักนิด และกรุณาทำความเข้าใจกับคำว่าหน้าที่พนักงานให้บริการในร้านอาหารให้ดี
ด้วยนะคะ แล้วชีวิตของคุณจะดีขึ้น... เชิญค่ะ”

น้าจันทราพูดเสียงเรียบนิ่ง ท่านตัดสินเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้โดยการให้พนักงานหนุ่มสิ้นสุดการทำงานในร้านเมจิคกะแต่เพียง
เท่านี้ ซึ่งฝ่ายนั้นเพียงบิดปากหมิ่นก่อนจะก้าวออกจากห้องไป มันน่าต่อยให้ปากเบี้ยวจริงๆให้ตาย

“โห~ น้าจันทร์สุดยอด เด็ดขาดไปเลยอ่ะ”

ปอมปอมห่อปากจนเป็นรูปตัวโอ พร้อมทั้งยกนิ้วโป้งให้น้าสาว เมื่อน้าไล่นายคนนั้นออกไปแล้ว สะใจปอมปอมมาก~~

“คนที่ไม่รู้จักหน้าที่ของตนเอง และไม่ให้เกียรติคนอื่น มันก็อยู่ร่วมกันไม่ได้หรอกจ้ะ”

คุณน้าอธิบายพร้อมรอยยิ้มใจดี เปลี่ยนบทบาทหน้าที่ของตนเองฉับไว กลายเป็นน้าสาวแสนใจดีของปอมปอมกับอาร์ดิว

“ปอมดีใจจริงๆที่มีน้าจันทร์อยู่ด้วย ขอกอดหน่อยฮะ”

“โถ พ่อหนุ่มน้อยปากหวาน”

คุณน้าหัวเราะ ลูบหัวเด็กขี้อ้อนอย่างเอ็นดู สองน้าหลานกอดกันกลมเกลียวทำให้อาร์ดิวส่ายหน้าขำ น้าจันทรามองหน้า
หลานชายคนโตแล้วจึงบอก

“ถ้ามีเรื่องอะไรก็บอกน้านะอาร์ดิว”

“ครับ น้าจันทร์” อาร์ดิวยิ้มตอบ

ร้านMagica Café ที่เขาและน้องชายอย่างปอมปอมช่วยกันดูแลอยู่นั้น ในวันธรรมดาที่ทั้งสองคนต้องไปโรงเรียนก็มีน้าจันทราที่
คอยช่วยดูแลให้ คุณน้าท่านแต่งงานแล้ว ทำหน้าที่แม่บ้านเต็มตัว เมื่อลูกๆโตกันหมดแล้วคุณน้าอยู่ว่างๆจึงได้มาช่วยที่ร้าน อาร์
ดิวกับปอมปอมน้อยก็ได้ท่านเป็นที่ปรึกษา เรื่องที่เกิดกับปอมปอม อาร์ดิวก็ได้โทรไปบอกท่านให้ช่วยจัดการให้ ที่ต้องให้ถึงมือ
คุณน้าเพราะทั้งอาร์ดิวและปอมปอมยังเด็ก เด็กกว่าพนักงานทุกคนในร้านเสียอีก ทุกคนเกรงใจเพราะเป็นลูกเจ้าของร้านแต่ไม่
ถึงกับเกรงกลัว ดังนั้น หากให้น้าจันทราช่วยพูดทุกอย่างก็ง่ายขึ้น นายพนักงานชีกอนั่นก็กระเด็นออกจากร้านไปอย่างง่ายดาย

เมื่ออาร์ดิวกับปอมปอมและน้าสาวออกมาจากห้องทำงาน ชีวาก็มาเลียบๆเคียงๆถาม จึงได้รู้ว่านายพนักงานนั่นถูกไล่ออกไป
แล้วเรียบร้อย มิน่า เห็นเดินดุ่มออกจากร้านไปแบบนั้น ทำตัวมีปัญหาเองก็สมควรแล้วที่จะไม่ได้ทำงานที่นี่ต่อไป

น้าจันทราเมื่อได้มาแล้วจึงอยู่ช่วยสองพี่น้องร้านเมจิคกะทำบัญชีและดูแลความเรียบร้อยของพนักงาน ก่อนที่จะแจ้งให้ทุกคน
ทราบถึงเรื่องที่ให้พนักงานชายคนนั้นออกไป เมื่อตอนที่ทุกคนช่วยกันปิดร้าน ไม่มีใครมีข้อท้วงติงใด ถือว่าเข้าใจโดยทั่วกัน





++++++++++++++





ช่วงค่ำ หลังจากช่วยกันปิดร้านแล้ว อาร์ดิว ชีวา และปอมปอมจึงเรียกรถกลับบ้าน บ้านของชีวาอยู่ติดบ้านของสองพี่น้อง เวลา
กลับบ้านจึงกลับด้วยกันเสมอ ซึ่งชีวาถือว่าเป็นการดูแลสองพี่น้องไปในตัวด้วย อาร์ดิวนั่งด้านหน้าคู่คนขับ ขณะที่เพื่อนอย่าง
ชีวานั่งด้านหลังมีปอมปอมนอนหนุนตัก ชีวามองหนุ่มน้อยที่หลับปุ๋ยแล้วก็ยิ้ม เด็กอนามัยนอนไม่เกินสามทุ่ม แต่ยังอยากมา
ทำงานกับพี่ๆที่กว่าจะเลิกงาน กว่าจะปิดร้านเสร็จก็เลยสามทุ่มไปแล้ว สภาพจึงเป็นอย่างที่เห็น

โทรศัพท์มือถือของชีวาดังขึ้น อาร์ดิวเหลียวมามอง ชีวาช้อนศีรษะเด็กน้อยที่นอนหนุนตักตนเองยกขึ้น ก่อนขยับตัวเพื่อหยิบ
โทรศัพท์จากกระเป๋ากางเกงออกมาแล้วค่อยประคองให้ศีรษะปอมปอมน้อยพักอยู่บนขาตนเองเหมือนเดิม ชีวามองเบอร์โทรที่
หน้าจอมือถือแล้วกดรับ เสียงพูดคุยของชีวากับคนปลายสายทำให้ปอมปอมขยับตัว เด็กหนุ่มก้มมองคนที่นอนหลับอยู่บนตัก
ตนเอง เห็นว่าไม่ได้ตื่นขึ้นมาจึงพูดต่อ

“ไม่มีอะไรครับ แค่น้องนอนดิ้นน่ะ”

“…………….”

“เปล่าครับ ยังไม่นอน กำลังกลับบ้าน น้องหลับอยู่บนรถน่ะ”

ชีวาคุยกับคนปลายสายไปเรื่อยๆ ก่อนจะชะงักเมื่อปอมปอมลุกขึ้นนั่งโงนเงน เด็กหนุ่มจับแขนเรียวดึงเบาๆจะให้นอนลงเหมือน
เดิม แต่ปอมปอมน้อยกลับเอนศีรษะไปพิงประตูรถเฉย อาร์ดิวที่นั่งอยู่ด้านหน้าลอบยิ้ม โดนเจ้ากะปอมเล่นงานแล้วไหมล่ะชีวา

“อืม พริมครับ แค่นี้ก่อนนะ วาจะถึงบ้านแล้วน่ะ ค่อยคุยกันใหม่นะครับ”

ชีวาตัดสินใจวางสายปุบปับก่อนรั้งปอมปอมมาพิงไหล่ตนเอง ซึ่งคราวนี้เด็กดื้อไม่ได้ขัดอีก ยอมเอนมาพิงแต่โดยดี

“เด็กขี้เซา”

ว่าแล้วก็บีบจมูกปอมปอมเบาๆ หมั่นเขี้ยว~

“อื้ออออ ป๋าแก่…”

“โหย ปากเหรอวะ!?”

ชีวาโวยวาย แต่คนพูดกลับหลับไม่รู้เรื่อง อาร์ดิวเหลียวมามองแล้วขำทำให้ชีวาหันไปมองเพื่อนก่อนเกาหัวแกรก

“จะต่อปากต่อคำกับคนหลับทำไมวะกู”

คนนั่งเบาะหน้าหัวเราะก๊าก แม้แต่ตอนหลับปอมปอมยังต่อปากต่อคำได้อีก ชีวามองคนที่พิงไหล่ตนเองอยู่แล้วส่ายหน้ายิ้มๆ
จากนั้นก็นั่งนิ่งๆให้เด็กน้อยอนามัยจัดนอนพิงไหล่ไปจนถึงบ้าน





+++++++++++++





หลังจากหมดวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เด็กนักเรียนทั้งหลายก็ได้เวลากลับมาเรียนกันต่อ สองพี่น้องป.ปลา ปอมปอม ปริญญ์ และ
อาร์ดิว ปราณรวีเองก็มาเรียนกันตามปรกติ มีชีวาอยู่ด้วยเหมือนเคย เมื่อก้าวเข้ามาในรั้วโรงเรียน ปอมปอมก็รีบวิ่งไปหาเด็กหนุ่ม
ตัวสูงคนหนึ่งที่เดินอยู่ด้านหน้าพร้อมทั้งส่งเสียงไปทักทาย

“ตาต้า~”

เจ้าของชื่อหันมาตามเสียงเรียกก่อนส่งยิ้มให้กับคนเรียกที่วิ่งเข้ามาหา อาร์ดิวกับชีวาเดินตามปอมปอมตัวน้อยเข้ามาหาเพื่อน
พวกเขาอยู่มัธยมปลายปีสุดท้ายกันแล้ว ในขณะที่ปอมปอมยังเพิ่งมัธยมสาม แต่หนุ่มน้อยปอมปอมไม่เคยเรียกสามหนุ่มว่าพี่
นอกจากเรียกชีวาว่าป๋า เพราะเหตุผลที่ว่าชีวาแก่สุด น่าภูมิใจแทนชีวาจริงๆ

“มาแต่เช้าเลย”

อาร์ดิวเอ่ยทักเพื่อนที่กลายเป็นที่เกาะของลูกลิงปอมปอมไปแล้ว คล้องแขนกันแต่เช้าเลย ท่าทางน้องชายเขาจะปลื้มตาต้าเอา
มาก

“พี่ต้นมาส่งน่ะ... หวัดดีชีวา” ตาต้าน้อยเอ่ยตอบอาร์ดิว ก่อนหันไปทักชีวาอีกคน

“หวัดดี... กะปอม ขึ้นห้องเรียนเอากระเป๋าไปเก็บก่อนไป มันหนัก”

ชีวาทักทายเพื่อนแล้วเลยมาบอกปอมปอมให้เอากระเป๋าสะพายไปเก็บในห้องเรียน หนุ่มน้อยเอียงหน้ามองชีวาแล้วว่า

“ใครเป็นพี่ชายปอมกันแน่?”

“ใครก็ช่าง จะไปไหม จะช่วยถือ”

“ไม่ต้องช่วย ปอมถือเอง ปอมโตแล้ว” เห็นชีวาเว้นวรรคการพูด ปอมปอมเลยขอสามคำบ้าง

“เหรอ โตได้แค่นี้?” ชีวาเบ้ปาก ทำเป็นเหล่มองคนที่บอกว่าตนเองโตแล้ว

“ใครเขาจะเหมือนป๋า แก่แล้วยังแก่ได้อีกอ่ะ ความสามารถนะเนี่ย”

หนุ่มน้อยก็ไม่มียอมกัน ป๋าชีวาเลยเอื้อมไปขยี้หัวเห็ดนั่นจนผมยุ่ง ปอมปอมคว้าแขนคนทำแล้วจะอ้าปากงับ ชีวาดันหัวเห็ดยุ่งๆ
นั่นไว้แล้วหัวเราะ อาร์ดิวกับตาต้าน้อยมองทั้งสองคนแล้วส่ายหน้าขำ เถียงกันทุกวัน แต่ก็สนิทกันกว่าใคร ชีวาคว้ากระเป๋าของ
ปอมปอมมาถือให้ ขณะที่หนุ่มน้อยจัดผมตนเองให้เข้าทรงเหมือนเดิม ก่อนที่ชีวาจะกอดคอเด็กน้อยปากดีให้เดินไปด้วยกัน

“ไปที่ห้องเรียนกันเถอะ”

เมื่อชีวากับน้องชายของตนเองเดินไปทางตึกมัธยมต้นแล้ว อาร์ดิวจึงหันมาชวนเพื่อนบ้าง ตาต้าพยักหน้ารับก่อนออกเดินไปยัง
ตึกเรียนของมัธยมปลายด้วยกัน เมื่อมาถึงหน้าห้องเรียนของตนเองอาร์ดิวก็หยุดชะงัก ตาต้าที่กำลังจะก้าวเข้าห้องจึงหยุดตาม
แล้วหันมาถามเพื่อน

“อะไรดิว?”

“นายคนนั้น?” อาร์ดิวชี้มือไปยังเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ยืนรวมกลุ่มกับเพื่อนสอง-สามคนอยู่หน้าห้องเรียนของชั้นม.6/1 ตาต้ามอง
ตามมือเพื่อนแล้วจึงว่า

“เด็กห้องหนึ่ง ได้ข่าวว่าหยิ่งมาก อย่าไปสนใจเลย” บอกเพื่อนไปเช่นนั้นแล้วตาต้าน้อยก็เดินเข้าห้องเรียนไปก่อน ปล่อยให้
อาร์ดิวยืนอยู่หน้าห้องอย่างนั้น

อาร์ดิวได้แต่ร้องถามตนเองในใจว่าทำไมโลกมันถึงได้กลมแบบนี้ เขาเรียนที่นี่มาหลายปีไม่เคยรู้ว่าคนๆนี้ก็อยู่โรงเรียนเดียวกัน
แต่พอได้มาเจอกันที่ร้านMagica กลับทำให้โคจรมาพบกันอีก แถมอยู่ใกล้เพียงเท่านี้เองด้วยสิ



การ์ฟที่ยืนคุยกับเพื่อนอยู่หน้าห้องเรียนรู้สึกว่ามีคนกำลังมองตรงมาที่ตนเอง เด็กหนุ่มจึงหันมาทางที่อาร์ดิวยืนอยู่ เกิดการชะงัก
งันเล็กน้อยเมื่อเห็นคนคุ้นหน้า สายตาเด็กหนุ่มเงยมองตัวเลขหน้าห้องเรียนของอาร์ดิวแล้วยกยิ้มมุมปาก ก่อนหันกลับไปคุยกับ
เพื่อนต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น


ภาพนิมิตวูบเข้ามาในหัวของอาร์ดิว สิ่งที่ได้เห็นตอนพบกันที่ร้านเมจิคกะนั้นมันผ่านมารวดเร็วก็จริง แต่เขาก็พอมองออกว่ามัน
เกิดอะไรขึ้นบ้าง เด็กหนุ่มได้แต่ปลอบใจตัวเองว่ามันจะไม่มีทางเกิดขึ้น ในเมื่อเขาเห็นแล้วเขาก็ต้องมีหนทางที่จะแก้ไขมันได้
แค่อย่าเอาตัวเข้าไปใกล้นายคนนั้นก็พอแล้วนี่ ใช่ ไม่เป็นไรหรอก มันจะไม่มีทางเกิดขึ้นแน่ ไม่มีหรอก... มั้งนะ?



-----------------------------



เสียงกริ่งบอกเวลาหมดคาบเรียนในช่วงเช้าดังขึ้น นักเรียนทุกคนต่างทยอยกันออกมาหาอะไรทานกัน อาร์ดิวสะพายเป้ขึ้นบ่า
เพื่อจะไปทำธุรกรรมที่ธนาคารฝั่งตรงข้ามโรงเรียน

จนเมื่อจัดการธุระเสร็จอาร์ดิวก็ออกมาจากธนาคาร เด็กหนุ่มเดินไปหยุดริมทางเท้าเพื่อที่จะข้ามถนนกลับโรงเรียนของตนเอง
โดยที่ไม่ทันสังเกตว่ามีใครตามมาด้านหลัง กว่าจะรู้ตัวกระเป๋าเป้ก็ถูกกระชากไปแล้ว ด้วยความตกใจเด็กหนุ่มรีบวิ่งตามทันที
ผู้คนที่เดินอยู่บนทางเท้าต่างหลบหลีกเมื่อโจรกระชากกระเป๋าวิ่งตรงมา อาร์ดิวไม่ได้ร้องให้ใครช่วย ในเมื่อเขามีวิธีของตนเอง
แต่ในตอนนี้ยังใช้มันไม่ได้จึงต้องไล่ตามโจรไม่ให้คลาดสายตา



ขณะเดียวกัน การ์ฟที่ออกมาทานกลางวันที่ร้านอาหารนอกโรงเรียนกับเพื่อนในกลุ่ม หลังทานข้าวกับเพื่อนๆเสร็จแล้วออกมา
นอกร้านก็ได้ยินเสียงกรีดร้องแตกตื่นของสาวๆ เด็กหนุ่มหันไปให้ความสนใจที่มาของเสียง เห็นผู้ชายท่าทางไม่น่าไว้ใจคนหนึ่ง
หอบกระเป๋าวิ่งไม่คิดชีวิตมาทางที่เขายืนอยู่ ฝ่ายนั้นมัวแต่เหลียวไปมองด้านหลังทำให้ไม่ทันดูว่ามีขาของใครโผล่มาขวางทาง
เข้า ทำให้ล้มกลิ้งไม่เป็นท่า เมื่อขยับจะลุกก็มีเท้าปริศนายันโครมมากลางหลังจนจุกหนัก


อาร์ดิวหอบหายใจแรงเมื่อโดดถีบโจรขโมยกระเป๋าไปแล้ว เด็กหนุ่มแย่งกระเป๋าคืนพร้อมกับก้มลงพึมพำอะไรบางอย่าง การ์ฟ
ก้าวเข้ามาหยุดอยู่ด้านหลังขณะที่อาร์ดิวคล้องเป้ขึ้นสะพาย จัดเป้ให้เข้าที่เข้าทางเล็กน้อยแล้วจึงหันกลับมาเห็นว่าการ์ฟยืนมอง
อยู่ เด็กหนุ่มชะงักไปเมื่อเห็นเช่นนั้น

“เมื่อกี้นายทำอะไร?”

การ์ฟเอ่ยถามเพราะเห็นว่าอาร์ดิวก้มลงไปทำอะไรสักอย่าง แล้วผู้ชายคนที่วิ่งหอบกระเป๋ามาเมื่อครู่ก็นิ่งอยู่ท่าเดิมบนพื้นแบบนั้น
สะกดจิตหรือ? ไม่มั้ง มันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน?

“เปล่า”

อาร์ดิวเอ่ยตอบอีกฝ่ายก่อนขยับถอยห่างไปสามก้าว การ์ฟขมวดคิ้ว ทำไมรู้สึกเหมือนโดนรังเกียจวะ!?

“จะจัดการยังไงกับหมอนั่น?”

การ์ฟชี้นิ้วไปด้านหลังที่มีโจรห้าร้อยฟุบหน้ากองอยู่บนพื้น อาร์ดิวมองตามมือของอีกฝ่ายแล้วบอก

“ปล่อยไว้อย่างนั้นแหละ เดี๋ยวตำรวจก็มา”

“นายแจ้งความ?”

การ์ฟเอ่ยเชิงถาม อาร์ดิวพยักหน้ารับส่งๆก่อนจะหันกลับเพื่อรีบเดินหนีไป อย่ามายุ่งกับเขานะ!

ขณะที่อีกคนก้าวหนี การ์ฟกลับก้าวยาวๆเพียงไม่กี่ก้าวก็เข้ามาเดินอยู่ข้างกายแล้ว ดวงตาเรียวรีของอาร์ดิวเหล่มองคนข้างๆ
ก่อนรีบเดินให้เร็วขึ้น แต่การ์ฟก็ยังคงตามติด

“ในสถานการณ์คับขัน นายมีสติพอจะโทรแจ้งความด้วยเหรอ?”

การ์ฟยังถามต่อขณะที่ก้าวตามไม่ลดละ สองมือล้วงกระเป๋าท่าทางสบายๆได้อีก อยากเดินหนีก็เดินไปสิ เขามีขาเสียอย่างตาม
ไม่ทันให้มันรู้ไป ก็ไม่รู้หรอกว่าอาตี๋นั่นจะรีบไปไหน แต่มันขวางหูขวางตาที่ทำเหมือนรังเกียจเขาแบบนี้น่ะ

“คุณจะอะไรกับผมนักหนา ผมไปทำอะไรให้คุณหรือไง จับผิดผมจัง”

“ฉันแค่ไม่ชอบเรื่องหลอกลวงพวกนี้” การ์ฟยักไหล่กวน

“คุณไม่รู้จักผมดีพอด้วยซ้ำ อย่ามากล่าวหากันจะดีกว่านะครับ”

น้ำเสียงอาร์ดิวเริ่มไม่พอใจ ถ้าไม่เชื่อหรือไม่ชอบก็แค่อยู่ให้ห่าง อย่ามาวุ่นวาย อย่ามาตอแยก็จบ

“ถ้าอย่างนั้น... ฉันกับนายมาเริ่มทำความรู้จักกันตั้งแต่วันนี้เลยดีไหม?” การ์ฟหรี่ตาเล็กๆเมื่อเอ่ยถาม

“ไม่!”

คำปฏิเสธทันควันนั้นทำเอาคนถามถึงกับนิ่ง ก่อนที่อาร์ดิวจะส่งคำพูดตามมาซ้ำอีกระลอก

“ผมไม่อยากเกี่ยวข้องกับคุณ อย่ามายุ่งกับผม”

“อยากยุ่งตายล่ะ” การ์ฟว่า รู้สึกฉุนขึ้นมาแล้วนะเฮ้ย ตัดรอนอะไรกันนักหนา

“ไม่อยากก็ไม่ต้องยุ่ง!”

อาร์ดิวทิ้งท้ายก่อนวิ่งข้ามถนนกลับไปฝั่งโรงเรียน คนยิ่งไม่อยากเจอยิ่งมาให้เจอ อะไรไม่รู้ โว้ย! วะ!!


อาร์ดิวหงุดหงิดอย่างหนักที่เจอคนแบบนี้ การ์ฟมองตามหลังอาตี๋น้อยที่วิ่งหนีไปแล้วยกยิ้มมุมปาก คนแบบนี้น่ะหรือมีญาณ
วิเศษ น่าเชื่อตายล่ะ เฮอะ!

เด็กหนุ่มข้ามถนนไปไม่เร่งร้อน แต่กลับเพิ่งมารู้สึกตัวเอาตอนนี้ว่าตนเองทำอะไรลงไป เขาไม่เชื่อเรื่องงมงาย ไม่เชื่อเรื่องพลัง
วิเศษ ตาทิพย์ หูทิพย์ พยายามจะเลี่ยงมันทุกทาง แต่เมื่อครู่นี้มันเป็นเขาเองไม่ใช่หรือที่เข้าไปหาฝ่ายนั้น เขาเป็นบ้าอะไรไปแล้ว


“ไม่จริงหรอก น้าเทสต์โกหก…”


การ์ฟพึมพำกับตนเองอย่างต้องการตอกย้ำความเชื่อมั่น แต่สีหน้ากับคำพูดกลับไปคนละทาง เขาไม่ได้หวั่นไหวกับคำทำนาย
นั่น ไม่ใช่!!


‘นายฝืนมันไม่ได้หรอกการ์ฟ ไม่ว่ายังไงนายกับเด็กคนนั้นก็ต้องได้พบกัน และ... รักกัน เหมือนฉันกับบิว’


คำพูดเทสต์แว่วเข้ามาในหู การ์ฟพยายามจะสลัดความคิดฟุ้งซ่านนั่นทิ้ง ทั้งยังโทษว่าเป็นเพราะการเจอกับอาร์ดิวทำให้เขานึก
ถึงเรื่องที่ไม่ควรนึก อาร์ดิวเป็นตัวอันตราย ต้องถอยห่างให้ไกลที่สุด!





+++++++++++++++





หลังกลับจากโรงเรียน สองพี่น้องป.ปลาตรงไปที่ร้านเมจิคกะเพื่อช่วยน้าจันทราทำงาน วันธรรมดาร้านปิดเร็วหน่อยเพราะอาร์ดิว
กับปอมปอมต้องกลับไปทำการบ้าน

เมื่อกลับบ้านมา ทำธุระของตัวเองเสร็จแล้วสองพี่น้องก็ต่อเน็ตคุยกับคุณพ่อ คุณแม่ ปอมปอมเอ่ยถามว่าพวกท่านจะกลับมา
เมื่อไหร่ ท่านก็บอกมาว่าขอเที่ยวอีกสักพักเดี๋ยวกลับไป ก่อนที่คุณแม่จะเอ่ยทักอาร์ดิวขึ้นมาว่ามีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับเขา
ใช่ไหม ปอมปอมตาโตรีบบอกว่าคุณแม่พูดอย่างกับตาเห็น

“มีคนมาหาเรื่องอาร์ดิวที่ร้านครับแม่ แล้วท่าทางว่าจะไม่จบแค่นี้ เพราะพี่คนนั้นเขาอยู่โรงเรียนเดียวกันกับเราด้วยครับ โลกมัน
กลมมากกกก” ปอมปอมลากเสียงให้รู้ว่าโลกมันกลมจริงๆนะเออ

“อยากหนีหรือเปล่าอาร์ดิว?” คุณแม่เอ่ยถามคนพี่ เมื่อคนน้องบอกกล่าวเช่นนั้น

“แม่ว่ามันจะพ้นไหมครับ?” อาร์ดิวมีสีหน้าเป็นกังวลเมื่อเอ่ยถามคุณแม่ ท่านต้องรู้แน่ว่าเขากำลังไม่สบายใจ

“ความรู้สึกเราบอกว่ายังไงล่ะลูก?”

คุณแม่เอ่ยถามกลับมา ท่าทางลูกชายคนโตของท่านจะคิดไม่ตกกับเรื่องนี้จริงๆ อย่างอาร์ดิวนั้น เพียงสังเกตสีหน้าก็รู้แล้วว่า
กำลังคิด หรือรู้สึกเช่นไรอยู่ ต่างจากปอมปอมที่ทำทะเล้นกลบเกลื่อนได้ทุกสถานการณ์

“ดิวไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับเขา เพราะเขาดูถูกดิว” เด็กหนุ่มว่ามาแบบนั้น

“บางทีคนเขาไม่รู้ไงครับดิว ลูกก็ลองทำให้เขาเห็นสิ เผื่อจะเปลี่ยนใจบ้าง”

คุณแม่พยายามพาเบี่ยงออกนอกสถานการณ์ตึงเครียดของลูกชาย ท่านเป็นคนร่าเริง ไม่ค่อยจะเครียดกับเรื่องอะไรสักเท่าไหร่
คุณพ่อเองก็เช่นกัน เวลานี้จึงได้ออกมาท่องเที่ยวกันอยู่อย่างสบายใจเช่นนี้อย่างไรล่ะ

“เขาไม่มีทางเปลี่ยนใจหรอกครับแม่ เขาเกลียดดิว”

แค่นึกถึงเด็กหนุ่มก็หน้าบึ้ง ปอมปอมที่นอนกลิ้งอยู่บนเตียงหัวเราะหึหึ ไม่บ่อยนักที่จะเห็นพี่ชายทำหน้าแบบนี้

“ทำไมเป็นอย่างนั้นล่ะไอ้หนู?” คุณพ่อโผล่มาทักบ้าง ปอมปอมรีบลุกจากเตียงมานั่งหน้าจอคอมข้างๆพี่ชาย

“พ่อ นี่ดิวนะครับ ไม่ใช่ปอมปอม เรียกไอ้หนู” อาร์ดิวเอ่ยแย้ง คุณพ่อหัวเราะเสียงดังไม่เกรงจะเสียภาพลักษณ์ใดๆ

“ใครทำอะไรให้ เดี๋ยวพ่อกลับไปจัดการให้ไหม?” คุณพ่อ ออกท่าออกทางนักเลงจนคุณแม่ที่อยู่ข้างกันขำคิก

“เมื่อไรล่ะครับป๊ะป๋า?” ปอมปอมโผล่หน้ามาถาม

“อีกสักเดือนสองเดือนนะลูก”

“โหย ฮันนีมูนนานจัง”

หนุ่มน้อยทำปากยื่นแก้มพอง อาร์ดิวจิ้มแก้มน้องแล้วหัวเราะ คุณพ่อคุณแม่ที่อยู่แดนไกลก็ต่างหัวเราะตามกัน คุยกับพ่อแม่อีก
สักพักพวกท่านจึงบอกให้สองพี่น้องไปพักผ่อน เด็กนักเรียนอย่านอนดึกนัก

“รักลูกนะ”

“รักปะป๊ากับมะมิฮะ/รักพ่อแม่ครับ”

อาร์ดิวกับปอมปอมเอ่ยบอกคุณพ่อคุณแม่กลับไป ก่อนที่จะปิดการสนทนาผ่านอินเตอร์เน็ต คนน้องบอกกับพี่ชายว่าจะขอไปทำ
ธุระสักเดี๋ยวหนึ่งแล้วเดินออกจากห้องของพี่ไป เมื่ออยู่คนเดียวแล้วอาร์ดิวก็ถอนใจเฮือก เขาต้องจัดการทุกอย่างด้วยตัวเองสินะ
เฮ้อ~





++++++++++++++





“ป๋า~~”

หลังจากคุยกับคุณพ่อคุณแม่เสร็จ กะปอมน้อยก็กลับเข้าห้องตัวเองแล้วเดินออกมาตรงระเบียงห้อง ซึ่งระเบียงนี้มันยื่นไปแทบ
ชิดกับระเบียงบ้านของใครอีกคน หนุ่มน้อยเรียกเจ้าของห้องที่เปิดไฟในห้องเพียงสลัวราง ประตูบานเลื่อนที่เป็นกระจกทำให้แสง
ไฟลอดออกมา แสดงว่าเจ้าของห้องยังไม่นอน

“ป๋า ได้ยินปอมไหม~~”

พอเรียกก็แล้ว ขว้างอะไรไปก็แล้ว ประตูบานเลื่อนที่ปิดสนิทอยู่นั้นก็ไม่ยอมขยับ ปอมปอมจึงชักจะเริ่มเคืองขึ้นมาแล้ว หนุ่มน้อย
ปีนระเบียงห้องของตนเองเพื่อที่จะข้ามฝั่งไปยังห้องตรงข้าม ประตูถูกเลื่อนออกมาเร็วไวพร้อมกับที่ชีวารีบออกมารับลูกลิงชอบ
ปีนป่าย ตัวผอมบางลอยวืดข้ามระเบียงห้องมาอีกฝั่งอย่างง่ายดาย เมื่ออ้อมแขนของพี่ชายตัวโตตวัดอุ้มข้ามมา

“เกิดตกลงไปคอหักตายทำไง ทำอะไรไม่รู้จักคิด” ชีวาเฉ่งลูกลิงตัวแสบทันทีที่เท้าของอีกฝ่ายแตะพื้น

“ก็ป๋าไม่มารับปอมอ่ะ” ปอมปอมโบ้ยความผิดกันซึ่งหน้า

“ปอมปอม ฉันต้องมีเวลาส่วนตัวบ้างนะเจ้าหนู และตอนนี้ เวลานี้ มันคือเวลาส่วนตัว โอเค้?”

“ไม่โอเคอ่ะ”

ทั้งที่พูดเสียชัดเจน ตรงเป๊ะ แต่คนฟังก็ยังมึนได้โล่ห์ ปอมปอมเอ่ยตอบได้หน้าตาเฉยจนชีวาอยากงับหัวเด็กหน้าเป็น

“ตอนนี้ฉันกำลังอยู่กับสาว กลับไปก่อนได้ไหม?”

ชีวาถอนใจเบาก่อนเอ่ยบอกถึงธุระสำคัญของตนเอง ปอมปอมถึงเพิ่งสังเกตพี่ชายข้างบ้านว่าไม่ได้สวมเสื้อ จะโชว์กล้ามทำไมกัน?

“ไหนป๋าบอกมันอันตรายไง จะให้ปอมข้ามกลับไปเนี่ยนะ เกิดตกลงไปคอหักตายขึ้นมาจะว่าไง?” หนุ่มน้อยกอดอกลอยหน้าพูด
ราวกับว่ามันคือความผิดของชีวาอย่างแท้จริง

“โห ดูมันย้อน” ชีวาถึงกับไปไม่เป็น ตกลงเขาผิด?

“แล้วจะเอาไง?”

เด็กหนุ่มเอ่ยถามน้องชายข้างบ้าน นั่นถือเป็นการเปิดโอกาสให้เด็กแสบเขาล่ะ

“ปอมไม่กลับ ไล่สาวของป๋ากลับไปเลย”

“เรื่องอะไรวะ!”

“เออ งั้นปอมกลับก็ได้”

พอป๋าชีวาไม่ยอมตามใจ ปอมปอมเลยประชดใส่ ชีวาเกาหัวงงๆเพราะตามอารมณ์เด็กแสบไม่ทัน

“ตกลงไปคงไม่เจ็บเท่าไหร่หรอกเนอะ แค่คอหักเอง” ตัวแสบพึมพำ แต่ดันมาเข้าหูชีวานี่สิ พึมพำประสาอะไรของมันวะ?

ปอมปอมตั้งท่าจะปีนขึ้นราวระเบียง ชีวากอดอกมองเฉยไม่เอ่ยห้าม พอเห็นว่าป๋าเขาไม่ห้ามปอมปอมเลยปีนขึ้นไปจริงๆมัน
เสียเลย แขนแข็งแรงคว้าเอวไอ้ตัวเล็กแล้วยกลงมายืนบนพื้น ก่อนจับให้หันมาเพื่อมองหน้า

“ไหนว่าจะให้ปอมกลับ ปอมจะกลับอยู่เนี่ย วู้!”

ปอมปอมทำเป็นอารมณ์เสีย ชีวาเลยดีดเหม่งเข้าให้ ท่าเยอะนัก ไอ้ตัวแสบร้องโอ้ยก่อนมองคนทำตาคว่ำ มันเจ็บไหมนี่ ดีดมา
ได้!

“หมั่นไส้”

ป๋าเขาว่าอย่างนั้น กะปอมน้อยเลยบุ้ยปากใส่ ก่อนบ่นอุบๆอิบๆไปเรื่อย

“รออยู่ตรงนี้ อย่าข้ามไปเข้าใจไหม?” ชีวาสั่งตัวแสบ

“อื้อ”

“เข้าใจไหมกะปอมผอมแห้ง” เด็กหนุ่มย้ำถามอีก

“เข้าใจแล้วไงล่ะป๋า แก่จนหูตึงหรือไง?”

“พูดไม่เพราะ ครับน่ะ พูดเป็นไหม?” ชีวาเท้าสะเอวมองหน้าตัวแสบที่ลอยหน้าลอยตา น่าเตะจริงๆ น้องใครวะ!

“คร้าบบบ เข้าใจแล้วครับป๋าวา จุ๊บๆ”

“เดี๊ยะๆ ดีดปาก มาจ๊งมาจุ๊บ”

คนพี่เข่นเขี้ยวก่อนที่จะผละเข้าไปจัดการพาสาวที่อยู่ในห้องกลับไปส่ง ก่อนไปยังโผล่หน้ามาบอกน้องชายข้างบ้าน

“กะปอม”

“หือ?”

“เข้ามารอในห้องก่อน ไปส่งสาวแป๊บ”

ชีวาเอ่ยบอกก่อนผลุบหายเข้าไปในห้องอีกรอบ ปอมปอมแลบลิ้นไล่หลังก่อนก้าวเข้าไปในห้องของชีวา หนุ่มน้อยเดินสำรวจไป
ทั่วทุกพื้นที่ภายในห้อง ไม่ใช่เพิ่งเคยมา เขาเคยมาห้องนี้บ่อยแล้ว แต่วันนี้มันมีอะไรบางอย่างที่พิเศษ ปอมปอมล้วงกระเป๋า
กางเกงเอาก้อนกระดาษกลมๆที่ยัดเอาไว้ออกมา รอยยิ้มปีศาจน้อยเริ่มปรากฏบนริมฝีปาก

หนุ่มน้อยเหลียวซ้ายแลขวาเพื่อหาที่ซ่อนก้อนกระดาษกลมๆนี่ จะซ่อนใต้เตียงเดี๋ยวแม่บ้านมากวาดก็เจอ คิดไปคิดมาปอมปอม
จึงตัดสินใจยกฟูกนอนหนาขึ้น แขนเรียวเล็กนั้นออกแรงเสียเต็มที่ก่อนที่จะสอดก้อนกระดาษเข้าไปไว้ใต้นั้น แอบบ่นในใจว่ามัน
หนักมาก

“ทำอะไรน่ะปอมปอม?”

“หวา~~”

เสียงทักที่ดังขึ้นไม่มีปี่มีขลุ่ยทำให้ปอมปอมปล่อยมือจากฟูกหนา หนุ่มน้อยกระโดดเหย็งมายืนตัวแข็งทื่อเมื่อถูกชีวาจับได้ ไหน
ว่าไปส่งสาวไง ทำไมกลับมาเร็วนักล่ะ~~

“จะมุดเข้าไปทำอะไรใต้ฟูก?” ชีวาหรี่ตามองจับผิด

“ไม่ๆๆๆๆ ไม่มีอะไร” ปอมปอมทั้งส่ายหน้าทั้งโบกมือปฏิเสธ แบบนี้มันมีพิรุธเห็นๆ

“มีพิรุธ”

“ไม่มี๊~”

“ซ่อนอะไรไว้ ไหนดูซิ”

ชีวาจะเข้าไปดูใต้เตียงนอนว่าตัวแสบเอาอะไรไปซ่อนไว้ ปอมปอมเบิกตาโตก่อนเอาตัวเข้าไปขวางไว้สุดชีวิต

“ไม่ป๋า ไม่มีจริงๆน้า เชื่อปอมสิ”

หนุ่มน้อยกางแขนกั้นพี่ชายข้างบ้านเอาไว้ ชีวาเลี่ยงจะเข้าไปอีกด้าน ตัวผอมบางอย่างปอมปอมเสียเปรียบเห็นๆทำให้เจ้าตัวเขา
ใช้ไม้ตาย โดดกอดเอาไว้ทั้งตัวไปเลย

“ป๋าอ่ะ มันไม่มีจริงๆ” หนุ่มน้อยเงยมองหน้าพี่ ทำสีหน้าอ้อนๆเข้าไว้

“จริงอ่ะ?”

“อื้อ ไม่มีหรอก” ส่ายหน้ายืนยันกันอีกรอบ เชื่อปอมเถอะน่าป๋า~

ชีวาหรี่ตามองตัวแสบที่ทำหน้าใสซื่อ ก็เห็นอยู่ว่าเอาอะไรซ่อนไว้ใต้ฟูกนั่น ถ้าไม่จับให้มั่นคั้นให้ตายคงไม่มีทางยอมรับสินะ

“โอเค ไม่มีก็ไม่มี”

พอพี่ยอมเชื่อตัวแสบก็ยิ้มแฉ่ง ปล่อยแขนที่กอดพี่เอาไว้แล้วขยับออกมายืนยิ้มหน้าซื่อ

“งั้นเราก็กลับบ้านได้แล้วไป”

“ไล่จัง ไปก็ได้”

รอยยิ้มที่มีหุบฉับเมื่อเจ้าของห้องเขาเอ่ยไล่ ก่อนส่งค้อนให้พี่ชายข้างบ้านวงโตแล้วเดินออกจากห้องไป เมื่อตัวแสบออกไป
แล้วชีวาจึงไปยกฟูกขึ้นดูแต่ก็ไม่เห็นว่าจะมีอะไรใต้นั้น ไม่มีอะไรจริงๆน่ะ?

“บอกแล้วไม่เชื่อ”

กะปอมน้อยโผล่หน้ากลับเข้ามายิ้มเยาะแล้วเดินลั้นลาออกไปอีกรอบ ชีวากอดอก ขมวดคิ้ว เด็กหนุ่มหันมามองฟูกนอนของ
ตนเองอย่างไม่เชื่อว่าจะไม่มีอะไรจริงๆ ปอมปอมต้องซ่อนอะไรเอาไว้แน่ๆ บางทีเด็กอย่างปอมปอมก็ชอบมีลับลมคมในกับเขา
อยู่เรื่อยๆเหมือนกันนะ








TBC






ขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่มาต้อนรับน้องปอมปอมกับอาร์ดิวค่ะ :pig4:

บวก+บวก

วันใหม่ค่ะ :L2:

หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic (1) UP!!! <<04_12_2555>>
เริ่มหัวข้อโดย: nong PeePee ที่ 04-12-2012 21:07:36
ปอมปอมน่ารักอาร์ดิวก็น่ารัก♥♥♥  o13
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic (1) UP!!! <<04_12_2555>>
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 04-12-2012 21:17:15
ปอมปอม น่ารักเนอะหุหุ

กราฟทำไมเชื่ออะไรยากจัง

งั้นก็ตามติดอาร์ดิวต่อไปเนอะ *0*
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic (1) UP!!! <<04_12_2555>>
เริ่มหัวข้อโดย: cher7343 ที่ 04-12-2012 21:25:42
รอ ชั้นรอเธออยู่  :impress3:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic (1) UP!!! <<04_12_2555>>
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 04-12-2012 21:45:42
ใกล้ถึงตอนที่ลงไปครั้งที่แล้วล่ะนะ

แต่ที่อ่านมาอันเก่ามันก็ดีอยู่นะ

มาอ่านที่ลงใหม่เปลี่ยนแปลงนิดหน่อย

แต่ความรู้สึกยังต่อเนื่องค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic (1) UP!!! <<04_12_2555>>
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 04-12-2012 21:50:51
ปอมปอมตัวแสบจริง ๆ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic (1) UP!!! <<04_12_2555>>
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 04-12-2012 21:52:58
ยังไงก็หาไม่เจอ ลึกลับซะขนาดนั้น คริคริ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic (1) UP!!! <<04_12_2555>>
เริ่มหัวข้อโดย: greensnake ที่ 07-12-2012 17:19:57
ปอมปอม~ ชอบจัง เด็กน้อยน่ารักๆเนี่ย :-[
เอาใจช่วยอาร์ดิวให้หนีการ์ฟพ้นนะ :laugh:
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic (1) UP!!! <<04_12_2555>>
เริ่มหัวข้อโดย: nemesis ที่ 07-12-2012 23:06:07
น่าสนุกดีคับไงจะติดตามนะคับ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic (1) UP!!! <<04_12_2555>>
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 08-12-2012 11:02:44
น่ารักดีค่ะ หนู..
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic (1) UP!!! <<04_12_2555>>
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 08-12-2012 11:40:38
เข้ามานั่งรอ
(แอบกดดันแบบเงียบๆ 555)
รอคุณวันใหม่ จ้าาา  :really2:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic (1) UP!!! <<04_12_2555>>
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 08-12-2012 14:02:50
ชอบอะ อ่านแล้วชอบอาร์ดิวววกับปอมน้อย
รอๆ ว่าโชคชะตาจะหมุนไปยังไง

ว่าแต่ปอมน้อยเอาก้อนอะไรมา
ทำคุณไสยปะเนี่ย
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic (1) UP!!! <<04_12_2555>>
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 08-12-2012 17:35:55
ปอมปอมน่ารักยังงี้ ป๋าชีวาไม่ทำอะไรหรอก
จำอันเก่าได้นะว่าปอมปอมเขียนให้ป๋ารัก
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic (2) +10/12/2555+ มาแล้วครับ :))
เริ่มหัวข้อโดย: wanmai ที่ 10-12-2012 16:00:33
Magica Café



Magic (2)






โต๊ะทานข้าวในครัวสำหรับพนักงานร้าน Magica Café ปอมปอมกำลังนั่งดื่มน้ำหลังจากเพิ่งทานข้าวเสร็จ ปากยังคงคาบหลอด
ดูด ขณะที่สายตากลอกไปมาท่าทีมีพิรุธ ถ้าเป็นในการ์ตูนคงมีเหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นมาเป็นแน่ อาร์ดิวนั่งอมยิ้มอยู่ใกล้ๆ ท่าทาง
น้องชายของเขาคงไปทำอะไรเอาไว้อีกแน่ๆทีเดียว ก็ชีวาเล่นมานั่งจ้องเสียขนาดนั้นนี่นะ

ป๋าวาของกะปอมนั่งกอดอกจ้องหน้าเจ้าตัวแสบ ตั้งแต่วันที่มีลูกลิงทโมนปีนข้ามมาที่ห้องของเขาแล้วเอาอะไรไม่รู้มาซ่อนเอา
ไว้ ชีวาก็พยายามหามันแทบตายแต่ก็ไม่เจอ ตอนนี้เขาจึงได้มานั่งจ้องหน้าตัวการเพื่อจับพิรุธ กะปอมน้อยถอนใจเฮือกเมื่อชีวา
ไม่มีทีท่าว่าจะเลิกจ้อง

“ป๋าเป็นอะไรน่ะ มองหน้าปอมอยู่ได้”

ปอมปอมหน้ามุ่ย จะจ้องให้ท้องเลยหรือไง จากที่หวั่นใจตอนนี้ชักจะกลายเป็นไม่พอใจแล้ว จ้องอะไรหนักหนา

“ป๋า…”

“เอาอะไรไปซ่อนไว้ที่ห้องพี่ ปอมปอม?”

ชีวาเอ่ยแทรกเมื่อปอมปอมอ้าปากจะพูด พอถูกถามมาเช่นนั้นตัวแสบก็หุบปากฉับ แสดงอาการมีพิรุธให้เห็นก่อนจะเอ่ยปฏิเสธ
เสียงสูง

“อะไร ไม่มี๊~”

“เสียงสูงอีกแล้ว” ชีวายังจับผิด

“เอ๊า ก็มันไม่มี!”

หนุ่มน้อยยังยืนยันความบริสุทธิ์ของตนเองเสียงแข็ง ดวงตาที่ดูเฉี่ยวขึ้นตรงหางตาตามแบบฉบับของชีวา พอจ้องแบบจับผิด
เช่นนี้แล้วมันทำให้คนโดนจ้องออกอาการหวาดๆเหมือนกัน ปอมปอมก้มหน้าก้มตาดูดน้ำในแก้วไม่มองใคร นั่นยิ่งทำให้เขาจับ
พิรุธได้กันหมด

“อย่าให้พี่จับได้นะตัวแสบ เดี๋ยวได้โดนหนัก” ชีวาข่มขู่

“ใครกลัว ใครแคร์ ฮูแคร์ครับผม~~”

หนุ่มน้อยยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ท่าทางดูยียวนน่าหมั่นไส้เหลือเกินในสายตาชีวา จมูกที่ยื่นมานั่นเลยถูกคนพี่บีบเข้าให้ ปอมปอม
ร้องโวยวายให้อาร์ดิวช่วย แต่พี่ชายกลับลุกเอาจานชามที่ทานข้าวเสร็จแล้วไปล้างหน้าตาเฉย ไม่มีใครอยู่ข้างปอมเลยอ่า~~

“ชอบบีบจัง มันยิ่งมีน้อยอยู่” ปอมปอมบ่นพึมเมื่อชีวายอมปล่อยจมูกตนเอง

“เออนะ มีน้อยจริงๆนั่นล่ะ ฮ่าๆ”

ชีวาขำกลิ้ง ทั้งยังตอกย้ำซ้ำเติม หนุ่มน้อยเลยหน้างอ จมูกแดงๆนั่นทำเอาชีวาหัวเราะขำไม่หยุดเลยโดนตัวแสบโป้งไม่ยอมพูด
ด้วย แล้วใครแคร์? ฮูแคร์? ป๋าไม่แคร์หรอกครับ เดี๋ยวหายงอนลูกลิงก็ย่องมาหาป๋าเองแหละ หึหึ





+++++++++++++++





ปอมปอมเดินหน้างอง้ำออกมาหน้าร้าน อาร์ดิวหันมามองน้องชาย ก่อนเบนสายตาไปยังคนที่เดินตามกันออกมา ทะเลาะอะไร
กันอีกแล้วไม่รู้คู่นี้ เด็กหนุ่มส่ายหน้าเมื่อเห็นเพื่อนวัยเด็กอย่างชีวาตีสีหน้าท่าทางยียวนใส่น้องชายของตนเอง ปอมปอมยิ่งหน้า
งอหนักกว่าเดิมเมื่อเห็นอีกฝ่ายทำแบบนั้น

“งอนอะไรกันอีกล่ะปอมปอม?” อาร์ดิวเอ่ยถามน้องที่กำลังส่งสายตาเขียวปั๊ดไปให้ป๋าวาอยู่

“ไม่รู้ ปอมงอน!”

“อ้าว?” อาร์ดิวอุทานงงๆ ก่อนหัวเราะขำ

“แล้วเรื่องที่ชีวาพูดที่โต๊ะกินข้าวน่ะ คืออะไร?”

อาร์ดิวเอ่ยถามถึงเรื่องที่ปอมปอมกับชีวาคุยกันในครัว ปอมปอมแยกเขี้ยวใส่ป๋าวาที่ถือถาดอาหารเดินผ่านไปเสิร์ฟ ก่อนหันมา
ถามพี่ชายกลับกวนๆ

“อะไรคืออะไร?”

“เอาอะไรไปซ่อนในห้องชีวา?”

“เปล่าสักหน่อย” หนุ่มน้อยลอยหน้าไม่รู้ไม่ชี้

“ปากแข็ง... อ้อ~ รู้ละ” คนเป็นพี่อมยิ้มเมื่อเริ่มรู้อะไรเลาๆ ปอมปอมตาโตก่อนกระซิบบอก

“อย่าบอกป๋านะดิว”

“คิดว่ามันจะได้ผลจริงเหรอ?”

“ช่างปอมเถอะ”

ปอมปอมบอกก่อนหันไปคิดเงินค่าอาหารจากบิลที่พนักงานเอามาวางให้ต่อ อาร์ดิวมองน้องยิ้มๆ ปอมปอมไปได้เคล็ดอะไรจาก
เพื่อนผู้หญิงในห้องมาไม่รู้ เห็นบอกว่าเป็นเคล็ดลับทำให้คนที่ตัวเองแอบชอบหันมารักชอบได้ ดูเป็นสาวน้อยมากกับการเขียน
ชื่อตัวเองกับคนที่ชอบลงบนกระดาษหนึ่งแผ่น ให้ครบหนึ่งพันครั้ง ต้องให้พอดีกับกระดาษแผ่นเดียวด้วยมันถึงจะได้ผล น้อง
ชายเขาก็มานั่งวัดนั่งคำนวณอยู่นั่น แถมเคล็ดยังให้เขียนด้วยมือห้ามปริ้นท์เอาอีก ลงทุนกันน่าดู จากนั้นแล้วยังไม่พอ เพราะ
ต้องเอาไปซ่อนในห้องของคนที่ตัวเองแอบชอบอีก เอาเข้าไป คิดแล้วอาร์ดิวก็อยากจะขำนะ แต่มันทึ่งมากกว่าอีกที่ทำกันถึง
ขนาดนี้


ชีวาเข้าไปเอาอาหารในครัวเพื่อนำไปเสิร์ฟอีกรอบ เดินผ่านเคาน์เตอร์ที่สองพี่น้องประจำการอยู่ก็ยังมายักคิ้วกวนใส่ปอมปอมอีก
อาร์ดิวถอนใจเฮือก ช่างไม่รู้อะไรเลยนะชีวา…





+++++++++++++++





การพาสาวมาที่ห้องมันคงกลายเป็นกิจวัตรสำหรับชีวาไปแล้ว และค่ำนี้ก็เช่นเคยที่พริม สาวรุ่นพี่ที่กำลังคบหากันอย่างเปิดเผย
กับชีวา แต่ทั้งคู่กลับไม่เรียกความสัมพันธ์นี้ว่าแฟน ชีวาพารุ่นพี่สาวมาที่ห้อง ให้นั่งรอสักเดี๋ยวขณะที่ตนเองลงไปหาอะไรมาให้
ทานเล่น

ขณะที่นั่งรอชีวา พริมก็เลยไปเปิดโทรทัศน์ดูเพื่อไม่ให้มันเงียบจนเกินไป พอจะกลับมานั่งที่เตียงก็เห็นมีอะไรไม่รู้อยู่ใต้เตียง พริม
คุกเข่านั่งลงไปเก็บเจ้าสิ่งนั้นขึ้นมาดู มันเป็นกระดาษที่ถูกขยำเป็นก้อนกลมๆแล้วติดเทปใสแน่นหนา รุ่นพี่สาวขมวดคิ้วเพราะไม่รู้
ว่ามันคืออะไร จับพลิกไปพลิกมาแล้วจะแกะออกดู ชีวาเข้ามาในห้องพร้อมน้ำและผลไม้ในจาน เด็กหนุ่มเอาถาดของว่างนั้นไป
วางบนโต๊ะหน้าโทรทัศน์ ก่อนเดินมานั่งข้างๆพริมที่เตียงแล้วเอ่ยถาม

“อะไรน่ะครับ พริม?”   

“ไม่รู้สิ มันอยู่ใต้เตียงวาน่ะ”

พริมยื่นให้ชีวาดู เด็กหนุ่มรับมามองๆแล้วก็นึกขึ้นได้ว่ามันน่าจะเป็นของที่ปอมปอมเอามาซ่อนไว้แน่ เพราะเขาไม่เคยมีไอ้ก้อน
กลมๆนี่สักหน่อย อุตส่าห์หาแทบตายกลับไม่เจอ พริมเพิ่งมาแต่กลับเจอมันง่ายๆ อะไรกันนี่??

ชีวาเอาก้อนกระดาษไปใส่ไว้ที่ลิ้นชักหัวเตียงแล้วมาคุยกับสาวต่อ กระหนุงกระหนิงกันตามประสา เด็กหนุ่มขยับเข้าใกล้สาวมาก
ขึ้น ค่อยโน้มหน้าเข้าไปจูบเธอเบาๆ มองสบสายตาอย่างรู้กันดี ก่อนเอนกายสาวเจ้าลงบนที่นอนนุ่ม ปล่อยให้น้ำที่ตนเองถือมา
กร่อยไม่เป็นท่าเมื่อไม่มีคนสนใจ

ชีวาซุกไซ้ซอกคอสาว ขณะที่เธอเองก็เอียงคอให้ด้วยความเต็มใจ ใบหน้าสวยหันไปทางประตูกระจกบานเลื่อนที่รูดม่านปิดเอา
ไว้ แต่มันมีช่องเล็กๆที่ยังปิดไม่สนิท ลมพัดม่านเบาๆทำให้สายตาสาวสวยมองเห็นคนยืนก้มหน้าอยู่ในเงามืด ดวงตาพริมเบิก
กว้าง ก่อนริมฝีปากจะส่งเสียงกรีดร้องลั่น

“กรี๊ดดดดดๆๆๆ วา... วาคะ ผี... ผี!!!!”

“ผีที่ไหนครับ?”

ชีวาผละลุก อารมณ์หวามไหวปลิวหายไปหมดเมื่อรุ่นพี่สาวสวยกรีดร้องออกมา ก่อนหันไปมองทางที่พริมหลับตาปี๋แล้วชี้มือไป
แต่ก็ไม่เห็นว่าจะมีอะไรอย่างที่อีกฝ่ายบอก เด็กหนุ่มลุกลงจากเตียงไปที่ประตูกระจกก่อนรูดม่านแล้วเลื่อนประตูเปิด ก้าวออกไป
ที่ระเบียงห้อง สายตาจ้องมองห้องตัวแสบฝั่งตรงข้ามก็เห็นยังเปิดไฟอยู่ ก็นี่มันยังหัวค่ำอยู่นี่นะ เด็กอนามัยคงยังไม่นอน

ชีวากลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง เอ่ยปลอบใจสาวว่าเพียงตาฝาดไป แต่พริมที่เริ่มกลัวขึ้นมาแล้วจึงเอ่ยขอตัวกลับจะดีกว่า ชีวาถอน
ใจกับเรื่องบ้าบอที่เกิดขึ้น ก่อนออกไปส่งรุ่นพี่สาวสวย พอกลับเข้ามาที่ห้องอีกทีปอมปอมก็นั่งหน้าแป้นแล้นอยู่บนเตียงแล้วเป็น
ที่เรียบร้อย

“นึกแล้วเชียว ลูกลิงตัวแสบ”

ชีวาบ่นพึม กอดอกมองหนุ่มน้อยที่บุกรุกห้องของตนเอง ไอ้ผีที่ว่าน่ะคงไม่พ้นปอมปอมนั่นล่ะ บ้านเขามีผีที่ไหนกัน นี่คงปีนข้าม
มาอีกแล้วล่ะสิ บอกกี่ทีแล้วว่ามันอันตรายก็ไม่เคยเชื่อฟังกัน

“ป๋าหื่นจัง” ปอมปอมเอ่ยว่าตาใส

“ใครๆก็เป็น” ชีวายักไหล่เหมือนมันเป็นเรื่องธรรมดา ทั้งที่รู้สึกเนียมในใจอยู่เล็กๆที่ให้เด็กน้อยข้างบ้านเห็นอะไรแบบนั้น

“ปอมไม่เห็นเป็น”

“...........” เจอประโยคนั้นเข้าไปทำเอาชีวาหมดคำอธิบาย ก็นะ เรื่องแบบนี้ควรมานั่งอธิบายให้ใครฟังหรือไง

“อ้อ! ไอ้ก้อนกลมๆที่เราเอามาซ่อนไว้น่ะ พี่เจอละ อยากรู้นักว่ามันมีอะไรอยู่ในนั้น”

ชีวาเอ่ยขึ้นเมื่อนึกได้ รอยยิ้มเป็นต่อผุดขึ้นมาบนใบหน้า ก่อนเดินไปเปิดลิ้นชักหัวเตียง ปอมปอมยังนั่งห้อยขาอยู่บนเตียงเฉย
ไม่ได้ตื่นเต้นตกใจแต่ประการใดจนชีวานึกแปลกใจ พอเปิดลิ้นชักหัวเตียงออกมาแล้วไม่เจอเจ้ากระดาษก้อนกลมนั้นเสียแล้ว
ชีวาถึงเพิ่งเข้าใจว่าทำไม เด็กหนุ่มหันมามองปอมปอมที่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้

“ซ่อนไว้ที่ไหน?”

“อะไร?”

หนุ่มน้อยลอยหน้าถามเมื่อพี่ชายข้างบ้านเดินเข้ามาหยุดตรงหน้า ปอมไม่รู้เรื่อง~

ชีวาขยับเข้าไปใกล้อีกนิด หรี่ตาหน่อยๆท่าทางเหมือนเสือเตรียมขย้ำ ปอมปอมพลิกตัวขึ้นไปบนเตียงเพื่อที่จะหนีลงไปอีกด้าน
แต่ขาเรียวเล็กนั้นกลับโดนชีวาคว้าหมับจับไว้

“ป๋า งืออออ อย่าจับขาปอม ปอมไม่ได้ซ่อนอะไรเอาไว้น้า~” ปอมปอมดิ้นแรง ทั้งยังถีบขาไปมา ชีวาจึงรวบขาทั้งสองข้างนั้นกด
เอาไว้

“โกหก ไหน ซ่อนไว้ตรงไหน หืม?”

“อ๊ากกกก ป๋าอ่ะ ฮือออ~”

ชีวาขึ้นมาบนเตียงแล้วนั่งทับขาที่ถีบไม่หยุดนั่นไว้ ก่อนดันตัวผอมบางให้ยึดติดที่นอน กลายเป็นว่าตนเองนั่งคร่อมน้องอยู่ไม่รู้ตัว
เด็กหนุ่มลูบมือเข้าไปในเสื้อแขนยาวตัวหนามีฮูดหูแมว ในใจคิดว่าน่าจะเป็นหูลิงมากกว่าจะได้เหมาะกับตัวแสบอย่างปอมปอม
หน้าท้องขาวๆโผล่ออกมาอวดสายตาเมื่อชีวาล้วงมือสูงขึ้นไป ความอุ่นและสากแปลกๆของมือชีวาทำให้ปอมปอมดิ้นไปมา ไม่
ยอมอยู่นิ่งๆให้ค้นได้ง่ายๆ จั้กจี้อ่ะ~

จนเมื่อค้นเจอชีวาถึงผละออกมา และถึงเพิ่งรู้ว่าตนเองกับน้องชายข้างบ้านอยู่ในท่าล่อแหลมแค่ไหน เด็กหนุ่มรีบลุกโดยเร็วไว
ก่อนจะปรับสีหน้าตื่นๆของตนเองให้เป็นปรกติ กระแอมกระไอเล็กน้อย ยกก้อนกระดาษในมือขึ้นมาแล้วเอ่ยเยาะเย้ยตัวแสบที่
นอนหอบแฮ่กอยู่บนเตียง

“ได้มาแล้ว หึๆ”

ปอมปอมยังคงนอนหอบอยู่ ก็เขาร้องห้ามจนเหนื่อยป๋าก็ไม่ยอมหยุด มือเรียวจับชายเสื้อของตนเองที่ร่นขึ้นมาถึงหน้าอกให้ขยับ
เข้าที่เข้าทาง ทำให้สายตาของชีวาพลอยมองตามไปด้วย พอเผลอมองแล้วก็ชะงักกับภาพที่เห็น ถ้าเป็นสาวเป็นนางหน่อยเขา
จะคิดว่านอนยั่วกันเลยนะนี่ เด็กอะไรวะ ตัวบางๆ ขาวๆ น่าฟัดชะมัด... โอ๊ยยย หื่นไปแล้วชีวาาา ป๋าหื่นแทบอยากจะทึ้งหัวตนเอง
ที่คิดอะไรเลยเถิดกับเด็กผู้ชาย

ปอมปอมลุกขึ้นนั่งแล้วมองชีวางอนๆ ป๋าหื่นสลัดความคิดชั่วร้ายของตนเองทิ้ง ก่อนที่จะแกะก้อนกระดาษนั้นออกดู คนบนเตียง
ลุกขึ้นยืนทำให้ชิดกับชีวาที่อยู่หน้าเตียงพอดี ชีวาเลิกคิ้วมองว่าอีกฝ่ายจะทำอะไร แขนเรียวเล็กโน้มคอคนเป็นพี่ลงมาไม่ให้ทัน
ตั้งตัว ก่อนที่ริมฝีปากนุ่มๆจะแตะเข้ากับปากของพี่รวดเร็ว



จุ๊บ!



ชีวาอึ้งค้าง ความรู้สึกนุ่มนิ่มที่แตะผ่านรวดเร็วนั่นมัน...

“ปอม…”

เด็กหนุ่มเอ่ยชื่อของอีกฝ่ายคล้ายละเมอ เมื่อเห็นแก้มของหนุ่มน้อยตรงหน้าแดงน่าฟัดเป็นบ้า ปอมปอมผละออกมาแล้ววิ่งไป
ที่ประตูกระจกตรงระเบียง ก่อนจะหยุดกึกเมื่อเกิดเปลี่ยนใจขึ้นมา ขาเรียววิ่งดุ๊กดิ๊กย้อนกลับมาที่ประตูหน้าห้อง เปิดมันออกไป
ก่อนที่จะปิดมันลงยังหันกลับมามองเจ้าของห้องอีกที อมยิ้มแล้วเม้มปากเขินๆก่อนผลุบหายไป

ชีวายังยืนเพ้ออยู่ที่เดิม ก่อนที่จะสะบัดหัวไล่ความคิดเพ้อเจ้อของตนเอง เมื่อก้มลงมองที่มือปรากฏว่ากระดาษก้อนนั้นมันได้
อันตรธานหายไปเสียแล้ว ริมฝีปากของเด็กหนุ่มยกยิ้มเมื่อนึกถึงคนที่เอาไป


‘แสบนักนะ กะปอมน้อย’



-----------------



กระดาษเจ้าปัญหากลับมาอยู่ในมือปอมปอมเป็นที่เรียบร้อย หนุ่มน้อยนั่งหัวเราะคิกคักอยู่บนเตียงนอนของตนเองเมื่อได้ดั่งใจ
แต่พอนึกถึงสิ่งที่ได้ทำลงไปแล้วก็เขิน มือเรียวยกขึ้นจับแก้มตนเองเมื่อรู้สึกว่ามันร้อนวูบวาบ ริมฝีปากก็กลั้นยิ้มแทบไม่อยู่

“แรดจริงๆเลยเรา”

ว่าตัวเองแล้วปอมปอมก็หัวเราะเสียงดัง ก่อนที่จะลงจากเตียงแล้วโผล่หน้าออกไปส่องที่ระเบียง เห็นชีวายืนอยู่ที่ระเบียงห้อง
ตรงข้ามกำลังมองมาทางนี้ด้วยเหมือนกัน ชีวายิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนที่จะแตะนิ้วกับริมฝีปากตนเองแล้วจุ๊บเบาๆ ปอมปอมมองแล้วอ้า
ปากค้างเมื่อถูกล้อเลียน

“ป๋าบ้า!!!”

หนุ่มน้อยตะโกนใส่พี่ชายข้างบ้าน ก่อนผลุบหายเข้าไปในห้องแล้วไม่โผล่ออกมาอีก ชีวาอมยิ้ม ยืนมองห้องตรงข้ามอยู่จนไฟ
ในห้องนั้นดับลงจึงได้เดินเข้าห้องของตนเองบ้าง





+++++++++++++++






ร้านMagica Café



“นี่ ดิวไม่ต้องคิดมากหรอก เราไม่ได้เอาตัวเข้าไปยุ่งกับเขาสักหน่อย อยู่ห่างกันขนาดนี้ ไม่มีทางเกิดอะไรอย่างที่ดิวกังวลขึ้น
หรอกน่า”

ปอมปอมนั่งทานไอศกรีมอยู่หลังเคาน์เตอร์คิดเงินในร้าน เอ่ยปลอบใจพี่ชายที่ตอนนี้เป็นกังวลกับเรื่องที่ยังไม่เกิด ตั้งแต่ได้เจอ
กับพี่หน้าหล่อคนนั้น พี่ชายของเขาก็ดูจะเครียดเอามากๆ การได้เห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็นมันก็ไม่ได้ดีเสมอไป

“จริงเหรอ?”

อาร์ดิวรับถาดอาหารจากพนักงานในครัวมาส่งให้ชีวาที่รอทำหน้าที่เสิร์ฟอยู่ใกล้ๆ ปากก็เอ่ยถามน้องกลับไป

“เชื่อปอมป่ะล่ะ?” ปอมปอมยักคิ้วขณะที่ตักไอศกรีมเข้าปากอีกคำโต

“เชื่อได้เหรอ?” คนเป็นพี่หรี่ตาเชิงล้อเมื่อเอ่ยถาม ทำให้น้องชายทำเสียงเง้างอด

“ดิวววววว”

“โอ๋ พี่ล้อเล่นน่า~”

อาร์ดิวดึงแก้มน้องชายที่ทำแก้มพองเพราะงอนเขา เอ่ยง้อนิดๆหน่อยๆหนุ่มน้อยหน้ามนก็หายงอนแล้ว ปอมปอมลุกจากหลัง
เคาน์เตอร์เพื่อเข้าไปล้างมือหลังร้าน อาร์ดิวจึงรับหน้าที่แทนชั่วคราว เสียงกระดิ่งหน้าร้านดังขึ้นเมื่อมีลูกค้าเข้ามา เสียงต้อนรับ
ของพนักงานก็ดังขึ้นอย่างพร้อมเพรียงเหมือนเคย

“อาร์ดิว”

“มิว”

อาร์ดิวเอ่ยทักกลับไปพร้อมรอยยิ้ม มิว หรือ มิมิว เพื่อนสมัยเด็กอีกคนของเขานอกจากชีวา

“เหมือนเดิมจ้ะ” เด็กสาวตาโตน่ารักเอ่ยบอกกับอาร์ดิวอย่างรู้กัน

“ครับผม นั่งก่อนเลย”

อาร์ดิวเชิญเพื่อนให้ไปนั่งรอที่โต๊ะ เพื่อที่ตนเองจะได้ไปสั่งในครัวให้จัดการทำอาหารของโปรดที่เพื่อนชอบมาให้ มิมิวยิ้มให้
เพื่อนก่อนหันไปเรียกใครอีกคนให้เข้ามาในร้าน

“การ์ฟ เข้ามาสิคะ”

ชื่อที่เด็กสาวเอ่ยเรียกนั้นทำให้อาร์ดิวชะงัก ปอมปอมเดินกลับมาจากหลังร้านแล้วส่งยิ้มให้เพื่อนพี่ชาย ก่อนจะนิ่งไปเมื่อเห็นว่า
ใครเดินเข้ามา โลกมันกลมไปหรือเปล่า??

“นี่ มิวจะแนะนำให้รู้จัก”

มิมิวกระซิบเพื่อนอย่างอาร์ดิวที่ยังคงมองการ์ฟนิ่งอยู่ เจอกันอีกแล้วกับคนนี้ แถมยังรู้จักกับเพื่อนวัยเด็กของเขาเสียด้วยสิ

“นี่การ์ฟ... แฟนมิวเอง” มิมิวกระซิบบอกอาร์ดิวพร้อมรอยยิ้มเขินในตอนท้าย

“หา!!?”

เสียงร้องอุทานนั้นไม่ใช่เสียงของอาร์ดิวแต่อย่างใด ทุกสายตาหันไปมองที่มาของเสียง ชีวายิ้มเจื่อน เกาท้ายทอยตัวเองเก้อๆ
กับสายตาเหล่านั้น

“ชีวา เสียงดังไปนะ”

มิมิวหัวเราะน้อยๆพอน่ารักเมื่อพูดกับเพื่อนอย่างชีวา ขณะคนที่ได้ชื่อว่าแฟนอย่างการ์ฟจ้องอาร์ดิวเขม็ง มิมิวชวนการ์ฟไปนั่งที่
โต๊ะเพื่อรออาหาร การ์ฟละสายตาจากเด็กหนุ่มหน้าตี๋แล้วเดินตามแฟนของตนเองไป ในหัวของเขากำลังเกิดความสงสัย เพราะ
มันบังเอิญจนเกินไปที่เขาและอาร์ดิวได้มาพบเจอกันอยู่เรื่อยๆ แถมคนรอบกายยังรู้จักกันเป็นอย่างดีเสียอีก มันเป็นเรื่องบังเอิญ
เกินไปจริงๆ

เด็กหนุ่มพยายามไม่นึกถึงคำทำนายของน้าชายอย่างเทสต์ คงมีคนสงสัยว่าทำไมคำพูดเทสต์ถึงได้มีผลกับเขานัก นั่นเพราะคำ
ทำนายของเทสต์มันไม่เคยพลาด เทสต์ไม่ได้เป็นหมอดู แต่ทุกคำที่พูดออกมามักมีผลเป็นจริงตามนั้นเสมอ ทั้งที่การ์ฟไม่ชอบ
เรื่องพวกนี้ แต่คนรอบกายเขากลับมีแต่คนประหลาด รวมทั้งอาตี๋นั่นด้วย

พูดถึงอาตี๋ การ์ฟก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบมอง เมื่อเห็นว่าฝ่ายนั้นเดินหายเข้าไปหลังร้านการ์ฟจึงขอไปเข้าห้องน้ำ มิมิวพยักหน้า
รับรู้ ไม่ได้เอะใจอะไร




“นายจงใจหรือเปล่าน่ะ?”

การ์ฟเดินตามอาร์ดิวเข้ามาด้านหลังร้าน ทั้งที่บอกกับมิมิวว่าจะไปเข้าห้องน้ำ แต่ที่จริงกลับมาหาเรื่องเพื่อนของเธออยู่ตรงนี้
ต่างหาก

“อะไรของคุณ?”

อาร์ดิวขมวดคิ้วกับคำถามลอยๆของการ์ฟ จงใจมาหาเรื่องกันโดยเฉพาะเลยสินะ

“ก็จงใจเป็นเพื่อนกับแฟนฉัน”

การ์ฟขยับเข้ามาใกล้อาร์ดิว กอดอก หรี่ตาเล็กน้อยเมื่อเอ่ยถาม ขณะที่อาร์ดิวก้าวถอย ไม่อยากอยู่ใกล้นายคนนี้เท่าไหร่

“ทำไมผมต้องทำแบบนั้นด้วย?”

“จะไปรู้กับนายเหรอ”

คนนี้ก็ช่างตอบกำปั้นทุบดินเหลือเกิน อาตี๋หน้ามุ่ยกับคำตอบที่ได้รับก่อนเหน็บแนมไปเบาะๆ

“ถ้าไม่รู้แล้วอยู่เฉยๆก็ไม่มีใครว่าหรอกนะครับ”

อาร์ดิวจะเดินกลับไปยังหน้าร้านเมื่อเอ่ยจบ การ์ฟคว้าจับแขนของอีกฝ่ายไว้ เจ้าตัวเขาจะสะบัดออกแต่กลับต้องชะงักนิ่งไปเมื่อ
เห็นในสิ่งที่ไม่ควรเห็นอีกแล้ว

“อะไรอีก?”

เมื่อเห็นอาตี๋นิ่งไป การ์ฟก็หันซ้ายแลขวาอย่างระแวงว่าจะมีอะไรหล่นมาใส่หัวตนเองอีกหรือเปล่า ยังจำได้แม่นนะเรื่องกระถาง
ต้นไม้นั่นน่ะ

“ปล่อยผม…”

อาร์ดิวเอ่ยบอกเสียงติดจะเครียดจนการ์ฟจับสังเกตได้ มือของการ์ฟจึงค่อยปล่อยแขนอีกฝ่ายให้เป็นอิสระ อาร์ดิวหมุนกายแล้ว
เดินหนีทันทีไม่มีรีรอ เด็กหนุ่มรีบจ้ำเดินไม่เหลียวหลัง พยายามอย่างยิ่งที่จะสลัดภาพที่เห็นให้หลุดจากหัว แต่มันกลับชัดเจนขึ้น
เรื่อยๆจนน่าโมโห ใบหน้าเด็กหนุ่มร้อนผะผ่าวกับภาพสุดท้ายที่ผ่านวูบเข้ามาจนเผลอยกมือแตะปากตนเอง



... เขากับการ์ฟจูบกัน ไม่จริงใช่ไหมมมมมมมมมม? ...






เมื่อออกมาด้านนอกแล้วอาร์ดิวก็แทบอยากจะมุดเคาน์เตอร์หนี มันน่าอายมากที่เห็นอะไรแบบนั้น จนมิมิวกับการ์ฟทานข้าว
เสร็จ ก่อนกลับสาวน้อยน่ารักก็มาเอ่ยชวนอาร์ดิวไปเดทคู่ด้วยกันวันอาทิตย์หน้า ขณะที่การ์ฟกำลังจัดการจ่ายค่าอาหารอยู่
กับปอมปอม เธอบอกว่าหากไปกับการ์ฟสองคนคุณพ่อต้องไม่อนุญาตแน่ อาร์ดิวเลยถามว่าจะให้เขาไปเป็นไม้กันหมาหรือ?

“ไม่ใช่ มิวอยากให้อาร์ดิวไปด้วยอ่ะ ไปด้วยกันเถอะนะ มัวแต่ทำงานไม่ได้เที่ยวเล่นบ้างเลย” มิมิวยกเหตุผลร้อยแปด

“นะอาร์ดิว” เด็กสาวยังอ้อนอีกเมื่อเพื่อนยังนิ่งเฉย แถมยังมองเธอแบบจับผิดด้วย อย่าบอกนะว่าอาร์ดิวรู้...

“ใครใช้มา?” อาร์ดิวเอ่ยถาม รู้สึกผิดสังเกตกับการคะยั้นคะยอของเพื่อน

“เปล่า” มิมิวปฏิเสธไม่เต็มเสียงนัก แถมไม่กล้าสบตาเพื่อนอีกด้วย

“มิมิว”

“โธ่ อาร์ดิวมีนิมิตนี่เนอะ ต้องดูออกอยู่แล้วอ่ะ” มิมิวบ่นอุบอิบเมื่อไม่สามารถโกหกเพื่อนได้ เธอไม่เคยจะโกหกได้แนบเนียนสัก
ทีอยู่แล้วล่ะ

“ไม่ต้องมีนิมิตก็ดูออกเถอะมิว คาดคั้น คะยั้นคะยอขนาดนี้”

อาร์ดิวว่า ทำสีหน้าให้ดูขรึม สายตาจ้องเพื่อนสาวเขม็งทำให้ฝ่ายนั้นต้องสารภาพเสียงออดอ่อย

“พี่มีนอ่ะ” มิมิวเอ่ยบอกเสียงเบา

“นี่พี่มีนยังไม่เลิกอีกเหรอ?”

พอรู้ว่าใครใช้ให้เพื่อนมาชวนอาร์ดิวก็ออกอาการเหวอหนัก การ์ฟที่จัดการธุระเรื่องค่าอาหารเรียบร้อยแล้วมายืนข้างๆแฟนของ
ตนเอง นั่นทำให้อาร์ดิวรู้สึกเกร็งขึ้นมา จะมายืนตรงนี้ทำไมว้า

“ก็ศรรักมันปักอก”

มิมิวทำมือเป็นรูปหัวใจแล้วหัวเราะคิกคัก อาตี๋สะดุ้งหน่อยๆเพราะมันมาพ้องกับที่ตนเองกำลังคิด ได้แต่ต่อว่าตนเองในใจว่ามิมิว
พูดถึงพี่มีนต่างหาก มันคนละเรื่องเดียวกัน

“สนับสนุนให้เพื่อนได้กับพี่ชายตัวเองจริงนะมิว”

อาร์ดิวประชด แต่คนถูกประชดกลับหัวเราะชอบใจ ก็มันถูกอย่างที่อาร์ดิวว่านั่นล่ะ พี่มีน พี่ชายของเธอสนใจอาร์ดิว มิมิวและคน
ในครอบครัวรู้กันดีว่าพี่ชายเธอชอบผู้ชายด้วยกัน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ที่พี่มีนจะสนใจอาร์ดิว และมิมิวก็เห็นว่าเพื่อนเธอออก
จะเป็นคนดีเลยสนับสนุนเต็มที่ ติดตรงที่อาร์ดิวไม่เล่นด้วยนี่สิ เซ็งเลย

“ไปนะอาร์ดิว หยุดงานวันหนึ่งไม่เป็นไรหรอก นะ น้า~” มิมิวเขย่าแขนเพื่อน ทำสีหน้าและน้ำเสียงอ้อนๆ

“ดิวไม่อยากให้ความหวังพี่มีนนะมิว ดิวไม่ได้ชอบเขา และที่สำคัญดิวเป็นผู้ชาย”

อาร์ดิวบอกเหตุผล เขาไม่ได้ชอบพี่มีน และไม่มีทางชอบ เขารู้ตัวเองดี และพี่มีนก็น่าจะรู้ว่าใครคือคนที่ใช่ ถ้าพี่มีนไม่ปิดหูปิดตา
ตัวเองล่ะก็นะ

“อาร์ดิว…”

มิมิวจ๋อยลงไปเมื่อเพื่อนตัดรอนแบบนั้น ก็เธออยากช่วยพี่ชายนี่นา การ์ฟเองก็ไม่ได้ว่าอะไรด้วย พูดถึงการ์ฟ พักนี้แปลกๆ
อย่างไรไม่รู้ ชวนมาที่ร้าน Magica Café ทีไรเป็นได้ปฏิเสธทุกที วันนี้เธอเลยบังคับให้มา ก็เธอไม่ชอบให้ใครขัดใจนี่นา

“จะไปไหนกันเหรอครับพี่มิว?”

ปอมปอมโผล่หน้าเข้ามาถามเพื่อนพี่ชายเมื่อเห็นบรรยากาศดูเครียดๆ หางตาเหลือบมองพี่หน้าหล่อแฟนพี่มิมิว ไม่ได้รู้สึกไปเอง
สินะว่าพี่หน้าหล่อกำลังจ้องพี่ชายของเขา อย่ามายุ่งกับพี่เขานะ ไม่อยากกินมาม่ารสรักสามเส้า

“ไปเที่ยวสวนสนุกน่ะ แต่ว่าอาร์ดิวไม่ยอมไป”

มิมิวเอ่ยบอก ช้อนสายตามองอาร์ดิวท่าทางหงอยได้ที่ แต่เพื่อนเธอดูจะรู้ว่าเธอแกล้งทำเลยไม่ยอมตกหลุมพรางรับปากเธอเลย
แย่ชะมัด

“ไปสิดิว ปอมไปด้วย”

เมื่อปอมปอมบอกกับพี่ชายเช่นนั้น มิมิวก็ตาโต รีบรับลูกต่อทันที ได้พวกแล้ว~

“เนอะๆๆๆ ปอมปอมไปด้วยกัน ให้ชีวาไปด้วย ดีไหมอาร์ดิว?”

“เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย”

อาร์ดิวถอนใจกับท่าทางของเพื่อนที่ดูรื่นเริงขึ้นมาทันทีที่ได้พวกเพิ่ม ก่อนมองสายตาปิ๊งปั๊งของน้องชายที่ส่งมาอ้อนตนเอง
ท่าทางคนที่อยากไปจะเป็นปอมปอมมากกว่านะ

“เดี๋ยวปอมไปชวนป๋าดีกว่า~”

หนุ่มน้อยเอ่ยบอกน้ำเสียงร่าเริง มิมิวยกนิ้วให้อย่างถูกใจเธอเป็นอย่างยิ่ง ก่อนหันมาส่งสายตาอ้อนเพื่อนต่อ

“นะอาร์ดิว”

“อืม” อาร์ดิวตอบรับอย่างเสียไม่ได้ ก็ปอมปอมอยากไปนี่นะ ทำอย่างไรได้

“งั้นมิวกลับก่อนนะ อาทิตย์หน้าอย่าลืมนะดิว”

“อืม”

อาร์ดิวตอบรับ มองเพื่อนกับการ์ฟที่เดินตามกันออกจากร้านไป ก่อนจะชะงักเมื่อการ์ฟหันกลับมามอง เด็กหนุ่มหน้าตี๋เบือน
สายตาไปทางอื่น ตกใจหมดเลย บ้าเอ๊ย!


พอนึกถึงเรื่องที่รับปากเพื่อนไปแล้วอาร์ดิวก็ชักจะหนักใจขึ้นมาอีก ยิ่งอยากหนีก็ยิ่งเจอ บางทีการเผชิญหน้าตรงๆอาจดีกว่าก็ได้
เรื่องจูบนั่นมันอาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้นี่ ที่เห็นน่ะมันเหมือนจะเป็นริมสระน้ำ... ริมสระน้ำ งั้นเราก็ไม่ไปที่ที่มีน้ำก็จบ มันจะได้ไม่ต้อง
จูบ...

“ดิว เป็น’ไรอ่ะ หน้าแดง??”

ปอมปอมที่วิ่งลั้นลากลับมาหลังจากไปชวนป๋าชีวาไปเที่ยวด้วยกันเอ่ยถามพี่ชายที่ยืนหน้าแดงอยู่หลังเคาน์เตอร์ ไม่สบายรึเปล่า
นะ?

อาร์ดิวยกมือจับแก้มตนเอง ก่อนที่จะกุมหัวเมื่อสลัดความคิดเรื่องจูบไปไม่พ้น ได้แต่คร่ำครวญในใจ



‘ฮืออออ เลิกคิดสิอาร์ดิววววว~’








TBC







ถึงแล้วววว อย่างรวดเร็ว ตอนต่อไปก็เป็นตอนใหม่แล้วเนอะ

ฝากติดตามด้วยนะคะ บวกๆค่ะ :)

วันใหม่ :L2:

หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic (2) +10/12/2555+ มาแล้วครับ :))
เริ่มหัวข้อโดย: nong PeePee ที่ 10-12-2012 16:16:05
ปอมๆน่ารักจัง  :o8:
ตอนน่าอาร์ดิวจะเสียจูบแรกไหมเนี่ย..............?  o13
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic (2) +10/12/2555+ มาแล้วครับ :))
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 10-12-2012 16:21:25
รอตอนหน้า จะเป็นสระน้ำที่ไหนกันน๊า
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic (2) +10/12/2555+ มาแล้วครับ :))
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 10-12-2012 16:26:23
มาแล้วๆ มีนิมิตนี้ดีหรือไม่ดีน่าา
แต่ว่าเห็นภาพจูบกันด้วยๆ
ลุ้นๆ

ลุ้นคู่ป๋ากับกะปอมน้อยด้วย
เด็กน้อยจุ๊บป๋าไปแล้ว :o8:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic (2) +10/12/2555+ มาแล้วครับ :))
เริ่มหัวข้อโดย: ชัดเจนกาบ ที่ 10-12-2012 19:04:38
ก็สนุกดีครับ มาต่อเร็วๆนะ แต่กลัวดราม่าจัง ทั้งคู่พีคู่น้องเลย
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic (2) +10/12/2555+ มาแล้วครับ :))
เริ่มหัวข้อโดย: ชัดเจนกาบ ที่ 10-12-2012 19:06:21
ก็สนุกดีครับ มาต่อเร็วๆนะ แต่กลัวดราม่าจัง ทั้งคู่พีคู่น้องเลย
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic (2) +10/12/2555+ มาแล้วครับ :))
เริ่มหัวข้อโดย: ชัดเจนกาบ ที่ 10-12-2012 19:07:50
ก็สนุกดีครับ มาต่อเร็วๆนะ แต่กลัวดราม่าจัง ทั้งคู่พีคู่น้องเลย
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic (2) +10/12/2555+ มาแล้วครับ :))
เริ่มหัวข้อโดย: Narcissus ที่ 10-12-2012 21:10:48
 :impress2: :impress2:

 :pig4:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic (2) +10/12/2555+ มาแล้วครับ :))
เริ่มหัวข้อโดย: earthhnozomism ที่ 10-12-2012 21:41:41
ปอมน่ารักกก  :pighaun: :z1:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic (2) +10/12/2555+ มาแล้วครับ :))
เริ่มหัวข้อโดย: Ella Killer ที่ 10-12-2012 22:07:57
ชอบอาร์ดิว  :o8:

รักปอมปอม  :-[
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic (2) +10/12/2555+ มาแล้วครับ :))
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 10-12-2012 22:58:14
น้องปอมน่ารัก
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic (2) +10/12/2555+ มาแล้วครับ :))
เริ่มหัวข้อโดย: greensnake ที่ 11-12-2012 17:16:29
เพิ่งจะเครียดกับกระทู้นู้นมา มานั่งยิ้มกับปอมปอมดีกว่า :กอด1:
เด็กอะไรก็ไม่รู้น่ารักได้ตลอดเวลา จะไม่หลงได้ยังไงกัน
ส่วนอาร์ดิวกับการ์ฟเข้าตำรายิ่งเกลียดยิ่งเจอสินะ
เกี่ยวข้องกันทุกทาง แล้วอย่างนี้จะหนีกันยังไงพ้นล่ะ :-[
เอาใจช่วยทุกคู่ค่ะ :L1:
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
กดเป็ดจ้า
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic (2) +10/12/2555+ มาแล้วครับ :))
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 11-12-2012 18:40:55
หนุกดีเหมือนกันนะ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic (2) +10/12/2555+ มาแล้วครับ :))
เริ่มหัวข้อโดย: nemesis ที่ 12-12-2012 12:13:52
ปอมน่ารักอะ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic (2) +10/12/2555+ มาแล้วครับ :))
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 12-12-2012 12:54:46
รอตอนใหม่อยู่นะคะ
+1 นะคะ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic (2) +10/12/2555+ มาแล้วครับ :))
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 12-12-2012 14:33:00
อ่อ ที่แท้เจ้าก้อนกระดาษนั่นข้างในเขียนชื่อชีวานี่เอง^^

หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic (2) +10/12/2555+ มาแล้วครับ :))
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 12-12-2012 14:42:55
ชอบคู่ปอมปอมกับป๋าชีวา
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic (2) +10/12/2555+ มาแล้วครับ :))
เริ่มหัวข้อโดย: cher7343 ที่ 12-12-2012 22:52:14
เมื่อไหร่จะรักกันน๊าาาา  o18
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic (2) +10/12/2555+ มาแล้วครับ :))
เริ่มหัวข้อโดย: TinyB ที่ 16-12-2012 11:25:53
ปอมปอมน่ารักจังเลย  :-[
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic (2) +10/12/2555+ มาแล้วครับ :))
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 16-12-2012 18:45:02
เรื่องแปลกแหวกแนว
น่ารักจังเลยวุ๊ย กะปอมน้อย
ขอบใจจ้า
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic (3) <<22.12.2555>> UP!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: wanmai ที่ 22-12-2012 06:35:23
Magica Café



Magic (3)






เช้าวันอาทิตย์



วันที่พี่น้องปอปลานัดกับมิมิวเอาไว้ว่าจะไปเที่ยวสวนสนุกด้วยกัน อาร์ดิวบอกกับน้าจันทราแล้วว่าขอหยุดงานหนึ่งวัน ซึ่งคุณน้าเสนอว่าจะเปิดร้านครึ่งวัน เพราะช่วงค่ำวันหยุดแบบนี้คุณน้าจะออกไปข้างนอกกับครอบครัว สองพี่น้องจึงขอบคุณน้าจันทราที่อุตส่าห์สละเวลามาช่วยดูร้านให้

ชั้นล่างของตัวบ้าน อาร์ดิวกับปอมปอมลงมารอพี่มีน พี่ชายของมิมิวที่จะขับรถมารับไปสวนสนุก ชีวาเดินมาจากบ้านข้างๆ สีหน้าของเด็กหนุ่มดูเซ็งอย่างเห็นได้ชัด เขาไม่ชอบนายพี่มีนนี่เท่าไหร่ แต่งานนี้ไม่ไปด้วยไม่ได้ เพราะว่ามีลูกลิงตัวแสบอยากติดสอยห้อยตามคนอื่นเขาไปด้วย ทำให้ชีวาต้องไปแม้จะไม่ชอบใจก็ตาม

“ป๋า ทำหน้าให้มันดีๆหน่อยสิ หน้าเหมือนคนท้องผูก” ปอมปอมน้อยเอ่ยทักท้วง เมื่อเห็นพี่ชายข้างบ้านหน้าตาบอกบุญไม่รับมาแต่ไกล

“ก็ไม่อยากไปนี่หว่า” ชีวาบ่นก่อนทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟาข้างปอมปอม

“ชีวา ถ้าไม่อยากไปก็ไม่ต้องก็ได้นะ ไม่สบายใจเปล่าๆ”

อาร์ดิวเอ่ยบอก จะว่าไปแล้วก็ลำบากชีวาเปล่าๆ เพราะอย่างไรเสียคนที่อยากไปก็คือน้องชายของเขาอย่างปอมปอม ก็รู้อยู่หรอกว่าชีวาไม่ชอบพี่มีน แต่ตอนนี้กลับต้องไปเที่ยวด้วยกันแบบนี้คงอึดอัดน่าดู

“ไม่ได้หรอก ปล่อยนายกับน้องไปสองคนได้ไง” ชีวาเอ่ยแย้ง ทำให้อาร์ดิวหัวเราะขำกับคำโต้แย้งนั้น

“พูดอย่างกับพี่มีนเป็นผู้ร้าย”

“ใช่ พี่เขาจะเลี้ยงนะป๋า ไม่ต้องเสียตังค์ด้วย นี่แหละสำคัญ” ปอมปอมบอกเหตุผลสำคัญ

“ปัญญาอ่อน”

“ป๋าว่าปอมเหรอ!”

“ไม่ได้ว่ากะปอม ว่าไอ้พี่มีนนั่นต่างหาก อายุตั้งเท่าไหร่แล้วมาชวนไปสวนสนุก”

“แต่ปอมก็อยากไปนะ” คนเป็นน้องเล็กของกลุ่มว่าเสียงอ่อย

“ก็เพราะเราอยากไปไงพี่ถึงต้องมาเฝ้าเนี่ย”

“มาเฝ้าปอมทำไมอ่ะ ปอมไม่หายไปไหนหรอก” หนุ่มน้อยลอยหน้าบอก

“เหรอ คลาดสายตาได้เหรอเราน่ะ?”

ปอมปอมกอดอก หน้างอ เมื่อชีวาทำเหมือนดูถูกกันแบบนี้ ใช้ได้ที่ไหน!

“นี่ละนะคนเรา ทำดีไม่มีใครมองเห็น”

“เกี่ยวกันตรงไหนวะ?” ป๋าวาถึงกับงงเต้ก

“ไม่เกี่ยว แค่อยากพูดให้มันดูดีเฉยๆ... โอ๊ย!!”

หน้าผากคนพูดจาดูดีถูกดีดเข้าให้ด้วยความเอ็นดู ชีวาล่ะหมั่นเขี้ยวเหลือเกินกับท่าทางกอดอกลอยหน้าลอยตาพูดนั่นน่ะ พอทั้งสองคนตั้งท่าจะรบกันอาร์ดิวจึงต้องห้ามทัพแล้วลากออกไปหน้าบ้านเมื่อรถของมีนเข้ามาจอด ยังไม่วายมีเสียงแง้วๆของกะปอมน้อยดังมาตลอดทาง

ชีวาจัดแจงให้ตนเองขึ้นไปนั่งด้านหน้าคู่คนขับ แล้วให้อาร์ดิวกับปอมปอมนั่งเบาะหลังด้วยกัน มีนมองชีวาอย่างขวางขุ่นแต่ทำอะไรมากกว่านั้นไม่ได้ จำต้องให้อาร์ดิวนั่งหลังเมื่อชีวาหน้ามึนเกินกว่าจะรับรู้ถึงสายตาไม่พอใจจากใครที่ไหนแม้แต่น้อย





+++++++++++++++





เมื่อมาถึงสวนสนุก การ์ฟกับมิมิวก็รออยู่ก่อนแล้ว อาร์ดิวมองเพื่อนตัวเองกับการ์ฟที่ท่าทางก็ดูรักกันดีแล้วก็พลันเกิดความสงสัยขึ้นมาว่าการ์ฟจะมายุ่งวุ่นวายกับตนเองได้อย่างไร บางทีนิมิตที่เขาเห็นมันก็มั่วได้บ้างเหมือนกันล่ะน่า

เมื่อทุกคนมากันครบแล้วมิมิวจึงพาการ์ฟแยกออกไป เด็กสาวชวนปอมปอมไปด้วยกันเพื่อที่จะให้พี่ชายมีโอกาสอยู่กับอาร์ดิวตามลำพัง แต่ปอมปอมกลับหันมาชวนพี่ชายตนเองกับชีวาไปด้วย แผนของมิมิวเลยล่มไม่เป็นท่า ให้พี่ของเธอใช้ความสามารถเอาเองแล้วกัน

มีนตามติดอาร์ดิวไปทุกที่ไม่ว่าเด็กหนุ่มจะไปไหน จะเล่นเครื่องเล่นอะไรก็ตามแต่ ส่วนน้องสาวของเขาก็ปล่อยให้หวานกับแฟนไป เพราะเป้าหมายของเขาคืออาร์ดิว ถ้าไม่มีตัวเกะกะอย่างชีวาล่ะก็นะ จนเมื่ออาร์ดิวเล่นเครื่องเล่นจนเบื่อแล้วจึงมานั่งพัก มีนถึงได้มีเวลาคุยกับเพื่อนของน้องสาวตามลำพังเสียที

“ทำไมชีวาต้องตามอาร์ดิวไปทุกที่เลยล่ะครับ เขาคิดอะไรหรือเปล่า?”

คำถามของมีนได้รับสายตาไม่พอใจจากอาร์ดิวตอบกลับมา แต่ถึงจะไม่พอใจอย่างไร อาร์ดิวก็ยังคงใช้ถ้อยคำสุภาพตามนิสัยส่วนตัวของตนเองกับพี่เขาอยู่ดี

“พี่มีนคิดว่าเขาคิดอะไรล่ะครับ ชีวาเป็นเพื่อนผมนะ เพื่อนจะไปไหนมาไหนกับเพื่อนก็ไม่เห็นแปลก หรือพี่ว่าไงครับ?”

การตอบคำถามด้วยการถามกลับ ดูจะได้ผลมากกว่าแสดงอาการโกรธออกไป เพราะมันทำให้มีนรู้สึกหน้าม้านไปกับคำพูดนั้น

“นั่นสิ ขอโทษทีที่พี่พูดไม่คิด” มีนเอ่ยขอโทษก่อนเปลี่ยนเรื่อง

“อ่ะ ดื่มน้ำก่อนสิ”

“ขอบคุณครับ”

เด็กหนุ่มส่งขวดน้ำดื่มให้อาร์ดิว อีกฝ่ายรับไปแต่ยังไม่เปิดดื่มทันที สายตาของอาร์ดิวมองตรงไปที่ปอมปอมและชีวา ไม่ได้เหลือบแลมาหาเขาสักนิด เหมือนเด็กคนนี้เว้นช่องว่างเอาไว้ไม่ให้เขาเข้าใกล้มากกว่าที่เป็นอยู่ มีนละสายตาจากคนนั่งข้าง เปิดขวดน้ำแล้วยกดื่มดับความร้อนในใจ สายตาพลันเหลือบไปเห็นใครบางคนทำให้เด็กหนุ่มลุกพรวด อาร์ดิวผงะเล็กน้อยกับอาการของคนนั่งข้าง พอมีนหันมามองอาร์ดิวจึงมีรอยยิ้มเจื่อนส่งมาให้

“อาร์ดิวครับ”

“ครับ?”

“คือพี่เจอเพื่อนน่ะ ขอตัวสักแป๊บนึงนะ…” ท่าทางของมีนดูลำบากใจ แต่ก็ดูจะเป็นเรื่องร้อนใจที่ต้องทำ

“ตามสบายเถอะครับ ผมอยู่คนเดียวได้”

อาร์ดิวยิ้มบาง ไม่ได้คิดจะรั้งพี่เขาไว้อยู่แล้ว ถึงมีนจะรู้สึกเสียดายที่อาร์ดิวไม่คิดจะถามไถ่อะไรนอกจากนั้น แต่สุดท้ายแล้วนั่นก็เป็นสิ่งที่เขากำลังต้องการอยู่ในขณะนี้ เมื่อผละจากน้องเขามามีนก็เดินดุ่มเข้าไปกระชากผู้ชายที่ตัวเล็กกว่าตนเองคนหนึ่งแล้วลากกันไปไหนไม่รู้ อาร์ดิวหรี่ตาเล็กน้อยกับการกระทำของพี่เขา เพื่อน... หรืออะไรกันแน่??



........................



“ปอมปอม พอได้แล้วนะ พี่จะอ้วก!”


ชีวาตะโกนบอกตัวแสบเป็นรอบที่ร้อย หลังจากที่ปอมปอมลากเขาไปเล่นเครื่องเล่นที่แสนจะทำให้หัวใจและท้องไส้ทำงานหนักแทบทุกชนิด ท่าทางของตัวแสบไม่สะทกสะท้านสักนิด ดูจะชอบอกชอบใจที่ได้เล่นเครื่องเล่นพิสดารพวกนั้นด้วยซ้ำ แต่เขานี่สิ ไม่ไหวแล้วโว้ยยยยย

“ป๋า ทำไมอ่อนแอแบบนี้นะ... เออ ลืมไปว่าป๋าแก่แล้ว ปอมขอโทษนะ ป่ะๆ เดี๋ยวปอมพาไปนั่งพักน้า~”

หนุ่มน้อยหน้าเป็นพูดเองเออเองเสร็จสรรพ ควงแขนป๋าวาของตนเองแล้วลากไปหาที่ให้นั่งพัก ชีวามองเด็กแสบตาคว่ำ อยากเขกหัวมันว่ะ!!



........................



อาร์ดิวยังคงนั่งอยู่ที่เดิมหลังจากที่มีนลุกไป เขาไม่ค่อยชอบมาเที่ยวเล่นสักเท่าไหร่ ขณะที่สายตาก็มองเด็กๆบ้าง หนุ่มสาวบ้าง ที่เดินผ่านไปมา ทุกคนต่างมีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ การ์ฟและมิมิวควงแขนผ่านไปอีกคู่ อาร์ดิวก็เพียงแต่มองผ่านไปเหมือนกับทุกคนที่ผ่านเข้ามาในสายตา รู้สึกเบื่อเหมือนกัน อยากกลับบ้านแล้วสิ…

ขณะที่พี่ชายกำลังคิดอยากจะกลับบ้าน หลังจากพาป๋าวาไปนั่งพักปอมปอมก็เหลียวหาพี่ชาย พอเห็นว่าพี่นั่งอยู่ที่ม้านั่งคนเดียวก็รีบวิ่งมาหา เขามัวแต่เล่นแล้วทิ้งพี่หรือนี่~~~

“ดิว ไปบ้านผีสิงกัน”

พอมาถึงหนุ่มน้อยก็เอ่ยชวนพี่ชายทันที อาร์ดิวยิ้มขำกับท่าทางร่าเริงเกินขีดจำกัดของน้อง ก่อนเอ่ยถามหาอีกคนที่หายไปด้วยกันกับน้อง

“ชีวาล่ะ?”

“ป๋าไม่ได้เรื่อง เล่นแค่ไม่กี่อย่างก็เหนื่อยแล้ว นั่งเมาอยู่โน่น~” นิ้วเรียวชี้ให้พี่ดูพร้อมกับฟ้องไปในตัว

“เราเล่นแต่เครื่องเล่นหวาดเสียวล่ะสิ”

อาร์ดิวลุกขึ้นมายืนข้างน้อง ขยี้ผมหัวเห็ดนั่นอย่างหมั่นเขี้ยว เห็นท่าทางน้องมีความสุขแบบนี้แล้วก็พลอยรู้สึกดีขึ้นตาม

“ก็มันตื่นเต้นดี เราไปบ้านผีสิงกันนะ ตื่นเต้นๆ” หนุ่มน้อยกระโดดเหยงๆ ตาวาวระยับเมื่อนึกสนุก

“ไม่เอา พี่กลัวต่อยผีปากแตก”

“ฮ่าๆๆๆ”

คำปฏิเสธของพี่ชายทำเอาปอมปอมหัวเราะก๊าก พี่ชายเขาเป็นพวกขี้ตกใจ แต่ตกใจทีนี่ต้องมีคนรับเคราะห์ ถ้าข้าวของไม่ลอยละลิ่วก็กำปั้นนั่นล่ะที่จะลอยไป~

“แล้วนี่พี่มีนไปไหนแล้วอ่ะ?” พอหยุดหัวเราะแล้วปอมปอมถึงเพิ่งสังเกตว่าไม่เห็นพี่มีนอยู่กับพี่ชายของตนเองเลย

“เขาเจอเพื่อนน่ะ”

อาร์ดิวยิ้มบอก ก็พี่เขาบอกว่าเพื่อนนี่นะ ส่วนจะเป็นเพื่อนจริงหรือเปล่าก็อีกเรื่องหนึ่ง

“นี่! เรากลับกันเหอะ ฉันไม่ไหวแล้ว”

ชีวาเดินโซซัดโซเซมาหาสองพี่น้องที่ยืนคุยกันอยู่ อาร์ดิวอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเพื่อน สมกับที่ปอมปอมบอกว่าแก่จริงๆ เหมือนมากเลยชีวา

“กลับก็ดีนะ คนชวนมาเขาไปไหนแล้วก็ไม่รู้สิ” อาร์ดิวเห็นดีด้วย

“โทรบอกดิ โอ๊ยยยย อยากอ้วกสาด!!”

ชีวาเกาะไหล่อาร์ดิวแล้วงอตัวทำท่าเหมือนว่าจะอ้วกเอาจริงๆ ปอมปอมรีบมาลูบหลังให้พี่ ชีวาโทษว่าเป็นเพราะปอมปอมนั่นล่ะที่พาเขาเล่นเครื่องเล่นอะไรไม่รู้ ตีลังกาหลายตลบ หนุ่มน้อยเลยบุ้ยปากใส่

อาร์ดิวโทรบอกมีนว่าพวกตนเองจะกลับกันแล้ว มีนจึงว่าจะรีบมา แต่อาร์ดิวห้ามไว้ เพราะถ้าหากมีนมาเขาก็คงเกรงใจพลอยไม่ได้กลับกันพอดี อยู่ไปก็เบื่อ สู้กลับบ้านไปนอนดูการ์ตูนกับปอมปอมสองคนพี่น้องดีกว่า การ์ฟกับมิมิวควงแขนกันมาขณะที่สามหนุ่มกำลังจะกลับ เมื่อมิมิวรู้ว่าอาร์ดิวจะกลับแล้วก็ตกใจ เหลียวหาพี่ชายตัวเองก็ไม่เห็นแม้แต่เงาเลยได้แต่บ่น

“พี่มีนนี่ยังไงนะ ให้เราชวนอาร์ดิวมาแต่ตัวเองหายไปไหนไม่รู้ แย่จริงๆเลย”

“ช่างเถอะมิมิว พี่เขาเจอเพื่อนน่ะ เดี๋ยวเราว่าเราสามคนกลับก่อนดีกว่านะ ฝากขอบคุณพี่มีนด้วยสำหรับวันนี้”

อาร์ดิวบอกเพื่อนอย่างไม่คิดอะไร มิมิวมองเพื่อนอย่างรู้สึกผิดที่ชวนมาแล้วไม่ดูแลเลย แถมพี่ชายของเธอยังหายไหนแล้วก็ไม่รู้สิ

“เอ่อ... อาร์ดิว มิวกับการ์ฟจะไปทานข้าวแล้วก็ดูหนังกันต่ออ่ะ ไปด้วยกันไหม?”

อาร์ดิวเหลือบไปมองการ์ฟที่มองมาที่เขาเช่นกัน ก่อนเอ่ยตอบเพื่อนไป

“ไม่รบกวนดีกว่านะ”

เด็กหนุ่มยิ้มให้เพื่อน ก่อนที่ทั้งสามคนจะเดินออกมาจากจุดนั้น อาร์ดิวกับปอมปอมหันไปโบกมือลามิมิวที่ยังบ่นเรื่องพี่ชายไม่หยุด เธออุตส่าห์พาอาร์ดิวมาได้แล้วแทนที่จะรีบทำคะแนน ที่ไหนได้หายไปกับเพื่อน คราวหลังจะไม่ช่วยแล้วแบบนี้!

ขณะที่ก้าวเดินห่างออกมาอาร์ดิวก็ยังอดใจไม่ให้เหลียวกลับไปมองการ์ฟไม่ได้ เพราะเขารู้สึกได้ถึงสายตาที่มองจ้องเวลาที่เขาก้าวเดิน และเมื่อหันกลับไปสายตาของอีกฝ่ายก็พุ่งตรงมาที่เขาจริงดังคาด มันอ่านไม่ออกว่าสายตานั้นสื่อถึงอะไร แต่มันทำให้เขาอึดอัด

ชีวาที่เมาจากเครื่องเล่นในสวนสนุกกอดคอปอมปอมเดิน ร่างผอมบางนั้นพาพี่เซไปมาเพราะหนัก หนุ่มน้อยได้แต่บ่นกระปอดกระแปดไปเรื่อยจนกระทั่งออกมาจากสวนสนุก...





++++++++++++++++





การจราจรบนท้องถนนในวันหยุดเช่นนี้มันน่าจะเป็นวันที่ผู้คนไม่เร่งรีบ แต่รถมันก็ยังคงติดเป็นพรวนอยู่ดี ชีวานั่งเมาอยู่ในรถที่เวลานี้ก็กำลังติดแหง็กอยู่กลางสี่แยกไม่ขยับไปไหน ข้างๆกันคือปอมปอมน้อยที่ใช้มือพัดให้พี่ มันไม่ได้รู้สึกเย็นสักนิด แต่ก็ยังดีที่น้องใส่ใจ เด็กหนุ่มเอนศีรษะพิงไหล่ปอมปอม อาร์ดิวที่นั่งอยู่เบาะหน้าส่งยาดมให้ชีวา ทางนั้นก็รับไปสูดฟืดๆอย่างกับคนแก่

“ป๋า ปอมหนักอ่ะ”

หนุ่มน้อยบ่นเมื่อพี่เอนมาซบ มือเรียวดันศีรษะหนักๆของพี่ออก

“โหย ‘ไรวะ แค่นี้บ่นหนัก ทีพี่ให้เรานอนหนุนตักแทบทุกวันไม่เห็นเคยบ่นเลยนะเว้ย!”

“ก็ปอมตัวเบากว่าป๋านี่ ป๋าตัวโตจะตาย เอนมาทีก็ทับปอมแบนแล้ว!”

ชีวามองตัวแสบอย่างเข่นเขี้ยว สูดยาดมอีกฟืดแล้วเอนไปพิงไหล่คนบ่น ทิ้งน้ำหนักตัวไปเต็มที่จนน้องร้องโวยวาย อาร์ดิวค้นหูฟังในกระเป๋ามาเสียบกับเครื่องเล่นเพลงแบบพกพา ก่อนเปิดเพลงฟังกลบเสียงโวยวายของน้องชายกับชีวา แต่แอบสงสารพี่คนขับรถนิดหนึ่งนะที่ต้องทนฟังต่อไป เกิดเป็นคนขับแท็กซี่ต้องอดทนแบบนี้ล่ะครับพี่


ปล่อยให้สองคนด้านหลังทะเลาะกันไป ส่วนตัวเองก็นั่งฟังเพลงไปเรื่อยเปื่อย ในขณะที่ไม่ได้หยุดครุ่นคิดถึงเรื่องนิมิตที่ตนเองเห็น แต่ในเมื่อวันนี้มันพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น อาร์ดิวก็คิดว่าบางทีนิมิตของเขาก็มีผิดพลาดกันได้บ้าง คิดแบบนี้แล้วก็สบายใจขึ้นมาหน่อย เพราะอย่างไรการ์ฟก็เป็นผู้ชาย และที่สำคัญ... การ์ฟเป็นแฟนเพื่อน





+++++++++++++++





ถึงแม้อาร์ดิวจะปลอบใจตนเองไปเช่นนั้น แต่พอวันต่อมาต้องไปโรงเรียน เมื่อมีชั่วโมงเรียนว่ายน้ำอาร์ดิวก็โดดมันเอาง่ายๆ ฝากให้ชีวากับตาต้าบอกอาจารย์ว่าตนเองไม่สบายขอไปห้องพยาบาล ถึงอย่างไรตอนนี้ก็ยังอยู่ในระยะอันตรายไม่ควรเสี่ยง

อาร์ดิวมาที่ห้องพยาบาล เด็กหนุ่มบอกกับอาจารย์ประจำห้องว่ารู้สึกเพลียๆเหมือนจะเป็นไข้ อาจารย์จึงให้เขาวัดไข้แล้วทานยา ให้นอนพักในห้องไปก่อนเดี๋ยวยาออกฤทธิ์ก็คงดีขึ้น อาร์ดิวเดินไปที่เตียงนอนในห้องพยาบาล เลือกเตียงที่ติดหน้าต่างเพราะห้องพยาบาลกับสระว่ายน้ำของโรงเรียนอยู่ใกล้กัน ทำให้เด็กหนุ่มมองออกไปเห็นเพื่อนๆกำลังทดสอบสมรรถภาพทางร่างกายกันอยู่ เสียงแว่วจากสระว่ายน้ำดังมาให้ได้ยิน แต่เขาทำใจไปอยู่ใกล้น้ำไม่ได้ เขาท่าจะบ้าไปใหญ่แล้วแบบนี้ จิตตกกับเรื่องไม่เป็นเรื่องจริงๆ

คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยแล้วอาร์ดิวจึงล้มตัวลงนอนบนเตียง กะว่าให้หมดชั่วโมงเรียนว่ายน้ำแล้วถึงจะออกไป แต่เอาเข้าจริงกลับนอนหลับไปจริงๆเสียนี่ มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่มีอะไรแปลกๆเกิดขึ้นกับตนเอง ดวงตาเรียวรีค่อยๆลืมขึ้นมา มองเห็นใครบางคนในระยะประชิด อาร์ดิวตกใจจะดันออกแต่ก็ไม่ทัน เมื่อริมฝีปากของฝ่ายนั้นกดลงมาบนปากของตนเอง เด็กหนุ่มนิ่งอึ้งจนดิ้นไม่ออก ปล่อยความนุ่มแปลกๆนั้นบดเบียดลงมาช้าๆ ความอุ่นชื้นของปลายลิ้นค่อยแทรกเข้ามาในโพรงปาก กวาดไล้เบาๆอย่างลองเชิง มือของเด็กหนุ่มเลื่อนมาจับที่ไหล่ของคนด้านบน บีบแน่นเมื่อรู้สึกหวิววาบในช่องท้อง กลั้นใจดันตัวของอีกฝ่ายออกก่อนที่มันจะเกินเลยไปมากกว่านี้

อาร์ดิวมองคนตรงหน้าตื่นๆ อยากจะคิดว่ามันเป็นเพียงแค่ฝันไป คนตรงหน้าไม่ใช่การ์ฟและเขาไม่ได้ถูกจูบ แต่มันก็หลอกตัวเองเช่นนั้นไม่ได้เมื่อความรู้สึกบนริมฝีปากของเขามันชัดเจนเสียขนาดนี้ เสียงเพื่อนที่อยู่ในสระน้ำดังแว่วมา อาร์ดิวหันไปมอง ในนิมิตเขาเห็นสระน้ำ แต่ในความเป็นจริงเขาไม่ได้จูบกับการ์ฟอยู่ข้างสระน้ำ แต่มันอยู่ใกล้สระน้ำต่างหาก ห้องพยาบาลนี่มันอยู่ใกล้สระน้ำ!!

เด็กหนุ่มลุกขึ้นจากเตียง จะสวมรองเท้าก็ลนจนสวมไม่ได้ อาร์ดิวจึงเลือกที่จะคว้ามันขึ้นมาถือแล้ววิ่งออกจากห้องพยาบาลไป คนที่มาขโมยจูบคนอื่นมองตาม ปลายลิ้นไล้ริมฝีปากตนเองเล็กน้อยก่อนเม้มปากเมื่อนึกถึงสิ่งที่ตนเองทำลงไป ล้วงโทรศัพท์ในกระเป๋ามากดเบอร์โทรออก เมื่อปลายสายกดรับเสียงทุ้มนั้นก็เอ่ยบอกออกไป

“ผมทำแล้วนะเทสต์ มันจะจบใช่ไหม?”

“ทำอะไร?” ปลายสายถามกลับมา น้ำเสียงดูมึนงง เพิ่งตื่นหรือไง?

“ผม... ผมจูบไอ้ตี๋นั่นไปแล้ว” ทั้งสีหน้าและน้ำเสียงของคนพูดมีแววกังวลเมื่อตอบกลับไป

“หา!! นี่การ์ฟทำจริงเหรอ?”

[[ร้องเหี้ยไรเทสโต้ กูจะนอน]]

เสียงแตกตื่นของเทสต์ น้าชายของการ์ฟดังมาตามสาย พร้อมกับเสียงของใครอีกคนที่แทรกตามมา หัวคิ้วเด็กหนุ่มขมวดเล็กน้อยเมื่อได้ยิน เพราะเขาจำได้ว่ามันเป็นเสียงของพี่บิว แฟนของน้าชายเขา

“ขอโทษทีบิวตี้ กูคุยกับหลานน่ะ เดี๋ยวออกไปคุยข้างนอกละกันนะ”

[[เออ]]

เสียงของเทสต์ที่คุยกับคนข้างกายดังลอดมาให้หลานชายได้ยิน เมื่อน้าบอกว่าจะออกไปคุยด้านนอก การ์ฟจึงได้รอเงียบๆ จนเสียงของปลายสายนั้นดังมาอีกหน

“เมื่อกี้เราว่าไงนะการ์ฟ?”

“ก็ทำตามที่น้าบอกไง”

การ์ฟว่าง่ายๆ เขากังวลใจกับคำทำนายบ้าบอของน้าชายอย่างเทสต์จนถึงขั้นจิตตก อยากให้ทุกอย่างที่เทสต์พูดมันไม่เป็นความจริง แต่การที่ได้มาพบเจอกันกับอาตี๋นั่นบ่อยๆในพักหลังมานี้มันก็ทำให้การ์ฟอดไม่ได้ที่จะเอนเอียงไปเชื่อตามเทสต์ ทั้งที่ไม่ถูกกับเทสต์สักเท่าไหร่นั่นล่ะ แล้วอยู่ๆวันดีคืนดีน้าชายของเขาก็มาบอกว่าหากอยากให้ทุกอย่างมันจบแค่จูบกับอีกฝ่ายเท่านั้น ราวกับรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ หรือเพราะเขาแสดงออกให้เห็นมากเกินไปว่ากำลังกังวลเรื่องอะไรอยู่ แต่จะอย่างไรก็ตาม เพราะคำพูดนั้นทำให้การ์ฟต้องคิดมากจนหัวแทบแตก จนในที่สุดเขาก็เลือกที่จะจบมันด้วยวิธีสิ้นคิดที่สุด เขาทำมันไปแล้ว...

“ทำจริงอ่ะ?” เทสต์เอ่ยถามหลานชายกลับมา แค่เสียงนั้นก็ทำให้การ์ฟนึกหน้าน้าชายออกแล้วว่ากำลังทำสีหน้าแบบไหนอยู่

“ทำไมอีกล่ะ ยังต้องทำอะไรอีกงั้นเหรอ ชักจะหงุดหงิดแล้วนะเว้ย!”

“ไม่ต้องทำอะไรอีกหรอก เพราะแค่นี้ก็ไปไหนไม่รอดแล้ว”

“หมายความว่าไง?”

คิ้วเด็กหนุ่มขมวด ชักจะเครียดจนเส้นเลือดข้างขมับเต้นตุบ เมื่อเห็นเค้าลางไม่ดีจากคำพูดของน้าชาย เทสต์ถอนใจเล็กน้อยก่อนที่จะเอ่ยตอบหลาน

“ไม่คิดว่าเราจะบ้าจี้ทำตามน้าเลยนะการ์ฟ น้าแค่แหย่เล่น…”

ถ้าจูบแล้วโชคชะตามันจะเปลี่ยน ทำให้ไม่ต้องพบเจอหรือพัวพันกันอีก ป่านนี้เขากับบิวคงอยู่ห่างกันคนละซีกโลกแล้ว บิวไม่ต้องมานอนเหนื่อยอยู่บนเตียงแบบนี้หรอก

“มันเหมือนพูดเล่นตรงไหนวะ!!”

หลานชายโวย อะไรก็ตามที่เทสต์พูด แม้ว่าเขาจะไม่อยากเชื่อมัน แต่สุดท้ายเขาก็เชื่ออยู่ดี ทำไมไม่คิดให้ดีก่อนว่าอย่างเทสต์น่ะเชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหน แต่ก็เพราะเชื่อไม่ค่อยได้ไง พอมาทำหน้าตาจริงจังใส่เขาเลยโง่ไปเชื่อ ให้ตายเถอะ ต่อไปเขาจะไม่เชื่ออะไรหมอนี่อีกแล้ว

“นี่อย่าบอกนะว่า…” การ์ฟยังต้องการคำยืนยันอีกครั้ง เผื่อเขาจะหูเฝื่อนไปก็ได้นะบางที

“น้าพูดเล่นหลานรัก”

“....................”


ถ้อยคำจากน้าชายมันช่างตอกย้ำ การ์ฟได้แต่อ้าปากพะงาบๆ พูดไม่ออกบอกไม่ถูก พูดเล่นอย่างนั้นหรือ กล้าบอกว่าพูดเล่นได้หรือ เขาทำไปแล้วนะ จูบไปแล้วได้ยินไหมมมมมมมมมมมมมมมมมมม










TBC






ขอบคุณที่ติดตามกันค่ะ นานๆมาทีเนอะ ^^

บวกๆค่ะ

วันใหม่ :L2:

หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic (3) <<22.12.2555>> UP!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: NOoTuNE ที่ 22-12-2012 06:49:32
จูบไปแล้วววว  :o8:


กร๊ากกกก กราฟเอ้ย คนเรามันหนีชะตาตัวเองไม่พ้นหรอก สุดท้ายตัวเอง ก็เอา ตัวเดินเข้ามาผูกเอง


ส่วนอิพี่มีนนี่ยังไง มีเด็กอยู่แล้วใช่ไหม  :angry2:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic (3) <<22.12.2555>> UP!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 22-12-2012 07:28:33
กราฟแกมาจูบดิวเขาเองนะ :-[
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic (3) <<22.12.2555>> UP!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 22-12-2012 08:57:04
โดนหลอกเลย555
แต่ไปจูบอาร์ดิวแล้วต้องรับผิดชอบนะจ๊ะ การ์ฟ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic (3) <<22.12.2555>> UP!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 22-12-2012 09:01:33
การ์ฟนี่อยากจูบอาร์ดิวเองล่ะสิ มาอ้างทำตามคำพูดของเทสต์
ชอบน้องปอมน่ารัก พาป๋าชีวาแพ้เครื่องเล่นไปเลย
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic (3) <<22.12.2555>> UP!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: nemesis ที่ 22-12-2012 10:59:27
 :-[ช้าไปและกราฟ!!
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic (3) <<22.12.2555>> UP!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 22-12-2012 11:04:18
เหตุเกิดเพราะเทสต์พูดเล่น เหอๆ^^
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic (3) <<22.12.2555>> UP!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: greensnake ที่ 22-12-2012 12:49:27
การกระทำกับภาพลักษณ์ต่างกันมากอ่ะการ์ฟ
ดูเป็นคนไม่เชื่ออะไรง่ายๆ แต่ก็ทำอย่างไม่อิดออด
แม้จะทำเพราะคิดว่าทำอย่างนี้แล้วทุกอย่างจะจบก็เถอะ
ต่างฝ่ายต่างก็กังวลและในที่สุดก็หนีไม่พ้นอยู่ดี:-[
จูบแล้วต่อไปจะเป็นยังไงหนอ เจอกันแทบทุกวันซะด้วย
กะปอมน้อยกับป๋าชีวายังคงสร้างสีสันเหมือนเดิม
ไม่ว่าน้องปอมจะทำอะไรก็ดูน่ารักน่าเอ็นดูไปหมด :กอด1:
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
+1และเป็ดจ้า


หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic (3) <<22.12.2555>> UP!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: SaJung13 ที่ 22-12-2012 16:18:42
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ :laugh:
จูบไปแล้ววว เอาคืนไม่ได้ด้วย :-[
อยากเอาคืนก็ใหเอาดิวมาจูบคืนดิ  o18
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic (3) <<22.12.2555>> UP!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: N.T.❁ ที่ 22-12-2012 17:05:18
หนีโชคชะตาตัวเองไม่พ้นหรอกน้าาา อาร์ดิวกับการ์ฟ :]
 :o8:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic (3) <<22.12.2555>> UP!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 22-12-2012 18:35:58
น้าเทสต์ทำดีมากกก

กราฟจูบไปแล้วว ไม่รอดแน่ๆๆ 55555

ดิวถือรองเท้าวิ่งเลยหรอ คงจะตกใจมากสินะ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic (3) <<22.12.2555>> UP!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: nong PeePee ที่ 22-12-2012 18:40:15
เสียจูบไปแล้วอิอิอาร์ดิวจะรอดไหมเนี่ย............?  o13
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic (3) <<22.12.2555>> UP!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 22-12-2012 19:41:11
การ์ฟ ทำแล้วรับผิดชอบดัวยนะ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic (3) <<22.12.2555>> UP!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 22-12-2012 22:36:31
การ์ฟถูกน้าหลอก เลยทำให้นิมิตของอาร์ดิวเป็นจริง
นิมิตต่อไปของอาร์ดิวจะเป็นอะไรน๊า
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic (3) <<22.12.2555>> UP!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 23-12-2012 01:22:28
ไปไหนไม่รอด
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic (3) <<22.12.2555>> UP!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: honeyhoon ที่ 23-12-2012 18:17:25
 :o8:
 :-[
 :impress2:
 การ์ฟฟฟฟฟฟฟฟฟ นายยอดเยี่ยมมาก บ้ายุดีจริงๆ :laugh:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic (3) <<22.12.2555>> UP!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: AnimajuS ที่ 23-12-2012 19:43:38
จูบไปแล้ววววว :o8:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic (3) <<22.12.2555>> UP!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 23-12-2012 21:13:56
อ้าวจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปล่ะทีนี้
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic (3) <<22.12.2555>> UP!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 23-12-2012 23:52:17
สนุกม๊ากกกก อยากอ่านยาวววววววว
ขอบใจจ้า
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic (3) <<22.12.2555>> UP!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: TinyB ที่ 24-12-2012 01:42:39
เงิบเลยหลานรัก น้าพูดเล่น แต่ดันทำจริง  :laugh:
+1 แทนคำขอบคุณฮับบ 646=647
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic (3) <<22.12.2555>> UP!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: cher7343 ที่ 26-12-2012 00:18:58
เหวอเลยค่า  :z3:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic (3) <<22.12.2555>> UP!!!!
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 26-12-2012 00:23:02
จูบกันแล้วๆ รอนิมิตต่อไปของอาร์ดิวจ้า
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((4)) 26_12_2555 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: wanmai ที่ 26-12-2012 22:43:54
Magica Café



Magic (4)





หลังเลิกเรียน การ์ฟตรงดิ่งมาที่ห้องของบิว คนรักของน้าชายอย่างเทสต์เพื่อเอาเรื่องน้าชายที่พูดเล่นจนเป็นเรื่อง แต่เอาเข้าจริงความผิดมันก็อยู่ที่เขาเองต่างหากที่ทำแบบนั้นลงไป ไม่อยากจะยอมรับหรอกว่าชั่วขณะหนึ่งเขาก็เกิดอยากทำมันขึ้นมา มันต้องเป็นมนต์ดำของอาตี๋นั่นแน่ การ์ฟก็ได้แต่โทษคนอื่นไปเรื่อย

หน้าห้องของบิว เทสต์มาเปิดประตูเมื่อมีคนมากดกริ่ง เพียงบานประตูเปิดออกเจ้าหลานชายตัวดีก็เดินดุ่มเข้ามาในห้องก่อนหันมาโวยใส่เขาเสียเต็มที่ ราวกับมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ

“น้ารู้ไหมว่าทำอะไรลงไปน่ะหา! ทำให้ผมเลิกกับแฟนคนก่อนยังไม่พอใช่ไหม ต้องให้ผมผิดหวังในความรักไปอีกเท่าไหร่น้าถึงจะพอใจ!!”

ด้วยความโมโหทำให้การ์ฟโยงเอาเรื่องเก่ามาเล่าใหม่ เขายังแค้นใจไม่หายที่เทสต์ทำให้เขาและคนรักเก่าเลิกกันไป เพราะคำทำนายสั่วๆของคนอย่างเทสต์

“ใจเย็นไอ้หนู เรื่องแฟนเก่าคนนั้นน่ะน้าขอโทษแล้วกันถ้าการ์ฟบอกว่ามันเป็นความผิดของน้า”

“น้าผิดอยู่แล้วล่ะเทสต์ มันเป็นเพราะน้าเขาถึงได้เลิกกับผม!”

“โอเค ถ้าเราจะเชื่อแบบนั้นแล้วสบายใจก็ตามใจ”

เทสต์ยกมือยอมแพ้ อารมณ์นี้น้ำกำลังเชี่ยวอย่าเอาเรือไปขวางจะดีกว่า เรื่องคนรักเก่าของหลานชายเขาก็ยอมรับว่ามีส่วนทำให้ทั้งคู่เลิกกัน เธอเป็นเด็กสาวที่ค่อนข้างเชื่อเรื่องดวง แต่ไม่ได้ถึงขั้นงมงายอะไร เธอเคยให้เขาดูดวงให้ ก็ดูกันแบบเล่นๆไม่ได้จริงจังอะไร แต่หลังจากนั้นเธอกลับนำมันมาเป็นเหตุผลในการเลิกกับการ์ฟ เพราะคำทำนายของเขาที่บอกว่าเธอและการ์ฟไม่ใช่เนื้อคู่นั้นทำให้เธอไม่สบายใจ และมันทำให้ไปกันไม่รอด ทั้งที่แท้จริงแล้วเธอมีคนใหม่ ความผิดมันเลยตกมาอยู่ที่เขาเมื่อการ์ฟคิดว่าเขาคือตัวต้นเหตุและฝังใจกับมันมาจนถึงวันนี้

“แต่ว่านะการ์ฟ ตอนนี้ที่สำคัญกว่าเรื่องเก่าเก็บพวกนั้นคือเรื่องน้องตี๋นั่นไม่ใช่เหรอ เราเล่นไปจูบเขาแบบนั้นแล้วจะทำยังไงต่อล่ะทีนี้?”

พอน้าชายเอ่ยถามมาแบบนั้นการ์ฟถึงเพิ่งนึกขึ้นได้ เขาเกือบจะทำเป็นลืมๆมันไปได้แล้วเชียว

“ไม่รู้เว้ย!!”

หลานชายกระแทกเสียงก่อนเดินย่ำตึงๆหนีเข้าข้างในแล้วไปนั่งเล่นเกมส์ของบิวหน้าตาเฉย เทสต์ส่ายหน้าก่อนจะยิ้มให้บิวที่เดินออกมาหาตนเอง บิวเหลียวไปมองการ์ฟที่เล่นเกมส์ไม่สนใจใครก่อนหันมาเอ่ยถามเทสต์

“แกล้งอะไรหลานอีกล่ะมึงน่ะ?”

“กูเปล่า”

เทสต์รีบปฏิเสธทันทีที่อีกฝ่ายถาม บิวมองด้วยหางตา แสดงออกให้เห็นว่า กู-ไม่-เชื่อ!

“ก็เปล่าจริงๆ คราวนี้หลานมันทำของมันเองน่ะเว้ย~”

“ส่วนมึงเป็นคนเสี้ยม” บิวตอกกลับหน้าตาย

“โห่ พูดซะเสีย ช่างการ์ฟมันเถอะน่า เดี๋ยวมันก็ดีเองแหละ” เทสต์บอกปัดก่อนยักคิ้วกวน

“ไร้ความรับผิดชอบมากเลยมึง” บิวทำหน้าหน่ายใจกับนิสัยของคนรัก

“กูรับผิดชอบมึงแค่คนเดียวก็พอแล้ว”

เทสต์หยอดหวาน แต่บิวกลับจิกตาใส่ด้วยความรักและเอ็นดู ก่อนเดินเข้าไปหาการ์ฟที่เล่นเกมส์อย่างเมามันเหมือนไม่เคยเล่นมาสักสามชาติเศษ เทสต์เลยเดินตามกันมาต้อยๆ การ์ฟละความสนใจจากหน้าจอเกมส์มามองน้าชายกับแฟนแล้วบอกกับตัวเองว่าจะไม่เป็นแบบน้าแน่ๆ อะไรจะหงอปานนั้น~





+++++++++++++++





แม้จะผ่านวันเกิดเรื่องมาแล้วแต่การ์ฟก็ยังหมกมุ่น ไม่รู้จะแก้ปัญหาที่ตนเองก่อเอาไว้อย่างไร หากอาตี๋เอาเรื่องนี้ไปบอกมิมิวเขาจะทำอย่างไรดี เมื่อได้เจออาตี๋ที่โรงเรียน การ์ฟจะเข้าไปพูดด้วยหลายทีแต่ฝ่ายนั้นกลับหลบหน้า มันจงใจจนดูน่าโมโห

คนใกล้ตัวอย่างมิมิว เมื่อเห็นการ์ฟดูเหม่อๆเหมือนคิดอะไรอยู่ตลอดเวลาแต่กลับไม่ยอมบอกเธอ ยิ่งเกิดความสงสัย การ์ฟเองพยายามทำตัวให้ปรกติที่สุด แต่มันก็ยังมีเรื่องติดค้างในใจที่ไม่ได้สะสางให้จบสิ้น มองหน้ามิมิวก็รู้สึกไม่สนิทใจ อยากตบหัวตัวเองแรงๆสักหลายๆทีให้สมกับที่โง่ทำอะไรอาตี๋ลงไปโดยไม่ยั้งคิด เพื่อนแฟนนะเว้ยการ์ฟ เฮ้อออ





+++++++++++++++





ในที่สุดการ์ฟก็ทนความคาราคาซังที่เกิดกับตนเองไม่ไหว ในวันหยุดเขาจึงได้มาหาอาร์ดิวถึงที่ร้านMagica Café พยายามอย่างยิ่งที่จะใจเย็น เพื่อที่จะได้คุยกับอาร์ดิวให้จบเรื่อง ไม่หาเรื่องอีกฝ่ายให้เสียการก่อน อาร์ดิวมองคนที่เดินมาหยุดตรงหน้าเคาน์เตอร์อย่างแปลกใจ ก่อนจะงงหนักกว่าเดิมเมื่อการ์ฟขอคุยด้วย อาตี๋เรียกชีวามาฝากงานส่วนของตนเองชั่วคราว เพื่อที่จะไปคุยกันกับการ์ฟด้านใน ชีวามองเขม่นการ์ฟ แต่คนถูกเขม่นเพียงปรายตามาให้ทีเดียว ชีวากัดฟันกรอดกับท่าทางหยิ่งๆนั่น ไอ้... ฮึ้ย ไม่อยากจะด่า!!


เมื่อเข้ามาด้านในแล้วสองหนุ่มก็ยืนห่างกันเป็นวา ต่างก็มีท่าทีประดักประเดิดเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้ามันมารบกวนจิตใจ ก่อนที่การ์ฟจะเอ่ยขึ้นมาโดยไม่มองหน้าคนที่ตนเองพูดด้วย มองผนังสงสัยจะพูดกับจิ้งจก

“เรื่องวันนั้นน่ะ ลืมมันไปเถอะนะตี๋”

อาร์ดิวหันขวับมามองคนพูด ซึ่งการ์ฟเองก็หันมาพอดี สีหน้าของอาตี๋ดูจะไม่พอใจกับคำพูดของเขานัก

“ถ้าคุณไม่พูดขึ้นมาผมคงลืมมันไปแล้ว” อาร์ดิวว่า เสียงติดจะหงุดหงิดเล็กน้อย

“ความผิดฉันหรือไง?” การ์ฟเอ่ยถาม ไม่ยอมรับความผิดของตนเอง

“ใช่สิ” อาร์ดิวตอบกลับ น้ำเสียงขุ่นเขียวยิ่งกว่าเดิม พูดจาไม่ถูกหูเลยจริงๆนายคนนี้

“....ขอโทษ ลืมมันไปเถอะ”

การ์ฟนิ่งไปชั่วครู่ก่อนเอ่ยบอก อาร์ดิวอยากจะพูดอะไรมากกว่านี้ แต่ก็ไม่ได้ทำ การ์ฟพูดง่ายดี แต่ช่างเถอะ เดี๋ยวอีกหน่อยเขาก็ลืมแล้ว ไม่ใช่เรื่องน่าจำสักหน่อย

เมื่อคิดเช่นนั้นแล้วจึงถือว่าเรื่องที่ค้างคาในใจก็คงจบลงได้สักที การ์ฟเดินนำอาร์ดิวออกไปด้านหน้าร้าน ก่อนจะหยุดชะงักอยู่ตรงทางออก อาร์ดิวที่เดินตามมามองงงๆ

“เป็นอะไร?” อาตี๋เอ่ยถามเมื่อคนด้านหน้าไม่ขยับ

“คนนั้นใคร?”

คำถามนั้นทำให้อาร์ดิวต้องก้าวเข้ามาใกล้การ์ฟอีกนิดแล้วชะเง้อมองออกไปด้านนอก

“ผมจะรู้ไหมล่ะ?”

คำตอบนั้นทำให้การ์ฟเดินดุ่มเข้าไปหาจุดที่หมายตา อาร์ดิวตกใจกับท่าทางพร้อมจะมีเรื่องของการ์ฟ เด็กหนุ่มรีบตะโกนบอกชีวา

“ชีวา จับการ์ฟไว้!!”

ชีวาหันมาตามเสียงก็เห็นการ์ฟผ่านหน้าไปแล้ว ตัวสูงๆนั้นรีบถลาออกจากหลังเคาน์เตอร์มาจับแขนการ์ฟไขว้หลังทั้งสองข้าง เด็กสาวแสนคุ้นหน้าสำหรับการ์ฟมองมาอย่างตกใจ จะไม่ตกใจได้อย่างไรในเมื่อคนๆนั้นคือมิมิว แฟนสาวของเขาเอง

และที่ยิ่งไปกว่านั้นเธอไม่ได้มาทานอาหารที่ร้านเมจิคกะเพียงคนเดียวเสียด้วย ถึงได้ทำให้เธอตกใจขนาดนี้ ผู้ร่วมโต๊ะของเธอค่อยลุกขึ้นแล้วหันมาทางการ์ฟช้าๆ ดวงตาเรียวเบิกกว้างเมื่อเห็นคนๆนั้นถนัดตา

“ไอ้เชน??”

เด็กหนุ่มผู้ร่วมโต๊ะอาหารของมิมิว ผู้ที่การ์ฟเอ่ยเรียกว่า เชน มองมาที่การ์ฟด้วยสีหน้าเย้ยหยัน ก่อนจะพ่นวาจาก่อกวนให้ขุ่นมัว

“อ้าว? มาทำอะไรที่นี่วะ เอาะ อ๋ออออ ร้านอาหารก็มาทานอาหารสิเนอะ”

รอยยิ้มเยาะของเชนทำให้การ์ฟกำหมัดแน่น รู้สึกแค้นใจจนจะกระอัก ดวงตาเรียวที่มีแววโกรธกรุ่นเบนมาทางมิมิวที่ยืนหน้าซีดอยู่ไม่ไกลก่อนเอ่ยถามลอดไรฟัน

“มิว นี่มันหมายความว่าไง ห๊ะ!!?”

ท้ายประโยคการ์ฟตวาดเสียงดังจนมิมิวสะดุ้ง อาร์ดิวที่เข้าไปขอโทษลูกค้าที่มาทานอาหารอยู่ใกล้ๆหันมามองตามเสียง ได้แต่ร้องห้ามในใจว่าอย่าก่อเรื่องอีกเลยได้ไหม!

“เฮ้ย ใจเย็นก่อนดิวะ ค่อยคุยกันก็ได้” ชีวาเอ่ยปราม

“มึงยุ่ง’ไรด้วย!”

“อ้าวไอ้เหี้ย มึงกำลังจะมีเรื่องในร้านพวกกู แล้วมาพูดงี้เหรอวะสาด!!”

ชีวาที่ล็อคแขนการ์ฟอยู่เอ่ยเตือนสติ เพราะสงสารเพื่อนอย่างมิมิวที่หน้าซีดแล้วซีดอีก แต่การ์ฟกลับตอบกลับด้วยอารมณ์ทำให้เขาก็ชักไม่อยากทนเหมือนกัน ก่อนที่จะมีเรื่องซ้ำเรื่องซ้อนไปมากกว่านี้ อาร์ดิวที่ขอโทษลูกค้าทุกคนแล้วจึงเดินเข้ามาหย่าศึก มองหน้าทุกคนที่อยู่ร่วมในสถานการณ์ ไม่คิดเข้าข้างใครทั้งนั้น ก่อนที่เด็กหนุ่มจะเอ่ยกับทุกคนเสียงราบเรียบที่สุดเท่าที่จะทำได้

“พวกคุณคงรู้นะครับ ว่าควรจะทำยังไง?”

ดวงตาเรียวรีนั้นมองมาอย่างต้องการคำตอบ การ์ฟสะบัดแขนออกจากการเกาะกุมของชีวา มองกราดทุกคนในที่นี้ก่อนเดินออกจากร้านไปด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว

“การ์ฟ การ์ฟคะ!”

มิมิวร้องเรียกคนรัก เธอจะก้าวตามเขาไปแต่กลับถูกรั้งแขนเอาไว้ เด็กสาวมองมือที่จับแขนของตนเองอยู่ ก่อนค่อยมองหน้าคนจับด้วยแววตาผิดหวัง เด็กสาวปลดมือนั้นออกแล้ววิ่งตามการ์ฟไป เชนสบถเมื่อมันไม่เป็นไปดั่งใจ จะตามมิมิวไปแต่ชีวากลับกระชากตัวไว้ กับหมอนี่สมควรแก่การกระชากแล้วล่ะ

“จ่ายค่าอาหารก่อนไหม?”

เชนกัดฟันกรอดกับท่าทางการทวงค่าอาหารของชีวา เด็กหนุ่มควักแบงค์พันมาจ่าย ตบใส่อกชีวาก่อนมองหน้าแล้วบอก

“ไม่ ต้อง ทอน!”

ชีวากำเงินที่อีกฝ่ายให้มา มองตามหลังเชนด้วยความไม่พอใจ สถานการณ์ทุกอย่างดูจะสงบลงแล้ว แต่ลูกค้ากลับลุกออกไปหลายโต๊ะ อาร์ดิวหันมามองหน้าปอมปอมที่ถูกกันให้อยู่นอกวง น้องชายของเขาดูจ๋อยลงไปกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นครั้งแรกตั้งแต่ที่สองพี่น้องช่วยกันดูแลร้านตอนที่พ่อแม่ไม่อยู่แล้วมันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ไม่รู้จะรับมือกับมันอย่างไร



เมื่อลูกค้าโต๊ะสุดท้ายออกจากร้านไป อาร์ดิวจึงตัดสินใจปิดร้าน เด็กหนุ่มกับน้องชายและพนักงานในร้านเอ่ยขอบคุณลูกค้า ก่อนจะเปลี่ยนป้ายหน้าร้านจากเปิดเป็นปิดแล้วช่วยกันเก็บร้าน คุณน้าจันทราที่ต้องเข้ามาเวลาบ่ายของทุกวันหยุดเห็นป้ายหน้าร้านเปลี่ยนเป็นปิดแต่หัววันแบบนี้จึงได้เรียกหลานชายทั้งสองมาถามว่าเกิดอะไรขึ้น เด็กๆบอกว่ามีเรื่องนิดหน่อยทำให้ลูกค้าทยอยออกจากร้าน ทั้งสองคนไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี เพราะต่างก็รู้สึกไม่ดีที่มันเป็นเช่นนั้นจึงตกลงใจว่าจะปิดร้านเร็วขึ้นในวันนี้

“ปัญหามันเกิดขึ้นได้ตลอดนั่นล่ะ อยู่ที่ว่าเราจะรับมือกับมันยังไง” คุณน้าสอนสั่ง

“พวกเราคงเด็กไปถึงได้รับมือกับมันไม่ไหว”

ปอมปอมบอกเสียงอ่อย สีหน้ายังจ๋อยสนิท อาร์ดิวโยกหัวน้องเบาๆเป็นการปลอบใจกัน

“ค่อยๆฝึกไปก็ได้ลูก ตอนนี้เรารู้แล้วว่าปัญหามันอยู่ที่ไหน ต่อไปเราก็จะได้หาทางจัดการกับมันถูก ไม่เป็นไรหรอก ยังมีเวลาให้เราสองคนเรียนรู้อีกเยอะเลย”

คุณน้ายิ้มบอกอย่างใจดี สองพี่น้องขอบคุณท่านก่อนเข้ามากอดเอวคนละข้าง น้าจันทรากอดตอบหลานทั้งสองคน โยกตัวไปมาแล้วพากันหัวเราะ ถึงทั้งสองคนพี่น้องจะบอกว่าตัวเองยังเด็กไปถึงจัดการกับปัญหาที่เกิดไม่ได้ แต่อย่างน้อยๆคุณน้าก็ได้เห็นแล้วว่าหลานชายมีสติพอ ไม่แตกตื่นไปกับสถานการณ์จนมันบานปลายใหญ่โต ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี


เมื่อช่วยกันเก็บร้านเสร็จ สามหนุ่มก็พากันกลับบ้านดังเช่นทุกวัน แต่วันนี้กลับเร็วกว่าทุกวันเท่านั้นเอง เมื่อรถแท็กซี่มาจอดที่หน้าบ้านสองพี่น้องปอปลาทั้งหมดจึงลงจากรถ ก่อนที่จะเข้าบ้านใครบ้านมันชีวาก็พูดถึงการ์ฟขึ้นมาว่าเป็นเพราะการ์ฟมาที่ร้านถึงได้เกิดเรื่อง ปล่อยให้ชีวาบ่นเป็นหมีกินผึ้งไปอย่างนั้น เพราะพอบ่นเสร็จชีวาก็เข้าบ้านไป ขณะที่สองพี่น้องก็เข้าบ้านของตนเองบ้างเหมือนกัน

“คนที่มากับพี่มิมิวเป็นใครอ่ะดิว?” ปอมปอมเอ่ยถามพี่ชายที่เดินอยู่ข้างกัน

“ไม่รู้สิ ไม่รู้...”

อาร์ดิวเอ่ยตอบเสียงเบา ก่อนดันหลังน้องให้เดินเข้าบ้านเร็วๆเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ เห็นหน้าการ์ฟตอนนั้นแล้วเขารู้สึกเจ็บแทน มันคงเป็นความรู้สึกที่แย่จริงๆ แต่อาร์ดิวก็เชื่อว่ามิมิวเพื่อนของตนเองไม่ใช่คนประเภทคบใครหลายคนพร้อมกัน มันต้องมีอะไรบางอย่างที่เข้าใจผิดกันแน่





++++++++++++++++





กริ๊งงงงงงงงงงงง กริ๊งงงงงงงงงงงงงง


เสียงกริ่งหน้าบ้านพี่น้องปอปลาดังจนน่าหนวกหู เวลาพลบค่ำแบบนี้ยังมีใครที่ไหนมากดกริ่งอีกไม่รู้ ปอมปอมวิ่งปิดหูมาหาพี่ชายที่ห้อง ก่อนบอกให้พี่ไปเปิดเพราะเขาไม่กล้าไปคนเดียว อาร์ดิวพาน้องลงมาชั้นล่าง เห็นแม่บ้านยืนรีๆรอๆอยู่ ดูท่าคงกลัวเหมือนปอมปอมแน่ แค่เสียงกริ่งดังติดกันแบบกระหน่ำไม่กลัวบ้านเขาจะเปลืองไฟแค่นี้เอง กลัวไปได้

เด็กหนุ่มเดินมาหน้าบ้านโดยมีลูกลิงเกาะหลังมาด้วย ถึงปอมปอมจะกลัวคนที่มากดกริ่งแต่ก็เป็นห่วงพี่ชายอยู่นะ พอมาถึงประตูรั้วสองพี่น้องก็หันมามองหน้ากันเองงงๆ เมื่อคนกดคือมิมิว เพื่อนของอาร์ดิวเอง พอเปิดประตูให้เท่านั้นมิมิวก็โผเข้ามากอด ชีวาที่อยู่บ้านข้างๆเดินเข้ามาหาเพราะเสียงกริ่งบ้านสองพี่น้องดังรัว เห็นอาร์ดิวลูบหลังปลอบมิมิวอยู่ก็เลิกคิ้วเป็นเชิงถาม อาร์ดิวส่ายหน้าว่าตนเองก็ไม่รู้เช่นกันว่าเกิดอะไรขึ้น ชีวาจึงปล่อยให้เพื่อนปลอบมิมิวไป ส่วนตนเองเลี่ยงไปช่วยปอมปอมกับแม่บ้านเข็นประตูรั้วเปิดให้รถของบ้านมิมิวเข้ามาจอดด้านใน

อาร์ดิวพาเพื่อนเข้าไปนั่งคุยกันในบ้าน วานแม่บ้านเอาน้ำกับของทานเล่นไปให้คนขับรถของมิมิวด้วย ให้มิมิวไปล้างหน้าล้างตาก่อนที่จะมาคุยกันที่ห้องนั่งเล่น ปอมปอมแยกไปนั่งดูทีวี อยากรู้เรื่องด้วยเหมือนกันว่ามีอะไรเกิดขึ้น ชีวากลับบ้านตัวเองไปแล้วเพราะท่าทางมิมิวมีเรื่องอยากคุยกับอาร์ดิวมากกว่าเขา จึงไม่รู้จะอยู่ไปทำไม

มิมิวขอให้อาร์ดิวช่วยดูให้หน่อยว่าตนเองกับการ์ฟยังรักกันดี และจะได้อยู่ด้วยกันต่อไปหรือไม่ เมื่อได้ฟังที่เพื่อนร้องขออาร์ดิวก็ชักลำบากใจเพราะไม่กล้าดู กลัวจะเห็นอะไรที่ไม่ควรอีก กับบางคนเขาเห็นได้ง่ายๆแม้ไม่อยากเห็น แต่บางคนก็ต้องเพ่งดูถึงจะเห็นได้ เขาไม่ใช่พวกทรงเจ้าเข้าผี ไม่ได้มีอิทธิฤทธิ์พิสดารอะไรขนาดนั้น ยังควบคุมความพิเศษที่ตนเองมีไม่ค่อยจะได้ จึงได้แต่ปลอบเพื่อนไป

“เพราะมิวกับการ์ฟจะเลิกกันจริงๆใช่ไหม อาร์ดิวถึงไม่ยอมดูให้อ่ะ” มิมิวต่อว่าเมื่ออาร์ดิวไม่ยอมดูให้เธอ

“ไม่ใช่อย่างนั้น เราแค่ไม่อยากให้มิวงมงายจนเกินไป ถ้ามิวกับนายการ์ฟรักกันก็ต้องได้อยู่ด้วยกันต่อไปอยู่แล้ว” เด็กหนุ่มเอ่ยแก้ความเข้าใจผิด

“แต่ว่า... แต่ว่าการ์ฟเขากำลังมีคนอื่นอ่ะ” พอพูดแบบนั้นแล้วมิมิวก็ทำท่าจะปล่อยโฮอีก

“หา? เขา... เขาบอกมิวแบบนั้นเหรอ?”

