Brothers
Chapter 20 – Words
เสือไม่ได้กลับบ้านสามวันจนศักดิ์สิทธิ์ต้องมารับจากตุลาด้วยตัวเอง เหตุผลน่ะหรือ..ก็อาการเริ่มหวงลูกชายแสดงออกมาแล้วล่ะสิ ต่อให้เป็นตุลา..เขาเองก็ห่วงและหวงเสือเช่นกัน
“เสือไม่กลับบ้าน พ่อเป็นห่วง”
ร่างผอมพยักหน้า ตุลาไม่ได้ทำอะไรเขาหลังจากที่เสือไข้ขึ้นเพราะเปียกฝน ถึงอย่างนั้นก็มิวายกอดจูบราวกับเขาเป็นตุ๊กตาแสนรักอยู่ดี แน่นอนว่าเสือไม่ขัดขืนเช่นกัน ออกจะชอบใจแต่ไม่อยากบอกด้วยซ้ำว่าเวลาที่ตุลามาคลอเคลียใกล้ๆ..เสือเหมือนช็อกโกแลตใกล้ละลายทุกขณะ
“เสือไปนอนบ้านตุลาเมื่อไหร่ก็ได้ แต่กลับมานอนบ้านบ้าง”
“เสือเปล่า เสือไม่ได้อยากนอนสักหน่อย”
เอาเถอะ..ลูกชายปากแข็งเสียขนาดนี้ ตอนเขาขึ้นไปรับบนห้องเห็นดวงตาคมคู่นั้นคลอหยาดน้ำก่อนเจ้าตัวจะรีบปาดมันออก ตุลานะตุลา..ไม่รู้ไปหว่านเสน่ห์ให้ลูกชายเขาท่าไหน เจ้าตัวถึงได้เป็นขนาดนี้
หลังจากที่โดนพิษไข้เล่นงานจนหายไปเกือบสัปดาห์หนึ่ง เสือก็กลับมาทำงานตามปกติ ตลอดระยะเวลานั้นตุลาเป็นคนจัดการงานทุกอย่างให้เสือ ถึงไม่ดีเท่าแต่อย่างน้อยก็ลดภาระไปส่วนหนึ่ง
เสือมุ่นคิ้วเมื่อเห็นโต๊ะข้างๆว่างเปล่า เขากะออกไปถามเปรมสักหน่อยแต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายนั่งบนพื้นพรม..เห็นไม่ผิดนั่งบนพื้นพรมข้างๆพี่แดน เสือยิ่งสงสัยไปกันใหญ่ เกิดอะไรขึ้นกับสองคนนั้น เมื่อเห็นพี่แดนทำหน้าเหมือนจะฆ่าคนบนพื้นได้ทุกขณะจิต
แม้เปรมจะทำหน้าสำนึกผิดอย่างไรก็ดูเหมือนพี่หมอไม่สบอารมณ์ง่ายๆ แถมยังสะบัดขาใส่อีกคนเป็นครั้งคราว นึกแล้วก็สงสัยว่าสองคนนั้นไปสนิทกันตั้งแต่เมื่อไหร่
“เสือมาแอบดูคนอื่น นิสัยไม่ดีเลยนะ” เสียงทุ้มแหบๆเรียกสติเขา เสือหันไปมองเห็นพี่ทศยืนยิ้มให้อย่างมีเลศนัย
“ผมเปล่า”
ทศพรยิ้มขำพลางร่างผอมตรงหน้าด้วยความเอ็นดู เสือเปลี่ยนไปเยอะหลังจากเข้ามาทำงานที่นี่ ถึงไม่ใช่งานประจำของเจ้าตัวก็เถอะ “กำลังตามหาใครอยู่หรือเปล่า”
เสือเม้มปาก อีกฝ่ายรู้ทันแต่กลับทำเป็นไม่รู้เรื่อง “ตุลา เห็นตุลาไหม”
คนอายุมากกว่าทำท่านึก เมื่อเช้าตุลาเข้าออฟฟิศมาแปบเดียวแล้วก็เดินถือแฟ้มออกไป ไม่ได้กล่าวทักทายใครเป็นพิเศษสักคน “เอ..เหมือนไอ้ตุลย์มันจะมีนัดนะ”
“ที่ไหน กับใคร” เสือเผลอถามออกไปทั้งที่ไม่ใช่นิสัยของตัวเอง เขาไม่ชอบยุ่งเรื่องของคนอื่นก็จริง..แต่กับตุลามันอาจจะเป็นข้อยกเว้น
ร่างสูงยิ้มอย่างรู้ทัน สองคนนี้คงมีอะไรบางอย่าง..ก็แน่ล่ะทำงานใกล้ๆกันแถมยังดูสนิทกันเป็นพิเศษ ใครๆในออฟฟิศคงคิดไปถึงไหนต่อไหนหรอก แล้วไอ้ท่าทางเป็นห่วงเป็นใยกันก็แสดงออกชัดเจนขนาดนั้น เขาไม่โง่..และคนอื่นก็ไม่ต่างกัน อยากบอกเสือนักว่าในหมู่สาวๆเมาท์กันราวกับเจ้าหล่อนเห็นกับตา
“อ่อ..ผู้หญิง ร้านอาหารข้างๆนี่แหละ” ทศพรสาบานว่าไม่ได้ใส่ความอะไรทั้งนั้น เมื่อกำลังจะพูดประโยคทันไป..เสือก็ก้าวฉับๆเข้าห้องไปแล้ว
ไอ้ตุลย์..พี่เปล่านะพี่ไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น..