อาร์ดิวเอ่ยถามเสียงเบา มิมิวส่ายหน้าหวือทำให้อาร์ดิวถึงกับงง

“อ้าว แล้ว…?”

“เขาแปลกๆไปอ่ะ มิวก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เหมือนเขามีเรื่องอะไรในใจแต่ไม่บอกมิว บางทีเขาอาจจะกำลังคิดหาทางบอกเลิกมิวก็ได้อ่ะ”

ยิ่งพูดมิมิวก็ยิ่งคิดไปไกล เธอกำลังหวั่นใจ รู้สึกอ่อนไหวไปกับทุกการกระทำของการ์ฟ ยิ่งมีเรื่องของ เชน คู่อริของการ์ฟเข้ามาเกี่ยวด้วยเธอก็ยิ่งกลัวว่าการ์ฟจะเอามันมาเป็นเหตุผลในการเลิกกัน

“ไปกันใหญ่แล้วมิมิว เขายังไม่ได้ทำอะไรเลย ตีตนไปก่อนไข้นะแบบนี้”

“แต่ลางสังหรณ์ของผู้หญิงมันแม่นนะอาร์ดิว” เด็กสาวยังแย้งเพื่อนอีก

“คิดมาก” อาร์ดิวว่า

“ถ้าไม่อยากให้มิวคิดมาก ดูให้มิวหน่อยสิ นะ”

“ไม่เอา เลิกพูดเรื่องนี้ได้แล้วนะมิว... แล้วเรื่องนายคนนั้นล่ะ ที่มากับมิวเมื่อกลางวัน”

อาร์ดิวดุเพื่อนที่ยังไม่ยอมเลิกล้มความคิดจะให้เขาดูเรื่องในอนาคตผ่านนิมิตของเขาให้ ก่อนเปลี่ยนไปถามเรื่องผู้ชายที่มาทานข้าวที่ร้านเมจิคกะจนเกิดเรื่อง

“เขาเป็นที่ปรึกษาที่ดี มิวคิดแบบนั้น แต่ที่จริงแล้วเขาเป็นคู่อริของการ์ฟ เขาเข้ามาตีสนิทมิวเพราะจะทำให้การ์ฟเจ็บ ทำไมมิวต้องเจอพวกเขาด้วย”

มิมิวเล่าให้ฟัง น้ำเสียงเด็กสาวเริ่มเครือเมื่อพูดถึงคนในหัวข้อสนทนานั้น ตอนแรกที่เชนเข้าหาเธอ เธอก็นึกไปว่าเขาคือเพื่อนของการ์ฟ เพราะเชนดูจะรู้เรื่องการ์ฟเป็นอย่างดี เมื่อมีเรื่องไม่สบายใจเธอจึงได้เอามันไปปรึกษาเชนบ้าง เขาก็ปลอบใจเธอเป็นอย่างดี ไม่คิดว่าที่จริงแล้วเชนไม่ใช่เพื่อนการ์ฟ แต่เป็นศัตรูของการ์ฟ และที่เข้ามาตีสนิทด้วยไม่ใช่เพราะอยากเป็นเพื่อนกับเธอ แต่เพราะกำลังใช้เธอเป็นเครื่องมือทำร้ายการ์ฟต่างหาก พอรู้แบบนี้แล้วเธอเสียใจ เสียความรู้สึก ทุกๆความรู้สึกดีๆที่ให้เชนไปมันหมดลงเพราะเขาหลอกเธอ ได้แต่โทษตัวเองที่หัวอ่อนจนโดนเขาหลอกใช้ได้ แย่จังมิมิว

เด็กสาวอยู่คุยกับอาร์ดิวจนรู้สึกสบายใจขึ้นถึงได้ยอมกลับบ้านตนเองไป อาร์ดิวออกไปยืนส่งเพื่อนที่หน้าบ้านพร้อมกะปอมน้อย เด็กหนุ่มถอนใจเมื่อรถของมิมิวเคลื่อนห่างไปแล้ว เรื่องมันชักจะวุ่นวายมากขึ้นเรื่อยๆ จนเขาไม่รู้จะทำอย่างไรดีแล้ว ถ้ามิมิวรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างเขากับการ์ฟ เพื่อนของเขาต้องเสียใจมากแน่ๆ ทำอย่างไรดีนะอาร์ดิว

ปอมปอมมองพี่ชายที่มีท่าทีกังวลใจให้เห็นแล้วก็พลอยไม่สบายใจตามไปด้วย อาร์ดิวยังดูง่ายเหมือนเดิม รู้สึกอย่างไรก็ออกทางสีหน้าหมด ปอมปอมอยากจะหาทางช่วยแต่เพราะไม่รู้ว่าปัญหาระหว่างคนสามคน หรือ สี่คนนี้มันอยู่ที่ตรงไหน เด็กอย่างเขาก็ไม่ค่อยเข้าใจเรื่องพวกนี้สักเท่าไหร่หรอก แบบนี้คงต้องพึ่งกูรูอย่างป๋าวาแล้วล่ะมั้งนะปอมว่า





++++++++++++++





“ป๋า ป๋ามารับปอมหน่อย~”

เสียงแง๊วๆของลูกลิงชอบปีนป่ายดังมาทำให้ชีวาต้องวางมือจากการบ้านที่ทำอยู่แล้วลุกไปเปิดประตูรับลูกลิงข้ามมาฝั่งห้องของตนเอง พออุ้มตัวผอมบางข้ามมาแล้วก็อดบ่นไม่ได้

“ทำไมไม่เข้ามาทางหน้าบ้าน?”

“ปอมขี้เกียจเดิน” ลูกลิงตอบหน้าตาเฉย

“แล้วปีนมาแบบนี้ถ้าตกลงไป…”

“คอหักตายทำไง?”

ชีวามองหน้าเด็กน้อยที่ลอยหน้าพูดอย่างไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้ว

“ก็รู้ แล้วยังต้องให้พี่พูดทุกวัน”

คนเป็นพี่บ่น ปอมปอมย่นจมูกไม่สนใจ ก่อนชะเง้อชะแง้แลดูในห้องพี่

“ป๋าอยู่กับใครอ่ะ?”

“คนเดียว”

“จริงเหรอ?” ทำเสียงเหมือนไม่อยากเชื่อเท่าไหร่

“เออ อะไรของเราเนี่ย?” ชีวาเขม้นมองอย่างจับผิด

“ก็เปล่า นึกว่าอยู่กับ... ใคร ...เสียอีก”

หนุ่มน้อยเอ่ยตอบเสียงอุบๆอิบๆ ชีวายิ้มมุมปากกับท่าทางนั้นก่อนว่า

“ก็อยากอยู่นะ แต่เดี๋ยวมีลูกลิงมาแอบดูอีก”

“งั้นปอมจะมาทุกวันเลยป๋าจะได้อยู่คนเดียวทุกวัน”

หนุ่มน้อยแลบลิ้นให้พี่ ก่อนเดินเข้าห้องไปโดยไม่รอเจ้าของห้องสักนิด ชีวาส่ายหน้ายิ้มๆก่อนเดินตามน้องเข้าไปด้านใน

“คราวหน้าถ้าเราปีนข้ามมาอีกพี่จะตัดขาเราโยนให้หมากิน จะได้เลิกปีนสักที”

“โหดร้ายอ่า~”

ปอมปอมหันมาต่อว่าพี่เสียงเง้างอด ก่อนที่จะเปลี่ยนเรื่องเมื่อเดินเข้ามาในห้องแล้วนั่งบนเตียงเสร็จสรรพ

“เลิกเล่นๆ ปอมมีเรื่องอยากปรึกษาอ่ะ”

“อะไร ไปแอบชอบใครที่โรงเรียนหรือไง?” ชีวานั่งลงข้างๆน้อง เท้าแขนไปด้านหลังในท่าสบาย

“ใช่ที่ไหนเล่า! ไม่หน่อมแน้มปานนั้นหรอกน่า”

ปอมปอมทำปากยื่น ชีวาหมั่นไส้จะหยิกปากน้องเลยโดนน้องตีมือ ก่อนสายตาเขียวปั๊ดจะตวัดมามอง เด็กหนุ่มหัวเราะร่วนอย่างอารมณ์ดีก่อนเอ่ยถามเข้าเรื่อง

“แล้วมันเรื่องอะไรล่ะ?”

“เรื่องดิวกับพี่คนนั้นอ่ะ”

“ใคร?” คิ้วเด็กหนุ่มขมวดเมื่อปอมปอมเอ่ยถึงชื่ออาร์ดิวกับใครบางคน

“พี่การ์ฟ” หนุ่มน้อยเฉลย

“มันทำอะไรอาร์ดิว!”

น้ำเสียงห้วนจัดกับท่าทางเป็นเดือดเป็นร้อนนั้นทำให้ปอมปอมเงียบ ถ้าจะตะคอกแบบนี้ด่าเขาเลยดีไหม?

“ป๋าทำไมต้องทำหน้าโหด?”

“ก็มันมายุ่งอะไรกับอาร์ดิวล่ะ?”

ชีวาที่ยังไม่รู้ตัวว่าท่าทางน้องเปลี่ยนไปก็ยังคงใส่อารมณ์กับเรื่องที่พูดอยู่ จนกระทั่งน้องพูดขึ้นมา

“ถามจริง…”

“อะไร?”

“ป๋าชอบดิวใช่ไหม?”

“เฮ้ย!!”

สีหน้าคนถามดูจริงจังมาก ยิ่งประโยคคำถามยิ่งน่าตกใจ ชีวาร้องเฮ้ยแล้วอึ้งไปชั่วขณะ ไม่ได้ตอบกลับน้องในทันที ท่าทางก็ดูอึกอักมีพิรุธให้เห็น ปอมปอมถอนใจยาวก่อนลุกขึ้นแล้วเดินไปทางประตูบานเลื่อนตรงระเบียงห้อง

“อ้าว ไหนว่ามีเรื่องจะปรึกษาไง?”

ชีวารีบท้วงเมื่อตั้งสติได้ เห็นน้องเดินไปที่ประตูจึงลุกตาม ปอมปอมหยุดอยู่หน้าประตูก่อนหันมายิ้มแล้วตอบพี่

“ช่างมันเถอะ ถือว่าปอมไม่ได้พูดนะ กลับละ”

น้ำเสียงแปลกๆของน้องทำให้ชีวาคว้าดึงแขนเรียวเล็กเอาไว้ก่อนที่น้องจะทันได้ก้าวไปไหน

“เดี๋ยว!! เป็นอะไร?” เด็กหนุ่มเอ่ยถามเสียงเครียด

“เป็นลิงไง จะปีนกลับไปอยู่เนี่ย”

“ถ้าคุยกันไม่รู้เรื่องก็ไม่ต้องกลับ”

ชีวาบอกเสียงเข้มเมื่อคนเป็นน้องตอบกลับแล้วหัวเราะแห้งๆ แถมไม่หันมามองเขาแม้แต่น้อย เด็กหนุ่มนิ่วหน้าเมื่อรู้สึกแปลกๆกับท่าทีของน้อง มือยังจับแขนเรียวเล็กไว้มั่น ปอมปอมหันมาหาพี่ เงยหน้ามองสบตา ดวงตาเรียวมีแววหวั่นไหวปรากฏให้เห็น ก่อนริมฝีปากจิ้มลิ้มนั่นจะขยับพูด

“ป๋า ปอมน่ะ... ปอมน่ะนะ…”

“ฟังอยู่”

ปอมปอมทำเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่พูดออกมา ดูลังเลใจแล้วก้มหน้าเงียบไปจนชีวาต้องกระตุ้นให้พูด ปอมปอมกัดปาก เป็นนิสัยเมื่อเกิดอาการไม่มั่นใจ หนุ่มน้อยเงยขึ้นมามองพี่อีกครั้งแล้วจึงบอก

“ปอมง่วงแล้ว ไปนอนก่อนนะ”

เพราะมัวแต่ลุ้นว่าน้องจะบอกอะไรทำให้ชีวาคลายมือที่จับแขนน้อง ปอมปอมเลยสะบัดแขนให้หลุดแล้ววิ่งปรู๊ดออกมาทางประตูหน้าห้องของชีวาแทน

“อ้าว? อะไรของมันเนี่ย?”

เด็กหนุ่มอุทานงงๆ ก่อนหมุนตัวเดินไปที่ระเบียงอีกที ชะโงกลงไปมองข้างล่างเพื่อดูว่าน้องออกจากบ้านไปหรือยัง เห็นเด็กผู้ชายตัวเล็กๆนั้นเดินกึ่งวิ่งออกจากบ้านเขาไปริมฝีปากก็เปิดยิ้มขึ้นมาอัตโนมัติ ชีวามองตามก่อนจะขมวดคิ้วเมื่ออยู่ๆน้องก็หยุดเดินก่อนถึงประตูบ้านของน้อง ดูท่าทางแล้วเหมือนจะร้องไห้... ร้องไห้หรือ?

ใจชีวากระตุกทั้งที่ยังไม่รู้แน่ชัดว่าน้องร้องจริงไหม เด็กหนุ่มวิ่งลงไปชั้นล่าง แล้วเลยไปบ้านของสองพี่น้องปอปลา ปอมปอมเข้าบ้านปิดประตูรั้วไปแล้ว ชีวาถลามาจับประตูรั้วเขย่าแล้วเรียกน้องที่กำลังจะเดินเข้าบ้านไป

“ปอมปอม!!”

เสียงเรียกนั้นทำให้ปอมปอมหันกลับมาอย่างตกใจ มือเรียวรีบปาดน้ำตายกใหญ่เพราะกลัวพี่เห็น

“ร้องไห้ทำไม?”

ชีวาเอ่ยถามอย่างร้อนใจ กะปอมน้อยที่ร่าเริงอยู่เสมอ เขาไม่เคยเห็นน้องร้องไห้ มีแต่ทำหน้าเป็นให้เขาหมั่นเขี้ยวอยู่เรื่อยๆ แล้วตอนนี้มันอะไร อยู่ๆน้องก็ร้องไห้แบบนี้เขารู้สึกใจไม่ดี

“เปล่า ปอมง่วง ปอมไปนอนนะ”

ปอมปอมบอกปัดก่อนเดินเข้าบ้าน ชีวามองตามหลังน้องอย่างเป็นกังวล ทำไมถึงร้องไห้ เพราะอะไร ...เพราะเขาหรือ?







TBC





อ๊ากก กะปอมร้องแล้วอ่ะ ชีวา นายทำลูกฉันร้องไห้

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามค่า บวกๆ

วันใหม่ค่ะ :L2:


ปอลิง มีใครช่วยใหม่ได้บ้างงง ไม่รู้ใหม่ไปกดตรงไหน กำลังลงเรื่องนี้อยู่ดีๆ หน้าจอมันก็ถูกบีบให้เล็กลง เหลือพื้นที่ว่างด้านข้างๆทั้งสองข้างเอาไว้ตั้งเยอะอ่ะ หน้าเว็บเล้ามารวมกันอยู่ตรงกลาง ใหม่จะทำยังไงดี ต้องแก้ตรงไหนอ่ะคะ ช่วยด้วยยย :o12:

หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((4)) 26_12_2555 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 26-12-2012 23:02:39
แอบสงสารน้องปอมปอมของเจ้
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((4)) 26_12_2555 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: N.T.❁ ที่ 26-12-2012 23:13:21
เรื่องมันชักจะยุ่งทั้งสองคู่เลยนะเนี่ย ..
ชีวาไม่รู้เหรอว่าน้องคิดยังไงกับตัวเอง ?
โธ่...ปอมปอมน้อยของพี่ TT  :monkeysad:

ส่วนคู่การ์ฟกะดิว...คู่กันแล้ว หนีให้ตายก็หนีไม่พ้นหรอกเน้อออ :]

ปล. หน้าจอถูกบีบให้เล็กยัังไงคะวันใหม่? หมายถึงตัวอักษรเล็กลงเหรอคะ?
ถ้าเป็นงั้นให้กด ctrl+เครื่องหมายบวก อ่ะค่ะ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((4)) 26_12_2555 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: อยากกินไข่พะโล้ โปะ ที่ 26-12-2012 23:17:42
ชีวานางบื้อกว่าที่คิด'
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((4)) 26_12_2555 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 26-12-2012 23:23:01
เรื่องน่ารัก ใสๆ มีเสน่ห์มาก
ชื่ออาร์ดิว เท่จริงๆ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((4)) 26_12_2555 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: wanmai ที่ 26-12-2012 23:23:28

ปล. หน้าจอถูกบีบให้เล็กยัังไงคะวันใหม่? หมายถึงตัวอักษรเล็กลงเหรอคะ?
ถ้าเป็นงั้นให้กด ctrl+เครื่องหมายบวก อ่ะค่ะ


ได้แล้วววววว ขอบคุณมากนะคะคุณ맀..Lich✿ :กอด1:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((4)) 26_12_2555 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: N.T.❁ ที่ 26-12-2012 23:29:34
ได้แล้วววววว ขอบคุณมากนะคะคุณ맀..Lich✿ :กอด1:

ยินดีจ้าาา พ่อเราก็เป็นบ่อยแล้วก็โทรมาถามตลอดเลยพอเดาอาการออก อิอิ =D
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((4)) 26_12_2555 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: PK37 ที่ 27-12-2012 00:05:50
ปอมปอมน่ารักอ่ะ เมื่อไรชีวาจะรักน้องสักที เอ๊ะ หรือยังไม่รู้ตัวกันหว่า คิคิ

เรื่องของการ์ฟกับอาร์ดิวซับซ้อนซ่อนเงื่อนมาก แล้วยังมีเพื่อนสนิทอย่างมิมิวอีก

เฮ้อ...แค่คิดก็หัวหมุนละ

เป็นกำลังใจให้นะคะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((4)) 26_12_2555 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 27-12-2012 01:43:02
ปอมงอนซะแล้ว ป๋าก็ไม่มาง้อ
ส่วนการ์ฟ เลิกกับมิมิวไปเลย อิอิ  จะได้มาคบกับดิวแทน  หุหุ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((4)) 26_12_2555 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: nemesis ที่ 27-12-2012 08:53:08
ปอมบอกชีวสเลยว่ารักอะ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((4)) 26_12_2555 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: greensnake ที่ 27-12-2012 09:20:24
เรื่องราวมันเริ่มอีลุงตุงนังซะแล้วสิ
ถ้าเลิกกันจริงการ์ฟอย่าโทษคนอื่นอีกล่ะ
กลัวจะมาพาลอาร์ดิวอีกน่ะสิ :a14:
ส่วนป๋าของปอมน่ะไม่ได้รู้เรื่องอะไรเล้ย~
ทำเด็กร้องไห้รับผิดชอบด้วยนะป๋า
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :กอด1:
+1และเป็ดจ้ะ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((4)) 26_12_2555 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 27-12-2012 11:44:45
เรื่องมันเยอะแฮะ  :really2: ขอเรียบเรียงความคิด
ปอมชอบวา คิดว่าวาชอบดิว ดิวท่าจะคู่กับการ์ฟ การ์ฟอยู่ระหว่างรักๆเลิกๆกับมิว
มิวไปโดนเชนหลอก แต่เชนท่าจะชอบมิวจริง(รึเปล่า)
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((4)) 26_12_2555 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 27-12-2012 16:35:01
ชักเริ่มสับสนและ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((4)) 26_12_2555 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: nong PeePee ที่ 27-12-2012 17:36:26
ปอมปอมกับชีวาคู่นี้ๆชอบๆ♥♥♥
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((4)) 26_12_2555 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 27-12-2012 19:33:20
ชีวาาาาาาา ทำปอมร้องไห้ นิสัยไม่ดี

เขาจะไม่พูดกับนาย เชอะ

ดิวกับกราฟ มีเรื่องให้คิดเยอะแน่เลยเนอะ

หุหุ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((4)) 26_12_2555 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 27-12-2012 20:11:39
น้องปอมร้องไห้เพราะแกนั้นแหละชีวา
ไปปลอบน้องเลยนะ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((4)) 26_12_2555 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 27-12-2012 21:51:35
ชีวาแอบชอบดิวเหรอแบบนี้น้องปอมก็เสียใจแย่สิมาโอ๋ ๆ :กอด1:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((4)) 26_12_2555 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 28-12-2012 00:11:01
ปอมปอมขี้แง ล้อเล่น เพราะ เสียใจ คนที่เรารัก รักอีกคน เฮ้อ
ขอบใจจ้า
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((4)) 26_12_2555 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ชัดเจนกาบ ที่ 28-12-2012 12:29:38
วุ่นวายดีแท้
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((4)) 26_12_2555 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: TinyB ที่ 28-12-2012 12:44:50
ไม่คิดว่าชีวาจะแอบชอบอาร์ดิวนะเนี่ย สงสารปอมปอมเบยอ่าาา  :z10:
+1แทนคำขอบคุณฮ้าา 658=659
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((4)) 26_12_2555 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 28-12-2012 12:55:13
วุ่นวายดีแท้ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((4)) 26_12_2555 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Narcissus ที่ 28-12-2012 16:20:23
อีรุงตุงนัง   :really2:

ขอบคุณวันใหม่่ค่ะ  :L2: :L1:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((4)) 26_12_2555 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: SaJung13 ที่ 31-12-2012 00:43:50
ต่อเถอะๆๆๆ :z3:
อยากรู้อ่ะ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((4)) 26_12_2555 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 31-12-2012 10:54:48
 :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((4)) 26_12_2555 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: threetanz ที่ 01-01-2013 19:10:57
กระปอมน้อย ไม่ร้องนะะะะะะะะะะ

ชีวาซื่อบื้อสุดๆ --*
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((5)) 04_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: wanmai ที่ 04-01-2013 02:10:28
Magica Café



Magic (5)





สนามแข่งรถนอกกรอบ สำหรับผู้ที่รักความเร็วเป็นชีวิตจิตใจแต่ไร้กรอบ ไม่มีกติกา บนถนนสำหรับแข่ง รถยนต์สองคันขับตีคู่สูสีกันมา คันสีน้ำเงินคนขับคือเชน และสีดำคนขับคือการ์ฟ ทั้งคู่ต่างเร่งเครื่องไม่มีใครยอมใคร ทำทุกทางเพื่อให้ตนเองเป็นฝ่ายขึ้นนำ เสียงเชียร์จากคนรอบข้างสนามดังกระหึ่มเมื่อรถทั้งสองคันแล่นเข้าเส้นชัยแล้วจอดลงตรงข้างกัน เจ้าของรถทั้งสองก้าวลงมาจากรถ เชนปิดประตูแล้วก้าวมาหาการ์ฟด้วยท่าทางกวนอารมณ์ การ์ฟปรายตามองเหยียดๆทำให้คู่อริคิ้วกระตุก มุมปากเชนยกยิ้มแสยะ โน้มตัวเข้าไปใกล้แล้วกระซิบให้ได้ยินกันเพียงสองคน

“แฟนมึงน่ารักเป็นบ้า กูขอนะ”

คอเสื้อคนพูดถูกกระชากอย่างแรง ก่อนที่หมัดหนักๆจะถูกเหวี่ยงไปกระทบใบหน้าแสนกวนของเชน กลุ่มเพื่อนนักซิ่งก็รีบแยกทั้งคู่ออกห่างกันเมื่อเห็นท่าไม่ดี แขนทั้งสองข้างของการ์ฟถูกรั้งไว้ทำให้เด็กหนุ่มได้แต่มองเชนตาขวาง เชนเพียงขยับปกเสื้อตนเองเล็กน้อย มุมปากยกยิ้มเยาะเย้ยการ์ฟที่ถูกรั้งตัวไว้ แตะปลายนิ้วที่หางคิ้วกวนๆก่อนขึ้นรถแล้วขับออกไป การ์ฟสะบัดแขนออกจาการเกาะกุม มองตามท้ายรถของเชนไปด้วยความแค้นใจ

ทั้งคู่ไม่ถูกชะตากันสักเท่าไหร่ เมื่อก่อนเคยเรียนที่เดียวกัน ท่าทางหยิ่งๆแบบการ์ฟทำให้โดนเชนและพวกเขม่น แต่การ์ฟก็ไม่ได้สนใจ จนการ์ฟย้ายมาเรียนที่โรงเรียนในปัจจุบันนี้ทำให้ไม่ได้เจอกันอีก พบกันอีกครั้งที่สนามแข่งรถแห่งนึ้ พอเป็นพวกคลั่งความเร็วเหมือนกันมาเจอกันจึงกลายเป็นปัญหาใหม่ เมื่อต่างก็อยากเป็นที่หนึ่ง การ์ฟไม่ได้ติดใจอะไรกับอีกฝ่ายเพราะไม่ได้สนใจมาแต่แรกอยู่แล้ว เขาแค่ชอบความเร็ว แต่เมื่อมีพวกชอบท้าทายแบบเชนมาท้าแข่งเขาก็ลงแข่งด้วย พอชนะขึ้นมาคงทำให้ฝ่ายนั้นเสียหน้าจึงหาทางแก้มืออยู่เรื่อย ฝีมือการขับรถก็สูสีไม่ได้ทิ้งห่างกันมาก หลังๆมาเชนชักจะก้าวล้ำเส้นมายุ่งวุ่นวายกับชีวิตส่วนตัวของเขา แถมตอนนี้ยังมายุ่งกับมิมิวอีก ทำให้ทั้งคู่กลายเป็นศัตรูกันทุกด้านไปแล้ว





++++++++++++++++





เช้าวันต่อมาอารมณ์หงุดหงิดของการ์ฟก็ยังคงอยู่ แม้ไม่อยากเก็บมาใส่ใจ แต่การกระทำและคำพูดของเชนมันก็ทำให้เขาโมโห เมื่อมาโรงเรียนแล้วเห็นอาร์ดิวกับเพื่อนทำให้การ์ฟเดินเข้าไปชนไหล่พาลๆ อาร์ดิวเซไปข้างหน้าเพราะไม่ทันตั้งตัว เด็กหนุ่มจับไหล่ตนเองแล้วมองคนทำอย่างไม่พอใจ แต่อีกฝ่ายกลับเดินผ่านไปไม่มีหันกลับมาสักนิด

“นิสัยว่ะ”

ชีวาบ่นอย่างหัวเสียแทนเพื่อน ปอมปอมเหลือบตามองคนพูด พอชีวาหันมาเห็นน้องมองอยู่ก็หน้าเจื่อน สายตาแบบนี้จะเข้าใจเขาผิดไหมนี่?

ตาต้าเดินเข้ามาสมทบกับทุกคนที่ยืนรวมตัวกันอยู่อย่างไม่รู้เรื่องอะไรกับเขา เด็กหนุ่มจะเอ่ยทักทายเพื่อนแต่น้องเล็กสุดในกลุ่มกลับก้าวเข้ามาหา ปอมปอมกอดแขนตาต้าแล้วรั้งให้เดินไปด้วยกัน ตาต้าเหลียวกลับไปมองเพื่อนทั้งสองคนงงๆ ก่อนมองกะปอมน้อยที่เกาะแขนตนเองก้มหน้าก้มตาเดินดุ่มๆแล้วเอ่ยถาม

“เป็นอะไรไปตัวเล็ก?”

“ถ้าบอกว่าเปล่า ตาต้าจะเชื่อไหม?” น้องเล็กเอ่ยถามกลับ

“เชื่อ”

ตาต้าตอบรับง่ายดายพร้อมพยักหน้ายิ้มๆ ปอมปอมย่นคิ้ว ทำปากยื่นที่เพื่อนพี่ชายบอกว่าเชื่อง่ายๆแบบนั้น หนุ่มน้อยคล้องแขนพาตาต้าไปหาที่นั่งคุยกัน ตอนนี้ยังเช้าอยู่ ยังมีเวลาก่อนเข้าห้องเรียนเล็กน้อย ทั้งสองคนนั่งลงที่ม้าหินอ่อน ก่อนที่ปอมปอมจะพูดขึ้นมา

“ปอมเสียใจอ่ะ”

“ถามได้ไหม?” ตาต้าเอ่ยถาม เลิกคิ้วกับกิริยาเซื่องซึมของน้องเล็ก ปอมปอมถอนใจอีกเฮือกก่อนบอก

“เรื่องไม่เป็นเรื่อง”

“แต่มันทำปอมปอมเสียใจ แสดงว่ามันต้องเป็นเรื่องแล้วล่ะ” ตาต้าคาดการณ์

“ตาต้าเคยชอบใครไหม แบบชอบมานานแล้วแต่บอกเขาไม่ได้ เพราะเขาไม่เคยมองเราเกินไปกว่าน้องชาย…” คนถามอึกๆอักๆเหมือนจะไม่แน่ใจว่าควรพูดดีไหม แต่สุดท้ายก็เรียบเรียงคำพูดออกมาได้จนจบประโยค

“เคยสิ”

พอตาต้าบอกว่าเคยคนถามก็ตาโต ก่อนจะเอ่ยถามต่อเสียงเบาลง ท่าทางเกรงๆเล็กน้อย

“ตาต้าเสียใจไหม?”

“มากเลยล่ะ เพราะนอกจากเขาจะเห็นเราเป็นแค่น้องแล้วยังหนีไปแต่งงานกับคนอื่นอีกแหนะ”

“หา! บะ... แบบนี้ก็แย่สิ…”

“ใช่ไหม?” ตาต้าเออออห่อหมก ขำหน้าตาตื่นๆของน้องเล็ก

“ตาต้า น่าสงสารจัง…”

สีหน้าคนพูดดูสลดลง รู้สึกสงสารเพื่อนพี่ชายที่ตนเองสนิทสนมด้วยมากๆ ปัญหาของตาต้าใหญ่กว่าเขาอีก เขาไม่น่าถามหรือเปล่านะ ตาต้าต้องเสียใจอยู่แน่ๆ

“อะไรกัน อยู่ๆก็ทำหน้าจ๋อย มันไม่ได้แย่ขนาดนั้นหรอกน่า” ตาต้ายีผมหัวเห็ดของปอมปอมน้อย มาทำหน้าเศร้าสลดแบบนี้ไม่สมกับเป็นตัวป่วนอย่างปอมปอมเลย

“ถามได้ไหม?” หนุ่มน้อยเอาคำของพี่มาย้อนถาม

“ว่า?”

“รู้แบบนี้แล้วตาต้าทำยังไง เลิกชอบเขาหรือเปล่า?” ท่าทางคนถามดูอยากรู้จนตาต้าอดขำไม่ได้

“จริงจังนะเราเนี่ย แอบชอบใครอยู่บอกพี่ได้ไหมปอมปอม ใบ้นิดนึงก็ได้”

“ไม่เอา ใบ้ก็รู้สิ” หนุ่มน้อยว่า

“เอ้า! ก็อยากรู้อ่ะ นะ~”

ตาต้าทำเสียงอ้อน ปอมปอมเหลือบตาไปมาหาทางออก ฮือ ไม่น่าถามตาต้าเลยอ่ะ เข้าตัวเลยเห็นไหม เมื่อหาทางไปไม่ได้ปอมปอมเลยเอ่ยถามพี่กลับ

“แล้วตาต้าอ่ะชอบใคร?”

“ปอมปอมไม่รู้จักหรอก”

“งั้นตาต้าก็ไม่รู้จักคนที่ปอมชอบเหมือนกัน”

หนุ่มน้อยลอยหน้าบอกแล้วยักคิ้วให้เพื่อนพี่ชาย แถมยังหัวเราะเสียงแปลกๆด้วยแหนะ ตาต้าส่ายหน้ากับความแสบของน้องเล็ก สายตาเห็นใครอีกคนที่ก้าวเข้ามาด้านหลังของน้องจึงยิ้มให้

“ชอบใครเหรอกะปอม?”

เจ้าของชื่อสะดุ้งเฮือกจนผิดสังเกตเมื่อได้ยินเสียงใครบางคนเอ่ยถาม ปอมปอมหันขวับมามองด้านหลังอย่างตกใจ ชีวาเข้ามาทันได้ยินทั้งสองคนคุยกันพอดี เด็กหนุ่มมองมาที่น้องสีหน้านิ่ง

“ชอบตาต้าไง ป๋าไม่น่าถาม คุยกับตาต้าอยู่สองคนจะชอบใครล่ะ เนอะ”

ตัวแสบพยักเพยิดกับตาต้าหน้าตาเฉย ตาต้าเพียงแต่อมยิ้มไม่ได้ว่าอะไร ชีวาหรี่ตานิดๆอย่างไม่เชื่อ ทำให้คนเป็นน้องหน้าบึ้งขึ้นมาทันตา

“อย่ามองปอมแบบนั้นนะ ปอมไม่ชอบ”

น้ำเสียงที่ใช้ฟังดูห้วนจนชีวาอึ้งไป ทำไมน้องต้องใส่อารมณ์กับเขาด้วย?

“เป็นอะไร?” ชีวาเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ

“ปอมกำลังอารมณ์ไม่ดี ไม่อยากเห็นหน้าป๋า อย่าเข้ามาใกล้”

“อ้าว? พี่ไปทำอะไรให้อ่ะ?” ก่อนเขามายังเห็นคุยกับตาต้าดีๆอยู่นะเว้ย!

“ปอมพาลไง ไปไกลๆเลย” ยิ่งพูดดูเหมือนปอมปอมจะยิ่งเคือง มาทำหน้าตาไม่รู้เรื่อง เคืองอ่ะ ฮึ!

“เฮ้ย อะไรวะ??”

ชีวางงกับอารมณ์น้อง อยู่ๆก็โดนเหวี่ยงเสียอย่างนั้น วันก่อนก็ร้องไห้ไปทีแล้ว แล้ววันนี้มันอะไรกันอีก เขายังไม่ทันทำอะไรให้เลยนะ??

“มีเรื่องอะไรกันเหรอ?”

อาร์ดิวที่เอากระเป๋าไปเก็บในห้องแล้วเดินเข้ามาหา ชีวาหันมาฟ้องเพื่อนอย่างต้องการพวก ก็ตาต้าแค่นั่งยิ้มเฉย ไม่เข้าข้างเขาบ้างเลยนี่หว่า

“ดูน้องนายดิอาร์ดิว อยู่ดีๆมาโกรธฉันเรื่องอะไรวะเนี่ย?”

อาร์ดิวมองทั้งสองคนสลับกันไปมา ท่าทางกะปอมน้อยจะแผลงฤทธิ์ล่ะสิท่า แย่หน่อยนะชีวา

“ปอมปอมโกรธอะไร?” อาร์ดิวเอ่ยถามน้องเพื่อจะช่วยเพื่อนเคลียร์ปัญหา

“เปล่า ปอมไม่ได้โกรธนะ ป๋ามั่วอ่ะ” ตัวแสบโยนความผิดไปให้อีกคนซึ่งๆหน้า

“อ้าว ก็เมื่อกี้…?”

“เมื่อกี้อะไร ปอมแค่คุยกับตาต้าเฉยๆเหอะ ไปดีกว่า คนแก่แถวนี้ชอบใส่ร้าย”

“อ้าว??”

ตัวแสบย่นจมูกใส่แล้วลุกหนีไปเฉย ชีวาทำได้แค่ร้องอ้าว ก็เห็นๆอยู่ว่าเมื่อกี้น้องเหวี่ยงเขา ตาต้าเป็นพยานได้เลยนะ แล้วทำไมมันกลายเป็นเขาใส่ร้ายน้องไปแล้วนี่??

“ทำใจนิดนึงนะชีวา หึ หึ”

อาร์ดิวตบบ่าเพื่อนปุๆแล้วเดินตามน้องไป ตาต้าลุกจากม้านั่งมายืนข้างๆชีวา ทำหน้าเหมือนจะหัวเราะแต่ก็ไม่ได้หัวเราะ คงพยายามกลั้นเอาไว้เต็มที่แล้ว เด็กหนุ่มตบบ่าปลอบใจเพื่อนสองป้าบก่อนเดินจากไปอีกคน ปล่อยให้ชีวายืนเป็นหมางงอยู่คนเดียว มันอะไรกันวะเนี่ยยยย???





+++++++++++++++





“อาร์ดิวววว”

หลังเลิกเรียนขณะที่พวกอาร์ดิวกำลังจะกลับบ้านมิมิวก็วิ่งเข้ามาหาท่าทางร้อนใจ เด็กสาวหอบจากการวิ่งมาทำให้พูดติดๆขัดๆ อาร์ดิวจึงลูบหลังให้เพื่อนแล้วบอกให้ค่อยๆพูด สาวน้อยหนึ่งเดียวในกลุ่มจึงเล่าเรื่องร้อนใจของตนเองให้เพื่อนๆฟังเพราะไม่รู้จะทำเช่นไรดี ทั้งหมดไปหาที่นั่งคุยกัน มิมิวจึงเริ่มเล่าว่าเมื่อครู่เธอกับการ์ฟเจอเชนมาหาถึงหน้าโรงเรียน เชนมาเพื่อท้าแข่งรถกับการ์ฟ โดยมีเดิมพันว่าถ้าใครชนะจะได้มิมิวไป หากการ์ฟเป็นฝ่ายชนะ เชนก็จะไม่มายุ่งเกี่ยวกับมิมิวและการ์ฟอีก การ์ฟก็บ้าไปรับคำท้าจากเชนเฉยเลย ทำให้มิมิวเดินหนีออกมาจนมาเจออาร์ดิว

“เรื่องมันบานปลายใหญ่โตไปหมดแล้วนะเนี่ย” ชีวาแสดงความคิดเห็น ซึ่งทุกคนก็เห็นด้วยว่ามันเกินไปแล้วจริงๆ

“พวกเขาท้าพนันกันโดยไม่ถามคนกลางอย่างมิวสักนิดเลยอ่ะ เห็นมิวเป็นตัวอะไร!!”

ด้วยความโมโหทำให้มิมิวเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ อาร์ดิวต้องคอยลูบหลังลูบไหล่เพื่อนให้ใจเย็นลง เพราะถ้ามิมิวโกรธคงไม่ดีแน่ เห็นบ้องแบ๊วน่ารักแบบนี้อย่าให้ถึงเวลาโกรธแล้วกัน งานจะเข้าทุกคนไม่มีเหลือ

“เราว่า คุยกับพวกเขาให้รู้เรื่องไปเลยดีกว่าไหม ใจคนเราเอาไปพนันกันได้เหรอ?” ตาต้าเสนอทางออก

“มิมิวก็บอกเชี่ยเชนไรนั่นไปเลยสิว่าชอบไอ้หน้าหยิ่ง อย่ามาวุ่นวายอีก” ชีวาช่วยเสริม

“เพราะเขารู้ไงว่ามิวชอบการ์ฟ เป็นแฟนการ์ฟ เขาถึงเข้ามาวุ่นวายกับมิวอ่ะ” มิมิวว่าเสียงสะบัด

“อ้าว? เชี่ยแล้วไง”

ชีวาพึมพำ เหล่มองอาร์ดิวแล้วทำหน้าแปลกๆ ซึ่งอาร์ดิวก็มีสีหน้าไม่ต่างกัน คงมีแต่ตาต้ากับปอมปอมที่มองคนนั้นคนนี้ตาปริบๆเพราะไม่รู้เรื่องอะไรกับเขา รู้แต่ว่าตอนนี้มิมิวกำลังโกรธ มิมิวขอร้องให้เพื่อนๆช่วยเธอ แต่ทุกคนก็ไม่รู้ว่าจะช่วยเธอได้อย่างไร ยิ่งอาร์ดิวยิ่งอยากหนีห่าง แค่ตอนนี้ก็เกี่ยวพันกันยุ่งเหยิงไปหมดแล้ว บอกมิมิวให้ไปคุยกับการ์ฟให้รู้เรื่องจะดีกว่า เพราะเขาเป็นคนนอกคงพูดอะไรลำบาก มิมิวจึงว่าจะลองคุยดู แต่อาร์ดิวต้องไปเป็นเพื่อนเธอ


พอดีกับที่การ์ฟตามมาเจอทำให้ทั้งคู่ได้คุยกัน แต่คุยกันแล้วกลับไม่เข้าใจกันยิ่งกว่าเดิม เพราะการ์ฟมั่นใจว่าตนเองต้องชนะแน่ถึงได้รับคำท้าไปเพื่อตัดปัญหา ไม่ได้นึกถึงว่ามันจะทำให้แฟนสาวรู้สึกไม่ดี พอมิมิวบอกให้ยกเลิกมันไป ไม่ว่าอย่างไรตัวเธอก็ไม่มีทางจะปันใจไปให้เชนอยู่แล้ว ถึงเชนจะมาวุ่นวายหากไว้ใจเธอเรื่องมันก็จบ แต่ศักดิ์ศรีบ้าบอของการ์ฟมันค้ำคอทำให้ยกเลิกไม่ได้ มิมิวจึงโกรธจนไม่อยากพูดด้วย

“คุณห่วงศักดิ์ศรีมากกว่าห่วงคนที่คุณบอกว่ารักสินะ”

อาร์ดิวเอ่ยถามเสียงเรียบ การ์ฟจึงเบนสายตาจากแฟนสาวมาที่เพื่อนของแฟนอย่างอาร์ดิวแล้วตอบกลับเสียงเรียบพอกัน

“เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับนายเลยนะ”

“จะว่าผมแส่ก็ได้ แต่นั่นเพื่อนผม เขาเป็นคนไม่ใช่สิ่งของที่คุณจะเอาไปพนันขันต่อกับคนอื่น พวกคุณโกรธกัน แค้นกันเรื่องอะไรผมไม่รู้ แต่ช่วยให้เกียรติผู้หญิงบ้างสักนิด มันคงไม่ทำให้ศักดิ์ศรีของพวกคุณลดลงมาสักเท่าไหร่หรอก”

“ขอโทษที ฉันไม่จำเป็นจะต้องให้นายมาสอน”

ว่าจบการ์ฟก็เดินออกไปเลย ในเมื่อมิมิวไม่อยากคุยตอนนี้เขาก็จะยังไม่คุย ที่เขาต้องรับคำท้าเพราะมั่นใจแน่ว่าตนเองต้องชนะ ทำไมมิมิวไม่เข้าใจกันบ้างไม่รู้ อาร์ดิวมองตามหลังการ์ฟแล้วถอนใจแรงๆ รู้สึกขัดใจอย่างบอกไม่ถูก จะหัวแข็งอะไรหนักหนา บ้าบอสิ้นดี!





+++++++++++++++





สนามแข่งรถ


การ์ฟและเชนยืนเผชิญหน้ากันอยู่ข้างตัวรถของแต่ละคน มีคนคุมสนามอยู่ตรงกลางเพื่อตกลงทำความเข้าใจกันก่อนลงแข่ง ถึงแม้ที่นี่จะไม่มีกฎ ไม่มีกติกา แต่สิทธิ์ขาดก็อยู่ที่เจ้าของและคนคุมที่จะคอยดูแลไม่ให้เกิดปัญหาตามมาในภายหลัง

มิมิวขอตามมาดูเพราะเป็นห่วงการ์ฟ ทำให้อาร์ดิว ปอมปอม ตาต้า และชีวาต้องตามมาด้วย ทั้งหมดยืนรวมกันอยู่ข้างสนาม การแข่งที่ไร้กฎแบบนี้ทำให้ทุกคนหวั่นใจ เมื่อการแข่งขันเริ่มขึ้นทุกคนต่างก็ลุ้นระทึกไปกับสองหนุ่มที่ประลองความเร็วในสนาม หากเกิดพลาดพลั้งขึ้นมาอาจถึงชีวิตเลยก็เป็นได้ แต่ดูเหมือนผู้ที่แข่งจะไม่เกรงกลัวสักนิด เพราะยังคงเร่งความเร็วและต่างก็ใช้กลเม็ดของตนเองเพื่อทิ้งห่างคู่แข่งจนน่าหวาดเสียว คนที่ลุ้นยิ่งกว่าใครคงเป็นมิมิวที่แทบยืนไม่ติด เธอกลัว แต่ก็ยังอยากมา ยิ่งรถทั้งสองคันขับฉวัดเฉวียนเฉียดกันไปมายิ่งทำให้ใจเธอสั่น กว่าจะจบการแข่งขันหัวใจเธอก็แทบหยุดเต้น ผลการแข่งขันออกมาว่าการ์ฟเป็นฝ่ายชนะ แต่เชนกลับไม่ยอมรับมันทำให้ทั้งคู่จะมีเรื่องกัน มิมิวกับเพื่อนๆรีบเข้ามาหาการ์ฟ ขณะที่คนอื่นช่วยแยกทั้งคู่ออกห่างกัน

“อย่ามาทำนิสัยแบบนี้ ขี้แพ้ชวนตี กูโคตรเกลียด!”

การ์ฟผลักอกเชนแรงๆ สองหนุ่มจ้องตาอย่างไม่ยอมกัน เชนเบือนสายตาไปมองมิมิวที่อยู่ด้านหลังการ์ฟ เด็กสาวเมินมองไปทางอื่นทำให้คนมองกำหมัดแน่นก่อนจะฮึดฮัดจากไป การ์ฟถอนใจเฮือกใหญ่กับสถานการณ์ หันกลับมาเพื่อที่จะคุยกับมิมิวก็ถูกฝ่ามือเรียวตบหน้าเต็มแรง ทุกคนพากันอึ้งที่มิมิวทำแบบนั้น โดยเฉพาะคนโดนตบอย่างการ์ฟ

“มิวไม่ใช่ของเล่น อย่าเล่นกับความรู้สึกของมิวอีก”

เด็กสาวเอ่ยบอกเท่านั้นแล้วก้าวออกไป ชีวาส่ายหน้าก่อนคว้ามือกะปอมน้อยแล้วเดินตามมิมิว ตาต้ามองการ์ฟอย่างเห็นใจแต่ช่วยอะไรไม่ได้ รั้งแขนอาร์ดิวที่มองการ์ฟอยู่ให้เดินไปด้วยกัน อาร์ดิวหันมามองเพื่อนที่พยักหน้าเป็นเชิงให้ออกเดิน เด็กหนุ่มเหลียวกลับไปมองการ์ฟที่ยืนนิ่งอยู่ที่เดิมแล้วจึงเดินตามแรงดึงของเพื่อน ในใจเกิดรู้สึกสงสารขึ้นมาแว้บหนึ่ง แต่ก็นะ ทำตัวเองทั้งนั้นนี่นา





เชนที่เดินออกมาก่อนหน้านี้เมื่อเห็นมิมิวแยกจากกลุ่มจึงก้าวมาดักหน้า มิมิวมองเด็กหนุ่มตรงหน้าตาขวาง ตอนนี้เธอกำลังอารมณ์ไม่ดี ไม่พร้อมจะคุยกับใครทั้งนั้น ชีวาที่ตามหลังมาเห็นเชนยืนดักหน้าเพื่อนอยู่จึงก้าวเข้าไปหา เอาตัวบังทั้งมิมิวและปอมปอมไว้ เชนมองชีวาอย่างไม่พอใจ ก่อนส่งผ่านคำพูดไปให้มิมิว

“เราไม่ยอมแพ้หรอกนะ”

ทั้งสองคนมองตากันนิ่งอยู่อย่างนั้นราวอ่านใจ ก่อนที่มิมิวจะพูดขึ้นมาอย่างพยายามข่มใจ

“นายแพ้ตั้งแต่แรกแล้วล่ะเชน ไม่ว่านายกำลังคิดจะทำอะไรอยู่ อยากใช้เราเป็นเครื่องมือหรืออะไรก็ช่าง เราขอบอกว่านายไม่มีทางชนะ... เพราะเราเกลียดนาย

“แต่เราชอบเธอ”

เชนสวนกลับโดยไม่ต้องหยุดคิด แต่คำพูดกับการกระทำของเขามันช่างสวนทางกันจนมิมิวไม่คิดจะเชื่อ ถ้าชอบเธอจริงต้องไม่หลอกเธอสิ ถ้าชอบเธอจริงต้องไม่ใช้เธอเป็นเครื่องต่อรองกับคนอื่นสิ ถ้าชอบเธอจริงๆล่ะก็ เด็กสาวเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย มองเชนที่มีท่าทีมาดมั่นนั่นแล้วจึงเอ่ยบอก

“จะบอกอะไรให้นะ คนอย่างมิมิว ถ้าจะชอบใครสักคน คนๆนั้นต้องไม่ใช่คนที่ใช้เธอเป็นของพนันเพื่อความสะใจของตัวเอง เห็นว่าฉันหัวอ่อนสินะ เชื่อคนง่ายล่ะสิ ไม่มีปากมีเสียงใช่ไหม จะทำอะไรก็ได้งั้นเหรอ ถ้าอย่างนั้นก็ทำเลย แต่อย่าคิดว่าจะได้ความรู้สึกดีๆจากฉัน เพราะถ้าฉันได้เกลียดแล้ว ต่อให้มาตายตรงหน้า ฉันก็ไม่มีวันเห็นใจหรอก!!”

มิมิวกระแทกเสียงใส่ก่อนก้าวฉับๆจากไปไม่เหลียวหลัง อาร์ดิวกับตาต้าที่ตามเข้ามาสมทบและทันเห็นสถานการณ์มองเชนที่มีท่าทีอึ้งสนิทแล้วหัวเราะเบาๆ คงจะไม่เคยเห็นมิมิวที่เป็นแบบนี้สินะ อาร์ดิวหันไปมองชีวาแล้วทั้งคู่ก็ส่ายหน้า รู้สึกสมเพชทั้งการ์ฟและเชนขึ้นมา คนพวกนี้คงไม่รู้ว่ามิมิวเวลาโกรธไม่มีหน่อมแน้มให้เห็นหรอกนะ หึ!



อาร์ดิวกับปอมปอมและชีวาอาศัยรถของมิมิวกลับบ้าน ตาต้ามีพี่ชายมารับกลับ ถูกพี่ชายบ่นด้วยที่ออกมาสถานที่แบบนี้ เมื่อตาต้าแยกไปแล้วคนที่เหลือจึงขึ้นรถของบ้านมิมิว ตลอดทางกลับบ้านมิมิวเอาแต่นั่งเงียบ อาร์ดิวไม่กล้าพูดอะไรกับเพื่อนในตอนนี้ เพราะไม่รู้ว่าเพื่อนกำลังคิดอะไรอยู่ สถานการณ์ที่เกิดขึ้นมันส่งผลต่อเขาด้วย เด็กหนุ่มได้แต่คิดว่าถ้าตนเองกับการ์ฟไม่เจอกันคงดีกว่านี้...

“อาร์ดิว”

“หะ... หา??” อยู่ๆมิมิวก็เรียกขึ้นมาทำให้คนที่ตกอยู่ในภวังค์ขานรับงงๆ

“ขอบใจนะ”

“เรื่องอะไร?”

“ขอบใจที่มาเป็นเพื่อน... ปอมปอมกับชีวาด้วย”

มิมิวบอกขอบคุณ ซึ่งทุกคนก็ไม่ได้เห็นว่ามันลำบากอะไรอยู่แล้วจึงต่างก็ยิ้มให้เธอที่หันกลับมามอง มิมิวเงียบไปชั่วครู่ก่อนพูดขึ้นมาเสียงเบา

“บางทีมิวก็เหนื่อย”

“มิมิว…”

“มิวไม่เป็นไร”

เด็กสาวยิ้มให้เพื่อน แต่รอยยิ้มมันไม่ได้สดใสเหมือนที่เธอเคยเป็น ความเงียบเริ่มปกคลุมบรรยากาศในรถอีกครั้งเมื่อมิมิวหันกลับไป อาร์ดิวถอนใจเบาๆ บางทีมิมิวคงต้องการเวลา อาจจะต้องใช้เวลา...


ไม่เพียงอาร์ดิวกับมิมิวที่กำลังเกิดปัญหาขึ้นมาในใจ อีกสองหนุ่มที่นั่งเงียบอยู่ในรถก็เช่นเดียวกัน ปอมปอมนั่งพิงไหล่พี่ชายไม่ให้ตัวโดนชีวาที่นั่งข้างๆทั้งที่พื้นที่มันก็ไม่ได้กว้างมากมาย สายตาคมมองน้องที่เอนตัวห่างไปแล้วเจ็บลึกๆ มือค่อยเลื่อนไปชนมือของน้องที่วางอยู่บนเบาะ ปอมปอมจะชักมือหนีแต่ชีวากลับจับเอาไว้ กุมมือเรียวกดลงกับเบาะ ดวงตาเรียวของหนุ่มน้อยตวัดมามองอย่างไม่พอใจแต่ชีวาก็ไม่คิดจะปล่อย ยื้อกันเพียงไม่นานปอมปอมก็เลิกต่อต้าน เมื่อไม่เห็นทางว่าชีวาจะยอมปล่อยจึงวางมือนิ่งๆให้พี่กุมไปจนถึงบ้าน...







TBC






ขอบคุณที่คอยติดตามค่ะ บวก+บวก

วันใหม่ค่ะ :L2:

ปล. วันเสาร์นี้กลับบ้านแล้วนะเออ อีกสิบวันพบกันใหม่ค่ะ : )

หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((5)) 04_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 04-01-2013 03:59:42
ชีวาเมื่อไหร่จะรู้ใจตัวเองสักทีเนี่ย
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((5)) 04_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 04-01-2013 06:05:20
ป๋า เมื่อไหร่จะเข้าใจเนี้ย

สงสารปอมน้อยน้าาา
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((5)) 04_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: threetanz ที่ 04-01-2013 07:15:13
ส่อแววจะได้กินเส้นซะแล้วว. น้องกับป๋า กำลังเข้าใจผิดกันอยู่นะะะะ

อาร์ดิวกับการ์ฟก็ยังไม่เห็นแววว่าจะลงเอยกันได้เลย 55
มาต่อไวไวนะคะ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((5)) 04_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: PK37 ที่ 04-01-2013 07:21:01
โห...จะมีเรื่องมาจากไหนไม่รู้ แต่การมาระบายกับคนอื่นที่เค้าไม่ได้รู้เรื่องเลยนี่เราไม่ชอบจริงๆ เลยอ่ะ

น้องปอมปอมมีที่ปรึกษาเป็นตาต้าน้อยนี่เอง ถ้าชีวาไม่สนใจปอมปอมก็บอกนะเราจะได้ไปจีบ  :laugh:

คนบางคนก็เชื่อมั่นในตัวเองสูงจนไม่คิดถึงผลที่จะตามมาถ้ามีความผิดพลาดเกิดขึ้น  :เฮ้อ:

หัวแข็งอีกต่างหาก ทั้งๆ ที่ยังไม่รู้จักเขาดีพอแต่ไปตั้งป้อมไม่ชอบเขาซะแล้ว

มิมิวคงทนการ์ฟได้ไม่นานหรอกแบบนี้ แต่ถ้าการ์ฟเป็นคู่กับอาร์ดิวแล้วยังมาทำตัวแบบนี้ก็ไม่ไหวนะเนี่ย  :เฮ้อ:

ชีวากับปอมปอมเมฆหมอกก็ยังปกคลุมกันต่อไป  :เฮ้อ:

เป็นกำลังใจให้นะคะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((5)) 04_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: N.T.❁ ที่ 04-01-2013 07:41:22
เมื่อคืนรอไม่ไหวเลยสลบไปก่อน 5555

เรื่องมันชักจะไปกันใหญ่แล้วนะเนี่ย
ทั้งป๋ากะปอมปอม .. แนะนำให้ปอมปอมงอนต่อไปเรื่อยๆ เดี๋ยวดีเอง 555
เหมือนตอนนี้ป๋าจะสับสนในตัวเองอยู่
ส่วนการ์ฟกะอาร์ดิว คู่นี้คงอีกนานแน่ๆกว่าจะลงเอยกัน - -"
เราเบื่อมิมิว 55555 อะไรก็ไม่รู้ (จริงๆคือเพราะมีเธอ ดิวกะการ์ฟเลยลำบากไง 55555)

ปล. ตาต้าน่ารักที่สุดดดดด  :-[
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((5)) 04_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: NOoTuNE ที่ 04-01-2013 07:50:04
สะใจ น้องมิมิวนู๋เริ่ดมากลูก  o13


ส่วนอิตาพี่อึนชีวา โดนซะมั่งแค่นี้น้อยไปมั้ง รู้ไหมว่าที่ผ่านมาน้องต้องเจ็บแค่ไหน สม  :a14: :a14: ปอม ปอม อย่าไปยอมง่ายๆเนอะ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((5)) 04_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: SaJung13 ที่ 04-01-2013 08:54:58
ปอม ปอม น้อย น่ารักมากกกก o18
สงสารปอมปอมจังทะเลาะกับชีวาแบบนี้อ่ะ
เมื่อไรจะคืนดีกันสักทีนะ  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((5)) 04_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ชัดเจนกาบ ที่ 04-01-2013 08:56:22
หน่วงกันดีแท้ๆ ตั้ง10วันแนะ เฮ้อ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((5)) 04_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 04-01-2013 11:21:17
มิมิวเธอแน่มากกกกก o13
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((5)) 04_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 04-01-2013 12:18:06
มิมิวไม่ยุติธรรมนา
ตบเชนด้วยดิ การ์ฟโดนคนเดียวขายหน้าประชาชี
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((5)) 04_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 04-01-2013 12:41:34
จะสงสารใครดีเนี๊ย เรื่องพัวพันกันหมดเลย ยังไม่ชัดเจนสักคู่เลย เฮ้อ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((5)) 04_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 04-01-2013 14:38:10
ปอมน้อย ป๋าเค้าไม่ได้แอบชอบอาร์ดิวหรอกน่าาาา
แค่ยังไม่รู้ใจตัวเองว่าแอบชอบลิง?อยู่ต่างหากกกก


ลุ้นสุดตัวว่าการ์ฟกับอาร์ดิวจะยังไง
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((5)) 04_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: greensnake ที่ 04-01-2013 14:48:39
เรื่องราวเลยเถิดใหญ่โตเลย เพราะศักดิ์ศรีคำเดียวแท้ๆเลย :เฮ้อ:
ถ้าต้องเลิกกันก็ไม่แปลกหรอก การ์ฟยึดมั่นความคิดตัวเองซะขนาดนั้น
เดี๋ยวเลิกกันจริงๆการ์ฟก็จะมาพาดพิงถึงอาร์ดิวอีกน่ะสิ
ส่วนป๋ากับกะปอมน้อยนี่ใช่ย่อย กลายเป็นภาวะเงียบกันไปหมด
แนะนำว่าให้ปอมปอมเป็นอย่างนี้ไปนานๆหน่อย เป็นการกระตุ้นอีกทาง
ไม่อย่างนั้นป๋าก็จะไม่รู้ไม่ชี้อย่างนี้ไปเรื่อยๆ พอน้องเมินหน่อยถึงรู้สึก
เวลาตาต้าน้อยอยู่กับกะปอมน้อยแล้วน่ารักคูณสองเลยเนาะ :กอด1:
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :L2:
+1และเป็ดจ้า
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((5)) 04_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 04-01-2013 16:55:34
น้องปอมน่าสงสารจัง เมื่อไหร่ป๋ามันจะรู้ตัวเนี่ย
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((5)) 04_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: nemesis ที่ 04-01-2013 19:44:02
ชีวาอย่าสายตายาวมากได้ไหม
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((5)) 04_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 04-01-2013 20:05:00
สะใจอ่ะสองคนนั้นสมควรจะโดนมิมิวเกลียดแล้วล่ะ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((5)) 04_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 04-01-2013 20:25:45
สิบวันเจอกันคร้าบ ลางานได้ตั้งสิบวันเลยเหรอ
ชีวารู้ใจตัวเองแล้วอะดิ
เชน และกราฟ คงรู้สึกบ้างเนอะที่ทำให้มิมิวเสียใจ
ขอบใจจ้า
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((5)) 04_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 04-01-2013 20:38:23
ก่อนอื่นต้องกราฟต้องถามใจตัวเองก่อนว่ารักมิมิวจริง หรือแค่ผูกพัน

ตอนนี้ยิ่งไม่เข้าใจกันอยู่ด้วย ถ้ามีเรื่องกันอีก แย่แหงๆ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((5)) 04_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: nong PeePee ที่ 04-01-2013 23:13:55
ปอมปอมมีวีนด้วย น่ารักอ่ะ
อาร์ดิวเมื่อไหร่เนี่ยจะใกล้กันกว่านี้  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((5)) 04_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 12-01-2013 20:02:48
 :3059:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((6)) 20_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: wanmai ที่ 20-01-2013 23:22:29
Magica Café



Magic (6)





“ปอมปอม เดี๋ยวก่อน”

ชีวาคว้าแขนเรียวเอาไว้ก่อนที่เจ้าของชื่อจะได้เข้าบ้าน อาร์ดิวหันกลับมามองทั้งสองคนแล้วก็เดินเข้าบ้านไป ปล่อยให้คุยกันให้รู้เรื่อง เพราะรู้สึกตงิดๆตั้งแต่นั่งรถกลับจากสนามแข่งแล้วว่าสองคนนี้ต้องมีปัญหากันอยู่แน่ๆ

มือของชีวายังจับแขนน้องอยู่ สายตาคมมองน้องที่ไม่ยอมหันมามองเขาเลย ตกลงระหว่างเขากับปอมปอมมันเกิดอะไรขึ้น ปัญหามันอยู่ตรงไหนกัน เรื่องที่น้องร้องไห้นั่นอีก เขาลบมันออกไปไม่ได้ ยังคงจำภาพนั้นได้ชัดเจน

“ถ้าป๋าไม่มีอะไร ปอมขอเข้าบ้านนะ” ปอมปอมเอ่ยบอกเมื่อชีวาเอาแต่มองหน้าเขา ไม่พูดธุระของตัวเองเสียที

“เข้าบ้านเถอะ บางทีปอมปอมคงไม่อยากคุยกับพี่เท่าไหร่”

พูดไปแล้วชีวาก็รู้สึกผิดเพราะน้องทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อีกแล้ว เขาไม่ได้ตั้งใจประชด แต่มันเผลอปากไปแล้วจะทำอย่างไร แถมตอนนี้น้องคงไม่พร้อมที่จะคุยกันแบบจริงจังเพราะตั้งท่าจะหนีลูกเดียว

“ปอมจะเข้าบ้าน”

ปอมปอมบอกอีกครั้ง หน้าเบ้เหมือนอยากจะร้องออกมาเต็มแก่แล้ว ชีวาค่อยคลายมือที่จับแขนน้องเอาไว้ มองตามหลังน้องที่วิ่งเข้าบ้านไปทันทีที่เขาปล่อยมือแล้วเด็กหนุ่มก็ทอดถอนใจ หัวใจเขาเหมือนมีใครเอาอะไรหนักๆมาถ่วงไว้อย่างไรไม่รู้ ห่อเหี่ยวเป็นบ้า





.....................................





ปอมปอมก้าวเร็วๆเข้ามาในบ้าน กะจะตรงขึ้นห้องของตนเองทันทีแต่ก็ชะงักเท้าเมื่อเห็นว่ามีใครยืนยิ้มอยู่กลางบ้าน ดวงตาเรียวรีเบิกกว้างขึ้น ริมฝีปากอ้าหวอ ก่อนตัวผอมบางนั้นจะพุ่งเข้าไปกอดคนๆนั้นเสียเต็มรัก

“ปะป๊า~~”

หนุ่มน้อยเอ่ยเรียกพร้อมกับกอดคุณพ่อของตนเองเสียแน่นหนึบ คุณพ่อหัวเราะเสียงดัง เหวี่ยงตัวผอมๆของลูกลิงไปมาแล้วจึงเอ่ยถาม

“ไงไอ้หนู เซอร์ไพร์สไหม?”

“สุดๆเลยอ่ะ จะกลับมาก็ไม่บอกปอมกับดิวเลย” ปอมปอมทำปากยื่นงอนๆ ทั้งที่จริงกำลังดีใจมาก ก็ปะป๊าของเขากลับมาทั้งทีนี่นา~

“บอกก็ไม่ประหลาดใจสิ”

“โหย~ คิดถึงป๊ามากเลยครับ”

“ป๊าก็คิดถึง”

บอกคิดถึงกันไปมาแล้วสองพ่อลูกก็หัวเราะ ตอนนี้ปอมปอมดีใจจนลืมไปแล้วว่าเมื่อครู่ตนเองกำลังรู้สึกแย่แค่ไหน อารมณ์เปลี่ยนไปได้ง่ายๆสมเป็นปอมปอม

“แล้วหม่ามี้ไปไหนอ่ะฮะ?” หนุ่มน้อยเอ่ยถามถึงคุณแม่ เหลียวมองหาเมื่อไม่เห็นว่าอยู่ด้วยกันตรงนี้

“โน่น ลากอาร์ดิวไปดูของฝากในห้องแล้วเรียบร้อย เห่อ”

ท้ายประโยคคุณพ่อแอบกระซิบ ปอมปอมอมยิ้มขำ ก่อนสองพ่อลูกจะกอดคอกันขึ้นบ้านไป




...................................




บนห้องนอนกว้างของพ่อกับแม่เต็มไปด้วยของฝาก ท่าทางคุณแม่จะเห่อเหมือนอย่างที่คุณพ่อว่า เพราะค้นอันนั้น หยิบอันนี้มาให้อาร์ดิวเยอะแยะไปหมด ภูมิใจนำเสนอมากๆเลยทีเดียว อาร์ดิวนั่งมองคุณแม่ที่หาของมาให้เขายิ้มๆ ท่าทางท่านช่างดูมีความสุข เขาเห็นแล้วก็พลอยสุขไปด้วย

“อ๊ะ เจอแล้ว”

คุณแม่อุทานอย่างดีใจเมื่อหาของที่ต้องการพบ มันเป็นสร้อยที่ทำมาจากเชือกถัก มีจี้รูปวงรีเป็นเทอร์ควอยส์ (Turquoise) สีเขียวอมฟ้า มีความเชื่อกันว่าอัญมณีชนิดนี้จะนำสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิตของผู้สวมใส่ มักใช้เป็นเครื่องรางนำโชค ความเชื่ออีกอย่างคือหากสีของเทอร์ควอยส์คล้ำลงจะแสดงถึงลางไม่ดีสำหรับเจ้าของ

“ใส่ไว้คุ้มครองตัว จะได้มีแต่สิ่งดีๆเข้ามาในชีวิต”

“ขอบคุณครับแม่”

อาร์ดิวรับสร้อยจากคุณแม่มาสวม แสงสว่างสีเขียวเรืองขึ้นมาแว้บหนึ่ง อาร์ดิวย่นหัวคิ้วอย่างสงสัย ขณะนั้นเองปอมปอมก็เข้ามาในห้องพร้อมคุณพ่อ คุณแม่จึงไปหยิบสร้อยอีกเส้นมาให้ปอมปอมใส่ ของปอมปอมเป็นสร้อยบุษราคัมสีสดใส

“สีเหลืองของบุษราคัมแสดงถึงความสดใสและอบอุ่น ช่วยปัดเป่าสิ่งไม่ดีออกไปให้ห่างกาย”

ปอมปอมยิ้มกว้างอย่างชอบใจเมื่อได้ของจากคุณแม่ ส่งให้คุณแม่ช่วยใส่ให้แล้วจึงเอาสร้อยตนเองไปเทียบกับของพี่ชาย มีแสงสว่างเรืองๆเกิดขึ้น คราวนี้อาร์ดิวแน่ใจว่าตนเองไม่ได้ตาฝาดไปเมื่อปอมปอมเองก็เห็น

“หม่ามี้ มันมีแสงด้วยอ่ะ”

หนุ่มน้อยบอกเสียงตื่น คุณแม่หันไปมองคุณพ่อแล้วพากันอมยิ้ม พาลูกๆทั้งสองคนมานั่งคุยกันถึงเรื่องที่ไม่เคยบอกกับใครที่ไหน เรื่องที่ว่าคุณแม่เองก็มีความพิเศษบางอย่างอยู่ในตัวเหมือนอาร์ดิว

ความพิเศษนี้มันเหมือนจะสืบทอดต่อกันมาทางสายเลือด เพราะแทบทุกคนในสายตะกูลของคุณแม่ต่างก็มีความพิเศษอย่างน้อยหนึ่งอย่าง คุณแม่เองก็ด้วย แต่ที่ไม่เคยบอกเพราะไม่ได้คิดว่ามันสำคัญอะไร จนเมื่ออาร์ดิวรู้สึกแย่กับเรื่องความต่างที่มี พวกท่านจึงได้ปรึกษากันว่าถึงเวลาควรจะบอกลูกๆได้แล้ว อาร์ดิวจะได้ไม่รู้สึกว่าตัวเองเป็นตัวประหลาด เพราะถ้าอาร์ดิวประหลาดคุณแม่ก็ต้องประหลาดด้วย

“มี้กับดิวมีพลังบางอย่างที่พิเศษกว่าคนอื่น แต่ปอมไม่เห็นมีเลย ถ้างั้นในบ้านนี้ปอมก็เป็นตัวประหลาดสิ”

ปอมปอมแบมือทั้งสองข้างแล้วจ้องมัน บ่นเสียงออดที่ตนเองไม่เหมือนใครในบ้าน คนอื่นๆพากันอมยิ้ม ก่อนที่คุณพ่อจะเอ่ยบอก

“พ่อก็ไม่มี ถ้างั้นพ่อก็ประหลาดด้วยสิ”

ปอมปอมหันขวับมามองคุณพ่อ แกล้งทำเป็นตกใจตาโตแล้วว่า

“ว้า ทำไมบ้านเรามีแต่คนประหลาดเนี่ย”

เพราะอย่างนั้นเลยโดนคุณพ่อ คุณแม่ และคุณพี่ชายหยิกแก้มกันคนล่ะหมับอย่างหมั่นเขี้ยวตัวแสบ



เรื่องที่สองพี่น้องได้รับรู้มาไม่ได้ทำให้ทั้งคู่ตกใจมากมายแต่อย่างใด เพราะชินกับการที่อาร์ดิวมองเห็นนิมิตมาตั้งนานแล้ว หากจะมีเรื่องแปลกประหลาดมหัศจรรย์พันลึกมากกว่านี้ก็คงไม่ได้ทำให้สองพี่น้องแปลกใจสักนิด ก็ครอบครัวพวกเขามันพิเศษนี่นา





+++++++++++++++





ภายในห้องนอนของอาร์ดิว เจ้าของห้องนอนหลับใหลอย่างเป็นสุข เสียงครางเบาๆดังเล็ดลอดออกมาจากปากบาง ก่อนที่มันจะดังกระชั้นขึ้นเรื่อยๆพร้อมลมหายใจหอบถี่ ร่างเด็กหนุ่มเริ่มเกร็ง สะโพกบิดส่ายไร้ทิศทาง มือเรียวจิกหมอนแน่น สีหน้าเหยเกราวกำลังทรมานถึงขีดสุด ก่อนเสียงครางครวญครั้งสุดท้ายจะสิ้นสุดลงพร้อมกับที่เขาดีดตัวลุกขึ้นมานั่ง

อาร์ดิวหอบหายใจหนัก ใบหน้าแดงก่ำ เมื่อลมหายใจกลับเข้าสู่สภาวะปรกติแล้วเด็กหนุ่มจึงลูบหน้าตนเอง ขยับขาเล็กน้อย นิ่วหน้าเมื่อรู้สึกถึงความชื้นตรงหว่างขา ให้ตายเถอะ เขาฝันบ้าอะไรกันเนี่ย!



สายน้ำเย็นจัดค่อยไหลลงไปในท่อระบายน้ำเมื่อราดรดผ่านร่างกายของอาร์ดิว เขาต้องลุกขึ้นมาอาบน้ำตอนกลางดึกแบบนี้เพราะใครกัน ความฝันอันน่าอับอาย เขา... เขาถูกผู้ชายทำมิดีมิร้ายอ่ะ ฮือออ แถมผู้ชายคนนั้นยังเป็น... การ์ฟ


‘อาร์ดิว นายต้องเป็นบ้าไปแล้วแน่ๆ ว้ากกกกก’







+++++++++++++++






รุ่งเช้า ชีวามารอไปโรงเรียนพร้อมสองพี่น้องปอปลาเหมือนเคย เจอคุณพ่อคุณแม่ของทั้งสองคนเด็กหนุ่มก็ไหว้ทักทาย รู้สึกยินดีตามไปด้วยเพราะอาร์ดิวกับปอมปอมต้องอยู่กันสองคนพี่น้องเสียนาน เมื่อทั้งสามคนมาถึงโรงเรียนมิมิวก็เข้ามาหาอาร์ดิว ท่าทางสถานการณ์ระหว่างมิมิวกับการ์ฟจะยังไม่ดีขึ้นเลย เชนเองก็ยังคงคอยวนเวียนอยูใกล้ๆไม่ไปไหน ชอบตามมิมิวอยู่บ่อย ๆ แต่ก็แค่ตามเท่านั้น เรื่องเข้ามากวนใจน้อยลงแล้ว มิมิวอาจจะมีหงุดหงิดบ้างที่มาให้เธอเห็นบ่อยๆ

อาร์ดิวแยกกับเพื่อนๆเพราะจะรีบเอางานไปส่งครูก่อนที่จะเข้าห้องเรียน เด็กหนุ่มเดินมาที่ห้องพักครู ก้าวเดินหยุดชะงักเมื่อเจอการ์ฟที่เพิ่งออกจากห้องนั้นมาพอดี หากจะเดินย้อนกลับไปคงไม่ดีอาร์ดิวจึงรีบก้มหน้าก้มตาเดินผ่านไป พยายามทำตัวให้เล็กที่สุด แต่มันจะทำได้อย่างไรกันในเมื่อเขาไม่ได้ยืดหดได้อย่างใจเสียหน่อย แขนเรียวจึงถูกดึงไว้ อาร์ดิวหันมามองคนทำอย่างตกใจ

“ทำไมต้องเดินหนี รู้ไหมว่านายทำให้ฉันอารมณ์เสีย”

สีหน้าคนพูดดูไม่สบอารมณ์อย่างที่ว่าจริงๆ อาร์ดิวไม่ได้กลัวท่าทางเช่นนั้นของอีกฝ่ายสักนิด แต่ที่เขากลัวคือความคิดตัวเองต่างหาก พอเห็นหน้าการ์ฟใกล้ๆแบบนี้แล้วพาลนึกไปถึงความฝันเมื่อคืนขึ้นมา มันน่าอายจะตายที่คิดแบบนั้น อาร์ดิวพยายามดึงแขนตนเองออกจากอุ้งมือของการ์ฟ แต่การ์ฟก็ยังมือตุ๊กแกไม่ยอมปล่อยเสียที เขาเลยต้องทั้งบิดทั้งดึงอยู่นั่นจนคนจับเริ่มจะหมดความอดทน

“ตี๋!!”

“คุณจะมาจับผมไว้ทำไมเล่า!”

อาร์ดิวสวนกลับทันทีที่การ์ฟเสียงดังใส่ การ์ฟมองอาตี๋ตรงหน้านิ่งๆโดยไม่พูดอะไรจนคนถูกมองต้องเอ่ยถาม

“อะไร?”

“ฉันหมั่นไส้นายบอกไม่ถูก”

“อะไรของคุณเนี่ย!?”

อาร์ดิวเหวอเมื่อการ์ฟพูดว่าหมั่นไส้เขาหน้าตาเฉยแบบนั้น การ์ฟไม่ได้สนใจหน้าตาเอ๋อเหรอของอาตี๋ เด็กหนุ่มมองที่มือของตนเองจับอยู่ ก่อนจะมองหน้าอาร์ดิวแล้วเอ่ยถาม

“นายเห็นอะไรไหม?”

“ไหนว่าคุณไม่เชื่อไง?” อาร์ดิวย้อน พอจะรู้ว่าการ์ฟหมายถึงอะไร

“ก็ไม่ได้เชื่อ แค่ถามดู ฉันจับนานขนาดนี้นายไม่เห็นอะไรเลยเหรอ?”

การ์ฟยักไหล่ประกอบท่าทางการพูด หรี่ตานิดๆราวจับผิด อาร์ดิวคิ้วขมวดเมื่อเพิ่งนึกขึ้นได้ตอนการ์ฟทักนี่ล่ะว่าเขาไม่เห็นอะไรเกี่ยวกับการ์ฟเลย ก่อนเอ่ยบอกไปตามตรง

“ไม่”

น่าแปลกเหมือนกันที่มันเป็นเช่นนั้น สายตาการ์ฟสะดุดกับสร้อยที่คอของอาร์ดิว สีของเครื่องประดับชิ้นนั้นมันแปลก หรือมันจะกระทบแสงแดดเขาถึงได้รู้สึกว่ามันแวววาวขึ้นมาเรียกความสนใจจากเขา อาร์ดิวก้มมองตามสายตาการ์ฟ มือเรียวแตะสร้อยที่คุณแม่ให้มา หรือจะเป็นเพราะสิ่งนี้?

“สร้อยนี่...”

“การ์ฟ มึงส่งงานเสร็จยัง!?”

เสียงเพื่อนการ์ฟเอ่ยเรียกดังมาขัดจังหวะที่การ์ฟจะพูด เด็กหนุ่มหันไปตะโกนตอบเพื่อนว่าเสร็จแล้วก่อนหันกลับมามองอาร์ดิวอีกครั้ง ค่อยปล่อยมือที่จับแขนอาร์ดิวแล้วเดินไปหาเพื่อน อาร์ดิวหันกลับมาอีกทาง สีหน้าครุ่นคิดถึงบางอย่าง โคลงศีรษะไปมาช้าๆก่อนเดินเข้าห้องพักครูไป ไม่อยากคิดอะไรอีก





+++++++++++++++





ปอมปอมเดินออกมาจากห้องเรียนพร้อมเพื่อนหลังจากเรียนวิชาสุดท้ายของวันนี้เสร็จ หนุ่มน้อยชะงักเท้าเมื่อเห็นว่าชีวามารอ หันไปมองหน้ากันกับเพื่อนงงๆ แล้วจึงคล้องแขนกันเดินผ่านชีวาไป เพื่อนเหลียวกลับไปมองด้านหลังก็เห็นว่าชีวาเดินตามมาเงียบๆ หนุ่มน้อยหน้าแฉล้มนามน้องจูน หรือชื่อที่เจ้าตัวตั้งเองว่าเจนนี่ จึงกระซิบถามปอมปอม

“แกทะเลาะอะไรกับป๋าแกวะ?” การเรียกขานชีวาที่เหมือนกับปอมปอมเรียก บ่งบอกได้ว่าเพื่อนคนนี้สนิทกันเพียงใด

“ไม่ยุ่งสักเรื่องได้ไหมแกอ่ะ” ปอมปอมว่าหน้างอ

“ฉันเพื่อนแกป่ะ?” เพื่อนย้อนถามกวน

“ชิ!”

พอโดนประโยคดักทางแบบนั้นปอมปอมจึงต้องบอกเล่าให้เพื่อนฟัง เพื่อนของเขาก็ช่างเป็นคนดีเหลือเกิน ฟังแล้วแทนที่จะเห็นใจกลับสมน้ำหน้าเขาเสียอีก บอกมาได้ว่าให้เขาบอกป๋าไปว่าชอบ ถ้ามันพูดง่ายขนาดนั้นเขาจะเป็นอยู่แบนี้ไหม เอ้อ!

สองเพื่อนซี้มารวมกลุ่มกับอาร์ดิวและตาต้า ก่อนที่ทั้งหมดจะพากันกลับบ้านเมื่อกริ่งโรงเรียนดัง ชีวายังเดินตามมาเงียบๆเหมือนเดิม พอออกมาพ้นประตูโรงเรียนได้เจอกับพริมเด็กหนุ่มจึงแยกไปคุยกับสาวเจ้า ปอมปอมมองชีวาที่หยุดคุยกับสาวครู่เดียวก็เดินออกไป อีกสามคนที่เหลือจึงต้องเดินตาม

“ใจร่มๆนะแก” จูนรีบวิ่งตามมาปลอบเพื่อนอย่างเร็วไว

“ไม่ ฉันไม่ชอบร่ม ฉันชอบอยู่กลางแดด มันร้อนดี!!” ปอมปอมกัดฟันพูด โอ๊ย! เขาโกรธอ่ะ เรื่องอะไรไม่รู้ แต่ไม่พอใจอ่ะ!

“เฮ้ย! แกจะโกรธป๋าไม่ได้นะเว้ย นั่นแฟนเขา…”

คำพูดเพื่อนทำให้ปอมปอมชะงัก จูนยกมือปิดปากก่อนตีปากตัวเองที่พูดไม่รู้จักคิด ปอมปอมไม่ได้โทษเพื่อนที่พูดแบบนั้นออกมาเพราะมันคือความจริง ความจริงที่มันทิ่มแทงใจเขา แม้อยากจะลืมๆมันไป แต่สุดท้ายมันก็ยังเป็นความจริงที่ต้องจำให้แม่นอยู่ดี





+++++++++++++++





เมื่อกลับมาถึงบ้านชีวาก็นั่งไม่ติด เห็นอยู่หรอกว่าปอมปอมเดินหนีตอนที่เขากำลังคุยกับพริม เห็นแค่นั้นก็ทำให้เขาร้อนใจจนคุยกับพริมแทบไม่รู้เรื่องแล้ว

พอค่ำลง ทานข้าวกับครอบครัวเสร็จชีวาจึงขึ้นมาบนห้อง เอางานที่ครูสั่งออกมาทำ มือทำงาน หูกลับคอยฟังแต่เสียงว่าน้องจะมาเรียกหรือเปล่า พอไม่มีก็เริ่มลุกเดินวนทั่วห้องอย่างตัดสินใจไม่ได้ สุดท้ายทนไม่ไหวก็เดินออกไปที่ระเบียงแล้วมองห้องน้อง จะเรียกอยู่หลายทีแต่ก็ไม่เรียก เดินกลับเข้าห้องสักพักเดินออกมาใหม่อยู่อย่างนั้นจนหงุดหงิดตัวเอง

ชีวาถอนใจเมื่อเดินออกมาที่ระเบียงห้องเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ ตัดสินใจว่าเอาไงเอากัน เด็กหนุ่มปีนข้ามไปห้องของปอมปอม ทั้งที่เป็นคนบอกน้องเองว่ามันอันตราย แต่วันนี้ตนเองกลับเป็นฝ่ายปีนมาหาน้องเสียอย่างนั้น

ข้ามมายืนหน้าประตูระเบียงห้องปอมปอมแล้วชีวาก็เลื่อนเปิดประตูเข้าไป ภายในห้องนอนเงียบสนิท แต่เสียงน้ำที่ดังมาจากห้องน้ำก็พอทำให้รู้ได้ว่าน้องคงอาบน้ำอยู่ชีวาจึงจะกลับ แต่ก้าวไปได้แค่สองก้าวก็หยุด ถอนใจเสียอีกทีให้กับความบ้าของตนเอง เป็นอะไรว้า ยึกๆยักๆอยู่ได้

สุดท้ายแล้วชีวาก็เข้าไปข้างใน ในหัวคิดแล้วคิดอีกว่าจะบอกน้องว่าอย่างไรถ้าน้องออกมาเจอเขาอยู่ในห้อง ก็คนมันไม่ได้เตรียมตัวมา เดินวนไปวนมารอน้องออกมาจากห้องน้ำพร้อมคิดหาคำพูดดีๆไปด้วย พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นบนเตียงมีกระดาษแผ่นใหญ่กางอยู่ ที่ถูกขยำเป็นก้อนแล้วก็มี ชีวาขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่ามันเหมือนที่ปอมปอมเอาไปซ่อนไว้ในห้องของเขาเมื่อคราวที่แล้ว เด็กหนุ่มก้าวเข้าไปใกล้เตียงนอนอย่างวิสาสะ จะหยิบกระดาษพวกนั้นขึ้นมาดู แต่ปอมปอมที่ออกมาเห็นว่าพี่ชายข้างบ้านกำลังจะล่วงรู้ความลับของตนเองรีบวิ่งมาดึงกลับ

“ป๋าจะทำไรอ่ะ!!” หนุ่มน้อยร้องถามเสียงดัง เบี่ยงกระดาษไปซ่อนด้านหลัง

“เปล่า”

ชีวาตีหน้าไม่ถูกเมื่อถูกจับได้คาหนังคาเขา กลิ่นหอมของสบู่ที่ติดกายน้องหลังอาบน้ำเสร็จใหม่ๆแบบนี้ลอยมาแตะจมูก สายตาเจ้ากรรมดันมองผ้าขนหนูที่พันเอวน้อง ถึงจะมีอีกผืนที่ไหล่แต่มันก็ไม่ได้ปิดบังอะไรๆได้สักเท่าไหร่เลย อย่าชีวา มึงอย่าคิด!

“มองอะไรอ่ะ?”

“เฮ้ย! ไม่ได้มอง”

ปอมปอมดึงผ้าขนหนูบนไหล่ลงมาปิดหน้าอก ยืนบิดตัวเมื่อรู้สึกเขินสายตาของพี่ที่มองมา

“ก็เห็นว่ามองอยู่” คนน้องเอ่ยท้วง

“เออ มองก็ได้” ชีวายอมรับง่ายๆ แถมยังมองอย่างเปิดเผยเสียอีก

“มองอะไรเล่า!”

“มอง...”

สายตาคมกวาดมองพลอยนำสายตาปอมปอมให้มองตามไปด้วย ใบหน้าหนุ่มน้อยร้อนวูบเมื่อคนมองพูดขึ้นมา ถึงจะเบาเขาก็ได้ยินนะ!

“ขาวว่ะ”

“ป๋า~~~~” ปอมปอมเหวี่ยงผ้าขนหนูบนบ่าฟาดชีวาแรงๆแล้ววิ่งไปที่ตู้เสื้อผ้า

“เฮ้ย!! เปล่าคิดอะไรนะเว้ย!”

วินาทีนี้ปอมปอมไม่สนใจคำแก้ตัวใดๆของพี่แล้ว หนุ่มน้อยหยิบเสื้อผ้าในตู้แล้วเข้าห้องน้ำไป ชีวาเกาหัวแกรก ซวยแล้วตู...



สักพักปอมปอมก็ออกจากห้องน้ำมาพร้อมใส่ชุดใหม่ สายตามองมาที่ชีวาอย่างระแวง จะระแวงเขาทำไม ไม่จับกินหรอกน่า

“ป๋ามีอะไร?”

ปอมปอมเอ่ยถาม กระดาษที่ถือติดมือไปตอนนี้ถูกขยำเป็นก้อนแล้วเรียบร้อย หนุ่มน้อยเอาไปวางรวมกันกับอันอื่นบนเตียง ก่อนหันมาคุยกับชีวาอย่างจริงจัง

“พักนี้เราดูแปลกไป” ชีวาเปิดเรื่อง

“ใครนะ?” ปอมปอมเอียงคอ หรี่ตาข้างหนึ่งเมื่อเอ่ยถาม

“ปอมปอม”

“ปอมหรือใครกันแน่ ปอมว่าปอมก็ไม่ได้แปลกอะไรนะ ป๋ามากกว่ามั้งที่แปลก ชอบจับผิดปอม” คนพูดเริ่มหน้างอ

“จริงดิ?”

“ถามตัวเองจะดีกว่าไหม?”

คนเป็นน้องว่าเสียงสะบัดชีวาจึงต้องเปลี่ยนเรื่อง ขืนยังพูดเรื่องนี้เดี๋ยวจะงานงอกเปล่าๆ

“เมื่อวันก่อนปอมปอมร้องไห้...”

“ไม่ได้ร้อง” หนุ่มน้อยรีบปฏิเสธตั้งแต่ที่พี่ยังพูดไม่จบ

“แต่พี่เห็นว่าร้อง” ชีวาเอ่ยแย้งตามที่เห็น

“เอ๊ะ!” นอกจากจะร้องเอ๊ะเสียงดังแล้วยังมีถลึงตาใส่พี่อีก

“ร้องทำไม พี่ทำอะไรให้ปอมปอมรู้สึกไม่ดีหรือเปล่า?”

ชีวาเอ่ยถามเสียงอ่อน ไม่อยากชวนทะเลาะ แค่อยากรู้เหตุผล เมื่อพี่อ่อนลงปอมปอมจึงไม่กล้าใส่อารมณ์ แถมคำถามของชีวายังมากระตุกต่อมซึม คำพูดต่อมาของน้องจึงเบาแสนเบา

“ป๋าไม่อยากรู้หรอก”

“อยากสิ ถ้าไม่อยากจะมาทำไม”

“ป๋าต้องไม่อยากรู้แน่ๆ”

“ก็บอกอยู่นี่ไงว่าอยากรู้”

“ไม่หรอก”

“ปอมปอม เป็นอะไร?”

เมื่อน้องเอาแต่บอกว่าเขาไม่อยากรู้ชีวาก็ชักจะหมดความอดทนจึงเอ่ยถามน้องกลับเสียงแข็ง ปอมปอมช้อนสายตามองพี่ ก่อนหมุนตัวเดินไปหยิบก้อนกระดาษบนเตียง แผ่นที่ชีวาเกือบได้ดูเมื่อกี้นี้มา

“ปอมเตือนแล้วนะ ถ้าป๋าแน่ใจว่าอยากจะรู้ให้ได้ ช่วยยืนยันกับปอมอีกครั้งสิ” ปอมปอมก้าวกลับมาหยุดตรงหน้าชีวาพร้อมขอคำยืนยัน

“พี่อยากรู้ และต้องรู้ให้ได้” คนเป็นพี่ว่า จริงจังทั้งสีหน้าและน้ำเสียง

“ถ้าอย่างนั้นปอมถามก่อน ป๋าชอบดิวใช่ไหม?

คำถามเดิมที่เคยเอ่ยถาม และวันนี้ปอมปอมก็นำมันมาถามเขาอีกแล้ว สีหน้าชีวาดูเครียดเมื่อพูดกับน้อง

“มันไม่เกี่ยวกับเรื่องที่เรากำลังคุยกันเลยนะ”

“ป๋าตอบไม่ตรงคำถาม ปอมถามว่าชอบดิวใช่ไหม?”

“อาร์ดิวเป็นเพื่อนพี่นะ แล้วเขาก็เป็นผู้ชายด้วย”

“ปอมถามว่าชอบดิวใช่ไหม?”

“.......................”

ปอมปอมยังย้ำถามแต่คำเดิม มือเรียวกำก้อนกระดาษแน่น เผลอจิกเล็บเมื่อได้ยินคำตอบ

“ใช่”

“...........”

ปอมปอมเม้มปากแน่น มันเจ็บจี๊ดๆอย่างไรไม่รู้ ที่เขาถามเพราะอยากรู้ แต่พอรู้แล้วมันเจ็บดีพิลึก หนุ่มน้อยยัดกระดาษใส่มือชีวาแล้วดันตัวชีวาให้ออกจากห้องตัวเอง ชีวาเหลียวมามองงงๆ

“ปอม…”

“กลับไป”

“เดี๋ยวปอมปอม”

“กลับไปสิ!”

ทั้งผลักทั้งดันจนชีวาออกไปนอกห้องได้แล้วปอมปอมจึงปิดประตูกระจก ปิดม่าน แล้ววิ่งออกจากห้องตนเองไป ชีวาที่ยังมึนกับเหตุการณ์ยกมือจะเคาะประตูแต่ก็ยั้งมือไว้ ก้มมองก้อนกระดาษในมือ...

“ชีวา ขึ้นไปทำอะไรห้องน้อง เดี๋ยวลุงไปป์ได้ยิงไส้แตก”

เสียงคุณพ่อของชีวาที่ตะโกนมาจากข้างล่างทำให้ชีวาสะดุ้ง หันไปมองตามเสียงด้วยความตกใจ

“โธ่ พ่อ ลุงจะยิงผมเพราะเสียงพ่อนั่นแหละ ฮุ่ย!”

เด็กหนุ่มโวยกลับ ถ้าลุงไปป์ พ่อของปอมปอมกับอาร์ดิวไม่รู้ก็จะได้รู้เพราะเสียงตะโกนจากพ่อของเขานี่ล่ะ ชีวาปีนกลับห้องตัวเอง เข้ามาในห้องแล้วเด็กหนุ่มก็นั่งเหม่อจนลืมไปว่าถืออะไรติดมือมาด้วย จนรู้สึกตัวถึงได้แกะออกมาอ่าน สีหน้าของเด็กหนุ่มเปลี่ยนเป็นอึ้ง ท่าทางจะตะลึงกับสิ่งที่เห็นในกระดาษ... ปอมปอมชอบเขาหรือ!!??

“อะไรกันวะเนี่ย!!!”

ชีวาทึ้งหัวตัวเองแรงๆเมื่อเรื่องราวมันวุ่นวายไปหมด น้องชอบเขา แต่เขากลับเพิ่งบอกน้องไปว่าเขาชอบอาร์ดิว อยากจะตบกะโหลกตัวเองหลายๆที โธ่ ชีวา มึงทำอะไรลงไปเนี่ย!





.................................





อาร์ดิวเดินมาเปิดประตูห้องนอนรับน้องชายที่มาเคาะเรียก ปอมปอมโผกอดพี่แน่น อาร์ดิวลูบหลังปลอบใจน้องแล้วชะงักมือ สีหน้าดูอึ้งไปเล็กน้อยก่อนถอนใจเบา เขาชักจะเกลียดการมีนิมิตก็วันนี้นี่ล่ะ…








TBC






นานมากเลยเนอะ ลงหลายเรื่องก็งี้แหละ o18

กลับมาตั้งแต่วันที่ 16 แต่ลงน้องน้ำตาลก่อน ตามด้วยเฮียอเล็กซ์ ปอมปอมเลยมาช้ากว่าใคร :monkeysad:

สิบวันเจอกันคร้าบ ลางานได้ตั้งสิบวันเลยเหรอ
ชีวารู้ใจตัวเองแล้วอะดิ
เชน และกราฟ คงรู้สึกบ้างเนอะที่ทำให้มิมิวเสียใจ
ขอบใจจ้า

ได้กลับแค่ปีล่ะครั้งน่ะค่ะ เอาให้คุ้ม แต่กลับตอนนี้แล้วสงกรานต์ก็ไม่ได้กลับ มันเซ็งก็ตรงนี้ ฮะๆ

ขอบคุณทุกท่านที่ยังคิดถึงปอมปอมกับอาร์ดิวอยู่ กลับมาประจำการแล้ว ไม่หายไปนานๆอีกแน่นอนค่ะ

จิ้มบวกตอบแทนทุกท่าน

วันใหม่ค่ะ

หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((6)) 20_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: AnimajuS ที่ 20-01-2013 23:52:42
เรื่องกำลังเข้มข้นเชียว

อาร์ดิวจะโดนกราฟทำไรอ่ะ หุหุ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((6)) 20_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: N.T.❁ ที่ 20-01-2013 23:56:02
สงสารน้องปอมอะค่ะ เราโมโหชีวามากๆเลย T T
อินอ่ะ แงๆๆๆๆ  :monkeysad:

ไม่รู้สร้อยของคุณแม่มีอะไรพิเศษหรือเปล่า?
แล้วการ์ฟนี่บอกไม่ชอบๆหมั่นไส้ดิวแต่ก็ชอบเข้ามายุ่งเนอะ 55555 ก็คนมันคู่กัน หึๆ

ปล. ผญ.เรื่องนี้ไม่มีใครทำอะไรผิดจนน่าหมั่นไส้ แต่ทำไมเราไม่ค่อยชอบก็ไม่รู้ 555555555

ขอบคุณค่ะวันใหม่ ><
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((6)) 20_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: PK37 ที่ 21-01-2013 01:36:15
ครอบครัวอาร์ดิวกับปอมปอมน่ารักกันทุกคนเลยอ่ะ
เดี๋ยวปอมปอมก็จะทำใจได้ แต่ป๋าจะเป็นฝ่ายแย่เอง  o18 ที่เพิ่งคิดได้
อยากจะรู้ว่าอาร์ดิวเห็นอะไรเมื่อปลอบน้องปอมปอมอ่ะ
ว่าแต่อาร์ดิวเนี่ยฝันเรื่องการ์ฟไปไกลแล้วนะ
เบื่อการ์ฟอ่ะ ปกติคนที่เขาไม่ชอบหน้ากันเนี่ย เขาไม่แม้แต่จะอยากเจอหรืออยู่ใกล้เลยนะ
แต่การ์ฟกลับคอยหาเรื่องอาร์ดิว การ์ฟคิดได้เร็วๆ นะ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((6)) 20_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 21-01-2013 03:54:17
เข้าใจผิดกันใหญ่แล้วปอมปอม กับชีวา เมื่อไหร่เรื่องจะคลี่คลายนะ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((6)) 20_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: KhunToOk ที่ 21-01-2013 06:20:34
^___^  มาต่ออีกนะคะ  รออยู่เน้อ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((6)) 20_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: NOoTuNE ที่ 21-01-2013 06:57:30
สงสารปอมปอม  :m15:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((6)) 20_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 21-01-2013 07:47:25
ป๋าาา ทำไมทำแบบนี้

รู้ตัวช้าวะ เดี๋ยวเขารับดูแลปอมปอมเองนะ

ปอมจ้า อย่า้ร้องงงง โฮฮฮอ โกรธชีวา วะ แง่มมม
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((6)) 20_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 21-01-2013 08:39:20
สงสารน้องปอมจังเลย
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((6)) 20_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 21-01-2013 09:16:39
กำลังได้ที่เลย พัลวันกันน่าดู แต่ก็เชียร์เชนกับมิมิวนะ
เพราะการ์ฟจะได้กับอาร์ดิวไง คึคึ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((6)) 20_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 21-01-2013 10:18:04
สงสารน้องปอมจังเลย
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((6)) 20_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 21-01-2013 12:10:13
ที่ชีวาพูดว่าชอบดิวนี่ อย่างเพื่อนหรืออย่างแฟน หรือแค่ประชดไปอย่างนั้น
แต่ในที่สุดก็รู้แล้วนะว่าปอมคิดยังไง
สร้อยที่แม่ให้มาจะช่วยไรได้มั่งมั้ยนะ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((6)) 20_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 21-01-2013 12:25:02
ดิวเห็นนิมิตอะไรนะตอนกอดปอม อยากรู้ๆๆ
ทีนี้จะทำไงป๋า  รู้ตัวแล้วว่าปอมชอบ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((6)) 20_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 21-01-2013 12:59:08
ชีวาชอบอาร์ดิว แต่อาร์ดิวคู่กับการ์ฟ ส่วนปอมปอมชอบชีวา
เรื่องกำลังเข้มข้นเลยค๊าาา
มีนิมิตแบบนี้ก็ทำให้รู้ว่าปอมน้อยไปเจออะไร และกำลังจะเกิดะไรขึ้นใช่ม่า

ว่าแต่ที่อาร์ดวฝันนั้นคือนิมิตด้วยป่าวที่ฝันถึงการ์ฟอะ (หน้าแดง) อิอิ
รอค๊าา ไม่หายไปนานๆอีกใช่มั้ย สัญญาน่าา
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((6)) 20_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: nemesis ที่ 21-01-2013 15:36:58
ปอมน่าสงสารอะ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((6)) 20_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ชัดเจนกาบ ที่ 21-01-2013 15:45:44
อึมครึมมาก ชั่งนาสงสารปอมปอม นิมิตนันมันคืออะไร
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((6)) 20_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 21-01-2013 16:09:42
หน่วงกันจริงๆๆ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((6)) 20_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: greensnake ที่ 21-01-2013 17:10:08
เอาอีกแล้วนะป๋า ทำปอมน้อยจะร้องไห้อีกแล้วนะ
อย่ามาง้อน้องนะ จะยุให้งอนเสียให้เข็ดเลย :a14:
ก็รู้ว่าป๋าไม่ผิด แต่เค้าสงสารน้องปอมนี่นา :sad11:
ส่วนเรื่องฝันของอาร์ดิวล่ะก็ เค้าคิดไปแล้วนะ :z1:
ก็การ์ฟคอยมาป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ๆตลอดเลยอ่ะ
ถึงจะไม่ได้ตั้งใจก็เถอะ แต่ก็เจอกันแทบทุกครั้ง
แล้วอย่างนี้จะเป็นอะไรได้นอกจากจะคู่กัน :-[
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :กอด1:
+1และเป็ดกิ๊บก๊าบ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((6)) 20_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 21-01-2013 20:13:30
สงสารน้องปอมน้อย :กอด1:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((6)) 20_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: nong PeePee ที่ 21-01-2013 20:18:26
ชีวากรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
แกทำน้องปอมฉันนนนนนนนนน  :m16:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((6)) 20_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: pahpai ที่ 21-01-2013 20:29:53
อ่าาาา วุ่นวายๆ ปอมน้อยน่าสงสาร
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((6)) 20_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: YOSHIKUNI RUN ที่ 22-01-2013 19:16:46
  ชอบเรื่องนี้จัง สนุกๆๆ น่ารักดี
 ปอมปอม ไม่เป็นไรๆ เดี๋ยวพี่ช่วยปลอบน้าา โอ๋ๆ อย่าร้องๆ  :sad4:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((6)) 20_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: PapermintReal ที่ 22-01-2013 21:44:12
อ่านคู่อาร์ดิวกะการ์ฟแล้วใจเต้นตึกตักเมื่อไหร่เค้าจะพูดกันรู้เรื่อง :really2:
พอมาอ่านปอมปอมกะชีวาลุ้นจนตัวโก่งกู่ไม่กลับ :serius2:
จะรอต่อไปครับ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((7)) 22_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: wanmai ที่ 22-01-2013 22:03:39
Magica Café



Magic (7)







ปอมปอมนั่งหน้างออยู่บนเตียงนอน อาร์ดิวนั่งลงข้างๆน้อง ทั้งสองคนยังไม่มีใครพูดอะไรกัน ขณะที่ปอมปอมกำลังคิดเรียบเรียงคำพูด อาร์ดิวก็นึกไปถึงเรื่องเมื่อครู่ที่เขาเห็น อาร์ดิวรู้สึกว่าตนเองแปลกไป เมื่อเช้าที่การ์ฟสัมผัสตัวเขา เขาก็ไม่เห็นอะไรเกี่ยวกับการ์ฟสักนิด ปรกติแล้วแค่การ์ฟแตะตัวเขาก็เห็นแล้ว แต่นี่กลับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย เหมือนกับว่านิมิตนั้นมันจะหายไป พอมาเมื่อครู่นี้ที่ปอมปอมโผเข้ามากอดเขากลับเห็นว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับน้อง สิ่งที่เห็นมันไม่ใช่เรื่องที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต แต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว แปลกจริง ทำไมกันนะ?

“ดิว…”

“หืม?” เด็กหนุ่มขานรับในลำคอ เสียงของปอมปอมเรียกให้สติของเขากลับมาอยู่กับปัจจุบัน

“ถ้าเกิดว่า... ถ้าเกิดคนที่เราชอบ เขาชอบคนสำคัญของเรา ดิวจะทำยังไง?” ปอมปอมเอ่ยถามพี่ชายด้วยท่าทีเป็นกังวล

“ใครล่ะ?” อาร์ดิวย้อนถามน้องราวไม่รู้เรื่อง ทั้งที่รู้ดีว่าน้องหมายถึงใคร

“ปอมถามว่าดิวจะทำยังไง ไม่ได้ให้มาถามปอมว่าใครสักหน่อย” ปอมปอมเง้างอด เขาจริงจังนะนี่ ดูพี่ชายเขาสิยังมาทำเป็นเล่นอีก โธ่

“อืม ไม่รู้สิ ไม่รู้อ่ะ ก็ปอมปอมไม่บอกพี่ว่าใคร พี่ก็ตอบไม่ได้หรอกแบบนี้น่ะ”

อาร์ดิวยังโยกโย้ไปเรื่อย พยายามตะล่อมให้น้องพูดความในใจออกมา เด็กคนนี้มีอะไรชอบเก็บ จนบางทีมันมากเกินไปเสียด้วยซ้ำ ปอมปอมเม้มปาก อาการเริ่มแรกของความอึดอัดคับข้องในใจ

“ป๋าอ่ะ”

หนุ่มน้อยเอ่ยบอกพี่ชายเสียงเบา อาร์ดิวกอดอก พยักหน้าเนิบนาบแล้วว่า

“ชีวาเหรอ ชีวาเขาก็มีพี่พริมเป็นแฟนอยู่แล้วนะ หรือยังไง?”

อาร์ดิวพูดราวจะถามความเห็นจากน้อง นั่นทำให้คนเป็นน้องเสียงค่อยลงไปอีก

“นั่นสิ”

มองน้องที่มีท่าทางจ๋อยแบบนั้นแล้วอาร์ดิวก็พลอยรู้สึกแย่ตามไปด้วย ปอมปอมไม่เคยเป็นแบบนี้

“ชอบเขามากเหรอ?”

“อื้อ”

ปอมปอมตอบรับพร้อมเสียงสูดจมูกเบาๆ ผู้เป็นพี่ชายเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาที่ค่อยไหลลงมาข้างแก้มน้องพร้อมปลอบ

“ไม่ร้องน่า ขี้แยใหญ่แล้วนะ”

“ปอมเสียใจอ่ะ” ยิ่งมีคนปลอบปอมปอมยิ่งสะอื้นหนัก

“โอ๋ๆ ไม่ร้องนะ เดี๋ยวพ่อมาเห็นล่ะชีวาโดนหนักแน่”

อาร์ดิวคว้าตัวน้องมากอดไว้หลวมๆ ปอมปอมวางคางเกยบนไหล่พี่ชาย บอกพี่พร้อมสะอื้นเบาๆ

“ดี ให้โดนซะบ้าง”

“ไม่สงสารเขาหรือไง พ่อมือหนักเท้าหนักมากเลยนา” พี่ชายเอ่ยเย้า

“ไม่สงสารหรอก ป๋าไม่เห็นสนใจปอมเลยนี่ ปอมรู้ว่าปอมเอาแต่ใจ แต่ว่า... แต่ว่าหันมามองปอมบ้างสิ ทำไมต้องมองข้ามปอมตลอดเลยล่ะ ฮือออ”

“ชู่ววว ปอมปอมไม่ร้องนะ ไม่ร้อง”

อาร์ดิวกอดปลอบน้อง ท่าทางน้องชายของเขาจะเก็บเรื่องพวกนี้เอาไว้เยอะเกินไป วันนี้มันคงถึงจุดที่ทนไม่ไหวแล้วจริงๆ




..............................




ปอมปอมร้องไห้จนเหนื่อยแล้วถึงหยุดไปเอง หนุ่มน้อยเข้าไปล้างหน้าในห้องน้ำ เขาไม่เคยร้องไห้เยอะขนาดนี้มาก่อนเลยนะ แย่จริงๆ ตาบวมไปหมดแล้ว ล้างหน้าล้างตาให้พอรู้สึกสดชื่นขึ้นมาบ้างแล้วปอมปอมก็ออกจากห้องน้ำมา หนุ่มน้อยชะงักเมื่อเห็นว่าชีวาอยู่ในห้องนี้ด้วย แต่อาร์ดิวไปไหนแล้วไม่รู้ พอจะเดินหนีชีวาก็มาดักหน้าเอาไว้

“พี่ขอโทษ”

ชีวาเอ่ยบอก ยิ่งเห็นว่าน้องร้องไห้ขนาดนี้เขายิ่งรู้สึกผิดที่ไม่เคยรู้อะไรเลย ไม่เคยรู้เลยว่าทำน้องเสียใจมามากเท่าไหร่แล้ว

“ขอโทษทำไม ป๋าไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย”

ทั้งที่น้ำตามันควรหมดได้แล้วแต่มันก็ยังไหลลงมาอีก ปอมปอมปาดมันออกลวกๆ พยายามจะกลั้นเอาไว้มันเลยกลายเป็นสะอื้นไปแทน แบบนี้ป๋าก็รู้สิว่าเขาร้องไห้อีกแล้วอ่ะ

“ปอมปอม…”

“?” เจ้าของชื่อเลิกคิ้ว เงยมองคนเรียกงงๆ

“เรามาลองคบกันดูไหม?”

“....................”

ปอมปอมกะพริบตาปริบ รู้สึกอึ้งกับคำพูดของชีวาจนทำหน้าไม่ถูก นี่เขาควรดีใจ หรือเสียใจ หรืออะไร??

“ละ... แล้วพี่พริม?... แล้วดิว??” หนุ่มน้อยตะกุกตะกักเพราะตั้งตัวไม่ทัน

“อย่าเพิ่งคิดถึงคนอื่น กับพริมเรามีอิสระต่อกันอยู่แล้ว ส่วนอาร์ดิว... มันไม่มีทางเป็นไปได้หรอก”

คำอธิบายจากคนเป็นพี่ทำให้ความรู้สึกวูบหนึ่งที่เกิดความยินดีดิ่งลงไปจนติดลบ พี่ขอคบด้วยเพราะสงสารเขาใช่ไหม ไม่เห็นมีคำไหนที่บอกว่าอยากคบกันเพราะชอบเขาเลย แค่เพราะกับคนอื่นมันเป็นไปไม่ได้ แค่นั้นเองหรือ?

“ป๋า... พี่ชีวา พี่เข้าใจที่ปอมพูดไหม ปอมบอกว่าปอมชอบพี่ นั่นเพราะอยากให้พี่ชอบปอมตอบ ไม่ใช่ให้พี่มาคบกับปอมเพราะสงสารนะ!”

“ปอมปอม…”

“ดิว ออกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ!”

ปอมปอมเรียกพี่ชาย เขารู้ว่าพี่ต้องอยู่แถวนี้แน่ เขาอัดอั้นจนอยากจะอาละวาดมันให้หมดทุกคน!

“ปอมไม่เคยโกรธดิวมาก่อนเลย แต่ครั้งนี้ปอมจะบอกว่าปอมโกรธมาก!!”

ปอมปอมตะคอกใส่อย่างพาลพาโลเมื่อพี่ชายเดินหน้าเจื่อนเข้ามาในห้อง อาร์ดิวเอื้อมมือไปหาน้องแต่น้องกลับปัดมันออกแล้ววิ่งออกจากห้องไป

“ปอมปอม พี่ขอโทษ…”

อาร์ดิวร้องบอกแต่น้องก็ไม่คิดจะอยู่ฟังมันแล้วเมื่อประตูห้องข้างๆปิดลงเสียงดัง เขาทำให้น้องร้องไห้ เป็นพี่ชายที่แย่ชะมัดเลย เพราะคิดเอาเองว่ามันจะทำให้น้องรู้สึกดีขึ้นถึงได้ขอให้ชีวาช่วย ทั้งที่รู้ดีว่ามันเป็นการทำร้ายทั้งชีวาและปอมปอม แต่เขาไม่อยากเห็นน้องร้องไห้เสียใจแบบนั้นอีกแล้ว โดยที่ไม่นึกว่ามันจะทำให้เรื่องมันเลวร้ายลงไปมากกว่าเดิม

“ขอโทษนะชีวา”

อาร์ดิวถอนใจยาว รู้สึกแย่กับเรื่องที่เกิดมากมาย ชีวามองเพื่อนอย่างเป็นห่วง

“นายไม่เป็นไรใช่ไหม?”

อาร์ดิวส่ายหน้าก่อนบอก

“ไม่หรอก เดี๋ยวปอมปอมก็หายโกรธเอง” พูดไปแบบนั้นแต่สีหน้าคนพูดกลับไม่ดีขึ้นเลย

“เสียงดังอะไรน่ะลูก?”

อาร์ดิวกับชีวาหันไปตามเสียงทักนั้น สองหนุ่มหน้าเจื่อนเมื่อเห็นว่าใครกำลังเดินเข้ามาหาพวกเขา

“แม่...”

“อ้าว ชีวาก็อยู่ด้วย?” คุณแม่เอ่ยทัก

“ครับ” ชีวายิ้มเจื่อนเมื่อตอบรับ เขามีชนักปักหลังอยู่นี่หว่า

“เมื่อกี้แม่ได้ยินเสียงน้องโวยวายอะไรน่ะ?”

คุณแม่หันมาถามอาร์ดิวที่ยืนเงียบอยู่ เด็กหนุ่มอึกอักเล็กน้อยก่อนเอ่ยขอโทษคุณแม่ไป

“ขอโทษที่ทำให้แม่ตื่นครับ”

“แม่ยังไม่ได้นอนหรอก แล้วนี่น้องไปไหนแล้ว?”

“................” คำถามของคุณแม่ทำให้คุณลูกอยากร้องไห้ อาร์ดิวหน้าจ๋อย ถ้าคุณแม่เห็นว่าน้องร้องไห้จนตาบวมต้องเป็นเรื่องแน่ แต่เขาเป็นคนสร้างเรื่องเองก็ต้องยอมรับในผลของมัน...




...................................




ชีวากลับบ้านไปหลังจากนั้น คุณแม่มาหาปอมปอมที่ห้องนอน อาร์ดิวยืนอยู่หน้าห้องไม่กล้าเข้าไปด้วยเมื่อน้องเปิดประตูรับคุณแม่ ปอมปอมมองพี่ชายแว้บหนึ่งแล้วเดินเข้าไปไม่มีทักทายพี่เลย ขณะที่คนเป็นพี่หน้าจ๋อย น้องคงโกรธจริง

ปอมปอมเดินตามคุณแม่เข้ามาในห้อง ตรงไปยังที่นอนของตนเองแล้วทิ้งตัวลงนอนซบหน้ากับหมอนใบใหญ่ คุณแม่นั่งลงข้างๆ ลูบผมนิ่มเบาๆ

“เป็นอะไรครับคนเก่ง บอกแม่ได้ไหมครับ หืม?”

เสียงนุ่มๆของคุณแม่ทำให้ปอมปอมสะอื้นขึ้นมาอีก ผละลุกขึ้นมาสวมกอดแล้วสะอื้นเบาๆอยู่ในอ้อมกอดอบอุ่นของคุณแม่ที่คอยเช็ดน้ำตาให้เด็กน้อยขี้แย

“ไหนบอกแม่สิครับว่าใครทำอะไรให้?”

“ปอมโกรธ” หนุ่มน้อยเอ่ยบอกน้ำเสียงขึ้นจมูก ร้องไห้จนจะหายใจไม่ออกแล้วอ่า

“โกรธ? เพราะโกรธถึงได้ร้องไห้เหรอ?” คุณแม่เอ่ยถามต่อ น้ำเสียงไม่ได้คาดคั้นเพราะต้องการให้ลูกเห็นว่าตนเองเป็นพวกเดียวกัน

“ปอมเสียใจด้วย” หนุ่มน้อยค่อยเผยความในใจ

“อือฮึ”

“พี่ชีวากับดิวทำเหมือนปอมเป็นคนน่าสงสาร ทั้งที่ปอมจริงจัง แต่พวกเขากลับทำเหมือนมันเป็นเรื่องเล่นๆอ่ะ”

“จริงเหรอ ใช้ไม่ได้เลยนะแบบนี้” คุณแม่เออออตาม ลูบหลังปลอบลูกไปด้วย

“คิดว่าปอมจะดีใจเหรอที่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองได้มามันเป็นเพราะความสงสารเท่านั้น”

เรื่องราวต่างๆพรั่งพรูออกมาให้คุณแม่ได้รับรู้ เหมือนตนเองมีพวกจึงไม่มีปิดบัง คุณแม่ก็คอยรับลูกตามเวลาลูกชายเล่าอะไรให้ฟัง ขณะเดียวกันก็เก็บข้อมูลตามไปด้วย จนคนเป็นลูกเล่าจบคุณแม่จึงเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงขึงขัง

“เล่นไม่รู้เรื่องแบบนี้แม่ต้องไปว่าพี่ชายเราสักหน่อย ทำแบบนี้ได้ยังไงกัน!”

“มี้ อย่าว่าดิวนะ!” ปอมปอมรีบร้องห้ามเมื่อคุณแม่ทำท่าจะลุกไปหาพี่ชายจริงๆ

“ทำไมล่ะ พี่เขาทำผิดไม่ใช่เหรอ?” คุณแม่เอ่ยถาม ยังไม่คลายอาการขึงขังลงจนคนเป็นลูกใจเสีย

“อย่าว่าดิว”

หนุ่มน้อยหน้าเบ้เพราะกลัวว่าคุณแม่จะไม่ยอมฟังที่ตนเองบอก อาร์ดิวเข้ามาในห้องเมื่อได้ยินเสียงน้องดังลอดออกไปให้ได้ยิน ปอมปอมมองพี่ชายที่เดินเข้ามาหา ยังคงซบแก้มกับอกคุณแม่นิ่งๆ

“พี่ขอโทษ”

อาร์ดิวเอ่ยบอกน้องอย่างรู้สึกเสียใจจริงๆ ปอมปอมอิงอกแม่มองพี่เฉย ขณะที่พี่ชายก็ยังยืนอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน สักพักแขนของคนเป็นน้องก็ค่อยยกขึ้นแล้วกางออก อาร์ดิวก้าวเข้าไปหาแล้วกอดน้องเอาไว้

“ขอโทษนะ”

“อื้อ”

ปอมปอมตอบรับคำขอโทษกับไหล่พี่ชาย คุณแม่มองสองพี่น้องที่กอดกันกลมแล้วก็ถอนใจ ยิ้มนิดๆกับภาพนั้น สองพี่น้องคลายอ้อมกอด อาร์ดิวจึงนั่งลงอีกด้านโดยมีปอมปอมอยู่ตรงกลาง คุณแม่มองหน้าลูกชายทั้งสองคนแล้วจึงว่า

“ต่อไปมีอะไรให้คุยกันก่อนรู้ไหม อย่าเอาแต่ความคิดตัวเองฝ่ายเดียว คนอื่นใช่ว่าจะคิดเหมือนกับเราไปเสียหมด อย่าตัดสินใจแทนเขา เข้าใจไหมครับ?”

“ครับ”

ทั้งสองคนตอบรับคำสอนสั่ง หันมามองหน้ากันแล้วยิ้มนิดๆ อาร์ดิวเช็ดน้ำตาให้น้อง นิ้วเรียวเขี่ยจมูกแดงๆนั่นด้วยเลยถูกน้องตีมือ คนเป็นพี่หัวเราะ เขารู้สึกโล่งใจจนหัวเราะได้เต็มเสียง ปัญหาที่เกิดขึ้นกับพวกเขา ถึงแม้มันจะแค่เวลาสั้นๆก็บั่นทอนจิตใจไปมากมาย ต่อไปมันจะไม่มีแบบนี้อีกแล้ว เพียงเท่านี้ก็เกินพอ...




...................................




เมื่อส่งปอมปอมเข้านอนแล้ว คุณแม่กับอาร์ดิวจึงออกจากห้องปอมปอมมา ป่านนี้คุณพ่อคงเดินวนเป็นหนูติดจั่นรอฟังข่าวอยู่เป็นแน่ ส่งคุณแม่มาเป็นทัพหน้าเพราะท่านปลอบใจลูกไม่เก่งเท่า ตอนนี้จึงต้องอยู่เฉยให้คุณแม่ออกโรง

“แม่ครับ” อาร์ดิวเอ่ยเรียกก่อนที่คุณแม่จะเดินไป

“ครับผม”

“สร้อยนี่ มันมีอะไรที่พิเศษจากปรกติหรือครับ?” อาร์ดิวแตะสร้อยที่คอตนเองเมื่อเอ่ยถาม

“ทำไมเหรอ?”

“ดิวมองไม่เห็นนิมิตเกี่ยวกับคนๆหนึ่งน่ะครับ ทั้งที่ปรกติเวลาที่เขาแตะตัวดิว ดิวต้องเห็น”

เด็กหนุ่มอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นกับตนเอง คุณแม่ยิ้มบาง ช้อนตัวจี้สีเขียวอมฟ้าที่ลูกชายสวมใส่ขึ้นมาก่อนตอบ

“นอกจากมันจะป้องกันสิ่งไม่ดีจากภายนอกแล้ว แม่ยังให้มันกดพลังพิเศษของอาร์ดิวเอาไว้ด้วย การเห็นอะไรมากไปมันก็ไม่ดีกับตัวเราเท่าไหร่จริงไหม?”

เด็กหนุ่มพยักหน้าอย่างเห็นด้วย บางทีทั้งที่เขาไม่ได้อยากเห็นแต่ก็ต้องเห็นอย่างเลี่ยงไม่ได้ แบบนั้นมันก็แย่เหมือนกัน

“แต่ดิวเห็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับน้อง…” เมื่อพูดถึงน้องอาร์ดิวก็เหลียวมองไปทางห้องของปอมปอมที่ตอนนี้หลับไปแล้วเรียบร้อย

“คงเป็นเพราะบุษราคัมที่ปอมปอมใส่”

“แม่ทำอะไรกับมันครับ?”

“เปล่าหรอกจ้ะ มันมีความพิเศษในตัวของมันเอง เมื่อมันมาอยู่ใกล้เทอร์ควอยส์ที่อาร์ดิวสวมอยู่มันถึงเกิดปฏิกิริรยาขึ้นมา แม่ได้มาจากคุณยายน่ะ”

คุณแม่อธิบายยิ้มๆ ถ้าได้มาจากคุณยายมันต้องมีความพิเศษซ่อนอยู่แน่ อาร์ดิวพยักหน้าอีกครั้งถือว่าเข้าใจตามนั้น อาจจะมีเรื่องแปลกๆเกิดขึ้นกับเขาบ่อยๆ แต่อีกไม่นานก็คงชินไปเองเหมือนเช่นทุกที…





++++++++++++++++





หลังจากกลับมาอยู่ที่บ้านอย่างเป็นทางการ คุณแม่กับคุณพ่อของสองพี่น้องปอปลาก็เป็นผู้ไปดูแลร้าน Magica Café ด้วยตนเอง ให้ปอมปอมกับอาร์ดิวตั้งใจเรียนอย่างเต็มที่ไม่ต้องแบ่งเวลามาเฝ้าร้านเหมือนเช่นทุกที แต่หลังเลิกเรียนสองพี่น้องก็ยังเผลอไปที่ร้านตามความเคยชิน ถึงได้เห็นว่าพอคุณพ่อกับคุณแม่กลับมาก็ลดแลกแจกกระหน่ำจนน้าจันทรากุมขมับ ของฝากจากนานาประเทศกลายเป็นของแจกลูกค้าไปหมดแล้ว เฮ้อ

คุณแม่ให้สองพี่น้องเข้าไปทำการบ้านในห้องทำงานของร้าน งานหน้าร้านปล่อยให้พี่ๆพนักงานเขาทำไป ส่วนชีวาถ้ายังอยากมาทำงานอยู่ก็ให้มาทำช่วงวันหยุด วันธรรมดาที่ต้องไปโรงเรียนก็พักไว้ เพราะจริงๆแล้วที่ชีวามาทำงานที่ร้านก็เพราะตามสองพี่น้องปอปลามาเท่านั้น หรือจะเรียกให้ถูกคือ... ตามมาเฝ้า

ปอมปอมเอาการบ้านมานั่งทำเงียบๆ ชีวาที่นั่งทำการบ้านอยู่กับอาร์ดิวลอบมองน้องอยู่บ่อยๆจนอาร์ดิวต้องกระแอมเรียกสติ ตั้งแต่วันนั้นที่เกิดเรื่องแล้วน้องปล่อยโฮจนแตกตื่นกันทั้งบ้านน้องก็ไม่ได้คุยกับเขาเป็นปรกติเช่นทุกที มากสุดก็เพียงแค่ยิ้มให้เท่านั้น ชีวารู้สึกว่ามันแย่มากที่เป็นแบบนั้น แต่เด็กหนุ่มก็พยายามทำความเข้าใจว่าน้องคงไม่พร้อมจะเป็นแบบเดิม…





++++++++++++++++++





บนทางเดินในสวนสาธารณะหมู่บ้านของมิมิว เด็กหนุ่มสาวคู่หนึ่งเดินเคียงกันไปช้าๆ ต่างก็จมอยู่ในภวังค์ของตนเอง ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มสั่นคลอนจากปัจจัยหลายอย่าง มิมิวและการ์ฟพยายามที่จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม แต่ต่างก็รู้ดีว่ามันไม่มีทางเป็นเหมือนเดิมได้ เมื่อฝืนกันไปก็เหนื่อยเปล่ามิมิวจึงขอเวลาให้ทั้งคู่ทบทวนใจ

“มิวยังโกรธการ์ฟอยู่เหรอ?”

การ์ฟเอ่ยถามแทรกความเงียบงันระหว่างทั้งคู่ขึ้นมา ก้าวเดินของมิมิวชะงักแต่ก็ไม่ได้หยุดเดิน ยังคงก้าวต่อไปช้าๆขณะที่เอ่ยตอบคำถามคนข้างกาย

“เปล่าหรอกการ์ฟ เรื่องนั้นมิวเลิกใส่ใจมันไปแล้ว”

“ถ้าอย่างนั้นเพราะอะไร?”

การ์ฟยังย้อนถามราวไม่เข้าใจ มิมิวถอนใจเบา หยุดก้าวไปข้างหน้าก่อนจะหันมามองคนข้างกายช้าๆแล้วถาม

“การ์ฟไม่รู้สึกบ้างเหรอว่าระหว่างเรามันมีบางอย่างเปลี่ยนแปลงไป?”

“อะไร อะไรที่มันเปลี่ยนแปลง?”

“ใจของเราสองคนไง”

“.................”

คำพูดที่แสนตรงนั้นทำให้คนฟังนิ่งอึ้ง สิ่งที่เปลี่ยนไปคือหัวใจของพวกเขาอย่างนั้นหรือ...?





++++++++++++++++






ความอึมครึมขมุกขมัวไม่ได้เกิดขึ้นกับการ์ฟและมิมิวเท่านั้น เพราะชีวาและปอมปอมเองก็ไม่ได้ต่างกันเลยในตอนนี้ เมื่อคนเป็นน้องเลือกที่จะไปไหนมาไหนแต่กับเพื่อนอย่างจูน ไม่เข้ามาหาพี่ๆอย่างอาร์ดิว ชีวา และตาต้า นอกจากตอนกลับบ้าน ชีวาก็พอรู้ว่าน้องอยากหลบหน้า แต่การทำแบบนั้นมันส่งผลให้พี่ชายอย่างอาร์ดิวพลอยเป็นกังวลไปด้วย เมื่อเห็นว่ามันชักจะมากเกินไปในความรู้สึกชีวาจึงได้ดุน้อง

“มากไปหรือเปล่าปอมปอม เข้าใจนะว่าโกรธ พี่ยอมรับว่าผิด แต่ว่าที่ทำให้คนอื่นเป็นกังวลไปด้วยแบบนี้นี่มันเกินไปหน่อยไหม?”

ปอมปอมมองคนพูดอย่างน้อยใจ ทำไมต้องดุเขาด้วยล่ะ

“ฮึ่ก…!”

“เฮ้ย!!”

“ฮือออออออออ”

ชีวาตาเหลือกเมื่อน้องปล่อยโฮเสียงดัง ทั้งที่น้องหยุดร้องมาตั้งหลายวัน แต่เขาดันทำให้ร้องอีกแล้ว

“ปอมปอมเป็นอะไร!!?”

อาร์ดิววิ่งออกมาจากในบ้านเมื่อได้ยินเสียงน้องร้องไห้ เห็นว่าชีวามาหาก็นึกว่ามีเรื่องอะไรจะคุยกัน แล้วทำไมถึงได้เป็นแบบนี้ พอเห็นพี่ชายปอมปอมก็กอดพี่ร้องไห้ อาร์ดิวมองหน้าชีวาอย่างมีคำถาม ชีวาหน้าเจื่อน เพราะความมุทะลุไม่รู้จักคิดของเขาแท้ๆ โธ่เว้ย!!




..................................




“ปอมปอม พี่ขอโทษนะ”

ชีวานั่งยองลงกับพื้น จับมือน้องที่นั่งอยู่บนชิงช้าในสวนหย่อมข้างตัวบ้าน ปอมปอมยังหน้างอ จมูกแดง ตาแดงจากการร้องไห้ ชีวาโดนอาร์ดิวเทศนาก่อนที่อาร์ดิวจะปล่อยให้ทั้งสองคนเคลียร์กันเอง ยังดีที่วันนี้พ่อแม่ของสองพี่น้องปอปลาไปทำงานที่ร้านเมจิคกะ ไม่เช่นนั้นชีวาคงไม่โดนแค่อาร์ดิวเทศน์ แต่อาจจะโดนไล่ออกจากบ้านแล้วไม่ให้เข้ามาที่นี่อีกก็เป็นได้ ก็เล่นทำให้น้องร้องไห้เป็นว่าเล่นขนาดนี้

“จะทำยังไงเธอถึงจะยอมหายโกรธ จะทำยังไงเธอถึงจะยกโทษให้ฉัน…”

“ไม่ตลก”

หนุ่มน้อยเอ่ยแทรกเสียงขึ้นจมูกเมื่อคนเป็นพี่ยกประโยคในเพลงๆหนึ่งมาพูด คนพูดจึงต้องหุบปากเงียบ

“ป๋าไม่ต้องมาสงสารปอมหรอก ปอมไม่อยากได้”

“ไม่ได้สงสาร ปอมปอมเป็นน้องพี่นะ ถ้าปอมปอมเสียใจพี่ก็เสียใจเหมือนกัน และยิ่งรู้สึกแย่มากๆที่สาเหตุมันมาจากพี่ ขอโทษจริงๆ”

“เลิกขอโทษได้แล้ว ปอมไม่บอกหรอกว่าตัวเองไม่เป็นไร เพราะปอมเป็น ปอมเสียใจ ปอมน้อยใจ ปอมผิดหวัง แต่อีกหน่อยมันคงดีขึ้นเอง ป๋าเองก็ไม่ต้องคิดมากแล้วนะ เพราะต่อไปปอมจะคิดกับป๋าแค่พี่ชาย เหมือนอย่างที่ป๋าอยากให้เป็น”

พูดจบปอมปอมก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกไป ชีวายังนั่งอยู่ท่าเดิม ยอมรับว่าสิ่งที่น้องพูดมันกระทบใจ เด็กหนุ่มค่อยลุกขึ้นยืนช้าๆ สีหน้าดูสับสน ในใจตนเองบอกย้ำซ้ำๆว่าแบบนี้มันดีแล้ว ใช่ มันดีแล้วนี่ ก็ดีแล้วไม่ใช่หรือ แล้วทำไมเขาถึงไม่รู้สึกว่ามันคือสิ่งที่เขาต้องการ...





+++++++++++++++





“ป๋า~~~”

น้ำเสียงร่าเริงของลิงน้อยข้างบ้านดังมาให้ได้ยินในค่ำวันหนึ่ง ชีวารีบโผล่ออกมาจากห้องเพื่อรับลูกลิงที่กำลังจะปีนข้ามมาห้องของเขา ตัวผอมบางนั้นตกอยู่ในอ้อมแขนเมื่อเขาเอื้อมออกไปรับ เมื่อน้องข้ามมาได้แล้วชีวาค่อยปล่อยให้ลงยืนบนพื้น คิ้วเข้มขมวดเมื่อรู้สึกว่ามันมีอะไรบางอย่างไม่เหมือนเดิม อืม แปลกๆแฮะ

“นี่ป๋า ช่วยปอมเลือกการ์ดสวยๆสักใบสิ”

ปอมปอมเดินนำหน้าพี่ชายข้างบ้านเข้าไปด้านในราวกับเป็นเจ้าของห้องเสียเอง ม้วนกระดาษที่เหน็บใส่กระเป๋าสะพายมาด้วยถูกวางลงบนโต๊ะหน้าทีวี ชีวาเดินมานั่งลงข้างๆ สายตาคอยมองน้องที่ก้มหน้าก้มตากางกระดาษที่ตนเองปริ้นท์รูปการ์ดสวยๆมาให้พี่ดู ชี้ชวนให้ช่วยเลือกโดยไม่ได้รู้สึกตัวว่าคนเป็นพี่ไม่ได้ฟังที่เขาพูดเลย จนเมื่อเงยขึ้นมาเพื่อขอความเห็นก็สบเข้ากับสายตาพี่ที่มองตนเองอยู่พอดี

“อะไร?” ปอมปอมเอ่ยถามยิ้มๆ

“เปล่า ไหนล่ะการ์ดที่จะให้ช่วยเลือก?”

ชีวาเอ่ยปฏิเสธก่อนเบี่ยงประเด็นไปเรื่องการ์ด ทำเป็นสนใจจะดูกระดาษที่น้องนำมาด้วย ปอมปอมจึงให้ความสนใจกับธุระของตนเองอีกครั้ง

“นี่ไง มันสวยหมดทุกอันเลย ปอมไม่รู้ว่าจะทำแบบไหนดีอ่ะ”

“จะทำเอง?”

“ช่ายยย~” ว่าแล้วก็หัวเราะคิกคัก

“ให้ใครเป็นพิเศษหรือเปล่า?” ชีวาเอ่ยถาม

“อืมมม ก็... ไม่บอก”

คนเป็นน้องทำท่ามีลับลมคมในแล้วหัวเราะคิก ก่อนชวนให้พี่ช่วยเลือกต่อ ชีวาคิ้วขมวด รู้สึกคันยุบยิบในหัวใจ ปรกติแล้ววันสำคัญๆปอมปอมจะมีของทำมือมาให้เขาอยู่บ่อยๆ แต่คราวนี้น้องจะทำให้ใคร ถ้าจะทำให้เขาเหมือนทุกทีทำไมถึงเอามาให้เขาช่วยเลือก นี่แสดงว่าคนที่น้องจะให้ต้องไม่ใช่เขาสินะ แล้วมันเป็นใครกัน?


ให้หยุดรักเธอทำอย่างไร ให้หยุดหายใจยังทำง่ายกว่า~


“อ๊ะ! เดี๋ยวนะ”

เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ปอมปอมดังขึ้นมา ชีวาอมยิ้มนิดๆที่ได้ยินทำให้น้องส่งค้อนให้ หนุ่มน้อยลุกไปคุยตรงประตูระเบียง คุยกันไปหัวเราะไปคิกๆคักๆ แรกๆชีวาก็ไม่ได้สนใจอะไร แต่พอมันนานเข้าและไม่มีทีท่าว่าน้องจะหันกลับมาสนใจเขากับไอ้กองกระดาษที่น้องหอบมาด้วยก็ชักจะเริ่มทนไม่ไหว ยิ่งได้ยินเสียงสนทนาที่ฟังดูแล้วแสลงหูอย่างหนัก ท่าทางเขินอายยืนบิดผ้าม่านจนมันจะขาดนั่นก็ด้วย จะทนไม่ไหวแล้วนะโว้ย!!!

“ปอมปอม!!”

“ห๊ะ!!”

ปอมปอมสะดุ้ง หันกลับมาตามเสียงเรียกอย่างตกใจ หนุ่มน้อยย่นคิ้วแล้วบ่นอุบ

“อะไรน่ะป๋า ปอมตกใจหมด”

“จะเลือกไหมการ์ดน่ะ ถ้าไม่ให้ช่วยแล้วก็กลับไปเลย!”

ปอมปอมหน้าเหวอ อยู่ๆมาโกรธเขาเรื่องอะไรกันนี่ ยกโทรศัพท์ขึ้นมาบอกเลิกสายแล้วกดวาง ก่อนจะเดินหน้างอกลับมาเลือกการ์ดต่อ แยกเขี้ยวใส่พี่ชายข้างบ้านที่นั่งลอยหน้ายิ้มเย้ยอยู่ที่โต๊ะ ก่อนจะตั้งใจเลือกรูปแบบการ์ดที่จะทำต่อ

“ป๋าว่าอันไหนสวย?”

น้องเอ่ยถามความเห็น ชีวาชี้อันที่มันดูแล้วรกๆ ไม่สวยเท่าไหร่ในหมู่มวลที่น้องเอามาให้ดู จะทำให้คนอื่นนี่ เลือกอันที่มันสวยไปทำไม เฮอะ!

“อันนั้นปอมตัดทิ้งไปแล้ว ป๋าจะไปเลือกทำไม?” น้องว่าเข้าให้

“เอ๊า! ก็บอกให้ช่วยเลือก พี่เห็นว่ามันสวยก็ช่วยอยู่นี่ไง ถ้าเลือกไว้ในใจแล้วก็อย่ามาถามพี่สิ”

ชีวาบอกหน้าตาเฉย ปอมปอมกอดอก ดวงตาเรียวรีจ้องพี่เขม็งแล้วว่า

“พึ่งพาไม่ได้เลย กลับดีกว่า”

“อ้าว?”

หนุ่มน้อยรวบกระดาษบนโต๊ะมาถือก่อนลุกเดินออกประตูหน้าห้อง ตอนมา มาทางระเบียงห้อง แต่ตอนกลับ กลับทางหน้าห้อง เออ เอาเข้าไป

เมื่อน้องเดินออกไปแล้วชีวาก็ถอนใจ ไม่รู้เขาเป็นอะไร ทั้งที่เมื่อครู่นี้มันก็เหมือนทุกๆครั้งที่น้องมาหา แต่เขากลับรู้สึกว่ามันไม่ใช่ เหมือนมีเส้นบางๆกั้นกลางระหว่างกัน ไม่สนิทใจเหมือนเก่าแถมยังมีบางอย่างเพิ่มขึ้นมา...




.......................................




ด้านนอกประตูห้อง ปอมปอมหยุดยืนอยู่ไม่ไกล มือเรียวลูบอกตัวเองเบาๆขณะที่พรูลมหายใจยาว


“ไม่เป็นไรๆ เดี๋ยวก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมเอง”


ปลอบใจตนเองไปแบบนั้นแล้วก็ยิ้ม แม้มันจะเป็นยิ้มไม่เต็มที่นักก็ตาม…









TBC






พิมพ์ไปร้องไห้ไป แล้วมันก็มองไม่เห็นแป้นพิมพ์ อนาถมาก ยิ่งพิมพ์ช้าอยู่ คนเขียนอ่อนไหวง่ายก็งี้แหละ :p

@ คุณ Ryoooo ค่า ไม่นานค่ะ ไม่นาน แต่แบ่งเวลาให้เรื่องอื่นนิดนึงนะคะ :กอด1:

ขอบคุณทุกท่านที่ยังอยู่ด้วยกันค่า บวกๆค่ะ

วันใหม่ :L2:

หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((7)) 22_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 22-01-2013 22:15:11
จิ้มๆๆก่อน
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((7)) 22_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: PapermintReal ที่ 22-01-2013 22:25:35
พี่ชีวาาาเร็วหน่อยเซ่ รีบตัดสินใจก่อนที่น้องจะไปรักคนอื่นนนนน :z3:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((7)) 22_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: N.T.❁ ที่ 22-01-2013 22:34:15
 :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((7)) 22_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: NOoTuNE ที่ 22-01-2013 22:39:07
 :angry2: :angry2:


ปอมปอม หาคนใหม่เลยลูก น่ารักแบบนู๋ไม่ต้องง้อปล่อย ปล่อยให้ บ้า ซึน หง่าว อยู่แบบนั้นแหละ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((7)) 22_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 22-01-2013 22:51:47
สงสารปอมปปอม กับ ชีวานะ  ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์เถอะนะ
ส่วนดิว ดีแล้วที่ไม่เห็นนิมิต ถ้าการ์ฟมันจะปล้ำ ดิว จะได้ไม่รู้ล่วงหน้า กร๊ากกก
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((7)) 22_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: PK37 ที่ 22-01-2013 23:31:07
สงสารปอมปอมอ่ะ  :monkeysad: รู้ว่าอาร์ดิวห่วงน้อง แต่ป๋าไม่น่าทำอย่างนี้ แล้วยิ่งพออาร์ดิวไม่สบายใจป๋ากลับจะไปว่าน้องอีก น้องขอแค่มาตั้งตัวก็ไม่ได้เลยใช่ไหม อย่ามารู้สึกตัวว่ารักว่าชอบน้องตอนที่น้องไปชอบคนอื่นแทนก็แล้วกัน

เป็นกำลังใจให้ค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((7)) 22_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 22-01-2013 23:54:42
เฮ้อ ทำไมมันวุ่นวายแบบนี้นะ ชีวาเมื่อไหร่จะเข้าใจตัวเองนะ สงสารปอมปอมอ่ะ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((7)) 22_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: TinyB ที่ 23-01-2013 01:29:44
ขออิป๋ากับน้องปอมปอมอีกสักตอนได้มะอ่ะเพ่? ตอนนี้มันค๊างงงง  :serius2:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((7)) 22_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: N.T.❁ ที่ 23-01-2013 05:42:41
ขออิป๋ากับน้องปอมปอมอีกสักตอนได้มะอ่ะเพ่? ตอนนี้มันค๊างงงง  :serius2:

เห็นด้วยยยยยย ค้างมากค่าาาาา TT กะปอมตาบวมเป็นกบแหงเลยลูก ร้องไห้ตลอดดดดด #ตบหัวชีวา #หมั่นไส้
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((7)) 22_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 23-01-2013 06:13:10
ชีวาแกรู้ตัวช้าวะ

เสียน้องแน่ 55555555

หัวเเราะสะใจ รีบๆง้อน้องซะ รู้ใจตัวเองเร็วๆอะ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((7)) 22_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: nemesis ที่ 23-01-2013 10:57:42
ปอมสู้ๆนะ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((7)) 22_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 23-01-2013 11:26:51
อะไรยังไงเนี่ยชีวาาาา ความรู้สึกช้าจังอะ สงสารน้องปอมน้อยแล้วนะ
เดี๋ยวก็ยุให้มีคนอื่นเสียเลยนิ ขัดใจเจ้ 555

ดิวไม่มีนิมิตรื่องการ์ฟเนี่ยดีน่าาาา การ์ฟหันมาสใจชอบดิวเมื่อไหร่จะได้ไม่มีเวลาลังเล
รอค๊าาาา
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((7)) 22_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: greensnake ที่ 23-01-2013 12:55:29
ถ้าป๋าเค้าจะความรู้สึกช้าอย่างนี้นะ แนะนำว่าตัดใจเหอะปอมปอม
ต้องรอให้น้องมีคนมาจีบหรือชอบก่อนสินะถึงจะรู้สึกตัวอ่ะ
แล้วดูสิทำน้องร้องไห้อีกแล้ว น่าจับมาตีซะจริงๆเลย o12
ลิงน้อยเลยกลายเป็นลิงหงอยซะตั้งหลายวัน น่าสงสารจัง
แต่พอน้องโทรฯคุยกับคนอื่นแล้วก็ทำของให้คนอื่นก็ไม่พอใจละ
แล้วทีนั้นล่ะบอกว่าพี่น้อง เดี๋ยวไปจ้างหนุ่มๆมาจีบน้องปอมดีกว่า 
อยากเห็นคนทรมาน :laugh: ว่าการโดนเมินมันเป็นยังไง
งานนี้ชีวาโดนไม่ใช่น้อยเลย มีแต่แม่ยกน้องปอมน้อยทั้งน้านนนน
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :กอด1:
+1และเป็ดจ้า
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((7)) 22_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: zero3 ที่ 23-01-2013 13:08:13
 :z3:
สงสารปอมน้อย
หลงรักป๋าชีวาคนซื่อ(บื้อ)ได้ไง
5555+




หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((7)) 22_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 23-01-2013 13:18:44
ปอมปอมหาคนใหม่เถอะ :z2:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((7)) 22_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: อยากกินไข่พะโล้ โปะ ที่ 23-01-2013 15:19:37
สะใจชีวาหน้าโง่
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((7)) 22_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: KhunToOk ที่ 23-01-2013 17:29:30
 :monkeysad: :monkeysad:  สงสารปอมปอมจัง
ป๋า ไม่รู้ตัว หรือไม่ได้ชอบกันนะ
ถ้ารู้ตัวช้า เดี๋ยวโดนคนอื่นคว้าปอมปอมไปนะ อย่าหาว่าไม่เตือน  o18
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((7)) 22_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 23-01-2013 18:15:16
สงสารปอมปอมน้อยจริงๆ แล้วป๋าชีวาจะเสียดายน้องขอบอก เชอะ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((7)) 22_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 23-01-2013 18:19:05
เชียร์ปอมหาหนุ่มใหม่มาดามใจ  เชิ่ดใส่ป๋ามันไปเลย   
ควงสาว(มีการบอกไม่ผูกมัดอะไรด้วยนะ เหอๆ)   แถมแอบชอบเพื่อนอีก   นี่ยังจะมาหวงก้างต่อ  ไม่ไหวๆ  :m16:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((7)) 22_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: nong PeePee ที่ 23-01-2013 19:16:59
ชีวาซึนลืม
ปอมสู้ๆน้าเดี๋ยวเค้าก็คงรู้แหละ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((7)) 22_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 23-01-2013 20:10:20
สงสารปอมจังเลย น้องคงเสียใจมากอ่ะ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((7)) 22_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 23-01-2013 20:12:09
สงสารน้องปอมปอมอะ
ชีวาแกนี่ความรู้สึกช้าจริงต้องรอให้ปอมปอม
มีคนมาชอบก่อนหรือไง
อยากรู้ว่าปอมปอมทำการ์ดให้ใครนะ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((7)) 22_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 23-01-2013 20:44:59

คุณวันใหม่..//วิ่งเข้าไปกอด
อย่าว่าแต่คุณใหม่เลย เราเองก็ร้อง ฮือออ
สงสารปอมปอมมาก
น้องพยายามจะทำให้เหมือนเดิม
มันยากมากนะกับการฝืนทำทั้งๆที่เรายังรักเขา
ฮึกก ไอ้ป๋าใจร้าย//โดดตีบ ตามด้วยหมัด+กระทืบ
หึ แล้วจะรู้สึก ถ้าเสียน้องไปให้คนอื่น
หลอกตัวเองอยู่ชัดๆ

รออ่านตอนต่อไปจ้าาาา
มาต่อเลยได้ไหมอ่า
เราอยากอ่านต่อมากๆๆ มันอยากรู้ว่าจะเป็นยังไงต่อ แฮ่ๆ
+1 ค้าบบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((7)) 22_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 23-01-2013 21:07:04
สงสารปอมปอมอ่า
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((7)) 22_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 23-01-2013 21:31:47
สงสารกะปอมน้อยจังแต่ป๋าชีวาก็คงเริ่มรู้สึกตัวทีละนิดแล้วล่ะ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((7)) 22_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 24-01-2013 18:53:35
 :z10: :z10:
อยากอ่านเรื่องนี้ต่อมากกกก
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((7)) 22_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: YOSHIKUNI RUN ที่ 25-01-2013 02:33:33
สงสาร ปอมปอม อ่ะ
ไอคุณป๋า รีบๆรู้ใจ ตัวเองสักทีเถอะ
เดี๋ยว น้องจะตัดใจไปซะก่อน!!

อ่าา มิมิวและ กราฟเริ่มเกิดร้อยร้าวแล้วสิ
ยังไงต่อละเนี่ยย!!  (อินจัด!)
เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ  :กอด1:

 :L2: :L2:

หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((7)) 22_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 27-01-2013 00:29:42
ร้องไห้กับปอมปอมหนึ่งยก
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((7)) 22_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 28-01-2013 18:36:29
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((8)) 28_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: wanmai ที่ 28-01-2013 22:35:10
Magica Café



Magic ( 8 )





“วา... ชีวา... ชีวาคะ!”

“ค... ครับ?”

ชีวาที่นั่งมองเหม่อสะดุ้งกับเสียงเรียกของสาวข้างกาย ตอนนี้เขาอยู่ในงานวันเกิดน้องสาวของพริม ไม่ได้รู้จักกับน้องเขาเป็นการส่วนตัวจนต้องมาร่วมงานวันเกิด แต่เพราะปอมปอมเป็นเพื่อนกันกับสาวน้อยคนนั้นและมาร่วมงานนี้ด้วย การ์ดที่น้องนั่งทำก็เพื่อจะให้เพื่อนคนนี้นี่ล่ะ เมื่อชีวารู้ว่าน้องจะไปงานวันเกิดเพื่อนจึงได้ตามมาเฝ้า ขอยืมรถพี่ชายขับมาส่งน้องกับเพื่อนของน้องอย่างจูน และพอมาถึงงานแล้วรู้ว่าเจ้าของงานวันเกิดเป็นน้องสาวของพริม ชีวาจึงมีข้ออ้างที่จะอยู่เฝ้าน้องต่อด้วยการนั่งคุยกับพริมไปพลางๆ

“เหม่ออะไรคะ เห็นมองตั้งนานแล้ว?” พริมเอ่ยถามอย่างสงสัย เพราะตั้งแต่มาชีวาก็เอาแต่มองกลุ่มน้องสาวของเธอ มีอะไรน่าสนใจอยู่ในนั้นหรือ

“อ๋อ เปล่าๆ เห็นน้องๆเขาสนุกกันแล้วก็มองเพลิน เมื่อกี้พริมว่าไงนะ?”

“แหม ไม่ฟังกันเลยแบบนี้งอนซะดีไหมเนี่ย?” สาวเจ้าแสร้งว่าเง้างอด

“อย่างอนวาเลย พริมก็รู้ว่าวาอ่ะ... ง้อใครไม่เป็น….”

คนที่บอกง้อใครไม่เป็นยกยิ้มอย่ามีเลศนัย หลิ่วตาเจ้าชู้ส่งไปให้สาวสวยจนอีกฝ่ายเขินอายกับความนัยที่สื่อมา

“บ้า~”

พริมตีแขนคนพูดด้วยความเขิน ชีวาหัวเราะหยอกล้อกับหญิงสาว ลอบถอนใจที่แถไปได้ เกือบไปแล้วไหม มัวแต่มองอะไรอยู่วะชีวา!?

“เฮ้ย! ปอมปอม!!”

เสียงโหวกเหวกทำให้ชีวาดีดตัวลุกขึ้นพลอยทำให้พริมตกใจตามไปด้วย ชีวารีบวิ่งเข้าไปในกลุ่มเด็กๆที่กำลังชุลมุนกันอยู่ เห็นจูนเพื่อนสนิทของปอมปอมกับเด็กผู้ชายอีกคนล็อคแขนปอมปอมไว้คนละข้าง ฝั่งตรงข้ามน้องเป็นเด็กผู้ชายตัวโต มุมปากของเด็กคนนั้นมีเลือดซึม ดูจากสภาพแล้วน่าจะเพราะโดนต่อย ปอมปอมสะบัดแขนออกจากการเกาะกุมของเพื่อนแล้วเดินลิ่วออกไป เสียงเพื่อนๆเรียกตามแต่หนุ่มน้อยก็ไม่สนใจจะหันกลับไปมอง จูนขอโทษเพื่อนที่เป็นเจ้าของงานวันเกิดแล้วจึงวิ่งตามปอมปอมไป

“มึงไม่น่าทำแบบนั้นกับมัน”

เสียงเด็กๆคุยกันลอยมาเข้าหูทำให้ชีวาที่กำลังจะไปลาพริมกลับบ้านหยุดฟังอย่างไม่ตั้งใจ เพราะในใจก็อยากรู้เหมือนกันว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมน้องถึงได้โมโหจนถึงขั้นมีเรื่องชกต่อยกับเพื่อน

“ก็กูชอบมันพวกมึงก็รู้ มีแต่มันนั่นแหละที่ทำปิดหูปิดตาไม่ยอมมองกูเลย!”

คำพูดของเด็กผู้ชายตัวโตที่ถูกปอมปอมต่อยทำให้ชีวาสะดุดใจ เด็กคนนั้นชอบปอมปอม?




.........................




ในใจชีวามีแต่ความสงสัยกับเรื่องการทะเลาะกันของน้องกับเพื่อน จนขึ้นรถมาถึงได้รู้ว่าทำไมน้องถึงโกรธจนชกปากเพื่อนจนเลือดกลบแบบนั้น เพราะน้องเล่นถูปากตัวเองจนจะถลอก ชีวาเลี้ยวรถเข้าจอดข้างทางแล้วจับข้อมือน้องเอาไว้ จูนที่นั่งรถมาด้วยกันที่ด้านหลังรีบแกล้งตาย เอ้ย แกล้งหลับเปิดทางให้เพื่อน แอบหรี่ตาเล็กๆเพื่อดูสถานการณ์

“เลิกเช็ดได้แล้ว แดงไปหมดแล้วเนี่ย”

เมื่อข้อมือข้างหนึ่งถูกจับปอมปอมจึงยกอีกข้างขึ้นเช็ด ชีวาถอนใจกับความรั้นนั้นก่อนจับมันไว้ทั้งสองข้าง เมื่อไม่มีที่ให้เช็ดแล้วปอมปอมเลยซุกหน้ากับอกพี่แล้วใช้เสื้อพี่นั่นล่ะเช็ดแทน

“ปอมปอม!”

ชีวาเรียกน้องเสียงดุ ปอมปอมหยุดชะงัก จูนที่แอบดูอยู่เบาะหลังก็ถึงกับสะดุ้งไปด้วย สองคนด้านหน้านิ่งกันอยู่ท่านั้นทำให้จูนเองก็ไม่กล้าจะขยับตัว จนปอมปอมพูดขึ้นมาเสียงเบา

“จูบแรกของปอมอ่ะ”

“อย่าคิดมากเลยน่า เรื่องแค่นี้เอง”

จริงๆชีวาอยากจะปลอบน้อง แต่ก็รู้ดีล่ะว่าคำพูดเขามักตีความหมายไปในทางลบได้เสมอ ครั้งนี้ก็เช่นกัน เมื่อน้องถอยห่างออกไปแล้วบิดข้อมือออกจากมือเขา

“โกรธอะไร?” ชีวาเอ่ยถามเพราะไม่รู้ถึงสาเหตุ เขาพูดอะไรผิดไปอีกแล้วหรือ

“...............”

สิ่งที่ได้ตอบกลับมาจากน้องคือความเงียบ ปอมปอมนั่งเอนพิงเบาะรถราวไม่ได้ยินคำถาม จูนหรี่ตาขึ้นมามองทั้งคู่ ก่อนแยกเขี้ยวใส่ชีวา ทึ่มจริงๆเลย ชิ!

“ถ้าจะนับกันจริงๆมันไม่ใช่จูบแรกเสียหน่อย กะปอมเคยจูบพี่ด้วยจำไม่ได้หรือไง?”

“อันนั้นไม่นับ”

“ทำไมล่ะ?”

ชีวาอมยิ้มเมื่อเอ่ยถาม ถึงน้องจะสวนกลับมาทันทีแต่กลับตีสีหน้าไม่ถูก แบบนี้หมายความว่าไง?

“ก็... ปอมแค่จุ๊บเฉยๆ”

“มันไม่เหมือนกันเหรอ?”

“จะไปเหมือนได้ไง แค่เขียนก็ไม่เหมือนแล้ว”

คนเป็นน้องว่าอย่างนั้น ชีวาหัวเราะในลำคอ ก่อนโน้มตัวไปดันเบาะคร่อมตัวน้องไว้ ปอมปอมมองพี่อึ้งๆ เบี่ยงหน้าหนีเมื่อพี่เคลื่อนหน้าเข้ามาใกล้

“แล้วแบบไหนที่เขาเรียกว่าจูบ หืม?”

ชีวาเอ่ยถามระยะใกล้ ปลายจมูกแทบแตะแก้มน้อง ปอมปอมหันกลับมามองหน้าพี่ ดวงตาเรียวกะพริบปริบ ริมฝีปากเอ่ยคำพูดยั้งไว้ไม่ทัน

“ป๋าไม่อยากรู้หรอก”

“อยากรู้สิ อยากรู้มาก”

แขนเรียวสอดคล้องโอบคอพี่ โน้มให้พี่ขยับลงมาใกล้อีกนิดแล้วจูบริมฝีปากพี่เบาๆ แต่ก็เพียงแค่แตะค้างไว้อย่างนั้น ก่อนที่น้องจะผละห่างชีวาก็ค่อยๆบดคลึงริมฝีปากจิ้มลิ้มนั้น ความรู้สึกแสนแปลกใหม่สำหรับเขาเกือบทำให้ห้ามใจไม่อยู่ ตอนแรกเพียงจะแกล้งน้องเล่นเท่านั้น แล้วตอนนี้เขาทำอะไรอยู่ ทำไมยังไม่ผละห่างจากน้องอีก เสียสติไปแล้วใช่ไหม...

“อะแฮ่ม แฮ่มๆๆๆๆๆๆ”

เสียงกระแอมกระไอจากจูนที่กลายเป็นอากาศภายในรถเรียกสติสตังของทั้งคู่ให้กลับมาอยู่กับปัจจุบัน ชีวาผละห่างจากน้อง กลับมานั่งที่ของตนเอง ปอมปอมเหลียวกลับไปมองจูนที่เอนนอนอยู่เบาะหลัง เพื่อนจูนส่งยิ้มล้อเลียนมาให้ แหมะ ถ้าเมื่อกี้เขากระแอมแล้วยังไม่แยกกันนี่เขาว่าจะขากใส่แล้วนะนี่

“เกรงใจกันบ้าง’ไรบ้าง”

หนุ่มน้อยหน้ามนว่าอย่างนั้น ปอมปอมแยกเขี้ยวใส่เพื่อน ขณะที่คนเป็นพี่หัวเราะขำ ปอมปอมนั่งหน้าแดงมาตลอดทางที่พี่ขับรถกลับบ้าน ในใจอดเปรียบเทียบไม่ได้ว่าตอนโดนเพื่อนบังคับจูบ กับจูบแบบเต็มใจกับพี่... มันต่างกันมากจริงๆ





+++++++++++++++





สนามแข่งรถในคืนเดียวกันนั้น


การ์ฟมีนัดแข่งทั้งที่สภาพร่างกายไม่พร้อม แต่จะยกเลิกไปก็ไม่ได้ เพราะศักดิ์ศรีตัวเดียวที่มันค้ำคอ ทั้งที่มีประสบการณ์มาแล้วว่าการเอาคำว่าศักดิ์ศรีมาเป็นที่ตั้ง ผลลัพธ์มันออกมาเป็นเช่นไร เชนกับกลุ่มเพื่อนก็มาร่วมดูการแข่งนัดนี้ด้วย เขาเห็นแล้วว่าท่าทางการ์ฟดูไม่ดีเท่าไหร่ พอเข้าไปเตือนว่าไม่ควรลงแข่งการ์ฟก็ไม่สนใจจะฟัง ถึงเขาจะไม่ถูกกับการ์ฟ แต่ก็ไม่ได้อยากให้เป็นอะไรร้ายแรงหรอกนะ ก็รู้กันดีอยู่ว่าหากแข่งในขณะที่ร่างกายไม่พร้อมมันมีผลเสียอย่างไร พลาดเพียงเล็กน้อยอาจหมายถึงชีวิตเลยก็เป็นได้

รถที่เข้าร่วมการแข่งขันลงสนามอย่างครบถ้วน เสียงเครื่องยนต์ดังข่มกันไม่มีใครยอมใคร เชนมองรถคันที่การ์ฟขับเขม็ง มันจะไหวแน่หรือแบบนี้ เมื่อรถออกสตาร์ทแล้วพุ่งตัวออกไปเสียงเชียร์จากรอบสนามก็ดังขึ้นกว่าเดิม รถที่ลงแข่งทุกคันเจ้าของรถต่างก็มีเทคนิกพิเศษของตนเองกันทั้งนั้น พุ่งทะยานเบียดบี้สูสีกันจนคนดูลุ้นระทึก เมื่อถึงโค้งสุดท้ายก่อนถึงเส้นชัยใครมีความสามารถแบบไหนก็งัดกันออกมา แม้แต่การเล่นไม่ซื่อก็ตาม การ์ฟเร่งความเร็วไม่มีหยุด ถึงอย่างไรเขาก็ต้องชนะแน่ เด็กหนุ่มคิดอย่างลำพอง แต่แล้วความกระหยิ่มในใจกลับถูกสั่นคลอนด้วยความโคลงเคลงของตัวรถ เกิดอะไรขึ้นกับรถของเขา!!?

เด็กหนุ่มบังคับทิศทางรถอย่างสุดความสามารถ มันเสียสมดุลจนดึงกลับแทบไม่ได้ แถมรถที่ตามหลังมายังเบียดเสียจนจะตกขอบ ในหัวเด็กหนุ่มหมุนวน ตาเริ่มพร่าจากอาการป่วยที่เป็นอยู่ ไม่ เขาจะเป็นอะไรตอนนี้ไม่ได้!!!

“การ์ฟ!!!”

เชนเรียกชื่อคู่อริอย่างตกใจเมื่อรถของการ์ฟควบคุมไม่อยู่ เกิดอาการแตกตื่นขึ้นกับคนดูเมื่อเสียงเบรคดังยาวเหยียด สะเก็ดไฟจากการเสียดสีของล้อรถกระเด็นออกมาน่าหวาดเสียว ก่อนที่รถจะพลิกคว่ำแล้วไถลไปตามพื้นถนน เหวี่ยงตัวแรงจนคนดูต้องกรีดร้อง

เชนวิ่งลงจากอัฒจันทร์ เพื่อนในกลุ่มวิ่งตามไปไม่ห่าง เด็กหนุ่มเข้าไปดูการ์ฟเมื่อรถหยุดลง กุมเปิดประตูรถที่มันบุบบี้เสียรูปทรง เพื่อนในกลุ่มมองหน้ากันก่อนพยักหน้าให้เข้าไปช่วยเชน คนคุมสนามเรียกรถพยาบาลมารับคนเจ็บ ไม่ให้ใครขยับเขยื้อนตัวการ์ฟเพราะกลัวจะมีอะไรกระทบกระเทือน สภาพรถที่ว่าแย่ แต่เจ้าของรถดูแย่ยิ่งกว่าเมื่อเลือดสีแดงสดไหลซึมลงมาอย่างน่ากลัว

“การ์ฟ! การ์ฟ! ได้ยินกูไหม!?”

แม้เชนจะตะโกนเสียงดังแค่ไหนแต่เจ้าของชื่อก็ยังนิ่งสนิท ถึงจะเกลียดขี้หน้ามัน แต่เขาก็ไม่อยากให้มันมาตายแบบนี้นะ!!





+++++++++++++++





Magica Café


มิมิวมาหาอาร์ดิวที่ร้าน สั่งอาหารมาทานเล่นขณะคุยกันไปด้วย เธอมีเรื่องเป็นกังวลหลายอย่าง เวลาอยู่กับอาร์ดิวแล้วเธอรู้สึกผ่อนคลายลง ทำให้เธอติดที่จะมาหาอาร์ดิวอยู่บ่อยๆเวลาไม่สบายใจ บางทีก็กลัวเพื่อนลำบากใจอยู่เหมือนกันที่มักมาปรึกษาปัญหาอยู่เรื่อยๆ แต่อาร์ดิวก็ยังใจดีและเป็นที่พึ่งให้เธอได้เสมอ

“น้องมิมิวคะ ใช่โทรศัพท์น้องหรือเปล่าคะ?”

พนักงานของร้านเดินออกมาจากด้านในร้านพร้อมโทรศัพท์เครื่องหนึ่ง มิมิวรับมาแล้วบอกขอบคุณ นี่เธอสะเพร่าขนาดไปวางมือถือทิ้งไว้โดยไม่รู้ตัวแล้วหรือ

“ขอบคุณมากค่ะพี่ มิวคงเบลออ่ะ เมื่อกี้ไปเข้าห้องน้ำแล้วคงลืมวางไว้”

“คราวหลังเอาใส่กระเป๋าไว้เลยนะ ถ้าคนอื่นเห็นคงไม่ได้คืนแน่” อาร์ดิวว่า

“ค่า จะเก็บให้ดีเลย... ขอบคุณมากนะคะ”

มิมิวรับคำเสียงทะเล้นก่อนหันมาบอกขอบคุณพี่พนักงานอีกครั้ง พี่เขายิ้มรับคำขอบคุณก่อนไปทำงานของตนเองต่อ มิมิวจึงเปิดดูในเครื่อง หัวคิ้วสวยขมวดเมื่อมีเบอร์ที่ไม่ได้รับขึ้นมาเป็นพรืด มองหน้าอาร์ดิวที่นั่งอยู่ตรงข้ามแล้วบอก

“มีเบอร์แปลกโทรมาตั้งหลายสายแหนะ”

“เขาอาจจะมีธุระสำคัญก็ได้ ลองโทรกลับไปไหม?”

อาร์ดิวเลิกคิ้วกับคำบอกเล่า ก่อนจะแนะให้เพื่อนโทรกลับไป มิมิวพยักหน้าก่อนกดโทรออก เมื่อปลายสายกดรับสีหน้าของเธอก็ซีดเผือด อาร์ดิวเอื้อมมือไปกระตุกมือเธอเพื่อเรียกสติเบาๆ มิมิวมองหน้าเพื่อนก่อนจะเอ่ยบอกเสียงแผ่ว

“การ์ฟเกิดอุบัติเหตุตอนแข่งรถ ตอนนี้อยู่ในห้องไอซียู”

อาร์ดิวอึ้งกับสิ่งที่ได้รับรู้ บีบมือเพื่อนเบาๆอย่างปลอบใจ สีหน้ามิมิวยังซีดจนน่าเป็นห่วง เด็กสาวขอร้องให้อาร์ดิวไปโรงพยาบาลเป็นเพื่อน อาร์ดิวจึงไปบอกพ่อกับแม่ของตนเอง ก่อนขึ้นรถของบ้านมิมิวตรงไปโรงพยาบาล




..........................




เทสต์กับบิวรีบมาที่โรงพยาบาลเมื่อได้รับแจ้งเรื่องหลาน หน้าห้องฉุกเฉินมีเด็กหนุ่มสองคนกับเด็กสาวอีกหนึ่งนั่งรออย่างกระวนกระวาย สาวน้อยหนึ่งเดียวในนั้นเทสต์รู้จักดี เธอคือมิมิว คนรักของหลานชายเขาเอง แล้วอีกสองคนนั้นคงเป็นเพื่อน

“น้าเทสต์”

มิมิวเอ่ยทักเมื่อเทสต์ก้าวเข้ามาในระดับสายตา เด็กทั้งสามคนไหว้เทสต์กับบิว ก่อนที่ทั้งหมดจะพากันรออยู่หน้าห้องฉุกเฉินนั้นอย่างเป็นห่วงคนเจ็บด้านใน มิมิวจับมืออาร์ดิวแน่น เธอกลัวการ์ฟเป็นอะไรไป ไม่รู้ว่ารออยู่นานเท่าไหร่ ไม่มีใครสนใจเวลา เมื่อทุกคนจดจ่ออยู่กับความปลอดภัยของการ์ฟ จนกระทั่งแพทย์ผู้ทำการรักษาออกมาบอกว่าการ์ฟพ้นขีดอันตรายแล้ว ทุกคนก็ถอนใจอย่างโล่งอกไปตามกัน





+++++++++++++++





มิมิวจะไปเยี่ยมการ์ฟที่โรงพยาบาล เด็กสาวมาชวนอาร์ดิวไปด้วย ก็ไม่รู้ทำไมต้องมารบกวนอาร์ดิวอยู่ตลอด พอคุณแม่ของอาร์ดิวรู้ว่าเพื่อนของลูกเกิดอุบัติเหตุต้องเข้าโรงพยาบาลจึงฝากของให้ลูกชายไปเยี่ยมเพื่อน

หลังจากที่ได้ออกมาอยู่ห้องธรรมดาแล้วอาการการ์ฟก็ยังไม่ดีขึ้นเท่าที่ควร อาการตอบสนองต่อสิ่งเร้าน้อยมากจนต้องดูแลกันอย่างใกล้ชิด คุณพ่อคุณแม่ของการ์ฟกับน้องเอิงเดินทางเข้ากรุงเทพฯเมื่อรู้เรื่องนี้ อาร์ดิวกับมิมิวที่มาเยี่ยมการ์ฟก็ได้พบพวกท่านด้วย อยู่พูดคุยทำความรู้จักกันสักพักเทสต์ก็ให้พวกท่านกลับไปพักผ่อนที่บ้านเพราะเดินทางมาเหนื่อยๆ การ์ฟกับน้าชายและน้องเอิงเรียนและทำงานอยู่ในเมืองกรุง ขณะที่พ่อแม่ของการ์ฟอยู่ต่างจังหวัด ช่วงปิดภาคเรียนน้องเอิงจึงกลับไปอยู่กับพ่อแม่ที่ต่างจังหวัดด้วย

อาร์ดิวลงมาหาซื้อของกินไปให้มิมิวที่รับอาสาอยู่เฝ้าการ์ฟให้ขณะที่น้าชายของการ์ฟพาครอบครัวการ์ฟกลับไปพักผ่อน เมื่อออกจากลิฟท์แล้วจะเดินไปยังร้านค้าสายตาก็เหลือบไปเห็นคนคุ้นตาเดินผ่านไปแว้บๆ อาร์ดิวยืดคอมองตาม คิ้วขมวดเมื่อเห็นว่าคนที่เดินผ่านหน้าไปเมื่อครู่คือการ์ฟ การ์ฟจะมาเดินอยู่แถวนี้ได้อย่างไรในเมื่อเมื่อครู่นี้ยังเห็นนอนไม่ได้สติอยู่ห้องพักชั้นบนโน่น เพื่อตัดความสงสัยของตนเองอาร์ดิวจึงรีบเดินไปตามทางที่เห็นคนๆนั้นเดินไปเมื่อครู่ เพราะคิดว่าตัวเองต้องตาฝาดแน่ๆ

ทางเดินของโรงพยาบาลทอดยาวไปเรื่อยๆ ด้านข้างเป็นพื้นที่โล่งที่ถูกจัดแต่งเป็นสวนสวย มันไม่ได้ให้บรรยากาศน่ากลัวจนอาร์ดิวต้องถอย คนๆนั้นเดินไปจนถึงทางแยกก็หยุดทำให้อาร์ดิวต้องหยุดตาม หัวใจเกิดเต้นระรัวขึ้นมาไม่ทราบสาเหตุ ทั้งที่ตอนเดินตามมาเขาไม่ได้รู้สึกกลัวสักนิด จะมากลัวอะไรเอาตอนนี้ไม่รู้ ใจหนึ่งก็อยากจะรู้ให้แน่ว่าผีหรือคน แต่อีกใจก็ชักจะหวั่นๆ ก่อนที่จะได้ตัดสินใจว่าจะอยู่หรือไปคนๆนั้นก็หันกลับมาทางที่อาร์ดิวยืนอยู่ช้าๆ ดวงตาเรียวเบิกกว้าง ผะ... ผีเหรอ!!?

“ว้ากกกกกกกกกกกกก”

อาร์ดิวร้องลั่นก่อนจะวิ่งกลับทางเดิมโดยไม่เหลียวหลัง ผีหลอกอ่ะ กลางวันแสกๆเลยด้วย ฮืออออ ถึงเขาจะเห็นนิมิตบ้างอะไรบ้าง แต่เขาไม่เคยถูกผีหลอกนะ ทำไมมันเป็นแบบนี้ ยังมีผีตัวอื่นในโรงพยาบาลด้วยหรือเปล่านี่ แงงงง

วิ่งกลับมาหยุดยืนหอบอยู่ใกล้ๆเคาท์เตอร์ประชาสัมพันธ์แล้วอาร์ดิวก็แทบทรุด เหนื่อยกว่าวิ่งแข่งกีฬาโรงเรียนอีก เมื่อได้หยุดพักก็เหมือนว่าจะเพิ่งนึกขึ้นมาได้ ถ้าเมื่อครู่คือการ์ฟจริง แล้ว... แล้วทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ ที่สำคัญ... ทำไมเขาถึงเห็นวิญญาณ แต่ว่ามันคือวิญญาณแน่หรือ หรือเขาเพียงแค่คิดไปเอง นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับเขา?

“การ์ฟ…”

อาร์ดิวพึมพำชื่อของอีกคนเบาๆ ก่อนจะสลัดความคิดฟุ้งซ่านของตัวเองออกไปจากหัวแล้วจะไปหาซื้อของกินมาให้มิมิวอย่างที่ตั้งใจไว้แต่แรก เกิดเรื่องประหลาดขึ้นกับเขามากเกินไปแล้ว ขณะที่จะลุกไปก็ได้ยินเสียงลิฟท์เปิดออกพร้อมกับที่เตียงถูกเข็นออกมาอย่างรวดเร็ว อาร์ดิวหันไปมองความวุ่นวายขนาดย่อมที่เกิดขึ้น สายตาสะดุดเข้ากับเด็กสาวที่วิ่งร้องไห้ตามเตียงผู้ป่วยนั้น ... มิมิว



‘การ์ฟ!!’



เด็กหนุ่มดีดตัวลุกขึ้น หันกลับไปมองทางที่ตนเองวิ่งมาเมื่อครู่ ก่อนขาจะออกวิ่งกลับไปทางนั้นทันทีไม่ลังเล เมื่อไปถึงจุดที่ตนเองเห็นการ์ฟแล้ววิ่งหนีมานั้น การ์ฟก็ไม่ได้อยู่ตรงนั้นเสียแล้ว อาร์ดิวเหลียวมองรอบกาย มีเพียงความเงียบและสายลมที่พัดมาเบาๆ

“การ์ฟ คุณอยู่ตรงนี้หรือเปล่าอ่ะ?”

คนคงมองว่าเขาเป็นบ้าที่เรียกหาใครไม่รู้ในพื้นที่โล่งแบบนี้ แต่เมื่อมองหาจนท้อใจแล้วอาร์ดิวก็ไม่เห็นวี่แววของคนที่อยากเจอแม้แต่น้อย เมื่อกี้เขาไม่น่าวิ่งหนีเลย แต่เมื่อหันกลับมาอีกทีการ์ฟก็หยุดยืนอยู่ไม่ไกล ยังดีใจได้ไม่ทันไรการ์ฟกลับจะเดินหนีไปอีก อาร์ดิวจึงรีบวิ่งตาม

“คุณจะไปไหน?”

เด็กหนุ่มวิ่งมาดักหน้าการ์ฟเอาไว้ ตอนนี้จะเป็นผี จะเป็นวิญญาณ หรือเป็นตัวอะไรเขาก็ไม่กลัวแล้วล่ะถ้ามันจะช่วยคนๆนี้ได้ การ์ฟมองอาร์ดิวนิ่งๆ ไม่ตอบคำถามใดๆ อาร์ดิวจึงพูดกับอีกฝ่ายต่อ

“กลับเข้าไปข้างในด้วยกันเถอะนะ”

“....................”

“การ์ฟ…”

มีเพียงความเงียบที่ผ่านไปพร้อมเวลาที่เดินไปเรื่อยๆ การ์ฟยื่นมือมาหา อาร์ดิวผงะถอยอย่างลืมตัวทำให้คิ้วของอีกฝ่ายขมวด

“เอ่อ... ขอโทษ มาสิ”

มือเรียวยื่นไปตรงหน้า การ์ฟมองมือที่ยื่นมาหาแล้วนิ่ง เหลือบตามองหน้าเจ้าของมือที่มองกลับมาที่เขาด้วยความลุ้นแล้วจึงยื่นมือไปจับ เกิดแสงสว่างวาบขึ้นมาเมื่อมือของทั้งคู่สัมผัสกัน อาร์ดิวก้มมองมือของตนเองที่กุมมือการ์ฟอยู่ด้วยความอึ้ง จับได้ด้วย???

“หน้านายตลก”

เสียงของอีกคนแว่วมาให้ได้ยิน อาร์ดิวเงยมองคนพูด กะพริบตาปริบเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังยิ้ม การ์ฟยิ้มให้เขาด้วย?

อาร์ดิวจับมือการ์ฟไว้มั่นเพราะกลัวว่าถ้าจับไม่แน่นการ์ฟจะหายไปไหนอีก ขณะที่อีกมือก็กดโทรหามิมิวเพื่อถามว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน การ์ฟมองมือเรียวที่จับมือของตนเองไว้แล้วก็กระชับอุ้งมือให้แน่นขึ้น ขณะที่เดินตามอาร์ดิวกลับไปอีกทาง เหลียวมองกลับไปด้านหลังที่มีม่านหมอกปกคลุมแล้วยิ้มนิดๆ เขาคงไปไม่ได้แล้ว ก็มีคนไม่อยากให้ไปนี่นา ก้าวเดินของการ์ฟกับอาร์ดิวที่ห่างออกไปเรื่อยๆทำให้ม่านหมอกนั้นค่อยจางลงช้าๆก่อนจะหายไปในที่สุด…



เมื่ออาร์ดิวมาถึงห้องฉุกเฉินที่มิมิวบอกก็เห็นว่าทุกคนในครอบครัวการ์ฟมารวมกันอยู่ที่นี่หมดแล้ว เพิ่งจะกลับกันไปได้ไม่นาน ท่าทางคงจะยังไม่ได้พักผ่อนกันด้วยกระมัง ต้องรีบกลับมาดูการ์ฟกันอีก มิมิวเห็นเพื่อนเดินเข้ามาก็ลุกมาหา ละล่ำละลักบอกเพื่อนว่าตนเองกลัวแค่ไหนตอนที่สัญญาณชีพจรการ์ฟหยุดเต้น อาร์ดิวขอโทษเพื่อนที่ไม่ได้อยู่ด้วยตอนสำคัญ ก่อนพาเพื่อนไปนั่งที่เก้าอี้เพื่อรอฟังผลการรักษา

เด็กหนุ่มหันมามองการ์ฟที่ยืนเงียบอยู่ไม่ไปไหน มือของทั้งคู่ยังคงกุมกัน อาร์ดิวค่อยคลายมือออกเมื่อเอ่ยบอกกับการ์ฟ

“ไปสิการ์ฟ เข้าไปในห้องนั้น”

อาร์ดิวพยักหน้าไปยังห้องฉุกเฉินที่ปิดประตูสนิท มือของการ์ฟยังจับมือเขาแน่น ทั้งที่เขาปล่อยมือแล้วแต่อีกฝ่ายกลับไม่ยอมปล่อยตาม สายตาคมมองหน้าอาร์ดิวนิ่งๆ คนถูกมองเลิกคิ้วสูงเป็นเชิงถาม ใบหน้าของการ์ฟโน้มเข้ามาใกล้แล้วจูบริมฝีปากบางเบาๆไม่ให้ทันตั้งตัว ก่อนที่คนจูบจะหายวับไป

อาร์ดิวกะพริบตาปริบ เมื่อครู่เหมือนเขาจะเห็นรอยยิ้มของคนฉวยโอกาสด้วย มือเรียวแตะปากตนเอง ทำไมมันเหมือนจริงแบบนี้ล่ะ รู้สึกอุ่นๆแปลกๆ แก้มเขาก็ร้อนวูบๆด้วย นี่เขาเขินหรือ เขินผีนี่นะ เอ๊ะ! ไม่สิ วิญญาณต่างหาก เออ จะอะไรก็ช่างเถอะ แต่ตอนนี้หน้าเขาร้อนไปหมดแล้ว~


แกร๊ก


เสียงประตูห้องฉุกเฉินเปิดออกทำให้อาร์ดิวชะงัก ทุกคนพากันลุกเข้าไปหาผู้ที่ก้าวออกมาอย่างมีความหวัง อาร์ดิวขยับเข้าไปใกล้เพื่อรับฟังข่าวด้วยอีกคน และข่าวที่ทุกคนได้รับ... มันคือข่าวดี





++++++++++++++++





คุณพ่อคุณแม่ของการ์ฟที่มาจากต่างจังหวัดอยู่เฝ้าจนการ์ฟหายดีแล้วจึงพามาที่ร้าน Magica Café ช่วงปิดภาคเรียนสองพี่น้องปอปลาก็มาขลุกอยู่ที่นี่ ทำให้เมื่อเห็นว่าการ์ฟกับครอบครัวมาที่ร้านก็ออกจะแปลกใจอยู่ไม่น้อย ยิ่งเห็นว่าคุณพ่อกับคุณแม่ของตนเองดูสนิทสนมกับครอบครัวการ์ฟเป็นอย่างดีก็ยิ่งแปลกใจ

ผู้ใหญ่เข้าไปคุยกันในห้องทำงานของร้าน ขณะที่เด็กๆรวมตัวกันอยู่ด้านนอก พี่ๆพนักงานร้านก็ยังคงทำงานกันไปเป็นปรกติ น้องเอิงที่ตามพ่อแม่กับพี่ชายมาด้วยก็คุยกับปอมปอมเสียงแจ๋ว คนที่มีท่าทีอึดอัดคงเป็นอาร์ดิว แค่การ์ฟนั่งอยู่เฉยๆก็ทำให้เขาหายใจไม่ทั่วท้อง เป็นอะไรไปแล้วไม่รู้

“ตี๋…”

“ห... หา!?” อาร์ดิวเสียงหลง กำลังภาวนาไม่ให้การ์ฟหันมาสนใจอยู่เลย ทำไมมันไม่ได้ผลล่ะ

“จะบอกว่าไม่ต้องเกร็งขนาดนั้นก็ได้” การ์ฟเอ่ยบอกเสียงเรียบ

“อ... อ๋อ” อาร์ดิวพยักหน้าหงึกหงัก ผ่อนลมหายใจยาว มันอึดอัดเกินไปแล้วนะ!



ครืดดด



“ฉันจะออกไปข้างนอก”

“เอ่อ...”

การ์ฟเอ่ยบอกเท่านั้นแล้วเดินออกไปจากร้าน อาร์ดิวหน้าจ๋อยเพราะรู้สึกว่าที่การ์ฟต้องลุกออกไปสาเหตุมาจากตนเอง ปอมปอมกับน้องเอิงมองหน้ากันแล้วยิ้มแหย พี่เราเขาไม่ถูกกันเลยเนอะ




...........................




ในขณะที่สถานการณ์ของเด็กๆด้านนอกชักจะเริ่มไม่ดี ด้านในห้องทำงานสองครอบครัวก็พูดคุยกันเสียถูกคอ เพราะไม่ได้พบกันเสียนานทำให้มีเรื่องคุยกันสารพัด ที่คุณพ่อกับคุณแม่ของการ์ฟพาการ์ฟมาที่ร้านในวันนี้ เหตุเพราะจะพาลูกมาฝากไว้กับคุณพ่อคุณแม่สองพี่น้องปอปลา

“ลงทุนซื้อบ้านให้พวกเขาอยู่กันสามคนน้าหลาน แต่น้าอย่างเจ้าเทสต์ก็ไม่ค่อยจะอยู่ติดบ้าน เจ้าการ์ฟเองก็โน่น ไปแข่งรถแข่งเรืออะไรก็ไม่รู้ จนเกิดอุบัติเหตุนี่ล่ะค่ะพ่อแม่อย่างเราถึงได้รู้” คุณแม่ของการ์ฟเล่าความทุกข์ใจให้ฟัง

“วัยรุ่นก็อย่างนี้ล่ะครับ เลือดร้อน ชอบความท้าทาย” คุณพ่อไปป์ของอาร์ดิวว่ายิ้มๆ

“โธ่ ถ้ามันไม่เสี่ยงต่อชีวิตมนก็จะไม่ว่าอะไรเลยค่ะคุณไปป์” คุณแม่การ์ฟว่าต่อ “ว่าแต่... คนไหนคะที่คุณวิผูกดวงไว้กับนายการ์ฟน่ะค่ะ?”

“อ้อ อาร์ดิวน่ะค่ะ คนที่ดูเรียบร้อยๆหน่อย”

คุณแม่รวิของสองพี่น้องปอปลาบอกยิ้มๆ ถ้าอีกฝ่ายไม่เอ่ยถามท่านก็ลืมไปแล้วนะนี่ เรื่องที่ท่านทำพิธีผูกดวงอาร์ดิวกับการ์ฟเอาไว้ด้วยกัน เพราะตอนเด็กอาร์ดิวอ่อนแอมากจนอาจจะถึงขั้นเสียชีวิตได้ และขณะนั้นเองท่านกับสามีก็ได้ช่วยเหลือครอบครัวการ์ฟจากเหตุการณ์เพลิงไหม้เอาไว้ ทำให้ได้รู้จักกับครอบครัวของการ์ฟ ด้วยความพิเศษที่ท่านมีทำให้รู้ได้ว่าการ์ฟคือคนที่จะช่วยลูกชายของท่านได้ คุณแม่จึงได้เอ่ยขอกับทางพ่อแม่ของการ์ฟ ขอผูกชะตาของอาร์ดิวไว้กับการ์ฟ เพราะท่านทำใจไม่ได้จริงๆหากลูกชายของท่านจะต้องจากไปก่อนวัยอันควร เพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณที่ทดแทนกันไม่หมดพ่อแม่การ์ฟจึงยอมให้ทำ เรื่องนี้พวกท่านไม่เคยเล่าให้เด็กๆฟัง จึงมีแต่พวกท่านสี่คนเท่านั้นที่รู้ แม้แต่เทสต์เองก็ไม่เคยเล่า แต่รายนั้นเขารู้สึกได้ด้วยตัวของเขาเองทำให้เป่าหูหลานอยู่ทุกวันเรื่องเนื้อคู่เป็นผู้ชาย




..................................

ต่อด้านล่างค่ะ :L2:

หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((8)) 28_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: wanmai ที่ 28-01-2013 22:36:46



หลังจากผู้ใหญ่พูดคุยตกลงกันเป็นที่เรียบร้อย การ์ฟก็ได้เข้ามาเป็นหนึ่งในพนักงานของร้าน Magica Café เพราะพ่อกับแม่เป็นห่วงว่าปล่อยไว้จะมีเวลาไปแข่งรถอีก การ์ฟไม่ได้ขัดการตัดสินใจนั้นของท่านทั้งสอง เพราะเขาเห็นแล้วว่าท่านเป็นทุกข์ที่เขาทำตัวเช่นนั้น ไม่ใช่ว่าจะเลิกคลั่งไคล้ความเร็ว แต่ตอนนี้คงทำในสิ่งที่ชอบนั้นไม่ไหว ถ้าต้องแลกกับความสะใจชั่วครั้งชั่วคราวกับน้ำตาของผู้ให้กำเนิด เขายอมหยุดจะดีกว่า

ทุกเช้าการ์ฟต้องขึ้นรถเมล์มาที่ร้าน เพราะถูกสั่งห้ามขับรถเองเป็นอันขาด การใช้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปหน้ามือเป็นหลังมือ เคยอยู่สุขสบายงานการไม่ได้แตะ ใช้เงินฟุ่มเฟือยได้ตามแต่ใจเพราะไม่มีใครคอยคุม ถึงจะมีน้าอยู่แต่เขาไม่เชื่อเสียอย่างน้าอย่างเทสต์ก็ทำอะไรไม่ได้ น้องเอิงกลับไปอยู่ที่บ้านตลอดช่วงปิดภาคเรียน พ่อแม่ของเขาพากันลงความเห็นว่าจะให้น้องเอิงกลับไปเรียนโรงเรียนที่บ้าน เพราะท่าทางการอยู่กับน้าและพี่ชายจะไม่เข้าท่า พากันทิ้งน้องไว้กับแม่บ้านแล้วกลับกันดึกๆดื่นๆ ตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลมาการ์ฟโดนไปหลายกระทงจนนับไม่หมด

เด็กหนุ่มเข้าร้านมาพี่พนักงานคนอื่นก็พากันเตรียมทำความสะอาดร้านแล้ว บ้างก็ช่วยกันขนของเข้าร้าน มีคุณพ่อของอาร์ดิวคอยคุมอยู่ การ์ฟไหว้ท่านก่อนเข้าไปข้างในเพื่อเปลี่ยนชุด เมื่อเข้ามาในห้องเปลี่ยนชุดก็เห็นว่าอาร์ดิวอยู่ในนั้น ทั้งสองคนไม่ได้ทักทายกัน ต่างก็ทำธุระของแต่ละคนไปเงียบๆ การ์ฟเลี่ยงไปยังตู้เก็บของของตนเอง เอาชุดที่ทางร้านเตรียมไว้ให้มาเปลี่ยน วันนี้เขาเริ่มทำงานวันแรก ไม่ค่อยมั่นใจว่าจะทำได้ แต่ก็คงต้องลองดูกันสักตั้ง ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะ ดูท่าว่ามันจะไม่รอดตั้งแต่ผูกผ้ากันเปื้อนแล้ว แอบบ่นอีกที่มันผูกด้านหลัง ใครจะไปมองเห็นวะ!

อาร์ดิวที่เตรียมตัวเสร็จจะออกไปช่วยหน้าร้าน เห็นว่าการ์ฟยักเย่ยักยันกับการผูกผ้ากันเปื้อนแล้วก็ขัดตา เด็กหนุ่มจึงเข้าไปช่วยผูกให้ การ์ฟชะงักเมื่อมือเรียวจับสายผ้ากันเปื้อนจากมือของตนเองไป ก่อนจะยืนนิ่งให้อีกฝ่ายช่วยผูกให้ เมื่อผูกเสร็จการ์ฟก็หมุนตัวมามองหน้าคนช่วยผูก อาร์ดิวเงยขึ้นมาสบตากับเขาก่อนบอก

“เสร็จแล้ว”

“อืม” การ์ฟตอบรับเพียงสั้นๆก่อนเอ่ยต่อ “ไม่คิดว่า...”

“?”

“เปล่า ไม่มีอะไร”

การ์ฟพูดค้างไว้เท่านั้นแล้วเดินออกจากห้องไป ก่อนจะเอี้ยวตัวกลับมาบอกขอบคุณอาร์ดิว อาร์ดิวย่นหัวคิ้ว เกาแก้มตนเองงงๆกับท่าทีของการ์ฟในวันนี้ เด็กหนุ่มตามออกไปช่วยงานด้านนอก คุณพ่อให้ช่วยสอนงานการ์ฟด้วยเพราะการ์ฟยังใหม่ ชีวามองความใกล้ชิดของทั้งสองคนอย่างไม่ชอบใจ

ปอมปอมมาที่ร้านพร้อมคุณแม่ หนุ่มน้อยไม่ได้มาช่วยงานเพราะไม่มีอารมณ์ เห็นป๋าวาของตนเองแสดงอาการหวงอาร์ดิวจนออกนอกหน้าแล้วปอมปอมก็พลอยหดหู่ เข้าไปนอนเล่นอยู่ในห้องทำงานทั้งวันจนถึงเวลากลับบ้าน วันต่อมาจึงขออยู่เฝ้าบ้าน เพราะมาที่ร้านแล้วก็มาเห็นชีวาหวงอาร์ดิวแบบนี้ สู้นอนเล่นอยู่บ้านหรือไม่ก็นัดไปเที่ยวกับจูนยังดีกว่าอีก





++++++++++++++++





เพราะปอมปอมไม่ยอมไปที่ร้านมาหลายวันแล้ว วันนี้ชีวาจึงหยุดอยู่บ้านบ้าง ไปทำงานก็เห็นแต่ภาพแสลงใจแบบนี้ก็ไม่รู้จะไปมันทำไม แถมน้องก็ไม่อยู่ให้เห็นหน้าอีก ชีวาออกจากบ้านตัวเองมาหาปอมปอม เห็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่หน้าบ้านของน้องทำให้เขาต้องหยุดดูอย่างแปลกใจ เพราะเด็กคนนั้นคือคนที่มีเรื่องกับปอมปอมในงานวันเกิดของน้องสาวพริม คนที่ใจกล้ามาจูบปอมปอมจนโดนต่อย แล้วมาที่นี่ทำไม?

ไม่นานความสงสัยของชีวาก็ได้รับคำตอบเมื่อปอมปอมโผล่มา หนุ่มน้อยสองคนคุยกันด้วยสีหน้ายิ้มแย้มราวกับว่าไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อน และก่อนที่ทั้งคู่จะได้พากันไปที่ไหนชีวาก็ก้าวยาวๆเข้าไปหา เรื่องนี้ต้องมีเคลียร์!

“จะไปไหนกัน?”

สองหนุ่มน้อยหันมามองตามเสียง ชีวาเองก็มองทั้งสองคนสลับกันไปมา ก่อนคว้ามือน้องแล้วพาออกมาคุยกัน ขณะที่เพื่อนของปอมปอมกอดอกมองตาม

“อะไรเนี่ยป๋า?” ปอมปอมบิดมือออกแล้วเอ่ยถามพี่ที่ลากมาคุยกันเสียไกล

“เราจะไปไหนกับเด็กนั่นน่ะปอมปอม?”

“ไปเที่ยวบ้านเขา”

“ไปเที่ยวบ้าน!!?”

ชีวาร้องถามเสียงดัง ไปเที่ยวบ้านนี่นะ เที่ยวบ้านเด็กนั่นนี่นะ! พอปอมปอมพยักหน้ายืนยันชีวาก็แทบอยากเขย่าน้องให้หัวคลอน

“ลืมไปแล้วหรือไงว่ามันทำอะไรกับเราเอาไว้น่ะฮะ!”

“เขมเขาขอโทษแล้ว” ปอมปอมบอกอย่างไม่ถือโกรธอะไรเพื่อน

“ขอโทษแล้วไง ขอโทษแล้วเลยจะไปเที่ยวบ้านเขาอย่างนั้นเหรอ!?”

“ป๋า บ้านจูนปอมก็เคยไป ไม่เห็นเป็นไรเลย” น้องเอ่ยแย้งเมื่อพี่ออกท่าออกทางจนเกินไป เสียงดังไปแล้วนะ แบบนี้จะต้องพาเขาออกมาคุยทำไม ได้ยินไปสามบ้านแปดบ้านแล้ว!

“มันจะเป็นได้ยังไงเล่าก็จูนน่ะมันเป็นเพื่อน!” คนเป็นพี่ว่าอย่างขัดใจ ฮึ่ย! ยังมาทำหน้าซื่อตาใสอีก

“เขมก็เพื่อน” ปอมปอมว่าอย่างนั้น

“จะกวนพี่หรือไง เพื่อนที่ไหนจะทำแบบนั้นกับเราหาปอมปอม แล้วไปเที่ยวบ้านเขาแบบนี้เกิดเขาทำอะไรเราขึ้นมาจะทำไง?”

“มันไม่มีอะไรหรอกน่าป๋า คิดมาก”

ปอมปอมส่ายหน้าแล้วโบกมือปัดไปมาว่ามันไม่มีอะไรอย่างที่พี่กังวล ก่อนที่หนุ่มน้อยจะเดินกลับไปหาเพื่อน ชีวาจับแขนน้องไว้ทำให้น้องต้องหยุดเดิน

“ป๋าเชื่อใจปอมไหมล่ะว่าปอมจะไม่เหลวไหล” น้องหันกลับมาถามอย่างจริงจัง

“พี่เชื่อปอมปอม แต่พี่ไม่เชื่อมัน!”

“ป๋าไม่ชอบเขมเปล่า เรียกมันเลยเหรอ?”

ชีวากำหมัดแล้วพ่นลมหายใจแรงๆ ทำไมวันนี้น้องถึงพูดอะไรเข้าใจยากแบบนี้!

“ที่ทำอยู่นี่ ประชดพี่ใช่ไหม?”

คำถามที่ถูกยิงมาตรงประเด็นทำให้น้องอึ้ง หนุ่มน้อยเม้มปาก มองพี่ตาคว่ำ

“ปอมไม่ได้ประชด แล้วปอมก็จะบอกป๋าอีกครั้งว่า ปอมจะเป็นแค่น้องอย่างที่ป๋าอยากให้เป็น”

“ปอมปอม…”

พอน้องจะไปชีวาก็ยังยื้อเอาไว้ ตาเขียวขุ่นจึงตวัดมองพี่

“ป๋า ถ้าป๋ายังเป็นแบบนี้ปอมจะเกลียดป๋าแล้วนะ”

“.......!!” ชีวาสะอึกกับถ้อยคำของน้อง ยอมปล่อยมือไม่กล้าขัดน้องอีก ถ้าปอมปอมเกลียด... เขาไม่อยากนึกว่ามันจะมีวันนั้นเลยให้ดิ้นตาย

ปอมปอมเดินกลับมาหาเพื่อนที่หน้าบ้านของตนเอง เพื่อนกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ปอมปอมจึงยืนรออยู่ใกล้ๆ ชีวาเดินลิ่วเข้ามาหาน้องกับเพื่อนอีกก่อนประกาศตู้ม

“พี่ไปด้วย”

“หา? ป๋าจะไปทำไม?”

“ไม่รู้อ่ะ พี่จะไปด้วย ถ้าไม่ให้พี่ไปก็ไม่ต้องไป”

“.................”

หนุ่มน้อยทั้งสองคนมองชีวาเหมือนเป็นตัวประหลาด ก่อนหันมามองหน้ากันเองตาปริบๆ…





.................................





ปอมปอมนั่งกอดอกหน้ามุ่ยอยู่บนโซฟา ข้างๆกันคือชีวาที่นั่งหน้าจ๋อย ก็เขาคิดว่าน้องจะถูกเด็กนั่นล่อลวงไปนี่ จนมารู้ก็ตอนจูนกับเพื่อนอีกคนมาว่าจะไปด้วยกันหลายคน แถมมีแต่เพื่อนกลุ่มเดียวกันทั้งนั้น แต่เขาดันจะไปกับน้องด้วย ทำให้น้องอายเพื่อนที่มีพี่มาคุมจนพาลไม่อยากไป

“พี่ขอโทษ พี่ไม่รู้นี่ว่าจะไปกันหลายคน” ชีวาเอ่ยบอกเสียงออดอ่อย

“เคยถามไหมล่ะ?”

“ขอโทษคร้าบ~”

“ป๋าชอบพูดว่าขอโทษบ่อยจัง”

“...................” พอน้องพูดมาแบบนั้นชีวาก็เงียบ นั่นสิ เขาพูดขอโทษบ่อยเกินไปแล้ว

“กลับบ้านไปเถอะ ปอมไม่ไปไหนแล้ว ปวดหัว”

ปอมปอมเอ่ยบอกก่อนลุกขึ้น จะขึ้นไปชั้นบนแล้ว ถึงอย่างไรวันนี้ก็ไม่ได้ไปไหน นอนมันทั้งวันเลยดีกว่า

“ปอมปอม”

“...................” เสียงเรียกของพี่ทำให้ปอมปอมชะงักเท้า ก่อนหันกลับมามอง

“ทำไม…”

“?”

“ทำไมถึงไม่ไปที่ร้านเลยล่ะ หรือเพราะไม่อยากเห็นหน้าพี่?”

ปอมปอมมองหน้าคนถามนิ่ง ก่อนจะถอนใจออกมาแล้วว่า

“ปอมทำใจอยู่นะ...”

“................”

“พี่ชาย…”

ชีวาลุกขึ้นมารวบกอดตัวผอมบางนั้น ทำไมคำว่าพี่ชายมันถึงทำให้เขาเจ็บแบบนี้

“ไม่เอาแบบนี้ได้ไหม ไม่เป็นแบบนี้ได้ไหมปอมปอม?”

“ปอมพยายามอยู่นะ อย่าทำแบบนี้กับปอมสิ”

ปอมปอมกอดพี่ตอบ แนบแก้มกับอกพี่ ชีวากอดน้องแน่นขึ้น ในใจสับสนว้าวุ่นเกินระงับ เขาควรทำอย่างไรทุกอย่างมันถึงจะกลับมาเหมือนเดิม อาจจะเป็นเพราะเขาอยู่ใกล้น้องมากไป อาจจะเป็นเพราะความเคยชินทำให้น้องเป็นแบบนี้ ถ้าการอยู่ห่างเขามันจะทำให้น้องดีขึ้น เขาก็ควรจะห่างอย่างที่น้องต้องการ แต่ว่า... เขาจะทำได้จริงหรือ เพราะอาจจะเป็นเขาเองที่ห่างน้องไม่ได้...








TBC






อิป๋าาาาาาาาา #กระชากหัวแล้วตบ :beat:

แต่งตอนนี้ไปเหลียวซ้ายแลขวาไปด้วย แบบว่าอินไปหน่อย เหมือนเป็นคนวิ่งตามการ์ฟไปไงไม่รู้ ฮ่า

ขอบคุณที่ยังอยู่ด้วยกันค่ะ บวกกันไปทุกบวก :L2:

คุณวันใหม่..//วิ่งเข้าไปกอด
อย่าว่าแต่คุณใหม่เลย เราเองก็ร้อง ฮือออ
สงสารปอมปอมมาก
น้องพยายามจะทำให้เหมือนเดิม
มันยากมากนะกับการฝืนทำทั้งๆที่เรายังรักเขา
ฮึกก ไอ้ป๋าใจร้าย//โดดตีบ ตามด้วยหมัด+กระทืบ
หึ แล้วจะรู้สึก ถ้าเสียน้องไปให้คนอื่น
หลอกตัวเองอยู่ชัดๆ

รออ่านตอนต่อไปจ้าาาา
มาต่อเลยได้ไหมอ่า
เราอยากอ่านต่อมากๆๆ มันอยากรู้ว่าจะเป็นยังไงต่อ แฮ่ๆ
+1 ค้าบบบบบบบบบ


มาแล้วค่า ขอบคุณที่อินไปกับเราค่ะ :กอด1:

วันใหม่

หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((8)) 28_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 28-01-2013 22:44:55
ป๋าเอ๊ยยย เมื่อไหร่จะคิดได้น้อ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((8)) 28_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: PK37 ที่ 28-01-2013 23:05:13
ตอนที่อาร์ดิวเห็นการ์ฟเนี่ยคงหลอนดีพิลึก  :sad3:
เข้าใจแล้วว่าทำไมอาร์ดิวถึงคู่กับการ์ฟ เพราะโดนแม่จับหมั้นหมาย(ผูกดวง)ไว้ตั้งแต่เด็กนี่เอง  :impress2:

ป๋าเนี่ยไม่ไหวแล้วนะ แต่  :beat: ซ้ายขวาไม่พอแล้ว สงสัยจะต้อง  :z6: ซะหน่อย
ตอนนี้ป๋าหวงก้างมากๆ พอน้องจะห่างเพื่อทำใจป๋ามันก็ตามน้อง โคระ  :m31:
น้องให้ความสนใจคนอื่นก็คิดว่าประชด เมื่อไรป๋าจะคิดได้เนี่ย

เป็นกำลังใจให้ค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((8)) 28_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: YOSHIKUNI RUN ที่ 29-01-2013 01:06:37
โอ้~~  คุณดิวจิตสัมผัส โปรดช่วย นำทาง วิญญาณเร่ร่อน(นายกราฟ)
ให้มารักกัน เร็วๆหน่อย เทอด สาธุๆ :call: :call:
แล้วก็ช่วยเคลียร ระหว่างป๋ากะปอมปอม ด้วยจะดีมาก อ่ะ  :z3:
ยังมาม่ากันอยู่เลย
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((8)) 28_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: PapermintReal ที่ 29-01-2013 01:25:28
รอฉากเลิฟๆของดิว กะ การ์ฟ :impress2:
สงสารรรปอมมมมมม :sad4:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((8)) 28_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: TinyB ที่ 29-01-2013 01:44:55
พี่ก็โดนจูบ น้องก็โดนจูบ แอร๊งงๆ~~
ตอนอาร์ดิวเห็นวิญญาณการ์ฟ ไม่อยากบอกเราก็หลอนเหมือนกัน  o22
แต่ตอนนี้ยาวสะใจมาก 555 บทสุดท้ายตัดจบที่ิอิป๋ากับปอมปอมอีกแล้ว โฮ ค้างมากมาย  :z3:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((8)) 28_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: MEMO MINI ที่ 29-01-2013 02:02:59
สงสารปอมอ่ะ แง// :sad4: :sad4: :sad4:


ชีวาทำไมเป็นคนแบบเน้  :m16: :m16:


กราฟดิว อิอิ :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((8)) 28_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 29-01-2013 02:23:12
ในเรื่องนี้  ป๋าน่ารำคาญที่สุด   จับปลาสองมือตลอดเลยนะ   
บอกชอบอาร์ดิว  แต่คบกับพริม
พอรู้ว่าน้องชอบ  ก็หวงก้างไว้งี้อีก   หลายใจเกินจะกล่าวละ  อิผู้ชายคนนี้   :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((8)) 28_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: zero3 ที่ 29-01-2013 05:43:10
 ป๋าวาเป็นเพื่อนสมัยเด็กป๋าเวย์รึป่าว
มึนเหมือนกันเด่ะ :serius2:
กราฟเกือบไปแล้วเนาะ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((8)) 28_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 29-01-2013 07:45:36
 การ์ฟ แกเริ่มมีแบบว่า มุมน่ารักๆขึ้นเนอะ

555555 จะรู้ใจตัวเองเร็วกว่า ชีวาหรือไม่

ป๋า ยิ่งอ่านยิ่งโมโหแกอะ อ๊ากกกกกก

สงสารน้องปอมมมม วิ่งไปกอดๆๆๆ หอมแก้มด้วยย

ขนาดนี้ยังไม่รู้ใจตัวเองอีกหรอป๋าาาาาา โมโหๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((8)) 28_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: So_Da_Za ที่ 29-01-2013 07:48:55
ฮึ้ยยย เราหงุดหงิดกะป๋าวานะ
อะไรจะไม่เข้าใจตัวเองขนาดนั้น
อยากเสียน้องไปก่อนรึไง
 s( ̄へ ̄?)z   
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((8)) 28_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: NOoTuNE ที่ 29-01-2013 07:56:08
จุดนี้รำคาญป๋ามว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก


สงสารปอมปอมโครต


จะเอายังไงก็เอาเถอะ เด็กมันยังคิดได้มากกว่าเลยต้องทำยังไง ชีวาทำแบบนี้น้องมันยิ่งเจ็บ จะถอยก็ไม่ได้จะก้าวไปก็ไม่ได้ 
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((8)) 28_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 29-01-2013 08:33:19
วาแกนี่รู้สึกช้าจริงๆ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((8)) 28_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: nemesis ที่ 29-01-2013 10:32:13
ติดตามตอนต่อไป!!!
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((8)) 28_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 29-01-2013 10:50:15
เซ็งอิป๋าวาจริงๆๆ
อาร์ดิวกับกราฟก็มารักกันเร็วๆๆหน่อย :z2:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((8)) 28_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 29-01-2013 11:20:09
ตกลงยังไงป๋า ทำตัวรักพี่เสียดายน้องแบบนี้
สงสารปอมน้อยนะ ปล่อยน้องไป หรือจะชอบน้องเอาสักอย่างเหอะ
สงสารปอมบ้าง การทำใจให้เลิกชอบมันก็เจ็บพออยู่แล้ว
ยังทำเหมือนให้ความหวังกันแบบนี้ ทำร้ายปอมน้อยเกินไปหรือเปล่า

อาร์ดิวกลัวผีมากก แต่ก็ช่วยการ์ฟไว้ได้ เก่งที่สุดดดด

รออ่านตอนต่อไปค๊าา เอาที่ไม่ทำให้เอเกลียดป๊ามากกว่านี้แล้วน่าาาา :z3:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((8)) 28_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 29-01-2013 12:46:47
สุดท้ายกราฟกับอาร์ดิวก็ผูกดวงนี่เอง
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((8)) 28_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 29-01-2013 12:47:39
บางทีเราว่าชีวาน่ารำคาญนะ พอปอมไม่ใกล้ก็หาเรื่องมาใกล้น้อง
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((8)) 28_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 29-01-2013 15:13:51
ให้เวลาเป็นตัวพิสูจน์ว่าชีวา รู้สึกอย่างไรกับน้องกันแน่  แค่น้องชาย หรือ คนรัก
สาธุๆๆๆ  ขอให้ปอมปอมกลายเป็นคนรักของชีวา เร็วๆๆ  สงสารปอมน้อย  อดทนๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((8)) 28_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 29-01-2013 17:26:52
คู่ การ์ฟ-อาร์ดิว ผูกดวงกันไว้ ดิวก็เลยนิมิตถึงบ่อยๆสินะ
แล้วผูกดวงกันนี่ ต้องเป็นคู่กันด้วยอ๊ะป่าวเนี่ย อิอิ^^
แล้วการ์ฟตอนเป็นวิญญาณจุ๊บดิวไมอ่ะ ชอบเขาแล้วรึงาย :o9:
ส่วนป๋า  o12  ตกลงมีหัวใจกี่ดวงหือ คุยกับคนนั้น หวงคนนี้ หึงคนนู้น เอาไงเนะ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((8)) 28_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 29-01-2013 19:31:35
เข้ามากอดโอ๋ปอมปอมน้อย :กอด1:
ป่าชีวาคะ ถ้าทำตัวเป็นพี่ชายไม่ได้ก็เป็นคนอื่นซะเถอะค่ะ เป็นแบบนี้น้องไม่มีความสุขหรอกนะฮะ ขนาดตัวเองยังไม่มีความสุขเลย น่าจะชัดเจนซะที :m16:
ส่วนคู่อาร์ดิวกับการ์ฟก็ลุ้นว่าเมื่อไหร่จะปิ๊งๆกันซะที :-[
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((8)) 28_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: อยากกินไข่พะโล้ โปะ ที่ 29-01-2013 20:38:55
-_-'  ชีวา' ฉันขอแช่งแก เพราะเริ่มหมั่นไส้อะ,,,ขอให้น้องมีแฟน ขอให้น้องลืมแก ขอให้แกรักน้อง ขอให้น้องทิ้งแก!!!!!!!!!!!!!!  และที่สำคัญ ขอให้คนเขียนมาลงทุกวันเพี๊ยง!!!!  ;)
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((8)) 28_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: nong PeePee ที่ 29-01-2013 22:02:36
พี่ชีวาอย่ามัวแต่ซึนเดี๊ยะๆอด5555555  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((8)) 28_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ชัดเจนกาบ ที่ 29-01-2013 22:57:10
ยังดูอึมครึมมากกว่าเดิมอีก ป๋านิสัยไม่ดีวะ เจ้าชู้หลายใจแถมโลเล่อีก
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((8)) 28_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: ชัดเจนกาบ ที่ 29-01-2013 23:01:05
ยังดูอึมครึมมากกว่าเดิมอีก ป๋านิสัยไม่ดีวะ เจ้าชู้หลายใจแถมโลเล่อีก
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((8)) 28_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: cher7343 ที่ 29-01-2013 23:32:20
มาซบอกพี่มาหนูปอมปอม :man1:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((8)) 28_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: love2y ที่ 30-01-2013 09:34:32
โฮฮฮฮฮฮฮฮ ไม่ได้อ่านมาหลายตอนแล้ว ช่วงนี้ชีวิตวุ่นวายแท้ เดี๋ยวมาตามเก็บตกทีหลังน้า >_<~
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((8)) 28_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: alekung103 ที่ 30-01-2013 10:56:13
อ่านแล้วหงุดหงิดกับชีวามากมาย

ตัวเองชอบปอมปอม แล้วยังไม่ยอมรู้ตัวอีกนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((8)) 28_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: greensnake ที่ 30-01-2013 11:51:27
แล้วการ์ฟก็รอดมาได้อย่างปาฏิหารย์ เพราะอาร์ดิวหรอกนะ :a14:
ว่าแต่การ์ฟจะจำได้ไหมนะว่าก่อนจะฟื้นทำอะไรกับอาร์ดิวเค้าอ่ะ :-[
ฟากป๋ากับปอมน้อยนี่ก็นะ อีกคนก็จะถอยอีกคนก็จะดึงวุ่นวายดีแท้
ไอ้ที่ไม่ชอบใจการ์ฟน่ะเพราะอะไรเหรอป๋า เราก็ไม่เข้าใจป๋านะ
ไม่พอใจทางนั้นแล้วก็ยังจะมาทำเหมือนหวงน้องปอมอีกล่ะ  :เฮ้อ:
รีบๆรู้ตัวนะ ก่อนที่น้องจะตัดใจได้อย่างเด็ดขาด :m16:
ขอบคุณวันใหม่มากค่ะ :กอด1:
+1และเป็ดน้อยจ้า
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((8)) 28_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 30-01-2013 20:44:35
ป๋าชีวาถ้ายังไม่เลิกบื้อเดี๋ยวจะยกน้องปอมน้อยให้เขมซะเลย
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((8)) 28_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 30-01-2013 23:24:01
เซ้งชีวาอ่ะ ไม่เด็ดขาดเลย  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ((8)) 28_01_2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: nong PeePee ที่ 01-02-2013 21:52:39
เมื่อไหร่เรื่องนี้จะมา รอน่ะค่ะ:)
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆9☆ {05_02_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: อยากกินไข่พะโล้ โปะ ที่ 05-02-2013 18:27:53
ไหนๆ ลงยัง แอร๊ย
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆9☆ {05_02_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: wanmai ที่ 05-02-2013 18:50:22
Magica Café



Magic (9)






ร้าน Magica Café

เมื่อได้เวลาปิดร้านแล้วอาร์ดิวจึงออกไปเปลี่ยนป้ายหน้าร้านเป็นปิด แล้วเข้ามาช่วยพี่ๆเก็บร้านเพื่อความรวดเร็ว การทำงานในช่วงสัปดาห์แรกของการ์ฟผ่านไปได้ค่อนข้างทุลักทุเลพอดู เพราะเขามันไม่ใช่คนจำพวกให้บริการทุกระดับประทับใจ ไม่พอใจก็ไม่เคยเก็บ แต่การมาทำงานที่ร้านนี้เขาต้องจัดการระบบความคิดของตัวเองใหม่หมดทุกอย่าง ส่วนงานอื่นๆก็ได้อาตี๋ลูกเจ้าของร้านช่วยสอน หวิดจะตีกันไปก็หลายทีเพราะการ์ฟไม่ยอมจำที่อีกคนสอนให้เสียที

การ์ฟเข้าไปเปลี่ยนชุดเมื่อช่วยคนอื่นเก็บร้านเสร็จ เด็กหนุ่มสะพายกระเป๋าออกมาด้านนอก ครอบครัวอาร์ดิวก็กำลังจะกลับกันแล้ว คุณแม่รวิของสองพี่น้องปอปลาเห็นว่ามันดึกแล้วเลยชวนการ์ฟไปค้างที่บ้าน เพราะตอนนี้รถคงไม่ค่อยมีแล้ว แต่การ์ฟบอกโทรให้น้าชายมารับแล้วท่านจึงเบาใจ

“ตี๋” การ์ฟเอ่ยเรียกอาตี๋ที่คุณแม่รวิให้มายืนรอรถน้าชายของเขาเป็นเพื่อน

“หือ?” อาร์ดิวขานรับงงๆที่อยู่ๆอีกฝ่ายก็เรียก

“ขอบใจนะ”

การ์ฟเอ่ยบอกโดยที่ไม่ได้หันมามองคนที่ยืนอยู่ข้างกาย จนเมื่อไม่เห็นว่าอาตี๋จะตอบอะไรกลับมาจึงได้หันมามอง อาร์ดิวยิ้มให้คนที่หันมามองตนเองแล้วทำหน้าเอ๋อ หลังเกิดอุบัติเหตุดูการ์ฟจะเปลี่ยนไปนะ หรือว่าเขาจะพาวิญญาณคนหน้าเหมือนมาเข้าร่างการ์ฟกันน่ะ คิดแล้วอาร์ดิวก็หัวเราะขำ มันจะเป็นไปได้หรือเรื่องแบบนั้น

การ์ฟมองรอยยิ้มของอาร์ดิวแล้วก็เผลอยิ้มตาม งานวันนี้เขาก็ยังมีส่วนที่ทำผิดพลาดหลายอย่าง หากเป็นคนอื่นอาจเอือมระอาไปแล้ว ขนาดเขายังรู้สึกเอือมตัวเองเลยที่ไม่เอาไหนแบบนี้ แต่ครอบครัวนี้ช่างแปลก ทั้งคนเป็นพ่อแม่ และลูกชาย แปลกที่ยังให้เขาทำงานด้วย แถมยังบอกว่าเขาผิดพลาดน้อยกว่าวันแรกที่มา อืม ได้ฟังแบบนี้มันก็น่าภูมิใจอยู่ไม่น้อยเลยนะ หึๆ



...........................



อาร์ดิวยืนรอจนรถเทสต์มาถึงจึงได้เข้าร้านไปบอกคุณพ่อกับคุณแม่ คราวนี้จึงเป็นการ์ฟที่รอส่งสามคนพ่อแม่ลูกขึ้นรถกลับบ้านแล้วตนเองจึงได้กลับกับเทสต์ การ์ฟมาที่ห้องของพี่บิวแฟนน้าชายเพราะไม่อยากอยู่บ้านคนเดียว น้องเอิงก็ไม่ได้อยู่ด้วยแล้วเลยไม่รู้จะกลับไปนอนเป็นเพื่อนใคร อยากออกมาอยู่ข้างนอกแบบบิวบ้าง แต่ก็ไม่กล้าบอกให้พ่อแม่ขายบ้านที่มีอยู่ตอนนี้ เพราะอย่างไรท่านก็ตั้งใจซื้อให้อยู่ ท่านทำเพื่อเขาขนาดนี้แล้วเขาก็ไม่สามารถพูดขออะไรไร้สาระแบบนั้นไปได้

เด็กหนุ่มนอนดูทีวีอยู่บนพื้นห้อง หลังพิงโซฟาที่น้าชายกับแฟนนั่งอยู่ ดูไปดูมาก็ชักจะรำคาญอาการยุกๆยิกๆอะไรกันไม่รู้ข้างบนหัวตนเอง การ์ฟจึงกระแอมกระไอก่อนเอ่ยถามกวน

“เข้าห้องเลยไหมเทสต์?”

“เป็นความคิดที่ดีมากเลยหลานชาย” เทสต์ชูนิ้วโป้งให้หลาน

“เขาประชด/ผมประชด!!” บิวกับการ์ฟร้องใส่หูเทสต์ที่ทำหน้ามึนพร้อมกัน ตกลงรู้แต่แกล้งทำมึนใช่ไหม

“รู้จักอายหลานบ้างดิน้าชาย” การ์ฟว่า

“อายทำไม เรามากกว่าที่ต้องอายน้า มานั่งดูอะไรอยู่ได้ เป็นเด็กเป็นเล... อุ๊บ!!”

เพราะมัวแต่บ่นหลานเลยโดนศอกแหลมๆจากคนข้างกายกระทุ้งท้องเสียแรง แถมคนทำยังทำสีหน้าเรียบเฉยเสียอย่างนั้น

“ปากมาก” บิวว่าก่อนลุกขึ้นเดินไปเข้าห้องนอน

“รอด้วยดิ้~”

“นอนข้างนอกน่ะแหละ”

“ไม่เอา~”

การ์ฟมองน้าชายของตนเองทำเสียงกระเง้ากระงอดออดอ้อนแฟนแล้วนั่งขำ ทำไปได้นะคนเรา เทสต์ลุกจากโซฟาจะตามแฟนเข้าห้อง ก่อนไปยังหันมาสั่งหลานชายเสียอีกที

“นอนตรงนี้นะ ห้ามแอบดู”

“โหย น่าดูตายอ่ะ!”

เด็กหนุ่มร้องไล่หลัง ใครเขาจะไปอยากดูกันเล่า เมื่อน้าชายเดินลับเข้าไปในห้องนอนแล้วการ์ฟก็ลุกขึ้นมานั่งบนโซฟาแทน เอาหมอนกับผ้าห่มที่พี่บิวเตรียมมาให้มาวางบนโซฟา เดินไปปิดไฟปิดทีวีแล้วกลับมานอน เมื่อได้อยู่เงียบๆคนเดียวแบบนี้ก็อดไม่ได้ที่จะคิดอะไรไปสารพัดอย่างจนต้องทอดถอนใจ ชีวิตเขาช่วงนี้กำลังยุ่งเหยิง กับมิมิวก็ยังหาข้อสรุปให้ตนเองไม่ได้ มิมิวบอกว่าหัวใจเราสองคนเปลี่ยนไป มันเปลี่ยนจริงหรือ แล้วมันเปลี่ยนตั้งแต่เมื่อไหร่กัน...





+++++++++++++++





“ปอมกลับมาแล้ว~”

เสียงร่าเริงของหนุ่มน้อยหน้าตาจิ้มลิ้มดังมาพร้อมตัว วันนี้ปอมปอมมาที่ร้านเมจิคกะพร้อมเพื่อนๆ เขาจะกลับมาประจำการที่ร้านเหมือนเดิมแล้ว แต่ที่พาเพื่อนมาด้วยเพราะจะเลี้ยงตอบแทนเมื่อช่วงที่หายไปจากร้านให้เพื่อนเลี้ยงตลอด ดังนั้น วันนี้จึงได้ขอคุณพ่อกับคุณแม่พาเพื่อนมาเลี้ยงที่ร้านด้วย ซึ่งท่านก็ยินดีต้อนรับ

กับชีวา สถานะตอนนี้ก็ยังก้ำกึ่ง ปอมปอมยังตัดใจไม่ขาดเสียที มันคงต้องใช้เวลานานกว่านี้เขาถึงจะทำใจได้ แต่คนเป็นพี่อย่างชีวาก็พยายามเข้าใจ ไม่เข้ามาใกล้น้องมากนักถ้ามันไม่จำเป็น เขาไม่อยากเห็นน้ำตาน้องอีกแล้ว

ชีวาเอาเมนูอาหารมาให้น้องกับเพื่อนสั่ง ปอมปอมเงยหน้ามามองแล้วยิ้มให้พี่ ก่อนที่จะดูเมนูแล้วปรึกษากันกับจูนว่าจะทานอันไหน ส่งอีกอันให้เพื่อนคนอื่นช่วยๆกันเลือกด้วย ชีวามองน้องที่กำลังเลือกของที่อยากกินยิ้มๆ ก่อนรอยยิ้มที่มีจะเจื่อนลงเรื่อยๆจนกลายเป็นสีหน้าบึ้งตึงเมื่อเพื่อนผู้ชายตัวโตที่เคยมีคดีเรื่องจูบน้องเอนตัวมามองเมนูอาหารเล่มเดียวกับน้อง มันใกล้เสียจนเขาคิดว่าเด็กนั่นต้องจงใจแน่ เพราะพอปอมปอมเงยขึ้นมาจมูกก็เกือบแตะกัน ใกล้มากไปแล้วนะเว้ย!

“ป๋า... ป๋า ยู้ฮู~~” ปอมปอมโบกมือตรงหน้าพี่ที่เอาแต่มองที่ไหนอยู่ไม่รู้

“อะ... รับอะไรดีครับ?” ชีวาหันมายิ้มเป็นการเป็นงานเมื่อรู้สึกตัว ปอมปอมมองหน้าพี่งงๆ ก่อนจะร่ายรายการอาหารที่จะสั่ง

เมื่อได้รับรายการอาหารจนครบแล้วชีวาจึงเอาไปยื่นให้คนในครัวเขาจัดการตามนั้น เดินชนการ์ฟที่ถือถาดอาหารสวนมาพอดี การ์ฟมองหน้าอีกฝ่ายเคืองๆ แต่เมื่อเหลือบมองอาตี๋น้อยที่ชะเง้อชะแง้มองมาเพราะกลัวมีเรื่องการ์ฟจึงเดินออกไปเสิร์ฟ ไม่เอาเรื่องอีกฝ่ายที่เดินไม่ดูจนเขาเกือบทำถาดหลุดมือ ดีที่อาหารมันไม่ได้เป็นน้ำ ไม่งั้นคงกระจัดกระจายมากกว่านี้



...........................



ชีวามาเข้าห้องน้ำเพื่อสงบจิตสงบใจ ถ้ายังเป็นแบบนี้เขาคงทำงานไม่ได้ เผลอๆจะโดนลุงไปป์ดุเอาเสียอีก เมื่อรู้สึกดีขึ้นจึงจะออกไปทำหน้าที่ของตนเองต่อ แต่ก็ต้องสะดุดกับเสียงของเด็กผู้ชายประมาณสองสามคนด้านนอกคุยกัน

“เขม มึงตัดใจจากไอ้ปอมมันได้จริงเหรอวะ?”

ชื่อของปอมปอมทำให้ชีวาชะงัก ใครคุยกับใคร ทำไมมีชื่อน้องด้วย??

“ไม่” เสียงของเด็กชื่อเขมตอบกลับเพื่อนอย่างหนักแน่น

“อ้าว” เพื่อนอีกสองคนพากันอุทานเสียงยาว ไหงงั้นล่ะ

“มึงว่ามีเพื่อนที่ไหนเขาจูบปากเพื่อนแบบกูบ้างไหมล่ะ?” เขมถามเพื่อนต่อ เพื่อนสองคนมองหน้ากันแล้วส่ายหน้าหวือ

“ถ้ากูอยากเป็นเพื่อนน่ะนะ วันนั้นกูไม่จูบมันหรอก” เขมว่าอย่างมั่นใจในความรู้สึกของตนเอง

“เฮ้ย! ถ้ามันรู้ว่ามึงยังคิดเกินเลยกับมันแบบนี้อยู่ล่ะก็ กูว่า... มันต้องเลิกเป็นเพื่อนมึงแน่ๆ” เพื่อนว่าอย่างเป็นกังวลแทน

“พวกมึงว่ามันไม่รู้เหรอ มันรู้ แต่แกล้งทำเป็นไม่รู้ต่างหาก หน้าซื่อตาใส มันถนัดอยู่แล้วนี่” เขมทำเสียงหึในลำคอ ใครว่าปอมปอมไม่รู้

“กูเห็นใจมึงนะเว้ย แต่กูคงช่วยอะไรมึงไม่ได้ เพราะปอมมันก็เพื่อนกู กูเคารพการตัดสินใจของมัน” เพื่อนบอกอย่างลำบากใจ ตบบ่าเขมอย่างให้กำลังใจตามที่พูด

“ใช่” เพื่อนอีกคนเอ่ยเสริมอย่างเห็นด้วย

“กูรู้ แค่พวกมึงไม่รังเกียจที่กูเป็นแบบนี้ก็ดีมากแล้ว”

“มึงก็คือมึง จะเป็นอะไรก็ยังเป็นมึง เป็นไอ้เขมเพื่อนของพวกกูอยู่ดี”

“คมมากอ่ะสัด”

ทั้งสามคนหัวเราะเมื่อเขมเอ่ยปิดท้าย ก่อนที่จะพากันล้างไม้ล้างมือแล้วออกไปปข้างนอกโดยที่ไม่รู้ว่าสิ่งที่พวกตนคุยกันไปเมื่อครู่จะมีคนรู้เห็น

เมื่อเด็กๆไปกันหมดแล้วชีวาจึงเปิดประตูออกมา สีหน้าที่เริ่มดีขึ้นเปลี่ยนเป็นถมึงทึงอีกครั้ง ทำไมเด็กนั่นยังไม่ตัดใจจากปอมปอมอีก ก็รู้ว่าเขาไม่รักไม่ชอบยังมาตามมาคอยวนเวียนอยู่ใกล้ๆอีก ชีวาหงุดหงิดงุ่นง่านจนแปลกใจตัวเอง ก็แล้วมันเรื่องอะไรเขาถึงต้องหงุดหงิดมากขนาดนี้ แค่มีคนมายุ่งวุ่นวายกับน้อง นั่นมันเรื่องส่วนตัวน้องไม่ใช่หรือ แต่ชีวาก็ยังมีข้อโต้แย้งให้กับตนเองว่าเขาเป็นพี่ มีสิทธิ์ที่จะเป็นห่วง เมื่อคิดไปแบบนั้นแล้วก็มีคำถามตามมาว่า มีพี่ชายที่ไหนจูบน้องได้หน้าตาเฉยแบบเขาบ้าง...?

ถึงแม้ชีวาจะให้เหตุผลว่าแค่อยากแกล้ง แต่มันก็ไม่เห็นสมเหตุสมผลสักนิด แค่แกล้งมันจำเป็นต้องจูบจริงๆด้วยหรือ เหมือนอย่างที่เด็กเขมนั่นว่า เพื่อนไม่จูบปากเพื่อน แล้วเขาเป็นพี่ชายประสาอะไรถึงจูบปากน้อง แถมยังคิดเลยเถิดเวลาเห็นน้องแต่งตัวไม่เรียบร้อย และอย่างวันนี้ที่มันชัดเจนที่สุด เขาไม่ได้แค่เป็นห่วงอย่างที่พยายามบอกย้ำกับตนเอง แต่เขาหวง... มันเกินเลยคำว่าพี่ชายมามากแล้วในตอนนี้ ทำไมเขาถึงไม่ยอมรู้สึกตัวเสียที จะปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ไปอีกนานเท่าไหร่กัน...





+++++++++++++++++





เมื่อเริ่มรู้ตัวชีวาก็เริ่มหาทางเลี่ยง แต่สายตาไม่รักดีก็คอยมองตามน้องอยู่เสมอเวลาเจอกันที่ร้าน ทุกทีที่น้องขยับตัวทำอะไรก็ตาม เขามักจะเผลอมองบ่อยๆ เมื่อก่อนก็คงเป็นแบบนี้ เพียงแต่เขาไม่รู้ตัว เพราะไม่เคยสังเกตตัวเองจนวันนี้ ชักจะอาการหนักบางทีก็เหม่อจนพริมสงสัยเวลาอยู่ด้วยกัน

“พักนี้เหม่อบ่อยนะคะชีวา” หญิงสาวเอ่ยถามลองเชิง พยายามไม่คิดมากทั้งที่รู้สึกได้ว่ามันมีบางอย่างไม่ปรกติ

“ก็... มีเรื่องเครียดๆนิดหน่อย” ชีวาตอบไม่เต็มเสียงนัก

“พอจะเล่าให้ฟังได้ไหม...? ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร”

“เปล่าหรอก คือวา... วาคงบ้าไปเองน่ะ ขอโทษนะที่ทำให้เป็นห่วง”

ชีวากุมมือรุ่นพี่สาวที่ตนเองกำลังคบหาอยู่เวลานี้ ถึงจะบอกว่าความสัมพันธ์ที่มีมันไร้ข้อผูกมัด แต่ใครๆก็รู้ก็เห็นว่าทั้งคู่คบกันอยู่ แม้แต่ปอมปอมเองก็ด้วย นี่เขาผูกปัญหาไว้กี่ปมกัน

“วาคะ เราก็คบกันมานานพอสมควรแล้วนะ ใครๆก็รู้กันทั้งนั้น”

พริมเอ่ยขึ้นมาถึงเรื่องที่ชีวากำลังคิด เด็กหนุ่มเลิกคิ้วก่อนจะตอบรับคำพูดของเธอ

“ครับ”

“เราจะจริงจังกับความสัมพันธ์นี้ได้หรือยังคะ?”

“...............”

คำถามนั้นเหมือนฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมาไม่ให้ทันตั้งตัว ชีวานั่งมึน เขาคิดน้อยไปอีกแล้วใช่ไหม ไม่เคยคิดเผื่อเอาไว้เลยว่ามันจะมีวันนี้ การก้าวล้ำข้อตกลงที่มีร่วมกัน ยอมรับว่าเขามันเห็นแก่ตัวจึงเลือกคบกับคนที่ไม่ยึดติดกับการที่ว่าจะคบกันแบบไหนและพริมก็มีความคิดเห็นที่คล้ายกัน ทั้งคู่ตกลงคบหาแบบไร้ข้อผูกมัดใดๆ เขาไม่ได้เป็นคนตั้งเงื่อนไข แต่มันรู้ได้ด้วยการกระทำว่าใครควรอยู่ตรงไหน ไม่มีข้อหวงห้ามหากใครจะบอกลา โดยที่ลืมคิดไปว่าวันหนึ่งคนๆนั้นอาจจะไม่คิดเหมือนตนเองแล้วก็เป็นได้...





++++++++++++++++





ตกค่ำ ปอมปอมกลับมาจากร้านก่อนคนอื่น เพราะเขานอนดึกไม่ได้ อาจจะหลับพับคาร้านถ้าอยู่ช่วยจนถึงตอนร้านปิด ก่อนคุณพ่อคุณแม่กลับมาอาร์ดิวปิดร้านเร็วกว่าปรกติเพราะน้องนอนดึกไม่ได้ เมื่อพวกท่านทั้งสองกลับมาแล้วร้านจึงเปิดเต็มเวลาเหมือนเดิม แต่ปอมปอมต้องกลับก่อนเวลามาอาบน้ำนอนเป็นปรกติทุกวัน

วันนี้ชีวาลาหยุด จริงๆปอมปอมก็ไม่อยากคิดมาก ป๋าเขาก็คงอยากมีเวลาส่วนตัวกับแฟนบ้าง ไม่ต้องสงสัยเลยด้วยซ้ำว่าที่ลาหยุดไปนั้นจะไปอยู่ที่ไหน คิดแล้วหนุ่มน้อยก็ถอนใจ ไหนว่าจะตัดใจไง เฮ้อ~~

หลังจากอาบน้ำแล้ว ก่อนจะเข้านอนปอมปอมก็ออกมาตรงระเบียงห้องตามความเคยชิน มองไปที่ห้องตรงข้ามไฟยังมืดสนิท มือเรียวลูบอกตนเองเบาๆ ก่อนที่จะเดินกลับเข้าห้องประตูกระจกของห้องตรงข้ามก็เปิดออก ปอมปอมหันกลับมามองเห็นเจ้าของห้องชะงักอยู่หน้าประตูหนุ่มน้อยจึงพลอยหยุดชะงักตามไปด้วย

ชีวามองน้องที่ยืนนิ่งอยู่เงียบๆ ก่อนหมุนตัวก้าวกลับเข้าห้องตนเองไม่พูดไม่จาใดๆ ปอมปอมมองตามงงๆ ไม่รู้ว่าพี่เป็นอะไรจึงได้แต่มองตามอย่างเป็นห่วง…





++++++++++++++++++





วันต่อมาจูนก็โทรมาเล่าให้ฟังว่าเจอพี่พริมควงหนุ่มคนใหม่ ปอมปอมคิ้วขมวดเมื่อได้ฟังรายงานสดจากปากเพื่อนจูน จริงๆแล้วการที่ชีวาและพี่พริมจะควงใครก็เป็นเรื่องปรกติ แต่พี่พริมไม่มีใครมาเกาะแกะนานแล้วก็นึกว่าคบกันจริงจังไปแล้ว แต่นี่กลับมาควงคนใหม่เปิดเผย มันคืออะไร แถมชีวาก็ดูซึมๆด้วย พอสรุปได้ไหมว่าสองคนนี้ทะเลาะกัน

“ชัวร์เลย” เสียงจูนฟันธงมาตามสาย

“ชัวร์อะไร?” ปอมปอมถามกลับ อยู่ๆมาชงมาชัวร์อะไรกัน

“ป๋าแกโดนทิ้งชัวร์อ่ะฉันว่า”

จูนบอกอย่างมั่นใจ คิดวิเคราะห์จนถ้วนถี่ดีแล้ว มันตีความได้อย่างเดียวเท่านั้นล่ะว่าสองคนนี้ต้องเลิกกันอย่างแน่นอน และอิป๋าของเพื่อนเขานั้นมันต้องโดนทิ้ง จูน ฟันเฟิร์ม!!

“ได้โอกาสแล้วนะปอมมี่” จูนกระเซ้าเพื่อนก่อนหัวเราะอิอิปิดท้าย

“ไม่ใช่ตอนนี้หรอกเว้ย ไม่ใช่ตอนนี้... เพราะฉันไม่อยากเป็นตัวแทนความเหงา…” ปอมปอมบอกเพื่อนเสียงเบาลง

“ฮู้ยย สำบัดสำนวน”

หนุ่มน้อยไม่สนคำเหน็บแนมจากเพื่อน เพราะไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่คิดจะใช้โอกาสที่ตนเองจะกลายเป็นตัวสำรองแบบนี้หรอก ถ้าป๋าจะรัก ต้องไม่ใช่รักเพราะอยากมีคนมาแทนที่ความรู้สึกเหงาในใจ ไม่ใช่เผื่อใจรอวันเจ็บ หากจะรักก็ต้องรักเขาแค่คนเดียวเท่านั้น...





++++++++++++++++





ชีวาหมกตัวอยู่แต่ในห้องจนคนในบ้านชักจะเป็นห่วง พอได้ยินมาบ้างว่าลูกชายอกหัก แต่ที่ไม่มีใครรู้คือการปิดกั้นตนเองจากภายนอกนั้นสาเหตุหลักมันไม่ได้มาจากการถูกทิ้ง ที่จริงชีวาคิดว่ามันสมควรแล้วต่างหากที่เขาควรจะโดนทิ้ง เขารู้ว่าพริมคงเจ็บไม่น้อยแต่เธอเข้มแข็งเกินกว่าจะแสดงมันออกมาให้ใครเห็น ชีวารู้สึกผิดกับเธอที่ให้ในสิ่งที่เธอต้องการไม่ได้ เขามันเห็นแก่ตัวและแสนโง่เง่า และที่ยิ่งไปกว่านั้น...

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

เสียงเคาะประตูกระจกตรงระเบียงเรียกสติชีวากลับมาอยู่กับปัจจุบัน เด็กหนุ่มชันตัวลุกขึ้นจากที่นอน บนพื้นห้องเกลื่อนไปด้วยขวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เด็กหนุ่มสะบัดศีรษะไล่ความมึน แต่รู้สึกว่ามันจะมึนยิ่งกว่าเดิม เมื่อก้าวลงมายืนบนพื้นมันถึงได้เอียงกระเท่เร่แบบนี้

ชีวาเดินโซเซมาเปิดประตูให้ลูกลิงข้างบ้านที่ยืนหน้าบูดอยู่ตรงระเบียง บอกจนขี้เกียจจะบอกแล้วว่าอย่าปีนมา ในเมื่อไม่เชื่อกันก็ช่างเถอะ ตอนนี้เขาไม่มีอารมณ์จะพูดอะไรกับใครทั้งนั้น โดยเฉพาะคนตรงหน้านี้

“ปอมจะเข้าไปในห้อง”

คนเป็นน้องบอกเมื่อพี่ยืนขวางทางไม่ยอมขยับห่างจากช่องประตู ชีวานวดขมับตัวเองแรงๆ ปวดหัวเหมือนหัวมันจะแตก

“ป๋า ปอมจะเข้าไปข้างใน” เมื่อพี่ยังไม่ไปปอมปอมจึงเพิ่มความดังของเสียงพูด

“อย่าเสียงดังได้ไหม พี่ปวดหัว”

“ก็เข้าไปสิปอมจะได้ช่วยดูให้” หนุ่มน้อยบ่น บอกว่าปวดหัวๆ แต่ยืนขวางทางอยู่แบบนี้เขาจะช่วยอะไรได้

“เป็นหมอหรือไง”

ชีวาว่ากลับแต่ก็ยอมเลี่ยงเดินเข้าไปในห้องให้น้องเดินตามมา ปอมปอมปิดประตูระเบียงแล้วจึงเดินเข้ามา เห็นสภาพห้องนอนที่มันกลายเป็นอะไรไปแล้วไม่รู้ อาจจะเป็นโรงงานผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็เป็นได้ แต่เห็นแล้วเขารับไม่ได้มากๆ แต่ก่อนที่จะจัดการกับสภาพห้อง ก่อนอื่นต้องจัดการกับสภาพเจ้าของห้องเสียก่อน ยังไม่ทันไรก็ล้มตัวนอนแผ่อยู่ปลายเตียงเสียแล้ว

“ป๋า ไปอาบน้ำหน่อยไหม เผื่อมันจะดีขึ้น” ปอมปอมเสนอ

“ไม่”

“นะป๋า อาบน้ำแล้วมาทานข้าว จะได้ทานยาด้วยไง” หนุ่มน้อยยังตื้อต่อ

“ปอมปอม เลิกพูดเสียทีพี่ปวดหัว”

“ปอมเป็นห่วง”

“...............”

เสียงหงอยๆของน้องทำให้ชีวานิ่งไป ก่อนที่จะลุกขึ้นมานั่ง หัวเขามันจะทิ่มพื้นอยู่เรื่อย รู้สึกว่ามันหนักมากจริงๆ

“ไม่อาบได้ไหม?” คนเป็นพี่เอ่ยบอกเสียงอ่อนลง

“แต่มันเหม็นนะ อาบเถอะ”

“ขี้เกียจ” ชีวาบอกเช่นนั้นแล้วหงายหลังลงไปนอนเหมือนเดิม

“ป๋า อย่าเพิ่งนอนลงไป ป๋าอ่ะ!” หนุ่มน้อยโดดขึ้นเตียงมาดึงให้พี่ลุกขึ้น ทั้งยังส่งเสียงขัดใจ

“ไม่เอา”

“ป๋า อย่าทำแบบนี้สิ ปอมเป็นห่วงนะไม่รู้หรือไง”

เมื่อพี่ยังดื้อปอมปอมจึงหยุดดึง แต่มือเรียวยังจับแขนพี่อยู่ ชีวาหันมามองน้องที่ยืนอยู่ข้างๆแล้วยิ้มหยัน

“หึ พี่ทำไม่ดีตั้งหลายอย่าง ทำให้ปอมปอมร้องไห้ตั้งหลายหน ยังจะมาเป็นห่วงพี่อีกเหรอ ใจดีเกินไปแล้ว หึๆ”

“ป๋า ทำไมถึงเป็นแบบนี้ รักเขามากเหรอ เพราะรักพี่พริมมากใช่ไหม?”

“...................”

ชีวาอยากบอกว่าไม่ใช่ แต่กลับไม่ยอมพูดมันออกมา เมื่อคิดว่าปล่อยให้น้องเข้าใจไปแบบนั้นดีแล้ว เมื่อพี่ไม่ยอมตอบปอมปอมก็ชักจะฉุนขึ้นมา ทิ้งแขนพี่ที่ตนเองจับอยู่ลงแรงๆ ก่อนที่จะโดดลงไปยืนข้างเตียง

“ถ้ารักเขาก็ไปง้อเขาสิ ทำไมต้องทำตัวแย่ๆแบบนี้ด้วย รักเขามากก็ไปง้อเขาเลย!”

“เพราะพี่ไม่ได้รักเขาไงพี่ถึงได้เป็นแบบนี้” ชีวาตอบเสียงเรียบ

“ไม่เห็นเข้าใจ ไม่รักกันแล้วคบกันทำไม!”

“เพราะคิดว่าจะรักได้สักวันไงเล่า!”

คนเป็นพี่ตะคอกกลับ ลุกขึ้นมามองหน้าน้อง ปอมปอมเองก็มองพี่นิ่ง สายตาผิดหวังกับคำตอบนั้นอย่างมาก

“ป๋าทุเรศอ่ะ คิดแบบนี้ได้ไง คนที่เขารักป๋าจริงๆเขาจะเสียใจไม่รู้เหรอ ปอมไม่ชอบที่ป๋าเป็นแบบนี้เลย”

“แล้วใครใช้ให้มาชอบ ไม่ได้ขอร้องสักนิด” ชีวาโต้กลับด้วยความปากไว เมื่อสำนึกได้ก็ทำน้องเสียใจไปแล้ว

“.......... ขอโทษด้วยที่ชอบคุณ…”

ชีวานิ่งงันกับคำพูดนั้น น้องไม่ได้ร้องไห้ แต่มันกลับให้ความรู้สึกเจ็บมากกว่าหลายเท่าตัว มือใหญ่เอื้อมไปหา ปอมปอมปัดออกแรงๆก่อนก้าวออกจากห้องไป เสียงประตูห้องปิดลงพร้อมๆกับหัวใจชีวาที่มันดิ่งวูบ

เด็กหนุ่มนั่งจับเจ่า มัวแต่ครุ่นคิดบ้าบอวนไปวนมา เขากำลังทำอะไรอยู่ เหตุผลที่ปลีกตัวออกห่างในระยะหลังมานี้เพราะไม่อยากให้น้องเสียใจ อยากจะให้น้องทำใจให้ได้ และมันก็ประจวบเหมาะที่เขาเลิกกับพริม คิดว่ามันคงเป็นเหตุผลที่นำมาใช้ได้หากจะอยู่ห่างจากน้อง แต่นี่มันอะไร ไม่ใช่แค่น้องทำใจไม่ได้ แถมยังมีแต่ทำให้น้องร้องไห้ แบบนี้หรือคือการทำเพื่อน้อง แค่หนีความจริงมากกว่า เลิกขี้ขลาดเสียทีชีวา หยุดเสียที!

ชีวาทิ้งตัวลงนอน ในหัวคิดวกวนวุ่นวาย เป็นนานกว่าจะลุกลากสังขารไปเข้าห้องน้ำและจัดการกับห้องรกๆของตนเอง...





+++++++++++++++++


ต่อด้านล่างค่ะ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆9☆ {05_02_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: wanmai ที่ 05-02-2013 18:52:53


บนที่นอนนุ่ม ปอมปอมนอนฟุบหน้ากับหมอนใบใหญ่ ไม่รู้สึกอยากจะทำอะไรเลยสักอย่าง แม้แต่ขยับตัว มันเจ็บ เจ็บไปหมด เขารู้ว่าสักวันมันอาจดีขึ้น แต่ไม่ใช่วันนี้ เพราะความรู้สึกของเขาในวันนี้มันย่ำแย่เกินกว่าจะแกล้งทำเป็นร่าเริงได้อีกต่อไป ไหนใครบอกว่าความรักมันไม่เคยทำร้ายเรา แล้วทำไมมันทำร้ายเขาแบบนี้กันล่ะ

เสียงโทรศัพท์ที่วางทิ้งไว้ข้างกายดังขึ้น ปลุกให้เด็กน้อยที่จมอยู่กับความเศร้าผงกศีรษะขึ้นมามองหา มือเรียวควานหาไปทั่ว เมื่อได้มาแล้วเห็นว่าเป็นใครโทรมาก็เม้มปาก หน่วยตาคลอด้วน้ำใสอย่างห้ามไม่อยู่ ถ้อยคำร้ายๆจากพี่มันยังดังอยู่ในหู

ชีวายืนมองห้องน้องจากระเบียงห้องของตนเอง ในมือยังยกโทรศัพท์แนบหู เขาไม่กล้าเรียกเพราะกลัวว่าเรียกไปแล้วน้องจะไม่ออกมา ลองเสี่ยงโทรหาก็ไม่รู้ว่าน้องจะยอมรับสายไหม เสียงรอสายดังอยู่นานจนใจที่มันเต้นระรัวค่อยแผ่วลงเมื่อคิดว่าน้องคงไม่ยอมรับเป็นแน่ แต่เมื่อได้ยินเสียงกดรับหัวใจชีวากลับเต้นแรงขึ้นมา แม้ว่าน้องจะไม่ยอมพูดอะไรมาเลยก็ตาม ต่างคนต่างเงียบจนชีวาพูดขึ้นมาก่อน

“พี่ขอโทษนะ”

“ปอมขี้เกียจจะฟังแล้ว” เสียงอู้อี้ตอบกลับมาพร้อมกับสูดจมูกเบาๆ เขาทำน้องร้องไห้อีกแล้ว

“ถึงไม่อยากฟังแต่พี่ก็อยากบอก ขอโทษ...”

ชีวายังย้ำคำเดิม ไม่รู้ว่ามันจะมีคำไหนที่จะใช้แทนความรู้สึกของเขาตอนนี้ได้ มันแย่เกินคำบรรยายจริงๆ และเขามั่นใจว่าน้องเองก็คงรู้สึกแย่กว่าเขาเป็นหลายเท่านัก

“ถ้าป๋าขอโทษอีกคำเดียวปอมจะปิดเครื่อง”

ปอมปอมส่งเสียงขู่มาตามสาย ชีวานึกหน้าน้องเวลาพูดประโยคนั้นแล้วยิ้มบาง ไม่ว่าน้องจะทำอะไรเขาก็ยิ้มได้เสมอ ยิ่งรอยยิ้มที่น้องมีให้อยู่ตลอดนั่นมันดีกว่าน้ำตาที่ได้เห็นบ่อยๆในช่วงนี้เสียอีก ดีมากกว่ามากเลยล่ะ

“ปอมปอม เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่ได้เหรอ?” เมื่อเงียบกันไปครู่หนึ่งชีวาก็เอ่ยถามขึ้นมาอีก

“ปอมไม่เคยเปลี่ยนนะ ปอมยังเป็นปอม เป็นแบบเดิมที่ปอมเคยเป็น ป๋าต่างหากที่เปลี่ยนไป พอรู้ว่าปอมชอบ ป๋าก็เปลี่ยนไป แบบนี้ปอมไม่บอกดีกว่า” เสียงสะอื้นเล็กๆดังมาท้ายประโยค ยิ่งมันดังอยู่ข้างหูแบบนี้หัวใจชีวายิ่งเจ็บ

“บอกเถอะ ให้พี่เลิกโง่เสียที”

เด็กหนุ่มอยากจะปลอบโยนน้อง แต่มันก็ยากเหลือเกินที่จะทำเช่นนั้น จึงได้แต่เพียงบอกในสิ่งที่ตนเองรู้สึกออกไป ไม่ว่าสิ่งที่เขาจะพูดต่อไปนี้ผลมันจะออกมาเป็นเช่นไร เขาก็จะยอมรับมัน

“ปอมปอม…”

“................”

“คนโง่อย่างพี่คนนี้... มันยังพอจะมีโอกาสบอกรักปอมปอมอยู่ไหม?”

“................”

น้องเงียบไปนานจนชีวาใจแป้ว ประตูระเบียงห้องตรงข้ามถูกเปิดออกมา ปอมปอมเดินมาหยุดยืนชิดขอบระเบียง ในมือยังถือโทรศัพท์แนบหู

“บอกสิ บอกปอมหน่อย” น้องพูดเสียงเครือ ดวงตาเรียวไม่ละจากหน้าพี่

“พี่รักปอมปอม”

“..................”

“.................”

“ถึงป๋าจะโกหก แต่ปอมก็ดีใจที่ได้ยินมัน” ปอมปอมยิ้มเศร้า กะพริบตาเมื่อรู้สึกว่าน้ำตามันจะไหลอีกแล้ว

“พี่ไม่ได้โกหก พี่โง่เอง โง่มาตลอด เอาแต่วิ่งไล่ในสิ่งที่ไม่มีวันได้มา และปักใจอยู่อย่างนั้นว่ามันคือสิ่งที่พี่ต้องการ โดยมองข้ามสิ่งสำคัญที่อยู่ใกล้ตัว…”

ชีวาเอ่ยบอกอย่างจริงจัง ปอมปอมมองพี่นิ่ง ไม่รู้ว่าในใจน้องกำลังคิดอะไรอยู่

“ขอโทษที่ดีแต่ทำให้ร้องไห้ ขอโทษที่ทำให้เสียใจมาตลอด ถ้ายังมีโอกาสเหลืออยู่บ้าง ยกมันให้พี่ได้ไหม ให้พี่ได้ทำให้ปอมปอมมีความสุข ให้พี่... ได้รักปอมปอมอย่างเต็มหัวใจเสียที”

“..................”

ปอมปอมพยักหน้าช้าๆเป็นการตอบรับคำขอนั้น ชีวาโน้มตัวข้ามฝั่งไปจูบหน้าผากน้องเบาๆ หนุ่มน้อยค่อยๆหลับตาลงเมื่อพี่เลื่อนมาแตะจูบริมฝีปากของตนเอง ชีวาผละออกมามองหน้าน้อง มือใหญ่กุมแก้มนิ่ม นิ้วเกลี่ยเช็ดน้ำตาให้น้อง น้ำตาที่มันมีสาเหตุมาจากเขา แม้ว่าน้องจะต้องร้องไห้เพราะเขามาเท่าไหร่ แต่น้องก็ยังคงให้โอกาส มันคงไม่ผิดใช่ไหม... หากเขาจะคว้าเอาโอกาสนั้นไว้ และตอบแทนหัวใจของน้องที่มั่นคงต่อเขามาเนิ่นนาน...





+++++++++++++++++





“หมอนั่นไม่มาเหรอ?”

การ์ฟเดินเข้ามาหาอาตี๋น้อยที่เพิ่งมาถึงร้านและกำลังแต่งตัวจะออกไปทำงานด้านนอก ก่อนเอ่ยถามเมื่อไม่เห็นคู่ปรับอย่างชีวา ปรกติต้องมาปะทะคารมกับเขาแล้วป่านนี้ นี่หายไปเลย ไม่เห็นโผล่มาแต่เช้าแล้ว

“ชีวาเหรอ แฮงค์น่ะ”

อาร์ดิวยิ้มบอกก่อนที่จะหันไปทำอะไรก๊อกแก๊กอยู่หน้าตู้เก็บของ การ์ฟเบ้ปากที่ได้ยินเช่นนั้น เมาค้างอย่างนั้นหรือ เด็กหนุ่มยักไหล่ เมื่อคิดว่าเรื่องแบบนี้มันก็ต้องมีกันบ้างล่ะน่า

“ดิว”

ปอมปอมโผล่หน้าเข้ามาในห้องแต่งตัวแล้วเอ่ยเรียกพี่ชาย ยิ้มให้พี่การ์ฟที่ยืนอยู่ใกล้กันด้วย

“ว่าไง?”

“พี่มิมิวมา”

หนุ่มน้อยยิ้มบอก อาร์ดิวพยักหน้ารับรู้ ขณะที่คำบอกกล่าวนั้นทำให้การ์ฟชะงักกึก

“เดี๋ยวพี่ออกไป พาพี่มิมิวไปนั่งโต๊ะประจำก่อนนะ” อาร์ดิวเอ่ยบอกกับน้องชายเมื่อเหลือบไปเห็นว่าสีหน้าการ์ฟไม่ค่อยดี

“คร้าบบ เร็วๆน้า~”

“อื้อ”

ปอมปอมตอบรับอย่างร่าเริง วิ่งลั้นลาออกไปหน้าร้านเพื่อพาเพื่อนพี่ชายไปนั่งโต๊ะประจำอย่างที่พี่บอก อาร์ดิวปิดตู้เก็บของเมื่อแต่งตัวเสร็จ จะออกจากห้องไปบ้างแต่การ์ฟก็คว้าจับแขนเรียวไว้

“ฉันอยากรู้…” เด็กหนุ่มเอ่ยนำขึ้นมาสีหน้าไม่มั่นใจ

“อยากรู้?” อาร์ดิวทวนคำงงๆ การ์ฟมองอาตี๋ตรงหน้าแล้วจึงพูดต่อ

“นายยังมองเห็นมันอยู่ไหม?”

“คุณบอกไม่เชื่อ” อาร์ดิวเอ่ยแย้ง เอาคำที่การ์ฟชอบย้ำมาเตือนความจำ

“ฉันอยากจะเชื่อ ช่วย…”

“ไม่”

ยังไม่ทันที่การ์ฟจะเอ่ยจนจบประโยคอาร์ดิวก็บอกปฏิเสธเสียงแข็ง การ์ฟอึ้งไปเมื่อคำร้องขอของเขาได้รับการปฏิเสธตั้งแต่ยังไม่เอ่ยมันออกมา อาร์ดิวปลดมือการ์ฟลงจากแขนของตนเองก่อนบอกช้าๆ

“ผมไม่ใช่หมอดู ไม่ใช่คนที่ล่วงรู้อนาคต เป็นแค่คนธรรมดาที่ไม่ได้อยากรู้เรื่องของคนอื่น ไม่ว่าอะไรจะเกิดต่อจากนี้ไป คุณก็ต้องเผชิญมันด้วยตัวเอง”

บอกเพียงเท่านั้นแล้วอาร์ดิวก็เดินออกไป การ์ฟยืนนิ่ง ถอนใจบางเบาแล้วหัวเราะเยาะตนเองที่ต้องให้อาตี๋น้อยมาสั่งสอน ถอนใจเสียอีกทีก่อนที่จะเดินตามอาตี๋ไป เรื่องของตนเอง ก็ต้องแก้ด้วยตนเองมันถึงจะถูก อย่างนั้นสินะตี๋...







TBC





(คอมเม้นท์นิยายตัวเองนิดนึง บ้าไปแล้ว 555)

กล้าๆหน่อยเด้การ์ฟิว ไอ้แมวอ้วน!55555 // ส่วนอิป๋า เลิกโง่เสียทีนะ อย่าทำน้องร้องไห้อีกละ กอดปอมปอมน้อยลูกแม่ :กอด1:

เรื่องชื่อของการ์ฟใหม่เคยบอกไว้ตั้งแต่ตอนเปิดเรื่องคราวนู้นนนน (ที่ลบไปแล้ว) แต่ไม่ได้บอกซ้ำอีกครั้งทำให้หลายท่านคิดว่าชื่อของการ์ฟมันคือ กราฟ (ที่เป็นเส้นกราฟ) แต่มิใช่เด้อค่า มันมาจากคำว่าการ์ฟิว เจ้าแมวตัวอ้วน~~

ขอบคุณที่ติดตามกันค่ะ ทั้งคอมเม้นท์ทั้งบวก ขอบคุณมากๆ บวกคืนให้ทุกท่านค่ะ :L2:

วันใหม่

หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆9☆ {05_02_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: PK37 ที่ 05-02-2013 19:33:15
ชอบน้องปอมปอมมาก น่ารักสุดๆ แถมยังมีความคิดเป็นผู้ใหญ่เกินตัว แต่ไม่ค่อยแสดงออก ฮาาาา
ป๋ารู้ตัวสักทีนะว่าตัวเองก็รักน้องปอมปอม ทำให้น้องเสียใจตั้งหลายครั้งดีนะที่น้องไม่เปลี่ยนใจไปซะก่อน
หลังจากนี้ป๋าคงจะได้หึงน้องบ่อยแน่เลย ก็นะคนมันน่ารักมีเสน่ห์อย่างน้องเนี่ย
น้องเขมก็คงไม่ตัดใจง่ายๆ ป๋าจะต้องคอยระวังแน่เลย แต่อย่าไปทำให้น้องงอนเข้าละกัน  :laugh3:
ป๋ากับน้องปอมปอมเคลียร์กันแล้วเรียบร้อย ถึงคิวนายการ์ฟกลับมาทวงตำแหน่งพระเอกแล้วใช่ไหม หลังจากที่กลายเป็นตัวประกอบมาตั้งนาน กร๊ากกกกก
การ์ฟยังต้องเคลียร์กับมิมิวให้เรียบร้อย แล้วหลังจากนั้นจะเป็นอย่างไรก็ไม่รู้

เป็นกำลังใจให้ค่ะ  :pig4:

ปล. ก็ว่าอยู่ว่าทำไมถึงเขียนอย่างนี้ การ์ฟ เพราะมาจากการ์ฟิวนี่เอง หึหึ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆9☆ {05_02_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 05-02-2013 19:46:22
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆9☆ {05_02_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 05-02-2013 19:55:41
นึกว่าชีวาจะทำน้องเสียใจอีกรอบ
ดีนะพี่แกรู้ตัวเองซักที
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆9☆ {05_02_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: อยากกินไข่พะโล้ โปะ ที่ 05-02-2013 20:02:37
ชั้นไม่ไว้ใจแกเลยอีป๋า  ;(
น้องปอมเขาให้โอกาสแล้วอย่าหลุดนะ ถ้าหลุดเมื่อไหร่เจอดีแน่นังป๋า
ส่วนกร์าฟ......สมน้ำหน่า!!!!!!!!
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆9☆ {05_02_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: PapermintReal ที่ 05-02-2013 20:25:36
พี่วา กะ น้องปอม ในที่สุดดดด ก็ได้รักกัน o13
แต่เมื่อไหร่ที่การ์ฟ กะ ดิว จะเจอฉากหวานๆบ้างงง :sad4:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆9☆ {05_02_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 05-02-2013 20:32:26
ยังดีนะที่น้องยังให้โอกาสอ่ะ รู้ตัวช้าจริงๆชีวาเอ้ย :เฮ้อ:


ส่วนการ์ฟ รีบเคลียร์กับมิมิวเหอะ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆9☆ {05_02_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 05-02-2013 20:43:00
 :oo1:

สุดท้ายชีวาก็รู้ใจตัวเองซะที

แล้วก็อย่าทำให้ปอมปอมเสียใจอีกนะ

หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆9☆ {05_02_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 05-02-2013 20:45:40
ชีวา วันนี้นายทำได้ดี แต่ยังไม่หายเคืองนะ

ทำปอมปอมฉันร้องไห้อะ เรายังเคืองนายอยู่

การ์ฟ เคลียร์ตัวเองให้เรียบร้อยอะ ดิวรออยู่ 55555555
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆9☆ {05_02_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: nong PeePee ที่ 05-02-2013 21:02:20
 o13 o13
เค้าเป็นแฟนกันแล้วอิอิกว่าจะกล้าน่ะพี่ชีวา  o13
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆9☆ {05_02_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 05-02-2013 21:11:45
ดีใจกับน้องปอมน้อยที่ป๋ารู้ใจตัวเองซักที
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆9☆ {05_02_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 05-02-2013 21:59:01
ในที่สุดปอมปอมน้อยก็สมหวังซะทีนะ แต่ไม่รู้ว่าจะราบรื่นแค่ไหน กว่าป๋าแกจะเข้าใจตัวเองได้ทำเอาน้องเสียน้ำตาเป็นปี๊บ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆9☆ {05_02_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 06-02-2013 01:53:14
เสียีนะป๋า เสียที
ปล่อยน้องร้องไห้ น้องเศร้ามาหลายตอนแหละ
ได้เวลาทำให้น้องหัวเราะยิ้มมีความสุขได้แล้วว
เลิกขี้ขลาดได้แบบนี้ เค้าดีใจด้วย
ต่อไปก็ใช้โอกาสที่ปอมปอมให้พิสูจน์เสียนะ ว่าที่ผ่านมาปิดบังัวใจตัวเองมาแค่ไหน

การ์ฟิววววว รีบไชอบอาร์ดิวน่า เค้ารออยู่
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆9☆ {05_02_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 06-02-2013 06:46:28
ในที่สุดป๋าก็รู้ใจตัวเองสักที
ปอมปอมจะได้มีความสุขสักที
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆9☆ {05_02_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: NOoTuNE ที่ 06-02-2013 07:28:08
ถ้าป๋าทำน้องเสียใจอีก จะเอาน้องไปซ่อน ไม่ให้น้องกับป๋าแล้วแล้ว


เหลือแีค่คู่นี้ซินะ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆9☆ {05_02_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: So_Da_Za ที่ 06-02-2013 07:32:29
ป๋าไม่โง่แล้ว เย้ๆ
ปอมน้อยเราจะยิ้มได้แล้ว
ที่นี้เหลือแต่รอให้ ตาแมวอ้วนเคลียร์ปัญหาตัวเองซินะ
ให้แมวอ้วนรู้ใจตัวเองบ้างว่าคิดไงกะตี๋น้อย อิอิ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆9☆ {05_02_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: TinyB ที่ 06-02-2013 10:00:51
ต่อจากนี้ก็จะมีตอนหวานๆของอิป๋ากับปอมปอมน้อยบ้างแล้วอ่ะจิ   :z1:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆9☆ {05_02_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: greensnake ที่ 06-02-2013 11:25:50
ฮื่อ! ขัดใจป๋าจังเลย ทำน้องร้องไห้อีกแล้วนะ :m16:
แต่ครั้งนี้พอจะอภัยให้ได้ เพราะคำว่ารักที่บอกน้องหรอกนะ
ถ้ายังไม่รู้ตัวอีก ตอนหน้าว่าจะยกน้องให้เขมแล้วนะเนี่ย
ส่วนการ์ฟก็ดีขึ้นนะ ทั้งเรื่องงานและของเรื่องอาร์ดิว
แบบว่าคุยกันมากขึ้น แล้วก็ดูจะไม่มีอคติแล้วด้วย
เหลือก็แต่เคลียร์เรื่องความรู้สึกของตัวเองกับมิมิวนั่นแหละ
รีบๆเข้า จะได้เดินหน้ากับอาร์ดิวเสียที :m18:
ขอบคุณวันใหม่มากค่ะ :กอด1:
+1และเป็ดเบาๆจ้า
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆9☆ {05_02_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 06-02-2013 14:30:42
ชีวาตอนที่แล้วโดนคนอ่านบ่นเยอะดิ ตอนนี้เลยตัดสินใจได้แระว่าจะเอาไง :laugh:
ก็ดีใจกะปอมๆด้วย กว่าอิป๋าจะบอกรักก็เศร้าไปหลายรอบ หวังว่าหลังจากนี้คงมีความสุขนะ :กอด1:
บวกๆ^^
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆9☆ {05_02_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 06-02-2013 15:31:23
หวังว่าป๋าชีวาคงไม่ทำให้น้องปอมร้องไห้อีกนะ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆9☆ {05_02_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: nemesis ที่ 06-02-2013 15:41:11
ชีวาแน่ในแล้วนะถึงพูดอะ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆9☆ {05_02_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 06-02-2013 21:10:47
ให้แน่ใจนะป๋า  อย่ามาโลเล หรือจับปลาสองมืออีกก็แล้วกัน
ถ้าทำน้องเสียใขอีก  แกโดนเชือดแน่ป๋า  o18
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆9☆ {05_02_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 07-02-2013 08:00:43
ดีใจกับปอมปอมน้อยด้วยน้า :กอด1:
จากนี้คงยิ้มได้จริงๆซะที ส่วนอาตี๋กับแมวอ้วนยังต้องลุ้นกันต่อไป :impress2:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆9☆ {05_02_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: zero3 ที่ 07-02-2013 08:26:48
มันต้องยังงี้สิ ป๋าวา :a2:
ปอมมี่น้อยน่ารักจะตาย เนอะ...
กราฟกับตี๋ดิว ยังต้องตามลุ้น555+
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆9☆ {05_02_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 07-02-2013 23:28:23
สมหวังซะทีนะปอมๆ ดีใจด้วยนะ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆9☆ {05_02_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: YOSHIKUNI RUN ที่ 08-02-2013 02:39:41
 เข้าใจกันแล้ว ก็รักกันให้มากๆๆ หล่ะ  :กอด1: :กอด1:

....แต่อีกคู่ก็พัฒนาการช้า เมื่อไหร่จะมีอะไรหวานๆอีกมั่ง อ่ะ

 :a11: :a3: :a1:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆9☆ {05_02_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: vpu ที่ 09-02-2013 14:34:25
สู้ๆๆนะ ชีวา  แอบให้กำลังใจปอมปอมด้วยนะ :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆9☆ {05_02_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 12-02-2013 01:36:42
ปอมน้อยเข้มแข็งมาก ในที่สุดก็เอาชนะหัวใจป๋าได้
ดิวเป็นคู่ของการ์ฟ เย้จะมีกันและกัน
ขอบใจจ้า
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆10☆ {13_02_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: wanmai ที่ 13-02-2013 19:22:32
Magica Café



Magic (10)





ปอมปอมวิ่งออกมาด้านนอกหลังจากเข้าไปรายงานพี่ชายว่าเพื่อนพี่มาหา สวนกับคุณแม่พอดีท่านจึงเรียกเอาไว้

“ปอมปอม”

“ครับ” หันมาขานรับคุณแม่พร้อมยิ้มแฉ่ง ไปอารมณ์ดีมาจากไหนล่ะน่ะ

“วันนี้กลับพร้อมแม่นะครับ”

“แต่มันดึกนะ” หนุ่มน้อยเอียงคอ

“ไม่ดึกหรอก วันนี้พ่อเขาจะปิดร้านเร็วหน่อย เพราะคุณยายโทรมาบอกให้เตรียมตัวไปบ้านพรุ่งนี้น่ะ จะทำบุญบ้าน” คุณแม่แจงเหตุผล

“ทำบุญบ้านเหรอครับ ทำไมทำตอนนี้อ่ะ?”

“เห็นว่างูเข้าบ้านหรือไงนี่แหละ สะเดาะเคาระห์ ความเชื่อคนโบราณเขาน่ะ”

“อ๋อ งั้นปอมไปติดป้ายหน้าร้านนะว่าพรุ่งนี้หยุด” หนุ่มน้อยพยักหน้ารับทราบก่อนเสนอ

“ครับผม”

“อ๊ะ! หม่ามี้ พี่ๆเขารู้ยังอ่ะครับ?” จะเดินไปแล้วก็ยังย้อนกลับมาถามเมื่อนึกขึ้นได้

“รู้แล้วจ้า แม่บอกพี่ๆเขาแล้ว”

“คร้าบ~”

คุณแม่ยิ้มขำพร้อมส่ายหน้าเบาๆ วันนี้ลูกชายคนเล็กของท่านดูอารมณ์ดีจริงๆนะ ปอมปอมออกมาพามิมิวไปนั่งที่โต๊ะประจำพร้อมส่งเมนูอาหารให้พี่เขาเลือกเสร็จสรรพ แล้วจึงเข้าไปในห้องทำงานเอาป้ายพรุ่งนี้หยุดหนึ่งวันมาติดหน้าร้าน เท้าเอวยืนมองผลงานของตัวเองแล้วก็ยิ้มพอใจ ปัดมือเบาๆก่อนกลับเข้าร้านไป

อาร์ดิวออกมานั่งเป็นเพื่อนมิมิว แต่ก็เพียงไม่นานเพราะเขาสวมชุดพนักงานร้าน มันคงดูไม่ดีนักหากมานั่งคุยกับลูกค้า คุยกันสักพักเมื่ออาหารมาเสิร์ฟตี๋น้อยจึงกลับไปประจำที่เคาน์เตอร์เป็นเพื่อนปอมปอม ให้คุณแม่เข้าไปเคลียร์ด้านใน ส่วนคุณพ่อตอนนี้เป็นเชฟใหญ่อยู่ในครัว

การ์ฟมาวนๆเวียนๆอยู่ข้างเคาน์เตอร์ อาร์ดิวเงยขึ้นมามองคนที่เดินไปเดินมางงๆ จนคุณแม่ออกมาจากด้านในเห็นเข้าเลยเอ่ยทัก

“มีอะไรหรือเปล่าการ์ฟ?”

“เปล่าครับคุณป้า”

การ์ฟบอกปฏิเสธก่อนเข้าไปด้านใน อาร์ดิวเลิกคิ้ว มองตามการ์ฟแล้วหันกลับมามองมิมิว ก่อนตี๋น้อยจะถอนใจออกมาเบาๆ




......................




ช่วงพักกลางวัน การ์ฟออกไปคุยกับมิมิวข้างนอก เพราะแบบนั้นเขาถึงได้เห็นว่ามิมิวพาใครมาเป็นเพื่อนด้วย เป็นหนุ่มรุ่นพี่ที่เขาไม่คุ้นหน้า แต่เขาก็พอดูออกว่าหนุ่มคนนั้นคิดเช่นไรกับมิมิว และการที่มิมิวมาที่ร้านจุดประสงค์หลักก็ไม่ใช่เพราะมาทานอาหาร แต่เพราะการ์ฟอยู่ที่นี่เธอจึงได้มาหาเขา ทั้งสองคนเดินมาหาที่นั่งคุยกันไม่ไกลจากที่รถของมิมิวจอดอยู่ พี่ผู้ชายคนนั้นก็ยังเดินตามมาด้วย การ์ฟจิ้ปากเบาๆก่อนหันกลับไปหาแล้วพูดกับพี่เขา

“ผมขอคุยกับมิมิวเป็นการส่วนตัวจะได้ไหมครับพี่?”

“ก็คุยไปสิ ใครว่าอะไรล่ะ” หนุ่มรุ่นพี่ตอบกลับมาแบบกำปั้นทุบดิน

“พี่เล่นยืนอยู่ใกล้ขนาดนี้เขาไม่เรียกว่าคุยเป็นการส่วนตัวแล้วล่ะครับ” การ์ฟย้อน พยายามจะควบคุมตัวเองไม่ให้มีเรื่องกับคนไม่รู้จัก

“พี่ธาร ไปรอที่รถก่อนได้ไหมคะ?”

มิมิวเห็นท่าไม่ดีจึงต้องบอกให้หนุ่มรุ่นพี่ช่วยออกไปก่อน หากยังอยู่ตรงนี้ต่อไปการ์ฟคงไม่ยอมคุยกับเธอแน่ หนุ่มรุ่นพี่ปรายตามองการ์ฟที่เบือนหน้าไปมองทางอื่นแล้วหันมาพูดกับมิมิว

“ให้เวลาสิบนาที ถ้านานกว่านี้พี่จะมาตาม”

การ์ฟพ่นลมหายใจแรงๆเมื่ออีกฝ่ายเดินออกไปหลังจากกำชับกำชามิมิวเสร็จ จะไปก็ยังจะเก๊กอีก หมั่นไส้ว่ะ!

“ใครเนี่ย?” การ์ฟเอ่ยถามคนข้างกาย

“เอ่อ... พี่ชายมิว”

“.............?”

“ลูกชายเพื่อนสนิทคุณแม่น่ะ” มิมิวเอ่ยแก้เมื่อการ์ฟมองมาอย่างมีคำถามกับคำตอบแรกของเธอ

“อ้อ” การ์ฟทำเสียงเชิงรับรู้ ขณะที่นึกในใจว่า มิน่าล่ะ

เมื่อเหลือกันอยู่สองคนก็ดูเหมือนว่าทั้งคู่จะทำตัวไม่ถูก ช่วงที่ห่างกันไปมันยิ่งเพิ่มช่องว่างระหว่างกันมากขึ้นไปอีก การ์ฟและมิมิวนั่งเงียบกันอยู่เพราะไม่รู้จะเริ่มต้นพูดกันอย่างไร การ์ฟคิดว่าตนเองคงขี้ขลาดเกินไปที่จะเอ่ยคำใดออกไปก่อน ไม่กล้าเอ่ยถามด้วยซ้ำว่าที่มิมิวมาหานั้นเพราะเหตุใด เพราะลึกๆแล้วก็รู้ว่าสุดท้ายมันจะจบลงที่ตรงไหน

“เวลาที่เราห่างกัน การ์ฟรู้สึกยังไงบ้าง?” มิมิวเป็นฝ่ายเริ่มต้นเอ่ยถาม หากไม่เริ่มพูดกันตอนนี้ เรื่องทุกอย่างมันก็คงจะยืดเยื้อออกไปอีกเรื่อยๆ ทั้งที่ความรู้สึกภายในใจมันไม่เหมือนเดิมแล้ว

“ไม่รู้สิ มันหน่วงๆล่ะมั้ง จะสุขก็สุขไม่เต็มที่ มันมีเรื่องให้คิดอยู่ตลอดเวลา การ์ฟมักจะคิดอยู่เสมอว่าหัวใจของเราสองคนมันเปลี่ยนไปอย่างที่มิวว่าจริงๆเหรอ” การ์ฟหันมามองหน้าสาวคนรักเมื่อเอ่ยจบประโยค

“แล้วได้คำตอบว่ายังไง?” มิมิวถามกลับ ขณะที่ในใจก็หวาดหวั่นกับคำตอบของอีกฝ่าย

“อาจจะใช่ก็ได้มั้ง”

“ทำไมต้องมีมั้งตลอดด้วยล่ะ?” เด็กสาวคิ้วขมวดเล็กๆ

“มันมีบางอย่างที่การ์ฟไม่รู้ว่าคืออะไร เหมือนมันจะติดค้างในใจตลอดมา ตั้งแต่ที่การ์ฟฟื้นขึ้นมามันมักจะนึกถึงบางเรื่อง แต่ก็ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังนึกถึงอะไรอยู่ บางทีการ์ฟอาจจะกำลังเป็นบ้า” การ์ฟพูดแล้วก็หัวเราะในลำคอราวจะเยาะหยันตัวเอง

“แล้ว... หัวใจของมิวที่มิวบอกว่ามันเปลี่ยนไป หมายถึงเขาเหรอ?” เด็กหนุ่มเอ่ยถาม เมื่อคาดเดาไปว่าการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับมิมิวอาจมาจากหนุ่มรุ่นพี่ที่มาด้วยกัน

“เปล่า พี่ธารเพิ่งเข้ามา และหัวใจมิวไม่ได้เปิดรับเขาในตอนนี้ แต่ที่บอกว่ามันเปลี่ยนไป นั่นเพราะปัจจัยแวดล้อมระหว่างเรา เรื่องที่การ์ฟเอามิวไปเป็นของพนันกับเชน มิวบอกว่าไม่โกรธแล้ว นั่นก็คือว่าในตอนนี้มิวไม่โกรธ แต่ก่อนหน้านี้มิวทั้งโกรธและรู้สึกแย่กับการ์ฟมากๆ มิวเคยคิดว่าคนที่รักกัน มีใจให้กัน เขาจะเห็นความสำคัญของกันและกัน แต่เมื่อหัวใจที่มิวยกให้มันถูกนำไปใช้ราวสิ่งของชิ้นหนึ่งซึ่งไม่มีค่าเลย มันก็ทำลายความเชื่อมั่นในใจของมิวลง แม้จะให้อภัยแต่ก็ยังไม่สามารถลืมได้ว่าครั้งหนึ่งการ์ฟเคยทำอะไรไว้ และไม่แน่ว่าต่อจากนี้มันจะไม่มีอีก”

“..................” ทุกคำที่มิมิวพูดมาการ์ฟได้แต่เพียงเงียบฟัง ประโยคยาวยืดนั้นมันสรุปทุกอย่างในตัวของมันเอง

“มิวอาจจะเป็นคนคิดเล็กคิดน้อยก็ได้ แต่นั่นล่ะคือตัวตนของมิว” มิมิวปิดท้าย พอได้เอ่ยออกไปแล้วบรรยากาศรอบกายมันยิ่งหนัก ยิ่งการ์ฟเงียบ เธอยิ่งกดดัน

“คำขอโทษมันคงไม่ใช่สิ่งที่มิวต้องการ…”

“ใช่ เพราะต่อให้การ์ฟขอโทษสักกี่ครั้ง ความรู้สึกของเราก็ไม่สามารถกลับมาเป็นเหมือนเก่า” มิมิวตอกย้ำในสิ่งที่การ์ฟกำลังคิด พยายามที่จะไม่ให้เสียงของตนเองสั่น

“เรา...” การ์ฟเริ่มต้นประโยคเพียงเท่านั้นแล้วเงียบไป ร่องรอยความเสียใจในแววตาของอีกคนมันสะท้อนความรู้สึกของเขาไม่ต่างกัน

“เราต่างก็สามารถเลือกทางเดินของตัวเองได้” มิมิวต่อประโยคที่การ์ฟค้างไว้

“และมิว... เลือกที่จะเดินจากการ์ฟไปสินะ…?”

การ์ฟมองตรงไปข้างหน้า พรูลมหายใจยาว มันอึดอัดจนไม่สามารถจะเอ่ยคำใดออกมาได้ง่ายๆ ทุกอย่างมันชัดเจนว่าวันนี้มันต้องจบ ขณะที่ในใจเกิดคำถามว่าเราไม่สามารถคบกันได้อีกต่อไปแล้วหรือ ทางออกของเรื่องนี้มันคือคำว่าจบอย่างเดียวเท่านั้นใช่ไหม หรือที่จริงแล้วที่ทุกอย่างมันเดินมาจนถึงจุดนี้เป็นเพราะเขาพยายามไม่พอ หรือไม่ก็เป็นเพราะเขาไม่พยายามที่รั้งมันเอาไว้เลย

“เราคงเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันได้”

“อือ”

มิมิวเอ่ยปิดท้ายก่อนลุกขึ้น การ์ฟตอบรับเพียงสั้นๆ ไม่ได้หันไปมองด้วยซ้ำเมื่ออีกฝ่ายเดินจากไป ได้แต่เพียงนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม แม้อยากจะรั้งไว้ แต่เมื่อหัวใจไม่ได้ใกล้กันอีกแล้วมันก็มีแต่จะทำร้ายกันและกันให้เจ็บปวดมากขึ้นเท่านั้น…





..........................




“เช็ดน้ำตาซะ พี่ไม่ชอบเห็นเราร้องไห้”

เสียงทุ้มของหนุ่มรุ่นพี่เอ่ยบอกเมื่อจับจูงมือมิมิวให้เดินกลับมาที่รถ มันน่าหงุดหงิดที่น้องสาวคนนี้ร้องไห้เพราะผู้ชายคนอื่น

“ไม่อยากเห็นก็ปิดตาไว้สิ”

มิมิวว่ากลับอย่างพาลพาโล เธอร้องไห้มันก็เรื่องของเธอ ไม่อยากเห็นก็อย่ามองสิ เงาจากร่างสูงผ่านวูบ ริมฝีปากหนุ่มรุ่นพี่แตะปากของเธอเบาๆ มิมิวชะงักเมื่อถูกขโมยจูบไม่ให้ทันตั้งตัว

“ปิดตาไม่เป็น แต่ปิดปากอ่ะ ถนัด”

คนพูดยิ้มมุมปาก จับมือเรียวรั้งให้เดินไปที่รถ มิมิวมองแผ่นหลังกว้างของคนด้านหน้า มือเรียวแตะปากตัวเองแล้วเม้มแน่น บอกย้ำกับตนเองในใจว่ามันก็แค่วิธีทำให้เธอหยุดร้องเพราะพี่เขารำคาญเท่านั้นแหละ...




.............................




การ์ฟกลับเข้ามาในร้านหลังจากคุยกับมิมิวเสร็จแล้ว เด็กหนุ่มทำงานของตนเองไปเงียบๆจนหมดวัน สายตาของอาร์ดิวอดไม่ได้ที่จะคอยมองตามอย่างเป็นห่วง คุณแม่ของสองพี่น้องปอปลาชวนการ์ฟกลับไปเยี่ยมบ้านที่ต่างจังหวัดด้วยกันในวันพรุ่งนี้ เด็กหนุ่มไม่ค่อยอยากจะไปไหนเพราะสภาพหัวใจไม่ค่อยจะแข็งแรง แต่จะปฏิเสธก็เกรงใจจึงได้แต่เพียงยิ้มรับ เมื่อถึงเวลากลับบ้านอาร์ดิวก็วิ่งตามการ์ฟออกมาหน้าร้าน

“การ์ฟ”

การ์ฟหันมามองตามเสียงเรียก เลิกคิ้วให้คนเรียกเชิงถาม

“อะไรตี๋?”

อาร์ดิวก้าวเข้ามาหาแต่ก็ยังไม่พูดอะไร ท่าทางเก้ๆกังๆดูประหลาดจนการ์ฟสงสัย ดวงตาเรียวช้อนมองเขาก่อนหลุบต่ำ เหมือนมีอะไรจะพูดแต่ก็ไม่พูดมันออกมา อึกๆอักๆและเป็นแบบนั้นอยู่ซ้ำๆ การ์ฟยิ้มมุมปากนิดๆก่อนจะถามคนที่มีทีท่าผิดแปลก

“เป็นห่วง?”

“อือ”

อีกฝ่ายตอบรับง่ายดายจนการ์ฟแปลกใจ “หึ ตรงจังนะ”

“แล้ว... ไม่เป็นไรใช่ไหม?” ตี๋น้อยเอ่ยถามเสียงค่อย กลัวกระทบใจคนฟัง

“ยังไม่ตายอ่ะ เฮิร์ทนิดหน่อย” การ์ฟตอบกวน ไม่เคยชินกับการมีคนอื่นที่ไม่ใช่คนในครอบครัวหรือคนรักเป็นห่วง

“เขาเป็นคนดี…”

“อะไร?”

“เปล่า แค่จะบอกว่าพี่คนนั้นเป็นคนดี” อาตี๋น้อยอธิบาย ทำให้การ์ฟนิ่วหน้าแล้วถามกลับ
 
“แล้วฉันล่ะ?”

“บางทีก็ใจร้อนไป แล้วก็มั่นใจในตัวเองจนไม่ฟังความคิดเห็นของคนอื่น” ตี๋น้อยว่า

“รู้จักฉันดีนี่”

การ์ฟยกยิ้มเมื่ออีกฝ่ายพูดเหมือนรู้จักเขาดีอย่างนั้น ขณะที่คนรู้ดีอมยิ้มนิดๆ

“กลับละ พรุ่งนี้ไม่ไปนะ” การ์ฟเอ่ยบอกก่อนหมุนตัวจะเดินออกไป

“บอกแม่เองสิ!” อาร์ดิวตะโกนไล่หลังทำให้อีกคนหยุดกึก หันมามองอาตี๋ที่มองมาอย่างไม่ต้องการรับฝากคำพูดของอีกฝ่าย

“นายเป็นลูกคุณป้านะ”

“แต่ไม่ใช่แม่นี่” อาตี๋ย้อนกลับ

“เออๆ ถ้ามาไหวจะมา” การ์ฟตอบส่งๆเพราะไม่อยากเถียงด้วยก่อนหมุนกายกลับทางเดิม

“การ์ฟ!”

“รู้แล้วน่า”

“รู้อะไรยังไม่ได้พูดเลย??” อาร์ดิวเลิกคิ้วงง แค่เรียกเฉยๆ รู้แล้วหรือว่าเขาจะพูดอะไร

“รู้ว่านายเป็นห่วง”

อาร์ดิวชะงัก กัดปากตนเองเบาๆเมื่ออีกฝ่ายมองมายิ้มๆ

“คุณอาจจะไม่ชอบใจ แต่ว่า... มันก็ใช่…”

อาร์ดิวยอมรับเสียงเบา คราวนี้จึงกลายเป็นการ์ฟที่เป็นฝ่ายประหม่ากับดวงตาเรียวรีที่มองตอบมาอย่างจริงใจนั้นแทน

“อ่า... ขอบใจ เจอกันพรุ่งนี้” เด็กหนุ่มเอ่ยบอกก่อนออกเดินอีกครั้ง

“เอ๋ แสดงว่าจะมาใช่ไหม ไม่แฮงค์นะ!?”

“เออ”

คำตอบที่ได้รับทำให้อาร์ดิวอมยิ้ม อย่างน้อยการ์ฟก็รับคำ แต่จะทำได้ไหมพรุ่งนี้คงรู้กัน

“ยิ้มอะไรอ่า~” ปอมปอมแอบย่องมาข้างหลังพี่ ก่อนโผล่หน้ามายิ้มแป้นแล้นอยู่ข้างๆ

“ก็อยากยิ้มอ่า~” อาร์ดิวล้อเลียนน้องกลับ

“ชอบเขาอ่ะดิ้” หนุ่มน้อยทำเสียงสูงประกอบคำพูด

“เปล่าสักหน่อย เขาเป็นแฟนเพื่อนนะ”

“ฮั่นแน่ มีบอกว่าเขาเป็นแฟนเพื่อนแต่ไม่ปฏิเสธว่าไม่ได้ชอบแบบจริงจัง มีพิรุธนะเนี่ย” น้องยังล้อไม่เลิกทำให้คนเป็นพี่ต้องปรามเสียงดุ

“ปอมปอม”

“คร้าบ~”

“ไปเก็บของกลับบ้านเลย ดึกแล้วเนี่ย”

“เขินอ่ะ”

“เขินบ้าอะไร!”

“ปอมเขิน ไม่ได้บอกว่าดิวเขินสักหน่อย ดิวพูดไม่เพราะ”

กะปอมน้อยย่นจมูกใส่พี่ชายก่อนวิ่งเข้าร้านไปเก็บของกลับบ้าน อาร์ดิวส่ายหน้า ก่อนยิ้มคนเดียวอีกครั้งแล้วจึงเดินตามน้องเข้าไปเก็บของ ก็มันอดยิ้มไม่ได้นี่นา





+++++++++++++++





เช้าวันต่อมาสองพี่น้องปอปลาตื่นกันแต่เช้าเพื่อไปบ้านคุณตาคุณยาย การ์ฟให้เทสต์มาส่งตั้งแต่เช้ามืด ก่อนที่เทสต์จะกลับไปหาบิวที่ห้อง ไม่ได้ไปกับหลานเพราะงานตัวเองก็หนักไม่ค่อยได้กลับบ้านที่ต่างจังหวัดสักเท่าไหร่

เมื่อเตรียมตัวพร้อมทั้งหมดก็ออกเดินทาง ไปถึงที่บ้านโน้นในตอนสายๆ ทันเวลาทำบุญเพราะคุณยายนิมนต์พระมาฉันเพลที่บ้าน ลูกหลานอยู่พร้อมหน้าคุณตาคุณยายท่าทางจะมีความสุขน่าดูเพราะยิ้มไม่หุบ ครอบครัวการ์ฟก็มาช่วยที่บ้านด้วยเพราะบ้านก็ไม่ได้ไกลกันนัก ตั้งแต่ที่คุณพ่อคุณแม่สองพี่น้องปอปลาช่วยเหลือกันไว้ในคราวนั้นก็นับญาติกันเรื่อยมา มีอะไรก็ช่วยเหลือเกื้อกูลกันมาตลอด

หลังเสร็จงานบุญการ์ฟก็กลับไปพักที่บ้านตนเอง ตอนเย็นทุกคนถึงจะพากันกลับกรุงเทพฯ วันนี้ฉุกละหุกทำให้มีเวลาอยู่ไม่นาน สองพี่น้องปอปลาจึงสัญญากับคุณตาคุณยายว่าจะหาเวลามาเยี่ยมใหม่ คราวนี้จะอยู่นานๆให้เบื่อหน้ากันไปเลย คุณยายหัวเราะแล้วร้องท้าว่าให้มันจริงอย่างที่พูด ท่านจะตั้งตารอเลยทีเดียว

ยังมีเวลาอีกหลายชั่วโมงก่อนกลับเด็กๆเลยพากันไปเที่ยวเล่นในหมู่บ้าน ก่อนปอมปอมจะกลับมานอนเล่นกับคุณยาย พอเห็นคุณตาทำข้าวของไว้ใช้เองก็เข้าไปนั่งดูอย่างสนอกสนใจ ขณะที่พี่ชายอย่างอาร์ดิวไปเดินเล่นที่สะพานข้ามคูน้ำหลังบ้าน รอบๆมีต้นไม้และแปลงผัก บนคูน้ำก็ปลูกดอกไม้นานานชนิด ให้ความรู้สึกสดชื่นและได้บรรยากาศท้องไร่ท้องนาดีจนอาร์ดิวนั่งเล่นเพลิน แว่วเสียงเด็กๆแถวนั้นพูดคุยหัวเราะกันดังมาเป็นระยะ เสียงนกตามธรรมชาติก็ร้องประสานราวจะแข่งกับเสียงเด็กๆ การ์ฟเดินมานั่งลงข้างๆ อาร์ดิวหันมามองก่อนหันกลับไปมองบรรยากาศรอบๆต่อ

“รู้เปล่า เมื่อก่อนแถวนี้เวลากลางคืนน่ะ มีหิ่งห้อยเยอะมากเลยนะ” การ์ฟชวนคุย

“รู้สิ นี่มันบ้านผมนะ” อาร์ดิวตอบแล้วหัวเราะเบาๆ

“นั่นสิ”

การ์ฟว่าอย่างเห็นด้วย เขานี่ก็ถามไม่คิด นั่งข้างกันเงียบๆอยู่ครู่หนึ่งการ์ฟก็พูดขึ้นมาอีก

“นายสงสารฉันไหม?”

“สงสารเรื่องอะไร?”

“ก็เรื่อง... เรื่องที่ฉันโดนทิ้งมา”

คนถามหันมามองหน้าคนด้านข้าง อาร์ดิวละสายตาจากธรรมชาติรอบกายที่ตนเองให้ความสนใจอยู่มามองอีกฝ่าย ก่อนเอ่ยถามกลับไป

“คุณอยากเป็นคนน่าสงสารเหรอ?”

“เปล่า”

“งั้นผมก็ไม่สงสารคุณหรอก” ตี๋น้อยว่าอย่างนั้น

“อ้าว?”

“ไม่มีใครอยากเป็นคนน่าสงสารหรอก จริงไหม?”

คนพูดอมยิ้มนิดๆ การ์ฟกลอกตามองสูง นั่นสิ ทำไมอาตี๋นี่พูดอะไรก็ดูจะถูกไปเสียหมดเลยนะ

“ฉันว่าจะถามนายหลายทีแล้ว สร้อยนั่นน่ะ มันมีความพิเศษอะไรหรือเปล่า?”

การ์ฟเปลี่ยนเรื่อง หันมาถามเรื่องที่คาใจมานานแล้วบ้าง อาร์ดิวจับสร้อยที่คอ ก้มลงไปมองมันแล้วเงยหน้าขึ้นมาถามกลับ

“ทำไมเหรอ?”

“เขาใส่อะไรไว้ในนี้ มันทำไมมีสีแปลกตาจัง เหมือนมีแสงสว่างออกมาจากในนี้…”

การ์ฟช้อนจี้สีเขียวอมฟ้าที่สะท้อนแสงจางๆไว้ในมือ ก้มลงไปมองใกล้ๆอย่างสนใจสีสันที่ดูดึงดูดสายตา เมื่อเงยขึ้นมาถึงได้รู้ว่าตนเองอยู่ใกล้อีกคนเพียงใด อาร์ดิวชะงักนิ่งเมื่อสบสายตาคมในระยะประชิดแบบนี้ เด็กหนุ่มกัดปากตนเองเมื่อเกิดอาการประหม่าทำให้สายตาการ์ฟเลื่อนมาที่ริมฝีปากสวย

“ขอโทษ”

การ์ฟพึมพำเบาๆก่อนปล่อยสร้อยในมือ อาร์ดิวขยับลุกขึ้นแล้วปัดกางเกง ท่าทางเก้อกระดากกับสิ่งที่เกิดขึ้น

“ผมกลับนะ ห้าโมงเย็นเจอกันที่บ้านตายาย” อาร์ตี๋พูดเร็วก่อนก้าวเดินไปไม่รอฟังคำตอบ มือเรียวกำสร้อยที่คอแน่น ฮือออ ใจเต้นแรงเกินไปแล้ว

เมื่ออีกคนเดินพ้นไปแล้วการ์ฟก็วางมือทาบอกซ้ายตัวเอง เด็กหนุ่มนิ่วหน้าเล็กน้อย ก่อนพึมพำ

“ช่วงเวลาทำใจ... เหรอ?” พูดแล้วนิ่งไปนิดก่อนว่าต่ออย่างไม่เข้าใจตัวเอง

“อะไรวะเนี่ย เศร้ากว่านี้ได้ป่ะ ร้องไห้ไปเลยดิไม่ใช่มา...” เด็กหนุ่มถอนใจเบา ละมือจากอกซ้ายช้าๆ “ไม่ใช่มาใจเต้นกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง...”

การ์ฟลุกขึ้น ส่ายหัวกับความรู้สึกประหลาดของตนเองก่อนเดินกลับบ้าน มือใหญ่ทึ้งหัวตัวเองเพราะมันยังไม่ยอมหยุดคิดถึงเรื่องเมื่อครู่เสียที…




+++++++++++++++++++




สองพี่น้องปอปลากลับเข้ากรุงเทพฯมาก็เริ่มดึกแล้ว การ์ฟโทรบอกไม่ให้เทสต์มารับตั้งแต่ออกจากบ้านที่ต่างจังหวัดเพราะไม่อยากกวน แต่พอมาถึงเทสต์ก็มาจอดรถรออยู่ในบ้านสองพี่น้องปอปลาแล้วเรียบร้อย ทุกคนช่วยกันขนของลงจากรถ การ์ฟเอากระเป๋ากับของฝากที่คุณพ่อกับคุณแม่ของตนเองให้เอาติดมือมาทานกับเทสต์ที่กรุงเทพฯไปเก็บที่รถของเทสต์ เมื่อจัดการเสร็จก็ลาคุณพ่อคุณแม่สองพี่น้องปอปลาแล้วขึ้นรถกลับ

“รู้ได้ไงว่าผมจะกลับเวลานี้?” การ์ฟเอ่ยถามผู้เป็นน้าชายเมื่อขึ้นมานั่งข้างกันบนรถ

“ไม่รู้หรอก แต่มารอตั้งแต่กลางวันแล้ว ให้แม่บ้านโทรบอกถ้านายกลับมา เห็นค่ำแล้วยังไม่มาเลยมารออีกที” เทสต์บอกกับหลานชายยิ้มๆ

“ขอบคุณนะเทสต์”

“นิดหน่อยน่า”

มือใหญ่โยกศีรษะหลานรัก แหม วันนี้มีขอบคงขอบคุณด้วยแฮะ ตั้งแต่ไปทำงานที่ร้านนั้นนี่น่ารักขึ้นเป็นกองเลยนะ ผู้เป็นน้ายิ้มแย้มอารมณ์ดีขณะขับรถพาหลานกลับบ้าน...




+++++++++++++++




ช่วงวันหยุดของทุกคนหมดไป เด็กนักเรียนที่น่ารักจึงต้องกลับมาเรียนกันต่อ ชีวากับปอมปอมตัวติดกันตลอดในช่วงนี้ จะว่าไปเมื่อก่อนก็ตัวติดกันอยู่แล้วมันเลยดูไม่แปลกในสายตาของเพื่อนๆเท่าไหร่ ที่แปลกไปก็คงมีเขม ที่เข้ามาอยู่ใกล้ปอมปอมให้ชีวาขวางหูขวางตาเล่นๆ ชีวาอยากจะแสดงความเป็นเจ้าของน้องมากกว่านี้แต่ก็เกรงว่ามันจะดูไม่ดีนักหากประกาศตูมลงไปว่าน้องเป็นของตนเอง แต่เพราะความไม่ชัดเจนแบบนั้นทำให้เขมเองก็สู้ไม่ถอย

“มันก็แค่ความเคยชิน แค่เพียงเพราะคิดว่าพี่ที่อยู่ข้างมันมาตลอดคือคนที่ใช่ ทั้งๆที่จริงๆแล้วยังมีคนอีกมากที่รักมันมากกว่าพี่ และไม่เห็นแก่ตัวอย่างพี่ที่ไม่รักมันแต่ยังหวงก้าง เดี๋ยวปอมปอมก็ตาสว่างแล้ว”

เด็กเขมท้าทายเด็กหนุ่มรุ่นพี่ที่ทำตัวเป็นหมาหวงก้าง ถึงแม้ตอนนี้ก้างที่ว่าจะยินยอมพร้อมใจเป็นของหมาก็เถอะ!