รอยยิ้มหนึ่งผุดขึ้นที่มุมปากราวกับเรื่องสนุกกำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า
อากาศในห้องรับแขกเย็นจัดจนเปรมอดห่อไหล่ไม่ได้ เมื่อดวงตาเรียวแอบเหลือบมองคนบนโซฟาเขาก็แทบร้องไห้ดังๆ มันเรื่องอะไรที่คนอย่างเขาต้องมานั่งสารภาพความผิดที่ก่อไว้เมื่อหลายวันก่อน
ไอ้แค่การไม่รับโทรศัพท์แล้วกลับบ้านตอนเช้ามันเรื่องใหญ่ขนาดนั้นเลยหรือไง..
“คุณหมอ..ผมขอโทษ ผม..”
“หุบปาก!!” ในตอนนี้เคียงแดนคล้ายจะเป็นภูเขาไฟลูกย่อมพร้อมระเบิด เปรมอาจจะคิดว่าการไม่รับโทรศัพท์มันเป็นเรื่องทั่วไปที่ใครเขาทำกัน แต่แน่นอนว่าไม่ใช่เคียงแดน..ที่นั่งรอบนโซฟาตลอดคืนแล้วลุกมาทำงานในตอนพระอาทิตย์ขึ้น
“ผม..” เปรมก้มหน้างุด นั่งสำนึกผิดอยู่หลายชั่วโมงแต่คุณหมอก็ยังไม่ยกโทษให้ เขาอยากทำเหมือนในหนังในละครนักที่พระเอกจูบนางเอกแล้วหายงอน ทว่า..บางสิ่งบางอย่างบอกกับเปรมว่าอย่าเล่นกับไฟ เผลอๆเขาอาจจะโดนตบและโกรธนานขึ้นกว่าเดิมก็เป็นได้
“ไปไหนมา” คุณหมอหนุ่มเอ่ยถามอย่างใจเย็นที่สุด
“ทำงานครับ” หนุ่มตี๋ตอบไม่เต็มเสียงแล้วนั่งตัวลีบมากกว่าเดิม ใครจะกล้าบอกว่าไอ้พี่ทศพรเมียเป็นร้อยลากเขาไปเที่ยวกลางคืน แถมยังไปต่อที่ห้อง เมาแอ๋หมดสภาพยิ่งกว่าหมาข้างถนนเสียอีก
“เหรอ”
“คะ..ครับ”
คุณหมอหนุ่มเม้มปาก ภาพลิปสติกสีม่วงติดปกเสื้อของเปรมยังเด็ดชัดในความทรงจำ
“คุณ..หมอ..ผมไม่ได้ตั้งใจ”
เปรมเกาะขาว่าที่คนรักแน่น ขนาดยังไม่ตกลงเป็นแฟนกันยังโดนเล่นงานซะน่วมเลย ถ้าเกิดเป็นแฟนกันเปรมคงได้นอนหยอดน้ำเกลือในโรงพยาบาลแน่ๆ
“แล้วลิปสติกบนเสื้อมันคืออะไร”
ชายหนุ่มหน้าตี๋ตัวสั่นงกๆ ปลายฟันของเขากระทบกันด้วยความหวาดหวั่น เฝ้าถามตัวเองว่าไอ้ลิปสติกนรกนั่นมันมาอยู่บนเสื้อของเขาได้อย่างไร เปรมก้มหน้างุด เขาเกาะขาคนรักแน่นกว่าเดิมหลายเท่าตัว “ผมไม่รู้”
“ไม่รู้ได้ยังไง เมื่อวานก่อนไปไหน บอกมา!!”