“ถ้าคิดว่าทำได้ก็ลองดูสิ แต่บอกไว้ก่อนนะไอ้หนู เตรียมผ้าเช็ดหน้าไว้สักสองโหลเลย เผื่อไม่พอซับน้ำตาเวลาอกหักซ้ำ-ซ้ำ!!”

ชีวาตอกย้ำซ้ำเติม เขาไม่คิดจะสู้กับเด็กหรอก แต่ในเมื่อเด็กนี่มันคิดจะปีนเกลียวกัน ต่อไปก็อย่าหาว่าเขาเป็นผู้ใหญ่รังแกเด็กก็แล้วกัน!




++++++++++++++




หลังทำการบ้านเสร็จปอมปอมก็เดินมาบ้านข้างๆ คราวนี้ไม่ปีนระเบียงห้องเหมือนทุกทีแล้ว เพราะวันก่อนคุณพ่อมาเห็นเลยโดนดุไปชุดใหญ่ ลิงน้อยเลยไม่กล้าปีน ถึงคุณพ่อจะอยู่ที่ร้าน แต่คนทำก็รู้อยู่แก่ใจ ดังนั้น เพื่อความสบายใจของตนเองและคุณพ่อ ปอมปอมน้อยจึงต้องเดินไปเข้าทางประตูหน้าบ้านแทน ดูเข้าตามตรอกออกตามประตู ก็อย่างนี้ล่ะ คนมันมีมารยาทอ่ะเนอะ

ปอมปอมสวัสดียามค่ำคุณพ่อกับคุณแม่ของพี่ชีวา ก่อนขึ้นมาหาพี่บนห้อง ชีวากำลังทำงานของตนเองอยู่ เปิดภาคเรียนใหม่แต่งานกลับเยอะตั้งแต่วันแรกๆเลย เห็นพี่ทำงานอยู่ปอมปอมจึงไปค้นการ์ตูนบนชั้นหนังสือติดผนังมาอ่านรอ หางตามองเห็นหนังสือโป๊ในชั้นก็หยิบโยนทิ้งไป พอชีวาหันมามองสภาพห้องตัวเองหลังจากวางมือจากงานบนโต๊ะก็อึ้งไปสามวิ เมื่อมีหนังสือหลายเล่มวางกองอยู่บนพื้น หันไปมองเด็กน้อยที่นอนคว่ำอ่านการ์ตูนอยู่บนเตียงแล้วก็ส่ายหน้า เด็กหนุ่มลุกเดินไปเก็บหนังสือบนพื้นเข้าชั้นเหมือนเดิม เห็นหน้าปกแล้วก็ชะงักไปนิดแต่ก็ไม่ได้บ่นอะไร เพียงแต่อมยิ้มแล้วคิดในใจว่า มิน่าล่ะ เล่นวางกองไม่เกรงใจเจ้าของเลย

ชีวาลงไปข้างล่างเพื่อหาขนมขบเคี้ยวมาให้น้องทานเล่น เด็กหนุ่มถือจานขนมเข้ามาในห้องแล้วเรียกน้องมาทาน คนบนเตียงก็กระดึ้บลงมานั่งด้านล่างแล้วหยิบขนมในจานกินไปด้วยอ่านการ์ตูนไปด้วยสบายอารมณ์ ชีวาส่งแก้วน้ำให้น้องเมื่อน้องสะบัดมือทำท่าว่ามันจะติดคอ แล้วจึงเอ่ยถามเรื่องคาใจ

“กับเด็กเขมนั่นรู้จักกันมานานหรือยัง?”

“ตั้งแต่อนุบาลมั้ง ถ้าจำไม่ผิด” ปอมปอมเอ่ยตอบ สายตายังอ่านการ์ตูนในมือขณะที่วางแก้วน้ำลงบนโต๊ะเมื่อดื่มเสร็จ

“ทำไมต้องมีถ้าจำไม่ผิดด้วย?” ชีวาจี้ถาม พูดแบบนี้แสดงว่ารู้จักกันมานานมากแล้วใช่ไหม

“ก็เพิ่งสนิทกันตอนโตแล้วน่ะสิ”

น้องขยายความสั้นๆ ชีวาพยักหน้าเข้าใจ กับปอมปอมคงคิดว่าเพิ่งสนิท แต่เด็กเขมอาจเพิ่งรู้ใจตัวเองก็เป็นได้

“พี่ไม่ชอบเด็กเขมอะไรนั่นเลย กวนฉิบ” บ่นให้น้องฟังด้วยความเคืองคู่แข่งรุ่นน้อง

“ไม่ชอบกันเดี๋ยวมันจะได้กันเองนะ” ปอมปอมว่าเสียงเรียบ

“เฮ้ย! ไหงพูดงี้อ่ะ?”

“พูดถึงแต่เขมจนปอมชักจะหึงแล้วนะป๋า” น้องแกล้งว่า ทำหน้าดุตามน้ำเสียง

“เฮ้ยๆ พี่ไม่ได้คิดอะไรกับมันนะเว้ย พี่แค่ไม่ชอบที่มันมายุ่งกับกะปอมน้อยของพี่แค่นั้นเอง” คนเป็นพี่รีบแก้ต่างให้ตนเอง

“คิดมากน่าป๋า ถ้าปอมไม่เล่นด้วยซะอย่าง ใครหน้าไหนจะได้เห็นขาอ่อน”

“ขาอ่อนเลยเหรอ?”

“Yes!” น้องตอบรับก่อนหยิบขนมมากินต่อหน้าตาเฉย

“ดีละ เก็บไว้ให้พี่ดูคนเดียวพอ” ชีวากระซิบข้างหูน้อง น้องหดคอหนีแล้วตวัดมองพี่ด้วยหางตา

“ป๋า…”

“หา?”

“หางโผล่”

“................”

พูดแล้วตัวป่วนก็อ่านการ์ตูนต่อ คนเป็นพี่ได้แต่มอง ทำหน้าจริงจังแล้วพูดเสียงราบเรียบแบบนี้เล่นเอาเขาถึงกับเงียบสนิท เอ่อ... บางทีปอมปอมก็น่ากลัวเหมือนกันนะว่าไหม?








TBC






ผ่านไปอีกหนึ่งตอนแล้วนะเออ เลขสองหลักละ แต่ก็ยังค่อยๆกระดึ้บๆไปเรื่อยๆ ถ้าเคลียร์ทุกอย่างเรียบร้อยคงกลับมาอัพได้บ่อยๆค่ะ

ขอบคุณที่คอยติดตามกันอย่างต่อเนื่อง บวกและบวกให้ทุกท่าน :pig4:

#แมวอ้วน มีคนฝากข้อความมาถึงนายอ่ะ o18


ป๋ากับน้องปอมปอมเคลียร์กันแล้วเรียบร้อย ถึงคิวนายการ์ฟกลับมาทวงตำแหน่งพระเอกแล้วใช่ไหม หลังจากที่กลายเป็นตัวประกอบมาตั้งนาน กร๊ากกกกก


ชอบอ่ะ 55555

วันใหม่ค่ะ :L2:

หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆10☆ {13_02_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: SaJung13 ที่ 13-02-2013 19:59:55
 :laugh: กว่ากาฟ กับอาดิวจะได้ออกมา
เราชักจะติดความน่ารักของปอมปอมแล้วอ่ะ :-[  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆10☆ {13_02_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: PapermintReal ที่ 13-02-2013 20:13:10
อี้ย กะจึ้ย กึ้ยๆ หวานอ่าาา ตี๋กะการ์ฟทำเราละลาย~~~~ :-[
ปอมจ๋าา นู๋น่ากลัววว
รอตี๋ต่อปายย
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆10☆ {13_02_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: YOSHIKUNI RUN ที่ 13-02-2013 20:41:53
อย่างนี้ อาร์ดิวก็ต้อง มาดามใจให้กราฟ สินะ หุหุหุ :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆10☆ {13_02_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: AnimajuS ที่ 13-02-2013 21:20:06
 :pig4:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆10☆ {13_02_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 13-02-2013 21:27:45
แบบว่าตอนนี้ดูปอมปอมมาเหนือเมฆ ดูว่าป๋ายอมตลอดเลย
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆10☆ {13_02_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: TinyB ที่ 13-02-2013 21:28:11
อ่านตี๋กับการ์ฟไปก็ใจเต้นไปพร้อมๆกันกับสองคนนั้นเหมือนกันนะเนี่ย  :-[
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆10☆ {13_02_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: PK37 ที่ 13-02-2013 21:44:22
การ์ฟกับมิมิวเคลียร์ความสัมพันธ์ชัดเจนแล้วนะ แต่นายการ์ฟนี่อะไรความจริงต้องยังเสียใจสิ กลับมาใจเต้นกับอาร์ดิวซะแล้ว
คนมันคู่กันแล้วก็ไม่แคล้วกันสินะ แถมยังจูนกันง่ายอีก
เอ้า! หวั่นไหวเข้าไปมากๆ นะนายการ์ฟจะได้ตั้งหน้าตั้งตามาจีบอาร์ดิวสักที หลังจากที่ปล่อยให้ป๋าขโมยซีนมาตั้งนาน
ถึงป๋ากับน้องปอมปอมจะเคลียร์ชัด แต่ความสัมพันธ์ยังคลุมเครือทำให้เขมไม่ยอมตัดใจ แล้วป๋าจะทำอย่างไรกับอาการขวางหูขวางตาดีนะ แม้น้องปอมปอมจะบอกให้คลายใจแล้วก็เถอะ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆10☆ {13_02_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 13-02-2013 22:18:08
ป๋าเริ่มจะกลัวว่าที่ภรรยาซะแล้ว
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆10☆ {13_02_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: KhunToOk ที่ 14-02-2013 00:11:27
 :-[  ดีใจกะปอมอ่ะ อิอิ

หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆10☆ {13_02_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 14-02-2013 08:07:24
คู่หวานคงเป็นอาร์ดิวกับการ์ฟแล้วล่ะ เพราะคู่ปอมปอมกับป๋าวาน่าจะเป็นคู่หื่น
ป๋ามันหื่นคนเดียวนะ ปอมน้อยไม่หื่น ปอมน้อยน่ารัก :กอด1:
คนอ่านไม่ลำเอียงซักนิด :laugh:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆10☆ {13_02_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: zero3 ที่ 14-02-2013 08:35:02
 :laugh:
เลิกกันจนได้ กราฟจะได้มีแฟนใหม่ซะที ...เนอะ
ปอมน้อยวางตัวดีมาก เล่นงานป๋าให้อยู่หมัดเลย
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆10☆ {13_02_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: อยากกินไข่พะโล้ โปะ ที่ 14-02-2013 18:42:11
ติดตามเย้
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆10☆ {13_02_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 14-02-2013 20:11:37
คู่ป๋ากะนองปอมเค้าหวานกันอีกคู่ก็รีบตามให้ทันนะ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆10☆ {13_02_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: nong PeePee ที่ 14-02-2013 21:57:52
ลุ้นคู่หลัก   :impress2:
ชีวาปอมปอมน่ารักอ่ะ   :กอด1:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆10☆ {13_02_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 14-02-2013 23:38:18
การ์ฟรุกเลย ไม่ต้องเสียเวลาเฮิร์ทหรอก
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆10☆ {13_02_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 15-02-2013 02:36:19
ปอมปอมเข้มแข็งกว่าที่คิดแฮะ รักแรก รักจริง รักหนึ่งเดียว น่าปลื้มแทนป๋า
เปิดเรื่องใหม่อีกชิมิ น้องวันใหม่
ขอบใจจ้า
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆10☆ {13_02_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 15-02-2013 02:56:20
โอ้ยน่ารักอ่ะ เมื่อไหร่กราฟและอาร์ดิวจะลงเอยกันนะ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆10☆ {13_02_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: pahpai ที่ 15-02-2013 08:35:27
นี่การ์ฟกะตี๋น้อยเค้าเริ่มๆแอบมีใจกันแล้วใช่ไหม?  อรั้ยๆๆๆๆ :-[

หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆10☆ {13_02_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: greensnake ที่ 15-02-2013 12:29:09
ไอ้ที่ว่ากระดึ๊บน่ะหมายถึงการ์ฟใช่ไหม
เพราะป๋าชีวาเค้ากำลังเตรียมตัวก้าวกระโดด
แต่โดนปอมน้อยขัดขาซะก่อนก็เลยต้องจอด :laugh:
ได้ทีล่ะเอาใหญ่ ยังไงก็รออีกคู่เค้าด้วยล่ะ
เพราะคู่นั้นเค้ายังไม่ได้เริ่มต้นเลย สู้ๆนะการ์ฟ
ขอบคุณวันใหม่มากค่ะ :กอด1:
+1และเป็ดน้อยจ้า
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆10☆ {13_02_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 15-02-2013 13:46:51
อาร์ดิวกับการ์ฟเริ่มที่จะดีต่อกันแล้ว
สม ป๋าโดนน้องปอมว่า หางโผล่
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆10☆ {13_02_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 15-02-2013 15:53:23
การ์ฟเริ่มหวั่นไหวแล้ว
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆10☆ {13_02_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 15-02-2013 20:45:53
เย้ๆๆๆ ปอมน่ารักเนอะ

หุหุ การ์ฟเริ่มรู้สึกดีใช่ไหมล้าาาา
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆10☆ {13_02_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: threetanz ที่ 17-02-2013 01:59:16
การ์ฟดีขึ้นเป็นกองงงงงงงงงงง

น้องปอมมีความสุข ป้าก็สุขด้วย อิอิ

หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆10☆ {13_02_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Syntyche ที่ 17-02-2013 02:12:24
การ์ฟเริ่มหวั่นไหวใจสั่นแล้วล่ะสิ หุหุ
ขอบคุณค่ะ  ;-)
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆10☆ {13_02_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 23-02-2013 14:43:55
ดันๆ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆10☆ {13_02_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: YOSHIKUNI RUN ที่ 26-02-2013 20:39:21
 ดันๆ ด้วยคน :z10:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆10☆ {13_02_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: So_Da_Za ที่ 28-02-2013 20:46:17
เค้าคิดถึงปอมปอมตัวน้อยแล้วน้า
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆11☆ {06_03_2556} อัพแล้วค่า~
เริ่มหัวข้อโดย: wanmai ที่ 06-03-2013 23:01:25
Magica Café


Magic (11)





ใต้อาคารเรียนของมัธยมปลาย การ์ฟกำลังยืนคุยอยู่กับเพื่อนอีกสองหนุ่ม หมดคาบเรียนแล้วแต่ยังไม่ถึงเวลากลับบ้าน สามหนุ่มจึงคุยกันเรื่อยเปื่อยรอเวลา เพื่อนคนหนึ่งเอ่ยทักว่าเดี๋ยวนี้การ์ฟยิ้มบ่อย ไม่ค่อยจะเหมือนคนถูกทิ้งสักเท่าไหร่เลย

“มันจริงไหมล่ะ ทั้งที่มึงเพิ่งโดนแฟนบอกเลิก แต่มึงกลับยังยิ้มระรื่นได้เนี่ย ร้านนั้นมีอะไรดีหรือไง?” เพื่อนเอ่ยถาม หรี่ตาล้อเลียน เรื่องร้านนั้นที่ว่าก็ร้านเมจิคกะที่การ์ฟไปทำงานอยู่นั่นล่ะ

“ถามว่าร้านนั้นมีอะไรดีงั้นเหรอ...? ก็อาหารไง ร้านเขาขายอาหาร” การ์ฟยียวน ยักคิ้วแล้วยิ้มมุมปาก

“กวน...” เพื่อนว่าอย่างนั้น ละข้อความท้ายคำว่ากวนเอาไว้ในฐานที่เข้าใจตรงกัน

“การ์ฟ”

สามหนุ่มหันไปตามเสียงเรียก เห็นอาตี๋น้อยกำลังเดินเข้ามาหา เพื่อนของการ์ฟพากันพยักเพยิดยิ้มๆ อาร์ดิวมองเพื่อนการ์ฟแล้วยิ้มให้ ถึงจะรู้สึกแปลกๆก็เถอะ

“ผมกำลังจะกลับบ้าน คุณจะแวะไปที่ร้านพร้อมกันไหม?” ตี๋น้อยเอ่ยถาม

“อืม” การ์ฟตอบรับเพียงสั้นๆแล้วเดินตามอาตี๋ไป เพื่อนหนึ่งกอดคอเพื่อนสองแล้วมองตามการ์ฟกับตี๋น้อย

“อาหารไง ร้านเขาขายอาหาร”

เพื่อนหนึ่งจีบปากจีบคอล้อเลียนคำพูดของการ์ฟ อีกคนก็หัวเราะขำ ก็ไม่รู้ว่าอะไรที่มันดีๆในร้านนั้น อะไรที่ทำให้เพื่อนอย่างการ์ฟยิ้มได้ สิ่งนั้นมันจะเป็นเพียงแค่อาหารอย่างเดียวจริงหรือเปล่า

“เพื่อนคุณมองผมแปลกๆ” อาร์ดิวเหลียวกลับไปมองเพื่อนของการ์ฟที่มองมาทางเขาอยู่เช่นกัน

“แปลกตรงไหน?” การ์ฟเอ่ยถามกลับ เดินช้าๆไปพร้อมตี๋น้อย

“ไม่แปลกเหรอ?” อาร์ดิวเอียงคอทำท่านึก เหลือบมองการ์ฟที่ยักไหล่มาให้แล้วจึงเลิกคิด บางทีเขาอาจจะคิดมากจนรู้สึกไปเองก็ได้



+++++++++++++++



ร้าน Magica Café

“เอ้า เด็กๆ มานี่หน่อยครับผม”

คุณแม่รวิของสองพี่น้องปอปลาเอ่ยเรียกเด็กนักเรียนทั้งหลายที่กำลังทำงานตามหน้าที่กันอยู่ในวันหยุดวันนี้ เด็กๆทั้งสี่คนเดินตามคุณแม่เข้ามาในห้องทำงาน ก่อนจะนั่งลงที่โซฟาในห้องเมื่อคุณแม่นั่งลงแล้ว

“เดี๋ยวอาทิตย์หน้าแม่จะให้พวกเราหยุดเพื่ออ่านหนังสือเตรียมสอบกันนะครับ ยิ่งอาร์ดิว ชีวา และก็การ์ฟจะจบมอหกกันแล้วยิ่งต้องตั้งใจ”

คุณแม่เอ่ยบอก เด็กๆก็พยักหน้ากันหงึกงหงัก ก่อนที่คุณแม่จะหันมาหาปอมปอมที่เป็นน้องเล็กสุดในบรรดาพี่ๆทั้งสามคน

“ส่วนปอมปอม…” เจ้าของชื่อที่นั่งอยู่ข้างพี่ชายยิ้มตาหยีเมื่อถูกเอ่ยถึง คุณแม่ยิ้มขำก่อนว่า “จะผ่านกับเขาไหมเนี่ย?”

“แม่อ่า ต้องผ่านอยู่แล้ว ปอมมีคนติวดี” หนุ่มน้อยส่ายหัวด๊อกแด๊กประกอบการพูด

“ใคร?” คุณแม่เลิกคิ้วถาม

“แม่ไง~” ปอมปอมลุกจากที่นั่งข้างพี่ชายมาหาคุณแม่แล้วกอดเอวอ้อน

“แม่ดูร้านคร้าบ ติวให้ไม่ได้” คุณแม่ดึงแก้มป่องของลูกชายคนเล็กอย่างหมั่นเขี้ยว

“ฮุ่ย แล้วใครจะติวให้ปอมอ่ะ” กะปอมน้อยบ่น

“พี่ไง” เสียงที่แทรกมานั้นทำให้ทุกคนหันมามองชีวาเป็นตาเดียว

“ได้ไหมครับป้าวิ?” ชีวาเอ่ยถามเมื่อเห็นคุณแม่รวิเลิกคิ้วมองเขา

“มันจะไม่กระทบการสอบของเราหรือชีวา เดี๋ยวน้องไปกวนก็ไม่ได้อ่านหนังสือกันพอดี”

“ไม่เป็นไรหรอกครับ สอนน้องด้วยก็ดีครับ จะได้ถือเป็นการช่วยผมทบทวนความจำไปในตัว”

ชีวาบอกอย่างเต็มอกเต็มใจ คุณแม่มองอย่างไม่ค่อยมั่นใจว่าชีวาจะได้ทวนความจำดังที่ว่ามา ก่อนหันมามองปอมปอมที่นั่งอยู่ข้างท่าน เห็นก็นั่งยิ้มเฉยไม่มีแสดงความคิดเห็น

“ว่าไงล่ะเรา?” คุณแม่เอ่ยถาม

“ไม่ว่าไง ปอมแล้วแต่แม่ครับ~~” หนุ่มน้อยว่าเสียงทะเล้น คุณแม่ยิ้มก่อนบอกกับชีวา

“งั้นฝากด้วยนะชีวา”

“ครับ”

เมื่อได้รับการตอบรับชีวาก็ยิ้มกว้างจนอาร์ดิวอดขำไม่ได้ การ์ฟที่มองอีกฝ่ายอยู่ก็ได้แต่สงสัยว่าขำอะไร

“ตกลงเอาตามนี้นะครับเด็กๆ หยุดตั้งแต่อาทิตย์หน้าเป็นต้นไป จนกว่าจะสอบเสร็จ”

“ครับ” เด็กๆรับคำแข็งขัน

“เอาล่ะครับ ไปทำงานต่อได้”

คุณแม่เอ่ยบอกราวจะปิดการประชุม ทั้งสี่คนจึงลุกขึ้นเดินออกจากห้อง ปอมปอมกับชีวาคุยกันงุ้งงิ้งไปตามทาง ขณะที่พี่ชายอย่างอาร์ดิวและการ์ฟเดินรั้งท้าย

“ตี๋”

“หือ?”

“ที่บ้านฉัน…”

“...?”

การ์ฟพูดขึ้นมาแล้วเหมือนจะไม่ค่อยแน่ใจจึงหยุด อาร์ดิวหยุดเดิน หันมามองการ์ฟอย่างสงสัยว่าจะพูดอะไรกับตน

“เพื่อนฉันจะมาติวกันที่บ้านน่ะ ถ้านาย...”

“ผมจะติวกับชีวาน่ะ ขอบคุณนะการ์ฟ”

เมื่อเข้าใจจุดประสงค์ของอีกฝ่ายอาร์ดิวจึงได้บอกปฏิเสธไป เพราะถึงอย่างไรเขากับการ์ฟก็ไม่ได้สนิทกันมากมายจนถึงขั้นจะไปที่บ้านของอีกฝ่ายได้ ตอนแรกเขาว่าจะไปติวกับมิมิว รวมชีวากับตาต้าด้วย แต่มิมิวมีคนติวแสนพิเศษทำให้อาร์ดิวไม่อยากไปกวน จึงคิดว่าจะติวสามคนกับชีวาและตาต้า

“แต่หมอนั่นต้องช่วยติวให้น้องนายด้วยนี่ ยังไง...” พอพูดไปแล้วการ์ฟก็หยุดอีก แบบนี้มันเหมือนเขาคะยั้นคะยอให้อาตี๋ไปที่บ้านด้วยอย่างไรไม่รู้

“...........” อาร์ดิวเงียบ ต่างคนต่างรู้สึกประหม่ากับสถานการณ์เหมือนกัน

“อ้าว มีอะไรกันครับคู่นี้?” คุณแม่ที่โผล่หน้ามาจากในห้องทำงานเห็นสองหนุ่มยังไม่เดินไปไหนจึงเอ่ยทักแล้วเดินเข้ามาหา

“ผมจะชวนอาร์ดิวไปติวที่บ้านด้วยกันน่ะครับคุณป้า เพราะพวกเพื่อนจะมาช่วยกันหลายคน เลยกะว่าจะชวนอาร์ดิวไปด้วย แต่ว่า...” เหลือบมองอาร์ดิว

“ไม่อยากไปหรือดิว?” คุณแม่มองตามสายตาการ์ฟ อาตี๋น้อยอึกอักเมื่อคุณแม่เอ่ยถาม

“ก็... ดิวว่าจะอยู่ติวกับชีวา... แม่อ่ะ ดิวลำบากใจ” ตี๋น้อยทำเสียงออด สีหน้าลำบากใจอย่างที่ว่า

“ลำบากใจเรื่องอะไร แม่ไม่ได้บังคับสักหน่อย”

คุณแม่ว่ากลั้วหัวเราะ การ์ฟยิ้มขำทำให้ถูกอาตี๋มองตาคว่ำ อีกคนก็เลยทำเมินมองไปทางอื่นทั้งที่ปากยังยกยิ้ม

“งั้นถามเพื่อนก่อนนะ” ตี๋น้อยบอกเสียงค่อย

“โอเค ถ้าเพื่อนตกลงก็จะไปใช่ไหม?” การ์ฟเอ่ยถามกลับ เผลอยิ้มไปแล้วด้วยแหนะ

“ผมไม่รู้จักบ้านคุณเลย”

“เดี๋ยวมารับที่บ้าน”

“คุณอาไม่ให้ขับรถไม่ใช่เหรอ?” อาร์ดิวเอียงคอเอ่ยถาม เพราะคุณแม่ของการ์ฟไม่ให้ขับรถเองเนื่องจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจนการ์ฟเกือบเอาชีวิตไม่รอดนั่น

“นั่งรถเมล์มารับละกัน”

“หา??”

“หึๆ” การ์ฟหัวเราะในลำคอเมื่อเห็นอาตี๋ทำหน้าเอ๋อ

“ตกลงกันได้แล้วใช่ไหม?” คุณแม่เอ่ยถามสองหนุ่ม ยิ้มล้อนิดๆ อาร์ดิวกับการ์ฟมองหน้ากันท่าทางเก้อๆ ก่อนยิ้มเขินให้คุณแม่



++++++++++++++++



ทางด้านเขมวัตร รุ่นน้องสุดเก๋าที่มาประกาศกร้าวเป็นศัตรูหัวใจกับชีวาก็ดูจะเดินหน้าเต็มที่ ถึงปอมปอมจะบอกปฏิเสธไปแล้วแต่เขมก็ยังเข้าหาได้อย่างเนียนๆ บางทีความเป็นเพื่อนก็ใช้เป็นข้ออ้างได้ดีเหมือนกัน

“โธ่เอ้ย ชีวา ช่างน่าสงสารจริงๆ”

ตาต้าที่รู้เรื่องว่าชีวาถูกรุ่นน้องปีนเกลียว แถมยังหาทางจัดการขั้นเด็ดขาดกับเรื่องดังกล่าวไม่ได้ก็พูดกับเพื่อนไปแบบนั้น มันช่างเป็นการเห็นอกเห็นใจที่ชีวาไม่ต้องการจริงๆ

“พอเลยตาต้า ตอกย้ำ”

ชีวาเสียงขุ่น ตาต้าหัวเราะหึหึในลำคอ ท่าทางเพื่อนเขาจะแก่ลงอีกหลายปี จากที่ปอมปอมชอบบอกว่าแก่อยู่แล้วน่ะนะ


..........................


หนุ่มรุ่นพี่ไม่ได้นิ่งนอนใจกับเรื่องดังกล่าว ปล่อยให้เจ้าเด็กเขมนั่นทำคะแนนนำหน้าไปคนเดียวไม่ได้ แบบนี้มันต้องมีแผนสกัดดาวรุ่งกันบ้าง แต่จะทำอย่างไรนั้นเขายังคิดไม่ออก จึงจำต้องมาบอกคนของตนเองเอาไว้ก่อน

“กะปอม พี่ขอประกาศเอาไว้ตรงนี้เลยนะว่าพี่ไม่ชอบเด็กเขม!”

“ง่า ทำไมอ่ะ?” ปอมปอมที่มาติวหนังสือกับชีวาที่บ้านเงยมองคนพูดแล้วกะพริบตาปริบ

“ยังจะถามอีกว่าทำไม” ชีวาเคืองกับคำถาม

“ป๋า ยังไงเขมก็เพื่อนปอมนะ” น้องเอ่ยแย้งมา ไม่ได้คิดอะไรกับเขมในลักษณะนั้นเสียหน่อย

“เพื่อนที่คิดเกินเพื่อนแบบนี้เก็บไว้ใกล้ตัวไม่ได้หรอกปอมปอม” ชีวายังมีข้อโต้แย้งกลับไปให้น้องอีก รู้ว่าน้องไม่คิดอะไร แต่มันรำคาญที่มีคนมาคอยเกาะแกะน้องโดยที่น้องก็ไม่ได้แสดงท่าทีรังเกียจอะไร

“ป๋าอ่ะ”

พูดไปพูดมากะปอมน้อยก็ชักจะหน้างอ เรื่องนี้มันน่าจะจบไปได้แล้ว แต่ป๋าของกะปอมก็ยังเอามันมาเป็นประเด็นได้ตลอด ก็แล้วจะให้เขาทำอย่างไร ในเมื่อเขมเป็นเพื่อน อยู่ดีๆจะให้ไปไล่เขมออกจากกลุ่มหรืออย่างไรกัน ชีวาที่เห็นว่าน้องหน้างอก็ขยับเข้ามาใกล้ จับมือเรียวเอาไว้แล้วใช้เสียงเข้าอ้อน

“พี่หวงนี่นา”

ปอมปอมถอนใจเบา ยิ้มน้อยๆก่อนเอื้อมมือไปดึงแก้มพี่ หมั่นไส้จริง

“คร้าบ รู้แล้วครับคนแก่ขี้หวง”

แก้มชีวาแทบจะยืดตามมือน้อง แกล้งเขาหรือเปล่านี่ เด็กหนุ่มจับมือที่ดึงแก้มตนเองไว้ มองสบตาเรียวรีนั้นแล้วเอ่ยคำ

“รู้ว่าหวงก็อย่าทำให้หวงนักสิครับ”

“ก็คนมันฮอตอ่ะ ช่วยไม่ได้” หนุ่มน้อยยักไหล่ ก่อนหัวเราะคิก ขำคำพูดของตนเอง

“หืม ฮอตเหรอ เพิ่งรู้ว่าแฟนพี่เป็นหนุ่มฮอต”

ชีวาเอ่ยล้อ คนเป็นน้องหัวเราะอารมณ์ดี ความขุ่นมัวเมื่อครู่หายไปไหนหมดแล้วไม่รู้ ชีวาโน้มเข้าไปหาแล้วฉกจมูกหอมแก้มน้องซ้ายขวา

“ชอบแต๊ะอั๋ง” หนุ่มน้อยทำปากจู๋ ต่อว่าพี่ไม่จริงจังนัก

“หอมไม่ได้?”

ดวงหน้าเรียวส่ายหน้าไปมา ริมฝีปากจิ้มลิ้มยกยิ้มตาพราว คนเป็นพี่หรี่ตาเจ้าเล่ห์ ก่อนเอ่ยบอกราวกระซิบ

“จะทำมากกว่าหอมอีก”

ริมฝีปากพี่กดลงบนแก้มนิ่ม หอมน้องซ้ำเสียอีกที ผละออกมามองตาเรียว จ้องนิ่งก่อนโน้มเข้าไปใกล้ ก่อนที่ริมฝีปากเขาจะแตะปากน้อง นิ้วเรียวสวยก็ยกขึ้นมาแตะปากเขาเอาไว้

“ใจเย็นป๋า ปอมเพิ่งสิบห้า อย่าเพิ่งพรากผู้เยาว์” คนพูดขยิบตาหน้าทะเล้น

“หึ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ” ชีวาหงายหลังผึ่ง ลงไปนอนดิ้นทั้งหัวเราะเสียงดัง

“ขำมากป่ะ?” ปอมน้อยเอ่ยถาม กอดอกฉับมองพี่ที่ขำกลิ้งอยู่บนพื้นห้อง

“มากอ่ะ”

คนเป็นพี่ตอบกลับมา ยิ่งเห็นน้องหน้ามุ่ยก็ยิ่งหยุดขำไม่ได้ เขาท่าจะบ้าไปแล้ว เด็กหนุ่มค่อยดีดตัวลุกขึ้นมานั่งจ้องตาน้อง อมยิ้มเล็กๆติดริมฝีปากขณะเอ่ยกับน้อง

“ก็โอเคนะ ไว้เลยสิบห้าค่อยว่ากัน”

“ก่อนจะถึงตอนนั้น ป๋าช่วยติวให้ปอมก่อน ถ้าสอบไม่ผ่าน ป๋าโดนแน่” ชี้ปลายปากกามาที่พี่ ทั้งยังทำหน้าโหดใส่

“โหย ระดับอาจารย์ชีวา ไม่มีคำว่าไม่ผ่านครับ!”

“อย่าโม้ สอนๆ” ปอมปอมรวบหนังสือมาวางซ้อนๆกันแล้วเอานิ้วจิ้มจึ้กๆ

“คร้าบๆ”

ชีวาตอบรับเสียงยานคาง หยิบหนังสือมาเปิดแล้วนั่งติวให้น้อง พร้อมกันนั้นก็อ่านหนังสือของตนเองไปด้วย ถ้าน้องสงสัยตรงไหนก็ค่อยบอก มันก็สนุกดีน่ะนะ ได้ฟังเสียงเจื้อยแจ้วของกะปอมตัวน้อยทั้งวันเลยทีเดียว ก็อย่างที่น้องว่า ตอนนี้น้องเพิ่งสิบห้า ไม่รู้จะรีบร้อนกันไปทำไม ที่สำคัญที่สุดในขณะนี้คืออนาคตของน้องต่างหาก ที่จริงแล้วเขาก็เป็นคนดีเหมือนกันนะนี่...



++++++++++++++++



“สวัสดีคร้าบน้าเทสต์สุดหล่อ~”

เสียงประสานของเหล่าเด็กหนุ่มผู้มาเยือนเอ่ยทักทายเจ้าของบ้าน เทสต์ที่กำลังจะออกไปข้างนอกในวันหยุดจึงเอ่ยทักทายเพื่อนของหลานชายตอบกลับไป

“หวัดดีๆ ตั้งใจอ่านหนังสือล่ะ อย่ามัวแต่เล่น” ผู้เป็นน้าชายเอ่ยบอกเพื่อนของหลาน ซึ่งอีกฝ่ายก็รับคำแข็งขัน

“คร้าบ”

“เดี๋ยวน้าจะออกไปทำธุระข้างนอก อย่าทำบ้านรกนะ”

“คร้าบ~”

“คร้าบนี่... รกหรือไม่รก?” เทสต์หรี่ตา ยิ้มมุมปากรู้ทัน

“รกคร้าบ”

คุณน้าหนุ่มหัวเราะกับความทะเล้นของเพื่อนหลาน ส่วนหลานอย่างการ์ฟก็ยืนกอดอกพิงกรอบประตูเข้าบ้านมองอยู่ไม่ไกลกันนั้น

“เออ ตั้งใจๆ” โยกหัวเด็กๆไปคนละทีสองที ก่อนจะก้าวออกจากบ้าน

“ขอบคุณคร้าบ อย่าลืมของฝากติดไม้ติดมือมาด้วยนะคร้าบ~” บรรดาเด็กหน้าเป็นทั้งหลายก็ยังไม่วายหยอกน้า

“โว๊ะ! เด็กพวกนี้”

เทสต์ว่าก่อนส่ายหน้าขำแล้วออกจากบ้านไป หลังจากที่เทสต์ออกไปแล้วการ์ฟจึงชวนเพื่อนเข้าไปในบ้าน สายตาเด็กหนุ่มเหลือบมองประตูหน้าบ้านเหมือนรอใคร ก่อนจะก้าวตามเพื่อนเข้าไปด้านใน ลงมือเอาหนังสือหนังหาออกมานั่งติวกันอย่างจริงจัง สักพักเสียงออดหน้าบ้านก็ดังขึ้น การ์ฟชะเง้อมองแล้วยิ้มก่อนลุกขึ้นไปเปิดประตู

อาร์ดิวกับตาต้ามาที่บ้านการ์ฟตามสัญญา โดยมีพี่ต้น พี่ชายของตาต้าเป็นคนขับรถมาส่ง การ์ฟจึงไม่ได้ไปรับตี๋น้อยอย่างที่พูดเอาไว้ เพียงแต่บอกเส้นทางมากับพี่ต้นเท่านั้น เจ้าของบ้านพาสองหนุ่มเพื่อนซี้เข้ามาด้านใน ทักทายกับเพื่อนๆที่มาก่อนแล้วจึงช่วยกันติวต่อ เวลาผ่านไปเรื่อยๆแต่ยังไม่มีใครสนใจมัน จนเพื่อนของการ์ฟคนหนึ่งเอ่ยขึ้นมา

“การ์ฟ กูหิว” เพื่อนหนึ่งนอนเลื้อยเพราะเริ่มทนไม่ไหว

“หิวก็ออกไปซื้อดิวะ หน้าปากซอยกับข้าวเพียบ” การ์ฟเอ่ยบอกขณะก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือแล้วมาร์คที่สำคัญเอาไว้

“นี่มันถิ่นมึง กูมาบ้านมึง มึงต้องเลี้ยงดิวะ” เพื่อนเอ่ยแย้งอย่างมีเหตุมีผล หรือที่จริงคือขี้เกียจ

“แล้วกูบอกให้มึงจ่ายที่ไหน เดี๋ยวกูออกตังค์ แต่มึงต้องไปหากินเอง”

“ไรว้า กูขี้เกียจ~” ยอมสารภาพออกมาแต่โดยดี

“ขี้เกียจ งั้นไม่ต้องกิน นอนแห้งตายอยู่แถวนี้แหละมึงอ่ะ”

“โห่~~~”

เพื่อนโห่ใส่ ก่อนลุกขึ้นนั่งเอาคางเกยขอบโต๊ะที่ใช้เป็นที่ติวกันอยู่ ลูบท้องแล้วบ่นว่าท้องร้องจ๊อกๆแล้ว ท่าทางไส้จะบิดจนขมวดปมเป็นรูปทรงตรีโกณมิติ การ์ฟส่ายหน้ากับสำบัดสำนวนของเพื่อน ก่อนหันมาถามอาตี๋ที่นั่งเงียบอยู่ข้างๆ

“ตี๋”

“......?” อาร์ดิวเงยหน้าจากหนังสือที่อ่านอยู่ขึ้นมามอง ทำให้ตาต้าที่นั่งอยู่ข้างกันมองมาด้วย

“หิวยัง? ... นายด้วย” เอ่ยถามตี๋น้อยแล้วเลยไปถามตาต้าด้วย

“ต้าหิวยัง?” แทนที่จะตอบอาร์ดิวกลับหันมาถามเพื่อนก่อน

“กินหน่อยก็ดี เราอยากกินน้ำปั่นอ่ะ ร้อนจัง” ตาต้าน้อยบ่น วันนี้มันร้อนจริงๆนั่นล่ะ เหมือนฝนจะตก อบอ้าวเหลือเกิน

“ได้ เดี๋ยวเราไปซื้อมาให้” อาร์ดิวรับคำแล้วลุกขึ้น ก่อนจะชะงักแล้วหันมาหาการ์ฟ “ว่าแต่... ร้านมันอยู่แถวไหนอ่ะครับ?”

“...............”


.......................


สุดท้ายแล้วการ์ฟก็ต้องพาอาตี๋ออกมาซื้อของ แถมเพื่อนยังฉวยโอกาสใช้เขาต่อเสียอีก งานนี้จึงจดรายการอาหารมายาวเหยียด ไม่รู้จะเอาไปกินหรือเอาไปอาบ รถจักรยานของน้องเอิงที่จอดไว้ในบ้านไม่ได้เอากลับไปต่างจังหวัดด้วยกลายเป็นพาหนะนำพาสองหนุ่มมาที่ตลาด การ์ฟเป็นคนปั่นให้อาร์ดิวซ้อน มือเรียวของคนด้านหลังจับชายเสื้อเขาเอาไว้เพราะกลัวตก จนถึงตลาดการ์ฟก็หาที่จอดก่อนพากันไปซื้อของกิน ได้มาหลายอย่าง จนเมื่อครบแล้วจึงจะพากันกลับ

ขณะที่การ์ฟพาแวะร้านไอติมแท่งเจ้าอร่อยหางตาตี๋น้อยก็เหลือบไปเห็นใครบางคนที่ไม่ควรเห็นในเวลานี้ อาร์ดิวเบิกตากว้างขึ้น ก่อนจะรีหันกลับมาจนชนเข้ากับคนด้านหลัง

“อุ๊บ!!”

“อะไรตี๋ เดินไม่ระวังเลย” การ์ฟว่า มือหนึ่งดึงแขนของอีกฝ่ายไว้เมื่อเห็นว่าเซถอย

“เอ่อ... การ์ฟ เรารีบกลับดีกว่านะ เพื่อนคงหิวแย่แล้ว” อาร์ดิวเอ่ยบอกตะกุกตะกัก

“ปล่อยให้มันหิวไป อยากใช้เราดีนัก” การ์ฟว่าอย่างไม่ใส่ใจต่อคำชวน

“ไม่ดีหรอก ผมก็หิว รีบไปดีกว่านะ นะ” อาร์ดิวเอ่ยเร่ง ดันให้การ์ฟหมุนตัวกลับแล้วออกแรงดันทั้งที่ข้าวของยังเต็มแขน

“อะไรของนายเนี่ย จะรีบ...”

การ์ฟชะงักกึก เมื่อเหลียวกลับไปมองด้านหลังเลยไหล่ของอาร์ดิวไป มิน่าตี๋น้อยถึงคะยั้นคะยอให้เขากลับ เพราะเห็นว่ามิมิวมากับพี่ธารคนนั้นนี่เอง อาร์ดิวทำหน้าไม่ถูกเมื่อมองสีหน้าที่เจื่อนลงไปของการ์ฟแล้วเด็กหนุ่มก็พลอยหงอยตาม

“การ์ฟ...”

“กลับเถอะ”

“การ์ฟ...”

“หิวไม่ใช่เหรอ?”

การ์ฟไม่ยอมให้อาร์ดิวพูดอะไรไปมากกว่านี้ มือใหญ่เอื้อมคว้ามือของอีกคนแล้วดึงให้เดินดุ่มตามมา อาร์ดิวมองมือที่จับกันอยู่ ก้มหน้าลงไปอีกจนเห็นเพียงแค่ปลายเท้าของตนเองที่ก้าวเดิน เด็กหนุ่มหยุดก้าวแล้วดึงมือออก พลอยทำให้การ์ฟหยุดแล้วหันมามองด้วยสีหน้ายุ่งเหยิง

“อะไร?”

“.............”

ตี๋น้อยยืนก้มหน้านิ่งไม่ยอมตอบ การ์ฟถอนใจก่อนเดินไปเอารถจักรยานที่จอดอยู่มารับ อาร์ดิวขึ้นไปนั่งเงียบๆ ไม่ได้แตะตัวการ์ฟเหมือนตอนขามา


การ์ฟกับอาร์ดิวกลับมาที่บ้าน ตลอดทางนั้นไม่มีเสียงพูดคุยอะไรกันเลยแม้แต่น้อย เมื่อคนปั่นไม่ชวนคุย คนนั่งซ้อนก็เงียบ อาร์ดิวลงจากจักรยานแล้วยืนรอการ์ฟเอารถไปเก็บ ก่อนเดินตามเจ้าของบ้านอย่างการ์ฟเข้าไปด้านใน เพื่อนๆที่เห็นว่าคนไปซื้อของกินมาแล้วก็ส่งเสียงเฮ ลุกขึ้นมาช่วยเอาของกินไปจัดใส่จาน อาร์ดิวกับการ์ฟเองก็พากันยืนแกะถุงของกินอยู่คนละมุม ตาต้าที่ผิดสังเกตตั้งแต่เพื่อนเดินเข้ามาแล้วมองเพื่อนอย่างสงสัย ก่อนเดินเข้ามาหาแล้วเอ่ยถาม

“มีอะไรเหรอดิว?”

“อืม” คำว่าอืมของอาร์ดิวไม่รู้ว่าเป็นเพียงการขานรับ หรือตอบรับคำถามของตาต้ากันแน่ ตาต้าจึงเอ่ยถามใหม่

“ทะเลาะกัน?”

“เปล่า... ไม่รู้สิ อาจจะใช่ก็ได้ ไปกินข้าวดีกว่าจะได้ติวกันต่อ” อาร์ดิวเอ่ยเลี่ยง ชวนเพื่อนไปทานข้าวกัน ยกจานกับข้าวให้เพื่อนช่วยถือ

“ไม่เป็นไรใช่ไหม?” ตาต้ายังไม่คลายกังวล

“ไม่ ขอบใจนะ” อาร์ดิวเอ่ยปฏิเสธก่อนยิ้มให้เพื่อน

“อืม ถ้ามีอะไรก็บอก”

“ครับผม ไปกินข้าวกันดีกว่า เราซื้อของที่ตาต้าชอบมาให้ด้วย” อาตี๋น้อยเปลี่ยนเรื่อง ดันหลังเพื่อนให้เดินออกจากห้องครัว เพราะเพื่อนการ์ฟก็พากันออกไปข้างนอกเพื่อหามุมสะดวกทานข้าวกันแล้ว

“จริงอ่ะ?” ก็รู้ว่าเพื่อนไม่อยากให้เป็นกังวล ตาต้าเลยไปตามน้ำ

“อื้อ!”

สองเพื่อนซี้เดินออกไปข้างนอกด้วยกัน อีกหนึ่งหนุ่มที่ยังอยู่ในครัวหันกลับมามองตามหลัง ถอนใจเบาๆก่อนถือจานข้าวของตนเองตามออกไป ขณะที่ทานข้าวกันการ์ฟกับอาร์ดิวก็คอยแต่จะเหลือบมองกัน ส่วนเพื่อนๆก็ทานกันไปคุยกันไปไม่ได้สนใจว่ามีบรรยากาศแปลกๆเกิดขึ้นกับสองคนนี้

“ตี๋ เป็นไร?”

เสียงการ์ฟที่เอ่ยถามขึ้นมาด้านหลังทำให้อาร์ดิวชะงักมือที่กำลังล้างจานอยู่ เพื่อนคนอื่นทานกันเรียบร้อยแล้วก็เอาจานชามมาล้างของใครของมันจนเสร็จแล้วออกไปข้างนอก ส่วนเขาที่ล้างเป็นคนสุดท้ายจึงต้องมายืนเป็นเป้าสายตาให้เจ้าของบ้านกอดอกมองอยู่นี่

“เปล่าสักหน่อย” อาร์ดิวบอกปฏิเสธ คว่ำจานที่ล้างแล้วเอาไว้ให้สะเด็ดน้ำ ก่อนเช็ดมือแล้วจะหันกลับออกไป

“เปล่าแล้วทำไมต้องทำหน้าบูด?” การ์ฟก้าวเข้ามาชิด ก้มมองคนที่สูงแค่ไหล่ตนเองแล้วเอ่ยถามอีก

“คุณก็เหมือนกันแหละ” อาตี๋ว่ากลับ ดวงตาเรียวรีมองสบ

“ฉันนี่นะ?” การ์ฟเลิกคิ้วสูง

“ใช่สิ ไม่รู้ตัวเลยหรือไง?” คนพูดว่าเสียงสะบัดเล็กๆ เหมือนจะเริ่มไม่พอใจขึ้นมาแล้ว การ์ฟมองอาการของคนตรงหน้าแล้วยิ่งไม่เข้าใจ

“แล้วตกลงเป็นไร?” เด็กหนุ่มยังถามย้ำ

“ไม่ได้เป็น”

“ไม่เชื่อ”

“ช่างสิ”

อาร์ดิวว่าราวไม่ใส่ใจ สีหน้าตี๋น้อยงอง้ำ จะเลี่ยงไปแต่อีกคนกลับไม่ยอม แถมยังก้าวเข้ามาใกล้อีกจนปลายเท้าแทบชิดกับเขาแล้ว อาร์ดิวถอยกลับอีกก้าว ชนกับอ่างล้างจานด้านหลังหมดทางไป การ์ฟก้มลงมองตี๋น้อยที่มีท่าทีหวาดหวั่น

“เป็นอะไร?” ใบหน้าที่โน้มลงมาใกล้ทำให้อาร์ดิวเผลอหันหลบ การ์ฟยิ้มขำก่อนเอ่ยถามซ้ำอีก

“เป็นอะไร?”

“คุณน่ะ ก็ผมบอกไม่ได้เป็น” อาตี๋หน้ามุ่ย บอกว่าไม่ได้เป็นอะไรก็ยังมาถามอีกว่าเป็นอะไร เข้าใจคำตอบไหมนี่

“งั้นก็ดีแล้ว นึกว่าเป็นอะไรซะอีก” การ์ฟว่า

“สนใจทำไม…”

“เป็นห่วงบ้างไม่ได้’ไง?”

น้ำเสียงและท่าทางกวนๆของคนพูดไม่ได้ทำให้ตี๋น้อยอึ้งได้เท่าประโยคที่อีกฝ่ายพูดออกมา ดวงตาเรียวรีมองต่ำ รู้สึกแปลกๆ เหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่กล้ายิ้มอย่างไรไม่รู้ ตี๋น้อยเลยเลี่ยงเดินออกไปข้างนอก ไปนั่งรวมกับเพื่อนๆเพื่อติวกันอีกนิดก่อนกลับบ้าน การ์ฟตามออกมาสมทบ ริมฝีปากเด็กหนุ่มคอยแต่จะอมยิ้มอยู่ตลอดจนคนแอบมองชักเคือง ที่พูดเมื่อกี้ แกล้งเขาเล่นหรือเปล่าน่ะ ยิ้มไม่น่าไว้ใจเลย

เพื่อนๆของสองหนุ่มเองก็ลอบมองแล้วแอบซุบซิบกันเอง มันชักจะทะแม่งๆแล้วนะนี่...




TBC



แมวอ้วนได้ออกเยอะนะช่วงนี้ บอกแล้วว่าเขาเป็นพระเอก เอิ้กๆ :laugh3:

ขอบคุณที่ติดตามค่ะ ขอบคุณที่ช่วยกันดันด้วยค่ะ ปลื้มใจ :m1:

บวกและบวกให้ทุกๆท่านค่า

ปอมปอมเข้มแข็งกว่าที่คิดแฮะ รักแรก รักจริง รักหนึ่งเดียว น่าปลื้มแทนป๋า
เปิดเรื่องใหม่อีกชิมิ น้องวันใหม่
ขอบใจจ้า

เรื่องไหนคะพี่ t2007 ที่ลงค้างอยู่ตอนนี้มี 3 เรื่องค่ะ เปิดมานานละแต่ยังไม่จบ แหะๆ ส่วนอีกเรื่องของน้องค่ะ ใหม่ช่วยน้องแต่งน่ะค่ะ :myeye:

วันใหม่

หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆11☆ {06_03_2556} อัพแล้วค่า~
เริ่มหัวข้อโดย: udongjay ที่ 06-03-2013 23:15:05
แปะ! รออ่านรวดเดียว แล้วจิกลับมาเม้นให้นะฮะ  :L1:

-------------------------------------------

กะปอมน้อยยยยยยยยยยยยยยยย น่ารักจริงๆ ปอมปอมเข้มแข็งมากเลย
แต่ป๋าเนี่ย น่าโดน :angry2: ฮึ้ยยยย ทำปอมน้อยร้องไห้ กว่าจะยอมรับใจตัวเอง  :m16:
แต่สุดท้ายก็เริ่มหวานแล้ว แถมป๋ายังขี้หวงอีกด้วยเนอะ กิกิ

ส่วนคู่อาร์ดิวกับการ์ฟออกจะซึนไปสักนิด แต่น่ารักอ่า  :-[ ตี๋น้อยอาร์ดิว
คิคิ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆11☆ {06_03_2556} อัพแล้วค่า~
เริ่มหัวข้อโดย: PapermintReal ที่ 07-03-2013 00:12:30
ว้ายยย ปอมหวานอ่ะลูกกก
รอเลิฟซีนการ์ฟดิวต่อไปปปป :impress2:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆11☆ {06_03_2556} อัพแล้วค่า~
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 07-03-2013 00:30:24
เริ่มพัฒนาขึ้นแล้ว
มีงอนนะดิว 555+
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆11☆ {06_03_2556} อัพแล้วค่า~
เริ่มหัวข้อโดย: MEMO MINI ที่ 07-03-2013 00:56:31
อาร์ดิวน่ารัก


 :m3: :m3: :m3: :m3:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆11☆ {06_03_2556} อัพแล้วค่า~
เริ่มหัวข้อโดย: NOoTuNE ที่ 07-03-2013 07:13:25
 :m1: :m1:

พัฒนาแล้ววววว
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆11☆ {06_03_2556} อัพแล้วค่า~
เริ่มหัวข้อโดย: So_Da_Za ที่ 07-03-2013 07:29:52
พาร์ทนี้
ปอมน้อยโดนแมวอ้วนแย่งซีนอ่ะ
5555
ไม่เป็นไร ปล่อยแมวอ้วนทำคะแนนไป
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆11☆ {06_03_2556} อัพแล้วค่า~
เริ่มหัวข้อโดย: เก๋ไก๋เจ้าค่ะ ที่ 07-03-2013 10:26:58
 o13
เข้ามาช่วยเชียร์ป๋ากับนายกราฟ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆11☆ {06_03_2556} อัพแล้วค่า~
เริ่มหัวข้อโดย: greensnake ที่ 07-03-2013 11:00:08
ตอนนี้เค้าหวานกันด้วยอ่ะ ทั้งพี่ทั้งน้องเลย :-[
น้องน่ะตั้งใจ แต่พี่นี่สิบังเอิญหวานหรือเปล่า
ขนาดไม่ชัดเพื่อนๆยังแอบเห็นเลยเหอะ :laugh:
การ์ฟพูดเยอะขึ้นเนาะ กวนมากด้วย หรือจริงๆเป็นอย่างนี้อยู่แล้ว
อย่างนี้อาร์ดิวจะเอาอะไรไปต่อกรกับการ์ฟล่ะเนี่ย
คงต้องยอมอย่างเดียวแล้วล่ะ :laugh3:
ขอบคุณวันใหม่มากค่ะ ไม่เจ๊อะกันนาน คิดถึงจังเลย~ :กอด1:
+1และเป็ดจ้า
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆11☆ {06_03_2556} อัพแล้วค่า~
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 07-03-2013 11:27:54
การ์ฟเริ่อมชอบอาร์ดิวแล้วป่าวเนี่ย มีเป็นหง เป็นห่วงด้วย
ชอบที่เริ่อมพัฒนาไปในทางที่ดีแบบนี้ น่ารัก

ป๋ารอไปก่อนน้องปอมน้อยสิบห้าก็รอไปอีกสักสองสามปีแหละกันเนอะ 5555
จะรอไหวมั้ยเนี่ยป๋าชีวา
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆11☆ {06_03_2556} อัพแล้วค่า~
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 07-03-2013 11:41:00
กะปอมน้อยกับป๋าวาไม่น่าห่วงแล้วจริงๆ น่ารักอะไรอน่างเน้ :man1:
แต่แมวอ้วนดูมีพัฒนาการนะ รู้จักเป็นห่วงตี๋น้อยด้วย อีกหน่อยก็หวง หึง เดี๋ยวตามมาเอง :z1:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆11☆ {06_03_2556} อัพแล้วค่า~
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 07-03-2013 11:50:26
เพิ่งจะโดนสาวหักอกไม่ทันไร แมวอ้วนใจเต้นกับหนุ่มคนใหม่ซะละ เหอๆๆ
ชีวาโดนทิ้งหนังสือโป๊ งั้นต่อไปดูขาอ่อนของจริงเลยดีกว่า อิอิ
++
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆11☆ {06_03_2556} อัพแล้วค่า~
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 07-03-2013 12:04:59
น้องปอมน่ารักมาก มีบอกป๋าชีวาอย่าเพิ่งพรากผู้เยาว์ 5555
อาร์ดิวกับการ์ฟเริ่มที่จะดีแล้ว

+1 +เป็ดให้น้องปอม
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆11☆ {06_03_2556} อัพแล้วค่า~
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 07-03-2013 13:55:12
เมื่อไหร่กราฟกับอาร์ดิวจะลงเอยนะ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆11☆ {06_03_2556} อัพแล้วค่า~
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 07-03-2013 16:37:41
อาร์ดิวววววววววววว :z2:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆11☆ {06_03_2556} อัพแล้วค่า~
เริ่มหัวข้อโดย: nong PeePee ที่ 07-03-2013 21:47:33
เค้าพัฒนาน่ะอาร์ดิว..................ฮิ้ววววววววววววววว o13 :o8: :o8: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆11☆ {06_03_2556} อัพแล้วค่า~
เริ่มหัวข้อโดย: KaorPaor ที่ 08-03-2013 06:26:46
ตามทันแล้ว
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆11☆ {06_03_2556} อัพแล้วค่า~
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 09-03-2013 13:00:30

อั้ยยย กราฟดูท่าจะเป็นหนักเหมือนกันนะ
ถึงขนาดพวกเพื่อนๆดูออกเนี่ยะ (ฮา)
แอลมีงอนง้อกันด้วยเหอะ เขินน -/-
อยากสองคนนี้รักกันเร็วๆจัง
รออ่านต่อจ้า คุณวันใหม่
ได้โอกาสเม้น เลยมาเม้นทั้งสองเรื่องเลย
5555555555555
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆11☆ {06_03_2556} อัพแล้วค่า~
เริ่มหัวข้อโดย: threetanz ที่ 11-03-2013 20:04:53
การ์ฟรุกเข้าๆ อย่าให้คู่น้องแซงหน้าได้ ยังไงเราก็เป็นพี่นะ ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆11☆ {06_03_2556} อัพแล้วค่า~
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 12-03-2013 06:06:30
การ์ฟฟฟฟ นายเริ่มรุกแล้วใช่ป่าวว

ดิวน่ารักเนอะ ชีวาหื่นนนนนน 5555
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆11☆ {06_03_2556} อัพแล้วค่า~
เริ่มหัวข้อโดย: YOSHIKUNI RUN ที่ 15-03-2013 01:57:35
อาร์ดิว น่ารักๆ  :กอด1:
ปอมปอมน้อยน่ารัก คิดถึงจัง
 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆12☆ {17_03_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: wanmai ที่ 17-03-2013 14:50:06
Magica Café


Magic (12)






หน้าห้องสอบของระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย เมื่อหมดชั่วโมงสอบแล้วเหล่านักเรียนก็ทยอยออกจากห้องมา เสียงพูดคุยถามไถ่กันเองดังเซ็งแซ่ การ์ฟกับเพื่อนยืนอยู่มุมหนึ่งของทางเดินหน้าห้อง เด็กหนุ่มเอ่ยถามเพื่อนที่อยู่ข้างกัน

“ทำได้ป่ะ?”

“ของมันแน่” เพื่อนยืดอกตอบอย่างภาคภูมิ

“แสดงว่าทำได้?” การ์ฟเลิกคิ้วข้างหนึ่งเมื่อเอ่ยถาม เพื่อนยิ้มแล้วตอบอย่างฉะฉาน

“ทำไม่ได้”

“อ้าว” การ์ฟอุทาน ลากเสียงยาวกับท่าทางที่ห่อเหี่ยวลงทันตาของเพื่อนเมื่อเอ่ยตอบเขากลับมาแล้ว

“ก็กูตื่นเต้นอ่ะ ท้องไส้กูปั่นป่วนไปหมดแล้วเนี่ยสาด!” ทำท่าว่าท้องไส้จะบิดมวนจริงจัง

“ไปเข้าห้องน้ำไปมึง อย่ามาทำเลอะในห้องสอบ เดี๋ยวบ่ายมีสอบอีกสองวิชา”

“ตายแน่กู”

เพื่อนหน้าซีดกับคำบอกเล่านั้น การ์ฟกับเพื่อนอีกคนหัวเราะ ก่อนเพื่อนทั้งสองจะกอดคอกันไปเข้าห้องน้ำ ส่วนการ์ฟที่หันไปมองห้องถัดจากตนเองไปแล้วเห็นอาตี๋ยืนอยู่กับเพื่อนจึงเดินไปหา เพิ่งเห็นว่ามิมิวเองก็อยู่ที่นั่นด้วย การ์ฟชะงักก่อนตัดสินใจก้าวต่อ เมื่อมาหยุดลงใกล้ๆกลุ่มของอาร์ดิว สายตาทุกคู่จึงพุ่งตรงมาที่เขา เด็กสาวหนึ่งเดียวในกลุ่มที่กำลังคุยเล่นกับเพื่อนอยู่หน้าเจื่อนลงเมื่อเห็นการ์ฟ

“เป็นไงบ้าง ทำได้ไหม?” การ์ฟเอ่ยถามรวมๆ เหลือบมองอาตี๋ที่หันไปคุยกับตาต้าเฉย ไม่สนใจเขาสักนิดเลย

“อืม ก็พอได้ แล้วการ์ฟล่ะ?” มิมิวเป็นคนตอบคำถามนั้น แล้วเอ่ยถามกลับบ้าง

“ก็โอเคอ่ะ”

เมื่อได้พูดคุยกันแล้วก็ดูจะไม่มีที่ติดขัดอะไรนักทำให้การ์ฟคุยกับมิมิวต่อ แต่สายตาก็คอยจะเหลือบมองอาตี๋อยู่บ่อยๆ เมื่อสองหนุ่มที่ไปเข้าห้องน้ำกลับมาแล้วทุกคนจึงพากันลงไปทานข้าวที่โรงอาหาร เพราะเดี๋ยวต้องมาสอบอีกในช่วงบ่ายของวันนี้ ชีวาแยกไปรอน้องกะปอมน้อยที่ตึกมัธยมต้น ขณะที่พวกอาร์ดิวไปจองโต๊ะที่โรงอาหาร

ทั้งกลุ่มของการ์ฟและอาร์ดิวนั่งรวมกันโต๊ะเดียว เสียงในโรงอาหารดังยิ่งกว่าผึ้งแตกรัง ก่อนจะค่อยๆเงียบลงจนทุกคนในโต๊ะหันไปมองทางเข้าโรงอาหาร ประธานนักเรียนกำลังเดินผ่านมา เด็กนักเรียนต่างพากันหลีกทางให้ พยายามทำตัวลีบเล็กที่สุดเพื่อไม่ให้ไปสะดุดแข้งสะดุดขาประธานนักเรียนขาใหญ่ประจำโรงเรียนเข้า ยังไม่อยากนอนหยอดน้ำข้าวต้มกันสักเท่าไหร่

“กูล่ะโคตรหมั่นไส้ ใหญ่จริ๊ง!” เพื่อนการ์ฟปรายตามองประธานนักเรียนแล้วเบ้ปากใส่อย่างหมั่นไส้เต็มกำลัง

“ช่างเขาเหอะน่า มึงเก็บปากไว้กินข้าว อย่าเอาไปรองส้นเท้ามัน” การ์ฟตบบ่าเพื่อนแรงจนตัวเอียง สายตาเพื่อนตวัดมองคนทำแล้วว่า

“ปากมึงไม่เป็นมงคลเลยเชี่ยการ์ฟ”

การ์ฟหัวเราะในลำคอ ก่อนพากันลุกไปหาซื้อข้าวบ้างเมื่ออาร์ดิวกับมิมิวและตาต้าเดินกลับมานั่งประจำที่แล้ว เมื่อสามหนุ่มเพื่อนซี้ลุกไปปอมปอมกับจูนและชีวาก็เดินเข้ามา จูนเอากระเป๋ามาวางจองที่ก่อนเดินแยกไปซื้อข้าวกับชีวา ก่อนน้องเล็กของกลุ่มอย่างปอมปอมจะนั่งลงข้างพี่ชายคล้ายจะหมดแรง

“เหนื่อย~” หนุ่มน้อยลากเสียงยาวให้รู้ว่าเหนื่อยจริงอะไรจริง

“ทำอะไรมา เหนื่อย?” ตาต้าเอ่ยถามทั้งยังอมยิ้มขำ

“ใช้สมองเยอะ” คนเป็นน้องว่า

“โหย~~”

พี่ๆพากันส่งเสียงโห่อย่างพร้อมเพรียง หัวเราะขำหนุ่มน้อยหน้าเป็น ก่อนที่ชีวาจะเดินกลับมาพร้อมแก้วน้ำให้น้องดื่ม ส่วนจูนได้ก๋วยเตี๋ยวมาชามโต นั่งจ้วงไม่รอใคร

“อ่ะ คนใช้สมองเยอะ กินน้ำก่อนเดี๋ยวข้าวจะตามมาทีหลัง” ชีวายื่นแก้วน้ำให้น้อง ข้าวคนรอคิวกันยาวเลยสั่งไว้เพราะขี้เกียจยืนรอ

“ป๋า แบบนี้มันตัดกำลังกันนี่หว่า” กะปอมน้อยหน้ามุ่ย

“อะไรวะ... ครับ?” กำลังจะโวยกลับตามความเคยชินแล้ว แต่พอเห็นน้องหน้างอเป็นจวักเลยยั้งเอาไว้ทันท่วงที

“กินน้ำก่อนมันก็อิ่มเร็วดิ ข้าวก็กินได้น้อยลง เอาข้าวมาก่อน ปอมจะกินข้าว!” ปอมปอมบอกความต้องการ หรือจริงๆคงเป็นการออกคำสั่งก็ไม่รู้

“สั่งไว้แล้ว เขาทำให้อยู่” ชีวาให้เหตุผล หน้าน้องมุ่ยยิ่งกว่าเดิมเมื่อไม่ได้ดั่งใจ คนมันหิวข้าวอ่ะ จะให้กินน้ำไปเพื่ออะไร โมโหหิวแล้วนะ!

“ปอมปอม กินผลไม้กับพี่ไปก่อนไหม อ่ะ”

มิมิวเลื่อนจานผลไม้มาให้น้องชายเพื่อนอย่างมีน้ำใจ อาร์ดิวที่ตอนนี้ก็กินน้ำปั่นประทังความหิวเพราะรอข้าวอยู่เหมือนกันเลยไม่รู้จะเอาอะไรให้น้อง ปอมปอมมองผลไม้ในจานที่มิมิวมีน้ำใจแบ่งให้แล้วก็เอ่ยบอกด้วยความเกรงใจ

“เดี๋ยวพี่มิมิวไม่อิ่ม”

“ไม่เป็นไร ซื้อใหม่ได้” มิมิวยิ้มให้ เธอไม่ได้กะให้อิ่ม แค่รองท้องไปก่อนเท่านั้น พอพี่สาวคนสวยบอกมาเช่นนั้นปอมปอมน้อยก็อมยิ้มแก้มป่อง ก่อนจะเปิดยิ้มตาหยี

“น่ารักที่สุด~”

หนุ่มน้อยว่าแล้วจิ้มผลไม้ในจานกินเฉย ทั้งที่เมื่อครู่ยังเกรงอกเกรงใจอยู่เลย พี่ๆหัวเราะขำ จูนคีบลูกชิ้นในชามของตนเองที่กว่าจะฟัดกับคนรอคิวยาวเป็นพรืดมาได้ให้ปอมปอมลูกหนึ่ง พอได้ชิมแล้วปอมปอมก็อยากกินอีกทำให้จูนต้องยกชามหนีกันซึ่งๆหน้า ชีวามองน้องที่ทำทะเล้นไปเรื่อยแล้วจึงลุกไปรอหน้าร้านข้าวเพื่อจะเอามาให้น้อง ปอมปอมจึงลุกวิ่งตามพี่ไป ไม่ใช่อะไร ไปสั่งเพิ่มอีกจานกลัวไม่อิ่ม ตัวก็เล็กแค่นี้เอาไปเก็บไว้ไหนหมดไม่รู้

กว่าจะได้ทานข้าวกันจนเสร็จก็ใช้เวลานานจนไม่มีเวลาทบทวนที่อ่านมาก่อนเข้าห้องสอบอีกทีตอนบ่ายเลย แต่ก็ถือว่าไม่กดดันตัวเองจนเกินไป เมื่อได้พลังงานมาเต็มที่ทุกคนจึงเข้าห้องสอบกันอย่างมั่นใจขึ้น เพื่อนการ์ฟที่รู้สึกตื่นเต้นกับการสอบจนพาลเกร็งจนทำผิดๆถูกๆ พอมีเวลาในช่วงพักทานข้าวให้ผ่อนคลายก็ดูจะทำได้ดีขึ้น แถมที่ติวกันมาก็ออกเสียเป็นส่วนใหญ่ ไม่รู้ฟลุคหรืออะไร แต่ก็ขอบคุณจริงๆที่อาจารย์กับพวกเขาใจตรงกัน ทำให้อ่านมาได้ตรงเป๊ะ



+++++++++++++++



ช่วงสอบผ่านพ้นไปแล้วสำหรับเด็กนักเรียน ม.ปลาย แต่ปอมปอมน้อยยังเหลือสอบอีกสองวิชา เมื่อกลับมาบ้านแล้วจึงเปลี่ยนชุดแล้วสะพายกระเป๋าใส่หนังสือไปบ้านชีวา ขณะที่ชีวาเองก็กำลังจะไปรับน้องอยู่พอดี จึงได้ช่วยน้องถือกระเป๋าขึ้นไปบนห้อง วันนี้เขาให้น้องทบทวนที่ติวกันมาในส่วนที่คาดว่ามันสำคัญเท่านั้น ยิ่งใกล้วันแบบนี้ไม่อยากให้น้องเครียดมาก หลังจากติวเสร็จแล้วปอมปอมจึงได้ทยอยเก็บหนังสือใส่กระเป๋าของตนเอง

“พอสอบเสร็จแล้วพี่คงไม่ค่อยมีเวลาเท่าไหร่ เพราะยังต้องเตรียมสอบเข้ามหา’ลัยอีก” ชีวาชวนคุย ยื่นหนังสือให้น้องเอาใส่กระเป๋า

“อืม สู้ๆนะ” หนุ่มน้อยยิ้มให้กำลังใจพี่ รูดซิปกระเป๋าแล้ววางไว้ข้างตัว

“ปอมปอม”

“ครับ” ขานรับคำพี่ด้วยรอยยิ้มแป้น ก็พี่ทำหน้าจริงจังแปลกๆ เขาไม่ค่อยชอบมันเท่าไหร่

“ระหว่างนี้อย่าอยู่ใกล้เด็กเขมมากนะ” ชีวาเอ่ยบอก เรื่องนี้เขากังวลมากเลยเถอะ ยิ่งไม่ได้อยู่ด้วยเขายิ่งกลัวว่าเด็กเขมจะฉวยโอกาสทำคะแนน

“โธ่ ป๋า ยังไม่เลิกอีกเหรอเรื่องนี้น่ะ ป๋าลองคิดดูนะ ปอมกับเขมน่ะเป็นเพื่อนกันใช่ป่ะ แล้วเรายังต้องอยู่ด้วยกันอีกตั้งสามปี ดีไม่ดีอาจสอบเข้ามหาวิทยาลัยเดียวกันได้ ถึงตอนนั้นก็ยิงยาวเลยเหอะ” น้องกอดอกแล้วบุ้ยปาก

“ป๋าไม่ต้องห่วงปอมนะ เพราะป๋าอ่ะน่าห่วงกว่าปอมอีก เดี๋ยวเข้ามหา’ลัยแล้วป๋าก็เจอสาวๆทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องมากมายหลายคน อีกหน่อยป๋าต้องลืมปอมแน่ รักแท้อ่ะ มันแพ้ความใกล้ชิด”

“แล้วปอมกับเด็กนั่นล่ะ ใกล้ชิดเหมือนกันแหละ” ชีวายังแย้งคำพูดน้อง พูดออกมาได้ว่ารักแท้แพ้ใกล้ชิด ตัวเองก็ใกล้เด็กเขมเหมือนกันไม่ใช่หรืออย่างไรปอมปอม

“ปอมเชื่อไงว่าปอมจะไม่มีทางเปลี่ยนใจไปจากป๋า ไม่ว่าจะมีใครผ่านเข้ามาอีกเท่าไหร่ ว่าแต่ป๋าเหอะ มั่นใจหรือเปล่าว่าจะมีแต่ปอม?”

“เกินร้อย” ชีวายิ้ม แถมชูนิ้วโป้งยืนยันอีกแหนะ

“บู่ววว ไม่น่าไว้ใจเลย” คนเป็นน้องไม่อยากเชื่อสักเท่าไหร่เลย

“งั้นเอางี้ ปอมปอมอยากให้พี่ทำยังไงก็บอกมาได้เลย พี่พร้อมทำให้ทุกอย่าง” ชีวาเสนอ อยากให้น้องมั่นใจในตัวเขาเหมือนกันนา

“ไม่ต้องๆ” ปอมปอมน้อยโบกมือไปมา

“ทำไมล่ะ?”

“ทุกอย่างมันอยู่ตรงนี้” นิ้วเรียวชี้ที่อกด้านซ้ายของตนเองแล้วยกยิ้ม “ปอมเชื่อใจป๋า”

“น่ารักว่ะ ขอจุ๊บทีดิ๊” ชีวาดึงตัวน้องมาแล้วโน้มไปจุ๊บปากน้องเบาๆ มือเรียวรีบดันตัวพี่เอาไว้เมื่อพี่จะกดริมฝีปากย้ำซ้ำอีกครั้ง

“อื้ออ อีกละอ่ะ” น้องเบี่ยงหน้าหนี มองพี่หน้ามุ่ย

“ทำไมอ่ะ นิดเดียวเอง” ชีวายังทำเนียน เมื่อน้องเบี่ยงหน้าหนีก็หอมแก้มน้องแทน ถึงจะเฉียดไปเฉียดมา ได้ตอดนิดตอดหน่อยก็โอเคน่า

“นิดเดียวบ่อยๆมันก็กลายเป็นเยอะขึ้นอ่ะ” ปอมปอมต่อว่าเง้างอด

“เด็กน้อยเพิ่งสิบห้าขวบ พี่ยังไม่ทำอะไรหรอก กลัวไอคุกๆ” ชีวาล้อน้อง นัยน์ตาพราวระยับ

“ถ้าทำจริงจะไม่ได้ไอสักแอะ เพราะจะโดนเป่าสมองไหล ปิ้ว~” หนุ่มน้อยทำมือเป็นรูปปืนแล้วจ่อศีรษะพี่ ก่อนทำเป็นยิงแล้วทำเสียงประกอบ ชีวาอมยิ้ม แกล้งพ้อน้อง

“จะใจร้ายให้พี่โดนเป่าจริงอ่ะ?”

“ถ้าป๋าไม่ดื้อ ไม่ซน” พูดไปด้วยมือก็จับมือของพี่ที่เริ่มลามมาลูบต้นขาตนเองไปด้วย ตีแรงๆพร้อมถลึงตาใส่ “ป๋าจะไม่โดนเป่า!”

“แล้วโดนปล้ำแทนใช่ไหม?” คนพี่หรี่ตาทำหน้าเจ้าเล่ห์

“หื่น” ปอมปอมน้อยย่นจมูกใส่ เอนตัวหนีเมื่อพี่โน้มหน้าเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ ก่อนจะหลับตาปี๋เมื่อหนีจากอ้อมแขนพี่ไม่ได้

“หึๆ” ชีวาหัวเราะในลำคอ กดจมูกหอมแก้มน้องที่หลับตาปี๋ พอน้องไม่ขยับหนีก็ชักเอาใหญ่ ทั้งจูบทั้งหอมจนแก้มน้องจะช้ำ พอน้องลืมตาขึ้นมามองตาคว่ำก็ยังไม่สลด ก็เขาได้กำไรตั้งเยอะ

“ขอจูบแบบตอนนั้นไม่ได้เหรอ?” ป๋าหื่นยังไม่วายขอ ทำให้ปอมปอมนึกไปถึง ‘ตอนนั้น’ ตามที่พี่พูด แก้มใสพลอยแดงขึ้นมาตามความรู้สึก

“ได้คืบจะเอาศอก” น้องว่า ตบแก้มพี่แปะๆราวกับจะเรียกสติ มือใหญ่รวบจับมือน้องไว้ทั้งสองข้าง ส่งสายตาหวานๆไปออดอ้อน

“นิดนึงนะ”

“ไม่ ปอมยังเด็ก ปอมไม่รู้เรื่อง” คนพูดส่ายหน้าไปมา ยิ่งพี่มองมาด้วยสายตาเจ้าชู้ยิ่งเขิน มันไม่เหมือนเดิมอ่ะ ป๋าเวอร์ชั่นนี้ปอมปอมไม่เคยเห็น~

“เดี๋ยวพี่สอน” คนเป็นพี่กระซิบบอก

“เดี๋ยวปอมฟ้องพ่อว่าป๋าจะปล้ำปอม”

“เฮ้ย! ยังไม่ได้ปล้ำ แค่จะ… จูบ” ชีวาเว้นวรรคคำให้น้องใจเต้นเล่น ยกยิ้มมุมปากน้อยๆเมื่อเห็นว่าน้องหน้าแดงยิ่งกว่าเดิม ทำเป็นเก๊ก ที่จริงก็เขินเขาสินะเด็กน้อย

“น้องกำลังจะสอบนะครับ อย่าทำให้น้องเขว” ปอมปอมยกข้ออ้างมากลบเกลื่อนความเขินอาย

“งั้นหลังสอบก็ได้สิ?”

“มั่ว”

พอเห็นว่าน้องหน้าแดงจนจะแดงไปทั้งตัวแล้วชีวาเลยเลิกล้อ เดี๋ยวกะปอมน้อยจะกลายเป็นกะปอมย่างสุกไปเสียก่อน คนเป็นพี่อมยิ้มก่อนเอ่ยบอกเสียงนุ่ม

“ไม่ทำอะไรหรอก จะทะนุถนอมอย่างดีเลย”

“ขอให้จริง”

หัวเราะในลำคอเบาๆก่อนหอมแก้มน้องเสียอีกทีแล้วชีวาจึงปล่อยให้น้องกลับบ้านไป มองตัวผอมๆที่วิ่งเข้าบ้านตัวเองก่อนถอนใจแล้วยิ้มบาง ดูอย่างไรก็เด็กกะโปโล เอาเถอะ เรื่องความสัมพันธ์ที่จะก้าวล้ำไปมากกว่านี้อย่าเพิ่งไปนึกถึงมันเลย เขาไม่ได้หื่นจัดขนาดนั้นหรอกน่า



++++++++++++++



เมื่อเด็กๆสอบเสร็จกันหมดแล้ว คุณแม่รวิจึงได้ให้สองพี่น้องปอปลาชวนเพื่อนมาที่ร้านท่านจะเลี้ยงฉลองสอบเสร็จให้ โดยมีคุณพ่อไปป์เป็นพ่อครัวใหญ่เช่นเดิม แค่เพื่อนๆของสองหนุ่มก็กินพื้นที่ไปเสียครึ่งร้านแล้ว แม้จะพยายามไม่ส่งเสียงดังรบกวนโต๊ะอื่น แต่หลายเสียงเข้ามันก็ยังดังอยู่ดี ทานกันไป คุยกันบ้างเป็นที่เฮฮาตามประสาเพื่อน

อาร์ดิวนั่งข้างตาต้า อีกข้างคือปอมปอมกับชีวาที่นั่งติดกัน ถัดจากตาต้าไปจึงเป็นมิมิวกับเพื่อนๆของปอมปอม ฝั่งตรงข้ามถึงได้เป็นกลุ่มการ์ฟกับเขม ช่างจัดที่นั่งได้เหมาะเหม็ง อาร์ดิวคุยกับตาต้างุ้งงิ้งกันอยู่สองคน เพราะเดี๋ยวสอบเข้ามหาวิทยาลัยก็คงไม่ได้เจอกันแล้ว เมื่อตาต้าจะไปเรียนที่มหาวิทยาลัยทางภาคเหนือ ไม่รู้จะได้เจอกันอีกเมื่อไหร่ทำให้ตัวติดกันตลอดเลยช่วงนี้

ขณะที่กำลังทานข้าวกันอยู่เพื่อนของการ์ฟที่ท่าทางทะเล้นหน่อยก็ส่งกระดาษแผ่นเล็กมาให้อาร์ดิว เด็กหนุ่มมองกระดาษที่ถูกส่งต่อมาแล้วเลิกคิ้วมองคนส่ง อีกฝ่ายก็ทำมือทำไม้ให้เปิดอ่าน อาตี๋ทำหน้างงก่อนจะคลี่กระดาษแผ่นนั้นออก ข้อความด้านในเขียนเอาไว้ว่า...

‘การ์ฟชอบนาย’

อาร์ดิวเงยขวับ มองเพื่อนของการ์ฟอย่างตกใจ ซึ่งฝ่ายนั้นก็ยกยิ้มท่าทางมีเลศนัยก่อนส่งกระดาษอีกแผ่นมาให้อีก คราวนี้อาร์ดิวไม่กล้าเปิดแล้ว กลัวว่ามันจะมีข้อความแปลกๆอยู่ในนั้น แต่เพื่อนของการ์ฟก็พยักหน้าให้เปิดออกดู ทั้งโต๊ะเริ่มจะมีปฏิกิริยากับสองหนุ่มที่ทำอะไรยุกๆยิกๆเหมือนมีความลับอะไร อาร์ดิวเปิดดูข้อความในกระดาษอย่างเสียมิได้

‘ไม่เชื่อใช่ไหม?’

พออ่านข้อความนั้นแล้วอาร์ดิวก็เงยขึ้นมองฝ่ายตรงข้ามแล้วพยักหน้า กระดาษแผ่นน้อยจึงถูกส่งมาอีก

‘ฉันเป็นเพื่อนมันนะ พอดูออกหรอก นายกับการ์ฟมีอะไรพิเศษๆต่อกันใช่ไหม?’

อาร์ดิวส่ายหน้าหวือ เพื่อนการ์ฟอมยิ้มขำ ส่งกระดาษมาให้อีก พร้อมข้อความล้อเลียน

‘นายหน้าแดง’

“ไม่ใช่!”

ตี๋น้อยเผลอลุกขึ้นโต้ตอบเสียงดัง เพื่อนในโต๊ะหันมามองกันหมด ปอมปอมน้อยมองพี่ชายเหวอๆ พี่ของเขาเสียงดังด้วยอ่ะ อาร์ดิวเก้อกระดากกับสายตาเพื่อนๆน้องๆที่มองมาจึงค่อยๆนั่งลงที่เดิม เพื่อนการ์ฟที่แกล้งส่งกระดาษข้อความบ้าบอนั่นมาก็นั่งกลั้นขำเขาด้วยอ่ะ อาตี๋ตีสีหน้าไม่ถูกแล้ว รู้แต่ว่ามันร้อนวูบไปจนถึงคอเลย อายอ่ะ

กระดาษยังคงถูกส่งต่อมาให้อีก แต่ตี๋น้อยไม่อยากเปิดดูแล้วเลยจะส่งคืน แต่ฝ่ายนั้นก็พยักเพยิดคะยั้นคะยอให้เปิดดู ตี๋น้อยถอนใจ หน้าเริ่มงอแล้ว ยุ่งกับเขาจังเลย จะยอมทำตามเป็นครั้งสุดท้ายแล้วนะ

‘ถ้าไม่เชื่อนะนายลองทำตามที่ฉันบอก ฉันจะนับถอยหลังให้นาย พอถึงหนึ่งปุ๊บนายหันไปมองการ์ฟเลยนะ แล้วนายจะรู้ว่าฉันพูดจริง การ์ฟมันมองนายอยู่’

พออ่านจบอาร์ดิวก็รีบปฏิเสธที่จะทำตาม แต่เพื่อนการ์ฟกับทำสัญญาณมือเป็นการนับถอยหลังทันทีเช่นกัน อาตี๋ส่ายหน้ารัวแต่อีกฝ่ายไม่สนยังนับ สาม สอง หนึ่ง หัน!

ขวับ!!

อาร์ดิวบ้าจี้หันตามคำสั่งอัตโนมัติ ดวงตาเรียวสบเข้ากับการ์ฟอย่างไม่ตั้งใจ ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่าที่เห็นว่าอีกคนสะดุ้งแล้วหลบสายตา ตี๋น้อยนิ่งอึ้ง ค่อยหันมามองเพื่อนการ์ฟซึ่งฝ่ายนั้นก็ยิ้มแล้วยักคิ้วให้ อาตี๋ขยับลุกขึ้นจากเก้าอี้ เพื่อนๆหันมามอง แต่เจ้าตัวเขาไม่ได้สนใจอะไรแล้ว หน้าร้อนไปหมดจนต้องรีบเดินออกจากโต๊ะไป มือเรียวกำกระดาษที่เพื่อนการ์ฟส่งข้อความมาให้แน่น

การ์ฟที่เบือนสายตาไปทางอื่นเมื่อเห็นว่าอาร์ดิวลุกขึ้นจากเก้าอี้จึงหันกลับมามอง พอเขาก้าวออกจากกโต๊ะไปการ์ฟก็ชะเง้อมองตาม หันมามองเพื่อนของตัวเองที่นั่งยิ้มอยู่อย่างไม่ไว้ใจ ก่อนลุกตามอาร์ดิวไป

“ตี๋”

การ์ฟเรียกคนที่เดินดุ่มเข้าไปด้านหลังร้าน คนถูกเรียกสะดุ้งเฮือก หันกลับมาหาการ์ฟขณะที่รีบซ่อนกระดาษพวกนั้นเอาไว้ด้านหลัง

“ซ่อนอะไรไว้ข้างหลัง?” การ์ฟย่นหัวคิ้วสงสัย ทำเป็นลับๆล่อๆอะไรกัน เห็นเขินด้วยตอนที่ลุกออกมาจากโต๊ะน่ะ มันน่าสงสัย “นิคมันเอาอะไรให้?”

ตี๋น้อยส่ายหน้าปฏิเสธ ก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าวเพื่อรักษาระยะห่าง นั่นยิ่งทำให้คนที่สงสัยอยู่แล้วเกิดความสงสัยมากขึ้นไปอีก การ์ฟก้าวเข้าหาในขณะที่อีกคนถอยหนี ก่อนจะเอื้อมมือไปคว้าแขนเรียวไว้เมื่อตี๋น้อยตั้งท่าจะหนี

“ตี๋ เอามานี่ ขอดูหน่อย”

“ไม่เอา การ์ฟอย่าเล่น”

การ์ฟเข้าไปยื้อของในมืออาตี๋ที่ยื่นหนีเขาไปไกล พอเขาเอื้อมตามก็เอากลับมากุมไว้กับอกทำให้การ์ฟลำบากในการแกะแงะมันออกมา

“การ์ฟอ่ะ ฮือ ไม่ให้ดู!”

“ทำไมเล่า ขอดูหน่อย มันมีความลับอะไรนักหนา หืม?”

ขณะที่อีกคนไม่ยอมให้ดู คนอยากรู้ก็จะดูมันให้ได้ เลยยื้อกันไปมา แขนการ์ฟโอบตัวสูงเพรียวของอาร์ดิวเพื่อแย่งของในมือมาให้ได้ ก่อนจะจับพลิกตัวตี๋น้อยกลับมา ดันหลังบางชนผนังห้อง ทั้งสองหนุ่มชะงักเมื่อมองสบตากันในระยะใกล้ ใจตี๋น้อยเต้นไม่เป็นส่ำ ไม่กล้าจะหายใจแรงด้วยซ้ำเมื่ออีกคนอยู่ใกล้กันเพียงปลายจมูก

“อ๊ะ!!” อาร์ดิวร้องอุทานเมื่ออยู่ดีๆก็ร้อนวูบตรงหน้าอก การ์ฟเองก็ตกใจที่อยู่ๆอีกฝ่ายก็ร้องขึ้นมา

“เป็นอะไร?”

“ไม่รู้”

สีหน้าคนตอบดูไม่ดีเลยสักนิด คิ้วการ์ฟขมวด หลุบสายตามองสร้อยที่คออาร์ดิวเพราะเห็นอาร์ดิวกุมที่อก จับมือเรียวที่กุมจี้สีเขียวอมฟ้านั้นออก มองสบตาเรียวรีที่คลอน้ำตาแล้วช้อนจี้นั้นไว้ในอุ้งมือ สีหน้าอาร์ดิวค่อยๆดีขึ้น ไม่รู้สึกว่ามันร้อนแล้ว แสงจากจี้ประดับสว่างวาบขึ้นมาวูบหนึ่ง การ์ฟเองก็เห็นเพราะมันอยู่ในมือเขา เด็กหนุ่มมองอย่างแปลกใจ ในขณะที่อาร์ดิวเองก็แปลกใจไม่ต่างกัน เมื่อครู่อยู่ๆมันก็ร้อนตรงอกวูบขึ้นมา

‘เกิดอะไรขึ้น?’


.........................


หน้าร้านเมจิคกะ คาเฟ่ เมฆครึ้มเคลื่อนคล้อยมาปกคลุมราวกับอีกไม่นานนี้ฝนจะเทลงมาเป็นแน่ ทั้งที่เมื่อครู่ฟ้ายังสว่างไร้วี่แววของเมฆฝน ชายหนุ่มตัวสูงโปร่งคนหนึ่งก้าวเข้ามาด้านหน้าร้านนั้น แสงสว่างจากจี้ประดับสร้อยที่เขาสวมใสแวววาวตัดกับความมืดครึ้มของท้องฟ้า เขาเงยหน้ามองป้ายชื่อร้านแล้วพึมพำเบาๆ

“ที่นี่สินะ”





TBC



ผู้ได๋มาน้อ o_O??

ขอบคุณผู้มีอุปการะคุณทุกๆท่านค่า บวกและบวก

 :m13: ปอมปอม : คิดถึงทุกคนเหมือนกันฮับ! ถ้าปอมมาช้าก็อย่าเพิ่งเบื่อปอมกันนะครับ *ทำตาวิ้งๆใส่*

วันใหม่ค่ะ

หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆12☆ {17_03_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 17-03-2013 15:51:07
เมื่อไหร่จะลงเอยนะ อยากรู้ว่าเค้าจะเปิดใจกันเมื่อไหร่
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆12☆ {17_03_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 17-03-2013 16:27:48

อ๊ายยย เขินแทนปอมน้อย ป๋าขี้หื่นอะ 5555
คู่นี้เขารักกันหวานกันตลอดดด
แล้วคู่อาร์ดิวละคะ ยังไม่ไปถึงไหนเลย ฮ่าๆ
แต่อ่านตอนนี้แล้วใจหวิวๆ
กราฟนี่ชอบเขาไม่รู้ตัวรึยังไงเนี่ยะ หึ
ว่าแต่ตอนสุดท้ายนี่ใครหว่า..?
คุณวันใหม่อ่าาา ทิ้งท้ายไว้ให้เราค้างเฉยเลย
รออ่านตอนต่อไปจ้าาาาา
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆12☆ {17_03_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 17-03-2013 17:21:03
ผู้ใดมา???
ตอนนี้ป๋าเอาใหญ่เลยนะ เด๋วหอมเด๋วจูบ ดีๆๆ คนอ่านช๊อบบบ^^
การ์ฟออกนอกหน้าขนาดเพื่อนยังรู้เลยเรอะเนี่ย หุๆ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆12☆ {17_03_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 17-03-2013 17:38:36
ขนาดเพื่อนยังดูออก แต่เจ้าตัวกลับดูกันไม่ออกซะงั้น ค่อยเป็นค่อยไปแล้วกันเนอะอาร์ดิวกับการ์ฟ :o8:
แต่ป๋าวากับอิหนูปอมปอมนี่ล่ะน่าอิจฉามาก หวานเจี๊ยบจนป้าแถวนี้ตาร้อนผ่าวแทบลุกเป็นไฟ :laugh:
แวะมากอดเด็กๆแล้วก็กดเป็ดก๊าบๆก่อนไป :oni1:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆12☆ {17_03_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 17-03-2013 17:48:05
การ์ฟกะดิว ยังไม่จุ๊บกันอีกเลยนะ ฮาาาาา

แล้วใครมาหาหนออ จะมาดีหรือมาร้ายหนออ

แล้วการ์ฟกับดิวจะเป็นยังไงหนออออ

ติดตามตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆12☆ {17_03_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: TinyB ที่ 17-03-2013 18:01:47
อ๊ากกกกกก ใครมาอ่ะ อ๊ากกกกก ค้างๆๆๆๆๆๆ  :serius2:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆12☆ {17_03_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: PapermintReal ที่ 17-03-2013 18:28:13
โหยย หวาน หวาน หวาน หวาน ปอมกะป๋าอ่ะ ทำเขิย :-[
กรี๊ดดด ชอบดิวดิว การ์ฟสู้ๆ o13
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆12☆ {17_03_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 17-03-2013 21:27:08
เขาคือใครกันนะ
ตัวร้ายเหรอเนี่ยยย
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆12☆ {17_03_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: t2007 ที่ 17-03-2013 21:33:20
ใครมาตามจี้ ผู้วิเศษแน่ๆ
ขอบใจจร้าาา
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆12☆ {17_03_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: nong PeePee ที่ 17-03-2013 22:03:04
อาร์ดิวกับกราฟเอาใจช่วยน่ะรู้ใจกันไวๆ♥  o13
น้องปอมกับพี่ชีวาน่ารักมากเลยตอนนี้หวานลื๊ม  :-[
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆12☆ {17_03_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: So_Da_Za ที่ 18-03-2013 07:22:50
อาร์ดิวกะการ์ฟรู้ตัวรู้ใจกันซะทีซิ
ส่วนป๋าขา ปอมน้อยยังเป็นผู้เยาว์นะจ๊ะ แหมๆ เด๋วหอมเด๋วจูบ ลูกสาวเอ้ยยชายเจ๊ช้ำหมด คิคิ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆12☆ {17_03_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 18-03-2013 10:07:34
ผู้ใตมาอีกละนั้น
สํตรูหัวใจการ์ฟ?ป่าวหว่าาา

ป๋ากำไรมากกกกก(ไปแหละ) อิจฉา อยากหอมแก้ปอมน้อยบ้างงง 5555
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆12☆ {17_03_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: nemesis ที่ 18-03-2013 10:12:40
รอติดตามนะค้าบ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆12☆ {17_03_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 18-03-2013 10:15:44
คู่น้องปอมกับป๋าจะชักน่ารักกว่าคู่เอกซะแล้ว 5555
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆12☆ {17_03_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: greensnake ที่ 18-03-2013 14:53:57
กะปอมน้อยมาแล้วววว มาให้ฟัดซะดีๆ :man1:
แม้จะเคร่งเครียดกันแค่ไหน แต่ก็ยังมีเวลาสวีทวี้ดวิ้วกันอยู่นะ
ป๋านี่ได้คืบจะเอาศอกอย่างน้องว่าแหละ ก็เด็กมันน่ารักนี่นาเนาะ
เป็นใครได้อยู่ใกล้ปอมน้อยถ้าไม่หวั่นไหวให้รู้ไปสิ
ฟากการ์ฟกับอาร์ดิวจะก้าวหน้าเมื่อไรกันหนอ มีแต่สบตาปิ๊งปั๊ง
กะปอมกับป๋าเค้าหอมกันไปหลายฟอดแล้วนะ พี่ชายยังลอบมองกันอยู่เลย
เอาน่า ค่อยเป็นค่อยไป ช้าๆได้พร้าเล่มงาม :z2:
แล้วคนๆนั้นเป็นใครกันหนอ จะมีอะไรเกิดขึ้นกับการ์ฟและอาร์ดิวไหมนะ
ขอบคุณวันใหม่มากค่ะ :กอด1:
+1และเป็ดจ้า
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆12☆ {17_03_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 18-03-2013 17:43:47
ผู้ได๋มาอีกล่ะเนี่ย
รอลุ้นต่อไป :z2:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆12☆ {17_03_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 18-03-2013 22:26:00
เริ่มหวั่นไหวกันละสิ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆12☆ {17_03_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: audio ที่ 20-03-2013 14:28:46
 :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: ค้างอะ มากต่อไวๆนะ  o22
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆12☆ {17_03_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: TinyB ที่ 23-03-2013 02:00:07
วันนี้จะมาไหมอ่า  :z10:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆12☆ {17_03_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: raviiib❁ ที่ 23-03-2013 08:15:42
มารอน้องกะปอมน้อยยยยย :m1:
สู้ๆคะคนเขียน :กอด1:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆12☆ {17_03_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: YOSHIKUNI RUN ที่ 26-03-2013 16:01:17
คู่ปอมปอม น่ารักดี
ป๋ากลัว ไอคุกๆ ด้วย

ว่าแต่ผู้ใด๋ มาหล่ะเนี่ย ??
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆12☆ {17_03_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: nong PeePee ที่ 27-03-2013 20:05:11
คิดฮอดน้องปอมหลายๆ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆12☆ {17_03_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: YOSHIKUNI RUN ที่ 04-04-2013 15:09:30
คิดถึงแล้วววว น้าาาา :mew2:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆12☆ {17_03_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 04-04-2013 15:50:51
รอๆ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆12☆ {17_03_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 05-04-2013 18:38:02
คิดถึงจังเลยยยยยยยยย :กอด1:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆12☆ {17_03_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: So_Da_Za ที่ 05-04-2013 19:15:37
คิดถึงพี่น้อง2ป.จริงจัง
มาต่อเถอะน้า ได้โปรด
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆12☆ {17_03_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 10-04-2013 11:42:23
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆12☆ {17_03_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 19-04-2013 10:18:31

 :z10: :z10:
อิอิ ตามทวงคุณวันใหม่ทั้งในแฟนเพจทั้งในนี้
อย่ารำคาญกันน้า
เค้าอยากอ่านจริงๆ แฮ่ๆ
 :m17:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆12☆ {17_03_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 19-04-2013 16:31:39
ยังรออยู่นะค่ะ อาร์ดิวกับกระปอมน้อยยยย
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆12☆ {17_03_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 19-04-2013 16:56:57
รอๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆12☆ {17_03_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: TinyB ที่ 22-04-2013 11:24:23
เรื่องนี้ยังไม่มาต่ออีกหย๋อออออ พี่วันใหม่อยู่หนายยยยยยง่ะ  :m17:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆13☆ {23_04_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: wanmai ที่ 23-04-2013 18:12:27
Magica Café

Magic (13)




ความเดิมตอนที่แล้ว

หน้าร้านเมจิคกะ คาเฟ่ เมฆครึ้มเคลื่อนคล้อยมาปกคลุมราวกับอีกไม่นานนี้ฝนจะเทลงมาเป็นแน่ ทั้งที่เมื่อครู่ฟ้ายังสว่างไร้วี่แววของเมฆฝน ชายหนุ่มตัวสูงโปร่งคนหนึ่งก้าวเข้ามาด้านหน้าร้านนั้น แสงสว่างจากจี้ประดับสร้อยที่เขาสวมใส่แวววาวตัดกับความมืดครึ้มของท้องฟ้า เขาเงยหน้ามองป้ายชื่อร้านแล้วพึมพำเบาๆ

“ที่นี่สินะ”



++++++++++++++



เริ่มต้นมื้อเช้าในช่วงปิดภาคเรียนของเด็กๆ หลังจากเลี้ยงฉลองให้หลังสอบแล้ววันนี้คุณพ่อคุณแม่ก็หยุดอยู่บ้านหนึ่งวัน ใช้เวลากับครอบครัวให้คุ้มค่าก่อนที่จะต้องยกกันไปประจำอยู่ที่ร้าน ปอมปอมสมัครเข้าเรียนพิเศษช่วงปิดภาคเรียนนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะกำลังจะเป็นหนุ่มน้อย ม.ปลาย เต็มตัวเมื่อเปิดภาคเรียนครั้งใหม่ ไม่อยากปล่อยให้เวลาผ่านเลยไปโดยไม่ได้หาความรู้เพิ่มเติมใส่ตัว คุณพ่อกับคุณแม่เห็นว่าเด็กๆเครียดกับการสอบมากแล้วจึงเอาใจกันสักหน่อย ทำอาหารทานกันเองในครอบครัว และยังแบ่งไปให้ข้างบ้านอีกด้วย

อาร์ดิวรับหม้อใบสวยที่คุณแม่ตักแกงใส่เพื่อให้เอาไปให้บ้านชีวา เด็กหนุ่มเป็นคนยกไปให้โดยมีน้องชายหน้าแฉล้มเดินตามหลังมาติดๆ ที่จริงปอมปอมน้อยอยากถือไปเองแต่กลัวซุ่มซ่ามทำหลุดมือแล้วพี่ชีวาไม่ได้กินเลยต้องให้พี่ชายช่วยถือ ปลอดภัยกว่ากันเยอะเลย

เมื่อเอาของไปให้บ้านข้างๆเสร็จแล้วเรียบร้อยสองพี่น้องก็กลับมาที่บ้านพร้อมกล่องพลาสติกที่บรรจุผลไม้หวานฉ่ำมาเสียเต็มกล่อง พอถือมาให้คุณแม่รวิในครัวท่านก็หัวเราะขำ รับกันไปให้กันมาอยู่อย่างนี้ล่ะทั้งสองบ้าน สองพี่น้องช่วยกันจัดโต๊ะ คุณพ่อกับคุณแม่จึงไปล้างมือแล้วออกมาทานข้าวกัน

“เออ แม่ลืมบอกไป เดี๋ยววันเสาร์นี้จะมีคนมาที่บ้านนะ” คุณแม่พูดขึ้นมาเมื่อนึกได้ ท่านก็มัวแต่ยุ่งจนลืม

“ใครครับ?” อาร์ดิวเอ่ยถามขณะที่วางแก้วน้ำที่ตนเองดื่มหลังทานข้าวเสร็จลงบนโต๊ะ ปอมปอมก็รวบช้อนเมื่อทานอิ่ม หูก็ตั้งใจฟังที่คุณแม่กับพี่ชายคุยกัน

“พี่เมฆน่ะ จำพี่เขาได้ไหมล่ะ?”

คุณแม่บอก ลุกขึ้นไปเปิดตู้เย็นเอาผลไม้ที่เพื่อนข้างบ้านให้มาแช่เย็นไว้ออกมาให้ทุกคนได้ทานกันต่อ สองพี่น้องปอปลาหันมามองหน้ากันเมื่อฟังคุณแม่บอก ใครคือพี่เมฆ?

“ท่าทางแบบนี้จำไม่ได้ชัวร์”

คุณพ่อเอ่ยเย้าแล้วหัวเราะ หันไปขอบคุณคุณแม่ที่แบ่งผลไม้ใส่จานมาวางตรงหน้าให้ ก่อนที่คุณแม่จะนั่งลงแล้วขยายความให้เด็กๆฟัง

“พี่เมฆลูกลุงตะวันไงครับ เขาจะมาเรียนโทที่นี่น่ะ แม่เลยให้มาพักที่บ้านก่อน ไว้จัดการเรื่องหอพักเรื่องอะไรเรียบร้อยค่อยย้ายไป อาร์ดิวกับปอมปอมคิดว่ายังไง?” คุณแม่อธิบายแล้วเอ่ยถามความเห็นเด็กๆในตอนท้าย

“ปอมไม่มีปัญหาหรอกครับ ถ้าเขาไม่มีปัญหากับปอมก่อน” ปอมปอมน้อยว่า จิ้มผลไม้ใส่ปากตัวเองชิ้นใหญ่จนแก้มป่อง อาร์ดิวหัวเราะขำน้อง ก่อนจะจิ้มชิ้นพอดีคำมาทานบ้าง

“อ้าว แล้วกัน” คุณแม่อุทาน ขณะที่คุณพ่อยีหัวตัวแสบด้วยความหมั่นเขี้ยว คุณแม่จึงหันมาทางอาร์ดิวบ้าง

“ดิวก็ไม่มีครับ” เด็กหนุ่มยิ้มให้คุณแม่ เพราะตนเองก็ไม่เคยจะอยากมีปัญหาอะไรกับใครเสียที

“โอเค งั้นแม่จะได้โทรบอกป้าเขาให้พี่เมฆเตรียมตัวมาได้เลย”

คุณแม่สรุปความทุกคนก็พยักหน้ารับตามนั้น ลงมือทานผลไม้ตบท้ายมื้ออาหารกันต่อก่อนจะช่วยกันเก็บล้าง วันนี้อิสระ นอนเกลือกกลิ้งอยู่ที่บ้านได้ตามแต่ใจ เรื่องพี่เมฆ สองพี่น้องปอปลาก็ไม่ได้คิดว่ามันจะมีปัญหาอะไร พี่น้องกันทั้งนั้น



+++++++++++++++



ณ ท่าอากาศยาน สนามบินสุวรรณภูมิในเวลาต่อมา อาร์ดิวกับปอมปอมและชีวาพากันตามมาส่งตาต้า เพราะตาต้าสอบเข้ามหาวิทยาลัยทางภาคเหนือได้แล้วจึงต้องเดินทางไปอยู่ที่โน่น ตอนลุ้นผลสอบตาต้าเครียดจนถึงกับอาเจียน เพื่อนทุกคนเห็นถึงความตั้งใจอย่างจริงจังของตาต้ามาตลอด รู้ได้เลยว่าตาต้าอยากที่จะไปที่นั่นจริงๆ และในที่สุดเพื่อนคนนี้ก็ทำได้

“ตาต้า”

ปอมปอมเรียกเพื่อนรุ่นพี่ที่ตนเองสนิทสนมที่สุด พอเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังจะจากไปไกลก็อดใจหายไม่ได้ ตาต้าก้าวมาหาน้องแล้วจับศีรษะกลมโยกเบาๆ ส่งยิ้มให้เมื่อเห็นว่าน้องเล็กท่าทางจ๋อยแบบนั้น ปอมปอมอยากยิ้มตอบแต่มันก็ทำได้ยากจนเกินไป

“ปอมคงคิดถึงตาต้ามากๆแน่เลยอ่ะ”

“พี่ก็คิดถึงปอมปอมเหมือนกัน ถ้ามีเวลาพี่จะกลับมาเยี่ยมนะ หรือปอมปอมจะไปที่ไร่องุ่นก็ได้” ตาต้ายิ้มบอก ที่ที่เขาจะไปอยู่เป็นไร่องุ่นขนาดใหญ่ของทางภาคเหนือ ไร่ที่มีคนที่เขารักทั้งสองคนรออยู่

“ปอมอยากไป อยากกินองุ่น” น้องเล็กยิ้มตอบเมื่อพูดถึงของกิน

“มีสตรอเบอร์รี่ด้วยนะ” ตาต้าว่า

“ดีเลย ส่งมาให้ปอมกินบ้างนะ” คราวนี้หนุ่มน้อยตาโต ตบมือเปาะแปะ ของชอบเลยนะสตรอเบอร์รี่เนี่ย

“เมื่อกี้ยังหงอยอยู่เลย พอเรื่องกินล่ะดี๊ด๊าเชียว” ชีวาที่ยืนอยู่ข้างกันเหน็บน้องเบาๆ ตาต้ากับอาร์ดิวหัวเราะขำ เห็นตามนั้นด้วย

“ถ้าตาต้าส่งมาป๋าไม่ต้องกินเลยนะถ้างั้นอ่ะ” น้องว่ากลับ

“งก”

ชีวาจิ้มหน้าผากเด็กงก อีกฝ่ายย่นจมูกใส่แล้วหันมาสนใจตาต้าต่อ ไม่นานนักก็ถึงเวลาขึ้นเครื่อง ตาต้ากอดลาเพื่อนทั้งสองคน ก่อนจะกอดปอมปอมที่ทำท่าจะร้องไห้แต่กลั้นเอาไว้สุดฤทธิ์ แต่เพียงพี่ชายคนสนิทสวมกอดเท่านั้นก็ปล่อยโฮทันที แขนเล็กๆกอดตาต้าแน่น เสียงทุ้มกระซิบปลอบน้องเล็กแล้วลูบหลังให้หยุดร้อง เพราะตาต้าเองก็ใช่ว่าจะไม่อยากร้อง บ่อน้ำตาตื้นพอกันทั้งสองคน

เมื่อผละออกมาจากอ้อมกอดเพื่อนพี่ชายแล้วปอมปอมก็ถอยมายืนข้างพี่ชายของตนเอง ยังคงสะอื้นอยู่แต่พยายามจะไม่ร้องอีกเมื่อตาต้าจะเดินจากไป อาร์ดิวลูบหัวน้องเบาๆแล้วรั้งมากอด หนุ่มน้อยก็กอดเอวพี่แล้วซุกหน้ากลั้นสะอื้น ถึงรู้ดีว่าไม่ได้จากกันตลอดไป แต่ก็อดไม่ได้ที่จะน้ำตาไหลอยู่ดี

“เห็นตาต้าไปแล้วแบบนี้รู้สึกใจหายเนอะ” อาร์ดิวเปรยขึ้นมาขณะที่ทั้งสามคนกำลังเดินออกมาจากตัวอาคารสนามบินเพื่อกลับบ้านกัน

“อืม พวกเราต่างคนก็ต้องมีหนทางเดินของตัวเอง ตาต้าเขาเลือกแล้ว และเขาก็มีจุดหมายที่แน่นอน”

ชีวาเองก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกวูบไหวที่ใครคนหนึ่งในกลุ่มจะห่างไปไกล มือใหญ่กุมกระชับมือน้องที่เดินเคียงกันมาขณะเอ่ยตอบคำถามเพื่อนอย่างอาร์ดิว

“น่าอิจฉา”

อาร์ดิวจบการสนทนาเพียงเท่านั้น ทั้งหมดพากันขึ้นรถกลับบ้าน ระหว่างทางที่มองออกนอกหน้าต่างรถแล้วเห็นเครื่องบินที่ทะยานสูงขึ้นไปบนฟากฟ้าก็อดคิดไม่ได้ว่าบนเครื่องบินลำนั้นอาจจะมีเพื่อนรักของตนเองอยู่ก็เป็นได้ เพื่อนของพวกเขาอยากไปเรียนต่อในที่ที่ห่างไกล มุ่งมั่นที่จะทำมันและก็ทำมันจนสำเร็จจนได้ พวกเขาเองก็จะพยายามไม่ให้น้อยหน้ากัน ต้องออกเดินหน้าตามหาฝันของตนเองบ้างแล้ว



+++++++++++++



Magica Café

สามหนุ่มแห่งร้านเมจิคกะจับกลุ่มคุยกัน ปรึกษาหารือกันว่าจะจัดการกับปัญหาเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้นอย่างไรดี อาร์ดิวยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์ชะเง้อมองแขกหนุ่มคนหนึ่งที่มานั่งนานแล้วแต่ยังไม่มีวี่แววว่าจะสั่งอาหารหรืออะไรเลย ให้พนักงานในร้านไปถามก็ยังไม่ได้ความอีก การ์ฟกับชีวายืนกอดอกพิงเคาน์เตอร์อยู่ด้านหน้า ขนาบข้างอาตี๋น้อยอีกที หันมามองหน้ากันแล้วพยักพเยิดให้อีกฝ่ายไปจัดการ เพราะยังมีคนรอคิวทานอาหารอยู่อีก ถึงไม่อยากจะรบกวนเวลาส่วนตัวของลูกค้า แต่มานั่งเฉยๆในร้านอาหารโดยไม่สั่งอะไรมาทานแบบนี้น่าจะรู้ว่ามันเสียมารยาท พื้นที่นี้ไม่ใช่พื้นที่สาธารณะที่ใครจะมานั่งเล่นได้

คุณพ่อไปป์ก็ยุ่งอยู่ในครัว ส่วนคุณแม่ก็ออกไปทำธุรกรรมที่ธนาคารยังไม่กลับ ตี๋น้อยจึงต้องรับมือเอง นี่ถ้าปอมปอมอยู่คงเดินยิ้มแฉ่งเข้าไปหาลูกค้าแล้ว แต่ตอนนี้น้องชายที่น่ารักยังไม่กลับมาจากเรียนพิเศษเลย

“เอาไงตี๋?”

การ์ฟเอี้ยวหน้ากลับไปถามคนที่หลังเคาน์เตอร์เชิงปรึกษา ตี๋น้อยอาร์ดิวท่าทางอึดอัดกับสถานการณ์ จะไล่แขกก็คงไม่ดีแน่ ทำอย่างไรดีนะ คิดไปคิดมาอาร์ดิวก็ลุกขึ้นแล้วคว้าสมุดกับปากกาจดรายการอาหารก่อนเดินไปหาลูกค้าหนุ่มคนนั้น ชีวากับการ์ฟหันมามองหน้ากันโดยไม่ได้นัดหมาย

“สวัสดีครับ”

อาร์ดิวเอ่ยทักทายนำไปก่อนเพื่อให้ลูกค้าหันมาสนใจในสิ่งที่ตนเองจะพูด และไม่เป็นการเสียมารยาทหากจะถามไปโต้งๆโดยไม่เกริ่นนำ

“สวัสดีครับ” ลูกค้าหนุ่มทักทายกลับพร้อมรอยยิ้ม

“ครับ ไม่ทราบจะรับอะไรเลยไหมครับ เห็นนั่งนานแล้วอาจจะคอแห้งหรือหิว” เด็กหนุ่มยิ้มให้ขณะเอ่ยถามลูกค้า

“ไม่ล่ะครับ ผมไม่หิว” ลูกค้าหนุ่มตอบกลับมา ฟังดูแล้วมันช่างยียวน มาร้านอาหารโดยไม่สั่งอาหารยังไม่พอ ยังบอกว่าไม่หิวอีกด้วย

“ร้านเมจิคกะ คาเฟ่ ของเราให้บริการทั้งอาหารและเครื่องดื่มครับ” อาร์ดิวว่าอย่างนั้น ยังคงยิ้มให้ลูกค้าอยู่เช่นเดิม

“ผมทราบครับ คุณเห็นผมนั่งนานแล้วทั้งที่ไม่ได้สั่งอะไรเลยจะมาไล่ผมสินะครับ”

อีกฝ่ายตอกกลับยิ้มๆ อาร์ดิวชะงักไปเล็กน้อยก่อนปรับสีหน้าให้เป็นปรกติ การ์ฟที่เห็นท่าทางอาตี๋น้อยไม่ค่อยดีจึงเดินเข้ามาหา สีหน้าบอกบุญไม่รับเมื่อมองหน้าตาที่เขาคิดไปเองว่ามันกวนอวัยวะเบื้องต่ำของคุณลูกค้าคนนี้

“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกครับ ทางเราเพียงแต่อยากให้คุณมีความสุขกับการรับประทานอาหารในร้านของเรา ดีกว่ามานั่งเฉยๆให้ท้องร้องประท้วงเวลาเห็นอาหารละลานตาผ่านหน้าไปนะครับ”

อาตี่ของการ์ฟยังเอ่ยด้วยน้ำเสียงสุภาพคงเส้นคงวา แต่ประโยคที่พูดไปเมื่อครู่มันฟังดูแปลกๆอยู่นะนี่ ลูกค้าหนุ่มมองตี๋น้อยแล้วยิ้ม ก่อนที่จะเอ่ยปาก

“ถ้าอย่างนั้นมีอะไรอร่อยๆแนะนำไหมครับ?”

รอยยิ้มแปลกๆนั่นพาเอาตี๋น้อยรู้สึกแปลกตาม กระแอมเบาๆแล้วจึงหันไปมองการ์ฟ ผายมือออกเพื่อขอเมนูมาให้ลูกค้าสั่ง พร้อมแนะนำรายการอาหารที่เป็นที่นิยมในร้านไปสองสามอย่าง ตบท้ายด้วยรายการของหวานที่อร่อยไม่แพ้กัน

“การ์ฟ ทำหน้าให้ดีๆหน่อยสิครับ คุณจะไล่ลูกค้าเหรอ?”ตี๋น้อยกระซิบกระซาบกับคนหน้าบึ้ง การ์ฟถอนใจก่อนจะยกมุมปากแสยะขึ้นมานิดนึง

“นี่เขาเรียกว่ายิ้มแล้วเหรอ?”

“เออน่า ช่างฉันเถอะ”

การ์ฟทำเสียงหงุดหงิด อาร์ดิวเม้มปากก่อนจะหันเหความสนใจไปที่ลูกค้าหนุ่มเจ้าปัญหาที่ยังมีรอยยิ้มแปลกๆส่งมาให้เขาอยู่ เหมือนจะกำลังกลั้นขำ แล้วจะขำเขาเรื่องอะไรหว่า? ลูกค้าหนุ่มปิดเมนูอาหารแล้ววางลงบนโต๊ะก่อนสั่งโดยไม่ต้องดูเมนูซ้ำ การ์ฟจดยิกๆตามแทบไม่ทัน ก่อนที่ลูกค้าหนุ่มจะเอ่ยตบท้ายการสั่งอาหารของตนเอง

“ทั้งหมดนี้เก็บเงินที่อารวินะครับอาร์ดิว”

อาร์ดิวทำหน้างง เขาจำไม่เห็นได้เลยว่ารู้จักกับผู้ชายคนนี้ คิดทบทวนดูอีกทีว่าเคยเจอกันที่ไหนก็ไม่เห็นจะจำได้ แต่สะดุดกับคำที่ผู้ชายคนนี้เรียกคุณแม่ของตนเองจึงลองเดาดู

“พี่เมฆ...?”

รอยยิ้มที่มีอยู่แล้วยิ่งกว้างขึ้นไปอีก อาร์ดิวจึงค่อยเผยยิ้มออกมาที่ตนเองเดาถูก จะว่าไปเขากับพี่ชายคนนี้เคยเจอกันเมื่อนานมาแล้ว ตั้งแต่เพิ่งจำความได้เลยกระมัง ตอนนี้พี่เขาเป็นหนุ่มแล้วรูปร่างหน้าตาก็เปลี่ยนแปลงไปจนความทรงจำแสนเลือนรางไม่สามารถแทรกเข้ามาให้นึกออกได้เลย ตอนไปเยี่ยมคุณยายกับคุณตาเมื่อครั้งที่ท่านทำบุญบ้านพี่เขาก็ไม่ได้มา ทำให้ไม่ได้เจอกันเสียที

การ์ฟหันมามองอาร์ตี๋กับนายลูกค้าหน้าหล่อที่ทำตัวมีปัญหา มัวยิ้มให้กันอยู่นั่นล่ะ ท่าทางจะอิ่มรอยยิ้มกันแล้วมั้ง เด็กหนุ่มก้าวออกไปจากจุดที่ทั้งสองคนกำลังสร้างโลกส่วนตัวที่เขาเข้าไปไม่ถึงแล้วเดินดุ่มเข้าไปหลังร้านเพื่อนำรายการอาหารไปให้ในครัว อาร์ดิวเหลียวมองตาม หันมาทางพี่เมฆแล้วเอ่ยบอก

“พี่เมฆรอสักครู่นะครับ เดี๋ยวผมไปบอกพ่อให้ว่าพี่มาถึงที่ร้านแล้ว”

“ครับ แต่ไม่ต้องบอกให้คุณอาออกมาหรอกนะ ค่อยไปเจอกันที่บ้านเลย ไม่อยากรบกวนเวลางานท่าน แค่มาดูร้านเฉยๆน่ะ”

“ครับ” อาร์ดิวรับคำก่อนเดินเข้าหลังร้านไป



++++++++++++



การมีเมฆมาอยู่ร่วมบ้านดูจะไม่ใช่สิ่งที่เลวร้ายนักสำหรับสองพี่น้องปอปลา เมื่อทั้งสามดูสนิทสนมเข้ากันได้ดีจนคุณพ่อคุณแม่วางใจ ด้วยความที่เมฆเป็นคนใจเย็นและเป็นพี่ใหญ่ทำให้เข้ากับน้องๆได้อย่างไม่ยากนัก

เมฆคือหนึ่งในสายเลือดของครอบครัวที่มีพรพิเศษประจำตัว พรที่เขาไม่อยากได้มันนัก แต่เมื่อมีมาโดยไม่ตั้งใจเช่นนี้เขาจึงจำต้องควบคุมและใช้มันให้เกิดประโยชน์มากกว่าโทษ ครอบครัวเขาทำงานเกี่ยวเครื่องประดับอัญมณีหลายหลาก ทั้งเพื่อความสวยงามและโชคลาง เมื่อก่อนคุณแม่รวิของสองพี่น้องปอปลาก็ทำงานอยู่ที่นั่นจนกระทั่งออกเรือนมา เขารู้ว่าลูกพี่ลูกน้องของเขาหนึ่งในสองมีพรพิเศษ คนนั้นคืออาร์ดิว แต่เขาสัมผัสถึงพลังที่ซ่อนเร้นไม่ได้เลย ทั้งที่รู้ว่าน้องชายคนนี้มีความพิเศษ อาจจะเป็นเพราะเทอร์ควอยส์สีเขียวอมฟ้าที่ห้อยคอเด็กคนนี้อยู่ก็เป็นได้ เขาถึงได้ไม่รู้สึกอะไรเลยเมื่อเข้าใกล้อาร์ดิว

สำหรับตัวเขาเอง จะเรียกมันว่าเป็นความสามารถพิเศษได้ไหมไม่รู้ เพราะเขาสามารถสื่อสารกับคนที่ไม่มีตัวตนอยู่บนโลกใบนี้แล้ว เหมือนจะเป็นหมอผีเลยนะ แต่เขาไม่ชอบให้ใครมาเรียกแบบนั้นนักหรอก ก็เขาออกจะหนุ่มฟ้อหล่อเฟี้ยวขนาดนี้

ทางด้านปอมปอมที่ไปเรียนพิเศษและมีงานจากโรงเรียนสอนพิเศษมาทำที่บ้านก็ได้ที่ปรึกษาดีๆอย่างพี่เมฆคอยสอนให้ หนุ่มน้อยเลยปลื้มใจกับการมีพี่ชายเพิ่มขึ้นมาอีกคนเป็นอย่างมาก มากเสียจนมีคนแถวนี้กลายเป็นหมาหัวเน่าไปแล้ว

“ป๋า เป็นอะไรอ่า งอนอะไรปอมเหรอ?”

หนุ่มน้อยมาตามง้อคนงอนถึงบ้าน เพราะดูพักนี้พี่ชายข้างบ้านจะชอบทำปั้นปึ่งใส่ บางทีการที่ต่างคนต่างอยู่คนละที่ กว่าเขาจะเรียนเสร็จกลับมาเจอที่ร้านก็ไม่ค่อยได้คุยกันเพราะชีวาก็ทำงาน กว่าจะพากันปิดร้านแล้วกลับมาบ้านเด็กอนามัยอย่างปอมปอมก็เข้านอนไปแล้ว นั่นมันอาจจะทำให้ป๋าชีวาของเขางอนที่ไม่มีเวลาให้ก็เป็นได้

“เดี๋ยวนี้ไม่ใช่แค่เด็กเขมแล้วนะ”

“อะไรอ่า?” นิ้วเรียวจิ้มแขนพี่ที่นั่งงอนอยู่จึกๆ ทำหน้าซื่อตาใสไม่รู้เรื่อง ก็เขาไม่รู้จริงๆนี่นา เรื่องเขมพอรู้ว่าพี่ชีวาไม่วางใจ เพราะเขมก็ไปเรียนพิเศษที่เดียวกันเลย แต่ไอ้ที่บอกว่าไม่ใช่แค่เขมมันคืออะไรเขายังงงๆ

“นายพี่เมฆนั่น มันสำคัญมากกว่าพี่สินะ” ป๋าตัวโตตัดพ้อต่อว่าน้อยเนื้อต่ำใจ ปอมปอมกะพริบตาปริบๆ เอ่อ... เกี่ยวอะไรกับพี่เมฆกันล่ะนี่

“โธ่ ป๋า ใครจะมาสำคัญเท่าป๋าไม่มีอีกแล้วล่ะน่า ยกเว้น...” แขนเรียวกอดเกี่ยวเอวพี่แล้วทำเสียงออด ก่อนจะปิดท้ายประโยคด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ ป๋าขี้งอนหันขวับมามองตาเขียว

“ยกเว้นใคร ไม่ได้อยู่คุมไม่เท่าไหร่แอบปันใจให้คนอื่นแล้วใช่ไหม?”

“จุ๊ๆๆ อย่างี่เง่านะครับป๋าวา ฟังปอมก่อนน้า ใจร้อนแล้วมาต่อว่าปอมแบบนี้ เดี๋ยวปอมไม่รักนะครับ”

กะปอมน้อยพูดราวหลอกล่อเด็ก ชีวาปรายตามามองเด็กน้อยหน้าเป็นแล้วถอนใจ น้องทำเหมือนเขาเป็นลูกไล่ ต้องตามใจน้องทุกสิ่งอย่าง แต่นั่นมันก็คือความจริงที่เขาไม่คิดจะปฏิเสธ เพราะเขายอมที่จะเป็นลูกไล่คอยตามใจน้องทุกอย่างจริงๆ

“ที่ปอมบอกว่ายกเว้นน่ะ ยกเว้นพ่อกับแม่ปอมนะ อ๊ะ! ยกเว้นดิวด้วย หรือป๋าไม่คิดว่าครอบครัวสำคัญ?” หนุ่มน้อยเอียงคอถาม แขนยังกอดเอวพี่เอาไว้อยู่ รอยยิ้มซุกซนมันทำให้ชีวานึกใจอ่อน น่ารักซะไม่มีล่ะเด็กคนนี้ มันน่าฟัดเสียให้เข็ด

“ถ้าเป็นพ่อกับแม่แล้วก็อาร์ดิวก็แล้วไป อย่าให้พี่รู้นะว่าปอมปอมแอบปันใจให้ใครอื่น โดยเฉพาะเด็กเขมกับนายเมฆนั่น”

“พี่เมฆเป็นพี่ชายปอมนะ ป๋านี่คิดอะไรไปเรื่อย” น้องต่อว่าคืนบ้าง พี่ก็คือพี่สิ ใครจะไปคิดอะไรเกินเลยกับพี่ตัวเอง ป๋าอ่ะบ้า เนอะ

“แล้วเด็กเขมนั่น...”

“เพื่อน จบป่ะ?” น้องทำเสียงสูง จิ้มจมูกโด่งๆของคนเป็นพี่แล้วจะลุกหนี พูดไปพูดมามันก็วนอยู่ที่เดิม ขี้เกียจง้อละ

“จะหนีไปไหน?” ชีวาคว้าตัวผอมๆนั้นกลับมานั่งบนตัก กดจมูกกับซอกคอน้องให้จั๊กจี้เล่นแล้วนั่งนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนอ้อนออดให้น้องสนใจตน

“หวงมากนะปอมปอม ไม่อยากให้อยู่ใกล้ใครเลยจริงๆ”

“บ้าเหรอป๋า ปอมยังต้องเจอคนอีกเยอะเลยนะในชีวิตนี้อ่ะ ป๋าจะตามหวงปอมไปตลอดไม่ได้หรอก ปอมยังไม่หวงป๋าเลย”

“จริงอ่ะ?” คนเป็นพี่เลิกคิ้ว อมยิ้มน้อยๆอย่างไม่ค่อยอยากจะเชื่อ

“จริง ปอมรู้ลิมิตตัวเอง” น้องพยักหน้าจริงจัง

“โห มีลิมงลิมิตด้วย”

“แน่ล่ะ” หนุ่มน้อยทำลอยหน้าทะเล้น

“สมมตินะ ถ้าพี่ใกล้ชิดกับสาวที่ไหนเป็นพิเศษ กะปอมน้อยตัวนี้จะหวงพี่ป่ะ?”

“ป๋าควรรู้ว่าตัวเองทำอะไรอยู่” สีหน้าทะเล้นเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นดุในฉับพลันจนชีวายิ้มขำทั้งยังเอ่ยแซวน้อง

“ดุด้วยเว้ย”

“มันจริงไหมล่ะ ถ้าคนหนึ่งเชื่อใจ แต่อีกคนอยากทำอะไรก็ทำ เราคงไปกันไม่รอด”

“กี่ขวบแล้วเราน่ะ?” คำพูดที่ดูเป็นผู้ใหญ่เกินตัวทำให้คนเป็นพี่เอ่ยถามยิ้มๆ

“มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับอายุหรอก ขึ้นอยู่กับว่าใครมีสมองจะคิดมากกว่า”

“แรง”

ชีวาตบท้ายกับคำพูดน้อง แรงจริงยิ่งกว่าโดนด่าตรงๆเสียอีก ปอมปอมเอี้ยวหน้ามามองพี่ นิ้วเรียวจิ้มปลายคางแล้วลากจากฝั่งหนึ่งมาอีกฝั่งช้าๆ หรี่ตานิดๆพร้อมกับพูด

“อย่าคิดนอกใจปอมเชียว ปอมจะเอาคืนให้หนักเลย!”

“ไม่กล้าหรอกครับ รักปอมปอมที่สุดแล้ว” เด็กหนุ่มเอ่ยเอาใจ หอมแก้มนิ่มไปฟอดใหญ่

“ดีครับ” สองมือกุมแก้มพี่แล้วยิ้มหวาน ชีวาอมยิ้มกับท่าทางราวเสือน้อยที่กำลังขู่เหยื่อ ท่าทางเหยื่อที่เสือน้อยขู่จะโตกว่าเสืออีกนะ หึหึ

เด็กหนุ่มจูบแก้มน้องซ้ำอีกหนทั้งที่อยากจะทำมากกว่านั้น โอกาสก็เอื้ออำนวยเหลือเกิน ที่จริงแล้วเขาไม่ได้กลัวคำขู่หรอก แต่อย่างที่น้องบอก หากคนหนึ่งเชื่อใจ แต่อีกคนกลับนึกอยากทำอะไรก็ทำมันคงไปกันไม่รอด สมองมีไว้คิดและทบทวน หัวใจมีไว้รักและซื่อสัตย์ต่อคนที่รักทั้งต่อหน้าและลับหลัง



ช่วงหัวค่ำ ห้องนอนของอาร์ดิวเป็นแหล่งรวมพลของสามหนุ่ม ปอมปอมนอนคว่ำตีขาอยู่บนเตียงคอยฟังที่พี่ใหญ่อย่างเมฆเล่าความเป็นมาของอัญมณีแต่ละชนิดที่ทั้งสามคนสวมใส่ติดคอ ปอมปอมเลยถามถึงจี้ที่ส่องแสงแวววาวที่เมฆใส่บ้าง

“อันนี้เขาเรียกแก้วมุกดา เห็นนี่ไหม มันแวววาวเหมือนแก้วเลย” ถอดสร้อยแล้วยื่นให้น้องดู ปอมปอมโผล่หน้ามาดูสร้อยของพี่เมฆในมืออาร์ดิว

“เป็นหินที่ได้มาจากแม่น้ำโขง ซึ่งถือว่าเป็นแม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ เพราะตามความเชื่อแล้วเขาว่ากันว่าเป็นที่ที่มีพญานาคาปกปักรักษา และหินชนิดนี้มันหายากมาก แถมการเจียระไนก็ต้องละเอียดมากๆทำให้ราคามันแพงลิบ”

พี่ใหญ่ของบ้านอธิบาย น้องทั้งสองคนก็พยักหน้าหงึกหงักตาม ปอมปอมหยิบสร้อยจากมือพี่ชายมาดู ท่าทางจะชอบมันมากทีเดียว เอาไปเทียบกับบุษราคัมของตัวเองใหญ่เลย

“ส่วนอันนี้ สีสันเหมือนไข่มุกเลยเห็นไหม?”

กล่องกำมะหยี่สีน้ำเงินเข้มถูกนำมาเปิดให้น้องดู ภายในบรรจุเครื่องประดับที่คล้ายจะทำจากไข่มุก เมฆเห็นว่าน้องทั้งสองคนสนใจก็รู้สึกปลื้มใจลึกๆก่อนอธิบายต่อ

“แต่มันไม่ใช่ไข่มุกนะ เป็นพลอยชนิดหนึ่งเรียกว่ามุกดาหาร”

“ได้มาจากจังหวัดมุกดาหารเหรอ?” ปอมปอมที่ก้มดูเครื่องประดับชิ้นดังกล่าวเงยขวับขึ้นมาถาม

“ไม่ใช่ มันเป็นชื่อที่เขาตั้งขึ้นมา ได้วัตถุดิบมาจากหินแม่น้ำโขงเหมือนกัน”

“แล้วมันช่วยอะไรเราได้บ้างอ่ะ?”

“ตามความเชื่อเขาบอกกันว่ามันเป็นอัญมณีสารพัดนึก และป้องกันภยันตราย ทำให้ใจเราสงบร่มเย็นตามท้องน้ำของแม่น้ำโขงที่ไหลผ่านทั่วทุกหัวระแหง”

“โห สรรพคุณเยอะขนาดนี้’ไมไม่เก็บไว้ใช้เองอ่ะ” ปอมปอมน้อยทำตาโตแล้วจีบปากจีบคอพูดน่าหมั่นไส้ พี่เมฆเลยยีผมนิ่มด้วยความหมั่นเขี้ยว

“ของผมก็เคยมีเหมือนกัน แต่ให้น้องคนหนึ่งไปแล้ว” อาร์ดิวพูดกับพี่ชายคนโตแล้วยิ้ม เมฆเองก็ยิ้มตอบ รู้สึกว่าน้องคนนี้พูดน้อยเหลือเกิน ต่างจากปอมปอมที่ช่างพูดเจรจา

“พี่ๆมีแบบนี้กันหมดเลย งั้นอันนี้ปอมขอนะ” หนุ่มน้อยพูดเร็วแล้วแอบงุบงิบใส่กระเป๋าตัวเองหน้าตาเฉย

“เนียนๆ เนียนนะเราอ่ะ”

“เนียนแล้วพี่เมฆจะให้ป่ะล่า” เกาะแขนพี่เมฆแล้วเอาหัวกลมๆไปถูออดอ้อน

“ไม่ให้” พี่เมฆว่า แกล้งทำหน้าจริงจัง

“โห่ ไม่น่ารักเลยอ่ะ”

น้องเล็กทำเสียงยานคาง จากที่เกาะแขนอ้อนพี่ชายคนโตก็ดันออกห่างโดยเร็วพลัน น่าหมั่นไส้จนเมฆเขกมะเหงกหน้าผากนูนเสียหนึ่งป๊อก ปอมปอมลูบหน้าผากตัวเอง ยู่หน้าใส่พี่เมฆ

“ไปนอนได้แล้วไป พรุ่งนี้ต้องไปเรียนพิเศษไม่ใช่เหรอ?”

“ขี้เกียจ”

พอพี่เมฆพูดถึงเรื่องเรียนปอมปอมน้อยก็หงายหลังผึ่งลงไปนอนกลิ้งบนที่นอนของอาร์ดิว ไม่อยากไปขึ้นมาเสียอย่างนั้น อาร์ดิวลูบผมน้องเบาๆ กะปอมน้อยจึงคว้ามือเรียวที่ให้ความรู้สึกอุ่นนั้นมาแนบแก้มตัวเองแล้วหัวเราะ

“อนาคตของชาติ” พี่เมฆว่าลอยๆ แต่กะให้กระทบคนที่ทำท่าว่าจะนอนสบายอยู่ในห้องนี้ ปอมปอมจึงลุกขึ้นมานั่งหน้ามุ่ย

“ไปเลย พี่เขาจะได้นอน ลุกขึ้นมาตัวแสบ”

มือใหญ่ดึงแขนน้องเล็กให้ลุกตามที่บอก คนเป็นน้องก็ทำตัวอ่อนปวกเปียกไม่ยอมไป เมฆจึงเปลี่ยนมาจับอุ้มพาดบ่าจนน้องดิ้นกระแด่วๆ

“ว๊ากกกก พี่เมฆเดี๋ยวปอมตก” มือเรียวขยุ้มกำเสือด้านหลังพี่เมฆเอาไว้แน่น หวาดเสียวสุดๆอ่ะ

พอสองคนนั้นออกไปแล้วอาร์ดิวรู้สึกว่าห้องเงียบขึ้นเยอะเลย เด็กหนุ่มลุกไปเข้าห้องน้ำ เตรียมตัวจะนอนแล้วเหมือนกัน เพราะต้องตื่นแต่เช้าไปที่ร้านกับคุณพ่อ ส่วนคุณแม่ก็จัดการส่งปอมปอมไปเรียนก่อนจะแวะเข้าร้าน เขา ชีวา การ์ฟ และพี่เมฆเป็นพนักงานชั่วคราว เข้าไปทำงานที่ร้านเพียงช่วงปิดภาคเรียนหาสตางค์ค่าขนมเท่านั้น วันอาทิตย์ก็ได้หยุดพักผ่อน เพราะพอเข้ามหาวิทยาลัยแล้วก็อยากทุ่มเทให้กับมันมากที่สุด พอเกรดออกมาแล้วจะได้ไม่นึกเสียใจในภายหลัง

ออกจากห้องน้ำมาอาร์ดิวก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดัง เด็กหนุ่มก้าวเข้ามานั่งที่เตียงแล้วคว้าโทรศัพท์มากดรับ

“ครับ การ์ฟ?”

“ตี๋ นายไล่ผีเป็นไหม?”

“หา?? ผมไม่ใช่หมอผีนะ” อาร์ดิวตอบกลับไปงงๆ อยู่ๆก็โทรมาถามว่าไล่ผีเป็นไหมนี่นะ

“ช่างเถอะ ขอโทษที่โทรมากวน”

“การ์ฟ…”

“หลับฝันดีนะตี๋”

อาร์ดิวได้แต่อ้าปากค้าง ยังไม่ทันจะได้พูดได้ถามอะไรปลายสายก็กดวางไปเสียแล้ว โทรศัพท์ค่อยถูกลดลงจากหู ขณะที่เจ้าของนั่งนิ่งค้าง อึ้งกับคำพูดประโยคสุดท้ายนั่น กัดปากตัวเองเมื่อรู้สึกเขินไม่ทราบสาเหตุ ก่อนหลับตาปี๋แล้วสะบัดหัวไปมาไล่ความคิดพิเรนทร์ที่มันเกิดขึ้นมาเพียงเพราะคำพูดประโยคเดียว

“อย่าเต้นแรงขนาดนี้สิหัวใจ”

เด็กหนุ่มพึมพำ มือเรียววางบนอกซ้ายของตนเองที่รู้สึกว่ามันเต้นแรงมากเกินจำเป็น



++++++++++++

ต่อด้านล่างค่ะ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆13☆ {23_04_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: wanmai ที่ 23-04-2013 18:13:49
เช้าวันต่อมา ร้าน Magica Café

“ตี๋”

การ์ฟเดินเข้ามาหาอาร์ดิวที่กำลังเช็คข้าวของและวัตถุดิบต่างๆอยู่หลังร้าน เพื่อที่จะดูว่าควรสั่งซื้ออะไรเพิ่มเติมอีกไหม สีหน้าของคนที่เข้ามาทักดูไม่ค่อยดีจนตี๋น้อยคิ้วขมวด

“เป็นอะไรครับ?” อาร์ดิววางสมุดจดลงบนลังของแล้วหันมาให้ความสนใจกับคนหน้าเครียด

“นายมองเห็นวิญญาณหรือเปล่า?”

“หา??”

อยู่ๆคำถามประหลาดก็โผล่มาให้ตี๋น้อยงง เมื่อคืนก็ทีนึงแล้วที่ถามเรื่องไล่ผี ตกลงมันเรื่องอะไรกันนี่ พอมองหน้าการ์ฟที่ดูจริงจังแบบนั้นแล้วก็รู้สึกว่ามันคงไม่ใช่เรื่องล้อเล่นกันขำๆ น่าจะมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นจนคนที่บอกปาวๆว่าไม่เชื่อเรื่องงมงายต้องมาถามเรื่องวิญญาณผีสางแบบนี้

“วิญญาณน่ะ มองเห็นไหม?”

“ทำไมวันนี้ถามอะไรแปลกๆ?” อาร์ดิวเอ่ยถามกลับด้วยความสงสัยเต็มกำลัง ท่าทางดูอึดอัดนั่นก็ดูน่าสงสัย

“สร้อยนายมันกันผีได้ไหม?” การ์ฟยังคงไม่ตอบคำถามของอีกฝ่าย ซ้ำยังถามต่อในคำถามคล้ายเดิมอีก

“เป็นอะไรการ์ฟ นี่ตกลงโดนผีหลอก?”

“ถอดมาดูหน่อย” เหมือนการ์ฟจะไม่ได้ฟังเขาพูดเลย ยังมาบอกให้ถอดสร้อยอีก

“อะไร?”

ถามไปก็เท่านั้นเมื่อการ์ฟก็ยังไม่ตอบอยู่ดี แต่ใช้สายตาเชิงเร่งให้ทำตามแทน อาร์ดิวถอนใจเฮือกแล้วจึงถอดสร้อยที่ตนเองสวมติดตัวออกมา เพียงสายสร้อยประดับจี้เทอร์ควอยส์พ้นจากศีรษะอาร์ดิวก็ผงะถอย

“เฮ้ย!!” ดวงตาเรียวรีเบิกโตขึ้นมาอีกระดับเพราะความตกใจ

“นาย... เห็นใช่ไหม?” การ์ฟเอ่ยถามคล้ายไม่แน่ใจ

“คะ... ใครน่ะ ญาติคุณเหรอ?” อาร์ดิวหันมาถามการ์ฟเสียงตื่น

“ญาติบ้านนายดิแบบนี้” การ์ฟว่า

“ไม่ต้องทำหน้าตกใจไป ฉันยังจะอยู่กับพวกเธออีกนานเลย”

ผู้ที่ทำให้ตี๋น้อยตกใจเมื่อครู่พูดขึ้นมา สีหน้าราวกำลังขบขันเด็กหนุ่ม อาร์ดิวที่ตั้งตัวไม่ติดในทีแรกตอนนี้เริ่มปรับตัวได้แล้ว มองหน้าผู้พูดสลับกับการ์ฟไปมา เมื่อครู่นี้จะไม่ให้เขาตกใจได้อย่างไร อยู่ๆก็โผล่มาตรงหน้าทั้งที่ไม่เห็นว่าจะอยู่ในบริเวณนี้มาตั้งแต่แรก เขาไม่ช็อคตายก็บุญเท่าไหร่แล้ว

“มันเรื่องอะไรกันน่ะการ์ฟ?” อาร์ดิวเอ่ยถาม มึนงงกับสถานการณ์ แน่ล่ะว่าผู้มาใหม่นั้นต้องไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคนแน่ เล่นลอยได้แถมร่างยังโปร่งแสงแบบนั้นน่ะ

“ไม่รู้... จำวันที่คุณแม่นายเลี้ยงฉลองหลังสอบเสร็จให้เราได้ไหม?” การ์ฟตอบคำถาม ก่อนจะถามกลับเพื่อให้อาร์ดิวคิดตาม

“อื้อๆ” ตี๋น้อยพยักหน้าหงึก ตั้งใจฟังที่การ์ฟจะพูดต่อเต็มที่

“พอฉันกลับบ้าน ไอ้ตัวนี้มันก็โผล่มาอ่ะ เซ็งฉิบ”

สีหน้าคนพูดบ่งบอกว่าเซ็งตามที่พูดเป็นอย่างมาก กอดอกสีหน้าหน่ายใจจนเห็นได้ชัด วิญญาณหนุ่มที่มาคอยวนเวียนตามติดการ์ฟเบ้ปากใส่ ทำอย่างกับเขาอยากอยู่ด้วยนักล่ะ เฮอะ!

“คุณต้องการอะไรครับ อยากได้ส่วนบุญ ส่วนกุศลเหรอ ผมจะทำบุญไปให้นะ”

อาร์ดิวเอ่ยถามวิญญาณดวงนั้น ซึ่งอีกฝ่ายก็หันมาสนใจเขาทันที รอยยิ้มขบขันปรากฏขึ้นมาบนริมฝีปากอีกครั้งแล้วจึงบอก

“ฉันไม่ได้ต้องการส่วนบุญส่วนกุศลหรอก ได้มาเยอะละ ที่ฉันต้องการคือ...”

“?” ทั้งสองหนุ่มต่างคอยฟังว่าสิ่งที่วิญญาณตนนี้ต้องการคืออะไร วิญญาณหนุ่มกลั้นยิ้มก่อนจะพูดต่อ

“ยังไม่บอก ปล่อยให้งง”

“อ้าว” ตี๋น้อยถึงกับเหวอ ส่วนวิญญาณหนุ่มหัวเราะน่าหมั่นไส้จนการ์ฟต้องสะกดใจให้อยู่นิ่งๆเข้าไว้

“ฉันจะวนเวียนอยู่แถวนี้ล่ะนะไอ้หนู ถ้าอยากเห็นก็ถอดสร้อยเส้นนั้นซะ จะไม่ไปไหนหรอกจนกว่าจะได้ของที่ต้องการ” ริมฝีปากติดจะยกยิ้มเล็กน้อยเมื่อเอ่ยจบ ก่อนจะหายวับไปต่อหน้าต่อตา

“เขาต้องการอะไร คุณพอจะรู้ไหม?” อาร์ดิวหันมาถามการ์ฟเมื่อตัวการไม่อยู่ให้ถามแล้ว แต่ถึงถามก็คงไม่ยอมบอกอยู่ดี

“จะรู้กับมันเหรอ เล่นลิ้นอยู่นั่นน่ะ”

การ์ฟว่า ออกจะหัวเสียกับความกวนประสาทนั่น ไม่ได้รู้สึกกลัวกับสิ่งลึกลับที่เรียกว่าวิญญาณที่ไร้กายเนื้อ แต่ออกจะรำคาญที่ตามมาก่อกวนมากกว่า เทสต์ก็มองไม่เห็น จะให้ช่วยก็ไม่ได้ พอฝ่ายนั้นบอกอยากขอความช่วยเหลือจากลูกชายเจ้าของร้านเมจิคกะการ์ฟก็คิดหนัก กลัวว่าเจ้าวิญญาณกวนประสาทนี่จะมาทำร้ายอาร์ดิว แต่อีกฝ่ายก็ยืนยันว่าจะไม่ทำ แค่การ์ฟพามาหาแล้วให้อาร์ดิวถอดสร้อยที่สวมอยู่ออกเท่านั้น เพราะมีสร้อยนั่นทำให้สื่อสารกับอาร์ดิวลำบาก พอการ์ฟไม่ยอมก็ไปลงที่เทสต์จนเจ็บตัวเข้าโรงหมอ มันน่าเรียกหมอผีมาสะกดวิญญาณแล้วโยนถ่วงน้ำจริงๆพับผ่า

สีหน้าอาร์ดิวฉายแววครุ่นคิด ไม่รู้ว่าทำไมอยู่ดีๆถึงมีวิญญาณมาตามการ์ฟ แล้วยังให้การ์ฟมาช่วยบอกให้เขาถอดสร้อยเพื่อที่จะได้เห็นวิญญาณดวงนั้นด้วย ตั้งแต่ได้สร้อยเทอร์ควอยส์จากคุณแม่มามีหลายอย่างแปลกไป เขาไม่สามารถนิมิตเห็นสิ่งต่างๆได้เพราะความพิเศษของสร้อยเส้นนี้ แต่เขากลับเห็นเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีตของน้องชายตัวเองเพราะอีกฝ่ายสวมบุษราคัมที่คุณยายให้มา แล้วไหนยังจะการเห็นวิญญาณที่ตลอดมาเขาไม่เคยเห็นอีก ที่จริงตั้งแต่ตอนที่เห็นวิญญาณการ์ฟออกจากร่างที่โรงพยาบาลนั่นแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างดูจะเปลี่ยนแปลงไป จากที่เขาเป็นเพียงเด็กผู้ชายที่ใช้ชีวิตแสนจะธรรมดา การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้จะนำพาอะไรมาให้เขาบ้างก็ไม่สามารถคาดเดาได้

การ์ฟเหลือบมามองหน้าคนข้างกาย ซึ่งคนถูกมองคงรู้ตัวจึงหันมาเงยมองตอบเขา ทั้งคู่มองกันอยู่เงียบๆอย่างนั้นราวกำลังอ่านใจอีกฝ่าย ก่อนที่การ์ฟจะพูดขึ้นมา

“ยังไงนายก็ระวังตัวนะ ดูหมอนั่นจะเจาะจงนายมากกว่าฉัน” เอ่ยบอกด้วยความเป็นห่วงที่ฉายชัดออกมาทางสีหน้าจนอาร์ดิวยิ้มออกมาน้อยๆ

ตี๋น้อยพยักหน้ารับคำเตือนนั้น เบือนสายตาไปที่อื่นเมื่อการ์ฟมองจ้อง บรรยากาศเขินแปลกๆจนรู้สึกว่าอยู่ตรงนี้นานไม่ได้จึงต้องเดินเลี่ยงออกไปก่อน แต่แล้วตี๋น้อยก็ชะงักอยู่ตรงหน้าประตู หันกลับมาในห้องเก็บวัตถุดิบการ์ฟก็เลิกคิ้วถาม อาร์ดิวเดินเร็วๆเข้ามาหยิบสมุดจดของตนเองที่วางอยู่บนลังแล้วเดินลิ่วออกไปไม่สบตาการ์ฟ การ์ฟมองตาม รอยยิ้มเล็กๆติดริมฝีปาก



วิญญาณหนุ่มที่ยังคอยเฝ้ามองทั้งสองอยู่ไม่ไกล มองบรรยากาศรอบกายของทั้งคู่แล้วยกยิ้มแสยะ

“เป็นห่วงเป็นใยกันดีนะ ถ้าวันหนึ่งต้องจากกันไปมันคงเป็นเรื่องน่าเศร้า...” สีหน้าที่ดูเจ้าเล่ห์เมื่อครู่หมองลงไปกับสิ่งที่ตนเองพูด

“ขอโทษด้วยนะ แต่ฉันจำเป็น”

ทิ้งท้ายเพียงเท่านั้นแล้วมวลสารที่ก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างก็ค่อยจางแล้วเลือนหายวับไป หลงเหลือไว้เพียงความว่างเปล่าและบรรยากาศวังเวงชั่ววูบหนึ่ง



อีกด้านหนึ่ง เมฆที่บังเอิญเข้ามาเห็นวิญญาณตนนั้นก็หรี่ตา กอดอกครุ่นคิด สีหน้าเครียดขึ้นมาเมื่อรู้สึกได้ถึงความไม่ชอบมาพากล

“ทำไมถึงมีวิญญาณอยู่ในร้านคุณอา?”