“คุณหมอผมไม่ได้ตั้งใจไปเที่ยวกลางคืนดึกดื่นจนไม่ได้กลับบ้านนะครับ” เอาล่ะ..เปรมสารภาพได้เลยว่าตอนนี้อยากร้องไห้เหลือเกิน คุณหมอนะคุณหมอใจร้ายชะมัด นี่เขาไม่ได้ทำผิดใหญ่หลวงไปฆ่าข่มขืนใครสักหน่อย ถึงอยากพูดออกไปมากเท่าไหร่เปรมก็ทำได้แค่นั่งเงียบๆเท่านั้น..
“ไว้กลับไปคุยกันที่บ้าน” ดวงตาสีเข้มเหลือบมองคนบนพื้นอย่างใจเย็น อะไรทำให้คุณหมอเคียงแดนเป็นได้ขนาดนี้นะ..
เสือมองไปข้างนอกหลายครั้งก็ยังไม่เห็นวี่แววของตุลาสักนิด ริมฝีปากอิ่มเม้มแน่น..รู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก แต่จะให้ทำอย่างไรได้ เสือไม่ชอบแสดงออกว่า ‘หวง’ เขาคงทำได้เพียงนั่งเงียบๆแล้วยอมรับชะตากรรมมากกว่า ภายในอกของเสือรุ่มร้อนด้วยความสงสัย
ทำไม..ไปกับใคร..ทำไมต้องเป็นผู้หญิง
เวลาเที่ยงแล้วเสือรอตุลากินข้าวพร้อมกัน ทว่าคนๆนั้นก็ยังไม่กลับมา ไม่เห็นแม้แต่ปลายรองเท้า เอาล่ะ..เสือยอมรับว่าสงสัยว่าตุลาไปไหน ไปทำอะไร ทำไมถึงนานเกินไปแบบนี้
สุดท้ายแล้วความสงสัยของเสือก็เอาชนะทุกอย่าง เขาวางดินสอแล้วหยิบมือถือเดินออกไปจากห้อง
“คุณเสือไปไหนครับ” เปรมเงยหน้าถามเมื่อเห็นร่างผอมบางเดินออกจากห้องด้วยความรีบร้อน
เจ้าตัวหันมองพลางเม้มปากราวกับมีเรื่องไม่สบายใจ “ผม..ลงไปข้างล่าง”
เปรมร้องอ้อก่อนก้มหน้าก้มตาทำงานต่อ เรื่องคนอื่นเขาไม่มีอารมณ์ไปสนใจเท่าไหร่หรอกเพราะเรื่องของตัวเองก็ใช่ว่าจะรอดจากมือคุณหมอ
คิดแล้วก็เศร้า..แต่อย่างไรเสียก็ไม่กล้าขัดใจเคียงแดน..
เสือแอบมองคนรักจากข้างนอก ดวงตาคมสอดส่องไปทั่วร้านจนเจอเป้าหมาย ชั่วชีวิตของเสือไม่เคยคิดเลยว่าต้องมาทำตัวลับๆล่อๆแบบนี้
ริมฝีปากสีเรื่อเม้มแน่นเมื่อเห็นตุลากำลังนั่งคุยกับใครบางคน รอยยิ้มนั่น..ฝ่ามือนั่นเสือรู้สึกหวงตอนนี้จะสายเกินไปหรือเปล่า ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่รู้เลยว่าเขาแอบมองอยู่ ก็แน่ล่ะ..เสือไม่มีนิสัยสอดรู้สอดเห็นหรือมีสายสืบในที่ทำงานสักหน่อย แต่ทว่า..การมีคนมาบอกว่าตุลาอยู่กับใคร ทำอะไรดีเสียกว่าต้องมาเจอภาพบาดตาบาดใจแบบนี้
ในหัวสมองของเสือคิดอย่างเดียวว่าคนทั้งคู่กำลังสนทนากันเรื่องงานแน่นอน ไม่มีความรู้สึกพิศวาสใดๆทั้งนั้น ทว่าเมื่อเสือเห็นผู้หญิงคนนั้นเต็มตา..หัวใจของเขาก็ปวดหนึบอย่างบอกไม่ถูก
ทั้งที่ไม่ควรเป็นแบบนี้..