หนุ่มผู้มีฌานวิเศษคิ้วขมวดปม ยิ่งเห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น ประสาทสัมผัสและการรับรู้เรื่องลึกลับเหล่านี้ยิ่งมีมากกว่าคนอื่น ความรู้สึกถึงภัยที่กำลังย่างกรายเข้ามาทำให้เขาไม่สบายใจสักนิด แต่นั่นคือปัญหาที่เขาต้องจัดการ อันดับแรกคงต้องตามตัวเจ้าวิญญาณนั่นให้เจอก่อน ในเมื่อเข้ามาในร้านนี้ได้ทั้งๆที่มีคนมีพรพิเศษอยู่ตั้งสามคนแสดงว่าคงแกร่งไม่น้อยทีเดียว ที่จริงเขาก็ไม่ได้ถึงขนาดเป็นหมอผีมีอาคม แต่เรื่องปัดเป่าเพศภัยก็พอทำได้อยู่ ถึงคราวที่เมฆเป็นฝ่ายยิ้มมุมปากบ้าง

คิดจะเข้ามาวุ่นวายกับคนในครอบครัวเขา ถามเขาก่อนรึยังเจ้าผีไร้ญาติ!




TBC



กลับมาพร้อมกับแฟนตาซีเต็มพิกัด เริ่มมีวิญญาณมาเกี่ยวข้องแล้วสิ :3

ขอบคุณทุกคนนะคะที่ยังไม่ลืมตี๋น้อยกับน้องกะปอมจอมป่วน บวกและบวกค่ะ

แล้วก็ขอบคุณทุกคนด้วยค่ะที่ช่วยดันทู้ให้สองพี่น้อง มารอกันหลายคนเลย แต่คนเขียนก็ปั่นช้ามากถึงมากที่สุดกว่าจะออกมาได้แต่ละตอน แหะๆ

อยากบวกให้ครบทุกรีเลย แต่กดซ้ำไม่ได้ :mew2:

วันใหม่ค่ะ
 :L2:

หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆13☆ {23_04_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: PapermintReal ที่ 23-04-2013 19:09:39
หรือพี่เมฆได้กับวิญญาณ  :hao6:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆13☆ {23_04_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 23-04-2013 19:43:49
หรือพี่เมฆได้กับวิญญาณ  :hao6:

 :m20: :m20:
ฮามากกก แต่คิดตรงกันเลยค่ะ  มันแบบอยู่ๆก็แวบขึ้นมา ว่าพี่เมฆคู่กับผีหนุ่มหรือป่าว กั๊กๆ
ว่าแต่  พี่เมฆนี่เป็นคนดีใช่ไหมค่ะคุณวันใหม่ ไม่ได้เป็นคนทำให้อาร์ดิวกับกราฟร้าวฉานใช่ม่ะ
ดูท่าแล้วก็น่าจะเป็นแค่พี่ชายนะ อืมม...
ฮุฮิ ในที่สุดก็มาซักที ดีใจมากๆเลยค่ะ
รออ่านตอนต่อไปน้าาา +1 ให้คุณวันใหม่จ้าาาาา


หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆13☆ {23_04_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 23-04-2013 21:15:51
มีอีกคู่แล้วพี่เมฆกับวิญญาน(รึเปล่าเดาเอา)
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆13☆ {23_04_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 23-04-2013 22:09:53
เจ้าผี อย่ามาคิดแยกอาร์ดิวกับการ์ฟนะ
พี่เมฆจับถ่วงน้ำเลย :m16:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆13☆ {23_04_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 23-04-2013 22:19:43
จัดการเลยพี่เมฆ จับทำเมียซ้าาา  :m31: เอ้ยย
จับถ่วงน้ำไปเลย  o22
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆13☆ {23_04_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Gemm ที่ 23-04-2013 23:41:48
มาเต็ม :katai2-1:
พี่เมฆเตะตูดไอ้ผีออกนอกร้านไเลย :ped144:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆13☆ {23_04_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: udongjay ที่ 23-04-2013 23:51:25
อ๊ากกกกกกกกกกก ตรงๆเลยนะพี่ใหม่ อ่านตอนกลางคืนแล้วแอบหลอนง่ะ ฮืออออออ
จะเกิดอะไรขึ้นกับอาร์ดิวง่ะ ไม่น๊าาาาาาาา พี่เมฆช่วยที
บรรยากาศระหว่างการ์ฟกับอาร์ดิวเริ่มเปลี่ยน คิคิ ใจเริ่มเต้นแรงใช่ไหมจ๊ะหนุ่มดิว แอร๊ยยยย
เขินจุง ><

ส่วนปอมปอมน้อยยังคงความน่ารักไว้เหมือนเดิม >< ชอบง่ะ งื้ออออออออออออ
บวกคร้าบบบบบ

ปล.พี่เมฆจิได้กับวิญญาณหรือเปล่า?? (จิ้นไปทั่ว แฮร่~~~)
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆13☆ {23_04_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 24-04-2013 06:47:12
ท่าทางวิญญาณจะยังมีห่วง แต่อย่ามามีกะดิวได้ป่ะล่ะ :angry2:
น้องไปทำอะไรให้หรือไง เดี๋ยวให้พี่เมฆจับถ่วงน้ำเลย ชิ :m16:
ทำปากดี ดต่จริงๆกลัวผีมากเลย ถ้าเจอแบบดิว ได้ช็อกเป็นลมก่อนแน่ :katai1:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆13☆ {23_04_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: raviiib❁ ที่ 24-04-2013 07:15:59
พี่เมฆฆฆฆ บันซายยยยย5555555555555
มาต่อไวๆน้า ตอนต่อไปท่าทางจะลุ้นฮิๆ :hao6:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆13☆ {23_04_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 24-04-2013 11:07:04
 :mew1:

จะเกิดอะไรขึ้นนะ

เป้นห่วงทั้งสองคนยังงัยก้ไม่รุ้  คงไม่มีอะไรร้ายแรงใช่มั๊ย
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆13☆ {23_04_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: greensnake ที่ 24-04-2013 11:23:47
ยินดีต้อนรับกลับจ้ะ :hao3: ล้อเล่นน่ะ
ดีใจจังที่เห็นกะปอมน้อยมา ไม่ได้เจอกันนานคิดถึงจัง
มาพร้อมกับอารมณ์ที่หลากหลาย และเรื่องราวที่เข้มข้นขึ้น
มีตัวละครเพิ่มมาด้วยหนึ่งหนุ่ม ไม่ธรรมดาอีกต่างหาก
แล้วไหนจะวิญญาณหนุ่มอีกหนึ่ง คงจะวุ่นวายน่าดู
เพราะไม่รู้ว่าจุดประสงค์ของวิญญาณนั้นคืออะไรกันแน่
แต่ไม่รู้ว่าทำไมเราถึงมั่นใจว่าพี่เมฆเอาอยู่แน่นอน :z2:
ตอนนี้มาแบบยาวๆแล้วก็ยังสนุกเหมือนเดิมเลยค่ะ
ขอบคุณวันใหม่มากค่ะ :กอด1:
+1และเป็ดแทนคำขอบคุณ
ป.ล.ไม่รู้ว่ารู้สึกไปเองหรือเปล่า แต่เราว่าวันใหม่เขียนได้สนุกมากขึ้นนะ
จากเดิมก็สนุกอยู่แล้ว มันเหมือนกับแค่เพิ่มเติมคำพูดบางคำเข้าไป
แต่กลับทำให้บรรยากาศแปลกไปและสนุกมากขึ้น o13
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆13☆ {23_04_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 24-04-2013 11:43:44
ดิวกับการ์ฟยังไม่รักกันเลย จะมีผีมาจับแยกแล้วเหรอ
แต่ท่าทางพี่เมฆจะจัดการได้ หุๆ น่าหนุก
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆13☆ {23_04_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: TinyB ที่ 24-04-2013 20:42:42
อัยยะ พี่เมฆ ปกป้องอาร์ดิวกับการ์ฟให้ได้น๊าาาาา  :ling1:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆13☆ {23_04_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: nong PeePee ที่ 24-04-2013 21:04:04
จะเป็นยังไงต่อไปน้า
พี่วันใหม่มาต่อไวๆน้าเรื่องนี้ อิอิ  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆13☆ {23_04_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 25-04-2013 10:38:05
อุ้ยมีวิญญาณมาเอี่ยวด้วย :z2:
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆13☆ {23_04_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 25-04-2013 12:26:57
เริ่มมีวิญญาณมาแล้ว จะน่ากลัวหรือเปล่าเนี่ย
หัวข้อ: Re: ☆Magica Café☆ magic ☆13☆ {23_04_2556} อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 27-04-2013 13:12:50
ดัน
หัวข้อ: Magica Cafe' แจ้งสถานการณ์ขณะนี้ค่ะ *28.04.2556*
เริ่มหัวข้อโดย: wanmai ที่ 28-04-2013 09:43:02
**แจ้งการอัพเดทเรื่องสองพี่น้องปอปลาค่ะ**

เนื่องจากตอนนี้ใหม่อยู่ที่โรงพยาบาล มาเฝ้าไข้เจ้านาย (อีกแล้ว) ทำให้ไม่สามารถอัพเดทตอนต่อไปของเรื่องนี้และเรื่องอื่นๆได้

ใหม่จึงขอเลื่อนออกไปจนกว่าจะได้กลับบ้านนะคะ น่าจะไม่เกินหนึ่งสัปดาห์ หมอเขาว่าอย่างนั้น เพราะต้องรอดูอาการ กลัวติดเชื้อหลังผ่าตัด

ขอโทษทุกคนที่รอน้องปอมกับตี๋ดิวด้วยค่ะ

วันใหม่
หัวข้อ: Re: Magica Cafe' แจ้งสถานการณ์ขณะนี้ค่ะ *28.04.2556*
เริ่มหัวข้อโดย: PapermintReal ที่ 28-04-2013 09:48:02
 :katai4:     กรี๊ดดดดดดดดดดดด.  เดี๊ยน....รอได้ :hao7:
หัวข้อ: Re: Magica Cafe' แจ้งสถานการณ์ขณะนี้ค่ะ *28.04.2556*
เริ่มหัวข้อโดย: rainiefonnie ที่ 28-04-2013 10:07:40
เค้ารอได้ค่าาาา :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: Magica Cafe' แจ้งสถานการณ์ขณะนี้ค่ะ *28.04.2556*
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 28-04-2013 10:10:45
 :mew2:
หัวข้อ: Re: Magica Cafe' แจ้งสถานการณ์ขณะนี้ค่ะ *28.04.2556*
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 28-04-2013 12:14:01
รอได้ๆ
หัวข้อ: Re: Magica Cafe' แจ้งสถานการณ์ขณะนี้ค่ะ *28.04.2556*
เริ่มหัวข้อโดย: threetanz ที่ 28-04-2013 12:28:29
:) รอค่ะะะ
หัวข้อ: Re: Magica Cafe' แจ้งสถานการณ์ขณะนี้ค่ะ *28.04.2556*
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 28-04-2013 13:47:29
 :mew2:

รอได้ค่ะ
หัวข้อ: Re: Magica Cafe' แจ้งสถานการณ์ขณะนี้ค่ะ *28.04.2556*
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 28-04-2013 15:36:23
จะรอค๊าาาา สู้ๆนะค่ะ
หัวข้อ: Re: Magica Cafe' แจ้งสถานการณ์ขณะนี้ค่ะ *28.04.2556*
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 28-04-2013 16:27:10
เรื่องนี้มีวิญญาณที่ประสงค์บางอย่างเข้ามาด้วยแฮะ
จะรอติดตามจ้า
หัวข้อ: Re: Magica Cafe' แจ้งสถานการณ์ขณะนี้ค่ะ *28.04.2556*
เริ่มหัวข้อโดย: YOSHIKUNI RUN ที่ 29-04-2013 00:39:13
รอได้ค่ะ ไม่ว่าเมื่อไหร่เราก็จารอออ~~ :mew6:



หัวข้อ: Re: Magica Cafe' แจ้งสถานการณ์ขณะนี้ค่ะ *28.04.2556*
เริ่มหัวข้อโดย: TinyB ที่ 29-04-2013 01:21:14
รอได้ฮ้าบบบบบ (น้ำตาไหลพรากกกกกๆๆๆ)  :hao5:
หัวข้อ: Re: Magica Cafe' แจ้งสถานการณ์ขณะนี้ค่ะ *28.04.2556*
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 29-04-2013 11:41:48
Ok
หัวข้อ: Re: Magica Cafe' แจ้งสถานการณ์ขณะนี้ค่ะ *28.04.2556*
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 29-04-2013 11:52:53
จะรอน้องใหม่ว่างจ้าาาาาาา
หัวข้อ: Re: Magica Cafe' ได้กลับบ้านเมื่อไหร่ค่อยมาพบกันใหม่นะคะ T^T *04.05.2556*
เริ่มหัวข้อโดย: wanmai ที่ 04-05-2013 13:35:09
++แวะมาทักทายทุกท่านก่อนกลับโรงพยาบาลค่ะ++

ได้กลับมาพักครึ่งวันตอนเช้า เดี๋ยวต้องกลับโรงพยาบาลแล้ว ตอนนี้ยังไม่มีวี่แววว่าเจ้านายจะได้ออกจากโรงพยาบาลเลยค่ะ T^T

ใหม่ยังต้องอยู่เฝ้าต่อไป กำหนดระยะเวลาไม่ได้เพราะเขาต้องไปทำความสะอาดแผลและดูดหนองทุกๆสามวัน

ถ้าได้กลับมาอยู่บ้านวันไหนใหม่จะมาอัพให้ได้อ่านกันนะคะ ไม่อยากกำหนดระยะเวลาแล้วทำไม่ได้อีก

วันใหม่ค่ะ
หัวข้อ: Re: Magica Cafe' ได้กลับบ้านเมื่อไหร่ค่อยมาพบกันใหม่นะคะ T^T *04.05.2556*
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 04-05-2013 15:16:07
ค่ะ รอได้ค่ะ
หัวข้อ: Re: Magica Cafe' ได้กลับบ้านเมื่อไหร่ค่อยมาพบกันใหม่นะคะ T^T *04.05.2556*
เริ่มหัวข้อโดย: YOSHIKUNI RUN ที่ 16-05-2013 01:42:51
    คิดถึง อาร์ดิว กับ ปอมปอม เนอะ
 :mew2: :mew2:


แต่ เรารอได้นะ เพราะรักจึงรอ....
 
หัวข้อ: Re: Magica Cafe' ได้กลับบ้านเมื่อไหร่ค่อยมาพบกันใหม่นะคะ T^T *04.05.2556*
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 18-05-2013 23:15:59
น้องใหม่

พี่ตามอ่านจนทันแล้ว ^^
สนุกจริงๆ สมกับชื่อเรื่องค่ะ           
อ่านแม้กระทั่งตอนกำลังชาร์ตแบตอยู่ 55

เป็นกำลังใจให้นะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Magica Cafe' รายงานสถานการณ์ขณะนี้ค่ะ *22.05.2556*
เริ่มหัวข้อโดย: wanmai ที่ 22-05-2013 13:07:30
รายงานสถานการณ์ขณะนี้

ก่อนอื่นใหม่ต้องขอขอบคุณทุกคนที่ยังรอกันอยู่นะคะ ขอบคุณมากๆ

ตอนนี้สถานการณ์ยังคงตึงเครียดอยู่สักเล็กน้อย เนื่องจากเจ้านายของใหม่เพิ่งเสียไปเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (๒๐.๕.๒๕๕๖) หลังจากใหม่อยู่โยงเฝ้าไข้มาตลอดจนวาระสุดท้ายของท่าน ระยะนี้ใหม่คงวุ่นกับหลายๆอย่างที่ยังไม่ลงตัวนัก ใหม่ยังต้องเทียวไปเทียวมาระหว่างบ้านกับโรงพยาบาลเพราะเจ้านายผู้หญิง (ภรรยาของเจ้านายที่เพิ่งเสีย) ก็เข้าโรงพยาบาลด้วยเช่นกัน

ดังนั้น ใหม่จึงขอแจ้งให้ทุกคนได้ทราบถึงความไม่สะดวกในการอัพเดทนิยายและอื่นๆ จนกว่าทุกอย่างจะเสร็จสิ้นและกลับคืนสู่สภาวะปรกติอีกครั้ง

หลังวันอาทิตย์นี้อะไรๆคงเข้าที่เข้าทางมากขึ้นเพราะสวดเป็นวันสุดท้าย

ขอบคุณทุกคนที่อยู่ด้วยกันมาตลอด

วันใหม่ค่ะ
หัวข้อ: Re: Magica Cafe' รายงานสถานการณ์ขณะนี้ค่ะ *22.05.2556*
เริ่มหัวข้อโดย: bb_b ที่ 22-05-2013 13:37:01
สู้ๆ ครับ
หัวข้อ: Re: Magica Cafe' รายงานสถานการณ์ขณะนี้ค่ะ *22.05.2556*
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 22-05-2013 13:38:18
เป็นกำลังใจให้ครับ สู้ๆ
ขอแสดงความเสียใจกับเจ้านายด้วยนะครับ
ไว้ว่างๆค่อยมาก็ได้ครับ
หัวข้อ: Re: Magica Cafe' รายงานสถานการณ์ขณะนี้ค่ะ *22.05.2556*
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 22-05-2013 14:03:01
 :mew4:

เสียใจด้วยนะคะ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ

ลงตัวเมื่อไหร่ ก็มาต่อนะคะ

รอได้อยุ่แล้ว

ชอบตัวละครเรื่องนี้มากเลย
หัวข้อ: Re: Magica Cafe' รายงานสถานการณ์ขณะนี้ค่ะ *22.05.2556*
เริ่มหัวข้อโดย: greensnake ที่ 22-05-2013 14:12:58
สู้ๆนะคะวันใหม่ ยังรออยู่เสมอ
แล้วก็อย่าลืมรักษาสุขภาพตัวเองด้วยนะจ๊ะ
ป.ล.ขอแสดงความเสียใจเรื่องเจ้านายด้วยค่ะ
หัวข้อ: Re: Magica Cafe' รายงานสถานการณ์ขณะนี้ค่ะ *22.05.2556*
เริ่มหัวข้อโดย: nong PeePee ที่ 22-05-2013 21:23:34
คึดฮอดน้องปอมหลายๆ :mew1:
หัวข้อ: Re: Magica Cafe' รายงานสถานการณ์ขณะนี้ค่ะ *22.05.2556*
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 22-05-2013 21:25:18
เป็นกำลังใจให้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางเร็วๆนะคะ
หัวข้อ: Re: Magica Cafe' รายงานสถานการณ์ขณะนี้ค่ะ *22.05.2556*
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 22-05-2013 21:28:22
รับทราบคะ คุณวันใหม่สู้ๆนะคะ
หัวข้อ: Re: Magica Cafe' รายงานสถานการณ์ขณะนี้ค่ะ *22.05.2556*
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 22-05-2013 21:47:25
เป็นกำลังใจให้เสมอค่ะน้องวันใหม่
หัวข้อ: Re: Magica Cafe' รายงานสถานการณ์ขณะนี้ค่ะ *22.05.2556*
เริ่มหัวข้อโดย: YOSHIKUNI RUN ที่ 23-05-2013 00:40:42
สู้ๆ นะคะ เป็นกำลังใจให้
พยายามอย่าเครียดน่ะค่ะ เดี๋ยวไม่สบายไปอีกคน
รักษาสุขภาพด้วยนะคะ
 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Magica Cafe' รายงานสถานการณ์ขณะนี้ค่ะ *22.05.2556*
เริ่มหัวข้อโดย: waterlily ที่ 24-05-2013 09:11:40
 :mew2:เรื่องนี้จะมีกี่คู่คะ ลุ้นมากเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: Magica Cafe' รายงานสถานการณ์ขณะนี้ค่ะ *22.05.2556*
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 24-05-2013 10:27:07
 :L2: น้องใหม่คงเหนื่อยมาก สู้ๆจ้ะ
หัวข้อ: Re: Magica Cafe' รายงานสถานการณ์ขณะนี้ค่ะ *22.05.2556*
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 24-05-2013 11:18:18
สู้สู้จ้าเป็นกำลังใจให้ :กอด1:
หัวข้อ: Re: Magica Cafe' รายงานสถานการณ์ขณะนี้ค่ะ *22.05.2556*
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 31-05-2013 22:51:43
สนุกมากๆค่ะ ลุ้นตลอดเลย ช่วงปอมปอมสารภาพรักหน่วงได้อีก รอตอนต่อไปค่ะ เป็นกำลังใจให้^^
หัวข้อ: Re: Magica Cafe' พบกันวันอาทิตย์ค่ะ *08.06.2556*
เริ่มหัวข้อโดย: wanmai ที่ 08-06-2013 07:58:21
มาบวกเอาไว้ก่อนค่ะ เดี๋ยววันอาทิตย์กลับบ้านแล้วค่อยมาพบกันนะคะ

วันใหม่ :L2:
หัวข้อ: Re: Magica Cafe' พบกันวันอาทิตย์ค่ะ *08.06.2556*
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 08-06-2013 10:21:47
เข้ามา+1 :mew1:
หัวข้อ: Re: Magica Cafe' พบกันวันอาทิตย์ค่ะ *08.06.2556*
เริ่มหัวข้อโดย: So_Da_Za ที่ 08-06-2013 11:36:18
มานั่งรอปอมปอมน้อย คิคิ
หัวข้อ: Re: Magica Cafe' ได้กลับบ้านเมื่อไหร่ค่อยมาพบกันใหม่นะคะ T^T *04.05.2556*
เริ่มหัวข้อโดย: PapermintReal ที่ 09-06-2013 18:54:16
    คิดถึง อาร์ดิว กับ ปอมปอม เนอะ
 :mew2: :mew2:


แต่ เรารอได้นะ เพราะรักจึงรอ....


เขินง่าาา :-[ ...เค้าพูดกับคนเขียนย่ะ!
หัวข้อ: Re: Magica Cafe' ได้กลับบ้านเมื่อไหร่ค่อยมาพบกันใหม่นะคะ T^T *04.05.2556*
เริ่มหัวข้อโดย: YOSHIKUNI RUN ที่ 10-06-2013 00:09:07

เขินง่าาา :-[ ...เค้าพูดกับคนเขียนย่ะ!

แซวเแบบนี้ ก็เขินนะ!!  :o8: :o8:


ปล.ยังไงก็ยังรอ อาร์ดิวกะปอมปอม เสมอ :L1:
หัวข้อ: Re: ☆☆MAGICA CAFÉ☆☆ magic <14> 10/06/2556 *คำเตือน : โหมดดาร์คค่ะ*
เริ่มหัวข้อโดย: wanmai ที่ 10-06-2013 10:40:15
Magica Café


Magic (14)




“เทสต์ เทสโต้ อยู่ไหนน่ะ?”

บิวเดินหาคนรักทั่วบ้าน เพราะเทสต์เจ็บจากอุบัติเหตุทำให้เขาต้องมาดูแลเทสต์ที่บ้าน มันสะดวกกว่าอยู่ที่ห้องของเขาเป็นไหนๆ

“ทางนี้”

เสียงเทสต์แว่วมาจากทางหนึ่ง บิวชะโงกไปมองหาแล้วจึงเดินไปตามทางที่อีกคนส่งเสียงมาจนมาถึงหน้าห้องพระ พอโผล่เข้าไปก็เห็นเทสต์กำลังจุดธูปไหว้พระอยู่

“นั่งลงสิ”

เทสต์ปักธูปลงในกระถางหน้าพระพุทธรูปบนโต๊ะหมู่บูชา บิวค่อยคลานเข่าเข้าไปแล้วนั่งลงกราบพระ ก่อนจะหันมาคุยกับเทสต์เสียงเบา

“นี่มึ... นายกลัวผีจนต้องหาพระมาใส่เลยเหรอ?”

“ไม่ได้จะใส่เอง” คนพูดยิ้มในสีหน้า ก่อนสวมสร้อยพระให้บิว

“ให้บิวใส่” เทสต์ว่าแล้วยิ้ม บิวแตะสร้อยพระที่ได้มาแล้วก้มมอง ก่อนเอ่ยถาม

“วิญญาณนั่นน่ากลัว?”

“ก็ไม่... สำหรับพวกเรานะ”

“หมายความว่าไง?” คิ้วบิวขมวดกับคำพูดของคนรัก

“เป้าหมายของเขาไม่ได้อยู่ที่เราไง”

“แล้วอยู่ที่ใคร?”

คำถามนั้นทำให้สีหน้าเทสต์ดูเครียดขึ้นมา เห็นอย่างนั้นแล้วบิวก็พลอยไม่สบายใจไปด้วย เทสต์ชอบย้ำว่าตนเองไม่ใช่หมอดู แต่แทบทุกครั้งที่เทสต์พูดมักจะเป็นไปอย่างที่พูดเสมอ พอเทสต์ทำหน้าเครียดแบบนั้นสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปคงไม่สู้ดีเท่าไหร่ เป้าหมายที่แท้จริงของวิญญาณที่มาทำร้ายเทสต์คือใครกัน?



หน้าบ้านหลังหนึ่งในยามค่ำคืน ชายหนุ่มแปลกหน้าเดินวนไปเวียนมาอยู่หน้าบ้าน บ้างก็ชะเง้อมองเข้าไปด้านในราวกำลังหาทางที่จะเข้าไปในนั้น ลมเย็นๆและน้ำค้างยามดึกไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มที่หน้าบ้านหลังดังกล่าวรู้สึกระคายผิว บรรยากาศวังเวงที่ลอยวนก็ยังไม่สามารถทำให้เขาหวาดกลัวแม้แต่น้อย มือขาวซีดเอื้อมไปที่ประตูหน้าบ้าน เพียงแค่สัมผัสก็คล้ายมีกระแสไฟวิ่งผ่านจนต้องถอยมือกลับทันที

เมฆยืนมองชายหนุ่มแปลกหน้าจากบนระเบียงห้องของตนเอง ยังไม่คิดที่จะลงมือทำอะไร เมื่อฝ่ายนั้นหาทางเข้ามาไม่ได้ก็ล่าถอยกลับไปเอง เมฆยกยิ้มมุมปากก่อนจะผละเข้าห้องนอนของตนเองไปเช่นกัน




เช้าวันต่อมา

สองพี่น้องปอปลาลงมาชั้นล่างตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อเตรียมตัวไปทำหน้าที่ของตนเองในวันนี้ อาร์ดิวไปช่วยงานที่ร้าน ขณะที่ปอมปอมน้อยไปเรียนพิเศษดังเช่นทุกที เมื่อออกมาหน้าบ้านอาร์ดิวก็เป็นคนเดินไปเปิดประตู ภาพบางอย่างพุ่งชนจนเขายืนมึนอยู่หน้าประตู เกิดอะไรขึ้นกับเขานี่?

“ดิว เป็นอะไร?”

มือของน้องชายแตะบนบ่าทำให้สติอาร์ดิวกลับมา เด็กหนุ่มสะบัดศีรษะไล่ความมึนงงก่อนจะบอกกับน้องว่าไม่เป็นอะไร



ร้าน Magica Café

“การ์ฟ~~”

“อะไร เกิดอะไรขึ้น??”

เจ้าของชื่อหันกลับมาถามเสียงตื่นเมื่อได้ยินอาตี๋น้อยเอ่ยเรียกเสียงดัง เคยที่ไหนที่ตี๋น้อยจะเรียกเขาแบบนี้ ยิ่งเห็นสีหน้าไม่สู้ดีของอีกฝ่ายยิ่งน่าห่วง การ์ฟวางมือจากงานที่ทำค้างอยู่แล้วเดินมาหาอาร์ดิว คว้ามือเรียวพาออกไปหาที่คุยกันเมื่อพี่ๆพนักงานหันมามองด้วยความสงสัย

อาร์ดิวเล่าเรื่องที่ตนเองเห็นเมื่อเช้าให้การ์ฟฟัง ตอนที่เปิดประตูเขาเห็นเรื่องที่เขาคิดว่ามันน่าจะเป็นเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ วิญญาณที่ตามการ์ฟอยู่เมื่อคืนนี้มาที่บ้านของเขา ด้วยจุดประสงค์ใดนั้นเขาก็ไม่ทราบ

“ท่าจะไม่ดีแล้ว” การ์ฟเอ่ยขึ้นเมื่อฟังจบ ลูบคางตนเองสีหน้าครุ่นคิดและเคร่งเครียด

“การ์ฟ ผมอยากรู้ความต้องการของเขา เราจะทำยังไงเราถึงจะรู้?” อาร์ดิวถามความเห็น ถ้าวิญญาณดวงนั้นยังมาวนเวียนเขาก็อยากรู้ว่าเพราะเหตุผลใด

“เอาหมอผีมาจับมันถ่วงน้ำยังง่ายกว่า”

“หมอผี?”

“ปราบผีมันก็ต้องใช้หมอผีไม่ใช่หรือไง?” ดวงตาคมหรี่มองตี๋น้อยที่ทำหน้าประหลาดใจ ประหลาดใจทำไมกัน

“คุณรู้ดีกว่าผมอีก” เอ่ยบอกเสียงอุบอิบ

“พูดเพื่อ?”

“ก็เปล่า เห็นว่าไม่เชื่อเรื่องพวกนี้”

การ์ฟทำเสียงเหอะในลำคอ ก่อนเลี่ยงประเด็นนั้นไป “ถ้าบอกพ่อแม่นาย นายว่าพวกท่านจะเชื่อไหม?”

“เชื่อ”

“เฮ้ย จริงดิ?” น้ำเสียงแปลกใจเอ่ยถามกลับเมื่ออาร์ดิวตอบว่าเชื่อโดยไม่ต้องหยุดคิด

“อืม ทำไมถึงคิดว่าท่านจะไม่เชื่อ?” ตี๋น้อยยังถามต่อราวไม่เห็นเป็นสำคัญ

“มันเป็นเรื่องเหลือเชื่อไม่ใช่หรือไง หรือฉันเข้าใจผิด?”

อาร์ดิวกลอกตาไปมา เออ เขาก็เพิ่งนึกได้ สำหรับคนอื่นมันก็ต้องเห็นเป็นเรื่องประหลาดทั้งนั้นล่ะ ดันเอาตัวเองเป็นมาตรฐานเสียอย่างนั้น

“ผมไปทำงานดีกว่า”

“อ้าว?”

หนุ่มตี๋เอ่ยเลี่ยงไปง่ายๆจนการ์ฟแทบจะยกมือขึ้นเกาหัว เด็กหนุ่มส่ายหน้าเบาๆแล้วเดินตามอาร์ดิวไป ก้าวผ่านใครอีกคนโดยไม่ทันสังเกต ร่างโปร่งแสงค่อยปรากฏกายขึ้น กระตุกยิ้มน้อยๆแล้วจะลอยละล่องตามทั้งสองคน ก่อนจะได้ทำตามที่คิดก็มีมือปริศนามากระชากร่างของเขาอย่างแรง รู้สึกตัวอีกทีก็ลงมานั่งคลุกฝุ่นอยู่หน้าร้านMagica Café เสียแล้ว

เมฆยืนกอดอกมองวิญญาณหนุ่มที่ตนเองลากออกมาโยนไว้ข้างนอกด้วยแววตาดุดัน ร่างที่เขาจับจ้องค่อยขยับลุกขึ้นมาจ้องเขากลับไม่ลดละ ไม่ได้มีความสะทกสะท้านเลยหรืออย่างไร ช่างเป็นวิญญาณที่ดื้อด้านสิ้นดี

“คิดจะทำอะไร?” ชายหนุ่มเปิดปากถามขึ้นมาก่อน

“อย่ามายุ่งกับเรื่องนี้”

“หึ!” เมฆทำเสียงเยาะ สะบัดมือเพียงครั้งเดียววิญญาณหนุ่มก็ถลาเข้ามาอยู่ในอุ้งมือของเขาแล้ว เมฆบีบแขนซีดขาวนั้นแน่นทั้งข่มขู่

“เหมือนนายจะไม่รู้ว่ากำลังคุยกับใครอยู่”

“ก็แค่หมอผีกิ๊กก๊อก” วิญญาณหนุ่มเบ้ปาก ช่างก่อกวนอารมณ์คนมองสิ้นดี!

ก่อนที่เมฆจะได้ทำอะไรต่อจากนั้น น้องชายคนเล็กอย่างปอมปอมก็ลงรถมา หนุ่มน้อยที่เพิ่งกลับจากเรียนพิเศษเห็นท่าทางพี่แปลกๆเลยยืนมอง เมฆแค่ยิ้มให้น้องแต่น้องก็ยังยืนมองไม่ยอมไปไหน

“อะไรครับ?” คนเป็นพี่เอ่ยถาม ลดมือลงจับข้อมือของวิญญาณหนุ่มเอาไว้แทน กลัวน้องสงสัย

“พี่เมฆทำอะไรอ่ะครับ?”

“เปล่านี่” เมฆเอ่ยปฏิเสธทั้งยิ้มซื่อ

“แล้วนั่นใครล่ะครับ?”

“ไหน?”

“ที่พี่เมฆจับไว้อ่ะ”

เมื่อน้องถามมาแบบนั้นเมฆก็ออกจะอึ้ง “เห็นเหรอ?”

“ไม่เห็น” ส่ายหน้าตอบพี่แล้วยิ้มยิงฟัน

“อ้าว แล้วรู้ได้ไงว่าจับใครไว้?”

“มั่วเอา” ช่างเป็นคำตอบที่...

“เรานี่นะ เข้าร้านไปเลยไป”

เมฆเข่นเขี้ยวน้องน้อย กวนเขาแล้วไหมล่ะ ไอ้เรารึก็คิดว่าจะมองเห็นอะไรที่คนอื่นไม่เห็นเหมือนเราเสียอีก ปอมปอมหัวเราะแล้ววิ่งลั้นลาเข้าร้านไปตามที่พี่บอก ไม่ค่อยอยากจะอยู่ตรงนั้นนานหรอก ถึงจะเป็นตอนกลางวันแสกๆ เขาก็กลัว อ๊ากกกก

ปอมปอมเข้ามาในร้าน ทักทายพี่ชายที่หน้าเคาน์เตอร์แล้วจึงเลยเข้าไปด้านใน แวะเข้าห้องครัวหาคุณพ่อก่อนจะไปหาคุณแม่ที่ตนเองคิดว่าน่าจะอยู่ในห้องทำงาน คุณพ่อที่เพิ่งทำอาหารรายการสุดท้ายเสร็จหันมาเห็นลูกชายคนเล็กโผล่มายืนหน้าแฉล้มก็ยิ้มทัก

“กลับมาแล้วเหรอ?”

ปอมปอมไหว้คุณพ่อแล้วหันไปยิ้มให้ชีวาที่เข้ามายกอาหารไปเสิร์ฟ

“อื้อ วันนี้มีเทสต์ย่อย ทำเสร็จแล้วครูเลยปล่อยเร็ว หิวจังครับปะป๊า” บอกปะป๊าไปด้วยขณะที่เดินเอากระเป๋าไปวางที่โต๊ะอาหารที่มีไว้สำหรับพี่ๆพนักงานในครัว เตรียมท่ารอทานข้าวฝีมือปะป๊าของตนเอง

“มาถึงก็หิวเลยนะเรา ป๊าล่ะสงสัยว่าเอาไปเก็บไว้ไหนหมด”

“เด็กนักเรียนใช้สมองเยอะครับป๊า มันหมดไปกับการใช้หมองของปอมแล้ว” หนุ่มน้อยเอ่ยบอกสีหน้าดูภาคภูมิใจ คุณพ่อหัวเราะ ก่อนหาวัตถุดิบมาทำอาหารง่ายๆให้ลูกชายทานรองท้อง

“ปะป๊าครับ”

“หืม?” คุณพ่อขานรับขณะที่กำลังง่วนอยู่หน้าเตา

“พี่เมฆนี่เขามีพลังพิเศษเหมือนดิวหรือเปล่า?”

คำถามนั้นทำให้คุณพ่อชะงักมือที่กำลังผัดข้าวให้ปอมปอม ก่อนเอ่ยตอบแล้วทำต่อไป

“น่าจะ ก็พี่เมฆเขาเป็นหลานหม่ามี้ของเรานี่”

“มีแต่เราสองคนสินะที่ไม่มีเหมือนเขาอ่ะ เฮ้อ” หนุ่มน้อยแสร้งถอนใจ มือเท้าคางหน้าม่อย

“อยากมีหรือไงเจ้าหนู?”

“แต่คิดไปคิดมาไม่มีดีกว่า ถ้าเกิดเห็นผีขึ้นมาปอมต้องหัวโกร๋นแน่ บรื๋อออ”

ปอมปอมทำท่าขนลุกขนพองจนคุณพ่อหัวเราะ หนุ่มน้อยเปลี่ยนที่ไปยืนให้กำลังใจคุณพ่อข้างเตา ลืมๆเรื่องที่เจอพี่เมฆหน้าร้านไปให้หมด หิวข้าวจะแย่แล้ว~~~

“ปอมปอม”

อาร์ดิวโผล่เข้ามาในครัว ได้ยินเสียงเจื้อยแจ้วของน้องชายจึงเข้ามาถามไถ่

“อะไร~” หนุ่มน้อยกำลังทานข้าวอยู่ที่โต๊ะ หันมามองพี่ชายแล้วตอบกลับเสียงทะเล้น

“เมื่อกี้ได้ยินว่าพี่เมฆทำอะไรเหรอ?”

ปอมปอมกะพริบตาปริบๆ ค่อยๆวางช้อนลงแล้วกวักมือเรียกพี่ชายให้เข้ามาหา ท่าทางมีลับลมคมในอะไรสักอย่าง พอพี่มาแล้วก็กระซิบกระซาบเสียงเบา

“ปอมว่าพี่เมฆต้องมองเห็นผีแน่ๆเลยอ่ะดิว” บอกพี่แล้วหนุ่มน้อยก็ทำท่าขนลุกประกอบการพูด

“ทำไมถึงคิดแบบนั้น?”

“ก็ตอนปอมมาถึงร้านอ่ะ เหมือนพี่เมฆกำลังคุยกับใครอยู่ไม่รู้”

“คุยโทรศัพท์หรือเปล่า?”

“ไม่ๆๆ พอปอมถามพี่เมฆก็บอกว่าเปล่า แต่ท่าทางพี่เมฆไม่ใช่อย่างที่พูดเลยอ่ะ ปอมเลยถามว่าที่พี่เมฆจับไว้นั่นใคร พี่เมฆเลยยอมเผยไต๋ออกมา พี่เมฆคุยกับผีจริงๆด้วยอ่ะ~~”

โป๊ก!

“เหลวไหล”

“โอ๊ย! ป๋ามาเขกหัวปอมทำไมอ่ะ!?”

ชีวาที่เข้ามาในครัวเห็นสองพี่น้องแอบซุบซิบอะไรกันไม่รู้ ท่าทางกะปอมน้อยของเขาจะกำลังโม้ใหญ่จึงเดินเข้ามาหา ทันได้ยินเรื่องผีๆสางๆที่กะปอมน้อยกำลังเล่า มะเหงกลูกเล็กเลยเขกลงบนหัวน้อง

“ผีมันไม่มีในโลก”

“ไม่เชื่อป๋าก็อย่าลบหลู่ ระวังจะโดนพี่เมฆเสกหนังควายเข้าท้อง ปิ้ว~” ทำท่าปล่อยพลังหนังควายใส่ป๋าวาอีก

พอเห็นน้องมีคู่ปรับแล้วอาร์ดิวเลยลุกออกไปข้างนอก ปล่อยให้สองคนนี้เถียงกันไปเถอะ แล้วอีกอย่างที่ปอมปอมเล่ามามันทำให้เขาสงสัย สงสัยว่าผีที่ปอมปอมว่าจะเป็นหนุ่มคนนั้นหรือเปล่า เพื่อคลายข้อสงสัยอาร์ดิวจึงเดินลัดออกมาที่ข้างร้าน เพื่อจะไปพิสูจน์ให้เห็นกับตา แต่เขามองไม่เห็นวิญญาณนี่นา

มือเรียวกุมสร้อยที่คอ ถ้าถอดสร้อยนี่ออกก็จะเห็น แต่... ถ้าถอดออกแล้วเกิดอันตรายขึ้นจะทำอย่างไร?

ขณะที่กำลังครุ่นคิดตัดสินใจ การ์ฟเดินผ่านมาเห็นตี๋น้อยท่าทางแปลกๆจึงเอ่ยเรียก แต่ดูเหมือนอาร์ดิวจะไม่ได้ยินเสียงเรียกของการ์ฟ เพราะเด็กหนุ่มยังเดินต่อไปไม่ได้หันมา การ์ฟที่กำลังจะเดินผ่านไปอยู่แล้วจึงลังเลว่าควรไปทางไหนดี ก่อนจะตัดสินใจเดินตามอาร์ดิวออกมานอกร้าน ลมแรงพัดมาวูบหนึ่งจนการ์ฟต้องยกแขนขึ้นป้องใบหน้า พอลดมือลงอาร์ดิวที่เขาเห็นว่าเดินอยู่ข้างหน้าก็หายไปเสียแล้ว การ์ฟมองหาซ้ายขวาก็ไม่เห็น เด็กหนุ่มก้าวให้เร็วขึ้นเพราะคิดว่าอาร์ดิวอาจเดินเลี้ยวหายไปที่ทางแยกแถวๆนั้น แต่ถนนเส้นเล็กที่ทอดมาจากตัวร้านก็ไร้ซึ่งวี่แววของสิ่งมีชีวิตใดๆ

“ตี๋ นายอยู่ไหนน่ะ?”

ไม่มีเสียงตอบรับกลับมาแม้แต่น้อย การ์ฟเริ่มใจคอไม่ดี เมื่อเวลานี้มีวิญญาณป่วนประสาทนั่นมาคอยวนเวียนอยู่ใกล้ๆ เขากลัวว่าอาร์ดิวจะเป็นอันตราย จะว่าไป... วันนี้เขายังไม่เห็นเจ้าหมอนั่นเลย

“ไม่จริงน่า...”

ทางด้านเมฆก็กำลังจัดการกับวิญญาณเจ้าปัญหา ก่อนจะถามไถ่ว่าเป็นใคร มาจากไหน ต้องการอะไร เขาควรสะกดวิญญาณของหมอนี่เสียก่อนท่าจะดีที่สุด เพราะหากปล่อยไปก็ไม่รู้ว่าจะได้ตัวมาอีกเมื่อไหร่ แต่ก่อนที่จะได้ทำดังใจคิดอาร์ดิวก็ก้าวเข้ามาหา หัวคิ้วเมฆขมวด หันมามองน้องชายที่มาหยุดยืนนิ่งๆอยู่ข้างตนเอง

“พี่เมฆครับ เขาอยู่แถวนี้ใช่ไหม?”

“พูดถึงใครน่ะอาร์ดิว?”

“วิญญาณของผู้ชายคนหนึ่งมาหาผม ผมอยากรู้ว่าเขาต้องการอะไร พี่มองเห็นเขาใช่ไหม?”

อาร์ดิวถามพี่ชายอย่างต้องการคำตอบ เมฆปรายตามองวิญญาณที่ว่านั่น หมอนั่นกำลังดิ้นรนให้หลุดพ้นจากพันธนาการที่เขาสร้างขึ้น แถมดวงตายังวาวโรจน์ขึ้นมาจนน่าหวั่นใจ

“ผมอยากคุยกับเขา”

“ไม่ใช่ตอนนี้อาร์ดิว หลบไปก่อน”

เมฆดันตัวน้องให้ห่างออกไป สายตาสะดุดเข้ากับเทอร์ควอยส์ที่ห้อยคอน้อง สีมันไม่สดใสเหมือนเคย

“อาร์ดิว พี่บอกให้ไปเดี๋ยวนี้!”

“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”

เสียงร้องคำรามลั่นพร้อมลำแสงพุ่งตรงมาที่อาร์ดิว แรงปะทะรุนแรงจนเด็กหนุ่มหัวหมุนติ้ว ภาพอะไรไม่รู้พุ่งเข้ามาเต็มไปหมด มันดูยึกยือ สับสนวุ่นวายจนมองไม่ออก ราวตัวเขากำลังจมดิ่งลงสู่ก้นเหวลึกที่ไร้จุดจบ อาร์ดิวหอบหายใจแรง ความมืดมิดเริ่มถาโถมเข้ามาใส่ เขาหายใจไม่ออก ใครก็ได้ช่วยเขาที!!

ดังคำขอของเขาเป็นจริง เมื่อจุดสิ้นสุดของความมืดมิดมาถึง แสงสว่างวาบฉาบทาไปทั่วทุกบริเวณที่เขากำลังยืนอยู่ ใช่ เขากำลังยืนอยู่ อยู่ที่ไหนสักแห่ง เด็กหนุ่มเหลียวมองรอบตัว มันมีเพียงแสงสว่างที่จ้าจนแสบตา ที่ไหนไม่รู้ เขาอยู่ที่ไหนกัน?

“...ทรมานมามากแล้วนะ ถ้ายังเป็นแบบนี้เราคงต้องถอดเครื่องช่วยหายใจให้เขาไปสบายเสียที”

เสียงคนคุยกัน ใครที่ไหน? นั่นใคร? ทำไมเขามองไม่เห็นใครเลย ใคร!!?

“อาร์ดิว อาร์ดิว ได้ยินฉันไหม อาร์ดิว!!”

การ์ฟ การ์ฟหรือ? เสียงของการ์ฟ อยู่ที่ไหนกัน?

“อาร์ดิว ตอบฉันเซ่!”

อาร์ดิวกะพริบตาปริบ คนตรงหน้าเขา...

“การ์ฟ…?”

ยังไม่ทันที่จะได้พูดอะไรร่างกายของเขาก็ตกอยู่ในอ้อมแขนของคนตรงหน้าเสียแล้ว อาร์ดิวยืนนิ่ง ขณะที่สมองยังมึนงงประมวลผลไม่ทัน

“นายทำฉันตกใจ”

เสียงที่ดังอยู่ข้างหูเรียกสติอาร์ดิวกลับมา เพิ่งรู้ตัวว่ากำลังถูกกอด เหลียวมองรอบกายในตอนนี้กลับกลายเป็นบริเวณด้านข้างของร้านเมจิคกะ เขากลับมาอยู่ที่เดิมแล้ว แล้วเมื่อครู่นี้มันอะไรกัน?

“อาร์ดิว”

เสียงเรียกที่เคยคุ้นทำให้อาร์ดิวสะดุ้งโหยง หันไปมองตามเสียงเห็นคุณแม่กำลังเดินเข้ามาหา ในขณะที่ตนเองยังอยู่ในอ้อมแขนของการ์ฟแบบนี้เด็กหนุ่มก็พาลทำหน้าไม่ถูก การ์ฟที่รู้สึกตัวเพราะสายตาคุณแม่ของอาตี๋มองมาตรงเป๋งจึงค่อยปล่อยเจ้าตัวออกจากอ้อมแขนของตนเอง ก่อนหลุบตามองพื้นหลบตาคุณแม่รวิด้วยความกระดากอาย

“อาเห็นหายกันไปหมดเลยออกมาตาม” คุณแม่รวิพูดขณะที่หันมามองเมฆ สายตาที่สื่อมาทำให้เมฆเข้าใจความหมายดี ท่านคงรู้ว่ามีเรื่อง

“อามีเรื่องจะคุยกับเมฆ ตามอาไปที่ห้องทำงานด้วย ส่วนเราสองคน ไปพักก่อนไป เดี๋ยวค่อยมาทำงานต่อ”

“ครับ”

ทั้งสามหนุ่มรับคำสั่ง อาร์ดิวและการ์ฟเดินตามคุณแม่เข้าไปในร้าน การ์ฟมองคนที่เดินอยู่ข้างๆด้วยความรู้สึกบอกถูก ที่แน่ๆเขาดีใจที่หาอาร์ดิวเจอ ทั้งที่เดินวนหาตั้งหลายรอบก็ไม่เจอเสียที แต่อยู่ๆพอย้อนกลับมาที่เดิมอีกครั้งกลับเห็นอาร์ดิวกับพี่เมฆยืนอยู่ในจุดที่เขาเพิ่งเดินผ่านไปไม่นาน เขาไม่มีเวลาแปลกใจนานนักเมื่ออาการของอาร์ดิวไม่ปรกติ การ์ฟไม่คิดหรอกว่าการที่ตนเองเรียกอาร์ดิวไปแบบนั้นมันจะได้ผล แต่ ณ เวลานั้นเขากลัว อาร์ดิวทำให้เขากลัวจริงๆ

เมฆที่กำลังจะตามทุกคนไปหยุดเท้าหันกลับมามองรอบๆบริเวณที่มีแต่ความเงียบเชียบ เมื่อไร้ซึ่งวี่แววของสิ่งที่ตนเองมองหาชายหนุ่มจึงเดินตามทุกคนเข้าร้าน

ในความเงียบที่ดูปราศจากสิ่งมีชีวิตใดๆ ร่างโปร่งแสงได้แต่มองตามทุกคนที่เดินห่างออกไปด้วยความเศร้าสร้อย ก่อนร่างนั้นจะค่อยๆเลือนหายไปช้าๆ…



คุณแม่รวิขอคุยกับเมฆ อาร์ดิวกับการ์ฟได้แต่ยืนทำตัวไม่ถูกอยู่หน้าห้องทำงาน พอเหตุการณ์เมื่อครู่ผ่านไปมันก็รู้สึกประดักประเดิดที่จะมองหน้ากันตรงๆ ขณะที่ในห้องทำงานเมฆก็ได้เล่าในสิ่งที่ตนเองรู้คร่าวๆให้คุณแม่รวิฟัง เมื่อฟังจบสีหน้าท่านก็เครียดขึ้นมา ทั้งที่หาทางป้องกันแล้วแท้ๆ ทำไมยังมีภัยมากล้ำกรายลูกของท่านอีก

“รู้สึกวิญญาณนั่นจะอยู่กับการ์ฟนะครับ” เมฆบอก

“ทำไมต้องเป็นการ์ฟ?” คิ้วเรียวสวยขมวดปม ทำไมมันโยงไปหาการ์ฟได้

“ผมก็ไม่ทราบครับ แต่เป้าหมายที่แท้จริงน่าจะเป็น...อาร์ดิว”

“การ์ฟกับอาร์ดิว พวกเขา...” สีหน้าคุณแม่รวิดูเครียดเมื่อพอจะคาดเดาอะไรบางอย่างได้

“จากการคาดเดาของผม ผมคิดว่าเพราะการ์ฟคืออีกครึ่งของชีวิตอาร์ดิว วิญญาณนั่นสื่อสารกับอาร์ดิวโดยตรงไม่ได้ จึงใช้การ์ฟซึ่งมีส่วนเชื่อมโยงกับอาร์ดิวเป็นตัวกลาง”

“มีทางแก้ไหมเมฆ?”

“อย่ากังวลไปเลยครับ พลังชีวิตของการ์ฟยังแข็งแกร่งดี”

ได้ฟังเช่นนั้นแล้วคุณแม่ก็ทอดถอนใจ “อาคิดผิดหรือเปล่าที่ทำให้ชีวิตของพวกเขาสองคนผูกติดกันอยู่แบบนี้ แต่ตอนนั้นอาก็ทำใจไม่ได้ที่จะต้องเสียอาร์ดิวไป”

น้ำใสเอ่อซึมหางตาเมื่อนึกถึงเรื่องในอดีต อาร์ดิวเพิ่งลืมตาดูโลกได้ไม่เท่าไหร่ อยู่ๆก็จะถูกพรากไปจากอกด้วยความตาย ท่านทำใจลำบากเหลือเกินที่จะปล่อยให้มันเป็นเช่นนั้น เมื่อเห็นหนทางที่จะทำให้ลูกของท่านมีชีวิตรอดปลอดภัยต่อไปอีก ไม่ว่าจะกี่ปีกี่เดือนท่านก็ยินดีจะทำ และการผูกดวงของอาร์ดิวลูกชายของท่าน กับเด็กอีกคนที่มีพลังชีวิตและดวงจิตแข็งแกร่งจึงเกิดขึ้น...




ภายในห้องนอนของอาร์ดิวในช่วงค่ำ ปอมปอมนอนเอาคางเกยหมอนอยู่บนเตียงนอนของพี่ ขณะที่เจ้าของห้องนั่งพิงหัวเตียงดูโทรทัศน์อยู่เงียบๆ หนุ่มน้อยทำปากยื่น ก่อนจะถอนใจเฮือกหนึ่ง

“พักนี้มีแต่คนเครียดๆอ่ะ”

“อืม นั่นสิ”

“ดิว”

“หือ?”

“มีวิญญาณตามดิวจริงเหรอ? แล้วเขาจะทำร้ายดิวหรือเปล่า?” เอ่ยถามพี่ด้วยความเป็นห่วง พลิกตัวมานอนตะแคงหันหน้ามาหาพี่ อาร์ดิวเงียบไปครู่หนึ่งก่อนตอบน้อง

“ไม่รู้สิ”

สีหน้าพี่ชายดูหมองๆ ปอมปอมเลยยิ่งหงอยไปใหญ่

“เอาสร้อยปอมไปอีกอันไหม?” หนุ่มน้อยนำเสนอพร้อมจะถอดสร้อยประดับบุษราคัมของตนเองมาให้พี่ใส่

“ของพี่ก็มี”

“สองเส้นมันอาจจะดีกว่าเส้นเดียวก็ได้”

อาร์ดิวยิ้มกับความเป็นห่วงเป็นใยของน้อง ลูบผมนิ่มมือเบาๆแล้วบอก

“ขอบใจนะปอมปอม พี่ไม่เป็นไรหรอก ไม่เป็นไรจริงๆ”

“...........” ดวงตาเรียวมองพี่ชายอย่างอดห่วงไม่ได้ ใครจะไปเชื่อกันว่าวิญญาณนั่นจะมาดี

หลังจากปอมปอมกลับไปนอนที่ห้อง การ์ฟก็โทรมาหาอาร์ดิวด้วยความเป็นห่วง โดยไม่รู้ว่าความรู้สึกที่ตนเองส่งผ่านมาให้อีกคนนั้นมันถูกฉกฉวยไปเป็นโอกาสของผู้ที่จ้องจะทำร้าย เมื่อหมู่มวลสารค่อยๆแทรกซึมเข้ามาในห้องของอาร์ดิวจนเด็กหนุ่มรู้สึกอึดอัดขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ พอวางสายจากการ์ฟ อาร์ดิวจึงจะออกไปข้างนอกเพราะรู้สึกทนไม่ไหว แต่เพียงคิดจะเปิดประตูก็รู้สึกได้ถึงความไม่ปรกติ ประตูเปิดไม่ออก!

อาร์ดิวยืนนิ่งอยู่หน้าประตู ขนอ่อนตรงท้ายทอยลุกซู่กับความเย็นประหลาดจากด้านหลัง มือเขาสั่นจนควบคุมมันลำบาก เด็กหนุ่มค่อยหันกลับมาช้าๆ กลุ่มควันลอยวนอยู่ด้านหลังพุ่งเข้ามาใส่อย่างไม่ให้ทันตั้งตัว ดวงตาเรียวรีเบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจ เทอร์ควอยส์สีเขียวอมฟ้าที่ตอนนี้มันกลายเป็นสีเขียวขุ่นปริแยกแตกจากแรงปะทะที่มองไม่เห็น...


ขณะเดียวกันเมฆสะดุ้งตื่นขึ้นมา สีหน้าชายหนุ่มดูตื่นตระหนก รีบลุกวิ่งถลามาที่ห้องของอาร์ดิวด้วยความร้อนใจ มือใหญ่เอื้อมเปิดประตูแต่มันกลับล็อคแน่นจนเปิดไม่ได้ เขย่าอย่างไรก็ไม่ออก

“โธ่เว้ย!”

เมฆสบถด้วยความฉุนเฉียว ก้าวถอยห่างจากประตูห้องของน้องชายเล็กน้อยก่อนจะตั้งจิตแน่แน่ว เพียงชั่วอึดใจเดียวประตูก็เปิดออกอย่างน่าอัศจรรย์ เมฆรีบก้าวเข้าไปด้านใน ก่อนจะหยุดกึกอยู่เพียงหน้าประตูห้องเมื่อเห็นน้องชายนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น

“อาร์ดิว!!!”


เปลเข็นสำหรับผู้ป่วยของโรงพยาบาลถูกยกลงจากรถ อาร์ดิวถูกพาเข้าห้องฉุกเฉินอย่างรวดเร็ว เมื่อตอนที่คุณพ่อกับคุณแม่มาเห็นว่าลูกชายคนโตทรุดอยู่กับพื้นเรียกก็ไม่ได้สติแบบนั้นกลัวกันแทบตาย ยิ่งเทอร์ควอยส์ที่ให้ลูกใส่เอาไว้ปริแตกคุณแม่ยิ่งใจเสีย ปอมปอมที่ตามมาทีหลังพร้อมคุณแม่กับพี่เมฆเพราะต้องเตรียมเอกสารต่างๆเลยให้คุณพ่อรุดหน้ามากับรถของโรงพยาบาลก่อน หนุ่มน้อยยืนใจสั่นอยู่หน้าห้องฉุกเฉินที่พี่ชายถูกเข็นเข้าไป อยากจะร้องไห้แต่ก็ต้องกลั้นไว้ บอกกับตัวเองว่าพี่ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย อย่าร้องไห้

“ปอมปอม มีเบอร์การ์ฟไหม?” เมฆเอ่ยถามน้องเล็กสีหน้าเครียด ขณะที่คุณแม่รวิกระวนกระวายนั่งไม่ติดจนคุณพ่อต้องพามานั่งข้างกัน

“มีครับ”

หนุ่มน้อยยื่นโทรศัพท์ของตนเองให้ เมฆรับมากดหาเบอร์แล้วโทรออก เจ้าของเบอร์ดูจะแปลกใจอยู่สักหน่อยที่เขาโทรมาหากลางดึกเช่นนี้ แต่คงรู้สึกได้ถึงสถานการณ์ไม่สู้ดีจริงไม่ได้เอ่ยถามนอกจากรับฟังในสิ่งที่เมฆพูด

“การ์ฟ รีบมาที่โรงพยาบาลเดี๋ยวนี้เลย!!”

หลังวางสายจากการ์ฟ เมฆก็กำหมัดแน่น กล้าทำกับน้องเขาแบบนี้อย่างนึกเลยว่าจะได้อยู่ดีมีสุข!




TBC



มาแล้วค่า เอิ่ม แต่นี่มันวันจันทร์เนอะ แหะๆ เลทนิดนุง เค้าขอโทษ~ > <
ตอนนี้มันดูโดดไปโดดมานิดนึงเนาะ สถานการณ์ฉุกเฉินที่เกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน เขียนยากจุงเบย T^T

ขอบคุณทุกคนที่ยังรอกันอยู่นะคะ หลังจากนี้ถ้าไม่ติดอะไรก็คงมาอัพได้เรื่อยๆค่ะ

เรื่องน้องต้นรักอีกตอนสองตอนก็น่าจะจบแล้วค่ะ พยายามจะเขียนให้จบก่อนน้องตองเปิดเทอม เดี๋ยวไม่มีเวลามาช่วยกันต่อมันจะยืดเยื้อไปอีก หลังจากนั้นใหม่ก็เหลือเรื่องนี้เพียงเรื่องเดียวแล้วที่จะต้องเขียนให้จบโดยสมบูรณ์

แล้วค่อยมาพบกันอีกครั้งในปี ๒๕๕๗ พร้อมซีรี่ส์ New Gen นะคะ :mew3:

วันใหม่

หัวข้อ: Re: ☆☆MAGICA CAFÉ☆☆ magic <14> 10/06/2556 *คำเตือน : โหมดดาร์คค่ะ*
เริ่มหัวข้อโดย: udongjay ที่ 10-06-2013 10:58:32
แปะๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ดิท
ย้ากกกกกกกกกกกกกก พี่ใหม่ทำตองน้ำตาซึม
ดิวจะเป็นอะไรไหมอ่า ฮือออออออออออออ
วิญญาณบ้านั่นต้องการอะไร การ์ฟรีบมาช่วยที ฮือออออออออออออ
 :katai1: :katai1: :katai1:
โชคดีที่อ่านตอนเช้านะพี่ใหม่ ถ้าได้อ่านตอนกลางคืนคงนอนไม่หลับ
แอบหลอนนิดๆ  :mew5:
หัวข้อ: Re: ☆☆MAGICA CAFÉ☆☆ magic <14> 10/06/2556 *คำเตือน : โหมดดาร์คค่ะ*
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 10-06-2013 12:20:10
ผีตัวนี้ต้องการอะไร ต้องการให้อาร์ดิวเจ็บปวดเรอะ
ใจร้ายยยยยยย
หัวข้อ: Re: ☆☆MAGICA CAFÉ☆☆ magic <14> 10/06/2556 *คำเตือน : โหมดดาร์คค่ะ*
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 10-06-2013 15:19:30
 :mew2:

ตกลงแล้ว ผีตัวนี้ค้องการอะไร

ทำไมต้องเป็นสองคนนี้

เรื่อราวจะเป็นยังงัยนะ

ลุ้นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
หัวข้อ: Re: ☆☆MAGICA CAFÉ☆☆ magic <14> 10/06/2556 *คำเตือน : โหมดดาร์คค่ะ*
เริ่มหัวข้อโดย: nemesis ที่ 10-06-2013 16:07:00
รอต่่อๆ
หัวข้อ: Re: ☆☆MAGICA CAFÉ☆☆ magic <14> 10/06/2556 *คำเตือน : โหมดดาร์คค่ะ*
เริ่มหัวข้อโดย: PapermintReal ที่ 10-06-2013 18:54:03
 :a5:
หัวข้อ: Re: ☆☆MAGICA CAFÉ☆☆ magic <14> 10/06/2556 *คำเตือน : โหมดดาร์คค่ะ*
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 10-06-2013 20:28:17
วิญญาณนั่นต้องการอะไร? ตอนหนึ่งก็มีท่าทางเศร้าแต่อีกตอนหนึ่งก็
เข้ามาทำร้าย เดาไม่ถูกแฮะ ^^

รออ่านตอนต่อไปนะคะ วันใหม่สู้  :katai4:
หัวข้อ: Re: ☆☆MAGICA CAFÉ☆☆ magic <14> 10/06/2556 *คำเตือน : โหมดดาร์คค่ะ*
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 11-06-2013 12:23:00
วิญญาณตนนั้นต้องการอะไรกันแน่ :mew5:
อาร์ดิวฟื้นไวไวน้า :L2:
หัวข้อ: Re: ☆☆MAGICA CAFÉ☆☆ magic <14> 10/06/2556 *คำเตือน : โหมดดาร์คค่ะ*
เริ่มหัวข้อโดย: YOSHIKUNI RUN ที่ 12-06-2013 00:58:49
ลุ้นๆๆ
 :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: ☆☆MAGICA CAFÉ☆☆ magic <14> 10/06/2556 *คำเตือน : โหมดดาร์คค่ะ*
เริ่มหัวข้อโดย: greensnake ที่ 12-06-2013 11:20:30
ตกลงวิญญาณนั่นไม่ดีจริงๆใช่ไหม ถึงกับจ้องทำร้ายกันอย่างนี้
แล้วต้องการอะไรจากอาร์ดิวกันแน่เนี่ย  :ling1: ไม่เข้าใจ
แต่ที่ปลื้มก็คือรู้ว่าทั้งการ์ฟและอาร์ดิวต่างเป็นครึ่งชีวิตของกันและกัน
เอาใจช่วยพี่เมฆและทุกคนให้จัดการเรื่องนี้ได้อย่างเรียบร้อย
แม้เหตุการณ์จะตึงเครียดแต่น้องปอมก็ทำให้เรายิ้มได้
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :กอด1:
+1และเป็ดจ้า
หัวข้อ: Re: ☆☆MAGICA CAFÉ☆☆ magic <14> 10/06/2556 *คำเตือน : โหมดดาร์คค่ะ*
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 12-06-2013 16:37:16
การ์ฟมาจะช่วยอาร์ดิวได้ใช่ไหม ทำไมต้องทำร้ายอาร์ดิวด้วย
เมฆจัดการพวกนั้นเลยนะ
หัวข้อ: Re: ☆☆MAGICA CAFÉ☆☆ magic <14> 10/06/2556 *คำเตือน : โหมดดาร์คค่ะ*
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 12-06-2013 21:24:11
ผีบ้า ทำไมต้องทำร้ายอาร์ดิวด้วย :angry2:
อย่าเป็นอะไรนะอาร์ดิว :monkeysad:
หัวข้อ: Re: ☆☆MAGICA CAFÉ☆☆ magic <14> 10/06/2556 *คำเตือน : โหมดดาร์คค่ะ*
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 13-06-2013 10:41:05
ดิวจะเป็นไรมากไหม การ์ฟมาเร็วน๊า
หัวข้อ: Re: ☆☆MAGICA CAFÉ☆☆ magic <14> 10/06/2556 *คำเตือน : โหมดดาร์คค่ะ*
เริ่มหัวข้อโดย: nong PeePee ที่ 14-06-2013 22:41:48
การ์ฟต้องมาช่วยอาร์ดิวไวๆน้า สู้ๆ  :hao5: :hao5: :mew1:
หัวข้อ: Re: ☆☆MAGICA CAFÉ☆☆ magic <15> 20/06/2556
เริ่มหัวข้อโดย: wanmai ที่ 20-06-2013 07:16:03
Magica Café

Magic (15)




การ์ฟมาถึงโรงพยาบาลในเวลาเพียงไม่นานโดยมีเทสต์และบิวตามมาด้วย เด็กหนุ่มตรงไปยังหน้าห้องฉุกเฉินที่ครอบครัวอาร์ดิวรวมตัวกันอยู่ที่นั่น ทุกคนหันมามองการ์ฟ สีหน้าของทุกคนดูไม่ดีเลยจนการ์ฟหวั่นใจ เขาไหว้ผู้อาวุโสทั้งสองและพี่เมฆก่อนจะก้าวไปหยุดอยู่หน้าประตูห้องฉุกเฉิน อาร์ดิวไม่ได้อยู่ที่นี่กับทุกคน มันคงแปลไปในทางอื่นไม่ได้นอกจากคนที่อยู่ในนั้นจะเป็นอาร์ดิว

เด็กหนุ่มได้แต่ยืนนิ่งงันอยู่หน้าประตู มือยกทาบบานประตูที่มีใครคนหนึ่งกำลังถูกช่วยเหลืออย่างสุดความสามารถอยู่ภายในนั้น หัวใจเขาบีบรัดจนแทบหายใจไม่ออก มันเจ็บปวดเหลือเกินเมื่อคิดว่าอีกคนกำลังจะจากไป

...อย่าเพิ่งไปนะตี๋... อย่าเพิ่งทิ้งฉันไป...

เมฆเดินเข้ามาหา วางมือบนบ่าการ์ฟ เด็กหนุ่มหันกลับมามอง เมฆจึงเอ่ยบอกสีหน้าเครียด

“มีบางเรื่อง...ที่พี่อยากให้นายช่วย”

การ์ฟพยักหน้าช้าๆเป็นเชิงตอบรับ ไม่รู้ว่าเรื่องที่พี่เมฆจะขอให้ช่วยนั้นมันคืออะไร แต่ถ้ามันเกี่ยวกับคนที่อยู่ในมือหมอเวลานี้ ถ้าช่วยได้เขาก็จะช่วยให้ถึงที่สุด ทั้งที่ก่อนนี้ไม่เคยจะถูกชะตา แต่พอคิดอยากจะถอยห่างมากเท่าไหร่กลับกลายเป็นเดินเข้าใกล้มากขึ้นเท่านั้น

เหลียวกลับมามองประตูห้องที่ปิดสนิทอีกครั้งการ์ฟจึงได้เดินตามเมฆออกไป โดยที่มีเทสต์มองตามหลานชายสีหน้าเครียด ก่อนหันกลับมามองห้องฉุกเฉินด้วยความหนักใจไม่แพ้กัน



อาร์ดิวค่อยลืมตาตื่นขึ้นมา แสงแรกที่ผ่านเข้ามาในความรับรู้ทำให้เด็กหนุ่มต้องหลับตาลงอีกครั้ง ก่อนจะค่อยๆหรี่ตามอง ภาพตรงหน้าที่ค่อยชัดเจนขึ้นเรื่อยๆคือบุคคลที่สวมชุดปลอดเชื้อ ทั้งยังมีหมวกคลุมผมและผ้าปิดปากกำลังทำอะไรบางอย่างกับร่างกายของเขา เด็กหนุ่มตกใจผุดลุกพรวดขึ้นมา เป็นขณะเดียวกันกับที่คนๆหนึ่งก้มลงมา อาร์ดิวหลับตาปี๋เพราะคิดว่าหัวกระแทกแน่ แต่แล้วมันกลับไม่ได้เป็นไปเช่นนั้น เมื่อเขาไม่ได้รู้สึกเจ็บสักนิด

ดวงตาเรียวรีเปิดขึ้นมองอีกครั้ง ทุกคนที่อยู่ภายในห้องนี้ไม่มีใครสนใจเขา อาร์ดิวเหลียวมองรอบกายงงๆ เครื่องมือแพทย์มากมายในห้องนี้ทำให้เขาพอจะรู้ว่ามันคือที่ไหน เขาอยู่ที่โรงพยาบาล แต่...เขาเป็นอะไรล่ะ? ทำไมถึงได้มาอยู่ที่นี่?

เด็กหนุ่มลุกลงจากเตียงด้วยความมึนงง ไม่ได้หันกลับมาสนใจเลยว่าคนในห้องนี้นั้นเขากำลังทำอะไรอยู่...



ทางด้านเมฆที่ขอคุยกับการ์ฟ หนุ่มรุ่นพี่พยายามอธิบายเรื่องต่างๆให้การ์ฟรับรู้คร่าวๆ เอาเฉพาะเรื่องที่เขาคิดว่ามันสำคัญ โดยเฉพาะเรื่องความพิเศษของคนในครอบครัวเขา ซึ่งการ์ฟก็ได้แต่นั่งฟังเงียบๆ

“อาจเป็นเรื่องเข้าใจยาก แล้วก็ยากที่จะเข้าใจ”

เมฆว่าอย่างนั้นเมื่อเล่าความเป็นมาจบลง การ์ฟอาจไม่เชื่อในเรื่องที่เขาเล่าก็ได้ แต่ถ้าเป็นไปได้เขาก็อยากให้เชื่อ เพราะมันคงง่ายต่อการให้ความร่วมมือในสิ่งที่เขาจะทำ

“ผมเข้าใจครับ... แล้วเรื่องที่พี่จะให้ช่วย...”

“อาร์ดิว!”

ยังไม่ทันจะได้คุยกันต่อเมฆก็ผุดลุกขึ้นแล้วเรียกอาร์ดิวเสียงตื่น การ์ฟหันไปมองตามเมฆ คิ้วเด็กหนุ่มขมวดเพราะไม่เห็นมีอะไรสักอย่าง ขณะที่เมฆออกวิ่งตามสิ่งที่ตนเองเห็นไป

“อาร์ดิว”

ประตูกระจกทางเข้าถูกเปิดออก เมฆก้าวออกไปด้านนอกที่เป็นที่รอลิฟท์ น้องชายของเขาหายไปแล้ว ทั้งที่เมื่อครู่นี้เขายังเห็นอยู่เลยว่าน้องเขาเดินมาทางนี้ ร่างสูงเดาะลิ้นขัดใจ ผินกายกลับผลักประตูบานเดิมแล้วรีบไปที่ห้องฉุกเฉิน

ทุกคนหันมามองเมฆที่วิ่งกลับมา ชายหนุ่มแตะประตูห้องฉุกเฉินแล้วหลับตาลง อาร์ดิวยังอยู่ ชีพจรน้องยังเต้นอยู่ เมฆหอบด้วยความเหนื่อย เมื่อหันกลับมาเห็นทุกคนมองมาที่ตนอย่างมีคำถาม เมฆก็ยิ้มเจื่อน คงต้องหาคำพูดดีๆมาอธิบายสถานการณ์ขณะนี้สินะ



อาร์ดิวเดินงงๆมาที่ห้องพิเศษห้องหนึ่งในโรงพยาบาล หันซ้ายแลขวาเพราะไม่รู้ว่าตนเองเดินมาที่นี่ทำไม หันกลับมาอีกทีประตูก็เปิดออกแล้ว ขาของเขานำพาให้ก้าวเข้าไปด้านใน พอลับเหลี่ยมมุมผนังห้องมาก็เห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย

“เธอน่าสงสารนะว่าไหม?”

เสียงปริศนาจากด้านหลังดังขึ้น อาร์ดิวหันขวับกลับไปมอง ผู้ที่ก้าวเข้ามาหาคือวิญญาณหนุ่มตนนั้น สายตาของวิญญาณหนุ่มมองเด็กผู้หญิงบนเตียงด้วยแววเศร้า

“เด็กตัวแค่นี้เอง เธอยังต้องเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ต้องเรียนรู้การใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้อีกมากมาย แต่ตอนนี้เธอกลับต้องมานอนนิ่งๆ มีสายอะไรต่อมิอะไรเต็มไปหมด...”

อาร์ดิวกลืนน้ำลายหนืดคอ ความอึดอัดค่อยๆเพิ่มขึ้นมาทีละน้อย สภาวะกดดันจากอะไรบางอย่างทำให้เขาหายใจลำบาก แต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงไม่เดินหนีไป

“นายว่าเธอน่าสงสารไหม?” วิญญาณหนุ่มเอ่ยถามขณะที่สายตายังคงมองไปที่ร่างบนเตียง

“เธอ...เป็นน้องสาวคุณเหรอ?”

กว่าจะเค้นคำพูดออกมาได้ช่างแสนลำบาก ราวอากาศหายใจกำลังใกล้หมด อาร์ดิวหอบหนักขึ้น มือเรียวกดที่หน้าอกตนเอง

“ฉันต้องการให้เธอฟื้น และมีแต่นายเท่านั้นที่จะช่วยได้”

อาร์ดิวผงะถอยเมื่อวิญญาณหนุ่มเบือนสายตาเย็นเยียบมาที่เขา เด็กหนุ่มรับรู้ถึงอันตราย อยากจะหนีไปแต่ก้าวขาไม่ออก ได้เพียงจับจ้องอีกฝ่ายด้วยความหวาดหวั่น...



หน้าห้องฉุกเฉิน

แพทย์ผู้ทำการรักษาอาร์ดิวเปิดประตูออกมาพร้อมแจ้งว่าตอนนี้ชีพจรคนไข้เต้นอ่อนมาก แต่ไม่ได้พบบาดแผลใดๆบนร่างกาย ที่ทางครอบครัวแจ้งว่าเห็นนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นนั้นอาจเป็นสภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน แต่เด็กขนาดนี้ไม่น่าจะมีได้ ตามประวัติการรักษาก็ไม่พบว่าเป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจ ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงดีด้วยซ้ำ คงมีแค่ตอนเด็กที่เจ็บป่วยบ่อยเท่านั้น ฉะนั้น ทางคณะแพทย์จึงต้องรอดูอาการก่อน เพื่อวินิจฉัยโรคที่เด็กหนุ่มเป็นต่อไป หากผ่าน 48 ชั่วโมงนี้โดยไม่มีโรคแทรกซ้อนใดๆ และสภาพร่างกายกลับสู่สภาวะปรกติก็จะให้ย้ายไปพักห้องพิเศษและดูแลอย่างใกล้ชิด

ช่วงเวลา 48 ชั่วโมงที่ครอบครัวของอาร์ดิวเฝ้ารอคอยนั้นมันช่างยาวนานเหลือเกิน คุณแม่แทบจะกินไม่ได้นอนไม่หลับ ได้แต่สวดมนต์ภาวนาให้ลูกปลอดภัย ปอมปอมที่เห็นพี่ชายเป็นแบบนั้นก็ซึมลงไป ไม่มีร่าเริงเหมือนเก่า ไม่สามารถปลอบใจคุณแม่ได้เพราะตนเองก็ไม่ได้ต่างจากคุณแม่เลย

คุณพ่อจึงเป็นเสาหลักเพียงหนึ่งเดียวที่ห้ามล้ม แม้จะห่วงใยลูกใจจะขาดก็ไม่สามารถแสดงความอ่อนแอออกมาได้ สถานการณ์แบบนี้ทำให้ร้านเมจิคกะต้องปิดชั่วคราว พนักงานทุกคนต่างก็เข้าใจและเป็นกำลังใจให้ครอบครัวของนายจ้างผ่านเรื่องร้ายๆนี้ไปได้ด้วยดี

หลังผ่าน 48 ชั่วโมงตามที่แพทย์กำหนดมา อาการของอาร์ดิวไม่ได้แย่ลง หัวใจเต้นปรกติ ชีพจรเต้นสม่ำเสมอ ออกซิเจนในร่างกายอยู่ในระดับที่เป็นที่น่าพอใจ และไม่มีอาการอย่างอื่นแทรกซ้อน ราวกับเด็กหนุ่มเพียงนอนหลับอยู่เท่านั้น แพทย์เจ้าของไข้จึงอนุญาตให้ย้ายไปพักห้องพิเศษได้ในช่วงบ่ายของวันหนึ่งหลังจากครบ 48 ชั่วโมงมาได้ครึ่งวัน

คุณแม่รวิเฝ้าขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทำให้ลูกชายของท่านพ้นขีดอันตรายมาได้ เรื่องนี้ท่านยังไม่ได้บอกคุณตาคุณยายเพราะกลัวผู้อาวุโสทั้งสองจะเป็นห่วง ไว้อาร์ดิวหายดีเมื่อไหร่ค่อยพาไปเยี่ยมท่านก็แล้วกัน หลังจากนี้คงต้องให้เป็นหน้าที่ของเมฆที่จะต้องใช้ความพิเศษของตนเองช่วยพาน้องกลับมา



การ์ฟกลับบ้านมาหลังจากไปเยี่ยมอาร์ดิวที่เพิ่งได้ย้ายมาอยู่ห้องพิเศษ วันนี้น้าชายของเขาไม่ได้ไปทำงานเช่นทุกที การ์ฟออกจะแปลกใจ แต่ก็พอจะรู้ถึงสาเหตุ สาเหตุนั้นคงมาจากเขาเอง เทสต์คงเป็นห่วงเขา

“เทสต์ ผมมีเรื่อง...”

การ์ฟชะงักคำที่จะพูดเมื่อผู้เป็นน้าชายหันมามองเขาด้วยหันสีหน้าเคร่งเครียด

“เป็นอะไร?” เด็กหนุ่มเลิกคิ้วถาม เห็นเทสต์ถอนใจก่อนเอ่ยถามกลับมา

“มีเรื่องอะไรเหรอ?”

แม้จะสงสัยกับท่าทางนั้น แต่การ์ฟก็ไม่ได้ซักไซ้ บอกธุระของตนเองแทน “ผมอยากรู้ ว่าทำไมน้าถึงชอบบอกว่าเนื้อคู่ผมเป็นผู้ชาย แล้วทำไมถึงเป็นอาร์ดิว?”

“นายก็รู้ว่าน้ามั่ว” เทสต์ยิ้มมุมปาก ตอบหลานกวนๆเลยถูกหลานดุ

“เทสต์ ผมจริงจัง”

พอหลานพูดมาแบบนั้นเทสต์ก็หัวเราะ ไอ้ท่าทางเครียดๆเมื่อครู่นี้มันคือภาพลวงตาสินะ

“ความรู้สึกน่ะ” น้าชายยิ้มบอก

“หมายความว่ายังไง?”

“บอกไม่ถูกหรอก แค่รู้สึกว่าเราจะต้องเจอกับคนๆหนึ่งซึ่งมีความสำคัญกับเรามาก ส่วนมากแค่ไหน...น้าว่าการ์ฟคงรู้ดีกว่าน้า”

“ไม่เห็นเข้าใจ” การ์ฟว่า

“หึ นั่นสิ”

การ์ฟส่ายหน้าเบาก่อนเดินเลี่ยงขึ้นบ้าน ถามเทสต์ก็ไม่เห็นจะได้คำตอบที่ชัดเจน ใช้ความรู้สึกอย่างนั้นหรือ เวลาเทสต์พูดแล้วมันเป็นไปตามนั้นไม่ใช่เพราะเทสต์เห็นอะไรบางอย่างเหมือนพวกหมอดูหมอเดา แต่เพราะความรู้สึกมันบอก แล้วมันจะแม่นขนาดนั้นเลยหรือเจ้าความรู้สึกที่ว่านี่



คุณแม่รวิที่เฝ้าอาร์ดิวอยู่ที่โรงพยาบาล เพียงแค่เมฆก้าวเข้ามาในห้องผู้ป่วยท่านก็ตรงเข้าไปหา สีหน้าท่านดูรวดร้าวและเต็มไปด้วยความคาดหวัง

''เมฆ...''

เมฆถอนใจพลางส่ายหน้า เพียงเท่านั้นคุณแม่ก็แทบทรุด คุณพ่อรีบเข้ามาพยุง ยืนเป็นหลักให้อีกฝ่ายได้พักพิง

''ผมไม่เห็นน้องอยู่ในนี้ครับอา'' เมฆเอ่ยบอกด้วยความเสียใจ ในเวลาแบบนี้ ความ 'พิเศษ' ของเขากลับใช้ไม่ได้ผล

''บ...บางที บางทีน้องอาจจะไม่ได้ไปไหนก็ได้ น้องอาจจะ...'' น้ำตาคนเป็นแม่ไหลริน ไม่สามารถเอ่ยคำใดต่อไปได้ เมื่อรู้อยู่แก่ใจว่ามันเป็นเพียงการปลอบใจตัวเองเท่านั้น ทุกคนต่างนิ่งเงียบ จนกระทั่งคุณแม่รวิพูดขึ้นมา

''อาจะให้คุณตาช่วยทำพิธี อาจะพาลูกอากลับมา''

''ไม่ได้นะครับอา อาฝืนลิขิตมาครั้งหนึ่งแล้ว อาจะทำมันอีกไม่ได้''

''ทำไมจะไม่ได้ล่ะเมฆ นั่นลูกอานะ ลูกของอาทั้งคน อาปล่อยให้เขาตายไม่ได้ แม้จะต้องแลกด้วยชีวิตของอา อาก็จะทำ!!''
คุณแม่พูดทั้งสะอื้น คุณพ่อกอดปลอบ ลูบแผ่นหลังบางที่สะท้อนไหวจากการสะอื้นไห้ เหลียวไปมองลูกที่ยังนอนนิ่งแล้วใจจะขาด มันถึงเวลาแล้วหรือที่อาร์ดิวจะต้องไป แต่ต้องไม่ใช่แบบนี้สิ ท่านทำใจไม่ได้ มันกะทันหันจนตั้งตัวไม่ทัน

ปอมปอมที่เห็นคุณแม่ร้องไห้ก็พลอยน้ำตาไหลไปด้วย มือเรียวจับมือพี่ชายแล้วบีบเบาๆ

‘ฟื้นสิดิว อย่านอนนิ่งๆแบบนี้ ฟื้นสักทีสิ’



ลานจอดรถของโรงพยาบาล ชีวาพาปอมปอมมาที่รถเพื่อจะไปส่งน้องเรียนพิเศษช่วงบ่าย หลังจากพากันมาเยี่ยมอาร์ดิวที่ตอนนี้ก็ยังไม่ฟื้นคืนสติ หนุ่มน้อยไม่อยากไปเลย อยากอยู่เฝ้าพี่ชายมากกว่า แต่มันเป็นหน้าที่ของตัวเองก็จำต้องทำ ไม่อยากให้คุณพ่อกับคุณแม่ต้องมีเรื่องกังวลใจเพราะตนเพิ่มขึ้นมาอีก

กลับจากเรียนพิเศษหนุ่มน้อยก็มีหน้าที่เฝ้าบ้าน งานที่ร้านคุณพ่อกลับไปรับผิดชอบดูแลต่อแล้ว ส่วนคุณแม่ก็อยู่โยงเฝ้าพี่ชาย ปอมปอมน้อยรู้สึกว่าตนเองไม่มีประโยชน์อย่างไรไม่รู้ เพราะตอนนี้เขามีหน้าที่แค่เรียนพิเศษแล้วก็อยู่บ้านเฉยๆ เขาสบายกว่าใครเลย จะไปเฝ้าพี่ชายก็ไม่ได้เพราะตนเองคงทำอะไรไม่เป็นหากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นมา

ชีวาไม่ได้ไปทำงานที่ร้าน เด็กหนุ่มรับอาสาอยู่เป็นเพื่อนน้อง ครอบครัวของเขาก็ไม่ได้ห้ามหากจะมาอยู่เป็นเพื่อนปอมปอม หรือไปรับไปส่งน้องที่โรงเรียนสอนพิเศษ ช่วยเหลืออะไรกันได้ก็ต้องช่วยๆกัน

“คุณลุงกับคุณป้าไว้ใจปอมปอมนะ ไม่ต้องคิดว่าเราทำน้อยกว่าคนอื่น เพราะการที่กะปอมน้อยของพี่ต้องไปเรียน แล้วก็อยู่เฝ้าบ้านก็เป็นหน้าที่หนึ่งไม่ใช่เหรอ?” ชีวาให้เหตุผลกับน้องเมื่อรู้ถึงความกังวลใจที่เกิดขึ้น

น้องน้อยถอนใจแล้วว่า “ปอมรู้ แต่ปอมอยากทำตัวมีประโยชน์มากกว่านี้อ่ะ เวลานี้ที่ทุกคนกำลังพยายาม ปอมรู้สึกว่าปอมไม่ได้ช่วยอะไรเลย”

ชีวายิ้มบาง โยกหัวน้องเบาๆ เสียงโทรศัพท์กะปอมน้อยดังขึ้นมา เจ้าของเขาจึงเดินไปหยิบมากดรับ เป็นคุณพ่อนั่นเองที่โทรมา เพราะเป็นห่วงลูกคนเล็ก

“ดูแลตัวเองด้วยนะเจ้าหนู ป๊าก็มัวแต่ยุ่งอยู่กับร้าน แล้วนี่กินข้าวยัง ป๊าให้คนเอาไปส่งให้ไหม?”

“ไม่เป็นไรครับ พี่ชีวาแบ่งกับข้าวจากที่บ้านมาให้ปอมกินแล้ว พี่มุ่ยก็ซื้อของกินมาใส่ตู้เย็นไว้เต็มเลย ปะป๊าอย่าลืมทานข้าวด้วยนะ ปอมเป็นห่วง” หนุ่มน้อยรายงานพร้อมตบท้ายด้วยความห่วงใย

“ครับผม”

คุณพ่อรับความห่วงใยนั้นแล้วหัวเราะ ห่วงกันไปแล้วก็ห่วงกันมา ว่าไปแล้วก็พลอยให้นึกถึงลูกชายคนโต ป่านนี้ก็ยังไม่ฟื้นขึ้นมาเลย หมอก็ยังหาสาเหตุไม่เจออีกว่าเป็นเพราะอะไร

“ปะป๊า ปอมอยากไปเยี่ยมดิว”

เสียงลูกชายคนเล็กดังแทรกความคิดท่านขึ้นมา มันช่างตรงกับที่ท่านคิดอยู่เสียจริง คุณพ่อกะพริบตาถี่ไล่ความรู้สึกที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ ก่อนจะส่งเสียงไปตามสาย

“ชีวาอยู่ด้วยหรือเปล่า?”

“ครับ”

“พ่อขอคุยหน่อย”

พอคุณพ่อบอกมาแบบนั้นกะปอมน้อยจึงเดินกลับมาหาชีวาที่นั่งรอตนเองอยู่เงียบๆที่โซฟาแล้วยื่นโทรศัพท์ให้

“ป๋า ปะป๊าจะคุยด้วย”

ชีวารับโทรศัพท์จากน้องมาคุย น้องก็นั่งลงข้างๆขณะที่เขาตอบรับปลายสาย

“ครับ ลุงไปป์”

เด็กหนุ่มนิ่งฟังที่ปลายสายพูด เอ่ยตอบรับเป็นครั้งคราว เหลือบมามองน้องที่นั่งมองตนเองตาแป๋วอยู่ข้างๆด้วย เมื่อคุยกันเสร็จคุณพ่อไปป์ก็วางสายไป

“ปะป๊าว่าไงบ้าง?”

“คุณลุงท่านฝากพี่ดูแลเด็กน้อยแถวนี้น่ะ”

แววล้อเลียนส่งมาจากสายตาพี่ ปอมปอมทำปากยื่น กอดอกแล้วว่า

“ดีนะที่ปอมโตแล้ว”

“เหรอ?”

ชีวาลากเสียงยาว คนเป็นน้องก็ยักคิ้วให้ เด็กหนุ่มยิ้มบาง แตะแก้มน้องแล้วประคองไว้ในอุ้งมือใหญ่ ปอมปอมมองพี่นิ่ง รับฟังถ้อยคำที่พี่บอกแล้วยิ้ม

“มีพี่อยู่ทั้งคน ปอมปอมไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น”

“มีป๋าอยู่น่ากลัวกว่าอีก”

“โห่ กำลังจะสวีทหน่อย หมดกันเลยเนี่ย”

ชีวาทำโอดครวญ น้องหัวเราะชอบใจ นั่นทำให้ชีวายิ้มได้ ดีกว่าให้น้องนั่งซึมอยู่ทั้งวันตั้งเยอะ เข้าใจว่าน้องห่วงอาร์ดิว เขาเองก็ห่วง ยิ่งตอนนี้อาร์ดิวยังไม่ฟื้นยิ่งน่าห่วง แต่เขาก็ห่วงน้องมากเหมือนกัน



ในช่วงดึกสงัดของคืนหนึ่ง ภายในห้องผู้ป่วยที่ข้างเตียงนั้นเต็มไปด้วยสายระโยงระยาง ชายหนุ่มผู้หนึ่งเข้ามาหยุดอยู่ข้างเตียงสีขาวสะอาดที่มีร่างของผู้ป่วยชายนอนนิ่ง สายตาของเขากวาดไปทั่วห้องที่มีเพียงแสงไฟจากประตูหน้าห้องลอดเข้ามา ญาติที่มานอนเฝ้านั้นหลับสนิทไปแล้ว ในช่วงเวลาเช่นนี้คงไม่มีใครยังตื่นอยู่ได้อีกหรอกกระมัง

ชายหนุ่มข้างเตียงจับจ้องร่างที่นอนนิ่ง ค่อยๆโน้มตัวลงไปหาช้าๆ แต่ทันใดนั้นกลับมีบางอย่างคล้ายลมพัดมาวูบหนึ่ง ร่างของเขากระเด็นออกห่างเด็กหนุ่มบนเตียงสีขาวไปไกล สีหน้าชายหนุ่มดูตื่นตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น หันไปมองประตูทางเข้าห้องก็ยิ่งตกตะลึง เขาผวาลุกกระโจนหนี แต่ร่างตนกลับถูกตรึงจากสิ่งที่มองไม่เห็น

“บอกแล้วใช่ไหม อย่ายุ่งกับน้องชายของฉัน'”

ดวงตาขวางขุ่นตวัดมองผู้พูด... ไอ้หมอผีขี้เก๊ก!!!!

“ปรากฏตัวออกมาสักทีนะไอ้ผีเร่ร่อน” เมฆแค่นยิ้ม น้ำเสียงราวคำรามในลำคอนั่นสั่นประสาทผีเร่ร่อนที่เจ้าตัวเรียกได้ดีทีเดียว

“การ์ฟ ออกมา”

เมฆเรียกอีกคนที่ซ่อนตัวอยู่ในห้องนี้ออกมา วิญญาณหนุ่มที่ถูกจับเอาไว้หันไปมองคนที่เปิดประตูระเบียงเข้ามาด้วยแววตระหนก แม้แต่คนนอนเฝ้าที่เขาคิดว่าหลับไปแล้วยังลุกขึ้นมายืนล้อมเขาไว้

“หมาหมู่นี่!” เขาบริภาษ

“หึ จะเรียกอะไรก็ช่าง เพราะตอนนี้นายหนีไม่รอดแล้ว”

วิญญาณหนุ่มกำมือแน่น เจ็บใจที่เสียรู้

“การ์ฟ”

เมฆเรียกการ์ฟเป็นการส่งสัญญาณ เด็กหนุ่มก้าวเข้าไปใกล้วิญญาณที่ไร้หนทางหนี ดวงตาของอีกฝ่ายเบิกกว้างเมื่อการ์ฟพุ่งเข้าหา แสงสว่างวาบสาดไปทั่วห้อง คุณแม่รวิยกมือป้องหน้า ขณะที่เมฆหลับตาลงตั้งจิตร่ายคาถา

การ์ฟและวิญญาณหนุ่มมาโผล่ยังอีกห้องหนึ่ง ห้องที่เด็กหญิงผู้เป็นน้องสาวของวิญญาณหนุ่มอยู่ การ์ฟผลักอีกฝ่ายให้พ้นทาง เขาเพียงแค่ใช้เจ้านี่เป็นตัวนำเท่านั้น เขาต้องหาอาร์ดิวให้เจอ

ไม่รู้ว่าพี่เมฆเอาอะไรมามั่นใจว่าเขาจะตามอาร์ดิวเจอ แต่เมื่อมันเป็นหนทางเดียวที่จะพาอาร์ดิวกลับมาได้เขาจึงต้องทำตามนั้น เพราะลำพังเขาที่เป็นเพียงคนธรรมดาไม่ได้มีความพิเศษเหมือนพี่เมฆคงไม่มีทางช่วยอะไรอาร์ดิวได้ ขนาดหมอยังรักษาไม่ได้แล้วเขาเป็นใครกัน

เมฆได้บอกแผนการต่างๆแก่เขา มันเป็นเรื่องเหลือเชื่อเมื่อเมฆบอกว่าจะให้เขาถอดจิต ดูหนังผีมากไปหรือเปล่า มันทำได้ที่ไหนกัน แต่พอมาถึงตอนนี้เขาไม่มีข้อโต้แย้งใดๆอีกแล้ว เมื่อสภาพของเขาไม่ได้ต่างอะไรกับเจ้าวิญญาณที่ลุกขึ้นมามองเขาตาขวางนั่น แน่ล่ะว่าถ้าเขาไม่ได้เป็นเพียงดวงจิตก็คงสัมผัสหมอนั่นไม่ได้ ก็เขาไม่ใช่หมอผีเหมือนพี่เมฆนี่

“อาร์ดิว นายอยู่ที่นี่หรือเปล่า?”

การ์ฟกวาดตามองหาคนที่ตนเองเรียก ในห้องนี้มันเงียบ เงียบเกินไปด้วยซ้ำ การ์ฟหันกลับมามองวิญญาณหนุ่ม ฝ่ายนั้นไม่ได้แสดงท่าทีมีพิรุธใดๆ แต่นั่นล่ะคือพิรุธ

“การ์ฟ”

“ครับ พี่เมฆ”

เสียงเมฆดังมาให้ได้ยิน การ์ฟขานรับแล้วพยายามตั้งใจฟังในสิ่งที่พี่ชายของอาร์ดิวจะบอก เพราะการที่เมฆส่งเขามาแบบนี้มันมีข้อกำหนด หากถูกเรียกให้กลับ ต้องกลับทันที

“เดินเข้าไปใกล้เด็กผู้หญิงที่นอนอยู่บนเตียงนั่นแล้วเรียกอาร์ดิวอีกทีซิ”

“ครับ”

การ์ฟรับคำแล้วเดินเข้าไปใกล้เตียงคนไข้ตามที่เมฆบอก

“อย่านะ อย่ายุ่งกับน้องฉัน!”

วิญญาณหนุ่มโวยวาย วิ่งเข้ามาเอาไหล่ชนการ์ฟจนล้มลง ถึงจะถูกมัดอยู่แบบนี้ แต่เขาไม่มีทางยอมให้ใครมาทำอะไรน้องของเขาได้หรอก

การ์ฟมองเขม็ง ก่อนเรียกอาร์ดิวเสียงดัง “อาร์ดิว!”

ขยับลุกขึ้นโดยไม่สนใจสีหน้าแตกตื่นของอีกคน ไม่สิ อีกตนสักนิด การ์ฟก้าวเข้าไปหาเด็กหญิงพร้อมเอ่ยเรียกซ้ำ

“อาร์ดิวได้ยินฉันไหม อาร์ดิว!”

“หยุด!!”

“อาร์ดิว”

“บอกให้หยุดไงวะ!!”

วิญญาณหนุ่มตวาดก้อง การ์ฟเพียงมองด้วยหางตา ก่อนโน้มลงไปใกล้เด็กผู้หญิงคนนั้นมากขึ้น

“อาร์ดิว ฉันมารับแล้ว กลับไปด้วยกันเถอะนะ”

จบคำพูดนั้นของการ์ฟ วิญญาณหนุ่มก็ทรุดนั่งราวหมดแรง การ์ฟไม่คิดจะสนใจท่าทางจะเป็นจะตายนั่น ตอนทำร้ายคนอื่นทำไมไม่คิด ถ้าอยากได้ความสงสาร ความเห็นใจจากเขา เขาบอกเลยว่าไม่มีให้

ร่างของเด็กหญิงมีเงาสีขาวจางๆซ้อนทับ การ์ฟถอยออกมาจากข้างเตียงเล็กน้อย มองดูสิ่งที่เกิดขึ้นนิ่ง

“การ์ฟ...”

เงาสีขาวจางนั้นก่อตัวขึ้นเป็นรูปเป็นร่าง แต่ก็ยังไม่ชัดนัก เพียงแค่เห็นว่าเป็นใครคนหนึ่งที่ลุกขึ้นมานั่งซ้อนบนร่างของเด็กหญิง มีเพียงเสียงเรียกที่ทำให้การ์ฟมั่นใจว่าใช่คนที่ตนเองตามหา เด็กหนุ่มก้าวเข้าไปหาเงาร่างนั้น มองอย่างไม่อยากเชื่อสายตา

“เกิดอะไรขึ้นตี๋?”

“ผมไม่รู้ เขา...”

เพียงอาร์ดิวพูดว่าเขา การ์ฟก็ตรงเข้าไปกระชากวิญญาณหนุ่มที่ยังนั่งหมดอาลัยอยู่ที่พื้นขึ้นมา

“นายทำอะไร ทำอะไรเพื่อนฉันห๊ะ!!”

ผู้ถูกตะคอกถามเพียงแค่นยิ้มเย้ยหยัน สายตาปรายไปมองอาร์ดิวที่เงาร่างเริ่มจางลงเรื่อยๆ

“การ์ฟ อย่าไปสนใจหมอนั่น ช่วยอาร์ดิวก่อน พากลับมา”

เสียงเมฆกำกับมาจากที่ห่างไกล การ์ฟปล่อยคอวิญญาณหนุ่มแล้วก้าวกลับไปหาอาร์ดิวบนเตียง

“ตี๋ กลับไปด้วยกันนะ”

“ผมไปไม่ได้”

“ทำไม?”

“ไม่รู้” ตอบกลับไปเสียงเครือ การ์ฟจิ๊ปาก

“ถ้าฉันถามแล้วนายบอกว่าไม่รู้อีกคำเดียวเดี๋ยวมีเจ็บ”

“อย่าขู่สิ ก็ผมไม่รุ...”

จุ๊บ!

อาร์ดิวนิ่งอึ้งเมื่อการ์ฟโน้มลงมาจูบรวดเร็ว ดวงตาเรียวรีกะพริบปริบ มองใบหน้าการ์ฟที่อยู่ใกล้กันเพียงปลายจมูก

“คราวนี้รู้อะไรขึ้นมาบ้างหรือยัง?”

“.......”

“ลงมา”

มือใหญ่ยื่นมาตรงหน้าเมื่อเจ้าของมือผละห่างไปแล้ว อาร์ดิวค่อยวางมือลงบนนั้น ยอมให้จับมือแล้วลงจากเตียงง่ายๆ การ์ฟมองวิญญาณหนุ่มที่ยังยืนอยู่ที่เก่าก่อนส่งเสียงบอกกับเมฆ

“พี่เมฆ ผมพร้อมแล้ว”

เด็กหนุ่มหลับตาลงเพื่อตั้งจิตให้แน่แน่ว มือกุมกระชับมืออาร์ดิว ก่อนที่จะถูกดึงตัวกลับไปอาร์ดิวก็อดหันกลับมามองวิญญาณหนุ่มอีกครั้งไม่ได้ เห็นอีกฝ่ายร้องไห้ก็พาลจะใจอ่อน แต่มือการ์ฟที่กระชับแน่นทำให้เขาต้องเงยขึ้นมองเจ้าของมือ การ์ฟอุตส่าห์ตามมาช่วย ทั้งที่บอกเองแท้ๆว่าไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ มือเรียวบีบมือการ์ฟตอบ หลับตาลงอย่างตัดใจ

การ์ฟกับอาร์ดิวหายไปแล้ว เครื่องวัดการเต้นของหัวใจน้องสาวเขาช้าลง วิญญาณหนุ่มคุกเข่าลงข้างเตียง จับมือเรียวเล็กที่ซูบผอมมาแนบแก้ม หมดหวังแล้วสินะ หมดสิ้นแล้วจริงๆ



หลังจากช่วยอาร์ดิวกลับมาได้แล้วถึงได้รู้ว่าเรื่องราวทั้งหมดเป็นเช่นไร วิญญาณตนนั้นต้องการตัวตี๋น้อยเพื่อที่จะทำให้น้องสาวตัวเองฟื้นขึ้นมาจากการเป็นเจ้าหญิงนิทรา เขาและน้องสาวรักกันมากเพราะมีกันอยู่แค่สองคนพี่น้อง แต่เขากลับทำบุญมาน้อยทำให้ต้องจากมาก่อนวัยอันควรเช่นนี้ เพราะอุบัติเหตุทำให้ทั้งเขาและน้องสาวเจ็บหนัก และเขาก็ได้เสียชีวิตลง ส่วนน้องสาวกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา

ห่วงที่มีผูกวิญญาณหนุ่มเอาไว้ทำให้ไม่สามารถไปไหนได้ เขายินดีทำทุกอย่างเพื่อให้น้องสาวที่น่ารักกลับมามีชีวิตดังเดิม การนำคนซึ่งเคยเกือบตายแล้วฟื้นมาถ่ายเปลี่ยนพลังชีวิตจึงเป็นหนทางที่ดี เขาค้นหาคนๆนั้นก่อนที่เขาจะต้องจากโลกนี้ไปจริงๆ จนในที่สุดก็ได้มาเจออาร์ดิว

เมื่อตอนที่ได้รู้เช่นนั้นอาร์ดิวที่ถูกนำตัวออกจากร่างจึงได้ขอใช้วิธีการใหม่ เพราะตนเองก็ยังไม่อยากตายเหมือนกันกับน้องสาวของวิญญาณหนุ่ม พ่อแม่พี่น้องของเขาเองก็ต้องเสียใจแน่ เหมือนกับที่วิญญาณหนุ่มเสียใจ แต่ถึงจะพูดเช่นนั้นก็ไม่ได้เปลี่ยนความคิดของคนรักน้องให้คล้อยตามตนเอง ดีที่การ์ฟกับพี่เมฆมาช่วย ไม่เช่นนั้นเขาอาจไม่ได้กลับมาหาทุกคนอีกก็เป็นได้

เมฆหาวิธีให้การ์ฟไปพาน้องชายของตนกลับมา ในตอนนั้นเขายังไม่รู้ว่าอาร์ดิวถูกนำไปซุกซ่อนไว้ที่ไหน ที่เขาคาดการณ์เอาไว้คือคนร้ายต้องกลับมายังจุดเกิดเหตุ และมันก็เป็นไปดังคาด แต่การที่จะส่งการ์ฟไปนั้นมันก็เสี่ยงมากพอดู เพราะทั้งการ์ฟกับอาร์ดิวอาจเป็นฝ่ายไม่ได้กลับมาหากมันพลาดไป การ์ฟที่รู้ถึงความเสี่ยงนั้นก็ยังยินดีที่จะไป จากความมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวของการ์ฟทำให้เมฆมั่นใจมากขึ้นว่าจะสามารถพาทั้งคู่กลับมาได้อย่างปลอดภัย

ในที่สุดเมฆก็ให้การ์ฟไป กำชับว่าถ้าได้ยินเสียงเรียกให้รีบกลับมาทันที ด้วยความพิเศษของเขาบวกกับความแน่วแน่ของการ์ฟทำให้ทุกอย่างจบลงอย่างง่ายดาย เมฆเรียกตัววิญญาณหนุ่มกลับมาหาตนเอง ท่าทางแข็งกร้าวของอีกฝ่ายก่อนหน้านี้แปรเปลี่ยนเป็นหมดอาลัยและเศร้าหมอง ชายหนุ่มถอนใจแล้วว่า

“สัตว์โลกมันย่อมเป็นไปตามกรรม ไม่เคยได้ยินหรือไง?”

“เลิกพูดมากสักที จะทำอะไรก็ทำ”

นึกว่าจะหมดฤทธิ์ เมฆถอนใจแล้วส่ายหน้าหน่ายอีกหน

“เพื่อป้องกันไม่ให้นายไปสร้างเรื่อง สร้างเวรสร้างกรรมกับใครอีก ฉันคงต้องกักตัวนายไว้สักพักจนกว่า...”

หางตาวิญญาณเจ้าปัญหาตวัดมอง ก่อนเบือนไปทางอื่น

“จนกว่าจะถึงเวลาที่นายต้องไปสู่ภพภูมิที่สมควร”


+++++++++++++++

ต่อด้านล่างค่ะ
หัวข้อ: Re: ☆☆MAGICA CAFÉ☆☆ magic <15> 20/06/2556
เริ่มหัวข้อโดย: wanmai ที่ 20-06-2013 07:17:47
หลังเรื่องร้ายๆผ่านพ้นไป ครอบครัวของอาร์ดิวได้ลูกชายคนโตกลับคืน ทุกคนต่างยินดี คุณแม่ร้องไห้โฮเมื่อเห็นอาร์ดิวลืมตาตื่นฟื้นขึ้นในเช้าวันถัดมาหลังจากที่เมฆและการ์ฟได้ทำการช่วยเหลือจนสำเร็จ ท่านเฝ้าภาวนามาหลายวัน ในที่สุดลูกของท่านก็ฟื้นเสียที

สิ่งที่เกิดขึ้นราวปาฏิหาริย์นี้ทำให้คณะแพทย์ที่ทำการวินิจฉัยโรคถึงกับมึนงงกันไปเป็นแถบ ทั้งที่ยังหาสาเหตุไม่เจอแต่คนไข้กลับฟื้นขึ้นมาเสียแล้ว ราวไม่ได้เป็นอะไรไปสักน้อยนิดเลยด้วยซ้ำ

“อยู่ได้แน่นะการ์ฟ รบกวนหรือเปล่า?”

คุณแม่รวิเอ่ยถามการ์ฟที่มาเยี่ยมอาร์ดิว ท่านว่าจะไปเคลียร์บัญชีที่ร้านสักหน่อย ทิ้งมาหลายวันแล้ว แต่ไม่มีใครว่างมาอยู่แทน พอดีกับที่การ์ฟมาแล้วอาสาอยู่แทนให้ ท่านจึงได้เตรียมตัวจะกลับ แต่ก็ไม่วายเอ่ยถามซ้ำอีกรอบด้วยความเกรงใจ

“ไม่รบกวนหรอกครับคุณป้า ถึงยังไงผมก็ไม่ได้ไปที่ร้านอยู่แล้ว ว่างครับ”

“ขอบใจนะจ๊ะ เย็นๆป้าจะเข้ามาเปลี่ยน หรือถ้าปอมปอมกับชีวามา การ์ฟจะกลับบ้านก็ได้นะจ๊ะ”

“ครับ”

การ์ฟตอบรับ คุณแม่รวิยิ้มให้แล้วจึงออกจากห้องไป พอเหลือกันสองคนแล้วก็รู้สึกแปลกๆ การ์ฟยกเก้าอี้มานั่งข้างเตียง อาร์ดิวละสายตาจากจอโทรทัศน์บนผนังมามอง

“ถ้านายอยากกินอะไรก็บอกนะ หรืออยากเข้าห้องน้ำก็ต้องบอกฉันรู้ไหม?”

“อื้อ” รับคำในลำคอแล้วก็เงียบไป มีเพียงเสียงจากรายการโทรทัศน์ที่ยังดังอยู่

“สร้อยเส้นใหม่ คราวนี้สีเหลืองเหรอ?”

การ์ฟพูดเบาคล้ายคุยกับตัวเอง แต่อีกคนก็ยังได้ยินจึงหันมามอง ก่อนก้มลงมองสร้อยที่ห้อยคอตนเองอยู่

“ของปอมปอมน่ะ น้องผมให้ยืม”

อาร์ดิวยิ้มบอก ก่อนรอยยิ้มจะหุบลงแล้วเบือนสายตาไปทางอื่นเมื่อสบตากับการ์ฟพอดี

“ขอบใจนะ” การ์ฟพูดขึ้น อาร์ดิวเลิกคิ้วฉงน

“ขอบใจผมเรื่องอะไร ผมต่างหากที่ต้องขอบคุณคุณที่ช่วยพาผมกลับมา ทั้งๆที่คุณไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ ขอบคุณมากๆเลยครับ”

“ฉันยินดีรับคำขอบคุณจากนาย แต่ฉันก็ต้องขอบคุณนายด้วย... ที่ยอมกลับมากับฉัน”

ตี๋น้อยยิ้มเขิน ก็การ์ฟใช้สายตาแปลกๆมองเขา การ์ฟค่อยเอื้อมมือมาวางบนมืออาร์ดิว ตี๋น้อยสะดุ้งเฮือก ดึงมือกลับแล้วมองการ์ฟตาโต

“เป็นอะไร?”

การ์ฟเอ่ยถามตกใจไม่แพ้กัน มือยังจับมืออาร์ดิวไม่ปล่อย คนถูกถามหน้าแดงพลางส่ายหน้ารัว

“ตี๋ เป็นไรเนี่ย ผีเข้าอีกเหรอ?” การ์ฟยังถามซ้ำ เขาเป็นห่วงนะเว้ย เป็นอะไรไปอีก

“เปล่า”

“แล้วเป็นอะไร เรียกพยาบาลดีไหม?”

ว่าแล้วก็จะกดปุ่มเรียกพยาบาล ตี๋น้อยรีบร้องห้าม “อย่าการ์ฟ!”

คิ้วการ์ฟขมวด มองจ้องอาตี๋ที่ก้มหน้างุดกลอกตาไปมา พอถูกจ้องหนักเข้าตี๋น้อยจึงจำต้องบอก

“ปล่อยมือได้ไหมอ่ะ”

“หือ?” ยกมือที่ตัวเองจับขึ้นมามองก่อนเอ่ยถาม

“นายเขิน?”

ตี๋น้อยพยักหน้า หลบสายตาไม่กล้าเงยมอง การ์ฟยกยิ้มมุมปาก โน้มตัวลงมาใกล้อีกคนแล้วบอก

“มองตาฉันซิ ฉันจะดูว่านายพูดจริงหรือโกหก”

อาร์ดิวหันขวับหลบไปอีกทางทันที พอนึกได้ก็หยีหน้าขัดใจตัวเองที่แสดงออกมาแบบนั้น โธ่ กลัวเขาไม่รู้หรือไงนะเรา

“นายโกหก” การ์ฟว่าอย่างเป็นต่อ

“เปล่าโกหกนะ” ตี๋น้อยปฏิเสธ

“ฉันเชื่อว่านายเขิน แต่ที่บอกให้ปล่อยมือนี่เพราะอะไร?”

“..........” ยังปิดปากเงียบ ไม่ยอมพูด

“ให้ฉันเดาไหม?”

“..........”

“นายเห็นนิมิตอะไรนั่นอีกแล้วใช่ไหม?”

“..........” คราวนี้ถึงเงียบกว่าเดิมอีก

“บอกฉันหน่อยสิ”

“บอกไม่ได้”

“เร็ว บอกหน่อย ไม่งั้นฉันไม่ยอมปล่อยแน่”

“การ์ฟ แกล้งกันนี่”

“หึ”

คนขี้แกล้งยกยิ้มมุมปาก อาร์ดิวหน้างอ เมื่อก่อนไม่เห็นเป็นแบบนี้ ทำไมขี้แกล้งแบบนี้ล่ะ!?




TBC




มาแล้วค่ะ เลทไปตั้งสองวัน เสร็จไม่ทันจริงๆค่ะตอนนี้ พล็อตที่วางไว้ตอนแรกตั้งน๊านนานมาแล้วก็ถูกเปลี่ยนเพราะต่อไม่ติดแล้ว เศร้าใจกับตัวเอง  :sad4:

ขอบคุณที่ยังรอกันอยู่ค่ะ สายๆเข้ามาบวกให้อีกทีนะคะ ไปทำธุระแป๊บ

วันใหม่ค่ะ
 :L2:

+++++++++

บวกเรียบร้อยค่ะ
หัวข้อ: Re: ☆☆MAGICA CAFÉ☆☆ magic <15> 20/06/2556
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 20-06-2013 08:21:53
เห็นอะไรนะดิว อย่บอกนะว่า หุๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ☆☆MAGICA CAFÉ☆☆ magic <15> 20/06/2556
เริ่มหัวข้อโดย: greensnake ที่ 20-06-2013 09:53:51
แล้วเรื่องราวก็จบลงด้วยดี แต่ก็เกือบไปเหมือนกัน
สงสารสองพี่น้องนั่นก็สงสาร แต่ที่พี่เมฆพูดก็ถูก
ได้แต่หวังว่าพี่เมฆจะช่วยวิญญาณดวงนั้นได้นะ
ส่วนอาร์ดิวกับการ์ฟก็ดูจะสนิทกันมากกว่าเก่าอีกนิด
อยากรู้จังเลยว่าคราวนี้อาร์ดิวเห็นอะไรน้า :-[
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :กอด1:
+1และเป็ดค่ะ
หัวข้อ: Re: ☆☆MAGICA CAFÉ☆☆ magic <15> 20/06/2556
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 20-06-2013 10:57:14
จุ๊บเลยเรอะ การ์ฟ แหมๆ รอเวลานี้ละจิ
อาร์ดิวนิมิตใหม่ที่เห็นเนี่ย ต้องมากกว่าจูบแน่ๆเลย ใช่มั้ยๆ
อ่านแล้วโล่งอกที่ทุกอย่งผ่านไปได้ด้วยดี
หัวข้อ: Re: ☆☆MAGICA CAFÉ☆☆ magic <15> 20/06/2556
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 20-06-2013 11:10:50
ลงเอยกันเร็วนะ ดิวกับกราฟ เชียร์คู่นี้อ่ะ
หัวข้อ: Re: ☆☆MAGICA CAFÉ☆☆ magic <15> 20/06/2556
เริ่มหัวข้อโดย: nemesis ที่ 20-06-2013 11:39:36
ดิวเห็นไรอะ
หัวข้อ: Re: ☆☆MAGICA CAFÉ☆☆ magic <15> 20/06/2556
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 20-06-2013 16:29:48
เห็นเป็นคู่รักกันสินะ อิอิ
หัวข้อ: Re: ☆☆MAGICA CAFÉ☆☆ magic <15> 20/06/2556
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 20-06-2013 16:51:41
ตี๋น้อยดิวเขิล :impress2:
หัวข้อ: Re: ☆☆MAGICA CAFÉ☆☆ magic <15> 20/06/2556
เริ่มหัวข้อโดย: udongjay ที่ 20-06-2013 17:27:51
ดีจังที่อาร์ดิวฟื้น แอบกลัวดราม่าง่า
เม้นไม่ออก TT เจอข่าวร้ายเข้าไป
แต่ยังเอาใจช่วยการ์ฟดิวและปอมดิวอยู่น๊า
หัวข้อ: Re: ☆☆MAGICA CAFÉ☆☆ magic <15> 20/06/2556
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 20-06-2013 19:41:03
ต้องบอกว่าจุ๊บคืนชีพสินะ อายม้วนแทนอาร์ดิว :o8:
ผ่านเรื่องร้ายๆไปซักที ขอให้มีแต่เรื่องๆดีเกิดขึ้นซักทีเถอะเนอะ อย่างเช่น อาร์ดิวกับการ์ฟตกลงเป๋นแฟนกัน วี้ดวิ้ว :mew1:
หัวข้อ: Re: ☆☆MAGICA CAFÉ☆☆ magic <15> 20/06/2556
เริ่มหัวข้อโดย: YOSHIKUNI RUN ที่ 20-06-2013 19:53:26
 แหม...พอฟื้นมา ก็น่ารัก กุ๊กกิ๊กกันเชียว :o8:
อาร์ดิวเห็นนิมิตอะไรอ่าา o18
หัวข้อ: Re: ☆☆MAGICA CAFÉ☆☆ magic <15> 20/06/2556
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 21-06-2013 12:38:32
แหม การ์ฟ ไอ้วิธีจุ๊บให้ยอมตามกลับมาเนี่ยนะ :o8: ชอบอ่ะ
เด็กนั่นก็น่าสงสารอยู่ แต่ไม่ควรทำให้คนอื่นเดือดร้อนน่ะ
หัวข้อ: Re: ☆☆MAGICA CAFÉ☆☆ magic <15> 20/06/2556
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 21-06-2013 14:14:59
ตี๋น้อยเห็นอะไรหนอ
หัวข้อ: Re: ☆☆MAGICA CAFÉ☆☆ magic <15> 20/06/2556
เริ่มหัวข้อโดย: raviiib❁ ที่ 21-06-2013 18:54:25
โอยยยยยยย จิ้นคู่พี่เมฆกับวิญญานผีเร่ร่อน55555555
ตอนนี้ดิวกับกราฟหวานเว่อร์ค่า เขินนนน :-[
หัวข้อ: Re: ☆☆MAGICA CAFÉ☆☆ magic <15> 20/06/2556
เริ่มหัวข้อโดย: KhunToOk ที่ 21-06-2013 23:19:12
 :hao7: :hao7: เค้าเขิน อิอิ
หัวข้อ: Re: ☆☆MAGICA CAFÉ☆☆ magic <15> 20/06/2556
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 21-06-2013 23:36:14
น้องใหม่!

อ่านตอนนี้แล้วลุ้นน่าดูค่ะ แต่สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมนะคะ
เห็นใจพี่ชายวิญญาณแต่ก็ยังไม่อยากให้อาร์ดิวเป็นอะไรไป ต้อง
มาเล่าก่อนค่ะว่ามองเห็นอะไรถึงได้รู้สึกเขิน ^^ 55

วันนี้ได้อ่านหลายเรื่องที่อัพ มีความสุขค่ะ อิอิ
หัวข้อ: Re: ☆☆MAGICA CAFÉ☆☆ magic <15> 20/06/2556
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 22-06-2013 08:38:39
อาร์ดิวกราฟน่ารักดี รู้ใจกันแล้วสินะ สงสัยเรื่ิองมีนว่าไม่มาวุ่นวายกับอาร์ดิวแล้วหรือ หรือเพราะเพื่อนคนนั้น
หัวข้อ: Re: ☆☆MAGICA CAFÉ☆☆ magic <15> 20/06/2556
เริ่มหัวข้อโดย: PapermintReal ที่ 22-06-2013 14:13:53
พี่เมฆไม่สนใจได้เมียโปร่งแสงเหรอ :hao6:
หัวข้อ: Re: ☆☆MAGICA CAFÉ☆☆ magic <15> 20/06/2556
เริ่มหัวข้อโดย: TinyB ที่ 22-06-2013 19:31:23
ลุ้นแทบตาย มาเขินอายเอาฉากสุดท้าย เขินๆๆๆ  :o8:
หัวข้อ: Re: ☆☆MAGICA CAFÉ☆☆ magic <15> 20/06/2556
เริ่มหัวข้อโดย: ~ณิมมานรฎี~ ที่ 23-06-2013 23:13:04
 :hao6:   พี่เมฆ กักขังผีไว้กับตัวเองงง เหรออออออ  :hao7:
หัวข้อ: Re: ☆☆MAGICA CAFÉ☆☆ magic <16> 24/06/2556
เริ่มหัวข้อโดย: wanmai ที่ 24-06-2013 09:48:18
Magica Café

Magic (16)



ห้องพิเศษในโรงพยาบาลที่อาร์ดิวพักรักษาตัวอยู่ มิมิวกับพี่ชายของเธอมาเยี่ยม เพื่อนสนิททั้งสองคุยเล่นกัน การ์ฟนั่งอยู่ที่โซฟายาวติดหน้าต่างห้อง ส่วนพี่มีน พี่ชายของมิมิวนั่งอยู่อีกข้างของเตียง การ์ฟมองทั้งสามคนคุยกันแล้วถอนใจเบาๆก่อนลุกขึ้น อาร์ดิวหันมามองเขาทันทีที่เขาขยับลุก ทำให้อีกสองคนหันมามองด้วย

“ฉันจะลงไปข้างล่าง นายจะเอาอะไรไหม?” การ์ฟเอ่ยถามแก้เก้อ

อาร์ดิวส่ายหน้าแล้วยิ้มบอก “ไม่ครับ ขอบคุณ”

การ์ฟพยักหน้าแล้วจะเดินเลี่ยงไป มิมิวลุกขึ้นคว้ากระเป๋าคล้องแขนแล้วเดินมาหา

“มิวไปด้วยค่ะ”

การ์ฟเลิกคิ้วหันมามองมิมิว

“มิวคอแห้งอ่ะ เห็นข้างล่างมีร้านน้ำปั่นด้วย มิวอยากกิน” เด็กสาวยิ้มบอกก่อนหันมาหาอาร์ดิวกับพี่ชายตนเอง

“ดิวคุยกับพี่มีนไปก่อนนะ ไปค่ะ การ์ฟ”

เอ่ยชวนแล้วเดินนำไปก่อน การ์ฟมองอาร์ดิวแต่ไม่ได้พูดอะไรนอกจากเดินตามมิมิวไป เปิดประตูให้มิมิวเดินออกก่อนแล้วจึงงับปิด

“มิวกำลังหาจังหวะหลบฉากอยู่เลยนะเนี่ย” เด็กสาวเอ่ยบอกแล้วหัวเราะน้อยๆขณะที่ยืนรอลิฟท์อยู่ด้วยกัน การ์ฟไม่ได้พูดอะไร พอเงียบแล้วบรรยากาศแปลกๆระหว่างทั้งคู่ก็เกิดขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่

“การ์ฟมาดูแลอาร์ดิวทุกวันเลยหรือคะ?”

คำถามของมิมิวพาเอาใจการ์ฟกระตุก แต่สีหน้าของเขาก็ยังไม่แสดงอาการใดๆออกมาให้เห็น

“แค่มาเยี่ยมน่ะ พอดีวันนี้คุณแม่อาร์ดิวท่านมีธุระ การ์ฟเลยอยู่เป็นเพื่อนเขารอน้องปอมปอม”

“อ๋อ” มิมิวพยักหน้ารับรู้ หลังจากนั้นก็ต่างคนต่างเงียบกันไป เมื่อลิฟท์มาถึงชั้นที่พวกเขายืนอยู่ทั้งคู่ก็แทบถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ความอึดอัดแบบนี้มันคืออะไร?



อีกด้านหนึ่ง ภายในห้องพัก พอมิมิวกับการ์ฟออกไปอาร์ดิวก็ดูจะไม่ค่อยพูด มีนที่มองสถานการณ์อยู่แต่แรกยกยิ้มบางแล้วเปรยขึ้นมา

“มันยากที่จะไม่รู้สึกอะไร”

“ครับ?” ตี๋น้อยหันมามองคนพูด เอียงคอเล็กๆเชิงถาม

“พี่ว่าสองคนนั้นคงยังรู้สึกดีๆต่อกันอยู่น่ะ” มีนขยายความไปอีกทาง

“ครับ” อาร์ดิวเพียงแต่ยิ้ม ไม่แสดงท่าทีให้พี่มีนจับได้ว่าตนเองกำลังกังวลใจเรื่องอะไรอยู่

มีนมองเพื่อนน้องสาวยิ้มๆ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มากดรับเมื่อมันสั่นเพราะมีสายเรียกเข้า

“เออ ว่าไง ถึงโรง’บาลแล้วเหรอ?... ชั้นเก้า ฝั่งตะวันออก ...เออ เดินมาถามที่เคาน์เตอร์พยาบาลอ่ะ ห้องห้านะ... จะให้ลงไปรับไหม?... โอเค รออยู่นี่นะ รีบขึ้นมา บาย”

มีนกดวางสายแล้วเงยมองอาร์ดิวที่มองตนเองอยู่ ก่อนเอ่ยบอกท่าทางเกรงใจ

“พอดีเพื่อนพี่มันเพิ่งกลับจากตีเทนนิสที่สนามใกล้ๆนี้น่ะ พี่กะว่าจะไปส่งมันที่บ้านเลยให้มันมาที่โรงพยาบาล เอ่อ...คงไม่เป็นการรบกวนอาร์ดิวใช่ไหมครับ?”

“ไม่เป็นไรหรอกครับ อยู่กันหลายคนไม่เหงาดี” ตี๋น้อยยิ้มบอก

รออยู่ครู่เดียวเพื่อนที่มีนพูดถึงก็เข้าห้องมาทั้งชุดเล่นเทนนิสเต็มยศ มีกระเป๋าใส่ไม้เทนนิสสะพายมาด้วยอีก มีนมองเพื่อนตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าด้วยความอึ้ง ไม่นึกว่าจะมาชุดนี้เลยให้ตาย

“ทำไมมึงไม่เปลี่ยนชุดก่อนค่อยมา?”

“กูกลัวมึงรอนาน”

“มึงนี่นะ ต่อให้มึงอาบน้ำอีกสามรอบกูก็รอได้ ไม่ได้รีบอะไรขนาดนั้น”

“มันไม่สะอาด กูอยากกลับไปอาบที่ห้อง”

“มึงก็เลยมาทั้งอย่างนี้? เกรงใจน้องมันบ้างไหมเนี่ย นี่มันโรงพยาบาลนะ ซกมกจริงๆ”

พอโดนบ่นอย่างนั้นเจ้าตัวก็หันมามองอาร์ดิวที่นั่งเงียบอยู่บนเตียงคนไข้ อาร์ดิวเพียงยิ้มให้ ไม่ได้ถือสาอะไรที่เพื่อนพี่มีนจะแต่งตัวอย่างไรมา

“สวัสดีครับ” เพื่อนพี่มีนเอ่ยทักทาย

“ครับ สวัสดีครับ”

“พี่ชื่อเก้า เป็นเพื่อนมีน” แนะนำตัวเองแล้วยิ้มตาปิด

“ครับ ผมอาร์ดิว เพื่อนน้องสาวพี่มีนครับ”

“อ้อ เพื่อนมิมิวนี่เอง แล้วเป็นไงบ้างครับ หายดียัง?”

เอ่ยถามพลางยกเก้าอี้มานั่งข้างเตียง ส่งกระเป๋าให้มีนถือ มีนก็รับมางงๆก่อนวางไว้ที่โต๊ะข้างเตียงนั่นแล้วย้ายไปนั่งที่โซฟายาวมองเพื่อนตนเองคุยกับอาร์ดิวแทน

“ก็ดีขึ้นมากแล้วครับ สองสามวันคงได้กลับบ้าน”

“ดีใจด้วยนะ พี่เข้าใจเลยว่าการอยู่โรงพยาบาลมันน่าเบื่อแค่ไหน”

เก้ากระซิบกระซาบน้ำเสียงทะเล้น ก่อนที่ทั้งสองหนุ่มจะคุยกันราวรู้จักกันมานานมากแล้วอย่างนั้น มีนนั่งเอนหลังพิงโซฟาแล้วกอดอกมองยิ้มๆ สนิทกันไวจัง

พอการ์ฟกับมิมิวกลับมา ทั้งมีน เก้า และมิมิวจึงลากลับบ้าน เมื่อกลับกันไปหมดแล้วการ์ฟจึงเดินไปนั่งที่โซฟาตัวเดิมไม่พูดไม่จา อาร์ดิวมองแล้วก็อึดอัด อะไรกัน พอกลับมาก็หน้าบึ้ง

“อยากกลับบ้านก็ได้นะการ์ฟ ผมอยู่คนเดียวได้” เอ่ยบอกด้วยความหวังดี แต่คนฟังคงตีความไปทางอื่น

“มาถึงก็ไล่เลยนะ”

“เปล่าไล่ ก็เห็นทำหน้าบูดบึ้งแบบนั้นผมก็กลัวว่าคุณจะเบื่อที่ต้องมานั่งเฝ้านานๆแบบนี้”

“พูดสักคำรึยัง?”

อาตี๋ชะงักกับน้ำเสียงเรียบเฉย เขาไม่ชอบเลยแบบนี้ ตี๋น้อยนอนลงตวัดผ้ามาห่มแล้วหันหลังให้คนเฝ้า ทั้งห้องเงียบไปพักหนึ่งก่อนที่การ์ฟจะเอ่ยขึ้นมา

“อยากให้กลับฉันก็จะกลับล่ะ”

การ์ฟลุกจะเดินออกไป ไม่มีเสียงห้ามจากคนป่วยเลยสักนิด เด็กหนุ่มหยุดแล้วเหลียวกลับมามอง

“ไม่เอาดีกว่า รับปากแม่นายไว้แล้วนี่” ให้เหตุผลแบบนั้นแล้วเดินกลับมานั่งที่เดิม อาร์ดิวผุดลุกขึ้นมานั่งนิ่งๆอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนหันมาหาการ์ฟ

“การ์ฟ ผมมีเรื่องอยากถาม”

“ว่า?”

“คุณจำได้ไหมว่าน้องของวิญญาณตนนั้นน่ะพักอยู่ห้องไหน?”

“ไม่รู้สิ ตอนเข้าไปฉันก็ไปโผล่ในห้องแล้ว ไม่รู้หรอกว่าห้องไหน” การ์ฟทำท่านึกแล้วส่ายหน้า เพราะเขาก็ไม่เห็นเลขหน้าห้อง ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอยู่ในโรงพยาบาลแห่งนี้ด้วยหรือเปล่าเพราะในห้องก็ใช่ว่าจะสว่าง

“ผมอยากไปเยี่ยมเธอจัง” ตี๋น้อยหน้าเศร้า นึกไปแล้วก็สงสารเธอ

“ถามพี่เมฆสิ”

“เออ จริงด้วย” สีหน้าอาร์ดิวดูมีความหวังขึ้นมาในพริบตา ก่อนจะหันซ้ายแลขวาหาอะไรสักอย่างจนการ์ฟสงสัย

“อะไร?”

ตี๋น้อยยิ้มแหย “ลืมไปว่าแม่ไม่ให้ใช้โทรศัพท์ ขอยืมได้ไหมครับ แหะๆ”

การ์ฟยิ้มขำ ก่อนยื่นโทรศัพท์ของตนเองให้ตามคำขอ มองท่าทางดีใจของตี๋น้อยแล้วการ์ฟก็ยิ้มอีก มีหลายอารมณ์ดีนะตี๋



ก่อนกลับบ้านอาร์ดิวก็ได้ไปเยี่ยมน้องเขาสมใจ เพราะพี่เมฆเค้นถามวิญญาณหนุ่มมาให้ การพบกันคราวนี้น้องไม่ได้นอนนิ่งมีสายระโยงระยางอยู่แบบครั้งที่เขาเห็น น้องยังซูบผอมอยู่มาก แต่ก็พอมีแรงพยุงตัวนั่งได้แล้ว ทุกคนในบ้านเชื่อว่ามันเป็นปาฏิหาริย์ และพอน้องรู้ว่าเขาเป็นเพื่อนพี่ชายน้องก็ร้องไห้ คงรักกันมากจริงๆ

“ดิวสงสารน้องเขาจังครับแม่” อาร์ดิวเอ่ยขึ้นเมื่อคุณพ่อช่วยเข็นรถเข็นให้เขานั่งออกจากห้องน้องสาววิญญาณหนุ่มมา โดยมีคุณแม่และปอมปอมเดินมาข้างกัน

“เราก็ให้ได้เท่านี้ล่ะดิว ถ้ามันต้องแลกกับชีวิตดิวล่ะก็แม่ไม่ยอมแน่”

“แม่ครับ” ตี๋น้อยเรียกคุณแม่เมื่อท่านมีน้ำเสียงจริงจังขึงขัง

“ยังไงลูกก็กลับมาแล้วนะแม่ ความผิดพลาดของคนเราถ้าเขาพร้อมที่จะปรับปรุงและไม่ทำมันซ้ำอีกก็ควรอภัยให้เขานะ อย่าให้เป็นเวรเป็นกรรมติดตามกันไปเลย”

คุณพ่อเอ่ยแนะ เพราะดูเหมือนคุณแม่รวิจะฝังใจเจ็บไม่ยอมให้อภัยวิญญาณหนุ่มที่เกือบพรากอาร์ดิวไปจากท่าน คุณแม่ถอนใจ มันทำใจยากเหมือนกันกับการที่จะอภัยให้ผู้ที่ทำร้ายลูกชายตน แม้จะมีเหตุผลที่น่าสงสารเห็นใจมากแค่ไหน แต่การคร่าชีวิตผู้อื่นเพื่อความสุขสมหวังของตนเองถึงอย่างไรมันก็เห็นแก่ตัวที่สุด

พอกลับมาอยู่บ้าน คุณแม่ก็ได้จัดงานรับขวัญให้ลูกชายคนโต พากันไปทำบุญทั้งบ้านเพื่อเป็นศิริมงคลต่อการเริ่มต้นชีวิตใหม่ของอาร์ดิวด้วย งานที่ร้านคุณแม่ก็ดูจนแน่ใจว่าลูกชายไม่เป็นอะไรแน่แล้วถึงยอมให้ไปทำได้

“พี่มุ่ย วันนี้ปอมจะไปที่ร้านด้วยนะครับ กลับค่ำๆอ่ะ พี่มุ่ยต้องอยู่บ้านคนเดียวอีกแล้วน้า” เสียงแจ๋วๆของกะปอมน้อยดังมาแต่เช้า

“ตามสบายเลยค่ะน้องปอมปอม พี่อยู่ได้สบายมาก” พี่มุ่ย แม่บ้านสาวประจำบ้านสองพี่น้องปอปลาเอ่ยบอกลูกชายคนเล็กของบ้านที่สะพายกระเป๋าเป้เตรียมไปเรียนพิเศษในเช้านี้

“โถ พี่มุ่ยช่างเป็นหญิงแกร่ง”

“หา? มันฟังทะแม่งๆนะคะน้องปอมปอม”

หนุ่มน้อยหัวเราะคิก “ปอมไปเรียนแล้วครับ บ่ายๆจะไปที่ร้านแล้วกลับพร้อมดิวนะครับ”

“ค่า ไปดีมาดี ตั้งใจเรียนนะคะน้องปอม”

“ครับผม~”

พี่มุ่ยเปิดประตูให้ปอมปอมแล้วยืนรอจนหนุ่มน้อยขึ้นรถไปกับชีวาถึงได้ปิดประตูเข้าบ้านไป

ชีวาขับรถพาน้องไปโรงเรียนพิเศษ เดี๋ยวน้องก็เปิดภาคเรียนใหม่แล้วเขาก็คงหมดหน้าที่รับส่งน้อง เพราะเขาเองอีกไม่นานนี้ก็จะเปิดเรียนเหมือนกัน จะเป็นนักศึกษาในรั้วมหาวิทยาลัยแล้ว

“เดี๋ยวปอมก็เปิดเทอมแล้วอ่ะ จริงๆจะว่าไปปิดเทอมแบบนี้ปอมก็ยังไปโรงเรียน เท่ากับไม่ได้ปิดกับเขาเลยเนาะ” น้องชวนคุยเมื่อรถติดไฟแดงนานไปหน่อยแล้ว

“เรียนเยอะๆจะได้เป็นเด็กฉลาด ชาติจะได้เจริญไง” ชีวาหันมายิ้มบอก

“โห ยังโยงมาหากันได้นะป๋า”

ว่าแล้วก็หัวเราะ คนเป็นพี่เองก็หัวเราะในลำคอ มองสัญญาณไฟสีแดงเปลี่ยนเป็นสีเขียวแล้วค่อยเคลื่อนรถตามกันไป ช่วงเช้าแบบนี้รถค่อนข้างติดทีเดียว

“เปิดเทอมมาก็จะไม่ได้เจอป๋าที่โรงเรียนแล้ว เฮ้อ”

“เจอที่บ้านยังไม่พออีกหรือไง?”

“มันไม่เหมือนกันนี่นา อยู่โรงเรียนเดียวกันมาตั้งนาน แล้วแบบนี้ตอนพักเที่ยงใครจะจองโต๊ะให้ปอม ใครจะไปต่อคิวซื้อข้าวให้อีกล่ะ” น้องแกล้งบ่นงุ้งงิ้งไปตามเรื่อง

“ประโยชน์พี่มีแค่นี้ว่างั้น”

“ฮ่าๆๆๆ”

น้องหัวเราะก๊าก ขณะที่ชีวาอมยิ้มนิดๆ นั่นสินะ เขาเองก็ต้องไปเจออะไรใหม่ๆในรั้วมหาวิทยาลัยเหมือนกัน ไม่มีตัวป่วนอยู่ใกล้ๆแล้ว จะเจอกันก็แค่ที่บ้านหลังเลิกเรียน เพิ่งรู้สึกว่าเวลาที่ได้อยู่ด้วยกันมันมีค่าก็ตอนนี้ล่ะ



ก่อนเด็กๆจะเปิดภาคเรียนกันจริงๆคุณแม่ก็พากลับบ้านไปเยี่ยมคุณตากับคุณยาย ได้เล่าเรื่องอาร์ดิวไม่สบายเข้าโรงพยาบาลให้ท่านทั้งสองฟังด้วย คุณยายเลยให้คนมาทำพิธีสะเดาะเคราะห์เข็ญให้หลานแล้วผูกข้อไม้ข้อมือทั้งปอมปอมและอาร์ดิว

ขากลับคุณพ่อก็พาไปเยี่ยมคุณปู่กับคุณย่าที่ท่านก็ชรามากแล้ว ครอบครัวคุณพ่อไปป์เป็นครอบครัวใหญ่ ลูกหลานเต็มบ้านไปหมด รอบบริเวณมีแต่ญาติพี่น้องกันทั้งนั้น บ้านปู่ย่ากับตายายเรื่องลูกหลานเยอะนี่ไม่ต่างกันเลย

พอเปิดภาคเรียนมาทุกคนก็ราวกับต้องแยกย้ายกันไปเริ่มชีวิตสังคมใหม่ๆ ตาต้าที่ไปเรียนมหาวิทยาลัยทางภาคเหนือก็แชทมาคุยกันอยู่บ่อยๆ ชีวาที่สอบได้คนละมหาวิทยาลัยกับอาร์ดิวก็จำต้องแยกกันไป อดเสียดายไม่ได้ที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน

หลังอาร์ดิวฟื้นขึ้นมาในครั้งนั้น การ์ฟก็เฝ้าตามติด เพราะการ์ฟเองก็เรียนที่เดียวกันทำให้ครอบครัวของตี๋น้อยฝากฝังให้ช่วยดูแล ดูทุกคนจะเป็นห่วงเขามากกว่าปรกติ

ที่มหาวิทยาลัยเดียวกันนั้นยังมีมิมิวอีกคน เด็กสาวเรียนคณะเดียวกันกับการ์ฟ ขณะที่อาร์ดิวอยู่อีกคณะหนึ่งซึ่งเวลาเรียนไม่เคยตรงกันเลย มิมิวมักจะมีสารถีประจำตัวมาส่งทุกวันจนถูกเพื่อนแซวกันไม่เลิก แถมมันยังลามมาถึงเขาด้วยเพราะการ์ฟมักจะมาหาหลังเลิกเรียน แม้แต่วันนี้ก็ด้วย

“พ่อพระเอกของแกมาแล้วดิว”

เพื่อนสาวในกลุ่มเอ่ยล้อตั้งแต่เห็นการ์ฟเดินเข้ามาในระยะสายตา อาร์ดิวจำต้องหยุดเดินรอให้การ์ฟมาถึง เสียงหัวเราะคิกคักของเพื่อนๆทำให้อาร์ดิวเขินแปลกๆ หนุ่มตี๋พยายามทำหน้านิ่งๆไว้ทั้งที่มันเกือบหลุดเขินอยู่รอมร่อ

“กลับกันหรือยัง?” พอเดินมาถึงก็เอ่ยถามราวกลัวเสียเวลา

“วันนี้คุณมีเรียนเช้าไม่ใช่เหรอ?” ตี๋น้อยเอียงคอถาม เขาจำได้ว่าคณะการ์ฟมีเรียนเช้านะวันนี้ ยังคิดอยู่ว่าต้องกลับคนเดียว

“อืม” การ์ฟรับคำสั้นๆ คิ้วตี๋น้อยขมวด ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู

“นี่มันบ่ายสี่โมงเย็น?”

“จะกลับรึยังล่ะ?”

ไม่ได้พูดเรื่องเดียวกันเลยการ์ฟนี่ อาตี๋เริ่มหน้ามุ่ย หันมาบอกลาเพื่อนๆก่อนออกเดินนำการ์ฟไป

“จริงๆไม่ต้องตามผมแจขนาดนี้ก็ได้นะการ์ฟ” อดไม่ได้ที่จะพูดเรื่องนี้

“รำคาญหรือไง?”

“ก็...เปล่า”

“ทนเอาหน่อย ฉันไม่อยากเห็นนายหายไปต่อหน้าต่อตาแบบนั้นอีกนะ”

พอนึกถึงตอนที่ต้องไปตามอาร์ดิวกลับเข้าร่างแล้วดวงจิตของอีกคนเลือนรางเต็มทีนั้นเขาก็รู้สึกแย่แล้ว เขาไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนั้นอีก

“คุณยึดติดกับเรื่องชะตาของเราที่มันผูกกันมากไปหรือเปล่า มันจะพลอยทำให้คุณไม่มีความสุขไปด้วยนะ”

หลังเหตุการณ์นั้นพวกเขาก็ได้รู้เรื่องอะไรหลายๆอย่างที่ถูกปิดเอาไว้ รวมทั้งเรื่องที่คุณแม่รวิทำพิธีผูกดวงทั้งสองคนเอาไว้ด้วยกันนี่ก็ด้วย

“ฉันมีความสุขดี ไม่ได้รู้สึกว่าการอยู่ใกล้นายมันไม่มีความสุขหรอก” คนพูดยิ้มมุมปาก มันช่างดูกวนจนตี๋น้อยหน้าบูดกว่าเดิม

“พูดกันคนละเรื่องหรือไงเนี่ย”

“หึๆ”

การ์ฟเพียงหัวเราะในลำคอ ไม่ต่อความยาว มือใหญ่คว้ามืออาร์ดิวมากุมแล้วพาข้ามถนนไปอีกฝั่งเพื่อรอรถ ขณะที่เดินข้ามไปการ์ฟรู้สึกว่ามีบางอย่างพุ่งเข้ามาหาเขาทั้งคู่ เด็กหนุ่มหันกลับมาตวาดเสียงดัง

“อย่ามายุ่งกับเขา!!”

อาร์ดิวสะดุ้งเฮือก ทำหน้าเหรอหรา “คะ...ใครอ่ะการ์ฟ?”

“อย่าไปสนใจเลย”

“แต่...เขาอาจต้องการความช่วยเหลือ...”

“เห็นใจคนอื่นจนตัวเองเดือดร้อนชอบนักเหรอ!?” การ์ฟเผลอเสียงดังด้วยความหงุดหงิด ชอบเป็นแบบนี้ล่ะเจ้าตี๋นี่

“ดุทำไมเล่า!”

ทางนี้ก็ไม่ยอมกัน ดีกันได้ไม่เท่าไหร่ทะเลาะกันอีกแล้ว ตี๋น้อยเดินตึงๆตามแรงดึงของการ์ฟไป การ์ฟถอนใจเฮือกใหญ่ ไม่ได้ตั้งใจเลย เพราะพี่เมฆแท้ๆ ทำอะไรกับเขาไม่รู้ถึงได้ยังเห็นอะไรแปลกๆแบบนี้อยู่ อาร์ดิวน่ะไม่เห็นหรอก ได้สร้อยเส้นใหม่จากคุณยายตอนกลับไปเยี่ยมท่านมาแล้วนี่ น่าจะหามาใส่สักเส้นนะเรา จากไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ ตอนนี้เขาเชื่อสนิทใจเลย



ร้าน Magica Café ในวันหยุดสุดสัปดาห์

เมฆที่เพิ่งย้ายไปอยู่หอพักใกล้มหาวิทยาลัยที่ตนเองเรียนแวะมาที่ร้านในฐานะลูกค้า ปอมปอมเข้ามานั่งคุยด้วย ถือสิทธิ์ในความเป็นน้องชายไม่ใช่ลูกเจ้าของร้าน หนุ่มน้อยแอบกระซิบกับพี่เมฆว่าที่หอพักผีท่าจะเยอะเลยโดนพี่เมฆเขกหัว

“ทำไมอ่า พี่เมฆน่าจะชินได้แล้วนะ” มือเรียวลูบหัวตัวเองป้อยๆ เจ็บอ่ะ

“ต่อให้เห็นทุกวันมันก็ไม่ชินหรอกปอมปอม” เมฆส่ายหน้า ขำน้องเล็กที่จินตนาการไปเรื่อย

“แล้ว... พี่คนนั้นล่ะ?”

“อยากเจอเขาหรือไง?”

“หื่อ” ส่ายหน้ารัว ก่อนจะตาโตเท่าไข่ห่านเมื่ออยู่ๆเก้าอี้ข้างๆตนเองมีแขกไม่ได้รับเชิญปรากฏตัวขึ้นมานั่งยิ้มให้

“สวัสดีหนูน้อย”

วิญญาณหนุ่มที่กะปอมน้อยเพิ่งถามถึงส่งยิ้มมา ปอมปอมนั่งนิ่งอ้าปากค้าง ก่อนจะกะพริบตาปริบๆเรียกสติสตังตนเองกลับมา

“มาไม่เรียก” ผู้มาใหม่หันไปต่อว่าเมฆที่นั่งจิบกาแฟเฉย

“เรียกมาแล้วนายจะกินได้หรือไง?”

“อยากกินบ้างนี่หว่า”

“เดี๋ยวทำบุญไปให้”

“ทำบุญด้วยกาแฟนี่นะ?” เสียงสูงเอ่ยประชด

เมฆยิ้มน้อยๆแล้วว่า “แถมชาให้ด้วยก็ได้”

มือเรียวซีดขาวจะคว้าถ้วยกาแฟของเมฆมาดื่ม แต่มันกลับผ่านวูบแตะต้องไม่ได้สักนิด วิญญาณหนุ่มหลับตากัดฟันกรอดด้วยความขัดใจ

“บอกแล้ว เดี๋ยวทำบุญไปให้” เมฆยังตอกย้ำ

“ขอบใจ!” กระแทกเสียงใส่คนมีน้ำใจแล้วจะไป อยู่ทำไม กินอะไรก็ไม่ได้

“นี่”

หันกลับมามองเมฆที่เอ่ยเรียกสีหน้าหงุดหงิด

“ต้องบอกว่าทำให้ใครอ่ะ?”

วิญญาณหนุ่มกลอกตามองสูงด้วยความเซ็งอารมณ์แล้วว่า

“คินตา”

“หา อะไรนะ?”

“คินตา!”

“อ้อ”

เมฆพยักหน้ารับรู้ ร่างโปร่งแสงนั้นจึงค่อยจางหายไป ชายหนุ่มยกยิ้มมุมปากน้อยๆ ยกกาแฟขึ้นจิบแล้วพึมพำกับตนเอง

“ชื่อคินตาเหรอ หึๆ”

พอเงยขึ้นมาเห็นปอมปอมมองเป๋งก็ชะงักกึก กระแอมหน่อยๆก่อนยกกาแฟขึ้นดื่มกลบเกลื่อน ตาแป๋วๆทำเอาเขาตั้งตัวไม่ทัน เห็นอาร์ดิวเดินหน้าบูดผ่านมา เมฆจึงเอ่ยถาม

“อ้าว? เป็นอะไรล่ะเรา?”

คนเป็นน้องส่ายหน้าแล้วเดินผ่านไป ปอมปอมน้อยมองตามพี่ชายแล้วเลิกคิ้วสูง หันกลับมามองอีกทางที่พี่เดินมาเห็นพี่การ์ฟอยู่ที่โต๊ะหนึ่งของร้าน มีสาวๆหนุ่มๆท่าทางจะเป็นเพื่อนที่มหาวิทยาลัยเพราะดูท่ารู้จักกันดี แถมมาด้วยกันด้วยคงเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันมั้ง พี่เขาชะเง้อมองมาทางนี้ด้วย พอเห็นปอมปอมมองก็หันกลับไปคุยกับเพื่อนต่อ ปอมปอมหันมามองพี่ชายก็เห็นยังหน้าบูด หนุ่มน้อยเกาหัวงงๆ เกิดอะไรขึ้นอ่า?

วันหยุดแบบนี้สองพี่น้องมาช่วยงานที่ร้านครึ่งวัน ช่วงบ่ายคุณแม่จะให้กลับบ้านไปทบทวนบทเรียนแล้วทำการบ้านให้เสร็จ ตี๋น้อยที่หน้างอมาตั้งครึ่งค่อนวันจึงออกจากร้านมาพร้อมน้องชายเพื่อกลับบ้านกัน ชะงักเท้าเมื่อเห็นการ์ฟยืนอยู่ไม่ไกล ปอมปอมก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว ก่อนจะเพิ่มเป็นสองก้าว สามก้าว แล้วหันกลับวิ่งเข้าร้านไป คนเป็นพี่จะเรียกตามก็ไม่ทัน จึงหันกลับมาหาการ์ฟที่เดินมาหยุดใกล้ๆ

“ขอคุยหน่อย”

“.........” ตี๋น้อยเงียบกริบ หันมองรอบกายด้วยความอึดอัด

“เป็นอะไร?” การ์ฟเอ่ยถามมา

“ชอบถามจังคำนี้”

“ถ้าไม่ห่วงจะถามไหม?”

ถึงจะพูดไปแบบนั้นแต่คนฟังก็ยังหน้างออยู่ การ์ฟจึงถอนใจหนักๆให้ได้ยิน

“ตี๋...”

“ผมแค่หงุดหงิดตัวเอง”

“เรื่อง?”

“เรื่องส่วนตัว”

“อ้อ”

การ์ฟทำเสียงแบบนั้นแล้วเงียบไป อาร์ดิวยิ่งเงียบเพราะรู้ว่าตนเองพูดไม่ดี

“การ์ฟ...”

“ช่างเถอะ ฉันแส่เอง”

“ไม่ใช่นะ ไม่ได้จะว่าแบบนั้น”

“แคร์ทำไม ฉันมันคนอื่น”

“การ์ฟ...”

ไม่มีการฟังคำแก้ตัวเมื่อการ์ฟเดินห่างออกไป อาร์ดิวหน้าจ๋อย เดินกลับเข้าไปในร้านเพื่อเรียกน้องชายกลับบ้าน ดูเหมือนสถานการณ์จะยิ่งแย่มากขึ้นไปอีก เพราะเขาแท้ๆ


++++++++++

ต่อด้านล่างค่ะ :katai5:
หัวข้อ: Re: ☆☆MAGICA CAFÉ☆☆ magic <16> 24/06/2556
เริ่มหัวข้อโดย: wanmai ที่ 24-06-2013 09:50:09
หลังจากเฝ้าสังเกตการณ์มานานแล้วปอมปอมก็ได้ข้อสรุปให้ตนเองเสร็จสรรพ พี่ชายของเขากับพี่การ์ฟต้องมีความรู้สึกพิเศษต่อกันแน่ กะปอมน้อยฟันธง

“ป๋า”

“หืม?”

“ป๋าว่าพี่การ์ฟกับดิวเขาจะชอบกันป่ะ?”

“........”

ปอมปอมที่มาเล่นห้องพี่เอ่ยถามขณะที่กำลังนั่งพิงพี่เปิดหนังสืออ่าน ห้องพี่ชีวามีหนังสือเยอะกว่าห้องเขาอีก โดยเฉพาะการ์ตูน ส่วนอย่างอื่นที่ไม่เหมาะสำหรับเด็กเขาเก็บไปทิ้งหมดละ

ชีวาลูบผมน้องเล่น ท่าทางเหม่อไม่ตอบคำถามน้องเสียที ปอมปอมน้อยจึงปิดหนังสือในมือแล้วหันกลับมามองคนที่ตนเองนั่งพิงอยู่แล้วว่า

“ไม่น่าถามป๋าเลยเนอะ”

“พี่เปล่าคิดอะไรนะ” เสียงน้องฟังดูแปลกๆจนชีวาต้องรีบแก้

“แต่ป๋าไม่ตอบอ่ะ”

“ก็พี่ไม่รู้นี่”

“เออ ช่างเถอะ” น้องว่าแล้วกอดอกหน้างอ

“งอนบ่อยจัง”

ชีวาบีบจมูกคนงอน แต่น้องกลับปัดมือเขาออกแล้วจะลุกหนี เด็กหนุ่มอึ้งไปที่อยู่ๆก็ทะเลาะอะไรกันไม่รู้

“ปอมปอม”

เอ่ยเรียกน้องเสียงเข้ม ขาเรียวที่กำลังจะก้าวหนีหยุดชะงัก ชีวาไม่พูดอะไรต่อ ดูว่าน้องจะทำอย่างไร คนเป็นน้องหันกลับมาแล้วเดินมานั่งตักพิงอกชีวาเหมือนเดิม

“จูนว่าปอมสาวแตก”

“หา??” ชีวาหัวเราะ ตามอารมณ์น้องไม่ทันนะนี่

“อีกหน่อยปอมต้องลุกขึ้นมาแต่งหญิงเหมือนจูนแน่”

“ชอบแบบนั้นเหรอ พี่เพิ่งรู้” เด็กหนุ่มยิ้มล้อ น้องเอี้ยวหน้ามามองแล้วย่นจมูก

“บ้า ปอมยังเป็นผู้ชายอยู่นะ ถึงจะมีแฟนเป็นผู้ชายด้วยกันก็เถอะ”

คนเป็นพี่หัวเราะ เกยคางบนไหล่น้อง “อืม... นึกภาพตอนกะปอมแต่งหญิงออกเลยอ่ะ”

“ม่ายยย หยุดคิดนะ หยุดๆๆๆ”

เอี้ยวตัวกลับมาเผชิญหน้า โหย่งตัวขึ้นแล้วจับหน้าพี่ไว้ ชีวารั้งเอวน้องมาชิด เงยมองน้องที่นั่งคร่อมตัก มองน้องยิ้มๆ พอพี่จ้องตาแบบนี้ใจน้องก็สั่น เฉหลบสายตาพี่ที่มองมา

ชีวาลูบมือเข้าไปในเสื้อน้อง ลูบเอวบางช้าๆ ปอมปอมขนลุก ขยับยุกยิกไปมาเมื่อผิวโดนมือพี่

“ไม่ห้ามเหรอ?”

“อยากทำไหมล่ะ?”

“ถามแบบนี้เอามีดมาแทงพี่เลยเถอะ”

น้องน้อยหัวเราะคิก มือเรียวกุมแก้มพี่ “ป๋าเก่งจัง อดทนดีมาก จะให้รางวัล”

“จริงอ่ะ? ให้อะไรล่ะ?”

“ให้...จุ๊บทีนึง” ยกขึ้นหนึ่งนิ้ว ชีวาอมยิ้มกับของรางวัลที่จะได้

“หึๆ มาสิ”

เด็กหนุ่มนั่งนิ่งๆให้น้องมอบรางวัลให้ ปอมปอมค่อยโน้มลงแตะจูบริมฝีปากพี่ กดลงไปอีกนิด พยายามเลียนแบบเวลาถูกพี่จูบแต่มันก็ไม่ได้ดั่งใจเมื่อพี่ไม่ยอมให้ความร่วมมือเลย

“ป๋า เปิดปากหน่อย”

“พยายามกว่านี้สิ”

“ฮื่อออ”

ครางขัดใจในลำคอที่พี่ไม่ยอมทำตาม จะผละออกห่างแต่ชีวากลับรั้งน้องลงมาบดจูบเสียเองเพราะทนไม่ไหว ปอมปอมวาดแขนกอดคอพี่ ยอมรับจุมพิตจากพี่ด้วยความเต็มใจ ชีวาลูบแผ่นหลังน้อง ก่อนเลื่อนมือมาบีบก้นกลม ปอมปอมสะดุ้ง ยกสะโพกตนขึ้นจากหน้าตักพี่ ชีวาจึงเปลี่ยนมาพลิกตัวน้องลงไปนอนบนที่นอนนุ่ม ถลกชายเสื้อขึ้นมาแล้วก้มลงไปจูบหน้าท้องขาว

“ป๋า...” หนุ่มน้อยกัดปากกลั้นความรู้สึกแปลกๆที่เกิดขึ้นกับตนเอง ลมหายใจอุ่นๆปัดผ่าน ริมฝีปากของพี่ที่กดลงมาซ้ำๆ ทั้งความอุ่นชื้นของปลายลิ้นพาเอาเขาหัวหมุน

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

เสียงเคาะประตูดังขึ้นทำเอาสติเหมือนจะกลับมากะทันหัน ชีวาสะดุ้ง ผละออกมามองน้องที่มองมายังเขาตาปริบๆแล้วลูบหน้าตนเองแรงๆ ก่อนขยับลุกจากตัวน้องไปเปิดประตู ปอมปอมลุกขึ้นมานั่งงงๆ ดึงเสื้อตนเองลงมาปิดพุงที่มีรอยแดงเพราะพี่

คุณแม่ชีวามาบอกให้ทั้งคู่ลงไปทานข้าว ให้บอกน้องด้วยว่าทานด้วยกันที่นี่ค่อยกลับบ้าน หนุ่มน้อยบนเตียงวิ่งตื๋อไปเกาะแขนคุณแม่แล้วคุยกันเสียงแจ๋วลงไปด้านล่าง หันมายิ้มให้ชีวา ชีวาก็ยิ้มบางๆส่งกลับไป พอน้องหันกลับไปชีวาก็นิ่วหน้า สูดลมหายใจเข้าลึกแล้วค่อยผ่อนออกยาวๆ เมื่อรู้สึกดีขึ้นจึงตามลงไปด้วย

ลงมาชั้นล่างแล้วปอมปอมก็นั่งคุยกับคุณพ่อของชีวาต่อ คุณแม่เข้าไปในครัวสั่งการให้เด็กๆยกอาหารออกมาวางบนโต๊ะเมื่อมากันพร้อมหน้า ชีวาจะนั่งลงข้างพี่ชายตนเอง คุณแม่เดินผ่านด้านหลังเขามาแล้วเอ่ยถามเสียงเบาไม่ให้เป็นที่สงสัยของคนในบ้าน

“ทำอะไรน้อง?”

ใจชีวาแทบหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มกับคำทักถามของคุณแม่ ชะงักค้างอยู่กับท่าเตรียมจะนั่งนั่น พอคุณพ่อมองมาชีวาจึงนั่งลง คุณแม่บอกให้แม่บ้านตักข้าว ก่อนเดินไปนั่งที่ของตนเองยังเอ่ยต่อ

“เป็นผู้ใหญ่แล้วนะชีวา”

หน้าชีวาซีดเสียยิ่งกว่าไก่ต้ม เขาเกือบทำอะไรเกินเลยกับน้องไปแล้ว โดนคุณแม่ดุก็สมควร ว่าแต่...ทำไมคุณแม่รู้ไปเสียทุกเรื่องเลยล่ะ?



ตกค่ำ ชีวาลงมาชั้นล่างเพื่อเอาน้ำขึ้นไปไว้ดื่มบนห้อง เผื่อกลางดึกตื่นขึ้นมาแล้วคอแห้ง คุณแม่ยังนั่งดูละครหลังข่าวเรื่องดังกับพี่แม่บ้าน ส่วนคุณพ่อกับพี่ชายของเขาคงขึ้นห้องไปแล้ว ชีวาเดินเข้าไปหาคุณแม่ที่นั่งดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟา หยุดอยู่ด้านหลังแล้วก้มลงหอมแก้มไปฟอดหนึ่ง คุณแม่สะดุ้ง พอเห็นว่าเป็นชีวาก็ตีแขนเบาๆแล้วหัวเราะขำก่อนไล่คนเป็นลูกให้ไปนอน

ชีวาขึ้นมาบนห้อง เปิดขวดน้ำดื่มพอดีกับที่มีคนโทรมาหา เด็กหนุ่มเดินไปหยิบมารับเมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์กะปอมน้อย ขณะที่ยกน้ำขึ้นดื่มไปพลาง

“ป๋า พุงปอมแดงอ่ะ”

คำพูดที่น้องบอกเล่นเอาน้ำในปากแทบพุ่ง “แค่กๆๆๆ”

ชีวาสำลักกระแอมกระไอ ปิดฝาขวดน้ำวางไว้บนโต๊ะแล้วเดินไปเปิดประตูระเบียง

“ตอนอยู่ในห้องป๋ากัดปอมด้วยเหรอ?” เสียงน้องยังเอ่ยถามมาตามสาย

“ไม่ได้กัด”

“ทำไมมันแดงอ่ะ ปอมจะอาบน้ำ ถอดเสื้อมาตกใจหมด”

น้องยังบอก ชีวาได้แต่ข่มใจเมื่อนึกตามคำบอกเล่าของน้องไปแล้ว อย่าบรรยายได้ไหมเล่า เห็นภาพเลยนี่

“เดี๋ยวมันก็จางเองแหละ พี่ไม่ได้ทำแรงสักหน่อย ผิวปอมบางเอง”

“โทษปอมเฉย”

ชีวาหัวเราะกับน้ำเสียงงอนๆ ยืนพิงกรอบประตูบานเลื่อนมองห้องน้องที่อยู่ฝั่งตรงข้ามแล้วยิ้ม

“อาบน้ำเสร็จแล้วยังเนี่ย?”

“เสร็จแล้ว กำลังจะนอน”

“ไม่ทำการบ้าน?”

“ไม่มีการบ้านสักหน่อย”

เงียบกันไปนิดเมื่อบรรยากาศมันต่างไปจากเดิม ตอนคุยโทรศัพท์กับตอนอยู่ด้วยกันมันให้ความรู้สึกที่แตกต่าง เมื่อคุยกันโดยไม่เห็นหน้ามันทำให้ชีวากำลังนึกหน้าน้องเวลาพูดโต้ตอบกับตนแล้วอมยิ้มอยู่คนเดียว ไม่รู้ปอมปอมจะรู้สึกเหมือนเขาไหม คุยเล่นกันสักพักแล้วชีวาจึงบอกให้น้องไปนอน เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าต้องไปโรงเรียนอีก เด็กน้อยอนามัยจัดนอนไม่เกินสี่ทุ่ม

“ฝันดีนะครับ”

“ป๋าก็เหมือนกันนะ รักป๋า” ท้ายประโยคกระซิบเบาแต่คนฟังยังได้ยินเต็มสองหู

“โอ๊ย”

“ป๋าเป็นอะไร!?” น้องเอ่ยถามเสียงตื่น อยู่ๆพี่ก็ร้อง เป็นอะไรหรือเปล่าไม่รู้

“อยาก…”

“หา อยาก?”

“อยากฟัดแก้มตัวแสบ มาพูดแบบนี้พี่จะนอนไม่หลับเอา”

ตัวแสบหัวเราะคิก ก่อนถามกลับเสียงทะเล้น

“ทำไมอ่า?”

“หึๆ รักกะปอมน้อยเหมือนกันนะครับ”

“คร้าบ~ นอนแล้วนะป๋า จุ๊บ!”

บอกพี่แบบนั้นแล้วปอมปอมก็วางสายไป ชีวายังยิ้มค้าง มีจุ๊บเขาด้วยแฮะ

“ตัวแสบเอ๊ย”

เด็กหนุ่มมองหน้าจอโทรศัพท์ที่มีรูปน้องคู่กับตนเองแถมหัวใจอีกดวงเบ้อเริ่มเป็นภาพหน้าจอแล้วยิ้ม เดินกลับเข้าห้องไปทิ้งตัวลงนอนบนเตียง ใบหน้ายังเปื้อนรอยยิ้มไม่หุบ ท่าทางคืนนี้จะหลับฝันดี




อีกด้านหนึ่งในคืนเดียวกันนั้น โทรศัพท์มือถือวางนิ่งอยู่บนที่นอน อาร์ดิวนั่งทับขามองมันมานานสองนานแล้ว อยากจะหยิบมากดเบอร์โทรออกก็ไม่กล้า ได้แต่นั่งมองมันด้วยความว้าวุ่นใจอยู่อย่างนั้น

“ทำไงดี…”

ตี๋น้อยพึมพำ จ้องโทรศัพท์อีกพักใหญ่ก่อนจะตัดสินใจคว้ามากดโทรออกด้วยใจที่เต้นตุ้มๆต่อมๆ เมื่อเสียงรอสายดังขึ้นไม่กี่ครั้งอาร์ดิวก็กดปิดด้วยความตกใจ

“โทรไปแล้วอ่ะ ฮือออ”

วางโทรศัพท์ลงบนเตียงแล้วขยับออกห่างอีกนิด หวั่นใจว่าการ์ฟจะโทรกลับมาต่อว่าตนเองหรือเปล่าที่โทรไปแล้วก็วางแบบนั้น แต่กลับไม่มีเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ดังขึ้นมาสักน้อยนิด มีแต่ความเงียบ ตี๋น้อยหน้าจ๋อย บางทีการ์ฟอาจยุ่งอยู่ก็ได้เลยไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์

คนที่อาร์ดิวคิดว่ากำลังยุ่งอยู่อย่างการ์ฟมองโทรศัพท์ในมือนิ่ง เมื่อกี้มันดังเขาก็ไม่ได้กดรับทันที ทางนั้นก็วางเร็วจริง โทรมาอีกสิวะ

“โธ่เว้ย!!”

รอไปก็ดูเหมือนจะไม่มีประโยชน์ การ์ฟเลยโทรกลับเองมันเสียเลย เขาข้องใจนะนี่ ข้องใจ!

“รีบวางทำไม!?”

แค่อาร์ดิวกดรับทางนี้ก็ว่าไปก่อนที่ฝ่ายนั้นจะได้พูดอะไรเสียแล้ว อาร์ดิวเงียบ ไม่ตอบอะไรกลับมาสักอย่างจนการ์ฟเริ่มหงุดหงิด

“เออ โทรมาแล้วก็รีบวาง พอโทรกลับก็ไม่พูด คราวหลังฉันจะไม่โทรมาแล้ว”

การ์ฟลดโทรศัพท์ลงจากหู กะจะวางสายแต่ก็ยั้งมือไว้ อดไม่ได้ที่จะเงี่ยหูฟังว่าปลายสายจะพูดอะไรไหม แต่ก็ไม่มีเสียงใดลอดออกมาเลยกดปิดแล้วโยนโทรศัพท์ไว้หัวนอน

อาร์ดิวมองโทรศัพท์เมื่อการ์ฟวางสายไปแล้วเด็กหนุ่มก็ถอนใจ ก็เขาไม่รู้จะเริ่มอย่างไร จะขอโทษเลยดีไหม แต่ในที่สุดแล้วอาร์ดิวก็โทรไปอีกที เพราะหากวันนี้ไม่ได้พูดกันให้รู้เรื่องเขาคงนอนไม่หลับแน่

“ถ้าเงียบอีกเจอดีแน่ตี๋” พอกดรับก็ใส่เลย ไม่มีคำทักทายก่อนเลยสักนิด

“ผมไม่ได้ตั้งใจทำให้คุณรู้สึกไม่ดี ผมขอโทษ”

อาร์ดิวบอกเสียงอ่อย ปลายสายนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งก่อนตอบกลับมา

“ยกโทษให้”

คิ้วอาตี๋เลิกสูงเมื่อการ์ฟบอกยกโทษให้อย่างง่ายดาย แล้วเงียบฟังคำพูดต่อจากนั้น

“ฉันเองก็คงก้าวก่ายเรื่องนายมากไป”

“ผมไม่ได้คิดแบบนั้น”

“แล้วมันแบบไหนล่ะ?” การ์ฟย้อนถามกวน อาร์ดิวบุ้ยปากใส่โทรศัพท์ก่อนบ่นอุบอิบ

“ผมแค่จะโทรมาขอโทษ ไม่ได้จะโทรมาให้คุณซักสักหน่อย”

“บ่นนะตี๋... รู้ด้วยว่าห่วง” พูดไปแล้วการ์ฟก็ชะงัก เขาพูดคำนี้บ่อยจัง

“ขอบคุณนะการ์ฟ คุณเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของผมคนหนึ่งเลย”

เสียงสดใสตอบกลับมาจากอีกคน ได้ฟังอย่างนั้นคิ้วการ์ฟก็ขมวดแล้วค่อยคลายออก ... เพื่อนหรือ? ฟังแล้วมันแสลงหูแปลกๆแฮะ




TBC



4 วัน พิมพ์ได้เท่านี้ล่ะค่ะ แหะๆ :m23:

บวกขอบคุณทุกท่านที่ยังอยู่ด้วยกันค่ะ

วันใหม่

ปล. มีแต่คนอยากให้พี่เมฆมีเมียโปร่งแสง กร๊ากก :laugh3:
หัวข้อ: Re: ☆☆MAGICA CAFÉ☆☆ magic <16> 24/06/2556
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 24-06-2013 11:17:38
โอ๊ะ คู่ใหม่มาแล้ว เมฆ-คินตา ท่าทางจะน่ารักดีนะคู่นี้^^
การ์ฟ-อาร์ดิว ยังดูทีท่ากันอยู่
หัวข้อ: Re: ☆☆MAGICA CAFÉ☆☆ magic <16> 24/06/2556
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 24-06-2013 11:30:32
ปอมน้อยกับป๋า เกือบไปแล้ว ดีนะที่คุณแม่ขึ้นมาทัน
หรือว่าคุณแม่ของชีวามีพลังพิเศษด้วย 555

อาร์ดิวกับการ์ฟน่ารักอะ เคืองๆกันก็โทรไปเคลียร์แบบนี้น่ารัก
แต่ดิวจ๊า ไม่ใช่แค่เพื่อนหรอกมั้งกับการ์ฟนะ อิอิ :m12:
หัวข้อ: Re: ☆☆MAGICA CAFÉ☆☆ magic <16> 24/06/2556
เริ่มหัวข้อโดย: PapermintReal ที่ 24-06-2013 11:50:25
มาแรง ร้อนแรงง ชีวาปอมมม :impress2:

น่ารัก น่าหยิก ชวนกุ๊กกิ๊ก การ์ฟตี๋ :hao6:

สุดท้าย ผีกับคนนนนน :hao3:
หัวข้อ: Re: ☆☆MAGICA CAFÉ☆☆ magic <16> 24/06/2556
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 24-06-2013 12:26:49
เมื่อไหร่คู่นี้จะลงเอยกันนะ
หัวข้อ: Re: ☆☆MAGICA CAFÉ☆☆ magic <16> 24/06/2556
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 24-06-2013 14:32:55
ท่าทางพี่เมฆจะมีคู่นะ   คู่กับวิญญาณหนุ่มคินตา น่าลุ้น ๆ
กะปอมน้อยก็ช่างยั่วป๋าเดี๋ยวโดนจับกินหรอก  :hao3:
การ์ฟกับอาร์ดิวก็รีบๆ รู้ใจกันเร็วๆ ล่ะ
หัวข้อ: Re: ☆☆MAGICA CAFÉ☆☆ magic <16> 24/06/2556
เริ่มหัวข้อโดย: YOSHIKUNI RUN ที่ 24-06-2013 20:44:02
         
เปนห่วง เปนใยกันดีจริงๆๆ :-[ :-[
เดวดีกัน เดวงอนกัน แบบนี้ไม่ใช่ แค่เพื่อนแล้ววว :hao3:
หัวข้อ: Re: ☆☆MAGICA CAFÉ☆☆ magic <16> 24/06/2556
เริ่มหัวข้อโดย: raviiib❁ ที่ 24-06-2013 22:46:51
น่ารักใสใสกันต่อไปปปปปปปป
คินตาชื่อน่ารักนะค่ะ ฮาาาาา
รอตอนต่อไปจ้าาาาา
หัวข้อ: Re: ☆☆MAGICA CAFÉ☆☆ magic <16> 24/06/2556
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 24-06-2013 23:47:46
ปอมกับป๋าน่ารักอ๊า :o8:
แต่การ์ฟเอ๊ย ไม่อยากเป็นเพื่อนกับอาร์ดิวแล้วหรือไงจ๊ะ  :z1:
งั้นก็รุกๆหน่อยสิ หรือว่าแค่ยังไม่รู้ตัวว่าแสดงออกเยอะแล้ว จะว่าไปฝั่งอาร์ดิวก็ยังไม่รู้ตัวเหมือนกันนะ :z3:
คู่นี้คงได้ลุ้นอีกหลายตอน :impress2:
หัวข้อ: Re: ☆☆MAGICA CAFÉ☆☆ magic <16> 24/06/2556
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 25-06-2013 13:45:46
ไม่อยากเป็นเพื่อนแล้วอยากเป็นอะไรล่ะ
หัวข้อ: Re: ☆☆MAGICA CAFÉ☆☆ magic <16> 24/06/2556
เริ่มหัวข้อโดย: TinyB ที่ 25-06-2013 19:49:00
คู่หลักมักชอบมาทำให้หวั่นไหวอยู่ตอนท้ายๆเสมอๆเลย >.<
หัวข้อ: Re: ☆☆MAGICA CAFÉ☆☆ magic <16> 24/06/2556
เริ่มหัวข้อโดย: nong PeePee ที่ 25-06-2013 20:22:50
อยากได้ปอมหวานกับชีวาอีกเยอะๆพี่วันใหม่จัดให้หนูหน่อย55555555555555 :hao6:
หัวข้อ: Re: ☆☆MAGICA CAFÉ☆☆ magic <16> 24/06/2556
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 25-06-2013 21:39:03
อ่านตอนนี้แล้วจะกรี๊ด!!
คนหนึ่งก็ปากหนัก อีกคนก็ใจน้อย
ชีวาก็นะ ปอมปอมน่ารักนี่เนอะ อิอิ
แต่คุณแม่ชีวาชนะเลิศค่ะ ทันเหตุการณ์มาก  :mc4:

สี่วันได้แค่นี้ก็ทำให้คนอ่านดีใจแล้วค่ะ แต่ขอวันใหม่สักอย่างได้ไหมคะ
ขอช่วยใส่เลขหน้าต่อจากวันที่อัพให้ด้วยเถอะค่ะ จะได้พุ่งจู๊ดไปหน้านั้นได้เลย
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ  :mew3:
หัวข้อ: Re: ☆☆MAGICA CAFÉ☆☆ magic <16> 24/06/2556
เริ่มหัวข้อโดย: greensnake ที่ 26-06-2013 10:16:14
แล้วเมื่อไรจะจูนกันติดล่ะเนี่ย อีกคนก็ขี้โมโห อีกคนก็เงียบ :เฮ้อ:
ไม่เหมือนกะปอมน้อยกับป๋าเลยเนาะ เค้าขยับไปอีกขั้นแล้วนะ :z1:
คู่พี่ชายยังผิดใจกันอยู่เลย เอาใจช่วยแล้วกันนะทั้งสองคน
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :กอด1:
+1และเป็ดจ้า
ป.ล. คุณแม่ชีวารู้ได้ยังไงกันนะ สงสัยนะนี่
หัวข้อ: Re: ☆☆MAGICA CAFÉ☆☆ magic <16> 24/06/2556
เริ่มหัวข้อโดย: aoaer ที่ 29-06-2013 12:26:23
เพิ่งมีโอกาสเข้ามาอ่าน  แรกๆ น้ำตาไหลไปเกือบ10 ปี๊บ สงสารปอมน้อย

ตอนนี้เอาใจช่วย ดิวแหละ   


 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Magica Cafe' *แจ้งเหตุฉุกเฉินค่ะ* 29/06/2556
เริ่มหัวข้อโดย: wanmai ที่ 29-06-2013 17:52:11
ก่อนอื่นต้องขอโทษทุกคนนะคะที่เกิดปัญหาอีกแล้ว ไม่ได้ตั้งใจจะให้มันเกิดจริงๆ T^T

โน้ตบุ๊กใหม่ฮาร์ดดิสก์พังค่ะ ต้องส่งเคลมที่ศูนย์ ทำให้พิมพ์นิยายต่อไม่ได้ ใหม่เลยต้องของดอัพนิยายไปก่อนนะคะ

ขออภัยในความไม่สะดวก

วันใหม่ค่ะ
หัวข้อ: Re: Magica Cafe' *แจ้งเหตุฉุกเฉินค่ะ* 29/06/2556
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 29-06-2013 17:56:46
รอได้ค่ะน้องวันใหม่ ขอให้เคลมได้เร็วๆนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Magica Cafe' *แจ้งเหตุฉุกเฉินค่ะ* 29/06/2556
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 29-06-2013 18:19:18
สู้ๆนะ ขอให้ซ่อมเสร็จไวๆจ๊า
หัวข้อ: Re: Magica Cafe' *แจ้งเหตุฉุกเฉินค่ะ* 29/06/2556
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 29-06-2013 18:48:47
คุณโน๊ตบุ๊กหายป่วยไวๆน้า  :กอด1:
ถ้ามันป่วยตอนที่ต้องส่งงานนี่ปวดจิตมากๆ ประสบการณ์ครั้งนั้นมันหลอกหลอนจนถึงวันนี้เลยค่ะ
แค่คิดถึงก็ไมเกรนขึ้น ไปนอนพักรอพวกเด็กๆก่อนดีกว่า o2
หัวข้อ: Re: Magica Cafe' *แจ้งเหตุฉุกเฉินค่ะ* 29/06/2556
เริ่มหัวข้อโดย: PapermintReal ที่ 29-06-2013 20:08:22
 :hao5:
หัวข้อ: Re: Magica Cafe' *แจ้งเหตุฉุกเฉินค่ะ* 29/06/2556
เริ่มหัวข้อโดย: YOSHIKUNI RUN ที่ 29-06-2013 20:34:03
 :impress3:
หัวข้อ: Re: Magica Cafe' *แจ้งเหตุฉุกเฉินค่ะ* 29/06/2556
เริ่มหัวข้อโดย: greensnake ที่ 29-06-2013 20:44:31
เอากะปอมน้อยกับตี๋น้อยมาน้า~ :ling1:
ล้อเล่นน่ะ รอได้อยู่แล้วจ้า แล้วเจอกันนะ
ขอให้อาวุธของคนเขียนใช้การได้เหมือนเดิม :กอด1:
หัวข้อ: Re: Magica Cafe' *แจ้งเหตุฉุกเฉินค่ะ* 29/06/2556
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 01-07-2013 03:10:16
ยังไงก็รอได้ค่ะ
หัวข้อ: Re: Magica Cafe' *แจ้งเหตุฉุกเฉินค่ะ* 29/06/2556
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 04-07-2013 01:55:31
 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Magica Cafe' *แจ้งเหตุฉุกเฉินค่ะ* 29/06/2556
เริ่มหัวข้อโดย: aoaer ที่ 04-07-2013 22:19:58
 :mc1: :mc1: :m24: :m24: :pandalaugh: : 222222: :oni1: :110011: :z7: :laugh5: :laugh5:


                                                             ขณะรอ
หัวข้อ: Re: Magica Café >>magic (17)<< 06/07/2556 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: wanmai ที่ 06-07-2013 11:21:00
Magica Café

Magic (17)



หลังเลิกเรียนการ์ฟยังมารออาร์ดิวเหมือนเช่นทุกที แต่คราวนี้ตี๋น้อยกลับไม่ได้มาพร้อมเพื่อนกลุ่มเดิมที่ชอบอยู่ด้วยกันและเพื่อนในกลุ่มนั้นก็รู้จักกับการ์ฟดี คนที่เดินมากับอาร์ดิวเป็นผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้ ท่าทางสนิทสนมกันเกินกว่าเหตุในสายตาคนมองอย่างการ์ฟ ไม่ใช่พี่รหัสอาร์ดิวแน่ เพราะคนนั้นเขารู้จัก แล้วหมอนี่คือใครกัน?

อาร์ดิวยิ้มให้มาแต่ไกล พอเห็นการ์ฟหน้าบึ้งก็เลิกคิ้วงงๆ ขณะที่หนุ่มที่มาด้วยกันก็ส่งยิ้มเป็นมิตรมาให้เขา แต่การ์ฟไม่คิดจะมีมนุษยสัมพันธ์อันดีกับใครในตอนนี้ เด็กหนุ่มดึงแขนตี๋น้อยแล้วเดินจากมา ไม่สนใจว่าเจ้าหนุ่มนั่นจะทำท่าว่าอยากคุยกับอาร์ดิวต่ออยู่ ซึ่งอาร์ดิวก็ได้แต่เดินตามมาเงียบๆโดยไม่ถามอะไรสักอย่าง เพราะคิดว่ามันยังไม่ใช่ตอนนี้ ตอนที่การ์ฟอารมณ์ไม่ดี

"จะเงียบอยู่แบบนี้ใช่ไหม?" ที่สุดแล้วคนที่ทนไม่ไหวก็เป็นการ์ฟเอง เมื่อตี๋น้อยไม่สงสัยในท่าที ไม่มีถามไถ่ให้ได้ความสักนิด สนใจกันบ้างไหมนี่

"แล้วจะให้ผมพูดอะไรล่ะ คุณโมโหอะไรผมยังไม่รู้เลย"

"ถามสิ ถามเป็นป่ะ?"

"ถ้าคุณอยากบอกก็บอกสิ"

"......." การ์ฟหรี่ตามองคนพูด หงุดหงิดที่ถูกยอกย้อน

"การ์ฟ ถ้าไม่มีเหตุผลก็อย่ามาโกรธกัน"

"ทีนายยังโกรธฉันได้ทั้งที่ฉันไม่รู้เรื่องเหมือนกัน" การ์ฟย้อนคืนบ้าง

"ถามสิ" นี่ก็ไม่ยอมน้อยหน้า

"ถามแล้วเคยตอบหรือไง?"

"เออ ก็จริง เฮ้ย ไม่ใช่สิ ก็..."

"เงียบไปเลย ขอสงบอารมณ์แป๊บ"

ตี๋น้อยบุ้ยปากก่อนอยู่เงียบๆตามคำขอ ลอบมองคนหงุดหงิดบ่อยๆก่อนเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง

"ดีขึ้นยัง?"

การ์ฟถอนใจยาวแล้วตอบรับในลำคอ "อืม"

"ถ้าถามจะตอบป่ะ?"

"ว่า?"

"หงุดหงิดเรื่องอะไร เรียนหนักเหรอ?"

"เรียนหนักแล้วจะมารับนายได้หรือไง?"

"แล้วอะไรล่ะ ผมว่าผมก็ยังไม่ทันจะทำอะไรขัดใจคุณเลยนะ" คิ้วตี๋น้อยขมวด เพิ่งเจอกันเมื่อครู่เอง มีเรื่องอะไรที่เขาทำให้ไม่พอใจหรืออย่างไร

"ฉันมันบ้าไปเอง พอใจไหม?"

"เอาดีๆดิ"

"ช่างเถอะ ไร้สาระ กลับบ้านกันดีกว่า"

"การ์ฟ" อาร์ดิวเอ่ยเรียก เน้นเสียงจริงจัง การ์ฟที่กำลังจะออกก้าวเดินอีกครั้งต้องหยุดแล้วหันมามอง

"เหนื่อยไหม?"

"?"

"คุณเหนื่อยกับการที่ต้องมาคอยดูแลผมใช่ไหม?"

"บอกแล้วไงอย่าคิดเองเออเองถ้าฉันยังไม่ได้พูด"

"ถึงคุณไม่พูดผมก็พอรู้"

"รู้อะไร อย่าอวดฉลาดนักเลยตี๋"

การ์ฟบอกปัดแกมประชด อาตี๋มองหน้าเขานิ่งให้รู้ว่าจริงจังกับสิ่งที่พูดและต้องการคำตอบที่แน่ชัด

"จะคาดคั้นให้มันได้อะไร?"

"ความจริงไง คุณคิดยังไง รู้สึกยังไงบอกผมมาสิ" ตี๋น้อยคาดคั้น

"ถ้ารู้แล้วนายจะสบายใจว่างั้น?"

"มันก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว"

"ฉันไม่มีอะไรจะบอก" การ์ฟตัดบทแล้วจะเดินหนี

"การ์ฟ!"

"เรียกทำไม กลับบ้านได้แล้ว"

ตี๋น้อยกัดปาก ขัดใจที่อีกคนทำหูทวนลมเฉไฉไปทางอื่น เขาจริงจังอยู่นะ โธ่

"คุณเป็นพวกกวนประสาทแบบนี้แต่แรกหรือเปล่าเนี่ย?"

เมื่อก้าวตามจนทันแล้วอาร์ดิวจึงถาม การ์ฟเหล่มองแล้วจึงถามกลับราวไม่เข้าใจกับสิ่งที่อีกคนพูดมา แบบนี้เขาเรียกกวนหรือเปล่าล่ะ

"อะไรของนาย?"

"ก็ทีแรกที่เราเจอกันคุณไม่ใช่แบบนี้ ชีวายังเรียกคุณว่าไอ้หน้าหยิ่งเลย"

"หมอนั่นกล้าพูดแบบนี้เหรอ?"

"ผมว่าพวกคุณสองคนสนิทกันดีนะ เหมือนจะไม่ถูกกันแต่ก็สนิทกัน"

"ง่วงเปล่าตี๋ พูดวนไปวนมา"

"อะไรอ่า ผมพูดจริง"

อาร์ดิวแย้งเสียงออด การ์ฟเพียงยิ้มมุมปากไม่โต้ตอบอะไรกลับมา กลายเป็นว่าทั้งคู่เปลี่ยนเรื่องคุยกันเฉย ไอ้เรื่องอยากรู้อาร์ดิวก็อยาก แต่บางทีก็รู้สึกกลัวที่จะรู้ เขาว่าปล่อยมันไปแบบนี้สักพักน่าจะดีกว่า

ดวงตาเรียวรีลอบมองการ์ฟที่ยืนรอรถอยู่ข้างกัน ความรู้สึกแปลกๆนี่มันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไรกันนะ?



หน้าอาคารเรียนมหาวิทยาลัยของชีวา เด็กหนุ่มแยกกับเพื่อนเมื่อได้เวลากลับบ้าน พักนี้เขาไม่ค่อยอยู่ติดบ้านเท่าไร ทำให้ไม่ค่อยได้เจอปอมปอมที่ชอบมาหาที่บ้านเพราะมีเหตุผลบางอย่าง กลุ่มนักศึกษารุ่นเดียวกันเดินเข้ามาหาเขา ทำให้ต้องหยุดเดินต่อเพื่อให้อีกฝ่ายมาถึงตัว อย่างน้อยก็เพื่อนกันและเขาก็ไม่ได้รีบไปไหน หากจะพูดคุยทักทายกันบ้างคงไม่เสียเวลาอะไรมากมาย

ชีวายิ้มให้เมื่อนักศึกษากลุ่มนั้นเดินมาถึง เด็กหนุ่มที่ตัวเล็กกว่าเขาและท่าทางออกสาวหน่อยๆมองเขาด้วยสายตาแปลกกว่าเพื่อน ชีวาก็เพียงยิ้มรับ แม้จะรู้ดีว่าใครรู้สึกอย่างไรกับตนเอง

"จะกลับแล้วหรือครับชีวา ไวน์ไม่เห็นชีวาไปเที่ยวไหนบ้างเลยนะ ติดบ้านจัง"

น้ำเสียงนุ่มน่าฟังเอ่ยกับเขา ชีวามองคนพูดที่แทนตัวว่าไวน์แล้วยิ้มก่อนบอกติดตลก

"ติดคนที่บ้านมากกว่าครับ"

"งั้นแสดงว่าที่เขาลือกันว่าชีวามีแฟนเป็นรุ่นน้องที่โรงเรียนเก่าก็แสดงว่าจริงน่ะสิครับ" เอียงคอแล้วยิ้มน้อยๆ ทุกท่วงท่าของหนุ่มไวน์ดูจะต้องเป๊ะทุกองศาจริงๆ

"อืม คนก็ลือไปเรื่อยอ่ะ ว่าแต่...นี่วาดังถึงขั้นมีคนเอาเรื่องวาไปลือแล้วเหรอ?"

"ไม่รู้ตัวเลยสินะชีวา มีคนสนใจนายเยอะเชียวล่ะ" หญิงสาวหนึ่งในกลุ่มเอ่ยล้อคนไม่รู้ตัวว่าฮอตขึ้นมาบ้าง

"รวมทั้งคนนี้ด้วยหรือเปล่าครับ?" ชีวาหยอดกลับทำให้สาวเจ้าเบ้หน้า

"แอะ ฉันสวยเลือกได้ย่ะ ไม่สนคนมีแฟนแล้วหรอก"

ชีวาหัวเราะอารมณ์ดี คุยกันอีกไม่กี่ประโยคเด็กหนุ่มก็กเอ่ยขอตัว ไวน์ยิ้มส่งทั้งสายตามีความหมายไม่ปิดบัง ชีวาแอบถอนใจกับตัวเองเมื่อแยกออกมาจากกลุ่มนั้นแล้ว คนมันเสน่ห์แรงน่ะนะ ช่วยไม่ได้จริงๆ

'รับโทรศัพท์ด้วยครับป๋า อย่าให้รอนาน'

เสียงโทรศัพท์ที่ตั้งค่าเรียกเข้าเป็นเสียงกะปอมตัวแสบดังขึ้นมา ชีวาอดขำไม่ได้ทุกทีเวลามีคนโทรเข้า แม้แต่เพื่อนในกลุ่มของเขายังถึงขั้นหัวเราะกันไม่หยุด แถมยังแซวว่าเขาเป็นป๋าไปแล้วหรือ เด็กหนุ่มดูเบอร์โทรเข้าแล้วเลิกคิ้วแปลกใจ นางสาวจูนนี่สายลับส่วนตัวของเขานี่เอง

"ว่าไงคนสวย"

เอ่ยทักทั้งยังหยอดไปในตัวอีกด้วย เสียงแหบห้าวที่ถูกดัดให้เล็กคล้ายเสียงผู้หญิงจึงส่งเสียงตอบกลับมาด้วยความชอบอกชอบใจ

"ต๊าย ชอบจริงๆเลยค่ะคำทักทายแบบนี้ ถึงเจนนี่จะรู้ว่ามันเป็นความจริง แต่ก็ชมเจนนี่เยอะๆก็ได้ค่ะ เจนนี่ชอบ" จูนนี่ของปอมปอม ตอนนี้เปลี่ยนเป็นเจนนี่ไปเสียแล้ว

"พูดมาก มีเรื่องอะไรว่ามา"

"จิ๊ น้ำเสียงเปลี่ยนจนสวยไม่อยากจะเม้าส์"

นางสาวเจนนี่จิ๊ปากขัดใจ ชมอยู่แหมบๆทำเสียงดุใส่แล้ว คนสวยล่ะเซ็ง และก่อนจะโดนด่ามาตามสายที่ลีลามากไป สายลับจูนนี่จึงต้องรายงานข่าวด่วน ข่าวร้อน ข่าววงในให้แฟนเพื่อนได้รับทราบ



ร้าน Magica Cafe'

ชีวามาที่ร้านในรอบหลายวันที่ห่างหายไป อาร์ดิวที่เพิ่งมาถึงร้านหลังเลิกเรียนได้ไม่นานออกอาการงงหน่อยๆว่าทำไมวันนี้เพื่อนจึงมาได้ ตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัยคุณแม่ของชีวาก็ให้ตั้งใจเรียนอย่างเดียว แถมหลังๆมาเหมือนน้องของเขากับชีวาจะห่างกันไปหน่อยนึงเหมือนกัน

"ลมอะไรหอบมาชีวา?"

อาร์ดิวเอ่ยเย้าเพื่อนเมื่อขอเป็นคนเอาเมนูมาให้เพื่อนที่โต๊ะแทนพี่พนักงานในร้าน มาคราวนี้ป๋าชีวาคงได้เป็นป๋าสมชื่อ เพราะมาในฐานะลูกค้าของร้านเสียด้วย ท่าทางจะมาสังเกตการณ์ใครบางคนแถวนี้

"ลมเพชรหึง" ว่าแล้วก็กัดฟันกรอดๆเมื่อเห็นโต๊ะถัดจากตนเองไปนั้นมีท่าทีหัวร่อต่อกระซิกใส่กัน

"โอ้ ตรงจัง" อาร์ดิวทำลากเสียงสูงแล้วยิ้มขำ

"อย่าล้อน่าอาร์ดิว นายดูน้องนายดิ บอกแล้วบอกอีกว่าอย่าอยู่ใกล้เด็กนั่นให้มากนัก ไม่เชื่อกันเลย ดีนะมีสายสืบ ไม่งั้นไม่รู้หรอกว่าชวนกันมาที่ร้าน"

อาร์ดิวเหลียวมองตาม ก่อนหันมาหาเพื่อนอีกทีแล้วส่ายหน้า "นายก็ต้องเข้าใจนะชีวา เขาเป็นเพื่อนกัน จะให้ไม่คุยกันไม่อยู่ด้วยกันเลยมันก็มากไป"

"ไม่ได้ให้ถึงขนาดนั้น แค่อย่าใกล้ชิดกันมาก โอ๊ย พูดกับนายแล้วปวดหัว"

"อ้าว มาโทษกันเฉย"

ตี๋น้อยว่า หยิบสมุดเล่มเล็กขึ้นมาทำท่าจดเมนูเพราะยืนอยู่ที่โต๊ะของชีวานานไปแล้ว ชีวาเองก็ทำก้มหน้าก้มตาเปิดเมนูอ่านแบบเนียนๆ

"เดี๋ยวนี้ปอมปอมไม่ไปบ้านนายเลยนะ ฉันก็นึกว่าโกรธกันซะอีก" อาร์ดิวพูดขึ้นมาทั้งที่ก้มมองสมุดจดรายการอาหารในมือ

"โกรธมั้ง ถึงไม่มาเลย" ชีวายักไหล่ เปิดเมนูหน้าถัดไปก่อนสั่งอาหารพอเป็นพิธี สายตายังแอบสอดส่องคนในโต๊ะถัดจากตนเองไม่วาง

"นายก็ไม่มีเวลาให้น้องฉันเหมือนกัน"

"มันมีเหตุผลน่า"

"เหตุผลอะไร"

เด็กหนุ่มตัวโตถอนใจเมื่อเจอคำถาม วางเมนูลงบนโต๊ะแล้วเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ อาร์ดิวเก็บมาถือไว้ก่อนพูดทวนรายการอาหารที่สั่งแล้วถามคำถามตบท้าย

"พูดลำบากมากหรือไง?"

"มาก"

"เดาไม่ถูกอ่ะ บอกมาเลยดีกว่า"

"แม่ห้าม"

"หา?" ตี๋น้อยอุทาน เอียงคอเพราะคิดว่าฟังผิด ขณะที่เพื่อนทำหน้าเซ็งหน่อยๆเมื่อขยายความ

"แม่รู้ได้ไงไม่รู้ สั่งห้ามไม่ให้ยุ่งกับน้องเฉย"

"โห ร้ายแรงขนาดนั้นเลย แต่ถ้าถามว่ารู้ได้ไงฉันว่ามันดูง่ายจะตายนะ" ว่าแล้วก็ยิ้มขำเมื่อชีวามองตาคว่ำ

"ที่จริงแม่กลัวฉันทำมิดีมิร้ายน้อง เลยสั่งให้ห่างๆไว้กลัวน้ำตาลใกล้มดมันจะอดใจไม่ไหว"

ชีวายักคิ้วดูไม่อนาทรกับเรื่องดังกล่าวเท่าไร อาร์ดิวเบ้ปาก รู้สึกเขินหน่อยๆที่เพื่อนพูดแฝงความหมายไปในทางนั้น ถึงจะเข้ามหาวิทยาลัยแล้วแต่เรื่องแบบนั้นเขาก็ไม่เคยนะ ใครจะเหมือนชีวา ฮึ!

หมดธุระกับเพื่อนแล้วอาร์ดิวจึงจะเอารายการอาหารไปให้ในครัว เป็นเวลาเดียวกันกับที่ปอมปอมน้อยเดินหน้ามุ่ยมา เหมือนเพื่อนจะทำน้ำหกใส่เลยจะไปห้องน้ำ เพราะตี๋น้อยแอบเห็นด้วยหางตาว่าน้องจูนส่งซิกให้ชีวาเสียยกใหญ่ พอน้องเดินมาใกล้ชีวาก็ลุกพรวดคว้าแขนน้องไว้แล้วพาไปคุยกันด้านใน อาร์ดิวส่ายหน้าแล้วยิ้ม ก่อนไปทำหน้าที่ของตนเองต่อ

"ว่ายังไงตัวแสบ พี่ไม่อยู่หน่อยนี่พากิ๊กมาที่ร้านเลยนะ"

ชีวาพูดแกมเหน็บน้องที่กำลังล้างแขนอยู่ที่อ่างล้างมือในห้องน้ำ เลือกที่คุยได้เหมาะมาก เขาไม่ได้เลือกนะ น้องอยากมาล้างแขนที่เพื่อนทำน้ำหวานหกใส่ต่างหาก

"ร้านอาหารนะป๋า ใครจะไปจะมาก็ได้อยู่แล้ว" ตอกกลับขณะที่ดึงกระดาษมาเช็ดแขนตัวเองไปด้วย

"แต่ต้องไม่ใช่เพราะปอมปอมพามาแบบนี้สิ"

"เพื่อนปอม ปอมจะพาไปไหนก็ได้"

"ไม่แคร์พี่แล้วว่างั้น"

ดวงตาเรียวตวัดมองพี่ฉับ "ป๋าก็ไม่แคร์ปอมเหมือนกันแหละ"

"ไม่แคร์ที่ไหน รักอยู่คนเดียว แคร์อยู่คนเดียวเนี่ย"

"โกหก" น้องว่า ก่อนเดินตึงๆหน้าบูดออกจากห้องน้ำไป ชีวาส่ายหน้าเบาแล้วเดินตาม

"ถ้าแคร์จริงทำไมตีตัวออกห่างปอม มาหาก็ไม่มา ไปหาที่บ้านก็ไม่เจอ แบบนี้จะให้ปอมคิดไงนอกจากป๋าแอบมีชู้!"

"เฮ้ย! ข้อหาใหญ่เลยนะน่ะ"

ชีวาแสร้งทำตกใจ แต่ในใจกลับขำข้อหาของน้อง ปอมปอมหยุดเดินแล้วหันมาหา มองจ้องพี่เขม็ง

"หรือไม่จริง สารภาพมาซะดีๆ"

"คิดว่าตัวเองกำลังเล่นบทเมียหลวงอยู่รึไงตัวแสบ"

มือใหญ่เอื้อมไปจับแขนน้อง แต่น้องกลับปัดออกแรงๆ กำลังโกรธอยู่นะ เข้าใจป่ะ!?

"ไม่ต้องมาจับเลย บอกปอมมาว่าแอบมีคนอื่นใช่ไหม?"

"ไม่ได้มีใครเลย"

"ไม่เชื่อ"

"ปอมปอม มีเหตุผลหน่อย พี่ไม่อยากทะเลาะกับเรานะ"

"ปอมก็ไม่ได้อยากทะเลาะ อยากเคลียร์กันให้จบ จะเอายังไงว่ามาเลยดีกว่า"

"พี่ไม่ชอบคำพูดท้าทายแบบนี้เลยนะ"

พี่ว่าเสียงดุ ปอมปอมน้อยเลยเงียบ แต่สีหน้ายังดูดื้อดึง ชีวาถอนใจก่อนรั้งเด็กดื้อมากอดไว้หลวมๆ

"ไม่ได้หายหน้าไปเพราะมีชู้" เอ่ยบอกกลั้วหัวเราะเลยถูกน้องทุบเอา

"เรียนหนักมันมีส่วน แต่หลักใหญ่ใจความเพราะแม่ห้าม" คนเป็นพี่สารภาพ

"แม่? แม่ป๋าเหรอ?"

"ครับ"

"ทำไมไม่บอกปอม ปอมจะได้ไปช่วยพูดให้ว่าปอมอ่ะไม่พาป๋าออกนอกลู่นอกทางหรอก"

ฟังน้องพูดแล้วชีวาก็หัวเราะ ช่างพูดจริงกะปอมน้อย "แม่กลัวกะปอมน้อยตัวนี้พาพี่ออกนอกทางที่ไหน กลัวพี่กินกะปอมมากกว่า"

"โหย เรื่องนั้นยิ่งไม่ต้องเป็นห่วง ปอมเอาตัวรอดได้สบาย"

".........." มองอย่างไม่เชื่อ

"มองแบบนี้หมายความว่าไง ป๋าไม่เชื่อเหรอ?"

"ไม่ มันต้องพิสูจน์"

ริมฝีปากพี่ฉกวูบ ปอมปอมเอียงหลบทันควัน มือเรียวดันหน้าพี่ไว้สุกฤทธิ์

"ฮั่นแน่ ป๋านี่เจ้าเล่ห์จริงๆเลย"

ชีวาหัวเราะในลำคอก่อนดึงมือน้องลงแล้วหอมแก้มน้องฟอดใหญ่ เสียงกระแอมดังมาจากทางไหนไม่รู้ทำให้เด็กหนุ่มชะงักกึก หันขวับไปมองด้านหลังก็ไม่เห็นใคร พอชะเง้อมองหน่อยก็เห็นด้านหลังใครบางคนไวๆ ถึงจะเห็นแค่นั้นแต่เขาก็จำได้ดีเลยทีเดียว

"ซวยแล้ว" ชีวาพึมพำหน้าซีด

"อะไรอ่ะ?" กะปอมน้อยเหลียวมองเหรอหรา

"ท่าทางจะไม่ใช่แค่แม่พี่แล้วล่ะที่รู้ ลุงไปป์ก็ด้วย"

"หวาย ตายแน่"

"ปอมปอม~~" ชีวาลากเสียงยาว เขายิ่งกลัวๆอยู่ เห็นเป็นคนง่ายๆสบายๆแบบนั้นแต่ที่จริงแล้วลุงไปป์เวลาโกรธน่ากลัวสุดๆเลยนะเฮ้ย

"อย่าทำหน้าอย่างนั้นครับป๋า ไม่เป็นไรหรอก ถ้าป๋าถูกปะป๊าปอมยิงไส้แตก ปอมจะไปเฝ้าป๋าที่โรงพยาบาลเอง ไม่ต้องห่วง" ตบไหล่พี่ปุๆอย่างให้กำลังใจ

"มีกำลังใจขึ้นเยอะเลย"

หนุ่มน้อยหัวเราะ ตาเรียวหยิบหยี ก่อนควงแขนพี่ออกไปหน้าร้านที่มีเพื่อนๆรออยู่ที่โต๊ะ

"ป๋า"

"ครับ"

"ต่อไปถ้ามีอะไรอย่าปิดบังปอมนะ ถ้าปอมรับได้ก็ดีไป แต่ถ้ารับไม่ได้เราอาจไปกันไม่รอด"

มือใหญ่โยกหัวน้องด้วยความเอ็นดู "แฟนใครวะ แก่แดดจริงๆ"

"เขาเรียกมีความคิดเป็นผู้ใหญ่"

"อืม ฟังดูดี"

คนถูกประชดยิ้มตาหยี น้อมรับเสียอย่างนั้น เมื่อมาถึงโต๊ะชีวาก็นั่งลง ส่วนปอมปอมเดินกลับไปหาเพื่อนตนเอง เขมมองมาที่ชีวาอย่างไม่ชอบใจ ขณะที่หนุ่มรุ่นพี่ยิ้มเย้ย

"เคลียร์กันแล้วไง?"

เสียงอาร์ดิวดังขึ้นใกล้ๆ ชีวาหันมายิ้มให้เพื่อนที่ยกถาดอาหารมาเสิร์ฟถึงที่ ท่าทางจะเป็นห่วงน้องจริงจัง

"อือฮึ"

"เกือบไปแล้วนะ"

"ปัญหายังไม่จบ" ชีวาแย้งเสียงเครียด

"อะไรอีก เรื่องคุณน้าเหรอ?"

อาหารทุกอย่างถูกวางลงบนโต๊ะพร้อมแก้วน้ำใบใหม่ ก่อนอาร์ดิวจะเก็บใบเดิมที่น้ำแข็งมันละลายจนไอน้ำเกาะตามแก้วมาใส่ถาดที่ตนเองถือ

"ลุงไปป์" ชีวาบอกอุปสรรคใหญ่ที่กำลังจะตามมา

"หวาย ตายแน่"

"โฮะ พี่น้องพูดเหมือนกันเด๊ะ"

อาร์ดิวยิ้มขำก่อนเดินเลี่ยงเอาถาดกับแก้วน้ำไปเก็บ รับศึกหนักไปคนเดียวแล้วกันนะชีวา



เมื่อวันหยุดมาถึง การ์ฟมาชวนอาร์ดิวไปหอสมุดด้วยกัน เผื่อหาข้อมูลทำงานแล้วจะได้ยืมหนังสือกลับมาอ่านเพิ่มเติมด้วย เข้ามาในหอสมุดทั้งสองก็สอบถามบรรณารักษ์ถึงหนังสือที่ต้องการก่อนไปเดินหาตามคำบอกกล่าว เมื่อเจอแล้วการ์ฟจึงมานั่งอ่านหนังสือที่ตนเองได้มารอตี๋น้อยที่โต๊ะ ขณะที่อาตี๋เดินหาชื่อหนังสือต่อ รอยยิ้มดีใจผุดขึ้นมาเมื่อหาจนเจอ ก่อนเอื้อมมือไปหยิบลงมาจากชั้นวาง มองไปฝั่งตรงข้ามของชั้นที่มีช่องว่างจากหนังสือที่ตนเองหยิบมาแล้วก็ชะงัก

หนุ่มตี๋เดินกลับมาหาการ์ฟที่โต๊ะพร้อมใครอีกคนหนึ่ง การ์ฟเงยหน้าจากหนังสือขึ้นมองแล้วคิ้วขมวด

"การ์ฟ นี่พี่เก้า เพื่อนพี่มีน เคยเจอกันแล้วนี่ที่โรงพยาบาลอ่ะ"

"สวัสดีครับ" การ์ฟเอ่ยทักทายตามมารยาท เก้าส่งยิ้มให้ก่อนดันหลังตี๋น้อยให้นั่งลงข้างกัน

"ขอนั่งด้วยคนนะ"

หนุ่มรุ่นพี่เอ่ยขอ การ์ฟผงกศีรษะ สีหน้ายังคงนิ่งเฉย ไม่คุ้นเคยกันแบบนี้เขาก็ไม่รู้จะยิ้มให้ไปทำไม ไม่ใช่ไม่มีมนุษยสัมพันธ์ แต่ไม่รู้จักกันนี่หว่า

"อาร์ดิวมาที่หอสมุดนี่บ่อยไหม?"

เก้าชวนคุยเบาๆ การ์ฟเหลือบมองก่อนทำไม่สนใจการสนทนาระหว่างคนสองคนนั้นทั้งที่หูกลับตั้งใจฟังเขาเสียเต็มที่ กลายเป็นคนสอดรู้ไปตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้

"เพิ่งเคยมาครับ บ้านผมอยู่ไกลเลยไม่ค่อยมีโอกาสมา แต่การ์ฟเขาคงมาบ่อยเพราะบ้านอยู่ใกล้ๆนี่เอง"

คนถูกพาดพิงเงยมอง อาร์ดิวเลิกคิ้วเชิงถามว่ามีอะไรหรือ แต่อีกฝ่ายกลับไม่พูดอะไรนอกจากก้มอ่านหนังสือแล้วจดยุกๆยิกๆต่อไป เขาเองก็ควรจะเริ่มอ่านได้แล้วเหมือนกัน

"ดูสนิทกันดีเนอะ"

เก้าพูดแล้วยิ้ม แต่คนฟังอีกสองคนชะงักกึก ลืมไปได้อย่างไรว่าเก้าเป็นเพื่อนมีน และมีนก็เป็นพี่ชายของมิมิว นั่นมันย่อมแสดงว่าเก้าก็ต้องรู้ว่าการ์ฟเคยเป็นแฟนมิมิวมาก่อน

คนพูด พูดแล้วก็ไม่ได้ใส่ใจมันอีก กางหนังสืออ่านแล้วค้นสมุดจดออกมาวางก่อนทำงานของตนเองไป แต่อีกสองคนที่อยู่ร่วมโต๊ะกลับคิดไปไกลแล้วว่าคำพูดเมื่อครู่นี้เก้าแฝงความหมายอะไรเอาไว้หรือไม่

ทั้งสามคนอ่านหนังสือหาข้อมูลกันไปเงียบๆ โดยเฉพาะการ์ฟที่ดูจะเงียบกว่าใคร ก็มันหงุดหงิดแปลกๆที่ไอ้พี่เก้าหน้าตี๋นั่นทำตัวสนิทสนมกับตี๋น้อยของเขามากไป หมอนั่นก็ไม่ขัยบหนีบ้าง ยังคุยกันเบาๆแล้วหัวเราะกันอยู่สองคนอีก เมื่อทนหงุดหงิดไม่ไหวการ์ฟจึงปิดหนังสือที่อ่านอยู่ อ่านไปก็ไม่เข้าหัว ย้ายโต๊ะแม่ง

ตี๋น้อยเงยมองตามเมื่อเห็นการ์ฟลุกจากโต๊ะ จะเอ่ยถามแต่อีกคนก็ไม่หยุดให้ถาม จึงหันมาสนใจหนังสือตรงหน้า เวลาผ่านไปพักใหญ่กว่าที่การ์ฟกับอาร์ดิวจะกลับบ้านกัน

สองหนุ่มหยิบหนังสือที่ตนเองจะยืมกลับบ้านไปที่เคาน์เตอร์ การ์ฟมายืนใกล้ๆตอนที่บรรณารักษ์กำลังทำรายการยืมให้อาร์ดิว ตี๋น้อยยิ้มให้แต่การ์ฟกลับทำหน้านิ่ง คนยิ้มเลยยิ้มเก้อ ย่นหัวคิ้วไม่เข้าใจ ก่อนจะหันไปรับหนังสือจากบรรณารักษ์ ยังไม่ทันจะรับมาการ์ฟก็กลับคว้าไปถือไว้เสียเอง มือเรียวชะงักกลางอากาศ ก่อนจะขยับถอยมายืนรอให้การ์ฟยืมเสร็จแล้วจึงเดินออกมาด้วยกัน สวนกับพี่มีนที่เข้าไปหาพี่เก้าด้านใน

ทั้งสองคนมายืนรอรถที่ป้ายรถเมล์เพราะมีที่กำบังแดด ความเงียบโรยตัวอยู่นานจนอาร์ดิวถอนใจออกมาด้วยความอึดอัด การ์ฟเลยขยับหนีไปให้ห่างอีกนิด ทำให้ตี๋น้อยชักจะหงุดหงิดขึ้นมาบ้าง อะไรกัน

อาร์ดิวก้าวเข้าไปหาการ์ฟที่ยืนอยู่อีกมุมของที่รอรถ มือเรียวยื่นไปตรงหน้าเพื่อขอหนังสือของตนเองมาถือเอง การ์ฟแค่มองแล้วเบือนไปทางอื่นไม่ยอมคืนให้ จนอาร์ดิวเริ่มเอียงคอมองว่าจะเอาอย่างไรกับตนเองแต่อีกคนก็ไม่พูด ยืนกอดอกอยู่ตรงนั้น ตอนมาชวนไม่เห็นเป็นแบบนี้เลย ไม่มาด้วยซะก็ดี คนอะไรอารมณ์ขึ้นลงเอาใจไม่ถูก

ไม่ต้องให้รอนานกว่านี้รถแทกซี่ก็มาจอดรับ ก่อนพาทั้งคู่มาถึงบ้านการ์ฟในเวลาเพียงไม่นาน การ์ฟวางเงินใส่มืออาร์ดิวก่อนเปิดประตูรถลงไป ตี๋น้อยกำมือแน่น ส่งเงินให้แทกซี่ก่อนเปิดประตูอีกฝั่งลงตามมา

"การ์ฟ"

เอ่ยเรียกอย่างหมดความอดทน การ์ฟที่กำลังจะเปิดประตูเข้าบ้านหยุดแล้วหันมาเอาหนังสือส่งคืนอาร์ดิวแล้วจึงหมุนตัวกลับจะเข้าบ้าน อาร์ดิวอ้าปากแล้วงับ จะพูดแต่ไม่รู้จะด่าอะไร เอาหนังสือปึกใหญ่ในมือทุบหลังการ์ฟแทบแอ่น

"ตี๋!!" หันกลับมาตะคอกเสียงดัง แต่ตี๋น้อยกลับหน้างอใส่

"เฮ้ เข้ามาคุยกันในบ้านดีกว่าไหมเด็กๆ?"

เทสต์เอ่ยแทรกสถานการณ์ตึงเครียด ยืนค้ำประตูรั้วเอ่ยเรียกยิ้มๆ การ์ฟเดินเข้าไปไม่พูดจา ขณะที่อาร์ดิวยังลังเล พอเห็นเทสต์พยักหน้าให้เข้ามาเด็กหนุ่มจึงตามเข้าไป

"นั่งลงดื่มน้ำเย็นๆก่อนนะค่อยคุยกัน อ่ะ นี่ของตี๋น้อยครับ"

แก้วน้ำเย็นๆถูกวางลงบนโต๊ะเล็กหน้าโซฟาที่เด็กหนุ่มทั้งสองนั่งอยู่ อาร์ดิวยิ้มแหยกับคำเรียกขานของน้าชายการ์ฟ เรียกตี๋น้อยมันฟังดูแปลกๆ แต่การ์ฟก็เรียกตี๋อยู่แล้วนี่เนอะ

"อย่าทะเลาะกันล่ะ คุยกันดีๆ"

บอกแล้วเทสต์ก็เดินเลี่ยงออกไป บิวเดินออกมาจากด้านในบ้านเพราะได้ยินเทสต์พูดกับใคร อาร์ดิวหันมาเห็นจึงยกมือไหว้ บิวแทบยกมือรับไหว้แทบไม่ทัน มารยาทดีจริงเด็กคนนี้ เขาดูแก่ไปเลยนะนี่

พอเหลือกันอยู่สองคนจริงๆแล้วอาร์ดิวจึงเอ่ยถามเรื่องคาใจ

"วันนี้คุณเป็นอะไร?"

"ไม่มีอะไร ฉันก็เป็นของฉันแบบนี้" การ์ฟบอกปัดราวไม่ใส่ใจ

"อ้อ" เหมือนเส้นความอดทนขาดผึง ตี๋น้อยลุกขึ้น "ผมกลับล่ะ"

ขาเรียวชะงักเมื่อมือการ์ฟคว้าข้อมือตนเองเอาไว้

"การ์ฟ!" หงุดหงิดแล้วนะ อะไรกันผู้ชายคนนี้!

"มีอะไรก็พูดสิ เห็นอย่างนี้ผมก็หงุดหงิดเป็นนะ" อาร์ดิวพ่นลมหายใจ พยายามระงับความโกรธ

"กับรุ่นพี่ตาตี่นั่น รู้จักกันมานานแล้วเหรอ?"

"อย่าเรียกคนที่เพิ่งรู้จักกันแบบนั้นสิ"

"ออกโรงปกป้องเชียวนะ"

ตี๋น้อยหลับตาลงข่มใจ ก่อนกลอกตาเซ็งๆ วันนี้กวนเกินไปแล้วนะ

"เพิ่งรู้จักตอนผมเข้าโรงพยาบาล"

"เพิ่งรู้จักกันไม่นานแต่ทำตัวสนิทสนมแบบนั้นแล้วเหรอ นายนี่ยังไง" ถ้อยคำตำหนิยังตามมาให้ขัดหู

"อะไรของคุณเนี่ย อยู่ดีๆก็โกรธ อยู่ดีๆก็พาลใส่"

"ฉันแค่ไม่อยากให้นายทำตัวสนิทสนมกับคนเขาไปทั่ว มันจะเป็นอันตราย"

"การ์ฟ มีอะไรกันแน่ ผมไม่เชื่อหรอกว่าเหตุผลมันมีแค่นั้น เพราะถ้าพูดกันตามจริงแล้วพี่เก้าเขาไม่ใช่คนร้ายกาจอะไรสักหน่อย ออกจะเป็นมิตรด้วยซ้ำ"

อีกคนยังเงียบ อาร์ดิวมองนิ่งก่อนจะวางหนังสือลงบนโต๊ะแล้วนั่งลงข้างกัน

"ตกลงมีอะไร?"

"ไม่รู้" สุดท้ายก็ยอมพูดอย่างจำนน แต่ก็ไม่ได้ความอะไรอยู่ดี

"อ้าว?"

"นายมีนิมิตนี่ ใช้อ่านใจฉันดูสิ"

"ไม่เอาอ่ะ" ส่ายหน้าหวือ มือรีบกำสร้อยที่คอตัวเองไว้

"ทำไมล่ะ กลัวอะไร?"

พอเห็นอย่างนั้นบรรยากาศขมุกขมัวที่การ์ฟสร้างขึ้นดูจะคลายลง เด็กหนุ่มขยับมานั่งทับขาข้างหนึ่งบนโซฟาเพื่อเผชิญหน้าอาตี๋ มือเอื้อมไปจะถอดสร้อยออก

"การ์ฟ ไม่เอา อย่าถอด ผมกลัว"

"อยู่เฉยๆน่า"

การ์ฟดุตี๋น้อยที่เบี่ยงหลบไม่ยอมให้เขาถอดสร้อย ขยับเข้าไปใกล้อีกเพื่อเพิ่มความถนัดให้ตัวเอง รอยยิ้มมุมปากเผยขึ้นมาเมื่อเห็นแก้มคนชิดใกล้ขึ้นสีระเรื่อ

"หน้าแดงอะไรตี๋?"

ตี๋น้อยส่ายหน้ารัวแล้วจะลุกหนี การ์ฟรีบคว้าเอวไว้ทำให้คนที่กำลังผละลุกเซกลับมานั่งที่เดิม รั้งไหล่เล็กให้เอนมาหาแล้วถอดสร้อยออกจากคออาร์ดิวจนสำเร็จ

ใจตี๋น้อยเต้นแรงเมื่อการ์ฟอยู่ใกล้ขนาดนี้ มันแนบชิดไป ใกล้กันเกินไปจนใบหน้าร้อนผะผ่าวลามมาถึงลำคอ อาร์ดิวกุมแก้มแล้วก้มหน้างุด หน้าร้อนจะแย่แล้ว

"เห็นอะไรไหม?"

การ์ฟเอ่ยถามราวไม่รับรู้ว่าอีกคนกำลังเขินอย่างที่สุด โน้มหน้าไปกระซิบใกล้ขนาดนี้กะให้หัวใจตี๋น้อยเต้นแรงไม่ได้หยุดพักผ่อนเลยหรืออย่างไรกัน

"ไม่เห็น"

"ฉันรู้ว่านายเห็น"

"คุณนี่รู้ไปซะหมด แล้วแบบนี้ยังต้องให้ผมดูไปทำไม"

"ก็อยากให้นายรู้เหมือนที่ฉันรู้ไง ว่า..."

คนพูดค้างคำพูดของตนเองเอาไว้ ทำให้อาร์ดิวต้องเหลียวกลับมามองอย่างสงสัย พอหันกลับมากลับต้องชะงักนิ่งเมื่อใบหน้าของทั้งคู่อยู่ใกล้กันแค่นี้เอง การ์ฟมองท่าทางเก้อกระดากของอีกคนแล้วอมยิ้มเล็กๆก่อนเอ่ยบอก

"ฉันชอบนาย"

!!?




TBC




มาต่อแล้วค่ะ หลังจากหายไปนานเลย ขอบคุณทุกคนมากนะคะที่ยังรอกันอยู่

บวกและบวก

วันใหม่ค่ะ

++++++++

ขอวันใหม่สักอย่างได้ไหมคะ
ขอช่วยใส่เลขหน้าต่อจากวันที่อัพให้ด้วยเถอะค่ะ จะได้พุ่งจู๊ดไปหน้านั้นได้เลย
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ  :mew3:

แหะๆ แบบว่าอัพตอนใหม่แล้วมันก็ยังอยู่หน้าเดิมอ่ะค่ะ ใหม่เลยไม่ได้บอกเลขหน้าไว้ ต่อไปจะเขียนบอกไว้นะคะ :กอด1:

อยากได้ปอมหวานกับชีวาอีกเยอะๆพี่วันใหม่จัดให้หนูหน่อย55555555555555 :hao6:

5555 เขียนไม่เป๊นนน พี่ออกจะใสๆ  :m13:
หัวข้อ: Re: Magica Café >>magic (17)<< 06/07/2556 หน้า 15 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: nan239 ที่ 06-07-2013 11:52:08
+1 ตี๋กับปอมปอมน่ารัก
หัวข้อ: Re: Magica Café >>magic (17)<< 06/07/2556 หน้า 15 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 06-07-2013 12:53:40
บอกรักแล้วนะการ์ฟ มัวแต่หึงอยู่ตั้งนาน

กรี๊ดดดดด บรรยากาศกำลังดีเลย อยากรู้อาร์ดิวจะตอบการ์ฟว่าไง
หัวข้อ: Re: Magica Café >>magic (17)<< 06/07/2556 หน้า 15 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 06-07-2013 12:56:32
ให้กำลังใจป๋าวานะคะ เอาชนะใจพ่อตาให้ได้ล่ะ :z1:
ส่วนคู่พี่อาร์ดิวกับแมวอ้วนการ์ฟ ในที่สุดก็บอกชอบกันแล้ว นึกว่าต้องรอจนผมขาวขึ้นซะอีก (นี่ก็เว่อร์ไป) :laugh:
คุณวันใหม่ไม่ทำให้เราเครียดอยู่แล้วล่ะเนอะ :impress2:
หัวข้อ: Re: Magica Café >>magic (17)<< 06/07/2556 หน้า 15 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 06-07-2013 13:39:05
เย้ๆ วันใหม่ใส่เลขหน้าให้แล้ว ขอบคุณมากค่ะ  :กอด1:

เอาตามจริงนะ ... อ่านแล้วอยากตีหัวการ์ฟสักป้าบ เขาให้พูดก็ไม่พูด เนอะ!
ส่วนอาร์ดิวก็เสน่ห์แรงเหลือเกิน!

น้องปอมเป็นผู้ใหญ่เกินตัวอย่างชีวาพูดแต่ชีวาท่าทางจะงานเข้าแล้ว  :ling3:

ขอบคุณที่มาอัพค่ะ หายคิดถึงไปได้หน่อย ^^
หัวข้อ: Re: Magica Café >>magic (17)<< 06/07/2556 หน้า 15 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: greensnake ที่ 06-07-2013 14:30:58
เอาเป็นว่าเคลียร์นะ ป๋ากับกะปอมน้อย
นี่ขนาดว่าไม่นานนะเนี่ย ข้อหายังหนักขนาดนี้
ถ้าห่างกันนานกว่านี้สงสัยป๋าคงมีลูกไม่รู้ตัว :laugh:
คู่พี่ชายก็ไม่น้อยหน้า กระดึ๊บกันมาอีกขั้นแล้ว
กว่าจะพูดออกมาได้ อกแทบระเบิดเลยเนาะการ์ฟ
นึกว่าต้องรอให้พี่เค้าจีบตี๋อีกหน่อยซะอีก
การ์ฟบอกแล้ว แล้วตี๋ล่ะรู้สึกยังไง :hao3:
ขอบคุณวันใหม่มากค่ะ :กอด1:
+1และเป็ดจ้า
หัวข้อ: Re: Magica Café >>magic (17)<< 06/07/2556 หน้า 15 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: aoaer ที่ 06-07-2013 15:10:43
บอกแล้ว  บอกว่าชอบแล้ว   คิคิ ต่อไปขอหวานไเลยนะค๊า
หัวข้อ: Re: Magica Café >>magic (17)<< 06/07/2556 หน้า 15 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 06-07-2013 15:54:16
ในที่สุดการ์ฟก็บอกชอบอาร์ดิวจนได้ น่ารักเนอะหึงตี๋กับหนุ่มอื่น
ถ้าน้องปอมไม่ยุ่งกับใครนี่ชีวากะจะไม่มาให้น้องเห็นหน้าเลยเหรอ
สมน้ำหน้าเจอน้องปอมว่าซะเลย แถมผู้ใหญ่ยังมาเห็นอีก เอาใจช่วยป๋านะ
หัวข้อ: Re: Magica Café >>magic (17)<< 06/07/2556 หน้า 15 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: PapermintReal ที่ 06-07-2013 16:57:47
 :-[
หัวข้อ: Re: Magica Café >>magic (17)<< 06/07/2556 หน้า 15 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 06-07-2013 17:25:11
ชีวาสู้สู้ :ped149:

อาร์ดิวล่ะว่าไง
กราฟบอกชอบแล้ว :hao3:
+1และเป็ด
หัวข้อ: Re: Magica Café >>magic (17)<< 06/07/2556 หน้า 15 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 06-07-2013 17:26:43
เย้ๆ สารภาพแล้ว ดีใจจังเลย
หัวข้อ: Re: Magica Café >>magic (17)<< 06/07/2556 หน้า 15 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 06-07-2013 19:40:00
 เอาแล้วๆ ตี๋น้อยจะทำหน้าไงนะ 555
หัวข้อ: Re: Magica Café >>magic (17)<< 06/07/2556 หน้า 15 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: TinyB ที่ 07-07-2013 12:33:36
การ์ฟตี๋น่ารักอ่ะ อ่านแล้วเขินไปหมดเบยย
คู่ป๋ากับปอมปอมนี่น่าลุ้นนะ  :mew4:
หัวข้อ: Re: Magica Café >>magic (17)<< 06/07/2556 หน้า 15 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: udongjay ที่ 07-07-2013 14:05:52
กว่าจะพูดออกมาได้นะการ์ฟ ฮึ่มมมมมม
เล่นเอาซะลุ้นหมดเลย แล้วอาตี๋น้อยจะทำยังไงต่อไปนะ คึคึ

ส่วนหนูกะปิมกับป๋า ถึงคราวซวยแล้วนะป๋า ฮ่าาาาาาาา
พ่อน้องปอมจะทำยังไงะ
แล้วตัวร้าย(?)ที่โผล่มา จะเข้ามามีบทบาทอะไรหรือเปล่าง่ะ

สู้ๆนะฮะพี่ใหม่ Fighting!
หัวข้อ: Re: Magica Café >>magic (17)<< 06/07/2556 หน้า 15 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: YOSHIKUNI RUN ที่ 07-07-2013 20:53:18
เขินนนน  :-[ :-[

ฉันชอบนาย           
ฉันชอบนาย         

 ฉันชอบนาย...

มัน ก้องอยู่ในหัวเลยอ่ะ :o8:
หัวข้อ: Re: Magica Café >>magic (17)<< 06/07/2556 หน้า 15 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: atomtcom ที่ 07-07-2013 21:44:56
 :sad4: อ๊าก ตามทันแล้ว น่ารักอ่ะ
หัวข้อ: Re: Magica Café >>magic (18)<< 10/07/2556 หน้า 16 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: wanmai ที่ 10-07-2013 15:44:07
Magica Café

Magic (18)



"นั่งยิ้มอะไรคนเดียวอ่ะ!"

"เฮ้ย!"

คนที่โผล่มาไม่ให้สุ้มให้เสียงเล่นเอาอาร์ดิวตกใจอุทานเสียงหลง มองหน้าแป้นแล้นที่ยิ้มตาใสให้แล้วลูบอกตนเองเบาๆ

"ตกใจหมดปอมปอม"

เจ้าของชื่อหัวเราะคิก ก่อนคลานมานั่งบนเตียงนอนกับพี่ชาย "ดิวเหม่ออะไร ปอมเปิดประตูเข้ามายังไม่ได้ยินอีก"

พอน้องถามคนเป็นพี่ก็มีท่าทีเขินอายให้เห็น ก่อนตอบน้องเสียงเบา "ก็...เปล่า"

"เปล่าอะไรเขินด้วยอ่ะ" ยื่นหน้าเข้าไปมองพี่ใกล้ๆแล้วยิ้มล้อ

"รีบนอนดีกว่า พรุ่งนี้ไม่ไปโรงเรียนหรือไง?" คนเป็นพี่ตัดบทเพราะกลัวแถต่อไปไม่รอด แต่น้องกลับยิ้มรู้ทันแล้วว่า

"พรุ่งนี้วันอาทิตย์ แล้วตอนนี้ก็เพิ่งสองทุ่ม"

ตี๋น้อยกลอกตาไปมาหาทางออก ก่อนจะล้มตัวลงนอนแล้วตวัดเอาผ้าห่มมาคลุมโปง ปอมปอมดึงออกคนเป็นพี่ก็ยื้อเอาไว้สุดฤทธิ์ พอทำไม่ได้ปอมปอมเลยมุดเข้าไปนอนด้วยเสียเลย เสียงหัวเราะของตัวแสบดังอู้อี้อยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนา อาร์ดิวตวัดผ้าห่มออกโดยมีน้องชายนอนข้างๆ นึกไปถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อบ่ายนี้...

"ฉันชอบนาย"

เสียงนั้นยังสะท้อนอยู่ในหู ยอมรับว่าอึ้งกับสิ่งที่ได้ยิน สงสัยคงอึ้งนานไปคนพูดเลยว่า

"ถ้าบอกว่าล้อเล่นจะโกรธป่ะ?"

ตาเรียวตวัดกลับมามอง หน้าบูดแล้ว ล้อเล่นอะไรกัน

"ใครจะกล้าล้อเล่นเล่า พูดจริง"

การ์ฟเอ่ยน้ำเสียงล้อเลียนหน่อยๆ พอรู้ตัวว่าเผลอแสดงท่าทีอะไรออกไปตี๋น้อยก็หลบตา อายอ่ะ

"แล้วนายล่ะ ชอบฉันไหม?"

"......." เงียบกริบ

"อย่ามัวแต่เขินสิ บอกหน่อย"

"ไม่รู้ กลับบ้านดีกว่า"

"เฮ้ย! ขี้โกงว่ะ"

การ์ฟประท้วงเมื่ออีกคนตั้งท่าจะหนี ไม่ยอมหรอก ยังไม่ได้คำตอบเลย เด็กหนุ่มกดไหล่คนที่กำลังจะลุกหนีเอาไว้นิ่ง ก่อนโน้มหน้าข้ามไหล่มาถามใกล้ชิด

"ชอบไหม?"

".........."

"หืม ว่าไง?"

"...ชอบ"

เสียงตอบช่างเบาแสนเบา แต่คนที่ได้รับคำตอบเป็นที่น่าพอใจก็ยิ้มได้ และเพราะการเผยใจไปอย่างนั้นตี๋น้อยถึงได้มานอนเขินตัวเองอยู่แบบนี้

"ตกลงเป็นอะไรอ่า?"

นึกว่าจะเลิกแล้วนะ ปอมปอมยังมาถามตาแป๋วอีก

"ไม่มี ว่าแต่เราเถอะ มาหาพี่มีอะไรครับ?" ตี๋น้อยรีบเปลี่ยนเรื่องในทันใด ปล่อยให้ปอมปอมซักได้หลุดเผยไต๋ออกมาหมดน่ะสิ

"ปะป๊าอ่ะ"

"อ๋อ เรื่องชีวาใช่ไหม พ่อไม่ว่ายังไงนี่"

"ก็ใช่ ปอมชักเครียดแทนป๋าละ"

"เครียดทำไม ปล่อยชีวาเครียดไปคนเดียวพอ"

ปอมปอมมองพี่ที่ยิ้มขำ ก่อนจะส่ายหัวไปมาเลิกคิด ปะป๊าใจดีจะตาย ป๋าชีวาของเขาคงไม่ถูกยิงเป้าก่อนได้มาขอปอมหรอกเนอะ



ช่วงเวลาเช้าตรู่ของวันจันทร์ สองพี่น้องปอปลาเตรียมตัวลงมาด้านล่างเพื่อไปเรียน นั่งทานข้าวด้วยกันกับคุณแม่ ส่วนคุณพ่อไปที่ร้านตั้งแต่สองพี่น้องยังไม่ตื่น เสียงแตรรถดังขึ้นหน้าบ้าน พี่มุ่ยเดินไปบอกเจ้าของรถให้เข้ามารอในบ้านก่อนเพราะคนในบ้านยังทานข้าวกันไม่เสร็จ ชีวาตามพี่มุ่ยเข้ามาคุณแม่รวิจึงชวนทานข้าวด้วยกัน แต่เด็กหนุ่มเสร็จมาจากบ้านแล้วจึงขอนั่งรอปอมปอมกับอาร์ดิวดีกว่า

เมื่อทานข้าวกันเสร็จจึงพากันไปขึ้นรถของชีวา วันนี้ป๋าวาของปอมปอมเป็นสารถีขับรถรับส่งให้เพราะมีเรียนเช้าเหมือนกัน จึงจะไปส่งน้องแล้วเลยไปส่งอาร์ดิวด้วย ปอมปอมนั่งด้านหน้าคู่คนขับ ส่วนอาร์ดิวนั่งเบาะหลัง เปิดเพลงจากเครื่องเล่นขนาดจิ๋วฟังไปพลางๆ
รถเคลื่อนตัวออกไปไม่เร่งรีบ โทรศัพท์ชีวาดังขึ้นมา เด็กหนุ่มจึงวานน้องให้ช่วยรับเพราะตนเองขับรถอยู่

"รับให้พี่หน่อยตัวแสบ"

"คร้าบบบ"

มือเรียวหยิบโทรศัพท์พี่วางอยู่ข้างๆมามองเบอร์โทรเข้าแล้วกดรับ นิ่วหน้าเล็กน้อยเมื่อฟังเสียงปลายสาย ชีวาเหลือบมามองแล้วเลิกคิ้วเชิงถาม แต่น้องกลับมองพี่ตาคว่ำ

"เดี๋ยวจะบอกพี่ชีวาให้นะครับ"

หนุ่มน้อยตอบกลับไป ได้ยินเสียงปลายสายอุทานแปลกใจก่อนพูดอะไรไม่รู้ชีวาได้ยินไม่ถนัด

"ครับ พี่ชีวาไม่มีน้อง ผมเป็นเด็กข้างบ้าน อาศัยรถพี่เขาไปโรงเรียน"

ปลายสายวางไปแล้ว น้องนั่งเงียบจนชีวาต้องมองน้องหวั่นๆ ใครโทรมาวะ?
โทรศัพท์พี่ถูกวางไว้ที่เดิม ก่อนที่ปอมปอมน้อยจะเฉลยปัญหาคาใจพี่ "คนชื่อไวน์โทรมา บอกว่าเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าลืมของไว้บนรถป๋า"

"ลืมอะไร เมื่อวานไม่เห็นมี..."

ตาเรียวตวัดฉับ ชีวาชะงักกึก ซวยแล้ว

"ก็... เมื่อวานพี่กับเพื่อนไปหาข้อมูลทำหนังสั้นกันไง เลยเอารถไปอ่ะ" เอ่ยแก้เสียเสียงอ่อย

"ยังไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย"

"เห็นทำหน้าเหมือนโกรธ"

"เขามีเบอร์ป๋าด้วยอ่ะ"

"ก็เป็นเพื่อนกัน มีเบอร์โทรกันมันเรื่องธรรมดา" ชีวาชีแจงแถลงไข

"เสียงพี่เขาดูออดอ้อนแปลกๆ แถมยังฟังนุ่มๆ ปอมว่าเขาต้องน่ารักแน่ๆใช่ไหม?"

"อะไร ฟังเสียงก็รู้แล้วเหรอว่าน่ารัก?"

"จริงไหมล่ะ?" น้องยังคาดคั้น

"ไม่เท่ากะปอมน้อยของพี่หรอก น่ารักกว่าเยอะ" แอบหยอดเผื่อได้คะแนนนิยมกลับมา แต่น้องกลับรับมุกหน้าตาเฉย

"ปอมรู้ ปอมน่ารักที่สุดแหละ"

"ไม่ค่อยหลงตัวเองเล้ยยย"

หนุ่มน้อยหัวเราะ ไม่โต้แย้งใดๆ

"แค่เพื่อนกันนะ" ชีวาย้ำให้รู้และเข้าใจตรงกัน

"ครับ ปอมเป็นผู้ใหญ่แล้ว ไม่หึงไร้สาระหรอก"

"แล้วใครกันมองพี่ตาคว่ำเมื่อกี้น่ะ?"

"แหม แค่แสดงให้สมบทบาท เดี๋ยวป๋าก็บ่นอีกว่าไม่หึงพี่บ้างเลยหรือไง" จีบปากจีบคอจนคนเป็นพี่อยากบิดปากแหลมๆนั่นสักที

"สมบทบาทมาก"

"ปอมเชื่อใจป๋า"

น้องว่า ชีวายิ้มรับก่อนรอยยิ้มนั้นจะหุบลงทันควัน

"แต่ปอมไม่เชื่อใจคนอื่น! เคลียร์นะ!?"

"เคลียร์ครับ!"

ตอบรับแทบไม่ทัน อะไรกันวะเนี่ย อาร์ดิวหัวเราะขำ ชีวามองกระจกมองหลัง งอนพื่อนที่หัวเราะตนเอง ส่วนตัวแสบละความสนใจจากเขาไปแล้ว เปิดเพลงฟังสบายอารมณ์เฉย จนมาถึงหน้าโรงเรียนปอมปอมก็ปลดเข็มขัดนิรภัย ก่อนยืดตัวไปจุ๊บแก้มชีวาเป็นการขอบคุณสุดพิเศษจากตัวแสบ

"ไปเรียนก่อนนะดิว" หันมาบอกพี่ชายที่นั่งยิ้มอยู่เบาะหลัง

"ตั้งใจเรียน"

"มาหอมที"

กางแขนออกให้พี่ขยับมาหา อาร์ดิวส่ายหน้าน้อยๆแล้วขยับไปให้น้องหอมตามคำขอ มาแปลกนะวันนี้

"เดี๋ยวป๋าจะเขินที่ถูกจุ๊บคนเดียว" ว่าแล้วหนุ่มน้อยก็หัวเราะก่อนเปิดประตูลงรถไป

"ตัวแสบ"

ชีวาส่ายหน้ายิ้มๆกับตัวเอง เมื่อน้องลงไปแล้วอาร์ดิวจึงลงจากรถแล้วขึ้นมานั่งแทนที่ ชีวาไม่ใช่คนขับรถ

"เห็นปอมปอมร่าเริงแบบนี้ค่อยดีหน่อย" คนเป็นพี่ชายว่า ซึ่งอีกคนก็พยักหน้าอย่างเห็นตามกัน

"อืม"

"เรื่องพ่อฉันว่าไงอ่ะ เห็นเงียบๆไป" ตี๋น้อยเปิดประเด็นที่น้องชายเคยพูดถึงอย่างเป็นกังวล ชีวาเองก็คงกังวลเหมือนกัน

"ไม่รู้ดิ ลุงไม่ได้เรียกไปคุย ส่วนแม่ฉันก็ดูพฤติกรรมฉันอยู่"

"คุยกับคุณน้าแล้วเหรอ?"

"อืม สัญญาไปว่าจะไม่ทำให้น้องเสียคน ดูแม่จะไม่เชื่อฉันเลยว่ะ" พูดแล้วคนพูดก็ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

"ขนาดแม่นายยังไม่เชื่อ ฉันจะเชื่อนายได้ไหมเนี่ย?"

"เฮ้ย อย่าตัดกำลังใจกันดิ ว่าที่น้องเขยนะเฮ้ย!"

"ตำแหน่งอันน่าภูมิใจ" ตี๋น้อยตบมุกขำๆ

"รู้อะไรไหม?"

"อะไร?"

"ฉันเคยชอบนายนะ"

อาร์ดิวอึ้งกับคำสารภาพที่ไม่เคยรู้ ชีวายิ้มบางก่อนบอก

"ก็แค่เคย"

"อืม" อาร์ดิวทำเสียงรับรู้ในลำคอ ถ้าชีวาไม่บอกเขาคงไม่รู้ไปตลอดชีวิตแน่

ชีวาที่ได้บอกออกไปเช่นนั้นแล้วมันก็ดูโล่งๆไปเลยแฮะ ถ้าตอนนี้เขาไม่มีปอมปอมเขาคงไม่คิดที่จะบอกอาร์ดิวไปตลอดชีวิตแน่ แต่เพราะตอนนี้เขามีคนของเขา และคิดว่าเพื่อนอย่างอาร์ดิวจะเข้าใจถึงได้บอกออกไป ไม่อยากให้มันค้างคาใจ อยากรักน้องได้จริงๆโดยไม่มีอะไรซ่อนเร้นอีก

เมื่อถึงมหาวิทยาลัยของอาร์ดิว ชีวาขับเข้ามาจอดใกล้ตำเรียนของเพื่อน จะขับเข้าไปด้านในมันก็จะวนออกมายาก อาร์ดิวจึงบอกให้จอดแถวนั้นแล้วเดี๋ยวตนเองจะเดินเข้าไปเอง เมื่อเพื่อนลงรถไปแล้วชีวาจึงขับไปมหาวิทยาลัยของตนเอง



ลงจากรถมาก็เจอการ์ฟมารออยู่หน้าคณะ อาร์ดิวมองอย่างแปลกใจ เดินเข้ามาหาแล้วจึงเอ่ยถาม

"มีเรียนเช้าเหรอ?"

"เปล่า วันนี้ไม่มีเรียน แค่เอางานมาส่งเดี๋ยวก็กลับ" เอ่ยบอกไปแบบนั้นแล้วตี๋น้อยตรงหน้าก็พยักหน้าหงึกหงักเป็นเชิงรับรู้

"งั้นผมไปเรียนก่อนนะ" อาร์ดิวยิ้มให้แล้วจะเดินเลี่ยงไป

"ตี๋"

"...?" หันมาตามเสียงเรียก

"เปล่า แค่อยากมาเห็นหน้า"

นิ่งสนิทเมื่อเจอมุกนี้ ตี๋น้อยทำหน้าไม่ถูก รีบขึ้นตึกไปด้วยความเขิน การ์ฟเกาหัวแกรก รู้สึกรับตัวเองไม่ได้เหมือนกัน เสี่ยวว่ะ
ที่จริงเขาก็แค่แวะมาหาเท่านั้นจริงๆนั่นล่ะ จะกลับบ้านแล้ว นึกอย่างไรไม่รู้ถึงมาที่ตึกเรียนคณะอาร์ดิวได้ ออกจากมหาวิทยาลัยมาก็เจอมิมิวที่กำลังจะกลับบ้านเหมือนกันพอดี ทั้งคู่ยิ้มให้กันก่อนจะชวนกันไปทานข้าว

"เรียนคณะเดียวกันแต่ไม่ค่อยได้เจอกันเลยเนอะ" มิมิวชวนคุยขณะที่กำลังรออาหารมาเสิร์ฟ

"นั่นสิ แล้วได้เจออาร์ดิวบ้างไหม?"

เอ่ยถามเรื่องเพื่อนสนิทตัวติดกันอย่างอาร์ดิวบ้าง เพราะอย่างที่รู้ว่าเวลาเรียนของคณะเขากับมิมิวและคณะของอาร์ดิวไม่ค่อยจะตรงกันเลย ทำให้หาเวลาว่างมาเจอกันไม่ค่อยได้นอกจากหลังเลิกเรียนไปแล้ว หรือไม่ก็ช่วงวันหยุดที่ไม่มีงานเร่งด่วน ไม่เหมือนสมัยเรียนมัธยมที่เจอกันทุกวัน แม้แต่เสาร์-อาทิตย์ก็ด้วยในบางที

"อืม บางทีก็นัดเจอกันบ้างน่ะ ส่วนมากมิวจะไปที่ร้านเพราะดิวชอบไปช่วยงานพ่อแม่ที่ร้านบ่อยๆ" เด็กสาวยิ้มบอก ก่อนจะวนมาถามการ์ฟบ้าง

"การ์ฟล่ะ พักนี้เจออาร์ดิวบ่อยไหม?"

คำถามธรรมดาแต่ทำเอาสะดุ้ง คนเคยรักมาถามแบบนี้เขาไม่รู้จะตอบว่าอย่างไร

"ก็... เจอ"

"พี่เก้าบอกว่าเมื่อวันก่อนเห็นไปหอสมุดกันด้วย"

มิมิวยังชวนคุยต่อ คราวนี้การ์ฟชะงัก ตงิดใจกับเรื่องที่กำลังคุยกันอยู่ แต่ก็คิดว่าเขาคงจะคิดมากไปเองเพราะมิมิวไม่ได้มีท่าทีไม่พอใจอะไร แค่คุยกันธรรมดา อย่าทำตัวเป็นตุ๊กแกจะดีกว่า

"ไปไม่ชวนมิวบ้างเลยอ่ะ งอนแล้ว" เด็กสาวว่า ทำงอนอย่างมีจริต

"งั้นคราวหน้าไปด้วยกันนะ"

"มาชวนตอนนี้ก็ไม่หายงอนหรอก เชอะ" ใบหน้าสวยสะบัดไปทางอื่น การ์ฟอมยิ้มเล็กๆ วางเรื่องที่คิดเมื่อครู่ลงแล้วคุยเล่นกับมิมิว

"แล้วจะให้การ์ฟทำยังไงครับ?"

มิมิวอมยิ้มน่ารักก่อนเอ่ยบอก "เย็นนี้การ์ฟเลี้ยงข้าวมิว มิวจะหายงอน"

"ได้ ยอม" เด็กหนุ่มตามน้ำ

"มิวเลือกร้านนะ"

"โอเคครับ"

รอยยิ้มน่ารักพาการ์ฟยิ้มตาม เมื่ออาหารมาเสิร์ฟทั้งคู่จึงลงมือทานกัน ก่อนที่การ์ฟจะนั่งรถไปส่งมิมิวที่บ้านแล้วตรงกลับบ้านตนเอง เย็นนี้ยังมีนัดเลี้ยงข้าวมิมิวอีกด้วย



ร้านเมจิคกะ คาเฟ่

มิมิวกับการ์ฟมาที่ร้านในตอนเย็น ตามนัดที่มิมิวบอกให้การ์ฟเลี้ยงข้าว เด็กหนุ่มเดินตามสาวเจ้าเข้ามาในร้านด้วยความรู้สึกบอกไม่ถูก จนเมื่อไปนั่งที่โต๊ะหนึ่งแล้วมิมิวเรียกอาร์ดิวมานั่งด้วยกัน การ์ฟยิ่งรู้สึกว่าอากาศวันนี้มันมีน้อยเกินไป หายใจไม่ทั่วท้องอย่างไรไม่รู้

"ดิวทำงานอยู่นะมิว" อาร์ดิวที่เดินมาหาเพื่อนตามที่พี่พนักงานไปบอกพูดกับเพื่อน เพราะตอนนี้ตนเองช่วยงานร้านอยู่จริงๆ ไม่ได้ยุ่งมาก แต่แค่ไม่อยากมา

"แค่แป๊บเดียวก็ได้อ่ะ นะดิว"

สีหน้าออดอ้อนของเพื่อนทำให้อาร์ดิวไม่กล้าที่จะปฏิเสธ สุดท้ายเด็กหนุ่มก็ยอมมานั่งร่วมโต๊ะ แต่กลับไม่กล้ามองหน้าใครเลย

"วันนี้การ์ฟจะเลี้ยงข้าวมิวอ่ะ โทษฐานที่ไปไหนมาไหนกันสองคนกับดิวแล้วไม่ชวนมิวด้วย"

มิมิวพูดเหมือนเล่าให้ฟัง แต่ที่ถูกพาดพิงทั้งสองคนกลับรู้สึกไปคนละแบบ อาร์ดิวตกใจเล็กๆ เมื่อมองคนพูดอย่างมิมิวก็ยังเห็นว่ายิ้มอยู่ ส่วนการ์ฟชักเหงื่อตก บรรยากาศมันแปลกๆแฮะ

"ดิวกับการ์ฟไปไหนด้วยกันบ่อยนะ ใช่ไหม?"

คำถามที่เด็กสาวหนึ่งเดียวในโต๊ะถามไร้ซึ่งคำตอบ มีเพียงความเงียบเท่านั้นที่ตอบคำถามของเธอ

"จะชอบใครมิวไม่ว่าหรอก แต่ทำไม..." มิมิวค้างคำพูดไว้เพียงเท่านั้น สายตาที่มองเพื่อนและอดีตคนรักดูเจ็บปวด

"ขอโทษ"

"ดิวจะขอโทษทำไม ดิวไม่ผิดสักหน่อย"

เมื่อได้ยินคำว่าขอโทษจากเพื่อนมิมิวยิ่งรู้สึกแย่ พาลทำให้อาร์ดิวรู้สึกตามไปด้วย

"มิมิว..."

เสียงเรียกของการ์ฟทำให้มิมิวหันมาหา การ์ฟนิ่งอึ้งเมื่อเห็นว่านัยน์ตาสวยรื้นไปด้วยหยาดน้ำตา

"การ์ฟก็รู้ว่าอาร์ดิวเป็นเพื่อนมิว เพื่อนสนิท"

"การ์ฟรู้ แต่การ์ฟชอบเขาไปแล้ว ถ้ามันทำให้มิวเสียใจ การ์ฟขอโทษ..."

มิมิวลุกขึ้นจากโต๊ะ ก่อนเดินตรงดิ่งไปยังห้องน้ำทางหลังร้าน อาร์ดิวนั่งก้มหน้า อึดอัดเหมือนจะหายใจไม่ออก เขามัวแต่นึกถึงความรู้สึกของตนเอง เป็นเพื่อนที่แย่มากสินะ

การ์ฟมองคนที่เอาแต่ก้มหน้าเงียบอยู่ เลื่อนมือมาหมายจะจับมือปลอบใจกันแต่อาร์ดิวกลับถอยมือหนี การ์ฟชะงัก มือที่ยื่นออกมากำเข้าหากันแล้วถอยกลับมา ความอึดอัดทำให้อาร์ดิวลุกขึ้นจากโต๊ะบ้าง การ์ฟมองตามแล้วได้แต่ถอนใจ

อาร์ดิวตามมารอมิมิวอยู่ที่หน้าห้องน้ำ เด็กสาวออกมาด้วยดวงตาเรื่อ พลอยทำให้คนมองรู้สึกแย่ยิ่งกว่าเก่า เด็กหนุ่มจูงมือเพื่อนไปที่ห้องทำงานของแม่ ซึ่งเพื่อนของเขาก็ยอมเดินตามมาแต่โดยดี เมื่อเข้ามาภายในห้องทำงานก็เห็นปอมปอมนั่งทำการบ้านอยู่ หนุ่มน้อยปิดการบ้านที่กำลังทำแล้วออกไปแทนพี่ที่เคาน์เตอร์อย่างรู้งาน

อาร์ดิวพาเพื่อนไปนั่งที่โซฟาตัวที่ปอมปอมนั่งอยู่เมื่อครู่ ก่อนจะหันหน้ามาคุยกันอย่างเปิดอก

"ดิวขอโทษที่ทำให้มิมิวเสียใจ"

"ใช่สิ มิวเสียใจมาก" เด็กสาวสูดจมูกเบาๆเมื่อเอ่ยจบ

"ดิวจะเลิกยุ่งเกี่ยวกับการ์ฟ ถ้ามิมิวต้องการอย่างนั้นดิวจะทำให้"

มิมิวมองเพื่อนด้วยความอึ้ง อาร์ดิวจริงจังเกินกว่าจะพูดเล่นเพื่อเอาใจเธอ

"แบบนั้นก็เท่ากับมิวเป็นนางร้ายสิ ที่มาขัดขวางความรักของดิวกับการ์ฟอ่ะ" เสียงเครือเอ่ยราวจะแย้งในสิ่งที่เพื่อนพูด

"แล้ว... ตกลงจะให้ดิวทำยังไง ดิวไม่อยากเห็นมิมิวเสียใจนะ"

"ดิว เป็นคนอื่นไม่ได้เหรอ ทำไมต้องเป็นการ์ฟด้วย"

มือเรียวจับมือเพื่อนแล้วเขย่าเบาๆ น้ำตาพาลจะไหลเมื่อเอ่ยถึงบุคคลที่สาม อาร์ดิวยิ้มบาง แต่รอยยิ้มนั้นกลับทำเอาคนมองรู้สึกเศร้า

"ได้สิ เป็นคนอื่นก็ได้ ดิวจะไม่ยุ่งกับการ์ฟแล้วโอเคไหม?"

"ไม่เอาแบบนี้อ่ะ"

"อ้าว?"

"ดิวอย่าเป็นคนดีแบบนี้สิ มิวร้ายไม่ลง ฮึ่ก!"

เมื่อสุดจะกลั้นมิมิวก็ปล่อยโฮ อาร์ดิวรั้งเพื่อนมากอดปลอบ ลูบหลังเล็กเบาๆราวโอ๋เด็กตัวน้อย มิมิวนี่เหมือนปอมปอมเลยแฮะ

"มิมิวจะร้ายทำไมล่ะ มิมิวคนนี้ออกจะเป็นเพื่อนที่น่ารักไม่ใช่เหรอ?" เสียงทุ้มเอ่ยถามขณะลูบหลังปลอบเพื่อน

"มิว มิวหวงดิวอ่ะ หวงการ์ฟด้วย มิวไม่รู้ อธิบายไม่ถูกอ่ะ"

คนสับสนพูดจามึนงง แต่อาร์ดิวก็พอจะเข้าใจ หากแทนที่กันโดยเอาตัวเขาไปอยู่ในฐานะมิมิวบ้าง มันคงเป็นเรื่องยากที่จะทำใจยอมรับ หากคนที่เราเคยรักกันมาก่อนแล้วเลิกลากันไป แล้ววันหนึ่งคนๆนั้นกลับทำท่าว่าจะสานสัมพันธ์เกินเพื่อนกับเพื่อนสนิทของตนเอง ระหว่างคนรักเก่า กับ เพื่อนสนิท ใครบ้างจะไม่เจ็บ

อาร์ดิวพาเพื่อนกลับมาที่โต๊ะ ตี๋น้อยไม่มองหน้าการ์ฟเลยเมื่อมาถึง แม้จะรู้สึกว่าอีกฝ่ายจะกำลังมองตนเองอยู่ก็ตาม มิมิวบอกกับการ์ฟว่าทานอะไรไม่ลงแล้ว ไว้วันหลังค่อยเลี้ยงเธอใหม่ ซึ่งการ์ฟก็ไม่ได้ขัด

มิมิวโทรให้พี่ธารมารับกลับ อาร์ดิวกับการ์ฟจึงออกมารอเป็นเพื่อนเมื่อพี่ธารบอกว่าใกล้มาถึงแล้ว พอรถมาจอดรับมิมิวจึงลาเพื่อนแล้วขึ้นรถไป เพียงประตูรถปิดเสียงคนขับก็ดังมาถาม

"เป็นไงบ้าง ได้วีนพวกเขาสมใจเลยไหม?"

"ใครจะไปกล้าวีนอาร์ดิว" เด็กสาวตอบหน้ามุ่ย

"ดีแล้ว เพื่อนกันใช่ไหม?"

"อื้อ"

มือใหญ่โยกหัวเธอเบาๆ ก่อนจะขับรถออกไป ถึงแม้เธอจะเตรียมมาวีนทั้งสองคนเต็มที่ แต่พอเจอเพื่อนอย่างอาร์ดิวจริงๆสิ่งที่เตรียมมามันกลับพูดไม่ออก อาร์ดิวเป็นคนอย่างไรเธอรู้ดี และพวกเขาสองคนล้วนเป็นคนสำคัญของเธอทั้งนั้น

เมื่อรถที่มิมิวนั่งลับตาไปอาร์ดิวจึงจะกลับเข้าร้าน เพราะนี่ก็ใกล้เวลาที่เขากับน้องต้องกลับบ้านแล้ว การ์ฟก้าวมาดักไว้ อยากคุยกันสักหน่อยเพราะมันอึดอัดกับความเงียบนี้เหลือเกิน

"คุยกับมิมิวว่าไงบ้าง?"

มองหน้าการ์ฟแล้วเม้มปาก เหมือนจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็ไม่ยอมพูด

"ฉันทำให้นายอึดอัดใจใช่ไหม?"

".........."

"ฉันแค่ชอบนาย นาย...ที่เป็นเพื่อนกับมิมิว ฉันผิดใช่ไหม?"

"การ์ฟ..."

"นายจะทำยังไง จะเลิกชอบฉันไหม?"

"การ์ฟ ผม..."

เกือบหลุดคำว่าขอโทษ แต่อาร์ดิวก็ยั้งไว้ หากพูดขอโทษไปก็เหมือนกับยอมรับว่าความรู้สึกที่มีมันคือสิ่งผิดพลาด เขาเองที่จะเป็นฝ่ายเสียใจ

"มิมิวเข้าใจดี และผมก็เข้าใจความรู้สึกมิมิวด้วย มันทำใจลำบากที่ต้องเจอกับสถานการณ์อย่างนี้"

"แล้วยังไง? นายเข้าใจมิมิว เราเข้าใจเธอ เพราะฉะนั้นความสัมพันธ์ของเรามันต้องถอยหลังลงคลองอย่างนั้นเหรอ?"

"คุณพูดเหมือนไม่แคร์"

"แคร์สิ แคร์ทั้งมิมิว ทั้งนายนั่นแหละ เพราะงั้นฉันเลยต้องถามว่าต่อไป 'เรา' จะเป็นยังไง?"

ตี๋น้อยเงียบลงอีกครั้งกับคำถาม จะให้เขาตอบแบบไหนกัน คนกลางมันลำบากใจเข้าใจกันบ้างสิ

"แล้วคุณอยากให้มันเป็นแบบไหนล่ะ?"

ถามแบบนี้เหมือนเปิดทางให้กันเลย การ์ฟซ่อนยิ้มภายใต้สีหน้าเรียบเฉย ขอสักนิดเถอะ ถึงสถานการณ์มันจะตึงเครียด แต่คนมันดีใจอ่ะ

"เป็นแฟนกันนะ"

"ห๊ะ!!?"

อาตี๋อุทานเสียงดัง สีหน้าดูตกใจกับคำถามราวเชิญชวนให้ลองทำ ก่อนจะส่ายหน้าไม่เอาด้วย

"ทำไมอ่ะ?"

"เราเป็นแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว ผมไม่อยากให้คำจำกัดความมันมากำหนดความสัมพันธ์ของเรา เพราะถ้าวันหนึ่งเราต้องเลิกกันไป ผมคง..."

".........."

"ผมคงเสียใจมาก"

ฟังอีกคนพูดแล้วการ์ฟก็อดไม่ได้ที่จะถอนใจแรงๆ "นี่เรายังไม่ทันจะได้คบกันนายก็คิดเรื่องเลิกแล้วเหรอ?"

"ผมแค่สมมติให้ฟัง" ตี๋น้อยเอ่ยแก้เสียงออด

"นายไม่เชื่อในความรักเหรอ?"

"ผมเป็นพวกอ่อนไหวกับหลายๆเรื่อง รวมทั้งเรื่องนี้ก็ด้วย"

การ์ฟเบือนสายตาไปที่อื่นเมื่อฟังคำ ก็รู้ว่าเร่งรัดมากไป แต่ก็ไม่อยากปล่อยให้โอกาสมันผ่านไปง่ายๆโดยไม่ได้ทำอะไรเลย

"เราเป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว นะ"

เหมือนหูจะเฝื่อนที่ได้ยินตี๋น้อยอ้อน "แบบนี้คือแบบไหน?"

"ก็เป็นเพื่อนกันไง"

"แค่เพื่อน?" คิ้วเข้มเลิกสูง มองตี๋น้อยที่ออกอาการอึกๆอักๆแล้วแอบยิ้ม

"เพื่อน...สนิทก็ได้"

"ทำไมต้องมีก็ได้?"

"โธ่การ์ฟ~" ตี๋น้อยครางขัดใจ กวนจังเลยอ่ะ

"โอเค เพื่อนสนิทใช่ไหม?"

การ์ฟหัวเราะแล้วเอ่ยถาม พยายามปั้นหน้าให้นิ่งเข้าไว้แต่ก็ทำได้ไม่ดีเท่าไหร่ อาร์ดิวพยักหน้าตอบรับกับคำถามนั้นการ์ฟจึงเอ่ยถามต่อ

"อืม เพื่อนสนิทจับมือกันได้ไหม?"

คนฟังอึ้งกับคำถามเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้าแล้วยื่นมือไปให้จับ เข้าทางสิแบบนี้

"แล้ว..."

".........?"

"เพื่อนสนิทกอดกันได้ไหม?"

คำถามนี้ตี๋น้อยนิ่งคิดอยู่นานก่อนพยักหน้ารับอีกครั้ง เท่านั้นเขาก็ถูกดึงเข้าไปกอดเสียแน่น ตาเรียวรีกะพริบปริบ ยืนนิ่งอยู่ในอ้อมกอดของ 'เพื่อนสนิท'

"ตี๋"

"หืม?"

"เพื่อนสนิท..."

"?"

"จูบกันได้ไหม?"

จบคำคนกอดก็ถูกผลักออก อาร์ดิวมองอีกคนตื่นๆ ถามอะไรแปลกๆ กลัวนะนี่

"เพื่อนกันนะ จูบกันได้ไงอ่ะ!"

"อ้าว ไม่ได้เหรอ?"

เห็นท่าทางขู่ฟ่อของอาตี๋น้อยแล้วการ์ฟก็ถามกลั้วหัวเราะ หน้าอาตี๋งอเป็นจวัก พอจะเดินหนีการ์ฟก็ดึงกลับมา แผ่นหลังอาร์ดิวชนอกการ์ฟที่อยู่ด้านหลัง ก่อนแก้มใสจะถูกขโมยหอมจนยืนตัวแข็งทื่อตาโต

"อยากให้เป็นเพื่อนสนิทฉันก็จะเป็น แต่เป็นในแบบของฉันนะ"

กระซิบบอกแล้วการ์ฟก็ก้าวถอยมาก้าวหนึ่ง ปล่อยอีกคนเป็นอิสระ อาร์ดิวจับแก้มตัวเองแล้วเดินกึ่งวิ่งกลับร้าน โดยมีการ์ฟมองตามยิ้มๆ


++++++++++++

ต่อด้านล่างครับ  :mew3:
หัวข้อ: Re: Magica Café >>magic (18)<< 10/07/2556 หน้า 16 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: wanmai ที่ 10-07-2013 15:45:46
วันหยุดพี่เมฆมาที่บ้าน หลังจากเรื่องที่พักและเรื่องเรียนเข้าที่เข้าทางดีแล้ว สองพี่น้องปอปลากำลังนั่งทำงานของตัวเองอยู่ในห้องนั่งเล่น พอหันมาเห็นปอมปอมก็วิ่งเข้าไปหา

"พี่เมฆ~"

ตัวผอมๆนั้นโดดกอดพี่ชายเมื่อเข้าถึงตัว เมฆยกสองแขนขึ้นเมื่อมือถือของอยู่ ชายหนุ่มหัวเราะกับอาการดีใจจนออกนอกหน้าของน้องเล็กแล้วเอ่ยล้อ

"ลิงมาจากไหนเนี่ย?"

"คิดถึงพี่เมฆสุดๆ" เงยหน้าบอกพี่ชายแล้วยิ้มตาหยี

"ครับๆ เข้าไปข้างในเถอะ พี่ซื้อขนมมาเยอะแยะเลย"

"หูย ของชอบ"

หนุ่มน้อยตาโต ห่อปากทำเสียงถูกใจของฝากที่พี่นำมา เมฆรวมของมาถือมือเดียว อีกมือขยี้ผมนิ่มด้วยความเอ็นดูปนหมั่นเขี้ยว เด็กๆพากันพักก่อน เอาขนมที่พี่เมฆนำมาฝากไปแกะมาทานกัน

"พี่เมฆทานอะไรมาหรือยังครับ?"

อาร์ดิวที่หาจานมาใส่ขนมหันมาถามพี่ชายที่นั่งอยู่ที่โต๊ะในครัวเป็นที่เรียบร้อย ส่วนปอมปอมยืนรออยู่ใกล้ๆถุงขนม

"ยังเลย ว่าจะมาฝากท้องที่บ้านนี้เลยนะ" คนเป็นพี่ลูบท้องประกอบคำพูด

"อ้าว งั้นทานข้าวก่อนดีกว่าครับ แล้วค่อยทานขนมกัน"

"ปอมกินข้าวแล้วอ่ะ ขอปอมกินขนมเลยได้ไหม?"

เสียงนำมาก่อนเลย ท่าทางจะอยากกินจนไม่อยากรอแล้ว พี่ชายทั้งสองอมยิ้มขำ ก่อนอาร์ดิวจะบอก

"งั้นปอมปอมแบ่งส่วนของตัวเองไปทานก่อน เดี๋ยวพี่หาอะไรให้พี่เมฆทานก่อน"

"ครับผม" รับคำพี่แล้วหยิบกล่องขนมในถุงมาแกะใส่จาน ก่อนถือจานฮัมเพลงออกไปข้างนอก

เมฆนั่งอยู่ที่โต๊ะในครัว ส่วนอาร์ดิวก็เตรียมของจะทำอาหารง่ายๆให้พี่ชายทาน เขาทำเป็นไม่กี่อย่าง แต่ก็พอทานได้นะ

"พี่มุ่ยครับ"

"ขา"

อาร์ดิวเอ่ยเรียกพี่แม่บ้านที่กำลังทำงานอยู่ชั้นบน เจ้าของเสียงตอบรับวิ่งมาส่องที่บันไดก่อนเอ่ยถาม "เอาอะไรคะน้องอาร์ดิว?"

"ไข่ไก่ในตู้เย็นหมดแล้วเหรอครับ?"

"อ๋อ เมื่อเช้าพี่ซื้อมาแล้วค่ะ แต่ลืมใส่ตู้เย็น อยู่ข้างตู้กับข้าวน่ะค่ะ" พี่มุ่ยส่งเสียงตอบกลับมาขณะที่เดินลงมาหาอาร์ดิวในครัว

"ขอบคุณครับ" เอ่ยขอบคุณแล้วเดินไปหาตามคำบอกกล่าว

"มีอะไรให้พี่ช่วยอีกไหม?"

"ไม่เป็นไรครับ พี่มุ่ยไปทำงานต่อเถอะ"

ตี๋น้อยยิ้มบอก พี่มุ่ยยิ้มรับก่อนกลับไปชั้นบนแล้วทำงานของตนเองต่อ เมื่อได้ของครบแล้วอาร์ดิวจึงลงมือทำอาหารให้พี่ทานเสียที เมฆมองน้องหยิบจับนั่นนี่ยิ้มๆ ดูเข้าท่าดีนะนี่ เวลาผ่านไปไม่นานอาหารที่น้องทำก็เสร็จ เป็นข้าวผัดง่ายๆแต่น่าอร่อยดี มีพริกน้ำปลาแถมมาด้วยอีกนะ

"หอมน่ากินจัง" เมฆเอ่ยชมนำไปก่อน ทำเอาพ่อครัวยิ้ม

"ทานเลยครับ ขอโทษที่ให้รอนาน"

"กินด้วยกันไหม?" เอ่ยชวนน้องที่วางจานข้าวผัดตรงหน้าแล้วหันไปเก็บข้าวของ

"ไม่ล่ะครับ ผมทานแล้ว"

เมื่อน้องบอกแบบนั้นเมฆจึงลงมือทาน อาร์ดิวล้างอุปกรณ์ในครัวที่ตนเองทำเลอะไว้จนเรียบร้อยเมฆก็ทานเสร็จพอดี ตี๋น้อยจะเอาจานไปล้างต่อแต่พี่เมฆยกหนีแล้วเอาไปล้างเอง ก่อนจะพากันออกไปสมทบกับลูกลิงที่ยัดขนมจนพุงกางไปแล้ว

"เดี๋ยวก็อ้วน" พี่เมฆว่า

"ไม่อ้วนหรอก ปอมใช้สมองเยอะ" นั่น เหตุผล

"ข้ออ้างทั้งนั้นน่ะ"

ถึงพี่จะว่าอย่างนั้นแต่หนุ่มน้อยก็ยังยิ้มเฉย ก่อนจะทำท่าเหมือนนึกขึ้นได้แล้วเหลือบซ้ายแลขวา เมฆมองท่าทางนั้นของน้องแล้วขำ

"เขาไม่ได้มาด้วยหรอก" คนเป็นพี่ว่า

"แน่ใจนะ ปอมกลัวโผล่มาไม่ตั้งตัวอีกอ่ะ ปอมช็อคตายแน่"

"ไม่หรอก"

พอพูดเรื่องนี้ขึ้นมาอาร์ดิวก็อดไม่ได้ที่จะถามถึง "เขาเป็นไงบ้างครับ?"

"เมื่อวานพาไปที่บ้านเขา กลับมาก็เงียบไม่โผล่มาให้เห็นหน้า ท่าจะทำใจไม่ได้มั้งที่จะไม่ได้เจอครอบครัวอีกแล้ว" เมฆพูดด้วยน้ำเสียงธรรมดา แต่น้องชายทั้งสองคนกลับหันมามองหน้ากัน ก่อนอาร์ดิวจะเอ่ยถามอีก

"เขาจะไปแล้วเหรอครับ?"

เมฆถอนใจเบาแล้วจึงตอบน้องเพียงสั้นๆ "ใกล้เวลาแล้ว"

"พี่เมฆ" ปอมปอมเอ่ยเรียกพี่ชายแล้วขยับมาใกล้ "อย่าเสียใจเลยนะ"

"เสียใจเรื่องอะไร?" เมฆเลิกคิ้ว ลูบผมน้องที่ทำหน้าเศร้ายิ่งกว่าเขาเสียอีก

"ปอมว่าเดี๋ยวพี่เขาก็มาเกิดใหม่ ต้องได้เจอกันอีกแน่"

"หึๆ" เมฆหัวเราะในลำคอ ช่างคิดจริงเด็กน้อย

"แต่ว่าถ้าพี่เขาเกิดใหม่จริง กว่าจะโตทันพี่เมฆ พี่ก็คงเป็นปู่ไปแล้ว... ว้า แย่จัง"

"มะเหงกสักโป๊กไหม?" พี่ชายเงื้อมือ แหม กำลังซึ้งใจที่น้องห่วง แต่ประโยคปิดท้ายนี่มันอะไร

"แหงะ"

ปอมปอมทำเสียงประหลาดก่อนคลานหนีไปหลบหลังอาร์ดิว อาร์ดิวเหลียวมองน้องแล้วยิ้มขำ ก่อนสองพี่น้องปอปลาจะหันกลับไปทางพี่เมฆที่ถอนใจยาว ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางเรื่องราวของพี่เมฆกับวิญญาณหนุ่มตนนั้นหรอก แต่พวกเขาก็อยู่ด้วยกันมาระยะหนึ่ง พอต้องจากกันไปมันคงมีใจหายกันบ้างล่ะ แต่ถึงอย่างไรทุกอย่างมันต้องเป็นไปในทางของมัน



หลังจากทราบเรื่องราวดังกล่าวจากพี่เมฆ ตกค่ำพอการ์ฟโทรมาตี๋น้อยเลยเล่าให้ฟัง ถึงจะเกือบตายเพราะวิญญาณตนนั้นแต่ก็เข้าใจว่าเขาทำไปเพื่ออะไร

"ผมสงสารเขาจัง" ตี๋น้อยว่าเสียงหงอย

"สมเป็นนาย"

"อะไรอ่ะ?"

เสียงหัวเราะเบาๆที่แทรกมาทำให้ตี๋น้อยย่นหัวคิ้ว หัวเราะเขาทำไมเล่า

"ถึงยังไงเราก็ทำอะไรไม่ได้ดีไปกว่าขอให้เขาไปสู่สุขติ" การ์ฟว่าอย่างมีเหตุผล

"อืม"

ตี๋น้อยตอบรับแล้วก็ต่างเงียบกันไป พอหมดเรื่องจะคุยแล้วมันก็เขินขึ้นมาแปลกๆ ถึงไม่มีเสียงพูดคุยแต่ก็ยังไม่มีใครวางไป บรรยากาศแปลกๆมันพาให้ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ

"ดึกแล้ว จะนอนยัง?" การ์ฟเป็นฝ่ายถามแทรกความเงียบ

"กำลังจะนอน แล้วคุณล่ะ?"

"ยังไม่ง่วง"

"เอ่อ... ผมง่วงแล้วอ่ะ ไปนอนก่อนนะ"

"อ้าว รีบไปไหนล่ะตี๋?"

"ก็ง่วงแล้ว จะวางแล้วนะ"

"เออๆ"

"การ์ฟ"

"หือ?"

เรียกแล้วก็เงียบ ทำให้การ์ฟรอฟังอย่างไม่ตั้งใจ

"อย่านอนดึกมากนะ ฝันดี"

รอยยิ้มคนฟังค่อยเผยขึ้นมาช้าๆ ก่อนตอบรับเสียงนุ่ม

"ครับ"

อีกคนวางสายไปแล้ว การ์ฟยังคงยิ้มบาง ท่าทีครุ่นคิดก่อนยักไหล่เล็กน้อย

'เพื่อนสนิท อืม เป็นแค่นี้ก่อนก็ได้'



TBC


4 วันอีกแล้ว สปีดการปั่นนิยายตกจริงๆนะเออ

ขอบคุณที่ยังอยู่ด้วยกันค่ะ บวกและบวกให้ทุกท่าน

วันใหม่ค่ะ
 :mew1:
หัวข้อ: Re: Magica Café >>magic (18)<< 10/07/2556 หน้า 16 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 10-07-2013 16:25:23
ไวน์นี่ท่าทางจะวุ่นวายนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: Magica Café >>magic (18)<< 10/07/2556 หน้า 16 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 10-07-2013 16:27:25
บอกเป็นเพื่อนสนิท แต่ก็รุ้แหละว่ามากกว่านั้น คริๆๆ
หัวข้อ: Re: Magica Café >>magic (18)<< 10/07/2556 หน้า 16 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 10-07-2013 17:31:54
ดีนะที่มิมิวไม่ร้ายไม่งั้นสงสารตี๋แย่เลย
หัวข้อ: Re: Magica Café >>magic (18)<< 10/07/2556 หน้า 16 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 10-07-2013 18:20:08
ใจเย็นๆนะแมวอ้วน ค่อยเป็นค่อยไปก็ได้ ก็ตี๋เค้ายังไม่พร้อม อย่าเร่งรัดนะเดี๋ยวตี๋หนีไปซะก่อน  :z1:
หัวข้อ: Re: Magica Café >>magic (18)<< 10/07/2556 หน้า 16 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 10-07-2013 19:31:57
 มิมิว ... เป็นเพื่อนกันไว้น่ะดีแล้วค่ะ

ส่วนสองคนนั่น เพื่อนสนิทที่จับมือได้กอดได้ แถมหอมได้อีกบางครั้ง ^^
แค่นี้ก็เริ่มต้นดีแล้วล่ะการ์ฟเอ้ย  :mew3:

วิญญาณนั่นจะได้ไปเกิดแล้ว โชคดีให้เกิดเป็นเนื้อคู่พี่เมฆนะคะ

เป็นกำลังใจให้น้องวันใหม่มีอารมณ์ดีหัวแล่นปรู๊ดปร๊าดค่ะ ^_^
หัวข้อ: Re: Magica Café >>magic (18)<< 10/07/2556 หน้า 16 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: TinyB ที่ 10-07-2013 19:36:48
นุ้งอาร์ดิวอ๊าาา~ ที่เค้าบอกยังไม่ง่วงเพราะอยากคุยกับตัวต่อต่างหากหรอก คริคริ
หัวข้อ: Re: Magica Café >>magic (18)<< 10/07/2556 หน้า 16 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: udongjay ที่ 10-07-2013 22:16:05
ดิวน้อยตัดบทจังเลยยยยย ฮืมมมมม
เป็นเพื่อนสนิท(คิดไม่ซื่อ)ไปก่อนเนอะ ค่อยเป็นแฟนกันที่หลัง
คึคึ
กะปอมน้อยน่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกเหมือนเดิม
บวกฮะพี่ใหม่
หัวข้อ: Re: Magica Café >>magic (18)<< 10/07/2556 หน้า 16 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: aoaer ที่ 10-07-2013 22:23:13
ดิว นู๋ไม่ยอมเป็นแฟนเค้าไปเลยล่ะคะ เป็นเดี้ยนหน่อยไม่ได้จะตะคุ๊บไว้ไม่ให้หลุดมือไปไหนเลย 

ครั้งหน้าเอาใหม่นะค๊ะ  กำไว้เลยค่ะ กำไว้ ตัวผู้น่ะหามาให้กินไม่ได้บ่อยๆนะค๊ะ  จับทำสามีไปเลยค๊าเดี้ยนหนับหนุนเต็มกำลัง

ฮ่าๆๆๆๆๆๆ   :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Magica Café >>magic (18)<< 10/07/2556 หน้า 16 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 10-07-2013 22:42:08
เฮ้อ ดิวรับเถอะ สงสารกราฟ
หัวข้อ: Re: Magica Café >>magic (18)<< 10/07/2556 หน้า 16 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 11-07-2013 00:55:20
จะบอกว่าเขินแทนดิวมากกกก
ไม่คิดว่าจะเจอการ์ฟโหมดนี้นะเนี่ย
อ่านไปอมยิ้มแก้มแทบแจก น่ารักมากๆๆๆๆๆ
กรี๊ดๆ (กลิ้งไปมา) เขินอะ
หัวข้อ: Re: Magica Café >>magic (18)<< 10/07/2556 หน้า 16 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: fay_13 ที่ 11-07-2013 14:46:48
เย้ อ่านทันแล้ววววว  :mc3:

ชอบเรื่องนี้มากค่ะ อ่านแล้วอมยิ้มได้ทั้งเรื่องเลย หมั่นไส้อิป๋ามากอ่ะ แอบอยากถีบเป็นการส่วนตัว ฮาาา 

สองพี่น้องปอปลาน่ารักทั้งคู่เลยค่ะ โดยเฉพาะเจ้ากะปอมตัวเล็กที่แสบเอาเรื่องจนสามารถปราบอิป๋าให้หงอได้ ดีมากลูก ทำหน้าที่เคะราชินีที่ดี  o13

ส่วนดิวนี่น่ารักได้อีกฝุดๆ ชอบๆ น่ารักมากๆ ค่ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: Magica Café >>magic (18)<< 10/07/2556 หน้า 16 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: greensnake ที่ 11-07-2013 15:29:41
เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อเหรอการ์ฟ :hao3: ตี๋คงตามทันหรอกนะ
สู้กะปอมน้อยก็ไม่ได้ เดี๋ยวนี้มีหึงมีหวงออกสื่อด้วยล่ะ :-[
ห่วงก็แต่พี่เมฆ จะได้เป็นปู่อย่างที่กะปอมน้อยว่าซะล่ะมั้ง
ยังไงก็ขอให้วิญญาณดวงนั้นไปสู่สุคติด้วยนะ พี่เมฆจะรอ :laugh:
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :กอด1:
+1และเป็ดเบาๆ
หัวข้อ: Re: Magica Café >>magic (18)<< 10/07/2556 หน้า 16 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 11-07-2013 18:01:49
ขนาดนี้ไม่เรียกว่าเพื่อนสนิทแล้วล่ะตี๋น้อย
หัวข้อ: Re: Magica Café >>magic (18)<< 10/07/2556 หน้า 16 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 11-07-2013 18:05:36
ตอนนี้เป็นเพื่อนสนิท
ตอนหน้าค่อยข้ามขั้น :z1:
หัวข้อ: Re: Magica Café >>magic (18)<< 10/07/2556 หน้า 16 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: rainiefonnie ที่ 14-07-2013 00:49:56
เป็นเพื่อนสนิทเดี๋ยวก็ได้เป็นแฟนกันคริคริ :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: Magica Café เรื่องนี้ไม่มีตัวร้าย >>magic (19)<< 15/07/2556 หน้า 16 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: wanmai ที่ 15-07-2013 13:29:19
Magica Café

Magic (19)



ห้องนอนของคุณพ่อกับคุณแม่สองพี่น้องปอปลา กลางดึกที่ทุกคนในบ้านหลับกันไปแล้วคุณพ่อไปป์กลับยังหลับไม่ลง ท่านยังคงนั่งครุ่นคิดเรื่องต่างๆ พอมันมากเข้าก็เริ่มเครียดจนพาลนอนไม่หลับ

"ยังไม่ง่วงหรือจ๊ะพ่อ ดึกมากแล้วนะ" คุณแม่เอ่ยถามน้ำเสียงงัวเงีย

"พ่อกำลังคิดอะไรนิดหน่อย ขอโทษนะที่ทำให้แม่ตื่น"

"เรื่องอะไรพอบอกแม่ได้ไหม?" คุณแม่รวิขยับลุกนั่งข้างๆ ตีแก้มตนเองเบาๆเพื่อเรียกสติสตัง

"เรื่องปอมปอมน่ะ ...อาร์ดิวก็ด้วย แม่คงพอรู้" น้ำเสียงคุณพ่อเครียดจนจับสังเกตได้

"อย่าเครียดไปเลยค่ะพ่อ เดี๋ยวแม่จัดการให้เองนะ ไม่ต้องเป็นห่วง"

รอยยิ้มให้กำลังใจจากคุณแม่ทำให้คุณพ่อพอจะคลายกังวลลงได้บ้าง วางมือกุมมือของคุณแม่ที่เอื้อมมาบีบให้กำลังใจ

"ที่เขาว่ากันว่าลูกน่ะเลี้ยงได้แต่ตัวมันยังใช้ได้อยู่นะคะพ่อ คอยประคองเขาให้เดินตรงทางจะดีกว่า ลูกยังเด็ก ยิ่งห้ามเขายิ่งอยากทำ ค่อยคุยกันจะดีกว่า พ่อก็อย่าเป็นกังวลไปเลยนะ"

"เฮ้อ มันทั้งเสียใจทั้งใจเสียเลยนะแม่ พอคิดว่าลูกต้องออกเรือนไปกับชายอื่นแบบนี้แล้วเนี่ย"

"พ่อก็ พูดเหมือนลูกเป็นสาวเป็นนาง" คุณแม่รวิขำ

"ถึงไม่เป็นก็ใกล้เคียงล่ะ หรือจะให้ชีวาเป็นแทน?"

คิ้วสวยเลิกสูงเมื่อคุณพ่อพูดมาแบบนั้น นึกภาพชีวาเป็นสาวเป็นนางไม่ออก

"อย่าเครียดเลยค่ะ พอพ่อเครียดแม่ก็เครียด ลูกเราคงเครียดตามๆกันไปหมด"

"เฮ้อ เป็นพ่อคนมันลำบากแค่ไหน ใครบ้างจะรู้" คุณพ่อยังรำพึงรำพัน

"แม่ไงที่รู้"

"หือ" คุณพ่อทำเสียงในลำคอ ก่อนยิ้มให้คุณแม่รวิบางเบา

"ไม่เป็นไรหรอกพ่อ พวกเขาเป็นเด็กดี"

"อืม"

"นอนเถอะจ้ะ พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าอีก"

เวลานี้ก็ดึกมากแล้ว พรุ่งนี้คุณพ่อยังต้องตื่นตั้งแต่ตะวันยังไม่ขึ้นเพื่อไปซื้อของเตรียมเปิดร้านอีก ถึงต้องนอนกันเสียที คุณพ่อไปป์ถอนใจยาวเมื่อเอนกายลงนอนข้างกันกับคู่ชีวิต อยากปล่อยวางมันลง แต่ก็ยังทำไม่ได้ในตอนนี้ ได้แต่พยายามข่มตาให้หลับเท่านั้น



หลังเลิกเรียนสองพี่น้องปอปลายังคงมาที่ร้านก่อนกลับบ้านทุกที อย่างน้อยได้ช่วยพ่อแม่บ้างถึงจะไม่มากก็ยังดี อาร์ดิวที่มีเรียนครึ่งวันเช้าจึงมาที่ร้านก่อนน้องที่เลิกบ่ายสามโมงครึ่ง แต่กว่าเด็กหนุ่มจะได้ออกไปช่วยหน้าร้านก็ในช่วงบ่ายแก่ๆ เพราะต้องทำงานที่ได้รับมาในวันนี้ให้เสร็จ ได้สักครึ่งก่อนก็น่าจะเบาใจกว่ามานั่งง่วนทำเวลาใกล้กำหนดส่ง

ปอมปอมมาถึงร้านก็เป็นเวลาเกือบบ่ายสี่โมงครึ่งไปแล้ว วันนี้ท่าจะรถติด หนุ่มน้อยทักทายพี่ชายหน้าเคาน์เตอร์ ก่อนเลยเข้าไปในครัวเพื่อสวัสดีคุณพ่อ

"ปะป๊า พรุ่งนี้ปอมว่าง ปอมมาช่วยที่ร้านนะครับ"

ไหว้คุณพ่อเสร็จแล้วก็เอ่ยบอกเสียงแจ๋ว คุณพ่อพยักหน้าแล้วยิ้มให้ ก่อนหันกลับไปทำงานของตนเองต่อราวกับกำลังยุ่งมากทั้งที่มีลูกมือคอยช่วยอยู่ ปอมปอมจ๋อยเพราะรับรู้ถึงบรรยากาศบางอย่างที่เกิดขึ้นรอบตัวท่าน ก้าวถอยหลังช้าๆแล้วหมุนกายเดินคอตกไปหาคุณแม่ที่เคลียร์เรื่องรายรับรายจ่ายอยู่ในห้องทำงานด้านในสุด

"มะมิ~"

"ครับ"

คุณแม่รวิเงยหน้าจากงานขึ้นมาขานรับเจ้าตัวเล็กที่ส่งเสียงมาแต่ไกล ปอมปอมยิ้มตาหยีก่อนเอากระเป๋าไปวางไว้ที่โซฟาแล้วลากเก้าอี้มานั่งหน้าโต๊ะทำงานของคุณแม่

"หม่ามี้ ปะป๊าโกรธอะไรปอมเปล่าอ่า?" เอ่ยถามอย่างเป็นกังวล

"ทำไมครับ?"

"ไม่รู้ หรือปอมจะรู้สึกไปเอง?" หนุ่มน้อยเอียงคอ หน้าเริ่มบู้แล้ว

คุณแม่ลูบผมหัวเห็ดของเจ้าหนูกะปอมก่อนบอก "ไม่มีอะไรหรอกครับ ปะป๊าเครียดนิดหน่อย"

"เครียดเหรอครับ?"

มีเพียงรอยยิ้มจากคุณแม่ หนุ่มน้อยทำท่าครุ่นคิด "ป๊าทำงานหนักแน่เลย ปอมจะมาช่วย!"

ปณิธานแรงกล้าจนคุณแม่ยิ้มขำ

"มาช่วยหรือมาป่วน?" เสียงจากหน้าประตูเรียกสายตาสองแม่ลูกให้หันไปมอง ปอมปอมยิ้มกว้างเมื่อเห็นคุณพ่อยืนยิ้มอยู่ตรงนั้น ก่อนที่ร่างสูงใหญ่ของคุณพ่อจะเดินเข้ามาหาเขา

"ปะป๊า... ปะป๊าหายโกรธปอมแล้วเหรอ?" ตัวผอมๆลุกขึ้นกอดเอวปะป๊าพร้อมทำเสียงอ้อน

"ใครว่าป๊าโกรธ?"

"ก็ป๊าปล่อยรังสีทะมึนออกมาพร้อมรอยยิ้มอ่ะ ปอมรู้สึกได้"

คุณพ่อกับคุณแม่หันมามองหน้ากัน คุณแม่ยิ้มให้ คุณพ่อจึงก้มมองตัวแสบ

"ป๊าร้อน อยู่หน้าเตานานก็แบบนี้แหละ"

"ไม่ได้โกรธปอมใช่ไหมอ่าครับ?" สีหน้ายังคงจืดสนิท พ่อโกรธเป็นอะไรที่เขาไม่อยากนึกถึง

"ป๊าจะโกรธปอมปอมเรื่องอะไรล่ะ?"

"ก็..." ใบหน้าเรียวก้มต่ำ ไม่รู้จะพูดอย่างไร เรื่องมันรู้ๆกันอยู่ แต่ยากที่จะพูดออกไป

คุณพ่อมองท่าทางของลูกชายคนเล็กแล้วถอนใจเบาๆ แขนแข็งแรงที่คอยปกป้องลูกมาตลอดนั้นกอดกระชับตัวผอมเอาไว้

"ป๊ารักปอมปอมนะ ถึงจะเป็นยังไงป๊าก็รัก"

"ปะป๊า"

ปอมปอมเงยหน้ามองคุณพ่อ รู้สึกทั้งทึ่ง ทั้งดีใจปะปนกันไปหมด แขนเรียวเล็กกอดคุณพ่อแน่น ซึ่งท่านก็โยกตัวลูกชายไปมาแล้วหัวเราะในลำคอ มองคุณแม่ก็เห็นส่งยิ้มเป็นกำลังใจมาให้

"ป๊าฮะ"

"หืม?"

"ป๊าจะไม่ยิงเป้าพี่ชีวาใช่ไหมอ่า?"

ฟังคำถามจากเจ้าตัวแสบแล้วคุณพ่อก็หัวเราะก๊าก หนุ่มน้อยหน้าเหรอ "ง่า ตลกตรงไหน?"

มือใหญ่แสนอบอุ่นโยกศีรษะกลม "ไม่ยิงหรอก แต่ถ้าทำลูกป๊าเสียใจล่ะก็... ไม่แน่"

จบคำอ้อมกอดเจ้าลูกชายยิ่งรัดแน่น โถมเข้าหาด้วยความดีใจ "รักป๊าสุดๆ"

"อ้อนๆ ดูไอ้หนูมันอ้อนแม่" คุณพ่อไปป์พยักพเยิด

"ป๊าอ่ะ ชอบเรียกปอมไอ้หนู... แต่ปอมไม่โกรธหรอก เพราะปอมรักป๊า"

มะเหงกเขกกบาลเด็กชอบประจบ กะปอมน้อยทำปากยื่น ลูบหัวตัวเองป้อยๆด้วยความเจ็บ แต่ก็ยังกอดคุณพ่อไม่ปล่อย
พอสบายใจแล้วหนุ่มน้อยก็ออกจากห้องไป ลูกพ้นประตูไปแล้วคุณพ่อก็ถอนใจยาว คุณแม่ช้อนมือข้างหนึ่งของคุณพ่อมากุมแล้วตบหลังมือท่านเบาๆ คุณพ่อได้แต่ยิ้มจืดเจื่อน อยากจะยอมรับแต่คงต้องขอเวลาสักพักนะ



ออกมาข้างนอกปอมปอมก็ไม่ได้วิ่งลั้นลาไปไหน หยุดยืนมองลอดตรงช่องกระจกใสสี่เหลี่ยมตรงบานประตู ก่อนจะหันกลับมาทำหน้าซึม เดินคอตกไปหาพี่ชายที่เคาน์เตอร์

"หงอยเชียว"

อาร์ดิวเอ่ยทักเมื่อน้องเดินซึมเข้ามาหา หนุ่มน้อยนั่งแปะลงข้างๆแล้ววางคางบนเคาน์เตอร์ พี่พนักงานเดินมาถึงได้ลุกนั่งตรงๆ อาร์ดิวเหลือบมองน้องขณะคิดเงินแล้วส่งบิลให้พี่พนักงานเอาไปให้ลูกค้า

"เป็นอะไรครับ?"

จัดการทุกอย่างเสร็จแล้วตี๋น้อยจึงหันมาให้ความสนใจกับน้องอย่างเต็มที่ เวลาพูดเพราะๆด้วยน้องจะยอมบอกหมดทุกอย่างที่อยากรู้

"เครียด" ว่าแล้วก็ถอนใจอีกสักเฮือก

"เครียดทำไม มีเรื่องอะไรเหรอ?"

"ป๊าเครียดเรื่องปอมอ่ะ ปอมเลยเครียดตาม"

คิ้วคนเป็นพี่ขมวด ถูกคุณพ่อดุมาหรืออย่างไรกัน

"พ่อว่าไง?"

"ป๊าบอกรักปอม ถึงปอมจะเป็นยังไงก็รักอ่ะ เฮ้อ" ยังไม่วายถอนหายใจซ้ำอีก

"ไม่ดีหรือไง?"

"ดีอยู่นะ แต่ป๊าเครียด"

อาร์ดิวยิ้มบาง "เดี๋ยวก็ดีขึ้นนะ ไม่ต้องเครียด"

"ฮืออออ"

หนุ่มน้อยทำเสียงเหมือนร้องไห้แต่ก็แค่แกล้ง อาร์ดิวเลยขยี้ผมหัวเห็ดอย่างหมั่นเขี้ยว น้องทำเสียงขู่ในลำคอให้พี่หยุด คนเป็นพี่เลยหัวเราะก๊าก เป็นแมวหรือไง?

เสียงกระดิ่งกรุ๊งกริ๊งหน้าร้านดังขึ้นเรียกความสนใจจากสองพี่น้องและพี่ๆพนักงานให้ส่งเสียงต้อนรับไปให้ ลูกค้าคนดังกล่าวคือเก้า เมื่อเห็นคนที่เคาน์เตอร์เก้าก็เดินยิ้มมาหา อาร์ดิวยิ้มให้ ขณะที่ปอมปอมมองตาแป๋ว

"เพิ่งรู้ว่าทำงานที่ร้านนี้" พี่เก้าทัก

"อ่า ช่วยงานที่บ้านน่ะครับ"

"หา นี่ร้านของบ้านอาร์ดิวเหรอ?"

"ครับ"

"ว้าว รู้จักกับลูกชายเจ้าของร้านด้วยเรา" เก้าทำตื่นเต้น อาร์ดิวยิ้มขำ

"พี่เก้าอยากทานอะไรเลือกได้เลยนะครับ เดี๋ยวผมให้พี่เขาจัดการให้"

"นึกว่าอาร์ดิวจะบริการเองเสียอีก"

ตี๋น้อยยิ้มเก้อ ไม่เคยเจอการหยอดแบบนี้ เก้าอมยิ้มน้อยๆก่อนเดินตามพนักงานไปยังโต๊ะที่ว่างอยู่

"ใครอ่ะ?"

"นึกแล้วว่าต้องถาม มองตาแป๋วเลย" อาร์ดิวว่ากลั้วหัวเราะ ไม่ค่อยอยากรู้เลยปอมปอม

"ก็อยากรู้อ่ะ ท่าทางสนิทสนม พี่การ์ฟรู้เปล่า?"

"เกี่ยวอะไรกับการ์ฟ?"

คนเป็นน้องมองพี่ชายแปลกๆ "ดิวเนี่ย..."

"อะไร?"

เอ่ยถามกลั้วหัวเราะ ทำหน้าประหลาดอะไรของเขา พี่ทำเป็นไม่รู้เรื่องน้องเลยค้อนให้ ไม่เข้าใจความรู้สึกชายหนุ่มเล้ยดิวเนี่ย (เหมือนตัวเองเป็นหนุ่มแล้วอย่างนั้น)



มหาวิทยาลัยของชีวา เด็กหนุ่มอยู่ทำกิจกรรมจนเย็นถึงได้เวลากลับ ยกนาฬิกาขึ้นดูเวลาแล้วก็เร่งเดินไปที่รถ ป่านนี้เด็กน้อยแถวนั้นคงชะเง้อคอยาวเพราะรอเขาแล้ว

"ชีวาครับ"

ชีวาหันกลับมาตามเสียงเรียก พอรีบๆมักจะมีคนเข้ามาหาตลอดเลยนะเขานี่ ไวน์เดินเข้ามาหาชีวาจึงหยุดรอ

"วันก่อนไวน์โทรไป เอ่อ... ชีวาไม่อยู่เหรอ?"

"วันก่อน?"