ปลายนิ้วสะอาดจิกเข้าหากัน เสือเฝ้าบอกตัวเองว่าเขาไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้น ทว่าบางอย่างกลับยิ่งชัดเจนขึ้นเมื่อคนทั้งคู่หัวเราะด้วยกันอย่างมีความสุข
แล้วตอนที่ตุลาอยู่กับเสือ..อีกฝ่ายมีรอยยิ้มแบบนั้นหรือเปล่า..
เอาล่ะ..เสือยอมรับว่าผู้หญิงปริศนาคนนั้นสวยขนาดเป็นดาวคณะได้เลย เธอดูโดดเด่นในแบบของตัวเอง ที่สำคัญ..แววตาของตุลามันทำร้ายเสืออย่างรุนแรง
ทำไมต้องชื่นชมเสียขนาดนั้น..
ร่างผอมเดินกลับเข้าออฟฟิศทันทีหลังจากเห็นตุลา เสือหวง..เสือยอมรับและเขากำลังอิจฉาผู้หญิงคนนั้นที่ทำให้ตุลามีความสุขได้ขนาดนี้ เสือเฝ้าถามตัวเองว่าเขามีอะไรดีนักหนาทำไมตุลาถึงได้ทุ่มเทขนาดนี้ คำตอบคือไม่มีเลยสักนิด..เขายิ้มยาก..เขาไม่สดใส แต่เสือมีหัวใจเหมือนกัน
“คุณเสือ..ป่วยเหรอครับหน้าซีดๆ” เปรมถามหลังจากหอบขนมและน้ำดื่มออกจากครัวขนาดเล็ก
เสือส่ายหน้า รู้สึกอิจฉาเปรมนิดๆที่ไร้เรื่องกังวลในหัวสมอง “เปล่า”
“เอาช็อคโกแล็ตสักแท่งไหมครับ”
“ไม่ดีกว่าครับ” เสือทำท่าจะเดินผ่านแต่ก็หันหลังกลับมาบอกอีกฝ่าย “คุณเปรม..”
“ครับ”
“ผมขอลางานครึ่งบ่ายนะครับ ฝากบอก..บอกตุลาด้วย”
เปรมพยักหน้าหงึกหงักก่อนยัดขนมปังก้อนหนึ่งเข้าปาก ตั้งแต่เช้าเขายังไม่มีอะไรตกถึงท้องสักนิด ครั้งแรกก็ตอนที่ไปเตรียมของในครัวแต่มาเจอคุณหมอเคียงแดนทำหน้าไม่สบอารมณ์อยู่ ครั้งที่สองเห็นจะเป็นตอนที่บอสเรียกไปคุยงานแล้วน้องส้มก็หยิบอาหารเขาไปกินหน้าตาเฉย
“ครับ..ผมจะบอกให้ แต่ทำไมไม่บอกเองเลยล่ะ”
ร่างผอมส่ายหน้า ขืนเข้าไปบอกเสือต้องร้องไห้ขี้มูกโป่งเป็นเด็กสามขวบแน่ๆ “ไม่อยากรบกวน”
ตุลาเข้าออฟฟิศมาตอนบ่ายโมงตรง เมื่อเช้าเขามาก่อนเสือประมาณชั่วโมงหนึ่งได้เพราะมีนัดตอนเช้า ทว่าตุลย์ก็ไม่ได้บอกเจ้าตัวไว้ว่าไม่อยู่ ไม่รู้อีกฝ่ายจะงอนเขาหรือเปล่า อย่างว่า..ใครๆก็บอกว่าเสือเย็นชา สำหรับตุลาแล้วเสือเหมือนเด็กอ่อนมากกว่า
“ไอ้ตุลย์ คุณเสือฝากบอกว่าลางานครึ่งบ่ายนะเว่ย” บนโต๊ะของเปรมเต็มไปด้วยขนมจนตุลย์ต้องแอบเบ้หน้าหนี ช่วงนี้มันกินไม่ค่อยเวลาแถมไม่ได้บำรุงหน้าแบบเมื่อก่อนด้วย พ่อคนเจ้าสำอางเลยดูโทรมไปเยอะ
“เป็นอะไรได้บอกไว้ไหม”
เปรมส่ายหน้า คุณเสือจะบอกอะไรกับเขาได้ล่ะ “ไม่ได้บอก แต่สีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่”
ทศพรแอบฟังน้องๆคุยกันก็อดขำไม่ได้ เมื่อสายๆตอนเห็นเสือเขาก็แอบไปพูด ‘อะไร’ เล็กๆน้อยๆใส่เจ้าตัว ไม่รู้เพราะเป็นเห็นตุลากับลูกค้าหรือเปล่าเลยหนีกลับบ้านซะแบบนั้น แต่ถึงอย่างนั้น..ทศพรก็แค่พูดไปตามความจริงเท่านั้นเอง
เขาสาบานเลย..