ชีวาเลิกคิ้วเชิงถาม ไวน์พยักหน้า ชีวาทำท่านึกอยู่ครู่หนึ่งก่อนยิ้มออกมาเมื่อนึกขึ้นได้ว่าใครเป็นคนรับ

"อ๋อ วันก่อนน้องยืมมือถือวาใช้น่ะ"

"น้อง?"

"ครับ"

ชีวายิ้มบอก ไม่ได้ขยายความอะไรต่อไปอีกว่าน้องที่พูดถึงนั้นคือน้องจริงๆหรือน้องข้างบ้าน ไวน์เองเมื่ออีกฝ่ายไม่พูดเขาก็ไม่กล้าถามต่อ

"ชีวาจะกลับบ้านแล้วใช่ไหม?"

"อื้อ"

เอ่ยถามแล้วไวน์ก็ดูอึกๆอักๆ ชีวาถอนใจแล้วยิ้ม

"ไวน์จะกลับหรือยัง?"

"อื้อ กำลังจะกลับเหมือนกันเลย"

ท่าทางตื่นเต้นของคนตรงหน้าทำเอาชีวาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ไม่ไหว เด็กหนุ่มจึงตัดสินใจ "วาไปส่ง"

ไวน์ทำหน้าเหรอ ก่อนค่อยยิ้มเขิน "ขอบคุณนะ"

ชีวายิ้มบางก่อนวาดแขนไปทางรถของตนเองจอดอยู่ ทั้งคู่เดินไปที่รถเพื่อที่จะไปส่งไวน์ที่ห้องพักก่อนที่เจ้าของรถจะกลับบ้านในลำดับต่อไป



หน้าร้านสะดวกซื้อใกล้อพาร์ทเม้นต์แห่งหนึ่ง จูนเดินถือถุงข้าวของอีกมือก็ถือโทรศัพท์แนบหู คุยโทรศัพท์กับเพื่อนรักเพื่อนเลิฟถึงปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นกับเพื่อนในขณะนี้

"คิดมาก ป๊าแกใจดีจะตาย" เสียงแหบเล็กๆจีบปากจีบคอบอกเพื่อนเมื่อเพื่อนเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่ทำให้กลุ้มให้ฟัง

"เออๆ บอกป๋าชีวาของแกให้ทำตัวดีๆแล้วกันจะได้เป็นที่โปรดปรานของว่าที่พ่อตา" ว่าแล้วก็หัวเราะคิกคักชอบอกชอบใจ เสียงกะปอมน้อยร้องด่าลอดมาตามสาย แต่น้องเจนนี่ที่สวยมั่นก็หาได้ใส่ใจ เมื่อมาถึงหน้าอพาร์ทเม้นต์ที่ครอบครัวตนเองพักอยู่จูนจึงขอวางสายก่อน

"แค่นี้ก่อนนะแก"

บอกลากันเล็กน้อยจูนก็วางสายแล้วเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกง พอเงยขึ้นมาก็ชะงักเมื่อเห็นรถของใครคนหนึ่งแล่นเข้ามาจอดหน้าอพาร์ทเม้นต์ ทำไมเหมือนรถของป๋าชีวาเลยนี่ พอมองป้ายทะเบียนแล้วจูนแทบตบเข่าฉาด ชัดเป๊ะ!

หนุ่มน้อยหันซ้ายหันขวาหาที่หลบ แอบมองชีวาที่ลงจากรถมา อีกด้านหนึ่งเป็นพี่ผู้ชายที่เขาเคยเห็นหน้าอยู่บ่อยครั้งเพราะพักอยู่ที่เดียวกันกับเขานี่ พี่ไวน์

"ขอบคุณนะชีวา"

ชีวายิ้มรับคำขอบคุณ ก่อนจะกลับเข้าไปนั่งในรถแล้วค่อยเลี้ยวรถออกจากหน้าอพาร์ทเม้นต์ไป

"แถวบ้านจูนนี่หว่า"

ชีวาพึมพำกับตนเอง ขับรถเลี้ยวออกไปไม่ได้คิดอะไร จูนออกจากที่ซ่อนมาชะเง้อตาม

"กลิ่นไม่ดีหรือเปล่าวะ?"



ชีวาขับรถมาถึงบ้าน ปอมปอมก็มารออยู่ที่บ้านแล้ว ชีวาที่ก้าวเข้ามาในบ้านมองอย่างแปลกใจที่คุณแม่ไม่ว่าอะไร แถมยังเห็นคุยกันดีเสียอีก

"มาแล้วนี่ คุยกันไปก่อนนะ"

คุณแม่ลุกขึ้น ยิ้มให้ปอมปอมน้อยแล้วจะเดินออกไป แต่ก็ชะงักเท้าแล้วหันกลับมาอีกครั้ง

"อ้อ"

สองหนุ่มเลิกคิ้วงง คุณแม่จึงสั่ง "คุยกันตรงนี้"

เน้นคำท้ายอย่างชัดเจนจนชีวายิ้มเจื่อน "คร้าบ"

คุณแม่ยิ้มพอใจก่อนเลี่ยงออกไป ชีวาจึงได้นั่งลงข้างน้อง

"ว่าไงตัวแสบ?"

"ป๋ามีคดีติดตัวนะวันนี้" ดวงตาเรียวหรี่ลงจับผิดป๋า

"คดีอะไร?"

"ติ๊กต่อกๆ" ไม่ยอมบอกแล้วยังทำเสียงเป็นนาฬิกาเดินอีกด้วย ชีวายิ้มขำ ทำท่านึก เล่นตามเกมน้อง

"วันก่อนมีคนโทรมา?" คนเป็นพี่คาดเดา

"ไม่ใช่ วันก่อนก็ส่วนวันก่อนสิ ปอมหมายถึงวันนี้"

"วันนี้เหรอ? อืม... กลับบ้านช้า?"

"โหยป๋า ไม่ถูกสักข้อเลยอ่ะ" น้องว่าอย่างขัดใจ ชีวายิ้มขำ

"แล้วอะไรล่ะครับ?"

"ป๋าไปแถวบ้านจูนมา"

"อ๋อ จูนโทรมาเหรอ?"

มองน้องที่หน้ามุ่ยแล้วก็พาจะรู้ว่าเดาถูก

"พี่ไปส่งเพื่อน" คำบอกเล่านั้นทำให้ปอมปอมน้อยถอนใจ

"ถอนใจทำไม?" มือใหญ่บีบจมูกน้อง มันน่าหมั่นเขี้ยวจริงๆเลย

"สงบใจอยู่"

"ปอมปอม..."

"ปอมแย่แน่" ปากจิ้มลิ้มนั้นเบ้เข้า

"เป็นอะไรอีก?"

"อ๊ากกก"

อยู่ๆตัวแสบก็แหกปากร้อง แต่พยายามก้มและร้องให้เบาที่สุด ชีวามองน้องเหวอๆ ไม่รู้จะขำหรืออะไรดี พอร้องเสร็จก็ลุกพรวดจนพี่ตามอารมณ์ตัวไม่ทัน

"กลับบ้านแล้ว"

"อ้าว?"

"สงบใจๆ ฟู่วๆๆ"

มีการปลอบใจตัวเองด้วย ชีวาทนไม่ไหวลงไปนอนกุมท้องบนโซฟา อยากหัวเราะเสียงดังๆแต่กลัวโดนงอน ตกลงน้องเป็นอะไรเขาก็ไม่รู้ แต่มันฮาอ่ะ ขอโทษที

"คุณน้าคร้าบ ปอมกลับก่อนนะ" ปอมปอมเดินมาหาคุณแม่ของพี่ที่ในครัว ยกมือไหว้ลาท่านแล้วยิ้มแฉ่ง

"สวัสดีครับ"

"จ้า"

คุณแม่ชีวายิ้มส่งหนุ่มน้อยที่วิ่งลั้นลาออกจากบ้านท่านไป ก่อนถอนใจออกมา ได้เอ็นดูปอมปอมน่ะก็เอ็นดูอยู่หรอกนะ แต่... คุณแม่หยุดคิด ส่ายหน้าเบาๆแล้วหันไปทำงานของตนเองต่อ ชีวาเข้ามาหาท่านเมื่อน้องกลับไปแล้ว

"ขอบคุณนะครับแม่"

"ขอบคุณเรื่องอะไร?"

คุณแม่เอ่ยถามกลับทั้งที่ยังไม่มองกลับมา ชีวาสอดแขนกอดเอวคุณแม่จากด้านหลังทำให้ท่านชะงักมือที่กำลังง่วนอยู่หน้าอ่างล้างจาน

"ขอบคุณที่ไม่รังเกียจความรักของผม"

".........."

คำพูดนั้นมีเพียงความเงียบตอบกลับมา แต่ในความรู้สึกของชีวา แค่เพียงเท่านั้นก็ดีมากแล้ว



ปอมปอมกลับมาที่บ้าน เป็นขณะเดียวกันกับที่พี่ชายเพิ่งวางสายจากใครบางคนไป คิ้วหนุ่มน้อยขมวด ทำท่าคิดก่อนจะเดินผ่านไป บางทียุ่งมากไปก็ไม่ดีเนอะ

"ปอมปอม"

เสียงเรียกของพี่ทำให้หนุ่มน้อยรีบหันขวับ แหม จริงๆก็อยากรู้นิดหน่อยน่า

"เปล่า ไม่มีอะไร"

"......?" ปอมปอมกะพริบตาปริบ ก่อนเดินขึ้นบ้านงงๆ เรียกแล้วบอกไม่มีอะไร ถามว่าปอมงงไหม? มากอ่ะ จริงๆ

อาร์ดิวเดินออกไปข้างนอก ส่งข้อความหาชีวาให้มาที่รั้วบ้าน ก่อนที่ทั้งคู่จะคุยกัน

"ให้ฉันไปฝั่งโน้นไหม ยืนคุยกันมันเมื่อย" ชีวาบ่น จะมายืนเกาะรั้วคุยกันทำไมนี่

"ไม่ต้อง ฉันไม่อยากให้ปอมปอมรู้"

คิ้วคนฟังขมวด ทำไมถึงไม่อยากให้ปอมปอมรู้? เด็กหนุ่มค่อยโน้มข้ามรั้วไปหาอาร์ดิวมากขึ้น ท่าทางเรื่องนี้จะต้องเป็นความลับขั้นสูง

"ชีวา ตอนนี้นายแอบกิ๊กกับใครอยู่หรือเปล่า?"

"เฮ้ย! ข้อหาอะไรเนี่ย?" ชีวาร้องท้วงอย่างตกใจ อย่าบอกนะว่าปอมปอมสงสัยว่าเขามีชู้อีกน่ะ?

"ข้อหาอะไร แค่ถามดูเฉยๆ" ตี๋น้อยว่าคนตีตนไปก่อนไข้

"แอบคบใครล่ะ คบกับน้องนายไง"

"เรื่องนั้นใครๆก็รู้ หมายถึงแอบไปกิ๊กกั๊กกับใครที่ไหนอีกหรือเปล่า ตอบมาตรงๆเลย ลูกผู้ชาย"

ท่าทางจริงจังของอาตี๋ทำให้ชีวาต้องตอบอย่างจริงจังไปด้วย "ไม่มี มองปากฉันนี่ ไม่มีใครนอกจากปอมปอม"

"แน่นะ?" ดูเหมือนจะยังไม่เชื่อ

"อือฮึ"

พอเพื่อนยืนยันมาแบบนั้นแล้วอาร์ดิวก็ถอนหายใจแรงๆ ดูสีหน้าจะยังเคร่งเครียดอยู่จนชีวาต้องเอ่ยถามหาสาเหตุด้วยความสงสัยใคร่รู้

"แล้วนี่ไปเอามาจากไหน ไอ้เรื่องฉันไปกิ๊กกั๊กกับคนอื่นเนี่ย?"

"มีคนโทรมาน่ะสิ"

"?"

"อือ โทรมาหาฉัน คงคิดว่าเป็นแฟนนายมั้ง"

"โทรมาว่าไง?" ขยับเข้ามาอีกนิด อยากรู้ให้กระจ่างชัดเพราะรู้สึกว่ามันชักมีกลิ่นไม่ดี

"ก็ประมาณว่ารักแท้มันแพ้ใกล้ชิดอ่ะ นายกับเขาอยู่ใกล้กันมากกว่า คงไม่รู้ว่าบ้านนายกับบ้านฉันอยู่ห่างกันแค่รั้วกั้น"

"ไม่มีเซ้นส์เลยว่ะ" จากที่จะโกรธคนโทรมาชีวากลับขำแทน

"ไปว่าเขา หาวิธีรับมือดีๆเถอะ ถ้ามาพูดอย่างนี้กับปอมปอมมีหวังบ้านแตก" อาร์ดิวติงเพื่อน มัวแต่ขำ เดี๋ยวเถอะ เดี๋ยวเจอฤทธิ์ปอมปอมแล้วจะรู้สึก

"เออจริง น้องนายโคตรแสบ"

"จะไม่แสบ ถ้านายไม่เริ่ม" อาร์ดิวต่อท้ายแอบกัดเพื่อนเล็กน้อย ชีวาคิดว่าไม่ใช่แค่ปอมปอมหรอกที่แสบ มันแสบทั้งพี่ทั้งน้องนั่นแหละ

"ผู้หญิงหรือผู้ชาย?"

"หญิง"

"หญิง? ใครวะ?" ชีวาพยายามคิด แต่ก็คงคิดไม่ออกในตอนนี้หรอกว่าใคร ไม่ใช่ว่าโจทย์เยอะ ลด ละ เลิกหมดแล้วล่ะน่า

"จัดการด้วยละกัน"

อาร์ดิวทิ้งท้ายก่อนกลับเข้าบ้านตัวเองไป ชีวากอดอก คิดไม่ออก ใครกันนะ?



วันต่อมา มหาวิทยาลัยของชีวา

เพียงก้าวเข้ามาถึงคณะก็เจอไวน์กับเพื่อนก่อนใครอื่น ราวรออยู่ก่อนแล้วอย่างนั้น

"เมื่อวานขอบคุณนะครับชีวา"

หนุ่มไวน์เอ่ยบอก ท่าทีเก้อเขิน ชีวายิ้มบางรับคำขอบคุณนั้น เพื่อนสาวในกลุ่มเลยล้อกันใหญ่

"เมื่อวานอะไร สองคนนี้แอบมีsome thing อะไรกันหรือเปล่า?"

"กิ๊วๆ"

"พอเลยพวกเธอคิดอะไรแปลกๆอยู่ล่ะสิ" ยิ่งถูกแซวไวน์ยิ่งเขินหนัก เพื่อนก็ยิ่งล้อไม่เลิก

"แหนะๆ หน้าแดงทำไม ไวน์แหละคิดอะไรแปลกๆอยู่ใช่ไหม?"

"ไม่พูดด้วยแล้ว" เมื่อจนด้วยคำพูดไวน์เลยชิ่งหนีมันเอาดื้อๆ

"ไปไหนล่ะ~"

เพื่อนสาววิ่งตามคนเขินที่เดินหนีไป ชีวาถอนใจ หนักใจกับเสน่ห์ตัวเองจริงจริ๊ง คนหล่อก็งี้แหละเนอะ แต่ว่าตอนนี้จะมัวมาหลงตัวเองอยู่ไม่ได้ ก่อนอื่นเขาต้องหาคนที่โทรไปป่วนอาร์ดิวให้ได้เสียก่อน ก่อนที่ปอมปอมจะรู้ ถึงขนาดหาเบอร์อาร์ดิวได้นี่ไม่ใช่เล่นๆแล้วนะ

เด็กหนุ่มออกเดินเพื่อจะขึ้นตึกเรียน สาวๆเพื่อนไวน์ที่วิ่งตามไวน์ไปเมื่อครู่กำลังคุยกันอยู่มุมหนึ่งของทางเดิน ชีวาชะลอฝีเท้าลงเมื่อได้ยินเรื่องที่ทั้งสองคนกำลังคุยกันอยู่

"ไวน์มัวแต่เขิน แล้วแบบนี้จะสมหวังกับเขาไหมเนี่ย" หนึ่งในนั้นพูดขึ้นมาอย่างขัดใจ

"นั่นสิ แล้วปฏิบัติการณ์ป่วนของเธอไปถึงไหนแล้ว?" อีกคนก็ถามแฝงความนัย

"รู้สึกแย่ชะมัด ฉันออกจะเป็นคนดี"

"เหรอยะ เลิกไหมล่ะ?" ท่าทีน่าหมั่นไส้ของเพื่อนทำให้อีกคนต้องประชดกลับมาแบบนั้น ก็รู้ดีหรอกว่าเพื่อนไม่มีทางเลิก

"เลิกแล้วใครจะช่วยไวน์ล่ะ ลูกชายเรายิ่งใสซื่อไม่ทันใครเขาอยู่ เราต้องหาโอกาสให้เขาสองคนอยู่ด้วยกันบ่อยๆ"

"เยี่ยม!"

อีกคนว่าตามกันอย่างง่ายดาย สองสาวแตะมือกันแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะจูงมือกันเดินลิ่วไป ชีวาที่ได้ยินแค่ในช่วงหลังๆพอจับใจความได้บ้าง คิ้วเด็กหนุ่มขมวด ไม่อยากด่วนสรุปว่าสิ่งที่ทั้งสองสาวพูดมันจะเป็นเรื่องเดียวกันกับที่ตนเองคิด



หลายวันต่อมา บ้านของสองพี่น้องปอปลา

"โอ๊ยยยย ผ่านไปแป๊บเดียวก็กลางเทอมแล้วเหรอเนี่ย?"

เสียงแหลมของหนุ่มน้อยวัยมัธยมปลายแรกเข้าดังโหยหวน ฟุบหน้าลงบนกองกระดาษสำหรับทำรายงานส่งครูบนโต๊ะด้านหน้า อีกฝั่งเป็นพี่ชายของตนเองกับพี่ชายข้างบ้านที่ต่างก็กำลังทำงานอยู่เหมือนกัน ปอมปอมน้อยวางคางบนโต๊ะ เบ้หน้าแล้วยังบ่นต่อเสียงออด

"เดี๋ยวก็สอบกลางภาค หนังสือก็ต้องอ่านทบทวน งานก็ต้องทำให้เสร็จทันส่งอีก ฮือออ"

"บ่นทำไม บ่นไปก็ไม่เสร็จ" ชีวาขำ

"ป๋า ช่วยปอมหน่อย~"

"งานพี่ก็ยังไม่เสร็จ" ตอบปฏิเสธแบบเนียนๆ

"ดิว~"

"ดูก่อน กองพะเนินเลย"

น้องเล็กบุ้ยปาก ไม่มีใครช่วยเขาเลยอ่ะ ทำย่นจมูกเอาปากกาวางเล่น

"ทำอะไรของเราน่ะ?"

ชีวาหันมาเห็นแล้วหัวเราะก๊าก พาเอาอาร์ดิวขำตามไปด้วย คนทำตัวตลกให้พี่ขำยังไม่เลิก ไปหมดละสมงสมอง

"แม่บอกถ้าสอบเสร็จจะพาไปเที่ยวนะ สู้ๆ"

มือเรียวเอื้อมหยิกแก้มน้อง ปอมปอมสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วถอนใจแรงๆ เรียกกำลังใจให้ตนเอง สอบเสร็จแม่จะพาไปเที่ยว ปอมสู้ตายยย

หนุ่มน้อยได้แรงใจจากพี่ชายแล้วจึงก้มหน้าก้มตาทำรายงานต่อ อาร์ดิวมองน้องแล้วส่ายหน้ายิ้มๆ ที่บอกจะพาไปเที่ยวน่ะ ตอนปิดภาคเรียนนะ ไม่ใช่สอบกลางภาคเสร็จ ฮ่าๆ



ช่วงเวลาหลังสอบกลางภาคจนถึงสอบปลายและปิดภาคเรียนกินเวลาหลายเดือน อะไรหลายๆอย่างเกิดการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะความสนิทสนมของใครบางคน

ตามสัญญาที่คุณแม่รวิได้ให้ไว้ว่าหลังสอบเสร็จจะพาไปเที่ยว พอโรงเรียนปอมปอมปิดภาคเรียนแล้วหนุ่มน้อยก็ยังต้องรอต่อ เพราะมหาวิทยาลัยของอาร์ดิวยังไม่ปิด ที่ที่คุณแม่จะพาไปก็ไม่ใช่ที่ไหนไกล บ้านคุณตาคุณยายเช่นเคย ไปตอนนี้ยังทันดูหิ่งห้อยรอบสุดท้ายของฤดูกาลอยู่ ถ้าไม่อย่างนั้นคงต้องรอปิดภาคเรียนคราวหน้า ช่วงพฤษภาคมโน่นถึงจะได้ไปกันอีกที

การ์ฟเองก็จะกลับบ้านด้วยเช่นกัน คุณแม่ของสองพี่น้องปอปลาจึงชวนไปด้วยกัน ทั้งยังชวนครอบครัวชีวาไปพักผ่อนกันด้วย เลยกลายเป็นยกโขยงกันไปหมด คุณพ่อไปป์จึงได้เช่ารถตู้คันใหญ่มารับทุกคน

ภายในรถทุกคนเข้านั่งประจำที่กันเรียบร้อย เบาะด้านหลังสุดเป็นเด็กๆที่นั่งเรียงกันเป็นตับ ปล่อยผู้ใหญ่นั่งด้านหน้าเพื่อให้สะดวกต่อการจะขึ้น-ลงเวลาจอดปั้มน้ำมันระหว่างทาง สองพี่น้องปอปลานั่งข้างกันอยู่ตรงกลางแถว มีชีวากับการ์ฟนั่งขนาบข้างติดหน้าต่าง โทรศัพท์ชีวาดังขึ้นปอมปอมเลยหันมามอง เด็กหนุ่มกดรับแล้วคุยไม่กี่คำก็วางก่อนฝากโทรศัพท์มือถือไว้กับน้อง

"ฝากไว้กับปอมทำไม?" น้องมองโทรศัพท์ในมืองงๆ เมื่อครู่ใครโทรมาก็คร้านจะถาม

"ให้กะปอมช่วยดูแลมันหน่อย"

"?"

กะปอมน้อยได้แต่ทำหน้างง ไม่บอกอะไรแถมไม่พูดให้เข้าใจอีก ป๋านี่ยังไงกัน แต่ในเมื่อไม่อยากบอกก็เอาเถอะ ซักกันไปไซ้กันมาเดี๋ยวได้เป็นเรื่อง โทรศัพท์มือถือเครื่องนั้นจึงลงไปนอนเล่นอยู่ในกระเป๋าเป้ใบเล็กของปอมปอมเป็นที่เรียบร้อย ให้เก็บเอาไว้แบบนี้แสดงว่าต้องมีคนโทรมาอีกแน่ เดี๋ยวก็รู้ว่าใคร หึ!

"นั่งรถนานๆง่วงไหมตี๋?"

สองคนข้างๆเขาจบปัญหากันไปแล้ว อีกสองหนุ่มที่นั่งเบาะติดกันเลยพูดคุยกันบ้าง หลังจากนั่งเงียบอยู่ข้างกันมาตลอดทาง ตี๋น้อยมองการ์ฟที่เอ่ยถามตนเองแล้วส่ายหน้า หันกลับไปมองโทรทัศน์ในรถตู้ที่ถูกเปิดเทปรายการตลกแล้วก็หัวเราะ การ์ฟขยับเข้ามาใกล้อีกนิด ทำให้แขนทั้งคู่ชนกันเบาๆเรียกความสนใจจากตี๋น้อยให้หันมาหา

"ถ้าเกิดนายง่วงขึ้นมา..."

"?"

"เอนมาซบฉันได้นะ"

ทั้งคำพูดและรอยยิ้มเล็กๆบนริมฝีปากของการ์ฟทำเอาตี๋น้อยเขิน ก้มหน้าหลบสายตาที่มองมา ก่อนทำเป็นมองรายการตลกในจอโทรทัศน์ต่อไป แม้พยายามกลั้นยิ้มแต่มันก็ยังหลุดมาให้คนมองเห็นอยู่ดี มืออุ่นๆของคนข้างกายจึงค่อยเลื่อนมากุมมือเรียวที่วางอยู่ข้างตัว เจ้าของมือเกร็งมือเล็กน้อยก่อนจะค่อยวางนิ่งให้อีกฝ่ายสอดนิ้วเข้ามากุมกระชับด้วยหัวใจที่เต้นแรง

การ์ฟมองท่าทีขวยเขินของอาตี๋แล้วอมยิ้ม เอนตัวพิงเบาะรถในท่าสบายๆ ขณะที่มือยังคงกุมมือของอีกคนเอาไว้ เฮ้อ เป็นเพื่อนสนิทที่ได้อภิสิทธิ์เยอะแบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ



TBC



ขอบคุณทุกคนนะคะ บวกและบวก

วันใหม่ค่ะ
หัวข้อ: Re: Magica Café เรื่องนี้ไม่มีตัวร้าย >>magic (19)<< 15/07/2556 หน้า 16 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 15-07-2013 13:51:14
การ์ฟออกมานิดเดียวแต่วามหวานแผ่ซ่านนนน
ชอบอะการจับมือแบบสอดนิ้ว ดูหวานๆ เขินแทนอาร์ดิว

เพื่อสาวของไวน์ทั้งหลาย ขอบอกให้รู้ว่าที่เธอทำนะไม่ได้ผล
แถมยังเป็นการเข้าไปยุ่งกับความรักคอื่นอีก
อย่าได้เจ้าก้เจ้าการนะจ๊ะ อย่าหาว่าแฟนคลับปอมน้อยไม่เตือน

ชีวา ชัดเจนได้แล้ว บอกไปเลย ดูมี"เมีย"แล้ววววววววววววว 5555
หัวข้อ: Re: Magica Café เรื่องนี้ไม่มีตัวร้าย >>magic (19)<< 15/07/2556 หน้า 16 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 15-07-2013 17:30:03
ชีวาต้องจัดการบอกให้รู้กันไปเลยนะว่า มีแฟนแล้ว
เดี๋ยวน้องปอมเครียดนะ  :katai1:
หัวข้อ: Re: Magica Café เรื่องนี้ไม่มีตัวร้าย >>magic (19)<< 15/07/2556 หน้า 16 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 15-07-2013 18:41:57
ไวน์น่าสงสารนะตอนนี้หาคู่ให้ไวน์หน่อยสิคุณใหม่
หัวข้อ: Re: Magica Café เรื่องนี้ไม่มีตัวร้าย >>magic (19)<< 15/07/2556 หน้า 16 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: TinyB ที่ 15-07-2013 19:16:47
คู่เพื่อนสนิทออกมากะจิ๊ดดดดดดดดดเดียวเองง่าา  :katai1:
หัวข้อ: Re: Magica Café เรื่องนี้ไม่มีตัวร้าย >>magic (19)<< 15/07/2556 หน้า 16 อัพแล้วค
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 16-07-2013 00:08:55
ไวน์นี่ร้ายเกินไปแล้วนะยะ อย่ายุ่งกับปอมปอมของชั้นเด็ดขาด
หัวข้อ: Re: Magica Café เรื่องนี้ไม่มีตัวร้าย >>magic (19)<< 15/07/2556 หน้า 16 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 16-07-2013 06:01:16
เรื่องไวน์ ป๋าก็ควรจะบอกตรงๆนะว่ามีแฟนแล้ว เขาไม่รู้ความจริงก็ฝันหวานไปแล้วน่ะสิ :เฮ้อ:
ปอมปอมน่ารักจริง ขนาดหึงยังน่ารักเลยอ่า :man1:
คู่เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อก็หวานขึ้นเรื่อยๆเลยนะ :z1:
หัวข้อ: Re: Magica Café เรื่องนี้ไม่มีตัวร้าย >>magic (19)<< 15/07/2556 หน้า 16 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: greensnake ที่ 16-07-2013 09:46:06
แม้จะมีเรื่องเครียดแค่ไหนกะปอมน้อยก็สามารถทำให้ยิ้มได้เสมอ
แต่เรื่องของตัวเองนี่สิ ไม่รู้ว่าจะอาละวาดหรือเปล่า :laugh:
งานจะเข้าป๋าแล้ว ถ้าขืนยังไม่บอกเขาไปว่ามีแฟน(เด็ก)แล้ว
มันเท่ากับให้ความหวังฝ่ายโน้นด้วย ดูท่าทางไวน์ก็เป็นคนดี
ถ้าผิดหวังคงน่าสงสารอยู่ อย่างนี้ต้องหาคนมาดูแลไวน์ซะล่ะมั้ง
แต่ไม่ต้องหาให้ตี๋น้อยนะ เพราะเค้ามีเพื่อนสนิทดูแลกันอยู่แล้ว :-[
อ่านตอนนี้แล้วเห็นความรักของพ่อกับแม่เลยล่ะว่ามันยิ่งใหญ่ขนาดไหน
เด็กๆในเรื่องโชคดีนะที่ครอบครัวเข้าใจ แม้ตอนแรกจะรับไม่ค่อยได้ก็เถอะ
ในที่สุดก็ได้เห็นว่าความรักและความสุขของลูกมาเป็นที่หนึ่งเสมอ
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :กอด1:
+1และเป็ดน้อยจ้า
หัวข้อ: Re: Magica Café เรื่องนี้ไม่มีตัวร้าย >>magic (19)<< 15/07/2556 หน้า 16 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 16-07-2013 10:40:04
อิหนูไวน์น่าสงสารหาคู่ให้หน่อยเร็ว :z2:
หัวข้อ: Re: Magica Café เรื่องนี้ไม่มีตัวร้าย >>magic (19)<< 15/07/2556 หน้า 16 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: fay_13 ที่ 16-07-2013 13:39:37
อืมมมม จะสงสารหรือรอสมน้ำหน้าสองสาวนั่นดีล่ะเนี่ย ยังไงๆ ก็ไ่ม่สำเร็จร้อกกก  :laugh:

อิป่า... ป๋าก็บอกไปเด่ะว่ามีแม่ทูนหัวแล้วอ่ะ ปากอ่ะ จะหนักไปไหนยะ  :beat: :beat:
หัวข้อ: Re: Magica Café เรื่องนี้ไม่มีตัวร้าย >>magic (19)<< 15/07/2556 หน้า 16 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 16-07-2013 20:28:11
เพิ่งได้อ่านเรืีองนี้
อยากรู้ว่าปอมน้อยจะจัดการยังไง 5555
หัวข้อ: Re: Magica Café เรื่องนี้ไม่มีตัวร้าย >>magic (19)<< 15/07/2556 หน้า 16 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: YOSHIKUNI RUN ที่ 16-07-2013 20:43:56
 ไวท์ อย่าทำอะไรเสี่ยงๆนะ 
เดวเป็นตัว ร้าย หรอก ไม่ไดีๆ  :katai3:

เดวเราช่วยหาคู่ ให้ :hao3:
หัวข้อ: Re: Magica Café เรื่องนี้ไม่มีตัวร้าย >>magic (19)<< 15/07/2556 หน้า 16 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 16-07-2013 20:50:23
อ่านตอนนี้แล้วอยากจับชีวาเขย่าๆให้เวียนหัวเลย!!
มัวแต่หลงตัวเองว่าหล่อมีคนมาชอบอยู่นั่นล่ะ ขอชัดเจนหน่อยสิ
คุณแม่อุตส่าห์ไม่ว่าอะไรแล้ว หรือคนใจดีมักเป็นอย่างนี้กันทุกคน?
แต่มันจะทำให้คนเป็นแฟนจริงๆลำบากใจนะ!

เห็นใจคุณพ่อด้วยค่ะ คงอยู่ในระยะทำใจอีกนาน ส่วนคุณแม่
แม้จะไม่ว่าอะไรแล้วแต่ก็มีตึงๆนิดหนึ่งนะคะ ^^

วันใหม่สู้ต่อไปค่ะ เอาใจช่วยเสมอ  :กอด1:   :katai4:
หัวข้อ: Re: Magica Café เรื่องนี้ไม่มีตัวร้าย >>magic (19)<< 15/07/2556 หน้า 16 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: TinyB ที่ 18-07-2013 22:49:51
ไม่ได้กดดันพี่วันใหม่เล้ยยย แค่มารอ อิๆ  :hao7:
หัวข้อ: Re: Magica Café >>magic (20)<< 20/07/2556 หน้า 17 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: wanmai ที่ 20-07-2013 11:31:50
Magica Cafe'

Magic (20)



การมาถึงของกะปอมน้อยดูจะเป็นที่ชอบใจของกลุ่มเด็กในบ้านของคุณตากับคุณยาย หนุ่มน้อยกลายเป็นหัวหน้าแก๊งเด็กแสบที่ไปไหนไปกันกับเพื่อนรุ่นจิ๋วอีกเป็นพรวน หลังจากพักผ่อนกันหนึ่งวันเมื่อมาถึงบ้านคุณตาคุณยายแล้วเด็กๆก็ได้เวลาออกเที่ยว ปอมปอมกับชีวาปั่นจักรยานไปเล่นน้ำที่ชลประทานกัน โดยมีลูกพี่ลูกน้องพาไป

ส่วนผู้ใหญ่ก็ไปทำบุญที่วัด เพื่อเป็นสิริมงคลในแก่ตัว มาเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจกันจริงๆ พวกท่านจึงไม่รีบเร่งที่จะไปที่ไหนกันนัก เด็กๆเองก็คงอยากเล่นกันใกล้ๆนี้มากกว่า อีกทั้งวัดวาอารามในต่างจังหวัดเช่นนี้ก็ดูร่มรื่นร่มเย็นดี

ชลประทานที่ตอนนี้น้ำไม่ได้เอ่อท้นเหมือนช่วงฤดูฝน แต่ก็ยังคงมีน้ำอยู่เต็มพื้นที่ ให้ผู้คนได้ใช้ประโยชน์จากมันได้อย่างไม่จบสิ้น ช่วงกลางลำน้ำมีเรือเล็กที่คนในพื้นที่ใช้ออกหาปลาอยู่ประปราย บัวสีแดง สีชมพูผลิดอกทอดยาวไปตามลำน้ำดูสวยงามจนกะปอมน้อยต้องถ่ายรูปเก็บเอาไว้ นานๆมาเห็นสถานที่จริงไม่ใช่แค่ผ่านสื่อออนไลน์ เขาก็อยากเก็บมันเอาไว้ทั้งในความทรงจำและภาพถ่ายเหมือนกัน

บริเวณที่ตื้นหน่อยมีเด็กๆเสียงเจี๊ยวจ๊าว หนึ่งในนั้นคือปอมปอมที่แย่งห่วงยางจากลูกพี่ลูกน้องตนเองมาลอยตุ๊บป่องสบายอารมณ์ ชีวาดำน้ำลงไปก่อนจะไปโผล่พรวดข้างน้อง ปอมปอมผวากอดห่วงยางไว้แน่นเมื่อพี่ทำท่าจะคว่ำมันลงไป เมื่อน้องเกาะแน่นยิ่งกว่าตุ๊กแกคนเป็นพี่เลยหาตัวช่วย น้องเลย์ ลูกพี่ลูกน้องของปอมปอมลอยคอเข้ามาหา แย่งห่วงยางกลับไปขณะที่ชีวาดึงตัวเด็กแสบถอยห่างออกมา มือเรียวยังเอื้อมคว้าตามห่วงยาง ดิ้นกระแด่วๆอยู่ในอ้อมแขนพี่ มีแต่คนแกล้งปอมอ่ะ!

“ป๋า ปอมจะเอาห่วงยาง~~~~” น้องร้องโหยหวน แต่กลับได้เสียงหัวเราะจากเด็กๆลูกสมุนตอบกลับมาเป็นที่ครื้นเครง จำไว้เลยนะ!

“โตป่านนี้แล้วจะเล่นห่วงยางอยู่ทำไม ลงน้ำไปเลยดีกว่า”

ว่าแล้วชีวาก็ช้อนอุ้มน้องขึ้นมาจะพาลงน้ำที่ลึกกว่าเดิม ปอมปอมกอดคอพี่แน่น เขาว่ายน้ำเป็นนะ แต่ไม่อยากว่ายอ่ะ เอาห่วงยางคืนมา~~~~~ (ยังไม่เลิก)

“ป๋า ไม่เอานะ!”

“จะโยนแล้วนะ”

“ป๋าอ่ะ~~~~”

แขนเรียวกอดคอพี่แน่นกว่าเดิม ชีวาหัวเราะทำท่าจะปล่อยน้องจากอ้อมแขนจริงๆ แต่ปอมปอมน้อยไม่ยอมปล่อยคอพี่ เด็กที่มาด้วยกันหัวเราะ เลยโดนสายตาพิฆาตจากลูกพี่เป็นรางวัล พอเหลือบขึ้นมามองพี่ที่อยู่ใกล้กันแค่นี้แล้วริมฝีปากจิ้มลิ้มก็เผยยิ้มออกมา คลายแขนตนเองจากคอพี่เล็กน้อยเพื่อไม่ให้พี่อึดอัดจนเกินไปนัก ชีวาอมยิ้ม ก้มลงแตะหน้าผากกับน้องแล้วยิ้มให้กัน



เล่นสนุกกันจนพอใจแล้วเด็กๆก็พากันกลับบ้าน ก่อนกลับปอมปอมยังมีเช็คเรียงตัวว่าอยู่ครบกันไหม เขาแอบกลัวเหมือนกันนะว่าจะทำลูกคนอื่นหาย วันหลังไม่พากันไปที่เสี่ยงๆดีกว่า กลัวอ่ะ

กลับมาถึงบ้านด้วยสภาพเปียกปอนกันทุกคน ลมที่พัดระหว่างทางไม่ได้ทำให้มันแห้งเลย แค่หมาดๆหน่อยเดียวเลยโดนแม่ไล่ไปอาบน้ำกันยกชุด พออาบเสร็จหนุ่มน้อยก็กลับลงมาถามหาพี่ชาย เพราะตั้งแต่กลับมาถึงก็ไม่เห็นอาร์ดิวเลย คุณแม่รวิบอกพี่ไปดูลุงตกปลาที่หนองน้ำกลางทุ่งนาโน่น วันนี้ลุงตะวันจะลงมือตกปลามาให้ทำอาหารทานกัน คุณแม่รวิบอกแล้วว่าไม่ต้อง เพราะซื้อมาทำเอาก็ได้ แต่ลุงก็ยังบอกว่าปลาที่เลี้ยงไว้เยอะอยู่ ลูกหลานมาก็อยากให้ได้กินของดีๆ คุณแม่รวิเลยต้องปล่อยให้พี่ชายที่เป็นถึงพ่อค้าอัญมณีแปลงร่างเป็นหนุ่มชาวนาไปตกปลาอยู่กลางทุ่ง คุณแม่รวิกับคุณแม่ของชีวาเลยต้องเตรียมเครื่องปรุงวัตถุดิบต่างๆเอาไว้รอท่าอยู่ที่บ้านนี่ หนุ่มๆและไม่หนุ่มเขายกโขยงกันไปหมดแล้ว

“งั้นปอมไปหาดิวนะครับ”

“เพิ่งกลับมาเองไม่ใช่หรือปอมปอม จะไปไหนอีกแล้ว” คุณแม่ว่า

“มันไม่เหมือนกันอ่า เมื่อกี้ปอมไปเล่นน้ำ แต่ตอนนี้ปอมจะไปดูลุงตกปลา มันคนละอย่างกันนะหม่ามี้” หนุ่มน้อยยังแถไปได้อีก

“ถ้าตัวเลอะกลับมาอีกหม่ามี้จะเราให้เฝ้าบ้าน”

“ไม่เลอะหรอกครับ สะอาดเอี่ยม” ยิ้มแฉ่ง แถมยกนิ้วโป้งให้ด้วยเพื่อเป็นการยืนยัน

“ไปเร็วป๋า เดี๋ยวแม่เปลี่ยนใจ”

ดึงแขนพี่ที่เพิ่งเดินเข้ามาในบ้านวิ่งไปที่จักรยาน เด็กๆก็พากันตามเป็นพรวน คุณแม่รวิส่ายหน้าขำ

“อยู่นานกว่านี้ท่าจะได้กลายเป็นหัวหน้าแก๊งเด็กแสบซะล่ะมั้ง”

คุณแม่ชีวากับคุณยายหัวเราะอย่างเห็นด้วย เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ดังขึ้นมา คุณแม่รวิมองหาที่มาของเสียง ก่อนเดินไปที่กระเป๋าใบเล็กของปอมปอมที่วางอยู่ข้างโทรทัศน์ รีบมากจนลืมของเสียแล้วไหมล่ะลูกคนนี้

ท่านหยิบมันออกมาดู หัวคิ้วสวยขมวดเมื่อมันไม่ใช่ของปอมปอม เดินกลับมาหาคุณแม่ของชีวาแล้วเอาให้ดู

“เหมือนของชีวาจังค่ะ”

ได้ยินเช่นนั้นคุณแม่รวิจึงยื่นให้ คุณแม่ของชีวารับมาดูแล้วบอก

“ใช่จริงด้วยค่ะ”

“ถ้าอย่างนั้นรับไหมคะ บางทีคนโทรมาอาจมีธุระสำคัญ” เมื่อเสียงเรียกเข้ายังดังอยู่คุณแม่รวิจึงเอ่ยถาม คุณแม่ชีวาพยักหน้า ก่อนกดรับ



พลพรรคจักรยานของปอมปอมมาจอดกันที่หนองน้ำ รอบๆมีรั้วไม้ไผ่ล้อมเอาไว้ ตรงทางเข้ายังมีประตูรั้วเตี้ยๆอีก เพราะด้านในตรงที่ถูกถมให้สูงขึ้นมาจากหนองน้ำนั้นปลูกไม้ผลไว้หลายอย่าง ทั้งมะม่วง ฝรั่ง และน้อยหน่า ทางลงไปยังหนองน้ำค่อนข้างลาดชัน ตั้งแต่สมัยคุณตาท่านก็ได้ขุดดินเป็นชั้นๆเหมือนขั้นบันได้ แล้ววางแผ่นไม้ทับลงไปอีกทีเพราะดินเป็นดินเหนียว เวลาฝนตกจะลื่นมากทีเดียว

ในหนองที่มีน้ำอยู่เพียงครึ่งเพราะหมดหน้าฝนไปแล้ว คุณลุงตะวันกับคุณพ่อของสองพี่น้องปอปลาลอยคออยู่ในนั้น อุปกรณ์หาปลาคือแห ใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านและความสามารถกันล้วนๆ และมีถังน้ำที่ถูกตาข่ายปิดปากถังเป็นที่ใส่ปลา

คนหาก็หาไป คนบนบกก็ติดไฟย่างปลาไปด้วย มีแค่เกลืออย่างเดียวก็อร่อยแล้ว คุณพ่อของชีวาเองก็ร่วมวงย่างปลากับเขาอยู่ตรงนั้น ช่างกลมกลืนกับชาวบ้านเขาจริงๆ

“เฮ้ย! เก็บด้วย”

ปลาตัวโตถูกขว้างขึ้นมาด้านบนให้คนบนฝั่งเก็บใส่ถัง หากจะเก็บในน้ำก็กลัวมันจะหลุดมือไป อาร์ดิวนั่งมองสถานการณ์อยู่บนคันคู การ์ฟเป็นคนไปช่วยเก็บ มองดูเพลินๆกลับมีของแถม เมื่อปลาตัวหนึ่งลอยวืดมาตกข้างตัว อาร์ดิวลุกพรวดด้วยความตกใจ คุณพ่อกับคุณลุงหัวเราะ

การ์ฟยิ้มขำ เดินมาหาจะเก็บปลาใส่ถัง ปลาดิ้นหนีมาโดนเท้าอาร์ดิว เด็กหนุ่มกระโดดเหย็งไปเกาะการ์ฟ มองเจ้าปลาน้อยบนพื้นท่าทางแหยงๆ

“กลัวทำไมอาร์ดิว จับมันลงถังเลยลูก” คุณลุงส่งเสียงมาบอกจากในหนองน้ำ

“ผมเปล่ากลัว แค่ตกใจนิดเดียวเอง”

คำปฏิเสธของตี๋น้อยทำเอาทุกคนฮาครืน การ์ฟก้มมองคนที่ทำท่าว่าจะไม่รู้ตัวว่ากำลังกอดเขาอยู่

“ตกใจจนกอดไม่ปล่อยเลยนะ”

เสียงกระซิบที่อยู่ใกล้เพียงนิดทำให้ตี๋น้อยเงยมองคนพูด กะพริบตาปริบๆ อ้าปากพะงาบยิ่งกว่าปลาบนพื้น แล้วจึงค่อยถอยออกห่าง แต่ด้วยความที่พื้นมันลาดเอียงเลยจะลื่นไถลลงไป การ์ฟต้องรีบคว้าตัวไว้ ใจตี๋น้อยเต้นไม่เป็นส่ำ ทั้งตกใจทั้งเขินที่ถูกกอด

“เอ้า มัวแต่กอดกัน ปลามันไปไหนหมดแล้วนั่นน่ะอาร์ดิว”

ลุงตะวันยังไม่เลิกแซว อาร์ดิวผละออกจากอ้อมแขนการ์ฟ หันซ้ายหันขวามองหาปลาที่คุณลุงพูดถึง การ์ฟอมยิ้มน้อยๆ นั่งลงแล้วแหวกหญ้าแถวนั้นออก ปลายังนอนนิ่งอยู่ในนั้นไม่ไปไหน เงยขึ้นพยักพเยิดให้ตี๋น้อยมาจับ อาตี๋นั่งยองๆลงข้างกัน มองปลาที่นอนนิ่งแล้วทำหน้าปุเลี่ยน

“จับสิ ไหนว่าไม่กลัว”

การ์ฟเอ่ยเร่ง ตี๋น้อยเลยค้อนให้ มือเรียวพนมขึ้นจรดหน้าผาก หลับหูหลับตาพึมพำๆ

“ขอโทษนะครับคุณปลา”

การ์ฟขำพรืด มือที่กำลังจะเอื้อมไปจับปลาเลยเปลี่ยนมาตีการ์ฟแทน ปอมปอมน้อยชะเง้อชะแง้มองอยู่ห่างๆอย่างห่วงๆ แล้วหันมาทางชีวาที่กำลังมองสองคนนั้นอยู่เหมือนกัน สีหน้าหนุ่มน้อยเปลี่ยนเป็นนิ่ง ก่อนว่า

“เดี๋ยวจะงอนให้ดู”

“หะ... หา?” ชีวาอุทานงงๆ มองน้องที่หน้าเริ่มมุ่ยด้วยความงง เกิดอะไรขึ้น??

“ขี้เกียจจะถามซ้ำๆ” ว่าแล้วก็เดินตึงๆผ่านหน้าพี่ไป ชีวาเกาหัวแกรก รีบก้าวตามไปแก้ต่างให้ตัวเอง

“ปอมปอม พี่แค่มองเฉยๆ”

“รู้ แค่มอง ไม่ได้เดินเข้าไปจับพวกเขาแยกจากกัน แต่ในใจป๋าอ่ะคิด อย่าลืมนะว่าสายตาอ่ะ!”

สองนิ้วเรียวชี้แทบจะทิ่มตาตัวเองแล้วกระแทกเสียง

“มันเป็นหน้าต่างของหัวใจ!”

“..........”

“เลย์ กลับ!!” สั่งลูกพี่ลูกน้องเสียงเด็ดขาดแล้วก้าวฉับๆไปที่รถจักรยานคันเก่ง

“เฮ้ย พวกเรากลับเว้ย พี่ปอมปอมจะกลับแล้ว”

ลูกสมุนตามกันไปเป็นพรวนเหมือนขามา ชีวาขยี้หัวแรงๆ อยู่ดีไม่ว่าดี กูหนอกู ทั้งที่คิดว่ามองสองคนนั้นแบบปรกติแล้วแท้ๆ แต่ทำไมน้องยังคิดว่าเขาชอบอาร์ดิวอยู่ล่ะนี่ เฮ้อ คบเด็กนี่มันเอาใจยากจริงๆเลยแฮะ



กลับมาถึงบ้านคุณแม่ของชีวาก็เอาโทรศัพท์มาให้ บอกเพื่อนชื่อไวน์โทรมาหาตอนที่เขาไม่อยู่ เคราะห์ซ้ำกรรมซัดจริงๆชีวา น้องงอนไปโน่นแล้ว

เด็กหนุ่มมองตามน้องที่ไม่หันกลับมาสบตาเขาสักนิด แม้แต่ตอนทานข้าวก็ไปนั่งกับเลย์ที่เป็นลูกพี่ลูกน้อง ไม่มานั่งใกล้เขาสักนิด ก้มหน้าก้มตากินอย่างตั้งใจ ชีวาก็ได้แต่มองตาละห้อย

กลุ่มผู้ใหญ่ที่นั่งล้อมวงทานข้าวกันก็ทานกันไปคุยกันไปเป็นที่ครื้นเครง ครอบครัวการ์ฟเองก็มาร่วมทานข้าวเย็นที่นี่ด้วย ครอบครัวที่ใหญ่อยู่แล้วคราวนี้เลยมีลูกหลานเต็มบ้านจริงๆ พวกท่านคุยกันถึงเรื่องที่ว่าช่วงนี้มันใกล้หมดฤดูกาลที่จะได้เห็นหิ่งห้อยแล้ว เมื่อย่างเข้าสู่หน้าหนาวที่อากาศมันแห้งแล้ง เดี๋ยวคืนนี้ลองไปดูกันเพราะยังสามารถเห็นได้ประปราย อาจไม่มากเท่าช่วงฤดูฝน แต่ก็สวยงามไม่แพ้กัน

ขณะที่ผู้ใหญ่พูดคุยกันอยู่ แสงวิบวับจากหิ่งห้อยตัวน้อยก็ลอยอ้อยอิ่งหลงเข้ามากลางวงกินข้าวตัวหนึ่ง ทุกคนนิ่งเงียบเมื่อมันค่อยบินผ่านไปช้าๆ ก่อนจะเกาะลงบนไหล่ของอาร์ดิวที่กำลังจะตักข้าวเข้าปาก เด็กหนุ่มชะงักกึกเมื่อหางตาเหลือบเห็นแสงแวบๆตรงหัวไหล่

“ท่าทางมันจะชอบนาย” การ์ฟว่า ก้มหน้าซ่อนยิ้ม

“เอาออกไปได้ไหมการ์ฟ” อาร์ดิวหน้าเบ้ ขอให้คนที่นั่งข้างตนเอาออกให้ เอียงคอหนีสุดชีวิต กลัวมันไต่เข้ามาในคอเสื้อ

“อย่าบอกว่ากลัวหิ่งห้อย?” การ์ฟทำเลิกคิ้วถามหน้าซื่อ

“ไม่ใช่ คุณอย่าล้อสิ”

ตี๋น้อยต่อว่า สีหน้ายุ่งยากใจ การ์ฟไม่ได้ว่าอะไรต่อ เอื้อมมือจะหยิบเจ้าแมลงตัวน้อยออกจากไหล่อีกคน

“เขาว่ากันว่าถ้าจับหิ่งห้อยแล้วมาจับถ้วยจานมันจะแตกนะการ์ฟ”

เสียงคุณแม่เอ่ยทักทำให้การ์ฟชะงักมือ ก่อนบอก “งั้นนายอยู่นิ่งๆไปแบบนี้แล้วกัน ฉันยังกินข้าวไม่อิ่มเลย”

“การ์ฟ~”

ถึงจะทำเสียงออดแบบนั้นแต่อีกคนก็ยังทำไม่สนใจ อาร์ดิวหน้ามุ่ย เอื้อมมือไปจับหิ่งห้อยบนไหล่ออกเอง พอแบมือมันก็ยังอยู่ในมือของเขาไม่ได้บินไปไหน อาร์ดิวเลยลุกเอาออกไปปล่อยนอกบ้านแล้วค่อยกลับมาทานข้าวต่อ แต่เพียงนั่งลงเท่านั้นตี๋น้อยก็เป็นอันสะดุ้งเฮือก

“ระวัง!”

เสียงทักท้วงจากการ์ฟทำเอาสะดุ้งเป็นจริงเป็นจัง หันขวับมามองคนทักก็เห็นอมยิ้มแล้วว่า

“ระวังจานแตก”

“บ้า”

“หึๆ”

ไม่อยากสนใจเสียงหัวเราะในลำคอนั่นหรอก ตี๋น้อยทานข้าวต่อ บรรยากาศกันเองของบ้านคุณตาคุณยาย และรสมือของคุณป้าและแม่ๆพาให้ทุกคนเจริญอาหารไปตามๆกัน

ขณะที่ทุกคนเอร็ดอร่อยกับอาหารปอมปอมกลับทานไปเงียบๆไม่ช่างพูดเหมือนเดิม ชีวาลอบมองอย่างเป็นกังวล หลังทานเสร็จก็คุยกันบ้าง ดูโทรทัศน์บ้างตามประสา สาวน้อยสาวใหญ่เอาจานไปล้างที่ลานปูนข้างบ้าน โดยมีหนุ่มน้อยทั้งหลายช่วยเก็บไปให้ถึงที่ ชีวาที่เข้าไปช่วยคุณแม่ล้างจานกลับถูกคุณแม่ไล่ออกมา

“เกะกะจริงชีวา”

“แต่ผมอยากช่วยนี่ครับ” เด็กหนุ่มแย้งเสียงอ่อย

“ออกไปคุยกับน้องโน่นไป”

“แต่ว่า...”

“ไปคุยกับน้อง อย่าให้แม่ต้องพูดซ้ำ”

น้ำเสียงของคุณแม่ทำให้ชีวาต้องยอมแพ้ไม่ตื๊อต่อ พอหันหลังจะเดินออกไปก็กลับหยุดแล้วหันมาถาม

“แม่พูดเหมือนรู้ตลอดเลยว่าเกิดอะไรขึ้น”

“เพราะแม่เป็นแม่ไงชีวา”

ประโยคสั้นๆแต่ได้ใจความจนชีวาอึ้ง ใช่สิ เพราะแม่เป็นแม่ ถึงได้รู้เรื่องของเขาไปเสียทุกอย่าง ไม่มีเรื่องไหนที่รอดพ้นหูตาและความห่วงใยจากท่านไปได้ ชีวาค่อยยิ้มออกมา ก่อนออกไปหาน้องตามที่คุณแม่ได้เอ่ยแนะ

คุณตาบอกว่าน้องคงไปนั่งเล่นแถวสะพานกับพวกน้องเลย์มั้ง เพราะตอนนี้ก็ยังเพิ่งหัวค่ำ เด็กๆพากันไปวิ่งเล่นอยู่แถวนั้นทุกวันไม่มีอันตรายอะไร เมื่อได้รับคำบอกกล่าวชีวาจึงเดินตามหาน้อง เจอการ์ฟกับอาร์ดิวที่ยืนคุยกันอยู่บนสะพานไม้ชีวาจึงเลี่ยงไปอีกทาง

การ์ฟที่มาทานข้าวพร้อมพ่อแม่กำลังจะกลับบ้าน พ่อกับแม่ของเขาและน้องเอิงกลับไปแล้ว เหลือเขาคนเดียวที่ยังอ้อยอิ่ง

“เมื่อกลางวันยังร้อนอยู่เลย พอตกกลางคืนกลับหนาวเนอะ”

ตี๋น้อยชวนคุยเมื่อลมเย็นๆเริ่มพัดมา ความมืดก็เริ่มโรยตัวหลังอาทิตย์ตก แสงไฟจากบ้านช่องข้างเคียงเปิดให้ความสว่าง แต่บนสะพานนี้มีเพียงแสงจากโคมไฟบนต้นเสาสะพานเท่านั้นที่สาดส่องมาถึง

“นี่มันตุลาแล้วนี่ ลมหนาวเริ่มมาแล้ว ยิ่งบ้านนอกแบบนี้อากาศตอนกลางคืนมักจะเย็นกว่าในเมือง” การ์ฟว่า

“อืม กรุงเทพฯไม่ว่าจะฤดูไหนก็ร้อนเนอะ”

“จริง”

ตอบรับกลั้วหัวเราะอย่างเห็นด้วยแล้วทั้งคู่ก็เงียบไป อาร์ดิวลูบแขนตนเองเบาๆ มองบรรยากาศรอบๆที่ให้ความรู้สึกแตกต่างจากเมืองกรุงแล้วยิ้มออกมาน้อยๆ

“นี่ตี๋”

“หืม?”

“เราจะเป็นเพื่อนสนิทกันไปอีกนานแค่ไหน?”

อาร์ดิวค่อยหันมามองคนพูดอึ้งๆ ไม่รู้ตัวเองทำหน้าอย่างไรตอนเอ่ยถามกลับไป

“คุณ... ไม่อยากเป็นเพื่อนกับผมแล้วเหรอ?”

“ไม่”

คำตอบอย่างทันควันนั่นยิ่งกว่าอึ้ง ตี๋น้อยกะพริบตาปริบ หลุบตามองต่ำในหัวมีแต่คำว่าทำไม แต่กลับไม่ได้มีเสียงใดหลุดลอดจากปากสักคำ

“ไม่อยากเป็นเพื่อนแล้ว...”

“............”

“...อยากเป็นอะไรที่มากกว่านั้น”

“หึๆ” อาร์ดิวหลุดหัวเราะอย่างไม่ตั้งใจ มองหน้าการ์ฟแล้วยิ่งขำจนการ์ฟงง

“เป็นอะไรตี๋ คนกำลังทำซึ้ง ขำทำไม?”

“ก็... ก็คุณพูดเหมือนในเพลงเลยอ่ะ”

“เพลงอะไร?”

การ์ฟทำหน้างง อีกคนก็อมยิ้มไม่บอกอะไร ใครจะกล้าบอกกันล่ะเพลงแบบนั้นน่ะ แต่ดูเหมือนการ์ฟจะรู้แล้ว เพราะรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นมาบนใบหน้า

“เพลงนี้ใช่ไหม?”

...ก็รู้เราเป็นเพื่อนกัน แต่ฉันก็คิดไปไกล อยากเป็นอะไรที่มากกว่านั้น ก็รู้ว่ามันไม่ควร แต่รักห้ามได้ที่ไหนกันเพื่อนก็เพื่อนเถอะ จะว่าก็ช่างเถอะ ก็มันรักหมดใจ

ไม่รู้ว่านานเท่าไรที่ใจรับเธอเข้ามา ปิดบังเรื่อยมาไม่ปรึกษาใคร วันนี้เป็นไงเป็นกัน โปรดฟังฉันให้เข้าใจ เลิกเป็นเพื่อนเถอะ พอสักทีเถอะ เมื่อเรื่องมันเป็นแบบนี้

1 คือหึงเมื่อใครใกล้เธอ 2 คือเพ้อเวลาห่างกัน  3 คิดถึงเธอทุกวัน เพื่อนกันไม่เป็นแบบนี้ 4 คืออยากสบตา ส่วนข้อ 5 น่ารักสิ้นดี  6 ถึงร้อย ไว้ฟังพรุ่งนี้ เหตุผลที่ฉัน ไม่อยากเป็นเพื่อนเธอ...

อาร์ดิวไม่รู้ว่าจะขำหรือจะเขินดี ก็การ์ฟเล่นร้องเพลงนั้นออกมาจริงๆเสียนี่ แสงเรืองๆลอยละล่องผ่านมา เรียกสายตาสองหนุ่มให้หันไปมองตาม ความมืดที่โรยตัวปกคลุม แสงไฟเพียงเล็กน้อยจากบ้านรอบข้างไม่สามารถส่องไปถึงต้นไม้ใหญ่ริมน้ำ เงาตะคุ่มของสุมทุมไม้กลับมีแสงระยิบประดับเต็มไปหมด ราวมีคนเอาไฟกะพริบไปติดตกแต่ง อาร์ดิวมองด้วยความตื่นตา ถึงจะเคยมาที่บ้านคุณตาคุณยายหลายครั้ง แต่น้อยครั้งที่จะได้เห็นแบบนี้ ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นไปกับมัน

การ์ฟมองคนข้างกายที่ฉีกยิ้มเสียกว้างขวาง ดวงตาพราวไปด้วยความสุขแล้วยิ้มตาม อาร์ดิวหันมาเห็นอีกคนมองอยู่ก็ชะงักยิ้มค้าง การ์ฟค่อยโน้มลงไปใกล้ อาร์ดิวเอนตัวหนี แต่เมื่อการ์ฟหยุดอยู่เพียงแค่นั้นตี๋น้อยจึงนิ่ง ไม่ขยับไปไหน การ์ฟจึงค่อยขยับไปใกล้อีกนิด และอีกนิดจนริมฝีปากแตะแผ่ว

ดวงตาเรียวรีเบิกโตขึ้นกับสัมผัสที่ได้รับ มือการ์ฟเลื่อนมาจับหัวไหล่  ริมฝีปากค่อยบดเบียดช้าๆ ดวงตาเรียวหลับลงเมื่อมันไร้อาการจาบจ้วง ค่อยเป็นค่อยไปไม่หักหาญ

การ์ฟค่อยถอนจูบ ในใจอดเต้นรัวไม่ได้กับสิ่งที่ตนเองทำ อาร์ดิวค่อยลืมตาขึ้นมา พอเห็นเขามองอยู่ตี๋น้อยก็เบือนสายตาไปทางอื่น การ์ฟยิ้มบาง ค่อยโน้มไปกระซิบ

สรุปเลยนะ... บอกเธออีกที ว่าเพื่อนคนนี้...

........

อยากเป็นแฟนของเธอ



................



อีกด้านหนึ่ง ชีวาจูงมือน้องที่ไปเล่นซนกับเด็กๆกลับมา สะพานไม้ที่ทอดยาวยามกลางคืนดูน่ากลัวจนปอมปอมเกาะแขนพี่แน่น ตอนขามามันยังไม่มืดเท่านี้ ถึงจะมีแสงไฟตามจุดต่างๆบ้างแต่พอมองไปรอบๆที่มันมีแต่ความมืดเขาก็กลัวไม่น้อย

“วันนี้น่าจะเป็นวันที่ดีของเราอีกหนึ่งวันนะว่าไหม?”

ชีวาเปรยขึ้นมา แต่คนข้างๆก็ยังคงเงียบ ไม่มีเสียงตอบรับ

“ถึงปอมปอมขี้เกียจพูดซ้ำ แต่พี่ยังอยากจะพูดอีกซ้ำๆ จนกว่ากะปอมน้อยตัวนี้จะยอมเชื่อพี่”

“ปอมเชื่อที่การกระทำไม่ใช่คำพูด”

คนเป็นพี่พยักหน้าเนิบนาบเป็นเชิงรับรู้ รู้สึกดีขึ้นมาหน่อยที่น้องยอมพูดกับตนเองแล้ว ปอมปอมหยุดเดิน ปลดแขนที่กอดแขนพี่ลง ชีวาหันมามองน้อง

“จะว่าปอมใจแคบก็ได้ที่อยากให้ป๋ามองแค่ปอม เพราะปอมมีใจเดียว และยกให้ป๋าอยู่เต็มหมดทุกห้องแล้ว”

“พี่ก็มีใจเดียว เมื่อก่อนอาจยกให้คนอื่นไปทั่ว แต่ตอนนี้มันเป็นของปอมปอมนะ”

คำสารภาพนั้นไม่ได้ทำให้น้องยิ้ม แต่กลับดูเครียดมากกว่าเดิมเสียอีกเมื่อเอ่ยถามพี่

“พี่ไวน์คนนั้น... อยู่ในฐานะอะไรสำหรับป๋า?”

“เพื่อน” ชีวาตอบน้ำเสียงเน้นหนักจริงจัง

“แล้วเขาคิดว่าป๋าเป็นเพื่อนเขาหรือเปล่า?” น้องยังถามต่อ สีหน้าเริ่มไม่สู้ดีเสียแล้ว

“เขาจะคิดยังไงมันไม่สำคัญหรอก สำคัญที่พี่ไม่ได้คิดอะไรกับเขามากกว่า”

“ป๋าไม่คิดอะไร แต่ป๋าก็ไม่เคยชัดเจน ป๋าคงไม่รู้ว่าปอมรู้สึก”

ความเจ็บปวดส่งมาให้เขาจนรู้สึกได้ ดวงตาเรียวมองเขาอย่างตัดพ้อ ชีวาเองก็มองน้องอย่างเจ็บปวดไม่แพ้กัน มือใหญ่สัมผัสแผ่วข้างแก้มใส ใช่ เขามีเรื่องปิดบัง เสียงทุ้มเอ่ยแผ่ว

“พี่ทำให้ปอมปอมเสียใจอีกแล้วเหรอ?”

“ปอมอ่ะมีแต่ป๋า ก็อยากให้ป๋าจริงจังกับปอมบ้าง”

“ทำไมพี่จะไม่จริงจังกับปอมปอม พี่มีปอมปอมแค่คนเดียว ตั้งแต่ที่เราคบกันพี่ไม่เคยเผื่อใจให้ใครเลยสักนิด”

ปอมปอมหันหน้าไปทางอื่น สูดจมูกเบาๆ กะพริบตาถี่ไล่ความรู้สึก ก่อนช้อนมองพี่

“บางทีป๋าอาจต้องการเวลา”

“ปอมปอม!”

ชีวาเรียกน้องเสียงดัง แต่น้องก็เดินหนีเขาไปไม่หันกลับมาสนใจสักนิด ปอมปอมเดินดุ่มไม่กลัวแม้มันจะมืด ใจเขาตอนนี้มันมืดดำยิ่งกว่าเสียอีก พอจะพ้นตีนสะพานหนุ่มน้อยก็หยุด หันกลับไปหาชีวาอย่างคาดหวังว่าพี่จะตามมา แต่กลับมีคนอื่นอยู่ตรงนั้นแทนที่เขาแล้ว

ปอมปอมยืนนิ่ง รู้สึกร้าวไปทั้งกระบอกตา เมื่อน้ำตามันไหลลงมาอย่างไม่สามารถหักห้ามได้ทัน ขาเรียวนำพาร่างกายหมุนกลับ ก่อนออกวิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่ขาของเขาจะพาไปได้

...ยืนยันหน่อยได้ไหม ช่วยบอกหน่อยได้ไหม ช่วยบอกให้ชัดๆ พูดว่ารักฉันดังๆ ช่วยบอกคำว่ารัก ดังๆอีกสักครั้ง ช่วยพูดให้ดังๆหน่อย ถ้าไม่มีใครอยู่ข้างๆเธอ ช่วยพูดให้ดังๆหน่อย พูดคำว่ารักให้มันชัดเจน...

...ช่วยพูดให้ชื่นใจหน่อย พูดให้ดังๆว่า ... ฉันรักเธอ ...



TBC



#สิริมงคล เขียนแบบนี้ถึงจะถูกเนอะ มักสับสนระหว่าง ศิริ กับ สิริ แบบนี้มาตลอดเลย ถ้าตามราชบัณฑิตยสถานต้อง สิริมงคล :hao3:

ขอบคุณทุกคนค่ะ เดี๋ยวมาบวกให้นะคะ ไปซื้อข้าวก่อน  :katai5:

++++++++++

บวกเรียบร้อยค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: Magica Café >>magic (20)<< 20/07/2556 หน้า 17 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 20-07-2013 12:12:44
ปอมปอมหึงด้วยอ่ะ อาร์ดิวก็รับรักการ์ฟเถอะ
หัวข้อ: Re: Magica Café >>magic (20)<< 20/07/2556 หน้า 17 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 20-07-2013 12:27:31
ใครมายืนแทนปอมปอม???
ถ้าเป็นอาร์ดิวก็ไม่น่าใช่เพราะน่าจะอยู่กับกราฟ
รึว่าเป็นไวน์??
หัวข้อ: Re: Magica Café >>magic (20)<< 20/07/2556 หน้า 17 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: udongjay ที่ 20-07-2013 12:44:56
จิร้องไห้ตามปอมปอม ฮือออออ
เรื่องนี้ป๋าผิดนะ เพราะไม่เคยชัดเจนอะไรเลยอ่ะ มีปอมอยู่แล้วก็บอกไวน์ไปดิ
บอกทำไมว่าเป็นน้องชาย ย้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก
เกลียดป๋า
ตี๋น้อยกับการ์ฟช่างเป็นอารมณ์ที่แตกต่างจริงจัง
คู่นี้หวานมากๆๆๆๆๆๆๆๆ เขินตามตี๋ คึคึ

บวกคร้าบพี่ใหม่
หัวข้อ: Re: Magica Café >>magic (20)<< 20/07/2556 หน้า 17 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: TinyB ที่ 21-07-2013 00:47:51
เอิ่ม..เด่วนะ ที่ปอมปอมตัดสินใจออกวิ่งนี่คือ สิ่งที่มองไม่เห็นมายืนข้างป๋าป่าวอ่ะ  o22
แต่คู่หลักกำลังเข้าด้ายเข้าเข็มเลยอ่าา อิๆ  :hao6:
หัวข้อ: Re: Magica Café >>magic (20)<< 20/07/2556 หน้า 17 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 21-07-2013 19:17:05
อ่านของอาร์ดิวกับการ์ฟแล้วอมยิ้มอารมณ์ดี
แต่พออ่านของชีวากับปอมปอมแทบอยากจับชีวาเขย่าแรงๆ
เอาให้หัวสั่นหัวคลอนเลย!  อ้ากกกก  :ling1:

รอความชัดเจนของชีวา ฮึ้ม!
หัวข้อ: Re: Magica Café >>magic (20)<< 20/07/2556 หน้า 17 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 21-07-2013 22:13:14
คู่แรกน่ารักมาก ชอบเพลงนะ
คู่สอง อารายเนี่ย สงสารปอมง่ะ
หัวข้อ: Re: Magica Café >>magic (20)<< 20/07/2556 หน้า 17 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 22-07-2013 01:21:08
อิป๋าใจร้าย 
หัวข้อ: Re: Magica Café >>magic (20)<< 20/07/2556 หน้า 17 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: fay_13 ที่ 22-07-2013 15:18:06
อ๊ากกกกกกกก ตบๆๆ อิป๋า บังอาจทำกะปอมน้อยร้องไห้อีกแล้ววววว  :beat: :beat: :beat: :beat:

อาร์ดิวจ๋ารับรักไปเต๊อะ ร้องมาเป็นเพลงซะขนาดนี้แล้ว  :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: Magica Café >>magic (20)<< 20/07/2556 หน้า 17 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: greensnake ที่ 23-07-2013 08:58:15
อารมณ์กลับกันซะอย่างนั้นอ่ะ ต่างจากตอนที่แล้วลิบลับเลย
กลายเป็นคนพี่ที่หวานซะหิ่งห้อยอาย คนน้องกลับเสียน้ำตาซะนี่
งานนี้เราโทษชีวาเต็มๆ การกระทำของป๋าเป็นการให้ความหวังเขานะ
บอกใครๆว่าปอมปอมเป็นน้องชาย ในขณะที่ตัวเองแสดงออกว่าหึงหวง
เป็นพี่ชายประสาอะไรมาหึงหวงน้องชายกันล่ะ หมั่นใส้จริงเชียว :a14:
สงสัยต้องให้พ่อไปป์สั่งสอนชีวาซะบ้างแล้ว บังอาจทำลูกชายสุดที่รักร้องไห้
ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ :กอด1:
+1และเป็ดปลอบใจกะปอมน้อย
หัวข้อ: Re: Magica Café >>magic (20)<< 20/07/2556 หน้า 17 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 23-07-2013 13:38:56
แฮปปี้ดี๊ด๊ากับการ์ฟและอาร์ดิว :o8:
แต่เศร้ากับกะปอมน้อยอะ ป๋าทำน้องร้องไห้อีกแล้วนะ  :angry2:
โกรธแทนอะ สงสัยต้องการเวลาอย่างที่ปอมปอมว่าจริงๆ :hao5:
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ >>magic (21)<< 25/07/2556 หน้า 17 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: wanmai ที่ 25-07-2013 19:23:05
Magica Cafe'

Magic (21)



“เกิดอะไรขึ้น?”

ชีวาหันไปตามเสียงทัก อาร์ดิวที่เพิ่งแยกกันกลับบ้านกับการ์ฟเดินเข้ามาหา ทันเห็นหลังปอมปอมไวๆ พอเดินเข้ามาใกล้ก็รู้สึกได้ถึงบรรยากาศไม่ปรกติ

ชีวามองอาร์ดิวแล้วถอนใจ หันหลังพิงราวสะพาน สายตาคมมองบรรยากาศยามค่ำคืน แสงจากหิ่งห้อยที่บินลอยมาทายทักไม่ได้ทำให้เขารู้สึกดีแม้แต่น้อย เมื่อไม่มีใครอีกอยู่ด้วยกันในตอนนี้

“ฉันคิดว่าฉันตัดใจจากนายได้แล้วจริงๆนะ”

น้ำเสียงเหนื่อยล้าจากเพื่อนทำให้อาร์ดิวคิ้วขมวด “มีอะไรเหรอ?”

“ทำไมน้องไม่เชื่อฉันวะ ทั้งเรื่องของนายแล้วก็...”

“?” ตี๋น้อยช้อนสายตามองเพื่อนที่ค้างคำพูดไว้แล้วยังคงเหม่อมองไปไกล

“เรื่องเพื่อนที่มหา’ลัย” ชีวาบอกเช่นนั้น

“ตอนที่ยังโกรธปอมปอมไม่ฟังใครหรอก ต้องรอให้ใจเย็นสักพักค่อยคุยกันใหม่” บอกเพราะรู้จักนิสัยของน้องดี

“น้องไม่เชื่อใจฉันเลย” ชีวายังคงตัดพ้อ

อาร์ดิวมองเพื่อนนิ่ง สีหน้าเด็กหนุ่มจริงจังเมื่อเอ่ยคำ “นายมีความลับกับเขาหรือเปล่าล่ะ? มีอะไรที่นายยังไม่บอกปอมปอมหรือเปล่า หรือมีเรื่องอะไรที่นายคิดว่ามันเป็นเพียงเรื่องธรรมดาสำหรับนาย นายเลยไม่คิดจะพูดหรือบอกปอมปอม มีไหม?”

“ฉันลืมไปได้ยังไงว่านายมีนิมิต” แค่นหัวเราะ อาร์ดิวส่ายหน้าเบา

“ไม่หรอก เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องใช้นิมิต ถ้านายรู้จักปอมปอมดีพอ”

ชีวาชะงักกับคำพูดของเพื่อน กะพริบตาถี่แล้วแหงนเงยหน้าขึ้นครู่หนึ่ง อาร์ดิวยืนเงียบอยู่ข้างๆ สักพักทั้งสองคนจึงพากันกลับบ้านคุณตาคุณยาย



หลังอาบน้ำเสร็จ ก่อนจะเข้านอนชีวาจึงเปิดโทรศัพท์มือถือที่ปิดเอาไว้ตั้งแต่บ่ายหลังจากแม่บอกว่าใครโทรมาหา พอเปิดเครื่องก็ยังมีข้อความเตือนสายที่ไม่ได้รับเป็นเบอร์ของไวน์อีก ชีวาถอนใจ ก่อนกดโทรหาเจ้าของเบอร์

“วากลับไปค่อยคุยกันนะไวน์ วามีเรื่องสำคัญจะคุยด้วยเหมือนกัน”

ชีวาบอกกับอีกฝ่ายเสียงเครียด ก่อนจะวางสาย รู้สึกปวดหัวตุบๆขึ้นมาเมื่อนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เด็กหนุ่มทอดถอนใจ กุมศีรษะแสนหนักอึ้งแล้วทิ้งตัวลงนอนบนเตียง มองฝ้าเพดานนิ่งทั้งที่มันไม่มีอะไรน่าสนใจสักนิด ในหัวยังปวดตุบจนแทบระเบิด



อากาศในช่วงเช้าที่ยังไม่ร้อนมาก ครอบครัวชีวาและครอบครัวสองพี่น้องปอปลาออกไปเที่ยวกัน พอตกบ่ายก็พักทานข้าวกันที่ริมน้ำ อากาศเย็นสบายจากสายลมที่พัดพาจากท้องน้ำเข้ามาหาเพิ่มอรรถรสในการทานอาหารได้ดียิ่งขึ้น

ร้านค้ารอบบริเวณขายของหลายอย่าง  ทั้งของกินของฝากมากมาย ทั้งยังมีของเล่นที่หายากแล้วในสมัยนี้ให้เก็บสะสมกันอีกด้วย เด็กๆพากันเดินเที่ยวดูของหลังทานข้าวเสร็จ สองพี่น้องจูงมือกันแวะร้านนั้นออกร้านนี้โดยมีสองหนุ่มเดินตามไปมันทุกร้าน

“การ์ฟ”

อาร์ดิวหันมาเรียกคนที่เดินตามมาช้าๆนั่นให้รีบตามเข้ามาหน้าร้านขายเครื่องประดับกระจุ๋มกระจิ๋ม คนถูกเรียกก้าวเร็วๆเข้าไปหา เมื่อการ์ฟเข้ามายืนข้างๆตี๋น้อยจึงหันมาแล้วแบมือให้ดู

“อะไร?” การ์ฟเลิกคิ้วถามยิ้มๆ

“ดูดีๆสิ มีหิ่งห้อยในนี้ด้วยอ่ะ” น้ำเสียงและสีหน้าคนพูดดูตื่นเต้น

“จริงเหรอ?”

การ์ฟจ้องมองของในมืออาร์ดิว มันเป็นขวดโหลอันเล็กจิ๋ว ในขวดสีใสมีหิ่งห้อยตัวจิ๋วยิ่งกว่าอยู่ข้างใน แสงวิบวับจากกากเพชรที่ใส่เอาไว้ในขวดส่งให้เหมือนมันส่องแสงได้ การ์ฟเงยขึ้นมองตี๋น้อยที่อมยิ้มอยู่

“อยากได้ป่ะ?”

เด็กหนุ่มเอ่ยถามมีนัยยะ ตี๋น้อยพยักหน้าหงึกแล้วยิ้มตาปิด

“ผมจะซื้อ”

บอกไปแบบนั้นแต่อีกคนกลับหยิบขวดหิ่งห้อยจากมือเขาไปยื่นให้คนขายหน้าตาเฉย

“เอาอย่างนี้สองอันครับ ขอสร้อยคอสองเส้นด้วย”

“การ์ฟ ของผม”

ตี๋น้อยเอ่ยทักท้วง การ์ฟหันมาหาแล้วบอกเสียงเรียบ

“รู้แล้ว”

ฟังอย่างนั้นแล้วอาร์ดิวก็คิ้วขมวด ไม่เห็นเข้าใจ รู้แล้วแต่มาซื้อตัดหน้าเขาทำไม อันอื่นมีเยอะแยะ

“พี่ครับ อันเมื่อกี้อันละเท่าไหร่ครับ”

เอ่ยถามคนขายที่กำลังประกอบขวดหิ่งห้อยกับห่วงเพื่อทำเป็นจี้ห้อยคอตามที่การ์ฟต้องการ คนขายบอกราคามา ตี๋น้อยจึงเปิดกระเป๋าจะเอาตังค์ออกมาจ่าย การ์ฟรีบกดมือที่กำลังหยิบเงินออกมาเอาไว้ ทำให้ดวงตาเรียวตวัดมอง

“บอกแล้วไงว่ารู้แล้ว”

“แล้วไงอ่ะ”

อาร์ตี๋ย้อน การ์ฟถอนใจเฮือกก่อนบอกจุดประสงค์ “จะซื้อให้”

“ไม่เอา!” คำปฏิเสธทันทีนั้นทำให้คนใจดีจะซื้อของให้เริ่มหน้าตึง เอ่ยถามกลับเสียงขุ่น

“ทำไม?”

ตี๋น้อยคิ้วขมวด “จะมาซื้อให้ทำไมล่ะ ผมซื้อเองก็ได้”

“อยากซื้อให้ จบป่ะ?”

อยากซื้อของให้เขาแต่ก็ยังกวนเขาไม่เลิก อาร์ดิวมองหน้า สีหน้าหนุ่มตี๋ยังดื้อรั้น การ์ฟจึงต้องเปลี่ยนวิธีพูดใหม่

“อยากให้จริงๆ”

น้ำเสียงที่เอ่ยบอกอ่อนลง ไม่มีแววกวนอีก ทำให้อาร์ดิวเองลดความแข็งข้อ ยอมเก็บกระเป๋าเงินของตนเอง มองคนขายเอาของใส่ถุงลายน่ารักให้ การ์ฟเองก็มองตี๋น้อยยิ้มๆ ใช้ปลายนิ้วเกลี่ยแก้มอีกคนเบาๆ พอเจ้าของเขาหันมาคนทำก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้

อาร์ดิวหันกลับ มือเรียวยกขึ้นจับแก้มตัวเอง อมยิ้มเขิน



ปอมปอมที่ยังไม่เจอของถูกใจเดินแยกออกไปอีกร้านหนึ่ง ชีวาเดินตามน้องไปเรื่อยๆ ไม่ได้คุยกันเลยตั้งแต่มา พอน้องดูของจนเบื่อแล้วก็มาทางสระน้ำขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นมากลางลานกว้างของสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ รอบนอกเป็นแม่น้ำธรรมชาติที่ไหลผ่าน ด้านในยังเป็นสระน้ำอีก หากมองจากที่สูงจะเป็นว่ามันเป็นวงกลมซ้อนกัน ทั้งแม่น้ำด้านนอกและสระน้ำที่สร้างขึ้นด้านใน

ชีวาก้าวให้เร็วขึ้นอีกนิดเพื่อมาเดินข้างน้อง หางตาน้องปรายมามองแต่ไม่พูดอะไร ทั้งคู่เดินข้างกันไปเงียบๆ เสียงนักท่องเที่ยวคนอื่นๆพูดคุยกันบ้าง ถ่ายรูปกันบ้างเป็นที่เฮฮา เวลานี้พ่อแม่ของทั้งคู่คงไปไหว้พระอีกแน่ เพราะเห็นว่าที่นี่มีพระพุทธรูปในถ้ำหินด้วย พวกท่านคงไม่พลาดไปสักการะ

ลมพัดเย็นๆจากผืนน้ำพัดพามา ปอมปอมหยุดเดินอยู่ตรงเนินหญ้าริมสระ สูดลมหายใจเข้าปอดลึกแล้วค่อยผ่อนมันออกมาช้าๆพร้อมรอยยิ้ม ก่อนที่หนุ่มน้อยจะหันมาหาชีวาแล้วยิ้มให้

ชีวาชะงักเมื่ออยู่ๆน้องก็ยิ้มให้ตนเอง ก่อนที่เขาจะยิ้มให้น้องกลับไปบ้าง เกือบค่อนวันน้องเพิ่งยิ้มให้เขาก็ตอนนี้ แต่ไม่รู้ทำไมเขาถึงรู้สึกเศร้าใจบอกไม่ถูก

“ป๋า...”

“...........”

เพียงน้องเอ่ยเรียกก็เหมือนสิ่งรอบกายจะเงียบเสียงลงไปเสียสนิท ราวสรรพสิ่งไม่เคลื่อนไหว ส่งผลให้สิ่งที่ได้ยินมันดังก้องจนสะเทือนไปทั้งใจ

“เราเลิกกันเถอะ”

ชีวานิ่งงัน รอยยิ้มนั่นมันติดตา บอกเลิกเขาด้วยรอยยิ้มแบบนั้นได้อย่างไร ในใจเด็กหนุ่มบีบรัด ความผิดของเขามันมากมายเสียจนต้องทำแบบนี้กับเขาเชียวหรือ แต่ถึงอย่างนั้น ถึงจะประท้วงไปแต่ก็ไร้ประโยชน์ เมื่อน้องไปแล้ว เดินจากเขาไปอย่างใจร้ายที่สุด

ชีวาก้มหน้านิ่ง ไหล่กว้างสั่นไหวน้อยๆ ก่อนเสียงสะอื้นแผ่วจะดังลอด มือใหญ่กุมอกซ้าย รู้สึกร้าวรานไปทั้งหัวใจ

“ป๋า...”

เสียงเรียกแผ่วเบาในความรู้สึกไม่ได้ทำให้ใจเขาหันเหไปหาได้สักนิด ไม่อยากได้ยิน ไม่อยากได้ยินเสียงนี้

“ป๋า ป๋าเป็นอะไร?”

เป็นอะไรอย่างนั้นหรือ คำถามนี้เขาควรตอบไหม ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจ เด็กน้อยหน้าซื่อ

“ป๋าได้ยินปอมไหม?”

เสียงที่เหมือนได้ยินอยู่ไกลลิบกลับชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ใบหน้าจิ้มลิ้มลอยเด่นให้เห็นเต็มตา แต่เวลานี้ตาของเขาพร่าไปด้วยหยาดน้ำตาจนมองเห็นได้ไม่ชัดเจนนัก แต่เขาก็มั่นใจว่าเป็นน้องแน่ๆ น้องกลับมาแล้ว กลับมาอย่างนั้นหรือ? ชีวามองภาพตรงหน้านิ่ง เมื่อครู่น้องแค่ล้อเล่นสินะ ที่บอกเลิกเขาเป็นเพียงเรื่องล้อเล่นสินะ ช่างเป็นเรื่องตลกร้าย แต่เขาก็ดีใจที่มันเป็นเพียงเรื่องล้อเล่น

แขนแกร่งคว้ากอดน้องแน่น ปอมปอมน้อยตัวแข็งทื่อ ชีวาหัวเราะในลำคอกับท่าทีนั้น ตกใจหรือ? ตกใจที่เขาโผเข้ากอดสินะเด็กแสบ ก่อนรอยยิ้มจะเปิดกว้างมากขึ้นเมื่อมือเรียวลูบหลังเขา นี่หรือเปล่าที่เขาเรียกตบหัวแล้วลูบหลังน่ะ แต่เขาไม่โกรธหรอก ไม่เลย

“ป๋า ร้องไห้ทำไม ไข้ขึ้นจนเพ้อเหรอ?”

ใครเป็นไข้ เขาไม่ได้ป่วย ถ้าจะป่วยก็คงเป็นใจของเขานี่ล่ะ ที่ถูกน้องเล่นแรงแบบนี้ ชีวาผละออกมา มองดวงตาแป๋วแหววของเด็กแสบ

“พี่เปล่าเพ้อสักหน่อย...”

เสียงที่เอ่ยบอกน้องช่างแหบแห้ง ชีวากระแอมเบาๆ หัวคิ้วเข้มขมวด เสียงใครวะ?

“หรือเพราะป๋านอนนานไป ตื่นมาเลยสะลึมสะลือแบบนี้” หนุ่มน้อยสันนิษฐาน คิ้วชีวาขมวดปมมากขึ้น มองดูรอบกายที่เปลี่ยนไปจากตอนแรกลิบลับ

“ปอมปอม?” เอ่ยเรียกน้องงงๆ

“หือ?”

เด็กน้อยหน้าซื่อเลิกคิ้วมองพี่เชิงถาม ความปวดแล่นริ้วจนชีวาต้องกุมหัว มือใหญ่สะดุดเข้ากับอะไรบางอย่าง มีแผ่นอะไรไม่รู้แปะอยู่บนหน้าผากของเขา

“ป๋าเป็นไข้ วันนี้เลยไม่ได้ไปเที่ยวกับคนอื่นเลย”

เมื่อน้องบอกมาแบบนั้นชีวาจึงคิดตาม เมื่อวานก่อนจะนอนเขารู้สึกปวดหัว คิดโน่นคิดนี่แล้วเผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้ สติสตังของเด็กหนุ่มเริ่มกลับมาทีละน้อย

“ปอมปอมไปเที่ยวกลับมาแล้วเหรอ?”

“ปอมไม่ได้ไป อยู่เฝ้าป๋าเนี่ย... ป๋าร้องไห้ด้วย” ท้ายประโยคบอกเสียงอ่อย สีหน้าจ๋อยเพราะสงสารพี่

“ปอมปอม...”

“ครับ?”

“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ช่วยฟังพี่อธิบายสักนิดนะ อย่าเพิ่งบอกลาพี่ไป”

คงเพราะอาการไข้ถึงทำให้เขาเพ้อขนาดนี้ มือเรียวปาดเช็ดน้ำตาให้ ก่อนจะกอดปลอบ

“ป๋าอย่าร้องไห้อีกนะ ปอมใจไม่ดีเลย”

แขนเล็กๆ แต่ทำให้อุ่นไปทั้งใจ ชีวากอดน้องตอบ หอมไหล่เล็กแล้ววางคางเกยก่าย

“ไม่ร้องหรอก ไม่ร้องแล้ว”

เด็กหนุ่มยิ้มออกมาอย่างขอบคุณ ขอบคุณที่เรื่องราวเหล่านั้นมันเป็นเพียงความฝัน ขอบคุณจริงๆ



เช้าวันต่อมา หลังจากพักผ่อนอย่างเต็มที่ ทั้งยังได้รับการดูแลจากพยาบาลหนุ่มน้อย อาการไข้ของชีวาก็ดีขึ้น คุณแม่ที่กลับมาจากไปเที่ยวเพราะปอมปอมอาสาดูแลพี่เอง เมื่อเห็นการดูแลเอาใจใส่จนลูกชายของท่านอาการดีขึ้นก็พอจะวางใจได้บ้าง เพราะเมื่อวานบรรยากาศระหว่างทั้งสองคนดูกดดันมากกว่านี้

ปอมปอมไปวิ่งออกกำลังกายกับเด็กๆในยามเช้า ชีวาที่เพิ่งสร่างไข้วิ่งเหยาะๆตามน้องไปเรื่อยๆ จนพากันมาหยุดพักใต้ต้นไม้ใหญ่ใกล้กับโรงเรียนของเด็กๆ ชีวาอยู่ใกล้น้องแต่ไม่ได้คุยอะไรกัน เมื่อวานพอจะจำได้อยู่ว่าน้องคอยดูแลดีแค่ไหน แต่เมื่อน้องไม่พูดด้วยเขาเลยไม่รู้จะเริ่มอย่างไร

เลย์มองทั้งสองคนแล้วส่ายหน้า ต้องให้ถึงมือไอ้เลย์เสียแล้วกระมัง หนุ่มน้อยทำเดินเข้าไปใกล้พี่ปอมปอมแล้วชนเข้าเต็มแรงจนปอมปอมเซไปหาชีวา แขนแข็งแรงรับน้องไว้อัตโนมัติ

“อุ๊ยตาย ขอโทษที เลย์ไม่เห็น”

ท่าทางทะลึ่งทะเล้น จีบปากจีบคอทำเสียงเล็กเสียงน้อยนั้นไม่มีใครอยากเชื่อหรอกว่าเลย์ไม่เห็น คนยืนอยู่ทั้งคน แถมยังมาอุ๊ยตงอุ๊ยตายด้วย เด็กเกรียนๆอย่างเลย์มาพูดแบบนี้แล้วมันน่าเตะมากกว่า

พอรู้สึกตัวปอมปอมก็ขยับยุกยิก ชีวาค่อยปล่อยน้องจากอ้อมแขน หนุ่มน้อยขยับห่างพี่อีกนิด ขณะที่เด็กๆลูกสมุนทำเป็นมองไม่เห็น มองนกมองไม้ไปเรื่อย

“หายโกรธพี่ยัง?”

“............” ไม่มีสัญญาณตอบรับใดๆ

“ไม่พูดด้วยพี่เสียใจนะ”

ต่อให้ตัดพ้อน้องก็ยังคงเงียบกริบ ชีวามองเสี้ยวหน้าด้านข้างของเด็กดื้อที่ทำเป็นไม่ได้ยินเสียงเขา มือใหญ่คว้ามือน้องมาจับไว้ทั้งสองข้าง มองน้องที่เบือนสายตาหนี

“ขอโทษในเรื่องที่พี่ไม่ได้บอกปอมปอม เพราะพี่คิดว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อยที่พี่สามารถจัดการมันด้วยตัวเองได้ ไม่คิดว่าจะทำให้ปอมปอมกังวลใจ”

เด็กหนุ่มง้องอนทั้งน้ำเสียงและสีหน้า ปอมปอมน้อยถอนใจ หันมาเผชิญหน้าพี่

“ปอมเอาแต่ใจเอง ปอมคงยังเด็กเกินไป คิดว่าตัวเองเข้าใจทุกอย่างดี แต่ไม่เลย ปอมไม่เคยเข้าใจอะไรสักอย่าง ป๋าคงเหนื่อยที่ปอมเป็นแบบนี้ใช่ไหม?”

“อาจมีบ้างที่เราข้าใจไม่ตรงกัน แต่พี่ไม่เคยรู้สึกว่าการได้รักปอมปอมมันเป็นเรื่องที่หนักหนาหรือเหนื่อยตรงไหน”

“............”

“ให้โอกาสพี่อีกสักครั้งได้ไหม พี่จะจัดการทุกอย่างให้มันเรียบร้อยเอง”

สายตาเว้าวอนส่งให้น้องจากความรู้สึกที่มี ปอมปอมนิ่งไปอึดใจหนึ่ง ก่อนพยักหน้ารับช้าๆ ชีวายิ้มกับโอกาสที่ได้รับ เกือบดึงน้องมากอดแล้ว ถ้าไม่เห็นเจ้าพวกแสบทำคอยื่นคอยาวเสียก่อน

ปอมปอมอมยิ้มขำ ก่อนเดินไปหาเลย์ ตบเข้ากลางหลังลูกพี่ลูกน้องของตนเองที่ทำไม่รู้ไม่ชี้ เลย์สะดุ้งโหยง สูดปาก ขณะที่คนอื่นถอยกรูด

“วิ่งกลับบ้านแข่งกันป่ะเลย์?” หนุ่มน้อยยักคิ้วท้า

“จัดไป” เลย์ยังหน้าเบ้เพราะเจ็บหลัง แต่ก็รับคำท้านั้นอย่างไม่มีถอย “แล้วถ้าใครชนะจะได้อะไร?”

คำถามนั้นทำให้ปอมปอมกลอกตามองสูง ทำท่าคิดแป๊บนึงก่อนบอก “อะไรก็ได้ แล้วแต่คนชนะเลย เพราะพี่มั่นใจว่าพี่ไม่แพ้แน่”

“เดี๋ยวก็รู้ เตรียมตัวรับความพ่ายแพ้ได้เลยพี่ปอมปอม”

ว่าแล้วเลย์ตัวแสบก็ออกวิ่งทันที ปอมปอมอ้าปากหวอ ตาโต แล้วออกวิ่งตามสุดชีวิตทั้งร้องโหวกเหวก

“ว๊ากกก ขี้โกงอ่ะ ออกตัวก่อน เลย์ขี้โกง~”

เด็กๆพากันวิ่งเฮโลตามไป ชีวามองแล้วก็หัวเราะ ถอนใจเบาด้วยความโล่งอกโล่งใจ ก่อนออกวิ่งตามน้องไป ขาเขายาวไม่ต้องเร่งมากก็ไปถึง ตอนนี้สิ่งที่เขาควรทำมากที่สุดคือเคลียร์ตัวเองให้กระจ่างใสเสียทีได้แล้ว ก่อนที่จะเสียน้องไปจริงๆ

กลับมาบ้านปอมปอมก็ค้นของฝากที่เมื่อวานครอบครัวตนเองกับครอบครัวชีวาไปเที่ยวแล้วซื้อมาฝากคนเฝ้าไข้อย่างเขาออกมาทาน ถือของกินเดินมาหาคุณตาที่หน้าบ้าน คุณตาเปิดสอนงานจักสานจำพวกตะกร้าและเครื่องใช้ไม้สอยให้นักเรียน เวลามีโครงงานมักมีชื่อคุณตาเป็นผู้สอนเสมอ เด็กๆมักจะมาขอให้ช่วย ท่านก็ช่วยด้วยความเต็มใจ ในเวลานี้ลูกหลานไม่มีอะไรต้องห่วงแล้ว กิจการงานต่างๆลูกชายก็บริหารไปได้ดี ท่านที่อยู่บ้านเฉยๆก็ทำอะไรเล็กๆน้อยๆ คุณยายท่านก็เป็นประเภทแม่ศรีเรือน ทำขนมนมเนยแจกเพื่อนบ้านอยู่เรื่อยๆ

“คุณตาคร้าบ ทำอะไรอยู่?”

หนุ่มน้อยนั่งลงบนแคร่ไม้ที่คุณตากำลังนั่งสานอะไรสักอย่าง ตอกเส้นบางวางเรียงอยู่ข้างกายท่าน

“ตะกร้าน่ะ ทำให้ยายเขา จะได้ใส่ข้าวของเวลาไปวัด”

ปอมปอมน้อยพยักหน้าหงึกหงักกับคำอธิบายของคุณตา นั่งดูท่านทำงานอย่างสนอกสนใจ แต่ถ้าให้ทำปอมทำไม่เป็นนะ



เมื่อวันหยุดพักผ่อนของทั้งเด็กและผู้ใหญ่หมดลงก็ได้เวลาเตรียมตัวกลับบ้านกัน ก่อนกลับคุณตาคุณยายก็มีของเล็กๆน้อยๆให้หลานๆ อาร์ดิวคลานเข่าเข้าไปรับถุงผ้าใบเล็กจากคุณยาย ไม่รู้เหมือนกันว่ามีอะไรอยู่ในนั้น ท่านทั้งสองมองเขาแล้วยิ้มบาง

“ขอให้หลานผ่านพ้นทุกอย่างไปได้ด้วยดี แม้ชะตามันจะถูกกำหนดไว้แล้ว แต่แรงศรัทธาที่มีมันจะทำให้หลานปลอดภัย”

คำพูดที่ได้ยินกันเพียงสามคนทำให้ตี๋น้อยย่นหัวคิ้ว ไม่เข้าใจในสิ่งที่คุณตาพูด จะเกิดอะไรขึ้นกับเขาอีกอย่างนั้นหรือ?

“อาร์ดิวอายุครบสิบแปดแล้วสินะ” คุณยายเอ่ยถามเสียงอารี

“ครับ”

“โตเป็นหนุ่มแล้วนะ เด็กสมัยนี้โตไวกันจริงๆนะตา”

คุณยายหันไปขอแนวร่วม คุณตาหัวเราะ ทำให้บรรยากาศแปลกๆเมื่อครู่คลายลง อาร์ดิวอมยิ้ม กราบขอบคุณท่านก่อนคลานออกไป ให้ปอมปอมเข้าไปหาคุณตากับคุณยายบ้าง



“คุณไม่กลับด้วยกันเหรอ?”

หลังจากขนข้าวของขึ้นรถเสร็จอาร์ดิวจึงปลีกตัวมาคุยกับพนักงานช่วยยกของ น้ำเย็นๆในแก้วถูกส่งให้การ์ฟรับไปดื่ม

“ยังหรอก ปิดเทอมทั้งทีอยากทำตัวมีประโยชน์บ้าง”

มุมปากเด็กหนุ่มยกยิ้ม ตี๋น้อยยิ้มตาม ก่อนรับแก้วน้ำคืนแล้วบอกลา

“งั้นผมไปแล้วนะ เจอกันที่กรุงเทพฯ” ยิ้มให้เพื่อนสนิทที่อยากเลื่อนสถานะแล้วตี๋น้อยก็หมุนกายกลับ

“ตี๋”

“?” หันกลับมาเลิกคิ้วมองคนเรียก

“เปล่า”

คำปฏิเสธพร้อมรอยยิ้มแห้งทำให้ตี๋น้อยงง อะไรของเขา?

“เอาวะ เดี๋ยวก็ได้เจอกันแล้ว” บอกกับตัวเองเมื่อมองตามหลังอาร์ดิว ก่อนจะก้าวตามไปส่งตี๋น้อยที่รถด้วย

“ปอมปอมไม่ลืมอะไรนะลูก?” คุณแม่รวิเอ่ยถามลูกชายคนเล็กเมื่อตัวผอมๆนั้นจะก้าวขึ้นรถก่อนใคร

“ไม่ครับ ทุกอย่างเตรียมพร้อม”

ตะเบ๊ะให้ด้วยความมั่นใจ กวักมือไหวๆเรียกป๋าชีวาให้รีบขึ้นมา ขณะที่ตนเองนำไปก่อนแล้ว เมื่อพร้อมกันแล้วทุกคนจึงลาผู้อาวุโสที่ออกมาส่งก่อนขึ้นรถกลับกรุงเทพฯกัน

“ลานะคะ” คุณแม่รวิหันไปลาครอบครัวการ์ฟที่มารอส่ง

“เดินทางปลอดภัยค่ะ ไว้ไปส่งเจ้าการ์ฟแล้วจะแวะไปหาค่ะ”

“ยินดีต้อนรับเสมอค่ะ”

ทั้งสองครอบครัวยิ้มให้กัน ก่อนที่ประตูรถตู้จะปิดลงแล้วรถจึงค่อยเคลื่อนตัวออกไป น้องเอิงโบกมือลาพี่ๆ นานๆเธอจะได้เจอพี่ๆสักที อยากกลับไปเรียนที่กรุงเทพฯเหมือนกัน แต่ก็กลัวคุณพ่อคุณแม่เป็นห่วงอีก อยู่ใกล้ๆพวกท่านก็ดีเหมือนกัน อ้อนได้ตลอด ไม่ต้องทนคิดถึงกันนานๆ

“มองตามตาละห้อย แม่เพิ่งรู้ว่าเราแสดงอาการแบบนี้เป็น”

เสียงคุณแม่เอ่ยล้อพ่อลูกชายตัวดี เรียกสายตาจากคุณพ่อและน้องเอิงให้มองมาที่การ์ฟเป็นตาเดียว เด็กหนุ่มทำหน้าเหรอหรา แต่ไม่เนียนเอาเสียเลย

“อะไรกันครับ มาแซวกันเองซะงั้น” หัวเราะน้อยๆกับท่าทีส่งค้อนแต่พองามของคุณแม่ กอดเอวท่านแล้วพากันเดินกลับบ้าน พอหันมามองคุณพ่อที่ยังนิ่งเฉยการ์ฟจึงเอ่ยขึ้นมา

“ดูพ่อไม่ตื่นเต้นเลย”

“ตื่นเต้นเรื่องอะไร?” น้ำเสียงเรียบนิ่งพอๆกับสีหน้าเลยทีเดียว

“เรื่องผม... เป็นเกย์”

“น้าแกก็เป็น”

“หา? นี่ตกลงรับได้หรือครับ?” สิ่งที่คุณพ่อย้อนมาทำให้การ์ฟอุทานเสียงหลง รู้เรื่องน้าเทสต์เสียด้วย แต่ไม่ว่าอะไรนี่มันแปลกไหมนะ?

“รับไม่ได้หรอก แต่ต้องยอม” ท่านบอกแล้วถอนใจยาว

“ทำไมครับ?” คนเป็นลูกเอ่ยถามอย่างข้องใจ ที่บอกว่าต้องยอมหมายถึงอะไร?

“ไม่รู้แกรู้หรือยัง แกกับอาร์ดิวลูกลุงไปป์น่ะ...” สายตาคุณพ่อมองมา การ์ฟพยักหน้าอย่างเข้าใจในสิ่งที่ท่านจะพูด

“อ๋อ ถ้าเรื่องที่คุณป้ารวิผูกดวงเราสองคนไว้ด้วยกัน ผมรู้แล้วครับ เพราะอย่างนั้นเหรอ พ่อถึงได้ต้องยอมรับ?”

“จะบอกให้นะ ถ้าไม่ทำพิธีตัด แกกับลูกลุงไปป์ไม่มีทางหนีกันพ้นหรอก”

“ซึ่งผมก็ไม่คิดจะตัดแน่นอน” การ์ฟเสริม

“อย่ามาตอกย้ำสิวะ ไอ้ลูกคนนี้”

คุณพ่อถอนฉุน รู้หรอกว่ามันเป็นมาอย่างไร แต่ทำใจรับปุบปับมันไม่ได้ เรื่องนี้รู้มานานแล้ว เรื่องที่ว่าลูกของตนกับลูกชายของผู้มีพระคุณนั้นมีดวงผูกกันอยู่ทำให้หลีกลี้หนีกันยาก แต่ท่านก็ทำปล่อยผ่านเลยไปได้ตั้งหลายปีเพราะไม่คิดว่าทั้งคู่จะได้เจอกันแล้วผูกสัมพันธ์กันมากกว่าเพื่อนธรรมดา แต่ในวันนี้คงหลอกตัวเองต่อไปไม่ได้อีก

“อาร์ดิวก็เป็นเด็กเรียบร้อยออก แม่ชอบนะ พูดจาสุภาพ มีสัมมาคารวะ น่ารักดี” คุณแม่เอ่ยชมหนุ่มตี๋ พ่อลูกชายยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างกับถูกชมเสียเอง

“แหนะ เห็นไหม แม่ยังชอบเลยอ่ะ”

“เอิงก็ชอบ” น้องเอิงเอ่ยเสริม สนับสนุนพี่อาร์ดิวเต็มที่ ส่วนพี่ชายแค่ตัวแถม

“เข้ากันดีเป็นปี่เป็นขลุ่ย”

คุณพ่อว่าเคืองๆ ถูกโจมตีอยู่คนเดียว อีกสามคนพากันอมยิ้ม น้องเอิงกอดแขนคุณพ่อ เอียงศีรษะซบออดอ้อนเอาใจ สองพ่อลูกเลยคุยเล่นหัวเราะคิกคักกันไปตามทาง สะพานไม้เชื่อมต่อทอดไปยังอีกฝั่งที่เป็นบ้านของการ์ฟ เมื่อเดินมาถึงกึ่งกลางสะพานเด็กหนุ่มก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองต้นไม้ใหญ่ริมน้ำอีกฟากฝั่งหนึ่ง ก่อนยิ้มออกมาบางเบา

“ยิ้มหวาน มีความหลังอะไรกับต้นไม้นั่นหรือไงพ่อหนุ่ม?”

ลืมไปได้อย่างไรว่าคุณแม่ตาดี การ์ฟหัวเราะในลำคอ กระชับเอวคุณแม่พาเดินไปด้วยกัน ไม่ได้ตอบอะไร เก็บไว้ให้เขากับ ‘เพื่อนสนิท’ รู้กันสองคนก็พอ



บนรถตู้ที่มุ่งตรงสู่กรุงเทพมหานคร ชีวาจับมือน้องเล็กที่นอนหลับพิงตนเองอยู่ นั่งรถนานๆแล้วน้องคงเพลีย เวลาก็เริ่มเข้าสู่พลบค่ำแล้วด้วย คงจอดทานข้าวกันที่ไหนสักที่ก่อนไปต่อ มือใหญ่เกี่ยวผมนิ่มที่เริ่มยาวทัดหูให้น้อง มองแล้วก็อมยิ้ม ก่อนเอนหัวลงนอนชนหัวน้องพอดีแล้วหลับตาลง

เสียงข้อความเข้าเครื่องอาร์ดิวทำให้ชีวาหรี่ตาขึ้นมา เห็นเพื่อนเปิดดูข้อความแล้วยิ้มเขินอยู่คนเดียว ชีวาอมยิ้ม อาร์ดิวมีความสุข เขาเองก็มีความสุข ไม่ใช่เพราะยังตัดใจไม่ได้ เพราะอาร์ดิวคือเพื่อนคนสำคัญและเป็นพี่ชายของคนที่เขารักต่างหาก รักในวัยเยาว์มันผ่านพ้นไปแล้ว ตอนนี้ต่างหากคือความจริง คนที่อยู่ข้างกายเขาตอนนี้ต่างหากที่สำคัญ

อาร์ดิวที่เปิดดูข้อความแล้วก็พิมพ์ข้อความตอบกลับ ไม่นานข้อความจากการ์ฟก็ส่งกลับมาอีก คราวนี้ทำเอาอายม้วน บอกกับโทรศัพท์เบาๆว่าบ้า ก่อนเก็บเข้ากระเป๋าตนเอง

เด็กหนุ่มนั่งพิงเบาะ มองออกนอกหน้าต่างรถ ข้างนอกเริ่มมืดแล้ว แสงไฟจากข้างทางมีประปราย แม้ไม่เหมือนแสงหิ่งห้อยในคืนนั้น แต่กลับทำให้เขานึกถึงมันขึ้นมา มือเรียวแตะกลีบปากตนเองแล้วเม้มแน่นเมื่อนึกถึงรอยจูบของใครบางคน...




TBC




ขอบคุณทุกๆคนที่ยังอยู่ด้วยกันค่ะ จัดบวกกันไปโดยถ้วนหน้า :L2:

เก็บตก

ข้อความใหม่จาก การ์ฟ : ถึงไหนแล้ว?

อาร์ดิว : ถึง...(ชื่อจังหวัด)

ข้อความตอบกลับจาก การ์ฟ : เปล่า ไม่ได้หมายถึงนาย ฉันหมายถึง...

.

.

.

.

.

.

.

แหนะ รู้นะว่าเลื่อนลงมาดู

.

.

.

.

ที่ถามว่าถึงไหนแล้วฉันหมายถึง...

.

.

.

.

ใจของฉันน่ะ...

.

.

.

.

.

ใกล้ถึงใจนายหรือยัง?


me : ฮิ้วววววววววว (อายอ่ะ การ์ฟฟฟฟ >/////< )

หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ >>magic (21)<< 25/07/2556 หน้า 17 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 25-07-2013 19:49:32
นานๆจะได้จิ้มวันใหม่สักที :z13:
เอาไปก่อนเลย+1และเป็ด

การ์ฟนายเสี่ยวมาก
แต่โคตรชอบเลย :impress2:
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ >>magic (21)<< 25/07/2556 หน้า 17 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 25-07-2013 20:00:32
มุขเสี่ยวแต่ได้ใจตี๋น้อยใช่ม้า
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ >>magic (21)<< 25/07/2556 หน้า 17 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: udongjay ที่ 25-07-2013 20:29:21
ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก การ์ฟดิวหวาเว่อร์เลยง่าาาา
แอบเขินแทน

ส่วนป๋ากับกะปอม ป๋าฝันได้น่าตกใจเกินไปนะ แอบจิตตกเลยง่า
ถ้าป๋าไม่ได้ดิวเตือนสติจะรู้ไหมว่าควรทำไร

หวังว่าไวน์จะยอมรับความจริงได้นะ ไม่อยากดราม่า คึคึ

บวกฮะพี่ใหม่
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ >>magic (21)<< 25/07/2556 หน้า 17 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 25-07-2013 20:57:42
 :mew1:

เฮ้อ สงสารชีวาจัง มีแต่คนเข้าหา

ดีนะที่ปอมปอมยังมีความเป็นผู้ใญ่บ้าง
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ >>magic (21)<< 25/07/2556 หน้า 17 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 25-07-2013 21:33:28
อ้ากกกก น้องใหม่! มันน่ารักค่ะ ฮิ้วววววว ^^
ยิ่งอ่านตอนอาร์ดิวได้รับข้อความแล้วพึมพำว่าบ้านี่อยากรู้เลย
พอได้อ่านตอนท้ายพี่ยิ้มแก้มจะแตก  :ling1: 

ลักษณะการเขียนอันเป็นเอกลักษณ์ของวันใหม่เลยค่ะอย่างนี้ ทำคนอ่านเขินเนี่ยหน้าที่ประจำ ^^

ส่วนชีวาดีขึ้นนิดหนึ่ง แต่ขอรอดูการพูดคุยกับไวน์ก่อนนะ ถ้าเด็ดขาดถึงจะเชื่อใจ
ไม่อยากให้ปอมปอมน้อยเสียใจจริงๆค่ะ / พี่อินมากนะนี่ ^^

เป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ อัพเมื่อไหร่อีกกริ๊งกร๊างมาในเฟสนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ >>magic (21)<< 25/07/2556 หน้า 17 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 25-07-2013 21:41:39
กำลังอยากรู้เลยว่าการ์ฟส่งข้อความอะไรมาให้อาร์ดิว ถึงทำให้ตี๋น้อยของเราอายม้วนต้วนได้ขนาดนี้
ให้ความรู้สึกทั้งหวาน ทั้งเลี่ยนเลยนะการ์ฟ แต่ก็ชอบอะ ขนาดอาร์ดิวยังชอบเลย  :o8:
เกือบร้องไห้ตามป๋าชีวาแล้วอะ ตอนที่ฝันว่าน้องปอมปอมบอกเลิก  :mew6:
รอดูอยู่ว่าป๋าจะจัดการยังไงต่อไป ถือซะว่าเป็นบทเรียนนะป๋านะ อย่าทำอีกล่ะ  :hao5:
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ >>magic (21)<< 25/07/2556 หน้า 17 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 26-07-2013 16:16:56
กรี๊ดดดดด กับข้อความของการ์ฟ เดินหน้าจีงต่อไปเลยการ์ฟ อาร์ดิวไปไหนไม่รอดแน่ๆ
ชีวาดีนะที่แค่ฝัน อย่า ทำให้ปอมน้อยเสียใจอีกเลย
ชัดเจนกับทุกๆอย่างได้ แล้ว กอ่นที่ฝันป๋าจะกลายเป็นจริงเสีย
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ >>magic (21)<< 25/07/2556 หน้า 17 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 26-07-2013 16:59:38
จริงของปอม ชีวาไม่ยอมบอกเรื่องปอมกับเพื่อน
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ >>magic (21)<< 25/07/2556 หน้า 17 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: YOSHIKUNI RUN ที่ 26-07-2013 17:39:26
 หง่ะ เราร้องไห้ตามชีวา เลยอ่าาา
เฮ้อ~~ ชีวา จัดการให้เคลียรๆ เลยนะ เดวจะมาน้ำตาตกอีก

อีกคู่ บรรยากาศช่างแตกต่าง....
 การ์ฟ นายเสี่ยว หว่ะ 55
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ >>magic (21)<< 25/07/2556 หน้า 17 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: smirnoi ที่ 27-07-2013 09:41:52
อ่านรวดเดียวเลย คู่เพื่อนสนิทนี่แบบสุดๆ น่ารักมากๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ >>magic (21)<< 25/07/2556 หน้า 17 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: greensnake ที่ 27-07-2013 18:00:49
เล่นเอาใจหายหมดเลยนึกว่าเรื่องจริงซะแล้ว :เฮ้อ:
ถึงจะสงสารชีวาแต่ก็ขอเข้าข้างกะปอมน้อยหน่อยนะ
ถ้าป๋าไม่จัดการเราจะยุให้ปอมปอมพูดคำนั้นจริงๆด้วย
ดูอย่างคู่เพื่อนสนิทนั่นสิ นับวันความสัมพันธ์ยิ่งรุดหน้า
ครอบครัวไฟเขียวอีกต่างหาก ไม่มีอะไรน่าเป็นกังวล
แต่คู่ป๋าสตาร์ทก่อนกลับทำท่าจะถอยหลังซะอย่างนั้น
เห็นแก่ปอมปอมหรอกนะ เราเอาใจช่วยก็ได้ :hao3:
ขอบคุณวันใหม่มากค่ะ :กอด1:
+1และเป็ด
ป.ล. ความรักทำให้การ์ฟเสี่ยวอ่ะ :-[
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ >>magic (21)<< 25/07/2556 หน้า 17 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Vavaviz ที่ 27-07-2013 20:53:08
น่ารักสองคู่เลยแหะ~

รออ่านตอนต่อไปค่าา
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ >>magic (21)<< 25/07/2556 หน้า 17 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 28-07-2013 06:36:54
การ์ฟเสี่ยวอ๊า 555
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ >>magic (21)<< 25/07/2556 หน้า 17 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 30-07-2013 14:23:45
แอบมาส่อง :m22:
+1
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ >>magic (21)<< 25/07/2556 หน้า 17 อัพแล้วค่ะ
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 06-08-2013 20:12:33
หาตั้งนาน ตกมาหน้าห้าแน่ะ!
ช่วยผลักนิดพี่จะได้หาง่ายๆ  :mew3:
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ >>magic (22)+Last Magic<< 08/08/2556 หน้า 18 ค่ะ ขอบคุณทุกคน :)
เริ่มหัวข้อโดย: wanmai ที่ 08-08-2013 13:35:00
Magica Café

Magic (22)



เพื่อเคลียร์ปัญหาคาใจที่เกิดขึ้น ชีวาได้พาปอมปอมมาพบไวน์ด้วย เมื่อมาเห็นแบบนั้นปอมปอมก็มองหน้าพี่ทันที สีหน้าหนุ่มน้อยบ่งบอกถึงความไม่พอใจที่มันเริ่มกรุ่นขึ้นมา ถึงจะรู้ว่าทำเพื่อจะให้เขาสบายใจ แต่ทำแบบนี้มันเท่ากับทำร้ายใจพี่ไวน์คนนั้นชัดๆ

ปอมปอมจะดึงมือออกแต่ชีวาจับไว้แน่น น้องฮึดฮัดอยู่ไม่นานก็หยุด ดวงตาเรียวมองพี่ไวน์ที่หน้าซีดเผือดแล้วสงสารจับใจ พี่ผู้หญิงอีกสองคนที่มากับพี่ไวน์ต่างก็มองเขาอย่างไม่เป็นมิตร โธ่ เขาไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้สักหน่อย

เมื่อไวน์เดินมาใกล้ชีวาก็เตรียมพูดในสิ่งที่ตนเองคิด แต่รอยยิ้มของอีกฝ่ายที่ดูอย่างไรมันก็เป็นเพียงการฝืนยิ้มนั้นกลับทำให้เขาชะงักคำพูดทุกประโยคลง

“เรื่องนี้เองสินะที่ชีวาจะบอก”

“ขอโทษที่วาไม่เคลียร์ตัวเอง จนเรื่องมันบานปลายใหญ่โต”

ไวน์พยักหน้ารับรู้ สีหน้าเศร้า เพื่อนสาวทั้งสองของไวน์แทบเต้นเร่า อยากเข้ามาประทุษร้ายชีวาเต็มทน

“ไวน์เข้าใจ...”

“ไวน์...” ชีวาเรียกชื่ออีกฝ่ายอย่างเสียใจ เพราะเขาเองที่ทำให้มันเป็นแบบนี้ มือใหญ่กุมมือน้องแน่น เมื่อน้องนิ่งเกินไปจนเขาใจไม่ดี

ไวน์มองมือของทั้งสองคนที่กุมกันแน่นแล้วเจ็บลึกๆในหัวใจ จะโทษชีวาอย่างเดียวก็ไม่ถูก เขาเองต่างหากที่ไม่ดูตาม้าตาเรือ รักคนที่เขามีเจ้าของ

“ฉันจะทนไม่ไหวแล้วนะ!” เพื่อนสาวหนึ่งเดินตึงๆเข้ามาหา เพื่อนสาวสองตามกันมาติดๆ สีหน้าของทั้งคู่บ่งบอกว่ากรุ่นโกรธมากมาย

“ไวน์ของพวกฉันไม่ดีตรงไหน นายถึงไม่ชอบ!”

“อิ๋ว”

ไวน์พยายามดึงเพื่อนที่พุ่งเข้าไปหาชีวาอย่างน่ากลัว ไม่เคยเห็นเพื่อนเป็นแบบนี้ รู้ว่าเพื่อนทั้งสองคนรักและเป็นห่วงเขามาก แต่ไม่ควรทำร้ายคนอื่น

“ไวน์ไม่เคยชอบใคร ตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมาฉันเพิ่งเห็นเขามีใจให้นายก็คนแรก เวลานายทำดีกับเขา เขามีความสุขแค่ไหนรู้บ้างไหม พวกเราพยายามช่วยเขาทุกอย่างแต่นาย นายกลับซื่อบื้อแบบนี้!!”

เด็กสาวทั้งตีทั้งต่อว่าชีวา ซึ่งอีกฝ่ายก็ได้แต่ยกแขนขึ้นป้องกัน เบี่ยงตัวบังน้องเอาไว้ เมื่อเห็นว่าเพื่อนไม่ยอมหยุดแม้จะยื้อเท่าไหร่ก็ตามไวน์จึงหยุดยื้อยุดแล้วตะคอกเสียงดังอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน

“พอแล้ว! พอได้แล้ว!!”

ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นหยุดชะงัก เพื่อนสาวของไวน์หน้าจืดเจื่อน “ไวน์...”

“เราเข้าใจว่าพวกเธอหวังดี แต่ที่พูดออกมามันถูกแล้วเหรอ?” เด็กหนุ่มพยายามข่มใจ มองปอมปอมที่อยู่ในอ้อมแขนชีวาแล้วกลั้นใจพูดประโยคต่อมา “แฟนเขายืนอยู่ตรงนี้แท้ๆ คิดถึงใจน้องเขาบ้างไหม?”

สองสาวเงียบสนิท บรรยากาศกดดันยิ่งกว่าเดิม พวกเธอก็แค่อยากให้ไวน์สมหวัง อยากเห็นเพื่อนคนนี้มีความสุข มันผิดที่ไปแย่งความสุขของคนอื่นมา แต่ว่าพวกเธอไม่อยากเห็นเพื่อนที่มองความรักสวยงามมากมายอย่างไวน์ต้องเสียใจ รู้ว่ามันเป็นวิธีที่งี่เง่าและเห็นแก่ตัว แต่พวกเธอก็ทำมัน ช่างเป็นการรักเพื่อนที่ผิดทางไปมากมาย

“ถ้ามันจะทำให้ความโกรธของพวกเธอลดลงบ้าง จะตีเราก็ได้” ชีวาเอ่ยบอกกับสองสาว

“อย่าให้ถึงขนาดนั้นเลยชีวา พวกเราต่างหากที่ผิด จะทำแบบนั้นกับชีวาได้ยังไง”

ไวน์ยิ้มเศร้า เขาเพ้อไปเอง ชีวาดีกับทุกคนไม่ใช่แค่เขา แต่คนมีใจ ไม่ว่าเขาทำอะไรให้ ต่อให้มันเล็กน้อยแค่ไหนก็รู้สึกว่ามันสำคัญทั้งนั้น

ปอมปอมมองหน้าคนนั้นที คนนี้ที บรรยากาศอะไรไม่รู้ที่เขาเข้าไม่ถึง มองพี่ไวน์ที่เศร้าซึมลงไปแล้วว่า “ถ้าพี่ไม่กล้า... งั้นปอมทำเอง!”

ผลัวะ!!!

“เฮ้ย!/กรี๊ด!!”

หลายเสียงปนกันมั่วเมื่อเหตุการณ์ที่เกิดมันรวดเร็วจนคาดไม่ถึง เมื่อปอมปอมที่เงียบมาตั้งแต่ต้นเหวี่ยงหมัดใส่ชีวาเสียจนอีกคนหน้าสะบัด ชีวามองน้องอึ้งๆ จับมุมปากตนเองที่ถูกน้องต่อย ปอมปอมถอนใจแรงๆ สีหน้าขึงขังหันขวับมาหาไวน์ ไวน์สะดุ้งเฮือก สาวๆที่เต้นเหย็งๆเมื่อครู่ก็รีบหลบหลังไวน์ เห็นหน้าละอ่อน ตัวเล็กๆไม่นึกว่าจะรุนแรงแบบนี้

ปอมปอมบิดข้อมือจากการเกาะกุมของชีวา ก้าวเข้าไปหาไวน์แล้วคว้ามืออีกฝ่ายมาจับ ไวน์กะพริบตาปริบ

“ปอมไม่โทษพี่หรอก คนผิดคือคนของปอมที่ไม่ยอมพูดอะไรให้มันชัดเจนแต่แรก ปอมอยู่ข้างพี่”

ไวน์ที่กำลังนิ่งอึ้งมองหน้าเด็กรุ่นน้องแล้วค่อยเปิดยิ้มขำ หัวเราะน้อยๆ ก่อนเสียงหัวเราะนั้นจะเงียบลงเปลี่ยนเป็นร้องไห้ไม่มีเสียงแทน ปอมปอมหน้าจ๋อย แขนเรียวโอบกอดพี่เขา คนถูกกอดนิ่งอึ้ง ตัวสั่นสะท้านเมื่อร้องไห้หนักยิ่งกว่าเดิม ปอมปอมยืนกอดไวน์ที่ร้องไห้นิ่ง เขาไม่รู้จะทำอย่างไร ไม่รู้ว่าที่ทำอยู่มันดีหรือเปล่า แต่ไม่อาจนิ่งเฉยมองดูพี่เขาเสียใจได้

เวลาผ่านไปสักพักไวน์ก็พอจะควบคุมตัวเองได้ ปอมปอมคลายอ้อมกอดก่อนก้าวถอยออกมาเล็กน้อย ไวน์หมุนกายกลับไม่พูดอะไร เพื่อนสาวทั้งสองที่ร่วมร้องไห้ไปกับเขาเข้ามาหา กอดแขนเขาคนละข้างแล้วเดินไปด้วยกัน



บนทางเท้า ชีวาจับมือน้องเดินไปที่รถ เขาอยากขอโทษแต่คำนี้มันออกจากปากเขาบ่อยจนเขาเองยังรู้สึกแย่ ทั้งสองขึ้นรถ คาดเข็มขัดนิรภัยแล้วปอมปอมก็นั่งเหม่อ ชีวาหันมามองน้อง รู้สึกหม่นมัวไปหมด เด็กหนุ่มสตาร์ทแล้วออกรถ น้องยังคงนั่งเงียบอยู่เหมือนเดิม

ปล่อยเวลาให้ผ่านไปเรื่อยๆก็ดูเหมือนกะปอมน้อยจะกลับมาอยู่กับปัจจุบันเสียที หนุ่มน้อยค่อยหันมามองคนข้างกาย เห็นมุมปากพี่แตกแล้วหัวคิ้วก็ขมวดปม นี่เขาชกแรงขนาดนั้นเลยหรือ? มือเรียวเอื้อมไปแตะมุมปากพี่ ชีวาสะดุ้งเล็กน้อย เหลือบมามองน้องแล้วหันไปมองถนนต่อ

“เจ็บมากไหมป๋า?” น้ำเสียงห่วงใยและสีหน้ารู้สึกผิดทำให้ชีวายิ้มบาง

“เหมือนมดกัด”

เด็กหนุ่มตอบน้องไปเช่นนั้น เห็นน้องเงียบเลยจะหันไปมองแต่น้องก็ชะโงกมาหา จุ๊บมุมปากที่เป็นแผลเพราะฝีมือตัวเองเบาๆ ชีวาชะงัก ค่อยเปิดยิ้มออกมา ไม่มีคำพูดอื่นใดต่อจากนั้น แค่นี้ก็รู้สึกได้ถึงความในใจที่มี




บ่ายวันต่อมา มหาวิทยาลัยของอาร์ดิว หนุ่มตี๋วิ่งหน้าตั้งมาหามิมิวกับพี่ธารที่นัดกันว่าจะไปหาอะไรทานแถวนี้ก่อนกลับบ้าน นานๆจะมีเวลารวมตัวกันสักที ชีวากับการ์ฟก็ไปรอที่ร้านก่อนแล้ว เหลือแต่อาร์ดิวที่ยังไม่หมดชั่วโมงเรียน

รุ่นพี่ของอาร์ดิววิ่งตามมา เอาของที่ลืมมาให้ หนุ่มตี๋เอ่ยขอบคุณพี่เขาก่อนจะขึ้นรถของพี่ธาร มิมิวที่ขึ้นไปนั่งหน้าคู่คนขับเหลือบมองเพื่อนแล้วว่าลอยๆ

“เสน่ห์แรงอ่ะ”

“หือ?” อาร์ดิวเลิกคิ้วสูงเชิงถาม

“เปล๊า”

“อะไร บอกมาซะดีๆ” เอ่ยถามกลั้วหัวเราะ เสียงสูงขนาดนั้นมันน่าเชื่อไหมมิมิว

“คนเมื่อกี้อ่ะ...” เด็กสาวหนึ่งเดียวในรถเอ่ยขึ้นแล้วหยุด ทำหน้าตารมีเลศนัย

“ทำไม?” อาร์ดิวหรี่ตามองเพื่อน ทำเป็นมีลับลมคมในอะไรกัน

“ฮื่อ อาร์ดิวคนซื่อบื้อ” นิ้วเรียวเอื้อมข้ามเบาะมาจิ้มจมูกเพื่อน

อาร์ดิวโยกตัวหนีแล้วถามกลับยิ้มๆ “อะไรล่ะ?”

“เขาแอบชอบน้องน่ะ” พี่ธารเอ่ยบอก อาร์ดิวตาโตทั้งร้องอุทาน

“หา?”

“เห็นมะ พี่ธารยังดูออกเลย”

มิมิวว่า มองเพื่อนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวกับใครเขาแล้วส่ายหน้า อาร์ดิวยิ้มแหย เขาจะไปรู้ได้อย่างไรว่าใครคิดอะไรกับใคร ก็เขาไม่ได้มองใครเลยนี่นา...

ก๊อกๆ

เสียงเคาะกระจกด้านที่ตี๋น้อยนั่งดังขึ้น ทำให้เพิ่งรู้ตัวว่ามาถึงร้านอาหารที่นัดกันไว้แล้ว อาตี๋ลดกระจกลง การ์ฟโน้มตัวลงมาอยู่ระดับสายตาของเขาพอดี

‘ไม่ได้มองใครเลยจริงๆ…’

“อะไรตี๋ ตาลอยเชียว”

“อะ... เอ่อ...” ตี๋น้อยอึกอัก มัวแต่คิดอะไรเรื่อยเปื่อย น่าอายจัง

“ลงมาได้แล้ว” การ์ฟเอ่ยเร่ง เมื่อพี่ธารปลดล็อคประตูเขาก็เปิดให้ตี๋น้อยรีบลงมา มัวแต่นั่งตาลอยคิดถึงใครก็ไม่รู้

ทั้งสี่คนเข้าไปในร้านอาหารที่ชีวานั่งจองโต๊ะรออยู่ สั่งอาหารมาทานกัน สองหนุ่มเพื่อนสนิทเขาก็ดูแลกันไปตามประสาเพื่อนสนิท มิมิวมองเพื่อนของตนเองกับการ์ฟด้วยความหน่วงที่ตัดออกจากใจไม่พ้น พี่ธารที่นั่งข้างกันเลื่อนมือมากุมมือเรียวใต้โต๊ะ มืออีกข้างก็ยังคงคีบอาหารใส่ปาก มิมิวหันมามองแล้วยิ้มบาง ค่อยตักอาหารตรงหน้าทานต่อด้วยความรู้สึกที่ดีขึ้นมากกว่าเดิม




“ดิวๆๆ”

เสียงกะปอมน้องวิ่งตึงตังมาที่ห้องพี่ชาย เปิดประตูห้องนอนเข้ามาแล้วโดดผลุงขึ้นไปนั่งบนเตียง อาร์ดิวที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จยืนเช็ดผมมองน้องเชิงถาม

“ตาต้าออนยังอ่า~” น้ำเสียงตื่นเต้นเอ่ยถามพี่ชาย

“พี่ยังไม่ได้เปิดคอมเลย”

“ง่า เดี๋ยวปอมเปิดเอง” รีบอาสาแล้วกุลีกุจอไปยกโน้ตบุ๊กของพี่ชายมาวางบนเตียงแล้วเปิดเครื่อง

“คอมตัวเองก็มี ทำไมมาใช้ของพี่?” อาร์ดิวเอาผ้าที่ใช้เช็ดผมไปผึ่งไว้นอกห้อง ก่อนเดินมานั่งที่เตียงกับน้องที่จัดการเปิดคอมต่ออินเตอร์เน็ตแล้วเรียบร้อย

“ก็คุยกันสามคนสนุกกว่านี่นา”

ให้เหตุผลไปแบบนั้นแล้วยิ้มตาปิด กวักมือเรียกพี่ให้ขยับมาที่หน้าจอเมื่อเปิดโปรแกรมเห็นหน้าแล้วคุยกับตาต้าที่ไปเรียนต่างจังหวัด หนุ่มน้อยคุยเรื่องไปเที่ยวที่บ้านคุณตาคุณยายเมื่อปิดภาคเรียนที่ผ่านมา ได้ไปโรงงานเจียระไนเสียด้วย เห็นหินหลากหลายชนิดที่ก่อนจะกลายมาเป็นอัญมณีแสนสวยแล้วตื่นตาตื่นใจบอกไม่ถูก แถมมีหิ่งห้อยให้ดูตอนกลางคืนด้วย

ตาต้าบ่นมาว่าอิจฉา น้องเล็กของกลุ่มเลยว่าจะส่งของฝากไปให้แต่ต้องแลกกับสตรอเบอร์รี่ลูกใหญ่ๆหวานฉ่ำ ตาต้าหัวเราะแล้วว่าไม่มีปัญหา จะคัดแต่ลูกที่หวานที่สุดมาให้เลย สามหนุ่มคุยกันอีกสักพักถึงเลิกไป

ปอมปอมน้อยเอาโน้ตบุ๊กไปเก็บ ก่อนมาทิ้งตัวลงนอนบนเตียงของพี่ชาย อาร์ดิวนั่งเท้าแขนเอนตัวไปด้านหลัง มองน้องที่มีท่าทีครุ่นคิดแล้วจึงนอนลงข้างๆ ท่าทางคงมีเรื่องอยากคุยกับเขา

“ดิว”

“ครับ”

“วันนี้ปอมต่อยหน้าป๋าด้วยล่ะ”

“หา ไหงงั้นล่ะ?”

หันมามองหน้าน้องอย่างตกใจ ปอมปอมถอนใจ ก่อนเล่าเรื่องราวที่ตนเองรับรู้มาให้พี่ฟัง

“ปอมสงสารพี่ไวน์ ถ้าปอมเป็นเขา ปอมคงเสียใจมาก” หนุ่มน้อยเอ่ยปิดท้าย

“บางทีเขาอาจไม่อยากได้ความสงสารจากเราก็ได้นะ”

“ปอมก็คิดแบบนั้น แต่ปอมทำอะไรไม่ถูก ปอมเห็นตัวเองกำลังยืนร้องไห้ ถ้าเป็นปอม ปอมอยากให้ใครสักคนกอดปอมไว้ ถึงปอมจะร้องไห้หนักกว่าเดิม แต่มันก็ดีกว่าต้องร้องอย่างโดดเดี่ยวคนเดียวตั้งเยอะ” น้องว่าแล้วถอนใจอีกเฮือก

“แล้วเรื่องชกชีวาล่ะ? โมโหแทนเขาเหรอ?”

“อื้อ... ป๋าท่าจะเจ็บมาก ปอมแค่ฟิวส์ขาดนิดหน่อย” หนุ่มน้อยทำยักไหล่ พี่ชายเลยแซวเข้าให้

“โห แค่นิดหน่อยนะนี่”

“ช่าย เพราะถ้ามากกว่านี้ป๋าอาจน่วมไปทั้งตัว”

“ชีวาน่วม หรือเราน่วม?”

“ป๋าสิน่วม ดิวคิดว่าป๋ากล้าทำปอมเหรอ?” ยักคิ้วแผล็บ

“มันก็ไม่แน่”

“จริงอ่ะ ป๋าจะเอาคืนเหรอ?” ลุกขึ้นมามองพี่ชายตาโต นี่ป๋าชีวาจะเอาคืนเขาหรือ?

“คงงั้น” อาร์ดิวแสร้งว่า มองน้องที่ทำหน้าเบ้แล้วขำ

“งื้อออ”

หนุ่มน้อยลากเสียงเหมือนจะร้องไห้แล้ววิ่งตื๋อออกจากห้องพี่ชายไป อาร์ดิวผุดลุกขึ้นนั่ง มองตามหลังน้องแล้วส่ายหน้ายิ้มๆ จะไปจะมาตามอารมณ์กันไม่ทันเลยทีเดียว

“ป๋า~~~~” ออกจากห้องพี่ชายมาแล้วกะปอมน้อยก็เข้าห้องตัวเอง แล้วมาโผล่ที่ระเบียงห้องร้องเรียกพี่ชายข้างบ้านเสียงดัง

“อะไรตัวแสบ เสียงดัง” ชีวาเปิดประตูระเบียง เดินงงๆออกจากห้องมา

“ป๋าๆๆ มานี่ มาตรงนี้”

มือเรียวกวักไหวๆให้พี่เดินมาหา ชีวาเดินไปหาตามที่ขอ มองน้องด้วยความขำ เป็นอะไรอีกล่ะ

“มีอะไรครับคุณกะปอมน้อย?” เมื่อมาหยุดอยู่ใกล้ชิดริมขอบระเบียงชีวาก็เอ่ยถามล้อเลียน

“ป๋า ที่ปอมชกป๋าอ่ะ ป๋าจะเอาคืนจริงเหรอ?”

“หา?” ชีวาทำหน้าเป็นหมางง พูดตอนไหนหว่า?

“ก็... ก็ดิวบอกว่าป๋าจะเอาคืนอ่ะ” บิดเบือนคำพูดพี่ชายซะงั้น

“อ้า... อาร์ดิวนี่รู้ดีชะมัด” เด็กหนุ่มแสร้งรับมุก ยกยิ้มมุมปากเมื่อน้องหน้าซีด

“ฮืออ ป๋าจะเอาคืนจริงเหรอ งั้นปอมไม่อยู่แล้ว แงงง”

ตัวผอมๆจะผละหนี ชีวาดึงจับแขนไว้ทั้งสองข้างทำให้หนีไปไหนไม่ได้ เด็กหนุ่มยื่นหน้าเข้าไปใกล้ กะปอมน้อยก็เอนหนีสุดชีวิต

“กล้าชกหน้าพี่นะตัวแสบ” คนเป็นพี่ทำเสียงลอดไรฟัน

“ฮืออ”

“มาให้เอาคืนซะดีๆ!”

“ฮืออออออออ อึ่ก….!”

จุ๊บ!

ปอมปอมน้อยวะดุ้งเมื่อสิ่งที่ประทับลงมาที่มุมปากไม่ใช่หมัดหนักๆ แต่เป็นริมฝีปากของพี่ ตาเรียวเบิกโตเมื่อพี่ค่อยเลาะเล็มกดย้ำ ก่อนจะผละถอยออกไป แล้วเขี่ยจมูกเขาเล่นเบาๆ

“ถ้าต่อยพี่หนึ่งที พี่จะจับจูบหนึ่งครั้ง แลกกัน” มุมปากคนเป็นพี่ยกยิ้มเจ้าเล่ห์แฝงเอ็นดู กะปอมน้อยเม้มปากหน้าแดง

“ป๋าบ้า!”

ต่อว่าพี่ด้วยความเขินแล้วเดินหนีเข้าห้อง ก่อนจะปิดประตูบานเลื่อนยังหันกลับมามองให้ตัวเองเขินซ้ำอีกถึงได้หลบสายตาแล้วปิดประตู

“หึๆ”

ชีวาหัวเราะในลำคอ มองตามน้องแล้วยิ้ม เดินผิวปากอารมณ์ดีเข้าห้องตนเองไปเช่นกัน เฮ้อ~ ได้กำไรก่อนนอนแฮะวันนี้





หลายวันต่อมา

อาร์ดิวกลับจากร้านเมจิคกะหลังจากไปช่วยคุณพ่อคุณแม่ทำงานหลังเลิกเรียน เมื่อเข้าบ้านมาเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ก็ดังขึ้น หนุ่มตี๋เอาข้าวของไปวางที่โต๊ะใกล้ๆแล้วจึงกดรับสาย

“อืม อยู่บ้านแล้ว... จะไปไหนอ่ะ?”

“.........”

“ไม่ไป” หัวคิ้วเริ่มขมวดเมื่อคุยกันไม่รู้เรื่อง

“........”

“การ์ฟ...”

อาร์ดิวชะงักค้างเมื่ออีกคนพูดๆๆแล้วก็วางสายไป กลอกตามองสูงสีหน้าหน่ายใจ เชื่อเขาเลย อะไรกันนี่!


++++++++++++

ต่อด้านล่างค่ะ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ >>magic (22)+Last Magic<< 08/08/2556 หน้า 18 ค่ะ ขอบคุณทุกคน :)
เริ่มหัวข้อโดย: wanmai ที่ 08-08-2013 13:36:42


ณ บ้านการ์ฟ อาร์ดิวให้ชีวาขับรถมาส่งตนเอง เพราะคนเอาแต่ใจบอกให้มา เขาเองก็ไม่รู้ว่าจะมาทำไม แค่อยากตัดปัญหา ไม่อยากทะเลาะกันด้วยเรื่องไร้สาระ ตาบ้านั่นจะเข้าใจบ้างไหม

เมื่อเดินเข้ามาในบริเวณบ้านที่เขากำลังจัดงานเลี้ยงฉลองอะไรสักอย่างคนก็หันมามองอาร์ดิวกับชีวา การ์ฟตรงมาหาแล้วพาไปแนะนำกับเพื่อนของตนเอง อาร์ดิวยิ้มแหยเมื่อไม่คุ้นกับใครเลย มีนิคกับเพื่อนการ์ฟสมัยมัธยมปลายอีกคนเท่านั้นที่พอจะรู้จัก

“ให้ผมมาทำไม ผมไม่คุ้นกับใครเลย” อาร์ดิวลากตัวการออกมากระซิบกระซาบเชิงต่อว่า

“รู้จักฉันแค่คนเดียวพอ”

หนุ่มการ์ฟยักคิ้วกวน อาร์ดิวหน้ามุ่ย มันไม่ขำเลยนะ การ์ฟนัดเลี้ยงกันตามประสาเพื่อนเก่า จะด้วยโอกาสอะไรก็ตามแต่เขาไม่อยากรู้ แต่การที่ให้เขามาในที่ที่เขาไม่รู้จักใครเลยนอกจากเจ้าของบ้านอย่างการ์ฟกับเพื่อนการ์ฟอีกสองคนนี่เขาบอกตรงๆว่าอึดอัด

อาร์ดิวเลี่ยงไปเข้าห้องน้ำ มองตัวเองในกระจกแล้วถอนใจเฮือก “กลับบ้านดีกว่า”

พอออกมาข้างนอกอาร์ดิวก็ชะงัก เมื่อเพื่อนคนหนึ่งของการ์ฟมาดักหน้า ตี๋น้อยจะเดินเลี่ยงไปแต่อีกฝ่ายกลับคว้าแขนไว้ ด้วยความตกใจอาร์ดิวรีบสะบัดออก มองเพื่อนการ์ฟหน้าตื่น รอยยิ้มหยันจากเพื่อนการ์ฟทำให้อาร์ดิวก้าวถอยหลังกลัวๆ ชนเข้ากับการ์ฟที่ตามมาพอดี

“มีอะไรวะ?” การ์ฟเอ่ยถามเพื่อน มองอย่างระแวง

“เปล่า กูมาเข้าห้องน้ำ”

เพื่อนบอกปฏิเสธ มองอาร์ดิวแล้วยกยิ้มมุมปากก่อนเข้าห้องน้ำไปตามที่บอกการ์ฟเมื่อครู่ คิ้วการ์ฟขมวด หันมามองอาร์ดิวแล้วเอ่ยถามเสียงตื่น

“เป็นอะไรตี๋ ทำไมหน้าซีด?”

อาร์ดิวกลืนน้ำลายหวาดหวั่น ยังไม่ตอบคำถามของการ์ฟในทันที

“มันทำอะไร?”

“..........” ใบหน้าเรียวส่ายดิก

“แน่ใจเหรอ?” การ์ฟยังซักไซ้ อาร์ดิวหลุบสายตาลงต่ำ ก่อนบอกอุบอิบ

“แค่ทำท่าคุกคาม”

การ์ฟถอนใจเบา เอื้อมมือแตะแก้มเนียน อาร์ดิวค่อยเงยขึ้นมามองสบตา

“ขอโทษที่ฉันเอาแต่ใจ ทำให้นายมาเจอเรื่องแย่ๆ”

ตี๋น้อยส่ายหน้าเบาๆแล้วยิ้มให้อย่างไม่ถือโกรธ การ์ฟค่อยโน้มลงใกล้ กดจูบหน้าผากนูนก่อนบอกเสียงนุ่ม

“กลับบ้านกัน”

“อื้อ”

มือเรียวถูกกุม ก่อนจะพากันเดินออกไปข้างนอก เพื่อนๆกำลังเฮฮากันได้ที่ไม่มีใครหันมาสนใจ อาร์ดิวกวักมือเรียกชีวาแล้วชี้ไปด้านนอกให้รีบตามมา

“การ์ฟ”

“หืม?”

“ถามจริงๆนะ ให้ผมมาทำไม?”

“อืม หลักๆคง... อยากเจอ”

“แค่นี้? เมื่อบ่ายก็เจอกันตอนคุณมารับหน้าคณะ”

“ก็ใช่”

“ตกลงอะไรกันแน่?”

ตี๋น้อยคาดคั้น การ์ฟหลบตา อึกอักเล็กน้อยก่อนบอกเสียงเบา “อยากเปิดตัวมั้ง”

“เปิดตัว?”

“ว่าฉันมีนายอยู่แล้ว...”

“เดี๋ยว คงไม่ใช่ว่าที่พาไปแนะนำกับเพื่อนเมื่อกี้คือ...”

ตัวต้นเหตุกุมท้ายทอยเขินๆแล้วว่า “บอกว่านายเป็น... แฟน”

“หา บ้าไปแล้วการ์ฟ!”

“ทำไมเล่า” น้ำเสียงเริ่มขัดใจที่ตี๋น้อยทำท่าตกใจขนาดนั้น

“เราไปเป็นแฟนกันตอนไหน?”

“ไม่เป็นก็เหมือนเป็นแหละว้า” บ่นพึมพำไปตามเรื่อง

“อะไรนะ?”

“เปล่า ฉันถามว่าเมื่อไหร่จะเป็นสักทีล่ะ?”

“......” เจอคำถามนี้เข้าไปตี๋น้อยถึงกับเงียบ กลายเป็นฝ่ายถูกไล่ต้อนเสียแล้วสิ

“อาร์ดิว กลัวอะไรอยู่ ทำไมไม่ก้าวข้ามมันมาสักที?”

เหมือนยิ่งถาม อีกคนยิ่งเงียบ อาร์ดิวช้อนสายตามอง ‘เพื่อนสนิท’ แล้วหลุบต่ำอย่างเคย

“...เป็นเพื่อนกันไม่ได้เหรอ?”

“นายใช้คำจำกัดความแบบนั้น แต่สิ่งที่เป็นอยู่มันมากกว่าเพื่อนแล้วไม่รู้หรือตี๋?”

“การ์ฟอ่ะ”

“อะไร?” อมยิ้มถามทั้งที่รู้ดี มือใหญ่เอื้อมหยิกแก้มเบาๆ ตี๋น้อยลูบแก้มตัวเองทั้งค้อนตาคว่ำกับรอยยิ้มของการ์ฟ

“อะแฮ่ม!”

น้ำเสียงกระแอมกระไอขัดจังหวะจากคนที่ถูกตัดออกจากบรรยากาศหวานแหววทำให้อาร์ดิวสะดุ้งเบาๆ หันมามองชีวาที่ยืนกอดอกมองมาแล้วหน้าเจื่อน

“ชีวา”

สายตาล้อเลียนของเพื่อนทำให้สีหน้าจืดเจื่อนของตี๋น้อยเปลี่ยนเป็นขวยเขิน ยิ่งหันมามองการ์ฟยิ่งเขินไปกันใหญ่ การ์ฟหัวเราะน้อยๆ ก่อนฝากให้ชีวาพาอาตี๋กลับ




เช้าวันหยุด ณ ห้างสรรพสินค้า ตี๋น้อยรับอาสานำอาหารตามสั่งมาส่งให้น้าสาวคนสวยถึงที่ทำงาน หลังจากที่คุณพ่อคุณแม่ของตนเองกลับจากไปทัวร์รอบโลกน้าจันทราก็ได้มาเปิดร้านเกี่ยวกับอุปกรณ์ด้านงานฝีมือในห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ ด้วยเหตุผลที่ว่าอยากหาอะไรทำไปเรื่อยเปื่อยเวลารอไปรับลูกที่โรงเรียน มันช่างเป็นเหตุเป็นผลที่ดียิ่ง

“เมจิคกะ คาเฟ่ เดลิเวอร์รี่มาถึงแล้วครับ~” อาร์ดิวส่งเสียงมาเมื่อมาหยุดตรงหน้าเคาน์เตอร์

“แหม สั่งปุ๊บได้ปั๊บเลยเชียว” คุณน้าหยอกเอิน รับปิ่นโตสีสวยจากหลานชายมา

“ไว้ใช้บริการอีกนะครับ”

“จ้า เดี๋ยวจะเรียกใช้บ่อยๆเลย” คุณน้ารับมุกยิ้มๆ ก่อนเอ่ยถามเมื่อนึกขึ้นได้ “แล้วนี่มายังไงล่ะเรา?”

“เอ่อ... เพื่อนมาส่งครับ”

“แล้วไหนล่ะเพื่อนที่ว่า?”