“พี่ว่างอนไอ้ตุลย์แน่ๆ เล่นทิ้งให้ลูกเสือหลงทางทำงานคนเดียวหลายชั่วโมง” รุ่นพี่ยิ้มกริ่มก่อนโยนแฟ้มใส่เปรม ไอ้นี่ชอบทำงานค้างพอใกล้ส่งก็ปั่นงานหัวฟู นิสัยแบบนี้เหมือนตอนมันเรียนจนทำงานแล้วก็ยังไม่เลิกทำอีก เขาล่ะด่ามันเช้าเย็น..แต่ดูเหมือนว่าเข้าหูซ้ายทะลุหูขวามากกว่า
“พี่ทศก็พูดไป คุณเสือเขาเพิ่งหายป่วยหรอก” เปรมเสริม ได้ยินว่าคุณเสือป่วย ไอ้ตุลย์เลยลางานให้หนึ่งอาทิตย์แถมยังนั่งทำงานที่มันพอทำได้ให้อีก ช่างเป็นคนรักที่น่าอิจฉาเสียจริง..นี่ถ้าคุณหมอเคียงแดนเป็นได้ครึ่งหนึ่งเขาคงได้บูชาเจ้าตัวเช้าเย็น
“เดี๋ยวกูโทรหาเขาเย็นๆแล้วกัน”
“โทรตอนนี้ก็ได้ ไม่มีใครว่าหรอก” จริงๆนะ..ไอ้ตุลย์สุดหล่อทำอะไรก็ไม่มีใครว่า ไอ้เปรมหนุ่มตี๋ขยับนิดเดียวโดนขุดเรื่องเก่าๆมาว่าจนไม่กล้าขยับออกจากโต๊ะทำงานเท่าไหร่
เรื่องที่สามารถรบกวนตุลาได้คงมีไม่กี่เรื่อง หนึ่งในนั้นเป็นเรื่องของเสือเสียส่วนใหญ่ น่าแปลกใจไม่น้อยที่เจ้าตัวหนีกลับบ้านทั้งที่ยังไม่ได้พูดคุยกับเขาสักประโยค ซ้ำร้าย..ยังไม่มีเสียงเรียกเข้าจากเสืออีกต่างหาก
ตุลย์ทำงานทั้งบ่ายด้วยสมองไม่ค่อยแล่นเท่าไหร่ เพราะอะไรน่ะหรือ..กดโทรหาเด็กดื้อบางคนแล้วเจ้าตัวตัดสายไปน่ะสิ ทว่าความพยายามของตุลาคงไม่ใช่แค่สิบสาย แต่นี่เขาโทรจนเกือบร้อยสายอีกฝ่ายก็ยังไม่รับง่ายๆแถมยังปิดเครื่องหนีอีกต่างหาก
“อะ..แฮ่ม..ไอ้ตุลย์ที่รัก กูมีงานอีกสองสามงานให้มึงช่วยดูหน่อย” ตุลาเหลือบมองนาฬิกา เกือบห้าโมงเย็นแล้วแต่เขายังนั่งอยู่ที่เดิมเพราะช่วยไอ้เปรมทำงานค้างของมันนี่แหละ
“เยอะนะมึง มาเยอะตอนวันที่กูรีบออกจากออฟฟิศอีกต่างหาก”
“แหม..กูเพื่อนมึงนะไอ้ตุลย์ เพื่อนป่ะ..แค่นี้ทำให้ไม่ได้ ใจร้ายฉิบหาย” เปรมตัดพ้อทั้งที่แอบกลั้นหัวเราะจนปวดท้อง นานทีได้เอาคืน รู้ทั้งรู้ว่ามันเป็นห่วงคุณเสือ แต่ทำอย่างไรได้ก็เขาหมั่นไส้มันนี่นา เปรมโดนคุณหมอทำร้ายร่างกายและจิตใจ ดูไอ้ตุลย์สิ..มันยังใช้ชีวิตปกติอยู่เลย
“พูดมาก”
“ว่าเพื่อนนะเดี๋ยวนี้”