ตี๋น้อยหันไปทางหน้าร้าน ก่อนกวักมือเรียกเพื่อนให้เข้ามาด้านใน เพื่อนคนที่ว่าไหว้คุณน้าของตี๋น้อย ท่านเห็นหน้าแล้วร้องอ๋อทีเดียว

“ลูกชายพี่มนนี่ ใช่ไหม?” คุณน้าทักถาม ซึ่งอีกฝ่ายก็ตอบรับว่าใช่

“แหม ดีแล้วล่ะ คนกันเองทั้งนั้น”

“ครับ?” ตี๋น้อยทำเสียงเชิงถาม คนกันเองที่คุณน้าว่าหมายถึงอะไร

“เรือล่มในหนอง ทองมันจะไปไหน ใช่ไหม?” ว่าแล้วคุณน้าก็หัวเราะ ตี๋น้อยหันไปมองหน้า ‘เพื่อน’ เกาแก้มเบาๆแล้วยิ้มแหย



“คุณน้าของนายก็มีพลังพิเศษเหมือนกันเหรอ?” ‘เพื่อน’ เอ่ยถามอาร์ดิวเมื่อออกจากร้านคุณน้าจันทรามาด้วยกัน

“จะไปมีได้ไง คิดว่าบ้านผมเป็นกันทุกคนหรือไงการ์ฟ?”

“ใครจะไปรู้ นายยังมีเลยนี่ คุณป้ารวิก็มี พี่เมฆก็ด้วย”

พอการ์ฟพูดมาเช่นนั้นตี๋น้อยก็เริ่มคิดตาม แต่น้าจันทราไม่น่าจะมีนะ ทำไมการ์ฟถึงถามขึ้นมากันล่ะ

“ทำไมคุณคิดว่าน้าจันทรามีพลังพิเศษ?”

“ก็คุณน้าบอกว่าเรือล่มในหนอง ทองจะไปไหน แสดงว่าท่านต้องรู้แน่ว่าฉันกับนาย...”

“บ้า การ์ฟ คิดอะไรเนี่ย” ตี๋น้อยเอ่ยแทรก

“ทำไมล่ะ นายไม่อยากเป็นทองแผ่นเดียวกับฉันเหรอ?” การ์ฟถาม แววตาฉายความสนุก สนุกที่ได้แกล้งเขาน่ะสิ การ์ฟบ้า

“จะว่าไปถ้าพูดถึงความพิเศษล่ะก็นะ มันมีอะไรมากกว่าที่คุณเห็นเยอะเลย” ตี๋น้อยเปลี่ยนเรื่องเฉย การ์ฟอมยิ้มขำ ยอมตามน้ำไป

“ยังมีมากกว่านั้นอีกเหรอ แค่นายนิมิตเห็นนั่นนี่ฉันก็ว่ามากแล้วนะ”

“ฮื้อ ก็อย่างวันแรกที่เราเจอกันไง”

“วันแรก ทำไมอ่ะ?” เอ่ยถามเพราะไม่รู้จริงๆ ที่จริงก็กำลังนึก วันแรกมันเกิดอะไรขึ้นหว่า? นานจนจำไม่ได้แล้ว

“ที่กระถางต้นไม้เกือบหล่นลงมาใส่หัวคุณน่ะ นั่น... ฝีมือผม” ท้ายประโยคบอกเสียงเบา พอพูดแบบนั้นแล้วการ์ฟเลยนึกขึ้นมาได้ ฝีมือตี๋น้อยนี่เองเหรอ

“ก็คุณมาดูถูกผมก่อน” แก้ตัวเสียงค่อย

“ไม่ได้ว่าอะไร” การ์ฟว่า ในใจอยากจะหัวเราะอาตี๋หน้าซีด เอ หรือควรกอดปลอบดี?

“ฉันยังสงสัย ทำไมตอนนั้นคนในร้านไม่แตกตื่นอะไรเลย เหมือนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดเหตุอึกทึกข้างนอก”

“ที่ทำแบบนั้นได้เพราะนาฬิกาในร้านก็มีส่วนพิเศษ” อาตี๋ว่า

“ทำไม มันหยุดเวลาได้?”

คำถามที่มั่วถามไปอย่างนั้นกลับได้รับพยักหน้าตอบกลับมา สีหน้าการ์ฟดูอึ้งไป

“จริง?”

“จริง” พยักหน้าหงึกแล้วยิ้มยืนยันสิ่งที่พูด

“ไม่อยากเชื่อ”

“ไม่เชื่อก็ไม่เป็นไร” ตี๋น้อยบอกอย่างเข้าใจ เรื่องที่พูดมามันเหมือนมานั่งเล่านิทานให้การ์ฟฟังมากกว่า

“เชื่อแล้ว ตอนนี้นายพูดอะไรฉันเชื่อทั้งนั้นแหละ”

“แอะ” อาร์ดิวทำหน้าปุเลี่ยน

“อะไร?” เอ่ยถามตี๋น้อยกลั้วหัวเราะ

“เลี่ยน”

ตี๋น้อยย่นจมูกใส่ แล้วออกเดินนำหน้าไป การ์ฟอมยิ้ม ก้าวไปเดินข้างกันแล้วเอ่ยถามต่อ

“คิดไหมว่าฉันจะเป็นคนแบบนี้?”

“สาบานเลยว่าไม่เคยคิด”

“แล้วคิดว่าฉันเป็นแบบไหน?”

“หยิ่งเหมือนหน้าคุณ”

“หน้าฉันนี่นะหยิ่ง?” ทำเสียงราวไม่เชื่อ ตี๋น้อยเลยพยักหน้ายืนยัน “แล้วพอได้รู้จักแล้วเป็นไง?”

ทำท่านึกเล็กน้อยก่อนว่า “ก็... ตรงข้ามหมดเลย”

“ชอบปะ?”

“ทำไมมันวนมาที่นี่ได้ล่ะ?”

“แล้วตกลงชอบไหมแบบนี้?” การ์ฟยังไม่เลิกถาม บอกสักหน่อยก็ดีน่า

“ไม่ชอบจะมาด้วยหรือไงล่ะ…”

เสียงอุบอิบแสนเบาแต่การ์ฟยังจับใจความได้ หน้าบานจนปิดความในใจไม่มิด “นายน่ารัก”

“ชมผมด้วย มาแปลกอ่ะ” ตี๋น้อยผวากับคำชม

“หึ นี่พวกนายคบกันอยู่จริงเหรอเนี่ย?”

เสียงที่ดังขึ้นอีกทางทำให้สองหนุ่มหันไปมอง เพื่อนของการ์ฟที่มีปัญหากับอาร์ดิวเมื่อคืนที่ไปบ้านการ์ฟคนนั้นมองมาที่ทั้งคู่เหยียดๆ การ์ฟมองกลับนิ่งๆก่อนพาอาร์ดิวเดินหนี ไม่อยากมีเรื่องกันในห้างฯ ทั้งที่อยากกระทืบมันเสียตรงนี้ หน้าตากวนอวัยวะเบื้องล่างเหลือเกินไอ้...

ถึงอย่างนั้นก็ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ยอมหยุด เพราะยังเดินตามมาตอแย การ์ฟนับหนึ่งถึงสิบถึงร้อยในใจจนทนไม่ไหว หันกลับมากระชากคอเสื้อเพื่อนคนดังกล่าวแล้วตะคอกใส่พร้อมเงื้อหมัด

“มึงจะเอายังไงห๊ะ!!?”

“การ์ฟ!”

อาร์ดิวผวาดึงแขนการ์ฟไว้ การ์ฟมองหน้ากวนๆของเพื่อนด้วยความเดือดดาล จะไม่อะไรเลยถ้ามันไม่มองอาร์ดิวด้วยสายตาเหยียดหยามแบบนั้น มีปัญหาอะไรกับพวกเขานักหนา วันนั้นเขาไม่น่าพาอาร์ดิวไปให้มันรู้จักเลย

การ์ฟเหลือบมองตี๋น้อยแล้วยอมนิ่ง ปล่อยคอเพื่อนที่ยังมองเหยียด แถมยังมองอาร์ดิวอย่างมีเลศนัยจนการ์ฟแทบอดไม่ไหวจะต่อยมันให้คว่ำ

มือเรียวจับแขนเขาแล้วรั้งให้ออกเดิน เพื่อนการ์ฟยังมองตาม เหยียดยิ้มมุมปาก มองอาร์ดิวตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาหยาบโลน จนอาร์ดิวที่เดินห่างออกไปยังรู้สึกอึดอัด

“เป็นอะไร?” การ์ฟเอ่ยถามคนข้างกายเมื่อเห็นถึงความผิดปรกติ

“ผม... ผมก็ไม่รู้ แต่มัน... มันรู้สึกกลัวๆ... อะไรไม่รู้อ่ะ” พูดเองก็สับสนตัวเอง เป็นอะไรไม่รู้

“กลัวอะไร?”

“เขา...”

“เขา? หมอนั่น?”

อาร์ดิวพยักหน้าแล้วว่า “เขาอันตราย”

“นายไม่ต้องกลัว ฉันจะไม่ปล่อยให้ใครหรืออะไรมาทำร้ายนายได้ทั้งนั้น เพราะฉันคือครึ่งชีวิตของนาย และนายก็เป็นอีกครึ่งชีวิตของฉัน”

“.........”

“อย่ามองฉันแบบนั้น”

“?”

“เพื่อสนิทอย่างฉันจะอดใจไม่ไหวเอา”

“........”

ตี๋น้อยตีสีหน้าไม่ถูก ไม่รู้ว่าเมื่อครู่ตัวเองมองการ์ฟด้วยสายตาแบบไหน การ์ฟนี่ก็ช่างสรรหาคำพูดมาให้เขาอายได้ตลอด ดวงตาเรียวเสมองทางอื่น ไม่มองสบสายตาแพรวพราวของอีกคน เดินข้างกันไปเงียบๆ ปล่อยให้ความรู้สึกมากมายก่อเกิดขึ้นมาในหัวใจ




เรื่องการรับส่งตี๋น้อยไปกลับระหว่างบ้านกับมหาวิทยาลัยยังคงเป็นไปอย่างสม่ำเสมอสำหรับการ์ฟ ถึงตี๋น้อยจะวางฐานะของเขาเอาไว้ที่เพื่อนสนิทก็เถอะ แต่ก็รู้กันว่าไอ้เพื่อนสนิทที่ว่าขอบเขตมันมีมากกว่าคนอื่นเขาแค่ไหน ความคุ้นชินระหว่างสองครอบครัวเมื่อวันเวลาผ่านไปก็ดูไร้ปัญหา เพราะไม่มีใครคัดค้านอะไรหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะเข้านอกออกในบ้านของอีกฝ่าย เพราะการ์ฟเองก็ไปรับไปส่งอาร์ดิวทั้งที่บ้านและที่ร้านเกือบทุกวัน จนเข้ากับครอบครัวอาตี๋ได้เป็นอย่างดี

“เข้าไปในร้านก่อนไหม เมื่อวานแม่บอกมีเรื่องคุยด้วยน่ะครับ” ตี๋น้อยเอ่ยชวนเมื่อเพื่อนสนิทตามมาส่งที่ร้าน

“คุย?” การ์ฟเลิกคิ้ว

“อื้อ” ตี๋น้อยตอบรับ

การ์ฟพยักหน้า ก่อนเดินตามอาร์ดิวเข้าไปหาคุณแม่รวิที่ด้านใน

“กลับบ้านบ้างหรือเปล่าการ์ฟ?”

เมื่อเข้ามาคุยกับคุณแม่รวิ การ์ฟก็ออกจะประหม่า กังวลว่าตนเองจะทำอะไรไม่ถูกใจท่านหรือเปล่า แต่คำถามแสนธรรมดาที่ท่านถามก็พอทำให้การ์ฟหายใจโล่งขึ้นมาหน่อย

“ปิดเทอมนี้ก็ว่าจะกลับอยู่เหมือนกันครับ”

“ดีแล้วล่ะจ้ะ เออ เดี๋ยวป้าว่าจะฝากของไปให้ที่บ้านเราด้วยนะ”

“เกรงใจคุณป้าเปล่าๆครับ”

“เกรงใจอะไรกัน คนกันเองทั้งนั้น”

“ขอบคุณครับ”

เมื่อท่านว่ามาอย่างนั้นการ์ฟก็ไม่ได้ขัด แม้ออกจะเกรงใจอยู่ไม่น้อย คุณแม่รวิไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบของครอบครัวเขา พูดคุยกันพักหนึ่งการ์ฟถึงได้ออกมาข้างนอก อาร์ดิวหันมายิ้มให้เมื่อเขาเดินผ่านเคาน์เตอร์ที่เจ้าตัวทำงานอยู่

“กลับแล้วนะ” รายงานตัวสักหน่อยก่อนกลับ ตี๋น้อยอมยิ้มแล้วพยักหน้ารับ

“ถึงบ้านแล้วจะโทรมาหา”

“ครับ” ตี๋น้อยตอบรับยิ้มๆ

“ไปนะ”

เหมือนอีกคนยังอ้อยอิ่งไม่อยากกลับ อาร์ดิวยิ้มขำ มองส่งการ์ฟที่เดินไปเหลียวมามองเขาไปแล้วก็ออกจะเขินเล็กๆ การ์ฟนี่ ท่าจะบ๊องขึ้นทุกวันแล้ว


++++++++++
ตอนจบต่อด้านล่างค่ะ ขอบคุณคุณCarToonMiZa กับ พี่อัจด้วยนะคะที่มาช่วยดัน :กอด1:

หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ >>magic (22)+Last Magic<< 08/08/2556 หน้า 18 ค่ะ ขอบคุณทุกคน :)
เริ่มหัวข้อโดย: wanmai ที่ 08-08-2013 14:13:45
Magica Café

Last Magic




บนสะพานไม้บ้านคุณตาคุณยาย อาร์ดิวเดินงงๆมาบนสะพาน เขาไม่รู้ว่าตัวเองมาที่นี่ทำไม เด็กหนุ่มลอดราวสะพานไปนั่งห้อยขาคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย หิ่งห้อยตัวน้อยบินมาเกาะที่มือของเขา พาลทำให้คิดถึงการ์ฟขึ้นมา แต่มันกลับเป็นความรู้สึกเศร้าแปลกๆ เด็กหนุ่มถอนใจ ขยับลุกขึ้นจะกลับแต่ก็ต้องชะงักเมื่อการ์ฟเดินเข้ามาหา แสงระยิบระยับรอบกายชวนให้แสบตา อาร์ดิวหรี่ตามองคนที่เดินเข้ามาหาตนเองพร้อมรอยยิ้มนั่น

“ในที่สุดนายก็มา ฉันรอมานานแค่ไหนรู้ไหม?”

น้ำเสียงตัดพ้อจากการ์ฟ อาร์ดิวได้เพียงนิ่งฟังเพราะไม่เข้าใจในสิ่งที่อีกฝ่ายพูด นี่มันคืออะไร เขากำลังฝันหรือ?

“ฉันมาที่นี่ทุกวัน เพราะหวังว่าสักวันหนึ่งนายจะกลับมาหากัน”

“คุณรอผมทำไม?” อาร์ดิวท้วงถาม ยังจับต้นชนปลายไม่ถูก

การ์ฟช้อนมือเรียวมากุม ก่อนยกขึ้นมาทาบทับบนอกข้างซ้าย มองอาร์ดิวที่มีท่าทีสับสนแล้วเอ่ยบอก

“ฉันรอนายอยู่ รอนานแล้ว... ฉันอยากจะบอกว่า..รักนายนะ”

น้ำเสียงทุ้มต่ำที่เอ่ยบอกช่างน่าฟัง อาร์ดิวกะพริบตาปริบ อยากจะเชื่อเหลือเกินว่ามันเป็นเช่นนั้น บรรยากาศอ้อยอิ่งดูอ่อนหวานในความรู้สึก แต่เพียงไม่นานบรรยากาศอ่อนหวานเหล่านั้นกลับแปรเปลี่ยนเป็นมืดครึ้ม มัวหม่นราวพายุกำลังจะโหมเข้าใส่ อาร์ดิวหันมองรอบกายด้วยความตกใจ เมื่อหันกลับมามองการ์ฟกลับมีลมแรงผ่านวูบพาการ์ฟหายไปต่อหน้าต่อตา

“การ์ฟ… การ์ฟ!!” เด็กหนุ่มยืนเคว้งท่ามกลางความมืด ร้องเรียกคนที่หายไปต่อหน้าด้วยใจหวาดหวั่น

“การ์ฟ!!!”

ดวงตาเรียวเปิดขึ้น อาร์ดิวสะดุ้งตื่นจากความฝันทั้งหายใจหอบถี่ ในหูกลับได้ยินเพียงเสียงฟี่ๆดังลอดเครื่องช่วยหายใจ หัวใจของเขาเต้นไม่เป็นส่ำ ทั้งยังเกิดความสงสัยขึ้นมาในขณะเดียวกัน เกิดอะไรขึ้น?

มือเรียวอยากยกกุมสร้อยที่เคยสวมติดคอไว้ตลอดเวลานั้น แต่มันกลับทำไม่ได้ เขาไม่มีแรงเลย

“การ์ฟ...”

ริมฝีปากบางพึมพำชื่อของอีกคนแต่เสียงกลับแหบแห้งจนแทบไม่ได้ยิน ใบหน้าคุณแม่ลอยเด่นอยู่ตรงหน้า เขามองเห็นไม่ชัดเจนนักแต่รู้ว่าท่านกำลังร้องไห้ คุณแม่ร้องให้ทำไมกัน?

“อาร์ดิว... อาร์ดิว ขอบคุณเหลือเกินที่ลูกกลับมา”

หูเขาได้ยินเสียงเพียงผะแผ่วแว่วมา สมองเขาประมวลผลไม่ทัน มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ อะไรกัน...




เมื่อสติสตังกลับมาอาร์ดิวเพิ่งรู้ตัวว่าตนเองอยู่ในโรงพยาบาล หลังเขาฟื้นขึ้นมาคุณหมอก็เข้ามาดูอาการและให้พักรักษาตัวจนเริ่มดีขึ้นตามลำดับ เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเขายังสับสนว่ามันเป็นเพียงความเพ้อฝันหรือความจริง เขากับการ์ฟมีช่วงเวลาดีๆแบบนั้นจริงๆใช่ไหม หรือแค่ฝันไปเท่านั้น เขาไม่รู้แล้ว แยกไม่ออกว่าอันไหนจริงอันไหนเท็จ แต่หัวใจเขามันร่ำร้องให้เชื่อว่าความรู้สึกที่มีให้การ์ฟคือเรื่องจริง

“แม่ครับ ผมอยู่ที่นี่นานหรือยัง? ตั้งแต่ตอนไหนกัน?”

อาร์ดิวเอ่ยถามคุณแม่ในวันหนึ่ง สีหน้าเด็กหนุ่มดูเหม่อลอย คุณแม่มองแล้วถอนใจยาว เข้ามานั่งเก้าอี้ข้างเตียงแล้วจับมือลูกชายไว้ อาร์ดิวค่อยหันมามองคุณแม่ช้าๆ แล้วเงยมองคุณพ่อที่ยืนอยู่ข้างกัน ทุกคนอยู่ที่นี่ คงขาดแต่ปอมปอมที่ไปเรียนหนังสือ

“ลูกคงจำอะไรไม่ได้สินะ” มือเรียวแสนอบอุ่นลูบศีรษะลูกชายเบาๆ “แม่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พี่เมฆเข้าไปเห็นลูกนอนแน่นิ่งอยู่ในห้อง พวกเราเลยพาลูกมาที่โรงพยาบาล”

คำบอกเล่าของคุณแม่ทำให้อาร์ดิวคิดตาม เขาจำได้ จำได้ว่าเขาเคยเข้าโรงพยาบาลแล้วการ์ฟ... เรื่องที่การ์ฟไปตามเขากลับมาล่ะ มันคือความจริงหรือเปล่า แล้วเรื่องวิญญาณหนุ่มนั่นอีก เขาสับสนไปหมดแล้ว

“ถ้าจำไม่ได้ก็ค่อยๆคิด” เสียงคุณพ่อเตือนด้วยความห่วงใย อาร์ดิวมองท่านทั้งสองสลับกันไปมา ก่อนเอ่ยถามถึงเรื่องคาค้างใจ

“กะ...การ์ฟล่ะครับ เขา...”

คำถามของอาร์ดิวทำให้คุณพ่อคุณแม่มองหน้ากัน ก่อนที่คุณแม่จะเป็นคนอธิบายเรื่องทุกอย่างแก่เขาอีกครั้ง เพราะจะช่วยเขาการ์ฟถึงได้ยอมเอาตัวเข้ามาเสี่ยง ให้พี่เมฆทำพิธีถอดจิตไปตามเขากลับมา สิ่งที่ได้ฟังจากคุณแม่ทำให้อาร์ดิวรู้ว่าที่เขาเห็นว่าการ์ฟไปช่วยนั้นมันคือความจริง แต่ที่เขาไม่รู้คือหลังจากนั้นมันเกิดอะไรขึ้น

“เราทำไม่สำเร็จ ทั้งลูกและการ์ฟถึงได้...”

คุณแม่ค้างคำพูดไว้เพียงเท่านั้นเมื่อเห็นว่าอาร์ดิวนิ่งอึ้งไปแล้ว ทำไม่สำเร็จอย่างนั้นหรือ? เขาไม่อยากจะคิดต่อเลยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับการ์ฟบ้าง

“...การ์ฟเขาไม่สบายน่ะ”

ประโยคบอกเล่าจากคุณแม่ทำเอาใจอาร์ดิวหล่นวูบ เอ่ยถามท่านกลับเสียงแผ่วเหมือนหัวใจของเขาที่มันเต้นเบาลง “ไม่สบาย... อย่างนั้นหรือครับ...?”

คุณแม่พยักหน้า สีหน้าท่านเองก็ไม่สู้ดีนัก

“แล้วตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนครับ?”

“อามนพากลับไปรักษาตัวที่บ้านที่ต่างจังหวัดแล้วล่ะครับ” คุณแม่มองลูกชายที่มีท่าทีสับสนด้วยความสงสาร มือเรียวสวยยังคงลูบศีรษะปลอบประโลมลูก

ภาพเหตุการณ์ที่อาร์ดิวเห็นก่อนฟื้นขึ้นมานั่นคือลางบอกเหตุหรือเปล่า คิดเพียงเท่านั้นใจเขาก็ร้อนรุ่ม ทุกสิ่งทุกอย่างมันเหมือนจริงจนแยกไม่ออก

“แม่ครับ ผม...”

“ไปเถอะดิว อยากไปเยี่ยมการ์ฟใช่ไหม?”

“...........” เด็กหนุ่มพยักหน้า

“พ่อจะพาไปเอง”

คุณพ่อที่ฟังเงียบๆเอ่ยอาสา อาร์ดิวเงยหน้ามองท่าน กระบอกตาร้อนผ่าวราวน้ำตาจะไหล ทำไมใจเขาถึงเจ็บทั้งที่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าการ์ฟเป็นอะไร




หลังพักรักษาตัวจนอาการดีขึ้นมากจนเกือบเป็นปรกติทุกอย่าง อาร์ดิวกับคุณพ่อก็ได้เดินทางมาที่บ้านของการ์ฟ ช่วงเวลาที่เขานอนไม่ได้สติอยู่ที่โรงพยาบาลมันกินเวลาเกือบปี ทุกอย่างก็เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา แม้แต่ในฝันของเขาที่มีร่วมกับการ์ฟก็เทียบเท่าเวลาทั้งหมดที่ผ่านไปในโลกของความเป็นจริง ช่วงเวลาร่วมปีนั้นเขาผูกพันกับการ์ฟมากแค่ไหน แต่ในความเป็นจริงแล้วเขากับการ์ฟก็ยังคงห่างไกลกันอยู่ดี

อาร์ดิวเข้ามาในห้องของการ์ฟ เด็กหนุ่มมองคนบนเตียงที่ตอนนี้ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจพยุงชีวิต ร่างกายซูบผอมจนใจหาย ผู้ใหญ่ที่ตามมาส่งออกไปข้างนอก ปล่อยให้ทั้งสองคนได้อยู่กันตามลำพัง คุณแม่ของการ์ฟอดไม่ได้ที่จะปาดน้ำตาด้วยความสะเทือนใจเมื่อนึกถึงวันที่ได้รู้ว่าการ์ฟเป็นอะไรไป ท่านไม่โทษว่าเป็นความผิดของใครทั้งนั้น เรื่องแบบนี้คงไม่มีใครอยากให้เกิด และอาร์ดิวเองในตอนนั้นก็ไม่ได้ต่างจากการ์ฟเลยสักนิด

อาร์ดิวมองการ์ฟนิ่ง น้ำในตาไหลลงข้างแก้มจนตาพร่าไปหมด มือเรียวจับมือของการ์ฟมากุม สะอื้นฮักเมื่อเอ่ยถ้อยคำ

“ไหนคุณบอกว่ารอผมอยู่ไง ผมมาหาคุณแล้วทำไมคุณไม่ลืมตาขึ้นมามองหน้ากัน?”

หยาดน้ำตาไม่ได้ช่วยอะไร แม้เขาจะร้องไห้แค่ไหนการ์ฟก็ไม่มีทางฟื้นคืน อาร์ดิวถอดสร้อยที่คล้องคอตนเองออก แล้วค่อยนำมันมาสวมให้การ์ฟแทน มองใบหน้าซีดเซียวนั้นยิ่งทำใจไม่ได้

“แม่บอกว่ามันจะช่วยขจัดสิ่งไม่ดี ไม่ให้มันมากล้ำกราย ผมให้คุณยืม ถ้าคุณฟื้นขึ้นมาคุณต้องเอามันมาคืนผมนะ”

น้ำตาของเขายังคงไหลไม่หยุด เด็กหนุ่มก้มหน้าร้องไห้อยู่ข้างเตียง เรื่องราวที่ผ่านมาถึงมันจะเป็นแค่ความฝันหรืออะไรก็ตาม แต่เขารักการ์ฟไปแล้ว... รักไปแล้วจริงๆ



เมื่อท้องฟ้ามืดลง หลังทุกคนทานข้าวกันเสร็จอาร์ดิวก็เดินแยกออกมาจากบ้านของการ์ฟ เสียงพูดคุยของคนในบ้านยังดังแว่วมาตามก้าวเดินของเขา เด็กหนุ่มตรงไปที่สะพานเช่นในความฝันนั้น หยุดยืนอยู่จุดกึ่งกลางที่สามารถมองเห็นต้นไม้ใหญ่ต้นเดิมได้อย่างชัดเจน ถอนใจหนักหน่วงกับความรู้สึกเศร้าในหัวใจ หิ่งห้อยตัวน้อยค่อยเปล่งแสงขึ้นมาท่ามกลางความมืด จากหนึ่งตัวเป็นหลายตัว บางตัวมันค่อยบินวนรอบกายเขา ก่อนจะค่อยบินลงมาเกาะที่มือ แววตาอาร์ดิวเปล่งประกายความคาดหวัง เหมือนในฝัน มันเหมือนในฝันของเขาเลย

หัวใจเด็กหนุ่มเต้นกระหน่ำ หันกลับไปอีกฝั่งด้วยใจระทึกไหวแต่กลับพบเพียงความว่างเปล่า รอยยิ้มตื่นเต้นดีใจบนใบหน้าค่อยเจื่อนลง ใบหน้าเรียวก้มต่ำ บ้าสิอาร์ดิว การ์ฟจะมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง นั่นมันก็แค่ฝัน

“ตี๋”

“อือ”

ขานรับไปอย่างนั้นแล้วตี๋น้อยก็ชะงัก เงยขวับขึ้นมองคนเรียก ดวงตาเรียวเบิกโตเมื่อเห็นว่าใครยืนอยู่ตรงหน้า

“การ์ฟ!!” ร่างเพรียวโผเข้ากอดคนตรงหน้าด้วยความดีใจพร้อมเอ่ยถามเสียงรัว “คุณมาจริงๆด้วย ผมไม่ได้ฝันไปอีกใช่ไหม?”

“ฉันรอนายอยู่ รอที่จะลานาย”

“ไม่เอา ผมไม่ให้ไปไหนนะ ผมจะให้แม่ผูกเราไว้ด้วยกันใหม่ ให้คุณอยู่กับผมไปตลอดชีวิตเลย”

“มันทำได้ที่ไหนเล่า”

การ์ฟยิ้มบาง มองอาร์ดิวอย่างรู้ดีว่ามันเป็นไปไม่ได้ ทำเอาอีกคนพาลจะร้องไห้กับรอยยิ้มนั้น ถึงได้ร้องขออย่างเอาแต่ใจ

“ไม่เอา การ์ฟอย่าไปนะ”

ถ้าไปเขาจะร้องไห้จริงๆด้วย แขนเรียวกอดการ์ฟแน่น ไม่สนใจหรอกว่าการ์ฟจะคิดอย่างไรที่เขาทำแบบนี้ ขออย่างเดียวคือให้การ์ฟอยู่ อยู่กับเขาไปนานๆ นานกว่านี้ นานยิ่งกว่านี้



ภายในห้องนอนของการ์ฟ เครื่องวัดชีพจรค่อยเต้นช้าลงเรื่อยๆ ครอบครัวของการ์ฟกับคุณพ่อไปป์ยังคุยกันอยู่ข้างล่าง น้องเอิงวิ่งตึงตังลงมาสีหน้าตื่นตระหนก ล้มแล้วแทบไม่ต้องลุกกันเลยเพื่อมาบอกว่าเครื่องวัดชีพจรของพี่ชายหยุดทำงานไปแล้ว คุณแม่การ์ฟตกใจแทบสิ้นสติ สองคุณพ่อที่ตั้งตัวได้ก่อนใครรีบวิ่งขึ้นบ้านไป ขณะที่สั่งคนในบ้านให้ไปสตาร์ทรถรอ น้องเอิงโทรติดต่อโรงพยาบาล มือไม้สั่นไปหมดเพราะความลน




การ์ฟมองไปที่บ้านของตนเองแล้วหันกลับมามองคนที่กอดเขาเอาไว้แน่น ก่อนเอ่ยบอกช้าๆ

“ยังไงฉันก็ต้องไป ดูแลตัวเองด้วยนะ... ฉันรักนาย”

อาร์ดิวเงยมองคนพูดอึ้งๆ “การ์ฟ...”

เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ดังขึ้นเรียกความสนใจ อาร์ดิวมองหน้าการ์ฟก่อนรับโทรศัพท์

“ครับพ่อ”

“อาร์ดิว รีบกลับมาที่บ้านเร็ว หัวใจการ์ฟหยุดเต้น ตอนนี้เขาพาการ์ฟไปโรงพยาบาลแล้ว”

โทรศัพท์แทบร่วงหลุดจากมือ หันมองหน้าการ์ฟที่ยิ้มให้แล้วต่อว่าเสียงเครือ

“อย่ามายิ้มนะ คุณใจร้ายอ่ะ ทั้งที่กำลังจะทิ้งผมไปแท้ๆ”

“อย่าร้องไห้” น้ำเสียงปลอบประโลมจากการ์ฟยิ่งทำให้อีกคนน้ำตาไหล

“ผมจะไม่ร้อง ถ้าคุณช่วยปลอบ ผมจะไม่ร้อง ถ้าคุณยังอยู่ด้วยกันต่อไป”

อาร์ดิวทั้งอ้อนทั้งวอน แต่มันก็ไร้ผล เมื่ออีกคนเพียงแค่ยิ้มแล้วจางหายไปช้าๆ สองมือที่ไขว่คว้าได้เพียงความว่างเปล่า อาร์ดิวทรุดนั่งหมดแรง ร้องไห้อย่างหมดหวัง



เด็กหนุ่มมาถึงโรงพยาบาลด้วยหัวใจที่แสนหนักอึ้ง ขามันแทบก้าวไม่ออก ไม่อยากรับรู้ว่าที่สุดแล้วการ์ฟต้องจากไป คุณแม่ของการ์ฟหันมามองเขาด้วยน้ำตานองหน้า ท่านลุกจากที่นั่งแล้วตรงเข้ามาหา พร้อมบอกบางสิ่งให้เขารับรู้ อาร์ดิวนิ่งงัน ความพยายามที่จะเข้มแข็งมันพังทลายลงในวินาทีนั้น เด็กหนุ่มร้องไห้ออกมาอย่างสุดกลั้น คุณแม่ของการ์ฟเองก็กอดเขาแน่นแล้วร้องไห้ไปตามๆกัน

ภายในห้องหนึ่งของโรงพยาบาล ข้างเตียงผู้ป่วยเต็มไปด้วยสายระโยงระยาง อาร์ดิวในชุดปลอดเชื้อยืนมองร่างไร้สติบนเตียงที่ถูกครอบด้วยเครื่องช่วยหายใจด้วยสีหน้าเศร้า บนคอของร่างนั้นยังมีสร้อยของเขาอยู่ คุณแม่ของการ์ฟคงขอร้องหมอให้การ์ฟได้ใส่มัน

“ขอบคุณที่กลับมา...”

เด็กหนุ่มพึมพำเสียงเบา น้ำตายังคงไหล ไม่ใช่เพราะความเสียใจแต่มันคือน้ำตาของความยินดี ยินดีที่การ์ฟไม่ได้จากเขาไป สายลมวูบหนึ่งที่ปัดผ่านแก้มทั้งที่อยู่ในห้องมิดชิดทำให้อาร์ดิวเหลียวมองหารอบกาย ก่อนจะหันกลับมามองร่างที่นอนนิ่งบนเตียง นั่นมันคงจะเป็นเสียงกระซิบปลอบโยนเขาไม่ให้ร้องไห้

‘ขอบคุณจริงๆที่กลับมา ผมสัญญาว่าจะไม่ร้องไห้ถ้าคุณยังอยู่ด้วยกัน’





ห้องทำกายภาพบำบัดของโรงพยาบาล พื้นที่ภายในเปิดกว้างมองเห็นสวนสวย เพื่อไม่ให้คนป่วยที่เข้ารับการรักษากดดันจนเครียดไปกับการทำกายภาพในแต่ละครั้ง

ราวจับสำหรับพยุงเดิน การ์ฟค่อยก้าวไปข้างหน้าช้าๆโดยมีราวกั้นคอยทานน้ำหนัก มีนักกายภาพคอยดูแลใกล้ชิด เพราะไม่ได้ออกแรงมานานทำให้ร่างกายดูกระปลกกระเปลี้ยไร้เรี่ยวแรง การเดินเหินจึงเป็นสิ่งที่ยากสำหรับเขา สายตาคมมองตรงไปข้างหน้า แม้แข้งขาจะสั่นเพราะน้ำหนักตัวที่เทลงไปก็ไม่คิดจะท้อ เขาอยากหายเป็นปรกติในเร็ววัน ครอบครัวของเขาต่างก็ยินดีที่เขากลับมา ทุกคนคิดว่ามันคือปาฏิหาริย์ ปาฏิหาริย์ที่เกิดจากคนสองคน นึกถึงตรงนี้การ์ฟก็เหลือบมองข้างกายตน นอกจากจะมีนักกายภาพแล้วยังมีคนสำคัญอยู่อีกหนึ่งคน

“ค่อยๆเดินนะการ์ฟ ไม่ต้องรีบ”

น้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใยนั้นทำให้คนป่วยอมยิ้ม พออีกคนเห็นว่าเขายิ้มก็ทำหน้าระแวงหน่อยๆ ระแวงเขาทำไมกัน เขาแค่ยิ้มนิดเดียวเอง

“ยิ้มอะไร?” ตี๋น้อยเอ่ยถามเมื่อคนป่วยยังยิ้มไม่หุบ

“ยิ้มไม่ได้เหรอ?” การ์ฟยียวนกวนกลับ

“ก็แล้วทำไมถึงยิ้ม?”

“ดีใจมั้ง”

“เรื่อง?”

การ์ฟมองสบดวงตาเรียวรีที่ยังคงมองมาด้วยความสงสัยใคร่รู้ รอยยิ้มผุดขึ้นมาที่มุมปากก่อนว่า “ไม่บอก”

“อ้าว”

ตี๋น้อยลากเสียงอุทาน ก่อนจะผวาเข้าไปหาคนป่วยเมื่ออีกฝ่ายทำท่าจะล้มพับ เล่นเอาใจหายใจคว่ำจนเอ่ยดุออกไป

“เดินดีๆสิ เดี๋ยวล้มหัวแตกพยาบาลก็มาว่าเอาหรอก”

“ดุจัง” เสียงทุ้มที่ฟังดูแหบนิดๆ ทั้งสายตาที่มองสบมาในระยะใกล้มันดูวิบวับเสียจนหนุ่มตี๋อดเขินไม่ได้

“เดี๋ยวทิ่มตาบอด”

“หึๆ”

การ์ฟขำคนทำกลบเกลื่อน อาร์ดิวย่นจมูกใส่คนชอบแกล้ง ก่อนก้าวถอยออกไปให้นักกายภาพเข้ามาช่วยดูแลคนป่วยต่อ การ์ฟจึงค่อยหันไปทำตามที่นักกายภาพบอกอีกครั้ง

“พี่การ์ฟ~”

น้ำเสียงสดใสร้องทักมาตั้งแต่หน้าประตู เรียกสายตาการ์ฟและอาร์ดิวให้หันไปมอง ปอมปอมน้อยเปิดประตูเข้ามาหน้าระรื่น โดยมีชีวาเดินตามน้องเข้ามาหาการ์ฟและอาร์ดิวเช่นกัน

“อ้าว หวัดดี ตัวป่วน” การ์ฟยิ้มทักน้องเล็กหน้าแฉล้ม เขาว่าผมหัวเห็ดนี่มันน่าหมั่นเขี้ยวจริงๆนะ

“เห้อออ ทักทายกันแบบนี้เหรอ นี่ดีนะว่าป่วยอยู่อ่ะ” น้องบ่นงุ้งงิ้งไปตามประสา

“ทำไม ถ้าไม่ป่วยจะทำอะไรพี่?” การ์ฟเลิกคิ้วสูง มุมปากยกยิ้มกลั้นขำ

“จะต่อย! สักหมัด-สองหมัด!” กำปั้นเล็กทุบลงบนฝ่ามือของตนเอง สีหน้าหมายมั่นปั้นมือเอามากๆ

พี่ๆพากันหัวเราะขำ ชีวาโยกหัวน้อง มองการ์ฟแล้วจึงเอ่ยถาม “เป็นไงบ้าง?”

“ก็ดี มีพยาบาลพิเศษดูแลดี”

“หึ” ชีวาทำเสียงขึ้นจมูก ดูมันไม่ค่อยจะดีใจจนออกนอกหน้าเท่าไหร่เลยนะ พูดถึงพยาบาลพิเศษเสียตาพราวขนาดนี้ ปิดบ้างอะไรบ้างก็ได้นะพวก “ไปรอที่ห้องได้ไหมวะ?”

“เขาล็อคไว้อ่ะ ไม่มีคนอยู่” เป็นอาร์ดิวที่เอ่ยตอบแทน

“อืม งั้นรอแถวนี้ละกัน อีกนานไหม?”

“คงไม่ เพราะฉันชักเหนื่อยแล้วเหมือนกัน”

“เค”

ทำเสียงรับรู้แล้วชีวาก็โอบไหล่กะปอมน้อยเดินออกจากห้องทำกายภาพไป พาน้องไปเดินแถวๆนี้รอสองคนนั้นก่อนก็ดี ของขายเยอะ ราคาถูกกว่าในเมืองหลวงเสียอีก

“ป๋า”

“หืม?”

“เห็นพี่การ์ฟกับดิวแบบนี้แล้วปอมอยากให้เราเป็นแบบพวกเขาจัง”

ชีวามองท่าทางเพ้อฝันของคนพูดแล้วยิ้มขำ “ยังไง ให้พี่เป็นเจ้าชายนิทราแล้วปอมปอมเป็นคนมาปลุกให้ตื่นขึ้นมาราวปาฏิหาริย์น่ะเหรอ?”

“ใช่ที่ไหนเล่า” ปรายมองพี่ตาคว่ำ ไม่เข้าใจความรู้สึกหวานแหววของคนอื่นบ้างเล้ย ป๋าเนี่ย

“แต่ที่พี่การ์ฟกลับมาปอมก็เชื่อนะว่าเพราะเขาสองคนผูกพันกัน” ว่าแล้วหนุ่มน้อยก็พยักหน้าหงึกหงักเห็นด้วยกับคำพูดตนเอง

“แล้วเราไม่ผูกพันกันตรงไหนหืม? ตัวแสบ” ชีวาย้อนถาม

“ผูกพัน แต่เราไม่หวานเท่าเขาอ่ะ”

“นั่นเรียกว่าหวานแล้วเหรอ พี่ว่าเขาไม่ค่อยจะคุยกันเท่าไหร่ด้วยซ้ำ”

“เพราะอย่างนั้นไงป๋า มันถึงได้ดูหวานแหวว แม้ไม่มีคำพูด” ยืนยันความคิดของตนเองอย่างเต็มที่

“จินตนาการบรรเจิดจริงๆแฟนพี่” ชีวาหัวเราะขำ ไอ้อาการลอยหน้าลอยตาทำปากยื่นนี่มันช่างหน้าหมั่นไส้ แต่ก็น่าเอ็นดูด้วยสิ

“ไม่ได้จินตนาการ เห็นตำตาเลยว่าบรรยากาศวิ้งๆมันลอยเต็มไปหมด” วาดแขนกว้างบรรยายฉากวิ้งๆที่ว่า

“จริงดิ ทำไมพี่ไม่เห็นอ่ะ?” ชีวาทำเป็นรับมุก

“ป๋าตาถั่ว”

“แรงว่ะ งอนแล้ว” แขนที่โอบไหล่ลดลงมากอดอก เบือนหน้าไปทางอื่นแสดงอาการงอนให้เห็น ปอมปอมตาโต วิ่งดักหน้าดักหลังเมื่อพี่ทำงอนตนเองแบบนั้น

“งื้อ ป๋าอย่างอนสิ หน้าที่งอนมันเป็นของปอมนะ” ช่างเป็นเหตุผลที่เข้าท่า

“เชอะ!” ชีวาสะบัดสะบิ้ง

“ไม่น่ารักเลยอ่ะ”

“เชอะ!” คนเป็นพี่ยังไม่เลิกเล่น

“ป๋าอ่า ปอมขำ” กะปอมน้อยกลั้นขำจนตัวสั่น ท่าทางสะบัดสะบิ้งมันไม่เข้ากับตัวโตๆแบบป๋าเลย

“ไม่ง้อแล้วยังขำอีกนะ”

ชีวาเข่นเขี้ยว ทำเสียงคำรามในคอก่อนพุ่งเข้าใส่ กะปอมน้อยที่ตั้งรับอยู่ก่อนแล้วออกวิ่งทันที ซอกแซกไปตามช่องว่างที่รถจอด จนพ้นออกมาที่หน้าประตูใหญ่ของโรงพยาบาล พร้อมทั้งร้องโวยวายเมื่อพี่เข้ามาใกล้ในระยะประชิด

“ป๋า อย่าวิ่งไล่ปอม ปอมขาสั้นนนนน”

“5555555555555555”



กลับจากทำกายภาพการ์ฟก็ได้พักไม่นานเพราะถึงเวลาทานข้าว ปอมปอมนั่งมองพี่ชายดูแลคนป่วยเงียบๆ ขณะที่ชีวานั่งอยู่ข้างกันนั้นหาหนังสือในห้องพักมาอ่าน มีแต่ธรรมะเต็มไปหมด พอเงยหน้าจากหนังสือมามองปอมปอมก็ยกยิ้ม แววตาน้องมันฉายชัดเลยว่ากำลังคิดอะไรแปลกๆอยู่ พราวระยับจนปิดไม่มิดเชียว

“ต้องให้ป้อนถึงปาก กินเองไม่ได้ไง?” วางหนังสือบนโต๊ะใกล้ๆแล้วชีวาก็เอ่ยแซวคนป่วยที่ให้เพื่อนของตนตักข้าวป้อน

“กินได้ แต่อยากให้ป้อน นายจะทำไม?” ยักคิ้วกวนจนชีวาเบ้ปาก

“โห่ ไอ้สำออย”

“ชีวา” น้ำเสียงปรามจากอาตี๋น้อยดังมา

“ไม่ทันไรเข้าข้างกันซะแล้ว ปอมปอม พี่ตกกระป๋องจริงๆซะแล้วล่ะ"

ชีวาแสร้งตีหน้าเศร้า ขยับตัวลงนอนหนุนตักกะปอมน้อยที่มองสถานการณ์แล้วหัวเราะคิกคักอยู่คนเดียว นอนซุกตักน้องแล้วชีวาก็ชะงักกับขาขาวๆ ปอมปอมใส่กางเกงขาสั้นประมาณเข่า พอนั่งแบบมันก็ร่นขึ้นมาเล็กน้อยพอให้ขาอ่อนโผล่มาให้เห็น ริมฝีปากนุ่มหยุ่นจูบขาอ่อนน้อง

“ป๋า!!”

ปอมปอมเสียงดังด้วยความตกใจ ชีวาเงยขึ้นมายกคิ้วให้เฉย มองแก้มแดงๆของเจ้าหนูปอมปอมแล้วน่าแกล้งเป็นบ้า แต่นี่มันสาธารณะไปหน่อย จึงต้องหยุดความคิดไว้เพียงเท่านั้น

“อยากใส่สั้นเอง”

“มันเป็นแฟชั่นอ่ะ” น้องเง้างอด ใช้มือปิดขาตัวเองไว้ พี่นอนหนุนแบบนี้พอเอียงแก้มทีลมหายใจอุ่นๆก็รดต้นขา ขนลุกอ่ะ อึ๋ยยย

“มาหวานอะไรกันแถวนี้ กับข้าวมันยิ่งจืดๆอยู่ ไม่อยากเติมน้ำตาลขนาดนั้นหรอกนะ” เสียงแซวจากคนป่วยลอยลมมา ปอมปอมน้อยหน้าแดง ก่อนต่อว่าพี่ที่นอนยิ้มเฉย

“เห็นไหม โดนแซวเลย”

ชีวาอมยิ้ม ก่อนลุกขึ้นมานั่ง ยังไม่วายใช้ไหล่ชนไหล่กระแซะน้องอีก ปอมปอมเบี่ยงไหล่หนีงอนๆ พยาบาลเอายาหลังอาหารเข้ามาให้การ์ฟ ยิ้มให้หนุ่มๆทั้งหลายก่อนออกไปจากห้อง

อาร์ดิวยกถาดอาหารที่การ์ฟทานเสร็จไปวางที่อ่างล้างจานรอคนมาเก็บ ก่อนกลับมาเอายาให้คนป่วยกิน การ์ฟมองคนดูแลแล้วยิ้มบาง อาร์ดิวมาดูแลเขาทุกวันจนเขาเคยตัวเสียแล้วสิ




ห้องพักของการ์ฟ วันนี้เด็กหนุ่มชะเง้อมองประตูทางเข้าอยู่บ่อยๆจนคนเฝ้าสังเกตเห็นกันหมด คุณพ่อการ์ฟเหลือบมองลูกชายที่มีท่าทีกระสับกระส่ายทุกทีที่ลูกเผลอแล้วท่านก็ถอนใจ ก่อนลุกไปชงกาแฟดื่ม

“เขากลับไปแล้ว” ท่านเอ่ยลอยๆ ยกกาแฟขึ้นจิบชิมรสชาติ

“หือ?”

การ์ฟเลิกคิ้ว ทำเสียงเชิงถามในลำคอ คุณพ่อหันมาแล้วเอ่ยเสียงเรียบเช่นทุกที “อาร์ดิวน่ะ กลับบ้านไปแล้ว”

“บ้าน?”

“ที่กรุงเทพฯน่ะ”

ท่านตอบเสียงเรียบราวไม่ใส่ใจ ก่อนถือถ้วยกาแฟเดินกลับไปที่โซฟาตัวเดิม เหลือบมองท่าทีของการ์ฟเพียงเล็กน้อย
การ์ฟที่ได้รู้ว่าคนที่เขารอมาทั้งวันกลับกรุงเทพฯไปแล้ว กลับไปโดยไม่บอกเขาสักนิดด้วย เด็กหนุ่มเผลอกำมือแน่น

“อยากใช้โทรศัพท์ไหม?”

เสียงคุณพ่อเอ่ยถาม การ์ฟหันไปมองท่านก่อนจะส่ายหน้า แต่คุณพ่อกลับเอามันมาวางให้ที่ข้างตัว

“เก็บไว้กับพ่อก็ไม่มีประโยชน์ เผื่ออยากใช้ขึ้นมา”

ท่านว่าอย่างนั้น การ์ฟเหล่มองมัน ก่อนทำไม่สนใจปล่อยมันไว้แบบนั้น วันต่อมาโทรศัพท์ก็อันตรธานหายไปแล้ว พอคุณพ่อถามการ์ฟก็บอกว่าเสียงมันดังหนวกหูเลยโยนไว้ในลิ้นชักโต๊ะข้างหัวเตียง ทุกคนในบ้านพากันถอนใจ กลายเป็นคนใจน้อยไปเสียแล้วนายการ์ฟ

เสียงโทรศัพท์น้องเอิงดังขึ้น เด็กหญิงเดินเลี่ยงไปคุย เป็นอาร์ดิวที่โทรเข้ามาเพราะโทรหาการ์ฟไม่ติด

“น้องเอิง พี่ขอคุยกับการ์ฟหน่อยสิ”

“ได้ค่ะ” น้องเอิงรับคำเสียงใส เดินกลับมาหาพี่ชายที่เตียง

“พี่การ์ฟ พี่อาร์ดิวจะ...”

“อย่ากวนได้ไหม พี่จะนอน” การ์ฟตัดบท ล้มตัวลงนอนหันหลังให้น้องสาว

“อ่า ก็พี่...”

“เอิง” การ์ฟทำเสียงดุ น้องเอิงหน้ามุ่ย บุ้ยปากใส่พี่ชาย

“ฮึ พี่การ์ฟ ใจร้ายที่สุดเลย!” ต่อว่าพี่ชายแล้วน้องเอิงก็หันมาคุยโทรศัพท์ “พี่อาร์ดิวคะ...”

“ไม่เป็นไรครับ พี่รู้แล้ว ขอบใจมากนะ”

“ค่ะ...” น้องเอิงตอบรับเสียงอ่อย สงสารพี่อาร์ดิว ลดโทรศัพท์ลงจากหูก่อนกดวางสาย หันกลับมามองพี่ชายที่ทำเป็นไม่รับรู้แล้วบ่นอุบอิบ

“พี่การ์ฟบ้า จะยุให้พี่อาร์ดิวงอนบ้าง คอยดูสิ”



วางสายจากน้องเอิงแล้วอาร์ดิวก็ถอนใจแล้วนั่งซึม พร้อมปลอบใจตนเองว่าการ์ฟคงอยากพักจริงๆ คนป่วยต้องพักเยอะๆ ส่วนเขาก็หันกลับมาอ่านหนังสือให้เยอะๆ

เด็กหนุ่มมองกองหนังสือที่วางซ้อนกันบนโต๊ะแล้วถอนใจอีกเฮือกใหญ่ ต้องผ่านมันไปให้ได้


+++++++++++++

ต่อด้านล่างค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ >>magic (22)+Last Magic<< 08/08/2556 หน้า 18 ค่ะ ขอบคุณทุกคน :)
เริ่มหัวข้อโดย: wanmai ที่ 08-08-2013 14:15:55

เมื่อถึงวันที่ได้ออกจากโรงพยาบาลการ์ฟก็อดไม่ได้ที่จะคาดหวัง คาดหวังว่าคนที่เขารอจะมาหา แต่มันก็คงเป็นได้แค่หวัง เพราะคนๆนั้นเขาไม่มีทางมาหรอก

เด็กหนุ่มในชุดลำลองเดินออกจากโรงพยาบาลมารอรถพร้อมครอบครัวที่แต่ละคนมีสีหน้าชื่นบาน คุณพ่อวนรถจากลานจอดชั้นใต้ดินมารับทุกคนที่หน้าตึก เมื่อเปิดประตูจะก้าวขึ้นรถการ์ฟก็อดไม่ได้ที่จะหันมองรอบๆ เผื่อว่าอาร์ดิวอาจจะเพิ่งมาถึงกลัวคลาดกัน เขามันบ้า แม้แต่วินาทีสุดท้ายก็ยังหวัง

เสียงคุณพ่อเอ่ยเรียกเมื่อลูกชายยังยืนเปิดประตูรถค้างเอาไว้แบบนั้น รถคันหลังก็มาจอดต่อท้ายแล้วจำต้องรีบไป เด็กหนุ่มจึงต้องตัดใจก้าวขึ้นรถ ปิดประตูแล้วคุณพ่อก็ออกรถไปทันที

ทางเข้าหน้าโรงพยาบาล อาร์ดิวกับคุณพ่อมาเพิ่งถึง ฝ่าการจราจรที่ค่อนข้างติดขัดแถวหน้าโรงพยาบาลเข้ามาจนได้ ออกจากสนามบินมาถนนก็ยังโล่งดีอยู่หรอก แต่พอมาแถวโรงพยาบาลนี่สิแทบไม่ขยับ อาจจะเพราะความที่เขาร้อนใจกลัวมาไม่ทันเวลาการ์ฟออกจากโรงพยาบาลด้วยกระมัง จึงได้มองว่าเวลามันเดินช้าเหลือเกินกว่าจะมาถึงได้

เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ดังขึ้นมาขณะที่รถของคุณพ่อไปป์กำลังจะจอดให้อาร์ดิวลงหน้าตึกที่การ์ฟพักรักษาตัวอยู่ เด็กหนุ่มรีบกดรับสายเมื่อคนที่โทรมาคือน้องเอิง เด็กหญิงบอกกับเขาว่ามารับการ์ฟกลับบ้านไปแล้ว ให้ตามมาที่บ้านได้เลย

“... พี่มาไม่ทัน”

อาร์ดิวตอบกลับไปน้ำเสียงเหนื่อยล้า สำหรับคนอื่นมันอาจไม่ใช่เรื่องใหญ่โตนักที่มารับการ์ฟออกจากโรงพยาบาลไม่ทัน แต่เขาก็รู้สึกผิดอยู่ดี ส่วนคุณพ่อไปป์ก็วนรถไปหาทางออกเมื่อได้ยินเสียงน้องเอิงแว่วๆ

‘คุยกับใครน่ะเอิง?’

“...........” เสียงที่แทรกเข้ามาทำให้ใจอาร์ดิวเต้นรัว แต่เจ้าของเสียงคงไม่รับรู้ถึงมันหรอก เมื่อได้ยินเสียงฝ่ายนั้นบอกให้น้องเอิงวางสายเมื่อรู้ว่าน้องเอิงกำลังคุยกับเขา

“...........” ตี๋น้อยลดโทรศัพท์ลงจากหูมาวางบนตัก ก้มหน้านิ่งท่าทางเงื่องหงอย คุณพ่อเหลือบมามอง ชะลอรถเมื่อถึงสัญญาณไฟสีเหลือง ก่อนจะหยุดเมื่อมันเป็นสีแดงแล้วละมือข้างหนึ่งมาโยกศีรษะทุยไปมา

“กระตือรือร้นหน่อยไอ้หนู แค่นี้ยอมแพ้แล้ว? พ่ออุตส่าห์บึ่งรถไปรับมาจากสนามบิน”

คำพูดกระตุ้นจากคุณพ่อทำให้อาร์ดิวเงยหน้าขึ้นมามองท่าน ก่อนยิ้มแห้ง ไม่ได้อยากจะยอมแพ้ แค่กำลังใจลดลงมาเล็กน้อย มันก็จริงที่คุณไปรับจากสนามบินแล้วตรงมาที่โรงพยาบาลนี่เลย ก็เขากลัวไม่ทันนี่นา แต่มันก็ไม่ทันจริงๆนั่นล่ะ

เมื่อมาถึงบ้านอาตี๋ก็ยังไม่ได้เจอการ์ฟในทันที เพราะคนที่เพิ่งหายป่วยแม้จะเดินไม่ค่อยถนัดแต่ก็ยังเดินไปที่สะพานไม้ อาร์ดิวที่ได้รู้จากคำบอกเล่าของคุณแม่การ์ฟจึงได้ตามไป

“เขามาง้อถึงที่แล้ว หวังว่าพ่อลูกชายของเราคงไม่เล่นตัวอีกนะ” คุณแม่การ์ฟเปรยกึ่งเหน็บพ่อลูกชายของตนเอง มองตามอาร์ดิวที่เดินห่างออกไปด้วยท่าทางไม่มั่นใจอย่างเอาใจช่วย



บนสะพานที่ทอดยาว การ์ฟยืนมองต้นไม้ใหญ่ที่ใบไหวไปตามแรงลม หน้าหนาวมาแล้ว หมดฤดูกาลดูหิ่งห้อย แต่มองทีไรก็ยังคิดถึง... เขาใจร้ายกับนายขนาดนี้ยังคิดถึงเขาอีกหรือการ์ฟ เจ็บไม่จำจริงๆ

ท่ามกลางลมหนาวที่พัดหวีดหวิว เสียงฝีเท้าที่ก้าวเดินบนสะพานไม้ดังแผ่ว ก่อนเจ้าของฝีเท้านั้นจะมาหยุดยืนข้างเขา การ์ฟยังคงมองตรงไปในจุดเดิม เขารู้ว่าใครที่เข้ามายืนข้างกายแต่ไม่คิดจะหันไปมอง ความเงียบที่เกิดขึ้นไม่ใช่ไม่ทำให้เขาอึดอัด แต่เขาก็ปากหนักเกินกว่าจะเป็นฝ่ายเอ่ยออกมาก่อน

“หายดีแล้วเหรอ?”

น้ำเสียงที่เคยคุ้น เสียงที่อยากได้ยินตลอดมา เวลานี้อยู่ใกล้เพียงเท่านี้เอง แต่การ์ฟก็ยังไม่สนใจที่จะตอบรับใดๆ ราวกับไม่ได้ยินมันอย่างนั้น

“ผมกลับไปสอบ ยังดีที่มหา'ลัยให้โอกาสกลับไปเรียนต่อได้...”

เสียงจากคนๆเดิมยังดังขึ้นมาซ้ำอีก แต่การ์ฟก็ยังเงียบอยู่เหมือนเคย อาร์ดิวมองคนที่เมินเขา ทำไม่สนใจ ทั้งที่เขาบอกเหตุผลที่หายไปแล้วก็ยังไม่ยอมตอบรับอะไรเลยแบบนี้ ดวงตาเรียวรีหลุบต่ำมองพื้น ลำคอตีบตันอยากจะร้องไห้เต็มแก่ แม้แต่เสียงที่จะเอ่ยต่อจากนี้ยังแทบหาไม่เจอ

“ยินดีด้วยที่ได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว...”

“......”

“หายเร็วๆนะ”

พูดได้เพียงเท่านั้นร่างสูงเพรียวก็หมุนกายกลับ การ์ฟยังมองตรงไปข้างหน้า ไม่คิดจะเรียกรั้งเอาไว้สักนิด อาร์ดิวที่ก้าวดุ่มค่อยก้าวช้าลงเรื่อยๆเมื่อไม่มีเสียงทักท้วงจากอีกคน จนในที่สุดเขาก็หยุดเดินอยู่เพียงครึ่งทาง มือเรียวปาดเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม สะอื้นฮักอย่างห้ามไม่อยู่ เขากลับมาเพราะคิดถึง กลับมาเพราะเป็นห่วง แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือความเฉยชาแบบนี้หรือ?

“ร้องไห้ทำไม?”

เสียงที่ดังขึ้นอยู่ใกล้เพียงนิด อาร์ดิวรีบเช็ดน้ำตา ทั้งสูดจมูก เสียงเครือเอ่ยปฏิเสธ เก็บอาการไม่มิดจริงๆ

“เปล่าร้อง”

การ์ฟรั้งแขนให้หันกลับมา อาร์ดิวไม่ยอม ขืนตัวไว้แล้วบ่ายหน้าหนี แต่คนป่วยกลับแรงเยอะกว่า สุดท้ายเลยต้องหันกลับมาเผชิญหน้า ช้อนสายตาที่พร่ามัวเพราะหยาดน้ำตามองอีกคนอย่างตัดพ้อโดยไม่ตั้งใจ มือใหญ่เกลี่ยเช็ดน้ำตาที่เลอะแก้ม มองสบดวงตาเศร้า

“จะหนีไปไหนอีก?”

“ไม่ได้หนีสักหน่อย” เอ่ยแย้งทั้งสะอื้นไปด้วย

“ไม่ได้หนีก็ดี เพราะถึงแม้นายอยากจะหนี ฉันก็ไม่มีทางปล่อยนายไปอีกแล้ว”

ริมฝีปากอุ่นๆกดจูบหน้าผากนูน อบอุ่นและอ่อนหวานในความรู้สึก อาร์ดิวสะอื้นน้อยๆ หลับตาลงช้าๆ ขณะที่น้ำตายังรินไหลจากหางตา แต่มันไม่ใช่เพราะความเศร้า เมื่อร่างกายถูกรวบกอดด้วยลำแขนแข็งแรง ใบหน้าเรียวก็อิงซบอก ฟังเสียงหัวใจของอีกคนที่เต้นในจังหวะสม่ำเสมอพร้อมน้ำเสียงที่เอ่ยบอก

“อยากจะโกรธนาย แต่ฉันก็ทำไม่ลง...”

“คุณเอาคืนผมไปแล้ว” ตี๋น้อยประท้วงน้ำเสียงอู้อี้ชิดอกการ์ฟ

“หึ นั่นสิ”

“...........”

“อาร์ดิว...”

“.........” ตี๋น้อยชะงักกับคำเรียกขาน เพราะน้อยครั้งนักที่การ์ฟจะเรียกเขาแบบนี้

“อยากให้นายรู้ไว้ ... ไม่ว่าเรื่องราวระหว่างเรามันเป็นเพราะโชคชะตาฟ้ากำหนด หรือเพราะอะไรก็แล้วแต่... ฉันไม่สนใจทั้งนั้นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับฉันมันจะเป็นเพียงความฝันหรืออะไร..."

"คุณบอกว่าความฝัน หมายถึงอะไร?" อาร์ดิวสะดุดใจกับสิ่งที่การ์ฟพูด ความฝันนั้นมันเป็นแบบเดียวกับเขาหรือเปล่า?

"อย่าสนใจเลยว่าความฝันนั้นมันเป็นแบบไหน เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ... ฉันรักนาย”

“...การ์ฟ ฮึ่ก... ฮือออ” คำสารภาพนั้นทำเอาน้ำตาที่หยุดไหลไปเมื่อครู่ร่วงพรู แขนเรียวกอดการ์ฟแน่น

“อ้าว ทำไมร้องหนักกว่าเดิมอีก หืม?”

ดันตัวคนขี้แยออกเบาๆ สองมือกุมแก้มเนียน เลิกคิ้วถามเชิงล้อ จมูกแดงๆกับริมฝีปากบางที่เผยอน้อยๆนั่นพาลจะทำให้เขาโน้มลงไปหา ทำไมเวลาร้องไห้หมอนี่ถึงดูน่ารักแบบนี้น้า

“อยากบอกอะไรฉันไหม?” เอ่ยถามตี๋น้อยขี้แยเสียงนุ่ม หัวแม่มือปาดเช็ดน้ำตาให้

“คุณชอบทำเหมือนรู้ไปซะทุกเรื่องตลอดเลย”

“แค่มองตานายก็รู้แล้ว”

สายตาเจ้าชู้มองสบ ใบหน้าหนุ่มตี๋เห่อร้อนเพียงแค่อีกคนมองมา ใช้หลังมือปาดน้ำตาตัวเอง ก่อนช้อนมองการ์ฟแล้วว่า

“ถ้าอย่างนั้นคุณก็รู้แล้วสิว่าผมจะบอกอะไร”

“อย่ามาขี้โกง” มือใหญ่บีบจมูกแดงๆเพราะร้องไห้ของอาตี๋ มาทำหน้าซื่อตาใส จะให้เขาสารภาพฝ่ายเดียวล่ะสิ

“ถึงรู้แล้วก็อยากจะฟัง อยากฟังทุกวันเลย”

เสียงกระซิบที่ดังข้างหูเมื่อการ์ฟโน้มมาหาทำให้ตี๋น้อยหดคอหนีด้วยความจั๊กจี้ปนเขิน สายลมหนาวที่พัดพาไม่ได้ทำให้เขาหนาวสั่น เมื่อสองแขนของการ์ฟยังตระกองกอด

“ผมจะบอกว่า... หัวใจของผม ไม่มีใครมาบีบบังคับให้มันรักคุณ ที่มันรักก็เพราะรัก ไม่ใช่เพราะมันถูกกำหนดมา แต่เป็นเพราะผมที่รักคุณเอง...”

การ์ฟยิ้มบาง ก้มลงแตะจูบริมฝีปากที่เอ่ยคำพูดตรงใจ

“ฉันเชื่อ ...เพราะฉันก็รักนาย”

ราวเสียงกระซิบจากสายลมหนาว ความรักของพวกเขาเริ่มต้นได้หลายฤดูจริงๆ ไม่ว่าก่อนนี้เรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเพราะอะไรกำหนด ต่อแต่นี้ไปพวกเขาจะขอเป็นคนกำหนดชีวิตของตัวเองบ้าง


...เหมือนดั่งพรหมชะตาขีดไว้ กำหนดใจสองเราให้คู่กันมา ใจสองใจผูกพันแน่นหนา อยู่ไกลลับฟ้ายังมาพบกัน
แล้วสิ่งใดที่เคยขาดหาย ก็กลับกลายสมใจดังว่าเสกสรร ลอยล่องในภวังค์แห่งฝัน ต่อเติมรักนั้นจนเต็มหัวใจ
เธอเพราะเธอคือคนสำคัญ ที่ใจของฉันจะรักจะคอยห่วงใย ตราบที่ฟ้าและดินสูญสิ้นมลายลงไป ตราบที่ลมหายใจของเราสิ้นสุด

...ตราบที่ฟ้าและดินสูญสิ้นมลายลงไป ตราบที่ลมหายใจของเราสิ้นสุด...





ช่วงเวลาเช้าตรู่ของวันหยุด ณ ร้านMagica Café ร้านที่ให้บริการด้านอาหารและเครื่องดื่ม ขึ้นชื่อด้านรสชาติและบรรยากาศของร้านที่น่านั่ง ตัวร้านถูกตกแต่งให้ดูคล้ายบ้านที่สร้างด้วยอิฐสี สับหว่างให้เกิดความสวยงามคล้ายบ้านขนมหวานในเทพนิยาย ไม้ดอกทั้งแบบพุ่มและแบบห้อยระย้าถูกปลูกไว้รายรอบร้านดูลงตัวพอดิบพอดี ตกแต่งภายในสไตล์แอนทีค โทนสีดูอบอุ่นไม่ทึมเทามากไป มีนาฬิกาโบราณเรือนใหญ่แขวนไว้ที่ผนังด้านข้างเคาน์เตอร์นั่นยิ่งส่งให้ร้านนี้ดูมีมนต์ขลังมากขึ้นไปอีก กระจกใสถูกบุรอบตัวร้านให้แสงธรรมชาติส่องเข้าไปภายในได้ และให้สามารถมองเห็นธรรมชาติภายนอกร้านเป็นอาหารตาอีกด้วย

เวลาที่เปลี่ยนไปสถานที่แห่งนี้ยังคงมอบความสุขให้คุณลูกค้าไม่เปลี่ยนแปลง แต่กลับเพิ่มลูกเล่นแปลกใหม่มากขึ้น นอกจากเรื่องอาหารหวานคาวและสไตล์การตกแต่งร้านแล้ว เสียงเล่าลือปากต่อปากยังกล่าวถึงพนักงานของร้านนี้อีกด้วย ซึ่งมันเป็นความบังเอิญเสียมากกว่าที่พนักงานในร้านหน้าตาพอดูได้

“อะไรนะ?” น้ำเสียงหาเรื่องจากพนักงานหน้าตาพอดูได้ดังมาขัด

“อย่างฉันนี่เรียกว่าหน้าตาพอดูได้เหรอตี๋?” หันไปถามหนุ่มตี๋หน้าตาดีข้างกายเสียอีกทีเพื่อความมั่นใจ ตี๋น้อยได้แต่ยิ้มแหยไม่กล้าแสดงความคิดเห็น ในเมื่อความจริงก็เห็นๆกันอยู่ว่ามันเป็นเช่นไร

“ชิ!”

ก่อนที่บรรยากาศมาคุจะก่อเกิดขึ้นมามากกว่านี้ ตี๋น้อยลูบแขนคนตัวสูงกว่าให้ใจร่มๆ ก่อนลากคนหน้าตาพอใช้ได้ไปเก็บในครัวแล้วถึงได้ออกมาต้อนรับลูกค้าด้วยรอยยิ้มสดใส

เคาน์เตอร์ทรงสูงรูปครึ่งวงกลม ชายหนุ่มหน้าตี๋ประจำการอยู่ด้านใน ยิ้มให้พนักงานเสิร์ฟชายตัวโตที่นำบิลค่าอาหารมาให้ รับไปคิดเงินแล้วทอนกลับมาให้พนักงานคนดังกล่าวนำไปให้ลูกค้า

พนักงานหนุ่มคนนี้ก็ออกจะหน้าตาดีอยู่ไม่น้อย... อย่าเพิ่งยืดไป เพราะข้อเสียไม่ได้ด้อยไปกว่าหน้าตา ทั้งหลงตัวเอง โลเลไม่มั่นคง ทำตัวคลุมเครือ ทำให้น้องร้องไห้มาก็ตั้งหลายหน เรียกว่าแค่นี้ข้อดีก็ไม่มีเหลือ โดยเฉพาะการทำหน้าเหวี่ยงใส่คนเขียนนี่... คะแนนติดลบเห็นๆ

ตี๋น้อยยิ้มแหยกับบทบรรยายแสนมั่วซั่วของคนเขียน สายตาเรียวชะเง้อมองหน้าร้าน ยังขาดพนักงานดีเด่นอีกคนนี่นะ หายไปไหนเสียแล้วล่ะ?

บนถนนเส้นเล็กที่ทอดยาวมายังร้านMagica Café เด็กหนุ่มตัวผอมที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปีก็ยังไม่โตไปกว่านี้กำลังวิ่งลั้นลามาตามทาง สีหน้าของเขาดูเบิกบานเหมาะกับเช้าที่แสนสดใส ผมที่ตัดซอยเข้าทรงตามสมัยนิยมปลิวกระดกตามแรงเคลื่อนไหวจากการวิ่งของเจ้าตัว ผมที่เจ้าตัวค้านหัวชนฝาว่ามันไม่ใช่ทรงหัวเห็ด แต่ดูอย่างไรมันก็เหมือนเห็ดอยู่วันยันค่ำ

เด็กหนุ่มหัวเห็ด... ไม่ใช่สิ หัวไม่เห็ดหรอก ตาเขียวๆไม่ต้องตวัดมาทางนี้ก็ได้... เด็กหนุ่มน่ารักเปิดประตูร้านMagica Café เข้ามา เสียงกระดิ่งประจำร้านดังกรุ๊งกริ๊งพาให้คนในร้านหันมามอง รอยยิ้มสดใสโปรยปรายให้ทุกคนโดยทั่วถึงขณะก้าวเดินไปหาหนุ่มตี๋ที่เคาน์เตอร์

เจ้าพนักงานหน้าตาพอดูได้เดินหน้าบูดออกมาจากในครัว ตี๋น้อยหันไปมองแล้วยิ้มให้ ยื่นมือไปหาเจ้าพนักงานนั่นก็เดินเข้ามาอ้อนอย่างน่าหมั่นไส้เป็นที่สุด น้องเล็กของกลุ่มมองพี่ๆแล้วก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่จนหนุ่มตี๋ขวยเขิน

หลังจากจัดการค่าอาหารของลูกค้าเสร็จ พนักงานหนุ่มอีกนายก็ตรงมาหาน้องเห... น้องเล็กของกลุ่ม รอยยิ้มดีใจราวหมาน้อยได้แทะกระดูก...

“ไม่มีอะไรจะเปรียบเทียบแล้วเหรอเจ๊?” ไอ้พนักงานขี้เหร่แสนจะปากเสียทักท้วงมาอย่างกวนโทสะ

“โว๊ะ ทักนิดทักหน่อยจากหน้าตาพอใช้กลายเป็นขี้เหร่เลยวุ้ยกู”

ตี๋น้อยยิ้มขำ ขณะที่น้องเล็กหัวเราะเสียงดังอย่างไม่เกรงใจ แบบว่าเจ้หาทางจบอยู่ ไม่รู้จะจบอย่างไรดีเลยลูกเอ๋ย เขียนไปเขียนมามันก็ยาวขึ้นเรื่อยๆ ออกทะเลไปแสนไกลลิบ

“ตัดจบเลยดีป่ะเจ๊ พวกผมจะได้ไปทำมาหากินกันเสียที”

จบ.

“อ้าวเฮ้ย ทำไมมันสั้นจังวะ?” พนักงานชายใจโลเลร้องประท้วงบ้าง

“อ้าว ซวย กูกลายเป็นพนักงานชายใจโลเลไปซะแล้ว”

“สม” น้องเล็กตอกย้ำพร้อมรอยยิ้มขำขัน ผมทรงหัวเห็ดเลยถูกมือใหญ่ขยี้เสียไม่เป็นทรงด้วยความหมั่นเขี้ยว

นี่เป็นเพียงเรื่องราวเล็กๆของพนักงานหนุ่มร้าน Magica Café แห่งนี้เท่านั้น บางทีสิ่งที่คุณเห็นอาจไม่เป็นอย่างที่คุณคิด แสงแดดอบอุ่นในหน้าหนาวที่สาดส่องเข้ามากระทบกับกรอบนาฬิกาโบราณเรือนใหญ่ ร้านอาหารสไตล์แอนทีคที่ให้บรรยากาศแตกต่าง ทั้งเรื่องพนักงานอัธยาศัยดี และการบริการที่เป็นกันเอง สิ่งเหล่านี้คุณอย่าเพิ่งเชื่อหากยังไม่ได้ลองสัมผัสมันด้วยตนเอง

กริ๊ง~

“Magica Café ยินดีต้อนรับครับ”



Happy End.




ขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่อยู่ด้วยกันมาจนถึงตอนนี้ค่ะ เรื่องนี้ดูกระท่อนกระแท่นแทบจะไปไม่รอดอยู่หลายครั้ง แต่ในที่สุดเราก็พาลูกชายของเรามาถึงฝั่งจนได้ เขียนไปก็เสียน้ำตาไปหลายยก ขอบคุณมากๆนะคะที่ยังให้การสนับสนุนคนไม่ได้เรื่องคนนี้ ขอบคุณค่ะ
 :pig4:
ท้ายสุดก็ต้องขอบคุณเล้าเป็ดเช่นเคยค่ะ สำหรับพื้นที่กว้างขวางในบ้านหลังใหญ่ พื้นที่ที่ทำให้คนเขียนและคนอ่านได้รู้จักกัน ผ่านตัวละครและตัวอักษรที่ใช้สื่อสารกัน ขอบคุณมากๆค่ะ
 :pig4:
ขอบคุณคนอ่านค่ะ ขออนุญาตเรียงลำดับจากจำนวนคอมเม้นต์นะคะ

ขอบคุณ

พี่ greensnake คุณ Ryoooo คุณ CarToonMiZa คุณ Pe๊aNu๊T

คุณ Naenprin คุณ YOSHIKUNIRUN พี่ $VAN$ น้อง nong PeePee

คุณ koikoi พี่ nongrak น้อง misshappy_time คุณ PapermintReal

คุณ BeeRY คุณ inspirer_bear คุณ nemesis คุณ gupalz

คุณ ชัดเจนกาบ คุณ namngern คุณ yeyong คุณ NOoTuNE

พี่อัจ Cinquain คุณ tuek พี่ t2007 คุณ 맀..Lich✿

น้อง อยากกินไข่พะโล้โปะ คุณ PK37 คุณ So_Da_Za

น้องตอง udongjay คุณ KhunToOK คุณ SaJung13 คุณ yuyie

คุณ threetanz คุณ cher7343 น้องซี zero3 คุณ kikikiki คุณ aoaer

คุณ iamnan คุณ Celestine คุณ honeyhoon คุณ Animajus

คุณ  indy❣zaka คุณ FFS_Yaoi พี่ love2y คุณ pahpai

คุณ MEMO MINI คุณ maru คุณ fay_13 คุณ fonny1987

คุณ fangkao คุณ lizzii คุณ MooJi คุณ YounIn คุณ bobie

คุณ SiCK_SENt™  คุณ 111223 คุณพี่ PEENAT1972 คุณ earthhnozomism

คุณ Ella Killer คุณ insomniac คุณ alekung103 คุณ roseen คุณ vpu

คุณ Syntyche คุณ เก๋ไก๋เจ้าค่ะ คุณ KaorPaor คุณ audio คุณ Gemm

คุณ Lemon_Tea คุณ bb_b คุณ waterlily คุณ punchnaja

คุณ Kwangkoyha คุณ nan239 คุณ atomtcom คุณ smirnoi คุณ Vavaviz

ตกหล่นชื่อใครไปต้องขออภัยด้วยค่ะ

ปีหน้าพบกันใหม่

วันใหม่ค่ะ
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ >>magic (22)+Last Magic<< 08/08/2556 หน้า 18 ค่ะ ขอบคุณทุกคน :)
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 08-08-2013 15:19:16
ขำตอนจบมากเลยอะ ตอนก่อนซึ้งมาก ทุกอย่างที่ผ่านมาทำให้รู้สึกราวกับฝันจริงๆ
ชอบเรื่องนี้ อาร์ดิวน่ารักที่สุด การ์ฟก็จริงๆเป็นหนุ่มขี้แกล้ง ชอบปอมน้อยด้วย (เดี๋ยวโดนงอน)

เรื่องสนุกมากค่ะ ชอบทุกตอน ติดตามมาตลอด อยากให้มีตอนพิเศษด้วย อิอิิ
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ >>magic (22)+Last Magic<< 08/08/2556 หน้า 18 ค่ะ ขอบคุณทุกคน :)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 08-08-2013 15:44:11
 :ling1: น้องใหม่! ตอนจบทำพี่น้ำตาซึมได้  :ling1:

แต่ที่ถูกใจ อ่านแล้วขำก๊ากก็ ...

"โดยเฉพาะการทำหน้าเหวี่ยงใส่คนเขียนนี่... คะแนนติดลบเห็นๆ"

"ตี๋น้อยยิ้มแหยกับบทบรรยายแสนมั่วซั่วของคนเขียน"

"ตี๋น้อยยิ้มขำ ขณะที่น้องเล็กหัวเราะเสียงดังอย่างไม่เกรงใจ แบบว่าเจ้หาทางจบอยู่
ไม่รู้จะจบอย่างไรดีเลยลูกเอ๋ย เขียนไปเขียนมามันก็ยาวขึ้นเรื่อยๆ ออกทะเลไปแสนไกลลิบ"

"“ตัดจบเลยดีป่ะเจ๊ พวกผมจะได้ไปทำมาหากินกันเสียที”"

"จบ."

"“อ้าวเฮ้ย ทำไมมันสั้นจังวะ?” พนักงานชายใจโลเลร้องประท้วงบ้าง"

ใหม่เข้าใจแซวตัวเองนะนี่ 555 /

ประทับใจกับตอนจบค่ะ รู้สึกเหมือนตอนพิเศษมันจะตามมาใช่ไหมคะ (ทำตาปริบๆ)  :mew5: /
ฟิลของเรื่องมันว่าอย่างนั้น ^ ^ แต่อย่ากังวลนะคะ รู้ว่ามันยากสำหรับน้องในการเขียนแต่ละตอน
ถ้ามีเมื่อไหร่ก็อ่านเมื่อนั้นค่ะ /  :mc4: ไชโยให้ใหม่ วู้ฮู้  :mc4:   :กอด1:  :กอด1:

หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ >>magic (22)+Last Magic<< 08/08/2556 หน้า 18 ค่ะ ขอบคุณทุกคน :)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 08-08-2013 17:06:02
 :L1:ขอบคุณเรื่องราวน่ารักและความสุขที่มอบให้คนอ่านนะคะ
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ >>magic (22)+Last Magic<< 08/08/2556 หน้า 18 ค่ะ ขอบคุณทุกคน :)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 08-08-2013 17:12:33
จบแล้ว มีแซวตัวเองด้วยนะ
แล้วที่บอกปีหน้าพบกันใหม่นี่ หมายถึงปีหน้าถึงจะเขียนเรื่องใหม่เหรอ
ถ้ามาลงก็จะรออ่านนะจ้ะ

+1 ขอบคุณนะค่ะ
 :กอด1:   :mew1:
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ >>magic (22)+Last Magic<< 08/08/2556 หน้า 18 ค่ะ ขอบคุณทุกคน :)
เริ่มหัวข้อโดย: Vavaviz ที่ 08-08-2013 19:06:05
จบแล้ววว

จบน่ารักมากเลยค่าาาาา
รอติดตามเรื่องใหม่นะคะ. คึคึ
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ >>magic (22)+Last Magic<< 08/08/2556 หน้า 18 ค่ะ ขอบคุณทุกคน :)
เริ่มหัวข้อโดย: udongjay ที่ 08-08-2013 21:13:00
จบแล้วอ่า แง~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
ต่อไปก็จะไม่มีนิยายอีกเรื่องแล้วง่ะ
ตอนจบน้องปอมยังน่ารักเหมือนเดิมเลย แอยสงสารไวน์
(หาคู่ให้ไวน์หน่อยจิ)
ส่วนของดิวกับการ์ฟก็หวานเนอะ

คึคึ บวกคร้ายยยยยย
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ >>magic (22)+Last Magic<< 08/08/2556 หน้า 18 ค่ะ ขอบคุณทุกคน :)
เริ่มหัวข้อโดย: nemesis ที่ 09-08-2013 00:15:53
จบ แล้วววว
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ >>magic (22)+Last Magic<< 08/08/2556 หน้า 18 ค่ะ ขอบคุณทุกคน :)
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 09-08-2013 01:21:22
การ์ฟทำตกอกตกใจหมดเลย
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ >>magic (22)+Last Magic<< 08/08/2556 หน้า 18 ค่ะ ขอบคุณทุกคน :)
เริ่มหัวข้อโดย: greensnake ที่ 09-08-2013 14:16:33
เออเนอะ ราวกับฝันไปมันเป็นอย่างนี้นี่เอง
แต่เรื่องที่ทั้งสองคนใจตรงกันก็คือเรื่องจริง :-[
ดีใจกับวันใหม่ที่ส่งเด็กๆถึงฝั่งอีกเรื่องแล้ว
แม้จะเจออุปสรรคทั้งในเรื่องนิยายและชีวิตจริง
ไม่ว่าจะยากเย็นแค่ไหนก็ผ่านมันมาได้อย่างสวยงาม
รอวันใหม่ในปีหน้า คาดว่าคงไฉไลกว่าเดิมแน่นอน
ขอบคุณสำหรับเรืี่องราวสนุกๆเรื่องนี้ ตัวละครที่น่ารัก
โดยเฉพาะน้องหัวเห็ด คนนี้รักมากเป็นพิเศษ :man1:
ขอบคุณวันใหม่มากค่ะ :กอด1:
+1และเป็ดแทนคำขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ >>magic (22)+Last Magic<< 08/08/2556 หน้า 18 ค่ะ ขอบคุณทุกคน :)
เริ่มหัวข้อโดย: TinyB ที่ 09-08-2013 18:30:47
เลิกงานปุ้บรีบเข้ามาอ่านปั้ป
งื้อออ เดินทางมาถึงตอนจบซะที เวลาผ่านไปเร็วจริงๆ ยังรู้สึกว่าอ่านไม่หน่ำใจเลยอ่ะพี่ใหม่ อิอิ (โลภ)

สุดท้ายนายการ์ฟก็ได้รักกับอาร์ดิวสักทีเนอะ ลุ้นแทบตายตอนพ่อแมวชีพจรเต้นอ่อนลง

ดีใจที่ได้อ่านเรื่องนี้และขอบคุณพี่ใหม่ที่แต่งนิยายสนุกๆมาให้อ่าน เจอกันปีหน้าฮะ คิคิ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ >>magic (22)+Last Magic<< 08/08/2556 หน้า 18 ค่ะ ขอบคุณทุกคน :)
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 09-08-2013 19:07:09
อ้าวเข้ามาอ่านอีกทีจบซะแล้ว
แต่ก็ขอบคุณกับเรื่องราวดีดี
ที่ได้ถ่ายทอดออกมาให้ได้อ่าน
ทั้งสุขเศร้าเคล้าน้ำตาปะปนกันไป
แอบมีให้หลอนบ้างนิดๆสรุปแล้ว
ก็ชอบล่ะนะถึงได้ตามอ่านกัน
จะรอเรื่องต่อไปจ้า
 :L1: :pig4:
+1และเป็ด
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ >>magic (22)+Last Magic<< 08/08/2556 หน้า 18 ค่ะ ขอบคุณทุกคน
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 09-08-2013 19:09:39
จบแล้วอ่ะ สนุกมากค่ะ
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ >>magic (22)+Last Magic<< 08/08/2556 หน้า 18 ค่ะ ขอบคุณทุกคน :)
เริ่มหัวข้อโดย: YOSHIKUNI RUN ที่ 09-08-2013 20:01:29
จบแล้วววว

หง่ะ  ยังไม่ทันตั้งตัวเลยยย :heaven

ชอบตอนจบอ่ะ ฮาดีๆๆ  :m3:
ขอบคุนมากๆๆค่ะ ที่เขียนให้เราได้อ่านกัน

 :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ >>magic (22)+Last Magic<< 08/08/2556 หน้า 18 ค่ะ ขอบคุณทุกคน :)
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 11-08-2013 01:30:19
เฉลยตอนจบผิดจากที่คิดมาก

สนุกมากค่ะ รักคนเขียน
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ >>magic (22)+Last Magic<< 08/08/2556 หน้า 18 ค่ะ ขอบคุณทุกคน :)
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 11-08-2013 17:24:11
จบได้น่ารักมากจ้า ^^
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ >>magic (22)+Last Magic<< 08/08/2556 หน้า 18 ค่ะ ขอบคุณทุกคน :)
เริ่มหัวข้อโดย: NIMME ที่ 13-08-2013 22:13:08
เป็นตอนจบที่สุดยอดมาก
เขียนเก่งมากๆเลยค่ะ
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆสนุกๆนะคะ :hao6:
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆
เริ่มหัวข้อโดย: fay_13 ที่ 14-08-2013 19:19:05
จบได้น่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก  :-[ :-[

เรื่องนี้อ่านแล้วถึงกับยิ้มตามด้วยความอารมณ์ดีแบบสุดๆ เลยทีเดียว ชอบมากถึงมากที่สุด  :hao5: :hao5:

อาร์ดิวก็น่ารัก เป็นตี๋น้อยขี้อายที่ขยันโดนนายการ์ฟรังแกแบบสุดๆ

เจ้ากะปอมน้อยที่จิ๋วแต่ตัวแต่ความคิดไม่เด็กเอาใจไปเลย

เรื่องนี้ถ้าถามว่าชอบใครที่สุดก็คงเป็นเจ้ากะปอมนี่แหละ  :give2:
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 20-08-2013 14:59:44
ปอมปอม เด็กหัวเห็ด น่ารักจัง
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวน่ารักๆ จ้า
 :3123:
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆
เริ่มหัวข้อโดย: aoaer ที่ 20-08-2013 22:00:42
ห่างหายจากเล้าไปนาน  กับมา  จบแล้วอ่ะ  :mew2: :mew2:   อิอิ  แต่งสนุกมากมายเลยค๊า

ตอนจบน่ารักอ่ะ ที่แรกเอกราฟจะตายจริงๆหรอ จริงอ่ะ แล้วยิ่งบอกว่าเรื่องราวที่ผ่านมาเป็นความฝัน

จะบอกว่าช็อคค่ะ ทำไมทำแบบนี้  แต่พออ่านไปเรื่อยๆ โอเค ไม่มีหักเหลี่ยมหักมุมมากกว่านี้ และจบ

แบบแฮปปี้ ก็ยิ้มสยามเลยค๊    ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆนะคะ    :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆
เริ่มหัวข้อโดย: superoum ที่ 27-08-2013 17:03:49
ใจหายหมดเลยยยยยยย
นึกว่าจะจบไม่สวยซะแล้ววว
คนเขียนทำกันได้
ขอบคุณที่เขียนนิยายเรื่องนี้ขึ้นมานะค่ะ
สนุกครบรสมากเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 27-08-2013 21:50:36
เข้ามารอเผื่อมีข่าวดี อิอิ  :mew3:
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ ตอนพิเศ๊ษ พิเศษ มาอ่านกันเต๊อะ (30/08/2556)
เริ่มหัวข้อโดย: wanmai ที่ 30-08-2013 02:01:20
Magica Café

Special Magic




กะปอมน้อยในวันนี้กลายเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมากนัก เวลาที่มีคนล้อเรื่องดังที่กล่าวมาข้างต้น เด็กหนุ่มมหา’ลัยมักบอกว่าตนเองตัวโตขึ้นนะ ส่วนสูงก็เพิ่มขึ้นมาตั้งสองเซ็นต์แหนะ ผมก็ไม่ได้เป็นทรงหัวเห็ดแล้วด้วย แต่เปลี่ยนมามัดจุกเล็กๆด้านหน้าแทน มีเพียงแว่นตาแฟชั่นที่ยังไม่คิดจะเปลี่ยน ก็มันเก๋ดีอ่ะ

ชีวา หนุ่มวัยทำงานก็ยุ่งอยู่กับงานตลอด ยังดีที่บ้านอยู่ติดกันถึงได้ไม่เกิดปัญหาผิดใจกันเรื่องเวลาที่มีน้อยในแต่ละวัน บางทีเหนื่อยๆกลับมาก็นอนมันทั้งอย่างนั้นจนลิงแสบปีนข้ามมาปลุกให้ไปอาบน้ำ กินข้าว วันนี้ก็ยังเป็นอีกวันที่เขาต้องเร่งงานให้เสร็จ เพื่อจะได้มีเวลาว่างให้ครอบครัว ให้น้องบ้าง แต่ถึงจะคิดเช่นนั้นก็ใช่ว่ามันจะง่ายดายดังใจคิด เพราะงานจุกจิกก็เข้ามาได้เรื่อยๆ ไม่ใช่ไม่ดีหรอก เพราะไม่มีงานก็ไม่มีเงิน งานยุ่งแล้วกระเป๋าตุงเลี้ยงน้องได้ก็โอเค

เสียงเคาะกระจกประตูระเบียงเรียกความสนใจจากคนที่ก้มหน้าก้มตาทำงานให้เงยมอง พอเห็นว่าใครชีวาก็อมยิ้ม วันนี้มาแปลกแฮะ สงบเสงี่ยมเชียว

กะปอมน้อยค่อยเปิดประตูเข้ามาเมื่อพี่หันมาเห็นแล้ว เดินไปนั่งรอพี่ทำงานเสร็จที่เตียงพร้อมหนังสือในอ้อมแขนที่หอบมาด้วย พี่ทำงานหนัก เขาเองก็ต้องตั้งใจเรียนด้วยเหมือนกัน คุณพ่อคุณแม่จะได้ไม่ต้องห่วงกังวลว่าอนาคตของเขาจะไม่สดใส เตียงนอนของชีวาดูจะเป็นที่ประจำของปอมปอมไปแล้ว คนเป็นพี่เคยคิดจะซื้อโต๊ะอีกสักตัวมาไว้ในห้องเพื่อให้น้องใช้ด้วยเหมือนกัน แต่ปอมปอมว่ามันสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ แถมยังจะทำให้ห้องชีวาแคบลงไปอีกด้วย โต๊ะหน้าโทรทัศน์ก็มีแต่ปอมปอมไม่ชอบใช้ ชอบนอนที่นอนนุ่มๆแล้วอ่านหนังสือมากกว่า มันดูไม่จริงจังแต่มันเข้าหัวเขามากกว่านั่งเครียดอยู่หน้าโต๊ะอย่างเป็นการเป็นงานเสียอีก

“ป๋าครับ”

“ครับผม” ชีวาขานรับเสียงเรียกของเด็กบนเตียงโดยที่ไม่ได้หันไปมอง

“งานป๋าจะเสร็จเมื่อไหร่อ่ะครับ?”

ชีวาทำท่าคิดเล็กน้อยก่อนบอก “อืม... น่าจะไม่เกินพรุ่งนี้นะ เหลือเก็บรายละเอียดอีกนิดหน่อย”

“จริงอ่ะ!”

ตัวผอมๆกลิ้งกลับมานอนคว่ำหันหน้ามาทางที่พี่นั่งทำงานอยู่ น้ำเสียงตื่นเต้นดีใจจนคนเป็นพี่ต้องละสายตาจากงานมามอง

“อะไร เสียงเปลี่ยนเลย จะอ้อนเอาอะไรอีก หืม?” เอ่ยถามดักคออย่างรู้ทัน

“เปล่าสักหน่อย แค่อยากให้ป๋าพักบ้างเท่านั้นเอง กลัวป๋าแก่กว่านี้” น้องย่นจมูกใส่ พลิกตัวกลับไปนอนอ่านหนังสือเหมือนเดิม

“แก่กว่านี้แล้วยังไง จะไม่รักพี่แล้วเหรอ?” ชีวายังเอ่ยถามมาอีก

“ก็อาจจะ” น้องหันมายิ้มทะเล้น ชีวาเลยชี้หน้าคาดโทษ

“เดี๋ยวจะโดน”

“ดูแลตัวเองบ้างนะครับป๋าวา ปอมไม่อยากมีแฟนเตะปี๊บไม่ดังทั้งที่อายุยังไม่ถึงสามสิบ”

หยามกันเห็นๆ ป๋ายอมได้หรือ “ให้งานพี่เสร็จก่อนเถอะ เดี๋ยวจะรู้ว่าดังไม่ดัง”

“รออยู่”

“............”

“ว๊ากกก ป๋า งานยังไม่เสร็จเลย~” กะปอมน้อยรีบกลิ้งตัวหลบเมื่อคนเป็นพี่พุ่งมาหาด้วยความเร็วแสง

“ช่างมัน ชอบยั่วนัก เดี๋ยวป๋าจัดให้!”

“ฮ่าๆๆๆๆ ป๋า ปอมจั๊กจี๋ อ๊ากกกก”

ชีวากดแขนเล็กกับเตียง ปลุกปล้ำเด็กแสบที่ดิ้นไปดิ้นมาแล้วหัวเราะคิกคัก ก่อนจะร้องโวยวายเมื่อพี่จับถอดเสื้อแล้วแกล้งเม้มแกล้งซุกไซ้ไปตามร่างกาย ดิ้นจนเหนื่อยกะปอมน้อยก็นอนหอบแฮ่ก แววตาซุกซนมองพี่ก่อนจะหัวเราะหึๆน่าหมั่นไส้ ชีวาจึงแกล้งล้มตัวลงไปนอนทับบนตัวน้องราวหมดเรี่ยวแรง

“เหนื่อย” ชีวาบ่นเบาๆแล้วกดจูบไหล่เปลือยที่ตนเองซุกซบอยู่

“เห็นป่ะ เตะปี๊บไม่ดังจริงๆด้วย” ว่าแล้วเด็กแสบยังหัวเราะตบท้ายเสียด้วยสิ

“หึ”

ริมฝีปากหยักงับหูน้องก่อนยกตัวขึ้น เล่นทับทั้งตัวไม่กลัวน้องแบนเลยแบบนี้ไม่ดีเท่าไหร่ กะปอมน้อยยิ่งตัวน้อยสมชื่ออยู่ เมื่อพี่ลุกออกไปกะปอมน้อยก็ขยับมานั่งทับขาแล้วตบที่นอนปุๆ

“ป๋านอนลงดีกว่า เดี๋ยวปอมนวดให้ มามะ”

ชีวาหรี่ตามอง ก่อนยอมนอนลงตามคำชวน รู้สึกล้าๆเหมือนกัน พักสักหน่อยก็ดี นอนนิ่งๆให้ลูกลิงนวดได้ไม่นานชีวาก็ชักอยู่ไม่สุข ไม่รู้ว่ามือนุ่มๆนั่นจะนวดหรือว่าเขี่ยเล่น สยิวกิ้วดีพิลึก

ริมฝีปากนุ่มๆงับลงมาบนผิวเนื้อทำให้ชีวาสะดุ้งหน่อยๆ พยายามหลับตานิ่ง แต่ยิ่งมองไม่เห็นยิ่งจินตนาการไปไกล ความอุ่นนุ่มละมุนของริมฝีปากค่อยไล่ลงมาที่หน้าท้อง ชีวาแทบหยุดหายใจไปในนาทีนั้น กระดุมกางเกงถูกปลด ก่อนที่ซิปจะถูกรูดลงช้าๆ...



บนเตียงนอนแสนยับย่น ปอมปอมซุกตัวใต้ผ้าห่มหนานุ่มนอนหลับปุ๋ย ที่โต๊ะทำงาน ชีวาในกางเกงนอนตัวเดียวเปิดโคมไฟทำงานไปเงียบๆ ไม่สนใจจะหยิบเสื้อมาสวมเพราะอยากรีบทำงานให้เสร็จตอนที่กำลังมีไฟแล้วไปนอนต่อมากกว่า เหลียวไปมองน้องที่นอนหลับแล้วยิ้มกับตัวเองก่อนลงมือทำงานต่อจนเสร็จถึงได้ลุกขึ้นบิดขี้เกียจแล้วไปนอนข้างๆน้อง

กะปอมน้อยงัวเงียลืมตาขึ้นมา แขนเรียวกอดแขนพี่เอาไว้แล้วหนุนนอนต่อ คนเป็นพี่ลูบผมน้องเบาๆ สอดแขนเข้าไปใต้ผ้าห่มแล้วรั้งน้องมากอด ผิวเนื้ออุ่นๆภายใต้ผ้าห่มหนาทำให้รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก ริมฝีปากกดจูบหน้าผากน้อง คนที่รักเขา เข้าใจเขา และรู้ใจเขาไปเสียทุกอย่าง


..............


ถนนสายหลักในเมืองหลวง การ์ฟกำลังขับรถเข้าเมืองกรุงมา ฝ่าการจราจรที่ค่อนไปทางติดขัดจนเกือบไปรับคนบางคนสาย การที่ได้ผ่านวิกฤตเฉียดตายมาสองครั้งสองคราทำให้เขารู้คุณค่าของชีวิตมากขึ้น ช่วงเวลาที่ยังมีชีวิตอยู่อยากอยู่กับคนที่รักและทำประโยชน์ให้พวกเขาได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ หลังเรียนจบการ์ฟจึงได้กลับไปช่วยงานของครอบครัว ครอบครัวของเขาทำกิจการเกี่ยวกับเครื่องเซรามิก ด้วยการบุกเบิกจากรุ่นคุณพ่อทำให้เมื่อเขาเข้ามาทำงานมันก็ไม่ได้เหนื่อยยากมากจนเกินไปนักที่จะขยายตลาดออกไปให้กว้างขึ้น ทั้งยังเปิดโอกาสให้คนในชุมชน ทั้งที่มีฝีมือฉมังและที่อยากเข้ามาฝึกมีรายได้พอเลี้ยงครอบครัว คุณพ่อบอกกับเขาว่าการเกื้อหนุนและพึ่งพาอาศัยกันแบบนี้มันจะทำให้เราไม่มีวันตกยาก แม้จะพบเจอวิกฤตเราก็จะผ่านมันได้ เพราะเราไม่ลืมพวกเขา เมื่อเกิดปัญหาพวกเขาเองก็จะไม่ลืมเราเช่นกัน

ความสัมพันธ์ของเขากับอาร์ดิวนานๆถึงได้เจอกันที ที่เป็นเช่นนี้ความจริงก็เหงาอยู่ แต่ก็เข้าใจดีว่าอะไรสำคัญที่สุดในชีวิตของแต่ละคน

เมื่อฝ่าการจราจรมาได้การ์ฟก็มารับตี๋น้อยถึงที่ทำงาน ตอนนี้หนุ่มตี๋กลายเป็นพนักงานบริษัทไปเสียแล้ว กิจการร้านอาหารของที่บ้านไม่ได้ทิ้งไปไหน ในอนาคตยังคงจะดำรงอยู่ต่อและพัฒนามันให้ดียิ่งขึ้น แต่ในเวลานี้ตี๋น้อยและน้องชายอย่างปอมปอมมีหน้าที่หลักของตนเอง คือคนหนึ่งเรียนและอีกคนทำงานหาประสบการณ์ คุณพ่อคุณแม่เองก็สนับสนุนให้ทำงานที่ทำอยู่ในปัจจุบันนี้ เพราะอยากให้ลูกได้พบเจอผู้คนหลากหลายและเรียนรู้การใช้ชีวิตร่วมกับคนอื่นที่แตกต่างจากเราโดยสิ้นเชิง ไม่ใช่แค่เพียงในสถานบันการศึกษาแต่เป็นองค์กรที่รวมคนหลายแบบอย่างบริษัทที่อาร์ดิวทำงานอยู่นี่ต่างหาก พบเจอสิ่งไหนไม่ดีก็อยากให้ลูกได้ดูไว้เป็นเยี่ยงแต่อย่าเอาอย่าง และหาทางรับมือกับมันให้ได้

ตอนนี้กฎห้ามขับรถของการ์ฟได้ถูกยกเลิกไปแล้ว เพราะถึงอย่างไรก็ต้องใช้ในการไปติดต่อธุรกิจ เวลาขับรถการ์ฟเองก็ต้องระมัดระวังให้มาก จะทำเป็นวัยรุ่นเลือดร้อนเหมือนแต่ก่อนไม่ได้แล้ว ยิ่งมีตุ๊กตาหน้ารถนั่งไปด้วยยิ่งต้องระมัดและระวังมากเป็นพิเศษ
รออยู่ไม่นานอาร์ดิวก็ออกจากบริษัทมาพร้อมมิมิว สองคนนี้อยู่ด้วยกันตั้งแต่เด็กจนโต จนทำงานก็ยังได้ทำที่เดียวกันอีก คงไม่มีทางห่างกันไปไหนได้แน่ๆทีเดียว มิมิวที่เห็นว่าการ์ฟที่มารับเพื่อนของตนในวันนี้จ้องแขนตนเองที่ควงแขนอาร์ดิวอยู่ก็แกล้งกอดแขนอาร์ดิวแน่นขึ้นอีก เอียงศีรษะซบจนการ์ฟหมั่นไส้ พอเดินมาใกล้การ์ฟจึงวางมะเหงกไปเบาๆหนึ่งที ก่อนจะงอแขนให้มิมิวสอดแขนเข้าไปควง หญิงสาวคนเดียวยิ้มกริ่ม วันนี้ได้ควงสองเลยแฮะ

การ์ฟกับอาร์ดิวไปส่งมิมิวที่บ้านก่อนที่จะตรงมาบ้านการ์ฟ พี่ธารมารอมิมิวอยู่ที่บ้านของเธอ ทำให้สองหนุ่มลงไปทักทายพี่เขาก่อนกลับ พี่ธารกับมิมิวยังคบกันอยู่ ท่าจะมีอนาคตที่ดีร่วมกัน



รถการ์ฟแล่นเข้ามาจอดในบ้าน สองหนุ่มเอาข้าวของที่แวะซื้อก่อนเข้าบ้านไปเก็บ ตี๋น้อยถามว่าอยู่ได้กี่วันการ์ฟจึงบอกมาว่าคุณพ่ออนุญาตให้พักสามวัน ตี๋น้อยพยักหน้ารับรู้ เอาของออกจากถุงไปเก็บในตู้เย็น ของกินทั้งนั้นล่ะ กลัวว่าพ่อคนนี้เขาจะขี้เกียจออกไปหาอะไรกินแล้วอดตายเอาเลยให้แวะซื้อมาตุนไว้ เอาไว้เผื่อน้าเทสต์กับพี่บิวด้วย

การ์ฟมองตี๋น้อยที่จัดนั่นจัดนี่ไปเรื่อยแล้วก็อมยิ้มเล็กๆ ก่อนเดินเข้าไปหาแล้วเท้าแขนกับขอบโต๊ะกักตัวอีกคนไว้

“คิดถึงฉันไหม?”

เสียงกระซิบข้างหูทำให้อาตี๋อมยิ้ม หันกลับมาเผชิญหน้าแล้วพยักหน้ารับ การ์ฟยิ้มบางแล้วจูบแก้มเนียนเบาๆ

“น่ารักมาก”

คำชมเชิงหยอกเย้านั้นทำเอาตี๋น้อยรู้สึกขวยจนเขิน ไม่กล้ามองสบสายตาของอีกคนให้ใจเต้นแรงมากไปกว่านี้ การ์ฟมองท่าทางนั้นด้วยความเอ็นดู แขนแข็งแรงช้อนใต้สะโพกสอบแล้วยกร่างเพรียวจนขาลอยจากพื้น อาร์ดิวร้องด้วยเพราะตกใจ

“การ์ฟ เดี๋ยวตก”

การ์ฟยิ้มพราย พาตี๋น้อยเดินขึ้นชั้นบน มือเรียวดันไหล่เขาแล้วเอนตัวออกห่าง แต่ก็คล้ายจะเกาะเอาไว้กันตกอยู่ในที เพราะแขนของเขาทั้งสองข้างช้อนใต้สะโพกไว้เท่านั้น เมื่อเข้ามาในห้องนอนการ์ฟก็วางอีกคนลงนั่งบนเตียง มองสบสายตากันนิ่งแล้วเขาจึงโน้มไปจูบหน้าผากอาร์ดิว

“อยากมีช่วงเวลาแบบนี้บ้างจังนะ อุ้มเจ้าสาวเข้าห้องหอ”

การ์ฟว่าพร้อมยิ้มล้อ ทางด้านอาตี๋ที่ได้ยินแบบนั้นกลับคิดเป็นอย่างอื่นไป แต่ไม่มีถ้อยคำประชดประชันใดให้ระคายหู เพราะหากทำเช่นนั้นเดี๋ยวเรื่องมันจะไปกันใหญ่ เกิดบ่อน้ำตาแตกขึ้นมาล่ะแย่เลย

“อย่าทำหน้าแบบนั้นน่า ไม่ได้จะไปขอใครที่ไหนแต่งงานด้วยสักหน่อย ก็ฉัน... มีนายอยู่แล้วทั้งคน”

การ์ฟรีบเอ่ยเอาใจเมื่อเห็นตี๋น้อยทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ คิดไปถึงไหนแล้วไม่รู้ ชายหนุ่มจูบแก้มคนรัก ก่อนระเรื่อยมาที่ปลายคางเรียว จูบซับเรียวปากนุ่มแล้วกดย้ำหนักๆ ร่างสูงเพรียวถูกเอนลงไปบนเตียง สองแขนเรียวสอดคล้องคอการ์ฟเอาไว้อัตโนมัติ

“การ์ฟ...”

“หือ?”

“รักคุณนะ”

การ์ฟชะงัก ก่อนจะเผยยิ้มออกมา ก้มลงจูบริมฝีปากอมชมพูที่เผยอน้อยๆหนักหน่วง ถึงอาร์ดิวไม่ยั่ว เขาก็อยากจูบวันละหลายเวลา ริมฝีปากนี้ถูกสร้างมายั่วกิเลสในตัวเขาจริงๆ

“รักตี๋น้อยคนนี้ที่สุดเหมือนกันครับ”

เสียงทุ้มกระซิบบอกความในใจ มอบจูบแสนหวานตอบแทนคำรักจากอีกคน ทั้งยังตักตวงกลับมาไม่รู้จบสิ้น อาภรณ์หุ้มกายหล่นหายไปในเวลาเพียงไม่นาน...

...............

ช่วงค่ำมีเสียงรถมาจอดหน้าบ้านของสองพี่น้องปอปลา ปอมปอมที่อยู่บ้านกับพี่มุ่ยออกไปหน้าบ้าน เห็นพี่ชายของตนลงจากรถมาจึงเปิดประตูเล็กไว้รอ สายตามองพี่ชายตั้งแต่หัวจรดเท้าแต่ไม่ได้พูดอะไร แค่อมยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ตามประสา พอพี่หันมาเห็นก็ทำมองนกมองไม้ทั้งที่อมยิ้มจนแก้มตุ่ย อาร์ดิวส่ายหน้าก่อนหันไปลาคนในรถที่มาส่งตน

“อยู่กันสองคนล็อคบ้านดีๆนะ จะไปไหนมาไหนต้องระวังตัวรู้ไหม ดูแลตัวเองด้วย” เสียงกำชับกำชาจากคนในรถดังมา

“ครับผม”

ตี๋น้อยยิ้มรับ ก่อนขยับออกมาโบกมือลาเมื่อรถของการ์ฟเคลื่อนตัวออกไป หันกลับมาน้องก็มองตนเองยิ้มๆอย่างมีเลศนัย มือเรียวเอื้อมหยิกแก้มเด็กทะเล้น

“โอ๊ยๆๆ ปอมเจ็บนะดิว โอ๊ยยย”

“อย่ามาโอเวอร์แอคติ้ง พี่ดึงเบาๆเองเหอะ”

กะปอมน้อยบุ้ยปาก ลูบแก้มตัวเองป้อยๆแล้วว่า “ผิวปอมมันบอบบางอ่ะ ดึงเบาไม่เบามันก็เจ็บเหอะ”

“หือออ บอบบางจริงๆเลยนะ” มือเอื้อมไปหยิกแก้มอันแสนจะบอบบางของน้องอีกสักที

“ดิวอ่ะ”

“เข้าบ้านได้แล้ว”

อาร์ดิวหัวเราะเบาๆ โอบบ่าน้องพากันเดินเข้าบ้านปิดประตูใส่กลอนตามที่การ์ฟกำชับมาอย่างเรียบร้อย

“กินข้าวเย็นยัง?” คนเป็นพี่เอ่ยถามขณะเดินเข้าบ้าน น้องเอนตัวมาเดินเบียดๆเขา ตี๋น้อยเลยโยกศีรษะกลมไปมา วันนี้ไม่มัดจุกแฮะ

“ยัง รอดิวอยู่ หม่ามี้ให้พี่ที่ร้านเอากับข้าวมาให้เยอะเลย”

“เหรอ ว่าไปแล้วก็อยากทานข้าวกับพ่อแม่จังอ่ะ”

“ไปที่ร้านไหม?” น้องเอ่ยชวน

“ค่ำแล้วนี่สิ ไว้วันหลังเราไปกัน พักนี้ไม่ได้หยุดเลย เดี๋ยวพอพ่อกับแม่ไปฮันนีมูนกันอีกเราหงอยแน่”

อาร์ดิวว่า เพราะเดือนนี้คุณพ่อไปป์กับคุณแม่รวิเตรียมแผนจะไปเที่ยวรอบโลกกันอีกแล้ว คราวนี้ไม่ได้ไปไกลอะไรมาก เที่ยวในประเทศนี้ล่ะ ยังมีหลายที่ที่ยังไม่เคยไป ที่เที่ยวใหม่ๆก็ผุดขึ้นมาเยอะเลยทีเดียว นานทีปีหนจะสวีทหวานกันสักที

“ปอมจะไปด้วย” กะปอมน้อยโพล่งขึ้นมา ท่าทางหมายมั่นเหลือเกิน แต่ถูกพี่ชายเบรคเสียตัวโก่ง

“คงได้ไปหรอก”

สีหน้าน้องเล็กดูเซ็งขึ้นมาทันใด “จริงด้วย”

อาร์ดิวยิ้มขำ กอดคอน้องเข้าบ้านไปทานข้าวกัน ใช้พลังงานเยอะ หิวจะแย่แล้ว


.............


หลังไปส่งอาร์ดิวแล้วการ์ฟก็ตรงกลับมาบ้าน น้าเทสต์กับพี่บิวกลับมาแล้ว เวลาผ่านมาก็ถือว่านานมากสำหรับทั้งคู่ แต่พวกเขาสองคนก็ยังคบกันไม่เปลี่ยน ยาวนานและมั่นคง จุดเริ่มต้นของพวกเขาก็มาจากคำทำนายของเทสต์ เหมือนกับที่น้าชายทำนายเรื่องของเขากับอาร์ดิว ก่อนนี้เขาเคยปฏิเสธมันมาตลอด แต่ตอนนี้เขาเชื่อหมดใจเลย

“กลับมาแล้วเหรอครับ?” การ์ฟเอ่ยทัก

“อ้าว มาไม่บอกเลย” เทสต์ทักกลับน้ำเสียงแปลกใจ หลานชายยักคิ้วแผล็บ

“เซอร์ไพร์สป่ะล่ะ?”

คนเป็นน้ายิ้มขำ ก่อนเอ่ยถามไถ่ “กินอะไรหรือยังล่ะ พวกน้ากินมาจากข้างนอกแล้ว”

“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงครับ หลานสะใภ้น้าเตรียมของกินไว้เต็มตู้เลย แต่เจ้าตัวดันไม่ได้กินอะไรก่อนกลับสักอย่าง” การ์ฟเอ่ยถึง ‘หลานสะใภ้’ คนที่ว่ายิ้มๆ

“อ้อ งั้นก็หาอะไรกินเองนะ น้าขอตัวไปอาบน้ำก่อน เพลียชะมัด”

“ครับ นอนพักเลยก็ได้นะเทสต์ ข้างล่างผมดูแลเอง” การ์ฟเสนอเพราะเห็นน้าชายดูเพลียดังว่า

“อืม ขอบใจ... ไปบิว” เอ่ยขอบคุณหลานแล้วแขนแกร่งก็โอบเอวคนรักชักชวนขึ้นชั้นบน บิวจึงหันมาพูดกับการ์ฟ

“ราตรีสวัสดิ์ล่วงหน้าเลยแล้วกันนะการ์ฟ พรุ่งนี้ค่อยคุยกัน”

“ครับพี่บิว ราตรีสวัสดิ์”

ทั้งสองคนขึ้นบ้านไปแล้วการ์ฟจึงได้ไปหาอะไรทาน ไม่ได้กะให้อิ่มหรอก เพราะตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว แค่รองท้องหน่อยก็น่าจะพอ เดี๋ยวเผื่อคนเลือกซื้อเขาโทรมาถามว่าทานหรือยังแล้วตอบเขาไม่ได้ว่ากินอะไรไปบ้าง


อ่างอาบน้ำขนาดกลางภายในห้องน้ำ เทสต์ที่นั่งแช่น้ำอุ่นผสมกลิ่นหอมชวนผ่อนคลายเอนหลังไปพิงบิวที่นั่งซ้อนอยู่ด้านหลังคอยนวดไหล่นวดขมับให้ เทสต์จับมือบิวอ้อมข้ามไหล่มาด้านหน้าแล้วบีบเบาๆ เอนศีรษะอิงอกบาง

“วันนี้เป็นอะไร ดูเหนื่อยๆนะ” คิ้วบิวขมวดเล็กๆกับลักษณะอาการของคนรัก

“อืม เจอคนเรื่องเยอะนิดหน่อย ต้องกดอารมณ์สุดๆเลย”

“ช่วยไหม?” เอ่ยถามไปเช่นนั้นทั้งที่ไม่แน่ใจว่าตนเองจะทำได้ คำว่า ‘ช่วย’ ของบิว พวกเขารู้ดีว่ามันหมายถึงอะไร

“ไม่เอา เดี๋ยวบิวเจ็บ” เทสต์จูบมือเรียวเบาๆแล้วเอามาแนบแก้มตนเอง

“เดี๋ยวก็หาย” บิวยังเอ่ยต่อ

“ไม่ทำหรอก ถึงจะหายแต่เทสต์รู้สึกผิด”

“อยากช่วย”

“แค่ให้เทสต์กอดแน่นๆก็พอ”

“แน่เหรอ?” บิวเลิกคิ้ว ไม่คิดว่าเท่านั้นมันจะทำให้เทสต์สงบลงได้หรอก

“แน่ เทสต์อยากให้บิวมีความสุขมากกว่าต้องมาเจ็บตัวเพราะเทสต์คุมตัวเองไม่อยู่”

เทสต์เอี้ยวหน้ามายิ้มให้คนรัก จูบปลายคางเรียวเบาๆให้อีกฝ่ายคลายกังวลเรื่องของตนเอง บิวถอนใจเบาๆก่อนดันตัวเทสต์ให้ขยับลุกจากอ่าง

“ก็ได้ งั้นรีบอาบ จะได้ไปนอน...กอดกัน” ท้ายประโยคเอ่ยเสียงเบาลงกว่าเดิมเล็กน้อย ขณะที่คนฟังอย่างเทสต์อมยิ้มชอบใจ

“หึๆ พูดจาน่ารัก มาหอมที”

แก้มขาวถูกหอมฟอดใหญ่ ก่อนที่คนหอมจะลุกไปเปิดฝักบัวล้างตัว บิวเองก็ขยับลุกแล้วเปิดน้ำในอ่างให้ไหลออกไปแล้วไปล้างตัวบ้าง ก่อนจะพากันไปนอนพักเอาแรง เพื่อตื่นขึ้นมารับเช้าที่สดใสด้วยกัน


............

ต่อด้านล่างค่ะ :L1:
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ ตอนพิเศ๊ษ พิเศษ มาอ่านกันเต๊อะ (30/08/2556)
เริ่มหัวข้อโดย: wanmai ที่ 30-08-2013 02:02:18
วันเวลาผ่านไป ชีวิตของแต่ละคนก็เปลี่ยนแปลง ที่ไม่เปลี่ยนคงมีแต่หัวใจของพวกเขาที่ยังผูกพันกันแน่นหนา พี่ชายคนโตอย่างเมฆเมื่อเรียนจบปริญญาโทก็เริ่มลงแรงขยายธุรกิจของครอบครัวเข้ามาในเมืองหลวง ขณะเดียวกันก็เรียนปริญญาเอกจนได้วุฒิบัตรมาอีกใบ เป็นหน้าเป็นตาให้ครอบครัวได้มากทีเดียว

ตั้งแต่ที่คินตา เจ้าวิญญาณร้ายที่ทำให้น้องชายของเขาอย่างอาร์ดิวกับการ์ฟกลายเป็นเจ้าชายนิทราจากไปก็เหมือนใจของเขามันโหวงเหวงพิกล ทั้งที่หมอนั่นร้ายกาจแบบนั้น แต่เขากลับเกลียดไม่ลง การใช้ชีวิตร่วมกันระหว่างคนกับวิญญาณในระยะเวลาเพียงไม่นาน กลับทำให้เขาจดจำและไม่สามารถลบออกไปจากความทรงจำได้ มันเป็นเรื่องน่าตลก แต่เขาหัวเราะไม่ออก

บ้านสองชั้นสำหรับหนุ่มโสดอย่างเมฆมันดูใหญ่ไปนิด แต่เพื่อความสะดวกสบายเขาจึงได้ตัดสินใจซื้อมัน ถึงอย่างไรเขาก็ยังคงต้องทำงานที่กรุงเทพฯไปอีกนาน ซื้อบ้านเป็นหลักเป็นแหล่งไว้ก็ไม่เสียหลาย เพื่อนบ้านก็ดูเป็นมิตรดี แต่เขาก็ไม่ได้ผูกสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านมากนัก ได้แค่ทักทายกันบ้างเวลาเจอหน้า

กลับจากทำงานมา ‘บ้าน’ ของเขาก็ยังคงเงียบเหงาไม่เปลี่ยน เมฆคลายเนคไทแล้วปลดกระดุมเสื้อเพื่อคลายความอึดอัด ชายหนุ่มขึ้นบ้านไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดให้ดูสดชื่นขึ้น เมื่อกลับลงมาก็ต้องชะงัก ตาจ้องตา สายตาจ้องมองสิ่งแปลกปลอมภายในบ้านของตน

เมี้ยวววว

เสียงร้องเล็กๆสมกับตัวที่เล็กจิ๋ว เจ้าตัวสีขาวขนปุยนั่นจ้องเขาตาแป๋ว ก่อนจะเดินมาคลอเคลียที่ขา เมฆกะพริบตาปริบ ยังมึนๆอยู่เล็กน้อย ชายหนุ่มนั่งยองลงก่อนอุ้มเจ้าตัวน้อยขนปุยขึ้นมา เสียงร้องเมี้ยวๆยังดังอยู่ตลอด

“มาจากไหนกันล่ะนี่เจ้าแมวน้อย หลงทางมาเหรอ?”

นิ้วเขี่ยจมูกเล็กๆของมันเล่น ซึ่งเจ้าตัวน้อยก็ทำจมูกฟุดฟิดตาม เมฆมองแล้วก็พลอยอารมณ์ดี ดูๆไปแล้วแมวตัวนี้น่าจะหลงมาจากไหนสักแห่ง ยังเด็กขนาดนี้เจ้าของเลยยังไม่ได้ใส่ปลอกคอให้กระมัง แมวใครก็ไม่รู้ แล้วเขาจะเอาไปคืนที่ไหนกันล่ะนี่

หลังจากที่เจ้าขนปุยเข้ามาอยู่ในบ้านโดยไม่ได้รับเชิญ บ้านของเมฆก็ดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาหน่อย เสียงแง้วๆของมันพอทำให้เขาหายเหงาได้บ้าง เมฆซื้อข้าวของทุกอย่างเกี่ยวกับการเลี้ยงแมวมาเสียเต็มที่ เขาไม่เคยเลี้ยงสัตว์ ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรบ้างจึงได้ไปถามเอาดาบหน้าที่ร้านขายอุปกรณ์พวกนี้ และก็ได้มาเต็มไปหมดอย่างที่ว่า

วันนี้หลังกลับจากทำงานเขาก็ตรงกลับมาบ้านเช่นทุกที กลัวเจ้าแมวน้อยจะหิวแล้วหาอะไรกินไม่เป็น ชายหนุ่มจอดรถหน้าบ้านด้วยความแปลกใจเมื่อเห็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่หน้าบ้านตน เด็กคนนั้นหันมาทางรถของเขา หัวคิ้วเมฆขมวดเมื่อรู้สึกคุ้นๆคับคล้ายคับคลาว่าเคยเห็นที่ไหน ขณะที่กำลังคิดอยู่ร่างเล็กนั้นก็เดินเข้ามาเคาะกระจกรถ เมฆเลื่อนกระจกลงเด็กคนนั้นก็เยี่ยมหน้าเข้ามา

“ผมสงสัยว่าแมวผมอยู่ในบ้านของลุง”

แค่ประโยคแรกที่พูดออกมาเมฆก็ชักไม่ถูกชะตากับเด็กคนนี้แล้ว มาเรียกเขาว่าลุงได้อย่างไร เพิ่งสามสิบกว่าๆเองเถอะ เจ้าเด็กบ้า เมฆลงมาจากรถเพื่อที่จะได้คุยกับเด็กนี่ถนัดๆหน่อย เวลาจะด่าก็จะได้ด่าถนัดๆด้วย

“เมื่อกี้หนูว่ายังไงนะ?” เมฆจงใจเน้นคำว่าหนู อีกฝ่ายชักสีหน้าใส่ มันน่าเขกกบาลจริงๆเด็กคนนี้

“ผมบอกว่าผมคิดว่าลุงเอาแมวผมไปซ่อน” เปลี่ยนรูปประโยคใหม่เฉย

“หา?”

เมฆอุทานงงๆ แมวใคร อะไร ยังไง? เขาจะเอาแมวเด็กน้อยนี่ไปซ่อนทำไมกัน เล่นซ่อนหาแมวกันอยู่รึก็ไม่ใช่ สายตาดื้อรั้นที่จ้องเป๋งมาที่เขาทำให้เมฆจ้องกลับ ราวกับเกมจ้องตาระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่ ใครหันหลบก่อนแพ้

พอได้มองดูอย่างจริงๆจังๆเมฆถึงได้สังเกตเห็น เด็กคนนี้...

“คินตา...” ชายหนุ่มพึมพำชื่อที่หายไปจากเขานานมากแล้วอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา เมื่อครู่ภาพคินตามันซ้อนทับกับเด็กคนนี้ บ้าน่า อะไรจะโตเร็วปานนี้

“รู้ชื่อผมได้ไง?”

คิ้วเด็กชายขมวด ขณะที่เมฆตกใจยิ่งกว่าเก่า เรื่องบังเอิญซ้ำซ้อนหรืออย่างไรกัน

“อ่ะ... ลุงเป็นโจรป่ะเนี่ย?” ขาเรียวก้าวถอยหนีด้วยความระแวง เมื่อกี้เขาทำเก่งเพราะไม่ทันคิด แต่ตอนนี้เริ่มคิดแล้วว่าถ้าคุณลุงคนนี้เป็นโจร เขาจะทำอย่างไรดี

เมฆมองท่าทางหวาดหวั่นปนระแวงของเด็กตรงหน้าก่อนขาของเขาจะก้าวตามไป ไม่รู้ทำไม แต่เขาก็ก้าวเข้าหาเด็กนั่นด้วยท่าทีคุกคามไปแล้ว อีกฝ่ายก็หันรีหันขวางหาทางหนีทีไล่ใหญ่เชียว

“ถ้าฉันเป็นโจรแล้วจะทำไม?” เอ่ยถามท้าทายออกไปเช่นนั้นแล้วยกยิ้มมุมปากเมื่อเจ้าเด็กน้อยนี่เล่นตามเกม

“สารภาพออกมาแล้วใช่มะ!” นิ้วเรียวชี้มาที่เมฆ กล่าวหาเสียงดัง

“เด็กเอ้ย” เมฆทำเสียงเยาะเด็กน้อยทำเก่ง

“ลุงขโมยแมวผมไป ผมจะแจ้งตำรวจ” เด็กชายยังแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มอีกกระทง

“เหรอ อืม... แจ้งสิ มีหลักฐานหรือเปล่าล่ะ เพราะถ้ามันไม่ใช่ขึ้นมา เธอจะถูกแจ้งข้อหาแทนฉันนะ แจ้งความเท็จ เคยได้ยินไหม?” เมฆยังคงเอ่ยอย่างใจเย็นเป็นที่สุด เห็นเด็กตรงหน้าเต้นเป็นเจ้าเข้าแล้วอารมณ์ดีพิลึกล่ะ

เจ้าหนูน้อยกัดปากตัวเอง เพราะไร้ข้อโต้แย้ง ก่อนว่าอย่างหมดหนทาง “หลักฐานมีสิ อยู่ในบ้านลุงไง”

“แน่ใจ?” เมฆเลิกคิ้วถาม มันทำให้คนมองมองตาคว่ำ

“แน่ ถ้าลุงบริสุทธิ์ใจจริง กล้าให้ผมเข้าไปดูไหมล่ะ?”

สีหน้าท้าทายของเด็กชายคินตาทำให้เมฆแสยะยิ้มเย็นเยือก ก็แค่แกล้งเด็กน่า ความจริงเขาเป็นคนดีจะตาย ใครๆก็รู้

“ได้ ถ้ากล้าเข้าไปล่ะก็นะ”

เมฆยังไม่วายทิ้งไพ่ใบสุดท้ายในมือเพื่อล่อเหยื่อ เด็กชายคินตาหน้าตามุ่งมั่นทั้งที่ใจหวาดหวั่น เมฆทำเสียงเยาะในลำคอก่อนเปิดประตูบ้าน เหลือบมองเจ้าเด็กบ้าดีเดือดข้างหลัง ไม่ว่าจะตอนเป็นวิญญาณหรือเป็นคนก็ยังบ้าเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยนะคินตา

“เปิดเร็วๆสิลุง มีอะไรปกปิดใช่ไหมเนี่ย!” เสียงเย้วๆด้านหลังเร่งเร้าให้รีบเปิดประตู

เมฆเหลือบมองแล้วแอบบ่นในใจ ‘เจ้าเด็กนี่ ภัยจะมาถึงตัวยังไม่รู้อีก น่าเป็นห่วงจริงๆ เผื่อเจอคนไม่ดีเข้าทำไงวะ แต่จะว่าไปเรามันก็ไม่ใช่คนดีเด่ที่ไหน ไม่ระวังตัวเล้ย เด็กบ้า’

พอประตูเปิดออกเด็กชายก็เดินเข้าไปในบ้าน เมฆมองตาม หัวเราะในลำคออย่างกับคนโรคจิต ได้เวลาปิดประตูตีแมวแล้ว...


.................


“พี่เมฆมาช้าสุด”

กะปอมน้อยบ่นอุบเมื่อพี่ชายคนโตของพวกเขายังมาไม่ถึงที่บ้านเสียที วันนี้ที่บ้านจัดงานเลี้ยงกัน ไม่ได้มีเหตุการณ์พิเศษอะไร แค่นัดรวมตัวกันนานๆครั้ง แถมตอนนี้เวลาผ่านเนิ่นนานมาจนน้องเอิงแต่งงานมีครอบครัวแล้ว วันนี้สุดพิเศษคุณลุงการ์ฟพาหลานมาที่บ้านสองพี่น้องปอปลาด้วย เพราะบ้านสามีน้องเอิงอยู่ในกรุงเทพฯทำให้เธอใช้ชีวิตอยู่ที่นี่เป็นส่วนใหญ่ ขณะที่พี่ชายอย่างการ์ฟอยู่กับพ่อแม่ที่บ้านเกิดแทน

อาหารหวานคาววางเรียงบนโต๊ะตรงสนามหญ้าข้างตัวบ้าน การ์ฟกับน้าเทสต์และพี่บิวพาน้องอ้อนลูกสาวน้องเอิงมาด้วย หลังจากไหว้ทักทายเจ้าของบ้านการ์ฟก็อุ้มหลานไปนั่งที่ชิงช้าแบบม้านั่งยาว อาร์ดิวตักอาหารใส่จานมานั่งลงข้างๆทั้งสองคน แล้วค่อยป้อนน้องอ้อนก่อนที่พวกตนจะไปหาอะไรทานบ้าง

เมฆที่ปอมปอมแอบบ่นว่ามาช้า เขามาพร้อมเด็กวัยรุ่นคนหนึ่ง กะปอมหันไปมองพี่ชายคนโตที่เดินเข้ามาหาแล้วอมยิ้มนัยล้อเลียน

“ติดเด็กนี่เอง มิน่ามาช้ากว่าเพื่อน” น้องอดีตเห็ดน้อยว่า

“เดี๋ยวๆ มะเหงกจะลอยไป”

“ไม่เห็นกลัว”

น้องเล็กลอยหน้า ทำให้ถูกพี่ชายเขกหัวเข้าให้จริงๆ ริมฝีปากจิ้มลิ้มบ่นอุบๆอิบๆขณะที่มือก็ลูบหัวตนเองที่ถูกพี่ชายเขก ชีวาลูบผมน้องเบาๆช่วยคลายอาการเจ็บจี๊ดๆ กะปอมน้อยเลยอ้อนใหญ่ว่าเจ็บมากอย่างนั้นอย่างนี้จนพี่เมฆหมั่นไส้จะเขกให้เสียอีกที

“น้องครับ ไปรู้จักพี่เมฆได้ยังไงน่ะ?”

ปอมปอมเอ่ยถามหนุ่มน้อยแปลกหน้าที่พี่ชายคนโตพามาแนะนำในวันนี้ เด็กเขาเพิ่งสิบหกสิบเจ็ด พี่เมฆนี่ไม่กลัวคุกเสียแล้ว แถมอายุห่างกันตั้งยี่สิบกว่าปี ยิ่งกว่าพ่อกับลูกอีก เลี้ยงต้อยชัดๆเลยแบบนี้

“บ้านอยู่ข้างๆครับ” หนุ่มน้อยตอบคำถามพี่ปอมปอมด้วยรอยยิ้ม

‘โอ้ กินเด็กข้างบ้านเสียด้วย’ กะปอมน้อยยิ้มกระหยิ่มในใจก่อนจะโน้มไปใกล้แล้วซุบซิบกับน้องเขาเสียงเบา

“น้องไม่กลัวเหรอ?”

“กลัวอะไรครับ?” หนุ่มน้อยคินตาเอียงคอถาม มีอะไรน่ากลัวอย่างนั้นหรือ?

“พี่เมฆเลี้ยงผีไว้ตรึมเลยนะ” กะปอมน้อยไซโคน้อง

“เฮ้ย! ปอมปอมอย่ามั่ว”

พี่เมฆรีบแทรกอย่างร้อนตัว ปอมปอมหัวเราะร่า วันนี้เขารั่วสุดๆละ น้องคินตามองคนนั้นคนนี้ยิ้มๆแล้วบอกอย่างมั่นใจ

“ไม่กลัวหรอกครับ เพราะพี่เมฆต้องปกป้องผมแน่”

“หวา เขินเลยอ่ะ~~” กะปอมน้อยกุมแก้มทั้งสองข้างแล้วส่ายหน้าไปมา

“ปอมปอม!” พี่เมฆเรียกชื่อตัวแสบเสียงดังที่แซวตนเองกับน้องคินตา

“เรียกจังเลย กลัวลืมชื่อปอมเหรอ โอ๊ย!!”

โดนไปอีกโป๊กกับเด็กปากดี น้องคินตาหัวเราะเบาๆ กะปอมน้อยเลยคว้ามาจุ๊บแก้มด้วยความมันเขี้ยว เมฆร้องเสียงหลงรีบคว้าตัวน้องคินตาออกห่างจากกะปอมน้อยตัวแสบที่หัวเราะสะใจ

เทสต์ที่นั่งกับบิวอยู่อีกมุมหนึ่งมองทุกคนยิ้มๆ พอเหลือบไปเห็นหลานชายก็หัวเราะในลำคอเบาๆ การ์ฟ กับน้องอ้อน และอาร์ดิว ดูแลกันราวกับพ่อแม่ลูกเลยแฮะ

“เห็นอะไรอีกล่ะ?”

บิวเอ่ยทักเมื่อเห็นคนรักอมยิ้มอยู่คนเดียว เทสต์หันมามองคนข้างกาย พาดแขนไปด้านหลังคล้ายโอบอีกฝ่ายกลายๆ มองคุณแม่รวิที่เดินเข้าไปหากลุ่มของลูกชายคนเล็กแล้วอีกฝ่ายก็เข้ามากอดแขนอ้อน เทสต์ยิ้มบางก่อนตอบคำถามคนรักของตน

“ความสุขน่ะ.. ทุกคนเกิดมาเพื่ออยู่ด้วยกัน ไม่ใช่แค่ตอนนี้...แต่เป็นตลอดไป”

“จริงเหรอ?”

“ไม่เชื่อเหรอ?” เทสต์เลิกคิ้วยิ้มๆขณะที่บิวส่ายหน้า

“งั้นเทสต์จะพิสูจน์ให้ดู... ตลอดชีวิต” คนพูดอมยิ้มจางๆ แล้วโน้มไปใกล้กระซิบถาม “พร้อมจะร่วมพิสูจน์ไปกับเทสต์ไหม?”

บิวหัวเราะในลำคอ ใช้ส้อมจิ้มอาหารในจานตรงหน้าใส่ปากคนพูดมากแล้วว่า

“ถ้าไม่พร้อมจะอยู่มาถึงทุกวันนี้เหรอ?”

“หึๆ”

เทสต์บอกเสมอว่าเขาไม่ใช่หมอดู แต่คำพูดของเขาก็มักจะเป็นจริงดังว่าทุกครั้งไป และครั้งนี้ก็คงจะเป็นเช่นนั้นดังที่ผ่านมา ทุกคนเกิดมาเพื่ออยู่ด้วยกัน ไม่ใช่แค่ตอนนี้... แต่เป็นตลอดไป...




THE END.



ตอนพิเศษหนึ่งเดียวมาแล้วค่ะ //ปาดเหงื่อ

กว่าจะเสร็จ 1:50 น. ตาจะปิด :ruready

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามกันนะคะ พรุ่งนี้มาบวกให้ค่ะ ขอให้มีความสุขกับการอ่านค่ะ

คืนนี้ไปนอนก่อนละ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ

วันใหม่ :man1:

++++++++

บวกเรียบร้อยค่ะ : )
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ ตอนพิเศ๊ษ พิเศษ มาอ่านกันเต๊อะ (30/08/2556)
เริ่มหัวข้อโดย: fangkao ที่ 30-08-2013 03:32:39
หวานๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ กันทุกคู่ น้องปอมน้อยของเราแอบแรง อิอิ
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ ตอนพิเศ๊ษ พิเศษ มาอ่านกันเต๊อะ (30/08/2556)
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 30-08-2013 09:19:18
พี่เมฆกินเด็ก  :hao6:
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ ตอนพิเศ๊ษ พิเศษ มาอ่านกันเต๊อะ (30/08/2556)
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 30-08-2013 17:37:14
ใหม่ต้องมาเห็นตอนพี่นั่งอ่าน ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับจอคอม  :mew3:

เป็นตอนพิเศษที่สมบูรณ์ทั้งเรื่องราวและอารมณ์ของตัวละครค่ะ
ขอบคุณสำหรับความสุขที่มอบให้คนอ่าน ขอบคุณความอุตสาหะ
ของใหม่ที่เข็นตอนพิเศษนี้ออกมาให้อ่านกัน

ขอบคุณจากใจค่ะ  :L1:   :pig4:
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ ตอนพิเศ๊ษ พิเศษ มาอ่านกันเต๊อะ (30/08/2556)
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 30-08-2013 19:20:07
โอ๊ยยยยยยย สุดยอดดดดดดดดด ตอนพิเศษน่ารักมาก อยากอ่านเรื่องเทส บิว โดยเฉพาะจัง
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ ตอนพิเศ๊ษ พิเศษ มาอ่านกันเต๊อะ (30/08/2556)
เริ่มหัวข้อโดย: wawa_piya ที่ 31-08-2013 06:53:22
สนุกมากเลยค่ะ ขอบคุณนะค้า
ถึงหน้าจะน้อยแต่เนื้อหาเยอะจิง
อ่านซะนานเลย 55555
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ ตอนพิเศ๊ษ พิเศษ มาอ่านกันเต๊อะ (30/08/2556)
เริ่มหัวข้อโดย: greensnake ที่ 31-08-2013 09:34:29
มาแล้วๆ คิดถึงเด็กหัวเห็ดและทุกคนเลย  :กอด1:
เผลอแป๊บเดียวเด็กๆต่างก็เติบโตกันไปหมดแล้ว
มีทางของตัวเองและก็กำลังจะมีครอบครัวกันด้วย
เห็นทุกคนมีความสุขเราเองก็สุขไปด้วยเหมือนกัน
แต่ที่อยากกรี๊ดก็คือ พี่เมฆกับคินตานี่แหละ :heaven
ในที่สุดก็มาเจอกันจนได้ ปลาบปลื้มน้ำตาจะไหล
เราต้องคิดถึงเรื่องนี้มากแน่ๆ
ขอบคุณและคิดถึงวันใหม่มากๆ :กอด1:
+1และเป็ดจ้า
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ ตอนพิเศ๊ษ พิเศษ มาอ่านกันเต๊อะ (30/08/2556)
เริ่มหัวข้อโดย: aoaer ที่ 31-08-2013 12:31:24
แต่เราก็หากันจนเจอ.....  สำหรับพี่เมฆ กับ คินตา  ตอนพิเศษหว๊านหวาน  :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:

แต่จบแล้ว คงคิดถึงทุกคนน่าดู    :mew2: :mew2:   รักนะหัวเห็ด
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ ตอนพิเศ๊ษ พิเศษ มาอ่านกันเต๊อะ (30/08/2556)
เริ่มหัวข้อโดย: Naenprin ที่ 31-08-2013 15:48:14
 :z3:

Happy Ending อ่ะ

น่ารักมากเลย

ชอบมว๊าก
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ ตอนพิเศ๊ษ พิเศษ มาอ่านกันเต๊อะ (30/08/2556)
เริ่มหัวข้อโดย: reborn ที่ 31-08-2013 21:59:46
 o13
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ ตอนพิเศ๊ษ พิเศษ มาอ่านกันเต๊อะ (30/08/2556)
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 31-08-2013 23:38:06
โอยๆๆๆๆ
พี่เมฆพรากผู้เยาว์อ่ะ คุกคุกคุก 555

จบไปอีกเรื่องแล้ว ขอบคุณวันใหม่ค่ะ
เราชอบแนวการเขียนแบบนี้นะ ไม่ชอบอะไรที่มันดาร์คอ่ะ
แล้วเรื่องนี้ทำเราเสียน้ำตาหลายรอบมากกกก แบบว่าอินอีกแล้ว *^^*
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ ตอนพิเศ๊ษ พิเศษ มาอ่านกันเต๊อะ (30/08/2556)
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 04-09-2013 21:33:16
ช่างเป็นตอนที่สมศักดิ์ศรีตอนพิเศษจริงๆ
มาครบกันทุกคนเลย สรุปจบได้ประทับใจมาก
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ ตอนพิเศ๊ษ พิเศษ มาอ่านกันเต๊อะ (30/08/2556)
เริ่มหัวข้อโดย: evil_kun ที่ 05-09-2013 21:30:57
กรี๊ดดดดด ตอนจบพี่เมฆกินเด็ก >_<
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ ตอนพิเศ๊ษ พิเศษ มาอ่านกันเต๊อะ (30/08/2556)
เริ่มหัวข้อโดย: Ryoooo ที่ 06-09-2013 11:58:25
กรี๊ด มีตอนพิเศษ
ไม่ได้เข้ามาหมวดนี้ เท่าไหร่
ดูสิ เกือบพลาดอะไรดีๆเลย
พี่เมฆ เลี้ยงต้อยอย่างที่ปอมน้อยว่าจริงๆด้วย
แต่เค้าคู่กัน ไม่เกี่ยวกับอายุนิเนอะ

ทุกคู่ชื่นมื้นมาก รักทุกคู่จริงๆ
การ์ฟกับอาร์ดิว หวานเว่อ เค้าชอบอาร์ดิวยังขี้เขินเหมือนเดิม คนอะไรน่ารักอะ
กะปอมน้อยยั่วเบาๆ ป๊าจะไปไหนรอด เร่งทำงานเก็บเงินไปขอน้องน้อยใช่ม่าาาาชีวา

อยากให้มีตอนพิเศษอีก เค้าชอบเรื่องนี้มากกก
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ ตอนพิเศ๊ษ พิเศษ มาอ่านกันเต๊อะ (30/08/2556)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 13-09-2013 21:20:01
โอ๊ยฮากับตอนจบ 555
คนเขียนเกือบโดนชีวา กะ การ์ฟ ทำร้ายซะแล้ว
การ์ฟน้อยใจนะ หน้าตาพอดูได้(มาก)
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆและสนุกๆแบบนี้นะครับ
แอบใจหายที่จบ...เพราะไม่ได้เข้าเล้าเกือย2เดือน เลยเพิ่งรู้ว่าจบซะแล้ว
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ ตอนพิเศ๊ษ พิเศษ มาอ่านกันเต๊อะ (30/08/2556)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 13-09-2013 21:36:45
อ๊ากก ฟินกะตอนพิเศษ
เมฆกินเด็ก หุๆ
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ ตอนพิเศ๊ษ พิเศษ มาอ่านกันเต๊อะ (30/08/2556)
เริ่มหัวข้อโดย: YOSHIKUNI RUN ที่ 14-09-2013 02:33:12
พึ่งเห็น...
สนุกๆๆ
เป็นบทสรุปที่ลงตัวเลย
ขอบคุณค้าาาา
 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ ตอนพิเศ๊ษ พิเศษ มาอ่านกันเต๊อะ (30/08/2556)
เริ่มหัวข้อโดย: - lloJ!จิ้a - ที่ 05-03-2014 10:47:06
งื้อออออ อยากอ่านเรื่องพี่เมฆกับน้องคินตาอ่ะ  :katai1:
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ ตอนพิเศ๊ษ พิเศษ มาอ่านกันเต๊อะ (30/08/2556)
เริ่มหัวข้อโดย: iammz ที่ 06-03-2014 14:35:05
อ่านจบแร้ววว สนุกมากเลยค่ะ
แอบอยากอ่านคู่เมฆกับคินตาต่อด้วยซ้ำ อิอิ >.~
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ ตอนพิเศ๊ษ พิเศษ มาอ่านกันเต๊อะ (30/08/2556)
เริ่มหัวข้อโดย: pp_song ที่ 07-03-2014 01:46:12
อ้าย หวานมากๆๆๆ มดจะขึ้น :-[

ขอบคุณค่ะ สนุกมากๆๆๆๆ

 :pig4:
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ ตอนพิเศ๊ษ พิเศษ มาอ่านกันเต๊อะ (30/08/2556)
เริ่มหัวข้อโดย: wanmai ที่ 24-03-2014 13:19:23
แวะมาบวกขอบคุณนักอ่านทุกท่านเพิ่มเติมค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ ตอนพิเศ๊ษ พิเศษ มาอ่านกันเต๊อะ (30/08/2556)
เริ่มหัวข้อโดย: sunipum ที่ 29-04-2015 12:43:31
สนุกมากค่ะ  ชอบมากๆๆๆ  น่ารักทุกคู่เลย  ขอบคุณนะค่ะที่แต่งนิยายน่ารักๆดีๆ มาให้อ่าน
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ ตอนพิเศ๊ษ พิเศษ มาอ่านกันเต๊อะ (30/08/2556)
เริ่มหัวข้อโดย: kimhamwong ที่ 30-04-2015 22:54:51
ขอบคุณ  คุณวันใหม่  นะคะ  ที่แต่งนิยายแฟนตาซีมาให้อ่าน
น้องปอมน่ารักมาก  ป๋าทนไหวได้ไง
แอบหลอนตอนที่คินตาออกมา เค้ากลัวอ่ะ
 :hao7:
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ ตอนพิเศ๊ษ พิเศษ มาอ่านกันเต๊อะ (30/08/2556)
เริ่มหัวข้อโดย: ployspy ที่ 17-05-2015 22:36:41
น่ารักกกกกกกกกกกกกกก
ขอบคุณสำหรับเรื่องน่ารักๆนะค่ะ
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ ตอนพิเศ๊ษ พิเศษ มาอ่านกันเต๊อะ (30/08/2556)
เริ่มหัวข้อโดย: pp_song ที่ 13-09-2015 18:58:15
น่ารักมากๆเลย

ขอบคุณนะคะ <3
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ ตอนพิเศ๊ษ พิเศษ มาอ่านกันเต๊อะ (30/08/2556)
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 24-09-2015 12:33:31
สนุกมากครับ น่ารักทุกคู่เลย แต่แอบสงสารการ์ฟ (เกือบตายสองครั้งแน่ะ)

ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ ตอนพิเศ๊ษ พิเศษ มาอ่านกันเต๊อะ (30/08/2556)
เริ่มหัวข้อโดย: GMT101 ที่ 25-06-2017 11:09:50
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ ตอนพิเศ๊ษ พิเศษ มาอ่านกันเต๊อะ (30/08/2556)
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 27-06-2018 19:58:48
 o13
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ ตอนพิเศ๊ษ พิเศษ มาอ่านกันเต๊อะ (30/08/2556)
เริ่มหัวข้อโดย: mint_852 ที่ 05-08-2018 11:55:47
สนุกดีค่ะ แต่งงๆที่ใกล้จบ
อยู่ก็มาโผล่สะพานได้แบบไม่มีเกริ่นนำเลย
เหมือนตัดฉากมาเลย
โดยรวมก็โอเคค่ะ
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ ตอนพิเศ๊ษ พิเศษ มาอ่านกันเต๊อะ (30/08/2556)
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้าหญิงในเงามืด ที่ 18-08-2018 17:56:49
จบงงๆ ยังไงไม่รู้
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ ตอนพิเศ๊ษ พิเศษ มาอ่านกันเต๊อะ (30/08/2556)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 26-11-2018 22:48:10
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ ตอนพิเศ๊ษ พิเศษ มาอ่านกันเต๊อะ (30/08/2556)
เริ่มหัวข้อโดย: sira_nann ที่ 27-11-2018 18:58:44
 :pig4: :pig4: :pig4:
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ ตอนพิเศ๊ษ พิเศษ มาอ่านกันเต๊อะ (30/08/2556)
เริ่มหัวข้อโดย: Ben33 ที่ 12-09-2020 19:17:51
 :mew6:
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ ตอนพิเศ๊ษ พิเศษ มาอ่านกันเต๊อะ (30/08/2556)
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 14-09-2020 23:51:18
จบแล้วววว
ตอนพิเศษหวานกันทุกคู่เลย
แฮปปี้ แฮปปี้ 
หัวข้อ: Re: ☆☆Magica Café☆☆ ตอนพิเศ๊ษ พิเศษ มาอ่านกันเต๊อะ (30/08/2556)
เริ่มหัวข้อโดย: cutelady ที่ 17-09-2020 11:22:07

ชื่นมื่น.. กับความหวาน ที่มาแบบเรียบๆ เรื่อยๆ  ละมุนไปอีกแบบ

ดีใจ Happy ending กันทุกคู่ และบางช่วงบางตอนก็มีน้ำตาไหลพราก...

ขอขอบคุณนักเขียน ที่สามารถมอบความบันเทิงได้ครบทุกบทบาทของตัวละคร

จากใจนักอ่าน...T H A N K  Y O U....

 :pig4: :pig4: :pig4:

 :bye2: o13 :bye2: